Professional Documents
Culture Documents
TRGN FN
TRGN FN
ตรี โกณมิติ
22 Jan 2021
สารบัญ
การวัดมุมในหน่วยเรเดียน ....................................................................................................................................................... 1
ฟั งก์ชนั ตรีโกณมิติ .................................................................................................................................................................... 5
การวัดมุมในหน่วยองศา .......................................................................................................................................................... 7
การแปลงมุมเป็ นรูปอย่างง่าย .................................................................................................................................................. 9
กราฟฟั งก์ชนั ตรีโกณมิติ ........................................................................................................................................................ 14
สูตรพืน้ ฐาน ........................................................................................................................................................................... 18
สูตรผลบวกผลต่างมุม ........................................................................................................................................................... 22
สูตรมุมสองเท่า สามเท่า ครึง่ เท่า .......................................................................................................................................... 29
สูตรแปลงผลคูณกับผลบวกลบ............................................................................................................................................. 39
สมการตรีโกณมิติ .................................................................................................................................................................. 48
ฟั งก์ชนั อาร์ค .......................................................................................................................................................................... 55
การนาไปใช้กบั สามเหลีย่ ม ................................................................................................................................................... 67
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 1
การวัดมุมในหน่วยเรเดียน
(0, −1)
𝜃
การวัดมุมในหน่วยเรเดียน จะนับพิกดั (1, 0) เป็ น “จุดเริม่ ต้น”
“มุมที่กาง 𝜃 เรเดียน” จะหมายถึง มุมที่เริม่ เดินจาก (1, 0) (1,0)
ในทิศ “ทวนเข็มนาฬิกา” ไปตามเส้นรอบวงกลมเป็ น “ระยะทาง” 𝜃 หน่วย
𝜋
เนื่องจาก 1 รอบ = 2𝜋 ดังนัน้ ครึง่ รอบ = 𝜋
นั่นคือ มุมที่กาง 𝜋 เรเดียน จะเดินได้แค่ครึง่ รอบ มาหยุดที่ (−1, 0) (−1,0)
สิง่ แรกที่ตอ้ งทาให้ได้ในเรือ่ งนี ้ คือ ต้องหา “จุดหยุด” ทัง้ 16 จุด ของมุมพืน้ ฐานให้ได้ ดังนี ้
𝜋
2
1 √3 (0, 1) 1 √3 𝜋
(− , ) ( , ) →
2 2 2 2 3
√2 √2 √2 √2 𝜋
(− , ) ( , ) →
2 2 2 2 4
√3 1 √3 1 𝜋
(− , ) ( , ) →
2 2 2 2 6
คี่ 𝜋 (1, 0)
คู่ 𝜋
(−1, 0)
√3 1 √3 1
(− ,− ) ( ,− )
2 2 2 2
√2 √2 (
√2
,−
√2
) (−, +) (+, +)
(− ,− ) 2 2
2 2
1 1 √3
(− , −
√3
) ( ,− ) (−, −) (+, −)
2 2
2 2 (0, −1)
จะเห็นว่าตัวเลขพิกดั (𝑥, 𝑦) จะเป็ นค่าเดียวกันกับ sin และ cos ของ มุม 30° , 45° , 60° ที่เคยเรียนในเลขพืน้ ฐาน
โดย เรานิยมใช้สญ
ั ลักษณ์ P(𝜃) แทน พิกดั ของจุดปลายมุม 𝜃
𝜋 𝜋 √2 √2
เช่น P ( 2 ) = (0, 1) P (4 ) = ( 2
, 2 )
𝜋 1 √3
P(𝜋) = (−1, 0) P (− 3 ) = ( 2 , − 2
)
ตัวอย่าง จงหา P( 3𝜋 2
)
3𝜋 3×180
วิธีทา จะใช้วิธีแทน 𝜋 ด้วย 180° ก็ได้ จะได้ 2
= 2
= 270°
(−1, 0)
3𝜋 𝜋
หรือจะมองว่า 2
= 𝜋 + 2 = (−1, 0) + 90°
3𝜋 𝜋 (1, 0)
หรือจะมองว่า 2
= 2𝜋 − 2 = (1, 0) − 90°
3𝜋 𝜋
จะมองว่า 2
คือ 2
สามครัง้ ก็ได้
3𝜋
ไม่วา่ จะมองแบบไหน ก็จะได้ P( 2
) = (0, −1) #
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 3
แบบฝึ กหัด
1. จงหาพิกดั ต่อไปนี ้
1. P(𝜋2) 2. P(𝜋)
𝜋
3. P(3𝜋) 4. P( 3 )
3𝜋 𝜋
5. P(− 2
) 6. P( 4 )
4𝜋 5𝜋
7. P(− 3
) 8. P( 3 )
13𝜋 7𝜋
9. P(− 2
) 10. P( 6 )
4 ฟั งก์ชนั ตรีโกณมิติ
5𝜋 11𝜋
11. P(− 4
) 12. P(− 6
)
11𝜋 5𝜋
13. P( 3
) 14. P(− 6
)
103𝜋 55𝜋
15. P(
2
) 16. P(−
3
)
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 5
ฟั งก์ชนั ตรีโกณมิติ
