Professional Documents
Culture Documents
พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร
พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู หรือที่เรียกกันทั่วไปวา สุนทร
ภู (๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙ - พ.ศ. ๒๓๙๘)
เป น กวี ช าวไทยที่ มี ชื่ อ เสี ย ง ได รั บ ยกย อ งเป น เชกสเป ย ร
แหงประเทศไทย
ไดเขารับราชการเปนกวีราชสํานักในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
พระพุทธเลิศหลานภาลัย
เมื่อสิ้นรัชกาลไดออกบวชเปนเวลารวม 20 ป กอนจะกลับ
เขารับราชการอีกครั้งในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ
นั่ ง เกล า เจ า อยู หั ว โดยเป น อาลั ก ษณ ใ นสมเด็ จ เจ า ฟ า
จุฑามณีกรมขุนอิศเรศรังสรรค
ในสมัยรัชกาลที่ 4 ไดเลื่อนตําแหนงเปน พระสุนทรโวหาร
เจากรมอาลักษณฝายพระราชวังบวร ซึ่งเปนตําแหนง
ราชการสุดทายกอนสิ้นชีวิต
สุนทรภูเปนกวีที่มีความชํานาญทางดานกลอน ไดสราง
ขนบการประพันธกลอนนิทานและกลอนนิราศขึ้นใหมจน
กลายเปนที่นิยมอยางกวางขวางสืบเนือ่ งมา
ในปจจุบัน ผลงานที่มีชื่อเสียงของสุนทรภูมีมากมายหลาย
เรื่องโดยเฉพาะเรื่อง พระอภัยมณี ไดรับยกยองจาก
วรรณคดีสโมสรวาเปนยอดของวรรณคดีประเภทกลอน
นิทาน และเปนผลงานที่แสดงถึงทักษะ ความรู และทัศนะ
ของสุนทรภูอยางมากทีส่ ุด
สุ น ทรภู ไ ด รั บ แรงบั น ดาลใจมากมายจากวรรณคดี
โบราณทั้ง ของไทยและของต างประเทศ และแตงขึ้นโดย
ประณี ต ทั้ ง ตั ว เรื่ อ งและถ อ ยคํ า สํ า นวน ส ว นตั ว เรื่ อ งนั้ น
พยายามตรวจตราหาเรื่องราวที่ปรากฏอยูในหนังสือตางๆ
บาง เรื่องที่รูโดยผูอื่นบอกเลาบาง เอามาตริตรองเลือกคัด
ประดิษฐติดตอ แตง ประกอบกับ ความคิดของสุนทรภูเอง
รวมถึงเคาเรื่องจากเหตุการณในประวัติศาสตร เหตุการณ
ในชีวิตของสุนทรภู และจินตนาการที่ผสมผสานผูกรอยเขา
ดวยกัน
เพื่อขายนําเงินมาเลี้ยงชีพ
เพื่อแตงถวายพระองคเจาลักขณานุคุณ กรมหมื่นอัปสร
สุดาเทพ เพื่อสนองคุณผูทรงมีอป
ุ การะคุณ
คําประพันธในเรื่อง พระอภัยมณี เปนกลอนสุภาพ
ทั้งหมด ดวยเปนความถนัดอยางพิเศษของกวีผน ู ี้ ภาษาที่ใช
มีความเรียบงายตามแบบฉบับของสุนทรภู มีสัมผัสใน
ไพเราะงดงามโดยตลอด ทําใหเปนที่นิยมอานเรื่อยมาแม
ในปจจุบัน
บท บทหนึ่งมี ๔ วรรค
วรรคที่หนึ่ง เรียก “วรรคสดับ”
