You are on page 1of 5

268

ก่อเกิดสืบสาน แพทยศาสตรศึกษา


ศ.
นพ.สุด
แสงวิเชียร
อดีตหัวหน้าภาค แต่ละกลุ่มจะเจริญเป็นตัวอ่อน

ตัว
เกิดเป็น
วิชากายวิภาคศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราช ทารก

คนที่เป็นแฝดแท้
เพศเดียวกัน
และมี
พยาบาล
เป็นผู้ที่ให้ความสนใจในกรณีของแฝด ลักษณะทางพันธุกรรมที่เหมือนกันทุกประการ

ติดกันมาก
จึงทำการศึกษา
“แฝดติดกัน”
ที่เกิด
๒. แฝดคล้าย (Dizygotic twins)
เกิด

ในโรงพยาบาลศิ ริ ร าชและโรงพยาบาลอื่ น ๆ
จากการผสมของไข่

ใบที่ตกพร้อมกัน
กับ
อาจารย์แพทย์รุ่นต่อมาได้รวบรวมและเก็บรักษา อสุจ
ิ ๒
ตัว
จึงเกิดเป็น

ไซโกต
ทำให้ ได้

แฝดไว้ท
ี่ “พิพิธภัณฑ์กายวิภาค-คองดอน”
และ
ทารกแฝด

คนที่เป็นพี่น้องร่วมท้องและเกิด
“พิพธิ ภัณฑ์พยาธิวทิ ยาเอลลิส”
เป็นจำนวนมาก
ออกมาพร้อมกัน
ซึ่งแฝดชนิดนี้อาจเป็นแฝด
เด็กแฝดธรรมดา เพื่ อ ให้ แ พทย์
นั ก ศึ ก ษาแพทย์
และผู้ ส นใจ

เพศเดียวกันหรือต่างเพศก็ได้

ได้เข้ามาศึกษา
“แฝดติดกัน”
จากพิพิธภัณฑ์

อนึ่ง
การเกิดแฝดอาจมีได้มากกว่าสอง

การกำเนิดฝาแฝดนัน้ เป็นความมหัศจรรย์
คน
เช่น
แฝดสาม
แฝดสี่
ฯลฯ
ซึ่งอาจเกิดจาก
โดยธรรมชาติมนุษย์แล้ว
จะมีลูกครั้งละ

คน
แบบ
Monozygotic
twins
หรือแบบ
Dizygotic

เท่านั้น
ถ้ามีลูกเกิดมามากกว่า

คน
ในครรภ์ twins
หรืออาจเกิดจากทั้งสองแบบก็เป็นได้

เดียวกัน
เรียกว่า
“แฝด”
ดังนั้นฝาแฝดจึงเป็น
แฝดติ ด กั น (Conjoined twins)
คื อ

ปรากฏการณ์ไม่ปกติที่พบได้น้อย
โดยทั่วไปแล้ว Monozygotic
twins
ที่กลุ่มเซลล์ในระยะแบ่งตัว
แฝดมี

ชนิดด้วยกันดังนี้
ไม่แยกจากกันโดยสิ้นเชิง
คู่แฝดที่เกิดมาจึงมี

๑. แฝดแท้
หรือ
แฝดเหมือน (Monozygotic ร่างกายบางส่วนติดกัน
ซึ่งมีหลายประเภทดังนี้

twins)
เกิดจากการผสมของไข่

ใบ
กับอสุจิ


ตัว
ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วเรียกว่า
Zygote

ซึง่ จะมีการเจริญแบ่งตัวจาก

เซลล์
เป็น

เซลล์

จาก

เซลล์
เป็น

เซลล์
เป็น

เซลล์

เป็นกลุ่มเซลล์
ฯลฯ
และเจริญแบ่งตัวต่อไปจน
แฝดติดกันชนิดตัวเท่ากันเป็น
Monozygotic

เป็นตัวอ่อน
(Embryo)
ถ้ากลุ่มเซลล์แยกตัวออก twins
ชนิดหนึ่ง
ซึ่งมีอยู่หลายลักษณะ
สามารถ
เป็น

กลุ่ม
แล้วแยกหลุดจากกัน
กลุ่มเซลล์ แบ่งได้เป็น

แบบ
คือ

แฝดติดกันชนิดตัวเท่ากัน

269
Cephalothoracopagus Xiphopagus Pygopagus Diprosopus Duplicitas Superior
แฝดติดกันชนิดตัวเท่ากัน ประเภทต่างๆ
ด.ญ.ปานวาด-ปานตะวัน แฝดสยามเพศหญิง
ที่มีหัวใจและตับติดกัน


