Professional Documents
Culture Documents
ชื่อบทความ/ผลงาน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนไฮโดรไลซ์เพื่อการบารุงผิว
(Hydrolyzed Collagen Supplement For Skin Nourishment)
ชื่อผู้เขียนบทความ นศภ.ณัฐทรี คงมีสุข นศภ.พิมพกานต์ อึ้งสถาพรผล และ รศ.ดร.ภญ.ธนภร อานวยกิจ
1. บทคัดย่อ
คอลลาเจนเป็นเส้นใยโปรตีนที่พบมากที่สุดในร่างกายของคน เมื่อผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิสจะได้เป็น
ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนที่มีน้าหนักโมเลกุลต่้า โดยคอลลาเจนจัดเป็นส่วนประกอบที่ส้าคัญอย่างหนึ่ง
ของผิวหนัง ผม เล็บ กระดูก กระดูกอ่อน ข้อต่อ กล้ามเนือ และเส้นเอ็น เมื่ออายุมากขึนร่างกายจะผลิตคอลลาเจน
ลดลงปีละ 2 % โดยไฮโดรไลซ์คอลลาเจนมีคุณสมบัติในการพัฒนาผิวพรรณ เช่นเพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มความเนียน
นุ่มของผิว ผิวกระชับขึน ฟื้นฟูผิวได้ อย่างล้าลึก รูขุมขนดูเล็กลง เป็นต้น นอกจากนียังช่วยเติมความชุ่มชืนให้กับ
ผิวหนังชันนอก ท้าให้ช่วยลดสาเหตุการเกิดความชราของผิว อันได้แก่ผิวแห้งและหยาบกร้าน หย่อนคล้อย ร่องลึก
และริวรอย โดยช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสยิ่งขึน ป้องกันการสูญเสียน้า ผิวแข็งแรงและมีความหนาขึน ลดการเกิดฝ้า
จากแสงอัล ตราไวโอเลตจากแสงแดด เพิ่มการสร้าง Fibroblast ช่ว ยสร้าง Collagen type I และการสร้ า ง
Extracellular matrix ให้กับผิวชันหนังแท้ อีกทังไฮโดรไลซ์คอลลาเจนยังเป็นโปรตีนที่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแส
เลือดของมนุษย์ได้ง่ายและรวดเร็ว มีความปลอดภัย มีความเข้ากันได้ทางชีวภาพ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ด้วยคุณสมบัติของไฮโดรไลซ์คอลลาเจนเหล่านีจึงนิยมน้ามาใช้ในทางอุตสาหกรรมอาหารเสริม
2. คาสาคัญ (Key words)
Hydrolyzed Collagen, Skin Nourishment, Skin Aging, Food supplement drink
3. บทความทางวิชาการฉบับเต็ม
2
3.1 วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
1.ทราบกระบวนการการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังเมื่ออายุมากขึน
2.เข้าใจความหมาย คุณสมบัติของคอลลาเจนและไฮโดรไลซ์คอลลาเจน
3.ประสิทธิภาพของคอลลาเจนต่อผิวหนัง
3.2 เนื้อหา
ในสังคมปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจในการดูแลผิวพรรณของตนเองเป็นอย่างมาก อาศัยจากการมีตัวช่วยใน
การดูแลผิวพรรณในรูปแบบที่หลากหลาย เช่นการใช้เครื่องส้าอาง (ครีม โลชั่น เจล มาส์กหน้าบ้ารุงผิว น้าตบบ้ารุง
ผิว เซรั่ม เป็นต้น) การเข้ารับการรักษาที่คลินิกผิวหนัง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
บ้ารุงผิว
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการบ้ารุงผิวในปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์จากสารที่ได้จากธรรมชาติ และสาร
