Professional Documents
Culture Documents
1621773665778
1621773665778
ประชุม กระทรวง 21 พค 21
สรุป เปรียบเทียบวัคซีน จากการศึกษาระยะที่ 3
วัคซ๊น ชนิด ป้ องกันป่ วย ป้ องกันป่ วย ป้ องกันการ เก็บ (oC)
หนัก แพร่เชือ้
Pfizer mRNA 95% 100% 60% -70 (-20)
Moderna mRNA 94% 100% ไม่มีขอ้ มูล -20
Astra Zeneca Adenovirus 79% 100% 50% 3-5
Johnson Adenovirus 67% (ปานหลาง-หนัก) 78% ไม่มีขอ้ มูล 3-5
Sputnik Adenovirus 92% 100% ไม่มีขอ้ มูล 3-5
Sinovac Inactivated 51% (เบา-กลาง-หนัก) 100% ไม่มีขอ้ มูล 3-5
84% (กลาง-หนัก)
Sinopharm Inactivated 79%-86% ไม่มีขอ้ มูล ไม่มีขอ้ มูล 3-5
วัคซีน อะดีโนไวรัส เวคเตอร์
Adnovirus vector
อะดีโนไวรัสมนุษย์ชนิด5
อะดีโนไวรัสมนุษย์ชนิด26 อะดีโนไวรัสมนุษย์ชนิด5+26
อะดีโนไวรัสชิมแพนซี
ประสิ ทธิผลในการป้ องกัน Regimen (N=11,636 in interim analysis) Total= 23, 848
D1 >D28 VE
ภาพรวมได้ ผลป้ องกันป่ วยได้ 79% Half dose (~2.5 x1010) Full dose 90.0%
ป้ องกันหนักหรื อตายได้ 100% Full dose (~5 x1010) Full 62.3%
วัคซีนมีประสิทธิผล ในกลุ่ม LD/SD มากกว่า
SD/SD เพราะระยะห่างระหว่างโด๊ส ไม่ใช่เพราะขนาด
โด๊สทีม่ าก กว่า
VE 70.4%
22 March 2021 07:00 GMT
Voysey M. Lancet December 08, 2020 Favourable reactogenicity and overall safety profile
Efficacy of ChAdOx1 nCoV-19 after two
standard doses
90
82.4
80 Vaccine Efficacy (%)
70
63.1 63.7 • ระยะห่างระหว่างโด๊สยิง่
59.9
60
49.5
54.9 นาน ประสิทธิภาพยิง่ ดี
• วัคซีนสามารถลดการเกิด
50
40
0
• First indication of
Symptomatic
illness
Any PCR+ Interval <6 wk Interval 6-8 wk Interval 8-12 wk Interval >12 wk reduction in disease
VE transmission of up to
67%
• แนะนาฉีด 10-12 สัปดาห์
Voysey M, et al. Lancet February 19,
2021DOI:https://doi.org/10.1016/S0140-
6736(21)00432-3
ประสิ ทธิผลในการป้องกันโรคของวัคซีนของ แอสตร้า เทียบกับวัคซีน
ของไฟเซอร์ หลังจากฉีด 1 เข็ม ในประเทศสก๊อตแลนด์
ประสิทธิผลของวัคซีนไฟเซอร์ = 91%
ประสิทธิผลของวัคซีนแอสตร้า = 88%
ไฟเซอร์ แอสตร้า เซเนก้า
อายุ 18-64 ปี
อายุ 65-79 ปี
อายุ 80 ปี ขนึ ้ ไป
97.4
100 94.1 97
-Adults = 33.3% (vac)
80
vs 21.7% (pla)
No grade >=3
60
-Elderly = 20%(vac) vs
44.1
40
40.7
20.5% (pla)
23.8 No grade >=3
20
0
Seroconversion 18-59 Seroconversion >=60 yo NT-GMT 18-59 yo NT-GMT >=60 yo
yo 14-d interval 28-day interval Confidential
จากการใช้วคั ซีนของซิโนแว๊กซ์ 10.5 ล้านโดส ในประเทศชิลี พบว่า วัคซีนมี
ประสิ ทธิ ภาพ ทั้งๆที่ สายพันธุ์ที่ระบาดเป็ นสายพันธุ์กลายพันธุ์ P1, P2
