370

UNIT 9
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 9 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2
เรื่อง Rules and regulations เวลา 15 คาบ

เป้ าหมายการเรียนรู้
สาระสำคัญ
ศึกษาเรื่ องการรับประทานอาหารนอกบ้านเพื่อให้นกั เรี ยนมีความรู ้ ความเข้าใจ มีมารยาทใน
การสื่ อสารเกี่ยวกับการสัง่ อาหาร การซื้ ออาหาร โดยการฟัง การพูดถาม-ตอบ การอ่านและการเขียน
สามารถใช้ค ำศัพท์ สำนวน และโครงสร้างทางภาษาที่ก ำหนด เพื่อเป็ นพื้นฐานในการบอกสิ่ งที่
ต้องการทำโดยใช้รูปประโยคแสดงอนาคต การถามและการตอบรับการขอความช่วยเหลือ เรี ยนรู ้
เรื่ องการปฏิบตั ิตนตามกฎกติกาของสังคมเพือ่ ให้นกั เรี ยนมีความรู้ ความเข้าใจ มีมารยาทในการใช้รถ ใช้
ถนน เรี ยนรู้กฏจราจรพื้นฐานที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยการฟัง การพูดถาม-ตอบ การอ่านและการ
เขียน สามารถใช้ค ำศัพท์ สำนวน และโครงสร้างทางภาษาที่ก ำหนด การบอกสิ่ งที่ตอ้ งทำและข้อห้าม
ต่างๆ เพื่อเป็ นพื้นฐานในการดำรงชีวิตอย่างปลอดภัย
 371

มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วดั

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่ อสาร

มฐ. ต 1.1 ม.2/2, ต 1.1 ม.2/3, ต 1.1 ม.2/4, ต 1.2 ม.2/1, ต 1.2 ม.2/2, ต 1.2 ม.2/3, ต 1.2
ม.2/4, ต 1.3 ม.2/1, ต 1.3 ม.2/2, ต 1.3 ม.2/3
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มฐ. ต 2.1 ม.2/1, ต 2.1 ม.2/2, ต 2.2 ม.2/1, ต 2.2 ม.2/2
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กบั กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่น
มฐ. ต 3.1 ม.2/1
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มฐ. ต 4.1 ม.2/1, ต 4.2 ม.2/1
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. พูด อ่าน เขียน และให้ขอ้ มูลคำศัพท์ เกี่ยวกับ Rules and regulations ได้
มฐ. ต 1.1 ม.2/2, ต 1.2 ม.2/4, ต 1.3 ม.2/1, ต 1.3 ม.2/3, ต 3.1 ม.2/1
2. อ่านข้อความเรื่ อง When in Britain……… แล้วบอกรายละเอียดได้
มฐ. ต 1.1 ม.2/2, ต 1.1 ม.2/3, ต 1.1 ม.2/4, ต 2.2 ม.2/1, ต 2.2 ม.2/2, ต 3.1 ม.2/1
3. ฟังบทสนทนา พูดออกเสี ยงและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับ I must wear a helmet. ได้ถูกต้อง
มฐ. ต 1.1 ม.2/2, ต 1.1 ม.2/3, ต 1.1 ม.2/4, ต 2.2 ม.2/1, ต 3.1 ม.2/1

4. เขียนประโยคโดยใช้โครงสร้างไวยากรณ์ เรื่อง have to, must, need to ในรู ปแบบต่างๆได้

ถูกต้อง
มฐ. ต 1.2 ม.2/1, ต 1.2 ม.2/4, ต 1.3 ม.2/1, ต 2.2 ม.2/1, ต 2.2 ม.2/2, ต 4.1 ม.2/1
5. อ่านและพูดเพื่อสร้างเสริ มประสบการณ์ แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่ อง Talking about
school rules โดยการค้นคว้าจากแหล่งเรี ยนรู ้อื่นๆ ก่อนนำเสนอ
มฐ. ต 1.1 ม.2/4, ต 1.2 ม.2/5, ต 1.3 ม.2/3, ต 2.2 ม.2/2, ต 3.1 ม.2/1, ต 4.1 ม.2/1
6. อ่านและพูดเพือ่ สร้างเสริ มประสบการณ์ แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง Legal Age Limits
มฐ. ต 1.1 ม.2/4, ต 3.1 ม.2/1, ต 4.1 ม.2/1
7. ฟัง พูด และเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเองและให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
 372

มฐ. ต 1.1 ม.2/1, ต 1.2 ม.2/5, ต 1.3 ม.2/2, ต 3.1 ม.2/1, ต 4.1 ม.4/1

สาระการเรียนรู้

ความรู้ (Knowledge)
คำศัพท์ และสำนวนภาษา (Vocabulary & Idioms)
บทเรียนย่อยที่ 1 (Vocabulary & idioms)
คำศัพท์ คำแปลภาษา คำแปลภาษาไทย
อังกฤษ
rule (n.) a statement of สิ่ งที่ตอ้ งทำหรื อต้องไม่ท ำในสถานการณ์ใดสถานการณ์
what must or must หนึ่ง
not be done in a
particular situation
or when playing a
game
regulatio (usually plural) an กฏกติกาที่ออกโดยรัฐบาลหรื อหน่วยงาน
n (n.) official rule made
by a government
or some other
authority high as a
mountain
spit (vi.) to force liquid, ถ่มน้ำลาย
food, etc. out of
your mouth
litter (n.) small pieces of ขยะ
rubbish/garbage
such as paper, cans
and bottles, that
people have left
lying in a public
 373

place

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

legal (adj.) connected with the law ถูกกฎหมาย
Illegal (adj.) not allowed by the law ผิดกฎหมาย
seatbelt (n.) belt that is attached to the seat in a เข็มขัดนิรภัย
car or a plane and that you fasten
around yourself so that you are not
thrown out of the seat if there is an
accident
rude (adj.) connected with sex or the body in ไม่สุภาพ
a way that people find offensive or
embarrassing
address (vt.) to say something directly to พูดโดยตรงกับ
somebody
sunglasses (n.) a pair of glasses with dark glass in แว่นกันแดด
them that you wear to protect
your eyes from bright light from
the sun
reflective surfaces send back light or heat สะท้อนแสง
(adj.)
flask (n.) a bottle with a narrow top, used in กระติกน้ำ หรื อ ขวดรู ปทรงที่มีปาก
scientific work for mixing or ขวดแคบ
storing chemicals
satnav (n.) the abbreviation for “satellite เป็ นตัวย่อของ satellite navigation คือ
navigation” ระบบคอมพิวเตอร์
(a computer system that uses บอกทิศทางโดยอาศัยดาวเทียมสื่ อสาร
information obtained from คล้ายๆกับ GPS
satellites to guide the driver of a
vehicle)
mask (n.) a covering for part or all of the หน้ากาก
 374

face, worn to hide or protect it

snorkel (n.) a tube that you can breathe air ท่อช่วยหายใจ
through when you are swimming เมื่อดำน้ำ
under the surface of the water

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

abide (vt.) bear, stand อดทน
compass (n.) an instrument for finding direction, เข็มทิศ
with a needle that always points to
the north
boots (n.) a strong shoe that covers the foot รองเท้าหุม้ ถึงข้อเท้า
and ankle and often the lower part of
the leg: (British English) walking
boots
kit (n.) a set of tools or equipment that you ชุดอุปกรณ์เครื่ องมือ
use for a particular purpose
torch (n.) a small electric lamp that uses กระบอกไฟฉาย
batteries and that you can hold in
your hand. = flashlight
goggles (n.) a pair of glasses that fit closely to แว่นตาแนบใบหน้า ป้ องกันตาจาก
the face to protect the eyes from ลม ฝุ่ น น้ำ และอื่นๆ
wind, dust, water, etc.
go trekking to spend time walking, especially in เดินท่องเที่ยวระยะทางไกลและนาน
(vi.) mountains and for enjoyment and โดยเฉพาะบริ เวณเทือกเขา
interest

บทเรียนย่อยที่ 2 (Presentation 1)

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

even if (conj.) despite the fact or belief that; no matter whether ถึงแม้วา่
 375

permit (vt.) to allow somebody to do something or to allow อนุญาต

something to happen
enclosed (adj.) with walls, etc. all around มีผนังล้อมรอบ
playground (n.) an outdoor area where children can play, สนามเด็กเล่น
especially at a school or in a park
ground (n.) the solid surface of the earth พื้นดิน

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

crime (n.) activities that involve breaking การกระทำผิดกฎหมาย)
the law
fine (v.) to make somebody pay money ถูกปรับ
as an official punishment
disturb (vt.) to interrupt somebody when รบกวน ทำให้รำคาญ
they are trying to work, sleep,
etc.
law (n.) the whole system of rules that กฎหมาย
everyone in a country or
society or must obey
consider (vt.) to think about something คิดอย่างรอบคอบเพื่อการตัดสิ นใจ
carefully, especially in order
to make a decision
manners (n.) behavior that is considered to พฤติกรรมที่พึงกระทำในสังคม
be polite in a particular society
culture
cultural (adj.) connected with the culture of a เกี่ยวกับวัฒนธรรม
particular society or group, its
customs, beliefs, etc.
taboo (n.) a cultural or religious custom สิ่ งต้องห้ามทางด้านศาสนาหรื อวัฒนธรรม
that does not allow people to
do, use or talk about a
particular thing as people find
 376

it offensive or embarrassing
transport (n.) a system for carrying people การคมนาคมขนส่ ง
or goods from one place to
another using vehicles, roads,
etc.
system (n.) an organized set of ideas or ระบบการจัดการ
theories or a particular way of
doing something
reserved (adj.) slow or unwilling to show ที่ไม่อยากเปิ ดเผย
feelings or express opinions
nation (n.) a country considered as a ชาติ ประเทศ
group of people with the same
language, culture and history,
who live in a particular area
under one government
assistant (n.) a person who helps or supports ผูช้ ่วยในการทำงาน
somebody, usually in their job
affectionate showing caring feelings and เป็ นที่รัก เป็ นที่นิยม
(adj.) love for somebody

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

mate (n.) used as a friendly way of addressing คำที่ใช้เรี ยกแทนคำว่า
somebody, especially between men “เพื่อน” ในหมู่ผชู ้ าย
offended (adj.) feeling unpleasant to somebody รำคาญ ขัดหูขดั ตา
formal (adj.) official; following an agreed or official way of เป็ นทางการ เป็ นที่
doing things ยอมรับ
situation (n.) all the circumstances and things that are สถานการณ์
happening at particular time and in a particular
place
stare (vt.) to look at somebody/something for a long time จ้องมอง
vote (vt.) to show formally by marking a paper or ลงคะแนนเสี ยง
 377

raising your hand which person you want to

win an election, or which plan or idea you
support
moped (n.) a motorcycle with a small engine and also จักรยานยนต์
pedals.
out and about travelling around a place เดินเที่ยวชมนก
(adv.) ชมไม้ไปเรื่ อยๆ

บทเรียนย่อยที่ 3 (Presentation 2)

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

pad (n.) a thick piece of soft material แผ่นผ้าสำหรับปกป้ องหรื อทำความ
that is used, for example, for สะอาด
absorbing liquid, cleaning or
protecting something medicated
cleansing pads for sensitive skin
helmet (n.) a type of hard hat that protects หมวกกันน็อค
the head, worn, for example, by
a police officer, a soldier or a
person playing some sports
rear (n.) the back part of something ส่ วนท้ายของ
บางสิ่ งบางอย่าง
set off (vi.) to begin a journey เริ่ มออกเดินทาง
คำศัพท์ คำแปลภาษา คำแปลภาษาไทย
อังกฤษ
saddle a seat on a bicycle อานรถจักรยาน
(n.) or motorcycle
height the measurement ความสู ง
(n.) of how tall a
person or thing is
brake (n.) a device for เครื่ องมือทำให้ยานพาหนะช้าลงหรื อหยุด = เบรค
 378

slowing or
stopping a vehicle
tyre (n.) a thick rubber ring ยางรถชนิดต่างๆ
that fits around the
edge of a wheel of
a car, bicycle, etc.
pressure the force or weight แรงดัน
(n.) with which
something presses
against something
else
lane (n.) a narrow road in ช่องทางเดินรถ
the country
recomme to tell somebody แนะนำ
nd (vt.) that something is
good or useful, or
that somebody
would be suitable
for a particular
job, etc.
safe (adj.) protected from any ถูกปกป้ องให้ปลอดภัย
danger or harm
pavement a flat part at the ทางเดินเท้า
(n.) side of a road for
people to walk on
against opposing or ต่อต้านหรื อไม่เห็นด้วยกับใครคนใดคนหนึ่งหรื อเรื่ องใด
(adj.) disagreeing with เรื่ องหนึ่ง
somebody/somethi
ng
ignore to pay no attention ไม่ใส่ ใจ เพิกเฉย
(vt.) to something
 379

passenger a person who is ผูโ้ ดยสารในพาหนะต่างๆ

(n.) travelling in a car,
bus, train, plane or
ship and who is
not driving it or
working on it
handlebar a metal bar, with a แฮนด์รถจักรยานหรื อรถจักรยานยนต์
(n.) handle at each end,
that you use for
steering a bicycle
or motorcycle
seriously in a serious way; อย่างจริ งจัง
(adv.) not only for
pleasure.

