Professional Documents
Culture Documents
๏ พระเทวทัตกับเจ้าชายอชาตศัตรู
๏ ดาบสสอนบุตร
๏ คนเกลียดคนพาลทีส
่ ุด
นกแขกเต้าสองตัว
๏ ม้ามงคล
นี่ แหละคืออิทธิพลของการอย่้ใกลูชิดกัน
๏ ช้างมหิฬามุข
ปริพาชกไหว้แพะ
๏ การอยู่ในถิน
่ เหมาะสม
๏ วักกลิมาณพ
๏ การทำาบุญไว้ในปางก่อน
๏ ไก่ข้ีโม้
"ใครขี้รดหัวขูาวะ" เสียงถามดูวยความโกรธ
คนหาฟืนคนหนึ่งกลับจากป่ าไม่ทน
ั ประตูเมืองปิด จึงอาศัยนอนทีเ่ ทวาลัยนัน
้ ได้ยน
ิ ดัง
นัน้ จึงย่องขึ้นไปจับไก่ตัวบน เอาไปฆ่าย่างอย่างดี แล้วชวนภรรยาไปอาบนำ้าชำาระกาย
ก่อนกิน วางถาดไก่ยา ่ งไว้บนฝั ่ ง อาบนำ้าพลางครึ้มอกครึ้มใจ จะได้เป็ นพระราชามหา
กษัตริย์ บังเอิญขณะนัน ้ ถาดใส่ไก่ยา ่ งถูกลมพัดแรงลงไปยังแม่น้ ำา ลอยไปตามกระแส
นำ้า
การคบบัณฑิต
ทีท
่ า
่ นว่าคบบัณฑิตเป็ นเหตุให้ถึงความเจริญ ก็เพราะบัณฑิตจะไม่ทำาตนและคนทีท
่ ำา
ตามคำาสอนของตนถึงความพินาศฉิ บหาย ตรงกันข้าม กลับได้ความสำาเร็จและความ
สุข ขอนำานิ ทานของท่านมาประกอบดังนี้
มหาสุตตโสม
เสนาบดีจึงขอรูองใหูพระราชาเลิกเสวยเนื้อคน แต่ไม่สำาเร็จจนกระทั่งตูองเนรเทศออกจากเมือง
เมื่อออกจากเมืองไป เธอก็ไล่จับคนกินเนื้อ จนไดูช่ ือว่า มหาโจรโปริสาท (โจรกินคน) เป็ นที่หวาด
กลัวของประชาชน
สรุปว่า การคบบัณฑิตเช่นมหาสุตตโสมนัน
้ ทำาให้คนชัว
่ คนบาปเลิกทำาชัว
่ มีสุคติเป็ น
ไปในเบื้องหน้า ด้วยประการฉะนี้ แล
การตัง
้ ตนไว้ชอบ
มงคลข้อต่อไป ข้อทีว
่ ่า "การตัง
้ ตนไว้ชอบ" เป็ นมงคลสูงสุด
การตั้งตนไวูชอบ ตั้งอย่างไรเป็ นมงคล (เหตุใหูเจริญ) อย่างไร
หมู่โจรห้าร้อย
ในนิ ทานนี้ เอ่ยถึงนิ ทานย่อยอย่้เรื่องหนึ่ ง คือ ปลาทองปากเหม็น นี่ แสดงว่า ตั้งตนไวูผิด ย่อมไดู
ความเสื่อมขนาดหนักดังปลาพิลึกตัวนี้
ภิกษุณีนอ
ู งสาวก็สนับสนุน และปฏิบัติเยี่ยงเดียวกัน ในขณะที่ภิกษุนอ
ู งชายไม่เห็นดูวย ไปตัก
เตือนใหูพ่ีชายและนูองสาวสำานึ กตัวใหูดีว่า พวกตนเป็ นล้กศิษย์พระพุทธเจูา ประพฤติในธรรม
วินัยของพระองค์ ไม่ควรลืมตน ทำาการลบหล่้ด้หมิ่นพระรัตนตรัย
แต่สองพี่นอ
ู งไม่ฟัง ยังคงฮึกเหิมอย่างนั้น จนสิ้นอายุขัยตายไปแลูวก็ไปตกนรกหมกไหมูเป็ นเวลา
นาน
ภรรยาพราหมณ์มิจฉาทิฏฐิ
เศรษฐีกลืนนำ้าลายเอือ
๊ ก อยากกิน แต่นึกถึงวันขูางหนูาว่า ถูาเรากินของเขาในวันนี้ วันหนูาเราก็
จะตูองเลี้ยงเขาตอบ ทรัพย์เราก็จะร่อยหรอไปเปล่าๆ ว่าแลูวก็ส่ันศีรษะดิกๆ ไม่ยอมกิน ทั้งๆ ที่ใจ
อยากกินแทบจะขาด
จึงรีบลงจากเรือนของเศรษฐีนอ
ู ยๆ ถึงบูานก็ไม่กินอะไรนอนห่มผูาคลุมโปง ครางหงิงๆ
รูองอย่างไรพราหมณ์เฒ่าก็ทำาท่าไม่ไดูยิน เดินเขูามาจนไดูแลูวกล่าวโศลกว่า...
"มีนอ
ู ยควรใหูนอ
ู ย มีปานกลางควรใหูปานกลาง มีมากแลูวค่อยใหูมาก จงใหูทานดูวย กินเองดูวย
กินคนเดียวย่อมไม่ไดูความสุข"
จากนั้นมาตุลีเทพบุตรก็มากล่าวโศลกว่า...
