Professional Documents
Culture Documents
เอกสารคำสอนสอนวรรณกรรมวิจารณ์บทที่4
เอกสารคำสอนสอนวรรณกรรมวิจารณ์บทที่4
การเขียนบทวิ จารณ์
1. การเตรียมข้อมูลและการกาหนดประเด็น
โลกใบเล็กของซัลมาน
เปล่าหรอก... นะซาอี-เมียของเขาทรุดโทรมและผิวหยาบเกินกว่าจะเดินเหินเข้าห้องโน้นออก
ห้องนี้ในอันดามัน อินน์ได้ แต่หล่อนได้เงินอย่างลับ ๆ จากเจ้าของโรงแรมเดือนละสองพันบาท แลกกับ
ข้อเสนอ เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นว่าให้หล่อนหูงต้มด้วยไม้ฟืนในตอนเช้ามืด เพือ่ ให้ควันไฟลอยกรุ่นเหนือ
หลังคากระท่อม
ดูสวยงามตา หรือไม่ก็ให้นุ่งผ้าปาเต๊ ะแต่งตัวแบบชาวเล บางครัง้ หากปลอดตาซัลมาน เป็ นไรไปหาก
หล่อนยอมให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปได้บา้ ง โดยเฉพาะอย่างหลังนี่เองทีท่ าให้หล่อนพอมีรายได้พเิ ศษ ซื้อ
ขนมให้ลูกได้กนิ บ้าง แต่กเ็ สีย่ งกับการโดนทุบตีอย่างมาก
“เอาเบียร์อกี นะนาย”
“ขอรีเจนซีหน่อยดีกว่า”
บาร์เทนเดอร์หนุ่ มยิ้มให้เหมือนแปลกใจ ข้าพเจ้ารู้สกึ วันนี้อากาศอบอ้าวผิดปกติ ถึงกระนัน้
เสียงร้องหนัก ๆ ของร็อคเกอร์หนุ่ มอย่างแจ็คสัน บราวน์ กบั เพลง ‘เวิรล์ ด์ อิน โมชัน’ จากอีกฟากของ
บาร์ยงั แผดมาให้ได้ยนิ
ข้าพเจ้ามองผ่ านชุด ว่ายน้ ายัว้ เยี้ย ทัง้ ในสระและขอบสระ ตรงไปยังพุ่ม รัว้ เตี้ย ๆ ข้างหน้ า
เพ่งมองเด็กชายหญิงซึ่งกาลังเกาะพุ่มไม้จ้องมองความเคลื่อ นไหวในลานหน้าโรงแรมอยู่ แต่เพียงครู่
เดียวที่ขา้ พเจ้าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งก็วงิ่ กระหืดกระหอบมาจากกระท่อม ลากเด็กทัง้ สองกลับไปอย่างลน
ลาน
“มันคิดว่าตัวเองฉลาด” บาร์เทนเดอร์ค่สู นทนาเลื่อนแก้วให้ขา้ พเจ้า “แต่ในทีส่ ุดเห็นไหมว่าเป็ น
อย่างไร... นายอาจยิม้ เยาะผม ใช่...ผมขายทีไ่ ปแล้วผมอาจโง่ทผ่ี ลาญเงินจนหมด ต้องกลับมาเป็ นลูกจ้าง
ของทีน่ ่ีอกี แต่เห็นมัยว่
๊ าอย่างน้อยผมก็มกี นิ มีความสุขดี สนุกดีดว้ ย ผมยังได้แต่งชุดสวย ๆ อย่างนี้ แต่
บังมานมันมีอะไรบ้างล่ะ... เฮอะ มันก็รู้อยู่เต็มอกว่ามันพลาด ศักดิ ์ศรีท่มี นั ใช้ด่าเมียน่ ะกินไม่ได้หรอก
มันก็ลูกจ้างโรงแรมเหมือนกันล่ะว้า
“โลกมันต่างกันเหลือเกินนะ...” ข้าพเจ้าพึมพาหลังถอนแก้วออกจากปาก สายตายังจับอยู่ทโ่ี ลก
ใบเล็กของซัลมาน
“นายว่าไรนะ”
“เปล่า” ข้าพเจ้าหันกลับมายิม้ ให้เขา “แกดูเก๋มากกับไอ้ชุดทักซิโดนัน”
่
เขายิ้มรับขณะก้มลงสารวจตัวเอง ข้าพเจ้าไม่บอกเขาหรอกว่าเมื่อครู่นัน้ ข้าพเจ้าได้คดิ ไปถึง
โลกใบเล็กของซัลมาน และโลกใบใหญ่ทน่ี งดื ั ่ ่มเหล้าอยู่น้วี ่าอย่างไรบ้าง
แทนทีจ่ ะข้ามไปเกาะพีพตี ามกาหนดเดิมในเช้าวันรุ่งขึน้ ข้าพเจ้าใช้เวลาอยู่ทอ่ี นั ดามัน อินน์อกี
วันหนึ่ง ตลอดทัง้ วันข้าพเจ้าได้แต่เลียบ ๆ เคียง ๆ โลกใบเล็กของซัลมาน บ้างก็นอนบนหาดทรายจ้องดู
ความเคลื่อนไหว ในโลกใบนัน้ เหมือนไม่มอี ะไรทา
