You are on page 1of 36

36 กลยุทธ์

รวบรวมจาก thaisamkok.com โดย arzusa cz

กลยุทธ์ที่ 1 ปิ ดฟ้าข้ามทะเล

กวนอูตด
ิ อยูใ่ นวงล้อม

กลยุทธ์ท ี่ 1 ปิ ดฟ้าข้ามทะเล กลยุทธ์นม ี วามหมายว่า สิง่ ทีต


ี้ ค ่ นคิดว่าได ้ตระเตรียมไว ้อย่างพร ้อมมูลแล ้ว ก็มักจะ
มึนชาและประมาทศัตรูได ้ง่าย สิง่ ทีพ
่ บเห็นอยูเ่ สมอในยามปรกติก็ไม่เกิดความสงสัยอีกต่อไป ทีว่ า่ “มืดอยูใ่ นสว่าง
ไม่อยูต
่ รงข ้ามสว่าง” ก็คอ
ื กลอุบายแจ ้งมีอบ
ุ ายลับ อุบายลับจะปรากฏเป็ นจริงขึน
้ ในอุบายแจ ้งนัน
้ เอง “สว่าง” คือ
เปิ ดเผย แจ ้งชัด “มืด” คือแฝงเร ้น ปกปิ ด ความหมายของคําว่า “สว่าง มืด” ก็คอ
ื ในรูปแบบทีเ่ ปิ ดเผยอย่างทีส
่ ด

แฝงเร ้นไว ้ด ้วยเนือ
้ หาทีป
่ ิ ดลับทีส ุ การใช ้อุบายประสานกันทัง้ มืดและสว่าง ยอมเป็ นกลยุทธ์อน
่ ด ั เป็ นปกติวส ั ของคู่
ิ ย
ต่อสู ้ ในการสัประยุทธ์หํ้าหัน
่ ซึง่ กันและกัน ทีก
่ ลยุทธ์นช ื่ “ปิ ดฟ้ าข ้ามทะเล” ก็คอ
ี้ อ ื การสร ้างภาพลวงฝ่ าข ้ามทะเลไป
โดยไม่ให ้ฝ่ ายตรงข ้ามรู ้เนือ ่ ใช ้ในด ้านการทหาร มิได ้หมายถึงการข ้ามทะเลด ้วยการปกปิ ดเป็ นเฉพาะ แต่
้ รู ้ตัว เมือ
่ สองประเทศรบกัน ฝ่ ายหนึง่ ใช ้กลยุทธ์สร ้างภาพลวงขึน
หมายถึงว่าเมือ ้ ปกปิ ดความจริง มึนชาฝ่ ายตรงข ้าม นีก
้ ็คอ

กลยุทธ์ใช ้การพรางตามาปกปิ ดจุดประสงค์ของตนมิให ้ฝ่ ายตรงข ้ามพบเห็น ได ้ง่าย เพือ
่ บรรลุภาระหน ้าทีท
่ ไี่ ด ้
กําหนดไว ้อย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “สําหรับเรือ
่ งทีม
่ ค
ี วามเคยชิน มนุษย์เรามักจะปล่อยปละละเลยต่อการระมัดระวัง มิได ้ป้ องกัน
ให ้เข ้มงวดกวดขัน
 

 
 

กลยุทธ์ที่ 2 ล้อมเว่ยช่วยจ้าว

เล่าปี่ ล ้อมซุนหวน

่ ยจ้าว กลยุทธ์นม
กลยุทธ์ท ี่ 2 ล้อมเว่ยชว ี้ ค ่ ข ้าศึกรวมศูนย์กําลังพลไว ้ ควรจะใช ้กลอุบายดึงแยก
ี วามหมายว่า เมือ
ข ้าศึกออกไป ทําให ้กําลังพลกระจัดกระจาย ห่วงหน ้าพะวงหลัง ครัน
้ แล ้วจึงเข ้าโจมตี นีก ื “ศัตรูรวมมิสู ้ศัตรูแยก”
้ ็คอ
ั สงครามในสมัยโบราณ ขนานนามยุทธศาสตร์การส่งทหารเข ้าบุกข ้าศึกก่อนเป็ น “ศัตรูแจ ้ง” ส่วน
และตําราพิชย
ยุทธศาสตร์กําราบข ้าศึกทีหลังเป็ น “ศัตรูมด
ื ” ภายในสภาพการณ์ทแ
ี่ น่นอน การบุกข ้าศึกทีหลังได ้เปรียบกว่าการส่ง
ี้ มายถึงการใช ้ศิลปะการต่อสู ้ทางการทหารทีเ่ รียกว่า “ถ ้ามาหลายก็ให ้แยก” “ถ ้าบุกก็
ทหารเข ้าบุกก่อน กลยุทธ์นห
ให ้ถอย” “การส่งทหารเข ้าบุกก่อนมิสู ้ตีโต ้ตอบทีหลัง” นีเ้ ป็ นกลยุทธ์ท ี่ “เลีย
่ งแน่นตีกลวง เลีย
่ งแข็งตีออ
่ น เลืย
่ งที่
สงบตีทป
ี่ ั่ นป่ วน เลีย
่ งทีฮ ึ เหิมตีทย
่ ก ี่ อ
่ ท ้อ” เพือ ้ ้าศึกในภายหลังอย่างหนึง่ ในตําราพิสงั
่ ขับข ้าศึกและเข ้าบดขยีข
สงครามซุนวู บทว่าด ้วย “จริงลวง” ได ้เขียนไว ้ว่า “เรารวมเป็ นหนึง่ ข ้าศึกแยกเป็ นสิบ เราก็มากข ้าศึกก็น ้อย”
ี้ งึ สรุปว่า “อย่าปะทะกับข ้าศึกซึง่ หน ้า ควรใช ้ยุทธวิธวี กวนทีเ่ ป็ นประโยชน์แก่ฝ่ายตน แบ่งแยกกําลังของ
กลยุทธ์นจ
ิ เสีย”
ข ้าศึกให ้กระจายเป็ นหลายส่วน แล ้วจึงพิชต
 
กลยุทธ์ที่ 3 ยืมดาบฆ่าคน

ม ้าเท ้งแห่งเสเหลียง

กลยุทธ์ท ี่ 3 ยืมดาบฆ่าคน กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหวายว่า เมือ ั แต่มต
่ ศัตรูปรากฏแน่ชด ิ รยังลังเล สิง่ ทีพ
่ งึ กระทําก็คอ

ี ย่างหนึง่ ใช ้ความขัดแย ้ง ยืมกําลังของคนอืน
ล่อให ้พันธมิตรออกไปปะทะศัตรู นีเ้ ป็ นกลวิธอ ่ ไปทําลายศัตรู เพือ

รักษากําลังตนเองไว ้ แต่การยืมเช่นนีจ
้ ะต ้องให ้แนบเนียน มิฉะนัน
้ แล ้วก็ไม่อาจทําลายศัตรูได ้ กลับอาจถูกศัตรูย ้อน
รอย กลยุทธ์นไี้ ด ้ถูกนํ าไปใช ้อย่างกว ้างขวาง ใน “จดหมายเหตุราชวงศ์ฮน
ั่ หลังประวัตห
ิ วางหยุน” มีเรือ
่ ง “ลิโป้
ฆ่าตัง๋ โต๊ะ” ใน “สามก๊ก” ก็มเี รือ
่ ง “ขงเบ ้งยืมกําลังของซุนกวนไปต ้านโจโฉทีผ
่ าแดง” หรือ “โจโฉแตกทัพเรือ” เป็ น
ต ้น
ี้ รุปว่า “เมือ
กลยุทธ์นส ่ ศัตรูมท
ี ท
ี า่ แจ่มชัด แต่กําลังของฝ่ ายเรายังมิกล ้าแข็ง ควรจะหาทางอาศัยกําลังของ
ั รู หลีกเลีย
พันธมิตรไปโจมตีศต ่ งการสูญเสียของฝ่ ายเรา ด ้วยวิธท
ี งั ้ ปวง”
 
กลยุทธ์ที่ 4 รอซํ้ายามเปลี้ย

อ ้วนเสีย้ วแตกทัพ

กลยุทธ์ท ี่ 4 รอซํา้ ยามเปลีย


้ กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ ประสงค์จักทําให ้ข ้าศึกตกอยูใ่ นภาวะลําบาก ไม่แน่วา่
จะต ้องใช ้วิธรี บแต่ฝ่ายเดียว อาจจะใช ้วิธ ี “แกร่งเสียอ่อนได ้” ตามทีก
่ ล่าวไว ้ใน “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ สูญเสีย เมือ
่ ให ้ได ้รับชัย
ชนะก็ได ้” ความหมายของ “แกร่งเสีย” ก็คอ
ื เมือ
่ การรุกของข ้าศึกดุเดือดยิง่ นัก ดูภายนอกแล ้วเสมือนหนึง่ เข ้มแข็ง
ใหญ่โตเหลือประมาณแต่ไม่อาจรบต่อเนือ
่ งได ้ ยาวนาน อ่อนเปลีย
้ เพลียแรงได ้ง่าย “อ่อนได ้” ก็คอ
ื ฝ่ ายรับทีท
่ ําการ
ป้ องกัน ถูกตีกระหนํ่าดูแล ้วเหมือนหนึง่ อ่อนปวกเปี ยก แต่สามารถจะใช ้ความสงบรอความเปลีย
้ บัน
่ ทอนกําลังข ้าศึก
ไม่ขาดระยะ ทําให ้ตนแปรเปลีย
่ นจากฝ่ ายเสียเปรียบเป็ นฝ่ ายได ้เปรียบ นีค
้ อ
ื กลอุบายในการยึดกุมเป็ นฝ่ ายริเริม
่ ใน
สงคราม รอโอกาสทําลายข ้าศึกแปรการรับให ้เป็ นการรุกอย่างหนึง่ กลยุทธ์นม
ี้ ป ั สงครามหลาย
ี รากฏอยูใ่ นตําราพิชย
เล่ม เช่น “ซุนจือ ว่าด ้วยการศึก” “ยุทธวิธรี ้อยแปด ว่าด ้วยสงคราม” “ว่าด ้วยการระดมพลเหนือใต ้” “บันทึกจ่อจ ้วน”
“บันทึกประวัตศ ั่ ” ซึง่ ใน “ว่าด ้วยการระดมพลเหนือใต ้” กล่าวไว ้ว่า“ทราบจากตํารา
ิ าสตร์” “จดหมายเหตุราชวงศ์ฮน
ั สงครามว่าผู ้รับมักสบาย แต่ผู ้รุกมักเหนือ
พิชย ่ ยยาก รอซํา้ ยามเปลีย ั่ หลัง ประวัตฝ
้ ” ใน “จดหมายเหตุราชวงศ์ฮน ิ ง
อี”้ กล่าวว่า “ผู ้บุกกําลังไม่พอ แต่ผู ้รับมีกําลังเหลือเฟื อ บัดนีร้ ักษาเมืองไว ้ก่อน ใช ้ความสงบรอความเปลีย
้ มิจําต ้อง
ไปรบด ้วยเลย”
กลยุทธ์นม ั สงครามซุนจือ
ี้ าจาก “ตําราพิชย ่ ว่าด ้วยการทําศึก” ความเดิมมีวา่ “ใช ้ใกล ้รอไกล ใช ้สบายรอเหนือ
่ ย ใช ้
อิม
่ รอหิว นีค
้ อ
ื การสยบผู ้แกร่งกว่านัน
้ แล”
ี้ รุปว่า “เมือ
กลยุทธ์นส ่ ศัตรูมท
ี ท
ี า่ แจ่มชัด แต่กําลังของฝ่ ายเรายังมิกล ้าแข็ง ควรจะหาทางอาศัยกําลังของ
ั รู หลีกเลีย
พันธมิตรไปโจมตีศต ่ งการสูญเสียของฝ่ ายเรา ด ้วยวิธท
ี งั ้ ปวง”
 

