Professional Documents
Culture Documents
เรื่อง
การป้องกันการเกิด Arc Flash
Arc Flash Prevention
โดย
อาจารย์ที่ปรึกษา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พศวีร์ ศรีโหมด
ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ประยุกต์
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ปีการศึกษา2565
สารบัญ
หัวข้อ หน้า
บทที่ 1 บทนา 1
1.1 ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
1.2 วัตถุประสงค์
1.3 ขอบเขตของโครงการ
1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
บทที่ 2 ทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง
2.1 อาร์คไฟฟ้า (Arc Flash) คืออะไร
2.2 การเกิดอันตรายจากไฟฟ้า
2.3 อันตรายของประกายไฟฟ้า
2.4 ระดับรุนแรงของ Arc Flash
บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน
1
บทที่1
บทนา
1.1 ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
อันตรายของอาร์คไฟฟ้า โดยอาร์คไฟฟ้าสามารถท าอันตรายต่อร่างกายได้แม้มิได้สัมผัสกับส่วนที่ มี
กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เนื่องจากอาร์คเป็นการเบรกดาวน์ผ่านก๊าซหรือผ่านอากาศ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเกิดแรงดัน
เกิน อากาศรอบตัวนามีอุณหภูมิสูงและหน้า สัมผัสทางไฟฟ้าแยกออกจากันในขณะที่มีกระแสไฟฟ้าปริมาณ
มากไหลผ่าน โดยอาร์คอาจทาให้เกิดระเบิดได้อีกด้วย ซึ่งทาให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้อย่างมาก ปัจจัยที่
ส่ ง ผลต่ อ ระดั บ ความบาดเจ็บ ที่ ไ ด้ร ับ จากอาร์ค ไฟฟ้ า ได้แ ก่ ระยะห่ า ง อุ ณ หภู ม ิ เวลา ความยาวอาร์ค
พื้นที่หน้าตัดของส่วนของร่างกายที่กระทบกับลาอาร์ค และมุมตกกระทบลาอาร์ค การบาดเจ็บจากพลังงาน
อาร์คเกิดจากพลังงานอาร์ค 3 รูปแบบดังนี้ พลังงานแสง พลังงานความร้อนและพลังงานทางกล เมื่อได้รับ
อัน ตรายจากอาร์คไฟฟ้าจะเกิดผลกระทบต่อร่างกายในหลายส่วน ดังนี้ ผิว หนัง ระบบประสาท ระบบ
กล้ามเนื้อ หัวใจและระบบทางเดินหายใจ ซึ่งผลกระทบดังกล่าวสามารถท าให้ผู้ได้รับบาดเจ็บรู้สึกช็ อก
เจ็บปวดเพียงเล็กน้อยหรืออาจจะรุนแรงไปจนถึงแก่ชีวิต เพื่อให้ปฏิบัติงานใกล้ส่วนที่มีไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย
ผู้ปฏิบัติงานใกล้กับไฟฟ้าควรเข้าใจถึงสาเหตุการเกิดอาร์ค ผลกระทบจากอาร์คและควรให้ความสาคัญกับ
อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลในทางไฟฟ้า รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้และกลยุทธ์การป้องกัน
อันตรายจากไฟฟ้า ซึ่งจะทาให้สามารถปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นการคานวณหาระดับความรุนแรงของอาร์คไฟฟ้า ที่เกิดขึ้นในระบบไฟฟ้า จึงมีความสาคัญกับผู้ซึ่งไป
ปฎิบัติงาน ติดตั้ง ซ่อมบารุง ระบบไฟฟ้า เพื่อให้ปฏิบัติงานใกล้ส่วนที่มีไฟฟ้าอย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
2
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1.2.1 เพื่อลดความเสียหายต่อทรัพย์สินในกรณีที่เกิด Arc Flash
1.2.2 เพื่อป้องกันอุบัติเหตุกับผู้ปฏิบัติงาน
1.2.3 เพื่อศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบไฟฟ้า
1.3 ขอบเขตของโครงการ
1.3.1 สามารถสร้างโปรแกรมคานวณหาระดับความรุนแรงของ Arc Flash