(สมองข้าพเจ้าทางานหนักขณะเฝ้ ามองโลกของซัลมาน คิดถึงแต่แต่ขอ้ เสนอแนะของเพือ่ นคน
หนึ่งที่บอกว่า ในห้วงเวลาห้าสิบปี ต่อไปข้างหน้านี้ เนื้อหาวรรณกรรมจะต้องหันมาให้ความสาคัญ กับ
เรื่องอนุ รกั ษ์ธรรมชาติ เพราะนี่เป็ นกระแสซึ่งได้รบั การป่ าวร้อ งและขานรับอึงอลไปทัวโลก ่ และนี่ค ือ
โอกาสที่ขา้ พเจ้าควรรีบฉกฉวย ข้าพเจ้าได้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาในช่วงหกเดือนมานี้ว่าจะหยิบแง่มมุม
134
2.2 การวางโครงร่าง
2.2.1 ส่วนนา
1. ข้อมูลเบือ้ งต้นเกีย่ วกับ “โลกใบเล็กของซัลมาน”
2. ข้อมูลเกีย่ วกับเนื้อเรื่อง
3. จุดเด่นของเรื่อง
2.2.3 ส่วนสรุป
1. คุณค่าทางความคิด
2. คุณค่าทางศิลปะ
2.3.1 ส่วนนา
2.3.1.3 จุดเด่นของเรื่อง
เรื่องสัน้ เรื่องนี้ความโดดเด่นในแง่การเสนอปั ญหาทีซ่ บั ซ้อนและไม่ได้ให้คาตอบทีแ่ น่นอน หรือ
กล่าวในอีกแง่หนึ่งคือเป็ นวรรณกรรมทีพ่ ยายามกระตุ้นให้ผอู้ ่านคิดค้นหาคาตอบด้วยตัวเองมากกว่าจะ
กาหนดคาตอบสาเร็จรูปไว้แต่ตน้
2.3.2 ส่วนเนื้ อหา
2.3.2.2 มูลเหตุของปัญหา
เมื่อมูลเหตุ ของปั ญหาไม่ได้มที ่มี าจากผู้ถูกกระทา ก็เท่ากับว่าตัวบทได้ช ักชวนให้ผู้อ่านมอง
ปั ญหาไปทีอ่ ่นื โดยเฉพาะกลุ่มผูก้ ระทา หากตัง้ คาถามว่าใครคือผูก้ ระทาหรือเป็ นผูร้ ุกรานโลกของซันมาน
จาเลยที่หนึ่งก็ย่อมจะเป็ น ผู้ดาเนินการทางธุรกิจอย่างเจ้าของโรงแรม จาเลยที่สองคือ นักการเมืองซึ่ง
ร่วมมือกับเจ้าของโรงแรมในการกาจัดคู่แข่งทางธุรกิจ ซึ่งมีส่วนอย่างสาคัญในการกักขังซัลมานไว้กบั
ปั ญหาในตอนทีเ่ ขาเปลีย่ นใจยอมแก้ปัญหาด้วยการขายที่ ส่วนจาเลยทีส่ ามก็คอื บรรดานักท่องเทีย่ วผูช้ ่นื
ชมโลกของซัลมาน รวมความแล้ว เห็นได้ว่าปั ญ หาของซัลมานมีท่ีมาจากสามส่วนคือ ระบบทุนนิยม
อิทธิพลทางการเมือง และการบริโภคเชิงคุณค่า
อัน ดามัน อิน ท์ก็ไม่ ต่ างกัน ดังความที่บ รรยายว่า “ในโรงแรมมีธุ รกิจบริก ารพร้อ มมูล ทัง้
บาร์เหล้า เธค มินิเธียร์เตอร์ ศูนย์สุขภาพ และสระว่ายน้ าขนาดใหญ่บนระเบียงดาดฟ้ า” (กนกพงศ์ สง
สมพัน ธ์ , 2547 : 337-338) ดังนั น้ บ้านและครอบครัว ของซัล มานก็ค ือ สิ่งที่ถู ก ขายเพื่อ การบริโภค
เช่นเดียวกับบริการอื่น ๆ ของโรงแรม ต่างกันแต่น่ีคอื การบริโภคเชิงสัญญะและการบริโภคเชิงคุณค่า
นักท่องเที่ยวผู้ช่นื ชมกับภาพวิถชี ีวติ ของซัลมานมีฐานคิดเรื่องคุณค่าอยู่เบื้องหลัง วิถีชีวติ พื้นบ้านคือ
ความตรงข้ามกับ วิถีชีว ิต สมัยใหม่ท่ ามกลางความเจริญ ของวัต ถุ วิถีชีว ิต พื้นบ้านจึงมีค วามหมายที่
ตรงกันข้ามกับ “วัตถุ” ก็คอื มีความหมายในแง่ “จิตใจ” กล่าวคือยิง่ มีความเจริญทางวัตถุน้อยลงเท่าใดก็มี
ความหมายด้านจิตใจมากขึ้นเท่านัน้ นักท่องเที่ยวเสพความรู้สกึ ในแง่น้ี คือเสพความรู้สกึ ว่าตัวเองมี
คุณค่าทางจิตใจทัง้ นี้เพราะโดยตรรกะ การทีเ่ ราชื่นชมหรือสนับสนุ นสิง่ ใดก็ย่อมจะมีความหมายโดยนัย
