Professional Documents
Culture Documents
อวดอุตริมนุสธรรมที่มีในตน บทที่ 6
อวดอุตริมนุสธรรมที่มีในตน บทที่ 6
จริยธรรมคริสต์ควรมีเป้าหมายถ้าพระเจ้าคือพระนิพพาน
ทีจ ่ ริงแล ้ว
คาภีรไ์ บเบิลเต็มไปด ้วยระบบจริยธรรมทีส ่ งู สง่ ทีพ
่ ระคริสต์สอนให ้
คนทาตามเพือ ่ ไปให ้ถึงดินแดนแห่งพระเจ ้า The Kingdom of
God ถ ้าคาว่า “พระเจ ้า”
ของพระคริสต์หมายถึงสจ ั ธรรมอันสูงสุดหรือพระนิพพานแล ้วไซร ้
จริยธรรมของคริสต์ก็เหมือนกับของพุทธในแง่ทวี่ า่ เป็ นปั จจัยเกือ ้ ห
นุนให ้คนไปถึงเป้ าหมายอันสูงสุดของชวี ต ิ หรือพระเจ ้า
นีเ่ ป็ นสงิ่ ทีเ่ ราสรุปให ้ชาวคริสต์เพือ ่ ต ้องการชว่ ยชาวคริสต์เห็นโครง
สร ้างของชวี ต ิ อย่างชด ั เจน คือ
เห็นว่าชวี ต ิ เกิดมาเพือ ่ การเดินทางไปให ้ถึงเป้ าหมายทีส ่ งู สุด
คือถึงพระเจ ้า ฉะนัน้
การทาความดีก็เพือ ่ พาตนเองไปอยูก ่ ับพระเจ ้า
เพราะถ ้าไม่เห็นโครงสร ้างชด ั เจนแล ้วจะงงมาก ั สน
สบ
เริม ่ ถามว่าคนเราทาดีไปทาไม เพราะทาดีแล ้วไม่เห็นได ้ดี
เมือ
่ พระเจ้าถูกทาลาย ก็ไม่จาเป็นต้องทาความดี
ในอดีตทีศ ่ าสนาคริสต์ยังมีอท ิ ธิพลต่อจิตใจคนอยูน ่ ัน้
คนก็ยังเข ้าโบสถ์ ยังมีความเชอ ื่ มั่นในพระเจ ้าอยูม ่ าก
แม ้จะทุกข์มากอย่างไร ก็ยังมีความหวังในพระเจ ้า
พยายามทาความดี ทาสงิ่ ทีถ ู ต ้องต่อพระเจ ้า สังคมจึงไม่ยงุ่ มาก
่ ก
ไม่สบ ั สนและซบ ั ซอน ้
แต่เดีย ๋ วนี้ วิทยาศาสตร์เจริญขึน ้ มาก
การค ้นพบทางวิทยาศาสตร์ทาให ้คนเลิกเชอ ื่ พระเจ ้าไปมาก
การเชอ ื่ วิทยาศาสตร์อย่างโงหัวไม่ขน ึ้ เชอ ื่ ว่า
ชวี ต ิ นีค ้ อ ื ก ้อนพลังงานและสสาร
จิตใจมีศน ู ย์กลางอยูท ่ ส
ี่ มองอันเป็ นก ้อนสสารเท่านัน ้
เมือ ่ สมองหยุดทางาน ชวี ต ิ ก็ตาย เมือ ่ ตายแล ้วก็แล ้วกัน เป็ นศูนย์
ไม่มบ ี ญ ุ บาป นรกสวรรค์คอยอยูข ่ ้างหน ้า
ไม่มพ ี ระเจ ้าซงึ่ เป็ นพระผู ้สร ้างและผู ้ทาลายมาลงโทษคนทาบาปอ
ย่างทีพ ่ ด ู สอนกันในโบสถ์ ฉะนัน ้
ความคิดเรือ ่ งการทาความดีเพือ ่ จะได ้ไปอยูก ่ บ ั พระเจ ้าเริม ่ ถูกท ้าท
าย โดยเฉพาะอย่างยิง่
เมือ ่ คนสว่ นมากทีม ่ ก ี เิ ลสอยูเ่ ห็นว่าทาดีแล ้วก็ไม่เห็นได ้ดีตอบแทน
จึงไม่รู ้ว่าต ้องทาดีไปทาไม เพือ่ อะไร
คนเริม ่ ให ้อิสระแก่ตนในการทาชวั่ มากขึน ้ เพราะเห็นโต ้ง ๆ ว่า
คนทาชวั่ ไม่น ้อยกลับได ้ดี
