You are on page 1of 10

ตัว

อย
่าง
40
วิชาแห่งลูกผู้ชาย

่าง“ถอนตัว!” ไทโรร้องเสียงหลง เมื่อได้ยินโซเลมบอกออกมาว่าจะถอนตัว


ส่วนหนึ่งเพราะไทโรยังอารมณ์ค้างจากที่โดนโรซีนแคร์ยั่วโมโหมา เทรซ
อย
เลยต้องเข้ามาห้ามและหันไปถามโซเลมแทน
“ท�ำไมถึงจะถอนตัวล่ะ”
“ไม่ใช่แค่ฉนั นะ แต่อยากให้พวกนายถอนตัวด้วย ส่วนเหตุผล...บอกไม่ได้”
ค�ำตอบของโซเลมท�ำเอาไทโรแทบจะเข้ามาเอาเรื่อง แต่พอโดนเทรซหันมา
ตัว

จ้องใส่ ไทโรเลยพยายามสงบใจลง
“เหตุผลที่บอกไม่ได้สินะ” เทรซพยายามท�ำความเข้าใจ ซึ่งโซเลมก็พยัก
หน้าเป็นการตอบกลับ
“แต่เชือ่ เถอะ สงครามครัง้ นีม้ นั มีเหตุผลของมันอยู.่ ..เหมือนกับพวกเรานัน่
แหละ”
“เหมือน...สินะ” เทรซผงกหัวเป็นเชิงว่าเข้าใจทันที
“ไม่ได้เหมือนในเรื่องวิธีการหรือผลลัพธ์หรอก แต่จะว่าไงดีล่ะ...คนที่เป็น
พ่อค้าอย่างฉันจะมีข้อปฏิบัติอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือการไม่ทำ� ให้ก�ำไรเพิ่มขึ้นถึงขีด
สุดของเพดาน” โซเลมพยายามเปรียบเปรยโดยไม่ให้ไปกระทบกับทวีปตะวันออก
“เพราะการค้าก�ำไรเกินควรจะท�ำให้คนอื่นหมดความเชื่อมั่นสินะ” เทรซ
6 The Last Fantasy Return เล่ม 11 บทสงครามสองราชัน ภาค 2 สองราชัน (6)

ตอบกลับ
“ถูกต้องแล้ว คุณค่าของพ่อค้าจะถูกวัดด้วยความเชือ่ มัน่ เป็นส�ำคัญ ถ้าคน
อื่นเห็นว่าเราจ้องแต่จะท�ำก�ำไร เขาก็จะไม่มาค้าขายด้วย”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเหตุผลของการถอนตัวล่ะเฟ้ย!” ไทโรแทรกกลาง
ขึ้นมา
“ฉันพูดมากไม่ได้หรอก แต่เอาเป็นว่า สงครามครัง้ นีค้ อื การปรับสมดุลของ
ก�ำไร”
ถึงจะเป็นค�ำตอบแบบอ้อมๆ แต่คนในห้องทุกคนต่างเป็นระดับหัวกะทิ
จึงเข้าใจความหมายนั้นได้ในทันที

่าง“ฮ่าๆๆ เข้าใจละ งั้นก็ขอหลบไปพักผ่อนก่อนนะ” ฟ็อกเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก


แต่ขณะจะก้าวออกไปจากห้อง ก็ถูกไทโรเข้ามาคว้าตัวไว้ก่อน
“พูดอะไรน่ะ แกต้องมาเป็นคู่ซ้อมให้ข้าต่อนะ ลืมแล้วเหรอ”
อย
“ฝึกจนกรอบไปทั้งตัวแล้ว ขอพักวันสองวันไม่เห็นเป็นไรเลย” ฟ็อกยังคง
ออกอาการขี้เกียจและขอไปทีตามเคย
“ไม่ได้ พวกเราเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องมากไปแล้ว ไปฝึกๆ” ว่าแล้ว
ไทโรก็ลากฟ็อกตามออกไป
ตัว

