Professional Documents
Culture Documents
่
เมืออาตมาเริ ่ านตน้ ฉบับของหนังสือเล่มนี ้ อาตมาก็รู ้สึกแปลกใจทีทราบ
มอ่ ่
่ องไทย สาหรับประเทศไทย
ว่าเธอไดเ้ รียนรู ้จากท่านอาจารย ์พุทธทาสทีเมื
3
แล ้วอาจารย ์พุทธทาสเป็ นหนึ่ งในครูทยิ ี่ งใหญ่
่ ี่ ดผูห้ นึ่ งของยุคสมัยนี ้ คา
ทสุ
สอนและความคิดของท่านนั้นเคยเป็ นทีถกเถี ่ ยงกันอย่างกว ้างขวางในหมู่
ชาวพุทธโดยทั่วไป ประเทศไทยรวมทังประเทศอื ้ ่ นั
นที ่ บถือศาสนาพุทธฝ่ าย
เถรวาทนั้น ศาสนาพุทธไดห้ ยั่งรากและคาสอนส่วนมากจะตังอยู ้ ่บนพืนฐาน
้
ของการแปลออกมาจากพระบาลีซงท ึ่ ากันจนเป็ นประเพณี สบ ื ทอดกันมา
หากความคิดของใครทีต่ ่ างออกไปจากการตีความตามประเพณี แล ้วไซร ้ ก็
่ ต
จะถูกวิจารณ์และกลายเป็ นเรืองที ่ ้องถกเถียงกัน อาจารย ์พุทธทาสนั้นไม่มี
่
ความกลัวและไม่ลงั เลทีจะแสดงออกถึ งความคิดและความรู ้สึกของตนเอง
อย่างเปิ ดเผย และท่านก็ไม่สนใจว่าผูค้ นจะเห็นด ้วยกับท่านหรือไม่ อย่างไรก็
ตาม คาสอนของท่านนั้นได ้เป็ นทียอมรั ่ บกันอย่างกว ้างขวางในหมู่
ปัญญาชนชาวไทย รวมทังผู ้ ท้ อยู
ี่ ่นอกประเพณี ของฝ่ ายเถรวาทด ้วย โดย
ส่วนตัวของอาตมาแล ้วนั้น อาตมาซาบซึงในความคิ ้ ดของท่านเพราะว่าการ
อธิบายธรรมของท่านอาจารย ์พุทธทาสนั้นตรงไปตรงมา มีเหตุผล และง่าย
ต่อการเข ้าใจ
ในหนังสือเล่มนี้ คุณโยมศุภวรรณได้อธิบายถึงคาสอนของท่านอาจารย์พุทธทาสด้วยภาษาทีไ่ ม่
สลับซับซ้อน และง่ายต่อคนธรรมดาทีจ่ ะเข้าใจ คาอธิบายของเธอในเรื่องแก่นแท้ของศาสนาพุทธ
ธรรมชาติของพระนิพพาน และสัจธรรมอันสูงสุดนัน้ มีความชัดเจนเป็ นอย่างยิง่ อาตมารู้สกึ
ประทับใจเป็ นอย่างมากต่อความพยายามของเธอทีถ่ ่ายทอดคาสอนของท่านอาจารย์พุทธทาสด้วย
ภาษาทีเ่ รียบง่ายและไม่เป็ นวิชาการจนเกินไป
4
หวังเป็ นอย่างยิง่ ว่า หนังสือเล่มนี้จะสามารถช่วยแก้ไขสถานการณ์อนั เลวร้ายในขณะนี้ทเ่ี กิดขึน้ กับ
สถาบันศาสนาพุทธในเมืองไทยและวัฒนธรรมไทยซึง่ เป็ นสิง่ ทีเ่ ธอห่วงใยเป็ นอย่างมาก
1 ่
อาจารย ์ด๊อกเตอร ์เรวตะ ธัมมา เกิดทีประเทศพม่ าในปี ๒๔๗๒/๑๙๒๙ บวชเป็ น
่
สามเณรเมืออายุ ได ้ ๑๒ ปี ได ้แสดงออกถึงแววแห่งความเป็ นนักปราชญ ์ตังแต่ ้ ยงั
เยาว ์วัย ได ้เดินทางไปศึกษากับพระทีมี ่ ชอเสี
่ื ยงในยุคนั้น เรียนจบพระบาลีและไดร้ ับ
่
ประกาศนี ยบัตรในระดับสูงสุดเมืออายุ เพียง ๒๓ ปี ได ้รับตาแหน่ ง Sasanadhaja Siripavara
Dhammacariya จากประธานาธิบดีพม่าเมือปี่ ๑๙๕๓ สามปี ต่อมาได้รับทุนจากรัฐบาลไป
เรียนภาษาสันสกฤตและฮินดีทมหาวิ ี่ ทยาลัยในเมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย ปี ๑๙๖๐
ได ้รับปริญญาตรีในสาขา ศาสนาพุทธฝ่ ายมหายาน ปี ๑๙๖๔ ได ้สาเร็จปริญญาโท ใน
สาขาภาษาสันสกฤตและปรัชญาอินเดีย และจบปริญญาเอกในปี ๑๙๖๗ ในสาขา
เดียวกันนั้น ท่านไดส้ อนในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ้ ้เป็ นหัวหน้า
ได ้ร ับแต่งตังให
บรรณาธิการเพือท ่ าหนังสือปทานุ กรมศัพท ์ทางพุทธศาสนา ท่านได ้เขียนหนังสือ
หลายเล่มในภาษาบาลีและฮินดี หนังสือของท่านถูกใช ้เป็ นตาราการสอนใน
มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทีอิ ่ นเดีย
ี่
ท่านมาอยู่ทเบอร ่
์มิงแฮมเมื ่
อปี ๑๙๗๕ และได ้กลายเป็ นพระทีมี ่ ชอเสี
่ื ยงทั่วโลก ได ้รับ
เชิญไปสอนสมาธิวป ิ ัสสนาทั่วยุโรปและอเมริกา รวมทังบรรยายตามมหาวิ
้ ่
ทยาลัยทีมี
่ ยงระดับโลก เช่น Oxford, Cambridge, Manchester, Lancaster, Zurich, Harvard, Columbia,
ชือเสี
Berkeley, Macomb และ Champagne. ปัจจุบน ั นี ้ ท่านได ้กลายเป็ นพระทีชาวโลกรู
่ ้จักในฐานะ
่ ่งส่งเสริมสันติภาพและสมานความสามัคคีปรองดองระหว่างมนุ ษยชาติ
ทีมุ