You are on page 1of 22

บทที่ 8

เศรษฐศาสตร์มหภาค

SSC 281 เศรษฐศาสตร์ (Economics)

ผศ.ดร.จาร ุวรรณ ชนม์ธนวัฒน์

11
☼ เศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomics)
• ความหมายของวิชา
: คื อ การศึ ก ษาเศรษฐกิ จ ของทั้ ง ระบบ ได้แ ก่ รายได้
ประชาชาติ ระดับ ราคาสิ น ค้า และบริ ก ารทั้ ง หมดโดยทั ว่ ไป
ความสัม พัน ธ์ร ะหว่ างรายได้ การบริ โภค การออม และการ
ลงทุน ระดับการว่างงานโดยทัว่ ไป การใช้จ่ายของรัฐบาล การ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
• ทฤษฎีที่สาคัญในการศึกษา
ทฤษฎีการกาหนดรายได้และการจ้างงาน

22
☼ เป้าหมายของเศรษฐกิจมหภาค

1. การเพิ่มขึน้ ของรายได้ประชาชาติ และผลิตภัณฑ์ประชาชาติ


2. การเพิ่มขึน้ ของการว่าจ้างงาน
3. การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
3.1 การรักษาเสถียรภาพภายในประเทศ (อัตราเงินเฟ้อ,
อัตราดอกเบี้ย, อัตราการว่างงาน)
3.2 การรักษาเสถียรภาพภายนอกประเทศ (ดุลการค้า,
ดุลการชาระเงิน)
4. การเร่งรัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
5. ความเป็ นธรรมและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ

3
☼ ขอบเขตของทฤษฎีมหเศรษฐศาสตร์

1. มีปัจจัยใดที่เป็ นตัวกาหนดระดับของรายได้ การผลิตและการว่าจ้าง


ทางาน
2. ถ้า ปั จ จั ย ดัง กล่ า วเปลี่ ย น มี ผ ลกระทบกระเทื อ นระบบเศรษฐกิ จ
อย่างไร
3. เหตุใดระดับราคาสินค้าโดยทัว่ ๆไปจึงเปลี่ยนแปลง และส่งผลกระทบ
ต่อระบบเศรษฐกิจอย่างไร
4. จะรักษาเศรษฐกิจให้อยู่ในเสถียรภาพ (นโยบายการเงินการคลัง)
5. ทาอย่างไรเพื่อให้ประเทศมีความจาเริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอัตรา
สูง
4
 เนื้อหาวิชาประกอบด้วย
1. คาจากัดความของรายได้ประชาชาติ / ระบบบัญชีประชาชาติ
2. การคานวณรายได้ประชาชาติ
3. รายได้ประชาชาติที่แท้จริง
4. ประโยชน์ของตัวเลขรายได้ประชาชาติ
5. ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประชาชาติประโยชน์
ของตัวเลขรายได้ประชาชาติ

5
 ความหมาย
: ผลรวมของรายได้ประเภทต่างๆ ที่บคุ คลในระบบเศรษฐกิจ
ได้รับในฐานะเป็ นเจ้าของปั จจัยการผลิต ในรอบระยะเวลาหนึ่ง ๆ
ดังนัน้ รายได้ประชาชาติจะเกิดขึน้ ก็ต่อเมื่อระบบเศรษฐกิ จมีการผลิต
สินค้าและบริการ

 ระบบบัญชีประชาชาติ มี 3 ระบบ
1. ระบบขององค์การสหประชาชาติ
2. ระบบของประเทศสหรัฐอเมริกา
3. ระบบของกลุม่ ประเทศคอมมิวนิสต์
6
 การคานวณหารายได้ประชาชาติ มี 3 วิธี
1. การคานวณทางด้านผลิตภัณฑ์หรือผลผลิต (Product Approach)
2. การคานวณทางด้านรายได้ (Income Approach)
3. การคานวณทางด้านรายจ่าย (Expenditure Approach)

 เป็นการคานวณหามูลค่าของผลิตภัณฑ์ประชาชาติส ุทธิในราคาท ุน
(Net National Product at factor cost, or National Income (NI))

7
ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการ (Expenditure Approach)

สินค้าและบริการ (Product Approach)

หน่วยธ ุรกิจ เจ้าของปัจจัยการผลิต, ผูบ้ ริโภค


(Firms) (Households)

ที่ดิน แรงงาน ท ุน ผูป้ ระกอบการ

ค่าแรง ค่าเช่า ดอกเบี้ย กาไร (Income Approach)