บทเรียนย่อยที่ 4 (Grammar)

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

uniform (n.) the special set of clothes worn by ชุดเครื่ องแบบที่เป็ นแบบเดียวกัน
all members of an organization or
a group at work, or by children at
school
horrible (adj.) making you feel very shocked น่ากลัว รู ้สึกตกใจ
and frightened
experience (n.) the knowledge and skill that you ประสบการณ์
have gained through doing
something for a period of time;
the process of gaining this
discipline (n.) the ability to control your ความสามารถในการควบคุมพฤติกรรม
behavior or the way you live, = วินยั
work, etc.
extremely to a very high degree อย่างสู งสุ ด
 380

(adv.)
strict (adj.) that must be obeyed exactly ซึ่ งต้องปฏิบตั ิอย่างจริ งจัง หรื อ เข้ม
งวด
order (n.) the way in which people or things ลำดับขั้นตอน ระเบียบ
are placed or arranged in relation
to each other
prohibition (n.) the act of stopping something การห้าม
being done or used, especially by
law
book (vt.) to arrange to have or use จัดเตรี ยมเพื่ออนาคต จองตัว๋
something on a particular date in
the future; to buy a ticket in
advance
flight (n.) a journey made by air, especially การเดินทางโดยเครื่ องบิน
in a plane
entrance (n.) a door, gate, passage, etc. used ทางเข้าห้อง หรื อ อาคาร
for entering a room, building or
place

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

passport an official document เอกสารราชการที่ระบุความเป็ นประชากรของประเทศ
(n.) that identifies you as a ต้องนำติดตัวเมื่อเข้าหรื อออกนอกประเทศ
citizen of a particular
country, and that you
may have to show
when you enter or
leave a country
prohibition the act of stopping การห้าม
 381

(n.) something being done

or used, especially by
law
book (vt.) to arrange to have or จัดเตรี ยมเพื่ออนาคต จองตัว๋
use something on a
particular date in the
future; to buy a ticket
in advance
flight (n.) a journey made by air, การเดินทาง
especially in a plane โดยเครื่ องบิน
entrance a door, gate, passage, ทางเข้าห้อง หรื อ อาคาร
(n.) etc. used for entering a
room, building or
place
season (n.) any of the four main ฤดูกาล
periods of the year:
spring, summer,
autumn/fall and winter
weather the condition of the สภาพอากาศในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
(n.) atmosphere at a
particular place and
time, such as the
temperature, and if
there is wind, rain,
sun, etc.
invitation a spoken or written คำเชิญ บัตรเชิญ
(n.) request to somebody
to do something or to
go somewhere
 382

บทเรียนย่อยที่ 5 (Functions)

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

enter (v.) to come or go into something เข้าไป
tablet (n.) (tablet PC) a small computer that is คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กสำหรับพกพา
easy to carry, with a large touch มีหน้าจอขนาดใหญ่ บางครั้งอาจจะ
screen and sometimes without a ไม่มีแป้ นพิมพ์
physical keyboard
punctual (adj.) happening or doing something at the ตรงเวลา
arranged or correct time; not late

บทเรียนย่อยที่ 6 (Build your competences)

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

limit (n.) a point at which something stops being จุดที่ตอ้ งยุติการกระทำต่อไป
possible or existing ขีดจำกัด
scared (adj.) frightened of something or afraid that กลัวจะเกิดสิ่ งร้ายแรง
something bad might happen
particular (adj.) used to emphasize that you are referring เป็ นพิเศษ เฉพาะ
to one individual person, thing or type of
thing and not others
babysit (vt.) to take care of babies or children for a ดูแลเด็กทารก หรื อเด็กๆ
short time while their parents are out ขณะผูป้ กครองไม่อยู่
expert (n.) a person with special knowledge, skill or ผูเ้ ชี่ยวชาญ ผูช้ ำนาญการ
 383

training in something
overnight (adv.) during or for the night ระยะเวลาช่วงกลางคืน

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

weirdly very strange or แปลกอย่างน่าประหลาดใจ
(adv.) unusual and ยากต่อการอธิ บาย
difficult to explain
piercing (n.) the hole that is รูทเ่ี จาะเพือ่ สวมใส่ หรื อประดับด้วย เพชรพลอย
made in your ear,
nose or some other
part of your body
so that you can
wear jewelry there
a last resort the person or thing ตัวเลือกสุ ดท้าย
(n.) you rely on when
everything else has
failed
condemn (sentence) to say ตัดสิ น
(vt.) what somebody's
punishment will be
imprisonment state of being in a การถูกจองจำ
(n.) prison or jail ในคุก
a bank an arrangement that สมุดบัญชีธนาคาร
account (n.) you have with a
bank that allows
you to keep your
money there, to pay
in or take out
money, etc.
debit (n.) a sum of money เงินที่ถูกถอนออกจากบัญชี
taken from a bank
account
 384

rating (n.) a number or letter ตัวเลือกที่ระบุวา่ บุคคลกลุ่มใดที่เหมาะกับภาพยนตร์ใด

that shows which
groups of people a
particular
film/movie is
suitable for
part-time for part of the day บางเวลา
(adv.) or week in which
people work
employment work, especially การถูกว่าจ้างให้ท ำงานและมีรายได้
(n.) when it is done to
earn money; the
state of being
employed; to be in
paid employment
sector (n.) a part of an area of ภาคส่ วนการทำงาน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจของ
activity, especially ประเทศ
of a country's
economy

บทเรียนย่อยที่ 7 (Pronunciation, Listening and Speaking)

คำศัพท์ คำแปลภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย

messy (adj.) dirty and/or untidy สกปรก และหรื อ ไม่
เรี ยบร้อย
mind (n.) the part of a person that makes them able to be จิตใจ
aware of things, to think and to feel
right (n.) a moral or legal claim to have or get สิ ทธิ
something or to behave in a particular way
crazy (adj.) not sensible; stupid ไร้เหตุผล ไร้สาระ
opinion (n.) your feelings or thoughts about ความคิดเห็นส่ วนตัว
 385

somebody/something, rather than a fact มากกว่าจะเป็ นจริ ง

responsibility (n.) a duty to deal with or take care of หน้าที่ ความรับผิด
somebody/something, so that you may be ชอบ
blamed if something goes wrong
mistake (n.) an action or an opinion that is not correct, or ข้อผิดพลาด
that produces a result that you did not want ผลอันไม่พึงปรารถนา

หน้ าที่ภาษา (Function)

- Talking about Rules and regulations
- Expressing opinions by using must / have to / need to
- Talking about road safety
โครงสร้ างประโยค / ไวยากรณ์ (Structure and Grammar)
Structure of Must
subject modal MUST main verb object/modifier
They must (not) go home.
Must they speak English?
Structure of Have to (singular subject)
subject have to main verb object/modifier
She/He/A boy has to home.
does not have to stay
Does she/he/a boy home?
Structure of Have to (plural subject)
subject have to main object/modifier
verb
You/We/They/Men home.
do not have to stay
Do you/we/they/men home?
Structure of Need to
subject need to main object/modifier
verb
 386

She/He/A boy needs to home.

does not need to stay
Does she/he/a boy home?
You/We/They/Men home.
Do not need to stay
Do you/we/they/men home?
 387

ทักษะ / กระบวนการ (Structure and Grammar)

การใช้ภาษาเพื่อการสื่ อสาร (ฟัง พูด อ่าน เขียน)
การฟัง การหาข้อมูลโดยเฉพาะ
การพูด การพูดเพื่อขอความช่วยเหลือ การตอบรับและการตอบปฏิเสธ
การอ่าน การอ่านออกเสี ยง การหาข้อมูลเฉพาะ และการแสดงความคิดเห็น
การเขียน การเขียนสรุ ปความและเขียนแสดงจุดประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการสื่ อสาร การคิด การใช้เทคโนโลยี การใช้ทกั ษะชีวิต การแก้ปัญหา

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- ใฝ่ เรี ยนรู ้ : มีความกระตือรื อร้นในการสื บค้นข้อมูล การทำกิจกรรม
- มุ่งมัน ่ ในการทำงาน : พัฒนางานด้วยตนเองอย่างมุ่งมัน่ สม่ำเสมอ
- มีจิตสาธารณะ : ช่วยเหลือบุคคลในสังคมในการเดินทาง

บูรณาการกับสาระการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรี ยนรู้ภาษาต่างประเทศ (เข้าใจความหมายที่สื่อออกมาทั้งในภาษาไทย
และภาษาอังกฤษ)
กลุ่มสาระการเรี ยนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (เศรษฐกิจพอเพียง : รู ้จกั ใช้รถ
สาธารณะแทนการใช้รถส่ วนบุคคล)
 388

กิจกรรมการเรียนรู้

บทเรียนย่อยที่ 1 เวลา 2 คาบ

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. พูด อ่าน เขียน และให้ขอ้ มูลคำศัพท์ เกี่ยวกับ Rules and regulation ได้
ขั้นนำเข้ าสู่ บทเรียน (Introduction)
1 นักเรี ยนดูภาพที่ครู น ำมาติดไว้บนกระดาน และศึกษาภาพทั้งหมด แล้วตอบคำถาม

(Resource : https://www.google.co.th/search?q=traffic+in+bangkok&newwindow)

1 2 3 4
- What do you see in picture 1? (The policeman is on duty.)
- What do you think about picture 2? (The traffic is heavy./ It is a rush
hour.)
- What is the difference between picture 2 and picture 3?
(In picture 2, most motorcyclists park their motorbikes in the right place
according to the traffic law but they do wrong in picture 3.)
- Why do you think they are wrong?
(They stop their vehicles on the pedestrian crossing.)
- What will happen if it is like this? (People cannot cross the road safely.)
- How can their wrong doings be changed?
(The law should be used more strictly and the fine should be much more.)
- What do you learn from picture 4?
(Other countries look down on Thailand. Thai riders always think and
act like this. It’s only a joke! It is the way to satire someone.)
 389

- How can you prevent from these situations?

(To educate everyone to realize what is good and what is bad. Find the
way to make it more difficult to get a driver license.)
2 ครู ให้นกั เรี ยนดู Word Bank ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 111 ข้อ 1
นักเรี ยนศึกษาคำศัพท์ต่างๆ และฝึ กพูด ครู คอยแก้ไขส่ วนที่นกั เรี ยนพูดผิด

ขั้นนำเสนอเนือ้ หา (Presentation)
3 ครู ให้นก ั เรี ยนจับคู่กนั ศึกษาจาก Word bank เรื่ อง Rules and regulation นักเรี ยนดูรูป
แล้วแปลความหมายของสัญลักษณ์เหล่านี้เป็ นภาษาไทย นักเรี ยนคนอืน่ ๆ ช่วยกัน
เฉลยคำตอบ ครูช่วยถามเสริ มเพือ่ ให้ได้ค ำตอบที่ถกู ต้อง (ดูเฉลย)
4 นักเรี ยนนำข้อความใน Word bank มาเขียนเป็ นประโยค ครู คอยแก้ไขส่ วนที่ผด ิ
ให้นกั เรี ยนแลกกันตรวจ และส่ งครู
5 นักเรี ยนจับคู่ดูภาพในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 94 ข้อ1 ทั้ง 6 ภาพ
(ภาพ A-F) โดยให้สงั เกตว่า ภาพใดเป็ น “กฎ (a rule)” และภาพใดเป็ น “การกระทำ
ที่เกิดขึ้นโดยสามัญสำนึกว่าเป็ นสิ่ งที่ถูกต้องและควรกระทำ” ให้นกั เรี ยนอาสาสมัคร
บอกชื่อภาพทั้ง 6 ภาพ นักเรี ยนคนอืน่ ๆช่วยกันเฉลยคำตอบ ครู ชว่ ยถามเสริ มเพือ่ ให้ได้
คำตอบที่ถูกต้อง (ดูเฉลย)
6 นักเรี ยนทบทวนการใช้ No + V-ing = ห้ามทำ .... เช่น
- No talking in the library = ห้ามพูดคุยในห้องสมุด
- No smoking in the building = ห้ามสู บบุหรี่ ในอาคาร
7 ให้นก ั เรี ยนอาสาสมัครแต่งประโยค No + V-ing และนักเรี ยนอื่นๆ ช่วยกันแปลเป็ น
ภาษาไทย เพื่อให้เข้าใจถูกต้องตรงกัน ครู คอยแก้ไขส่ วนที่ผดิ

