You are on page 1of 13

บทความวิจัย

ผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาที่มีต่อปริมาณน้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้าท่า


เพื่อเป็นแนวทางการจัดการทรัพยากรน้าส้าหรับการเกษตรอย่างยั่งยืน

ปิยพงษ์ ทองดีนอก*

ภาควิชาอนุรักษวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความผันแปรและเปรียบเทียบปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าในปี


เอลนีโญ ปีลานิญ่าและปีปกติ โดยการศึกษาแบบย้อนหลัง ด้าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิอากาศจากกรม
อุตุนิยมวิทยา และปริมาณน้้าท่าจากกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้้า ในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และคลองยัน ระหว่างปี
พ.ศ. 2494–2552 ด้าเนินการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่ อศึกษาความผันแปรด้วยการวิ เคราะห์แนวโน้ม และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่ อ
เปรียบเทียบปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่า ในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และลุ่มน้้าคลองยัน ระหว่างปีเอลนีโญกับปี
ปกติ และปี ลานิญ ากับปี ปกติ โดยแบ่งเป็น ช่วงรายปี ช่วงน้้าหลาก และช่วงน้้าแล้ง ด้วยสถิติการทดสอบค่า t (t-test for
Independent Samples) ที่ระดับความเชื่อมั่น 0.05 ผลการศึกษาพบว่า ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และคลองยันมีค่าเฉลี่ยปริมาณ
น้้าฝน 1,100.70, 1,320.84 และ 1,960.84 มิลลิเมตร มีค่าเฉลี่ยอุณหภูมิ 25.30, 26.81 และ 26.92 องศาเซลเซียส และมี
ค่าเฉลี่ยปริมาณน้้าท่า 493.05, 1,621 และ 11,106.50 ล้าน ลบ.ม. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และ
ปริมาณน้้าท่าในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และคลองยันในช่วงรายปี น้้าหลาก และน้้า แล้ง ระหว่างปีปกติกับปีเอลนีโญและปี
ปกติกับปีลานิญาไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ ยกเว้นช่วงน้้าหลากที่เปรียบเทียบระหว่างปีปกติกับปีลานิญา
ในลุ่มน้้าคลองยัน พบว่าปริมาณน้้าฝนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value = 0.031)

ค้าส้าคัญ : ผลกระทบของปรากฎการณ์เอลนีโญและลานีญา, ปริมาณน้้าฝน, อุณหภูมิ, ปริมาณน้้าท่า, การจัดการน้้า และ


การเกษตรอย่างยั่งยืน

*
ผู้เขียนให้ติดต่อ: E-mail : fforppt@ku.ac.th

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 1


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
The Impact of El Niño and La Niña Phenomenon on Rainfall, Temperature and
Stream Flow to Water Management Approach for Sustainable Agriculture
Piyapong Tongdeenok*
Department of Conservation, Faculty of Forestry, Kasetsart University, Bangkok, Thailand.

Abstract
The objectives of this research were to study variation and comparative analysis of rainfall,
temperature and stream flow under El Nino and La Nina phenomena. The methodologies were conducted
by a retrospective study. The source of rainfall and temperature were belong to Thai meteorological
department while stream flow measurement was belong to royal irrigation department and department of
water resources during 1951 to 2009 at difference typical watershed as Mae Taeng, Choen and Khlong Yan.
All data were to study variation by trend analysis and comparative analysis between El Niño and normal
years, La Niña and normal year among three conditions as annually, wet period and dry period by
independent samples t-test with statistical significance at the 0.05 level. The results of variation analysis
showed that the annually average of rainfall at Mae Taeng, Choen, and Khlong Yan watersheds were
1,100.70, 1,320.84 and 1,960.84 millimeters. The annual average of temperature at Mae Taeng, Choen and
Khlong Yan watersheds were 25.30, 26.81 and 26.92 degree Celsius. The yearly average of stream flow at
Mae Taeng, Choen and Khlong Yan watersheds were 493.05, 1,621 and 11,106.50 million cubic meters.
The results of com parative analysis showed that not significantly different during El Nino and La Nina
phenomena in all comparison except rainfall in during a wet period of comparison between La Niña year
and normal year in Khlong Yan watersheds had a significance difference level of 0.05 (p-value = 0.031).

Keywords : The Impact of El Niño and La Niña Phenomenon, Rainfall Amount, Air Temperature, Stream Flow,
Water Management and Sustainable Agriculture

