Professional Documents
Culture Documents
ทาสีเรือ
ทาสีเรือ
และ
คูมือการทาสีเรือ
คํานํา
( ฉัตรชัย พึ่งโพธิ์ )
ประธานคณะกรรมการฯ และ จก.พธ.ทร.
เมษายน ๒๕๕๑
สารบัญ
บทที่ ๑. ความรูทั่วไปเกี่ยวกับสี ๑
บทที่ ๒. เครื่องมือชางสีและการบํารุงรักษา ๑๕
บทที่ ๓. ความปลอดภัยในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับสี ๒๖
บทที่ ๔. การเตรียมพื้นผิววัสดุ ๓๗
บทที่ ๕. เทคนิคการพนและทาสี ๔๙
บทที่ ๖. การเสื่อมคุณภาพของฟลมสี ๕๖
บทที่ ๗. การควบคุมคุณภาพการทาสี ๖๑
บทที่ ๘. แบบแผนการทาสีเรือหลวง ๖๗
ภาคผนวก
เอกสารอางอิง
บทที่ ๑
ความรูทั่วไปเกี่ยวกับสี
รูป แสดงองคประกอบพื้นฐานของสี
ผงสี (Pigment),ตัวทําละลาย (Solvent),สารยึดเกาะ(Binder),สารเติมแตง (Additive)
๑.๑ ผงสี (Pigment) เปนของแข็งมีลักษณะเปนผงขนาดเล็กมาก และไมละลายในสิ่งนําสี ซึ่งมีหนาที่ในสี
คือ ใหสี (Color), กําลังซอนแสง (Hiding power) เปลี่ยนหรือปกปดสีเดิมของผิวหนา ปรับปรุงความแข็งแรงของ
ฟลม ปรับปรุงสมบัติการยึดกับผิวหนาของฟลม ปรับปรุงความทนทานตอการใชงาน ลดความเงาของฟลม และมี
หนาที่อื่น ๆ ในการควบคุมเกี่ยวกับความหนืด (Viscosity) ตัวอยาง วัตถุดิบผงสีที่นํามาใชในการผลิตผงสี เชน
โลหะเหล็ก สารประกอบโลหะหนัก สารสังเคราะหอนินทรีย สารอินทรีย จากพืช สัตว เปนตน
รูป แสดงตัวอยางวัตถุดิบผงสีทีใชในการผลิตสี
๑.๒ สิ่งนําสี (Vehicle) เปนสวนที่เปนของเหลวของสี ทําใหเกิดฟลมสี (Film former)องคประกอบ
สวนใหญ ไดแก ตัวทําละลาย(Solvent) และสารยึดเกาะ(Binder) ทําหนาที่ยึดผงสีเขาดวยกัน และทําใหเกิดการ
เกาะติดกับพื้นผิว คุณสมบัติของสิ่งนําสีจึงมีผลโดยตรงตอคุณสมบัติของฟลมสี เชน ความหนาของฟลมสี (Film
thickness) การยึดเกาะ (Adhesion), ความทนทานตอการดัดโคง (Flexibility) , ความทนน้ํา (Water resistance) ดัง
นั้น จึงมีการแบงชนิด (Type) ของสีตามชนิดของสารยึดเกาะ สารยึดเกาะที่ใชในอุตสาหกรรมสีไดแก Acrylic,
Alkyd, Bitumen, Chlorinated Rubber, Coal tar, Epoxy, Inorganic Silicate, linseed oil, Nitrocellulose, Phenolic,
Polyurethane, Shellac, Silicone, Tung oil, Vinyl
การแหงของฟลมสีโดยทั่วไปจะแหงโดยปฎิกิริยาออกซิเดชันของน้ํามันผสมสีหรือสิ่งนําสีที่ทําหนาที่เปน
ตัวยึดเหนี่ยวกับกาซออกซิเจนในอากาศโดยมีขั้นตอนตามสมการดังนี้
ชั้นที่ ๑ น้ํามันผสมสี+ O2 ในอากาศ---------- Oxidation reaction ------------ Oxyn
ขั้นที่ ๒ (Oxyn) n ------ Polymerization reaction --------------Oxyn polymer
Oxyn polymer หรือฟลมบางๆที่เกิดขึ้นนี้เองทําใหสีจับตัวเขาดวยกันเปนแผนปกคลุมพื้นผิววัสดุในที่สุด
ตัวยึดเหนี่ยวที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันและปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันไดแก linseed oil, Tung oil เปนตน สวนตัว
ยึดเหนี่ยวที่เกิดจากปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันโดยตรงเลยนั้น ไดแก พอริยูรีเธน ยูเรียฟอรมัลดีไฮด พอลิสไตรีน
หรือพีวีซีในสีน้ํา หรือสีอิมัลชัน เปนตน การแหงตัวสามารถแบงออกเปน ๒ ลักษณะ คือ
๑. การแหงตัวตามกายภาพ (Physical drying) เปนการแหงตัวที่ไมมีการเปลี่ยนสถานะโครงสรางทางเคมี
ของสวนประกอบ(Nonconvertible coating) แตจะแหงโดยการระเหยของตัวทําละลาย ไดแก Bitumen,
Chlorinated rubber, Nitrocellulose, Vinyl
รูป แสดงการแหงตัวตามกายภาพ
รูป แสดงลักษณะตางๆของสารยึดเกาะ(Binder)
ตัวอยางการใชงานของสารยึดเกาะ เชน Amino Resin ใชทําสีอบ Phenolic Resin สําหรับสีทนสารเคมีและ
น้ํา Epoxy Resin ใชทําสีทนสารตัวทําละลาย (Solvent) ทนกรด, ทนดาง Vinyl Resin สําหรับสีกันเพรียง และสีที่
ตองการทนตอสภาวะดินฟาอากาศ Silicon Resin สําหรับทําสีทนความรอนสูง Acrylic Resin สําหรับสีที่ตองทนตอ
สภาวะดินฟาอากาศสูงมาก Alkyd Resin สําหรับสีน้ํามันทาบาน
๒. การผุกรอนและการปองกัน เดิมเรือตอดวยไม ซึ่งสามารถทนทานการผุกรอนไดดี งายตอการบํารุง
รักษา ตอมามีการนําโลหะมาใชตอเรือ ซึ่งโลหะราคาถูก เชน เหล็กจะเกิดผุกรอนไดงาย จึงตองมีการควบคุมการ
ผุกรอนอยางดี เพื่อรักษาเรือใหมีอายุใชงานไดยาวนานที่สุด เราจึงควรทราบสาเหตุของการผุกรอน เพื่อจะไดทํา
การปองกันไดถูกวิธี
๒.๑ การผุกรอนของโลหะ เกิดไดหลายแบบ คือ
๒.๑.๑ การผุกรอนทางเคมี หมายถึง การผุกรอนที่เกิดจากการทําปฏิกิริยาระหวางโลหะกับ
สารเคมีโดยตรง เชน การเปนสนิมของเหล็กเกิดจากเหล็กทําปฏิกิริยารวมตัวกับออกซิเจนในอากาศ, การกัดกรอน
โลหะของสารละลาย กรด–ดาง
รูป แสดงการเปนสนิมของเหล็กเกิดจากเหล็กทําปฏิกิริยารวมตัวกับออกซิเจน
รูป แสดงภาพขยายแสดงองคประกอบของผิวเหล็กที่เปนสนิม
รูป แสดงการผุกรอนจากละอองน้ําเกลือ
ลําดับความงายที่จะเสียอิเล็กตรอนของโลหะในน้ําทะเล
Hydrogen Overvoltage
Element Ion Electrode Potential (Volts)
(Volts)
Magnesium Mg2+ -1.87 (Base End) 0.7
Aluminium Al3+ -1.35 0.5
Zinc Zn2+ -0.76 0.7
Chromium Cr2+ -0.6 0.32
Iron Fe2+ -0.44 0.18
Cadmium Cd2+ -0.4 0.5
Cobalt Co2+ -0.29
Nickel Ni2+ -0.22 0.15
Tin Sn2+ -0.14 0.45
Lead Pb -0.13 0.45
Hydrogen H+ 0.00 -
Antimony Sb3+ +0.11 0.42
Copper Cu2+ +0.34 0.25
Silver Ag+ +0.8 0.1
Gold Au3+ +1.3 (Noble End) 0.35
Oxygen OH- +0.4
Chlorine Cl- +1.36
การแสดงความเปนขั้วบวกและขั้วลบของโลหะในน้ําทะเล
GALVANIC SERIES IN SEA WATER
Magnesium
Zinc
Aluminium
Cadmium
Mild Steel
Cast Iron
Stainless Steels 18/8 (Active)
Lead
Tin
Nickel (Active)
Brass
Copper
Aluminium Bronze
Cupro nickel
Silver Solders
Nickel (Passive)
Stainless Steel 18/8 (Passive) Silver
Titanium
Graphite
Gold
Platinum
------------------------------------------------------
บทที่ ๒
เครื่องมือชางสีและการบํารุงรักษา
เครื่องมือชางสีประกอบดวย
๑. เครื่องมือเตรียมพื้นผิว ไดแก
๑.๑ Hand Tool เชน กระดาษทราย คอนมือ เหล็กขูดสนิม ฯลฯ
๑.๒ Power Tool เชน เครื่องขัดไฟฟา จานขัดไฟฟา
๑.๓ Abrasive Blasting เชน เครื่องพนทราย เครื่องพนกริท
๒. เครื่องมือทาสี ไดแก
๒.๑ แปรง ( Brushes)
๒.๒ ลูกกลิ้งและถาด (Roller and Tray)
๒.๓ เครื่องพน (Sprays)
๓. การเลือกใชเครื่องมือชางสีใหมีความเหมาะสมตามรายการในตาราง ดังตอไปนี้
๓.๑ การเลือกใชใหเหมาะสมกับ ชนิดของสีที่ใชทา
ลําดับ การเกิดฟลมสี
ชนิดของสีที่ใชทา เครื่องมือเตรียมพื้นผิว เครื่องมือทาสี
ที่ ( Film Formation )
๑ สีน้ํามัน (Oil – Derived) Air Drying โดย O2 ในอากาศ จะ Hand Tool แปรง
a) Straight Oil ทําปฏิกิริยากับตัว Double Bone Power Tool ลูกกลิ้ง
b) Alkyd เกิดโพลีเมอรเปนฟลมแข็ง Abrasive Blasting เครื่องพน
c) Phenolic – Tung
d) Epoxy – ester
e) Silicone - alkyd
๒ สีน้ํามันดิน ( Bitumen) Physically Drying ตัวทําละลาย Hand Tool แปรง
a) Asphalt (Solvent) ระเหย เรซินจึงแข็งตัว Power Tool เครื่องพน
b) Coal Tar การแข็งตัวใชเวลา ๘ ชม. และแข็ง Abrasive Blasting ลูกกลิ้ง ไมใชเพราะ
ไมเติมที่ สีมีความหนืดสูง วาสีมีความหนืดสูง
แปรงทาสี
แปรงทาสีประกอบดวยสวนตาง ๆ คือ
๑. ขนแปรง (Bristling material) อาจเปนขนจากธรรมชาติ เชน ขนหมู ขนมา หรือ สังเคราะหก็ได
ขนแตกปลาย
ขนแปรง
ขนไมแตกปลาย
ตัดอัด
สารยึด
ปลอกโลหะ
ดามจับ
แปรงดอกหญา แปรงขนกระตาย
แปรงทาสีทั่วไป
ลูกกลิ้งและถาดทาสี
ลูกกลิ้งประกอบดวยสวนตางๆ คือ ๑ ตัวลูกกลิ้ง ๒ แกน ๓ ดามจับ
๑. ตัวลูกกลิ้งมีเสนผานศูนยกลางตั้งแตขนาด ๑ ๑/๒ นิ้ว ถึง ๒ ๑/๔ นิ้ว แตที่นิยมใช คือ ขนาด ๑ ๑/๒ นิ้ว
ความยาวของลูกกลิ้งมีตั้งแต ๑ – ๑๘ นิ้ว แตที่นิยมใช คือ ขนาด ๗ และ ๙ นิ้ว
ความยาวของลูกกลิ้ง แบงออกเปน ๓ ขนาด คือ ขนาดสั้น เทากับ ๓/๘ นิ้ว หรือ นอยกวา ขนาด กลาง
เทากับ ๓/๘ นิ้ว ถึง ๓/๔ นิ้ว ขนาดยาว เทากับ ๓/๔ นิ้ว ถึง ๑ ๑/๒ นิ้ว
ตาราง ชนิดขนของลูกกลิ้ง
ลําดับ
ชนิดขนของลูกกลิ้ง ความเหมาะสมในการใชงาน
ที่
๑ Dynel a ( nylon reinforced) ใชกับสี Latex และสีที่ใช Hydrocarbon เปนทินเนอร
ไมเหมาะกับสีที่ใช Katone เปนทินเนอร
๒ Mohair (ขนแพะชนิดละเอียด) เปนพวกทนตอทินเนอรที่แรง แตขนสั้น
๓ Dacron b ใชกับพื้นผิวที่เรียบ
๔ Lamb’s wool (pelt) ใชไดดีกับสีทุกชนิด “นิยมใช ”
๕ Rayon (แพรเทียม) ไมเหมาะกับสี Latex
๖ Carpet (พรม) ใชกับสีที่มีความหนืด (ขน) สูง
๗ Frieze ผาสักหลาดมีขนขางเดียว ใชกับสี
๘ Miscellaneous (อื่น ๆ ) Polyurethane Foam
a
Registered trademark, Union Carbide Corporation
b
Registered trademark, E.I. du pont de Nemours & Co.