8
 ประกอบด้วยขัน้ ตอนต่อไปนี้
I. ค านวณหาผลิ ต ภัณ ฑ์ข องประเทศเบื้ อ งต้น ในราคา
ตลาด (GDP at market price)
เป็ นการค านวณรวมมูล ค่ า ของสิ น ค้า และบริ ก ารขั้น
สุด ท้าย ซึ่ งหมายถึ งสิ นค้าและบริ การที่ ผลิ ต ขึ้นมาและมิได้ถ กู
นาไปใช้ในการผลิตอื่นๆ นอกจากการบริโภค

9
หมายถึงมูลค่ารวมของสินค้าและบริการขัน้ สุดท้ายที่ประเทศสามารถผลิต
ขึน้ ได้ในระยะเวลาหนึง่ คิดที่ราคาตลาด
 หลักสาคัญในการคานวณ GDP
1. สินค้าและบริการที่นามาคานวณต้องเป็ นสินค้าที่มีราคา มีการแลกเปลี่ยนซื้อ
ขายกันในท้องตลาด โดยมีเงิน (money) เป็ นสื่อกลางนัน้ มูลค่า = ราคา * ปริมาณ
2. สินค้าและบริการที่นามาคานวณต้องเป็ นสินค้าและบริการขัน้ สุดท้าย
3. สินค้าและบริการถูกผลิตขึน้ ภายในอาณาเขตของประเทศนัน้ ๆ โดยไม่คานึงถึง
ความเป็ นเจ้าของปั จจัยการผลิต
4. เป็ นมูลค่าของสินค้าและบริการก่อนหักค่าเสื่อมราคา, ค่าสึกหรอของสินค้า
ประเภททุนต่างๆที่ใช้ในการผลิต
10
คือ การนับซา้ (Double counting) ดังนัน้ จึงใช้วิธีการคานวณ
จากมูลค่าเพิ่ม (Value added)

 มูลค่าเพิ่ม = มูลค่าที่ขายไป - มูลค่าที่ซื้อมา


 ประเทศไทยใช้หลักการคานวณหาจากมูล ค่ าเพิ่ ม ของสาขา
การผลิต 11 สาขา

11
 ผลิตภัณฑ์ประชาชาติเบื้องต้น ณ. ราคาตลาด (Gross National Product at market
price : GNP at mkp)
คือมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประชาชาติหนึ่งผลิตขึ้นได้ในรอบระยะเวลาหนึ่งโดยคิดที่
ราคาตลาด
GNP at market = GDP at market + รายได้สทุ ธิจากต่างประเทศ (Net factor Income
from abroad)

 ผลิตภัณฑ์ประชาชาติส ุทธิ ณ. ราคาตลาด (Net National Product at market


price : NNP at mkp)
คือมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประชาชาติหนึ่งผลิตขึ้นได้ในรอบระยะเวลาหนึ่งโดยคิดที่
ราคาตลาด และหักค่าเสื่อมราคาสินค้าทุน
NNP at mkp = GNP at mkp - ค่าเสื่อมราคาสินค้าทุน (Depreciation or Replacement
investment)

12
 ผลิตภัณฑ์ประชาชาติส ุทธิ ณ. ราคาท ุน (Net National Product at factor cost :
NNP at fc) หรือรายได้ประชาชาติ (National Income: NI)

มูลค่าสินค้าและบริการขัน้ สุดท้ายที่ประชาชาติหนึ่งผลิตขึน้ ได้ในรอบระยะเวลาหนึ่ง โดย


คิดที่ราคาทุน
ราคาทุน = ราคาตลาด - ภาษีทางอ้อม - เงินโอนธุรกิจ + เงินอุดหนุน
NNP at fc = NNP at mkp - ภาษีทางอ้อม -เงินโอนธุรกิจ + เงินอุดหนุน
NNP at fc = NI (National Income)

Note: Ex. The price of a book is 200 Bt.