จากการสังเคราะห์ โดยรูปแบบของผลิตภัณฑ์ก็มีหลากหลาย ซึง่ รูปแบบที่ผู้คนให้ความนิยมและง่ายต่อการบริโภค
คือ รูปแบบเม็ด แคปซูล ผงส้าหรับชงดื่ม หรือในรูปแบบซองพร้อมดื่ม ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการ
บ้ารุงผิว เช่น คอลลาเจน (Collagen), กลูต้าไทโอน (Glutathione) และ สังกะสี (Zinc) ตามท้องตลาดจะพบว่า
มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการบ้ารุงผิว หนึ่งที่มีความนิยมมากในขณะนีคือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนเพื่อ
การบ้ารุงผิว โดยคอลลาเจนนันก็มีคุณสมบัติหลากหลายประการที่สามารถน้ามาใช้ท้าเป็นผลิตภัณฑ์เสริม อาหาร
เพื่อการบ้ารุงผิวได้ เช่นเพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มความเนียนนุ่มของผิว ผิวกระชับขึน ฟื้นฟูผิวได้ล้าลึก เป็นต้น
คอลลาเจนเป็นเป็นเส้นใยโปรตีนที่พบมากที่สุดในร่างกาย จัดเป็นส่วนประกอบที่ส้าคัญอย่างหนึ่งของ
ผิวหนัง เมื่ออายุมากขึนร่างกายจะผลิตคอลลาเจนลดลง ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น ผิวบางและ
แห้ง ปัจจุบันจึงมีการน้าคอลลาเจนมาใช้อย่างกว้างขวางในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนเพื่อการบ้ารุงผิว เช่น
คอลลาเจนแบบดั งเดิ ม (Native collagen), ไฮโดรไลซ์ ค อลลาเจน (Hydrolyzed collagen) แต่ ด้ ว ยความ
แตกต่างของประเภทคอลลาเจนที่น้ามาใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส่งผลให้ประสิทธิภาพต่อผิวหนังที่ได้ย่อม
แตกต่างกัน ดังนันผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนควรอยู่ในรูปแบบที่สะดวกและง่ายต่อการบริโภค สามารถดูด
ซึมเข้าร่างกายได้ดี มีความเข้ากันได้ทางชีวภาพ ไม่เกิดอันตรายหรือเป็นพิษกับร่างกายผู้บริโภค
1. ผิวหนังและโครงสร้าง
3
1.1 Keratinocytes เป็ น เซลล์ ห ลั ก ของหนั ง ก้ า พร้ า แบ่ ง เป็ น ชั นต่ า ง ๆ 5 ชั น ตามรู ป ร่ า งและ
ส่วนประกอบในเซลล์ จัดเป็น Stratified squamous epithelium เรียงจากชันในไปนอกสุด4 ตามล้าดับ ได้แก่
3. ผิ ว หนั ง ชั้ น ไขมั น (Hypodermis หรื อ Subcutis) เป็ น ผิ ว หนั ง ชั นที่ ส ามและอยู่ ลึ ก ที่ สุ ด มั ก เรี ย กว่ า
Subcutaneous fascia5 โดยผิวหนังชันนีประกอบไปด้วยเนือเยื่อไขมันเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่า Adipocytes4 ซึ่งจะ
อยู่กันเป็นก้อน (Fat lobule) และกันด้วยผนังเนือเยื่อเกี่ยวพัน (Fat septum) ซึ่งมี คอลลาเจน หลอดเลือดหลอด
น้าเหลือง เป็นส่วนประกอบ3
2.ปัจจัยที่ส่งผลต่อความชราของผิวหนัง
ปั จ จั ย ที่ มี ผ ลต่ อ ผิ ว หนั ง มี 2 ปั จ จั ย หลั ก ได้ แ ก่ ปั จ จั ย ภายใน(Intrinsic aging) และ ปั จ จั ย
ภายนอก (Extrinsic aging)
6
รูปที่ 2 เปรียบเทียบโครงสร้างผิวหนังของวัยรุ่นและวัยชรา17
8
