Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 15
ไฟฟ้าสถิต
บทนา
ไฟฟ้าสถิต ( Electrostatics ) เป็นแขนงวิชาไฟฟ้าที่กล่าวถึงวิชาไฟฟ้าที่ปรากฏนิ่งอยู่กับที่
การเกิดฟ้าแลบ ฟ้าผ่า และได้ยินเสียงฟ้าร้อง เป็นปรากฏการณ์เกี่ยวกับการถ่ายเทของประจุไฟฟ้า
ประจุไฟฟ้าสามารถทาให้เกิดประกายไฟฟ้าได้
เบนจามิน แฟรงคลิน เป็นผู้พิสูจน์โดยใช้ว่าวเป็นเครื่องทดลองว่า มีประจุไฟฟ้าในเมฆ และฟ้าผ่า
คือการถ่ายเทประจุไฟฟ้าเช่นเคียวกันกับการเกิดประกายไฟฟ้าและเบนจามิน เป็นผู้เริ่มทาสายล่อฟ้า
15.1 ประจุไฟฟ้า ( Electric Charge )
ประจุไฟฟ้าคือ ตัวการที่ทาให้เกิดอานาจไฟฟ้า ( แรงดูด )
ทาลิส ( Thales ) นักปราชญ์ชาวกรีกนาแท่งอาพันมาถูกกับผ้าขนสัตว์ แท่งอาพันสามารถดูดวัตถุเบาๆ
ได้ เช่น ขนนก อานาจที่เกิดขึ้นนี้ได้ถูกเรียกว่า อานาจไฟฟ้า
อานาจไฟฟ้า ( Electricity ) คือ ความสามารถแสดงแรงดึงดูดต่อวัตถุต่าง ๆ ได้ อานาจทางไฟฟ้าเรียก
สั้น ๆ ว่า ไฟฟ้า ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Electricity มาจากคาว่า Elektron ในภาษากรีก ซึ่งหมายถึงอาพัน
อาพัน ( Amber ) คือยางสนที่แข็งตัวจนเกือบกลายเป็นหิน มีลักษณะคล้ายพลาสติกโปร่งแสง มีสีน้าตาล
แกมแดง สามารถขัดให้ขึ้นเงาได้ง่าย นิยมทาเป็นเครื่องประดับ มีมากในประเทศเยอรมัน และโปแลนด์ เกิดจาก
ต้นสนทับถมกันจมดินจมทรายมานานนับพันนับหมื่นปี อาพันมีความแข็ง 6 ( เพชรซึ่งแข็งที่สุดมีความแข็ง 10 )
สาเหตุที่ทาให้วัตถุเกิดประจุไฟฟ้าอิสระย่อมทาได้ 3 วิธี
1. การขัดสีกันของวัตถุที่เหมาะสม 2 ชนิด และประจุไฟฟ้าที่เกิดขึ้นบนผิววัตถุคู่หนึ่ง ๆ จะเป็นประจุ
ไฟฟ้าต่างชนิดกันเสมอ ได้มีการทาบัญชีของวัตถุที่ทาให้เกิดไฟฟ้าสถิตโดยการขัดสี โดยเรียงตามลาดับการขัดสี
ดังนี้
1. ขนสัตว์ 11. แก้วผิวขรุขระ
2. ขนแกะ หรือผ้าสักหลาด 12. ผิวหนัง
3. ไม้ 13. โลหะต่าง ๆ
4. เชลแลค 14. ยางอินเดีย
5. ยางสน 15. อาพัน
6. ครั่ง 16. กามะถัน
7. แก้วผิวเกลี้ยง 17. อิโบไนต์
8. ผ้าฝ้าย หรือสาลี 18. ยาง
9. กระดาษ 19. ผ้าแพร ( Amalgamated )
10. ผ้าแพร 20. เซลล์ลูลอยด์
หน้า 2
ข้อสังเกต
1. ปกติเราถือว่าโลกอยู่ในสถานะเป็นกลางทางไฟฟ้า ประกอบกับขนาดของโลกใหญ่มาก เมื่อเทียบกับ
ขนาดของสิ่งต่าง ๆ บนพื้นโลก ดังนั้น การที่คนจะถ่ายเทประจุไฟฟ้าให้กับโลก หรือถ่ายเทประจุไฟฟ้าออกจาก