ฟั งก์ชนั ตรีโกณมิติ คือ ฟังก์ชนั ทีม่ ี sin , cos , tan , cot , cosec , sec อยูใ่ นสมการฟั งก์ชนั
สมัยก่อน เราได้เรียนวิธีหา sin 𝜃 กับ cos 𝜃 จากสามเหลีย่ มมุมฉาก แต่วิธีนจี ้ ะมีขอ้ จากัดนิดหน่อย
เพราะมุมในสามเหลีย่ มมุมฉากจะเกิน 90° ไม่ได้ เป็ นมุมติดลบก็ไม่ได้
ในเรือ่ งนี ้ จะมีวธิ ีหา sin 𝜃 กับ cos 𝜃 อีกวิธี โดย sin 𝜃 จะหาจาก “พิกดั 𝑦” ของ P(𝜃)
cos 𝜃 จะหาจาก “พิกดั 𝑥 ” ของ P(𝜃)
2𝜋 1 √3 2𝜋 √3
เช่น P ( 3 ) = (− 2 , 2
) ดังนัน้ sin 3
และ cos 2𝜋
= 2 3
1
= −2
P(−𝜋) = (−1, 0) ดังนัน้ sin (−𝜋) = 0 และ cos (−𝜋) = −1
7𝜋 √3 1 7𝜋 1 7𝜋 √3
P ( 6 ) = (− 2
, − 2) ดังนัน้ sin 6
= −2 และ cos 6
=− 2
4𝜋 1 √3 4𝜋 √3 4𝜋 1
P( ) =
3
(− , − )
2 2
ดังนัน้ sin
3
=−
2
และ cos = −
3 2
เนื่องจาก P(𝜃) เป็ นพิกดั บนวงกลมหนึง่ หน่วย ดังนัน้ พิกดั 𝑥 และ พิกดั 𝑦 ของ P(𝜃) จะอยูร่ ะหว่าง −1 และ 1 เสมอ
ซึง่ จะทาให้ได้วา่ −1 ≤ sin 𝜃 ≤ 1 และ −1 ≤ cos 𝜃 ≤ 1 เสมอ
2𝜋 1 √3 2𝜋 2 2𝜋 2
เช่น P ( 3 ) = (− 2 , 2
) ดังนัน้ cosec 3
=
√3
sec 3
= − 1 = −2
2𝜋 √3/2 2𝜋 −1/2 1
tan 3
= −1/2 = −√3 cot 3
=
√3/2
= −
√3
เป็ นต้น
แบบฝึ กหัด
1. จงหาค่าในแต่ละข้อต่อไปนี ้
1. sin 𝜋2 = 2. cos (−𝜋) =
6 ฟั งก์ชนั ตรีโกณมิติ
𝜋 𝜋
3. tan 3 = 4. sec (− 4 ) =
5𝜋 4𝜋
5. cosec 6
= 6. cot 3
=
2𝜋 5𝜋
7. cos 3
= 8. cosec 2 (− 2
) =
11𝜋 7𝜋
9. sin
6
= 10. sec 2
6
=
3𝜋 34𝜋
11. tan
2
= 12. cot 2(−
3
) =
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 7
การวัดมุมในหน่วยองศา
แบบฝึ กหัด
1. จงแปลงมุมต่อไปนี ้ ให้มีหน่วยเป็ นองศา
1. 7𝜋 3
2. 4𝜋
5
10π
3. 101𝜋 4. − 4
3. 40° 4. −2700°
8 ฟั งก์ชนั ตรีโกณมิติ
3. จงหาค่าในแต่ละข้อต่อไปนี ้
1. sin 150° 2. cos(−150°)
การแปลงมุมเป็ นรูปอย่างง่าย
− − − + + −
sin all
เรามักนิยมใช้แผนภาพ tan cos เพื่อช่วยจาว่าฟังก์ชนั ไหนเป็ นบวกในจตุภาคไหน
โอ ซานตาคอส
ตัวอย่าง ถ้า sin 𝜃 < 0 และ cos 𝜃 > 0 แล้ว จงหาว่า 𝜃 อยูใ่ นจตุภาคใด
วิธีทา sin 𝜃 < 0 แสดงว่า 𝜃 อยูใ่ นจตุภาคที่ 3 หรือ 4
cos 𝜃 > 0 แสดงว่า 𝜃 อยูใ่ นจตุภาคที่ 1 หรือ 4
ดังนัน้ 𝜃 ต้องอยูใ่ นจตุภาคที่ 4 จึงจะทาให้ sin 𝜃 < 0 และ cos 𝜃 > 0 จริงทัง้ สองเงื่อนไข #
คู𝜋่ + 𝜃 → Q1 คู𝜋่ − 𝜃 → Q4
คี่𝜋 คู𝜋่
คี่𝜋 + 𝜃 → Q3 คี่𝜋 − 𝜃 → Q2
หมายเหตุ: เวลาคิดจตุภาค จะสมมติให้ 𝜃 เป็ นมุมน้อยๆ แต่ผลลัพธ์สดุ ท้าย จะเป็ นจริงสาหรับมุม 𝜃 ใหญ่ๆด้วย
9𝜋 𝜋 𝜋
cot( 5 ) = cot(2𝜋 − 5 ) = cot Q 4 = − cot 5
8𝜋 𝜋 𝜋 1
cos( 3 ) = cos(3𝜋 − 3 ) = cos Q 2 = − cos 3 = − 2
13𝜋 𝜋 𝜋
cosec(− 6
) = cosec(−2𝜋 − 6 ) = cosec Q 4 = − cosec 6 = −2
คี่𝜋
คู𝜋
่
= sin Q 4 = cot Q1
= −cos 𝜃 = tan 𝜃
𝜋 3𝜋 3𝜋
sec(− − 𝜃) = cos(𝜃 − 2
) = cos(− 2
+ 𝜃)
2
𝜋
= cos(−𝜋 − 2 + 𝜃)
= sec Q 3
= −cosec 𝜃 คี่𝜋
= cos Q 2
= −sin 𝜃
แบบฝึ กหัด
1. จงแปลงให้อยูใ่ นรูปอย่างง่าย
1. sin(𝜋 − 𝜃) 2. cos(𝜋 − 𝜃)
3. tan(𝜋 + 𝜃) 4. cos(𝜋 + 𝜃)
𝜋 𝜋
5. sec(2 − 𝜃) 6. sin(2 − 𝜃)
𝜋 𝜋
7. cot(𝜃 − )
2
8. cosec(𝜃 − )
2
7𝜋
9. sec( 2 − 𝜃) 10. tan(−𝜃)
3𝜋
11. sec(−𝜃) 12. cosec(𝜃 −
2
)
12 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
3𝜋
13. tan(𝜃 − 2
) 14. cot(𝜃 − 𝜋)
3𝜋
15. cos( 2 + 𝜃) 16. sin(𝜃 − 𝜋)
5
19. tan(−5𝜋 + 𝜃) 20. sec(− 𝜋 − 𝜃)
2
73
21. sin(−72𝜋 − 𝜃) 22. cot(−
2
𝜋 + 𝜃)
2. จงหาผลลัพธ์ในแต่ละข้อต่อไปนี ้
1. sin 40° − sin 140° 2. cos 80° + cos 100°
𝑦 = sin 𝑥 𝑦 = cos 𝑥
1 1
−2𝜋 − 3𝜋 −𝜋 − 𝜋 0 𝜋 𝜋 3𝜋 2𝜋 −2𝜋 − 3𝜋 −𝜋 − 𝜋 0 𝜋 𝜋 3𝜋 2𝜋
2 2 2 2 2 2 2 2
−1 −1
𝑦 = tan 𝑥 𝑦 = cot 𝑥
−2𝜋 − 3𝜋 −𝜋 − 𝜋 0 𝜋 𝜋 3𝜋 2𝜋 −2𝜋 − 3𝜋 −𝜋 − 𝜋 0 𝜋 𝜋 3𝜋 2𝜋
22 2 2 2 2 2 2
𝑦 = cosec 𝑥 𝑦 = sec 𝑥
1 1
−2𝜋 − 3𝜋 −𝜋 − 𝜋 0 𝜋 𝜋 3𝜋 2𝜋 −2𝜋 − 3𝜋 −𝜋 − 𝜋 0 𝜋 𝜋 3𝜋 2𝜋
2 2 2 2 2 2 2 2
−1 −1
หมายเหตุ: คลืน่ ในวิชาฟิ สกิ ส์ จะมีลกั ษณะเหมือนกราฟ sin และ cos และจะนิยมใช้ 𝑡 เป็ นตัวแปรแทน 𝑥
ตัวอย่าง กาหนดให้ 0 < 𝑡 < 2𝜋 และ 𝑦 = 2 sin(2𝑡 + 𝜋2) จงหาค่าต่าสุดของ 𝑦 พร้อมทัง้ หาค่า 𝑡 ที่ทาให้ 𝑦 มีคา่
ต่าสุด
วิธีทา เนื่องจาก 𝑦 = 2 sin(2𝑡 + 𝜋2) ดังนัน้ 𝑦 จะต่าที่สดุ เมื่อ sin(2𝑡 + 𝜋2) ต่าที่สดุ
ไม่วา่ 𝜃 จะเป็ นอะไรก็ตาม ค่าต่าสุดของ sin 𝜃 คือ −1
ดังนัน้ sin(2𝑡 + 𝜋2) จะต่าที่สดุ ได้เท่ากับ −1
ดังนัน้ 𝑦 = 2 sin(2𝑡 + 𝜋2) จะต่าสุดได้เท่ากับ 2 (−1) = −2
และเนื่องจาก sin 𝜃 จะเท่ากับ −1 เมื่อ 𝜃 = 2𝑛𝜋 + 3𝜋 2
เมื่อ 𝑛 เป็ นจานวนเต็มอะไรก็ได้
𝜋
ดังนัน้ sin(2𝑡 + 2) จะต่าที่สดุ เมื่อ 2𝑡 + 𝜋 = 2𝑛𝜋 + 3𝜋
2 2
2𝑡 = 2𝑛𝜋 + 𝜋
𝜋
𝑡 = 𝑛𝜋 + 2
𝑦𝑚𝑎𝑥 −𝑦𝑚𝑖𝑛
คาศัพท์อกี คาทีจ่ ะเจอในกราฟ sin กับ cos คือ คาว่า “แอมพลิจดู ” ซึง่ หาได้จาก 2
เรามีวิธีหาแอมพลิจดู แบบง่ายๆ ดังนี ้
𝑦 = 𝐴 sin(𝐵𝑥 + 𝐶)
