Professional Documents
Culture Documents
ความแตกต่างระหว่างดอกผลธรรมดากับดอกผลนิตินัย
ความแตกต่างระหว่างดอกผลธรรมดากับดอกผลนิตินัย
ความหมายของทรัพย์และทรัพย์สิน
“ทรัพย์” หมายความว่า วัตถุมีรูปร่าง
สิ่งที่จะเป็ นทรัพย์
สิ่งที่เป็ นทรัพย์นน
ั ้ จะต้องเป็ นวัตถุสิ่งที่ไม่เป็ นวัตถุเช่น มนุษย์จึงไม่ใช่ทรัพย์
แต่มนุษย์ที่สน
ิ ้ ลมหายใจไปแล้วอาจเป็ นทรัพย์ได้เพราะไม่มีสภาพบุคคล
แล้วนอกจากนีส
้ ิ่งที่จะเป็ นทรัพย์ยังจะต้องเป็ นวัตถุที่มีรูปร่างด้วยคือ
สามารถมองเห็นเป็ นรูปทรงต่างๆได้ด้วยตา หรือสัมผัสจับต้องได้ เช่น
เครื่องคอมพิวเตอร์ มือถือ ปากกา อาคาร รถยนต์ส่วนสิ่งที่ไม่มีรูปร่างไม่
อาจเป็ นทรัพย์ได้จะเป็ นได้เพียงทรัพย์สินเท่านัน
้
“ทรัพย์สิน” หมายความรวมทัง้ ทรัพย์และวัตถุไม่มีรูปร่างซึ่งอาจ
มีราคาและอาจถือเอาได้
“อาจมีราคา”หมายถึง ราคาที่ซ้อ
ื ขายตามท้องตลาด (Price) และ
รวมถึงราคาในเรื่องคุณค่าด้วย (Value) เช่น อากรแสตมป์
“อาจถือเอาได้” หมายถึง สามารถที่จะเข้าถือเอาเป็ นของตนได้
หรือหวงกันเป็ นของตนแม้จะมิได้อยู่ในมือก็ตาม
กระแสไฟฟ้ าอาจถือเอาได้หรือไม่
ตัวอย่างฎีกา ผู้ขอใช้ไฟเป็ นผูค
้ รอบครองสายไฟฟ้ าในช่วงที่ต่อจากหม้อวัด
ไฟไปยังบ้าน(ฎีกาที่ 1659/2513) แต่ช่วงนอกบ้านหรือถัดจากหม้อวัดไฟ
เป็ นของผู้จำหน่ายกระแสไฟฟ้ า (ฎีกาที่ 478/2523,3354/2527) การ
ไฟฟ้ าส่วนภูมิภาคต้องรับผิด
ดอกผลของทรัพย์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 148 บัญญัติว่า “ดอก
ผลของทรัพย์ ได้แก่ ดอกผลธรรมดาและดอกผลนิตินัย
ดอกผลธรรมดา หมายความว่า สิ่งที่เกิดขึน
้ ตามธรรมชาติของทรัพย์
ซึง่ ได้มาจากตัวทรัพย์ โดยการมีหรือใช้ทรัพย์นน
ั ้ ตามปกตินิยม และ
สามารถถือเอาได้เมื่อขาดจากทรัพย์นน
ั้
ดอกผลนิตินัย หมายความว่า ทรัพย์หรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้มา
เป็ นครัง้ คราวแก่เจ้าของทรัพย์จากผู้อ่ น
ื เพื่อการที่ได้ใช้ทรัพย์นน
ั ้ และ
สามารถคำนวณและถือเอาได้เป็ นรายวันหรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้”
ดอกผลของทรัพย์ คือ ทรัพย์ที่ก่อเกิดหรือได้มาเพราะการใช้ตัวแม่
ทรัพย์(ทรัพย์หลัก) โดยมีลักษณะงอกเงยจากตัวแม่ทรัพย์นน
ั ้ เอง ไม่ว่าจะ
เป็ นการงอกเงยหรือก่อเกิดขึน
้ ตามธรรมชาติของทรัพย์หรือได้มาโดยผล
ของกฎหมายก็ตาม ทรัพย์ที่เป็ นดอกผลแม้จะแยกออกจากแม่ทรัพย์ ก็ไม่
ได้กระทบกระเทือนหรือมีผลต่อความดำรงอยู่ของแม่ทรัพย์แต่อย่างใด
เช่น แม่วัวคลอดลูกวัวออกมา ลูกวัวถือเป็ นดอกผลเพราะเป็ นทรัพย์ที่ก่อ
