Professional Documents
Culture Documents
สภาวิศวกร materials
สภาวิศวกร materials
ข ้อที 1 :
แร่ Bauxite ทีเป็ นวัตถุดบ
ิ ในการถลุงอะลูมเิ นียม มีสารประกอบใดเป็ นสารประกอบหลัก
1 : Bayer
2: Al2O3
3: Al2(SO4)3
4: Na3AlF6
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 2 :
เหล็กหล่อ หมายถึง เหล็กทีมีปริมาณของธาตุคาร์บอนผสมอยูร่ ะหว่างค่าดังข ้อใด
ข ้อที 3 :
เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง มีปริมาณของธาตุคาร์บอนผสมอยูเ่ ป็ นปริมาณเท่าใด
1 : 0.40 % โดยปริมาตร
2 : 0.40 % โดยนํ าหนัก
3 : 0.04 % โดยปริมาตร
4 : 0.04 % โดยนํ าหนัก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 4 :
เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา มักนิยมนํ ามาใช ้ผลิตเป็ นผลิตภัณฑ์ในข ้อใด
1 : ตัวถังรถยนต์
2 : ลูกสูบ
3 : มีดกลึง
4 : ดอกสว่าน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 5 :
เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลางมีคา่ ความแข็ง (Hardness) เป็ นอย่างไร เทียบกับเหล็กกล ้าคาร์บอนสูงภายใต ้เงือนไขสภาวะการอบชุบเหมือนกัน
1 : น ้อยกว่า
2 : มากกว่า
3 : เท่ากัน
4 : ไม่สามารถระบุได ้ว่าเป็ นอย่างไร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 6 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่วต
ั ถุประสงค์ของการเติมธาตุโครเมียม (Cr) ในเหล็กกล ้าผสมสูง (High alloy steels)
1 : ลดการผุกร่อน
2 : เพิมความแข็งแรง
3 : เพิมความเหนียว ขึนรูปง่าย
4 : เพิมความสามารถในการต ้านทานการคืบ (Creep)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 7 :
ในกระบวนการผลิตเหล็กหล่อเหนียว (Nodular cast iron) ธาตุใดทีเติมลงไปเพือทําให ้แกรไฟต์รวมตัวกันเป็ นอนุภาคทรงกลม
1 : โครเมียม
2 : ซีเรียม
3 : คาร์บอน
4 : โคบอลต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 8 :
ทองเหลือง (Brass) คือโลหะผสมของธาตุหลักธาตุใด
1 : ทองแดง และเงิน
2 : ทองแดง และดีบก ุ
3 : ทองแดง และตะกัว
4 : ทองแดง และสังกะสี
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 9 :
โลหะผสมสูงกลุม ั ลอย (Superalloys) เช่น Nickel-based superalloys มักนิยมนํ าไปใช ้งานใดในปั จจุบน
่ ซูเปอร์อล ั
1 : ใบพัดในเครืองกังหันก๊าซในเครืองบินไอพ่น
2 : อุปกรณ์ภายในเครืองคอมพิวเตอร์เช่น ฮาร์ดดิสค์
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 1/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
3 : ลูกสูบเครืองยนต์
4 : มีดกลึง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 10 :
โลหะใดไม่ใช่โลหะทนไฟ (Refractory Metal)
1 : ทังสเตน
2 : โมลิบดินัม
3 : แทนทาลัม
4 : เยอรมันเนียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 11 :
โลหะใดจัดเป็ นโลหะมีสกุล (Noble Metal)
1 : ทังสเตน
2 : แพลตินัม
3 : ซิลก
ิ อน
4 : เยอรมันเนียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 12 :
ข ้อใดคือลักษณะเด่นของโลหะทัวไป
ข ้อที 13 :
โลหะใดจัดเป็ นโลหะหนัก
1 : แมกนีเซียม
2 : อะลูมเิ นียม
3 : เบอริลเลียม
4 : โมลิบดินัม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 14 :
โลหะใดทีไม่ควรนํ ามาเป็ นภาชนะบรรจุอาหาร
1 : อะลูมเิ นียม
2 : ตะกัว
3 : ดีบก
ุ
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 15 :
โลหะใดไม่เหมาะสมสําหรับนํ ามาทําเป็ นกระทะเพือปรุงอาหาร
1 : อะลูมเิ นียม
2 : เหล็กกล ้าไร ้สนิม
3 : ทองแดง
4 : แมกนีเซียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 16 :
พิวเตอร์ (Pewter) คือ โลหะผสมใด
1 : ดีบก
ุ ผสม
2 : ทองแดงผสม
3 : อะลูมเิ นียมผสม
4 : ไทเทเนียมผสม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 17 :
โลหะใดทีนํ ามาใช ้ทําเป็ นชินส่วนเครืองบินน ้อยทีสุด
1 : ไทเทเนียม
2 : อะลูมเิ นียม
3 : สังกะสี
4 : นิกเกิล
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 18 :
เหล็กกล ้าไร ้สนิมเกรด 18-8 หมายถึง เหล็กกล ้าทีผสมโลหะชนิดใดเป็ นปริมาณสูงสุดสองชนิดแรก
1 : โครเมียม-นิเกิล
2 : ไทเทเนียม-นิเกิล
3 : โครเมียม-ซิลกิ อน
4 : ไทเทเนียม-ซิลก ิ อน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 2/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 19 :
ผลิตภัณฑ์ใดทีไม่สามารถใช ้อะลูมเิ นียมเป็ นส่วนผสมหลักได ้
1 : วงล ้อรถยนต์
2 : ตัวถังรถยนต์
3 : กระป๋ องนํ าอัดลม
4 : ไส ้หลอดไฟ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 20 :
เหล็กหล่อชนิดใดต่อไปนีสามารถทนแรงกระแทกได ้ดีทสุ
ี ด
1 : เหล็กหล่อเทา
2 : เหล็กหล่อขาว
3 : เหล็กหล่อผสมโครเมียมสูง
4 : เหล็กหล่ออบเหนียว
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 21 :
เหล็กชนิดใดต่อไปนีสามารถกลึงเพือตกแต่งขึนรูปได ้ง่ายทีสุด
1 : เหล็กกล ้าชุบแข็ง
2 : เหล็กหล่อขาว
3 : เหล็กหล่อกราไฟต์กลม
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมเฟร์ไรต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 22 :
เหล็กกล ้าชนิดใดมีสภาพดึงยืดได ้ (Ductility) มากทีสุด ภายใต ้สภาวะการอบชุบทีเหมือนกัน
1 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา
2 : เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง
3 : เหล็กกล ้าคาร์บอนสูง
4 : เหล็กกล ้าเครืองมือ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 23 :
ในกระบวนการผลิตเหล็กหล่อเทา ธาตุใดทีต ้องเติมลงไปเพือทําให ้คาร์บอนรวมตัวกันเป็ นกราไฟต์
1 : อะลูมเิ นียม
2 : ซิลก
ิ อน
3 : แคลเซียม
4 : แมกนีเซียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 24 :
ข ้อใดไม่ใช่สมบัตข
ิ องเหล็กกล ้าคาร์บอนตํา
1 : มีความเหนียวสูง
2 : สามารถตกแต่งขึนรูปได ้ง่าย
3 : สามารถชุบแข็งได ้ง่าย
4 : ไม่สามารถรับแรงกระแทกได ้มาก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 25 :
ข ้อใดไม่ใช่สมบัตเิ ด่นของอะลูมเิ นียม
1 : นํ าหนักเบา
2 : ทนอุณหภูมไิ ด ้สูง
3 : อ่อนแต่เหนียว
4 : นํ าความร ้อนได ้ดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 26 :
บรอนซ์ คือ โลหะผสมชนิดใด
1 : ทองแดงผสมดีบก ุ
2 : อะลูมเิ นียมผสมทองแดง
3 : ดีบก
ุ ผสมตะกัว
4 : นิเกิลผสมไทเทเนียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 27 :
ข ้อใดคือลักษณะเด่นของเหล็กหล่อขาว
1 : แข็ง ยากต่อการตกแต่ง
2 : อ่อน เหนียว ตกแต่ง-ขึนรูปได ้ง่าย
3 : รับแรงอัดและแรงสันสะเทือนได ้ดี
4 : ไม่ทนต่อการเสียดสี
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 28 :
เหล็กหล่อเทาต่างจากเหล็กหล่อขาวอย่างไร
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 3/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : เหล็กหล่อเทามีซล ิ ก
ิ อนเป็ นส่วนผสม แต่เหล็กหล่อขาวไม่ม ี
2 : เหล็กหล่อเทามีกราไฟต์อส ิ ระเป็ นส่วนหนึงของโครงสร ้าง แต่เหล็กหล่อขาวไม่ม ี
3 : เหล็กหล่อเทามีความแข็งมากกว่าเหล็กหล่อขาว
4 : เหล็กหล่อเทาสามารถรับแรงกระแทกได ้น ้อยกว่าเหล็กหล่อขาว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 29 :
ผลิตภัณฑ์ใดไม่ควรเลือกทําจากเหล็กกล ้าคาร์บอนตํา
1 : ใบมีดกลึง
2 : ลวด
3 : เหล็กแผ่น
4 : ท่อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 30 :
ในกระบวนการผลิตเหล็กหล่อกราไฟต์กลม ธาตุใดทีต ้องเติมลงไปเพือทําให ้กราไฟต์อส
ิ ระเป็ นทรงกลม
1 : อะลูมเิ นียม
2 : ซิลก
ิ อน
3 : แคลเซียม
4 : แมกนีเซียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 31 :
เหล็กกล ้าผสมชนิดใดทีไม่สามารถชุบแข็งได ้ดี
1 : เหล็กกล ้าโมลิบดินัม
2 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมออสเทไนต์
3 : เหล็กกล ้าแมงกานีส
4 : เหล็กกล ้าโครเมียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 32 :
เหล็กกล ้าถูกแบ่งแยกออกจากเหล็กหล่อด ้วยปริมาณคาร์บอนกีเปอร์เซ็นต์
1 : 1%
2 : 2%
3 : 3%
4 : 4%
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 33 :
ธาตุผสมใดทีมีสว่ นสําคัญในการทําให ้เหล็กกล ้าไร ้สนิมทนต่อการเกิดสนิมในบรรยากาศปกติ และต ้องมีปริมาณธาตุอย่างน ้อยสุดเท่าใด
ข ้อที 34 :
ข ้อความใดต่อไปนีเป็ นการกล่าวทีถูกต ้อง
ข ้อที 35 :
โลหะใดต่อไปนีมีจด
ุ หลอมเหลวทีตําทีสุด
1 : ทองแดง
2 : ทองแดงผสมสังกะสี
3 : ทองแดงผสมเหล็ก
4 : ทองแดงผสมนิเกิล
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 36 :
ชินงานใดต่อไปนีมีความแข็งแรงสูงสุด
1 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตําชุบแข็ง
2 : เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลางชุบแข็ง
3 : เหล็กกล ้าผสมตําชุบแข็ง
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมออสเทไนต์ชบ
ุ แข็ง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 37 :
โลหะชนิดใดต่อไปนีทีเหมาะสมสําหรับทําเครืองยนต์ (Engine block) สําหรับรถแข่งมากทีสุด
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 4/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 38 :
วัสดุแม่เหล็กถาวรชนิดใดต่อไปนีทีให ้กําลังแม่เหล็กสูงสุด
1 : เหล็กคาร์บอน
2 : อัลนิโค (Alnico)
3 : เฟร์ไรต์ (Hard Ferrite)
4 : นิโอดิเมียม-บอรอน (NdFeB)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 39 :
เหล็กเส ้น เหล็กข ้ออ ้อย ทีใช ้ในงานก่อสร ้างทัวไป เป็ นเหล็กในกลุม
่ ใด
1 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา
2 : เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง
3 : เหล็กกล ้าคาร์บอนสูง
4 : เหล็กกล ้าผสม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 40 :
โลหะชนิดใดต่อไปนีสามารถนํ ามารีดเย็นเป็ นแผ่นบางได ้ง่ายทีสุด
1 : อะลูมเิ นียม
2 : ทองแดง
3 : ทองเหลือง
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 41 :
โลหะชนิดใดต่อไปนีขึนรูปเย็นได ้ยากทีสุด
1 : ทองเหลือง (Brass)
2 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา (Low carbon steel)
3 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมเฟร์ไรต์ (Ferritic stainless steel)
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมออสเทไนต์ (Austenetic stainless steel)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 42 :
โลหะชนิดใดต่อไปนีทีเหมาะสําหรับการผลิตวงล ้อรถยนต์มากทีสุด
1 : อะลูมเิ นียมบริสท
ุ ธิ
2 : อะลูมเิ นียมผสมซิลค ิ อน
3 : อะลูมเิ นียมผสมทองแดง
4 : อะลูมเิ นียมผสมแมงกานีส
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 43 :
โลหะชนิดใดต่อไปนีไม่เกิดสนิม
ข ้อที 44 :
เหล็กกล ้าชนิดใดต่อไปนีเหมาะสําหรับใช ้งานทีอุณหภูมส
ิ งู
ข ้อที 45 :
เหล็กหล่อชนิดใดต่อไปนีเหมาะสําหรับงานทีต ้องทนต่อการสึกหรอได ้ดี
ข ้อที 46 :
โลหะชนิดใดต่อไปนีเหมาะสําหรับการผลิตถังไฮโดรเจนเหลวสําหรับยานอวกาศมากทีสุด
1 : อะลูมเิ นียมผสมทองแดง
2 : อะลูมเิ นียมผสมลิเทียม
3 : อะลูมเิ นียมผสมซิลคิ อน
4 : อะลูมเิ นียมผสมสังกะสี
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 47 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 5/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
โลหะกลุม
่ ใดต่อไปนีเหมาะสําหรับผลิตกระดูกเทียม (Surgical implants) มากทีสุด
ข ้อที 48 :
ข ้อใดไม่ใช่คณ
ุ ลักษณะเด่นของเหล็กกล ้าคาร์บอน
1 : ทนทานการกัดกร่อนได ้ดี
2 : มีสมบัตท
ิ างกลอยูใ่ นเกณฑ์ดจ ี งึ สามารถนํ าไปใช ้งานได ้หลากหลายทางวิศวกรรม
3 : เหล็กกล ้าทีมีปริมาณคาร์บอนตํามักนํ าไปใช ้ทําเหล็กเส ้น เหล็กข ้ออ ้อย สําหรับอุตสาหกรรมก่อสร ้าง
4 : สามารถขึนรูปได ้ทังร ้อนและเย็น
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 49 :
ข ้อใดไม่ใช่วส
ั ดุพอลิเมอร์
1 : ยาง (Rubber)
2 : พลาสติก (Plastic)
3 : ไม ้ (Wood)
4 : แก ้ว (Glass)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 50 :
ยางทีผ่านกระบวนการ Vulcanization แล ้ว จัดเป็ นพอลิเมอร์ประเภทใด
ข ้อที 51 :
ข ้อใดเป็ นพอลิเมอร์แบบโครงข่าย (network)
1 : พอลิสไตรีน (Polystyrene)
2 : ฟี นอลฟอร์มลั ดีไฮด์ (Phenol-formaldehyde)
3 : พอลิเอทธิลนี (Polyethylene)
4 : พอลิพรอพิลน ี (Polypropylene)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 52 :
ข ้อใดเป็ นลักษณะของเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)
ข ้อที 53 :
พอลิเมอร์ใดต่อไปนีเป็ นเทอร์โมเซ็ตติง (Thermosetting)
1 : พอลิพรอพิลน ี (Polypropylene)
2 : พอลิเอทธิลนี (Polyethylene)
3 : พอลิเอสเทอร์ไม่อมตั
ิ ว (Unsaturated polyester)
4 : พอลิไวนีลคลอไรด์ (Polyvinyl chloride)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 54 :
ข ้อใดต่อไปนีกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
ข ้อที 55 :
ปั จจัยใดมีผลต่อสมบัตเิ ชิงกลของพอลิเมอร์แบบกึงผลึก (Semicrystalline polymers)
ข ้อที 56 :
จากกราฟความเค ้น-ความเครียด (Stress-strain plot) กราฟเส ้นใดแสดงสมบัตข
ิ องวัสดุยด
ื หยุน
่ (Elastomeric polymer)
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 6/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1:I
2 : II
3 : III
4 : IV
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 57 :
พอลิเมอร์ใดต่อไปนีเป็ นเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastics)
1 : PVC
2 : Epoxy resins
3 : Polyester
4 : Melamine
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 58 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่พอลิเมอร์
1 : พอลิเอทิลน ี (Polyethylene)
2 : พอลิคาร์โบเนต (Polycarbonate)
3 : ซิลค ิ อนคาร์ไบด์ (Silicon carbide)
4 : ซิลโิ คน (Silicone)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 59 :
ี ํา
เพราะเหตุใดยางรถยนต์จงึ มีสด
ข ้อที 60 :
โดยทัวไปพอลิเมอร์มส
ี มบัตเิ ชิงกลในข ้อใดต่อไปนีมากกว่าวัสดุวศ
ิ วกรรมชนิดอืนๆ
1 : Tensile Strength
2 : Modulus of Elasticity
3 : Yield Strength
4 : Elongation
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 61 :
ิ ทีใช ้ในการผลิตพอลิเมอร์มาจากแหล่งใด
วัตถุดบ
1 : แก๊สธรรมชาติ
2 : นํ ามันปิ โตรเลียม
3 : ผลิตผลทางการเกษตร
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 62 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่ลก
ั ษณะหรือสมบัตข
ิ องเทอร์โมเซตติง (Thermosetting)
1 : มีโครงสร ้างตาข่าย
2 : นํ ามาขึนรูปใหม่ไม่ได ้
3 : ทนแรงกระแทกได ้ดี
4 : ทนความร ้อนได ้ดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 63 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่โครงสร ้างของโคพอลิเมอร์ (Copolymer)
ข ้อที 64 :
ขวดพลาสติกใสทีใช ้บรรจุนําอัดลมในท ้องตลาดมักทําด ้วยพอลิเมอร์ชนิดใด
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 7/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : พอลิโพรพิลนี (Polypropylene)
2 : พอลิสไตรีน (Polystyrene)
3 : พอลิเอทิลน
ี เทอร์ฟาทาเลต (Polyethylene terephthalate)
4 : พอลิเมทิล เมทาครีเลต (Polymethyl methacrylate)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 65 :
เราสามารถเพิมสมบัตใิ นการรับแรงกระแทกให ้กับพลาสติกทีเปราะได ้โดยการผสมสิงใดต่อไปนีลงไปในพลาสติก
1 : ยาง (Rubber)
2 : สารเสริมแรง (Reinforcing filler)
3 : สารป้ องกันการแตกหักของสายโซ่โมเลกุล (Stabilizer)
4 : สารเพิมเนือ (Extender)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 66 :
ถ ้านํ าขวดพลาสติกทีทําจากพอลิเอทิลน
ี ไปบรรจุนําอัดลมและปิ ดฝาให ้แน่น จะเกิดสิงใดขึน
1 : ไม่มส ิ
ี งใดเปลี
ยนแปลง
2 : นํ าอัดลมจะมีสท ี จางลง
ี
3 : แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จะระเหยออกไป
4 : ปริมาณของนํ าอัดลมจะลดลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 67 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่เป็ นความจริง
ข ้อที 68 :
กระบวนการในข ้อใดต่อไปนีเป็ นกระบวนการสร ้างพอลิเมอร์จากมอนอเมอร์
1 : Monomerization
2 : Polymerization
3 : Hydration
4 : Annealing
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 69 :
เทฟลอน (Teflon) คือชือทางการค ้าของพอลิเมอร์ในข ้อใด
1 : Polystyrene
2 : Polyurethane
3 : Polytetrafluoroethylene
4 : Polyvinyl chloride
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 70 :
พลาสติกในข ้อใดทีสามารถนํ ามาให ้ความร ้อนแล ้วหลอมเหลวเพือนํ าไปขึนรูปใหม่ได ้
1 : ไนลอน
2 : เมลามีน
3 : เบคาไลท์
4 : อีพอกซี
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 71 :