𝑦 = 𝐴 cos(𝐵𝑥 + 𝐶)
แอมพลิจดู = |𝐴|
16 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
𝑦 = 𝐴 sin(𝐵𝑥 + 𝐶)
𝑦 = 𝐴 tan(𝐵𝑥 + 𝐶) 𝜋
𝑦 = 𝐴 cos(𝐵𝑥 + 𝐶) 2𝜋
คาบ = |𝐵| คาบ = |𝐵|
𝑦 = 𝐴 sec(𝐵𝑥 + 𝐶) 𝑦 = 𝐴 cot(𝐵𝑥 + 𝐶)
𝑦 = 𝐴 cosec(𝐵𝑥 + 𝐶)
แบบฝึ กหัด
1. จงหาแอมพลิจดู ของกราฟต่อไปนี ้
𝜋
1. 𝑦 = sin(𝑥 + 𝜋) 2. 𝑦 = −cos(2 − 𝑥)
2. จงหาคาบของกราฟต่อไปนี ้
1. 𝑦 = sin(𝑥 + 𝜋2) 2. 𝑦 = −2cos(− 𝑥)
𝜋
5. 4𝑦 = 5 cosec(3 − 3𝑡) 6. 2𝑦 = −1 cot(600𝜋𝑡 + 60°)
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 17
𝜋
3. กาหนดให้ 0 < 𝑥 < 2𝜋 และ 𝑦 = 5 sin(2𝑥 + 2 ) จงหาค่าสูงสุดของ 𝑦 พร้อมทัง้ หาค่า 𝑥 ที่ทาให้ 𝑦 มีคา่ สูงสุด
𝜋
4. กาหนดให้ 0 < 𝑡 < 4𝜋 และ 𝑦 = 3 sin( − 𝑡)
2
จงหาค่าต่าสุดของ 𝑦 พร้อมทัง้ หาค่า 𝑡 ที่ทาให้ 𝑦 มีคา่ ต่าสุด
18 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
สูตรพืน้ ฐาน
สูตรส่วนกลับ
1 1 1
cosec 𝜃 = sin 𝜃 sec 𝜃 = cos 𝜃 cot 𝜃 = tan 𝜃
sin 𝜃 cos 𝜃
tan 𝜃 = cot 𝜃 =
cos 𝜃 sin 𝜃
1 1
cosec 𝜃 = sec 𝜃 =
sin 𝜃 cos 𝜃
สูตรกาลังสอง
sin2 𝜃 + cos2 𝜃 = 1
tan2 𝜃 + 1 = sec 2 𝜃
1 + cot 2 𝜃 = cosec 2 𝜃
สูตรมุมติดลบ
sin(−𝜃) = − sin 𝜃
cos(−𝜃) = cos 𝜃
tan(−𝜃) = − tan 𝜃
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 19
แบบฝึ กหัด
1. จงหาค่าในแต่ละข้อต่อไปนี ้
1. cos 𝜋5 sec 𝜋5 2. cot
3𝜋
7
sin
7𝜋
3
tan
3𝜋
7
𝜋 𝜋 𝜋
3. cos tan cosec
8 8 8
4. tan 30° cosec 40° cos 50°
𝜋 4𝜋 𝜋 3𝜋 𝜋
5. sin 10 sec 10 6. sin 5 tan 10 sec 5
1 1
2. จงพิสจู น์วา่ 1−sin 𝐴
+ 1+sin 𝐴 = 2 + 2 tan2 𝐴
𝜋
3. กาหนดให้ 4 sin2 𝜃 + 11 cos 𝜃 − 1 = 0 แล้ว cot 2 (𝜃 + 2 ) + sec(𝜃 − 3𝜋) มีคา่ เท่ากับเท่าไร
สูตรผลบวกผลต่างมุม
เช่น sin 75° = sin(30° + 45°) = sin 30° cos 45° + cos 30° sin 45°
1 √2 √3 √2 √2+√6
= (2) (2) + (2) (2) = 4
𝜋 𝜋 𝜋 𝜋 𝜋 𝜋 𝜋
cos 12 = cos ( 3 − 4 ) = cos 3 cos 4 + sin 3 sin 4
1 √2 √3 √2 √2+√6
= ( ) ( ) +( ) ( ) =
2 2 2 2 4
ตัวอย่าง กาหนดให้ 𝜋2 < 𝐴 < 𝜋 และ 𝜋2 < 𝐵 < 𝜋 ถ้า sin 𝐴 = 35 และ cos 𝐵 = − 13
5
แล้วจงหา cos(𝐴 + 𝐵)
วิธีทา cos(𝐴 + 𝐵) = cos 𝐴 cos 𝐵 − sin 𝐴 sin 𝐵
5 3
= cos 𝐴 (− 13) − (5) sin 𝐵 → ต้องหา cos 𝐴 กับ sin 𝐵 เพิ่มเอง
สาหรับสูตร tan กับ cot จะใช้ไม่คอ่ ยบ่อยเท่า sin กับ cos แต่ก็ตอ้ งท่อง
tan 𝐴+tan 𝐵 cot 𝐵 cot 𝐴−1
tan(𝐴 + 𝐵) = 1−tan 𝐴 tan 𝐵
cot(𝐴 + 𝐵) = cot 𝐵+cot 𝐴
tan 𝐴−tan 𝐵 cot 𝐵 cot 𝐴+1
tan(𝐴 − 𝐵) = 1+tan 𝐴 tan 𝐵
cot(𝐴 − 𝐵) = cot 𝐵−cot 𝐴
𝜋 𝜋 1 1−√3
7𝜋 𝜋 𝜋 cot cot −1 ( )(1)−1 1−√3
3 4 √3 √3
cot = cot ( + ) = 𝜋 𝜋 = 1 = √3+1
=
12 3 4 cot +cot 1+ √3+1
4 3 √3 √3
1−√3 √3−1 √3−1−3+√3 2√3−4
ทาให้สว่ นไม่ติดรูท จะได้ √3+1
× 3−1
√
= 3−1
= 2
= √3 − 2
ตัวอย่าง กาหนดให้ 𝐴 + 𝐵 + 𝐶 = 180° จงพิสจู น์วา่ tan 𝐴 + tan 𝐵 + tan 𝐶 = tan 𝐴 tan 𝐵 tan 𝐶
วิธีทา เนื่องจาก 𝐴 + 𝐵 + 𝐶 = 180° จะได้ 𝐶 = 180°− (𝐴 + 𝐵)
tan C = tan(180°− (𝐴 + 𝐵))
tan(180° − 𝜃) = −tan 𝜃
= − tan(𝐴 + 𝐵)
แบบฝึ กหัด
1. กาหนดให้ sin 𝐴 = 45 และ sin 𝐵 = − 5
3
ถ้า 𝜋
2
<𝐴<𝜋 และ 𝜋<𝐵<
3𝜋
2
จงหาค่าของ
1. sin(𝐴 + 𝐵) 2. sin(𝐴 − 𝐵)
3. cos(𝐴 + 𝐵) 4. cos(𝐴 − 𝐵)
3. cot(𝐴 + 𝐵) 4. cot(𝐴 − 𝐵)
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 25
3. จงหาค่าในแต่ละข้อต่อไปนี ้
1. sin 15° 2. cos 75°
7𝜋 𝜋
3. sin
12
4. cos(−
12
)
𝜋
5. tan 105° 6. cot 12
3𝜋
3. cos (
2
+ 𝜃) 4. sin (𝜃 − 2𝜋)
𝜋
5. tan (𝜋 − 𝜃) 6. cot ( 2 + 𝜃)
26 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
5. จงหาค่าในแต่ละข้อต่อไปนี ้
1. sin 20° cos 25° + cos 20° sin 25° 2. cos 105° cos 60° + sin 105° sin 60°
𝜋 𝜋 𝜋 𝜋
4. cos( + 𝜃) cos( − 𝜃) − sin( + 𝜃) sin( − 𝜃)
6 6 6 6
√2 √2
5. 2
cos 15° −
2
sin 15° 6. sin 15° + cos 15°
7. √3 cos 75° + sin 75° 8. sin 36° tan 18° + cos 36°
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 27
9. tan 10° + tan 35° + tan 10° tan 35° 10. (1 + tan 95°)(1 + tan 130°)
11. (tan 32° − 1)( tan 77° + 1) 12. (1 − cot 22°)(1 − cot 23°)
3 5
7. ให้ ABC เป็ นรูปสามเหลีย่ ม โดยที่ sin 𝐴 = 5 และ cos 𝐵 = 13 ค่าของ cos 𝐶 เท่ากับเท่าใด
[PAT 1 (มี.ค. 54)/6]
𝑥
8. ถ้า 1 − cot 20° = 1−cot 25° แล้ว 𝑥 มีคา่ เท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 52)/2-5]
9. ค่าของ (1 + tan 1°)(1 + tan 2°)…(1 + tan 44°) เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (มี.ค. 54)/30*]
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 29
สูตรมุมสองเท่า
2 tan 𝐴
sin 2𝐴 = 2 sin 𝐴 cos 𝐴 = 1+tan2 𝐴
1−tan2 𝐴
cos 2𝐴 = cos 2 𝐴 − sin2 𝐴 = 1+tan2 𝐴
