Professional Documents
Culture Documents
Lab 1 การใช้มัลติมิเตอร์
Lab 1 การใช้มัลติมิเตอร์
ปฏิบัติการที่ 1 พื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องมือวัดไฟฟ้าและการใช้มัลติมิเตอร์
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ใช้ในงานเครื่องมือวัด
2. ให้สามารถใช้งานมัลติมิเตอร์แบบอนาล็อกได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
3. เพื่อให้ใช้มลั ติมเิ ตอร์แบบอนาล็อกวัดค่าความต้านทานของตัวต้านทาน แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าได้อย่าง
ถูกต้อง
ทฤษฎี
การศึกษาวิชาเครื่องมือวัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหน่วยวัด สัญลักษณ์ต่างๆที่ใช้
ในงานเครื่องมือวัดและชนิดของเครือ่ งมือวัดทางไฟฟ้า
1. หน่วยการวัดระบบนานาชาติ (SI Units) ปริมาณต่างๆ มีหน่วยวัดกำกับไว้ เพื่อให้ทราบค่าหรือขนาดของปริมาณ
เหล่านั้นว่ามีปริมาณ มากหรือน้อย ซึ่งถูกกำหนดหน่วยวัดที่แตกต่างกันไป หน่วยวัดที่ถูกกำหนดขึ้นมาใช้งานมีมากมาย
หลายมาตรฐาน หลายระบบแตกต่างกัน เพื่อเกิดความสะดวกในการบอกหน่วยวัดหรือการแปลงหน่วยวัด จึงมีการ
ประชุมนานาชาติเกี่ยวกับมาตราชั่ง ตวง วัด โดยการตกลงกันกำหนดหน่วย มาตรฐานขึ้นมาใหม่ เรียกว่า หน่วยระบบ
นานาชาติ (System International Units) หรือเรียกว่า หน่วย SI (SI Units) ซึง่ กำหนดเป็นหน่วยมาตรฐานสากลใช้
งานร่วมกัน โดยหน่วย SI ประกอบด้วย หน่วยวัดพื้นฐาน 7 หน่วย แสดงดังตารางที่ 1
ตางรางที่ 1 หน่วยวัด SI พื้นฐาน
ปริมาณฐาน ชื่อหน่วย สัญลักษณ์
ความยาว (length) เมตร (metre) m
มวล (mass) กิโลกรัม (kilogram) kg
เวลา (time) วินาที (second) s
กระแสไฟฟ้า (electric current) แอมแปร์ (ampere) A
อุณหภูมิ (temperature) เคลวิน (kelvin) K
ปริมาณของสาร (amount of substance) โมล (mole) mol
ความเข้มของการส่องสว่าง (luminous intensity) แคนเดลา (candela) cd
นอกจากหน่วยวัดพื้นฐานแล้วยังมีหน่วยวัดที่ใช้บอกค่าปริมาณไฟฟ้า ซึ่งนำไปใช้งานด้านทฤษฎีและปฏิบัติใน
งานไฟฟ้า แสดงดังตารางที่ 2
2
ตารางที่ 2 หน่วยวัดใช้งานด้านทฤษฎีและปฏิบัติในงานไฟฟ้า
ปริมาณ หน่วยวัด สัญลักษณ์
ประจุไฟฟ้า (Electric Charge)
ศักย์ไฟฟ้า (Electric Potential)
ความต้านทาน (Resistance)
ความนำไฟฟ้า (Conductance)
ความเหนี่ยวนำ (Inductance)
ความจุ (Capacitance)
ความถี่ (Frequency)
แรง (Force)
พลังงาน (Energy, งาน (Work)
เส้นแรงแม่เหล็ก (Magnetic Flux)
ความหนาแน่นเส้นแรงแม่เหล็ก (Magnetic Flux Density)
กำลัง (Power)
เพื่อความสะดวกในการใช้งานของหน่วยวัดต่างๆ ได้มีการกำหนดตัวเลขใช้งานในรูปเลขยกกำลังหรือ
คำอุปสรรคในการบอกค่าเลขยกกำลังที่ใช้งาน แสดงดังตารางที่ 3
ตารางที่ 3 คำอุปสรรค
ชื่อ สัญลักษณ์ เลขยกกำลัง ชื่อ สัญลักษณ์ เลขยกกำลัง
เอกซะ (exa) E 1018 เดซิ (deci) d 10-1
เพตะ (peta) P 1015 เซนติ (centi) c 10-2
เทระ (tera) T 1012 มิลลิ (milli) m 10-3
จิกะ (giga) G 109 ไมโคร (micro) µ 10-6
เมกกะ (mega) M 106 นาโน (nano) n 10-9
กิโล (kilo) k 103 พิโก (pico) p 10-12