“ดูเหมือนไทโรเองก็คงเข้าใจแล้ว งั้นก็ไม่เป็นไรแล้วละ” เทรซถอนหายใจ


ก่อนจะกลายร่างเป็นดอกกุหลาบที่อยู่ในกระถางบนโต๊ะท�ำงาน เพราะเขายังฟื้น
พลังได้ไม่เต็มที่ เลยท�ำให้เวลาที่คงสภาพร่างไว้ได้มีอยู่จำ� กัด ถึงจะไม่ใช่โซเลม
ที่มาพูดเรื่องนี้ เขาเองก็จะแนะน�ำให้ไทโรถอนตัวอยู่เหมือนกัน
แต่พอทุกคนท�ำท่าจะแยกย้ายกันไป โซเลมก็สงั เกตเห็นสีหน้าของยุยทีย่ งั
ยืนท�ำท่าคิดมากอยู่ จึงเข้าไปสอบถามตรงๆ เพราะเธอเองก็ถอื ว่าเป็นคนจากทวีป
ตะวันออกที่มีสิทธิ์จะรู้เรื่องนี้มากกว่าใคร
“ก�ำลังคิดอะไรอยู่เหรอ”
“ติดใจน่ะสิถามได้ เจ้าเทนริวไม่เห็นจะต้องท�ำแบบนี้เลย” ยุยหันมาตอบ
ซึ่งเทรซเองก็ขยับหันมาทางพวกเขาเหมือนอยากจะฟังด้วยเหมือนกัน
แสงจันทร์ 7

“เทนริว?” โซเลมเอียงคอสงสัย
“อ้อ...เป็นชื่อที่ฉันใช้เรียกเจ้าพวกนั้นน่ะ ก็จักรพรรดิทุกคนจะมีคำ� ว่า ริว
ที่แปลว่ามังกรอยู่ในชื่อ ฉันขี้เกียจจ�ำเลยเรียกพวกมันรวมกันว่า เทนริว หรืออีก
นัยก็คือประชดพวกมันที่บังอาจมาตั้งชื่อฉันว่า เทนเซยุย ไงล่ะ เรื่องนั้นช่างมัน
ก่อน แต่ฉันเคยเจอหมอนั่น ถึงจะเพราะอารุแนะน�ำก็เถอะ แต่พอคุยด้วยแล้ว...
อืม จะบอกว่าเป็นคนที่ไม่น่าจะท�ำเรื่องแบบนี้ก็ได้ละมั้ง” ยุยบอกขณะท�ำหน้าคิด
หนักกว่าเดิม
“ท�ำไมล่ะ?” กลับเป็นโซเลมที่ต้องถามอย่างนี้ออกไปบ้าง
“อ่อนโยนเกินไป เป็นคนทีอ่ อ่ นโยนจนไม่เหมาะกับการเป็นจักรพรรดิดว้ ย

่าง
ซ�้ำ” ค�ำตอบของยุยท�ำให้โซเลมถึงกับผงะขึ้นมา เพราะในความทรงจ�ำที่เขาได้แชร์
มาจากฟาฮา ตัวองค์จักรพรรดินั้นก็ดูเป็นคนที่อ่อนโยนจริงๆ
“ไม่เห็นต้องคิดมากเลยนี่ ค�ำตอบก็มีให้เห็นอยู่ใกล้ตัวแล้ว” เทรซที่ฟังอยู่
อย
เอ่ยขึ้นมา
“ไหนล่ะ?” ยุยรีบหันไปมองรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นค�ำตอบที่ว่าเลย
“ไม่รู้จริงเหรอ นี่เธอคิดว่าเจ้าไทโรเป็นคนใจทมิฬหินชาติขนาดนั้นเชียว”
พอเทรซเลียบเคียงให้ฟังแบบนี้ ยุยเลยรีบร้องอ้อออกมาทันที
ตัว

“ใช่ไหมล่ะ มันก็คนแบบเดียวกันนั่นแหละ” เมื่อบอกเสร็จเทรซก็กลับไป


หลับต่อ

วันที่เจ็ดหลังจากเริ่มปะทะกัน พวกเซโร่ที่น�ำทัพกองเรือก็มาถึงหมู่บ้าน
ชาวประมง ซึ่งตอนนี้อารุใช้มันเป็นฐานทัพเนื่องจากอยู่ไม่ห่างจากรันโดคุและติด
กับทะเล
เซโร่พยายามอธิบายเหตุผลที่มาช้า เพราะเขาขยายเส้นทางออกไปเพื่อ
ส�ำรวจหาความผิดปกติ แต่กลับคว้าน�้ำเหลวไม่พบอะไรเลยสักอย่าง พอโดนถาม
ว่าความผิดปกติที่ว่าคืออะไร เซโร่ก็ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นค�ำพูดได้
“ขอโทษด้วยนะทุกคน เป็นเพราะฉันเลยท�ำให้แผนการรบเสียหายไปด้วย”
8 The Last Fantasy Return เล่ม 11 บทสงครามสองราชัน ภาค 2 สองราชัน (6)

