You are on page 1of 550

Dual Cultivation

เรื่ องย่ อ : ฐานะและความร่ ารวยจะมีค่าอะไรถ้ าไม่ มีใครร่ วมแบ่ งปัน


♥ Dual Cultivation จะเผยให้ เห็นถึงอีกด้านของโลกผู้ฝึกปราณทีม่ ีแต่ ความ
โดดเดีย่ ว


ซู หยางถูกตัดสิ นจาคุกตลอดชีวติ ทีห่ น้ าผาบาปนิรันดร์ ทีซ่ ึ่งมีแต่ อาชญากรสุ ด
ชั่วช้ าเหีย้ มโหดเท่ านั้นอาศัยอยู่


ควมผิดของเขา ล่อลวงภรรยาของเทพจันทรา♥ ลักพาน้ องสาวของราชันย์
มังกร♥ และร่ วมเรียงเคียงหมอนกับลูกสาวสุ ดทีร่ ักของจักรพรรดิสวรรค์

สุ ดท้ ายเขาพบกับชายชราลึกลับซึ่งช่ วยให้ เขาหนีออกจากคุกโดยการส่ งไปสู่ ร่าง
ใหม่

♥ในชีวติ ใหม่ ซู หยางสาบานว่ าจะตามหารวบรวมคนรักของเขาใหม่ และโอบ


พวกเธอไว้ ในอ้อมกอดอีกครั้ง♥
ผู้แต่ ง : MyLittleBrother
ประเภทนิยาย : Mature, Harem, 18+, Fantasy, Reincanation

ระดับพลังปราณ
Elementary Spirit Realm เขตปฐมวิญญาณ
Profound Spirit Realm เขตคัมภีร์วญ
ิ ญาณ
True Spirit Realm เขตสั มมาวิญญาณ
Earth Spirit Realm เขตปฐวีวญ
ิ ญาณ
Heavenly Spirit Realm เขตอัมพรวิญญาณ
ระดับพลังกาย
Elementary Spirit Body Refiner หลอมร่ างปฐมวิญญาณ
Profound Spirit Body Refiner หลอมร่ างคัมภีร์วญ
ิ ญาณ
DC บทที่ 1: ชายชราลึกลับ

ร่ างสองร่ างนัง่ อยูบ่ นจุดสู งสุ ดของหน้าผาบาปนิรันดร์


หนึ่งชรา หนึ่งเยาว์ผมู ้ ีใบหน้าหล่อเหลาเกินจินตนาการ
ชายชราปลดปล่อยออร่ าเก่าแก่ซ่ ึ งทาให้บรรยากาศรอบ
ข้างบิดเบี้ยววกวน ชายหนุ่มนัง่ อยูข่ า้ งๆ อย่างสบายๆ ดู
ราวกับว่าบรรยากาศหนักทึบไม่มีผลกระทบต่อเขาเลย
แม้แต่นอ้ ย

“เจ้าหนุ่ม ทาความผิดใดรึ เจ้าถึงถูกขังอยูส่ ถานที่มืดมน


แห่งนี้ เจ้าดูมิเหมือนคนที่ควรจะอยูท่ ี่นี่…” ชายชราถาม
ชายหนุ่ม สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสนใจขณะที่เขา
มองไปยังชายหนุ่ม ผูซ้ ่ ึงห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศของผู ้
สู งศักดิ์ซ่ ึงทาให้บรรยากาศของเขาสงบลง
ชายหนุ่มยิม้ เล็กน้อย “ข้าทาหลายสิ่ ง บางอย่างเช่นกลืน
ผลไม้ตอ้ งห้ามที่สร้างขึ้นโดยจอมจักรพรรดิสวรรค์” เขา
กล่าวเสี ยงเรี ยบ

ชายชรายกคิ้วด้วยความประหลาดใจและสายตาที่แตกตื่น
มองไปยังชายหนุ่ม

“เจ้า… เจ้า… เจ้า” ไม่มนั่ ใจว่าจะพูดว่าอะไร ชายชรา


ถึงกับพูดติดอ่าง ถึงกับช็อกจนพูดไม่ออก ถือว่านี่เป็ นครั้ง
แรกแม้วา่ จะเป็ นบางคนที่อยูม่ าเนิ่นนานเช่นเขา ไม่ตอ้ ง
พูดถึงสายตาที่เบิกกว้างซึ่ งไม่เคยได้เปิ ดกว้างเช่นนี้มา
นานนับปี

“ข้ายิง่ แปลกใจที่เจ้ายังมีชีวติ อยูห่ ลังจากที่เจ้าทาเช่นนั้น”


ชายหนุ่มเพียงยิม้ กับคาพูดของชายชรา

ทันใดนั้นเองชายชราก็ระเบิดเสี ยงหัวเราะ “ข้าสามารถนึก


ภาพสี หน้าโกรธเกรี้ ยวของจักรพรรดิสวรรค์เมื่อเขาได้รับ
ข่าว ฮาฮาฮา เจ้าหนุ่ม ข้าเริ่ มชื่นชอบเจ้าเสี ยแล้ว เจ้ามีชื่อ
ว่าอะไรรึ ”

ออร่ ารอบกายชายชราสู ญหายไปนานแล้ว รู ปร่ างท่าทาง


ของเขาดูคล้ายกับคุณปู่ ใจดียง่ิ ในขณะนี้

“ข้า ซูหยาง” ชายหนุ่มกล่าว


“งั้นซูหยาง… เจ้าต้องการออกไปจากสถานที่น้ ีหรื อไม่”
ชายชราฉี กยิม้ แสดงให้เห็นฟันเหลืองสองแถว

ซูหยางหันไปมองหน้าชายชราเป็ นครั้งแรก มันเต็มไป


ด้วยริ้ วรอยเหี่ ยวย่น คล้ายกับผลไม้ตากแห้ง เช่นไรก็ตาม
แม้วา่ ใบหน้าเขาจะดูเหมือนซากศพ ตาของเขากลับใส
กระจ่างดุจผิวน้ า มันสว่างสดใสกว่าดวงดาวที่สว่างที่สุด
ในค่าคืนอันเป็ นนิรันดร์

“หมายความว่าเช่นไร” ซูหยางกล่าวหลังจากชัว่ อึดใจ


ภายหลัง “แม้วา่ ข้าสามารถออกไปจากสถานที่แห่งนี้ มัน
เพียงแค่กระตุน้ ให้จกั รพรรดิสวรรค์โกรธยิง่ ขึ้นกว่าเดิม
ข้าคิดว่าข้ายินดีนงั่ อยูท่ ี่นี่จนกว่าจิตวิญญาณของข้าจะสู ญ
สลายไปดีกว่าต้องพบกับทัณฑ์จากความกริ้ วของ
จักรพรรดิสวรรค์”
“แล้วถ้าข้าพูดว่าเจ้าสามารถจากไปและมิตอ้ งกังวลกับ
จักรพรรดิสวรรค์” ชายชรายังคงรอยยิม้ บนใบหน้า แต่ลึก
ลงไปในสายตามีประกายแสงที่ดูลึกซึ้ง

“แล้วเช่นไร ข้าจะสามารถทาอะไรได้หลังจากออกไป มี
ชีวติ อย่างผิดบาปต่อไปเช่นดังที่ขา้ เป็ นมาในอดีตกว่า
หลายพันปี หรื อแก้แค้นคนที่ใส่ ความข้าผิดๆ”

“นัน่ … ก็แล้วแต่เจ้า”

ซูหยางพลันยืน่ มือขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่าและทาท่าคว้า
จับ ราวกับว่าเขาต้องการที่จะจับดวงดาวที่ส่องสว่างอยู่
เบื้องบน “ถ้าเช่นนั้น… ถ้าวันใดข้าตัดสิ นใจที่จะจาก
สถานที่แห่งนี้ ข้าปรารถนา…” เขาพลันหยุดพูดและยิม้
“ลืมมันเถอะ ข้าคิดว่าข้ายังคงอยูอ่ ย่างชืดชาในสถานที่
แห่งนี้ไปจนกว่าข้าตาย”

ชายชราพลันเริ่ มหัวเราะอีกครั้ง “เจ้ายังเด็กเกินกว่าจะ


ซ่อนความปรารถนาจากผูเ้ ฒ่าคนนี้ เจ้าหนุ่ม แม้วา่ เจ้าจะ
อาศัยที่นี่ชวั่ นิรันดร์ เจ้ายังคิดจะตายด้วยความชราอีกรึ ผู ้
เป็ นอมตะเช่นเจ้าน่ะรึ ฮึฮึฮึ… ความปรารถนาของเจ้า…
ข้าสามารถมอบให้เจ้าได้” เขาพลันลุกยืนขึ้นและสะบัด
ชายผ้า ท้องฟ้ายามค่าที่ไม่เคยมีความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่มี
การสร้างหน้าผาบาปนิรันดร์พลันเปลี่ยนเป็ นกลางวัน
สร้างความสับสนแก่ดวงวิญญาณทุกดวงในสถานที่แห่ง
นั้น
“ท่าน… ท่านคือใคร” ซูหยางจ้องไปยังชายชราที่ยนื ยิม้ อยู่
ด้วยสายตาเบิกกว้าง

ชายชรากล่าว “เพียงแค่ชายชราที่มิมีอะไรดีดีให้ทา ใช่


แล้ว… ก่อนที่ขา้ จะส่ งเจ้าจากไป ข้าใคร่ จะขอบใจเจ้า
สาหรับสิ่ งที่เจ้าทา…”

“ขอบคุณข้า… นัน่ หมายความว่าอะไรสาหรับคาขอบ-”

ก่อนที่ซูหยางจะสอบถามชายชราว่าทาไมเขาถึงกล่าว
ขอบคุณ แสงสว่างขาวโพลนพลันครอบคลุมโลก นาเอา
การมองเห็นของเขาไป


ทันใดนั้นหลังจากบอดไปด้วยแสงสว่าง ซูหยางรู ้สึกถึง


ปวดแปลบใกล้หวั ใจราวกับถูกทิ่มแทงด้วยดาบ เขาเปิ ด
เปลือกตากว้างจนเห็นชายหนุ่มรู ปงามที่มีรอยยิม้ เหี้ ยม
เกรี ยมบนใบหน้ายืนอยูต่ รงหน้าเขาบนเวทีกว้าง และใน
มือของเขาคือดาบเหล็ก

“เชอะ ข้าแทงพลาดหัวใจไปนิดเดียว” ชายหนุ่มรู ปงาม


บ่นพึมพัม
ซูหยางมองลงไปเห็นดาบปักบนร่ างของเขา เขาพลัน
ตื่นตัว “ไสหัวไป” ภายในร่ างซูหยางพลันระเบิดออร่ าที่
เปี่ ยมไปด้วยรังสี อามหิ ต เป็ นเหตุให้ชายหนุ่มรู ปงามเบื้อง
หน้าและหลายสิ บคนรอบเวทีกระอักเลือด

และด้วยเหตุที่ชายหนุ่มหล่อเหลายืนใกล้ซูหยางที่สุด เขา
ล้มลงสิ้ นสติในทันทีที่กระอักเลือด

สถานที่แห่งนั้นพลันตกอยูใ่ นความเงียบสงัด ซูหยางดึง


ดาบที่ยงั คงปั กอยูบ่ นทรวงอกออกโดยไม่สนใจความเจ็บ

หลังจากที่ดึงดาบออกจากทรวงอก ซูหยางใช้ช่วงเวลานี้
ค้นหาในห้วงความทรงจา
ในความทรงจา เขาพบว่าเขาอยูใ่ นร่ างของชายหนุ่มผูฝ้ ึ ก
ปราณที่มีชื่อเดียวกับเขา ซูหยาง อีกทั้งยังมีใบหน้า
เหมือนกับเขาเมื่อเยาว์วยั แต่วา่ ความเหมือนหยุดอยูเ่ พียง
แค่น้ นั และทุกสิ่ งที่เหลือล้วนแตกต่าง พลังการฝึ กปรื อ
ของเขาแทบจะไม่ปรากฏเมื่อเทียบกับพลังฝึ กปรื อเดิม
ของเขา และปัจจุบนั เขาเป็ นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พน้
พิสยั นิกายซึ่งเน้นการบาเพ็ญคู่เป็ นหลัก (การที่เพศตรง
ข้ามกันร่ วมฝึ กฝนผ่านความดื่มด่าจากเพศสัมพันธ์) ราว
กับว่าเขาได้เที่ยวย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เขายังเป็ นเด็ก
หนุ่มผูซ้ ่ ึงเริ่ มฝึ กฝน

ส่ วนสาเหตุที่วา่ เหตุใดเขาถึงตกอยูใ่ นสถานการณ์น้ ี ซู


หยางคนก่อนได้ไปเกี้ยวพาราสี ศิษย์ชื่อ ซิงซิง และได้
ล่วงเกินคู่ฝึกคนปั จจุบนั ของเธอ เอียนหมิง ชายหนุ่มรู ป
งามที่สิ้นสติอยูเ่ บื้องหน้าของเขา ซึ่ งเป็ นผลลัพธ์ในการ
ต่อสู ้เป็ นตายระหว่างพวกเขา

“ในนามของสวรรค์ มันเกิดอะไรขึ้น” ซูหยางทันใดได้


ระลึกถึงสิ่ งที่ชายชราบนหน้าผาบาปนิรันดร์ได้พดู ไว้ ว่า
เขาจะส่ งซูหยางออกไปจากสถานที่แห่งนั้น

“หรื อว่าเขาจะส่ งข้ากลับไปในอดีต… ไม่.. ข้านึกมิออกว่า


เคยเป็ นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั … นัน่ หมายความ
ว่า…”

ในระหว่างที่ซูหยางคิด เสี ยงตะโกนดังขึ้นทาลายความ


เงียบ “ทุกคนหยุด” (3038)
ชายวัยกลางคนกระโดดขึ้นมาบนเวทีและมองดูซูหยาง
และเอียนหมิงที่สิ้นสติ ขมวดคิ้ว “ใครให้อานาจพวกเจ้า
ต่อสู ้ถึงตายในวันนี้ ไสหัวไปก่อนที่ขา้ จะเรี ยกผูค้ ุมกฏ”

“ขอรับ ผูอ้ าวุโสซวิน” บรรดาศิษย์รอบเวทีต่างพากันหลบ


ลี้หนีไป หลงเหลือเพียงซูหยางและเอียนหมิงบนเวที

ซูหยางตัดสิ นใจที่จะไปจากสถานที่น้ ีเป็ นอันดับแรกและ


ค่อยคิดอ่านทีหลัง ก่อนที่เขาจะกระโดดออกจากเวที ชาย
วัยกลางคน ผูอ้ าวุโสซวินก็มองดูเขาและพูดว่า “เจ้าชื่อ
อะไร”

“ซูหยาง” เขาตอบเสี ยงเรี ยบ


ผูอ้ าวุโสซวินผงกศีรษะและไม่ได้มองเขาอีก เขาเดินไป
หนีบเอียนหมิงที่สิ้นสติจากไป

หลังจากเดินออกจากเวที ซูหยางค้นหาจากความทรงจา
และเริ่ มเดินกลับไปยังห้องพัก
DC บทที่ 2: ยากทีจ่ ะหาคู่ฝึก

“เฮ้ ดูนนั่ นัน่ ซูหยาง เจ้าปัญญาอ่อนที่ไปเกี้ยวศิษพ์ ี่หญิง


ซิ ง แม้จะรู ้วา่ เธอมีคู่ฝึกแล้ว”

“ใช่วา่ ศิษย์พี่เอียนมีศึกตัดสิ นเป็ นตายกับเจ้านัน่ วันนี้มิใช่รึ


เกิดอะไรขึ้น”

“มองดูเสื้ อเจ้านัน่ สิ มันเปื้ อนเลือด นัน่ หมายความว่าศึก


ตัดสิ นเป็ นตายจบแล้ว และเจ้าซูหยางชนะ ส่ วนเอียนหมิง
ตายไปแล้วสิ นะ”

“เป็ นไปมิได้ เจ้านัน่ แค่อยูใ่ นระดับสามของเขตปฐม


วิญญาณขณะที่เอียนหมิงอยูท่ ี่ระดับหกเขตปฐมวิญญาณ
ช่องว่างกว้างมากเช่นนั้น แม้แต่ขา้ ยังมิอาจที่จะ
จินตนาการว่าจะเอาชนะ นับประสาอะไรกับเจ้าสวะซู
หยาง”

“งั้นทาไมเจ้านัน่ จึงยังอยู่ เมื่อทั้งคู่ข้ ึนบนเวทีต่อสู ้เป็ นตาย


พวกนั้นต้องต่อสู ้กนั จนตกตายกันไปข้างหนึ่ง ข้ามิเคยได้
ยินว่าทั้งสองฝ่ ายล้วนรอดตายหลังจากต่อสู ้เป็ นตาย”

“งั้นไปถามเจ้านัน่ กัน”

บรรดาศิษย์นิกายต่างพากันพูดคุยกันเมื่อเห็นซูหยางเดิน
ตรงไปที่นิกายด้วยเสื้ อที่เต็มไปด้วยเลือดด้วยสี หน้าปกติ
ราวกับว่าเขาไม่รู้สึกถึงแผลบาดเจ็บหนักบนอก
“เฮ้ เจ้าสวะซูหยาง ทาไมเจ้าถึงรอดจากการต่อสู ้เป็ นตาย
กับเอียนหมิง” กลุ่มของศิษย์นิกายปิ ดเส้นทางของเขา
หยุดไม่ให้เขาไป

การกระทาของบรรดาศิษย์นิกายเรี ยกความสนใจจากผูค้ น
รอบตัว และพวกเขากลายเป็ นจุดสนใจทันที

“ข้ามิมีเวลามาเล่นกับเด็ก ไสหัวไป” ซูหยางไม่แม้จะมอง


พวกเขาอีกครั้ง เดินอ้อมพวกเขาไป ทาให้ทุกคนที่อยู่
บริ เวณนั้นพากันตกตะลึง ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เจ้าปัญญาอ่อน
กลายเป็ นคนกล้าและหยิง่ ยะโส เมื่อคิดว่าเจ้านี่ไม่ไว้หน้า
เหล่าศิษย์นิกายแม้สกั ครั้ง หรื อในที่สุดเจ้านี่บา้ ไปแล้ว
“ซู… ซู… ซูหยาง กล้าเดินไปอีกก้าว แล้วเจ้าจะได้เห็น
กัน” ผูท้ ี่นากลุ่มของศิษย์นิกายพลันตวาด ทาให้คนรอบ
ข้างตกตะลึง

เช่นไรก็ตาม ซูหยางไม่สนใจคาขู่แม้แต่นอ้ ย เขาเดินไป


อย่างต่อเนื่องไม่แม้กระทัง่ จะเหลียวหน้ามามอง ไม่สนใจ
อีกฝ่ ายไม้แต่นอ้ ย

“เจ้าสารเลว…” เส้นเลือดปูดขึ้นมาบนหน้าผากของศิษย์
นิกายผูต้ ะโกน เขาพุง่ ตัวไล่ตามซูหยางพร้อมกาหมัดแน่น

ในขณะที่กาลังย่างก้าวที่สอง ทันใดซูหยางก็หนั หน้า


กลับมาหรี่ ตามองไปยังที่เขา สายตาเต็มไปด้วยรังสี
สังหาร
สายตาที่เต็มไปด้วยความน่าหวาดหวัน่ ที่ดูแหลมคมราว
กับจะแทงทะลุหินใหญ่ หยุดการเคลื่อนไหวของศิษย์
นิกายและทาให้เขาสัน่ สะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ ราวกับ
ว่าเขาสบสายตากับสัตว์ร้ายหิ วกระหายที่กาลังจ้องเขม็ง
ไปยังเขา

พล็อบ ขาของศิษย์นิกายอ่อนเป็ นเต้าหู ้ เขาล้มลงบนพื้น

แม้กระทัง่ บรรดาศิษย์นิกายเบื้องหลังเขาก็เริ่ มขาสัน่ ดู


เหมือนเหล่าตัวตลกเต้นอยูท่ ่ามกลางความหนาวเย็น

“หึ พวกโง่” ซูหยางแค่นเสี ยงและเริ่ มเดินต่อไป


“…”

“…”

“…”

“นัน่ … ใช่ซูหยางจริ งรึ หรื อเจ้าพวกนั้นเข้าใจผิดว่านัน่


เป็ นซูหยาง”

“จะเป็ นซูหยางไปได้เช่นไร แม้วา่ นัน่ จะดูคล้ายกัน แต่


บรรยากาศที่ดูสง่างามรอบกายเจ้านัน่ แตกต่างกับเจ้า
สวะซูหยางที่ขา้ คุน้ เคย”
“ข้าเห็นด้วย ปกติซูหยางจะมีท่าทางปัญญาอ่อนบน
ใบหน้า แต่เจ้าเด็กหน้าหล่อนัน่ มีใบหน้าที่คมชัดและ
จริ งจัง นี่มนั เป็ นสองคนที่แตกต่างกันโดยสิ้ นเชิง”

บรรดาศิษย์นิกายรอบข้างเริ่ มซุบซิบ บ้างแม้กระทัง่


หัวเราะไปยังกลุ่มศิษย์ที่พยายามหยุดซูหยาง

“หรื อนัน่ มิใช่ซูหยาง” ศิษย์นิกายที่นง่ั อยูบ่ นพื้นคิดกับ


ตนเอง รู ้สึกสับสน

หรื อนัน่ เป็ นสองคนที่มีใบหน้าเหมือนกันในนิกายนี้

สายตาที่เหมือนสัตว์ร้ายของซูหยางปรากฏในห้วง
ความคิดของศิษย์นิกาย และเขารี บแก้ไขความสงสัยของ
ตนเอง นี่แน่นอนว่าไม่ใช่ซูหยางแต่เป็ นใครสักคนที่ดู
คล้ายกัน เจ้าปั ญญาอ่อนซูหยางที่เขารู ้จกั ต้องไม่กล้าพูด
ตอบโต้กบั คนอื่นนับประสาอะไรกับการข่มขู่ดว้ ยสายตา

หลังจากที่กลับถึงพื้นที่นงั่ เล่นที่ลานด้านนอก ซูหยาง


ได้รับการต้อนรับจากหนุ่มหล่ออีกคนหน้าประตูบา้ น
“ซู… ซูหยาง เจ้าสามารถรอดชีวติ ในการต่อสู ้เป็ นตายกับ
เอียนหมิงจริ งรึ ” ชายหนุ่มแรกคิดว่าเขามองเห็นผีเมื่อเห็น
ซูหยางเดินมายังสถานที่น้ ีจากระยะไกล แต่เมื่อซูหยางยืน
อยูต่ รงหน้านัน่ ไม่มีทางที่เขาจะเห็นผี

จากความทรงจาของ “ซูหยาง” คนเดิม ซูหยางจาชายคนนี้


ได้ เขาเป็ นเพื่อนร่ วมบ้านพัก ถังหู

“ข้ารู ้สึกมิค่อยดีนกั ฉะนั้นข้าจะพักในห้อง อย่ารบกวน


ข้า” ซูหยางเดินไปในบ้านโดยไม่พดู อะไรอีก

ถังหู มองเขาเดินผ่านไปด้วยปากอ้ากว้าง “สวรรค์” เขา


อุทานเสี ยงดัง “เจ้ายังมีชีวติ อยูจ่ ริ งๆ”

ซูหยางเข้าไปในห้องเขาทันทีที่เข้าบ้านและเริ่ มจัดลาดับ
ความคิด

“ผูเ้ ฒ่านัน่ … ทาอะไรลงไป จริ งรึ นี่” เขามองไปในกระจก


ที่แขวนบนผนังและความทรงจาวัยเด็กแจ่มชัดในหัว

“นี่ใช่ตวั ข้าจริ งตอนที่ขา้ ยังเด็ก แต่ทาไมข้าจามิได้วา่ เคย


อยูใ่ นสถานที่น้ ี หรื อข้ามาเกิดใหม่และฟื้ นความจา
หลังจากถูกดาบแทงเข้าที่อก ได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ ข้า
ตอนนี้ช่างอ่อนแอเสี ยจริ ง”

ซูหยางตอนนี้อายุ 16 ปี และเขาเป็ นศิษย์นิกายกุสุมาลย์


พ้นพิสยั มาเกือบปี อย่างไรก็ตามแม้จะอยูใ่ นนิกายมาเกือบ
ปี พลังฝี มือของเขาก็แทบไม่มีความก้าวหน้า นับประสา
กับการเลื่อนระดับ

ศิษย์นอกเช่นเขาผูซ้ ่ ึงเริ่ มเข้านิกายย่อมไมไ่่ดร้ ับความ


ช่วยเหลือใดจากนิกายและต้องหาคู่ฝึกด้วยตนเองสาหรับ
การฝึ กคู่ โดยที่ต่างเพศร่ วมกันใช้เพศสัมพันธ์เพิ่มพลัง
ฝี มือ เมื่อเขากลายเป็ นศิษย์ใน เขาสามารถร้องขอคู่ฝึกที่
เหมาะสมได้จากนิกาย
อย่างไรก็ตาม ซูหยางไม่สามารถหาคู่ฝึกได้แม้วา่ เขาจะมี
รู ปกายที่สุดยอด ไม่มีขอ้ กังขาว่าเขาเป็ นคนที่หล่อเหลา
ที่สุด มากจนกระทัง่ สามารถล่อลวงภรรยาของเทพ
จันทราในช่วงชีวติ ก่อน ศิษย์หญิงหลายคนรวมถึงศิษย์พี่
แย่งชิงเขาเป็ นคู่ฝึกในตอนแรก แต่เมื่อพวกเขาพบว่าเขา
เป็ นคนมีปัญหาด้านจิตอย่างรุ นแรงมีพรสวรรค์เป็ นศูนย์
พวกเขาต่างพากันเมินอย่างรวดเร็ ว

ไม่วา่ เขาจะหล่อเหลาปานใด ในนิกายนี้พวกเขาจะเติบโต


ได้กข็ ้ ึนกับคู่ฝึก ไม่มีใครโง่พอที่จะฝากอนาคตไว้
เพราะว่าเขาหล่อ ไม่ตอ้ งกล่าวว่ายังมีหนุ่มหล่อและสาว
สวยมากมายในนิกาย (3038)

“ข้าได้รับของขวัญเป็ นชีวติ ใหม่จากผูเ้ ฒ่าท่านนั้น แต่ชีวติ


เช่นนี้ …ไอย่า” ซูหยางถอนหายใจเฮีอก
เมื่อคิดว่าเขา หนุ่มสุ ดหล่อในโลกเมื่อชาติก่อน ซึ่งเหล่า
เทพธิดาที่สวยหาใดเปรี ยบมีผวิ ผ่องประดุจหยกนับไม่
ถ้วนพากันยืนเข้าแถวเพื่อต้องการเป็ นคู่ฝึกกับเขา ต้องทน
ทุกข์ทรมานในการหาคู่ฝึกสักคนในนิกายที่เต็มไปด้วย
หญิงสาวนับพัน

“ถ้าข้ายังอยูใ่ นโลกที่เหมือนเดิม นัน่ ต้องมีโอกาสที่พวก


เจ้ายังมีชีวติ อยูใ่ นโลกนี้…” ประกายลึกล้ าวาบผ่านดวงตา
ซูหยางขณะที่เงาร่ างไร้ที่เปรี ยบมากมายปรากฏขึ้นในใจ
“ข้าจะตามหาพวกเจ้าและกอดพวกเจ้าไว้ในอกอีกครั้ง
และข้าจะมิให้พวกเจ้าต้องพรากไปอีก เช่นไรก็ตามก่อน
อื่นข้าต้องแก้ไขชื่อเสี ยงเลวร้ายของข้าก่อน”
DC บทที่ 3: น่ าเสี ยดายความหล่ อ

ภายในห้อง ซูหยางถอดเสื้ อผ้าและเข้าไปในห้องน้ าซึ่ งอยู่


ติดกับห้องนอนเพื่อทาความสะอาดเลือดออกจากร่ าง

“ถึงกระนั้นเจ้าเด็กนัน่ ก็ยงั ทาได้ดีบนตัวข้า… นานกี่ปีแล้ว


ที่ขา้ ได้เห็นเลือดตัวเอง นับประสาอะไรกับช่องเปิ ดบน
อก”

ซูหยางเป็ นเซี ยนในชาติก่อน บางคนซึ่ งอยูใ่ นจุดเกือบ


สู งสุ ดของการฝึ กปราณ เขามีท้ งั หมดไม่วา่ จะเป็ นสาวสวย
พลังอานาจ หรื อวัตถุที่ใครก็ตอ้ งอิจฉา บัดนี้เขาไม่
สามารถแม้กระทัง่ จะถือเทียนไขให้คนธรรมดาที่อยูใ่ น
เขตปฐมวิญญาณ ไม่ตอ้ งพูดถึงการบาดเจ็บหนัก
แน่นอนว่ามันเป็ น “ซูหยาง” คนก่อนผูต้ กอยูใ่ น
สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่ซูหยางคนปั จจุบนั อย่างไรก็ตาม
ซูหยางไม่ได้ใช้สิ่งนั้นเป็ นข้ออ้างเมื่อเขาใช้ร่างเดียวกัน
ดังนั้นเขาจึงกล่าวโทษตัวเอง

หลังจากทาความสะอาดเลือดจากร่ างแล้ว เขาทายา


บางอย่างบนช่องเปิ ดบนอกก่อนที่จะพันไว้ดว้ ยผ้ารอบ
บาดแผลเป็ นอันจบ

เวลาผ่านไปซูหยางรักษาบาดเจ็บเรี ยบร้อยแล้ว ข่าวสารที่


เขาทุบตีเอียนหมิงบนเวทีต่อสู ้เป็ นตายได้แพร่ กระจายไป
ทัว่ พื้นที่ศิษย์นอกราวกับไฟใหม้ทุ่ง
“อะไรนะ เจ้าสวะซูหยางที่ไร้สมรรถภาพนัน่ รึ ที่ลม้
เอียนหมิง เจ้าแน่ใจนะ”

“ข้าเห็นมันกับสองตาข้าเอง หลังจากถูกเอียนหมิงแทงเข้า
ที่อกซูหยางก็คาราม และทุกคนรอบเวทีลว้ นกระอักเลือด
เอียนหมิงถึงกับล้มลงสลบ”

“แค่ตะโกนทาให้ทุกคนถึงกับกระอักเลือด โม้เกิน ข้ามิ


เชื่อ”

“อัยย… ข้ามิถือ… กระทัง่ ข้ายังยากจะยอมรับสายตาข้า


ตอนนั้น…”
การสนทนาเช่นนั้นกระจายไปทัว่ นิกาย แม้กระทัง่ ผู ้
อาวุโสซวินผูซ้ ่ ึงหยุดการต่อสู ้ยงั ไม่สามารถอดนึกถึงแรง
กดดันอันน่าหวาดหวัน่ ที่พลันครอบคลุมไปทัว่ บริ เวณ

“เกิดอะไรขึ้นกับทั้งคู่ระหว่างการต่อสู ้ บอกข้ามาให้
หมด”

ผูอ้ าวุโสซวินจ้องไปยังเอียนหมิงผูถ้ ูกนาตัวมาซักถาม

“ข้า… ข้ามิรู้…” เอียนหมิงพูดด้วยความปวดหัวหนัก “ทุก


สิ่ งที่ขา้ จาได้กค็ ือข้าแทงเข้าไปที่อกซูหยางก่อนที่จะมีรังสี
อมหิ ตครอบงาข้า… ก่อนที่ขา้ จะแทงเจ้านัน่ เหมือนคน
ปั ญญาอ่อนซึ่งมิรู้แม้วธิ ีใช้ดาบให้ถูกต้อง… หลังจากนั้น
เช่นไร…”
เอียนหมิงสะท้านเมื่อเขานึกถึงการแสดงออกบนใบหน้า
ของซูหยางหลังจากถูกแทง

“เหมือนกับว่าข้ามองไปยังคนอีกคนหลังจากเจ้านัน่ รับ
ดาบข้า”

“…”

ผูอ้ าวุโสซวินบ่นพึมพัมถ้อยคาที่เอียนหมิงพูด

“รังสี อมหิ ตที่ขา้ รู ้สึกจากเจ้าเด็กนัน่ มิใช่บางอย่างที่


สามารถสร้างขึ้นมาได้หลังจากถูกแทงโดยบางอย่าง นัน่
มันสามารถสร้างขึ้นมาจากประสบการณ์เฉี ยดตายหลาย
ครั้งและฆ่าคนมากมายเท่านั้น… เจ้าซูหยางนี่จริ งแล้วเป็ น
ใคร และทาไมข้ามิเคยได้ยนิ ชื่อเจ้านี่มาก่อนเลย”

ผูอ้ าวุโสซวินมองไปที่เอียนหมิงและพูดว่า “เจ้าไปได้ อย่า


ให้ขา้ จับเจ้าได้บนเวทีโดยมิมีคาอนุญาตอีกครั้ง”

“ศิษย์มิกล้าแล้ว”

หลังจากที่เอียนหมิงลับสายตา ผูอ้ าวุโสซวินเริ่ มค้นหา


ข้อมูลของซูหยาง แต่หลังจากเพียงไม่กี่นาทีของการ
ตรวจสอบเขาก็ตกตะลึงกับข้อมูลที่เขาได้รับ

จากที่เขารวบรวมมา ซูหยางอยูใ่ นนิกายมาเกือบปี แต่ยงั คง


ไม่มีความคืบหน้าในพลังฝี มือตั้งแต่เริ่ มเพราะว่าเขาไม่
สามารถหาคู่ฝึกได้ ผูอ้ าวุโสซวินไม่อยากเชื่อว่าคนหล่อ
ดังซูหยางจะไม่สามารถหาคู่ฝึกได้แม้สกั คน เขาจึงค้น
ข้อมูลลึกไปกว่านั้น

สิ่ งที่เขาพบทาให้ตกตะลึงจนพูดไม่ออก จนถึงขั้นว่าเขา


ไม่ทราบว่าควรรู ้สึกอย่างไร

“ปั ญหาด้านจิตใจ มิรู้วธิ ีใช้นกเขาอย่างถูกต้อง ขาด


พรสวรรค์ แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้อง”

ผูอ้ าวุโสซวินถามผูท้ ี่ให้ขอ้ มูล ซึ่งเป็ นผูอ้ าวุโสนิกายอีก


คน
“ท่านอาจมิรู้จกั เจ้านัน่ เพราะท่านยากจะสนใจลานศิษย์
นอก แต่แทบทุกคนในลานศิษย์นอกล้วนรู ้จกั ซูหยางและ
ปั ญหาของเจ้านัน่ เหตุผลที่เจ้านัน่ ยังอยูใ่ นนิกายฐานะศิษย์
ก็เพราะเจ้านิกายเชื่อว่าเขาอาจมีประโยชน์ต่อนิกายจาก
ใบหน้าหล่อเหลา”

“อัยยย ถ้าเจ้านัน่ มีสภาพจิตปกติ บางทีเจ้านัน่ อาจจะยังพอ


มีหวังในโลกนี้…”

ผูอ้ าวุโสซวินถอนหายใจจากคาพูดของผูอ้ าวโสนั้น เขา


เห็นด้วยว่าถ้าซูหยางมีใบหน้าหล่อเหลาเกินใครแม้ใน
มาตรฐานที่สูงมากของนิกาย แต่สิ่งที่เขาเป็ น ช่างน่า
เสี ยดายความหล่อ
“เช่นไรก็ตาม…”

ทันใดนั้นผูอ้ าวุโสซวินก็หรี่ สายตา “เจ้านัน่ ดูมิเหมือนกับ


ที่ท่านเพิง่ พูดกับข้าจากที่เห็นวันนี้”

“ข้ามิรู้วา่ จะบอกท่านเช่นไร ท่านผูอ้ าวุโสซวิน นัน่ คือทุก


สิ่ งที่เรารู ้” ผูอ้ าวุโสยักไหล่

“…”

“ข้าเข้าใจ ขอบคุณสาหรับข้อมูล ท่านผูอ้ าวุโสมู่”

“ใช่แล้ว หลานสาวท่านอยูใ่ นนิกายเป็ นเช่นไรบ้าง มิ


ทราบว่ามีคู่ฝึกหรื อยัง”
ผูอ้ าวุโสมู่พลันพูดถึงหลานสาวผูอ้ าวุโสซวินที่พ่ งึ เข้า
นิกาย

เมื่อผูอ้ าวุโสมู่พดู ถึงหลานสาว ความเครี ยดของผูอ้ าวุโสมู่


หายไปทันที เขาหัวเราะ “เด็กหญิงนัน่ ช่างเลือก คงต้องใช้
เวลาอยูบ่ า้ งกว่าจะเจอใครสักคน”

“งั้นมิลองให้เธอพบหลานชายข้า มู่กง สักวันข้างหน้า”

ผูอ้ าวุโสซวินทาปากเบี้ยวในคาแนะนาของผูอ้ าวุโสมู่ แต่


เขายังรักษารอยยิม้ และพูดไปอย่างนั้นว่า “สักวัน
ข้างหน้า”

ในที่สุดเขาก็ตดั สิ นใจออกจากห้อง ซูหยางได้พบกับ ถังหู


และหญิงสาวสวย เธอคือ เมิ่งเจีย คู่ฝึกของถังหู

“อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็ นเช่นไรบ้าง”

ถังหูถามเขาหลังจากสังเกต
“แค่มดกัด”

“มดกัด หื อ..”

ถังหู หวั เราะ เป็ นเพื่อนร่ วมห้องมานานเกือบปี เขารับรู ้วา่


มีบางอย่างผิดปกติกบั ซูหยางตอนนี้ สิ่ งที่เห็นชัดเจนก็คือ
ไม่มีสีหน้าคนปั ญญาอ่อนอีกต่อไป เขาดูเหมือนคนปกติ

“หื ม เจ้าจะไปไหนรึ ”

“ว่าจะเดินเล่นแถวนี้” ซูหยางซึ่งไปถึงประตูตอบ พร้อม


จากไป (3038)

“แต่อาการบาดเจ็บ…”
“เช่นที่บอก แค่มดกัด”

“…”

หลังจากที่ซูหยางจากไป เมิ่งเจียพูด “เจ้านัน่ ดูต่าง


ออกไป…”

“เจ้าคิดอย่างนั้นเช่นกันหรื อ เช่นไรรึ ”

“อืม… หล่อขึ้นกว่าเดิม”

“เอ๋ ”
คาพูดของหล่อนทาให้เขาตะลึง

เมิ่งเจียยิม้ ให้กบั ท่าทางของเขา พูดว่า “อย่ากังวล มิวา่ เขา


จะหล่อขึ้นมากเท่าไร เจ้าเป็ นคู่ฝึกคนเดียวของข้า”

“นัน่ มิใช่…” ถังหูพดู ด้วยใบหน้าแดง

“ใช่ละ ไปฝึ กกันเถอะ”

เมิ่งเจียพลันจูงมือถังหูเข้าไปในห้อง ไม่นานพวกเขาก็
ตระกองกอดกันโดยไร้อาภรณ์
DC บทที่ 4: คลังมุกพิสุทธิ์

ภายในนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั มีสถานที่หนึ่งเรี ยกว่า คลัง


มุกพิสุทธิ์ ยา หิ นวิญญาณ อาวุธ และของมีค่าอื่น ทุกอย่าง
สามารถนาออกไปได้ตราบเท่าที่มีแต้มรางวัล

แต้มรางวัลเป็ นระบบเงินระบบหนึ่งซึ่งใช้เฉพาะภายใน
นิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ถ้ามีแต้มรางวัลจะสามารถ
แลกเปลี่ยนกับอะไรก็ได้ที่มีในคลังมุกพิสุทธิ์

แต้มรางวัลสามารถหาได้จากนิกายโดยทาสิ่ งที่เป็ น
ประโยชน์ต่อนิกายหรื อกิจกรรม พวกมันยังสามารถใช้
แลกเปลี่ยนกับสิ่ งอื่นได้เช่นเดียวกับเงินทอง
“ต้องใช้แต้มรางวัลเท่าไรสาหรับดอกหยางบริ สุทธิ์ ”

ซูหยางถามผูอ้ าวุโสที่อยูเ่ บื้องหลังโต๊ะ เขาตัดสิ นใจมาที่


คลังมุกพิสุทธิ์หลังจากพบว่าตนเองนั้นช่างอ่อนแอ แต่เมื่อ
ปราศจากคู่ฝึก มีเพียงอีกวิธีกค็ ือใช้ทรัพยากรจากนิกาย
และวิธีน้ นั ก็คือเอาทรัพยากรจากคลังมุกพิสุทธิ์ ซึ่ งมีของมี
ค่ามากมายให้ซ้ื อหา

“ดอกหยางบริ สุทธิ์ ทาไมศิษย์นอกเช่นเจ้าต้องการยามีค่า


แบบนี้” ชายชรามองที่เขาด้วยความรู ้สึกทึ่ง “10,000”

“10,000” หยางเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “แต้มรางวัล


ได้จากภารกิจสู งสุ ดที่ 100 และภารกิจนัน่ ก็สุดโหด แต่
ท่านต้องการแต้มรางวัลถึง 10,000 สาหรับดอกหยางบริ
สุ ทธิ์ธรรมดานี่ นี่มนั ปล้นกันกลางวันแสกๆ”

ในสายตาของเขา ดอกหยางบริ สุทธิ์เป็ นยาระดับต่า


สาหรับใช้โดยคนทัว่ ไป แต่พวกเขาทาเหมือนกับว่ามัน
เป็ นยาระดับเทพ

“เจ้านิกายเป็ นคนตั้งราคาเอง ถ้าเจ้ามีปัญหา เจ้าก็ไปคุยกับ


ท่านเอง อย่างไรก็ตามราคานี้เป็ นราคาสุ ดท้าย”

ซูหยางมองไปที่บตั รหยกในมือและถอนหายใจ “อัยยย…


34 แต้มรางวัล… หลังจากใช้เวลาอยูห่ นึ่งปี ที่นี่…”
เขามองไปรอบๆ สาวสวยมากมายผ่านเข้ามาในสายตา
“ข้าต้องการคู่ฝึก… แต่มิวา่ อย่างไรที่มอง… เจ้าพวกนั้น
เป็ นเพียงแค่เด็กพึ่งฝันเปี ยก…”

แม้ซูหยางอยูใ่ นร่ างของเด็กชาย 16 ปี อายุจิตใจของเขา


กลับไม่ใช่เด็ก เขาไม่คิดมีความสัมพันธ์กบั เด็กที่มีอายุไม่
ถึงครึ่ งอายุจริ งของเขา ถึงแม้วา่ อายุจะไม่ใช่ประเด็น
สาหรับผูฝ้ ึ กฝนซึ่งมีอายุหลายพันปี แต่มนั ทาให้ซูหยาง
รู ้สึกไม่สบายใจ

“ว่าไง เจ้ายังต้องการมันอีกหรื อไม่” ผูอ้ าวุโสหลังโต๊ะพูด


อย่างไม่ใส่ ใจด้วยรู ้ในคาตอบ เขาสามารถเดาได้วา่ ซูหยาง
มีแต้มรางวัลไม่พอด้วยสถานะของเขาเป็ นแค่เพียงศิษย์
นอก ลืมไปได้วา่ เขาเป็ นศิษย์นอก แม้กระทัง่ ศิษย์ในยัง
ยากที่จะมีแต้มรางวัลถึง 10,000แต้ม
“ข้าต้องการ” คาตอบซูหยางทาให้ผอู ้ าวุโสตกตะลึง “แต่
มิใช่ตอนนี้ ในสิ บวัน ข้าจะกลับมาพร้อมกับแต้มรางวัล
พอสาหรับแลก”

“เจ้า… เจ้าจะหามันเช่นไร” ผูอ้ าวุโสถามด้วยสายตาเบิก


กว้าง

ซูหยางเพียงแต่ยมิ้ ให้กบั คาถามของผูอ้ าวุโสและเดินจาก


ไปโดยไม่ตอบ ทาให้เส้นเลือดบนหน้าผากของผูอ้ าวุโส
ปูดออกมาสองสามเส้น


หลังจากออกจากคลังมุกพิสุทธิ์ ซูหยางก็หาเศษผ้าแผ่น
ใหญ่มาเขียน หลังจากนั้นเขาก็เดินไปที่ลานฝึ กซึ่ งเป็ นที่
นิยมของเหล่าศิษย์ท้ งั วันและคืน ยืนอยูใ่ นที่โล่งและคลี่
เศษผ้าให้ทุกคนเห็นข้อความภายใน

“นวดขั้นเทพ ให้ประสบการณ์เหมือนขึ้นสวรรค์ ฟรี


สาหรับลูกค้าสามคนแรก”

“นวดขั้นเทพ นัน่ มิใช่ซูหยางรึ มาทางี่เง่าอะไรวันนี้”


“ประสบการณ์เหมือนขึ้นสวรรค์ ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้านี่ตอ้ งการแค่
แต๊ะอัง๋ สาว”

“ฉิ บ เจ้าคนลวงโลกนี่มนั แย่มาก”

เหล่าศิษย์แถวนั้นต่างพากันหัวเราะโดยไม่ย้งั

ซูหยางยืนอยูต่ รงนั้นอย่างเงียบๆ ด้วยท่าทางเงียบสงบ


แม้วา่ รอบข้างจะเต็มไปด้วยเสี ยงหัวเราะ

“นี่เตือนข้าให้นึกถึงสมัยยังเด็ก…” เขานึกถึงอดีตเมื่อเขา
ยืนอยูบ่ นถนนทั้งวันและคืนด้วยป้ายที่เหมือนกัน
หลังจากยืนอยูท่ ี่น้ นั หลายชัว่ โมงโดยไม่มีใครเข้าหา
บรรดาศิษย์บางส่ วนตัดสิ นใจเข้าไปพูดกับเขาเอาสนุก

“เฮ้ ซูหยาง ในนามปี ศาจ เจ้ามาทาอะไรที่นี่ตอนนี้วะ”

“พวกเราทั้งหมดรู ้วา่ เจ้าต้องการสัมผัสเนื้อสาวตั้งแต่เจ้ามิ


สามารถหาคู่ฝึกได้”

“มาคิดดูวา่ เจ้ามีแผนฉ้อฉล ช่างน่าอาย” (3038)

ไม่วา่ จะถูกดูถูกอย่างไร ซูหยางยังยืนหลับตานิ่ง ราวกับ


หลับไป

“เฮ้ย ฟังที่ขา้ พูดกับเจ้า เจ้าเลวไร้ยางอาย”


ขณะที่ศิษย์นิกายนั้นกาลังเงื้อหมัด ซูหยางลืมตาและมี
ประกายอันตรายฉายออกมา

“หลบไปเจ้าเด็กเลว ข้ามีลูกค้า” ซูหยางพูดให้เหล่าศิษย์


ตะลึง

เมื่อศิษย์นิกายหันไปก็เห็นสาวสวยยืนกอดอกอยู่ สายตา
เธอจ้องมองด้วยความสงสัย

“นวดแบบไหน” เธอถามด้วยน้ าเสี ยงดุดนั

“แบบที่ทาให้เจ้าหายปวดหลัง”
คาพูดที่ไม่คาดคิดของซูหยางทาให้สาวน้อยเบิกตากว้าง

“เจ้า… เจ้ารู ้ได้เช่นไรว่าข้าปวดหลัง”

ซูหยางไม่ได้ตอบแต่หนั ไปมองป้ายแล้วยิม้
DC บทที่ 5: ร้ องขอเพิม่

“เจ้าพูดว่าสามารถรักษาหลังข้าได้ดว้ ยการนวดงั้นรึ ”

ซูหยางผงกหัวรับอย่างสงบ

“อย่าไปฟัง เจ้านี่ตอ้ งการเอาเปรี ยบเจ้า”

“ช่าย ใครจะรู ้วา่ เจ้านี้จะทาอะไรเจ้าถ้าตามเขาไป”

“พวกเจ้ารู ้จกั เจ้านี่รึ”


หญิงสาวมองดูกลุ่มศิษย์นิกายและขมวดคิ้ว “แล้วพวกเจ้า
คือใครกัน”

“พวกเรา…”

ก่อนที่ศิษย์นิกายจะแนะนาตนเอง ซูหยางก็พดู ขึ้น “ข้า


สามารถรักษาเจ้า แต่เจ้าต้องทาตามเงื่อนไขข้า”

“เงื่อนไข เจ้าสามารถต่อรองเงื่อนไขงั้นรึ ข้ารู ้วา่ เจ้ายืนอยู่


ที่นี่หลายชัว่ โมงโดยมิมีลูกค้าสักคน ถ้าข้าจากไปตอนนี้มิ
รู ้วา่ เจ้าจะมีลูกค้าอีกเมื่อไหร่ … หรื ออาจจะมิมีอีกต่อไป”

“…”
“…”

หลังจากเงียบไปชัว่ ครู่ ซูหยางผงกหัวและกล่าวอย่างใจ


เย็น “งั้น… สาหรับความกล้าที่มายืนต่อหน้า ข้าจะบอก
บางสิ่ งให้ถือว่าเป็ นของขวัญ อาการปวดหลังของเจ้า…
อย่าได้ประเมินมันต่าไป รี บไปหาหมอรักษาโดยเร็ ว
ก่อนที่เจ้าจะพิการ”

“พิการ จ..จ…เจ้าหมายความว่าเช่นไร” หญิงวัยรุ่ นเริ่ ม


กระวนกระวายหลังจากได้ยนิ แต่ซูหยางไม่สนใจ

“ถ้าเจ้าคิดว่าเป็ นความเจ็บปวดจากการฝึ กผิดท่า นัน่ เจ้าคิด


ผิด”
“งั้นสาเหตุคือ…”

“…”

“…”

หญิงสาววัยรุ่ นเริ่ มเหงื่อตกหลังจากซูหยางเงียบไป

“ต..ตกลง ข้ายินดีรับเงื่อนไขของเจ้า”

หญิงสาวยอมแพ้หลังจากความเงียบ
ซูหยางผงกหัวแล้วกล่าว “เงื่อนไขแรก กิจกรรมใช้เวลา
10 นาทีเท่านั้น มิขาดมิเกิน เงื่อนไขสอง เจ้าต้องเล่า
ประสบการณ์การนวดให้คนอื่นฟังสิ บคน ประการสาม
เจ้าจะมาได้อีกครั้งหนึ่งเดือนนับจากการนวดครั้งล่าสุ ด
ถ้าปฏิเสธ เจ้าก็หนั หลังกลับไปได้เลย หากเจ้ามิสามารถ
ทาตามเงื่อนไขข้อที่สองและสามได้กอ็ ย่าได้คิดกลับมาอีก
ครั้ง”

“นัน่ … แค่น้ นั รึ ” หญิงวัยรุ่ นคิดว่าซูหยางมีเงื่อนไขที่


ยากลาบากในใจ แต่ง่ายขนาดนี้… ใครจะไม่รับ

“อุฟ… หนึ่งเดือน… ต้องเป็ นปาฏิหาริ ยถ์ า้ เจ้ามีลูกค้าคน


อื่นนอกจากเธอ นับแต่น้ ี…” เหล่าศิษย์นิกายหัวเราะ
“เจ้ายอมรับไหม”

“ข้ารับ”

“ดี ตามข้ามา” ซูหยางม้วนป้ายและแบกไว้บนหลัง พา


หญิงสาวกลับไปยังที่พกั ของเขา

“อ๋ าาา… เธอตามไปจริ งๆ…”

“เราควรหยุดเธอไหม”

“ปล่อยเธอไป… เธอได้แต่โทษตัวเองที่หลงเชื่อคนแบบซู
หยาง”
เหล่าศิษย์นิกายมองซูหยางและหญิงสาวเดินลับไปโดยไม่
มีใครพยายามที่จะหยุดเธอเพราะว่าพวกเขาล้วนอยากรู ้จ่า
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธอกลับมา

“นี่คือ… บ้านพักเจ้า เราจะทาที่นี่รึ”

“หรื อว่าเจ้าอยากทาข้างนอก” ซูหยางถามเธอด้วยรอยยิม้


เล็กน้อย
“…”

สาวน้อยมองไปรอบๆ คิดเตลิดไปไกล จนหน้าแดง

ซูหยางไม่รอคาตอบเธอ เดินเข้าไปในบ้าน

“อาา รอด้วย…”

หลังจากเข้าไปในบ้านที่เงียบสงัด ซูหยางตรงไปที่หอ้ ง
ของเขาโดยมีหญิงสาวเดินตามอย่างระวัง

“ข้าสาบานว่าถ้าเจ้าทาอะไรมิดีละก็… เจ้าต้องจ่ายด้วย
ชีวิต…”
“เจ้ายังเด็กเกินมิใช่รสนิยมข้า เด็กน้อย”

“เด..เด็กน้อย เจ้าดูเหมือนอายุเท่าข้า”

ซูหยางยักไหล่ตอบว่า “นอนคว่าลงบนเตียง”

“…”

สาวน้อยยืนนิ่ง มองเขาเขม็ง

“เจ้าสามารถสวมเสื้ อผ้าได้”
หลังจากฟังคาพูด หญิงสาวถอนหายใจแล้วนอนลงบน
เตียง

ซูหยางดัดนิ้วยืดเส้นสายชัว่ ครู่ ก่อนพูดว่า “สิ บนาที เริ่ ม


ครองสติให้ดี”

“เอ๋ เจ้าหมายความว่าเช่…”

“อาาา”

หญิงสาวพลันร้องครางอย่างสุ ขบาย เสี ยงเสี ยวซ่านชอน


ไชเข้าไปในหูซูหยาง

“จ..เจ้าทาอะ…อ้าาาาาา”
“หยุดดิ้นไปมาเหมือนหนอน เจ้าทาให้งานยากขึ้น”

“อ๊าาาา”

ความรู ้สึกสุ ขสบายบนหลังถมทับการได้ยนิ ของเธอ ทา


ให้เธอรู ้สึกเหมือนอยูบ่ นสวรรค์

เธอไม่เข้าใจว่ามันรู ้สึกเช่นไร แต่ไม่ใช่ความรู ้สึกที่ได้รับ


จากมือมนุษย์ เธอรู ้สึกเหมือนมือเทพเจ้า

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ ว แต่ในโลกของหญิงสาวมัน
เหมือนชัว่ นิรันดร์ แต่ทนั ใดความรู ้สึกสุ ขสบายนั้นก็หยุด
มันกระทันหันจนรู ้สึกเหมือนจุดจบของโลก
“เอ๋ เฮ้ย เจ้าหยุดทาไม” สาวน้อยหันมองซูหยางใบหน้า
เธอแสดงถึงความรู ้สึก ทาต่ออีกหน่อยได้ไหม

“หมดเวลาสิ บนาทีแล้ว” ซูหยางพูดเสี ยงเรี ยบ

“ต..ต..แต่…” (3038)

“ความปวดบนหลังเจ้าควรหายแล้ว แต่เจ้าต้องลดเวลา
การฝึ กลงครึ่ งหนึ่งในเดือนถัดไปเพื่อผลถาวร”

“ได้โปรด… สิ บ… ไม่ อีกแค่หา้ นาที ข้ายอมจ่ายเพิ่ม”


หญิงสาวอ้อนวอนซูหยางให้ขยายเวลา แต่ซูหยางเพียง
ส่ ายศีรษะ “ข้ามิสามารถรับอะไรจากเจ้าได้ เพราะข้าได้
กาหนดไว้วา่ ลูกค้าสามคนแรกฟรี เจ้าสามารถมาใหม่
เดือนหน้า… หลังจากที่เจ้าได้เล่าประสบการณ์ให้คนอื่น
สิ บคน”

หญิงสาวกัดริ มฝี ปากด้วยความข้องใจ ผงกศีรษะรับอย่าง


ไม่เต็มใจหลังจากนิ่งไปอึดใจ

“ข้าจะตั้งตารอครั้งหน้า… เฮ้อ…”

“จ้าวเซวียน” หญิงสาวพูด “ข้าชื่อจ้าวเซวียน”


“ข้า ซูหยาง” เขายิม้ ให้เธอ มองเธอเดินออกไปจากประตู
หน้า โอนเอนเหมือนคนเมาที่ดื่มมาทั้งคืน
DC บทที่ 6: งูสามฤดู

“มันเหมือนอยูอ่ ีกโลกหนึ่ง… คล้ายกับข้าล่องลอยอยู่


ท่ามกลางดวงดาวข้างทางช้างเผือก…”

“วิธีที่เขาแตะหลังข้า… มันเหมือนมือเขาจมลึกลงไปโดน
เส้น… ข้ายอมตายเพื่อ…”

“ข้าเกลียดที่จะยอมรับ แต่เขา… เขาทาให้ร่างข้ายอมด้วย


มือนั้น”

จ้าวเซวียนกระจายประสบการณ์จากซูหยางเหมือนไฟ
ไหม้ฟางกับเพื่อนเธอทุกคน เหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่
ไม่เพียงแค่น้ นั เธอไม่ได้หยุดแค่สิบคนแต่ทุกคน หวังว่า
ความพยายามของเธอทาให้ซูหยางมองเธอดีข้ ึน

“จริ งรึ ซูหยางมีความสามารถพิเศษเช่นนั้นเลยรึ ”

“เป็ นไปได้ดว้ ยรึ เขามีชื่อเสี ยงเรื่ องไร้สามารถและปัญญา


อ่อน… ผูอ้ าวุโสนิกายหลายคนยังยอมแพ้…”

“ข้าพูดจริ ง ลองไปให้เขาบริ การแล้วเจ้าจะรู ้ทนั ทีวา่ ข้าพูด


จริ งหรื อไม่”

แม้วา่ ไม่สามารถชักจูงทุกคนด้วยเรื่ องประสบการณ์ของ


เธอ จ้าวเซวียนก็สามารถกระตุน้ ความสนใจใคร่ รู้ในใจ
พวกหล่อน มากพอที่จะทาให้พวกหล่อนเพิ่มความใส่ ใจ
ในตัวซูหยางว่าเขาต้องการอะไร

ไม่กี่วนิ าทีหลังจากจ้าวเซวียนออกไปจากบ้านซูหยาง ถัง


หู และคู่ฝึก เมิ่งเจีย ออกมาจากห้องพวกเขา ทั้งคู่หน้าแดง
และใจเต้นจากการฝึ ก
“ซ..ซูหยาง เจ้ากลับมาแล้ว” ถังหูมองไปยังซูหยางที่ยนื
หน้าประตูและมองออกไปด้านนอกด้วยรอยยิม้ เล็กน้อย

“อืม” ซูหยางหันกลับมามองพวกเขาและยิม้ กว้าง “ยินดี


ด้วยที่เลื่อนระดับ” เขาหัวเราะ

คาพูดของเขาทาให้ท้ งั คู่ตะลึง และสี แดงบนใบหน้ายิง่ เข้ม


ขึ้น

“ซูหยาง…” ถังหู เกาหัว เหมือนมีบางสิ่ งอยูใ่ นใจ

“มิเห็นมีอะไรต้องอาย เจ้าเป็ นชายแล้วหญิงของเจ้าก็อยู่


ข้างๆ เชิดหน้าสง่างามไว้” ซูหยางเดินออกไปจากบ้าน
หลังจากพูด ทั้งคู่ได้แต่มองเขาหายไปด้วยสี หน้าตะลึง
แปลกใจเพราะพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ าย

“ข้าคิดว่า… เขาดูหล่อขึ้นกว่าเดิมที่เคยเห็นก่อนหน้า…”
เมิ่งเจียพูดอย่างแปลกใจ

“…” ถังหู นึกถึงซูหยางผูท้ ี่พดู ติดอ่างทุกประโยค ทาไม


บางคนสามารถเปลี่ยนไปมากมายในช่วงเวลาเล็กน้อย
หรื อการบาดเจ็บทาให้จิตเขาตื่นจากการหลับไหล


ซูหยางตรงกลับไปยังลานฝึ กและเปิ ดป้ายอีกครั้ง เขามี


เจตนารับลูกค้ามากกว่าหนึ่งคนต่อวัน

“ซูหยางกลับมาแล้ว เจ้านัน่ ไปยังมิถึงหนึ่งชัว่ โมงเลย”

“บางทีเด็กนัน่ อาจเปลี่ยนใจ คงงั้นแหละ”

เวลาผ่านไปเช่นเดิมอีกหนึ่งชัว่ โมง ไม่มีใครต้องการใส่ ใจ


กับซูหยาง เขาเหล่านั้นจึงมองดูจากที่ไกลด้วยความอยาก
รู ้ เหมือนดูการแสดงข้างถนน
แต่คราวนี้ซูหยางไม่ตอ้ งรอนานก่อนจะมีใครมา เด็กหญิง
ตัวเล็กที่เดินกระเผลก

“เจ้าเป็ นคนรักษาอาการปวดหลังของศิษย์พี่หญิงจ้าว ใช่


ไหม”

ซูหยางผงกหัวรับ

“อืม… ศิษย์พี่หญิงจ้าวพูดว่าฝี มือเจ้าเป็ นของจริ ง ดู


เหมือนศิษย์พี่เชื่อเจ้า… ดังนั้น… อืม…” เด็กหญิงตัวเล็กดู
เหมือนอายุนอ้ ยกว่าศิษยพี่หญิงจ้าวสองสามปี กระวน
กระวายพยายามพูดความในใจ
“เจ้าอยากรู ้วา่ ข้าสามารถช่วยรักษาขาซ้ายเจ้าได้ ใช่
หรื อไม่”

เด็กหญิงตัวเล็กผงกหัวรับแข็งขัน

“ช่วงกลางวัน ขาซ้ายเจ้าจะไร้ชาด้าน กลางคืนมันจะ


กระตุก เป็ นมานานเท่าไรแล้ว”

“หนึ่งอาทิตย์ได้” เด็กหญิงแปลกใจว่าทาไมซูหยางถึงมอง
ทะลุปัญหาเพียงแค่มองปราดเดียว เธอรู ้สึกว่าไม่สามารถ
ซ่อนอะไรไว้จากสายตาเหมือนเปลือยเปล่าไปถึงกระดูก
ต่อหน้าเขา
“ร..รักษา… ได้ไหม” สายตาเธอมองเขามีประกาย
ความหวัง “ผูอาวุโสนิกายได้ลอง แต่มิมีใครช่วยได้…”

“…”

หลังจากเงียบไปชัว่ ครู่ ซูหยางม้วนป้าย “เงื่อนไขสาม


ข้อ… เจ้าทราบหรื อยัง”

“ทราบแล้ว”

“ยอมรับหรื อไม่”

“ข้ายอมรับ”
“ตามข้ามา”

เหล่าศิษย์มองอ้าปากหวอเมื่อซูหยางพาเด็กหญิงไปจากที่
นัน่

“เจ้าสารเลวซูหยางกาลังจะเอาเปรี ยบเด็กหญิงตัวเล็กๆ…”

“มิมีใครหยุดพวกเขารึ ”

“มันจะเป็ นบทเรี ยนที่ดีของเธอ บางทีคราวหน้าเธออาจจะ


คิดอีกครั้งก่อนที่จะเชื่อคนเช่นซูหยางเวลาต้องการให้
ช่วย”
“ใช่วา่ เราเป็ นศิษย์ร่วมนิกายหมายความว่าเราต้องช่วยคน
อื่น”

ในโลกนี้ที่คนแกร่ งกลืนคนอ่อนแอ ซื่อไร้ประสบการณ์


ไม่ใช่ขอ้ อ้างแต่เป็ นความอ่อนแอ ถ้าไม่สามารถเอาชนะ
ข้อด้อย ก็จะถูกกลืนโดยคนที่แข็งแกร่ งกว่า

ศิษย์นิกายเหล่านั้นไม่ชอบดูเด็กหญิงตัวเล็กถูกเอาเปรี ยบ
แต่ไม่มีใครมีเหตุผลพอที่จะหยุดพวกเขาเช่นกัน ในนิกาย
นี้ทุกคนเหมือนเป็ นคู่แข่งมากกว่าเพื่อน มีศิษย์นอ้ ยเท่าไร
การแย่งทรัพยากรของนิกายก็นอ้ ยลงเท่านั้น เมื่อไร้
ผลประโยชน์กไ็ ม่มีใครต้องการเสี่ ยงช่วยคนแปลกหน้า


ซูหยางพาเด็กหญิงเข้าไปในห้อง โชคดีไม่มีท้ งั ถังหูหรื อ


เมิ่งเจียอยูเ่ ป็ นพยานการพาเด็กหญิงอายุประมาณ 13 กลับ
บ้าน มิเช่นนั้นอาจมีเหตุวนุ่ วายทันทีที่เข้าประตูบา้ น

เด็กหญิงกระวนกระวายตั้งแต่เธอไปหาซูหยาง ไม่วา่ จ้าว


เซวียนจะพูดถึงเขาดีอย่างไร เธอก็ยงั สบายใจไม่เต็มที่
เพียงแค่เข้าหาชายหนุ่มหล่อแบบซูหยางและเข้าห้องสอง
ต่อสองก็ยากเกินรับได้ โดยเฉพาะเด็กหญิงที่เพิ่งเข้านิกาย
อย่างเธอ
“ถุงเท้ายาว ถอดมันออก” ซูหยางพูดหลังปิ ดประตูขงั พวก
เขาไว้ในห้องกันเสี ยง

“…”

“เจ้าถูกงูเกล็ดลายแดงเหลืองเขียวกัดประมาณเดือนก่อน
ใช่ไหม”

“เอ๋ ทาไม..”

“งูนนั่ เรี ยกงูสามฤดู มันสะสมพิษร้ายไว้ในร่ างซึ่ งจะค่อยๆ


ฆ่าสิ่ งที่มนั กัด มิเหมือนพิษอื่นที่กระจายทัว่ ตัวในเวลาชัว่
นาทีหรื อวินาที พิษงูสามฤดูใช้เวลาเป็ นสัปดาห์กว่าจะเริ่ ม
เห็นอาการ ในเดือนแรกขาผูเ้ คราะห์ร้ายจะหมด
สมรรถภาพ และทั้งแขนและขาในเดือนสอง ในเดือน
สามพิษจะกระจายทัว่ ตัวทาให้ตายอย่างทรมานถึงเจ็ดวัน
จากนั้น”

ซูหยางอธิบายจนเด็กหญิงสัน่ สยอง เสื้ อผ้าชุ่มไปด้วย


เหงื่อ ช่างเป็ นพิษร้ายที่กระทัง่ นักฆ่าเลือดเย็นยังหวาดกลัว
นับประสาอะไรกับเด็กหญิง

“โชคดี แค่เดือนเดียวที่เจ้าโดนกัด เจ้าจึงยังมิมีอนั ตราย”

“จ..จริ งรึ ..”


“จริ ง” ซูหยางเช็ดน้ าตาจากพวงแก้มพูดด้วยความมัน่ ใจ
“ถ้าเพียงแค่การนวดทัว่ ไป ข้าคงมิสามารถช่วยเจ้าได้ แต่
โชคดีมือข้าสามารถทาได้มากกว่าทาให้ผอู ้ ื่นรู ้สึกดี”

“อือ…”

เด็กหญิงถอดถุงเท้ายาวสี ขาวเผยให้เห็นขาเรี ยบขาว

“เจ้าชื่อ” ซูหยางถาม

“ซีเยวี่ย 12 ปี ”

“12… และเจ้ามานิกายแบบนี้ มนุษย์ช่างเป็ นอะไรที่…” ซู


หยางถอนหายใจแม้วา่ จะรู ้ความจริ งอยูแ่ ล้ว เขาไม่ได้เยีย่ ม
โลกมนุษย์มาหลายพันปี ในชีวติ ก่อน ดังนั้นเขาไม่รู้จกั วิถี
ชีวติ แต่เมื่อมองและใช้ชีวติ ในโลกมนุษย์ เขาได้แต่ถาม
ถึงความเป็ นมนุษย์ของมนุษย์โลก (3038)

“แม้วา่ จะถูกรับเข้านิกาย แต่ขา้ ยังมิได้รับอนุญาตให้ร่วม


ฝึ กคู่จนกว่าข้าจะเป็ นผูใ้ หญ่อายุถึง 16” ซีเยวี่ยอธิบายด้วย
เสี ยงเอียงอายหลังจากเห็นความไม่สบใจบนใบหน้าซู
หยาง

“นัน่ ค่อยสมเหตุสมผล…” ซูหยางพูดโล่งอก “เอาละนอน


คว่า ข้าจะคลายกล้ามเนื้อบริ เวณขาเจ้าก่อนจะจัดการกับ
พิษ”
ซี เยวีย่ นอนเงียบบนเตียงอย่างเชื่อฟัง รอซูหยางเตรี ยม
ความพร้อม

“เอาละ… เวลาสิ บนาทีของเจ้าเริ่ มละ” มือเขาจับขาของ


เธออย่างรวดเร็ ว เป็ นเหตุให้เสี ยงน่ารักหลุดออกมาจาก
ปากเธอ

ไม่นาน กล้ามเนื้อขาของซีเยวีย่ ก็คลายตัว อาการชาด้านก็


เริ่ มหายจนรับรู ้ได้
DC บทที่ 7: ขจัดพิษ

เพียงสามนาทีกล้ามเนื้อขาซ้ายของซีเยวีย่ ก็ผอ่ นคลาย


อย่างสมบูรณ์ เหมือนซาลาเปาทั้งนิ่มทั้งเรี ยบในมือซู
หยาง

“ข้าจะเริ่ มดูดพิษแล้ว” ซูหยางหยิบเข็มที่เล็กละเอียด


เหมือนเส้นผมให้ดู

ใบหน้าเปี่ ยมสุ ขของซีเยวี่ยชะงักเมื่อมองเห็นเข็ม

“จ..เจ้าจะทาอะไร” เธอถามด้วยน้ าเสี ยงพรั่นพรึ ง


ซูหยางยิม้ ชี้ไปที่ขาซ้าย แต่ยมิ้ หล่อของเขาเป็ นแสยะยิม้
ของปี ศาจในสายตาซีเยวี่ย

“หย..หย..หยุด มันมีทางเดียวเท่านั้นเหรอ”

“แล้วข้าจะดูดพิษได้เช่นไร” เขาตอบคาถามด้วยคาถาม
“ปิ ดตาซะ เจ้าจะมิรู้สึกด้วยซ้ า”

ซี เยวีย่ หลับตาอย่างละล้าละลัง ร่ างสะท้านไม่หยุด

ทันใดมือข้างหนึ่งก็ลูบไปบนศีรษะทาให้เธอรู ้สึกอบอุ่น
ปลอดภัยหยุดสัน่ อีกต่อไป เวลาเดียวกันเข็มในมือซูหยาง
ก็ปักลงไป
รู เล็กจนแทบไม่เห็นด้วยตาเปล่าปรากฏขึ้นบนน่องซ้าย
ของซี เยวีย่ ควันขาวพวยพุง่ ออกมาจากรู เกิดเป็ นหมอก
ขาวเหนือขา

เมื่อหมอกปรากฏซูหยางก็ประกบริ มฝี ปากเข้ากับรู บน


น่องและเริ่ มต้นดูดโดยไม่ลงั เล

“อาา นัน่ ..”

