Professional Documents
Culture Documents
20190906 - 0017 01 60เวียดนาม
20190906 - 0017 01 60เวียดนาม
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
แมคดาน่า, เจมส์.
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม = Platoon Leader.--กรุงเทพ
มหานคร : ศูนย์พัฒนาหลักนิยมและยุทธศาสตร์ กรมยุทธศึกษาทหารบก, 2560.
244 หน้า.
1. สงครามเวียดนาม, ค.ศ. 1961-1975. 2. ทหาร--อเมริกา--ชีวประวัติ. I. ชวาล
ชมภูโคตร, พ.ท, II. พ.อ. ผู้แปล. III. ชื่อเรื่อง.
959.7043
ISBN 978-616-8035-25-2
พลโท
(ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์)
เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก
บทนำ�
นักการทหารมักชอบเล่าเรือ่ งประวัตศิ าสตร์สงครามซึง่ ตรงข้ามกับ
คนที่ ผ ่ า นประสบการณ์ ต รงในสงครามที่ มั ก เก็ บ เรื่ อ งราวไว้ กั บ ตั ว เอง
โดยส่วนตัว ผมมองว่ามีคนเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับสงครามกันมาก
เกินไป ผมต้องขอโทษด้วยหากหนังสือเล่มนี้จะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับ
สงครามอีกเรื่องหนึ่ง โดยที่ตัวผมเองไม่ได้คิดว่าตัวเองมีประสบการณ์
การรบในเวี ย ดนามที่ พิ เ ศษแตกต่ า งจากคนอื่ น ผมตระหนั ก ดี ว ่ า
ประสบการณ์การรบของผมในเวียดนามอยู่ในระดับปานกลาง และก็
เชือ่ ว่าประสบการณ์การรบของหน่วยอืน่ หรือบุคคลอืน่ มีมากกว่าหน่วยผม
หรือของผมอย่างแน่นอน สมมติว่าถ้ามีการจัดแข่งขันเล่าประสบการณ์
ในการรบโดยให้ผู้ที่เล่าจ�ำนวนเหตุการณ์ที่น่ากลัวมากที่สุดเป็นผู้ชนะ
คงไม่ มี ชื่ อ ผมในรายชื่ อ ผู ้ เข้ า แข่ ง ขั น อย่ า งแน่ น อนเพราะผมไม่ ไ ด้ มี
ประสบการณ์ที่โชกโชนขนาดนั้น และก็มีทหารที่ผ่านสมรภูมิที่โชกโชน
มากกว่าผมเยอะ
อีกประการหนึ่ง ผมไม่ได้เขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อที่จะบอกให้โลก
ภายนอกเห็นรูปแบบสงครามในเวียดนาม และผมก็เชื่อว่าคงไม่มีใครกล้า
ทีจ่ ะเขียนหนังสือสงครามออกไปในแนวนัน้ เพราะรูปแบบสงครามเปลีย่ น
ไปทุกปี และทุกหน่วยก็มียุทธวิธีการรบที่เปลี่ยนไปตามปัจจัยแวดล้อม
เช่น ลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ปฏิบัติการ เป็นต้น พูดง่าย ๆ คือ
ประสบการณ์การรบในเวียดนามมีหลากหลายไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว
และเนื่องจากหนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเล่าเรื่องราว
การผจญภัยหรือรูปแบบสงครามในเวียดนาม คงมีคนสงสัยว่า แล้วผมเขียน
หนั ง สื อ เล่ ม นี้ เ พื่ อ อะไรกั น ผมก็ ค งตอบว่ า เป็ น การเขี ย นเพื่ อ บรรยาย
ลักษณะการท�ำงานของผูบ้ งั คับหมวดทหารราบของทหารอเมริกนั คนหนึง่
ในสมรภูมิรบเท่านั้นเอง
สารบัญ
บทที่ ๑ วันที่ ๑ สิงหาคม ค.ศ. ๑๙๗๑ :
ฐานบิน แอลซี อิงลิช (LZ English) ๙
บทที่ ๒ เส้นทางสู่สงคราม ๑๔
บทที่ ๓ ยินดีต้อนรับสู่ประเทศเวียดนาม ๒๒
บทที่ ๔ หมวดทหารราบที่ ๒ ๓๔
บทที่ ๕ รับหน้าที่ผู้บังคับหมวด ๔๓
บทที่ ๖ การบาดเจ็บครั้งส�ำคัญ ๕๘
บทที่ ๗ คั่นเวลา ๖๙
บทที่ ๘ ถ้าเราไม่ประสบความส�ำเร็จในครั้งแรก... ๗๗
บทที่ ๙ หล่อหลอมความเป็นผู้น�ำ ๘๕
บทที่ ๑๐ ฉากน�ำก่อนเวลาปะทะ ๙๖
บทที่ ๑๑ การรบ ๑๐๔
บทที่ ๑๒ ผลของสงคราม ๑๑๗
บทที่ ๑๓ ทหารราบธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ๑๒๙
บทที่ ๑๔ ฝนมา ๑๔๐
บทที่ ๑๕ ความฉลาดริเริ่มของคนอเมริกัน ๑๕๙
บทที่ ๑๖ ข้าศึกเพิ่มเติมก�ำลัง ๑๖๕
สารบัญ (ต่อ)
บทที่ ๑๗ เหตุเกิดที่ชายหาด ๑๗๖
บทที่ ๑๘ วันขอบคุณพระเจ้า ๑๘๖
บทที่ ๑๙ “เหมือนคุณกับผม” ๑๙๑
บทที่ ๒๐ ค�ำสั่งบุก ๑๙๙
บทที่ ๒๑ การลาดตระเวนกลับ ๒๐๕
บทที่ ๒๒ การเดินทางในเวลากลางคืน ๒๑๕
บทที่ ๒๓ จบภารกิจ ๒๒๘
บทส่งท้าย ๒๔๐
ประวัติผู้แต่ง ๒๔๔
บทที่ ๑
วันที่ ๑ สิงหาคม ค.ศ. ๑๙๗๑ :
ฐานบิน แอลซี อิงลิช (LZ English)
รถจี๊ปก�ำลังเคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ ในขณะที่ผมก�ำลังมองดู
ฟิล เนล ซึ่งพยายามควบคุมรถอยู่ เขาเพิ่งรับหน้าที่เป็นพลขับได้ไม่นาน
ท่าทางยังเก้ ๆ กัง ๆ ขาดความมั่นใจในหน้าที่ใหม่นี้ ผมตัดสินใจย้ายเขา
จากต�ำแหน่งพลปืนเล็กภายใต้การบังคับบัญชาของผมมาเป็นพลขับในพืน้ ที่
ส่วนหลังและเป็นการตัดสินใจที่ผมเห็นว่าถูกต้อง ถึงตัวเขาจะยังไม่ชอบ
หน้าที่ใหม่นี้ก็ตาม ตอนที่เขาเป็นพลปืนเล็กในหมวดของผม เขาได้รับ
บาดเจ็บถึง ๓ ครั้ง และโชคดีมากที่รอดชีวิตมาได้ แต่โอกาสที่จะรอดชีวิต
ในครั้งต่อไปก็ไม่แน่นอน การให้ฟิล เนล มาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ฐานบิน
แอลซี อิงลิช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฐานปฏิบัติการหลักของกองพลน้อย
ส่งทางอากาศที่ ๑๗๓ ท�ำให้เขามีโอกาสที่จะรอดชีวิตออกจากเวียดนาม
มากขึน้ การตัดสินใจย้ายฟิล เนล มาอยูส่ ว่ นหลังเป็นสิง่ ดี ๆ ทีผ่ มควรท�ำให้
กับผูใ้ ต้บงั คับบัญชาก่อนทีผ่ มจะหมดหน้าทีใ่ นเวียดนามและกลับบ้านอย่าง
ปลอดภัย ลึก ๆ ในใจก็อดคิดไม่ได้วา่ ยังมีคนอย่างฟิล เนล อีกกีค่ นทีป่ ฏิบตั ิ
หน้าที่อยู่ในส่วนหน้าแต่ก็เป็นสิ่งที่ผมช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้เลย
ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว ผมยืนอยู่ข้างทางวิ่งในฐานบิน
เเอลซี อิงลิช เพื่อคอยเฮลิคอปเตอร์มารับไปที่อ่าวแคมรานที่ซึ่งเครื่องบิน
9
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
10
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
11
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
อย่างเงียบ ๆ เมื่อนึกถึงนายทหารยศพันตรีคนนั้นผมเลยอดสงสัยไม่ได้ว่า
โลกช่างเล่นตลกอะไรเช่นนี้
ผมยังอึ้งกับความช่างกล้าถามของเขา ส�ำหรับผม หมวดปืนเล็ก
ที่ผมท�ำงานด้วยในเวียดนามเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม และผมก็จะเก็บ
มันไว้ในความทรงจ�ำตลอดไป แต่คงไม่เก็บมาคิดหรือฝันถึงในการใช้ชีวิต
ประจ�ำวัน
12
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
การสนทนาจบลง พวกเขายืนขึ้นแล้วก็จากไปด้วยสายตาที่แข็งทื่อและ
ว่างเปล่า
แล้วผมก็จ�ำบทสนทนาได้บางส่วน “สบายดีกันไหม” ผมถาม
ออกไป ผมอยากรูจ้ ริง ๆ มีความรูส้ กึ ว่าต้องรูค้ ำ� ตอบให้ได้ แต่ไม่มเี สียงตอบ
กลับ แล้วพวกเขาก็เดินจากไปในรูปแถวเรนเจอร์ไปในป่า ค่อย ๆ จางหาย
ไปจากสายตาและความฝั น ของผม ตอนนี้ ผ มรู ้ จั ก ชื่ อ เต็ ม ของทุ ก คน
แต่ละคนร่วมรบกับผมที่เวียดนามและเสียชีวิตที่นั่น
ผมยังจ�ำจิตแพทย์คนนั้นได้และนึกอยากจะด่าเขาในตอนเช้าของ
ฤดูหนาวที่นิวอิงแลนด์แห่งนี้เหลือเกิน
13
บทที่ ๒
เส้นทางสู่สงคราม
ประเทศสหรัฐอเมริกาถล�ำเข้าสู่สงครามเวียดนามอย่างช้า ๆ
โดยที่คนทั่วไปก็ไม่ได้สังเกต ในช่วงนั้นคือราว ค.ศ. ๑๙๖๐ ประเทศก�ำลัง
เผชิญกับปัญหามากมาย อาทิ ปัญหาเกี่ยวกับมหาอ�ำนาจสหภาพโซเวียต
ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันด้านอวกาศ การสะสมขีปนาวุธ หรือภัยคุกคาม
ต่อความมัน่ คงของประเทศเกีย่ วกับประเทศคิวบาซึง่ ถือว่าอยูใ่ กล้ประเทศ
สหรัฐ มาก นอกจากนั้นยังมีปัญหาภายในอีกคือ การที่ประธานาธิบดี
จอห์น เอฟ เคเนดี ถูกลอบสังหาร และก็ยังมีสงครามในที่อื่น ๆ ของโลก
ที่สหรัฐ ต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ท�ำให้ปัญหาในอินโดจีน
กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยมากในขณะนั้น
ในปี ค.ศ. ๑๙๖๓ เด็กหนุ่มแถวบรุคลินจะให้ความสนใจเกี่ยวกับ
เรื่องใกล้ตัวที่พวกเขาสนใจเป็นพิเศษ เช่น กีฬาและการจีบผู้หญิงมากกว่า
การเมืองหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลก ยกตัวอย่างเช่น พระที่เผาตัวเอง
ประท้วงในไซ่ง่อนอาจจะมีความส�ำคัญน้อยกว่าผลการแข่งขันเบสบอล
ระหว่างทีมแยงกี้กับเรดซอค นอกจากนั้นเด็กวัยรุ่นแถวบรุคลินก็ให้ความ
ส�ำคัญกับการศึกษาพอสมควร เมือ่ ปี ค.ศ. ๑๙๖๓ ก�ำลังใกล้จะหมดไป และ
ปี ค.ศ. ๑๙๖๔ ก�ำลังคืบคลานเข้ามา ค�ำถามก็มมี ากมายส�ำหรับช่วงหัวเลีย้ ว
14
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
15
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
16
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
17
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
18
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ดูเหมือนโอกาสที่จะได้เห็นสงครามเริ่มเป็นจริงแล้ว ย้อนไปเมื่อปี
ค.ศ. ๑๙๖๖ - ๖๗ ผมมีความเชื่อว่าสงครามเวียดนามจะจบลงก่อนที่ผม
จะจบการศึกษาและคิดไปไกลว่าโอกาสที่จะได้เข้าร่วมสงครามที่ยิ่งใหญ่
ก็คงมี ในความเป็นจริงโอกาสที่สงครามจะกินเวลาเกิน ๔ ปีเป็นเรื่องยาก
อย่างน้อยก็ตงั้ แต่สงครามต่อสูเ้ พือ่ อิสรภาพจากประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ.
๑๙๖๗ กองพลน้อยส่งทางอากาศที่ ๑๗๓ รายงานผู้บาดเจ็บจากการรบที่
เวียดนามเพียงกองพันเดียวสูงถึง ๘๐๐ นาย ซึ่งถือว่าสูงมาก และการรบ
ในวันตรุษญวน (Tet) เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ปี ค.ศ. ๑๙๖๘ เพียง
แห่งเดียวมีผู้เสียชีวิตมากเป็นประวัติการณ์ ดูเหมือนสถานการณ์เริ่มจะ
แย่ลงเรื่อย ๆ ในเดือนมกราคม ค.ศ. ๑๙๖๙ ริชาร์ด นิกสัน สาบานตน
เข้ารับต�ำแหน่งประธานาธิบดี และเริ่มมีรายงานผู้เสียชีวิตสัปดาห์ละ
ประมาณ ๔๐๐ คน จ�ำนวนศิษย์เก่าเวสต์ปอยต์ที่เสียชีวิตในสมรภูมิ
เวียดนามก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ปี ค.ศ. ๑๙๖๙ เป็นปีที่ผมก้าวสู่ชีวิตทหารอย่างเต็มตัว เริ่มตั้งแต่
ผ่านกระบวนการเลือกเหล่าในเดือนกุมภาพันธ์ ซึง่ ผมเลือกเหล่าทหารราบ
และในเดื อ นมี น าคมก็ อ าสาสมั ค รไปเวี ย ดนาม ผมเขี ย นหนั ง สื อ ถึ ง
ผู้บัญชาการกองพลน้อยส่งทางอากาศที่ ๑๗๓ เพื่อขอไปประจ�ำการที่
หน่ ว ยของท่ า น ซึ่ ง กองพลน้ อ ยแห่ ง นี้ มี ชื่ อ เสี ย งเกี ย รติ ป ระวั ติ ก ารรบ
มากที่สุดในเวียดนาม และแล้ววันที่ผมรอคอยมานานก็มาถึง คือวันที่
ส�ำเร็จการศึกษาในวันที่ ๔ มิถุนายน และก็แต่งงานทันที โดยจัดงานที่
โรงเรียนสี่วันหลังจากนั้น
จะว่าไปแล้วโรงเรียนนายร้อยเวสต์ปอยต์ได้ท�ำหน้าที่ของตัวเอง
อย่างดีเยี่ยมในการผลิตนายทหาร และการตัดสินใจเลือกเหล่าทหารราบ
19
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
และอาสาสมัครไปรบที่เวียดนามเป็นการตัดสินใจที่แทบจะเรียกได้ว่า
เกือบเป็นสัญชาตญาณที่อยากจะรับใช้ชาติ ผมท�ำไปโดยอัตโนมัติไม่ต้อง
คิดมาก เหมือนผู้ชายที่ก�ำลังตกหลุมรักผู้หญิงอะไรท�ำนองนั้น
เส้นทางชีวติ ของผมสูส่ งครามเวียดนามได้เริม่ ขึน้ แล้ว แต่กองทัพบก
ยังไม่สง่ ผมไปรบทีเ่ วียดนามทันที ผมยังต้องผ่านกระบวนการเตรียมตัวก่อน
ซึ่งประกอบไปด้วยหลักสูตรทางทหารอีกหลายหลักสูตร อาทิ หลักสูตร
ส่งทางอากาศ หลักสูตรชั้นนายร้อยทหารราบ และหลักสูตรการรบในป่า
หรือเรนเจอร์ เป็นต้น นอกจากนัน้ กองทัพบกยังให้เวลาผมพักผ่อนฮันนีมนู
กับภรรยาอีกด้วย ที่ค่ายเบนนิ่ง รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียน
ทหารราบ ในสภาวะปกติจะเป็นสถานที่ที่บุคคลภายนอกสามารถมา
ท่องเที่ยวได้ ถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ในสภาวะที่ไม่ปกติ เช่น
ในยามทีป่ ระเทศเข้าสูส่ งคราม ค่ายแห่งนีก้ ไ็ ม่ตา่ งจากโรงงานอุตสาหกรรม
ที่เตรียมก�ำลังรบส�ำหรับภารกิจนั้น ๆ
ห้วงเวลาสองสัปดาห์ของหลักสูตรส่งทางอากาศเป็นประสบการณ์
ที่น่าจดจ�ำไม่น้อยส�ำหรับการกระโดดร่มในแบบฉบับของทหารท่ามกลาง
อากาศที่ร้อนสุดจะบรรยาย และห้วงเวลา ๑๒ สัปดาห์ส�ำหรับหลักสูตร
ชั้นนายร้อยเป็นห้วงที่วิเศษส�ำหรับผม เพราะได้มีเวลาอยู่กับภรรยาที่
เพิ่งแต่งงานกันถึงแม้จะไม่มากนัก คือตั้งแต่หนึ่งทุ่มถึงตีห้า
ต่ อ มาก็ มี ข ่ า วดี ใ นเดื อ นกั น ยายน เพราะภรรยาผมตั้ ง ครรภ์
ผมตื่นเต้นมาก แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้มีเวลาดูแลเธอมากเพราะต้องไปเรียน
หลักสูตรจูโ่ จม หรือเรนเจอร์ตอ่ ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม
หลักสูตรนี้มีความยากล�ำบากมาก ต้องมีความอดทนสูงทั้งกายและใจ
ต้องลาดตระเวนผ่านภูมปิ ระเทศทีย่ ากล�ำบากของรัฐจอร์เจียและหนองน�ำ้
20
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ของรัฐฟลอริด้า ในระหว่างที่เรียนหลักสูตรนี้ใจผมก็นึกถึงสภาพอากาศ
ดี ๆ ที่เวียดนามและคิดว่าสภาพความเป็นอยู่น่าจะสบายกว่านี้
หลังจากเรียนจบหลักสูตรนี้ผมได้ไปประจ�ำการที่กองพลส่งทาง
อากาศที่ ๘๒ ฟอร์ต แบร็ก มลรัฐนอร์ท แคโรไลนา ประมาณ ๓ - ๔ เดือน
ก่อนที่จะถูกส่งไปที่เวียดนาม ห้วงเวลาสั้น ๆ นี้มีความหมายมากเพราะ
ได้อยู่กับภรรยาที่ก�ำลังตั้งท้องแก่ ๆ ใกล้จะคลอด หลังจากที่ภรรยาผม
คลอดลูกชายแล้ว ผมก็ได้ใช้สิทธิในการลาเพื่อพาภรรยาและลูกไปเยี่ยม
ญาติ ๆ ผมใช้เวลาไม่ก่ีวันอยู่กับพ่อและแม่ก่อนกล่าวค�ำอ�ำลาเพื่อไป
เวี ย ดนาม ผมคิ ด ว่ า ผมเห็ น น�้ ำ ตาของพ่ อ ซึ่ ง มั น ช่ า งแตกต่ า งจากวั น ที่
ทราบว่าผมได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนในที่ที่เด็กหนุ่มอเมริกันหลายคน
ใฝ่ฝันอยากเข้าไปเรียน ลาพ่อกับแม่เสร็จผมก็ขับรถไปเวอร์จิเนียเพื่อไปส่ง
ภรรยาและลูก พวกเขาจะคอยผมทีน่ นั่ ในวันเดินทางภรรยาและลูกทีม่ อี ายุ
แค่ ๒ เดือนไปส่งผมที่สนามบินนานาชาติที่กรุงวอชิงตัน ผมพูดกับภรรยา
“ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวก็กลับแล้ว” ผมพูดด้วยน�้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะมั่นใจ
เท่าไหร่นัก เราจูบลากัน ผมไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองหน้าลูกเมียเพราะ
รู้สึกผิดที่ไม่สามารถดูแลพวกเขาได้ในห้วงเวลาส�ำคัญเช่นนี้ ผมขึ้นไปนั่ง
บนเครือ่ งบิน ในใจก็ยงั สับสนไม่รวู้ า่ จะเจออะไรข้างหน้า แต่กองทัพบกก็ได้
ท�ำดีทสี่ ดุ แล้วในการเตรียมตัวเราให้พร้อมส�ำหรับสงครามเพือ่ ประเทศชาติ
21
บทที่ ๓
ยินดีต้อนรับสู่ประเทศเวียดนาม
ณ ตอนนี้ทหารอเมริกันกว่าสองร้อยนายได้บินข้ามฟ้ามาถึง
ประเทศเวียดนามด้วยเครื่องบินเช่าเหมาล�ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดู ๆ ไป
มันเหมือนกับว่าพวกเรามาพักผ่อนที่หมู่เกาะฮาวาย ต่างกันตรงที่ใบหน้า
ของพวกเราต่างเคร่งเครียดและสวมเสือ้ ผ้าอาภรณ์ทเี่ ป็นแบบทหารเท่านัน้
ตอนนี้ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า การมารบที่เวียดนามนี้ พวกเรา
มาในนามของรัฐบาลอเมริกัน มาเพื่อต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ของประเทศเรา
โดยแท้ ผมเขียนจดหมายฉบับแรกเสร็จแล้วและจะส่งกลับบ้านทันที
ที่ไปถึงเวียดนาม และตอนที่อยู่ที่เวียดนามผมเขียนจดหมายถึงบ้านทุกวัน
เว้นเสียแต่ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถจะเขียนได้
บนเครือ่ งบิน คนทีน่ งั่ ติดผมด้านซ้ายคือกาย และด้านขวาคือแบรี่
ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่เวสต์ปอยต์ พวกเราเลือกเหล่าทหารราบและผ่าน
หลักสูตรของโรงเรียนทหารราบเหมือนกันจึงสนิทกันเป็นพิเศษ หลังจาก
จบจากเวสต์ปอยต์ได้ไม่กี่เดือน กายก็แต่งงานทันที คือแต่งที่โรงเรียนเลย
หลังผมไม่กี่เดือน ถึงแม้ญาติ ๆ ทางฝ่ายหญิงจะคัดค้านเพราะว่าที่สามี
ก�ำลังจะไปรบ ส่วนแบรี่หนุ่มโสดจากรัฐมิชิแกนกับผมสนิทกันตั้งแต่อยู่ท่ี
เวสต์ปอยต์เพราะแข่งขันกีฬายกน�้ำหนักมาด้วยกัน
22
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
23
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
24
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
25
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
พันธมิตรที่บาดเจ็บอีกด้วย มันเป็นฐานทัพอากาศที่เป็นศูนย์กลางการ
ขนส่งทั้งคนและยุทโธปกรณ์ทางทหารของกองทัพสหรัฐ ที่นี่ห่างไกลจาก
สมรภูมิรบ
ดู ๆ ไปกุยนอนก็ไม่ตา่ งจากพืน้ ทีเ่ ขตเมืองทัว่ ไปทีภ่ ายในตึกอาคาร
มีเครือ่ งอ�ำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ห้องน�ำ้ แบบชักโครก อย่างไรก็ตาม
ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับผม เช่น ผมจะได้เจอสงครามหรือไม่
และอยากให้ใครสักคนที่รู้เรื่องสถานการณ์ที่นี่ช่วยบอกที
ในขณะทีผ่ มยืนอยูใ่ นโรงเก็บเครือ่ งบินซึง่ ตัง้ ขนานกับรันเวย์ ในใจ
ก็ยังคิดว่าน่าจะเจอใครสักคนที่พอจะบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่แห่งนี้
สายตาผมสอดส่องไปมาส�ำรวจพื้นที่รอบ ๆ แสงแดดที่ตกกระทบผนังของ
โรงเก็บเครื่องบินท�ำให้บรรยากาศที่ดูจะวุ่นวายเย็นลง ดูเป็นธรรมชาติ
มากขึ้น กลิ่นของน�้ำมันจากการย่างบาร์บีคิวใกล้ ๆ ฟุ้งไปทั่วสนามบิน
อาหารพวกนี้เอาไว้ส�ำหรับทหารที่ท�ำงานในสนามบินและผู้โดยสาร
ไม่นานสายตาผมก็เหลือบไปพบทหารคนหนึ่งรูปร่างผอมยืนพิง
ผนังของโรงเก็บเครื่องบิน ชุดฝึกสนามที่เก่า ๆ ดูกลมกลืนกับเครื่องหมาย
ยศสีด�ำบนปกคอเสื้อของเขา บนไหล่ด้านซ้ายและขวาของชุดฝึกเขามี
เครื่องหมายของหน่วยกองพลน้อยส่งทางอากาศที่ ๑๗๓ ซึ่งมีสัญลักษณ์
คือดาบปลายปืนลอยอยู่บนปีกนกขนาดใหญ่ ตามธรรมเนียมทหารแล้ว
ไหล่ด้านซ้ายจะติดเครื่องหมายของหน่วยปัจจุบันที่ประจ�ำการ และ
ไหล่ด้านขวาจะติดสัญลักษณ์หน่วยที่เคยประจ�ำการ แสดงว่านายทหาร
ยศร้อยโทคนนี้มาประจ�ำการที่หน่วยนี้ได้สักพักแล้ว พอมาเปรียบเทียบ
กับผมซึ่งบนชุดฝึกมีเฉพาะสัญลักษณ์หน่วยบนไหล่ซ้าย ท�ำให้ผมอดคิด
ไม่ได้ว่าเราช่างใหม่จริง ๆ ผมรีบเดินเข้าไปหาผู้หมวดคนนั้นทันที
27
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ขณะที่เดินเข้าไปหาผู้หมวดคนนั้น ผู้คนที่ยืนระหว่างเราเริ่ม
น้อยลง สายตาของผู้หมวดคนนั้นที่มองมาที่ผมช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน
ดูเย็นยะเยือก น่าสยองขวัญอย่างบอกไม่ถูก แม้หลังเขาจะพิงอยู่กับ
ราวเหล็กแต่คอดูสั่นเกร็งอย่างน่าประหลาด รองเท้าบู๊ทที่เขาใส่ดูเหมือน
จะผ่านสมรภูมิรบมาอย่างโชกโชน ไม่เหลือร่องรอยของสีด�ำเลย ในมือ
ของเขาถือถุงใบเล็ก ๆ ในนั้นน่าจะมีเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้น
“ขอโทษครับผู้หมวด ผมชื่อหมวดจิม แมคดาน่า” ผมทักทายเขา
ด้วยน�้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติให้มากที่สุด ดูไม่ให้ตื่นเต้นจนเกินไป
เขาจ้องมาทีผ่ มแต่ไม่ได้พดู อะไร ผมพูดต่อไปว่า “ผมก�ำลังเดินทาง
ไปรวมกับฝูงนะ” ซึ่งค�ำว่า ฝูง เป็นชื่อเล่นส�ำหรับเรียกกองพลน้อยส่ง
ทางอากาศที่ ๑๗๓
ผมพยายามท�ำให้เขาเห็นว่าเป็นพวกเดียวกันและเป็นมืออาชีพ
การที่เขาไม่ได้ตอบอะไรเลยมันยิ่งท�ำให้ผมตื่นเต้นและประหม่ามาก และ
จะมากกว่านีม้ ากถ้าไม่ใช่เพราะกลิน่ ตัวทีแ่ รงมากของเขามาเบีย่ งเบนความ
สนใจผม ผมอดสงสัยไม่ได้ว่ามันกลิ่นอะไรกันท�ำไมถึงแรงขนาดนี้ สักพัก
ก็พอจะเดาได้ว่า กลิ่นนี้น่าจะเกิดจากเหงื่อที่แห้งแล้วแห้งอีกผสมกับ
กลิ่นของความตาย เพราะมันฉุนแรงมาก
ผมพูดต่อว่า “ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวนะ
เพียงแค่อยากรูข้ อ้ มูลเกีย่ วกับหน่วย ๑๗๓” ทันทีทเี่ ขาได้ยนิ ผมพูดเกีย่ วกับ
หน่วย ๑๗๓ เขาเด้งตัวออกจากราวเหล็กทันทีแล้วเดินเข้ามาใกล้และ
จ้องมาที่ผม กลิ่นตัวที่แรงและสายตาที่เขาจ้องท�ำให้ผมตกใจ พอเขาเริ่ม
จะพูดผมก็รทู้ นั ทีวา่ เขาไม่มวี ฒ
ุ ภิ าวะเลย สิง่ ทีเ่ ขาแสดงออกมันคือความบ้า
ขาดสติ ใบหน้ า ที่ บู ด เบี้ ย วและสายตาที่ อ� ำ มหิ ต ท� ำ ให้ ผ มสยองกลั ว
เหมือนกัน
28
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
29
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ต่อมาผมก็รู้ความจริงว่าก่อนหน้าที่ผมจะพบผู้หมวดคนนี้ไม่กี่
ชัว่ โมง เขาได้นำ� ลูกน้อง ๖ คนในชุด “ล่าสังหาร” ไปซุม่ โจมตีขา้ ศึกโดยการ
วางระเบิดเคลย์มอร์จ�ำนวน ๒๐ ลูก ข้าง ๆ ทางเดินที่คิดว่าข้าศึกจะผ่าน
ทุน่ ระเบิดเคลย์มอร์แต่ละลูกจะอัดแน่นไปด้วยลูกปรายเหล็กจ�ำนวน ๗๐๐
เม็ด ขับดันด้วยดินระเบิดแบบ C-4 และมีอานุภาพรุนแรงมากพอที่จะ
ท� ำ ลายข้ า ศึ ก จ� ำ นวนมากได้ ผู ้ ห มวดคนนี้ เ ป็ น คนท� ำ หน้ า ที่ ก ดระเบิ ด
หลังจากข้าศึกเคลื่อนที่ผ่านเข้า จากนั้นเขากับลูกน้องก็ยิงซ�้ำด้วยอาวุธ
ประจ� ำ กายใส่ ข ้ า ศึ ก ก่ อ นที่ ค วั น ของระเบิ ด จะจางลง ผู ้ ห มวดคนนี้ ก็
เดินเข้าไปบริเวณที่เวียดกงบาดเจ็บและเสียชีวิตและยิงซ�้ำไปที่ร่างข้าศึก
ผลของการจู่โจมคราวนี้ท�ำให้เวียดกงที่เหลือแตกขบวนหนีไป
หลังจากเหตุการณ์สงบ ปรากฏว่ามีขา้ ศึกเสียชีวติ จ�ำนวน ๒๒ คน
แน่นอนว่าเหตุการณ์คราวนี้เป็นสิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นผู้บังคับหมวด
ที่เก่งและกล้า แต่ในอีกมุมหนึ่งผมว่าเขากลายเป็นนักฆ่าที่กระหายเลือด
ไปแล้ว ไม่นานหลังจากเหตุการณ์สงบลง ผู้บังคับบัญชาเขาก็มาถึง และ
เขาก็ถูกส่งให้ไปประจ�ำการที่อื่น เพราะแม้กระทั่งลูกน้องเขาก็สั่นด้วย
ความกลัวในความเป็นนักฆ่ากระหายเลือดของหัวหน้าที่เกินขอบเขต
ไม่กี่วันหลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสไปดูสถานที่ที่มีการปะทะนั้น กลิ่นของ
ศพคลุ้งไปหมด ผมก็พอจะเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และรู้สึกสงสารผู้หมวด
คนนั้นเหมือนกัน แต่วันที่เจอกันที่สนามบิน การเล่าเรื่องของเขาท�ำให้
ผมกลัวและรู้สึกสยองกับเหตุการณ์มาก
ผมและทหารส่วนหนึ่งเก็บของมีค่าซึ่งมีไม่กี่อย่างและถุงเสื้อผ้า
ลงบนด้านหลังของรถบรรทุกทหารขนาด ๓/๔ ตัน พวกเรานัง่ บนสัมภาระ
ไปยังที่หมายต่อไป ความแตกต่างระหว่างยศไม่ได้มีความหมายเลย
ในเวลานั้น ผมคิดว่าทุกคนรู้สึกเหมือนกันกับความไม่แน่นอนของชีวิต
30
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
31
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
32
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
บ่งบอกถึงความตายที่ก�ำลังจะเกิดขึ้น หลักความคิดนี้คงไม่ถูกต้องนัก
ในทางวิทยาศาสตร์ แต่ผมก็เชื่อแบบนี้ และจะไม่ประมาทแม้แต่น้อย
“เห็นพอหรือยัง ผู้หมวด” ผู้บังคับกองพันถาม
“ครับผม”
ช่วงบ่ายของวันเดียวกันผมเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปยัง
ที่หมายสุดท้ายคือหมวดของผม ประเทศสหรัฐ ใช้เวลาประมาณ ๕ ปี
ลงทุนในตัวผมและเตรียมพร้อมผมเพือ่ สงคราม ตอนนีก้ ถ็ งึ เวลาต้องทดสอบ
กันแล้ว
ฐานหมวดทหารราบที่ ๒ กองร้อยบราโว
33
บทที่ ๔
หมวดทหารราบที่ ๒
เฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ ลงจอดบนพื้นที่ที่เตรียมไว้เป็นรูปวงกลมบน
พื้นดิน ต้นไม้รอบ ๆ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นสีน�้ำตาล
ตัดกับฉากหลังที่เป็นป่าสีเขียว และใบพัดที่ก�ำลังหมุนท�ำให้เกิดลมแรง
