You are on page 1of 3

โหราศาสตร์เกิดขึน

้ ในทวีปเอเชียกลางตัง้ แต่ประมาณ 4543 –
3543 ปี ก่อนพุทธศักราช การ แพร่กระจายหรือการผสมผสานของความรู้
ในด้านโหราศาสตร์นน
ั ้ ส่วนใหญ่เกิดจากการขยายดินแดนของ อาณาจักร
ต่าง ๆ ในอดีต เช่น สงครามขยายดินแดนหรือเมืองขึน
้ ในเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศมองโกล พม่า มอญ เขมร ไทย และลาว ฯลฯ

ไทยได้รับวัฒนธรรมทางโหราศาสตร์มาจากอินเดียตอนใต้ ประมาณ
พุทธศักราช 200 ปี เศษ ผ่านทาง อาณาจักรเขมรที่ชาวอินเดียภาคใต้และ
พราหมณ์หนีภัยสงครามการขยายแสนยานุภาพของพระเจ้าอโศก
มหาราชมาพึ่งพา ประจวบพ้องกับการอพยพย้ายถิ่นของไทยมาจาก
ประเทศจีน ไทยจึงได้รับการศึกษาวิชา โหราศาสตร์พร้อมกับลัทธิทาง
ศาสนาและพิธีการพราหมณ์มาด้วย

หลักฐานทางประวัติศาสตร์อันแรกที่ปรากฏเกี่ยวกับโหราศาสตร์ใน
ไทยอยู่ในหลักศิลาจารึก วัดป่ ามะม่วง อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่
สร้างในสมัยพระมหาธรรมราชาที่1 เป็ นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าคนไทย
เริ่มรู้จักโหราศาสตร์อย่างจริงจัง

ในสมัยสุโขทัยมีการศึกษาการเคลื่อนย้ายของดวงดาว การดูดวง
พยากรณ์วิชาเหล่านีจ
้ ะแพร่หลายในหมู่เจ้านายหรือพระสงฆ์ที่มีความรู้
สูงๆ อีกทัง้ ในราชสำนักก็จะมีตำแหน่ง“พระโหราธิบดี”แบ่งเป็ น “โหรา
หน้า” คือโหรผู้ทำหน้าที่การราชพิธีพยุหยาตรา พยากรณ์การศึกการวาง
ดวงพิชัยสงคราม การวางพระฤกษ์สำคัญ รวมทัง้ ทำหน้าที่พยากรณ์พระ
เคราะห์เจ้านาย  กับ “โหราหลัง” มีหน้าที่ประกอบพิธีตรียำปวาย (พิธีโล้
ชิงช้า) เป็ นต้น ซึ่งตำแหน่ง “พระโหราธิบดี”นี ้ ก็ยังคงมีสืบต่อมาในสมัย
อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์

ในสมัยอยุธยาอาชีพโหรถือว่ามีบทบาทสำคัญในหลายด้านเช่นกัน
ครัง้ หนึ่งเกิดกบฏในเมืองสวรรคโลก สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมี
พระมหากรุณาแก่หัวหน้ากบฏเพราะเห็นว่าเป็ นข้าหลวงเดิมว่าให้ออกมา
ถวายบังคมจะไม่ทรงลงโทษ แต่หัวหน้ากบฏไม่ยอมและต่อสู้อย่างแข็งแรง
ทหารของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเข้าตีทางประตูทงั ้ 3 ด้านหลาย
ชั่วโมงก็ไม่แตก พระองค์จึงทรงพระราชดำรัสถามโหรประจำกองทัพว่า
จะได้เมืองสวรรคโลกหรือไม่ ท่านโหรกราบบังคมทูลว่าจะได้ แต่ถ้าเข้าตี
ทางประตูเมืองทัง้ สามนีจ
้ ะได้โดยยาก แต่ถ้าเข้าตีทางประตูดอนแหลมจะ
ได้โดยง่าย เพราะประตูนน
ั ้ อยู่ในทิศที่เป็ นอริแก่เมือง สมเด็จพระนเรศวร
มหาราชทรงจัดกองทัพเล็กๆ ไปตีประตูดอนแหลมตามคำทำนายของโหร
ส่วนการเข้าตีทงั ้ 3 ประตูยังดำเนินต่อไป ไม่ช้าประตูดอนแหลมก็แตก
ตามคำทำนาย หรือราวปี 2142 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เตรียมยก
ทัพไปตีหงสาวดี ได้ทรงสุบินนิมิตว่า มีจงิ ้ จอกตัวหนึ่งมาคาบเอาพญา
คชสารหนีไป ทรงติดตามเท่าไหร่ก็ชิงพญาคชสารกลับมามิได้ โหรทำนาย
ว่าสมเด็จพระนเรศวรจะได้เมืองหงสาวดี แต่ไม่ได้องค์พระเจ้านันทบุเรง
เพราะมีเมืองปฏิปักษ์มาชิงไปก่อน เหตุการณ์กเ็ ป็ นจริงดังที่โหรว่า เพราะ
ต่อมา พระเจ้าตองอูได้เข้ามาเทครัวผู้คนจากเมืองหงสาวดี มิหนำซ้ำยัง
เผาเมืองวอดวาย และได้พาพระเจ้านันทบุเรงหนีไปประทับที่ตองอู

นอกจากนี ้ ในสมัยอยุธยายังเคยมีหน่วยงานราชการเกี่ยวกับโหราศาสตร์
อีกด้วย แต่ถก
ู ยุบไปในระหว่างสงครามโลกครัง้ ที่ 2
จะเห็นได้ว่าในการศึกสงคราม นอกจากกองทหาร เสบียง เครื่อง
ศัสตราวุธยุทโธปกรณ์แล้วนัน
้ โหราศาสตร์ก็เป็ นหน่วยงานอีกแขนงหนึ่ง
ที่เสริมความแข็งแกร่งให้แก่กองทัพและพระมหากษัตริย์ เพราะโหร
สามารถที่จะคำนวณตำแหน่งดวงดาวหาฤกษ์ยามสำหรับบุคคล และนำ
มาใช้ในราชการสงคราม ที่เรียกว่าดวงพิชัยสงครามได้ ในหลายๆครัง้ คำ
พยากรณ์ของโหรได้ช่วยให้การศึกสงคราม พระราชพิธี หรือ กิจการงา
นอื่นๆที่ส่งผลต่อความมั่นคงของราชอาณาจักรผ่านไปได้ด้วยดี

You might also like