เซโร่ก้มหัวขอโทษแม้จะไม่มีใครโทษเขาก็ตาม
“ไม่มอี ะไรก็ดแี ล้วละ” โอริวเข้ามาตบไหล่ปลอบใจเซโร่ แต่อารุกลับร้องทัก
ขึ้นมา
“เดี๋ยวก่อน!”
เธอรีบวิ่งไปมองแผนที่ที่กางอยู่บนโต๊ะ และมองดูรูปปั้นจ�ำลองที่ใช้แทน
ทหารซึ่งประจ�ำอยู่ที่รันโดคุหนึ่งหน่วยต่อหนึ่งหมื่นคน
“จริงๆ ด้วย พอเข้าใจแล้วละว่า ความผิดปกติที่เซย์พูดถึงคืออะไร” อารุ
หันมาบอกทุกคน ก่อนจะชี้นิ้วออกไปที่รันโดคุ
“ความผิดปกติมาจากที่โรซีนแคร์เลือกใช้รันโดคุเป็นฐานที่มั่นไงล่ะ”

่าง“เดีย๋ วสิ! รันโดคุนะ่ เหมาะจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ทสี่ ดุ นะ มีทงั้ การคมนาคม


ทางบกและทางน�ำ้ เชือ่ มต่อไปถึงทะเล ภูมศิ าสตร์กเ็ อือ้ ต่อการบุกและตัง้ รับ” จิซาระ
รีบบอกเพราะไม่เห็นว่ามันจะไม่เหมาะสมตรงไหนเลย
อย
“และก็ใกล้กับเมืองหลวงด้วย” พออารุเสริมต่อเท่านั้น ทุกคนก็ตกตะลึง
ไปพร้อมกัน เพราะมองข้ามเรื่องส�ำคัญที่สุดไป
“ถึงกองทหารที่มากับโรซีนแคร์ดูเหมือนจะมาก แต่ก็ยังเชื่อได้ยากว่านี่คือ
ทหารทั้งหมดที่มี แล้วพอมาลองนึกดูดีๆ...ดูเหมือนพวกเราจะติดกับอีกแล้ว”
ตัว

อารุถอนหายใจ เพราะรู้สึกไม่มีอะไรน่าแปลกใจอะไรอีกแล้ว ส�ำหรับคนที่ชื่อ


โรซีนแคร์
“ติดกับยังไงเหรอ” เซโร่ตรงเข้ามาถาม เพราะถ้าเป็นตอนนี้อาจจะยังพอ
แก้ไขอะไรได้ทันก็ได้
“จริงๆ ก็น่าจะสังเกตเห็นเร็วกว่านี้...ไม่สิ นี่ก็คงเป็นส่วนหนึ่งของแผน
เหมือนกัน ที่ใช้ความยิ่งใหญ่อลังการจนท�ำให้พวกเราตกใจจนลืมสังเกตไป” อารุ
พึมพ�ำกับตัวเองก่อนจะรู้สึกตัวว่าทุกคนก�ำลังฟังอยู่ เลยหันไปบอกเรื่องที่ไม่น่า
เชื่อออกไป
“กองทัพของโรซีนแคร์ตอนนี้ไม่ใช่ทัพหลักหรอก”
“หา!” ทุกคนที่ได้ฟังถึงกับร้องอุทานออกมา
แสงจันทร์ 9

“แต่จ�ำนวนที่เห็นมันมากกว่าที่รู้มาอีกนะ” ฮันซุยที่เห็นทัพของโรซีนแคร์
เป็นคนแรกรีบบอก
“จ�ำนวนที่ว่าสามารถระบุได้ไหมล่ะว่าเป็นทหารทั้งหมด”
“!!!” พอโดนย้อนถามแบบนี้ก็ยิ่งท�ำให้ทุกคนตะลึงงันกันไปใหญ่
“เหตุผลที่โรซีนแคร์ใช้แผนบุกแบบบ้าเลือดอัดกองทัพเป็นก้อนแล้วกลิ้ง
ทับใส่แบบนี้ ไม่ใช่แค่กลยุทธ์การบุกเพียงอย่างเดียว แต่เป้าหมายจริงๆ น่าจะมี
ไว้เพื่อปิดบังพวกชาวบ้านที่จับมาแต่งเป็นทหารที่อยู่ด้านใน และใช้ทหารจริงบาง
ส่วนมาไว้ด้านนอก อ้อ! แล้วที่พาพวกเขามาก็เพื่อเบนความสนใจออกจากทหาร
ทั้งหมดก็มีไว้เพื่อตบตาพวกเราเท่านั้น” เมื่อได้ฟังอารุอธิบาย ทุกคนก็พากันพูด