พอที่จะสามารถท�ำให้เสื้อผ้าของทหารที่ก�ำลังคุ้มกันเฮลิคอปเตอร์ปลิวได้
ทหาร ๓ คนคุ้มกันคนละมุมของลานบิน ขณะที่คนที่ ๔ ก�ำลังให้สัญญาณ
ให้เฮลิคอปเตอร์ลงจอด ทหารเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของหมวดของผม คือ
หมวดที่ ๒ กองร้อยบราโว กองพันทหารราบที่ ๔, กองพลน้อยทหารราบ
ส่ ง ทางอากาศที่ ๕๐๓ ปกติ แ ล้ ว หมวดทหารราบจะประกอบไปด้ ว ย
ก�ำลังพล ๔๓ นาย แต่ในวันนั้นมีทหารอยู่ในหมวดเพียงแค่ ๒๒ นาย
ผมลงจากเฮลิคอปเตอร์ซึ่งจอดรออยู่พักหนึ่งเพื่อส่งสัมภาระและ
ถุงจดหมายที่บรรทุกมาด้วย จดหมายเหล่านั้นคือสิ่งเดียวที่เป็นตัวเชื่อม
ระหว่างโลกอันศิวิไลซ์กับโลกที่ผมอยู่ มันช่างต่างกันเหลือเกิน
ผมก้มตัวเดินออกจากเฮลิคอปเตอร์ไปยังทหารคนหนึ่งที่ก�ำลังให้
สัญญาณมือเพือ่ น�ำพวกเราไปในพืน้ ทีข่ องหมวด ผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ ทหาร
คนนั้นและถามว่าที่บังคับการของผู้หมวดอยู่ไหน เขาชี้ไปข้างหลังและ
ท�ำสีหน้าท่าทางดูหมิ่นดูแคลน หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ยกตัวขึ้น ทหาร
34
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ทั้ง ๔ นายที่ท�ำหน้าที่อ�ำนวยความสะดวกการขึ้นลงของเฮลิคอปเตอร์
ก็ถอนตัวเข้าไปในพื้นที่ของหมวด ผมเดินตามทหารเหล่านั้นเข้าไปใน
พืน้ ทีเ่ ช่นกัน การแสดงออกทางสีหน้าของทหารคนนัน้ ยังชัดเจนอยูใ่ นใจผม
ในปี ค.ศ. ๑๙๗๐ ประเทศสหรัฐอเมริการับรู้ถึงความล้มเหลว
ของโครงการหมู่บ้านยุทธศาสตร์ในเวียดนาม แต่ก็ตอบสนองช้าในการ
ยกเลิกโครงการ เป้าหมายของโครงการนี้คือการตัดการส่งก�ำลังบ�ำรุงของ
พวกเวียดกงซึ่งอาศัยหมู่บ้านในชนบทเป็นฐานส่งก�ำลัง ทั้งก�ำลังพลและ
ยุทโธปกรณ์ ทฤษฎีนถี้ กู ใช้ครัง้ แรกโดยทหารอังกฤษทีป่ ระเทศมาเลเซีย แต่
ดูเหมือนว่ามันจะเหมือนทฤษฎีอื่น ๆ ที่น�ำมาประยุกต์ใช้ที่เวียดนามคือ
ไม่ค่อยประสบผลส�ำเร็จ ข้าศึกในสมรภูมิแห่งนี้ก็คือประชาชนในจังหวัด
บินดิน จริง ๆ แล้วทหารเวียดกงกับชาวนาไม่ตา่ งกันเลย ชาวนาก็คอื ทหาร
และทหารก็คือชาวนา พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่มีอะไรจะมา
แบ่งแยกพวกเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นลวดหนามที่ขวางกั้น เคอร์ฟิว หรือ
แม้กระทั่งทหารจากที่ไหน ๆ ในโลก และต่อให้พวกเขาขาดการสนับสนุน
ด้ า นอาหารหรื อ ยุ ท โธปกรณ์ ใ ด ๆ ในพื้ น ที่ ก็ จ ะมี ก ารสนั บ สนุ น จาก
ประเทศเวียดนามเหนือเสมอ สมรภูมิที่นี่ไม่เหมือนกับที่ประเทศมาเลเซีย
มันมากกว่าสงครามกลางเมือง คือมีการแทรกแซงจากต่างชาติที่ให้การ
สนับสนุนทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์และก�ำลังพล เมื่อพูดถึงโครงการหมู่บ้าน
ยุทธศาสตร์ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๖๐ รัฐบาลสหรัฐได้ลงทุนไปกับ
โครงการนี้เป็นจ�ำนวนมาก เวลาผ่านไป ๑๐ ปี มันล้มเหลวไม่เป็นท่าเลย
แต่ถ้าเราไปดูข้อมูลสถิติของรัฐบาลเวียดนามใต้จะพบว่าในรายงานมีแต่
การเขียนไปในทิศทางว่าประสบความส�ำเร็จอย่างโน้นอย่างนี้
การยอมรับความจริงเป็นสิง่ ทีย่ าก และในกองทัพก็เหมือนกัน กว่า
จะท�ำอะไรก็ช้า และในฤดูร้อนปี ค.ศ. ๑๙๗๐ หมวดของผมก็ได้รับภารกิจ
35
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ให้คุ้มครองหมู่บ้านทรองแลมในต�ำบลแทมควานจังหวัดบินดิน ในบรรดา
พืน้ ทีท่ งั้ หมดทีพ่ วกเราต้องมาปฏิบตั กิ ารผมคิดว่าหมูบ่ า้ นทรองแลมนีแ้ หละ
เป็นถิ่นของพวกเวียดกง
ทรองแลมอยูห่ า่ งจากถนนหมายเลข ๑ ซึง่ ทอดตัวในแนวเหนือ-ใต้
ประมาณ ๗ กิโลเมตรและอยู่ห่างจากทะเลจีนใต้ไปทางทิศตะวันตก
ประมาณ ๓ กิโลเมตร ประชากรของหมู่บ้านมีประมาณ ๑,๓๐๐ คน ส่วน
มากเป็นคนสูงอายุ ผู้หญิง และเด็ก ส่วนชายวัยฉกรรจ์ หรือแม้กระทั่ง
เด็กวัยรุ่นต่างต้องไปรบ ถ้าไม่อยู่ข้างพวกเวียดกงก็รับใช้กองทัพของ
ประเทศเวียดนามใต้
ชีวิตของพวกเขาทั้งสองฝ่ายค่อนข้างล�ำบาก ทหารเวียดนามใต้
แทบไม่เคยได้กลับบ้าน เพราะเสีย่ งต่อการถูกจับไปเข้า “รับการศึกษาใหม่”
ส�ำหรับพวกเวียดกง ส่วนใหญ่จะฝังตัวอยู่ในพื้นที่และถ้าได้รับบาดเจ็บ
ก็มักจะเสียชีวิตลง
หมวดของผมมีขนาดก�ำลังพล ๒๒ นายฝังตัวอยู่ในพื้นที่ที่ควบคุม
โดยพวกเวี ย ดกง ที่ นี่ ด วงอาทิ ต ย์ ต กเร็ ว ส� ำ หรั บ ตอนนี้ ก็ เริ่ ม มื ด แล้ ว
ผมเดินไปหาผู้หมวดคนก่อนที่ก�ำลังนอนขดตัวด้วยความหดหู่หมดหวัง
ขณะที่ผมก�ำลังก้มตัวลงเพื่อแนะน�ำตัวเอง เขาก็ใช้สัญญาณมือบอกให้
ผมก้มลง ท�ำราวกับว่าภายในพืน้ ทีห่ มวดมีอนั ตรายยังไงยังงัน้ ผมหมอบลง
ตามที่เขาแนะน�ำ และแนะน�ำตัวเอง
“สวัสดีครับ ผมชื่อ จิม แมคดาน่า”
“ผมชื่อ ทอม รอฟ คุณมาแทนที่ผมใช่ไหม” เขาพูดด้วยน�้ำเสียง
ที่ดีใจอย่างเห็นได้ชัด
36
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
38
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
39
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เพื่อป้องกันการจู่โจมของข้าศึก แต่ก็ใช่ว่าลวดหนามหีบเพลงที่มีปลาย
อันแหลมคมราวกับใบมีดโกนจะสามารถต้านทานข้าศึกได้เสียทีเดียว ข้าศึก
ทีม่ คี วามช�ำนาญสามารถลอดผ่านมันไปได้ดว้ ยตัวเปล่า ดังนัน้ เพือ่ เป็นการ
ป้องกันอีกชั้นหนึ่ง หมวดของผมได้วางพลุส่องสว่างและกับระเบิดไว้เป็น
ระยะภายในลวดหนาม นอกจากนี้ทางรัฐบาลเวียดนามใต้ยังได้ส่งก�ำลัง
ทหารจ�ำนวน ๑ หมวดปืนเล็กเข้าไปคุ้มกันหมู่บ้านอีกชั้นหนึ่งโดยตั้งฐาน
อยูภ่ ายในหมูบ่ า้ น ได้ขา่ วว่ากองก�ำลังนีแ้ กร่งกล้าไม่นอ้ ย เท่าทีผ่ มสัมผัสกับ
นายทหารของพวกเขา ผมว่าภาวะความเป็นผู้น�ำยังน้อยอยู่
การป้องกันหมวดของเราชั้นในสุดเป็นลวดหนามหีบเพลงอีก ๖
ชั้น และยังมีหลุมขวากแทรกอยู่เป็นระยะ อีกทั้งยังมีพลุส่องสว่างกับ
ทุ่นระเบิดเคลย์มอร์ถึง ๕๔ ลูกวางไว้เป็นด่านป้องกันขั้นสุดท้าย ระเบิด
เคลย์มอร์ที่ใช้นี้จุดระเบิดด้วยสารซีโฟร์ (C-4) ที่ภายในเป็นเม็ดลูกปราย
เหล็กทีฝ่ งั อยูห่ ลายร้อยเม็ด คล้าย ๆ กับเมล็ดถัว่ ลันเตาแข็ง ๆ ในมันฝรัง่ บด
แช่แข็งยังไงยังงั้น
ทุ่นระเบิดเคลย์มอร์เหล่านี้จะถูกจุดระเบิดโดยกระแสไฟฟ้าผ่าน
อุปกรณ์ที่เรียกว่าแครกเกอร์และสายไฟ เรายังมีคูลึก ๔ ฟุต รายรอบฐาน
ทหารของเราจะรบในคูนี้ เราจึงวางกระสุนชนิดต่าง ๆ ระเบิดขว้าง รวมถึง
จรวดต่อสู้รถถังไว้เป็นระยะ แต่ละหมู่ปืนเล็กจะรับผิดชอบในแต่ละด้าน
ของฐานทีเ่ ป็นรูปสามเหลีย่ ม และสุดท้ายในแต่ละมุมของฐานจะวางปืนกล
เอ็ม ๖๐ (M60) ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธที่มีอ�ำนาจท�ำลายล้างสูงในระดับหมวด
ไว้ เพื่อยับยั้งการบุกของข้าศึก ปืนกลเอ็ม ๖๐ นี้จะช่วยหมวดทหารราบ
ได้มาก โดยเฉพาะในกรณีที่ก�ำลังของหมวดที่รักษาฐานเหลือไม่ถึง ๑๐๐
เปอร์เซ็นต์ ซึง่ ส่วนมากจะเป็นอย่างนัน้ เพราะก�ำลังส่วนหนึง่ จะต้องออกไป
ท�ำการลาดตระเวน
40
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ที่บังคับการหมวดตั้งอยู่ตรงกลางของฐานพอดีและหลุมที่ใช้เป็น
ที่ ก� ำ บั ง ส� ำ หรั บ ผู ้ บั ง คั บ หมวดก็ ดู ตื้ น เสี ย เหลื อ เกิ น ฐานนี้ เ ดิ ม ทหาร
เวียดนามใต้เคยใช้ จึงยังมีซากหอคอยไม้ไผ่สูง ๔๐ ฟุต ใครที่จะใช้มันเป็น
ที่สังเกตการณ์ก็เสี่ยงเอาหน่อยก็แล้วกัน
ระหว่างลวดหนามหีบเพลงทีว่ างรอบฐานจะมีทางเข้าออกส�ำหรับ
หมู ่ ที่ อ อกไปท� ำ การลาดตระเวน หรื อ เป็ น ทางออกฉุ ก เฉิ น บริ เวณที่
เฮลิคอปเตอร์ลงจอดจะอยูน่ อกฐานไปทางทิศใต้ เลยจากลานเฮลิคอปเตอร์
ไปลักษณะภูมิประเทศจะเป็นที่ราบสลับกับป่าทึบ ทางทิศเหนือของฐาน
จะเป็นทุง่ นาเขียวขจีสลับกับทีร่ าบทีม่ ตี น้ ไม้ขนึ้ เป็นหย่อม ๆ เหมาะส�ำหรับ
ข้ า ศึ ก ที่ จ ะใช้ เ ป็ น ที่ ซุ ่ ม โจมตี ทางทิ ศ ตะวั น ตกเลยไปจนถึ ง ทางหลวง
หมายเลข ๑ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงสลับกับทุ่งนา ลักษณะ
ภูมิประเทศทางด้านนี้อันตรายที่สุดเพราะข้าศึกสามารถใช้เป็นที่สังเกต
การเคลื่อนไหวของหมวดเราได้และยังสามารถยิงอาวุธระยะไกลใส่เรา
ได้ด้วย ทางทิศตะวันออกของฐานเป็นหมู่บ้านที่หมวดผมมีภารกิจต้อง
ปกป้อง และเลยหมู่บ้านไปจะเป็นทะเลจีนใต้
ถึงแม้วา่ ภายในฐานจะมีความปลอดภัยสูง แต่เมือ่ พิจารณารอบ ๆ
ผมมั่นใจว่าฐานของเราตั้งอยู่ในดงของข้าศึกจริง ๆ หน่วยทหารของฝ่าย
เดียวกันที่อยู่ใกล้ที่สุดคือฐานกองร้อยของผมซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไป ๓
กิโลเมตร ที่นั่นจะประกอบไปด้วยทหารราบ ๑ หมวด เครื่องยิงลูกระเบิด
ขนาด ๘๑ มิลลิเมตร ๓ กระบอก ผมคิดว่าผู้บังคับกองร้อยผมไม่ค่อยจะ
รุกรบสักเท่าไหร่ เขามักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยูแ่ ต่ในฐานกองร้อย แม้กระทัง่
พื้นที่ที่ควรจะออกไปลาดตระเวนก็ไม่ไป เลยต้องเป็นภาระของหมวด
ผมแทน นอกจากฐานกองร้อยแล้วยังมีหน่วยทหารอเมริกันอีกหน่วยหนึ่ง
อยูท่ างทิศตะวันตกของหมวดผมประมาณ ๔ กิโลเมตร ผมคิดว่าส�ำหรับผม
41
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
หรือข้าศึกหน่วยนี้ตั้งอยู่ไกลเกินไป ถัดไปทางทิศใต้ของหมวดประมาณ ๕
กิโลเมตรคือที่ตั้งของหน่วยทหารเวียดนามใต้อีกหน่วยหนึ่ง หลายเดือน
หลังจากที่ผมมาปฏิบัติหน้าที่ หมวดผมได้มีโอกาสไปช่วยหน่วยดังกล่าว
จากการถูกโจมตี แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าหน่วยนี้ละลายไปแล้ว ทหารทั้ง
๕๐ นายถูกฆ่าตายหมด มันบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของทหารเวียดนามใต้
ได้ระดับหนึ่ง
ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ผมเป็นนายทหารคนเดียวที่รับผิดชอบ
พื้นที่กว่า ๒๐ ตารางกิโลเมตร นั่นคือจุดเริ่มต้นการรบของผม หลังจาก
ที่เตรียมตัวมานานเพื่อการรบ มันถึงเวลาที่ผมต้องแสดงออกถึงภาวะผู้น�ำ
เช้าตรู่ของที่นี่ช่างงดงามเหลือแม้จะอยู่ในบรรยากาศของสงคราม ผมนั่ง
ตรึกตรองแผนการว่าต้องท�ำอะไรบ้าง
42
บทที่ ๕
รับหน้าที่ผู้บังคับหมวด
ความรู้สึกแรกของการเป็นผู้บังคับหมวดที่นี่คือความโดดเดี่ยว
เหมือนอยู่คนเดียว เช้านี้ ลูกน้องผมต่างท�ำธุระของตน เช่น แปรงฟัน
โกนหนวด ปลดทุกข์ มีเสียงทักทายกันบ้างเป็นจุด ๆ มีบทสนทนามา
กระทบหูบ้าง เช่น “เหลืออีก ๙๐ วันก็จะกลับบ้านกันแล้ว” บางคนก็
หันมาทางผมและทักทายเล็ก ๆ น้อย ๆ
ผมรวบรวมสัมภาระของใช้ส่วนตัว เช่น อาวุธประจ�ำกาย สายโยง
เข็มขัดสนาม เป้หลัง แล้วไปที่บังคับการหมวด ผมขอเวลาอยู่กับตัวเอง
เล็กน้อยเพือ่ ท�ำสมาธิกอ่ นทีจ่ ะไปท�ำหน้าทีผ่ บู้ งั คับหมวดอย่างเป็นทางการ
ผมเคยคิดว่าผู้บังคับกองร้อยคงจะมาคอยให้ค�ำแนะน�ำและออก
ค�ำสั่งให้ปฏิบัติ แต่ผมคิดผิด ผมยังไม่เห็นผู้บังคับกองร้อยเลย โน่น ต้องรอ
ไปอีกหลายสัปดาห์กว่าจะได้เจอกัน ความเป็นจริงก็คือผมเป็นนายทหาร
คนเดียวที่นี่และใหญ่ที่สุด ผมต้องรับผิดชอบ แต่ผมก็ยังใหม่จะมีใครมาให้
ค�ำแนะน�ำผม จ่าหรือผูห้ มูเ่ หรอ ผมอาจจะรับฟังข้อเสนอแนะของเขาได้แต่
สุดท้ายค�ำสัง่ ให้ปฏิบตั ภิ ารกิจต่าง ๆ ต้องออกจากผม ผมคงไม่สามารถออก
ค�ำสัง่ โดยใช้คำ� พูด เช่น “พวกเราคิดว่าหมวดเราควรปฏิบตั อิ ย่างไร” ผมท�ำ
43
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
อย่างนั้นไม่ได้แน่นอน เพราะรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นความรับผิดชอบของผม
ในฐานะผู้บังคับหมวด
ช่วงแรก ๆ ของการปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับหมวดเป็นช่วงที่ส�ำคัญ
มากส�ำหรับผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมรภูมิรบ ผมรู้ว่าก�ำลังเป็นที่จับตา
มองของลูกน้อง พวกเขาคงก�ำลังคิดว่าผู้หมวดใหม่คนนี้จะเป็นอย่างไร
หน้าตาเป็นอย่างไร จะเหมือนคนก่อนไหม เป็นต้น สถานการณ์ทนี่ เี่ ป็นเรือ่ ง
ของความเป็นความตาย ถ้าก้าวแรกของผมผิดพลาด ความน่าเชื่อถือก็จะ
หมดไปเลยและก็จะมีผลต่อลูกน้องด้วย
ผมตัดสินใจว่าจะพูดเรื่องอะไรกับหมวดผมโดยคิดว่าน่าจะเป็น
เรื่องยุทธวิธีของฝ่ายเรา เพราะเป็นเรื่องพื้นฐานที่ส�ำคัญ ในสมรภูมิรบ
ทุกอย่างที่ท�ำต้องอยู่ในกรอบระเบียบของส่วนรวมที่ตามตกลงกันไว้เพื่อ
ความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการกิน นอน การเดิน การลาดตระเวน
ผมต้องออกค�ำสั่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ให้ชัดเจน และมันก็จะเป็นเครื่องวัด
ความเป็นผู้น�ำอย่างหนึ่งด้วยว่าเราใส่ใจลูกน้องแค่ไหน
ผมส�ำรวจสภาพแวดล้อมอย่างละเอียดเท่าที่เวลาจะมีให้ ไม่ว่า
จะเป็นภายในฐาน หมู่บ้านที่ต้องคุ้มกันรวมถึงสิ่งแวดล้อมรอบฐาน เช่น
ทุง่ นา ก่อนทีจ่ ะออกค�ำสัง่ ใด ๆ ลูกน้องคงจะเฝ้าดูอยูด่ ว้ ยว่าเรามีกนึ๋ แค่ไหน
ในขณะเดียวกันผมก็ต้องข่มใจตัวเองไม่ให้ประหม่าเพราะเราก็ยังใหม่
สิ่งแรก ๆ ที่ผมควรจะท�ำอีกอย่างคือส่งชุดออกไปลาดตระเวน
ภารกิจของเราที่นี่คือการคุ้มกันหมู่บ้าน แต่จะท�ำอย่างนั้นได้อย่างมี
ประสิทธิภาพเราก็ตอ้ งรูส้ ถานทีร่ อบข้าง นัน่ คือต้องออกไปส�ำรวจนอกฐาน
ถ้าเราอยู่แต่ในฐานจริงอยู่มันอาจจะปลอดภัยในระดับหนึ่งแต่คงไม่ตลอด
ไปเพราะจะตกเป็นเป้านิ่งให้ข้าศึกได้ อีกอย่างข่าวสารที่แท้จริงเราคงจะ
44
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เป็นการส่งสัญญาณ และถ้าเป็นอย่างนั้นโอกาสที่ฝ่ายเราจะสูญเสียก็จะ
มากขึ้น และไม่มีอะไรอันตรายมากไปกว่าการถูกโอบในระหว่างที่ท�ำการ
ซุม่ โจมตี และถ้าไม่มกี ำ� ลังเสริมมาช่วย โอกาสจะสูญเสียมีถงึ ๙๐ เปอร์เซ็นต์
วิธกี ารลดอันตรายต่าง ๆ ทีอ่ าจจะเกิดขึน้ กับชุดทีอ่ อกซุม่ โจมตีกม็ หี ลายวิธี
อาทิ เปลี่ยนเส้นทางเดินลาดตระเวน เปลี่ยนจุดซุ่มโจมตี กลับฐานเร็วขึ้น
หรือเพิ่มเติมเรื่องการพรางบุคคล เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ข้าศึกตรวจจับได้
ง่าย แต่การเปลีย่ นจุดซุม่ โจมตีบอ่ ยก็มขี อ้ เสียเหมือนกันคือเพิม่ โอกาสเสีย่ ง
ในการไปเหยียบกับระเบิด หรือเดินเข้าไปยังจุดซุ่มโจมตีของข้าศึก ทั้ง ๆ
ที่รู้ว่าการลาดตระเวนหรือการซุ่มโจมตีในเวลากลางคืนนั้นอันตรายมาก
แต่ในฐานะที่เป็นผู้บังคับหมวดผมต้องท�ำเพื่อป้องกันการตกเป็นเป้านิ่ง
แล้วผมควรจะวางตัวเองอย่างไรในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ที่นี่
แน่นอนการเป็นผูบ้ งั คับหมวดในสนามรบ การวางต�ำแหน่งทีอ่ ยูข่ องตัวเอง
เป็นเรื่องส�ำคัญมาก มันเหมือนกับในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ต�ำแหน่งที่ตั้ง
จะส�ำคัญทีส่ ดุ ในฐานะทีเ่ ป็นผูบ้ งั คับหมวดผมต้องคิดดูให้ดวี า่ จะอยูจ่ ดุ ไหน
เวลาใด ปกติแล้วใน ๑ หมวดทหารราบจะประกอบไปด้วย ๔ หมู่ หมู่ละ
๑๐ คน โดยเป็นหมู่ปืนเล็ก ๓ หมู่ อีก ๑ หมู่เป็นหมู่ปืนกล แต่ในความเป็น
จริงหนึ่งหมู่ของเรามีคนแค่ ๖ - ๗ คนเท่านั้นเอง ชุดที่ออกไปลาดตระเวน
ในแต่ละครัง้ ก็คอื หมูป่ นื เล็กทีป่ กติแล้วคนทีร่ บั ผิดชอบในการลาดตระเวน
ก็คือผู้บังคับหมู่นั่นเอง ถ้าผมไปกับชุดลาดตระเวนข้อดีคือจะได้เห็นการ
ท�ำงานของลูกน้องและสามารถให้ค�ำแนะน�ำได้ว่าควรจะปรับปรุงอย่างไร
อีกอย่างลูกน้องก็จะเคารพผมมากขึ้นเพราะการลาดตระเวนถือว่าเป็น
ภารกิจทีอ่ นั ตรายทีส่ ดุ หากหัวหน้าไม่ไปรับความเสีย่ งกับลูกน้องเอาแต่อยู่
ในฐานความศรัทธาต่อผูน้ ำ� ก็จะไม่มี แต่การทีจ่ ะออกไปท�ำการลาดตระเวน
กับลูกน้องทุกครั้งคงไม่เหมาะ เพราะก�ำลังพลส่วนใหญ่อยู่ที่ฐาน เราต้อง
46
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
รับผิดชอบฐานด้วย กล่าวคือต้องอยู่ทั้งที่ฐานและไปลาดตระเวนแต่ต่าง
เวลากัน ต้องท�ำอย่างนีจ้ นกว่าลูกน้องจะมัน่ ใจในตัวเรา ดังนัน้ ใน ๒๔ ชัว่ โมง
ผมจะออกไปลาดตระเวน ๑ ครั้ง และจะอยู่ที่ฐานในเวลาที่เหลือหรือ
ประมาณ ๒ ใน ๓ ของแต่ละวัน
ในระหว่างการลาดตระเวนความรับผิดชอบและอ�ำนาจในการ
สั่ ง การจะมาจากผู ้ บั ง คั บ หมู ่ ซึ่ ง จะปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ เ ป็ น หั ว หน้ า ชุ ด ในการ
ลาดตระเวน ถ้าผมร่วมไปด้วยก็จะเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์เท่านั้น เว้นแต่
มี เ หตุ ป ะทะที่ รุ น แรงหรื อ มี ก ารรวมก� ำ ลั ง กั บ อี ก หนึ่ ง หมู ่ ป ื น เล็ ก
ในสถานการณ์ดงั กล่าวผมจึงจะรวบอ�ำนาจในการสัง่ การทัง้ หมดมาอยูท่ ผี่ ม
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บังคับหมวดควรท�ำ และในกรณีที่ผมอยู่ที่ฐานในขณะที่
ชุ ด ลาดตระเวนมี ก ารปะทะและต้ อ งการก� ำ ลั ง เสริ ม ผมในฐานะที่ เ ป็ น
ผู ้ บั ง คั บ หมวดก็ ค วรน� ำ ก� ำ ลั ง เสริ ม ออกไปช่ ว ยชุ ด ลาดตระเวนนั้ น ด้ ว ย
พูดง่าย ๆ ก็คือ ผู้บังคับหมวดที่ดีควรไปอยู่ในที่ที่ลูกน้องมีการปะทะ หรือ
ในที่ที่ก�ำลังพลส่วนมากของหมวดอยู่
ผมคิดอะไรไปสักพักและมั่นใจว่าถึงอย่างไรเสียอ�ำนาจในการ
ตัดสินใจว่าจะให้หมวดท�ำอะไรนัน้ อยูท่ ผี่ ม ผมใช้เวลาไม่ถงึ ๑๕ นาทีในการ
เก็บข้าวของให้เข้าที่ และในอีกหลายเดือนจากนี้ไปผมรู้อยู่แก่ใจว่าเรายัง
ไม่มีประสบการณ์ในการรบและจะประมาทไม่ได้ แผนการต้องมีการปรับ
เปลี่ยนอยู่เสมอเพื่อความอยู่รอดของฐานและความส�ำเร็จของภารกิจ เมื่อ
เข้ามาอยู่ในที่บังคับการหมวดเรียบร้อยแล้วผมเรียกให้พลวิทยุโทรศัพท์
มาพบ ซึ่งก็คือพลทหารที่ท�ำหน้าที่แบกวิทยุในระหว่างการรบและต้องอยู่
ใกล้กับผู้บังคับหมวดเสมอเพื่อความสะดวกในการใช้วิทยุสื่อสาร พลวิทยุ
ของผมชื่อ ฟิล เนล “ไปตามรองผู้บังคับหมวดและผู้บังคับหมู่มาหน่อยซิ”
ผมสั่งด้วยน�้ำเสียงที่ผมคิดว่านิ่งและใช้ได้ คือชัดเจน ไม่ร้อนรนจนเกินไป
47
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ผมเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น บางทีภารกิจของผมที่เวียดนามอาจไปได้สวย
ก็ได้
ในระหว่างที่รอลูกน้องมาพบผมหยิบกระป๋องลูกพีชซึ่งอยู่ในชุด
เสบียงสนามที่กองทัพบกสหรัฐแจกจ่ายให้มากิน ภายในชุดเสบียงสนามก็
จะมีไข่กระป๋องกับแฮมอยู่ด้วย ผมว่ามันไม่อร่อยเลยยิ่งในขณะที่ยังเย็น ๆ
อยู่สภาพไม่ต่างจากไขมันที่จับตัวเป็นก้อนเลยคือไม่น่ากิน สิ่งที่น่ากินที่สุด
ในความคิดผมก็คือพีชกระป๋องนี่แหละ กินแทนอาหารเช้าได้เลย มันคือ
สิ่งที่ดีที่สุดที่กองทัพบกจัดให้ได้ ขณะที่ก�ำลังกิน พลวิทยุฟิล เนล ก็กลับ
มาบอก “เดี๋ยวก็มาถึงครับผู้หมวด” ฟิล เนลเป็นคนหน้าตาบ่งบอกว่า
เป็นคนใจดี ผมสีทอง มีกระบ้างตามใบหน้าและไหล่ หลังจากนั้นฟิล เนล
ก็เลือกดูกระป๋องเสบียงสนามว่าจะกินอะไรดี เขาก็ยงั ไม่กล้าพูดกับผมมาก
ยังรอดูท่าทีอยู่ว่าผู้หมวดคนนี้จะเป็นอย่างไร ผมตัดสินใจยังไม่ชวนเขาคุย
อะไร จนกว่าจะสั่งการกับรองผู้บังคับหมวดและผู้บังคับหมู่เรียบร้อยก่อน
จ่า จอน เฮอร์นานเดซ รองผู้บังคับหมวดมาถึงก่อน เขาเป็นคน
ผิวสีค่อนข้างเข้มและหุ่นทะมัดทะแมง เชื้อสายเม็กซิกันมาจากรัฐเท็กซัส
(แต่เคยอยูเ่ มืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโดด้วย) จ่าเฮอร์นานเดซรับราชการมา
ตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลีและเป็นทหารที่รับราชการนานที่สุดในหมวด
สงครามเวียดนามท�ำให้นายทหารชั้นประทวนในกองทัพลดลงไปมากจาก
การเสียชีวิต คนที่รอดชีวิตจากการรบในครั้งแรกก็ไปอีกเป็นครั้งที่ ๒ หรือ
๓ แต่ยิ่งไปบ่อยครั้งเท่าไหร่โอกาสที่จะรอดชีวิตก็น้อยลงเท่านั้น คนที่รอด
ชี วิ ต จากการรบบางคนก็ รั บ ราชการต่ อ อี ก ๒๐ ปี ก ่ อ นจะเกษี ย ณก็ มี
แต่บางคนก็ลาออกก่อน แต่การใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุคงไม่มีประโยชน์
ส�ำหรับคนที่เสียชีวิตในสนามรบหรือพิการ
48
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
จ่าเฮอร์นานเดซใกล้จะเกษียณอายุแล้วในอีกไม่กี่ปี ดังนั้นแกจะ
เป็นคนที่รอบคอบมากไม่เสี่ยงอะไรง่าย ๆ โดยไม่มเี หตุผล และก็ไม่ใช่คนที่
บ้าระห�ำ่ กระหายสงคราม ผมรูจ้ กั จ่าเฮอร์นานเดซตัง้ แต่สมัยทีเ่ ขาเป็นผูช้ ว่ ย
ครูฝกึ ทีโ่ รงเรียนจูโ่ จม (แต่ดเู หมือนแกจะจ�ำผมไม่ได้) ช่วงของการฝึกในภาค
ที่ลุ่มที่รัฐฟลอริดาเป็นช่วงที่ล�ำบากมากและเขาก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วย
ครูฝึกกะละ ๒๔ ชั่วโมง ตอนนั้นนักเรียนจู่โจมท�ำการลาดตระเวนมาแล้ว
๕ วัน ๕ คืน ต่างก็อดหลับอดนอน เมื่อมาถึงแม่น�้ำเยลโล่ เวลาประมาณ
๕ ทุ่ม และพวกเราก็ต้องข้ามแม่น�้ำด้วยวิธีสร้างสะพานเชือก อากาศที่นั่น
เย็นมากประมาณ ๒๐ องศาฟาเรนไฮต์ และน�ำ้ ก็เย็นยะเยือก สะพานเชือก
ที่สร้างบังคับให้เราต้องเปียกน�้ำอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมเป็นคนสุดท้ายที่ต้อง
ว่ายน�้ำข้ามเพราะต้องปลดเชือกจากอีกฝั่งหนึ่งด้วย จ่าเฮอร์นานเดซ
ในฐานะทีเ่ ป็นครูฝกึ จะเป็นคนสุดท้ายทีจ่ ะข้ามสะพานเชือกระหว่างทีค่ อย
เพื่อจะข้ามเขาก็ถาม “เหลืออีกกี่คน” ผมรู้ได้เลยจากน�้ำเสียงว่าเขาเอง
ก็ไม่อยากข้ามเช่นเดียวกับนักเรียนจู่โจมเพราะน�้ำเย็นมาก แต่ก็ท�ำเป็น
เสียงเข้มไปอย่างนั้นเอง วันรุ่งขึ้นหลังจากข้ามแม่น�้ำเยลโล่แล้ว ครูฝึก
คนอื่นก็มาเปลี่ยน แต่นักเรียนจู่โจมก็ต้องลาดตระเวนในภารกิจอื่นต่อไป
สิ่งที่ส�ำคัญคือ เขาก็ข้ามแม่น�้ำที่เย็นยะเยือกเช่นเดียวกับนักเรียน คือไม่
เอาเปรียบนักเรียนจูโ่ จมและกระท�ำด้วยความรอบคอบ ในฐานะทีท่ ำ� หน้าที่
เป็นรองผู้บังคับหมวด เฮอร์นานเดซก็แสดงออกถึงความรอบคอบเช่นกัน
เขาจะไม่เสี่ยงชีวิตของลูกน้องในสิ่งที่ไม่มีเหตุผลอันควรเช่นความบ้าระห�่ำ
เป็นอันขาด
“สวัสดียามเช้าครับผูห้ มวด” จ่าเฮอร์นานเดซทักทายผม ดูเหมือน
ว่าเขาจะจ�ำผมไม่ได้จริง ๆ ผมก็ทักทายกลับและผู้บังคับหมู่อีก ๓ คนก็
มาถึงพอดี ผู้บังคับหมู่ทั้ง ๓ คนยังดูเด็กอยู่เลย อายุอยู่ในช่วง ๒๐ - ๒๑ ปี
49
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
51
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ทุกคนก็แยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่สั่งการไป ผมมีเวลาสักเล็กน้อยส�ำหรับ
งีบก่อนจะออกไปส�ำรวจรอบฐานแต่ก็งีบไม่สนิทนัก พวกผู้บังคับหมู่คงจะ
เดาไปต่าง ๆ นานาว่าผู้หมวดคนใหม่จะมาไม้ไหนกันแน่
เจ้าแมลงวันตัวน้อยก็บนิ มาตอมทีห่ น้าผมตอนทีก่ ำ� ลังงีบพอดี มัน
คงพอจะรูว้ า่ ผมไม่ได้หลับจริง ๆ ผมหลับไม่ลงเพราะว่าอีกไม่กชี่ วั่ โมงก็ตอ้ ง
ออกไปลาดตระเวนกับหมู่ของเจมส์ มันจะเป็นการออกไปลาดตระเวนรบ
ครั้งแรกส�ำหรับผม เม็ดเหงื่อไหลจากคอลงไปบนแผ่นหลังเปียกเสื้อเกราะ
กันกระสุนที่แสนจะรัดติ้วไปหมด และแล้วเจ้าแมลงวันตัวน้อยก็บินหนีไป
มันไม่ได้รับรู้ความยากล�ำบากของผมเลย
การเตรียมความพร้อมส�ำหรับการลาดตระเวนเป็นไปด้วยความ
เรียบร้อย เจมส์ออกค�ำสัง่ ลาดตระเวนให้กบั ลูกหมูโ่ ดยมีผมนัง่ ดูอยูข่ า้ งหลัง
ในภาพรวมลูกหมูม่ คี วามพร้อม เพียงแต่ตอ้ งปรับเรือ่ งการแต่งกายเล็กน้อย
เพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจลาดตระเวน และเมื่อถึงเวลา ๑๓๐๐ พวกเรา
ก็ออกจากฐาน
ความคาดหวังของผมตอนนี้เหมือนกับตอนที่มาถึงที่สนามบิน
เบียนฮัวใหม่ ๆ ผมคิดไปต่าง ๆ นานา ก้าวแรกที่ออกจากฐานก็หวั่น ๆ
เหมือนกันว่าจะมีลกู กระสุนจากฝ่ายตรงข้ามยิงเข้ามาใส่หรือไม่ สิง่ ทีส่ มั ผัส
เมื่อก้าวขาออกจากฐานคือความสงบจากวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ที่ไม่
เหมือนทีไ่ หน ผมสังเกตสิง่ แวดล้อมรวมถึงผูค้ นทีส่ ญ ั จรไปมาว่าเป็นอย่างไร
อาทิ ลักษณะการเดิน สิ่งที่แบกถือ เป็นต้น สภาพแวดล้อมที่ผมสังเกต
เช่น ความคดเคี้ยวของภูมิประเทศ ลักษณะของทุ่งนา ที่ดูเหมือนจะเดิน
ผ่านไปไม่ได้ แต่ความจริงบนทุง่ นาจะมีคนั นาเล็ก ๆ ทีพ่ อจะให้คนเดินข้าม
ไปได้ ติดกับทุง่ นาจะเป็นพุม่ ไม้เตีย้ ๆ ทีข่ า้ ศึกสามารถใช้เป็นทีห่ ลบซ่อนได้
52
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
อย่างดี แต่การเดินบนคันนาเป็นแถวยาวค่อนข้างจะเป็นเป้าเคลื่อนที่
อย่างดีให้กับข้าศึก
สภาพภูมิประเทศที่นี่เป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าไม่ใช่ทุ่งนา
ก็จะเป็นพุม่ ไม้ ร่องทีเ่ ป็นแนวทางเดินเล็ก ๆ หญ้าสูง ๆ หรือทีช่ นั ไม่เหมาะ
แก่การเดินลาดตระเวน แต่ที่ที่เหมาะแก่การลาดตระเวนก็จะเสี่ยงต่อการ
ถูกซุ่มโจมตี ฝ่ายที่เคลื่อนไหวก่อนก็มักจะเสียเปรียบ ในทางตรงกันข้าม
ฝ่ายที่อยู่กับที่ก็มักจะได้เปรียบ ส�ำหรับทหารอเมริกันแล้ว ภูมิประเทศอัน
สวยงามที่นี่มักจะตามมาด้วยอันตรายเสมอ
สิ่งที่ผมต้องตระหนักเป็นอย่างมาก หรือที่จริงส�ำคัญมากกว่า
อันตรายที่มาจากภูมิประเทศแถวนี้ก็คือความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อหมวด
รวมถึงชีวติ ของพวกเขา พูดง่าย ๆ ผมมีสว่ นท�ำให้ชวี ติ ของพวกเขาปลอดภัย
หรือเสี่ยงภัยมากขึ้น ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่กับหมวดผม เช่น มีลูกน้อง
บาดเจ็ บ หรื อ เสี ย ชี วิ ต ผมต้ อ งรั บ ผิ ด ชอบเต็ ม ๆ โดยหน้ า ที่ อั น ที่ จ ริ ง
บางเรื่ อ งมั น ก็ ดู เ หมื อ นว่ า ผมก� ำ ลั ง หลอกตั ว เองอยู ่ ห รื อ เปล่ า ผมควร
จะมีความพร้อมในเรื่องประสบการณ์การรบก่อนที่จะมาน�ำพวกเขา แต่
ทางเลือกก็ไม่ได้มีมากนัก
ในภาพรวมลู ก น้ อ งผมมี ค วามพร้ อ มทั้ ง กายและใจในการรบ
มีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น มีวินัยในระหว่างการเดิน
ลาดตระเวน การถือปืนอยู่ในสภาพพร้อมรบ และเมื่อหยุดแต่ละคนก็รู้
หน้าทีข่ องตัวเองว่าต้องรับผิดชอบบริเวณไหน พูดได้วา่ ผมสามารถจะไว้ใจได้
การลาดตระเวนครั้งแรกนี้เป็นไปด้วยดีไม่มีการปะทะ พวกเรา
เดินผ่านชาวนากลุ่มหนึ่งแต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ผมรู้ว่าสักวัน
ก็ต้องมีการปะทะแน่ ๆ
53
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
54
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
หรือหญ้าที่สั่นไหว ดูเหมือนมันจะดังเป็นพิเศษเกินความเป็นจริงในความ
รู้สึกเรา ดูราวกับว่ามันก�ำลังส่งสัญญาณบอกฝ่ายตรงข้ามว่าเราก�ำลังมา
ในขณะที่ข้าศึกนั่งรอคอยในความมืดรอจังหวะที่พวกเราจะเคลื่อนที่ผ่าน
พื้นที่สังหารที่พวกมันเตรียมไว้
ในความเป็นจริง กลางคืนกลับเงียบสงัดดูเป็นธรรมชาติดไี ม่นา่ จะ
มีอะไร แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่ามันอาจจะมีอะไร เพราะพวกเราก�ำลังเข้าที่
ซุ่มโจมตี แบรดชอว์เป็นคนน�ำพวกเราแต่ละคนไปเข้าที่ในจุดซุ่ม ผมก็เป็น
คนหนึง่ ทีอ่ ยูใ่ นจุดซุม่ ตอนแรกก็ตนื่ เต้นแต่สกั พักก็เริม่ เป็นปกติ ความเงียบ
สงัดท�ำให้บรรยากาศความตื่นเต้นกลายเป็นปกติในที่สุด
ช่วงกลางวันที่ผ่านมาเราท�ำงานกันไม่ได้หยุด เมื่อถึงเวลาต้อง
ท�ำการซุม่ โจมตีเพือ่ สังหารข้าศึกผมกลับรูส้ กึ ง่วงมาก ผมรูต้ วั ว่าตัวเองก�ำลัง
สัปหงกอยูแ่ ละบางครัง้ ก็เผลอหลับไปบ้าง แต่สกั พักก็ตอ้ งตืน่ เพราะกลัวว่า
ลูกน้องจะมาเห็น ดูเหมือนเวลาจะผ่านไปเร็วเหมือนโกหก อีกไม่กี่อึดใจ
ก็เริ่มสว่างแล้ว โชคดีที่ไม่มีการปะทะเกิดขึ้น หลังจากนั้นพวกเราก็กลับ
เข้าฐาน
ส�ำหรับเช้าวันที่สองของการเป็นผู้บังคับหมวด ผมเริ่มมีความ
มั่ น ใจมากขึ้ น ผมให้ ค วามเห็ น ส� ำ หรั บ การซุ ่ ม โจมตี เ มื่ อ คื น ที่ ผ ่ า นมา
ตัวอย่างเช่น การมีวินัยในตัวเองไม่เผลอหลับในระหว่างท�ำการซุ่มโจมตี
ซึ่งเรื่องนี้ผมเองก็รู้ตัวดีว่ามันต้องฝืนเพราะพวกเราเหนื่อยกันมาทั้งวัน
และก็ให้คำ� แนะน�ำในการปรับทีม่ นั่ ตัง้ รับในฐานด้วย นอกจากนัน้ ผมยังออก
ไปเยี่ ย มหมู ่ บ ้ า นที่ ห มวดผมรั บ ผิ ด ชอบ ดู ๆ ไปผมก็ เ หมื อ นกั บ เป็ น
ผู้บัญชาการประจ�ำหมู่บ้านไปเลย อีกทั้งยังได้ออกค�ำสั่งยุทธการส�ำหรับ
การลาดตระเวนเวลา ๑๓๐๐ ซึง่ ผมก็จะไปด้วยเพือ่ ให้ลกู น้องมีความมัน่ ใจ
55
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ในตัวผู้น�ำ ครั้งนี้จะเป็นการออกไปท�ำการลาดตระเวนรบเป็นครั้งที่ ๓
ในห้วงเวลา ๔๘ ชั่วโมง
การแต่ ง กายส� ำ หรั บ การปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ใ นแต่ ล ะวั น คื อ ชุ ด ตาม
ระเบียบของกองทัพบก ซึง่ ก็คอื ชุดสนามส�ำหรับการออกไปลาดตระเวนจะ
ไม่น�ำเป้หลังและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น เสื้อผ้าหรือน�้ำดื่มเพิ่มเติมไปด้วย
เพราะเป็นการลาดตระเวนรอบ ๆ พื้นที่รับผิดชอบของหมวดซึ่งไม่ได้ไกล
มาก แต่ทกุ คนต้องสวมเสือ้ กันกระสุนซึง่ เมือ่ ติดกระดุมแล้วก็จะคับแน่นพอ
สมควร ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะแน่นขนาดไหนถ้าเอาเป้หลังติดตัวไปด้วย
อาวุธประจ�ำกายที่ติดตัวไปด้วยคือ ปืนเล็กยาว เอ็ม-๑๖ ทุกคนที่ออกไป
ลาดตระเวนจะน�ำกระสุนไปค่อนข้างมาก ยกตัวอย่างเช่น ตัวผมที่ปกติจะ
น�ำกระสุนติดตัวไปน้อยทีส่ ดุ เมือ่ เทียบกับลูกน้องจะน�ำกระสุนปืน เอ็ม-๑๖
ไป ๒๕ ซอง แต่ละซองบรรจุ ๑๘ นัด ซึ่งจะบรรจุกระสุนส่องแสงในทุกนัด
ที่ห้า นอกจากกระสุน เอ็ม-๑๖ แล้ว เรายังน�ำลูกระเบิดขว้างสังหารและ
ลูกระเบิดควันเพื่อส่งสัญญาณไปคนละหลายลูก ยิ่งไปกว่านั้นแต่ละชุด
ลาดตระเวนจะน�ำจรวดต่อสู้รถถังขนาดเบาไปด้วยจ�ำนวน ๒ นัด และ
ผมตั้งใจไว้ว่าในอนาคตจะให้แต่ละคนน�ำติดตัวไปคนละนัดเลย ส�ำหรับ
ปืนกล เอ็ม-๖๐ นั้นอาจจะน�ำไปด้วยก็ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ถ้าต้องน�ำปืนกล เอ็ม-๖๐ ไปด้วย ก�ำลังพลในชุดลาดตระเวนต้องช่วยกัน
แบกกระสุน เพราะกระสุนปืนกล เอ็ม-๖๐ จะหนักกว่าของปืน เอ็ม-๑๖
มาก ส�ำหรับมีดสนามก็แล้วแต่จะน�ำมีดสนามที่แจกโดยกองทัพหรือมีด
ส่วนตัวติดตัวไป ส�ำหรับภารกิจซุ่มโจมตีจะน�ำทุ่นระเบิดแบบเคลย์มอร์
ติดไปด้วย ส�ำหรับตัวผูบ้ งั คับหมวดเนือ่ งจากต้องมีความคล่องตัวสูงในการ
เคลือ่ นทีจ่ งึ ต้องขนของไปน้อยเมือ่ เทียบกับลูกน้อง แต่กจ็ ะมีอย่างอืน่ เสริม
56
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
57
บทที่ ๖
การบาดเจ็บครั้งสำ�คัญ
58
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
หมู่ที่เวียดนามอย่างไร้เหตุผล ดอนซึ่งท�ำหน้าที่หัวหน้าชุดลาดตระเวน
ก็ยืนโก้งโค้งค�้ำหัวของพลน�ำทาง สักพักเขาก็สั่งให้ทั้งหมดลุกขึ้นแล้วเดิน
ต่อไป
เหตุการณ์แบบนีเ้ กิดขึน้ เป็นระยะ ๆ เมือ่ เราลาดตระเวนผ่านพืน้ ที่
ชนบท การท�ำหน้าที่ของดอนในฐานะหัวหน้าชุดลาดตระเวนท�ำให้ผม
สบายใจเพราะเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถพึ่งพาได้ และลูกน้องเขา
ก็ไว้ใจเขา การสื่อสารระหว่างเขากับลูกน้องส่วนมากใช้ภาษามือหรือการ
แสดงออกทางใบหน้าแทนการใช้ค�ำพูด ผมรู้สึกดีใจที่ได้เขามาเป็นลูกน้อง
เพราะเขารู้งาน บอกตามตรงว่าผมเองก็ยังใหม่ในเรื่องประสบการณ์ในป่า
แบบนี้
เมื่อเวลาประมาณ ๑๓๔๕ พวกเราเดินมาถึงเนินเล็ก ๆ และเห็น
คนสองคนก�ำลังก้มท�ำอะไรบางอย่างบนเนินดินห่างออกไปประมาณ ๑๒๕
เมตร จากทีท่ เี่ ราอยู่ พลน�ำทางเมือ่ เห็นดังนัน้ จึงส่งสัญญาณให้ทกุ คนรูแ้ ทบ
จะโดยอั ต โนมั ติ ผู ้ ห มู ่ ด อนให้ สั ญ ญาณให้ ทุ ก คนปรั บ รู ป ขบวนเป็ น
หน้ากระดานและคืบไปข้างหน้าทีละน้อยพร้อมปลดห้ามไกให้อยู่ใน
ต�ำแหน่งพร้อมยิง ผมไม่แน่ใจว่าชายทีเ่ ห็นอายุประมาณเท่าไหร่ บางทีอาจ
จะสามสิบปีหรือห้าสิบปีก็เป็นได้ แต่เขายังมีผมสีด�ำ ส่วนอีกคนเป็น
เด็กผู้ชายอายุน่าจะประมาณแปดปี อาจจะเป็นลูกของชายคนนั้นก็ได้
ดูเหมือนว่าชุดลาดตระเวนก�ำลังจะเตรียมสังหารคนทั้งสอง
ผมหันไปที่ดอนและพูดว่า “คุณก�ำลังท�ำอะไรน่ะ”
ดอนตอบ “พวกเวียดกงครับ”
ผมคิดตอนนั้นว่าถึงเวลาต้องแสดงบทบาทของผู้บังคับหมวดแล้ว
ผมจะไม่อนุญาตให้ชุดลาดตระเวนยิงใส่คนทั้งสอง ผมมองไม่เห็นเลยว่า
59
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เขาถืออาวุธอยู่ในมือ และอีกอย่างผมคิดว่าไม่ว่าชายคนนั้นจะมีแนว
ความคิดทางการเมืองฝักใฝ่ไปทางใด อย่างน้อยเด็กคนนั้นก็ถือว่าบริสุทธิ์
และควรจะมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่
“หยุดก่อน” ผมบอกดอน เขาหันมาทางผมด้วยสายตาที่ไม่
สามารถอธิบายด้วยค�ำพูดได้ ที่ผ่านมาก่อนที่ผมจะมาท�ำหน้าที่ผู้บังคับ
หมวดเขาคือผู้หมวดภาคสนามตัวจริงและไม่เคยลังเลในการตัดสินใจ แต่
คราวนี้เหมือนเขาก�ำลังถูกท้าทาย แต่ผมยังยืนยันในค�ำสั่งที่ได้ส่ังไปแล้ว
และไม่เปลีย่ นแปลง เพราะถ้าปล่อยให้ชดุ ลาดตระเวนยิงใส่ชายคนนัน้ และ
ก็เด็ก รับรองได้เลยว่าพวกเขาต้องตายอย่างแน่นอน แต่ถ้าคิดในมุมกลับ
ดอนอาจจะถูกก็ได้ เพราะผมยังมีประสบการณ์ในการรบน้อย แต่ไม่วา่ ใคร
จะคิ ด ถู ก หรื อ ผิ ด อย่ า งไรผลของการกระท� ำ ก็ จ ะอยู ่ กั บ เขาและต้ อ ง
รับผิดชอบในสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ด้วย และในฐานะทีผ่ มเป็นผูบ้ งั คับหมวดผมก็ตอ้ ง
รับผิดชอบผลของมันอยู่แล้ว
ผมจ้องตาผู้หมู่ดอน และพูด “ถ้าเป็นพวกเวียดกงเราจะจับเป็น”
ดอนเป็นทหารที่ดี ถึงแม้เขาเองจะไม่ชอบให้ใครมาออกค�ำสั่งให้
เขาท�ำโน่นท�ำนีแ่ ต่เขาก็เชือ่ ฟังค�ำสัง่ ของหัวหน้าเสมอ พอผมพูดจบเขาก็ให้
สัญญาณมือเพือ่ ให้ทงั้ หมดลุกขึน้ และเคลือ่ นไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ เข้าไป
ใกล้ชายสองคนนั้น
ก่อนที่พวกเราจะเข้าไปใกล้ในระยะห่างประมาณ ๕๐ เมตร
คนทั้งสองก็รู้ตัวและวิ่งหนีเข้าไปในป่าทึบตอนท้ายของไร่ที่ซึ่งพวกเขา
ท�ำงาน พวกเราก็วิ่งตามไปติด ๆ แต่เสื้อเกราะกันกระสุนที่ใส่อยู่เล่นเอา
พวกเราหอบไปพั ก ใหญ่ แ ละเหงื่ อ ท่ ว มตั ว เพราะอากาศที่ นี่ ร ้ อ นมาก
เป้าหมายเริ่มห่างออกไป ผมหล่นจากล�ำดับที่สามมาเป็นล�ำดับที่สี่ในแถว
60
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ในใจก็คิดว่าหรือว่าเราผิดและผู้หมู่ดอนถูก แต่อย่างน้อยผมก็ไม่ได้ท�ำให้
เด็กคนนั้นเสียชีวิต
สักพักผมก็รู้สึกว่าเท้าข้างขวาเหมือนโดนอะไรดึง ผมบิดไปทาง
ซ้ายและพยายามก้าวให้ยาวขึ้น
เสียงระเบิดทีด่ งั สนัน่ ท�ำให้หขู า้ งซ้ายเหมือนจะระเบิดแล้วตัวผมก็
ลอยละลิ่วไปในทิศทางของก้าวสุดท้าย ในขณะนั้นผมไม่รู้สึกว่าตัวเองอยู่
ในโลกของความเป็นจริงเลย มันเหมือนอยู่ในความฝันยังไงยังงั้น ดวงตาที่
เบิกกว้างอยู่ยังเห็นลูกน้องเดินไปเดินมา สักพักผมก็ปล่อยตัวลงกับพื้นดิน
ฝุ่นตลบเต็มใบหน้าและล�ำตัว
เมือ่ เริม่ รูส้ กึ ตัว ผมก็พดู “โอ้พระเจ้าพวกเราถูกโจมตี ฉันเองเหรอนี”่
ผมรู้สึกอยากจะอาเจียน พยายามผงกหัวหันไปมองดูที่ขาของตัวเอง
เพื่อดูว่ามันยังอยู่ไหม ขายังอยู่แต่มีเลือดไหลและมีบาดแผล ผมอยากจะ
ร้องตะโกนออกไปด้วยความดีใจ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าท�ำไมมันไม่เจ็บเลย
โดนเสียขนาดนี้มันควรจะเจ็บบ้าง
ไม่กี่วินาทีลูกทีมที่ท�ำหน้าที่เสนารักษ์หรือพยาบาลสนามก็มาถึง
และบอกว่าผมโดนลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด ๑๕๕ มิลลิเมตรที่ถูกดัดแปลง
เป็นกับระเบิด แต่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นกระสุน ค. ๖๐ มิลลิเมตรมากกว่า
การทีผ่ มบิดตัวไปทางซ้ายหลังจากทีเ่ ท้าขวาถูกดึงมันเป็นการป้องกันไม่ให้
ระเบิดเกิดระเบิดขึ้นระหว่างขาของผม ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงอาการสาหัส
มากกว่านี้
จะว่าไปแล้วผมไม่รู้หรอกว่าตัวเองสะดุดกับระเบิดมันเป็นเพียง
สัญชาตญาณให้บดิ ตัวไปอีกทางหนึง่ ซึง่ ก็ทำ� ให้ผมรอดมาได้ บางทีเส้นแบ่ง
ระหว่างประสบการณ์กับโชคมันก็ไม่ค่อยจะชัดเจนนัก แต่คราวนี้ผมโชคดี
61
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
62
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
64
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
65
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ที่เหลืออีกสองคนถูกหามบนเปลสนามไปขึ้นเครื่อง ผมไม่รู้ว่าอาการ
บาดเจ็บของพวกเขาหนักแค่ไหน
บนเฮลิคอปเตอร์เปลของผมอยู่บนสุดติดกับผนังด้านบนของ
เครื่อง ถ้าคนตายสามารถมองเห็นได้ ผมว่าสภาพผมตอนนี้ก็เหมือนอยู่ใน
โลงศพ ใจผมลอยไปที่ต่าง ๆ บางขณะก็นึกถึงเด็กผู้ชายและชายคนนั้น
ผมท�ำถูกไหมหนอที่ตัดสินใจแบบนั้น แต่ไม่ว่าจะถูกหรือผิดผมคือผู้ได้รับ
ผลของการตัดสินใจในตอนนั้น ลูกน้องเราจะคิดว่าเราโง่หรือเปล่าหนอ
ผมถามตัวเอง แต่ถา้ สถานการณ์แบบนัน้ เกิดขึน้ อีกผมก็คงไม่อนุญาตให้ยงิ
เป็นแน่
ไม่นานผมก็หยุดคิดเรือ่ งพวกนี้ เพราะผ้าพันแผลทีห่ วั เริม่ หลุดออก
พร้อม ๆ กับลมที่พัดเข้ามาในเครื่อง บางส่วนของผ้าได้พลิ้วสะบัดออกไป
นอกตัวเครือ่ ง จนผมกลัวว่ามันจะไปพันกับใบพัดแล้วกระชากหัวผมให้หลุด
ผมพยายามเรียกร้องความสนใจจากเจ้าหน้าทีพ่ ยาบาลซึง่ ก�ำลังดูแลผูป้ ว่ ย
ที่โดนยิงที่ท้องอยู่แต่เขาไม่เห็น สักพักผมเริ่มเข้าใจและสบายใจว่าสิ่งที่ผม
เป็นห่วงนัน้ ไม่มที างทีจ่ ะเป็นไปได้ตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพราะลมจาก
ใบพัดจะตีลงมาเสมอ
สิ่งที่น่ากลัวกว่านี้ที่ผมจะเจอคือที่กุยนอน ที่นั่นความโกลาหล
เหมือนในฉากสมรภูมิรบที่แอตแลนตาในหนัง กอน วิธ เดอะ วินด์ (Gone
with the Wind) โรงพยาบาลที่กุยนอนนี้จะรับผิดชอบผู้ได้รับบาดเจ็บใน
เขตทหารที่ ๒ (Military Region II) ซึ่งรวมพื้นที่ของหมวดผมด้วย ตอนที่
ผมไปถึง หมวดทหารม้าอเมริกันเพิ่งโดนซุ่มโจมตีบริเวณหุบเขา ๕๐๖
ทางตอนใต้ของบองซอน ทหาร ๙ นายได้รับบาดเจ็บและมารับการรักษา
ที่นี่ แผลของพวกเขาดูน่าสยดสยองมาก มันบวมและไหม้ พวกเขามานอน
66
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
67
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
68
บทที่ ๗
คั่นเวลา
ผมตื่นมาบนผ้าปูเตียงที่สะอาดตาและรู้สึกดี บางทีสิ่งที่เกิดขึ้น
อาจจะเป็นแค่ฝนั ร้ายก็ได้ หรือว่าผมอยูท่ บี่ า้ น ไม่ใช่เลย ผมอยูท่ โี่ รงพยาบาล
นี่แหละ
ข้ า งซ้ า ยและขวาของผมเต็ ม ไปด้ ว ยเตี ย งผู ้ ป ่ ว ย แต่ ล ะคนมี
ผ้าพันแผลเต็มไปทั้งตัว มันไม่ใช่ความฝัน
ผมเริ่มส�ำรวจตัวเอง นิ้วมือ นิ้วเท้า แขน ขาอยู่ครบ แล้วหูข้าง
ที่บาดเจ็บล่ะ มันยากที่จะบอกตอนนี้เพราะหูซ้ายถูกหุ้มไปด้วยผ้าพันแผล
ก้อนโต เสียงดังหึ่ง ๆ อยู่ในหู และผมก็รู้สึกได้ว่ามันกระดิกได้ โอ้แม่เจ้า
มันยังอยู่ ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
และความจริงทีท่ ำ� ให้ผมดีใจมากคือผมบาดเจ็บไม่มากนัก หลังจาก
ที่เอาสะเก็ดระเบิดออกแล้ว ประมาณหนึ่งหรือสองวันหลังจากนั้นก็มีการ
คุยกันว่าจะย้ายผมไปรักษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่ในวันที่สามผมก็ดี
ขึ้นมาก ผมรู้ว่าผมจะหายเป็นปกติจากปฏิกิริยาของอนุศาสนาจารย์และ
คุณหมอที่เวียนกันมาดูแล คุณหมอก็อยากให้ผมออกจากโรงพยาบาล
เร็ว ๆ ส่วนอนุศาสนาจารย์ก็เป็นห่วงเกี่ยวกับว่าผมจะด�ำเนินชีวิตอย่างไร
ต่อจากนี้ แป๊บเดียวพวกเขาก็เดินจากไป
69
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ผมอยากลุกออกจากเตียงมาก สิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบเลยอย่างหนึ่ง
ของที่นี่คือ กระโถนปัสสาวะของผู้ป่วย และอีกอย่างผมอยากโทรศัพท์ไป
หาภรรยา อยากเล่าเรือ่ งทีเ่ กิดขึน้ จากปากผมเองให้เธอฟังเธอจะได้สบายใจ
พอรูส้ กึ ว่าเดินไหวผมก็ลองดู โดยเดินไปห้องน�ำ้ ก่อนพร้อมกับลาก
เสาน�้ำเกลือไปด้วย แต่พอไปถึงห้องน�้ำผมกลับเป็นลมซะงั้น ช่างน่าอาย
เหลือเกิน
ไม่นานผมก็สามารถเดินไปโทรศัพท์หาภรรยา “สวัสดีแพทที่รัก
นี่จิมนะ ผมสบายดีแล้วคุณล่ะ ผมโทรมาเพื่อจะบอกว่าสบายดี ความจริง
ก็ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ ผมได้รับบาดเจ็บแต่
ไม่มาก คือไม่เจ็บเลย ครบ ๓๒ ไม่มีส่วนไหนของร่างกายสูญหาย จริง ๆ
นะ”
“อย่าร้องไห้สิที่รัก ผมไม่เป็นไรจริง ๆ ผมโทรมาเพียงเพื่อจะบอก
ว่าผมไม่เป็นไรมาก ไม่อยากให้คุณตกใจถ้าได้รับโทรศัพท์จากกองทัพ
ผมคงต้องกลับไปทีห่ น่วยล่ะ ผมประจ�ำทีก่ องพลน้อยส่งทางอากาศที่ ๑๗๓
คุณส่งจดหมายหาผมได้นะ พอผมกลับไปถึงหน่วยผมจะเขียนจดหมายถึง
คุณทันที ที่อยู่ผมก็จะให้ไว้ด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงนะ หน่วยที่ผมอยู่ค่อนข้าง
จะเงียบ ไม่มอี ะไรหวือหวา พวกเรามีภารกิจในการรักษาความปลอดภัยให้
กับชาวบ้านที่นี่ คือให้พวกเขาสามารถท�ำมาหากินได้ตามปกติน่ะ ผมคง
ต้องไปแล้วล่ะฝากบอกพ่อแม่ผมด้วย เดี๋ยวท่านจะเป็นห่วง ผมจะเขียน
อธิบายในจดหมายให้ท่านฟังเองว่าเป็นอย่างไร แพท ผมรักคุณนะ และ
คิดถึงด้วย ไม่ต้องร้องไห้ ผมไม่เป็นไรจริง ๆ แค่นี้ก่อนนะที่รัก”
ผมวางหูโทรศัพท์ลง เป็นการตัดขาดระหว่างโลกที่เต็มไปด้วย
ความรัก ความศิวิไลซ์ กับโลกที่ผมอยู่ ผมรู้เลยว่าสิ่งที่เธอจะบอกกับทาง
70
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
บ้านคืออะไรก็ได้เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นห่วงมาก ถึงจะเป็นการโกหกแต่ก็
ต้องท�ำ
การใช้ชวี ติ ในโรงพยาบาลไม่ได้เลวร้ายนัก มันท�ำให้ผมลืมสงคราม
ทีเ่ กิดขึน้ ไปชัว่ ขณะ ผมไปเยีย่ มคนป่วยทีม่ าเข้าโรงพยาบาลพร้อมกัน ทหาร
ทีโ่ ดนยิงทีท่ อ้ งก็กำ� ลังฟืน้ อาการดีขนึ้ มากแต่โอกาสทีจ่ ะได้ไปรบอีกคงน้อย
ส่วนคนที่โดนยิงลูกกระสุนฝังเข้าที่แขนอาการป่วยดีขึ้นมากและความจริง
คือเขากลับไปรบก่อนผมอีก
หมู่แบรดชอว์มาที่โรงพยาบาลนี้ของวันที่ ๕ ที่ผมอยู่ เขาโดน
ซุม่ ยิงในขณะทีอ่ ยูใ่ นฐาน อาการหนักมาก ผมไปเยีย่ มเขา ใบหน้าสีเข้มของ
เขาดูไม่เข้มเลยและดูไม่ดุดันเหมือนแต่ก่อน ล�ำตัวก็ดูเล็กลงกว่าที่เคยเห็น
แต่ดวงตาใหญ่ขึ้น บางทีอาจจะเกิดจากความกลัวก็ได้
ผมทักทายเขา “สวัสดีหมู่”
เขาตอบด้วยน�้ำเสียงที่อ่อนแรง “สวัสดีครับหมวด ผมได้ข่าวว่า
หมวดเสียชีวิตแล้ว”
ผมยิ้มและตอบ “ยังมีชีวิตอยู่ นายเป็นอย่างไรบ้าง”
“ไม่ดีเลยครับ แต่ผมต้องหาย” เขาตอบด้วยน�้ำเสียงที่หนักแน่น
เราคุยกันสักพัก เขายังดูขวัญดีส�ำหรับคนที่เพิ่งเฉียดตาย เขา
เล่าว่าตอนที่ถูกลอบยิงเขาก�ำลังเล่าเรื่องครอบครัวพร้อมกับล้วงเข้าไปใน
เป้เพื่อจะเอาคัมภีร์ไบเบิลออกมา ซึ่งมีรูปถ่ายของครอบครัวเขาอยู่ข้างใน
จังหวะนั้นพลซุ่มยิงของฝ่ายตรงข้ามก็ยิงเข้าใส่ถูกเข้าที่ด้านซ้ายของล�ำตัว
ลูกกระสุนโดนกระดูกและแฉลบผ่านปอดมาทะลุออกตรงหน้าอก ท�ำให้
หน้าอกเป็นรู ปอดทะลุ
71
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ผมน่าจะรู้จักแบรดชอว์มากกว่านี้ เมื่อไม่อยู่ในหมวดดูเขาจะ
ผ่อนคลายมากขึน้ เขาบอกว่า “หมวดดูไม่เหมือนผูบ้ งั คับหมวดเลยนะครับ”
ผมใจเสีย ลึก ๆ ผมคิดว่าผมเองก็ยังเป็นผู้หมวดที่ไม่ดีสักเท่าไหร่
แต่อย่างน้อยผมก็พยายามจะท�ำให้มันดี
แบรดชอว์พูดต่อว่า “ไม่นะ ผู้หมวดดูเหมาะที่จะเป็นอย่างอื่น
มากกว่า อย่างนายธนาคารอะไรแบบนี้ เป็นนายธนาคารในเมืองเล็ก ๆ
ถือกระเป๋าเอกสารมากกว่าที่จะมาถือปืน” ค�ำพูดของแบรดชอว์ท�ำให้ผม
หมดก�ำลังใจไปเลยทีเดียว แต่เขาไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีอะไร ตอนท้ายเขา
เตือนผม
“อย่ากลับไปอีกเลยผูห้ มวด ถ้าหาทางไปทีอ่ นื่ ได้กไ็ ป ข้างนอกนัน่
ผมไม่เคยเห็นนายทหารคนไหนที่พอใช้ได้รอดออกมาสักคน คนที่ตั้งใจจะ
ท�ำหน้าที่ให้ดีมักจะโดนแบบคุณนี่แหละ มีแต่ไอ้ขี้ขลาดแบบรอฟเท่านั้นที่
รอดออกมา แต่ก็ท�ำให้คนอื่น ๆ เคราะห์ร้าย” แบรดชอว์คงจะเหนื่อย
ผมเลยไม่คุยต่อ ปล่อยให้เขาหลับไป การบาดเจ็บของเขาเหมือนได้ตีตั๋ว
กลับบ้าน วันรุ่งขึ้นเขาถูกย้ายไปรักษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น และตามที่ได้ยิน
มาคือหลังจากนั้นก็ย้ายกลับไปรับการรักษาต่อที่สหรัฐอเมริกา
ในวันที่เจ็ดของการอยู่ที่โรงพยาบาล นายทหารจากกรมทหาร
สารบรรณก็แวะมาที่เตียงผมเพื่อให้ผมเซ็นรับเหรียญกล้าหาญ นายทหาร
คนนี้มักจะถูกต�ำหนิจากหัวหน้าเขาเสมอในเรื่องความล่าช้าในการมอบ
เหรียญ พอมอบให้ผมเสร็จเขาก็เดินไปที่เตียงของคนไข้รายอื่น ผมส่ง
ใบประกาศเหรียญกล้าหาญและเหรียญกลับไปให้ภรรยา เธอคงจะดีใจ
มาก ในวันรุ่งขึ้นก็มีนายทหารระดับชั้นนายพลมาเยี่ยม ท่านมอบไฟแช็ก
ที่เขียน “To a Wounded Sky Soldier” ซึ่งก็เป็นการมอบให้ทหาร
72
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
74
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
75
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
และท�ำหน้าที่ได้ดีกว่าผม และในที่สุดเฮลิคอปเตอร์ก็มารับเขาไปรับการ
รักษา ณ โรงพยาบาลที่ผมเพิ่งออกมา
ผมทราบภายหลังว่าเขาไม่ตาย ในคืนแรกที่เขาไปถึงโรงพยาบาล
ต้องท�ำการให้เลือดเป็นจ�ำนวนมาก เป็นเรื่องแปลกส�ำหรับที่นี่คือคนป่วย
ที่ออกจากเวียดนามไปที่อื่นมักจะไม่ได้กลับมา ดังนั้นเราจึงไม่รู้ว่าเขาเป็น
อย่างไร ยกเว้นว่าเขากลับมาเท่านั้นเราจึงจะรู้ว่าเขาเจ็บหนักแค่ไหน แล้ว
ความจริงเป็นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนใหม่ของผมคนนี้กันแน่
ความจริ ง ก็ คื อ มั น ไม่ ใช่ เ ป็ น การโจมตี จ ากข้ า ศึ ก แต่ เ กิ ด จาก
พลทหารในกองพันที่หมั่นไส้จ่าอาวุโสก็เลยโยนลูกระเบิดใส่บังเกอร์ที่เป็น
ที่นอนของจ่าคนนั้น บังเอิญผู้หมวดคนนี้เกิดอยากเข้าห้องน�้ำกะทันหัน
ก็เลยไปยืนฉี่ข้าง ๆ บังเกอร์ก็เลยโดนลูกหลง มีการสอบสวนในภายหลัง
จึงได้ความว่าพลทหารสารภาพว่าอยากแกล้งและสั่งสอนจ่าอาวุโสคนนั้น
เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาชีวิตใคร
ผมเรียนรู้อีกอย่างที่เวียดนามคืออย่าประมาทแม้แต่วินาทีเดียว
เพราะอะไร ๆ ก็เกิดขึน้ ได้ และมันมักจะเกิดขึน้ ตอนทีเ่ ราประมาทนัน่ แหละ
ผมถื อ ว่ า ได้ ผ ่ า นช่ ว งของการรั บ น้ อ งแล้ ว ส� ำ หรั บ การมารบที่
เวียดนาม บทเรียนที่ผมได้รับท�ำให้ผมต้องระวังตัวเองให้มากขึ้นและ
เตรียมพร้อมให้มากขึ้นด้วย เพราะสงครามยังด�ำเนินต่อไปและไม่รู้ว่าจะ
จบตอนไหน
76
บทที่ ๘
ถ้าเราไม่ประสบความสำ�เร็จในครัง้ แรก...
