Professional Documents
Culture Documents
เรื่อง
การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ
“การเลี้ยงปลาหมอในร่องสวนและแหล่งน้้าในสวนล้าไย
ตามแนวทางการลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อเป็นทางเลือกแก่ชุมชนในการพึ่งพาตนเอง”
โดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทิพสุคนธ์ พิมพ์พิมล
คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้้า
2559
รายงานโครงการบริการวิชาการ
เรื่อง การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ“การเลี้ยงปลาหมอในร่องสวนและแหล่งน้้า
ในสวนล้าไยตามแนวทางการลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพือ่
เป็นทางเลือกแก่ชุมชนในการพึ่งพาตนเอง”
งานบริการวิชาการเสร็จสิ้นสมบูรณ์
/ส.ค./2559
ก
คำนำ
ปัจจุบันหลายภาคส่วนของประเทศไทยได้นาปรัชญาที่เกี่ยวกับการดาเนินชีวิตแบบพอเพียงมา
ปรับใช้ ซึ่งปรัชญาดังกล่าวสามารถช่วยให้ประชาชนในทุกระดับชั้นดารงชีวิตได้อย่างมั่นคงบนรากฐานที่
เข้มแข็ง สาหรับเกษตรกรการส่งเสริมให้ทุกคนมีการดารงชีพตามแนวทางดังกล่าวสามารถทาได้ โดย
การเดินทางสายกลางยึดหลักการพึ่งพาตนเอง คือ การทางานเกษตรที่เป็นแหล่งอาหาร โดยแบ่งพื้นที่
เป็นส่วนๆ เพื่อใช้ทาการเกษตรที่พึ่งพากัน เชื่อมโยงและเป็นวงจรของสิ่งมีชีวิตที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันและ
กันทั้งพืชและสัตว์ พิจารณาถึงความหลากหลายมีระบบและสัดส่วนที่ เหมาะสมในแต่ละสภาพพื้นที่
แล้วค่อยๆ เพิ่มความพอเพียงขึ้นตามสภาพสังคมและรายได้ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยอาศัยความเพียร
ความอดทน ความซื่อสัตย์ ประหยัด อดออม รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีพื้นบ้านและเทคโนโลยี
สมัยใหม่ที่เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการและสภาพแวดล้อม ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น พัฒนา
เทคโนโลยี จากภูมิปัญญาของเราเองเพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย การออม สะสมเป็นเงินทุน
เกษตรทางภาคเหนือโดยเฉพาะในเขตจังหวัดเชียงใหม่และลาพูน มีการปลูกพืชเศรษฐกิจได้แก่
ลาไยกันมาก โดยลักษณะของแปลงปลูกลาไขจะมีการขุดร่องน้าเพื่อเก็บกักน้าไว้รดต้นลาไย โดยจะมี
น้ าอยู่ ใ นร่ อ งสวนตลอดทั้ ง ปี จากสภาพดั ง กล่ า วเกษตรกรสามารถใช้ ป ระโยชน์ เ พิ่ ม จากร่ อ งน้ า
นอกเหนือจากการเก็บกักน้าอย่างเดียวได้ โดยการเลี้ยงปลาชนิดที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตใน
สภาพดังกล่ าว เช่น ปลาหมอเป็น ต้น ดังนั้นในการให้ ความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกรในด้ านต่างๆ
เกี่ยวกับการเลี้ยงปลาหมอในร่องสวน เช่น ลักษณะพันธุ์ปลาหมอที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงในพื้นที่ การ
อนุบาลลูกปลาหมอก่อนปล่อยเลี้ยง ตลอดจนการจัดการระหว่างการเลี้ยง การให้อาหาร เป็นต้น จะ
สามารถทาให้เกษตรกรนาความรู้ไปจัดการ การเลี้ยงได้อย่างเหมาะสมเพื่ อให้เกิดผลผลิตในระดับที่
เกษตรกรสามารถมีรายได้เพิ่มจากการเลี้ยงปลาหรือเพื่อการบริโภคในครัวเรือน ซึ่งสอดคล้องกับการ
ส่งเสริมให้ประชาชนมีการดารงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้เป็นอย่างดี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทิพสุคนธ์ พิมพ์พิมล
หัวหน้าโครงการ
ข
สารบัญ
หน้า
คานา ก
สารบัญ ข
1.หลักการและเหตุผลของโครงการ 1
2.วัตถุประสงค์ของโครงการ 2
3.ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2
4.ตัวชี้วัดความสาเร็จของโครงการ 2
5.เป้าหมายการดาเนินโครงการ 2
6.วิธีการดาเนินโครงการ 2
7.ผลการดาเนินงาน 5
8.สรุปและประเมินผลการดาเนินงาน 9
9.รายงานผลความสาเร็จตามเป้าหมายตัวชี้วัด 10
10.องค์ความรู้ที่ได้รบั จากการบริการวิชาการ 11
11.การบูรณาการองค์ความรู้ส่กู ารวิจัย 13
ภาคผนวก 16
ภาพกิจกรรม 17
รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ 22
แบบประเมินโครงการ 27
เอกสารประกอบการอบรม 73
1
2. วัตถุประสงค์ของโครงการ
2.1 เพื่อให้เกิดรายได้เพิ่มจากผลผลิตด้านประมงภายในสวนลาไยและแหล่งนาในร่องสวน