กลยุทธ์ที่ 5 ตีชิงตายไฟ

ปล่อยนํ้ าท่วมค่ายอิกม
๋ิ

กลยุทธ์ท ี่ 5 ตีชงิ ตายไฟ กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ ข ้าศึกอยูใ่ นภาวะวิกฤติ ควรฉวยโอกาสรุกรบโจมตี เพือ
่ ให ้
ได ้มาซึง่ ชัยชนะ หรือให ้ผู ้เข ้มแข็งออกโรงเข ้าแทรกแซงให ้ผู ้อ่อนกว่ายอมสยบด ้วย นีก
้ ค ื ทีเ่ รียกว่า “ใช ้ความแกร่ง
็ อ
ิ ความอ่อน” ความหมายเดิมของ “ตีชงิ ตามไฟ” คือในขณะทีผ
พิชต ่ ู ้อืน
่ ถูกเพลิงเผาผลาญห่วงแต่ตวั เอง ไม่วา่ งกับ
เรือ
่ งอืน
่ ก็ฉวยโอกาสแย่งชิงเอาของผู ้นัน
้ เมาหรือในขณะทีผ
่ ู ้อืน
่ ตกอยูใ่ นอันตรายหรือ ในความลําบาก ก็รก
ุ ลํ้าเอา
ผลประโยชน์ของผู ้นัน ่ นํ ามาใช ้ในการทหาร ก็คอ
้ มา เมือ ื สิง่ ทีต ั สงครามของ “ซุนจือ ว่าด ้วยอุบาย” กล่าวไว ้
่ ําราพิชย
ว่า “ชิงเอาในยามปั่ นป่ วน” หรือที่ “ว่าด ้วยอุบาย” ของตู ้มูน
่ ักการทหารอีกคนหนึง่ กล่าวไว ้ว่า “เมือ
่ ข ้าศึกวุน
่ ว่ายปั่ น
ั สงครามของซุนจือ
ป่ วย อาจฉวยโอกาสช่วงชิงมาได ้” กลยุทธ์นี้ แต่เดิมมาจากตําราพิชย ่ “ว่าด ้วยอุบาย” ทีว่ กล่าว
ไว ้ว่า “ชิงเอาในยามปั่ นป่ วน” ฉะนัน
้ กลบยุทธ์นจ
ี้ งึ เป็ นกลอุบายทีฉ
่ วยโอกาสในยามทีข
่ ้าศึกอยูใ่ นภาวะวิกฤติ เข ้ารุก
รบโจมตีอย่างหนึง่ ทีก
่ ล่าวว่า “เมือ
่ ข ้าศึกมีภย
ั ให ้ฉกฉวยเอาประโยชน์” มิได ้จํากัดอยูแ
่ ต่เพียงในด ้ายการทหาร หาก
จะนํ าไปใช ้ได ้ทัง้ ทางการเมือง เศรษฐกิจและอืน
่ ๆ อย่างกว ้างขวาง จะได ้ผลหรือไม่อย่างใดก็ขน
ึ้ อยูก ั ผู ้ใช ้ ใน
่ บ
บางครัง้ ยังอาจจะใช ้วิธก
ี ารต่างๆ ทําให ้ข ้าศึกเกิดวิกฤติ ให ้เกิดความระแวงสงสัยในกันและกัน ตอกยํ้าความประหวัน

พรั่นพรึงทางจิตใจให ้หนักหน่วงยิง่ ขึน ่ บันทอนพลังสู ้รบของข ้าศึก เป็ นต ้น หลังจากนัน
้ เพือ ้ จึงฉวยโอกาสชิงเอาชัย
้ ็นับอยูใ่ นการใช ้กลยุทธ์นด
นีก ี้ ้วย
ี้ งึ สรุปว่า “เมือ
กลยุทธ์นจ ่ ข ้าศึกประสบกับความยากลําบากทัง้ ภายในและภายนอก จักต ้องรุกโจมตีอย่างไม่ปรานี
ฉวยโอกาสอันดีนี้ กระหนํ่าซํ้าเติมอย่างให ้ตัง้ ตัวติดและพิชต
ิ เอาชัยอย่างได ้ช ้า”
 

กลยุทธ์ที่ 6 ส่ งเสี ยงบุรพาฝ่ าตีประจิม

่ เสย
กลยุทธ์ท ี่ 6 สง ี งบุรพาฝ่าตีประจิม กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า ตามคําอธิบายของ “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ปั่ นป่ วน” คําว่า
“ดุจจมในปลัก” ก็คอ
ื ตกอยูใ่ นภาวะทีร่ วมตัวอยูใ่ นทีเ่ ดียวกัน แต่ขยับตัวหรือกระจายแนวออกต่อตีมไิ ด ้ มีอน
ั ตรายที่
จะพังพินาศได ้ทุกเวลา ประดุจฝูงสัตว์ทข
ี่ าดหัวหน ้า มิมก
ี ารบัญชาทีถ ู ต ้อง ก็จักต ้องพ่ายแพ ้ไม่ช ้าก็เร็ว หรืออีกใน
่ ก
หนึง่ ในระหว่างสงครามาหรือการสัประยุทธ์ใดๆ ก็ด ี เมือ
่ การบัญชาการของข ้าศึกสับสนอลหม่าน มิอาจวินจ
ิ ฉั ยหรือ
ป้ องกันได ้อย่างถูกต ้องทันท่วงที จนเกิดเหตุอน
ั ไม่คาดฝั นขึน
้ พึงฉวยโอกาสทีข
่ ้าศึกวุน
่ วายไร ้การควบคุม ทําลาย
เสีย ทีว่ า่ “ส่งเสียงบูรพาฝ่ าตีประจิม” ยังหมายถึงกลอุบายทีเ่ ห็นอยูท
่ างตะวันออกหยกๆ แต่กลับวกไปอยูท
่ าง
ตะวันตก ส่งเสียงทางนีแ
้ ต่ตท
ี างโน ้น ทําทีถอยแต่กลับรุก ทําทีรก
ุ แต่กลับถอย ลวงล่อข ้าศึกอย่างแนบเนียน ทําให ้
ิ เอาชัยแก่ข ้าศึกอย่างหนึง่ กลยุทธ์นม
ข ้าศึกเกิดความเข ้าใจผิด แล ้วฉวยโอกาสเข ้าพิชต ี้ อ ั สงคราม
ี ยูใ่ นตําราพิชย
หลายเล่มด ้วยกัน เช่น “ซุนจือ ว่าด ้วยภูมป
ิ ระเทศ” “ยุทธ์วธิ รี ้อยแปด ว่าด ้วยสงครามเสียง” “ไหวหนานจือ
่ การฝึ ก
ยุทธวิธ”ี เป็ นต ้น ในเล่มหลังนีก
้ ล่าวว่า “ดังนัน ี ห่งการใช ้ทหาร แสดงให ้เห็นว่าอ่อนแต่ปะทะด ้วยแข็ง
้ มรรควิธแ
แสดงให ้เห็นว่าเปราะแต่ปะทะด ้วยแกร่ง เมือ
่ จะรวบ พึงกระจาย เมือ
่ จักไปประจิม ควรทําทีไปบูรพา” หรือ “คัมภีร ์
ทั่วไป ว่าด ้วยการศึกหลายเลขหก” ของตู ้อิว้ ก็กล่าวไว ้ว่า “ส่งเสียงว่าตีทางบูรพา แต่ทแ
ี่ ท ้ตีทางประจิม”
ี้ รุปว่า “ทีว่ า่ ส่งเสียงบูรพาฝ่ าตีประจิม ก็คอ
กลยุทธ์นส ื โดยภายนอก โดยผิวเผิน ทําให ้ดูเสมือนหนึง่ ว่าจะบุกทางนี้
อย่างจริงจัง แต่ทแ ิ เอาชัยบนความหลงผิดนัน
ี่ ท ้แล ้วกลับบุกอีกด ้านหนึง่ ทําให ้ข ้าศึกหลงผิด แล ้วพิชต ้ ”
 

 
 

กลยุทธ์ที่ 7 มีในไม่มี

อุบายเมืองร ้าง

กลยุทธ์ท ี่ 7 มีในไม่ม ี กลยุทธ์นม ี วามหมายว่า ให ้ใช ้ภาพลวงล่อหลอกข ้าศึก แต่มใิ ช ้จะล่อลวงจนถึงทีส


ี้ ค ่ ด

หากแต่เพือ
่ แปรเปลีย
่ นจากลวงเป็ นจริง ทําให ้ข ้าศึกเกิดความหลงผิด ทีว่ า่ “ลวง” ก็คอ
ื “หลอกลวง” ทีว่ า่ “มืด” ก็
คือ “เท็จ” จากมืดน ้อยไปถึงมืดมาก จากมืดมากแปรเปลีย ื ใช ้ภาพลวงปกปิ ดภาพจริง ผันจาก
่ นเป็ นสว่างแจ ้ง ก็คอ
เท็จลวงให ้กลายเป็ นแท ้จริงแท ้ นีเ้ ป็ นเรือ
่ งในการศึกเท็จลวงและแท ้จริงแท ้สลับกันเป็ นฟั นปลา ในจริงมีเท็จ ในเท็จ
มีจริง “มีในไม่ม”ี หมายถึงกลอุบายซึง่ “จริงในเท็จ” ทีใ่ ช ้ภาพลวงล่อหลอกข ้าศึก ให ้ข ้าศึกเกิดความหลงผิดอย่าง
หนึง่ กลยุทธ์นม
ี้ อ ั สงครามชือ
ี ยูใ่ จตําราพิชย ่ “อุ ้ยเหลียวจือ อํานาจศึก” ซึง่ กล่าวว่า “อํานาจศึกอยูท
่ วี่ ถ
ิ อ
ี น
ั ทําได ้ ผู ้มี
่ เล่มหลัง” ก็กล่าวไว ้ว่า “สรรพสิง่ ใต ้หล ้าเกิดจากมี บางก็เกิด
ี ักมี” ในบทที่ 34 ของ “คัมภีรเ์ หล่าจือ
จักไม่ม ี ผู ้ไม่มจ
จากไม่ม”ี
ี้ รุปว่า “เมือ
กลยุทธ์นส ่ คลอนจิตใจของข ้าศึก มิควรวูว่ าม ควรใช ้ยุทธวิธจ
่ จักสัน ี ริงเท็จเท็จจริงกลับลวงกันไป ทําให ้
ข ้าศึกเกิดความสับสนวุน ่ ําคัญทีส
่ วาย พึงจับจุดอ่อนของข ้าศึก ยืนหยัดจนถึงวาระทีส ่ ด
ุ ครัน
้ แล ้วก็รก
ุ โจมตีอย่างถึง
แก่ชวี ต
ิ ”
 

 
 

กลยุทธ์ที่ 8 ลอบตีเฉิ นชัง

จิวยีแ
่ กล ้งยกทัพบุกเสฉวน

กลยุทธ์ท ี่ 8 ลอบตีเฉินชงั กลยุทธ์นม ี วามหมายว่า ในการศึก ใช ้โอกาสทีฝ


ี้ ค ่ ่ ายข ้าศึกตัดสินใจจะรักษาพืน
้ ที่
แสร ้งทําเป็ นจะโจมตีด ้านหน ้า แต่เข ้าจูโ่ จมในพืน
้ ทีท
่ ข
ี่ ้าศึกไม่สนใจอย่างมิได ้คาดคิด ใน “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ประโยชน์”
เรียกว่า “เข ้าจูโ่ จมดุจพายุ” ซึง่ ก็คอ
ื กลวิธวี กวนลอบเข ้าจูโ่ จมอย่างเป็ นฝ่ ายกระทํา เข ้าตีข ้าศึกโดยมิได ้ระวังตัว
เอาชนะอย่างมหัศจรรย์อย่างหนึง่
ี้ รุปว่า “เมือ
กลยุทธ์นส ่ คูศ ึ ทัง้ 2 ฝ่ ายตัง้ ประจัญหน ้ากัน จงใจสร ้างเป้ าหมายให ้ฝ่ ายตรงข ้ามเพ่งเล็ง รอจนเมือ
่ ก ่
ฝ่ ายตราข ้ามวางกําลังใหญ่ป้องกันไว ้ ณ ทีน
่ ัน ่ ซึง่ ก็คอ
้ แล ้ว จึงรุกรบโจมตีเอาเป้ าหมายอืน ื การใช ้จุดอ่อนแห่งภาวะ
่ ่ ายตรงข ้ามมิได ้คาดคิดมาก่อนแล ้วมิได ้ระมัดระวังตัว จึงได ้มาซึง่ ชัยชนะในการรุกรบ”
จิตมนุษย์ โจมตีในจุดทีฝ
 

 
 

กลยุทธ์ที่ 9 ดูไฟชายฝั่ง

ประหารซัวมอเตียวอุน

กลยุทธ์ท ี่ 9 ดูไฟชายฝั่ง กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ ประสบกับภาวะทีข
่ ้าศึกแตกแยกวุน
่ วายปั่ นป่ วนอย่างหนัก
่ นแปลงอย่างสงบ หากข ้าศึกใช ้ความป่ าเถือ
พึงรอให ้เกิดการเปลีย ่ นแก่กน
ั ต่างพิพากเข่นฆ่ากัน แนวโน ้มก็จักพา
่ วามวินาศเอง ในเวลาเยีย
ไปสูค ่ งนีจ
้ ําต ้องปฏิบต
ั ใิ ห ้คล ้อยตามการเปลีย
่ นแปลงของสภาพข ้าศึก ตระเตรียมไว ้ก่อน
่ ดําเนินการให ้สอดคล ้องกับสภาพการณ์ชงิ มาซึง่ ชัยชนะโดยใช ้การเปลีย
ล่งหน ้า เพือ ่ น แปลงอย่างฉั บพลันของทาง
ฝ่ ายข ้าศึกให ้เป็ นประโยชน์นค
ี้ อ
ื ความหมายของคําว่า “คล ้อยเพือ
่ เคลือ
่ นตาม คล ้อยตามจึงเคลือ
่ น” ใน “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ
ว่าด ้วยสงบ” ซึง่ ก็คอ
ื กลอุบายทีย
่ ด
ึ ถือการแปรผันของข ้าศึก เปลีย
่ นแปลงตามสภาพ เพือ
่ เอาประโยชน์อย่างหนึง่
ั สงคราม “ซุนจือ
กลยุทธ์นเี้ ดิมมาจากตําราพิชย ่ ว่าด ้วยการศึก” ทีว่ า่ “ใช ้ความสงบรอความปั่ นป่ วน ใช ้ความเงียบรอ
ความวุน
่ วาย” ใน “บันทึกประวัตศ
ิ าสตร์ ประวัตจิ างอี”๋ ก็ได ้บันทึกเรือ
่ งของเปี้ ยนจวงจือ ่ กัดกัน” “ได ้
่ ว่า “นังภูดเู สือ
เสือ 2 ตัวเพียงดําเนินการครัง้ เดียว” ซึง่ ก็คล ้ายคลึงกับกลยุทธ์นี้
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “เมือ
่ ข ้าศึกเกิดความปั่ นป่ วนภายใน ให ้รอดูการเปลีย
่ นแปลงโดยสงบ ให ้ข ้าศึกเกิดความ
่ วามพินาศเอง ทีว่ า่ “ไฟ” ในกลยุทธ์นี้ ก็หมายถึงการบาดหมางภายในฝ่ ายข ้าศึก เช่นเกิดมีคน
ปั่ นป่ วน ก ้าวไปสูค
ทรยศหรือไส ้ศึก หรือความปั่ นป่ วน ในช่วงเวลานีเ้ อง การคอยสังเกตการณ์อยูด
่ ้วยความสงบ แล ้วค่อยตักตวงเอาใน
ภายหลังจึงเป็ นกลยุทธ์ทด
ี่ ท
ี ส
ี่ ด
ุ ”
 