่าง
อะไรไม่ออกเลย
“อืม...แบบนัน้ ค่อยสมกับเป็นโรซีนแคร์หน่อย” เซโร่รสู้ กึ โล่งอกทีไ่ ด้ฟงั เช่น
นั้น เพราะความกังวลใจได้คลี่คลายไปแล้ว
อย
“ยังมีหน้ามาพูดแบบนั้นอีก รู้หรือเปล่าพวกเราก�ำลังเจอกับอะไรอยู่” อารุ
หันไปค้อนใส่เซโร่
“รูส้ ิ พวกเราก�ำลังเจอกับเสนาธิการอัจฉริยะทีเ่ ก่งทีส่ ดุ อยูไ่ ง” เซโร่ตอบหน้า
ตาย แต่เพราะการพูดแบบสบายๆ ไม่วิตกอะไรเลยนั่นเอง ท�ำให้คนอื่นก็พลอย
ตัว

ผ่อนคลายตามไปด้วย
“อึก! ถึงจะรู้ตัวแล้วก็เถอะ แต่โดนพูดต่อหน้าแบบนี้มันเจ็บใจแฮะ” ใน
ฐานะเสนาธิการเหมือนกัน อารุรู้สึกไม่ชอบใจค�ำพูดของเซโร่เลย
“ถ้าอย่างนั้น ทหารหลวงที่ควรจะเป็นทัพหลักก็คงอยู่ที่...” พอโอริวพูดขึ้น
มา ทุกคนเลยจ้องไปที่เมืองหลวงบนแผนที่อย่างพร้อมเพรียง
“เมืองหลวง! ทัพหลักจริงๆ กับองค์จักรพรรดิยังอยู่ที่นั่น”
เมื่อได้ข้อสรุปออกมา ทุกคนก็อดผวาไม่ได้ว่าความน่ากลัวของทัพหลัก
จริงๆ จะน่ากลัวแค่ไหน แต่เพื่อจะยืนยันความถูกต้องจึงต้องส่งสายสืบไปดู ซึ่ง
งานนี้มีแต่ต้องพึ่งชินกิเท่านั้น ส่วนทัพของเซโร่ล่องทะเลกันมาหลายวัน โอริวเลย
ให้พวกเขาไปพักผ่อนกันก่อน
10 The Last Fantasy Return เล่ม 11 บทสงครามสองราชัน ภาค 2 สองราชัน (6)

พอแยกมาแล้วเซโร่กลับยืนจ้องไปที่ทะเล จนอารุที่ตามมาเห็นอดไม่ได้ที่
จะเข้ามาถาม
“ติดใจชีวิตนอกฝั่งหรือไง”
“ฮะๆ ก็ดีนะ ยกเว้นเรื่องไม่ค่อยได้อาบน�้ำ” ถึงจะพูดข�ำๆ แต่อารุสังเกต
เห็นความเครียดที่อยู่ลึกๆ ของเซโร่ได้
“พูดเล่นแบบนี้ แปลว่ามีอะไรสินะ ต้องให้ถามตรงๆ ไหม”
เมื่อถูกจี้แบบนี้ เซโร่เลยต้องยอมเปิดปากพูด
“แค่รู้สึกติดใจน่ะ เคยได้ยินมาว่าสมัยก่อนทวีปตะวันออกเก่งการรบใน
ทะเลมาก มีกองเรือที่แข็งแกร่งกว่าทัพบกซะอีก เลยคิดว่ามันน่าแปลกน่ะ ที่