2.2 เพื่อเป็นการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2.3 เพื่อให้ชุมชนได้เรียนรูก้ ารเลียงปลาหมอแบบลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสภาวะ
แวดล้อมในแหล่งนาในสวนลาไยและแหล่งนาในร่องสวน
2.4 เพื่อส่งเสริมการดารงแบบสามารถพึง่ พาตนเองได้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
2.5 เพื่อนาองค์ความรู้จากการบริการวิชาการบูรณาการเข้าพันธกิจอื่น
3. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
3.1 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้มีความรูแ้ ละความเข้าใจเกี่ยวกับการเลียงปลาหมอ
3.2 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ศึกษาวิธีการเลียงปลาหมอร่องในสวน
3.3 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้นาวิธีการเลียงปลาหมอในร่องสวนไปปรับใช้เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับ
ครัวเรือน
3.4 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้มีทักษะการจัดทากระชังเลียงปลาหมอ
3.5 เพื่อส่งเสริมอาชีพการเลียงปลาหมอให้เผยแพร่ไปยังกลุ่มผู้สนใจให้มากยิ่งขึน
4. ตัวชี้วัดความสาเร็จของโครงการ
การจัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “การฝึกอบรมปฏิบัติการเลียงปลาหมอในร่องสวนและ
แหล่งนาในสวนลาไยตามแนวทางการลดต้ นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นทางเลือกแก่
ชุมชนในการพึ่งพาตนเอง” จานวน 1 รุ่น โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรผู้ปลูกลาไย เกษตรกรผู้เลียง
ปลาในบ่อดินและในกระชัง ผู้ว่างงานและผู้ที่สนใจทั่วไป จานวน 40 คน
5. เป้าหมายการดาเนินโครงการ
1. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีทกั ษะความสามารถในการเลียงปลาหมอในร่องสวนได้
2. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจโดยรวมต่อกิจกรรมทังหมดไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 จาก
กลุ่มเป้าหมายที่กาหนดไว้ทงหมดั 40 คน
6. วิธีการดาเนินโครงการ
1. วางแผนการดาเนินงานการดาเนินงานฝึกอบรม กลุ่มเป้าหมายเป็ นเกษตรกรผู้ปลูกลาไย
เกษตรกรผู้เลียงปลาในบ่อดินและในกระชัง ผู้ว่างงานและผู้ที่สนใจทั่วไป จานวน 40 คน เพื่อส่งเสริม
และพัฒนาทักษะการเลียงปลาหมอในร่องสวน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าฝึกอบรมมีความรู้ และความเข้าใจถึง
3
6. สรุปและประเมินผล
สรุปผลดาเนินงานตามแผนการปฏิบัติงานที่กาหนดไว้และประเมินผลจากแบบสารวจความพึง
พอใจของผู้รับบริการที่เก็บตัวอย่างจากผู้เข้าร่วมโครงการและวิเคราะห์ผลตาม Frequencies variables
โดยมีช่วงการให้คะแนน 1-5โดยกาหนดให้
ระดับคะแนน 1 มีความพึงพอใจน้อยมาก
ระดับคะแนน 2 มีความพึงพอใจน้อย
ระดับคะแนน 3 มีความพึงพอใจปานกลาง
ระดับคะแนน 4 มีความพึงพอใจมาก
ระดับคะแนน 5 มีความพึงพอใจมากที่สุด
7. การเผยแพร่ข้อมูลและการนาเสนอผลของการดาเนินงาน
การนาเสนอผลการดาเนินโครงการภายใต้กิจกรรม “บริหารจัดการโครงการบริการวิชาการ”
ของสานักวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการโครงการบริการวิชาการ
ของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามระบบกลไกและตัวชีวัดด้านบริการวิชาการของมหาวิทยาลัย
5
7. ผลการดาเนินงาน
กิจกรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การฝึกอบรมปฏิบัติการเลียงปลาหมอใน
ร่องสวนและแหล่งนาในสวนลาไยตามแนวทางการลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็น
ทางเลือกแก่ชุมชนในการพึ่งพาตนเอง” ในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ณ เทศบาลตาบลหนองแฝก
อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จานวนผู้เข้าร่วมโครงการทังหมด 40 คน เป้าหมายของการจัดกิจกรรมเพื่อให้
ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีการเลียงปลาหมอในร่องสวนลาไย ตามเป้าหมายการผลิต
และตัวชีวัดดังแสดงในตารางที่ 2
ผลการดาเนินงานของการฝึกอบรม
ได้ดาเนินการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ จานวน 1 รุ่น กลุ่มเป้าหมายเป็น เกษตรกรผู้ปลูกลาไย
เกษตรกรผู้เลียงปลาในบ่อดินและในกระชัง ผู้ว่างงานและผู้ที่สนใจทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อให้ มี
ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการเลียงปลาหมอ ได้ศึกษาวิธีการเลียงปลาหมอร่องในสวน การนา