ขั้นฝึ ก (Practice)
8 ครู เปิ ดซี ดีประกอบบทเรี ยน ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book ข้อ 2 หน้ า 94
นักเรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 2 โดยการจับคู่ค ำอธิ บายกฏจราจรที่สมั พันธ์กบั สัญลักษณ์
ในแต่ละข้อ ให้นกั เรี ยนฟังซี ดีประกอบบทเรี ยนอีกครั้ งหนึ่งเพื่อตรวจสอบ
ความถูกต้อง และออกเสี ยงตาม (ดูเฉลย)
9 ครู แก้ไขเมื่อนักเรี ยนออกเสี ยงผิด โดยให้นกั เรี ยนทั้งห้องพูดออกเสี ยงตามครู และ
พูดตามซีดีอีก 1 ครั้ง
 390

10 นักเรี ยนจับคู่ท ำแบบฝึ กหัดข้อ 3 โดยคิดเปรี ยบเทียบด้วยตนเองว่า “ข้อใดเป็ นการ

กระทำที่ถูกกฎหมายและข้อใดเป็ นการกระทำที่ผดิ กฎหมาย” ครู และ
นักเรี ยนร่ วมกันวิเคราะห์ขอ้ มูลให้ถูกต้อง ก่อนให้นกั เรี ยนเขียนลงสมุด (ดูเฉลย)
ขั้นการใช้ ภาษาเพือ่ การสื่ อสาร (Production)
12 11 นักเรี ยนจับคู่กนั ทำแบบฝึ กหัดข้อ 1, 3 และ 4 ในหนังสือ Sprint 2 Workbook หน้ า 52
เพื่อพัฒนาการนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง หลังจากนั้นให้ผลัดกันตรวจสอบความ
ถูกต้อง ครู ให้ค ำปรึ กษาแก้ไขข้อบกพร่ อง ต่างๆให้นกั เรี ยนรับทราบร่ วมกันโดย
การเขียนสิ่ งที่แก้ไขให้นกั เรี ยนเห็นบนกระดาน เพื่อเป็ นแนวทางการเขียนต่อไป
ครู ประเมินการทำแบบฝึ กของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ

70 (ดูเฉลย)
แบบฝึ กหัดข้อ 1 จับคู่ภาพกับกฏที่หา้ มทำ
แบบฝึ กหัดข้อ 3 จับคูค่ ำศัพท์ เพื่อสร้างคำประสมที่ถูกต้อง
แบบฝึ กหัดข้อ 4 อ่านข้อความแล้วเติมคำศัพท์ท่ถี กู ต้องและสัมพันธ์กบั ข้อความ
ที่อา่ น
12 12 แบ่งนักเรี ยนกลุ่มละ 3-4 คน ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 1, 2 และ 3 ใน Test your
competences หน้า 104 นักเรี ยนนำเสนอหน้าชั้นเรี ยนและผลัดกันตรวจสอบ
ความถูกต้อง ครู ให้ค ำปรึ กษาแก้ไขข้อบกพร่ องต่างๆให้นกั เรี ยนรับทราบร่ วมกัน
โดยการเขียนสิ่ งที่แก้ไขให้นกั เรี ยนเห็นบนกระดาน ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัด
ของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 (ดูเฉลย)
แบบฝึ กหัดข้อ 1 นำคำศัพท์ที่ก ำหนดให้ จัดลงในประเภทที่ถูกต้อง
แบบฝึ กหัดข้อ 2 เติมคำกริ ยาที่เหมาะสมกับวลีที่ก ำหนดให้
แบบฝึ กหัดข้อ 3 แยกคำศัพท์ออกจากกลุ่มตัวอักษรที่ก ำหนดให้

Self and Social Responsibility : การใช้ สัญญาณไฟกระพริบ หรือ ไฟฉุกเฉิน หรือไฟผ่ าหมาก
 391

1. ให้ใช้ในกรณี ที่เครื่ องยนต์ หรื ออุปกรณ์ขดั ข้องในช่องทางเดินรถ หรื ออาจจะประสบ

อุบตั ิเหตุ หรื อมีอุบตั ิเหตุขา้ งหน้า ไฟฉุกเฉิ นให้ใช้เฉพาะในกรณี ที่รถจอดเสี ยเท่านั้น
2. การใช้สญ ั ญาณไฟกระพริ บ หรื อ ไฟฉุกเฉิ น หรื อ ไฟผ่า หมาก หมายถึง ผูข้ บั ขี่ใ ช้
เมื่อต้องการขอทาง ขอแซง ขอเลี้ ยวไปก่อน บางครั้งผูท้ ี่เห็นสัญญาณนี้ จะเข้าใจผิดคิดว่าเป็ น
ฝ่ ายได้รับอนุญาตให้ไปก่อน

ขั้นสรุ ป (Conclusion)
12 13 แบ่งนักเรี ยนกลุ่มละ 3-4 คน ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 2 ในหนังสื อ Sprint 2
Workbook หน้ า 52 โดยการจับคู่ค ำที่ก ำหนดให้และนำมาเขียนเป็ นประโยค
เกี่ยวกับการใช้กฏจราจรที่ผดิ ในประเทศอังกฤษ เช่น
In the UK, it is illegal…………….
1. In the UK, it is illegal to drive a car if you’re under 17.
นักเรี ยนเขียนข้อความของตนเองและของเพื่อนลงสมุด แล้วผลัดกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง ครู ให้ค ำปรึ กษาแก้ไขข้อบกพร่ อง ครู ประเมินการทำ
แบบฝึ กหัดของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้องโดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 (ดูเฉลย)
12 14 ให้นกั เรี ยนกลุ่มเดิมนำภาพทั้ง 4 ภาพ ที่อยูใ่ นข้อ 1 ขั้นนำเข้าสู่ บทเรี ยนพร้อมคำถาม-
คำตอบที่ครู ใช้ถามนักเรี ยน มาเป็ นแนวทางในการเขียนข้อความสั้นๆ 7-10 ประโยค
- นักเรี ยนอภิปรายเพื่อหาข้อมูลร่ วมกันในการเขียนข้อความของตนเอง
และของเพื่อนลงสมุด
- นักเรี ยนแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้อง
- ครู ให้ค ำปรึ กษาแก้ไขข้อบกพร่ อง ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัดของ
นักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้องโดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70

Culture : Traffic signs

Traffic Signs แบ่ งออกเป็ น

 392

- Road Signs Giving Warnings = ป้ ายสัญญาณแสดงการเตือน

- Information & Road Works Signs = ป้ ายสัญญาณแสดงว่ามีสิ่งกีดขวางบนถนน
- Direction Giving Signs = ป้ ายสัญญาณแสดงทิศทางการเดินรถ
- Order Giving Signs = ป้ ายสัญญาณแสดงให้ผขู ้ บั ขี่รถต้องปฏิบตั ิตาม
- Road and Lane Markings = ป้ ายสัญญาณแสดงวิธีการปฏิบตั ิที่มีอยูบ่ นถนน
ตัวอย่าง Traffic Signs :
Road Signs Giving Warnings = ป้ ายสัญญาณแสดงการเตือน

1 2 3
Information & Road Works Signs = ป้ ายสัญญาณแสดงว่ามีสิ่งกีดขวางบนถนน

1 2 3

4 5 6

Direction Giving Signs = ป้ ายสัญญาณแสดงทิศทางการเดินรถ

 393

1 2 3
Order Giving Signs = ป้ ายสัญญาณแสดงให้ผขู ้ บั ขี่รถต้องปฏิบตั ิตาม

1 2 3 4
Road and Lane Markings = ป้ ายสัญญาณแสดงวิธีการปฏิบตั ิที่มีอยูบ่ นถนน

1 2 3
(Resource : http://www.driving-test-success.com/uk-road-signs.htm)

บทเรียนย่อยที่ 2 เวลา 2 คาบ

จุดประสงค์การเรียนรู้
2. อ่านข้อความเรื่ อง When in Britain……. แล้วบอกรายละเอียดได้

ขั้นนำเข้ าสู่ บทเรียน (Introduction)

1 ครู และนักเรี ยนอภิปรายเพื่อหาความแตกต่างระหว่างสัญญาณจราจรบนถนนใน
ประเทศไทยและประเทศอังกฤษ โดยดูรูปที่ครู น ำมาติดบนกระดาน (จากข้อมูล
ด้านวัฒนธรรม) นักเรี ยนผลัดกันออกมาจับคู่ภาพสัญญาณจราจรและคำอธิ บาย
พร้อมแปลเป็ นภาษาไทย (ครู แยกรู ปภาพ และคำบรรยายภาพออกจากกัน)
นักเรี ยนผลัดกันตรวจสอบความถูกต้อง ครู ให้ค ำปรึ กษาแก้ไขข้อบกพร่ อง

Answer Key : Road Signs Giving Warnings = ป้ ายสัญญาณแสดงการเตือน

1. ทางแคบทั้ง 2 ด้าน 2. สี่ แยก 3. วงเวียน
Information & Road Works Signs = ป้ ายสัญญาณแสดงว่ามีสิ่งกีดขวางบนถนน
1. ทางเข้าที่จอดรถที่มีก ำหนดเวลาแน่นอน
2. สถานที่จอดรถนักขี่รถจักรยานยนต์
3. สิ้ นสุ ดทางต่างระดับเพื่อการขับขี่ที่ใช้ความเร็ วสู ง
 394

4. ถนนอยูร่ ะหว่างการก่อสร้าง
5. ถนนที่มีวสั ดุก่อสร้างร่ วงหล่นลงมา
6. ถนนลาดยางมะตอยที่ยงั ไม่แห้ง
Direction Giving Signs = ป้ ายสัญญาณแสดงทิศทางการเดินรถ
1. สถานที่ท่องเที่ยว
2. อีก 300 หลา จะถึงที่ต้ งั แคมป์ และกองคาราวาน
3. จุดพักเพื่อการปิ คนิค
Order Giving Signs = ป้ ายสัญญาณแสดงให้ผขู ้ บั ขี่รถต้องปฏิบตั ิตาม
1. ห้ามขี่จกั รยาน 2. ห้ามหยุดรถ
3. ห้ามจอดรถเพื่อรอ 4. ให้ทาวกับรถทางเอกไปก่อน
Road and Lane Markings = ป้ ายสัญญาณแสดงวิธีการปฏิบตั ิที่มีอยูบ่ นถนน
1. เส้นหยุดรถเมื่อได้รับสัญญาณ หรื อตำรวจสัง่
2. เส้นหยุดรถเมื่อมีคนเดินข้ามถนน
3. เส้นหยุดรถเมื่อเห็นป้ ายจอดรถ

2 ครู ให้นกั เรี ยนศึกษาภาพสัญญาณจราจรและประโยคในหนังสื อ Sprint 2 Student’s

Book หน้ า 124 ข้อ 1 เรื่ อง Road safety แล้วจับคู่ภาพสัญญาณจราจรบนถนน (A-F)
กับประโยคข้อ 1-6 นักเรี ยนแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้อง ครู ให้ค ำปรึ กษา
เพื่อให้นกั เรี ยนแก้ไขข้อบกพร่ อง (ดูเฉลย)

3 ครู ให้นกั เรี ยนสอบถามคำศัพท์ที่ไม่ทราบความหมาย ในแบบฝึ กหัดข้อ 2 เรื่ อง Road

safety นักเรี ยนช่วยกันบอกความหมายคำศัพท์ ครู ช่วยเหลือเมื่อนักเรี ยนไม่ทราบ
ความหมาย
4 นักเรี ยนตอบคำถามเพื่อแสดงความเข้าใจเรื่ องที่อ่าน ดังนี้
First Paragraph
- What shouldn’t you do while you are out and about?
(Don’t get distracted by your mobile phone, or only listen to music and chat.)
- What should you do? (Be careful with the traffic.)
- Do people drive on the right in the UK like in Thailand?
(No, they don’t drive on the right, but on the left like Thailand.)
Second Paragraph
- Why do motorists drive fast in the UK?
 395

(They will not slow down unless there are specific signals or signs according to
the Highway Code.)
- What is the safest way for pedestrians to cross the road?
(Find a safe place to cross the road at pedestrian or zebra crossings)
- What do you have to do if there are not any pedestrian crossings?
(Avoid crossing across motorways, road works, hills, bends and places where
there are parked cars. Make sure you can see traffic in both directions.)
- What must you do before crossing? (Stop at the curb, look first right, then left

and right again, listen for oncoming traffic.)