โลก จะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้าของโลกแต่อย่างใด เพราะปริมาณประจุที่ถ่ายเทนั้น
มีค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณประจุทั้งหมดที่โลกมีอยู่
2. ในกรณีที่ใช้นิ้วแตะก็เช่นกัน จานวนประจุที่ถ่ายเทเข้าออกปลายนิ้วน้อยมาก เมื่อเทียบกับจานวน
ประจุทั้งหมดในร่างกายของเรา
15.5 แรงระหว่างประจุและกฎของคูลอมบ์
จากคุณสมบัติของประจุไฟฟ้าเราทราบว่า ถ้าประจุไฟฟ้าสองประจุวางอยู่ใกล้ ๆ กันมันจะมีแรง
กระทาซึ่งกันและกัน เป็นไปตามกฎของคูลอมบ์ (Coulomb’s law) คือแรงดูดหรือแรงผลักระหว่างประจุไฟฟ้า
เป็นสัดส่วนโดยตรงกับผลคูณระหว่างประจุและสัดส่วนโดยผกผันกับกาลังสองของระยะทางระหว่างประจุนั้น
จากกฎของคูลอมบ์จะได้ว่า
KQ1Q 2
F
R2
+Q +1C
F = KQ2 = E
R R
-Q +1C
F = KQ2 = E
R R
ข้อสังเกต
E เป็นปริมาณ vector การหาความเข้มลัพธ์ หาจากหลักของ vector
ลักษณะของสนามไฟฟ้าเนื่องจากประจุชนิดต่าง ๆ
1. ประจุไฟฟ้าเป็นจุด
Q A
+1C
d
EA = KQ มีหน่วยเป็น N/C
d2
หน้า 8
Q
Q = ประจุไฟฟ้ารวมที่ผิวตัวนาทรงกลม
r . r = รัศมีทรงกลม
c d A
ก. สนามไฟฟ้านอกทรงกลมห่างจากจุด
ศูนย์กลาง d เมตร (ที่จุด A)
B
EA = KQ มีหน่วยเป็น N/C
d2
ข. สนามไฟฟ้าที่ผิวทรงกลม (ที่จุด B)
KQ
EB = มีหน่วยเป็น N/C
d2
F = qE มีหน่วยเป็นนิวตัน
(N)
E E F qE
F = qE
+Q +q +Q -q
E E F qE
F = qE
-Q +q -Q +q
เมื่อ Q = ประจุไฟฟ้าทาให้เกิดสนามไฟฟ้า E
q = ประจุไฟฟ้าที่นาไฟวางในสนามไฟฟ้า E
F = แรงกระทาที่ประจุ q ได้รับจากสนามไฟฟ้า E
หน้า 9
–9
ตัวอย่าง 10 ตัวนาทรงกลมรัศมี 30 cm มีประจุสม่าเสมอที่ผิว 3.0 10 C จงหาค่าสนามไฟฟ้า ณ
ก. จุดห่างจากจุดศูนย์กลาง 40 cm
ข. จุดห่างจากจุดศูนย์กลาง 30 cm
ค. จุดห่างจากจุดศูนย์กลาง 20 cm
–9
ตัวอย่าง 11 ตัวนาทรงกลมรัศมี 60 cm มีประจุสม่าเสมอที่ผิว 2.0 10 C จงหาค่าสนามไฟฟ้า ณ
ก. จุดห่างจากจุดศูนย์กลาง 90 cm
ข. จุดห่างจากจุดศูนย์กลาง 60 cm
ค. จุดห่างจากจุดศูนย์กลาง 40 cm
ง. จุดห่างจากจุดศูนย์กลาง 20 cm
หน้า 11
2
ตัวอย่าง 12 หยดน้ามันมวล 8 mg ลอยอยู่นิ่งในอากาศในสนามไฟฟ้า ซึ่งมีความเข้ม 5 x10 N/C ถ้าประจุไฟฟ้า
ของหยดน้ามันเกิดจากอิเล็กตรอนมีมากเกินจานวนโปรตอน จงหาว่าหยดน้ามันมีอิเล็กตรอนอิสระ
–19
กี่อนุภาค (ให้ประจุอิเล็กตรอน = 1.6x 10 C)
3