 

กลยุทธ์ที่ 10 ซ่อนดาบบนรอยยิม้

เผาทัพแฮหัวตุ ้น

่ นดาบบนรอยยิม
กลยุทธ์ท ี่ 10 ซอ ้ กลยุทธ์นม
ี้ ค ่ ว่าเรามิได ้เคลือ
ี วามหมายว่า จะต ้องทําให ้ข ้าศึกเชือ ่ นไหวอะไร
เลย จึงสงบไม่เคลือ
่ นเช่นกัน ทัง้ เกิดความคิดมึนชาขึน
้ แต่เรากลับดําเนินการตระเตรียมเป็ นการลับ รอคอยโอกาส
เพือ
่ ทีจ
่ ะออกปฏิบต
ั ก
ิ าร โดยฉับพลันทันที แต่ต ้องระวังมิให ้ข ้าศึกล่วงรู ้ก่อน อันจะทําให ้สภาพการณ์เกิด
เปลีย
่ นแปลงไป
“แข็งในอ่อนนอก” คือภายนอกนัน
้ ดูละมุนละไม แต่ภายในนัน
้ เต็มไปด ้วยความแข็งแกร่ง “ซ่อนดาบในรอยยิม
้ ”
ความเดิมหมายถึงโดยผิวเผินก็ออ
่ นโยน แต่ภายในนัน ่ นํ ามาใช ้ ก็คอ
้ มากด ้วยเล่ห ์ เมือ ื กลยุทธ์ท ี่ นอกอย่างในอย่าง
แจ ้งอย่างลับอย่าง ภายนอกแสดงความอ่อนละมุน แต่ภายในแฝงไว ้ด ้วยการเอาเป็ นเอาตายอย่างหนึง่ กลยุทธ์นม
ี้ ี
อยูใ่ น “จดหมายเหตุราชวงศ์ถงั เก่า ประวัตห
ิ ลีอ ี้ ”ู่ ซึง่ กล่าวว่า “ภายนอกของอีฝ
่ ฝ ้ นอบน
ู่ ้อยถ่อมตน พบใครใบหน ้าก็
ยิม
้ ย่องผ่องใส แต่เป็ นคนทีเ่ ห็นแก่ตวั เชือดคอคนได ้ในทางลับ ต ้องการได ้อํานาจ จัดให ้ผู ้อืน
่ ศิโรราบด ้วยตน หาก
ไม่พงึ พอใจใคร ก็จักทําลายเสียโดยพลัน ดังนัน
้ คนจึงโจษจันกันว่า อีฝ
้ มี
ู่ ดาบเป็ นรอยยิม
้ ”

ี้ รุปว่า “พยายามทําให ้ฝ่ ายข ้าศึกเข ้าใจว่าฝ่ ายเรา มิได ้มีการตระเตรียมแต่อย่างใดเลย จึงสูญเสียความ
กลยุทธ์นส
ระมัดระวัง แต่ฝ่ายเรากลับวางแผนอย่างลับๆ เมือ ิ เอาชัยในทันที แต่
่ ตระเตรียมพร ้อมแล ้วก็ให ้รวบหัวรวบหางพิชต
ไม่ควรจะให ้ข ้าศึกรู ้ตัวก่อนเป็ นอันขาด อันอาจจะก่อให ้เกิดอุปสรรค์ทไี่ ม่จําเป็ นขึน
้ ทีว่ า่ “ซ่อนดาบในยิม
้ ” ก็คอ

“ปากหวานใจคด” ใบหน ้านัน
้ ยิม
้ แย ้มแจ่มใส แต่ในใจแฝงไว ้ด ้วยความเหีย
้ มเกรียมทีจ
่ ะเอาชีวต
ิ กัน”
 
 

กลยุทธ์ที่ 11 หลี่ตายแทนถาว

ออกรบตีเมือง

กลยุทธ์ท ี่ 11 หลีต
่ ายแทนถาว กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ การพัฒนาของสถานการณ์มเิ ป็ นผลดีแก่ตน จัก
ต ้องเกิดความเสียหายอย่างหลียกเลีย
่ งไม่พน
ั เพือ
่ ทีจ
่ ะแปรความเสียเปรียบเป็ นความได ้เปรียบ ก็จะต ้องยอมเสีย
่ ประโยชน์แก่ “สว่าง” ซึง่ ก็หมายความว่าจําต ้องเสียสละส่วนหนึง่ เสียค่าตอบแทนน ้อย เพือ
“มืด” เพือ ่ แลกกับชัย
่ ายแทนถาว” ความหมายเดิมเป็ นการเปรียบเทียบความรักใคร่ชว่ ยเลือกกับระหว่างพีน
ชนะทั่วทุกด ้าน “หลีต ่ ้อง แต่
่ ใช ้ในการทหารหรือในกรณีอน
เพือ ื่ ๆ ก็เปรียบเทียบเป็ นการทดแทนซึง่ กันและกัน อันเป็ นกลอุบายทีใ่ ห ้ ก. เข ้า
แทนที่ ข. หรือให ้ ข. แทนที่ ก. อย่างหนึง่ ทีว่ า่ “เสียกําเอากอบ” หรือ “เสียบ่าวเอานาย” ก็เป็ นกลอุบายในทํานอง
นี้ คําๆ นีเ้ ดิมมาจากกวีนพ ่ “ไก่ขน
ิ นธ์บนหนึง่ ชือ ั ” ใน “ชุมนุมกวีน
่ พ
ิ นธ์กเู่ ล่อฝู่ ” ความหมายว่า “ต ้นถาวเกิดทีป
่ ากบ่อ
ต ้นหลีโ่ ตเคียงมาก หนอนบ่อนไชต ้นถาวหลีต ่ ้อยไฉนไยจึงลืม?”
่ ายแทนถาว ต ้นไม ้ยังตายแทนกัน พีน
ี้ รุปว่า “ในขณะที่ 2 ฝ่ ายประจันหน ้ากันอยู่ ไม่ฝ่ายใดฝ่ ายหนึง่ จะต ้องประสบความสูญเสีย จักไม่
กลยุทธ์นส
บาดเจ็บล ้มตายเลยหาได ้ไม่ ในขณะทีก
่ ําลังของทัง้ สองฝ่ ายทัดเทียมกัน ใครจะอยูใ่ ครจะไปยังมิอาจรู ้ได ้ ก็ควรจัก
่ แลกมาซึง่ ผลประโยชน์ใหญ่ทส
ยอมเสียคาตอบแทนไปบ ้างแต่น ้อย เพือ ี่ ด
ุ จึงถูก”
 

 
 

กลยุทธ์ที่ 12 จูงแพะติดมือ

โจโฉโจมตีเมืองลําหยง

กลยุทธ์ท ี่ 12 จูงแพะติดมือ กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหมายว่า แม ้จะเป็ นความเลินเล่อของข ้าศึกเพียงเล็กน ้อย เราก็พงึ
ฉกฉวยเอาประโยชน์ แม ้จะเป็ นชัยชนะเพียงเล็กน ้อย ก็จะต ้องชิงเอามาให ้ได ้ “มืดน ้อย” หมายถึง ความผิดพลาด
เล็กๆน ้อยๆ ของข ้าศึก “สว่างน ้อย” หมายถึงชัยชนะเล็กๆน ้อยๆของฝ่ ายเรา
“จูงแพะติดมือ” หมายถึง อาศัยความประมาทแม ้เพียงเล็กน ้อยของฝ่ ายตราข ้าม ชิงเอาผลประโยชน์มาเป็ นของเรา
เสีย กลยุทธ์นเี้ ป็ นกลอุบายทีใ่ ช ้ช่องอันเป็ นจุดอ่อนข ้าศึก ขยายพลังของตนเองออกไป เหมือนหนึง่ จูงแพะของฝ่ าย
ตรงข ้ามติดมือเราไปด ้วย ช่วงชิงมาซึง่ ชัยชนะอย่างสะดวกใจสบายกายอย่างหนึง่ กลยุทธ์นเี้ ดิมมาจาก “คัมภีรจ
์ งิ
เลีย ่ นพล” ซึง่ กล่าวไว ้ว่า “คอยจ ้องหาจุดอ่อนของข ้าศึก ฉกฉวยเอาประโยชน์ให ้ทันท่วงที”
่ ว่าด ้วยการเคลือ

่ “โอกาสแม ้จะน ้อยแสนน ้อยก็ควรจะใช ้ให ้เป็ นประโยชน์ ชัยชนะแม ้จะเล็กแสนเล็กก็ควรจะช่วง


ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส
ื การใช ้กลอุบายทีอ
ชิงมาให ้ได ้ “จูงแพะติดมือ” ก็คอ ี ฝ่ ายหนึง่ มิสําเหนียกหรือมิได ้รู ้สึกตัว ฉะนัน
่ ก ้ จึงย่อมจะตก
หลุมพรางถูกบัน
่ ทอนหรือได ้รับความสูญเสียอย่างยับเยินโดย มิได ้คาดคิด”
 

 
 

กลยุทธ์ที่ 13 ตีหญ้าให้งูตื่น

ขงเบ ้งวางแผน

กลยุทธ์ท ี่ 13 ตีหญ้าให้งต
ู น
ื่ กลยุทธ์นม
ี้ ค ่ มีสงิ่ ใดพึงสงสัย ควรจังส่งคนสอดแนมให ้รู ้ชัด กุม
ี วามหมายว่า เมือ
สภาพข ้าศึกได ้แล ้ว จึงเคลือ
่ น นีเ้ รียกว่า “สงสัยพึงแจ ้ง สังเกตจึงเคลือ
่ น” ใน “คัมภีรอ ี้ งิ ซํ้า” ได ้อธิบายไว ้ว่า “ใช ้
์ จ
่ ละเอียดแล ้ว จึงเข ้าใจสิง่ นัน
มรรควิธเี ดิมกลับไปมา 7 วัน เมือ ้ ได ้” ความหมายของคํานีก ื ต่อสิง่ ใดก็ตามจังต ้อง
้ ็คอ
สังเกตซํ้าแล ้วซํ้าอีก จึงจะสามารถจําแนกแยกแยะมันได ้ถูก ทีว่ า่ “ซํา้ ซาก คืออุบายรู ้มืด” นัน ่ นํ ามาใช ้ใน
้ เมือ
การทหาร หมายถึงใช ้วิธก ี ําคัญในการเข ้าใจสภาพข ้าศึก ค ้นพบศัตรูท ี่
ี ารสอดแนมหลายครัง้ หลายหน อันเป็ นวิธส
แฝงเร ้นอยู่ ความหมายของ “ตีหญ ้าให ้งูตน
ื้ ” ก็คอ
ื แม ้เราจะตีหญ ้า แต่งท
ู ซ ่ นอยูใ่ นหญ ้าก็ตน
ี่ อ ื่ ตกใจ นีเ้ ป็ นกลอุบายที่
ใช ้การสอดแนม แจ ้งชัดในสภาพข ้าศึกทีเ่ ราโอบล ้อมอยู่ แล ้วตียังจุดหนึง่ ซึง่ จะกระเทือนไปทัง้ แนว หลักจากนัน
้ จึง
ทําลายข ้าศึกให ้แหลกลาญไปทีละส่วนอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “เมือ ั แจ ้งแก่เรา เราไม่ควรจะปฏิตก
่ สภาพของข ้าศึกยังไม่ชด ิ ารอย่างลวกๆ จะต ้องหาทางสืบ
ทราบสภาพของข ้าศึกให ้ถ่องแท ้ ครัง้ เมือ
่ ทราบเจตนาของฝ่ ายตรงข ้ามแล ้ว จึงออกโจมตี เยีย
่ งเดียวกับงูทซ ่ นอยู่
ี่ อ
ในหญ ้า ควรจะใช ้ไม่ตพ
ี งหญ ้าไปรอบๆ เพือ
่ ให ้งูปรากฏให ้เห็น แล ้วจึงจับเอาในภายหลัง ไม่จําเป็ นต ้องบุกเข ้าไปจับ
จนถึงรังงูให ้เปลืองแรง
 