- What should you do if you go with a child? (Hold their hand while crossing.)
5 ครู ให้นกั เรี ยนอ่านเรื่ อง Road safety อีกครั้ง แล้วเติมคำลงไปในเรื่ องย่อในแบบ
ฝึ กหัดข้อ 3 หนังสือ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 125 นักเรี ยนแลกเปลีย่ นกันตรวจ
สอบความถูกต้อง ครู ให้ค ำปรึ กษาแก้ไขข้อบกพร่ อง (ดูเฉลย)

ขั้นนำเสนอเนือ้ หา (Presentation)
6 ครู อธิบายการรักษาความปลอดภัยในการขับขี่ โดยให้นกั เรี ยนศึกษาจากสิ่งทีค ่ วรปฏิบตั ิ
และสิ่ งที่ไม่ควรปฏิบตั ิ ดังนี้
Safe Driving: The Do's and Don'ts
(Resource : http://traffic.findlaw.com/traffic-tickets/do-s-and-don-ts-safe-driving.html)
THE DO's
- DO always wear your seat belt.
- DO follow the speed limits.
- DO be courteous toward other drivers.
- DO give pedestrians the right-of-way in crosswalks.
- DO make room for bicycles.
- DO make sure that your spare tire is in your car and that you have a working
jack.
- DO make time for routine preventative maintenance on your car.
Breakdowns can be dangerous and costly.
 396

- DO plan your route out in advance for long car trips and keep a map or
atlas in the car in case you get lost.
THE DON'Ts
- DON'T drink and drive, and don't get in a car with a driver who has been
drinking or using drugs.
- DON'T assume that other cars know what you are doing, either. Make sure
that you use your turn signals and give yourself, and the cars around you,
plenty of room to maneuver.

- DON'T play your car stereo so loudly that you are disruptive to others, or
so loudly that you are unable to hear train signals or emergency vehicle
sirens.
- DON'T talk on your cell phone and drive at the same time. If you need to
make or answer a telephone call, pull over at a safe place, use the phone,
and then resume your journey.
- DON'T let your emotions and frustrations get the best of you. Don't engage
in road rage, no matter how irritating another driver might be to you.
- DON'T leave valuables in your car, especially in places where they can be
seen, no matter where you are parked.
7 ครู แบ่งนักเรี ยนเป็ นกลุ่มๆละ 4-5 คน สรุ ป The Do's and Don'ts เป็ นภาษาไทย
8 นักเรี ยนทุกกลุ่มผลัดกันนำเสนอหน้าชั้นเรี ยน ครู แก้ไขข้อบกพร่ องต่างๆ แล้วให้
นักเรี ยนเขียนลงสมุด
ขั้นฝึ ก (Practice)
9 ครู เปิ ดซี ดีประกอบบทเรี ยน บทอ่าน Presentation 1 ในหนังสื อ Sprint 2
Student’s Book หน้ า 95 เรื่ อง When in Britain ………….นักเรี ยนอ่านตามแผ่นซี ดี
ครู หยุดแผ่นซีดีทุกประโยค เพื่อให้นกั เรี ยนฟังและอ่านออกเสี ยงได้ถูกต้อง
ครู คอยแก้ไขส่ วนที่ผดิ
10 ครู ให้นก ั เรี ยนฟังเสี ยงจากซี ดีประกอบบทเรี ยนอีก 1 ครั้ง ให้นกั เรี ยนอ่านในใจ
11 ครู ให้นก ั เรี ยนอ่านจับใจความสำคัญ และตอบคำถามต่อไปนี้
 397

First Paragraph
- How old can the British drive a car and a scooter?
(They have to be 17 to drive a car and 16 to ride a scooter.)
- What do you have to do when you are in the car?
(You have to wear a seatbelt in spite of sitting in a back seat and
telephoning while driving is not allowed.)

- Where can’t people smoke?

(In enclosed public places, or within nine meters of playgrounds, pools,
sports fields, picnic areas and skate parks)
- When are you fined £80 in the UK?
(Fly a kite, play annoying games, put up a washing line, sing rude songs,
disturb people in their home)
- In your opinion, why don’t people like splitting in public though it is legal?
(It is impolite and dirty and it may spread some diseases.)
Second Paragraph
- What is a cultural taboo in London?
(Personal space is very important so avoid staring at or standing too close
to people, especially on transport system in the rush hour.)
Third Paragraph
- Because of a reserved nation, what is the greeting for shop assistants to
call you? (They call you by affectionate names such as “dear, darling,
love, mate, or son.)
- When do people shake hands in the UK? (In formal business situations)
12 นักเรี ยนจับคู่ท ำแบบฝึ กหัดข้อ 5 ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 95
พิจารณาจากเรื่ องที่อ่านแล้วบอกว่าประโยคนั้นถูกหรื อผิด นักเรี ยนแลกเปลี่ยนกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง ครู ให้ค ำปรึ กษาแก้ไขข้อบกพร่ อง ครู ประเมินการทำแบบ
ฝึ กหัดของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 (ดูเฉลย)

ขั้นการใช้ ภาษาเพือ่ การสื่ อสาร (Production)

12 13 แบ่งนักเรี ยนเป็ นกลุ่มๆ ละ 3-4 คน ทำแบบฝึ กหัดข้อ 6 ในหนังสื อ Sprint 2
Student’s Book หน้ า 95 โดยการแต่งบทสนทนาจากคำที่ก ำหนดให้ตามตัวอย่าง
 398

ครู คอยตรวจเช็คความถูกต้อง ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัดของนักเรี ยนจากคำตอบ

ที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 (ดูเฉลย)
12 ั เรี ยนกลุ่มเดิมทำแบบฝึ กหัดข้อ 7 เขียนกฎ 5 ข้อที่นกั เรี ยนต้องทำที่บา้ น และ
14 ให้นก
5 ข้อที่นกั เรี ยนต้องไม่ท ำที่บา้ น แล้วนำมาอภิปรายกับเพื่อนในกลุ่ม ครู ประเมิน
การทำแบบฝึ กหัดของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70
(ดูเฉลยแนวการเขียน)

ขั้นสรุ ป (Conclusion)
12 15 ให้นกั เรี ยนกลุ่มเดิมแบบฝึ กหัดข้อ 1 และ 2 ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book
หน้ า 105 Test your competences โดยอ่านบัตรเชิญไปงาน Pyjama Party ที่บา้ น
ของ Lucy และอ่านอีเมลของ Sally ที่เขียนชวน Beth ไปงานที่บา้ นของ Lucy แล้ว
สรุ ปข้อมูลจากอีเมลของ Sally จากนั้นให้นกั เรี ยนเปลี่ยนบทบาทเป็ น Beth เขียน
SMS ตอบ Sally ว่าสามารถไปงาน Pajama Party ได้หรื อไม่ได้ ประมาณ 3-4 ประโยค
ครู ประเมินการทำแบบฝึ กของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ น
ร้อยละ 70 (ดูเฉลยแนวการเขียน)

Self and Social Responsibility : การเดินบนถนนและการข้ ามถนนอย่ างปลอดภัย

Self and Social Responsibility :

การเดินถนน
1. ถนนที่มีทางเท้าจัดไว้ให้เดินบนทางเท้า
2. ถนนที่ไม่มีทางเท้า ให้เดินชิดริ มทางขวาของถนน อย่าเดินคู่
3. ถ้าจูงเด็กให้เด็กเดินด้านในและจับมือเด็กไว้ให้มนั่ เพื่อป้ องกันเด็กวิ่งออกไป
การข้ ามถนน
1. ก่อนข้ามถนนทุกครั้ง ต้องหยุดเดินที่ขอบถนน มองขวาซ้ายแล้วมองขวา
ให้แน่ใจ
2. ข้ามถนนที่มีช่องทางข้าม (ทางม้าลาย) จะปลอดภัยที่สุด
3. อย่าข้ามถนนโดยออกจากที่ก ำบังตัว เช่น ออกจากซอยที่มีรถจอดอยู่ หรื อ
ท้ายรถประจำทาง เพราะจะเกิดอันตรายขึ้นได้
4. ถนนที่มีเกาะกลางถนนต้องข้ามทีละครึ่ งถนน โดยข้ามครั้งแรกไปพักที่
เกาะกลางถนนเสี ยก่อน จึงข้ามในครึ่ งหลังต่อไป
บทเรียนย่อยที่ 3 เวลา 2 คาบ
 399

จุดประสงค์การเรียนรู้
3. ฟังบทสนทนา พูดออกเสี ยงและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับ I must wear a helmet. ได้ถูกต้อง
ขั้นนำเข้ าสู่ บทเรียน (Introduction)
1 ครู ถามนักเรี ยนว่า
- Do you know what bikeability is? (No, we don’t.)
2 ครู ให้นก ั เรี ยนดูภาพ แล้วให้นกั เรี ยนเดาว่า bikeability คืออะไร

(Resource : http://bikeability.dft.gov.uk/what-is-bikeability/)

3 ครู ให้นกั เรี ยนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วคิดหาคำตอบ

- What are the advantages of the ones with bikeability?
Bikeability
Bikeability is ‘cycling proficiency’ for the 21st century, designed to give the
next generation the skills and confidence to ride their bikes on today’s roads.
Bikeability training will help you to develop safer cycling habits.
There are 3 levels in the course :
Level 1 Bikeability training, you learn to control and master your bike. The
training takes place in an environment away from cars or traffic – usually in a
playground or closed car park. It is aimed at children in year four.
Level 2 Bikeability training you will get out on the roads! You will get a real
cycling experience so that you are able to deal with traffic on short journeys such
as cycling to school. It is aimed at children in years five and six.
Level 3 Bikeability training you will learn the skills to tackle more challenging
roads and traffic situations. Level 3 training is often delivered one-to-two so can
be tailored to your individual needs, such as your route to work or school. It is
aimed at children in years seven to nine.
After you finish Level 3, it means you pass the Bikeability Test
 400

ขั้นนำเสนอเนือ้ หา (Presentation)
4 ครู แ ละนัก เรี ย นร่ ว มกัน อภิป รายเรื่ อ ง Bikeability เปรี ย บเทีย บความเป็ น ไปได้ใ น
ประเทศไทยให้นกั เรี ยนจดบันทึกพร้อมข้อเสนอแนะ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
5 ให้นก ั เรี ยนตอบคำถามต่อไปนี้
- Can you ride a bike?
(Yes, I can. / No, I can’t.)
- If so, where do you practise your experience? (The answer will vary.)
- Do you go practising riding at school?
(No, we don’t. / My dad (mom, sister, etc./ taught me.)
- Do you think if there is a school like this in Thailand?
(No, I don’t think so.)
- Do you mean most Thai people do the riding by themselves? (Yes, we do.)
- Do you think it is dangerous to ride a bike on the road? (Yes, it is.)
- What are the advantages of riding a bike?
(We can start out any time we want. / We don’t have to pay for any fare.)
- What are the disadvantages of riding a bike?
(It is more dangerous. We get more pollution on the road.)
- As you know, what is the big difference between riding a bike in Thailand
and in the UK?
(We ride to nearby places but they ride to school or to work.)