การกลับมาของผมเพื่อปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับหมวดในคราวนี้ถือ
ได้ว่าผมมีประสบการณ์แล้วในระดับหนึ่ง เพราะเป็นทหารผ่านศึกที่ผ่าน
สงครามมาและเคยบาดเจ็บด้วย ผมจะใช้ประสบการณ์อนั นีใ้ นการท�ำหน้าที่
ให้ดีขึ้น การที่ผมกลับมาท�ำให้พวกลูกน้องประหลาดใจไม่น้อย เพราะมี
ข่าวลือว่าผมเสียชีวิตแล้วบ้าง หรือบาดเจ็บสาหัสบ้าง เมื่อผมก้าวขาลง
จากเฮลิคอปเตอร์ลูกน้องผมเห็นก็อึ้งไปเลย เพราะไม่คิดว่าผมจะกลับมา
ใบหน้าพวกเขาเหมือนจะบอกว่า “โอ้โฮ ดวงแข็งน่าดู” ส่วนผมเฉย ๆ ไม่
พูดอะไร
บางทีการบังคับคนอื่นอาจจะง่ายกว่าการบังคับตัวเอง ดังนั้น
สิ่งแรกที่ผมท�ำเมื่อมาถึงคือท�ำให้ใจสงบและหาสัมภาระของใช้ส่วนตัว
เช่น มีด สายโยงเข็มขัดสนาม กระเป๋ากระสุน เป็นต้น พวกลูกน้องคิดว่า
ผมคงไม่กลับมาแล้ว ก็เลยเอาของใช้ของผมแจกจ่ายกันเอง
ในคืนแรกที่มาถึงผมตัดสินใจออกลาดตระเวนพร้อมลูกน้องเพื่อ
ซุ่มโจมตีในเวลากลางคืนห่างจากฐานไปประมาณ ๒,๕๐๐ เมตร เมื่อ
อาทิตย์เริม่ ตก ใจผมก็เต้นตุบ ๆ ผมใส่เสือ้ เกราะกันกระสุนและหมวกเหล็ก
77
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
พร้อมออกไปปฏิบัติหน้าที่ อุปกรณ์สองสิ่งนี้กลายเป็นอุปกรณ์ที่ผมแอบ
หลงรักทันทีถึงแม้มันจะหนักและอึดอัดเวลาใส่ เพราะมันเคยช่วยชีวิต
ผมไว้ ผมเป็นคนที่สี่ในการเดินลาดตระเวนคราวนี้ เมื่อออกไปได้สัก
ประมาณ ๕๐ เมตร ใจผมก็เริ่มหวิว ๆ ในทุกก้าวที่เดิน เพราะไม่รู้ว่า
จะไปเหยียบกับระเบิดเข้าหรือเปล่า ผมพยายามจะไม่คิดถึงมันแต่ก็อด
ห้ามใจไม่ได้เมื่อนึกถึงความโกลาหลที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่แล้วผมก็คิดว่าพวกลูกน้องผมเขาก็คงกลัวเหมือนกัน ผมเป็นหัวหน้า
พวกเขาจบการศึ ก ษาและผ่ า นการฝึ ก มามากมาย ทั้ ง จากโรงเรี ย น
นายร้อยเวสต์พอยต์ โรงเรียนส่งทางอากาศ โรงเรียนจู่โจม และโรงเรียน
การรบในป่า ผมควรจะเป็นตัวอย่างแก่พวกเขาไม่ใช่หรือ เด็กหนุ่มเหล่านี้
ผ่านการฝึกมาไม่มากและต้องมาปฏิบัติหน้าที่เลย ผมปล่อยให้ตัวเอง
เป็นคนขี้ขลาดไม่ได้ ผมเดินต่อไป ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีส�ำหรับการเดิน
ลาดตระเวน เราแทบจะไม่มีการพูดคุยกันเลย พวกเราเข้าพื้นที่ซุ่มโจมตี
จากทางด้านหลัง สักพักผู้บังคับหมู่ซึ่งก็คือหัวหน้าชุดลาดตระเวนก็มา
น�ำแต่ละคนไปอยู่ในต�ำแหน่งที่ก�ำหนดไม่ว่าจะเป็นด้านข้างหรือด้านหลัง
การสื่อสารผ่านการใช้สัญญาณมือและการพยักหน้าเป็นหลัก ไม่นาน
ทุกอย่างก็เข้าที่
จริง ๆ แล้วเส้นทางที่พวกเราเดินในคราวนี้ไม่ได้ไกลจากต�ำแหน่ง
ที่ผมโดนกับระเบิดเลย ผมจับที่เสื้อด้านในที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ บอก
ตัวเองว่าให้ท�ำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดไม่ต้องไปคิดอย่างอื่น ผมเดิน
อี ก ไม่ กี่ ก ้ า วก็ ถึ ง ต� ำ แหน่ ง ของตั ว เองซึ่ ง พอใกล้ ถึ ง ผมต้ อ งคลานเข้ า ไป
อย่างเงียบ ๆ เข็มทิศที่ผูกยึดด้วยเชือกผูกรองเท้ากับสายโยงเข็มขัด
สนามเกิดไปเกี่ยวกับกิ่งไม้จนหล่นลงพื้นไปกระทบหินเสียงดังปิ๊ง ผมรีบ
ตะโกนทันที
78
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
79
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
80
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
อาจจะมีคนของเราหายไปตอนขากลับ เพราะฉะนั้นเรื่องพวกนี้ละเลย
ไม่ได้ อีกอย่างอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ต้องอยู่ครบ และถ้าหายก็ต้องรู้ว่า
มันหายไปไหนและตอนไหน เรือ่ งเหล่านีผ้ มให้ความส�ำคัญมากเช่นกัน และ
หากมีความผิดปกติเกิดขึน้ ในการนับยอดรองผูบ้ งั คับหมวดก็ตอ้ งตอบได้วา่
เกิดอะไรขึ้น
เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับหมวด ผมตรวจที่ตั้งของลูกน้อง
ทุกคืน เช่น ต�ำแหน่งของปืนกล ผมจะไปอยูท่ นี่ นั่ และลองเล็งดูวา่ มันสามารถ
ป้องกันพื้นที่ได้ไหม วิทยุสื่อสารของหมวดก็เช่นกันผมจะเช็กเป็นประจ�ำ
เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถติดต่อกับกองร้อยหรือกองพันได้ อีกอย่าง ความ
สัมพันธ์กับลูกน้องก็ต้องสร้างผ่านสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น กินข้าวด้วยกัน
เป็นต้น รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับลูกน้องไม่ว่าจะเป็นคนถนัด
ซ้ายหรือขวา การมองเห็นในเวลากลางคืนดีไหม นิสัยใจคอเป็นอย่างไร
มีปัญหาส่วนตัวบ้างหรือไม่ เช่น ปัญหาที่บ้าน ปัญหาการหลับนอน
ผมต้องรู้ และถือว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ ผมฟังพวกเขาเล่าเรื่องราว
ซึ่งสะท้อนถึงความหวังในการมีชีวิตรอดกลับไป แต่ส�ำหรับเรื่องส่วนตัว
ของผม ผมไม่ได้เล่ามาก ผมรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่พวกเขาจะรู้ สิ่งที่
พวกเขาต้องการเกี่ยวกับผมคือผมจะสามารถน�ำพาพวกเขาให้อยู่รอด
ปลอดภัยจนได้กลับบ้านได้หรือไม่ พวกเขาอยากเล่าเรื่องราวให้ผมฟัง
และอยากให้ผมเป็นผู้ฟังที่ดีก็เท่านั้น และด้วยความที่ผมเป็นนายทหาร
ส่วนพวกเขาเป็นจ่า นายสิบ หรือพลทหาร มันจึงเป็นความแตกต่างอย่าง
เลี่ยงไม่ได้ ผมเป็นทหารอาชีพ ส่วนพวกเขาเป็นทหารแค่ช่วงเวลาหนึ่ง
การวางตัวที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งจ�ำเป็นเพื่อรักษาไว้ซึ่งการบังคับบัญชาที่ดี
มองในอีกมุมหนึ่ง การอยากรู้เรื่องส่วนตัวของลูกน้องมากจนเกินไปอาจ
81
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ท�ำให้พวกเขาระแวงสงสัยว่าผมเข้ามาพูดคุยด้วยวัตถุประสงค์อะไรกันแน่
เรื่องนี้ก็เป็นประเด็นที่ผมต้องคิดเหมือนกัน
ส� ำ หรั บ ข้ า ศึ ก ที่ พ วกเราก� ำ ลั ง เผชิ ญ หน้ า อยู ่ ความจริ ง ก็ คื อ
ประชาชนธรรมดาที่พร้อมจะฆ่าพวกเราได้ทุกเวลาเพราะจังหวัดบินดิน
คือถิ่นของพวกเวียดกง ผมเชื่อว่าพวกมันใช้ชาวบ้านเป็นสายสืบเกี่ยวกับ
ความเคลื่อนไหวของเรา ไม่ว่าจะเป็นจ�ำนวนคน อาวุธที่ใช้ หรือแม้กระทั่ง
ตัวผมเองว่ามีความเป็นผู้น�ำแค่ไหน ผมเองก็ต้องพยายามรู้ให้ได้ว่าพวก
เวียดกงที่แฝงตัวอยู่แถวนี้มีจ�ำนวนเท่าไหร่และมีแผนจะปฏิบัติการต่อ
พวกเราตอนไหน ต้องรูค้ รอบคลุมถึงข้อมูลด้านการรบของพวกมันด้วย เช่น
อาวุธทีใ่ ช้มอี ะไร วางกับระเบิดไว้ตรงไหน ข้อมูลข่าวสารทีท่ นั ต่อเหตุการณ์
จึงเป็นสิ่งจ�ำเป็นมาก แล้วจุดอ่อนของพวกมันล่ะ ข้าศึกต้องมีจุดอ่อน
เช่นเดียวกับทีพ่ วกเรามี ผมต้องพยายามหาให้เจอและใช้ประโยชน์จากมัน
แน่นอนความทีเ่ ป็นมนุษย์เหมือนกันย่อมมีอะไรทีค่ ล้าย ๆ กัน พวกมันต้อง
กิน นอน พักผ่อน แล้วอาหารทีก่ นิ มาจากไหน ใครส่งมาให้ เมือ่ จะเคลือ่ นที่
จะเคลื่อนที่ตอนไหน เป้าหมายคืออะไร สิ่งเหล่านี้ผมก็ต้องพยายามรู้ให้
ได้มากที่สุดเพื่อความอยู่รอดของหมวดและภารกิจที่ส�ำเร็จลุล่วง นั่นคือ
การรักษาหมู่บ้านทรองแลม
เหล่าผู้รู้ทางทหารบอกไว้ว่า ต้องรู้ข้าศึกให้มาก ยิ่งรู้มากโอกาสที่
จะชนะก็มาก นัน่ คือท�ำลายข้าศึกได้ แน่นอนว่าข้าศึกก็คงคิดเช่นเดียวกับที่
เราคิด มันอะไรกันนี่ พวกเรามาจากโลกทีศ่ วิ ไิ ลซ์และเกลียดการฆ่ากัน และ
พวกมันก็น่าจะถูกปลูกฝังมาไม่ต่างกัน แต่กลับต้องมาอยู่ในสถานการณ์ที่
พยายามจะเอาชีวิตซึ่งกันและกัน ในแต่ละวันผมจะเขียนจดหมายถึงบ้าน
ที่สหรัฐ นั่นเป็นช่วงเวลาเดียวที่ผมมีความสุขมากและอยากจะมีชีวิตรอด
82
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
83
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
สงครามเป็นเรื่องของความโกลาหลอลหม่านและท้ายที่สุดจะ
น�ำมาซึ่งการไร้ซึ่งศีลธรรม ผู้น�ำหน่วยต้องควบคุมและอย่างน้อยที่สุดต้อง
ท�ำให้เห็นเป็นตัวอย่างและจะไม่ปล่อยให้ความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ขยายเป็น
เรื่องราวใหญ่โต เช่น การขโมยทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยจากชาวนาอาจ
น�ำมาซึ่งการข่มขืนลูกสาวเขาอีกทีก็เป็นได้
ส�ำหรับสงครามสมัยใหม่ เช่น สงครามเวียดนามเส้นแบ่งระหว่าง
สนามรบและเขตพลเรือนมักจะไม่ชดั เจนและมักจะน�ำมาซึง่ ปัญหามากมาย
ความโหดร้ายของสงครามที่บั่นทอนขวัญของทหารในสนามรบมีอยู่ใน
ทุกที่ทุกมิติ เช่น ในหมู่บ้านที่หมวดผมมีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย
ชาวนาธรรมดาหนึ่งคนอาจมีได้หลายบทบาท นอกจากบทบาทของการ
เป็นชาวนาแล้วยังอาจเป็นพ่อหรือแม่ของทหารเวียดกงก็ได้ ซึ่งจุดยืน
ทางการเมืองที่ต่างกันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สมควรได้รับความ
เป็นธรรมในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง พวกเขาอาจพยายามเอาชีวิตเรา
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะไปเกลียดหรือท�ำไม่ดีกับเขา
หน้าทีข่ องผมในฐานะผูน้ ำ� ของหมวดจึงมีทงั้ บทบาทของผูน้ ำ� ในการรบและ
ผู้น�ำด้านคุณธรรมซึ่งก็ไม่ได้ง่ายเลย
84
บทที่ ๙
หล่อหลอมความเป็นผู้นำ�
85
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เวียดนามเพราะต้องเลือกเอาระหว่างติดคุกกับมารบ เขาเลยเลือกมารบ
ฟิล เนลเป็นคนมีนิสัยร่าเริงชอบเล่าเรื่อง บางทีผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า
สิง่ ทีเ่ ขาเล่ามันจริงหรือเท็จ แต่ผมก็ไม่เคยแสดงออกให้เขาเห็น แต่ผมก็เชือ่
บางอย่างที่เขาพูด เช่น เขาบอกว่าถ้าเขาเลือกที่จะไม่มารบก็อาจจะเจอ
ปัญหามากมาย เช่น จากพ่อเจ้าอารมณ์หรือจากผูห้ ญิง แต่ไม่วา่ ความจริงจะ
เป็นอย่างไร เขาก็มารบทีเ่ วียดนามเป็นเวลาถึง ๒๒ เดือนแล้ว และได้เหรียญ
กล้าหาญถึง ๒ เหรียญด้วยกัน และนั่นก็ไม่ได้ท�ำให้เขาเป็นคนซึมเศร้าแต่
ประการใด เขาบอกด้วยส�ำเนียงของชาวเมืองฟิลาเดลเฟียทีบ่ ง่ บอกถึงความ
มัน่ ใจว่าการทีเ่ ขาเป็นคนอารมณ์ดเี สมอนัน้ มาจากการทีเ่ ขามีทกั ษะในการ
ละอารมณ์ได้เร็วคือไม่เก็บอะไรมาคิดนาน “แย่แล้วหมวด ผมแย่แล้ว”
ฟิล เนลบอกผม ผมถามว่าแย่อะไรเพราะเขากับทุกคนในหมวดก็อยู่ใน
สมรภูมิรบเหมือนกัน เขาบอก “ผมไม่เหมือนทหารราบคนอื่น ผมแบก
วิทยุแต่คนอืน่ ถือปืน มันไม่เหมือนในหนังทีจ่ อห์น เวย์นเล่นเลย ผมแย่แน่”
ฟิล เนลเป็นคนเก็บอาการไม่ค่อยเก่ง คิดอะไรก็พูดออกไป แต่เขามีศิลปะ
ในการบริหารจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในหมวดได้ดี ถ้าจะว่าไป
เขาเป็นนักการทูตน้อย ๆ ก็ว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น นอกจากการท�ำหน้าที่
เป็นพลวิทยุแล้วเขายังมีหน้าที่ในการแจกจ่ายของเบ็ดเตล็ดรวมถึงบุหรี่ให้
ทหารในหมวดและเขาก็จะมี “ลูกค้ากลุม่ พิเศษ” ทีม่ กั จะได้ของกินของใช้ที่
ดีกว่าคนอื่น โดยที่เขามีอ�ำนาจต่อรอง รู้สึกว่าเขาจะมีความภูมิใจมาก
ทีเ่ ขาสามารถเอาชนะระบบได้ และท�ำให้ผหู้ มูห่ รือจ่าจับเขาไม่ได้ หลังจาก
ปฏิบัติหน้าที่ที่เวียดนามได้สักพัก ฟิล เนลก็เริ่มจะมีความเป็นทหารอาชีพ
ทหารคืออาชีพของเขาซะแล้ว ถ้าหากกองทัพบกต้องเข้าสู่สงครามและ
เขาเป็นคนที่กองทัพจะคัดออก ก็ช่างปะไร เมื่อเปรียบเทียบเขากับพวกที่
เก่งแต่ปากแต่หนีการเกณฑ์ทหาร ผมว่าเขาเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว
86
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
87
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เวลาท�ำงานเขาคงจะอัดอั้นมาก แต่ยิ่งเขาพูดน้อยเท่าไรยิ่งเป็นประโยชน์
กับเขาเท่านั้น และเพื่อนร่วมงานก็ยิ่งชอบเขามากขึ้น
ส่ ว นสิ บ โท จอน คิ ล ลิ แ กน มาจากเมื อ งเบเคอร์ ส ฟี ล ด์
รัฐแคลิฟอร์เนีย คิลลิแกนเป็นคนที่เข้าใจธรรมชาติของสงครามดีว่าไม่มี
ความยุติธรรมใด ๆ ทั้งสิ้น และดูเหมือนเขาจะสนุกกับการมารบด้วย
ด้วยวัยเพียง ๒๒ ปี เขามารบที่เวียดนามครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๓ แล้ว และเป็น
ทหารที่มีประสบการณ์ในการรบมากที่สุดในหมวด ทุกคนให้เกียรติเขาใน
เรื่องประสบการณ์ในการรบ แต่ไม่มีใครมองว่าเขาเป็นมิตร คิลลิแกนเป็น
คนเงียบ ๆ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร มีค�ำพูดที่หลุดออกจากปากเขาน้อยมาก
เขาไม่เคยเรียกผมว่า ผู้หมวด หรือมีค�ำว่า “ครับผม” ให้ได้ยิน เวลาได้รับ
ค�ำสัง่ เขาจะฟังและก็จอ้ งตาเขม็งอาจท�ำปากเผยอเล็กน้อยด้วยอาการดูถกู
ยิ่งกับนายทหารด้วยแล้ว เขายิ่งแสดงการดูถูกทางสายตาแบบไม่ปิดบัง
ถึงแม้ว่าคิลลิแกนจะดูไม่ได้เรื่องเกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติทาง
ทหารและเป็นคนเก็บตัว แต่เขาเป็นทหารที่ทุกคนเกรงใจมาก เพราะ
ประสบการณ์ในการรบที่สูงและเคยได้รับบาดเจ็บถูกยิงเฉียดตายมาแล้ว
บางคนบอกเขาเป็นแมวเก้าชีวิตและเวลารบเขาจะดุดันมาก ไม่ห่วงความ
เป็นความตายของตัวเองเลย ต�ำแหน่งที่เขาได้รับในการเดินลาดตระเวน
เรียกว่าพลลาดตระเวน เขาจะเดินน�ำหน้าทุกคนในการเดินลาดตระเวน
ซึ่งเป็นต�ำแหน่งที่รับความเสี่ยงมากกว่าใคร แต่เขาไม่เคยบ่นแม้กระทั่ง
เวลาฝนตกเขาก็ ไ ม่ ย อมแม้ แ ต่ จ ะปาดน�้ ำ ฝนออกจากขนคิ้ ว และถ้ า
ภารกิ จ ต้ อ งอดนอนเป็ น เวลาหลายคื น เขาจะเป็ น คนที่ ส ามารถวางใจ
ได้ว่าจะไม่หลับเลย คิลลิแกนจะตื่นตัวอยู่เสมอ เขาเป็นแบบฉบับของ
ทหารราบและหน่วยทหารทุกหน่วยควรมีคนอย่างเขาอยู่
88
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
89
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
น้อยอยู่ซึ่งถ้าเป็นนายสิบหรือจ่าในกองทัพต้องใช้เวลาหลายปีในการสร้าง
แต่กองทัพไม่มที างเลือก สงครามเวียดนามได้คร่าชีวติ ของนายสิบในกองทัพ
ไปเป็นจ�ำนวนมาก และก็ต้องหาก�ำลังพลมาทดแทนโดยด่วน จริง ๆ ต้อง
ให้เกียรติพวกที่มาทดแทนและไปท�ำการรบที่เวียดนามเพราะหลายคนท�ำ
หน้าที่ได้ดีทั้งในบทบาทของผู้บังคับหมู่และรองผู้บังคับหมวด
หมวดของผมไม่ ไ ด้ ป ระกอบไปด้ ว ยทหารอเมริ กั น ทั้ ง หมด มี
ทหารเวียดนามใต้คนหนึ่งมาประจ�ำด้วยโดยเขามีอายุ ๔๐ ปี ซึ่งถือว่ามาก
เมื่อเทียบกับทหารอเมริกันที่มีอายุเฉลี่ยประมาณ ๒๑ ปีเท่านั้น ทหาร
เวียดนามใต้คนนีช้ อื่ เหงียน หนาน เขาเคยเป็นเวียดกงมาก่อน ๕ ปีแต่กลับใจ
มาอยู่กับพวกเวียดนามใต้และมาประจ�ำอยู่กับพวกเราเพื่อแลกกับการ
ได้รบั อภัยโทษ เขาอาสามารบให้กบั หน่วยทหารอเมริกนั หนานบอกว่าเขา
ไม่ได้สมัครใจไปเป็นเวียดกงแต่ถกู บังคับ พวกเวียดกงเข้าไปในหมูบ่ า้ นและ
บังคับให้เขาเป็นทหาร ไม่ว่าเขาจะพูดจริงหรือไม่ ผมสันนิษฐานว่าเขาต้อง
เป็นทหารที่ดีมาก่อน และแกร่ง ด้วยความสูงขนาด ๕ ฟุต ๘ นิ้ว ถือว่าสูง
ส�ำหรับชาวเวียดนามและไม่มีไขมันเลยมีแต่กล้ามเนื้อ เดาว่าช่วงหนึ่งเขา
น่าท�ำงานพวกตัดไม้มาก่อน
เท่าที่เห็นผมว่ามี ๓ อย่างที่หนานชอบคือ บุหรี่ ผู้หญิง และก็การ
ได้ฆ่าพวกเวียดกง ความส�ำคัญอาจจะเรียงจากหลังมาหน้าก็ได้ ด้วยวัย
ขนาดเขาเวลาในการรบเริม่ ลดน้อยลง เขาได้รบั เหรียญกล้าหาญ ๕ เหรียญ
ที่แสดงออกถึงความกล้าหาญในสมรภูมิรบและเขาเองบากเป็นขีดไว้ท่ี
พานท้ายของปืนเล็กยาว เอ็ม-๑๖ จ�ำนวน ๔๕ ขีด ส�ำหรับทหารเวียดกง
๔๕ นายที่เขาสังหาร แน่นอนในสายตาของพวกทหารเวียดกงในจังหวัด
บินดินเขาเองก็ถูกตั้งค่าหัว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยเขาได้ย้ายสมาชิก
ในครอบครัวไปอยู่ในจังหวัดใกล้เคียงและก็ไปเยี่ยมแบบลับ ๆ หนาน
90
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เป็นนักรบหรือจะว่าไปเป็นนักฆ่าที่ดุดันมาก วันหนึ่งขณะที่ออกซุ่มโจมตี
มีเวียดกงคนหนึง่ เดินผ่าน หนานยิงมันแต่กระสุนด้าน เขาตัดสินใจกระโจน
เข้าใส่ทหารเวียดกงคนนั้นและก็ทุบด้วยพานท้ายปืนจนทหารเวียดกง
คนนั้นเสียชีวิต ความดุดันของเขาเป็นที่ประจักษ์แก่เพื่อนทหารทั้งหลาย
แต่สักวันหนึ่งเขาก็ต้องถูกเอาคืน เขาเองก็รู้ตัวดี แต่กว่าจะถึงวันนั้นเขาจะ
พยายามฆ่าทหารเวียดกงให้ได้มากที่สุด
ในบางครั้ ง หนานจะลาเพื่ อ เอาเงิ น เดื อ นที่ ไ ด้ ไ ปให้ ท างบ้ า น
ตอนเขาลาจะมีคนที่มาแทนเขาคือชอง ซึ่งเป็นคนที่มีบุคลิกตรงข้ามกับ
หนานโดยสิ้ น เชิ ง ในขณะที่ ห นานเป็ น คนจริ ง จั ง กั บ ทุ ก เรื่ อ ง ชองจะ
เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ กับชีวิตและยิ้มเก่ง รูปร่างเตี้ยล�่ำ ชองเลือกที่
จะเอาครอบครัวไว้ใกล้ ๆ เพื่อจะได้เดินทางไปเยี่ยมได้บ่อย ๆ เมื่อมี
โอกาส ครอบครัวเขาอาศัยอยู่บ้านหลังเล็ก ๆ ในหมู่บ้านบองซอนติดกับ
แอลซี อิงลิช บางทีชองอาจจะคิดว่าการที่เขาเอาครอบครัวมาอยู่ใกล้กับ
ที่ตั้งของกองพลน้อยอาจจะท�ำให้พวกเขาปลอดภัยจากพวกเวียดกงก็เป็น
ได้ ซึ่งปกติพวกมันมักจะไม่มีความปรานีต่อเพื่อนทหารที่แยกตัวออกไป
วันที่พวกทหารเวียดกงแก้แค้นคืนก็มาถึงวันหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ผมยังอยู่
ที่เวียดนาม วันหนึ่งในขณะที่ชองกลับไปเยี่ยมบ้านและนอนหลับอยู่กับ
ภรรยา พวกทหารเวียดกงก็จโู่ จมเข้าบ้านฆ่าภรรยา พ่อและลูกสาวต่อหน้า
ต่อตาและก็ตัดขาข้างหนึ่งของแม่เขาออก ในเวลาต่อมาไม่นานแม่ของเขา
ก็เสียชีวิตจากความทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ
ชองตั ด สิ น ใจกลั บ มารบกั บ พวกเราอี ก ครั้ ง แต่ ค ราวนี้ เขา
กลายเป็นคนละคน จากที่เคยร่าเริงก็เป็นคนที่เคร่งขรึมและไม่สุงสิง
กับใครมาก สงครามท�ำลายทุกอย่างทีเ่ ขามีและท�ำให้เขากลายเป็นคนละคน
91
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
92
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
วันหนึง่ ผมสังเกตเห็นว่าบาร์นเบือนหน้าหนีบางอย่างในขณะทีเ่ ขา
ก�ำลังถางหญ้าบริเวณลวดหนามหีบเพลงรอบ ๆ ฐาน สิง่ ทีเ่ ขาเห็นคือ ผูห้ ญิง
หน้าตาดีคนหนึง่ ก�ำลังเดินผ่านมาแต่เขามีแขนแค่ขา้ งเดียว แขนเสือ้ อีกข้าง
ถูกพับอย่างดีเข้ากับไหล่
ผมถามบาร์น “เกิดอะไรขึ้นหรือ”
บาร์นตอบช้า ๆ พยายามไม่ให้ติดอ่างมาก “เธอและแฟนเป็น
พวกเวียดกง วันหนึ่งกลุ่มของพวกเวียดกงซึ่งมีเธอและแฟนเดินผ่าน
บริเวณที่พวกเราซุ่ม ผลก็คือแฟนของเธอเสียชีวิต ส่วนเธอถูกยิงเข้าที่
แขน พวกเราก็ช่วยเธอไว้แต่ต้องตัดแขนข้างนั้นทิ้ง เธอเลยต้องมาท�ำงาน
ที่นาหรือที่ไร่แทน” บาร์นถามผมด้วยน�้ำเสียงที่ชัดเจนว่า “ถ้าเป็นหมวด
หมวดจะพูดอะไรกับเธอที่แขนขาดเพราะเรา”
ผมไม่รู้จะตอบอะไร
เด็กชาวเวียดนามน่ารักมากในความคิดผมโดยเฉพาะอย่างยิง่ เด็ก
ผูช้ ายเวลาเดินดูแกร่งและสง่างาม พวกเขาจะล้อเล่นกับทหารอเมริกนั เมือ่
เดินผ่านด้วยภาษาอังกฤษปนเวียดนามแบบง่าย ๆ แต่ถึงพวกเขาจะชอบ
พวกเราอย่างไรหากจ�ำเป็นต้องลงมือสังหาร เด็กพวกนีก้ พ็ ร้อมทีจ่ ะท�ำโดย
ไม่เคอะเขินเพราะถูกสอนมาจากพ่อแม่หรือพี่ ยกตัวอย่างเช่น วันหนึ่ง
เด็กผู้ชายคนหนึ่งยิงนายทหารเวียดนามใต้คนหนึ่งที่บ่อน�้ำของหมู่บ้าน
มั น กลายเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของวิ ถี ชี วิ ต พวกเขาไปเสี ย แล้ ว ในยามสงคราม
เช่นนี้ แต่เมื่อมีทหารอเมริกันเสียชีวิต เด็กพวกนี้ก็จะมายืนเรียงแถวดู
และคอยนับสมาชิกของหมู่ของผู้ตายว่าเหลือกี่คน เด็ก ๆ จะมีคนที่
พวกเขาชอบเป็นพิเศษ และถ้าคนคนนั้นไม่อยู่ พวกเขาก็จะหันหน้าหนี
ด้วยน�้ำตาคลอเบ้า ผลของสงครามที่นี่มันก็แปลกดีเหมือนกัน กลุ่มคนที่
93
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
95
บทที่ ๑๐
ฉากนำ�ก่อนเวลาปะทะ
หน่วยข่าวกรองรายงานว่าอาจจะมีการโจมตีครั้งใหญ่จากฝ่าย
ตรงข้ามประมาณปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม ผมยังไม่ค่อยจะ
เชื่อสักเท่าไหร่เพราะไม่ได้มีการเสริมก�ำลังให้กับหน่วยของผมเลย อย่างไร
ก็ตาม ผมก็ไม่ประมาทและพยายามปรับปรุงฐานให้แข็งแกร่งให้มากที่สุด
ความมัน่ ใจในตัวเองของผมดีขนึ้ ทุกวัน ลูกน้องโดยเฉพาะผูบ้ งั คับ
หมู่ก็ให้เกียรติผมมากปฏิบัติตามค�ำสั่งของผมด้วยดี ฝ่ายพวกเวียดกง
ก็ยังหยั่งเชิงผมอยู่ยังไม่กล้าบุกเข้ามา ท�ำให้ผมมีเวลาในการเสริมความ
เข้มแข็งให้กับฐานซึ่งผมจะเน้นไปที่ด้านระเบียบวินัยของก�ำลังพลและ
ยุทธวิธี ทั้ง ๒ อย่างมีความเกี่ยวพันกัน
ในช่วงสงครามไม่มีเวลาที่ลูกน้องจะมาสงสัยในค�ำสั่งของผู้น�ำ
ต้ อ งปฏิ บั ติ ต ามทั น ที เพราะฉะนั้ น ระเบี ย บวิ นั ย จึ ง เป็ น สิ่ ง ส� ำ คั ญ มาก