* Corresponding author: E-mail: fforppt@ku.ac.th

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 2


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
บทน้า ไหลอยู่ เดิ ม บริ เวณเส้ น ศู น ย์ สู ต รทางมหาสมุ ท รแปซิ ฟิ ก
ตะวั น ตกและบริเวณชายฝั่ งตะวัน ตกเฉีย งเหนื อ ของทวี ป
การเปลี่ยนแปลงภูมิ อากาศ (Climate Change) อเมริกาใต้ เมื่อการอุ่นขึ้นของอุณหภูมิผิวน้้าทะเลได้แผ่ขยาย
คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเนื่องมาจาก กว้า งก็ ส่ งผลกระทบต่ อ การหมุ น เวีย นของบรรยากาศแผ่
ความผั น แปรตามธรรมชาติ ห รื อ การกระท้ า ของมนุ ษ ย์ ขยายกว้างออกไปและเป็นต้นเหตุส้าคัญท้าให้เกิดความแห้ง
เป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ปริมาณน้้าฝน แล้ งไป ทั่ วโล ก โด ยเฉ พ าะ พื้ น ที่ ใน ท วี ป อเม ริ ก าใต้
และความชื้น (Carlos and Jonathan, 2004) ซึ่งคณะกรรมการ ออสเตรเลีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะทีป่ รากฏการณ์
ระห ว่ า งรั ฐ บ าลว่ า ด้ ว ยการเป ลี่ ย นแป ลงภู มิ อ ากาศ ลานินญาจะเกิดจากการที่ กระแสน้้าเย็นเปรูไหลกลับมาใน
(Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) ทิศทางเดิม เพราะลมสินค้าตะวันออกเฉียงใต้มีก้าลังแรงขึ้น
ได้คาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกไว้ว่าในอีก ท้าให้กระแสน้้าอุ่นไหลมาทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผล
100 ปี ข้ า งหน้ า อุ ณ หภู มิ เ ฉลี่ ย ของโลกจะเพิ่ ม สู ง ขึ้ น อี ก ให้ ภ าคพื้ น เอเชีย ตะวัน ออกเฉี ยงใต้ ทวีป อเมริก าเหนื อ ฝั่ ง
ประมาณ 2.5 องศาเซลเซียส และในประเทศที่อยู่ในแถบที่ ตะวันตกมีฝนตกชุก มีพายุรุนแรงมากกว่าปกติ จนท้าให้เกิด
สูงขึ้นไปทางเหนือและทางใต้ของเส้นศูนย์สูตรอุณหภูมิจะ อุทกภัย (Ward et al., 2014)
เพิ่มขึ้นอีก 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนประเทศที่อยู่ในแถบเส้น ผลกระทบของปรากฏการณ์ ดั ง กล่ า วที่ มี ต่ อ
ศู น ย์ อุ ณ หภู มิ เ ฉลี่ ย จะเพิ่ ม ขึ้ น 0.5-1.5 องศาเซลเซี ย ส ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือ
ระดับน้้าทะเลสูงขึ้น 0.09-0.80 เมตร การกระจายของฝน เมื่อเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ปริมาณน้้าฝนในประเทศไทย
เปลี่ยนไป และภัยพิบัติจากธรรมชาติถี่และรุนแรงขึ้น (IPCC, จะมีแนวโน้ มลดลง โดยเฉพาะฤดูร้อน (มีน าคม-เมษายน)
2016) และต้นฤดูฝน (พฤษภาคม-มิถุนายน) ในขณะที่อุณหภูมิของ
การเปลี่ ย นแปลงภู มิ อ ากาศโลกดั งกล่ า วส่ งผล อากาศจะสูงกว่าปกติ ในขณะที่เมื่อเกิดปรากฏการณ์ลานิญา
กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมมนุ ษย์เป็น วงกว้าง ได้แก่ จะท้าให้เกิดผลกระทบในทางตรงกันข้ามคือ ประเทศไทยจะ
การเปลี่ ย นแปลงต่ อ ระดั บ และกระแสน้้ า ในมหาสมุ ท ร มีอุณหภูมิต่้ากว่าปกติในทุกฤดู และถ้าปรากฏการณ์ลานิญา
การเปลี่ยนแปลงของกระแสและทิศทางลม ความรุนแรงของ ที่มี ขนาดปานกลางถึ งรุน แรงจะส่ งผลให้ป ริม าณน้้าฝนใน
พายุ เขตร้ อ น การเปลี่ ย นแปลงของระบบวั ฏ จั ก รของน้้ า ประเทศไทยสูงขึ้นมากกว่าปกติ (กรมอุตุนิยมวิทยา, 2553)
การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศด้านการเปลี่ยนแปลงหรือ ผลกระทบของการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของปริมาณน้้าฝนและ
ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง การเปลี่ยนแปลงด้าน อุณหภูมิอันเนื่องจากปรากฏการณ์ดังกล่าวยังส่ งผลต่อการ
ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ รวมถึงด้านการเกษตร เศรษฐกิจ ระเหยของน้้าซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณน้้าท่ า
ด้ า นที่ อ ยู่ อ าศั ย และสุ ข อนามั ย ของประชาชนในภู มิ ภ าค (น้้าในล้าธารและแหล่งน้้า) ซึ่งปริมาณน้้าท่าเป็นปัจจัย ที่มี
ต่างๆ ทั่วโลก (Patzet et al., 2005) ความจ้ า เป็ น และส้ า คั ญ อย่ า งยิ่ ง ต่ อ การอุ ป โภค บริ โ ภค
ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ ห นึ่ งที่ เป็ น ผ ล ม า จ า ก ก า ร การด้ า รงชี วิ ต และการประกอบอาชี พ ของประชาชน
เปลี่ย นแปลงของภู มิ อากาศโลกคื อปรากฏการณ์ เอลนีโญ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีพื้นที่ที่ใช้ใน
(EL Nina) และลานีญา (La Nina) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทาง การเกษตร 150 ล้านไร่จากพื้นที่ทั้งหมด 319 ล้านไร่ (คิดเป็น
ธรรมชาติ ข องภาคพื้ น สมุ ท รที่ มี ค วามสั ม พั น ธ์ กั บ สภาพ ร้อยละ 47 ของพื้นที่ทั้งหมด) มีการปลูกพืชเกือบร้อยละ 70
ภูมิอากาศ โดยเฉพาะอุณ หภูมิและปริมาณน้้าฝน โดยเกิด ของพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ได้ โดยร้อยละ 50 เป็นการปลูกข้าว
ขึ้น มาจากการเปลี่ยนแปลงของชั้น บรรยากาศโลกบริเวณ รองลงมาคื อ อ้ อ ย มั น ส้ า ปะหลั ง ข้ า วโพดและยางพารา
เส้น ศู น ย์สู ต รเหนื อ มหาสมุ ท รแปซิ ฟิ ก มี ผ ลท้ าให้ เกิ ดการ (ส้ า นั ก เศรษฐกิ จ การเกษตร, 2558) ผลกระทบจาก
เพิ่ มขึ้น และเย็นลงของอุณ หภูมิ ผิวน้้าทะเลตอนกลางและ ปรากฏการณ์ เ อลนี โ ญและลานี ญ าจึ ง ส่ ง ผลกระทบต่ อ
ด้ า นตะวั น ออกของมห าสมุ ท รแปซิ ฟิ ก เขตร้ อ น ซึ่ ง กิจกรรมทางการเกษตรโดยตรง เช่น พื้นดินขาดความชุ่มชื้น
ปรากฏการณ์เอลนินโญเกิดจากการไหลย้อนกลับของผิวน้้า พืชขาดน้้า พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพ
ทะเลที่อุ่น ในช่วงเวลาช่วงหนึ่งๆ จากบริเวณเส้นศูนย์ สูตร ต่้า ส่วนผลกระทบต่อทรัพยากรป่าไม้ พบว่าในพื้นที่ป่าไม้มี
ทางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ไปแทนที่กระแสน้้าเย็นที่ ค่าการคายระเหยน้้าสูงในช่วงปีลานีญาน้อยในช่วงปีเอลนีโญ

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 3


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
และสถิติการเกิดไฟป่า พบว่าสูงถึงสูงมากในปีที่เป็นเอลนีโญ วิธีด้าเนินการวิจัย
รุนแรง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจโดยรวม
ของประเทศ เช่น ผลผลิตทางการเกษตรคุณภาพต่้า ท้าให้ 1. แนวทางการศึกษา และการเลือกพืนที่ศึกษา
ราคาผลผลิตลดลง เกิดความยากจนและเกิดการสูญเสียจาก การศึ ก ษาครั้ ง นี้ เ ป็ น การวิ จั ย เชิ ง ส้ า รวจ โดย
การทิ้งร้างที่ดินและส่งผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ท้าให้ ท้ าการศึ ก ษาแบบย้ อ นหลั ง (Retrospective Study) โดย
การเกิ ด ภั ย แล้ ง อย่ า งต่ อ เนื่ อ งท้ า ให้ เ กิ ด ผลกระทบต่ อ ท้ า การศึ ก ษาปริ ม าณน้้ า ฝน อุ ณ หภู มิ และปริ ม าณน้้ า ท่ า
สิ่ งแวดล้ อ มและทรัพ ยากรธรรมชาติ ท้ าให้ แ หล่ งน้้ า ตาม ในช่ ว งระหว่ า งปี พ.ศ. 2494-2552 ในพื้ น ที่ ลุ่ ม น้้ า ที่ เ ป็ น
ธรรมชาติตื้ นเขิน ระดับ น้้าใต้ดิน เปลี่ ยนแปลง พื้ นที่ ที่เคย ตัวแทนของลุ่มน้้าในแต่ละภาคของประเทศไทยคือ ลุ่มน้้าแม่
อุดมสมบูรณ์เกิดความแห้งแล้ง เกิดการกัดเซาะของหน้าดิน แตง ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเชียงใหม่เป็นตัวแทนของภาคเหนือ
และการทิ้งร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์ของที่ดิน ลุ่ ม น้้ า เชิ ญ ตั้ งอยู่ ในเขตจั งหวั ด เพชรบู รณ์ ขอนแก่ น และ
จากผลกระทบของปรากฏการณ์ เอลนี โญและ ชัยภูมิเป็นตัวแทนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และลุ่มน้้า
ลานีญาที่มีต่อการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของปริมาณน้้าฝนและ คลองยั น เป็ น ตั้ ง อยู่ ในจั ง หวั ด ระนอง และสุ ร าษฎร์ ธ านี
อุณหภูมิและความส้าคัญของปริมาณน้้าท่าที่มีความจ้าเป็น ตั วแ ท น ข องภ าค ใต้ (ส้ านั กงาน น โย บ าย แ ล ะ แ ผ น
อย่างยิ่งต่อ การประกอบอาชี พ เกษตรกรรม ท้ าให้มี ค วาม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2548) (ภาพที่ 1)
จ้าเป็นที่ต้องท้าการศึกษาผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนี
โญและลานีญาที่มีต่อปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณ 2. การเก็บรวบรวมข้อมูล
น้้าท่า เพื่อการจัดการน้้าส้าหรับการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยมี การศึกษาในครั้งนี้ ได้ก้าหนดและรวบรวมข้อมูล
วัตถุประสงค์คือ ส้าหรับใช้ในการศึกษา ดังนี้
1. เพื่ อ ศึ ก ษาความผั น แปรของปริ ม าณน้้ า ฝน 2.1 แผนที่ ขอบเขตพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และ
อุณหภูมิและปริมาณน้้าท่าในปีเอลนีโญ ปีลานิญาและปีปกติ คลองยัน
2. เพื่อเปรียบเทียบปริมาณน้้าท่ากับปริมาณน้้าฝน 2.2 แผนที่ตั้งสถานีตรวจวัดอากาศ ปริมาณน้้าฝน
และอุณหภูมิในปีเอลนีโญ ปีลานิญา และปีปกติ อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่า
ทั้ งนี้ เพื่ อ เป็ น แนวทางในการเตรี ย มความพร้อ ม 2.3 การเก็บรวบรวมข้อมูลปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ
ส้ า ห รั บ การจั ด การน้้ าให้ มี ค วาม เห ม าะส ม ต่ อการ และปริมาณน้้าท่า จากสถานีตรวจวัด ในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง
เปลี่ ย นแปลงปริม าณน้้ าท่ าและลดความสูญ เสี ย ที่ เกิ ด ขึ้ น เชิญ และคลองยัน ดังแสดงในตารางที่ 1 โดยมีแหล่งข้อมูล
เนื่ อ งจากปรากฏการณ์ เอลนี โญและลานี ญ า รวมถึ งการ ดังนี้
จัดท้าแผนหรือพัฒ นาระบบการจัดการน้้าของภาคเกษตร 2.3.1 ข้อมูลปริมาณน้้าฝนและอุณหภูมิรายเดือน
อย่ างยั่งยื น อัน จะน้ าไปสู่ก ารการแก้ไขปั ญ หาภั ยแล้งและ จากกรมอุตุนิยมวิทยาระหว่างปี พ.ศ. 2494-2552
ปัญ หาอุท กภัย ในภาคการเกษตรตลอดรวมถึง การบริห าร 2.3.2 ข้ อ มู ล ปริ ม าณน้้ า ท่ า รายเดื อ นจากกรม
จัดการน้้าเพื่ อการอุปโภค บริโภคส้าหรับการด้ารงชีวิต ใน ชลประทานและกรมทรัพยากรน้้า ระหว่างปี พ.ศ. 2494-
ประเทศไทยต่อไป 2552
2.4 ข้ อ มู ล สถิ ติ ปี ก ารเกิ ด ปรากฏการณ์ เอลนี โญ
และลานิญาที่ผ่านมาในประเทศไทย จากกรมอุตุนิยมวิทยา