ยะว่ามีสงิ่ นัน้ ผูช้ ่นื ชมและสนับสนุนเรื่องคุณค่าก็คอื ผูม้ คี ุณค่า อย่างไรก็ตามตัวบทก็แสดงให้เห็นว่านี่เป็ น
เพียง “การเสพ” ทางความหมายหรือ สัญ ญะ พวกเขาใฝ่ หาสิ่งนี้ขณะที่ต ัวเองพักอยู่โรงแรมหรู ดังที่
กล่าวถึงจุดขายของอันดามัน อินน์ ว่า เพียงแต่มาพักทีน่ ่ี “นักท่องเทีย่ วผูน้ ิยมธรรมชาติ” ก็ “สามารถเห็น
บ้านของชาวประมงอันเงียบสงบน่าอยู่” โดยทีพ่ วกเขา “ไม่จาเป็ นต้องกระดิกตัวออกจากห้องเลย” (กนก
พงศ์ สงสมพันธ์, 2547 : 345-344) ผูป้ ระกอบการเข้าใจวิถกี ารบริโภคเช่นนี้ดแี ละเตรียมไว้บริการอย่าง
พร้อมสรรพ โลกของซัลมานคือโลกจริงแต่วถิ ขี องการบริโภคเช่นนี้กไ็ ม่ได้ต้องการสิง่ ทีเ่ ป็ นความจริงจริง
ๆ หากแต่คอื การตอบสนองความต้องการทางสัญญะที่มคี วามเป็ นจริงหนุนหลัง โลกของซัลมานจึงต้อง
เป็ นโลกของความเป็ นจริงทีถ่ ูกแต่งเติมบางส่วน อาทิกรณีของเรือกอและทีท่ างโรงแรมสังท ่ าจากปั ตตานี
แล้วนามาผูกไว้ขา้ งกระท่อมเพือ่ ความสวยงามและเอาใจฝรังนั ่ กท่องเทีย่ วทีม่ กั ถามหา รวมทัง้ การว่าจ้าง
ให้ นะซาอีเมียของซัลมานหุงหาอาหารด้วยไม้ฟืน เพื่อให้มคี วันไฟลอยกรุ่นขึน้ มาจากกระท่อมอย่าง
สวยงามในตอนเช้ามืด และให้เธอนุ่ งผ้าปาเต๊ะแบบชาวเลเพื่ อตอบสนองความต้องการชื่นชมวิถีชีวติ
พื้นบ้านของนักท่องเที่ยวซึ่งไม่เพียงแต่ต้องเป็ นวิถชี ีวติ พื้นบ้านจริง ๆ เท่านัน้ แต่ต้องเป็ นวิถีพ้นื บ้าน
ตามความคาดหวังทีต่ รงกับสัญญะในมโนคติของพวกเขาอีกด้วย (กนกพงศ์ สงสมพันธ์, 2547 : 346)
ในประเด็นนี้ตวั บทตัง้ คาถามเชิงวิพากษ์กบั ทุกคน นับแต่นักท่องเทีย่ วซึ่งชื่นชมต่อโลกของซัล
มาน รวมทัง้ “ข้าพเจ้า” ผูเ้ ล่าเรื่องทีแ่ ม้จะแสดงความเห็นอกเห็นใจซัลมานอยู่ในที ดังในเนื้อเรื่องบางตอน
ที่กล่าวถึงบรรดานักท่องเที่ยวและผู้เล่าเรื่องเกี่ยวกับปฏิกิรยิ าที่พวกเขามีต่อซัลมานโดยใช้ถ้อยคาชุด
140
2.3.2.4 ผู้เล่าเรื่องและกระบวนการสร้างงานประพันธ์
พร้อมกับสือ่ ความคิดในประเด็นข้างต้นความในตอนท้ายนี้ยงั เตือนผูอ้ ่านเกี่ยวกับกระบวนการ
ใน การสร้างงานประพันธ์ว่าไม่ใช่ “การสะท้อนความจริง” อย่างตรงไปตรงมา นักประพันธ์อาจหยิบยก
เอาปรากฏการณ์ท่พี บเห็นในสังคมมาเป็ นประเด็นหรือวัสดุของเรื่อง แล้วเสริมเติมแต่งกับจิน ตนาการ
(เช่นตอนหนึ่งที่บอกว่าผูเ้ ล่าเรื่องพยายามแต่งให้เรื่องราวของซัลมานเป็ นซับพล็อตในนวนิยาย และจะ
ทดลองให้ซลั มานเป็ นนักอนุ รกั ษ์แต่ก็ดูไม่เข้าที) นอกจากนี้ในประเด็นนี้เมื่อย้อนกลับไปดูประเด็นการ
ดาเนินการทางธุรกิจของเจ้าของโรงแรมทีก่ ล่าวถึงก่อนหน้านี้ในแง่ “การเสริมแต่งความจริง” ก็ไม่ต่างกัน
การสร้างงานประพันธ์ไม่ได้เสนอความจริงทีเ่ ป็ นจริงล้วน ๆ แต่เช่นเดียวกับเจ้าของโรงแรม นักประพันธ์
ต้องเสนอความจริงตามความคาดหวังที่ตรงกับสัญญะในมโนคติของนักอ่าน ดังในตอนต้นของความใน
เรื่องทีย่ กมา ผูเ้ ล่าเรื่องสนใจเรื่องราวของซัลมานซึ่งเป็ นปั ญหาทีเ่ ชื่อมโยงกันอยู่กบั การทาลายธรรมชาติ