 
กลยุทธ์ที่ 14 ยืมซากคืนชีพ

มหาอุปราชโจโฉ

ี กลยุทธ์นม
กลยุทธ์ท ี่ 14 ยืมซากคืนชพ ี้ ค
ี วามหมายว่า ผู ้ทีม
่ ค ้ จะใช ้อย่างผลีผลาม
ี วามสามารถและมีบทบาทนัน
มิได ้ ส่วนผู ้ทีไ่ ร ้ความสามารถ ก็มักจะมาของความช่วยเหลือจากเรา การใช ้ผู ้ทีไ่ ร ้ความสามารถ มิใช ้เพราะว่าเรา
ต ้องการจะใช ้เขา หากแต่เพราะเขาต ้องการพึง่ เรา คําว่า “เด็กไร ้เดียงสา” มาจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ไร ้เดียงสา” “ยืม
ซากศพคืนชีพ” ความหมายเดิมเปรียบกับของทีต ้ มาใหม่โดยใช ้อีกรูปแบบหนึง่ แต่เมือ
่ ายแล ้ว แต่ได ้ปรากฏตัวขึน ่
ใช ้ในสงครามหรือในการต่อสู ้อืน
่ ใด ก็หมายถึงกลยุทธ์การใช ้พลังทีสามารถจะใช ้ได ้ทัง้ ปวงมาบรรลุซงึ่ เจตนารมณ์
ของ เราอย่างหนึง่ ในประวัตศ
ิ าสตร์แต่กาลก่อน ในระหว่างการผลัดเปลีย
่ นแผ่นดิน จักมีผู ้แกล ้วกล ้าตัง้ ตัวเป็ นใหญ่
้ มามากมาย ซึง่ มักจะแอบอ ้างพระนามของกษั ตริยแ
ขึน ์ ละราชทายาทีส
่ ญ
ู ชาติเป็ นเครือ
่ งมือ ป่ าวร ้องชักชวนให ้กู ้ชาติ
แล ้วได ้ชาติไปครองในภายหลัง นีก ื การใช ้กลยุทธ์ข ้างต ้น การใช ้กําลังสนับสนุนผู ้อืน
้ ็คอ ่ เข ้าโจมตีหรือป้ องกันแทน
เขาโดยทีม
่ เี จตนาจะเข ้า ควบคุมผู ้นัน
้ ก็นับอยูใ่ นกลยุทธ์นเี้ ช่นเดียวกัน
กลยุทธ์นส ่ “ยืมซากคืนชีพ หมายถึงใช ้สิง่ ทีใ่ ช ้ไม่ได ้แล ้วในทางเป็ นจริง หรือฉวยโอกาสทุกอย่างเท่าทีจ
ี้ รุปได้วา ่ ะ
สามารถจักหยิบฉวยได ้ ให ้เป็ นประโยชน์ เพือ
่ บรรลุจด
ุ มุง่ หมายบางประการของตน ให ้รอดพ ้นจากความหายนะ
เพือ
่ ทีจ
่ ะได ้ยืนผงาดขึน
้ มาใหม่ในวันหน ้า หรือไม่วน
ั ใดก็วน
ั หนึง่
 

 
กลยุทธ์ที่ 15 ล่อเสื อออกจากถํ้า

สุมาอี้

ื ออกจากถํา้ กลยุทธ์นม
กลยุทธ์ท ี่ 15 ล่อเสอ ี้ ค
ี วามหมายว่า จะต ้องอาศัยการเปลีย
่ นแปลงของฤดูกาลอันเป็ น
เงือนไขตามธรรมชาติ เช่น หนาว ร ้อน ฝน แจ ้ง เป็ นต ้น ให ้เป็ นประโยชน์อย่างเต็มที่ เพือ
่ สร ้างและเพิม
่ ความ
ยากลําบากให ้กับข ้าศึก ในขณะเดียวกัน ก็ใช ้ภาพลวงทีเ่ ราจงใจสร ้างขึน
้ ล่อให ้ข ้าศึกออกจากแนวป้ องกัน หลังจาก
นัน
้ ก็โจมตีหรือทําลายเสีย “ไปยากก็ลวงให ้มา” คํานีม
่ าจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ยาก” ความว่า “ยาก คือยากลําบาก
อันตรายอยู่ ณ เบือ
้ งหน ้า เห็นภัยก็หยุด นับได ้ว่ารู ้” “มา” มีความหมายว่าเคลือ
่ นย ้ายข ้าศึกหรือให ้ข ้าศึกเคลือ
่ นที่
ในขณะทีส
่ องทัพประจันหน ้ากัน จักรุกเข ้าตีข ้าศึกทีม
่ ก
ี ารเตรียมพร ้อมก็ให ้ลําบากนัก การทีจ
่ ะเข ้าตีจด
ุ แข็งของ
ข ้าศึก มิใช ้แต่จะชนะได ้โดยยาก ซํ้ายังจะเป็ นอันตรายแก่ตนอีกด ้วย “ล่าเสือออกจากถํ้า” ก็คอ
ื กลอุบายทีล
่ อ
่ หลอก
ข ้าศึกให ้ออกมาจากทีต
่ งั ้ อันแข็งแกร่ง แล ้วโจมตีทําลายเสียอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “เมือ
่ ใคร่ทําลายหรือได ้ตัวข ้าศึกจึงต ้องรอโอกาสทีเ่ หมาะสม ประกอบด ้วยเงือ
่ นไขทาง
ธรรมชาติบวกด ้วยมาตรการทีค
่ นเราสร ้างขึน
้ ถ ้าแม ้นบุม
่ บ่ามเข ้าไปในอาณาเขตของข ้าศึกอย่างพลีพลาม ก็มอ
ิ าจ
เห็นตัวข ้าศึก ซํา้ ยังอาจจะถูกลอบตีในทีล
่ บ ้ การใช ้อุบายล่อให ้ข ้าศึกออกมาจากเขต
ั อีกด ้วย ได ้ไม่เท่าเสีย ดังนัน
ของตนแล ้วบทขยีเ้ สีย จึงควร”
 

 
กลยุทธ์ที่ 16 แสร้งปล่อยเพื่อจับ

โจโฉถูกจับ

กลยุทธ์ท ี่ 16 แสร้งปล่อยเพือ
่ จ ับ กลยุทธ์นห ้ จนเกินไปนัก สุนัขก็จักสู ้อย่างจนตรอก
ี้ มายความว่า ถ ้าบีบคัน
ปล่ายข ้าศึกหนี ก็จักทําลายความเหิมเกริมของข ้าศึกได ้ ทว่าต ้องไล่ตามอย่าละ เพือ
่ บัน
่ ทอนกําลังของข ้าศึกให ้กระ
ปลกกะเปลีย
้ ครัน
้ เมือ ้ เรีย
่ สิน ่ วแรงใจก็มค ิ ต่อสู ้ด ้วยแล ้ว จึงจับ อันเป็ นการรบทีไ่ ม่เสียเลือดเนือ
ิ ด ้ อีกทัง้ ทําให ้ข ้าศึก
แตกสลายไปเอง “รอ ฟั งตัว สว่าง” มีอยูใ่ น “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ รอ” “รอ” หมายถึงการรอคอยอย่างอดทน “ฟั งตัว” ก็คอ
ื ไก่
ฟั กไข่จนเป็ นลูกไก่ หมายถึง “ได ้” ส่วน “สว่าง” ก็คอ
ื แสดงสว่าง หมายถึง “ชัยชนะ” ความหมายของกลยุทธ์นท
ี้ งั ้
คําก็คอ ่ สองทัพประจันหน ้ากัน จักต ้องใช ้ความอดทนรอคอย ให ้ใช ้วิธก
ื เมือ ี ารอันแยบยล ให ้ข ้าศึกมาสวามิภก
ั ดิด
์ ้วย
ใจ นีก
้ ็คอ
ื กลอุบายปล่อยป่ านยาวตกปลาตัวโตอย่างหนึง่ กลยุทธ์นม
ี้ อ
ี ยูใ่ น “คัมภีรเ์ หลาจือ
่ บทต ้น” บรรยายไว ้ว่า
“เมือ
่ จักเอา จะต ้องให ้” ในบันทึก “ไท่ผงิ เทียนว๋อ อักษรศาสตร์” ก็มอ
ี ธิบายไว ้ว่า “เมือ
่ จักจับให ้ปล่อย เมือ
่ จักเร็วให ้
ช ้า รอเมือ
่ หย่อนยานจึงตี มิมท
ี ไี่ ม่ชนะ”
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “แสร ้งปล่อยเพือ
่ จับ จุดประสงค์อยูท
่ ี่ “จับ” “ปล่อย” เป็ นวิธก
ี าร “จับ” คือจับทาง “ใจ” ให ้
ยินยอมอ่อนน ้อมทัง้ กายและใจ ผู ้ถูกจับ “ใจ” จักกลายเป็ นข ้าทาสบริวารของอีกฝ่ ายหนึง่ อย่างไม่ลม
ื หูลม
ื ตา จนกว่า
จะเกิดความสํานึกใน “ศักดิศ
์ รี” ของตนเอง กลยุทธ์นี้ จึงเป็ นกลยุทธ์อน ่ ทอนจิตใจสู ้รบและ
ั ชาญฉลาด ในการบัน
ขวัญของข ้าศึก ด ้วยวิธก
ี ารทัง้ แจ ้งและลับอย่างหนึง่ อันได ้ผลเกิดความคาดหมาย นัน
้ แล”
 

 
กลยุทธ์ที่ 17 โยนกระเบื้องล่อหยก

สุมาอีเ้ ห็นโคยนต์

้ งล่อหยก กลยุทธ์นม
กลยุทธ์ท ี่ 17 โยนกระเบือ ี วามหมายว่า ใช ้สิง่ ทีค
ี้ ค ่ ล ้ายคลึงกันไปล่อข ้าศึก ให ้ข ้าศึกต ้อง
อุบายพ่ายแพ ้ไป การใช ้กลยุทธ์นี้ กําหนดขึน ั สงครามชือ
้ ตามสภาพรูปธรรมของข ้าศึก ในตําราพิชย ่ “ร ้อยยุทธการ
พิสดาร การรบทีไ่ ด ้ประโยชน์” กล่าวไว ้ว่า “เมือ
่ ประมือกับข ้าศึก ขุนพลฝ่ ายตราข ้ามโง่เง่ามิรู ้พลิกแพลง จักล่อด ้วย
ุ่ ทหารลอบตีได ้ ข ้าศึกจักพ่ายนีค
ประโยชน์ เขาละโมบในประโยชน์ มิรู ้ผลร ้าย ก็ซม ้ อ
ื “ล่อด ้วยประโยชน์” “โยน
กระเบือ
้ งล่อหยก” คํานี้ เดิมมาจากเรือ ่ ฉางเจีย
่ งราวของกวีสมัยราชวงศ์ถัง 2 คน ชือ ้ น และ จ ้าวกู่ กล่าวคือ ฉาง
เจีย ่ าช ้านาน ครัน
้ นนิยชมชอบและยกย่องบทกวีของจ ้างกูม ้ เมือ
่ ทราบว่าจ ้าวกูเ่ ดินทางมาเมืองซูโจว ก็คาดคะเนว่า
คงจะไปเทีย
่ ว ณ วัดหลิงเอีย ้ ฉางเจีย
๋ นสือ ๋ นจึงเขียนบทกวีไว ้ 2 คําบนผนังวัด เมือ
่ จ ้าวกูม
่ าเห็นเข ้า ก็ตอ
่ บทกวีนอ
ี้ ก

2 คํา จึงกลายเป็ นกวีทค
ี่ รบถ ้วนสมบูรณ์และสวยงาม ไพเราะจับใจยิง่ นัก แต่เนือ
่ งจากบทกวีของฉางเจีย
้ นด ้อยกว่า
ของจ ้าวกู่ คนทัง้ หลายจึงเรียกบกวีของฉางเจีย
้ นเป็ นเสมือนหนึง่ “กระเบือ
้ ง” แต่หากแม ้นมิม ี “กระเบือ
้ ง” ทีฉ
่ าง
้ นเอาไปล่อไว ้ ไฉนเลยจะมาซึง่ “หยก” ของจ ้าวกู่ ทีต
เจีย ่ อ
่ “กระเบือ
้ ง” ชของฉางเจี้ ยนจนกลายเป็ นบทกวีม
่ ค
ี า่ ลํ้า
ทีท
่ ก
ุ คนยกให ้”
้ี รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “วิธห
ี ลอกลวงข ้าศึกมีมากมาย ทีแ
่ ยบค่ายทีส
่ ด
ุ มิมใี ดเกิน ความละม ้ายแม ้น” หรือ “ความ
้ ง” หมายถึงสิง่ ทีไ่ ม่มค
เหมือน” ทีเ่ รียกว่า “กระเบือ ี า่ งวด ส่วน “หยก” นัน
้ เป็ นจิดาสูงค่าอันพึงปรารถนาของผู ้คน
ทัง้ หลาย ทีว่ า่ “โยนกระเบือ ื ใช ้สิง่ ของทีม
้ งล่อหยก” ก็คอ ี า่ น ้อยไปล่อสิง่ ของทีม
่ ค ่ ค
ี า่ สูง กระเบือ
้ งกับหยกนัน
้ มอง
ี ว่ นทีค
ผ่านๆก็มส ่ ล ้ายคลึงกันอยู่ นักการทหารผู ้มีความชํานาญในกลศึก ก็สามารถจะใช ้ความ “ละม ้ายแม ้น” ความ
“เหมือน” ความ “คล ้ายคลึง” ของทัง้ สองสิง่ สร ้างความสับสนฉงนใจให ้แก่ข ้าศึก ฉวยโอกาสทีข
่ ้าศึกกําลังวุน
่ วาย
หรือหลงกลจูโ่ จมเอาชัยโดยพลัน”
 