๑.๓ แฝดติดกันที่ช่วงล่างของร่างกาย
เนื่องจากวิชาการทางศัลยศาสตร์ในเวลานั้นยัง
เช่น
บริเวณสะโพก
ช่วงขา
และอวัยวะสืบพันธุ์
ไม่เจริญเท่าในปัจจุบัน
แต่จากการผ่าร่างของ
พบได้ประมาณร้อยละ
๒๓
อิ น และจั น เพื่ อ ศึ ก ษาภายหลั ง จากที่ ทั้ ง คู่ ไ ด้


อย่างไรก็ตาม
กรณีของแฝดติดกันนั้น
เสียชีวิตลงแล้ว
ทำให้แพทย์ได้ทราบว่าทั้งคู่มี
ถือเป็นความผิดปกติทพี่ บได้นอ้ ยมาก
โดยมีอตั รา ส่ ว นของตั บ ที่ ติ ด กั น
ซึ่ ง นั บ เป็ น ข้ อ มู ล ที่ เ ป็ น
การพบอยู่ท
ี่ ๑:
๕๐,๐๐๐
-
๑:
๑๐๐,๐๐๐
ของ ประโยชน์ต่ อ การพั ฒ นาวิ ธี การผ่ า ตั ด แยกร่ า ง
การตั้งครรภ์ปกติ
นอกจากนี้ยังพบว่า
ทารก แฝดติดกันให้สำเร็จได้ในเวลาต่อมา
เช่น
กรณี
ทีมแพทย์ศิริราชทำการผ่าตัดแยกร่างแฝด แฝดติดกันประมาณร้อยละ
๕๐
มักจะเสียชีวิต ของแฝดนภิศ-ปริศนา
ทิวา-ราตรี
และในราย
ปานวาด-ปานตะวัน ได้สำเร็จ ระหว่างคลอดหรือระหว่างอยู่ในครรภ์
ส่วนอีก ล่าสุดที่โรงพยาบาลศิรริ าช
ได้ทำการผ่าตัดแฝดที่
เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
ร้อยละ
๕๐
สามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้
และ มีหวั ใจและตับติดกันได้สำเร็จ
คือ
แฝดปานวาด-
เป็นที่น่าสังเกตว่าร้อยละ
๗๐
-
๗๕
ของแฝด ปานตะวัน
เป็นต้น

๑.๑ แฝดติ ด กั น ที่ ส่ ว นบนของร่ า งกาย


ชนิดนี้มักเป็นเพศหญิง

การผ่าตัดแฝดติดกันนั้น
มีความยากง่าย
เช่น
บริเวณศีรษะ
พบได้น้อยมาก
ประมาณ
สำหรับแฝดติดกันที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ต่างกันออกไป
ขึ้นอยู่กับลักษณะของแฝดว่ามี
ร้อยละ

ได้แก่
แฝด
“อิน-จัน”
ซึ่งเป็นแฝดติดกันคู่แรก อวั ย วะส่ ว นใดที่ ติ ด กั น
และการทำงานของ

๑.๒ แฝดติดกันที่ช่วงกลางของร่างกาย
ของโลกที่บันทึกไว้ในกินเนสบุ๊กว่ามีอายุยืนยาว อวัยวะบางอย่างร่วมกัน
นอกจากนี
้ คูแ่ ฝดยังต้องมี
เช่น
บริเวณอก
และช่วงท้อง
พบได้มากที่สุด
ที่สุดถึง
๖๒
ปี
และเนื่องจากทั้งคู่เป็นคนไทย
สภาพร่ า งกายและน้ ำ หนั ก ที่ เ หมาะสมก่ อ น

ประมาณร้ อ ยละ
๗๓
ดั ง เช่ น กรณี ข องแฝด

จึงได้รับการขนานนามว่า
“Siamese
twins”
เข้ารับการผ่าตัด
ทั้งยังต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
“อิน-จัน”
แฝดคูน่ ไี้ ม่ได้รบั การผ่าตัดแยกร่างกายออกจากกัน
ในการผ่าตัดเป็นอย่างมากอีกด้วย

270
พบในประเทศไทยเป็นครัง้ แรกทีโ่ รงพยาบาลศิรริ าช

เมือ่
พ.ศ.
๒๕๒๔
โดย
ศ.
นพ.ไพบูลย์
สุทธิวรรณ

Fetus
in
fetu
รายนี
้ แฝดพี่ อ ายุ

ขวบ

มีอาการคล้ายมีเนื้องอกในช่องท้อง
จึงผ่าตัด
เอาออก
แฝดน้องมีลักษณะเป็นเพียงก้อนที่มี
ขาเล็กๆ
ยื่นออกมา
มีกระดูกสันหลังและหัวใจ