ใครรำาลึกถึงสิ่งศักดิส ์ ิทธิท
์ ้ังปวง ทำาการเซ่นสรวงแก่เทพทั้งหลาย ที่ท่าพหุกา ท่าคยา ท่าโทณะ
หรือท่าใดก็ตาม ย่อมจะไดูอานิ สงส์บูาง ท่านโกสิยะ เราขอเตือนสติท่าน จงใหูทานดูวย จงกินเอง
ดูวย ผูใ้ ดเมื่อแขกนั่งแลูวกินอาหารคนเดียว ผูน ้ ้ันย่อมไม่ไดูความสุข
การตัง
้ ใจฟั งโดยมาก
ขอนำานิ ทานมาสาธกสักเรื่องดังนี้
พระอานนท์พุทธอนุชา
บวชมาแลูวก็มีความอุตสาหะ พยายามศึกษาและปฏิบัติตามคำาสั่งสอนของพระพุทธเจูาอย่างดียิ่ง
ไดูบรรลุโสดาปั ตติผล ท่านเป็ นผูใ้ ฝ่ รูใ้ ฝ่ ศึกษาเป็ นอย่างยิ่ง จะเห็นไดูจากตอนที่คณะสงฆ์สรรหา
บุคคลเพื่อมารับตำาแหน่ งพุทธอุปัฏฐากถาวร
เมื่อพระพุทธองค์เสด็จไปแสดงพระธรรมเทศนาที่ใด ขอใหูพระพุทธองค์พาท่านไปดูวย
ถูาไม่มีโอกาสไปฟั ง เมื่อกลับมาแลูวขอใหูพระพุทธองค์ทรงแสดงใหูฟังซำ้าดูวย
เมื่อพระอานนท์รู้ตัวว่าท่านมีความสำาคัญอย่างยิ่งสำาหรับงานใหญ่เช่นนี้ ท่านจึงตั้งหนูาตั้งตา
บำาเพ็ญเพียร (ความหมายก็คือครำ่าเคร่งฝึ กสมาธิวิปัสสนาเป็ นการใหญ่ ไม่พักไม่ผอ ่ นติดต่อกัน
หลายวัน) จนเหนื่อยอ่อน
ในการทำาสังคายนาครั้งนั้นพระอานนท์ไดูรับหนูาที่เป็ นผู้วิสัชนาพระธรรมคำาสั่งสอนของพระพุทธ
องค์ ท่านไดูเล่าใหูฟังถึงขูออรรถขูอธรรมต่างๆ ที่พระพุทธเจูาทรงแสดงไวูในที่ต่างๆ แก่ท่ีประชุม
สงฆ์ โดยไม่ผิดเพี้ยนเลย
การศึกษาศิลปวิทยา
ตูองรู้ลึกซึ้งถึงกึน
๋ และเชี่ยวชาญเป็ นพิเศษ จึงจะเรียกว่า "มีศิลปะ" ความเชี่ยวชาญอย่างนี้ แมูจะ
วิชาหรือสาขาเดียวก็ยังชีพอย่้ไดูอย่างสบาย
บุรุษเปลี้ย
ความเก่งกาจของบุรุษเปลี้ยลือกระฉ่อนไปไกลถึงพระกรรณของพระราชา พระราชาทรงมีปัญหา
ที่แกูไม่ตกมาเป็ นเวลานานพอไดูยินเรื่องบุรุษเปลี้ยดีดกรวดก็ทรงนึ กอะไรขึ้นมาไดู รับสั่งใหู
มหาดเล็กไปตามหาบุรุษเปลี้ยผู้น้ันทันที
ปั ญหาอะไรหรือครับที่รบกวนพระราชหฤทัยของพระราชาจนถึงตูองสั่งใหูตามหาบุรุษเปลี้ย
ปั ญหาก็คอ ื ในพระราชสำานักมีปุโรหิตอย่้คนหนึ่ ง มีความรู้ความสามารถดีมาก ทุกอย่างดีหมดแต่
เสียตรงที่แกเป็ นคนพ้ดมาก ลงไดูพ้ดแลูวล่ะก็หยุดยาก จนพระราชาทรงรำาคาญพระราชหฤทัย
แต่ไม่รู้จะทำาอย่างไรจึงจะใหูปุโรหิตปากมากสงบปากสงบคำาไดู
เมื่อบุรุษเปลี้ยกราบท้ลว่าแกไม่สามารถทำาไดู เพราะชั่วชีวิตแกก็รู้แต่วิชาดีดกรวดฉลุร้ปสัตว์อย่าง
เดียว
"เอ็งก็ลองเอาวิชาดีดกรวดอะไรของเอ็งดีดอะไรสักอย่างเขูาปากปุโรหิตเวลามันอูาปากพ้ดชีวะ"
พระราชาทรงแนะนำา
ประชาชนพอทราบเรื่องเขูาก็พากันรุมประชาทัณฑ์จนตาย
หาริตดาบส
นักเลงจอมขี้โกง
พระโพธิสัตว์รู้นิสัยขี้โกงของนักเลงสกาคนนี้ ดี
ฤาษีไร้วินัยทีฝ
่ ึ กฝนดีแล้ว
วันหนึ่ งฤาษีผู้สำารวมไดูยกโศลกที่มีขอ
ู ความกินใจมาว่าใหูฟัง มีความว่า...
"ถูาความรู้และวินัยที่ฝึกฝนดีแลูวไม่มีอย่้ในคนใด คนนั้นก็ไม่ตา
่ งกับควายตาบอด เที่ยว
มะงุมมะงาหราอย่้ในป่ า หาทางออกจากป่ าไม่ไดู"
ว่าแลูวก็กูมลงกราบขอโทษฤาษีอีกร้ปผู้อาวุโส ซึง
่ เป็ นพระโพธิสัตว์มาเกิด บำาเพ็ญบารมี และทำา
ตามโอวาทของฤาษีโพธิสัตว์ เพ่งกสิณจนกระทั่งไดูฌานในที่สุด
พ้ดถ้กกาละ พ้ดคำาจริง
พ้ดสุภาพ พ้ดคำามีประโยชน์
พ้ดดูวยเมตตา
คนพูดดีและไม่ดี
"พี่ครับ ขอเนื้อผมบูางไดูไหม"
"พี่นอ
ู งเปรียบเสมือนแขนขา ขาดพี่นอ
ู งคนเราก็โดดเดี่ยววาจาของท่านดุจแขนขา จงเอาเนื้ อขา
ไป"
ว่าแลูวนายพรานก็ตัดขาเนื้อใหูไปหนึ่ งขา
คนที่สามพ้ดว่า...
"คุณพ่อครับ ขอเนื้อผมบูาง"
"ใครไดูยินคำาว่าพ่อ หัวใจย่อมหวั่นไหวดูวยความรักล้ก คำาพ้ดของท่านดุจหัวใจ จงเอาเนื้อหัวใจ
ไป"
ว่าแลูวก็เฉือนหัวใจเนื้ อใหูไป
คนสุดทูายกล่าวว่า...
