Professional Documents
Culture Documents
การวิเคราะห์ตาแหน่ งและการกระจัดของกลไก
3.1 บทนา
การออกแบบกลไก เมื่อทาการสังเคราะห์กลไกแล้วต้องทาการวิเคราะห์ดว้ ยเสมอ โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็ นการ
วิเคราะห์คิเนมาติกส์ นัน่ คือ วิเคราะห์หาความเร่งของทุกชิ้นส่วนของกลไกที่มกี ารเคลือ่ นที่ ซึ่งแรงแปรผันตรงกับความแร่ง
ตามกฎข้อที่สองของ Newton เมื่อทราบแรงกระทาจะทาให้สามารถหาความเค้น (Stress) ในแต่ละชิ้นส่วนของกลไกได้
นัน่ เอง แต่ก่อนที่จะทราบความเร่งของชิ้นส่วนในกลไก ต้องทราบตาแหน่ งของทุก Link ในกลไกก่อน แล้วจะสามารถ
วิเคราะห์หาความเร็วและความเร่งในลาดับถัดไป ดังนัน้ ในบทนี้จะทาเป็ นการวิเคราะห์ตาแหน่งและระยะกระจัดของกลไก
ด้วยวิธี Graphics และด้วยสมการคณิตศาสตร์
43 | ห น้ า
3. การเคลือ่ นที่แบบซับซ้อน (Complex Motion) คือ Translation Component + Rotation Component
RBA R AA RBA
RBA R AA RBA
Y
B
y 3
A x 4
2
Position of Point ในระนาบ สามารถนิ ย ามให้เ ป็ น Position Vector ซึ่ง สามารถเขีย นอยู่ ใ นรู ป Complex
Number หรือ Polar Form ดังแสดงในรูปข้างล่างนี้
44 | ห น้ า
3.2.1 ความแตกต่างของตาแหน่ ง (Position Difference)
ความแตกต่างของตาแหน่ง เป็ นการเปรียบเทียบเวกเตอร์ของตาแหน่งใหม่เทียบกับตาแหน่งเดิม เช่น เมือ่ วัตถุมี
การเปลีย่ นแปลงตาแหน่งจาก A ไป B จะได้ว่า
RBA RB RA
45 | ห น้ า
3.3 การวิเคราะห์การกระจัด (Displacement Analysis)
การกระจัด หรือ ระยะกระจัด เป็ นเวกเตอร์ท่แี ทนที่ระหว่างตาแหน่งเริ่มต้นและตาแหน่งสุดท้ายของจุดบน Link
มี 2 ชนิดคือ
1. ระยะขจัดเชิงเส้น (Linear Displacement)
RBB RBA RBA
46 | ห น้ า
ขัน้ ตอนการวิเคราะห์การกระจัด
1. ใช้วงเวียนวาดเส้นทางการหมุนของจุด
B เทียบรอบจุดหมุน A
2. วัด มุ ม ของ Link 2 ตามเข็ ม นาฬิ ก า
เทียบกับตาแหน่งเดิม ได้จดุ B’
3. จากนัน้ ใช้วงเวียนวาดเส้นทางการหมุน
ของจุด C เทียบรอบจุดหมุน D
47 | ห น้ า
ขัน้ ตอนการวิเคราะห์การกระจัด
1. ใช้ว งเวีย นวาดเส้นทางการหมุน ของจุด B
เส้นทางของจุด C
เทียบรอบจุดหมุน A
2. วัดมุมของ Link 2 ตามทวนนาฬิกาเทียบกับ
ตาแหน่งเดิม ได้จดุ B’ เส้นทางที่
เป็ นไปได้
3. จากนัน้ ใช้วงเวียนวาดเส้นทางการหมุนของ ของจุด C
จุด C เทียบรอบจุดหมุน D
3.3.2 การหาระยะกระจัดด้วยวิธีเรขาคณิ ต
การวิเคราะห์ดว้ ยวิธเี รขาคณิต จะใช้กฎพื้นฐานตรีโกณมิตสิ าหรับสามเหลีย่ มทัว่ ไป และทฤษฎีของ Pythagoras
กฎสาหรับสามเหลีย่ มทัวไป่
กฎของ sin
a b c
sin A sinB sinC
กฎของ cos
c2 a2 b2 2ab cosC
กฎสาหรับสามเหลีย่ มมุมฉาก
a
sin( A) B
c c
b a
cos( A)
c
sin( A) a C A
tan( A)
cos(A) b b
48 | ห น้ า
ทฤษฎีของ Pythagoras
c2 a2 b2
วิธที า
1. วาด Kinematics Diagram
2. หา Mobility (M=1)
49 | ห น้ า