= 2 cos 2 𝐴 − 1
= 1 − 2 sin2 𝐴
2 tan 𝐴 cot2 𝐴−1
tan 2𝐴 = cot 2𝐴 =
1−tan2 𝐴 2 cot 𝐴
สูตรมุมสามเท่า
สูตรมุมครึง่ เท่า
𝐴 1−cos 𝐴
sin = ±√
2 2
𝐴 1+cos 𝐴
cos 2 = ±√ 2
𝐴 1−cos 𝐴 sin 𝐴
tan 2 = ±√1+cos 𝐴 = 1+cos 𝐴
แบบฝึ กหัด
1. กาหนดให้ 3𝜋
2
< A < 2𝜋 และ cos 𝐴 =
3
5
จงหาค่าของ
1. sin 𝐴 2. sin 2𝐴
3. cos 2𝐴 4. sin 4𝐴
3. tan 2𝐴 4. cot 2𝐴
3. tan 3𝐴 4. cot 3𝐴
32 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
1
6. กาหนดให้ sin 𝜃 cos 𝜃 =
8
จงหาค่าของ cos 2 2𝜃
√2
8. จงพิสจู น์วา่ sin 1° sin 2° sin 3°… sin 89° = 245
sin 2° sin 4° sin 6°… sin 88°
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 33
10. ให้ 𝜃 เป็ นจานวนจริงใดๆ ถ้า 𝑎 และ 𝑏 เป็ นค่ามากสุดของ cos 4 𝜃 − sin4 𝜃 และ 3 sin 𝜃 + 4 cos 𝜃
ตามลาดับ แล้ว 𝑎 + 𝑏 เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 55)/29]
13. ถ้า sec 𝜃 + cosec 𝜃 = 1 แล้ว sin 2𝜃 มีคา่ เท่ากับเท่าใด [A-NET 49/1-8]
14. ถ้า sin 15° และ cos 15° เป็ นคาตอบของสมการ 𝑥 2 + 𝑎𝑥 + 𝑏 = 0 แล้ว ค่าของ 𝑎4 − 𝑏 เท่ากับเท่าใด
[PAT 1 (ก.ค. 53)/13]
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 35
15. (3 − 4 sin2 9°)(3 − 4 sin2 27°)(3 − 4 sin2 81°)(3 − 4 sin2 243°) มีคา่ เท่ากับเท่าใด
[PAT 1 (ต.ค. 58)/4]
𝜃 𝜋 (1+sin 𝜃) sec2 𝜃
16. ถ้า 2 cot 2 = (1 + cot 𝜃)2 และ 0<𝜃<2 แล้วค่าของ cos 2𝜃
เท่ากับเท่าใด
[PAT 1 (ต.ค. 58)/5]
𝑎
21. กาหนดให้ 𝑎, 𝑏 ∈ 𝑅+ และ tan 𝜃 = 𝑏
cos 𝜃 4 sin 𝜃 4 sin 2𝜃 3𝑎 3 𝑏 2
ถ้า ( 𝑎
) +( 𝑏
) = 𝑎𝑏(𝑎2 +𝑏2 ) แล้ว จงหาค่าของ ( 𝑏 ) + (2𝑎) [PAT 1 (ธ.ค. 54)/41]
22. กาหนดให้ 𝑥 เป็ นจานวนจริง ถ้า sin 𝑥 + cos 𝑥 = 𝑎 และ sin 𝑥 − cos 𝑥 = 𝑏
แล้วค่าของ sin 4𝑥 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 53)/7]
1. 12 (𝑎3 𝑏 − 𝑎𝑏3) 2. 12 (𝑎𝑏3 − 𝑎3 𝑏) 3. 𝑎𝑏3 − 𝑎3 𝑏 4. 𝑎3 𝑏 − 𝑎𝑏 3
23. ให้ 𝜃 เป็ นจานวนจริง ซึง่ สอดคล้องกับสมการ tan12 𝜃 + cot12 𝜃 + sin12 𝜃 + cos12 𝜃 = 7 แล้ว
tan2 2𝜃 มีคา่ เท่าใด [A-NET 51/2-6]
38 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
1
24. กาหนดให้ (sin 1°)(sin 3°)(sin 5°)...(sin 89°) =
2𝑛
ค่าของ 4𝑛 เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 53)/32]
สูตรแปลงผลคูณกับผลบวกลบ
สูตรแปลงผลคูณเป็ นผลบวกลบ
√2 1 2
cos 15° = (2 cos 15° ∙ )( ∙ )
2 2 √2
1 2
= (2 cos 15° sin 45°)(2 ∙ 2)
√
1
= (sin 60° − sin(−30°))( )
√2
√3 1 1 √3+1 √6+√2
= ( 2 − (− 2)) ( 2) = 2√2
= 4
√
1
sin (𝜃 + 30°) sin (𝜃 − 30°) = (−2 sin (𝜃 + 30°) sin (𝜃 − 30°))(− 2)
1 − cos(2𝜃) 1
= (cos(2𝜃) − cos(60°))(− ) = +
2 2 4
1
sin 20° sin 40° sin 80° = (−2 sin 20° sin 40°)(sin 80°)(− 2)
1
= (cos 60° − cos(−20°))(sin 80°)(− 2)
1 1
= ( − cos 20°)(sin 80°)(− )
2 2
sin 80° 1
= ( 2 − cos 20° sin 80°) (− 2)
sin 80° 1 1
= ( 2 − 2 cos 20° sin 80° (2)) (− 2)
sin 80° 1 1
= ( − (sin 100° − sin(−60°)) ( )) (− )
2 2 2
sin 80° √3 1 1
= ( 2
− (sin 80° + 2
) (2)) (− 2)
sin 80° sin 80° √3 1 √3 1 √3
= ( 2
− 2 − 4 ) (− 2) = (− 4
) (− 2) = 8
40 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
สูตรแปลงผลบวกลบเป็ นผลคูณ
𝐴+𝐵 𝐴−𝐵
sin 𝐴 + sin 𝐵 = 2 sin ( 2
) cos ( 2 )
𝐴+𝐵 𝐴−𝐵
sin 𝐴 − sin 𝐵 = 2 cos ( 2 ) sin ( 2 )
𝐴+𝐵 𝐴−𝐵
cos 𝐴 + cos 𝐵 = 2 cos ( ) cos ( )
2 2
𝐴+𝐵 𝐴−𝐵
cos 𝐴 − cos 𝐵 = −2 sin ( 2 ) sin ( 2 )
cos 20° − sin 50° + cos 100° = sin 70° − sin 50° + cos 100°
= 2 cos 60° sin 10° + cos 100°
= sin 10° + cos 100°
= sin 10° − sin 10° = 0
แบบฝึ กหัด
1. จงหาค่าในแต่ละข้อต่อไปนี ้
5𝜋 𝜋
1. 2 cos 75° cos 15° 2. sin
12
sin
12
𝜃 3𝜃
3. cos 2 sin 2
4. cos 20° − 2 sin 70° sin 50°
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 41
5. cos 20° cos 40° cos 80° 6. cos 10° sin 40° cos 70°
2. จงหาค่าในแต่ละข้อต่อไปนี ้
𝜋 𝜋
1. cos 15° + cos 75° 2. sin 12 − cos 12
3. cos 20° + cos 100° − sin 130° 4. sin 80° − sin 20° + cos 230°
5. จงหาค่าของ 2 sin2 60° (tan 5° + tan 85°) − 12 sin 70° [PAT 1 (มี.ค. 55)/28]
𝜃 5𝜃
8. กาหนดให้ 8 cos(2𝜃) + 8 sec(2𝜃) = 65 เมื่อ 0 < 𝜃 < 90° ค่าของ 160 sin(2 ) sin( 2 ) เท่ากับเท่าใด
[PAT 1 (พ.ย. 57)/40]
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 45
10. จงหาค่าของ (cos2 70° + cos2 20°)(cos2 50° + cos2 10°) − sin 40° sin 80°
11. ถ้า 𝛼 และ 𝜃 เป็ นจานวนจริงโดยที่ 0 < 𝜃 < 𝛼 < 90° และสอดคล้องกับสมการ tan(𝛼 + 𝜃) = 5 tan(𝛼 − 𝜃)
แล้ว (sin 2𝜃)(cosec 2𝛼) เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (มี.ค. 58)/14]
