Professional Documents
Culture Documents
64) 1
17 May 2021
𝑓 𝑔
𝑋 𝑋
กราฟของฟังก์ชนั 𝑓 กราฟของฟังก์ชนั 𝑔
4. โรคโควิด-19 เป็ นโรคระบาดที่เกิดจากเชือ้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุใ์ หม่ 2019 ซึง่ สามารถแพร่เชือ้ จากคนสูค่ นและ
ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ ข้อมูลการระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศที่อยูใ่ นทวีปยุโรป
จานวน 9 ประเทศ ในช่วง 90 วันแรก หลังจากพบผูต้ ิดเชือ้ รายแรกของประเทศนัน้ แสดงดังตารางต่อไปนี ้
จานวน จานวน อัตราส่วนของ
ประเทศ ประชากร ผูต้ ิดเชือ้ สะสม จานวนผูต้ ดิ เชือ้ สะสม
(ล้านคน) (คน) ต่อจานวนประขากรล้านคน
ฟิ นแลนด์ 5.54 4,695 847.36
ฝรั่งเศส 65.27 119,151 1,825.41
เยอรมนี 83.78 154,175 1,840.15
อิตาลี 60.46 201,505 3,332.76
นอร์เวย์ 5.42 8,352 1,540.61
โปแลนด์ 37.85 24,395 644.58
โปรตุเกส 10.20 31,596 3,098.65
สเปน 46.75 215,183 4,602.37
สวีเดน 10.10 20,302 2,010.24
จากข้อมูลในตาราง ข้อใดถูกต้อง
1. ประเทศที่มีจานวนประชากรน้อยที่สดุ มีจานวนผูต้ ิดเชือ้ สะสมน้อยที่สดุ
2. ประเทศที่มีจานวนประชากรมากที่สดุ มีจานวนผูต้ ิดเชือ้ สะสมมากที่สดุ
3. ประเทศที่มีจานวนผูต้ ดิ เชือ้ สะสมน้อยที่สดุ มีอตั ราส่วนของจานวนผูต้ ิดเชือ้ สะสม
ต่อจานวนประชากรล้านคน น้อยที่สดุ
4. ประเทศที่มีจานวนผูต้ ดิ เชือ้ สะสมมากที่สดุ มีอตั ราส่วนของจานวนผูต้ ิดเชือ้ สะสม
ต่อจานวนประชากรล้านคน มากที่สดุ
5. ประเทศที่มีอตั ราส่วนของจานวนผูต้ ิดเชือ้ สะสมต่อจานวนประชากรล้านคนน้อยที่สดุ
มีจานวนประชากรน้อยที่สดุ
พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก) นักเรียนคนทีม่ ีความสูงเท่ากับมัธยฐานของความสูง มีนา้ หนักเท่ากับมัธยฐานของนา้ หนัก
ข) นักเรียนคนทีม่ ีความสูงน้อยกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 20 ของความสูง มีนา้ หนักมากกว่านา้ หนักของ
นักเรียนคนทีม่ ีความสูงเท่ากับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 20 ของความสูง
ค) นักเรียนทุกคนที่มีนา้ หนักมากกว่าควอร์ไทล์ที่ 3 ของนา้ หนัก มีอายุมากกว่า 15 ปี
จากข้อความ ก) ข) และ ค) ข้างต้น ข้อใดถูกต้อง
1. ข้อความ ก) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 2. ข้อความ ข) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้
3. ข้อความ ก) และ ข) ถูกต้องเท่านัน้ 4. ข้อความ ข) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
5. ข้อความ ก) ข) และ ค) ถูกต้อง
12 เมตร 12 เมตร
6 เมตร
พืน้ ของสะพาน
50 เมตร
200 เมตร
11. พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก) นิเสธของข้อความ “สาหรับจานวนจริง 𝑥 ทุกจานวน ถ้า 𝑥 เขียนได้ในรูปทศนิยมไม่ซา้ แล้ว 𝑥 เป็ น
จานวนอตรรกยะ” คือ “มีจานวนจริง 𝑥 ที่ 𝑥 เขียนได้ในรูปทศนิยมไม่ซา้ และ 𝑥 เป็ นจานวนอตรรกยะ”
ข) กาหนดให้ 𝑝 , 𝑞 และ 𝑟 เป็ นประพจน์ [(~𝑞 → ~𝑟) ∧ (~𝑟 → 𝑞)] → (𝑝 ∨ 𝑞) เป็ นสัจนิรนั ดร์
ค) กาหนดเอกภพสัมพัทธ์คือเซตของจานวนจริง ∀𝑥[√𝑥 2 ≥ 𝑥] → ∃𝑥[√𝑥 2 ≤ 𝑥] มีคา่ ความจริงเป็ นจริง
จากข้อความ ก) ข) และ ค) ข้างต้น ข้อใดถูกต้อง
1. ข้อความ ก) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 2. ข้อความ ข) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้
3. ข้อความ ก) และ ข) ถูกต้องเท่านัน้ 4. ข้อความ ข) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
5. ข้อความ ก) ข) และ ค) ถูกต้อง