เฮกโต (hecto) h 102 เฟมโต (femto) f 10-15
เดคา (deca) da 101 อัตโต (atto) a 10-18
3
2. สัญลักษณ์ (Symbol)
เครื่องวัดไฟฟ้าที่ใช้งานทั่วไปมีอยูห่ ลายชนิดแต่ละชนิดใช้งานต่างกัน ดั้งนั้นเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงมี
การกำหนดเป็นสัญลกัษณ์ของเครื่องวัดไฟฟ้าแสดงดังตาราง
ตารางที่ 4 สัญลักษณ์ทบี่ อกชนิดของเครื่องมือวัดไฟฟ้า
สัญลักษณ์ ความหมาย
ไมโครแอมมิเตอร์ (Microammeter)
มิลลิแอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Milliammeter)
แอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Ammeter)
แอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Ammeter)
แอมมิเตอร์ใช้ได้ทั้งไฟฟ้ากระแสตรงและไฟฟ้ากระแสสลับ (DC/AC Ammeter)
กัลป์วานอมิเตอร์ (Galvano meter)
โอห์มมิเตอร์ (Ohm meter)
วัตต์มิเตอร์ 1 เฟส (Single Phase Watt meter)
โวลต์มิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Voltmeter)
โวลต์มิเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Voltmeter)
เครื่องวัดความถี่ไฟฟ้า (Frequency meter)
รูปที่ 1 เครื่องมือวัดแบบแอนะล็อกและเครื่องมือวัดแบบดิจติ อล
รูปที่ 2 มัลติมิเตอร์แบบเข็ม
หมายเลข 1 คือ เข็มชี้ (Pointer)
หมายเลข 2 คือ สกรูปรับศูนย์ (Zero Adjuster)
หมายเลข 3 คือ ปุ่มปรับศูนย์โอห์ม (Zero – Ohm Adjuster)
หมายเลข 4 คือ รูเสียบสายลบ (Negative Common Terminal)
หมายเลข 5 คือ รูเสียบสายบวก (Positive Common Terminal)
5
3. หน่วยวัดกระแสไฟฟ้าสำหรับ
4. หน่วยวัดควาต้านทาน มีหน่วยวัด
ไฟฟ้ากระแสตรง มีหน่วยวัดเป็น
เป็น โอห์ม ( ) สัญลักษณ์ที่ใช้ใน
มิลลิแอมแปร์ (mA) หรือแอมแปร์
เครื่องมัลติมิเตอร์ คือ
(A) มีสัญลักษณ์ที่ใช้ในเครื่องมัลติ
มิเตอร์ คือ DCmA
ส่วนประกอบของสเกลหน้าปัด
1. สเกลอ่านค่าความต้านทาน
2. สเกลอ่านค่าแรงดันไฟตรง
และแรงดันไฟสลับ
3. สเกลอ่านค่าแรงดันไฟตรงทีม่ ี 0
อยู่กึ่งกลาง
4. สเกลอ่านค่าแรงดันไฟสลับสูงสุด 2.5 V
5. สเกลอ่านค่าอัตราขยายกระแส
ของทรานซิสเตอร์ (hFE)
6. สเกลอ่านเดซิเบล (dB)
7. สเกลอ่านค่าแรงดันไฟตรง (LV)
เมื่อตั้งย่านวัดกระแสที่โอห์ม
8. สเกลอ่านค่ากระแสไฟตรง (LI)
เมื่อตั้งย่านวัดกระแสที่โอห์ม
9. สเกลอ่านค่าเมือ่ ทดสอบแบตเตอรี่
10. กระจกเงา
11. หลอด LED บอกการต่อวงจร
รูปที่ 3 แสดงสเกลวัดของมัลติมเิ ตอร์
7
การใช้มลั ติมิเตอร์อ่านค่าแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง
ในการวัดให้เริ่มตั้งค่าย่านการวัดในช่วง DCV ตามรูปที่ 1.3 โดยให้สวิตซ์ชี้อยู่ที่ 1000 V ก่อนเสมอ
โดยย่านในการวัดค่าจะมีอยูท่ ั้งหมด 7 ย่านวัดด้วยกัน คือ 0.1V, 0.5V, 2.5V, 10V, 50V, 250V, 1000V
ลำดับขั้นการใช้ดีซีโวลต์มเิ ตอร์
1. ต่อดีซีโวลต์ในขณะวัดค่าแรงดันคร่อมขนานกับโหลด
2. ตั้งย่านใช้งานของมิเตอร์ในย่าน DCV
3. ปรับสวิตช์ตั้งย่านการวัดให้ถูกต้อง ถ้าหากไม่ทราบแรงดันไฟที่จะทำการวัด ให้ตั้งย่านวัดที่ตำแหน่งสูงสุด
(1,000V) ไว้ก่อน แล้วปรับลดย่านให้ต่ำลงทีละย่านจนกว่าเข็มมิเตอร์จะชี้ค่าที่อ่านได้ง่ายและถูกต้อง