ข ้อใดจัดเป็ นวัสดุอล
ี าสโตเมอร์
1 : เมลามีน
2 : อะคริลค ิ
3 : ซิลโิ คน
4 : เทฟลอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 72 :
ข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
ข ้อที 73 :
ข ้อใดกล่าวเกียวกับ Tg ของพอลิเมอร์ถก
ู ต ้องทีสุด
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 8/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 74 :
ปฏิกริ ย
ิ าทีเกิดขึนเมือผสมซีเมนต์กบ
ั นํ าคือปฏิกริ ย
ิ าใด
1 : ปฏิกริ ย
ิ า Hydration
2 : ปฏิกริ ยิ า Oxidation
3 : ปฏิกริ ย ิ า Reduction
4 : ปฏิกริ ย ิ า Dehydration
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 75 :
การเติมแร่ยป
ิ ซัม (Gypsum) ลงในซีเมนต์มวี ต
ั ถุประสงค์อย่างไร
1 : เพือลดต ้นทุนวัตถุดบิ
2 : เพือควบคุมเวลาการแข็งตัวของซีเมนต์
3 : เพือเพิมความแข็งแรงให ้กับซีเมนต์
ี ายุการใช ้งานทีนานขึน
4 : เพือให ้ซีเมนต์มอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 76 :
ทําไมเซรามิกโดยทัวไปมีสมบัตท
ิ แข็
ี ง (Hard) และเปราะ (Brittle) กว่าโลหะ
ข ้อที 77 :
ข ้อใดไม่ใช่สมบัตข
ิ องเซรามิก
ข ้อที 78 :
ข ้อใดไม่ใช่ผลทีเกิดจากการเกิดรูพรุน (Porosity) ในเนืออิฐทนไฟ
ข ้อที 79 :
วัสดุในข ้อใดเหมาะทีจะทําเป็ นวัสดุขด
ั ถู (Abrasive material)
1 : เหล็ก
2 : อะลูมนิ า
3 : พอลิเอทิลนี
4 : ไม ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 80 :
Glass transition temperature คืออะไร
1 : อุณหภูมจ
ิ ด ุ หลอมเหลว (Melting point) ของแก ้ว
2 : อุณหภูมทิ แก ี ้วมีสภาพการนํ าไฟฟ้ า
3 : อุณหภูมท ิ แก ี ้วเปลียนจากสภาพทีมีความหนืดสูงเป็ นสภาพทีแข็งและเปราะ
4 : อุณหภูมท ิ แก ี ้วกลายเป็ นไอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 81 :
ข ้อใดไม่ใช่เซรามิกวิศวกรรม (Engineering ceramic)
1 : พอร์ซเิ ลน (Porcelain)
2 : อะลูมนิ า (Alumina)
3 : ซิลก
ิ อนไนไตรด์ (Silicon nitride)
4 : เซอร์โคเนีย (Zirconia)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 82 :
เซรามิกลักษณะใดทีไม่เหมาะสมสําหรับการนํ ามาใช ้ทําเป็ นกระดูกเทียม
1 : เซรามิกทีมีสมบัตติ ้านทานการผุกร่อนทีดี
2 : เซรามิกทีมีความหนาแน่นสูง
3 : เซรามิกทีมีความแข็งแรงสูง
4 : เซรามิกทีสามารถยึดติดกับเนือเยือได ้ดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 9/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 83 :
ทําไมปั จจุบน ิ า (Alumina) มาใช ้ทําหัวเทียนแทนโลหะ
ั นิยมนํ าเซรามิกวิศวกรรม เช่น อะลูมน
1 : เซรามิกมีความแข็งแรงมากกว่าโลหะทีอุณหภูมส
ิ งู
2 : เซรามิกเป็ นวัสดุเปราะกว่าโลหะ
3 : เซรามิกมีการนํ าไฟฟ้ าทีดีกว่าโลหะ
4 : เซรามิกมีความหนาแน่นตํากว่าโลหะ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 84 :
ข ้อใดกล่าวถูกต ้อง
ข ้อที 85 :
การเพิมความแข็งแรงให ้กับแก ้วโดยวิธเี ทมเปอร์ (Temper) หรือ Chemical treatment มีหลักการอย่างไร
ข ้อที 86 :
เซรามิกประเภทใดมีความเหนียว (Toughness) ดีทสุ
ี ดทีอุณหภูมห
ิ ้อง
1 : ซิลก
ิ อนไนไตรด์ (Silicon nitride)
2 : ซิลกิ อนคาร์ไบด์ (Silicon carbide)
3 : อะลูมน ิ า (Alumina)
4 : Partially stabilized zirconia
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 87 :
Glass-ceramic แตกต่างจาก แก ้ว (Glass) อย่างไร
ข ้อที 88 :
Pyroelectric ceramic มีสมบัตเิ ด่นในข ้อใด
1 : สามารถเปลียนสมบัตท
ิ างกลให ้เป็ นสมบัตไิ ฟฟ้ า
2 : สามารถเปลียนสมบัตทิ างไฟฟ้ าให ้เป็ นสมบัตท ิ างกล
3 : สามารถเปลียนสมบัตท ิ างไฟฟ้ าให ้เป็ นสมบัตท ิ างเคมี
4 : สามารถเปลียนสมบัตท ิ างความร ้อนให ้เป็ นสมบัตท ิ างไฟฟ้ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 89 :
เซรามิกประเภทแก ้วต่างจากเซรามิกโดยทัวไปอย่างไร
1 : แก ้วไม่มผ
ี ลึก แต่เซรามิกโดยทัวไปเป็ นโครงสร ้างทีมีผลึก (Crystalline)
2 : แก ้วสามารถดึงยืดได ้ แต่เซรามิกโดยทัวไปมีสมบัตเิ ปราะ
3 : แก ้วทนแรงดึงได ้ดี แต่เซรามิกทนแรงอัดได ้ดี
4 : แก ้วทนทานต่อสารเคมีได ้ดี แต่เซรามิกโดยทัวไปเกิดปฏิกริ ย ิ าได ้ง่าย
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 90 :
ผลิตภัณฑ์ใดต่อไปนีไม่จําเป็ นต ้องใช ้วัสดุเซรามิก
1 : กระสวยอวกาศ
2 : เตาเผา
3 : ลูกถ ้วยไฟฟ้ า (Electrical insulator)
4 : มีดผ่าตัด
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 91 :
ข ้อใดไม่ชว่ ยทําให ้วัสดุทผลิ
ี ตจากอะลูมน
ิ า (Alumina) มีสมบัตโิ ปร่งแสง (Translucent) ได ้
ข ้อที 92 :
กระถางปลูกต ้นไม ้ โอ่งดิน อิฐมอญ จัดเป็ นเซรามิกประเภทใด
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 10/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : Stoneware
2 : Earthenware
3 : Porcelain
4 : Bone China
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 93 :
วัสดุทนไฟทีใช ้ในเตาเผาอุณหภูมส
ิ งู มักทําจากวัสดุในข ้อใดต่อไปนี
1 : CaO
2 : Feldspar
3 : Cement
4 : Mullite
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 94 :
วัสดุแบเรียมไททาเนต (BaTiO3) มีโครงผลึกแบบใด
1 : โครงผลึกซีเซียมคลอไรด์
2 : โครงผลึกโซเดียมคลอไรด์
3 : โครงผลึกฟลูออไรด์
4 : โครงผลึกเพอรอฟสไกต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 95 :
ข ้อใดไม่ใช่วส
ั ดุโครงสร ้างซิลเิ กต
1 : อะลูมน ิ า
2 : ควอทซ์
3 : ไมก ้า
4 : ทัลค์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 96 :
วัสดุเซรามิกมีพันธะชนิดใด
1 : พันธะโลหะ
2 : พันธะโควาเลนต์
3 : พันธะไอออนิก
4 : พันธะไอออนิกร่วมพันธะโควาเลนต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 97 :
ไม ้จัดเป็ นวัสดุประเภทใด
1 : วัสดุเชิงประกอบ
2 : พอลิคาร์บอเนต
3 : พอลิไวนิลคลอไรด์
4 : พอลิเมอร์
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 98 :
เพราะเหตุใดไม ้จึงรับแรงดัด (Bending force) ได ้ดี
1 : เส ้นใยเรียงตัวในทิศใดทิศหนึง
2 : มีความเหนียวสูง
3 : เนือไม ้มีความหนาแน่นสูง
4 : ไม ้มีนําหนักเบา
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 99 :
ข ้อใดเป็ นส่วนประกอบหลักของยางมะตอย (Asphalt)
ข ้อที 100 :
ไม ้มีสมบัตท
ิ างกลตามข ้อใด
1 : เท่ากันทุกทิศทาง
2 : ความแข็งแรงตามแนวความยาวมากกว่าแนวขวาง
3 : ความแข็งแรงขนานเส ้นใยตํากว่าความแข็งแรงตังฉาก
4 : โมดูลสั เท่ากันทุกทิศทาง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 101 :
ยางมะตอย (Asphalt) และยางมะตอยผสม (Asphalt mix) มีสมบัตต
ิ า่ งกันอย่างไร
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 11/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
2 : ยางมะตอยผสมมีแรงเสียดทาน (Friction) มากกว่ายางมะตอย
3 : ยางมะตอยและยางมะตอยผสมใช ้ทําพืนรับแรงทีมีสมบัตใิ กล ้เคียงกัน
4 : ยางมะตอยแข็งแรงมากกว่ายางมะตอยผสม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 102 :
การใช ้คอนกรีตในการก่อสร ้าง คอนกรีตถูกใช ้เพือให ้รับแรงประเภทใด
1 : แรงดึง (Tension)
2 : แรงอัด (Compression)
3 : แรงเฉือน (Shear)
4 : แรงบิด (Torsion)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 103 :
ความสามารถในการทํางาน (Workability) ของคอนกรีตสามารถทดสอบด ้วยวิธใี ด
ข ้อที 104 :
ส่วนประกอบหลักของคอนกรีตคือข ้อใด
ข ้อที 105 :
สมการ delta ferrite + L --> austenite เรียกปฏิกริ ย
ิ านีว่าปฏิกริ ย
ิ าใด
1 : Eutectoid
2 : Eutectic
3 : Peritectic
4 : Peritectoid
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 106 :
ข ้อใดไม่ใช่ข ้อมูลทีสามารถทราบได ้จากแผนภาพเฟส (Phase diagram)
1 : สภาพการละลายได ้ของธาตุหนึงในอีกธาตุหนึง
2 : อุณหภูมท
ิ สารเริ
ี มหลอมละลาย
3 : ความดันทีสารเปลียนเฟส
4 : ปริมาตรของสารทีหลอมเหลว
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 107 :
ข ้อใดไม่ใช่ข ้อมูลทีสามารถทราบได ้จากแผนภาพเฟส (Phase diagram)
1 : อุณหภูมท
ิ โลหะผสมเริ
ี มแข็งตัวเป็ นของแข็ง
2 : สภาพการละลายได ้ของธาตุหนึงในอีกธาตุหนึง ณ สภาวะสมดุล
3 : เฟสต่างๆ ทีมีอยูใ่ นเนือวัสดุ
4 : ขนาดและรูปร่างของโครงสร ้างจุลภาค
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 108 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 12/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อใดคือปฏิกริ ย
ิ าทีเกิดขึนในแผนภาพเฟสของ Fe-Fe3C ทีกําหนดให ้
ข ้อที 109 :
ปฏิกริ ย
ิ ายูเทกทอยด์ (Eutectoid) ของเหล็กกล ้าคาร์บอน เกิดทีปริมาณคาร์บอนกีเปอร์เซ็นต์โดยนํ าหนัก
1 : 0.025%
2 : 0.8%
3 : 2.0%
4 : 4.3%
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 110 :
ี นตัวอย่างช ้าๆ ผ่านปฏิกริ ย
โครงสร ้างใดคือโครงสร ้างของเหล็กกล ้าคาร์บอนส่วนผสมยูเทกทอยด์ทเย็ ิ ายูเทคทอยด์ เรียกโครงสร ้างทีเกิดขึนว่าอะไร
1 : เฟร์ไรต์ (Ferrite)
2 : เพอร์ไลต์ (Pearlite)
3 : ออสเทไนต์ (Austenite)
4 : ซีเมนไทต์ (Cementite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 111 :
ข ้อใดไม่ใช่ข ้อมูลทีได ้จากการอ่านแผนภาพเฟสในสภาวะทีสมดุล
1 : ชนิดของเฟสทีเกิดขึน
2 : ปริมาณของเฟสทีเกิดขึน
3 : อุณหภูมท
ิ สารเริ
ี มแข็งตัว (Solidify) หรือหลอมเหลว (Melt)
4 : ชนิดของโครงสร ้างผลึกของเฟสทีเกิดขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 13/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 112 :
สารละลาย (Solution) และของผสม (Mixture) แตกต่างกันอย่างไร
ข ้อที 113 :
เส ้น Liquidus มีความสําคัญอย่างไร
ข ้อที 114 :
เส ้น Solidus มีความสําคัญอย่างไร
ข ้อที 115 :
ั ษณะของเส ้น Solvus
ข ้อใดไม่ใช่ลก
ข ้อที 116 :
ข ้อใดไม่ทําให ้เกิด Isomorphous systems
ข ้อที 117 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิกเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 47%โดยนํ าหนักและนิกเกิล 53% โดยนํ าหนัก ที 1300 องศาเซลเซียส
ประกอบด ้วยเฟสอะไร
1 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง α
2 : เฟสของแข็ง α
3 : เฟสสารประกอบ Cu-Ni
4 : เฟสของเหลว
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 118 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิกเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 30% โดยนํ าหนักและนิกเกิล 70% โดยนํ าหนัก ถูกให ้ความร ้อนจากอุณหภูม ิ
ห ้อง อยากทราบว่าเฟสของเหลวเริมเกิดขึนทีอุณหภูมใิ ด
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 14/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 119 :
ข ้อใดไม่เกียวข ้องกับการเกิดโครงสร ้างแกน (Cored structure)
1 : เกิดในสภาวะทีไม่สมดุล
2 : เกิดจากความเข ้มข ้นของส่วนประกอบทางเคมี (Chemical composition) ในแต่ละส่วนต่างกัน
3 : สามารถแก ้ไขได ้โดยการทํากรรมวิธท
ี างความร ้อน (Heat treatment)
4 : การเย็นตัวลงอย่างช ้าๆ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 120 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 47%โดยนํ าหนักและนิเกิล 53%โดยนํ าหนักที 1300 องศาเซลเซียส ประกอบ
ด ้วยเฟสสองเฟส คือ เฟสของแข็ง α ซึงมีสว่ นประกอบโดยนํ าหนักของทองแดง 42% และ นิเกิล 58% และเฟสของเหลวซึงมีสว่ นประกอบโดยนํ าหนักของ
ทองแดง 55% และ นิเกิล 45% อยากทราบเปอร์เซ็นต์โดยนํ าหนักของเฟสทังสองของโลหะผสมนี
ข ้อที 121 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 15/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิกเกิล (Ni) ค่า Degree of freedom บนเส ้น Liquidus มีคา่ เท่าใด
1 : Degree of freedom = 0
2 : Degree of freedom = 1
3 : Degree of freedom = 2
4 : Degree of freedom = 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 122 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – สังกะสี (Zn) ในช่วงอุณหภูมต ิ งแต่
ั 500 องศาเซลเซียส ถึง 750 องศาเซลเซียส ของโลหะผสมทีมีเปอร์เซ็นต์โดยนํ าหนัก
ของสังกะสีตงแต่
ั 60% ถึง 100% มีปฏิกริ ย
ิ า Invariant ใดเกิดขึนบ ้าง
ข ้อที 123 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 16/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
จากแผนภาพเฟสของ นิกเกิล (Ni)- ไททาเนียม (Ti) มีปฏิกริ ย
ิ า Invariant ใดเกิดขึนบ ้าง
ข ้อที 124 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – เงิน (Ag) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 10% โดยนํ าหนักและเงิน 90%โดยนํ าหนัก ถูกให ้ความร ้อนจนเกิดเฟสของแข็ง
และเฟสของเหลว ถ ้าส่วนประกอบของเฟสของเหลวประกอบด ้วยเงิน (Ag) 85%โดยนํ าหนัก อยากทราบว่าโลหะผสมนีถูกให ้ความร ้อนถึงอุณหภูมเิ ท่าใด
ข ้อที 125 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 17/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – สังกะสี (Zn) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 20%โดยนํ าหนักและสังกะสี 80%โดยนํ าหนัก ที 598 องศาเซลเซียส
ประกอบด ้วยเฟสอะไร
1 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง δ
2 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง ε
3 : เฟสของแข็ง ε
4 : เฟสของเหลว เฟสของแข็ง δ และเฟสของแข็ง ε
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 126 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – เงิน (Ag) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 10%โดยนํ าหนัก และเงิน 90%โดยนํ าหนัก ถูกให ้ความร ้อนจนเกิดเฟสของแข็ง
β และเฟสของเหลว ถ ้าส่วนประกอบของเฟสของเหลวประกอบด ้วยเงิน (Ag) 85% โดยนํ าหนัก อยากทราบว่าเฟสของแข็ง β ประกอบด ้วยเงินกีเปอร์เซ็นต์โดยนํ า
หนัก
ข ้อที 127 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 18/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิกเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 30%โดยนํ าหนักและนิเกิล 70%โดยนํ าหนัก ที 1350 องศาเซลเซียส
ประกอบด ้วยเฟสอะไร
1 : เฟสของเหลว
2 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง α
3 : เฟสของแข็ง α
4 : เฟสของสารประกอบระหว่างทองแดงและนิเกิล
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 128 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – สังกะสี (Zn) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 20%โดยนํ าหนักและสังกะสี 80%โดยนํ าหนัก ที 800 องศาเซลเซียส
ประกอบด ้วยเฟสอะไร
1 : เฟสของเหลว
2 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง δ
3 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง ε
4 : เฟสของแข็ง γ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 129 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 19/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – สังกะสี (Zn) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 20%โดยนํ าหนักและสังกะสี 80%โดยนํ าหนัก ที 500 องศาเซลเซียส
ประกอบด ้วยเฟสอะไร
1 : เฟสของเหลว
2 : เฟสของแข็ง ε
3 : เฟสของแข็ง δ
4 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง ε
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 130 :
จากแผนภาพเฟสของตะกัว (Pb) – ดีบก
ุ (Sn) โลหะผสมประกอบด ้วยดีบก
ุ 40%โดยนํ าหนักและตะกัว 60%โดยนํ าหนัก ที 150 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟส
อะไรบ ้าง
ข ้อที 131 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 20/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
จากแผนภาพเฟสของตะกัว (Pb) – ดีบก
ุ (Sn) โลหะผสมประกอบด ้วยดีบก
ุ 61.9%โดยนํ าหนักและตะกัว 38.1%โดยนํ าหนัก ที 183 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วย
เฟสอะไรบ ้าง
ข ้อที 132 :
จากแผนภาพเฟสของตะกัว (Pb) – ดีบก
ุ (Sn) บริเวณทีเป็ น α มีความหมายว่าอย่างไร
ข ้อที 133 :
ข ้อใดไม่ใช่ลก
ั ษณะของโครงสร ้างจุลภาคของส่วนประกอบ Eutectic
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 21/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : Lamellar
2 : Rodlike
3 : Globular
4 : Homogeneous
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 134 :
ปฏิกริ ย
ิ าต่อไปนี ข ้อใดไม่ใช่ปฏิกริ ย
ิ า Invariant
1 : Eutectic reaction
2 : Monotectic reaction
3 : Peritectoid reaction
4 : Oxidation reaction
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 135 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิกเกิล (Ni) ค่า Degree of freedom ระหว่างเส ้น Solidus และ Liquidus มีคา่ เท่าใด