"สหายเอ๋ย ขอเนื้อเราบูางเถอะ"
เจ้าหนุ่มคารมดี
"พ่อผมดกปกหัว พ่อจะจ้งวัวไปไหน"
"บุะ ไอูหน่ม
ุ นี้ พ้ดจาดีแฮะ" พ่อเฒ่าคิด
จึงรูองตอบไปว่า
เจูาหน่ม
ุ จ้งวัวเดินไป ล้กสาวพ่อเฒ่าเห็นจำาไดูว่าวัวของพ่อตน จึงรูองถามว่า "พ่อร้ปหล่อไปทั้งตัว
พ่อไดูวัวมาจากไหน"
"เพราะกะผีอะไรพ่อ มันด่าว่าพ่อหัวลูานร้ปชั่ว"
ล้กสาวรายงาน
ว่าแลูวพ่อเฒ่าก็ควูาปะฏักวิ่งตามไปทัน
ชายหน่ ุมเห็นท่าไม่ดี จึงรูองไปว่า
"พ่อผมตกปกหลัง พ่อจะละลูาละลังไปขูางไหน"
"พ่อผมตกปกเกลูา พ่อจะจ้งล้กสาวไปขูางไหน"
พ่อเฒ่าหัวลูานดีใจที่ไดูยินมธุรสวาจาอีก จึงรูองตอบไปว่า
เป็ นอันว่าเจูาหน่ม
ุ ร้ปหล่อคารมดี ไดูล้กสาวของพ่อเฒ่าเป็ นภรรยาดูวยประการฉะนี้ แล...
คนพูดส่อเสียด
แลูวก็นำาคำาพ้ดอย่างเดียวกันไปเป่ าห้พระเถระผูน
้ อ
ู ง
พระเถระผู้เฒ่าและพระเถระผู้นอ
ู งจ้งมือกันกลับมาวัดเดิมชี้หนูาพระนักเทศน์ว่า ท่านเป็ นอลัชชี
ปลิ้นปลูอน หลอกลวง อาศัยผูาเหลืองสรูางความรำ่ารวยแก่ตน เอาความดีใส่ตัว แต่เอาความชั่ว
ใหูคนอื่น ทำาใหูเราซึ่งอย่้ดูวยกันมาอย่างสมานฉันท์ตูองกินแหนงแคลงใจกัน วาจายุแยงของท่าน
มันช่างรูายกาจนัก ท่านไม่สมควรอย่้ในอาวาสนี้ จะไปไหนก็ไป
พระนักเทศน์ผู้พห้ส้ตก็เลยตูองถ้กขับไล่ไปจากวัด
ปิ สุณวาจา ก่อใหูเกิดโทษมหาศาลดังนี้ แล
โทษของการพูดคำาหยาบ
ภิกษุผู้เลี้ยงมารดา
สุวรรณสาม
ว่าแลูวก็รีบเขูาไปประคองร่างพระโพธิสัตว์ผู้สลบไสลดูวยล้กศรกำาซาบยาพิษ ทรงครำ่าครวญ
สำานึ กในความผิดของตนอย่างน่าสงสาร
เทวธิดาตนหนึ่ งมิไดูปรากฏตัวเปล่งเสียงลอยมาจากอากาศว่า "มหาราชเจูา ท่านไดูทำาผิดอันยิ่ง
ใหญ่แลูว ถูาพ่อสามตายท่านตูองเลี้ยงด้บิดามารดาที่ตาบอดของพ่อสาม"
จากนั้นพระโพธิสัตว์ไดูสอนจริยธรรมสำาหรับนักปกครองแก่พระราชา ความว่า...
"ขอพระองค์จงประพฤติธรรมในพระราชบิดาพระราชมารดาในพระโอรส และพระชายา
มิตตวินทุกะ
"ยังไงฉันก็จะไป เพราะฉันรับปากกับเพื่อนไวูแลูว"
เด็กหน่ ุมยืนกราน
"อย่าไปเลยล้ก แม่กม
็ ีล้กคนเดียวเท่านั้น หลังจากพ่อสิ้นไปแลูว แม่ไม่มีใครอื่นเลย นอกจากล้ก"
แม่ออ
ู นวอน
เขาเดินเขูาไปใกลูกล่าวว่า
การสงเคราะห์บุตร-ภรรยา
จ้างบุตรฟั งธรรม
"อยากไดูครับ" เขารีบตอบ
พระองค์ตรัสพระคาถาสั้นๆ ว่า
"ยิ่งกว่าเอกราชย์ท่ัวทั้งปฐพี ยิ่งกว่าขึน
้ สวรรคาลัย ยิ่งกว่าอธิปไตยในโลกทั้งปวง คือ โสดาปั ตติ
ผล"
พุทธภาษิตบทหนึ่ งเขูากับเรื่องนี้ ไดูก็คือ "ปฏิร้ปการี ธุรวา อุฏฺ ฐาตา วินฺทเต ธนำ คือ ผู้ทำาการ
เหมาะ เอาการเอางาน ขยันหมั่นเพียร ย่อมหาทรัพย์ไดู"
จูฬกเศรษฐีกับคนใช้
มาณพเกียจคร้าน
อาจารย์ผู้รจนาคัมภีร์ ท่านสรุปทูายดูวยคำาคมว่า...
"ผูห
้ ลับในกลางวันเป็ นปกติ
เกลียดการลุกขึ้นในกลางคืน
เมาเป็ นนิ ตย์ เป็ นนักเลง ไม่อาจครองเรือนไดู"
การให้ทาน
ท่านชอบใหูทานแบบไหน ก็เลือกเอาตามสบายเถิด
มาฟั งนิ ทานกันดีกว่า...