ส่วนโทษของคอลลาเจนนันส่วนมากแล้วหากเป็นคอลลาเจนที่มีในอาหารแล้วร่างกายได้รับเข้าไปโดยการ
รับประทานในรูปแบบอาหารในแต่ละวัน ไม่พบว่ามีโทษต่อร่างกายแต่อย่างใด อาจเกิดอาการแพ้ส้าหรับผู้ที่มีภูมิ
ต้านทานน้อย หรือเลือกใช้แหล่งคอลลาเจนที่ไม่ได้คุณภาพมีโอกาสเกิดการแพ้ได้ - โดยเป็นการแพ้โปรตีนที่เป็น
แหล่งสกัดของคอลลาเจนในสูตรต้ารับ เช่น คอลลาเจนจากวัว คอลลาเจนจากไก่ คอลลาเจนจากปลา คอลลาเจน
จากหมู เป็นต้น33 นอกจากนียังมีโทษที่เกิดจากผลกระทบจากการขาดคอลลาเจน เช่นการเกิดโรคข้อเข่าเสื่ อม
กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพ ผิวหนังหย่อนคล้อยเหี่ยวย่น และเกิดริวรอยบนผิวหนัง34
12
ประเภทของคอลลาเจนที่พบในร่างกาย
ในปัจจุบันมีการค้นพบคอลลาเจนมากกว่า 28 ชนิด แต่คอลลาเจนที่พบมากที่สุด คือ Type I ถึง Type
V35 ดังแสดงในตารางที่ 1
ตารางที่ 1 ประเภทของคอลลาเจนและแหล่งที่พบ
ประเภท แหล่งที่พบ
คอลลาเจนประเภทที่ 1 (Type I) พบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทังหมดในร่ า งกาย
ช่วยในการสร้างกระดูก ผนังหลอดเลือด เอ็นและเอ็น
ยึดกล้ามเนือ ผิวหนัง กระจกตา และเนือเยื่อเกี่ยวพัน
มีความเหนียวและแข็งแรงมากที่สุด31
คอลลาเจนประเภทที่ 2 (Type II) พบมากในกระดูกอ่อนเช่นส่ ว นประกอบของหู จมูก
หลอดลม และกระดูกซี่โครง31
คอลลาเจนประเภทที่ 3 (Type III) มักพบร่วมกับประเภทที่ 1 คือพบในผิว กล้ามเนือ และ
ผนังหลอดเลือด31
คอลลาเจนประเภทที่ 4 (Type IV) พบใน Basal lamina และ Basement membrane
ในส่วนของ Epithelium-secreted layer31
คอลลาเจนประเภทที่ 5 (Type V) พบในผิวของเซลล์ผมและรก32
การสังเคราะห์คอลลาเจน
กระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจนเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีน โดยเกิดขึน
ส่วนใหญ่ในเซลล์ของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์พิเศษในผิวหนังที่มีหน้าที่หลักในการสังเคราะห์
คอลลาเจนและสโตรมา (Stroma) โดยการสังเคราะห์คอลลาเจนเกิดขึนทังภายในเซลล์ (Intracellular) และนอก
เซลล์ (Extracellular)35
Intracellular
มีสายพอลีเปปไทด์ที่เรียกว่า โปรโตคอลลาเจน (Protocollagen) ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านีจะถูกกระตุ้น
ท้าให้กรดอะมิโนโปรลีน (Proline) ถูกเติมหมู่ไฮดรอกซิล (Hydroxyl group) โดยกระบวนการ Hydroxylation
13
หลั ง การแปลรหั ส พั น ธุ ก รรม (Post-translation) โดยเอนไซม์ prolyl hydroxylase โดยมี Vitamin C เป็ น
Cofactor36 กลายเป็น ไฮดรอกซีโปรลีน (Hydroxyproline) และกรดอะมิโนไลซีน (Lysine) จะกลายเป็นไฮดรอก
ซีไลซีน (Hydroxylysine) ที่ท้าให้การยึดเส้นใยหน่วยย่อยของคอลลาเจนให้เป็นมัดที่เสถียร โดยกระบวนการ
ดังกล่าวจะเกิดขึนที่ไรโบโซม (Ribosome) และท้าให้เกิดโปรคอลลาเจน (Procollagen) ขึน จากนันโปรคอลลา