1 : Degree of freedom = 0
2 : Degree of freedom = 1
3 : Degree of freedom = 2
4 : Degree of freedom = 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 136 :
ข ้อใดต่อไปนีเป็ นปฏิกริ ย
ิ า Monotectic
1:
2:
3:
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 137 :
ี ารชุบทีใช ้ตัวกลางชนิดใดต่อไปนี ทีทําให ้เกิดอัตราการคายความร ้อนจากชินงานมากทีสุด
กรรมวิธก
1 : อากาศปกติ
2 : อากาศในเตาอบ
3 : นํ าเปล่า
4 : นํ ามัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 138 :
กรรมวิธก
ี ารอบชนิดใดต่อไปนี ทําให ้ชินงานมีความแข็งแรงสูงทีสุด
ข ้อที 139 :
ในการอบอ่อนเต็มที (Full annealing) ชินงานถูกทําให ้เย็นลงด ้วยตัวกลางชนิดใด
1 : อากาศปรกตินอกเตาอบ
2 : อากาศในเตาอบ
3 : นํ าเปล่า
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 22/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
4 : นํ ามัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 140 :
ในการอบปรกติ (Normalizing) ชินงานถูกทําให ้เย็นลงด ้วยตัวกลางชนิดใด
1 : อากาศปรกตินอกเตาอบ
2 : อากาศในเตาอบ
3 : นํ าเปล่า
4 : นํ ามัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 141 :
ข ้อใดคือโครงสร ้างทีได ้จากการเย็นตัวอย่างช ้าๆ ของเหล็กกล ้าคาร์บอนตําทีมีโครงสร ้างออสเทไนต์ (Austenite)
ข ้อที 142 :
จากแผนภาพการแปลงคงอุณหภูม ิ (Isothermal transformation diagram) ของเหล็กกล ้าคาร์บอน 1.13 wt%C ข ้อใดคือโครงสร ้างสุดท ้ายของชินงานเหล็กกล ้า
คาร์บอน 1.13 wt%C ขนาดเล็กทีถูกอบทีอุณหภูม ิ 920 องศาเซลเซียส จนมีโครงสร ้างเป็ นออสเทไนต์ (Austenite) ตลอดทังชินก่อนทําให ้เย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว
จนชินงานมีอณ ิ
ุ หภูม ิ 400 องศาเซลเซียส และแช่ชนงานไว ้ทีอุณหภูมน
ิ นาน
ี 1 นาที ก่อนทําให ้เย็นตัวถึงอุณหภูมห
ิ ้อง
ข ้อที 143 :
ข ้อใดคือวัตถุประสงค์ของการอบปรกติ (Normalizing)
ข ้อที 144 :
ข ้อใดคือวัตถุประสงค์ของการอบอ่อน (Annealing)
1 : เพือเพิมความแข็งแรง
2 : เพือให ้ได ้โครงสร ้างทีมีความอ่อนตัวสูง
3 : เพือเพิมความแข็งให ้กับวัสดุ
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 145 :
ข ้อใดคือปั จจัยทีมีผลต่อความแข็งของเหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง
1 : ปริมาณคาร์บอน
2 : อุณหภูมก ิ อ
่ นการชุบแข็ง
3 : อัตราการชุบแข็ง
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 23/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 146 :
โครงสร ้างเพอร์ไลต์ (Pearlite) ในเหล็กกล ้าเป็ นโครงสร ้างทีได ้จากปฏิกริ ย
ิ าอะไร
1 : ยูเทกติก (Eutectic)
2 : ยูเทกทอยด์ (Eutectoid)
3 : เพริเทกติก (Peritectic)
4 : เพริเทกทอยด์ (Peritectoid)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 147 :
ในภาวะสมดุล ณ อุณหภูมต ิ ํากว่าอุณหภูมย
ิ เู ทคทอยด์เล็กน ้อย โครงสร ้างเหล็กกล ้าคาร์บอนตํา (0.2wt%C) ประกอบด ้วยโครงสร ้างของเฟสกึงเสถียร (Metastable
phase) ใดบ ้าง และเกิดขึนในปริมาณเท่าใด
ข ้อที 148 :
ลักษณะโครงสร ้างบริเวณรอบรอยเชือม (HAZ) ในเหล็กกล ้าคาร์บอนตําส่วนทีติดกับบริเวณหลอมเหลว (Fusion zone) ของรอยเชือมคือ ข ้อใดต่อไปนี
1 : โครงสร ้างมีขนาดเกรนหยาบ
2 : โครงสร ้างมีขนาดเกรนละเอียด
3 : โครงสร ้างเป็ นมาร์เทนไซต์ (Martensite)
4 : โครงสร ้างเป็ นเบไนต์ (Bainite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 149 :
จากแผนภาพเฟสดีบก ุ -ตะกัว โครงสร ้างของโลหะผสมดีบก
ุ และตะกัวทีอุณหภูมต
ิ ํากว่า 183˚C เล็กน ้อย ประกอบด ้วยเฟส Proeutectic α 73.2% โดยนํ าหนัก และ
เฟสของ Eutectic (α + β) 26.8% โดยนํ าหนัก ส่วนผสมของโลหะนีคือข ้อใด
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 24/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : ดีบก
ุ 20% และตะกัว 80% โดยนํ าหนัก
2 : ดีบกุ 25% และตะกัว 75% โดยนํ าหนัก
3 : ดีบก ุ 30% และตะกัว 70% โดยนํ าหนัก
4 : ดีบก ุ 35% และตะกัว 65% โดยนํ าหนัก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 150 :
จากแผนภาพเฟสดีบก
ุ -ตะกัว โลหะผสมของดีบก
ุ 85% และตะกัว 15% โดยนํ าหนัก จํานวน 750 กรัมทีอุณหภูมส
ิ งู กว่า 183˚C เล็กน ้อย ประกอบด ้วยเฟส
Proeutectic β กีกรัม
1 : 323.4
2 : 482.6
3 : 526.7
4 : 651.2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 151 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 25/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
จากแผนภาพเฟสดีบก
ุ -ตะกัว โลหะผสมของดีบก
ุ 85% และตะกัว 15% โดยนํ าหนัก จํานวน 750 กรัมทีอุณหภูมต
ิ ํากว่า 183˚C เล็กน ้อย ประกอบด ้วยเฟส α กีกรัม
1 : 323.65
2 : 240.64
3 : 120.75
4 : 94.36
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 152 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – เงิน (Ag) โครงสร ้างของโลหะผสมทองแดงและเงินทีอุณหภูมต ิ ํากว่า 779˚C เล็กน ้อย ประกอบด ้วยเฟส Proeutectic α
68% โดยนํ าหนัก และเฟสของ Eutectic (α + β) 32% โดยนํ าหนัก ส่วนผสมของโลหะนีคือข ้อใด
ข ้อที 153 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 26/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
โลหะผสมของทองแดง 70% และ เงิน 30% โดยนํ าหนัก จํานวน 800 กรัม ทีอุณหภูมต
ิ ํากว่า 779 องศาเซลเซียส เล็กน ้อย จะมีเฟสใดเกิดขึนบ ้างและเกิดขึนเป็ น
จํานวนเท่าใด
ข ้อที 154 :
โลหะผสมของทองแดง 70% และ เงิน 30% โดยนํ าหนัก จํานวน 800 กรัม ทีอุณหภูมส
ิ งู กว่า 779 องศาเซลเซียส เล็กน ้อย จะมีเฟสใดเกิดขึนบ ้างและเกิดขึนเป็ น
จํานวนเท่าใด
ข ้อที 155 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 27/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
จากแผนภาพเฟสของ นิกเกิล (Ni)- ไททาเนียม (Ti) ข ้อใดคือปฏิกริ ย
ิ า Eutectic ทีเกิดขึน
1:
2:
3:
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 156 :
จากแผนภาพเฟสของ นิกเกิล (Ni) - ไททาเนียม (Ti) ข ้อใดคือปฏิกริ ย
ิ า Peritectic ทีเกิดขึน
1:
2:
3:
4:
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 28/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 157 :
ในระบบ Ternary ซึงประกอบด ้วยส่วนประกอบ 3 ชนิด อยากทราบว่าถ ้าให ้อุณหภูมส
ิ ามารถเปลียนแปลงได ้ แต่ความดันมีคา่ คงที จะมีจํานวนเฟสเกิดขึนได ้มาก
ทีสุดพร ้อมกันกีเฟสทีอุณหภูมแ
ิ ละส่วนประกอบเดียวกัน
1:5
2:4
3:3
4:2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 158 :
จากแผนภาพเฟสทองแดง-เงิน ถ ้าโลหะผสมของทองแดง 70% และ เงิน 30% โดยนํ าหนัก จํานวน 800 กรัม ทีอุณหภูม ิ 800 องศาเซลเซียส จะมีเฟสใดเกิดขึน
บ ้างและเกิดขึนเป็ นจํานวนเท่าใด
ข ้อที 159 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่เฟสในเหล็กกล ้าคาร์บอน (Carbon steel)
1 : เหล็กบริสท ุ ธิ
2 : เฟร์ไรต์ (Ferrite)
3 : ซีเมนไทต์ (Cementite)
4 : ออสเทไนต์ (Austenite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 160 :
ซีเมนไทต์ (Cementite) ในเหล็กกล ้าคาร์บอนเป็ นเฟส (Phase) ชนิดใด
1 : ธาตุบริสท
ุ ธิ
2 : สารละลายของแข็ง (Solid solution)
3 : สารประกอบ (Compound)
4 : สารประกอบระหว่างโลหะ (Intermetallic compound)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 161 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 29/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
เหล็กกล ้าคาร์บอน 0.8wt%C ชุบในนํ าเย็นจากอุณหภูม ิ 1000 องศาเซลเซียส จะได ้โครงสร ้างใด
1 : มาร์เทนไซต์ (Martensite)
2 : เฟร์ไรต์ (Ferrite)
3 : เพอร์ไลต์ (Pearlite)
4 : ออสเทไนต์ (Austenite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 162 :
โลหะผสมในข ้อใดต่อไปนีทีสามารถเพิมความแข็งแรงโดยการบ่มแข็ง (Age hardening) ได ้
1 : Al + 4wt%Cu
2 : Al + 8wt%Cu
3 : Al + 12wt%Cu
4 : Al + 16wt%Cu
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 163 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 30/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
เฟสของแข็งเฟสแรกทีเกิดจากการแข็งตัวจากสภาวะของเหลวของ Al+20wt%Si คือข ้อใด
1 : (Al)
2 : (Si)
3 : Eutectic ((Al)+(Si))
4 : สารประกอบอะลูมเิ นียมซิลไิ ซด์
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 164 :
โครงสร ้างงานหล่อทองเหลือง (Zn+ 20wt%Cu) โดยทัวไป จะเป็ นดังในข ้อใด
ข ้อที 165 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 31/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ช่วงการแข็งตัว (Freezing range) ของโลหะผสม Cu + 40wt%Ni มีคา่ ประมาณเท่าใด
1 : 10 องศาเซลเซียส
2 : 40 องศาเซลเซียส
3 : 100 องศาเซลเซียส
4 : 150 องศาเซลเซียส
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 166 :
โลหะผสม Cu + 40wt%Ni แข็งตัวอย่างช ้าๆ ในภาวะสมดุล การแข็งตัวจะเริมต ้นและสินสุดทีอุณหภูมใิ ดโดยประมาณ (องศาเซลเซียส)
ข ้อที 167 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 32/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
โครงสร ้างทีเกิดขึนจากการแข็งตัวของโลหะผสม Pb + 30wt%Sn ในภาวะสมดุล ประกอบด ้วยโครงสร ้างยูเทกติก (Eutectic microconstituent) ประมาณเท่าใด
1 : 16%
2 : 26%
3 : 36%
4 : 46%
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 168 :
ข ้อมูลในข ้อใดต่อไปนีทีไม่สามารถหาได ้จากแผนภาพเฟส (Phase diagram)
1 : ชนิดของเฟสในภาวะสมดุล
2 : ส่วนผสมของเฟสในภาวะสมดุล
3 : ปริมาณของเฟสในภาวะสมดุล
4 : รูปร่างของเฟสในภาวะสมดุล
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 169 :
โครงสร ้างทีได ้จากกระบวนการมาร์เทมเปอริง (Martempering) คือโครงสร ้างใด
1 : เฟร์ไรต์ (Ferrite)
2 : เพอร์ไรต์ (Pearite)
3 : เบไนต์ (Bainite)
4 : มาร์เทนไซต์ (Martensite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 170 :
ธาตุใดส่งเสริมให ้เกิดแกรไฟต์ (Graphite) แทนทีจะเกิดคาร์ไบด์ (Carbide) ในเหล็กหล่อ
1 : Cr
2 : Mn
3 : Mo
4 : Si
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 171 :
วัตถุประสงค์หลักของการอบคืนไฟ (Tempering) คือข ้อใด
ข ้อที 172 :
การอบปรกติ (Normalizing) สําหรับเหล็กกล ้า 0.2wt%C ควรอบทีอุณหภูมใิ ด (องศาเซลเซียส)
1 : 700
2 : 800
3 : 950
4 : 1050
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 33/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 173 :
อุณหภูมท
ิ เหมาะสมในการบ่
ี มเพือเพิมความแข็ง (Aging) สําหรับโลหะผสม Al + 4wt%Cu คือข ้อใด (องศาเซลเซียส)
1 : 200
2 : 400
3 : 500
4 : 600
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 174 :
ในการหล่อโลหะผสม Cu + 10wt%Sn จะเกิดปฏิกริ ย
ิ าเพริเทกติก (Peritectic) ได ้หรือไม่
ข ้อที 175 :
โครงสร ้างงานหล่อของโลหะชนิดใดต่อไปนีทีจะไม่มเี ดนไดรต์ (Dendrite) ปรากฏให ้เห็นอย่างชัดเจน
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 34/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : ทองเหลือง
2 : อะลูมเิ นียมผสมซิลคิ อน
3 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิม
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 176 :
การเปลียนเฟสจากออสเทไนต์ (Austenite) เป็ นเบไนต์ (Bainite) ของเหล็กกล ้าคาร์บอน 0.8wt%C ทีอุณหภูม ิ 300 องศาเซลเซียส เกิดขึนได ้ค่อนข ้างช ้า เพราะ
เหตุใด
ข ้อที 177 :
แท่งทองเหลืองทรงกระบอกขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 10 มม. ยาว 150 มม. ได ้รับความร ้อนทีอุณหภูมห ิ ้อง (25 องศาเซลเซียส) จนมีอณ
ุ หภูมถ
ิ งึ 160 องศา
เซลเซียส ทําให ้เส ้นผ่านศูนย์กลางของแท่งทองเหลืองมีขนาดเพิมขึนเท่าไร กําหนดให ้ค่าสัมประสิทธิการขยายตัวทางความร ้อนของทองเหลือง คือ 20.0 (องศา
เซลเซียส x 10-6) และค่า Poisson’s Ratio = 0.34
1 : 0.0095 มม.
2 : 0.0270 มม.
3 : 0.0345 มม.
4 : 0.0375 มม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 178 :
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม
่ ใดทีเปราะ (Brittle) มากทีสุด
1 : พลาสติก
2 : ยาง
3 : โลหะ
4 : เซรามิก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 179 :
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม
่ ใดมีสภาพยืดหยุน
่ ได ้ (Ductile) มากทีสุด
1 : โลหะ
2 : เซรามิก
3 : พอลิเมอร์
4 : วัสดุเชิงประกอบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 180 :
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม
่ ใดมีความแข็งตึง (Stiffness) มากทีสุด
1 : โลหะ
2 : เซรามิก
3 : พลาสติก
4 : ยาง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 181 :
การครีพ (Creep) ของวัสดุโลหะ หมายถึง การเสียรูปทีอุณหภูมส
ิ งู ในลักษณะใด
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 35/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
4 : การเสียรูปชัวคราวของวัสดุ (Elastic deformation) เนืองจากได ้รับแรงดึงตํากว่าจุดคราก (Yield point) เป็ นเวลานานๆ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 182 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีความแข็ง (Hardness) มากทีสุด
1 : เหล็กหล่อขาว
2 : เหล็กกล ้าเครืองมือ
3 : อะลูมน
ิ า
4 : แท่งนาโนเพชร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 183 :
ภายใต ้แรงดึงอย่างไรทีทําให ้เหล็กกล ้าคาร์บอนตําเสียรูปอย่างไม่สมําเสมอ (Non-uniform deformation)
ข ้อที 184 :
สมบัตใิ ดบ่งชีถึงพลังงานทีวัสดุดด
ู กลืนไว ้ในช่วงการเสียรูปชัวคราวของวัสดุ (Elastic deformation) และเมือมีการปลดแรงกระทําออกแล ้ว พลังงานนีจะต ้องถูก
คลายกลับคืนมา
1 : ความเหนียว (Toughness)
ั ของรีซเิ ลียนซ์ (Modulus of resilience)
2 : มอดุลส
3 : ความแข็งแรง (Strength)
4 : อัตราส่วนของปั วซอง (Poisson’s ratio)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 185 :
สมบัตใิ ดบ่งชีถึงพลังงานทีวัสดุดด
ู กลืนไว ้ก่อนทีชินงานแตกหัก
1 : มอดุลส
ั ของสภาพยืดหยุน ่ (Modulus of elasticity)
2 : ความแข็งแรง (Strength)
3 : ความเหนียว (Toughness)
4 : อัตราส่วนของปั วซอง (Poisson’s ratio)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 186 :
สมบัตใิ ดบ่งชีการเปลียนแปลงขนาดของแท่งโลหะตามทิศทางการดึงเทียบกับขนาดเดิมในทิศทางนันต่อการเปลียนแปลงขนาดของแท่งโลหะในทิศทางตังฉาก
กับทิศทางการดึงเทียบกับขนาดเดิมในทิศทางนัน
1 : มอดุลส
ั ของสภาพยืดหยุน ่ (Modulus of elasticity)
2 : ความแข็งแรง (Strength)
3 : ความเหนียว (Toughness)
4 : อัตราส่วนของปั วซอง (Poisson’s ratio)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 187 :
เซรามิกสามารถรับแรงชนิดใดได ้ดีทสุ
ี ด
1 : แรงดึง (Tension)
2 : แรงอัด (Compression)
3 : แรงบิด (Torsion)
4 : แรงกระแทก (Impact)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 188 :
ชินงานในลักษณะใดทีต ้านทานการเสียรูปด ้วยการดึงมากทีสุด
1 : ชินงานทีมีความแข็งตึงมาก (Stiffness)
2 : ชินงานทีมีความเหนียวมาก (Toughness)
3 : ชินงานทีมีสภาพดึงยืดได ้มาก (Ductility)
4 : ชินงานทีมีความแข็งแรงสูง (Strength)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 189 :
การทดสอบใดทีเหมาะสมสําหรับหาค่าความเหนียว (Toughness) ของวัสดุมากทีสุด
1 : Impact test
2 : Bending test
3 : Creep test
4 : Hardness test
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 190 :
เครืองวัดความแข็งแบบบริเนลเหมาะสมสําหรับวัดความแข็งของวัสดุชนิดใดต่อไปนีมากทีสุด
1 : เหล็กหล่อเทา
2 : ยางพารา
3 : ไม ้สัก
4 : พลาสติก
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 36/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 191 :
แท่งโลหะผสมของอลูมเิ นียมมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 15 มิลลิเมตร นํ าไปทดสอบด ้วยแรงดึง (Tension) 24.5 กิโลนิวตัน ถ ้าเส ้นผ่านศูนย์กลางของโลหะผสมนีกลาย
เป็ น 14.5 มิลลิเมตร จงหาค่าความเค ้นทางวิศวกรรม (Engineering stress) ในหน่วย MPa
1 : 139
2 : 148
3 : 160
4 : 183
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 192 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีความแข็งแรง (Strength) มากทีสุด
1 : ท่อนาโนคาร์บอน
2 : เหล็กหล่อเทา
3 : ไททาเนียมผสมนิเกิล
4 : เพชร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 193 :
ข ้อใดถูกต ้อง