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 4


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
(ก) (ข)

(ค)

ภาพที่ 1 พื้นที่ศึกษา (ก) ลุ่มน้้าแม่แตง อ้าเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ (ข) ลุ่มน้้าเชิญ อ้าเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ และ
(ค) ลุ่มน้้าคลองยัน อ้าเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ตารางที่ 1 จ้านวนสถานีวัดปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าในลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และคลองยัน


ชนิดข้อมูล ลุ่มน้้าแม่แตง (สถานี) ลุ่มน้้าเชิญ (สถานี) ลุ่มน้้าคลองยัน (สถานี)
ปริมาณน้้าฝน 14 15 15
อุณหภูมิ 6 6 6
ปริมาณน้้าท่า 1 1 1
ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา (2553) กรมชลประทาน (2553) และกรมทรัพยากรน้้า (2553)

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 5


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
3. การวิเคราะห์ข้อมูล ทั้ ง 3 ลุ่ ม น้้ า แล้ ว น้ า ข้ อ มู ล มาสร้ า งกราฟปริ ม าณน้้ า ฝน
การศึกษาในครั้งได้จัดเตรียมข้อมูลและด้าเนินการ อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าเฉลี่ยจ้าแนกตามปีเอลนีโญ ปีลา
วิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ นิญา และปีปกติ ในแต่ละสถานีตรวจวัด โดยแยกปีที่มีความ
3.1 จั ด เรี ย งข้ อ มู ล ปริ ม าณน้้ า ฝนอุ ณ หภู มิ แ ละ ผันผวนของลักษณะภูมิอากาศอย่างรุนแรง แบ่งเป็น ช่วงน้้า
ปริมาณน้้าท่ารายเดือนจากสถานีวัดทั้ งในพื้นที่ลุ่มน้้าและ หลาก (เมษายน-ตุ ล าคม) และช่ ว งแล้ งน้้ า (พฤศจิ ก ายน-
พื้นที่ใกล้เคียงทั้ง 3 ลุ่มน้้า ซึ่งแต่ละสถานีเรียงล้าดับข้อมูล มีนาคม)
ปริมาณน้้าฝนรายเดือนจากปี พ.ศ. 2494–2552 ตามล้าดับ 3.4 วิ เ คราะห์ ค วามแตกต่ า งของข้ อ มู ล เพื่ อ
3.2 การจ้ า แนกช่ ว งเวลาที่ มี ก ารเปลี่ ย นแปลง เปรียบเทียบปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าของ
สภาพภูมิอากาศดังแสดงรายละเอียดในตารางที่ 2 ลุ่ม น้้าแม่แ ตง เชิญ และคลองยั น ในปี เอลนี โญ ปี ลานิ ญ า
3.3 วิ เ คราะห์ ค วามความผั น แปรของปริ ม าณ และปี ป กติ โดยใช้โปรมแกรมส้าเร็จรูป Statistical Package
น้้าฝน อุณหภูมิและปริมาณน้้าท่าจ้าแนกตามปีเอลนีโญปีลา for Social Science (SPSS FOR WINDOWS) ด้ าเนิ น การ
นิ ญ าและปี ป กติ ของทั้ ง 3 ลุ่ ม น้้ า โดยท้ าการวิ เคราะห์ ห า วิ เ คราะห์ ข้ อ มู ล ด้ ว ยสถิ ติ ก ารทดสอบค่ า t (t-test for
ค่าเฉลี่ยปริมาณน้้าฝนด้วยวิธี Theissen Method ค่าเฉลี่ย Independent Samples) ที่ ระดั บ ความเชื่ อ มั่ น 0.05 โดย
ของอุณหภูมิด้วยวิธี Isohyetal method และค่าเฉลี่ยของ ด้าเนินการวิเคราะห์เปรียบเทียบรายคู่ดังตารางที่ 3
ปริมาณน้้าท่าโดยใช้ข้อมูลปริมาณน้้าท่า ณ จุดตรวจวัด ของ

ตารางที่ 2 สถิติการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญและลานิญาขนาดรุนแรงในประเทศไทย
ปรากฏการณ์ พ.ศ.
พ.ศ. 2500 – 2502 พ.ศ. 2515 – 2516 พ.ศ. 2525 – 2526
เอลนีโญ (EL Nina)
พ.ศ. 2533 – 2536 พ.ศ. 2540 – 2541
พ.ศ. 2497 – 2499 พ.ศ. 2516 – 2519 พ.ศ. 2531 – 2532
ลานิญา (La Nina)
พ.ศ. 2541 – 2542
หมายเหตุ : ปีปกติคือปีที่ไม่มีปรากฏการณ์เอลนีโญและลานิญา
ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา (2553)

ตารางที่ 3 ลักษณะการเปรียบเทียบปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่า


ลักษณะการเปรียบเทียบ เปรียบเทียบระหว่างชนิดปี
เปรียบเทียบรายปี ปีปกติ กับ ปีเอลนีโญ ปีปกติ กับ ปีลานิญา
เปรียบเทียบช่วงน้้าหลาก ปีปกติ กับ ปีเอลนีโญ ปีปกติ กับ ปีลานิญา
เปรียบเทียบช่วงน้้าแล้ง ปีปกติ กับ ปีเอลนีโญ ปีปกติ กับ ปีลานิญา

ผลการศึกษาและอภิปรายผล น้้าท่ารายเดือนของลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และลุ่มน้้าคลองยั น


