GE 1082 วิชาโลกท ัศน์ก ับ

การดำเนินชวี ต
ิ
เรือ
่ ง
การแก้ปญ
ั หาความข ัดแย้ง

อาจารย์ศริ น
ิ ทร์พร
ธารม ัติ
ความข ัดแย้งคือ
อะไร?

 ข ัด หมายถึง การไม่ทำตาม
การฝ่ าฝื น ขืนไว ้
 แย้ง หมายถึง ไม่ตรงหรือลง
รอยเดียวกัน ต ้านไว ้
ดังนัน
้ ความข ัดแย้ง หมายถึง
สภาพความไม่ลงรอยกัน ไม่ยอมทำ
ตามและยังมีการต ้านทานเอาไว ้ อน
ั
เนือ
่ งมาจากทางความคิด ความเห็น
หรือการให ้คุณค่า
ความข ัดแย้งย ังรวมถึง
ความแตกต่างในตัวเอง ซงึ่ ทำให ้รู ้สก ึ ไม่สบายใจ
หรือทำให ้เกิดความกลัวในสงิ่ ทีไ่ ม่รู ้หรือเพราะขาด
ความไม่สมบูรณ์ในเรือ ่ งใดๆ
•ตัวอย่างเชน ่ การโต ้เถียง การแข่งขัน วิวาทะ การ
ต่อสู ้ อารยะขัดขืน การสูรบ
้ สงคราม ฯลฯ
ประเภทของ
ความข ัดแย้ง
 ความขัดแย ้งในตนเอง
 ความขัดแย ้งระหว่างบุคคล
 ความขัดแย ้งภายในกลุม ่
 ความขัดแย ้งระหว่างกลุม ่
รูปแบบและสาเหตุ
ของความข ัดแย้ง
 ความข ัดแย้งด้านความสมพ ั ันธ์ เป็ นปั ญหา
่ วกับบุคลิกภาพสว่ นตัว
เกีย
 ความข ัดแย้งด้านผลประโยชน์ เป็ นปั ญหา
เกีย่ วกับความจำกัดของทรัพยากร หรือ
กระบวนการ
 ความข ัดแย้งด้านข้อมูล เป็ นเรือ ่ งเกีย
่ วกับ
ความถูกต ้อง และความเชอ ื่ ถือได ้ของข ้อมูล
 ความข ัดแย้งด้านค่านิยม เป็ นปั ญหาทีม ่ า
จากการมีโลกทัศน์ ความเชอ ื่ หรือปรัชญาต่างกัน
 ความข ัดแย้งด้านโครงสร้าง เป็ นปั ญหาทีม ่ า
จากระดับในสงั คม หรือเป็ นปั ญหาการกระจาย
ความเชอ ื่
ความคิด การปฏิบต
ั ิ
ค่านิยม
ข ้อมูลข่าวสาร
โครงสร ้างและแบบแผนความสม ั พันธ์ของ
คนในสงั คม
บุคลิกภาพและลักษณะนิสย
ั สว่ นตัว
ผลประโยชน์
ผลของความ
ข ัดแย้ง

o แง่บวก : เป็ นความขัดแย ้งทีน

่ ำไปสูก่ าร
่ นแปลงในเชงิ สร ้างสรรค์ สร ้างแรง
เปลีย
จูงใจในการทำงาน
o แง่ลบ : ความขัดแย ้งทีน ่ วาม
่ ำไปสูค
ตึงเครียด มีผลกระทบต่อสุขภาพจิต
 สร้างสร ความ
รค์ เจริญ

ความข ัด
แย้ง

เป็น
ปัญหา

แตกแย ความ
ก ื่ ม
เสอ
ทีม
่ า : http://www.moe.go.th/wijal/conflict.doc
แนวทางในการแก้ไข
ปัญหาความข ัดแย้ง
 การหลีกเลีย ่ ง : การหลีกเลีย ่ งไม่ได ้ทำให ้
ปั ญหาความขัดแย ้งหมดไป เพียงแต่เป็ นการ
หลบเลีย่ งจากปั ญหาทีไ่ ม่ได ้เกิดการแก ้ไข
และพร ้อมทีจ่ ะกลับเข ้ามาแก ้ไขภายหลัง

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก
: https://www.google.com/imgres?imgurl
 การปรองดอง : เป็ นวิธก ี ารแก ้ปั ญหา
โดยการยอมเสย ี สละความต ้องการของ
ตนเองเพือ ่ ให ้ฝ่ ายตรงข ้ามบรรลุความ
ต ้องการของตนเอง ซงึ่ ทำให ้บรรเทาความ
ขัดแย ้งได ้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะคูก ่ รณีท ี่
ได ้รับประโยชน์เกิดความพึงพอใจและยุต ิ
ข ้อขัดแย ้ง แต่อก ี ประโยชน์ก็จะรอ
ี ฝ่ ายทีเ่ สย
วันทีแ่ ก ้แค ้น

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก
://www.google.com/imgres?imgurl
 การประนีประนอม : เป็ นวิธก ี ารทีบ
่ ค
ุ คล
ทัง้ 2 ฝ่ ายทีม
่ ค
ี วามขัดแย ้ง สามารถตกลงกัน
ได ้โดยวิธ ี “พบกันคนละครึง่ ทาง” ต่างฝ่ าย
ต่างยอมลดความต ้องการของตนเองบาง
สว่ น

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก
https://www.google.com/imgres?imgurl
 การแข่งข ัน : เป็ นวิธก
ี ารเอาแพ ้เอาชนะ
่ ให ้ตนเองสามารถบรรลุความต ้องการ ซงึ่
เพือ
้
อาจใชอำนาจหรื อการแสดงความก ้าวร ้าว
รุนแรง