การบํารุงรักษาเครื่องพน เมื่อใชงานเสร็จแลวใหพนลางหัวพนและลางอุปกรณประกอบที่เปอนสีทันทีดวยทิน
เนอรที่ใชผสมสีนั้นจนสะอาด หามใชลวดหรือวัสดุที่มีความแข็งเขี่ยหรือแยงเขาไปในรูของหัวพน เพราะจะทําใหรู
พนสีโตขึ้น สงผลใหสีที่พนออกมามีปริมาณมากกวาที่ตองการและทําใหงานที่กําลังดําเนินอยูเสียหายได
-------------------------------------------------------------------
บทที่ ๓
ความปลอดภัยในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับสี
ก. การปองกันอันตรายจากอุบัติเหตุ
๒. เชือกและสายเคเบิล
๒.๑ ใชสายลวดที่มีเสนผานศูนยกลางขนาดไมนอยกวา ๓/๔ นิ้ว สําหรับ
การตั้ ง Platform และใช เชื อ กมะนิ ล าขนาดเส น ผ า นศู น ย ก ลางไม น อ ยกว า ๕/๘ นิ้ ว
สําหรับกระดานชุลี (be sun chairs) และใชเปนเชือกชวยชีวิต
๒.๒ เก็บรักษาเชือก และสายเคเบิลไวในบริเวณที่อากาศถายเทไดสะดวก, แหง, ปราศจากไอ หรือ
ละอองของสารเคมี, ไมมีความรอนสูง และไมมีสัตวจําพวกหนูอาศัยอยู
๒.๓ ตรวจสอบเชือกและสานเคเบิลกอนใชงานทุกครั้ง เพื่อใหมั่นใจวาไมมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
๒.๔ ไมนําลวดที่เย็นจัดจนน้ําแข็งเกาะไปใชงาน
๒.๕ ไมใชลวดในลักษณะที่ผูกปลายตอกันเปนปม ซึ่งจะทําใหลวดเสียหายได
๒.๖ ควรมีการทดสอบความทนทานของเชือกลวดที่ใชงานอยูเปนระยะ ๆ ตามที่กําหนด ทั้งนี้ เพื่อ
ปองกันการเสื่อมคุณภาพ ในลักษณะที่ไมสามารถพิสูจนไดดวยตาเปลา
๓. เครื่องมือเครื่องใชที่มีความดันภายใน
๓.๑ หลีกเลี่ยงการหักโคงของสายสงที่จะทําใหลมไหลผานไมได
๓.๒ สายสงจะตองกองอยูหางจากผูปฏิบัติงานไมเกิน ๑๐ ฟุต
๓.๓ จะตองไมหันหัวพนไปทางผูหนึ่งผูใด หรืออวัยวะสวนใดสวนหนึ่ง และเมื่อกําลังถือหัวพนอยู
ใหเอานิ้วออกจากไกบังคับ และใหจับที่มือถือเทานั้น
๓.๔ เมื่อทําความสะอาดเครื่องพนชนิดไรอากาศ ใหปลอยความดันออกเสียกอนที่จะถอดชิ้นสวนใด
ๆ และจะตองถอดหัว Spray ออกทําความสะอาดทุกครั้ง
๓.๕ จะตองทํา Hydrostatic test อยางนอยหนึ่งครั้งตอป และถาจะใหดีควรเปน ๒ ครั้งตอป ตรวจ
สอบลิ้นทุกตัวโดยเฉพาะอยางยิ่งลิ้นนิรภัยควรจะตรวจทุกวัน
๓.๖ เก็บรักษาสายสงในบริเวณที่แหงและหลีกเลี่ยงการหักกลับ และบิดตัวของสายสง
ข. อันตรายจากไฟไหมและการระเบิด
๑. สาเหตุ
โดยทั่วไปแลวสีและตัวทําละลายจะมีคุณสมบัติลุกไหมไดดี และมีอันตรายอยางมาก เมื่อตัวของมัน
เองหรือโดยเฉพาะอยางยิ่งไอของมันสัมผัสกับเปลวไฟโดยตรงหรืออุณหภูมิสูง ๆ ถาไมมีการปองกันที่ดีแลว อาจ
เกิดไฟไหมหรือการระเบิด
๑.๑ ตัวทําละลาย
ตัวทําละลายสวนมากสามารถระเหยเปนไอไดดี และจะลุกไหมไดถามีเปลวไฟหรือประกายไฟ
ปกติแลวตัวทําละลายที่สามารถระเหยไดเร็วเทาไร จุดวาบไฟของตัวทําละลายนั้นก็จะต่ํามากเทานั้น ในสีประเภท
ที่ใชแปรงหรือลูกกลิ้งทาซึ่งแหงคอนขางชานั้น จะประกอบดวยตัวทําละลายที่มีจุดวาบไฟประมาณ ๑๐๕ องศาฟา
เรนไฮต (๔๐ องศาเซลเซียส) หรืออาจจะสูงกวาเล็กนอย แตสีที่ใชพนซึ่งตองการการระเหยที่รวดเร็วจะประกอบ
ดวยตัวทําละลายที่มีจุดวาบไฟประมาณ ๓๐ องศาฟาเรนไฮต (- ๑ องศาเซลเซียส) ดังนั้น การพนสีจะกอใหเกิดไอ
ระเหยของตัวทําละลายขึ้นในอัตราสูง จึงทําใหเกิดอันตรายไดงาย จึงจําเปนตองมีการตอสายดินจากหัวพนไวดวย
เพื่อปองกันการเกิดประกายไฟโดยอุบัติเหตุจากไฟฟาสถิต
ไอของตัวทําละลายนั้นหนักกวาอากาศและมีแนวโนมที่จะไหลตามพื้นไปรอบตัวไดไกลพอสมควร
ดังนั้น ในขณะปฏิบัติงานพนสีจะตองไมมีเปลวไฟอยูในบริเวณใกลเคียง เชน การปฏิบัติงานเชื่อมหรือตัดแผน
โลหะ และถาการพนสีนั้นกระทําอยูในพื้นทีอันจะตองมีการถายเทอากาศออก โดยพยายามถายเทอากาศที่อยูตําใน
ระดั บ พื้ น ออกให ม ากที่ สุ ด นอกจากนั้ น ควรใช ห ลอดไฟที่ ป อ งกั น การระเบิ ด (Explosion proof light) และ
มอเตอรไฟฟาอยูในบริเวณปฏิบัติงานจะตองหยุดทํางานทั้งหมด
๒. สี
สีประเภทที่มีตัวทําละลายเปนสารอินทรียผสมอยูดวย ก็สามารถจะลุกไหมได ดังนั้น ขอควรระวัง
ตาง ๆ ก็จะคลายกับของตัวทําละลายตามขอ ๑.๑
๒.๑ สีที่ตองใช ๒ สวนผสมกัน (Two pack)
สีประเภทนี้จะตองไมผสมทีละมาก ๆ โดยปกติแลวจะไมเกินครั้งละ ๕ แกลลอน ในขณะที่
ผสมสีสองสวนนั้น สวนประกอบของสีจะทําปฏิกิริยากันและจะกอใหเกิดความรอน ซึ่งถายิ่งมีปริมาณที่ผสมมาก
เทาไร ความรอนที่เกิดขึ้นก็จะมากเทานั้น ความรอนที่ไดอาจจะทําใหอุณหภูมิสงู พอที่จะเกิดอันตรายได
๒.๒ สีน้ํามันและสีชนิดพิเศษ
อุปกรณที่ใชในการทาสีประเภทสีน้ํามัน เชน แปรงหรือลูกกลิ้ง ที่ยังมีสีเหลือคางอยูมาก ถา
ตากแดดอยูนาน ๆ อาจจะเกิดลุกไหมไดเองโดยธรรมชาติ และสีชนิดพิเศษ เชนสี epoxy สามารถติดไฟไดดี จึง
จําเปนตองระมัดระวังไมใหมีการกระเทือนหรือหกเลอะเทอะในขณะผสม ๒ สวน เขาดวยกัน
๓. การปองกันไฟไหม
ขอระมัดระวังเหลานี้จะสามารถชวยลดโอกาสในการเกิดไฟไหมได
๓.๑ เก็บรักษาตัวทําละลายไวในภาชนะที่เหมาะสม
๓.๒ หามสูบบุหรี่ในสถานที่ที่เกี่ยวของกับการปฏิบัติงานสี เชน สถานที่เก็บรักษาบริเวณที่ผสมสี
และพื้นที่ปฏิบัติงาน
๓.๓ จัดใหมีการระบายอากาศที่เหมาะสมในสถานที่ปฏิบัติงาน เพื่อปองกันการสะสมของไอระเหย
ของตัวทําละลายและวัดใหมีการตรวจสอบปริมาณไอระเหยของตัวทําละลายในบริเวณพื้นที่อับลม เพื่อใหแนจะวา
มีปริมาณอยูในระดับต่ํากวาขีดอันตรายอยูเสมอ
๓.๔ จะตองไมใชบันไดโลหะใกลกับสายไฟฟาเปลือยที่มีไฟฟาไหลอยูนอย ๑๐ ฟุต
๓.๕ ใช เครื่องมื อ ที่ ไม ก อ ให เกิ ดประกายไฟเท านั้ น ในการทํ าความสะอาดผิวหน าของโลหะใน
บริเวณที่มีโอกาสเกิดไฟไหมได
๓.๖ ดับเปลวไฟทุกประเภทในพื้นที่ปฏิบัติงานและปดลิ้นแกสทุกชนิด และถาเปนไปไดใหมีการใช
กระแสไฟฟาในบริเวณนั้นนอยที่สุด
๓.๗ ตองแนใจวามีการตอสายดินเขากับอุปกรณทั้งหมด รวมทั้ง มอเตอรไฟฟาดวย
๓.๘ จัดใหมีเครื่องดับเพลิงอยูใกล ๆ การปฏิบัติงานอยูเสมอ และตองใชใหถูกประเภทดวยดังนี้
Class A - กระดาษ, ไม และขยะ ซึ่งสามารถใชน้ําดับได
Class B - ของเหลวที่ลุกไหมได ซึ่งตองการการปกคลุมอยางหนาและแข็งแรงจึงจะดับได
Class C- อุปกรณทางไฟฟา ซึ่งน้ํายาดับเพลิงที่ใชจะตองไมมีคุณสมบัตินําไฟฟาได
๓.๙ จะตองมีถังทรายอยูใกลเสมอ เพื่อใชดูดซึมของเหลวที่หกหลนหรือเลอะเทอะ และตองไมใช
ภาชนะที่รั่ว
๓.๑๐ ทําความสะอาดเครื่องมือเครื่องใชทั้งกอน หลัง และขณะปฏิบัติงานรวมทั้งสี่ที่หกหลนที่พื้น
ดวย
ค. อันตรายตอสุขภาพ
๑. สาเหตุ
สวนประกอบตาง ๆ ของสีเปนอันตรายตอรางกายมนุษยทั้งสิ้น บางคนสามารถทนตอสารเหลานี้ไดชวง
หนึ่ง แตบางคนมีอาการแพอยางรุนแรง อยางไรก็ตาม ทุกคนจะมีอาการผิวปกติที่แสดงออกใหเห็นถาสัมผัสกับ
สารเหลานี้นาน ๆ
สารที่กอใหเกิดอันตรายตอรางกายนี้ แบงเปน ๒ กลุม คือ สารที่เปนพิษ และสารที่ทําใหเกิดการระคาย
เคืองตอผิวหนัง
๒. ตัวทําละลาย
ตัวทําละลายสวนใหญจะเปนพิษตอรางกายไมมาก็นอย ซึ่งระดับของอันตรายถูกกําหนดโดยบอกเปน
ppm. ของตัวทําละลายกับอากาศ ซึ่งผูปฏิบัติงานจะตองสัมผัสอยูตลอดระยะเวลาการปฏิบัติงาน ๘ ชั่วโมง โดย
ไมเปนอันตราย ซึ่งอาจจะมีคาสูงตั้งแต ๑,๐๐๐ ppm สําหรับ ethyl alcohol จนถึง ๕๐ ppm สําหรับ diacetone
alcohol และ ethylene glycol monobutyl ether ซึ่งถามีการตรวจพบวาสารตาง ๆ มีปริมาณสูงกวาที่กําหนดแลว
จําเปนตองใชเครื่องชวยหายใจในการปฏิบัติงานดวย
๒.๑ ผงสี (pigment)
ผงสีบางประเภทเปนพิษ โดยเฉพาะที่มีสวนประกอบเปนสารตะกั่ว เชน red lead basic lead
sillico chromate ฯลฯ
๒.๒ ตัวเชื่อมยึด
ตัวเชื่อมยึดบางตัวเปนพิษ ถาไดรับการสัมผัสที่นานและมีปริมาณเขมขนเพียงพอ เชน พวก epoxy, amine
hardeners, polyurethane และ polyester โดยเฉพ าะสี ป ระเภท polyurethane จะมี ส ารประกอบป ระเภท
isocyanate อยูดวย ซึ่งสารประกอบนี้เปนพิษมาก
๒.๓ สารเติม
ส ารบ างชนิ ดที่ ใส เข า ไป เพื่ อป รั บ ป รุ ง คุ ณ ภาพ เช น ส ารป ระกอบ พ วก organotin ห รื อ
