You are on page 1of 28

แผนการจัดการเรียนรู้

Unit 3 All about me


รหัสวิชา/ชื่อรายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
ชั้น ประถมศึกษาปี ที่ 2 เวลาเรียน 6 ชั่วโมง ภาคเรียนที่____________
ผู้สอน ______________________________ โรงเรียน__________________________________

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตัวชี้วัด 1. ปฏิบัติตามคำสั่ง และคำขอร้องง่ายๆ ที่ฟัง
2. ระบุตัวอักษรและเสียง อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ และอ่านประโยคง่ายๆ ถูกต้อง
ตามหลักการอ่าน
3. เลือกภาพตรงตามความหมายของคำ กลุ่มคำ และประโยคที่ฟัง
4. ตอบคำถามจากการฟังประโยค บทสนทนา หรือนิทานง่ายๆ ที่มีภาพประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวชี้วัด 2. ใช้คำสั่งและคำขอร้องง่ายๆ ตามแบบที่ฟัง
4. พูดขอและให้ข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองตามแบบที่ฟัง
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดย
การพูดและการเขียน
ตัวชี้วัด 1. พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชี้วัด 1. พูดและทำท่าประกอบ ตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
3. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะกับวัย

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา


กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วัด 1. ระบุตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัด 1. ฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน

76
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก
ตัวชี้วัด 1. ใช้ภาษาต่างประเทศ เพื่อรวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องใกล้ตัว

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของร่างกายภายนอกและคำกริยาต่างๆ การบรรยายลักษณะ
ของบุคคล ด้วยโครงสร้างประโยค I’ve got ………….. คำนามพหูพจน์ และประโยคคำสั่ง เช่น
Open the window. การออกเสียง [s], [th] และ [t] ท้ายคำ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้สื่อสาร
ในชีวิตประจำวัน

3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- คำ กลุ่มคำ และความหมายเกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของร่างกายภายนอก และคำกริยาต่างๆ
- โครงสร้างประโยคบอกเล่าเพื่อบรรยายลักษณะภายนอกของบุคคล
เช่น She’s got blond hair and blue eyes.
- Pronunciation: การออกเสียง [s], [th] และ [t] ท้ายคำ
- ประโยคคำสั่ง เช่น Close your eyes.
- ประโยคขอร้องอย่างสุภาพ เช่น Close the door, please.
- กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง
- การใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
- การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องใกล้ตัวจากสื่อต่างๆ
3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
-

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
- ฟัง เข้าใจในสิ่งที่ได้ยินหรือสนทนา
- พูด ได้ใจความ ออกเสียงได้ถูกต้อง สามารถถ่ายทอดข้อมูลเนื้อหาได้
- อ่าน เข้าใจตัวอักษร คำ และภาพที่เห็นในหนังสือเรียนและแบบฝึกหัด และอ่าน
ออกเสียงได้
- เขียน ตัวอักษร คำศัพท์ และประโยคง่ายๆ ได้
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์

77
- ซื่อสัตย์สุจริต
- มีวินัย

6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- การอ่านคำ กลุ่มคำ และประโยคในหน่วยการเรียนรู้ที่ 3
- การเขียน และระบุคำศัพท์ส่วนต่างๆ ของร่างกายภายนอกได้
- การพูดประโยคคำสั่ง และปฏิบัติตามได้
- การประดิษฐ์ตุ๊กตากระดาษจับมือต่อกัน
- การวาดภาพใบหน้าของตนเอง และเขียนบรรยายลักษณะ
- การรวบรวมคำศัพท์ใน Your word book

7. การวัดและการประเมินผล
7.1 การประเมินก่อนการเรียน
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหว่างจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทำแบบฝึกหัด
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทำกิจกรรม
7.3 การประเมินหลังการเรียน
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
- ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการอ่านคำ กลุ่มคำ และประโยคในหน่วยการเรียนรู้ที่ 3
- ประเมินการเขียน และระบุคำศัพท์ส่วนต่างๆ ของร่างกายภายนอกได้
- ประเมินการพูดประโยคคำสั่ง และปฏิบัติตามได้
- ประเมินการประดิษฐ์ตุ๊กตากระดาษจับมือต่อกัน
- ประเมินการวาดภาพใบหน้าของตนเอง และเขียนบรรยายลักษณะ
- ประเมินการรวบรวมคำศัพท์ใน Your word book

8. กิจกรรมการเรียนรู้
- กิจกรรมนำสู่การเรียน
- กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ ดังแนบมาพร้อมนี้
- กิจกรรมรวบยอด

9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

78
1. หนังสือเรียน Smile ป. 2
2. แบบฝึกหัด Smile ป. 2
3. Audio CD Smile ป. 2
4. บัตรภาพ บัตรคำ
5. อุปกรณ์ในการประดิษฐ์ตุ๊กตากระดาษจับมือต่อกัน
6. เกม X - O
7. เกมใบ้คำกริยา

แผนการจัดการเรียนรู้
Unit 3 All about me (Lesson 1)

1. สาระสำคัญ
การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของร่างกายภายนอก โครงสร้างประโยคบอกเล่า เพื่อบรรยาย
ลักษณะของบุคคล เช่น She’s got black hair and blue eyes. ลักษณะภายนอกของบุคคลที่แตกต่างกัน เช่น
blond hair, brown eyes ฯลฯ คำนามพหูพจน์ การออกเสียง [s] ท้ายคำนามพหูพจน์ ซึ่งเป็นการเรียนรู้
ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน
2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายของคำศัพท์เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ภายนอก
- พูดให้ข้อมูลลักษณะเกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของร่างกายภายนอกของตนเองและของผู้อื่นได้
- เขียนคำศัพท์เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของร่างกายภายนอกได้
- ฟังและระบุภาพได้ถูกต้อง
- เปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ได้
- ออกเสียง [s] ท้ายคำนามพหูพจน์ได้
- เล่นเกมและร้องเพลงภาษาอังกฤษตามที่กำหนดได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- คำศัพท์เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของร่างกายภายนอก

79
- คำนามพหูพจน์
- ประโยคบรรยายลักษณะภายนอกเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เช่น สีผม สีดวงตา
e.g. I’ve got blond hair.
- การออกเสียง [s] ท้ายคำนามพหูพจน์
- ตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาอังกฤษและภาษาไทย
- กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การร้องเพลงภาษาอังกฤษและการเล่นเกม
- การใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
-
4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย
6. กิจกรรมการเรียนรู้
6.1 ชั่วโมงที่ 1-2
กิจกรรมนำสู่การเรียน
1. ครูทบทวนความรู้เดิมจากบทเรียนที่ผ่านมาทั้งคำศัพท์และประโยค
2. นักเรียนบอกอวัยวะภายนอกให้ได้มากที่สุดเป็นภาษาไทย จากนั้นครูวาดรูปตัวคนลงบนกระดาน
พร้อมกับหยิบบัตรคำภาษาอังกฤษเกี่ยวกับร่างกายของเรา โดยให้นักเรียนลองหยิบบัตรคำและลอง
เดาคำตอบ โดยที่ครูยังไม่เฉลยคำตอบ และไม่ต้องบอกนักเรียนว่าตอบถูกหรือผิด
3. ครูบอกกับนักเรียนว่าในชั่วโมงต่อไปนี้นักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของร่างกายทั้งคำศัพท์
และประโยคที่นักเรียนควรจะทราบในระดับชั้นประถมศึกษาปี ที่ 2
กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้
1. ครูเขียนเนื้อเพลงลงบนกระดาน นักเรียนคัดลอกใส่สมุดของตนเอง จากนั้นครูสอนคำศัพท์ที่
เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของร่างกายจากเพลง ดังนี้
“Head, Shoulders, Knees and Toes”
Head, shoulders, knees and toes (2 times)
Eyes and ears, and mouth and nose
Head, shoulders, knees and toes. (ซ้ำตั้งแต่แรกอีก 1 รอบ)
ให้นักเรียนทำท่าทางประกอบเพลงโดยสัมผัสส่วนต่างๆ ของร่างกายตามเนื้อเพลงให้ถูกต้อง
ครูนำนักเรียนร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบเพลง 2-3 ครั้ง นักเรียนร้องและทำท่าตามครู
ครูใช้มือสัมผัสส่วนต่างๆ ของร่างกาย พร้อมกับออกเสียง นักเรียนสัมผัสอวัยวะนั้นๆ และ