เริ่มตั้งแต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การกินยาป้องกันโรคมาลาเรีย การ
โกนหนวดเครา หรือเปลี่ยนถุงเท้า ไปจนถึงการดูแลอาวุธประจ�ำกาย
ในภาพรวมหมวดของผมมีวินัยดีมาก ถึงแม้รอฟผู้บังคับหมวด
คนก่อนจะท�ำให้ลูกน้องขาดความศรัทธาในตัวผู้น�ำไปพอสมควร แต่ใน
96
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
97
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
98
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
99
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
100
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ท�ำไมหน่วยผมไม่ได้รับการเสริมก�ำลัง
และอีกอย่างทหารทีม่ าทดแทนก็นอ้ ยกว่าทหารทีบ่ าดเจ็บ นัน่ หมายความว่า
ก�ำลังของหน่วยผมก็เริ่มลดลงเรื่อย ๆ อีกทั้งเราไม่อาจหวังพึ่งหน่วยทหาร
ของรัฐบาลเวียดนามใต้ที่ส่งมาคุ้มกันหมู่บ้าน เพราะเป็นที่รู้กันทั่วว่า
คุณภาพไม่คอ่ ยจะได้เรือ่ งสักเท่าไหร่ และเมือ่ พิจารณาลงลึกไปถึงความเป็น
ผู้น�ำของหัวหน้าหน่วยทหารเวียดนามใต้ที่ส่งมาช่วยดูแลหมู่บ้านแล้ว
ในความคิดผมถือว่ายังต�่ำอยู่ และแม้กระทั่งผู้น�ำคนปัจจุบันก็ไม่ได้ดีเด่น
อะไร ผมพยายามทีจ่ ะแนะน�ำยุทธวิธที ดี่ ใี ห้กบั เขาด้วยเพือ่ ทีเ่ ขาจะได้นำ� ไป
ปรับใช้กับหมวดของตัวเองแต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะเอาไปปรับใช้ได้มากน้อย
แค่ไหน และก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะให้
ได้มากที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ ในขณะที่พวกเราออกลาดตระเวนทุกวัน ภาพที่
เห็นจนชินตาคือพวกเขาจะผูกเปลนอนเล่นพักผ่อนที่หมู่บ้าน
ผมเองก็สงสัยว่าคนในหมู่บ้านที่ผมคุ้มครองคิดอย่างไรกับหมวด
ทหารของรัฐบาลเวียดนามใต้ที่ส่งมาคุ้มกันพวกเขา และคิดอย่างไรกับ
พวกเราที่เป็นทหารอเมริกัน บางทีพวกชาวบ้านอาจจะไม่สนใจอะไรก็ได้
เพราะพวกเขามีสิ่งที่จะต้องคิดในเรื่องของตัวเองมากพออยู่แล้ว
ทีช่ ายขอบหมูบ่ า้ นทรองแลมทีห่ มวดของผมคุม้ ครองอยูม่ หี ญิงชรา
คนหนึ่งชื่อไค เธอรับอุปการะเด็ก ๆ ๑๕ คน ซึ่งพ่อแม่ของเด็กเหล่านี้
สูญหายไประหว่างสงคราม และการที่ยายไคเป็นคนใจดีมีเมตตาต่อเด็ก ๆ
ท�ำให้เธอกลายเป็นมิตรทีด่ ตี อ่ ทหารอเมริกนั ด้วย ในแต่ละวันเธอจะเอาข้าว
ที่เด็ก ๆ และคนในหมู่บ้านช่วยกันปลูกมาแลกกับอาหารของพวกเรา
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของเธอท�ำให้พวกเรามีความสุขไปด้วย แต่อาหาร
กระป๋องที่พวกเราเอาให้กับยายไค เราต้องเปิดฝากระป๋องก่อนเพราะ
ไม่ต้องการให้อาหารเหล่านั้นไปอยู่ในมือของเวียดกง ส่วนข้าวสวยที่พวก
101
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เราได้มาก็จะเอาไปผสมกับซอสพริกที่พวกเราได้มากับชุดอาหารสนามรับ
แจกจากกองทัพบกสหรัฐ ส่วนยายไคก็จะเอาอาหารทีไ่ ด้จากพวกเราไปให้
พวกเด็ก ๆ กิน ดู ๆ ไปมันก็เป็นความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแบบพื้น ๆ ที่
เข้าใจได้ แต่ส�ำหรับยายไค ไม่แน่ใจว่าในใจแกมีความปวดร้าวมากเพียงใด
กับสภาพสังคมรอบข้างที่เป็นแบบนี้และท้ายที่สุดแกอาจต้องมารับกรรม
จากการที่มาปฏิสัมพันธ์กับทหารอเมริกันก็เป็นได้
สิบเอก เจมส์ รอบินสัน ซึ่งมาแทนที่ผู้บังคับหมู่แบรดชอว์ ที่ได้รับ
บาดเจ็ บ เป็ น คนรู ป ร่ า งใหญ่ วั น หนึ่ ง ตอนเช้ า เขาน� ำ หมู ่ ข องเขาออก
ลาดตระเวนไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม
รอบินสันอาจจะไม่เหมาะกับงานผู้บังคับหมู่ที่เวียดนาม ดังนั้นเพื่อเป็น
การชดเชยผมก็เลยให้พลทหารบาร์นมาอยู่ในหมู่เขาด้วย ก่อนที่จะมาที่
เวียดนาม รอบินสันเคยเป็นครูฝึกของโรงเรียนส่งทางอากาศที่ค่ายเบนนิ่ง
เหตุก็เพราะความตัวใหญ่ของเขานี่แหละ เพราะที่ค่ายเบนนิ่ง พวกที่
ตัวใหญ่ ๆ มักจะเข้าตาผู้ใหญ่เสมอ ถึงแม้บาร์นจะมีปัญหาในการพูดแต่ก็
สามารถให้ค�ำแนะน�ำได้ในสิ่งที่ควรท�ำ
เช้าวันนัน้ บาร์นเป็นคนส่งวิทยุให้ผหู้ มูร่ อบินสันรายงานสิง่ ทีพ่ บให้
กับหมวดทราบ เพราะสิ่งที่เขาพบคือภาพอันน่าสยดสยองเป็นศพอยู่ห่าง
จากฐานของเราออกไปเพียง ๖๐๐ เมตร “ไพลอททวิสเตอร์ ๒๑ จาก
ไพลอททวิสเตอร์ ๕๒ เปลี่ยน” เสียงของรอบินสันลอดมาทางวิทยุ และ
พลวิทยุฟิล เนลก็ตอบ “๒๑ แอลฟาเปลี่ยน” และผู้หมู่รอบินสันก็พูดต่อ
“จาก ๕๒ บอก ๒๑ ว่าเขาควรจะมาที่นี่ให้เร็ว พวกเราพบศพนอนอยู่
ข้างหน้าเรา” เสียงของรอบินสันดูสั่น ผมบอกเนลให้ขอที่ตั้งของศพเป็น
รหัสทางทหารและก็สั่งให้ผู้หมู่ดอนเตรียมหมู่ของเขาออกไปดูเหตุการณ์
ผมก็ จ ะออกไปด้ ว ย และผมก็ สั่ ง รอบิ น สั น ห้ า มแตะต้ อ งศพจนกว่ า
102
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
103
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
บทที่ ๑๑
การรบ
ความอ้างว้างโดดเดี่ยวคือสิ่งที่ผมจงใจท�ำให้เกิดขึ้นกับตัวเอง
คือผมจะไม่ไปสุงสิงกับลูกน้องมาก ถึงแม้วา่ ผมจะรับรูเ้ รือ่ งราวของพวกเขา
จากการเล่า แต่ผมก็ไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ลูกน้องฟัง ผมเก็บเรื่อง
ของผมให้อยูก่ บั ตัวเอง จะท�ำก็เพียงการเขียนจดหมายส่งไปทางบ้านเท่านัน้
ที่นี่ผมเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอ�ำนาจมากที่สุด เป็นคนไกล่เกลี่ยระหว่าง
ถูกกับผิดที่เกิดขึ้นในฐาน และมีส่วนรับผิดชอบในความเป็นความตายของ
ลูกน้อง แต่ในห้วงเวลาที่อยู่คนเดียวผมก็คิดถึงเพื่อน ๆ ที่เวสต์พอยต์และ
ครอบครัว
ณ วันที่ ๙ ของเดือนตุลาคม หมวดของผมมีก�ำลังพลเหลือเพียง
๑๘ นาย ไม่รวมตัวผมและหนาน ซึ่งเป็นทหารจากรัฐบาลเวียดนามใต้
ซึ่งท�ำหน้าที่ลาดตระเวนสอดแนม หมู่ปืนเล็ก ๒ หมู่เหลือก�ำลังเพียงหมู่ละ
๕ นาย ครึ่งหนึ่งของที่ควรจะเป็น หมู่ที่ ๓ เหลือ ๖ นาย ส่วนที่บังคับการ
หมวดมีจ่าเฮอร์นานเดซ เนล หนาน และก็ตัวผม และก็ในตอนเย็นของ
วันที่ ๙ ตุลาคม ผมส่งชุดลาดตระเวนออกไปเวลา ๑๖๓๐ ในชุดมี ๖ นาย
และ ๑ ใน ๖ นาย ถือปืนกล เอ็ม-๖๐ ชุดลาดตระเวนเคลื่อนที่ไปทาง
104
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
105
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
106
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ได้รับบาดเจ็บและอยู่ห่างจากผมไปทางซ้ายไม่มาก สะเก็ดระเบิดได้ทะลุ
เข้าไปที่ต้นขาเขาลึกมาก ท�ำให้เขาร้องด้วยความเจ็บปวดและตะโกนด่า
ด้วยค�ำต่าง ๆ เพื่อให้ความเจ็บลดลงบ้าง ผมคงต้องไปหาเขาทีหลัง
สิ่งแรกที่ผมต้องการคือวิทยุ ผมตะโกนบอกให้เนลรีบเอาวิทยุ
มาให้ผมโดยด่วน แต่ไม่มีเสียงตอบ เสียงปืนเสียงระเบิดดังไปทั่วฐาน เท่า
ที่ผมกะด้วยสายตาข้าศึกอยู่ใกล้มากในระยะ ๒๕๐ เมตร หรือน้อยกว่า
ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ไปทางหมู่บ้านทรองแลม ก็มีข้าศึกยิงใส่
พวกเราจากตรงนั้น ข้าศึกอีกกลุ่มหนึ่งมาจากทางทิศใต้ มีปืนกลหนัก
และปืนเล็กยาวเป็นอาวุธ ส่วนทางด้านทิศใต้กม็ เี สียงยิงลูกระเบิด เอ็ม-๗๙
มาเป็นห่าฝน ข้าศึกที่อยู่ในหมู่บ้านทรองแลมอยู่ห่างจากพวกเราแค่
๖๐ เมตรเอง ผมตะโกนเรียกเนลอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ
หมวดของทหารรัฐบาลเวียดนามใต้ก็ตั้งตัวไม่ทัน ดูเหมือนข้าศึก
จะอยู่ท่ามกลางพวกเขา และเมื่อเรายิงโต้ตอบ พวกเขาก็รีบวิ่งมาหาเรา
ผมตะโกนไปที่หมู่ของดอนที่อยู่ทางทิศใต้ให้หยุดยิงและปล่อยให้ทหาร
เวียดนามใต้ผ่านเข้ามา ดูเหมือนก�ำลังส่วนใหญ่ไม่เป็นอะไร แต่ก็มีคนเจ็บ
บ้าง เมือ่ เข้ามาถึงพวกเขาก็เข้าวางตัวในทีก่ ำ� บัง ซึง่ ดูแล้วคงช่วยอะไรผมได้
ไม่มาก
ผมตะโกนหาพลวิทยุเนลอีกครั้งเพราะต้องการใช้วิทยุเพื่อเรียก
ก�ำลังสนับสนุนโดยด่วน ผมเริ่มโมโห “เนลมาที่นี่เดี๋ยวนี้” ทันใดนั้นผมก็
ได้ยินเสียง “ผมไปหาไม่ได้ครับ” เนลอยู่ด้านหน้าผมและได้รับบาดเจ็บ
ผมตัดสินใจคลานเข้าไปหาเขา เนลมีแผลเลือดไหลไม่หยุดจากขาขวาและ
ก็ที่ปากอีกที่หนึ่ง ผมปลดวิทยุออกจากหลังเขาและก็ตะโกนไปที่หมู่ของ
ดอนเพื่อให้เสนารักษ์ชื่อลอเรนซ์มาหาด่วน
107
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เนลคือคนที่อยู่ใกล้ชิดผมมาก และผมก็ไม่อยากให้เขาเป็นอะไร
ผมเอาวิทยุใส่หลังและคลานไปทีพ่ ลปืนกล สัง่ ให้ทำ� การยิงใส่จดุ ทีข่ า้ ศึกอยู่
พร้อมกับวิทยุไปยังที่บังคับการกองร้อย พลวิทยุที่นั่นตอบมาว่า ผู้บังคับ
กองร้อยไม่อยู่ แต่กลับอยู่ ณ ที่บังคับการกองพัน เล่นเอาผมถึงกับอึ้ง
ผมสั่งให้พลวิทยุที่นั่นติดต่อไปที่บังคับการกองพันและให้ประสานกับผม
ด่วนที่ย่านความถี่ของวิทยุผม
ลูกน้องผม ๒ คนร้องด้วยความเจ็บปวดทางด้านซ้ายของผมเพราะ
ลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มม. ได้ตกลงมาที่พวกเขาอยู่พอดี ตอนนี้ผมเหลือ
ก�ำลังพลในฐาน ๑๔ นายกับทหารเวียดนามใต้อกี ๑ นาย การต่อสูไ้ ด้ดำ� เนิน
ไปได้ประมาณ ๑๐ นาทีแล้ว ผมเคลื่อนที่ไปหาทหาร ๒ นายที่บาดเจ็บ
พร้อมกับยิงตอบโต้ด้วยปืน เอ็ม-๑๖ ของผม
จ่าเฮอนานเดซรองผู้บังคับหมวดออกมาจากบังเกอร์และก็คลาน
ไปทางทิศเหนือของฐาน แต่ทนี่ นั่ ไม่ได้มกี ารยิงทีด่ เุ ดือดนัก เขาสัง่ ให้ปนื กล
ที่นั่นไปประจ�ำด้านทิศใต้ที่มีการยิงที่ดุเดือด พร้อมกันนั้นผมก็ตะโกนบอก
ให้ทหาร ๓ นายทางทิศเหนือมาสมทบในที่ที่ผมอยู่ จากนั้นผมก็เคลื่อนไป
ทางทิศตะวันตกแทน
เมื่อทหาร ๓ นายมาถึง ผมก็วิ่งอย่างเร็วไปตรงกลางฐานแต่ก็ต้อง
รีบหมอบลงเพราะถูกยิงกดด้วยปืนกล ผมรออีกไม่กี่อึดใจก็วิ่งไปใหม่
มีทหารเวียดนามใต้บาดเจ็บนอนขวางทางอยู่ ผมเลยสะดุดเข้าอย่างจัง
ตรงสีข้างเขามีเลือดไหลออกมามาก เขาสบถด่าผมด้วยความเจ็บ แต่ดู
อาการแล้วผมว่าเขาไม่รอด
ผมดูแล้วคงไม่สามารถคลานต่อไปได้ไกล ผมก็ไปที่เนินดินเตี้ย ๆ
เพื่อวิทยุหาผู้บังคับกองร้อย คราวนี้เขาตอบวิทยุเอง แต่ฟังจากเสียง
108
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
109
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
111
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
112
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
113
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ดูแลหมวดและผู้บาดเจ็บให้เรียบร้อย รวมถึงการส่งผู้ป่วยไปรับการรักษา
ต่อไป
ผมวิทยุถึงหมวดทหารม้าที่ก�ำลังมาและบอกว่าพวกผมจะไปร่วม
ในการไล่ตดิ ตามข้าศึกทีก่ ำ� ลังหนีซงึ่ น่าจะไปทางทิศใต้ ผมออกจากฐานทาง
ทิ ศ เหนื อ และวิ ท ยุ คุ ย กั บ หมวดทหารม้ า เป็ น ระยะเพราะไม่ ต ้ อ งการ
ให้ พ วกเขาเข้ า ใจผิ ด คิ ด ว่ า พวกเราเป็ น ข้ า ศึ ก และในที่ สุ ด ผมและชุ ด
ลาดตระเวนรบก็มาเจอกับหมวดทหารม้า ผมปีนขึ้นไปนั่งบนรถของ
ผู้บังคับหมวดคือ หมวดลารี่ โอไบรอัน ซึ่งจบเวสต์พอยต์รุ่นเดียวกับผม
ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยเจอกันเลยที่โรงเรียน แต่การมาเจอกันในที่แบบนี้
มันดีใจจนบอกไม่ถูก
ตอนนี้ผมและหมู่ปืนเล็กที่ออกไปไล่ติดตามข้าศึกมีความรู้สึกว่า
ตัวเองแกร่งและไม่มีใครเอาชนะได้ การมานั่งบนรถถังที่เป็นเหล็กหนา
ท�ำให้รู้สึกปลอดภัย คราวนี้ผมให้หมวดทหารม้าเป็นพระเอกในการไล่ล่า
พวกทหารเวียดกงที่ก�ำลังหลบหนี ลารี่เปิดการโจมตีด้วยปืนกลและตาม
ด้วยกระสุนสังหารบุคคลที่ยิงจากปืนใหญ่รถถัง สุดท้ายข้าศึกก็หนีไปได้
เพราะด้วยสภาพภูมิประเทศแบบนี้ มนุษย์ย่อมเร็วกว่าเครื่องจักร
รถถังคันหนึ่งได้ท�ำให้บังเกอร์ใต้ดินของพวกเวียดกงยุบลงพร้อม
กับบดทับพวกเวียดกง ๒ คนที่ซ่อนตัวอยู่ และสุดท้าย ผมน�ำทหาร ๕ นาย
ที่มาพร้อมกันท�ำการกวาดล้างข้าศึกเป็นครั้งสุดท้ายโดยมีหมวดทหารม้า
ท�ำหน้าที่คุ้มกันให้ แล้วพวกเราก็กลับเข้าฐาน ตอนนี้เป็นเวลา ตี ๕
พวกเรารบกับข้าศึกเป็นเวลา ๔ ชั่วโมง ผมรู้สึกหมดแรง ไม่มีอารมณ์หรือ
ความรูส้ กึ ใด ๆ เลยเวลานี้ เช้าวันนีส้ งิ่ ทีผ่ มอยากท�ำเป็นสิง่ แรกคือปลดทุกข์
แต่ไม่มีอารมณ์จะขุดหลุมก็เลยถ่ายใส่กระสอบทรายแทน
114
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
หลังจากนั้นภารกิจที่เร่งด่วน คือการเสริมความมั่นคงให้กับฐาน
และเช็กผู้บาดเจ็บที่ยังไม่ได้ถูกส่งตัวไปรับการรักษา ศพนอนเกลื่อน
เรียงรายตั้งแต่ชายขอบหมู่บ้าน กลิ่นควันและกลิ่นความตายโชยไปทั่ว
บริเวณ ผมพยายามคิดถึงงานตรงหน้าและตรวจสอบการสูญเสียที่เกิดขึ้น
ส�ำหรับก�ำลังฝ่ายเราไม่มีใครเสียชีวิต จะมีก็แต่ผู้บาดเจ็บสาหัส
๒ นาย ซึ่งก็มีโอกาสรอดสูง พลวิทยุเนลนั้นได้รับบาดเจ็บที่ขา เลือดไหล
ออกมากและที่ปากโดนสะเก็ดระเบิดเข้าที่เหงือกท�ำให้ฟันหายไปซี่หนึ่ง
แต่ก็หายกลับมาท�ำงานได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ เราส่งเด็กหญิงที่ได้รับ
บาดเจ็บถูกยิงทะลุอกไปรับการรักษาทีโ่ รงพยาบาลแต่สดุ ท้ายเธอก็เสียชีวติ
ที่นั่น ส่วนทหารเวียดนามใต้ที่นอนบาดเจ็บและผมไปสะดุดก็เสียชีวิตใน
ตอนเช้าตรู่ หมูเ่ จมส์ทถี่ กู ยิงทีห่ วั ไหล่และล�ำตัวด้านซ้ายทีโ่ ดนสะเก็ดระเบิด
ก็หายดีเป็นปกติและกลับฐานก่อนเนลไม่กี่วัน ส�ำหรับพลเรือนที่เสียชีวิต
ในระหว่างการปะทะเป็นผู้หญิง ๒ คนถูกยิงเข้าที่ท้ายทอย ผมสันนิษฐาน
ว่าพวกเวียดกงคงยิงพวกเธอระหว่างที่รบกัน แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็มี
ใบปลิวกล่าวหาว่าพวกเราเป็นคนฆ่า ผมถือว่ายังโชคดีทพี่ ลเรือนทีเ่ สียชีวติ
ทั้งหมดมีแค่ ๓ คนคือ เป็นผู้หญิง ๒ คน และเป็นเด็กผู้หญิงอีก ๑ คน
(เสียชีวิตที่โรงพยาบาล) ผมท�ำการส�ำรวจและนับศพเสร็จก็กลับเข้าฐาน
เพื่อนร่วมรุ่นเวสต์พอยต์ ลารี่ โอไบรอัน มาร่วมกินอาหารเช้ากับ
ผมที่ฐาน ในขณะที่ก�ำลังต้มน�้ำชงกาแฟ พวกเราก็ตกลงกันว่าจะให้หมวด
ทหารม้าของเขามาขึน้ ควบคุมทางยุทธการกับผม นีเ่ ป็นการรบครัง้ แรกของ
ลารี่ และดูเหมือนเขาจะภูมิใจมากกับสิ่งนี้ ผมแสดงความยินดีกับเขาที่
ประสบความส�ำเร็จในการช่วยหมวดทหารราบทีก่ ำ� ลังย�ำ่ แย่ และก็ดใี จมาก
ที่มีนายทหารมาคุยด้วยหลังจากที่อยู่โดดเดี่ยวมาโดยตลอด มันเหมือน
พี่น้องที่หายสาบสูญแล้วมาเจอกัน มันช่างต่างกันเหลือเกินสิ่งที่เกิดขึ้น
115
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เมื่อคืนกับเช้าวันนี้ บรรยากาศตอนกลางคืนเป็นบรรยากาศแห่งความเป็น
ความตาย แต่ตอนเช้ากลับกลายเป็นบรรยากาศแห่งความหวังและได้
เพือ่ นใหม่ อีกไม่นานผมจะออกไปลาดตระเวนอีก แต่ตอนนีข้ อกินและคุย
กับเพื่อนเสียหน่อย
116
บทที่ ๑๒
ผลของสงคราม
คิลลิแกนท�ำหน้าที่เป็นพลน�ำทางในการออกลาดตระเวนเช้า
วันนี้หลังจากการปะทะหนักเมื่อคืน เมื่อคืนเขาท�ำหน้าที่พลปืนกลได้อย่าง
ดีเยี่ยม ท�ำให้ข้าศึกไม่สามารถบุกเข้ามาได้ ในตอนต้นของการปะทะข้าศึก
เห็นความน่ากลัวของปืนกลที่คิลลิแกนยิงและพยายามจะจัดการเขาแต่ไม่
เป็นผล เห็นได้จากกระสอบทรายรอบ ๆ ที่ตั้งปืนกลที่เต็มไปด้วยรูกระสุน
และสะเก็ดระเบิด เขาไม่เคยย่อท้อหรือแสดงความหวาดกลัวตลอดการต่อสู้
และเช้าวันนี้เขาก็ก�ำลังท�ำหน้าที่เป็นพลน�ำทางในการลาดตระเวน
ก�ำลังพลที่เหลือพักผ่อนอยู่ในฐานเพราะเหนื่อยจากการสู้รบ
เมือ่ คืน ส่วนผมน�ำชุดออกลาดตระเวน ตลอดเส้นทางภูมปิ ระเทศดูสวยงาม
เว้นเสียแต่กลิน่ ศพโชยไปทัว่ หลังจาก ๒ ชัว่ โมงผ่านไปไม่เจอข้าศึก พวกเรา
จึงกลับเข้าฐาน ถึงแม้จะเหนื่อยล้าขนาดหนัก ผลจากการปะทะเมื่อคืน
ยังคงมีผลต่ออารมณ์ของผม แต่ผมก็มีความมั่นใจมากขึ้นส�ำหรับการ
เป็นผู้น�ำในการรบ ถึงแม้ว่าในตอนแรก ๆ ข้าศึกจะเป็นต่อ เมื่อคิดดูดี ๆ
เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สัมผัสที่หกของผมสามารถเชื่อถือได้ นั่นคือ
ผมตัดสินใจให้ชุดลาดตระเวนที่เพิ่งจะเดินออกไปให้กลับฐานทันที หาก
ข้าศึกโจมตีพวกเราในระหว่างที่ก�ำลังบางส่วนอยู่ข้างนอก ไม่ว่าจะเป็น
117
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
การโจมตีต่อฐานหรือต่อชุดลาดตระเวนผลของการปะทะอาจไม่เป็น
อย่างนี้
ผมเองก็ตระหนักดีว่าการปะทะเมื่อคืนนี้ผมและลูกน้องโชคดีที่
ผ่านมาได้ แต่เราจะโชคดีอย่างนี้ตลอดไปหรือ ผมเองก็ไม่แน่ใจ สักวันหนึ่ง
เราอาจจะเป็ น ศพในสมรภู มิ นี้ ก็ ไ ด้ สายตาผมมองไปที่ ศ พที่ เรี ย งราย
อยู่ด้านนอก ในใจอดสงสัยไม่ได้ว่าท�ำไมต้องเรียงด้วย หรือว่าเพื่อความ
สวยงามถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมมันไม่เอื้อเลย ผมเคยอ่านประวัติศาสตร์
สงครามโลกครัง้ ที่ ๒ ทหารเยอรมันจะวางเรียงศพของทหารอเมริกนั อย่าง
เป็นระเบียบ หรือว่ามันเป็นวิธีปฏิบัติต่อผู้เสียชีวิตที่เป็นสากล บางทีมันก็
เป็นเรื่องแปลกดีเหมือนกัน ความศิวิไลซ์กับความบ้าคลั่งของสงครามก็อยู่
ใกล้กันอย่างไม่น่าเชื่อ
ความรู้สึกปลาบปลื้มในชัยชนะของผมลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อ
ได้เห็นศพที่นอนเรียงรายกันอยู่ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าเขาเหล่านี้ต่าง
พยายามให้ได้ชัยชนะ ทุ่มเททุกอย่างที่พวกเขามี ชะตาชีวิตคนมันช่าง
ไม่แน่นอนจริง ๆ ตอนนี้แทบจะบอกได้เลยว่าผมกลายเป็นส่วนหนึ่งของ
สงครามไปแล้ว
เสี ย งเฮลิ ค อปเตอร์ ที่ ดั ง เข้ า มาเรื่ อ ย ๆ ปลุ ก ผมจากความคิ ด
ต่าง ๆ ในอีกไม่กนี่ าทีจะมีนายทหารมากมายทุกชัน้ ยศและผูม้ เี กียรติมาเยีย่ ม
พวกเขามักจะมาทันทีที่การปะทะจบลง ถ้ามองในแง่ดีนั่นคือเป็นความ
ห่วงใยจากผู้บังคับบัญชา แต่พวกเขาก็มักจะมาเมื่อเหตุการณ์สงบแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าพวกเขาก็รับความเสี่ยงอยู่มากเหมือนกันเพราะ
พวกเวียดกงอาจจะถือโอกาสนี้ในการจู่โจมเป้าหมายส�ำคัญซึ่งอาจจะมี
ผลต่อนโยบายของรัฐบาลเวียดนามใต้ก็เป็นได้ ผมถือว่าค�ำแนะน�ำจาก
118
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
119
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ของรัฐบาลเวียดนามใต้พึ่งพาได้น้อย ก�ำลังพลทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การ
บังคับบัญชาของผมในขณะนีม้ มี ากกว่า ๙๐ นาย ซึง่ ถือว่าเป็นขนาดทีใ่ หญ่
พอ ๆ กับกองร้อยทหารราบในยามสงครามทีม่ อี ตั ราการสูญเสียสูง หมูท่ หาร
ราบ ๓ หมู่ที่มาสมทบสร้างปัญหาให้พอสมควร คือแต่ละหมู่มาจากแต่ละ
กองร้อยและมีลกั ษณะทางทหารทีไ่ ม่พงึ ปรารถนา ผมเดาว่าผูบ้ งั คับกองร้อย
คงถือโอกาสนี้ในการก�ำจัดลูกน้องที่ไม่ได้เรื่องออกไป มีทหารนายหนึ่ง
ที่ดูจะเตะตามากกว่าคนอื่น ๆ คือไม่ได้เรื่องเลย เขาเดินเข้ามาภายในเขต
ของฐานด้วยอากัปกิริยาที่ไม่ใช่ทหาร มันดูเหมือนไอ้ขี้ยามากกว่า เพียง
ไม่กี่นาทีเขาท�ำให้ทุกคนไม่พอใจ ผมเลยให้เขามารายงานตัวกับผม
“ชื่ออะไรพลทหาร” ผมถามเขา
“เรียกข้าว่าพรินซ์ก็ได้เพื่อน”
“ฉันถามอีกครัง้ ว่าชือ่ อะไร และให้ตอบมีครับผูห้ มวดหรือครับผม
ด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะให้แกขุดหลุมบุคคลขนาด ๖ ฟุตให้ฉัน”
เขาตอบใหม่ “ผมชื่อพลทหารเอดเวิร์ด ไพรเซอร์” เขาหยุด
สักระยะแล้วพูดต่อ “ครับผู้หมวด”
“อยู่ที่นี่มานานหรือยังไพรเซอร์”
“เพิ่งมา...ครับผู้หมวด”
“ฉันหมายถึงมาถึงเวียดนาม และให้พูดค�ำว่าครับผู้หมวดเร็วขึ้น
ด้วย”
“๕ ปีครับหมวด” เขาเริ่มตอบแบบเป็นมิตรมากขึ้น
“ท�ำไมอยู่นานจัง” ในใจผมไม่เชื่อเขาเลย
121
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
“เพราะว่าผมฆ่าคนตาย ๕ คนที่อเมริกาและกลับไปไม่ได้ครับ”
เขาตอบพร้อมกับยิ้มเยาะเย้ยที่ริมฝีปาก
“พลทหาร ฉันไม่สนว่านายจะเคยท�ำอะไรไว้ที่อเมริกา จะเคย
ฆ่าคนมากีค่ น แต่ทนี่ สี่ งิ่ ทีส่ ำ� คัญคือ ต้องสามารถฆ่าข้าศึกได้ในสนามรบและ
ก็มีทหารมากมายที่ฐานที่เป็นนักฆ่าที่ดีกว่านาย ให้ท�ำตามค�ำสั่งของ
ผู้บังคับหมู่อย่างเคร่งครัด อย่าได้ก่อปัญหากับใครเพราะจะไม่มีใครทนกับ
เรื่องไร้สาระของนาย” ขณะที่ผมคุยกับไพรเซอร์ มีทหารอีกสองสามคน
ยืนอยู่ใกล้ ๆ ในระยะที่ได้ยิน
ทหารที่มาทดแทนพวกที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บส่วนมากเป็นพวก
น้องใหม่ไร้ประสบการณ์ ผ่านการฝึกทหารประมาณ ๑๖ - ๑๘ สัปดาห์กอ่ น
มารบ ส่วนผมได้รับการเตรียมการมานานกว่าพวกเขาคือมากกว่า ๕ ปี