15. ร้านเบเกอรีแห่งหนึง่ ขายคุกกีบ้ รรจุเป็ นกล่องขนาดเดียวกัน พบว่า กาไรต่อกล่องเป็ นฟั งก์ชนั พหุนามกาลังสองของ
จานวนกล่องที่ขายได้ตอ่ วัน โดยที่
ในวันที่รา้ นขายคุกกีไ้ ด้ 20 กล่อง ร้านจะได้กาไร 20 บาทต่อกล่อง
ในวันที่รา้ นขายคุกกีไ้ ด้ 10 กล่อง ร้านจะมีรายได้จากการขายคุกกีเ้ ท่ากับต้นทุน
ในวันที่รา้ นขายคุกกีไ้ ม่ได้เลย ร้านจะขาดทุน 40 บาทต่อกล่อง
ร้านเบเกอรีจะขายคุกกีไ้ ด้วนั ละกี่กล่อง จึงจะมีกาไรต่อกล่องมากที่สดุ
1. 15 2. 20 3. 25 4. 30 5. 35
PAT 1 (มี.ค. 64) 7
17. เครือ่ งเล่นชิน้ หนึง่ ประกอบด้วยอุปกรณ์หลัก 2 ส่วน คือ กระดานลืน่ และตาข่าย สาหรับปี นป่ าย
โดยกระดานลืน่ (𝐴𝐵 ̅̅̅̅) ยาว 1.5 เมตร และทามุม 15 องศา กับพืน้ ราบ ดังรู ป
𝐶
𝐵 𝐷
1.5 เมตร
18. วันที่ 1 มีนาคม 2564 อลินซือ้ ห้องในคอนโดมิเนียมแห่งหนึง่ ราคา 600,000 บาท โดยจ่ายเงินดาวน์จานวนหนึง่
และผ่อนชาระค่าห้องส่วนทีเ่ หลือเป็ นจานวนเงินเดือนละ 10,000 บาท เป็ นเวลา 48 เดือน โดยผ่อนชาระทุกสิน้
เดือน ถ้าผูข้ ายกาหนดอัตราดอกเบีย้ ร้อยละ 12 ต่อปี โดยคิดดอกเบีย้ แบบทบต้นทุกเดือน แล้วอลินจ่ายเงินดาวน์
จานวนกี่บาท
10,000(1 − (1.01)−48 ) 10,000((1.01)−1 − (1.01)−49 )
1. 1 − (1.01)−1
2. 1 − (1.01)−1
10,000(1 − (1.01)−48 ) 10,000((1.01)−1 − (1.01)−49 )
3. 600,000 −
1 − (1.01)−1
4. 600,000 −
1 − (1.01)−1
10,000((1.12)−1 − (1.12)−49 )
5. 600,000 − 1 − (1.12)−1
𝐶
𝐵
ถ้า 𝐴𝐶
̅̅̅̅ มีความยาวเป็ น 𝑛 เท่าของความยาวของ 𝐵𝐷
̅̅̅̅ เมื่อ 𝑛 เป็ นจานวนเต็มบวก
แล้ว 𝑛 cos(𝐴 − 𝐶) เท่ากับเท่าใด
1. 4 2. 2 3. 1 4. 0 5. −2
22. ตึกหนึง่ และตึกสองตัง้ อยูบ่ นพืน้ ราบในแนวเส้นตรงเดียวกัน โดยตึกสองสูงกว่าตึกหนึง่ และมีแนวรัว้ กัน้ ระหว่าง
ตึกทัง้ สอง ซึง่ ระยะห่างจากแนวรัว้ ถึงตึกสองเท่ากับ 12 เมตร ชาลียืนอยูบ่ นดาดฟ้าของตึกหนึง่ (จุด 𝑃) มองเห็นยอด
ตึกสอง (จุด 𝑄) เป็ นมุมเงย 45 องศา มองเห็นฐานตึกสอง (จุด 𝑅) เป็ นมุมก้ม 30 องศา และมองเห็นฐานของ
แนวรัว้ (จุด 𝑆) เป็ นมุมก้ม 60 องศา ดังรูป
𝑄
ตึกสอง
45°
แนวเส้นระดับสายตา
60° 30°
𝑃
ตึกหนึ่ง
𝑆
พืน้ ราบ
12 เมตร 𝑅
𝑥
0 1 2 3 4 5 6
−1
−2
ข้อใดไม่ถกู ต้อง
1. 𝑓 มีจดุ วิกฤตที่ 𝑥 = 1
2. 𝑓 มีคา่ ต่าสุดสัมพัทธ์ที่ 𝑥 = 1 และ 𝑥 = 4
3. 𝑓 มีคา่ สูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่าสุดสัมบูรณ์บนช่วง [2 , 5]
4. 𝑓 เป็ นฟั งก์ชนั เพิ่มบนช่วง (1 , 3)
5. 𝑓 เป็ นฟั งก์ชนั ค่าคงตัวบนช่วง (0 , 1)
1
25. กาหนดให้ 𝑓(𝑥) = 60 𝑥(𝑥 2 − 49) เมื่อ 𝑥 เป็ นจานวนจริง
และให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นพืน้ ที่ของบริเวณที่แรเงา ดังรูป
𝑌
𝑓
(𝑝, 1) 𝐴 (𝑞, 1)
𝑦=1
𝐵
𝑋
0 𝐶
𝑦 = −1
(𝑟, −1) (𝑠, −1)
ข้อใดไม่ถกู ต้อง
0 7 𝑞
1. ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 = −∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 2. 𝐴 = ∫ (𝑓(𝑥) − 1) 𝑑𝑥
−7 0 𝑝
0 7
3. 𝐵 = ∫ (1 − 𝑓(𝑥)) 𝑑𝑥 4. 𝐴 + 𝐵 = −∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥
−7 0
𝑠 7
5. 𝐶 = ∫ (𝑓(𝑥) + 1)𝑑𝑥 − ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥
𝑟 0
PAT 1 (มี.ค. 64) 11
28. ถ้าต้องการเลือกผูป้ ่ วยโควิด-19 ที่ได้รบั การตรวจด้วยชุดตรวจ A จานวน 2 คน และ ต้องการเลือกผูป้ ่ วยโควิด-19 ที่
ได้รบั การตรวจด้วยชุดตรวจ B จานวน 7 คน แล้วนักวิจยั จะมีวิธีเลือกผูป้ ่ วยทัง้ หมดกี่วิธี
1. (32) × (12 7
) 2. (32) + (12
7
) 3. (20
2
) × (30
7
)
4. (20
2
) + (30
7
) 5. (15
9
)