ตัวอย่าง 13 หยดน้ามันมวล 4 g ลอยอยู่นิ่งในอากาศในสนามไฟฟ้า ซึ่งมีความเข้ม 1 x 10 N/C ถ้าประจุไฟฟ้า
ของหยดน้ามันเกิดจากอิเล็กตรอนมีมากเกินจานวนโปรตอน จงหาว่าหยดน้ามันมีอิเล็กตรอนอิสระ
–19
กี่อนุภาค (ให้ประจุอิเล็กตรอน = 1.6x 10 C)
4
ตัวอย่าง 14 หยดน้ามันมวล 8 g ลอยอยู่นิ่งในอากาศในสนามไฟฟ้า ซึ่งมีความเข้ม 5 x10 N/Cถ้าประจุไฟฟ้า
ของหยดน้ามันเกิดจากอิเล็กตรอนมีมากเกินจานวนโปรตอน จงหาว่าหยดน้ามันมีอิเล็กตรอนอิสระ
–19
กี่อนุภาค (ให้ประจุอิเล็กตรอน = 1.6x 10 C)
หน้า 12
-1.0 10 9 C D C +1.0 10 9 C
+1.0 10 9 C A B +2.0 10 9 C
หน้า 13
-1.0 10 9 C D C +1.0 10 9 C
+2.0 10 9 C A B +2.0 10 9 C
หน้า 14
+ + +
+ +
+ +
++ + +
+
ขนาดของสนามไฟฟ้า (E)
กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของสนามไฟฟ้าเนื่องจากประจุบนตัวนาทรงกลมกับระยะห่างจากจุด
ศูนย์กลางของทรงกลม
4. เส้นแรงไฟฟ้าย่อมมีทิศตั้งฉากกับผิวของวัตถุ
5. บริเวณที่มีเส้นแรงไฟฟ้าหนาแน่นมาก ขนาดของสนามไฟฟ้าบริเวณนั้นจะมีค่ามากบริเวณมีเส้น
แรงไฟฟ้าหนาแน่นน้อยขนาดของสนามไฟฟ้าจะมีค่าน้อย
6. เส้นแรงไฟฟ้ามีความหนาแน่นสม่าเสมอ ขนาดของสนามไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวจะมีค่าสม่าเสมอ
เช่น สนามไฟฟ้าระหว่างแผ่นโลหะขนานจะมีค่าคงที่และมีค่าเท่ากับอัตราส่วนระหว่างความต่าง
ศักย์ ระหว่างแผ่นทั้งสองกับระยะห่างระหว่างแผ่น มีหน่วยเป็นโวลต์/เมตร หรือ นิวตันต่อคูลอมบ์
หน้า 15
+ + + + +
+ V
E=
V E d d มีหน่วยเป็น V/m
- - - - -
Q1 Q 2 Q1 Q 2
+C E 2 + E1
. E1
+Q 1 E2 N E 1 +Q 2 +Q 1 -Q 2 N
รูป a รูป b
ถ้า N เป็นจุดสะเทินจะได้
E1 = E 2
. .
Q
A +1C
E p = qV มีหน่วยเป็นจูล Joule
หรืออาจให้นิยามศักย์ไฟฟ้า EP
V=
ในรูป q มีหน่วยเป็น J/C หรือ Volt
ลักษณะของศักย์ไฟฟ้า เนื่องจากประจุชนิดต่าง ๆ
1. ประจุไฟฟ้าเป็นจุด ศักย์ไฟฟ้าที่เป็นจุดใด ๆ ห่างออกไป d เมตร
. .
Q
d
A
V A = KQ
d
มีหน่วยเป็น Volt
R
.
Q
C
d
.A
Q = ประจุไฟฟ้าที่ผิวตัวนาทรงกลม
R = รัศมีของทรงกลม
ก. ศักย์ไฟฟ้าภายนอกทรงกลม
ห่างจากศูนย์กลาง d เมตร
B
(ที่จุด A)
V A = KQ มีหน่วยเป็น Volt
d
ข. ศักย์ไฟฟ้าที่ผิวทรงกลม (ที่จดุ B)
V B = KQ
R มีหน่วยเป็น Volt
ค. ศักย์ไฟฟ้าภายในทรงกลม (ที่จุด C)
V C = KQ มีหน่วยเป็น Volt
R
V AB = V A - V B
มีหน่วยเป็น Volt
V BA = V B - V A
. .