เจนจึงถูกเติมหมู่น้าตาลกลูโคสและน้าตาลกาแลคโตสโดยกระบวนการ Glycosylation ให้กับไฮดรอกซิไลซีน และ
กรดอะมิโนแอสปาราจีน (Asparagine) แล้วสายโพลีเปปไทด์สามสายจะพันเป็นเกลียว (Triple helix)37 โดยการ
เกิดพันธะไดซัลไฟด์ (Disulfide bond) ภายในสายเดียวกันและระหว่างสาย แล้วโปรคอลลาเจนจะถูกขนส่งออก
จาก Endoplasmic reticulum ผ่ า น Golgi แล้ ว เริ่ ม เกิ ด การเกาะกลุ่ ม กั น กลายเป็ น Secretory vesicles ใน
ระหว่างการขนส่ง จากนันจะถูกคัดหลั่งออกมาอยู่นอกเซลล์ (Extracellular space) ทางช่องขนาดเล็กที่เรียกว่า
Microtubules35
Extracellular
ขันตอนของ Propeptide cleavage มีส่วนปลายสายทังสองข้างของโมเลกุลโปรคอลลาเจนจะถูกตัด
ได้ด้วยเอนไซม์เฉพาะที่เรีย กว่า Collagen peptidase ท้าให้โปรคอลลาเจนเปลี่ยนไปเป็นโทรโปคอลลาเจน
(Tropocollagen) และในขันตอน Collagen fibril assembly โทรโปคอลลาเจนหลาย ๆ โมเลกุลจะรวมตัวกัน
โดยการเกิดพันธะโควาเลนต์ (Covalent bond) เชื่อมประสานระหว่างโมเลกุล โดยเอนไซม์ Lysyl oxidase เรียง
ตัวเป็นเส้นใย (Fibril) ซึ่งอยู่ในเนือเยื่อเกี่ยวพัน36
การสังเคราะห์คอลลาเจนเกิดขึนตลอดเวลาที่เรายังมีชีวิตอยู่ เพื่อการซ่อมแซมและแทนที่ส่วนที่ถูก
ท้าลาย การเสื่อมสภาพและท้าให้คอลลาเจนที่ถูกท้าลายให้กลับมาแข็งแรงนัน กระบวนการโดยทั่วไปได้จากการ
สร้างโปรตีนที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งจ้าเป็นที่จะต้องสร้างโครงร่างของเซลล์ใหม่ เช่นกระบวนการสมานแผล เป็นต้น38
ไฮโดรไลซ์ ค อลลาเจน เป็ น โปรตี น ที่ มี น้ า หนั ก โมเลกุ ล ต่้ า ที่ มี ค่ า ในช่ ว ง 1-10 kDa เกิ ด จากการ
Denaturation คอลลาเจนแบบดังเดิม ให้ มีข นาดที่ เล็ กลงภายใต้ ใ นอุ ณหภูมิที่ ก้าหนด (Specific incubation
time) โดยการท้าให้เกิดการตัดสาย Alpha-chain 3 สาย จากตอนแรกที่มีการขดสายแบบสุ่ม (Random coiled
form) แยกสายโซ่ออกจากกัน โดยวิธีเอนไซม์ไฮโดรไลซีส (Enzyme hydrolysis) โดยการให้ความร้อนกับคอลลา
เจนในอุณหภูมิที่สูงกว่า 40°C จากนันใช้ Proteolytic enzymes เช่น Alcalase, Papain, Pepsin และอื่น ๆ ใน
การตัดพันธะเปปไทด์ ได้เป็นไฮโดรไลซ์คอลลาเจนที่เป็นโปรตีนสายสัน มีน้าหนักโมเลกุลประมาณ 3-6 kDa ซึ่ง
คุ ณ สมบั ติ ใ นด้ า นการละลายและฤทธิ์ อื่ น ๆ เช่ น ฤทธิ์ ต้ า นอนุ มู ล อิ ส ระ (Antioxidant), ฤทธิ์ ต้ า นจุ ล ชี พ
(Antimicrobial) จะขึนกับชนิดและระดับความสามารถในการเกิดไฮโดรไลซีส รวมถึงเอนไซม์ที่ใช้ในกระบวนการ
Denaturation คอลลาเจนแบบดังเดิม โดยการไฮโดรไลซีส อีกชนิดหนึ่งคือ Chemical hydrolysis ท้าในสภาวะ
กรดด้วยกรดชนิดต่างๆ เช่น Acetic acid, Hydrochloric acid และ Phosphoric acid หรือในสภาวะด่าง เช่น
การใช้ Sodium hydroxide ซึง่ Reagent ที่นิยมใช้ในการสกัด collagen ด้วย chemical hydrolysis คือ Acetic
