You are on page 1of 5

 
บทโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดศึกอินทรชิต ตอน พรหมาสตร์
บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
-ปี่พาทย์ทําเพลงวา-
-ปี่พาทย์ทําเพลงเชิด-
-พากย์-
ปางนั้นทศเศียรราชา ออกมหาเสนา
ทรงตรัสประภาสราชการ
สารัตสองอสูรทูลสาร กําปั่นขุนมาร
เสียทัพชีพดับอับปรา
แจ้งข่าวเร่าร้อนวิญญา ตรัสสั่งเสนาจงรีบ
โรงราชพิธี
ทูลอินทรชิตฤทธี เร่งชุบศรศรี
ยกไปบําราบศัตรูพาล
-ร้องเพลงกราวใน-
บัดนั้น ขุนไวยกาสูรใจหาญ
รับสั่งเจ้าลงกาพระยามาร รีบเหาะทะยานผ่านเมฆี
-ปี่พาทย์ทําเพงกราวใน-เชิด-
-ร้องเพลงมอญรําดาบ-
ครั้นถึงโรงพิธีโอรส เข้าไปน้อมประณตบทศรี
ทูลว่าพระบิดาจอมธานี ให้มาแจ้งคดีเรื่องโรมรัน
บัดนี้กําปัน่ ขุนเสนา พลาดท่าปัจจาอาสัญ
ขอพระองค์ชบุ ศรสิทธิ์ฤทธิ์ ฉกรรจ์ไปห้ําหั่นอริรา้ ยให้มรณา
-ร้องเพลงรือ้ ร่าย-
เมื่อนั้น อินทรชิตสิทธิศักดิ์ยักษ์ษา
แจ้งข่าวราวเรือ่ งอับปรา ลืมเนตรโกธาดั่งอัคคี
ลุกขึ้นกระทืบบาทหวาดไหว เหม่ไอ้ไวยกาสูรยักษี
มึงมาทําวิบัติไอ้อัปรีย์ น่าที่ชีวิตจะปลิดปลง
นี้เห็นเป็นรับสั่งบิตุราชย์ หาไม่หัวมึงขาดเป็นผุยผง
(ถอน) ว่าพลางทางจับพระแสงทรง เสด็จลงจากอาสน์ราชพิธี
-ปี่พาทย์ทําเพลงพราหมณ์ออก-

 
-ร้องเพลงช้างประสานงา-
จึงตรัสสั่งรุทกาลมารสนิท กูจะนิรมิตเป็นโกสีย์
แล้วบัญชาการุณย์ราชขุนเสนี แปลงอินทรีย์เป็นคชาเอราวัณ
อันโยธาพยุหอสุเรศ ให้กลายเพศเป็นเทวนางสวรรค์
ให้สาํ หรับร่ายรําระบําบรรพ์ เล่นกันไปหน้าคชาชาญ
-ร้องเพลงฝรั่งควง-
บัดนั้น รุทกาลเสนากล้าหาญ
ก้มเกล้ารับพระบัญชาการ ขุนมารมาจัดโยธา
-ร้องเพลงตระนิมิต-
เมื่อนั้น อินทรชิตสิทธิศักดิ์ยักษ์ษา
ครั้นได้ศุภฤกษ์เวลา จึงนิมิตกายากุมภัณฑ์
-ปี่พาทย์ทําเพลงตระนิมิตอีก ๑ เที่ยว-รัว-
-ร้องเพลงชมตลาด-
เหมือนองค์อมั รินทร์ปิ่นเทวา ลงมาจากไตรตรึงสวรรค์
ยุรยาตรกรายกรจรจรัล เสด็จมาเกอยสุวรรณทันใด
-ปี่พาทย์ทําเพลงบาทสกุณี-
-ปี่พาทย์ทําเพลงกราวนอก-
-ร้องเพลงกราวนอก-
ขึ้นทรงคอคชาเอราวัณ ทหารแห่โห่สนั่นหวั่นไหว
คยายกโยธาคลาไคล ลอยลิ่วปลิวไปในเมฆิน
-ร้องเพลงทะแย-
ช้างทรงดั่งองค์ คเชณของโกสินทร์
สูงง่ามสายเงื้อมสีครินทร์ ขาวสิ้นแผ่นสีเงินงาม
โก่งหางกลางหูพ่หู ้อย งวงชดงาช้อยชาญสนาม
สอดเครื่องเรืองวิไลในสงคราม แวววามวะวับจับตา
เหาะลิ่วเหินลอยในอัมพล พวกพหลพลแห่ซ้ายขวา
ทิวฉัตรธงชัยไสวงาม แสงระยับสายระย้าจามอญ
ฝูงเทพอัปสรฟ้อนร่าย ตามรายตาริ้วอยู่สะหลอน
ข้างทิวเขาแถวสีทันดรฑ์ ขับกุญชรเร่งไปในเมฆา
-ปี่พาทย์ทําเพลงเชิด-