ข ้อที 194 :
จงคํานวณค่ามอดุลส ั ของสภาพยืดหยุน ่ (Modulus of elasticity) ของวัสดุ M จากข ้อมูลต่อไปนี วัสดุ M ได ้รับแรงดึง (Tension) ซึงทําให ้เกิดการเสียรูปอย่าง
ชัวคราว (Elastic deformation) โดยมีคา่ ความเค ้นทางวิศวกรรม (Engineering stress) เท่ากับ 500 MPa และความเครียดทางวิศวกรรม (Engineering strain) เท่ากับ
0.001
1 : 500 GPa
2 : 50 GPa
3 : 5 GPa
4 : 0.5 GPa
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 195 :
ภายใต ้แรงดึง (Tension) อย่างไรทีทําให ้ชินงานเสียรูปแบบยืดหยุน
่ (Elastic deformation)
ข ้อที 196 :
ภายใต ้แรงดึง (Tension) อย่างไรทีทําให ้ชินงานเสียรูปอย่างถาวร (Plastic deformation)
ข ้อที 197 :
ภายใต ้แรงดึง (Tension) อย่างไรทีทําให ้ชินงานอะลูมเิ นียมเสียรูปอย่างถาวรและสมําเสมอตลอดทังชินงาน (Uniform-plastic deformation)
ข ้อที 198 :
ความสามารถในการเปลียนแปลงรูปร่างของวัสดุกอ
่ นการแตกหัก หมายถึง สมบัตข
ิ ้อใด
1 : ความแข็งตึง (Stiffness)
2 : สภาพดึงยืดได ้ (Ductility)
3 : ความยืดหยุน่ (Resilience)
4 : ความล ้า (Fatigue)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 199 :
ข ้อใดกล่าวผิด เกียวกับกฎของฮุก (Hooke’s law)
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 37/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 200 :
ความล ้า (Fatigue) ของวัสดุหมายถึงอะไร
ข ้อที 201 :
การทดสอบความแข็งของเหล็กหล่อเทา (Gray cast iron) ควรใช ้วิธท
ี ดสอบแบบใด
1 : บริเนลล์ (Brinell)
2 : วิกเกอร์ส (Vickers)
3 : รอคเวลล์ ซี (Rockwell C)
4 : รอคเวลล์ เอ (Rockwell A)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 202 :
สภาพดึงยืดได ้ (Ductility) ของโลหะสามารถทดสอบได ้โดยวิธใี ด
ข ้อที 203 :
จงคํานวณค่าความเครียดทางวิศวกรรม (Engineering strain) ของวัสดุรป ู ร่างเป็ นแท่งยาว 2.2 เมตร และพืนทีหน ้าตัดเป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัสมีความยาวแต่ละด ้าน
เท่ากับ 50 มิลลิเมตร เมือนํ าไปรับแรงดึงปรากฏว่าความยาวเพิมขึนเป็ น 2.202 เมตร
1 : 0.09
2 : 0.009
3 : 0.0009
4 : 0.00009
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 204 :
ู ทรงกระบอกเส ้นผ่านศูนย์กลาง 10 มิลลิเมตร ยาว 1 เมตร และถูกรับแรงดึงขนาด 50,000 N
จงคํานวณค่าความเค ้นทางวิศวกรรม (Engineering stress) ของวัสดุรป
1 : 640 GPa
2 : 640 MPa
3 : 640 kPa
4 : 640 Pa
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 205 :
ลวดทองแดงยาว 500 มิลลิเมตร มีคา่ มอดุลส ั ของสภาพยืดหยุน
่ (Modulus of elasticity) 110 GPa ถูกดึงด ้วยแรงดึงจนมีความเค ้น 350 MPa หากการเสียรูปทีเกิด
ขึนนีเป็ นการเสียรูปแบบยืดหยุน
่ (Elastic deformation) ลวดทองแดงจะถูกยืดออกจนมีความยาวเปลียนแปลงไปจากเดิมกีมิลลิเมตร
1 : 0.016
2 : 0.16
3 : 1.6
4 : 16
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 206 :
เมือนํ าวัสดุ A และวัสดุ B มาทดสอบแรงดึงได ้ความสัมพันธ์ระหว่างความเค ้นและความเครียดดังรูป จากผลการทดสอบ ข ้อใดต่อไปนีเปรียบเทียบสมบัตข
ิ องวัสดุ
A และวัสดุ B ได ้ถูกต ้องทีสุด
ข ้อที 207 :
แท่งโลหะมีพนที
ื หน ้าตัดเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ ้า มีขนาดกว ้างเท่ากับ 7 เซนติเมตร ความหนาเท่ากับ 3 เซนติเมตร ทําจากเหล็กกล ้าเกรด 1020 ซึงมีคา่ ความต ้าน
แรงดึง (Tensile strength) เท่ากับ 380 MPa และค่าความต ้านแรงคราก (Yield strength) เท่ากับ 180 MPa เมือแท่งโลหะนีได ้รับแรงดึง 25,000 นิวตัน จะเกิดการ
เสียรูปอย่างไร
1 : เกิดการเสียรูปแบบยืดหยุน
่
2 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างสมําเสมอตลอดทังชินงาน
3 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างไม่สมําเสมอตลอดทังชินงาน
4 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างไม่สมําเสมอตลอดทังชินงานและแตกหัก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 38/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 208 :
ชินงานทดสอบชนิดหนึงเมือได ้รับความเค ้น 30,000 lb/in2 จะก่อให ้เกิดความเครียดเท่ากับ 0.05 จงคํานวณหาค่ามอดุลส
ั ของสภาพยืดหยุน
่ (Modulus of
elasticity) ในหน่วย lb/in2 ของชินงานทดสอบนี
1:
2:
3:
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 209 :
หากต ้องการเปรียบเทียบการเปลียนแปลงขนาดของวัสดุตามทิศทางการดึงต่อการเปลียนแปลงขนาดในทิศทางตังฉากกับทิศทางการดึงของวัสดุชนิดต่างๆ ควร
นํ าสมบัตข
ิ องวัสดุในข ้อใดต่อไปนีมาพิจารณาเปรียบเทียบ
1 : ความเค ้น (Stress)
2 : อัตราส่วนของปั วซอง (Poisson’s ratio)
3 : ความเหนียว (Toughness)
4 : มอดุลส
ั ของสภาพยืดหยุน ่ (Modulus of elasticity)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 210 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีความแข็ง (Hardness) มากทีสุด
1 : พอลิไวนิลคลอไรด์
2 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมมาเทนไซต์
3 : เหล็กหล่อเทา
4 : ซิลก
ิ อนคาร์ไบด์
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 211 :
ิ
วัสดุชนหนึ
งถูกดึงจนขาดเป็ น 2 ส่วน พบว่าบริเวณรอยขาดแยกแตกแบบราบเรียบ แสดงว่าวัสดุนน่
ี าจะมีสมบัตอ
ิ ย่างไร
ข ้อที 212 :
ข ้อใดเป็ นภาพแสดงการเกิดครีพ (Creep) ของวัสดุ
1:
2:
3:
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 213 :
เมือนํ าชินงานทดสอบทีมีความยาวเริมต ้น 50 มม. เส ้นผ่านศูนย์กลางเริมต ้น 12.5 มม. มาทดสอบแรงดึงปรากฎว่าได ้ความสัมพันธ์ระหว่างแรงทีใช ้ดึงกับระยะยืด
ดังรูป ค่ายังมอดุลส
ั ของวัสดุนมี
ี คา่ เป็ นเท่าไร
1 : 18 GPa
2 : 18 MPa
3 : 37 GPa
4 : 37 MPa
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 214 :
เมือนํ าชินงานทดสอบทีมีความยาวเริมต ้น 50 มม. เส ้นผ่านศูนย์กลางเริมต ้น 12.5 มม. มาทดสอบแรงดึงปรากฎว่าได ้ความสัมพันธ์ระหว่างแรงทีใช ้ดึงกับระยะยืด
ดังรูป ค่า yield strength at 0.2% offset ของวัสดุนมี
ี คา่ เป็ นเท่าไร
1 : 67 GPa
2 : 67 MPa
3 : 90 GPa
4 : 90 MPa
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 215 :
การทดสอบวัดค่าความแข็งแบบใดทีไม่ใช ้กับวัสดุโลหะ
1 : บริเนล (Brinell)
2 : วิกเกอร์ส (Vickers)
3 : นูป (Knoop)
4 : ชอร์ (Shore)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 39/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 216 :
เมือนํ าวัสดุเหนียวไปทําการทดสอบแรงดึงจะให ้ค่าผลทดสอบเป็ นอย่างไร
ข ้อที 217 :
ข ้อใดไม่ใช่คา่ ทีได ้จากการทดสอบแรงดึง
ข ้อที 218 :
เส ้นกราฟ S-N เป็ นผลทีได ้จากการทดสอบสมบัตด
ิ ้านใดของวัสดุ
1 : แรงดัด (Bending)
2 : ความล ้า (Fatigue)
3 : การครีพ (Creep)
4 : แรงกระแทก (Impact)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 219 :
ค่าเปอร์เซ็นต์การลดลงของพืนทีหน ้าตัด (Percent reduction in area) จากการทดสอบแรงดึงเป็ นค่าทีแสดงสมบัตใิ ดของวัสดุ
1 : สภาพดึงยืดได ้ (Ductility)
2 : มอดุลส
ั ของสภาพยืดหยุน ่ (Modulus of elasticity)
3 : ความแข็งแรง (Strength)
4 : มอดุลสั ของรีซเิ ลียนซ์ (Modulus of resilience)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 220 :
ข ้อใดไม่ใช่ผลทีได ้จากการทดสอบความล ้า (Fatigue)
ข ้อที 221 :
จากการทดสอบสมบัตด
ิ ้านการดึงของอะลูมเิ นียม ตําแหน่งใดในกราฟแสดงจุดเริมเกิดปรากฏการณ์คอคอดของวัสดุ
1:A
2:B
3:C
4:D
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 222 :
เมือนํ าชินงานทดสอบทีมีความยาวเริมต ้น 50 มม. เส ้นผ่านศูนย์กลางเริมต ้น 10 มม. มาทดสอบแรงดึงปรากฏว่าได ้ความสัมพันธ์ระหว่างแรงทีใช ้ดึงกับความยาวที
เปลียนไปดังรูป ถามว่าวัสดุนมี
ี คา่ ความต ้านแรงดึง (Tensile strength) เป็ นเท่าไร
1 : 191 Pa
2 : 764 Pa
3 : 191 MPa
4 : 764 MPa
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 223 :
จากการทดสอบสมบัตด
ิ ้านการดึงของอะลูมเิ นียม ตําแหน่งใดในกราฟแสดงจุดคราก (Yield point) ของวัสดุ
1:A
2:B
3:C
4:D
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 224 :
จากกราฟข ้างล่างเป็ นผลการทดสอบสมบัตข
ิ องวัสดุด ้านใด
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 40/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : ทดสอบความล ้า (Fatigue)
2 : ทดสอบการครีพ (Creep)
3 : ทดสอบแรงอัด (Compression)
4 : ทดสอบแรงดัด (Bending)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 225 :
ปรากฏการณ์คอคอด (Necking) ของการทดสอบแรงดึงวัสดุเหล็กกล ้าคาร์บอนตําเริมเกิดขึนในช่วงใด
ข ้อที 226 :
ข ้อใดกล่าวเกียวกับขีดจํากัดความล ้า (Fatigue limit) ถูกต ้อง
ข ้อที 227 :
ข ้อใดกล่าวเกียวกับผลการทดสอบความล ้าในภาพข ้างล่างได ้ถูกต ้อง
ข ้อที 228 :
แท่งไนลอนมีพนที
ื หน ้าตัดเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ ้า มีขนาดกว ้างเท่ากับ 7 เซนติเมตร ความหนาเท่ากับ 3 เซนติเมตร ซึงมีคา่ ความต ้านแรงดึง (Tensile strength)
เท่ากับ 75 MPa และค่าความต ้านแรงคราก (Yield strength) เท่ากับ 50 MPa ควรให ้แท่งไนลอนได ้รับแรงดึงเท่าใดจึงจะไม่เกิดการเสียรูปอย่างถาวร
1 : 50 kN
2 : 150 kN
3 : 50 MN
4 : 150 MN
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 229 :
ื หน ้าตัดเป็ นรูปวงกลม มีขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง เท่ากับ 5 เซนติเมตร ซึงมีคา่ ความต ้านแรงดึง (Tensile strength) เท่ากับ 75 MPa และค่าความ
แท่งไนลอนมีพนที
ต ้านแรงคราก (Yield strength) เท่ากับ 50 MPa เมือแท่งไนลอนนีได ้รับแรงดึง 20 กิโลนิวตัน จะเกิดการเสียรูปอย่างไร
1 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างไม่สมําเสมอตลอดทังชินงานและแตกหัก
2 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างสมําเสมอตลอดทังชินงาน
3 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างไม่สมําเสมอตลอดทังชินงาน
4 : เกิดการเสียรูปแบบยืดหยุน
่
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 230 :
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม ั ประสิทธิการขยายตัวเนืองจากความร ้อนมากทีสุด
่ ใดมีสม
1 : โลหะ
2 : เซรามิก
3 : พอลิเมอร์
4 : วัสดุเชิงประกอบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 231 :
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม ั ประสิทธิการขยายตัวเนืองจากความร ้อนน ้อยทีสุด
่ ใดมีสม
1 : โลหะ
2 : เซรามิก
3 : พอลิเมอร์
4 : วัสดุเชิงประกอบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 232 :
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม
่ ใดสามารถนํ าความร ้อนได ้ดีทสุ
ี ด
1 : โลหะ
2 : เซรามิก
3 : พอลิเมอร์
4 : วัสดุเชิงประกอบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 233 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 41/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
วัสดุชนิดใดเหมาะสําหรับนํ ามาทําเป็ นตัวนํ าความร ้อนได ้ดีทสุ
ี ด
ข ้อที 234 :
่ งว่างของแถบพลังงาน (Energy band gap) กว ้าง
วัสดุประเภทใดทีมีชอ
1 : สารตัวนํ า (Conductor)
2 : สารกึงตัวนํ า (Semiconductor)
3 : ฉนวน (Insulator)
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ผิด
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 235 :
โครงสร ้างอิเล็กตรอนของสารกึงตัวนํ าทางไฟฟ้ า (Semiconductor) คือข ้อใด
ข ้อที 236 :
โครงสร ้างของสารตัวนํ าไฟฟ้ าคือข ้อใด
ข ้อที 237 :
แม่เหล็กถาวร (Hard magnet) หมายถึงข ้อใด
ข ้อที 238 :
แม่เหล็กชัวคราว (Soft magnet) หมายถึงข ้อใด
ข ้อที 239 :
อุณหภูมค
ิ รู ี (Curie temperature) คือ อุณหภูมใิ ด
1 : อุณหภูมท
ิ เกิี ดการเปลียนโครงสร ้างผลึก
2 : อุณหภูมทิ เกิี ดการเปลียนสภาพความเป็ นแม่เหล็ก
3 : อุณหภูมท ิ ความจุ
ี ความร ้อนจําเพาะมีคา่ คงที
4 : อุณหภูมท ิ ของแข็
ี งมีความหนืดลดลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 240 :
เมือแสงตกกระทบวัสดุใดๆ ปรากฏการณ์ใดสามารถเกิดขึนได ้บ ้าง
1 : แสงสะท ้อนกลับ
2 : แสงผ่านทะลุโดยเกิดการหักเหขึนภายใน
3 : แสงถูกดูดกลืน
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 241 :
ี ี จะเกิดปรากฏการณ์ใดขึน
เมือแสงตกกระทบลงบนวัสดุโปร่งใส (Transparent) ไม่มส
1 : แสงสะท ้อนกลับ
2 : แสงผ่านทะลุโดยเกิดการหักเหขึนภายใน
3 : แสงถูกดูดกลืน
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 242 :
เซลล์แสงอาทิตย์ (Solar cell) ใช ้หลักการใดในการเปลียนพลังงานจากแสงให ้เป็ นพลังงานไฟฟ้ า
1 : การดูดกลืนพลังงานของแสงในสารกึงตัวนํ า
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 42/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
2 : การหักเหของคลืนแสงในสารกึงตัวนํ า
3 : การสะท ้อนของแสงทีผิวของสารกึงตัวนํ า
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 243 :
วัสดุใดต่อไปนีมีคา่ ความเป็ นแม่เหล็กตําทีสุด
ข ้อที 244 :
ไดโอดเปล่งแสง (Light emitting diode, LED) ใช ้หลักการใดในการทํางาน
ข ้อที 245 :
แว่นขยาย (Magnifier) ใช ้หลักการใดในการทํางาน
ข ้อที 246 :
โลหะในข ้อใดต่อไปนีมีสภาพนํ าไฟฟ้ า (Electrical conductivity) น ้อยทีสุด
ข ้อที 247 :
โลหะในข ้อใดต่อไปนีมีสภาพต ้านทานไฟฟ้ า (Electrical resistivity) น ้อยทีสุด
ข ้อที 248 :
ถ ้าต ้องการเพิมสภาพนํ าไฟฟ้ า (Electrical conductivity) ให ้กับสารกึงตัวนํ า (Semiconductor) ควรทําอย่างไร
ข ้อที 249 :
ถ ้าต ้องการเพิมสภาพนํ าไฟฟ้ า (Electrical conductivity) ให ้กับสารตัวนํ า (Conductor) ควรทําอย่างไร
ข ้อที 250 :
เมือสัมผัสโต๊ะไม ้และโต๊ะเหล็กทีตังอยูใ่ นห ้องปรับอากาศบริเวณเดียวกัน เราจะรู ้สึกโต๊ะเย็นไม่เท่ากันอย่างไร
ข ้อที 251 :
ถ ้าให ้ความร ้อนกับชินงานทีมีความหนามากจะเกิดสิงใดขึน
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 43/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 252 :
เพราะเหตุใดจึงเห็นสีในวัสดุโปร่งใส (Transparent) บางชนิด
1 : แสงทีส่งผ่านถูกดูดกลืนไปในบางช่วงความยาวคลืน
2 : แสงทีส่งผ่านเกิดการหักเหขึนภายในเนือวัสดุ
3 : มีการผสมเม็ดสีลงในเนือวัสดุ
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 253 :
ข ้อใดต่อไปนีทําให ้เกิดสนิมไม่มส ี นผิวชินงานเหล็กกล ้าทีมีรอยขีดข่วนในบรรยากาศทีมีความชืน
ี บ
1 : ผิวชินงานถูกเคลือบด ้วยสังกะสี
2 : ผิวชินงานถูกเคลือบด ้วยโครเมียม
3 : ผิวชินงานถูกเคลือบด ้วยดีบก
ุ
4 : ผิวชินงานถูกเช็ดทําความสะอาดด ้วยนํ าสะอาดเป็ นประจํา
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 254 :
ข ้อความใดต่อไปนีเป็ นการกล่าวทีถูกต ้อง
ข ้อที 255 :
ข ้อความใดต่อไปนีเป็ นการกล่าวทีผิด
ข ้อที 256 :
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม
่ ใดต่อไปนีมีจด
ุ หลอมเหลว (Melting point) สูงทีสุด
1 : เซรามิก
2 : โลหะ
3 : พอลิเมอร์
4 : ไม ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 257 :
ลวดทองเหลืองยาว 1 เมตร ถูกทําให ้ร ้อนจนมีอณ ุ หภูมสิ งู 70 องศาเซลเซียส จากอุณหภูม ิ 30 องศาเซลเซียส ขณะทีปลายทังสองข ้างถูกยึด จงหาขนาดของ
ความเค ้นทีเกิดขึนในหน่วย MPa กําหนดให ้ค่ามอดูลส ั ของสภาพยืดหยุน ่ (Modulus of elasticity) ของทองเหลืองมีคา่ 97 GPa และสัมประสิทธิการขยายตัว
เนืองจากความร ้อน (Coeffeicient of thermal expansion) ของทองเหลืองมีคา่ 20×10-6 องศาเซลเซียส-1
1 : +0.08
2 : -0.08
3 : +77.60
4 : -77.60
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 258 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีเกิดการขยายตัวเนืองจากความร ้อนสูงทีสุด
1 : ซิลก
ิ า
2 : เหล็กกล ้า
3 : พอลิเอทิลน ี
4 : อะลูมนิ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 259 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีคา่ ความจุความร ้อนสูงทีสุด
1 : แก ้ว
2 : ทังสเตน
3 : พอลิไวนิลคลอไรด์
4 : อะลูมเิ นียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 260 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีสามารถนํ าไฟฟ้ าได ้ดีขนเมื
ึ ออุณหภูมล
ิ ดลง
1 : อะลูมเิ นียม
2 : ซิลก
ิ อน
3 : พอลิเอสเทอร์
4 : แคดเมียมซัลไฟด์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 261 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 44/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
การทํางานของอุปกรณ์วด
ั แสงทัวไปในการถ่ายภาพเกียวข ้องกับปรากฏการณ์ใด
1 : การเปล่งแสง (Luminescence)