141
2.3.3 ส่วนสรุป
2.3.3.1 คุณค่าทางความคิ ด
“โลกใบเล็กของซัลมาน”กล่าวได้ว่าเป็ นวรรณกรรมที่มที งั ้ คุณค่าทางความคิดและคุณค่าทาง
ศิลปะ แนวคิดสาคัญของเรื่องคือแสดงถึงความซับซ้อนของปั ญหาความอยุตธิ รรรมในโลกยุคไร้พรมแดน
ทีป่ ั จเจก-บุคคลผูย้ ดึ มันคุ
่ ณค่าในโลกเก่าต้องเผชิญกับการถูกกระทาอย่างไม่อาจต่อสูด้ น้ิ รน และได้แสดง
ว่าความน่ ากลัวของระบบทุนนิยมอยู่ท่กี ารใช้อานาจรัฐแสวงหาผลประโยชน์อย่างชอบธรรม ตลอดจน
ความสามารถใน การสร้างภาพลวงตาในธุรกิจการบริโภคเชิงคุณค่า บุคคลผู้ถูกกระทาจึงตกเป็ น
เหยื่อภายใต้การกระทาทีถ่ ูกต้องตามกฏหมาย ซ้าผูม้ สี ่วนร่วมกระทาต่อเขาก็ไม่จาเป็ นต้องเป็ นผูม้ จี ติ ใจ
โหดเหี้ยม หากแต่เป็ นใครก็ได้ท่ีขาด การตรวจสอบตัวเอง ทางออกจึงจาต้ องอยู่ท่ีการตัง้ สติเพื่อ
แยกแยะระหว่างความสานึกเรื่องคุณค่าที่จริงแท้กบั สิง่ ที่เป็ นเพียงการบริโภคเชิงคุณค่าอันเป็ นมายาคติ
แห่งการขายทีส่ าคัญของระบบทุนนิยม
มูลเหตุของปัญหา
ตัวบทเน้นประเด็นนี้หลายครัง้ ธุรกิจการท่องเที่ยวริมทะเลตามที่ปรากฏในเรื่องล้วนสร้างจุด
ขายด้วยการตอบสนองต่อความชื่มชมในคุณค่าและความสวยงามของธรรมชาติ แก่นักท่องเทีย่ ว แต่ตวั
บทก็ได้แสดงให้เห็นว่าการตอบสนองความต้องการเหล่านี้เป็ นเพียงการขายความสานึกในเรื่องคุณค่า
และเป็ นกิจกรรม การบริโภคอย่างหนึ่งไม่ต่างจากการบริการอื่น ๆ ของธุรกิจท่องเที่ยว ดังความที่
บรรยายถึงความคิดของผูเ้ ล่าเรื่องว่า
อัน ดามัน อิน ท์ก็ไม่ ต่ างกัน ดังความที่บ รรยายว่า “ในโรงแรมมีธุ รกิจบริก ารพร้อ มมูล ทัง้
บาร์เหล้า เธค มินิเธียร์เตอร์ ศูนย์สุขภาพ และสระว่ายน้ าขนาดใหญ่บนระเบียงดาดฟ้ า” (กนกพงศ์ สง
สมพัน ธ์ , 2547 : 337-338) ดังนั น้ บ้านและครอบครัว ของซัล มานก็ค ือ สิ่งที่ถู ก ขายเพื่อ การบริโภค
เช่นเดียวกับบริการอื่น ๆ ของโรงแรม ต่างกันแต่น่ีคอื การบริโภคเชิงสัญญะและการบริโภคเชิงคุณค่า
นักท่องเที่ยวผู้ช่นื ชมกับภาพวิถชี ีวติ ของซัลมานมีฐานคิดเรื่องคุณค่าอยู่เบื้องหลัง วิถีชีวติ พื้นบ้านคือ
ความตรงข้ามกับ วิถีชีว ิต สมัยใหม่ท่ ามกลางความเจริญ ของวัต ถุ วิถีชีว ิต พื้นบ้านจึงมีค วามหมายที่
ตรงกันข้ามกับ “วัตถุ” ก็คอื มีความหมายในแง่ “จิตใจ” กล่าวคือยิง่ มีความเจริญทางวัตถุน้อยลงเท่า ใดก็มี
ความหมายด้านจิตใจมากขึ้นเท่านัน้ นักท่องเที่ยวเสพความรู้สกึ ในแง่น้ี คือเสพความรู้สกึ ว่า ตัวเองมี
คุณค่าทางจิตใจทัง้ นี้เพราะโดยตรรกะ การทีเ่ ราชื่นชมหรือสนับสนุ นสิ่งใดก็ย่อมจะมีความหมายโดยนัย
ยะว่ามีสงิ่ นัน้ ผูช้ ่นื ชมและสนับสนุนเรื่องคุณค่าก็คอื ผูม้ คี ุณค่ า อย่างไรก็ตามตัวบทก็แสดงให้เห็นว่านี่เป็ น
เพียง “การเสพ” ทางความหมายหรือ สัญ ญะ พวกเขาใฝ่ หาสิ่งนี้ขณะที่ต ัวเองพักอยู่โรงแรมหรู ดังที่
กล่าวถึงจุดขายของอันดามัน อินน์ว่า เพียงแต่มาพักทีน่ ่ี “นักท่องเทีย่ ว ผูน้ ิยมธรรมชาติ” ก็ “สามารถ