 
-ร้องเพลงกระบอก-
ครั้นมาถึงทีร่ ณรงค์ เห็นองค์พระลักษณ์กนิษฐา
ยืนรถท่ามกลางว่างโยธา อสุราชืน่ ชมด้วยสมคิด
จึงให้หยุดเหล่าพหลพลไกร เกลื่อนกลาดดาษไปอ-กนิฐ
ให้กมุ ภัณฑ์บันดารูปนิมิต แต่งจริตขับรําระบําบรรพ์
-ร้องเพลงสร้อยสน-
ต่างจับระบํารําร่อน ฟ้อนกรายย้ายเต็มแดนสวรรค์
นวยนาตวาดกรเวียนวัน บิดผันเปลี่ยนท่าว่องไว
งามดั่งเทเวศกับอัปสร คมค้อนป้องปัดขวัดไขว้
ใส่จริตให้หลงงงไป ที่ในเล่ห์กลอสุรา
- ปี่พาทย์ทาเพลงเร็ว - ลา –
- เจรจา -
พระลักษมณ์ - พระลักษมณ์ผ้เู ริงรณพร้อมทั้งพลพลากร ดูระบาราฟ้อนบนคัดนานต์ สําคัญผิดคิดว่า
ท้าวมัฆวานองค์เทวราช กับเทเวศร์สาวสุรางค์นางนาฏชาวสวรรค์ มาขับราระบาบรรพ์บาเรอไท้ ยิ่งพิศ
เพลินจําเริญในพระทัยนัก
พระอินทร์แปลง - องค์โอรสทศพักตร์แลเล็งดู เห็นทั่วถ้วนมวลริปูท้งั นายไพร่ ต่างงวยงงหลงใหลใน
เชิงกลจึงกระชับจับศรสิทธิ์ฤทธิรณขึ้นบูชา
- ร้องเพลงเห่เชิดฉิ่ง –
จึงจับพรหมาสตร์ขึ้นผาดสาย หมายองค์พระลักษณ์รังสรรค์
หน่วงหน่าวเหนือคอเอราวัณ กุมภัณฑ์ก็ผาดแผลงไป
- ร้องเพลงร่ายรุด –
บันดาลเป็นศรเกลื่อนกลาด กัมปนาทผาดพื้นแผ่นดินไหว
ต้องพระลักษณ์ท้งั พหลพลไกร สลบไปกับพื้นพสุธา
- ปี่พาทย์ทาเพลงโอด -
-ร้องเพลงลิงโลด-
บัดนั้น หนุมานชาญชัยใจกล้า
แลเห็นพระอินทร์แผลงศรมา ต้องพระอนุชาและพลไกร
พิโรจน์โกรธกลิ้วกระทืบบาท ทําอํานาจเพียงพื้นแผ่นดินไหว
เผ่นทะยานผ่านเมฆามาทันใด เข้าไปคว้าไขว้กุญชร
กรซ้ายหักคอเอราวัณ กรขวาคว้าคันธนูศร
กระชากฉวยด้วยกําลังฤทธิรอน ขุนพานรรบรุกคลุกคลี

 
-ร้องเพลงลิงลาน-
เมื่อนั้น อินทรชิตฤทธิไกรชัยศรี
รับรองป้องกันประจันตี อสุรีหวดด้วยศรชัย
ต้องกายกําแหงหนุมาน เจ็บปวดไปทานกําลังได้
กระเด็นกับคอคชไกร สลบไปในพื้นพสุธา
-ร้องเพลงกราวรําพม่า-
อินทรชิตชืน่ ชมโสมนัส ตบหัตถ์สํารวลสวนร่า
โยธีโห่ร้องก้องโกลา คืนเข้าลงกาเวียงชัย
-ปี่พาทย์ทําเพลงกราวรํา-เชิด-
- ปี่พาทย์ทาเพลงทยอย –
-ร้องเพลงทยอย-
เดินตามชมพูพานทหารหน้า มืดมัวมรรคาหาเห็นไม่
จึงจับคันทวาทิศฤทธิไกร แผลงไปให้สว่างดั่งกลางวัน
-ปี่พาทย์ทําเพลงรัว-
-ร้องเพลงร่าย-
ทอดพระเนตรเห็นโยธาที่มารบ เป็นศพเกลื่อดกลานสิ้นอาสัญ
เห็นกําแหงหนุมานชาญฉกรรจ์ ทับเศียรเอราวัณมรณา
แล้วทรงเห็นองค์พระลักษณ์ ต้องศรสิทธิศักดิ์ยักษา
(ครวญ)จึงวิ่งเข้ามากอดอนุชา โศกาอิงแอบแทบม้วยมรณ์
-ปี่พาทย์ทําเพลงโอด ๒ ชั้น-
-เดี่ยวปี่เพลงโอ้ลาว-
-ร้องเพลงแขกลพบุรี-
โอ้ว่าสมเด็จพระจักรแก้ว ข้าบาทมาแล้วพระทรงศร
จงลืมนัยเนตรพระภูธร ดูพักรเมียก่อนให้คลายใจ
เมื่อพระมาหนีสิ้นชีวนั น้องจะอยู่ไปนั้นกะไรได้
ร่าํ พลางโศกาอาลัย สรวนซบสลบไม่สมประดี
-ปี่พาทย์ทําเพลงโอด-
-ร้องเพลงร่าย-
บัดนั้น ตรีชฎาตกใจดั่งไฟจี้
สงสารองค์สีดานารี รีบคืนเข้าธานีลงกา