46 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
2. tan 7𝜋
16
− tan
3𝜋
8
= cosec
𝜋
8
44 44
cos n sin n
16. ค่าของ n 1
44
− n 1
44
เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (ก.ค. 53)/29]
sin n cos n
n 1 n 1
48 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
สมการตรีโกณมิติ
หมายเหตุ: cosec คิดเหมือน sin , sec คิดเหมือน cos , cot คิดเหมือน tan
√3
ตัวอย่าง กาหนดให้ 𝜃 ∈ [0 , 2𝜋] จงแก้สมการ cos 𝜃 = −
2
สมการ sin 𝜃 = √22 จะมีคาตอบพืน้ ฐานคือ 𝜃 = 45° ดังนัน้ คาตอบทั่วไป คือ 𝑛𝜋 + (−1)𝑛 (45°)
ดังนัน้ 𝑥 + 45° = 𝑛𝜋 + (−1)𝑛 (45°) จะได้ 𝑥 = 𝑛𝜋 + (−1)𝑛 (45°) − 45°
แทน 𝑛 = … , −3 , −2 , −1 , 0 , 1 , 2 , 3 , … แล้วเลือกตอบเฉพาะ 𝑥 ∈ [0, 2𝜋]
𝑛 = −1: 𝑥 = −180° − 45° − 45° = −270° ใช้ไม่ได้
𝑛=0: 𝑥 = 0° + 45° − 45° = 0° ใช้ได้
𝑛=1: 𝑥 = 180° − 45° − 45° = 90° ใช้ได้
𝑛=2: 𝑥= 360° + 45° − 45° = 360° ใช้ได้
𝑛=3: 𝑥= 540° − 45° − 45° = 450° ใช้ไม่ได้
ดังนัน้ จะได้คาตอบคือ 𝑥 = 0°, 90°, 360° #
1 cos 𝑥 = 1
cos 𝑥 = − 2
2𝜋 𝑥 = 2𝑛𝜋 ± 0
𝑥 = 2𝑛𝜋 ± = 2𝑛𝜋
3
50 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
อีกวิธี อาศัยหลักว่า cos 2𝑥 กับ cos 𝑥 จะเท่ากันได้ เมื่อ 2𝑥 และ 𝑥 เป็ นมุมสะท้อนแกน X ซึง่ กันและกัน
นั่นคือ 2𝑥 = 2𝑛𝜋 ± 𝑥
2𝑥 = 2𝑛𝜋 + 𝑥 2𝑥 = 2𝑛𝜋 − 𝑥
𝑥 = 2𝑛𝜋 3𝑥 = 2𝑛𝜋
2𝑛𝜋
𝑥 = 3
แบบฝึ กหัด
1. กาหนดให้ 𝜃 ∈ [0 , 2𝜋] จงแก้สมการต่อไปนี ้
1. sin 𝜃 = 12 2. cos 𝜃 =
1
2
2. จงแก้สมการต่อไปนี ้
1. cosec 𝜃 = √2 2. sec 𝜃 = −2
1
3. tan 𝜃 = √3 4. sin 𝜃 = − 2
5. sin 2𝑥 = cos 𝑥
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 51
3. กาหนดให้ 𝜃 ∈ [0 , 3𝜋
2
] จงแก้สมการต่อไปนี ้
1. 4 sin2 𝜃 = 1 2. sin2 𝜃 + cos 𝜃 + 1 = 0
3. cos 3𝑥 = cos 𝑥
𝜋
4. กาหนดให้ sin 𝐴 − sin 2𝐴 + sin 3𝐴 = 0 โดยที่ 0<𝐴<2
แล้ว tan 𝐴 − tan 2𝐴 + tan 3𝐴 จะมีคา่ เท่าใด
52 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
9. ให้ 𝐴 เป็ นเซตคาตอบของ cos 𝑥 = cos (𝑥4) จานวนสมาชิกในเซต 𝐴 ∩ (0, 24𝜋) เท่ากับเท่าใด
[PAT 1 (มี.ค. 54)/33]
54 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
10. กาหนดให้ 𝑎 เป็ นจานวนจริง และสอดคล้องกับสมการ 5(sin 𝑎 + cos 𝑎) + 2 sin 𝑎 cos 𝑎 = 0.04
ค่าของ 125(sin3 𝑎 + cos 3 𝑎) + 75 sin 𝑎 cos 𝑎 เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 53)/33]
ฟั งก์ชนั อาร์ค
หัวข้อนี ้ จะเรียนเกี่ยวกับ “อินเวอร์ส” ของฟั งก์ชนั ตรีโกณมิติ ซึง่ จะหมายถึง ฟั งก์ชนั ทีใ่ ห้ผลลัพธ์กลับกันกับฟั งก์ชนั ปกติ
sin
เนื่องจาก sin, cos, tan จะเปลีย่ น “มุมเป็ นค่า” เช่น sin 30° = 12 1
30°
ดังนัน้ อินเวอร์ส จะเปลีย่ นกลับจาก 12 เป็ น 30° ดังรูป 2
sin−1
เนื่องจากฟังก์ชนั ตรีโกณ เป็ นแบบ many to one (เช่น sin 30° กับ sin 150° ได้ 12 เท่ากัน)
ดังนัน้ อินเวอร์ส จะมีผลลัพธ์ได้หลายค่า และจะไม่ใช่ฟังก์ชนั (เช่น sin−1 จะโยง 12 ไปที่ 30°, 150°, 390°, … เป็ นต้น)
อย่างไรก็ตาม นักคณิตศาสตร์ตอ้ งการอินเวอร์สที่ไม่กากวม จึงกาหนด “ฟั งก์ชนั arc” ขึน้ มา
โดยถ้าอยากได้อินเวอร์สของฟั งก์ชนั ไหน เราจะเติม arc เข้าไปข้างหน้า เช่น arcsin , arccos , arctan เป็ นต้น
หลักทั่วๆไปในการหาอินเวอร์สด้วยฟั งก์ชนั arc คือ ให้ตอบมุมที่ “เลขน้อยที่สดุ ” แค่มมุ เดียว
เช่น sin 30° = sin 150° = 12 แต่ถา้ ถาม arcsin 12 ให้ตอบ 30° มุมเดียว
1 1
sin (−30°) = sin 210° = − 2 แต่ถา้ ถาม arcsin (− 2) ให้ตอบ −30° มุมเดียว เป็ นต้น
√3 √3
ดังนัน้ arcsin 2
= 60° , 120° arccos 2
= 30° , 330°
√3
arcsin(− 2
) = −60° , 240° , 300° arctan(−1) = −45° , 135° , 315°
arccot √3 = 30° , 210° arcsec(−2) = 120°, 240°
5 3
รวมเครือ่ งหมายจาก 1. กับตัวเลขจาก 2. จะได้ sin (arcsec (− 4)) = 5
#
4 5
รวมเครือ่ งหมายจาก 1. กับตัวเลขจาก 2. จะได้ cosec (arctan (− 3)) = − 4 #
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 57
2. สูตรส่วนกลับ
1 1
sin(arccosec 𝑥) = cosec(arcsin 𝑥) =
𝑥 𝑥
1 1
cos(arcsec 𝑥) = 𝑥
sec(arccos 𝑥) = 𝑥
1 1
tan(arccot 𝑥) = 𝑥
cot(arctan 𝑥) = 𝑥
3. สูตรค่าลบ
arcsin(−𝑥) = − arcsin 𝑥 arccosec(−𝑥) = − arccosec 𝑥
arccos(−𝑥) = 𝜋 − arccos 𝑥 arcsec(−𝑥) = 𝜋 − arcsec 𝑥
arctan(−𝑥) = − arctan 𝑥 arccot(−𝑥) = 𝜋 − arccot 𝑥
4. สูตรโคฟั งก์ชนั
arcsin 𝑥 + arccos 𝑥 = 90°
arctan 𝑥 + arccot 𝑥 = 90°
arcsec 𝑥 + arccosec 𝑥 = 90°
5. สูตรพิทากอรัส
sin(arccos 𝑥) = √1 − 𝑥 2
cos(arcsin 𝑥) = √1 − 𝑥 2
√2 √2 √2
ตรวจคาตอบ: แทน 𝑥= 2
จะได้ arcsin 2
= 45° = arccos 2
จริง
√2 √2
แทน 𝑥=− 2
จะได้ arcsin (− 2
) = −45°
√2