วิธีการเลียงปลาหมอในร่องสวนไปปรับใช้เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน การมีความรู้ ความมั่นใจและ
สร้างแนวทางการประกอบอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ มีผู้เข้าร่วมโครงการ
รวมทังหมด 45 คน
การสารวจความพึงพอใจของผู้เข้ารับบริการ โดยมีผู้ตอบแบบสารวจทังหมด 45 คน (N=45)
คิดเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ร้อยละ 100.00 กลุ่มตัวอย่างในรุ่นที่ 1 เป็นเพศชายจานวน 37 คน (ร้อยละ 82.2)
เพศหญิงจานวน 8 คน (ร้อยละ 17.8) อายุอยู่ระหว่าง 47-64 ปี โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร
29 คน (ร้อยละ 64.4) ประกอบอาชีพค้าขาย 7 คน (ร้อยละ 15.6) ประกอบอาชีพรับจ้าง 3 คน (ร้อยละ
6.7) ประกอบอาชีพอื่นๆ 6 คน (ร้อยละ 13.3) มีระดับการศึกษา ประถมศึกษา 20 คน (ร้อยละ 46.7)
มัธยมศึกษา 22 คน (ร้อยละ 48.9) ปริญญาตรี 2 คน (ร้อยละ 4.4) ซึ่งก่อนฝึกอบรมเกษตรกร มี
ความรู้เกี่ยวกับการเลียงปลาหมอ ในระดับเล็กน้อย 17 (ร้อยละ 37.8) ระดับปานกลาง 19 คน (ร้อยละ
42.2) ระดับดี 3 คน (ร้อยละ 6.7) ระดับดีมาก 2 คน (ร้อยละ 4.4) และไม่มีความรู้เลย 4 คน (ร้อยละ
8.9) โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกษตรกร ได้รับทราบข้อมูลการให้บริการทั งเอกสารการประชาสัมพันธ์
ป้ายประชาสัมพันธ์และจากคนรู้จัก ดังแสดงในตารางที่ 3
ปริญญาตรี 2 4.4
ความรู้ก่อนเข้ารับการฝึกอบรมฯ
ไม่มีความรู้เลย 4 8.9
เล็กน้อย 17 37.8
ปานกลาง 19 42.2
ดี 3 6.7
ดีมาก 2 4.4
ความพึงพอใจต่อโครงการของผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมฯ พบว่าผู้เข้าฝึกอบรมส่วนใหญ่
ความพึงพอใจ ในด้านต่างๆดังนี
ด้านความเหมาะสมของวันเวลาที่จัดฝึกอบรม
พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมฯ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในด้านความเหมาะสมของวันเวลาที่จัด
ฝึกอบรม อยู่ในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี จานวน 31 คน (ร้อยละ 68.9) รองลงมาคือ ระดับ 3 และ
ระดับ 5 มีจานวนเท่ากับ 9 คนและ 5 คน ตามลาดับ (ร้อยละ 20.0 และ 11.4 ตามลาดับ )
ด้านความเหมาะสมของสถานที่
พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมฯ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในด้านความเหมาะสมของสถานที่ อยู่ใน
นะดับอยู่ในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี จานวน 31 คน (ร้อยละ 68.9) รองลงมาคือ ระดับ 3 และ 5 มี
จานวนเท่ากับ 8 และ 6 คน ตามลาดับ (ร้อยละ 17.8 และ 13.3 ตามลาดับ)
ด้านอาหาร เครื่องในการฝึกอบรม
พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมฯ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในด้านอาหาร เครื่องในการฝึกอบรม
อยู่ในนะดับอยู่ในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี จานวน 39 คน (ร้อยละ 86.7) รองลงมาคือ ระดับ 5 และ 3
มีจานวนเท่ากับ 3 และ 3 คน ตามลาดับ (ร้อยละ 6.7 และ 6.7 ตามลาดับ)
ด้านเอกสารที่ใช้ประกอบในการฝึกอบรม
พบว่ า ผู้ เ ข้ า รั บ การอบรมฯ ส่ ว นใหญ่ มี ค วามพึ ง พอใจในด้ า นเอกสารที่ ใ ช้ ป ระกอบในการ
ฝึกอบรม อยู่ในนะดับอยู่ในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี จานวน 31 คน (ร้อยละ 68.9) รองลงมาคือ ระดับ
5 และ 3 มีจานวนเท่ากับ 13 และ 1 คน ตามลาดับ (ร้อยละ 28.9 และ 2.2 ตามลาดับ)
ด้านความเหมาะสมของเวลาในแต่ละหัวข้อ
พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมฯ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในด้านความเหมาะสมของเวลาในแต่ละ
หัวข้อ อยู่ในนะดับอยู่ในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี จานวน 34 คน (ร้อยละ 75.6) รองลงมาคือ ระดั บ 3
และ 5 มีจานวนเท่ากับ 6 และ 5 คน ตามลาดับ (ร้อยละ 13.3 และ 11.1 ตามลาดับ)
8
ด้านความเหมาะสมของวิทยากรในการฝึกอบรม
พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมฯ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในด้านความเหมาะสมของวิทยากรในการ
ฝึกอบรม อยู่ในระดับอยู่ในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี จานวน 29 คน (ร้อยละ 64.4) รองลงมาคือ ระดับ