นางอุมมาทันตี
"ดูวยการถวายผูานี้ ดิฉน
ั เกิดในชาติใด ภพใด ในภายภาคหนูา ขอใหูมร
ี ้ปร่างสวยงามหาใคร
เปรียบมิไดู ชายใดเห็นแลูวหลงรักทันที"
พราหมณ์ทัง ้ 8 ไปเห็นนางเท่านัน
้ ต่างก็มองตาค้าง โอ้โฮ ทำาไมสวยอย่างนี้ เมื่อนางได้
นำาข้าวปลามาให้รับประทานพราหมณ์ทัง ้ 8 ต่างก็ไม่เป็ นอันกินข้าว ได้แต่จ้องมองนาง
ตักข้าวเข้าปากผิดๆ ถูกๆ ข้าวหกเรีย
่ ราด จนนางโมโหว่า "นี่หรือพราหมณ์ผู้เชีย ่ วชาญ
ดูลักษณะคน เซอะๆ ซะๆ ยังกับบ้าใบ้ไสหัวไป"
จึงรับสั่งขอบคุณในความจงรักภักดีของเสนาบดี แต่ทรงรับไวูไม่ไดู
ลูกสาวนายมาลาการ
พระพุทธเจูาทอดพระเนตรเห็นแลูว ทรงแยูมพระสรวลพระอานนท์เห็นดังนั้นจึงกราบท้ลถาม
สาเหตุท่ีทรงแยูมพระสรวลพระพุทธองค์ตรัสว่า "อานนท์ กุมารีคนนี้ จะไดูเป็ นอัครมเหสีของ
พระเจูาโกศล ในวันนี้ ทีเดียว ดูวยการถวายขนมกุมมาสนี้ "
การประพฤติธรรม ในที่น้ี คอ
ื ประพฤติธรรมที่กายสุจริต 3 วจี สุจริต 4 และ มโนสุจริต 3
พระมิลกเถระ
พระหน่ม
ุ เจริญวิปัสสนากรรมฐานวันแลูววันเล่า อย่างพากเพียรต่อเนื่ อง จิตก็ค่อยๆ เขูาที่หยั่งลึก
ลงตามลำาดับ
นายโคฆาต
ดิ้นไปมาอย่้พักใหญ่ ก็สิ้นใจตายไปตามโคผู้น่าสงสาร
ไม่ตอ
ู งถามว่า ตายแลูวเขาไปไหน โน่ น ไปเป็ นศิษย์ของยมบาลในนรกโน่ นแหละครับ....
นายจุนทสูกริก
การสงเคราะห์ญาติ
พระพุทธเจูาตรัสว่าเป็ นมงคลอันส้งสุด
พญาสุนัข
ก่อนเขูาไป พระโพธิสัตว์ไดูแผ่เมตตาจิตไปยังพระราชาขูาราชบริพารและคนทั้งปวงที่พบเห็น
ดูวยอำานาจเมตตาจิตของพระโพธิสัตว์ ไม่มีใครขัดขวางและคิดทำาอันตราย พระโพธิสัตว์จึง
เล็ดลอดไปจนไดูพบกับพระราชา
"พระองค์รับสั่งใหูฆ่าสุนัขทั้งหมดหรือยกเวูนบูาง"
"ฆ่าเฉพาะสุนัขนอกวัง ยกเวูนสุนัขในวัง"
"พระองค์ทรงรู้หรือว่าสุนัขตัวไหนผิด หรือไม่ผิด"
"ขูอนั้นเราไม่รู้ดอก แต่เราเชื่อตามที่นายสารถีเขาบอกใหูทราบ"
ตั้งแต่วันนั้นมาพระราชาไดูพระราชทานอภัยทานแก่สุนัขรวมถึงสัตว์ท้ังหลายดูวย แถมยัง
พระราชทานอาหารแก่สุนัขป่ าบริวารของพระโพธิสัตว์เป็ นประจำาอีกดูวย
พญากา
สัตวแพทย์ไม่สามารถรักษาแผลใหูหายขาดในเร็ววันไดู ปุโรหิตจึงเขูาไปกราบท้ลพระราชาว่า ยา
ที่รักษาแผลชูางไดูวิเศษนัก คือ นำ้ามันเหลวของกา พระราชาจึงรับสั่งใหูฆ่ากาทั้งหลายทุกตัวที่
พบเห็น เพื่อเอานำ้ามันเหลวมารักษาชูาง
พญากาโพธิสัตว์คิดจะช่วยเหลือญาติของตนใหูพูนภัย จึงหาทางแอบไปพบพระราชาจนไดูในวัน
หนึ่ ง เกาะอย่้ในที่สมควรแลูวกราบท้ลพระราชาว่า...
พระพุทธองค์สงเคราะห์ญาติ
พระพุทธองค์ทรงอนุเคราะห์ช่วยเหลือพระประยุรญาติหลายครั้งหลายครา อาทิ...
ครั้งหนึ่ ง...ทรงระงับสงครามแย่งนำ้า
ทรงเรียกแม่ทัพนายกองทั้งสองฝ่ าย ซึง
่ ก็พระประยุรญาติของพระพุทธองค์ท้ังนั้น มาตรัสถามเชิง
ตำาหนิ วา
่
"มหาบพิตรทั้งหลาย พวกท่านทำาอะไรกัน"
"เพื่อเอานำ้าไปทำานา พระเจูาขูา"
"แค่เอานำ้าไปทำานา แบ่งกันคนละครึ่งไม่ไดูหรือ ทำาไมตูองถึงกับรบราฆ่าฟั นกัน"
"ไม่มฝ
ี ่ ายไหนยอม พระเจูาขูา ต่างฝ่ ายก็จะเอามากกว่า" สีเสียงหนึ่ งลอดเขูามา
พระพุทธองค์ตรัสเตือนสติว่า
ครอบครัวไหนญาติพ่ีนอ
ู งไม่ปรองดอง น่ าจะนำาพระปางหูามญาติไปบ้ชานะครับ จะไดูเลิกทะเลาะ
เบาะแวูงกัน...