เห็นบ้านของชาวประมงอันเงียบสงบน่ าอยู่” โดยที่พวกเขา “ไม่จาเป็ นต้องกระดิกตัวออกจากห้องเลย”
(กนกพงศ์ สงสมพันธ์, 2547 : 345-344) ผูป้ ระกอบการเข้าใจวิถกี ารบริโภคเช่นนี้ดแี ละเตรียมไว้บริการ
อย่างพร้อมสรรพ โลกของซัลมานคือโลกจริงแต่วถิ ขี องการบริโภคเช่นนี้ก็ไม่ได้ต้องการสิง่ ที่เป็ นความ
จริงจริง ๆ หากแต่ต้อ งการการตอบสนองความต้อ งการทางสัญ ญะที่มีค วามเป็ น จริงหนุ นหลัง โลก
146
ของซัล มานจึงต้อ งเป็ น โลกของความเป็ น จริง ที่ถู ก แต่งเติมบางส่วน อาทิก รณี ของเรือ กอและที่ท าง
โรงแรมสังท่ าจากปั ตตานีแล้วนามาผูกไว้ขา้ งกระท่อมเพือ่ ความสวยงามและเอาใจฝรังนั ่ กท่องเทีย่ วทีม่ กั
ถามหา รวมทัง้ การว่าจ้างให้นะซาอีเมียของซัลมานหุงหาอาหารด้วยไม้ ฟืน เพื่อให้มคี วันไฟลอยกรุ่น
ขึน้ มาจากกระท่อมอย่างสวยงามในตอนเช้ามืด และให้เธอนุ่ งผ้าปาเต๊ะแบบชาวเลเพื่อตอบสนองความ
ต้องการชื่นชมวิถชี วี ติ พืน้ บ้านของนักท่องเทีย่ วซึ่งไม่เพียงแต่ต้องเป็ นวิถชี วี ติ พืน้ บ้านจริง ๆ เท่านัน้ แต่
ต้องเป็ นวิถพี ้นื บ้านตามความคาดหวังที่ตรงกับสัญญะในมโนคติของพวกเขาอีกด้วย (กนกพงศ์ สงสม
พันธ์, 2547 : 346)
ในประเด็นนี้ตวั บทตัง้ คาถามเชิงวิพากษ์กบั ทุกคน นับแต่นักท่องเทีย่ วซึ่งชื่นชมต่อโลกของซัล
มาน รวมทัง้ “ข้าพเจ้า” ผูเ้ ล่าเรื่องทีแ่ ม้จะแสดงความเห็นอกเห็นใจซัลมานอยู่ในที ดังในเนื้อเรื่องบางตอน
ที่กล่าวถึงบรรดานักท่องเที่ยวและผู้เล่าเรื่องเกี่ยวกับ ปฏิกิรยิ าที่พวกเขามีต่อซัลมานโดยใช้ถ้อยคาชุด
เดียวกัน อาทิ “คิดดูอีกทีก็เป็ นเรื่องน่ าขันที่นักท่องเที่ยวพากันไปยืนมองโลกของซัลมานเหมือนเป็ น
อาหารน่าลิม้ ลอง” (กนกพงศ์ สงสมพันธ์, 2547 : 346) และบรรยายถึงผูเ้ ล่าเรื่องไว้ในตอนท้ายเรื่องว่า
ผู้รกุ รานนอกตัวบท
147
สรุป
นัก วิจารณ์ ท่ านหนึ่งกล่ าวไว้ เรื่อ งสัน้ เรื่อ งนี้ “ใช้เทคนิ ค การเขียนแบบเรื่อ งเล่ าที่เล่ าเรื่อ งของตัว เอง
(Metafiction)” ซึ่งมีส่วนสาคัญทีเ่ อื้อให้ผปู้ ระพันธ์สามารถเสนอความคิดในมิตทิ ซ่ี บั ซ้อนและย้อนแย้งใน
ตัวงานมากกว่าจะเสนอความคิดผูกขาดของผูป้ ระพันธ์ตามวิธกี ารเล่าเรื่องแบบประเพณี นิยมทีก่ ระทากัน
มา (นฤมิตร สอดสุข, 2547 : 353) ด้วยเหตุน้ีวธิ กี ารเล่าเรื่องแบบนี้จงึ เป็ นที่นิ ยมของงานประพันธ์แนว
หลังสมัยใหม่ และอาจคาดหมายได้ว่านับจากนี้ ไปศิล ปะแนวนี้ก็จะเป็ นวิธีการในกระแสนิยมของวง
วรรณกรรมที่ “ได้รบั การป่ าวร้องและขานรับ อึงอล” นับเนื่องไป อีกหลายทศวรรษ
รายการอ้างอิ ง
กนกพงศ์ สงสมพันธ์. 2547. “โลกใบเล็ก ของซัล มาน” ใน มองข้ ามบ่ านั กเขี ย น : เรื่อ งสัน้ ไทยใน
ทัศนะนักวิ จารณ์. กรุงเทพฯ : ชมนาด.
นฤมิตร สอดสุข. 2547. “ ‘โลกใบเล็กของซัลมาน’ มองจากมุมหลังมาร์กซ์ หลังสมัยใหม่ และอณาธิปไตย
ใหม่ ” ใน มองข้ามบ่านักเขียน : เรื่องสัน้ ไทยในทัศนะนักวิ จารณ์. กรุงเทพฯ : ชมนาด.