5 มีจานวนเท่ากับ 16 คน (ร้อยละ 35.6)
ด้านความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากการอบรม
พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมฯ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในด้านความรู้ที่เพิ่มขึนหลังจากการอบรม
อยู่ในนะดับอยู่ในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี จานวน 35 คน (ร้อยละ 77.8) รองลงมาคือ ระดับ 5และ 3
มีจานวนเท่ากับ 8 และ 2 คน ตามลาดับ (ร้อยละ 17.8 และ 4.4 ตามลาดับ)
ด้านความสามารถนาความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปใช้ประโยชน์
พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมฯ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในด้านความสามารถนาความรู้ที่ได้รับจาก
การฝึกอบรมไปใช้ประโยชน์ อยู่ในนะดับอยู่ในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี จานวน 34 คน (ร้อยละ 75.6)
รองลงมาคื อ ระดั บ 3 และ 5 มี จ านวนเท่ า กั บ 9 และ 2 คน ตามล าดั บ (ร้ อ ยละ 20.0 และ 4.4
ตามลาดับ)
ด้านความสามารถนาความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอด/เผยแพร่ให้แก่ผู้อื่นได้
พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมฯ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในด้านความสามารถนาความรู้ที่ได้ไป
ถ่ายทอด/เผยแพร่ให้แก่ผู้อื่นได้ อยู่ในนะดับอยู่ในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี จานวน 38 คน (ร้อยละ
84.4) รองลงมาคือ ระดับ 3 และ 5 มีจานวนเท่ากับ 6 และ 1 คน ตามลาดับ (ร้อยละ 13.3 และ 2.2
ตามลาดับ)
ด้านความพึงพอใจโดยรวมในการฝึกอบรม
พบว่ า ผู้เ ข้ารับ การอบรมฯ ส่วนใหญ่ มีความพึงพอใจในด้านความพึงพอใจโดยรวมในการ
ฝึกอบรม อยู่ในนะดับอยู่ในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี จานวน 38 คน (ร้อยละ 84.4) รองลงมาคือ ระดับ
5 และ 3 มีจานวนเท่ากับ 6 และ 1 คน ตามลาดับ (ร้อยละ 13.3 และ 2.2 ตามลาดับ)ดังแสดงในตาราง
ที่ 4
9
ปัจจัย ความพึงพอใจของผู้เข้ารับบริการอบรมฯ
1 2 3 4 5 ค่าเฉลี่ย S.D ระดับ
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
(จานวนคน) (จานวนคน) (จานวนคน) (จานวนคน) (จานวนคน)
1. ความเหมาะสมของวั น เวลาในการจั ด 0 0 9 31 5 3.91 .557 ปานกลาง
ฝึกอบรม 0 0 20 68.9 11.1
2. ความเหมาะสมของสถานที่ 0 0 8 31 6 3.96 .562 ปานกลาง
0 0 17.8 68.9 13.3
3. อาหาร เครื่องดื่มในการฝึกอบรม 0 0 3 39 3 4.00 .369 ดี
0 0 6.7 86.7 6.7
4.เอกสารที่ใช้ประกอบในการฝึกอบรม 0 0 1 31 13 4.27 .495 ดี
0 0 2.2 68.9 28.9
5. ความเหมาะสมของเวลาในแต่ละหัวข้อ 0 0 6 34 5 3.98 .499 ปานกลาง
0 0 13.3 75.6 11.1
6. ความเหมาะสมของวิทยากรในการฝึกอบรม 0 0 0 29 16 4.36 .484 ดี
0 0 0 64.4 35.6
7. ความรู้เพิ่มขึนหลังจากฝึกอบรม 0 0 2 35 8 4.16 .457 ดี
0 0 4.4 77.8 17.8
8. ท่ า นสามารถน าความรู้ ที่ ไ ด้ รั บ จากการ 0 0 9 34 2 3.84 .475 ปานกลาง
ฝึกอบรมไปใช้ประโยชน์ 0 0 20.0 75.6 4.4
9.ท่ า นสามารถน าความรู้ ที่ ไ ด้ ไ ปถ่ า ยทอด/ 0 0 6 38 1 3.89 .383 ปานกลาง
เผยแพร่ให้แก่ผู้อื่นได้ 0 0 13.3 84.4 2.2
10. ความพึงพอใจโดยรวมในการฝึกอบรม 0 0 1 38 6 4.11 .383 ดี
0 0 2.2 4.4 13.3
8. สรุปและประเมินผลการดาเนินงาน
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง เรื่อง “การเลียงปลาหมอในร่องสวน และแหล่งนาในสวน
ลาไยตามแนวทางการลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นทางเลือกแก่ชุมชนในการ
พึ่งพาตนเอง” เป็นการถ่ายทอดและการส่ งเสริมการใช้เทคโนโลยีเลียงปลาหมอในร่องสวนลาไยเพื่อ
สร้างอาชีพและรายได้ แก่เ กษตรกรผู้ปลูกลาไย เกษตรกรผู้เลี ยงปลาหมอในบ่อดิ น และในกระชัง
ผู้ว่างงานและผู้ที่สนใจทั่วไป เป็นการดาเนินการร่วมกับการบูรณาการงานบริการวิชาการแก่สังคม กับ
ภารกิจด้านการเรียนการสอนในสาขาวิชา ของทางคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางนา
มหาวิ ทยาลัยแม่โจ้ การวิจั ย การทะนุบ ารุงศิ ลปวัฒนธรรม โดยกิจกรรมของโครงการยังเป็นการ
10
ตารางที่ 5 ผลการดาเนินงานตามตัวชีวัด
ตัวชี้วัด ประเภท เป้าหมาย ตัวชี้วัด
ค่าใช้จ่ายบริการวิชาการตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร เชิงต้นทุน 0.065 0.08