29. ชุดตรวจ A ที่นกั วิจยั พัฒนาขึน้ มา พบว่า มีความคลาดเคลือ่ นในการทดสอบ โดยชุดตรวจ A ใช้ตรวจกับผูป้ ่ วย
โควิด-19 ทุกๆ 100 คน ผลการตรวจจะผิดพลาดจานวน 1 คน (ตรวจไม่พบเชือ้ โควิด-19)
ถ้านักวิจยั ได้ใช้ชดุ ตรวจ A ตรวจผูป้ ่ วยโควิด-19 จานวน 15 คน ดังกล่าวอีกครัง้
แล้วความน่าจะเป็ นที่ผลการตรวจนีจ้ ะเกิดความผิดพลาดเพียงคนเดียวเท่ากับเท่าใด
14 1
1. 225 2. 15 3. (15)(0.9)14(0.1)
4. (15)(0.99)(0.01)14 5. (15)(0.99)14(0.01)
30. ร้านขายขนมปั งแห่งนีต้ อ้ งผลิตขนมปั งจานวนน้อยที่สดุ วันละกี่กอ้ นจึงจะได้กาไร หากร้านแห่งนีข้ ายขนมปั งที่ผลิตได้
หมดทุกวัน
1. 20 2. 21 3. 30 4. 39 5. 40
PAT 1 (มี.ค. 64) 13
เวลา (วินาที)
0
𝑇 𝑇
สถานี ก สถานี ข
𝑧 0 0 𝑧
𝑧 −2.60 −1.40 −0.28 0.00 0.28 1.40 2.60
พืน้ ที่ใต้เส้นโค้งปกติมาตรฐาน 0.005 0.081 0.390 0.5 0.610 0.919 0.995
45. กาหนดให้ 𝑓 เป็ นฟั งก์ชนั โดยที่𝑓(𝑥) = {𝑥 + 5 เมื่อ 𝑥 > 𝑎 และ 𝑎 > 0
𝑥 + 1 เมื่อ 𝑥 ≤ 𝑎
และให้ 𝑔 เป็ นฟั งก์ชนั โดยที่ 𝑔(𝑥) = 𝑥 2 สาหรับทุกจานวนจริง 𝑥
ถ้า 𝑥→𝑎
lim− (𝑔 ∘ 𝑓)(𝑥) − lim+ (𝑓 ∘ 𝑔)(√𝑥)
𝑥→𝑎
= 2 แล้วค่าของ 𝑎 เท่ากับเท่าใด
PAT 1 (มี.ค. 64) 19
เฉลย
1. 3 11. 4 21. 2 31. 4 41. 5
2. 1 12. 5 22. 2 32. 3 42. 5
3. 1 13. 2 23. 2 33. 4 43. 144
4. 4 14. 1 24. 5 34. - 44. 15
5. 1 15. 3 25. 3 35. - 45. 2
6. 1 16. 2 26. 4 36. 0.65
7. 5 17. 5 27. 2 37. 1,340
8. 3 18. 4 28. 1 38. 10
9. 4 19. 3 29. 5 39. 20
10. 5 20. 3 30. 2 40. 81
แนวคิด
1. พืน้ ของห้องเก็บสินค้าของโรงงานแห่งหนึง่ เป็ นรูปสีเ่ หลีย่ มผืนผ้าที่มีเส้นทแยงมุมยาวกว่าด้านยาว 2 เมตร
และด้านยาวยาวกว่าด้านกว้าง 14 เมตร ถ้าผูจ้ ดั การโรงงานต้องการปรับปรุงพืน้ ของห้องนี ้ โดยช่างคิดค่าแรง
ตารางเมตรละ 120 บาท
ผูจ้ ดั การโรงงานจะต้องจ่ายเงินค่าแรงในการปรับปรุงพืน้ ของห้องเก็บสินค้านีเ้ ป็ นเงินกี่บาท
1. 14,400 2. 17,280 3. 28,800 4. 31,200 5. 37,440
ตอบ 3
สมมติให้ดา้ นกว้าง = 𝑥 เมตร
ด้านยาวยาวกว่าด้านกว้าง 14 เมตร → จะได้ดา้ นยาว = 𝑥 + 14 เมตร
เส้นทแยงมุมยาวกว่าด้านยาว 2 เมตร → จะได้เส้นทแยงมุม = 𝑥 + 14 + 2 = 𝑥 + 16 เมตร
จากพีทากอรัส จะได้
𝑥 + 16 𝑥 2 + (𝑥 + 14)2 = (𝑥 + 16)2 (น + ล)2 = น2 + 2นล + ล2
𝑥
𝑥 + 𝑥 + 28𝑥 + 196 = 𝑥 2 + 32𝑥 + 256
2 2
𝑥 2 − 4𝑥 − 60 = 0
𝑥 + 14
(𝑥 − 10)(𝑥 + 6) = 0
𝑥 = 10 , −6 ความกว้าง เป็ นลบไม่ได้
𝑓 𝑔
𝑋 𝑋
กราฟของฟังก์ชนั 𝑓 กราฟของฟังก์ชนั 𝑔
𝑌 𝑓
𝑔
และจากรูปกราฟที่โจทย์กาหนด จะเห็นว่า 𝑓 พุง่ ขึน้ สูงว่า 𝑔 เมื่อ 𝑥 เป็ นบวก
ดังนัน้ จะสรุปได้วา่ ฐานชอง 𝑓 > ฐานของ 𝑔
1
> 𝑏
𝑎 𝑎 เป็ นบวก → ไม่ตอ้ งกลับ > เป็ น <
1 > 𝑎𝑏
𝑏 ก็เป็ นบวกด้วย
1 > 𝑎𝑏 > 0
𝑋
รวมกับ (∗) จะตรงกับเงื่อนไขในข้อ 1
PAT 1 (มี.ค. 64) 21
4. โรคโควิด-19 เป็ นโรคระบาดที่เกิดจากเชือ้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุใ์ หม่ 2019 ซึง่ สามารถแพร่เชือ้ จากคนสูค่ นและ
ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ ข้อมูลการระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศที่อยูใ่ นทวีปยุโรป
จานวน 9 ประเทศ ในช่วง 90 วันแรก หลังจากพบผูต้ ิดเชือ้ รายแรกของประเทศนัน้ แสดงดังตารางต่อไปนี ้
จานวน จานวน อัตราส่วนของ
ประเทศ ประชากร ผูต้ ิดเชือ้ สะสม จานวนผูต้ ดิ เชือ้ สะสม
(ล้านคน) (คน) ต่อจานวนประขากรล้านคน
ฟิ นแลนด์ 5.54 4,695 847.36
ฝรั่งเศส 65.27 119,151 1,825.41
เยอรมนี 83.78 154,175 1,840.15
อิตาลี 60.46 201,505 3,332.76
นอร์เวย์ 5.42 8,352 1,540.61
โปแลนด์ 37.85 24,395 644.58