ระบบจริยธรรมในปั จจุบันนี้จงึ ถูกสน ั่ คลอนอย่างทีไ่ ม่เคยปรากฏมา
ก่อนในประวัตข ิ องมนุษยชาติ
ทุกวันนี้ นอกจากเจ ้าหน ้าทีท ่ างศาสนาเชน ่ พระ หรือ
บาทหลวง แล ้ว ใครจะเปิ ดปากสอนศล ี ธรรมกับใครนีต ่ ้องระวังมาก
จะเป็ นหัวข ้อทีค ่ นเลีย ่ งไม่พด ู แม ้พ่อแม่เอง
เมือ่ ลูกโตเป็ นหนุ่มสาวแล ้ว
จะมานั่ งสอนลูกเรือ ่ งศล ี ธรรมนัน ้ อาจจะถูกลูกตอกกลับเอาจนหน ้า
แตกได ้ เพราะพ่อแม่เองทาไม่ได ้
และพ่อแม่ก็คอ ื บุคคลทีป ่ ระกอบอาชพ ี ต่าง ๆ ในสงั คม เชน ่ หมอ
ครู ตารวจ อัยการ ผู ้พิพากษา นักการเมือง นักธุรกิจ เป็ นต ้น
ซงึ่ บุคคลทีม ่ อี าชพ ี สูงสง่ เหล่านีค ้ วรเป็ นพ่อแบบ แม่แบบ
อันดีงามของสงั คม แต่เมือ ่ คนเหล่านีท ้ าตัวไม่ดเี สย ี เอง
จึงมาถึงจุดทีไ่ ม่มใี ครเตือนใครได ้เพราะแต่ละคนก็ไม่ใชผ ่ ้าขาว
ล ้วนเป็ นผ ้าขาวทีเ่ ปื้ อนโคลนไม่มากก็น ้อยทัง้ สน ิ้
เมือ ่ ไม่มใี ครเตือนใครได ้ ระบบศล ี ธรรมจึงถูกเหยียบย่าจนป่ นปี้
จะเอากลับมาอีกนัน
้ ยากมาก
ระบบศลี ธรรมจึงหายไปเหมือนการหายไปของพระเจ ้า
ชาวพุทธทาตามคาสอนของพระคริสต์ได้ดก ี ว่าชาวคริสต์
เรือ ้ สามารถชว่ ยให ้คนปฏิบัต ิ
่ งวิปัสสนาของพระพุทธเจ ้านั น
ทาตามคาสอนของพระคริสต์ได ้ง่ายขึน ้
คนทีป ่ ฏิบัตส ิ มาธิวป ิ ั สสนาจนใจสงบ ไม่หวั่นไหวแล ้วนั น ้
จะสามารถปฏิบัตธิ รรมข ้อรักศัตรูเหมือนรักตนเองได ้
ภาคปฏิบัตจ ิ ริง ๆ ไม่ใชต ่ ้องไปเป่ าประกาศให ้ชาวบ ้านรู ้ว่า
นีฉ
่ ั นรักเธอนะ ฉันไม่เกลียดเธอนะ
หรือการแสดงออกโดยการกอดรัด
หรือหอมแก ้มอย่างฝรั่งชอบทากันโดยเฉพาะชาวคริสต์ทไี่ ปโบสถ์
ในวันอาทิตย์
เราเคยไปโบสถ์กบ ั ลูก ๆ เมือ่ เขาเล็กอยู่
เมือ่ บาทหลวงเทศน์และทาพิธเี สร็จแล ้ว
ทุกคนทีน ่ ั่งใกล ้กันต ้องหันหน ้าเข ้าหากันและจับมือกันหรือไม่ก็จ๊บ ุ
ทีแ่ ก ้มกันบ ้าง ต ้องทาต่อ ๆ กัน
แม ้กับคนแปลกหน ้าทีเ่ ราไม่รู ้จักหรือคนทีไ่ ม่ถก ู โฉลกมาก่อน
ก็ต ้องทาหากเขานั่งอยูใ่ กล ้ในรัศมีทแ ี่ ตะกันได ้
ต ้องจับมือกันหมดอย่างทั่วถึงคนแล ้วคนเล่า
ก็ไม่รู ้ว่าโบสถ์อน ื่ ทาเชน ่ นีห ้ รือไม่
เป็ นการปฏิบัตท ิ ส ี่ ามีเราไม่ชอบทีส ่ ดุ เขาว่ามันเสแสร ้งมากเกินไป
เขาทาไม่ได ้ เขาจึงไม่ชอบไปโบสถ์
แต่นค ี่ อ ื การปฏิบัตท ิ ต ี่ ้องการแสดงออกว่าฉั นรักเธอนะตามคาสอน
