You are on page 1of 33

วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย

เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง)
เพื่อเป็นบทเห่เรือส่วนพระองค์ (เห่เรือเล่น)
สาหรับขับเห่ในขบวนเรือพระที่นั่ง
เมื่อครั้งตามเสด็จพระราชบิดา ไปนมัสการ
พระพุทธบาท สระบุรี
นาด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บท เรียก “โคลงเกริ่น”
แต่งต่อด้วยกาพย์ยานี ๑๑ ขยายต่อจนจบความ ไม่จากัดจานวนบท
ก่อนจะขึ้นโคลงใหม่เพื่อกล่าวในเรื่องต่อไป



ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย
ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว
พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่
เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพายทอง

ขอขอบคุณคลิปเสียงจาก นายกฤติน พันธ์ทรัพย์ https://www.youtube.com/watch?v=lQ4xaLoIrLE


พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน
นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร
เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง
หิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง
พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา
มุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา
ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร
ไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร
เรียบเรียงเคียงคู่จร ดังร่อนฟ้ามาแดนดิน
ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์
เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม
ไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม
เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน
สาระน่
เทคนิ ารู้ า
คการจ
เรือต้น
สาระน่
เทคนิ ารู้ า
คการจ
เรือเหล่าแสนยากร
หรือในการเห่เรือเล่น
คลิกเพื่อฟัง เรียกว่า เห่ช้า เป็นทำนองที่ใช้เริ่มต้นกำรเห่
มีจังหวะช้า ๆ ท่วงทานองไพเราะ
ถือเป็นการให้สัญญาณเริ่มต้นเคลื่อนเรือ
ในกระบวนทุกลาไปพร้อม ๆ กันอย่างช้า ๆ บทนี้
ขึ้นต้นว่า
“เห่เอ๋ย...พระเสด็จ...โดย...แดน
(ลูกคู่รับ โดยแดนชล)”
ขอขอบคุณคลิปเสียงจาก
https://www.youtube.com/watch?v=6u80r-hKHYw
หรือในการเห่เรือเล่น เรียกว่า เห่เร็ว
เป็นทำนองที่ใช้ขณะเดินทำงไปเรื่อย ๆ เป็นทำนองยืนพื้น
เป็นการเห่ในจังหวะกระชั้นกระชับ พนักงานนาเห่
คลิกเพื่อฟัง
แล้วลูกคู่จะรับว่า ชะ...ชะ...ฮ้ำไฮ้ และต่อท้ายบทว่า
เฮ้ เฮ เฮ เฮ...เห่ เฮ ฝีพายจะเร่งพายให้เร็วกว่าเดิม
ตามจังหวะกระทุ้งเส้า ต้องพายหนักแรง
จึงพายจังหวะเร็วขึ้น และใช้เห่ทานองเร็ว
มีพลพายรับ “ฮะไฮ้” มูลเห่จึงเป็นทานองที่สนุกสนาน
ใช้ประกอบการพายพากระบวนเรือไปจนเกือบถึงที่หมาย
ขอขอบคุณคลิปเสียงจาก
https://www.youtube.com/watch?v=6u80r-hKHYw
เป็นกำรเห่เมื่อใกล้จะถึงที่หมำย พนักงานนา
เห่และพลพายจะต้องจาทานองและเนื้อความทานองสวะ
เห่ให้แม่น เพราะต้องใช้ปฏิภาณคะเนระยะทาง และใช้
คลิกเพื่อฟัง เสียงสั้นยาวให้เหมาะแก่สถานการณ์ นับว่าเป็นการเห่
ที่ยากที่สุด
เมื่อขึ้นทานองเห่นี้ ก็เป็นสัญญาณว่า ฝีพายจะต้องเก็บ
พายโดยไม่ต้องสั่งพายลง บทเห่ทานองนี้ ขึ้นต้นว่า
“ช้ำแลเรือ” ลูกคู่รับ “เฮ เฮ เฮ เฮโฮ้ เฮโฮ้”
วรรคสุดท้ายจบว่า “ศรีชัยแก้ว พ่อเอ๋ย” ลูกคู่รับ
“ชัยแก้วพ่ออำ” เรือพระที่นั่งก็จะเข้าเทียบท่าพอดี
ขอขอบคุณคลิปเสียงจาก และจบบทเห่
https://www.youtube.com/watch?v=6u80r-hKHYw
กลางวัน เย็น