โปรตุเกส 10.20 31,596 3,098.65
สเปน 46.75 215,183 4,602.37
สวีเดน 10.10 20,302 2,010.24
จากข้อมูลในตาราง ข้อใดถูกต้อง
1. ประเทศที่มีจานวนประชากรน้อยที่สดุ มีจานวนผูต้ ิดเชือ้ สะสมน้อยที่สดุ
2. ประเทศที่มีจานวนประชากรมากที่สดุ มีจานวนผูต้ ิดเชือ้ สะสมมากที่สดุ
3. ประเทศที่มีจานวนผูต้ ดิ เชือ้ สะสมน้อยที่สดุ มีอตั ราส่วนของจานวนผูต้ ิดเชือ้ สะสม
ต่อจานวนประชากรล้านคน น้อยที่สดุ
4. ประเทศที่มีจานวนผูต้ ดิ เชือ้ สะสมมากที่สดุ มีอตั ราส่วนของจานวนผูต้ ิดเชือ้ สะสม
ต่อจานวนประชากรล้านคน มากที่สดุ
5. ประเทศที่มีอตั ราส่วนของจานวนผูต้ ิดเชือ้ สะสมต่อจานวนประชากรล้านคนน้อยที่สดุ
มีจานวนประชากรน้อยที่สดุ
ตอบ 4
จากตัวเลือก จะเห็นว่าโจทย์ถามเกี่ยวกับประเทศที่มีคา่ ทัง้ 3 ช่องน้อยสุด หรือมากสุด
หาค่าน้อยสุด กับมากสุด ในแต่ละค่าได้ดงั ตาราง
ประชากร ติดเชือ้ อัตราส่วน
น้อยสุด นอร์เวย์ ฟิ นแลนด์ โปแลนด์
มากสุด เยอรมนี สเปน สเปน
จะเห็นว่า สเปน มีผตู้ ิดเชือ้ มากสุด และมีอตั ราส่วนผูต้ ิดเชือ้ มากสุดด้วย → ตอบ 4
22 PAT 1 (มี.ค. 64)
และจากรายได้คา่ สมัครทัง้ หมด = 800,000 บาท จะได้ 400𝑥 + 600𝑦 + 800𝑧 = 800,000 …(3)
1 1 1 1,500
จาก (1), (2) และ (3) จะได้เมทริกซ์แต่งเติมคือ [ 800 −600 0 | 0 ]
400 600 800 800,000
24 PAT 1 (มี.ค. 64)
พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก) นักเรียนคนทีม่ ีความสูงเท่ากับมัธยฐานของความสูง มีนา้ หนักเท่ากับมัธยฐานของนา้ หนัก
ข) นักเรียนคนทีม่ ีความสูงน้อยกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 20 ของความสูง มีนา้ หนักมากกว่านา้ หนักของ
นักเรียนคนทีม่ ีความสูงเท่ากับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 20 ของความสูง
ค) นักเรียนทุกคนที่มีนา้ หนักมากกว่าควอร์ไทล์ที่ 3 ของนา้ หนัก มีอายุมากกว่า 15 ปี
จากข้อความ ก) ข) และ ค) ข้างต้น ข้อใดถูกต้อง
1. ข้อความ ก) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 2. ข้อความ ข) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้
3. ข้อความ ก) และ ข) ถูกต้องเท่านัน้ 4. ข้อความ ข) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
5. ข้อความ ก) ข) และ ค) ถูกต้อง
ตอบ 3
ก) มี 9 คน → มัธยฐานจะอยูต่ าแหน่งที่ 𝑁+1 2
9+1
= 2 = 5
จะเห็นว่าความสูงในตาราง เรียงจากมากไปน้อยอยูแ่ ล้ว → ตาแหน่งที่ 5 คือ 167 ของ E
เรียงนา้ หนัก เพื่อหาตาแหน่งที่ 5 → 46 , 48 , 50 , 54 , 58 → ตาแหน่งที่ 5 คือ 58 ของ E เหมือนกัน → ก) ถูก
ข) 𝑃20 อยูต่ าแหน่งที่ 20(𝑁+1)
100
20(9+1)
= 100 = 2 จะได้ 𝑃20 ของความสูง = 158
นักเรียนที่สงู น้อยกว่า 158 คือ I (หนัก 48) , นักเรียนที่สงู เท่ากับ 158 คือ H (หนัก 46)
จะเห็นว่า I หนักมาก H → ข) ถูก
ค) 𝑄3 อยูต่ าแหน่งที่ 3(𝑁+1)
4
3(9+1)
= 4 = 7.5 → คนที่มากกว่านี ้ คือคนที่ 8 กับคนที่ 9 แค่สองคนเท่านัน ้
สองคนที่หนักที่สดุ คือ B (หนัก 70) และ D (หนัก 69) ซึง่ มีอายุ 16 และ 15 ปี ไม่ได้มากกว่า 15 ทุกคน → ค) ผิด
PAT 1 (มี.ค. 64) 25
จากรูป จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = 7 − 1 = 6
−5
ดังนัน้ 𝑎 = √𝑏2 + 𝑐 2 = √82 + 62 = √100 = 10
จะได้ความยาวแกนเอก = 2𝑎 = 2(10) = 20
12 เมตร 12 เมตร
6 เมตร
พืน้ ของสะพาน
50 เมตร
200 เมตร
(−100, 12)
𝑌
(100, 12) วางแกน 𝑋 𝑌 ตรงกลางพืน้ สะพาน จะได้พิกดั ต่างๆ ดังรูป
เนื่องจากจุดยอดอยูบ่ นแกน 𝑌 จะมีพิกดั 𝑥 เป็ น 0 เสมอ
(50, 6)
(ℎ, 𝑘)
𝑋
ดังนัน้ จะได้ ℎ = 0