ความรู ้สึกถูกดูดบนน่องทาให้ซีเยวีย่ เบิกตากว้าง เมื่อเห็น


ปากซูหยางบนน่องหน้าเธอก็ปรากฏสี แดงแทบหมดสติ
เพราะความตกใจ
อย่างไรก็ตามแม้จะเห็นการกระทาที่ต่าช้าไร้ยางอายของซู
หยาง เธอก็ไม่ได้ต่อต้าน ยินยอมให้ทาต่อไป เธอหายใจถี่
เร็ วสายตาเต็มไปด้วยความต้องการ…ทางเพศ

เวลาเดียวกันซูหยางตั้งใจเต็มที่ในการดูดพิษผ่านรู เล็กๆ
บนน่อง เสื้ อผ้าเขาเต็มไปด้วยเหงื่อร่ างกายถูกพิษที่ดูด
แผดเผา ทุกส่ วนบนร่ างกรี ดร้องด้วยความเจ็บปวด และ
เพราะว่าเขามีพลังการฝึ กปรื อต่าทาให้ยากต่อการสะกด
พิษในร่ าง ถึงปรารถนาแต่ใช่เวลาที่สุขกับความนุ่มนิ่มบน
ริ มฝี ปากไม่

ในเวลานั้นสิ่ งที่ได้ยนิ ในห้องเล็กและเงียบนั้นมีเพียงเสี ยง


หอบหายใจและครางเบาๆของซีเยวีย่ เท่านั้น แต่ละนาที
ผ่านเหมือนชัว่ โมงสาหรับทั้งคู่ หนึ่งในอ้อมกอดของ
ความสุ ขสม อีกหนึ่งกล้ ากลืนฝื นทนเจ็บปวด
เมื่อเวลาผ่านสิ บนาทีไปเล็กน้อย ซูหยางก็ถอนริ มฝี ปาก

ซูหยางถ่มเลือดสี ดาออกทันทีที่ริมฝี ปากพ้นน่องนิ่มของซี


เยวี่ย ใบหน้าเขาซีดขาว

ซูหยางเช็ดเลือดดาจากมุมปากและยิา้ “นานมากแล้วที่ขา้
ต้องเสี ยเหงื่อเช่นนี้ระหว่างรักษา…”

ซูหยางล้มลงบนเตียงข้างซีเยวีย่ หลังพูดจบ เกือบสิ้ นสติ

“จ..จ..เจ้าไหวไหม” ซี หยางร้องลัน่ อย่างตกใจ


“โชคดี พิษยังมิแพร่ กระจายไปยังส่ วนอื่นอยูเ่ พียงแค่ขา
ซ้าย ข้าจึงสามารถดูดพิษออกโดยมิมีปัญหา แต่พลังฝี มือ
แค่ระดับสามเขตปฐมวิญญาณทาให้ปราณไร้ลกั ษณ์นอ้ ย
นิดนี้หมดสิ้ นอย่างรวดเร็ ว ข้าเพียงแค่หมดแรงเพราะ
ปราณไร้ลกั ษณ์… ปล่อยข้านอนสักพักก็จะหาย… อย่า
ลืม… เงื่อนไข…”

ซูหยางหลับไปทันทีเมื่อสิ้ นคาพูด ซีเยวีย่ ตะลึงไม่รู้จะทา


อะไร แต่เมื่อเขาพูดว่าเขาไม่เป็ นอะไร เธอก็โล่งอก

หลังจากแต่งตัวแล้ว ซี เยวีย่ ช่วยจัดท่านอนประหลาดให้ซู


หยางและห่มผ้าให้ก่อนจะจากไปอย่างเงียบๆ


เมื่อซูหยางตื่นขึ้นมาก็เป็ นเวลาเช้าของอีกวัน เขาลุกนัง่


แล้วมองผ้าห่มที่คลุมตัว “เป็ นคนใจดีเหมือนกันนะ” เขา
ยิม้

แม้จะคาดไว้วา่ มันจะค่อนข้างมีปัญหาในการรักษาซีเยวี่ย
เขาไม่คิดว่ามันจะท้าทายเช่นนี้เพราะพลังการฝึ กปรื อที่ต่า
“ข้าต้องการเพิ่มพลังการฝึ กปรื อจริ งๆ… แต่ก่อนจะรับ
พลังวิญญาณหยางแท้และล้างสิ่ งสกปรกในร่ าง ข้าต้อง
คุน้ เคยกับร่ างนี้และพลังฝี มือที่ไร้ค่านี้ก่อน”

ซูหยางลงจากเตียงและอาบน้ าอย่างรวดเร็ ว หลังจากนั้น


เขากลับมานัง่ ที่เตียงในท่าขัดสมาธิดอกบัว

ลึกลงไปในใจ เทคนิคการฝึ กปราณมากมายที่เขาร่ าเรี ยน


ในชาติก่อนปรากฏขึ้นทีละชิ้น เขาไม่ใช่แค่เพียงเพลย์บอย
ในชาติก่อน แต่ยงั เป็ นผูฝ้ ึ กฝนและหมอด้วย ดังนั้นเขาจึง
มีขอ้ มูลมากมายให้เลือก

“คัมภีร์หลอมร่ างสวรรค์…หนึ่งในเจ็ดคัมภีร์สวรรค์สูงสุ ด
ของรักของจักรพรรดิ์สวรรค์…”
ในชีวติ ก่อน ซูหยางไม่สามารถฝึ กฝนคัมภีร์หลอมร่ าง
สวรรค์น้ ีเพราะเขาได้รับมันช้าเกินไปและเขาได้หลอม
ร่ างเขาไปแล้ว

“มิเพียงแต่ขา้ ขโมยกายและใจลูกสาวของท่าน ข้ายังได้รับ


เทคนิคการฝึ กปราณที่ท่านชื่นชอบ ถ้าจักรพรรดิ์สวรรค์
่ ข้าต้องหลีกเลี่ยงท่านทุกวิถีทาง…”
ยังมีชีวติ อยู…

เขาปิ ดตา และเริ่ มสาธยายคัมภีร์หลอมร่ างสวรรค์ที่อยูใ่ น


หัว

“กลืนจักรวาล หลอมร่ าง สร้างกายเซียน – ร่ างสวรรค์”


คัมภีร์หลอมร่ างสวรรค์เป็ นเทคนิคที่ใช้ฝึกทั้งร่ างกายและ
พลังฝี มือ เพื่อที่ให้ได้ร่างสวรรค์ เขาต้องดูดกลืนปราณไร้
ลักษณ์และหลอมให้เป็ นของตัวเองกระจายไปเป็ นพลัง
ปราณและปรับสภาพร่ างกายพร้อมกัน

มีสองเส้นทางที่จะฝึ กฝนจนกลายเป็ นเซียน

เส้นทางแรกคือการหลอมปราณ หลอมปราณไร้ลกั ษณ์


ส่ วนใหญ่ผทู ้ ี่ฝึกเป็ นเซี ยนเลือกใช้เส้นทางนี้ เส้นทางนี้ทา
ให้ผฝู ้ ึ กสามารถใช้เทคนิคที่เปี่ ยมพลัง ควบคุมแรงโน้ม
ถ่วง เหิ นร่ างบนฟ้า หรื อเปลี่ยนสภาพอากาศ มันเป็ น
เส้นทางที่ลึกล้ าและมีเสน่ห์
อีกเส้นทางคือการหลอมร่ าง หลอมสร้างร่ างกาย มีคา
กล่าวว่าการหลอมร่ างยากกว่าการหลอมปราณหลายสิ บ
เท่า ซึ่ งต้องอดทนต่อความเจ็บปวดทนทรมานมากมาย
เพื่อเลื่อนระดับเพียงเล็กน้อย แต่การทนทรมานทาให้พวก
เขาสามารถย้ายภูเขาด้วยมือเปล่า เปลี่ยนสภาพภูมิประเทศ
หรื อเจาะรู บนดวงดาวด้วยนิ้วมือ

โดยทัว่ ไป แต่ละคนจะต้องเลือกเส้นทางว่าจะเป็ นหลอม


ปราณหรื อหลอมร่ าง ไม่ใช่ท้ งั คู่เพราะว่าเวลาที่ตอ้ งใช้
มหาศาลสาหรับการฝึ กฝนทั้งสองแบบ แต่คมั ภีร์หลอม
ร่ างสวรรค์กลับอนุญาตให้สามารถฝึ กทั้งหลอมปราณและ
หลอมร่ างไปพร้อมกัน จึงถือเป็ นคัมภีร์สวรรค์สูงสุ ด
(3038)
ทันใดร่ างของซูหยางก็เปลี่ยนเป็ นสี แดงเหมือนถูกย่าง
ด้วยไฟ อุณหภูมิร่างเพิ่มไปจนเกือบ 150 องศาเซลเซียส
ภายในไม่กี่นาที กลิ่นเหม็นไหม้โชยจากใต้ร่างของเขา
เขากาลังเผาที่นอนด้วยอุณภูมิจากร่ างกาย

ซูหยางใช้พิษงูสามฤดูที่คงเหลืออยูใ่ นร่ างเพื่อแผดเผาร่ าง


เขาตัดสิ นใจทาหลังจากเห็นซีเยวี่ย

แม้วา่ เขาจะไม่มีคู่ฝึกสาหรับฝึ กคู่ ก็ยงั มีหลายเส้นทาง


สาหรับฝึ ก แม้วา่ จะไม่สุขสบายเหมือนการฝึ กคู่ที่สามารถ
สนุกอยูใ่ นอ้อมกอดของอีกฝ่ าย วิธีน้ ีกย็ งั เป็ นวิธีการฝึ ก
สาคัญของโลกและให้ประโยชน์มากกว่าการฝึ กคู่ใน
หลายสถานการณ์
ครึ่ งชัว่ โมงหลังจากนั้น ความรู ้สึกสดชื่นก็พลุ่งขึ้นภายใน
ร่ างซูหยางทาให้ร่างเย็นลง เขาเลื่อนเป็ นระดับสี่ เขตปฐม
วิญญาณและขั้นเริ่ มต้นของหลอมร่ างปฐมวิญญาณไป
พร้อมกัน
DC บทที่ 8: สาเหตุทที่ ่ านยังโสด

ทันที่ที่อาบน้ าเสร็ จซูหยางก็กลับไปที่ลานฝึ กที่มีศิษย์


นิกายฝึ กฝนฝี มือกันที่นนั่

“เจ้าซูหยางกลับมาแล้ว ช่างยึดมัน่ กับแผนเหลือเกิน…”

“เกิดอะไรขึ้นกับสองคนที่กล้าตามเขาไป พวกเธอรายงาน
พฤติกรรมซูหยางหรื อยัง”

“เอ๋ เจ้ามิได้ยนิ รึ มิเพียงแต่ท้ งั คู่พอใจอย่างมาก ยัง


ช่วยเหลือเจ้านัน่ ป่ าวประกาศชื่นชมการบริ การด้วย”
“อะไร ซูหยางทาอะไรให้พวกเธอถึงทาตัวเหมือนหมาที่
พยายามให้เจ้าของพอใจ”

“ใครจะรู ้ แต่เมื่อข้าเห็นจ้าวเซวียนเมื่อคืน เธอเต็มไปด้วย


รอยยิม้ ราวกับว่าได้เกิดใหม่”

“เฮ้ ดูนนั่ ”

“นัน่ …”

“ศิษย์คานับผูอ้ าวุโสหลาน”
เหล่าศิษย์นิกายต่างพากันคานับหญิงสาวสวยที่เดินมาหา
พวกเขาจากที่ไกล ข้างเธอมีเด็กหญิงน่ารักผิวละเอียด
ใบหน้าผ่องใส

“ศิษย์พี่ชายซู”

นัน่ คือซี เยวีย่ ที่ทกั ทายเขาด้วยรอยยิม้ แจ่มใส

“ดูจากที่การวิง่ ของเจ้า ข้าประเมินว่าขาเจ้าหายแล้ว ใช่


ไหม”

ซีเยวี่ยผงกหัว “ใช่แล้ว ขอบคุณศิษย์พี่ชายซูและการรักษา


ที่มหัศจรรย์ เมื่อคืนอาการปวดหายไปข้าสามารถหลับได้
สนิทเป็ นครั้งแรกในช่วงที่ผา่ นมา”
“ยินดีที่ได้ยนิ ” ซูหยางยิม้ ให้อย่างสุ ภาพแฝงความห่วงไย
เป็ นเหตุให้ซีเยวี่ยหน้าแดง

“ฮิฮิฮิ…” ภาพซูหยางดูดน่องของเธอวานนี้ปรากฏขึ้นใน
ใจซีเยวี่ย ความรู ้สึกที่ริมฝี ปากเขาประทับลงไปยังจาได้
ลึกซึ้ งเหมือนว่ามันประทับลึกลงไปในใจ

“เจ้าเป็ นคนรักษาเธอเมื่อวานนี้รึ” สาวสวยดูอายุประมาณ


ยีส่ ิ บกว่าถามขณะที่มาถึงเบื้องหน้าพวกเขา

“ข้าเอง”
สาวสวยซึ่งถูกเรี ยกว่าผูอ้ าวุโสหลานจากเหล่าศิษย์ขมวด
คิ้วจากการทาตัวเฉยเมยของซูหยาง “ซูหยาง 16 ปี อยูใ่ น
นิกายมาเกือบปี ในฐานะศิษย์นอกแต่ยงั มิมีคู่ฝึก อีกทั้งคา
ร่ าลือว่าปั ญญาอ่อนและทาอะไรมิเป็ น… เจ้าทาได้อย่างไร
เจ้าเด็กนี่มิยอมบอกข้าว่าเจ้ารักษาเธอได้เช่นไรแม้แต่
น้อย”

ซูหยางมองซีเยวี่ยที่หน้าแดงเมื่อได้ยนิ คาถามผูอ้ าวุโส


หลานและพูดว่า “ข้าขออภัยล่วงหน้า แต่นี่เป็ นเรื่ อง
ส่ วนตัวระหว่างลูกค้ากับข้า ข้ามิได้รับอนุญาตให้เปิ ดเผย
ข้อมูลกับคนแปลกหน้า”

“เจ้าพูดว่าเช่นไร” ผูอ้ าวุโสหลานหน้าดาคร่ าเครี ยด “ข้า


จาต้องเตือนหรื อไม่วา่ เจ้ากาลังพูดอยูก่ บั ใคร ข้าคือผู ้
อาวุโสหลาน หัวหน้าผูอ้ าวุโสของตึกพยาบาลศิษย์นอก
อาการเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งหมดของศิษย์นอกอยูภ่ ายใต้การ
ดูแลของข้า นัน่ หมายถึงเธอก็อยูใ่ นการดูแลของข้าเช่นกัน

“…แล้ว” ซูหยางทาตัวเฉยเมยเช่นเดิมไม่มีผลกระทบจาก
การจ้องแทบกินเลือดกินเนื้อของเธอ เขาพูดต่อ “นัน่ มี
อะไรเกี่ยวข้องกับข้ารึ ”

“จ..เจ้า… เจ้าเด็กผยองไร้คารวะผูอ้ าวุโส”

“พี่หลาน หยุด” ซีเยวี่ยผวาเรี ยกผูอ้ าวุโสหลานที่จะตบ


หน้าซูหยางโดยไม่ออมแรงให้หยุด

“…” ผูอ้ าวุโสหลานสะกดความโกรธในอกสู ดลมหายใจ


ลึก “ซี เยวีย่ เจ้ามัน่ ใจว่าเจ้าเด็กเลวเหม็นเน่านี้สามารถ
รักษาขาเจ้าได้ท้ งั ที่หมอผูช้ ่าชองเช่นข้า… มิอาจบอกได้วา่
เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า”

ซูหยางหัวเราะเมื่อผูอ้ าวุโสหลานเรี ยกตนเองว่าหมอ


ผูเ้ ชี่ยวชาญจนทาให้เธอจ้องมองเขา เธอรู ้สึกว่าเขาหัวเราะ
เยาะ

“พี่สาวหลาน เรามิได้มาวันนี้เพื่อระรานศิษย์พี่ชายซูนะ
เรามาขอความช่วยเหลือ” ซีเยวีย่ พูดกับเธอด้วยน้ าเสี ยง
กังวลเหมือนเป็ นพี่สาวคนโต

ผูอ้ าวุโสหลานแค่นเสี ยงเย็นเยียบ “เด็กเลวที่อายุมิถึงครึ่ ง


ของข้าเช่นเจ้านี่จะทาอะไรได้ มิมีทางที่เจ้าเด็กผยองนี่จะ
ช่วยข้าได้”
“เจ้าพูดถูกแล้ว ข้าช่วยรักษาอาการปวดรุ นแรงที่บ้ นั ท้าย
ตอนเจ้านัง่ มิได้ ไปหาคนที่มีความสามารถ คนที่มีอายุ
มากกว่าเจ้าเท่าตัว…”

ผูอ้ าวุโสหลานหนังตากระตุกอย่างควบคุมไม่ได้จาก
ถ้อยคาเหน็บแนมของซูหยาง

“ดูสิ ศิษย์พี่ชายซูรู้จริ ง เขาสามารถบอกได้วา่ ท่านเจ็บปวด


จากการมองเพียงแวบเดียว ท่านต้องให้เขาช่วยท่าน”

คาพูดไร้เดียงสาของซี เยวีย่ คล้ายมีดคมทิ่มดวงใจผูอ้ าวุโส


หลาน แม้วา่ เธอไม่อยากจะยอมรับ แต่ความรู ้จริ งของซู
หยางเพิ่มความประหลาดใจแก่เธอมากขึ้น
“แม้วา่ เธอเชื่อเจ้า ข้ามิมีทางเชื่อเจ้า กลับ ซีเยวีย่ ” ผูอ้ าวุโส
หลานหมุนตัวลากเอาซี เยวีย่ ไปกับเธอด้วย

เหล่าศิษย์แถวนั้นต่างพากันประหลาดใจว่าพวกเธอมี
ความสัมพันธ์อะไรกัน พวกเธอคล้ายพี่นอ้ ง แต่ทุกคนรู ้ดี
ว่าผูอ้ าวุโสหลานไม่มีญาติ


“พี่สาวหลาน ท่านเจ็บหนักมาสองสามวันจากอาการ
บาดเจ็บ กระทัง่ ฝึ กปราณมิได้ ถ้าเป็ นเช่นนี้ต่อไป…”

“อย่ากังวลเรื่ องข้า ซี เยวีย่ ข้าจะหาทางรักษาตัวโดยมิตอ้ ง


พึ่งเจ้าซูหยาง เจ้านัน่ เป็ นเพียงศิษย์นอกขณะที่ขา้ เป็ นผู ้
อาวุโสนิกาย ข้าต้องเสี ยหน้าแย่ถา้ ต้องขอความช่วยเหลือ
จากเจ้านัน่ ”

“…” ซี เยวีย่ ถอนใจจากความดื้อดึงของอีกฝ่ าย เธอรู ้จกั ผู ้


อาวุโสหลานตั้งแต่เธอแบเบาะเพราะว่าครอบครัวของ
พวกเขามีความสัมพันธ์กนั แม้วา่ จะไม่ใช่พี่นอ้ งแท้จริ ง
แต่กถ็ ือกันเหมือนเป็ นญาติสนิท (3038)
“พี่สาวหลาน… นี่เป็ นเหตุผลว่าทาไมท่านถึงยังโสด…
ท่านทะนงตนเกินไป และท่านอายุ 40 แล้ว… ถ้าเป็ น
เช่นนี้ต่อไปท่านต้องโสดไปจนตาย”

คาพูดซี เยวีย่ เกือบทาให้ผอู ้ าวุโสหลานกระอักเลือด “เจ้า


เด็กเลว เจ้ายังเด็กเกินที่จะมีคู่ฝึกแล้วยังมาพูดถึงข้า ข้าจะ
ให้เจ้าเรี ยกข้าว่าผูอ้ าวุโสหลานทั้งอาทิตย์”

“เอ๋ แต่…”

“ไม่มีแต่ ข้าคือผูอ้ าวุหลานของเจ้าเป็ นเวลาหนึ่งอาทิตย์”


ซี เยวีย่ ถอนหายใจ เธอหันไปมองซูหยางที่ยงั ยืนอยูอ่ ย่าง
เงียบสงบ “ศิษย์พี่ชายซู…” เธอหน้าแดงเมื่อมองไปยัง
หน้าเขา
DC บทที่ 9: ฉี่รดที่นอน

ซูหยางยืนอยูท่ ี่ลานฝึ กจนกระทัง่ ตะวันตกดินโดยไม่มี


ลูกค้าสักคน แต่เขาก็ยงั ไม่ยอมจากและยืนต่อไปเหมือน
รู ปปั้นหิ น

บรรดาศิษย์ที่นนั่ ต่างพากันแปลกใจที่เห็นคนอดทน
เช่นนั้น และคนที่ไม่ทราบถึงตัวตนของเขาต่างพากันหลง
เสน่ห์กลิ่นอายสู งศักดิ์ พวกเขารู ้สึกเหมือนได้รับการ
คุม้ ครองจากวิญญาณปกป้อง

เวาลผ่านไปอย่างรวดเร็ ว ไม่นานค่าคืนก็คลี่ปกคลุม แต่ก็


ยังไม่มีลูกค้าสักคนที่เข้าไปหาเขา
แม้วา่ เขาจะไม่มีลูกค้าทั้งวัน ซูหยางหาได้เสี ยขวัญหรื อ
กังวลแม้แต่นอ้ ย เขายังคงเต็มไปด้วยความมัน่ ใจและเงียบ
สงบตั้งแต่เช้าจนถึงค่า ความอดทนเช่นนี้ทาให้หลายคน
แอบนับถือเขา หวังว่าจะทาได้เช่นเดียวกันในการฝึ กฝน
ของพวกเขา

หลังจากนั้นสักพักซูหยางก็ขยับตัว เขาเงยหน้ามองไปยัง
ฟ้ายามค่า แต่สิ่งที่อยูใ่ นห้วงคานึงของเขาคือบั้นท้ายกลม
มนของผูอ้ าวุโสหลาน

“สอง… ไม่ วันเดียวเต็มที่ เฮอะ” ซูหยางพึมพัม เขาเริ่ ม


ม้วนป้ายและเตรี ยมตัวกลับบ้านหลังจากนั้น


หลังจากส่ งซีเยวี่ยกลับไปยังที่พกั ผูอ้ าวุโสหลานตรง


กลับไปยังที่พกั นอนคว่าอยูบ่ นเตียง ตั้งแต่เธอไม่อาจนัง่
ได้ดว้ ยความเจ็บบั้นท้ายการฝึ กปราณจึงต้องชะงักตั้งแต่
สองสามวันก่อน

“มันช่างเลวร้าย…” เธอทอดถอนใจใต้หมอน
ความเจ็บเริ่ มเมื่ออาทิตย์ก่อนโดยไม่มีลางบอกเหตุและ
เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ วนับแต่น้ นั เมื่อไม่อาจนัง่ ได้โดยไม่
ครวญครางเธอจึงได้แต่ยนื หรื อนอนอยูบ่ นเตียงเท่านั้น

“ถ้าเป็ นเช่นนี้ต่อไป ข้าคงต้องทนเดินปวด… ข้าต้องรักษา


อย่างเร็ วที่สุดเท่าที่เป็ นไปได้…”

ฉับพลันภาพของซูหยางและใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็
ปรากฏขึ้นในห้วงความคิดทาให้เธอรู ้สึกเคือง “ทาไมต้อง
นึกถึงเจ้าเด็กหยาบคายนัน่ ” เธออยากเมินเขาแต่เขาสามาร
รถรักษาขาซี เยวีย่ ได้จริ งเป็ นเรื่ องไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
“เขาทาได้เช่นไร ข้ามิอาจเห็นกระทัง่ ปัญหาด้วย
ประสบการณ์กว่าสิ บปี แต่เขากลับรักษาเธอภายในชัว่ คืน
เดียวโดยมิมีจุดด่างพร้อยเลย”

“อาาา เจ้าเด็กร้ายซีเยวี่ย ทาไมเธอมิบอกอะไรข้าเลย ข้า


เป็ นคนไม่น่าเชื่อถือหรื อไร”

ยิง่ เธอคิดถึงสถานการณ์ระหว่างซูหยางและซีเยวีย่ ยิง่ ทา


ให้เธอโกรธ ทันใดระหว่างที่คิดความเจ็บปวดรุ นแรงจู่
โจมบั้นท้ายจนเธอร้องเสี ยงดัง ความเจ็บคล้ายกับถูกดาบ
คมแทงเข้าไปด้านหลังซ้ าแล้วซ้ าเล่าเกือบทาให้เธอสิ้ นสติ

ในชัว่ อายุสี่สิบปี เธอไม่เคยพบประสบการณ์ที่เจ็บปวด


ดังเช่นที่เป็ นอยูป่ ั จจุบนั
ต่อจากนั้นความเจ็บปวดไม่ได้ลดลงแต่กลับรุ นแรงยิง่ ขึ้น
ภายในไม่กี่นาทีเธอถึงกับหมดสติร่างเต็มไปด้วยเหงื่อ

เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็เป็ นเวลาเช้าแล้วเสื้ อผ้าของเธอเปี ยกชื้น


ผ้าปูเตียงเปี ยกโชกแต่ไม่ใช่เหงื่อ มันเป็ นอะไรบางอย่างที่
แตกต่างออกไป
“ข้า..ข้า..” เมื่อคิดว่าเธอฉี่ รดที่นอนตอนอายุสี่สิบเป็ นเหตุ
ให้เธอร้อนแดงไปทั้งหน้า โชคดีที่เธออาศัยอยูค่ นเดียว ถ้า
มีใครเห็นเธอฉี่ รดที่นอนเมื่ออายุปูนนี้แล้วเธอคงเสี ยหน้า
และหมดกาลังใจที่จะอยูต่ ่อ

เมื่อถึงขั้นฉี่ รดที่นอนเธอจึงตระหนักว่าเธอต้องการความ
ช่วยเหลือ ถ้าปล่อยไปไม่แน่วา่ อาจจะเกิดซ้ าอีกในวัน
พรุ่ งนี้โดยไม่ตอ้ งคิดไปถึงอีกอาทิตย์นบั แต่น้ ี เพียงแค่คิด
ก็ทาให้เธอหวาดหวัน่ สัน่ สะท้าน

“แต่ที่ไหนจะช่วยข้าได้ ใครสามารถช่วยข้าได้” ผูอ้ าวุโส


หลานพร่ าเพ้อมืดแปดด้าน ตัวเธอถือว่าเป็ นหมอที่ดีที่สุด
คนหนึ่งในนิกายแต่เธอยังไม่สามารถช่วยตัวเองได้
ทันใดเธอก็นึกถึงภาพซี เยวีย่ ยิม้ ข้างเธอมีเด็กหนุ่มหล่อสี
หน้าเงียบสงบเปี่ ยมด้วยความมัน่ ใจ

“ซูหยาง” ผูอ้ าวุโสหลานรี บทาความสะอาดตนเองแล้วรี บ


ไปยังลานฝึ ก แต่ทว่าไม่มีซูหยางหรื อป้ายผ้าที่จดั ทาอย่าง
หยาบๆ ให้เห็นแม้แต่นอ้ ย

เธอรี บไปยังที่พกั ของชีเยวี่ย

“ชีเยวี่ย ตื่นเร็ ว” ผูอ้ าวุโสหลานเปิ ดประตูเข้าไปในที่พกั


ของชีเยวีย่ โดยตรงด้วยกุญแจสารองซึ่ งชีเยวีย่ ให้เธอเก็บ
ไว้ในกรณี ฉุกเฉิ น
“อืมมมมม.. พี่สาวหลาน…” ชีเยวีย่ ขยี้ตางัวเงีย งุนงงว่า
ทาไมผูอ้ าวุโสหลานมาที่นี่

“ซูหยาง อาศัยอยูท่ ี่ไหน ข้าต้องการพบเขาตอนนี้”

“เอ๋ ศิษย์พี่ชายซู” ชีเยวีย่ ไม่เคยเห็นพีส่ าวหลานกระวน


กระวายเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นเธอจึงพลอยตกใจตามไปด้วย
“ศิษย์พี่ชายซูทาอะไร เขามีปัญหารึ ” (3038)

“ไม่… ข.. ข้าต้องการรู ้วา่ เขาสามารถ… สามารถ


รักษาการบาดเจ็บข้าหรื อไม่…” ผูอ้ าวุโสหลานเค้นเหตุผล
ที่เธอต้องการพบเขาออกมาจากปากอย่างกระดากอาย
ชีเยวีย่ ตะลึงมองชัว่ ขณะก่อนดวงตาจะเปล่งประกาย
“พี่สาวหลานต้องการให้ศิษย์พี่ชายซูรักษาใช่ไหม ข้าจะ
พาท่านไปหาเขาที่ที่พกั ทันทีเลย” ชีเยวี่ยพูดเสี ยงเคล้าสุ ข
ขณะกระโดดออกจากเตียง

“อือ…” ผูอ้ าวุโสหลานผงกหัว แม้วา่ จะยังมีร่องรอยความ


สงสัยในใจ

จะเป็ นได้หรื อที่ศิษย์นอกธรรมดาเช่นซูหยางจะรักษา


อาการบาดเจ็บของเธอ แม้วา่ ยังลังเลแต่ความเร่ งด่วนใน
ใจเหนือกว่าความไม่มนั่ ใจ เธอไม่สามารถทนความ
เจ็บปวดเช่นเมื่อคืนหรื อต้องตื่นขึ้นมาพบตนเองฉี่ รดที่
นอนอีกแล้ว
DC บทที่ 10: สาวสวยหน้ าประตู

ผูอ้ าวุโสหลานตบประตูที่พกั ซูหยาง แต่ผทู ้ ี่ออกมาพบ


พวกเขากลับเป็ นถังหู เพื่อนร่ วมบ้าน

“ผูอ้ าวุโสหลาน” เขามองดูดว้ ยใจหวัน่ เกินกว่าจะ


ประหลาดใจที่เห็นผูอ้ าวุโสนิกายมาตบประตูเรี ยก เขา
ไม่ได้ทาอะไรล่วงเกินผูอ้ าวุโสใช่ไหม

“ศ..ศิษย์คาน…”

“พาศิษย์ซูหยางมาที่นี่” ผูอ้ าวุโสหลานตัดบท

“เอ๋ ซูหยาง อืมมม.. เขาออกไปได้สกั พัก…”


“อะไร เขาไปไหน” ผูอ้ าวุโสหลานขมวดคิ้ว “อย่าบอกว่า
เขากลับไปลานฝึ กขณะที่ขา้ ไปหาชีเยวี่ย…” เธอคิด

“เขามิได้บอกว่าจะไปไหน…”

“พี่… ผูอ้ าวุโสหลาน บางทีศิษย์พี่ชายซูอาจไปลานฝึ ก


เหมือนทุกครั้ง”

“เจ้า… บอกซูหยางเมื่อกลับมาว่า ข้ามองหาเขาอยูด่ ว้ ยเหตุ


สาคัญที่มิอาจรอช้า” ผูอ้ าวุโสหลานเดินกระทืบเท้าไปยัง
ลานฝึ ก ปล่อยให้ถงั หูตะลึงและสงสัยว่าซูหยางไป
ล่วงเกินอะไรผูอ้ าวุโสนิกายเช่นผูอ้ าวุโสหลาน
ผูอ้ าวุโสหลานและชีเยวีย่ ตรงไปลานฝึ กหวังว่าจะเจอ
หนุ่มหล่อยืนข้างป้ายเน่าๆ แต่อนิจจา ไม่มีแม้แต่เงา

“ศิษย์คานับผูอ้ าวุโสหลาน..”

“มีใครในพวกเจ้าเห็นศิษย์ที่ชื่อซูหยางที่ชอบมายืนตรง
นั้นเหมือนคนปั ญญาอ่อน” ผูอ้ าวุโสหลานถามบรรดา
ศิษย์ที่กาลังฝึ กฝนอยูแ่ ถวนั้นแต่ทุกคนส่ ายหัว

“เจ้านัน่ ไปไหน ชีเยวีย่ ไปถามให้ทวั่ ว่ามีใครเห็นซูหยาง


หรื อไม่ ถ้ายังหามิเจอภายในครึ่ งชัว่ ยาม กลับมาเจอข้าที่นี่
ถ้าเจอเขาก็ให้พามาที่นี่ และถ้าข้ามิกลับมาภายในครึ่ งชัว่
ยามหมายความว่าข้าเจอตัวเขาแล้ว”
“ค่า”

ผูอ้ าวุโสหลานมองไปยังบรรดาศิษย์เหล่านั้นและพูดว่า
“ถ้าใครเจอศิษย์ซูหยาง บอกเขาว่าผูอ้ าวุโสหลานตามหา
อยู่ และถ้าเจ้าพาเขามาหาข้า ข้าจะให้ 100 แต้มรางวัล”

“ร้อยแต้มรางวัล นัน่ เป็ นรางวัลที่ให้สาหรับกิจกรรมเสี่ ยง


ตาย”

บรรดาศิษย์ต่างพากันตื่นเต้นกับรางวัลที่ผอู ้ าวุโสหลานจะ
ให้ คนที่หล่อเหลาเหมือนซูหยางดูสะดุดตามิใช่รึ และ
ศิษย์นอกแทบทุกคนรู ้จกั หน้าเขา ดังนั้นกิจกรรมนี้ช่าง
ง่ายดายนัก
บรรดาศิษย์โถมออกไปจากลานฝึ กราวกับหนีไฟ และ
นับเป็ นครั้งแรกนับแต่ก่อตั้งนิกายที่ลานฝึ กดูรกร้าง

ที่ไหนสักแห่งของเขตศิษย์นอก ซูหยางพลิกดูหน้า
หนังสื ออย่างลวกๆ ข้างตัวของเขาเต็มไปด้วยหนังสื อและ
ม้วนคัมภีร์กองสู งท่วมศีรษะ เขาอยูใ่ นห้องสมุดซึ่ งมี
บันทึกเหตุกาณ์และวิชาปราณเก็บสะสมอยู่
ห้องสมุด หอคัมภีร์พน้ พิสยั เป็ นสถานที่เก็บรวบรวม
ข้อมูลข่าวสารให้แก่บรรดาศิษย์และผูอ้ าวุโส ไม่วา่ จะเป็ น
บันทึกโบราณเกี่ยวกับเทพนิยายหรื อตานานหรื อคัมภีร์
ปราณลึกล้ าต่างๆ ล้วนปรากฏที่นี่

ซูหยางพยายามศึกษาให้มากเกี่ยวกับโลกนี้ โลกที่เขาโผล่
มาอย่างลึกลับ อย่างไรก็ตามในโลกปุถุชนย่อมมีส่ิ งที่เขา
อยากรู ้นอ้ ยนิดหรื อไม่มีเลย

ตาหนักเทพจันทรา วิหารสวรรค์ หรื อกระทัง่ ดินแดนเทพ


ที่ทุกคนอาศัยอยูใ่ นชีวติ ก่อนล้วนไม่ปรากฏในโลกนี้ รวม
ไปถึงตานานหรื อนิทาน
“นี่ขา้ อยูใ่ นภพเดียวกันหรื อข้าเกิดมาอยูต่ ่างภพที่ขา้ มิรู้จกั
แม้แต่นอ้ ย” ซูหยางวางหนังสื อลงและถอนหายใจ สายตา
เปี่ ยมด้วยความสงสัย “แต่มนั ก็มีหลายสิ่ งที่นี่ที่ขา้ คุน้ เคย
เช่นดอกหยางบริ สุทธิ์ แม้กระทัง่ ขั้นตอนการฝึ กปราณยัง
เหมือนกัน…”

ในชีวติ ก่อน ซูหยางไม่เพียงท่องเที่ยวไปเฉพาะในโลก


ของเขา แต่ท้ งั สี่ โลกในพื้นภพ ถ้าเขาอยูใ่ นที่ใดในสี่ โลกนี้
เขาย่อมรู ้จกั แต่นี่เขากลับไม่มีเบาะแสแม้แต่นอ้ ยว่าอยูท่ ี่
ใด

“ที่นี่ชดั เจนว่าเป็ นโลกปุถุชน แต่ทวีปตะวันออกคือที่ไหน


นานแค่ไหนแล้วที่ขา้ จากหน้าผาบาปนิรันดร์” คาถามไร้
คาตอบมากมายเกิดขึ้นในใจ
หลังจากมองคัมภีร์ผา่ นไปอีกสองสามเล่ม ซูหยางก็ได้
ข้อสรุ ปว่าถ้าเขาไม่ออกจากนิกายไปเรี ยนรู ้ให้มาก
เกี่ยวกับโลก เขาคงไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าคนรักอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามมันยังเร็ วเกินไปที่เขาจะออกไป สาเหตุหลัก


คือเขายังอ่อนแอมาก ด้วยฐานการฝึ กปราณขณะนี้ลืมได้
เลยที่จะเอาชีวติ รอดในโลกกว้าง อย่าคิดแม้จะหาคนรักที่
กระจัดกระจายอยูท่ วั่ ฟ้ากว้าง

และสถานะปั จจุบนั ของเขา ผูเ้ ชี่ยวชาญการต่อสู ้อาจจะบี้


เขาด้วยนิ้วอย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาต้องอยูใ่ นนิกาย
จนกระทัง่ เขามีพลังฝี มือเพียงพอที่จะท่องเที่ยวไปโดย
ปราศจากอันตรายร้ายแรง
ซูหยางสู ดลมหายใจลึกมองไปยังสาวสวยที่เดินเข้าออก
ห้องสมุด “เมื่อข้าได้รับดอกหยางบริ สุทธิ์ถือว่าข้าได้
เริ่ มต้นฝึ กฝนอย่างแท้จริ ง” สายตาเขาเปล่งประกายแสง
ลึกล้ า

ซูหยางนัง่ อยูท่ ี่มุมห้องสมุดจนกระทัง่ ตะวันตกดิน เขาจึง


ตัดสิ นใจจากไป หลังจากจัดการสถานที่แล้วซูหยางก็ออก
จากห้องสมุดกลับที่พกั และพบหญิงเติบโตเต็มสาวยืนอยู่
หน้าประตูดว้ ยสี หน้าฉุนเฉี ยว (3038)

ทันทีที่สาวใหญ่เห็นซูหยาง สายตาเธอเบิกกว้าง “ซูหยาง


เจ้าไปไหนมาทั้งวัน เจ้ามิคิดบ้างรึ วา่ ข้ารอเจ้าอยูท่ ี่นี่นาน
เท่าไรแล้ว ศิษย์สามัญเช่นเจ้ากล้าให้ผอู ้ าวุโสนิกายเช่นข้า
รอทั้งวันหน้าประตู เจ้าคิดบ้างไหมว่าข้าเสี ยหน้ามากแค่
ไหนเพราะเจ้าในวันนี้”
ซูหยางยิม้ และถอนใจกับอาการโกรธจนควันขึ้นของผู ้
อาวุโสหลาน เขาพบว่ามันดูน่ารักและมีเสน่ห์ “คานับผู ้
อาวุโสหลาน มีธุระอะไรที่ผอู ้ าวุโสนิกายที่เคารพมีต่อตัว
ข้าศิษย์นอกไร้ความสาคัญ” เขาประกบมือคานับ

“ฮึ่ม พูดข้างนอกนี่มิเหมาะสม ไปพูดกันข้างใน”

“เช่นนั้นเชิญ…” ซูหยางเดินไปที่ประตูอย่างเรี ยบเฉย


แต้มรอยยิม้ บนใบหน้า
DC บทที่ 11: หันบั้นท้ ายมาทางข้ า

“ข้าจะพูดให้ตรงจุด ศิษย์ซูหยาง เจ้ามีความสามารถ


หรื อไม่ที่จะรักษา..อาการบาดเจ็บของข้า”

ภายในห้อง ซูหยางนัง่ อยูบ่ นเตียงขณะที่ผอู ้ าวุโสหลานยืน


ค้ าหัวจ้องมองเขม็งไปยังเขา

“หื มม บาดเจ็บ เจ้ามิได้บาดเจ็บ…”

“เจ้า…” ผูอ้ าวุโสหลานแข็งทื่อจากคาพูดของเขา


หมายความว่าอย่างไร เธอบาดเจ็บชัดๆ และเขารู ้ดี

“เจ้าหมายความว่าเช่นไร” เธอถาม
“ความปวดบนหลังเจ้ามิใช่การบาดเจ็บแต่เป็ นอาการป่ วย
แบบหนึ่ง” ซูหยางพูดเสี ยงเรี ยบไร้อารมณ์

“เจ้าพูดว่าอะไร ป่ วย เป็ นไปได้เช่นไร ข้ามิเคยป่ วยสัก


ครั้งในชีวติ เจ้ากลับบอกว่าข้าป่ วย”

“ผูอ้ าวุโสหลาน คนเช่นเจ้าในนิกายนี้ถือว่าหายาก… ข้า


เกือบมิเชื่อเมื่อได้เห็นครั้งแรก”

“เจ้าหมายความว่าเช่นไร” ผูอ้ าวุโสหลานขมวดคิ้ว


ซูหยางลุกขึ้นจากเตียงเข้าประชิดเธอ ผูอ้ าวุโสหลานไม่
ขยับและมองกลับด้วยใบหน้าเคร่ งเครี ยด สงสัยว่าเขาจะ
ทาอะไร

ทันใดซูหยางยืน่ หน้าเข้าใกล้สูดกลิ่นกายสาวเข้าจมูก
คล้ายกับสุ นขั ดมกลิ่น

“เจ้าคิดว่าเจ้ากาลังทาอะไร” ผูอ้ าวุโสหลานถอยกลับอย่าง


ลนลาน ใบหน้าแดงจากพฤติกรรมที่ไม่คาดคิด “เจ้าหาที่
ตาย”

“เหมือนที่ขา้ คิด เจ้ายังคงบริ สุทธิ์พรหมจรรย์มิบุบสลาย


สาวพรหมจรรย์” ซูหยางยิม้
“อะไร.. ทาไมเจ้าจึง…”

คาพูดของเขาเป็ นเหตุให้ผอู ้ าวุโสหลานสะท้านดวงตาเบิก


กว้างอย่างตกใจ ทาไมเขาถึงรู ้วา่ เธอเป็ นหญิงพรหมจารี
หรื อชีเยวี่ยเผลอหลุดปาก

“ยากที่จะหาใครในนิกายนี้ที่อายุเท่าข้ายังบริ สุทธ์
นับประสาอะไรกับผูอ้ าวุโสนิกายเช่นเจ้า ผูอ้ าวุโสหลาน”
ซูหยางนัง่ ลงบนเตียงสายตาคมกล้า “เจ้าฝึ กวิชาปราณคู่
แต่เจ้ากลับยังบริ สุทธิ์จนถึงป่ านนี้ เจ้ากาลังหาเรื่ องตาย…”

ผูอ้ าวุโสหลานเคร่ งเครี ยดเมื่อได้ยนิ คาพูด “บอกข้า


มากกว่านี้” เธอกล่าว
“เคล็ดวิชาฝึ กคู่คือวิชาที่ชายและหญิงมีเพศสัมพันธ์กนั
โดยใช้พลังหยินในร่ างหญิงและพลังหยางในร่ างชายร่ วม
ฝึ กฝน ข้ามัน่ ใจว่าเจ้าต้องคุน้ เคยอยูแ่ ล้ว แต่เจ้ากลับฝึ ก
แบบปกติโดยใช้เคล็ดวิชาสาหรับฝึ กคู่ แน่นอนว่ามันต้อง
มีผลข้างเคียง พลังหยินในร่ างเจ้าตอนนี้ไม่เสถียร ถ้าเจ้ายัง
เดินหน้าต่อไปเช่นนี้ เจ้าจะพบเพียงความเจ็บปวดแสน
สาหัสร่ างแตกสลายตกตายตั้งแต่ยงั สาว…”

ยิง่ ได้ยนิ คาอธิบายมากขึ้นยิง่ ทาให้คิ้วของเธอขมวดขึ้น


หรื อว่าวิธีฝึกที่เธอใช้เป็ นเหตุให้เธอเจ็บปวดเช่นนี้จริ ง

“และเจ้ากลับเป็ นผูอ้ าวุโสนิกายที่ทาหน้าที่แนะนาศิษย์


น่าขา” ซูหยางแค่นเสี ยงเย็นชา
“เจ้า…” ความโกรธวาบขึ้นบนดวงตาเธอ แต่เธอไม่พดู
เพราะเธอไม่อาจพูด ถ้าสิ่ งที่เขาพูดเป็ นจริ งเธอได้แต่โทษ
ตัวเองที่ทะนงตัวเกินไป

“ถ้าสิ่ งที่เจ้าพูดมาจริ งแล้วเจ้ามีคาแนะนาเช่นไร หรื อข้า


ต้องรี บไปถ่างขาหาผูช้ าย”

ซูหยางจ้องไปยังดวงตาที่มีแววพริ้ วไหวชัว่ ครู่ เขาส่ าย


ศีรษะและกล่าวว่า “แม้วา่ นัน่ จะเป็ นวิธีที่มีประสิ ทธิภาพ
และเร็ วที่สุดในการปรับสมดุลพลังหยินในร่ างเจ้า… ข้ามี
วิธีอื่นที่มิตอ้ งการให้เจ้าถ่างอะไรทั้งสิ้ น ข้ายินดีทาให้ถา้
เจ้ายอมรับเงื่อนไขสามข้อ”

ผูอ้ าวุโสหลานนิ่งเงียบ สายตายังคงกระวนกระวาย


“เงื่อนไขอะไร” เธอกล่าว

ซูหยางยกนิ้วนับทีละนิ้วขณะพูด “ข้อหนึ่งเจ้าจะต้องมา
ที่นี่อาทิตย์ละครั้งเป็ นเวลาสามเดือนเพื่อรักษา ข้อสองเจ้า
จะต้องมิพดู เรื่ องที่เกิดขึ้นในห้องนี้กบั ใครแม้กระทัง่ กับพี่
นิกาย สุ ดท้ายเจ้าจะต้องเป็ นผูอ้ ุปถัมป์ สาหรับการบริ การ
นี้และช่วยโฆษณาให้ขา้ ”

“อะไร เจ้าต้องการข้าโฆษณาให้เจ้า ศิษย์นอก เจ้าคง


วิกลจริ ตไปแล้ว ข้าเป็ นผูอ้ าวุโสนิกาย ข้ายังเด็กเกินที่จะ
ออกหน้า ข้าปฏิเสธ” ผูอ้ าวุโสหลานกอดอกยืนกราน
ความคิดตนเอง
“งั้นรึ งั้นก็ขอให้โชคดี ผูอ้ าวุโสหลานข้าได้ให้คาตอบ
สาหรับการรักษาแล้ว ถ้ามิมีส่ิ งใดที่เจ้าต้องการเพิ่มก็
กลับไปได้… อ้อ อย่าลืมปิ ดประตูหลังออกไปด้วย”

ซูหยางเอนกายลงบนเตียงและปิ ดเปลือกตาราวกับว่าเขา
ต้องการหลับ

“…”

“…..”

“….”
ผูอ้ าวุโสหลานได้แต่ยนื อยูต่ รงนั้นด้วยใบหน้าสับสน ร่ าง
สัน่ สะท้านด้วยความโกรธ ไม่มีสกั ครั้งตั้งแต่เธอเป็ นผู ้
อาวุโสนิกายตั้งแต่สิบปี ก่อนที่จะประสบกับการเมินเฉย
และทาให้เสี ยหน้าจากใครสักคน นับประสาอะไรกับศิษย์
นอก ไม่มีสกั ครั้งจนกระทัง่ เธอพบกับซูหยาง

“ซูหยาง ทาไมเจ้ากล้าพูดกับผูอ้ าวุโสนิกายด้วยน้ าเสี ยงมิ


เคารพ ข้าทนต่อพฤติกรรมของเจ้ามานานแล้ว ข้าจะให้
เจ้าถูกไล่ออกจากนิกายพรุ่ งนี้”

อย่างไรก็ตามแม้เสี ยงของเธอจะดังด้วยความโกรธ แม้จะ


ถูกข่มขู่ไล่ออกจากนิกาย ซูหยางยังคงไม่ขยับตัวจากเตียง
ด้วยสี หน้าสงบเฉย ราวกับว่าเสี ยงของเธอไม่ได้เข้าหู
แม้แต่นอ้ ย (3038)
“ซูหยาง…” ผูอ้ าวุโสหลานคารามชื่อเขาด้วยเสี ยงต่า “ข้า
จะจาเรื่ องนี้ไว้”

ขณะที่เธอกาลังจะกระทืบเท้าก้าวออกจากห้อง ความ
เจ็บปวดรวดร้าวก็โถมเข้าใส่ บ้ นั ท้ายของเธอ ทาให้เธอล้ม
เข่ากระแทกพื้น “ทาไมต้องตอนนี้” เธอสาปแช่งในใจ

เวลานั้นเอง ซูหยางก็ลืมตา สิ่ งแรกและสิ่ งเดียวที่เขาเห็นก็


คือบั้นท้ายที่กลมมนหายากของผูอ้ าวุโสหลาน

หลังจากดิ้นรนอยูบ่ นพื้นนานครึ่ งนาที ผูอ้ าวุโสหลานก็


ยอมแพ้
“ซ..ซู.. หยาง… ข.. ข้ายอมรับ… เงื่อนไขเจ้า ได้โปรด…
ช่วยข้า… ด้วย” เธอพูดด้วยเสี ยงร้องไห้ หลับตาปล่อย
น้ าตาไหลจากหางตาเป็ นทาง

ซูหยางถอนใจขณะที่มว้ นชายแขนเสื้ อ “เอาเถอะ… หัน


บั้นท้ายมาทางข้าแล้วอยูน่ ่ิงๆ…”
DC บทที่ 12: เปี่ ยมล้ นด้ วยความสุ ข

มือที่มนั่ คงของซูหยางยืน่ ไปด้านหลังของผูอ้ าวุโสหลาน


ใบหน้าสงบนิ่งดังกับไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์
เหมือนเป็ นเรื่ องปกติ

วินาทีต่อมาเขายกชายเสื้ อเธอขึ้น เผยให้เห็นถึงบั้นท้าย


ขาวราวหิ มะ ชั้นในไหมสี แดง และขาขาวเรี ยวยาว

สะโพกเธอกลมกลึงเปล่งปลัง่ เจริ ญตาราวไข่มุกสวยคู่


หนึ่งวางชิดกัน แม้ในชีวติ ก่อนซูหยางยังไม่ค่อยเห็นหญิง
สาวที่มีบ้ นั ท้ายสวยไร้ที่ติเช่นผูอ้ าวุโสหลาน
เขาค่อยสัมผัสอย่างแผ่วเบาราวกับเป็ นสมบัติล้ าค่าที่
เปราะบาง ทันทีที่นิ้วของซูหยางแตะไปบนผิวสวยเหมือน
หยกเนื้อดีของผูอ้ าวุโสหลาน ร่ างเธอสัน่ สะท้าน เขาค่อย
กดนิ้วทั้งสิ บลึกลงไปในแก้มก้นที่อ่อนนุ่มส่ งคลื่น
ความสุ ขแผ่ไปทัว่ ร่ างของเธอ

“อาาาา..” ผูอ้ าวุโสหลานร้องครางอย่างลืมตัวเมื่อความสุ ข


สมพลันแทรกเข้ามาท่ามกลางความเจ็บปวดลึกล้ า เธอไม่
อาจใส่ ใจกับสิ่ งที่ซูหยางทาด้านหลังเธอและถึงจะเป็ น
อะไรก็ตามเธอต้องการมากกว่านี้

ซูหยางนวดบั้นท้ายเธอต่อเนื่องและวิธีที่เขานวดดู
เหมือนกับเขานวดแป้งขนมปัง แต่ละการเคลื่อนไหว
แม่นยาไร้ที่ติ
ความเจ็บปวดของผูอ้ าวุโสหลานลดลงไปมากและ
ความสุ ขสบายท่วมท้นเธออย่างรวดเร็ ว

“อาา… ขออีก… อาา…” ร่ างของเธอเริ่ มเกิดกาหนัด และ


เธอร้องขอเพิม่ โดยไม่รู้ตวั ดวงตาสี ดาส่ องประกายราว
ดาราบนฟ้าค่า รอยดาปรากฏบนชั้นในระหว่างขาสองข้าง
แผ่ขยายออกทีละน้อยและดาขึ้นกว่าเดิม

ริ มฝี ปากใต้หวั เหน่าเธอพลันเสี ยวกระสัน ร่ างเธอเริ่ ม


สะท้านหนักขึ้น ผูอ้ าวุโสหลานรู ้สึกกลัวและกังวล เธอรู ้
ว่าความสุ ขสบายนี้คงต้องแผดเผาร่ างกายและวิญญาณ แต่
เธอก็ไม่ได้บอกให้ซูหยางหยุด
“บ..บางอย่าง… กาลังจะออก…” เธอรู ้สึกเหมือนถูก
กระตุน้ ให้ฉี่

เวลานั้นเองซูหยางสอดนิ้วเข้าไปในชั้นใน สัมผัสส่ วนที่


ไวต่อความรู ้สึกที่สุดในร่ างเธอ เม็ดละมุด

ทันทีที่นิ้วของเขาสัมผัสกับอัญมณี งามสี ชมพูเล็กๆ ผู ้


อาวุโสหลานรู ้สึกเหมือนกับร่ างกายถูกสายฟ้าฟาด ปิ ดกั้น
ร่ างกายจิตใจในทันที และในชัว่ เวลานั้นเขื่อนกั้นน้ าในตัว
เธอก็เปิ ดออกเป็ นเหตุให้สายน้ าวาวระยับพุง่ ออกดุจน้ าพุ

“อาาา” เป็ นครั้งแรกในชีวติ ของผูอ้ าวุโสหลานที่ได้รับ


ประสบการณ์การสาเร็ จความใคร่
ซูหยางถอนมือที่เปี ยกแฉะด้วยน้ าหวานพรหมจารี ของผู ้
อาวุโสหลานออก และเช็ดให้แห้งด้วยเสื้ อของตนเอง

“เมื่อพลังหยินในร่ างเจ้ามิเสถียร วิธีอื่นเดียวที่ทาได้กค็ ือ


ให้ร่างเจ้าปล่อยมันออกมา” ซูหยางพูดกับผูอ้ าวุโสหลาน
ผูซ้ ่ ึ งนอนเหยียดยาวบนพื้นเย็น ร่ างของเธอยังคงบิด
กระตุกจากผลตกค้าง เขาพูดต่อ “ข้ายังจะให้ตารับยาเจ้า
ให้มนั่ ใจว่าเจ้ากินมันทุกวัน มิฉะนั้นอาการเจ็บจะกลับมา
ก่อนที่จะถึงการรักษาครั้งต่อไป”

“ฮ่าาา.. ฮ่าา… ฮ่าาาา…” ผูอ้ าวุโสหลานไม่อาจตอบคา


เธอวุน่ อยูก่ บั การหอบหายใจ จิตใจเธอสับสนเหมือนกับ
สัตว์ร้ายนับพันอาละวาดอยูภ่ ายใน
ซูหยางไม่ได้รบกวนเธอและตรงไปล้างมือ หลังจากนั้น
เขานาเอากระดาษและปากกาออกมาเขียนตารับยา

เมื่อเวลาที่เขาเขียนเสร็ จ ผูอ้ าวุโสหลานก็เพิง่ สงบ…จิตใจ


เธอขยับตัวออกจากพื้นและมองซูหยางด้วยรังสี อามหิ ต
ใบหน้าแดงราวมะเขือเทศ

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในขณะนั้น เหมือนเวลาถูกหยุด
ไว้โดยผูอ้ าวุโสหลาน ไม่เคยสักครั้งในชีวติ ที่เธอจะ
คาดคิดว่าร่ างกายของเธอจะถูกใช้เป็ นของเล่นทานองนั้น
โดยศิษย์นอกสามัญไร้ความโดดเด่น เพียงแค่คิดถึงท่าทาง
ไร้ยางอายที่เธอทาและกิริยาหยาบคายที่เธอแสดงออก
ระหว่างการรักษาก็เพียงพอที่จะทาให้เธออยากฆ่าตัวตาย
ซ้ าร้ายความจริ งที่วา่ เธอชอบมันมากยิง่ ทาให้รู้สึกแย่
“นี่คือตารับยาสาหรับเจ้า อย่าลืมเอาไปด้วย…” ซูหยางยืน่
แผ่นกระดาษให้เธอ

“…”

มองเธอนัน่ อยูต่ รงนั้นราวรู ปปั้นหิ น ซูหยางถอนใจ “อย่า


คิดมากเกินไป มันเป็ นแค่การรักษาอาการป่ วยของเจ้า
เพียงแค่ทาเหมือนมิมีอะไรเกิดขึ้น…”

“…ทาเหมือนมิมีอะไรเกิดขึ้น.. เจ้าคิดว่าข้าสามารถทา
อะไรแบบนั้นได้” ผูอ้ าวุโสหลานตะโกนขึ้นทันใด จนซู
หลานถึงกับเลิกคิ้ว
“ร่ างข้าตอนนี้สกปรกเพราะมือเจ้า ความพยายามที่ขา้ ใช้
เพื่อรักษาร่ างพรหมจรรย์ลว้ นไร้ค่า มิตอ้ งพูดถึงว่าเจ้าเป็ น
แค่ศิษย์นอกไร้ความสาคัญและข้าเป็ นผูอ้ าวุโสนิกาย เจ้า
จะรับผิดชอบได้อย่างไร”

“สกปรก” ซูหยางขมวดคิ้วในทันใด “ช่างเนรคุณ แม้


หลังจากความพยายามที่ขา้ ใช้ในการช่วยเหลือเจ้าจาก
ความทรมาน เจ้ารู ้ไหมว่ามีหญิงมากมายในโลกที่ยนิ ยอม
ตายเพื่อให้ขา้ ได้สมั ผัสร่ าง ฮึ่มม ออกไป” เขาแค่นเสี ยง
เย็นเยียบ รู ้สึกโกรธเป็ นครั้งแรกตั้งแต่เริ่ มเกิดใหม่

ผูอ้ าวุโสหลานชะงักค้างหลังจากเห็นความเย็นชาปรากฏ
ขึ้นบนใบหน้าของซูหยางที่ปรกติวางเฉย ความกลัว
ปรากฏขึ้นในใจเธอ
“ข..ข้า” ผูอ้ าวุโสหลานกัดฟันบังคับตนเองให้ลุกขึ้นแม้จะ
ไม่มีกาลังเหลือบนขา เธอพยายามเดินออกจากประตู…
หลังจากล้มลุกคลุกคลานอยูห่ ลายครั้งบนเส้นทาง (3038)

หลังจากผูอ้ าวุโสหลานพ้นจากคลองจักษุ ซูหยางล้มตัวลง


บนเตียงด้วยสภาพเหนื่อยล้า “จริ งเลย…หญิงเนรคุณ..”
เขายิม้ ขื่นขมก่อนเคลิ้มหลับไป

ปล. ต้องการสอบถามความเห็นท่านผูอ้ ่าน เนื่องจากบท


หลังๆ จะมีการกล่าวถึงอวัยะเพศตรงๆ ในฐานะผูแ้ ปล
การแปลออกไปตรงๆ ตามภาษาไทยนั้นดูไม่สุภาพมาก
ผมจึงคิดว่า
1. แปลให้ เป็ นภาษาสละสลวยใช้ เหมือนในบทนี ้
2. ใช้ ภาษาบาลีสันสกฤตแทน เช่ น ลึงค์
3. ใช้ คาอ่ านภาษาต่ างประเทศแทน เช่ น เพนนิส
4. หรื อมีสามบท ทั้งแบบ 1,2 และสามโดยมีเนือ้ หาเหมือนกัน ให้ ผ้อู ่ านเลือกอ่ านตามใจชอบ
DC บทที่ 13: รู้ สึกละอายใจ

ผูอ้ าวุโสหลานใช้พลังงานและความพยายามทั้งหมดเดิน
กลับไปยังที่พกั ของเธอ ขาของเธอไม่เป็ นไปตามใจนึกอยู่
บ่อยครั้ง และความรู ้สึกเสี ยวซ่านบริ เวณริ มฝี ปากด้านล่าง
ยังไม่ลดน้อยลงเป็ นเหตุให้มีน้ าไหลออกมาเล็กน้อยทุก
ย่างก้าว เมื่อบรรดาศิษย์เห็นเธอพวกเขาต่างเชื่อว่าเธอดื่ม
มาหนักมาก

เมื่อสุ ดท้ายเธอกลับถึงที่พกั เธอสังเกตเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก


หลับอยูห่ น้าประตู

“ชีเยวี่ย..” อารมณ์ของผูอ้ าวุโสหลานดีข้ ึนเมื่อเห็นใบหน้า


น่ารัก
“พี่สาวหลาน ท่านกลับมาแล้ว” ชีเยวีย่ สังเกตเห็นเงาร่ างผู ้
เข้ามาทัก เธอรี บยืนขึ้น

“เรื่ องเป็ นเช่นไรบ้าง ท่านได้พบศิษย์พี่ชายซูหรื อไม่” เธอ


กล่าวถึงชื่อที่ผอู ้ าวุโสหลานไม่อยากได้ยนิ ในเวลานั้น

“…ข้าพบเขา…” เธอถอนใจ

“งั้น เขาช่วยท่านได้ไหม”

แม้ไม่อยากจะตอบคาถามเธอ ผูอ้ าวุโสหลานกัดฟันผงก


ศีรษะ
“แล้วทาไมท่านถึงเดินแบบนั้น.. อ๋ า..” ชีเยวีย่ นึกขึ้นได้
ทันใดว่าคาถามเธอช่างโง่เขลา ทาไมเธอจึงจะไม่รู้จกั ท่า
เดินล้มลุกคลุกคลานของผูอ้ าวุโสหลาน ในเมื่อเธอเองก็
เป็ นแบบนั้นมาก่อน

ผูอ้ าวุโสหลานขมวดคิ้วเมื่อเธอสังเกตเห็นชีเยวีย่ หน้าแดง


ทาไมเธอต้องหน้าแดง

ทันใดนั้นผูอ้ าวุโสหลานก็นึกถึงค่าคืนที่ชีเยวีย่ มาที่บา้ น


เพื่อพูดเกี่ยวกับซูหยาง เธอจาได้ชดั เจนถึงวิธีเดินไปมา
ด้วยขาซาลาเปาของชีเยวีย่ คล้ายกับเธอประสบกับบางสิ่ ง
ที่ดูดกลืนพละกาลังของเธอไป
“มิ…มิมีทาง… ซูหยางได้แตะตัวเจ้าหรื อไม่…” ผูอ้ าวุโส
หลานปิ ดปากอย่างตกใจไม่อยากเชื่อความคิดของตนเอง

ชีเยวีย่ เข้าใจความหมายเบื้องหลังคาถามของผูอ้ าวุโส


หลานผิดและผงกหัวอย่างเชื่องเชื่อ

“เจ้าเลวซูหยาง ลืมเรื่ องข้าก่อน ทาไมมันกล้าแตะตัวบาง


คนที่ยงั เด็กเช่นชีเยวีย่ เธอแค่ 12” ผูอ้ าวุโสหลานด่าเขาอยู่
ในใจ

“ข้าจะฆ่าเจ้านัน่ ข้าต้องฆ่าเจ้าลามกนัน่ ” เธอคารามเสี ยง


ต่า

ชีเยวี่ยมองเธอด้วยความตกใจ “พี่สาวหลาน”
“และเจ้า ชีเยวีย่ นิกายห้ามผูท้ ี่มีอายุต่ากว่า 16 ยุง่ เกี่ยวกับ
การฝึ กคู่มิวา่ จะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม เจ้าคิดว่าข้าจะทา
เป็ นมองมิเห็นเพียงเพราะว่าความสัมพันธ์ของเราทั้งสอง
งั้นรึ ”

ชีเยวีย่ กระพริ บตาหลายครั้งติดต่อกัน ดูงุนงงกับใบหน้า


เครี ยดของผูอ้ าวุโสหลาน “พี่สาวหลานพูดถึงอะไร” เธอ
ถามด้วยน้ าเสี ยงใสซื่ อ

“เจ้ายังแสดงเป็ นมิรู้อีกรึ เจ้าเพิ่งพูดเองว่าซูหยางแตะตัว


เจ้า”
“อ๋ า” ในที่สุดชีเยวีย่ ก็เข้าใจเหตุการณ์และหน้าแดง “ท่าน
เข้าใจผิดแล้ว ศิษย์พี่ชายซูมิได้ทาอะไรพรรค์น้ นั กับข้า
เขาเพียงแค่ดูดพิษออกจากขาหลังจากคลายกล้ามเนื้อแล้ว
เท่านั้น”

ผูอ้ าวุโสหลานชะงักค้างกับคาพูดของเธอ “อะไร แต่…”

“ศิษย์พี่ชายซูมิใช่คนลามก เขาเพียงทาสิ่ งที่เขาต้องทาเพื่อ


รักษาขาข้า” ชีเยวีย่ พูดด้วยน้ าเสี ยงเจือโทสะ แม้วา่ จะเป็ น
พี่สาวที่รักของเธอ เธอก็ไม่สามารถนิ่งเฉยเมื่อมีใครพูดว่า
ร้ายคนที่ช่วยชีวติ เธอไว้

“…”
เป็ นครั้งแรกสาหรับเธอที่เห็นชีเยวีย่ มีอารมณ์เพราะบาง
คนที่เธอเพิ่งพบ และภาพของซูหยางที่หน้าเรี ยบเฉย
ปรากฏในห้วงคะนึงทาให้เธอเกิดความสับสนใจ

“เขาเพียงแค่ทาสิ่ งที่ตอ้ งทาเพื่อช่วยเจ้า…” ผูอ้ าวุโสหลาน


สารวจกลับไปยังร่ างกายของตนเอง นัน่ ไม่มีความเจ็บ…
มีแต่ความสุ ข

“ถ้าเขาต้องการ เขาสามารถเอาเปรี ยบข้าได้ระหว่างที่ขา้


อ่อนแอ แม้กระทัง่ พรหมจารี แต่เขาก็มิได้ทาเช่นนั้น” ผู ้
อาวุโสหลานมัน่ ใจว่าช่วงเวลาที่เร่ าร้อนนั้น เธอคงไม่
สามารถปฏิเสธซูหยางถ้าเขาต้องการล่วงเกินไม่วา่ จะมาก
น้อยแค่ไหน เธอเริ่ มเสี ยใจกับคาพูดรุ นแรงที่เธอใช้กบั เขา
นับประสาอะไรกับเธอเป็ นคนที่ไปขอให้เขาช่วยอย่างไร้
หนทาง
“ข้าละอายใจตนเองที่ล่วงเกินเขาและทาให้เขาโกรธ…
อาาา… ข้านี่ช่างโง่เง่านัก….” ผูอ้ าวุโสหลานถอนใจลึก
เธอละอายใจตนเมื่อเธอเธอนึกขึ้นได้วา่ เกิดอะไรขึ้น
ระหว่างการรักษา ทาไมเธอต้องทาตัวเหมือนหมาถูกน้ า
ร้อน

ใบหน้าที่เปี่ ยมความกระสันรัญจวน คาพูดสัปดนที่


ออกมาจากปากเธอ ร่ างกายที่บิดไหวไปด้วยความ
ต้องการ ทุกสิ่ งที่เธอทาระหว่างที่ซูหยางรักษาทาให้เธอ
ต้องสาปแช่งตนเองด้วยความอับอาย

“พี่สาวหลาน…” ชีเยวี่ยมองไปที่ใบหน้าท้อแท้ของผู ้
อาวุโสหลานด้วยความกังวลใจ
“เจ้าพูดถูก ชีเยวีย่ ข้าขอโทษที่พดู ล่วงเกินซูหยาง เขา
ช่วยชีวติ เจ้าไว้ นับประสาอะไรกับบั้นท้ายข้า…” เธอยิม้
อย่างสุ ภาพ

หลังจากอยูร่ ่ วมกับชีเยวีย่ ชัว่ ครู่ ทั้งคู่กแ็ ยกย้ายไป

เมื่อเธอกลับถึงห้อง ผูอ้ าวุโสหลานถอดเสื้ อผ้าออกและทา


ความสะอาดตนเอง ภายในห้องน้ าเธอจ้องมองร่ างเปลือย
เปล่าของตนเองด้วยความรู ้สึกสับสน เธอราลึกถึงเวลาที่
เธออยูใ่ นห้องซูหยางจดจาถึงวิธีการที่เขาสัมผัสร่ างกาย
ของเธอและความรู ้สึกเป็ นสุ ขที่หว่างขาขณะที่เธอ
ปลดปล่อย
มือเรี ยบนวลของเธอเริ่ มรุ กล้ าช่องทางเบื้องล่าง เริ่ ม
เล้าโลมอัญมณี เม็ดเล็กสี ชมพูภายในช่องเปิ ด เธอไม่เข้าใจ
ว่าทาไม่เธอทาเช่นนี้ แต่มือเธอเคลื่อนไหวต่อเนื่องไม่
หยุดยั้ง พยายามเลียนแบบความรู ้สึกดังสู่ สรวงสวรรค์ที่
เธอสัมผัสมาก่อนหน้านั้น

อย่างไรก็ตามไม่วา่ เธอจะลูบคลาสัมผัสตัวเองอย่างไร
ความรู ้สึกนั้นก็แตกต่างอย่างมากกับสิ่ งที่ได้รับจากการ
รักษาของซูหยาง มีบางสิ่ งที่แตกต่างจากวิธีการที่เธอ
สัมผัสตนเอง มันเหมือนกับว่าร่ างกายของเธอไม่พอใจกับ
มือของเธอและต้องการซูหยางเท่านั้น

“ฮาาา…” ผูอ้ าวุโสหลานออกจากห้องน้ า ถอนใจ รู ้สึกอาย


กับการกระทาของตนเอง

มันเป็ นเวลาเที่ยงคืนที่ซูหยางตื่นขึ้น สิ่ งแรกที่เขาทา


หลังจากลืมตาขึ้นคือการฝึ กปราณ เขานัง่ ไขว้ขาบนเตียง
และรัศมีลึกลับก็ห่อหุ ม้ ตัวเขาไว้

มื่อเขาพลันเปล่งแสงเรื่ อเรื องสี น้ าเงิน เขากาลังหลอม


พลังหยินที่สะสมจากน้ าทิพย์ของผูอ้ าวุโสหลาน แม้วา่
ปริ มาณมันจะน้อยนิด แต่มนั ก็เป็ นประโยชน์ต่อพลังการ
ฝึ กปรื อของเขาอย่างมาก
“พรหมจรรย์ช่างสุ ดยอด…” ซูหยางค่อยดูดซับพลังหยิน
บนมือของเขาอย่างเงียบๆ พลังการฝึ กปรื อของเขาเพิม่ พูน
ขึ้นทุกขณะ (3038)

คุณภาพของหยินหรื อหยางที่ได้รับจากผูท้ ี่ยงั บริ สุทธิ์กบั ผู ้


ที่ไม่บริ สุทธิ์น้ นั เปรี ยบได้ดงั ฟ้ากับเหว นัน่ เป็ นเหตุที่วา่
หญิงพรหมจารี น้ นั มีค่ามากล้นในโลกนี้

ซูหยางเปิ ดเปลือกตาขึ้นเกิดประกายแสงวาบวับผ่าน
ออกมา เขาเลื่อนระดับถึงขั้นที่หา้ เขตปฐมวิญญาณ ส่ วน
ความก้าวหน้าทางร่ างกายนั้นแทบจะไม่ขยับ นัน่ เป็ น
ความแตกต่างระหว่างการหลอมปราณกับการหลอมร่ าง
ทุกร้อยขั้นที่ได้รับจากการหลอมปราณ จะมีผลเพียงสิ บ
ขั้นสาหรับการหลอมร่ าง
ซูหยางมองไปยังดวงจันทร์ผา่ นหน้าต่างอย่างโศกเศร้า เงา
จันทร์เฉกภาพลักษณ์ของความงามที่มิอาจเทียบของผูท้ ี่
รู ้จกั กันในนามเทพีจนั ทราในชีวติ ก่อนปรากฏขึ้นในใจ
เขา

ในช่วงเวลาที่เหลือยามค่าคืน เขานัง่ เหม่อมองดวงจันทร์


ราลึกถึงประสบการณ์ตื่นเต้นที่ได้ประสบในชีวติ ก่อน
DC บทที่ 14: กลุ่มสาวสวย

ผูอ้ าวุโสหลานตื่นแต่เช้า หลังจากจัดการธุระที่จาเป็ นแล้ว


เธอตรงไปยังที่พกั ของซูหยาง

“ผูอ้ าวุโสหลาน” ถังหู กล่าวทักทายเธอที่ประตูบา้ นอีก


ครั้ง

“ซูหยาง… ยังอยูข่ า้ งในรึ ”

“ขอรับผูอ้ าวุโส ซูหยางยังอยูข่ า้ งใน ข้าจะไปแจ้งให้เขามา


หาท่านเดี๋ยวนี้…”

“เดี๋ยว”
“เอ๋ ”

“ข้าจะไปหาเขาเอง”

ถังหู มองผูอ้ าวุโสหลานเคาะประตูหอ้ งซูหยางเร่ งร้อน


รุ นแรงอย่างกังวล ล่วงเกินบางคนที่ฐานะสู งส่ งเช่นผู ้
อาวุโสหลาน ชีวติ ของซูหยางในฐานะศิษย์นิกายถือว่าจบ
สิ้ น…

“หื ม ผูอ้ าวุโสหลาน เวลาช่างผ่านไปเร็ วจริ ง นี่ถึงเวลานัด


หมายครั้งต่อไปแล้วรึ ” ซูหยางเดินออกมาจากห้องด้วย
รอยยิม้ แจ่มใส สิ่ งที่ผอู ้ าวุโสหลานเตรี ยมไว้ในใจสู ญ
หายไปราวกับหมอกควัน เธอมองหน้าเขา พลันก็นึกถึง
เวลาที่เธออยูใ่ นห้องนี้เมื่อวาน เธอก็หน้าแดง

ผูอ้ าวุโสหลานรู ้สึกเหมือนหัวใจเธอเต้นระส่ าเหมือน


กลองรบ นี่เป็ นครั้งแรกที่เธอหน้าแดงต่อหน้าใครบางคน
ที่เป็ นชาย ไม่เพียงแต่ภาพลักษณ์ของซูหยางเปลี่ยนไปชัว่
ข้ามคืน เขายังดูมีเสน่ห์และหล่อเหลามากกว่าเมื่อวานอีก
ด้วย กระทัง่ แก่นกายของเธอยังสัน่ สะท้านราวกับรู ้สึกถึง
การปรากฏตัวของซูหยาง โหยหาความใกล้ชิด

“เจ้า…” ผูอ้ าวุโสหลานไร้คาพูด แม้วา่ เธอจะมาด้วย


จุดประสงค์อะไรบางอย่าง แต่ทนั ทีที่เห็นซูหยาง ทุกสิ่ งที่
อยูใ่ นใจล้วนสู ญสิ้ นราวกับถูกหลุมดาดูดกลืน
“เอ้านี่ เจ้าจากไปรวดเร็ ววานนี้จนลืมเอานี่ไปด้วย…” ซู
หยางยืน่ ส่ งกระดาษบันทึกตารับยาส่ งให้เธอ

ผูอ้ าวุโสหลานรับไว้อย่างรวดเร็ วตามสัญชาตญาณ สายตา


เธอตรึ งติดใบหน้าซูหยาง

“ทาไม ทาไมเจ้าทาเช่นนี้…” เธอพลันบ่นพึมพัม “ทั้งที่ขา้


พูดจาเลวร้ายกับเจ้าเช่นนั้น เจ้ายังยินดีช่วยเหลือข้าอีกรึ ”

คาพูดของเธอลบรอยยิม้ บนใบหน้าของซูหยางออกไป
เขามองเธออย่างวางเฉย สายตาเขามีประกายลึกซึ้ง
“เพราะว่าข้าเป็ นผูช้ าย…” คาพูดธรรมดาของซูหยางทาให้
ทั้งผูอ้ าวุโสหลานและถังหูแทบล้มทั้งยืน คาตอบประเภท
ไหนกัน เพระว่าเขาเป็ นผูช้ าย

“…ข้าเป็ นผูช้ ายที่รักษาคาพูด เจ้าขอให้ขา้ ช่วยและข้าได้


ตอบรับคา นัน่ เป็ นเหตุผลเดียวที่ขา้ ช่วยเจ้า”

“…”

คาพูดของเขาทิ้งให้ผอู ้ าวุโสหลานไร้วาจา

“เจ้ายังคงมิพอใจกับคาตอบของข้ารึ ”
สักครู่ ต่อจากนั้นผูอ้ าวุโสหลานถอนใจ “ไม่ แค่น้ นั ก็
เพียงพอแล้ว”

เธอหันตัวเดินไปทางประตู “ข้าก็จะรักษาคาพูดและทา
ตามเงื่อนไข” เธอพูดกับเขาก่อนจากไปด้วยรอยยิม้ ขื่นขม

“ซูหยาง เจ้ามีความสัมพันธ์เช่นไรกับผูอ้ าวุโสหลาน” ถัง


หูถามหลังจากผูอ้ าวุโสหลานจากไป การพูดจาท่าทางของ
พวกเขาทาให้เขาเกิดคาถามในใจมากมายที่ไร้คาตอบและ
ทาให้เขาสงสัย

“เพียงลูกค้าคนหนึ่งของข้า…” ซูหยางตอบผ่านๆ

“ล..ลูกค้า…” ถังหู ยงิ่ เกิดความมึนงง ลูกค้าประเภทไหน


และบริ การอะไร อย่างไรก็ตามเขาตัดสิ นใจไม่คิดเรื่ อง
ความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อไป เขาคิดว่าถ้าเขายุง่ เกี่ยว
ด้วยเขาอาจเสี ยใจภายหลัง