acid โดยการสกัดในสภาวะกรดและสภาวะด่างนีท้าให้เกิดการกัดกร่อนที่ค่อนข้างแรง นอกจากนียังมีวิธีอื่นที่ใช้ใน
การสกัด เช่น การให้ความร้อน หรือการใช้อุณหภูมิสูงและความดันสูงแก่โปรตีน รวมถึงการสกัดด้วย Subcritical
water level (SCW) ที่อุณหภูมิระหว่าง 100 ถึง 374 °C และความดันที่ต่ากว่า 22 MP คอลลาเจนมีหลากหลาย
แหล่งที่มา แต่มักนิยมสกัดมาจากสัตว์ เช่นวัว หมูและปลา เป็นต้น การจะใช้วิธีการใดในการสกัดขึนกับคุณสมบัติ
ทางเคมีของคอลลาเจนชนิดนัน ๆ39
รูปที่ 6 ความเข้มข้นของกรดอะมิโนทังหมด (AAs) ในพลาสมา EHC คือ Edible Hydrolyzed collagen, NC คือ
Native collagen47
3.3.บทสรุป
ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนเป็นโปรตีนสายสัน เกิดจากการตัดสายคอลลาเจนแบบดังเดิม ให้มีขนาดโมเลกุลเล็ก
ลง เมื่อรับประทานไฮโดรไลซ์คอลลาเจน จึงท้าให้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ได้ง่ายและรวดเร็ว มี
ประสิทธิภาพในการลดริวรอย เพิ่มความชุ่มชืนให้แก่ผิว เพิ่มความยืดหยุ่น ลดรอยขรุขระ ผิวเรียบเนียนขึน ท้า
ให้ผิวมีความหนาแน่นและแข็งแรงขึน สามารถลดรูขุมขนให้น้อยลงได้และยังมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ลด
การเกิดฝ้าจากแสงยูวีอีกด้วย อีกทังการใช้ไฮโดรไลซ์คอลลาเจน ยังไม่ก่อให้เกิดการแพ้ จึงมีความปลอดภัยใน
การใช้งาน ปัจจุบันจึงนิยมน้าไฮโดรไลซ์คอลลาเจนมาท้าเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อใช้บ้ารุงผิว
19
3.4. เอกสารอ้างอิง
1. Lai-Cheong JE, McGrath JA. Structure and function of skin, hair and nails. Medicine.
2021;49(6):337–42.
3. Structure and function of skin [อินเทอร์เน็ต]. [อ้างถึง 25 กรกฎาคม 2021]. Available at:
https://meded.psu.ac.th/binlaApp/class05/388_573/intro_to_dematology/index.html
4. Agarwal S, Krishnamurthy K. Histology, Skin. ใน: StatPearls [อินเทอร์เน็ต]. Treasure Island (FL):
StatPearls Publishing; 2021 [อ้างถึง 2 สิงหาคม 2021]. Available at:
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK537325/
6. Cells and Layers of the Epidermis [อินเทอร์เน็ต]. Earth’s Lab. 2018 [อ้างถึง 31 กรกฎาคม 2021].
Available at: https://www.earthslab.com/physiology/cells-layers-epidermis/
8. Rajesh A, Wise L, Hibma M. The role of Langerhans cells in pathologies of the skin. Immunol
Cell Biol. 2019;97(8):700–13.
10. Farage MA, Miller KW, Elsner P, Maibach HI. Intrinsic and extrinsic factors in skin ageing: a
review. International Journal of Cosmetic Science. 2008;30(2):87–95.
20
11. Thornton MJ. Estrogens and aging skin. Dermato endocrinol. 2013;5(2):264–70.
12. Nippoldt TB, Nair KS. DHEA replacement. Baillière’s Clinical Endocrinology and Metabolism.
1998;12(3):507–20.