สุวรรณา เกรียงไกรเพ็ชร์ (บรรณาธิการ). 2547. “ประวัตผิ เู้ ขียน กนกพงศ์ สงสมพันธ์” ใน มองข้ามบ่า
นักเขียน : เรื่องสัน้ ไทยในทัศนะนักวิ จารณ์. กรุงเทพฯ : ชมนาด.
หลัง ประกาศผลในปี พ.ศ. 2544 ซึ่ง บ้ า นเก่ า ของโชคชัย บัณ ฑิต ’ ได้รบั รางวัล ก็ต กใน
บรรยากาศที่ว่านี้ จนนักวิจารณ์ หลายคนอดบ่นอุบอิบไม่ได้ อย่างวาณิช จรุงกิจอนันต์ (2544 : 71) ก็
ออกมาบอกว่า “เงียบกริบเอาเลยนะ ไม่ได้ยนิ เสียงสะท้อนเสียงก้องเสียงเถียงเสียงไม่เห็นด้วย หรือเสียง
สรรญเสริญชื่นชมอะไรเอาเลย” น่าสังเกตว่าในปี ทโ่ี ชคชัยได้รบั รางวัลนี้ไม่เพียงแต่นักวิจารณ์ไม่ค่อยจะมี
ความเห็นขัดแย้งกันอย่างรุนแรงเหมือนปี อ่นื ๆ ดูเหมือนว่าบทวิจารณ์หลาย ๆ บทจะมีความเห็นในแนว
ทีค่ ล้ายคลึงกันอีกต่างหาก ประเด็นหนึ่งทีพ่ ูดถึงกันมากจนดูเหมือนว่า เป็ นจุดเด่นของโชคชัย บัณฑิต’ใน
รวมบทกวีชุดนี้ทน่ี ักวิจารณ์ต่างเห็นพ้องต้องกันเลยทีเดียว ก็คอื ประเด็นเรื่องการหยิบยกเอาเรื่องเล็ก ๆ
หรือเรื่องธรรมกาสามัญมาเขียน อย่าง “มือเปรต น้องมือผี” (2544 : 630) ก็บอกว่า “โชคชัยเลือกเรื่อง
เล็ก ๆ เรื่องที่เป็ นบริบทแห่งศรัทธาขัน้ พื้นฐานมาเขียน” วาณิช จรุงกิจอนันต์ (2544 : 71) บอกว่า “ผม
ชอบที่เขาหยิบเรื่องเล็ก ๆ มาเขียนถึงในแง่มุมเล็ก ๆ เขียนแบบคนเล็ก ๆ ด้วยความคิดเล็ก ๆ” สัจภูมิ
ละออ (2546 : 210) ก็บอกว่า “ต้องยอมรับว่า เขาสามารถหาแง่มุม เล็ก ๆ น้อย ๆ มาเขียนได้อย่าง
น่ ารัก น่ าชื่นชม” ในคาประกาศของคณะกรรมการตัดสินเองก็กล่าวไว้ว่า “บ้านเก่าสื่อความคิดของกวี
โดยเรียงร้อยประสบการณ์และสิง่ ธรรมดาสามัญรอบตัวซึง่ คนทัวไปอาจมองข้ ่ าม...” (โชคชัย บัณฑิต ’ คา
ประกาศของคณะกรรมการตัดสินรางวัลซีไรต์ ประจาปี 2554)
การประเมินค่าในลักษณะนี้ น่ าจะมีฐานคิดร่วมกันประการหนึ่งก็ค ือ การให้ความสาคัญ กับ
ความ ลุ่มลึกทางความคิดของกวี เพราะมีความลึกทางความคิดกวีจงึ สามารถนาแง่มุมทีม่ อี ยู่ในเรื่องเล็ก
ๆ หรือเรื่องธรรมดาสามัญซึง่ คนทัวไปอาจมองข้
่ ามมาเป็ นเนื้อหาของบทกวี คนทีม่ คี วามคิดลึกซึง้ เท่านัน้
จึงจะเป็ นกวีได้ แต่อย่างไรก็ตามการอธิบายคุณสมบัตขิ องกวีอย่างนี้กค็ งเป็ นขัน้ หยาบ ๆ เท่านัน้ เพราะ
โดยทัว่ ไปก็มีค นที่มีคุ ณ สมบัติน้ี อีก มากมายที่เขาไม่ ได้เป็ น กวี ความเป็ น กวีอ าจต้ อ งประกอบด้ว ย
คุณสมบัตอิ ่นื อีก อย่างความละเอียดอ่อนของผัสสะ กวีมกั รู้สกึ มีความไหวสะเทือนทางอารมณ์สูงในสิง่ ที่
คนอื่น อาจไม่ รู้ส ึก นอกจากนี้ ค งต้ อ งมีอุ ป นิ ส ัย ที่ช อบครุ่ น คิด ตรึก ตรอง และประการส าคัญ ต้ อ งมี