ประสิทธิผลในการป้ องกันโรคจากการใช้วัคซีนของ
ซิโนแว๊กซ์
ป้ องกันการนอน ป้ องกันการเสียชีวิต
ป้ องกันป่ วย ป้ องกันการเข้าไอซียู
โรงพยาบาล จากโควิด 19
ทุกวัคซ๊นในโลกนี้ ทาให้เกิดอาการอัน
ไม่พงึ ประสงค์ได้
-อาการข้างเคียง
-การแพ้
-การกระตุ้นให้เกิดภาวะโรคต่างๆ โดย
immune mediated process
แนวทางปฏิบตั ิ กรณี มีอาการอันไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน
ให้วัคซีนชนิดเดิมซา้ ได้ ห้ามให้วัคซีนชนิดเดิมอีก ให้เปลี่ยนชนิด
อาการไม่รุนแรงดังต่อไปนี้ A. Anaphylaxis คือมีอาการมากกว่าหรือเท่ากับ 2 ข้อดังต่อไปนี้ หลังได้วัคซีนโควิดเข็ม-19 แรกภายใน 30 นาที
• ปวด บวม แดง บริเวณทีฉ่ ีด 1. มีอาการทางระบบผิวหนังหรือเยือ่ บุ เช่น ผื่นลมพิษทั่วตัว คัน ผื่นแดงหรือมีอาการบวมของปากลิน้ และเพดานอ่อน
• ไข้ 2. มีอาการของระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก นา้ มูก ไหล เสียงแหบ หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีดจากหลอดลมทีต่ บี ตัน
• อ่อนเพลีย ง่วงนอน เสียงฮืด้ ตอนหายใจเข้า (stridor) มีการลดลงของ peak expiratory flow (PEF) ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง
• เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ 3. ความดันเลือดลดลงหรือมีการทางานของระบบต่าง ๆ ล้มเหลว เช่น hypotonia (collapse) เป็ นลม อุจจาระ ปั สสาวะ
• ปวดเมื่อยลาตัว ราด เป็ นต้น
• ผื่น เช่น maculopapular rash 4. มีอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เป็ นต้น
B. อาการรุ นแรงอื่นๆ ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หากมีอาการ ให้การรักษาด้วย
รายงานกระทรวง จะมีการ
Epinephrine ก่อน
รุ นแรงสงสัย และส่ง serum
ทบทวนรายงานผู้ป่วยโดย
คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
anaphylaxis tryptase ด้วย
การรักษา AEFI และการรักษา หลังจาก
แพ้รุนแรง รับวัคซีน COVID-19
อาการข้างเคียง ให้
รักษาตามอาการ กินยา
ลดไข้ นอนพัก ให้ความ
มั่นใจว่าเป็ นอาการชั่ง
คราว จะหายใน 1-2
วัน
ผลการพิจารณา AEFI 11 พค 64 จากการฉีดวัคซีนไปทัง้ หมด
ทุกรายรับการรีวิว ไม่พบว่า
มีรายฝดเกี่ยวข้องกับการ
ฉีดวัคซีน ยังมีท่ีกรรมการยัง
รอผลชันสูตรอยู่ 2 ราย
ประสบการณ์ท่ี
เราพบ พอๆกับที่
รายงานในชิลี
ข้อมูลเบือ้ งต้นการศึกษาในบุคลากร
ทางการแพทย์ 360 คน ศิรริ าช
ข้อมูลเบือ้ งต้นการศึกษาในบุคลากร
ทางการแพทย์ 360 คน ศิรริ าช
ภาวะลิ่มเลือดทีม่ ีเกร็ดเลือดต่า เกิดหลังการฉีด
วัคซีน AZ 1 :100,000 -1:1,000,000
The MHRA recently confirmed that the evidence to date does not
suggest that the COVID-19 Vaccine AstraZeneca causes venous
thromboembolism without a low platelet count.