ในช่ ว งระหว่ า งปี พ.ศ. 2494-2552 สามารถสรุ ป ได้ ดั ง นี้
1. ผลการศึกษา (ตารางที่ 4 และภาพที่ 2)
1.1 ข้อ มู ล ปริม าณน้้ าฝน อุณ หภู มิ และปริม าณ 1.1.1 ลุ่ ม น้้ าแม่ แต ง มี ป ริ ม าณ น้้ าฝ นสู ง สุ ด
น้้าท่ารายเดือนของลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และลุ่มน้้าคลองยัน 2,352.22 มม. ต่้าสุด 111.21 มม. มีค่าเฉลี่ย 1,100.70 มม.
จากการรวบรวมข้อมูลปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณ อุ ณ หภู มิ สู งสุ ด 28.16 (๐ C) ต่้ า สุ ด 20.90 (๐ C) มี ค่ า เฉลี่ ย

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 6


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
25.30 (๐C) และปริมาณน้้าท่าสูงสุด 1,423.57 ล้าน ลบ.ม. 1.1.3 ลุ่มน้้าคลองยันมีปริมาณน้้าฝนสูงสุด 3,219
ต่้าสุด 48.37 ล้าน ลบ.ม. มีค่าเฉลี่ย 493.05 ล้าน ลบ.ม. มม. ต่้าสุด 365.52 มม. มีค่าเฉลี่ย 1,960.84 มม. อุณหภูมิ
1.1.2 ลุ่มน้้าเชิญ มีปริมาณน้้าฝนสูงสุด 3,952.54 สูงสุด 28.74 (๐C) ต่้าสุด 25.39 (๐C) มีค่าเฉลี่ย 26.92 (๐C)
มม. ต่้ าสุด 53.04 มม. มีค่ าเฉลี่ ย 1,320.84 มม. อุ ณ หภู มิ และปริ ม าณน้้ า ท่ า สู ง สุ ด 15,703.90 ล้ า น ลบ.ม. ต่้ า สุ ด
สูงสุด 29.72 (๐C) ต่้าสุด 22.70 (๐C) มีค่าเฉลี่ย 26.81 (๐C) 6,850.30 ล้าน ลบ.ม. มีค่าเฉลี่ย 11,106.50 ล้าน ลบ.ม.
และปริ ม าณน้้ า ท่ า สู งสุ ด 4,862 ล้ า น ลบ.ม. ต่้ า สุ ด 99.7
ล้าน ลบ.ม. มีค่าเฉลี่ย 1,621 ล้าน ลบ.ม.

ตารางที่ 4 ข้อมูล ปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าของลุม่ น้้าแม่แตง เชิญ และลุม่ น้้าคลองยัน (ปี พ.ศ. 2549-2552)
ชนิดข้อมูล ลุ่มน้้าแม่แตง ลุ่มน้้าเชิญ ลุ่มน้้าคลองยัน
สูงสุด 2,352.22 3,952.54 3,219
ปริมาณน้้าฝน
ต่้าสุด 111.21 53.04 365.52
(มม.)
เฉลี่ย 1,100.70 1,320.84 1,960.84
สูงสุด 28.16 29.72 28.74
อุณหภูมิ
ต่้าสุด 20.90 22.70 25.39
(๐C)
เฉลี่ย 25.30 26.81 26.92
สูงสุด 1,423.57 4,862 15,703.90
ปริมาณน้้าท่า
ต่้าสุด 48.37 99.7 6,850.30
(ล้าน ลบ.ม.)
เฉลี่ย 493.05 1,621 11,106.50

1.2 ความผันแปรของปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และ ผลความผั น แป รของป ริ ม าณ น้้ า ท่ า พ บ ว่ า


ปริมาณน้้าท่าในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และลุ่มน้้าคลองยัน เส้ นกราฟปีเอลนีโญ เส้ น กราฟปีล านิ ญ า และเส้น กราฟปี
การวิ เคราะห์ ค วามผั น แปรของปริ ม าณน้้ า ฝน ปกติ มีรูปแบบตามปรากฏการณ์เอลนีโญ และปีลานิญา คือ
อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และ เส้นกราฟปีเอลนีโญ จะอยู่ต่้าสุด ส่วนเส้นกราฟปีลานิญา จะ
ลุ่มน้้าคลองยัน ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2494-2552 จ้าแนก อยู่สูงสุด
ตามปีเอลนีโญ ปีลานิญา และปีปกติ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 1.2.2 ลุ่มน้้าเชิญ
สรุปได้ดังนี้ ผลการวิเคราะห์ความผันแปรของปริมาณน้้าฝน
1.2.1 ลุ่มน้้าแม่แตง พบว่า ความผันแปรของกราฟปริมาณน้้าฝนทั้งสามเส้นคือ
ผลการวิเคราะห์ความผันแปรของปริมาณน้้าฝน เส้นกราฟปีเอลนีโญ เส้นกราฟปีลานิญา และเส้นกราฟปีปกติ
พบว่า ความผันแปรของกราฟปริมาณน้้าฝนทั้งสามเส้นคือ มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน คือ มีจุดสูงสุดอยู่ในช่วงน้้า
เส้ นกราฟปีเอลนีโญ เส้ นกราฟปีล านิ ญ า และเส้น กราฟปี หลากระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน เส้น กราฟปี
ปกติ มี แ นวโน้ ม ไปในทิ ศ ทางเดี ย วกั น คื อ มี จุ ด สู งสุ ด อยู่ ปกติ มีค่าสูงกว่าเส้นกราฟปีเอลนีโญและเส้นกราฟปีลานิญา
ในช่วงน้้าหลากระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนเป็น ผลการวิเคราะห์ความผันแปรของอุณหภูมิพบว่า
ส่วนใหญ่ เส้น กราฟปี เอลนี โญจะอยู่ต่้ากว่าเส้นกราฟปีล า รูปแบบของเส้นกราฟปีเอลนีโญ เส้นกราฟปีลานิญ า และ
นิญาและเส้นกราฟปีปกติ เส้น กราฟปี ปกติ มี รูปแบบเดียวกัน มีจุด ต่้าสุ ดในฤดูหนาว
ผลความผันแปรของอุณหภูมิ พบว่า รูปแบบของ และจุดสูงสุดในฤดูร้อน
เส้ นกราฟปีเอลนีโญ เส้ นกราฟปีล านิ ญ า และเส้น กราฟปี ผลการวิเคราะห์ความผันแปรของปริมาณน้้ าท่ า
ปกติ มีรูปแบบเดียวกันมีจุดต่้าสุดในฤดูหนาวระหว่างเดือน พบว่ า เส้ น กราฟปี เ อลนี โ ญ เส้ น กราฟปี ล านิ ญ า และ
ธันวาคมถึงเดือนมกราคม เส้นกราฟปีปกติ มีรูปแบบของกราฟตามปรากฏการณ์เอลนีโญ
และลานิ ญ าคื อ เส้ น กราฟปี เ อลนี โ ญ จะอยู่ ต่้ า สุ ด ส่ ว น
ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 7
Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
4,500

ปริ มาณน ้าฝน (มิลลิเมตร)


4,000
3,500
3,000
2,500
2,000
1,500
1,000
500
0

สูงสุด ต่าสุด เฉลี่ย

(ก.)
35
30
อุณหภูมิ (๐C)

25
20
15
10
5
0

สูงสุด ต่าสุด เฉลีย่


(ข.)
20,000
ปริ มาณน ้าท่า (ล้ าน ลูกบาศก์

15,000
10,000
เวนติเมตร)

5,000
0

สูงสุด ต่าสุด เฉลี่ย

(ค.)