วรรคที่สอง เรียก “วรรครับ”
วรรคที่สาม เรียก “วรรครอง”
วรรคที่สี่ เรียก “วรรคสง”
แตละวรรคมีแปดคํา จึงเรียกวา กลอนแปด, กลอนสุภาพ
เสียงคําทายวรรค
- คําทายวรรคสดับกําหนดใหใชไดทุกเสียง
- คําทายวรรครับกําหนดหามใชเสียงสามัญกับ
ตรี
- คําทายวรรครองกําหนดใหใชเฉพาะเสียงสามัญกับ
ตรี
- คําทายวรรคสงกําหนดใหใชเฉพาะเสียงสามัญกับตรี
๓. สัมผัส
สัมผัสนอก หรือสัมผัสระหวางวรรค อันเปนสัมผัสบังคับ มี
ดังนี้
- คําสุดทายของวรรคที่หนึ่ง (วรรคสดับ) สัมผัสกับคํา
ที่สามหรือที่หา ของวรรคที่สอง (วรรครับ)
- คําสุดทายของวรรคที่สอง (วรรครับ) สัมผัสกับคํา
สุดทายของวรรคที่สาม (วรรครอง) และคําที่สามหรือที่หา
ของวรรคที่สี่ (วรรคสง)
สัมผัสระหวางบท ของกลอนแปด คือ
- คําสุดทายของวรรคที่สี่ (วรรคสง) เปนคําที่สงสัมผัส
บังคับใหบทตอไปตองรับสัมผัสที่คําสุดทายของวรรคที่สอง
(วรรครับ)
สัมผัสใน ในแตละวรรคของกลอนแปด แบงชวงจังหวะ
ออกเปนสามชวง ดังนี้
“หนึ่งสองสาม – หนึ่งสอง – หนึ่งสองสาม”
ฉะนั้นสัมผัสในจึงกําหนดไดตามชวงจังหวะในแตละวรรค
นั่นเอง ดังตัวอยาง
อันกลอนแปด – แปด คํา – ประจําวรรค
วางเปนหลัก – อัก ษร – สุนทรศรี
พระอภัยมณีและศรีสุวรรณเปนโอรสของทาวสุทัศน
และปทุมเกสร กษัตริยผูครองเมืองรัตนา เจาชายทั้งสองได
ออกเดิ น ทางจากบ า นเมื อ งเพื่ อ เรี ย นไสยศาสตร และ
เสาะหาของวิเศษจากทิศาปาโมกขตามคําสั่งของบิดา แต
พระอภัยมณีกลับเลือกเรียนวิชาดนตรีคือการเปาปไดเปน
เอก มีอานุภาพโนมนาวจิตในคนหรือประหารผูฟงไดตามใจ
ปรารถนา สว นศรี สุว รรณเรี ยนวิ ชากระบี่ กระบองจนเปน
เลิศ
เมื่อกลับมาถึงบานเมือง ทาวสุทัศนโกรธมากที่โอรสไม
ปฏิ บั ติ ต ามคํ า สั่ ง และโดยที่ ไ ม ไ ด พิ จ ารณาคุ ณ ค า ของสิ่ ง ที่
โอรสเรียนมา พระองคไดตรัสในทํานองวานาจะไลออกจาก
เมือง พระอภัยมณีและศรีสุวรรณนอยใจจึงชวนกันออกจาก
เมืองไป
ทั้ ง สองพระองค เ ดิ น ทางมาจนถึ ง ริ ม ฝ ง ทะเล ได พ บ
พราหมณหนุมนอยสามคน มีโมรา ผูชํานาญในการผูกหญา
เปนสําเภายนตทองทะเล วิเชียร ผูสามารถยิงธนูไดคราว
ละ 7 ลู ก และสานน ผู ส ามารถเรี ย กลมฝนได ต ามใจ
ปรารถนา
เมื่อพราหมณทราบปญหาของกษัตริยทั้งสองแลว เกิด
สงสัยในวิชาเปาปของพระอภัยมณีวามีคุณคาอยางไร พระ
อภัยมณีเปาปใหฟง พราหมณทั้งสามรวมทั้งศรีสุวรรณได