ซูหยางออกจากที่พกั ไม่นานหลังจากนั้น มีสถานที่เดียวที่


เขาควรไปแต่เช้า ลานฝึ ก

แต่วา่ เขานาป้ายใหม่ไปด้วย มันอ่านได้วา่


“นวดระดับเทพ ประสบการณ์ 10 นาทีของความรู ้สึกดัง
ขึ้นสวรรค์ ราคาต่าสุ ดเพียง 10 แต้มรางวัล”

ป้ายเป็ นเหตุให้เกิดการมองเขาอย่างแปลกใจ 10 แต้ม


รางวัลอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการทากิจกรรมระดับ
ต่าให้สาเร็ จ แต่ซูหยางกลับต้องการคิดค่าบริ การสู งเพียง
นั้นด้วยการนวดธรรมดา นัน่ ช่างเป็ นเรื่ องเฟ้อฝัน

“ซูหยาง ถึงจะไร้ยางอายก็ควรมีขอบเขตบ้าง”

“10 แต้มรางวัลสาหรับการนวดไร้ค่า นัน่ มันปล้นกัน


กลางวันแสกๆ”
“ให้เจ้าแตะข้าฟรี ขา้ ยังมิเอา อย่าว่าแต่ตอ้ งจ่าย 10 แต้ม
รางวัล”

ลานฝึ กพลันคึกคักเมื่อมีซูหยาง ทุกคนในนั้นต่างพากัน


หัวเราะเยาะเขาและป้าย แต่พวกเขาก็ยงั แอบประหลาดใจ
อยู่

ถ้าพวกเขานึกให้ดี ป้ายซูหยางเริ่ มแรกนั้นบอกไว้วา่ สาม


คนแรกนั้นฟรี บัดนี้เขาเปลี่ยนป้ายเป็ นเก็บเงิน นัน่
หมายความว่ามีคนงี่เง่าสามคนที่ใช้ร่างกายของพวกเธอ
แสดงความเชื่อมัน่ ในตัวเขา

ซูหยางยืนอยูต่ รงนั้นตลอดช่วงเช้าโดยปราศจากวีแ่ ววของ


ลูกค้า ลานฝึ กเริ่ มกลับคืนสู่ ความสงบเมื่อบรรดาเหล่าศิษย์
เบื่อที่จะพูดเกี่ยวกับซูหยาง อย่างไรก็ตามเมื่อตะวันตกดิน
กลุ่มของศิษย์สิบคนพลันปรากฏตัวใกล้ประตูเพื่อค้นหา
ใครสักคน

เพราะว่าทุกคนในกลุ่มล้วนเป็ นสาวสวย พวกเธอถูกจับตา


มองจากเหล่าศิษย์ที่ฝึกฝนอยูอ่ ย่างรวดเร็ ว

“ทาไมบรรดาคนจากตาหนักโอสถมาทาอะไรที่นี่ หรื อว่า


มีคนเจ็บ” ศิษย์บางคนจาชุดสี ขาวแดงของพวกเธอได้

คนหนึ่งในกลุ่่มสาวสวยพลันสังเกตเห็นซูหยางและป้าย
ของเขา จึงแจ้งต่อคนที่เหลือในกลุ่ม
ทุกคนที่นนั่ พากันมองกลุ่มสาวตรงเข้าไปหาซูหยาง
สายตาเปี่ ยมไปด้วยความสงสัย

“เจ้าคือซูหยาง” สาวสวยผูน้ ากลุ่มถาม

“ข้าเอง”

“เยีย่ ม ข้าได้ยนิ คาชมเรื่ องการนวดของเจ้าจากท่าน


อาจารย์ เธอแนะนาให้พวกเรามาที่นี่และรับประสบการณ์
ด้วยตัวเอง ข้าหวังว่าเจ้าคงมิถือจานวนคนที่ขา้ พามาใน
วันนี้…” (3038)

ซูหยางยิม้ และกล่าว “ยิง่ มากยิง่ ดี”


“แต่วา่ ก่อนที่ขา้ จะนวด มีเงื่อนไขสามข้อที่พวกเจ้าต้อง
ยอมรับ”

“พวกเราเข้าใจเงื่อนไขแล้ว แต่ฟังอีกสักรอบก็ได้”

“เงื่อนไขข้อแรก กิจกรรมใช้เวลา 10 นาที เงื่อนไขข้อที่


สอง พวกเจ้าต้องเผยแพร่ ประสบการณ์การนวดกับคนสิ บ
คน เงื่อนไขข้้อที่สามพวกเจ้าสามารถมาได้อีกครั้ง
หลังจากกิจกรรมครั้งล่าสุ ดหนึ่งเดือน”

หญิงสาวผงกศีรษะ “ศิษย์นอ้ งหญิงพูดเช่นนั้นเช่นกัน


และพวกเราตกลงเงื่อนไขนี้”

“งั้นตามข้ามา” ซูหยางเก็บป้ายและออกไปจากลานฝึ ก
บรรดาเหล่าศิษย์ต่างพากันมองอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อซู
หยางพากลุ่มสาวสวยจากตาหนักโอสถออกไปจากลาน
ฝึ ก
DC บทที่ 15: พีน่ ิกายหญิงสั งเกตน้ อง

“ซูหยาง… เกิดอะไรขึ้น…” ถังหูกรามตกถึงพื้น(*สานวน


ใข้ในการ์ตูน มีความหมายเเช่นเดียวกับ ปากอ้าตาค้าง)
เมื่อเห็นซูหยางกลับมาพร้อมกับสาวสวยกว่าสิ บคน ทาไม
เขาสามารถรวบสาวมากมายขนาดนี้ในทีเดียว กระทัง่
ชวนพวกหล่อนตามกลับมาบ้านได้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เขา
กลายเป็ นเพลย์บอย

“พวกเธอเป็ นลูกค้าข้า” ซูหยางพูดโดยไม่ใส่ ใจ

“ลูกค้า อีกแล้วรึ ” ถังหูแปลกใจว่าพวกเธอเป็ นลูกค้า


ประเภทเดียวกับผูอ้ าวุโสหลานหรื อไม่ อะไรบนโลกที่ซู
หยางทาในช่วงสองสามวันนี้
หลังจากที่ซูหยางเตรี ยมการเสร็ จ เขาเชื้อเชิญเหล่าสาวงาม
เข้าไปในห้องทีละคนขณะที่เหลือรออยูท่ ี่หอ้ งนัง่ เล่น

เมื่อประตูหอ้ งซูหยางปิ ด บรรดาหญิงสาวที่รออยูด่ า้ น


นอกก็เริ่ มพูดคุยกัน

“อาจารย์รับประกันว่าเขาเชื่อถือได้ แต่…ข้ารู ้สึกมิสบาย


ใจเมื่ออยูท่ ี่นี่…” หญิงสาวคนหนึ่งกล่าว

“เฮ้ เจ้าเป็ นเพื่อนร่ วมบ้านซูหยางใช่ไหม เล่าเรื่ องเขาให้


ฟังหน่อย” บรรดาหญิงสาวมองไปที่ถงั หูที่ยนื กังวลอยู่
ข้างผนังคอยสารวจพวกเธอ
“เอ๋ อา… อืม… แม้วา่ จะอยูร่ ่ วมบ้านกัน แต่พวกเรามิค่อย
ได้คุยกันนัก ดังนั้นข้ามิค่อยรู ้เรื่ องเขาเท่าไร เช่นไรก็ตาม
เขามักมีบรรยากาศลึกลับรอบตัวเสมอ… ข้ามิอาจบอกได้
ว่าเขาคิดอะไรและมิอาจเข้าใจท่าทางเขาได้”

“ชายลึกลับ..หื อ ฟังดูน่าตื่นเต้น พวกเจ้าคิดเหมือนกัน


ไหม”

“คงงั้น…ถ้ามิมีข่าวลือทางลบเกี่ยวกับเขามากมาย…”

“อืม…ศิษย์พี่หญิงทั้งหลายมาจากตาหนักโอสถมิใช่หรื อ
พวกท่านมาทาอะไรกับซูหยางที่นี่กนั เห็นเขาเรี ยกพวก
ท่านว่าลูกค้า”
“หื ม เจ้ามิรู้เรื่ องเกี่ยวกับบริ การนวดของเขารึ ”

บรรดาหญิงสาวมองไปที่เขาด้วยสายตาประหลาด นี่พวก
เจ้าเป็ นเพื่อนร่ วมบ้านกันแน่รึ ดูเหมือนไม่รู้เรื่ องของอีก
ฝ่ ายเลยแม้แต่นอ้ ย

“บริ การนวด” ถังหูมองพวกเธอสายตาเบิกกว้างไม่อาจ


เชื่อ “พวกท่านมาเพื่อให้ซูหยางนวด”

พวกเธอผงกศีรษะยืนยันข้อสงสัย

“พวกเราพนันไว้กบั ท่านอาจารย์ เธอกล่าวว่าถ้าพวกเรา


สามารถเดินออกไปจากนี่หลังจากรับการนวดจากซูหยาง
โดยมิหกล้มสักครั้ง เธอจะมอบโอสถหยินพ้นพิสยั ให้”
“โอสถหยินพ้นพิสยั โอสถที่มีค่ามหาศาลในการเพิ่มพูน
พลังหยินในร่ างหญิงนัน่ รึ ” ถังหูตกใจ ทาไมบางคนถึง
เดิมพันด้วยทรัพยากรที่แพงมากเช่นนั้น ถึงกับสิ บเม็ดใน
ครั้งเดียว

“อาจารย์พวกท่าน…” ถังหูนึกถึงซูหยางเรี ยกผูอ้ าวุโส


หลานเป็ นลูกค้า “ใช่ผอู ้ าวุโสหลานรึ ไม่”

พวกเธอพากันผงกศีรษะรับ “แม้วา่ พวกเรามิทราบว่า


ทาไมท่านอาจารย์เดิมพันกับพวกเราเช่นนั้น แต่เดิมพันนี้
แน่นอนว่าง่ายเหมือนกินเค็กชิ้นหนึ่ง”
“ฮิฮิฮิ… พวกเราจะได้รับโอสถหยินพ้นพิสยั หลังจาก
นวด… นี่อาจจะเป็ นวิธีการให้รางวัลพวกเราหลังจาก
ทางานหนัก”

“โอสถหยินพ้นพิสยั เม็ดหนึ่งราคา 3,000 แต้มรางวัลที่


คลังมุกพิสุทธิ์ พวกเราเพียงแค่เสี ย 10 แต้มรางวัลเพื่อรับ
หนึ่งเม็ด นี่ช่างง่ายดายนัก”

บรรดาหญิงสาวหัวเราะราวกับกลุ่มนกน้อยร้องเพลง

ทันใดห้องของซูหยางก็เปิ ดออก ซูหยางเดินออกมาอย่าง


สงบ

“โอ ครบสิ บนาทีแล้วรึ ”


“ใช่ ใครต่อไป” ซูหยางพูดเรี ยบๆ

“หื อ แล้วศิษย์พี่หญิงซวานล่ะ” บรรดาหญิงสาวถามถึง


หญิงสาวผูเ้ ข้าไปเป็ นอันดับแรก

“เธอเดินลาบาก” ซูหยางพูดไร้อารมณ์ กล่าวต่อว่า “ดังนั้น


เธอจึงขอพักอยูด่ า้ นในต่ออีกสักครู่ ”

บรรดาหญิงสาวมองไปที่เขาด้วยใบหน้าสับสน

“ทาไมเธอจึงเดินลาบาก เธอยังดีอยูไ่ หม” หนึ่งในพวกเธอ


ถามด้วยความเป็ นห่วง
“พวกเจ้ามิตอ้ งกังวล เธอสบายดี เพียงแค่ร่างเธอค่อนข้าง
ไวต่อความรู ้สึกนิดหน่อยหลังจากนวด”

“…”

“งั้น ใครคนต่อไป”

ไม่มีหญิงสาวคนไหนที่เห็นเรื่ องราวผิดปกติจากใบหน้า
เรี ยบเฉยของซูหยาง ดังนั้นพวกเธอจึงไม่ได้ซกั ถามต่อ

ไม่นานนักหญิงสาวคนที่สองก็เข้าไปในห้อง สิ่ งแรกที่


เธอสังเกตเห็นหลังจากเข้าไปก็คือศิษย์พี่หญิงซวานผูห้ อบ
หายใจหนักพยายามดิ้นรนเพื่อลุกออกจากเตียง ใบหน้า
เธอแดงเหมือนมะเขือเทศ
“ศิษย์พี่หญิงซวาน ท่านดีอยูไ่ หม” หญิงสาวเดินเข้าไป
ประคอง แต่ซวานดันเธอไว้และพูด “อย่าแตะต้องข้า มัน
จะทาให้แย่”

“ศิษย์พี่หญิง…”

“ข้า..สบายดี…ร่ างกายข้าเพียงแค่…รู ้สึกไวนิดหน่อย..”


ซวานพูดมองดูซูหยางด้วยสายตาเป็ นประกาย หน้าแดงยิง่
กว่าเดิม

ซูหยางยิม้ ให้เธอ หันมายังหญิงสาวคนที่สอง “มาที่เตียง


เราจะได้เริ่ มกัน”
หญิงสาวมองที่เขาและผ้าปูเตียงยับย่นด้วยสายตาลังเล มี
ความรู ้สึกว่าถ้าเธอนอนลงบนเตียงเธออาจจะมีชีวติ ที่ไม่
เหมือนเดิมอีกต่อไป

“ศิษย์นอ้ งหญิงอวี้… ตรงไปแล้วนอนบนเตียง… รับรอง


เจ้ามิเสี ยใจ…” ซวานพูดกับเธอด้วยรอยยิม้ อ่อนโยนแฝง
แววมุ่งร้าย เธอต้องการให้ศิษย์นอ้ งหญิงได้ผา่ น
ประสบการณ์ที่เธอได้รับก่อนหน้านี้ เพราะยิง่ มีคนร่ วม
ประสบการณ์เดียวกันมากเท่าไร เธอก็จะรู ้สึกอายน้อยลง
เท่านั้น

เมื่อถูกโน้มน้าวโดยศิษย์พี่หญิงที่เธอเชื่อถือมาก ศิษย์
นิกายอวี้ตดั สิ นใจโยนความลังเลทิ้งและนอนลงบนเตียง
ซึ่ งยังอบอวลด้วยกลิ่นหอมจากร่ างของซวาน
“เช่นนั้น…เรามาเริ่ มกัน…” ซูหยางพูดกับเธอ

วินาทีถดั จากนั้นภายในห้องก็สะท้อนไปด้วยเสี ยงคราง


อย่างสุ ขใจไม่หยุดยั้งจนกระทัง่ สิ บนาทีผา่ นไป (3038)

ศิษย์หญิงซวานที่นงั่ พักฟื้ นอยูต่ รงขอบเตียงจ้องไปยังซู


หยางด้วยสายตาเบิกกว้าง ราวกับจะจดจาการเคลื่อนไหว
ที่สง่างามและสงบเงียบไว้ ทาไมเขาจึงสงบได้ใน
สถานการณ์เช่นนี้ ดูราวกับเขากาลังเล่นเครื่ องดนตรี โดยมี
หญิงสาวที่เปล่งเสี ยงเสนาะอยูบ่ นเตียงเป็ นเครื่ องดนตรี

“นัน่ คงเป็ นวิธีเดียวกับที่เขาสัมผัสร่ างข้า” ร่ างกายของเธอ


ร้อนรุ่ มขึ้นจากเพียงแค่มองซูหยางนวดศิษย์นอ้ งหญิง
ส่ วนศิษย์หญิงอวี้ผตู ้ ระหนักถึงศิษย์พี่หญิงผูท้ ี่อยูใ่ นห้อง
เดียวกับเธอหาได้ใส่ ใจกับตัวตนของซวานและเพียงแต่
ร้องครางอย่างบ้าคลัง่ โดยไม่อาจยับยั้ง

“หรื อว่าข้าก็ทาหน้าน่าอายและส่ งเสี ยงร้องรัญจวน


เช่นนั้นเมื่อเขานวดข้า” ซวานปิ ดปากเธอด้วยความ
แตกตื่น ยิง่ เธอมองศิษย์นอ้ งสนุกกับตัวเอง ร่ างกาย
ส่ วนล่างก็ยงิ่ สัน่ สะท้าน
DC บทที่ 16: นวดอีก ป๋า

สิ บนาทีผา่ นไปราวติดปี ก ซูหยางหยุดการกระทาและเดิน


ออกจากเตียงขณะที่อวี้พยายามกลับคืนจากสวรรค์สู่พ้นื
พิภพ จิตใจของเธอยังไม่สามารถปรับสภาพกับความเป็ น
จริ งยังคงรู ้สึกเหมือนกับนิ้วซูหยางยังคงลูบคลาร่ างเธออยู่

ซวานที่ปิดปากของเธอตลอดเวลา ในที่สุดก็สามารถเอา
มือออกจากปากของเธอที่ยงั อ้าค้างได้

ในใจของเธอเพิง่ ตระหนักว่าเดิมพันที่ผอู ้ าวุโสหลานตก


ลงกับพวกเธอไว้พลันกลายเป็ นเดิมพันที่พวกเธอไม่มีวนั
ชนะ แต่ไม่วา่ จะเป็ นโอสถหยินพ้นพิสยั หรื อฝี มือการนวด
ระดับพระเจ้าของซูหยาง… พวกเธอก็ถือว่าได้รับชัยชนะ
ทั้งสองทาง เธอไม่เสี ยใจที่ไม่ได้รับโอสถหยินพ้นพิสยั
พูดถึงความจริ งเธอยินดีแลกโอสถหยินพ้นพิสัยเพื่อให้
ได้รับการนวดจากซูหยางอีกสิ บนาทีดว้ ยซ้ าไป

สองสามนาทีต่อมา ประตูหอ้ งของซูหยางก็เปิ ดออก

“คนต่อไป” ซูหยางเรี ยกด้วยเสี ยงเรี ยบไปยังกลุ่มสายตา


สับสนที่จอ้ งมองมาทางเขา

“เกิดอะไรขึ้นกับศิษย์นอ้ งหญิงอวี้ แล้วศิษย์พี่หญิงซวาน


ล่ะ” พวกเธอถามเขาด้วยสายตาที่เปี่ ยมไปด้วยความกังขา

“พวกเรามิเป็ นไร..” ซวานเดินออกจากห้องด้วยใบหน้า


แดงเรื่ อ
“ศิษย์พี่หญิงซวาน”

“ศิษย์นอ้ งหญิงอวี้ยงั คงเดินมิสะดวกตอนนี้ จึงขอพักอยู่


ภายในอีกสักหน่อย” ซวานพูด พยายามอย่างหนักไม่ให้
หน้าแดง

“อีกแล้ว” บรรดาหญิงสาวมองซูหยางด้วยอารมณ์
แตกต่างกัน

“ข้าจะไปเอง”

หนึ่งในบรรดาหญิงสาวพลันยืนขึ้นก้าวไปทางซูหยาง
ใบหน้าแสดงถึงความเด็ดเดี่ยว
เมื่อซูหยางและหญิงสาวคนที่สามลับหายไปในห้อง
ซวานล้มลงพื้นราวแสร้งทา

“ศิษย์พี่หญิงซวาน” บรรดาหญิงสาวพากันอุทานด้วย
ความตกใจ พากันวิง่ เข้าไปพยุงเธอ

หลังจากนัง่ ลงบนเก้าอี้ ซวานพูดด้วยรอยยิม้ เอียงอาย “ข้า


สบายดี… เพียงแต่ขายังเสี ยวเกินจะเดินไปมา…”

เธอพูดต่อ “พวกเจ้าคงจาเดิมพันที่อาจารย์ทา้ พวกเรา ที่ถา้


พวกเราเดินออกจากห้องโดยมิลม้ เธอจะให้โอสถหยิน
พ้นพิสยั ”
บรรดาหญิงสาวผงกศีรษะ

“ลืมเรื่ องเดิมพันไปเสี ยและสนุกไปกับตัวเอง…”

“ท่านพูดอะไร ศิษย์พี่หญิงซวาน”

“ข้าหมายความว่า… อาจารย์เดิมพันกับพวกเราโดยที่รู้วา่
มิมีวนั แพ้…”

“อะไรนะ”

บรรดาหญิงสาวอุทานเสี ยงดัง
“เหตุการณ์แบบนี้เป็ นไปได้เช่นไร”

“เกิดอะไรขึ้นในนั้น”

“การนวดดีขนาดนั้นเลยเหรอ”

ซวานยิม้ ขมขื่นและพูด “ข้า…เหมือนขึ้นสวรรค์ในนั้น


และข้ามิอยากจะกลับมา..”

กรามของทุกคนร่ วงลงสู่ พ้นื โดยเฉพาะอย่างยิง่ ถังหู


ภายในห้อง หญิงสาวคนใหม่มองตะลึงไปยังศิษย์หญิงอวี้
ผูท้ ี่นง่ั ตรงมุมเตียงและมองกลับมายังเธอ

“ศิษย์นอ้ งหญิงอวี้ เจ้าไปนัง่ อยูต่ รงมุมนั้นทาไม”

“…” อวี้ยงั คงเงียบ ยังคงอายเกินกว่าจะตอบคา

หญิงสาวหันมามองซูหยางหรี่ ตาแล้วถาม “เจ้าทาอะไรกับ


เธอ”
“ตามหน้าที่” เขาตอบอย่างสงบ

“ศิษย์พี่หญิงจาง.. ซูหยางมิได้ทาผิดอะไร.. โปรดเชื่อเขา


..” ในที่สุดอวี้กพ็ ดู เสี ยงเบา เธอพูดต่อว่า “ร่ างข้าค่อนข้าง
รู ้สึกไวจากการนวด ข้าจึงพักชัว่ ครู่ …”

จางขมวดคิ้วและพูด “ทาไมต้องเป็ นที่นี่ ทาไมมิพกั ข้าง


นอก”

อวี้หน้าแดงเพราะคาถามเธอ

“เพราะ… ศิษย์พี่หญิงซวานก็ทาแบบนี้เหมือนกัน…” เธอ


พูดเสี ยงค่อยกว่าเดิม
“แล้วเจ้า..”

“ขอโทษที่ขดั จังหวะ แต่ขา้ มีลูกค้าเข้าแถวรออยูด่ า้ น


นอก” ซูหยางพูด “ถ้าเจ้ามิถือ ก็นอนลงบนเตียง เราจะได้
เริ่ มกัน”

จางมองเขาเงียบๆ ครู่ หนึ่งแล้วแค่นเสี ยง “ฮึ่ม ข้าจะดูวา่


เจ้ามีลูกไม้อะไร”

เธอนอนลงบนเตียงคอยให้ซูหยางเริ่ มต้น สายตาเธอจ้อง


ไปยังอวี้ที่มีสีหน้ากังวล เธอพูดขึ้นว่า “จริ งแล้วเจ้า
ต้องการดูขา้ ระหว่างนวดรึ ”
ขณะถัดไป จางเริ่ มเสี ยใจที่มองไปยังอวี้เมื่อซูหยางเริ่ ม
การนวด เธอเหลือกตา เสี ยงดังหลุดออกจากปากอย่าง
ห้ามไม่อยู่

“อาาาาาาาาา..”

เมื่ออวี้ประจักษ์ถึงสี หน้ารัญจวนของจาง เธอก็หน้าแดงก่า


เธออดคิดถึงตัวเองขณะที่อยูใ่ นสถานะเดียวกันเมื่อหลาย
นาทีก่อน รู ้สึกเหมือนมองดูตนเอง

“น..นี่เป็ นสิ่ งที่ศิษย์พี่หญิงซวานเห็นเมื่อมองดูขา้ ” เธอ


ต้องการร้องไห้แต่ไร้น้ าตา..
อวี้ไม่มนั่ ใจว่าเธอร้องเสี ยงดังเพียงใดระหว่างการบาบัด
แต่เธอมัน่ ใจว่ามันต้องดังมาก เมื่อเธอไม่ได้ยบั ยั้ง

“ข้ามิอาจมองหน้าศิษย์พี่หญิงจางมากกว่านี้ มิง้ นั ข้าคงอาย


จนตาย”

“อีก.. อีก นวดอีก ป๋ า”

“หวาาาาา” ตาอวี้แทบหลุดจากเบ้า เมื่อได้ยนิ จางเรี ยกซู


หยางเป็ น “ป๋ า”

แม้กระทัง่ ซูหยางยังอดเลิกคิ้วไม่ได้ ครั้งสุ ดท้ายที่มีคน


เรี ยกเขาว่า “ป๋ า” เขาเกือบถูกลักพาตัวไปกักขังไว้เป็ นทาส
สวาทให้หญิงคนนั้น (3038)
อย่างไรก็ตามจางดูเหมือนไม่ตระหนักว่าเธอพูดอะไร
ออกไปเธอครางอย่างต่อเนื่อง ทาให้อวี้ตระหนกกว่าเดิม

“หรื อข้า…ก็พดู บางอย่างที่น่าอาย ข้าจามิได้ ข้าจามิได้


แม้แต่นอ้ ย”

ขณะที่เสี ยขวัญ อวี้ยงั คงมองศิษย์พี่หญิงจางกรี ดร้องด้วย


ความสุ ขสม ร่ างเธอสัน่ สะท้านตามทุกการร้องคราง และ
ภาพลักษณ์ของศิษย์พี่หญิงจางผูเ้ ธอเคารพนับถืออย่างสู ง
เริ่ มแตกสลายในใจไปทีละน้อยเมื่อมองนานขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้จะรู ้สึกอายกับสิ่ งที่เธอรับรู ้ อวี้ยงั อด
ไม่ได้ที่จะจ้องมองด้วยสายตาไม่กระพริ บ ราวกับว่าเธอ
ถูกสะกดให้จมอยูก่ บั ฉากสวรรค์อนั วิจิตร

“ข้าต้องการอยูต่ รงนั้น…” เธอถอนหายใจหลังจากนั้น


เนิ่นนาน
DC บทที่ 17: น่ ากลัวแต่ น่าหลงใหล

จางจ้องมองซูหยางอย่างดุร้าย มือเธอป้องปิ ดร่ างกาย


สถานการณ์เหมือนกับซูหยางล่วงเกินเธอทั้งกายและใจ

“อะไรนัน่ เจ้าต้องการให้ขา้ รับเจ้าเป็ นลูกมิใช่รึ” ซูหยา


งยิม้ เป็ นเหตุให้จางเลือดฉี ดพล่านด้วยความอาย

“ข..ข้าจะจาไว้” จางบ่นพึมพัมเสี ยงต่า สายตาเธอตรึ งอยู่


กับซูหยาง

“ข้ามัน่ ใจว่าจะเป็ นเช่นนั้น” ซูหยางไม่สนใจคาพูดเธอ เขา


ได้ยนิ คาพูดเช่นนี้มามากนักในชีวติ ก่อน
อวี้เช็ดน้ าลายที่ไหลย้อยจากมุมปากและคิดกับตนเอง
“เขาสามารถทาให้พวกเราทั้งสามคนรู ้สึกเหมือนขึ้น
สวรรค์โดยมิได้สมั ผัสจุดหวงห้าม…หากว่าเขาทา…พวก
เราจะรู ้สึกดีกว่านี้อีกหรื อไม่”

อวี้พลันปรารถนาให้มือซูหยางดูแลหลืบเร้นลับของเธอ
หรื ออาจล่วงลึกลงไปในโลกสี ชมพูของเธอ


หลังจากนั้นสักพัก อวี้และจางเดินออกมาจากห้องซูหยาง
ทั้งคู่ดูหมดแรง

“ศิษย์พี่หญิงจาง ศิษย์นอ้ งหญิงอวี้ พวกเจ้ายังไหวไหม”


บรรดาหญิงสาวด้านนอกเข้าไปช่วยประคองพวกเธอ

“อาจารย์.. เธอหลอกพวกเรา รับโอสถหยินพ้นพิสยั เป็ น


เรื่ องเป็ นไปมิได้” จางถอนหายใจ ทาให้บรรดาหญิงสาว
งุนงง

เธอพูดต่อ “ข้ารู ้วา่ มันดีเกินจริ ง..สาหรับพวกเราที่จะได้


โอสถหยินพ้นพิสยั ง่ายๆ…แท้จริ งแล้วนี่เป็ นการกลัน่
แกล้ง…”
ทุกคนในที่น้ นั ยกเว้นซวานและอวี้ตกตะลึง รู ้สึกไม่ค่อย
เข้าใจคาพูดของเธอ ทาไมเพียงแค่การนวดธรรมดาน่า
กลัวเช่นนั้น

“ต่อไป” เสี ยงไร้อารมณ์ของซูหยางดังขึ้น เป็ นเหตุให้


บรรดาหญิงสาวหัวใจหยุดเต้น ไม่มีใครกล้าก้าวเท้าไป
หวาดกลัวกับผลลัพธ์

“…ถ้ามิมีใครแล้ว งั้น..”

“รอก่อน ข้าไปเอง ข้ามิเชื่อว่าข้าจะเสี ยท่ากับคนอย่างเจ้า”

“ศิษย์นอ้ งเล็กหญิงหมิง” บรรดาหญิงสาวต่างมองไปยัง


หญิงสาวที่อ่อนวัยที่สุดด้วยความประหลาดใจ
“ดีมาก.. ตามข้ามา”

ซูหยางและหมิงเดินหายเข้าไปในห้อง

สิ บนาทีหลังจากนั้น ประตูกเ็ ปิ ดออก


“ศิษย์นอ้ งเล็กหญิงหมิง” บรรดาหญิงสาวร้องเสี ยงดัง
มองดูอย่างตกใจเมื่อเห็นหมิงคลานออกจากห้องด้วย
น้ าตานอง ร่ างกายเธอเสี ยวซ่านจนกระทัง่ บางอย่างง่ายๆ
เช่นการยืนยังเป็ นไปไ่่ม่ได้ในครั้งเดียว

“มีใครอีกไหม” ซูหยางกราดสายตาไปยังหญิงสาวที่เหลือ
ทาให้พวกเธอรู ้สึกหนาวเยือก

“…”

ไม่คิดฝันว่าพวกเธอจะมีวนั เจอสถานการณ์ที่น่า
หวาดกลัวแต่กน็ ่าหลงไหลในเวลาเดียวกัน
บรรดาหญิงสาวต่างไม่คิดว่านี่คือการเดิมพันอีกต่อไป แต่
เป็ นการท้าทายจากซูหยางผูท้ ี่พดู ด้วยรอยยิม้ “พวกเจ้าคิด
หรื อว่าจะสามารถต้านทานกลเม็ดเด็ดพรายของข้า มาเลย
ถ้าเจ้ากล้าพอ”

“ข้าไป”

หญิงสาวก้าวตรงไปและพวกเขาก็เข้าไปในห้อง

สิ บนาทีต่อมา หญิงสาวออกมาด้วยผมยุง่ เหยิงและใบหน้า


แดงก่า
ความหวังในดวงตาของพวกเธอริ บหรี่ ลงทุกครั้งที่พา่ ยแพ้
โอกาสที่จะได้รับโอสถหยินพ้นพิสยั ช่างตึงเครี ยดและยิง่
เป็ นไปไม่ได้

อย่างไรก็ตามแม้วา่ จะเป็ นเช่นนั้น พวกเขาต่างพากันท้า


ทายซูหยาง ไม่มีใครปรารถนาที่จะเสี ยหน้าโดยการยอม
แพ้เด็กที่อ่อนกว่าเธอหลายปี ทั้งด้านอายุและ
ประสบการณ์

อนิจจา ทันทีที่ซูหยางสาแดงฤทธิ์ ร่ างกายของบรรดา


หญิงสาวล้วนยอมจานน กระทัง่ ขอให้ได้มากกว่านั้น


ไม่นานนักก็หลงเหลือเพียงคนเดียวที่ยงั ไม่ได้รับการนวด

“ศิษย์พี่หญิงเซียว… ตาท่านแล้ว..”

“ศิษย์นอ้ งหญิงเซียว…เหลือเจ้าเพียงคนเดียวที่ยงั ..”

ศิษย์หญิงเซียวมองไปยังผองพี่นอ้ งด้วยความรู ้สึก


หวาดกลัว
“แต่…แต่ ข้ามีคู่ฝึกแล้ว…ข้ามิยอมให้ชายอื่น…” เซียว
พยายามที่จะหาข้ออ้างให้ตนเองพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้
แต่บรรดาพี่นอ้ งต่างพากันเหยียดหยาม

“ฮึ่ม พวกเราทุกคนล้วนมีคู่ฝึกเช่นกัน”

“ใช่วา่ เขาจะทามิดีมิร้าย…มันเป็ นแค่การนวดธรรมดา..”

“ตรงส่ วนไหนที่ธรรมดา มองดูพวกท่านทุกคนนอนอยู่


บนพื้น ลองส่ องกระจกดูท่าทางบนใบหน้าพวกท่านสิ
กระทัง่ การฝึ กคู่ที่หยาบโลนที่สุดยังมิสามารถทาให้พวก
ท่านดูน่าอายได้เช่นนี้ เกิดอะไรขึ้นกับความเป็ นกุลสตรี
ของพวกท่านกัน” เซียวยังคงปฏิเสธ เพียงมองดูซูหยางยืน
อยูห่ น้าห้องทาให้เธอสะท้าน ยืนอยูต่ รงนั้นซูหยางเหมือน
เป็ นปี ศาจร้าย และประตูทางเข้าห้องก็เหมือนเส้นทางสู่
นรกที่สามารถกลืนกินจิตวิญญาณ

“ข้ามิบงั คับใครให้มารับบริ การ” ซูหยางพูด “ถ้ามีแค่น้ ี ก็


ถือว่างานจบแล้ว”

บรรดาหญิงสาวพากันมองเซียวเจือแววเวทนา เธอไม่รู้วา่
พลาดโอกาสและต้องเสี ยใจในสักวัน

“อืม…ซูหยาง..” ศิษย์หญิงอวี้พลันเรี ยกหาเขาอย่างเอียง


อาย

“มีอะไรรึ ” เขาหันมามองเธอ
“ถ..ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือ เจ้าสามารถมาหาข้า อวี้
เอียน สาหรับคาแนะนา.. แม้วา่ ข้าจะเป็ นเพียงศิษย์นอก
ในฐานะคนจากตาหนักโอสถข้ามีคนรู ้จกั ในนิกาย…
ฉะนั้นถ้าเจ้าต้องการอะไรเจ้าสามารถมาหาข้า…”

“เจ้าเล่ห์” บรรดาหญิงคนอื่นต่างพากันมองเธอด้วยดวงตา
เบิกกว้าง ไม่มีใครสักคนจะนึกว่าน้องเล็กสุ ดในบรรดา
พวกเขาจะกล้าริ เริ่ ม

“ซูหยาง ข้าชื่อซวานจิงหลิน ข้าสามารถช่วยได้ ถ้าเจ้า


ต้องการอะไรเจ้าสามารถหาข้าได้ที่ตาหนักโอสถหรื อที่
ห้องพักข้าก็ได้..”

“ข้าชื่อเจียปี อวี้ ข้าสามารถ…”


บรรดาหญิงสาวต่างแย่งกันแนะนาตัวเองต่อซูหยาง สร้าง
ความตื่นตะลึงให้กบั เซี ยวและถังหูที่ยนื นิ่งเป็ นไก่ไม้
ตั้งแต่ตน้

“ทาตัวเหมือนหมาติดสัด นี่เป็ นเพราะซูหยาง” เซียวไม่


สามารถทนดูได้อีกบรรดาหญิงสาวทาลายภาพพจน์ของ
พวกเธออีกต่อไป เธอหันกายออกไปจากที่แห่งนั้น

เมื่อเซี ยวจากไป คนอื่นทอดถอนใจ แม้วา่ จะอวดตัวไป


บ้างแต่พวกเธอเชื่อว่าการกระทาของพวกเธอสมเหตุผล
ความปั่ นป่ วนสงบลงอย่างรวดเร็ ว และเมื่อหญิงสาว
เตรี ยมตัวจากไป ซูหยางก็เตือนพวกเธอ “ อย่าลืมสัญญา”
(3038)

“อย่าว่าแต่สิบคน ข้าจะกระจายข่าวการบริ การของเจ้าไป


ให้ทุกคนที่ขา้ รู ้จกั ”

“ข้าด้วย”

“ข้าจะตั้งตารอเดือนหน้า..”

“…ข้าก็เช่นกัน…”
ซูหยางมองดูบรรดาหญิงสาวแยกย้ายจากไปด้วยรอยยิม้
อ่อนโยน เมื่อพวกเธอจากไปหมดแล้ว ถังหูกน้ กระแทก
พื้นด้วยสายตาตื่นตระหนก

เขาไม่อยากเชื่อ ตั้งแต่เมื่อไรที่ซูหยางได้รับความนิยม
กระทัง่ เป็ นเหตุให้ศิษย์พี่หญิงหลายคนต้องคุกเข่าให้เขา

ซูหยางจ้องมองถังหูแล้วหัวเราะ “คุน้ เคยกับมันไว้ ยังจะ


มาอีกเยอะ”

“มาอีกเยอะ..” ถังหู กรอกสายตาเกือบสิ้ นสติ เขาสามารถ


รู ้สึกได้ถึงพายุที่เริ่ มก่อตัวขึ้นในสถานที่แห่งนี้
DC บทที่ 18: กลิน่ หอมที่ทงิ้ ไว้

หลังจากบรรดาหญิงสาวจากตาหนักโอสถจากไป ซูหยาง
ขังตนเองไว้ในห้อง เขานัง่ ขัดสมาธิบนเตียง ปิ ดเปลือกตา

เขาสู ดหายใจเข้าลึกผ่านจมูก รื่ นรมย์กบั กลิ่นหอมดอกไม้


ที่ยงั อบอวลอยูบ่ นเตียง กลิ่นหอมที่หญิงสาวทั้งเก้าทิ้งไว้
คล้ายกับเตียงดอกไม้ที่อบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้เก้าชนิด

นอกจากกลิ่นหอมที่ยงั อบอวลอยู่ เตียงยังส่ งประกายของ


ปราณหยินเบาบาง ปราณหยินมาจากหญิงสาวทั้งเก้าผูซ้ ่ ึ ง
ปลดปล่อยตนเองสู่ สวรรค์
ซูหยางใช้ปราณหยินที่หลงเหลือบนเตียงเพียงเล็กน้อยนั้น
ฝึ กฝนพลังปราณของตนเอง แม้วา่ จะเทียบไม่ได้กบั
ปราณหยินพรหมจรรย์ของผูอ้ าวุโสหลาน มันก็ยงั พอมี
ประโยชน์ต่อพลังการฝึ กปรื ออยูบ่ า้ ง

เวลาเดียวกันนั้นถังหู เปิ ดประตูเพื่อต้อนรับผูม้ าเยีย่ ม

“เมิ่งเจีย..” ถังหู ตอ้ นรับคู่ฝึกของตนเข้ามา

“เกิดอะไรผิดปกติรึ เจ้าดูหดหู่..” เมิ่งเจียพูดด้วยเสี ยงเป็ น


กังวล

“ข้าคิดว่าเจ้าควรอยูห่ ่างจากที่นี่สกั พัก..”


“อะไร” เมิ่งเจียหน้าซี ด “ข้าทาอะไรผิดรึ ข้าทาอะไรที่ผดิ
ต่อเจ้า”

ถังหู พดู ราวกับว่าเมิ่งเจียทาอะไรสักอย่างล่วงเกินเขา


ดังนั้นเขาจึงต้องการให้เธออยูห่ ่างจากเขานับแต่น้ ีเป็ นต้น
ไป

“เอ๋ มิ มิ มิใช่ เจ้ามิได้ทาอะไรผิด เอาเป็ นว่า…ที่นี่จะ


วุน่ วายในเร็ ววันนี้…” ถังหูแก้ตวั ทันทีที่เขาตระหนักถึง
ความผิดพลาด

“วุน่ วาย เช่นไร เกิดอะไรขึ้น” เมิ่งเจียไม่สามารถปรับตัว


เข้ากับสถานการณ์
“ซูหยาง.. ข้ามิรู้วา่ เขาพยายามทาอะไร แต่มนั เป็ นอะไรที่
ทาให้เขาตกอยูใ่ นสถานการณ์ที่ขา้ มิกล้านึกถึง..” ถังหู
ย้อนนึกถึงเหตุมหัศจรรย์เมื่อเช้านี้ ถ้ามันดาเนินเช่นนี้
ต่อไปมันก็ข้ ึนกับเวลาที่ซูหยางจะล่วงเกินใครสักคนที่ไม่
ควรจะล่วงเกิน

“ซูหยาง ตอนนี้อยูท่ ี่ไหน”

“เขาอยูใ่ นห้อง..ส่ วนจะทาอะไรข้านึกมิออก เช่นไรก็ตาม


เจ้าต้องอยูใ่ ห้ห่างจากที่นี่.. เขา..” ถังหูกระวนกระวายแทน
เมิ่งเจีย เธออาจจะตกอยูใ่ นอุง้ มือซูหยาง ถ้าเธอได้รับการ
นวดซึ่ งเป็ นเหตุให้หญิงสาวทั้งเก้าบ้าคลัง่
ในนิกายนี้ไม่อนุญาตให้ศิษย์บงั คับคนอื่นให้ร่วมฝึ กคู่ แต่
ไม่มีกฏห้ามมิให้แย่งคู่ฝึกคนอื่น ถ้าเป็ นซูหยาง ถังหูเชื่อว่า
เขาสามารถแย่งหญิงคู่ฝึกจากคนอื่นได้อย่างง่ายดาย
เหมือนแย่งขนมเด็ก

เพียงคิดถึงความเป็ นไปได้ที่ซูหยางจะแย่งเมิ่งเจียจากมือ
เขา ถังหูกระวนกระวาย

“ไม่วา่ อะไรที่เจ้ากังวลอยู่ ข้าจะทาให้มนั หายไปบนเตียง


มาเร็ ว มาฝึ กกันเถอะ” เมิ่งเจียพูดพร้อมดึงถังหูเข้าไปใน
ห้องโดยไม่เปิ ดโอกาสให้เขาปฏิเสธ


ซูหยางยังคงขังตนเองในห้องจนกระทัง่ พระอาทิตย์ข้ ึน
เขาจัดเตียงและรี บอาบน้ าก่อนจะกลับไปยังลานฝึ กเพื่อรอ
ลูกค้า

แม้วา่ ยังเหลือระยะทางอีกมากกว่าจะถึง 10,000 แต้ม


รางวัลสาหรับดอกหยางพิสุทธิ์ ซูหยางมีความมัน่ ใจว่าเขา
สามารถหาได้มากพอในช่วงเวลาที่เหลือ

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นซูหยางก็มาถึงลานฝึ ก ทันทีที่เขาไป
ถึงเขาสังเกตเห็นกลุ่มสาวสวยจานวนมากยืนอยูร่ อบ
บริ เวณที่เขาตั้งป้าย ดูไม่ต่ากว่าสามสิ บคนและทุกคนดู
เหมือนรออะไรหรื อใครสักคน

ยิง่ กว่านั้นขณะที่ซูหยางก้าวเท้าเข้าไปในลานฝึ ก บางคน


ตะโกนขึ้น “นัน่ ซูหยาง”

เมื่อกลุ่มหญิงสาวได้ยนิ คาว่า ซูหยาง พวกเธอทุกคนหัน


ขวับมามองเขาด้วยสายตาใคร่ รู้

“คนนั้น ซูหยาง ใช่ไหม ใช่เขาชานาญการใช้มือขั้นเทพ


จริ งรึ ”

“ข้าไม่รู้ แต่ศิษย์พี่หญิงซวานสัญญาว่าเธอจะให้พวกเรา
คนละ 200 แต้มรางวัล ถ้าเขาบริ การมิถึงใจ…”
“10 แต้มรางวัล มิใช่รึ ฮิฮิ ศิษย์พี่หญิงซวานต้องเสี ยใจที่
สัญญาเช่นนี้กบั พวกเราหลังจากพวกเรารับบริ การ”

บรรดาหญิงสาวตรงเข้าไปหาซูหยางด้วยความสุ ขใจ

“ซูหยาง พวกเรามาที่นี่เพื่อลิ้มลองฝี มือของเจ้า ถ้าเจ้ามิ


สามารถทาให้พวกเราพอใจ เจ้าต้องไปขอโทษศิษย์พี่
หญิงซวานที่ตอ้ งเสี ยหน้าเพราะเจ้า”

ซูหยางยิม้ และพูดว่า “ถ้าข้ามิสามารถจะสร้างความพึง


พอใจให้พวกเจ้าคนใดก็ตาม ข้ายินดีตดั แขนป้อนสุ กร”
น้ าเสี ยงมัน่ ใจของซูหยางและใจถึงรวมถึงใบหน้าเรี ยบ
เฉยทาให้บรรดาหญิงสาวตะลึง

“เห..ดูท่าเจ้าจะมีความมัน่ ใจมิใช่นอ้ ย หวังว่าเจ้ามิเสี ยใจ


ในคาพูดที่กล่าวออกมา”

หลังจากบรรดาหญิงสาวรับเงื่อนไขสามข้อ ซูหยางนา
พวกเธอไปยังที่พกั ถึงหูเริ่ มสติแตกเมื่อเห็นกลุ่มสาว
จานวนมากเดินตามเขามายังที่พกั ผ่านหน้าต่าง (3038)

“ทาไมเขาจึงรวบรวมลูกค้าได้มากมายในเวลาสั้นๆ เขา
เพิ่งออกไปจากบ้านเมื่อกี้” ถังหูเริ่ มจัดเครื่ องเรื อนไปไว้
ข้างผนังที่จะได้ไม่แออัด เขายังวางเก้าอี้ไว้หน้าห้องซู
หยางเพื่อพวกเธอจะได้เข้าไปได้ง่ายเมื่ออีกคนออกมา
หลังจากนั้นถังหู กซ็ ่อนตัวอยูใ่ นห้องกลัวความโกลาหลที่
จะเกิดขึ้นในไม่ชา้

เมื่อมาถึงประตูหน้า ซูหยางพูดกับบรรดาหญิงสาวว่า
“สถานที่ค่อนข้างเล็ก ข้าคงรับได้เพียงครั้งละสิ บคน ที่
เหลือคงต้องรอด้านนอก”

แม้วา่ จะไม่พอใจ แต่บรรดาหญิงสาวไม่ได้บ่นอะไร

เมื่อซูหยางเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในบ้าน เขาเกือบ
หัวเราะออกมา “ช่างเป็ นคนคิดมาก” เขาคิดในใจ

“เอาละ.. ใครคนแรก” ซูหยางยืนหน้าห้องนอน ด้วย


รอยยิม้ ต้อนรับ มองกราดไปยังบรรดาสาวสวยในห้อง
DC บทที่ 19: วิถสี ่ ู สวรรค์ แท้ จริงเส้ นทางเดียว

ซูหยางเปิ ดประตูและลูกค้าคนที่หา้ ก็ดิ้นรนออกจากห้อง


ด้วยท่าทางโซเซราวกับคนเมา

เมื่อบรรดาหญิงสาวด้านนอกเห็นสภาพของเธอ พวกเธอ
ฝื นกลืนน้ าลายอย่างตกใจ

“นี่คนที่หา้ แล้ว…หรื อว่ากลเม็ดของเขาจักดีปานนั้น”

“เพียงแค่ดูอาการบนใบหน้าของพวกเธอขณะที่เพิง่
ออกมาทาให้ขา้ รู ้สึกร้อนรุ่ มไปทั้งกาย…”

“ใครคนต่อไป เร็ วเข้า เรามิมีเวลาทั้งวันที่นี่”


บางคนเริ่ มร้อนรนจากการรอคอย เพียงเห็นใบหน้าเปี่ ยม
สุ ขจากผูร้ ับการนวดจากซูหยางยิง่ ทาให้เธอคันหัวใจ
อยากให้ถึงตาตัวเองในบัดดล

ส่ วนผูท้ ี่ผา่ นฝี มือของซูหยางมาแล้ว บ้างก็ยงั นัง่ อยูบ่ น


เก้าอี้ในห้องที่เตรี ยมไว้ดว้ ยว่าพวกเธอยังเดินไม่ไหวและ
บางคนถูกเรี ยกไว้ตอบคาถาม

“เป็ นเช่นไรบ้าง”

“มันเหมือนอยู.่ .เหนือโลก.. เหมือนกับล่องลอยสู่ ดวง


ดาราท่ามกลางธาราน้ านม…” (*ธารน้ านม คืออีกชื่อหนึ่ง
ของทางช้างเผือก)
“ถ้ามีสเกลวัด 1 ถึง 10 มันควรจักได้สกั กี่คะแนน”

“สเกล ข้าจักวัดด้วยสเกลได้เช่นไร มันลึกซึ้งเกินจะวัด


ได้”

เกิดความโกลาหลในสถานที่น้ นั อย่างรวดเร็ ว ไม่นานนัก


ทุกคนก็คนั คะเยอทั้งใจอยากลองกลเม็ดของซูหยาง

ชัว่ โมงกว่าผ่านไปอย่างรวดเร็ ว

ซูหยางบาบัดลูกค้าได้มากกว่าสิ บคน อย่างไรก็ตามคิว


ด้านนอกไม่ได้หดสั้นลงแม้แต่นอ้ ย กลับกันมันยิง่ ยาวขึ้น
กว่าเดิม
ซูหยางเลิกคิ้วมองดูคิวด้านนอกบ้าน มันมีไม่ต่ากว่า
สามสิ บคนยืนรออยู่ พวกเธอมาจากไหน เขาจาได้วา่ เขา
ไม่ได้พาพวกเธอมาจากลานฝึ ก

คาตอบอื่นที่เขาพอคิดออกก็คือ เพราะพวกเธอรู ้จกั สถาน


ที่น้ ีจากลูกค้าคนอื่น

“ข้าต้องแก้ไขบางอย่าง…” ซูหยางหยุดบริ การสองสาม


นาทีเพื่อตั้งป้ายไว้ขา้ งบ้าน

ป้ายถูกแขวนไว้บนประตูหน้าบ้าน เขียนว่า “ซูหยางการ


นวด วิถีสู่สวรรค์แท้จริ งเส้นทางเดียว 10 แต้มรางวัลต่อ
การบริ การ”
หลังจากมองดูป้ายอย่างพึงใจ ซูหยางก็กลับไปบริ การ
ลูกค้าต่อ

24 ชัว่ โมงผ่านไปตั้งแต่ซูหยางแขวนป้ายไว้หน้าบ้าน แต่


ว่าคิวด้านนอกบ้านยังอยูเ่ ช่นเดิม นับแต่ศิษย์พี่นอ้ งเก้าคน
ของตาหนักโอสถได้สมั ผัสกับกลเม็ดของซูหยาง พวกเธอ
ก็เริ่ มกระจายชื่อเขาไปทัว่ เขตศิษย์นอก แม้ตอนแรกผูค้ น
จะสงสัยแต่เมื่อหลายคนเริ่ มกระจายข่าวเดียวกันก็ยงิ่ ง่ายที่
ผูอ้ ื่นจะเชื่อถือบริ การของซูหยาง

บางคนมารับบริ การจากซูหยางก็เพราะว่าความสงสัยและ
บางคนก็มาเพื่อความสุ ขแท้จริ ง แน่นอนว่าทุกคนที่เข้าไป
ในห้องซูหยางต้องออกมาด้วยความสดใหม่ราวกับเพิง่
เกิดใหม่

สองวันหลังจากนั้น ซูหยางรับสาวสวยทุกประเภทเข้าสู่
ห้องด้วยรอยยิม้ ต้อนรับและแทบไม่ได้พกั

สุ ภาพสตรี แสนสง่าเอวบางเพียงหยิบมือบั้นท้ายกลมกลึง
หญิงที่เติบโตเต็มสาวทรงโตเปี่ ยมเสน่ห์วยั สาว แม้กระทัง่
เด็กหญิงที่ยงั เติบโตไม่เต็มสาวไม่อาจเรี ยกว่าเป็ นผูใ้ หญ่
ทุกคนล้วนเข้ามาหาซูหยางเพื่อรับรู ้ฝีมือของซูหยาง

เมื่อถึงจุดหนึ่ง ชื่อเสี ยงของเขาก็รับรู ้ไปถึงศิษย์ในบางคน

อย่างรวดเร็ วนอกบ้านซูหยางพลันครึ กครื้ นด้วยลูกค้า


หลายโหลหัวเราะหยอกล้อกันในแถวต่างคาดหมายถึง
ประสบการณ์ที่ตนเองจะได้รับ ราวกับเป็ นแหล่งรวม
ดอกไม้นานาพันธุ์ ทาให้สถานที่ยง่ิ คล้ายกับตลาดมากกว่า
ที่จะเป็ นที่พกั ของใครบางคน

ในวันที่สี่แทบทุกคนในเขตศิษย์นอกต้องได้ยนิ เรื่ องฝี มือ


การนวดอันศักดิ์สิทธิ์ของซูหยางไม่วา่ พวกเขาจะชอบ
หรื อไม่ ตั้งแต่หมูหมากาไก่ไปจนถึงผูอ้ าวุโสนิกายพวก
เขาต้องได้ยนิ บรรดาศิษย์พดู ถึงประสบการณ์ของตนเอง
กับซูหยางเมื่อไรก็ตามที่เดินออกมานอกบ้าน

“ซูหยาง นัน่ มิใช่ศิษย์นอกปัญญาอ่อนนัน่ รึ ทาไมสาวแก่


แม่ม่ายพูดถึงแต่เรื่ องเขาไปทัว่ ” เหตุการณ์ผดิ ปกติในเขต
ศิษย์นอกเป็ นเหตุให้ผอู ้ าวุโสนิกายต้องใส่ ใจซูหยางมาก
กว่าปกติ
อย่างไรก็ตามยิง่ มีคนพูดถึงเขาก็ยงิ่ มีขอ้ กังขามากขึ้น
ทาไมบางคนเช่นซูหยางผูม้ ีชื่อเสี ยงน่าขยะแขยงของหลาย
คนพลันกลายเป็ นที่นิยมในนิกายโดยไม่รู้วา่ มาได้อย่างไร
ศิษย์หญิงแทบทุกคนจะต้องพูดถึงแต่เขา ส่ วนบางคนที่ยงั
ไม่ได้รับรู ้ถึงฝี มือของเขา พวกเธอจะต้องพูดถึงเขาในไม่
ช้าก็เร็ ว

“บรรดาศิษย์ขา้ ยังพูดถึงเขามิหยุดวันก่อน พวกเธอล้วน


หัวเราะคิกคักราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งกลับมาจากสวน
สนุก…”

“ศิษย์เจ้าด้วยรึ ศิษย์คนเดียวของข้าเอาแต่เหม่อมอง
ท้องฟ้าทั้งวันขณะที่ราพึงชื่อเขานับตั้งแต่เธอไปยังบ้าน
เขาเมื่อสองวันก่อน..”
“คู่ฝึกของบรรดาศิษย์ขา้ บ่นให้ขา้ ฟังว่าเทคนิคของพวก
เขาทาให้พวกเธอพอใจมีิได้เลย…”

“ยังมีศิษย์ชายหลายคนพยายามไปหาเรื่ องที่ที่พกั ของซู


หยาง แต่พวกเขาล้วนถูกขับไล่ก่อนจักถึงประตูบา้ น…”

“นี่ค่อนข้างเป็ นปั ญหา หื อ…พวกเราควรทาเช่นไร หยุด


การทาธุรกิจของเขาไหม”

“มิใช่ความคิดที่ดี นัน่ ต้องเกิดจลาจลขึ้นแน่ถา้ ธุรกิจของ


เขาถูกบังคับให้ปิด”

“ไอ้หยา..งั้นเราควรทาเช่นไรดี”
บรรดาผูอ้ าวุโสต่างพากันขุ่นเคืองกับสถานการณ์ แต่พวก
เขาไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรดี

“หรื อว่าพวกเราไปขอให้จา้ วนิกายหญิงช่วย”

“ไม่ ไยต้องรบกวนเจ้านิกายหญิงในเรื่ องเล็กน้อยเช่นนี้


มิได้เด็ดขาด พวกเราควรรอนานอีกนิดแล้วดูวา่ ผลจัก
ออกมาเป็ นเช่นไร”

พักใหญ่บรรดาผูอ้ าวุโสจึงตกลงกันได้

“เช่นนั้น พวกเราก็ถอยสักก้าวและคอยสังเกตดู เช่นไรก็


ตามถ้าเรื่ องออกนอกลู่นอกทางพวกเราก็ตอ้ งเข้าไปยุง่ ”

ภายในห้อง ซูหยางมองไปยังป้ายหยกในมือ

“5,514 แต้มรางวัลหลังจากสี่ วนั อันยาวนาน ถ้าเป็ นเช่นนี้


ข้าคงตายเพราะหมดแรงก่อนจักได้รับดอกหยาง
พิสุทธิ์…” แขนเขาปวดเมื่อยและนิ้วชาด้าน
แม้วา่ เขาเคยทางานโดยไม่หยุดพักมาก่อน แต่วา่ ร่ าง
มนุษย์ตอนนี้ไม่สามารถรับภาระของการใช้ฝีมือระดับนี้
ได้ตลอดเวลา

ซูหยางมองไปด้านนอกหน้าต่าง ที่นน่ั ยังมีกว่า 50 คนเข้า


แถวรออยู่

หลังจากไตร่ ตรงสักพัก เขาตัดสิ นใจออกไปด้านนอกเพื่อ


ประกาศเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

“ด้วยมีความต้องการมาก ข้าตัดสิ นใจเปลี่ยนราคาจาก 10


แต้มรางวัล เป็ น 100 แต้มรางวัล นอกจากนี้ขา้ ยังรับเพียง
25 คนต่อวัน นับแต่พรุ่ งนี้เป็ นต้นไป”
การเปลี่ยนแปลงเป็ นเหตุให้หลายคนขมวดคิ้ว

“พวกเรารออยูด่ า้ นนอกนี่ต้ งั ชัว่ โมงกว่า และเจ้ายัง


ต้องการเปลี่ยนราคาในทันใด นี่มิมีเหตุผล”

“ใช่แล้ว ข้ามีมิถึง 100 แต้มรางวัล ถึงข้ามีขา้ ก็มิยอมเสี ย


มันเพราะการนวด มิวา่ มันจักรู ้สึกดีเพียงใด”

แถวคิวหดสั้นอย่างรวดเร็ วเมื่อผูค้ นพากันจากไป

ทันใด บางคนถาม “ซูหยาง เมื่อเจ้าเพิ่มราคา บริ การของ


เจ้าเพิ่มขึ้นไหม”
ซูหยางผงกหัวและพูดว่า “แน่นอน เวลาก็จะเพิ่มจากสิ บ
นาทีเป็ นสามสิ บนาที และข้ารับประกันให้ดว้ ยว่าปราณห
ยินของเจ้าจักเพิม่ ประสิ ทธิภาพขึ้นหลังบริ การ”

“อะไรนะ ปราณหยินจักเพิม่ ประสิ ทธิภาพขึ้นด้วย เป็ นไป


ได้ดว้ ยรึ ”

บรรดาศิษย์นิกายต่างไม่เชื่อถือเขา ในที่สุดแล้วมีเพียงยา
และวัตถุล้ าค่าเท่านั้นที่สามารถเพิ่มปราณหยินหรื อ
ปราณหยาง ถ้าหากมีเคล็ดที่เพิ่มปราณหยินหรื อปราณห
ยางในร่ างเช่นนี้จริ ง คนที่มีเคล็ดเช่นนั้นคงเป็ นเทพเจ้า
แล้ว
“จักเป็ นไปได้หรื อไม่น้ นั เจ้าจักรู ้เมื่อได้ลอง” ซูหยางพูด
ไร้อารมณ์ เขายังเพิ่มเติมว่า “ข้าขอโทษกับความไม่
สะดวก แต่วนั นี้จบเพียงเท่านี้ กลับมาพรุ่ งนี้เช้าถ้าต้องการ
ใช้บริ การ” (3038)

หลายคนที่ยนื หน้าบ้านต่างตกตะลึง ถึงแม้วา่ พวกเธอ


เข้าใจว่าเขาต้องการพักหลังจากทางานต่อเนื่องมาหลาย
วันไม่ได้ปิด พวกเธอยังรู ้สึกโกรธขึ้งในใจ

“ซูหยางนี่ช่างหน้าด้านและยะโส เพียงแค่มือดีหน่อยก็คิด
ว่าสามารถทาอะไรก็ได้แม้กระทัง่ หยาบคายกับลูกค้า ฮึ่ม
ข้าเสี ยเวลาที่นี่ไปเปล่าๆ ข้ามิมาอีกแล้ว”

“ข้าด้วย”
“ไปเถอะ”

บางคนกระทืบเท้าจากไปอย่างโกรธแค้น และหลายคน
ถอนหายใจ

อย่างรวดเร็ ว บ้านซูหยางกลายเป็ นรกร้างและเงียบสงัด

อย่างไรก็ตามแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงกับซูหยาง เขา
กลับเข้าไปด้านในเพื่อพักผ่อนเพราะเขาจะต้องเจอศึก
หนักนับแต่น้ ี
DC บทที่ 20: ดอกหยางพิสุทธิ์

ข่าวซูหยางเปลี่ยนราคาบริ การจาก 10 แต้มรางวัลเป็ น 100


แต้มรางวัลรวมไปถึงที่เขารับลูกค้าเพียง 25 คนต่อวันแพร่
สะพัดไปอย่างรวดเร็ ว หลายคนไม่พอใจกับการ
เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะผูท้ ี่ยงั ไม่มีโอกาสได้ลิ้มลอง
ความสุ ขจากบริ การเมื่อมันยังมีราคาถูกและสามารถซื้อ
ได้รวมไปถึงผูท้ ี่ตดั สิ นใจรอจนสายเกินไป อย่างไรก็ตาม
ผูท้ ี่ได้ลิ้มลองกลเม็ดเด็ดพรายของเขาแล้ว พวกเธอล้วน
ยินดีจ่าย 100 แต้มรางวัลเพื่อรับรู ้รสชาติน้ นั อีกครั้ง น่า
เศร้าที่พวกเธอล้วนต้องห้ามจนกว่าจะถึงเดือนหน้า

ส่ วนข่าวเรื่ องซูหยางสามารถเพิม่ ปราณหยินถูกพิจารณา


ว่าเป็ นเรื่ องตลกไร้สาระ ดังนั้นไม่มีใครใส่ ใจจะพูดถึง
วันถัดมาหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงบริ การ แถวยาว
เหยียดที่เคยมีหน้าบ้านซูหยางก็ไม่ปรากฏอีกต่อไป ซู
หยางรู ้ดีวา่ ธุรกิจต้องชะลอตัวลงถ้าเพิม่ ราคา แต่เขาก็ไม่
ใส่ ใจและอดทนรอต่อไป

เมื่อตะวันลาลับขอบฟ้า ก็ปรากฏเงาร่ างหนึ่งมุ่งสู่ ที่พกั


ของซูหยาง ผมยาวสลวยสยายถึงบั้นเอว ร่ างสู งสวยสง่า
เติบโตเต็มสาวทรงเสน่ห์พร้อมกลิ่นหอมสมุนไพรที่เธอ
ทิ้งไว้เบื้องหลัง

ซูหยางเปิ ดประตูและต้อนรับผูม้ าเยือนด้วยรอยยิม้ “ยินดี


ต้อนรับ ผูอ้ าวุโสหลาน”

ผูม้ าคือผูอ้ าวุโสหลาน ผูซ้ ่ ึ งดูไม่ค่อยพอใจนัก

“หลังจากที่ขา้ พยายามกระจายความดีของบริ การเจ้า เจ้า


กลับละทิ้งและทาลายมัน เจ้าวางแผนอะไรอยูก่ นั แน่”
แม้วา่ เธอจะประหลาดใจกับความเปลี่ยนแปลง ผูอ้ าวุโส
หลานไม่เชื่อว่าซูหยางทาเช่นนี้ดว้ ยเจตนาที่จะทาลาย
ชื่อเสี ยงที่ได้มาอย่างยากเย็น
ถ้าเจ้าเหนื่อย เจ้าก็ควรจากัดจานวนลูกค้าในแต่ละวัน แต่
มีความจาเป็ นเช่นไรที่เจ้าต้องเพิ่มราคาถึงสิ บเท่า หรื อเจ้า
มืดบอดไปด้วยความโลภ ข้าขอบอกเจ้าไว้วา่ ตอนนี้มีศิษย์
นอกมิกี่คนที่พอจะมีจ่าย 100 แต้มรางวัลเพื่อความสุ ข 30
นาที มิวา่ มันจักดีแค่ไหน”

ซูหยางหัวเราะไปกับคาพูดของเธอแล้วกล่าวว่า “ผูอ้ าวุโส


หลาน… ถ้าบางคนสามารถเพิ่มประสิ ทธิภาพของปราณห
ยินของเจ้า เจ้ายินดีจ่ายให้กบั คนนั้นเท่าไหร่ ”

“หื ม” ผูอ้ าวุโสหลานไม่เข้าใจว่าทาไมเขาุ่ ถึงถามเธอ


เช่นนั้น คาตอบย่อมชัดเจนอยูแ่ ล้ว
“โอสถหยินพ้นพิสยั เม็ดหนึ่งราคาต่าสุ ดอยูท่ ี่ 3,000 แต้ม
รางวัล แน่นอนว่าข้ายินดีช่วยเพิ่มปราณหยินหมือนที่
โอสถหยินพ้นพิสัยทาโดยคิดเพียง 100 แต้มรางวัล ถ้านี่มิ
เรี ยกว่าการลดราคา ข้าก็มิรู้วา่ จักเรี ยกว่าอะไรดี”

“อะไรนะ เจ้าสามารถเพิม่ ปราณหยิน” ผูอ้ าวุโสหลาน


ตกใจ เธอไม่เคยได้ยนิ อะไรเช่นนี้มาก่อนที่จะมาที่นี่

ซูหยางผงกศีรษะ ยืนยันข้อสงสัย “ปราณหยินและหยาง


ทางานคล้ายกันในร่ างผูค้ น ถ้าเจ้าสามารถทาให้มนั รู ้สึกดี
แน่นอนว่ามันยิง่ ทางานดียงิ่ ขึ้น”

“…” ผูอ้ าวุโสหลานรู ้สึกว่าเหตุผลของเขาค่อนข้างไร้


สาระ แต่เธอไม่กล่าวอะไร
“แล้วเจ้าจักเพิ่มประสิ ทธิภาพปราณหยินพวกเธอเช่นไร”

“แน่นอนว่าด้วยมือข้า”

“…” ผูอ้ าวุโสหลานนวดขมับ รู ้สึกเครี ยด “ ซูหยางเจ้างี่


เง่ามากกว่าที่คิด…”

“ข้าโง่เง่ารึ ” ซูหยางรู ้สึกมึนงงกับถ้อยคาของเธอ

“ถ้าเจ้าสามารถเพิ่มประสิ ทธิภาพปราณหยินใครต่อใคร
ได้จริ ง… เจ้าตระหนักถึงอันตรายของมันบ้างไหม ถ้าสิ่ ง
นี้รู้ถึงนิกาย เจ้าลืมที่จะได้เห็นแสงตะวันอีกครั้งได้เลย แต่
อาจจักดีสาหรับก็เป็ นได้เพราะเจ้าจักได้สมั ผัสร่ างหญิง
สาวทุกวันจนกระทัง่ ตาย”

ผูอ้ าวุโสหลายคาดว่าจะเห็นความสิ้ นหวังในดวงตาซู


หยาง แต่เธอกลับแปลกใจเพราะรอยยิม้ ของเขาแทน

“ทาไมเจ้ายิม้ เจ้าคิดว่าข้าพูดเล่นรึ ”

“ข้ายิม้ เพราะเจ้ามิได้พยายามจับกุมข้าตอนนี้”

คาพูดของซูหยางทาให้ผอู ้ าวุโสหลานงุนงง หน้าเริ่ มแดง


“แม้วา่ มันจักดูน่าสนใจที่เห็นเจ้าอยูห่ ลังลูกกรง แต่าข้า
มิใช่คนที่ปฏิบตั ิต่อศิษย์ขา้ เช่นว่าพวกเขาเป็ นเครื่ องมือ” ผู ้
อาวุโสหลานพูดให้บรรยากาศของความเศร้าสะเทือนใจ

ความหดหู่ในใจผูอ้ าวุโสหลานทาให้เกิดประกายความคิด
ในใจซูหยาง

“เช่นที่ขา้ คิดไว้.. พวกเธอช่างคล้ายกันนัก…” เขาทอด


ถอนใจ

“ซูหยาง… ข้าสงสัย.. เจ้ามีเจตนาเช่นไรจึงทาเช่นนี้” ผู ้


อาวุโสหลานได้ครุ่ นคิดว่าทาไมซูหยางจึงตัดสิ นใจ
เปิ ดเผยฝี มือการใช้มือระดับพระเจ้าของเขาต่อนิกายตั้งแต่
วันที่เธอพบเจอเขา
จากข่าวสารและสิ่ งที่ผคู ้ นพูดถึงเขา ซูหยางเป็ นคนขี้อาย
ไร้เดียงสา ปั ญญาอ่อน ไม่กล้าทาอะไรสะดุดตาดังเช่น
เปิ ดร้านนวดที่เขตศิษย์นอก

แต่ไม่วา่ เธอจะคิดนานเท่าไร เธอก็ไม่อาจเข้าใจแผนการ


ของซูหยางได้

“ทาไมข้าทาเช่นนี้ นัน่ ง่ายดายยิง่ …” ซูหยางไม่แม้จะคิด


ทบทวน เขากล่าว “ข้อแรก ข้าต้องการแต้มรางวัลเพื่อ
ทรัพยากรการฝึ กปราณ สอง ข้าต้องการกูช้ ื่อเสี ยงข้า”

“…อะไรนะ” ผูอ้ าวุโสหลานชะงักค้างชัว่ ขณะเพื่อตีความ


คาพูดของเขา
“เจ้าทาทุกอย่างนี้เพื่อแต้มรางวัล อะไรที่เจ้าต้องการซื้ อ
ด้วยแต้มรางวัลที่มากมายเช่นนี้”

“ดอกหยางพิสุทธิ์” ซูหยางบอกเธอโดยไม่ได้ปกปิ ด ด้วย


ไม่ได้มีความจาเป็ นที่จะต้องซ่อน

“ดอกหยางพิสุทธิ์ ทาไมเจ้าจึงต้องการของเช่นนั้น ถึงแม้


ได้มาสักชิ้นแล้วเจ้าจักใช้มนั ได้อย่างไร พลังฝี มือเจ้าอ่อน
ด้อยเกินกว่าจักคิดใช้มนั เพิ่มปราณหยางของเจ้า” ผูอ้ าวุโส
หลานไม่คาดคิดว่าซูหยางจะจ้องไปยังสิ่ งที่เปี่ ยมด้วย
พลังงานที่สบั สนเช่นดอกหยางพิสุทธิ์ ซึ่ งมีอีกชื่อว่า ดอก
มารแดง
ลืมไปได้เลยถ้าจะพูดถึงผูเ้ ชี่ยวชาญระดับเขตสัมมา
วิญญาณอย่างเช่นผูอ้ าวุโสหลานเอง แม้กระทัง่ ผูเ้ ชี่ยวชาญ
ระดับปฐพีวิญญาณยังมีปัญหาในการดูดกลืนพลังจาก
ดอกหยางพิสุทธิ์โดยไม่เสี่ ยงต่ออันตราย อาจทาให้ร่าง
ระเบิดจนตายได้ถา้ จัดการไม่เหมาะสม (3038)

“แน่นอนว่าข้ามีวธิ ีของข้าในการจัดการกับดอกหยาง
พิสุทธิ์ แต่อนั ดับแรกข้าต้องได้มนั มาก่อน”

ผูอ้ าวุโสหลานหรี่ ตามองเขา เขามีวธิ ีที่จะจัดการกับดอก


หยางพิสุทธิ์รึ มีความลับอีกมากน้อยเท่าไรสาหรับคนนี้
“ฮึ่ม ถ้าเจ้าต้องการฆ่าตัวตาย อย่างน้อยก็รอให้ขา้ รักษาตัว
หายก่อน” ผูอ้ าวุโสหลานแค่นเสี ยงเย็นชา “อย่างไรก็ตาม
ข้าจักกลับมาภายในสองวันเพื่อการรักษา…”

ซูหยางยิม้ เย็นและพูดกับเธอที่กาลังจะจากไป “ข้าจักเพิม่


ความเข้มข้นในคราวหน้า ก่อนหน้านั้น… เตรี ยมตัวให้
พร้อม”

ผูอ้ าวุโสหลานเกือบสะดุดล้มเมื่อได้ยนิ คาพูดหยอกล้อ


ของซูหยาง ความทรงจาที่เธอพยายามลืมผุดขึ้นทาให้เธอ
หน้าแดง เธอเดินอย่างเร่ งรี บและหายไปจากคลองจักษุ
ของซูหยางอย่างรวดเร็ ว
DC บทที่ 21: เจ้ ายังเป็ นชายอยู่รึ

หลังจากผูอ้ าวุโสหลานจากไป ซูหยางก็กลับเข้าไปใน


ห้องเพื่อฝึ กปราณ อย่างไรก็ตามไม่ทนั ไรก็มีกลุ่มคนมายัง
บ้านเขาด้วยท่าทางโกรธแค้น เหมือนจะมาหาเรื่ อง

“ซูหยาง ย้ายก้นออกมาที่นี่เดี๋ยวนี้ หลายวันนี้เจ้าเอาแต่หด


หัวอยูแ่ ต่ในบ้านเหมือนเต่าในกระดองให้บรรดาผูห้ ญิง
ปกป้อง ตอนนี้เจ้าสะดุดขาตนเอง จักมีใครคอยห้ามพวก
เราได้อีก”

“ซูหยาง ข้าต้องฆ่าเจ้าเพราะเจ้าแตะเด็กข้า”
ตั้งแต่ซูหยางเปิ ดร้านนวด เขาพบเจอหญิงสาวกว่าห้าร้อย
คน หญิงสาวแทบทั้งหมดล้วนมีคู่ฝึกอยูใ่ นนิกาย แม้วา่ ซู
หยางไม่ได้แตะต้องพวกเธออย่างหยาบโลน แต่กิริยา
ท่าทางของพวกเธอหลังจากนั้นทาให้เกิดข้อสงสัยในใจคู่
ฝึ กของพวกเธอ

แม้วา่ บรรดาหญิงสาวจะยืนยันหลายครั้งว่าพวกเธอเพียง
รับการนวดธรรมดา แต่ใครจะเชื่อว่าแค่การนวดธรรมดา
จะทาให้พวกเธอมีท่าทางเหมือนสุ นขั ติดสัด

หลังจากนั้นไม่นานประตูกเ็ ปิ ดออก และซูหยางก็เดิน


ออกมาอย่างเยือกเย็นไร้อารมณ์
เขากราดมองชายนับสิ บข้างหน้าเขาราวกับกลุ่มผูช้ ุมนุม
ประท้วงที่โกรธจัด เขาพูดว่า “ข้าขออภัยที่ตอ้ งบอกว่าข้า
มินวดผูช้ าย”

คาพูดที่ออกมายิง่ เพิม่ ความโกรธแค้นแก่ฝงู ชน “เชี่ย ใคร


บอกว่าพวกเรามาที่นี่เพื่อรับบริ การวะ ทาไมเจ้ากล้าแตะ
เด็กข้า เพราะว่าเจ้า เธอถึงกับปฏิเสธมิยอมฝึ กคู่ร่วมกับข้า
จนป่ านนี้”

“ซูหยาง เจ้าทาอะไรกับเซี่ยเอ๋ อร์ของข้า หลังจากเจอเจ้า


เธอกล้าพูดว่าข้าทาได้ มิถึงใจ”

ได้ยนิ เสี ยงก่นด่าของฝูงชน ซูหยางถึงกับหัวเราะหึ


“ที่พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อกล่าวโทษชายอื่นที่ทาให้เจ้าไร้
สามารถจักทาให้หญิงของเจ้าพอใจ เจ้ายังเป็ นชายอยูร่ ึ น่า
หัวร่ อ”

“เจ้าพูดว่าอะไร”

“เจ้ารนหาที่ตาย ซูหยาง”

ซูหยางยักไหล่ไร้แยแสผูโ้ กรธแค้น แล้วพูด “เป็ นเรื่ อง


ปกติสาหรับศิษย์นิกายชายที่จกั ฝึ กร่ วมกับหญิงมากมาย
หลายคน ในทางกลับกันทาไมพวกเจ้าต้องอารมณ์เสี ยเมื่อ
พวกเธอมีชายอื่นนอกจากเจ้า ความจริ งที่วา่ เจ้ามิอาจทา
ให้คู่ฝึกของเจ้าพอใจนัน่ หมายความว่าเจ้ามิเหมาะสมกับ
พวกเธออีกต่อไป มิวา่ เจ้าจักมีพรสวรรค์มากเพียงไหน
หรื อมีปราณหยางแก่กล้าแค่ไหน ถ้าคู่ฝึกของเจ้ามิพอใจ
ฝึ กคู่กบั เจ้า นัน่ ก็หมายความว่าเจ้ามันไร้ค่า”

คาพูดรุ นแรงของซูหยางทาให้พวกเขาเจ็บใจ รู ้สึกเหมือน


ถูกกระบี่แทงเข้าไปที่หวั ใจ

แม้เป็ นเรื่ องปกติของบรรดาศิษย์ที่จะมีคู่ฝึกมากกว่าหนึ่ง


คนเพราะสะดวกและมีประสิ ทธิภาพมากกว่ามีเพียงคน
เดียว แต่ไม่มีใครต้องการยอมรับว่าซูหยางที่ไร้
สมรรถภาพและไม่เคยเป็ นภัยคุกคามกับใคร จะบริ การ
ความสุ ขให้กบั คู่ฝึกพวกเขาได้ดีกว่าตนเอง

ในนิกายที่การฝึ กคู่เป็ นเรื่ องปกติ สู ญเสี ยหญิงของตน


ให้กบั ชายคนอื่นเลวร้ายยิง่ กว่าตาย ยิง่ หากเป็ นเพราะหญิง
สาวจากไปเพราะว่าชายอื่นสามารถสร้างความพึงใจ
ให้กบั เธอได้ดีกว่า นอกจากนี้การยอมแพ้ยง่ิ หมายถึงว่า
ตนเองทาได้ดอ้ ยกว่าชายอื่น นัน่ เป็ นฝันร้ายที่สุดของชาย
คนหนึ่ง

“ซูหยาง ข้าต้องการตัดสิ นเป็ นตายกับเจ้า”

“ข้าเช่นกัน”

ผูค้ นยิง่ พากันโกรธแค้นด้วยจานนต่อคาพูด ดังนั้นพวก


เขาเริ่ มพูดถึงการต่อสู ้เป็ นตาย เป็ นสิ่ งเดียวที่พวกเขาคิดว่า
จะช่วยลดความอัปยศอดสู ที่ตอ้ งเผชิญในวันนี้
“หื ม นอกจากแรงดิบเถื่อนแล้ว อะไรที่ทาให้พวกเจ้า
มัน่ ใจว่าพวกเจ้าเหนือกว่าเมื่อเผชิญหน้ากับข้า” ซูหยาง
แค่นเสี ยงเย็นชาและกล่าวต่อว่า “พวกเด็กที่มิอาจกระทัง่
ทาให้หญิงของตนพึงใจได้กล้ามาเหยียบหน้าบ้านข้าแล้ว
เห่าหอนเช่นสุ นขั ช่างโง่เง่านัก”

เมื่อเผชิญหน้ากับบรรดาหญิงสาว ซูหยางทาตัวเหมือน
เจ้าชายแสนดีโดยไม่วา่ สถานการณ์จะเป็ นเช่นไร อย่างไร
ก็ตามเมื่อเขาต้องต่อกรกับบรรดาชายหนุ่ม โดยเฉพาะ
พวกที่สร้างความราคาญ ซูหยางจะกลายเป็ นปี ศาจและ
ทาลายความมัน่ ใจในความเป็ นชายของพวกเขาและ
กดดันจนอีกฝ่ ายยอมคุกเข่า

แม้ในชีวติ ก่อน ซูหยางก็เป็ นหายนะของชายทุกคน ตัวตน


ที่กดดันให้เหล่าชายต้องเผชิญกับความกระวนกระวาย
ด้วยกลัวว่าซูหยางจะฉวยหญิงของตนเองไปเพียงแค่
ชาเลืองตา

“เจ้ากล้าสู ้ขา้ หรื อไม่ เจ้ายังเป็ นชายอยูร่ ึ ไม่”

“ถ้าฝี มือเจ้าใช้การมิได้ในสนามรบ เจ้าก็เป็ นเพียงคนไร้


ค่า”

ซูหยางยิม้ ให้กบั คาพูดของพวกเขาและกล่าวว่า “100 แต้ม


รางวัล แล้วข้าจักยอมขึ้นเวทีตดั สิ นเป็ นตาย”

“อะไร เจ้าต้องการให้พวกเราจ่ายเงินเพื่อต่อสู ้”

“ช่างหน้าด้านนัก”
ซูหยางยักไหล่ “ข้าเป็ นนักธุรกิจ ถ้าพวกเจ้าต้องการทาให้
ข้าเสี ยเวลา เจ้าจาเป็ นต้องจ่ายเช่นเดียวกับที่คู่ฝึกของเจ้า
ทาเมื่อพวกเธอเข้าหาข้าเพื่อหาความสุ ขแทนที่จกั เป็ นพวก
เจ้า…” เขาฉี กยิม้ พูด ทาให้บรรดาผูค้ นต่างระเบิดด้วย
ความโกรธ

“ซูหยาง เชี่ย ข้าต้องฆ่าเจ้าวันนี้ 100 แต้มรางวัลใช่หรื อไม่


ตัดสิ นเป็ นตายกับข้าเดี๋ยวนี้เลย”

“เชี่ย ข้าจ่าย 150 แต้มรางวัลให้เจ้าสู ้กบั ข้าก่อน”

“200”
ซูหยางรับข้อเสนอสู งสุ ดที่ 250 แต้มรางวัลด้วยรอยยิม้
และผงกศีรษะ “เยีย่ มมาก งั้นพวกเราไปแสดงความจานง
ต่อนิกายและจัดตารางนัดหมาย..”