เกิดหรืองอกเงยมาจากแม่ทรัพย์(แม่วัว) และการงอกเงยหรือก่อเกิดออก
มานัน
้ ไม่ได้ทำให้แม่วัวต้องตาย เสียอวัยวะหรือกระทบกระเทือนถึงความ
ดำรงอยู่ของแม่วัวแต่อย่างใด หรือนมวัวก็ถือเป็ นดอกผลของแม่วัว แต่
หากเป็ นลิน
้ ขา หางของวัว เช่นนีถ
้ ือเป็ นอวัยวะที่มีมาแต่กำเนิด หากเรา
ตัดทิง้ ไปแล้วอวัยวะเหล่านีไ้ ม่ถือเป็ นดอกผล เพราะเมื่อแยกออกมาแล้วมี
ผลกระทบถึงตัวแม่ทรัพย์ (อีกทัง้ อวัยวะเหล่านีก
้ ็ไม่ถือเป็ นส่วนควบ เพราะ
เป็ นสิ่งที่รวมเข้ากันมาแต่เดิมตามธรรมชาติ ไม่ใช่เป็ นกรณีที่เอาทรัพย์สอง
สิ่งมารวมเข้ากันภายหลัง) แต่ขนสัตว์ถือเป็ นดอกผลเพราะแม้จะตัดไปแล้ว
ก็งอกเงยขึน
้ เองได้ตามธรรมชาติ ไม่ได้กระทบกระเทือนถึงตัวแม่ทรัพย์
“แม่ทรัพย์นน
ั ้ มาตรา 148 ได้กำหนดว่าดอกผลของทรัพย์มี 2 ชนิด คือ
ดอกผลธรรมดา และดอกผลนิตินัย”
1.ดอกผลธรรมดา ความหมายอยู่ในมาตรา 148 วรรคสอง คือ ทรัพย์ที่
เกิดหรืองอกเงยจากแม่ทรัพย์โดยธรรมชาติ หรือโดยการใช้แม่ทรัพย์ตาม
ปกติ และสามารถถือเอาได้เมื่อขาดจากแม่ทรัพย์นน
ั ้ หมายถึงเมื่อทรัพย์ที่
เกิดหรืองอกเงยนัน
้ แยกขาดหรือหลุดออกจากตัวแม่ทรัพย์แล้ว สามารถถือ
กรรมสิทธิ ์ ถือการครอบครองแยกต่างหากจากตัวแม่ทรัพย์ได้(แยกออกไป
เป็ นทรัพย์ใหม่ ไม่เกี่ยวข้องกับตัวแม่ทรัพย์อีก) เช่น ผลมะม่วงที่ติดอยู่กับ
ต้น เมื่อมะม่วงหลุดจากต้นแล้ว ก็กลายเป็ นผลมะม่วงที่แยกต่างหากจาก
ต้น(แม่ทรัพย์) สามารถเข้าถือครองได้ เป็ นเจ้าของกรรมสิทธิผ์ ลมะม่วงนัน
้
ได้ เป็ นทรัพย์ที่งอกเงยมาจากต้นมะม่วงตามธรรมชาติ ถือเป็ นดอกผล
ธรรมดา เป็ นต้น
หรือที่ดินที่มีเห็ด หัวมันขึน
้ ตามธรรมชาติ เห็ดและหัวมันสามารถหลุดหรือ
ปลดออกได้โดยไม่กระทบกระเทือนถึงที่ดิน ก็อาจถือเป็ นดอกผลของที่ดิน
นัน
้ ได้เช่นกัน แต่ถ้าเป็ นกรณีที่มนุษย์เอามาปลูกไว้ อย่างนีไ้ ม่ใช่กรณีที่เกิด
ขึน
้ เองตามธรรมชาติ ก็ไม่ถือเป็ นดอกผลธรรมดา หรือมีต้นไม้ขน
ึ ้ บนที่ดิน
หากเป็ นไม้ยืนต้นก็อาจถือเป็ นส่วนควบแทนได้ ดังนัน
้ ต้องดูเป็ นกรณีไป
ทรัพย์หรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้มาเป็ นการตอบแทนจากผู้อ่ น
ื เพื่อการได้
ใช้ทรัพย์นน
ั้
"เงินเดือน" ไม่ใช่ดอกผลนิตินัย เพราะแรงงานคน ไม่ใช่ทรัพย์
เสนอ
อาจารย์ญาติพิชัย กลิ่นเจริญ
โดย
นายยุทธนา หอมเนียม รหัส
6132412058
ภาค กศ.ป.ป.22/36 สาขา
นิตศ
ิ าสตร์
รายงานชิน
้ นีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของวิชา
กฎหมายลักษณะทรัพย์สิน (LAW 122)
คณะวิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้อง
ถิ่น