ฟงก็เคลิ้มหลับ ระหวางนั้นนางผีเสื้อสมุทร ซึ่งอาศัยอยูใน
ถ้ําใตทะเลไดผานมาเห็นพระอภัยมณีนั่งเปาปอยู ก็นึกรัก
จึ ง อุ ม พาไปไว ในถ้ํา แปลงตนเป น หญิ ง สาวคอยปรนนิ บั ติ
พระอภัยมณีดูดวงตาก็รูวามิใชมนุษยแตก็จําทนตองอยูกิน
กับนางผีเสื้อสมุทร จนมีลูกชื่อวา “สินสมุทร”
ฝายศรีสุวรรณและพราหมณทั้งสามคน เมื่อตื่นขึ้นมา
ไมเห็นพระอภัยมณีก็ออกติดตามจนพลัดหลงไปยังเมืองรม
จักร ศรีสุวรรณปลอมตัวเปนพราหมณเขาเมือง จนไดพบ
นางเกษราธิดาของทาวทศวงศเจาเมือง เกิดความรักตอกัน
ขณะนั้นเมืองรมจักรกําลังประสบปญหาคือ ทาวอุเท
นกษัตริยเมืองชวามาสูขอนางเกษรา ทาวทศวงศไมยอมยก
ให เพราะเห็ น ว า เป น กษั ต ริ ย ต า งชาติ ต า งศาสนา ท า วอุ
เทนยกกองทัพมาตีเมืองรมจักร ศรีสุวรรณและพราหมณ
ทั้งสามอาสาสูศึกจนไดชัยชนะ ศรีสุวรรณไดอภิเษกกับนาง
เกษรา ไดครองเมืองรมจักรและตอมามีธิดานามวา อรุณ
รัศมี
กล า วถึ ง พระอภั ย มณี ไ ด ม าอยู กั บ นางผี เ สื้ อ สมุ ท รที่
แปลงกายเปนหญิงงามจนมี ลูกชาย ๑ คน ชื่อสินสมุทร มี
ลักษณะ คื อ ตาแดง มีกําลังดั่งชางสาร มีเขี้ยวคลายนาง
ผีเสื้อสมุทร เมื่อสินสมุทรอายุได ๘ ป ไดเปดถ้ําและออกไป
ทองเที่ยวนอกถ้ํา ไดพบเงือกและจับมาใหพระอภัยดู เงือก
ขอไวชีวิตและอาสาพาพระอภัยมณีหนีไปเกาะแกวพิสดาร
สวนนางผีเสื้อสมุทรไดฝนรายวามีเทวดาที่เกาะเหาะ
มาทํารายและทุบนางเกือบตาย และเทวดาก็ควักเอาดวงตา
นางเหาะหายไป พระอภัยมณีไดทีจึงออกอุบายใหนางไป
สะเดาะเคราะหรักษาศีล ๓ วัน แลวพระอภัยมณีกับสิน
สมุทรก็หนีไปดวยความชวยเหลือจากเงือกผัวเมียและลูก
สาวเงือก
ฝายผีเสื้อสมุทรเมื่อรักษาศีลจนครบ ๓ วัน กลับมาไม
พบพระอภัยมณีก็ตามหา สินสมุทรมาขัดขวางเพื่อถวงเวลา
นางผีเสื้อสมุทรก็อานพระเวททําใหมองเห็นไปไกลเห็นพระ
อภัยมณีจึงไลติดตามแลวจับนางเงือกสองผัวเมียกิน
นางเงือกพาพระอภัยมณีหนีมาจนถึงเกาะแกวพิสดาร
เมื่อนางผีเสื้อสมุทรตามมาทันและอาละวาด พระฤๅษีจึง
เสกทรายขวางมากลางคลื่น นางผีเสื้อสมุทรกลัวจึงหลบหนี
หายไป
คุณคาดาน คุณคาดาน
วรรณศิลป เนื้อหา
คุณคาดานสังคม
และวัฒนธรรม
โครง
เรื่อง
แกน เนื้อหา
ตัว
เรื่อง ละคร
ฉาก
เริ่มเรื่องที่พระอภัยมณีอยูกินกับผีเสื้อสมุทรจนมีบุตรหนึ่ง
คนชื่อสินสมุทร เมื่อสินสมุทรอายุได ๘ ป ไดวิ่งเลนไปเจอ