13. dehydroepiandrosterone a hormone in: Journal of Endocrinology Volume 187 Issue 2 (2005)
[อินเทอร์เน็ต]. [อ้างถึง 2 สิงหาคม 2021]. Available at:
https://joe.bioscientifica.com/view/journals/joe/187/2/1870169.xml
14. DHEA treatment: Trends in Endocrinology & Metabolism [อินเทอร์เน็ต]. [อ้างถึง 2 สิงหาคม 2021].
Available at: https://www.cell.com/trends/endocrinology-metabolism/fulltext/S1043-
2760(02)00617-
3?_returnURL=https%3A%2F%2Flinkinghub.elsevier.com%2Fretrieve%2Fpii%2FS1043276002
006173%3Fshowall%3Dtrue
15. The Distribution of Estrogen Receptor β Is Distinct to That of Estrogen Receptor α and the
Androgen Receptor in Human Skin and the Pilosebaceous Unit | Elsevier Enhanced Reader
[อินเทอร์เน็ต]. [อ้างถึง 1 สิงหาคม 2021]. Available at:
https://reader.elsevier.com/reader/sd/pii/S0022202X15529497?token=E25E86E0430AF7E37F1
3351ED1FE3BFA4A2F1E3EA2FCC47B489241B57A0CBF0C63FECE1BB408B17877689FB8A4161D9
D&originRegion=eu-west-1&originCreation=20210731225015&fbclid=IwAR3pZypfXSO-
EbqLQ93Tjifu3YezQD8ob2C9t0cDgjkWHGWTIZci4OGc1WA
16. Zhang S, Duan E. Fighting against Skin Aging. Cell Transplant. 2018;27(5):729–38.
17. Farage MA, Miller KW, Elsner P, Maibach HI. Structural characteristics of the aging skin: a
review. Cutan Ocul Toxicol. 2007;26(4):343–57.
18. Waller JM, Maibach HI. Age and skin structure and function, a quantitative approach (I):
blood flow, pH, thickness, and ultrasound echogenicity. Skin Research and Technology.
2005;11(4):221–35.
19. Boss GR, Seegmiller JE. Age-Related Physiological Changes and Their Clinical Significance.
West J Med. 1981;135(6):434–40.
21
20. Farage MA, Miller KW, Elsner P, Maibach HI. Characteristics of the Aging Skin. Adv Wound
Care (New Rochelle). 2013;2(1):5–10.
21. Naylor EC, Watson REB, Sherratt MJ. Molecular aspects of skin ageing. Maturitas.
2011;69(3):249–56.
22. Mesa-Arango AC, Flórez-Muñoz SV, Sanclemente G, Mesa-Arango AC, Flórez-Muñoz SV,
Sanclemente G. Mechanisms of skin aging. Iatreia. 2017;30(2):160–70.
23. D’Orazio J, Jarrett S, Amaro-Ortiz A, Scott T. UV Radiation and the Skin. Int J Mol Sci.
72013;14(6):12222–48.
24. Kim C-S, Park S, Kim J. The role of glycation in the pathogenesis of aging and its prevention
through herbal products and physical exercise. J Exerc Nutrition Biochem. 2017;21(3):55–61.
25. Fournet M, Bonté F, Desmoulière A. Glycation Damage: A Possible Hub for Major
Pathophysiological Disorders and Aging. Aging Dis. 2018;9(5):880–900.
26. Parvizi J, Kim GK. Chapter 53 - Collagen. ใน: Parvizi J, Kim GK, บรรณาธิการ. High Yield
Orthopaedics [อินเทอร์เน็ต]. Philadelphia: W.B. Saunders; 2010 [อ้างถึง 25 กรกฎาคม 2021]. น.
107–9. Available at:
https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/B978141600236900064X
27. Ricard-Blum S. The Collagen Family. Cold Spring Harb Perspect Biol.2011;3(1):a004978.
28. Veysey EC, Finlay AY. CHAPTER 22 - Aging and the Skin. ใน: Fillit HM, Rockwood K,
Woodhouse K, บรรณาธิการ. Brocklehurst’s Textbook of Geriatric Medicine and Gerontology
(Seventh Edition) [อินเทอร์เน็ต]. Philadelphia: W.B. Saunders; 2010 [อ้างถึง 25 กรกฎาคม 2021].