“ตอนนี้ ข้าต้องการสู ้ตอนนี้”

ซูหยางส่ ายศีรษะและพูดว่า “ข้าได้รับคาตักเตือนจากผู ้


อาวุโสนิกายมาครั้งหนึ่งแล้ว ก่อนที่พวกเราจักขึ้นไปบน
เวที พวกเราต้องได้รับอนุญาตจากนิกาย ด้วยเหตุน้ นั การ
ตัดสิ นเป็ นตายของพวกเราจึงจาเป็ นต้องรอ” (3038)

“อะไร แต่เจ้ารับเงินข้าไปแล้ว”

“สิ่ งนี้กบั สิ่ งนั้นเป็ นคนละเรื่ องกัน”


“ซูหยาง”

ซูหยางเพียงแค่ยมิ้ อย่างสงบต่อบรรยากาศที่โกรธเกรี้ ยว
เพราะว่านิกายห้ามการต่อสู ้ระหว่างบรรดาศิษย์ นอกจาก
กาหนดอย่างเป็ นทางการจากนิกาย เขาไม่กงั วลที่พวกเขา
จะโจมตีจากที่ใดก็ตาม และถึงแม้วา่ พวกเขาจะทาเช่นนั้น
เขาก็ยงั มัน่ ใจความสามารถของตนเอง

ด้วยประสบการณ์ที่ลน้ หลามในชีวติ ก่อน ซูหยางไม่โง่ที่


จะล่วงเกินผูอ้ ื่นโดยไม่มีความมัน่ ใจสู งสุ ดในชัยชนะ ด้วย
ความสามารถและทรัพยากรในปัจจุบนั เขามัน่ ใจว่า
สามารถอยูไ่ ด้ปลอดภัยแม้กระทัง่ ศิษย์นอกทุกคนใน
นิกายเคาะประตูบา้ นเขา
DC บทที่ 22: ตัดสิ นเป็ นตาย

ภายในหอไม้รับอรุ ณซึ่งบรรดาผูด้ ูแลนิกายส่ วนใหญ่มา


ทางาน ซูหยางและบรรดาศิษย์นอกพากันยืนต่อหน้าผูเ้ ฒ่า
ที่รู้จกั กันในนามผูอ้ าวุโสโจว หนึ่งในบรรดาผูอ้ าวุโสเขต
ศิษย์นอกที่ดูแลจัดการระหว่างศิษย์นอก

“…พูดให้ตรงจุด… เจ้าศิษย์นอกซูหยางต้องการจักตัดสิ น
เป็ นตายกับศิษย์นอกไต้เจิงงั้นรึ ครั้งล่าสุ ดที่ขา้ ตรวจสอบ
เจ้าเพิ่งอยูเ่ ขตปฐมวิญญาณระดับสาม และเจ้าตกลงต่อสู ้
กับบางคนที่เขตปฐมวิญญาณระดับห้า เจ้าโง่หรื อว่าบ้า
หื อ” ผูอ้ าวุโสโจวมองดูซูหยางด้วยสายตาแปลกๆ
ในโลกนี้นอกจากผูท้ ี่เป็ นอัจฉริ ยะในการฝึ กปราณหรื อมี
อาวุธทรงอานุภาพ พวกเขาไม่มีทางที่จะเอาชนะคู่ต่อสู ้ที่มี
พลังการฝึ กปรื อสู งกว่าหนึ่งระดับได้ นับประสาอะไรกับ
สองระดับ และในสายตาของผูอ้ าวุโสโจว ซูหยางเป็ น
เพียงศิษย์นอกธรรมดาที่มีกลเม็ดการใช้มือเท่านั้นไม่ใช่
อัจฉริ ยะการฝึ กปราณ

“เจ้ามิใช่อจั ฉริ ยะและมิมีอาวุธวิเศษที่จกั ต่อกรกับใครที่มี


พลังสู งกว่าเจ้าสองระดับ แต่เจ้ายังกล้าสู ้กบั เขา หรื อเจ้าหา
ที่ตาย”

“ผูอ้ าวุโสโจว นี่เขาเลือกเอง มิใช่ขา้ ข้ามิได้บงั คับเขาให้สู้


เขายิม้ รับเอง” ไต้เจิงผูป้ ระมูลราคาสู งสุ ดสาหรับต่อสู ้ซู
หยางเป็ นคนแรก กังวลว่าซูหยางจะขลาดไม่ยอมต่อสู ้กบั
เขา
ซูหยางยังสงบเฉยไม่สนใจคาพูดแรงของผูอ้ าวุโสโจว
และพูดด้วยรอยยิม้ “ผูอ้ าวุโสโจวพูดถูก ข้ามิใช่ท้ งั ผูฝ้ ึ ก
ปราณอัจฉริ ยะหรื อมีอาวุธวิเศษ อย่างไรก็ตามในฐานะ
ผูช้ าย หากหรุ บหู หดหางเพราะว่าเจอใครที่แข็งแกร่ งกว่า
จักยังภูมิใจในความเป็ นชายได้อยูอ่ ีกรึ ”

คาพูดเขาทาให้ผอู ้ าวุโสโจวเลิกคิ้ว และสร้างความแปลก


ใจให้ทุกคนด้วยคาตอบ “มิ มิมีทาง”

“เช่นนั้น ก็ควรให้ขา้ ต่อสู ้กบั เขา”

ผูอ้ าวุโสโจวนิ่งเงียบครุ่ นคิดชัว่ ครู่ แล้วจึงค่อยกล่าวว่า “นี่


คือการตัดสิ นเป็ นตายตัดสิ นกันด้วยชีวติ ของพวกเจ้า มิใช่
การประลองที่จกั จบด้วยการบาดเจ็บเล็กน้อย เมื่อพวกเจ้า
ขึ้นเวที มิมีทางถอยให้พวกเจ้าจนกว่าจักเหลือเพียงคน
เดียวเท่านั้น”

โดยไม่ลงั เล ซูหยางผงกศีรษะ “ในเมื่ออยูท่ ี่นี่แล้ว เช่นนั้น


พวกเราควรจักจัดลาดับทุกคนที่นี่มาตัดสิ นเป็ นตายกับ
ข้า” ซูหยางพูดอย่างไร้อารมณ์สร้างความตื่นตะลึงให้กบั
ทุกผูค้ นที่นนั่

“เจ้าพูดเช่นไร เจ้าต้องการตัดสิ นเป็ นตายกับทุกคนที่นี่” ผู ้


อาวุโสโจวมองไปยังบรรดาศิษย์นอกสิ บกว่าคนด้วย
ความรู ้สึกสับสน
“นัน่ เป็ นเหตุผลที่พวกเขามาด้วยมิใช่รึ” ซูหยางมองไปยัง
ผูค้ นที่งงงันด้วยรอยยิม้

“ซูหยาง ช่างโอหังนัก เจ้าคิดว่าจักมีโอกาสสู ้กบั คนอื่น


หลังจากต่อสู ้เป็ นตายได้เริ่ มขึ้นงั้นรึ หรื อเจ้ามัน่ ใจเปี่ ยม
ล้นว่าจักชนะ” ไต้เจิงระเบิดความโกรธออกมาหลังจากได้
ยินคาพูดซูหยาง รู ้สึกเหมือนถูกซูหยางเหยียบหน้าอย่าง
ไร้ปราณี

ซูหยางมองไปยังใบหน้าที่แดงก่าจนเส้นเลือดปูดโปน
ของอีกฝ่ ายแล้วกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ทาไมข้าถึง
สู ้กบั เจ้า เพื่อตายงั้นรึ เจ้าโง่หรื อเปล่า”

“ซซซซูหยางงงง”
ในเสี้ ยววินาทีที่ไต้เจิงจะโจมตีซูหยางด้วยความโกรธนั้น
ผูอ้ าวุโสโจวกระแอมหนึ่งครั้ง ไต้เจิงจึงหยุด

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็ นใครรึ ศิษย์ไต้เจิง” ผูอ้ าวุโสโจวหรี่ ตา


มอง เป็ นเหตุให้ไต้เจิงตัวแข็งทื่อเป็ นหิ นจากสายตาที่
อันตราย

“ศ..ศิษย์ขออภัยผูอ้ าวุโสโจวที่ล่วงเกิน” ไต้เจิงรี บโค้งต่า


ขอโทษ

ผูอ้ าวุโสโจวถอนหายใจ กล่าวว่า “เมื่อพวกเจ้าทั้งสอง


ต้องการสู ้ยงิ่ นัก ข้าจักยอมรับความต้องการของพวกเจ้า
และจักเป็ นพยานให้กบั การตัดสิ นเป็ นตายนี้ดว้ ยตนเอง”
ไต้เจิงเผยรอยยิม้ และโค้งคานับอีกครั้ง “ขอบพระคุณท่าน
ผูอ้ าวุโสโจวที่ให้โอกาสศิษย์ได้ชาระหนี้แค้น”

ซูหยางแค่นเสี ยงเย็นชาไปยังไต้เจิงที่เชื่อมัน่ ว่าเขาจะต้อง


พ่ายแพ้ แต่แรกแล้วเขาไม่มีเจตนาให้มือเปื้ อนเลือดเร็ วนัก
หลังจากกาเนิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ก่อนที่เขาจะได้
ดอกหยางพิสุทธิ์ อย่างไรก็ตามซูหยางรู ้ดีวา่ ถ้าเขาไม่
สนใจคนพวกนี้วนั นี้ แน่นอนว่าพวกเขาต้องตามรบกวน
อีกในภายหน้า ดังนั้นเขาจึงตัดสิ นใจล้างชื่อเสี ยงอัปยศแต่
เนิ่น ซึ่ งเขาจะได้ไม่ตอ้ งกังวลต่อไปในอนาคต

“เมื่อไรที่พวกเจ้าต้องการเริ่ มต่อสู ้เป็ นตาย” ผูอ้ าวุโสโจว


ถาม
“ยิง่ เร็ วยิง่ ดี” ไต้เจิงตอบขณะจ้องมองซูหยางด้วยสายตา
โกรธแค้น

“ตอนนี้เลยไหม ข้าพอมีเวลาว่างตอนนี้”

“ศิษย์ยนิ ดีเป็ นอย่างยิง่ ”

“ศิษย์ซูหยาง” ผูอ้ าวุโสโจวมองไปยังเขาขอคายืนยัน

ซูหยางผงกศีรษะแล้วกล่าว “ข้ามิมีปัญหาใด”

“ดี งั้นพวกเราไปที่เวทีกนั …”
ผูอ้ าวุโสโจวเริ่ มเดินนาออกไป

“เฮ้ ดูนนั่ การตัดสิ นเป็ นตายอย่างเป็ นทางการ”

“อะไร ใครสู ้กนั ”


บรรดาศิษย์ที่อยูบ่ ริ เวณลานประลองรี บมุ่งไปยังเวทีเมื่อ
สังเกตเห็นซูหยางและไต้เจิงกระโดดขึ้นเวที

“ผูอ้ าวุโสโจวเป็ นพยานตัดสิ นการต่อสู ้เป็ นตายอย่างเป็ น


ทางการ”

“นัน่ ไต้เจิง เขาสู ้กบั ใคร… นัน่ ซูหยาง”

“ซูหยางต่อสู ้เป็ นตายอีกแล้วเพียงแค่อาทิตย์เดียวนับจาก


ครั้งก่อน”

บรรดาศิษย์ต่างตื่นเต้นที่ได้เป็ นพยานการต่อสู ้ โดยเฉพาะ


อย่างยิง่ หลังจากได้ยนิ คาร่ าลือว่าซูหยางล้มเอียนหมิงที่อยู่
เขตปฐมวิญญาณระดับหก
“เจ้าทั้งสองพร้อมหรื อไม่” ผูอ้ าวุโสโจวถามคนทั้งคู่ที่อยู่
บนเวที

“ข้าพร้อม” ไต้เจิงกากระบี่ในมือแน่น จังหวะลมหายใจ


เปลี่ยน

ซูหยางควงกระบี่เหล็กในมือเล่น มันเป็ นอาวุธที่ยมื มาเพื่อ


การต่อสู ้ครั้งนี้ “ก่อนที่พวกเราจักเริ่ ม ข้าอยากเล่าเรื่ องราว
ให้ฟังสักเรื่ อง…เรื่ องราวความรักระหว่างแม่ทพั เลื่องชื่อ
กับผูฝ้ ึ กปราณพเนจร” เขาพูดอย่างไร้อารมณ์สร้างความ
งุนงงให้ทุกคน (3038)
ความรักระหว่างแม่ทพั เลื่องชื่อกับผูฝ้ ึ กปราณพเนจร นรก
เกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่การต่อสู ้เป็ นตายกลายเป็ น
สถานที่เล่านิทาน

“เชี่ย เจ้าต้องการพูดอะไร รี บมาสู ้กบั ข้า” ไต้เจิงพูดด้วย


น้ าเสี ยงหงุดหงิดร้อนใจ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันต้องการเห็น
เลือดซูหยาง

อย่างไรก็ตามซูหยางไม่สนใจเขาและพูดต่อด้วยเสี ยงเรี ยบ
เฉย “ในช่วงกลียคุ ที่พบเห็นสงครามได้ทวั่ ไป ปรากฏ
หญิงสาวสวยหาใดเปรี ยบผูเ้ ป็ นแม่ทพั ของกองกาลัง
เข้มแข็งแห่งหนึ่ง เธองามถึงขั้นล่มอาณาจักรและเป็ น
อัจฉริ ยะด้านกระบี่ที่ไร้คู่เปรี ยบ…”
DC บทที่ 23: สานึกกระบี่

“…ความสวยของเธอร่ าลือกันว่างามถึงขั้นล่มอาณาจัการ
และความเป็ นอัจฉริ ยะกระบี่น้ นั ถึงขั้นไร้เทียมทาน เหล่า
แม่ทพั กษัตริ ย ์ แม้กระทัง่ จักรพรรดิมากมายต่างพยายาม
เกี้ยวพาเธอ อนิจจา ไม่มีใครสมหวัง เพราะเธอมองหา
เพียงชายผูท้ ี่แข็งแกร่ งกว่าเธอซึ่ งแทบเป็ นไปไม่ได้ในยุค
นั้น”

เสี ยงสงบเรี ยบของซูหยางและเรื่ องราวที่ดาเนินไปอย่าง


กระชับทาให้สถานที่น้ นั เงียบลงอย่างรวดเร็ ว

“เวลานั้นปรากฏเด็กหนุ่มผูฝ้ ึ กปราณพเนจรได้ตกหลุมรัก
เธอ อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มคนนี้มีพ้นื เพธรรมดาถือเป็ น
เพียงมดตัวเล็กในสายตาของเหล่ากษัตริ ยแ์ ละจักรพรรดิ
เขาเป็ นคนไร้ความหมายในสายตาของเธอแม้จะอีกกี่
ชาติ”

“แต่ทว่า แม้จกั รู ้วา่ เขาไม่อาจสู ้หน้ากับเธอได้ เด็กหนุ่มไม่


เคยละความพยายามและฝึ กฝนร่ างกายและฝี มือกระบี่
อย่างจริ งจัง ปรารถนาเพียงให้ระยะห่างสุ ดขอบฟ้านั้น
ใกล้เข้ามาบ้างสักนิด…”

ซูหยางเรื่ องไว้เพียงเท่านั้นและมองไปยังไต้เจิงด้วยความ
สงบ สายตากดดัน “เจ้าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กหนุ่มคน
นั้น” เขาถาม
“คนโง่ไล่คว้าเงา…มันชัดเจนอยูแ่ ล้วมิใช่รึวา่ จักเกิดอะไร
ขึ้น” ไต้เจิงเหยียด

ซูหยางยิม้ กับคาตอบของอีกฝ่ าย เขายกกระบี่ในมือขึ้น


แบบขอไปที

“!!!”

ทันใดนั้นดวงตาผูอ้ าวุโสโจวก็เบิกกว้าง เต็มไปด้วยความ


ตกตะลึงไม่เชื่อสายตา

“แสงเรื องรอบกระบี่นนั่ คืออะไร”

“ข้ามิเคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน…”
เหล่าศิษย์ต่างงุนงงกับรัศมีที่พลันปรากฏขึ้นรอบกระบี่ใน
มือซูหยาง มันส่ งแรงกดดันและทาให้บรรยากาศบริ เวณ
นั้นบิดเบี้ยว

“เป็ นไปมิได้ นัน่ เหมือนเป็ นสานึกกระบี่” ผูอ้ าวุโสโจวจด


จารัศมีรอบดาบได้ อย่างไรก็ตามสิ่ งที่รู้กลับทาให้เขา
สับสนตกใจถึงที่สุด

สานึกกระบี่เป็ นแก่นแท้ของกระบี่ เป็ นสิ่ งที่ปรากฏก็


ต่อเมื่อผูใ้ ช้สามารถควบคุมและมีความหยัง่ รู ้เหนือกระบี่
อย่างสมบูรณ์ ผูใ้ ช้น้ ีจะถูกเรี ยกกันว่าจอมกระบี่ และพวก
เขาล้วนเป็ นผูท้ ี่คนทัว่ โลกยาเกรง
“เป็ นสานึกกระบี่ได้เช่นไร เขาอายุเพียง 16 ปี เท่านั้น
แม้กระทัง่ ผูเ้ ชี่ยวชาญเขตปฐพีวิญญาณยังมิมีใครที่สร้าง
สานึกกระบี่ได้” ผูอ้ าวุโสโจวไม่อยากเชื่อว่าคนปัญญา
อ่อนอายุ 16 ปี ดังเช่นซูหยางจะเป็ นจอมกระบี่แม้จะเห็น
สานึกกระบี่อย่างชัดเจน เขาจึงบังคับตนเองให้เชื่อว่าซู
หยางได้เตรี ยมกลลวงบางอย่างเพื่อให้มนั ดูเหมือนสานึก
กระบี่

ซูหยางกวัดแกว่งกระบี่อย่างไร้เจตนา พลังกดดันเกรี้ ยว
กราดก็ครอบคลุมไปทัว่ สถานที่ ทาให้ทุกคนรวมถึงผู ้
อาวุโสโจวหนาวเย็นไปทั้งร่ าง

“สานึกกระบี่ข้ ึนกับประสบการณ์และความชานาญการใช้
กระบี่ มิเกี่ยวว่าจะเป็ นปุถุชนหรื อเซียน ตราบใดที่ขา้ หยัง่
รู ้ถึงกระบี่ขา้ ก็สามารถใช้สานึกกระบี่” ซูหยางราลึกถึง
เวลามหาศาลที่เขาใช้เพื่อเข้าถึงกระบี่ในชีวติ ก่อน

“เจ้า..คู่ฝึกของเจ้าชื่อไรรึ ” ซูหยางพลันถามไต้เจิง ผูซ้ ่ ึงดู


เหมือนแข็งค้างไปตั้งแต่สานึกกระบี่ที่กดดันปรากฏขึ้น

“เชินอวี…” ไต้เจิงตอบโดยไม่ได้ต้ งั ใจ

ซูหยางผงกศีรษะและกล่าวเสี ยงเรี ยบว่า “มิตอ้ งกังวล ข้า


จักดูแลหญิงของเจ้าอย่างดีหลังเจ้าตาย เธอจะได้มิโดด
เดี่ยวเมื่อปราศจากเจ้า…ผูอ้ าวุโสโจว พวกเราเริ่ มกัน”

ไต้เจิงถึงกับกระอักเลือดหลังจากได้ยนิ ถ้อยคาเผ็ดร้อน
ของซูหยาง
เมื่อได้ยนิ ซูหยางพูดคาเช่นนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์
เหล่านั้น ไต้เจิงก็แทบจะตายไปเพราะความโกรธก่อนการ
ต่อสู ้จะเริ่ มขึ้น

“เชี่ย ข้าจักฆ่าเจ้า ซูหยาง” ไต้เจิงเปลี่ยนจากท่าเตรี ยมสู ้


เป็ นพุง่ เข้าหาซูหยางคล้ายคนบ้าตาแดงก่า เขาโกรธจนทา
ให้สายตามืดบอดจนไม่เห็นประกายกระบี่วาดผ่านมาทาง
เขา

ซูหยางทอดถอนใจ “ข้าหวังว่านี่จกั เป็ นครั้งแรกและครั้ง


สุ ดท้ายที่คร่ าชีวติ คนในสถานที่แห่งนี้…”
ซูหยางไม่ใช่คนที่ฆ่าผูค้ นด้วยเรื่ องเล็กน้อย เขาต้องการ
ตัวอย่างสาหรับคนอื่นเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ซ้ าอีกครั้ง ในชีวติ ก่อนเขามีเหตุการณ์มากมายที่เขาใจ
อ่อนและถูกแว้งกัดซ้ ารุ นแรงภายหลัง

“รอก่อน” ผูอ้ าวุโสโจวรี บเรี ยกออกไป อนิจจามันสาย


เกินไป

ปลายกระบี่ในมือซูหยางสัมผัสพื้นอย่างแผ่วเบา ปรากฏ
แสงรู ปโค้งที่สวยงาม ตัดไต้เจิงเป็ นสองส่ วนจากบนลง
ล่างอย่างหมดจด

ต่างพากันปากอ้าค้างอย่างตกใจเมื่อชิ้นส่ วนร่ างกายตกสู่


พื้น เลือดสาดไปทัว่ ลานรวมถึงซูหยาง ทุกคนเหม่อมอง
ฉากสยดสยองด้วยดวงตาเบิกโพลงและกรามตกค้าง ราว
กับเห็นเหตุการณ์จากนรก

ไม่มีใครรวมไปถึงผูอ้ าวุโสโจวเคยเห็นการฆ่าไร้ปราณี
เช่นนี้บนเวทีมาก่อน แม้กระทัง่ การต่อสู ้เป็ นตายที่
โหดร้ายที่สุด (3038)

ซูหยางหันกายกลับมาเผชิญหน้ากับผูช้ มด้วยท่าทางสงบ
และพูดเสี ยงเย็นเยียบ “เคาะประตูเรี ยกข้าได้ตามสบาย ข้า
จักเล่นกับเจ้า แต่พวกเจ้าก็ตอ้ งเตรี ยมพร้อมกับผลลัพธ์”

ซูหยางเปล่งพลังอานาจอันกดขี่ข่มเหง เหตุให้หลายคน
ล้มก้นจ้ าเบ้า เขาคล้ายกับแม่ทพั กร้านสงคราม คนที่ลึกล้ า
สุ ดหยัง่
“ตอนจบของเรื่ องราว…มิเพียงแต่เด็กหนุ่มจักมีชยั เหนือ
หัวใจของแม่ทพั หญิงด้วยวิชากระบี่ของเขา เขายังประสบ
ความสาเร็ จที่เหลือเชื่ออีกหลายเรื่ อง ที่แม้กระทัง่ บรรดา
กษัตริ ยแ์ ละจักรพรรดิ์มิคาดว่าจะทาให้เป็ นจริ งได้ดว้ ย
ตนเอง มิตอ้ งกล่าวถึงคนที่พวกเขาถือว่าเป็ นมด…”

ซูหยางตรงไปยังผูอ้ าวุโสโจวผูท้ ี่ยนื อยูด่ ว้ ยใบหน้า


แตกตื่น และส่ งคืนกระบี่เปื้ อนเลือด “กระบี่ที่ดี” เขากล่าว
ก่อนที่จะเดินลงจากเวทีอย่างใจเย็น
DC บทที่ 24: รักแรก

หลังจากการต่อสู ้เป็ นตายระหว่างซูหยางกับไต้เจิงซึ่ งจบ


ลงในพริ บตาที่เริ่ ม ชื่อของซูหยางกลายเป็ นจุดสนใจอีก
ครั้งอย่างรวดเร็ ว ผูท้ ี่ประจักษ์ถึงพลังอานาจของซูหยาง
พากันกระจายข่าวราวไฟไหม้ฟาง

พวกเขาให้ภาพลักษณ์ซูหยางเหมือนปี ศาจจากนรกที่
สามารถฆ่าโดยไม่กระพริ บตา พวกเขายังบรรยายฉากที่
ไต้เจิงถูกหัน่ เป็ นสองซี กอย่างน่าหวาดหวัน่ เป็ นเหตุให้
หลายคนที่ได้ยนิ แทบอาเจียนด้วยความขยะแขยงและ
ตกใจกลัว
แต่ที่สร้างความหวาดกลัวกับบรรดาศิษย์นิกายมากที่สุด
ไม่ใช่ความโหดร้ายในการฆ่าอย่างง่ายดายของซูหยาง แต่
เป็ นถ้อยคาเผ็ดร้อนที่สามารถฆ่าคนหัวใจอ่อนแอได้อย่าง
ง่ายดาย โดยเฉพาะถ้อยคาสุ ดท้ายที่ซูหยางบอกต่อไต้เจิง
ก่อนฆ่า พวกเขารู ้สึกเหมือนว่าไม่เพียงซูหยางจะแย่งชิง
เฉพาะไต้เจิงแต่ทุกคนที่กล้าคิดหาเรื่ องเขา

“หากเจ้ากล้าเคาะประตูหาเรื่ องข้า ขัาจักแย่งชิงหญิงเจ้ามา


เป็ นสิ นไหมหลังเจ้าตาย”

คาพูดนี้เป็ นได้วา่ จะหลอกหลอนพวกเขาแม้จะตายไป


แล้ว เสี ยงเย็นเยียบของซูหยางที่ดงั ก้องในสานึกของผูค้ น
ที่ประจักษ์การต่อสู ้เป็ นตาย เป็ นเหตุให้พวกเขาสะท้าน
ด้วยความหวาดกลัวแม้กระทัง่ ในความฝัน
อย่างรวดเร็ ว ชื่อของซูหยางกลายเป็ นสิ่ งที่น่าหวาดกลัว
ของเหล่าศิษย์นอก ส่ วนผูท้ ี่เคยไปล่วงเกินซูหยางพร้อม
กับไต้เจิง พวกเขาล้วนปิ ดขังตนเองในบ้านไม่กล้าที่จะ
ออก ด้วยกลัวว่าซูหยางจะหาเรื่ องแก้แค้น

ภายในหอไม้รับอรุ ณกลุ่มผูอ้ าวุโสนิกายประชุมกันรอบ


โต๊ะปรึ กษาเรื่ องศึกตัดสิ นเป็ นตายระหว่างซูหยางและไต้
เจิงด้วยอารมณ์เคร่ งเครี ยด
เมื่อผูอ้ าวุโสโจวรื้ อฟื้ นเรื่ องราวที่เกิดขึ้นระหว่างศึกตัดสิ น
เป็ นตายเสร็ จแล้ว บรรดาผูอ้ าวุโสนิกายล้วนแสดงสี หน้า
ตกใจไม่อยากเชื่อสิ่ งที่ตนเองได้ยนิ

“สานึกกระบี่ ท่านแน่ใจขนาดนั้นเชียวรึ ผูอ้ าวุโสโจว”

“ข้ารู ้วา่ สิ่ งนี้เหมือนข้ากาลังเล่าเรื่ องตลกร้าย แต่ขา้ สาบาน


ว่าข้าจริ งจังกับเรื่ องนี้ แม้ขา้ เองก็ยงั สงสัยในตอนแรก ใคร
มิสงสัยสายตาของตนเองเมื่อเห็นเด็กอายุ 16 ใช้สานึก
กระบี่ ถ้าข้ามิเห็นด้วยตาตนเอง ข้าก็คงมิเชื่อแม้จกั ถูก
ทรมานจนตาย” ผูอ้ าวุโสโจวแสดงให้เห็นว่าเขาจริ งจัง
“จอมกระบี่อายุ 16 ปี … ช่างน่าหวาดหวัน่ นักถ้านี่เป็ น
ความจริ ง” แม้วา่ จะชัดเจนกับถ้อยคาของผูอ้ าวุโสโจว ทุก
คนก็ยงั สงสัยถึงความสามารถของซูหยางในการใช้สานึก
กระบี่ ด้วยมันเป็ นสิ่ งเกินสามัญสานึกสาหรับพวกเขา

เป็ นเรื่ องยากเกินไปสาหรับพวกเขาที่จะเชื่อแม้วา่ เรื่ องนี้


จะออกมาจากปากของจ้าวแม่นิกาย โดยเฉพาะยิง่ มีจอม
ดาบไม่ถึงสิ บคนในปั จจุบนั ที่ยงั มีชีวติ อยู่ ทั้งหมดล้วนลึก
ล้ าและมีชื่อเลื่องลือ ด้วยประสบการณ์สงั่ สมมามากกว่า
100 ปี

ผูอ้ าวุโสโจวรู ้วา่ เรื่ องนี้ยากที่จะเชื่อและเตรี ยมใจไว้ก่อน


แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กงั วลกับความสงสัยของอีกฝ่ าย
“ช่างมันเถอะ ข้ายอมแพ้ มันมิมีประโยชน์ใดแม้พวกท่าน
จักเชื่อหรื อไม่กต็ ามตอนนี้ ถ้าพวกท่านเห็นด้วยตนเอง
ท่านย่อมซึ้ งถึงความเป็ นจริ งเอง” ผูอ้ าวุโสโจวถอนใจ
ขณะออกไปจากห้อง ทิ้งผูอ้ าวุโสอื่นให้อยูก่ บั ความงุนงง

ในเวลานั้นซูหยางตรงกลับที่พกั เพื่อชาระล้างเลือดที่แห้ง
ติดร่ าง ท่าทางสงบเฉยของเขาเหมือนกับว่าไม่เคยเกิดการ
ต่อสู ้เป็ นตายมาก่อน
หลังจากนั้นเขานอนลงบนเตียงและปิ ดเปลือกตา ฉากที่
เขาแรกโอบแม่ทพั สาวสวยไว้ในอ้อมอกพลันปรากฏขึ้น
ในใจ

รู ้สึกถึงเรื อนร่ างเรี ยบเนียนแฝงแรงสะท้อน อบอุ่น กลิ่น


อายสมรภูมิคลอเคลียเรื อนผม ทุกสิ่ งล้วนแจ่มชัดในหทัย
ของซูหยาง รู ้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันวาน

เขาอยูใ่ นท่านั้นนานหลายชัว่ โมง คล้ายหลับไหล แต่จริ ง


แล้วเขาตื่นอย่างสมบูรณ์ คิดถึงเวลาล้ าค่าที่เขาใช้กบั รัก
แรกในชีวติ ก่อน ผูเ้ ป็ นเหตุให้เขากลายเป็ นผูฝ้ ึ กปราณ
อนิจจาแม้วา่ จะช่วงชิงดวงใจของแม่ทพั หญิงได้ แต่เวลาที่
เขาก้าวไปถึงจุดนั้น เธอพ้นวัยที่จะเติบโตต่อไปได้และ
พบกับขีดจากัดของผูฝ้ ึ กปราณในฐานะปุถุชน แต่ซูหยางก
ลับเติบโตแข็งแกร่ งขึ้น ยิง่ กว่านั้นกระทัง่ สลัดพ้นจาก
ปุถุชนสู่ วถิ ีเซียนที่มีอายุขยั ยืนยาวเนิ่นนาน อันเป็ นความ
ปรารถนาของทุกผูค้ นตั้งแต่โบราณนานมา

และเพราะว่ายิง่ ก้าวหน้ายิง่ เพิ่มพูนพลังปราณ ซูหยางดูไม่


ต่างไปจากครั้งที่เขาพบกับแม่ทพั หญิง แม้กระทัง่ หลายปี
ต่อจากนั้นที่แม่ทพั หญิงกลายเป็ นหญิงชราและสิ้ นชีพลง
ตามวิสัย

“ข้าหลงรักเจ้าตั้งแต่ขา้ ยังเป็ นเด็กรุ่ นราวคราวเดียวกับ


ตอนนี้หรื ออาจจักน้อยกว่านี้แต่เจ้ากลับเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว
เมื่อถึงตอนที่ขา้ แกร่ งพอเคียงข้างเจ้าเจ้าก็อยูม่ าถึง 50 ปี
แต่เจ้ายังสวยเฉกวันที่เราพบกันครั้งแรกเมื่อหลายปี ก่อน
บางทีเจ้าอาจจักสวยกว่าเดิมด้วยซ้ า ข้าเพียงเสี ยใจที่ยคุ นั้น
ข้าไร้พลัง มิอาจจักเสริ มพลังการฝึ กปรื อของเจ้า ขณะที่ขา้
โง่เขลามัวแต่แข็งแกร่ งไปเพียงลาพัง…”

ซูหยางราลึกถึงเวลาที่เขายืนอยูห่ น้าหลุมศพของเธอด้วย
สภาพของชายหนุ่มที่ไม่ต่างไปจากวันที่เขาเริ่ มจับมือเธอ

“หลังจากเจ้าตายเป็ นช่วงเวลาที่ขา้ ราลึกได้ถึงความ


แตกต่างระหว่างปุถุชนกับเซียน ข้ากลายเป็ นคนขลาด
ขลาดกลัวว่าจักหลงรักกับปุถุชนคนอื่นและลงท้ายด้วย
ความเสี ยใจเฉกที่ประสบกับเจ้า เป็ นเหตุให้ขา้ ออกจาก
โลกปุถุชนและกลับมาอีกครั้งช่วงสั้นๆ หลังจากผ่านไป
หลายพันปี …” (3038)
ซูหยางพลันลืมตามองเพดานยิม้ อย่างขมขื่นเจ็บปวดและ
เหนื่อยหน่าย “ข้ากลับมาอยูใ่ นโลกปุถุชนอีกครั้ง และก็มี
ผูอ้ าวุโสนิกายที่ด้ือรั้นถือดีเฉกเช่นเจ้า…นี่คือชะตาหรื อว่า
เรื่ องตลกที่สวรรค์กาหนดไว้ให้ขา้ ป่ วนใจ”

เขาลุกจากเตียงและเดินไปยังหน้าต่าง เขาสังเกตเห็นสาว
น้อยตรงมาที่หน้าประตู เด็กสาวสวมชุดแตกต่างจากขุดที่
บรรดาศิษย์นอกสวม แทนที่จะเป็ นชุดขาวล้วนของศิษย์
นอก ชุดของเด็กสาวเป็ นสี เขียวให้บรรยากาศที่แตกต่างดู
ลึกล้ าและสู งศักดิ์

“ศิษย์ใน” นี่คือครั้งแรกที่ซูหยางเห็นศิษย์ใน และเพียง


มองแวบเดียว เขาสามารถบอกได้ถึงความแตกต่างอย่าง
มากของศิษย์นอกและศิษย์ใน
“น่าสนใจนัก…” เขาพึมพัมกับตนเองขณะกาลังเตรี ยมตัว
ไปทักทายเธอที่ประตู
DC บทที่ 25: ศิษย์ ใน

บรรดาศิษย์ในนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั แบ่งออกเป็ นสาม


กลุุ่ม กลุ่มศิษย์นอก กลุ่มศิษย์ใน และกลุ่มศิษย์หลัก

บางคนสามารถเข้าร่ วมกับนิ กายได้ในฐานะศิษย์นอก


ตราบเท่าที่พวกเขามีเงื่อนไขครบถ้วนตามที่นิกายกาหนด
และผ่านการทดสอบแรกเข้า

เมื่อเป็ นศิษย์นอกแล้วพวกเขาสามารถใช้ทรัพยากรทุก
อย่างที่ตนเองมีเพื่อเสริ มสร้างความแข็งแกร่ ง หลังจากที่
พวกเขาก้าวไปถึงจุดหนึ่งที่กาหนดไว้เป็ นเงื่อนไขการเป็ น
ศิษย์ใน พวกเขาจะต้องผ่านการทดสอบชุดหนึ่ งที่กาหนด
ไว้โดยนิกาย ถ้าพวกเขาผ่าน พวกเขาก็จะกลายเป็ นศิษย์
ในซึ่ งได้รับสิ ทธิ์ ในการศึกษาเคล็ดการฝึ กฝนที่แข็งแกร่ ง
ขึ้นและทรัพยากรที่บรรดาศิษย์นอกได้แต่ฝันไฝ่ แม้ฐานะ
ในนิ กายก็สูงขึ้น

และต่างจากเหล่าศิษย์นอกซึ่ งถือว่าเป็ นบุคลากร


สิ้ นเปลือง บรรดาศิษย์ในล้วนถือว่าเป็ นผูม้ ีพรสวรรค์ซ่ ึ ง
ควรค่ากับการส่ งเสริ ม ดังนั้นพวกเขาจึงมีความสาคัญที่
สมควรให้คาแนะนาและทรัพยากรของนิกาย

ส่ วนศิษย์หลักนั้น พวกเขาถือว่าเป็ นเสาหลักของนิกายถือ


ว่ามีสถานะสู งยิ่งกว่าผูอ้ าวุโสนิ กาย ผูท้ ี่สามารถเป็ นศิษย์
หลักได้น้ นั ไม่วา่ จะสานักไหนก็ตามล้วนถือว่าพวกเขา
เป็ นอัจฉริ ยะและมีความสามารถพิเศษ ถือเป็ นสัตว์
ประหลาดที่ไม่สามารถวัดด้วยสามัญสานึกและมีโลก
ส่ วนตัว
เมื่อเด็กสาวในชุดเขียวตรงไปยังที่พกั ของซู หยาง การ
ปรากฏตัวของเธอเรี ยกความสนใจของศิษย์นอกทุกคนใน
บริ เวณใกล้เคียง

“เฮ้ ดู นัน่ ศิษย์ใน”

“คานับศิษย์พี่”

แม้วา่ บรรดาศิษย์จะไม่รู้จกั ชื่อเธอ พวกเขายังมองเธอด้วย


ความเคารพนับถือ สาหรับเหล่าศิษย์นอกการเป็ นศิษย์ใน
หมายถึงฐานะและอานาจ ความไฝ่ ฝันที่ทุกทุกคนต้องการ
เป็ น
และเป็ นการยากมากที่บรรดาศิษย์ในจะออกจากเขตของ
พวกเขา นัน่ เป็ นเหตุให้บรรดาศิษย์ต่างประหลาดใจและ
ตื่นเต้นเมื่อเห็นเขาสักคนที่นี่

หญิงสาวสังเกตเห็นความสนใจ เธอจึงโบกมือทักทาย
พวกเขาด้วยรอยยิม้ เป็ นมิตร

บรรดาศิษย์รู้สึกหัวใจเต้นถี่เร็ วเหมือนตีกลองเมื่อเห็น
รอยยิม้ งดงามของเธอ บางคนถึงกรี ดร้องจากความตื่นเต้น

“ข้าใคร่ ขอถาม ใช่มีศิษย์ชื่อซูหยางอาศัยอยูท่ ี่นี่หรื อไม่”


หญิงสาวไต่ถาม
บรรดาศิษย์ผงกศีรษะอย่างแข็งขัน บางคนชี้ไปยังทิศทาง
ประตูบา้ นซูหยาง “เขาอยูท่ ี่นน่ั ”

“ขอบคุณ” หญิงสาวกล่าวก่อนจะมุ่งตรงไปยังที่พกั ซู
หยาง

เธอเคาะประตูทนั ทีที่มาถึงหน้าประตู และซูหยางก็ออก


มาภายในเวลาไม่นานหลังจากนั้น

“ข้าพอจักช่วยสิ่ งใดได้บา้ ง” ซูหยางถามเธอด้วยท่าทาง


ธรรมดา เหมือนกับว่าเขาไม่ประหลาดใจที่เธอมาเยี่ยม
โดยไม่ได้คาดคิด
หญิงสาวไม่ได้สนใจอารมณ์ซูหยาง เธอยังคงยิม้ “เจ้าคือซู
หยาง” เธอถาม

“ข้าเรี ยกว่าซูหยางจริ ง”

“อืมม..” หญิงสาวหรี่ ตามองเขาราวกับกาลังพิจารณา “ข้า


ได้ยินหลายสิ่ งเกี่ยวกับเจ้า ซูหยาง จากกลเม็ดลึกล้ าไป
จนถึงความเหี้ ยมโหด ข้าสงสัยว่าเจ้ายอดเยี่ยมสมคาร่ าลือ
หรื อไม่”

ซูหยางยังคงสงบเฉยจากการยัว่ ยุอย่างเปิ ดเผยของเธอ


ก่อนที่เขาจะเปิ ดปากพูด หญิงสาวก็กล่าวต่อ “แน่นอน ข้า
เชื่อ ถ้าเจ้ามิมีดีดงั คากล่าวอ้าง คงมิมีศิษย์มากมายปานนั้น
ที่พูดถึงเรื่ องนี้”

“ซูหยาง ข้าต้องการรับประสบการณ์น้ ี กลเม็ดของเจ้า”


เธอกล่าวโดยไม่ออ้ มค้อม

“เป็ นความภาคภูมิใจของข้าที่ได้บริ การหญิงสาวสวยเช่น


เจ้า” ซูหยางพูดด้วยรอยยิม้ เป็ นมิตร “เป็ นจานวน 100
แต้มรางวัล…”

อย่างไรก็ตามก่อนที่ซูหยางจะพูดต่อ หญิงสาวถอนใจ
อย่างแรง “ไอ๊ยะ ข้าเกือบลืม ก่อนหน้านี้ขา้ ใช้แต้มรางวัล
ทั้งหมดไปกับโอสถหยินพ้นพิสยั ตอนนี้ขา้ เหลือแต้ม
รางวัลเพียงน้อยนิด ซูหยาง ถ้าเจ้ามิถือ จักยอมให้ขา้ ได้ลิ้ม
ลองกลเม็ดฟรี ครั้งนี้ได้หรื อไม่ ข้าศิษย์ใน หลี่เซี ยวโม่ ถือ
ว่าติดค้างบุญคุญเจ้า”

ซูหยางยิม้ เมื่อเขารู ้วา่ กาลังเจอกับเกมที่หลี่เซี ยวโม่เล่นอยู่

“ขออภัย แต่ขา้ มิอาจทางานให้ฟรี ถ้าเจ้ามีแต้มรางวัลมิพอ


ตอนนี้ เจ้าสามารถมาใหม่ภายหลังเมื่อเจ้ามีพอแล้ว”

แม้วา่ ซูหยางปฏิเสธที่จะบริ การเธอฟรี ดว้ ยคาพูดสุ ภาพ


นุ่มนวล หลี่เซี ยวโม่กลับรู ้สึกเหมือนถูกตบหน้า ทาไมแค่
ศิษย์นอกสามัญคนหนึ่ งปฏิเสธที่จะบริ การเธอผูเ้ ป็ นศิษย์
ในของนิกาย หรื อเขาไม่รู้ถึงผลของการล่วงเกินศิษย์ใน นี่
ไม่เหมือนกับศิษย์นอก ล่วงเกินศิษย์ในคนหนึ่งเท่ากับ
ล่วงเกินพวกเขาทั้งหมด

“นี่คือวิธีตอ้ นรับศิษย์พี่ของเจ้ารึ เจ้าคิดหรื อไม่วา่ ข้าต้อง


พยายามมากแค่ไหนเพื่อเดินมายังพื้นที่ขยะแห่งนี้ หรื อ
บุญคุณของข้ามิคุม้ ค่าความพยายามของเจ้า” หลี่เซี ยวโม่
ขมวดคิ้วนิ่วหน้าพูด ท่าทางเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็ น
หลังมือ

“คาพูดจากปากข้าเพียงคาเดียว ผลคือศิษย์ในทั้งหมด
กลายเป็ นศัตรู ของเจ้า ถ้าข้าหันหลังกลับไป เจ้าลืมไปได้
เลยที่จกั อยูอ่ ย่างสงบสุ ขนับแต่วนั นี้เป็ นต้นไป เจ้าคิดว่า
อย่างไร ซูหยาง”
“…” ซูหยางนิ่งเงียบไร้คาพูด

หลี่เซี ยวโม่เห็นเขาเงียบด้วยความกลัว ฉี กยิม้ “แม้วา่ ชื่อ


เจ้าอาจทาให้บรรดาศิษย์นอกกลัวเกรง เจ้าเป็ นได้แค่มด
ในสายตาข้า ถ้าเจ้ายอมเป็ นสุ นขั รับใช้นบั แต่น้ ี ข้าจะยอม
มองข้ามนิสยั ต่าทรามของเจ้าเช่นกัน”

“ใครจักรู ้ ถ้าบริ การของเจ้าต้องใจข้า ข้าอาจยอมยกฐานะ


เจ้าจากสุ นขั ไร้ค่ามาเป็ นทาส…”

ซูหยางหลับตาถอนใจ เมื่อเขาเปิ ดตา ประกายแสงลึกลับ


วาบผ่านภายใน

“เช่นนั้น… ตามข้ามา”
รอยแสยะยิม้ บนใบหน้าหลี่เซี ยวโม่กว้างขึ้น รู ้สึกภูมิใจใน
ตนเองเมื่อเห็นซูหยางยอมแพ้

“สุ นขั ดี…” เธอพึมพัมขณะเดินตามซูหยาง ไม่ทนั สังเกต


บรรยากาศที่เปลี่ยนไปทันทีที่เธอย่างเท้าเข้าไปในบ้าน
DC บทที่ 26: ทำท่ ำเหมือนสุ นัขติดสั ด

เมื่ออยูใ่ นบ้าน ซูหยางพาเธอตรงไปที่หอ้ ง

หลี่เซี ยวโม่มองไปรอบๆ ด้วยความขยะแขยง “เจ้าทา


ธุรกิจในที่คบั แคบเช่นนี้เสมอรึ แค่เข้ามาก็ทาให้ขา้ เกือบอ๊
วก..ช่างน่ารังเกียจนัก”

ก่อนที่จะมาที่นี่ หลี่เซี ยวโม่วางแผนไว้แล้วว่าจะให้ซู


หยางเป็ นคนรับใช้ของเธอ…เพียงแค่ได้ยินว่าเขารับลูกค้า
มากมายเพียงใดเมื่อสองสามวันก่อนก็ทาให้เธอเกิดความ
โลภ ด้วยเชื่อว่าซูหยางทาเงินได้มาก
แม้กระทัง่ ศิษย์ในเช่นเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองซูหยางอย่าง
อิจฉาจากจานวนของแต้มรางวัลได้รับในแต่ละวันที่
แตกต่างกันอย่างมาก ถ้าเขาทางานให้เธอ เงินทั้งหมดย่อ
มตกมาทาให้เธอร่ ารวยได้อย่างง่ายดาย

ด้วยฐานะและอานาจของศิษย์ในเช่นเธอ หลี่เซี ยวโม่


เชื่อมัน่ อย่างมากว่าแผนเธอสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ จึงเป็ นเหตุ
ให้เธอมาหาซูหยางเพียงลาพัง

“นอนลง เราจะเริ่ มในทันที” ซูหยางพูดกับเธอเสี ยงเรี ยบ


หลังจากปิ ดประตู

“นัน่ คือคาพูดของขี้ขา้ ใช้กบั เจ้านายรึ ”


“…”

แม้วา่ ซูหยางจะเห็นหญิงที่หยิง่ ผยองและน่าราคาญมา


หลายคนในชีวิต หญิงคนนี้ กถ็ ือว่าเป็ นสุ ดยอดในนั้น
อย่างไรก็ตามเพราะเขามีประสบการณ์มากมายกับหญิง
ประเภทนี้ ซูหยางจึงรู ้วิธีรับมือกับพวกเธอ

“นายหญิง โปรดนอนลงเพื่อผูต้ ่าต้อยคนนี้จะได้ทาให้


ท่านรู ้สึกดี” ซูหยางพูดแจ่มชัดจริ งใจ ราวกับว่าเขาถือว่า
เธอเป็ นนายหญิงของเขา

แม้กระทัง่ หลี่เซี ยวโม่ยงั ผงะจากการเปลี่ยนแปลง


กระทันหันของเขา “ด..ดีมาก…”
เธอนอนคว่าหน้าเผยส่ วนหลังให้กบั ซูหยาง

“รี บหน่อย ข้ามีเวลามิมากนัก”

ซูหยางนัง่ ข้างเธอ เขาหลับตาลง

เมื่อเขาเปิ ดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งในอึดใจต่อมา ก็เกิด


ประกายแสงวาบผ่านภายใน ปลายนิ้วเขาเปล่งแสงสี ทอง
เรื่ อเรื อง

“นายหญิง…” ซูหยางพึมพัมขณะที่นิ้วเขาพุ่งตรงไปยัง
หลังของเธอ “ถ้าเจ้ายังสามารถหยิ่งผยองได้หลังจากนี้ ข้า
ยินดีเรี ยกเจ้าเป็ นมารดา”
คาพูดของซูหยางทาให้หลี่เซี ยวโม่ผงะหงายตกตะลึง
ขณะที่เธอกาลังจะอ้าปาก ความสุ ขเปี่ ยมล้นก็ระเบิดขึ้น
เป็ นเหตุให้ความคิดเธอหยุดชะงักไปด้วยทัณฑ์สวรรค์

จิตใจหลี่เซี ยวโม่พลันว่างเปล่า ตาเหลือกค้างขึ้นข้างบน


เสี ยงแหลมครางเล็ดลอดมาจากปากเธอ คล้ายเสี ยงสัตว์
ร้ายหอนครวญ มันเป็ นความรู ้สึกบางอย่างที่ไม่อาจ
อธิ บายได้ดว้ ยคาพูด

ชัว่ ขณะที่นิ้วซูหยางสัมผัสกับหลังเธอ แสงสี ทองพลันพุ่ง


หายเข้าไปในร่ าง มันพุ่งทะลวงอยูภ่ ายในคล้ายกับมังกร
ท่องทะยานท่ามกลางฟากฟ้าดาราพราย เป็ นเหตุให้ร่าง
ของเธอเปล่งแสงสี ทองอ่อนจางราวกับรัศมีเทพ
เคล็ดวิชานี้สร้างขึ้นมาโดยผูน้ าลัทธิ ปีศาจแห่งหนึ่งใน
ชีวิตก่อนของซูหยาง เพื่อใช้ผกู มัดร่ างกายและจิตใจของผู ้
ที่ได้รับความหรรษา เคล็ดวิชานี้มีจุดประสงค์เพียงอย่าง
เดียวคือผูกมัดทาส ทาสแห่งความสุ ข และมันตกถึงมือซู
หยางเมื่อเขากวาดล้างทาลายลัทธิ หลังจากที่เขารับรู ้ถึงการ
ทดลองที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมที่ลทั ธิ ทาต่อมนุษย์

หน้าผากซูหยางเกาะด้วยเหงื่อพราวเมื่อเขาสาแดงเคล็ด
วิชาต้องห้าม เขาไม่คุน้ เคยกับเคล็ดวิชาชัว่ ร้ายนี้เพราะเขา
ใช้มนั เพียงไม่กี่ครั้งในชีวิต


ซูหยางหยุดเพียงสองสามนาทีต่อจากนั้น เขามองไปยังห
ลี่เซี ยวโม่ผทู ้ ี่บิดพล่านราวกับปลาที่ขาดน้ า

“นี่คงเกินพอแล้ว..” ซูหยางปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก

“…หื ม”

หลี่เซี ยวโม่พลันยึดชายเสื้ อเขาไว้แน่น เธอจ้องมองเขา


ด้วยสายตาที่เปี่ ยมด้วยความปรารถนา
“ข้าต้องการ…ทาให้ขา้ …” หลี่เซี ยวโม่พึมพัมขณะที่เธอ
คืบคลานหาซูหยาง ใบหน้าแดงก่าของเธอขยับเข้ามาใกล้
เป้าของซูหยางอย่างช้าๆ พร้อมกับน้ าลายที่ไหลย้อยจาก
มุมปาก

ซูหยางเลิกคิ้วกับการกระทาของเธอ “เจ้าคิดว่าเจ้ากาลังทา
อะไร” เขาพูดด้วยเสี ยงเรี ยบเฉยราวกับไม่หวัน่ ไหวไปกับ
ท่าทางยัว่ ยวนบนใบหน้าของเธอซึ่ งอาจทาให้ชายหลาย
คนคลัง่ และกระโดดเข้าหาเธอโดยไม่ลงั เล

“ได้โปรด…กับข้า.. ข้าต้องการ… ข้ายินดีทาทุกอย่างที่เจ้า


ต้องการ…”
ซูหยางดึงมือเธอออกจากชายเสื้ อและแค่นเสี ยงเย็นชา
“ฮึ่ม ช่างอุจาดนัยน์ตา มองดูเจ้าทาท่าเหมือนสุ นขั ติดสัด
ใครกันแน่เป็ นสุ นขั ”

“ข้า…ข้าเป็ นสุ นขั …ข้ายอมเป็ นทุกอย่างที่เจ้าต้องการ


เพียงแค่ให้ของเจ้า…”

อย่างไรก็ตามแม้วา่ เธอจะอ้อนวอนอย่างไร ซูหยางเพียง


ยืนอยูอ่ ย่างเงียบๆ ตรงนั้น

“ข้ามิสอดใส่ นอ้ งชายสู งค่าของข้าไปในที่สกปรกที่มิได้


เป็ นเจ้าของ”

ซูหยางส่ ายหัวและหันกาย
“ร..รอก่อน… เจ้าจักไปไหน” หลี่เซี ยวโม่เริ่ มตื่นตระหนก
เมื่อสังเกตเห็นซูหยางเดินไปยังประตู

“ไปดูดาว เจ้าสามารถใช้เตียงข้าเพื่อสนองความต้องการ
ของเจ้าได้ในเวลานี้ แต่ขา้ ต้องการให้เจ้าจากไปเมื่อข้า
กลับมา”

“ม..ไม่ รอก่อน ได้โปรด อย่าปล่อยข้าไว้ที่นี่เช่นนี้ เจ้าไม่


ควร ไม่ใช่หลังจากที่ทาให้ขา้ รู ้สึกเช่นนี้”

ซูหยางพลันแสดงให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาและยิม้
อ่อนโยน “ข้าเพิ่งทา..” เขาพูดขณะที่เดินออกไปจากห้อง
ประตูปิด ทิ้งหลี่เซี ยวโม่ไว้เพียงลาพัง ตกตะลึงและเปี ยก
แฉะ
DC บทที่ 27: ป้ ายหยกข้ างหมอน

ซูหยางเหม่อมองหมู่ดาวจากบนหลังคาบ้าน เขาดูเหงา
เศร้า

เขาราลึกถึงช่วงเวลาเช่นนี้ หลายครั้งในช่วงชีวิตก่อน
เหม่อมองหมู่ดาวพราวพร่ างฟ้ายามราตรี ต่างกันตรงที่
ช่วงเวลาเหล่านั้นเขาไม่ได้อยูโ่ ดดเดี่ยวแต่อยูร่ ่ วมกันกับ
คนที่เขารัก

พวกเธอเป็ นเช่นไรบ้าง พวกเธอยังมีชีวิตอยูไ่ หม คาถาม


เหล่านี้วนเวียนอยู่ในใจเขาตลอดเวลาที่หมู่ดาราปรากฏ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั ที่ฟ้ายามมีดาราดู…กว้างเหลือเกิน….”
เขาถอนหายใจ หลับตาลง ค่อยเคลิ้มหลับไปภายใต้ลม
ราตรี แผ่วเบาลูบไล้เรื อนผมดายาวสลวย

ยามเที่ยงคืนประตูหอ้ งข้างห้องซูหยางเปิ ดขึ้น สองเงาร่ าง


เดินออกมา
“หูเอ๋ อร์ ช่วงหลังนี้เจ้าทารุ นแรงกว่าปกติ เจ้าเป็ นไรหรื อ
เปล่า” เมิ่งเจียถามถังหูที่ดูเหมือนกับมีบางสิ่ งอยู่ในใจด้วย
ความกังวล

ถังหูยมิ้ ขื่นขมและกล่าวว่า “อย่ากังวลไปเลย มิมีอะไรมาก


ข้าเพียงรู ้สึกเพลียเล็กน้อยพักหลังนี้”

“เจ้าป่ วย เจ้าเป็ นไรไหม เจ้าไปขอให้ตาหนักโอสถดูให้


หรื อยัง”

“ข้าเพียง..มิมีอะไร..จริ งๆ” ถังหูย้าด้วยรอยยิม้ มัน่ ใจ แต่


เขายังคงรู ้สึกขื่นขมในใจที่โกหกต่อหน้าเธอ อย่างไรก็
ตามเขาไม่ตอ้ งการเปิ ดเผยความกลัวที่จะสู ญเสี ยเธอ
ให้กบั ซู หยาง ไม่วา่ ด้วยเหตุใดก็ตาม
“เช่นนั้นก็ดี” เมิ่งเจียถอนใจโล่งอก เลื่อนริ มฝี ปากใกล้หู
ของถังหู “ข้าค่อนข้างชอบให้มนั รุ นแรงอยูบ่ า้ ง เจ้ารู ้ไหม
มันรู ้สึกเหมือนว่าข้ากาลังฝึ กร่ วมกับใครคนอื่น มันเป็ น
ประสบการณ์แปลกใหม่”

เมิ่งเจียหัวเราะเอียงอาย เป็ นเหตุให้ความขื่นขมในใจถังหู


ยิ่งฝังลึก ยิ่งเจ็บปวดร้าวราน

เมิ่งเจียจูบแผ่วเบาบนริ มฝี ปากถังหูก่อนที่จะเดินหายลับ


ไปในความมืด

ถังหูยืนตะลึงอยูต่ รงนั้น หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หนั ไป


มองห้องซูหยาง อารมณ์หลากหลายปรากฏขึ้นบนแววตา
เขาถอนหายใจลึกไม่นานหลังจากนั้น รู ้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม
ไม่เคยสักครั้งในชีวิตที่เขาคิดว่าจะรู ้สึกอิจฉาและ
หวาดกลัวซู หยาง บางคนที่เขาเคยเห็นว่าไม่มีอะไรไป
มากกว่าวัตถุสวยงามเดินได้

เมื่อถังหูพบซูหยางครั้งแรกเมื่อปี ก่อน เขาอิจฉาในความ


หล่อเหลาเหนือชั้น อย่างไรก็ตามเมื่อเขารู ้วา่ ซูหยางมี
ปัญหาด้านสภาพจิต ถังหูเกือบโลดเต้นด้วยความสุ ข ดีใจ
ที่ซูหยางไม่ได้เป็ นอุปสรรคกับเขาหรื อใครคนอื่นภายใน
นิกาย เขาเป็ นเพียงดาบเล่มสวยที่ไร้คมปราศจากการ
คุกคามผูใ้ ด

“นี่สวรรค์คงลงโทษข้าที่หวั เราะเยาะความโชคร้ายของ
ผูอ้ ื่น” เขาถอนใจอีกครั้ง
ในเวลานั้นประตูหอ้ งซูหยางก็เปิ ดออก หญิงสาวสวยใน
ชุดสี เขียวก็เดินออกมาอย่างยากลาบาก ชุดเธอยับย่น
หละหลวม คล้ายว่าเธอถูกทาร้ายมา

วินาทีที่ถงั หูสงั เกตเห็นชุดสี เขียว เขารู ้สึกเหมือน


แผ่นดินไหว ใจสัน่ สะท้าน

“ศิษย์ใน” เขาร่ าร้องภายในใจ รู ้สึกอยากร้องไห้ออกมา


ดังๆ “ซูหยาง เจ้าบัดซบนัน่ กล้าแตะศิษย์ในด้วย”

“เดี๋ยวก่อน.. เธอร้องไห้” ถังหูสังเกตเห็นน้ าตาที่ขอบตา


ของหลี่เซี ยวโม่
“ท่านดีอยูไ่ หม” เขาถามเธออย่างเป็ นห่วง

อย่างไรก็ตามหลี่เซี ยวโม่ไม่แม้จะชายตามองเขา กระทืบ


เท้าออกไปจากประตูบา้ นลับหายไปจากสายตาอย่าง
รวดเร็ ว

หลังจากเธอไป ถังหู หนั ไปมองในห้องซูหยาง ขมวดคิ้ว

“ซูหยาง เจ้าช่างกล้าเอาเปรี ยบเธอทั้งที่นิกายห้ามใช้


กาลัง…”

เพียงพูดถ้อยคาโกรธแค้นได้เพียงครึ่ ง ดวงตาถังหูเบิก
กว้างด้วยความประหลาดและงุนงง
“เอ๋ เขาไม่อยู”่

ถังหูเดินเข้าไปในห้องคาดว่าซูหยางจะอยูท่ ี่มุมห้อง แต่


เขากลับประหลาดใจกับกลิ่นหอมรุ นแรงที่เข้ามาในจมูก
เมื่อก้าวเท้าเข้าในห้อง เขารู ้สึกเหมือนเดินเข้าไปในสวนที่
เต็มไปด้วยดอกไม้ที่แต่ละดอกมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

เขาสังเกตเห็นรอยย่นบนเตียงชัดเจน มันเปี ยกโชกราวกับ


ใครสักคนเทน้ าสองสามถังลงไป แม้กระทัง่ ผนังก็ยงั เปี ย
กราวถูกสาดพรมด้วยน้ า

“เกิดเชี่ยอะไรขึ้นที่นี่ หรื อมีท่อน้ าแตกในนี้”


ถังหูพลันระลึกถึงศิษย์ในที่มีท่าทางละอายบนใบหน้าแดง
ก่าขณะที่จากไป เขากรามตกค้างเมื่อคิดว่าความยุง่ เหยิง
ทั้งหมดนี้ตน้ เหตุกค็ ือเธอ..เพียงคนเดียว

อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเป็ นศิษย์ใน ถังหูไม่กล้าลบหลู่เธอ


มากจากการคิดนอกลู่นอกทาง

ข..ข้าควรร้องขอเพื่อนร่ วมบ้านคนใหม่… ซูหยางนี้ มิมี


อะไรนอกจากเสน่ห์เล่ห์ร้าย…เพียงแค่อยูร่ ่ วมชายคาทา
ให้ขา้ รู ้สึกเหมือนกาลังสู ญเสี ยตัวตน…” ถังหูถอนใจเดิน
กลับไปที่หอ้ งของตนเองเพื่อเก็บของ


ซูหยางเปิ ดเปลือกตาเมื่อตะวันแรกแย้มจากหลังแนวเขา

กระโดดลงจากหลังคา เขากลับเข้าไปในบ้าน สิ่ งที่เห็น


อันดับแรกก็คือประตูหอ้ งเขาเปิ ดอ้ากว้าง

เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้อง เขามึนงงไปกับกลิ่นแปลกใหม่
มันรุ นแรงจนเสี ยวจมูก

“เธอใช้หอ้ งนี้เต็มที่โดยไม่เกรงใจเจ้าของจริ งๆ เฮ้อ” เขา


พึมพัมกับตนเอง
“หื ม” เขาพลันสังเกตเห็นป้ายหยกวางอยูข่ า้ งหมอน

เมื่อเขามองเข้าไปภายในป้ายหยก เขาตื่นเต้นดีใจที่พบว่า
มีแต้มรางวัลอยูถ่ ึง 2,000 แต้มพร้อมข้อความด้านใน

“เจ้าร่ ารวยปานนี้ แต่เจ้ายังประจันหน้ากับข้าเช่นนั้น…”


ซูหยางถอนใจ รู ้สึกไร้ความเข้าใจในตัวมนุษย์

ซูหยางเข้าถึงข้อความในป้ายหยกที่ทิ้งไว้โดยหลี่เซี ยวโม่
อย่างรวดเร็ ว เขาอดไม่ได้ที่จะยิม้ หลังจากอ่านจบ
“อย่างน้อยเจ้าก็มิใช่คนไร้เหตุผลโดยสิ้ นเชิง..” เขาย้าย
แต้มรางวัลจากป้ายหยกเข้าตัวก่อนที่จะทาลายบันทึก
“ข้อเสนอของเจ้า…ข้ายินดีรับไว้”
DC บทที่ 28: พลังปราณห้ าช่ วงชั้น

ซูหยางถอนหายใจออกยืดยาว เกิดกลุ่มประกายหมอก
ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

“เขตปฐมวิญญาณระดับหก…ปราณหยินล่องลอยตกค้าง
มากมายนัก ข้าต้องใช้เวลาเกือบครึ่ งวันเพื่อดูดกลืน หลี่
เซี ยวโม่ตอ้ งเหน็ดเหนื่อยมากเมื่อคืน”

ไม่เพียงแต่พลังฝี มือ แม้กระทัง่ พลังกายของเขาก็ยงั เลื่อน


ระดับเข้าถึงระดับกลางของขั้นหลอมร่ างปฐมวิญญาณ ถ้า
จะกล่าวไปซูหยางเพียงอยูร่ ะดับสามของเขตปฐม
วิญญาณเมื่ออาทิตย์กว่าก่อนนี้ ถ้าผูค้ นรู ้วา่ ระดับพลังฝี มือ
ของเขาพุ่งพรวด ผูค้ นย่อมตกใจอย่างแน่นอน ด้ายปกติ
แล้วมันต้องใช้เวลาหลายอาทิตย์หรื อหลายเดือนเพื่อที่จะ
เลื่อนระดับไปสักขั้นของเขตปฐมวิญญาณ

ในโลกปุถุชนนี้ มีเขตชั้นพลังการฝึ กฝนอยูห่ า้ ระดับ เขต


ปฐมวิญญาณ เขตคัมภีร์วิญญาณ เขตสัมมาวิญญาณ เขต
ปฐพีวิญญาณ และเขตอัมพรวิญญาณ

โดยส่ วนใหญ่แล้ว ศิษย์นอกจะมีพลังการฝึ กฝนอยูท่ ี่เขต


ปฐมวิญญาณ ขณะที่ศิษย์ในทุกคนจะมีพลังการฝึ กฝน
อย่างต่าที่เขตคัมภีร์วิญญาณ จึงเป็ นเหตุให้หลี่เซี ยวโม่ซ่ ึ ง
ถือว่าเป็ นคนที่อ่อนแอในบรรดาศิษย์ใน แม้จะปลดปล่อย
ปราณหยินมากมายตกค้างภายในห้องซู หยางก็เป็ น
ประโยชน์ได้เพียงใกล้เคียงหรื อด้อยกว่าผูอ้ าวุโสหลานที่
ปลดปล่อยปราณหยินเขตสัมมาวิญญาณออกมาเพียง
เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเป็ นที่ชดั เจนว่าซู หยางไม่ค่อยพอใจกับ
ปราณหยินที่ตกค้างและต้องการให้มนั สดใหม่ แต่อนิจจา
จนกว่าเขาจะได้รับดอกหยางพิสุทธิ์ ซึ่ งช่วยเพิ่มปราณห
ยางให้กบั เขา สิ่ งที่ทาได้กเ็ พียงแต่อดทน

“ข้ามีเกิน 7,500 แต้มรางวัลเพียงเล็กน้อยตอนนี้ และยังมี


เวลาเหลืออีกสองสามวันก่อนถึงเส้นตายที่ขา้ ตั้งขึ้นด้วย
ตนเอง” ซูหยางมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ไม่มีใครสัก
คนด้านนอก

“พวกเธอควรจะมาถึงในมิชา้ …” ซูหยางราลึกถึงข้อความ
ที่หลี่เซี ยวโม่ทิ้งไว้ เขาอดไม่ได้ที่จะยิม้ อีกครั้ง
“ข้ามิคาดว่าจะได้รับข้อเสนอที่ใจกว้างจากคนเช่นเจ้า ข้า
คาดว่าอาจเป็ นเพราะประสบการณ์ร่วมกันที่แม้จะสั้นแต่
ลึกซึ้ งนั้นเป็ นเหตุให้เจ้าเปลี่ยนแปลงไปบางอย่าง..”