1.3.2 กาหนดข้อแนะนาในการป้องกันของ Arc Flash
1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.4.1 พัฒนาและตรวจสอบแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัย
1.4.2 ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานและระบบที่ติดตั้ง
1.4.3 ลดความเสียหายและเพิ่มประสิทธิภาพการทางานบารุงรักษา
3
บทที่2
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
2..1 อาร์คไฟฟ้า (Arc Flash) คืออะไร
อาร์คไฟฟ้า คือ การปล่อยพลังงานอย่างรวดเร็วจากการลัดวงจร (fault) จึงทาให้มีกระแสไฟฟ้าไหลข้าม
ช่องว่างอากาศระหว่างตัวนาเฟสหนึ่งไปยังตัวนาเฟสอื่น มักเกิดจากฉนวนบกพร่อง (Insulation Failure) หรือการ
ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงาน (Human Error) ระหว่างที่เกิดการอาร์กอยู่นั้น อากาศจะกลายสภาพจาก
ฉนวนทางไฟฟ้าเป็นตัวนาทางไฟฟ้า จึงทาให้เกิดความร้อนและแสงสว่างที่จุดเกิดอาร์กสูงมาก ซึ่งทาให้ผิวหนังไหม้
หรือในบางครั้งอาจะรุนแรงถึงชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของกระแสที่ลัดวงจร ระยะห่างของ
เจ้าหน้าที่กับจุดที่เกิดอาร์กแฟลช เป็นต้น
2.2 การเกิดอันตรายจากไฟฟ้า
การเกิดอันตรายจากไฟฟ้า จะแบ่งตามลักษณะของอันตรายได้ 2 ประเภทคือ อันตรายที่เกิดกับบุคคล
และอันตรายที่เกิดกับทรัพย์สิน รวมถึงอาจมีผลกระทบที่เกิดต่อเนื่องจากอุบัติเหตุจากไฟฟ้า ทั้งบุคคล ทรัพย์สิน
และชุมชนหรือสาธารณะ
ข้อแรก อันตรายจากไฟฟ้าที่เกิดกับบุคคล แบ่งออกได้ดังนี้
1.1 อันตรายจาก ไฟฟ้าดูด (Electric Shock) คือการมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านส่วนต่างๆของร่างกาย
โดยที่ไฟฟ้าจะดูดเราได้ก็ต่อเมื่อร่างกายสัมผัสส่วนที่มีไฟฟ้า 2 จุด และ 2 จุดนั้นมีแรงดันไฟฟ้าต่างกัน ทาให้
ร่างกายเป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้า โดยความรุนแรงของอันตรายจากไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับ
- แรงดันไฟฟ้าระหว่างจุดสัมผัส 2 จุด
- ขนาดของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างกาย
- ระยะเวลาที่สัมผัสกับไฟฟ้า
- เส้นทางที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย
- ความต้านทานของร่างกาย ณ ขณะสัมผัสไฟฟ้า
4
รูปที่ 1 การโดนไฟดูดทั้งการสัมผัสโดยตรงและโดยอ้อม
1.2 อันตรายจาก ประกายไฟจากการอาร์ก (Arc Blast) การอาร์กเป็นการปล่อยประจุไฟฟ้า ออกสู่
อากาศในรูปของแสง เกิดขึ้นเมื่อมีแรงดันไฟฟ้าตกคร่อมช่องว่างระหว่างสายตัวนามีค่าสูงเกินค่าความคงทนของ
ไดอิเล็กทริก (dielectric strength) ของอากาศ และมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านอากาศ ทาให้เกิดดังนี้
5
รูปที่ 2 การอาร์กเป็นการปล่อยประจุไฟฟ้าออกสู่อากาศในรูปของแสง
1) รังสีความร้อน และแสงจ้า ทาให้เกิดอันตรายกับบุคคลที่ปฏิบัติงานหรืออยู่ใกล้
2) โลหะหลอมละลาย สร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์
3) แผลไหม้จากการอาร์ก (Arc Burns) ความรุนแรงของแผนไหม้มี 3 ระดับดังนี้
- ความรุนแรงระดับ 1 หนังกาพร้าผิวนอกถูกทาลายแผงบวมแดง
- ความรุนแรงระดับ 2 หนังกาพร้าตลอดทั้งชั้นและหนังแท้ส่วนตื้นๆ ถูกทาลายผิวหนังอาจหลุด