 
กลยุทธ์ที่ 18 จับโจรเอาหัวโจก

ลิโป้ ถก
ู จับ

กลยุทธ์ท ี่ 18 จ ับโจรเอาห ัวโจก กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหมายว่า จักต ้องตีข ้าศึกในจุดทีเ่ ป็ นหัวโจของกองทัพ เพือ

สลายพลังของข ้าศึก “มังกรสู ้บนปฐพี ก็อบ ้ มาสู ้กับศัตรูบนพืน
ั จนหมดหนทาง” เปรียบประดุจมังกรในทะเล ขึน ้
แผ่นดิน ก็จักปราชัยแก่ข ้าศึกโดยง่าย คํานีเ้ ดิมพบใน “คัมภีรอ ี้ งิ ดิน” ซึง่ แฝงความนัยว่า “จับโจรให ้เอาตัวหัวโจก”
์ จ
อันเป็ นกลอุบายใช ้วิธ ี “ตีงใู ห ้ตีหวั ” เพือ
่ สยบข ้าศึกอย่างหนึง่ “จับโจรเอาหัวโจก” มาจากบทกวีของตู ้ผู่ กวีอมตะ
แห่งอุคราชวงศ์ถังของจีน ความว่า “น ้าวเกาทัณฑ์ต ้องให ้ตึง ลูกเกาทัณฑ์ควรจะยาว ยิงคนควรยิงม ้า จับโจรเอาหัว
โจก”
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ ท ้ของกลยุทธ์นี้ คือให ้โจมตีสว่ นทีส
่ “ความหมายทีแ ่ ําคัญทีส
่ ด
ุ ของข ้าศึก เพือ
่ ไห ้ได ้รับชัยชนะ
้ เชิง ในการบัญชาการรบ จะต ้องสันทัดในการขยายผลของการรบให ้ใหญ่หลวงยิง่ ขึน
อย่างสิน ้ อย่าได ้ปล่อยโอกาส
ทีจ
่ ะได ้รับชัยชนะให ้หลุดลอยไปเป็ นอันขาด หากคิดง่ายๆแต่เพียงว่า ขอให ้โจมตีข ้าศึกถอยไปได ้เท่านัน
้ ก็พอใจ
แล ้ว แต่ไม่ทําลายกําลังหลักของข ้าศึก จับตัวผู ้บัญชาการหรือทลายกองบัญชาการของข ้าศึกให ้ย่อยยับไปแล ้ว ก็
จะเหมือนดัง่ ปล่อยเสือเข ้าป่ า
 

 
กลยุทธ์ที่ 19 ถอนฟื นใต้กระทะ

อ ้วนเสีย้ วพ่ายแพ ้ตรอมใจตาย

กลยุทธ์ท ี่ 19 ถอนฟื นใต้กระทะ กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ เปรียบเทียบกําลังกันแล ้ว มิเหนือกว่าข ้าศึก พิง
หาทางบันทอนความฮึกเหิมลงเสีย “ดุจฟ้ าอยูเ่ หนือนํ้ า” ตามคําอธิบายของ “คัมภีร ์ 64 ทิศ ปฏิบต
ั ”ิ “นํ้ า” หมายถึง
ความแกร่ง “ฟ้ า” หมายถึงความอ่อน รวมแล ้วหมายความว่า เอาอ่อนชนะแข็ง ซึง่ ก็คอ
ื พึงใช ้วิธอ
ี อ ิ แข็ง ฉก
่ นพิชต
้ ในภายหลัง ทีว่ า่ “ดุจฟ้ าอยูเ่ หนือนํ้ า” เปรียบเทียบ
ฉวยโอกาสทําลายกําลังส่วนหนึง่ ของข ้าศึกไปเสีย ให ้พ่ายไปสิน
้ ไปโดยพืน
เป็ นการแก ้ปั ญหาให ้สิน ้ ฐาน กลยุทธ์นเี้ ป็ นอุบายในการบัน
่ ทอนพลังของข ้าศึกทีล
่ ะส่วน จนทําลายข ้าศึก
เป็ นส่วนใหญ่หรือทัง้ หมดได ้อย่างหนึง่ คํานี้ เดิมมาจากหนังสือเรือ
่ ง “ไหวหนานจือ
่ ” ความว่า “เทนํ้ าร ้อนลงในนํ้ า
เดือด มิอาจหยุดเดือด จักต ้องรู ้ลักษณะของมัน ทอนไฟจึงหยุด” ใน “ฎีกาประท ้วงราชวงศ์เหลียง” สมัยเว่อเหนือก็
ว่า “ถอนฟื นจึงหยุดเดือด ตัดหญ ้าพึงถอนราก”
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ึ ซึง่ ติดพันชุลมุนเป็ นอย่างยิง่ นัน
่ “ในสถานการณ์ศก ้ การรบด ้วยภาวะจิตจักเป็ นยุทธวิธท
ี ด
ี่ ท
ี ส
ี่ ด

และเป็ นโอกาสทีจ
่ ะรบให ้ชนะ กล่าวอีกนัยหนึง่ ก็คอ
ื เมือ
่ ใคร่ประสงค์จะทําลายกําลังของข ้าศึก ก็จักต ้องทําลาย
กําลังหลัก ทําลายหัวใจของข ้าศึกเป็ นเบือ
้ งแรก ในเวลาเช่นนี้ จิตใจของแม่ทัพนายกอง ก็คอ
ื “ฟื น” เมือ
่ ถอน “ฟื้ น”
ออกแล ้ว นํ้ าใน “กระทะ”ก็จัก “เดือด” ต่อไปมิได ้ฉั นนัน

 

 
กลยุทธ์ที่ 20 กวนนํ้าจับปลา

ขงเบ ้งปลอมหลอกสุมาอี้

กลยุทธ์ท ี่ 20 กวนนํา้ จ ับปลา กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ ข ้าศึกเกิดความปั่ นป่ วนในกองทัพของตน เราจักต ้อง
ฉวยโอกาสความวุน
่ วาย มิรู ้ทีจ
่ ะทําประการใดของข ้าศึกนี้ แย่งยึดเอาผลประโยชน์มา หรืออีกนัยหนึง่ “เอาชัยจาก
ความปั่ นป่ วน” ดุจดังพายุฝนกระหนํ่ายามคํา่ คืน ทีต ่ ท
่ ํา่ ก็จักขังนํ้ า ผู ้คนจักเข ้าสูน ิ รารมณ์ อันเป็ นปกติวส ั ของ
ิ ย
ธรรมชาติมนุษย์ “กวนนํ้ าจับปลา” ก็คอ
ื กวนนํ้ าให ้ขุน
่ ให ้ปลางุนงง ลงจับก็งา่ ย อันนับเป็ นกลยุทธ์ฉวยโอกาสเข ้าตี
เอาชัย เมือ
่ ข ้าศึกกําลังชุลมุนปั่ นป่ วนอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “ปลาไม่เห็นทิศทางเมือ
่ นํ้ าขุน
่ คนแยกจริงเท็จไม่ออกยามชุลมุน จึงเกิดช่องว่างอันมากหลาย
ทีจ
่ ะเอาประโยชน์ได ้ “กวนนํ้ าจับปลา” ย่อมหมายถึงในสงครามชุลมุนแห่งการแก่งแย่งอํานาจกันนัน
้ ควรฉวย
โอกาสใช ้กําลังทีอ
่ อ ่ ําคัญคือเอาเท็จพรางจริง กวนนํ้ าให ้ขุน
่ นแอโลเลให ้คล ้อยตามความประสงค์ของตน ทีส ่ โดย
เจตนา แล ้วรีบซํ้าเติมเอาชัยแก่ศก
ึ เสีย ดังนี้
 

 
กลยุทธ์ที่ 21 จักจัน่ ลอกคราบ

เล่าปี่ ปลูกผักตบตาโจโฉ

กลยุทธ์ท ี่ 21 จ ักจน
่ ั ลอกคราบ กลยุทธ์นม ี วามหวายว่า รักษาไว ้ซึง่ แนวรบเยีย
ี้ ค ่ งเดิม ให ้ดูน่าเกรงขามเหมือนเก่า
ฝ่ ายมิตรก็มส
ิ งสัย ฝ่ ายข ้าศึกมิกล ้าผลีผลาม ครัน
้ แล ้ว จึงถอนตัวอย่างปกปิ ด เคลือ
่ นกําลังหลักให ้หลบเลีย
่ งไป
“เลีย
่ งเพือ
่ สลาย ลวง” คํานีม
้ าจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ลวง” “เลีย
่ ง” ก็คอ
ื หลบหลีก “ลวง” ก็คอ
ื ทําให ้งงงวย นีน
้ ับเป็ นกล
ยุทธ์ถอยทัพอย่างไม่กระโตกกระตาก เพือ
่ เป้ าประสงค์ทก
ี่ ําหนดไว ้ หรือหลีกเลีย
่ งความสูญเสียอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “จักจั่นรอกคราบ เป็ นวิธส
ี ะบัดให ้หลุดพ ้นจากการเผชิญหน ้ากันข ้าศึก ด ้วยการเคลือ
่ นย ้ายหรือ
ถอยทัพ ทีว่ า่ “ลอก” มิใช ้อย่างตืน ี ่ อ แต่ยังคงไว ้ซึง่ รูปโฉมภายนอก ทว่าได ้ถอดเนือ
่ ตระหนก อย่างขวัญหนีดฝ ้ หา
้ แล ้ว หนีแสดงว่าไม่หนี ปกปิ ดข ้าศึก เพือ
ออกไปหมดสิน ่ ให ้หลุดพ ้นจากห ้วงอันตราย วิธก
ี าร “ลอกคราบ” มีหลาย
แบบหลายอย่าง เนือ ื การใช ้เล่หก
้ แท ้ก็คอ ์ ลหลอกลวงข ้าศึก เป็ นพฤติการณ์ทใี่ ช ้การพรางตา ปลอมปนความจริงเอา
ตัวรอดนัน
้ เอง”
 

 
กลยุทธ์ที่ 22 ปิ ดประตูจบั โจร

กวนอูตด
ิ อยูใ่ นวงล ้อม

กลยุทธ์ท ี่ 22 ปิ ดประตูจ ับโจร กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหมายว่า ต่อข ้าศึกอ่อนแอจํานวนน ้อย พึงโอบล ้อมแล ้ว ทําลาย
้ เพือ
เสียให ้สิน ่ มิให ้เป็ นภัยแก่เราในภายหลัง “ปล่อย มิเป็ นคุณซึง่ ติดพัน” มาจาก “คัมภีรอ
์ ก
ี จิง ปล่อย” “ปล่อย” ใน
ทีน
่ ห
ี้ มายถึงการแตกกระจายออกเป็ นกองเล็กกองน ้อยของข ้าศึก กําลังก็ออ
่ นเปลีย ่ ะสู ้รบแล ้ว “ติด
้ จนไร ้สมรรถนะทีจ
ิ ตามไม่ลดละทัง้ ใกล ้และไกล “มิเป็ นคุณซึง่ ติดพัน” ก็คอ
พัน” หมายถึงการไล่ตด ื ต่อข ้าศึกกองเล็กกองน ้อย ปล่อย
ให ้หนีไปได ้ แม ้จะเล็ก แต่กส
็ ามารถย ้อยกลับมาสร ้างความยุง่ ยากแก่เรา จนเราต ้องไล่ตด
ิ ตามเพือ
่ ทําลายเสีย เช่นนี้
มิเป็ นประโยชน์แก่เรา ความหมายเดิมของ “ปิ ดประตูจับโจร” ก็คอ ่ โจรเข ้าตีชงิ ในบ ้าน ปิ ดประตูบ ้านจึงจะจับ
ื เมือ
โจรไว ้ได ้ ส่วนความหมายทางด ้านการทหารและอืน
่ ๆ ก็อป ้
ุ มาว่าเป็ นกลยุทธ์โอบล ้อมทําลายข ้าศึกกองย่อยๆให ้สิน
เพือ
่ มิให ้ก่อกวน ทําอันตรายแก่เราได ้ในภายหลังอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “เมือ
่ จักจับโจร พึงตัดทางหนี โอบล ้อมไว ้ให ้แน่นหนา หากโจรเข ้าในเมือง จงปิ ดประตูเมือง
ให ้สนิท มิให ้ทางเล็กรอดออกไปได ้ จึงจักถูกจับได ้โดยละม่อม กลับกัน พบโจรก็ไล่ ไม่ปิดประตูเมือง ไล่เหนือไป
ใต ้ โจรก็พ ้นไป โจรทีห
่ นีพ ้น ย่อมจักย่ามใจ จักย ้อยกลับมาอีกพร ้อมด ้วยพรรคพวก หากปิ ดทางหนีโจรจะมิกล ้า อูจ
๋ ื่
อกล่าวไว ้ว่า “โจรทีไ่ ม่คํานึงถึงความตาย หากซ่อนตัวตามสุมทุมพุง่ ไม ้ในป่ ากว ้าง ก็พอจักทําให ้กําลังซึง่ ติดตามมา
่ ขวัญแขวน ลมพันใบไม ้ไหวก็แตกตืน
เป็ นพ ้นคนอกสัน ้ เพราะมิรู ้ว่า โจรจะปรากฏตัวออกมาจูโ่ จมเอาชีวต
ิ เมือ
่ ใด จับ
โจร จึงควรระวังมิให ้เป็ นปลาลอดร่างแห”
 