๒.๓ แฝดน้องยื่นออกจากตัวของแฝดพี่
(Ectoparasitic twins)

แฝดน้องยื่นออกจากตัวของแฝดพี่เป็น
แฝดติดกันที่สายสะดือ แฝดน้องเจริญในท้องแฝดพี่ แฝดชนิดที่พบได้น้อยมาก
มีลักษณะคือ
ส่วน
ของร่างกายแฝดน้องจะยื่นออกจากร่างกายของ
acephalus
fetoform
พบเป็ น รายแรกของ แฝดพี่
เช่น
ช่วงล่างและขาขนาดเล็กยื่นออกมา

แฝดชนิดนี้เกิดจากการแยกตัวของกลุ่ม ประเทศไทย
โดย
รศ.
นพ.รณชัย
อธิสุข
เมื่อ จากร่างกายของแฝดพี่
หรือหัวขนาดเล็กของ
เซลล์เป็น

กลุ่มที่ไม่เท่ากัน
เมื่อกลุ่มเซลล์ทั้ง
เดือนกุมภาพันธ์
พ.ศ.
๒๕๓๘
แฝดพี่เพศชาย
แฝดน้องยื่นออกมาจากปากของแฝดพี่
ร่างกาย

กลุ่มเจริญเป็นตัวอ่อน
ทำให้ได้แฝดที่มีขนาด คลอดออกมาเป็นปกติ
หนัก
๒,๙๑๐
กรัม
และ แฝดน้องจะได้รับอาหารและออกซิเจนจากเลือด
แตกต่างกัน
และแบ่งออกเป็น

ชนิด
ดังนี

มีสุขภาพดี
ส่วนแฝดน้องมีแต่ช่วงล่างของตัว
ที่ หั ว ใจของแฝดพี่ สู บ ฉี ด ไปให้
จึ ง มี ลั ก ษณะ
๒.๑ แฝดติดกันที่สายสะดือ มีน้ำหนักเพียง
๒๐
กรัม
เหมือนกับปรสิต

(Chorangiopagus parasiticus twins) ๒.๒ แฝดน้องเจริญในท้องแฝดพี่

แฝดติดกันทีส่ ายสะดือจัดว่าเป็น
Monozy- (Fetus in fetu or endoparasitic twins)
gotic
twins
ชนิดหนึ่ง
ซึ่งมีร่างกายแยกจากกัน

แฝดน้องเจริญในท้องแฝดพี่
มีลักษณะ
แต่มีส่วนติดกันที่สายสะดือ
แฝดชนิดนี้มีการ เหมือนเป็นแฝด
แต่ไม่ได้มีการแยกออกจากกัน

เจริญเติบโตไม่เท่ากัน
มีขนาดและน้ำหนักตัวที่ จัดว่าเป็น
Monozygotic
twins
ชนิดหนึ่ง
ซึ่งมี
ต่างกันมาก
แฝดพี่เจริญเติบโตปกติ
ส่วนแฝด ขนาดและการเจริญเติบโตต่างกัน
แฝดพี่มีการ
น้องไม่มีศีรษะและหัวใจ
มีแต่ครึ่งล่างของลำตัว
เจริญเติบโตที่เร็วกว่าและมากกว่า
แฝดน้องจึง
และต้องพึ่งพาการสูบฉีดโลหิตผ่านสายสะดือ เข้าไปเติบโตอยู่ในช่องท้องของแฝดพี่
โดยตัว
จากแฝดพี่
จึงจะมีชีวิตอยู่ได้
ดังนั้น
ถ้าตัดสาย น้องจะอยู่ในถุงหุ้ม
ติดกับผนังลำตัวของแฝดพี

สะดือของแฝดพี่หลังคลอด
แฝดน้องก็จะตาย
ได้รับอาหารและออกซิเจนจากหลอดเลือดแดง
แฝดชนิดนีม้ โี อกาสพบได้นอ้ ยรายมาก
รายทีพ่ บ ของแฝดพี
่ ในกรณีนี้แฝดน้องจะไม่มีส่วนศีรษะ

ทีโ่ รงพยาบาลศิริราช
ซึ่งแฝดน้องเป็น
Acardius
แต่มีหัวใจ
กระดูกสันหลัง
และมีขา
แฝดชนิดนี้ แฝดน้องยื่นออกจากปากของแฝดพี่

271

You might also like