ขั้นฝึ ก (Practice)
6 ครู เปิ ดซี ดีประกอบบทเรี ยน ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 96
Presentation 2 บทสนทนาเรื่อง I must wear a helmet ให้นกั เรียนฟังและอ่านออกเสียง
บทสนทนา 1 ครั้ง ครู หยุดซี ดีเพื่อให้นกั เรี ยนอ่านตามได้ทนั ครู ช่วยแก้ไข
เมื่อนักเรี ยนออกเสี ยงไม่ถูกต้อง
7 ครู ตรวจสอบความเข้าใจของบทสนทนา ที่ Sasha คุยกับ Logan โดยให้นก ั เรี ยนตอบ
คำถาม ดังนี้
- What are Sasha and Logan talking about? (Safety on the road)
- When is Sasha taking the Bikeability Test? (On Friday)
- What must Logan wear while riding a bike?
 401

(A helmet and reflective clothes)

- What must Logan do before setting off?
(He must check the saddle height, the brake and the tyre pressure.)
- Why should riders use a cycle lane? (They are much safer.)
- Is it against the law if you ride on the pavement? (Yes, it is.)
8 นักเรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 3 ครู เรี ยกนักเรี ยนตอบเป็ นรายบุคคล นักเรี ยนแลก
เปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้อง (ดูเฉลย)

Culture : มารยาทบนรถโดยสารประจำทาง

1. ไม่สูบบุหรี่ บนรถโดยสารประจําทาง
2. ไม่นงั่ เหยียดขาขวางทางผูอ้ ื่น
3. ไม่คุยเรื่ องส่ วนตัว คุยเสี ยงดัง หรื อวิพากษ์วิจารณ์ผอู ้ ื่น
4. ไม่จอ้ งมองผูโ้ ดยสารคนอื่น เพื่อสํารวจตรวจตรามากเกินไป
5. ไม่ควรนําสัตว์เลี้ยงขึ้นรถ
6. ควรเสี ยสละที่น ัง่ ให้เด็ก สตรี และคนชรา ช่ วยเหลือโดยถือสิ่ งของให้คนอื่นตาม
ความเหมาะสม
7. ควรเข้าแถวเมื่อจะขึ้นรถ และควรเตรี ยมข้าวของให้เรี ยบร้อยก่อนกดกริ่ งเพือ่ ลงจากรถ
 402

8. ไม่ยนื ขวางทางตรงประตูรถ
9. ไม่ควรพูดจาแทะโลมสุ ภาพสตรี หรื อส่ งเสี ยงแซวผูอ้ ื่น
10. เตรี ยมเงินค่าโดยสารให้พอกับจํานวนที่ตอ้ งการจ่ายทุกครั้ง

ขั้นการใช้ ภาษาเพือ่ การสื่ อสาร (Production)

9 นักเรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 5 ใน Sprint 2 Workbook หน้ า 53 โดยครู เปิ ดซีดีประกอบ
บทเรี ยน เป็ นการสนทนาระหว่าง Logan และ Sasha แล้วเขียนคำที่ก ำหนด
ให้ลงไปให้ถูกต้อง ตามบทสนทนาที่ได้ยนิ ครู เดินตรวจและแก้ไขข้อบกพร่ อง
(ดูเฉลย)
12 10 ให้นกั เรี ยนฟังบทสนทนาอีก 1 ครั้ง เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อความที่เติม
12 11 ครูเปิ ดซีดปี ระกอบบทเรียน ให้ฟังอีก 1 ครั้ง นักเรี ยนออกเสี ยงตามอีก 1 ครั้ง
12 12นักเรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 7 Dictation เรื่ อง Rules in the UK แล้วแปลเป็ นภาษาไทย
ให้นกั เรี ยนจับคู่ตรวจและอภิปรายข้อถูกและผิดร่ วมกัน (ดูเฉลย)

ขั้นสรุ ป (Conclusion)
12 13 ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กข้อ 5 ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 125
Comparing Culture แล้วเตรี ยมนำเสนอ Highway code in Thailand โดยใช้วิธีตอบ
คำถามที่ก ำหนดให้และศึกษาประกอบจากเว็บไซต์ต่อไปนี้ http://en.wikipedia.org/
wiki/Road_signs_in_Thailand นักเรี ยนเขียนเป็ นข้อความสั้นๆ 5-10 ประโยค
ครู ประเมินการเขียนของนักเรี ยนจากแบบประเมินการเขียน โดยใช้เกณฑ์ผา่ น
ร้อยละ 70 (ดูเฉลยแนวการเขียน)
12 14 ให้นกั เรี ยนจับคูก่ นั เขียนสรุ ปเกี่ยวกับ Bus Etiquette แล้วเขียนเป็ นข้อความสั้นๆ 5-10
ประโยค ถึงสิ่ งที่นกั เรี ยนพบว่ามีความบกพร่ องในทางปฏิบตั ิ ครู ประเมินการเขียน
ของนักเรี ยนจากแบบประเมินการเขียน โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 (ดูเฉลยแนว
การเขียน)
Bus Etiquette
When travelling, please be respectful of other passengers by being aware of the following:
- offer your seat to the elderly, and pregnant, or disabled customers
 403

- allow passengers on the bus to get off before you board

- move towards the back of the bus to allow other passengers to board
- do not place bags or other personal items on seats
- do not put your feet on the seats. You may be fined for doing so
- do not damage any public property on the bus in any way.
- inform the driver immediately if you notice an unattended item or baggage,
or any suspicious activity
- cover your mouth when you cough or sneeze
- speak on your mobile phone quietly, so that you don't disturb others
- use portable music players only with headphones – do not play music
through speakers or mobile phones
- do not use offensive language
- do not smoke
- do not consume food or drinks on the bus (unless for medical purposes).
- take your rubbish with you

(Resource : http://www.sydneybuses.info/travelling-with-us/travel-etiquette/
bus-etiquette.htm)

บทเรียนย่อยที่ 4 เวลา 3 คาบ

จุดประสงค์การเรียนรู้
4. เขียนประโยคโดยใช้โครงสร้างไวยากรณ์ เรื่อง have to, must, need to ในรู ปแบบต่างๆ ได้
ขั้นนำเข้ าสู่ บทเรียน (Introduction)
1 ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ในคาบนี้ วา่ เกี่ยวกับการใช้ have to, must, need to
2 ครู ให้นก ั เรี ยนดูแบบประโยคการใช้ have to, must, need to บนกระดาน พร้อม
ประโยคตัวอย่าง
Structure of Must
Subject modal MUST main verb object/modifier
They must (not) go home.
 404

Must they speak English?

Structure of Have to (singular subject)

Subject have to main verb object/modifier
She/He/A boy has to home.
does not have to stay
Does she/he/a boy home?
 405

Structure of Have to (plural subject)

Subject have to main object/modifier
verb
You/We/They/Men home.
do not have to stay
Do you/we/they/men home?

Structure of Need to
Subject need to main verb object/modifier
She/He/A boy needs to home.
does not need to stay
Does she/he/a boy home?
You/We/They/Men home.
do not need to stay
Do you/we/they/men home?

ขั้นนำเสนอเนือ้ หา (Presentation)
3 ใช้ must (ต้อง) แสดงความแน่ใจว่าจะมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นแน่นอน
- There's no sunlight in fall; we must be freezing cold at night.
- Mom must be worried that her only daughter is so late coming home this
evening.
- I can't stand the heat in summer; I must buy an air-conditioner.
- The persons over 60 must like to live in Florida because of the warm
weather.
ใช้ must (ต้อง) แสดงการถูกบังคับให้ท ำเพราะเป็ นหน้าที่
- The sick must go to bed earlier.
- Students must do homework.
- You must come and see your parents some time.
- I don't think you must be very nice to your enemies.
4 ใช้ have to (ต้อง) แสดงการถูกบังคับให้ท ำ ได้ถา้ มีบริ บทสนับสนุน
- Everyone has to arrive at work latest at 9 sharp. The boss is very strict.
- We have to pay him our debt today or else we will be fined.
 406

- Nobody has to fail the exams for the test is so easy.

- I have to fill out my full details if not, I won’t get the job.
สามารถใช้ have got to แทน have to ได้
- Everyone has got to arrive at work latest at 9 sharp. The boss is very strict.
- We have got to pay him our debt today or else we will be fined.
- Nobody has got to fail the exams for the test is so easy.
- I have got to fill out my full details if not, I won’t get the job.
5 ใช้ must not (ต้องไม่) แสดงการถูกบังคับไม่ให้ท ำอย่างเด็ดขาด
- We must not talk about politics in a group of more than five.
- You must not eat chocolate if you don’t want to get fatter.
- The workers must not phone anyone at work; it’s a strict regulation!
- You must not stare at anybody; it is an impolite etiquette.
6 ใช้ do not have to หรื อ haven’t got to เพื่อบอกถึงสภาวะที่ไม่บงั คับหรื อไม่จ ำเป็ น
- We do not have to speak English when we are not at work.
We have not got to speak English when we are not at work.
- I do not have to attend the meeting. I do not work any longer.
I have not got to attend the meeting. I do not work any longer.
- She does not have to make a speech if she does not want to.
She has not got to make a speech if she does not want to.
- He doesn't have to sign the contract if he is not sure of the information.
He has not got to sign the contract if he is not sure of the information.

7 สามารถใช้ need to แทน want to (ต้องการ) ได้

- I need to get (want to get) a good job when I finish university.
- She needs to be (wants to be) a millionaire so she works harder.
- Students need to pass (want to pass) the exams; they are very diligent.
- Sam needs to win (wants to win) a scholarship; he will take every test.
8 การทำเป็ นประโยคคำถาม ของ must, have to และ need to
- Must the sick go to bed earlier?
- Must students do homework?
- Must you come and see your parents some time?
 407

- Does everyone have to arrive at work latest at 9 sharp. The boss is very
strict?
- Do we have to pay him our debt today or else we will be fined?
- Do you have to speak English when you are not at work?
- Does she need to be a millionaire so she works harder?
- Do students need to pass the exams; they are very diligent?
- Does Sam need to win a scholarship; he will take every test?
9 ครู ให้นกั เรี ยนทดสอบความเข้าใจโดยทำแบบฝึ กหัดต่อไปนี้
Fill in the blanks with “must, have to, has to, mustn’t, don’t have to, doesn’t have to”.
A. We______ be hurried; we still have a lot of time left.
B. She isn’t in Thailand. She _____ pay by cash; she can pay with her credit card.
C. The homework deadline is tomorrow. All students _________finish it tonight.
D. Everyone ______ wear safety belt on the plane according to safety
regulations.
E. If children miss their lunch, they _______ be very hungry.
F. All applicants __________ be late for the interview.
Answer key :
A. don’t have to B. doesn’t have to C. have to
D. has to E. must F. mustn’t
12 10 ครู และนักเรี ยนร่ วมกันทบทวนการใช้ “must, have to, has to, mustn’t, don’t have
to, และ doesn’t have to” ใน ทั้ง 2 ข้อ โดยดูจากในหนังสื อ Sprint 2
Student’s book หน้ า 98 -100 Grammar

ขั้นฝึ ก (Practice)
12 11 ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัด ข้อ 1, 2, 3 และ 4 ในหนังสือ Sprint 2 Student’s book
หน้า 98 Grammar ครู เรี ยกนักเรี ยนตอบเป็ นรายบุคคล โดยครู และนักเรี ยน
ตรวจสอบความถูกต้องร่ วมกัน นักเรี ยนเขียนลงสมุด (ดูเฉลย)
แบบฝึ กหัดข้อ 1 เติม have to ถ้าเป็ นเครื่ องหมาย  และเติม don’t have to
ถ้าเป็ นเครื่ องหมาย X
แบบฝึ กหัดข้อ 2 ครูเปิ ดซีดปี ระกอบบทเรี ยน ให้นกั เรี ยนฟัง 1 ครั้ง เพือ่ ตรวจ
คำตอบในแบบฝึ กหัดข้อ 1 นักเรี ยนฝึ กพูดตามซี ดี
 408

แบบฝึ กหัดข้อ 3 นักเรี ยนนำคำที่ก ำหนดให้ มาเรี ยงเป็ นประโยคคำถาม ครู และ
นักเรี ยนตรวจสอบความถูกต้องร่ วมกัน และให้นกั เรี ยนเขียน
ลงสมุด (ดูเฉลย)
แบบฝึ กหัดข้อ 4 นักเรี ยนตอบประโยคคำถามในแบบฝึ กหัดข้อ 3 ครู และนักเรี ยน
ตรวจสอบความถูกต้องร่ วมกัน นักเรี ยนเขียนลงสมุด (ดูเฉลย)
12 12 ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 5, 6, 7, 8 ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s book หน้ า 99
Grammar ครู เรี ยกนักเรี ยนตอบเป็ นรายบุคคล ครู และนักเรี ยนตรวจสอบความ
ถูกต้องร่ วมกัน นักเรี ยนเขียนลงสมุด (ดูเฉลย)
แบบฝึ กหัดข้อ 5 เติม must และ mustn’t ลงในอีเมล ที่ Jim เขียนถึง Simon
แบบฝึ กหัดข้อ 6 เติม mustn’t และ don’t have to ลงในประโยคให้มีความหมาย
ถูกต้อง
แบบฝึ กหัดข้อ 7 เติมบทสนทนาระหว่าง Lil และ Agnes โดยใช้ must และ have to
แบบฝึ กหัดข้อ 8 ครู เปิ ดซี ดีประกอบบทเรี ยน ให้นกั เรี ยนฟัง 1 ครั้ง
เพื่อตรวจคำตอบในแบบฝึ กหัดข้อ 7 นักเรี ยนฝึ กพูดตามซี ดี

ขั้นการใช้ ภาษาเพือ่ การสื่ อสาร (Production)

12 13 ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 5, 6 และ 7 ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book
หน้ า 97 นักเรี ยนแลกเปลี่ยนกันตรวจคำตอบกับเพื่อน และอ่านออกเสี ยงคำตอบให้
เพื่อนในชั้นเรี ยนฟังเพื่อตรวจคำตอบ ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัดของนักเรี ยน
จากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 และเขียนลงสมุด (ดูเฉลย)
แบบฝึ กหัดข้อ 5 นักเรี ยนทำ pairwork คัดแยกส่งของในแบบฝึ กหัดข้อ 4
ศึกษาว่า
- สิ่ งใดจำเป็ น สำหรับการเดินทางโดยจักรยาน
- สิ่ งใดจำเป็ น สำหรับการเดินทางไปพักผ่อนบนภูเขา
- สิ่ งใดจำเป็ น สำหรับการเดินทางไปพักผ่อนที่ชายทะเล
นักเรี ยนเขียนเป็ นบทสนทนาโดยใช้ must และ need ตาม
ตัวอย่าง
แบบฝึ กหัดข้อ 6 นักเรี ยนเขียนสิ่ งที่ตอ้ งทำตามกฎขณะไปพักผ่อนใน
วันหยุด 3 อย่างและเขียนสิ่ งที่ตอ้ งไม่ท ำตามกฎขณะไป
พักผ่อนในวันหยุด 3 อย่าง
แบบฝึ กหัดข้อ 7 นำสิ่ งที่นกั เรี ยนเขียนในแบบฝึ กหัดข้อ 6 มาผลัดกันพูด
ให้เพื่อนในห้องฟัง
 409