ภาพที่ 2 ปริมาณน้้าฝนสูงสุด ต่้าสุด และเฉลี่ย (ภาพ ก.) อุณหภูมนิ ้าฝนสูงสุด ต่้าสุด และเฉลี่ย (ภาพ ข.) ปริมาณน้้าท่าสูงสุดต่้าสุด
และเฉลี่ย (ภาพ ค.) ของลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และลุ่มน้้าคลองยัน

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 8


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
เส้นกราฟปีลานิญา จะอยู่สูงสุดกราฟทั้งสามเส้น ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบของอุณหภูมิในลุ่มน้้า
จะมีค่าสูงสุดในช่วงน้้าหลาก คือ เดือนกันยายนถึงตุลาคม แม่แตง พบว่า อุณหภูมิของลุ่มน้้าแม่แตงช่วงรายปี ช่วงน้้า
1.2.3 ลุ่มน้้าคลองยัน หลากและช่ ว งน้้ า แล้ ง ระหว่ า งปี ป กติ กั บ ปี เอลนี โญและ
ผลการวิเคราะห์ความผันแปรของปริมาณน้้าฝน ระหว่า งปี ป กติ กั บ ปี ล านิ ญ าไม่ มี ค วามแตกต่ างกั น อย่ างมี
พบว่า ความผันแปรของกราฟปริมาณน้้าฝนทั้งสามเส้นคือ นั ย ส้ า คั ญ ทางสถิ ติ ที่ ระดั บ 0.05 ทั้ งนี้ อ าจเนื่ อ งจากความ
เส้ นกราฟปีเอลนีโญ เส้ นกราฟปีล านิ ญ า และเส้น กราฟปี แตกต่างของอุณหภูมิขึ้นอยู่กับการได้รับแสงจากดวงอาทิตย์
ปกติ มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน คือมีปริมาณฝนสูงสุด เป็ น หลั ก ประกอบกั บ ลุ่ ม น้้ า แม่ แ ตงตั้ งอยู่ บ นภู เ ขาทาง
ในช่วงฤดูฝนของภาคใต้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม ภาคเหนื อ มี อ ากาศเย็ น สบายจึ งท้ า ให้ อุ ณ หภู มิ ในแต่ ล ะ
โดยรูปแบบของเส้นกราฟส่วนใหญ่เป็นไปตามปรากฏการณ์ ฤดูกาลไม่มีความแตกต่างกัน
เอลนีโญ และปี ลานิญ า คือ เส้ นกราฟปีลานิ ญ า จะสูงกว่า ผลการวิ เคราะห์ เปรียบเที ย บของปริมาณน้้ าท่ า
เส้นกราฟปีเอนโซ่ ของลุ่มน้้าแม่แตง พบว่า ปริมาณน้้าท่าของลุ่มน้้าแม่แตงช่วง
ผลการวิเคราะห์ความผันแปรของอุณหภูมิ พบว่า รายปี ช่ วงน้้ าหลาก และช่ วงน้้ าแล้ ง ระหว่ างปี ป กติ กั บ ปี
ความผันแปรของอุณ หภูมิไปในทิศทางเดียวกันมีจุดต่้าสุด เอลนีโญ และระหว่างปีปกติกับปีลานิญาไม่มีความแตกต่าง
ในช่วงเดือนธันวาคมและสูงสุดในเดือนเมษายน เส้นกราฟปี กันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 อาจเนื่องมาจาก
ลานิญา ส่วนใหญ่มีค่ามากกว่าเส้นกราฟปีเอลนีโญ ลุ่มน้้าแม่แตงปกคลุมด้วยป่าดิบเขาและอยู่ในชั้นคุณภาพลุ่ม
ผลการวิเคราะห์ความผันแปรของปริมาณน้้ าท่ า น้้ า ที่ 1A ถึ ง 95 เปอร์ เซ็ น ต์ ท้ า ให้ ร ะบบการระบายน้้ า สู่
พบว่ า เส้ น กราฟปี เ อลนี โ ญ เส้ น กราฟปี ล านิ ญ า และ ล้าธารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพถูกต้องตามฤดูกาลจึงท้าให้
เส้นกราฟปีปกติ มีรูปแบบของกราฟตามปรากฏการณ์ เอลนี ปริมาณน้้าท่าในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตงไม่มีความแตกต่างกัน
โญและลานิญา โดยรูปแบบของกราฟทั้งสามเส้นมีฐานกราฟ 1.3.2 ลุ่มน้้าเชิญ
ที่ ก ว้ า ง กราฟจะมี ค่ า ต่้ า ในช่ ว งเดื อ นมกราคมถึ ง เดื อ น ผลการวิเคราะห์ เปรียบเทีย บของปริม าณน้้าฝน
เมษายนเท่านั้น ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากลุ่มน้้าคลองยันตั้งอยู่ ของลุ่มน้้าแม่เชิญ พบว่า ปริมาณน้้าฝนของลุ่มน้้าเชิญช่วง
ทางภาคใต้ ในเขตจั งหวัด สุ ราษฎร์ธ านี และจังหวัด ระนอง รายปี ช่ วงน้้ าหลาก และช่ วงน้้ าแล้ ง ระหว่ างปี ป กติ กั บ ปี
โดยปกติเป็นพื้นที่ที่มีฝนตกชุกอยู่แล้วย่อมซึ่งส่งผลโดยตรง เอลนีโญ และระหว่างปีปกติกับปีลานิญาไม่มีความแตกต่าง
ให้ปริมาณน้้าท่ามากเช่นกัน กัน อาจเนื่องมาจากการตกของฝนนั้นขึ้นอยู่กับการเคลื่อน
1.3 การเปรียบเทียบปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และ ตัวของของลมระดับภูมิภาคที่มีก้าลังในการพัดเมฆฝนไปตก
ปริมาณน้้าท่าในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และลุ่มน้้าคลองยัน ในพื้นที่ต่างๆ ประกอบกับพื้นที่ลุ่มน้้าเชิญห่างไกลจากทะเล
ผลการวิ เ คราะห์ เ ปรี ย บเที ย บปริ ม าณน้้ า ฝน ท้ า ให้ ก้ า ลั ง ของลมมี ค วามอ่ อ นหรื อ แรงแตกต่ า งกั น ไป
อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่า ในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และ ประกอบกับบางครั้งมีพายุดีเปรสชั่นพัดเข้ามาจากทะเลจีน
ลุ่ม น้้ าคลองยั น ในช่ วงรายปี น้้ าหลาก (เมษายน-ตุ ล าคม) ใต้ท้าให้มีฝนตกหนักในช่วงฤดูฝน
และน้้าแล้ง (พฤศจิกายน-มีนาคม) ระหว่างปีปกติกับปีเอลนี ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบของอุณหภูมิในลุ่มน้้า
โญ และปีปกติกับปีลานิญา (ตารางที่ 5) เชิญ พบว่า อุณหภูมิของลุ่มน้้าเชิญ ช่วงรายปี ช่วงน้้าหลาก
1.3.1 ลุ่มน้้าแม่แตง และช่วงน้้าแล้ง ระหว่างปีปกติกับปีเอลนีโญ และระหว่างปี
ผลการวิเคราะห์ เปรียบเทีย บของปริม าณน้้าฝน ปกติกับปีลานิญาไม่มีความแตกต่างกัน การที่อุณหภูมิในลุ่ม
ของลุ่มน้้าแม่แตง พบว่า ปริมาณน้้าฝนของลุ่มน้้าแม่แตงช่วง น้้าเชิญไม่มีความแตกต่างเนื่องมาจากลุ่มน้้าเชิญมีลักษณะ
รายปี ช่ วงน้้ าหลาก และช่ วงน้้ าแล้ ง ระหว่ างปี ป กติ กั บ ปี ภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าซาวานาในเขตร้อน มีการตกของฝน
เอลนีโญ และระหว่างปีปกติกับปีลานิญาไม่มีความแตกต่าง น้อยจึงท้าให้พื้นที่ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ยาวนานในทุก
กันอาจเนื่องมาจากพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตงตั้งอยู่ทางภาคเหนือ ฤดูกาลอุณหภูมิจึงไม่มีความแตกต่างกัน
ซึ่งห่างจากทะเลท้าให้ได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ลานิญา ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบของปริมาณน้้าท่าใน
น้อย ท้าให้การตกของฝนไม่แตกต่างไปจากแต่ละฤดูกาลใน ลุ่มน้้าเชิญ พบว่า ปริมาณน้้าท่าของลุ่มน้้าเชิญช่วงรายปี ช่วง
ภาวะปกติ น้้าหลาก และช่วงน้้าแล้ง ระหว่างปีปกติกับปีเอลนีโญ และ