80
ออกเสียงตามอย่างถูกต้อง
2. ครูเขียนคำศัพท์พร้อมความหมายดังต่อไปนี้ลงบนกระดาน และให้นักเรียนคัดลอกลงสมุดของ
ตนเอง
finger = นิ้วมือ head = ศีรษะ
arm = แขน shoulder = หัวไหล่
foot = เท้า knee = หัวเข่า
body = ร่างกาย eye = ตา
leg = ขา ear = หู
toe = นิ้วเท้า mouth = ปาก
nose = จมูก
ครูอ่านออกเสียงทีละคำ และสะกดตัวอักษรของคำนั้นๆ นักเรียนออกเสียงและสะกดคำอย่างถูก
ต้อง ทำอย่างนี้ประมาณ 2 ครั้ง
Teacher: f- i - n - g - e - r finger
Students: f- i - n - g - e - r finger
ครูชี้คำศัพท์บนกระดานทีละตัว และสุ่มนักเรียน 3-4 คน ให้สะกดตัวอักษรภาษาอังกฤษ
Teacher: ชี้ไปที่คำว่า “leg” และถามนักเรียนด้วยประโยคภาษาอังกฤษ
ดังนี้ How do you spell “leg”?
Nattamol: l-e-g
Teacher: Very good!
3. ครูอธิบายนักเรียนเกี่ยวกับคำนามพหูพจน์ (Plural) ว่าคำนามพหูพจน์ส่วนใหญ่จะเติม -s หลัง
คำนาม พร้อมกับยกตัวอย่างประกอบ ดังนี้
arm เมื่อเป็นพหูพจน์จะเป็น arms (แขนมากกว่า 1 แขน)
leg เมื่อเป็นพหูพจน์จะเป็น legs (ขามากกว่า 1 ขา)
ข้อยกเว้น
มีคำนามบางคำ เมื่ออยู่ในรูปพหูพจน์แล้วจะไม่เติม -s ดังนี้
foot (เท้า 1 ข้าง) เมื่อเป็นพหูพจน์จะกลายเป็น feet (เท้ามากกว่า 1 ข้าง)
tooth (ฟัน 1 ซี่) เมื่อเป็นพหูพจน์จะกลายเป็น teeth (ฟันมากกว่า 1 ซี่)
ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบในเรื่องพหูพจน์ (Plural) โดยครูเขียนโจทย์บนกระดาน เพื่อให้
นักเรียนลอกลงสมุดของตนเอง
คำชี้แจง ให้นักเรียนเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ต่อไปนี้ให้เป็นพหูพจน์ (Plural) ให้ถูกต้อง

คำนามเอกพจน์ คำนามพหูพจน์
finger

81
arm
foot
toe
shoulder
knee
eye
ear
tooth
leg
เมื่อนักเรียนทำแบบทดสอบเสร็จแล้ว จากนั้นครูเฉลยคำตอบบนกระดาน ให้นักเรียนแก้ไขตาม
ให้ถูกต้อง
4. ครูสอนการออกเสียง [s] ท้ายคำ ซึ่งออกเสียงคล้ายกับเสียง “ส” ในภาษาไทย ครูเตรียมบัตรคำ
fingers, arms, toes, eyes, shoulders และ legs ครูชูบัตรคำทีละคำ และให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม
จากนั้นให้นักเรียนออกเสียงเองทีละคนจนครบทุกบัตรคำ
Teacher: How do you say this word?
(ครูชูบัตรคำ fingers)
Daeng: Fingers.
พยายามให้นักเรียนออกเสียง [s] ให้ถูกต้อง โดยฝึกออกเสียงตามครู
5. ให้นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 28 ข้อ 1 Listen and point. และครูเปิ ด CD/track 23 ให้
นักเรียนฟังคำศัพท์ และชี้ที่คำแต่ละคำตามไปด้วย

body fingers hands arms legs


feet toes
เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมในข้อ 1 เสร็จแล้ว ครูให้นักเรียนดูหนังสือเรียน หน้า 28 ข้อ 2 Listen, point
and repeat. ให้นักเรียนฟังและชี้ภาพ พร้อมกับออกเสียงคำศัพท์ตาม CD ให้ถูกต้อง ครู
เปิ ด CD/track 24 ให้นักเรียนฟังและออกเสียงตาม 2-3 ครั้ง

hands fingers arms toes


feet legs body
6. ครูเปิ ด CD/track 26 ให้นักเรียนฟัง 3 ครั้ง เกี่ยวกับกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 29 ข้อ 3 Listen
and write the numbers. ครั้งแรกให้นักเรียนช่วยกันฟังว่า มีคำว่าอะไรบ้าง นักเรียนออกเสียงตามที่
ได้ยิน ครั้งที่ 2 ให้นักเรียนเขียนหมายเลข 1-10 ลงในช่องว่าง โดยเรียงลำดับจากสิ่งที่ได้ยิน ครั้งที่ 3
ครูเปิ ด CD ให้นักเรียนฟังทีละประโยค ให้นักเรียนออกเสียงตาม จากนั้นครูเฉลยคำตอบ
Girl: This is my body.
Number one, this is my head.
Number two, this is my mouth.
Number three, this is my hand.
82
Number four, this is my nose.
Number five, this is my leg.
Number six, this is my foot.
Number seven, this is my eye.
Number eight, this is my arm.
Number nine, these are my fingers.
Number ten, these are my toes.

1. head 2. mouth 3. hand 4. nose


5. leg 6. foot 7. eye 8. arm
9. fingers 10. toes
7. ครูให้นักเรียนฝึกออกเสียงคำศัพท์ที่ลงท้ายด้วยเสียง s โดยครูเปิ ด CD/track 27 ให้นักเรียนฟัง 2-3
ครั้ง แล้วฝึกออกเสียงตาม CD พร้อมกัน
toes legs

8. นักเรียนดูโครงสร้างประโยคในหนังสือเรียน หน้า 29 ข้อ 4 จากนั้นครูอธิบายการบรรยายลักษณะ


ของบุคคล โดยเขียนโครงสร้างประโยค พร้อมตัวอย่างบนกระดาน แล้วให้นักเรียนคัดลอกลงสมุด
ของตนเอง ดังนี้
โครงสร้างประโยค
ประธาน + v. to have + got + คำนาม.
เช่น I have got black hair. (ฉันมีผมสีดำ)
She has got brown eyes. (หล่อนมีตาสีน้ำตาล)
จากนั้นครูเขียนการผันคำกริยาของ Verb to have ของประธานแต่ละตัว และรูปย่อลงบน
กระดาน ดังนี้
ประธาน Verb to have รูปย่อ
I have I’ve
You have You’ve
We have We’ve
They have They’ve
He has He’s
She has She’s
It has It’s
จากนั้นให้นักเรียนดูประโยคตัวอย่าง พร้อมภาพประกอบในหนังสือเรียน หน้า 29 ข้อ 4 Listen
and repeat. นักเรียนช่วยกันอ่านบทสนทนาทีละประโยคก่อน แล้วจึงฟัง CD/track 28 และออกเสียง
ตามทีละประโยคอย่างพร้อมเพรียงและถูกต้อง พร้อมทั้งช่วยครูบอกความหมายของประโยคเพื่อให้
นักเรียนเกิดความเข้าใจมากขึ้น

83
Boy: I’ve got blond hair and blue eyes.
She’s got brown hair and green eyes.
Girl: He’s got black hair and brown eyes.