ลอดเห็นเนื้อแดง น้าเหลืองซึม การรักษาไม่ถูกวิธีอาจทาให้เกิดรอยแผลเป็นขึ้นได้
- ความรุนแรงระดับ 3 หนังกาพร้าและหนังแท้ทั้งหมด รวมทั้งต่อมเหงื่อ และเซลประสาทถูก
ทาลาย ผิวหนังทั้งชั้นหลุดลอกเห็นเนื้อแดงหรือเนื้อไหม้เกรียม บาดแผลประเภทนี้จะไม่หายเอง จาเป็นต้องรักษา
ให้ถูกวิธี อาจเกิดมีการดึงรั้งของแผลท าให้ข้อยึดติด เมื่อหายแล้วจะเป็นแผลเป็น บางรายจะพบแผลเป็นที่มี
ลักษณะนูน ถือเป็นบาดแผลที่ร้ายแรง
1.3 อันตรายจาก การระเบิดจากการอาร์ก (Arc Blast) เมื่อเกิดจากการอาร์กขึ้นในพื้นที่จากัด เมื่อ
อากาศได้รับความร้อนจากอาร์กก็จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว อาจมีอุณภูมิสูงและความดันที่มีพลังงานสูง ทาให้บุคคล
ได้รับอันตรายจากการกระเด็น กระแทกกับของแข็ง หรือทาให้ตกจากที่สูง
6
รูปที่ 3 การระเบิดจากการอาร์ก
ข้อสอง อันตรายจากไฟฟ้าที่มีผลกับทรัพย์สิน แบ่งออกได้ดังนี้
2.1 ไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit) คือการที่มีจุด 2 จุดในวงจรไฟฟ้ามาสัมผัสกัน มี 2 กรณี
1) การสัมผัสระหว่างสายไฟฟ้ากับสายไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้า
2) การสัมผัสระหว่างสายไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้ากับดินหรือสายดิน
สาเหตุของไฟฟ้าลัดวงจร อาจเกิดจากฉนวนไฟฟ้าชารุดหรือเสื่อมสภาพ แรงดันที่ใช้เกินขนาดหรือ
มีกระแสไฟฟ้าเกินขนาดของสายไฟฟ้า และอาจเกิดจากการที่ตัวนาไฟฟ้าที่มีแรงดันต่างกันสัมผัสกันหรือ ตัวนา
ไฟฟ้าสัมผัสกับดินหรือสายดิน
เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจรแล้วจะมีผลให้ สายไฟฟ้าหรือเครื่องใช้อุปกรณ์ บริภัณฑ์ไฟฟ้าชารุดเสียหาย อาจ
ทาให้เกิดเพลิงไหม้ ทรัพย์สินเสียหาย และบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้รับอันตรายบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
7
แนวทางในการป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
- เลือกอุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งที่ได้มาตรฐานและติดตั้งตามมาตรฐานที่กาหนด
- มีการตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าอยู่เป็นประจา
- ดูแลบารุงรักษา ทาความสะอาดเครื่องใช้ บริภัณฑ์ไฟฟ้าตามรอบระยะเวลา
- เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับรองมาตรฐาน มอก. หรือ มาตรฐานสากลอื่นๆ
- ศึกษาและใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างถูกวิธี ตามคู่มือที่ผู้ผลิดหรือวิศวกรกาหนด
เมื่อเกิดเพลิงไหม้ที่สายไฟฟ้า เครื่องใช้หรือบริภัณฑ์ไฟฟ้า การดับเพลิงไหม้ที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
จะต้องดาเนินการดังนี้
- ตัดแหล่งจ่ายไฟฟ้าออกถ้าทาได้
- แจ้งเหตุเพลิงไหม้ยังหน่วยดับเพลิงในพื้นที่ หรือ โทรศัพท์แจ้งเหตุไฟไหม้ ขอความช่วยเหลือได้
ตลอด 24 ชั่วโมงที่หมายเลข 199
- ใช้ถังดับเพลิง ชนิด Class C (Electrical Equipment) ที่เหมาสมกับเพลิงไหม้ที่เกิดกับ
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ยังมีกระแสไฟฟ้าอยู่
- ในกรณีที่เป็นไฟฟ้าแรงสูง หม้อแปลง เสาไฟฟ้า ให้แจ้งการไฟฟ้าพื้นที่ การไฟฟ้านครหลวง แจ้ง
โทร 1130 และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโทร 1129