ร้อยระการนาไปใช้ประโยชน์ของผู้รับบริการ เชิงคุณภาพ 80 80.0
ร้อยละของโครงการที่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เชิงคุณภาพ 90 100
ร้อยละของโครงการบริการวิชาการแล้วเสร็จตามระยะเวลาที่ เชิงเวลา 90 100
กาหนด
ร้อยละของผู้เข้ารับบริการมีความรู้เพิ่มขึนจากการเข้ารับบริการ เชิงปริมาณ 40 95.6
ร้อยละและความพึงพอใจของผู้รับบริการ/หน่วยงาน/องค์กรที่ เชิงคุณภาพ 80 80.0
รับบริการและวิชาชีพต่อประโยชน์จากการบริการวิชาการ
ร้ อ ยละของความพึ ง พอใจของผู้ รั บ บริ ก ารในกระบวนการ เชิงคุณภาพ 80 97.7
ให้บริการ
9. รายงานผลความสาเร็จตามเป้าหมายตัวชี้วัด
ผลผลิต : เกษตรกร นักเรียนและบุคคลทั่วไปที่สนในความรู้เกี่ยวกับการเลียงปลาหมอในร่อง
สวนลาไยและแหล่งนาในส่วนลาไย ตามแนวทางการลดต้นทุนและลดกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็น
ทางเลือกแก่ชุมชนในการพึ่งพาตนเอง
ตารางที่ 6 ผลความสาเร็จตามเป้าหมายตัวชีวัด
ตัวชี้วัด ประเภท หน่วยนับ เป้าหมาย ผลลัพธ์
ร้อยละความพึงพอใจของผู้รับบริการ/หน่วยงาน/องค์กร เชิงคุณภาพ ร้อยละ 80 80
ที่ได้รับบริการวิชาการและวิชาชีพต่อประโยชน์จากาการ
บริการ
ร้ อ ยละของโครงการที่ บ รรลุ ต ามวั ต ถุ ป ระสงค์ ข อง เชิงคุณภาพ ร้อยละ 90 100
โครงการ
ร้อยละของโครงการที่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กาหนด เชิงเวลา ร้อยละ 90 100
จานวนผู้รับบริการ เชิงปริมาณ คน 40 45
ค่าใช้จ่ายของการให้บริการวิชาการตามงบประมาณที่ เชิงต้นทุน ล้านบาท 0.065 0.065
ได้รับจัดสรร
ร้ อ ย ล ะ ข อ ง ค ว า ม พึ ง พ อ ใ จ ข อ ง ผู้ รั บ บ ริ ก า ร ใ น เชิงคุณภาพ ร้อยละ 80 97.7
11
กระบวนการให้บริการ
ร้อยละของผู้เข้ารับบริการที่มีความรู้เพิ่มขึนจากการเข้า เชิงปริมาณ ร้อยละ 80 95.6
รับการบริการ
10. องค์ความรู้ที่ได้รับจาการบริการวิชาการ
10.1 เพื่อให้เกิดรายได้เพิ่มจากผลผลิตด้านประมงภายในสวนลาไย
ด้วยการปลูกลาไยยังนิยมยกแปลงเพื่อให้มีร่องนาเก็บนาไว้ใช้ในฤดูแล้งและเพื่อลด
แรงงานและค่าใช้จ่ายในการกาจัดวัชพืช จึงควรส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากแหล่งนาเพื่อเพิ่ม
อาหารโปรตีนและสร้างรายได้เสริม การให้เลียงปลาหมอในร่องสวนลาไยจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
เนื่องจากปลาหมอเป็นปลาที่นิยมรับประทานในพืนที่ มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมและโรค การ
ส่งเสริมให้เกษตรมีความรู้เกีย่ วกับการเลียง การจัดการคุณภาพนา การผลิตอาหารปลาเพื่อลดต้นทุนก็
สามารถเลียงปลาหมอในร่องสวนลาไยได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วยังเป็นการทาเกษตรแบบพอเพียง
อีกด้วย
10.2 เพื่อเป็นการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ร่องสวนลาไยแต่เดิมมีประโยชน์ไว้ระบายนาไม่ให้ท่วมขังลาไยในฤดูฝน และเป็นที่กัก
เก็บนาไว้รดลาไยในฤดูแล้งเท่านัน การส่งเสริมให้เกษตรเลียงปลาหมอในร่องสวนเพิ่มเติมจึงเป็นการ
ใช้พืนที่ที่มีอยู่เดิมให้เกิดประโยชน์เพิ่ม รวมทังผลิตปลาหมอที่ได้จากการเลียงยังใช้เป็นอาหารและสร้าง
รายได้เสริมให้กับเกษตรกรระหว่างรอเก็บผลผลิตลาไยได้อีกทางหนึ่ง
10.3 เพื่อให้ชุมชนได้เรียนรู้การเลียงปลาหมอแบบลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสภาวะ
แวดล้อมในแหล่งนาในสวนลาไย
เกษตรกรผู้ปลูกลาไยในพืนที่จังหวัดเชียงใหม่และลาพูนมีมากกว่า 5 แสนไร่ ซึ่งยังไม่
รวมพืนที่ปลูกลาไยที่กระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ แล้วยังมีคู่แข่งทังจีน เวียดนาม เป็นต้น ซึ่ง
กระบวนการให้ได้มาซึ่งผลผลิตลาไยส่วนใหญ่ยังจาเป็นต้องพึ่งสารเคมี ทาให้แนวโน้มผลผลิตลาไยต้ อง
ลดลงทุกๆ ปีเนื่องจากความโทรมของต้นลาไยที่มีสารเคมีสะสมมากเกินไป การให้เกษตรกรได้เรียนรู้
การเลียงปลาหมอในร่องสวนลาไยนัน ทาให้เกษตรต้องคานึงถึงการใช้สารเคมีที่อาจจะส่งผลต่อปลา
หมอที่เลียงไว้ โดยต้องลดการใช้สารเคมีแล้วใช้วิธีการบารุงต้นลาไยด้วยปุ๋ยจากธรรมชาติทังปุ๋ยหมัก
หรือปุ๋ยมูลสัตว์ หากมีการรวมกลุ่มและพัฒนากระบวนการผลิตลาไยให้มีความปลอดภัยเพิ่มขึนก็
สามารถพัฒนาสู่การเป็นกลุ่มผลิตลาไยอินทรีย์ที่สามารถสร้างมูลค่าลาไยให้เพิ่มขึนได้หลายเท่า แต่