E
ให้ V = ความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างจุด A กับจุด B
ในสนามไฟฟ้า E
q qE
q = ประจุไฟฟ้าที่เคลื่อนระหว่างจุด A กับ B
A B E
W = พลังงานไฟฟ้าที่สนิ้ ไปจากการเคลื่อนประจุ q
W
V=
q
W = qV
ความสัมพันธ์ระหว่างสนามไฟฟ้ากับความต่างศักย์ไฟฟ้า
+ E -
+ -
+ d -
+ -
+q
+ -
+ -
E
A B
หน้า 20
V
E=
d มีหน่วยเป็น V/m
เมื่อ E = สนามไฟฟ้า
V = ความต่างศักย์ระหว่างจุด 2 จุดในสนามไฟฟ้า
d = ระยะระหว่างจุด 2 จุดในสนามไฟฟ้า
พิจารณาความเร็วของประจุ
ถ้านาประจุ +q ไปวางที่จุด A ประจุ +q จนเคลื่อนที่จาก A ไปยัง B ทาให้พลังงาน
ศักย์ไฟฟ้าเปลี่ยนไปเป็นพลังงานจลน์
จากหลักการอนุรักษ์พลังงาน
พลังงานศักย์ไฟฟ้าที่ลด = พลังงานจลน์ที่เพิ่มขึ้น
1
qV = mv 2
2
2qV
V= มีหน่วยเป็น m/s
m
พิจารณาความเร่งของประจุ
แรงบนประจุมวล m , F = ma (กฎข้อที่ 2 ของนิวตัน)
แรงบนประจุเนื่องจาก E , F = qE
a = qE มีหน่วยเป็น m/s 2
m
หน้า 21
–8
ตัวอย่าง 22 ประจุไฟฟ้า 4 x 10 C อยู่ห่าง A และ B เป็นระยะ 2 cm และ 9 cm จงหา
ก. ศักย์ไฟฟ้าที่จุด A และ B
ข. ความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างจุด A และ B
–8
ค. พลังงานในการเคลื่อนประจุ 2 x 10 C จาก A ไป B
–8
ตัวอย่าง 23 ประจุไฟฟ้า 8 x 10 C อยู่ห่าง A และ B เป็นระยะ 4 cm และ 9 cm จงหา
ก. ศักย์ไฟฟ้าที่จุด A และ B
ข. ความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างจุด A และ B
–8
ค. พลังงานในการเคลื่อนประจุ 1 x 10 C จาก A ไป B
หน้า 23
15.9 ตัวเก็บประจุและความจุไฟฟ้า
ตัวเก็บประจุ หมายถึง ตัวทาหน้าที่เก็บประจุไฟฟ้า
ความจุไฟฟ้า (Capicity) หมายถึง ความสามารถในการรับประจุของวัตถุ วัตถุใดสามารถรับ
ประจุได้มาก โดยทาให้ศักย์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นน้อย เรียกว่า มีความจุไฟฟ้ามาก
หรือ ความจุไฟฟ้าใด ๆ คือ อัตราระหว่างประจุไฟฟ้ากับศักย์ไฟฟ้าของวัตถุนั้น
C= Q
มีหน่วยเป็นฟารัด (F)
V
ความจุของวัตถุชนิดต่าง ๆ
1. ทรงกลมเกลียว
ให้ R = รัศมีของทรงกลม (m)
C = ความจุไฟฟ้า (F หรือ farad)
Q = ประจุที่ผิวทรงกลม (C)
V = ศักย์ไฟฟ้า (V หรือ Volt)
K = ค่าคงที่ = 9 10 9 Nm 2 / C 2
V = KQ
R
Q
แต่ C =
V
R
C= มีหน่วยเป็น Farad
K
หน้า 26
ความจุของตัวนาทรงกลมแปรผันตรงกับรัศมีของทรงกลมนั่นคือ ตัวนาทรงกลม
ใหญ่จะมีความจุมากกว่าตัวนาทรงกลมเล็ก