organomercurial จะเปนพิษเมื่อเขาสูรางกายไมวาจะโดยวิธีใด ๆ ก็ตาม
๓ สารที่กอความระคายเคืองตอผิวหนัง
ผิวหนังที่สัมผัสกับสารจําพวกนี้จะเกิดการระคายเคืองและจะลุกลามมากขึ้นถาไมรีบรักษา
๓.๑ ตัวทําละลาย
ตัวทําละลายนั้นมีคุณสมบัติที่จะละลายและขจัดน้ํามันและไขมันที่มีอยูบนผิวหนังนามธรรมชาติ
ออก ซึ่ ง จะทํ า ให ผิ วหนั ง แห งและทํ า ให เชื้ อ โรคเข าสู ผิ ว หนั ง ได งา ย สารจํ า พวก aliphatic hydrocarbon เช น
mineral spirit จะไมทําอันตรายตอผิวหนังมากเทากับสารจําพวก aromatic hydrocarbon เชน พวก toluene
๓.๒ ตัวเชื่อมยึด
สารจําพวก epoxy, amine hardeners, polyurethane และ polyester ก็สามารถจะทําใหผิวหนังเกิด
อาการระคายเคืองได
๓.๓ สารเคมีอื่น ๆ
สารเคมีเหลานี้จะตองระมัดระวังในการเก็บรักษาและใชงานเปนพิเศษ
๑.๒.๓.๑ น้ํายาลอกสีและน้ํายาทําความสะอาดแปรงที่มีสารจําพวก phenol
๑.๒.๓.๒ กรดและดางที่ใชสําหรับการเตรียมผิวหนาโลหะ
๑.๒.๓.๓ กรดหรือตัวเรงที่ใชสําหรับ “wash primers”
๔. การปองกันอันตรายตอสุขภาพ
ขอปฏิบัติตอไปนี้จะสามารถลดอันตรายไดมาก
๔.๑ ตองมีปายชื่อและเก็บรักษาสารที่เปนอันตรายไวอยางเรียบรอย เมื่อไมไดอยูระหวางการใชงาน
๔.๒ จัดใหมีการระบายอากาศอยางเพียงพอ และถาจําเปนตองจัดใหมีเครื่องปองกันอยางเหมาะสม
๔.๓ เมื่อจะมีการเตรียมผิวหนาโลหะโดยขจัดสีเกาออก ตองดําเนินการใหมีฝุนละอองนอยที่สุด
๔.๔ จัดใหมีการทิ้งเศษสีที่หลุดลอนออกมากจากการเตรียมผิวหนา อยางเรียบรอยและปลอดภัย
๔.๕ สวมหนากากนิรภัยและเครื่องชวยหายใจ เมื่อมีการพนทราย พนสี หรือปฏิบัติงานใด ๆ ที่ทําให
เกิดไอระเหย หรือฝุนที่มีปริมาณมากผิดปกติ
๔.๖ หลีกเลี่ยงการใชมือสัมผัสกับสวนใดสวนหนึ่งของรางกาย ในขณะที่ใชสารประเภทที่เปนอัตรายอยู
และจะตองลางมือ, หนา และแขน ใหสะอาดกอนที่จะรับประทานอาหาร พยายามอาบน้ําและเปลี่ยนเสื้อผาหลัง
จากปฏิบัติงานแลวเสร็จ
๔.๗ การใชน้ํายาลอกสีทุกครั้งจะตองมีการระบายอากาศที่ดี หรือมีระบบชวยในการหายใจอยูเสมอ
ง. การปฐมพยาบาลเบื้องตน
จะตองมีอุปกรณในการปฐมพยาบาลเบื้องตนที่เปนของใหมไวใชอยูเสมอ และผูปฏิบัติงานทุกคนสามารถ
หยิบใชไดสะดวก เมื่อผูปฏิบัติงานคนใดมีอาการที่รุนแรงกวาการปฐมพยาบาลเบื้องตนจะชวยได ตองรีบนําสง
แพทยใหทําการตรวจรักษาโดยดวน
จ. ขอควรปฏิบัติทั่วไป
๑. ควรมีการใชสัญลักษณและเครื่องหมายที่แสดงถึงพื้นที่ที่ใชในการปฏิบัติงาน และหามการสูบบุหรี่
หรือการกระทําใด ๆ ที่กอใหเกิดเปลวไฟ
๒. ปฏิบัติตามคําแนะนําของบริษัทผูผลิตอยางเครงครัดในเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใชผลิตภัณฑนั้น ๆ
๓. ตองดําเนินการใหมีการปฏิบัติตามขอบังคับหรือกฎระเบียบตาง ๆ ดานความปลอดภัย ทั้งของหนวย
งานและของประเภทนั้น ๆ อยางเครงครัด
ฉ. อุปกรณปองกันภัยสวนบุคคล
โดยทั่วไปแลวอุปกรณปองกันภัยสวนบุคคลมีมากมายหลายประเภท และแตละประเภทก็ประกอบไปดวย
อุปกรณที่มีลักษณะตาง ๆ กันออกไป แตในที่นี้จะอธิบายและยกตัวอยางเฉพาะอุปกรณปองกันภัยที่เกี่ยวกับการ
ปฏิบัติงานทางดานสีเทานั้น คือ
๑. อุปกรณปองกันดวงตา
๑.๑ แวนปองกัน (protective spectacles) เปนชนิดที่ไมมีกระบังดานขางใชกับงานที่มีเศษวัสดุปลิวมาที่
ดานหนาโดยตรง กรอบแวนจะตองกระชับกับใบหนา เพื่อที่จะยึดเลนซใหตรงกับนัยนตาเสมอ ฐานรองจมูกควร
จะปรับได การปรับกรอบควรทําโดยผูที่มีความชํานาญ
๑.๒ แวนครอบสําหรับปองกันสารเคมี (chemical goggles) มีกรอบทําดวยไวนิลออน หรือกรอบยาง ใช
ปองกันดวงตาจากสารเคมีกัดกรอนที่จะกระเซ็นมา และยังปองกันฝุนละเอียด ไอระเหย หรือหมอกควันตางๆ
เลนซควรเปนแกวที่ผานการอบความรอน หรือเปนพลาสติกที่ตานทานกรดกัดกรอน และจะตองไมมีการระบาย
อากาศบริเวณตัวแวน มิฉะนั้นไอหรือกาซจะรั่วเขาไปภายในได
๑.๓ แวนครอบกันฝุนชนิดหนากากหนัง (leather-mask dust goggles) ใชในงานที่มีฝุนชนิดไมกัดกรอน
ควรใชเลนซที่ผานการอบความรอน และมีการระบายอากาศโดยตาขายดานขาง เพื่อใหอากาศภายในแวนครอบ
ถายเทได
๒. อุปกรณปองกันนิ้ว ฝามือ และมือ
๒.๑ ถุงมือตาขายโลหะ ใชกับงานที่ตองใชมือ หรืออุปกรณมีคมอื่น ๆ
เพื่อปองกันอันตรายจากคมของเครื่องมือ
๒.๒ ถุงมือยาง นีโอพรีน และไวนิล ใชเมื่อทํางานเกี่ยวกับสารเคมีและ
สารที่กัดกรอน นอกจากนี้ ถุงมือที่ทําดวยนีโอพรีน และไวนิล ก็เหมาะสําหรับ
ทํางานเกี่ยวกับผลิตภัณฑปโตรเลียมดวย
๓. อุ ป กรณ ช ว ยหายใจ เป น สิ่ งที่ ค วรมี ไ ว ใ นกรณี ฉุ ก เฉิ น หรื อ เมื่ อ
ทํางานในสถานที่ที่อากาศไมบริสุทธิ์สิ่งเจือปนในอากาศอาจเปนฝุนซึ่งมีอันตราย
นอย ไอน้ํ า หมอก เขมา และกาซ ซึ่งมีอันตรายมากขึ้น ตามลําดับ พนักงานที่
ทํางานในบรรยากาศเหลานี้ ควรไดรับการฝกใหรูวิธีใช และขอจํากัดของอุปกรณ
ชวยหายใจตาง ๆ
๓.๑ อุปกรณชวยหายใจแบบที่ใชแผนกรองอากาศ (mechanical filter respirator) เปนอุปกรณชวย
หายใจ ที่ใชเมื่อทํางานในอากาศที่จะทําใหปอดสกปรก (pneumoconioses) นั่นคือ ในบรรยากาศที่มีฝุนผงของ
อลูมิเนียม เซลลูโลส ซีเมนต ถานหิน แปง ยิบซั่ม แรเหล็ก หินปูน ขี้เลื่อย อุปกรณนี้มีหลายแบบเพื่อใหเลือกใชให
เหมาะกับงานฝุนผงที่เกิดขึ้นในการทํางานจะมี ๒ ชนิด คือ ชนิดเปนพิษในทันที เชน ผงตะกั่ว ใยหิน สารหนู
แคดเมียม แมงกานิส เซเลเนียม และสารประกอบของธาตุพวกนี้ อีกชนิดหนึ่งจะสะสมในปอด และเปนอันตราย
ในภายหลัง อุปกรณชวยหายใจบางชนิดมีไวชวยหายใจในหมอกควันของ กรดโครมิค ไอสังกะสี และตะกั่ว
เปนตน
แผนกรองที่ใชมักจะเปนกระดาษ หรือผาสักหลาด ซึ่งจะตองทําความสะอาดบอยครั้งเพื่อไมใหอุดตัน
ขอควรระวังในการใชอุปกรณชนิดนี้ก็คือ ไมสามารถใชปองกันไอที่เปนตัวทําละลาย (solvents vapor) กาซที่ทํา
ใหเกิดอาการเจ็บปวด และสภาพการขาดออกซิเจน
๓.๒ อุปกรณชวยหายใจชนิดที่ใชสารเคมีกรองอากาศ (chemical cartridge respirators) ลักษณะสําคัญ
ของอุปกรณคือ จะมีหนากากชนิดปกปดครึ่งใบหนา หรือเต็มใบหนา ติดกับทอซึ่งตอไปยังกลองบรรจุสารเคมีที่
เรียกวา “activated charcoal” หรือ “sodalime” (เปนของผสมระหวาง calcium hydroxide กับ sodium หรือ
potassium hydroxide เพื่อใชดูดซึมกาซและไอที่มีความเขมขนต่ํา ความเขมขนของกาซและไอโดยประมาณที่จะใช
อุปกรณชนิดนี้ไดคือ ไอของสารอินทรียไมเกิน ๐.๑๐ % โดยปริมาตรไอของกรดไมเกิน ๐.๐๕ % ไอของสาร
อินทรียและกรดปนกันไมเกิน ๐.๐๕ % และไอของแอมโมเนียไมเกิน ๐.๐๗ % อายุการใชงานของสารเคมีจะสั้น
มาก ตัวอยางเชน ในกรณีใชกับไอของปรอท จะใชงานไดเพียง ๘ ชั่วโมง เมื่อหมดอายุแลวไมควรใชอีกตอไป
ขอควรระวังคือ ไมควรใชอุปกรณชนิดนี้ในสภาพที่เปนอันตรายตอชีวิตทันที เชน ในสภาวะขาด
ออกซิเจน
๓.๓ หนากากกรองกาซ (gas mask) ประกอบดวนแผนปดหนา หรือปดปากตอดวยทอออนไปยังถัง
กรอง อากาศที่หายใจเขาไปจะผานถังกรองที่มีสารเคมีใชทําความสะอาด กอนที่อากาศนั้นจะเขาสูรางกาย สารเคมี
ในถังกรองจะแตกตางกันไปตามชนิดของกาซที่มีในอากาศ การเลือกถังกรองจะดูจากสีที่ทาไว เพื่อใชใหเหมาะสม
กับกาซชนิดตาง ๆ
ขอควรระวังในการใชหนากากกรองกาซ คือ
๑. ไมสามารถใชในบรรยากาศที่ขาดออกซิเจนได
๒. อายุการใชงานสั้น เมื่อหมดอายุไมควรใชตอไป
๓. ควรมีการทดสอบ และเปลี่ยนถังกรองเปนครั้งคราว แมจะไมไดใชงานก็ตาม
๔. ความเก็บใหหางความชื้น ความรอน และแสดงอาทิตย
๓.๔ หนากากแบบมีสายปอนอากาศบริสุทธิ์ (hose mask) ประกอบดวยหนากากสานรัดศีรษะ สิ้น
ปดเปดสําหรับหายใจเขาและออก ทอหายใจหนึ่งทอหรือมากกวานั้น ทอนี้จะตอกับสายยาง ซึ่งมีสายรัดติดกับลํา
ตัว สายยางนี้ตอกับทอปอนอากาศบริสุทธิ์
ในกรณีที่มีเครื่องสูบติดกับอุปกรณชนิดนี้ จะใชสายยางไดยาวถึง ๓๐๐ ฟุต ถาไมมีควรใชสายยางยาวไม
เกิน ๒๕ ฟุต เทานั้น ไมวาในกรณีใดก็ตามความดันตานทางของการหายใจเขาตองไมเกิน ๔ นิ้ว ของน้ําและความ