 
กลยุทธ์ที่ 23 คบไกลตีใกล้

กองทัพ18หัวเมือง

กลยุทธ์ท ี่ 23 คบไกลตีใกล้ กลยุทธ์นห


ี้ มายความว่า เมือ
่ ถูกจํากัดโดยสภาพแวดล ้อม ควรตีเอาข ้าศึกทีอ
่ ยูใ่ กล ้ตัว
จึงจะเป็ นประโยชน์แก่ตน โจมตีข ้าศึกทีอ
่ ยูไ่ กล จักเป็ นผลร ้ายแก่ตน “เปลวไฟลอยขึน
้ นํ้ าบึงไหลลง” หมายความ
ว่า การผูกมิตรนัน ่ ะร่วมมือกันได ้ชัว่ ระยะเวลาหนึง่ คํานีม
้ แม ้ความคิดเห็นจะไม่ตรงกัน ก็สามารถทีจ ้ าจาก “คัมภีรอ
์ ี้
จิง ต่าง” ความว่า “เปลงไฟลอยขึน
้ นํ้ าบึงไหลลง บุรษ
ุ จักร่วมกันเพราะความผิดแผก” ดังนัน
้ ต่อข ้าศึกใกล ้และไกล
พึงมีนโยบายทีแ
่ ตกต่างกัน นีเ้ ป็ นกลยุทธ์ทผ
ี่ ก
ู มิตรกับรัฐไกล เพือ
่ เอาชัยต่อรัฐใกล ้อย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “นีเ้ ป็ นยุทธศาสตร์ยท
ุ ธวิธแ
ี ยกสลายหรือป้ องกันการร่วมมือกันของฝ่ ายตรงข ้าม เพือ
่ บรรลุ
จุดมุง่ หมายในการตีให ้แตกทีล ่ ําโบราณจีนเคยกล่าวไว ้ ว่า “ญาติไกลมิสู ้มิตรใกล ้” นัน
่ ะส่วน ทีค ้ ตรงกันข ้ามกับกล
ยุทธ์นี้ แท ้ทีจ
่ ริงแล ้ว ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในปั จจุบน
ั ความขัดแย ้งกับประเทศไกลมักจะเกิดน ้อย กับ
ประเทศใกล ้กับจะมากว่า เพราะอาจจะมีการกระทบกระทัง้ กันในเรือ
่ งผลประโยชน์และอืน
่ ๆอีกนานาประการ กลยุทธ์
้ งึ เป็ นหลักปรัชญาในการแสวงหาประโยชน์พร ้อมทัง้ ป้ องกันตัวไปด ้วย ในขณะเดียวกัน สุดแต่ผู ้ใดจักใช ้ให ้เกิด
นีจ
ประโยชน์แก่ตน”
 

 
กลยุทธ์ที่ 24 ยืมทางพรางกล

บังทองเข ้าเนินหงส์รว่ ง

กลยุทธ์ท ี่ 24 ยืมทางพรางกล กลยุทธ์นม


ี้ ค ่ ยูใ่ นระหว่าง 2 ประเทศใหญ่เมือ
ี วามหมายว่า ประเทศเล็กทีอ ่ ถูก
ข ้าศึกบังคับให ้สยบอยูใ่ ต ้อํานาจ เราพึงให ้ความช่วยเหลือโดยพลัน เพือ
่ ให ้ประเทศทีถ
่ ก ่ ถือ ต่อประเทศที่
ู ข่มเหงเชือ
ตกอยูใ่ นความยากลําบาก การช่วยเหลือแต่เพียงทางวาจา มิได ้มีการกระทําทีเ่ ป็ นจริง ย่อมจะได ้รับความไว ้วางใจ
่ เพียงวาจา” มาจาก “คัมภีรอ
จากผู ้ทีร่ อดความช่วยเหลือ “ทุกข์ จักมิเชือ ์ จ
ี้ งิ ทุกข์” ความเต็มว่า “เมือ
่ อยูใ่ นทุกข์ จัก
่ ใครโดยง่าย จึงมิเชือ
ไม่เชือ ่ เพียงวาจา” อันนับเป็ นกลยุทธ์ในการหลอกยืมทางผ่าน เพือ
่ บรรลุการให ้ยึดครองอีก
ฝ่ ายทีเ่ ราประสงค์อย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “ปั ญหาของกลยุทธ์นอ
ี้ ยูท ี่ ําว่า “ยืมทาง” ถ ้ายืมทางได ้ ทุกสิง่ ทุกอย่างก็สําเร็จ เพราะฉะนัน
่ ค ้
ผู ้ทีใ่ ช ้กลยุทธ์ยม
ื ทาง จักอ ้างเหตุผลในการยืมทางให ้ดี เพือ
่ ปกปิ ดจุดประสงค์ทแ
ี่ ท ้จริงของตน ความจริงคําว่า “ศัตรู
บังคับให ้(อีกฝ่ ายหนึง่ )สยบ เราพึงแสดงท่าที” นัน
้ ก็คอ
ื ฉวยโอกาสที่ “อีกฝ่ ายหนึง่ ” เพลีย
่ งพลํ้า เรายืมมือเข ้าไป
ช่วย แล ้วเอาประโยชน์จากนี้ อันทีจ
่ ริงการกระทําดังนี้ เป็ นพฤติการณ์ทไี่ ร ้คุณธรรมอย่างยิง่ แต่ในสงครามหรือการ
ต่อสูงใดๆ ตัง้ แต่อดีตจนถึงปั จจุบน
ั เรามักจะเป็ นปรากฏการณ์เช่นนีอ
้ ยูท
่ ั่วไปในชีวต
ิ จริง เพราะเหตุวา่ แต่ละฝ่ าย
่ ต ้นจากผลประโยชน์ของตนเองเป็ นใหญ่ หากปราศจากเสียซึง่ การร่วมมืออันถาวร ก็จักไม่มก
ย่อมจะเริม ี ารช่วยเหลือ
ทีแ
่ ท ้จริง มิตรและศัตรู คํามั่นสัญญากับการปฏิบต
ั จิ งึ พึงจําแนกให ้ชัด พิจารณาให ้ถ่องแท ้ มิฉะนัน
้ แล ้ว หากเห็นแก่
ได ้ถ่อยเดียวก็จักสูญเสียทุกสิง่ ทุกอย่าง แม ้กระทัง้ ชีวต
ิ ตน”
 

 
กลยุทธ์ที่ 25 ลักขื่อเปลี่ยนเสา

กวนอูรับราชการกับโจโฉ

กลยุทธ์ท ี่ 25 ล ักขือ
่ เปลีย
่ นเสา กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า ต่อกําลังทีร่ ว่ มรบด ้วยข ้าศึกกับเราหรือต่อข ้าศึกจักต ้อง
หาทางเปลีย
่ นแปลงแนว รบฝ่ ายนัน
้ อยูเ่ สมอ ถอดถอนเคลือ
่ ย ้ายกําลังสําคัญของฝ่ ายนัน
้ ไป รอให ้ฝ่ ายนัน
้ อ่อนแอ
ต ้องประสบกับความพ่ายแพ ้จึงฉวยโอกาสแปรกําลังฝ่ ายนัน
้ ให ้กลายมาเป็ นของเรา แล ้วควบคุมกําลังของฝ่ ายนัน

ไว ้ใต ้การบัญชา “หยุดซึง่ กงล ้อ” มาจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี่ งิ มิทัน” อันหมายความว่ารถคันหนึง่ นัน
้ สําคัญทีล
่ ้อ ถ ้าหยุดล ้อ
ได ้ก็สามารถบังคับให ้เคลือ
่ นทีไ่ ปตามความประสงค์ของเรา อันเป็ นกลยุทธ์กลืนกําลังของพันธมิตรหรืสลายกําลัง
ของข ้าศึกอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “กลยุทธ์นม ี วามหมาย 2 นัย หนึง่ หมายถึงการหาทางสับเปลีย
ี้ ค ่ นกําลังหลักของพันธมิตร
ชัว่ คราวทีเ่ ป็ นศัตรู โดยเนือ
้ แท ้ เพือ
่ บรรลุวต ้ เสีย ซึง่ ในสมัยศักดินา
ั ถุประสงค์ในการทําลายหรือกลืนกินพันธมิตรนัน
โบราณ มักจะชอบกระทํากันเป็ นนิจ โดยมิได ้คํานึงสัจวาจาหรือศิลธรรมแต่ประการใด อีกนัยหนึง่ หมายถึงเป็ นกล
ยุทธ์ในการโยกย ้ายกําลังหลักของฝ่ ายข ้าศึก โดยใช ้กลลวงต่างๆนานา ทําให ้ข ้าศึกต ้องเปลีย
่ นแนวรบหรือ
เคลือ
่ นย ้ายกําลังไปตามความประสงค์ของเรา ครัง้ แล ้วจึงเข ้าตีจด
ุ อ่อนข ้าศึก เพือ
่ ให ้ได ้รับชัยชนะ ดังนัน
้ ผู ้
บัญชาการทีชาญฉลาดจึงมิใช ้แต่จะสันทัดในการใช ้กําลังพลของฝ่ ายตนเท่านัน
้ หากยังต ้องสันทัดในการ
เคลือ
่ นย ้ายหรือกระจายกําลังของฝ่ ายข ้าศึกด ้วยกลยุทธ์ ให ้เกิดประโยชน์แก่ตนอีกด ้วย”
 

 
กลยุทธ์ที่ 26 ชี้ตน้ หม่อนด่าต้นไหว

โจโฉแย่งธนูจากฮ่องเต ้

ี้ น
กลยุทธ์ท ี่ 26 ชต ้ หม่อนด่าต้นไหว กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ ผู ้ทีเ่ ข ้มแข็งกว่าหรือรัฐใหญ่รังแกผู ้ทีอ
่ อ
่ นแอ
หรือรัฐเล็กแล ้ว ก็ควรจะใช ้วิธก
ี ารตักเตือนให ้เกรงกลัว ถ ้าแม ้นเราแสดงความเข ้มแข็งให ้ประจักษ์ ก็จักได ้รับการ
สนับสนุนจากผู ้อ่อนแอ ถ ้าเรากล ้าใช ้ความรุนแรง ก็จักเป็ นทีย ่ งจึง
่ อมรับนับถือแก่ผู ้อ่อนแอ “แกร่งจึงต ้อนรับ เสีย
ยอมสยบ” เดิมาจาก “คัมภีรอ
์ จ ่ งจึงยอมสยบ นีค
ี้ งิ แม ้ทัพ” ความเต็มว่า “แกร่งจึงต ้อนรับ เสีย ้ อ
ื หนทางปกครอง
แผ่นดินราษฎรจึงขึน ้ ้นหม่อนด่าต ้นไหว” ตรงกับสุภาษิตไทยเราคําว่า “ตีววั กระทบคราด”
้ ต่อ” ความหมายของ “ชีต
่ ใช ้ในการสัประยุทธ์ ไม่วา่ จะเป็ นทางการทหารหรืออืน
แต่เมือ ่ ๆ ก็เป็ นกลยุทธ์ทม
ี่ ค
ี วามหมายในทํานองสร ้าง
เกียรติภม
ู ข
ิ องตนขึน
้ ด ้วยวิธ ี “ฆ่าไก่สอนลิง” เพือ
่ ให ้ฝ่ ายอืน
่ ทีอ
่ อ
่ นแอกว่าหรือผู ้อยูใ่ ต ้การบังคับบัญชายอมสยบด ้วย
อย่าง หนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “เพือ ่ ะดําเนินตามแผนการทีไ่ ด ้วางไว ้ จักต ้องใช ้มาตรการเด็ดขาด จึงจะสามารถได ้รับผล
่ ทีจ
้ ใช ้ว่าจะต ้องอาศัยกําลังความรุนแรงเสมอไป อาจดําเนินด ้วยวิธก
ตามทีไ่ ด ้กําหนด แต่ความเด็ดขาดนัน ี ารหนึง่ ใด ที่
ทําให ้ฝ่ ายตรงข ้างตระหนักในเจตนา ยอมสยบแต่โดยดี เพราะจนปั ญญาทีจ
่ ะต่อตีด ้วยเรา นัน
้ เอง”
 