Comprise Cost 170
Indirect taxes 20
Transfer 20
subsidy 10
13
คือ ผลรวมของรายได้ประเภทต่างๆ ในระบบเศรษฐกิจได้รับจากการเป็ น
เจ้าของปั จจัยการผลิตในรอบระยะเวลาหนึง่ ๆ ผลตอบแทนดังกล่าวได้แก่ ค่ าจ้าง
ค่าเช่า ดอกเบี้ย และกาไร
 เรื่ อ งข้อ มูล เกี่ ย วกั บ ผลตอบแทนที่ ปั จ จั ย การผลิ ต ได้รั บ จะอยู่ใ นรูป
รายการต่อไปนี้
□ ค่าตอบแทนแรงงาน (Compensation of Employees) ประกอบด้วย
1. Payments in cash เช่น เงินเดือนค่าจ้าง ค่าประกันสังคม ค่า
รักษาพยาบาล โบนัส
2. Payments in kind เช่น สิ่งของ ที่อยู่อาศัย
□ รายได้ของเกษตรกร และผูป้ ระกอบอาชีพอิสระ
□ รายได้ของบุคคลในรูปค่าเช่า
□ ดอกเบี้ยสุ ทธิ (Net Interest)
14
 เรื่ อ งข้อ มูล เกี่ ย วกั บ ผลตอบแทนที่ ปั จ จั ย การผลิ ต ได้รั บ จะอยู่ใ นรูป
รายการต่อไปนี้ (ต่อ)
□ กาไรของบริษัท (Corporate Profits) ประกอบด้วย ภาษีกาไร, กาไรที่ยังไม่ได้
จัดสรร(เงินออมนิตบิ คุ คล), กาไรที่จดั สรรในผูถ้ ือหุน้ (dividend)
□ รายได้ขององค์กรธุรกิจที่มใิ ช่นติ บิ คุ คล (Proprietors’ Income)
□ รายได้ของรัฐบาล (Government Income)

หัก 1. รายการเงินโอน (Transfer Payment) เช่น


ดอกเบี้ยหนีส้ าธารณะ
ดอกเบี้ยหนีผ้ บู้ ริโภค
2. เงินที่ได้รบั จากการชาระหนี้ หรือขายทรัพย์สินที่มอี ยู่แล้ว
3. เงินที่ได้รบั จากการกระทาที่ผดิ กฎหมาย
*** จากรายการดัง กล่ า วข้า งต้น เมื่ อ น ามารวมกัน และหั ก สามรายการ
สุดท้ายจะได้รายได้ประชาชาติ 15
 เป็ นการนารายจ่ายที่เกิดขึน้ ในรอบระยะเวลาหนึง่ รวมเข้าด้วยกัน
 รายการที่นามารวมด้านรายจ่ายประกอบด้วย
รายจ่ายในการบริโภคของบุคคล (Personal Consumption Expenditures)
รายจ่ายเพื่อการลงทุนภายในประเทศ (Gross Private Investment)
รายจ่ายในการซื้อสินค้าและบริการของรัฐบาล (Government Expenditure)
รายได้จากการส่งออกสุทธิ (Net Export)
*** เมื่อนารายการข้างต้นมารวมเข้าด้วยกันจะได้ GDP at mkp และสามารถ
นาไปคานวณหารายได้ประชาชาติได้

16
รายได้สว่ นบ ุคคล  คือ รายได้ที่ตกทอดถึงมือบ ุคคลไม่ว่าจะเกิดจากการเข้าไปมีสว่ นร่วมในการผลิตหรือ
(Personal Income : จากเงินโอนประเภทต่างๆ
PI)  PI = NI - รายได้ที่บ ุคคลไม่ได้รบั + รายได้ที่บ ุคคลได้รบั ที่ไม่อยูใ่ น NI
รายได้ที่บ ุคคลไม่ได้รบั รายได้ที่บ ุคคลได้รบั ที่ไม่อยูใ่ น NI
ภาษีประกันสังคม เงินโอนของบุคคล
ภาษีเงินได้นติ บิ คุ คล เงินโอนธุรกิจ
กาไรที่มิได้จดั สรร เงินโอนจากรัฐบาล
เงินโอนจากต่างประเทศ

รายได้ส ุทธิสว่ น  เป็ นรายได้ที่บ ุคคลสามารถนาไปจับจ่ายใช้สอยได้จริง


บ ุคคล (Disposable  รายได้ส ุทธิสว่ นบ ุคคล = PI – ภาษีเงินได้บ ุคคลธรรมดา (Personal Income Tax)
Income : DI or Yd)