ภาระความรั บ ผิ ด ชอบหลั ก จึ ง เป็ น ของผมแน่ น อน เพราะแม้ ก ระทั่ ง
ผู้บังคับหมู่ที่นี่อายุก็ไม่ได้แตกต่างจากพวกทหารใหม่ที่มาทดแทนเลย
รองผูบ้ งั คับหมวด จ่าเฮอนานเดซ จะเป็นตัวหลักในการดูแลทหาร
คล้าย ๆ เป็นแม่บ้าน แต่ผลจากการรบท�ำให้เกิดรอยร้าวระหว่างเราอย่าง
เห็นได้ชัด เฮอร์นานเดซรู้สึกว่าผมได้ใช้อ�ำนาจเกินขอบเขตในระหว่าง
การรบ คือไปท�ำหน้าที่ของเขาโดยเฉพาะงานแจกจ่ายกระสุนหรืออาวุธ
แต่ที่ผมต้องท�ำอย่างนั้นไปก็เพราะว่าเฮอร์นานเดซเองถูกข้าศึกยิงกดไว้
ไม่สามารถท�ำอะไรได้ ผมต้องสัง่ การในภาพรวมเพือ่ ให้พวกเราสูร้ บได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ ในสนามรบความมีเอกภาพในการบังคับบัญชาส�ำคัญมาก
และนั่นเป็นหน้าที่ของผมในฐานะที่เป็นผู้บังคับหมวดโดยตรง แต่ถึงผม
จะมีเหตุผลอย่างไร แต่ความรู้สึกของเขาก็ได้เสียไปแล้ว คงต้องพยายาม
แก้ไขกันต่อไป
122
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ในด้านการเตรียมพร้อมส�ำหรับสถานการณ์ข้างหน้า ผมไม่รอ
ให้ข้าศึกเลือกโอกาสได้ตามใจชอบ ผมเตรียมการเพื่อให้ข้าศึกสับสน ใน
เวลากลางวันผมจะส่งหมวดทหารม้ายานเกราะออกไปลาดตระเวน ยกเว้น
รถถังเชอริแดน ๒ คัน เสียงของเครื่องยนต์บวกกับขนาดของยานเกราะ
สามารถท�ำให้ข้าศึกเสียขวัญได้ ส่วนในเวลากลางคืนผมส่งชุดลาดตระเวน
ออกไปข้างนอก โดยเก็บหมวดทหารม้ายานเกราะไว้ทฐี่ านเผือ่ มีเหตุการณ์
ฉุกเฉิน การทีม่ ที หารเข้ามาเพิม่ ท�ำให้ผมได้นอนน้อยลงไปเยอะมาก เพราะ
ต้องลงไปควบคุมการปฏิบัติของลูกน้อง
ทุ ก พื้ น ที่ ร อบ ๆ หมู ่ บ ้ า นทรองแลมมี ก ารเคลื่ อ นไหวมากขึ้ น
พวกเวียดกงพยายามท�ำทุกอย่างเพื่อที่จะลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล
เวียดนามใต้ ผมสงสัยว่าหมวดของผมน่าจะเป็นหน่วยทหารที่เผชิญกับ
สถานการณ์รบมากที่สุดแล้วในกองพลน้อยส่งทางอากาศที่ ๑๗๓
บรรยากาศของสงครามยังคงแผ่ไปทั่วทุกมุมรอบ ๆ หมู่บ้าน
ผมและลูกน้องจึงพยายามตื่นตัวอยู่เสมอเพราะรู้ว่าไม่ช้าไม่นานพวก
เวี ย ดกงคงท� ำ การบุ ก อี ก รอบ และผมก็ ยั ง ไม่ มั่ น ใจว่ า จะพึ่ ง พาทหาร
เวียดนามใต้ที่มาอยู่ในหมู่บ้านได้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นหน่วย
ทหารบางส่วนของรัฐบาลเวียดนามใต้ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการของ
ผมแล้วในเวลานี้ ในฐานะที่เป็นผู้บังคับหมวดในสถานการณ์รบแบบนี้
ผมต้องจัดการกับปัญหามากมาย หนึ่งในนั้นคือการที่จะต้องประสาน
การใช้ทรัพยากรจ�ำนวนมากในพื้นที่ปฏิบัติการอันจ�ำกัด ซึ่งผมมองว่า
มันเป็นลางแห่งความหายนะ
คืนวันหนึ่งซึ่งมีแสงสว่างจากแสงจันทร์ร�ำไร ผมได้รับวิทยุจาก
หมูท่ ไี่ ปท�ำการออกซุม่ “แทงโก โรมิโอ ๒๖ จาก แทงโก โรมิโอ ๒๑ เปลีย่ น”
123
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
125
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
และซุ่มโจมตีไว้คอยคุ้มกันด้วย กฎข้อหนึ่งของการเดินลาดตระเวนคือ
เราจะไม่เดินซ�้ำทางเดิมในห้วงเวลาใกล้กัน แต่ในภารกิจคุ้มกันนี้ เราไม่มี
ทางเลือก ผมต้องคิดค้นวิธีการต่าง ๆ เพื่อใช้ในภารกิจคุ้มกันนี้ ความจริง
มันก็มีความเสี่ยงที่ทหารของเราจะถูกโจมตีได้ทุกเมื่อแม้ว่าพวกเราจะ
คิดว่าท�ำอย่างรอบคอบแล้วก็ตาม เป็นเรือ่ งตลกทีพ่ วกเราพยายามคุม้ กันรถ
ที่มาส่งวัสดุที่ใช้ในการซ่อมแซมบ้านให้กับหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเด็กผู้หญิง
และคนชรา เพราะสามีของพวกเธอออกไปรบและอาจเป็นทหารเวียดกง
ที่พร้อมจะมาลอบสังหารเราได้ทุกเมื่อถ้าเผลอแม้แต่นิดเดียว
ภารกิจเก็บกู้วัตถุระเบิดนี้ท�ำเอาลูกน้องผมเสียขวัญไปไม่น้อย
พวกเขารู้ว่ามันเสี่ยงมากและก็รู้ด้วยว่าการที่รัฐบาลของเวียดนามใต้สั่งให้
ส่งวัสดุก่อสร้างมาซ่อมแซมหมู่บ้านนี้ มันเป็นส่วนหนึ่งของเกมการเมือง
ซึ่งคนที่มีทางเลือกจะไม่มีทางมาอยู่ในที่แบบนี้แน่นอน
ผมเองก็ตอ้ งร่วมไปกับลูกน้องในภารกิจเก็บกูร้ ะเบิดแบบเดียวกับ
การร่วมลาดตระเวนและซุ่มโจมตี บางครั้งก็ไม่พบอะไร แต่บางครั้งก็พบ
ระเบิดที่มีขนาดใหญ่พอที่จะท�ำให้รถหุ้มเกราะขนาดเล็กระเบิดเป็นชิ้น ๆ
ได้ มีครัง้ หนึง่ พวกเราท�ำการกวาดล้างเก็บกูร้ ะเบิดไปตามทางจนไปบรรจบ
กับหน่วยทหารข้างเคียงและในตอนขากลับก็ตรวจเจอทุ่นระเบิดดักรถถัง
๑ ลูก และทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอีก ๒ ลูก การ์ดตกไม่ได้เลยที่นี่ ไม่งั้น
ไม่รอดแน่
หมวดยานเกราะหรื อ ทหารม้ า ที่ ม าช่ ว ยพวกเราในการปะทะ
ที่ผ่านมาก็ได้รับภารกิจเพิ่มเติมคือการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ส�ำหรับการ
ก่อสร้างไปที่หมู่บ้านทรองแลม และดูเหมือนเพื่อนของผม ลารี่จะมี
ความภูมิใจกับการได้เป็นผู้หมวดทหารม้าในสถานการณ์แบบนี้ แต่ในอีก
126
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
127
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
“จาก ๖๒ ไม่มีรอยบาดแผลบนร่างกายเลยแต่ใบหน้าสีเขียวช�้ำ
คงโดนแรงอัดมาก”
“จาก ๕๑ รับทราบ เปลี่ยน” ผมตอบวิทยุเป็นทางการมาก
“เสียใจด้วยครับ ผมทราบว่าเขาเป็นเพื่อนคุณ”
“จาก ๕๑ ทราบ เลิกติดต่อ”
ผมวางวิทยุลงและกินอาหารต่อไป น�้ำซุปที่เดือดก�ำลังจะล้นไป
ดับไฟที่ก�ำลังลุกไหม้ ผมรีบตักส่วนที่ล้นออก และกินคนเดียวเงียบ ๆ
ลารี่เคยบอกว่าเขามีแฟนรออยู่ที่สหรัฐ แฟนเขาคงไม่ต้องรอแล้วเพราะ
ลารี่จากไปโดยไม่มีวันหวนกลับ ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเสียชีวิตในขณะที่
ก�ำลังลากแผ่นหลังคาสังกะสีไปทีห่ มูบ่ า้ นทรองแลม ผมเอาน�ำ้ ร้อนทีเ่ ตรียม
ส�ำหรับกินกาแฟกับเขาเทดับไฟที่ก�ำลังลุกไหม้
128
บทที่ ๑๓
ทหารราบธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
การท�ำหน้าที่ที่เวียดนามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่เสี่ยงต่อ
การปะทะเช่นนีจ้ ติ ใจผมไม่คอ่ ยสงบสักเท่าไหร่ เพราะไม่รวู้ า่ จะมีคนเอาปืน
มาไล่ยงิ เราตอนไหน ในช่วงครึง่ หลังของเดือนตุลาคม ฝ่ายเวียดกงยังคงหา
ยุทธวิธีต่าง ๆ เพื่อมาเล่นงานเรา แต่พวกมันก็ยังไม่กล้าออกมาเผชิญหน้า
กั บ เราโดยตรงเพราะผลจากการปะทะคราวที่ แ ล้ ว แต่ อั น ตรายมี ทุ ก
หย่อมหญ้า การก้าวพลาดไปนิดเดียวอาจหมายถึงอันตรายถึงชีวติ ได้ ข้าศึก
ยังคงหาทางเล่นงานพวกเราต่อไป ข้าศึกยังสามารถทีจ่ ะยิงอาวุธใส่พวกเรา
ที่ฐานจากระยะ ๕๐๐ - ๖๐๐ เมตรได้ หรือแม้กระทั่งในระหว่างการเดิน
ลาดตระเวน ซึง่ หากถูกโจมตีดว้ ยกระสุนวิถโี ค้ง พวกเราจะตอบโต้ดว้ ยอาวุธ
ประจ�ำกาย, ปืนกล เอ็ม-๖๐ หรือแม้กระทั่งด้วยปืน เอ็ม-๗๙ ก็ยาก จะมี
ก็แต่กระสุนวิถีโค้งจากเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด ๘๑ มม. ณ ที่บังคับการ
กองร้อยที่จะสามารถจัดการกับข้าศึกได้ แต่กว่าจะเสร็จจากการขอ
ยิ ง ข้ า ศึ ก ก็ ค งเผ่ น ไปก่ อ นแล้ ว เพราะกองร้ อ ยต้ อ งตรวจสอบก่ อ นว่ า
ต�ำแหน่งที่เราอยากให้เขายิงช่วยอยู่ใกล้หมู่บ้านแค่ไหน ถึงแม้ว่าข้าศึก
จะยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ในระยะที่ห่างจากพวกเรามาก ๆ แต่
ถ้าหากพวกเราบาดเจ็บแค่วันละหนึ่งคน ในเวลาเพียงหนึ่งเดือนก�ำลังพล
129
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ในหมวดก็จะลดลงจนน่าเป็นห่วงและขวัญก�ำลังใจก็จะตกต�่ำ แต่ทหาร
อเมริกนั มีความสามารถพิเศษคือ จะไม่ปล่อยให้ตวั เองไม่มคี วามสุขในแต่ละ
วัน คือจะมีลักษณะนิสัยคล้ายพลวิทยุฟิล เนล ที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งตอนนี้
ก�ำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
วันนี้เป็นวันที่บรรยากาศสดใสอีกวันหนึ่ง หนานทหารเวียดกง
กลับใจที่มาประจ�ำอยู่กับเราก็นั่งลงพักผ่อนพร้อมกับเปิดกระป๋องพีชกิน
ผมรู้เลยว่าเขาก�ำลังคิดถึงหญิงหม้ายรูปร่างท้วมซึ่งเขาเจอขณะที่เธอก�ำลัง
ท�ำงานอยู่ในหมู่บ้าน ส่วนรองผู้บังคับหมวดเฮอร์นานเดซ และทหารอีก
ส่วนหนึ่งก�ำลังท�ำการเก็บกระสุนส�ำรองไว้ในโพรงเล็ก ๆ ที่เพิ่งขุดที่ด้าน
ข้างของเนินในฐาน และชุดลาดตระเวนที่เพิ่งกลับเข้าฐานก็ก�ำลังเตรียม
อาหารของตน ส่วนผมก�ำลังสัมภาษณ์ทหารนายหนึง่ ทีเ่ พิง่ เข้ามาประจ�ำการ
ที่ฐาน คือ พลทหารสตีฟ ฟริกเกอร์ จากเมืองไมนอท์ รัฐนอร์ท ดาโกต้า
ฟริกเกอร์เป็นคนที่มีลักษณะทหารที่ดี ฉลาด ปราดเปรียว แต่มีอย่างหนึ่ง
ที่ผมเป็นห่วงคือเขากินมังสวิรัติ ผมบอกเขาว่า “อาหารที่เรามีส่วนมาก
เป็นพวกเนื้อสัตว์นะ” เขาตอบ “ไม่มีปัญหาครับผู้หมวด เดี๋ยวผมจัดการ
เรื่องนี้เองว่าพอจะมีอะไรที่กินได้บ้าง เห็นมีคนบอกว่าแถวนี้มีกล้วย
พันธุ์เตี้ยลูกเล็กแต่อร่อยมากอยู่นะครับ”
ในขณะที่ ผ มก� ำ ลั ง คิ ด ว่ า จะหาทางแก้ ป ั ญ หาของทหารนายนี้
อย่างไร จู่ ๆ ก็มีห่ากระสุนพุ่งเข้าใส่พวกเรา ผมกับฟริกเกอร์รีบโดดลง
ที่หลุมที่ขุดไว้จนหัวเราเกือบชนกัน ส่วนหนานก็รีบพุ่งลงมาหลบกับเรา
ท�ำให้พีชกระป๋องที่เขาก�ำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยหกรดพวกเราไปด้วย “บ้า
เอ๊ยหนาน” ผมบ่นเล็กน้อย ส่วนฟริกเกอร์ก็เลียนิ้วมือในขณะที่กระสุนอีก
ชุดกระทบกองดินข้าง ๆ หนานโมโหมาก ไม่เพียงแต่กระป๋องพีชของเขา
จะหกหมด ความฝันกลางวันของเขาเกี่ยวกับหญิงหม้ายคนนั้นต้องพลอย
130
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
131
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
132
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
134
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
หลังจากเหตุการณ์สงบลง เราพบว่าพวกแซบเปอร์นี้มีลูกระเบิดสังหารถึง
๔๙ ลูก และหนึง่ ในนัน้ เป็นคนหนุม่ กล้ามเนือ้ เป็นมัด ๆ ดูแล้วคงมีอดุ มการณ์
สูง เขาแต่งกายด้วยผ้าเตี่ยวผืนเดียวรอบเอว และที่เหน็บในผ้านั้นเป็น
กระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่มีรายละเอียดของฐานเราค่อนข้างจะสมบูรณ์ มี
สัญลักษณ์ที่ตั้งของจ่าเฮอร์นานเดซและบังเกอร์ของผู้บังคับหมวดเขียน
เป็นภาษาเวียดนาม แต่พวกมันคงไม่คาดคิดว่าคนทีย่ ศสูงทีส่ ดุ ในฐานไม่ได้
อยู่ที่นั่น แผนการของพวกมันไม่ประสบความส�ำเร็จตั้งแต่สายลับถูกจับได้
ต่อด้วยหน่วยแซบเปอร์ถูกสังหารทั้งหมด เท่าที่ทราบพวกมันไม่มีความ
ยืดหยุ่นในการท�ำงาน พูดง่าย ๆ คือ ไม่มีแผนส�ำรอง ดังนั้นที่คาดว่า
เมือ่ เริม่ การเข้าตีจะเจอพวกเราทีห่ มดสภาพสะบักสะบอม ก็กลับกลายเป็น
เจอหน่วยทหารทีพ่ ร้อมรบและอยูใ่ นทีม่ นั่ ทีแ่ ข็งแรงแน่นหนา ชะตาพลิกผัน
นิดเดียวซึง่ เป็นสิง่ ทีพ่ วกเวียดกงไม่มที างควบคุมได้ ท�ำให้พวกมันพบความ
ตายแทนที่จะเป็นชัยชนะในคืนนั้น
หลั ง จากที่ พ วกเราประสบความส� ำ เร็ จ ในการยั บ ยั้ ง การเข้ า ตี
ของข้าศึกได้ ต่อไปก็เป็นการเก็บรายละเอียด นัน่ คือการออกติดตามข้าศึก
ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการรบด้วย ผมสั่งเตรียมก�ำลัง ๑ หมู่ปืนเล็ก
เพื่อออกไปติดตามข้าศึกที่น่าจะอยู่บริเวณทางทิศใต้ แต่ได้รับค�ำสั่งจาก
กองร้อยให้ท�ำการตีโต้ตอบ แนวความคิดของการตีโต้ตอบนั้นผมเข้าใจดี
แต่มันมีท้ังข้อดีและข้อเสียส�ำหรับหน่วยทหารขนาดเล็กเช่นหมวดทหาร
ราบเช่นนี้ ถ้าเราท�ำการตีโต้ตอบเต็มรูปแบบฐานก็จะอ่อนแอ อีกทั้งเรา
ยังต้องเผชิญความเสี่ยงทั้งจากการยิงของข้าศึกและจากการยิงของฝ่าย
เดียวกันด้วย
ในขณะที่พวกเราที่มีก�ำลังประมาณหนึ่งหมู่ปืนเล็กเตรียมออก
ไปท�ำการติดตามข้าศึก ผมเห็นคิลลิแกนมาท�ำหน้าที่เป็นพลน�ำทางก็รู้สึก
136
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
139
บทที่ ๑๔
ฝนมา
140
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
141
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ผมยังคงหมุนเวียนออกไปลาดตระเวนกับลูกน้องและใช้เวลากับ
ทิลเลสและรอบินสันมากกว่ากับดอนซึ่งรู้งานของตัวเองดี ในตอนเช้า
วันหนึ่งที่ฝนตกปรอย ๆ หมู่ของรอบินสันออกลาดตระเวนไปเจอบ้าน
เล็ก ๆ หลังหนึง่ ทีท่ ำ� เป็นกึง่ ๆ ทีห่ ลบภัย มีอโุ มงค์ทเี่ ก็บข้าวเปลือกไว้จำ� นวน
มาก ในบ้านมีเด็ก ๒ คน แม่เด็ก ๑ คน ชายชรา ๑ คน และหญิงชราอีก
๒ คน ตอนที่เราไปเจอ รู้สึกได้เลยว่าพวกเขากลัวเรามาก ไม่อยาก
ตอบค�ำถามอะไรทั้งนั้นโดยเฉพาะเรื่องที่มาของข้าวเปลือกจ�ำนวนมาก
ผมตัดสินใจน�ำพวกเขาไปสอบสวนต่อในฐาน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมน�ำครอบครัวชาวเวียดนามที่ต้องสงสัยไป
ท�ำการสอบสวน ปกติกจ็ ะน�ำไปสอบโดยขึน้ เฮลิคอปเตอร์โดยไปทีท่ ที่ ำ� การ
ของรัฐบาลที่แทมควาน ซึ่งเป็นที่ท�ำการส่วนต�ำบลเล็ก ๆ แต่ในคราวนี้ฝน
ที่ตกลงมาท�ำให้ยากต่อการเดินทางโดยอากาศยาน ผมจึงต้องรบกวน
เจ้าหน้าที่ต�ำรวจในพื้นที่ซึ่งผมได้ท�ำความรู้จักไว้ตั้งแต่ตอนต้นฤดูฝนให้
ท� ำ การสอบสวน ผมพาผู ้ ต ้ อ งสงสั ย ทั้ ง หมดมาท� ำ การสอบสวนที่ ฐ าน
ระหว่างเดินทางคนในครอบครัวก็หวั ร่อต่อกระซิกกัน แต่ดเู หมือนเด็กผูช้ าย
๒ คน จะดีใจที่ได้เดินกับทหารอเมริกันถึงแม้แม่เขาจะถลึงตาห้ามก็ตาม
ผมรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกโดยเฉพาะผู้หญิงสูงอายุ ๒ คนนั่นที่หัวร่อ
เมือ่ เห็นพวกเราหยุดเพือ่ ตรวจสอบจุดทีส่ งสัยว่าจะมีกบั ระเบิด และท่าทาง
ก็ดูเหมือนจะล้อเลียนการท�ำหน้าที่ของพวกเราด้วย
ส่วนต�ำรวจสองคนที่จะมาสอบสวนได้มาคอยพวกเราแล้วที่หน้า
ฐาน ทั้งคู่ดูยังเด็กอยู่เลย รูปร่างทะมัดทะแมงเหมือนชายเวียดนามทั่ว ๆ ไป
และมีรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าพร้อมจะท�ำงาน ผมมีหน้าที่ในการคุ้มกันไม่ให้
ต�ำรวจทั้ง ๒ นายนี้ได้รับอันตรายจากพวกเวียดกง แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้
เข้าไปก้าวก่ายในการสอบสวน “ขอบคุณผู้หมวด” ต�ำรวจนายหนึ่งชื่อดัก
142
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
พูดพร้อมกับยิ้มกว้างและดูเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าชอบพวกเราทหาร
อเมริกัน ผมไม่หันไปมองดูครอบครัวชาวเวียดนามกลุ่มนี้มากนัก พวกเขา
ดูเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด ช่างต่างจากช่วงบ่ายเสียเหลือเกิน ผมตัดสินใจ
ไปท�ำอย่างอื่นแทน แต่ก็ไม่สามารถละสายตาได้สนิท ต�ำรวจสองคนนั้นสั่ง
ให้พวกเขาทั้งหมดอยู่ในท่าเตรียมยึดพื้นแบบเท้าเปล่าบนแผ่นหินที่ได้
เตรียมไว้ ดักเอาไม้ไผ่ฟาดที่ฝ่าเท้าของหญิงที่เป็นแม่เด็กอย่างแรงและ
พร้อมกับต่อว่าเธอและชายสูงอายุ แม้จะถูกฟาดที่ฝ่าเท้าก็ไม่มีเสียงร้อง
ออกมาจากผูห้ ญิงคนนัน้ แม้แต่นอ้ ย ทุกครัง้ ทีแ่ ม่โดนฟาด เด็ก ๆ ก็จะสะดุง้
ด้วยความกลัว แขนของพวกเขาเองก็แทบจะไม่สามารถยกหน้าอกให้ลอย
พ้นพื้นได้อยู่แล้ว หญิงชราทั้งสองคนร้องขอความเมตตาว่าอย่าท�ำผู้หญิง
คนนั้นเลย
ผมกัดฟันแน่น ในใจอดถามตัวเองไม่ได้ว่าผมรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่
เวียดนามมากน้อยแค่ไหน บางทีพวกเขาอาจจะเป็นคนที่ตัดนมของ
มาม่าซังคนนั้นออกก็เป็นได้
ต�ำรวจฟาดไม้เรียวไปที่ฝ่าเท้าของผู้หญิงคนนั้นอีกโดยมีลูกมอง
ด้วยน�ำ้ ตาไหลพรากพร้อมกับแขนทีอ่ อ่ นแรงและพับลงกับพืน้ ต�ำรวจก็ดนั
ให้เด็กอยู่ในท่าเตรียมยึดพื้นอีก ลูกน้องผมเริ่มมามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมทนดูอีกต่อไปไม่ได้ ระบบคุณธรรมในตัวผมสั่งให้ผมต้องท�ำอะไร
บางอย่าง ผมตะโกนบอกดัก “หยุด” พร้อมกับเดินไปหาเขา เขามองกลับ
มาด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะกล้าขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ
เขา
ผมแย่งไม้ออกจากมือเขาโยนทิ้งไป “พอได้แล้ว และออกไปจาก
ที่นี่ซะ”
143
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ดักและเพื่อนต�ำรวจของเขาไม่รู้จะท�ำอย่างไรต่อ พร้อมกับถอย
ออกไปอย่างอารมณ์เสีย ผมหันไปตะคอกใส่ลูกน้องทหารอเมริกัน” กลับ
ไปท�ำหน้าที่ของแต่ละคนเดี๋ยวนี้”
ผมสั่งให้ครอบครัวชาวเวียดนามยืนขึ้น แม้กระทั่งตอนนี้สายตา
ของพวกเขาที่มองผมก็ไม่ได้เป็นมิตรเลย ราวกับว่าผมไปยุ่งเรื่องของพวก
เขา
“ชองช่วยพาพวกเขาไปหาที่หลบแดดหลบฝนหน่อย แล้วหา
อาหารให้กินด้วย” ชองเดินมาด้วยอาการงง ๆ แต่ก็ปฏิบัติตามด้วยดี
ผมไปค้นที่เป้สนามเพื่อเอาเสื้อเชิ้ตที่แห้งมาให้เด็ก ๆ ที่ก�ำลังสั่นด้วยความ
หนาว
ตลอดทั้ ง บ่ า ยผมนั่ ง มองครอบครั ว ชาวเวี ย ดนามที่ อ ยู ่ ใ นฐาน
ส่วนชองซึ่งครอบครัวถูกพวกเวียดกงสังหารก็ก�ำลังเตรียมอาหารอุ่น ๆ
ให้พวกเขา แน่นอนต�ำรวจทั้งสองต้องไม่พอใจผมอย่างแน่นอน และก็คง
รายงานเหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ ให้หวั หน้าเขาทราบ ส่วนแม่เด็กพวกนัน้ ก็กำ� ลัง
ดูแลฝ่าเท้าของตัวเองที่บวมแดง สายตาเธอมองมาที่ผมเหมือนจะบอกว่า
ช่างอ่อนแอเสียเหลือเกิน ส่วนเด็ก ๆ ก็แอบมองมาทีผ่ มเป็นระยะ ๆ แต่มกั
จะมองไปที่ดักเสียมากกว่า ส่วนคนสูงอายุก็ท�ำสีหน้านิ่ง ๆ ซ่อนความรู้สึก
ที่แท้จริงไว้ซึ่งเป็นเทคนิคที่คนแถวนี้เรียนรู้มานานแล้ว ผมมองครอบครัว
ชาวเวียดนามด้วยความรู้สึกที่สับสน และถ้าเลือกได้ ผมอยากไปรบกับ
ข้าศึกให้มนั รูแ้ ล้วรูร้ อดไปดีกว่าทีจ่ ะมาเจอสถานการณ์แบบนีท้ แี่ ยกไม่ออก
เลยว่าใครเป็นใคร เป็นผู้บริสุทธิ์หรือคนไม่ดี หรือคนที่ก่อความรุนแรง
สักพักผมก็เลิกคิดถึงเหตุการณ์นี้เพราะมีวิทยุเข้ามาเวลา ๑๕๐๐
“ให้เตรียมก�ำลังพลไว้ ๑ หมูป่ นื เล็กและให้พร้อมเวลา ๑๕๔๕ คุณไปด้วย”
144
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ผมไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นจนกว่าจะได้รับการแจ้งเมื่อไปถึงที่หมาย ผมรู้
แต่เพียงว่ามันไม่ปกติ ผมสัง่ จ่าเฮอร์นานเดซว่าพวกเราจะไปสักพักไม่ทราบ
เวลากลับ ดังนั้นให้ดูแลผู้ต้องสงสัยทั้งหมดให้ดีก่อนที่จะให้มีการย้ายไป
ที่ใหม่ และอย่าให้ต�ำรวจสองคนนั่นมายุ่งกับพวกเขา จากนั้นผมก็สั่งให้
ผู้บังคับหมู่ทิลเลสเตรียมหมู่ของเขาให้พร้อมส�ำหรับการปฏิบัติภารกิจ
เมื่อถึงเวลาพวกเราก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่มารับท่ามกลางสายฝนปรอย ๆ
สิง่ เดียวทีน่ กั บินบอกเราได้คอื จะต้องส่งพวกเราลงทีฐ่ านของหน่วยเรนเจอร์
ที่เชิงเขาแห่งหนึ่ง
เวลา ๑๖๐๐ ผมได้รับทราบรายละเอียดของการปฏิบัติจาก
นายทหารติดต่อของกองพันและจะมีก�ำลังอีก ๒ หมู่ปืนเล็กจากกองร้อย
อื่นมาสมทบอีกในไม่ช้า ก�ำลังอีก ๒ หมู่ปืนเล็กที่มาสมทบกับ ๑ หมู่จาก
หมวดของผมท�ำให้กำ� ลังมีขนาดใหญ่ขนึ้ ภารกิจทีไ่ ด้รบั คือการลาดตระเวน
หาที่ตั้งของกองพันทหารเวียดนามเหนือที่ก�ำลังเคลื่อนไหว ผมได้รับแจก
กล้องมองในเวลากลางคืนด้วยส�ำหรับภารกิจนี้
ผมมองดูทหารจากหมูอ่ นื่ ทีม่ าสมทบ พวกเขาลงจากเฮลิคอปเตอร์
ด้วยสีหน้าทีบ่ อกให้รวู้ า่ ไม่รอู้ ะไรเลยยิง่ กว่าผมอีก ผมเดาได้เลยว่าพวกนีค้ ง
เป็นกลุ่มคนที่ผู้บังคับหน่วยไม่ต้องการสักเท่าไหร่ คือส่งให้ไปรับภารกิจ
ที่เสี่ยงและจ�ำหน่ายเสียชีวิตในสนามรบได้ เมื่อถึงเวลา ๑๗๐๐ พวกเรา
ก็พร้อมส�ำหรับไปปฏิบตั หิ น้าที่ นัน่ คือการติดตามค้นหาทีต่ งั้ ข้าศึกทีม่ ขี นาด
๑ กองพัน ซึ่งอาจมีก�ำลังพลถึง ๔๐๐ นาย แต่พวกเรามีเพียง ๑๗ นาย
พร้อมปืนกล ๒ กระบอกและอาวุธประจ�ำกาย แม้ในใจผมจะเต็มไปด้วย
ค�ำถามและลางสังหรณ์ แต่จะแสดงออกซึ่งความอ่อนแอให้พวกเขาเห็น
ไม่ได้ ทหารที่มียศรองจากผมคือสิบเอกทิลเลส พวกเราต้องน�ำก�ำลังแค่
หยิบมือไปค้นหาข้าศึกโดยมีข้อมูลในมือน้อยมาก ส�ำหรับทหารที่มา
145
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
รู้ว่าต้องท�ำอย่างไร แต่การเช็กต�ำแหน่งในความมืดสนิทอย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง
ง่ายและอันตรายมาก เพราะพวกเราทัง้ ๑๗ คนไม่ได้คนุ้ กันทัง้ หมด ลูกน้อง
ในกลุ่มเกินครึ่งไม่รู้จักผมมาก่อนและอะไร ๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้ อีกประการ
หนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวมผมได้คิดรหัสผ่าน เช่น ผมก�ำหนดให้