แผนหินที่ปดปากถ้ําไวจึงเปดออก และไปจับเงือกชรามา
อวดพอ
พระอภัยมณีจึงเลาความจริงแตหนหลังใหฟงวาแมเปนนาง
ยักษแปลงกาย เงือกชราจึงอาสาจะชวยเหลือสองพอลูกหนี
จากผีเสื้อสมุทร
พระอภัยมณีจึงทําอุบายลวงใหผีเสื้อสมุทรไปจําศีลไกลๆ
เปนเวลา ๓ วัน เงือกชราสองสามีภรรยาและลูกสาวจึง
ชวยเหลือดวยการใหพระอภัยมณีและสินสมุทรขี่หลังไปยัง
เกาะแกวพิสดาร
เมื่อครบ ๓ วัน นางยักษกลับมาที่ถ้ําไมเห็นสองพอลูกก็ออก
ตามหา และไดฆาเงือกชราทั้งสอง แตพระอภัยมณี สิน
สมุทร และนางเงือกรอดพนเงื้อมมือผีเสื้อสมุทร เพราะ
วายน้ําไปถึงเกาะแกวพิสดารไดทัน และไดพระฤาษีที่มีฤทธิ์
ออกมาชวยเหลือ
“เรื่องในตอนนี้จบลงที่ผเี สื้อสมุทรทําอะไรไมไดก็กลับไป”
ตัวละครหลัก ตัวละครรอง
พระอภัยมณี เงือกชราสองสามี
นางผีเสื้อสมุทร ภรรยา
สินสมุทร นางเงือก
พระโยคี
เปนโอรสกษัตริย แตเพราะไปเรียนวิชาเปาปซึ่งไม
เหมาะสมกับการขึ้นครองราชยในอนาคต ทําใหพระราช
บิดากริ้วและถูกขับออกจากวัง
เปนคนรูปงามและมีเสนห
เจาชูจึงทําใหมีภรรยาหลายคน
มีจิตใจออนโยนแตขาดความเด็ดขาด
วิชาความรูที่โดดเดน คือ การเปาป
เปนยักษ อาศัยอยูในถ้ํากลาง
ทะเล สามารถแปลงกายเปน
สาวสวยได
มีความหลงใหลในเสียงปและ
รูปโฉมของพระอภัยมณี เกิด
ความหลงรักจึงลักพาตัว
พระอภัยมณีไปอยูดวยกันในถ้ํา
เปนแมที่ไมดูแลเอาใจใสลูกตัวเองอยางที่ควรจะเปน
เปนบุตรของพระอภัยมณีกับนางผีเสื้อสมุทร
มีอายุประมาณ ๘ ขวบ
มีบุคลิกภาพที่เหมือนพอและแม
เปนลูกที่รักพอมากกวาแม
ใ น เ รื่ อ ง นี้ สุ น ท ร ภู ไ ด ส ร า ง ฉ า ก ส ถ า น ที่ ขึ้ น จ า ก
จินตนาการ อยางไรก็ตามจากการศึกษาของกาญจนา นาค
พั นธุ ในหนั ง สือ ภู มิ ศ าสตร สุ น ทรภู พบวา สุ น ทรภูไ ด
กําหนดตําแหนงสถานที่ตางๆในเนื้อเรื่องเอาไวอยางรัดกุม
ระยะเวลาเดินทางไปสถานที่ตางๆเปนไปอยางถูกตอง ไม
ผิดเพี้ ยน ซึ่ง แสดงใหเห็น ถึง อัจฉริยะในการประพันธของ
สุนทรภู
ทะเลในเรื่องพระอภัยมณีไมใชอาวไทย แตประกอบดวย
ทะเลอันดามัน อาวเบงกอล และมหาสมุทรอินเดีย โดยใน
เรื่องปรากฏชื่อ ทะเล “นาควารินทรสินธสมุทร” ที่เปน
ศูนยกลางของเรื่องพระอภัยมณีก็คือ ทะเลอันดามันและ
อาวเบงกอล อยูบนเสนทางคมนาคมการคานานาชาติที่
เชื่อมระหวาง“ตะวันตก-ตะวันออก”ฉะนั้นจึงมีกําปน
จาก
บานเมืองตางๆ ผานไป-มามากมาย