26 PAT 1 (มี.ค. 64)
11. พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก) นิเสธของข้อความ “สาหรับจานวนจริง 𝑥 ทุกจานวน ถ้า 𝑥 เขียนได้ในรูปทศนิยมไม่ซา้ แล้ว 𝑥 เป็ น
จานวนอตรรกยะ” คือ “มีจานวนจริง 𝑥 ที่ 𝑥 เขียนได้ในรูปทศนิยมไม่ซา้ และ 𝑥 เป็ นจานวนอตรรกยะ”
ข) กาหนดให้ 𝑝 , 𝑞 และ 𝑟 เป็ นประพจน์ [(~𝑞 → ~𝑟) ∧ (~𝑟 → 𝑞)] → (𝑝 ∨ 𝑞) เป็ นสัจนิรนั ดร์
ค) กาหนดเอกภพสัมพัทธ์คือเซตของจานวนจริง ∀𝑥[√𝑥 2 ≥ 𝑥] → ∃𝑥[√𝑥 2 ≤ 𝑥] มีคา่ ความจริงเป็ นจริง
จากข้อความ ก) ข) และ ค) ข้างต้น ข้อใดถูกต้อง
1. ข้อความ ก) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 2. ข้อความ ข) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้
3. ข้อความ ก) และ ข) ถูกต้องเท่านัน้ 4. ข้อความ ข) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
5. ข้อความ ก) ข) และ ค) ถูกต้อง
ตอบ 4
ก) นิเสธของ “สาหรับจานวนจริง 𝑥 ทุกจานวน ถ้า 𝑥 เขียนได้ในรูปทศนิยมไม่ซา้ แล้ว 𝑥 เป็ นจานวนอตรรกยะ”
~ ∀𝑥 ∈ ℝ [ 𝑃(𝑥) → 𝑄(𝑥) ]
~ ∀𝑥 ∈ ℝ [ ~𝑃(𝑥) ∨ 𝑄(𝑥) ]
∃𝑥 ∈ ℝ [ 𝑃(𝑥) ∧ ~𝑄(𝑥) ]
มีจานวนจริง 𝑥 ที่ 𝑥 เขียนได้ในรู ปทศนิยมไม่ซา้ และ 𝑥 ไม่เป็ นจานวนอตรรกยะ → ก) ผิด
ข) สมมติให้ [(~𝑞 → ~𝑟) ∧ (~𝑟 → 𝑞)] → (𝑝 ∨ 𝑞) เป็ นเท็จ แล้วแกะรอยย้อนหา 𝑝, 𝑞, 𝑟
F
T → F
T ∧ T F∨F
~F → ~𝑟 ~𝑟 → F 𝑞 ต้องเป็ น F
T → ~𝑟 F
T
ขัดแย้ง แปลว่าเป็ นเท็จไม่ได้ จึงเป็ นสัจนิรนั ดร์ → ข) ถูก
ค) จากสมบัติของรากที่สอง จะได้ √𝑥 2 = |𝑥| ซึง่ จะ ≥ 𝑥 เสมอ ดังนัน้ ∀𝑥[√𝑥 2 ≥ 𝑥] เป็ นจริง
และถ้าแทน 𝑥 = 0 จะได้ √𝑥 2 ≤ 𝑥 เป็ นจริง ดังนัน้ ∃𝑥[√𝑥 2 ≤ 𝑥] เป็ นจริง
√02 ≤ 0
ดังนัน้ ∀𝑥[√𝑥 2 ≥ 𝑥] → ∃𝑥[√𝑥 2 ≤ 𝑥] ≡ T → T ≡ T ค) ถูก
PAT 1 (มี.ค. 64) 27
ตอบ 2
จานวนแบบทัง้ หมด : เลือกบัตรสีแดง ได้ 5 แบบ เลือกบัตรสีนา้ เงินได้ 7 แบบ
และเรียงบัตรทีเ่ ลือกมาทัง้ 2 ใบ เป็ นหลักสิบกับหลักหน่วย ได้ 2! แบบ
จะได้จานวนแบบทัง้ หมด = 5 × 7 × 2! = 70 แบบ
จานวนแบบที่เป็ นเลขคู่ : เป็ นจานวนคูเ่ มื่อหลักหน่วยเป็ นคู่ หลักสิบเป็ นอะไรก็ได้ → จะแบ่งกรณีตามสีของหลักหน่วย
กรณีหลักหน่วยเป็ นบัตรสีนา้ เงิน → หลักหน่วยเป็ น 2, 4, 6 ได้ 3 แบบ หลักสิบเป็ นสีแดงอะไรก็ได้ ได้ 5 แบบ
จะได้จานวนแบบ = 3 × 5 = 15 แบบ
กรณีหลักหน่วยเป็ นบัตรสีเดง → หลักหน่วยเป็ น 2, 4 ได้ 2 แบบ หลักสิบเป็ นสีนา้ เงินอะไรก็ได้ ได้ 7 แบบ
จะได้จานวนแบบ = 2 × 7 = 14 แบบ
29
จะได้จานวนแบบที่เป็ นเลขคู่ = 15 + 14 = 29 แบบ → จะได้ความน่าจะเป็ น = 70
28 PAT 1 (มี.ค. 64)
15. ร้านเบเกอรีแห่งหนึง่ ขายคุกกีบ้ รรจุเป็ นกล่องขนาดเดียวกัน พบว่า กาไรต่อกล่องเป็ นฟั งก์ชนั พหุนามกาลังสองของ
จานวนกล่องที่ขายได้ตอ่ วัน โดยที่
ในวันที่รา้ นขายคุกกีไ้ ด้ 20 กล่อง ร้านจะได้กาไร 20 บาทต่อกล่อง
ในวันที่รา้ นขายคุกกีไ้ ด้ 10 กล่อง ร้านจะมีรายได้จากการขายคุกกีเ้ ท่ากับต้นทุน
ในวันที่รา้ นขายคุกกีไ้ ม่ได้เลย ร้านจะขาดทุน 40 บาทต่อกล่อง
ร้านเบเกอรีจะขายคุกกีไ้ ด้วนั ละกี่กล่อง จึงจะมีกาไรต่อกล่องมากที่สดุ
1. 15 2. 20 3. 25 4. 30 5. 35
ตอบ 3
ฟั งก์ชนั พหุนามกาลังสอง จะอยูใ่ นรูป 𝑓(𝑥) = 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 𝑐
20 กล่อง กาไร 20 บาท/กล่อง 10 กล่อง เท่าทุน ขายไม่ได้ ขาดทุน 40 บาท/กล่อง
2)
20 = 𝑎(20 + 𝑏(20) + 𝑐 (คือ กาไร 0 บาท/กล่อง) (คือ 0 กล่อง กาไร −40 บาท/กล่อง
20 = 400𝑎 + 20𝑏 + 𝑐 …(1)
0 = 𝑎(102 ) + 𝑏(10) + 𝑐 −40 = 𝑎(02 ) + 𝑏(0) + 𝑐
0 = 100𝑎 + 10𝑏 + 𝑐 …(2) −40 = 𝑐
แทนใน (1) และ (2)