การตอบสนองของหลี่เซี ยวโม่ในสถานการณ์น้ ี ทาให้ซู


หยางนึกถึงหญิงสาวแดนสวรรค์หยิง่ ยะโสในชีวิตก่อน ผู ้
ที่ใช้เวลาหลายปี พยายามฆ่าเขาด้วยความโกรธแค้นไร้
เหตุผล และจบลงด้วยการเป็ นข้าผูซ้ ื่ อสัตย์หลังจากได้รับ
ประสบการณ์บนเตียงจากเขา

หลังจากเหม่อมองนอกหน้าต่างสองสามนาที เฝ้ารอใคร
สักคนหรื อบางสิ่ งมาถึง กลุ่มหญิงสาวสวมชุดเขียวก็
ปรากฏกายจากที่ไกล
สาวสวยกลุ่มนี้มี 25 คน แต่ละคนล้วนเปล่งประกายที่
สามารถแยกออกได้ระหว่างศิษย์นอกและศิษย์ใน

เมื่อบรรดาศิษย์นอกสังเกตเห็นกลุ่มศิษย์ใน พวกเขาล้วน
ทากรามร่ วงตกพื้น (ผูแ้ ปล: ปากอ้าตาค้าง) และดวงตา
ของพวกเขาเกือบหลุดจากเบ้าด้วยความหวาดหวัน่

ทาไมถึงมีศิษย์ในมากมายปรากฏตัวที่นี่ พวกเธอมาหา
อะไร

เหตุผลเดียวที่เหล่าศิษย์คิดออกก็คือ พวกเธอมาที่นี่
เพราะซูหยาง ผูซ่ ึ งกลายเป็ นจุดสนใจช่วงหลังนี้
และก็เป็ นเช่นนั้น การคาดเดาของพวกเขาถูกต้อง เพราะ
บรรดาศิษย์ในพากันเดินตรงไปยังประตูบา้ นซูหยางโดย
ไม่ได้หยุดหรื อมองหาผูใ้ ด

“เจ้าใช่ซูหยางหรื อไม่” บรรดาหญิงสาวถามเมื่อซูหยาง


ปรากฏกายออกมาต้อนรับ

“ข้าใช่”

“ศิษย์พี่หญิงของพวกเราบอกให้มาหาเจ้า พวกเรามาที่นี่
เพื่อขอใช้บริ การของเจ้า” หญิงคนหนึ่งกล่าวเสี ยงแข็งทื่อ
คล้ายกับไม่เชื่อในคากล่าวของตนเอง
“…” ซูหยางเลิกคิ้วมองกลุ่มหญิงสาว เขาอดที่จะสงสัย
เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอกับหลี่เซี ยวโม่

“ขออภัยล่วงหน้าถ้าข้าล่วงเกิน แต่พวกเจ้าเป็ นคนรับใช้


ของหลี่เซี ยวโม่ใช่หรื อไม่”

ถ้าใครสักคนบังเอิญมาอยูท่ ี่นี่และได้ยินวาจาของเขา พวก


เขาคงอดระเบิดเสี ยงหัวเราะไม่ได้ อย่างไรก็ตามบรรดา
หญิงสาวพากันเบิกตากว้างกับคาถามของเขาด้วยความ
ตกใจ

เมื่อเห็นปฏิกิริยาและความเงียบของพวกเธอ ซูหยางมัน่ ใจ
ในข้อสงสัยและถอนหายใจ “พวกเจ้าเป็ นศิษย์ในมิใช่รึ
เหตุใดจึงยอมเป็ นคนรับใช้ของศิษย์ในคนอื่น โดยเฉพาะ
คนอย่างหลี่เซี ยวโม่”

บรรดาหญิงสาวต่างพากันเงียบแต่หลังจากนั้นเล็กน้อย
หนึ่งในบรรดาพวกเธอพูดด้วยน้ าเสี ยงเคร่ งขรึ มว่า “แม้วา่
ศิษย์พี่หญิงหลี่อาจจะทาให้เกิดความเข้าใจผิดด้วยวิธีที่เธอ
พูด แต่เธอก็ดูแลคนภายใต้ปกครองอย่างดี ถ้ามิใช่เพราะ
การดูแลจากศิษย์พี่หญิงหลี่ พวกเราทั้งหมดนี้อาจจะมิมี
ใครได้ยืนตรงนี้ดว้ ยชุดเขียวนี่”

“ใช่แล้ว ดังนั้นเจ้าอย่าพูดจาสามหาวก้าวร้าวเธอ มิฉะนั้น


ข้าจักจัดการกับเจ้าด้วยตนเอง”
“แค่เพึยงเข้าใจผิด” ซูหยางเกือบหายใจไม่ออกเพราะ
คาพูดของพวกเธอ ปากร้ายและความเย่อหยิ่งของหลี่เซี ยว
โม่อาจทาให้กระทัง่ พระอรหันต์โกรธได้

ซูหยางส่ ายศีรษะและกล่าว “ความสัมพันธ์ของพวกเจ้ามิ


มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า ข้าเพียงใคร่ รู้เมื่อเธอบอกข้าว่าเธอ
จะชักชวนเพื่อนของเธอมา แต่พวกเจ้ากลับมีให้ความรู ้สึก
เช่นนั้น”

“ชัดเจนปานนั้นเลยรึ ..” หนึ่งในกลุ่มพวกเธอกล่าวอย่าง


กังวล

“ไม่ มิถึงขนาดนั้น ข้าเพียงรู ้สึกไวกว่าปกติในเรื่ องพวก


นี้” เขากล่าว
“เอาเถอะ ตามข้ามา” ซูหยางดูเหมือนสงบเฉยภายนอก
แต่กลับตื่นเต้นอยูภ่ ายในใจ

“นับจากวันนี้เป็ นต้นไป ข้าจะมีแต้มรางวัลพอสาหรับ


ดอกหยางพิสุทธิ์

ซูหยางพาบรรดาหญิงสาวเข้าไปในบ้าน และเริ่ มดูแลพวก


เธอทีละคน
DC บทที่ 29: พิการ

“อืมม…อาาาา.. แรงอีก.. กดเข้าไปในตัวข้าลึกๆ”

ซูหยางกดนิ้วของเขาลงไปหลังเธอ เพียงเพิ่มแรงขึ้นอีก
นิดหญิงสาวบนเตียงก็ส่งเสี ยงครางรุ นแรงด้วยความพึงใจ
สะท้อนก้องไปมาในห้อง

ซูหยางค่อยปล่อยมือของเขาจากหลังและออกห่างจากตัว
เธอ “สาเร็ จแล้ว” เขากล่าวแก่เธอด้วยน้ าเสี ยงเหน็ดเหนื่ อย
เล็กน้อย

หลังจากใช้เวลานับวันเพื่อดูแลหญิงสาว 25 คนที่หลี่เซี ยว
โม่ส่งมาที่บา้ น ซูหยางรู ้สึกเหมือนผ่านการต่อสู ก้ บั สัตว์
ร้ายเปี่ ยมพลัง ไม่เหมือนเดิมเมื่อเขาไม่ตอ้ งใช้ความ
พยายามมากเท่าไรในการใช้กลเม็ดเพราะว่าศิษย์นอกมี
พลังการฝึ กปรื อต่า แต่ซูหยางต้องใช้ปราณไร้ลกั ษณ์เพื่อ
ทาให้เหล่าศิษย์ในพึงใจเพราะว่าพวกเธอมีพลังการ
ฝึ กปรื อที่สูงกว่า

เหตุที่กลเม็ดที่ซูหยางมีประสิ ทธิ ภาพไม่ใช่เพราะว่าเขามี


ความสามารถในการเคลื่อนไหวมือขั้นเทพ แต่เป็ น
เพราะว่าเขามีวิธีการใช้ปราณไร้ลกั ษณ์อย่างลึกล้ าเพื่อ
นวดในตาแหน่งที่เขาไม่สามารถสัมผัสได้โดยตรง นี่จึง
เป็ นเหตุที่เหล่าหญิงสาวพากันมีความสุ ขสบายไปทัว่
ร่ างกายทั้งที่ซูหยางแตะต้องเพียงส่ วนหลัง และถ้าหญิง
สาวมีพลังการฝึ กปรื อกว่า เขาต้องเพิ่มการใช้ปราณไร้
ลักษณ์ เหตุวา่ มันยากขึ้นในการสารวจร่ างกายพวกเธอ
ด้วยปราณไร้ลกั ษณ์ที่ดอ้ ยกว่า
“ซูหยาง..” หญิงสาวบนเตียงพลันเรี ยกเขาด้วยน้ าเสี ยง
อ่อนล้า “คู่ฝึกเจ้าคงจะเป็ นคนที่มีความสุ ขที่สุดในโลก…
ข้าอิจฉา..” เธอถอนหายใจ

“…” ซูหยางยิม้ ข่มขืนกับคาพูดของเธอ

“คู่ฝึกของข้า เฮ้อ..” ขณะที่คู่ฝึกทุกคนของเขาในชีวิตก่อน


ล้วนเต็มไปด้วยความสุ ขสมเมื่ออยูร่ ่ วมกับเขา ราวกับว่า
พวกเธอไม่มีความทุกข์โศก แต่ความเป็ นจริ งพวกเธอ
อาจจะประสบกับความโศกเศร้ามากกว่าความสุ ข
หลังจากพบกับเขา
“เจ้ามิรู้รึ ข้ามิมีคู่ฝึกในตอนนี้” ซูหยางพูดอย่างไม่ใส่ ใจ
กับศิษย์ใน เธอถึงกับตกตะลึง

“อะไรนะ เจ้ามิมีคู่ฝึก ด้วยความสามารถในการทาให้


บรรดาหญิงพึงพอใจมิรู้จบของเจ้า ข้ามิแปลกใจเลยถ้าเจ้า
มีศิษย์นอกสาวสวยทุกคนเป็ นคู่ฝึก”

ชื่อ “ซูหยาง” เพียงโด่งดังในบรรดาศิษย์นอก ดังนั้นศิษย์


ในจึงไม่รู้เบื้องหลังของซูหยางในนิ กาย

“ข้าอาจจักทาให้ผอู ้ ื่นพึงใจได้ แต่จกั มีประโยชน์อะไรเมื่อ


ข้ามิสามารถฝึ กร่ วมกับพวกเธอ”
“เจ้าหมายความว่าเช่นไร” หญิงสาวถามด้วยคิ้วขมวด
งุนงง

ซูหยางชี้ไปที่เป้ากางเกงและยิม้ “มันพิการ”

ศิษย์หญิงอ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อซูหยางเปิ ดเผย
ความจริ งที่วา่ น้องชายของเขาพิการ ขณะที่มนั เป็ นที่รู้กนั
อย่างกว้างขวางในบรรดาศิษย์นอกว่าซูหยางพิการส่ วน
นั้น แม้วา่ จะไม่เคยมีการพิสูจน์วา่ มันจริ ง

“เจ้า..พิการ”

ศิษย์หญิงแทบไม่อยากเชื่อ เธอไม่อยากเชื่อว่าคนที่
สมบูรณ์พร้อมอย่างซูหยางจะมีขอ้ บกพร่ อง โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งเป็ นข้อบกพร่ องที่ถือได้วา่ เป็ นฝันร้ายของบรรดา
ชาย

บางทีสวรรค์อาจอิจฉาอัจฉริ ยะขั้นท้าทายสวรรค์ ดังนั้น


จึงยอมให้เพียงเขาสามารถทาให้ผอู ้ ื่นพึงใจได้ยกเว้นตัว
เขาเอง

หญิงสาวศิษย์ในรู ้สึกใจสลาย ไม่ใช่เพียงเพื่อซูหยาง แต่


เพื่อหญิงสาวทุกคนบนโลกนี้

“แต่ทาไมเจ้ายังอยูใ่ นนิกายถ้าเจ้ามิสามารถฝึ ก นี่มิใช่


สานักทัว่ ไปที่มิมีผลกระทบ พิการตรงนั้นหมายความว่า
เจ้ามิมีประโยชน์ในนิกายนี้ที่ถือการฝึ กคู่คือทุกสิ่ ง” ศิษย์
หญิงตั้งข้อสงสัย
ซูหยางยักไหล่ “ใครจักรู ้วา่ นิ กายคิดอะไร แต่ขา้ มิเคยถูก
พวกเขาก่อกวน”

“ใครจักคิดว่าชายเช่นนี้จกั .. ไอ๊หยา นี่เป็ นเรื่ องมิสบ


อารมณ์ที่สุดในโลก” หญิงศิษย์ในถอนหายใจเสี ยงดัง

หลังจากเงียบไปชัว่ ครู่ เธอพลันกล่าวว่า “อย่ากังวล ซู


หยาง แม้วา่ เจ้าจักพิการและไม่สามารถฝึ ก ข้าไม่รังเกียจที่
จักเป็ นคู่ฝึกของเจ้า…”

ซูหยางยิม้ กับข้อเสนอของเธอ แต่เขาส่ ายศีรษะอย่างไม่


สนใจ
“ข้าอาจจักพิการตอนนี้ แต่ใช่หมายความว่ามันจักใช้การ
มิได้ตลอดไป”

หญิงสาวตาเบิกกว้างกับคาพูดของเขา ไร้วาจาว่ากล่าว

สักครู่ หลังจากนั้นเธอก็ยมิ้ อย่างเอียงอายและพูดขึ้นว่า


“เช่นนั้นถ้าเจ้ารักษาแล้ว..มาฝึ กคู่ดว้ ยกันสักวัน ตกลงนะ”

ซูหยางหัวเราะหึ แล้วกล่าว “นัน่ ต้องเข้าคิว รู ้ไหม”

“ถ้าเจ้าดีขนาดนี้เพียงแค่ใช้มือ ดังนั้นข้าปรารถนาที่จกั รอ
ตลอดไปเพื่อลิ้มลองตรงนั้น…” เธอพูดด้วยใบหน้าแดง
หลังจากนั้นสองสามนาทีลูกค้าคนสุ ดท้ายของวันก็ออก
จากบ้านซูหยางอย่างพึงพอใจราวกับเธอได้เกิดใหม่

ซูหยางนัง่ ลงฝึ กปราณต่อจากนั้น ดึงดูดปราณหยินที่ยงั


ล่องลอยอยูภ่ ายในห้อง

เช้าตรู่ ซูหยางหยุดการฝึ กปราณและเตรี ยมตัวเดินทางไป


คลังมุกพิสุทธิ์
“10,000 แต้มรางวัล…” ซูหยางทบทวนและออกจากบ้าน
ไปด้วยอารมณ์แจ่มใส

เมื่อเขาไปถึงคลังมุกพิสุทธิ์ ผูอ้ าวุโสคนเดิมที่เขาเห็นเมื่อ


อาทิตย์ก่อนนัง่ อยู่หลังโต๊ะ

“หื ม เจ้าคือศิษย์คนนั้นที่ตอ้ งการดอกหยางพิสุทธิ์ ..” ชาย


ชราจดจาซูหยางได้ทนั ทีที่เห็นใบหน้าอันหล่อเหลา

“ถ้าเจ้ามาเพียงเพื่อรบกวนข้า เจ้าก็ควรหันกลับไป”

ซูหยางตรงเข้าไปที่โต๊ะชายชราด้วยรอยยิม้ เขาวางป้าย
หยกลงบนโต๊ะ ทาให้ชายชรามองเขาด้วยความแปลกใจ
“10,000 แต้มรางวัลสาหรับดอกหยางพิสุทธิ์ ”

“…”

ชายชรามองซูหยางอย่างสับสน ไม่อยากเชื่อ

“เจ้า..เจ้า..เจ้าหา 10,000 แต้มรางวัลภายใน 10 วันได้จริ งๆ


มิน่าเชื่อ” ชายชรารี บคว้าป้ายหยกเพื่อดูรายละเอียด และ
เมื่อเขายืนยันว่ามี 10,000 แต้มรางวัลอยูภ่ ายในนั้นจริ ง
หัวใจเขาเกือบเต้นออกมาจากอกด้วยความตกตะลึง

“ส..สวรรค์ นี่เจ้าทาอะไรถึงได้แต้มมากมายปานนี้ใน
ช่วงเวลาสั้นๆ”
เพราะว่ายากนักที่ชายชราจะจากคลังมุกพิสุทธิ์ เขาจึงไม่รู้
ถึงธุรกิจนวดเล็กๆ ของซูหยาง

“แค่บางสิ่ งบางอย่าง” ซูหยางตอบแบบขอไปที และพูด


ต่อว่า “แล้วดอกหยางพิสุทธิ์ ล่ะ ข้าต้องการมันเร็ วที่สุด
เท่าที่จกั เป็ นไปได้”

ชายชรากลับเงียบและหรี่ ตามองซูหยาง ดูคล้ายกับครุ่ นคิด

“ตกลง..รอที่นี่สกั ครู่ ระหว่างที่ขา้ ไปเอาดอกหยางพิสุทธิ์ ”


ถอนใจก่อนที่ชายชราจะเดินหายไปในห้องด้านหลัง
สองสามนาทีหลังจากนั้น ชายชราเดินกลับมาพร้อมกับ
กล่องไม้สีแดงในมือ

“นี่คือดอกหยางพิสุทธิ์ ”

“ขอบคุณ…” ซูหยางรู ้สึกถึงแรงต้านเมื่อเขารับกล่องไม้


จากชายชรา

“หนุ่มน้อย เจ้าวางแผนจักทาอะไรกับสิ่ งนี้” ชายชราถาม


เขาหลังจากลังเลที่จะให้กล่องไม้

“ฝึ กวิชา..” ซูหยางให้คาตอบที่ธรรมดา ยิ่งเพิ่มความ


ประหลาดใจให้ชายชรามากกว่าเดิม
“ศิษย์เขตปฐมวิญญาณธรรมดา แต่เจ้ายังต้องการใช้ดอก
ปี ศาจแดงในการฝึ ก มีิวิธีตายง่ายกว่านั้นมากมาย เจ้ารู ้
ไหม”

แม้วา่ เหมือนซูหยางบ้า แต่ชายชราไม่เชื่อว่าเขาจะใช้ความ


พยายามและทรัพยากรมากมายเพียงเพื่อฆ่าตัวตาย
อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าคนที่อยูร่ ะดับเขตปฐมวิญญาณ
จะสามารถทาอะไรกับดอกหยางพิสุทธิ์ ซึ่ งสามารถฆ่าได้
แม้กระทัง่ ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับเขตปฐพีวิญญาณ

“เจ้าชื่ออะไร”

“ซูหยาง”
“ซูหยาง เฮ้อ..เอาล่ะ พยายามอย่าทาให้เปื้ อนมาก ข้า
สงสารคนที่จะต้องทาความสะอาดความเลอะเทอะหลัง
จากที่เจ้าตัวระเบิดตาย”

ซูหยางยิม้ ให้กบั คาพูดของชายชรา แต่เขาไม่ได้กล่าว


อะไรและเดินออกไปจากประตู

หลังจากซูหยางออกไปจากที่น้ นั ชายชราปิ ดคลังมุก


พิสุทธิ์ ซึ่ งยากที่จะเกิดขึ้น เขาตรงไปที่ศาลาหยินหยางที่
เป็ นที่พกั ของเจ้านิ กายและเจ้าแม่นิกาย
DC บทที่ 30: ตามหาคู่ฝึก

หลังจากซูหยางกลับบ้าน เขาติดป้ายไว้หน้าประตู
ประกาศว่าเขาจะปิ ดประตูฝึกฝี มือสักพักหนึ่ง

ภายในห้องของเขา ซูหยางเปิ ดกล่องไม้สีแดง คลื่นความ


ร้อนพวยพุ่งปะทะหน้าจนรู ้สึกเหมือนอยูใ่ นทะเลทราย
ร้อนแล้ง ภายในกล่องไม้แดงบรรจุดอกไม้ที่แดงตั้งแต่
ปลายดอกไปจนถึงปลายราก มันเปล่งแสงเรื องสี แดง ทั้ง
ให้ความรู ้สึกกระปรี้ กระเปร่ ามีชีวิตชีวา

“ต้องใช้ต้ งั 10,000 แต้มรางวัลสาหรับดอกหยางพิสุทธิ์


ชั้นต่านี้ นี่มนั โกงกันชัดๆ” ซูหยางถอนหายใจเมื่อเห็นว่า
เป็ นดอกหยางพิสุทธิ์ จริ ง แสงที่เปล่งออกมาบ่งบอกถึง
คุณภาพ ด้วยแสงสี แดงเข้มเท่าไหร่ กจ็ ะมีคุณภาพดีมาก
ขึ้นเท่านั้น

แม้วา่ จะผิดหวังกับคุณภาพของดอกหยางพิสุทธิ์ แต่ซู


หยางไม่อาจบ่นจุกจิกได้

ซูหยางหยิบดอกหยางพิสุทธิ์ ออกมาจากกล่องไม้ รู ้สึก


เหมือนถือก้อนหิ นที่ต้ งั ตากแดดไว้ท้ งั วัน เขาวางมันลงไป
ในเครื่ องบดยาแล้วค่อยเริ่ มบดดอกหยางพิสุทธิ์ ให้
กลายเป็ นผง

แม้กระทัง่ กลายเป็ นผง ดอกหยางพิสุทธิ์ ก็ยงั คงเปล่งแสง


เรื องแดง
หลังจากที่ทาเสร็ จซูหยางก็มองไปยังผงดอกด้วยความ
สับสน

“คัมภีร์หลอมร่ างสวรรค์ยอ่ มให้ขา้ ดูดกลืนพลังปราณไร้


ลักษณ์อนั แข็งแกร่ งในดอกหยางพิสุทธิ์ ได้โดยไร้ปัญหา
แต่ผลข้างเคียงต้องดูแลอย่างเป็ นธรรมชาติ…” ซูหยา
งถอนหายใจ

แม้วา่ เขาสามารถจัดการกับปราณไร้ลกั ษณ์โดยร่ างไม่


แตกสลายเมื่อดูดกลืนดอกหยางพิสุทธิ์ แต่ผลข้างเคียง
กลับค่อนข้างมีปัญหาถ้าไม่จดั การให้ดี
ซูหยางได้ไตร่ ตรองคิดหาคู่ฝึกที่ดีที่สุดเพื่อช่วยรองรับ
ผลข้างเคียงตั้งแต่ได้รับดอกหยางพิสุทธิ์ มา แต่อนิ จจาไม่
มีใครสักคนที่อยูใ่ นใจ

“เมื่อข้าดูดกลืนดอกหยางพิสุทธิ์ มิเพียงแต่พลังการ
ฝึ กปรื อข้าจักเพิ่มขึ้น กระทัง่ อวัยะส่ วนล่างตรงนั้นก็จกั
ฟื้ นคืน และมันจักมิรู้ลม้ จนกว่าข้าจักปลดปล่อยมันไปให้
ใครสักคน…ไอ๊ยา่ ..เหตุใดข้าจึงต้องมาอยูใ่ นสถานที่มีแต่
ปุถุชน มิมีแม้ใครสักคนที่มีอายุได้สกั เสี้ ยวหนึ่ งของอายุ
จริ งข้าที่นี่”

ขณะที่ซูหยางไม่ใช่คนที่ปล่อยให้บางอย่างเช่นอายุของคู่
ฝึ กมาเป็ นข้อกาหนดสาหรับเขาในชีวิตก่อน นัน่ เพราะว่า
ทุกคนรอบตัวเขาหากไม่ใช่เหล่าเซี ยนก็ตอ้ งเป็ นผูฝ้ ึ ก
ปราณที่แข็งแกร่ งที่มีอายุหลายพันปี แล้ว
แม้วา่ อายุจะไม่มีนยั สาคัญในสายตาของผูฝ้ ึ กปราณ แต่
นัน่ ยังทาให้เกิดความละอายใจ

“ผูส้ ู งวัยที่สุดที่นี่น่าจักเป็ นเจ้าแม่นิกาย แต่กระนั้นเธอก็มี


อายุอย่างมากแค่เพียงสองร้อยปี ยิง่ มิตอ้ งพูดถึงว่าฐานะ
เธอเป็ นถึงเจ้าแม่นิกาย แม้จกั เข้าใกล้ยงั ยาก ยิ่งอย่าไปคิด
ที่จกั ร่ วมฝึ กด้วย…”

นานหลายนาทีกว่าซูหยางจะล้มเลิกหาใครที่เหมาะสม
เป็ นคู่ฝึก เพราะคนอ่อนแออย่างเขายังไม่อาจหาทางออกที่
เหมาะสมได้ในโลกปุถุชนแห่ งนี้ หากเขาไม่ยอมรับสภาพ
และฝึ กปราณคู่กบั ปุถุชนในนิ กายนี้ ก็ลืมไปได้เลยที่จะ
กลับสู่ ดินแดนเซี ยน อย่าว่าแต่จะอยูร่ ่ วมกับเหล่าคนรักที่
อยูใ่ นพิภพที่สูงกว่านั้น
หลังจากเตรี ยมใจพร้อม ซูหยางแข็งใจเก็บดอกหยาง
พิสุทธิ์ และออกจากบ้านเพื่อหาคู่ฝึก

คนแรกที่ปรากฏในใจของซูหยางเมื่อคิดหาคู่ฝึกย่อมเป็ น
ผูอ้ าวุโสหลานโดยปราศจากข้อสงสัย เธอเป็ นผูท้ ี่ทาให้
เขานึกถึงรักแรก
เมื่อถึงตาหนักโอสถ ซูหยางก็กลายเป็ นจุดรวมความ
สนใจ

“ซูหยาง เจ้ามาทาอะไรที่นี่รึ”

“หื อ ซูหยางมาที่นี่เหรอ”

บรรดาศิษย์ที่ทางานอยูท่ ี่นนั่ ต่างพากันวิ่งมารุ มล้อมเขา


ด้วยดวงตาเป็ นประกาย

“มิเจอกันพักใหญ่เลยนะ” ซูหยางทักทายกลุ่มหญิงสาวที่
มีส่วนช่วยเหลืออย่างมากในการกระจายชื่อของเขา
หลังจากผูอ้ าวุโสหลานหลอกพวกเธอให้เข้าไปหาเขา
อวี้เอียน ซวานจิงหลิน เจียปี อวี้ พวกเธอล้วนอยู่ที่นน่ั

“เจ้ามาทาอะไรที่นี่ หรื อเจ้าต้องการใครสักคนช่วย ข้าช่วย


เจ้าได้” อวี้เอียนหญิงสาวอายุนอ้ ยที่สุดในบรรดาพี่นอ้ ง
พูดด้วยใบหน้าแดงก่า ดูเหมือนยังอายเรื่ องวันนั้น

“อืม ข้ามาหาผูอ้ าวุโสหลาน”

“อาจารย์ เธออยูช่ ้ นั บน แต่เธอกล่าวว่าเธอกาลังเตรี ยมการ


สาหรับเหตุการณ์ใหญ่อะไรสักอย่างและห้ามรบกวน”

ซูหยางเลิกคิ้วกับคาพูดของพวกเธอ “หรื อว่าเธอจริ งจังกับ


คาหยอกเย้าของข้า” เขาสงสัยใจ
“จักเป็ นไรหรื อไม่ถา้ ข้าไปพบเธอ ข้ามีเรื่ องด่วนที่มิอาจ
รอ” ซูหยางกล่าวด้วยรอยยิม้ หล่อเหลาที่เหล่าหญิงสาว
ยากจะปฏิเสธ

“แต่..”

บรรดาหญิงสาวมองกันไปมาด้วยสี หน้ายุง่ ยากใจ

ในเวลานั้นก็มีเสี ยงกระแอมไอดังอยูด่ า้ นหลังพวกเธอ

“พวกเจ้ามามุงทาอะไรกันที่ทางเข้า” ผูอ้ าวุโสหลานพูด


ขณะที่ลงมาจากบันได และเพราะซูหยางถูกห้อมล้อมด้วย
บรรดาหญิงสาว ผูอ้ าวุโสหลานจึงไม่อาจเห็นหน้าเขาได้
ชัด
“อาจารย์ ซูหยางมาเพื่อพบท่าน”

“ซูหยาง” ผูอ้ าวุโสหลานเกือบสะดุดตกบันไดสองสามขั้น


สุ ดท้ายหลังจากได้ยินชื่อเขา ทาไมเขามาที่นี่ เธอกาลังจะ
ไปหาเขาที่บา้ น

ซูหยางเดินตรงไปข้างหน้าให้เธอเห็นใบหน้าหล่อเหลา

“คานับผูอ้ าวุโสหลาน” เขาประสานมือทักทายเธอ

“ข้ามาที่นี่เพื่อขอคาปรึ กษาท่าน” เขาพูดตรงไปตรงมา


ผูอ้ าวุโสหลานสงสัยว่าเขาต้องการพูดเรื่ องอะไร เธอไม่มี
ข้อมูลแม้แต่นอ้ ย

“…ขึ้นไปพูดด้านบน” เธอกล่าวหลังจากเงียบไปสักพัก

ซูหยางผงกศีรษะ แต่ก่อนที่เขาจะตามเธอไป เขากล่าวกับ


บรรดาหญิงสาวด้วยเสี ยงแผ่วเบาน่าหลงไหล “คราหน้า
เมื่อข้ามาจักเป็ นตาพวกเจ้าเพราะข้ากาลังมองหาคู่ฝึกด้วย
อยู…่ ”

คาพูดที่เขากล่าวขึ้นโดยไม่มีปี่มี่ขลุ่ยทาให้ทุกคนตื่นตะลึง
ดวงตาสวยของพวกเธอเบิกกว้าง ปากอ้าค้าง ราวกับพบว่า
ลูกไก่พูดได้เป็ นครั้งแรก
ซูหยางยิม้ แล้วหันกายเดินตามผูอ้ าวุโสหลานขึ้นไปชั้น
บน
DC บทที่ 31: ข้ าต้ องการแก่ นพลังหยินของเจ้ า

ภายในห้องผูอ้ าวุโสหลานที่กรุ่ นด้วยกลิ่นของยาและ


สมุนไพร ซูหยางยืนอยูท่ ี่ทางเข้าด้วยท่าทางลึกล้ า

“เจ้ารู ้แล้วว่าข้าจักไปหาวันนี้ แต่เจ้ายังตัดสิ นใจมาที่นี่ดว้ ย


ตนเอง เจ้าต้องการอะไรอย่างเร่ งด่วนจากข้า” ผูอ้ าวุโส
หลานพูดด้วยน้ าเสี ยงเข้มงวดคล้ายกับพยายามเตือนให้ซู
หยางตระหนักถึงสถานะของเธอ

ซูหยางยังคงมีท่าทางใจเย็น เขาพูดว่า “ข้าจักพูดให้ตรงจุด


ผูอ้ าวุโสหลาน ข้าต้องการแก่นพลังหยินของเจ้า”
ผูอ้ าวุโสหลานแรกรู ้สึกงุนงง ต่อเมื่อเธอตระหนักถึง
ความหมายเธอก็สบั สน

“เจ้าต้องการอะไรจากข้ากันนะ” ผูอ้ าวุโสหลานร้องอุทาน


เสี ยงดัง

ไม่เหมือนกับปราณหยินที่สามารถนาออกมาจากบรรดา
หญิงได้แม้วา่ พวกเธอจะสู ญเสี ยพรหมจรรย์ไปแล้ว แก่น
พลังหยินจะสามารถนาออกมาได้ขณะที่เหล่าหญิงสู ญเสี ย
ความบริ สุทธิ์ เท่านั้น

“ข้ากาลังจักดูดกลืนดอกหยางพิสุทธิ์ และข้าต้องการคู่ฝึก
เพื่อร่ วมฝึ กปราณหลังจากนั้น” ซูหยางกล่าวโดยไม่ปกปิ ด
สิ่ งใด
ผูอ้ าวุโสหลานตาเบิกกว้างด้วยความตกใจมากกว่าเดิม
“เจ้าวางแผนดูดกลืนมันจริ งรึ เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าดอก
หยางพิสุทธิ์ เป็ นยาประเภทไหน มีผลลัพธ์เดียวถ้าเจ้า
ดูดกลืนมัน ตายอย่างอนาถ” ผูอ้ าวุโสหลานโกรธเกรี้ ยว
กับเรื่ องซูหยางคิดดูดกลืนดอกหยางพิสุทธิ์ มากกว่าเรื่ องที่
เขาขอแก่นพลังหยินของเธอ

“ข้าเคยพูดเช่นนี้ไว้ก่อนแล้ว ผูอ้ าวุโสหลาน มองข้า ข้า


เหมือนคนที่คิดฆ่าตัวตายหลังจากที่ใช้ความพยายาม
มากมายเพื่อให้ได้รับดอกหยางพิสุทธิ์ รึ ” ซูหยางตรงไป
หาผูอ้ าวุโสหลานอย่างช้าๆ ปลดปล่อยรัศมีพลังที่เหนื อ
จินตนาการ
เมื่อผูอ้ าวุโสหลานรู ้สึกถึงการเข้ามาของซูหยาง เธอรู ้สึก
เหมือนว่าเธอยืนอยูต่ ่อหน้าตัวตนที่ลึกล้ าที่กุมทั้งโลกไว้
ในมือ

“ท..ทาไมต้องเป็ นข้า ข้าเป็ นถึงผูอ้ าวุโสนิกายและเจ้าเป็ น


เพียงศิษย์นอก เจ้าคิดไหมว่าจักเกิดอะไรขึ้นถ้าเราร่ วมฝึ ก
ด้วยกัน นิ กายต้องมิยอมให้เกิดเรื่ องเช่นนั้นแน่”

“ถ้าพวกเขามิรู้เรื่ องนั้น ก็มิมีอะไรเกิดขึ้น”

“นัน่ มิได้หมายความว่ามันทาได้ เช่นไรก็ตามข้าปฏิเสธ


อย่าล้ าเส้น ศิษย์ซูหยาง ข้าเพียงหาเจ้าเพื่อรักษาความเจ็บ
ใช่วา่ ข้าจักมีความรู ้สึกต่อเจ้า เมื่อการรักษาจบสิ้ น
ความสัมพันธ์ระหว่างเราก็จบแค่น้ นั ” ผูอ้ าวุโสหลานพูด
กับเขาอย่างจริ งจัง

ถึงที่สุดแล้วเธอเป็ นผูอ้ าวุโสนิ กายและเขาเป็ นเพียงแค่


ศิษย์นอก ยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึงว่าผูอ้ าวุโสหลานเป็ นหญิงสาว
บริ สุทธิ์ เธอไม่ได้พยายามที่จะรักษาความบริ สุทธ์อย่าง
ยากลาบากเพื่อที่จะเสี ยมันไปให้กบั ศิษย์นอกบางคนที่เพิ่ง
รู ้จกั

ซูหยางหลับตาลงซ่อนความผิดหวังในแววตา ถอนหายใจ
“น่าเสี ยดาย..” เขาพึมพัม

“ข้าต้องขอโทษที่มารบกวนเจ้าที่นี่ ผูอ้ าวุโสหลาน เจ้าพูด


ถูก ช่องว่างระหว่างฐานะของเรานั้นกว้างเกินไป ให้นึก
เสี ยว่าการสนทนาครั้งนี้มิเคยเกิดขึ้น ข้ามาหาเจ้าเป็ นคน
แรกก็เพราะข้าคิดว่าแก่นพลังหยางของข้าจักมีประโยชน์
กับการฝึ กฝนของเจ้าบ้าง”

ซูหยางหันกายและเตรี ยมเดินจากไป

“เดี๋ยว” ผูอ้ าวุโสหลานพลันหยุดเขาไว้ ขมวดคิ้ว “เจ้า


หมายความว่าเช่นไร”

“ดอกหยางพิสุทธิ์ จักเพิ่มพูนพลังปราณหยางของข้าอย่าง
เห็นได้ชดั หลายเท่า และจักเพิ่มพลังแก่นหยางมาก
ยิ่งกว่านั้น ข้าหวังว่าจะมอบให้เจ้าเพื่อเจ้าจักเข้าถึงระดับสี่
ของเขตสัมมาวิญญาณ” ซูหยางอธิ บายถึงวัตถุประสงค์
แท้จริ ง เขาพูดต่อว่า “เจ้าใกล้จกั ทะลวงผ่านแล้ว มิใช่รึ”
ผูอ้ าวุโสหลานเบิกตากว้างเพราะคาพูดของเขา เธอจ้อง
มองเขาโดยไม่อาจกล่าววาจาใดได้

“ส่ วนสาหรับการนัดหมายกับข้า..ข้าจักขอผัดไปก่อนใน
ด้วยข้าจักวุน่ วายในการปิ ดตนฝึ กฝนสักสองสามวัน”

ซูหยางก้าวเดินต่อไปยังประตู

“เดี๋ยว” ผูอ้ าวุโสหลานหยุดเขาไว้อีกครั้ง

“แม้วา่ ดอกหยางพิสุทธิ์ เพิ่มพลังแก่นหยางของเจ้าหลาย


เท่า แต่เจ้ายังอยูใ่ นเขตปฐมวิญญาณ แก่นวิญญาณหยาง
แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นคงมิมีประโยชน์กบั คนเช่นข้าผูท้ ี่
อยูถ่ ึงเขตสัมมาวิญญาณแม้แต่นอ้ ย”

ซูหยางเพียงยิม้ กับข้อคิดเห็นของเธอ เขาไม่สามารถบอก


เธอได้วา่ เขาฝึ กวิชาหนึ่งในเจ็ดคัมภีร์สวรรค์สูงสุ ด ซึ่ งจะ
เป็ นเหตุของอีกหลายคาถามและตามมาด้วยปัญหานับไม่
ถ้วน

ก่อนที่จะก้าวเท้าออกจากห้อง ซูหยางพูดกับผูอ้ าวุโส


หลาย “ผูอ้ าวุโสหลาน ข้าจักขอยืมศิษย์ของเจ้าหลายคน
วันนี้ ถ้าเจ้ามิติดขัด…”

ผูอ้ าวุโสหลานอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคาพูดเขา
“เจ้าคงมิได้วางแผนที่จกั …”

“หรื อข้ามีทางเลือกอื่น” ซูหยางยักไหล่

ผูอ้ าวุโสหลานกัดริ มฝี ปากมองซูหยางเดินออกจากห้อง


คล้ายกาลังคิดหนัก


เมื่อซูหยางกลับถึงชั้นแรก บรรดาหญิงสาวที่นนั่ พลันจ้อง
มองเขาด้วยสายตาเผ็ดร้อน ดูคล้ายกับฝูงหมาป่ าหิ ว
กระหาย

“อะแฮ่ม” ซูหยางทาคอโล่งเสี ยงดัง ดูเหมือนว่าเขากาลัง


เรี ยกร้องความสนใจ (3038)

โชคดีนกั เขากลายเป็ นจุดสนใจทันทีที่เดินลงมาข้างล่าง

“แม้วา่ นี่จะกระทันหันไปหน่อย…ข้าไคร่ ..”

“เดี๋ยว”
ขณะที่ซูหยางกาลังจะขอให้บรรดาหญิงสาวร่ วมเตียงกับ
เขา เสี ยงของผูอ้ าวุโสหลานพลันดังก้องมาจากชั้นบน

“ซูหยาง กลับขึ้นมาที่นี่ เรายังพูดกันมิจบ”

ซูหยางยืนนิ่งอยูต่ รงนั้นด้วยปากอ้าค้างหลังจากได้ยิน
เสี ยงเธอ

หลังจากนั้นสักครู่ เขาก็ยมิ้ และพูดว่า “คงต้องเก็บไว้


โอกาสหน้า…”

บรรดาหญิงสาวมองเขาด้วยความงงงัน เขาต้องการอะไร
จากพวกเธอ
ซูหยางหันกายและเริ่ มมุ่งหน้าไปยังชั้นสองอีกครั้ง
DC บทที่ 32: เจ้ าจักรับผิดชอบอย่ างไร

ผูอ้ าวุโสหลานจ้องมองซูหยางที่ยืนอยูอ่ ย่างไม่รู้สึกรู ้สา


อย่างเคอะเขิน สายตาเธอเต็มไปด้วยความซับซ้อนสับสน

เพราะเธอได้สาบานกับตัวเองว่าเธอจะไม่มีความรู ้สึกต่อ
ซูหยาง ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าเอ่ยปากอย่างสะเพร่ า อย่างไร
เธอก็ไม่มีเวลาว่างที่จะมาเปิ ดเผยความในใจ นับประสา
กับการกระโดดไปในอ้อมแขนของเขา ด้วยฐานะของผู ้
อาวุโสนิกายและศิษย์ยอ่ มเกิดปั ญหานานับประการ

ชัว่ ขณะผูอ้ าวุโสหลานก็ถอนหายใจยาว “ทาไมเจ้าจึงมิ


เป็ นศิษย์หลัก นัน่ จักทาให้ทุกอย่างง่ายกว่านี้…” เธอ
ละเมอสิ่ งที่เธอรู ้สึกในใจโดยไม่รู้ตวั
“ศิษย์หลัก” ซูหยางเลิกคิ้วกับถ้อยคาของเธอ

แม้วา่ ศิษย์หลักจะยังถือเป็ นศิษย์เช่นกัน แต่พวกเขาไม่ได้


รับการปฏิบตั ิเช่นนั้น ตามความเป็ นจริ งพวกเขามีศกั ดิ์
เหนือกว่าผูอ้ าวุโสนิกาย

ผูอ้ าวุโสนิกายส่ วนใหญ่แล้วเคยเป็ นศิษย์ในแต่ไม่มี


โอกาสได้เป็ นศิษย์หลัก มันเป็ นวิธีสาหรับนิกายที่จะ
รักษาทรัพยากรโดยไม่ให้สูญเสี ยแทนการปฏิเสธพวกเขา
ด้วยฐานะศิษย์ในยังคงเป็ นบุคคลมีความสามารถไม่วา่
พวกเขาเคยเป็ นศิษย์หลักหรื อไม่
“ถ้าข้ากลายเป็ นศิษย์หลักนัน่ จักลบล้างความอัปยศของ
เจ้าซึ่ งฝึ กวิชาคู่กบั ข้าที่ขณะนี้เป็ นศิษย์นอกใช่หรื อไม่” ซู
หยางถามเธอด้วยน้ าเสี ยงจริ งจัง

ผูอ้ าวุโสหลานสังเกตเห็นความมัน่ ใจในแววตาของเขา


เมื่อกล่าวถึงการเป็ นศิษย์หลัก เธอแค่นเสี ยงเย็นชา “เจ้ามี
ความคิดที่จะเป็ นศิษย์หลักรึ พวกนั้นล้วนเป็ นอัจฉริ ยะที่
สวรรค์ประทานมาตั้งแต่เกิด นัน่ ไม่มีทางที่เจ้าจัก
เปรี ยบเทียบได้”

“อะไรทาให้เจ้ามัน่ ใจปานนี้”

“ลองใช้ฟางเจ้อหลานที่เป็ นผูน้ าเหล่าศิษย์หลักขณะนี้เป็ น


ตัวอย่าง เมื่ออายุเท่าเจ้าขณะที่เจ้ายังอยูท่ ี่เขตปฐมวิญญาณ
เธออยูท่ ี่เขตสัมมาวิญญาณเท่ากับผูอ้ าวุโสสานัก เจ้าบอก
มา ซูหยาง เจ้าจะเปรี ยบตัวเองกับอัจฉริ ยะระดับสัตว์
ประหลาดพวกนี้ อย่างไร”

ซูหยางหัวเราะหึ กบั ตัวอย่างของเธอ เขาพูดด้วยน้ าเสี ยง


ชัดเจนเปี่ ยมด้วยความมัน่ ใจ “แค่เขตสัมมาวิญญาณ นัน่ มิ
เห็นจะมีอะไรวิเศษ เพียงเดือนเดียวข้าก็เข้าถึงระดับนั้น
หลังจากดูดกลืนดอกหยางพิสุทธิ์ ”

“แค่เขตสัมมาวิญญาณงั้นรึ ” ไม่ใส่ ใจกับถ้อยคายโสที่จะ


เข้าถึงเขตสัมมาวิญญาณภายในหนึ่งเดือน ผูอ้ าวุโสหลาน
ขมวดคิ้วกับการเข้าถึงเขตสัมมาวิญญาณอย่างง่ายดายของ
ซูหยางว่าจะเป็ นไปได้อย่างไร ในเมื่อเธอก็ยงั คงอยูใ่ นเขต
สัมมาวิญญาณ
“ช่างน่าขัน เจ้ามิเคยกระทัง่ เห็นการดิ้นรนไปยังเขตคัมภีร์
วิญญาณ แต่เจ้ากลับเห็นเขตสัมมาวิญญาณเป็ นสิ่ งไร้
ความหมายในสายตาของเจ้า เจ้าไปเอาความผยองและ
ความมัน่ ใจนี้ มาจากไหน”

มันเป็ นเรื่ องธรรมดาที่ผอู ้ าวุโสหลานจะสงสัยสภาพจิต


ของซูหยาง เพราะเธอไม่รู้ถึงประสบการณ์ของเขาในชีวิต
ก่อน

เพื่อแก้ความกังขาของผูอ้ าวุโลหลาน ซูหยางยิม้ และพูดว่า


“แทนที่จกั ยืนอยูต่ รงนี้และพูดเรื่ อยเปื่ อยที่มิไปถึงไหน
ทาไมมิให้ขา้ แสดงให้เจ้าดูหลังจากที่เราร่ วมฝึ ก ถ้าข้ามิ
อาจไปถึงเขตสัมมาวิญญาณภายในหนึ่ งเดือนหลังจาก
กลืนกินดอกหยางพิสุทธิ์ ข้าจักตัดความเป็ นชายป้อน
สุ กร”
“…”

ผูอ้ าวุโสหลานอับจนถ้อยคา เมื่อซูหยางผยองมัน่ ใจใน


ตนเอง อย่างไรก็ตามเธอพบว่าท่าทางของเขาช่างดึงดูด
ในโลกนี้ที่ผเู ้ ข้มแข็งปกครองผูอ้ ่อนแอ ผูท้ ี่ไร้ความมัน่ ใจ
ในความสามารถของตนเองจะไม่มีวนั ประสบความสาเร็ จ
ยิ่งใหญ่ไม่วา่ เขาจะมีพรสวรรค์มากเพียงไหน

เฉพาะอย่างยิ่งนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ที่บรรดาศิษย์หญิง


ไขว่คว้าหาคู่มาฝึ กด้วย ซูหยางที่ลึกล้ า เปี่ ยมเสน่ห์ และ
สามารถทาให้พวกเธอพึงใจได้ ย่อมดึงดูดพวกเธอคล้าย
กับลูกไก่กลางฝูงสัตว์กินเนื้อ แม้ผอู ้ าวุโสหลานก็ยงั ไม่ถือ
เป็ นข้อละเว้น ในฐานะหญิง ไม่วา่ ฐานะเธอจะสู งส่ ง
เพียงใด เสน่ห์ของซู หยางยังคงจับใจเธอ
ผูอ้ าวุโสหลานถอนหายใจชัว่ อึดใจให้หลัง รู ้สึกพ่ายแพ้
สิ้ นแรงปนเปไปกับความรู ้สึกอันซับซ้อน

“อัยยย..ซูหยาง เจ้าคงลาบากมากทีเดียว ใช่ไหม” เธอส่ าย


ศีรษะเหนื่อยหน่าย

“ข้าคิดว่าข้าค่อนข้างสบายๆในช่วงนี้” ซูหยางพูดพร้อม
รอยยิม้ และเขาพูดต่อ “แล้วเรื่ องที่ขา้ ขอ..”

ผูอ้ าวุโสหลานหลับตาลงแล้วถอนใจอีกครั้งเมื่อเขา
วกกลับมาเรื่ องเดิม
เมื่อเธอเปิ ดเปลือกตาแววความเด็ดเดี่ยวก็ปรากฏขึ้น
“ความพยายามหลายปี ของข้าคงสู ญเสี ยไปเพราะเจ้า ซู
หยาง…เจ้าจักรับผิดชอบอย่างไรต่อการพรากแก่นหยิน
ของข้า”

ซูหยางเข้ามาหาเธอช้าๆด้วยรอยยิม้ นุ่มนวลแล้วกล่าวว่า
“โดยการทาให้เจ้าเป็ นหญิงที่มีความสุ ขที่สุดในจักรวาล
ตราบเท่าที่ขา้ ยังอยูท่ ี่นี่”

ใบหน้าของผูอ้ าวุโสหลานพลันแดงปลัง่ จากคาพูดของเขา


เธอไม่เคยรู ้สึกถึงความปรารถนาเปี่ ยมล้นที่จะกอดใครสัก
คนมาก่อนยิ่งเป็ นเพศตรงข้าม
“ข้าจักกลืนกินดอกหยางพิสุทธิ์ เดี๋ยวนี้ ข้าย่อมซาบซึ้ งมาก
หากเจ้าสามารถปกป้องข้าระหว่าง..” (3038)

“เจ้าจักพูดอะไรตอนนี้” ผูอ้ าวุโสหลานพลันกล่าวแทรก

และเธอยังกล่าวต่อ “ข้าจักเตือนบรรดาศิษย์ขา้ ห้ามให้ใคร


รบกวนเราสัก..”

“เราควรเริ่ มใช้เวลาสั้นๆก่อน สองวันควรจักถือว่า


เหมาะสม”

“…”
ผูอ้ าวุโสหลานอับจนถ้อยคา อย่าว่าแต่เธอ หญิงบริ สุทธิ์ ที่
ไม่มีประสบการณ์ในการฝึ กคู่ แม้กระทัง่ ผูเ้ ชี่ยวชาญยังไม่
สามารถปฏิบตั ิการฝึ กคู่ได้ตลอดวัน แต่เขาต้องการฝึ ก
สองวันเต็มๆโดยไม่หยุด แถมยังพูดว่าสั้น

“อะแฮ่ม..เดี๋ยวข้ากลับมา..” ผูอ้ าวุโสหลานประดัก


ประเดิด กระแอม ก่อนออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ ว

ซูหยางนัง่ ลงในท่าดอกบัวเมื่อผูอ้ าวุโสหลานจากไป เขา


นาเอาดอกหยางพิสุทธิ์ ออกมา มองผงสี แดงในมือ
เตรี ยมพร้อมกับสิ่ งที่จะเกิดขึ้นหลังจากผงเข้าปาก
DC บทที่ 33: การฟื้ นคืนของมังกร

“อาจารย์”

เมื่อบรรดาหญิงสาวด้านล่างสังเกตเห็นผูอ้ าวุโสหลาน
ปรากฏตัว พวกเธอก็กล่าวต้อนรับ

“ซูหยางอยูไ่ หน” พวกเธอพลันสอบถามเกือบทาให้ผู ้


อาวุโสหลานเหงื่อตก

“อืม..ซูหยางตกอยูใ่ นสถานการณ์อนั ตราย เขาถูกพิษ


หลังจากกลืนกินบางอย่างที่มิควร และชีวิตเขาตอนนี้ตก
อยูใ่ นอันตรายถึงชีวิต”
ไม่เคยเลยสักครั้งในชีวิตของผูอ้ าวุโสหลานที่จะต้องแก้
ตัวต่อหน้าบรรดาศิษย์เช่นนี้ เพื่อที่เธอจะได้แอบฝึ กกับ
ศิษย์นอกคนหนึ่ง เพียงแค่คิดเช่นนี้ถึงกับทาให้เธอตัวสัน่
ด้วยความอับอาย

“อะไร เป็ นไปได้อย่างไร เขายังดูสมบูรณ์ดีเมื่อเขาพูดกับ


ข้าเมื่อกี้”

“มีอะไรบ้างที่พวกเราพอจักช่วยได้”

“อาจารย์ ท่านต้องช่วยเขา ข้ามิตอ้ งการมีชีวิตอยูอ่ ย่าง


เสี ยใจที่ขา้ มิได้ทา.. อะแฮ่ม..”

“…”
แม้วา่ เธอคาดไว้วา่ จะเกิดปฏิกิริยาเช่นนี้ในหมู่ศิษย์ พวก
เธอยังทาให้เธอพูดไม่ออก

“แน่นอนว่าข้าต้องช่วยรักษาเขา แต่จกั ต้องใช้เวลา ใน


เวลานั้นข้าต้องการให้ทุกคนคอยระวังมิให้ใครเข้าไป
รบกวนพวกเราสักสองสามวัน..มิใช่ จนกว่าข้าจักลงมา
ข้ามิสนใจว่าใครมา ไล่พวกเขากลับไป ชีวิตซูหยางอยู่
ในช่วงคาบเกี่ยว” ผูอ้ าวุโสหลานพูดด้วยน้ าเสี ยงเข้มงวด
หน้าตาจริ งจังเท่าที่เป็ นไปได้ มันดูสมจริ งจนไม่มีใคร
ระแวงคาพูดของเธอ

พวกเธอผงกศีรษะอย่างเคร่ งเครี ยดจริ งจัง


“อย่ากังวล ท่านอาจารย์ แม้กระทัง่ ฟ้าถล่ม พวกเราจักให้
มัน่ ใจว่ามิมีใครเข้าไปรบกวนท่านหรื อซูหยางแม้เพียง
เล็กน้อย” บรรดาศิษย์พูดด้วยด้วยน้ าเสี ยงชัดเจน ดวงตา
เปล่งประกายความมัน่ ใจ

แม้ผอู ้ าวุโสหลานรู ้สึกแย่ที่หลอกลวงพวกลูกศิษย์ แต่เธอ


ไม่ตอ้ งการเปิ ดเผยความจริ งที่ว่าเธอกาลังนัดหมายฝึ กคู่
ร่ วมกับซู หยาง ซึ่ งมันจะกลายเป็ นเรื่ องอื้อฉาว

“ดีมาก…เช่นนั้นข้าจักไปแล้ว” ผูอ้ าวุโสหลานหันกายเดิน


กลับไปชั้นบน หัวใจเธอเต้นตูมตามทุกย่างก้าว

ความตื่นเต้นกระวนกระวายครอบงาเธอจนเหงื่อไหล
พราก ไม่วา่ เธอจะดูเป็ นผูใ้ หญ่เพียงไหนหรื อพลังฝี มือสู ง
เพียงไหนเธอก็ยงั เป็ นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กเมื่อเป็ นเรื่ อง
ของการฝึ กคู่ คล้ายกับเด็กหญิงกระจ้อยร่ อยไร้เดียงสาเดิน
เข้าไปในถ้ ามืดทั้งที่รู้วา่ ภายในนั้นมีอะไรและในเวลา
เดียวกันก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่ งนั้นเลย

เมื่อเธอมาถึงประตูหอ้ งของเธอซึ่ งผนึกแน่นด้วยยันต์


ป้องกันเสี ยง หัวใจเธอยิ่งเต้นดังถี่รัวกว่าเดิม


หลังจากเตรี ยมตัวซูหยางเทผงสี แดงลงไปในปากและปิ ด
ตา

หลายวินาทีต่อจากนั้น ร่ างเขาเริ่ มเปลี่ยนสี ผิวขาวราว


หยกเปลี่ยนเป็ นสี แสดไปจนเป็ นสี แดง คล้ายกับเป็ นกระบี่
ที่กาลังถูกสร้างขึ้น ควันเริ่ มลอยออกจากรู ขมุ ขน ซูหยา
งปวดแสบปวดร้อนจากการถูกแผดเผาซึ่ งทรมานทุก
สัดส่ วนของร่ างกายเขา รู ้สึกเหมือนร่ างเขากลายเป็ นหม้อ
และมีบางสิ่ งถูกสร้างขึ้นภายใน

ผมดาสลวยของเขาถูกเผาไหม้สลายสิ้ นไปในอากาศ
แม้กระทัง่ ชุดของเขาก็ถูกเผาไหม้จนไม่เหลืออะไรเลย
เหลือเพียงแต่ร่างเปลือยเปล่า
เวลานั้นเองประตูกเ็ ปิ ดออกและผูอ้ าวุโสหลานก็เดินเข้า
มาข้างใน

เมื่อภาพซูหยางปรากฏขึ้นต่อสายตาเป็ นครั้งแรก หัวใจ


เธอแทบกระดอนออกจากปากด้วยความตกใจ

“ซูหยาง” ผูอ้ าวุโสหลานพยายามเข้าไปหา แต่พลังความ


ร้อนและรัศมีอนั รุ นแรงรอบกายซูหยางกั้นเธอออกจาก
เขา

ความตื่นเต้นกังวลกระวนกระวายในใจผูอ้ าวุโสหลาน
หานไปหมดสิ้ นราวหมอกควันในวินาทีที่สายตาเธอจับลง
ไปบนซูหยางที่ร่างเปลือยเปล่าและปราศจากเส้นขนแม้
สักเส้นบนร่ าง ดูเหมือนถูกเผาทั้งเป็ น

หลายชัว่ โมงผ่านตั้งแต่ผอู ้ าวุโสหลานเข้าไปในห้อง แต่ซู


หยางยังคงเดิมไร้วี่แววที่จะคืนสภาพในเร็ วๆนี้

สาหรับผูอ้ าวุโสหลานผูซ้ ่ ึ งไม่ได้ละสายตาไปจากเขา


ตั้งแต่ตน้ เวลาหลายชัว่ โมงนี้เหมือนชัว่ นิรันดร์
ทันใดนั้นคลื่นพลังงานมหาศาลเปี่ ยมไปด้วยปราณไร้
ลักษณ์แผ่ปกคลุมทัว่ ห้อง ผูอ้ าวุโสหลานรู ้สึกถึงแรง
กดดันอันน่าหวาดหวัน่ ภายในคลื่นพลัง เธอสัน่ สะท้าน
ด้วยความกลัว

ความรู ้สึกที่เธอได้รับเมื่อคลื่นพลังกระทบตัวไม่ใช่อะไร
ที่ร่างมนุษย์จะปลดปล่อยออกมา มันคล้ายกับเสี ยงร้อง
คร่ าครวญตามสัญชาตญาณของสัตว์ร้ายผูก้ ระหายอานาจ

หลังจากคลื่นพลังหายไป ความเปลี่ยนแปลงพลันเกิด
ขึ้นกับร่ างของซูหยาง

ผิวสี แดงค่อยคืนกลับสู่ สภาพปกติ บางทีทุกรู ขมุ ขนยิ่ง


สวยงามกว่าเดิม เส้นผมที่เคยถูกเผาพลันงอกกลับคืน
อย่างรวดเร็ วเหลือเชื่อที่สามารถสังเกตได้ดว้ ยตาเปล่า
(3038)

ผูอ้ าวุโสหลานมองทุกสิ่ งเกิดขึ้นเบื้องหน้าเธอด้วยดวงตา


เบิกกว้างดังถูกสะกดจิต

ซูหยางเปิ ดเปลือกตาอย่างช้าๆ ผูอ้ าวุโสหลานสังเกตเห็น


แสงเรื องสี ทองในดวงตาของเขาเกิดขึ้นและหายไปในชัว่
พริ บตา

เขาค่อยยืนขึ้นและรัศมีลึกล้ าปกคลุมทัว่ ห้อง เป็ นเหตุให้


สถานที่เปี่ ยมไปด้วยบรรยากาศที่คล้ายกับมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ประดิษฐานอยูภ่ ายในห้อง
ซูหยางหันกายไปมองผูอ้ าวุโสหลานที่ยืนอ้าปากค้างราว
ถูกสะกดจิตด้วยฉากอันวิจิตร เขายิม้ ให้เธอไม่สนใจที่จะ
ซ่อนแท่งปูดโปนที่ต้ งั อยูร่ ะหว่างขาสองข้างดูคล้ายมังกร
อหังการที่กาลังทะยานสู่ สวรรค์

ในสายตาผูอ้ าวุโสหลาน นี่เป็ นฉากที่วิจิตรงดงามสง่าผ่า


เผยที่สุดที่เธอเคยเห็นในชีวิต
DC บทที่ 34: ร่ วมฝึ กคู่ (18+) (ตอนยาวพิเศษ)

( คอมเมนต์จากผูเ้ ขียน: ก่อนเริ่ มอ่าน ขอให้คุณตระหนัก


ว่านี่เป็ นครั้งแรกที่ผมเขียนฉากเซ็กซ์และมันจะดีข้ ึนเมื่อ
ผมเขียนมากขึ้น(หวังว่าเป็ นเช่นนั้น)

ขอให้สนุกนะครับ เพื่อนสุ ภาพบุรุษและสุ ภาพสตรี )

( คอมเมนต์จากผูแ้ ปล: บทนี้ยาวมาก แปลไม่ยาก แต่ผม


ต้องใช้เวลาถึงสามวันเพื่อปรับให้ภาษาสละสลวยสวยงาม
เท่าที่จะเป็ นไปได้ เพื่อจะได้ดูเป็ นวรรณกรรมมากขึ้น ทา
เอาบทสารองที่แปลตุนไว้ไม่เหลือหลอเลยแม้แต่นอ้ ย
ขอให้มีความสุ ขในการอ่านครับ เพื่อนนักอ่านที่ติดตาม
ผลงานแปลของผมทุกคน )

ซูหยางในสายตาของผูอ้ าวุโสหลานขณะนี้ดูไม่คล้าย
เด็กชายอายุ 16 ที่เพิ่งเริ่ มเป็ นผูใ้ หญ่ แต่เป็ นใครสักคนที่
เปล่งกลิ่นอายที่ผา่ นประสบการณ์มากมายยิ่งกว่าผูอ้ าวุโส
หลานเสี ยด้วยซ้ า
ผูอ้ าวุโสหลานยืนนิ่ งราวกับรู ปปั้นหิ นขณะที่ซูหยางเข้าหา
เธอ แท่งปูดโปนตั้งตระหง่าน มันแข็งแกร่ งจนกระทัง่ การ
เดินไม่อาจทาให้มนั แกว่งได้ ราวกับขุนเขาตั้งมัน่

สิ่ งที่เธอเคยเห็นก่อนนั้นล้วนเป็ นภาพวาดและวัตถุ นี่เป็ น


ครั้งแรกที่เธอเห็นลาลึงค์ของจริ ง เธอถูกสะกดจิตในทันที
ด้วยรู ปร่ างอันสมบูรณ์แบบที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอัน
เข้มแข็งทรงพลังของมัน มันยิ่งดูคล้ายสิ่ งล้ าค่าจากสวรรค์
มากกว่าสิ่ งลามก มันเป็ นบางสิ่ งที่แตกต่างจากจินตนาการ
ของเธอโดยสิ้ นเชิง

แม้วา่ ซูหยางจะเข้ามาในระยะประชิด เธอก็ยงั ไม่อาจละ


สายตาไปจากแก่นกายที่ท้ งั ใหญ่ท้ งั ยาว ราวกับหลงอยูก่ บั
การปรากฏตัวของมัน เมื่อซูหยางยืนอยูต่ รงหน้าเธอ ผู ้
อาวุโสหลานได้แต่หอบหายใจหนักหน่วง หัวใจเต้นถี่เร็ ว
ราวรัวกลอง

แขนนุ่มละมุนของซูหยางค่อยตระกองกอดผูอ้ าวุโส
หลาน เขาหลับตาลงขณะที่ริมฝี ปากของเขาเข้าใกล้ริม
ฝี ปากนุ่มละมุนของเธออย่างช้าๆ ผูอ้ าวุโสหลานไม่ได้
ต่อต้านจูบของเขา เธอหลับตาลง

ริ มฝี ปากของทั้งคู่ค่อยสัมผัสแผ่วเบา ร่ างของผูอ้ าวุโส


หลานสัน่ สะท้านจากรสสัมผัส

“อืมมม”
ทันใดบางสิ่ งลื่นไหลก็บุกรุ กเข้าไปในปากเธอและเริ่ ม
นอกลู่นอกทางเข้าพัวพันกับลิ้นเธอราวกับงูรัดพันเหยื่อ

การกระทาที่ไม่คาดคิดของซูหยางสร้างความประหลาด
ใจให้กบั ผูอ้ าวุโสหลานผูท้ ี่มีประสบการณ์ในการจูบเป็ น
ศูนย์จนเธอเบิกตากว้าง

อย่างไรก็ตามเมื่อเธอพบว่าใบหน้าหล่อเหลาของซูหยา
งชิดใกล้กบั เธอมากเพียงใดใบหน้าเธอพลันแดงก่า

ขณะที่พวกเขาจูบกันอย่างต่อเนื่อง ซูหยางค่อยชักนาเธอ
ไปยังเตียงอย่างช้าๆ
เขาค่อยพาเธอเอนกายลงบนเตียงโดยมีเขาอยูด่ า้ นบน สัก
พักหนึ่ งจึงค่อยถอนริ มฝี ปากออก ทาให้เกิดน้ าลาย
เชื่อมต่อเป็ นสายระหว่างริ มฝี ปากของพวกเขาขณะที่แยก
จากกัน

ซูหยางใช้เวลานั้นมองผูอ้ าวุโสหลานอย่างเต็มตา ซึ่ ง


ขณะนั้นใบหน้าเธอแดงดุจมะเขือเทศ ดวงตาเธอพราย
ระยับด้วยประกายแสงนับไม่ถว้ น

เส้นผมเธอดาสนิทดุจความมืดมิดยามกึ่งราตรี แผ่สยายไป
บนเตียงดุจริ้ วน้ าตก ขนคิ้วบางเรี ยว ขนตาดุจกามะหยี่
ดวงตาสี ดาสะท้อนประกายอย่างเอียงอายขวยเขินขณะถูก
จ้องอย่างลุ่มหลงจากเขา แฝงความปรารถนาซ่อนเร้นอยู่
ภายใน ริ มฝี ปากชมพูกหุ ลาบเจือปนด้วยรสชาติของ
สมุนไพรและความหวานชื่นเป็ นเหตุให้ต่อมรับรสของ
เขาซาบซ่านด้วยความพึงใจ

ถ้าซูหยางทาการเปรี ยบเทียบความสวยของเธอกับเหล่า
เซี ยนในชีวิตก่อน เขาคงยืนยันว่าเธอไม่ได้นอ้ ยหน้าใคร
ถ้าพวกเธอยืนเคียงกัน

“ซูหยาง..” ผูอ้ าวุโสหลานพึมพัมชื่อเขาอย่างเหนียมอาย

“อืม”

“เมื่ออยูด่ ว้ ยกันเพียงสองคน ข้าต้องการให้เจ้าเรี ยกข้าว่า


หลานลี่ชิง..” เธอพูดกับเขาด้วยน้ าเสี ยงยัว่ ยวน
ซูหยางยิม้ และกระซิ บข้างหูเธอ “หลานลี่ชิง ข้าต้องการ
เจ้า…”

เมื่อหลานลี่ชิงสัมผัสกับลมหายใจอุ่นของซูหยางเสี ยว
ซ่านผ่านติ่งหู เธอก็รู้สึกเสี ยวซ่ านไปถึงซอกขา

“ได้ไหม” ซูหยางยืนยันความยินยอมก่อนที่พวกเขาจะ
ก้าวไปสู่ จุดที่ไม่อาจย้อนคืนได้อีก

หลังจากเงียบไปชัว่ ครู่ หลานลี่ชิงผงกศีรษะเบาๆ ใบหน้า


เธอแดงขึ้นอีกครั้ง
ซูหยางยิม้ ค่อยปลดเปลื้องเสื้ อผ้าของเธอ การเคลื่อนไหว
ที่อ่อนโยนและลื่นไหลของเขาแสดงให้เห็นถึงความ
เชี่ยวชาญชานาญเปี่ ยมล้นในด้านนี้

หลังจากนั้นไม่นาน หลานลี่ชิงเอนกายไร้อาภรณ์อยูต่ รง
นั้น เปิ ดเผยทุกส่ วนสัดนอกจากกลีบลับเร้นและปลายถัน
ที่เธอปกปิ ดไว้ดว้ ยมืองาม

ทั้งซูหยางและหลานลี่ชิงล้วนปราศจากอาภรณ์ดว้ ยกันทั้ง
คู่ในขณะนั้น ให้ความรู ้สึกที่ลึกซึ้ งแก่หลานลี่ชิงผูป้ ระสบ
กับ”ครั้งแรก”หลายอย่างในวันนี้

ซูหยางใช้เวลาอีกชัว่ ขณะเพื่อประทับภาพนี้เข้าไปใน
วิญญาณ เพื่อให้มนั่ ใจว่าเขาจะไม่มีวนั ลืม
ร่ างบางของเธอปั้ นแต่งอย่างวิจิตรดุจงานศิลป์ ผิวเธอเรี ยบ
นวลดุจหยกขาว เหงื่อซึ มบนร่ างคล้ายกับมวลดาราปก
คลุมร่ าง อีกทั้งร่ างเธอปราศจากเส้นขนแม้สกั เส้นบนร่ าง
อวบอิ่มนั้น นี่เป็ นรู ปร่ างที่หาใดเปรี ยบเป็ นเหตุให้ชายทุก
คนคลัง่ ไคล้

เมื่อซูหยางทอดสายตาลงบนอกกลมสมบูรณ์แบบทั้งคู่
แก่นกายแกร่ งยิ่งแข็งขึ้นกว่าเดิม มือเขาเอื้อมไปสัมผัส
สองเต้า

“อาาา..”
แม้วา่ จะปกปิ ดอกอิ่มด้วยความเอียงอาย หลานลี่ชิงหาได้
ต่อต้านเมื่อซู หยางเริ่ มนวดอย่างชานาญบนเต้าคู่น้ นั

“อืมม…” หลานลี่ชิงครางแผ่วเบา ความเสี ยวซ่านในหลืบ


เร้นลับยิง่ ขยายลุกลาม

เมื่อเขานวดทรวงอกเธอ ศีรษะซูหยางมุ่งไปยังพื้นที่
ส่ วนล่างของร่ างเธอ เมื่อหลานลี่ชิงสังเกตพบเธอก็เริ่ ม
ตระหนก

“ซ..ซูหยาง น..นัน่ ..” หลานลี่ชิงปกปิ ดโลกหวงห้ามของ


เธอไว้แน่น เธอยังไม่ได้เตรี ยมใจที่จะให้ซูหยางสารวจ
พื้นที่ส่วนนั้น
“ไม่มีอะไรที่ตอ้ งกลัว..ข้าสัญญา” ซูหยางจูบลงไปบนขา
เรี ยวอย่างอ่อนโยน ค่อยเลื่อนไล้ไปยังมือที่ปกปิ ดโลกเร้น
ลับของหลานลี่ชิงทุกครั้งที่จูบ

เมื่อซูหยางเข้าถึงศูนย์กลางระหว่างขาของเธอ กลิ่นหอม
หวานอบอวลรุ มเร้าจมูกเขา เป็ นเหตุให้ร่างของเขารุ่ มร้อน
ขึ้น

“…”

สองสามชัว่ ขณะผ่านไป แต่ซูหยางไม่ได้พูดอะไรหรื อทา


อะไรทั้งสิ้ น เพียงเฝ้ารออย่างเงียบเชียบให้หลานลี่ชิงคลาย
มือที่ปกป้องไม่ให้เขาเห็นส่ วนที่ล้ าค่าที่สุดของความเป็ น
หญิง
หลังจากอีกชัว่ ขณะหนึ่ ง หลานลี่ชิงก็ยอมแพ้

“เจ้าต้องรับผิดชอบให้เต็มที่หลังจากนี้ ซูหยาง” เธอพูด


ขณะที่ค่อยคลายมือที่สนั่ สะท้านออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็น
โลกสี ชมพูแสนสวยของเธอ

ไร้ความลังเล ซูหยางประกบริ มฝี ปากเข้าไปตรงกลาง


กลีบดอกไม้สีชมพูและเริ่ มสารวจไปทัว่ ด้วยปลายลิ้น

“อาาา” หลานลี่ชิงครางเสี ยงดังสนัน่ ขณะที่เธอรู ้สึกถึงบาง


สิ่ งที่นุ่มและชัว่ ร้ายผ่านเข้าไปในหลืบเร้นของเธอ ร่ างของ
เธอสัน่ สะท้านอย่างรุ นแรง รู ้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าวิ่ง
พล่านทัว่ ร่ าง
“อืมมม..อาาาา..” เสี ยงครวญครางกระสันของหลานลี่ชิง
ฟังเหมือนเสี ยงระฆังสวรรค์ในหูซูหยาง ทั้งสงบสุ ขทั้ง
ตื่นเต้น

ของเหลวไหลจากหลืบถ้ าของหลานลี่ชิงราวกระแสน้ า ซู
หยางลิม้ ลองทุกหยดหยาดโดยไม่ปล่อยให้สูญเสี ยแม้
เพียงหยดเดียว

“อีก…ข้าต้องการอีก…” หลานลี่ชิงพลันขยุม้ ศีรษะของซู


หยางดึงเข้าไปหาจนลิ้นของเขาล่วงลึกเข้าไปในถ้ าสี ชมพู
นานหลายนาทีกว่าหลานลี่ชิงจะปล่อยมือจากศีรษะของ
เขา แต่เมื่อเธอทาเช่นนั้น ซูหยางอาศัยจังหวะนั้นตวัดลิ้น
ลากผ่านอัญมณี สีชมพูของเธอ

ซูหยางจู่โจมจุดที่ไวต่อสัมผัสของเธออย่างกระทันหัน
เป็ นเหตุให้หลานลี่ชิงปลดปล่อยในฉับพลันทันใดนั้น

น้ าใสกระจ่างพ่นลงบนใบหน้าซูหยางราวน้ าพุพวยพุ่ง

ซูหยางหัวเราะหึ ขณะที่ปาดน้ าออกจากใบหน้า “เจ้าช่าง


ชุ่มฉ่ าเสี ยจริ งวันนี้”
หลานลี่ชิงปิ ดสองมือบนใบหน้าด้วยความเอียงอาย
หลังจากที่ได้ยินคาหยอกล้อ ลืมเสี ยสิ้ นว่าตนเองเป็ นผู ้
อาวุโสนิกาย

ซูหยางช่วยย้ายสองมือออกจากใบหน้าของเธอ เขาพูด
ด้วยน้ าเสี ยงปลอบประโลม “ข้าต้องการเห็นใบหน้าแสน
สวยของเจ้าขณะที่เรารวมเป็ นหนึ่งเดียว”