9. ครูเขียนคำศัพท์และประโยคที่น่าสนใจในการบรรยายลักษณะบุคคล พร้อมทั้งความหมายบน
กระดาน จากนั้นให้นักเรียนคัดลอกลงสมุดของตนเอง ครูอ่านคำศัพท์ และนักเรียนออกเสียงตาม
curly hair ผมหยิก straight hair ผมตรง
bobbed hair ผมบ๊อบ short hair ผมสั้น
forelock ผมม้า long hair ผมยาว
ตัวอย่างประโยค I’ve got curly hair. She’s got straight hair.
ครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คน เพื่อบรรยายลักษณะของตัวเองจากคำศัพท์บนกระดาน
Suda: I’ve got curly hair. (ฉันมีผมหยิก)
Winai: I’ve got short hair. (ฉันมีผมสั้น)
10. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 30 ข้อ 5 Listen and sing. ครูอ่านเนื้อเพลงทีละประโยค และทำ
ท่าทางประกอบ นักเรียนออกเสียงตามครู พร้อมทำท่าทางประกอบ แล้วครูเปิ ด CD/track 29 ให้
นักเรียนร้องตาม 3 ครั้ง จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของเพลง
ครูสุ่มเรียกนักเรียน 10 คน อ่านคนละ 1 ประโยค และแก้ไขการออกเสียงของนักเรียนให้ถูกต้อง
เมื่อนักเรียนอ่านทุกประโยคแล้ว ครูให้นักเรียนทั้งชั้นยืนเป็นวงกลมโดยมีครูอยู่ตรงกลาง นักเรียน
ร้องเพลง Look at me! และทำท่าประกอบตามที่ครูสอน นักเรียนคนใดไม่ร้องเพลงและทำท่าทาง
ไม่ถูกต้อง ต้องออกจากวง ผู้ที่เหลือ 3 คนสุดท้ายคือผู้ชนะ
Look at me!
Look at me.
What can you see?
This is my body.
Hair, ears, eyes and nose.
Look at me. Head to toes.
Arms, hands, legs, feet and toes.
Look at me. Head to toes.
Look at me.
What can you see?
This is my body.
11. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 31 ข้อ 6 Listen and point. ครูให้ทบทวนประโยคบรรยายลักษณะ
ของบุคคลบนกระดาน จากนั้นให้นักเรียนดูภาพ แล้วช่วยกันแต่งประโยคจากภาพเหล่านั้น ดังนี้
 She’s got blonde hair and green eyes. (รูปเด็กผู้หญิงผมสีบลอนด์ + ตาสีเขียว)
 She’s got red hair and black eyes. (รูปเด็กผู้หญิงผมสีแดง + ตาสีดำ)

84
 He’s got brown hair and blue eyes. (รูปเด็กผู้ชายผมสีน้ำตาล + ตาสีฟ้ า)
 He’s got black hair and brown eyes. (รูปเด็กผู้ชายผมสีดำ + ตาสีน้ำตาล)
ครูเปิ ด CD/track 30 ให้นักเรียนฟังและช่วยกันเรียงลำดับประโยคจากข้อความที่ได้ยิน จากนั้นให้
นักเรียนออกเสียงตาม CD ทีละประโยค 2-3 รอบ

Number one, he’s got black hair and brown eyes.


Number two, she’s got blonde hair and green eyes.
Number three, she’s got red hair and black eyes.
Number four, he’s got brown hair and blue eyes.
12. ให้นักเรียนวาดภาพและระบายสีตามที่ได้ยินจาก CD ให้ถูกต้อง ในหนังสือเรียน หน้า 31 ข้อ 7
Listen, draw and colour. โดยครูเปิ ด CD/track 31 ให้นักเรียนฟัง 2-3 ครั้ง จากนั้นครูเดินตรวจ
ผลงานของนักเรียน แล้วนำผลงานของนักเรียน 4-5 คน มาแสดงหน้าชั้นเรียน
Robot: I am a robot.
I’ve got green eyes.
I’ve got pink hair.
I’ve got a blue nose.
I’ve got a red mouth.

กิจกรรมรวบยอด
1. ให้นักเรียนดูภาพในแบบฝึ กหัด หน้า 24 ข้อ 1 Look at the picture. Write the words. และ
เขียนคำศัพท์ให้ตรงกับภาพอวัยวะต่างๆ ที่ให้มาลงในช่องว่างให้ถูกต้อง เสร็จแล้วให้นักเรียน
ช่วยกันเฉลยคำตอบ
1. hand 2. arm 3. fingers 4. body
5. foot 6. leg 7. toes
2. นักเรียนอ่านคำศัพท์พร้อมกันทีละคำในแบบฝึ กหัด หน้า 25 ข้อ 2 Look, draw and write. จาก
นั้น
ให้ทุกคนทำแบบฝึกหัด ซึ่งให้นักเรียนดูภาพและวิเคราะห์ว่าภาพต่อไปจะเป็นอะไร โดยให้วาดรูป
ในกรอบ  และเขียนคำศัพท์ของรูปภาพนั้นลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1. toes 2. body 3. feet 4. legs
5. hands 6. arms 7. fingers
3. ให้นักเรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 26 ข้อ 3 Follow each line and write the word. จากนั้นดูภาพ
แล้วเขียนคำศัพท์ให้ตรงกับภาพอวัยวะส่วนต่างๆ ให้ถูกต้อง
1. fingers 2. hand 3. arm 4. leg
5. foot 6. body 7. toes

85
4. ครูสัมผัสส่วนต่างๆ ของร่างกาย แล้วถามว่าส่วนที่ครูสัมผัสเรียกว่าอะไร นักเรียนช่วยกันตอบ
Teacher: What’s this? (ครูชี้ที่ปาก)
Fah: Mouth.
นักเรียนฝึกการฟังจาก CD/track 25 ในแบบฝึ กหัด หน้า 27 ข้อ 4 Listen and write the numbers.
แล้วเติมหมายเลขตามที่ได้ยิน โดยเรียงลำดับให้ถูกต้อง เมื่อนักเรียนทำแบบฝึกหัดเสร็จแล้ว ครูให้
นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ

Number one, a nose Number two, an ear


Number three, a mouth Number four, an eye
Number five, a head Number six, hair
Number seven, an arm Number eight, a leg
Number nine, a hand Number ten, toes
a nose – 1 an ear – 2
a mouth – 3 an eye – 4
a head – 5 hair – 6
an arm – 7 a leg – 8
a hand – 9 toes – 10
5. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดทบทวนสิ่งที่เรียนในแบบฝึ กหัด หน้า 27 ข้อ 5 Listen and colour.
โดยครูเปิ ด CD/track 32 ให้นักเรียนฟัง 2-3 ครั้ง และให้นักเรียนระบายสีภาพแต่ละภาพตามที่ได้
ยิน เสร็จแล้วให้นักเรียนฝึกออกเสียงตาม CD ทีละประโยค พร้อมกับบอกความหมายของประโยค
Number one, she’s got brown hair and blue eyes.
Number two, he’s got black hair and brown eyes.
Number three, she’s got blonde hair and green eyes.
Number four, he’s got blue hair and red eyes.