หากพิจารณาผลผลิตลาไยที่ลดลงไปซึ่งรวมถึงรายได้ที่หายไปด้วยนัน ก็สามารถแทนที่รายได้จาก
ผลผลิตปลาหมอที่สามารถจาหน่ายได้ตลอดปีแล้วยังสามารถจาหน่ายได้ในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด
เนื่องจากเป็นปลาหมอที่มาจากการเลียงแบบอินทรีย์ซึ่งก็หมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึนเช่นกัน
12
10.4 เพื่อส่งเสริมการดารงชีวิตแบบสามารถพึ่งพอตนเองได้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
แนวร่องสวนลาไยนอกจากสามารถเลียงปลาหรือสัตว์นาต่างๆ ได้แล้ว ยังสามารถปลูก
พืชอายุสัน หรือพืชผักสวนครัว เพื่อเพิ่มรายได้อีกทาง โดยใช้นาในร่องสวนที่เลียงปลาหมอรดเพื่อลด
ค่าใช้จ่ายส่วนของปุ๋ยต่างๆ ที่จะต้องใช้ ดังนันในพืนที่ปลูกลาไยจึงสามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย
เพื่อให้เกษตรกรลดรายจ่ายต่างๆ สร้างรายได้เพิ่มและเป็นการทาเกษตรแบบปลอดภัยมีการใช้สารเคมี
ลดลง ส่งผลให้สุขภาพชีวิตดีขึนและพึ่งพาตนเองได้
13
11. การบูรณาการองค์ความรู้สู่การวิจัย
ภาคผนวก
17
ภาพกิจกรรม
โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การเลี้ยงปลาหมอในร่องสวน และแหล่งน้้าในสวน
ล้าไยตามแนวทางการลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นทางเลือกแก่ชุมชนใน
การพึ่งพาตนเอง”
18
รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ
“การเลี้ยงปลาหมอในร่องสวน และแหล่งน้้าในสวนล้าไย
ตามแนวทางการลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อเป็นทางเลือกแก่ชุมชนในการพึ่งพาตนเอง”
แบบส้ารวจความพึงพอใจของผู้เข้ารับบริการ
“การเลี้ยงปลาหมอในร่องสวน และแหล่งน้้าในสวนล้าไย
ตามแนวทางการลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อเป็นทางเลือกแก่ชุมชนในการพึ่งพาตนเอง”
เอกสารประกอบการอบรม
“การเลี้ยงปลาหมอในร่องสวน และแหล่งน้้าในสวนล้าไย
ตามแนวทางการลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อเป็นทางเลือกแก่ชุมชนในการพึ่งพาตนเอง”
พ่อ-แม่พน
ั ธุ ์ปลาหมอ ร ัง
ไข่ของปลาหมอ
การเพาะพันธุ ์ปลา
หมอไทย
การจัดการพ่อแม่
พันธุ าเร็
หัวใจสาคัญของความส ์ปลา
จในการเพาะพันธุ ์
ปลา
คือ การจัดการพ่อแม่ปลาให ้สมบูรณ์เพศพร ้อม
ผสมพันธุ ์วางไข่
วิธก
ี ารเพาะพันธุ ์
การกระตุน้ การวางไข่ดว้ ยฮอร ์โมน
สั
Suprefact
ง เคราะห ์
Motilium
อ ัตราความเข้มข้นของฮอร ์โมน
ั ธุ ์ปลา น้ าหนัก 1 กก.
แม่พน
ใช้ Supreface 15
ไมโครกร ัม
ใช้ Motilium 5 มิล ลิ
ก ร ัม
พ่อพันธุ ์ปลา น้ าหนัก 1 กก.
ใช้ Supreface 5
ไมโครกร ัม
ใช้ Motilium 5 มิลลิกร ัม
่
เพือความสะดวกในการแยกพ่ อแม่ปลา
ควรปล่อยให ้ผสมพันธุ ์วางไข่ในกระชังตาห่าง
่
ซึงแขวนอยู ่ในบ่อ
มีกระช ังผ้าโอล่อนแก ้ว รองร ับไข่ปลาอยู่อก
ี
้ั
ชนหนึ ่ง
อัตราส่วนปลาเพศเมียต่อเพศผู ้ เท่ากับ
1 ต่อ 2
้
ระดับนาในบ่ อ 30 - 50 เซนติเมตร
้
พ่นสเปรย ์นาและถ่ ่
ายเปลียนน า้
ตลอดเวลา
การอนุ บาลลู กปลา
้
การอนุ บาลลูกปลาเป็ นขันตอนที ่ าคัญ เพือให
ส ่ ้
ได ้ลูกปลา
ที ่
สมบู รณ์บแข็
เตรียมบ่ออนุ าลงแรงและมีอต ั รารอดตายสูง
ทานาเขี้ ยวและอาหารธรรมชาติ
หลังจากนั้น 3 วัน ใส่เชือโรตี
้ เฟอร ์และไร
แดงลงในบ่อ
หลังจากนั้นอีก 3 วัน จึงปล่อยลูกปลาลงบ่อ
ในช่วงเช ้า
การอนุ บาลลู กปลา
อายุลูกปลา ประเภทอาหารอนุ บาลลู ก
(วัน) ปลา
1-3 อาหารจากถุงอาหาร
3 - 10 โรตีเฟอร ์ และไข่แดงต ้มสุก
บดละเอียด
ละลายนา้ สาดทัวบ่
่ อ
7 - 20 ไรแดง อาหารผงสาเร็จรูปหรือ
ปลาป่ นผสม
ราละเอียด อัตรา 1 : 1
15 - 25 อาหารเม็ดจิว๋ หรือเม็ดเล็กพิเศษ
้
การเลียงปลาหมอ
ไทย
้
การเลียงปลาหมอไทย
เตรียมบ่อ ในบ่อดิน
้
กาจัดศัตรูปลาวัชพืชและพันธุ ์ไม้นาออกให ้
หมด
หว่านปูนขาว ประมาณ 150 – 200 กก./ไร่
ตากบ่อให ้แห ้งเป็ นระยะเวลา 2 - 3 สัปดาห ์
้
ใช ้อวนไนลอนสีฟ้ากันรอบบ่ ่ องกันปลา
อเพือป้
หลบหนี
้
สูบนาลงบ่ อก่อนปล่อยลูกปลาประมาณ 60 -
100 เซนติเมตร
การเลือกลูกพันธุ ์ปลา
่
ขนาดลูกปลาทีเหมาะสมในการปล่ ้ อดินมี
อยเลียงบ่
2 ขนาด
ลูกปลาขนาด 2 - 3 เซนติเมตร หรือเรียกว่า
“ขนาดใบมะขาม”
มีอายุ 25 - 30 วัน
อั
ตขนาด
ราปล่อ2ยลู
- ก3ปลา
นิ ว้ ซึงเป็
่ นลูกปลาอายุ 60 - 75
วันลูกปลา ขนาด 2 - 3 เซนติเมตร อัตราปล่อย 30
- 50 ตัว/ตรม.