“…”

แม้วา่ เธอยังเอียงอายไม่หาย เธอก็ยงั พยักหน้าโดยไม่


คานึงถึงมันอีก
ซูหยางใช้แท่งหนาของเขาลูบไล้ไปบนหลืบเร้นสี ชมพู
ของเธอขณะที่เขาจูบเธออีกครั้ง

“เจ้าพร้อมหรื อยัง มันจักเจ็บในคราแรก แต่ความเจ็บจัก


หายไปโดยเร็ ว”

“อืม..” หลานลี่ชิงผงกศีรษะรับอย่างเอียงอาย

ในเวลานั้นซูหยางค่อยสอดปลายแท่งทู่เข้าไปในหลืบเร้น
ช้าๆ

“อึนนน” หลานลี่ชิงกัดริ มฝี ปากจากความเจ็บที่เอ่อล้น


หางตาของเธอปรากฏหยาดน้ าตา เธอรู ้สึกชัดเจนถึงเยื่อ
พรหมจรรย์ของเธอค่อยฉี กขาดโดยมังกรยักษ์ของซู หยาง
เลือดซึ มผ่านช่องว่างเล็กๆในหลืบเร้น

ด้วยไม่ปรารถนาให้เธอเจ็บปวดมากเกินไป ซูหยางสอด
ใส่ เข้าไปอย่างต่อเนื่องในร่ องสวาทคับแน่นอย่าง
ระมัดระวัง ภายในของเธอโอบกระชับแน่นรอบอาวุธ
ศักดิ์สิทธิ์ ของเขา นี่เป็ นประสบการณ์น่าตื่นเต้นของทั้งคู่
โดยเฉพาะหลานลี่ชิง ผูไ้ ม่เคยได้รู้สึกอะไรใกล้เคียงกับ
การเสี ยสาวมาก่อน


แม้วา่ มันต้องใช้เวลาบ้าง แต่สุดท้ายแท่งหฤหรรษ์ของซู


หยางก็หยุดค้างอยูภ่ ายในช่องโพรงของหลานลี่ชิงเมื่อ
ส่ วนปลายสุ ดปะทะเข้ากับจุดสิ้ นสุ ดของคูหา มันเป็ น
ความรู ้สึกสู่ สรวงสวรรค์ของซูหยางแม้วา่ จะเคยมี
ประสบการณ์เช่นนี้นบั ครั้งไม่ถว้ นในชาติภพก่อน มัน
เป็ นสิ่ งที่เขาไม่มีวนั เบื่อหน่าย

“รู ้สึกอย่างไรบ้างกับการสู ญเสี ยพรหมจรรย์” ซูหยาง


แกล้งเย้าเธอด้วยคาถาม

หลานลี่ชิงดิ้นรนยกศีรษะขึ้นมองไปที่ทอ้ งซึ่ งค่อนข้าง


โป่ งขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากแกนหนาของซูหยาง เธอรู ้สึกอิ่ม
คล้ายกับเธอรับประทานอาหารมากเกินไป กระทัง่ รู ้สึก
งุนงงอยูบ่ า้ งที่เธอยอมให้ศิษย์นอกพรากแก่นหยินของเธอ

“ข้าจักเริ่ มขยับละ พร้อมนะ” ซูหยางเตือนเธอดัง


สุ ภาพบุรุษ

เมื่อเห็นเธอพยักหน้า ซูหยางเริ่ มขยับสะโพก เริ่ มดันช้าช้า


มากในตอนเริ่ มแรก เริ่ มเพิ่มความเร็ วแรงเมื่อเห็นหลานลี่
ชิงมีเค้าลางของความสุ ขสม

“อาาา อาาา อาาา”

สองสามนาทีหลังจากนั้น หลานลี่ชิงก็ไม่รับรู ้ถึงความ


เจ็บปวดอีกต่อไป มีเพียงแต่ความสุ ขสุ ดยอด จิตใจว่าง
เปล่า และหลังจากนั้นไม่นาน สิ่ งที่อยูใ่ นห้วงคานึ งของ
เธอก็คือความรุ่ มร้อนในโยนีและความเพลิดเพลินที่มา
ด้วยกัน

ในห้องขณะนั้นมีเพียงเสี ยงร้องครางอย่างรัญจวนของ
หลานลี่ชิง เสี ยงหอบหายใจ เสี ยงเนื้อกระทบกัน และ
เสี ยงน้ าแตกกระจายเท่านั้น

“อาาา แรงกว่านี้ ข้าต้องการแรงกว่านี้” หลานลี่ชิงอ้อน


วอนให้เพิ่มสิ่ งที่เธอต้องการขณะที่เธอกอดคอซูหยางไว้
แน่น

ซูหยางตอบสนองคาขอของเธอด้วยการจับเอวบางของ
เธอไว้แน่น ยกเธอลอยขึ้นบนอากาศและเริ่ มแทงเร็ วขึ้น
เร่ งขึ้นโดยไม่มีลางของความเหนื่อยอ่อนแม้จะผ่านไป
หลายนาที เศียรมังกรของเขาพุ่งทะลวงเข้าไปชน
จุดสิ้ นสุ ดคูหาสวรรค์ของเธอซ้ าแล้วซ้ าเล่าดังค้อนที่
กระหน่าไปบนกาแพง

ภาพสะท้อนบนดวงตาของซู หยางแสดงให้เห็นถึงอกสวย
กระเด้งขึ้นลงและใบหน้าเร่ าร้อนยัว่ ยวน อีกทั้งเสี ยงแก้ม
ก้นของเธอกระทบเข้ากับหน้าขาของเขาซ้ าแล้วซ้ าเล่า

“บางสิ่ งกาลังจะออก…อาาาาาาาา” หลานลี่ชิงสะบัด


ศีรษะไปทางด้านหลังและกรี ดร้องเสี ยงดัง ลิ้นของเธอ
แลบออกจากปาก เธอไม่อาจควบคุมร่ างกายได้หลังจาก
นั้น ของเหลวจานวนมากพลันหลัง่ ทะลักออกมาจากช่อง
โพรงของเธอ
อย่างไรก็ตาม ซูหยางไม่ได้หยุดยั้งการเคลื่อนไหวเขาทิ่ม
แทงเธอด้วยแก่นที่แข็งประดุจเหล็กอย่างต่อเนื่องเพราะว่า
เขาเองก็ใกล้ถึงจุดสุ ดยอดด้วยแรงดูดทรงพลังจากช่อง
สังวาสของเธอ การทาเช่นนี้ยงิ่ กระตุน้ กาหนัดหลานลี่ชิง
และเพิ่มความซ่านเสี ยว ทาให้เธอปลดปล่อยของเหลว
ออกมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวี่แววว่าจะหยุดในเวลา
อันใกล้น้ ี

“ข้ากาลังจะคลัง่ ” หลานลี่ชิงร้องเสี ยงหลง

หลายนาทีหลังจากทิ่มแทงไม่หยุด ซูหยางก็ปลดปล่อย
แก่นหยางพรหมจรรย์ของเขาเข้าสู่ ช่องสังวาสของหลานลี่
ชิง เติมเต็มช่องโพรงโดยไม่เหลือช่องว่างแม้แต่นอ้ ย
ซูหยางค่อยจูบแผ่วเบาบนริ มฝึ ปากเธอหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตามแม้วา่ จะปลดปล่อยแก่นหยางออกไปแล้ว
เขาก็ไม่ได้ถอนลึงค์ออกจากช่องโพรงของเธอ ดัน
ของเหลวสี ขาวไว้ดา้ นในไม่ให้ออก

หลานลี่ชิงอาศัยจังหวะนี้พกั หายใจ เธอไม่เคยเหนื่อยล้า


เช่นนี้มาก่อน ไม่แม้กระทัง่ ตอนที่ฝึกหนักที่สุดในชีวิต

“ซู..ซูหยาง..เจ้าเป็ น..ใครกันแน่..” เธอถามเขาเสี ยงค่อย

“แค่เพียงศิษย์นอกผูค้ ลัง่ ไคล้ผอู ้ าวุโสนิกาย..” เขากล่าว


ด้วยรอยยิม้ ยัว่ เย้า
หลานลี่ชิงทอดถอนกับคาตอบของเขา เธอนิ่งเงียบไปอีก
ครั้งแล้วมองไปยังท้องของเธอที่ยงั คงเปี่ ยมไปด้วยความ
รุ่ มร้อนยิง่ กว่าเดิม ราวกับไฟแผดเผา

เธอพลันสังเกตเห็นว่าท้องเธอยังคงโป่ งออกมา เธอมอง


ไปยังซูหยางอย่างรวดเร็ วด้วยไม่เชื่อดวงตางดงามของเธอ
เอง “ซูหยาง..สิ่ งนั้น..มันยังแข็งแกร่ ง” เธออดที่จะถามเขา
เกี่ยวกับสิ่ งนั้นไม่ได้

ซูหยางหัวเราะหึ และตอบ “ดอกหยางพิสุทธิ์ เป็ นยามีฤทธิ์


รุ นแรง ปลดปล่อยเพียงแค่น้ นั มิใกล้เคียงกับคาว่าพอเพียง
แม้แต่นอ้ ย”
หลานลี่ชิงอับจนถ้อยคาเมื่อได้ยินเขาว่ากล่าว เขายังไม่
สมใจหลังการละเล่นอันเร่ าร้อนรุ นแรงหรื อ กระทัง่ ร่ าง
เธอยังไม่อาจสงบระงับ

“อย่าบอกข้าว่าเจ้าถึงขีดจากัดแล้วหลังจากอุ่นเครื่ องเพียง
เล็กน้อย แล้วยังกล้ากล่าวว่าเจ้าเป็ นผูอ้ าวุโสของข้า” ซู
หยางมองเธออย่างแปลกใจมีแววยัว่ เย้า (3038)

“อ..อุ่นเครื่ อง นัน่ เพียงแค่อุ่นเครื่ อง” หลานลี่ชิงไม่รู้วา่


ควรหัวเราะหรื อร้องไห้ดีหลังจากได้ยินคากล่าวของเขา
อย่างไรก็ตามจากความรู ้สึกของร่ างกายในขณะนั้น เธอ
บอกได้อย่างชัดเจนว่าร่ างกายของเธอปรารถนาถึงกลเม็ด
ของซูหยางมากกว่านี้
หลานลี่ชิงหลี่ตามองเขาที่มีแววหื่ นกระหาย “เจ้าคิดว่าข้า
เป็ นใคร เจ้ายังอายุมิถึงครึ่ งของข้า กล้าหมิ่นหยามข้า เข้า
มาเลย เจ้ายังทาให้ขา้ ไปมิได้ถึงครึ่ งทางเลย” เธอท้าทาย
เขา เธอส่ งเสี ยงอย่างมีความสุ ข

ซูหยางยิม้ และขยับสะโพกในทันใดโดยไม่กล่าวอะไร

“อาาาา เอาเลยรึ ” หลานลี่ชิงร้องครางเปี่ ยมไปด้วยความ


ประหลาดใจ

“เช่นนั้นก็ดี ข้าจักเล่นกับเจ้าทั้งวัน” ซูหยางหัวเราะก้อง


ขณะที่เขาเล่นสนุกกับคูหาสวรรค์ของหลานลี่ชิงอย่าง
หฤหรรษ์
DC บทที่ 35: ข้ าอยากลองเอามันใส่ เข้ าไปในปาก (18+)

“อืมมม..” หลานลี่ชิงกัดริ มฝี ปากล่างขณะที่ซูหยางดูด


ปลายถันทั้งสองของเธอ สะโพกของเขาขยับอย่างพริ้ ว
ไหวดังกับกระเรี ยนร่ ายรา

มันใช้เวลานานหลายนาทีต้ งั แต่เขาเริ่ มร่ วมฝึ กคู่ แต่พวก


เขาเหมือนไม่มีความคิดที่จะหยุด

“หลานลี่ชิง เจ้ายังฝึ กปราณอยูห่ รื อเปล่า เจ้าดูเหมือนสนุก


จนลืมจุดประสงค์หลักครั้งนี้” ซูหยางเตือนเธอว่าพวกเขา
ยังคงฝึ กฝน
“เอ๋ อา…แน่นอน ข้ายังคงฝึ กฝนดีอยู”่ เธอลุกลี้ลุกลนตอบ
อย่างฝื ดฝื นว่างเปล่า เห็นชัดว่าเธอลืมฝึ กวิชาเพราะ
ความสุ ขรื่ นรมย์

“ให้มนั่ ใจว่าเจ้าดูดซับปราณหยางนี้หมด” ซูหยางพูด


ขณะที่เขาปลดปล่อยปราณหยางอีกชุดเข้าไปในถ้ าลับ
ของเธอ

“อาาา” หลานลี่ชิงรู ้สึกว่าภายในกลีบดอกไม้ของเธอท่วม


ท้นด้วยความรุ่ มร้อน จิตใจพลันว่างเปล่าไปอีกครั้ง

หลังจากปลดปล่อยปราณหยางเข้าไปในร่ างหลานลี่ชิง ซู
หยางประคองเธอนอนลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลและถอน
มังกรที่ยงั คงแข็งแกร่ งออกจากถ้ าสวรรค์ เป็ นเหตุให้
ของเหลววิเศษทะลักออกมาดุจแม่น้ าศักดิ์สิทธิ์

“เราพักเพื่อฝึ กปราณกันเถอะ แก่นพลังหยินของเจ้า


แข็งแกร่ งเกินกว่าที่ขา้ คาดไว้ ดังนั้นข้าต้องการฝึ กฝนสัก
เล็กน้อยก่อนที่จกั ดาเนินต่อ” ซูหยางพูดกับเธอขณะที่เขา
นัง่ ขัดสมาธิ ดอกบัวแล้วหลับตา

หลานลี่ชิงนอนบนเตียงที่เปี ยกแฉะจากปราณหยินของ
เธอด้วยความเหนื่อยอ่อน ร่ างสมบูรณ์แบบยังกระตุกจาก
ความหฤหรรษ์ที่ครอบคลุมทุกตารางนิ้วในช่วงล่างของ
เธอ
หลังจากพัก หลานลี่ชิงดิ้นรนนัง่ ด้านหลังซูหยางโดยให้
หลังเปลือยเปล่าของพวกเขาชนกัน

เมื่อเธอสงบใจลงได้ในที่สุด และมีสมาธิ มากพอที่จะ


ฝึ กฝนได้ หลานลี่ชิงถึงกับตื่นตะลึงจับใจเมื่อเธอรู ้สึกถึง
พลังปราณหยางทรงอานาจจานวนมากก่อตัวอยูใ่ นร่ างเธอ
ไม่เพียงแต่เป็ นปราณหยางที่บริ สุทธิ์ ที่สุด มันยังมากมาย
ราวกับมีทะเลของปราณหยางอยูใ่ นร่ างเธอ ซึ่ งควรเรี ยก
มันว่าแก่นพลังหยางเพราะความบริ สุทธิ์ ของมัน

“ด้วยปราณหยางคุณภาพสู งเช่นนี้ อย่าว่าแต่ระดับสี่ เขต


สัมมาวิญญาณ แม้กระทัง่ ระดับห้าเขตสัมมาวิญญาณก็ยงั
ไปถึงได้” หลานลี่ชิงหันหน้ามองท้ายทอยของซูหยาง
สายตาเปี่ ยมไปด้วยความประหลาดใจ
“เจ้าเป็ นใครในโลกนี้กนั แน่” เธอพึมพัม

หลานลี่ชิงพลันเริ่ มกลัน่ ปราณหยางดูดซับอย่างเร่ งรี บ


ด้วยเกรงว่าปราณหยางจะสู ญเสี ยประสิ ทธิ ภาพหากว่า
ไม่ได้ทาอะไรกับมันเป็ นเวลานานเกินไป

ขณะนั้นพลังการฝึ กปรื อของซู หยางก็พุ่งสู งขึ้นดุจมังกร


ทะยานสวรรค์ ก่อนที่จะได้รับแก่นพลังหยินของหลานลี่
ชิง ขณะที่เขากลืนกินดอกหยางพิสุทธิ์ พลังการฝึ กปรื อ
ของเขาพุ่งพรวดจากเขตปฐมวิญญาณระดับหกเข้าสู่ เขต
คัมภีร์วิญญาณระดับสาม เขาเพิ่มขึ้นห้าระดับหลังจากดูด
ซับพลังของดอกหยางพิสุทธิ์ อย่างเต็มที่ กระทัง่ ร่ างกาย
ของเขาก็ยงั เข้าสู่ ระดับสุ ดท้ายของหลอมร่ างคัมภีร์
วิญญาณ
อย่างไรก็ตามการพุ่งทะยานเช่นนั้นเป็ นเพียงแค่จุดเริ่ มต้น
ของประกายที่จะกลายเป็ นดอกไม้ไฟในภายหลัง

เมื่อซูหยางสอดใส่ เข้าไปในหลานลี่ชิงครั้งแรก เขาพราก


แก่นหยินของเธอ พลังการฝึ กปรื อของเขาก็ประสบกับ
การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

พลังฝี มือของเขาพุ่งขึ้นไปอีกสามระดับ เข้าสู่ระดับหก


ของเขตคัมภีร์วิญญาณ ส่ วนร่ างของเขานั้นแทบจะไม่
เปลี่ยนแปลงเนื่องจากแก่นพลังหยินเพียงมีผลกับพลัง
ฝี มือ ไม่มีผลต่อการฟอกกลัน่ ร่ าง

ขณะนี้ภายในร่ างซูหยางดุจภูเขาไฟที่กาลังปะทุ ทุก


สิ่ งของเขาล้วนเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพ
ของปราณหยาง ถ้าเปรี ยบเทียบกัน ปราณหยางของเขามี
ประสิ ทธิ ภาพไม่ดอ้ ยไปกว่าผูฝ้ ึ กปราณเขตปฐพีวิญญาณ
ไม่แน่วา่ จะแกร่ งกว่าด้วยซ้ า

หลายชัว่ โมงผ่านไปตั้งแต่ซูหยางและหลานลี่ชิงต่างฝ่ าย
ต่างฝึ กฝนพลังปราณพิเศษที่ได้รับมาจากฝ่ ายตรงข้าม
และเพราะว่าหลานลี่ชิงมีพลังการฝึ กปรื อสู งกว่าและ
ได้รับน้อยกว่าซูหยาง เธอจึงเปิ ดเปลือกตาขึ้นมาเป็ นคน
แรก

เธอยืนขึ้น ร่ างของเธอดูเหมือนใหม่เปี่ ยมไปด้วยพลัง

“เขามิได้โกหกแม้แต่นอ้ ย… ไม่เพียงแต่พลังฝี มือข้า


เพิ่มขึ้น กระทัง่ ผลลัพธ์ยงั ดีกว่าที่เขาพูด” เธอต้องการกอด
ซูหยางในตอนนั้น แต่รู้วา่ สมาธิ ของเขาลุ่มลึกอยูใ่ นการ
ฝึ กฝน เธอจึงยับยังตัวเองไว้

“หื ม” หลานลี่ชิงพลันสังเกตเห็นแท่งสวรรค์ที่ยงั คงตั้ง


ตระหง่านอยูก่ ลางระหว่างขาของเขา
“เขาฝึ กฝนไปทั้งอย่างนั้นรึ เขาสงบใจได้อย่างไรในเมื่อ
น้องของเขายังดูดุร้ายและเจ็บปวด กระทัง่ ยังรู ้สึกสงบ
สบายในขณะฝึ กฝน”

หลานลี่ชิงรู ้สึกประทับใจในสมาธิ ของเขาแม้กระทัง่


ภายใต้สถานการณ์แปลกประหลาด และยิง่ ทาให้ส่วนล่าง
ของเธอตอบสนองเมื่อเห็นสภาพน้องชายของเขายังทรง
พลังและยิ่งใหญ่เหนือใครขณะเขาฝึ กปราณ

และเมื่อซูหยางยังไม่ตื่นขึ้นจากการฝึ กฝน หลานลี่ชิงไม่มี


ทางเลือกอื่นจึงได้แต่ช่วยตัวเองขณะรอ

“อืมมม..” เธอครวญครางเบาๆ ขณะที่นิ้วเรี ยวงามลูบไล้


บนอัญมณี สีชมพู
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า หลังจากนั้นสองสามชัว่ โมง ซู
หยางก็ลืมตาตื่น

อย่างไรก็ตามสิ่ งที่เขาเห็นคือหลานลี่ชิงเอนกายอยูบ่ น
เตียงแยกขายื่นตรงมาด้านหน้าเขาและเล่นกับของตัวเอง
อย่างเมามัน

“อัยย่ะ เจ้ากาลังพยายามขัดน้องเล็กเจ้าออกรึ ลี่ชิงที่รัก”

เมื่อหลานลี่ชิงได้ยินเสี ยงเย้าของซูหยางที่ดงั ขึ้นโดยไม่


คาดคิด หัวใจเธอแทบหยุดเต้นด้วยความประหลาดใจ
“ซ..ซูหยาง” เธอรี บลุกขึ้นนัง่ ด้วยใบหน้าแดงก่าจากความ
อาย

“ข้าต้องขอโทษที่ใช้เวลานานจนเจ้าต้องพยายามช่วย
ตัวเอง…” ซูหยางยืนขึ้นและตรงเข้าไปหาเธอ ท่อนไม้
อมตะของเขายังแข็งแกร่ งดังเช่นปกติ

“เพื่อขอโทษ ข้าจักแสดงกลเม็ดสองสามอย่างให้แก่เจ้า..”
เขาพูดพร้อมรอยยิม้

แม้วา่ อับจนถ้อยคาและอับอาย หลานลี่ชิงยังคงยิม้ ให้เขา


อ้าแขนกว้างต้อนรับเขาเข้าไปในอ้อมอก


“ซู..ซูหยาง นี่มนั ท่าอะไรกัน” หลานลี่ชิงอุท่านด้วยความ


ประหลาดใจเมื่อซู หยางพลันนอนหงายบนเตียงและจับ
เธอมานัง่ บนเป้า

ซูหยางยิม้ และพูดขึ้น “บางอย่างที่จกั พาเจ้ามุ่งตรงสู่


สวรรค์”

หลังจากพูดจบ ซูหยางทิ่มแทงเธอด้วยอาวุธเทพ
“ลึกจัง” หลานลี่ชิงรู ้สึกเหมือนกาลังจะฟั่นเฟื อนเมื่อคูหา
สวรรค์ถูกสารวจอย่างรุ นแรง รู ้สึกเหมือนกาลังขี่มา้

ด้วยกลัวว่าเธอจะเสี ยสมดุล ซูหยางประคองเอวเธอไว้


ขณะที่เขาทิ่มกระบองขึ้นไปด้านบน คล้ายกับเขาพยายาม
ทะลวงสวรรค์ กระบองของเขาเข้าถึงก้นโพรงอย่าง
ง่ายดาย

หลานลี่ชิงรู ้สึกว่าท่านี้น่าอายยิ่งกว่าเดิม เพราะเธอรู ้สึกได้


ถึงสายตาที่โลมไล้ไปทัว่ ร่ าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่
ต้องห้ามที่ส่งเสี ยงระคายหูไม่รู้จบ
“ช่างเหมือนภาพฝันเมื่อมองจากตรงนี้ ลี่ชิง…ช่างน่า
หลงไหลจนข้ามิอาจละสายตาไปได้” ซูหยางยิม้ ยิ่งเป็ น
เหตุให้เธอรู ้สึกอายมากยิ่งขึ้น

ซูหยางพลันยกตะโพกสู งเป็ นเหตุให้เธอเสี ยสมดุล เมื่อ


เธอล้มลงบนอกเขา ซูหยางรู ้สึกถึงปลายถันนุ่มบดลงไป
บนอกเขาดังซาลาเปาเนื้อสองก้อน เขาพลันโอบกอดเธอ
ไว้ขณะสะโพกขยับเร็ วและรุ นแรงยิ่งขึ้น

“ช่างแข็งแกร่ ง…อาาา…ข้ากาลังจะคลัง่ …อาาาา..ถ้าเป็ น


เช่นนี้…” ดวงตาหลานลี่ชิงเปล่งประกายระยิบคล้ายดารา
ยามฟ้าราตรี เธอจ้องมองซู หลานอย่างหลงไหลและ
ต้องการ
ซูหยางจูบเธอและกล่าวว่า “ข้าจักทาให้เจ้าเปิ ดเผยทุกสิ่ ง
ทุกอย่างคืนนี้ ลี่ชิง”

“อาาาาา มันมาอีกแล้ว” หลานลี่ชิงเริ่ มบิดไหว และซอกห


ลืบของเธอก็ปลดปล่อยกระแสน้ ารักเป็ นประกาย


เวลาทั้งวันผ่านไปตั้งแต่ซูหยางและหลานลี่ชิงปลีกตัวและ
ขังตัวเองอยูบ่ นชั้นสองของตาหนักโอสถ ซึ่ งเหล่าศิษย์
และผูอ้ าวุโสแวะเวียนไปมาเพื่อขอยาหรื อความช่วยเหลือ

มีผอู ้ าวุโสจานวนมากที่ร้องขอให้หลานลี่ชิงปรากฏตัวใน
ช่วงเวลานี้ แต่พวกเขาล้วนถูกกล่อมให้จากไปโดยบรรดา
เหล่าศิษย์หญิงผูท้ ี่ได้รับคาสัง่ เข้มงวดมิให้ผใู ้ ดรบกวนเธอ
ขณะที่กาลังรักษาซูหยาง

“อัย๊ ย่ะ…ข้าสงสัยว่าซูหยางเป็ นอย่างไรบ้างตอนนี้ …”

“แม้วา่ ข้าจักเชื่อมัน่ ในชานาญด้านยาของอาจารย์ ข้ายังอด


กังวลมิได้…”
“อาาา…ซูหยางข้าจักมิยกโทษให้ ถ้าเจ้าสิ้ นชีวิต…”

ทุกผูค้ นที่นนั่ ล้วนแสดงความห่ วงใยซูหยาง ทุกคนยกเว้น


เพียงหนึ่งคน

“ศิษย์นอ้ งหญิงเซี ยว อะไรเป็ นเหตุให้ขมวดคิ้ว ข้ายังมิได้


ยินเจ้าพูดสักคาตั้งแต่เช้านี้…”

“ฮึ่ม พวกเจ้าทุกคนดูคล้ายกับหญิงสาวแรกรัก นี่แหละที่


ทาให้ขา้ กังวล มีอะไรเป็ นพิเศษรึ กบั ซูหยางคนนี้ ข้ามิ
เข้าใจแม้แต่นอ้ ย” เซี ยวผูเ้ ป็ นเพียงพี่นอ้ งคนเดียวในกลุ่ม
พวกเธอที่ปฏิเสธการบริ การจากซูหยาง แจ้งเหตุที่ไม่
พอใจ
เหล่าหญิงสาวพากันมองเธอด้วยความรู ้สึกสมเพช

“เจ้ามิเข้าใจเพราะเจ้าจากไปวันนั้น…”

“เจ้ามิมีวนั เข้าใจความรู ้สึกของพวกเรา ศิษย์นอ้ งหญิง


เซี ยว…ความปรารถนาของพวกเรา…”

“โอ เซี ยวเอ๋ อร์..มันยังมิสายเกินไป ถ้าเจ้าเข้าหาซูหยางอ


ย่างเทิดทูน บางทีเขาอาจยอมให้เจ้าเข้าไปในห้องเขา…”

“…” เซี ยวไร้วาจาว่ากล่าว เธอรู ้สึกว่าเหล่าพี่นอ้ งไม่ใช่คน


ที่เธอรู ้จกั อีกต่อไป และนัน่ ทาให้เธอกังวลมากยิ่งขึ้น
“ซูหยางคนนี้…ข้าจักดูวา่ เขามีอะไรพิเศษ..ถ้าเขาสามารถ
รอดชีวิตไปจากที่แห่ งนี้” เธอคิดอยูใ่ นใจ จ้องเขม็งไปยัง
บันใดชั้นสอง

ภายในห้องบนชั้นสอง หลานลี่ชิงหนุนศีรษะบนตักของซู
หยางขณะที่เขาใช้มือสางผมสวยของเธอ
“ซูหยาง ข้าอยากลองเอาเจ้านี่ใส่ ลงไปในปาก…” หลานลี่
ชิงพูดขึ้นอย่างกระทันหันหน้าแดง เธอจ้องเขม็งไปยัง
มังกรที่น่าหลงไหลระหว่างขาของเขา ใช้นิ้วลูบไล้มนั ดุจ
ดูแลสมบัติล้ าค่า

ซูหยางหัวเราะหึ “เจ้ารู ้หรื อว่าต้องทาอย่างไร” เขาถามเธอ

หลานลี่ชิงพลันจูบลงบนหัวมังกรด้วยความกาหนัดและ
กล่าวว่า “ไม่ แต่ขา้ เรี ยนรู ้ได้..”

เธอเริ่ มโลมเลียแท่งสวรรค์ราวกับกาลังดูดไอสครี ม “มัน


หวาน…”
หลังจากใช้ลิ้นพัวพันมันชัว่ ขณะ เธออ้าปากและใส่ มนั เข้า
ไปในปากอย่างช้าๆ

“มันใหญ่และแข็งแรงกว่าที่คิด…” เธอคิดขณะที่รับรู ้
ความจริ งว่ามันเกือบจะเข้าปากไม่ได้ หลังจากที่ใช้เวลา
ชัว่ ขณะเพื่อทาความคุน้ เคยกับความรู ้สึกที่มีนอ้ งชายอยู่
ในปาก เธอค่อยขยับศีรษะขึ้นลง

ซูหยางยิม้ อ่อนโยนขณะที่มองหลานลี่ชิงดูดดื่มน้องชาย
ของเขา คล้ายกับเขากาลังมองเด็กหญิงไร้เดียงสากาลังดูด
ลูกอมเป็ นครั้งแรก แม้วา่ ฝี มือเธอจะห่วยแทบจะไม่มีแรง
ดูด แต่ความรู ้สึกจากลิ้นอันอ่อนนุ่มและความอบอุ่นจาก
ปากของเธอก็ประหนึ่ งสวรรค์ (3038)
เขานอนลงบนเตียงและกล่าวว่า “นอนบนตัวข้าแล้วหัน
บั้นท้ายมาทางหน้าข้า ข้าจักช่วยเจ้าให้รู้สึกดีเช่นกัน”

หลานลี่ชิงที่กาลังหมกมุ่นกับรสชาติของปราณหยาง
ปรับเปลี่ยนท่าอย่างค่อยเป็ นค่อยไป

ซูหยางจ้องไปยังกลีบชมพูแสนสวยที่แขวนอยูเ่ หนือ
ใบหน้า ใช้มือจับแก้มก้นนุ่มนิ่ งของหลานลี่ชิง ดึง
น้องสาวเธอเข้ามาที่ปาก

“อืมมมม” ปากหลานลี่ชิงถึงกับหยุดชะงักในขณะที่ลิ้นซู
หยางบุกรุ กถ้ าเธอ อย่างไรก็ตามเธอไม่ยอมแพ้ เริ่ มขยับ
ศีรษะอย่างดุร้ายกว่าเดิมหลังจากนั้น
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ขณะที่ท้งั คู่ต่างลิ้มลองสมบัติวิเศษ
ของกันและกัน
บทที่ 36: ตําหนักภารกิจ
อีกสองวันผ่านไปในพริ บตา แต่ไม่มีท้ งั ซูหยางหรื อหลานลี่ชิง
ออกมาจากห้อง เป็ นเหตุให้บรรดาศิษย์ดา้ นล่างกังวลว่ามีอะไร
ผิดพลาดหรื อเปล่าระหว่างการรักษา
“อาจารย์พดู ว่ามันอาจจักใช้เวลาสักสองวัน แต่นี่มนั ปาเข้าไปสาม
วันแล้วตั้งแต่เธอขังตัวเองไว้ในห้องเพื่อรักษาซูหยาง”
“อัยหยา…ถ้ามีอะไรที่พวกเราพอทําได้เพื่อช่วยพวกเขา…แต่น่า
เสี ยดาย…”
เหล่าศิษย์หญิงต่างพากันพูดคุยเกี่ยวกับซูหยางเรื่ อยไปไม่ได้หยุดมา
ทั้งสามวันเป็ นเหตุให้เซี ยวรู ้สึกจะเป็ นบ้า
“ซูหยางโน่นซูหยางนี่ ข้าเบื่อเหลือทนกับชื่อเขา” เซี ยวยืนขึ้น
กระทืบเท้าออกไปจากอาคาร
บรรดาศิษย์พี่นอ้ งของเธอพากันมองเธอจากไปด้วยรอยยิม้ สงสาร
พวกเขาไม่รู้วา่ ควรทําหรื อพูดเช่นไรกับเธอดี
“ข้าเดาว่าพวกเราควรจะหมกมุ่นกับซูหยางน้อยลงกว่านี้แต่น้ ีเป็ นต้น
ไป…”
“แต่ขา้ อดไม่ได้…แค่เขามาที่นี่กท็ าํ ให้หวั ใจข้าเต้นเร็ วเป็ นสองเท่า
กว่าปกติ”
“ฮ้า…”
พวกเธอพากันถอนหายใจราวกับนัดกันไว้
ขณะนั้นเองก็มีเสี ยงฝี เท้าดังสะท้อนขึ้นมาจากบันได ทําให้ทุกคนพา
กันหันมองไปยังทิศทางนั้นโดยไม่รู้ตวั
“อะไรทําให้พวกเจ้าทุกคนถอนใจ”
ซูหยางปรากฏตัวขึ้นที่บนั ไดพร้อมรอยยิม้ สดชื่นบนใบหน้า
“ซูหยาง เจ้าสบายดี”
บรรดาศิษย์หญิงรู ้สึกโล่งอกอย่างมากเมื่อพวกเธอเห็นหน้าเขา
“ทําไมข้าต้องไม่สบายด้วย” ซูหยางถามพวกเธอด้วยท่าทางสงสัย
เล็กน้อย
หน้าตาสงสัยของเขาทําให้เหล่าศิษย์หญิงรู ้สึกว่ามีอะไรบางอย่าง
ผิดปกติ
“เอ๋ แต่ชีวติ เจ้าเจียนอยูเ่ จียนตายเมื่อไม่กี่วนั ก่อน…มิใช่รึ…” พวก
เธอถามเขาด้วยดวงตาเปี่ ยมความสงสัย
ซูหยางพลันตระหนักว่าสิ่ งใดที่พวกเธอพูดถึง เมื่อพวกเธอพูดถึง
สภาพร่ างกายของเขา เขาหัวเราะเสี ยงดัง “โอ เรื่ องนั้นเอง ผูอ้ าวุโส
หลานทําการรักษาข้าอย่างดีเยีย่ ม ดีจนกระทัง่ รู ้สึกสุ ขสบายมากกว่า
เจ็บปวดตลอดเวลาที่รักษา”
“เช่นนั้นหรื อ…”
แม้วา่ พวกเธอไม่รู้วา่ อะไรที่ทาํ ให้ซูหยางดูเปลี่ยนแปลง แต่พวกเธอ
รู ้สึกว่าบางอย่างในตัวเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ราวกับว่าเขาเปลี่ยนไป
เป็ นคนละคน
“ข้าคงเป็ นเหตุให้พวกเจ้าทุกคนประสบปัญหาขณะที่อยูท่ ี่นี่ ข้าจัก
ตอบแทนบุญคุณนี้สกั วัน”
“มิเป็ นไร เจ้ามิตอ้ งเกรงใจ ซูหยาง พวกเราล้วนถือเจ้าเป็ นส่ วนหนึ่ง
ของตําหนักโอสถนี้ หรื ออีกนัยหนึ่งเป็ นครอบครัวเดียวกัน”
ซูหยางยิม้ และกล่าว “งั้นเอางี้ไหม คราวหน้าถ้าเจ้าไปให้ขา้ ช่วยดูแล
ข้าจักทําให้ฟรี ข้ายังจักยอมบริ การพวกเจ้าอะไรก็ได้ตามที่เจ้า
ต้องการ”
เมื่อบรรดาหญิงสาวได้ยนิ คํากล่าวของเขา สายตาของพวกเธอเบิก
กว้างด้วยความสุ ข
“จริ งนะ ข้ารับรองไม่เกรงใจถ้าข้าเจอเจ้าครั้งหน้า”
“อื้อ งั้นพบกันคราวหน้า” เขาผงกศีรษะ
และก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากประตู เขากล่าวกับพวกเธอว่า “อ้อ
ใช่ ผูอ้ าวุโสหลานใช้พลังมากเกินในการรักษาข้า ขอให้ขา้ ช่วยบอก
พวกเจ้าว่าอย่าเพิ่งรบกวนเธอสักสองสามวัน”
หลังจากออกจากตําหนักโอสถด้วยจิตแจ่มใส ซูหยางมุ่งตรงไปยัง
ตําหนักภารกิจ
“พลังปราณข้าข้ามไปอีกเขตหลังจากฝึ กฝนเพียงสามวัน นี่จกั สะดุด
ตาเกินไปและนําพาปัญหามิสิ้นสุ ดถ้านิกายรู ้เข้า ข้าจักรับภารกิจ
บางอย่างเพื่อจักได้มีขอ้ อ้างเผือ่ ใครถาม”
ซูหยางรู ้วา่ เขาไม่สามารถซ่อนพลังการฝึ กปรื อที่พงุ่ พรวดขึ้นรวดเร็ ว
ราวท้าทายสวรรค์จากนิกายได้ตลอดไป นัน่ จะต้องเปิ ดเผยขึ้นไม่ชา้
ก็เร็ ว เพื่อให้มนั่ ใจว่าพวกเขาจะไม่ถามไถ่มากเกินไปเมื่อเวลานั้น
มาถึง เขาตัดสิ นใจที่จะเตรี ยมการบางอย่าง
ตําหนักภารกิจเป็ นอาคารที่บรรดาศิษย์และผูอ้ าวุโสรับทําภารกิจที่
ยุทธภพเสนอให้กบั นิกาย ภารกิจเหล่านี้ลว้ นสําคัญต่อนิกายเมื่อพวก
มันล้วนช่วยเพิ่มชื่อเสี ยงของนิกายที่มีต่อยุทธภพ อีกทั้งเพิ่มความ
เชื่อถือจากผูท้ ี่เสนอภารกิจตั้งแต่ตน้
ภายในตําหนักภารกิจ มีเหล่าศิษย์นอกจํานวนมากเดินไปมาขณะที่
มองดูประกาศที่ติดไว้ที่ผนัง
ภารกิจล้วนจัดเป็ นหมวดหมู่ตามเนื้อหาภายในภารกิจ เช่นภารกิจที่
เกี่ยวข้องกับการล่าก็จะอยูใ่ นหมวดการล่า ภารกิจที่ตอ้ งการให้เหล่า
ศิษย์ทาํ เรื่ องจุกจิกทัว่ ไป เช่นงานทําความสะอาดก็จะจัดอยูห่ มวด
งานเบ็ดเตล็ด
ซูหยางเดินไปดึงภารกิจจากผนังของหมวดการล่าอย่างสุ่ มๆ ไม่
สนใจจะมองดูมนั แม้แต่นอ้ ย
เขาเดินไปยังโต๊ะด้านหน้าเพื่อบันทึกภารกิจที่จะทําโดยผูอ้ าวุโส
นิกาย
“หื ม ล่าแมวสายฟ้าที่หุบเขาฟ้าคําราม” เมื่อผูอ้ าวุโสที่ทาํ หน้าที่
บันทึกภารกิจเห็นภารกิจที่ซูหยางเลือกทํา เขามองดูซูหยางด้วยความ
ประหลาดใจ
“เจ้าต้องการรับภารกิจนี้รึ แมวสายฟ้าปกติมีพลังการฝึ กปรื ออยูท่ ี่
ระดับแปดถึงเก้าปฐมวิญญาณ และการเคลื่อนไหวที่เร็ วดุจสายฟ้า
นัน่ ยังยากแม้กระทัง่ ศิษย์ในจักรับมือไหว อีกทั้งสภาพแวดล้อมเปี่ ยม
อันตรายที่หุบเขาฟ้าคําราม…เจ้ามัน่ ใจว่าเจ้าต้องการทําภารกิจนี้
พลังฝี มือของเจ้าอยูท่ ี่ระดับเท่าไร”
“เขตคัมภีร์วญ
ิ ญาณระดับหนึ่ง” ซูหยางโกหกหน้าตาย
“เจ้าอยูท่ ี่เขตคัมภีร์วญ
ิ ญาณรึ แต่เจ้ายังเป็ นศิษย์นอกอยู”่ ผูอ้ าวุโส
มองเขาด้วยความประหลาดใจกว่าเดิม
“ข้าวางแผนที่จกั รับการทดสอบเป็ นศิษย์ในหลังจากที่ขา้ ปรับฐาน
การฝึ กฝนให้มนั่ คงจากภารกิจนี้ ข้าเพิ่งทะลวงผ่านเมื่อมินานมานี้
ดังนั้นฐานพลังฝี มือข้ายังไม่เสถียร”
นํ้าเสี ยงที่ชดั เจนและลื่นไหลของซูหยางไม่ทาํ ให้เกิดข้อสงสัยใดต่อ
ผูอ้ าวุโส เหมือนว่าเขาคุน้ เคยกับการพูดไร้สาระ
ผูอ้ าวุโสมองเขาอย่างเงียบๆอีกพักหนึ่งก่อนพยักหน้า “ดี ข้าขอให้
เจ้าโชคดี อย่าฝื นตัวเองถ้าเจ้าตกอยูใ่ นอันตราย เรามิอาจรับการสู ญเสี ย
อนาคตศิษย์ในเช่นเจ้า”
“ชื่อเจ้า” ผูอ้ าวุโสพลันสอบถาม
“ซูหยาง”
“ซูหยางรึ ” ผูอ้ าวุโสรู ้สึกเหมือนเคยได้ยนิ ชื่อนี้มาก่อน แต่เขาไม่
อาจจะจําได้วา่ ที่ไหนหรื อเมื่อไรที่เขาเคยได้ยนิ “นัน่ หวังว่าเจ้าจักไป
ได้ดี” เขาพูดหลังจากเขียนชื่อซูหยางลงในสมุดบันทึก
“ขอบคุณผูอ้ าวุโส” ซูหยางประสานมือคารวะก่อนเดินออกไปจาก
ตําหนักภารกิจ
บทที่ 37: กระบี่และทอง
หลังจากซูหยางออกมาจากตําหนักภารกิจ เขากลับไปที่บา้ นเพื่อล้าง
คราบเหงื่อไคลที่ได้รับระหว่างการฝึ กฝนร่ วมกับหลานลี่ชิง และ
เปลี่ยนชุดที่ได้มาใหม่จากตําหนักโอสถ
หลังจากนั้นเขาไปยังคลังมุกพิสุทธิ์เพื่อเตรี ยมพร้อมเดินทางไปยัง
หุบเขาฟ้าคํารามซึ่งอยูห่ ่างออกไปสองสามร้อยไมล์จากนิกาย
กุสุมาลย์พน้ พิสยั
“เจ้าอีกแล้วรึ ” ผูอ้ าวุโสที่ประจําอยูท่ ี่นนั่ ประหลาดใจที่เห็นซูหยาง
ปรากฏตัว เขาคิดว่าซูหยางคงกลืนกินดอกหยางพิสุทธิ์ไปเรี ยบร้อย
แล้ว แต่ดูเหมือนเขายังสบายดี ไม่..ดูเหมือนเขาแตกต่างออกไป
เล็กน้อย ราวกับมีความลุ่มลึกอะไรบางอย่างในตัวเขา
“เกิดอะไรขึ้นกับดอกหยางพิสุทธิ์ หรื อเจ้าเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย
ข้ามิรับคืนกลับคลังมุกพิสุทธิ์ รู ้ไหม” ชายชรากล่าวในกรณี ที่ซูหยาง
ต้องการแต้มคืน
“ข้ามาเพื่อกระบี่และทอง” ซูหยางกล่าวอย่างเยือกเย็นโดยไม่สนใจ
คําถามของชายชรา
“กระบี่และทอง ทําไมเจ้าต้องการอะไรแบบนั้น”
“ข้ารับภารกิจที่ตอ้ งออกไปล่าสัตว์ การเดินทางต้องใช้เวลานาน และ
ข้าต้องการอาวุธเพือ่ ป้องกันตัวในเวลาจําเป็ น”
แผนของซูหยางทําให้ชายชรางุนงง ทําไมเมื่อเขาได้รับดอกหยาง
พิสุทธิ์แล้วพลันออกไปล่าสัตว์หลังจากนั้นไม่กี่วนั ทุกสิ่ งดูไม่สม
เหตุผลในความคิดของชายชรา
“เจ้าไปล่าอะไรรึ ” ชายชราซักถามอย่างสบาย ๆ
“ผูอ้ าวุโส ด้วยความเคารพ ข้ากําลังรี บ ข้านึกมิออกว่าคลังมุกพิสุทธิ์
ต้องสนใจไต่ถามถึงแค่ศิษย์นอกดังเช่นตัวข้า” ซูหยางกล่าว นํ้าเสี ยง
ยังคงเรี ยบเฉยดังเช่นปกติ
“เจ้า..” เห็นชัดว่าชายชราโกรธถ้อยคํารุ นแรงของซูหยาง แต่เขา
ไม่ได้กล่าวอะไรนอกจากขมวดคิ้ว
หลังจากนั้นเขาก็กล่าวด้วยนํ้าเสี ยงเคร่ งขรึ ม “เจ้าพูดถูก…ข้าไร้
เหตุผล มิจาํ เป็ นที่ขา้ ต้องใส่ ใจในเรื่ องของเจ้า เจ้าต้องการกระบี่
ประเภทไหน กระบี่ธรรมดาใช้ 5 แต้มรางวัล ส่ วนทองต้องใช้ 10
แต้มรางวัลต่อหนึ่งเหรี ยญทอง”
“กระบี่ธรรมดาก็พอเพียง ส่ วนทอง…ข้าต้องการเหรี ยญทอง”
ซูหยางยืน่ ส่ งแต้มรางวัลที่หลงเหลืออยูจ่ ากการซื้ อดอกหยางพิสุทธิ์
ให้แก่ชายชรา เขาถังแตกอีกครั้ง
“เดี๋ยวข้ากลับมา” ชายชรากล่าวหลังจากที่เขาตรวจนับจํานวนแต้มว่า
ถูกต้อง
หลังจากนั้นไม่นาน ชายชรากลับมาพร้อมกระบี่ในฝักหนังสี ดาํ และ
ถุงสี น้ าํ ตาลขนาดเล็ก
ซูหยางรับสิ่ งของและจากไปในเวลาไม่นานหลังจากนั้น
หลังจากซูหยางจากไปเพียงไม่กี่นาที ชายชราเรี ยกคนมาแทนที่และ
มุ่งสู่ ตาํ หนักภารกิจ
“ผูอ้ าวุโสเจ้า”
เมื่อผูอ้ าวุโสในตําหนักภารกิจสังเกตเห็นการปรากฏตัวของชายชรา
พวกเขาล้วนยืนขึ้นและคํานับอย่างยําเกรง
“ใช่มีศิษย์นอกชื่อซูหยางมาที่นี่วนั นี้เพื่อทําภารกิจ” ผูอ้ าวุโสเจ้าถาม
พวกเขาด้วยท่าทางเคร่ งเครี ยด
“ซูหยาง เขารับภารกิจล่าในหุบเขาฟ้าคํารามเมื่อไม่กี่นาทีก่อน” ผูท้ ี่
รับหน้าที่บนั ทึกเรื่ องซูหยางกล่าว
“ล่าสัตว์ในหุบเขาฟ้าคําราม ที่เหล่าแมวสายฟ้าวิง่ เพ่นพ่านช่วงหลังนี้
รึ ทําไมผูท้ ี่มีระดับเพียงเขตปฐมวิญญาณระดับสามถึงรับภารกิจที่
เป็ นไปมิได้เช่นนั้น” ผูอ้ าวุโสเจ้าครุ่ นคิด
“ให้ขา้ ดูบนั ทึก” เขากล่าวกับผูอ้ าวุโสที่อยูใ่ นหน้าที่
“นี่ขอรับ ผูอ้ าวุโสเจ้า”
“อืม…ขอข้าดูหน่อย เขตคัมภีร์วญ ิ ญาณระดับหนึ่ง” ผูอ้ าวุโสเจ้าอด
ไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเสี ยงดังลัน่ หลังจากเห็นบันทึก นํ้าเสี ยงราว
กับว่าเขาเห็นผีสาง เสี ยงของเขาทําให้ทุกคนในตําหนักภารกิจถึงกับ
ตกตะลึง
“มีอะไรผิดพลาดบนบันทึกหรื อ ผูอ้ าวุโสเจ้า” ผูอ้ าวุโสกล่าวขึ้นด้วย
ความกังวล
อย่างไรก็ตามผูอ้ าวุโสเจ้าเพียงจ้องมองแต่บนั ทึกอย่างตะลึงงัน “เขา
กลายเป็ นเขตคัมภีร์วญิ ญาณระดับหนึ่งไปได้อย่างไรในเมื่อเขายังอยู่
เขตปฐมวิญญาณระดับสามอยูเ่ ลยเมื่อสองอาทิตย์ก่อน”
ผูอ้ าวุโสเจ้าพลันนึกขึ้นได้วา่ ทําไมเขาจึงรู ้สึกแปลกไปจากเดิมเมื่อ
เห็นซูหยาง แม้วา่ มันยากต่อการสังเกต แต่นนั่ เป็ นรัศมีลึกลํ้าของผูท้ ี่
อยูใ่ นเขตคัมภีร์วญิ ญาณจะปลดปล่อยออกมาเท่านั้น มันเป็ นบางสิ่ ง
ที่เขาไม่มีก่อนที่เขาจะได้รับดอกหยางพิสุทธิ์
“เจ้าเด็กนัน่ สามารถกลืนกินดอกหยางพิสุทธิ์ได้จริ ง ๆ บางสิ่ งที่แม้แต่
ข้าก็ไม่กล้าลอง พลังการฝึ กปรื อของเขาพุง่ พรวดก็เพราะว่าสิ่ งนั้น”
เมื่อผูอ้ าวุโสเจ้าค้นพบความจริ ง เขาแตกตื่นไปทั้งใจ ทําไมเพียงแค่
ศิษย์นอกเขตปฐมวิญญาณสามารถกลืนกินดอกหยางพิสุทธิ์ใน
ขณะที่เขาผูเ้ ชี่ยวชาญเขตปฐพีวญ ิ ญาณจึงยากที่จะกลืนกินมัน
“ข้าถูกเล่นเข้าแล้ว เจ้าเด็กเลวซูหยางนัน่ เป็ นเด็กเจ้าเล่ห์ ใครเป็ นคน
กล่าวว่าเขาเป็ นคนโง่เง่าปัญญาอ่อน เจ้านัน่ แท้จริ งแล้วคือสัตว์
ประหลาด ข้าต้องรายงานเรื่ องนี้ให้แก่เจ้านิกายโดยเร็ วที่สุด”
ผูอ้ าวุโสเจ้ามองไปที่ผอู ้ าวุโสที่ดูแลบันทึกแล้วกล่าวว่า “นอกจากข้า
สัง่ ห้ามแสดงบันทึกเล่มนี้แก่ใครทั้งสิ้ น นี่เป็ นคําสัง่ ”
“ขอรับ ผูอ้ าวุโสเจ้า”
หลังจากนั้นผูอ้ าวุโสเจ้าก็ออกจากตําหนักภารกิจอย่างเร่ งรี บ ปล่อย
ให้ทุกคนที่นนั่ ให้จมอยูก่ บั ความสงสัย
“สามารถทําให้ผอู ้ าวุโสเจ้าผูย้ งิ่ ใหญ่โกรธมากได้…ซูหยางผูน้ ้ ีเป็ น
ใครกันแน่” บรรดาเหล่าผูอ้ าวุโสนิกายบริ เวณนั้นเก็บความสงสัยไว้
ในใจ