ภาพที่ 1 – หล่อนมีผมสีน้ำตาลและตาสีฟ้ า
ภาพที่ 2 – เขามีผมสีดำและตาสีน้ำตาล
ภาพที่ 3 – หล่อนมีผมสีบลอนด์และตาสีเขียว
ภาพที่ 4 – เขามีผมสีน้ำเงินและตาสีแดง
6. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึ กหัด หน้า 28 ข้อ 6 Look at the pictures. Then write the numbers in
the
correct order. โดยให้นักเรียนดูภาพ แล้วเขียนหมายเลขลงในช่องว่างให้เรียงลำดับการวาดภาพ
ส่วนประกอบต่างๆ ของร่างกายให้สมบูรณ์ เสร็จแล้วให้ช่วยกันเฉลยคำตอบ
a-2 b-4 c-6 d-5

86
e-1 f-3

7. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึ กหัด หน้า 28 ข้อ 7 Draw yourself. Then write  or . จากนั้นวาด


รูป
ตนเองลงในกรอบรูป และระบายสีให้สวยงาม เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนทำเครื่องหมาย  หรือ 
ลงในช่องว่างหลังข้อความที่กำหนดให้ โดยขีด  ถ้านักเรียนระบายสีหรือวาดภาพตามข้อความ
และกา  ถ้านักเรียนไม่ได้ระบายสีหรือวาดตามข้อความ
ครูสุ่มเรียกนักเรียนประมาณ 8-10 คน ออกมาพูดบรรยายลักษณะของภาพที่ตนเองวาด เช่น
I’ve got black hair. ฉันมีผมสีดำ
I’ve got brown eyes. ฉันมีตาสีน้ำตาล
I’ve got pink ears. ฉันมีหูสีชมพู
I’ve got a big nose. ฉันมีจมูกใหญ่
I’ve got a big mouth. ฉันมีปากใหญ่
I’ve got short legs. ฉันมีขาสั้น
8. นักเรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 29 ข้อ 8 Draw your friend. Then label your picture. แล้วจับคู่กับ
เพื่อน ให้แต่ละคนวาดรูปเพื่อนของตนเองลงในกรอบ จากนั้นโยงเส้นและเขียนคำศัพท์ให้ตรงกับ
อวัยวะส่วนต่างๆ ให้ถูกต้อง พร้อมระบายสีให้สวยงาม เสร็จแล้วครูให้นักเรียนออกมาแสดงผลงาน
หน้าชั้นเรียน พร้อมกับแนะนำว่ารูปวาดนี้เป็นเพื่อนคนใดด้วยประโยค “This is ….” เพื่อนที่เป็น
นายแบบหรือนางแบบต้องแสดงความคิดเห็นว่า ผลงานที่เพื่อนวาดเหมือนตนเองหรือไม่
7. การวัดและการประเมินผล
7.1 การประเมินก่อนการเรียน
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทำแบบฝึกหัด
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทำกิจกรรม
7.3 การประเมินหลังการเรียน
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
- ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการฟังและระบุส่วนต่างๆ ของร่างกายภายนอก
- ประเมินการวาดรูปและเขียนบรรยายใบหน้าของตนเอง
- ประเมินการร้องเพลงและการแสดงท่าทางประกอบเพลง
- ประเมินความสามารถในการเขียนคำศัพท์และประโยคต่างๆ

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

87
1. หนังสือเรียน Smile ป. 2
2. แบบฝึกหัด Smile ป. 2
3. Audio CD Smile ป. 2
4. บัตรภาพ บัตรคำ แถบประโยค

แผนการจัดการเรียนรู้
Unit 3 All about me (Lesson 2)

1. สาระสำคัญ
การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับคำกริยาต่างๆ ประโยคคำสั่ง การออกเสียง [th] และ [t] ท้ายคำ ซึ่งเป็น
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน

88
2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายของคำกริยาง่ายๆ ได้
- พูดประโยคคำสั่งได้
- ฟังแล้วเข้าใจประโยคคำสั่ง และปฏิบัติตามได้
- ฟังและระบุภาพได้ถูกต้อง
- ออกเสียง [th] และ [t] ตำแหน่งท้ายคำได้
- เขียนคำกริยาต่างๆ ได้ถูกต้อง
- เล่นเกมและร้องเพลงภาษาอังกฤษตามที่กำหนดได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- คำศัพท์เกี่ยวกับคำกริยาต่างๆ
- ประโยคคำสั่งและประโยคขอร้องอย่างสุภาพ
- Pronunciation: การออกเสียง [th] และ [t] ท้ายคำ
- ตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาอังกฤษและภาษาไทย
- กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การร้องเพลงภาษาอังกฤษและการเล่นเกม
- การใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
-
4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทักษะการคิดวิเคราะห์
- ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย
6. กิจกรรมการเรียนรู้
6.1 ชั่วโมงที่ 3-4
กิจกรรมนำสู่การเรียน
1. ครูทบทวนคำศัพท์เรื่องส่วนต่างๆ ของร่างกายจากบัตรคำดังต่อไปนี้
head fingers hair toes
eyes ears mouth nose
legs feet arms hands
ครูวาดรูปร่างกายคนบนกระดานโดยวาดรูปอวัยวะต่างๆ อย่างชัดเจน แล้วสุ่มเรียกนักเรียน 12 คน
มาติดบัตรคำให้ตรงกับภาพอวัยวะที่ครูวาดบนกระดานคนละ 1 ใบ เมื่อติดบัตรคำเรียบร้อยแล้ว

89
ครูชี้ไปที่บัตรคำและอวัยวะนั้นๆ พร้อมกับอ่านออกเสียง แล้วให้นักเรียนออกเสียงตามครูอย่าง
พร้อมเพรียงกัน
2. ครูแสดงบัตรภาพ hair ให้นักเรียนดู พร้อมกับถามว่า ทำไมคำว่า hair ไม่ต้องเติม s ท้ายคำ ครูให้
เวลานักเรียนคิดและตอบ จากนั้นอธิบายให้ฟังว่า hair เป็นคำนามนับไม่ได้ จึงไม่ต้องเติม s ท้ายคำ
3. ให้ทุกคนยืนขึ้นและร้องเพลง Head, Shoulders, Knees and Toes 2 รอบ นักเรียนเลือกเพื่อนที่ร้อง
และแสดงท่าทางประกอบ 3 คน ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน เพื่อนๆ ช่วยกันร้องและให้กำลังใจ
4. ครูให้นักเรียนเล่นเกม Show me your ….. (แสดง ..... ของคุณให้ดูหน่อย) โดยให้นักเรียนฟังว่า
ครูต้องการให้แสดงอวัยวะส่วนใดของร่างกาย แล้วชี้ไปที่อวัยวะดังกล่าว
Teacher: Show me your nose. (แสดงจมูกของคุณให้ดูหน่อย)
Students: ชี้ไปที่จมูก
Teacher: Show me your fingers. (แสดงนิ้วมือของคุณให้ดูหน่อย)
Students: ชูนิ้วมือขึ้นมา
5. ครูบอกกับนักเรียนว่า ในชั่วโมงต่อไปนี้นักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องคำสั่ง คำศัพท์ และ
โครงสร้างคำสั่งที่ใช้กับส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่ก่อนอื่นขอให้นักเรียนทำแบบทดสอบ English
Pre-Test เพื่อวัดความสามารถด้านการจำคำศัพท์ ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบด้วยความซื่อสัตย์ เพื่อ
ผลที่ได้จะได้เที่ยงตรง (Validity) และไม่เปิ ดดูคำศัพท์ในหนังสือเรียน เมื่อนักเรียนทุกคนทำ แบบ
ทดสอบเสร็จแล้ว ตรวจคำตอบที่ครูเขียนเฉลยบนกระดาน คนที่เขียนคำศัพท์ถูกเกินกว่า 6 ข้อ ถือว่า
ผ่านเกณฑ์
กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้
1. ครูเขียนคำศัพท์ที่ใช้กับประโยคคำสั่งพร้อมความหมายบนกระดาน และนักเรียนคัดลอกลงสมุด
ของตนเอง ดังนี้
Nod … = ผงก (หัว), พยัก (หน้า)
Clap … = ปรบ (มือ)
Touch … = สัมผัส ... หรือ แตะ ...
Open … = เปิ ด ...
Close … = ปิ ด ...
ครูอ่านออกเสียงคำพร้อมกับทำท่าทางประกอบ นักเรียนออกเสียงและปฏิบัติตาม
Teacher: Nod your head. (ครูพยักหน้า)
Clap your hands. (ครูปรบมือ)
Touch your ears. (ครูแตะที่หูของตนเอง)
Open your eyes. (ครูลืมตา)
Close your eyes. (ครูหลับตา)
Students: ปฏิบัติตามครูทุกข้อ
2. ครูเขียนโครงสร้างและตัวอย่างของประโยคคำสั่ง (Imperative) ลงบนกระดาน นักเรียนคัดลอก
ลงในสมุดของตนเอง ดังนี้