หรือ 50,000 - 80,000 ตัว/ไร่
การปล่อยลูกพันธุ ์ปลา คือ ช่วงเช ้าหรือเย็น
การให ้อาหาร
โปรแกรมการให ้อาหารปลาหมอไทยในบ่อดิน
ระยะเวลา
อายุป120 น้ าหนักปลา มืออาหาร
ลา วัน ้ ้
(มือ/
(วัน) (กร ัม) วัน)
1-7 0.5 - 8.5 3-4
8-4 8.5 - 18.5 3-4
15 - 20 18.5 - 26.5 3-4
20 - 25 26.5 - 35.0 3-4
26 - 32 35.0 - 43.0 3-4
33 - 37 43.0 - 50.0 3-4
38 - 60 50.0 - 81.5 2-3
61 - 67 81.5 - 91.5 2-3
68 - 120 91.5 -164.5 2-3
ระยะเวลาเลียง ้
้
ขึนอยู ่
่กบั ขนาดปลาทีตลาดต ้องการ
่
ทัวไปใช ้ ประมาณ 90 - 120
้เวลาเลียง
วัน
วิถก
ี ารตลาดของปลา
หมอไทย
โรคและการป้ องกัน
การป้ องกันและกาจัด
โรคปลา
โรคปลามักระบาดในต ้นฤดูฝนหรือช่วงรอยต่อของ
ส่วนใหญ่มก ่ ้นจากปัจจัยภาวะแวดล ้อมของนา้
ั เริมต
และสภาพพืนบ่ ้ อเสือมโทรม
่
่ ณหภูมน
เมืออุ ้ า่ ภูมต
ิ าต ิ ้านทานและสุขภาพปลา
จะอ่อนแอ ปรสิตภายนอกจะเจริญเติบโต
ขยายตัวสูงมาก ส่งผลให ้ปลาป่ วย
โรคตกเลือดตาม
ซอกเกล็ด
อาการ
มีแผลสีแดงเป็ นจาๆ ้ ตามลาตัว โดย
เฉพาะทีครี่ บ
และซอกเกล็ด
้ ังจะทาให ้เกล็ดหลุด
ถ ้าเป็ นแผลเรือร
การป้ องกั
บริน และร ักษา
เวณรอบๆ
หว่านเกลือเม็ด 200 - 300 กก./ไร่ ระดับ
นา้ 1 ม.
โรคเกล็ดพอง
อาการ
มีเกล็ดพอง และมีตกเลือดบริเวณ
ผิวหนัง
มีแผลเป็ นปุยขาวๆ ปนเทา คล ้าย
ส าลี
ป กคลุม
การป้ องกันและร ักษาอยู
่
หว่านเกลือเม็ด 200 - 300 กก./ไร่ ระดับ
นา้ 1 ม.
ร่วมกับปูนขาว 60 - 100 กก./ไร่ สาดทัว่
บ่อ
โรคแผลตาม
ลาตัว
อาการ
เกล็ดหลุดและผิวหนังเริม่
เปื่ อย
ลึกลงไปจนถึงชน้ั
การป้ องกันและรกลักษา ้ามเนื อ้
่ อาการของโรค อาจผสมยา
ถ ้าปลาเริมมี
ปฏิชวี นะจาพวก ออกซิเตตร ้าซ ัยคลินใน
อาหาร
อัตรา 3 - 5 ก./อาหาร 1 กก. ให ้ปลากิน
ติดต่อกัน 7 วัน
การป้ องกันโรคระบาดปลา
ในบ่ อ เลี ้
ยง
ถ ้าพบปลาป่ วยในช่วงปลายฤดูฝนต่อกับฤดู
หนาว
้ ้าบ่อโดยทันที
ใหร้ บี ปิ ดบ่อหรืองดการเติมนาเข
ลดปริมาณอาหารทีให ่ ้ปลากินเพือป้
่ องกันนา้
เน่ าเสีย
ควบคุมคุณภาพนาในบ่ ้ อโดยใช ้ปูนขาวอัตรา
60 - 100 กก./บ่อ
1 ไร่ ระดับนาลึ ้ ก 1 ม.