“ข้าสงสัยว่าตอนนี้ผเู ้ ฒ่านัน่ จักคิดออกแล้วหรื อยัง” ซูหยางสงสัย


ขณะที่เขาเดินไปยังประตูหน้าที่จะนําเขาออกไปภายนอกนิกาย
ขณะที่เขาอยูท่ ี่คลังมุกพิสุทธิ์ เขารู ้สึกว่าผูอ้ าวุโสเจ้าได้ตรวจสอบอีก
ทั้งพยายามไต่สวนเขาตลอดเวลา
“แค่ดอกหยางพิสุทธิ์ พวกเขาถือมันเป็ นเหมือนยาศักดิ์สิทธิ์…อัย
ย่า…ช่างน่ารําคาญจริ ง ๆ …” ซูหยางถอนหายใจ
“หยุด เจ้าคิดจะไปไหน ศิษย์นอก”
บรรดายามที่ประตูทางเข้าหยุดซูหยางเมื่อพวกเขาเห็นซูหยางตรงไป
หา
“ข้ามีงานที่หุบเขาฟ้าคําราม” ซูหยางแสดงภารกิจที่ได้รับจากตําหนัก
ภารกิจให้พวกเขาดู
บรรดายามตรวจสอบประทับบนม้วนกระดาษภารกิจและยืนยันถึง
ความถูกต้องของตราประทับ
“โชคดี เดินทางปลอดภัย”
พวกเขาเปิ ดประตูใหญ่ให้ซูหยางเดินออกไป ไม่นานก็ลบั หายไป
จากสายตาของบรรดายาม
บทที่ 38: เมืองขนนกพริ้ว
เมื่อออกจากนิกาย ซูหยางก็เดินทางไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุด ในความ
ทรงจําของเขาที่นนั่ มีสถานที่ชื่อเมืองขนนกพริ้ ว มีระยะทางเพียง
สองวันจากนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั หากเดินไป แต่เมื่อซูหยางใช้พลัง
ฝี มือก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชวั่ โมงเพื่อไปถึงเมืองขนนกพริ้ ว
เมื่อมาถึงเมือง ซูหยางตรงไปที่ทหารยามที่ยนื อยูบ่ ริ เวณทางเข้าของ
เมือง
เมื่อเหล่าทหารยามสังเกตเห็นซูหยางตรงเข้าไปหา พวกเขาต่างหัน
มองหน้ากันด้วยสายตาแปลก ๆ ด้วยความแปลกใจที่เห็นซูหยางที่นี่
ซูหยางสังเกตเห็นสายตาแปลกใจต่อเขาจากพวกทหารยาม เขาจึง
ถาม “มีปัญหาอะไรรึ ”
“เอ๋ อา ไม่..เพียงแต่ค่อนข้างยากที่พวกเราจักเห็นศิษย์จากนิกาย
กุสุมาลย์พน้ พิสยั จากระยะใกล้” บรรดาทหารยามอธิบาย
“อะไรที่ทาํ ให้เจ้ามาที่เมืองขนนกพริ้ ววันนี้” ทหารยามอีกคนถาม
“เพียงหาที่พกั ชัว่ ครู่ ก่อนเดินทางต่อ”
“เช่นนั้นรึ อ้อ ในเมื่อเจ้าเป็ นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ที่โด่งดัง
พวกเราจักไม่เก็บค่าผ่านทาง ซึ่งปกติตอ้ งจ่ายกันคนละ 10 เหรี ยญ
ทองแดง เข้าใจไหม”
“อื้อ” ซูหยางกล่าวขอบคุณก่อนเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ ว
เมื่อซูหยางจากไป บรรดาทหารยามต่างถอนใจด้วยความหดหู่
“อัยยย..นิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั …น่าอิจฉานัก ด้วยหน้าตาสุ ดหล่อ
เหลา เขาคงสนุกสนานอยูก่ บั เหล่าสาวสวยตลอดวัน ถ้าข้าได้เป็ น
ศิษย์…”
“พอได้แล้ว ด้วยหน้าตาน่าเกลียดของเจ้า เจ้าคงไม่ได้เป็ นแม้กระทัง่
สัตว์เลี้ยงของคนรับใช้ นับประสาอะไรจะเป็ นคนรับใช้”
“เจ้าว่าอะไร เจ้าพูดราวกับว่าเจ้ามีโอกาสที่จะเข้าไปด้วยหน้าสุ นขั
ของเจ้า ส่ องกระจกก่อนพูด”
บรรดาทหารยามเริ่ มโต้เถียงกัน
ซูหยางเดินเตร็ ดเตร่ ไปมารอบเมืองที่สะอาดมีชีวติ ชีวาด้วยผูค้ นที่
เดินเข้าออกร้านเรี ยงรายรอบทาง
ทุกผูค้ นล้วนตั้งใจทํางานของตนเอง แต่เมื่อพวกเขาพบเห็นซูหยาง
ปรากฏกาย พวกเขาล้วนจ้องมองซูหยางอย่างตะลึงลาน
นัน่ เป็ นเพราะว่าวินาทีที่พวกเขาเห็นใบหน้าหล่อเหลาของซูหยาง
พวกเขาไม่อาจเบือนหน้าหนี ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าการปรากฏกายของ
เขาล้วนเป็ นที่จบั ตาดุจมณี เปล่งประกายท่ามกลางโคลนตม
แม้กระทัง่ ในนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ที่ทุกผูค้ นล้วนสวยงามหล่อเหลา
รู ปร่ างหน้าตาของเขายังจัดว่าหายาก
เป็ นธรรมดาที่ชายหนุ่มรู ปงามมีเบื้องหลังที่ยงิ่ ใหญ่ยอ่ มเป็ นที่สนใจ
ของผูค้ นไม่วา่ เขาจะไปที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในสถานที่ที่เต็ม
ไปด้วยคนทัว่ ไปที่ไม่เคยพบปะคนอย่างซูหยางที่รูปร่ างหน้าตา
เหนือกว่าใคร
ซูหยางคุน้ กับการถูกจ้องมองเพราะว่ามันเป็ นดังเช่นเดียวกับเมื่อชีวติ
ก่อน ไม่วา่ เขาจะไปที่ไหนจะต้องมีการจ้องมองมาทางเขาอยูเ่ สมอ
ทันใดนั้นหญิงสาวสวยดูอายุประมาณ 18 ปี เดินมาทางเขาด้วยแก้มสี
กุหลาบแดง
“อืม…เจ้าเป็ นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ใช่หรื อไม่” เธอถาม
เขาด้วยเสี ยงเหนียมอาย
ซูหยางยิม้ และพยักหน้า “เจ้าต้องการอะไรจากข้าหรื อ” เขาถามไป
แม้จะรู ้ถึงจุดประสงค์ของเธอ
เมื่อเห็นรอยยิม้ หล่อเหลาของเขา ก็ยงิ่ ปรากฏสี แดงบนใบหน้าเธอ
“เจ้าพอมีเวลาบ้างไหมตอนนี้ มีบางอย่างที่ขา้ ต้องการพูดกับเจ้า..
อย่างเป็ นส่ วนตัว…” เธอพูดด้วยเสี ยงเอียงอาย ดวงตาเปี่ ยมประกาย
หลงใหล
เมื่อคนผ่านไปมาได้ยนิ คําร้องขอของเธอ พวกเขาล้วนเกือบปากอ้า
ค้างคางถึงพื้นเพราะความงงงัน คิดว่าทําไมหญิงสาวจึงทั้งเจ้าเล่ห์
และใจกล้าต่อหน้าประชาชน แม้วา่ เธอจะไม่ได้บอกว่าเธอต้องการ
อะไร แต่แม้คนโง่กค็ วรบอกได้วา่ เธอมีจุดประสงค์อะไร
ถ้าเป็ นใครคนอื่นไม่ตอ้ งสงสัยคาใจแม้แต่นอ้ ยว่าต้องตกในอุบาย
ของเธอและตามเธอไป แต่อนิจจาซูหยางเป็ นคนที่มีประสบการณ์
กว้างขวางดุจจักรวาลในสถานการณ์เช่นนี้
แม้กระทัง่ ในชีวติ ก่อนก็ถือเป็ นเรื่ องธรรมดามาก ๆ ที่สามัญชนเช่น
หญิงสาวคนนี้จะเข้าหาผูฝ้ ึ กปราณเสนอตนเองเพื่อแลกกับความ
ช่วยเหลือ ด้วยมันเป็ นวิธีที่ง่ายที่จะยกฐานะและความสัมพันธ์
ยิง่ กว่านั้นผูม้ ีโชคหลายคนอาจจะได้กลายเป็ นผูฝ้ ึ กปราณเสี ยเอง
“ข้าต้องขอโทษด้วยข้าอยูใ่ นระหว่างการรี บเดินทางไปที่อื่น ถ้าเจ้า
ไม่รังเกียจ ทําไมเจ้าไม่บอกข้าเสี ยตรงนี้เลยว่าเจ้าต้องการอะไร” ซู
หยางพูดโดยสี หน้าอารมณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
หญิงสาวมองเขาด้วยสี หน้าแสดงความประหลาดใจ เขาเป็ นคนของ
นิกายที่ทาํ เรื่ องลามกทุกวันจนถือเป็ นเรื่ องปกติ เหตุใดเขาจึงปฏิเสธ
เธอตั้งแต่ตน้ ทําไมไม่พยักหน้าแล้วตามเธอไปด้วยรอยยิม้ ดังเช่นที่
เธอจินตนาการ
“มิเป็ นไร ถ้าเช่นนั้นข้าต้องขอตัว…”
หญิงสาวยืนที่นนั่ คล้ายรู ปปั้นหิ นขณะที่ซูหยางเดินจากไปอย่างสง่า
งามหลงเหลือเพียงกลิ่นดอกไม้หอมกรุ่ นไว้บนถนน
เมื่อซูหยางลับหายไปจากสายตาแล้ว ผูค้ นผ่านทางต่างพากันทอด
ถอนใจเสี ยงดัง
“เพียงเหลือบมองเขาสักครั้งเจ้าสามารถบอกได้วา่ เขาเป็ นคนหัวสู ง”
“เขามาจากสถานที่ที่สาวงามโดดเด่นมากมายดาษดื่นราวแมลงวัน
เจ้าจักแข่งขันกับเหล่าศิษของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ได้อย่างไร เด็ก
น้อย”
เมื่อหญิงสาวได้ยนิ เสี ยงผูค้ นพูดจาดูถูก เธอหน้าแดงด้วยความอับ
อาย ไม่อยากอยูใ่ นสถานที่น้ นั อีกต่อไป เธอหันกายแล้ววิง่ หนีไป
บทที่ 39: ร้ านอาหารทีค่ รึกครื้น
หลังจากเตร็ ดเตร่ อยูส่ กั พักซูหยางตัดสิ นใจพัก เขาเลือกร้านอาหาร
อย่างสุ่ ม ๆ และเดินเข้าไป การปรากฏตัวของเขาเรี ยกความสนใจ
จากทุกคนในอาคารก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเข้าไป
“น..นายน้อย ข้าคือเจ้าของร้าน มากี่คนขอรับวันนี้”
ซูหยางได้รับการต้อนรับจากเจ้าของร้านแทนที่จะเป็ นคนรับใช้
“ข้าเพียงคนเดียว” เขาตอบขณะก้าวเข้าไปในร้าน
“ข้าต้องขอประทานอภัยล่วงหน้ากับสถานที่ซอมซ่อสําหรับคนเช่น
นายน้อย..”
“หยุดเยินยอข้าและจัดโต๊ะให้ขา้ ตัวหนึ่ง โต๊ะแบบไหนก็ได้” ซูหยาง
ตัดบทอีกฝ่ ายด้วยหางตา เป็ นเหตุให้เจ้าของร้านรี บหุบปาก ฝ่ ามือเขา
เปี ยกชื้นจากความเครี ยด
“นายน้อยเชิญเลือกที่นงั่ ได้ตามสบาย..” เจ้าของร้านกล่าวหลังจากนั้น
สักครู่
ซูหยางพยักหน้าและเลือกโต๊ะว่างบริ เวณมุม เขานัง่ ลงและมองผ่าน
รายการอาหารที่เปรอะเปื้ อนไปด้วยคราบนํ้ามันและรอยนิ้วมือ ด้วย
ร้านไม่ได้สนใจเปลี่ยนมัน
เมื่อเจ้าของร้านสังเกตเห็นซูหยางมองรายการอาหารที่สกปรกอย่าง
ละเอียด หัวใจเขาเกือบเต้นออกไปจากปากด้วยความหวาดกลัว
“น..นายน้อย..ข้าต้องขออภัยกับรายการอาหารสกปรก…ธุรกิจที่นี่
ค่อนข้าง..เอ้อ..ลําบาก…” เจ้าของร้านกล่าวด้วยความรู ้สึกที่ถาโถม
อย่างไรก็ตามซูหยางยังเงียบเฉย รายการอาหารสกปรกและสถานที่
ซอมซ่อไม่ได้มีผลกับเขาแม้แต่นอ้ ย แต่กลับทําให้เขารู ้สึกพึงพอใจ
“ข้าต้องการชาพื้นบ้านกาหนึ่งและทุกอย่างในรายการอย่างละจาน”
เจ้าของร้านมองดูซูหยางดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อ
ได้ยนิ สิ่ งที่ซูหยางสัง่ เกือบไม่เชื่อหูตนเอง เขาต้องการทุกอย่างบน
เมนู นัน่ มีไม่ต่าํ กว่ายีส่ ิ บจาน
“ได้เลยขอรับ”
เจ้าของร้านไม่กล้าชักช้ารี บวิง่ ไปยังครัวและสัง่ พ่อครัวราวกับผู ้
บัญชาการทัพ ยากมากที่ร้านของเขาจะได้ตอ้ นรับลูกค้าเป็ นผูฝ้ ึ ก
ปราณ ยิง่ เป็ นศิษย์จากนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั เขาไม่กล้าที่จะทําให้
ใครบางคนที่เป็ นตัวตนที่ลึกลํ้าเช่นนั้นไม่พึงใจไม่วา่ ด้วยเหตุใดก็
ตามด้วยเขาเกรงผลที่จะตามมา
ช่วงเวลานั้นซูหยางก็ใช้เวลาในการลําดับความคิด
“นานเท่าไรแล้วที่ขา้ ได้นงั่ เก้าอี้ไม้ไม่ได้รูปเช่นนี้ ข้าได้กา้ วเข้ามาใน
ร้านอาหารเก่าแก่แบบนี้ครั้งสุ ดท้ายเมื่อไรกัน” ซูหยางย้อนนึกไปถึง
เมื่อเขายังเป็ นปุถุชนในช่วงชีวติ ก่อนอย่างแม่นยํา ช่วงชีวติ วัยรุ่ นของ
เขา
เมื่อยังเป็ นคนธรรมดาเขาใช้เวลาบ่อยครั้งกับครอบครัวแวะมายัง
ร้านอาหารแบบนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาจากครอบครัวและกลายเป็ น
ผูฝ้ ึ กปราณจํานวนครั้งที่เขาแวะมาก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชดั และ
ไม่เคยได้มาอีกเลยเมื่อเขากลายเป็ นเซียน
ขณะที่ซูหยางนัง่ เงียบรําลึกถึงช่วงชีวติ ก่อน ผูค้ นในร้านต่างพากัน
กระซิ บกระซาบขณะที่แอบมองเขา
“ช่างเป็ นหนุ่มหล่อจริ ง ๆ ถ้าข้าสามารถนะข้าจักปลํ้าเขาลงบนเตียง
ข้าโดยไม่ลงั เล”
“ชายทุกคนในนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั หล่อแบบนี้หมดใช่ไหม ถ้าข้า
ได้เป็ นศิษย์ที่นนั่ ..”
บรรดาสาวแก่แม่หม้ายพากันหัวเราะคิกคักขณะที่พวกเธอจินตนาการ
ไปไกลขณะที่บรรดาชายทั้งหลายบ่นพึมพัมด้วยความอิจฉา
“เชี่ย เพียงแค่เกิดมาหล่อกว่าคนอื่นเพียงนิดหน่อย…”
“ไอ๊หยาหยา…ทําไมสวรรค์ช่างโหดร้าย มิเพียงแต่ให้ขา้ เกิดมาไม่
หล่อ ทําไมถึงยังให้ขา้ เห็นใครบางคนเช่นเขา หรื อต้องการให้ขา้
หมดความมัน่ ใจในความเป็ นชาย”
ซูหยางยิม้ เล็กน้อยหลังจากฟังผูค้ นรอบข้างพูดจา แม้วา่ พวกเขาเพียง
กระซิบแต่มนั ก็ได้ยนิ ชัดสําหรับซูหยางเหมือนกับพวกเขาพูดตรงใส่
หูเขาเช่นนั้น
ไม่นานนักเจ้าของร้านก็กลับมาพร้อมกับคนรับใช้ตามมาเบื้องหลัง
แต่ละคนล้วนถือจานชามมาด้วย และเพราะว่าโต๊ะเล็กเกินไป
สําหรับวางจานทั้งหมด เจ้าของร้านจึงต่อโต๊ะว่างเข้าด้วยกันให้
กลายเป็ นโต๊ะใหญ่
“ทั้งหมดนี่ราคาเท่าไหร่ ” ซูหยางถามเจ้าของร้าน
“นายน้อยมิตอ้ งกังวลกับราคาและสามาร..”
ซูหยางถอนหายใจระหว่างคําพูดของอีกฝ่ ายและล้วงเหรี ยญทองจาก
ถุงยืน่ ส่ งให้เจ้าของร้านที่ยนื มึนงงอยู่
“มิตอ้ งทอน แต่ช่วยเปลี่ยนเมนูสกปรกเหล่านี้เป็ นชุดใหม่โดยเร็ ว
ที่สุดจักเป็ นบุญคุณอย่างยิง่ อ้อ ข้าอยากจะเลี้ยงบรรดาสุ ภาพสตรี ทุก
คนที่นี่สกั มื้อ จัดให้พวกเธอตามที่ตอ้ งการ ค่าใช้จ่ายคิดที่ขา้ ”
คําพูดซูหยางสร้างความสับสนไม่เพียงแต่เจ้าของร้านแต่กบั ทุกคนที่
อยูใ่ นร้านอาหาร เขารวยแค่ไหนกันแน่ถึงควักหนึ่งเหรี ยญทอง
ออกมาโดยง่ายดาย แม้ซูหยางจะสัง่ ทุกอย่างบนเมนูมามากกว่านี้อีก
ห้าเท่าราคาก็ยงั ไม่ถึงครึ่ งเหรี ยญทอง เชี่ย แม้กระทัง่ ร้านอาหารเองก็
ยังมีรายได้เพียงไม่กี่เหรี ยญทองในปี ๆ หนึ่ง
เมื่อบรรดาหญิงทั้งหลายในห้องได้ยนิ ว่าซูหยางเลี้ยงพวกตนอะไรก็
ได้ที่ตอ้ งการ พวกเธอแทบจะกระโดดออกจากที่นงั่ เพื่อจูบขอบคุณ
เขา
ซูหยางพลันพูดเสี ยงดัง “ในเมื่อพวกเราอยูท่ ี่นี่ ทําไมพวกเจ้าไม่มา
นัง่ กับข้า เพื่อเราจักได้สนทนากันสักเล็กน้อย ตรงนี้มีที่วา่ งมากมาย
อีกทั้งข้ากําลังพยายามศึกษาเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้เพราะนี่เป็ นครั้ง
แรกที่ขา้ ออกมาจากนิกาย”
ทันทีที่ซูหยางร้องขอให้พวกเธอแวะมาที่โต๊ะของเขา หญิงเกือบทุก
คนในสถานที่น้ นั ต่างพากันลุกขึ้นและตะกายหาที่นงั่ ที่ดีที่สุดซึ่ งก็
คือเก้าอี้สองตัวด้านข้างซูหยาง
“ใจเย็น ๆ ข้ายังไม่ได้ไปไหนในเร็ ว ๆ นี้…” ซูหยางยิม้ กับท่าทาง
ของพวกเธอ ทําให้พวกเธอพากันหน้าแดงด้วยความอาย
เพียงเท่านั้นร้านอาหารที่เงียบสงบก็พลันกลายเป็ นสถานที่ครึ กครื้ น
บทที่ 40 สี่ ตระกูลใหญ่
หญิงหกคนนัง่ ล้อมซูหยางด้วยสี หน้าแจ่มใส ทุกคนล้วนมีอายุ
ใกล้เคียงกับหลานลี่ชิงหรื อไม่กแ็ ก่กว่า แต่เพราะพวกเธอไม่มีใคร
เป็ นผูฝ้ ึ กปราณ พวกเธอจึงดูเป็ นไปตามอายุ ต่างกับหลานลี่ชิงที่ยงั ดู
อ่อนเยาว์แม้จะมีอายุมาก
“น้องชาย เจ้าอายุเท่าไร” คนหนึ่งถามเขาด้วยเสี ยงอ่อนหวาน
“ข้าอายุ 16” เขาตอบอย่างไม่ใส่ ใจ
“เด็กจัง ข้ามิอาจเดาได้จากท่าทางของเจ้า เจ้าดูเป็ นผูใ้ หญ่จนข้าคิดว่า
เจ้าอายุมากกว่านี้”
“เจ้าไม่พอใจหรื อ” ซูหยางถามยิม้ ๆ
“ฮี่ฮี่…ไม่มีทาง แม้วา่ เจ้าจะอายุเพียง 16 แต่ถือว่าเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว”
“เจ้าชื่ออะไร”
“เซียวหยาง” คําตอบจากซูหยาง เขาคิดว่าเป็ นการดีที่จะไม่เปิ ดเผย
ตัวตนที่แท้จริ งนอกนิกายจนกว่าเขาจะมัน่ ใจในบางอย่าง
“เจ้ามาจากไหนหรื อเซียวหยาง”
“ข้าเกิดในนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ”
“หวา..เจ้าเกิดในนิกายเลยหรื อ”
ซูหยางยิม้ เล็กน้อยกับความประหลาดใจของเธอ
“เลิกคุยเรื่ องข้า ข้าอยากรู ้เรื่ องภายนอก นี่เป็ นครั้งแรกที่ขา้ ออกมา
ข้างนอก”
“เจ้าอยากรู ้อะไร”
“เล่าเรื่ องทวีปตะวันออกนี้ให้ขา้ ฟังหน่อย” ซูหยางกล่าว
“เอ้อ มันเป็ นทวีปที่กว้างสําหรับคน…ข้าได้ยนิ ว่าเป็ นไปมิได้ที่จกั
เดินทางจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านถ้าเจ้ามิใช่ผฝู ้ ึ กปราณ”
“ทวีปตะวันออกแบ่งออกเป็ นสี่ ภูมิภาค ซึ่งต่างปกครองโดยตระกูล
ใหญ่”
ซูหยางมองไปยังหญิงผูก้ ล่าวถึงตระกูลใหญ่ดว้ ยความสนใจ “เล่าให้
ข้าฟังเกี่ยวกับสี่ ภูมิภาคและตระกูลใหญ่” เขากล่าวขณะจิบชา
“สี่ ตระกูลใหญ่เป็ นผูย้ งิ่ ใหญ่ท้ งั ในโลกของคนทัว่ ไปและผูฝ้ ึ กปราณ
พวกเขาแต่ละตระกูลครอบครองพื้นที่ขนาดใกล้เคียงกัน เป็ นที่รู้กนั
ดีวา่ พวกเขาเป็ นแหล่งกําเนิดอัจฉริ ยะเปี่ ยมด้วยพรสวรรค์ดา้ นการฝึ ก
ปราณเหนือธรรมดา นอกจากชื่อเสี ยงและอํานาจทางทหารแล้ว ไม่
ค่อยมีใครรู ้เรื่ องพวกเขามากนักโดยเฉพาะสถานที่เช่นนี้”
“พวกเจ้าพอรู ้จกั ชื่อของสี่ ตระกูลใหญ่น้ ีหรื อไม่”
“ถ้าข้าจํามิผดิ …ตระกูลฟางปกครองเขตตะวันตก ตระกูลหลงอยูท่ าง
ตะวันออก ตระกูลเซียงอยูด่ า้ นใต้ และสุ ดท้าย…นัน่ ชื่ออะไรนะ”
“ตระกูลซู” หญิงอีกคนกล่าว “พวกเขาครอบครองเขตเหนือ”
“อนึ่ง พวกเราอยูใ่ นภูมิภาคตะวันตกปกครองโดยตระกูลฟาง”
“ตระกูลซูรึ…” ซูหยางเลิกคิ้วเมื่อเขาได้ยนิ ชื่อของตระกูลนั้น ช่างน่า
บังเอิญที่พวกเขามีนามสกุลเดียวกัน
“ใช่ แม้วา่ สี่ ตระกูลใหญ่จะมีกาํ ลังทหารใกล้เคียงกัน แต่มีข่าวลือว่า
ตระกูลซูอาจจะเป็ นผูเ้ ข้มแข็งที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งสี่ ”
“เช่นนั้นรึ ..” ซูหยางพึมพัมด้วยสี หน้าครุ่ นคิด แม้วา่ เขาจะโกหกว่า
เกิดภายในนิกาย แต่จริ งแล้วเขาไม่รู้สกั นิดว่าเขามาจากไหน
ความทรงจําทุกอย่างที่เขาได้รับมาจากซูหยางคนก่อนคือหนึ่งปี ก่อน
หลังจากเขาเข้าร่ วมกับนิกาย ส่ วนที่เหลือเหมือนถูกกั้นด้วยกําแพง
คล้ายกับมันถูกใช้พลังปิ ดกั้นเอาไว้
“มีอะไรผิดปกติรึ น้องชาย เจ้าดูเหมือนสนใจตระกูลซูมากเป็ นพิเศษ”
“ข้าเคยได้ยนิ ศิษย์สองสามคนพูดถึงตระกูลนี้มาก่อน…” ซูหยางกล่าว
“เจ้ารู ้ไหมว่าพวกเขาอยูท่ ี่ไหนกัน” เขากล่าวต่อ
“ตระกูลใหญ่ท้ งั สี่ ต้ งั อยูท่ ี่เมืองหลวงของแต่ละภูมิภาค”
“อย่าบอกว่าน้องชายวางแผนจะไปเยีย่ มพวกเขา” บางคนพูดติดตลก
“บางทีนะ..” ซูหยางวางถ้วยชาและพูดด้วยรอยยิม้ สร้างความตื่น
ตะลึงให้คนรอบโต๊ะ
“ใช่ แล้วทวีปอื่นเป็ นอย่างไรบ้าง” เขาพลันถามพวกเธอ
เมื่อซูหยางกล่าวถึงทวีปอื่น พวกเธอต่างพากันมองหน้ากันด้วยความ
งุนงง
“เอ้อ…นอกจากที่วา่ ทุกทวีปแยกจากกันด้วยทะเลกว้างชื่อทะเลหยก
แล้วพวกเราก็ไม่รู้จกั อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย”
“ทะเลหยก” ซูหยางพลันขมวดคิ้ว เขาท่องเที่ยวไปในทั้งสี่ โลกใน
ชีวติ ก่อน แต่เขายังไม่คุน้ เคยกับชื่อนี้ บางทีเขาอาจจะไม่ได้อยูใ่ ต้ฟ้า
เดียวกันกับชีวติ ก่อน
เมื่อบรรดาหญิงรอบโต๊ะเห็นใบหน้าแสดงความเจ็บปวดใจของซูหยาง
พวกเธอก็รู้วา่ มีบางอย่างไม่ถูกต้อง พวกเธออยากช่วยให้เขาสบายใจ
แต่พวกเธอก็ไม่รู้วา่ เพราะเหตุใดที่ทาํ ให้เขาพลันโศกเศร้าหลังจาก
ได้ยนิ คําว่าทะเลหยก
เมื่อคิดว่าเขาจะไม่มีโอกาสเห็นคนรักอีกครั้งยิง่ สร้างความชอกชํ้าใจ
ให้กบั ซูหยาง อย่างไรก็ตามเขาไม่ตอ้ งการที่จะยอมแพ้ง่ายดายนัก
ไม่จนกว่าเขาจะสามารถพิสูจน์ได้วา่ พวกเธอไม่มีชีวติ อยูใ่ นโลกนี้
อีกแล้ว
“…”
เมื่อซูหยางสังเกตเห็นความเงียบงัน เขาฝื นยิม้ และกล่าวว่า “ข้าเผลอ
ครุ่ นคิดอะไรบางอย่าง ต้องขออภัยอย่างยิง่ ”
“เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องขอโทษ พวกเราเข้าใจ”
“เหตุใดเจ้าจึงดูโศกเศร้า ข้าหวังให้มนั หายไป…”
พวกเธอพูดกับเขาด้วยเสี ยงนุ่มนวล ราวกับมารดากล่อมลูกหลังจาก
พวกเขาพบกับความเจ็บปวด
ซูหยางพยักหน้าและพวกเขาก็พากันรับประทานขณะหัวเราะ
กระเซ้าเย้าแหย่เหมือนกับไม่เคยเกิดเหตุการณ์น่าอึดอัดขึ้นมาก่อน
เวลาหลายชัว่ โมงผ่านไปอย่างรวดเร็ วตั้งแต่ซูหยางร่ วมโต๊ะ
รับประทานอาหารกับบรรดาสตรี สุ ดท้ายเขาก็กล่าวอําลาหลังจาก
รับประทานทุกอย่างจนเกลี้ยงโต๊ะ
“นานมากแล้วที่ขา้ ได้ร่วมโต๊ะสนุกสนานกับคนแปลกหน้า” ซูหยาง
จากร้านอาหารด้วยอารมณ์แจ่มใส
บทที่ 41: เจ้ าได้ ยนิ แล้ วนี่
หลังออกจากร้านอาหารซูหยางเดินตรงไปตามทางจนถึงประตูดา้ น
ตรงข้ามของเมือง
เมื่อเขาถึงประตูเมือง ซูหยางสังเกตเห็นคนกลุ่มใหญ่และรถม้าอีก
สองสามคันรออยูด่ า้ นนอกประตูเมือง พวกเขาล้วนถืออาวุธสวม
เกราะเหมือนว่าจะออกไปรบ ยังมีบางคนที่สวมชุดยาวดูเหมือนเป็ น
ศิษย์ของบางสํานักปะปนอยูใ่ นกลุ่มคนด้วย
เมื่อถึงเวลาที่ซูหยางผ่านทหารยามและออกไปจากเมือง คนภายใน
กลุ่มนั้นหลายคนพากันมองไปที่เขาด้วยสายตาหลากความรู ้สึก บ้าง
ก็เต็มไปด้วยความรู ้สึกอิจฉาบ้างก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่แน่นอนนัน่
ย่อมยังมีหญิงหลายคนในกลุ่มที่มองเขาด้วยประกายความหลงใหล
ในแววตา
ภายใต้การจ้องมองของคนกว่าห้าสิ บคน ซูหยางเดินไปตามทาง
อย่างเยือกเย็นสงบเงียบดุจนํ้าในทะเลสาบ เขาไม่กงั วลสนใจว่าคน
กลุ่มนั้นจะทําอะไรกัน อย่างไรก็ตามหูเขาก็ยงั ได้ยนิ เสี ยงกระซิ บ
กระซาบของฝูงชน
“นัน่ มิใช่ศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั หรอกหรื อ”
“นิกายไร้ยางอายที่เลือกศิษย์โดยพิจารณาหน้าตาก่อนและพรสวรรค์
เป็ นอันดับรองนัน่ เหรอ”
“ใช่ นิกายนัน่ แหละ”
“พวกเขาเอาแต่ร่วมเพศกันทั้งวันและคืนโดยไม่ยอมฝึ กฝนให้
เหมาะสม แม้วา่ จะมีพลังการฝึ กปรื อสู ง แต่กลับมีประสบการณ์การ
ต่อสู เ้ ป็ นศูนย์”
“พวกเขาฝึ กวิชาเพื่อหน้าตา ดังนั้นพวกเขาไม่สนใจว่าจะมีพลังฝี มือ
สู งหรื อไม่…”
ซูหยางทําท่าเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยนิ คํากล่าวอะไรเมื่อเหล่าศิษย์
จากนิกายอื่นในฝูงชนพูดว่าร้ายนิกายของเขา เพียงแต่หวั เราะอยูใ่ น
ใจ แม้วา่ ถ้อยคําเหล่านั้นจะระคายหูแต่นนั่ ก็มีความจริ งแฝงอยูใ่ นนั้น
นิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั รู ้จกั กันดีวา่ มีแต่คนสวยคนหล่อ ฝึ กฝนเรื่ อง
ลามก และมีพลังการฝึ กปรื อสู ง อย่างไรก็ตามศิษย์ส่วนใหญ่ลว้ นมี
ประสบการณ์นอ้ ยมากจนถึงกับไม่มีเลยแม้แต่นอ้ ยเมื่อพูดถึงเทคนิค
การต่อสู ้ อย่างน้อยศิษย์นอกก็เป็ นเช่นนั้น
จากสิ่ งที่ซูหยางได้รับมาจากความทรงจําและสิ่ งที่เขาพบเห็นด้วย
ตนเองจากบรรดาศิษย์นอก เหล่าศิษย์นอกล้วนมุ่งเน้นไปแต่การเพิ่ม
พลังการฝึ กปรื อโดยแทบจะไม่สนใจฝึ กฝนเทคนิคเพื่อนําไปใช้ใน
การต่อสู จ้ ริ ง ไม่ถือว่าเกินจริ งหากจะพูดว่าศิษย์นอกส่ วนใหญ่ลว้ น
ใช้เวลาบนเตียงกับคู่ฝึกมากกว่าที่จะจับกระบี่ฝึกฝนจนเหงื่อไหล
ทันใดนั้นบางคนจากด้านหน้าพลันตะโกนเสี ยงดัง ทําให้ทุกคนต่าง
พากันมองไปที่เขา ชายร่ างใหญ่หวั ล้าน
“เอาละทุกคน พวกเราพร้อมที่จะเดินทางไปยังหุบเขาฟ้าคํารามแล้ว
ถ้าตัวเจ้ายังไม่พร้อมตอนนี้เจ้าก็ควรกลับบ้านไปซะ”
บางคนในกลุ่มหัวเราะกับคําพูดของชายร่ างใหญ่
“ถ้าพวกเจ้ามีคาํ ถามใด ถามได้เลยตอนนี้”
“ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ ในการเดินทางไปยังหุบเขาฟ้าคําราม” ชาย
ร่ างผอมหนังหุม้ กระดูกถือธนูในมือถาม
“ห้าวันโดยประมาณ”
“เจ้าคิดว่ามีแมวสายฟ้ามากเพียงใดที่นนั่ ให้พวกเราล่า”
“ไม่รู้วา่ พวกเรามีจาํ นวนมากน้อยเท่าไหร่ แต่พวกมันมีจาํ นวนอย่าง
ตํ่าเป็ นร้อย” ชายร่ างใหญ่ตอบ เขายังกล่าวต่ออีกว่า “ฟังนี่ นัน่ มีแมว
สายฟ้าจํานวนมากวิง่ เพ่นพ่านไปทัว่ และพวกมันล้วนยากที่จะ
เอาชนะ อย่างไรก็ตามนี่หมายความว่าที่นนั่ มีแต่ความมัง่ คัง่ ให้พวก
เราแบ่งปันกันภายหลัง”
เสี ยงคํารามข่มขวัญดุจฟ้าร้องกึกก้องพลันดังขึ้น จนเส้นผมซูหยาง
สัน่ สะเทือน
“ช่างเป็ นกลุ่มคนที่น่ารังเกียจ…” ซูหยางคิดในใจ เขามองดูกระดาษ
ในมือ “ภารกิจนี้ดูท่าจะใหญ่กว่าที่คาด..”
ซูหยางออกจากเมืองขนนกพริ้ วได้ชวั่ เวลาหนึ่งแล้ว เขาเดินมือไพล่
หลังอย่างเยือกเย็นอยูบ่ นทางกว้างเหมือนกับเดินเล่นอยูใ่ น
สวนสาธารณะ เขามองซ้ายมองขวาดื่มดํ่าอยูก่ บั ธรรมชาติ เบื้องหลัง
เขาเป็ นกลุ่มคนประมาณห้าสิ บคน พวกเขาทุกคนมองซูหยางที่เดิน
นําหน้าด้วยความรู ้สึกแปลก ๆ
“ทําไมรู ้สึกเหมือนว่าพวกเราถูกนําไปโดยเจ้าสุ นขั นัน่ ” บางคนใน
กลุ่มชนพูดเสี ยงดัง
“เจ้าต้องการพูดว่า…ทําไมเราเดินตามรอยเขาหรื อ”
“เรามิสามารถไปเร็ วกว่านี้เพราะพวกเราถูกจํากัดไว้แค่น้ ี”
“นัน่ ยอมรับมิได้ ถ้าเป็ นเช่นนี้พวกเราคงไปมิถึงที่นนั่ ภายในอาทิตย์
หน้า เฮ้ย เจ้าเด็กเลวชุดขาว หลบไปให้พน้ ทางก่อนที่พวกเราจะ
เหยียบเจ้า” ชายร่ างใหญ่ร้องตะโกนเสี ยงดังน่าสะพรึ งกลัว
เมื่อได้ยนิ เสี ยงดังเจี๊ยวจ๊าวมาจากด้านหลัง ซูหยางหันหน้ามองไปยัง
กลุ่มคน อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หยุดเดินเพียงมองกลับไปด้านหน้า
หลังจากเหลือบมองไปเพียงครั้งเดียว
การกระทําเรี ยบง่ายเปี่ ยมด้วยความทระนงของเขาทําให้หลายคนใน
กลุ่มโกรธแค้นขึ้นทันใด
“เจ้าเด็กเลว เจ้าอยากจะสู ก้ บั พวกเราทุกคนด้วยตนเองรึ ”
“หาที่ตายชัด ๆ”
ซูหยางไม่ได้สนใจที่จะหันมามองอีกเป็ นครั้งที่สองและก้าวเดิน
ต่อไปอย่างผ่อนคลาย ทุกคนในกลุ่มล้วนมีพลังการฝึ กปรื ออย่างตํ่า
อยูท่ ี่เขตปฐมวิญญาณระดับเจ็ดโดยมีบางคนอยูท่ ี่เขตคัมภีร์วญ
ิ ญาณ
ระดับต้น ๆ
คนกลุ่มใหญ่ยอ่ มแผ่แรงกดดันมากซึ่งทําให้คนขวัญอ่อนหวาดกลัว
โดยง่าย แต่ในสายตาของซูหยาง พวกเขาเป็ นเพียงแค่กลุ่มคนโง่
เสี ยงดัง
“ฮึ่ม ดูซิวา่ เจ้าจะกล้ามิสนใจอีกหรื อไม่ หลังจากที่ขา้ ฟาดขวานใส่ ”
ชายร่ างใหญ่กา้ วตรงไปยังซูหยางพร้อมขวานเหล็กใหญ่ในมือ
ในเวลานั้นเองซูหยางพลันหยุดเดินหันกายมาเผชิญหน้ากับฝูงชน
“ข้ามิหา้ มเจ้าให้แกว่งของเล่นนัน่ มาที่ขา้ แต่ให้รู้ไว้วา่ เจ้าจักมิได้กา้ ว
เท้าเข้าไปในหุบเขาฟ้าคํารามหากเจ้าทําเช่นนั้น…ตลอดไป” ซูหยาง
กล่าวเบา ๆ ด้วยนํ้าเสี ยงสงบนิ่ง ใบหน้าเรี ยบเฉยดังเช่นปกติ แต่เสี ยง
กล่าวเบา ๆ ของเขากลับดังราวกับแมลงบินอยูใ่ นหูของชายร่ างใหญ่
“เจ้าพูดอะไรกับข้า เจ้าเด็กเลว” หน้าผากชายร่ างใหญ่พลันมีเส้น
เลือดปูดโปนขึ้นมาเมื่อเขาได้ยนิ คําขู่ของซูหยาง ใบหน้าแดงด้วย
ความโกรธ
ซูหยางยิม้ และกล่าวว่า “เจ้าได้ยนิ แล้วนี่” เขาหันกายเริ่ มเดินไปอีก
ครั้ง
บทที่ 42: รถม้ าทอง
เมื่อซูหยางหมุนตัวและเดินออกไป ชายร่ างใหญ่กร็ ะเบิดความโกรธ
ออกมาด้วยดวงตาแดงกํ่า
ชายร่ างใหญ่เป็ นผูฝ้ ึ กปราณเขตคัมภีร์วญ
ิ ญาณระดับสามและไม่เคย
ถูกใครหมิ่นมาก่อน ไม่ตอ้ งพูดถึงคนจากนิกายหน้าด้านกุสุมาลย์พน้
พิสยั
“เจ้าเด็กเลว เจ้าคิดว่าเจ้าเป็ นใคร” ชายร่ างใหญ่พลันโถมเข้าหาซูหยาง
จากตรงนั้นคล้ายกับเสื อพร้อมกับขวานเหล็กที่ยกขึ้นสู งไปบนอากาศ
ขวานเหล็กเหวีย่ งลงมาใส่ ศีรษะซูหยางอย่างรวดเร็ ว อย่างไรก็ตาม
ก่อนที่ขวานจะสัมผัสกับเส้นผมของซูหยางเพียงแค่นิ้วเดียว ซูหยาง
พลันหมุนตัวอย่างรวดเร็ วและดึงกระบี่ออกจากฝักข้างเอว
ประกายแสงวาบเปี่ ยมด้วยแรงกดดันอันกราดเกรี้ ยวเต็มไปด้วยรังสี
สังหาร
เมื่อกลุ่มคนด้านหลังชายร่ างใหญ่รับรู ้ถึงรังสี สงั หาร ขาของพวกเขา
พลันหยุดก้าวร่ างกายพลันสัน่ สะท้านราวกับต้องลมหนาว แม้วา่ แรง
กดดันจะมีอยูเ่ พียงแค่เสี้ ยววินาทีก่อนที่จะหายไป มันก็พอเพียงที่จะ
ทําให้ทุกคนที่นนั่ รวมถึงม้าลากรถหยุดการเคลื่อนไหว
ในเวลานั้นหลังจากรังสี สงั หารหายไปแล้วชายร่ างใหญ่ที่หยุดชะงัก
กลางอากาศพลันเคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาเริ่ มล้มลงด้านหลังราวกับรู ป
ปั้นหิ น
ร่ างกายล้มลงอย่างช้า ๆ ทําให้ดูเหมือนกับว่ามันใช้เวลาชัว่ กัลป์
ท่ามกลางสายตาของทุกคน สุ ดท้ายเมื่อร่ างสัมผัสกับพื้นทุกคนที่นนั่
พลันแตกตื่นเมื่อพบว่าศีรษะของชายร่ างใหญ่หายไปจากร่ างของเขา
บางคนในกลุ่มพลันมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเมื่อพวกเขาพบว่ามีเงา
หมุนเหวีย่ งอยูใ่ นอากาศ เมื่อสังเกตเห็นว่ามันคือศีรษะของชายร่ าง
ใหญ่ที่หมุนติ้วอยูก่ ลางอากาศพวกเขาพลันกรี ดร้องด้วยความ
สยดสยอง ยิง่ กว่านั้นศีรษะกลางอากาศยังมีอาการโกรธเกรี้ ยวของ
ชายร่ างใหญ่ก่อนจะตาย
ซูหยางเก็บกระบี่คืนฝักในเวลาเดียวกับที่ศีรษะชายร่ างใหญ่ตกลงมา
สัมผัสพื้น เขามองไปยังกลุ่มคนที่สบั สนอย่างเยือกเย็นพร้อมรอยยิม้
สดใส กล่าวว่า “ในเมื่อพวกเราล้วนไปที่เดียวกันด้วยเจตนา
เหมือนกัน ทําไมเรามิหยุดทําอะไรโง่เขลาเช่นนี้ก่อนที่ขา้ จักปูถนน
ด้วยซากศพ ถึงแม้ขา้ จะมิรังเกียจถ้าได้อุ่นร่ างกายก่อนที่จะเริ่ มล่าที่
หุบเขาฟ้าคํารามก็ตาม…”
ฝูงชนพากันพยักหน้ากับคําแนะนําของเขาขณะพยายามกลืนนํ้าลาย
อย่างยากลําบาก พวกเขาไม่เคยเจอใครที่น่ากลัวเหมือนชายหนุ่มจาก
นิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั คนนี้มาก่อน ทุกคนต่างรู ้สึกเหมือนกับว่า
ตัวเองกําลังยืนอยูต่ ่อหน้าปี ศาจ
“เยีย่ ม” ซูหยางพยักหน้า “เช่นนั้นพวกเรามาทําให้การเดินทางนี้คุม้
กับเวลาที่เสี ยไป…” เขาหันกายและเริ่ มเดินอีกครั้ง
เงาร่ างซูหยางหายไปจากคลองจักษุของกลุ่มคนอย่างรวดเร็ ว เมื่อ
พวกเขายืนยันชัดเจนว่าซูหยางจากไปแน่นอนแล้ว กลุ่มคนต่างพา
กันนัง่ ก้นจํ้าเบ้าร่ างกายเต็มไปด้วยเหงื่อ
“น..นัน่ ใครหรื อนัน่ ข้ามิเคยได้ยนิ ว่ามีคนน่ากลัวเช่นนี้อยูใ่ นนิกาย
กุสุมาลย์พน้ พิสยั มาก่อน”
“ใครเป็ นคนพูดวะ ว่าเขาเป็ นเพียงแค่ศิษย์นอก นี่มนั แข็งแกร่ งมาก
พอที่จะเป็ นศิษย์ในของนิกายข้าได้เลย…ไม่ แม้ศิษย์หลักก็ยงั เป็ นได้”
กลุ่มคนพากันเดินทางต่อโดยไม่ชกั ช้าแม้วา่ หัวหน้ากลุ่มจะตกตาย
ไปอย่างกะทันหัน ใช่วา่ พวกเขาจะกลับบ้านได้เมื่อมาถึงที่นี่ อีกทั้ง
ยังมีความรํ่ารวยที่พวกเขาจะได้รับจากการล่าแมวสายฟ้ารออยู่
นี่เป็ นโลกที่ผแู ้ ข็งแกร่ งกลืนกินผูอ้ ่อนแอ มันไม่ถือเป็ นเรื่ องผิดปกติ
ถ้าผูท้ รงพลังเช่นชายร่ างใหญ่จะตายลงจากความพ่ายแพ้เพราะว่า
ต้องมีคนที่แข็งแกร่ งกว่าเสมอ
เวลาผ่านไปสี่ วนั อย่างรวดเร็ ว
ซูหยางใช้เวลาเดินทางมาสี่ วนั แล้วโดยไม่ได้พกั แต่เขาก็ยงั สบายดี
เต็มเปี่ ยมไปด้วยพละกําลัง
“หื ม” เขาพลันสังเกตเห็นรถม้าที่ดูแพงจากระยะทางไกล มันถูก
ห้อมล้อมไปด้วยชายในชุดเกราะขี่มา้
รถม้าทั้งคันจัดสร้างจากทองและหยกราคาแพงแผ่รัศมีอนั ประณี ต
สวยงามเหมือนกับเป็ นวัตถุของชนชั้นสู ง บนรถม้ามีชายชราในชุด
เทานัง่ ขัดสมาธิอยูเ่ หมือนกําลังฝึ กวิชา
แม้วา่ ซูหยางจะไม่สามารถตรวจสอบพลังการฝึ กปรื อของชายชรา
แต่เขาสามารถคาดเดาได้จากประสบการณ์โดยตรง
“เขตอัมพรวิญญาณ…อะไรที่ทาํ ให้คนที่มีระดับเช่นเขาต้องมาแถวนี้
นัง่ อยูบ่ นรถม้าเหมือนเป็ นผูค้ ุม้ กัน” เขาประหลาดใจ
แล้วคนที่อยูข่ า้ งในรถม้าล่ะ ใครจะมีสถานะสู งพอที่จะทําให้
ผูเ้ ชี่ยวชาญเขตอัมพรวิญญาณมาทําหน้าที่คุม้ ครองในโลกมนุษย์น้ ี
เมื่อพวกเขาล้วนถือว่าเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสู งสุ ด
ซูหยางรู ้สึกทึ่งกับรถม้าสี ทองและการคุม้ กันที่แน่นหนา แต่เขาไม่ใช่
คนที่สนใจเรื่ องคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง เขาจึงเพิกเฉยและเดิน
ตามไปด้านหลังอย่างเงียบ ๆ
หลังจากนั้นสักพัก ผูค้ ุม้ กันก็สงั เกตเห็นซูหยางติดตามพวกตน
“ผูอ้ าวุโส พวกเราควรทําอะไรกับเด็กน้อยนี้หรื อไม่ เขาตามพวกเรา
มาพักใหญ่แล้ว” หนึ่งในกลุ่มผูค้ ุม้ กันโดยรอบกล่าว
ผูช้ ราค่อยเปิ ดตาหันไปมองซูหยาง อย่างไรก็ตามเมื่อเขาพยายาม
ตรวจสอบซูหยาง ชายชราพลันประหลาดใจที่พบว่าเขาไม่สามารถ
ตรวจสอบพลังการฝึ กฝนของอีกฝ่ ายได้ รู ้สึกเหมือนเขากําลังมองไป
ยังกลุ่มหมอกควันรู ปมนุษย์ อย่างไรก็ตามแม้วา่ ซูหยางจะมีตวั ตนที่
ลึกลับ แต่ชายชราก็ไม่พบความรู ้สึกคุกคามหรื อความมุ่งร้ายใดจาก
ซูหยาง
“ไม่ตอ้ งสนใจเขา…” เขาพูดหลังจากนั้นชัว่ ครู่
บรรดาผูค้ ุม้ กันพากันพยักหน้าและไม่คิดที่จะเข้าหาซูหยางอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงให้ความสนใจกับเขาอยูเ่ ผือ่ ว่าเขาจะมี
ท่าทางน่าสงสัยใด
“ช่างเป็ นชายหนุ่มที่น่าสนใจ…” ชายชรายิม้ ให้ตนเองก่อนจะ
หลับตาลงไปอีกครั้ง
บทที่ 43 ร่ างเงา
หลังจากที่เดินไปอีกสองสามชัว่ โมงโดยปราศจากอุปสรรค รถม้า
ทองพลันหยุดยั้งลง ผูค้ ุม้ กันหรี่ ตามองร่ างเงาที่อยูต่ รงหน้า กระทัง่
ชายชราเองยังลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ
มองเห็นเหตุการณ์ที่แปรเปลี่ยนกลับกลาย ซูหยางก็พลันหยุดลง
เช่นกัน ร่ างเงาคลุมทั้งร่ างด้วยผ้าคลุมสี ดาํ มีเพียงลูกตาดําทั้งสองที่
โผล่ให้เห็นดูคล้ายนักฆ่า อย่างไรก็ตามนักฆ่าย่อมไม่แสดงตัวตนให้
เห็นเปิ ดเผยชัดเจนอย่างนี้
“นี่เป็ นเรื่ องตลกอันใดรึ ” ชายชราเปิ ดปากถามร่ างเงา “ดาบแสงจันทร์
ิ ญาณมาคนเดียวโดยมิคาํ นึงถึงการคงอยูข่ องข้า”
ส่ งเจ้าที่เป็ นเขตปฐพีวญ
ร่ างเงาหัวเราะหึ และพูดด้วยเสี ยงแหบโหย “ข้ามาที่นี่เพียงส่ งสารถึง
หญิงสาวด้านในรถม้าตามพระประสงค์ขององค์ราชันย์”
“ถ้าเจ้ามิเชื่อฟังยอมมอบร่ างร้อยพิษมิกรายในเวลาจันทร์เต็มดวงครา
หน้า พวกข้ามิมีทางเลือกจักแย่งชิงโดยใช้กาํ ลัง” ร่ างเงาพูด
เมื่อบรรดาทหารบนหลังม้าได้ยนิ ข้อมูล ต่างพากันตาแดงกํ่าด้วย
ความโกรธแค้น
“ช่างโฉดเขลานัก เจ้าลืมไปแล้วรึ วา่ พวกข้าเป็ นใคร แม้วา่ ดาบแสง
จันทร์โจมตีพวกข้าอย่างเต็มกําลัง พวกเจ้ามิมีโอกาสแม้กระทัง่ จะ
ผ่านประตูหน้า” ผูค้ ุม้ กันคนหนึ่งตะโกนก้อง
“เจ้ากล้าข่มขู่นายหญิงน้อยได้อย่างไร มันเพียงขึ้นกับเวลาก่อนที่
พวกข้าจะค้นพบรังพวกเจ้าและลบมันออกไป” ผูค้ ุม้ กันอีกคนกล่าว
“ฮาฮาฮา” ร่ างเงาระเบิดเสี ยงหัวเราะ “แน่นอน ถ้าพวกข้าสู พ้ วกเจ้า
อย่างตรงไปตรงมา ดาบแสงจันทร์ของพวกข้าคงมิมีโอกาส แต่วา่
เจ้าคิดว่าพวกข้าเป็ นใคร เจ้าควรรู ้ดีกว่าใครว่าพวกข้ามิเคยสู ซ้ ่ ึงหน้า”
ซูหยางฟังการพูดตอบโต้ระหว่างสองฝ่ ายอย่างเงียบ ๆ ทั้งสองฝ่ ายดู
เหมือนมีเบื้องหลังลึกลํ้าไม่นอ้ ย แม้วา่ เขาจะไม่เคยได้ยนิ ดาบแสง
จันทร์มาก่อน แต่กด็ ูเหมือนพวกเขาจะเป็ นองค์กรที่อาศัยอยูใ่ นเงามืด
“ร่ างร้อยพิษมิกราย หื อ..” ซูหยางพึมพําชื่อนั้น
“นัน่ คือทั้งหมดที่เจ้าต้องการพูดรึ ” ชายชราผูท้ ี่นิ่งเงียบอยูต่ ลอดเวลา
กล่าวขึ้น “ถ้ามีเพียงเท่านั้น นัน่ ก็ควรถึงเวลาตายแล้ว…”
ชายชราพลันดึงเอาพัดกระดาษออกมาจากภายในเสื้ อและพัดอย่าง
นุ่มนวลไปทางร่ างเงา
รอยคลื่นทรงพลังปรากฏขึ้นจากพัดกระดาษทันทีที่ชายชราโบกพุง่
ตรงไปยังร่ างเงา แต่วา่ ก่อนที่รอยคลื่นจะสัมผัสร่ างเขา ร่ างเงาพลัน
หายไปจากตําแหน่งที่ยนื อยูร่ าวกับภูติผี ตําแหน่งที่เขาเคยอยูร่ ะเบิด
ออกต่อจากนั้น
ชายชราพลันหันกายไปมองดูซูหยางและตะโกน “ระวัง”
“ข้ารู ้วา่ จักตายวันนี้ ข้าจึงมีแผนจะลากเอาผูค้ ุม้ กันของเจ้าไปด้วยสัก
หลายคนก่อนตาย อย่างไรก็ตามหน้าเจ้าเด็กนี่ช่างกวนใจข้ายามมอง
ดังนั้นให้ถือว่าเป็ นเกียรติที่ขา้ จักเอาชีวติ ของเจ้านี่แทน”
ร่ างเงาพลันปรากฏกายเบื้องหลังซูหยางพร้อมมีดสั้นสี ดาํ ในมือ
ยกขึ้นพร้อมโจมตี
อย่างไรก็ตามช่างโชคร้ายสําหรับร่ างเงา ซูหยางจับด้ามดาบข้างเอว
ไว้พร้อมแล้วก่อนที่ร่างเงาจะหายไปเสี ยอีก
ประกายลึกลํ้าดุร้ายแวบผ่านภายในดวงตาซูหยาง และสํานึกกระบี่
อันไพศาลระเบิดออกจากร่ างของเขา เป็ นเหตุให้ร่างเงาชะงักค้าง
ในทันทีจากแรงกดดันที่เกิดขึ้นกะทันหัน
ทันทีที่ร่างเงาชะงักค้างด้วยความตกใจ ซูหยางพลิกร่ างอย่าง
คล่องแคล่วและดึงดาบออกจากฝักส่ งคลื่นพลังอันรุ นแรงของสํานึก
กระบี่ไปยังร่ างเงา
ร่ างเงาไม่ทนั แม้จะกรี ดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่สาํ นึกกระบี่ผา่
ร่ างเป็ นสองซี กอย่างง่ายดายราวกับตัดผ่านแผ่นกระดาษ
หลังจากผ่าร่ างเงาเป็ นสองซีกซูหยางแค่นเสี ยงเย็นชาให้กบั ซากร่ าง
บนพื้น “เจ้าคิดหรื อว่าข้ามิสงั เกตเห็นสายตาน่ารังเกียจของเจ้าที่จอ้ ง
มาที่ขา้ นี่มิใช่ครั้งแรกที่เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น”
“…”
บรรดาคนคุม้ กับและชายชรามองดูซูหยางเก็บดาบเข้าฝักด้วยความ
ตื่นตกใจ มันเกิดอะไรขึ้น เพียงชัว่ ขณะที่ร่างเงาหายไปจากคลอง
จักษุของพวกเขาและจากนั้นก็กลายเป็ นศพที่ถูกตัดขาดเป็ นสองซี ก
อย่างหมดจด นอนตายอยูข่ า้ งเด็กหนุ่มผูท้ ี่ตามมาอย่างน่าสงสัย
“สํานึกกระบี่” เมื่อบรรดาผูค้ ุม้ กันฟื้ นคืนสติจากความประหลาดใจ
พวกเขาพลันระลึกได้วา่ นัน่ คือสํานึกกระบี่ที่เด็กหนุ่มใช้ฆ่าร่ างเงา
“ช่างเป็ นสํานึกกระบี่ที่น่ากลัว” แม้กระทัง่ ชายชราเขตอัมพรวิญญาณ
ยังตกใจกับพลังทําลายและแรงกดดันที่แสดงให้เห็นจากสํานึกกระบี่
มันเป็ นบางอย่างที่แม้กระทัง่ ผูเ้ ชี่ยวชาญเขตอัมพรวิญญาณอย่างเขา
ไม่สามารถเลียนแบบ
ชายชรากระโดดออกจากรถม้าตรงเข้าไปหาซูหยาง “หนุ่มน้อย เจ้า
ชื่ออะไรรึ ” เขาถาม
“เซียวหยาง”
“เจ้าคงมิรังเกียจหากข้าจะถามว่าเจ้าอายุเท่าไร”
ซูหยางมิได้ตอบคําถามในทันใดและมองชายชราอย่างเงียบ ๆ แทน
คล้ายกับกําลังครุ่ นคิด
เมื่อชายชราเห็นท่าทางนิ่งเฉยของซูหยาง เขายิม้ และกล่าวว่า “ข้าสุ ด
ประทับใจกับสํานึกกระบี่ของเจ้า แต่หน้าตาของเจ้าทําให้ขา้ ยากที่จะ
มองเจ้าเป็ นคนรุ่ นใกล้เคียงกัน”
“อายุของข้าเกี่ยวข้องอะไรด้วยรึ สิ่ งที่สาํ คัญในการต่อสู ก้ ค็ ือความ
แข็งแกร่ งและปฏิภาณ นอกเหนือจากนั้นล้วนไม่เกี่ยวข้อง”
คําพูดซูหยางทําให้ชายชราไร้คาํ พูด
“ผูอ้ าวุโสจง…ทางนั้นเรี ยบร้อยดีหรื อไม่” เสี ยงหวานแว่วของหญิง
ภายในรถม้าทองดังออกมาทําให้ชายชราหันกายกลับไป
“นายหญิงน้อย ภัยคุกคามไม่มีแล้ว” ชายชราชื่อผูอ้ าวุโสจงกล่าว
“เช่นนั้นพวกเราก็เดินทางต่อกันเถอะ พวกเรามิมีเวลาที่นี่มากนัก..”
ผูอ้ าวุโสจงมองดูซูหยางด้วยรอยยิม้ ขื่นขม “แม้วา่ ข้าต้องการพูดกับ
เจ้ามากกว่านี้เรื่ องสํานึกกระบี่ แต่พวกเรากําลังเร่ งรี บ ข้าเรี ยกว่าผู ้
อาวุโสจงจากอารามกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์ ถ้าเจ้ามีโอกาสไปเยีย่ ม เจ้า
สามารถแสดงสิ่ งนี้ให้ใครก็ได้ที่นนั่ และพวกเขาจักพาเจ้าไปหาข้า”
ผูอ้ าวุโสจงยืน่ ป้ายหยกสี เหลืองให้กบั ซูหยาง
“ถ้าข้ามีโอกาส…” ซูหยางรับป้ายหยกโดยไม่ใส่ ใจ
เมื่อซูหยางไม่แสดงท่าทีใดหลังจากที่เขาพูดถึงอารามกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์
ผูอ้ าวุโสจงค่อนข้างประหลาดใจ นี่เป็ นความเขลาหรื อว่าชื่อ “อาราม
กระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์” ไม่มีน้ าํ หนักพอที่จะทําให้เขาสนใจได้
ผูอ้ าวุโสจงยิง่ เกิดความสนใจในเบื้องหลังของซูหยาง แต่อนิจจา เขา
ไม่มีเวลาที่จะอยูแ่ ถวนี้เพื่อที่จะทําความรู ้จกั ซูหยางให้มากกว่านี้
หลังจากพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย ผูอ้ าวุโสจงกลับไปที่รถม้าและเริ่ ม
ออกเดินทางอีกครั้ง
บทที่ 44: ร่ างสวรรค์
ภายในรถม้าผูอ้ าวุโสจงนัง่ อยูเ่ บื้องหน้าร่ างหญิงคนหนึ่ง ใบหน้าเธอ
ปิ ดด้วยผ้าคลุมหน้า
“ดาบแสงจันทร์ช่างเป็ นปัญหามิจบสิ้ นจริ ง ๆ …” ร่ างในผ้าคลุม
หน้าถอนหายใจ
เสี ยงถอนหายใจเปี่ ยมไปด้วยความรู ้สึก จนผูอ้ าวุโสจงสามารถรู ้สึก
ได้ถึงความเหนื่อยใจของเธอ
“ท่านหญิงน้อยมิตอ้ งกังวล เราจักต้องค้นพบที่ซ่อนเร็ ว ๆ นี้และล้าง
บางมันออกไปจากโลก” ผูอ้ าวุโสจงกล่าว
เสี ยงของเขาชัดเจนเปี่ ยมไปด้วยความมัน่ ใจแต่สายตาเขากลับมืด
หม่น ดาบแสงจันทร์สามารถเรี ยกได้วา่ เป็ นองค์กรที่ลึกลับและ
อันตรายที่สุดเท่าที่ปรากฏอยูบ่ นโลก พวกเขายังซุกซ่อนตัวอย่างดี
แม้กระทัง่ ปฏิบตั ิการค้นหาเต็มรู ปอีกสักร้อยปี ก็ยงั ไม่มีใครที่จะหา
สํานักใหญ่ของพวกเขาพบ พบได้แต่เพียงสาขาย่อย
“ข้ามัน่ ใจว่าท่านทําได้…” คํากล่าวของหญิงสาวในผ้าคลุมหน้า เธอ
ยังกล่าวต่อ “ขอบคุณผูอ้ าวุโสจง”
“ข้ามิได้ทาํ อะไรที่สมควรได้รับคําชมจากท่าน…” เขาส่ ายศีรษะ
ปฏิเสธคําขอบคุณ
“แต่ท่านเพิ่งปกป้องข้าเมื่อตะกี้”
ผูอ้ าวุโสจงหัวเราะหึ ๆ เล็กน้อยและกล่าวว่า “เป็ นปกติที่ขา้ ต้อง
ปกป้องท่านหญิงน้อย แต่วา่ ข้ายังมิได้ทาํ อะไรเลยจนถึงตอนนี้ ผูท้ ี่
จัดการกับนักฆ่าเป็ นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง”
“ชายหนุ่มรึ ”
หญิงสาวฟังดูน่าทึ่ง ผูอ้ าวุโสจงเริ่ มเล่าให้เธอฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
“นักฆ่ามาที่นี่เพื่อส่ งข่าวและรู ้ตวั ว่าสุ ดท้ายตนเองต้องตาย และเจ้า
นัน่ มีเจตนาที่จะสร้างความเสี ยหายให้กบั เรา แต่ในวินาทีสุดท้ายเจ้า
นัน่ ตัดสิ นใจซุ่มโจมตีชายหนุ่มคนนี้แทน”
“เหตุใดเขาจึงถูกโจมตี เขาสบายดีอยูไ่ หม”
เมื่อผูอ้ าวุโสจงสิ่ งที่นกั ฆ่ากล่าว เขาได้แต่ยมิ้ ฝื ดฝื นอย่างอดไม่ได้
“เพราะว่าใบหน้าเขาน่ารําคาญ…”
หญิงสาวปิ ดปากเพราะความประหลาดใจหลังจากได้ยนิ คําพูดของ
เขา ผูช้ มถูกโจมตีแค่เหตุผลที่เขามีใบหน้าที่น่ารําคาญ นี่เป็ นเรื่ องราว
แบบไหนกัน
“ส่ วนที่วา่ เขายังดีอยูไ่ หมนั้น… มิเพียงแต่เขาหลบหลีกโดยปราศจาก
อันตราย แต่เขายังพลิกสถานการณ์และฆ่านักฆ่าด้วยสํานึกกระบี่”
“สํานึกกระบี่รึ สํานึกกระบี่ที่น่าหวาดหวัน่ ที่ขา้ รู ้สึกได้เมื่อกี้มิได้มา
จากผูอ้ าวุโสจงหรอกรึ ” เธอถามด้วยนํ้าเสี ยงงุนงง
ผูอ้ าวุโสจงส่ ายศีรษะด้วยความเสี ยใจและกล่าวว่า “ข้ามิสามารถ
ปลดปล่อยสํานึกกระบี่อนั ทรงพลังเช่นนั้นได้ ต่อให้พยายามสักกี่ครั้ง”
หญิงสาวในขณะนี้ตกใจอย่างแท้จริ ง เธอรู ้จกั ความสามารถของผู ้
อาวุโสจงเป็ นอย่างดี และความสามารถของเขาถือได้วา่ เป็ นสุ ดยอด
นักกระบี่ในหมู่ผเู ้ ชี่ยวชาญกระบี่ แต่ที่ถึงกับทําให้เขาพูดด้วยนํ้าเสี ยง
ท้อแท้ต่าํ ต้อยเมื่อพูดถึงตนเองนั้น เธอเพิ่งเคยเห็นเป็ นครั้งแรก
“ชายหนุ่มคนนี้ เขาเป็ นใคร”
“ข้ามิรู้จกั เบื้องหลังของเขา นอกจากชื่อ เซี ยวหยาง แม้วา่ เขาจะดู
เหมือนเด็กวัยรุ่ น แต่การกระทําของเขากลับไม่ใช่ ถ้าให้ขา้ เดา เขาคง
เป็ นปรมาจารย์กระบี่ปลอมตัวมา”
“เซียวหยาง…เขายังอยูท่ ี่นี่หรื อไม่ ทําไมท่านไม่เชิญเขาเข้ามาคุยข้าง
ใน”
คํากล่าวของหญิงสาวสร้างความแปลกใจให้กบั ผูอ้ าวุโสจง “แต่เรามิ
รู ้จกั เบื้องหลังของเขา แม้วา่ ข้ามิรู้สึกถึงภัยคุกคามจากเขา ข้ามิคิดว่า
มันจะเป็ นความคิดที่ดีที่จะให้เขาเข้าใกล้ท่านหญิงน้อย”
“ข้าสนใจในตัวนักกระบี่ที่กระทัง่ ผูอ้ าวุโสจงผูเ้ ยีย่ มยอดไม่สามารถ
เปรี ยบได้คนนี้ และเมื่อเขาแข็งแกร่ งมากจนสามารถฆ่าคนของดาบ
แสงจันทร์ได้ ข้าอยากให้เกิดความสัมพันธ์แม้เพียงสักเล็กน้อย
ระหว่างพวกเรา”
“…” หลังจากนิ่งเงียบไปชัว่ ครู่ ผูอ้ าวุโสจงพยักหน้าและออกไปจาก
รถม้า
ภายนอกรถม้าซูหยางยังคงพยายามนึกถึงชื่อ “ร่ างร้อยพิษมิกราย” ที่
นักฆ่ากล่าวถึง
“อา.. ข้าจําได้แล้ว มันคือร่ างสวรรค์ระดับกษัตริ ย ์ ผูใ้ ดที่มีร่างร้อย
พิษมิกรายจะมีภูมิคุม้ กันพิษทุกอย่างในระดับของคนทัว่ ไป” สุ ดท้าย
ซูหยางก็สามารถนึกขึ้นได้วา่ ชื่อนี้ฟังดูคุน้ เคย
ร่ างสวรรค์คือร่ างกายพิเศษที่ให้ความสามารถพิเศษเฉพาะกับคนผู ้
นั้นบางครั้งถึงขั้นท้าทายสวรรค์ ดังเช่นร่ างร้อยพิษมิกรายที่ให้คนผู ้
นั้นมีภูมิคุม้ กันพิษทุกอย่างและยังสามารถฝึ กฝนมันได้ดว้ ย
ผูท้ ี่มีร่างสวรรค์ลว้ นถือว่าเป็ นอัจฉริ ยะที่สวรรค์ประทาน และปกติ
จะฝึ กฝนกันตั้งแต่อายุยงั น้อยด้วยทรัพยากรลํ้าค่าและยามหัศจรรย์
ทุกอย่าง
ร่ างสวรรค์กเ็ หมือนวิชาหรื ออาวุธ จะมีแบ่งเป็ นระดับตามความหา
ยากและความสามารถ ยกตัวอย่างร่ างร้อยพิษมิกรายจะถือเป็ นระดับ
กษัตริ ย ์ ซึ่ งเป็ นระดับตํ่าสุ ดในบรรดาร่ างสวรรค์ ซึ่งที่เหนือกว่าก็คือ
ร่ างพันพิษมิกรายซึ่งคือเป็ นร่ างสวรรค์ระดับจักรพรรดิ
“ร่ างสวรรค์ระดับกษัตริ ย ์ ฮึ..” ซูหยางหรี่ ตามองไปที่รถม้า
พลันผูอ้ าวุโสจงก็ออกมาจากรถม้าตรงเข้ามาหาซูหยาง
“เจ้าหนุ่ม ท่านหญิงน้อยขอเชิญเจ้าเข้าไปในรถม้าเพื่อพูดคุยกันสัก
เล็กน้อย เธอต้องการขอบคุณเจ้าด้วยตัวเองสําหรับการจัดการกับนัก
ฆ่า” ผูอ้ าวุโสจงพูดกับเขาด้วยนํ้าเสี ยงที่แตกต่างไปจากก่อนหน้านั้น
ซูหยางมองไปที่ผอู ้ าวุโสจงที่ทาํ หน้าเครี ยดและมองไปที่รถม้าอย่าง
รวดเร็ วอีกครั้ง
“ดีเหมือนกัน” เขาตอบรับคําเชิญ
เมื่อบรรดาผูค้ ุม้ กันสังเกตเห็นซูหยางเดินตามผูอ้ าวุโสจงเข้าไปในรถ
ม้า พวกเขาต่างกรามอ้าค้างด้วยความตกใจ ผูอ้ าวุโสจงยอมให้คน
แปลกหน้าเข้าไปในรถม้าได้อย่างไรในขณะที่ท่านหญิงน้อยยังอยู่
ภายใน
อย่างไรก็ตามแม้วา่ พวกเขาต้องการต่อว่าต่อขานและกันซูหยางออก
แต่กไ็ ม่มีใครกล้าเปิ ดปากเมื่อพวกเขานึกถึงอํานาจที่ซูหยางสําแดง
ออก ยิง่ ไปกว่านั้นผูอ้ าวุโสจงก็ยงั อยูเ่ คียงข้างเขา
เมื่อซูหยางเข้าไปในรถม้า เขาก็พบกับร่ างงามที่สวมเสื้ อคลุมสี แดง
นัง่ อยูด่ า้ นหนึ่งของรถม้า แม้วา่ เขาจะไม่สามารถเห็นใบหน้าเธอ แต่
ด้วยประสบการณ์ที่มากล้นของเขาบอกอย่างชัดเจนว่าเธอเป็ นคน
สวยมากคนหนึ่ง
ในทางกลับกันเมื่อหญิงสาวแรกพบใบหน้าหล่อเหลาของซูหยาง
เธอประหลาดใจอย่างมากกับรู ปร่ างหน้าตาของเขา กระทัง่ ถึงขั้น
หลงใหล
เมื่อผูอ้ าวุโสจงพูดเกี่ยวกับซูหยาง เขาไม่ได้พดู ถึงซูหยางว่าเป็ นคน
หนุ่มที่หล่อเหลาอะไรเช่นนี้ ซึ่งทําให้หญิงสาวถึงกับตะลึงงันไป
ชัว่ ขณะเมื่อเธอเห็นเขาเพราะว่าเธอไม่คาดคิดว่าจะมีใครที่หล่อเหลา
ได้ขนาดนี้
ซูหยางนัง่ อยูด่ า้ นตรงข้ามของรถม้าเคียงข้างผูอ้ าวุโสจง ด้วยใบหน้า
เฉยเมยดูไม่สะทกสะท้าน
“ท่านคงเป็ นนักกระบี่ผยู ้ งิ่ ใหญ่ เซียวหยาง ข้านามสกุลซี ซีซิงฟาง
ข้าได้ยนิ เรื่ องท่านจากผูอ้ าวุโสจง และข้าต้องการขอบคุณท่านด้วย
ตนเองที่จดั การนักฆ่าจากดาบแสงจันทร์นนั่ ” หญิงสาวกล่าวขณะยืน่
มือเรี ยวงามออกเพือ่ จับมือต้อนรับ
ซูหยางหัวเราะในใจเมื่อเธอเรี ยกเขาว่านักกระบี่ “เจ้ามิตอ้ งขอบคุณ
ข้าหรอก ข้าทําเช่นนั้นก็เพียงเพื่อปกป้องตัวข้า” เขากล่าวขณะจับมือ
เธอซึ่งทั้งนุ่มและนวลเนียน
“?!” ผูอ้ าวุโสจงแตกตื่นอยูใ่ นใจเมื่อเขาเห็นซีซิงฟางยืน่ มือเธอออกไป
เพื่อขอจับมือ ซึ่งเป็ นอะไรที่นึกไม่ถึงสําหรับคนที่มีสถานะเช่นเธอ
เขาต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่อนิจจาซูหยางเคลื่อนไหวได้รวดเร็ ว
ทําให้เขาสามารถจับมือเธอได้ก่อนที่ผอู ้ าวุโสจงจะทันได้เปิ ดปาก
บทที่ 45: ร่ างร้ อยพิษมิกราย
ซีซิงฟางมองดูการจับมือของตนเองด้วยความรู ้สึกงุนงง เธอไม่รู้วา่
ทําไมตนเองจึงสมัครใจที่จะยืน่ มือออกไปขอจับมือ เหมือนกับว่า
ร่ างของเธอขยับไปเองโดยไม่ได้คิด
“เป็ นครั้งแรกที่ขา้ สัมผัสผิวของชายที่ไม่ใช่คนในตระกูล…” เธอคิด
ในใจขณะที่รู้สึกถึงความอบอุ่นจากมือของซูหยางที่จบั มือเธออยู่
อย่างสุ ภาพ
บางทีอาจเป็ นเพราะเสน่ห์และรู ปกายของซูหยาง แต่ซีซิงฟางไม่รู้วา่
ทําไมเธอจึงยืน่ มือไปหาเขา แม้กระทัง่ ผูอ้ าวุโสจงยังประหลาดใจที่
เห็นท่านหญิงน้อยที่มีนิสยั ปลีกตัวห่างจากคนอื่นเต็มใจเสนอผิวกาย
เธอให้ผอู ้ ื่นได้สมั ผัส
“อืมมม…มือข้า…” ซูหยางพูดหลังจากนั้นสักพักเมื่อซี ซิงฟางไม่ได้
ปล่อยมือ
“อา ข้าช่างไร้มารยาท ข้าขออภัยที่ทาํ เช่นนี้..” ซีซิงฟางรี บดึงมือเธอ
กลับด้วยใบหน้าแดง เมื่อเธอพบว่าเธอจับมือเขาได้สกั พักหนึ่งแล้ว
การกระทําของเธอเป็ นเหตุให้ผอู ้ าวุโสจงเบิกตากว้างจากความตกใจ
นี่โลกกลับตาลปัตรไปแล้วรึ มารยาทอันสง่างามของเธออยูท่ ี่ไหน
ราวกับมันหายไปทันทีที่เธอเห็นซูหยาง
“อะแฮ่ม” ซีซิงฟางกระแอมไอ
“พี่ชายเซียว ท่านคงมิรังเกียจหากข้าจะถามว่าท่านมาจากไหน” เธอ
พลันถาม
โดยไม่สนใจวิธีที่เธอเรี ยกเขาอย่างสนิทสนม ซูหยางชูแขนขึ้นไป
อย่างสบายเพื่อแสดงให้เห็นลายปักดอกตูมบนแขนเสื้ อ
“ข้ามาจากนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ” เขากล่าว
“นิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั …” ซีซิงฟางแสดงท่าทางสับสนภายใต้ผา้
คลุมหน้า เธอไม่เคยได้ยนิ สถานที่เช่นนี้มาก่อน
กระทัง่ ผูอ้ าวุโสจงยังแสดงสี หน้าสงสัย แม้เขาเองก็ยงั ไม่เคยได้ยนิ
สถานที่เช่นนี้ อย่างไรก็ตามในเมื่อพวกเขามีจอมกระบี่ที่ลึกลํ้าเช่นนี้
ภายในกลุ่ม เหตุใดเขาจึงไม่เคยได้ยนิ ชื่อพวกเขามาก่อน
“พวกเรามิได้มาจากพื้นที่น้ ี ดังนั้นข้าจึงมิรู้จกั สถานที่เช่นนั้น…ช่าง
น่าเสี ยดาย…” ซีซิงฟางกล่าวด้วยนํ้าเสี ยงเสี ยใจ “อย่างไรก็ตามพวก
เขามีคนที่เก่งกาจเช่นท่าน นัน่ คงเป็ นสถานที่พิเศษแน่นอน”
ซูหยางยิม้ และส่ ายหน้า “มันมิได้น่าประทับใจดังที่เจ้าคิด จริ งแล้ว
ถ้าข้าสามารถจากไปได้ ข้าก็คงมิอยูต่ ่อ”
ผูอ้ าวุโสจงดวงตาลุกโชนสว่างไสวเมื่อเขาได้ยนิ คํากล่าวของซูหยาง
เขากล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นมาเข้าร่ วมกับนิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์เป็ นอย่างไร
พวกเรายินดีเป็ นอย่างยิง่ ที่อจั ฉริ ยะจอมกระบี่เช่นท่านเข้าร่ วมกลุ่ม
กับพวกเรา ข้ามัน่ ใจว่าบรรดาศิษย์ที่นนั่ ต้องยินดีที่มีผเู ้ ชี่ยวชาญคน
ใหม่มาสอนพวกเขาเกี่ยวกับสํานึกกระบี่”
“ข้าซาบซึ้งกับข้อเสนอ แต่นนั่ ยังมีบางสิ่ งที่ขา้ ต้องทําที่นนั่ ถ้าข้าเสร็ จ
ธุระที่นนั่ บางทีขา้ จะเดินทางไปยังนิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์” ซูหยางปฏิเสธ
ข้อเสนอของเขาอย่างสุ ภาพโดยมิได้ปฏิเสธอย่างไร้เยือ่ ใยโดยสิ้ นเชิง
ผูอ้ าวุโสจงค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อพบว่ามีบางคนปฏิเสธ
นิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ ว นี่ถือเป็ นครั้งแรกแม้กระทัง่
สําหรับเขาเลยทีเดียว หรื อว่านิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ลํ้าลึกสมชื่อ
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หมดกําลังใจเสี ยทีเดียวเพราะซูหยางไม่ได้
ปฏิเสธโดยสิ้ นเชิงกับข้อเสนอของเขา กระทัง่ ยังบอกว่าเขาอาจจะ
เข้าร่ วมในอนาคต
“เช่นนั้นจนท่านเสร็ จธุระที่นนั่ พวกเราจักตั้งตารอ ขอให้รู้วา่ นิกาย
กระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์จกั เปิ ดประตูตอ้ นรับเสมอสําหรับผูท้ ี่มีพรสวรรค์
ด้านกระบี่” เขากล่าวต่อจากนั้น
“พี่ชายเซียวท่านดูอายุยงั น้อย กระทัง่ ดูเหมือนยังอายุนอ้ ยกว่าข้า…
แท้จริ งแล้วท่านอายุเท่าไร” แม้วา่ จะซุกซ่อนพ้นจากสายตาผูอ้ ื่น แต่
ดวงตาของซีซิงฟางก็เปล่งประกายความคาดหวัง
ซูหยางเพียงยิม้ กับคําถามของเธอแต่ไม่ได้ตอบกลับไปแต่อย่างใด
พวกเขาดูเหมือนจะสนใจในอายุของเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่ตอ้ งการ
เปิ ดเผยในขณะนั้นด้วยอาจจะทําให้พวกเขาตกใจจนเกินไป ท้ายสุ ด
เด็กอายุสิบหกปี ประเภทไหนที่สามารถใช้สาํ นึกกระบี่ซ่ ึงยิง่ ใหญ่
เหนือกว่าผูเ้ ชี่ยวชาญเขตอัมพรวิญญาณขณะตั้งใจใช้กระบี่ ซึ่ งกระทัง่
อัจฉริ ยะก็ยงั ไม่น่าเป็ นไปได้ที่จะทําได้สาํ เร็ จ
เมื่อเห็นว่าซูหยางไม่ตอ้ งการเปิ ดเผยอายุตนเอง ซีซิงฟางได้แต่เก็บ
ความไม่พอใจไว้ขา้ งใน
“แล้วท่านล่ะพี่ชายเซียว แน่นอนว่าท่านคงมีคาํ ถามมากมายที่อยาก
ถาม โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อเจอเหตุการณ์ร้ายเช่นนั้น” ซี ซิงฟาง
ตัดสิ นใจทําราวกับว่าคําถามก่อนหน้าของเธอนั้นไม่เคยเกิดขึ้น ด้วย
เธอไม่ตอ้ งการให้บรรยากาศกลายเป็ นอึดอัด
ผูอ้ าวุโสจงรู ้สึกว่าเป็ นการกระทําที่หยาบคายอย่างยิง่ ที่ซูหยางปฏิเสธ
คําถามของเธอ มันจะถือว่าเป็ นการดูหมิ่นถ้าเขารู ้เบื้องหลังของเธอ
แต่เมื่อเห็นซีซิงฟางตัดสิ นใจปล่อยให้เรื่ องมันผ่านไป เขาจึงตัดสิ นใจ
ที่จะให้มนั ผ่านไปเช่นกัน
“นัน่ มีบางสิ่ งในใจข้าหลังจากเหตุการณ์เล็กน้อยนั้น…” ซูหยางมอง
ตรงไปเฉพาะร่ างเปี่ ยมเสน่ห์ของซีซิงฟางและพูดต่อไปว่า “ร่ างสวรรค์
ของเจ้า ร่ างร้อยพิษมิกราย..”
“?!?!”
ก่อนที่ซูหยางจะพูดจบประโยค ผูอ้ าวุโสจงเบิกตากว้างอย่างตื่นภัย
เขาแผ่กลิ่นอายรังสี สงั หารพร้อมกางมือรู ปกรงเล็บพุง่ ตรงไปยังคอ
ของซูหยางเหมือนอินทรี ยพ์ งุ่ เข้าตะปบเหยือ่
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะสัมผัสซูหยาง ซี ซิงฟางตะโกนก้องดุจฟ้า
ร้อง “หยุด”
การเคลื่อนไหวของผูอ้ าวุโสจงพลันหยุดชะงัก มือตะขอของเขาห่าง
เพียงไม่กี่มิลลิเมตรจากคอขาวผ่องของซูหยาง ผูซ้ ่ ึงไม่ได้สะดุง้