น. 133–7. Available at:
https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/B9781416062318100224
29. Vollmer DL, West VA, Lephart ED. Enhancing Skin Health: By Oral Administration of Natural
Compounds and Minerals with Implications to the Dermal Microbiome. Int J Mol Sci.
72018;19(10):3059.
22
30. Sandhu SV, Gupta S, Bansal H, Singla K. Collagen in Health and Disease. Journal of Orofacial
Research. 2012;2.
31. Tzaphlidou M. The role of collagen and elastin in aged skin: an image processing approach.
Micron. 2004;35(3):173–7.
32. Ganceviciene R, Liakou AI, Theodoridis A, Makrantonaki E, Zouboulis CC. Skin anti-aging
strategies. Dermato endocrinol. 2012;4(3):308–19.
33. Lupu M-A, Gradisteanu Pircalabioru G, Chifiriuc M-C, Albulescu R, Tanase C. Beneficial effects
of food supplements based on hydrolyzed collagen for skin care (Review). Exp Ther Med.
2020;20(1):12–7.
35. Wu M, Cronin K, Crane JS. Biochemistry, Collagen Synthesis. ใน: StatPearls [อินเทอร์เน็ต].
Treasure Island (FL): StatPearls Publishing; 2021 [อ้างถึง 2 สิงหาคม 2021]. Available at:
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK507709/
36. Albaugh VL, Mukherjee K, Barbul A. Proline Precursors and Collagen Synthesis: Biochemical
Challenges of Nutrient Supplementation and Wound Healing. J Nutr. 2017;147(11):2011–7.
40. Collagen extraction process [อินเทอร์เน็ต]. [อ้างถึง 31 สิงหาคม 2021]. Available at:
http://www.ifrj.upm.edu.my/23%20(03)%202016/(1).pdf?fbclid=IwAR2kKT8rZr_FEzY2E6lPrciU
ESq22ESo0K2OC1kVfphNT3nBSD_G6OLfh7s
41. Marine Fish Proteins and Peptides for Cosmeceuticals: A Review [อินเทอร์เน็ต]. [อ้างถึง 31
สิงหาคม 2021]. Available at:
https://www.researchgate.net/publication/317115295_Marine_Fish_Proteins_and_Peptides_f
or_Cosmeceuticals_A_Review
43. Genovese L, Corbo A, Sibilla S. An Insight into the Changes in Skin Texture and Properties
following Dietary Intervention with a Nutricosmeceutical Containing a Blend of Collagen
Bioactive Peptides and Antioxidants. SPP. 2017;30(3):146–58.
44. Ito N, Seki S, Ueda F. Effects of Composite Supplement Containing Collagen Peptide and
Ornithine on Skin Conditions and Plasma IGF-1 Levels—A Randomized, Double-Blind,
Placebo-Controlled Trial. Marine Drugs. 2018;16(12):482.
45. Kim D-U, Chung H-C, Choi J, Sakai Y, Lee B-Y. Oral Intake of Low-Molecular-Weight Collagen
Peptide Improves Hydration, Elasticity, and Wrinkling in Human Skin: A Randomized, Double-
Blind, Placebo-Controlled Study. Nutrients. 2018;10(7):826.
46. Laing S, Bielfeldt S, Ehrenberg C, Wilhelm K-P. A Dermonutrient Containing Special Collagen
Peptides Improves Skin Structure and Function: A Randomized, Placebo-Controlled, Triple-
Blind Trial Using Confocal Laser Scanning Microscopy on the Cosmetic Effects and Tolerance
of a Drinkable Collagen Supplement. J Med Food. 2020;23(2):147–52.
47. Skov K, Oxfeldt M, Thøgersen R, Hansen M, Bertram HC. Enzymatic Hydrolysis of a Collagen
Hydrolysate Enhances Postprandial Absorption Rate—A Randomized Controlled Trial.
Nutrients. 2019;11(5):1064.