ความจุไฟฟ้าของโลก ถือว่าเป็นทรงกลมขนาดใหญ่ จะได้ว่าโลกมีความจุไฟฟ้ามหาศาล เมื่อโลก
ให้หรือรับประจุจากวัตถุอื่น ศักย์ไฟฟ้าของโลกจึงเปลี่ยนแปลงน้อยมากจนถือได้ว่าโลกยังเป็นกลางทางไฟฟ้า
คือ มีศักย์ไฟฟ้าเป็นศูนย์
ตัวอย่าง 26 ลูกทรงกลมโลหะรัศมี 4.5 เซ็นติเมตร มีประจุอยู่ที่ผิวอย่างสม่าเสมอ 6 C จงหาความจุของ
ทรงกลม
2. แผ่นโลหะที่ขนานกัน
- + C= Q
และ C = 0 A
V d
- +
- + เมื่อ C = ความจุไฟฟ้า (F)
- + Q = ประจุไฟฟ้าโดยการเหนี่ยวนา(C)
X Y ----
d -- V = ความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างแผ่นทั้ง
สอง (V)
A = พ.ท. ของแผ่นโลหะ (m 2 )
d = ระยะระหว่างแผ่นโลหะ (m)
0 = Permittivity Constant = 8.85 10 12 C 2 / N-m 2
หน้า 27
Q
ความต่างศักย์ไฟฟ้า V
O V A
1
พ.ท. ใต้กราฟ = พลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ = U = QV
2
2
พลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ (U) = 1 QV = 1 CV 2 = 1 Q
2 2 2 C
หน้า 28
การต่อตัวจุไฟฟ้า
1. ต่อแบบอนุกรม ประจุ Q บน แต่ละตัวเท่ากัน
C1 C2 C3
a b c d
V ad = V ab + V bc + V cd
Q Q Q Q
= + +
C C1 C2 C3
1 1 1 1
= + +
C C1 C2 C3
2. ต่อแบบขนาน ความต่างศักย์ระหว่างแต่ละตัวเท่ากัน
Q1 C 1 Q = Q1 + Q 2 + Q 3
Q 2 C2 CV ab = C 1 V ab + C 2 V ab + C 2 V ab + C 3 V ab
Q3 C3
C = C1 + C2 + C3
A b
ตัวอย่าง 32
C 2 = 4f
Q 1 C 1 = 3f Q2
a c Q3 b
C 3 = 2f
หน้า 30
ตัวอย่าง 33
C 2 = 8f
C 1 = 6f Q2
a c Q3 b
C 3 = 4f
การต่อตัวนา เรามีหลักดังนี้
1. แตะภายใน วัตถุ 2 อัน มีประจุไฟฟ้าทั้งคู่ โดยอันในแตะผิวของอันนอก
ประจุไฟฟ้าทั้งหมดจะไปอยู่ที่ผิวนอกของอันนอก
เช่น ลูกกลม B มีประจุ -1.0 10 7 คูลอมบ์ แตะ
ภายในลุกกลม A ซึ่งมีประจุ 9.0 10 7 คูลอมบ์
A B จงหา ประจุของ A และ B
ก. A มีประจุเป็นลบ
ข. B มีประจุเป็นบวก
ลูกกลม B จะมีประจุไฟฟ้า = 0 ทั้งสองกรณี
ก. ประจุที่ผิวนอก A = (-9.0 10 7 ) + (-1.0 10 7 )
= -10.0 10 7 C
ข. ประจุที่ผิวนอกของ A = (+9.0 10 7 ) + (-1.0 10 7 )
= +8.0 10 7 C
หน้า 31
A B
ก. จะมีการถ่ายเทประจุไฟฟ้ากันจนมีศักย์ไฟฟ้าเท่ากัน ประจุไฟฟ้าจึงหยุดถ่าย
ข. ประจุไฟฟ้ารวมทั้งหมดก่อนต่อ = ประจุไฟฟ้ารวมทั้งหมดหลังต่อ
ค. ความจุรวมขณะที่ต่อ = ผลบวกของความจุของวัตถุแต่ละอัน
Vt = V A = VB
Qt = Q A + QB
Ct = C A + CB