 
กลยุทธ์ที่ 27 แสร้าทําบอแต่ไม่บา้

ขงเบ ้งรํ่าไห ้ให ้ศพจิวยี่

กลยุทธ์ท ี่ 27 แสร้าทําบอแต่ไม่บา้ กลยุทธ์นม


ี้ ค ่ นไหว อย่าทําเป็ นสูร่ ู ้ทํา
ี วามหมายว่า ยอมแสร ้งทําเป็ นโง่ มิเคลือ
บูม
่ บ่าม คําว่า “ดุจดัง่ อสนีบาตหยุดฟาดฟั น” เก็บความมาจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ หยุด” ความว่า “อสนีบาตฤดูหนาวแฝง
้ พสุธา จักแผดร ้องก ้องนภาคราฤดูใบไม ้ผลิ” ซึง่ ความหมายว่า ผู ้ทีม
กายอยูใ่ ต ้พืน ่ ส
ี ติปัญญามิพงึ แสดงตัว แต่พงึ
เตรียมการทัง้ ปวงอย่างลับๆ ประหนึง่ คมดาบอยูใ่ นฝั ก มิปรากฏให ้เห็น ครัง้ เมือ
่ ถึงกาลอันควร ก็จักคํารนคําราม
เหมือนสายฟ้ า ทีจ
่ ะกระหนํ่าพสุธาให ้แตกสลายไปฉะนัน
้ นีน
้ ับเป็ นกลยุทธ์หลอกลวงมึนชาข ้าศึก แสดงความบ ้าใบ ้
ทางภายนอก แต่ตน
ื่ ตัวโดยตลอดอยูภ
่ ายใน ดําเนินการอย่างลับและพลิกแพลงเพือ
่ เอาชนะข ้าศึกอย่างหนึง่ กล
ยุทธ์นม ี ว่ นละม ้ายคล ้ายกับสํานวนไทยเราทีว่ า่ “หน ้าไหว ้หลังหลอก” หรือ “ต่อหน ้ามะพลับ ลับหลังตะโก” ในบาง
ี้ ส
แง่บางมุม
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “ยามเมือ
่ สถานการณ์ไม่เป็ นผลดี ควรจะสะกดกลัน
้ ตัวเองไว ้ แสร ้งทําเป็ นโง่เง่า อวดฉลาดยิง่
จะไม่เป็ นผลดีแก่ตน นีเ้ ป็ นวิธรี ู ้รักษาตัวรอดอย่างหนึง่ ในยามปั่ นป่ วน คนฉลาดมักจะใช ้วิธก
ี ารนีป
้ ้ องกันตัวและ
วางแผนเอาชนะศัตรู คนทีด
่ โู ง่เขลานัน
้ โดยภายนอกก็อาจจะเห็นเป็ นเต่าตุน
่ แต่ทแ
ี่ ท ้แล ้วภายในนัน
้ คมกริบ รู ้เขารู ้
เรา พึงถอยก็รู ้จักถอย มิดน
ั ทุรังรุกไปโดยไม่ดต
ู าม ้าตาเรือ ดังนัน
้ จึงสามารถทีจ
่ ะเป็ นฝ่ ายริเริม
่ กระทําในการทัง้ ปวง
เพราะเข ้าใจในเหตุการณ์อย่างรู ้แจ ้งแทงตลอด และรอจังหวะทีจ
่ ะบุกกระหนํ่ามิยอมให ้ศัตรูตงั ้ ตัวติดตลอดเวลา กล
ี้ ักจะพบเห็นบ่อยๆ โดยทั่วไป ผู ้ใดใช ้เป็ นด ้วยความสันทัดจัดเจน ผู ้นัน
ยุทธ์นม ้ ย่อมจะได ้รับผลสําเร็จ และเป็ นผู ้ทีน่า
กลัวสําหรับฝ่ ายตรงข ้ามทีม
่ ริ ู ้แจ ้งในกล”
 

 
กลยุทธ์ที่ 28 ขึ้นบ้านชักบันได

เผาทัพสุมาอี้

ั ันได กลยุทธ์นม
้ บ้านชกบ
กลยุทธ์ท ี่ 28 ขึน ี้ ค
ี วามหมายว่า จงใจเปิ ดจุดอ่อนให ้ข ้าศึกเห็น สร ้างเงือ
่ นไขและ
ล่อหลอกให ้ข ้าศึกเข ้าตี ครัน
้ แล ้วตัดขาดส่วนหน ้าทีค
่ อยสมทบ และส่วนหลังทีเ่ ป็ นกําลังหนุน บีบให ้ข ้าศึกเข ้าไปใน
ปากถุงทีเ่ ปิ ดอ ้าไว ้รับหรือในวงล ้อมหลุมพรางทีว่ างดัก ไว ้ “เจอพิษ มิควรที”่ มีใน “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ขบ” เปรียบประดุจ
เคีย
้ วกระดูกหรือเนือ ่ ว รังแต่จะทําให ้ฟั นชํารุดเสียหาย หรือเหมือนดัง่ มักได ้ในสิง่ ทีม
้ เหนีย ิ วรได ้ ย่อมจักนํ ามาซึง่
่ ค
ความวิบต
ั ฉ
ิ ะนัน
้ “ขึน
้ บ ้านชักบันได” มีความหมายอย่างเดียวกันกับ “ข ้ามคลองรือ
้ สะพาน” นีค ื กลยุทธ์ทใี่ ช ้
้ อ
ผลประโยชน์เล็กๆ น ้อยๆ ล่อลอกให ้ข ้าศึกพินาศไปทัง้ กองทัพอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “ขึน
้ บ ้านชัดบันได” มีความหมายค่อยข ้างกว ้าง หนึง่ ในนัน ื ใช ้ผลประโยชน์เล็กน ้อย ล่อให ้
้ ก็คอ
้ ซึง่ ก็หมายความว่าเมือ
ข ้าศึกเข ้าปิ้ ง แล ้วทําลายเสียให ้สิน ่ ข ้าศึกบุกเข ้าในอาณาเขตของเรา เราจงใจจะเปิ ดทางตัน
ให ้กับเขา เมือ
่ ข ้าศึกหลงกลตกอยูใ่ นวงล ้อม ก็จะตืน
่ ตระหนกเดินไปตามหนทางทีเ่ ราเปิ ดไว ้ให ้ เมือ
่ เราตัดทางรุก
และทางถอย ข ้าศึกก็จนด ้วยเกล ้า ถ ้าไม่ยอมจํานน ก็เหลืออยูแ ่ ําคัญคือ “บัน
่ ต่ทางตายถ่ายเดียว ในกลยุทธ์นี้ ทีส
ได ้” จงใจให ้ข ้าศึกเห็นจุดอ่อนและมุง่ มั่นจะใช ้จุดอ่อนให ้เป็ นประโยชน์แต่ตน นีก
้ ็คอ
ื “บันได” ถ ้าไม่ม ี “บันได ้”
ดังกล่าว กลยุทธ์นก
ี้ ็ยากทีจ
่ ะได ้รับผล”
 

 
กลยุทธ์ที่ 29 ต้นไม้ผลิดอก

อ ้องอุน
๋ ยืมมือลิโป้ ฆา่ ตัง๋ โต๊ะ

กลยุทธ์ท ี่ 29 ต้นไม้ผลิดอก กลยุทธ์นม ี วามหมายว่า ใช ้แนวรบของมิตรมาสร ้างแนวรบทีเ่ ป็ นประโยชน์แต่เรา


ี้ ค
ขึน
้ แม ้กําลังจะน ้อย แต่กส
็ ามารถทําให ้ดูเหมือนใหญ่โต ดุจเดียวกับนกอินทรีทผ
ี่ กผินอยูใ่ นอากาศ ปี กขนกาง
เหยียดมีทว่ งท่าน่าเกรงขาม คําว่า “นกใหญ่โผบิน ปี กนกช่วยพาสง่างาม” มากจา “คัมภีรอ
์ จ
ี งิ รุก” หมายความว่า
ี งิ่ กีดขวาง อันคล ้ายกับสํานวนไทย
นกใหญ่เหินฟ้ า อาศัยสองปี กอันแข็งแรง บินร่อนซอกซอนไปตามปุยเมฆ มิมส
ทีว่ า่ “ปี กหนักกวักละประโยชน์” กลยุทธ์นี้ มองอีกแง่หนึง่ ก็จะเหมือนกับคําว่า “สร ้างสถานการณ์ให ้เป็ นประโยชน์”
หรือ “ยืมมือทีส ่ ใช ้ในการทหาร ก็เป็ นกลยุทธ์ในการยืมกําลังผู ้อืน
่ าม” เมือ ่ มาเสริมกําลังตนให ้ดูแข็งแกร่งขึน
้ เพือ

สยบข ้าศึกอย่างหนึง่
กลบยุทธ์นจ ื ทําให ้ต ้นไม ้ซึง่ ทีแ
ี้ งึ สรุปได้วา่ “ทีวา่ “ต ้นไม ้ผลิดอก” ก็คอ ่ ท ้ไม่มด
ี อก สามารถผลิดดอกออกสะพรั่ง
ให ้เห็นโดยใช ้วิธเี อาดอกไม ้ปลอมไปติดไว ้ทีต ้ ซึง่ หากไม่พน
่ ้นนัน ิ จ
ิ พิจารณาให ้ดี ก็จะไม่รู ้ว่าเป็ นของปลอม และ
อาศัยสิง่ นี้ หมุนเปลีย ื ยืมสิง่ อืน
่ นสภาพการณ์ให ้กลายมาเป็ นผลดีแก่เรา หรืออีกนัยหนึง่ ก็คอ ่ มาบังหน ้า ให ้ข ้าศึกเกิด
ความเข ้าใจผิด แล ้วฉวยโอกาสเคลือ
่ นไหวให ้เป็ นไปตามความประสงค์ นัน
้ เอง”
 

 
กลยุทธ์ที่ 30 สลับแขกเป็ นเจ้าบ้าน

สลับแขกเป็ นเจ ้าบ ้าน

กลยุทธ์ท ี่ 30 สล ับแขกเป็นเจ้าบ้าน กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ อีกฝ่ ายหนึง่ เปิ ดช่องให ้สอดแทรก ควรแทรก
่ ย
กุมจุดสําคัญหรือหัวใจของอีกฝ่ ายไว ้ “ค่อยผันสูช ั ชนะ” พบได ้ใน “คัมภีรอ ี้ งิ รุก” ซึง่ มีความเต็มว่า “สรรพสิงในใต ้
์ จ
่ นอย่างใจร ้อนจักเสีย สงบแต่คล ้อยตามจักได ้ ค่อยๆผันไปช ้าๆ จักเป็ นคุณ เคลือ
หล ้า เคลือ ่ นดังนีจ
้ งึ จะมีผล” อัน
หมายความว่า การตอกลิม
้ เข ้าไปในฝ่ ายตรงข ้าม เพือ
่ ยึดอํานาจการบัญชาการนัน
้ จัดต ้องค่อยเป็ นค่อยไป ดังนีจ
้ งึ
จะบรรลุซงึ่ ชัยชนะได ้ “สลับแขกเป็ นเจ ้าบ ้าน” ความหมายเดิมก็คอ
ื เจ ้าบ ้านต ้อนรับแขกไม่เป็ น แขกจึงชิงกลับมา
เป็ นฝ่ ายต ้อนรับเจ ้าบ ้านเสียเอง อันเป็ นกลยุทธ์เปลีย
่ นจากฝ่ ายถูกกระทําเป็ นฝ่ ายการะทําอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “สลับแขกเป็ นเจ ้าบ ้าน” ก็คอ
ื แขกแย่งเป็ นเจ ้าบ ้านเสียเอง เปลีย
่ นฐานะจากฝ่ ายถูกกระทํา เป็ น
ฝ่ ายกุมอํานาจการกระทํา และบงการให ้สถานการณ์เป็ นไปตามความประสงค์ ในขณะทีต
่ กอยูใ่ นภาวะเสียเปรียบ
จะต ้องยอมเป็ น “แขก” ชัว่ คราว เพือ
่ ช่วงชิงเวลาสะสมกําลัง อาศัยชัยชนะเล็กๆน ้อยๆ ครัง้ แล ้วครัง้ เล่าโดย “เจ ้า
บ ้าน” จํายอมต ้องกลับกลายเป็ น “แขก” เพราะมิมป
ี ั ญญาทีจ
่ ะต ้านทานได ้เลย ฉะนี้
 

 
กลยุทธ์ที่ 31 กลสาวงาม

กลสาวงาม

กลยุทธ์ท ี่ 31 กลสาวงาม กลยุทธ์นห


ี้ มายความว่า สํารับข ้าศึกทีม
่ ก
ี ําลังเข ้มแข็ง พึงสยบแม่ทัพเสียก่อน ต่อแม่
ทัพทีเ่ ฉลียวฉลาด ก็โจมตีจด
ุ อ่อนทางใจ ให ้มีอป
ุ สรรค ส่วนแม่ทัพทีย
่ อ
่ นย่อท ้อแท ้ ไพร่พลทีก
่ ําลังถดถอย ก็จัก
่ มโทรมแพ ้พ่ายไปเอง “บัญชาศัตรูได ้ จักรักษาตัวรอด” มาจาก “คัมภีรอ
เสือ ์ จ
ี้ งิ รุก” หมายความว่า ต่อข ้าศึกที่
เข ้มแข็ง มิพงึ ใช ้กําลังเข ้าปะทะ ควรอาศัยจุดอ่อนของฝ่ ายนัน
้ แทรกซึมและสลายเสีย ต่อตัวเอง พึงสามัคคีเป็ นนํ้ า
หนึง่ ใจเดียวกัน รักษาและเสริมสร ้างกําลังของตนเอง แปรเปลีย
่ นสภาพการณ์ เพือ
่ เอาชนะข ้าศึก
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “เมือ
่ ข ้าศึกมีความเข ้มแข็งดุจกําแพงเหล็ก มิมจ
ี ด
ุ อ่อนทีจ
่ ะทะลวงเข ้าไปได ้ วิธเี อาชนะแต่
เพียงหนึง่ เดียว ก็คอ
ื จะต ้องแทรกซึมเข ้าไปภายในของข ้าศึก ดุจดัง่ หนอนกินลูกแอปเปิ้ ลเจาะไซจากภายในออกมา
ยังภายนอก จนเน่าไปทัง้ ลูกฉะนัน
้ และขุนทัพย่อมเป็ นหัวใจของกองทัพ เป็ นประมุขของไพร่พล ถ ้าขุนทัพถูก
ทะลวงจุดอ่อนจนหลงไหนในรูป รส กลิน
่ เสียแล ้วไซร ้ ก็จะมีอน
ั เป็ นไป ไร ้สมรรถภาพ จังมิพา่ ยแพ ้หาได ้ไม่”
 