ความสามารถในการแสดงออกด้วยวิธกี ารทีม่ ศี ลิ ปะ เมื่อใดมีครบทัง้ 4 อย่างนี้จงึ เรียกได้ว่าเป็ นกวี ส่วน
จะเป็ น กวีเล็ก กวีน้ อ ย กวีธ รรมดาหรือ มหากวี ก็ค งต้อ งเป็ น เรื่อ งหนึ่ งต่ าง เป็ น เรื่อ งของระดับ ของ
คุณสมบัตทิ ว่ี ่านี้
เรื่องธรรมดาสามัญในมุมมองและญาณทัศน์ ของกวี
ผลงานรวมบทกวี บ้านเก่า ของโชคชัย บัณฑิต’ แสดงให้เห็นว่าเขามีคุณสมบัตขิ องความเป็ น
กวีอย่างทีว่ ่านี้ มีบทกวีหลายชิ้นทีเ่ ขาหยิบยกเอาเรื่องธรรมดาสามัญหรือจะเรียกว่าเรื่องเล็ก ๆ ก็ได้มา
เป็ น เนื้ อ หาของบทกวี ความคิดความรู้ส ึกของเขาเมื่อ สัม ผัส กับสิ่งที่เราเห็นว่าธรรมดาสามัญ ก็กลับ
กลายเป็ นเรื่องไม่สามัญที่มีหลากหลายแง่มุมให้คดิ ให้รสู้ กึ ไป และเขาแสดงด้วยวิธกี ารที่มศี ลิ ปะกระตุ้น
ให้เรารูส้ กึ ตามไปด้วย อย่างกรณี “ปี กไม้ - ลายแทง” ซึง่ เป็ นบทกวีทโ่ี ดดเด่นทีส่ ุดชิน้ หนึ่งในรวมเล่มชุดนี้
บทกวีน้ีได้รบั รางวัล ชมเชยจากสมาคมภาษาและหนังสือ แห่ งประเทศไทยเมื่อ ปี พ.ศ. 2541 (สัจภู มิ
ละออ, 2546 : 212) โดยทัวไปก็่ คงจะมีคนบางส่วนทีร่ สู้ กึ ได้ถงึ ความงามของลายวงปี ของต้นไม้ แต่นนั ่ ก็
เป็ นเพียงความงามของรูปลักษณ์ภายนอก และบางทีเอาแค่ความรูปลักษณ์ของลวดลายภายนอกนี้เราก็
150
งามหรูประตูปะติดปะต่อ ทนหนอต่อน้าพริบพร่ากระฉอก
เปี ยกชืน้ ดื่นดวงละร่วงจากก๊อก กระเซ็นเป็ นดอกมิได้ชอกเนื้อ
ประตูบาธติคเทคนิคเฉพาะ ต้านชืน้ ไชเจาะราเกาะเยื่อ
ห้องน้าน้านองใช่ทอ้ งเรือ บาธติกต่างเอือ้ กว่าเนื้อไม้
(โชคชัย บัณฑิต’, 2544 : 75)
ย้อนคิดจากคาเพลาก่อน หลังคาผุกร่อนถอนทาใหม่
รับรูฤ้ ดูกาลผันผ่านไป ทัง้ รูน้ ้าใจเพือ่ นร่วมบาง
สัจจะประจาธรรมชาติ ย้าเตือนเกลื่อนกลาดไม่ขาดว่าง
มีเช้ามีค่าไม่อาพราง ใบพฤกษ์แผ่ววางสังสารวัฏ
(โชคชัย บัณฑิต’, 2544 : 75)
เกษตรกรรมแสนลาเค็ญ ขายแรงเล่นเล่นเห็นเงินตรา
ตาแหน่งแห่งทีม่ มี ากเหลือ โรงงานซ้าเอือ้ ทัง้ เสือ้ ผ้า
งานใหญ่แฟลตใหม่คล่องไปมา เพือ่ นบ้านทิง้ ป่ ามุ่งหางาน
(โชคชัย บัณฑิต’, 2544 : 115)
กลางซากเรือนเก่าไม้เสาเซ
ต้องเสน่หส์ เี ขียวเรียวหญ้านัน้
ยังข้าวกราวกระจายยุง้ พ่ายพลัด
กล้าระบัดบางใบมิได้หวัน่
สูดลมหายใจไยตืน้ ตัน
เพียงหันมองฟ้ าชื่นตานัก (โชคชัย บัณฑิต’, 2544 : 117)
… อ้าพ่ออย่าเศร้าอย่าเนาโศก เถื่อนแถวแนวโตรกผาโบกปิ ด
พืน้ ดงพงชัฏพนัสชิด เวียงไชยไพจิตรภิตตา
มากภัยในพฤกษ์ห่อนนึกถึง พ่อพึงพอใจในพฤกษา
ดงร้อนดอนรุ่ม-ฝนชุ่มฟ้ า ใครจักเกีย่ วหญ้าเยีย่ งธานี...