ดันตานทางการหายใจออกตองไมเกิน ๑ นิ้วของน้ํา หนากากแบบนี้ใชได
ในบรรยากาศซึ่ งมี ส ารอั น ตรายอยูในที่ ที่ไม มี อากาศเพี ยงพอสํ าหรับ การ
หายใจ เชน ในกรณีที่ตองเขาไปทํางานในถังหรือหองซึ่งมีฝุน หมอก ไอ
หรือกาซพิษ หรือมีออกซิเจนนอยกวา ๑๖ เปอรเซ็นต กอนที่จะเขาไปควร
ทําการระบายอากาศในบริเวณนั้นกอน โดยเฉพาะอยางยิ่งในกรณีที่มีสารไว
ไฟหรือระเบิดงายอยู ถังหรือหองที่จะเขาไปควรมีการทดสอบและระบาย
อากาศเปนชวง ๆ ตลอดเวลาที่พนักงานเขาไปทํางานอยู หนากากที่มีเครื่อง
สูบลม หรืออุปกรณหายใจในตัวควรใชในสถานที่ซึ่งถาอุปกรณชวยหายใจ
เสียการหนีออกจากสถานที่นั้น จะกระทําไดยากหรืออาจเกิดการบาดเจ็บไม
วาจะใชหนากากชนิดใด พนักงานจะตองคาดเข็มขัดนิรภัย และมีเชือกตอกับพนักงานอีกคนหนึ่งซึ่งติดอุปกรณ
แบบเดียวกัน เพื่อชวยเหลือกันในกรณีฉุกเฉิน
๓.๕ อุปกรณชวยหายใจแบบมีทออากาศ (air line respirator) อุปกรณชุดนี้มีทอบรรจุอากาศอัด ซึ่ง
มีที่กรองแยกเอาน้ํามัน สนิม หรือสิ่งเจือปนอื่น ๆ ออกจากอากาศที่ติดอยูบริเวณหนากาก ถาความดันในทอเกิน
๒๕ ปอนดตอตารางนิ้ว ควรมีลิ้นควบคุมความดันติดอยู และมีลิ้นปลอยความดัน ซึ่งทํางานในกรณีลิ้นควบคุม
ความดันเสียติดอยูดวย อุปกรณชนิดนี้ใชในบรรยากาศที่ไมเปนอันตรายตอชีวิตทันที โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ
ในการทํางานตองการใชเครื่องชวยหายใจติดตอกันนาน ๆ ควรเก็บอุปกรณเหลานี้ใหหางจากทอไอสีของเครื่อง
ยนต เพื่อใหไดอากาศบริสุทธิ์ ตัวเครื่องอัดอากาศควรมีตัวควบคุมอุณหภูมิ หรือที่ทออัดควรมีเครื่องสัญญาณเตือน
เพื่อปองกันกาซคารบอนมอนนอกไซดจากน้ํามันหลอลื่นที่ไดรับความรอนสูง หรือจากทอไอเสียเครื่องยนต ผูคุม
งานตองดูแลใหอุปกรณเหลานี้ใชงานไดสะดวก โดยเฉพาะอยางยิ่งในกรณีที่ผูปฏิบัติงานตองเคลื่อนไหวไปมา
ควรระวังไมใหเกิดความเสียหายกับสายยาง เชน ไมควรแชในน้ํามัน
หนากากทุกประเภทตามที่ไดกลาวมาแลวนั้น จะตองทําความสะอาดทุกครั้งหลังจากการใชงานแลว
สวนที่เปนยางใหเช็ดดวยน้ําสบู แลวลางน้ําใหสะอาดและเช็ดใชแหงกอนนําเขาเก็บ
๔. เข็มขัดนิรภัยและสายรัดลําตัว (safety belts and harnesses)
๔.๑ เข็มขัดนิ รภัยและสายรัดลําตัวมี ๒ ชนิ ด คือ ชนิ ดธรรมดาและชนิ ดฉุกเฉิน ชนิดธรรมดาใชเมื่อ
พนักงานทํางานปกติ ซึ่งแรงที่เข็มขัดจะตองรับไมเกินน้ําหนักตัวของผูคาด ชนิดฉุกเฉินใชเมื่อพนักงานทํางานใน
ลักษณะที่อาจตกจากที่สูงได ซึ่งเข็มขัดจะตองรับแรงกระตุกเพื่อดึงตัวคนไว สภาพการทํางานที่ควรใชเข็มขัด
นิรภัยและสายรัดลําตัว เชนการทํางานในที่สูงหรือในที่ปดมิดชิด ซึ่งอากาศที่จะหายใจอาจไมเพียงพอ หรือสภาพ
การทํางานที่อาจถูกฝง หรือบาดเจ็บในที่จํากัด ในกรณีที่ลักษณะงานทําใหตองเอนหลังทํางาน เชน บนเสาไฟฟา
เข็มขัดนิรภัยควรมีหวงรูปตัว U ๒ ตัว ติดอยูดานขางซายและขวาของเข็มขัด เพื่อจะไดผูกติดกับเชือก ซึ่งปลาย
ขางหนึ่งมัดโยงไวกับหลักที่ติดแนน
๔.๒ เข็มขัดนิรภัยแบบสารรัดลําตัวทุกสวน เข็มขัดแบบนี้มีขอดี คือชวยกระจายแรงดึงหรือแรงกระตุก
ไปทั่วรางรายแทนที่จะรวมอยูที่จุดใดจุดหนึ่ง ในกรณีที่จะตองชวยพนักงานซึ่งหมดสติ ถูกฝง หรือชวยขึ้นจาก
โพรง เข็มขัดแบบนี้จะทําใหดึงรางขึ้นมาในแนวนอน หรือหลังตรงได ในสภาพการทํางานซึ่งพนักงานอาจตกลง
มาจากที่สูงมาก เข็มขัดควรเปนแบบที่กระจายการรับน้ําหนักตลอดทั้งทรวงอก ขา และเอวดวย รวมทั้งมีสิ่งชวย
หน ว งความเร็ ว ในการตก เพื่ อ ลดแรงกระตุ ก ที่ จ ะเกิ ด แก รางกายและเข็ ม ขั ด อย างไรก็ ต าม ควรป อ งกั น มิ ใ ห
พนักงานตกลงมาเปนระยะทางมาก ๆ ดวย การผูกเชือกกับเข็มขัดนิรภัย แลวโยงไวกับที่ยึดเหนือศีรษะโดยใชเชือก
สั้นที่สุดเทาที่พนักงานจะเคลื่อนไหวทํางานไดสะดวก
วัสดุที่ใชทําเข็มขัดนิรภัยและสายรัดตัว
มี ๒ ชนิด คือ ชนิดเปนหนังและชนิดเปนผา ชนิดผาจะรับแรงไดมากกวาแบบหนัง และมักใชหัว
เข็มขัดแบบตะขอ ซึ่งจะรับแรงไดมากกวาหัวเข็มขัดแบบเจาะรู เข็มขัดนิรภัยแบบหนังที่จําหนายกันทั่วไปจะทน
แรงไดประมาณ ๑๕๐ – ๒๐๐ กิโลกรับ สวนเข็มขัดแบบผาจะทนแรงไดประมาณ ๖,๐๐๐ กิโลกรัม การเลือกเข็ม
ขัดตองคํานึงวาเข็มขัดจะแทนไดเปนสัดสวนกับระยะทางที่ผูคาดตกลงมาและน้ําหนักของผูคาด เชน เข็มขัดหนัง
ขนาดกวาง ๒ นิ้ว หนา ๑/๔ นิ้ว อาจดึงพนักงานที่ตกในระยะ ๖ ฟุตได แตอาจขาดที่ระยะ ๗ ฟุต ดังนั้น ถา
ระยะที่พนักงานอาจตกสูงกวา ๖ ฟุต ก็ควรใชเข็มขัดขนาดกวาง ๓ นิ้ว หนา ๑/๔ นิ้ว เปนตน เข็มขัดแบบผามี
หลายชนิดแบงตามลายที่ทอ เชน เปนลายสี่เหลี่ยมจัตุรัส ลายตะกรา และลายกางปลา ซึ่งจะรับน้ําหนักหรือแรง
ไดเปน ๒ เทา ของลายตะกรา
การบํารุงรักษา
ไมควรใหเข็มขัดหนังสัมผัสกับสารเคมีเพราะอาจเสื่อมคุณภาพ ควรทําความสะอาดหลังการใชเปนครั้ง
คราว เข็มขัดผาจะทนความรอนไดมากกวาเข็มขัดหนัง และเมื่อเปยกน้ําจะแหงกลับคืนสูสภาพเดิมได นอกจากนี้
เข็มขัดผาที่เคลือบสารตาง ๆ จะมีความทนทานเพิ่มขึ้น เชน เคลือบไข จะทนตอสีและเชื้อรา เคลือบนีโอพรีนจะ
ทนกรดและน้ํามัน เหมาะกับงานในโรงกลั่นน้ํามันและโรงงานทําสารเคมี
๔.๓ เชือกนิรภัยมี ๒ ชนิด คือ เชือกมนิลา และเชือกไนลอน สําหรับเชือกมนิลาควรใชขนาด ๓/๔ นิ้ว
สวนเชือกไนลอนใชขนาด ๑/๒ นิ้ว เชือกไนลอนมีคุณสมบัติดีกวาอยูหลายประการคือ
๔.๓.๑ มีความทนทานตอการขัดสีหรือสึกกรอน
๔.๓.๒ รับแรงกระตุกไดดีกวา
๔.๓.๓ ทนตอเชื้อรา จึงเก็บในที่ชื้นได
๔.๓.๔ มีความทนทานตอแรงดึงสูงทั้งในสภาพเปยก และแหง เชน เชือกมนิลาขนาด ๑/๒ นิ้ว
จะขาดเมื่อรับแรงดึง ๑,๓๐๐ กิโลกรัม แตเนื่องจากในลอนขนาดเดียวกันจะขาดเมื่อรับแรงดึง ๓,๐๐๐ กิโลกรัม
(+ ๕%) ถาใช Safety factor = ๕ สําหรับเชือกมนิลา และ ๙ สําหรับเชือกไนลอน จําคํานวณน้ําหนักปลอดภัยที่
จะรับไดของเชือกมนิลา คือประมาณ ๒๖๐ กิโลกรัม และไนลอน ๓๕๖ กิโลกรัม
สํ าหรับ เชื อ กมนิ ล าขนาด ๓/๔ นิ้ ว จะรับ แรงดึ งได ๒,๗๐๐ กิ โ ลกรั ม หรื อ น้ํ าหนั ก ปลอดภั ย ๕๒๐
กิโลกรัม ถาเชือกนิรภัยนี้ใชกับเครื่องหนวงแรงกระตุก จะใชเชือกมนิลาขนาด ๓/๔ นิ้ว หรือไนลอนขนาด ๑/๒
นิ้ว ก็พอ แตถาไมมีเครื่องหนวงก็ตองใชเชือกใหญกวานี้
ไมวาในกรณีใดก็ตาม ไมควรใชลวดเหล็กเปนเชือกนิรภัยเพาะความเกร็งตัวของลวด จะทําใหแรงกระตุก
เพิ่มมากขึ้น ลวดเหล็กใชไดเมื่อมีเครื่องหนวงแรงกระตุกเทานั้น อยางไรก็ตาม จะตองระวังอันตรายจากกระแสไฟ
ฟาดวย
การตรวจสอบและดูแลรักษาเข็มขัดและเชือก
ควรมีการตรวจเข็มขัดและเชือกทุกครั้งกอนที่จะใชงาน และตรวจโดยผูชํานาญอยางนอย ๓ เดือน
ตอครั้ง การตรวจสอบทําไดดังนี้
๑. เข็มขัดหนัง ควรมีการตรวจรอยฉีกขาด ถากินเขาไปลึกควรเปลี่ยนเข็มขัดใหม ไมวาจะเปนรอย
ขาดตามขวางหรือตามยาวก็ตามการทําความสะอาดควรใชแปรงปดฝุนและสิ่งสกปรกออกจากนั้นลางในน้ําสบูอุน
ๆ แลวลางดวยน้ําอุนอีกครั้งหนึ่ง ทิ้งใหแหงในอุณหภูมิหอง กอนแหงควรทาน้ํามันละหุง น้ํามันถั่ว หรือน้ํามันซิ
ลิโคนพิเศษ แตไมควรใชน้ํามันแร
๒. เข็มขัดผาควรตรวจรอยขาดและรอยยุยของเสน ใย ถาขาดหรือยุยมากควรเปลี่ยนใหม การทํ า
ความสะอาดลางในน้ําสบูอุน ๆ แลวลางในน้ําอุนอีกครั้งแลวอบใหแหงโดยใชความรอนปานกลาง
๓. ชิ้นสวนและอุปกรณประกอบเข็มขัด ควรมีการตรวจสอบทุกสวน ในกรณีที่ใชริเวตย้ําควรตรวจ
รอยสึกกรอนบริเวณรูริเวตดวย
๔. เชือก ควรตรวจผิวนอกของเชือกวามีการสึก หรือใยยุยหรือไม ถาสึกหรือยุยมากก็ไมควรใชตอ
ไป ควรเลิกใชเชือกมนิลาเมื่อสึกจนมีขนาดเล็กลงหรือผิวเรียบ หรือเมื่อเสนใยชั้นในฉีกขาด สีซีดและสึก
๕. ลวดเหล็ก ควรตรวจดูสนิม รอยกัดกรอน ซึ่งจะทําใหความแข็งแรงลดลง จะตองดูแลใหลวด
สะอาด แหง และปราศจากสนิมอยูเสมอ ทาน้ํามันหลอลื่น โดยเฉพาะอยางยิ่งกอนจะใชในสภาพบรรยากาศที่เปน
กรด หรือเมื่อจะใชแชในน้ําเคมี หลังจากการใชงานในลักษณะดังกลาว ควรทําความสะอาดแลวทาน้ํามันกอนเก็บ