10 people
213 20-60 yr 5 10 people
Research team: Yot Teerawattananon, Nantasit Luangasanatip, Juthamas Prawjaeng, Wanrudee Isaranuwatchai, Wirichada (Pongtavornpinyo) Pan – ngum
Funding support by: World Health Organization (Thailand country office), Health System Research Institute
Cerebral venous thrombosis: a retrospective cohort study of
513,284 confirmed COVID-19 cases and a comparison with
489,871 people receiving a COVID-19 mRNA vaccine: ข้ อมูล
จาก e-health network พบโอกาสเป็ น CVT หลังโควิด = 39/m หลังได้
mRNA vaccine = 4.1/m (หลังได้ AZ Vaccine =5/m ข้ อมูลจาก EMA)
The incidence of CVT after COVID-19 diagnosis was 39.0 per million people (95% CI, 25.2–60.2). This was higher than after influenza (0.0 per million people, 95% CI 0.0–22.2,
adjusted RR=6.73, P=.003) or after receiving BNT162b2 or mRNA-1273 vaccine (4.1 per million people, 95% CI 1.1–14.9, adjusted RR=6.36, P<.001). From the European
Medicines Agency for the incidence associated withChAdOx1 nCoV-19 vaccine (5.0 per million people, 95% CI 4.3–5.8)
Hause AM, et al. MMWR Morb Mortal Wkly Rep. ePub: 30 April 2021
การเตรี ยมการเพื่อป้องกันเหตุการณ์ ISRR
ก่อนการฉีดวัคซีน
• ควรจัดสถานที่ และระบบฉีดวัคซีนให้มีการถ่ายเทอากาศทีด่ ี ไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป จุดทีใ่ ห้บริการควรห่างกัน ไม่รอนาน
• การคัดกรองผู้รับบริการ ถ้าไม่มีความพร้อมในการรับวัคซีน หรือมีความวิตกกังวล ควรพิจารณาเลื่อนนัดไปก่อน
• ควรมีการให้ความรู้กับผู้รับการฉีดวัคซีนถึงประโยชน์และประสิทธิภาพของวัคซีน และอาการเกิดขึน้ ภายหลังการได้รับวัคซีน
• ควรมีการเตรียมระบบรองรับผู้ทอี่ าจเกิดอาการ ISRR โดยทีมสหสาขาทีป่ ระกอบด้วยแพทย์และบุคคลากรทีม่ ีความเข้าใจ
ระหว่างการฉีดวัคซีน
• หากผู้รับบริการเคยมีประวัตวิ ่าฉีดวัคซีนแล้วเป็ นลม หรือดูมีความวิตกกังวลมาก อาจพิจารณาให้รับวัคซีนในท่านอน ควรชวนพูดคุยขณะฉีด
• ไม่จาเป็ นต้องดูดกลับเพือ่ ทดสอบว่าเข็มเข้าหลอดเลือดหรือไม่ เพราะจะทาให้เจ็บจากการฉีดมากขึน้ และนานขึน้
• ควรฉีดในตาแหน่งทีเ่ หมาะสม โดยฉีดเข้ากล้ามเนือ้ ทีต่ าแหน่งช่วงกลางของกล้ามเนือ้ เดลตอยด์ (mid deltoid) ไม่ควรฉีดสูงเกินไป
หลังการฉีดวัคซีน สังเกตอาการภายใน 30 นาที
• รีบให้การดูแลเมื่อพบผู้ทม่ี ีอาการ ควรให้การดูแลรักษาโดยใช้สหสาขาช่วยดูแล อาการทางกายควรให้รักษาตามอาการ และควรให้การประคับประคองจิตใจ โดยไม่มีการ
ว่ากล่าวหรือทาให้ผู้ทมี่ ีอาการรู้สึกไม่ดี เลี่ยง Over-investigation
• ในระหว่างทีใ่ ห้การรักษาดูแล ควรให้ความมั่นใจเรื่องอาการทีเ่ กิดขึน้ ว่า อาการนีอ้ าจเกิดขึน้ ได้ และส่วนใหญ่จะดีขนึ้ ภายในเวลาไม่นาน โดยไม่มีอันตราย เพือ่ ลดความ
วิตกกังวล
• ทันทีทอี่ าการดีขนึ้ ควรให้กาลังใจ และสนับสนุนให้กลับไปปฏิบัตงิ านหรือภารกิจได้ตามปกติ
24 24 30
ป้ องกันป่ วยหนักและตายได้
100%
ให้ข้อมูลก่อน = อาจทาให้กงั วล
ให้ข้อมูลหลังเหตุการณ์ = แก้ตัว
For Those Who
were defeated
by COVID-19
before the
vaccine arrive
THANK
YOU
By
Kulkanya Chokephaibulkit, MD
Faculty of Medicine Siriraj Hospital, Mahidol University