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก
https://www.thaipng.com/png-xhb629/
 การร่วมมือ : คูก ่ รณีทงั ้ สองฝ่ ายยินยอมทีจ ่ ะหัน
หน ้าเข ้าหารือกันเพือ
่ หาวิธท ี ด
ี่ ท
ี ส ุ ในการชว่ ยกัน
ี่ ด
บริหารความขัดแย ้ง

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก
https://www.google.com/imgres?imgurl
เมือ
่ มีความข ัดแย้งเกิดขึน ้
ระหว่างบุคคล 2 คนทีท ่ า่ น
รูจ้ ัก ท่านจะแก้ปญ
ั หา
อย่างไร
 บอกให ้หยุดทะเลาะกัน
 พยายามทำให ้แต่ละฝ่ ายผลัดกันชแ ี้ จงข ้อมูลของ
แต่ละฝ่ าย
 พยายามอธิบายว่าทัง้ สองคนไม่มท ี างได ้รับสงิ่ ที่
ต ้องการเพียงฝ่ ายเดียว
 บอกให ้ทัง้ 2 ฝ่ ายสงบ
 พยามไม่เข ้าไปยุง่
 พยายามหาคนกลางเข ้ามาชว่ ยระงับ
 พยายามชว่ ยให ้ทัง้ สองฝ่ ายหาต ้นเหตุทแ ี่ ท ้จริงของ
ปั ญหา
เมือ
่ ท่านมีความข ัดแย้งก ับ
เพือ่ น ท่านจะแก้ปญั หา
อย่างไร?
 ยืนยันจะให ้ฝ่ ายตรงข ้ามขอโทษ
 เดินหนีไป
 หาคนกลางเข ้ามาไกล่เกลีย ่
 ขมขูฝ ่ ่ ายตรงข ้าม
 เสนอทางเลือกหรือทางออกวิธต ี า่ งๆ ให ้กับอีกฝ่ าย
 เสแสร ้งว่าไม่ได ้ทำผิด
 พยายามหาต ้นเหตุของปั ญหาทีแ ่ ท ้จริง
ถ ้าผิดก็จะขอโทษ
วิธก
ี ารแก้ไขความข ัดแย้งหรือการระง ับข้อ
วิธก ี ารระงับข ้อพิพาททางกฎหมายทีไ่ ด ้รับการ
พิพาททางกฎหมายทีไ่ ด้ร ับการยอมร ับมี 4
ยอมรับมี 4 วิธ ี คือ
วิธคี อ
ื

 การฟ้ องคดีตอ ่ ศาล

การเจรจา คือ กระบวนการต่อ
รองทีเ่ กิดขึน
้ ด ้วยความสมัครใจ
ของคูเ่ จรจาทัง้ 2 ฝ่ าย เพือ ่ นำไป
่ วามตกลงทีจ
สูค ่ ะร่วมมือกัน
แก ้ไขปั ญหา

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก https://www.google.com/search?q

 การไกล่เกลีย ่ คือ กระบวนการระงับข ้อ
พิพาททีม ่ บ
ี ค
ุ คลทีส
่ ามเข ้ามาเกีย
่ วข ้อง โดย
บุคคลทีส ่ ามไม่ได ้ทำหน ้าทีใ่ นการตัดสน ิ ว่าคู่
พิพาทฝ่ ายใดผิดฝ่ ายใดถูก บุคคลทีส ่ ามเพียง
แต่ให ้คำแนะนำหรือชแ ี้ นะแนวทาง

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก
https://www.google.com/search?q
 อนุญาโตตุลาการคือ การตกลงเพื่อให้มีการ
ตัดสินข้อพิพาทโดยบุคคล ซึ่งแต่งตัง้ ขึน
้ โดยคู่
กรณีทงั ้ สองฝ่ ายมีโอกาสที่จะเสนอข้อต่อสู้ของ
ตน และยอมรับที่จะผูกพันตามคำตัดสินนัน ้
แทนการนำข้อพิพาทไปสู่กระบวนการพิจารณา
ของศาลเพื่อลดภาระด้านพิธีการ ความล่าช้า
ค่าใช้จ่าย และความยุ่งยากในการดำเนินคดี
 ดังนัน
้ อนุญาโตตุลาการ คือ กระบวนการที่ไม่ใช่
กระบวนการทางศาลซึ่งระงับข้อพิพาทโดยมีผลผูกพัน
อย่างไรก็ดี การอนุญาโตตุลาการเป็ นกระบวนการที่
อาศัยความยินยอมเห็นชอบจากสองฝ่ าย โดยคู่พิพาท
จะต้องตัดสินใจในขัน ้ ตอนของการทำสัญญาหรือช่วง
หลังจากได้ทำสัญญาแล้ว ว่าจะระงับข้อพิพาทด้วยการ
อนุญาโตตุลาการ
“อนุญาโตตุลาการ” คือ บุคคลที่สามที่มีความเป็ น
อิสระในการพิจารณาและตัดสินคดี โดยคดีหนึ่งอาจมี
อาจมีอนุญาโตตุลาการคนเดียวหรือมากกว่าหนึ่งคนซึ่ง
เรียกว่าคณะอนุญาโตตุลาการ (Arbitral Tribunal) คู่
พิพาททัง้ สองฝ่ ายจะเป็ นผู้ตกลงเลือกผู้ที่จะมาทำ
หน้าที่เป็ นอนุญาโตตุลาการ
คำตัดสินของอนุญาโตตุลาการในกระบวนการ