๕. การปองกัน
โดยทั่วไปผูปฏิบัติงานเกี่ยวกับสีจะตองสวมใสชุดปฏิบัติงานที่สามารถปกคลุมผิวหนังจากการสัมผัส
กับสารละลายหรือไอระเหยจากสีได แตในกรณีที่ไมสามารถทําไดก็ควรทาครีมปองกัน ซึ่งมีทั้งชนิดละลายน้ําและ
ชนิดกันน้ํา แตละชนิดยังมีคุณภาพตาง ๆ กัน เพื่อใชใหเหมาะสมกับงาน ครีมชนิดละลายน้ําใชทากันน้ํามันหลอ
ลื่นในการตัดโลหะดวยเครื่องชนิดตาง ๆ หรือใชทากันสี แลคเกอร และน้ํามันชักเงา ครีมชนิดกันน้ําใชเมื่อน้ํามัน
หลอลื่นในการตัดโลหะมีน้ําปนมากกวา ๑๐ เปอรเซ็นต ครีมชนิดนี้ใชน้ําอุนและสบูลางออกได การทาครีมตอง
ทาซ้ําหลาย ๆ ครั้ง เพื่อใหมีประสิทธิภาพ ขอควรระวังคือครีมจะกันสารที่มีความกัดกรอนสูงไมได
ช. ขอแนะนําพิเศษ ผูผลิตสีบางรายที่ตระหนักถึงความปลอดภัยตอสุขภาพของผูใชสี จะมีการแนะนํา
ถึงวีธีการปองกันที่เหมาะสม โดยการระบุเปนโคด (code) ซึ่งประกอบไปดวย ตัวเลข ๒ ตัว เชน (๓/๓) ซึ่งตัว
เลขชุดนี้เราเรียกวา PPA numbers (personal protection advice) โดย
ตัวเลขตัวแรก จะระบุถึงระดับของอันตรายตอสุขภาพอันอาจเกิดไดจากไอระเหยของสวนที่ระเหยไดในสี
ที่บรรจุอยูในกระปองนั้น ๆ โดยเรียงระดับจากอันตรายมากที่สุดที่ ๓ ลงมาจนถึง ๐
ตัวเลขตัวที่ ๒ จะระบุถึงระดับของอันตรายตอสุขภาพอันอาจเกิดจากตัวผงสีและตัวเรซิน (สวนที่ระเหย
ไมได) ที่บรรจุอยูในกระปองนั้น ๆ โดยเรียงระดับจากอันตรายมากที่สุดที่ ๖ ลงมา จนถึง ๐
ในแตละชุดของตัวเลขจะมีขอแนะนําที่กําหนดไวแลว ตามตารางที่แนบทาย โดยมีวีธีการอานดังนี้
ถาใชลูกกลิ้งหรือแปรงในการทาสีใหพิจารณาตามเครื่องหมาย “ ” ในตาราง
ถาใชการพน ใหพิจารณาตามเครื่องหมาย “ ” ในตาราง
บทที่ ๔
การเตรียมพื้นผิววัสดุ
สิ่งสําคัญอันดับแรกที่ชางสีจะตองดําเนินการใหถูกตอง เพื่อใหไดผลงานที่ดี คือ การเตรียมพื้นผิวของ
วัสดุที่จะทา ไมวาชางสีจะเลือกใชสีที่มีคุณภาพดีเพียงใดก็ตาม แตถาการเตรียมพื้นผิววัสดุไมดี คุณภาพของงานก็
จะไมดีไปดวย ซึ่งเปนผลใหเสียเวลาในการทาสี และสิ้นเปลืองเงินทองไปโดยเปลาประโยชน
๑.วัตถุประสงคของการเตรียมพื้นผิว ที่สําคัญมี ๒ ประการ คือ
๑.๑ เพื่อกําจัดความสกปรกของพื้นผิวซึ่งเกิดจาก ผง ฝุน คราบไขมัน น้ํามัน เกลือ ตลอดจนสีเกาที่
หลุดลอน สนิมและความชื้นออก เพราะสิ่งเหลานี้นอกจากจะกันไมใหสีไดสัมผัสกับพื้นผิวทําใหการยึดเกาะของ
พิมพสีไมดี ยังเปนสาเหตุใหเกิดการพอง หลุดลอนไดอยางรวดเร็ว
๑.๒ เพื่อปรับพื้นผิวใหมีความขรุขระที่เหมาะสม ซึ่งจะชวยใหการยึดเกาะของฟลมสีดีขึ้น โดยเฉพาะ
ผิวโลหะที่คอนขางเรียบ สีจะยึดเกาะไดไมดี จึงตองขัดหรือพนทรายใหผิวขรุขระขึ้น สําหรับผิวไมซึ่งมีความพรุน
มากไป ก็จะตองลดความพรุนลง เพื่อไมใหเปลืองสีที่ใชเนื่องจากถูกดูดซึมเขาไปในเนื้อไมมากเกินไป
๒.วิธีการเตรียมพื้นผิว เปนการใชอุปกรณ เครื่องมือ สารเคมี เพื่อนํามากําจัดคราบสกปรก และทําใหพื้นผิว
มีความขรุขระตามที่ตองการ โดยวิธีการเตรียมพื้นผิวมีดวยกันหลายวิธีและแตละวิธีก็มีความสามารถแตกตางกัน ดัง
นี้
๒.๑ Hand tool cleaning เปนการเตรียมพื้นผิวดวยมือโดยใชอุปกรณ เชน คอน เหล็กขูดสนิม ผาทราย
หรือแปรงลวดเพื่อกําจัดสนิม สเกล ตลอดจนสีเกา เปนวิธีที่ชาไมเหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ และเปนวิธีเลวที่สุด
สําหรับการเตรียมพื้นผิว เนื่องจากไมสามารถกําจัดสนิมที่กินลึกไดหมด แตอยางไรก็ตาม ถาจําเปนตองใชวิธีนี้
เชน เรืออยูในทะเล ผูควบคุมงานจะตองตรวจดูจนแนใจวาไดใชเครื่องมือทําความสะอาด เชน แปรง ผาทราย
หรือเหล็กขูด ขูดขัดสีที่ลอนและสนิมออกไดหมด จนผิวสะอาดจริง โดยเฉพาะบริเวณรอยตอ และรอยเชื่อมตาง
ๆ การใชเครื่องมือเหลานี้จะตองระวังไมใหเกิดความเสียหายกับพื้นผิวเนื่องจากใชแรงมากเกินไป
๒.๒ Power tool cleaning เป น วิ ธี ที่ เหมาะสมสํ า หรั บ การเตรี ย มพื้ น ผิ ว ที่ มี พื้ น ที่ ไ ม ม ากนั ก โดยใช
อุปกรณที่อาศัยพลังงานไฟฟาหรือกําลังดันลม ไดแก
Chipping hammer ใชสําหรับขจัดสนิม สเกลและสีเกาที่ติดแนน
Wire Brushes ใชกับสนิม สเกลและสีเกาที่ไมติดแนน แตจะตองระวังไมขัดจนผิวเหล็กมันเกินไป
เนื่องจากจะทําใหการเกาะติดของสีเลวลง
Grinder และ Sander ใชขัดใหผิวสม่ําเสมอขึ้น โดยเฉพาะตรงรอยเชื่อมถาไมขัดใหเรียบลงเทาผิว
พื้นขางเคียง จะเปนจุดที่เกิดสนิมไดงาย
Needle gun ใชสําหรับขจัดสนิมและสีเกา เหมาะสมหรับพื้นผิวที่ใชเครื่องมืออยางอื่นไมสะดวก
เชนบริเวณตะเข็บหรือมุม การใชเครื่องทุนแรงถึงแมวาจะชวยใหทํางานไดเร็วขึ้น แตก็ยังไมใชวิธี
เตรียมพื้นผิวที่ดีที่สุด และก็เหมาะสมกับงานซอมทําสีขนาดเล็กเทานั้น
๒.๓ Chemical Cleaning เปนการเตรียมพื้นผิวโดยใชสารเคมี ไดแก
๒.๓.๑ สารเคมี ป ระเภทตั วทํ าละลาย (Solvent ) เช น Mineral Spirits, Kerosene เป น ต น เพื่ อ
กําจัดความชื้น คราบน้ํามันและไขมันออก คราบน้ํามันและไขมันสามารถเช็ดลางออกไดโดยใชผาสะอาดชุบทิน
เนอรมาเช็ดหลาย ๆ ครั้งจนสะอาด แตถาไมมีทินเนอรอาจใชน้ําสบูแทน จากนั้นใชน้ําสะอาดลางจนหมดคราบสบู
แลวเช็ดหรือใชลมเปาใหพื้นผิวแหงสนิท ในกรณีที่มีความจําเปนตองทาสีบริเวณที่ชื้นแฉะ ตองเช็ดผิวพื้นดวยทิน
เนอรห รือ บิ วทิ ล แอลกอฮอล (butyl alcohol) แล วรอจนแห งสนิ ท ก อนทาสี วิธีนี้ ไมส ามารถกําจัด สนิ ม สเกล
ตลอดจนสีเกาออกไดหมดหลังจากเช็ดลางดวยตัวทําละลายแลว จึงตองทําความสะอาดดวยวิธีอื่นอีกตามความ
เหมาะสม
๒.๓.๒ สารเคมีประเภทกรด(Acid) หรือAcid Pickling เชนกรดซัลฟูริค (Sulphuric Acid), กรด
เกลือ (Hydrochloric Acid ) ซึ่งสามารถกําจัดสนิมและออกไซดของโลหะได
๒.๔ Abrasive Blasting เป น การเตรี ย มแบบการพ น ขั ด เป น วิ ธี ที่ ส ามารถกํ าจั ด สนิ ม สี เก า และสิ่ ง
สกปรกตางๆไดอยางมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังทําใหผิวมีความขรุขระพอเหมาะ ชวยในการยึดเกาะของฟลมสี
เปนอยางดี การพนขัดสามารถทําไดอยางรวดเร็ว จึงใชกับการเตรียมพื้นผิวขนาดใหญ การพนขัดจะมีผงขัดที่นํา
มาใชไดหลายชนิด ผงขัดโลหะ(Metallic Abrasive) ไดแก Cast Steel, malleable Iron, Chill Cast Iron ฯลฯ ซึ่งแต
ละชนิ ด ยั ง มี รู ป ร า งที่ เป น Shot หรื อ Grit เช น Cast Steel Shot , Cast Steel Grit และ ผงขั ด ที่ ไ ม ใ ช โ ลหะ (Non-
Metallic Abrasive) ไดแก Silica sand, Olivine sand, Garnet การพนขัดยังสามารถแบงออกไดอีกดังนี้
๒.๔.๑ Air Abrasive Blasting วิธีการนี้จะใชกําลังดันอากาศในการผลักดันผงขัดสงผานไปตาม
สายพนและออกจากหัวพนสูพื้นผิวของชิ้นงาน โดยพื้นผิวของชิ้นงานจะถูกทําความสะอาดโดยผงขัดที่มีความเร็ว
กระแทกสนิม สีเกา คราบน้ํามัน สิ่งสกปรกตางๆใหหลุดออกจากพื้นผิว วิธีการ Air Abrasive Blasting นี้จะมีประ
สิทธิภาพในการเตรียมพื้นผิวขึ้นอยูกับกําลังอากาศและชนิดของผงขัด หากใชทรายเปนผงขัด เราจะเรียกวา การพน
ทราย (Sand Blasting) โดยปกติจะใชกําลังดันอากาศ 90-100 psi และใชกรวดทรายที่ผานตาตะแกรง ขนาด ๑๘ –
๔๐ เมช (mesh) จะทําใหไดลักษณะพื้นผิวที่มีความหยาบระหวาง ๒–๒ ๑/๒ มิลส(๕๐–๖๓ไมครอน) ระบบของวี
ธีการของ Air Abrasive Blasting
วิธี
SSPC อุปกรณและวัสดุในการเตรียมพื้นผิว NACE ISO
(Method)
SSPC – SP1 Solvent Cleaning สารละลาย (Solvent), สารทํ าความ - -
ส ะ อ า ด (Cleaning agent), ไ อ น้ํ า
(Stream)
SSPC – SP2 Hand Tool Cleaning คอนมือ, เหล็กขูดสนิม, กระดาษทราย - St 2
SSPC – SP3 Power Tool Cleaning เครื่องขัดไฟฟา ปนขัดสนิม - St 3
(Needle gun)
SSPC – SP4 Flame Cleaning Oxyacetylene Flame - -
SSPC – SP5 White Metal ทราย, Grit, Shot No.1 Sa 3
Blast Cleaning
SSPC – SP6 Commercial ทราย, Grit, Shot No.3 Sa 2
Blast Cleaning
SSPC – SP7 Brush – off ทราย, Grit, Shot - Sa 1