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 9


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
ระหว่า งปี ป กติ กั บ ปี ล านิ ญ าไม่ มี ค วามแตกต่ างกั น อย่ างมี ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบของอุณหภูมิในลุ่มน้้า
นัยส้าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 อาจเนื่องมาจากพื้นที่ตั้งอยู่ คลองยัน พบว่าอุณหภูมิของลุ่มน้้าคลองยันช่วงรายปี ช่วงน้้า
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความห่างไกลจากทะเลท้าให้ หลาก และช่ว งน้้ าแล้ ง ระหว่างปี ป กติ กับ ปี เอลนี โญ และ
ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีฝนตกหนักอยู่ ระหว่างปีปกติกับปีลานิญาไม่มีความแตกต่างกัน
เพี ย งแค่ เดื อ นสิ งหาคมถึ งกั น ยายน ซึ่ งส่ งผลโดยตรงต่ อ ผลการวิเคราะห์ เปรีย บเที ย บของปริ ม าณน้้ าท่ า
ปริมาณน้้าท่า เมื่อผ่านช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ลุ่มน้้าเชิญ ของลุ่มน้้าคลองยัน พบว่า ปริมาณน้้าท่าของลุ่มน้้าคลองยัน
ก็จะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่เดือน ช่วงรายปี ช่วงน้้าหลาก และช่วงน้้าแล้ง ระหว่างปีปกติกับปี
พฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งจะท้าให้พื้นที่เข้าสู่ภาวะ เอลนีโญ และระหว่างปีปกติกับปีลานิญ าไม่มีความแตกต่าง
แห้ งแล้ ง และต่ อ ด้ ว ยฤดู ร้อ นตั้ งแต่ เดื อ นมี น าคมถึ งเดื อ น กัน
พฤษภาคมยิ่งเพิ่มความแห้งแล้งตามมาอีก ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากพื้นที่ลุ่มน้้าคลองยันตั้งอยู่ใน
1.3.3 ลุ่มน้้าคลองยัน พื้นที่ภาคใต้ปกคลุมด้วยป่าดงดิบ ที่มีทะเลขนาบทั้งสองข้าง
ผลการวิเคราะห์ เปรียบเทีย บของปริม าณน้้า ฝน และได้รับลมมรสุมทั้งสองด้าน ท้าให้การตกของฝนนั้นชุก
ของลุ่มน้้าคลองยัน พบว่า ปริมาณน้้าฝนของลุ่มน้้าคลองยัน กว่าทุกภาค ประกอบกับมีเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูฝน กับฤดูร้อน
ระหว่างปีปกติกับปีเอลนีโญช่วงรายปี ช่วงน้้าหลาก และช่วง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีฝนสลับกับแดดเกือบตลอดทั้งปี
น้้าแล้ง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ ส่วน
ปริมาณน้้าฝนของลุ่มน้้าคลองยันระหว่างปีปกติกับปีลานิญา 2. อภิปรายผล
ช่ ว งรายปี และช่ ว งน้้ า แล้ ง ไม่ มี ค วามแตกต่ า งกั น อย่ า งมี จากผลการศึ ก ษาความผั น แปรปริ ม าณ ฝน
นัย ส้าคั ญ ทางสถิ ติ แต่ช่วงน้้าหลากพบว่าปริม าณน้้ าฝนมี อุณ หภูมิ และปริมาณน้้ าท่ าที่พ บว่า ปริมาณฝน อุณ หภู มิ
ความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-
= 0.031)

ตารางที่ 5 ผลวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าของลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และลุ่มน้้า


คลองยันจ้าแนกตามรายปี ช่วงน้้าหลากและช่วงแล้งน้้า ระหว่างปีปกติกับปีเอลนีโญ และระหว่างปีปกติกับปีลานิญา
เปรียบเทียบระหว่างชนิดปี (p-value)
ช่วงเวลา ปีปกติ กับ ปีเอลนีโญ ปีปกติ กับ ปีลานิญา
ปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ ปริมาณน้้าท่า ปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ ปริมาณน้้าท่า
ลุ่มน้้าแม่แตง
รายปี 0.571 0.961 0.362 0.565 0.893 1.717
ช่วงน้้าหลาก 0.438 0.735 0.262 0.533 0.947 0.559
ช่วงน้้าแล้ง 0.590 0.905 0.809 0.162 0.893 0.719
ลุ่มน้้าเชิญ
รายปี 0.717 0.720 0.895 0.811 0.863 0.620
ช่วงน้้าหลาก 0.728 0.655 0.903 0.760 0.872 0.531
ช่วงน้้าแล้ง 0.627 0.876 0.117 0.914 0.913 0.797
ลุ่มน้้าคลองยัน
รายปี 0.856 0.449 0.548 0.291 0.489 0.448
ช่วงน้้าหลาก 0.848 0.539 0.565 0.031* 0.308 0.305
ช่วงน้้าแล้ง 0.603 0.657 0.925 0.405 0.840 0.875
หมายเหตุ: * นัยส้าคัญทางสถิติที่ 0.05