 
-ปี่พาทย์ทําเพลงเชิด-
-ปี่พาทย์ทําเพลงฉื่ง-
-เจรจา-
พิเภก – ฝ่ายพิเภกพร้อมพลสวาพลากร เสร็จจากเก็บผลไม้ในดงดรจรมาถึงสนามรบ ต้องตะลึงนิ่งมอง
ลิงมากมายกลายเป็นศพถูกสังหาญ แล้วแลเห็นหนุมานชาญสมรนอนทับเศียรกรี ก็ร้วู ่าอินทรชิตอสุรีมา
ทํากลทั้งองค์พระภุชพลและกระบี่ชมพูพาน มิได้ศรมารผลาญชีวาลัย เพียงแต่สรวนซบสลบไปไม่วายชีวา
ขุนโหราจึงร่ายพระมนตรามหาวิเศษ เป่าไปที่พระราเมศร์และพนาเรศทั้งสองนาย บัดดลก็พลิกฟื้นสกล
กายด้วยมนโหราจารย์
-ปี่พาทย์ทําเพลงรัว-
-ร้องเพลงกล่อมพญา-
เมื่อนั้น พระตรีภพลบโลกทุกสถาน
ลืมเนตรเห็นพิเภกขุนมาร จึงตรัสถามเหตุการณ์เป็นเช่นไร
-เจรจา-
พิเภก – ขอเดชะพระตรีภวู ไนยผู้ทรงฤทธิ์ เหตุที่เกิดเพราะอินทรชิตแปลงกายินเป็นอินทราทรงคชา
เอราวัณที่พลกุมภัณฑ์แปลงอินทรีย์ พอได้ทีก็แผลงพระศรศรีมีนามว่าพรหมาสตร์มาต้องพระศรีอนุชา
สิ้นชีวาตย์พร้อมพลพานร อันสรรพยาที่จะแก้ศรผู้ที่ร้คู ือชมพูพาน เพราะพระอิศวรจอมไกรลาสสถาน
เคยให้ตรวจตรา สํารวจค้นหาสรรพยาทั้งสี่ทวีป ชมพูพานท่านจงรีบกราบบังคมทูล
ชมพูพาน – ข้าแต่พระนเรศูรขอพระองค์ทรงโปรดเกล้า อันสรรพยาแก้พิษศรนั้นเหล่าอยู่ที่เขาชือ่ อาวุธ
ซึ่งหนทางที่จะไปนั้นไกลสุดในจักรวาลพระสุรีย์จึงเทวบัญชาการให้หนุมานชาญศักดาเป็นผู้เดียวซึ่งไปนํา
สรรพยานั้นมาได้ ข้าพระบาทได้กราบทูลขอมูลบัญญัติไว้อย่างถี่ถ้วนตามเทวบัญชาพระอิศวร
พระพุทธเจ้าค่ะ
พระราม – ดูกะระหนุมานท่านจงรับอาสาตามเทวะกําหนด จงรีบไปนําโอสถยังบรรพตชือ่ อาวุธเราขอให้
วายุ-บุตร ทําการได้สมมาถปรารถนา
หนุมาน – คําแหงหนุมานน้อมรับบัญชาพระอวตาร จึงน้อมประณตบทมาลย์รีบจรดล สําแดงฤทธิรน
เหาะขึ้นเมฆา มุ่งไปสรรพยายังอาวุธด้วยฤทธี
-ปี่พาทย์ทําเพลงเชิด-
-ร้องเพลงเขมรสุดใจชั้นเดียว-
ขุนสวาเคาะยาฟุ้งมาต้อง น้องพระหริรกั ษ์เรืองศรี
ทั้งหมู่วานรพลโยธี ก็คืนชีวีขึ้นพร้อมกัน
-ปี่พาทย์ทําเพลงรัว-
-ปี่พาทย์ทาํ เพลงเชิด-

You might also like