ข้อปฏิบต ่
ั เิ มือปลาในบ่ ้
อเลียงป่ วย
ด้วยโรคระบาด
่
ห ้ามทาการเปลียนน ้ อถ่ายเทนา้
าหรื
่
ช ้อนปลาทีตายหรื ่
อป่ วยใกล ้ตายออกเท่าทีจะ
ทาได ้ และทาลาย
โดยการฝังดินหรือเผาทิง้
ให ้งดอาหารหรือลดปริมาณอาหารลง
ใส่ปน ้
ู ขาวลงในบ่อเลียงในอั
ตรา 60-100 กก./
บ่อขนาด 1 ไร่
้ ก 1 เมตร
ระดับนาลึ
การผลิตอาหารปลา
อาหารเม็ดชนิ ดต่างๆ
การเตรียมวัตถุดบ
ิ
วัตถุดบ ่ นแหล่ง
ิ ทีเป็
โปรตีน
่ สง
ถัวลิ เศษปลา
่
ถัวเหลื
องสุก ปลาป่ น
การเตรียมวัตถุดบ
ิ
วัตถุดบ ่ นแหล่ง
ิ ทีเป็
พลังงาน
ราละเอียด ข ้าวโพด
การบด
การอ ัดเม็ด
วัตถุดบ
ิ
การชง่ ั การทาให้
น้ าหนัก แห้ง
สู ตรอาหาร
ควรพิจารณาเลือกใช ้ให ้เหมาะสมกับชนิ ด อายุ
หรือระยะของสัตว ์นา้ และระบบการเลียง ้
์ ้ าที่เลียงจั
ชนิ ด ของสัต ว น ้ ด อยู่ ใ นกลุ่ ม กิน พืช
หรือกินเนื อ้
วิธก
ี าร
1. เตรียมวัตถุดบ ่ ้ทาอาหารพร ้อม
ิ ทีใช
้ านวณและชงวั
ทังค ่ ั ตถุดบ ิ ตามสัดส่วน
วิธก
ี าร
2. นาวัตถุดบ
ิ แต่ละชนิ ดมาบดให ้
ละเอียด
วิธก
ี าร
้ กน้อย
3. คลุกเคล ้าให ้เข ้ากันเติมนาเล็
4. ส่วนปลายข ้าวต ้องนาไปต ้มก่อนที่
จะนาไปผสม
วิธก
ี าร
่ ดเม็ด
5. นามาเข ้าเครืองอั
วิธก
ี าร
่ ้ในทีร่่ มจน
6. นาไปผึงไว
แห ้ง
ปั จจัยสาคญ ้
ั ในขันตอนการผลิ ตอาหาร
สัตว ์น้ า มีดงั นี คื้ อ
วัตถุดบ ่ ้ต ้องบดละเอียด
ิ ทีใช
วัตถุดบ ่ ้ควรจะใหม่ สด
ิ ทีใช
วัตถุดบ ิ แห ้งไม่ควรเก็บนานเกิน 1-3 เดือน
วัตถุดบ ่ นแป้ งดิบควรทาใหส้ ุกเพื่อช่วยให ้
ิ ทีเป็
ขบวนการย่อยอาหารเร็วขึน้
การผสมอาหารควรมีการผสมกันอย่างทัวถึ ่ ง
อาหารควรมีความชืนไม่ ้ เกิน 10-12%
สู ตรอาหาร
ปลาป่ น
โปรตี
น 30% 20.5
ราละเอียด 30.0
่
กากถัวเหลือง 37.5
ปลายข ้าว 11.5
พรีมก
ิ ซ ์ หรือวิตามินซี 0.5
รวม 100
การเสริมพืชท้องถินบางชนิ ่ ด
ในอาหาร
่
เพือเพิ ่ ัตรารอดและเพิม
มอ ่
ผศ.ทิพสุคนธ ์ พิมพ ์พิมล
ศ ักยภาพ
คณะเทคโนโลยีการประมงและทร ัพยากรทางน้ า มหาวิทยาลัย
้ แม่โจ้
ในการเลียงปลาหมอไทย
่
การนาพืชท ้องถินมาผสมในอาหารเลี ้
ยงปลาหมอ
เป็ นแนวทางหนึ่ ง ทีช่ ่ วยเพิมศั
่ กยภาพในการผลิต
ทาหน้าทีไปกระตุ ่ ้นแบคทีเรียกลุม ่ ประโยชน์
่ ทีมี
ในลาไส ้ของปลา
้ อก่
ยังยับยังเชื ้ อโรค
ส่งผลให ด
ลดการเกิ ้ความต ้านทานโรคและอั
สารพิษ ระหว่างการหมัตกรารอดของ
อาหารใน
ลาไสปลาดี ขน
้ใหญ่ ึ ้ ทาให ้เกษตรกรไม่ต ้องใช ้ยาปฏิชวี นะ
ในการร ักษาโรคปลา
่
การเสริมพืชท้องถินใน
อาหาร
วิธก
ี าร
ปล่อยลูกปลาหมอในอัตรา 25 ตัว/ตารางเมตร
ให ้อาหารเม็ดสาเร็จรูปโปรตีน 30%
้ ้า หัวหอมใหญ่ และกระเทียม)
(เสริม กล ้วยนาว
นาวัตถุดบิ มาคลุกเคล ้าให ้ทัว่ แล ้วเคลือบด ้วยไข่
่ ้แห ้ง
ขาว ผึงให
ให ้อาหาร 3% ของนาหนั้ กตัว วันละ 2 ครง้ั
ปร ับปริมาณอาหารทีให ่ ้ทุก 14 วัน
ผลการ
อ ัตรารอด (%) ทดลอง
100.0
a
อ ัตรารอด (%)
80.0
60.0 b
40.0 b c
20.0 c
0.0
่
พืชท้องถิน
ผลการ
ทดลอง
อ ัตราส่วนผลตอบแทนต่
อ
ต้นทุน1.0
อ ัตราส่วนผลตอบแทน
0.8
0.6
0.4
0.2
0.0
่
พืชท้องถิน
ผลการ
ทดลอง
ประสิทธิภาพการใช้
โปรตีน
ประสิทธิภาพของ 2.0
1.5 a
1.0
โปรตีน
b
0.5
c c
0.0
่
พืชท้องถิน
ข้อเสนอแนะ
ค ว า ม แ ป ร ป ร ว น ข อ ง อ า ก า ศ เ ช่ น ฝ น ต ก
ติดต่อกัน ส่งผลต่อการกินอาหารของปลาหมอ
ควรสังเกตการกินของปลาคือให ้กินอิมพอดี ่
อาหารทีผสม่ ถา้ เตรียมทีละมากจะเกิดราขึนใน ้
ระหว่างการเก็บร ักษาได ้