4. ในตำแหน่งที่วัดด้วยดีซีโวลต์มิเตอร์ไม่ขึ้น แต่ขณะแตะสายวัดขั้วบวกเข้าไปหรือขณะดึงสายวัดขั้วบวกออกมา
เข็มมิเตอร์จะกระดิกเล็กน้อยเสมอแสดงว่าจุดวัดนั้นเป็นแรงดันไฟสลับ (ACV)
5. การวัดแรงดันไฟตรงในวงจร จะต้องต่อสายวัดให้ถูกต้อง โดยนำสายวัดขั้วลบ (-COM) สีดำจับที่ขั้วลบของ
แหล่งจ่าย นำสายวัดขั้วบวก (+) สีแดงของมิเตอร์ไปวัดแรงดันตามจุดต่างๆ
8
รูปที่ 4 การต่อมัลติมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้ากระตรง
การอ่านสเกลมาตรวัดในแต่ละย่าน
การใช้มลั ติมิเตอร์อ่านค่าแรงดันไฟฟ้ากระแสลับ
มีวิธีปฏิบัติเหมือนกับการวัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง เพียงแต่ต้องเปลี่ยนย่านวัดเป็น ACV และ
ไม่จำเป็นต้องพิจารณาขั้วบวกและขั้วลบของแรงดันไฟฟ้า
รูปที่ 5 การต่อมัลติมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้ากระสลับ
9
การใช้มลั ติมิเตอร์อ่านค่าไฟฟ้ากระแสตรง
ปรับเครื่องวัดให้อยู่ในโหมดการวัดกระแสตรง mA โดยให้สวิตซ์ชี้อยู่ที่ 250 mA ก่อนทำการทดลองทุกครั้ง
โดยจะมีย่านการวัด 4 ย่านการวัด คือ 50µA, 2.5 mA, 25 mA และ 250 mA ตามลำดับ
รูปที่ 6 การต่อมัลติมิเตอร์วัดกระแสไฟตรง
ข้อควรระวังในการใช้มลั ติมิเตอร์
1. อย่าให้มัลติมิเตอร์มีการกระทบกระเทือนอย่างแรง เช่น ตก หล่นจากที่สงู เพราะจะทำให้เครื่องมือวัดชำรุด
เสียหาย
2. ควรวางมัลติมเิ ตอร์ในตำแหน่งราบ (แนวนอน) ขณะใช้งานและเลิกใช้งาน
3. ก่อนทำการวัดทุกครั้งต้องแน่ใจว่าเลือกย่านการวัดถูกต้องเสมอ
4. ตั้งค่าสเกลสูงสุดของย่านการวัดขณะวัดจุดที่ไม่ทราบค่าแน่นอน
5. ห้ามใช้ย่านวัดโอห์มวัดค่าแรงดันไฟตรงหรือแรงดันไฟสลับ
6. เมื่อวัดแรงดันไฟตรงต้องใช้สายวัดให้ถูกขั้ว +- เสมอ
7. เมื่อเลือกย่านวัดโอห์มไม่ควรให้ปลายสายวัดแตะกันนานเกินไป
8. เมื่อเลิกใช้งานควรถอดสายวัดออกและปรับสวิตช์เลือกย่านไปที่ OFF
9. ไม่ควรให้มัลติมิเตอร์เกิด Overload (เกินสเกล) บ่อยครั้งขณะทำการวัดต้องดูตำแหน่งของย่านวัดการวัดให้
เหมาะสมกับวงจรที่จะวัด
10. มัลติมิเตอร์ที่ไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน ก่อนใช้ควรหมุน Function และ Range switch ไปมาเพือ่ ลดความฝืดและให้
หน้าสัมผัสไฟฟ้าที่ดี
11. ควรจัดเก็บมัลติมิเตอร์ให้อยู่ในเครื่องห่อหุ้ม (Case) เสมอ
10
ย่านการวัดความต้านทาน
ตำแหน่งของเข็มมิเตอร์ ค่าที่อ่านได้
(ตำแหน่งของสวิตซ์เลือกย่านวัด)
X1 1
X 10 2
X 100 3
X 1k 4
X 100 5
X 10 6
X1 7
อธิบายวิธีการวัดค่าความต้านทาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
11
ย่านการวัดแรงดันไฟตรง
ตำแหน่งของเข็มมิเตอร์ ค่าที่อ่านได้
(ตำแหน่งของสวิตซ์เลือกย่านวัด)
0.1 V 1
0.5 V 2
2.5 V 3
10 V 4
50 V 5
250 V 6
1000 V 7
12
ตอนที่ 5 ตอบคำถามท้ายการทดลอง
1. บอกข้อควรระวังในการใฃ้มัลติมิเตอร์ได้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. อธิบายวิธีการวัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. สเกลที่ใช้วัดแต่ละย่านการมีความสำคัญอย่างไรในการวัดปริมาณทางไฟฟ้า
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………