แต่ arccos (− 2 ) = 135° ดังนัน้ − √22 ไม่ใช่คาตอบ
√2
ดังนัน้ คาตอบของข้อนี ้ จึงมีเพียง 𝑥 = 2 #
แบบฝึ กหัด
1. จงหาค่าในแต่ละข้อต่อไปนี ้
√2
1. arcsin
2
2. arccos 0
3. arctan(−√3) 4. arccosec(−1)
√2 √2
5. arccos (− 2
) 6. arcsin (− 2
)
2. จงหาค่าในแต่ละข้อต่อไปนี ้
1. sin (arcsin 13) 2. cos (arcsin 4)
3
2 3
3. sin (arccos (− 3)) 4. sec (arctan − 4)
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 59
1 1
5. sin (arcsin 3 + arccos 2) 6. cot (arccot 2 − arccot 3)
3. จงแก้สมการต่อไปนี ้
1. arcsin 𝑥 = − 𝜋3 2. sin (2arctan 𝑥) =
3
5
𝜋
3. arccos 2𝑥 + arccos 𝑥 = 2
60 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
𝜋 𝜋
5. กาหนดให้ 𝑥 เป็ นจานวนจริง ถ้า arcsin 𝑥 = 4
แล้วค่าของ sin (15 + arccos(𝑥 2 )) อยูใ่ นช่วงใด
[PAT 1 (ก.ค. 53)/6]
1 1 1 1 √3 √3
1. (0, 2) 2. (2 ,
√2
) 3. ( , )
√2 2
4. ( 2 , 1)
2 1+√6
7. cot (arccos √ − arccos
3 2√3
) มีคา่ เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (มี.ค. 57)/12]
1 1
8. ค่าของ sec 2 (2 arctan 3 + arctan 7) เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 55)/28]
3
9. ค่าของ sec 2(arctan 2) + cosec 2(arccot 3) + cosec (2 arccot 2 + arccos 5) เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (ต.ค. 58)/6]
335 351 375 385 399
1. 24
2. 24
3. 24
4. 24
5. 24
62 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
1 2 𝜋
10. ถ้า arcsec 𝑥 = arcsin
√17
− 2 arccos
√5
แล้ว cot ( 2 + arcsec 𝑥) เท่ากับเท่าใด
[PAT 1 (ต.ค. 55)/10]
11. ค่าของ cot(arccot 7 + arccot 13 + arccot 21 + arccot 31) เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (มี.ค. 54)/7]
1 1 7
tan[arccot − arccot + arctan ]
12. ค่าของ 5
5
3
12
9
เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 53)/31]
sin[arcsin +arcsin ]
13 13
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 63
𝜋 𝜋
13. กาหนดให้ 𝐴 = arcsin (cos 3 ) และ 0<𝐵<2
sin2 𝐵 + sin2 (𝐴 + 𝐵) + sin2 (5𝐴 + 𝐵) ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ต.ค. 58)/7]
3
1. 0 2. 1 3. 2
− sin 2𝐵
3 3
4. 2
− cos 2𝐵 5. 2
− 2 cos 2𝐵
3 cos 𝜃 cos 𝜃
14. กาหนดให้ 0 < 𝜃 < 15° ค่าของ 𝑦 = arctan (
1−3 sin 𝜃
)− arccot (
3−sin 𝜃
) เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (เม.ย. 57)/12]
1. arctan(cot 𝜃) 2. arctan(tan 𝜃) 3. arctan(sin 𝜃) 4. arctan(cos 𝜃)
3 𝜋
15. ถ้า (sin 𝜃 + cos 𝜃)2 =
2
เมื่อ 0≤𝜃≤ 4
แล้ว arccos(tan 3𝜃) มีคา่ เท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 52)/2-6]
64 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
16. ถ้า arcsin(5𝑥) + arcsin(𝑥) = 𝜋2 แล้วค่าของ tan(arcsin 𝑥) เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (ก.ค. 52)/13]
𝜋
19. ให้ −1 ≤ 𝑥 ≤ 1 เป็ นจานวนจริงซึง่ arccos 𝑥 − arcsin 𝑥 = 2552
𝜋
แล้ว ค่าของ sin (2552) เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 52)/13]
1. 2𝑥 2. 1 − 2𝑥 2 3. 2𝑥 2 − 1 4. −2𝑥
การนาไปใช้กบั สามเหลีย่ ม
กฎของ cos
C
𝑎2 = 𝑏 2 + 𝑐 2 − 2𝑏𝑐 cos A
𝑏 𝑎 𝑏 2 = 𝑎2 + 𝑐 2 − 2𝑎𝑐 cos B
𝑐 2 = 𝑎2 + 𝑏 2 − 2𝑎𝑏 cos C
A 𝑐 B
กฎของ sin
C
𝑏 𝑎
𝑎 𝑏 𝑐
𝑅 sin A
= sin B
= sin C
(= 2R)
A 𝑐 B
A B
ตัวอย่าง สามเหลีย่ ม ABC มีดา้ นทัง้ สาม ยาว 3, 5 และ 7 หน่วย ตามลาดับ จงหาว่าสามเหลีย่ ม ABC เป็ นสามเหลีย่ ม
มุมแหลม, สามเหลีย่ มมุมฉาก หรือ สามเหลีย่ มมุมป้าน
วิธีทา ถ้าอยากจะรูว้ า่ เป็ นสามเหลีย่ มแบบไหน ต้องหาว่ามุมทีใ่ หญ่ที่สดุ ของสามเหลีย่ ม
7 3
เป็ นมุมแหลม มุมฉาก หรือมุมป้าน
𝑥
5 มุมที่ใหญ่ที่สดุ ของสามเหลีย่ ม ก็คือมุมที่อยูต่ รงข้ามด้านที่ยาวที่สดุ นั่นเอง
เนื่องจาก cos มุมแหลมเป็ นบวก cos มุมฉากเป็ นศูนย์ และ cos มุมป้านเป็ นลบ
เราจะใช้กฎของ cos เพื่อหาเครือ่ งหมายของ cos 𝑥
72 = 52 + 32 − 2(3)(5) cos 𝑥
2(3)(5) cos 𝑥 = 25 + 9 − 49
15 1
cos 𝑥 = − 60 = − 4
จะเห็นว่า cos 𝑥 เป็ นลบ ดังนัน้ 𝑥 เป็ นมุมป้าน นั่นคือสามเหลีย่ ม ABC เป็ นสามเหลีย่ มมุมป้านนั่นเอง #
68 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
A B
วิธีทา ข้อนี ้ ไม่รูค้ วามยาว AB จะใช้ยงั ไม่สามารถใช้กฎของ cos เพื่อหา cos B ได้
แต่จะเห็นว่าใช้กฎของ sin เพื่อหา sin B ก่อนได้ ดังนี ้
3 6
sin A
= sin B
6 6 1 2
sin B = 3 × sin A = 3 × 3 = 3
แต่จากเอกลักษณ์ sin2 B + cos2 B = 1
2
จะได้ cos B = ±√1 − sin2 B = ±√1 − (23) 4
= ±√1 − 9 = ±
√5
3
แบบฝึ กหัด
1. จากรูป จงหาค่า 𝑥
1. 2.
60° 3 120° 𝑥
5
4
7
𝑥
3. 4.
30°
5 √39 𝑥
𝑥
7
45° 4
5.