ตัวอย่าง 34 ลูกทรงกลมโลหะ X และ Y มีรัศมี 1.0 และ 0.2 เมตร ตามลาดับ มีปริมาณไฟฟ้า
สถิต 2.0 10 6 และ 2.0 10 6 คูลอมบ์ ตามลาดับ ถ้าใช้ลวดเล็ก ๆ ต่อกัน โดย
มิให้ประจุไฟฟ้าสูญ หายไป ถามว่า
ก. ไฟฟ้าสถิตไหลไปทาง X หรือ Y
ข. ภายหลังที่ต่อกันแล้ว X หรือ Y จะมีศักย์ไฟฟ้า และปริมาณไฟฟ้าเป็นเท่าใด
หน้า 32
ตัวอย่าง 35 ลูกทรงกลมโลหะ X และ Y มีรัศมี 1.0 และ 0.2 เมตร ตามลาดับ มีปริมาณไฟฟ้า
สถิต 2.0 10 6 และ 1.0 10 6 คูลอมบ์ ตามลาดับ ถ้าใช้ลวดเล็ก ๆ ต่อกัน โดย
มิให้ประจุไฟฟ้าสูญ หายไป ถามว่า
ก. ไฟฟ้าสถิตไหลไปทาง X หรือ Y
ข. ภายหลังที่ต่อกันแล้ว X หรือ Y จะมีศักย์ไฟฟ้า และปริมาณไฟฟ้าเป็นเท่าใด
15.10 การนาความรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าสถิตไปใช้ประโยชน์
ปัจจุบันมีการผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่อานวยประโยชน์ต่างๆ โดยอาศัยความรู้เรื่องไฟฟ้าสถิตดัง
ตัวอย่างต่อไปนี้
1.เครื่องกาจัดฝุ่นในอากาศ หรือเครื่องฟอกอากาศ เป็นอุปกรณ์กาจัดอนุภาค จากแก๊สเผา
ไหม้ หรือจากอากาศร้อนที่สกปรก ประกอบด้วยท่อโลหะที่มีแกนกลางยึดติดด้วยฉนวน ดังรูป
หน้า 33
หลักการใช้ความต่างศักย์สูงจากไฟกระแสตรงโดยต่อขั้วลบเข้ากับแกนกลาง และต่อขั้วบวกเข้า
กับท่อทาให้เกิดสนามไฟฟ้าที่มีค่าสูงมากพอที่จะทาให้อนุภาคในอากาศสกปรกที่ผ่านไปในท่อได้รับอิเล็กตรอน
จากแกนกลางจนกลายเป็นอนุถาคประจุลบ และถูกดูดเข้าไปติดที่ท่อพร้อมๆ กับท่อถูกทาให้สั่นเป็นจังหวะ
อนุภาคที่สะสมบนท่อจึงร่วงหล่นลงส่วนล่างของท่อและถูกปล่อยออก แก๊สหรืออากาศที่ผ่านออกทางตอนบน
ของท่อจึงเป็นแก๊สหรืออากาศสะอาด
2) เครื่องพ่นสี ใช้หลักการทาให้ผงหรือละอองสีกลายเป็นอนุภาคมีประจุไ ฟฟ้า ขณะถูก
พ่นออกจากเครื่องพ่น ชึ่งผงหรือละอองสีที่มีประไฟฟ้าเกิดแรงดึงดูดชิ้นงาน ทาให้สีเกาะชิ้นงานนั้น
ได้ดีกว่าการพ่นแบบธรรมดา อุปกรณ์ที่ใช้พ่นละอองสีแสดงไว้ดังรูป
ในกรณีที่ชิ้นงานเป็นโลหะ อาจจะทาให้ผิวโลหะมีประจุไฟฟ้าตรงข้ามกับผงสีโดยต่อชิ้นงาน
กับแหล่งกาเนิดที่มีความต่างศักย์สูงๆ จะช่วยเพิ่มแรงดูด ทาให้ผงหรือละอองสียึดเคลือบ
ผิวชิ้นงานดียิ่งขึ้น และช่วยให้ประหยัดผงสี เนื่องจากไม่ฟุ้งกระจาย
3.เครื่องถ่ายลายนิ้วมือ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายลายนิ้วมือบนผิววัสดุประเภทกระดาษ
พลาสติก เช่น ถุงกระดาษ ธนบัตร แฟ้ม มีส่วนประกอบดังรูป
หน้า 34