โครงสร้าง

90
V.1 + คำนาม.
เช่น Close the door. Touch your head. Open your book.
จากนั้นให้นักเรียนลองแต่งประโยคมาคนละ 1 ประโยค โดยดูจากโครงสร้างและคำศัพท์ที่เรียนมา
ครูสุ่มเรียกนักเรียน 7-8 คน ให้ออกมาพูดประโยคคำสั่งของตนเอง พร้อมความหมายหน้าชั้นเรียน
Winai: Clap your hands. (ปรบมือครับ)
3. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 32 ข้อ 1 Listen, point and say. ครูอ่านประโยคคำสั่ง ให้นักเรียน
ออกเสียงตาม จากนั้นครูอ่านประโยคคำสั่งอีก 1 รอบ ให้นักเรียนชี้ว่าเป็นประโยคใดในภาพ
ครูเปิ ด CD/track 33 ให้นักเรียนออกเสียงตาม 2 ครั้ง พร้อมกับชี้ภาพตามให้ถูกต้อง

Teacher: Nod your head.


Touch your nose.
Open your mouth.
Clap your hands.
4. ครูเขียนประโยคคำสั่งบนกระดาน และให้นักเรียนลอกลงในสมุดของตนเอง ดังนี้
1. Touch your toes. 2. Close your eyes. 3. Clap your hands.
4. Nod your head. 5. Touch your ears. 6. Open your mouth.
7. Touch your nose.
ครูอ่านออกเสียงประโยคบนกระดานทีละประโยค แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของ
ประโยคเป็นภาษาไทย พร้อมกับแสดงท่าทางตามประโยคเหล่านั้น จากนั้นเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 32
ข้อ 2 Listen and do. ให้นักเรียนดูภาพทีละภาพ และออกเสียงประโยคคำสั่งตามภาพจนครบ ครูเปิ ด
CD/track 34 ให้นักเรียนฟัง และปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้ยิน

Teacher: Touch your feet.


Close your eyes.
Clap your hands.
Touch your ears.
Nod your head.
Open your mouth.
Touch your nose.
หมายเหตุ: ประโยค Close your eyes. ออกเสียงว่า โคลส ยอ รายส์ เป็นการออกเสียงเชื่อมระหว่างคำ
(linking sound) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติของภาษาอังกฤษ
จากนั้นให้นักเรียนฟังและเขียนเรียงลำดับภาพจากประโยคที่ได้ยินในหนังสือเรียน หน้า 33 ข้อ 3
Listen and write the numbers. โดยครูเปิ ด CD/track 35 ให้นักเรียนฟัง 2 ครั้ง แล้วเฉลยคำตอบ

Teacher: Number one, open your mouth.


Number two, touch your nose.

91
Number three, close your eyes.
Number four, clap your hands.
Number five, nod your head.
Number six, touch your feet.
1. - Open your mouth. 4. - Clap your hands.
2. - Touch your nose. 5. - Nod your head.
3. - Close your eyes. 6. - Touch your feet.
5. ครูให้นักเรียนเล่นเกม Simon says จากหนังสือเรียน หน้า 33 ข้อ 4 Let’s play. โดยครูอธิบายกติกา
การเล่นเกมว่า ให้นักเรียนปฏิบัติตามคำสั่งเฉพาะประโยคที่ครูพูด Simon says, … ถ้าประโยคคำสั่ง
ไหนที่ไม่ได้พูด Simon says, … นักเรียนไม่ต้องปฏิบัติตาม นักเรียนคนใดไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติ
ไม่ถูกต้องถือว่าตกรอบ ให้นักเรียนคนดังกล่าวนั่งลงกับที่จนเหลือผู้ชนะเพียงคนเดียว
Teacher: Simon says, touch your fingers.
Students: นักเรียนแตะที่นิ้วของตนเอง (นักเรียนคนใดไม่ปฏิบัติตามหรือ
ปฏิบัติไม่ถูกต้อง ให้นักเรียนนั่งอยู่กับที่)
Teacher: Clap your hands. (ปรบมือ)
Students: นักเรียนคนใดปรบมือหรือทำท่าอื่นถือว่าตกรอบ เพราะประโยคนี้
ครูไม่ได้พูด Simon says, …
6. ให้นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 34 ข้อ 5 Listen and sing. โดยครูอ่านประโยคในเนื้อเพลงทีละ-
ประโยค นักเรียนออกเสียงตามครู 1 ครั้ง จากนั้นครูเปิ ด CD/track 36 2 ครั้ง ให้นักเรียนร้องตาม
My body
I’ve got big hands. Clap, clap, clap.
I’ve got blue eyes. Look, look, look.
I’ve got a red mouth. Sing, sing, sing.
Let’s sing together.
I’ve got a big head. Nod, nod, nod.
I’ve got a long nose. Touch, touch, touch.
I’ve got a red mouth. Sing, sing, sing.
Let’s sing together.

ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มคิดท่าทางประกอบเพลง 10 นาที จากนั้นให้แต่ละ


กลุ่มออกมาแสดงหน้าชั้นเรียนทีละกลุ่ม ครูเปิ ดเพลงประกอบ เมื่อครบทุกกลุ่มแล้วให้นักเรียน
นั่งที่ของตนเอง
7. ครูนำบัตรภาพส่วนต่างๆ ของร่างกายมาติดไว้บนกระดาน จากนั้นถามนักเรียนว่าภาพที่ครูชี้คืออะไร
นักเรียนช่วยกันตอบ เช่น
Teacher: What’s this? ครูชี้ไปที่ภาพจมูก

92
Students: It’s a nose.
Teacher: What’s this? ครูชี้ไปที่ภาพตา
Students: It’s an eye.
ให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 35 ข้อ 6 Look at the pictures and say the words. แล้ว
ออกเสียงคำศัพท์ตามภาพให้ถูกต้อง
1. legs and body and toes and hands and feet and fingers
2. arms and feet and body and legs and toes and hands
3. feet and arms and fingers and body and hands and legs