ของพระคริสต์ ซงึ่ เป็ นจริงอย่างทีส ่ ามีพด ู เป็ นเรือ ่ งเสแสร ้งไม่น ้อย
เป็ นการแสดงออกทางกายทีจ ่ ติ ใจไม่ได ้รู ้สก ึ ตามก็ม ี
เพราะเมือ ่ อยูน ่ อกโบสถ์แล ้ว อาจนินทาลับหลังกันป่ นปี้ ก็ได ้
เรือ
่ งการรักเพือ ่ นบ ้านและศัตรูเหมือนรักตนเองนัน ้
คนทีฝ ่ ึ กวิปัสสนาจนใจไม่หวั่นไหวก็เริม ่ ทาตามคาสอนของพระคริ
ตสใ์ นข ้อนีไ ้ ด ้แล ้ว
ไม่ใชโ่ ดยการแสดงออกแบบจับไม ้จับมืออย่างชาวคริสต์
แต่โดยการอยูเ่ ฉย ๆ นีแ ่ หละ ในขณะทีใ่ จสงบและอยูเ่ ฉย ๆ นัน ้
ก็ไม่ได ้ไปเกลียดชงั ใครแม ้คนทีไ่ ม่ชอบเราและตัง้ ตัวเป็ นศัตรูด ้วย
คนทีใ่ จสงบแล ้วจะเกลียดคนอืน ่ ไม่เป็ น
โดยเฉพาะคนทีป ่ ฏิบัตจ ิ นถึงขัน ้ อัตโนมัตแ ิ ล ้ว ทุกครัง้ ทีค ่ ด
ิ มิดม
ี ริ ้าย
วิปัสสนาญาณจะเข ้ามาจัดการของมันเอง
แมวจะเขมือบหนูทงิ้ ทันที ทาเองอย่างเป็ นอัตโนมัต ิ
ไม่มโี อกาสจะเกลียดคนอืน ่ ได ้
จึงยกตัวอย่างเรือ ่ งอยูท ่ น ี่ ้ าตกคลองลานให ้ดู
ใจทีส ่ งบและเป็ นอิสระนัน ้ นอกจากไม่กลัวอันตรายแล ้ว
ยังไม่สามารถคิดเกลียดหรือทาร ้ายคนอืน ่ ได ้ ยังคิดจะชงกาแฟ
ต ้มมาม่าเลีย ้ งคนทีค ่ ด ิ จะมาทาร ้ายตนเองได ้
ฉะนัน ้
คนทีป ่ ฏิบัตวิ ป ิ ั สสนาจะทาตามคาสอนของพระคริสต์ได ้ง่ายมาก
ศาสนาพุทธต ้องสาบสูญจากอินเดียเมือ ่ อิสลามมาบุกนาลันทาและ
ฆ่าพระสงฆ์ตายมากมาย เพราะพระสงฆ์ไม่สามารถฆ่าคนได ้
ยอมถูกฆ่าดีกว่า เหตุการณ์ทเี่ กิดขึน ้ ทีธ ่ กัน
่ เิ บตก็เชน
ท่านดาไลลามะจึงต ้องระเหเร่ร่อนอยูท ่ ก ุ วันนี้
การกระทาของพระสงฆ์เหล่านี้ล ้วนเป็ นการปฏิบัตต ิ ามข ้อธรรมของ
พระคริสต์ทส ี่ อนให ้รักศรัตรูเหมือนรักตนเองทัง้ สน ิ้
ซงึ่ ชาวพุทธเราทาได ้ดีกว่าชาวคริสต์เพราะเรามีเรือ ่ งวิปัสสนาอันเ
ป็ นภาคปฏิบัตท ิ ชี่ ด ั เจนกว่าของคริสต์ศาสนามาก
่ งึ เป็ นเหตุผลทีเ่ ราพยายามจะชว่ ยชาวคริสต์โดยการเอาเรื่
นีจ
องวิปัสสนาหรือสติปัฏฐาน ๔
ให ้เขานาไปใชปรั ้ บปรุงเข ้ากับความเชอ ื่ ในเรือ่ งพระเจ ้าของตน
น่าจะทาได ้มาก หากเจ ้าหน ้าทีท
่ างศาสนาของเขายอมรับฟั ง
ถ ้าชาวคริสต์ไม่มเี รือ ่ งวิปัสสนาแล ้ว ไปไม่รอดแน่
สงครามระหว่างศาสนาซงึ่ ถ ้าไม่ใชร่ ะหว่างคริสต์กบ ั คริสต์
ก็คริสต์กบ ั อิสลาม
จะต ้องสูกั้ นอยูเ่ ชน ่ นีเ้ รือ
่ ยไปจนโลกอาจแตกสลายไปสก ั วัน
นีเ่ ป็ นเรือ่ งใหญ่ทต ี่ ้องพูดทิง้ ไว ้ให ้คนข ้างหลังรับรู ้