่าง
สงครามคราวนี้ไม่เห็นทัพเรือขององค์จักรพรรดิเลย” เซโร่บอกพลางจ้องไปใน
ทะเลอีกครั้ง
“จริงสิ เรือ่ งนีย้ งั ไม่เคยเล่าให้ฟังเลย ถ้าทัพเรือละก็...ไม่มหี รอก” อารุบอก
อย
ออกมาตรงๆ
“หา!? ได้ไง”
“กองเรือน่ะเพิ่งโดนยุบไปเมื่อสามสิบปีก่อน เหตุเพราะทวีปตะวันตกนั่น
แหละที่พัฒนาเทคโนโลยีไปได้ไกลจนถึงขั้นสร้างเรือรบจากโลหะและเครื่องจักร
ตัว

ได้ ล�ำพังกองเรือไม้แบบเก่าอย่างเรามันจะไปท�ำอะไรได้ สุดท้ายเพื่อประหยัดงบ


ประมาณ จึงสั่งให้มีการยุบทัพเรืออย่างเป็นทางการในที่สุด” อารุยักไหล่เป็นเชิง
บอกว่ามันช่วยไม่ได้
‘แล้วไม่คิดจะพัฒนาตามเหรอ’
เซโร่ก�ำลังจะถามแต่รีบหยุดปากไว้ เพราะนึกขึ้นได้ว่าทวีปตะวันออกมี
ธรรมเนียมอย่างไร
“เข้าใจแล้วสินะ จะท�ำก็ท�ำได้ แต่ถ้าท�ำแล้วมันผิดกฎก็ไม่ดี เพราะงั้นเลิก
ไปนั่นแหละดีที่สุด” อารุสรุปให้ฟังเพื่อคลายข้อสงสัยของเซโร่...ทว่า
“จะท�ำก็ทำ� ได้สนิ ะ” นัน่ กลับยิง่ ไปจุดประกายความสงสัยของเซโร่ให้ลกุ ไหม้
ยิ่งกว่าเดิม
แสงจันทร์ 11

“พอเห็นเซย์ท�ำหน้าแบบนี้ชักจะเชื่อขึ้นมาแล้วสิว่า องค์จักรพรรดิอาจจะ
ซ่อนกองเรือเอาไว้ที่ไหนสักแห่งก็ได้” อารุโดนชวนให้เข้าก๊วนคนขี้ระแวงไป
เรียบร้อย
และด้วยความเป็นไปได้ หรืออาจจะแค่ลางสังหรณ์ กระทั่งคิดไปเอง แต่
อารุก็ยอมให้เซโร่ออกเรืออีกครั้ง เพื่อมุ่งหน้าไปหาเป้าหมายที่อาจจะมีหรือไม่มี
ก็ได้

ชินกิที่เร่งฝีเท้าอย่างเต็มที่จนเร็วเสียยิ่งกว่าม้า ก็มาถึงเมืองหลวงขณะที่
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าพอดี แต่เขาก็ต้องแปลกใจกับสิ่งแรกที่ได้เห็น เพราะตรง

่าง
ประตูเมืองหาใช่ยามที่ยืนเฝ้าอยู่ แต่เป็นบางสิ่งบางอย่างที่มีร่างกายใหญ่โตสูง
หลายเมตรและมีผิวสีเทาเงิน
“ตัวอะไรวะเนี่ย!” ชินกิซ่อนตัวและจับตาดูอย่างอกสั่นขวัญแขวน ถึงจะ
อย
เคยเดินทางไปทั่วแผ่นดินมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยเจอตัวอะไรแบบนี้มาก่อนเลย แถม
ตอนนีเ้ พิง่ จะมีขบวนสิง่ มีชวี ติ ร่างยักษ์นนั่ ออกมาจากประตูเมือง จ�ำนวนทีน่ บั ด้วย
ตาน่าจะเกินร้อยไปแล้ว
ชินกิคิดว่าจะลองแอบเข้าไปดูในเมือง แต่ประตูหน้ามีตัวประหลาดแบบนี้
ตัว