8. ให้นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 35 ข้อ 7 What’s missing? Complete each picture and circle
the word. โดยครูนำนักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ใต้รูปภาพทีละคำ จากนั้นครูชี้ไปที่รูปภาพและ
ถามนักเรียนว่าอวัยวะใดหายไป ให้นักเรียนดูภาพนั้นและตอบคำถาม จากนั้นวงรอบคำศัพท์
อวัยวะที่หายไป
1. Teacher: What’s missing?
Students: Eye.
2. Teacher: What’s missing?
Students: Ear.
3. Teacher: What’s missing?
Students: Mouth.
4. Teacher: What’s missing?
Students: Mouth.
5. Teacher: What’s missing?
Students: Ear.
6. Teacher: What’s missing?
Students: Nose.
9. ครูแจกกระดาษขนาด A4 ให้นักเรียนคนละ 1 ใบ เพื่อวาดภาพและเขียนคำศัพท์อวัยวะนั้นๆ
ดังนี้
hands fingers arms toes feet legs body
(มือ) (นิ้วมือ) (แขน) (นิ้วเท้า) (เท้า) (ขา) (ร่างกาย)
นักเรียนวาดภาพและระบายสีให้สวยงาม และนำผลงานของตนเองมาติดหน้าชั้นเรียน
ครูสอนการออกเสียง [th] ท้ายคำ โดยครูอธิบายวิธีการออกเสียงนี้ให้นักเรียนฟังว่า ให้ลิ้นอยู่
ระหว่างฟันบนและฟันล่าง ให้เสียงแทรกออกมาระหว่างฟัน ครูเตรียมบัตรคำ mouth, teeth, bath
แล้วชูบัตรคำทีละคำพร้อมกับออกเสียงคำศัพท์นั้นๆ จากนั้นให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามทีละคำ
และให้นักเรียนออกเสียงเองทีละคนจนครบทุกคำ
Teacher: (ครูชูบัตรคำ mouth) Repeat after me, mouth.

93
Malee: Mouth.
Teacher: How do you spell “mouth”?
Malee: M - O - U - T - H Mouth.
Teacher: What does it mean?
Malee: ปาก
ครูสอนการออกเสียง [t] ท้ายคำ จะออกเสียงว่า เทอะ ครูเตรียมบัตรคำ aunt, cat และ what
ครูชูบัตรคำทีละคำและออกเสียงคำศัพท์นั้นๆ ให้นักเรียนออกเสียงตามทีละคำจนครบ
Teacher: (ครูชูบัตรคำ aunt) Repeat after me, aunt.
Students: Aunt.
ครูสุ่มเรียกนักเรียน 4-5 คน ให้ออกเสียงตามบัตรคำคนละ 1 ใบ ถ้าครูชูบัตรคำใด ให้นักเรียน
ออกเสียงให้ถูกต้อง ถ้านักเรียนออกเสียงผิด ครูคอยแก้ไขการออกเสียงของนักเรียน
กิจกรรมรวบยอด
1. ครูให้นักเรียนเล่นเกม X-O โดยครูตีตาราง 9 ช่อง บนกระดานดังนี้

และแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ให้กลุ่มหนึ่งเป็น X อีกกลุ่มหนึ่งเป็น O ครูเตรียมบัตรคำ


เกี่ยวกับคำศัพท์อวัยวะของร่างกาย และคำกริยาที่เรียนในหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ดังนี้
nod clap touch open close
arm leg hand finger foot
toe body nose mouth hair
eye ear head knee shoulder
ครูชูบัตรคำขึ้นมา 1 ใบ ให้แต่ละกลุ่มสะกด ออกเสียง และบอกความหมายของคำศัพท์คำนั้น
ให้ถูกต้อง กลุ่มใดตอบได้ก่อน จะได้เลือกช่อง 1 ช่อง เพื่อเขียนสัญลักษณ์ของกลุ่มตนเองลงไป
ถ้ากลุ่มใดเลือกช่องได้ติดกัน 3 ช่อง ถือว่าเป็นผู้ชนะ (ดูตัวอย่าง)
O O O O O
O O
O O O O O
O O O
O O O O O O
O O O
94
2. นักเรียนดูภาพแต่ละภาพในแบบฝึ กหัด หน้า 30 ข้อ 9 What are they doing? Match the picture.
แล้วครูถามนักเรียนว่า ภาพแต่ละภาพ เด็กชาย/เด็กหญิงกำลังแสดงกิริยาท่าทางอะไร ให้นักเรียน
ตอบเป็นภาษาอังกฤษ
Teacher: (ชี้ไปที่ภาพเด็กชายพยักหน้า) What is he doing?
Students: Nod his head.
Teacher: (ชี้ไปที่ภาพเด็กหญิงอ้าปาก) What is she doing?
Students: Open her mouth.
จากนั้นโยงเส้นจับคู่ภาพที่แสดงอากัปกิริยาที่เหมือนกันให้ถูกต้อง นักเรียนสามารถปรึกษากับเพื่อน
ข้างเคียงได้ และสุดท้ายให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ
1. - d 2. - c 3. - b
4. - a 5. - e
3. นักเรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 31 ข้อ 10 Look and match. จากนั้นครูอ่านประโยคคำสั่ง
ทีละประโยค ให้นักเรียนโยงเส้นจับคู่ประโยคกับภาพให้ถูกต้อง ครูให้นักเรียนฝึกออกเสียงตาม
ทีละประโยค พร้อมกับเฉลยคำตอบ
Touch your feet. - b Close your eyes. - a
Clap your hands. - d Nod your head. - c
Touch your arm. - e
4. นักเรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 31 ข้อ 11 Look at the pictures. Then write the words. โดยให้
นักเรียนดูภาพที่กำหนดให้ทางขวามือ แล้วให้นักเรียนเติมคำลงในช่องว่างที่กำหนดให้มีความหมาย
สัมพันธ์กับภาพ เสร็จแล้วครูให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ
1. Clap your hands. 2. Nod your head.
3. Touch your nose. 4. Open your mouth.

5. นักเรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 32 ข้อ 12 Write the words. ครูอ่านคำศัพท์ที่ให้มาทีละคำ จากนั้น
นักเรียนออกเสียงตามและเขียนคำศัพท์ให้ถูกต้องตามรูปภาพทั้ง 5 ภาพ แล้วครูเขียนเฉลยบน
กระดาน นักเรียนตรวจและแก้ไข

1. clap 2. look 3. stand 4. listen 5. touch

6. นักเรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 32 ข้อ 13 Look and write the letters. แล้วช่วยกันอ่านคำสั่งข้อ 1-5
พร้อมกัน จากนั้นเติมตัวอักษร a-e ลงในช่อง  โดยดูภาพข้อ a-e ว่าตรงกับประโยคคำสั่งใด
ในข้อ 1-5

1. c 2. d 3. a 4. e 5. b
95
7. นักเรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 33 ข้อ 14 Write the words. แล้วเขียนคำที่ให้มาลงในช่องว่างให้
ตรงกับรูปภาพ
1. Close your eyes. (หลับตา)
2. Clap your hands. (ปรบมือ)
3. Touch your nose. (แตะจมูก)
4. Open your mouth. (อ้าปาก / เปิ ดปาก)
5. Nod your head. (พยักหน้า)
6. Touch your feet. (แตะนิ้วเท้า)
7. Touch your ears. (แตะหู)
ครูเฉลยคำตอบและอ่านออกเสียง ให้นักเรียนออกเสียงตาม จากนั้นให้นักเรียนจดประโยคคำสั่ง
ทั้ง 7 ประโยค ลงในสมุดของตนเอง และบอกความหมายเป็นภาษาไทย