17
 GDP at Market Price
 GNPat Market Price = GDP at Market Price + รายได้สทุ ธิจากต่างประเทศ
 NNP at Market Price = GNP at Market Price – หักค่าเสื่อมราคา
 NNP at factor cost (NI) = NNP at Market Price – ภาษีทางอ้อม-เงินโอนธุรกิจ + เงินอุดหนุน
 PI = NI- (รายการที่บคุ คลไม่ได้รบั แต่รายการเหล่านีถ้ กู รวมอยู่ในการคานวณ NI ตัง้ แต่ตน้ )
+ (รายการที่บคุ คลได้รบั แต่รายการเหล่านีไ้ ม่ได้ถกู รวมอยู่ในการคานวณ NI ตัง้ แต่ตน้ )
= NI – (ภาษีประกันสังคม+ภาษีเงินได้นิติบคุ คล + กาไรที่ไม่ได้จัดสรร + อื่นๆ เช่นรายได้จาก
ทรัพย์สินจากการประกอบการของรัฐบาล) +(รายได้บคุ คลที่ไม่กอ่ ให้เกิดผลผลิต เช่น รายการเงิน
โอนต่างๆ เช่น เงินโอนบุคคล(เงินบริจาค), เงินโอนจากรัฐบาล(เงินสงเคราะห์,บานาญ), เงินโอน
ธุรกิจเงินโอนจากต่างประเทศ)
 DI = PI – ภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดา
18
 เนื่องจากรายได้ประชาชาติที่คานวณได้ขา้ งต้นเป็ นการคานวณโดยคิด ที่มลู ค่าที่
เป็ นตัวเงินโดยอาศัยราคาตลาดของสินค้าและบริการของปี นัน้ เป็ นหลัก (Current
price or Nominal price)
 หากเราต้องการเปรียบเทียบอัตราการเพิ่มผลผลิตที่แท้จริงในปี ปั จจุบันเทียบกับ
ปี ก่อน เราไม่สามารถทาได้เพราะตัวเลขที่ได้มีผลของราคาสินค้ารวมอยู่ ดว้ ย
จาเป็ นต้องขจัดผลดังกล่าวออกก่อน การกระทาดังกล่าว คือ การคิดมูลค่าที่
แท้จริงหรือคิดที่ราคาปี ฐาน
 ดังนัน้ รายได้ประชาชาติที่แท้จริง จึงหมายถึง รายได้ที่คานวณขึ้ นโดยขจัดการ
เปลี่ยนแปลงทางด้านราคาออกแล้ว โดยคิดในราคาปี ฐาน (Base year) หรือเรียก
อีกอย่างหนึง่ ว่า รายได้ประชาชาติคานวณในราคาคงที่ (At Constant Prices)
Real GDPt = Current GDPt x 100
GDP deflatort
GDP deflatort = Pricet x 100
Priceปี ฐาน
19
 Growth rate t = {(GDPt – GDPt-1)/ (GDPt-1)}*100
 Growth rate 2015 = {(GDP2015 – GDP2014)/ (GDP2014)}*100

 เป็ นตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าประชาชนในประเทศมีรายได้เฉลี่ยคนละเท่าใด
รายได้เฉลี่ยต่อบุคคล = รายได้ประชาชาติ
จานวนประชากร

20
1. Product Approach :
==> รูโ้ ครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ
2. Expenditure Approach :
==> ลักษณะการใช้จา่ ยของประเทศเป็ นอย่างไร
3. Income Approach :
==> รายได้ของประชากรของประเทศอยูใ่ นรูปใดบ้าง
4. Per capital Income
==> รายได้เฉลี่ยต่อประชากร สะท้อนให้เห็นถึงฐานะทางเศรษฐกิจ

21
1. ตัวเลขผลิตภัณฑ์ประชาชาติ มิได้รวมมูลค่าของสินค้าและบริการทุกๆชนิด ที่ประเทศ
หนึง่ สามารถผลิตได้
2. ตัวเลขผลิต ภัณฑ์ประชาชาติเป็ นตัวเลขที่วัด ปริ มาณของสินค้าและบริก ารที่ ผลิ ตได้
(รายได้รวมของประเทศ หรือรายได้เฉลี่ย ) แต่ไม่ได้วัดถึงประสิทธิภาพในการผลิ ตของ
ประเทศ
3. ตัวเลขผลิตภัณฑ์ประชาชาติเป็ นตัวเลขที่วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศแต่ มิได้
วัดสวัสดิการทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศ อาทิเช่น ปริมาณของสินค้าและบริการที่
แต่ล ะครอบครัวได้รับ คุณ ภาพของสิ นค้า และบริ ก าร ความอยู่ดีกิ นดีของประชากร
ชัว่ โมงการทางาน เวลาพักผ่อน อายุเฉลี่ยของประชากร อาจกล่าวได้ว่ารายได้ป ระชาชาติ
ไม่ได้แสดงให้เห็นการกระจายรายได้ระหว่างบุคคล
4. ตัวเลขผลิตภัณฑ์ประชาชาติ มิได้คานึงถึงค่าเสียหายที่การผลิตก่อให้เกิดขึ้นแก่สังคม
เช่นผลกระทบในทางลบด้านสิ่งแวดล้อม
22

You might also like