ทรงห้ามพระเจ้าวิฑูฑภะ
เมื่อครั้งพระเจูาปเสนทิโกศล ซึง
่ เป็ นนายของเหล่าศากยะทรงส่งคณะท้ตไปขอขัตติยนารี จาก
ศากยวงศ์ เพื่ออภิเษกสมรสเป็ นอัครมเหสี พวกศากยะที่หยิ่งทะนงในศักดิศ ์ รีและสายเลือดอัน
บริสุทธิข ์ องตน ส่งล้กสาวนางทาสีอันเกิดแต่เจูาชายมหานามใหูเรียกว่า "ยูอมแมวขาย" นั้นแหละ
ครับ
พระพุทธองค์ทรงช่วยไวูครั้งหนึ่ ง
เมื่อเจูาชายวิฑ้ฑภะเจริญวัยมา ความแคูนที่มม
ี าตั้งแต่ครั้งไปเยี่ยมพระเจูาตาที่เมืองกบิลพัสด์ุ นับ
วันแต่จะรุนแรงขึ้นคิดหาโอกาสแกูแคูนใหูไดูสักวัน เมื่อไดูขึ้นครองราชย์แทนพระราชบิดาแลูว ก็
ยกทัพไปเพื่อจะฆ่าฟั นพวกศากยะชำาระความแคูนเสียที
พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าขืนปล่อยไปตามนั้น พระประยุรญาติท้ังหลายจะถ้กฆ่าตาย เพราะอำานาจ
ความแคูนของวิฑ้ฑภะจึงเสด็จมาหูามไวู วิธีหูามของพระพุทธองค์ก็ทรงทำาทางอูอม คือประทับใตู
ใบไมูท่ใี บโปร่งแสงแดดส่องไดู ดักทางที่วิฑ้ฑภะจะเสด็จผ่านมา พระเจูาวิฑ้ฑภะเห็นพระพุทธองค์
ก็เสด็จไปถวายบังคมกราบท้ลถามว่า "ทำาไมพระองค์ประทับใตูไมูเงาโปร่ง ไม่ประทับใตูตูนโนูน
(ทรงชี้ไปอีกตูนหนึ่ ง อย่เ้ ขตแดนเมืองสาวัตถี) ร่มเงาหนาทึบเย็นสบายกว่า"
การงานทีไ
่ ม่มีโทษ
ปุโรหิตรับสินบน
"เวลาสมาทานศีลล่วงไปแลูวหลายเพลา" อำามาตย์คนเดิมกล่าว
"ไม่เป็ นไร ผมสมาทานศีลอุโบสถสายไปหน่ อยก็คงจะไดูอานิ สงส์กึ่งหนึ่ ง ก็ยังนับว่าดี" ปุโรหิต
กล่าว แลูวเขาก็ทำาจริงๆ ไปถึงบูานก็เอานำ้าบูวนปากสมาทานศีลอุโบสถ ปฏิเสธอาหารตลอดทั้ง
คืน
สำารวมการดื่มนำ้าเมา
1. ทำาใหูเสียทรัพย์สินเงินทอง
2. เป็ นเหตุใหูเกิดการทะเลาะวิวาท
3. ทำาใหูเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ
4. เป็ นบ่อเกิดของโรคภัยไขูเจ็บต่างๆ
5. ทำาใหูไม่รู้จักอับอาย
6. ทำาใหูสติปัญญาเสื่อม
โทษของสุราเมรัย 6 ประการนี้ ไม่มีใครกลูาปฏิเสธ เพราะว่ามันเป็ นเรื่องจริงทั้งสิ้น...
โทษของสุรา
ว่ากันว่าพรานสุระแกดื่มกินอย่้คนเดียว ไม่ยอมบอกใคร
พระองค์ก็เลยไดูครอบครองลิขสิทธิ ์ สมบัติคือไหสุราทั้งหมดดูวยประการฉะนี้ แล
พอพระเจูาสรรพมิตรทรงทราบว่าสุรานั้นมิใช่ยาพิษ เพราะแมวและหน้มันเมาแลูวพอสร่างเมามัน
ก็กระโดดโลดเตูนไดูตามเดิมจึงรับสั่งใหูปล้กพลับพลา ที่ทูองสนามหลวง ประดับตกแต่งสวยหร้
ทำานองลานเบียร์ในกรุงสมัยปั จจุบันนี้ แหละ แวดลูอมดูวยเหล่าเสนามาตย์นูอยใหญ่ เตรียมเสวย
สุราเป็ นการใหญ่
๐ ดื่มสุราใดแลูว ทำาสกุลที่มีทรัพย์นับอเนกอนันต์ตอ
ู งย่อยยับ ไรูทายาทสืบสกุล ท่านจึงซื้อหมูอ
บรรจุน้ ำาสุรานี้ เถิด
พราหมณ์แปลงกายไดูสาธยายโทษของสุราแก่พระเจูาสรรพมิตรยืดยาว ไดูกล่าวต่อไปอีกว่า...
ตำานานเก่าเล่าว่า กษัตริย์พ่ีนอ
ู งสิบพระองค์ด่ ืมสุราใดแลูวรูองรำาทำาเพลงสนุกสนาน ริมฝั่ งแม่น้ ำา
แลูวก็ประหัตประหารกันสิ้นชีวิตอย่างอนาถริมฝั่ งนำ้านั่นแล ท่านจงซื้อหมูออันบรรจุน้ ำาสุรานี้ เถิด
พวกเทพในกาลก่อน ถือว่าตนเที่ยงแทู ดื่มสุราใดแลูวมึนเมา หล่นจากสวรรค์ นำ้าเมาเช่นนี้
ปราศจากประโยชน์ ด้ก่อนกษัตริย์ บุคคลเมื่อรูอ
้ ย่างนี้ แลูว ยังจะคิดดื่มสุรานี้ หรือ
บุตรเศรษฐี
บุตรเศรษฐีจะว่าเป็ นผูม
้ ีบุญก็ไดู เพราะเป็ นผู้ "คาบชูอนเงินชูอนทองมาเกิด" บางคนก็คาบวัสดุ
ขนาดใหญ่ เช่น พานเงินพานทอง (แทูๆ ไม่ปลอม) มาเกิด หมายถึงเป็ นคนสรูางบุญไวูมากแต่
ปางก่อน มาชาติน้ี จึงสบายตั้งแต่เกิด จะว่าแกมีบาปก็ไดู เพราะบุญเก่าพาใหูมาเกิดในตระก้ลดี
รำ่ารวย แต่ถูาแกประมาทไม่ประพฤติตัวดีสมกับที่เกิดมาดี แกก็จะกลายเป็ นคนที่ไรูคา ่ ไรู
ศักยภาพ
นี้ คือตัวอย่างหนึ่งของชีวิตทีป
่ ล่อยให้เป็ นทาสของสุราจนกระทัง่ หมดเนื้ อหมดตัว
ไม่ประมาทในธรรม
คนที่ไม่ประมาทมักทำาอะไรไม่ค่อยผิดพลาด เพราะเขามีสติกำากับอย่้ตลอดเวลา
ไม่ประมาทในการปฏิบัติธรรม
พระพุทธองค์เคยตรัสไวูว่า...