6.2 ชั่วโมงที่ 5-6


กิจกรรมนำสู่การเรียน
1. ครูทบทวนคำศัพท์ทั้งหมดตามที่ได้เรียนมาในชั่วโมงที่1-4 ด้วยบัตรภาพและบัตรคำ
2. นักเรียนทบทวนเพลงที่ได้เรียนมา คือ เพลง Look at me! และ My body ด้วยการร้องเพลง
พร้อมเพรียงกัน
3. ครูทดสอบความรู้ของนักเรียนด้วยแบบทดสอบ English Test โดยให้นักเรียนเขียนคำศัพท์ตาม
คำบอก (Dictation) 20 คำ พร้อมความหมาย ในแบบทดสอบจะมีคำศัพท์ 14 คำ นักเรียนจึงต้อง
อาศัยทักษะในการฟัง เพื่อจำแนกคำศัพท์เหล่านี้ออกมาเขียนได้ (Individual work)
เมื่อนักเรียนเขียนตามคำบอกครบทั้ง 14 คำแล้ว แลกแบบทดสอบกับเพื่อนข้างเคียงเพื่อตรวจคำตอบ
ครูเขียนเฉลยบนกระดาน ผู้ที่เขียนถูกเกิน 10 คำ ถือว่าผ่านเกณฑ์ จากนั้นครูรวบรวมแบบทดสอบ
เพื่อนำไปบันทึกพฤติกรรมการเรียนของแต่ละคน และแจกคืนในภายหลัง
4. ครูบอกนักเรียนว่า ในชั่วโมงที่ 5-6 นี้ นักเรียนจะได้ทบทวนในสิ่งที่เรียนมาจาก 2 บทแรก และ
ฝึกทักษะทั้ง 4 เพิ่มเติม
กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้
1. ครูชี้ไปที่เสื้อของนักเรียนคนหนึ่งในห้อง แล้วถามนักเรียนว่านี่คือสีอะไร นักเรียนทุกคนช่วยกัน
ตอบ จากนั้นครูชี้ไปที่สิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในห้องเรียน และถามว่าสิ่งของนั้นสีอะไร นักเรียน
ช่วยกันตอบอีกครั้งเพื่อทบทวนคำศัพท์เรื่องสี
Teacher: What colour is it? (ชี้ที่เสื้อนักเรียน)
Students: White.
Teacher: What colour is it? (ชี้ที่ผมของครู)
Students: Black.
96
Teacher: What colour is it? (ชี้ไปที่ดินสอสีน้ำตาลของนักเรียนคนหนึ่ง)
Students: Brown.
จากนั้นให้นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 36 ข้อ 1 Listen and colour. เพื่อฟัง CD/track 37 และ
ระบายสีอวัยวะบนใบหน้าของตุ๊กตาชายและหญิงตามคำสั่งที่ได้ยินจาก CD ครูเปิ ด CD 2-3 ครั้ง
แล้วถามนักเรียนทุกคนว่า นักเรียนได้ยินว่าอะไรบ้าง นักเรียนช่วยกันฟังและตอบ จากนั้นระบายสี
ลงในหนังสือเรียนให้ถูกต้องและสวยงาม

Lenny is a puppet. He’s got a red nose. He’s got a green mouth.
He’s got pink hair and blue eyes.
Lulu is a puppet. She’s got a yellow nose. She’s got a red mouth.
She’s got black hair and orange eyes.

- เลนนี่เป็นหุ่นกระบอก เขามีจมูกสีแดง เขามีปากสีเขียว เขามีผมสีชมพู


และตาสีน้ำเงิน
- ลูลู่เป็นหุ่นกระบอก หล่อนมีจมูกสีเหลือง หล่อนมีปากสีแดง หล่อนมีผมสีดำ
และตาสีส้ม
2. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 6 คน ให้ออกมาหน้าชั้นเรียน เพื่อเลือกบัตรคำคนละ 1 ใบ ดังนี้
Open your mouth. (อ้าปาก) Touch your ears. (แตะหู)
Close your eyes. (หลับตา) Clap your hands. (ปรบมือ)
Nod your head. (พยักหน้า) Touch your legs. (แตะขา)
ครูเรียกนักเรียนคนที่ 1 ออกมาเพื่อมาแสดงท่าทาง แล้วให้เพื่อนเดาว่าเป็นประโยคคำสั่งใด โดยผู้ใบ้
จะต้องแสดงท่าทาง ไม่ต้องออกเสียง นักเรียนคนใดเดาถูกคนแรกจะได้ 1 คะแนน ครูเตรียม
รางวัลสำหรับผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุด 1 รางวัล
จากนั้นให้นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 36 ข้อ 2 Take turns to tell your partner what to do.
แล้วให้นักเรียนแสดงท่าทางตามภาพที่กำหนดให้คู่ของตนดู จากนั้นให้คู่ของนักเรียนทายว่า กำลัง
แสดงท่าทางใดอยู่ ให้นักเรียนแต่ละคู่ผลัดกันแสดงท่าทางจนนักเรียนสามารถพูดประโยคคำสั่งได้
ถูกต้อง ดังนี้ ภาพที่ 1 Open your mouth. ภาพที่ 2 Touch your ears.
ภาพที่ 3 Close your eyes. ภาพที่ 4 Clap your hands.
ภาพที่ 5 Nod your head. ภาพที่ 6 Touch your legs.
นักเรียนทบทวนประโยคในการบรรยายลักษณะบุคคลอีกครั้ง โดยครูแจกกระดาษให้นักเรียนทุกคน
คนละ 1 แผ่น เพื่อวาดรูปหน้าคนพร้อมกับระบายสีให้สวยงาม และเขียนบรรยายลักษณะบุคคล
ตามรูปภาพที่นักเรียนวาด นักเรียนสามารถเปิ ดดูตัวอย่างจากหนังสือเรียน หน้า 37 ข้อ 3 Draw

97
a puppet. และข้อ 4 Talk about your puppet. จากนั้นให้นักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน
เสร็จแล้วครูรวบรวมผลงานของนักเรียนไปตรวจ และบันทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน
ครูเลือกผลงานของนักเรียน 2-3 ชิ้น ออกมาแสดง แล้วให้นักเรียนทุกคนบรรยายลักษณะรูปวาด
ซึ่งเป็นผลงานของเพื่อนให้ถูกต้อง
เช่น Dew’s got black hair.
He’s got a big nose, small eyes and a big mouth.
3. ครูบอกนักเรียนว่า วันนี้นักเรียนจะได้ประดิษฐ์หุ่นกระดาษ เพื่อนำไปตกแต่งห้อง (Decorations)
โดยครูเตรียมกรรไกร สีเทียน สีไม้ หรือสีชอล์ก และกระดาษ A4 มา หรือสั่งให้นักเรียนแต่ละคน
เตรียมอุปกรณ์มาก่อนจะถึงชั่วโมงทำโครงงาน ให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 38 Make
some paper people. และช่วยกันอธิบายขั้นตอนการทำ ดังนี้
1) ครูแจกกระดาษให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น ให้นักเรียนพับครึ่งของกระดาษในแนวนอน
จากนั้นพับครึ่งอีกครั้งหนึ่ง
2) นักเรียนวาดรูปคน 1 คน ที่ด้านบนของกระดาษที่พับ โดยวาดให้ส่วนมือและเท้าทั้ง
2 ข้าง ชิดขอบกระดาษ จากนั้นตัดกระดาษตามรูปที่วาดด้วยกรรไกร ระวังอย่าตัดส่วน
มือและเท้าที่อยู่ชิดขอบกระดาษทั้ง 2 ด้าน มิฉะนั้นรูปที่ได้จะไม่ต่อกันตามภาพที่ 4 ใน
หนังสือเรียน
3) คลี่กระดาษออก จะได้รูปคนยืนจับมือกัน แล้ววาดผม ตา จมูก ปาก เครื่องแต่งกาย
พร้อมกับระบายสีให้สวยงาม โดยให้แต่ละคนมีความแตกต่างกัน
4) ให้นักเรียนตั้งชื่อหุ่นกระดาษทีละตัว และสมมติว่านักเรียนเป็นหุ่นกระดาษเหล่านี้ แล้ว
พูดแนะนำชื่อ และบรรยายลักษณะของหุ่นกระดาษแต่ละตัวด้วยประโยค ดังนี้
I’m + ชื่อ .
I’ve got + ลักษณะ .
เช่น I’m Fahsai. (ฉันชื่อฟ้ าใส)
I’ve got brown hair and blue eyes. (ฉันมีผมสีน้ำตาลและตาสีฟ้ า)
นักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนทีละคน จากนั้นครูนำผลงานทุกคนมาติดบอร์ดหน้าชั้นเรียน
นักเรียนช่วยกันลงประชามติว่าหุ่นกระดาษของนักเรียนคนใด 3 คน ที่สวยที่สุด เพราะเหตุใด
หมายเหตุ: 1. ถ้านักเรียนต้องการหุ่นกระดาษจับมือกันหลายๆ ตัว ให้พับครึ่งกระดาษหลายๆ ครั้ง
2. หุ่นกระดาษเหล่านี้สามารถนำมาประดับบนผนังห้องต่างๆ ภายในบ้าน หรือ
ประดับในเทศกาลต่างๆ ได้ เช่น Christmas, Birthday party ฯลฯ
4. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 39 Circle three differences in each pair. และสำรวจรูปภาพ
ทั้ง 6 ข้อ ซึ่งในแต่ละข้อนั้นจะมีตัวการ์ตูน 2 ตัว ที่มีความแตกต่างกันอยู่ 3 จุด ครูให้เวลานักเรียน
ในการหา ข้อละ 1 นาที จากนั้นครูถามนักเรียนว่าจุดที่แตกต่างคืออะไร นักเรียนช่วยกันตอบ
1. Teacher: What are three differences in picture 1?
Fah: Hair, feet and mouth.
2. Teacher: What are three differences in picture 2?
Tangmo: Ears, eyes and mouth.