เป็นเลข ๑๐ เวลาไปเจอลูกน้องผมก็จะถามไปก่อน เช่น ๓ ลูกน้องก็ต้อง
ตอบกลับมาเป็นตัวเลขทีร่ วมกันให้ได้ ๑๐ ในกรณีนกี้ จ็ ะเป็นเลข ๗ เป็นต้น
ถ้าผมถามไปเป็น ๖ เขาก็ต้องตอบกลับมาเป็น ๔ หากผิดไปจากนี้แสดงว่า
ไม่ใช่พวกเรา ผมซักซ้อมเรื่องนี้ก่อนออกปฏิบัติงานจริง
ส�ำหรับการเช็กต�ำแหน่งของลูกน้องแต่ละคนผมต้องท�ำด้วยความ
ระมัดระวัง เพราะการเคลื่อนที่ในเวลากลางคืนนั้นอันตรายมากโดยอาจ
ท�ำให้ลูกน้องเข้าใจผิดคิดว่าเป็นข้าศึกได้ ผมใช้วิธีคลานอย่างช้า ๆ ไปที่
ต�ำแหน่งของแต่ละคน และเมื่อไปถึงก็บอกลูกน้องให้ระวังข้าศึกที่อาจจะ
เข้ามาพร้อมกับเช็กต�ำแหน่งของปืนกลและทุ่นระเบิดเคลย์มอร์ท้ัง ๒ ลูก
ด้วย เมื่อเสร็จก็คลานกลับไปที่จุดตรงกลางใหม่และก็เช็กที่จุดอื่นต่อไป
แม้ ก ระทั่ ง การคลานมาที่ จุ ด ตรงกลางที่ มี สิ บ เอกทิ ล เลสอยู ่ ก็ ใช่ ว ่ า จะ
ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเขาอาจเข้าใจผิดว่าเป็นข้าศึกและยิงเอา
ก็ได้ ถ้าดูจากสภาพแวดล้อมทีม่ ดื มิดพวกเราควรอยูก่ บั ทีไ่ ม่ควรเคลือ่ นทีใ่ ห้
เป็นเป้า แต่ด้วยภารกิจที่ได้รับมา พวกเราจึงไม่มีทางเลือก ผมยอมรับว่า
เครียดและเหงื่อก็ไหลออกไม่หยุด ในสภาพแวดล้อมที่มืดสนิทแบบนี้
การมองเป็นปัญหาแน่นอน
ถ้ามีใครที่สามารถมองในความมืดได้คงเห็นใบหน้าของแต่ละคน
ดูน่าขันที่พยายามถ่างม่านตาให้เห็นได้ถนัด และจมูกที่ดมฟุดฟิดหาสิ่ง
ผิดปกติ ส�ำหรับต�ำแหน่งที่ ๒ เมื่อไปถึงเสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นและตามด้วย
ฟ้าแลบในเสี้ยววินาที ลูกน้องในต�ำแหน่งที่ ๒ มีความตื่นตัวมากกว่า
148
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ท�ำการเดินลาดตระเวนให้มีประสิทธิภาพ ผมในฐานะที่เป็นหัวหน้าก็ต้อง
เดินขึ้นลงระหว่างแถวเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีคนพลัดหลง ซึ่งในคืนที่มืด
อย่างนีม้ นั ก็ไม่งา่ ยเลย ผมคิดประเด็นนีอ้ ยูพ่ กั ใหญ่ และจากบทเรียนทีเ่ กือบ
โดนลูกน้องยิงท�ำให้ผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่เสี่ยงถูกยิงซ�ำ้ สองเพราะลูกน้อง
เข้าใจผิดในสถานการณ์อย่างนีผ้ มเชือ่ เลยว่าลูกน้องผมพร้อมจะยิงทุกอย่าง
ที่เข้ามาหาตัว
ความกลั ว เป็ น ตั ว บงการทุ ก อย่ า ง มั น สั่ ง ผมว่ า ให้ อ ยู ่ กั บ ที่
ก่อนหน้านี้ผมเป็นผู้บังคับหมวดที่มีประสิทธิภาพ ภูมิใจในตัวเอง แต่ใน
ค�่ำคืนนี้ ผมรู้สึกตัวเองเป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ต่างจากคนทั่วไปที่มีความกลัว
ตอนนี้ผมเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ก�ำลังหลบอยู่ไหนสักแห่งในความมืด
คิดอะไรไม่ออก ตัวก็หนาวสั่น ความตายในสมรภูมิแห่งนี้อยู่ไม่ไกลเลย
มันพร้อมทีจ่ ะมาเยือนเราได้เสมอ ผมรูส้ กึ ว่าชีพจรก�ำลังเต้นดังอยูใ่ นหูและ
อยากจะอาเจียน ทุกนาทีทุกชั่วโมงที่ผ่านไปไม่ได้ท�ำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย
ความกลัวเข้าครอบง�ำทุกอย่าง ผมไม่แน่ใจว่าจะอยูร่ อดจนถึงเช้าหรือเปล่า
ความตายเป็นอย่างไรหนอ ตายแล้วไปไหนต่อ สมองผมคิดไปหลายเรื่อง
ตอนที่นอนลงไปที่พื้นใหม่ ๆ ก็ไม่ได้สังเกตว่ามีรังมดอยู่ มดบางส่วนไต่เข้า
มาบนตัวผมแต่ก็ยังไม่ทันรู้ตัวจนกระทั่งพวกมันส่งสัญญาณให้พรรคพวก
ที่เหลือมาสมทบ คราวนี้ทั้งหนาวและเจ็บจากมดกัด จะลุกขึ้นยืนก็ไม่ได้
เพราะกลัวลูกน้องจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นข้าศึก คราวนีอ้ าจจะไม่โชคดีเหมือน
เมื่อกี้นี้ ผมนอนให้มดกัดอยู่อย่างนั้น อยากกัดตรงไหนก็เชิญตามสบาย
สักพักฝนก็เทลงมานานนับชั่วโมง และเมื่อฝนหยุดผมก็ยังอยู่กับที่ยอมให้
ตัวเปียกและสกปรกอยู่อย่างนั้น
แสงสว่างเริ่มโผล่ขึ้นมา ค�่ำคืนที่ทรมานก็เริ่มหายไปและผมก็รู้ว่า
ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ ผมคลายเข็มขัดออกและเอื้อมมือเข้าไปในเสื้อยืดเพื่อ
151
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เอามดที่ตายอยู่เป็นจ�ำนวนมากออกมา น่าแปลกดีเหมือนกันที่มดซึ่งนับ
เป็นสัตว์ที่มีการปรับตัวเก่งมากกลับต้องมาจบชีวิตอย่างง่ายดายเช่นนี้
ส่วนผมกลับยังมีชีวิตรอด มันคงยังไม่ถึงเวลาเป็นแน่ ผมรวบรวมก�ำลัง
ทั้งหมดออกจากแนวเขาและกลับไปที่ฐานของหน่วยเรนเจอร์ ค�่ำคืนที่
คาดว่าจะเจอข้าศึกจ�ำนวนมากกลับต้องมาเจอข้าศึกที่แท้จริงคือการ
เอาชนะใจตัวเอง ในความคิดผม ส�ำหรับค�ำ่ คืนอันแสนจะยาวนานทีผ่ า่ นมา
ผมเป็นผู้บังคับหมวดที่แย่มาก แต่ผมต้องเป็นผู้บังคับหมวดที่ดีกว่าเดิม
ให้ ไ ด้ ผลการติ ด ตามข้ า ศึ ก ในคื น นั้ น พวกเราไม่ พ บกองพั น ของข้ า ศึ ก
แต่เช้าวันนี้ฝนก็ยังเทลงมาไม่หยุดหย่อน ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าจะมีมดตาย
อีกกี่ล้านตัว
เช้าของวันที่สาม ผมเดินทางกลับมาที่ฐานหมวดของตัวเองที่
ทรองแลม ระหว่างที่ผมไม่อยู่มีลูกน้อง ๑ นายเสียชีวิตจากกับระเบิด
ซึ่งท�ำให้ขาข้างหนึ่งขาดจนถึงต้นขา ส่วนครอบครัวที่พวกเราสงสัยว่าจะ
เป็นพวกเวียดกงก็ยังอยู่ที่ฐานหมวด เพราะท้องฟ้ายังไม่เอื้อต่อการที่
เฮลิคอปเตอร์จะมารับพวกเขา สิ่งที่เห็นได้ชัดตอนนี้คือสีหน้าที่แสดงออก
ถึงความเกลียดชัง ไม่เว้นแม้กระทัง่ ในเด็ก ส่วนผูห้ ญิงทีเ่ ป็นแม่ ใบหน้าของ
เธอบอกได้ชัดถึงความพ่ายแพ้และหมดซึ่งความหวังความภาคภูมิใจ
ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึน้ ทีน่ รี่ ะหว่างทีผ่ มไม่อยู่ และผมก็ไม่แน่ใจ
ว่าสิ่งที่ผมคิดเกี่ยวกับพวกเวียดกงครอบครัวนี้ถูกหรือผิด แต่สายตาของ
ผู้หญิงเวียดกงที่เป็นแม่กับจ่าเฮอร์นานเดซบอกอะไรผมบางอย่าง บางที
จ่าเฮอร์นานเดซอาจล่วงเกินอะไรเธอสักอย่าง แต่ไม่ว่าสิ่งที่ผมคิดเรื่องนี้
จะจริงหรือไม่ ผมจะไม่มีทางไว้ใจจ่าคนนี้อีกเป็นอันขาด ตอนสายของวัน
ผมสัง่ ให้มกี ารอพยพครอบครัวชาวเวียดนามออกไปและย้ายจ่าเฮอร์นานเดซ
ไปที่หน่วยอื่น จ่าเฮอร์นานเดซอยู่กับผมมานานและเป็นก�ำลังที่ส�ำคัญ
152
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ส่วนจ่าแพลโลแมนดูเหมือนจะไม่กลัวอะไรเลย เขาอายุประมาณ
๔๐ ปี เดินทางข้ามพรมแดนจากแคนาดามาสมัครเป็นทหารในกองทัพ
สหรัฐ เพื่อร่วมรบ ก่อนหน้านี้เขารับราชการในกองทัพอังกฤษและถูก
ส่งไปที่ไซปรัส แต่เมื่อจบภารกิจ เหตุการณ์สงบไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเขาก็
ลาออก และเมื่อประมาณปี ค.ศ. ๑๙๖๕ สหรัฐ ต้องเข้ารบที่สงคราม
เวียดนาม เขาเลยขอร่วมด้วย แพลโลแมนสูงประมาณ ๑๘๐ เซนติเมตร
รูปร่างสมส่วน ดูเหมือนไม่มีไขมันเลย และถึงแม้ใบหน้าจะดูเคร่งขรึม
มุ่งมั่น แต่เขาไม่ใช่คนอารมณ์ร้าย ดวงตาสีฟ้ายิ่งท�ำให้เขาดูอ่อนโยน เมื่อ
เขาพูดถึงภรรยาที่อยู่ที่บ้าน คนฟังต้องนึกถึงครอบครัวอบอุ่นอารมณ์ดี
ในเมืองเล็ก ๆ สักแห่งของอเมริกา แต่ตอนนี้แน่ชัดแล้วว่าเขาสมัครใจ
มารบ “สวัสดียามบ่ายครับหมวด ผม จ่าแพลโลแมน” เขาทักทายผมด้วย
ลักษณะท่าทางที่เข้มแข็งทะมัดทะแมง “สวัสดียามบ่ายเช่นกันจ่า ยินดี
ต้อนรับสู่ทรองแลม เออวันที่ได้เลื่อนยศเป็นวันไหนเหรอ” ผมถามเรื่อง
วันที่เขาได้รับแต่งตั้งเป็นจ่า เพื่อจะดูว่าระหว่างเขากับรอบินสันใครอาวุโส
กว่ากัน โชคดีที่เขาอาวุโสกว่าผมแต่งตั้งให้เขาเป็นรองผู้บังคับหมวดแทน
รอบินสัน เขาช่างต่างจากเฮอร์นานเดซและรอบินสันเหลือเกิน เพราะสอง
คนนั้น ผมต้องกดดันและกระตุ้นให้ออกไปลาดตระเวนพร้อมลูกน้อง ส่วน
แพลโลแมน ผมต้องรั้งเขาไว้บ้าง เขามีความเชื่อว่าการป้องกันที่ดีที่สุดคือ
การรุก ดังนั้นเขาจึงออกไปลาดตระเวนให้ลูกน้องเห็นเป็นตัวอย่างทุกวัน
มากที่สุดเท่าที่ผมจะอนุญาต และในการลาดตระเวนเขาจะไปอยู่ข้างหน้า
เสมอ บางทีก็ท�ำให้สับสนกับต�ำแหน่งของพลน�ำทาง และเมื่อเราออก
ลาดตระเวนชุดใหญ่ ผมจะสั่งให้เขาอยู่ท้ายแถวเพราะเกรงว่าผมจะห่าง
จากแถวเกินไป แพลโลแมนท�ำหน้าที่เป็นรองผู้บังคับหมวดได้ดีมาก
ถ้าไม่ติดที่ยศ จะให้ผมแสดงความเคารพเขาก็ยังได้ เขาช่างมาได้เวลาที่
เหมาะเหลือเกิน
154
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
155
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
จ�ำเป็นต้องท�ำและก็ถูกต้อง เมื่อมั่นใจว่าเขากลับถึงฐานอย่างปลอดภัย
ผมก็โล่งใจ และได้มีโอกาสดื่มเบียร์ในรอบ ๒ เดือน ผมดื่มจนหลับไป
เป็นการหลับที่สนิทและดีมาก ผมไม่รู้ว่าผมได้มีโอกาสหลับแบบนี้ครั้ง
สุดท้ายตอนไหน ตื่นมาตอนเช้ายังมีอาการเมาค้างเล็กน้อย ผมเริ่มการ
เดินทาง ๔๐ ไมล์ เพื่อไปที่พูไท ที่ผมตกใจคือผมต้องฝากอาวุธประจ�ำกาย
และระเบิดขว้างไว้กับหน่วยทหารอเมริกันที่ผมพักระหว่างทางก่อนการ
เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่และก็ได้รับแจกปืนพกแทน ซึ่งมันไม่ค่อยจะมี
ประโยชน์มากนักในสถานการณ์เช่นนี้ บางทีระเบียบของกองทัพก็ตึง
เกินไป ยิ่งกว่านั้นก็ไม่มีแผนการที่ชัดเจนในการส่งผมไปที่พูไท ว่าจะไป
อย่างไร ฝนทีต่ กลงมาก็ทำ� ให้เฮลิคอปเตอร์มารับไม่ได้ เมือ่ ค�ำนึงถึงศักดิศ์ รี
ของตัวเอง ผมหาทางไปเองดีกว่าโดยการโบกรถ
ในระหว่างสงครามเวียดนาม อเมริกาสูญเสียก�ำลังพลไปประมาณ
๑๐,๐๐๐ นาย ซึ่งไม่ได้เกิดจากการยิงของข้าศึกเลย เวียดนามเต็มไปด้วย
เล่ห์เหลี่ยม อันตราย และเมื่อถนนหมายเลข ๑ ถูกตัดขาดอันเนื่องจากฝน
ผมก็ไม่เสี่ยงเดินทางต่อ แต่หลังจากที่คอยให้เฮลิคอปเตอร์มารับที่ค่าย
ทหารใกล้ ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง เพื่อนที่มาด้วยกันก็หมดความอดทน
ตัดสินใจเดินทางต่อด้วยรถยนต์ขนาด ๒ ๑/๒ ตันที่พวกเราโดยสารมา
แต่แรก แต่ผมไม่เอาด้วย รอให้เฮลิคอปเตอร์มารับดีกว่า พวกทีเ่ ลือกไปกับ
รถก็ต้องเสี่ยงกับสภาพถนนที่ถูกน�้ำท่วมและสุดท้ายรถก็พลิกคว�่ำท�ำให้มี
ผู้โดยสารเสียชีวิต ๓ นายพร้อมคนขับ ส่วนผมในวันรุ่งขึ้นก็ได้โดยสาร
เฮลิคอปเตอร์เพื่อไปที่พูไท
เมื่อไปถึงพูไท ผมก็รับเงินเดือนที่จะต้องเอาไปแจกจ่ายให้ทหาร
เงินจ�ำนวนนั้นมากถึง ๑๗,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ผมเริ่มวิตกว่าอาจจะเกิด
อันตรายได้ อาจจะมีคนไม่หวังดีคอยฉกไป ซึ่งอาจจะเป็นพวกเวียดกง
156
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
157
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
โดยปกติคนที่จะถูกยิงเป็นคนแรกจากข้าศึกก็คือพลน�ำทาง สักวันหนึ่งเขา
อาจจะพลาดก็ได้ คิลลิแกนโกรธมากในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าค�ำสั่งผม
จะไม่มีความหมายส�ำหรับเขาเท่าไหร่นัก เวลาออกไปลาดตระเวนเขาก็จะ
ท�ำเนียน ๆ รีบวิ่งขึ้นไปข้างหน้า ส�ำหรับเขา หน้าที่พลน�ำทางเป็นของเขา
เท่านั้น
158
บทที่ ๑๕
ความฉลาดริเริ่มของคนอเมริกัน
การปะทะ ผมอธิบายถึงสถานการณ์ทั้งหมดรวมถึงยุทธวิธีที่ข้าศึกอาจจะ
ใช้ พวกเราจะไม่อยูแ่ ค่สามวัน แต่สำ� หรับจ่าคนนัน้ มันฟังดูเหมือนนานมาก
ฟังจากวิธีการพูดผมรู้ได้เลยว่าเขาคงไม่ท�ำอะไรเสี่ยง ๆ เช่น การออกไป
ลาดตระเวนเป็นแน่ คงอยูแ่ ต่ในฐานรอพวกเรากลับมา ผมไม่อยากต�ำหนิเขา
เพราะพวกเขามีก�ำลังเพียง ๑๕ คนเท่านั้น และผมก็คิดว่าในระหว่างที่เรา
ไม่อยู่พวกข้าศึกคงท�ำอะไรบางอย่างเพื่อต้อนรับตอนพวกเรากลับมา เช่น
วางกับระเบิดเพิ่มในบริเวณที่หมวดเรารับผิดชอบ แต่นั่นก็อีกตั้งสามวัน
ตอนที่พวกเราคอยอยู่ลานเฮลิคอปเตอร์ใกล้ฐาน พวกเราเหมือน
กับนักโทษที่เพิ่งออกจากคุกยังไงยังงั้น วันหยุดพักสามวันนี้รับรองว่าจะ
ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พวกเราดีใจจนเนื้อเต้น ในสนามรบพวกเขา
ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ และในเวลาที่ได้
พักถึงแม้จะแค่สามวัน ก็น่าจะท�ำให้พวกเขาได้รู้รสชาติของการมีชีวิตอยู่
ว่ามันมีคา่ แค่ไหน เสียงดีใจก็ดงั สนัน่ เมือ่ เฮลิคอปเตอร์แบบชินคุ หรือซีเอช-
๔๗ (CH-47) มาถึง ฝุ่นตลบที่เกิดจากใบพัดของเครื่องก็ไม่สามารถพัดพา
รอยยิ้มออกจากใบหน้าลูกน้องผมได้ พวกเราเข้าไปอัดกันแน่นในเครื่อง
ในเวลาไม่กี่อึดใจ สามวันจากนี้ หมู่บ้านทรองแลมไม่ใช่สิ่งที่พวกเรา
ต้องห่วง
แต่ทุกอย่างก็ไม่สวยหรูเสมอไป นายทหารการเงินผู้หมวดไซมอน
เลกรี ทีก่ ำ� ลังถ่มน�ำ้ ลาย (คงเพือ่ ให้ตวั เองดูเท่) ถามผมว่า “คุณเป็นผูห้ มวด
ของทหารพวกนีใ้ ช่ไหม” ผมตอบด้วยท่าทางให้รวู้ า่ ฉันคือของจริงนะ ไม่ได้
มาอยู่สบายแบบแก “ใช่” แล้วเขาก็พูด “ผมต้องรบกวนให้คุณรวบรวมตั๋ว
แลกเงินจากลูกน้องคุณมาให้ผม วันนี้เป็นวันที่ต้องรวบรวมไว้ที่ส่วนกลาง
ก่อน ทุกดอลล่าร์เลย” ผมตะโกนด้วยความโมโหท่ามกลางเสียงเครือ่ งยนต์
ทีด่ งั กระหึม่ “บ้าแล้ว คุณจะมาเอาเงินของพวกเขาไปไม่ได้” แต่เขาไม่สนใจ
160
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
162
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เมื่อทุกคนพร้อม ผมท�ำการซักซ้อมแผนฉุกเฉินเผื่อข้าศึกโจมตี
โดยไม่รู้ตัว แต่ดูเหมือนจิตใจของลูกน้องจะไปอยู่ที่ผู้หญิงขายบริการ
เหล่านั้นจนหมดแล้ว พวกหล่อนโบกมือให้เหมือนจะบอกว่า “เงินมา
ผ้าหลุดจ้า” แต่น่าเสียดายที่พวกเราไม่มีเงินให้ พวกเราเลยนั่งที่ชายหาด
อย่างเศร้า ๆ มาคิดดูอีกที มันเกินไปหรือเปล่าที่ผมต้องมาห้ามลูกน้อง
ไม่ให้ไปยุ่งกับผู้หญิงพวกนั้น ความยุติธรรมในชีวิตมันอยู่ที่ไหนหนอ แต่
ผมก็ต้องท�ำ
ก่อนที่ลูกน้องผมจะคลั่งตายเพราะผู้หญิงขายบริการเหล่านั้น
กองทัพบกสหรัฐก็เข้ามาช่วยได้ทันเวลา พวกเขาไม่ปล่อยให้พวกเรามา
พั ก ผ่ อ นโดยที่ ไ ม่ มี อ ะไรช่ ว ยผ่ อ นคลาย เสี ย งเฮลิ ค อปเตอร์ ที่ บ รรทุ ก
เครื่องดื่มสารพัดก็มาถึง ทั้งเบียร์ โซดา นายทหารฝ่ายเสนาธิการสมัยโน้น
คงเห็นปัญหาว่าต้องมีอะไรพิเศษให้ทหารที่มารบได้กินดื่มกันบ้าง และ
ความจริงเครื่องดื่มพวกนี้เป็นโควต้าของหมวดเราที่ควรจะได้ตั้งแต่มาถึง
เวียดนามใหม่ ๆ แล้ว แต่ในที่สุดเราก็ได้มันมา พวกเราดีใจกันมาก บางคน
พยายามเข้าไปตั้งแต่เฮลิคอปเตอร์ยังไม่แตะพื้น
ผมว่าลูกน้องผมฉลาด แม้เราจะไม่มีเงินแต่ก็รู้วิธีเปลี่ยนสินทรัพย์
ที่มีจนได้ผู้หญิงเวียดนามพวกนั้นมาครองสมใจอยาก คืนนั้นผมคอยจะ
โทรศัพท์ทางไกลผ่านทางวิทยุสื่อสารไปหาภรรยาที่บ้าน คอยอยู่นาน
ดื่มเบียร์หมดไปมากมาย สุดท้ายก็ไม่ได้โทร แต่ก็ดีแล้วเพราะถ้าได้โทร
จริง ๆ ภรรยาผมคงรู้ว่าผมก�ำลังเมา ผมตื่นเช้ามายังมึน ๆ ศีรษะอยู่ แต่ก็
หลับดีมาก
วันที่สองของการพักผ่อนช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ผมได้มีโอกาส
พูดคุยกับลูกน้องด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ท�ำให้ได้รู้ชีวิตส่วนตัวของแต่ละ
163
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
164
บทที่ ๑๖
ข้าศึกเพิ่มเติมกำ�ลัง
165
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
167
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ผมและรองผู้บังคับหมวดแพลโลแมนจึงต้องท�ำอะไรบางอย่าง
เป็นการตอบโต้ พวกเราจะท�ำให้การข่าวของพวกมันสับสนโดยการเปลีย่ น
ยุทธวิธรี ายวัน เช่นการซุม่ โจมตีจะเริม่ ต้นด้วยการท�ำเสียงดัง ๆ เพือ่ ให้ขา้ ศึก
รูว้ า่ พวกเราอยูท่ ไี่ หน จากนัน้ เราจะย้ายทีอ่ ยูใ่ นตอนมืดไปยังทีแ่ ห่งใหม่หา่ ง
ออกไปหลายร้อยเมตร ชุดลาดตระเวนทีอ่ อกไปช่วงหลังจะมีปนื กลออกไป
ด้วยเพื่อเพิ่มอ�ำนาจการยิง และระหว่างทางที่ออกลาดตระเวน เราจะทิ้ง
ชุดซุ่มโจมตีเล็ก ๆ เอาไว้ โดยชุดนี้จะกลับเข้าฐานหลังจากชุดลาดตระเวน
ชุดใหญ่ บางครัง้ พวกเราจะลุยผ่านนาข้าวซึง่ มีนำ�้ ท่วมสูงถึงคอเพือ่ ไปค้นหา
ที่อยู่หรือเส้นทางเคลื่อนที่ของพวกเวียดกง หากเราพบอุโมงค์ เราจะใช้
สารซีเอส (CS) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในการควบคุมฝูงชนและก็ตามด้วย
ระเบิดสังหาร บางทีผมจะส่งชุดลาดตระเวนออกไปตอนช่วงเช้ามืดก่อน
สว่างเพือ่ จัดการกับทีห่ ลบซ่อนของพวกเวียดกง พวกเราเริม่ จัดการพวกมัน
ได้บางส่วนจากการเปลี่ยนกลยุทธ์แบบสายฟ้าแลบ
แน่นอนพวกเวียดกงก็ตอบโต้คืนด้วยการวางกับระเบิดและลอบ
โจมตีมากขึ้น เช้าวันหนึ่งผู้ใหญ่บ้านถูกเล่นงานขณะที่ก�ำลังอาบน�้ำที่ข้างๆ
บ่อน�้ำโดยวางเสื้อผ้าและปืนพกขนาด .๔๕ มม. อยู่ห่าง ๆ มีเด็กชายอายุ
แค่ ๙ ขวบ เดินมาที่ผู้ใหญ่บ้านแล้วยิงเขาด้วยปืนพกขนาด .๒๒ มม.
สองนัด ผู้ใหญ่บ้านบาดเจ็บแต่รอดชีวิตและกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในอีก
ไม่กี่สัปดาห์
ส่วนบาร์น เมื่อกลับจากการไปพักฟื้นที่ออสเตรเลียเป็นเวลา
๖ วัน ก็ต้องมาเสียขาขวาลึกถึงโคนขาจากการเหยียบกับระเบิด อีกราย
พลทหาร รอบสัน ซึง่ มาพร้อมกับแพลโลแมนก็เสียชีวติ จากการเข้าไปเคลียร์
อุโมงค์ สาเหตุคือเอาหัวมุดเข้าไปก่อน แต่พอเข้าไปได้สักพักก็ตกใจ
จนอาเจียนและก็ส�ำลักอาเจียนจนเสียชีวิตก่อนที่จะถูกดึงออกมา ทหาร
168
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
171
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤศจิกายน การข่าวก็รายงานมาว่าข้าศึก
จะท�ำการโจมตีครั้งใหญ่ในพื้นที่ที่ผมรับผิดชอบ เหมือนเช่นเคย ข่าวไม่ได้
บอกว่าการโจมตีจะเกิดขึ้นประมาณช่วงไหนและในลักษณะใด ส�ำหรับ
หมวดทหารราบการบอกเช่นนี้ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะการปะทะทุก
ครั้งมีความส�ำคัญหมด เพียงแต่ก็ท�ำให้พวกเราระวังตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
เอง ถึงแม้ว่าพวกเราจะระวังมากแค่ไหน แต่ก็ต้องมีช่องโหว่สักแห่งจนได้
อย่างบางครั้งที่ออกไปลาดตระเวน อาจมีบางช่วงที่เราอาจตกเป็นเป้านิ่ง
เช่นตอนข้ามล�ำน�้ำหรือพื้นที่โล่ง หรือตอนถูกบีบให้ต้องใช้ทางเดินแคบ ๆ
เพราะไม่สามารถใช้ทางอื่นได้
บ่ายวันหนึ่งผู้หมู่รอบินสันน�ำหมู่ของเขาออกไปลาดตระเวนและ
ต้องขึ้นที่สูงชันมาก พลทหารฟริกเกอร์เป็นคนเดินน�ำหน้า เขาระมัดระวัง
มากขณะผ่านดงหญ้าและป่าละเมาะที่หนาทึบ รอบินสันเดินอยู่ข้างหลัง
ห่างแค่ไม่กี่เมตรและมีฟิล เนลเดินต่อจากเขา พลทหารรอน วิลสัน
เด็กหนุ่มจากรัฐอลาบามาอายุเพิ่ง ๑๗ ปี เดินเป็นคนที่ ๔ และมีอีก ๓ คน
เดินต่อจากวิลสัน ฟริกเกอร์รู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก ไม่กี่วันก่อนหน้านี้
เขารู้สึกว่าวันของเขาใกล้จะมาถึงแล้ว “ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นครับหมวด
รู้สึกไม่ดีเลย” เขาบอกผมอย่างอาย ๆ ผมเลยถามว่า “นายหมายความว่า
อย่างไร ไม่สบายหรือเปล่า” เขาตอบว่า “เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างนั้น ผมรู้สึก
ว่าบางอย่างร้าย ๆ ก�ำลังจะเกิดขึ้นกับผม” “บางทีนายอาจท�ำหน้าที่เป็น
คนน�ำทางนานเกินไป ฉันจะบอกผูบ้ งั คับหมูใ่ ห้หาคนใหม่มาท�ำหน้าทีแ่ ทน
ก็แล้วกัน” “ไม่นะครับ ได้โปรดอย่าท�ำอย่างนั้น ผมเป็นคนที่เหมาะกับ
หน้าที่นี้ที่สุดในหมู่ ผมไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจว่าผมขี้ขลาด”
ฟริกเกอร์ไม่ได้เป็นคนขี้ขลาด เขาเพียงแค่กลัว แต่ที่เขากลัว
มากกว่าคือกลัวว่าเพือ่ น ๆ จะผิดหวังในตัวเขา ผมแนะน�ำให้เขาลาพักผ่อน
172
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
174
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
175
บทที่ ๑๗
เหตุเกิดที่ชายหาด
ถึงตอนนี้พวกเราเริ่มมีอาการทางผิวหนัง ที่เมื่อเป็นแผลแล้วจะ
หายช้ากว่าที่ควรจะเป็น ปกติเราจะมีบาดเผลที่เกิดขึ้นมากมายทั้งจาก
แมลงกัดหรือรอยขีดข่วน เหงื่อและความสกปรกจากดินท�ำให้ผิวหนัง
รอบ ๆ แผลกลายเป็นสีแดงและเป็นหนองที่ไม่มีวันตกสะเก็ด ผมบอก
ตัวเองว่าอย่าเกาแต่ก็อดห้ามใจไม่ได้ บางรายเป็นหนักถึงขนาดต้องไปรับ
การรักษาทีโ่ รงพยาบาล ผมก�ำชับกับผูบ้ งั คับหมูท่ งั้ หมดว่าให้สงั่ ให้ลกู น้อง
ใช้สบู่เวลาอาบน�้ำด้วย แต่น�้ำที่ใช้ในการช�ำระร่างกายก็ไม่ได้สะอาด
สักเท่าไหร่ มีลูกน้องคนหนึ่งไม่ค่อยได้รักษาสุขอนามัยที่ดีพอจนกลายเป็น
โรคตับอักเสบ
ผมจะสั่งลูกน้องให้เปลี่ยนถุงเท้าและตากเท้าให้แห้งอยู่เสมอ
เมื่อมีโอกาส แต่อากาศที่ร้อนและเหงื่อที่ออกมามากบวกกับการที่ต้อง
เดินเป็นเวลานานท�ำให้เท้าเกิดแผลบ่อย ๆ
ฝ่ายข้าศึกก็มักจะรบกวนเราโดยใช้เครื่องยิงลูกระเบิดหรือ ค.