ความเคารพ
การแสดงความเคารพเป็ นเครื่องหมายแสดงถึงความมีอารยธรรมและวัฒนธรรมอันดีงาม
พระพุทธเจูาตรัสว่า ผูอ
้ ภิวาทกราบไหวูผู้เจริญดูวยวัยวุฒิเป็ นนิ ตย์ย่อมเจริญดูวยจตุรพิธพรชัย คือ
อายุ วรรณะ สุขะ พละ
สัตว์สามสหาย
เมื่อเกิดคำาถามขึ้นว่า เราจะรู้ไดูอย่างไรว่าใครเกิดก่อนใคร
"ที่ไหน" อีกสองตัวถาม
"อย่ห
้ ่างจากนี้ ไปสามสี่โยชน์ ขูากินผลไทรจากตูนใหญ่โนูน บินผ่านมาตรงนี้ ข้ีลงตรงนี้ พอดี
ตูนไทรตูนนี้เกิดจากเมล็ดไทรที่ขูาขี้ไวู แสดงว่าขูาแก่กว่าพวกท่าน"
ชูางและลิงทั้งสองต่างก็ยอมรับว่านกกระทาแก่กว่า จึงแสดงความเคารพนกระทาในฐานะผู้
อาวุโส และอย่้ดูวยกันในป่ าอย่างสมัครสมานสามัคคี จนสิ้นชีวิต
ไม่มีใครรู้ว่า นกกระทาเจูาเล่ห์หลอกใหูสหายสองตัวหลงเชื่อหรือไม่ แต่ขูอเท็จจริงจะเป็ นอย่างไร
ไม่สำาคัญ ประเด็นอย่้ท่ีว่าการแสดงความเคารพนอบนูอมต่อผู้มีวัยวุฒิ เป็ นมงคลอย่างยิ่ง
ความสันโดษ
ธรรมะทีส
่ นับสนุนสันโดษ คือ ความเพียร ส่วนธรรมทีต
่ รงข้ามกับสันโดษ คือ ความ
โลภ
พระอุปนนท์
ความกตัญญู
กวางกับนายพราน
พระอานนท์
ภิกษุท้ังหลาย อานนท์เห็นแก่คุณธรรมความดียิ่งชีวิต
เมื่อครั้งพระเทวทัตสั่งปล่อยชูางนาฬาคิรีแล่นมาหมายจะเหยียบพระตถาคตนั้น อานนท์มีความ
กตัญญ้รู้คุณของพระตถาคตไม่คิดถึงชีวิตของตน ออกไปขวางหนูาชูางตกมัน จนตถาคตตูองแผ่
เมตตาจิตสยบพญาชูางนั้นเสีย
การฟั งธรรมตามกาล
1. ไดูฟังในสิ่งที่ไม่เคยฟั ง
2. สิ่งที่เคยฟั งแลูวชัดเจนยิ่งขึ้น
3. บรรเทาความสงสัยไดู
4. ทำาความเห็นใหูถ้กตรง จิตของผู้ฟังก็ย่อมแจ่มใส
กบฟั งธรรม
เรื่องทำานองนี้ มีแม่ไก่ท่อ
ี าศัยอย่้ในวัด ไดูยินพระสงฆ์ท่านสวดพระอภิธรรมเป็ นประจำา ถึงไม่เขูาใจ
แต่ก็สดับเพลิน เพราะเสียงสวดนั้นทำาใหูร่ ืนห้ เมื่อแม่ไก่น้ันตายไปก็มีสุคติเป็ นที่ไปในเบื้องหนูา
คือ เกิดเป็ นเทพบุตรเช่นเดียวกับกบนูอย
คนเลี้ยงโค
กว่าเขาจะตูอนโคเขูาคอกเรียบรูอยเวลาก็เกือบเที่ยงแลูว เขาคิดว่าถึงจะไดูฟังเพียงบางส่วนก็ยังดี
จึงรีบมุ่งหนูาตรงไปยังบริเวณพิธี ไปถึงก็ถวายบังคมพระพุทธองค์แลูวนั่งอย่้ทูายบริษท
ั
ความเป็ นผู้ว่าง่าย
พระเจ้าปายาสิ
พระเจูาปายาสิมีความเห็นว่านรกสวรรค์ไม่มีจริง ทานที่ใหูแลูวไม่มผ
ี ล สมณชีพราหมณ์เขาเอา
เรื่องเหล่านี้ มาล่อ เพื่อใหูคนเอาขูาวปลาอาหารมาปรนเปรอตัวเองเท่านั้น
พ่อค้าสำาเภาห้าร้อยคน
ความเลื่อมใสของนกฮูก
พระคัมภีร์กล่าวต่อไปว่า รุกขเทวดาที่สิงอย่้ท่ีตูนไมูเจรจากับนกฮ้กว่า
แทนที่นกฮ้กจะตอบเทวดา พระพุทธเจูาตรัสแทนว่า...
สุนัขเห่าพระปั จเจกพุทธะ
มัฏฐกุณฑลี
แลูวเขาก็คอ
่ ยๆ ยกมือทั้งสองขึ้นมนัสการพระพุทธองค์อย่างยากเย็น ไหวูเสร็จก็สิ้นลมทันที
พระพุทธองค์ตรัสบอกภิกษุสงฆ์ในภายหลังว่า มัฏฐกุณฑลี หรือ หน่ ุมตูม
ุ ห้เกลี้ยง ไปเกิดเป็ นเทพ
บุตร เพราะอานิ สงส์ คือ ยกมือนมัสการพระเจูาดูวยจิตที่เลื่อมใส
การสนทนาธรรมตามกาล
ผู้แต่งคัมภีรม
์ ังคลัตถทีปนี สรุปว่า การสนทนาธรรมตามกาล ก็คือ ผู้เรียนพระส้ตรสนทนาพระ
ส้ตร ผู้เรียนพระวินัยสนทนาพระวินัย ผูเ้ รียนพระอภิธรรมสนทนาพระอภิธรรม เพื่อขจัดความ
หดห่้ใจ ความฟู ุงซ่าน และบรรเทาความสงสัยลงไดู
พระเถรีอรหันต์ถูกข่มขืน
การบำาเพ็ญตบะ
พระราชาสองเมือง
พระราชาแห่งเมืองทั้งสองรบกัน ไม่มีใครแพูใครชนะ
แลูวพระอินทร์ก็พ้ดสรุปเป็ นปรัชญาว่า...