98
3. Teacher: What are three differences in picture 3?
Noi: Head, eyes and feet.
4. Teacher: What are three differences in picture 4?
Suda: Hair, nose and body.
5. Teacher: What are three differences in picture 5?
Tam: Nose, hands and mouth.
6. Teacher: What are three differences in picture 6?
Rung: Ears, body and arms.

 กิจกรรมรวบยอด
1. นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ให้จัดกลุ่มตามความสามารถของเด็ก หรือจัดกลุ่มแบบคละ
ความสามารถตามความเหมาะสม เพื่อช่วยกันคิดหาคำศัพท์อวัยวะร่างกายที่นอกเหนือจากใน
หนังสือเรียน Unit 3 นักเรียนอาจค้นหาจากในพจนานุกรมหรือหนังสือเรียนวิชาอื่นๆ
โดยครูกำหนดเวลาให้ 10 นาที แล้วแต่ละกลุ่มช่วยกันบอกครู ครูเขียนบนกระดานและเพิ่มเติม
ให้บางคำ จากนั้นนักเรียนคัดลอกลงในสมุดของตนเอง ดังนี้
face - ใบหน้า tongue - ลิ้น
knee - เข่า chin - คาง
thumb - นิ้วหัวแม่มือ neck - คอ
heart - หัวใจ back - หลัง
eyebrow - คิ้ว ฯลฯ
นักเรียนอ่านออกเสียงตามครูให้ถูกต้อง แล้วจึงฝึกอ่านด้วยตนเองจนคล่อง
2. ครูให้นักเรียนเล่นเกมใบ้คำกริยา โดยครูอธิบายกฎของเกมนี้ว่าผู้ใบ้ห้ามส่งเสียงใดๆ ทั้งสิ้น
ให้แสดงท่าทางเพียงอย่างเดียว ผู้ทายให้ยกมือขึ้นเมื่อรู้ว่าเป็นประโยคคำสั่งใด ถ้าตอบถูก จะได้
1 คะแนน แต่ถ้าผู้ทายตอบผิดจะถูกลดคะแนนครั้งละ 1 คะแนน ใครได้คะแนนถึง 5 คะแนน
ก่อนคนนั้นคือผู้ชนะ ครูให้นักเรียนผลัดกันเป็นผู้ใบ้จนครบ
Suda (ผู้ใบ้): ทำท่าพยักหน้า
Winai: (ยกมือขึ้น) Nod your head.
Suda: Correct! 1 point.
Numpu (ผู้ใบ้): ทำท่าเอามือมาแตะที่หูทั้ง 2
Tarn: (ยกมือขึ้น) Touch your mouth.
Numpu: No! no point.
Toomtram: (ยกมือขึ้น) Touch your ears.
Numpu: Correct! 1 point.
ครูเป็นผู้จดแต้มให้นักเรียน และเตรียมของรางวัลให้แก่นักเรียน
3. ให้นักเรียนดูเนื้อหาใน Unit 4 ล่วงหน้า เพื่อเตรียมการเรียนในครั้งต่อไป โดยให้แต่ละคนเตรียม
อุปกรณ์การทำ animal book ล่วงหน้า
7. การวัดและการประเมินผล

99
7.1 การประเมินก่อนการเรียน
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทำแบบฝึกหัด
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทำกิจกรรม
7.3 การประเมินหลังการเรียน
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
- ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการพูดประโยคคำสั่งและประโยคขอร้องอย่างสุภาพ และปฏิบัติตามได้ถูกต้อง
- ประเมินการประดิษฐ์ตุ๊กตากระดาษจับมือต่อกัน
- ประเมินการร้องเพลง และการแสดงท่าทางประกอบเพลง
- ประเมินความสามารถในการเขียนคำศัพท์ และประโยคต่างๆ
- ประเมินการรวบรวมคำศัพท์ใน Your word book
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน Smile ป. 2 5. บัตรภาพ บัตรคำ
2. แบบฝึกหัด Smile ป. 2 6. เกม X-O
3. Audio CD Smile ป. 2 7. เกมใบ้คำ
4. อุปกรณ์ในการประดิษฐ์ตุ๊กตากระดาษจับมือต่อกัน

English Pre-Test
Choose the correct answer.
1. A: How are you?
B: ………………………………
a. It’s cold. b. I’m fine. c. Thank you.

2. A: What is this?
B: ………………………………
a. It’s a nose. b. See you. c. No, it isn’t.

3. My …………………….. is black.
a. face b. hair c. mouth

4. Susan has got ………….. hair and ……………. eyes.

100
a. black, black b. brown, blue c. green, green

5. I have got …………………….. fingers.


a. two b. five c. ten

6. He has got …………………….. legs.


a. two b. four c. six

7. We …………………….. with our eyes.


a. listen b. eat c. see

8. We walk with our …………………….. .


a. hands b. feet c. ears

9. ………….. your head.


a. Nod b. Not c. No

10. Close your ………….. .


a. nose b. arms c. eyes
English Test

body toes legs


feet head
s
hands hair
fingers
Dictation arms
face
ears
1. nose = จมูก nose 8.
eyes mouth
2. 9.
3. 10.
4. 11.
5. 12.
6. 13.
7. 14.
101
English Post-Test
Choose the correct answer.
1. A: ………………………………
B: It’s an eye.
a. What is this? b. How are you? c. What’s your name?

2. We …………………….. with our head.


a. touch b. nod c. clap

3. We eat with our ……………………... .


a. nose b. body c. mouth

4. A: ………….. the door.


B: Okay, no problem.
a.Dig b. Eat c. Close

5. Open your ………….. .


a.ears b. eyes c. arms

102
6. Clap your ………….. .
a.head b. hair c. hands

7. ………….. your toes.


a.Touch b. Clap c. Close

8. You have got ………….. heart.


a.one b. two c. three

9. I have got ………….. ears.


a. six b. eight c. two

10. Tata has got ….... arms, ……. hands and …….. fingers.
a.two, two, ten b. one, two, ten c. two, one, five

103

You might also like