12 14 ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดในข้อ 9 และ 11 ในหนังสือ Sprint 2 Workbook หน้า 55

นักเรี ยนแลกกันตรวจคำตอบกับเพื่อน ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัดของนักเรี ยน
จากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 นักเรี ยนเขียนลงสมุด (ดูเฉลย)
แบบฝึ กหัดข้อ 9 เขียนกฎทีต่ อ้ งทำทีบ่ า้ น และอธิบายว่ามีส่ิงใดบ้างทีไ่ ม่จำเป็ น
ต้องทำ ดังตัวอย่างที่ให้มา
แบบฝึ กหัดข้อ 11 เติมคำลงในเรื่ องที่อ่าน โดยใช้รูปแบบไวยากรณ์ที่ถูกต้อง
ของ need to
12 15 ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 9 และ 11 ในหนังสือ Sprint 2 Workbook หน้า 100
นักเรี ยนแลกกันตรวจคำตอบกับเพื่อน และให้อ่านออกเสี ยงคำตอบให้เพื่อนใน
ชั้นเรี ยนฟังเพื่อตรวจคำตอบ ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัดของนักเรี ยนจากคำตอบ
ที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 และเขียนลงสมุด (ดูเฉลย)
แบบฝึ กหัดข้อ 9 เติม need to ลงในประโยคให้ถูกต้องโดยใช้ รู ปบอกเล่า
ปฏิเสธและคำถาม
แบบฝึ กหัดข้อ 11 แปลประโยคที่ให้มาเป็ นภาษาไทยให้ถูกต้อง
ขั้นสรุ ป (Conclusion)
12 16 ให้นก ั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 12 และ 13 ในหนังสื อ Sprint 2 Workbook หน้ า 55
เมื่อนักเรี ยนทำเสร็ จแล้ว ครู ให้นกั เรี ยนตรวจคำตอบกับเพื่อน นักเรี ยนอ่านออกเสี ยง
คำตอบให้เพื่อนในชั้นเรี ยนฟังเพื่อตรวจความถูกต้อง ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัด
ของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 (ดูเฉลย)
แบบฝึ กหัดข้อ 12 อ่านกฎการเดินทางโดยเครื่ องบิน แล้วเลือกคำตอบที่
ถูกต้อง ครู เปิ ดซี ดีประกอบบทเรี ยน ให้นกั เรี ยนฟัง
1 ครั้ง เพื่อตรวจ คำตอบที่เติมลงไป ครู เปิ ดเสี ยงจากซี ดีอีก
1 ครั้ง ให้นกั เรี ยนพูดตาม
แบบฝึ กหัดข้อ 13 แปลประโยคที่ก ำหนดให้เป็ นภาษาไทยที่ถูกต้อง
12 17 ให้นก ั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 10 ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 100
โดยเลือกคำตอบที่ถูกต้อง จากเรื่ อง Road Safety for Pedestrians นักเรี ยนแลกกัน
ตรวจคำตอบกับเพื่อน ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัดของนักเรี ยนจากคำตอบที่
ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 และให้นกั เรี ยนเขียนลงสมุด (ดูเฉลย)
 410

บทเรียนย่อยที่ 5 เวลา 2 คาบ

จุดประสงค์การเรียนรู้
5. อ่านและพูดเพื่อสร้างเสริ มประสบการณ์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่ อง Talking about
school rules โดยการค้นคว้าจากแหล่งเรี ยนรู ้อื่นๆ ก่อนนำเสนอ
ขั้นนำเข้ าสู่ บทเรียน (Introduction)
1 ให้นก ั เรี ยนดูภาพในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 101 อ่านชื่อเรื่ อง
แล้วตอบคำถามดังต่อไปนี้
Teacher : What is the title of this video?
Students : Talking about school rules.
Teacher : Can you tell me some of our school rules?
Students : ……………………………………
Teacher : Look at the picture and tell me about people in the picture.
Students : The students are in the classroom.
Students : One student is eating a hamburger.
Students : The others are surprised about his doing.
Students : They are going to tell their teacher. Etc.
2 ให้นก ั เรี ยนอภิปรายว่าการกระทำในภาพ เป็ นการกระทำที่ผดิ กฎระเบียบของ
โรงเรี ยนหรื อไม่ เพราะเหตุใด
- Is it right or wrong to eat in the classroom? Why? or Why not?
- What will happen if it is wrong?
- How can you solve this problem?
ขั้นนำเสนอเนือ้ หา (Presentation)
3 ให้นก ั เรี ยนอ่าน hand-out เรื่ อง “school rules” ที่ครู แจกให้ ครู ให้นกั เรี ยนศึกษาและ
ถามคำศัพท์ที่คิดว่านักเรี ยนไม่ทราบก่อน

SCHOOL RULES
- National Anthem and Pledge:
- 7.25 a.m. in the school hall
 411

- Silence must be maintained at all times during assembly,

flag raising ceremonies and silent reading.
- School Hours: - 7.45 a.m. – 2.45 p.m. every week day
- Pupils will be deemed late for school if they arrive after 7.25 a.m.
- Recess: - All food and drinks must be consumed in the canteen.
Strictly no eating outside the canteen
- Pupils must queue up to buy their food and return all utensils to
their respective receptacles.
- All litter (e.g. wrappers) must be disposed into the litter bins.
- Pupils must not play and run in the canteen.
- Proper Uniform:
- Pupils are to wear the prescribed school uniform and
modification to the uniform is not allowed.
- No colorful laces are allowed.
- Only plain ear studs are allowed. No fanciful or colorful
earrings/ ear studs are allowed.
- Only one ear stud is permitted on each earlobe.
- No nail polish, No make-up in any form
- Hair must be of its natural color and not tinted.
- Long hair (hair that touches the collar) must be neatly tied up.
- Always speak English in school, except during Mother Tongue
periods.
 412

- Pupils are not allowed to bring electronic gadgets (e.g. mobile

phone, MP3 player) and expensive items to school.
The school will not be held responsible for the loss of any of
these items.
- Visitors to the school:
- No visitor is allowed to go beyond the General Office, unless
accompanied by a member of staff.
- Teachers will not take calls from parents/ guardians during
curriculum time. Parents/ guardians are advised to leave a
message with the General Office and the teacher will call back
as soon as possible.
- Parents/ Guardians need to complete the Early Release Form
from the General Office before the security officer will allow
your child to leave the school premises.
(Resource : http://www.innovapri.moe.edu.sg/abtus_8.html)

4 แบ่งนักเรี ยนเป็ นกลุ่มๆ ละ 5 คน แต่ละกลุ่มคัดเลือกกฎระเบียบที่มีเหมือนใน

โรงเรี ยนของตนเองและให้อาสาสมัครออกมานำเสนอหน้าชั้นเรี ยน ประมาณ 3-4 กลุม่
5 ครู อธิบายหลักการใช้ Useful Language ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book
หน้ า 101 โดยเขียนประโยคตัวอย่างบนกระดานและอธิ บายประกอบ
- You have to be punctual. คุณต้ องเป็ นคนตรงต่อเวลา
- You have to be quiet. คุณต้ องเป็ นคนสุ ภาพเรี ยบร้อย
- You have to be well-behaved. คุณต้ องเป็ นคนมีความประพฤติดี
- You mustn’t use your mobile คุณต้องไม่ ใช้โทรศัพท์มอื ถือ
phone while studying. ระหว่างเรี ยน
- You need to listen to the teachers. คุณต้ องฟังครู ขณะที่ครู ก ำลังสอน

- You don’t have to come to school คุณไม่ ต้องมาโรงเรี ยนในวันเสาร์

on Saturday.
- You don’t need to wear a uniform คุณไม่ ต้องสวมเครื่ องแบบใน
on weekend. วันหยุดสุ ดสัปดาห์
- You mustn’t wear slippers คุณต้ องไม่ สวมรองเท้าแตะ
 413

to school. มาโรงเรี ยน
6 ครู ให้นก ั เรี ยนแต่ละกลุ่มแต่งประโยคตามตัวอย่างใน Useful Language ข้อ 5 ในขั้น
นำเสนอเนื้อหา กลุ่มละ 5 ประโยคครู เดินตรวจและแก้ไขข้อบกพร่ อง
ขั้นฝึ ก (Practice)
7 ครู ใ ห น ้ กั เรี ย นดูภ า พใ นหน งั สื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 101 และ
ดูวิดีโอใน ครู เปิ ดวิดีโอประกอบบทเรี ยนให้นกั เรี ยนดู 1 ครั้ง นักเรี ยน
ออกเสี ยงตาม 1 ครั้ง เตรี ยมตอบคำถาม : What are the school rules in Amy’s and
Elis’s? (ดูเฉลย)
8 นักเรี ยนเตรี ยมทำแบบฝึ กหัดข้อ 2 โดยครู เปิ ดวิดีโอประกอบบทเรี ยนให้นก ั เรี ยน
ดูอีก 1 ครั้ง นักเรี ยนอ่านคำสัง่ ของแบบฝึ กหัดข้อ 2 และเตรี ยมเขียน “A” ถ้าเป็ น
กฎของโรงเรี ยน Amy และเขียน “B” ถ้าเป็ นกฎของโรงเรี ยน Elis ครู และ
นักเรี ยนช่วยกันสรุ ปสิ่ งที่ดู (ดูเฉลย)
ขั้นการใช้ ภาษาเพือ่ การสื่ อสาร (Production)
9 นักเรี ยนจับคู่กน ั ทำแบบฝึ กหัดข้อ 3 ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 101
โดยตอบคำถามตามหัวข้อที่กำหนดให้ ครู และนักเรี ยนตรวจสอบความถูกต้องร่ วมกัน
10 นักเรี ยนอ่าน handout เรื่ อง “school rules” ทีค
่ รู แจกให้ในข้อ 3 ของขั้นนำเสนอเนื้อหา
อีกครั้ง แล้วนำมาเป็ นตัวอย่างการเขียน “กฎของโรงเรี ยนในฝันของฉัน”
11 นักเรี ยนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรี ยนเกี่ยวกับ “กฎของโรงเรี ยนในฝันของฉัน”
และเขียนลงสมุด ครู ประเมินการพูดของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้
เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 (ดูเฉลย)

ขั้นสรุ ป (Conclusion)
12 12ครู ให้นกั เรี ยนอ่าน handout เรื่ อง “school rules” อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นให้เขียน
school rules ของโรงเรี ยนที่นกั เรี ยนเรี ยนอยู่ โดยเลียนแบบ handout ที่ครู แจกให้
และเพิ่มเติมสิ่ งที่แตกต่างตามความเป็ นจริ ง ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัดของ
นักเรี ยนจากแบบประเมินการเขียน โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 (ดูเฉลย) 12
131 ให้นก ั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดในหนังสื อ Sprint 2 Workbook หน้ า 53 ข้อ 8 อ่านแล้ว
เขียนประโยคใหม่ โดยเพิ่มคำว่า have to, don’t have to, must, และ mustn’t เข้าไป
ในประโยคตามความเหมาะสม ดังตัวอย่างครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัด
ของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 (ดูเฉลย)
 414

Self and Social Responsibility : School Uniform

(Resource : http://whereisthailand.info/2013/01/school-uniform/)

บทเรียนย่อยที่ 6 เวลา 2 คาบ

จุดประสงค์การเรียนรู้
6. อ่านและพูดเพื่อสร้างเสริ มประสบการณ์ แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่ อง Legal Age Limits
ขั้นนำเข้ าสู่ บทเรียน (Introduction)
1 ให้น ก ั เรี ย นดูภ าพทั้ง 6 ภาพในหนัง สื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 102-103
แล้วตอบคำถามดังต่อไปนี้
 415