ขวางอยู่เขาเลยต้องหาทางอืน่ ดู พอวนไปรอบๆ ก็เห็นว่าบนก�ำแพงเมืองมียามเฝ้า


อยู่เป็นจ�ำนวนมาก ไม่ใช่เล็ดลอดเข้าไปไม่ได้ แต่แค่เฉียดเข้าไปใกล้ก็ยังยากเลย
‘ช่วยไม่ได้แฮะ เหลือทางนั้นทางเดียวแล้ว’ ชินกิตัดสินใจใช้ตัวเลือกที่เขา
ไม่เคยน�ำมาไว้ในหัว นัน่ คือทางระบายน�ำ้ เสีย ซึง่ เป็นจุดทีไ่ ม่มที หารยามเฝ้าอยูเ่ ลย
การต้องด�ำลงไปในธารน�ำ้ สีดำ� ทีข่ น้ คลัก่ ยาวหลายร้อยเมตร ท�ำให้ชนิ กิโผล่
ขึ้นมาพร้อมกับอาเจียนออกมาไม่หยุด และคิดว่างานนี้เริ่มไม่คุ้มแล้ว หลังจาก
จัดการเนือ้ ตัวและเปลีย่ นเสือ้ ผ้าเพือ่ ปลอมตัวแล้ว เขาก็ลอบเข้ามาในเมืองได้สำ� เร็จ
ทว่าภายในเมืองเงียบกริบ บ้านทุกหลังปิดสนิท...หรือก็คือปิดตาย เมือง
หลวงที่เคยคึกคัก มาตอนนี้สภาพเลวร้ายยิ่งกว่าหมู่บ้านรอบนอกเสียอีก ขนาด
หมาแมวก็ยังไม่มีให้เห็น ถนนสายหลักถูกเปลี่ยนให้เป็นค่ายทหารและเส้นทาง
12 The Last Fantasy Return เล่ม 11 บทสงครามสองราชัน ภาค 2 สองราชัน (6)

เคลื่อนทัพ เมืองทั้งเมืองถูกเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่พร้อมรบไปแล้ว
‘เข้าไปลึกกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถึงจะไม่มากเท่าที่คิด แต่ทหารขนาดนี้ก็น่าจะ
พอจะเรียกว่าเป็นกองทัพได้ ต้องรีบกลับไปบอกทุกคน’
แต่พอชินกิหันหลังเตรียมกลับ เขาก็ต้องเจอกับสิ่งมีชีวิตร่างยักษ์ที่สูงกว่า
เขาเกือบสามเท่าตัว แค่ยืนตรงๆ หัวก็เลยหลังคาบ้านแถวนั้นขึ้นมาแล้ว กล้าม
เนื้อทั่วร่างอัดแน่นจนแค่เห็นก็รู้สึกว่ามันแข็งเหมือนเหล็ก
“...เจอผู้บุกรุก” มันเอ่ยออกมาด้วยเสียงเนือยๆ พร้อมกับฟาดมือลงมา
ขณะที่พูดด้วย
ชินกิถึงจะตกใจแต่ก็ตั้งสติได้เร็ว จึงเคลื่อนตัวหลบออกมาได้ทัน ทว่ามือ

่าง
ที่ฟาดลงพื้นนั้นกลับสร้างแรงอัดจนบ้านเรือนพังราบ ตัวเขาก็โดนแรงอัดจน
กระเด็นล้มลง
“แรงบ้าอะไรกันเนี่ย!”
อย
ชินกิพลิกตัวขึ้นและไม่คิดจะอยู่ทดสอบพลังของอีกฝ่ายด้วย เขาเตรียม
จะใช้พลังปราณทัง้ หมดเพือ่ ทะยานตัวออกไป แต่กลับต้องรีบหยุดเอาไว้เพราะเห็น
สิ่งมีชีวิตร่างยักษ์อีกสองตัวก�ำลังขยับตัวเข้ามาขวางทางไว้ พอหันไปทางอื่นก็พบ
ว่าตัวอื่นๆ เริ่มตีวงล้อมเข้ามาอย่างเงียบๆ
ตัว

‘เจ้าพวกนี้...ฉลาดนี่หว่า!’ ชินกิคาดผิดถนัด เรียกว่ามองจากภายนอกไม่


ได้เลย ดูจากพลังการฟาดพื้นเมื่อกี้ ไม่แน่ว่าพวกนี้อาจจะมีวิชายุทธ์ก็เป็นได้
จังหวะนัน้ เอง ชินกิเห็นพวกมันตัวหนึง่ เข้าประจ�ำต�ำแหน่งช้ากว่าตัวอืน่ เลย
เปิดช่องให้หนีได้ เขาไม่รอช้าโกยสุดฝีเท้าไปยังต�ำแหน่งนั้นด้วยความเร็วที่มอง
ตามไม่ทัน
‘รอดแล้วเรา!’ ชินกินกึ ว่าตัวเองรอดตัว ทว่าเพียงเสีย้ ววินาทีนนั้ เอง ทีแ่ ขน
ของเขาถูกจับและกระชากอย่างแรงจนล้มลง กว่าจะรู้ตวั ว่าเจ้าพวกนีม้ นั จงใจเปิด
ช่องเพื่อจะจับตัวเขาก็สายไปแล้ว แขนของชินกิถูกบีบจนเสียงกระดูกแตกดังลั่น
ความเจ็บปวดสาหัสขนาดจะร้องออกมายังไม่มีเสียงเลย
แถมขนาดบีบจนกระดูกแขนแหลกไปแล้ว สิ่งมีชีวิตร่างยักษ์ก็ยังไม่ยอม
แสงจันทร์ 13