20 = 400𝑎 + 20𝑏 − 40 0 = 100𝑎 + 10𝑏 − 40
60 = 400𝑎 + 20𝑏 40 = 100𝑎 + 10𝑏
3 = 20𝑎 + 𝑏 …(3) 4 = 10𝑎 + 𝑏 …(4)
(3) – (4) : −1 = 10𝑎
1 1
− 10 = 𝑎 → แทนใน (4) : 4 = 10(− 10) + 𝑏
5 = 𝑏
𝑏 5
𝑎 ติดลบ → 𝑓 จะมีคา่ สูงสุด เมื่อ 𝑥 = − 2𝑎 = − 1 = 25
2(− )
10
PAT 1 (มี.ค. 64) 29
17. เครือ่ งเล่นชิน้ หนึง่ ประกอบด้วยอุปกรณ์หลัก 2 ส่วน คือ กระดานลืน่ และตาข่าย สาหรับปี นป่ าย
โดยกระดานลืน่ (𝐴𝐵 ̅̅̅̅) ยาว 1.5 เมตร และทามุม 15 องศา กับพืน้ ราบ ดังรู ป
𝐶
𝐵 𝐷
1.5 เมตร
𝐴 15°
พืน้ ราบ
ตอบ 5
𝐶
ลาก 𝐶𝐴
̅̅̅̅ ดังรู ป → ใน ∆𝐴𝐶𝐸 จะเหลือ 𝐶𝐴̂𝐸 = 180° − 45° − 90° = 45°
45°
จะได้ 𝐶𝐴̂𝐵 = 45° − 15° = 30°
15°
แต่จะเห็นว่า 𝐴𝐶̂ 𝐵 = 45° − 15° = 30° = 𝐶𝐴̂𝐵 𝑦
18. วันที่ 1 มีนาคม 2564 อลินซือ้ ห้องในคอนโดมิเนียมแห่งหนึง่ ราคา 600,000 บาท โดยจ่ายเงินดาวน์จานวนหนึง่
และผ่อนชาระค่าห้องส่วนทีเ่ หลือเป็ นจานวนเงินเดือนละ 10,000 บาท เป็ นเวลา 48 เดือน โดยผ่อนชาระทุกสิน้
เดือน ถ้าผูข้ ายกาหนดอัตราดอกเบีย้ ร้อยละ 12 ต่อปี โดยคิดดอกเบีย้ แบบทบต้นทุกเดือน แล้วอลินจ่ายเงินดาวน์
จานวนกี่บาท
10,000(1 − (1.01)−48 ) 10,000((1.01)−1 − (1.01)−49 )
1. 1 − (1.01)−1
2. 1 − (1.01)−1
10,000(1 − (1.01)−48 ) 10,000((1.01)−1 − (1.01)−49 )
3. 600,000 − 1 − (1.01)−1
4. 600,000 − 1 − (1.01)−1
10,000((1.12)−1 − (1.12)−49 )
5. 600,000 − 1 − (1.12)−1
ตอบ 4
จะแปลงเงินผ่อนแต่ละงวดทีจ่ ะเกิดในอนาคต ให้ยอ้ นมูลค่ากลับไปเป็ นมูลค่า ณ วันซือ้ เพื่อหาเงินตาวน์
ทบต้นทุกเดือน = ปี ละ 12 ครัง้ จะได้ดอกเบีย้ ต่องวด = 12%
12
= 1% → 𝑟 = 0.01 ดังนัน ้ 1 + 𝑟 = 1.01
เริม่ ซือ้ สิน้ เดือน 1 สิน้ เดือน 2 … สิน้ เดือน 48
10,000 10,000 … 10,000
10,000(1.01) −1 1 เดือน ⋮
10,000(1.01)−2 2 เดือน
⋮
10,000(1.01)−48 48 เดือน
𝐶
𝐵
ถ้า 𝐴𝐶
̅̅̅̅ มีความยาวเป็ น 𝑛 เท่าของความยาวของ 𝐵𝐷
̅̅̅̅ เมื่อ 𝑛 เป็ นจานวนเต็มบวก
แล้ว 𝑛 cos(𝐴 − 𝐶) เท่ากับเท่าใด
1. 4 2. 2 3. 1 4. 0 5. −2
ตอบ 2
𝑛ℎ
𝐴 สมมติความยาวด้านดังรูป (โจทย์ให้ ̅̅̅̅
𝐴𝐶 ยาว 𝑛 เท่าของ ̅̅̅̅
𝐵𝐷)
𝐷
จะเห็นว่าหา sin 𝐶 ได้จาก ∆ สองรูป
ℎ 𝑐
ℎ 𝑐
∆𝐶𝐵𝐷 จะได้ sin 𝐶 = 𝑎 ∆𝐶𝐵𝐴 จะได้ sin 𝐶 = 𝑛ℎ
𝐶 𝑎 𝐵 ℎ 𝑐
=
𝑎 𝑛ℎ
𝑛ℎ2 = 𝑎𝑐 …(∗)
PAT 1 (มี.ค. 64) 33
22. ตึกหนึง่ และตึกสองตัง้ อยูบ่ นพืน้ ราบในแนวเส้นตรงเดียวกัน โดยตึกสองสูงกว่าตึกหนึง่ และมีแนวรัว้ กัน้ ระหว่าง
ตึกทัง้ สอง ซึง่ ระยะห่างจากแนวรัว้ ถึงตึกสองเท่ากับ 12 เมตร ชาลียืนอยูบ่ นดาดฟ้าของตึกหนึง่ (จุด 𝑃) มองเห็นยอด
ตึกสอง (จุด 𝑄) เป็ นมุมเงย 45 องศา มองเห็นฐานตึกสอง (จุด 𝑅) เป็ นมุมก้ม 30 องศา และมองเห็นฐานของ
แนวรัว้ (จุด 𝑆) เป็ นมุมก้ม 60 องศา ดังรูป
𝑄
ตึกสอง
45°
แนวเส้นระดับสายตา
60° 30°
𝑃
ตึกหนึ่ง
𝑆
พืน้ ราบ
12 เมตร 𝑅
𝑄 กาหนดจุดและความยาวดังรูป
(จากสมบัตมิ มุ แย้ง จะได้มมุ ที่พนื ้ ราบเป็ น 60° และ 30° ตามลาดับ)
ℎ ℎ
จาก ∆𝐴𝐵𝑆 : tan 60° = 𝐵𝑆 จาก ∆𝐴𝐵𝑅 : tan 30° = 𝐵𝑅
ℎ 1 ℎ
√3 = 𝐵𝑆
=
√3 𝐵𝑅
ℎ
𝐴 45° 𝐵𝑆 = 𝐵𝑅 = √3ℎ …(∗)
𝐶 √3
60° 30° 𝑆𝑅 = 𝐵𝑅 − 𝐵𝑆
𝑃
ℎ ℎ ℎ
12 = √3ℎ − 3
√
60° 𝑆 30° 3ℎ − ℎ
𝐵 𝑅 12 =
12 เมตร √3
6√3 = ℎ
พิจารณา ∆𝐴𝑄𝐶 จะเหลือ 𝑄̂ = 180° − 90° − 45° = 45° = 𝑄𝐴̂𝐶 ดังนัน
้ ∆𝐴𝑄𝐶 เป็ น ∆ หน้าจั่ว
จะได้ 𝑄𝐶 = 𝐴𝐶 = 𝐵𝑅 = √3ℎ (จาก (∗))
= √3(6√3) = 18
ดังนัน้ ตึกสอง สูงกว่าตึกหนึง่ = 𝑄𝐶 + ความสูง (เมตร) ของชาลี 𝐴𝑃
180
= 18 + 100
= 19.8
34 PAT 1 (มี.ค. 64)
𝑥
0 1 2 3 4 5 6
−1
−2
ข้อใดไม่ถกู ต้อง
1. 𝑓 มีจดุ วิกฤตที่ 𝑥 = 1
2. 𝑓 มีคา่ ต่าสุดสัมพัทธ์ที่ 𝑥 = 1 และ 𝑥 = 4