แกนเรื่องหลัก คือ ชายหญิงที่จะเปนสามีภรรยากัน
หากไมเหมาะสมกัน ไมมีความรักซึ่งกันและกัน ยอมไม
อาจอยูรวมกันได
ดัง จะเห็นไดจากชีวิ ตคูของพระอภั ยมณีกับนางผีเสื้อ
สมุทรที่มีเผาพันธุที่แตกตางกัน คือ มนุษยกับยักษ อีกทั้ง
นางผีเสื้อ สมุท รยังรัก พระอภัยเพียงฝายเดียว โดยที่พระ
อภัยมณีไมไดรักตอบ
ลักษณะ
รส การ
วรรณคดี ประพันธ
ศิลปะการ
ประพันธ
วรรณศิลป
ประพันธดวยรูปแบบของกลอนสุภาพหรือกลอนแปด
เรื่ อ งพระอภั ย มณี
ตอนพระอภั ย มณี ห นี น างผี เ สื้ อ สมุ ท ร
ปรากฏรสวรรณคดีที่โดดเดนอยู ๒ รส คือ พิโรธวาทัง กับ
สัลลาปงคพิสัย
การใชคําที่ทําใหเกิดจินตภาพ สื่อถึงอาการเคลื่อนไหว
การเลนเสียงพยัญชนะที่ทายวรรคทําใหเกิดเสียงและ
จังหวะไพเราะ
การใชคําพรรณาโวหาร
การใชคําที่ทําใหเกิดจินตนาการทั้งภาพ แสง สี เสียง
“กระโหเรียงเคียงกระโหขึ้นโบกหาง
ลอยสลางกลางกระแสแลสลอน
มังกรเกี่ยวเลี้ยวลอดกอดมังกร
ประชุมซอนแฝงชลขึ้นวนเวียน
ฝูงมาน้ําทําทาเหมือนมาเผน
ขึ้นลอยเลนเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน
ตะเพียนทองทองน้ํานําตะเพียน
ดาษเดียรดูเพลินจนเกินม”
การใชภาพพจน ประเภทอุปมา คือ การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่ง
ที่เหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง
“ไมคลาดเคลื่อนเหมือนองคพระทรงเดช
แตดวงเนตรแดงดูดังสุรียฉาย
ทรงกําลังดังพระยาคชาพลาย
มีเขี้ยวคลายชนนีมีศักดา”
การใชถอยคําที่ทําใหผูอานเกิดอารมณขัน
สะทอนใหเห็นถึงวิถีชีวิตความเปนอยูของคนไทยเกี่ยวกับ
การเลี้ยงดูเด็ก
สะทอนใหเห็นวา ในสังคมมีความเชื่อเรื่องความฝน
เคราะหกรรม เทวดา ภูตผีปศาจ เวทมนตรคาถา
สะทอนใหเห็นวา สังคมไทยมีความเมตตาชวยเหลือกัน
สะทอนใหเห็นวา การอยูในสังคมตองใชสติปญญา
สะทอนใหเห็นถึงความรักระหวางสามีภรรยา หากเปน
ความรักที่ไมไดเกิดจากความสมัครใจก็อาจกอใหเกิดปญหา
ครอบครัวได
การพลัดพรากจากสิ่งที่รักจะทําใหเกิดทุกข
เมื่อเปนพอแมควรพูดกับลูกดีๆ พูดดวยเหตุผลและความรัก
ไมใชอารมณ ไมทํารายลูก
ควรเปนคนมีความเมตตากรุณา รูจักชวยเหลือผูอื่นที่กําลัง
เดือดรอน
ไมควรฆาสัตวและทําลายชีวิตผูอื่น
การที่ ชี วิ ต คู ส ามี ภ รรยาจะยื น ยาวนั้ น ทั้ ง สองฝ า ยต อ งมี
ความเหมาะสมกัน ทั้งดานการดําเนินชีวิตและอุปนิสัยจึงจะ
อยูรวมกันได