Blast Cleaning
SSPC – SP8 Pickling กรด (Acid), เบส (Alkali) - -
SSPC – SP9 Weathering, Followed ทราย, Grit, Shot - -
By Blast Cleaning
SSPC – SP10 Near – White ทราย, Grit, Shot No.2 Sa 2 ½
Blast Cleaning
A B C D
ภาพแสดงระดับ Grade Rust
A Sa 2.5 A Sa 3
C Sa 1 C Sa 2 C Sa 2.5 C Sa 3
D Sa 1 D Sa 2 D Sa 2.5 D Sa 3
B St 2 B St 3
C St 2 C St 3
D St 2 D St 3
เทคนิคการพนและทาสี
๔.๓ การเคลื่อนปนพนสีแตละครั้งควรใหรูปรางของสีทับกันครึ่งตอครึ่งทุกครั้งไป(๕๐ %)
การพนงานแบบตาง ๆ
๑. การพนงานที่ยาว สําหรับชิ้นงานที่ยาวอาจจะมีการพนตามแนวขวางก็ได แตผูพนสีนิยมการพน
แบบแนวยาว เพราะการพนสะดวกกวา ถางานพนยาวมากควรแบงการพนออกเปนชวง ๆ แตละชวงควรมีความ
ยาวในการพนสีอยูระหวาง ๑๘ – ๓๖ นิ้ว ระยะการพนทับกัน ๕๐ % และควรพนชวงที่กําหนดไวใหเสร็จกอน
จากนั้นจึงพนชวงตอไป ใหมีการพนทับกันแตละชวงมีความยาวประมาณ ๔ นิ้ว
๑๘ – ๓๖ นิ้ว
รอยทาทับ ๔ นิ้ว
๒. การพนงานตามขอบและมุม การพนงานตามขอบและมุม ควรจัดปนพนสีใหเอียงเปนมุม ๔๕ องศา
กับขอบงานที่จะพนโดยมีชวงจุดที่จะพนที่ขอบมุมเทานั้น และทําการพนเสร็จเรียบรอยฟลมสีจะตองติดขอบมุมทั้ง
๒ ดาน
-----------------------------------------------------
บทที่ ๖
การเสื่อมคุณภาพของฟลมสี
๕. สีชั้นลางซึมขึ้นมาบน ๑. ปลอยใหพื้นผิวนั้นแหงสนิท
การเสื่อมคุณภาพของฟลมสีในลักษณะตาง ๆ
การควบคุมคุณภาพในการทาสีเรือนับวามีความสําคัญที่ชวยใหการปฏิบัติงานในการทาสีเรือเปน
ไปตามมาตรฐาน อันจะทําใหฟลมสีที่ไดมีความคงทนมีอายุการใชงานไดยาวนาน ชวยปกปองพื้นผิวของ
สวนประกอบตัวเรือตางๆไดอยางมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการทาสีมีขั้นตอนในการปฏิบัติงานดังนั้นการ
ควบคุมคุณภาพจึงตองมีการดําเนินการควบคูกันไป โดยมีขั้นตอนดังนี้
๑. การควบคุมคุณภาพการเตรียมพื้นผิว
การการเตรียมพื้นผิวของวัสดุที่จะทา ไมวาชางสีจะเลือกใชสีที่มีคุณภาพดีเพียงใดก็
ตาม แตถาการเตรียมพื้นผิววัสดุไมดี คุณภาพของงานก็จะไมดีไปดวย ซึ่งผลการเตรียมพื้นผิวจะตองได
ตามมาตรฐานที่ กํ า หนด เช น National Association of Engineers (NACE) , Steel Structures Painting
Council (SSPC) , ISO 8501-1:1988 ซึ่งแตละมาตรฐานมีความแตกตางกันแตสามารถเทียบเทากันได
โดยการการเตรียมพื้นผิวเหล็กดวยการเตรียมพื้นผิวดวยวิธีการพนทราย (Sand Blasting) มาตรฐานพื้นผิวที่
ตองการ Sa 2.5 และ การเตรียมพื้นผิวเหล็ก ดวย Power Tool Cleaning มาตรฐานพื้นผิวที่ตองการ St 3
St 3
Power Tool Cleaning
๒. การควบคุณภาพการทาสี
เมื่อตรวจสอบการเตรียมพื้นผิวไดตามที่กําหนดแลว ตอไปเปนขั้นตอนการตรวจ
สอบ กอนเริ่มทําการทาสี มีขั้นตอนดังนี้
๒.๑ ตรวจสอบสภาวะที่เหมาะสมกอนการทาสี
๒.๑.๑ ตรวจวัดอุณหภูมิของอากาศ , ความชื้นสัมพัทธ( Relative Humidity ) ,
อุณหภูมิพื้นผิว ( Surface Temperature ) , อุณหภูมิจุดน้ําคาง ( Dew point ) แลวบันทึกขอมูล
การวัดความหนาฟลมสีแหง
๒.๒.๔ในกรณีที่แผนการทาสีกําหนดใหมีการทาสีมากกวา ๑ ชั้น ใหดําเนินการ
ทาสีในแตละชั้นตามขอมูลของผูผลิต โดยความหนาของสีแหงในแตละชั้นตองเปนไปตามที่กําหนดไว
และการทาสีในแตละชั้นตองปลอยใหสีในแตละชั้นแหงตามระยะเวลาตามที่ผูผลิตกําหนดไว
๒.๒.๕ กอนจะทําการทาสีในแตละชั้น ใหตรวจสอบสภาพของสีชั้นแรก โดย
จะตองไมมีคราบน้ํามัน, น้ํา, รอยแตกราว, ฝุนละออง, สีหลุดรอน จึงจะทําการทาสีชั้นตอไปได
๒.๒.๖ การรายงานผลความหนาฟลมสีแหงนั้น ใหนําคาความหนาฟลมสีแหงที่
ไดหลังสุดมาลบดวยความหนาฟลมสีแหงชั้นกอน ๆ ก็จะไดความหนาฟลมสีแหงชั้นสุดทาย
๓. การบันทึกขอมูล
เมื่อทราบขั้นตอนในการตรวจสอบการปฏิบัติงานการทาสีเรือแลว จึงไดนํามาจัดทํา
เอกสารตรวจสอบ เพื่อนําไปใชในการบันทึกขอมูล โดยมีตัวอยางดังนี้
ตัวอยาง
แผนบันทึกการตรวจสอบ
การเตรียมพื้นผิว บริเวณตัวเรือภายนอก
บริเวณที่ตรวจสอบ
เกณฑกําหนด ผลการตรวจสอบ หมายเหตุ
ตัวเรือภายนอก
กราบขวา Sa 2.5 Sa 2.5
1. UNDER WATER LINE
กราบซาย Sa 2.5 Sa 2.5
กราบขวา Sa 2.5 Sa 2.5
2. BOOT TOP
กราบซาย Sa 2.5 Sa 2.5
กราบขวา Sa 2.5 Sa 2.5
3. ABOVE WATER LINE
กราบซาย Sa 2.5 Sa 2.5
แผนบันทึกการตรวจสอบ
การตรวจสอบการทาสี
บริเวณตัวเรือภายนอก
ความหนาฟลม
บริเวณที่ สีแหง (μm) อุณหภูมิ อุณหภูมิ ความชื้น จุด หมาย
ชนิดของสี
ตรวจสอบ เกณฑ อากาศ พืน้ ผิว อากาศ น้ําคาง เหตุ
วัดได 0 0 0
กําหนด C C % C
BISCON HB 200 205 34 35.5 88 31.5
UNDER
SILVAX SQ 20 25 34 36.2 82 30.2
WATER LINE
SEAFLO 12 75 75 34 36.6 88 31.5
AF - SEAFLO Z – 100 75 75 34 36.6 88 31.5
BOOT TOP BISCON NO.1000 NT 125 120 33 37.5 80 29
BISCON NO.1000 NT 125 120 33 37.5 80 29
ABOVE EPICON UNDERCOAT 60 65 40 42.7 72 33.8
WATER LINE UNY MARINE 40 40 32 36 85 29.4
UNY MARINE 40 45 33 37 85 29
บทที่ ๘
แบบแผนการทาสีเรือหลวง
แผนการทาสีเรือ แผนที่ 1
บริเวณ ประเภทเรือเหล็ก ประเภทเรือเหล็ก เกงอลูมิเนียม ประเภทเรืออลูมิเนียม ประเภทเรือไม เกงไม
ทองเรือ 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE ) 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE ) 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE ) 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE )
( BOTTOM ) 2 EPOXY TIE COAT 2 EPOXY TIE COAT 2 EPOXY TIE COAT 2. VINYL TIE COAT
3 TBT FREE SELF POLISHING 3 TBT FREE SELF POLISHING 3 TBT FREE SELF POLISHING 3-4 VINYL ANTIFOULING RED
ANTIFOULING ANTIFOULING ANTIFOULING
4 TBT FREE SELF POLISHING 4 TBT FREE SELF POLISHING 4 TBT FREE SELF POLISHING
ANTIFOULING ANTIFOULING ANTIFOULING
แนวน้ํา 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE ) 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE ) 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE ) 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE )
( BOOT TOP 2 EPOXY TIE COAT 2 EPOXY TIE COAT 2 EPOXY TIE COAT 2. VINYL TIE COAT
AREA ) 3 TBT FREE SELF POLISHING 3 TBT FREE SELF POLISHING 3 TBT FREE SELF POLISHING 3-4 VINYL ANTIFOULING
ANTIFOULING ANTIFOULING ANTIFOULING BLACK
4 TBT FREE SELF POLISHING 4 TBT FREE SELF POLISHING 4 TBT FREE SELF POLISHING
กราบเรือ แผนที่ 1 แผนที่ 1 1 WASH PRIMER หรือ ETCH PRIMER 1 - 2 ALKYD HAZE GRAY
( TOP SIDE 1-2 ALKYD RED LEAD 1-2 ALKYD RED LEAD 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE * ใช SHADE สีอื่นตามความจําเปน
AREA ) 3-4 ALKYD HAZE GRAY 3-4 ALKYD HAZE GRAY 4-5 ALKYD HAZE GRAY ของภารกิจ
แผนที่ 2 แผนที่ 2
1 EPOXY ANTICORROSIVE 1 EPOXY ANTICORROSIVE
2 EPOXY UNDERCOAT 2 EPOXY UNDERCOAT
3 ALKYD HAZE GRAY หรือ 3 ALKYD HAZE GRAY หรือ
PHENOLIC ALKYD BLACK PHENOLIC ALKYD BLACK
* เรือที่มีคุณคาทางยุทธการสูงให * เรือที่มีคุณคาทางยุทธการสูงให
ใชแผนที่ 2 ใชระบบใหม
* เรือตามระเบียบ กร. ขอ 5.1 ใชสี * เรือตามระเบียบ กร. ขอ 5.1 ใชสี
PHENOLIC ALKYD BLACK PHENOLIC ALKYD BLACK
ขอ 5.1 ตัวเรือภายนอก เหนือแนวน้ําทาสีหมอกออนตัดแนวน้ําดวยสีดํา ตามที่ อร.กําหนด ยกเวน เรือเร็วโจมตี เรือตรวจการณปน
และเรือตรวจการณใกลฝง ชุดเรือ ต.91 ใหทาสีดําขางเรือทั้ง 2 กราบตามที่กําหนด
แผนการทาสีเรือ แผนที่ 3
ประเภทเรือเหล็ก เกง
บริเวณ ประเภทเรือเหล็ก ประเภทเรืออลูมิเนียม ประเภทเรือไม เกงไม
อลูมิเนียม
ดาดฟาเปด แผนที่ 1* แผนที่ 1* 1 WASH PRIMER หรือ ETCH PRIMER ไมทาสี ตามระเบียบ กร.