(โชคชัย บัณฑิต’, 2544 : 63)
อดนอนร่อนเร่เดรัจฉาน ฝืนสัญชาตญาณการพักผ่อน
ดึกแล้วยังคานับไม่หลับนอน ในมหานครทัง้ ร้อนและรถ
(โชคชัย บัณฑิต’, 2544 : 63)
จะข้ามไปต่อลูกก็ดน้ิ น้าตาตกรินชุ่มดินสลด
จะปล่อยลูกรอก็เกรงพยศ เก้กงั ปรากฏแทบหมดทาง
เหมือนแว่ววังแม่ลูกอ่อนเล่า ข้ามยุคลูกเขาอาจเอาอย่าง
ยิง่ พยศรถราไม่กล้าวาง เกาะกลางถนนทุรนร้อง
(โชคชัย บัณฑิต’, 2544 : 87)
ข้อบกพร่องทางภาษาและการลดทอนความสง่างาม
บทกวีหลายบทใน บ้านเก่า แสดงให้เห็นว่าโชคชัยเขามีความเป็ นกวี แต่เมื่อเทียบกับกวีรุ่นพี่
หลายคนอย่าง ไพวรินทร์ หรือ ศักดิ ์สิริ เขาดูจะยังมีจุดอ่อนอยู่บางด้าน โดยเฉพาะในแง่การใช้ภาษา นัก
วิจารณ์หลาย ๆ คนแม้คณะกรรมการตัดสินรางวัลเองดูเหมือนจะเห็นพ้องต้องกันในแง่น้ี และผู้เขียนก็
เห็นด้วยในแง่น้ี จุดอ่อนของโชคชัยในงานชิ้นนี้คอื การใช้ภาษาที่ขาดความประสานระหว่างรูปแบบกับ
เนื้อหา เช่น ใน “มิตรภาพแห่งตรอกซอกซอย”
ร้านขายของชาประจาตรอก ทุกซอกตรอกซอยเหมือนน้อยค่า
สะดวกซือ้ คือร้านศูนย์การค้า ฉกขาประจาของชาเรา
(โชคชัย บัณฑิต’, 2544 : 49)
ข่าวโทรทัศน์ฉายชัดยุค อุกอาจปราดปล้นบนรถเมล์
ใจดีสเู้ สือ...คิดเผื่อไว้ อาจใช่พวกเพือ่ ชีวติ เท่
(โชคชัย บัณฑิต’, 2544 : 61)
รายการอ้างอิ ง
โชคชัย บัณฑิต’ (นามปากกา). 2544. บ้านเก่า. พิมพ์ครัง้ ที่ 2 . กรุงเทพฯ : รูปจันทร์.
ตรีศลิ ป์ บุญขจร. 2547. “‘บ้านเก่า’ ของโชคชัย บัณฑิต’ : สานึกกวีไทยในกระแสโลกาภิวตั น์”, ใน 25 ปี
ซี ไรต์ รวมบทวิ จารณ์ คดั สรร. กรุงเทพฯ : สมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย ใน
พระบรมราชูปถัมภ์.
ธเนศ เวศร์ภาดา. 2547. “ขนบวรรณศิลป์ ในกวีนิพนธ์ซไี รต์ไทย”, ใน 25 ปี ซี ไรต์ รวมบทวิ จารณ์ คดั
สรร. กรุงเทพฯ : สมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์.
มือเปรต น้องมือผี(นามปากกา). 2547. “โชคชัย บัณฑิต’ กับ ‘บ้านเก่า’ ชัยชนะของ ‘ผูย้ งิ่ เล็ก’ บนความ
พอดี”, ใน 25 ปี ซี ไรต์ รวมบทวิ จารณ์ คดั สรร. กรุงเทพฯ : สมาคมภาษาและหนังสือแห่ง
ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์.
วาณิช จรุงกิจอนันต์. 2544. “บทกวี”, ใน มติ ชนสุดสัปดาห์ . (24 กันยายน) 17.
สัจภูมิ ละออ. 2546. 25 ปี ซีไรต์. กรุงเทพฯ : สยามอินเตอร์บุ๊คส์.
3. สรุปท้ายบท
ขัน้ ตอนแรกของการเขียนบทวิจารณ์ตอ้ งเริม่ ต้นจากการอ่านและการสารวจปฏิกริ ยิ าของตัวเอง
เมื่อ สัมผัสกับตัว งาน ว่าเรามีความคิดความรู้สกึ อะไรเกิดขึ้นบ้าง ทัง้ นี้เพื่อ จะได้เป็ นเครื่อ งนาทางใน
เบื้องต้น ขัน้ ตอนต่อมาคือการวิเคราะห์ความหมายของตัวบท ว่าตัวบทสื่อความหมายในแง่ใดหรือบอก
อะไรกับผูอ้ ่าน ต่อจากนัน้ ผูว้ จิ ารณ์จะต้องกาหนดประเด็นในการวิจารณ์ ว่าจะกล่าวถึงตัวบทในแง่มุมใด
รวมทัง้ แนวเชิงทฤษฎีท่ใี ช้ในการวิจารณ์ ในขัน้ การเขียนบทวิจารณ์ผู้เขียนอาจเริม่ ต้นด้วยการวางโครง
ร่าง ซึ่งประกอบด้วยส่วน หลัก ๆ สามส่วนคือ ส่วนนา ส่วนเนื้อหา ส่วนสรุป พร้อมทัง้ กาหนดประเด็น
สาคัญในแต่ละส่วน ส่วนนาควรให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับตัวบท เนื้อเรื่อง และจุดเด่นที่น่าสนใจ ส่วน
เนื้อหาก็อาจแตกประเด็นและเรียบเรียงเพื่อสนับสนุนความเห็นที่ตงั ้ ไว้ว่าจะอภิปรายถึงในตอนต้น และ
ควรอ้างอิงตัวบทบ้างตามความจาเป็ น ในส่วนของสรุปสาหรับผูฝ้ ึ กวิจารณ์อาจสรุปด้วยความเห็นในเชิง
ประเมิน ค่ า หลังจากนัน้ ขัน้ ตอนสุ ด ท้ายก็ค ือ การขัด เกลาให้เป็ น บทวิจารณ์ ท่ีส มบู รณ์ และลงข้อ มูล
เกีย่ วกับรายการอ้างอิง
160
3. แบบฝึ กหัด