2 : การนํ าไฟฟ้ าด ้วยแสง (Photoconductivity)
3 : การเรืองแสงแบบฟลูออเรสเซนซ์ (Fluorescence)
4 : การเรืองแสงแบบฟอสฟอเรสเซนซ์ (Phosphorescence)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 262 :
เพราะเหตุใดพอลิเมอร์ทมี
ี ความเป็ นผลึกสูงจึงไม่โปร่งใส (Transparent)
1 : การมีผลึกทําให ้เกิดการเปล่งแสงมาก
2 : การมีผลึกทําให ้เกิดการเรืองแสงมาก
3 : การมีผลึกทําให ้เกิดการกระเจิงของแสงในเนือวัสดุมาก
4 : การมีผลึกทําให ้อิเล็กตรอนเลือนระดับชันพลังงานได ้มาก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 263 :
หากต ้องการตรวจสอบวัสดุตวั อย่างว่าเป็ นแม่เหล็กถาวร (Hard magnet) หรือแม่เหล็กชัวคราว (Soft magnet) ควรพิจารณาจากสมบัตใิ นข ้อใดต่อไปนี
ข ้อที 264 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่วส
ั ดุไดอะแมกนิตก
ิ
1 : อะลูมน
ิ ัมออกไซด์ (Al2O3)
2 : แมกนีไทต์ (Fe3O4)
3 : ทองแดง (Cu)
4 : สังกะสี (Zn)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 265 :
ข ้อใดไม่ใช่แม่เหล็กถาวร
1 : วัสดุไดอะแมกนิตก ิ
2 : วัสดุพาราแมกนิตก ิ
3 : วัสดุเฟร์โรแมกนิตก ิ
4 : ข ้อ 1 และ 2 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 266 :
พันธะใดเป็ นพันธะทางกายภาพ (Physical bond)
ข ้อที 267 :
โครงสร ้างผลึกชนิดใดมีการจัดเรียงอะตอมอย่างหนาแน่นทีสุด
ข ้อที 268 :
โครงสร ้างของออสเทไนต์ (Austenite) ในเหล็กกล ้า มีโครงสร ้างผลึกรูปแบบใด
ข ้อที 269 :
วัสดุชนิดใดต่อไปนีมีพันธะหลักเป็ นพันธะโคเวเลนต์ (Covalent bond)
1 : Ni
2 : SiC
3 : H2O ระหว่างโมเลกุล
4 : MgO
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 270 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 45/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ทังสเตนที 20 องศาเซลเซียส มีโครงสร ้างผลึกแบบ Body-centered cubic (BCC) โดยมีคา่ lattice parameter 0.3165 นาโนเมตร (nm) จงคํานวณหาค่ารัศมีอะตอม
ของโลหะทังสเตนในหน่วยนาโนเมตร (nm)
1 : 0.1371
2 : 0.1432
3 : 0.2315
4 : 0.7309
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 271 :
กําหนดให ้ a, b, c คือค่าความยาวแต่ละด ้านของหน่วยเซลล์ และ α, β, γ คือมุมระหว่างด ้าน ถ ้าพบว่าโครงสร ้างผลึกแบบหนึงมีคา่ a≠b≠c และ α = β = γ = 90
องศา อยากทราบว่าโครงสร ้างผลึกนีมีชอว่ื าอะไร
1 : Cubic
2 : Tetragonal
3 : Orthorhombic
4 : Monoclinic
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 272 :
กําหนดให ้ a, b, c คือค่าความยาวแต่ละด ้านของหน่วยเซลล์ และ α, β, γ คือมุมระหว่างด ้าน ถ ้าพบว่าโครงสร ้างผลึกแบบหนึงมีคา่ a = b = c และ α = β = γ = 90
องศา มีอะตอมอยูต ่ ามมุมทุกมุม และมีอะตอมอยูก
่ งกลางหน
ึ ้าทังหกหน ้าของหน่วยเซลล์ อยากทราบว่าโครงสร ้างผลึกนีมีชอว่ ื าอะไร
1 : Simple cubic
2 : Body-centered cubic
3 : Simple orthorhombic
4 : Face-centered cubic
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 273 :
โครงสร ้างผลึกแบบ body-centered cubic (BCC) ในหนึงหน่วยเซลล์ (Unit cell) ประกอบด ้วยกีอะตอม
1 : 1 อะตอม
2 : 2 อะตอม
3 : 3 อะตอม
4 : 4 อะตอม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 274 :
โครงสร ้างผลึกแบบ Face-centered cubic (FCC) ในหนึงหน่วยเซลล์ (Unit cell) ประกอบด ้วยกีอะตอม
1 : 1 อะตอม
2 : 2 อะตอม
3 : 3 อะตอม
4 : 4 อะตอม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 275 :
โครงสร ้างผลึกแบบ Hexagonal closed pack (HCP) ในหนึงหน่วยเซลล์ (Unit cell) ประกอบด ้วยกีอะตอม
1 : 2 อะตอม
2 : 4 อะตอม
3 : 6 อะตอม
4 : 8 อะตอม
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 276 :
ข ้อใดต่อไปนีมีโครงสร ้างแบบ Closed-pack
1 : Body-centered tetragonal
2 : Body-centered cubic
3 : Face-centered cubic
4 : Base-centered orthorhombic
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 277 :
พลาสติกใสจะมีโครงสร ้างภายในเป็ นแบบใด
ข ้อที 278 :
ข ้อใดไม่ใช่สาเหตุททํ
ี าให ้พอลิเมอร์ชนิดทีสามารถเกิดโครงสร ้างผลึกได ้มีลก
ั ษณะเป็ นแบบกึงผลึก (Semicrystalline) เท่านัน
ข ้อที 279 :
ปริมาณความเป็ นผลึกของพอลิเมอร์มผ
ี ลต่อความหนาแน่นของพอลิเมอร์ชนิดนันอย่างไร
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 46/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 280 :
พันธะเคมีทเกิ
ี ดในสายโซ่หลักของโมเลกุลพอลิเมอร์คอ
ื พันธะชนิดใด
ข ้อที 281 :
โครงสร ้างโมเลกุลของพอลิเอทิลน
ี (Polyethylene) แบบกิง (Branched) มีสมบัตต ี แบบเส ้นตรง (Linear) อย่างไร
ิ า่ งจากโครงสร ้างโมเลกุลของพอลิเอทิลน
1 : ความแข็งแรงเพิมขึน
2 : ความเป็ นผลึกลดลง
3 : การยืดและหดตัวลดลง
4 : ความทนต่อการถูกขีดข่วนเพิมขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 282 :
ข ้อใดคือคําจํากัดความของ Tg (Glass transition temperature)
1 : อุณหภูมท ิ สายโซ่
ี รองของโมเลกุลพอลิเมอร์สามารถเคลือนทีได ้
2 : อุณหภูมท ิ สายโซ่
ี หลักของโมเลกุลพอลิเมอร์สามารถเคลือนทีได ้
3 : อุณหภูมใิ นการเกิดผลึก
4 : อุณหภูมใิ นการหลอมเหลว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 283 :
ถ ้านํ าพอลิเมอร์ทมี
ี โครงสร ้างภายในเป็ นแบบกึงผลึก (Semicrystalline polymer) มาอบทีอุณหภูมส
ิ งู กว่า Tg (Glass transition temperature) ประมาณ 10 – 20
องศาเซลเซียส เป็ นเวลา 24 ชัวโมง ผลทีได ้จะเป็ นอย่างไร
ข ้อที 284 :
พอลิเมอร์ทไม่
ี สามารถเกิดโครงสร ้างผลึกได ้ คือพอลิเมอร์ชนิดใดต่อไปนี
1 : พอลิเอทิลน
ี (Polyethylene)
2 : พอลิเอทิลนี เทเรฟทาเลต (Polyethylene terephthalate)
3 : ไนลอน (Nylon)
4 : พอลิสไตรีน (Polystyrene)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 285 :
ข ้อใดคือโครงสร ้างผลึกของมาร์เทนไซต์ (Martensite)
ข ้อที 286 :
ข ้อใดคือโครงสร ้างผลึกของเบไนต์ (Bainite)
ข ้อที 287 :
โครงสร ้างจุลภาคของรอยเชือมเหล็กกล ้าไร ้สนิมออสเทไนต์ (Austenite stainless steel) บริเวณพืนทีหลอมเหลว (Fusion zone) ประกอบด ้วยเฟสต่างๆ ดังในข ้อ
ใดต่อไปนี
1 : ออสเทไนต์ (Austenite)
2 : ออสเทไนต์ (Austenite) และ เฟร์ไรต์ (Ferrite)
3 : ออสเทไนต์ (Austenite) และ เพอร์ไลต์ (Pearlite)
4 : ออสเทไนต์ (Austenite) และ คาร์ไบด์ (Carbide)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 288 :
การเกิดข ้อบกพร่องแบบ Schottky มักเกิดกับผลึกทียึดกันด ้วยพันธะชนิดใด
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 47/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
2 : พันธะโควาเลนท์ (Covalent bond)
3 : พันธะไอออนิก (Ionic bond)
4 : พันธะแวนเดอร์วาลส์ (Van der Waals bond)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 289 :
ทําไมข ้อบกพร่องแบบ Frenkel มักเกิดกับ Cation มากกว่า Anion
ข ้อที 290 :
ทําไมแกรไฟต์ (Graphite) ถึงสามารถหลุดออกเป็ นแผ่นๆได ้ง่าย
ข ้อที 291 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่โครงสร ้างผลึกของเซรามิก
1 : BaTiO3
2 : NaCl
3 : Al2O3
4 : CH4
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 292 :
ข ้อใดไม่ถก
ู ต ้องเมือกล่าวถึงโครงสร ้างของแก ้ว
ข ้อที 293 :
โครงสร ้างผลึกแบบ Perovskite มีความสําคัญสําหรับวัสดุประเภทใด
1 : Pyroelectric material
2 : Piezoelectric material
3 : Semiconductor
4 : Capacitor
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 294 :
ข ้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของอะตอม
1 : นิวเคลียร์
2 : นิวตรอน
3 : อิเล็กตรอน
4 : โปรตอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 295 :
พันธะในข ้อใดต่อไปนีมีความแข็งแรงน ้อยทีสุด
1 : พันธะไอออนิก
2 : พันธะแวนเดอร์วาลส์
3 : พันธะโลหะ
4 : พันธะไฮโดรเจน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 296 :
โครงสร ้างผลึกในข ้อใดต่อไปนีทีอะตอมมีการบรรจุแบบชิดทีสุด (closed pack)
ข ้อที 297 :
พันธะใดต่อไปนีเกิดขึนระหว่างโมเลกุลของนํ าในนํ าแข็ง
1 : พันธะโคเวเลนซ์
2 : พันธะไอออนิก
3 : พันธะไฮโดรเจน
4 : พันธะโลหะ
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 48/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 298 :
สารประกอบของ LiAg มีหน่วยเซลล์เป็ นแบบ Simple cubic และอะตอมทังสองชนิดต่างมีเลขโคออร์ดเิ นชันเท่ากับ 8 ดังนัน หน่วยเซลล์ดงั กล่าวนีจะมีลก
ั ษณะ
เหมือนกับผลึกในข ้อใด
1 : NaCl
2 : ZnS
3 : CsCl
4 : AgCl
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 299 :
ข ้อใดกล่าวถึงพันธะไอออนิกไม่ถก
ู ต ้อง
ข ้อที 300 :
พันธะทีเกิดขึนระหว่างสายโซ่โมเลกุลของพอลิเมอร์เป็ นพันธะชนิดใด
ข ้อที 301 :
ตําหนิแบบใดพบได ้เฉพาะในเซรามิกเท่านัน
1 : ตําหนิแบบช่องว่าง (Vacancy)
2 : ตําหนิแบบดิสโลเคชัน (Dislocation)
3 : ตําหนิแบบชอตกี (Schottky defect)
4 : ตําหนิแบบแทรกช่องว่างระหว่างอะตอม (Interstitial defect)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 302 :
โดยทัวไปอะตอมโลหะมีการจัดเรียงตัวของโครงสร ้างเป็ นอย่างไร
ข ้อที 303 :
เหตุใดยาง (Rubber) สามารถดึงยืดได ้มากและกลับคืนสูร่ ป
ู ร่างเดิมหลังปล่อยแรงกระทํา
ข ้อที 304 :
ปฏิกริ ย
ิ าใดทีทําให ้เกิดการเชือมสายโซ่โมเลกุลในยาง (Rubber)
1 : Polymerization
2 : Oxidation
3 : Condensation
4 : Vulcanization
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 305 :
ข ้อใดคือลักษณะเด่นของวัสดุอล
ิ าสโตเมอร์ (Elastomer)
1 : มีความแข็งและความแข็งแรงสูง
2 : มีสภาพดึงยืดได ้สูงและกลับคืนสูส่ ภาพเดิมหลังปล่อยแรงกระทํา
3 : ทนความร ้อนได ้สูง
4 : สามารถขึนรูปซําได ้เมือให ้ความร ้อน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 306 :
เหตุใดโลหะจึงมีการนํ าไฟฟ้ าและความร ้อนได ้ดี
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 49/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 307 :
เหล็กกล ้าคาร์บอนตํามีการจัดเรียงของโครงสร ้างอะตอมอย่างไรทีอุณหภูมห
ิ ้อง
ข ้อที 308 :
สิงใดต่อไปนีไม่สามารถพบได ้ในวัสดุผลึกเดียว (Single crystal)
1 : ตําหนิแบบช่องว่าง (Vacancy)
2 : รอยต่อระหว่างเกรน (Grain boundary)
3 : รอยต่อระหว่างเฟส (Phase boundary)
4 : ตําหนิแบบแทรกช่องว่างระหว่างอะตอม (Interstitial defect)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 309 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่ปัจจัยทีมีผลต่อการจัดเรียงตัวของโครงสร ้างอะตอมในเซรามิก
1 : ชนิดของตําหนิ
2 : ขนาดของอะตอม
3 : สมดุลประจุของโครงสร ้าง
4 : ชนิดของอะตอม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 310 :
ข ้อใดคือลักษณะทัวไปของพอลิเมอร์ชนิดเทอร์โมเซตติง (Thermosetting)
ข ้อที 311 :
ตําหนิแบบใดไม่สามารถเพิมความแข็งแรงให ้ชินงานโลหะได ้
ข ้อที 312 :
ข ้อใดคือลักษณะของตําหนิแบบชอตกี (Schottky defect)
ข ้อที 313 :
ข ้อใดต่อไปนีกล่าวไม่ถก
ู ต ้องเกียวกับโครงสร ้างพอลิเมอร์
1 : พันธะทีเกิดขึนภายในและระหว่างสายโซ่โมเลกุลเป็ นพันธะโควาเลนต์
2 : โครงสร ้างโมเลกุลหลักประกอบไปด ้วยคาร์บอนและไฮโดรเจน
3 : สายโซ่โมเลกุลโดยทัวไปมีนําหนัก 10,000 ถึง 1,000,000 กรัมต่อโมล
4 : มีโครงสร ้างทังแบบธรรมชาติและแบบสังเคราะห์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 314 :
กําหนดให ้ไอออน Zn2+ และ S2- มีขนาดรัศมี 0.074 และ 0.184 นาโนเมตร ตามลําดับ จากตารางต่อไปนี จงทํานายลักษณะรูปแบบโครงสร ้างผลึกของ
สารประกอบ ZnS
อ ัตราส่วนขนาดของแคทไอออน
รูปแบบโครงสร้างผลึกเซรามิก
ต่อแอนไอออน (rcation/ ranion)
< 0.155 linear
0.155 - 0.225 Triangular
0.225 - 0.414 Tetrahedral
0.414 - 0.732 Octahedral
0.732 - 1.0 Cubic
1 : Triangular
2 : Tetrahedral
3 : Octahedral
4 : Cubic
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 50/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 315 :
ข ้อใดต่อไปนีถูกต ้องทีสุด
1 : เหล็กโครงสร ้าง FCC มีความแข็งแรงเพิมขึนช ้ากว่าเหล็กโครงสร ้าง BCC ระหว่างการขึนรูปเย็น (Cold working)
2 : การเคลือน (Dislocation) ในผลึกโครงสร ้าง FCC สามารถเคลือนทีได ้ยากกว่าในผลึกโครงสร ้าง BCC
3 : การเคลือน (Dislocation) ในผลึกโครงสร ้าง FCC สามารถเคลือนทีได ้ง่ายกว่าในผลึกโครงสร ้าง HCP
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ผิด
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 316 :
การชุบแข็งเหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง ต ้องทําการเผาเหล็กจนได ้โครงสร ้างใดก่อนทําให ้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว
1 : เฟร์ไรต์ (Ferrite)
2 : ออสเทไนต์ (Austenite)
3 : ซีเมนไทต์ (Cementite)
4 : มาร์เทนไซต์ (Martensite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 317 :
เหล็กหล่อขาว (White cast iron) มีโครงสร ้างจุลภาคดังในข ้อใดต่อไปนี
ข ้อที 318 :
ข ้อใดคือโครงสร ้างของเหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลางทีได ้จากการปล่อยให ้เย็นอย่างช ้าๆ จากโครงสร ้างออสเทไนต์ (Austenite)
1 : Cementite + Pearlite
2 : Ferrite + Pearlite
3 : Bainite + Pearlite
4 : Martensite + Pearlite
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 319 :
ข ้อใดคือโครงสร ้างจุลภาคของเหล็กกล ้าคาร์บอนทีผ่านการเผาด ้วยอุณหภูมค
ิ งทีประมาณ 730 - 750 องศาเซลเซียส เป็ นเวลานาน 20 ชัวโมง
ข ้อที 320 :
ในกระบวนการหล่อโลหะ เมือโลหะทีหลอมเหลวเกิดการแข็งตัว และเกิดโพรงช่องว่างขึนภายในชินงาน ซึงถือว่าเป็ นความบกพร่องประเภทใด
1 : ความบกพร่องแบบจุด
2 : ความบกพร่องแบบเส ้น
3 : ความบกพร่องแบบระนาบ
4 : ความบกพร่องแบบปริมาตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 321 :
ข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
ข ้อที 322 :
เพราะเหตุใดเหล็กแผ่นทีผ่านกระบวนการขึนรูปด ้วยวิธรี ด
ี เย็น (Cold rolling) จึงมีความแข็งมากกว่าเหล็กแผ่นทีผลิตด ้วยวิธรี ด
ี ร ้อน (Hot rolling)
ข ้อที 323 :
ขันตอนใดต่อไปนี ไม่ใช่ขนตอนในการเกิ
ั ดปฏิกริ ย
ิ าพอลิเมอร์ไรเซชันแบบเติม (Addition Polymerization)
1 : ขันเริมต ้นปฏิกริ ย
ิ า (Initiation)
2 : ขันตอนการดําเนินไปของปฏิกริ ย ิ า (Propagation)
3 : ขันตอนการเกิดโครงสร ้างตาข่าย (Vulcanization)
4 : ขันตอนการสินสุดปฏิกริ ย ิ า (Termination)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 324 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 51/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง (0.4wt%C) ในข ้อใดต่อไปนี มีความแข็งมากทีสุด
ข ้อที 325 :
โครงสร ้างทีทนต่อการคืบ (Creep) ได ้ดีทสุ
ี ดคือ ข ้อใดต่อไปนี
ข ้อที 326 :
โครงสร ้างของเหล็กกล ้าคาร์บอนในข ้อใดต่อไปนีทีทนต่อแรงกระแทกทีอุณหภูมต
ิ ําได ้ดีทสุ
ี ด
ข ้อที 327 :
สารประกอบออกไซด์ประเภทใดทีช่วยทําให ้ความหนืดของแก ้วตําลง
1 : ์Na2O
2 : Al2O3
3 : SiO2
4 : TiO2
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 328 :
การเติมสาร Intermediate oxides ในแก ้วเพือประโยชน์อะไร
ข ้อที 329 :
การเติมสาร Glass-modifying oxide ในแก ้วเพือประโยชน์อะไร
ข ้อที 330 :
ในกรรมวิธก
ี ารเชือมชินงานเหล็กกล ้าคาร์บอนสูง (High carbon steel) โครงสร ้างทางจุลภาคในบริเวณกระทบร ้อน (Heat-affected zone) ของชินงานสามารถเกิด
การเปลียนแปลงได ้เป็ นอะไร
ข ้อที 331 :
อุณหภูมท
ิ เหมาะสมในการเผาเหล็
ี กสําหรับกระบวนการชุบแข็งควรอยูใ่ นช่วงใด และเพราะเหตุใด
ข ้อที 332 :
ี ทีหลอมเหลวค่อยๆเย็นตัวลงอย่างช ้าๆ จนถึงอุณหภูมห
ข ้อใดต่อไปนีถูกต ้อง เมือให ้พอลิเอทิลน ิ ้อง
1 : พอลิเอทิลน
ี จะยังคงเป็ นพอลิเมอร์อสัณฐาน
2 : พอลิเอทิลนี จะตกผลึก
3 : พอลิเอทิลน ี จะมีสมบัตคิ ล ้ายแก ้ว
4 : พอลิเอทิลน ี จะมีบางบริเวณทีมีสมบัตค
ิ ล ้ายแก ้ว และมีบางบริเวณทีมีสมบัตค
ิ ล ้ายยาง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 333 :
เหล็กกล ้าไร ้สนิมชนิดใดต่อไปนีทีแม่เหล็กดูดไม่ตด
ิ
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 52/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมเฟร์ไรต์ (Ferritic stainless steel)
2 : เหล็กกล ้าไร ้สนิม ออสเทนไนต์ (Austenitic stainless steel)
3 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมมาร์เทนไซต์ (Martensitic stainless steel)
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมดูเพล็กซ์ (Duplex stainless steel)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 334 :