45°
𝑥
3 75°
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 69
AC
2. กาหนดสามเหลีย่ ม ABC มี ̂ = 30°
A และ Ĉ = 105° จงหาค่าของ BC
4. ให้ ABC เป็ นรูปสามเหลีย่ ม โดยมี 𝑎, 𝑏 และ 𝑐 เป็ นความยาวของด้านตรงข้ามมุม A มุม B และ มุม C ตามลาดับ
ถ้ามุม C เท่ากับ 60° 𝑏 = 5 และ 𝑎 − 𝑐 = 2
แล้วความยาวของเส้นรอบรูปสามเหลีย่ ม ABC เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (มี.ค. 55)/6]
70 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
6. กาหนดให้ ABC เป็ นรูปสามเหลีย่ มที่มีมมุ B และมุม C เป็ นมุมแหลม โดยที่ 25 cos B − 13 cos C = 15 ,
65(cos B + cos C) = 77 และด้านตรงข้ามมุม C ยาว 20 หน่วย ความยาวของเส้นรอบรู ปสามเหลีย่ ม ABC
เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (เม.ย. 57)/32]
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 71
9. กาหนดให้ ABC เป็ นรูปสามเหลีย่ มใดๆ ถ้า 𝑎, 𝑏 และ 𝑐 เป็ นความยาวด้านของด้านตรงข้ามมุม A มุม B และ
1 1 3
มุม C ตามลาดับ โดยที่ 𝑎+𝑐 +
𝑏+𝑐
=
𝑎+𝑏+𝑐
แล้ว sin C เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 55)/16]
10. กาหนดให้ ABC เป็ นรูปสามเหลีย่ มซึง่ มีดา้ นตรงข้ามมุม A, B, C ยาว 2𝑎, 3𝑎, 4𝑎 ตามลาดับ ถ้า sin A = 𝑘 แล้ว
cot B + cot C มีคา่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [A-NET 50/1-13]
1
1. 6𝑘 2. 𝑘6 3. 3𝑘 1
4. 𝑘
3
B D E C
14. ในรูปสามเหลีย่ ม ABC ใดๆ ถ้า 𝑎, 𝑏 และ 𝑐 เป็ นความยาวของด้านตรงข้ามมุม A มุม B และ มุม C ตามลาดับ
แล้ว 𝑎1 cos A + 𝑏1 cos B + 1𝑐 cos C เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.ค. 53)/7]
𝑎 2 +𝑏2 +𝑐 2 (𝑎+𝑏+𝑐)2 (𝑎+𝑏+𝑐)2 𝑎 2 +𝑏2 +𝑐 2
1. 2𝑎𝑏𝑐
2. 𝑎𝑏𝑐
3. 2𝑎𝑏𝑐
4. 𝑎𝑏𝑐
17. กาหนดให้ 𝐴𝐵𝐶 เป็ นรูปสามเหลีย่ มใดๆ มีความยาวตรงข้ามมุม 𝐴 , 𝐵 และ 𝐶 เป็ น 𝑎 , 𝑏 และ 𝑐 หน่วยตามลาดับ
ถ้า 𝑎2 + 𝑏2 = 31𝑐 2 แล้วค่าของ 3 tan 𝐶 (cot 𝐴 + cot 𝐵) เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (มี.ค. 54)/32]
76 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
18. กาหนด 𝐴𝐵𝐶 เป็ นรูปสามเหลีย่ ม โดยที่ จุดยอด 𝐴 จุดยอด 𝐵 และจุดยอด 𝐶 อยูบ่ นเส้นรอบวงของวงกลมวงหนึง่ มี
รัศมีเท่ากับ 𝑅 หน่วย ถ้าความยาวของด้านตรงข้ามมุม 𝐴 และมุม 𝐵 เท่ากับ 𝑎 และ 𝑏 หน่วยตามลาดับ
มุม 𝐴𝐵̂𝐶 เท่ากับ 18° และมุม 𝐴𝐶̂ 𝐵 เท่ากับ 36° แล้วค่าของ 𝑎 − 𝑏 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (มี.ค. 58)/7]
1. 𝑅 2. 12 𝑅 3. 14 𝑅 4. 16 1
𝑅
19. กาหนดให้ ABC เป็ นรูปสามเหลีย่ ม โดยที่มีความยาวของด้านตรงข้ามมุม A มุม B มุม C เท่ากับ 𝑎 หน่วย 𝑏 หน่วย
และ 𝑐 หน่วย ตามลาดับ และมุม A มีขนาดเป็ นสองเท่าของมุม B ข้อใดต่อไปนีถ้ กู ต้อง [PAT 1 (เม.ย. 57)/11]
1. 𝑐 2 = 𝑎2 + 𝑎𝑏 2. 𝑐 2 = 𝑏2 + 𝑎𝑏 3. 𝑎2 = 𝑏2 + 𝑏𝑐 4. 𝑎2 = 𝑐 2 + 𝑏𝑐
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ 77
การวัดมุมในหน่วยเรเดียน
1 √3
1. 1. (0, 1) 2. (−1, 0) 3. (−1, 0) 4. (2, 2
)
√2 √2 1 √3 1 √3
5. (0, 1) 6. ( 2
, 2 ) 7. (− 2 ,2
) 8. (2,− 2 )
√3 1 √2 √2 √3 1
9. (0, −1) 10. (− 2 , − 2 ) 11. (− 2 , 2 ) 12. ( 2 ,2)
1 √3 √3 1 1 √3
13. (2,− 2
) 14. (− 2 , − 2 ) 15. (0, −1) 16. (2,− 2 )
ฟั งก์ชนั ตรีโกณมิติ
1. 1. 1 2. −1 3. √3 4. √2
1
5. 2 6. √3
7. − 12 8. 1
1 4 1
9. −2 10. 3
11. หาไม่ได้ 12. 3
การวัดมุมในหน่วยองศา
การแปลงมุมเป็ นรูปอย่างง่าย
3. 0
สังเกตุวา่ ดังนัน้ cos 3 20° = − cos3 160°
cos 20° = − cos 160°
cos 40° = − cos 140° ดังนัน ้ cos 3 40° = − cos3 140°
cos 60° = − cos 120° ดังนัน ้ cos 3 60° = − cos3 120°
cos 80° = − cos 100° ดังนัน ้ cos 3 80° = − cos3 100°
จะเห็นว่า ผลบวกที่โจทย์ถาม จะหักกันได้เป็ นคูๆ่
ดังนัน้ cos3 20° + cos3 40° + cos3 60° + … + cos3 160° = 0 #
78 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
สูตรพืน้ ฐาน
√3 1
1. 1. 1 2. 2
3. 1 4. √3
5. 1 6. 1 7. −1 8. −1
9. 1
3. 19
= 4(1 − cos2 𝜃) + 11 cos 𝜃 − 1 → 0 = 4 cos2 𝜃 − 11 cos 𝜃 − 3 = (4 cos 𝜃 + 1)(cos 𝜃 − 3)
1
จะได้ cos 𝜃 = − 4 , 3 → วาดสามเหลีย่ ม ได้ ชิด = −1, ฉาก = 4 → ข้าม = ±√15
2
𝜋
ดังนัน้ cot 2 (𝜃 + 2 ) + sec(𝜃 − 3𝜋) = tan2 𝜃 − sec 𝜃 = (±
√15
1
) − (−4) = 19
4. 0 5. 181 6. 373
สูตรผลบวกผลต่างมุม
7 24
1. 1. − 25 2. −1 3. 25
4. 0
17 1 6
2. 1. 6
2. 18
3. 17
4. 18
√6−√2 √6−√2 √6+√2 √6+√2
3. 1. 4
2. 4
3. 4
4. 4
5. −2 − √3 6. 2 + √3
4. 1. cos 𝜃 2. −cos 𝜃 3. sin 𝜃 4. sin 𝜃
5. −tan 𝜃 6. −tan 𝜃
√2 √2 1 1
5. 1. 2
2. 2
3. 2
4. 2
1 √6
5. 2
6. 2
7. √2 8. 1
9. 1 10. 2 11. −2 12. 2
16
6. 125 7. 65
8. 2 9. 222
1 √2 1 1
2. 1. 2
2. 4
3. 4
4. 4
1 1
5. 2
6. 4 7. 2 8. 2
4 3 4 3
3. 1. 5
2. −
5
3. −
3
4. −
4
117 44 117 44
4. 1. 125
2. 125
3. 44
4. 117
√6−√2 15
5. 4
6. 16
7. 8.