2.2 การเกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากความร้อนจากบริภัณฑ์ไฟฟ้า ยังเกิดจากอีกหลายสาเหตุดังนี้
- ความร้อนจากการใช้งานเกินกาลังของเครื่องใช้ไฟฟ้า
- ความร้อนจากการใช้งานตามปกติของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดความร้อน
- ความร้อนจากการต่อสายไฟฟ้าไม่แน่น ไม่ได้มาตรฐาน
- ขาดการตรวจสอบและบารุงรักษา
- การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าพร้อมกันหลายเครื่องในเต้ารับหรือสายพ่วงเดียวกัน
- ผู้ปฏิบัติงานขาดความรู้ความสามารถในการซ่อมบารุงษา
- การติดตั้งไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า
8
2.3 อันตรายของประกายไฟฟ้า
การลัดวงจรและประกายไฟฟ้า จะกาเนิดความร้อนที่สามารถเผาไหม้เสื้อผ้า และผิวหนังของผู้ที่อยู่ใกล้ใน
ระยะแม้ห่าง 10 ฟุตก็อาจได้รับบาดเจ็บได้ เนื่องจากพลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นอาจมีค่าสูงถึง 20 ,000 องศา
เซลเซียส หรือเทียบได้กับ 4 เท่าของอุณหภูมิพื้นผิวของดวงอาทิตย์เป็นอันตราย ต่อบุคคลผู้ซึ่งต้องปฏิบัติงานอยู่ใน
บริเวณใกล้เคียง
อาร์กจากไฟฟ้ามีพลังงานสูงพอที่จะทาอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ และอาร์กยังมีความร้อนสูง มากจน
ทาให้วัตถุละลายได้ ความร้อน ไอของโลหะที่หลอมละลาย และแสงจ้า เป็นอันตรายต่อบุคคล โดยมี ลักษณะการ
เกิดได้ดังนี้
1. รังสีความร้อนและแสงจ้า อาร์กจะแผ่รังสีออกไปทาให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับอันตราย เกิดแผลไฟ
ไหม้ที่รุนแรงถึงแก่ชีวิตได้สาหรับผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้าต้องสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล
(PPE) ที่เหมาะสมในการป้องกันอันตรายจากประกายไฟ ต้องสวมใส่ชุดปฏิบัติงานที่ทนต่อ ประกายไฟและการลุก
ไหม้ อุปกรณ์และเครื่องมือไฟฟ้าต้องมีการต่อลงดิน และมีป้ายเตือนอันตรายที่เกี่ยวข้อง
2. โลหะหลอมละลาย อาร์กจากไฟฟ้ า แรงสู งสามารถท าให้ช ิ้น ส่ว นอุป กรณ์ ไ ฟฟ้ า ที่ เป็น ทองแดง และ
อะลูมิเนียมหลอมละลายได้ หยดโลหะหลอมเหลวดังกล่าวอาจถูกแรงระเบิดจากคลื่นความดันผลักให้กระเด็นไป
เป็นระยะทางไกลๆ ได้ ถึงแม้ว่าหยดโลหะเหล่านี้จะแข็งตัวอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีความร้อนเหลืออยู่มากพอที่จะทา
ให้เกิดการไหม้อย่างรุนแรง หรือทาให้เสื้อผ้าปกติทั่วไปลุกติดไฟได้ แม้ว่าจะอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากกว่า 3 เมตร
แล้วก็ตาม ดังนั้นจะต้องดูแลไม่ให้มีวัตถุที่ติดไฟได้อยู่ใกล้ รวมทั้งมีวิธีการป้องกันที่เหมาะสมด้วย
9
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ผู้ปฏิบัติงานจาเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับค่าพลังงานที่คานวณได้
อุปกรณ์PPEที่จาเป็นต้องใช้ตามมาตรฐานNFPA 70Eดังนี้
กรณีค่าพลังงานจากการอาร์คที่คานวณได้<12cal/cm^2
– ชุดป้องกันArc-ratedและอุปกรณ์ที่มีระดับการป้องกัน>ค่าพลังงานจากการอาร์คที่คานวณได้
– มีลักษณะเป็นเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวหรือชุดหมี
– แผ่นกระบังหน้าและถุงคลุมศีรษะแบบอ่อน(Balaclava)หรือถุงคลุมศีรษะแบบปกปิดได้ตั้งแต่ศีรษะถึงลาคอ
– หมวกนิรภัย
– แว่นตานิรภัยหรือแว่นครอบตา(goggles)