ข ้อความใดต่อไปนีเป็ นการกล่าวทีผิด
1 : วัสดุทมี
ี โครงสร ้างผลึกแบบ FCC มีคา่ การจัดเรียงตัวของอะตอม (Atomic packing factor, APF) มากกว่าวัสดุทมี ี โครงสร ้างผลึกแบบ BCC
2 : วัสดุทมี
ี เกรนเป็ นจํานวนมากมีความแข็งแรงมากกว่าวัสดุทมี ี เกรนจํานวนน ้อยกว่าในปริมาตรเดียวกันของวัสดุชนิดเดียวกัน
3 : วัสดุทมีี เกรนเป็ นจํานวนมากมีการนํ าไฟฟ้ าทีแย่กว่าวัสดุทมี
ี เกรนจํานวนน ้อยกว่าในปริมาตรเดียวกันของวัสดุชนิดเดียวกัน
4 : วัสดุทมี ี ความบกพร่องประเภทจุดแบบ Self-interstitial มีความแข็งน ้อยกว่าวัสดุทไม่ี มค
ี วามบกพร่องประเภทจุดของวัสดุชนิดเดียวกัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 335 :
ถ ้าแสงสามารถส่องทะลุผา่ นแผ่นบางของอะลูมเิ นียมออกไซด์ (Al2O3) ได ้ทังหมด ข ้อใดคือโครงสร ้างของอะลูมเิ นียมออกไซด์แผ่นนัน
ข ้อที 336 :
ถ ้าแสงสามารถส่องทะลุผา่ นแผ่นบางของอะลูมเิ นียมออกไซด์ (Al2O3) ได ้บางส่วน ข ้อใดคือโครงสร ้างของอะลูมเิ นียมออกไซด์แผ่นนัน
ข ้อที 337 :
ถ ้าแสงไม่สามารถส่องทะลุผา่ นแผ่นบางของอะลูมเิ นียมออกไซด์ (Al2O3) ได ้ ข ้อใดคือโครงสร ้างของอะลูมเิ นียมออกไซด์แผ่นนัน
ข ้อที 338 :
ในโลหะชนิดเดียวกัน ลักษณะทางโครงสร ้างจุลภาคใดต่อไปนีทีสามารถเสียรูปจากการดึงได ้ง่ายทีสุด
1 : มีเกรนเป็ นทรงกลม
2 : มีเกรนเป็ นรูปเข็ม
3 : มีเกรนเป็ นรูปแผ่น
4 : เท่ากันในทุกลักษณะของโครงสร ้าง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 339 :
โครงสร ้างผลึกชนิดใดต่อไปนีสามารถเสียรูปจากการดึงได ้ง่ายทีสุด
ข ้อที 340 :
เพราะเหตุใดเซอร์โคเนียมออกไซด์ (ZrO2) ทีผสมด ้วยอิเทียมออกไซด์ (Y2O3) หรือทีเรียกว่า Yttria-stabilized zirconia (YSZ) จึงสามารถนํ ามาใช ้เป็ นตัวตรวจ
วัดปริมาณก๊าซออกซิเจน (Oxygen sensor) ได ้
1 : เนืองจากการผสมอิเทียมออกไซด์ทําให ้เกิดช่องว่างของประจุบวก (Cation vacancy) ขึนในโครงสร ้างผลึกของเซอร์โคเนียมออกไซด์ ทําให ้ออกซิเจนไอออนสามารถเคลือนทีเข ้ามาได ้ จึง
สามารถใช ้ตรวจวัดปริมาณออกซิเจนได ้
2 : เนืองจากการผสมอิเทียมออกไซด์ทําให ้เกิดช่องว่างของประจุลบ (Anion vacancy) ขึนในโครงสร ้างผลึกของเซอร์โคเนียมออกไซด์ ทําให ้ออกซิเจนไอออนสามารถเคลือนทีเข ้ามาได ้ จึง
สามารถใช ้ตรวจวัดปริมาณออกซิเจนได ้
3 : เนืองจากอิเทียมไอออนมีขนาดเล็กกว่าเซอร์โคเนียมไอออน เมือผสมกันแล ้วเกิดการแทนทีของประจุบวกขึน ส่งผลให ้โครงสร ้างผลึกของเซอร์โคเนียมออกไซด์เกิดการหดตัว ทําให ้
ออกซิเจนไอออนสามารถเคลือนทีเข ้ามาได ้ จึงสามารถใช ้ตรวจวัดปริมาณออกซิเจนได ้
4 : เนืองจากเนืองจากอิเทียมไอออนมีขนาดใหญ่กว่าเซอร์โคเนียมไอออน เมือผสมกันแล ้วเกิดการแทนทีของประจุบวกขึน ส่งผลให ้โครงสร ้างผลึกของเซอร์โคเนียมออกไซด์เกิดการขยายตัว
ทําให ้ออกซิเจนไอออนสามารถเคลือนทีเข ้ามาได ้ จึงสามารถใช ้ตรวจวัดปริมาณออกซิเจนได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 341 :
ทําไมเซรามิกทีมีโครงสร ้างคล ้ายกับผลึกเดียว (Like a single crystal) ถึงยอมให ้แสงผ่านได ้ (Translucent)
1 : เนืองจากภายในเกรนมีการจัดเรียงอะตอมทีเกือบจะอยูใ่ นทิศทางเดียวกัน
2 : เนืองจากขอบเกรนมีความหนา
3 : เนืองจากภายในเกรนมีธาตุอนมาแทรก
ื
่ งว่างเกิดขึนภายในเกรน
4 : เนืองจากมีชอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 342 :
โครงสร ้างจุลภาคระหว่างเพอร์ไลต์หยาบ (Coarse pearlite) และเพอร์ไลต์ละเอียด (Fine pearlite) โครงสร ้างใดมีความแข็งแรงมากกว่า และเพราะอะไร
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 53/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : เพอร์ไลต์หยาบแข็งแรงมากกว่า เพราะมีปริมาณคาร์บอนอิสระมากกว่า
2 : เพอร์ไลต์ละเอียดแข็งแรงมากกว่า เพราะมีปริมาณคาร์บอนอิสระมากกว่า
3 : เพอร์ไลต์หยาบแข็งแรงมากกว่า เพราะมีขนาดของเกรนใหญ่กว่า
4 : เพอร์ไลต์ละเอียดแข็งแรงมากกว่า เพราะมีขนาดของเกรนเล็กกว่า
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 343 :
จงเรียงลําดับโครงสร ้างจุลภาคทีมีความแข็งจากมากไปน ้อย
ข ้อที 344 :
โครงสร ้างของเหล็กกล ้าสเฟี ยรอยไดซ์ (Spheroidized steel) มีสมบัตท
ิ างกลอย่างไร และเพราะอะไร
ข ้อที 345 :
เซรามิกทัวไปมีคา่ ของสมบัตใิ นข ้อใดน ้อยกว่าของโลหะทัวไป
1 : Hardness
2 : Thermal insulation
3 : Toughness
4 : Chemical resistance
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 346 :
วัสดุในข ้อใดสามารถดูดกลืนพลังงานไว ้ก่อนทีจะเสียรูปทรงอย่างถาวรได ้สูง
1 : แผ่นพลาสติกพอลิสไตรีน
2 : แผ่นยาง
3 : แผ่นกระจก
4 : แผ่นสังกะสี
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 347 :
ข ้อใดกล่าวถึงกระบวนการเกิดผลึกใหม่ (Recrystallization) ไม่ถก
ู ต ้อง
1 : ต ้องเกิดการเปลียนรูปน ้อยทีสุดค่าหนึงจึงจะสามารถเกิดผลึกใหม่ได ้
2 : ถ ้าปริมาณการเปลียนรูปน ้อยจะทําให ้อุณหภูมใิ นการเกิดผลึกใหม่สงู ขึน
3 : ขนาดเกรนสุดท ้ายหลังการเกิดผลึกใหม่จะขึนอยูก ่ บ
ั ปริมาณการเปลียนรูป
4 : โลหะบริสท ุ ธิมีอณ
ุ หภูมก
ิ ารเกิดผลึกใหม่สงู กว่าโลหะผสม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 348 :
ข ้อใดไม่ใช่การเปลียนแปลงภายในเนือโลหะในช่วงการคืนตัว (Recovery) เมือนํ าโลหะทีผ่านการขึนรูปเย็นมาทําการอบอ่อน
1 : ความแข็งแรงลดลงเล็กน ้อย
2 : ความเค ้นตกค ้างลดลง
3 : จํานวนดิสโลเคชันเพิมขึน
4 : ความอ่อนตัวเพิมขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 349 :
กระบวนการอัดรีด (Extrusion) เป็ นขันตอนหนึงทีนํ ามาใช ้ขึนรูปผลิตภัณฑ์พลาสติกต่างๆ ยกเว ้นข ้อใด
1 : ท่อนํ า
2 : ยางรถยนต์
3 : ฉนวนหุ ้มสายไฟ
4 : ถุงพลาสติก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 350 :
การทําให ้เหล็กกล ้าคาร์บอนตําเย็นตัวอย่างรวดเร็ว (Quenching) ส่งผลต่อโครงสร ้างจุลภาคและสมบัตท
ิ างกลอย่างไร
ข ้อที 351 :
ในงานโลหกรรมผง (Powder metallurgy) ขันตอนใดทีทําให ้ชืนงานมีความแข็งแรงเพิมขึนอย่างมาก
1 : Mixing
2 : Pressing
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 54/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
3 : Sintering
4 : Machining
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 352 :
ข ้อใดคือลักษณะโครงสร ้างและสมบัตท
ิ พบได
ี ้ในพอลิเมอร์ชนิดเทอร์โมเซตติง (Thermosetting)
ข ้อที 353 :
ในการผลิตเส ้นใยพอลิเมอร์มก
ั มีการดึงยืด (Stretching) หลังจากการผลิตเส ้นใยแล ้ว เพราะสาเหตุใดเป็ นหลัก
1 : เพิมความยาวของเส ้นใย
2 : เพิมเงางามของเส ้นใย
3 : ช่วยให ้ง่ายต่อการจัดเก็บเส ้นใย
4 : เพิมความแข็งแรงของเส ้นใย
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 354 :
เหตุใดเหล็กกล ้าไร ้สนิมจึงมีความต ้านทานการเกิดสนิมได ้ดี
ข ้อที 355 :
ข ้อใดเรียงลําดับโครงสร ้างเหล็กกล ้าทีมีความแข็งมากไปน ้อย
ข ้อที 356 :
ในการให ้ความร ้อนเพือขึนรูปผลิตภัณฑ์แก ้ว (Glass product) จําเป็ นต ้องพิจารณาสมบัตใิ ดเป็ นหลัก
1 : ความหนืด
2 : ความหนาแน่น
3 : ความใส
4 : ความแข็ง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 357 :
ข ้อใดเรียงลําดับตัวกลางทีช่วยในการชุบแข็งเหล็กกล ้าจากน ้อยไปมากได ้ถูกต ้อง
1 : นํ า, อากาศ, เตา
2 : นํ ามัน, อากาศ, เตา
3 : เตา, นํ า, นํ ามัน
4 : อากาศ, นํ ามัน, นํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 358 :
ข ้อใดไม่ใช่สาเหตุของการขึนรูปหัวน ้อตหรือตะปู ด ้วยวิธก
ี ารอัดขึนรูปเย็น (Cold forging)
1 : เพิมความแข็ง
2 : เพิมความแข็งแรง
3 : เพิมความแข็งได ้ขนาดรูปร่างทีแม่นยํา
4 : เพิมสภาพดึงยืดได ้ดีขน
ึ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 359 :
โครงสร ้างพอลิเมอร์ทมี
ี ความเป็ นผลึกมากขึน ส่งผลต่อสมบัตโิ ดยทัวไปอย่างไร
1 : มีจด
ุ หลอมเหลวสูงขึน
2 : มีความแข็งแรงมากขึน
3 : มีความสามารถในการละลายดีขน
ึ
4 : มีความหนาแน่นมากขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 360 :
ข ้อใดเปรียบเทียบโครงสร ้างหรือสมบัตริ ะหว่างผลิตภัณฑ์แก ้ว (Glass product) และกลาสเซรามิก (Glass ceramic) ไม่ถก
ู ต ้อง
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 55/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 361 :
ในการเตรียมผลิตภัณฑ์เซรามิกดิน (Clay product) มักจะคัดแยกขนาดอนุภาคของดินแล ้วนํ ามาผสมกันในอัตราส่วนต่างๆ เพราะสาเหตุใด
1 : ลดราคาต ้นทุน
2 : ลดปริมาณรูพรุน
3 : ลดปริมาณนํ าทีต ้องใช ้
4 : ลดความแข็งเปราะ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 362 :
ขันตอนใดต่อไปนีไม่สามารถช่วยเพิมความแข็งแรงให ้กับผลิตภัณฑ์เทอร์โมพลาสติก
ข ้อที 363 :
ข ้อใดแสดงความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการและโครงสร ้างได ้ถูกต ้อง
ข ้อที 364 :
กระบวนการใดต่อไปนีไม่สามารถช่วยเพิมความแข็งแรงให ้กับชินงานโลหะได ้
ข ้อที 365 :
หากมีการเพิมปริมาณธาตุคาร์บอนให ้กับเหล็กกล ้า จะมีผลต่อโครงสร ้างและสมบัตอ
ิ ย่างไร
1 : เกิดปริมาณเฟสเฟร์ไรต์มากขึน มีความแข็งเพิมขึน
2 : เกิดปริมาณเฟสเฟร์ไรต์มากขึน มีความแข็งลดลง
3 : เกิดปริมาณเฟสซีเมนไทต์มากขึน มีความแข็งเพิมขึน
4 : เกิดปริมาณเฟสซีเมนไทต์มากขึน มีความแข็งลดลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 366 :
เหตุใดการผลิตดอกสว่านแบบหัวเพชรจึงออกแบบให ้ผลิตเป็ นผลึกเพชรเคลือบบนแกนโลหะ แทนทีการออกแบบเป็ นดอกสว่านเพชรทังแท่ง
1 : เพิมความเหนียวให ้กับดอกสว่าน
2 : เพิมความแข็งให ้กับดอกสว่าน
3 : เพิมความทนต่อความร ้อนให ้กับดอกสว่าน
4 : เพิมความต ้านทานการกัดกร่อนให ้กับดอกสว่าน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 367 :
ข ้อใดกล่าวถูกต ้องเกียวกับวัสดุกลุม
่ อิลาสโตเมอร์ (Elastomer)
ข ้อที 368 :
ข ้อใดจับคูผ
่ ลิตภัณฑ์กบ
ั กระบวนการผลิตทีเหมาะสมได ้ไม่ถก
ู ต ้อง
ข ้อที 369 :
จุดประสงค์หลักในการใช ้แก๊สทีใช ้ปกคลุม (Shielding gas) จําพวก Ar, He หรือ CO2 ในการเชือมด ้วยไฟฟ้ า คือข ้อใด
ข ้อที 370 :
ในการพิจารณาเลือกวัสดุสําหรับทดแทนชินส่วนชีวภาพ ควรคํานึงถึงปั จจัยใดเป็ นอันดับแรก
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 56/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : ความแข็งแรง
2 : ความทนทานต่อสารเคมี
3 : ความเหนียว
4 : ความเข ้ากันได ้กับชีวภาพ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 371 :
ข ้อใดต่อไปนีกล่าวถูกต ้อง
ข ้อที 372 :
ข ้อใดกล่าวไม่เหมาะสมเกียวกับการเลือกใช ้วัสดุประกอบ
1 : เฟสเนือพืนโลหะมีความเหนียวสูง เฟสเสริมแรงเซรามิกช่วยเพิมความแข็ง
2 : เฟสเนือพืนพอลิเมอร์มน
ี ํ าหนักเบา เฟสเสริมแรงโลหะช่วยเพิมความแข็งแรง
3 : เฟสเนือพืนเซรามิกทนการกัดกร่อนดี เฟสเสริมแรงเซรามิกช่วยเพิมความแข็งทีอุณหภูมส
ิ งู
4 : เฟสเนือพืนโลหะทนความร ้อนได ้ดี เฟสเสริมแรงพอลิเมอร์ชว่ ยเพิมความแข็ง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 373 :
ข ้อใดต่อไปนีกล่าวไม่ถก
ู ต ้องเกียวกับโครงสร ้างและสมบัตข
ิ องพอลิเมอร์
ข ้อที 374 :
ข ้อใดต่อไปนีกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
ข ้อที 375 :
ข ้อใดกล่าวถูกต ้องเกียวผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์
ข ้อที 376 :
กระบวนการทางความร ้อนอาจส่งผลให ้เหล็กกล ้าไร ้สนิมมีความเปราะและเสียงต่อการแตกตามรอยขอบเกรนมากขึนเพราะเหตุใด
1 : อาจทําให ้เกิดการแพร่ของโครเมียมออกไปจากชินงานมากขึน
2 : อาจทําให ้เกิดสารประกอบโครเมียมคลอไรด์ทขอบเกรนมากขึ
ี น
3 : อาจทําให ้เกิดสารประกอบโครเมียมคาร์ไบด์ทขอบเกรนมากขึ
ี น
4 : อาจทําให ้เกิดสารประกอบโครเมียมออกไซด์ทขอบเกรนมากขึ
ี น
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 377 :
ข ้อใดต่อไปนีเปรียบเทียบข ้อมูลระหว่างเหล็กกล ้าเกรด AISI 1010 และ AISI 304 ได ้ถูกต ้อง
ข ้อที 378 :
ข ้อใดคือลักษณะโครงสร ้างผลึกและสมบัตเิ ด่นของวัสดุเพียโซอิเล็กทริก (Piezoelectric material)
ข ้อที 379 :
กระบวนการประกอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นิยมหลอมโลหะบัดกรี เช่น ตะกัว-ดีบก ุ ของตัววงจรรวมเชือมติดกับทองแดงบนแผ่นวงจร ทําให ้เกิดชันสารประกอบ
เชิงโลหะ (Intermetallic compound) ชนิด ทองแดง-ดีบก
ุ ระหว่างกลาง ซึงชันสารประกอบเชิงโลหะนีมีข ้อดีและข ้อเสียอย่างไร
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 57/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 380 :
การเหนียวนํ าให ้เกิดโครงสร ้างผลึกด ้วยความเครียด (Strain-induced crystallization) ในระหว่างกระบวนการเป่ าขึนรูป (Blow molding) ขวดพลาสติก ส่งผลต่อ
ผลิตภัณฑ์ทไดี ้อย่างไร
1 : มีความแข็งแรงและความใสมากขึน
2 : มีสภาพดึงยืดและความขุน
่ มากขึน
3 : มีความแข็งและความสามารถในการละลายลดลง
4 : มีสภาพดึงยืดและความแข็งลดลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 381 :
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์โครงสร ้างจุลภาคของชินงานโลหะด ้วยกล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope) ควรเตรียมชินงานอย่างไร
1 : ขัดผิวชินงานให ้เรียบ
2 : ขัดผิวชินงานให ้เรียบและกัดผิวชินงานด ้วยกรด
3 : ขัดผิวจนชินงานมีความบางมาก ๆ
4 : ไม่ต ้องเตรียมผิวชินงาน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 382 :
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์ลก ี ารหล่อ ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
ั ษณะทางโครงสร ้างจุลภาคของห ้องเครืองยนต์ดเี ซลทีผ่านกรรมวิธก
ข ้อที 383 :
ถ ้าต ้องการตรวจสอบการยึดติดของผลิตภัณฑ์วงจรรวม (Integrated circuit) บนแผงวงจรรวม (Printed circuit board) ด ้วยการยึดพืนผิว (Surface mount) ควรเลือก
ใช ้เครืองมือใด
1 : กล ้องถ่ายรูปดิจต
ิ อล (Digital camera)
2 : กล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope)
3 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบส่องผ่าน (Transmission electron microscope)
4 : มาตรวัดการเลียวเบนของรังสีเอ็กซ์ (X-ray diffractometer)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 384 :
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์การกระจายตัวของเฟสทีเกิดขึนจากกระบวนการเชือมยึดติดของผลิตภัณฑ์วงจรรวม (Integrated circuit) บนแผงวงจรรวม (Printed circuit
board) ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
ข ้อที 385 :
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์โครงสร ้างผลึกของวัสดุ ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 386 :
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์ทศ ิ อน (Silicon wafer) ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
ิ ทางการเรียงตัวของอะตอมในแว่นผลึกซิลก
ข ้อที 387 :
ถ ้าต ้องการบันทึกภาพของท่อนํ าทีเกิดการผุกร่อน ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
1 : กล ้องถ่ายรูปดิจต
ิ อล (Digital camera)
2 : กล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope)
3 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบกราดวิเคราะห์ (Scanning electron microscope)
4 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบส่งผ่าน (Transmission electron microscope)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 388 :
ู ร่างของผลึกนาโนคาร์บอนทีผลิตได ้ ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์รป
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 58/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
3 : เครืองวัดการเรืองแสงของรังสีเอกซ์ (X-ray fluorescence spectroscope)
4 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบส่องผ่าน (Transmission electron microscope)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 389 :
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์โครงสร ้างจุลภาคของก ้อนโลหะด ้วยกําลังขยายขนาด 5,000 เท่า ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
1 : Optical microscope
2 : Optical spectroscope
3 : Scanning electron microscope
4 : Scanning tunneling electron microscope
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 390 :
ิ กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบกราดวิเคราะห์ (Scanning electron microscope) สามารถให ้ผลการวิเคราะห์ได ้
ข ้อใดไม่ใช่สงที
1 : การกระจายตัวของเฟส
2 : ลักษณะพืนผิวทีแตกหัก
3 : โครงสร ้างผลึกของเฟสต่างๆ ในชินงาน