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 10


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
และปริมาณน้้าท่าของลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และคลองยันส่วน ยั งส อ ด ค ล้ อ งกั บ ก า ร ศึ ก ษ า ข อ ง Fu et al. (2007)
ใหญ่ผันแปรไปตามปรากฏการณ์เอลนีโญและลานิญา พบว่า ท้าการศึกษาถึงตัวแปรด้านภูมิอากาศที่มีต่อปริมาณน้้าท่าใน
ผลการศึ ก ษาที่ ไ ด้ ส อดคล้ อ งกั บ การศึ ก ษาถึ งปริ ม าณฝน แม่ น้ าเหลือ งของประเทศจีน ผลการศึ กษาพบว่าปริม าณ
อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าที่สัมพันธ์กับ ปรากฏการณ์ เอล น้้ า ฝนจะมี ม ากขึ้ น ในช่ ว งของปี ล านิ น ญา ซึ่ งจะส่ งผลให้
นิ โญและลานิ น ญาอื่ น ดั งเช่ น การศึ ก ษาของ Molles and ป ริ ม าณ น้้ าท่ าเพิ่ ม ขึ้ น ด้ วย แ ล ะจากการวิ เ ค ราะ ห์
Dahm (1990) ที่ ท้ า การศึ ก ษาถึ ง ปริ ม าณน้้ า ท่ า ในแม่ น้ า ความสัมพันธ์ของตัวแปรด้านภูมิอากาศและปริมาณน้้าท่า
Gila และ Pecos ในรั ฐ นิ ว เม็ ก ซิ โ กโดยการเก็ บ รวบรวม ด้วย ArcGIS Geostatistical Analyst พบว่าปริมาณน้้าท่า
ข้อมูลย้อนหลัง 60 ปี พบว่าปริมาณน้้าในแม่น้าทั้งสองที่เกิด มีความสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณน้้าฝนและอุณหภูมิ
จากการหลอมละลายของหิ ม ะเพิ่ ม ขึ้ น เพิ่ ม ขึ้ น อย่ า งมี ส้าหรับผลการวิเคราะห์เพื่อเปรียบเทียบปริมาณ
นัยส้าคัญในช่วงปีเอลนิโญ และลดลงอย่างมีนัยส้าคัญในช่วง น้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าที่ พบว่าโดยส่วนใหญ่ไม่มี
ปีลานีญา ซึ่งผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ปรากฏการณ์เอล ความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ ซึ่งเป็นสิ่งบ่งบอก
นิ โญและลานิ น ญามี ค วามสั ม พั น ธ์ กั บ ปริม าณน้้ า ท่ าในรั ฐ ได้ว่าปรากฏการณ์ เอลนิ น โญและลานิ ญ ามี ผ ลกระทบต่ อ
นิ วเม็ ก ซิ โกแ ล ะ การศึ กษ าขอ ง Clark, Serreze and ปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าในประเทศไทยใน
McCabe (2001) ที่ ได้ ท้ า ก า ร ศึ ก ษ าผ ล ก ร ะ ท บ ข อ ง ระดับน้อย ยกเว้นช่วงน้้าหลากที่เปรียบเทียบระหว่างปีปกติ
ป ราก ฎ การณ์ เอ ล นิ น โญ แล ะล านิ น ญ าที่ มี ต่ อการ กับปีลานิญ าในลุ่มน้้าคลองยันพบว่าปริมาณน้้า ฝนมีความ
เปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง แตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value
ของภูเขาน้้าแข็งในรัฐโคลัมเบียและโคโลราโด โดยศึกษาถึง = 0.031) ซึ่งผลการศึกษาที่ได้สอดคล้องกับ การศึกษาของ
ร ะ ดั บ ส ม ดุ ล ข อ งหิ ม ะ -น้้ า ใน แ ม่ น้้ า (Snow-water Kahya and Cagatay (2001) ที่ท้าการศึกษาถึงความสัมพันธ์
equivalent: SWE) ผลการศึ ก ษาพบว่ า ระดั บ สมดุ ล ของ ของปรากฏการณ์ แอลนิน โญและลานิน ญาที่มี ต่อปริม าณ
หิ ม ะ-น้้ าในแม่ น้ าจะลดลงในช่ ว งปรากฎการณ์ เอลนิ น โญ น้้าท่าในประเทศตุรกี โดยแบ่งพื้นที่ศึกษาเป็นภาคตะวันออก
และเพิ่ มขึ้นในช่วงปรากฎการณ์ ล านิน ญา นอกจากนี้ยังมี และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลการศึกษาพบว่าผลของ
การศึกษาของ Letnic, Tamayo and Dickman (2005) ที่ ปรากฏการณ์แอลนินโญและลานินญาที่มีต่อปริมาณน้้าท่า
ได้ท้าการศึกษาถึงผลกระทบของลานินญาที่มีต่อการตกของ ในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน จากผลการศึกษาที่พบว่ามีเฉพาะ
ฝนและปริ ม าณน้้ า ฝนในทะเลทรายซิ ม ป์ สั น ประเทศ ลุ่มน้้าคลองยันพบว่าปริมาณน้้าฝนมีความแตกต่างกัน อย่าง
ออสเตรเลี ย ในช่ ว งปี 1999-2002 ผลการศึ ก ษาพบว่ า มี นั ย ส้ า คั ญ ทางสถิ ติ ที่ ร ะดั บ 0.05 (p-value = 0.031)
ความถี่ของการตกของฝนและปริมาณน้้าฝนมีความสัมพันธ์ ในช่วงน้้าหลากที่ เปรียบเทียบระหว่างปีป กติกับปี ลานิญ า
กับปรากฏการณ์เอลนินโญและลานินญา และยังสอดคล้อง ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงลักษณะที่ตั้งของลุ่มน้้าที่ท้าการศึกษา
กั บ การศึ ก ษาของ Chiew et al. (1998)ท้ า การศึ ก ษาถึ ง คือลุ่มน้้าแม่แตง ลุ่มน้้าเชิญ และลุ่มน้้าคลองยันจะเห็นได้ว่า
ผลกระทบของปรากฎการณ์ เอลนิ น โญ-ลานิ น ญาที่ มี ต่ อ ลักษณะทางภูมิประเทศและความใกล้-ไกลของเส้นศูนย์สูตร
ปริ ม าณน้้ า ฝน ปริ ม าณ น้้ า ท่ า และภั ย แล้ ง ในประเทศ ของลุ่มน้้าทั้ง 3 ลุ่มน้้ามีความแตกต่างกัน จึงส่งผลให้ได้รับ
ออสเตรเลีย ผลการศึกษาพบว่าปริมาณน้้าฝนและปริมาณ อิทธิพลต่อปรากฏการณ์เอลนินโญและลานินญาแตกต่างกัน
น้้าท่ามีความสัมพันธ์อย่างมากกับปรากฎการณ์เอลนินโญ- ซึ่งเมื่อถึงลักษณะตั้งของลุ่มน้้าคลองยันซึ่งตั้งอยู่ในภาคใต้
ลานิ น ญา และการศึ ก ษาของ Nicholson and Selato ของประเทศไทยมี ลั กษณะภู มิ ป ระเทศเป็ น คาบสมุ ท รที่ มี
(2000) ที่ ได้ ท้ าการศึ ก ษาถึ งผลกระทบของปรากฏการณ์ ทะเลขนาบอยู่ 2 ข้างคือ ทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
ลานิ น ญาที่ มี ต่ อ ปริ ม าณน้้ า ฝนในช่ ว งฤดู ห นาวของทวี ป มีลักษณะภูมิอากาศแบบร้อนชื้นแถบมรสุมมีฤดูร้อนสั้น (4
แอฟริกา โดยการใช้วิธี harmonic analysis method ผล เดือน) ฤดูฝนยาว (8 เดือน) และไม่มีฤดูหนาว เนื่องจากอยู่
การศึกษาพบว่าปรากฏการณ์ลานินญามีความสัมพันธ์อย่าง ใกล้เส้นศูนย์สูตร ท้าให้ได้รับอิทธิพบจากลมมรสุมตะวันออก
มากกั บ ปริ ม าณน้้ าฝนในภาคใต้ ข องทวีป แอฟริก าและยั ง เฉียงใต้ และลมมรสุมตะวัน ออกเฉียงเหนือจึงท้าให้ลุ่มน้้ า
ส่งผลให้มีฝนตกยาวนานออกไปอีก 1-2 เดือนในช่วงของปี คลองยันได้รับอิ ทธิพลจากปรากฏการณ์ ลานินญาโดยตรง
ลานิ น ญ าด้ วย ซึ่ งเขาค้ น พ บ ว่ า เห ตุ การณ์ เห ล่ า นี้ มี ซึ่งส่งผลลุ่มน้้าคลองยันได้รับผลของปรากฏการณ์ลานินญา
ความสัมพันธ์กับระดับอุณหภูมิของน้้าทะเลด้วย นอกจากนี้ มากกว่าลุ่มน้้าแม่แตง และลุ่มน้้าเชิญ
ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 11
Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
สรุปผลการศึกษา 2. ข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษา
เนื่ อ งจากผลการศึก ษาที่พ บว่ า ปริม าณฝน อุ ณ หภู มิ
และปริมาณน้้าท่าผัน แปรตามปรากฏการณ์ เอลนีโญและ
1. สรุปผลการศึกษา ลานิญา ท้าให้วางแผนในการจัดการน้้าประกอบด้วยการกัก
ลุ่มน้้าแม่แตง มีค่าเฉลี่ยปริมาณน้้าฝน 1,100.70 เก็บน้้า การจัดสรรน้้าส้าหรับการอุปโภค และการเพาะปลูก
มม. อุ ณ หภู มิ 25.30 ( ๐ C) และป ริ ม าณ น้้ า ท่ า 493.05 ต้องมีความสอดคล้องกับปรากฏเอลนินโญและลานินญาดังนี้
ล้าน ลบ.ม. ลุ่ ม น้้าเชิ ญ มีค่ าเฉลี่ ยปริม าณน้้ าฝน 1,320.84 2.1 ในช่วงปีที่เกิดปรากฎการณ์เอลนินโญซึ่งจ้าท้าให้
มม. อุ ณ หภู มิ 26.81 (๐C) และปริม าณน้้ าท่ า 1,621 ล้ า น เกิ ด ภั ย แล้ งเนื่ อ งจากปริม าณน้้ าฝนลดลง อุ ณ หภู มิ สู งขึ้ น
ลบ.ม. และลุ่มน้้าคลองยันมีค่าเฉลี่ยปริมาณน้้าฝน 1,960.84 ปริมาณน้้าท่าน้อย ต้องมีการวางแผนการจัดการน้้าและการ
มม. อุ ณ หภู มิ 26.92 (๐ C) และปริ ม าณน้้ า ท่ า 11,106.50 เพาะปลูกโดยให้เกษตรกรเพาะปลูกพืชที่ใช้น้าน้อย พืชทน
ล้าน ลบ.ม. แล้ง และมี ก ารสร้างแหล่งกั กเก็ บ น้้าไว้ส้าหรับ ใช้ เพื่ อการ
ผลการศึ กษาความผัน แปรปริม าณฝน อุณ หภู มิ อุปโภค บริโภค และการเพาะปลูกเพิ่มมากขึ้น
และปริ ม าณน้้ า ท่ า สรุ ป ได้ ว่ า ปริ ม าณฝน อุ ณ หภู มิ และ 2.2 ในช่ ว งปี ที่ เกิ ด ปรากฏการณ์ ล านิ น ญาซึ่ ง จะมี
ปริมาณน้้าท่าของลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และคลองยันส่วนใหญ่ ปริมาณน้้าฝนเพิ่มมากขึ้น อุณหภูมิลดลง ปริมาณน้้าท่าเพิ่ม
ผั น แป รไป ตาม ป รากฏ การณ์ เอลนี โ ญ และลานิ ญ า สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอุทกภัยได้ ดังนั้น ต้องมีการวางแผนใน
ข้อแตกต่างของปริมาณฝนและปริมาณน้้าท่าในลุ่มน้้าคลองยัน การจัดการน้้าโดยเฉพาะการจัดการปริมาณน้้าในเขื่อนต่างๆ
พบว่า ลุ่มน้้าคลองยันมีฐานของกราฟกว้างและค่าของกราฟ ให้สามารถรองรับปริมาณน้้าที่ เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการกักเก็บ
สูง เนื่องมาจากพื้นที่ทางภาคใต้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม น้้าไว้ใช้ในช่วงที่เกิดภัยแล้ง และบรรเทาอุทกภัยที่อาจจะ
ทั้งสองด้านและความใกล้ไกลทะเลมากกว่าลุ่ม น้้าแม่แตง เกิดขึ้น
และลุ่มน้้าเชิญ จึงท้าให้มีปริมาณฝนที่ตกมีมากกว่า ส่งผลให้
ปริมาณน้้าท่าให้มากขึ้นด้วย 3. ข้อเสนอแนะส้าหรับการศึกษาในครังต่อไป
ผลการวิ เ คราะห์ เ ปรี ย บเที ย บปริ ม าณ น้้ า ฝน จากผลการศึกษาและข้อเท็จจริงที่พ บว่าผลของ
อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่า ในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และ ปรากฏการณ์ เอลนิ นโญและลานิน ญามี ความแตกต่ างกั น
ลุ่มน้้าคลองยันในช่วงรายปี น้้าหลาก และน้้าแล้ง ระหว่างปี ตามลักษณะภูมิประเทศ และความใกล้ -ไกลจากเส้นศูน ย์
ปกติกับปีเอลนีโญ และปีปกติกับปีลานิญ า พบว่า ผลการ สูตรดังนั้นเพื่อให้ผลการศึกษาที่ได้มีความถูกต้องและแม่นย้า
วิเคราะห์เปรียบเทียบปริมาณน้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณ ถึงผลกระทบจากปรากฏการณ์ ดั งกล่ าวมากยิ่ งขึ้ น จึงควร
น้้าท่า ในพื้นที่ลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และคลองยันในช่วงรายปี ท้าการศึกษาในพื้นที่ที่มีขนาดเล็ก หรือลักษณะใกล้เคียงกัน
น้้าหลาก และน้้าแล้ง ระหว่างปีปกติกับ ปีเอลนีโญ และปี เพื่อให้ได้ผลการศึกษาที่น้ามาใช้ประโยชน์ในการวางแผน
ปกติกับปีลานิญาไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทาง และด้าเนินงานเพิ่มมากยิ่งขึ้น
สถิติ ยกเว้นช่วงน้้าหลากที่เปรียบเทียบระหว่างปีปกติกับปี
ลานิ ญ าในลุ่ ม น้้ า คลองยั น พบว่ า ปริ ม าณน้้ า ฝนมี ค วาม
แตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value
= 0.031)
จากผลการวิ เคราะห์ เปรียบเที ยบปริมาณน้้ าฝน
อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่า ที่พบว่าโดยส่วนใหญ่ไม่มีความ
แตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ ซึ่งเป็นสิ่งบ่งบอกได้ว่า
ปรากฏการณ์เอลนินโญและลานิญามีผลกระทบต่อปริมาณ
น้้าฝน อุณหภูมิ และปริมาณน้้าท่าในประเทศไทยในระดับน้อย

