You are on page 1of 1

การเขียนแสดงทรรศนะ เรื่อง การมีจิตสาธารณะ

สังคมไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีต่าง ๆ ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตเพิ่มมากขึ้น ความ


เจริญรุ่งเรืองทางด้านวัตถุในปัจจุบันเป็นสาเหตุที่ทาให้สังคมมีค่านิยมที่ให้ความสาคัญในการแสวงหาเงินทอง แสวงหาอานาจ
บารมี มากกว่าที่จะให้ความสาคัญทางด้านจิตใจ ด้วยสาเหตุนี้เองจึงทาให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย ซึ่งเราก็ได้พบเห็น
อยู่บ่อย ๆ เช่น การทิ้งขยะลงในแม่น้าลาคลอง ปัญหาเรื่องยาเสพติด ฯ ส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดจิตสานึกที่ดีทั้งต่อตนเองและ
ส่วนรวม ดังนั้นการปลูกฝังให้คนมีจิตสานึกที่ดีจึงเป็นเรื่องที่สาคัญ
ในพจนานุกรมไทยฉบับของราชบัณฑิตยสถาน (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 14 ปรับปรุง-เพิ่มเติมใหม่) พ.ศ. 2537 ได้ให้
ความหมายของจิตสาธารณะ ไว้ดังนี้
จิต (จิด) น. มีความหมายว่า ใจ, ความรู้สึกนึกคิด
สาธารณ (สา-ทา-ระ-นะ) หรือ สาธารณะ มีความหมายว่า ทั่วไป, เป็นของกลางสาหรับส่วนรวม
สานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้ให้ความหมายของ จิตสาธารณะ ว่า การรู้จักเอาใจใส่ มีความสานึกและ
ยึดมั่นในระบบคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีงาม ละอายต่อสิ่งผิด การมีความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
ดังนั้นการมีจิตสาธารณะเปรียบเสมือนความรับผิดชอบที่คนทุกคนพึงมี นั่นคือ ความรู้สึกนึกคิด การมีสามัญสานึก
ตลอดจนคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งเป็นความรู้สึกภายในจิตใจ และมีการถ่ายทอดออกมาทางการกระทาภายนอก จิตสาธารณะจึง
เป็นสิ่งสาคัญในสังคม หากคนในสังคมขาดจิตสาธารณะแล้ว ก็จะเกิดผลกระทบมากมายเช่น ทาให้เกิดความเดือดร้อนแก่
ตนเองและผู้อื่น ในครอบครัวมีความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกันน้อยลง ชิงดีชิงเด่น ทาให้องค์กรไม่ก้าวหน้า ประสิทธิภาพและ
คุณภาพของงานลดลง ทาให้ชุมชนเกิดความอ่อนแอ เพราะต่างคนต่างอยู่ไม่มีการพัฒนายิ่งปล่อยนานยิ่งทรุดโทรมเกิด
อาชญากรรมในชุมชนขาดศูนย์รวมจิตใจ
เพราะฉะนั้นเราทุกคนควรทาในสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก ควรที่จะคิดก่อน
ทา คิดว่าทาแบบนี้จะถูกไหม จะทาให้ใครเดือดร้อนไหม ไม่ควรด่วนตัดสินปัญหาไปเอง ถ้าไม่แน่ใจในเรื่องใด ๆควรปรึกษาผู้ที่
มีความรู้ในด้านนั้น ๆแล้วจึงคิดไตร่ตรองอีกทีอย่างรอบครอบ

You might also like