ปล่อยมือ มันยกร่างของชินกิขึ้นมาจนลอยจากพื้น ด้วยแรงใจเฮือกสุดท้ายชินกิ


กลับมามีสมาธิจนรู้ตัวว่า ขืนถูกโจมตีอีกครั้งเขาหมดสิทธิ์รอดแน่ ฉะนั้นแล้วทาง
รอดเขาจึงเหลือเพียงทางเดียว
พอเห็นว่าชินกิยังมีสติอยู่ มันก็เตรียมจะฟาดเขาลงพื้นสุดแรง พริบตาที่
เหวีย่ งแขนนัน้ เองร่างของชินกิกพ็ ลันหายไป เหลือเพียงแขนของเขาทีย่ งั ติดคามือ
ของสิ่งมีชีวิตร่างยักษ์ พร้อมกับมีดและคราบเลือดกระจายไปทั่วบริเวณ
ชินกิตดั สินใจยอมตัดแขนของตัวเองทิง้ เพือ่ เอาชีวติ รอดกลับไปแจ้งข่าวให้
ทุกคนรู้ เขาวิ่งหนีแบบลืมตาย ราวกับจะวิ่งหนีความกลัวที่ตามหลังมา หลายครั้ง
ที่ล้มแต่ก็ยังกระเสือกกระสนลุกขึ้นมาโดยที่เท้ายังไม่ยอมหยุดวิ่ง ชินกิไม่สนใจ

่าง
ว่าพวกนัน้ จะตามรอยเลือดเขามาหรือเปล่า เพราะมันไม่สำ� คัญแล้ว เขาวิง่ ด้วยทุก
อย่างทีม่ จี นกว่าเลือดหยดสุดท้ายจะหมดไป ทว่าดวงตาเขาพร่าเลือนลงทุกทีพร้อม
กับสติที่ใกล้จะดับวูบลง
อย
“ชินกิ!” เสียงฮันซุยร้องเรียก ปลุกให้ชินกิกลับมามีสติอีกครั้ง โดยที่เขา
ไม่รู้ว่ามันผ่านมานานแค่ไหนและตัวเองอยู่ที่ใด เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าไป
หาฮันซุย ราวกับคนที่ก�ำลังจะจมน�ำ้ แล้วเจอท่อนไม้ลอยอยู่ตรงหน้า
“พวกมันอยู่ที่นั่นเต็มไปหมดเลย พวกมัน!” ชินกิกรีดร้องออกมา
ตัว

“อย่าเพิ่ง! ต้องรีบรักษาแผลก่อน” ฮันซุยที่ออกมาลาดตระเวนรีบอุ้มชินกิ


และวิ่งกลับฐานทันที
ระหว่างทางชินกิก็ยังพร�ำ่ เพ้อถึงเรื่องน่ากลัวที่เจอมาไม่หยุด ซึ่งภายหลังที่
พวกอารุได้ฟังเรื่องราวก็พากันหน้าซีดเผือดไม่ต่างจากชินกิในตอนนี้เลย

ทางด้านเซโร่กก็ ำ� ลังพากองเรือไปตามจุดทีอ่ ารุแนะน�ำมา ซึง่ เป็นน่านน�ำ้


ที่มีความเป็นไปได้ที่จะวางก�ำลังกองเรือเอาไว้
“ถึงจะหมดฤดูหนาวแล้ว แต่ทะเลบริเวณนี้มีอุณหภูมิต�่ำมาก ระวังอย่า
ตกลงไปล่ะ” ลูซิเฟอร์เข้ามาเตือนเซโร่ซึ่งยืนรับลมอยู่บนดาดฟ้าเรือ
“นายเคยมาเดินเรือแถวนี้หรือเปล่า” เซโร่ยืนคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะ

You might also like