ทีต่ าแหน่งเริ่มต้น จะได้ความยาวของ Link 1 (AC)
AC AB 2 BC 2 2 AB BC cos ABC
74.52mm
AB
BAC sin 1 sin C AB
BC
50mm
sin 1 sin15 18.88
40mm
ดังนัน้
RC AC AC
86.14 74.52
11.62mm
50 | ห น้ า
การวิเคราะห์ตาแหน่งและระยะกระจัดด้วยวิธเี รขาคณิต สาหรับ Crank-Rocker และ Slider-Crank สามารถเขียน
เป็ นสมการสาเร็จรูป (Close-Form Position Analysis Equation) ได้ดงั นี้
ชนิ ดของกลไก สมการสาเร็จรูป
4-bar Linkage (a) Open circuit
BD L12 L22 2L1 L2 cos 2
L23 L24 BD 2
cos1
2L3 L4
4 180 cos1
L12 L22 BD 2
cos
1 L4 L2 BD
2 2 2
2L1 BD 2L4 BD
3 4
In-Line Slider-Crank L
3 sin 1 2 sin 2
L3
180 2 3
51 | ห น้ า
3.3.3 การวิเคราะห์ตาแหน่ งและระยะกระจัดด้วยสมการเวกเตอร์ (Displacement Analytical Analysis : Vector
Loop)
ทุก Link ในกลไกจะถือว่าเป็ นเวกเตอร์ โดยเวกเตอร์ของ 4-bar Linkage แสดงในรู ปด้านล่างนี้ และจะได้
สมการVector Loop ดังนี้
R2 R3 R4 R1 0
ae j 2 be j3 ce j 4 de j1 0
จัดรูปแล้วจะได้
A tan 2 4 B tan 4 C 0
2 2
52 | ห น้ า
โดยที่
A cos 2 K1 K 2 cos 2 K 3
B 2 sin 2
C K1 K 2 1 cos 2 K 3
d d a 2 b2 c2 d 2
K1 , K2 , K3
a c 2ac
จะได้ผลลัพธ์คือ
B B 2 4 AC
4 2 tan 1
1, 2 2A
และ
E E 2 4 DF
3 2 tan
1
1, 2 2D
โดยที่
D cos 2 K1 K 4 cos 2 K 5
E 2 sin 2
F K1 K 4 1 cos 2 K 5
d c2 d 2 a 2 b2
K4 , K5
b 2ab
53 | ห น้ า
สาหรับสมการ Vector Loop ของ Slider-Crack ในรูปข้างล่างนี้ จะได้ว่า
R2 R3 R4 R1 0
b 4 c
3 b 3 4 c
a a
2 1 2 1
O2 O4 O2 O4
d d
d
b 2 c 2 d a 2
1 1 cos
1
2bc
b 2 c 2 d a 2
2 2 cos 1
2bc
ค่าสูงสุด/ตา่ สุดของ Transmission Angle: สาหรับ Non-Grashof Tripple-Rocker Mechanism เกิดเมือ่ เกิด
Toggle Position นัน่ คือ Output Rocker วางตัวอยู่ในแนวเดียวกันกับ Coupler Link หรือ Input Rocker วางตัวอยู่ใน
แนวเดียวกันกับ Coupler Link ดังรูป
54 | ห น้ า
(ก) ตาแหน่ง Toggle สาหรับ Link b และ c (ข) ตาแหน่ง Toggle สาหรับ Link a และ b
0
a b 2 c 2 d 2
cos1
2ca b
ดังนัน้
0 and 180
b 2 c 2 a 2 d 2 ad
cos cos 2 1
2bc bc
55 | ห น้ า
หรือ
a 2 d 2 b 2 c 2 bc
cos 2
2ad ad
จะได้
a 2 d 2 b 2 c 2 bc
2 cos1 ; 0 2toggle
toggle
2ad ad
3.4 บทสรุป
การวิเคราะห์ตาแหน่งด้วยวิธี Graphics ทาได้ง่ายและรวดเร็ว แต่มคี วามถูกต้องน้อยเมือ่ เทียบกับวิธีอ่นื การวิธี
เรขาคณิตและสมการเวกเตอร์ จะได้คาตอบที่มคี วามแม่นยา แต่วธิ กี ารซับซ้อน โดยมากนิยมจัดให้อยู่ในรูป Closed Form
แล้วเขียนเป็ นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น MATLAB หรือ Excel เป็ นต้น
56 | ห น้ า
แบบฝึ กหัด
1. จากรูปให้ใช้วธิ ี Graphics หามุมของมือจับ เมือ่ ยก (Crushing Ram) เมือ่ Crank หมุนตามเข็มนาฬกิ า
Clamp Arm ขึ้น 30 cw ไป 75 ด้วยวิธเี รขาคณิต
57 | ห น้ า