( EXTERIOR 1-2 ALKYD RED LEAD 1-2 ALKYD RED LEAD 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE
DECKS ) 3-4 ALKYD DARK GRAY 3-4 ALKYD DARK GRAY 4-5 ALKYD DARK GRAY
( ALKYD NON-SLIP ) ( ALKYD NON-SLIP ) ( ALKYD NON-SLIP )
แผนที่ 2** แผนที่ 2**
1 EPOXY
1 EPOXY ANTICORROSIVE ANTICORROSIVE
2 EPOXY UNDERCOAT 2 EPOXY UNDERCOAT
3 ALKYD DARK GRAY 3 ALKYD DARK GRAY
( ALKYD NON-SLIP ) ( ALKYD NON-SLIP )
** ใชกับเรือที่มีคาทางยุทธ
* ใชกับเรือทั่วๆไป การสูง
ดาดฟาปด แผนที่ 1* 1 POLYVINYL BUTYRAL 1 WASH PRIMER หรือ ETCH PRIMER ไมทาสี ตามระเบียบ กร.
2-3 ALKYD ZINC
( INTERIOR
1-2 ALKYD RED LEAD CHROMATE 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE
DECKS ) 3-4 ALKYD DARK GRAY 4-5 ALKYD DARK GRAY 4-5 ALKYD HAZE GRAY
( ALKYD NON-SLIP ) ( ALKYD NON-SLIP ) ( ALKYD NON-SLIP )
แผนที่ 2**
1 EPOXY ANTICORROSIVE
2 EPOXY UNDERCOAT
3 ALKYD DARK GRAY
( ALKYD NON-SLIP )
* ใชกับเรือทั่วๆไป
** ใชกับเรือที่มีคาทางยุทธการสูง
แผนการทาสีเรือ แผนที่ 4
บริเวณ ประเภทเรือเหล็ก ประเภทเรือเหล็ก เกงอลูมิเนียม ประเภทเรืออลูมิเนียม ประเภทเรือไม เกงไม
เกงภายนอก ระบบเดิม* 1 POLYVINYL BUTYRAL 1 WASH PRIMER หรือ ETCH PRIMER 1 - 2 ALKYD HAZE GRAY
1-2 ALKYD RED LEAD 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE * ใช SHADE สีอื่นตามความจําเปน
3-4 ALKYD ENAMEL 4-5 ALKYD HAZE GRAY 4-5 ALKYD HAZE GRAY ของภารกิจ
SUPERSTRUCTURE OUTSIDE
ระบบใหม**
1 EPOXY ANTICORROSIVE
2 EPOXY UNDERCOAT
3 ALKYD HAZE GRAY
* ใชกับเรือทั่วๆไป
** ใชกับเรือที่มีคาทางยุทธการสูง
เกงภายใน ระบบเดิม* 1 POLYVINYL BUTYRAL 1 WASH PRIMER หรือ ETCH PRIMER 1-2 ALKYD ENAMEL
1-2 ALKYD IRON OXIDE หรือ 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE SHADE สีของสี ENAMEL
ALKYD ZINC CHROMATE 4-5 ALKYD ENAMEL 4-5 ALKYD E ใหใชตามระเบียบ กร. กําหนด
3-4 ALKYD ENAMEL
SUPERSTRUCTURE INSIDE
แผนการทาสีเรือ แผนที่ 5
ประเภทเรือเหล็ก เกง
บริเวณ ประเภทเรือเหล็ก ประเภทเรืออลูมิเนียม ประเภทเรือไม เกงไม
อลูมิเนียม
หองเครื่องจักร ใชกับเรือทั่วไป 1 POLYVINYL BUTYRAL 1 WASH PRIMER หรือ ETCH PRIMER 1 POLYVINYL BUTYRAL
2-3 ALKYD ZINC
และทองเรือ
1-2 ALKYD RED LEAD CHROMATE 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE
3-4 ALKYD PHENOLIC 4-5 ALKYD PHENOLIC 4 -5 ALKYD PHENOLIC 4-5 ALKYD PHENOLIC
ใชกับเรือที่มีคุณคาทางยุทธการสูง
1 EPOXY ANTICORROSIVE
2 EPOXY UNDERCOAT
3 EPOXY TOP COAT
* SHADE สี ตามระเบียบ กร.
ถังน้ําจืดสําหรับดื่ม ถังน้ําจืดสําหรับดื่ม ถังน้ําจืด ถังน้ําจืดสําหรับดื่ม
ถังน้ําจืด ถังน้ํามันเชื้อเพลิง ถังน้ํามันเชื้อเพลิง 1 WASH PRIMER หรือ ETCH PRIMER 1 POLYVINYL BUTYRAL
สําหรับดื่ม 1 EPOXY ZINC RICH PRIMER 1 POLYVINYL BUTYRAL 2 สีรองพื้นทาถังน้ําดื่ม EPOXY 2 สีรองพื้นทาถังน้ําดื่ม EPOXY
2 สีรองพื้นทาถังน้ําดื่ม
ถังน้ํามัน
2 EPOXY TANK PRIMER EPOXY 3 สีทับหนาถังน้ําดื่ม EPOXY 3 สีทับหนาถังน้ําดื่ม EPOXY
3 สีทับหนาถังน้ําดื่ม
เชื้อเพลิง
3 EPOXY TANK TOP COAT EPOXY
แผนการทาสีเรือ แผนที่ 6
บริเวณ ประเภทเรือเหล็ก ประเภทเรือเหล็ก เกงอลูมิเนียม ประเภทเรืออลูมิเนียม ประเภทเรือไม เกงไม
1 ALKYD RED
สมอ
LEAD 1 ALKYD RED LEAD 1 ALKYD RED LEAD 1 ALKYD RED LEAD
2 ALKYD HAZE
GRAY 2 ALKYD HAZE GRAY 2 ALKYD HAZE GRAY 2 ALKYD HAZE GRAY
1 POLYVINYL
เพลาใบจักร BUTYRAL 1 POLYVINYL BUTYRAL 1 POLYVINYL BUTYRAL 1 POLYVINYL BUTYRAL
2 ALKYD RED
สวนที่อยูใน LEAD 2 ALKYD RED LEAD 2 ALKYD RED LEAD 2 ALKYD RED LEAD
3 ALKYD HAZE
ตัวเรือ GRAY 3 ALKYD HAZE GRAY 3 ALKYD HAZE GRAY 3 ALKYD HAZE GRAY
เพลาใบจักรที่ทําดวย เพลาใบจักรที่ทําดวย เพลาใบจักรที่ทําดวย
STAINLESS STEEL
ไมตองมาสี STAINLESS STEEL ไมตองมาสี STAINLESS STEEL ไมตองมาสี
1. EPOXY PRIMER
เพลาใบจักร (TAR FREE ) 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE ) 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE ) 1. EPOXY PRIMER (TAR FREE )
2 EPOXY TIE
สวนที่อยูนอก COAT 2 EPOXY TIE COAT 2 EPOXY TIE COAT 2 EPOXY TIE COAT
3 TBT FREE SELF
ตัวเรือ POLISHING 3 TBT FREE SELF POLISHING 3 TBT FREE SELF POLISHING 3 TBT FREE SELF POLISHING
ANTIFOULING ANTIFOULING ANTIFOULING ANTIFOULING
4 TBT FREE SELF
POLISHING 4 TBT FREE SELF POLISHING 4 TBT FREE SELF POLISHING 4 TBT FREE SELF POLISHING
ANTIFOULING ANTIFOULING ANTIFOULING ANTIFOULING
ถาหุมดวยไฟเบอร
กลาส ทาเฉพาะ
สีกันเพรียง ในชั้น 4
และเปนสีกันเพรียงที่
ใชกับไฟเบอรกลาส
เทานั้น
เปนไปตามคําแนะนํา
โดมเรดาร เปนไปตามคําแนะนําของผูผลิตเรดาร เปนไปตามคําแนะนําของผูผลิตเรดาร เปนไปตามคําแนะนําของผูผลิตเรดาร
ของผูผลิตเรดาร
แผนการทาสีเรือ แผนที่ 7
บริเวณ ประเภทเรือเหล็ก ประเภทเรือเหล็ก เกงอลูมิเนียม ประเภทเรืออลูมิเนียม ประเภทเรือไม เกงไม
เปนไปตามคําแนะนําของผูผลิต เปนไปตามคําแนะนําของผูผลิตโซ
โดมโซนาร เปนไปตามคําแนะนําของผูผลิตโซนาร เปนไปตามคําแนะนําของผูผลิตโซนาร
โซนาร นาร
ทอลมที่เปน 1 ALKYD ZINC CHROMATE 1 ALKYD ZINC CHROMATE 1 ALKYD ZINC CHROMATE 1 ALKYD ZINC CHROMATE
เหล็ก 2 ALKYD ENAMEL 2 ALKYD ENAMEL 2 ALKYD ENAMEL 2 ALKYD ENAMEL
SHADE สี ตามสีของหองที่ทอลม
SHADE สี ตามสี ผาน SHADE สี ตามสีของหองที่ทอลมผาน
ของหองที่ทอลมผาน
แผนการทาสีเรือ แผนที่ 8
บริเวณ ประเภทเรือเหล็ก ประเภทเรือเหล็ก เกงอลูมิเนียม ประเภทเรืออลูมิเนียม ประเภทเรือไม เกงไม
เสากระโดง 1 ALKYD ZINC CHROMATE 1 ALKYD ZINC CHROMATE 1 ALKYD ZINC CHROMATE 1 ALKYD ENAMEL
พรวน 2 ALKYD ENAMEL 2 ALKYD ENAMEL 2 ALKYD ENAMEL
ชั้น 2 SHADE สีตามระเบียบ กร. ชั้น 2 SHADE สีตามระเบียบ กร. ชั้น 2 SHADE สีตามระเบียบ กร.