"ผ้ท
ู ีพ
่ ากเพียรถึงทีส
่ ุด แม้เทวดาก็กีดกันไม่ได้"
หัวหน้าพ่อค้าเกวียน
ในอดีตกาลอันยาวนานโพูน นานแค่ไหนช่างเถอะ พระโพธิสัตว์เกิดเป็ นหัวหนูากองเกวียน นำา
กองเกวียนเดินทางผ่านทางทุรกันดาร ไปถึงทะเลทรายกวูางใหญ่ ทะเลทรายนั้นกลางวันรูอน
เป็ นเปลวเพลิง จะเดินทางไดูเฉพาะกลางคืนเท่านั้น
พระโพธิสัตว์ลงไปเอาห้แนบแผ่นดิน ไดูยินเสียงนำ้าขูางใตูจึงสั่งใหูเอาคูอนมาทุบแผ่นหินจนกระทั่ง
แตก เกลียวนำ้าไดูพุ่งขึ้นส้งเท่าตูนตาล คนทั้งหลายไดูด่ ืมนำ้า รอดตาย เดินทางต่อไปจนถึงจุด
หมายปลายทางตามปรารถนา
ประพฤติพรหมจรรย์
ภิกษุ 60 รูป
"กรรมฐานอะไรหรือเจูาคะ"
"กรรมฐานอย่างนี้ ดิฉน
ั จะทำาบูางไดูไหม เจูาคะ"
"ไดูสิ โยม"
"ถูาอย่างนั้นสอนดิฉน
ั บูาง"
เพราะฉะนัน
้ การปฏิบัติธรรมทีส
่ อดคล้องกับอัธยาศัย จึงนับว่าเป็ นมงคลฉะนี้ แล
ประสกสีกาทัง
้ หลาย...
ความเห็นอริยสัจ
อริยสัจ 4 คือ
การเห็นอริยสัจ เริม
่ ตั้งแต่รู้เห็นสภาวะทั้งหลายตามความเป็ นจริงอันเรียกว่าไดู "ดวงตาเห็น
ธรรม" ภาวะเช่นนี้ ท่านว่าอย่างตำ่าเป็ นพระโสดาบัน อย่างส้งเป็ นพระอนาคามี แลูวก็เห็นส้งขึ้นไป
อีก จนกระทั่งไดูบรรลุช้ันพระอรหัต อย่างนี้ เรียกว่า เห็นแจูงอริยสัจ
พาหิยทารุจีริยะ
กระทาชายนายหนึ่ ง นาม พาหิยะ เดินทางไปคูาขายทางเรือ เรือเกิดล่ม คนในเรือตายหมด เหลือ
แต่เขาคนเดียวที่รอดมาไดู เพราะอาศัยเกาะแผ่นกระดานลอยคอในนำ้า นำ้าไดูพัดไปขึ้นฝั่ ง เสื้อผูา
หายไปหมด ไม่รู้จะทำาอย่างไร จึงหาเปลือกไมูบูางใบไมูบา
ู งมาปิ ดกาย เดินโซซัดโซเซมาดูวย
ความหิว
พระพุทธองค์ตรัสว่า
พุทธวจนะที่ตรัสสั้นจริงๆ ครับ
การเห็นอริยสัจของพระสารีบุตร
พระพุทธเจูาทรงแยูงว่า "ถูาเช่นนั้นท่านก็ถือทฤษฎีอย่้เอง"
"ก็ขูาพเจูาบอกว่า ขูาพเจูาไม่ถอ
ื ทฤษฎีใดๆ ท่านยังจะหาว่าขูาพเจูาถือทฤษฎีหรือ"
เล่นเอาทีฆนขะอึง
้ ไปเลย นึ กไม่ถึงเรื่องนี้
ศิษย์ไดูเห็นการกระทำาของอาจารย์ก็ตาคูาง นึ กไม่ถึงว่าอาจารย์จะทำาผิดวินัยดูวยการจับตูองสตรี
คืนนั้นนอนไม่หลับขณะที่อาจารย์หลับป๋ ุย ตกประมาณสองยามกว่าๆ ทนไม่ไหวจึงไปเคาะประต้
ต่อว่าอาจารย์เป็ นการใหญ่ หาว่าไปอูม
ุ ผู้หญิงผิดวินัย ไม่ควรทำา
นิ ทานเรื่องที่เล่าซูอนนี้ อาจไม่เกิดขึน
้ จริง แต่ตูองการเตือนใหูเห็นว่า การยึดมั่นนั้นมันละยาก
อย่าคุยว่าตนไม่ยึดมั่นเพราะขณะคุยนั้นกำาลังแสดงใหูเห็นว่าตนกำาลังยึดมั่นความไม่ยึดมั่น
การตรัสรู้ธรรมของพระสารีบุตรค่อนขูางแปลก เรียกว่าพระพุทธเจูามิไดูทรงมีพุทธประสงค์จะ
แสดงใหูท่านฟั ง ทรงแสดงใหูหลานท่านฟั ง แต่ท่านไดูฟังดูวย ท่านก็เลยไดูบรรลุธรรม ในขณะที่
หลานท่านด้เหมือนจะไดูแค่โสดาบัน
มีข้อพึงสังเกตก็คือ วันทีท
่ ่านพระสารีบุตรบรรลุพระอรหัตนัน
้ ตรงกับวันเพ็ญเดือน 3
เป็ นวันมาฆบูชาพอดี...
การทำานิ พพานให้แจ้ง
นิ พพานในทางธรรม
พระนิ พพานของพระพุทธเจูา คือ การหมด ราคะ โทสะ โมหะ เป็ นเรื่องของนามธรรม ไม่ใช่วัตถุ
ไม่ใช่สถานที่
จิตไม่หวัน
่ ไหวด้วยโลกธรรม
พระอาจารย์ตันซาน
หลวงพ่อท่านก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่ถามว่า
"เขาว่าอย่างนั้นรึ"
เมื่อล้กสาวคลอดออกมา พ่อแม่กน
็ ำาเด็กมาใหูหลวงพ่อเลี้ยง "ล้กแกแกตูองเลี้ยง"
หลวงพ่อก็ถามคำาเดิมว่า "เขาว่าอย่างนั้นรึ"
ท่านสอนต่อไปว่า...