4 : รูปร่างของเฟสต่างๆ ในชินงาน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 391 :
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์โครงสร ้างการจัดเรียงตัวของอะตอมต่างๆ ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
ข ้อที 392 :
กฏในข ้อใดต่อไปนีทีจําเป็ นต่อการศึกษาโครงสร ้างผลึกด ้วยเทคนิคการเลียวเบนของรังสีเอ็กซ์
ข ้อที 393 :
เครืองมือใดต่อไปนีสามารถใช ้ถ่ายภาพโครงสร ้างจุลภาคได ้กําลังขยายทีสูงทีสุด
ข ้อที 394 :
เครืองมือใดต่อไปนีสามารถใช ้ถ่ายภาพอนุภาคขนาด 30 นาโนเมตร ได ้ชัดเจนทีสุด
ข ้อที 395 :
เครืองมือใดสามารถใช ้วิเคราะห์วส
ั ดุได ้ทังโครงสร ้างจุลภาคและโครงสร ้างผลึก
1 : กล ้องถ่ายรูปดิจต
ิ อล (Digital camera)
2 : กล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope)
3 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบส่องผ่าน (Transmission electron microscope)
4 : มาตรวัดการเลียวเบนของรังสีเอกซ์ (X-ray diffractometer)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 396 :
ในการเปรียบเทียบโครงสร ้างจุลภาคระหว่างแผ่นเหล็กกล ้าทีผ่านกระบวนการรีดร ้อนและทีผ่านกระบวนการรีดเย็น ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
ข ้อที 397 :
ในการดึงเหล็กให ้เป็ นเส ้นลวด ต ้องใช ้แรงดึงในช่วงใด
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 59/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 398 :
ในการตัดชินงานต ้องเลือกมีดตัดอย่างไร
1 : มีดตัดต ้องมีความแข็งมากกว่าชินงาน
2 : มีดตัดต ้องมีความแข็งแรงมากกว่าชินงาน
3 : มีดตัดต ้องมีความเหนียวมากกว่าชินงาน
4 : มีดตัดทนความร ้อนได ้ดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 399 :
ข ้อใดคือข ้อดีของการขึนรูปด ้วยการหล่อแบบหล่อทราย (Sand casting)
ข ้อที 400 :
การขึนรูปเย็น (Cold working) หมายถึง การขึนรูปด ้วยแรงทางกล ณ อุณหภูมใิ ด
1 : อุณหภูมต
ิ ํากว่าอุณหภูมห ิ ้อง
2 : อุณหภูมติ ํากว่าอุณหภูมก ิ ารเกิดผลึก (Crystallization temperature)
3 : อุณหภูมต ิ ํากว่าอุณหภูมก ิ ารตกผลึกใหม่ (Recrystallization temperature)
4 : อุณหภูมต ิ ํากว่าอุณหภูมก ิ ารเปลียนสภาพจากเปราะเป็ นดึงยืดได ้ (Ductile-brittle transition temperature)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 401 :
กรรมวิธก
ี ารทางความร ้อนใด คือ การเผาชินงานทีขึนรูปด ้วยผงโลหะ เพือให ้ผงโลหะเชือมติดกัน
1 : การอบอ่อน (Annealing)
2 : การอบปกติ (Normalizing)
3 : การอบคืนตัว (Tempering)
4 : การอบซินเตอร์ (Sintering)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 402 :
กรรมวิธก
ี ารขึนรูปโลหะใดต่อไปนีทีก่อให ้เกิดการสูญเปล่าของวัตถุดบ
ิ น ้อยทีสุด
ข ้อที 403 :
ในการขึนรูปเย็น (Cold working) ข ้อใดต่อไปนีถูกต ้องทีสุด
ข ้อที 404 :
ข ้อใดคือข ้อดีของการขึนรูปร ้อน (Hot working) ของโลหะ
1 : สามารถลดขนาดชินงานได ้คราวละมาก ๆ
2 : สามารถควบคุมขนาดของชินงานได ้ง่าย
3 : ชินงานมีความแข็งเพิมมากขึน
4 : ผิวชินงานเรียบ เงางาม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 405 :
ข ้อใดคือข ้อด ้อยของการขึนรูปร ้อน (Hot working) ของโลหะ
ข ้อที 406 :
ข ้อใดคือข ้อดีของการขึนรูปเย็น (Cold working) ของโลหะ
ข ้อที 407 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 60/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
กรรมวิธก
ี ารผลิตใดต่อไปนีสามารถผลิตหัวค ้อนได ้แข็งแรงทีสุด
1 : การหล่อขึนรูป (Casting)
2 : การทุบขึนรูป (Forging)
3 : การตกแต่งขึนรูป (Machining)
4 : การอัดรีด (Extrusion)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 408 :
ในการหล่อชินส่วนอะลูมเิ นียมผสม ธาตุผสมชนิดใดทีทําให ้จุดหลอมเหลวของอะลูมเิ นียมตําลงมากทีสุด
1 : ทองแดง
2 : ซิลคิ อน
3 : นิเกิล
4 : แมงกานีส
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 409 :
ถ ้าต ้องการผลิตชินส่วนงานหล่ออะลูมเิ นียมเป็ นจํานวนมาก ควรเลือกใช ้กรรมวิธก
ี ารหล่อชนิดใดต่อไปนี
ข ้อที 410 :
ชินงานโลหะทีผ่านการขึนรูปด ้วยกรรมวิธก
ี ารรีดเย็น (Cold rolling) จะมีลก
ั ษณะใด
1 : ผิวเรียบ ความแข็งแรงลดลง
2 : ผิวเรียบ ความแข็งแรงเพิมขึน
3 : ผิวหยาบ ความแข็งแรงลดลง
4 : ผิวหยาบ ความแข็งแรงเพิมขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 411 :
การหล่อชินงานเครืองประดับ นิยมใช ้การหล่อแบบใด
ข ้อที 412 :
ประแจ (Wrench) ทีสามารถใช ้งานได ้ทนทาน เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปด ้วยกรรมวิธใี ดต่อไปนี
1 : การรีด (Rolling)
2 : การทุบขึนรูป (Forging)
3 : การหล่อ (Casting)
4 : การอัดรีด (Extrusion)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 413 :
ลวดสําหรับใช ้ทําตะปู เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากกรรมวิธก
ี ารขึนรูปใดต่อไปนี
ข ้อที 414 :
มีดกลึงทีมีความเหนียว (Toughness) มาก จะมีผลต่อการกลึงอย่างไร
1 : สามารถใช ้ความเร็วสูงได ้
2 : สามารถกินลึกชินงานได ้คราวละมาก ๆ
3 : กลึงได ้ชินงานผิวเรียบ
4 : มีดกลึงทนต่อการสึกดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 415 :
ถ ้าต ้องการตัดแต่งชินงานให ้เป็ นร่องรูปตัว L ดังรูปข ้างล่างนี ควรเลือกใช ้กรรมวิธก
ี ารใด
1 : การกลึง (Turning)
2 : การกัด (Milling)
3 : การไส (Shaping)
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 61/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
4 : การเจาะ (Drilling)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 416 :
ในการแล่นประสาน (Brazing) เพือทําให ้แผ่นเหล็กสองแผ่นเชือมติดกัน ควรเลือกใช ้ลวดเชือมชนิดใดต่อไปนี
1 : เหล็กกล ้า
2 : อะลูมเิ นียม
3 : ทองแดง
4 : ทองเหลือง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 417 :
รูขนึ (Riser) ในงานหล่อมีไว ้เพืออะไร
ข ้อที 418 :
ปากแม่แบบ (Gate) ในงานหล่อมีไว ้เพืออะไร
ข ้อที 419 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีความแข็ง (Hardness) สูงทีสุด
ข ้อที 420 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีความเหนียว (Toughness) สูงทีสุด
ข ้อที 421 :
เหล็กกล ้าชนิดใดต่อไปนีตัดแต่งได ้ยากทีสุด
ข ้อที 422 :
ี ารรีดร ้อน (Hot rolling) ควรเลือกใช ้ลูกรีดแบบใด และความเร็วรอบอย่างไร เพือลดขนาดอย่าง
ในการรีด Slab เพือให ้ได ้เหล็กแผ่น (Sheet metal) ด ้วยกรรมวิธก
รวดเร็ว
ข ้อที 423 :
ในการขึนรูปร ้อน (Hot working) ของโลหะ ควรใช ้อุณหภูมท
ิ มากกว่
ี าค่าใด
1 : อุณหภูมต
ิ กผลึก (Recrystallization Temperature)
2 : อุณหภูมยิ เู ทกทอยด์ (Eutectoid Temperature)
3 : อุณหภูมย ิ เู ทกติก (Eutectic Temperature)
4 : อุณหภูมจ ิ ด
ุ หลอมเหลว (Melting Temperature)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 424 :
Anodizing คืออะไร
1 : การชุบผิวเหล็กให ้สวยงาม
2 : การชุบแข็งนิเกิล
3 : การชุบแข็งผิวอะลูมเิ นียม
4 : การทําอะลูมเิ นียมให ้อ่อน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 62/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 425 :
โลหะในข ้อใดต่อไปนีสามารถหล่อได ้ง่ายทีสุด
ข ้อที 426 :
กระบวนการในข ้อใดต่อไปนีสามารถชุบแข็งผิวเหล็กทีให ้ความแข็งสูงทีสุด
ข ้อที 427 :
การลดปั ญหาการแตกร ้าวในการเชือมเหล็กกล ้าผสมตําสามารถทําได ้โดยวิธใี ดต่อไปนี
1 : ให ้ความร ้อนชินงานก่อนเชือม
2 : อบชินงานหลังการเชือม
3 : ใช ้ก๊าซเฉือยคลุมขณะเชือม
4 : เชือมโดยใช ้กําลังไฟฟ้ าตํา
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 428 :
กระบวนการผลิตในข ้อใดต่อไปนีทีเหมาะทีสุดในการผลิตใบพัดของเครืองกังหันก๊าซ (Gas turbine blades)
ข ้อที 429 :
กรรมวิธใี ดต่อไปนีสามารถผลิตแผ่นเหล็กกล ้าทีมีขนาดเทียงตรงตามทีต ้องการได ้ดีทสุ
ี ด
ข ้อที 430 :
ข ้อใดไม่ใช่กลไกการเพิมความแข็งแรงให ้กับอะลูมเิ นียมและอะลูมเิ นียมผสม
ข ้อที 431 :
กรรมวิธใี ดต่อไปนีเหมาะสําหรับผลิตภัณฑ์โลหะทีมีจด
ุ หลอมเหลวสูงและมีสภาพการดึงยืดได ้น ้อย
ข ้อที 432 :
กระบวนการใดทีเหมาะสมสําหรับการขึนรูปแผ่นโลหะให ้เป็ นชินงานรูปถ ้วย
1 : การหล่อขึนรูป (Casting)
2 : การทุบขึนรูป (Forging)
3 : การลากขึนรูป (Deep drawing)
4 : การอัดรีด (Extrusion)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 433 :
กรรมวิธใี ดต่อไปนีไม่สามารถเพิมความแข็งแรงให ้ชินงานโลหะได ้
ข ้อที 434 :
การอบปกติ (Normalizing) ของเหล็กกล ้าคาร์บอนตํา จะต ้องมีการให ้ความร ้อนและการเย็นตัวของชินงานอย่างไร
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 63/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : ให ้ความร ้อนจนชินงานเปลียนโครงสร ้างเป็ นออสเทไนต์และเฟร์ไรต์ และปล่อยให ้เย็นตัวในเตาอบ
2 : ให ้ความร ้อนจนชินงานเปลียนโครงสร ้างเป็ นออสเทไนต์ทงหมด
ั และปล่อยให ้เย็นตัวในอากาศ
3 : ให ้ความร ้อนจนชินงานเปลียนโครงสร ้างเป็ นออสเทไนต์ทงหมด
ั และปล่อยให ้เย็นตัวในนํ า
4 : ให ้ความร ้อนจนชินงานเปลียนโครงสร ้างเป็ นออสเทไนต์และซีเมนไทต์ และปล่อยให ้เย็นตัวในนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 435 :
ผลิตภัณฑ์เซรามิกในข ้อใดเหมาะกับการขึนรูปโดยการอัด (Pressing)
1 : อ่างล ้างหน ้า
2 : กระเบืองปูพนและผนั
ื ง
3 : แจกัน
4 : ถ ้วยกาแฟ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 436 :
ผลิตภัณฑ์เซรามิกในข ้อใดเหมาะกับการขึนรูปโดยการหล่อแบบ (Slip casting)
1 : อ่างล ้างหน ้า
2 : กระเบืองปูพนและผนั
ื ง
3 : โอ่งมังกร
4 : ท่อระบายนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 437 :
ผลิตภัณฑ์เซรามิกในข ้อใดเหมาะกับการขึนรูปโดยการอัดรีด (Extrusion)
1 : สุขภัณฑ์ในห ้องนํ า
2 : ถ ้วยกาแฟ
3 : กระเบืองมุงหลังคา
4 : ท่อนํ าทิง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 438 :
ข ้อใดต่อไปนีจะไม่เกิดขึนเมือให ้ความร ้อนกับเซรามิกในกระบวนการอบแห ้ง (Drying)
1 : นํ าระหว่างอนุภาคถูกขจัดออก
2 : สารอินทรียถ ์ ก
ู ขจัดออก
3 : ผลิตภัณฑ์หลังอบมีขนาดใหญ่ขน ึ
4 : ผลิตภัณฑ์หลังอบมีความแข็งแรงตําและเปราะ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 439 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่เกิดขึนในกระบวนการ Sintering
1 : Solid-state diffusion
2 : อนุภาคเกิดการเชือมต่อกันบริเวณทีสัมผัสกับอนุภาคอืน
3 : เกิดการหลอมละลายเป็ นของเหลว
4 : ช่องว่างระหว่างอนุภาคมีขนาดเล็กลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 440 :
ในการขึนรูปเซรามิกชนิดทีมีดน ี ารหล่อแบบ (Slip casting) ใช ้วัสดุใดเป็ นแบบหล่อ
ิ เป็ นองค์ประกอบหลัก (Clay products) โดยวิธก
1 : ทราย
2 : โลหะ
3 : ยาง
4 : ปูนปลาสเตอร์
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 441 :
ในการผลิตเซรามิกชนิดทีมีดน ี ารหล่อแบบ (Slip casting) แบบทีใช ้ในการขึนรูปควรมีลก
ิ เป็ นองค์ประกอบหลัก (Clay products) ด ้วยวิธก ั ษณะอย่างไรและเพราะ
เหตุใด
1 : เนืองจากผลิตภัณฑ์ทได
ี ้มีการขยายขนาด จึงต ้องทําให ้แบบมีขนาดเล็กกว่างานจริง
2 : เนืองจากผลิตภัณฑ์ทไดี ้มีจะมีขนาดเท่าเดิม ดังนันแบบจะมีขนาดเท่างานจริง
3 : เนืองจากผลิตภัณฑ์ทได ี ้มีการหดตัว จึงต ้องทําให ้แบบมีขนาดใหญ่กว่างานจริง
4 : ผลิตภัณฑ์ทได
ี ้อาจจะหดตัวหรือขยายตัวก็ได ้ การเผือขนาดแบบแล ้วแต่ชนิดของผลิตภัณฑ์
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 442 :
กระจก เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปแบบใด
1 : การเป่ า (Blowing)
2 : การอัด (Pressing)
3 : การดึง (Drawing)
4 : การอัดรีด (Extrusion)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 443 :
ผลิตภัณฑ์ประเภทใดขึนรูปโดยการเป่ า (Blowing)
1 : ขวดแก ้ว
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 64/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
2 : จานแก ้ว
3 : กระจก
4 : เลนส์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 444 :
ั ถุประสงค์ในการใช ้ดินเป็ นวัตถุดบ
ข ้อใดไม่ใช่วต ิ ในเซรามิกดังเดิม (Conventional ceramics)
ข ้อที 445 :
ในการบดผสมวัตถุดบ
ิ สําหรับผลิตเซรามิก ทําไมจึงต ้องมีการควบคุมการกระจายขนาดอนุภาค (Particle size distribution)
1 : เพือให ้วัตถุดบ
ิ หลอมตัวได ้ง่าย
2 : เพือให ้วัตถุดบิ สามารถอัดตัวกันเพือให ้มีชอ่ งว่างน ้อยทีสุด
3 : เพือให ้วัตถุดบ ิ ผสมกันได ้ดียงขึ
ิ น
4 : เพือให ้วัตถุดบ ิ ไม่เกิดการหดตัวหลังให ้ความร ้อน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 446 :
ถ ้าต ้องการขึนรูปท่อเซรามิกทีมีความยาวและมีหน ้าตัดเหมือนกันตลอดความยาวชินงาน 1 เมตร ควรขึนรูปด ้วยวิธใี ด
1 : การอัด (Pressing)
2 : การอัดรีด (Extrusion)
3 : การฉีด (Injection)
4 : การเป่ า (Blowing)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 447 :
ในกระบวนการอบ ทําไมผลิตภัณฑ์เซรามิกทีผนังมีความหนามากมีแนวโน ้มทีจะเกิดการแตกได ้ง่ายกว่าเซรามิกทีมีผนังบาง
ข ้อที 448 :
การเกิดเป็ นเนือแก ้ว (Vitrification) จะทําให ้เกิดผลในข ้อใด
ข ้อที 449 :
ในเซรามิกแบบดังเดิม (Conventional ceramic) การเติม Flux จะมีประโยชน์ในเรืองใด
ข ้อที 450 :
ข ้อใดเป็ นกระบวนการทีสําคัญทีใช ้ในการทํากระจกนิรภัย (Safety glass) สําหรับกระจกหน ้ารถ
1 : Pressing
2 : Drying
3 : Tempering
4 : Blowing
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 451 :
กระบวนการในข ้อใดต่อไปนีทําให ้ชินงานเซรามิกมีความหนาแน่นและความแข็งแรงเพิมขึนมาก
1 : Drying
2 : Pressing
3 : Casting
4 : Sintering
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 452 :
ขวดเบียร์เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากกรรมวิธก
ี ารขึนรูปใดต่อไปนี
1 : Pressing
2 : Extrusion
3 : Blowing
4 : Casting
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 65/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 453 :
กระจกหน ้าต่างเป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากกรรมวิธก
ี ารขึนรูปใดต่อไปนี
1 : Pressing
2 : Drawing
3 : Blowing
4 : Casting
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 454 :
ข ้อใดกล่าวเกียวกับกรรมวิธท
ี างความร ้อนของแก ้วไม่ถก
ู ต ้อง
ข ้อที 455 :
ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ทได
ี ้จากการขึนรูปด ้วยเครืองอัดรีด (Extrusion) จะมีลก
ั ษณะแบบใด
1 : เป็ นภาชนะกลวง
2 : รูปร่างลักษณะซับซ ้อนมาก
3 : รูปร่างหน ้าตัดเหมือนกันตลอดความยาวของชินงาน
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 456 :
ิ มใช ้กับพอลิเมอร์ชนิดเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)
กระบวนการขึนรูปชนิดใดทีไม่นย
ข ้อที 457 :
ข ้อใดคือส่วนประกอบทีสําคัญของเครืองขึนรูปแบบฉีด (Injection molding)
ข ้อที 458 :
ท่อพลาสติก เป็ นผลิตภัณฑ์ทได
ี ้จากการขึนรูปแบบใด
ข ้อที 459 :
ขวดพลาสติก เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปแบบใด
ข ้อที 460 :
ผงถ่าน (Carbon black) ทีใช ้เป็ นส่วนผสมในยางรถยนต์ เป็ นสารเติมแต่งชนิดใด
1 : สี (Colorant)
2 : สารเสริมแรง (Reinforcing filler)
3 : สารไม่เสริมแรง (Non-reinforcing filler)
4 : สารป้ องกันการติดไฟ (Flame retardant)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 461 :
ผลิตภัณฑ์ททํ
ี าจากพอลิเมอร์ชนิดใดต่อไปนีมีการหดตัวหลังกระบวนการขึนรูปมากทีสุด
1 : วัสดุยด
ื หยุน
่ (Elastomer)
2 : เทอร์โมเซตติง (Thermosetting)
3 : เทอร์โมพลาสติกชนิดทีเกิดโครงสร ้างผลึก (Crystalline thermoplastic)
4 : เทอร์โมพลาสติกชนิดทีไม่เกิดโครงสร ้างผลึก (Non-crystalline thermoplastic)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 462 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 66/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
สารเติมแต่งชนิดไม่เสริมแรง (Non-reinforcing filler) นิยมใช ้ผสมในพอลิเมอร์กอ
่ นทําการขึนรูปเพราะเหตุใด
1 : เพือให ้สีสวยขึน
2 : เพือลดต ้นทุน
3 : เพือให ้ใช ้ในช่วงอุณหภูมท
ิ กว
ี ้างขึน
4 : เพือใช ้ในการหล่อลืน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 463 :
พอลิไวนิล คลอไรด์ (Polyvinyl chloride) สามารถนํ ามาใช ้เป็ นท่อสายยางได ้ ถ ้าหากเติมสารเติมแต่งชนิดใดลงไปในกระบวนการผลิต
1 : สารหล่อลืน (Lubricant)
2 : สารเสริมแรง (Reinforcing filler)
3 : สารป้ องกันการแตกหักของสายโซ่โมเลกุล (Stabilizer)