บันได แผนที่ 1* 1 POLYVINYL BUTYRAL 1 WASH PRIMER หรือ ETCH PRIMER 1-2 ALKYD ENAMEL
ชองทางเดิน 1-2 ALKYD RED LEAD 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE 2-3 ALKYD ZINC CHROMATE
3-4 ALKYD DARK GRAY 4-5 ALKYD DARK GRAY 4-5 ALKYD DARK GRAY
( ALKYD NON-SLIP ) ( ALKYD NON-SLIP ) ( ALKYD NON-SLIP )
แผนที่ 2**
1 EPOXY ANTICORROSIVE
2 EPOXY UNDERCOAT
3 ALKYD DARK GRAY
( ALKYD NON-SLIP )
* ใชกับเรือทั่วๆไป
** ใชกับเรือที่มีคาทางยุทธการสูง
แผนการทาสีเรือไฟเบอรกลาส แผนที่ 1
บริเวณ ชนิดขอสี
3. NONSKID SPECIFICATION
NONSKID COATING ไดมีการกําหนดมาตรฐาน MIL-PRF-24667B(SH) ใชกับบริเวณ WEATHER DECKS ,
FLIGHT DECKS , HANGAR DECKS และบริเวณอื่นๆ ที่ตองการใชงาน ซึ่งแบงเปนชนิดไดดังนี้
TYPE I - HIGH DURABILITY , ROLLABLE DECK COATING
TYPE II - STANDARD DURABILITY , ROLLABLE DECK COATING
TYPE III - STANDARD DURABILITY , ROLLABLE RESILIENT DECK COATING
( FOR USE WHERE FLEXIBILITY IS REQUIRED AND WHERE INCREASED
WEIGHT IS NOT A FACTOR )
TYPE IV - STANDARD DURABILITY , SPRAYABLE DECK COATING
TYPE V - EXTENDED DURABILITY , ROLLABLE DECK COATING
TYPE VI - HIGH DURABILITY , FAST CURE , ROLLABLE DECK COATING
TYPE VII - FAST CURE , TEMPORARY REPAIR , ROLLABLE DECK COATING
TYPE VIII - LOW TEMPERATURE CURE , ROLLABLE DECK COATING
TYPR IX - HIGH TEMPERATURE RESISTANCE DECK COATING
TYPE X - SUBMERGED APPLICATION
4.4 การทาสีรองพื้น
สีรองพื้น Primer ตองเปนสีที่มีความเหมาะสม ไมเพียงแตจะยึดเกาะกับ NONSKID TOPCOAT
เทานั้น แตตองทําให NONSKID SYSTEM มีความคงทน ซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติงานมีดังนี้
4.4.1 ผสมสีรองพื้นตามคําแนะนําของผูผลิตสีโดยกวนใหทั่วเปนเนื้อเดียวกัน
4.4.2 ตรวจสอบสภาวะที่เหมาะสมตามขอ 4.3
4.4.3 เมื่อไดสภาวะที่เหมาะสมแลว กอนการทาสีใหกวนสีอีกครั้งประมาณ 1 นาที
4.4.4 ผูปฏิบัตงิ านตองใสรองเทาพลาสติก คลุมรองเทาใหทั่วเพื่อปองกันฝุนตองจะติดมาจากรองเทา
4.4.5 หลังจากการเตรียมพื้นผิวแลว จะตองทําการเช็ดดวยผาขาวสะอาด หามใชผาขนหนูและใช
SOLVENT ทําความสะอาด ตามคําแนะนําของบริษัท
4.4.6 เครื่องมือที่ใชในการทาสีสามารถใชไดทั้ง SPRAY และ ROLLING
4.4.7 ทําการวัดความหนาฟลมสีเปยก
4.4.8 ทําการวัดความหนาฟลมสีแหง
4.5 การทา NON-SKID มีขั้นตอนและการปฏิบัติดังนี้
4.5.1 การผสม ( MIXING )
4.5.1.1 การผสมสีใหดําเนินการตามคําแนะนําของบริษัทผูผลิต
4.5.1.2 การกวนใหใชเครื่องกวนตามที่ผูผลิตแนะนํา
4.5.1.3 การเจือจางดวยสารละลาย หามกระทําโดยเด็ดขาด
4.5.1.4 หลังจากการผสมแลว อาจจะตองปลอยทิ้งไวตามเวลาที่กําหนดกอนนําไปใชงาน
ตามขอกําหนดของบริษัทสี หากไมมีการกําหนดเวลาปลอยทิ้งไว ใหนําสีไปใชทัน
ทีหลังผสมเสร็จ
4.5.1.5 หากมีการปลอยทิ้งไวเมื่อจะเริ่มทาตองทําการกวนอีกครั้งประมาณ ๑ นาที กอน
นําไปใชงาน
4.5.1.6 NONSKID มีชวงระยะเวลาใชงาน SHELF LIFE ดังนั้น การนําไปใชงานตองใช
งานใหหมดภายในระยะเวลาของ SHELF LIFE
รูปการผสม NONSKID
4.5.2 การทา NONSKID ( NONSKID APPLICATION INSTRUCTION )
4.5.2.1 กอนการปฏิบัติตองแนใจวามีความสะอาด รองเทาที่สวมตองมีการปองกันฝุนและสิ่ง
ที่เปนประโยชนดวยรองเทาพลาสติก ตามรูป กอนลงไปปฏิบัติงานบนพื้นที่ที่ทาสี
รูป รองเทาพลาสติก
4.5.2.2 ทําความสะอาด ชั้นของสี PRIMER ดวยผาขาวสะอาด ปราศจากฝุนผง เพื่อกําจัดฝุน
ผงที่อาจจะเกิดขึ้น หามใชสารซักฟอก DETERGEN ลางโดยเด็ดขาด
4.5.2.3 เครื่องมืออุปกรณตาง ๆ และพื้นที่ ที่ไมทําการทา NONSKID ใหทําการปดคลุม
อุปกรณ และพื้นที่ ดังกลาว
4.5.2.4 ทา NONSKID เวนระยะ ใหหางจากบริเวณสิ่งติดตั้งและสวนที่ยื่นจากดาดฟา ที่ไมได
อยูในระนาบเดียวกับดาดฟาประมาณ 2 นิ้ว
4.5.2.5 ทา NONSKID เวนระยะ ใหหางจากแผนไมหรือโลหะที่กั้นรอบปากระวางเรือ (
COAMING ) และ ขอบพื้นดาดฟา ( DECK EDGES )
4.5.2.6 หามทา NONSKID บน NONSKID ที่มีอยูเดิม
4.5.3 การทา NONSKID ดวย ลูกกลิ้ง ( ROLLING )
4.5.3.1 ใชกับ NONSKID TYPE I , II, III
4.5.3.2 ROLLER ตองมีผิวเรียบ และมีแกนกลางแข็งที่ (HARD PHENOLIC CORE
ROLLER )
4.5.3.3 ผิวของ NONSKID ควรมีรูปแบบ หยาบ ขุขระ เปนกลุมโดยมีแนวตอเนื่องกันไป
ในทางเดียวกันจากหัวเรือไปทางทายเรือ พื้นผิวที่ไดมีควรยาวเทา ๆ กัน โดยไมมี
เศษของ NONSKID หลุดออกนอกผิว
4.5.3.4 NONSKID ใหทําการทาจากหัวเรือไปทายเรือ อยางไรก็ตาม แนวเชื่อมที่ขนานกับ
แนวทาสี ควรมีการทํา CROSS ROLL ซึ่ง การทํา CROSS ROLL ควรมีระยะหาง
จากแนวเชื่อมแตละดานประมาณ 3 – 6 นิ้ว
ขอ
หมายเลข USN. มูล ความหนา
ขนาด สง
ทาชั้นที่ รายการสีที่ใชทา หมายเลขพัสดุ หนวยนับ
FORMULA บรรจุ กํา
สูตรสี R ลัง ที่ทา
NUMBER (ไมครอน)
USN.FNO.11 ๑ ส.๑
๑๒๐๑ ๑ สีรองพื้นกันสนิมตะกั่วแดง G แกลลอน ๘๐๑๐ - ๓๕ - ๓๗๓ - ๒๓๐๑ ท. กปง. ๒ - ๔๐
๕ ส.๑
ALKYD RED LEAD PRIMER แกลลอน ๘๐๑๐ - ๓๕ - ๓๗๓ - ๒๓๐๒ ร. ถัง
USN.FNO.51 ๑ ส.๑
๑๒๐๒ ๒ สีหมอกออนทาภายนอก 1 แกลลอน ๘๐๑๐ - ๓๕ - ๓๗๓ - ๒๓๒๑ ท. กปง. ๒ - ๔๐
๕ ส.๑
ALKYD HAZE GRAY แกลลอน ๘๐๑๐ - ๓๕ - ๓๗๓ - ๒๓๒๒ ร. ถัง
๑๒๐๓ ๒ สีหมอกแกทาพื้นดาดฟาภายนอก USN.FNO.20 ๑ ๘๐๑๐ - ๓๕ - ๓๗๓ - ๒๓๒๓ ส.๑ กปง. ๒ - ๔๐
แกลลอน ท.
๕ ส.๑
ALKYD DARK DECK GRAY แกลลอน ๘๐๑๐ - ๓๕ - ๓๗๓ - ๒๓๒๔ ร. ถัง
๑.๓ ทาตัวเรือภายในทอตาง ๆ ที่อยูใตดาดฟาของหองเครื่องจักร หองหมอน้ํา ยุงโซ และโซสมอ
สี
ลําดับที่ หอง หมายเหตุ
ผนัง เพดาน พื้น
๑. สะพานเดินเรือ, หองถือทาย เขียวออน ดํา หมอกแก ถาพื้นหองปูดวย
๒. หองแผนที่ เขียวออน ขาว หมอกแก กระเบื้องยางใหใช
๓. หองวิทยุ เขียวออน ขาว หมอกแก สีตามที่กําหนดหรือ
๔. หอควบคุมการยิง หมอกออน หมอกแก หมอกแก สีที่คลายคลึงกัน
๕. หอง ซี.ไอ.ซี. หมอกออน หมอกแก หมอกแก
๖. หองศูนยกลางการติดตอภายใน เขียวออน ขาว หมอกแก
๗. หองโซนาร หมอกออน หมอกออน หมอกแก
๘. หองเรดาร หมอกออน หมอกออน หมอกแก
๙. หองไยโร หมอกออน หมอกออน หมอกแก
๑๐. หองวัตถุระเบิด ขาว ขาว ขาว
๑๑. หองลําเลียงกระสุน ขาว ขาว ขาว
๑๒. หองศูนยควบคุมความเสียหาย เขียวออน ขาว หมอกแก
๑๓. หองหมอน้ํา หองเครื่องจักร ขาว ขาว หมอกแก ถาพื้นหองเปนเหล็ก
๑๔. หองเย็น ขาว ขาว หมอกแก อาบสังกะสีไมเปน
๑๕. หองเครื่องจักรอื่น ๆ ขาว ขาว หมอกแก สนิมจะขัดมันก็ได
๑๖. หองซอมของ ขาว ขาว หมอกแก
๑๗. หองแบตเตอรี่ ขาว ขาว หมอกแก กอนทาสีใหทาสีกัน
๑๘. หองเก็บกรดและเคมีภัณฑ ขาว ขาว หมอกแก กรดกอน
๑๙. หองกระซับ ขาว ขาว หมอกแก
๒๐. หองซักรีด ขาว ขาว หมอกแก
๒๑. หองนายทหาร – พันจา เขียวออน ขาว เขียวแก
๒๒. หองกลาสี เมสทหาร ขาว ขาว หมอกแก
๒๓. หองทํางาน หองเรียน หองฝก เขียวออน ขาว หมอกแก
สี
ลําดับที่ หอง หมายเหตุ
ผนัง เพดาน พื้น
๒๔. หองโถงนายทหาร - พันจา เขียวออน ขาว หมอกแก
๒๕. พองพยาบาล เขียวออน ขาว หมอกแก
๒๖. หองครัว หองอาหาร ขาว ขาว หมอกแก
หองทหารรับใช
๒๗. หองสหโภชน ขาว ขาว หมอกแก
๒๘. หองสภาเรือ ขาว ขาว หมอกแก
๒๙. หองสวม ขาว ขาว หมอกแก
๓๐. หองน้ํา ขาว ขาว หมอกแก
๓๑. ชองทางเดิน ขาว ขาว หมอกแก
๓๒. หองบังคับการบิน เขียวออน เขียวออน หมอกแก
๓๓. หองควบคุมดาดฟาบิน เขียวออน ขาว หมอกแก
๓๔. โรงเก็บอากาศยาน ขาว ขาว หมอกแก
๓๕. หองควบคุมดาดฟาโรงเก็บ เขียวออน ขาว เขียวแก
อากาศยาน
๓๒. พัดลมตามหองตาง ๆ ทาสีตามสีของผนังหอง หรือตามสีของพัดลม พัดลมระบายอากาศ และทอทางลม
ทาสีตามสีของหอง
๓๓. สายไฟและแผงประกับสายไฟ ทาสีตามสีของหอง
๓๔. ตูโตะ เกาอี้และเตียง ทาสีตามสีของหอง เวนแตของเดิม ซึ่งเปนอลูมิเนียมและไมไดทาสีหรือเปนไม
ทาน้ํามันชักเงา เปนตน ก็ใหอนุโลมตามของเดิม