วิธีหนึ่ งที่ท่านสอนนับว่ามีประโยชน์ไม่นอ
ู ย คือ ใหูคิดว่าสิ่งเหล่านี้ เป็ นเพียง "แขก" ที่มาเยี่ยมเรา
ชั่วครั้งชั่วคราว มันไม่อย่้นานดอก ถึงเวลาอันสมควรมันก็จะไป
พระอรหันต์นอ
้ ย
รู้ถึงพระอื่นๆ ท่านเหล่านั้นก็อศ
ั จรรย์ใจในความมั่นคงของพรเถระนูอย กล่าวสรรเสริญว่า ท่าน
ช่างมั่นคงจริง พระบูานนอกเหล่านั้นเขกศีรษะบูาง ดึงห้บูาง กระเซูาเยูาแหย่ตา
่ งๆ นานา ท่านก็
ไม่แสดงอาการโกรธตอบ
จิตไม่เศร้าโศก
คนห้าคน
เมื่อไปถึงก็พากันจัดการเผาศพผู้ตายดูวยใบหนูาอันสงบรูอนถึงทูาวสักก
"ศพบุตรชายของขูาพเจูา" บิดามารดาผู้ตายตอบ
ผู้เป็ นพ่อกล่าวว่า...
ผู้เป็ นแม่กล่าวว่า...
นูองสาวกล่าวว่า...
ภรรยาเขากล่าวว่า...
คนใชูกล่าวว่า...
พราหมณ์แปลงไดูยินคำาพ้ดของทั้งสี่คน ก็กล่าวชมว่า
จิตปราศจากธุลี
สตรีนอกใจสามี
จิตอันเกษม
1. จิตเกษมระดับตูน
2. จิตเกษมระดับกลาง
3. จิตเกษมระดับส้ง
แม่ชีอวดภูมิ
"อิชั้นนะคะ เดีย
๋ วนี้ กิเลสเหลือนูอยเต็มทีแลูว ใกลูจะหมดแลูว" ว่าเขูาไปโน่ น
"อีตอแหล"
ว่าแลูวก็ลงสูนตึงๆ ลงไปจากกุฏิ
พระท่านก็เลยพ้ดไล่หลังว่า...
"นึ กแลูว กิเลสมันไม่หมดไปง่ายๆ ดอก"
ภาคผนวก
พระบรมศาสดาตถาคต สำาราญอิริยาบถทรงพักผ่อน
ณ วิหาร "เชตวัน" อันสุนทร ใกลูนครสาวัตถีบุรีรัตน์
เหล่าสาวกสาวิกามาฟั งธรรม ตั้งแต่เชูายันคำ่าแน่ นขนัด
บัดนี้ วังเวงไปทั้งในวัด ดึกสงัดไรูเสียงสำาเนี ยงคน
เทวดาจากสถานพิมานทิพย์ เหาะลิ่วลิ่วลิบลิบจากเวหน
หวังท้ลถามตถาคตทศพล สิ่งที่ตนกังขามาชูานาน
บันดาลใหูไฟสว่างไปทั้งวัด จนมองเห็นถนัดทุกสถาน
ความมืดกลายเป็ นเวลาทิวาร อภิวาทพระทรงญาณในทันใด
ยืนอย่้ ณ สถานอันเหมาะสม กรประนมซักถามความสงสัย
เป็ นโศลกเสนาะรสพจนัย ซึง ่ มีใจความย่อต่อไปนี้
"เหล่าเทพเทวามหาฤทธิ ์ ผูส ้ ถิตวิมานแมนแดนสุขี
ทั้งมนุษย์ในมหาปฐพี ต่างสงสัยอะไรดีเป็ นมงคล
ขูาพระเจูาขอปุจฉาตถาคต ใหูปรากฏแจ่มแจูงทุกแห่งหน
อะไรคือมงคลเลิศประเสริฐลูน เผยยุบลใหูกระจ่างสว่างนัย
ฝ่ ายองค์พระมุนินท์ชินสีห์ เผยวจีภิปรายหายสงสัย
การทำาดีทางกายวาจาใจ คือสิ่งใหูผลเห็นเป็ น "มงคล"
ห่างคนพาลสันดานชั่วมั่วทางผิด
คบบัณฑิตคนดีมีกุศล
ยกย่องคนควรยกย่องประคองตน
เป็ นยอดยิ่งมิ่งมงคลอุดมดี
อย่้ถิ่นฐานเหมาะสมอบรมตน
มีกศุ ลเสริมสรูางปางก่อนนี้
ดำารงตนชอบทางอย่างเมธี
เป็ นยอดศรีมงคลอุดมคุณ
เป็ นผู้คงแก่เรียนเพียรศึกษา
ศิลปะวิทยาพาเกื้อหนุน
พ้ดจาดีมีวินัยลำ้าช่วยคำ้าจุน
เป็ นยอดบุญยอดยิ่งมิ่งมงคล
อีกเลี้ยงด้พ่อแม่ยามแก่เฒ่า
ล้กเมียเราบำารุงใหูไม่ขัดสน
การงานทำาไม่ค่ังคูางเป็ นกังวล
เป็ นยอดยิ่งมิ่งขวัญดลสวัสดี
บำาเพ็ญทานประพฤติธรรมสุจริต
สงเคราะห์เหล่าญาติสนิ ทใหูสุขี
ทำาการงานบริสุทธิใ์ นยุทธวิธี
เป็ นยอดศรียอดผลมงคลชัย
งดจากบาปถูวนทั่วสิ่งมัวหมอง
งดเครื่องดองของเมาไม่เขูาใกลู
ไม่ประมาทในธรรมประจำาใจ
เป็ นยอดยิ่งมิ่งหทัยมงคลดี
คารวะนอบนูอมคูอมศิโรตม์
มีสันโดษรู้จักใชูปัจจัยสี่
กตัญญ้รู้คุณหนุนคนดี
ฟั งธรรมตามกาลมียอดมงคล
อีกอดทนเต็มเปี่ ยมเสงี่ยมสงบ
หมั่นเขูาพบสมณะประเสริฐผล
สนทนาธรรมะกาละดล
ยอดกุศลยอดยิ่งมิ่งมนุษย์
มีเพียรเครื่องเผากิเลสเหตุมัวหมอง
มีชีพครองพรหมจรรย์อน ั วิสุทธิ ์
เห็นสัจจะอันประเสริฐเลิศวิมุติ
แจูงนิ พพานอันส้งสุดยอดมงคล
จิตไม่ไหวไม่เศรูาเคลูากิเลส
อันเป็ นเหตุใหูจิตคิดหมองหม่น
จิตเกษมปลอดภัยไรูกังวล
ประลุดลมิ่งขวัญอนันต์นาน
มงคลธรรมสามสิบแปดประการนี้
ใครทำาไดูทำาดีทุกสถาน
จะมีชัยชำานะทุกประการ
ดลบันดาลยอดยิ่งมิ่งมงคล