เห่ชมกระบวนเรือ เห่ชมปลา เห่ชมไม้ เห่ชมนก


เช้า ลักษณะคล้ายนิราศ = เห็นอะไรก็คิดถึงนาง

กลางคืน บทเห่กากี เห่สังวาส บทเห่ครวญ


โคลงสี่สุภาพ ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย
ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว
พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่
เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพายทอง
กาพย์ยานี 11 พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน
นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร
เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง
กาพย์ยานี 11 เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง
พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา
สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา
ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร
สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร
เรียบเรียงเคียงคู่จร ดังร่อนฟ้ามาแดนดิน
สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์
เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม
เรือชัยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม
เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน
มัตสยา
(สันสกฤต)
โคลงสี่สุภาพ พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คลึงกัน มัจฉา
ถวิลสุดาดวงจันทร์ แจ่มหน้า (บาลี )
แปลว่า ปลา
มัตสยาย่อมพัวพัน พิศวาส
ควรฤพรากน้องข้า ชวดเคล้าคลึงชม
กาพย์ยานี 11
พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์
มัตสยายังรู้ชม สมสาใจไม่พามา
แก้มช้ำช้้าใครต้อง อันแก้มน้องช้้าเพราะชม
ปลำทุกทุกข์อกกรม เหมือนทุกข์พี่ที่จากนาง
ปลาแก้มช้า
ปลาทุก (ปลาเค้าดา)
ปลาเนื้ออ่อน

เนืออ่อนอ่อนแต่ชื่อ เนื้อน้องฤาอ่อนทั้งกาย
ใครต้องข้องจิตชาย ไม่วายนึกตรึกตรึงทรวง
โคลงสี่สุภาพ เรือชายชมมิ่งไม้ มีพรรณ
ริมท่าสาครคันธ์ กลิ่นเกลี้ยง
เพล็ดดอกออกแกมกัน ชูช่อ
หอมหื่นรื่นรสเพี้ยง กลิ่นเนื้อนวลนาง
กาพย์ยานี 11 เรือชายชมมิ่งไม้ ริมท่าไสวหลากหลายพรรณ
เพล็ดดอกออกแกมกัน ส่งกลิ่นเกลี้ยงเพียงกลิ่นสมร
สาวหยุ
สาวหยุดดพุพุ ทธชาด บานเกลื
ทธชาด บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป
่อนกลาดดาษดาไป
สายหยุด
นึกนึน้กน้อองกรองมาลั
งกรองมาลัยย วางให้
วางให้พพี่ข้าี่ขงที ่นอน
้างที ่นอน
พุทธชาด

ลาดวน

ล้ล้าาดวนหวนหอมตรลบ
ดวนหวนหอมตรลบกลิกลิ่นอายอบสบนาสา
่นอายอบสบนาสา
บุหงาราไป นึนึกกถวิ
ถวิลกลิ่นบุบุหหงา
งา ร้าไปเจ้
ร้าไปเจ้ าเศร้าเศร้
าถึงานาง
ถึงนาง
รอนรอนสุริยโอ้ อัสดง เรียม
โคลงสี่สุภาพ = ตัวพี่
เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่้าแล้ว
รอนรอนจิตจ้านง นุชพี่ เพียงแม่
เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว คลับคล้ายเรียมเหลียว
กาพย์ยานี 11 เรื่อยเรื่อยมารอนรอน ทิพากรจะตกต่้า
สนธยาจะใกล้ค่้า ค้านึงหน้าเจ้าตราตรู
ดุดุเหว่
เหว่าาเจ่
เจ่าาจัจับบร้ร้อองง
สนั่น่นก้ก้องซ้
สนั องซ้ องเสี
องเสี ยงหวาน
ยงหวาน
ไพเราะเพราะกั งวาน ปานเสี
ไพเราะเพราะกังวาน ปานเสี ยงน้ยงน้
องร้อองร้งสัอ่งงสั
ชาย ่งชาย
นกกาเหว่า (นกดุเหว่า)