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 12


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016
เอกสารอ้างอิง

กรมชลประทาน. 2553. สถานีวัดน้้าท่าและข้อมูลปริมาณน้้าท่า. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์: กรุงเทพฯ.


กรมทรัพยากรน้้า. 2553. สถานีวัดน้้าท่าและข้อมูลปริมาณน้้าท่า. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม:
กรุงเทพฯ.
กรมอุตุนิยมวิทยา. 2553. สถานีอุตินิยมวิทยา สถานวัดปริมาณน้้าฝน ข้อมูลภูมิอากาศ ข้อมูลปริมาณน้้าฝน และ สถิติ
การเกิดปรากฏการณ์เอลนินโญและลานินญา. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร: กรุงเทพฯ.
ส้านักเศรษฐกิจการเกษตร. 2558. สารสนเทศเศรษฐกิจการเกษตร. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์: กรุงเทพฯ.
ส้านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. 2548. โครงการศึกษาสภานภาพของประชากรที่
อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ (กลุ่มลุ่มน้้าแม่แตง เชิญ และคลองยัน). ฟันนี้พันลิชชิ่ง: กรุงเทพฯ
Carlos, F.C., and Jonathan, A.P. 2004. Global warming kills trees, and people. B WORLD HEALTH
ORGAN. 82(7): 481-489.
Chiew, F.H., Piechota, T.C., Dracup, J.A., and McMahon, T.A. 1998. El Nino/Southern Oscillation and
Australian rainfall, streamflow and drought: Links and potential for forecasting. J. Hydrol.
204(1): 138-149.
Clark, M.P., Serreze, M.C., and McCabe, G.J. 2001. Historical effects of El Nino and La Nina events on
the seasonal evolution of the montane snowpack in the Columbia and Colorado River
Basins. Water Resour. Res. 37(3): 741-757.
Fu, G., Charles, S.P., Viney, N.R., Chen, S., and Wu, J.Q. 2007. Impacts of climate variability on
stream‐flow in the Yellow River. Hydrol. Process. 21(25): 3431-3439.
Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC. 2016. Human Influence on Climate Clear
[online]. [Accessed January 7, 2016]. Available from: URL: http://www.ipcc.ch/news_
and_events/docs/ar5/press_release_ar5_ wgi_en.pdf.
Kahya, E., and Cagatay Karabork, M. 2001. The analysis of El Nino and La Nina signals in stream
flows of Turkey. Int. J. Climatol. 21(10): 1231-1250.
Letnic, M., Tamayo, B., and Dickman, C. R. 2005. The responses of mammals to La Nina (El Nino
Southern Oscillation)–associated rainfall, predation, and wildfire in central Australia. J.
Mammal. 86(4): 689-703.
Molles, M.C., &Dahm, C.N. 1990. A perspective on El Nino and La Nina: global implications for
stream ecology. J. North Am. Benthological Soc. 68-76.
Nicholson, S.E. and Selato, J.C. 2000. The influence of La Nina on African rainfall.Int. J. climatol.
20(14): 1761-1776.
Patz, J.A., Campbell-Lendrum, D., Holloway, T., and Foley, J.A. 2005. Impact of regional climate
change on human health. Nature. 438(7066): 310-317.
Ward, P.J., Jongman, B. Kummu, M.D., Dettinger, F.C., Weiland, H.S. and Winsemius, C. 2014. Strong
influence of El Nino Southern Oscillation on flood risk around the world.Proc. Natl. Acad.
Sci. USA.111: 15659-15664.

ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 วารสารเกษตรพระวรุณ 13


Volume 13 Number 1 JANUARY– JUNE 2016

You might also like