Teacher : Look at the pictures (A-F) on page 102-103, then tell me about
them.
Students : Picture 1 is good but picture 2 is not.
Teacher : Why do you know?
Students : From the word “LEGAL”.
Teacher : So cool! How about the other ones?
Students : Picture C, I see a lot of students do them. I think it’s OK to do
so.
Teacher : It’s not illegal, but it may be wrong if there are many big
piercings.
Students : I would like to study flying lessons when I grow up.
Teacher : Good idea! You have to be more diligent and much more
patience. And is it legal for children to buy pets?
Students : Yes it is, but most of them don’t have enough money.
Teacher : Right. And you have to find more information about it before
buying.
Students : That’s it. Thank you.
Teacher : We are going to study about the right age to do things according
to the laws, Legal Age Limits.
2 นักเรี ยนช่วยกันหาความหมายของคำศัพท์จากพจนานุกรมเพื่อทำความเข้าใจในเรื่ อง
ที่จะอ่านต่อไปนี้ แล้วจดความหมายของคำศัพท์ลงสมุด ครู ช่วยอธิ บายเมื่อคำศัพท์มี
ความหมายมากกว่าหนึ่งความหมาย

Account information
This could suit you if :
- You're 11 to 15 years old.
- You want to earn interest.
- You'd like a cash card or a debit card.
Rates & charges
- A children's bank account that you can open with as little as £1
- Earn interest – and the more you save, the more interest you'll earn
- cash card for withdrawing up to £50 a day from cash machines
 416

- Debit card lets you shop or withdraw every day from cash machines, as
long as you've got money in your account
- Pay cash straight into your account – perfect for saving your pocket money
or allowance
- No monthly account fee and free day-to-day banking
(Resource : http://www.barclays.co.uk/Otheraccounts/Childrensaccounts/Children sbankaccount
BarclayPlus/P1242558332697)
3 นักเรี ยนตอบคำถามเพื่อแสดงความเข้าใจเรื่ องที่อ่าน
- What does the passage tell you? (About Account Information)
- When can you have an account book? (When you are 11 to 15 years old)
- What is the purpose to have a bank account?
(To earn interest and to have a cash card or a debit card)
- How much money can children open their account? (At least £1)
- How much can you withdraw your money by a debit card? (£50 a day)
- When can’t you withdraw your money from cash machines?
(When you don’t have any money in your bank account)
- What is the meaning of “pay cash straight into your account”? (Deposit)
- What is the advantage of children’s debit card? (Free of charge every day)
4 นักเรี ยนศึกษาภาพในหนังสื อหัวข้อ warm up ครู ถามความหมายของคำศัพท์ในข้อ A
ถึงข้อ F ถ้านักเรี ยนตอบไม่ได้ ให้นกั เรี ยนคนอื่นช่วยกันบอกความหมาย ครู คอย
ตรวจเช็คความถูกต้อง ครู และนักเรี ยนสรุ ปร่ วมกันว่า Which ones are legal and
which ones are illegal?

ขั้นนำเสนอเนือ้ หา (Presentation)
5 ครู อธิ บายความรู ้เรื่ อง “ข้อจำกัดทางกฎหมาย” (Limit Laws)

Limit Laws
Limit laws are laws which limit the number of cats, dogs or other pets that a
household can have. They are usually local laws, passed on the municipal or
county level of government, so the limits often vary even within a single state.
The limit is often three or four animals.
 417

Limit laws are supposed to protect the animals and public from health and
sanitation problems, nuisance, neglect or abuse situations. If someone has more
animals than they can take care of, their animals may become neglected or abused.
(Resource : http://animalrights.about.com/od/companionanimalspets/a/Limit-Laws.htm)

6 ให้นกั เรี ยนดูภาพและอ่านหัวข้อเรื่ อง A-F ในข้อ 1 warm up ในหนังสื อ Sprint 2

Student’s Book หน้ า 102-103 แล้วจับคู่ภาพกับคำอธิ บายลงในตารางที่ก ำหนดให้
นักเรี ยนแลกเปลี่ยนกันตรวจคำตอบ (ดูเฉลย)
 418

7 ครู ให้นกั เรี ยนอ่านออกเสี ยงบทอ่าน Build your competences ข้อ 3 เรื่ อง Legal Age
Limits ครู คอยแก้ไขให้ถูกต้อง เมื่อนักเรี ยนอ่านออกเสี ยงผิดและให้นกั เรี ยน
อ่านในใจเพื่อจับใจความสำคัญอีกครั้งหนึ่ง
ขั้นฝึ ก (Practice)
1 ครู ตรวจสอบความเข้าใจของบทอ่าน โดยการเติมคำลงใน summary ทีละย่อหน้า

Things with no age limit:

Children under 4 years ______
1 watch any ________ 2 films ________ 3
parents because they may ________
4 . To babysit or to be alone at home is
________
5 , but it is not recommended. According to _________ 6 , children
under 12 and people under 16 should not be ________ overnight. Anyway,
7
having piercings ________
8 taking flying lessons is __________
9 legal age.
Answer key : 1. cannot 2. U-classed 3. without
4. get scared 5. lawful 6. experts
7. alone 8. or 9. No

Things you can and can’t do under 12

In the UK, children only ________
1 can be put in prison ________2 they
really do wrong. In the United States, ___________
3 people under 18 is condemned.
11-year-old children __________
4 get permission from their parents __________
5
opening a bank account, but they are not allowed to have ___________
6 until they are
__________
7 . 12-year-old children or over 135 cm ___________
8 can sit at the front of
the car with ___________
9 .
Answer key : 1. 10 years old 2. if 3. imprisonment
4. have to 5. before 6. a debit card
7. sixteen 8. tall 9. a seatbelt

Things you need to be over 12 to do

___________
1 12, you can see a 12 rating film, __________
2 you cannot buy
a pet until you are sixteen. In the UK, you can work part-time __________
3 at 13,
but you ___________
4 14 if you are in the US. You can drive __________
5 at 16
6
 419

and a car at 17 in the UK. Only 14, you can drive a car if you are in _________ .
You _________
7 can change your name if you are _________
8 sixteen. Unexpectedly!
if you are under 18, you _________
9 have a tattoo.
Answer key : 1. At the age of 2. but 3. part-time
4. have to be 5. a moped 6. the US
7. yourself 8. over 9. cannot

9 ครู ประเมินความเข้าใจของบทอ่านโดยให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 4 ในหนังสื อ

Sprint 2 Student’s Book หน้ า 102 ซึ่ งเป็ นแบบฝึ กหัดให้นกั เรี ยนเลือกคำตอบที่ถูก
 หรื อผิด X หรื อ ไม่ปรากฏข้อมูล (DS) จาก เรื่ อง Legal Age Limits ในแบบฝึ กหัด
ข้อ 3 เมื่อเสร็ จแล้วให้นกั เรี ยนตรวจคำตอบกับเพื่อน ครู ช่วยตรวจแก้ไขอีกครั้ง
(ดูเฉลย)

ขั้นการใช้ ภาษาเพือ่ การสื่ อสาร (Production)

12 10 นักเรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 1 Build your competences ในหนังสื อ Sprint 2
Workbook หน้ า 56 เรื่ อง Manners Around the World เป็ นการอ่านเกี่ยวกับ
ลักษณะที่ดีของประเทศต่างๆ ทัว่ โลก ให้นกั เรี ยนทำแบบทดสอบแล้วตรวจสอบ
ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมทีน่ กั เรี ยนเคยเรี ยนรูม้ า ครูและนักเรี ยนช่วยกันคิดหาคำตอบ
จากคำถามในแบบสอบถาม ดูเฉลยที่แนบมาท้ายหน้า 56 ครู ประเมินการทำ
แบบฝึ กหัดของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 (ดูเฉลย)

12 11 ให้นกั เรี ยนอ่านแบบทดสอบเรื่ อง Manners Around the World อีกครั้งโดยการอ่าน

แบบสรุ ปความสำคัญ แล้วบอกว่าข้อใดเป็ นลักษณะที่ดีและข้อใดเป็ นลักษณะ
ที่ไม่ดี ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัดของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์
ผ่านร้อยละ 70 (ดูเฉลย)

Self and Social Responsibility : Culture Shock

Culture shock คือ การที่บุคคลมีความรู ้สึกว่าตกอยูใ่ นอีกประสบการณ์หนึ่ง
ที่ไม่คนุ ้ เคยหรื อต้องดำรงตนอยูใ่ นสิ่ งแวดล้อมที่แปลกใหม่ สถานการณ์ที่จดั เป็ น culture
 420

shock ได้แก่ การดื่มน้ำผ้งึ พระจันทร์ (honeymoon) การเจรจาต่อรอง (negotiation)

การปรับเปลี่ยน พฤติกรรม (adjustment) การใช้อ ำนาจบังคับการบางอย่าง (mastery)
The most common culture shock problems คือ การรับรู ้ขอ้ มูลมากเกินไปจนปฏิบตั ิ
ตนไม่ถูก การไม่สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ มีช่องว่าระหว่างวัยมากเกินไป การไม่
สามารถใช้เทคโนโลยีในการสื่ อสารได้ เป็ นต้น

ขั้นสรุ ป (Conclusion)
12 12 ให้นกั เรี ยน จับคู่หวั ข้อกับข้อความที่ก ำหนดให้ “13 Examples of Good and Bad
Manners Around the World” โดยศึกษาข้อมูลต่อไปนี้
a. Clearing Your Plate b. To Shake or Not to Shake
c. Belching d. Exposing Your Palms
e. Left-handed Greetings f. Watch Your Feet!
g. Swapping Business Cards h. No Tipping!
i. Crushing Handshake j. Lose the Shoes
k. The "Peace" Salute l. Chewing Gum
m. Mixed Signals

13 Examples of Good and Bad Manners Around the World

1. In Taiwan and much of the Far East, belching is considered to be a sign of
compliment to the chef who can cook you a delicious meal.
2. In most of the Middle and Far East, it is considered an insult to point or to
display your feet at another person
3. In most Asian countries, a business card is seen as an extension of the person it
represents; therefore, you must not fold it, write on it, or just shove it into your
pocket without looking at it.
4. A bone-crushing handshake is seen as admirable in the United States and
the U.K., but in much of the East, particularly the Philippines, it is seen as a sign
of aggression.
 421

5. Orthodox Jews will not shake hands with someone of the opposite sex. A strict
Muslim woman will not shake hands with a man, but a Muslim man will shake
hands with a non-Muslim woman
6. When dining in China, you should leave some food on your plate to remind
of your host's generosity.
7. In Japan and Korea, a tip is considered an insult.
8. The "okay" sign with a thumb and a forefinger touching to make a circle is an
insult in Germany and many countries in the world..
9. Similarly, in the U.K., when the two-fingered "V for victory" or "peace" is
given with the hand turned so that the palm faces inward, it is considered
very rude, the same as raising the middle finger to someone.
10. In Greece, any signal that involves showing your open palm, and waving, is very
offensive. Waving goodbye to someone, you need to do so with your palmfacing in.
11. In Asia and South America, it is essential to remove your shoes when entering
someone's home, because of the hygiene and cleanliness.
12. Chewing gum is not polite in Luxembourg, Switzerland, France, and Singapore.
13. In most Arab countries, it is impolite to use the left hand to offer a handshake
or to wave a greeting, or to pass food or eat

(Resource : http://people.howstuffworks.com/13-examples-of-good-and-bad-manners-
around-the-world.htm#page=0)

Answer key : 1. Belching 8. Mixed Signals

2. Watch Your Feet! 9. The "Peace" Salute
3. Swapping Business Cards 10. Exposing Your Palms
4. Crushing Handshake 11. Lose the Shoes
5. To Shake or Not to Shake 12. Chewing Gum
6. Clearing Your Plate 13. Left-handed Greetings
7. No Tipping!