4
9. 10. 6 11. 2 12. 9
13. 2 − 2√2 14. 2 15. 1 16. 4
25
17. 1 18. 681 19. 126
20. 1
สมมติให้ sec 1° − tan 1° > sec 2° − tan 2°
1 sin 1° 1 sin 2°
cos 1°
− cos 1° > cos 2°
− cos 2°
1−sin 1° 1−sin 2°
cos 1°
> cos 2°
cos 2° − sin 1° cos 2° > cos 1° − sin 2° cos 1°
sin 2° cos 1° – sin 1° cos 2° > cos 1° − cos 2°
sin (2 − 1)° > cos 1° − cos 2°
cos 2° > cos 1° − sin 1°
cos 2 2° > cos2 1° + sin2 1° − 2 sin 1° cos 1°
1 − sin2 2° > 1 − sin 2°
sin 2° > sin2 2°
เนื่องจาก sin 2° < 1 ยิ่งยกกาลัง จะยิ่งน้อย ดังนัน้ sin 2° > sin2 2° จึงถูกต้อง ดังนัน้ 𝑎>𝑏
ถัดมา เราจะตรวจสอบว่า 𝑎 มากกว่า 1 หรือไม่
สมมติให้ sec 1° − tan 1° > 1
1−sin 1°
cos 1°
> 1
1 − sin 1° > cos 1°
1 > sin 1° + cos 1°
1 > sin2 1° + cos 2 1° + 2 sin 1° cos 1°
0 > 2 sin 1° cos 1°
เนื่องจาก 0 < 2 sin 1° cos 1° ดังนัน้ ที่สมมติไม่ถกู ต้อง ดังนัน้ 𝑎 < 1 ยิ่งถอดรูทจะยิ่งมาก ดังนัน้ √𝑎 > 𝑎
และเนื่องจาก 𝑎 > 𝑏 ดังนัน้ √𝑎 > √𝑏 ดังนัน้ √𝑎 มากที่สดุ
23. 8
จาก sin2 𝜃 + cos 2 𝜃 = 1 ได้ sin4 𝜃 + cos 4 𝜃 = 1 − 2 sin2 𝜃 cos2 𝜃
sin4 𝜃+cos4 𝜃+cos2 𝜃+sin2 𝜃 2−2 sin2 𝜃 cos2 𝜃 4−sin2 2𝜃
จะได้ LHS = sin2 𝜃 cos2 𝜃
= sin2 𝜃 cos2 𝜃
= sin2 2𝜃
=7
80 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
8 1
แก้สมการ ได้ sin2 2𝜃 = 9 ได้ cos 2 2𝜃 = 9 → tan2 2𝜃 = 8
สูตรแปลงผลคูณกับผลบวกลบ
1 1 sin 2𝜃+sin 𝜃 1
1. 1. 2
2. 4
3. 2
4. −
2
1 √3
5. 8
6. 8
√6 √2
2. 1. 2
2. − 2
3. 0 4. 0
5. √3 6. 0
3. 3.5
สังเกตว่า cos 20° = − cos 160° ดังนัน้ cos 2 20° = cos2 160°
cos 40° = − cos 140° ดังนัน้ cos 2 40° = cos2 140°
cos 60° = − cos 120° ดังนัน้ cos 2 60° = cos2 120°
cos 80° = − cos 100° ดังนัน้ cos 2 80° = cos2 100°
ดังนัน้ ผลบวก = 2(cos 2 20° + cos 2 40° + cos2 60° + cos2 80°)
1
= 2(cos 2 20° + cos 2 40° + 4
+ cos 2 80°)
1
= 2
+ 2(cos2 20° + cos2 40° + cos 2 80°)
1 1+cos 40° 1+cos 80° 1+cos 160°
= 2
+ 2( 2
+ 2
+ 2
)
1
= 2
+ 3 + cos 40° + cos 80° + cos 160°
1
= 2
+ 3 + 2 cos 60° cos 20° + cos 160°
1
= 2
+3+ cos 20° + cos 160°
1
= +3 + 0 = 3.5
2
4. 1 5. 6 6. 2 7. 1, 2
3 2
8. 55 9. 60 10. 4
11. 3
1
12. −2
2 sin 18° cos 18° cos 36° sin 36° cos 36° sin 72° 1
= 2 cos 108° cos 36° = 2 sin 18° cos 36° = = = =
cos 18° cos 18° 2 cos 18° 2
1
13. 2 14. 8 15. 2
16. 2
สมการตรีโกณมิติ
4. 2√3
sin 𝐴 − sin 2𝐴 + sin 3𝐴 = (sin 𝐴 + sin 3𝐴) − sin 2𝐴 = 2 sin 2𝐴 cos 𝐴 − sin 2𝐴
1
= (2 cos 𝐴 − 1)(sin 2𝐴) = 0 → cos 𝐴 = 2 หรือ sin 2𝐴 = 0 → 𝐴 = 60°, 0°, 90°
tan 𝐴 − tan 2𝐴 + tan 3𝐴 = √3 − (−√3) + 0 = 2√3
5. 2
ต้องแก้สมการ cot 2𝑥 = cot 𝑥 จาก cot 𝐴 = cot 𝐵 เมือ่ 𝐴 = 𝑛𝜋 + 𝐵 จะได้ 2𝑥 = 𝑛𝜋 + 𝑥 → 𝑥 = 𝑛𝜋
แต่ cot 𝑛𝜋 จะหาค่าไม่ได้ ดังนัน้ ข้อ 1 เท็จ
1
sin4 𝑥 + cos 4 𝑥 = (sin2 𝑥 + cos 2 𝑥)2 − 2 sin2 𝑥 cos 2 𝑥 = 1 − (2 sin 𝑥 cos 𝑥)2
2
1
= 1 − 2 sin2 2𝑥 → 2 จริง
6. 1.5
แก้สมการได้ cos 𝑥 = − 12 → 𝑥 = 120°, 240°
ทัง้ สองมุม จะได้ sec 3𝑥 − cos 2𝑥 = 1 − (− 12) =
3
2
เท่ากัน ดังนีน้ 𝐵={ } →
3
2
ผลบวกสมาชิก = 1.5
7. 153 8. 3 9. 20
10. 1
𝜋
11. 2𝑛𝜋 + 2
4 sin 𝑥 4 sin 𝑥 4 sin2 𝑥 12 sin2 3𝑥 36 sin2 9𝑥
1+2 cos 2𝑥
= 3−4 sin2 𝑥
= sin 3𝑥
ทาแบบเดียวกันที่สองตัวที่เหลือ ได้ sin 9𝑥
กับ sin 27𝑥
36 sin2 9𝑥 27 27−36 sin2 9𝑥 9(3−4 sin2 9𝑥) 9 sin 27𝑥 9
ย้าย sin 27𝑥
ไปลบกับ
sin 27𝑥
ทางขวา ได้ sin 27𝑥
=
sin 27𝑥
= (sin 27𝑥)(sin 9𝑥)
=
sin 9𝑥
12 sin2 3𝑥 9 3(3−4 sin2 3𝑥) 3
ย้าย sin 9𝑥
ไปลบกับ
sin 9𝑥
ที่เหลือ แบบเดียวกัน ได้ sin 9𝑥
=
sin 3𝑥
4 sin2 𝑥 3 3−4 sin2 3𝑥 1
ย้าย sin 3𝑥
ไปลบกับ sin 3𝑥
ที่เหลือ แบบเดียวกัน ได้ sin 3𝑥
= sin 𝑥
1 𝜋
ดังนัน้ สุดท้ายเหลือ 0=
sin 𝑥
−1 → sin 𝑥 = 1 → 𝑥 = 2𝑛𝜋 +
2
ฟั งก์ชนั อาร์ค
4. 12
1
วาดสามเหลีย่ มจะได้ tan(arccot (2𝑥) ) = 2𝑥 และ tan(arcsec√1 + 2𝑥(1 − 𝑥)) = √2𝑥(1 − 𝑥)
82 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
1−𝑥+2𝑥 2√2𝑥(1−𝑥)
ใส่ tan ตลอด ได้ 1−(1−𝑥)(2𝑥) =
1−2𝑥(1−𝑥)
ตัดส่วนทัง้ สองข้าง เหลือ 1 + 𝑥 = 2√2𝑥(1 − 𝑥)
1 1
ยกกาลังสอง ได้ 1 + 2𝑥 + 𝑥 2 = 8𝑥 − 8𝑥 2 → 9𝑥 2 − 6𝑥 + 1 = 0 → 𝑥 = 3 → cos 𝜋𝑥 = 2
1
5. 4 6. √2
7. √3 8. 2
13 13
9. 4 10. 16
11. 4
12. 1
1
13. 4 14. 2 15. 0 16. 5
1
17. 2 18. 2
19. 2 20. 1, 2
1
21. 1 22. 6
23. 0.5
การนาไปใช้กบั สามเหลีย่ ม
เครดิต
ขอบคุณ คุณ Theerat Piyaanangul
และ คุณ Hassatorn Thamkijjanon ที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารด้วยครับ