 
กลยุทธ์ที่ 32 กลปิ ดเมือง

กลปิ ดเมือง

กลยุทธ์ท ี่ 32 กลปิ ดเมือง กลยุทธ์นห


ี้ มายความว่า กําลังเราอ่อนยิง่ จงใจแสดงให ้เห็นว่า มิได ้มีการป้ องกันเลย
่ ้าศึกมีกําลังมาก เรามีน ้อย การใช ้กลยุทธ์เช่นนี้ ก็มค
ทําให ้ข ้าศึกฉงนสนเท่ห ์ ในสภาวะทีข ี วามพิสดารพันลึกเป็ น
ทวีคณ
ู “ท่ามกลางแข็งกับอ่อน” มาจาก “คัมภีรอ ี้ งิ แก ้” ใช ้ควบกับคําว่า “พิสดาร ซ่อนพิสดาร” ซึง่ หมายความว่า
์ จ
่ ้าศึกแข็งแรงเราอ่อน ให ้จัดกําลังโดยใช ้กลยุทธ์ “กลวงยิง่ ทํากลวง” แสดงให ้เห็นถึงความพิสดารในกล
ในขณะทีข
่ ้าศึกคาดคิดไม่ถงึ อุบายนี้ เป็ นกลยุทธ์ในการใช ้วิธเี ปิ ดเมืองหรือปล่อยเมืองวางโล่ง ทําให ้ข ้าศึกเกิดความ
ศึกทีข
งงงวย ใช ้ทัง้ เท็จและจริง ล่อหลอกให ้ข ้าศึกถอยไป เพราะมิรู ้ตืน
้ ลึกหนาบางอย่างหนึง่
ี้ งึ สรุปได้วา
กลยุทธ์นจ ่ “เท็จเท็จจริงจริง มักมีอยูใ่ นการศึก ข ้าศึกฉวยโอกาสยามเราอ่อนกําลังเราก็จงใจแสร ้งทํา
ให ้อ่อนปวกเปี ยกลงไปอีก จนข ้าศึกฉุนใจฉวนสงสัย เข ้าใจผิดคิดว่าเราพร ้อมรบแต่แสร ้งลวง เพือ
่ ล่อหลอกให ้ตน
หลุมพราง นีถ ื เป็ นสงครามจิตวิทยา โดยมิได ้ใช ้กําลังทีแ
้ อ ่ ท ้เอาชนะข ้าศึก แต่ด ้วยการพินจ
ิ พิจารณาภาวะจิตของแม่
ทัพข ้าศึก เอาชนะด ้วยอุบายอันแยบยล จนข ้าศึกหวัน
่ เกรมถอยทัพกลับไป โดยเรามิต ้องพ่ายแพ ้เสียทหารไปแม ้แต่
สักคนในยามคับขัน”
 

 
กลยุทธ์ที่ 33 กลไส้ศึก

ซัวต๋งซัวโฮสองไส ้ศึกจากวุยก๊ก

้ ก
กลยุทธ์ท ี่ 33 กลไสศ ึ กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ ่ ให ้ฝ่ ายเราเกิดแตกแยก เราก็พงึ ซ ้อน
่ ข ้าศึกสร ้างอุบายเพือ
กลสร ้างแผนลวงให ้ข ้าศึกเกิดร ้าวฉาน ให ้ข ้าศึกระแวงสงสัยซึง่ กันและกัน ทีเ่ ราสามารถใช ้เป็ นประโยชน์ได ้ “มีผู ้
แฝงอยูภ
่ ายใน ไม่เสียหายแก่เรา” มาจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ช่วย” หมายความว่า เนือ
่ งจากมีการช่วยเหลือมาจากภายใน
ของข ้าศึก จึงเป็ นประโยชน์แก่ฝ่ายเรา เราจึงมีความมั่นใจทีจ ี โบราณซึง่ เคยทํา
่ ะตีข ้าศึกให ้ย่อยยับไป ตู ้มู่ กวีจน
ั สงความซุนจือ” ในสมัยราชวงศ์ถังกล่าวไว ้ว่า “ข ้าศึกส่งไส ้ศึกมาดูเรา เราพึงล่วงรู ้ก่อน
คําอธิบายแก่ “ตําราพิชย
หรือติดสนบนด ้วยเงินหนา กลับมาให ้เราใช ้ หรือแสร ้งทําไม่รู ้ ปล่อยข่าวลวงให ้ตายใจ ดังนี้ ไส ้ศึกของข ้าศึก ก็จงึ
ถูกเราใช ้”
้ี งึ สรุปได้วา
กลยุทธ์นจ ่ “เมือ
่ ฝ่ ายตรงข ้ามีความระแวงสงสัย พึงทําให ้เกิดความระแวงสงสัยเพิม
่ ขึน
้ เป็ นทวีคณ ้
ู ซือ
คนขายตัว หรือใช ้ไส ้ศึกให ้เป็ นประโยชน์แก่เรา ซุนจือ
่ เคยแนะนํ าว่า พึงเอาชนะโดยไม่ต ้องรบ ทีสําคัญคือใช ้
ี างการทูต การใช ้อุบายบวกกับกลยุทธ์ไส ้ศึก ให ้ข ้าศึกแตกร ้าววุน
วิถท ่ วายปั่ นป่ วนภายนีเ้ อง จึงจะชนะได ้โดยง่าย”
 

 
กลยุทธ์ที่ 34 กลทุกข์กาย

เฆีย
่ นอุยกาย

กลยุทธ์ท ี่ 34 กลทุกข์กาย กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหมายว่า โดยสามัญสํานึก คนเราทุกคนไม่ทําร ้ายตัวเองหากบาดเจ็บ
่ ว่าคงถูกทําร ้าย ถ ้าแม ้นสามารถทําเท็จให ้เป็ นจริง ให ้ศัตรูเชือ
ก็เชือ ่ ไม่สงสัย กลอุบายก็จะสัมฤทธิผ
์ ล ทว่าการทําให ้
่ ก็พงึ เข ้าใจในจุดอ่อนของศัตรู ทําเท็จให ้จริงจัง ให ้เชือ
ศัตรูเชือ ่ จริงแท ้ “อาศัยจุดอ่อนแห่งจิต ลูต ิ ” คํานี้
่ ามจึงพิชต
มาจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ปิ ด” หมายความว่า อาศัยความไร ้เดียงสาของทารก ล่อหลอกโดยโอนอ่อนผ่อนตามไปก็จังลวง
ให ้บรรลุประสงค์ได ้ กลยุทธ์นี้ เป็ นอุบายใช ้การทําร ้ายตัวอง ให ้ศัตรูหลงชือ
่ เพือ ิ ศัตรูอย่างหนึง่
่ มึนชาแล ้วพิชต
่ “คําโบราณของจีนมีกล่าวไว ้ว่า “ร่างกาย เส ้นผม และผิวหนัง ได ้มาจาก บิดามารดา มิควร
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส
ทําลาย นีค
้ อ ี่ ั งลึกอยูใ่ นมโนธรรมของชาวจีนมาช ้านาน ดัง้ นัน
ื อันดับแรกแห่งความกตัญญู” คําคํานีเ้ ป็ นทัศนคติทฝ ้
การจะทําร ้ายร่างกายของตนเอง ยอมสวามิภก
ั ดิแ ั รูด ้วยอุบาย จึงมักจะได ้รับความเห็นใจ ให ้ความเชือ
์ ก่ศต ่ ถือซึง่
ี่ ํ้าลึกกว่า “กลไส ้ศึก” เคยได ้รับความสําเร็จอย่างงดงามมามากหลายตัง้ แต่โบราณกาล”
เป็ นกลยุทธ์ทล
 

 
กลยุทธ์ที่ 35 กลลูกโซ่

ศึกผาแดง

กลยุทธ์ท ี่ 35 กลลูกโซ่ กลยุทธ์นม


ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ กําลังศัตรูเข ้มแข็งกว่าหลายเท่า จักปะทะด ้วยมิได ้เป็ นอัน
ขาด พึงใช ้กลอุบายนานา ให ้ศัตรูตา่ งถ่วงรัง้ ซึง่ กันและการทําลายความแกร่งของศัตรู หรือร่วมมือกับพลังต่างๆทัง้
มวล ร่วมกันโจมตี เพือ
่ ขจัดความฮักเหิมของศัตรูไป “แม่ทัพผู ้ปรีชา จักได ้ฟ้ าอนุเคราะห์” มาจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ แม่
ทัพ” อันความหมายว่า แม่ทพ
ั ผู ้ปรีชา ย่อมสามารถจะบัญชาการศึกได ้อย่างคล่องแคล่วดุจดัง่ คล ้อยตาม “ความ
ประสงค์ของฟ้ า” จักต ้องได ้รับชัยชนะเป็ นมั่นคง กลยุทธ์นเี้ รียกว่า “กลลูกโซ่” นี้ หมายถึงอุบายทีใ่ ช ้ซ ้อนๆกัน
ตัง้ แต่สองอุบายขึน
้ ไป เพือ ั รูอย่างหนึง่
่ เอาชัยชนะแก่ศต
่ “การใช ้กลยุทธ์ เป็ นวิธก
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ี ารทีด
่ ท
ี ส
ี่ ด ่ เคยกล่าวไว ้ว่า “ผู ้ทีใ่ ช ้กลอุบาย
ุ ในการเอาชนะศัตรู ซุนจือ
มิควรใช ้เพียงหนึง่ เดียว หากควรประกอบด ้วยอุบายนานา ถือ หลายอุบายเป็ นหนึง่ กลยุทธ์ หรือร ้อยพ ้นอุบายเป็ น
หนึง่ กลยุทธ์ นีค
้ อ
ื กลยุทธ์ทด
ี่ ท
ี ส
ี่ ด
ุ ” และดัง้ นัน
้ จึงเป็ นดุจดังคําทีว่ า่ “แม่ทัพผู ้ปรีชา จักได ้ฟ้ าอนุเคราะห์นัน
้ เอง”
 

 
กลยุทธ์ที่ 36 หนีคือยอดกลยุทธ์

อ ้วนเสีย้ วถอยทัพกลับกิจว๋ิ

กลยุทธ์ท ี่ 36 หนีคอ
ื ยอดกลยุทธ์ กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ รบกับข ้าศึก หากข ้าศึกแข็งเราอ่อน อาจจะถอย
ร่นอย่างรวดเร็ว เพือ
่ หลบเลีย
่ งการปะทะเสียก่อน ดังทีม
่ ค
ี ํากล่าวไว ้ใน “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ แม่ทัพ” ว่า “ถอยหนีมผ
ิ ด
ิ เป็ น
ั แห่งสงคราม” ซึง่ ชีช
วิสย ้ ด
ั ว่า การถอยหนีใ่ นการทําสงครามนัน
้ มิใช ้ความผิดพลาด หากแต่เป็ นเรืองธรรมดาเสีย
สามัญในการบทีม
่ ักจะพบเห็นเสมอ การถอนเช่นนี้ เพือ
่ หลีกเลีย
่ งความเสียหายในยามทีเ่ ราเป็ นฝ่ ายเสียเปรียบ และ
เพือ ั ้ สงครามชือ “ไหว
่ ชิงโอกาสตอบโตภายหลังมิใช่ถอยหนีอย่างพ่ายแพ ้หมดรูป ตีโต ้กลับมิได ้อีก ในตําราพิชย
่ ฝึ กการยุทธทหาร” เคยกล่าวไว ้ว่า “แข็งจึงสู ้ อ่อนก็หนี” ในตําราพิชย
หนานจือ ั สงครามอีกเล่มหนึง่ ชือ
่ “ปิ งฝ่ าหยวน
จีได ้” ก็กล่าวไว ้ว่า “แม ้นหลบแล ้วรักษาไว ้ได ้ ก็พงึ หลบ” ใน “ซุนจือ
่ บทกลยุทธ์” ก็กล่าวไว ้เช่นกันว่า “แข็งพึง
เลีย
่ งเสีย”
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ งกับการสู ้รบขัน
่ “ภายใต ้สภาพการณ์ทไี่ ม่เป็ นผลดี จะต ้องหลีกเลีย ้ แตกหักกับข ้าศึก ทางออก
จึงมีอยู่ 3 ทาง ยอมจํานน เจตจาสงบศึก ถอยหนี เมือ
่ เปรียบเทียบกันแล ้ว การยอมจํานนคือการพ่ายแพ ้อย่างถึง
ทีส
่ ด
ุ การขอเจรจาสงบศึกคือการพ่ายแพ ้ครึง่ หนึง่ ถอยหนีกลับอาจจะแปรเปลีย
่ นมาเป็ นชัยชนะได ้ ดัง้ นัน
้ จึงได ้
่ กลยุทธ์นเี้ ป็ น “หนีคอ
เรียกชือ ่ งอย่างมีแผนเป็ นฝ่ ายกระทํา ซึง่ มีเนือ
ื ยอดกลยุทธ์” ถอยหนีพงึ ถอยเลีย ้ หาทีเ่ ป็ นคุณ
มิใช ้แต่หนีอย่างไม่ลม
ื หูลม ่ ทัพอ่อนเผชิญทัพแข็ง มักจะใช ้วิธห
ื ตา เมือ ี นี เพือ
่ กระจายกําลังข ้าศึก เพือ
่ สร ้างโอกาส
่ ย
กลับมาสูช ั ชนะนัน
้ เอง”
 

You might also like