สะเทือนแม้สกั นิดจากการโจมตีกะทันหัน
“…” ซูหยางนัง่ เงียบเฉย ใบหน้าสงบนิ่งดังปกติ ดูเหมือนกับว่าเขา
ไม่ได้กงั วลสนใจในสถานการณ์แม้แต่นอ้ ย
เขาพลันหลับตาลงแล้วกล่าวด้วยนํ้าเสี ยงราบเรี ยบ “ร่ างสวรรค์ของ
เจ้าอาจจะหายากในโลกนี้ ข้ามิได้สนใจสักนิดในร่ างร้อยพิษมิกราย
ระดับกษัตริ ยข์ องเจ้า แม้วา่ มันจะทําให้ผคู ้ นต้านพิษทั้งมวล ช่างโชค
ร้าย ความสามารถของมันจํากัดอยูเ่ พียงพิษระดับคนทัว่ ไป มันใช้
ประโยชน์ไม่ได้เมื่อเจอพิษระดับวิญญาณ”
คําพูดซูหยางสร้างความสับสนทั้งผูอ้ าวุโสจง ผูท้ ี่ยงั เตรี ยมการโจมตี
ต่อและซีซิงฟางผูท้ ี่เชี่ยวชาญด้านพิษ
บทที่ 46: ข้ าต้ องการดูร่างสวรรค์ ของเจ้ า
“ถ้าเจ้ามิสนใจ ทําไมเจ้าต้องเอ่ยถึง” ผูอ้ าวุโสจงถามด้วยเสี ยง
เคร่ งเครี ยด เหมือนกับสอบถามผูต้ อ้ งสงสัยในคุก
“แค่เป็ นครั้งแรกที่เห็นใครสักคนที่มีร่างสวรรค์ที่นี่ ข้าจึงอยากรู ้และ
อยากถามว่าข้าสามารถขอดูได้หรื อไม่”
เมื่อซูหยางพูดคําว่า “ที่นี่” มันให้ความรู ้สึกที่ลึกลํ้าและลึกลับ แน่นอน
ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นใครสักคนที่มีร่างสวรรค์ กระทัง่ คู่ฝึกของ
เขาในชีวติ ก่อนก็ยงั มีร่างสวรรค์ประทาน อย่างไรก็ตามสําหรับร่ าง
สวรรค์ของโลกนี้นี่เป็ นครั้งแรกที่เขาเห็น และเขาต้องการยืนยันว่า
มันใช่ร่างสวรรค์เดียวกันกับในชีวติ ก่อน
“จ..จ..เจ้าต้องการดูร่างสวรรค์ของเธอ ช่างหน้าด้านไร้ยางอาย เจ้า
คิดบ้างไหมว่าคําถามของเจ้าช่างไร้สาระสิ้ นดี เจ้าคิดหาที่ตายรึ ” เมื่อ
ผูอ้ าวุโสจงได้ยนิ คําร้องบ้าคลัง่ ของซูหยาง เขาแทบตะครุ บซูหยาง
ด้วยกรงเล็บ
กระทัง่ ซีซิงฟางยังอดหน้าแดงอยูห่ ลังผ้าคลุมที่ปกปิ ดใบหน้า เพราะ
นี่เป็ นครั้งแรกที่มีบางคนใจกล้าหน้าด้านต่อหน้าเธอ เมื่อซูหยางถาม
เธอว่าเขาสามารถดูร่างสวรรค์ของเธอได้หรื อไม่ โดยพื้นฐานก็คือ
ขอดูร่างร้อยพิษมิกรายของเธอ หรื ออีกนัยหนึ่งก็คือเขาต้องการดูร่าง
เปลือยของเธอ
ซูหยางขมวดคิว้ มองดูอาการรังเกียจจากผูอ้ าวุโสจง “เจ้าพูดถึงอะไร”
“อะไ…แต่เจ้าถามชัดเจนว่าขอดูร่างสวรรค์ของเธอ”
“ใช่ขา้ กล่าวเช่นนั้น” เขาพยักหน้าโดยไม่ตอ้ งคิดแม้สกั นิด
ใบหน้าผูอ้ าวุโสจงแดงกํ่าด้วยความโกรธ เขารู ้สึกว่าซูหยางต้องการ
ทําให้เขาดูเหมือนคนโง่
“ดูร่างสวรรค์ของเธอก็คือดูร่างเปลือยของเธอ เจ้าช่างไร้ยางอายนัก
ที่ถามท่านหญิงน้อยเช่นนั้น ถ้าท่านหญิงน้อยไม่หยุดข้าไว้ ข้าคงจะ
ฆ่าเจ้าไปแล้ว”
ซูหยางมองดูเขาด้วยสายตาเบิกกว้าง “ร่ างเปลือยของเธอ เจ้าต้องพูด
ล้อเล่นเป็ นแน่ ข้าเพียงแค่ขอให้เธอแบมือให้ขา้ ได้ดูเส้นชีพจร ใคร
เป็ นคนพูดว่าต้องการดูร่างกายของเธอ” เขาพูดด้วยนํ้าเสี ยงประหลาด
ใจเหมือนว่าเขาเป็ นผูบ้ ริ สุทธิ์
“อย่างไรก็ตามข้ามิรังเกียจหรื อมีปัญหาหากจะใช้วธิ ีน้ นั …”
ผูอ้ าวุโสจงเกือบกระอักเลือดออกมาหลังจากได้ยนิ คํากล่าวของเขา
ถ้าซีซิงฟางไม่ได้นงั่ อยูเ่ บื้องหน้าพวกเขา เขาคงตบซูหยางไปสอง
สามฉาดแล้ว
“ท่านหญิงน้อย ข้าขอปฏิเสธคําขอมุทะลุของเขาแทนท่าน” เขาพูด
ด้วยเสี ยงดุดนั
ซูหยางยักไหล่และกล่าวว่า “เช่นนั้นธุระข้าที่นี่กจ็ บแล้ว แม้วา่ มันจะ
ค่อนข้างสั้นแต่การพูดคุยกับเจ้าก็สนุก แต่ขา้ ขอจากกันแต่ตอนนี้เมื่อ
เป้าหมายของข้าอยูข่ า้ งหน้า”
“เจ้ากําลังเดินทางไปหุบเขาสายฟ้ารึ ” ผูอ้ าวุโสจงถามด้วยนํ้าเสี ยง
ประหลาดใจ สัตว์ที่แข็งแกร่ งที่สุดในนั้นอยูท่ ี่เขตคัมภีร์วญ ิ ญาณ
เหตุใดคนที่แข็งแกร่ งเช่นซูหยางผูท้ ี่สามารถฆ่าผูค้ นที่อยูเ่ ขตปฐพี
วิญญาณได้โดยง่ายต้องการไปที่นนั่
“เพียงแค่ภารกิจเล็กน้อย เช่นนั้นถ้าเจ้ามิถือ..”
“รอก่อน”
ขณะที่ซูหยางกําลังจะเปิ ดประตูออกไป ซี ซิงฟางพลันเรี ยกเขาไว้
อย่างไรก็ตามตัวซีซิงฟางเองก็ไม่ทราบว่าทําไมตนเองต้องหยุดเขา
ไว้ ด้วยปกติเธอก็ไม่เคยเรี ยกใครที่กาํ ลังจะจากไปให้อยูต่ ่อ
“เพียงแค่ฝ่ามือข้า ใช่ไหม ถึงแม้วา่ จะบอกว่าเพือ่ ป้องกันตัว แต่การที่
ท่านช่วยเหลือพวกเราในการจัดการกับดาบแสงจันทร์กย็ งั มิอาจ
เปลี่ยนแปลง” เป็ นคํากล่าวของซีซิงฟางขณะที่เธอยืน่ มือสวยให้เขา
อีกครั้ง
“ท่านหญิงน้อย การสัมผัสทางกายเช่นนั้นมิเหมาะสมอย่างยิง่ สําหรับ
คนเช่นท่านที่จะ…”
“เราได้จบั มือกันไปแล้ว นี่กม็ ิได้มีความแตกต่างใด”
“แต่ท่านหญิงน้อย..”
“เจ้าได้ยนิ ท่านหญิงน้อยแล้ว ตาเฒ่า” ซูหยางพลันจับมือซีซิงฟาง
อย่างนิ่มนวล ทําให้เธอที่ไม่ได้เตรี ยมตัวมาก่อนตื่นตะลึงอย่างใหญ่
หลวง
“ตา..ตาเฒ่า” ผูอ้ าวุโสจงเกือบไม่เชื่อหูตนเอง แม้กระทัง่ เมื่อเขายัง
เด็กก็ยงั ไม่เคยมีใครกล้าเรี ยกเขาด้วยนํ้าเสี ยงเช่นนี้
หลังจากจับมือซี ซิงฟางอีกครั้ง ซูหยางหลับตาลงและนิ่งเงียบ ทันใด
ร่ างเขาพลันแผ่กลิ่นอายอันลึกลํ้าเป็ นเหตุให้บรรยากาศเหมือนเปลี่ยน
เป็ นเก่าแก่โบราณ
การเปลี่ยนแปลงกะทันหันเป็ นเหตุให้ท้ งั ผูอ้ าวุโสจงและซี ซิงฟาง
รู ้สึกหวาดหวัน่
สําเนียงภายในรถม้าพลันสงบเงียบ เสี ยงที่ได้ยนิ มีเพียงเสี ยงม้าและ
เสี ยงของรถขณะกําลังเคลื่อนตัว
บรรยากาศอันเงียบขรึ มคงอยูไ่ ด้ชวั่ ขณะ เมื่อซูหยางลืมตาขึ้นอีกครั้ง
เขาแสดงรอยยิม้ ที่ผอ่ นคลาย “มันเป็ นเช่นเดียวกัน…” เขาพึมพัม
เสี ยงเบา
“อะไรคือเช่นเดียวกัน” ซีซิงฟางถาม
“เอ๋ อา มันเป็ นเช่นเดียวกับที่ขา้ จําได้ ข้านึกว่ามันอาจจะแตกต่างจาก
ที่ขา้ คิดไว้ แต่มนั ดูเหมือนว่าเป็ นความกังวลเกินเหตุ…” เขาพูด
หลังจากชะงักครู่ หนึ่ง
หลังจากวิเคราะห์ร่างสวรรค์ของซีซิงฟาง ซูหยางยืนยันได้วา่ โครงสร้าง
และการทํางานมันเหมือนกับร่ างสวรรค์ที่เขาคุน้ เคยในชีวติ ก่อน
เมื่อรู ้เช่นนี้ ซูหยางรู ้สึกอารมณ์ดี จากการค้นพบนี้หมายความว่ามี
โอกาสที่เขายังอยูใ่ นจักรวาลเดียวกันแต่ต่างโลก
“บางทีนี่อาจเป็ นโลกที่แยกมาจากสี่ โลกนั้น โลกที่หา้ ” เขาครุ่ นคิด
ซูหยางมองตรงไปยังผ้าคลุมหน้าของซี ซิงฟางและยิม้ “ขอบคุณที่ฟัง
คําขอที่เห็นแก่ตวั ของข้า” เขาพูดด้วยเสี ยงสดใส
ซีซิงฟางอดไม่ได้ที่จะรู ้สึกว่าซูหยางสามารถมองทะลุผา้ คลุมหน้า
และจ้องตรงมายังดวงตาเธอเมื่อเขามองมา เธอยิม้ “มันเป็ นเรื่ อง
เล็กน้อย มิจาํ เป็ นต้องมากมารยาท…”
“แม้วา่ มันเป็ นเรื่ องเล็กน้อยสําหรับเจ้า แต่มนั เป็ นบางสิ่ งที่สาํ คัญ
สําหรับข้า เพื่อแสดงความขอบคุณต่อเจ้า ข้าจักยกวิธีฝึกฝนร่ างร้อย
พิษมิกรายให้กลายเป็ นร่ างพันพิษมิกรายระดับจักรพรรดิให้แก่เจ้า…”
“…”
สถานที่ที่เงียบสงบพลันกลายเป็ นเงียบสงัดกว่าเดิม ทั้งผูอ้ าวุโสจง
และซีซิงฟางจ้องซูหยางด้วยดวงตาเบิกกว้างเพราะความตกใจ
โดยเฉพาะซีซิงฟางผูท้ ี่ยากจะคิดอะไรออกในตอนนี้
“เขาพูดอะไรไป นัน่ ไม่เพียงแต่เขามีวธิ ีฝึกร่ างร้อยพิษมิกรายของข้า
เป็ นร่ างพันพิษมิกราย แต่ยงั ยินดียกวิชาที่ล้ าํ ค่านั้นให้ขา้ ด้วย ทําไม
กัน” ซีซิงฟางจ้องมองไปยังเขาด้วยดวงตาเบิกกว้างภายหลังผ้าคลุม
หน้า เธอไม่เคยแตกตื่นเช่นนี้มาก่อนในชีวติ
บทที่ 47: วิชาลํา้ ค่ า
“วิ..วิธีที่จะฝึ กร่ างร้อยพิษมิกรายเป็ นร่ างพันพิษมิกราย มีวชิ าเช่นนั้น
ปรากฏใต้ผนื ฟ้านี้ดว้ ยรึ ถ้าเช่นนั้นทําไมท่านจึงให้วชิ ากับคนเช่นข้า
บางคนที่ท่านเพิ่งพบ” ซีซิงฟางถามด้วยเสี ยงสะท้าน แม้เธอจะมี
เบื้องหลังยิง่ ใหญ่และครอบครัวที่สุดแสนรํ่ารวย เธอก็ไม่อาจหยุด
สัน่ สะท้านด้วยความตื่นเต้นกับวิชาที่อาจจะมีหรื อไม่มีตวั ตนนี้
“มิมีประโยชน์ใดที่จะเก็บไว้กบั ตัวข้าเพราะตัวข้ามิได้มีร่างร้อยพิษมิ
กราย ดังนั้นจึงเป็ นสิ่ งที่ดีที่จะยกมันให้บางคนที่สามารถใช้งานมัน
ได้ ข้ามิได้เป็ นพระ แต่เป็ นความสุ ขส่ วนตัวของข้าที่ทาํ ให้สาวสวย
เช่นตัวเจ้ามีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิง่ ถ้าใช้ของกํานัลเพียงเล็กน้อย”
ซูหยางตอบด้วยนํ้าเสี ยงสงบเรี ยบฟังดูเหมือนกับเขาไม่ใส่ ใจนักที่เขา
กําลังแบ่งปันวิชาที่ล้ าํ ค่าเช่นนั้นให้กบั คนแปลกหน้า
“สาวสวยรึ ” ความรู ้สึกที่ซูหยางสามารถมองทะลุผา้ คลุมหน้าของ
เธอชัดเจนขึ้นในใจของซีซิงฟาง
“แค่ของกํานัลเล็กน้อยรึ ” ผูอ้ าวุโสจงแทบสิ้ นสติเมื่อซูหยางเรี ยกวิชา
ที่สามารถฝึ กฝนร่ างสวรรค์ให้มีระดับสู งขึ้นว่าเป็ นเพียงแค่ “ของ
กํานัลเล็กน้อย” ความจริ งแล้วเขาประหลาดใจมากจนพลาดความ
เจ้าชูข้ องซูหยางที่เห็นได้ชดั แจ้งซึ่งกําลังเกิดขึ้นต่อดวงตาเบิกกว้าง
ของเขา
“ท..ท่านมัน่ ใจนะ แน่นอนว่านี่เป็ นบางสิ่ งที่ล้ าํ ค่า ท่านต้อง…”
“มิจาํ เป็ นต้องเกรงใจ ข้าทําเช่นนี้กเ็ พื่อตัวข้าเอง มาสิ โน้มศีรษะมา
ทางข้า”
แม้วา่ เธอรู ้สึกว่าเหตุการณ์พลันเปลี่ยนแปรท่วมท้นใจ แต่ราวกับ
คําพูดของเขามีมนต์ขลังอยูภ่ ายใน ซี ซิงฟางยอมตามคําพูดของเขา
และเอนตัวไปข้างหน้า
เมื่อเธอเอนไปข้างหน้า ซูหยางก็ทาํ เช่นเดียวกันกับเธอ เขาหลับตาลง
และใช้หน้าผากสัมผัสหน้าผากที่ยงั คลุมด้วยผ้าคลุมหน้าของเธอ
อย่างนิ่มนวล ไม่ได้ใส่ ใจกับกลิ่นหอมดอกไม้จากร่ างเธอที่ชวนให้
เขาสงบใจ
ในทางกลับกัน ซีซิงฟางรู ้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวจากความเอียงอาย นี่
เป็ นครั้งแรกที่ได้แนบใบหน้าชิดกับหน้าชายคนอื่น มันชิดเสี ย
จนกระทัง่ เธออาจจะพลาดจูบเขาถ้าเธอขยับไปด้านหน้าอีกเพียงสัก
เล็กน้อย
ไม่กี่วนิ าทีหลังจากที่หน้าผากของพวกเขาสัมผัสกันก็เห็นแสงเรื อง
เหลืองค่อยสว่างขึ้นระหว่างหน้าผากของทั้งคู่และยิง่ สว่างมากขึ้น
กว้างขึ้นตามเวลาผ่าน เวลาเพียงไม่กี่นาทีกเ็ หมือนเวลาหลายชัว่ โมง
สําหรับซีซิงฟาง ผูท้ ี่กาํ ลังพยายามรับรู ้ขอ้ มูลทุกอย่างที่ป้อนเข้าไป
ในศีรษะเธอจากซูหยาง ร่ างของเธอเริ่ มมีเหงื่อซึมลมหายใจเริ่ ม
กระชั้นเร่ งร้อน
เมื่อผูอ้ าวุโสจงเห็นการเปลี่ยนแปลงของซีซิงฟาง เขาต้องการยับยั้ง
ทั้งคู่ แต่อย่างไรก็ตามก็กลัวว่าอาจเป็ นการทําให้พวกเขาเขวและทํา
ให้เธอเกิดความเสี ยหายที่ไม่อาจย้อนคืนได้ เขาจึงตัดสิ นใจนัง่ ลงกัด
ฟันอย่างแรงเท่าที่ทาํ ได้และรอให้ท้ งั คู่ทาํ สิ่ งที่พวกเขาทําให้เสร็ จสิ้ น
“วิชาระดับเซียน ร่ างพันพิษมิกราย” เธออุทานอยูภ่ ายในใจ
สุ ดท้ายเมื่อซีซิงฟางได้รับรู ้ชื่อและระดับของวิชา เธอตกใจจนเกือบ
สิ้ นสติ
มีวชิ าในโลกมากมายนับไม่ถว้ นล้วนต่างความสามารถและผลลัพธ์
วิชาเหล่านี้แบ่งเป็ นระดับและหมวดหมู่ตามพลังอํานาจและความ
สามารถของวิชานั้น
นับจากวิชาที่อ่อนด้อยไร้พลังที่สุดไปถึงวิชาที่สวรรค์ประทานที่อาจ
ทําลายขุนเขาได้ วิชาเหล่านี้ได้ถูกจัดอันดับเป็ น ระดับธรรมดา ระดับ
โลกา ระดับสวรรค์ และระดับสุ ดท้าย ระดับเซียน ซึ่งถือได้วา่ เป็ น
วิชาที่หายากที่สุดในโลกมนุษย์
เพื่อให้เข้าใจว่าเหตุใดวิชาระดับเซียนนั้นลํ้าค่าและหายากแค่ไหนใน
โลกนี้ เราสามารถใช้มือสองข้างนับจํานวนวิชาระดับเซี ยนในโลกนี้
ได้ แถมยังเหลือนิ้วไว้เพื่อใช้นบั ได้ดว้ ย
ลืมไปก่อนถึงวิชาระดับเซียนที่แทบไม่มีใครหาได้ แม้กระทัง่ วิชา
ระดับสวรรค์ยงั ถือว่าเป็ นสมบัติล้ าํ ค่าประจําสํานักที่ยงิ่ ใหญ่และเก็บ
ซ่อนไว้ภายใต้การรักษาความปลอดภัยและดูแลอย่างเข้มงวด
นอกจากผูท้ ี่ข้ ึนอยูก่ บั ตระกูลใหญ่ที่ปกครองภูมิภาคในทวีปตะวันออก
หรื อสํานักที่สุดยอดเช่นนิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์ พวกเขาสามารถลืมไป
ได้เลยที่จะมีโอกาสได้เห็นวิชาระดับเซียนอย่างใกล้ชิดเป็ นส่ วนตัว
สุ ดท้ายเมื่อซูหยางถ่ายโอนวิชาเข้าไปในใจซี ซิงฟางแล้ว เขาค่อยดึง
ศีรษะพ้นห่างจากหน้าผากของเธอ
“ข้าได้ถ่ายโอนวิชาตรงเข้าสู่ ในใจเจ้า ซึ่ งเจ้าสามารถนํามันออกมาดู
ได้ตามความต้องการ อย่างไรก็ตามพึงระลึกไว้วา่ เจ้ามิสามารถแบ่งปั น
มันกับผูใ้ ดได้ไม่วา่ เจ้าจะพยายามมากมายสักเพียงไหน ดังนั้นอย่า
พยายามทําให้เสี ยเหงื่อโดยไม่จาํ เป็ น” ซูหยางกล่าวหลังจากนั้นสักครู่
“ฮาาา..ฮาาาา..” ซีซิงฟางหอบหายใจหนักหน่วง ราวกับว่าเธอเพิง่ วิง่
มาราธอนเสร็ จใหม่ ๆ
“ของ..ของขวัญนี้…ข้าจักทําเช่นไรเพื่อตอบแทนท่าน แม้วา่ ข้าให้
ท่านทุกอย่างที่ขา้ มี มันก็ยงั มีค่าไม่ถึงครึ่ งของวิชานี้”
“เช่นที่ขา้ กล่าวไว้ ข้าทําเช่นนี้มิใช่เพื่อเจ้าเพียงอย่างเดียว แต่เป็ นเพราะ
เหตุผลดื้อด้านของตัวข้าเอง การตอบแทนของเจ้าก็คือฝึ กฝนเปลี่ยน
ร่ างร้อยพิษมิกรายให้เป็ นร่ างพันพิษมิกรายให้สาํ เร็ จ”
“บางอย่างเช่นนี้เป็ น…” ซีซิงฟางจนวาจา เธอไม่สามารถเข้าใจการ
กระทําของซูหยางหรื อคาดเดาความคิดของเขาได้ไม่วา่ เธอจะ
พยายามมากสักเพียงไหน ราวกับว่าเธอพยายามมองหาบางสิ่ งที่ซุก
ซ่อนลึกในหมอกหนา
“อัจฉริ ยะเช่นเจ้าผูท้ ี่สามารถเข้าสู่ เขตปฐพีวญ
ิ ญาณเมื่ออายุยงั น้อย
แน่นอนว่าต้องทําได้สาํ เร็ จในการฝึ กฝนวิชานี้” ซูหยางพลันหัน
ศีรษะมองไปยังหลังคารถและกล่าวว่า “ในที่สุดดูเหมือนว่าข้ามาถึง
ที่หมายแล้ว แม้วา่ การพบปะนี้จะสั้น มันก็เปี่ ยมไปด้วยความตื่นเต้น
แฝงด้วยโชควาสนา”
“…” ซีซิงฟางมองซูหยางอย่างเงียบ ๆ ดูมึนงง
“เปิ ดประตูรถม้า” ผูอ้ าวุโสจงพลันตะโกนขึ้นด้วยนํ้าเสี ยงเร่ งรี บราว
กับต้องการให้ซูหยางออกไปจากรถม้าโดยเร็ วที่สุดเท่าที่เป็ นไปได้
ประตูรถม้าเปิ ดออกและซูหยางก้าวออกมาจากรถม้าอย่างรวดเร็ ว
“รอสักครู่ พี่ชายเซียว” ซีซิงฟางดูราวกับว่าเธอจะลงจากรถม้าตาม
เขาไปแต่ถูกผูอ้ าวุโสจงยับยั้งไว้ก่อนที่เธอจะออกไปพ้นประตู
“ท่านหญิงน้อย องค์ราชันรับสัง่ อย่างเข้มงวดมิให้ท่านออกไปจาก
รถม้า มิเช่นนั้นการปกป้องที่ได้รับมาย่อมมิอาจปกป้องท่านจาก
อันตรายได้”
“แต่ขา้ ยังมีหลายอย่างที่ขา้ ต้องการพูดกับเขา” เธอยืนยันที่จะออก
จากรถ
“ท่านหญิงน้อย อย่าลืมศักดิ์ฐานะของท่าน แม้วา่ ฝี มือเชิงกระบี่ของ
เขาเหนือกว่าข้า แต่เขาเป็ นเพียงคนธรรมดาจากทวีปตะวันออก ท่าน
มิสามารถพัวพันลึกซึ้ งกับคนเช่นนั้น มิเช่นนั้นมันจักนํามาซึ่งปัญหา
มิรู้จบ มิเพียงแต่ท่านแต่กระทัง่ เซียงหยางนัน่ ด้วย ถ้าเป็ นไปตามที่
เขากล่าว การพบกันครั้งนี้คือโชคชะตา ดังนั้นท่านต้องมีโอกาสได้
พบกับเขาอีกครั้งแน่นอนในอนาคต” ผูอ้ าวุโสจงกล่าว เขาไม่รู้วา่
วิชาอะไรที่ซูหยางให้กบั เธอ
“…” สุ ดท้ายซีซิงฟางได้แต่ยอมแพ้ที่จะออกจากรถไล่ตามซูหยาง
หลังจากได้ยนิ คําพูดเหล่านี้
“เริ่ มออกเดินทาง” ผูอ้ าวุโสจงตะโกนในวินาทีถดั ไป และรถม้าก็เริ่ ม
เคลื่อนที่
ซูหยางหันไปมองรถม้าทองอย่างเต็มตาอีกครั้งจากด้านนอกก่อนที่
จะหันไปหาหุบเขาด้านหน้าของเขาซึ่ งมีทอ้ งฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆ
สายฟ้าเริ่ มจากที่เขายืนอยูไ่ ปจนจรดของฟ้า
“นี่คือหุบเขาฟ้าคํารามสิ นะ”
บทที่ 48 ก้ าวเก้าดารา
ด้านนอกหุบเขาฟ้าคํารามก่อนที่จะเข้าไปในดงไม้สุดสายตานั้นมี
ผูค้ นหลายสิ บคนตั้งแคมป์ อยู่ ส่ วนใหญ่แล้วมีอาการบาดเจ็บบางคน
ถึงขั้นเสี ยอวัยวะ พวกเขาล้วนเป็ นศิษย์ของสํานักบางสํานักและ
ทหารรับจ้าง
ทุกคนที่นี่ลว้ นมีจุดประสงค์เดียวกันนัน่ คือล่าแมวสายฟ้าเพื่อเอา
แก่นพลังสัตว์อสู รซึ่งเป็ นทรัพยากรที่มีค่าลํ้าลึกที่ผฝู ้ ึ กปราณใช้
สําหรับฝึ กฝนตนเอง
แก่นพลังสัตว์อสู รเป็ นสิ่ งที่สตั ว์ร้ายใช้ฝึกปราณและเก็บพลังปราณ
ไว้ ถ้าหากสัตว์ร้ายที่มีพลังการฝึ กปรื อแก่กล้าเหล่านี้ตาย ก็จะมี
โอกาสที่จะทิ้งแก่นพลังสัตว์อสู รที่มีพลังปราณหลงเหลือไว้ภายใน
ซึ่งผูฝ้ ึ กปราณสามารถใช้ในการฝึ กฝี มือได้
แก่นพลังสัตว์อสู รสามารถใช้เพื่อสร้างอาวุธทรงอํานาจที่เพิ่มความ
แข็งแกร่ งให้กบั ผูใ้ ช้อย่างมาก ดังนั้นมันจึงเป็ นที่ตอ้ งการและมีคา่ มาก
ซูหยางเดินไปยังทางเข้าหุบเขาฟ้าคํารามที่มีเสี ยงสายฟ้าฟาดอยู่
เบื้องหลังอย่างสบาย ๆ
เมื่อเขาเดินไปถึงแคมป์ ผูค้ นที่นนั่ เริ่ มพากันมองเขาด้วยสายตาแปลก
ประหลาด
“เข้าไปคนเดียวเลยรึ นี่คิดจะฆ่าตัวตายใช่ไหม”
“เขาต้องมีความมัน่ ใจจริ ง ๆ”
“ข้าให้เวลาเขาสองชัว่ โมงก่อนที่เขาจะกลับมาด้วยนํ้าตานองหน้า…”
“ข้าขอพนันกับเจ้าว่าเขาจะไม่กลับมา…ตลอดกาล”
ผูค้ นสองสามคนที่นนั่ หัวเราะเยาะซูหยางที่กาํ ลังเดินไปยังหุบเขาฟ้า
คํารามโดยไม่มีท่าทางระมัดระวังตัวแต่อย่างใด พวกเขาเคยเห็น
หลายคนที่มีความมัน่ ใจเกินตัวเข้าไปด้านในด้วยสี หน้าท่าทางเหมือน
ซูหยาง ซึ่ งล้วนกลับมาด้วยอาการบาดเจ็บร้ายแรงหลังจากอยูท่ ี่นี่
หลายวัน
ภายในหุบเขาฟ้าคํารามเรี ยงรายล้อมรอบไปด้วยเขาใหญ่นอ้ ยหญ้า
และต้นไม้สูง นอกจากสายฟ้าที่ประกอบอยูเ่ บื้องหลังแล้วถือว่าพื้นที่
นี้เป็ นพื้นที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบ
เขาเดินลึกตรงไปกว่าครึ่ งชัว่ โมงโดยไม่หยุดพัก แต่เขาก็ยงั ไม่พบกับ
แมวสายฟ้าแม้แต่ตวั เดียว
แต่ซูหยางตระหนักรู ้ต้ งั แต่ก่อนเข้ามาในหุบเขาฟ้าคํารามแล้วว่าไม่มี
แมวสายฟ้าในบริ เวณพื้นที่ดา้ นนอก ดังนั้นเขาจึงไม่ประหลาดใจที่
ไม่พบเจอ
“แน่นอนว่าพวกนั้นกําจัดได้อย่างหมดจดในเขตด้านนอก พวกเขา
นําไปแม้กระทัง่ ซากศพ” เขาประหลาดใจขณะที่เขาเดินลึกเข้าไปใน
หุบเขา
เมื่อซูหยางเข้าไปใกล้กบั ใจกลาง สายฟ้ายิง่ ส่ งเสี ยงดังขึ้นรุ นแรงขึ้น
คล้ายกับเสี ยงมังกรคําราม เมื่อฟังเสี ยงรอบข้างนี้ซูหยางอดใจนึกถึง
ช่วงเวลาที่เขาใช้อยูใ่ นหุบเขามังกรเทพเจ้าไม่ได้ ที่ซ่ ึงเขามักจะได้ยนิ
เสี ยงคล้ายคลึงกันเช่นนี้อยูท่ วั่ ไป
“หุบเขามังกรเทพเจ้า…” ดวงตาเขาเกิดประกายลึกลับพาดผ่าน มัน
เปี่ ยมไปด้วยความโศกเศร้า
ฉับพลันเสี ยงกรี ดร้องหลายเสี ยงก้องเข้าไปในหูของซูหยาง แม้วา่
มันจะมาจากที่ไกลแต่เขาก็สามารถระบุตาํ แหน่งเสี ยงกรี ดร้องว่ามา
จากที่ใดได้ในทันที
ร่ างของเขาพลันพร่ ามัว ตามด้วยกระแสลมแรงกระโชกอย่างรวดเร็ ว
ใช้วชิ าท่าร่ างจากชีวติ ก่อนที่เพิ่มความเร็ วให้กบั เขาอย่างเห็นได้ชดั
เขาไปถึงที่นนั่ ภายในไม่กี่วนิ าที เดินทางเกือบไมล์ดว้ ยเวลาสั้น ๆ
ทันทีที่เขาไปถึง เขาก็สงั เกตเห็นกลุ่มวัยรุ่ นสวมชุดเขียวเช่นเดียวกัน
ครึ่ งหนึ่งของพวกเขานอนจมกองเลือดอยูบ่ นพื้น รอบตัวพวกเขามี
แมวสายฟ้าห้าตัว
พวกเขาเหล่านี้คงเป็ นศิษย์ของสํานักอะไรสักอย่าง
แมวสายฟ้ามีขนดําและดวงตาสี น้ าํ เงิน ตัวโตเท่ากับมนุษย์เต็มวัยที่
ลงไปเดินสี่ ขา ขนสี ดาํ ของพวกมันมีประกายสายฟ้าพลุกพล่าน ดู
ราวกับว่าพวกมันปกคลุมไปด้วยเกราะที่สร้างขึ้นจากสายฟ้า
เมื่อซูหยางปรากฏตัว แมวสายฟ้าและบรรดาศิษย์ที่นนั่ ต่างพากัน
มองดูเขา เหล่าศิษย์ต่างพากันมองดูเขาด้วยสายตาสิ้ นหวัง ความหวัง
ที่อยากให้ซูหยางช่วยพวกเขาหนีพน้ จากสถานการณ์ตรงหน้า
ส่ วนบรรดาแมวสายฟ้า พวกมันจ้องเขม็งไปที่เขาด้วยความตื่นตัว
แม้วา่ พวกมันจะไม่สามารถเห็นพลังการฝึ กปรื อของเขา สัญชาตญาณ
สัตว์ป่าเตือนพวกมันว่าซูหยางที่ปรากฏตัวอยูต่ รงนั้นแข็งแกร่ งที่สุด
เขาไม่ใช่คนที่จะดูเบาได้
เมื่อเหล่าศิษย์ที่สนั่ เทาสังเกตเห็นแมวสายฟ้าพากันตั้งท่าป้องกันตัว
เมื่อเห็นซูหยางมาถึง ดวงตาของพวกเขาก็มีประกายของความหวัง
ซูหยางดึงม้วนกระดาษภารกิจที่ได้รับจากนิกายออกมาตรวจดูจน
มัน่ ใจว่าไม่มีการจํากัดจํานวนการล่าเพื่อให้สาํ เร็ จภารกิจ
“แม้วา่ พวกมันจะอยูท่ ี่เขตปฐมวิญญาณ แต่แก่นพลังสัตว์อสู รของ
พวกมันควรนํามาซึ่งความรํ่ารวยพอสมควรถ้าข้าขายแก่นพลัง
เหล่านั้นให้กบั ตระกูลรํ่ารวยบางตระกูล…” ซูหยางดึงกระบี่ออก
จากฝักข้างเอวขณะครุ่ นคิดเรื่ องการหาเงินทองในโลกนี้
แม้วา่ ความรู ้และประสบการณ์ของเขาจะกว้างขวางดุจมหาสมุทร
แต่กระเป๋ าเงินกลับว่างเปล่าอย่างน่าสงสาร และนอกจากเหรี ยญทอง
สิ บเหรี ยญที่เขาแลกมาด้วยแต้มรางวัล เขาก็ไม่มีสมบัติอะไรเหลือ
อีก
“ข้าช่างแสนยากจนในชีวติ นี้ ถึงขั้นที่วา่ ข้าไม่สามารถหาสิ่ งใดที่จะ
มาช่วยการฝึ กวิชาของข้าในระดับนี้…”
ระหว่างที่ซูหยางคิด แมวสายฟ้าทั้งห้าตัวพลันกระโจนเข้าหาเขา
อย่างพร้อมเพรี ยงกันโดยประกายสายฟ้าบนร่ างของพวกมันยิง่
เปล่งแสงเจิดจ้า เป็ นเหตุให้เกิดเส้นสี ขาวเล็ก ๆ หงิกงอคล้ายกับงู
หลายสิ บสายฟาดใส่ เขาดังพายุสายฟ้า
ดวงตาของซูหยางเปล่งประกายลึกลํ้า เท้าเขาพลันพร่ ามัวจนแทบ
มองไม่เห็น
“ก้าวเก้าดารา”
ซูหยางใช้หนึ่งในสุ ดยอดวิชาท่าเท้าที่เขาได้เรี ยนรู ้ในชีวติ ก่อน และ
แม้วา่ เขาจะสามารถแสดงเพียงเศษเสี้ ยวจากพลังของวิชานี้เหตุ
เพราะว่าเขามีพลังการฝึ กปรื อที่ไม่เพียงพอ ความเร็ วของเขาก็ยงั เร็ ว
จนกระทัง่ ไม่วา่ จะเป็ นบรรดาศิษย์หรื อแมวสายฟ้าล้วนไม่สามารถ
ตอบสนองได้ทนั
เขาพลันสาบสู ญไปจากตําแหน่งที่ยนื อยู่ และด้วยความเร็ วที่เกินกว่า
ใครจะทันกระพริ บตา เขาก็ปรากฏกายด้านหลังแมวสายฟ้าราวกับ
วิญญาณ
ทันทีที่เขาปรากฏกาย มือที่ถือกระบี่ของเขาก็กวัดแกว่งอย่างสง่างาม
และเฉียบคมโจมตีติดต่อกันห้าครั้งอย่างสบาย ๆ ปราศจากการใช้
วิชาฝี มือใด
โลหิ ตสาดกระจายศีรษะปลิดปลิว
แมวสายฟ้าทั้งห้าตัวล้มลงบนพื้นโดยไร้ศีรษะ พวกมันล้วนตกตาย
โดยซูหยางก่อนที่เหล่าศิษย์ที่ตกตะลึงจะทันได้ตระหนักว่าเกิดอะไร
ขึ้น
หลังจากฆ่าแมวสายฟ้าทั้งห้าในชัว่ พริ บตา เขาก็ไม่ได้ใส่ ใจเหล่าศิษย์
ที่งงงันเหล่านั้น เขาใช้กระบี่กรี ดหน้าผากแมวสายฟ้าสองตัวเป็ น
ช่องเปิ ดเพื่อเอาแก่นพลังสัตว์อสู รที่ซุกซ่อนอยูภ่ ายใน
“ได้แก่นพลังสัตว์อสู รสองก้อนแล้ว…” ซูหยางพยักหน้าอย่างพึงใจ
และโยนแก่นพลังสัตว์อสู รสองก้อนเข้าไปในกระเป๋ า
ขณะที่เขากําลังจะหันกายจากไป หนึ่งในศิษย์สาํ นักที่นนั่ พลันเรี ยก
เขาไว้
“ขอประทานอภัยท่านผูช้ ่วยชีวติ อาจจะอุกอาจเกินไปที่จะถาม
หลังจากที่ท่านได้ช่วยชีวติ พวกเราเอาไว้วา่ ท่านต้องการเข้าร่ วมกลุ่ม
กับพวกเราหรื อไม่”
ซูหยางหันกายไปดูหญิงสาวน่ารักผูท้ ี่เรี ยกเขาไว้ เธอมองเขาด้วย
สายตายัว่ ยวน หลังจากที่เหลือบมองเห็นพลังการฝึ กปรื อของเธอที่
เขตปฐมวิญญาณระดับสี่ เขาตอบไปด้วยนํ้าเสี ยงเรี ยบเฉย “สัตว์นกั
ล่ามีพลังอยูท่ ี่เขตปฐมวิญญาณระดับสู งสุ ด ขณะที่เจ้าไม่แม้แต่จะมี
คุณสมบัติเข้ามาในหุบเขาฟ้าคํารามนี้… พวกเจ้าคิดว่าจะได้อะไร
จากที่นี่ดว้ ยพลังการฝึ กปรื อแค่น้ นั ข้ามิมีเวลาที่จะมาเล่นกับเจ้าหรื อ
เกมงี่เง่าของพวกเจ้า…”
ซูหยางหันกายจากไปหลังจากปฏิเสธที่จะเพิ่มตัวถ่วง เงาร่ างของเขา
หายไปอย่างรวดเร็ วจากสายตาของพวกเขา หญิงสาวน่ารักมองไปยัง
ทิศทางที่เขาหายไปด้วยความรู ้สึกตื่นตะลึง ใบหน้าแดงด้วยความอับ
อายหลังจากได้ยนิ คํากล่าวรุ นแรงของเขา
บทที่ 49 มีตาแต่ …
เมื่อซูหยางเดินทางไปในหุบเขาฟ้าคําราม การต่อสู ร้ ะหว่างแมว
สายฟ้ากับผูค้ นล้วนกลายเป็ นเรื่ องปกติ
“พวกนี้ลว้ นไม่มีแก่นพลังสัตว์อสู ร…” ซูหยางตรวจหาแมวสายฟ้าที่
มีแก่นพลังสัตว์อสูรไปรอบข้าง
ปกติแล้วไม่มีใครรู ้วา่ สัตว์ที่ตนเองฆ่าจะมีแก่นพลังหรื อไม่นอกจาก
ว่าพวกเขาเปิ ดผ่ากะโหลกของพวกมันออกมาดู อย่างไรก็ตาม
สําหรับซูหยางผูม้ ีวชิ าความรู ้ระดับเทพเซี ยน เขามีความสามารถใน
การประเมินว่าสัตว์เหล่านี้มีแก่นพลังสัตว์อสู รหรื อไม่โดยไม่ตอ้ งลง
มือฆ่า
“โอ นัน่ ตัวนึง…”
เมื่อซูหยางพบแมวสายฟ้าที่มนั่ ใจว่าจะหลงเหลือแก่นพลังสัตว์อสู ร
ไว้ให้ เขาจะหายตัวตรงไปล่ายังทิศทางแมวสายฟ้านั้น แม้วา่ มันจะ
กําลังต่อสู ก้ บั คนอื่นอยู่
“อา เฮ้ เจ้าเป็ นใครกันวะ เจ้ากล้าขโมยเหยือ่ ของพวกเราได้อย่างไร”
“แม่ม เจ้ามิมีความละอายใจเลยรึ ”
บรรดาผูค้ นที่กาํ ลังต่อสู ก้ บั แมวสายฟ้าต่างพากันโกรธแค้นเมื่อซู
หยางพลันปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่าและแย่งฆ่า แถมยังเอา
แก่นพลังสัตว์อสู รไปอีกด้วย
ซูหยางเพียงเหลือบมองพวกเขาและพูดด้วยนํ้าเสี ยงเหยียดหยาม
“พวกเจ้าคาดหวังจริ ง ๆ รึ วา่ ผูอ้ ื่นจะยืนมองดูเฉย ๆ เมื่อเห็นสิ่ งมีค่า
ไร้เจ้าของอยูต่ ่อหน้า นี่เป็ นป่ าเขา มิใช่สนามหลังบ้านเจ้าสักหน่อย
อีกอย่างข้ามาที่นี่เพื่อความรํ่ารวยของตัวข้าเฉกเช่นเดียวกับทุกคน
ข้ามิได้มาที่นี่เพื่อยืนดูผอู ้ ื่นล่าสัตว์เหล่านี้”
ในดินแดนขั้นสู งของยุทธภพที่ซ่ ึงบรรดาเทพเจ้าและเซียนต่างขาด
ทรัพยากรเพื่อพัฒนาตนเอง ซูหยางได้พบเจอและมีประสบการณ์
ด้วยตนเองถึงความรุ นแรงของการแข่งขันเพื่อทรัพยากรระหว่าง
เหล่าเทพเซียน
ยิง่ ผูฝ้ ึ กฝี มือมีระดับพลังฝี มือสู งมากขึ้นเท่าไร ความต้องการทรัพยากร
ลํ้าค่าของพวกเขาเพื่อใช้เพิม่ ความแข็งแกร่ งของพวกเขาก็ยงิ่ มากขึ้น
เป็ นไปตามการเติบโตและความกระหายอยาก สําหรับซูหยางผูท้ ี่
ปรับตัวเข้ากับการดิ้นรนเช่นนั้น เขาไม่ได้พิจารณาว่าการกระทําของ
เขาเป็ นการขโมยไร้ยางอาย
“อย่าตัดสิ นด้วยความเห็นของตนเอง นี่คือความเป็ นจริ งของยุทธภพ
ที่แท้จริ ง” เขากล่าวกับพวกเขาก่อนหายไปราวกับภูติผี
ใช่แล้ว ในสายตาของคนโบราณเช่นซูหยางผูท้ ี่หลายครั้งต้องต่อสู ถ้ ึง
ตายกับเหล่าเซียนเพียงเพื่อแค่โอกาสที่จะเพิ่มพลังการฝึ กปรื อของ
ตนเองเพียงเล็กน้อย โลกของปุถุชนเช่นนี้ยงั ไม่มีโอกาสที่จะประสบ
กับโลกของผูฝ้ ึ กยุทธที่แท้จริ ง ที่นี่ไม่มีการดิ้นรนหรื อแข่งขันกัน
อย่างดุเดือดแท้จริ งระหว่างผูฝ้ ึ กปราณ ด้วยที่นี่มีทรัพยากรอุดม
สมบูรณ์มากพอที่จะแบ่งปันให้คนส่ วนใหญ่
“อะไรวะ แจ้งนามเจ้ามาซิ เจ้าคิดบ้างไหมว่าพวกข้าอยูส่ าํ นักไหน”
เหล่าบรรดาศิษย์พากันจ้องมองซูหยางด้วยท่าทางโกรธแค้นหลังจาก
ที่เขาปรากฏตัวขึ้นโดยไร้วแี่ ววและแย่งเหยือ่ ไปรวมไปถึงรางวัลการ
ล่า
ซูหยางเหลือบมองเหล่าศิษย์ที่เขาแย่งแมวสายฟ้ามาแล้วยักไหล่ “ข้า
มิทราบและมิมีความสนใจ” เขาพูดกับพวกเขาและหายตัวไปยังที่อื่น
ภายในเวลานับเป็ นชัว่ โมง ซูหยางท่องเที่ยวไปทัว่ พื้นที่ช้ นั ในของ
หุบเขาฟ้าคํารามราวกับกระแสลม และที่ไหนก็ตามที่เขาปรากฏกาย
ก็จะมีแก่นพลังสัตว์อสู รเข้าไปในกระเป๋ าของเขา ตามด้วยท่าทาง
โกรธแค้นของบรรดาผูค้ นที่ถูกแย่งฆ่า
“เชี่ย ไอ้สารเลวไร้ยางอาย ข้าสาบานว่าถ้าข้าเจอเจ้าอีกครั้ง ข้าจะ
เหยียบเจ้าให้เละเหมือนลูกพรุ น”
“แต่…แม้เขาจะหน้าด้านไร้ยางอาย เขาก็จดั การฆ่าแมวสายฟ้าโดย
ปราศจากความพยายามใด ๆ ทั้งสิ้ น…เจ้ามัน่ ใจรึ วา่ เจ้าต้องการสู ก้ บั
คนอย่างเขา”
“ข้า…หุบปากซะ”
อย่างรวดเร็ ว ซูหยางกลายเป็ นผูม้ ีชื่อเสี ยงในหุบเขาฟ้าคํารามฐานะ
หัวขโมยไร้ยางอาย ผูท้ ี่แย่งเหยือ่ ของผูอ้ ื่น
“ผลลัพธ์ดีกว่าที่ขา้ คาดไว้…” ซูหยางพูดเมื่อเขารู ้สึกถึงถุงกระเป๋ าที่
ใช้บรรจุแก่นพลังสัตว์อสู ร เขารู ้สึกยินดีแกมประหลาดใจที่พบเห็น
แมวสายฟ้าจํานวนมากวิง่ เพ่นพ่านอยูใ่ นหุบเขาฟ้าคํารามนี้ เหมือน
กับว่าสัตว์เพียงชนิดเดียวที่อาศัยอยูใ่ นหุบเขาฟ้าคํารามแห่งนี้คือแมว
สายฟ้า
ปกติแล้วพงไพรเช่นหุบเขาฟ้าคํารามควรมีสตั ว์ป่ามากมายหลาย
ชนิดอาศัยอยู่ แต่จากที่ซูหยางได้พบเจอล้วนมีแต่แมวสายฟ้า
“ช่างเป็ นปรากฏการณ์ที่ผดิ ปกติ…” ซูหยางหยุดการเคลื่อนที่และ
เริ่ มคิด
หลังจากคิดชัว่ ขณะ เขาพลันวิง่ เข้าไปลึกในหุ บเขาฟ้าคํารามไม่
สนใจแม้กระทัง่ แมวสายฟ้าที่มีแก่นพลังสัตว์อสู รที่อยูร่ อบข้าง
อย่างไรก็ตามก่อนที่ซูหยางจะถึงใจกลางของหุบเขาฟ้าคําราม ใจฟ้า
คําราม เขาถูกยั้งไว้ดว้ ยกลุ่มคนจํานวนมากที่ขวางกั้นทางเดิน
ผูค้ นเหล่านี้ลว้ นสวมชุดสองส่ วนที่มีรูปดาบสี ทองปั กอยูบ่ นขาขวา
พวกเขามีจาํ นวนร่ วมร้อยคนยืนเรี ยงรายอยูบ่ ริ เวณนี้
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่” ซูหยางถามหนึ่งในพวกเขา
“ที่แห่งนี้ปัจจุบนั ถูกจับจองโดยนิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์ จงหันกาย
กลับไปในทันที”
เมื่อซูหยางได้ยนิ ว่าพวกเขาขึ้นกับนิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์ เขาอดที่จะ
เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจไม่ได้
เป็ นที่แน่ชดั ว่าผูอ้ าวุโสจงเดินทางไปยังสถานที่อื่นเมื่อพวกเขาแยก
ทางกัน แล้วเหตุใดบรรดาคนเหล่านี้มาทําอะไรที่นี่ท่ามกลางหุบเขา
ฟ้าคําราม
พวกเขาส่วนใหญ่อยูท่ ี่เขตคัมภีร์วญ ิ ญาณยกเว้นบางคนที่อยูเ่ ขตสัมมา
วิญญาณ ถือว่าเป็ นกองกําลังขนาดมหึ มา ยิง่ ในหุบเขาฟ้าคํารามแห่ง
นี้ที่เหล่าสัตว์ป่ายังอยูใ่ นเขตปฐมวิญญาณ มันเกินความจําเป็ น
อย่างไรก็ตามด้วยผูเ้ ชี่ยวชาญเขตคัมภีร์วญ
ิ ญาณจํานวนมาก แมว
สายฟ้าที่มีอยูม่ ากมายควรถูกกวาดล้างสิ้ น แต่พวกมันยังมีมากมาย
หลายตัวที่เพ่นพ่านไปทัว่ ดังนั้นย่อมหมายความว่าพวกเขาไม่ได้มา
ที่นี่เพื่อแมวสายฟ้าแต่เป็ นอย่างอื่น
“ถ้าพวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อแมวสายฟ้า เช่นนั้นพวกเขาต้องมาที่นี่
เพราะสิ่ งนั้น” ซูหยางยิม้ กับตนเอง
เมื่อศิษย์นิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์เห็นซูหยางยิม้ เขาก็ขมวดคิ้ว “เจ้ายิม้
ทําเชี่ยอะไรวะ ไสหัวไป” เขาคํารามเสี ยงตํ่าและหงุดหงิด
“ไสหัวไป หื อ…” ซูหยางหยิบป้ายหยกสี เหลืองขึ้นมาจากชุดยาว
แสดงให้ศิษย์นิกายโดยไม่ใส่ ใจ เขาพลันกรี ดร้องด้วยความหวาดหวัน่
พรั่นพรึ งหลังจากเห็นป้ายหยก เป็ นเหตุให้ทุกคนแถวนั้นต่างพากัน
หันมามองเขา
“ข..ข..ข้าขออภัยเป็ นอย่างยิง่ ” ศิษย์นิกายพลันคุกเข่าโขกศีรษะเคารพ
ซูหยางด้วยใบหน้าซีดเผือด “ศิษย์ผนู ้ อ้ ยตํ่าต้อยผูน้ ้ ีมีตาแต่หารู ้จกั เขา
สู ง”
สถานที่พลันกลายเป็ นเงียบสงัดจนกระทัง่ ได้ยนิ เสี ยงใบไม้ร่วงลงสู่
พื้น
บทที่ 50 ดอกหยินสุ ดขั้ว
หลังจากซูหยางแสดงป้ายหยกที่ผอู ้ าวุโสจงให้ไว้ก่อนหน้านี้ รอบ
บริ เวณกลายเป็ นเงียบงัน
“หลีกไป ข้ามีธุระกับศิษย์พี่ของพวกเจ้า…” ซูหยางพูดขณะสร้าง
บรรยากาศอันลึกลํ้ากดดัน ทําให้อีกฝ่ ายเชื่อว่าเขาเป็ นศิษย์พี่ที่เลิศลํ้า
“น..น้อมรับคําสัง่ ” เหล่าศิษย์พากันเปิ ดเส้นทางให้ซูหยางเดินทะลุ
ผ่านไปอย่างรวดเร็ ว
ซูหยางพยักหน้าและเริ่ มเดินไปตามเส้นทางที่เปิ ดให้โดยมีเหล่าศิษย์
ล้วนก้มหน้าลงดินขณะที่เขาเดินผ่านราวกลับกลัวที่จะมองดูเขา
เมื่อเขาเดินผ่านผูค้ นแล้วซูหยางเดินตรงต่อไปยังใจกลาง บรรยากาศ
หนักอึ้งขึ้นทุกขณะที่เขาเข้าไปใกล้
“นัน่ ใคร” เสี ยงปานฟ้าผ่าดังขึ้นเมื่อซูหยางเข้าไปถึงศูนย์กลางของ
หุบเขาฟ้าคําราม ใจฟ้าคําราม
ซูหยางมองดูสถานการณ์เบื้องหน้า ที่นนั่ มีคนสี่ คน แต่ละคนล้วนแผ่
รังสี ของผูเ้ ชี่ยวชาญเขตปฐพีวญ ิ ญาณ ยืนล้อมรอบดอกไม้เล็ก ๆ ที่
เรื องแสงสี น้ าํ เงินเข้มเป็ นจังหวะคล้ายหายใจ
ดอกไม้น้ ีมีขนาดเท่ากับนิ้วโป้ง กระแสไฟฟ้าไหลผ่านกิ่งก้านราวกับ
งูตวั เล็ก ๆ
เมื่อซูหยางแรกเห็นดอกไม้ เขาพลันยิม้ เล็กน้อยและเลือนหายไป
อย่างรวดเร็ ว
“ข้าจักมิถามเจ้าซํ้าว่าเจ้าผ่านบรรดาศิษย์ขา้ มาได้อย่างไร และเกิด
อะไรขึ้นกับพวกเขา” หนึ่งในร่ างทั้งสี่ หญิงชราในชุดแดงที่สายตา
เปี่ ยมด้วยรังสี สงั หาร
อย่างไรก็ตามเธอไม่ใช่เพียงผูเ้ ดียวที่จอ้ งมองเขาด้วยความเป็ นศัตรู
ด้วยสามร่ างที่อยูข่ า้ งเธอก็เตรี ยมพร้อมที่จะโจมตีเขาได้ทุกขณะจิต
พวกเขาทั้งสี่ รู้ดีวา่ เหล่าศิษย์นิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์ยอ่ มไม่ยอมให้ใคร
ผ่านโดยวิธีการใด ๆ นอกจากถูกบีบบังคับ
อย่างไรก็ตามจะมีใครในทวีปตะวันออกเล็กจ้อยนี้สามารถบีบบังคับ
เหล่าศิษย์นบั ร้อยของนิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์ให้ล่าถอย นี่เป็ นเหตุที่วา่
ทําไมคนทั้งสี่ จึงยังไม่โจมตีซูหยางในทันใด พวกเขาล้วนกังวลต่อ
การปรากฏตัวอย่างลึกลับของเขา
“ข้าเพียงเดินผ่านพวกเขา ส่ วนความปลอดภัยนั้น…ข้ามิได้แตะต้อง
ใครสักคน” ซูหยางพูดโดยไม่ใส่ ใจ ดูไม่สะทกสะท้านกับรังสี
สังหารจากผูเ้ ชี่ยวชาญเขตปฐพีวญ
ิ ญาณร่ วมกันส่ งออกมา
“เจ้าเดินผ่านพวกเขา นี่เป็ นไปได้อย่างไร ข้าให้คาํ สัง่ แน่ชดั ว่ามิให้
ผูใ้ ดผ่าน”
“เจ้ายังคงพูดเช่นนั้นได้รึถา้ เห็นสิ่ งนี้” ซูหยางแสดงป้ายหยกเหลือง
อีกครั้ง
แม้วา่ เขาจะไม่รู้คุณค่าของป้ายหยกเมื่อแรกรับ แต่ปฏิกิริยาจากบรรดา
ศิษย์นิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์ทาํ ให้เขารู ้ชดั แจ้งว่ามันให้สถานะพิเศษแก่
เขาในนิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์
และก็เป็ นเช่นนั้นจริ ง เมื่อคนทั้งสี่ เห็นป้ายหยกเหลือง ลูกตาของ
พวกเขาถลนแทบหลุดจากเบ้าด้วยความตกใจ
“เป็ นไปมิได้ นัน่ มันป้ายคําสัง่ ของผูอ้ าวุโสจง ทําไมเขาถึงมีของ
อย่างนี้”
“เจ้า เจ้าได้ป้ายหยกนี้มาอย่างไร อีกทั้งเจ้ามีความสัมพันธ์ใดกับผู ้
อาวุโสจง”
“พวกเราจะรู ้ได้อย่างไรว่านี่คือของจริ ง ผูอ้ าวุโสจงออกจากนิกายไป
สถานที่น้ นั กว่าสิ บปี แล้ว”
คนทั้งสี่ ต่างพากันโยนคําถามใส่ ซูหยางที่ตอบคําถามพวกเขาทีละ
คําถามอย่างเยือกเย็น
“ข้าพบกับผูอ้ าวุโสจงโดยบังเอิญ และเมื่อช่วยเขาปกป้องท่านหญิงซี
พวกเรากลายเป็ นเพื่อนตายและเขาให้ป้ายหยกนี้แก่ขา้ ด้วยความสํานึก
ในบุญคุณ…” เมื่อซูหยางอ้างถึงนามสกุลซี ท่าทางของคนทั้งสี่ ลว้ น
เปลี่ยนไป พวกเขาไม่มองซูหยางด้วยรังสี สงั หารอีกต่อไปแต่พวก
เขายังคงมีความสงสัย
“ส่ วนการยืนยันป้ายหยกนี้วา่ จริ งหรื อไม่ ทําไมพวกเจ้ามิตรวจสอบ
มันด้วยตัวเจ้าเอง” ซูหยางพลันโยนป้ายหยกไปทางพวกเขา
ผูท้ ี่รับป้ายได้ใช้เวลาชัว่ ขณะเพื่อตรวจสอบป้ายหยก
ชัว่ ขณะหนึ่งหลังจากนั้น เขาก็ร่ าํ ร้องว่า “นี่เป็ นของจริ ง นี่เป็ นป้าย
คําสัง่ ของผูอ้ าวุโสจงที่แท้จริ ง”
“จริ งแล้วจะเป็ นอย่างไร เจ้ามาทําอะไรที่นี่ ผูอ้ าวุโสจงต้องไม่รู้เรื่ อง
ปฏิบตั ิการนี้เพราะว่าเขาไม่ได้อยูก่ บั พวกเรามานานนับสิ บปี ” หญิง
ชราชุดแดงยังสอบถามซูหยางต่อ
“พวกเจ้ามัน่ ใจเช่นนั้นรึ ข้าแยกทางกับผูอ้ าวุโสจงไม่นานที่ปาก
ทางเข้าหุบเขาฟ้าคํารามนี่เอง”
“อะไรนะ ผูอ้ าวุโสจงอยูท่ ี่นี่รึ”
ซูหยางผงกศีรษะและกล่าวว่า “ท่านหญิงซี กอ็ ยูด่ ว้ ย”
เขาพลันตรงไปหาพวกเขาอย่างสบาย ๆ และกล่าวต่อว่า “พวกเจ้ารู ้
ไหมว่าดอกไม้นนั่ คืออะไร” เขาถามพวกเขา
ทั้งสี่ คนมองไปที่ดอกไม้สลับกับซูหยางแล้วพากันสัน่ ศีรษะ แน่นอน
ว่าพวกเขาไม่เคยเห็นดอกไม้เช่นนี้มาก่อน แม้พวกเขาจะมีความรู ้
มากมาย แต่ไม่มีใครสักคนในหมู่พวกเขาเคยเห็นหรื อเคยได้ยนิ
ดอกไม้เช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตามพวกเขามัน่ ใจว่าดอกไม้น้ ีเป็ นต้นเหตุของปรากฏการณ์
ที่เกี่ยวข้องกับแมวสายฟ้าในหุบเขาฟ้าคํารามนี้ และมันต้องเป็ น
ทรัพยากรลํ้าค่าประเภทหนึ่ง ดังนั้นจึงเป็ นเหตุให้พวกเขาต้อง
วางแผนปกป้องสถานที่แห่งนี้จนกว่าพวกเขาจะสามารถจําแนก
ตัวตนของดอกไม้เล็ก ๆ นี้
“ดอกไม้น้ ีเรี ยกว่าดอกหยินสุ ดขั้ว มันมีประสิ ทธิภาพเช่นเดียวกับ
ดอกหยินบริ สุทธิ์ อีกทั้งยังมีประสิ ทธิภาพมากกว่าถึงสิ บเท่า”
“แรงกว่าสิ บเท่า”
เมื่อทั้งสี่ คนรับรู ้ถึงตัวตนของดอกไม้น้ ี พวกเขาล้วนอ้าปากค้างด้วย
ความตกใจ ดอกหยินบริ สุทธิ์ถือว่าเป็ นตัวยาที่รุนแรงถึงที่สุดแล้ว
มันสามารถฆ่ากระทัง่ ผูเ้ ชี่ยวชาญเขตปฐพีวญ ิ ญาณ และนี่ดอกหยิน
สุ ดขั้วยังรุ นแรงกว่าอีกนับสิ บเท่า นี่ยอ่ มหมายความว่าดอกหยินสุ ด
ขั้วย่อมสามารถฆ่าได้แม้กระทัง่ ผูฝ้ ึ กปราณเขตอัมพรวิญญาณ
“ถ้ากลืนกินลงไปโดยปราศจากวิชาพิเศษเฉพาะ แม้กระทัง่ ผูฝ้ ึ กปราณ
เหนือกว่าเขตอัมพรวิญญาณยังต้องตกตายในทันทีที่ใช้มนั ” ซูหยาง
กล่าวต่อทําให้พวกเขายิง่ ตกใจกว่าเดิม
“กระทัง่ ผูท้ ี่อยูเ่ หนือเขตอัมพรวิญญาณ ช..เช่นนั้นพวกเราควรจะทํา
อะไรกับสิ่ งนี้ ถ้ามิมีใครในโลกนี้สามารถใช้มนั ได้ นัน่ มิหมายความ
ว่ามันเป็ นของไร้ค่า” หญิงชราชุดแดงถาม
“นัน่ จึงเป็ นเหตุที่ท่านหญิงซีและผูอ้ าวุโสจงส่ งข้ามาที่นี่” เขาตอบ
“แม้วา่ มิมีคนในกลุ่มพวกเราที่สามารถใช้ดอกหยินสุ ดขั้วได้ ข้า
ค่อนข้างมัน่ ใจว่าตระกูลท่านหญิงซีตอ้ งหาวิธีใช้มนั ได้”
แม้วา่ จะไม่รู้อะไรเลยเบื้องหลังซีซิงฟาง แต่ซูหยางรู ้วา่ เธอต้องเป็ น
ตัวตนที่มีฐานะสู งส่ งมากในโลกนี้ ดังนั้นเขาจึงใช้สิ่งนั้นเป็ นประโยชน์
โดยหวังว่าจะสามารถโน้มน้าวสี่ คนนี้ได้
“ฟังดูสมเหตุสมผล…ถ้าจะมีใครที่สามารถจัดการกับดอกหยินสุ ด
ขั้วนี้นนั่ ต้องเป็ นตระกูลของท่านหญิงซี…”
“เช่นนั้นถ้าพวกเจ้าไม่วา่ อะไร ข้าจักถอนต้นหยินสุ ดขั้วนี้และ
กลับไปข้างกายท่านหญิงซี” ซูหยางกล่าวขณะที่เขาเข้าไปยืนต่อหน้า
ต้นหยินสุ ดขั้ว
บทที่ 51 โชคร้ าย
“ขอข้าดูกล่องหยกของเจ้าหน่อย” ซูหยางกล่าวโดยไม่ตอ้ งถามว่า
พวกเขามีหรื อไม่
“นี่ ได้ละ…” หญิงชราในชุดแดงนําเอากล่องสี แดงออกมาและยืน่ ส่ ง
ให้กบั ซูหยางผูท้ ี่นงั่ คุกเข่าด้านหน้าดอกไม้สีน้ าํ เงิน
กล่องหยกในมือของเขาคล้ายกับใบที่บรรจุดอกหยางพิสุทธิ์ที่คลัง
มุกพิสุทธิ์ส่งให้กบั เขา เมื่อสมุนไพรตัวยาที่มีพลังปราณลึกลํ้าถูก
ถอนจากที่มนั เติบโต ประสิ ทธิภาพของพวกมันจะลดลงไปตาม
กาลเวลา ดังนั้นผูฝ้ ึ กวิชาต้องรักษามันไว้ในกล่องหยกเหล่านี้เพื่อ
ยับยั้งกระบวนการเสื่ อมประสิ ทธิภาพ ยิง่ ใช้กล่องหยกแพงเท่าไรยิง่
เหมาะสมกับการเก็บรักษาตัวยาทําให้ประสิ ทธิภาพยังคงเดิมแม้วา่
จะผ่านไปหลายร้อยปี
“แม้วา่ ข้าจะคาดเดาไว้แต่แรก นี่กเ็ ป็ นดอกหยินสุ ดขั้วจริ ง ๆ พวกมัน
ปกติเติบโตในสถานที่ที่เย็นจัด แต่มนั ก็ยงั ปรากฏในหุบเขาฟ้าคําราม
แห่งนี้” ซูหยางคิดไปพลางยืน่ มือไปหาดอกหยินสุ ดขั้วอย่างสบาย ๆ
ซึ่งสร้างความตกตะลึกเป็ นอย่างมากให้กบั คนทั้งสี่ ที่กาํ ลังมองดูอยู่
คนทั้งสี่ น้ ีพยายามค้นหาหนทางที่จะถอนดอกไม้น้ ีต้ งั แต่หลายวัน
ก่อน อย่างไรก็ตามเพราะว่าดอกหยินสุ ดขั้วตอบโต้ดว้ ยปราณลึกลํ้า
ของมัน จึงไม่มีใครสามารถแตะต้องมันได้
บางครั้งเมื่อสมุนไพรมีพลังปราณมากเพียงพอ มันสามารถกําเนิด
สติปัญญาขึ้นมาได้ แม้วา่ จะเพียงเล็กน้อยแต่ดอกหยินสุ ดขั้วนี้กม็ ีสติ
มากพอที่จะปกป้องตนเองเมื่อรับรู ้ถึงอันตราย
“ระวัง นัน่ ”
อย่างไรก็ตามขณะที่คนทั้งสี่ คาดหวังว่าตนเองจะได้เห็นดอกหยินสุ ด
ขั้วโจมตีซูหยางด้วยพลังหยินแกร่ งกล้า ซูหยางพลันยืน่ มือไปถอน
ดอกไม้ออกมาได้อย่างสบาย ๆ ราวกับเขาถอนต้นดอกไม้ธรรมดา
มันไม่ตอ้ งใช้ความพยายามและเป็ นไปอย่างราบรื่ น
“ดอกหยินสุ ดขั้วปลดปล่อยพลังลึกลํ้าที่สามารถไล่สตั ว์ทุกชนิด
ออกไป เหลือไว้เพียงสัตว์ที่มีพลังหยินกล้าแข็งในร่ างดังเช่นแมว
สายฟ้าเพื่อใช้หล่อเลี้ยงตัวมันเอง หุบเขาฟ้าคํารามควรจะกลับคืน
เป็ นปกติภายในไม่กี่สปั ดาห์” ซูหยางอธิบายให้พวกเขาฟังว่าทําไม
หุบเขาฟ้าคํารามจึงมีแต่แมวสายฟ้าขณะที่เขาวางดอกหยินสุ ดขั้วไว้
ในกล่องหยก
“อย่างไร ท่านถอนมันออกมาได้อย่างไรโดยที่มนั ไม่โจมตีท่านเลย
ขณะที่พวกเราพยายาม มันต้องโจมตีดว้ ยปราณแกร่ งกล้าเทียบเท่า
กับผูฝ้ ึ กปราณเขตอัมพรวิญญาณ” หนึ่งในสี่ คนนั้นถามขึ้นมาด้วยสี
หน้างงงวย
ซูหยางมองไปยังพวกเขาด้วยท่าทางเรี ยบเฉย กล่าวว่า “มันก็เหมือนกับ
การเกี้ยวสาว ถ้าเธอมิชอบเจ้าเธอก็จะไล่เจ้าไปอย่างแน่นอน อย่างไร
ก็ตามถ้าเจ้าเข้าไปหาเธอด้วยวิธีที่เหมาะสม เธอก็จกั เชื่อฟังติดตาม
เจ้ากลับบ้าน”
คําอธิบายของซูหยางเกือบทําให้คนทั้งสี่ สาํ ลักอากาศเพราะความไร้
สาระสําคัญ ทําไมเขาเปรี ยบเทียบการถอนต้นยาศักดิ์สิทธิ์กบั การ
เกี้ยวสาว อย่างไรก็ตามแม้คาํ พูดของเขาจะฟังดูบา้ บอ มันกลับ
เหมือนมีเหตุผลเมื่อออกมาจากปากของเขา
บางทีอาจจะเป็ นเพราะว่าเขาหล่อเหลาหรื อท่าทางอันสง่างาม แต่ท้ งั
สี่ คนไม่ได้ไต่ถามเขาอีก
“เอาล่ะ ตอนนี้ขา้ จักนําเสนอสิ่ งนี้ให้กบั ท่านหญิงซี”
“รอสักครู่ ”
ขณะที่ซูหยางกําลังเดินจากไป หนึ่งในสี่ พลันยับยั้งเขาไว้
“ข้าจักพูดถึงพวกเจ้าเหล่านิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์แน่นอนเมื่อข้าส่ งสิ่ ง
นี้ให้กบั ท่านหญิงซี” ซูหยางพลันกล่าวโดยไม่หนั ไปมอง
“…”
“ขอบคุณพี่ท่าน”
แม้วา่ จะงุนงงในตอนแรก แต่ผทู ้ ี่ร้ ังเขาไว้คาํ นับต่อเขาที่จากไปแล้ว
ด้วยความเคารพ โดยมีคนที่เหลืออีกสามทําตามอย่างรวดเร็ ว
แม้วา่ ซูหยางดูอายุนอ้ ยจนเป็ นหลานของพวกเขาได้ แต่วา่ มีความรู ้สึก
ชัดเจนที่เขาปลดปล่อยออกมาประการหนึ่งที่ทาํ ให้เขาดูเก่าแก่ชรายิง่
กว่ารู ปลักษณ์ที่แท้จริ ง ซึ่งเป็ นเหตุให้คนทั้งสี่ รู้สึกเหมือนกับว่าพวก
เขาอยูต่ ่อหน้าของผูเ้ ก่งกาจลํ้าลึก
“ตระกูลท่านหญิงซีช่างลึกลํ้าสุ ดหยัง่ เมื่อคิดว่าพวกเขามีผเู ้ ชี่ยวชาญ
ที่สามารถถอนยาศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังฝี มือขั้นอัมพรวิญญาณได้ราวกับ
ว่าเขาถอนต้นหญ้า…” ทั้งสี่ คนทอดถอนใจด้วยความนับถือต่อซู
หยางที่หายไปจากใจกลางฟ้าคําราม
“ศิษย์พี่”
เมื่อบรรดาศิษย์นิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์สงั เกตเห็นร่ างของซูหยาง
ปรากฏตัวขึ้นหลังทิวไม้ พวกเขาล้วนเปิ ดเส้นทางให้กบั เขาโดยไม่
ต้องกล่าวอะไรแม้เพียงสักคํา
“ข้าเคยได้ยนิ สิ่ งดี ๆ เกี่ยวกับนิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์จากผูอ้ าวุโสจง แต่
ข้าเคยคิดว่านัน่ คงเป็ นเพียงต่อหน้าเขาเท่านั้น ข้ามัน่ ใจว่าผูอ้ าวุโสจง
คงเบิกบานใจหากข้าเล่าให้เขาฟังถึงความนอบน้อมของบรรดาศิษย์”
ซูหยางหัวเราะขณะที่เขาเดินไปบนเส้นทางที่โล่งกว้าง
คําพูดของเขาทําให้บรรดาศิษย์รู้สึกตัวลอย ผูอ้ าวุโสจงเป็ นผูท้ ี่มี
เบื้องหลังกว้างขวางภายในนิกายและได้รับการยกย่องว่าเป็ นวีรบุรุษ
การได้ถูกกล่าวถึงต่อหน้าวีรบุรุษเช่นนี้เป็ นสิ่ งที่น่าภาคภูมิใจ
อย่างไรก็ตามบรรดาศิษย์เหล่านี้จะเฉลียวใจสักนิดก็หาไม่วา่ ถ้าผู ้
อาวุโสจงพบสิ่ งที่ซูหยางทําในวันนี้กบั ป้ายคําสัง่ หยกของเขา เขาคง
กระอักเลือดด้วยความโกรธอย่างแน่นอน
แม้วา่ ซูหยางไม่ใช่คนที่เจ้าคิดเจ้าแค้น แต่ถา้ เขามีโอกาสที่จะตอบสนอง
เขาย่อมไม่เกรงใจ
หลังจากที่ซูหยางไปจากที่แห่งนั้น นิกายกระบี่ศกั ดิ์สิทธิ์กพ็ ากัน
ทยอยจากไปหลังจากนั้นไม่นาน เห็นเป็ นคนนับร้อยพากันยืนอยูบ่ น
กระบี่ทะยานไปเหนือหุบเขาฟ้าคํารามมุ่งสู่ เส้นขอบฟ้า
“กระบี่บิน หึ …ข้าควรหาได้สกั เล่มเมื่อข้าขายแก่นพลังสัตว์อสู ร
เหล่านี้…” ซูหยางคิดในใจขณะที่เขากลับไปล่าแมวสายฟ้าต่อ
สําหรับดอกหยินสุ ดขั้วที่ถือได้วา่ เป็ นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ในโลกของ
ปุถุชนนั้น เขาไม่มีเงื่อนงําในการใช้มนั แม้สกั นิด
ในฐานะที่เป็ นผูช้ าย ซูหยางไม่สามารถใช้ดอกหยินสุ ดขั้วสําหรับ
ตัวเองได้ นัน่ เป็ นการรนหาที่ตาย อย่างไรก็ตามเขามีความหวังเพียง
น้อยนิดที่เขาจะหาหญิงสักคนในโลกมนุษย์น้ ีที่ถือว่าเขตอัมพร
วิญญาณเป็ นจุดสู งสุ ด เธอที่แกร่ งมากพอที่จะกลืนกินดอกหยินสุ ด
ขั้วนี้โดยไม่ระเบิดออกเป็ นพันชิ้นจากปราณหยินอันรุ นแรงสุ ดขั้ว
จากดอกไม้น้ ี
“กระทัง่ ข้าให้วธิ ีที่จะกลืนกินดอกหยินสุ ดขั้วกับใครสักคนในเขต
อัมพรวิญญาณ พลังการฝึ กปรื อของเธอก็ยงั ไม่เพียงพอที่จะต่อต้าน
มัน…อัยย่าาา….คิดว่าข้าโชคดีมากที่พบเจอดอกหยินสุ ดขั้วในโลกที่
ขาดแคลนนี้ แต่โอกาสที่จะพบใครสักคนที่มีความสามารถพอที่จะ
กลืนกินมันดูเหมือนจะไม่มีอยูแ่ ม้เพียงสักคน ช่างโชคร้าย โชคร้าย
อย่างแท้จริ ง”
บทที่ 52 จะเป็ นเช่ นไรถ้ าข้ าปฏิเสธ
ภายในตําหนักโอสถ หลานลี่ชิงเดินลงบันใดอย่างสงบเฉยเมยดังเช่น
ปกติ
เมื่อเหล่าศิษย์มองเห็นเธอ ใบหน้าของพวกเธอเปล่งประกายสดใส
“อาจารย์ ในที่สุดท่านก็ออกมาจากห้อง”
หนึ่งในศิษย์ของเธอวิง่ มาที่เธอและยืน่ ป้ายหยกให้ “อาจารย์ เจ้า
นิกายแวะมาหาเมื่อวานนี้ แต่ท่านกลับไปก่อนแล้วเมื่อพวกเราบอก
ว่าท่านปิ ดประตูฝึกวิชา ท่านยังทิ้งป้ายหยกนี้ไว้ให้กบั ท่านก่อนจาก
ไป” ศิษย์กล่าวขึ้นขณะยืน่ ป้ายหยกให้
“เจ้านิกายรึ ” หลานลี่ชิงแปลกใจว่าเขาต้องการอะไรจากเธอ
“ขอบใจ ข้าจักไปที่ศาลาหยินหยางเพื่อพบกับเจ้านิกายเดี๋ยวนี้เลย”
หลานลี่ชิงพลันชะงักขณะไปถึงทางออกขณะหันกายกลับมาถาม
“ช่วงที่ผา่ นมาพวกเจ้าได้ยนิ ข่าวเกี่ยวกับซูหยางบ้างไหม”
บรรดาศิษย์พากันส่ ายหน้า
“ซูหยางออกจากนิกายไปทําภารกิจเมื่ออาทิตย์ก่อนและพวกเรามิเคย
ได้ยนิ ข่าวคราวของเขาอีกเลย”
“เขาออกจากนิกาย” หลานลี่ชิงเก็บตัวฝึ กวิชาอยูใ่ นห้องเธอตั้งแต่ซู
หยางเด็ดดอกไม้ของเธอ ดังนั้นไม่น่าแปลกใจที่เธอไม่รู้ข่าวคราว
ของเขา
หลังจากออกจากตําหนักโอสถ หลานลี่ชิงตรงไปยังศาลาหยินหยาง
ที่ซ่ ึงเจ้านิกายคนปั จจุบนั และเจ้าแม่นิกายพักอาศัย
สิ่ งที่แตกต่างจากสํานักทัว่ ไปของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ก็คือมีผนู ้ าํ
นิกายสองคนแทนที่จะเป็ นคนเดียว หนึ่งหญิงและหนึ่งชาย โดยวิธีน้ ี
หากชายหรื อหญิงคนใดประสบปั ญหาระหว่างกันและกัน พวกเขาก็
จะมีตวั แทนของตนเองโดยไม่ตอ้ งหวาดกลัวว่าจะถูกคุกคามอย่างไร้
ความยุติธรรมเหตุเพราะว่าเพศของพวกเขา
“ศิษย์นิกายหลาน คารวะเจ้านิกาย” หลานลี่ชิงโน้มคํานับต่อชายวัย
กลางคนรู ปหล่อผมยาวสี ดาํ ผูท้ ี่นงั่ อยูอ่ ย่างสงบบนเตียงด้านหน้าเธอ
ขณะที่เธอเป็ นผูอ้ าวุโสสํานัก เธอก็ยงั ถือว่าเป็ นศิษย์ของนิกาย ดังนั้น
เมื่อยูต่ ่อหน้าของผูน้ าํ นิกาย ผูอ้ าวุโสทุกคนล้วนถือว่าเป็ นศิษย์
“ตามสบาย” เจ้านิกายผายมือสบาย ๆ แล้วกล่าว “เจ้ารู ้ไหมว่าข้าเรี ยก
เจ้ามาที่นี่ทาํ ไม” เขาถาม
“ไม่ ข้าไม่ทราบ”
“นี่กย็ สี่ ิ บห้าปี ไปแล้วนับตั้งแต่เจ้าเข้านิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ในฐาน
ศิษย์นบั ตั้งแต่ขา้ ยังเป็ นผูอ้ าวุโสนิกาย และเท่าที่ขา้ รู ้มา…เจ้าเป็ นผู ้
อาวุโสคนเดียวในนิกายที่ยงั ไม่มีประสบการณ์การฝึ กคู่…” เจ้านิกาย
ถอนใจ
“เจ้าถือว่าเป็ นศิษย์ที่ฉลาดเฉลียว มีอนาคตที่แจ่มจรัสเมื่อครั้งแรกที่
เจ้าเข้าร่ วมสํานัก และทุกคนล้วนหลงใหลรู ปร่ างหน้าตาของเจ้า แต่
เพราะว่าความดื้อดึงของเจ้าที่ปฏิเสธการฝึ กคู่ พรสวรรค์ของเจ้าจึงมิ
เคยผลิบาน แม้วา่ นิกายมิเคยบังคับศิษย์ให้ร่วมฝึ กคู่ที่ขดั ต่อความ
ปรารถนา แต่บดั นี้เจ้าอายุเกินสี่ สิบปี เข้าไปแล้วแต่เจ้ายังคงเป็ นหญิง
สาวบริ สุทธิ์…บอกข้าซิศิษย์นิกายหลาน…เหตุใดเจ้าจึงเข้าร่ วมนิกาย
กุสุมาลย์พน้ พิสยั ขณะที่เจ้ามิตอ้ งการฝึ กคู่” เขากล่าวด้วยท่าทาง
สมเพช
เมื่อหลานลี่ชิงยังอยูใ่ นช่วงวัยสาว เธอเป็ นหนึ่งในศิษย์ที่มีความหวัง
สู งสุ ดคนหนึ่งในบรรดาเหล่าศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ด้วย
รู ปร่ างหน้าตาที่เหนือชั้นและพรสวรรค์เป็ นที่หลงใหลของศิษย์นบั
ไม่ถว้ น เสน่ห์ของเธอนั้นยิง่ ใหญ่จนเป็ นที่สนใจของศิษย์หลักหลายคน
แม้วา่ จะมีหลายคนเกี้ยวพาเธอ หลานลี่ชิงปฏิเสธอย่างไร้เยือ่ ใยที่จะ
ร่ วมฝึ กฝนกับผูใ้ ดแม้กระทัง่ ศิษย์หลักก็ตาม เป็ นเหตุให้เจ้านิกายคน
ก่อนปวดหัวไม่รู้จบ
“เจ้านิกายคนก่อน ๆ อาจจะยอมให้เจ้าทําอะไรก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ
เพราะว่าความใจดี แต่ขา้ มิได้โอนอ่อนเหมือนพวกเขา ศิษย์นิกาย
หลาน เจ้าเป็ นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ดังนั้นเจ้าต้องเชื่อฟัง
ทําตามคําสัง่ สอนและร่ วมฝึ กคู่”
หลานลี่ชิงผูท้ ี่ยนื เงียบอยูท่ ี่นนั่ สุ ดท้ายเธอก็เปิ ดปากพูดขึ้น “จะเป็ น
เช่นไรถ้าข้าปฏิเสธ”
“เช่นนั้นเจ้าจักต้องถูกบังคับให้ร่วมฝึ กมิเช่นนั้นก็ตอ้ งออกจาก
นิกาย” เจ้านิกายพูดด้วยนํ้าเสี ยงเย็นเยียบ “แต่มนั เป็ นความเสี ยหาย
หากทิ้งเจ้าไปหลังจากใช้ทรัพยากรจํานวนมากกับเจ้า โดยเฉพาะ
อย่างยิง่ เมื่อเจ้ายังมีแก่นพลังหยิน…”
“กฎของนิกายห้ามบีบบังคับให้ร่วมฝึ กคู่ แม้จะเป็ นคําสัง่ ของเจ้า
นิกายก็ตาม” หลานลี่ชิงตอบกลับอย่างเยือกเย็นโดยไม่เปิ ดเผยความ
จริ งที่วา่ แก่นพลังหยินของเธอถูกฉกไปโดยศิษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
เมื่อเธอเคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาหลายครั้ง
“เจ้าพูดถูก แต่การเป็ นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั ของข้า เจ้ามี
หน้าที่ที่ตอ้ งบริ การข้าซึ่ งเป็ นหนึ่งในสิ ทธิพิเศษมากมายของการเป็ น
ผูน้ าํ นิกาย” เจ้านิกายกล่าว เขาหรี่ ตาที่เต็มไปด้วยความหื่ นกระหาย
ขณะที่เขาโลมไล้สายตาบนเรื อนร่ างได้สดั ส่วนของหลานลี่ชิง
หลานลี่ชิงขมวดคิ้วกับคําพูดของเขา เขาพูดถูก ตราบใดที่เธอเป็ น
ศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั เธอมีหน้าที่ตอ้ งบริ การเจ้าสํานักถ้ามี
คําสัง่
“อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็ นการคารวะต่อเจ้านิกายคนก่อนที่หลงใหลเจ้า
ราวกับเป็ นหลานของตนเอง ข้าจักให้โอกาสสุ ดท้ายกับเจ้า เจ้ามีเวลา
จนถึงสิ้ นเดือนนี้ที่จะหาคู่ฝึกในบรรดาผูอ้ าวุโสสํานักในปัจจุบนั นี้
ก่อนที่ขา้ จักเรี ยกเจ้ามาที่หอ้ งนี้อีกครั้ง และจะมิจบด้วยเพียงคําพูด
สองสามคําเช่นวันนี้ อย่าให้ขา้ ต้องบีบบังคับ ศิษย์นิกายหลาน”
หลานลี่ชิงออกจากศาลาหยินหยางในทันทีหลังจากคําพูดสุ ดท้าย
ของเจ้านิกาย เมื่อเธอกลับไปยังตําหนักโอสถ หน้าตาของเธอซี ด
เผือด จนบรรดาศิษย์ที่นนั่ ต่างพากันมองดูเธอด้วยความเป็ นห่วง
“อาจารย์ ท่านสบายดีไหม ท่านดูน่ากลัว”
“ข้าสบายดี…ข้าเพียงต้องการพักในห้องข้าสักเล็กน้อย…”
บรรดาศิษย์ที่นนั่ ต่างพากันมองอย่างเงียบ ๆ ไปยังหลานลี่ชิงที่เดิน
ขึ้นไปยังชั้นบนอย่างช้า ๆ ราวกับว่าเธอตกอยูใ่ นความสิ้ นหวัง
“เกิดอะไรขึ้นกับท่านอาจารย์ หรื อว่าเธอถูกเจ้านิกายดุด่า”
“คงเป็ นเช่นนั้น…”
หลานลี่ชิงเป็ นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั นี้กเ็ พียงเพราะเจ้า
นิกายคนก่อนผูท้ ี่นาํ เธอเข้ามาและอุปถัมภ์เธอด้วยตนเองหลังจากที่
เขาช่วยเหลือเธอก่อนที่จะถูกเหล่าโจรพาตัวไปเมื่อฆ่าพ่อแม่เธอ
อย่างโหดเหี้ ยมแล้ว
ถ้าเธอไม่เห็นว่านิกายกุสุมาลย์พน้ พิสยั แห่งนี้เป็ นเหมือนบ้านของ
เธอ เธอคงจากสถานที่น้ ีไปนานแล้วหลังจากเจ้านิกายคนก่อนเสี ยชีวติ
ภายในห้องของเธอ หลานลี่ชิงนัง่ อยูบ่ นเตียงอย่างเงียบ ๆ สายตายุง่
เหยิงของเธอจ้องมองไปยังเศษเสื้ อผ้าชิ้นเล็ก ๆ ในมือ มันเปื้ อนด้วย
รอยเลือดสองสามจุด “ซูหยาง…” เธอพึมพํา รู ้สึกงุนงงกับสิ่ งที่
เกิดขึ้น

You might also like