3. 𝑓 มีคา่ สูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่าสุดสัมบูรณ์บนช่วง [2 , 5]
4. 𝑓 เป็ นฟั งก์ชนั เพิ่มบนช่วง (1 , 3)
5. 𝑓 เป็ นฟั งก์ชนั ค่าคงตัวบนช่วง (0 , 1)
ตอบ 5
ข้อนีต้ อ้ งระวังให้ดี เพราะกราฟทีโ่ จทย์ให้ เป็ นกราฟของ 𝑦 = 𝑓 ′ (𝑥) ไม่ใช่ 𝑦 = 𝑓(𝑥) การใช้งานจะไม่เหมือนกัน
1. จุดวิกฤติ คือจุดที่ 𝑓 ′ (𝑥) = 0 หรือ 𝑓 ′ (𝑥) หาค่าไม่ได้
จะเห็นว่าที่ 𝑥 = 1 กราฟ 𝑓 ′(𝑥) ไม่มีจดุ (วงกลมกลวงๆ คือไม่มีจดุ ) ดังนัน้ 𝑓 ′ (𝑥) หาค่าไม่ได้ → 1. ถูก
2. ค่าต่าสุดสัมพัทธ์ เกิดเมื่อ 𝑓 ′ (𝑥) เปลีย่ นจากลบ (กราฟอยูค่ รึง่ ล่างแกน 𝑋) เป็ นบวก (กราฟอยูค่ รึง่ บนแกน 𝑋)
จะเห็นว่าที่ 𝑥 = 1 กับ 𝑥 = 4 กราฟเปลีย่ นจากข้างลางขึน้ ข้างบน → 2. ถูก
3. โจทย์ให้กราฟต่อเนื่องบน (0, 6) แสดงว่า กราฟต่อเนื่องบน [2, 5] (𝑓(2) และ 𝑓(5) หาค่าได้)
𝑓 จึงต้องมีคา่ สูงสุดและต่าสุดสัมบูรณ์บน [2, 5] → 3. ถูก
4. บนช่วง (1 , 3) จะเห็นว่า 𝑓 ′ เป็ นบวก (กราฟอยูค่ รึง่ บนแกน 𝑋) ดังนัน้ 𝑓 เป็ นฟั งก์ชนั เพิ่ม → 4. ถูก
5. บนช่วง (0 , 1) จะเห็นว่า 𝑓 ′ เป็ นลบ (กราฟอยูค่ รึง่ ล่างแกน 𝑋) ดังนัน้ 𝑓 เป็ นฟั งก์ชนั ลด ไม่ใช่คา่ คงตัว → 5. ผิด
PAT 1 (มี.ค. 64) 35
1
25. กาหนดให้ 𝑓(𝑥) = 60 𝑥(𝑥 2 − 49) เมื่อ 𝑥 เป็ นจานวนจริง
และให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นพืน้ ที่ของบริเวณที่แรเงา ดังรูป
𝑌
𝑓
(𝑝, 1) 𝐴 (𝑞, 1)
𝑦=1
𝐵
𝑋
0 𝐶
𝑦 = −1
(𝑟, −1) (𝑠, −1)
ข้อใดไม่ถกู ต้อง
0 7 𝑞
1. ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 = −∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 2. 𝐴 = ∫ (𝑓(𝑥) − 1) 𝑑𝑥
−7 0 𝑝
0 7
3. 𝐵 = ∫ (1 − 𝑓(𝑥)) 𝑑𝑥 4. 𝐴 + 𝐵 = −∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥
−7 0
𝑠 7
5. 𝐶 = ∫ (𝑓(𝑥) + 1) 𝑑𝑥 − ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥
𝑟 0
ตอบ 3
1
1. ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 = ∫ 60
𝑥(𝑥 2 − 49) 𝑑𝑥
𝑥3 49𝑥
= ∫ 60
− 60
𝑑𝑥
𝑥4 49𝑥 2
= 240
− 120
+𝑘 → จะเห็นว่า 𝑥 ทุกตัว ถูกยกกาลังคูท่ งั้ หมด
= 𝐹(𝑥) แปลว่าจะแทน 𝑥 ด้วย 7 หรือ −7 ลงไป ก็ได้คา่ เท่ากัน
0 0
ดังนัน้ ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 = ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥
−7 7 𝐹(0) − 𝐹(7)
7
= −(𝐹(7) − 𝐹(0))
= −∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥
0
→ ข้อ 1. ถูก
2. 𝐴 คือพืน้ ที่ระหว่าง 𝑦 = 𝑓(𝑥) และ 𝑦=1 ตัง้ แต่ 𝑥=𝑝 ถึง 𝑥=𝑞
𝑞
ดังนัน้ 𝐴 = ∫ (𝑓(𝑥) − 1) 𝑑𝑥 → 2. ถูก
𝑝
0
3. ∫ (1 − 𝑓(𝑥)) 𝑑𝑥 คือพืน้ ที่ระหว่าง 𝑦=1 และ 𝑦 = 𝑓(𝑥) ตัง้ แต่ 𝑥 = −7 ถึง 𝑥 = 0
−7
1
เมื่อ 𝑥 = −7 จะได้ 𝑓(𝑥) =
60
(−7)((−7)2 − 49)
1
= 60
(−7)( 0 ) = 0 → จะได้ (−7, 0) ซึง่ เป็ นจุดตัดแกน 𝑋
0 𝑌
ดังนัน้ ∫ (1 − 𝑓(𝑥)) 𝑑𝑥 คือพืน้ ที่ที่แรเงาดังรูป 𝑓
−7 +
−
(พืน้ ที่เสีย้ วบน เป็ นลบ เพราะ 𝑦 = 1 อยูใ่ ต้ 𝑦 = 𝑓(𝑥)) 𝐵 +
𝑦=1
𝑋
เมื่อคิดเครือ่ งหมายบวกลบแล้ว ไม่เท่ากับพืน้ ที่ 𝐵 แน่นอน → 3. ผิด −7 0
0
4. 𝐴+𝐵 คือพืน้ ที่ที่ปิดล้อมด้วย 𝑦 = 𝑓(𝑥) กับแกน 𝑋 ตัง้ แต่ −7 ถึง 0 ซึง่ จะเท่ากับ ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥
−7
7
และจากที่ขอ้ 1. เป็ นจริง จะทาให้ 𝐴 + 𝐵 = −∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 ด้วย → 4. ถูก
0
36 PAT 1 (มี.ค. 64)
1
5. เมื่อ 𝑥=7 จะได้ 𝑓(𝑥) = 60
(7)(72 − 49)
1
= 60
(7)( 0 ) = 0 → จะได้ (7, 0) ซึง่ เป็ นจุดตัดแกน 𝑋
7