โนรี
โนรีสสีปีปานชาด
านชาด เหมื
เหมืออนช่
นช่าางฉลาดวาดแต้
งฉลาดวาดแต้มมลาย
ลาย
ไม่ไม่เท่เท่าาเจ้เจ้าาโฉมฉาย
โฉมฉาย ห่มห่ตาดพรายกรายกรมา
มตาดพรายกรายกรมา
นกแก้วโนรี
กาพย์ยานี 11 เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปทั้งหมู่
ตัวเดียวมาพลัดคู่ เหมือนพี่อยู่ผู้เดียวดาย
เห็นเห็ฝูนงยูฝูงงยูร้งาร้ฟ้าอฟ้นอน คิคิดดบับังงอรร่
อรร่ออนร้
นร้าากราย
กราย
สร้สร้อองทอง
งทองย่ย่อองเยื งเยื้อ้องชาย
งชาย เหมื
เหมืออนสายสวาทนาดนวยจร
นสายสวาทนาดนวยจร

นกสร้อยทอง (นกขุนทอง)
เสียงสรวลระรี่นี้ เสียงใด
โคลงสี่สุภาพ
เสียงนุชพีฤ่ าใคร ใคร่รู้
เสียงสรวลเสียงทรามวัย นุชพี่ มาแม่
เสียงบังอรสมรผู้ อื่นนั้นฤามี
กาพย์ยานี 11 เสียงสรวลระรี่นี้ เสียงแก้วพี่หรือเสียงใคร
เสียงสรวลเสียงทรามวัย สุดสายใจพี่ตามมา
ลมชวยรวยกลิ่นน้อง หอมเรื่อยต้องคลองนาสา
เคลือบเคล้นเห็นคล้ายมา เหลียวหาเจ้าเปล่าวังเวง ยำม 2 ยำม 3
ยามสองฆ้องยามย่้า ทุกคืนค่้าย่้าอกเอง
เสียงปี่มี่ครวญเครง เหมือนเรียมคร่้าร่้าครวญนาน
ล่วงสามยามปลายแล้ว จนไก่แก้วแว่วขันขาน
ม่อยหลับกลับบันดาล ฝันเห็นน้องต้องติดตา
ฆ้อง
ยำม 1 18.00-21.00 น.
ยำม 4
เพรางายวายเสพรส แสนก้าสรดอดโอชา
อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล
เวรามาทันแล้ว จึงจ้าแคล้วแก้วโกมล
ให้แค้นแสนสุดทน ทุกข์ถึงเจ้าเศร้าเสียดาย
งามทรงวงดั่งวาด งามมารยาทนาดกรกราย
งามพริ้มยิ้มแย้มพราย งามค้าหวานลานใจถวิล
แต่เช้าเท่าถึงเย็น กล้้ากลืนเข็ญเป็นอาจิณ
ชายใดในแผ่นดิน ไม่เหมือนพี่ที่ตรอมใจ
เรือต้น เรือเหล่าแสนยากร
เรือต้น คือ เรือพระที่นั่งของพระมหากษัตริย์ ซึ่งในภายหลังหมายถึง
เรือล้าที่เสด็จฯ ล้าลองเป็นการประพาสต้น เรือพระที่นั่งทรง
เรือพลับพลา
เรือพระที่นั่งกิ่ง
เรือพระที่นั่งเอกชัย
เรือพระที่นั่งศรีสักหลาด
เรือพระที่นั่งกราบ
เรือพระประเทียบ
เรือต้น เรือเหล่าแสนยากร
เรือพระที่นั่งกิ่ง เป็นเรือพระที่นั่งชั้นสูงสุด
มิโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นใดประทับ
เว้นแต่บางครั้งโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเรื่องทรงผ้าไตร ในการถวายผ้าพระกฐิน
ในกาพย์เห่เรือ ในปัจจุบัน
• เรือครุฑ • เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
• เรือไกรสรมุข • เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรง
• เรือศรีสมรรถชัย สุบรรณ รัชกาลที่ ๙
• เรือสุวรรณหงส์ • เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช
• เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์

You might also like