บทเรียนย่อยที่ 7 เวลา 2 คาบ

จุดประสงค์การเรียนรู้
 422

7. ฟัง พูด และเขียนเกีย่ วกับประสบการณ์ของตนเองและให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

ขั้นนำเข้ าสู่ บทเรียน (Introduction)
1 ครู และนักเรี ยนร่ วมกันทบทวนเรื่ อง Legal Age Limits และ Good and Bad
Manners Around the World ที่เรี ยนไปในบทเรี ยนย่อยที่ 6 โดยให้นกั เรี ยน
อาสาสมัครออกมาพูดเกี่ยวกับมารยาทที่ควรปฏิบตั ิของแต่ละประเทศ

ขั้นนำเสนอเนือ้ หา (Presentation)
2 ครู เปิ ดซี ดีประกอบบทเรี ยน ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 103
นักเรี ยนฟังเพื่อน 2 คน คุยกันเรื่ อง Age Limits ฝึ กพูดตามจนชำนาญ และ
นักเรี ยนเลือกคำตอบที่ถกู ต้องจากข้อ A, B หรื อ C แล้วแลกเปลีย่ นกันตรวจคำตอบ
(ดูเฉลย)
ขั้นฝึ ก (Practice)
3 ครู ตรวจสอบความเข้าใจโดยให้นก ั เรี ยนจับคู่ท ำแบบฝึ กข้อ 6 Speaking ให้นกั เรี ยน
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อจำกัดเรื่ องอายุตามกฏหมาย (Legal Age Limits) ใน
ประเทศไทย โดยการตอบคำถามที่ก ำหนดให้เลียนแบบตัวอย่างในหนังสื อ เมื่อ
เสร็ จแล้วให้นกั เรี ยนตรวจคำตอบกับเพื่อน ครู ช่วยตรวจแก้ไข แล้วให้นกั เรี ยน
อาสาสมัครออกมานำเสนอหน้าชั้นเรี ยน (ดูเฉลย)
4 ครู เปิ ดเสี ยงจากซี ดีประกอบบทเรี ยน ใน Sprint 2 Workbook หน้ า 57
แบบฝึ กหัดข้อ 3 นักเรี ยนฟังคำสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง Beckie ซึ่ งเป็ นเลขาฯ
ของโรงเรี ยนกับ Jeam ซึ่ งต้องการเรี ยนวิชาการดำน้ำโดยใช้เครื่ องช่วยหายใจติดไว้
บนหลังขณะดำน้ำ (Scuba diving) แล้วเติมข้อความในโน้ตที่ก ำหนดให้
5 ครู เปิ ดซี ดีประกอบบทเรี ยน ให้นกั เรี ยนฟังอีก 1 ครั้ง นักเรี ยนอ่านตามและ
ฝึ กพูดตามจนชำนาญ

ขั้นการใช้ ภาษาเพือ่ การสื่ อสาร (Production)

6 นักเรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 4 ใน Sprint 2 Workbook หน้ า 57 ครู อธิ บายเพิ่มเติมว่า
ให้นกั เรี ยนสมมุติวา่ กำลังทำงานให้กบั สระว่ายน้ำแห่งหนึ่ง ให้นกั เรี ยนเตรี ยมแฟ้ ม
 423

เอกสาร คล้ายกับที่ได้ฟังในบทสนทนาแบบฝึ กหัดข้อ 3 มาเป็ นแนวการเขียนอีเมล

ถึงเพื่อนชื่อ Zadie ซึ่ งขอข้อมูลเกี่ยวกับหลักสู ตรการว่ายน้ำ ครู เปิ ดซี ดีประกอบ
บทเรี ยน ให้นกั เรี ยนฟังอีก 1 ครั้ง

7 นักเรี ยนแลกกันตรวจคำตอบกับเพื่อน แล้วให้นกั เรี ยนอ่านออกเสี ยงคำตอบให้

เพื่อนในชั้นเรี ยนฟัง เพื่อตรวจคำตอบ ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัดของนักเรี ยนจาก
คำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 และเขียนลงสมุด (ดูเฉลย)

Self and Social Responsibility : Driving Car and Bikes.

Self and Social Responsibility: Driving Cars and
Bikes
An introduction to what you must (and must not) do when driving on Thai roads...
Rules and Regulations
- Drive on the left side of the road
- The legal age for driving cars is 18
- Every vehicle must have a tax sticker, which has to be renewed annually at the local
Department of Land Transport Office (DLT)
- Wearing a seat belt in the front seat of a car is obligatory. Fines for not wearing a
seat belt can be paid either at the local police station, or on the spot
- The blood alcohol limit is 0.5 mg, or 0.2 mg for drivers who have held their
licenses for less than five years
- Vehicles with red registration plates cannot be driven between the hours of 06:00-
18:00
- Drivers may only use a mobile or cellular phones with a handsfree system
- Flashing of headlights by other vehicles is a warning signal meaning "get out of my
way" and does not mean "you may make your manoeuvre", as it does in some -
Western countries
(Resource : http://bangkok.angloinfo.com/information/transport/driving/)
 424

ขั้นสรุ ป (Conclusion)
8 นักเรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 5 ในหนังสื อ Sprint 2 Workbook หน้ า 57 โดยเลือก
จาก Good Manners ในแบบฝึ กหัดข้อ 1 หน้ า 56 นักเรี ยนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
กันในหัวข้อต่อไปนี้ คือ “คิดว่าบุคลิกที่ดีเหล่านี้แปลกหรื อไม่ ดีหรื อไม่ดี ทำไมจึง
เป็ นเช่นนั้น” แล้วเขียนเปรี ยบเทียบกับที่มีในประเทศอิตาลี โดยใช้เว็บไซด์ที่ครู ให้มา
เป็ นแหล่ง สื บค้นเพิ่มเติม ครู ประเมินการทำแบบฝึ กหัดของนักเรี ยนจากคำตอบที่ถูก
ต้องโดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70 และเขียนลงสมุด (ดูเฉลย)
(Resource : http://www.pimsleurapproach.com/blog/italian/the-insiders-guide-to-
italian-etiquette-from-body-language-to-table-manners)
9 นักเรี ยนทำแบบฝึ กหัดข้อ 7 ในหนังสื อ Sprint 2 Student’s Book หน้ า 103
เขียนข้อความสั้นๆเกี่ยวกับข้อจำกัดเรื่ องอายุตามกฎหมาย (Legal Age Limits)
ในประเทศไทย โดยเขียนตามหัวข้อที่ก ำหนดให้ นักเรี ยนแลกกันตรวจคำตอบกับ
เพื่อน ครู ช่วยตรวจแก้ไขแล้วให้น ำเสนอในคาบเรี ยนต่อไป (ดูเฉลย)

สื่ อ/แหล่ งเรียนรู้

1 หนังสื อ Sprint 2 Student’s Book
2 หนังสื อ Sprint 2 Workbook
3 ซี ดีประกอบบทเรี ยน
4 เครื่ องเล่นซี ดี
5 พจนานุกรม
6 สื่ ออิเล็กทรอนิกส์
- https://www.google.co.th/search?q=traffic+in+bangkok&newwindow
- http://www.driving-test-success.com/uk-road-signs.htm
- http://traffic.findlaw.com/traffic-tickets/do-s-and-don-ts-safe-driving.html
- http://bikeability.dft.gov.uk/what-is-bikeability/
- http://www.sydneybuses.info/travelling-with-us/travel-etiquette/bus-
etiquette.htm
- http://en.wikipedia.org/wiki/Road_signs_in_Thailand
- http://www.innovapri.moe.edu.sg/abtus_8.html
 425

- http://whereisthailand.info/2013/01/school-uniform/
- http://www.barclays.co.uk/Otheraccounts/Childrensaccounts/Childrensbank
account-BarclayPlus/P1242558332697
- http://animalrights.about.com/od/companionanimalspets/a/Limit-Laws.htm
- http://people.howstuffworks.com/13-examples-of-good-and-bad-manners-
around-the-world.htm#page=0
- http://www.pimsleurapproach.com/blog/italian/the-insiders-guide-to-italian
- etiquette-from-body-language-to-table-manners
- http://bangkok.angloinfo.com/information/transport/driving/

การวัดและประเมินผล
1 ประเมินตามจุดประสงค์
1.1 ประเมินการพูด ถาม-ตอบโดยใช้แบบประเมินการสนทนา
1.2 ประเมินการฟังบทความจากจำนวนคำตอบที่ถกู ต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70
1.3 ประเมินการฟังบทสนทนาจากจำนวนคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70
1.4 ประเมินการเขียนประโยคโดยใช้
- must / mustn’t
- have to / has to / don’t (doesn’t) have to
- need (s, es) to / don’t (doesn’t) need to
จากจำนวนคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70
1.5 ประเมินการเขียนประโยคโดยใช้โครงสร้างไวยากรณ์
- must / mustn’t
- have to / has to / don’t (doesn’t) have to
- need (s, es) to / don’t (doesn’t) need to
จากจำนวนคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70
1.6 ประเมินการฟังบทพูด จากจำนวนคำตอบที่ถกู ต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70
1.7 ประเมินการอ่านบทความ จากจำนวนคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70
1.8 ประเมินการเขียนบรรยายสั้นๆ โดยใช้แบบประเมินการเขียน โดยใช้เกณฑ์ผา่ นระดับดี
2 ประเมินผลการทำแบบฝึ กหัด ในหนังสื อ แบบฝึ กหัด และ Self-evaluation จากจำนวน
คำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70
3 นักเรี ยนประเมินการเรี ยนรู้หน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 9 โดยใช้แบบทดสอบประจำหน่วยที่ 9
 426

กิจกรรมเสนอแนะ
มอบหมายนักเรี ยนทำงานกลุ่ม เขียนบรรยายสั้นๆประกอบ Traffic signs ที่พบเห็นบนถนน
และสถานที่ต่างๆ กลุ่มละ 7 ป้ าย แล้วนำจัดป้ ายนิเทศความรู ้หลังห้องเรี ยน

บันทึกหลังสอน
1 ผลการจัดการเรี ยนรู้
2 ปัญหา / อุปสรรค
3 ข้อเสนอแนะ / แนวทางปรับปรุ ง

ข้ อเสนอแนะ

มอบหมายให้นกั เรี ยน ไปสื บค้นหาความรู ้เพิ่มเติมเรื่ อง Rules and regulations จากเว็บไซต์

ที่ครู ก ำหนดให้ แล้วนำมาจัดป้ ายนิเทศ พร้อมตกแต่งรู ปประกอบคำบรรยายเน้นความปลอดภัยใน
การใช้รถและการใช้ถนน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู ้ในสถานศึกษาของตนเอง
(Resource: http://traffic.findlaw.com/traffic-tickets/do-s-and-don-ts-safe-driving.html#sthash.
LcZF2 -NnG.dpuf)

Self-evaluation
Choose the best answer to each question.
1. Can I order a takeaway, please?
a. Why do you want a takeaway? b. That’s £12.50.
c. Can I have two pizzas? d. Of course, what would you like?

2. How about __________ skiing in January?

 427

a. go b. we go
c. going d. we going

3. In the UK, you have to be 18 to ___________ a car.

a. buying b. going to
c. drive d. ride

4. You mustn’t drop __________ in public, as you can receive a fine.

a. animals b. litter
c. balls d. spit

5. Which sentence is correct?

a. I’m beaching next weekend. b. I go to the beach next weekend.
c. I went to the beach next weekend. d. I’m going to the beach next weekend.

6. A : Let’s watch a film tonight!

B : _____________ .
a. Bad! b. Great idea!
c. How about it? d. No, let’s!

7. Can we see the menu, please?

a. I’m sorry! b. No way!
c. Of course! d. Are you ready to order?

8. Which sentence is correct?

a. The food is delicious! b. The food is friendly!
c. The food is noisy! d. The food is comfortable!

9. A : Are you free this afternoon?

B : ______________
a. No, I can’t.
 428

b. No. I don’t.
c. No, I’m not.
d. No, I’m won’t

10. A : How about a piece of cake?

B : ________________ . I’m on a diet!
a. I don’t have to b. I have to
c. I must d. I mustn’t

Answer Keys

1. d 2. c 3. c 4. b 5. d
6. b 7. c 8. a 9. d 10. d

แบบทดสอบประจำหน่ วยที่ 9
Choose the best answer to each question.

1. This sign means___________________ .

a. Left lane b. No left lane
c. No left turn d. No u-turn

2. “You have to be 18 if you need to drive a car.”

This sentence means ________________ .
a. You can drive a car for 18 years. b. You have driven your car for 18 years.
c. Your car is 18 years old. d. You can drive car when you are 18.
 429

3. Riding a moped on a highway is __________ .

a. a crime b. illegal
c. a rule d. permitted

4. What is not a holiday equipment?

a. flask and torch b. mask and snorkel
c. cosmetics and nail polish d. sun cream and first-aid kit

5. Which is not a school rule?

a. Jina has to reach school before the flag raising ceremonies.
b. Parents must see their children only at the General Office.
c. Beth doesn’t need to go to school on weekend.
d. Students mustn’t use cell phone while studying.
6. Make this sentence into Negative form?
“Nanny has to wear uniform to work.
a. Nanny has not to wear uniform to work.
b. Nanny does not has not to wear uniform to work.
c. Nanny doesn’t have not to wear uniform to work.
d. Nanny don’t has not to wear uniform to work.

7. Student : __________________
Teacher : Sure! Why are you so late?
a. May I go to the General Office? b. May I come in, please?
c. Will you let me enter the class? d. I’m late because of the heavy traffic.

8. Which sentence is correct?

a. Must I to go with you? b. Do I must go with you?
c. Do you need to go with me? d. Do I have got to go with you?

9. Students should wear a mask in school if they _________________.

a. ride their bikes to school b. have a cold
c. don’t want to talk to anyone d. don’t want anyone to see their faces
 430

10. Can you see that sign? You ____________ smoke in the restaurant.
a. mustn’t b. don’t have to
c. have got to d. have to

Answer Keys

1. d 2. d 3. b 4. c 5. c
6. b 7. b 8. c 9. B 10. a