จากรูป จะเห็นว่าพืน้ ที่รวม 𝐶+𝐷 จะหาได้จาก ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 𝑌
𝑓
0
แต่ 𝐶+𝐷 เป็ นพืน้ ที่ใต้แกน 𝑋 ต้องคูณลบ 0 𝐶 7
𝑋
7 𝑦 = −1
(𝑟, −1) 𝐷 (𝑠, −1)
นั่นคือ 𝐶 + 𝐷 = −∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 …(∗)
0
และ 𝐷 คือพืน้ ที่ที่อยูร่ ะหว่าง 𝑦 = −1 และ 𝑦 = 𝑓(𝑥) ตัง้ แต่ 𝑥=𝑟 ถึง 𝑥 = 𝑠
𝑠
ดังนัน้ 𝐷 = ∫ (−1 − 𝑓(𝑥)) 𝑑𝑥 → แทนใน (∗) :
𝑟 𝑠 7
𝐶 + ∫ (−1 − 𝑓(𝑥)) 𝑑𝑥 = −∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥
𝑟 0
𝑠 7
𝐶 = ∫ (1 + 𝑓(𝑥)) 𝑑𝑥 − ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 → 5. ถูก
𝑟 0
28. ถ้าต้องการเลือกผูป้ ่ วยโควิด-19 ที่ได้รบั การตรวจด้วยชุดตรวจ A จานวน 2 คน และ ต้องการเลือกผูป้ ่ วยโควิด-19 ที่
ได้รบั การตรวจด้วยชุดตรวจ B จานวน 7 คน แล้วนักวิจยั จะมีวิธีเลือกผูป้ ่ วยทัง้ หมดกี่วิธี
1. (32) × (12 7
) 2. (32) + (12
7
) 3. (20
2
) × (30
7
)
4. (20
2
) + (30
7
) 5. (15
9
)
ตอบ 1
มีผปู้ ่ วยที่ตรวจด้วย A จานวน 3 คน → เลือกมา 2 คน จะเลือกได้ (32) แบบ
มีผปู้ ่ วยที่ตรวจด้วย B จานวน 12 คน → เลือกมา 7 คน จะเลือกได้ (127
) แบบ
รวมทัง้ 2 ขัน้ ตอน จะเลือกได้ (2) × ( 7 ) แบบ
3 12
38 PAT 1 (มี.ค. 64)
29. ชุดตรวจ A ที่นกั วิจยั พัฒนาขึน้ มา พบว่า มีความคลาดเคลือ่ นในการทดสอบ โดยชุดตรวจ A ใช้ตรวจกับผูป้ ่ วย
โควิด-19 ทุกๆ 100 คน ผลการตรวจจะผิดพลาดจานวน 1 คน (ตรวจไม่พบเชือ้ โควิด-19)
ถ้านักวิจยั ได้ใช้ชดุ ตรวจ A ตรวจผูป้ ่ วยโควิด-19 จานวน 15 คน ดังกล่าวอีกครัง้
แล้วความน่าจะเป็ นที่ผลการตรวจนีจ้ ะเกิดความผิดพลาดเพียงคนเดียวเท่ากับเท่าใด
14 1
1. 225 2. 15 3. (15)(0.9)14(0.1)
4. (15)(0.99)(0.01)14 5. (15)(0.99)14(0.01)
ตอบ 5
1
ผิดพลาด 1 คน จาก 100 คน → ความน่าจะเป็ นที่จะไม่สาเร็จ = 100 = 0.01
→ จะได้ความน่าจะเป็ นที่จะสาเร็จ = 1 − 0.01 = 0.99
จากสมบัติของการแจกแจงทวินาม จะได้ 𝑃(𝑋 = 𝑥) = (𝑛𝑥)𝑝 𝑥 (1 − 𝑝)𝑛−𝑥
ถ้าตรวจ 15 คน แล้ว จะได้ความน่าจะเป็ นทีจ่ ะผิดพลาด 1 คน (คือสาเร็จ 14 คน) = (15 14
)(0.99)14 (0.01)1
= 15(0.99)14 (0.01)1
30. ร้านขายขนมปั งแห่งนีต้ อ้ งผลิตขนมปั งจานวนน้อยที่สดุ วันละกี่กอ้ นจึงจะได้กาไร หากร้านแห่งนีข้ ายขนมปั งที่ผลิตได้
หมดทุกวัน
1. 20 2. 21 3. 30 4. 39 5. 40
ตอบ 2
ต้นทุนการผลิตก้อนละ 20 บาท → ผลิต 𝑥 ก้อน จะได้คา่ ผลิต = 20𝑥 บาท
เมื่อรวมกับค่าใช้จา่ ยประจาคงที่ 1600 บาท จะได้ตน้ ทุนทัง้ หมด = 20𝑥 + 1600
ขายก้อนละ 140 − 2𝑥 → ขายหมด 𝑥 ก้อน จะได้เงิน = (140 − 2𝑥)𝑥 = 140𝑥 − 2𝑥 2
จะได้กาไร เมื่อ ต้นทุน < เงินที่ขายขนมปังได้
20𝑥 + 1600 < 140𝑥 − 2𝑥 2
10𝑥 + 800 < 70𝑥 − 𝑥 2
𝑥 2 − 60 + 800 < 0
(𝑥 − 20)(𝑥 − 40) < 0
+ − +
→ จะกาไรเมื่อ 𝑥 ∈ (20, 40) → ต้องผลิตอย่างน้อย 21 ก้อน
20 40
PAT 1 (มี.ค. 64) 39
วันที่สอง ผลิด 30 ก่อน → 𝑥 = 30 และค่าใช้จา่ ยประจาคงที่ เพิม่ ขึน้ 100 บาท จากเดิม 1600 บาท
จะทาให้ตน้ ทุนเปลีย่ นจาก 20𝑥 + 1600 บาท เป็ น 20𝑥 + 1700 บาท
→ จะได้กาไร = (140𝑥 − 2𝑥 2 ) − (20𝑥 + 1700)
= 120𝑥 − 2𝑥 2 − 1700
= 120(30) − 2(30)2 − 1700
= 3600 − 1800 − 1700 = 100 บาท
ดังนัน้ กาไรลดลง 150 − 100 = 50 บาท
เวลา (วินาที)
0
𝑇 𝑇
สถานี ก สถานี ข
เครดิต
ขอบคุณ คุณ คณิต มงคลพิทกั ษ์สขุ (นวย) ผูเ้ ขียน Math E-book
และ คุณ คุณ Cherry Ctt
และ อ. ปิ๋ ง GTRmath สาหรับเฉลยวิธีทาแบบละเอียด
ขอบคุณ คุณ Boonchan Pathaisamarn
และ คุณ Jack Teerasak
และ คุณ ธนพล สาราญรืน่
PAT 1 (มี.ค. 64) 43