– อุปกรณ์ป้องกันเสียง
– ถุงมือหนังชนิดHeavy-duty
– รองเท้าหนัง
กรณีค่าพลังงานจากการอาร์คที่คานวณได้>12cal/cm^2
– ชุดป้องกันArc-ratedและอุปกรณ์ที่มีระดับการป้องกัน>ค่าพลังงานจากการอาร์คที่คานวณได้
– มีลักษณะเป็นเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวหรือชุดหมี
– ถุงคลุมศีรษะแบบปกปิดได้ตั้งแต่ศีรษะถึงลาคอ
– หมวกนิรภัย
– แว่นตานิรภัยหรือแว่นครอบตา(goggles)
– อุปกรณ์ป้องกันเสียง
– ถุงมือป้องกันArc-rate
– รองเท้าหนัง
11
บทที่ 3
วิธีการดาเนินงาน
3.2 แผนผังการดาเนินงาน
เริ่มต้น
ทาการออกแบบโปรแกรม
คานวณ
ตรวจสอบหาข้อผิดพลาด แก้ไข
13
สรุป
ขั้นตอนที่ 1 เริ่มต้น
ขั้นตอนที่ 2 ศึกษาทฤษฎี Arc Flash
Arc Flash (อาร์ ก แฟลช) หรื อ ในภาษาไทยจะเรี ย กกั น ว่ า ประกายไฟฟ้ า โดยมั น จะเกิ ด ขึ ้ น เมื ่ อ มี
กระแสไฟฟ้าไหลผ่านช่องว่างของอากาศระหว่างตัวนาไฟฟ้า จนทาให้เกิดเป็นประกายไฟฟ้าขึ้นมา โดยที่ประกาย
ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นนั้นจะมีความจ้าของแสงสูง อีกทั้งยังมีพลังงานของความร้อนในระดับที่ก่อให้เกิดอันตรายได้
ขั้นตอนที่ 3 ทาการออกแบบโปรแกรมคานวณ
มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ Arc flash
- มาตรฐาน IEEE 1584 Guide for Performing Arc Flash Hazard เป็ นมาตรฐานคานวณ Arc flash. โดย
สากลโปรแกรมจาลองระบบไฟฟ้าสากลทัว่ ไป ดังเช่น ETAP จะอ้างอิงคานวณตามมาตรฐานนี้
- NFPA 70E, titled Standard for Electrical Safety in the Workplace
เป็ นมาตรฐานการปฏิบตั ิเพื่อความปลอดภัยและการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นในทางานเกี่ยวข้องกับไฟฟ้า มี
การกาหนดพื้นที่ทางานใกล้ตไู ้ ฟฟ้า แบ่งระดับอันตราย/ความเสี่ ยง [Hazard Risk Category (HRC)
Classification] ตามขอบเขตจากตัวนา ขอบเขตอาร์ก, พื้นที่เข้มงวดการเข้าใกล้ และพื้นที่จากัดการเข้าใกล้ ตาม
ค่าคานวณพลังงานอินซิเดนซ์ (แคลอรี /ตารางเซนติเมตร ). ซึ่งขึ้นอยูก่ บั ตัวแปร ระดับแรงดันไฟฟ้า, กระแส
ลัดวงจร, กระแสอาร์ก, ระยะ ห่างในการปฏิบตั ิงาน และเวลาที่ใช้ในการตัดวงจร และมีการกาหนด. กาหนด
ชนิดเสื้ อผ้าและอุปกรณ์ป้องกันส่ วนบุคคล [Protective Clothing and Personal Protective Equipment (PPE)]
สาหรับใช้ปกป้องอันตราย/ความเสี่ ยงในแต่ละระดับ HRC
14
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบหาข้อผิดพลาด
ตรวจสอบหาจุดบกพร่อง และปัญหาต่างๆในการคานวณหาค่ากระแสลัดวงจรและแก้ไข
ขั้นตอนที่ 5 สรุป
เราสามารถป้องกัน การสัมผัส โดยตรงกับประกายไฟฟ้าได้ โดยการสวมอุปกรณ์ป้องกันส่ว นบุค คล
(Personal Protective Equipment : PPE) ที่ได้รับมาตรฐานและเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการสวมใส่เพื่อป้องกันประกายไฟฟ้านั้น จาเป็นที่จะต้องมีความทนทานต่อพลังงานความร้อน
ของประกายไฟฟ้า โดยการเลือกอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมกับผู้สวมใส่จาเป็นที่จะต้องอาศัยข้อมูลอ้างอิงจาก
ตารางแบ่งชนิดของอันตรายจากประกายไฟฟ้า ตามมาตรฐาน NFPA70E ซึ่งเป็นมาตรฐานที่จะมีการระบุรายการ
ชนิดของงานด้านไฟฟ้า ระดับแรงดันไฟฟ้าต่าง ๆ และระดับของอุปกรณ์ป้องกันที่ควรเลือกใช้กับงานของไฟฟ้าใน
ด้านต่าง ๆ