4 : สารพลาสติไซเซอร์ (Plasticizer)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 464 :
เพราะเหตุใดกระบวนการขึนรูปแบบอัดเข ้ากับแบบ (Compression molding) จึงนิยมใช ้กับพอลิเมอร์ชนิดเทอร์โมเซตติง (Thermosetting) มากกว่าพอลิเมอร์ชนิด
เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)
ข ้อที 465 :
สารเติมแต่งทีนิยมใช ้ในการทําให ้ยางเกิดโครงสร ้างตาข่าย (Network) ขณะขึนรูปคือข ้อใด
1 : หินปูน
2 : กํามะถัน
3 : ผงถ่าน
4 : ขีผึง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 466 :
กระบวนการขึนรูปพอลิเมอร์โดยวิธก
ี ารอัดรีดเป่ าขึนรูป (Extrusion blow molding) จะมีความแตกต่างจากกระบวนการขึนรูปโดยวิธก
ี ารฉีดเป่ าขึนรูป (Injection
blow molding) อย่างไร
1 : ชนิดของพอลิเมอร์ทใช ี ้แตกต่างกัน
2 : ผลิตภัณฑ์ทได ี ้เป็ นภาชนะกลวง
3 : รูปร่างผลิตภัณฑ์ทได ี ้มีความซับซ ้อนเหมือนกัน
4 : เทคนิคทีใช ้ในการเป่ าด ้วยวิธก
ี ารฉีดเป่ าขึนรูป (Injection blow molding) ยุง่ ยากกว่าการเป่ าด ้วยวิธก
ี ารอัดรีดเป่ าขึนรูป (Extrusion blow molding)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 467 :
ช ้อนพลาสติกตักไอศกรีม เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปแบบใด
1 : การหล่อ (Casting)
2 : การอัดเข ้าแบบ (Compression molding)
3 : การฉีดขึนรูป (Injection molding)
4 : การอัดรีด (Extrusion)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 468 :
กล่องพลาสติกใสสําหรับใส่ขนมเค ้กชินเล็กๆ เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปแบบใด
ข ้อที 469 :
จานข ้าวเมลามีน (Melamine) เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปแบบใด
1 : การอัดรีด (Extrusion)
2 : การอัดเข ้าแบบ (Compression molding)
3 : การฉีดขึนรูป (Injection molding)
4 : การเป่ าขึนรูป (Blow molding)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 470 :
ยางลบดินสอ เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปแบบใด
1 : การอัดรีด (Extrusion)
2 : การอัดเข ้าแบบ (Compression molding)
3 : การฉีดขึนรูป (Injection molding)
4 : การเป่ าขึนรูป (Blow molding)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 471 :
สารเติมแต่งประเภทใดต่อไปนีใช ้สําหรับลดความรุนแรงของอัคคีภย
ั ทีเกิดขึนกับวัสดุพอลิเมอร์
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 67/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
1 : Stabilizer
2 : Colorant
3 : Flame retardant
4 : Filler
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 472 :
แผ่นฟิ ลม
์ พลาสติกเป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากกรรมวิธก
ี ารขึนรูปใดต่อไปนี
1 : Injection molding
2 : Extrusion
3 : Compression molding
4 : Blow molding
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 473 :
ขันตอนใดต่อไปนีทีไม่เกียวข ้องกับการสังเคราะห์พอลิเมอร์แบบเติม (Addition polymerization)
1 : Initiation
2 : Termination
3 : Condensation
4 : Propagation
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 474 :
ผลิตภัณฑ์ในข ้อใดไม่สามารถขึนรูปด ้วยกระบวนการฉีด (Injection molding) ได ้
1 : เปลือกหุ ้มสายเคเบิล
2 : ใบพัดลม
3 : แผ่นซีด ี
4 : ฝาครอบโทรศัพท์มอ ื ถือ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 475 :
แกลลอนนํ ามันควรผลิตด ้วยกระบวนการขึนรูปใด
ข ้อที 476 :
พอลิเมอร์ชนิดใดนิยมขึนรูปด ้วยกระบวนการอัดเข ้าแบบ (Compression molding)
1 : พอลิสไตรีน (Polystyrene)
2 : พอลิเอทธิลนี (Polyethylene)
3 : พอลิพรอพิลน ี (Polypropylene)
4 : ฟี นอลฟอร์มลั ดีไฮด์ (Phenol-formaldehyde)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 477 :
ผลิตภัณฑ์ใดทีไม่สามารถขึนรูปได ้ด ้วยกระบวนการอัดรีด (Extrusion)
1 : สายยางฉีดนํ า
2 : เคสโทรศัพท์มอ ื ถือ
3 : หลอดกาแฟ
4 : แผ่นฟิ ลม
์ พลาสติก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 478 :
วัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาวัสดุเชิงประกอบ (Composites) คือข ้อใด
1 : เพิมความรวดเร็วในการผลิตและประสิทธิภาพการผลิต
2 : ลดต ้นทุนการผลิต เพิมความสามารถในการแข่งขัน
3 : ปรับปรุงสมบัตบิ างประการของชินงาน เช่น ความแข็งแรง
4 : ลดผลกระทบต่อสิงแวดล ้อมและใช ้ทรัพยากรให ้คุ ้มค่า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 479 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่วส
ั ดุเชิงประกอบ (Composites)
ข ้อที 480 :
ผลิตภัณฑ์ใดต่อไปนีทีนิยมผลิตจากวัสดุเชิงประกอบ (Composites)
1 : ถ ้วยกาแฟ
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 68/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
2 : หม ้อหุงข ้าว
3 : ไม ้เทนนิส
4 : กรอบแว่นตา
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 481 :
ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) เป็ นวัสดุชนิดใด
ข ้อที 482 :
ใยแก ้ว (Glass fibers) ประกอบด ้วยสารประกอบชนิดใดมากทีสุด
1 : SiO2
2 : Al2O3
3 : CaO
4 : MgO
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 483 :
เซอร์เมท (Cermet) เป็ นวัสดุชนิดใด
1 : เซรามิก
2 : วัสดุเชิงประกอบ (Composite) มีโลหะเป็ นโครงสร ้างพืน (Matrix)
3 : วัสดุเชิงประกอบ (Composite) มีเซรามิกเป็ นโครงสร ้างพืน (Matrix)
4 : โลหะชนิดหนึง มีความแข็งสูง ใช ้เป็ นมีดกลึง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 484 :
เคฟลาร์ (Kevlar) เป็ นเส ้นใยชนิดใด
1 : เส ้นใยธรรมชาติ
2 : เส ้นใยพอลิเมอร์สงั เคราะห์
3 : เส ้นใยแก ้ว
4 : เส ้นใยคาร์บอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 485 :
กระบวนการในข ้อใดต่อไปนีทีใช ้ในการผลิตเส ้นใยคาร์บอน (Carbon fibers)
1 : Pyrolysis
2 : Hydrolysis
3 : Synthesis
4 : Analysis
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 486 :
วัสดุเชิงประกอบ (Composite) ชนิดใดต่อไปนีทีเหมาะสําหรับผลิตก ้านสูบ (Connecting rods) ในเครืองยนต์
ข ้อที 487 :
ข ้อใดต่อไปนีเป็ นวัสดุเชิงประกอบทีมีสมบัตแ
ิ บบไอโซทรอปิ ก
1 : คานไม ้
2 : โครงเครืองบินไฟเบอร์กลาส
3 : ยางรถยนต์เสริมแรงด ้วยคาร์บอนแบล็ก
4 : ชินส่วนกระสวยอวกาศทําจากเส ้นใยยาวเคฟลาร์และอีพอกซี (Kevlar-epoxy)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 488 :
ข ้อใดไม่ใช ้วิธเี พิมความแข็งแรงให ้กับวัสดุเชิงประกอบ
1 : ลดขนาดของอนุภาคให ้เล็กลง
2 : ลดความยาวเส ้นใยเสริมแรงให ้สันลง
3 : เพิมแรงยึดเหนียวระหว่างเนือพืนและอนุภาคเสริมแรง
4 : ปรับการกระจายตัวของอนุภาคในเนือพืนให ้สมําเสมอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 489 :
ข ้อใดต่อไปนี คือหน ้าทีของเฟสกระจายตัว (Disperse phase) ในวัสดุเชิงประกอบ
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 69/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
4 : ลดต ้นทุนการผลิต
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 490 :
ข ้อใดจัดเป็ นวัสดุเชิงประกอบ (Composites)
1 : อะลูมเิ นียม+ผงคาร์ไบด์
2 : พอลิพรอพิลน ี +พอลิเอทิลน
ี
3 : พีวซ ี ยางไนไตรล์
ี +
4 : อะลูมเิ นียม+ซิลก
ิ อน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 491 :
ข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
1 : สารเสริมแรงส่วนมากมีความเหนียวสูง
2 : การทํา PMC ช่วยเพิมความแข็งแรงให ้สูงขึน
3 : การทํา MMC ช่วยเพิมความต ้านทานต่อการเกิดครีพให ้สูงขึน
4 : การทํา CMC ช่วยเพิมความเหนียวให ้สูงขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 492 :
สารเสริมแรงชนิดใดใช ้ทําวัสดุเชิงประกอบแบบโครงสร ้าง (Structural composite)
1 : เส ้นใยแก ้วชนิดสัน
2 : วิสเกอร์ซลิ ก
ิ อนคาร์ไบด์
3 : ผงทังสเตนคาร์ไบด์
4 : แผงรังผึง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 493 :
คอนกรีตเป็ นวัสดุเชิงประกอบ (Composites) ทีมีวส
ั ดุชนิดใดเป็ นเฟสเนือพืน (Matrix)
1 : หิน
2 : ซีเมนต์
3 : ยิปซัม
4 : ทราย
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 494 :
วิสเกอร์เป็ นวัสดุเสริมแรงทีมีลก
ั ษณะเป็ นอย่างไร
1 : อนุภาคผงเม็ดกลม
2 : อนุภาครูปทรงสีเหลียม
3 : เส ้นใยผลึกเดียว
4 : เส ้นลวด
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 495 :
ข ้อใดไม่ใช่ผลของการทําวัสดุเชิงประกอบ (Composites) ทีมีโลหะเป็ นเฟสเนือพืน (Matrix)
1 : เพิมความเหนียว
2 : เพิมความต ้านทานต่อการสึกหรอ
3 : เพิมมอดุลส
ั จําเพาะ
4 : เพิมความต ้านทานต่อการเกิดครีพ (Creep)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 496 :
วัสดุเซอร์เมท (Cermet) เป็ นวัสดุเชิงประกอบ (Composite) ทีมีลก
ั ษณะเป็ นอย่างไร
เนือหาวิชา : :
ข ้อที 497 :
ความล ้า (Fatigue) หมายถึงเหตุการณ์ใด
ข ้อที 498 :
ิ
วัสดุชนหนึ ิ มารับแรงซึงก่อให ้เกิดความเค ้นเท่ากับ 200 MPa โดยเป็ นการรับแรงดึงสลับ
งมีความต ้านแรงคราก (Yield strength) เท่ากับ 300 MPa เมือนํ าวัสดุชนนี
ิ งกล่าวมีโอกาสทีจะเกิดการแตกหักประเภทใดมากทีสุด
กับการรับแรงอัด ซึงอาจทําให ้วัสดุชนดั
1 : แตกหักแบบเปราะ
2 : แตกหักแบบเหนียว
3 : ความล ้า (Fatigue)
4 : ความคืบ (Creep)
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 70/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 499 :
ข ้อใดกล่าวผิด เกียวกับการแตกหักของวัสดุ
1 : การแตกหักแบบเหนียว (Ductile fracture) จะเกิดหลังจากการเสียรูปอย่างถาวร (Plastic deformation) และการขยายรอยแตก (Crack) จะเกิดอย่างช ้าๆ
2 : การแตกหักแบบเปราะ (Brittle fracture) จะเกิดโดยไม่มก
ี ารเสียรูปอย่างถาวร (Plastic deformation) ซึงมีการขยายรอยแตก (Crack) ได ้รวดเร็ว
3 : การเกิดคอคอด (Necking) ของวัสดุจะเกิดขึนก่อนการแตกหักแบบเหนียว (Ductile fracture) และแบบเปราะ (Brittle fracture) เสมอ
ี ยว เช่น พอลิเมอร์ และเหล็กกล ้าบางชนิด จะสามารถดูดกลืนพลังงานทีใช ้ในการทําให ้วัสดุแตกหักได ้มากกว่าวัสดุทเปราะ
4 : วัสดุทเหนี ี เช่น เซรามิก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 500 :
โลหะผสมทองแดงถูกใช ้งานโดยได ้รับความเค ้นแบบวัฏจักร (Cycle stresses) ที 25 องศาเซลเซียส เมือถูกใช ้ไปนานระยะหนึงเกิดการแตกหักขึนแม ้ว่าความเค ้น
ทีได ้รับมีคา่ น ้อยกว่าค่าความต ้านแรงคราก ความเสียหายนีเป็ นการแตกหักแบบใด
ข ้อที 501 :
ความเสียหายเนืองจากการคืบ (Creep) มักเกิดขึนเมือโลหะถูกนํ าไปใช ้งานในสภาวะใด
ข ้อที 502 :
โลหะในข ้อใดต่อไปนีมีความต ้านทานการกัดกร่อน (Corrosion resistance) ในบรรยากาศปกติน ้อยทีสุด
1 : เหล็กกล ้า
2 : เหล็กหล่อ
3 : อะลูมเิ นียม
4 : ทองแดง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 503 :
โลหะในข ้อใดต่อไปนีมีความต ้านทานการกัดกร่อน (Corrosion resistance) ในบรรยากาศปกติสงู ทีสุด
ข ้อที 504 :
โลหะในข ้อใดต่อไปนีควรนํ ามาเคลือบผิวเหล็กเพือป้ องกันการเกิดสนิมและเพิมความแข็งให ้กับเหล็ก
1 : สังกะสี
2 : โครเมียม
3 : อะลูมเิ นียม
4 : ดีบก
ุ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 505 :
ุ ธิ เพราะเหตุใดเทพีเสรีภาพจึงมีสเี ขียว
เทพีเสรีภาพทํามาจากทองแดงบริสท
1 : มีการทาสีเขียวเพือป้ องกันการผุกร่อน
2 : เกิดการผุกร่อนทีผิวเกิดเป็ นทองแดงออกไซด์สเี ขียว
3 : เกิดการผุกร่อนทีผิวเกิดเป็ นทองแดงซัลเฟตสีเขียว
4 : เกิดการผุกร่อนทีผิวเกิดเป็ นทองแดงคลอไรด์สเี ขียว
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 506 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 71/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 507 :
1 : +0.740 Volts
2 : -0.740 Volts
3 : +0.066 Volts
4 : -0.066 Volts
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 508 :
ปฏิกริ ย
ิ าทีขัวแอโนดควรเป็ นอย่างไร
1:
2:
3:
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 509 :
ปฏิกริ ย
ิ าทีขัวแคโทดควรเป็ นอย่างไร
1:
2:
3:
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 510 :
สมการของการเกิดรีดอกซ์ควรเป็ นอย่างไร
1:
2:
3:
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 511 :
1 : -0.3814 Volts
2 : +0.3814 Volts
3 : -0.7628 Volts
4 : +0.7628 Volts
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 72/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 512 :
โลหะทีสัมผัสกับสารละลายนํ าไฟฟ้ าได ้แล ้วเกิดการกัดกร่อนทีพืนผิวนันเป็ นผลของการเกิดปฏิกริ ย
ิ าใด
1 : ปฏิกริ ย
ิ ารีดก ั ชัน โลหะเกิดการสูญเสียอิเลคตรอน
2 : ปฏิกริ ยิ ารีดก ั ชัน โลหะได ้รับอิเลคตรอน
3 : ปฏิกริ ย ิ าออกซิเดชัน โลหะได ้รับอิเลคตรอน
4 : ปฏิกริ ย ิ าออกซิเดชัน โลหะเกิดการสูญเสียอิเลคตรอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 513 :
วัสดุชนิดใดเมือเกิดการแตกหักจะมีลก
ั ษณะเป็ นผิวทีเรียบ
1 : พอลิเอทิลน ี
2 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา
3 : อะลูมเิ นียม
4 : เซรามิก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 514 :
ลักษณะการแตกหักของวัสดุในข ้อใดทีแสดงว่าวัสดุนันมีการแตกหักแบบเปราะ
1 : ผิวรอยแตกหักมีลก ั ษณะเรียบราบ
2 : เกิดรอยหยักของการยืดตัวเป็ นเส ้นของวัสดุบริเวณผิวแตกหัก
3 : เกิดคอคอดขึนจนเป็ นปลายแหลมก่อนแตกหัก
4 : ผิวแตกหักมีลกั ษณะเป็ นถ ้วยและโคน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 515 :
จากการทดสอบสมบัตก
ิ ารทนแรงดึง คาดว่าวัสดุนมี
ี รอยแตกหักเป็ นอย่างไร
ข ้อที 516 :
ข ้อใดเป็ นลักษณะการแตกหักแบบเปราะ
1:
2:
3:
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 517 :
ข ้อใดเป็ นลักษณะการเสือมสภาพของพอลิเมอร์เมืออยูใ่ นของเหลว
ข ้อที 518 :
ข ้อใดไม่ใช่ปัจจัยของการเสือมสภาพของพอลิเมอร์ททํ
ี าให ้สายโซ่โมเลกุลขาดจากกัน (Chain scission)
1 : ของเหลว
2 : ความร ้อน
3 : รังสียวู ี
4 : ออกซิเจน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 519 :
สภาพแวดล ้อมใดไม่สง่ ผลต่อการกัดกร่อนของเหล็กกล ้าคาร์บอนตํา
1 : นํ าเกลือ
2 : ขีผึงเหลว
3 : สารละลายกรด
4 : ความชืน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 520 :
ข ้อใดเป็ นลักษณะการแตกหักของวัสดุเซรามิก
1 : เกิดคอคอดขึนจนเป็ นปลายแหลมก่อนแตกหัก
2 : เกิดรอยหยักของการยืดตัวเป็ นเส ้นของวัสดุบริเวณผิวแตกหัก
3 : ผิวรอยแตกหักมีลก ั ษณะเรียบราบ
4 : ผิวแตกหักมีลกั ษณะเป็ นถ ้วยและโคน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 73/74
7/2/2019 สภาวิศวกร
ข ้อที 521 :
ในการทดสอบวัสดุพบว่าให ้ค่าทนแรงกระแทกตํามาก แสดงว่าวัสดุนันมีลก
ั ษณะการแตกหักแบบใด
1:
2:
3:
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 522 :
วัสดุชนิดใดมีความต ้านทานการครีพ (Creep) มากทีสุด
1:A
2:B
3:C
4:D
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 523 :
วัสดุชนิดใดมีอายุการใช ้งานมากทีสุดภายใต ้การรับแรงกระทําคงที
1:A
2:B
3:C
4:D
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 524 :
วัสดุชนิดใดมีอายุการใช ้งานมากทีสุดภายใต ้การรับแรงกระทําซําไปซํามาด ้วยความเค ้น 30 MPa
1:A
2:B
3:C
4:D
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 525 :
ถ ้าต ้องการเลือกวัสดุไปใช ้งานโดยได ้รับแรงกระทําซําไปซํามาด ้วยความเค ้น 20 MPa วัสดุชนิดใดปลอดภัยจากการแตกหักมากทีสุด
1:A
2:B
3:C
4:D
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 526 :
ปั จจัยใดไม่ใช่วธิ ก
ี ารลดการพองบวมของพอลิเมอร์ทอยู
ี ใ่ นของเหลว
1 : เพิมครอสลิงค์ในโครงสร ้างโมเลกุลพอลิเมอร์
2 : เพิมความเป็ นกิงก ้านของโครงสร ้างโมเลกุลพอลิเมอร์
3 : เพิมนํ าหนักโมเลกุลของพอลิเมอร์
4 : เพิมปริมาณผลึกในโครงสร ้างโมเลกุลพอลิเมอร์
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 527 :
ั ษณะการเสือมสภาพของไนลอนเมือถูกนํ าไปใช ้งานในสภาวะทีมีนํา
ข ้อใดไม่ใช่ลก
1 : บวมพอง
2 : การเกิดออกไซด์ทผิี ว
3 : ความแข็งแรงลดลง
4 : มีความอ่อนตัว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 528 :
ี ไปใช ้งานทีอุณหภูมต
ถ ้านํ าวัสดุพอลิพรอพิลน ิ ํากว่าอุณหภูม ิ Tg วัสดุนันจะมีลก
ั ษณะการแตกหักแบบใด
1 : เกิดคอคอดขึนจนเป็ นปลายแหลมก่อนแตกหัก
2 : เกิดรอยหยักของการยืดตัวเป็ นเส ้นของวัสดุบริเวณผิวแตกหัก
3 : ผิวรอยแตกหักมีลก ั ษณะเรียบราบ
4 : ผิวแตกหักมีลกั ษณะเป็ นถ ้วยและโคน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=33&aMajid=0 74/74