ระดมยิงใส่พวกเราเป็นพื้นที่แล้วก็หนีไป เป็นการยากที่จะตามไปให้ทัน
อาวุธวิถีโค้งแบบนี้กองทัพของเราก็มี แต่อยู่ที่ฐานกองร้อยซึ่งในการยิง
176
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
แต่ละครั้งต้องร้องขอตามระเบียบ กว่าจะยิงได้ข้าศึกก็เผ่นไปไกลแล้ว
แต่ผมเข้าใจในเหตุผลทีต่ อ้ งมีความชัดเจนก่อนการยิง เพราะแถวนีม้ หี มูบ่ า้ น
อยู่ด้วย ผมอยากได้เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด ๖๐ มม. มาไว้กับหมวด
เอาไว้ตอบโต้ขา้ ศึกให้ทนั เวลา แต่กองทัพบกสหรัฐได้ปลดประจ�ำการอาวุธ
ประเภทนี้ไปแล้วหลังสงครามเกาหลี แต่กองทัพของเวียดนามใต้และ
พวกเวียดกงยังมีใช้อยู่ แล้วอาวุธเหล่านี้เวียดกงก็เอามาใช้เล่นงานเรา
แต่ในเวียดนามเราสามารถจะหาของต่าง ๆ ได้ถ้าพร้อมจะจ่าย
ผมเอาเสบียงสนามที่กองทัพแจกจ่ายมาจ�ำนวน ๑๕ ลังไปแลก
เครือ่ งยิงลูกระเบิดขนาด ๖๐ มม. พร้อมกระสุนจ�ำนวน ๑๘ นัด จากกองทัพ
ของรัฐบาลเวียดนามใต้ ถึงแม้จะไม่มากแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรไว้ตอบโต้
ข้าศึกในยามฉุกเฉิน ส�ำหรับตลาดมืดก็มีการซื้อขายอาวุธกันคึกคัก และดู
เหมือนพวกเวียดกงก็จะได้ประโยชน์มากที่สุด ผมกับจ่าแพลโลแมน
พยายามใช้ประโยชน์จาก ค.ที่ได้มาให้ได้มากที่สุดโดยการซ่อนมันไว้ใต้
ผ้ายางกันฝนและฝึกใช้งานในตอนกลางคืน พลวิทยุพีท สแพงเกลอร์
พยายามจะเข้ามามีส่วนร่วมในการฝึกด้วย แต่เราไม่อนุญาต
สแพงเกลอร์เป็นลูกน้องที่ยังดูเด็กมากและดูเหมือนเขาจะภูมิใจ
ในความหน้าเด็กนี้มาก เขามักจะเดินอย่างสง่าผ่าเผย ที่ส�ำคัญเขาเป็น
คนขยั น และพยายามท� ำ หน้ า ที่ ข องตั ว เองอย่ า งดี ที่ แขนข้ า งซ้ า ยสั ก
ข้อความ “เกิดมาเพือ่ แพ้” และด้านขวาสักเป็นรูปเสือด�ำ แม้จะผอมแต่เขา
ก็แบกวิทยุอันหนักอึ้งโดยไม่เคยบ่น สแพงเกลอร์ชอบถือปืนโดยเอาพาน
ท้ายค�ำ้ ไว้ทเี่ อวเหมือนในหนังคาวบอย “ผูห้ มวดดูนคี่ รับ” เขาเรียกผมดูรปู
ทีเ่ พิง่ ส่งมาจากทางบ้าน “อะไรเหรอ” ความจริงผมไม่อยากดูแต่กต็ อ้ งรักษา
มารยาท “จากภรรยาผมครับ ดูสิ” ผมดูที่ปกของอัลบั้มที่เป็นสีเหลือง
สวยงามและบอก
177
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
“สวยดีนี่” ผมบอก
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับต้องดูรูปข้างในครับ”
“โอ้ โอเค”
ผมเปิดดูขา้ งในภาพแรกทีเ่ ห็นคือภรรยาเขาทีม่ หี นุ่ เหมือนนางแบบ
ในชุดกระโปรงสั้น เสื้อสีขาวมีระบายสวยงาม และแฝงไว้ด้วยความเซ็กซี่
“เธอดูดีมากพีท พนันได้เลยว่านายคงอยากกลับบ้านใจจะขาด”
“เปิดไปเรื่อย ๆ ครับเดี๋ยวก็เห็นของดี”
รู้สึกเขาจะตื่นเต้นมากและภูมิใจมาก ผมเปิดไปเรื่อย ๆ เห็นรูป
ของภรรยาเขาที่ค่อย ๆ นุ่งน้อยห่มน้อยไปเรื่อย ๆ เหลือแต่กระโปรงสั้น
และเสื้อที่โชว์สะดือ และภาพต่อไปเธอก็เหลือกระโปรงกับชุดชั้นในและ
ท้ายสุดเธอใส่เฉพาะกระโปรงและท่อนบนที่เปลือยล่อนจ้อน ผมไม่รู้ว่าจะ
พูดอะไรดี “เยี่ยมใช่ไหมล่ะหมวด” สแพงเกลอร์เหมือนเด็กน้อยที่ต้องการ
ความสนใจจากผู้ใหญ่ “ใช่พีท เธอดูดีมาก ยินดีด้วยนะ” ผมไม่รู้ว่าจะพูด
ต่อไปอย่าง แต่ดูเหมือนเขาจะดีใจมากที่คนอื่นชื่นชมภรรยาของเขา
คืนนัน้ ข้าศึกก็โผล่มาทักทายพวกเรา ผมอยูท่ างด้านทิศตะวันออก
ของฐานก�ำลังพูดคุยกับดอนอยู่ ส่วนจ่าแพลโลแมนอยู่ด้านทิศตะวันตก
และตรงกลางเป็นเครื่องยิงลูกระเบิดที่พวกเราเอาผ้ายางคลุมไว้และมี
สแพงเกลอร์นั่งอยู่ใกล้ ๆ แพลโลแมนพยายามพุ่งไปยังที่ตั้งของเครื่องยิง
แต่กระสุนปืนกลของข้าศึกที่สาดเข้ามาท�ำให้เขาต้องหลบอยู่ในคู ตอนนี้
ข้าศึกได้เปิดเผยที่ตั้งของตัวเองแล้ว เราอยากจะใช้เครื่องยิงลูกระเบิดนั้น
มาก แต่ผมขยับตัวไม่ได้เลยเพราะกลุ่มกระสุนที่ยิงเข้ามาตรงเป้ามาก
แพลโลแมนสบตาผมด้วยความรู้สึกที่เสียดายที่ท�ำอะไรมากไม่ได้ แต่แล้ว
สแพงเกลอร์ก็พูดขึ้น
178
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
“ผมยิงได้ไหมครับ “
“นายรู้วิธียิงเหรอ”
ผมอยากจะเตะตัวเองที่สงวนวิธีใช้ไว้เฉพาะผมกับจ่าแพลโลแมน
ตอนนั้นผมคิดว่าตัวเองกับจ่าแพลโลแมนสองคนจะเป็นผู้ใช้มัน แต่ตอนนี้
คนที่มีโอกาสได้ใช้กลับไม่เคยฝึกเลย
“ได้ครับ ผมท�ำได้” สแพงเกลอร์ตะโกนตืน่ เต้นเหมือนเด็กนักเรียน
มัธยมที่อยากให้โค้ชเลือกลงเล่นอเมริกันฟุตบอล เขารีบถลกผ้ายางที่คลุม
เครื่องยิงออกอย่างเก้ ๆ กัง ๆ โดยมีผมและจ่าแพลโลแมนตะโกนบอกว่า
ต้องท�ำอย่างไร ดูเหมือนเขาจะดีใจมากทีจ่ ะได้ใช้มนั โดยทหารในหมวดมอง
ดูอย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุดขาหยั่งปืนและตัวปืนก็ถูกติดตั้งพร้อมใช้งานใน
ทิศทางทีถ่ กู ต้อง ก่อนทีผ่ มจะสัง่ ว่าให้ทำ� อะไรต่อไปเขาก็รบี หย่อนลูกกระสุน
ลงไปในกระบอกปืนและกระสุนก็พุ่งออกไป ทหารคนอื่นต่างก็ร้องเชียร์
ด้วยความดีใจ กระสุนพุ่งไปตกที่ไหนไม่รู้ แต่ไม่โดนข้าศึกและไม่มีการ
ระเบิด และข้าศึกก็ยังกระหน�่ำยิงใส่พวกเราต่อไป
“บ้ า เอ๊ ย สแพงเกลอร์ ต ้ อ งเอาส่ ว นบรรจุ อ อก ๓ อั น ก่ อ น”
ผมตะโกนบอกเขา และเขาก็ตอบด้วยเสียง “โอ้!” และเขาก็เอากระสุน
อีกลูกหย่อนลงไปในท่อ คราวนีเ้ ขาเอาส่วนบรรจุออกตามทีบ่ อก ทุกคนเฝ้า
ดูเช่นเคยและลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น
กระสุ น ตกลงบริ เวณที่ ข ้ า ศึ ก อยู ่ แต่ ไ ม่ มี ก ารระเบิ ด เพราะ
สแพงเกลอร์ไม่ได้ถอดสลักนิรภัยที่หัวกระสุนออก แต่มันก็ท�ำให้ข้าศึก
สงสัยว่าพวกเราก�ำลังท�ำอะไรอยู่ หรือว่ามันจะเป็นอาวุธขว้างแบบใหม่
ข้ า ศึ ก เลยหยุ ด ชะงั ก ไปครู ่ ห นึ่ ง ท� ำ ให้ ผ มมี โ อกาสพุ ่ ง ไปช่ ว ยเหลื อ
สแพงเกลอร์ได้ เมื่อไปถึงผมก็รีบดึงส่วนบรรจุและสลักนิรภัยออกแล้วก็
179
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
หย่อนลงในปากกระบอกปืน คราวนี้กระสุนตกและระเบิดบริเวณที่ข้าศึก
อยู่พอดี พวกมันตกใจหยุดยิงและล่าถอยไป
ผมต่อว่าสแพงเกลอร์ด้วยความผิดหวัง และตัวเขาเองก็รู้สึกแย่
มาก ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขา ผมไม่ได้ฝึกเขาเองแม้ว่าเขาอยากจะ
เรียนรู้ อีกอย่างผมยังกังวลว่าถ้าข้าศึกหากระสุนที่ยังไม่ระเบิดผม พวกมัน
ก็จะน�ำมันกลับมาเล่นงานเราได้ คืนนั้นสแพงเกลอร์หลบหน้าผมทั้งคืน
ส่วนผมเองก็ยังโกรธอยู่เลยไม่อยากคุยกับเขา
พอรุง่ เช้าอารมณ์ผมก็เป็นปกติ ท้องฟ้าทีส่ ดใสและแดดทีส่ าดส่อง
ลงมาท�ำให้บรรยากาศโดยรวมดีขนึ้ ผมและจ่าแพลโลแมนเดินตรวจดูความ
เป็นอยู่ของก�ำลังพลในหมวด ดูเหมือนหลายคนเป็นแผลเรื้อรัง อาการ
ติดเชื้อจากฤดูฝนที่ยาวนาน คงเป็นเพราะผิวหนังที่ชื้นเลยติดเชื้อง่าย หรือ
เมื่อถูกกิ่งไม้ใบไม้ขีดข่วนหรือเสียดสีกับเครื่องสนาม ผิวหนังก็เกิดแผลได้
ง่ายและหายยาก มีสองคนอาการหนักมาก
ผมนึกถึงทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก แค่ข้ามสันเขาทาง
ตะวันออกของหมู่บ้านก็ถึงแล้ว ที่นั่นชายหาดสะอาดมาก น�้ำทะเลเป็น
สีฟ้า และบรรยากาศเงียบสงบ ถ้าเป็นที่อื่นที่ไม่ใช่เวียดนาม มันคงจะเป็น
รีสอร์ทตากอากาศชั้นดีอย่างแน่นอน
ผมคิดว่าน�้ำทะเลเค็ม ๆ อาจท�ำให้บาดแผลหรืออาการผิวหนัง
อักเสบดีขึ้น ผมปรึกษาเรื่องนี้กับสกิบเปอร์ ไชฟ์ เสนารักษ์ที่มาจากเมือง
พอร์ทแลนด์ รัฐโอรีกอน เขาก็ยืนยันแนวความคิดนี้ว่าดี อีกอย่างการที่ได้
ไปสัมผัสน�ำ้ ทะเล ด�ำผุดด�ำว่ายก็นา่ จะลดความเครียดของพวกเขาลงได้บา้ ง
ถ้าการส่งไปครั้งแรกประสบผลส�ำเร็จ ผมก็จะพิจารณาหมุนเวียนให้ไปทั้ง
หมวด ลูกน้อง ๒ คนที่อาการหนักกว่าใครเห็นด้วยกับความคิดของผม
180
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
แต่ต้องมีอีก ๔ คนเพื่อให้ครบชุดลาดตระเวนที่สามารถป้องกันตัวเองได้
เจมส์ผบู้ งั คับหมู่ ๑ ทีเ่ พิง่ กลับจากการรักษาตัวทีโ่ รงพยาบาลหลังจากได้รบั
บาดเจ็บเมือ่ ต้นเดือนตุลาคมก็สามารถเป็นการ์ดได้เผือ่ มีคนจมน�ำ้ เขาอาสา
ที่จะน�ำชุดลาดตระเวนไปที่ชายหาด ที่น่าแปลกคือพลทหารคิงคนที่ลอง
ของผมด้วยการท�ำกระสุนปืนเอ็ม-๗๙ ลั่นคราวก่อน มาขอร้องผมว่าให้ส่ง
เขาไปด้วย
ผมต้องการอีก ๒ คนก็สามารถส่งชุดลาดตระเวนพิเศษนี้ออก
ไปได้ แต่ส่วนมากไม่อยากไปกัน สแพงเกลอร์ก็คนหนึ่งล่ะ “ท�ำไมไม่อยาก
ไปล่ะสแพงเกลอร์” ผมถามเขา “ผมไม่อยากไปครับ” สแพงเกลอร์
ยังคงรู้สึกผิดอยู่กับเรื่องการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดนั่น “ไปเถอะ ถือว่าไป
พักผ่อนด้วย อีกอย่างเขาต้องการวิทยุนะ” ผมพยายามชมเขา “ผมไม่อยาก
ว่ายน�้ำครับ ผมแค่อยากนอน” “ฉันรู้ว่านายไม่อยากว่ายน�้ำ แต่อาบแดด
ก็ได้นะ” ผมส่งยิ้มให้เขา “โอเค ผมจะท�ำเพื่อส่วนรวมครับ”
ขาดอีกคนเดียว ผมอยากได้คนทีว่ า่ ยน�ำ้ เก่งเผือ่ มีคนจมน�ำ้ ผมเล็ง
ไปที่มาร์ค เอแวนส์ จากเมืองจอบลิน รัฐมิสซูรี รอน รอบสัน เพื่อนสนิท
ของเอแวนส์เคยบอกว่าเอแวนส์เป็นนักว่ายน�้ำโรงเรียนมาก่อน ทั้ง ๒ คน
เป็นเพื่อนสนิทกันและมาจากครอบครัวชาวชนบท ทั้งคู่ถูกชะตากันตั้งแต่
พบกันครั้งแรกที่เวียดนาม
“ได้ข่าวว่านายเป็นนักว่ายน�้ำเหรอ เอแวนส์” ผมลองหยั่งเชิงดู
“ใช่ครับ” เขาตอบด้วยน�้ำเสียงที่สุภาพ
“อยากไปที่ชายหาดกับพวกเขาไหม”
“ผมไม่อยากไปครับ ผมว่ายน�้ำในสระไม่ใช่ในทะเลน่ะครับ”
ผมอึ้งไปแต่ก็พยายามอีกครั้ง
181
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
182
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ไม่รอดแต่ก็ฟังไม่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนอื่น ๆ ผมรู้ว่าจะนั่งคอยอยู่
อย่างนี้ไม่ได้แน่ก็เลยบอกให้ก�ำลังอีกหนึ่งหมู่เตรียมออกไปช่วยชุดลาด
ตระเวนที่ชายหาด ไม่ถึง ๖๐ วินาที พวกเราก็ออกจากฐาน เรียกได้ว่า
วิ่งไปก็ได้ ถ้ามีข้าศึกมาคอยซุ่มเราระหว่างทางเราคงเสร็จไปแล้ว แต่ใน
ตอนนัน้ สิง่ ทีผ่ มคิดคือต้องไปถึงชายหาดให้เร็วทีส่ ดุ ระหว่างทางก็วทิ ยุไปที่
กองร้อยบอกเรื่องราวให้ผู้บังคับกองร้อยทราบ และให้รีบส่งเฮลิคอปเตอร์
ไปที่ชายหาดโดยด่วน
การเดินทางไปที่ชายหาดไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายส�ำหรับลูกน้อง
เพราะผมไม่ให้ลูกน้องพักเลย บางทีผมก็นึกต�ำหนิตัวเองที่ส่งลูกน้องไปที่
ชายหาดนั่น ภาพที่ชายหาดดูแล้วเศร้ามาก เจมส์ยังสะอื้นอยู่เลย ห่างไป
ไม่กี่ฟุตก็มีทหารนายหนึ่งนั่งหมดแรงและอาเจียนออกมา ส่วนทหาร
ที่ท�ำหน้าที่ระวังป้องกันสองนายก็นั่งกอดอาวุธท�ำอะไรไม่ถูก ดูเหมือนยัง
ช็อกกับสิ่งที่เห็น พวกเขาไม่กล้าไปไหนไกลจากอาวุธเพราะกลัวข้าศึกจะ
ลอบเข้ามา อีกทั้งบังคับหมู่เขาก็ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ คนที่หายไป
สองคนคือสแพงเกลอร์กับเอแวนส์ เป็นสองคนที่ไม่อยากมาตั้งแต่แรก
ผมเพ่ ง มองไปที่ ค ลื่ น ทะเลที่ ถ าโถมเข้ า มาเผื่ อ จะเจอพวกเขา
เมื่ อ หายจากอาการสะอื้ น เจมส์ ก็ บ อกว่ า ทั้ ง สองคนถู ก คลื่ น ซั ด หายไป
ในทะเลและตะโกนขอให้ช่วย ผมคิดอยู่สักพักว่าจะโดดลงไปในทะเล
ดีไหมเผื่อจะเจอพวกเขา ผมขยับตัวจะโดดลงไปแต่ลูกน้องที่มาด้วยดึงไว้
ในขณะนัน้ เฮลิคอปเตอร์กม็ าถึง แต่ทตี่ ลกคือคนทีม่ าด้วยเป็นผูห้ ญิงสองคน
จากสภากาชาด หรือที่เรียกกันในภาษาทั่วไป โดนัท ดอลลี่ หน้าที่ของ
พวกหล่อนคือมาให้ก�ำลังใจแก่ทหารที่อยู่ตามค่ายต่าง ๆ เพื่อให้หน่วย
นั้น ๆ มีชีวิตชีวา เมื่อพวกหล่อนลงจากเครื่อง ผมก็กระโดดขึ้นไปบน
183
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
184
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
185
บทที่ ๑๘
วันขอบคุณพระเจ้า
วิลสันร้องไห้กับการตายของเพื่อนรัก มันกระทบกระเทือนใจเขา
อย่างมาก เขาขดตัวอยู่หลังปืนกลอย่างน่าสงสารทางด้านทิศใต้ของฐาน
ค�ำ่ คืนได้มาเยือนรวดเร็วมาก ผมยังต้องตัดสินใจว่าจะเอาใครมาเป็นพลวิทยุ
แทนสแพงเกลอร์ ระหว่างนีผ้ มเอาวิทยุใส่หลังและเดินไปหา วิลสันเพือ่ พูด
คุยเป็นเพื่อน
ผมชวนคุยเรื่องอื่น ๆ เพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้นและค่อย ๆ วกกลับมา
คุยเรื่องการเสียชีวิตของเอแวนส์ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องศาสนาสัก
เท่าไหร่ แต่ผมก็บอกเขาว่าเป็นความประสงค์ของพระเจ้า หรือพูดง่าย ๆ
คือเขาไปดีแล้ว ผมรู้อยู่แก่ใจว่าการเสียชีวิตของเอแวนส์มันเป็นความผิด
ของผมคนเดียว ไม่เกี่ยวกับใครหรืออะไรเลย ผมผิดเองที่ส่งพวกเขาไปที่
ชายหาด และผมก็พยายามไถ่โทษตัวเองด้วยการพูดคุยให้เพื่อนสนิทเขา
สบายใจขึ้น ผมพูดถึงส่วนดีของเอแวนส์ บอกวิลสันว่าเอแวนส์ไปดีแล้ว
ไม่ต้องมาทนกับสงครามที่ทุกคืนเหมือนฝันร้ายอย่างนี้ ดูเหมือนค�ำพูดผม
จะได้ผล เพราะวิลสันเริม่ รูส้ กึ ดีและพวกเราเห็นพ้องร่วมกันว่ามันเป็นความ
ปรารถนาของพระเจ้า
186
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ไป ๆ มา ๆ ผมเองก็ชักไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนปลอบใคร บางที
เนื้อหาของค�ำพูดไม่ได้ส�ำคัญเท่าการที่ได้พูดมันออกไป คืนนั้นผมและ
วิลสันรู้สึกดี แต่ผมก็ยังไม่ให้อภัยตัวเองกับการเสียชีวิตของลูกน้องทั้งสอง
คน จะอย่างไรผมต้องขอบคุณลูกหมวดของผมที่พยายามไม่รื้อฟื้นเรื่องนี้
และให้หมวดเดินหน้ากับภารกิจที่ท้าทายต่อไป
ข้าศึกฉวยโอกาสตอนที่ผมคุยกับวิลสันยิงเข้าใส่เรา ในขณะที่
ผมพูดคุยอยู่กับวิลสันอยู่นั้นผมก็ถอดวิทยุออกเพื่อท�ำความสะอาดไปด้วย
เพราะมันยังเปียกน�ำ้ มาจากชายหาด กระสุนทีย่ งิ เข้าใส่นนั้ มาจากระยะใกล้
มาก แต่โดนกระสอบทรายที่วางขวางอยู่ด้านหน้าเสียก่อน ผมพุ่งหลบ
ท�ำให้ชิ้นส่วนของวิทยุกระจัดกระจายแต่ก็สามารถน�ำมาประกอบได้ทัน
ส่วนวิลสันก็ทำ� การยิงตอบโต้ขา้ ศึกทันที น่าอัศจรรย์ยงิ่ นักทีก่ ระสุนนัดหนึง่
ทะลุหมวกเหล็กของวิลสันแต่ไม่โดนศีรษะ เมือ่ ข้าศึกไปแล้ว พวกเราทัง้ สอง
คนเข้าใจทันทีว่า พวกเราสามารถเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ต้องวางไว้
ข้างหลัง จะมาเสียใจทุกขณะไม่ได้เพราะมีคนจ้องจะเอาชีวติ เราอยูท่ กุ เมือ่
เราต้องมีสติและกระตือรือร้นเสมอ เช้าวันรุง่ ขึน้ ผมแต่งตัง้ ให้คลิ ลิแกนเป็น
พลวิทยุ ที่ผ่านมาเขามักจะขัดค�ำสั่งผมที่ไม่ให้ไปท�ำหน้าที่พลน�ำทางอีก
ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความสามารถ ในทางตรงกันข้ามเขาเหมาะกับต�ำแหน่งนี้
มาก แต่มันเป็นต�ำแหน่งที่เสี่ยงที่สุดและผมเห็นว่าเขาก็ได้เสียสละมามาก
พอแล้ว หากปล่อยให้เขาท�ำหน้าทีพ่ ลน�ำทางต่อไปโอกาสทีเ่ ขาจะตายก็มาก
และในต�ำแหน่งพลวิทยุที่เขาจะมาเป็น ผมจะไม่มีทางที่จะให้เขาวิ่งไป
ข้างหน้าแถวเพื่อท�ำหน้าที่พลน�ำทางเป็นอันขาดเพราะผมต้องใช้วิทยุ
ถ้านับจากวันที่ผมมาท�ำหน้าที่ที่เวียดนามคือตั้งแต่เดือนสิงหาคม
ตอนนี้ มีทหารเก่าเหลืออยู่น้อยมากรวมถึงคิลลิแกน ที่เหลือเป็นพวก
หน้าใหม่หมด คิลลิแกนโกรธมากเมื่อรู้ว่าต้องมาท�ำหน้าที่เป็นพลวิทยุ
187
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
188
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ในขณะที่พวกเรารวบรวมศพมาเรียงไว้ พวกชาวบ้านก็เริ่มอพยพออกจาก
หมู ่ บ ้ า นเพราะขาดความเชื่ อ มั่ น ในหน่ ว ยทหารที่ จ ะมารั ก ษาหมู ่ บ ้ า น
เหตุการณ์นี้ถือว่าพวกเวียดกงเป็นฝ่ายชนะ เพราะรัฐบาลเวียดนามใต้
ไม่สามารถรักษาหมู่บ้านไว้ได้
ในสถานการณ์เช่นนี้ผมต้องใช้สมาธิและสติในการคิดเรื่องต่าง ๆ
เป็นอย่างมาก และเสียงร้องไห้ของพวกผู้หญิงเหล่านั้นยิ่งท�ำให้ผมรู้สึก
ไม่ดี ผมเลยบอกหนานให้ไปขอร้องพวกหล่อนให้หยุดร้องไห้ แต่ไม่ได้ผล
ผมเลยต้องตะโกนออกไป “เงียบ ๆ หน่อยได้มั๊ย” และมันก็ได้ผลเพราะ
พวกเธอหยุดร้องไห้ทันที ที่จริงผมควรจะเสียใจกับการกระท�ำเช่นนี้ แต่
ผมต้องการความเงียบในการคิดแก้ไขปัญหา เมื่อพวกเราเดินทางกลับ
ในตอนสายของวั น ผมตั้ ง ปณิ ธ านว่ า ต้ อ งท� ำ การลาดตระเวนในพื้ น ที่
รับผิดชอบต่อไป จะไม่ยอมตกเป็นเป้านิ่งเด็ดขาด
ในวันขอบคุณพระเจ้ากองทัพบกสหรัฐได้จดั อาหารพิเศษมาให้เรา
มีไก่งวง เครื่องเคียงและขนมเค้กที่ห่อมาอย่างดี รวมทั้งขนมพายด้วย แต่
นมสดได้บูดก่อนที่จะมาถึงมือพวกเรา ผมเรียกก�ำลังให้ทั้งหมดมารวมกัน
ส�ำหรับเวลาพิเศษนี้แต่ใช้เวลาไม่นานเพราะเกรงจะเป็นเป้านิ่งให้ข้าศึก
เมื่อผมมองทหารที่มารวมกัน เหลือคนเก่าอยู่ไม่ก่ีคน และผมก็กลายเป็น
คนทีอ่ ยูน่ านทีส่ ดุ ไปโดยปริยาย “ผูห้ มวดอยากถือโอกาสนีข้ อบคุณพวกเรา
ทุกคนที่ได้เสียสละและท�ำให้พวกเราอยู่รอดมาได้ และขอขอบคุณที่ได้
สละเวลาแม้จะเป็นช่วงเวลาสัน้ ๆ เพือ่ ทีพ่ วกเราจะได้มากินอาหารมือ้ พิเศษ
ด้วยกันฉันเพื่อน พวกเราขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท�ำให้ครอบครัวที่สหรัฐ
ได้กินมื้อพิเศษนี้พร้อมกัน และพวกเขาเชื่อมั่นว่าพวกเราจะท�ำดีที่สุดที่จะ
ท�ำให้ชีวิตพวกเขาปลอดภัยมากขึ้น เอาล่ะ แยกย้ายกันไปได้ และขอให้
ผลัดกันกินมื้อพิเศษทีละหมู่”
189
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
190
บทที่ ๑๙
“เหมือนคุณกับผม”
191
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ พวกเราเดินผ่านนาข้าวและข้ามล�ำธารหลายแห่ง
ก่อนที่จะตัดมาผ่านป่าเตี้ย ๆ ซึ่งเป็นการเดินทางช่วงสุดท้าย
ผมศึกษาแผนที่ตลอดช่วงบ่ายก่อนออกเดินทางเพราะรู้ดีว่า
ในเวลากลางคืนการดูแผนทีจ่ ะไม่สะดวก แม้วา่ ผมจะสามารถเอาเสือ้ กันฝน
มาคลุมแล้วก็ใช้ไฟสีแดงจากไฟฉายส่องที่แผนที่ แต่การก�ำหนดทิศทางให้
ถูกต้องโดยการเทียบเคียงกับภูมปิ ระเทศท�ำได้ยากมาก ทีผ่ มท�ำคือนับก้าว
และดูเข็มทิศเป็นหลัก ส�ำหรับผม ๑๓๕ ก้าวเท่ากับ ๑๐๐ เมตร และ
ทุ ก ๑๐๐ เมตรที่ เ ดิ น ทางได้ ผ มจะเอาหิ น ๑ ก้ อ นหย่ อ นใส่ ก ระเป๋ า
วิธีนี้ท�ำให้ผมสามารถกะระยะทางได้ และจากแผนที่ผมจะจ�ำว่าต้องผ่าน
ล�ำธารกี่แห่ง นาข้าวกี่แปลงและทางเดินกี่ทาง มันช่วยให้ผมตรวจสอบได้
ว่าได้เดินทางมาได้ระยะหรือไม่
แต่การเดินทางในเวลากลางคืนนั้นไม่ง่ายและมีโอกาสสับสนง่าย
มาก อีกทั้งยังกินเวลานาน บางครั้งเราอาจเจอกับสิ่งกีดขวางท�ำให้ต้องใช้
ทางอ้อม อีกทั้งยังต้องคอยเดินตรวจสอบลูกน้องว่าอยู่ครบหรือไม่ ท�ำให้
การนับก้าวเช็กระยะทางดูสับสนไปบ้าง
ประมาณเวลาตีหนึ่ง พวกเราก็ข้ามคลองชลประทานสายหนึ่ง
ถ้าประมาณระยะทางจากการนับก้าว แสดงว่าเรามาถึงจุดที่จะต้องเลี้ยว
ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผมรีบไปบอกคนน�ำทางและบอกให้ก�ำลัง
ที่เหลือเคลื่อนที่ตาม สักพักคิลลิแกนก็มาสะกิดที่แขน
“ผู้หมวดเลี้ยวเร็วเกินไปครับ” ท่าทางเขามั่นใจมาก
มันท�ำให้ผมหยุดและคิดว่าผมท�ำอะไรไป คิลลิแกนมีสัมผัสที่หก
ในเรื่องแบบนี้เหมือนเขาโตมากับสิ่งนี้ ส่วนผมเป็นเด็กในเมือง ผมไม่สนใจ
ในค�ำเตือนเขาไม่ได้ ผมพยายามที่จะนึกว่าได้เดินผ่านอะไรมาบ้าง หยุดไป
192
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
193
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ค�ำพูดของเขาท�ำให้ผมสะดุดอีก มันท�ำให้ผมขาดความมั่นใจและ
ผิดหวังในลูกน้องที่ผมมองว่าเป็นทหารที่ดีที่สุดในหมวด เขาไม่มีความ
ศรัทธาในการท�ำหน้าที่ผู้น�ำของผมเลย แต่นาทีนี้ผมไม่สน ผมสั่งให้หมวด
เดินต่อไป ถ้าผมผิด เขาก็ถูกก็แค่นั้นเอง
ผมกัดริมฝีปากและนับก้าวทีเ่ ดินไปด้วย สิง่ กีดขวางทางธรรมชาติ
ที่เจอระหว่างทางท�ำให้ผมท้อไปเหมือนกัน หรือว่าเราจะเดินผิดเส้นทาง
เหมือนอย่างที่คิลลิแกนทักท้วง ผมพยายามนึกเปรียบเทียบสิ่งที่จ�ำจาก
แผนทีแ่ ละสิง่ ทีเ่ จอในภูมปิ ระเทศจริงว่ามันตรงกันหรือไม่ บางทีภาพทีเ่ ห็น
ก็ดเู หมือนจะใหญ่เกินจริงเพราะทัศนวิสยั จ�ำกัด ในทีส่ ดุ ผมก็หยุดเพ่งสายตา
ในความมืดและใช้เฉพาะการนับก้าวและดูมุมของเข็มทิศ ตอนนี้พวกเรา
เหมือนคนตาบอดเดินหลงทาง แต่ละคนแทบจะมองไม่เห็นคนข้างหน้า
คนน�ำทางก็ต้องอาศัยให้ผมบอกทางว่า “ไปทางซ้าย ขวา ตรงไป…”
ส่วนคิลลิแกนนั้นเงียบไม่พูดอะไรตลอดทาง ผมสงสัยว่าเขาก�ำลังคิดอะไร
อยู่ หรือเขาจะคอยดูว่าผมจะหลงทางจริง ๆ ไหม
พอถึงเวลาตีห้า การนับก้าวบอกว่าเรามาได้ตามระยะทางที่
ก�ำหนด นัน่ แปลว่าถ้าผมถูกพวกเราก็ถงึ ทีห่ มายแล้ว ผมสัง่ ลูกน้องวางก�ำลัง
เป็นหน้ากระดานและรอให้สว่าง อย่างน้อยที่สุดในระหว่างการเดินทางที่
น่ากลัวนี้พวกเราไม่ถูกข้าศึกซุ่มโจมตี ที่เหลือก็แค่คอยดูว่าพวกเราจะห่าง
จากที่ที่ควรจะเป็นเท่าไหร่
พอแสงสว่างเริม่ จับขอบฟ้า ผมก็เริม่ เห็นสิง่ ต่าง ๆ ชัดขึน้ ด้านขวา
เป็นทุง่ นา ตรงหน้าเป็นทีโ่ ล่งมีหญ้าขึน้ และถัดไปเป็นป่าทึบ ผมกางแผนที่
ตรงหน้า หัวใจเต้นถี่ขึ้นแล้วก็ดีใจสุดขีดเพราะพวกเราอยู่ห่างจากที่หมาย
ไม่ถึง ๒๕ เมตรเท่านั้น! ผมค่อนข้างจะมั่นใจเพราะว่าลักษณะภูมิประเทศ
ข้างหน้าเป็นที่ลาดชันเล็กน้อยหลังป่าซึ่งตรงกับในแผนที่พอดี และนั่น
194
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
หมายความว่าข้าศึกอยู่ข้างหน้าเรานี่เอง ผมรอเวลาที่จะออกตีคือรุ่งเช้า
ส่วนลูกน้องผมก็อยู่ในท่าหมอบนิ่งรอเวลาออกตี แต่จากใบหน้าคงเครียด
เหมือนกันเพราะไม่รู้ว่าจะเจออะไร
เมื่ อ ใกล้ ถึ ง เวลาผมวิ ท ยุ แจ้ ง กองร้ อ ยว่ า พร้ อ มออกตี แ ต่ เ ลี่ ย ง
การมองไปที่คิลลิแกน เพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าผมเยาะเย้ย เมื่อได้เวลา
ผมให้สัญญาณมือเพื่อให้ลูกน้องลุกขึ้นเป็นแนวและเข้าตี พวกเราเข้า
ประชิดอย่างเร็ว โผเข้าไป ๒๕ เมตรแรกโดยที่ข้าศึกยังไม่ทันรู้ตัว เหมือน
ที่คู่มือการรบได้บอก พวกเราเปิดการยิงก่อน ข้าศึกล้มลงเป็นใบไม้ร่วง
มีการยิงตอบโต้บ้างเล็กน้อย แต่ข้าศึกตกใจและเสียขวัญ กระสุนที่ยิง
ตอบโต้จงึ ข้ามหัวไปเป็นส่วนใหญ่ เราโชคดีมาก ลูกน้องผมไม่มใี ครบาดเจ็บ
เลย ข้าศึกส่วนที่เหลือก็วิ่งหนีสุดชีวิตไปยังทิศทางที่กองร้อยวางก�ำลังไว้
ห่างออกไปประมาณ ๓๐๐ เมตร
ผมน�ำลูกน้องเข้ากวาดล้างบริเวณที่หมาย การไล่ติดตามหรือ
ท�ำทีเป็นไล่ติดตามจะท�ำให้ข้าศึกยิ่งเสียขวัญหนักขึ้น เราติดตามข้าศึก
ไปอีกประมาณ ๗๕ เมตร
เรากลับมาเสริมความมั่นคง ณ ที่หมาย มีเวียดกง ๑ คน ที่ถูก
จับเป็นพร้อมอาวุธที่ถูกท�ำลาย ผมสั่งให้หนานมาที่เชลยคนนี้
“ถามเขาสิวา่ มีพวกมันอีกไหมทีอ่ ยูด่ า้ นนอก” หนานก็ไม่รอช้ารีบ
ถามไปทันทีและมันตอบกลับมาด้วยภาษาสแลงแบบเวียดนามอเมริกันว่า
“โน บิก” ซึ่งแปลว่า “ผมไม่เข้าใจ”
ผมตะคอกใส่หน้าเวียดกงคนนัน้ “ไอ้บา้ เอ๊ย เขาพูดภาษาเวียดนาม
ใส่แก แกก็ตอบสิวะ” หนานถามอีกแต่เขาก็ไม่ตอบและหันหน้าไปทางอื่น
อย่างท้าทาย
195
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ผมเริ่มโกรธ หลังจากความกังวลเรื่องเมื่อคืนว่าจะหาที่หมาย
เจอไหมและชัยชนะที่ได้หลังจากการเข้าตีส�ำเร็จ ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไป
เพราะความยโสของเชลยคนนี้ คิลลิแกนซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ก็บอกผมว่า “อย่า
โกรธไปเลยผู้หมวด เขาก็เป็นแค่ทหารคนหนึ่งเหมือนผู้หมวดกับผม”
คิลลิแกนพูดถูก ผมคงท�ำเหมือนเชลยคนนี้ถ้าอยู่ในสถานการณ์
อย่างนั้น อีกแล้วสินะ คิลลิแกน ลูกน้องผมที่เป็นคนไม่ค่อยพูดและไม่ค่อย
ให้เกียรติกบั การท�ำหน้าทีผ่ นู้ ำ� ของผมสักเท่าไหร่ ท�ำให้ผมขาดความเชือ่ มัน่
ในการท�ำหน้าที่ของตัวเองพอสมควร ผมหยุดถามเชลยและสั่งให้มัดเขาไว้
และหันไปสนใจการเสริมความมั่นคงที่หมายที่เรายึดได้ เสียงปืนที่ได้ยิน
จากระยะไกลแปลว่ากองร้อยได้ท�ำหน้าที่ได้สมบูรณ์
การปฏิบัติการคราวนี้ประสบความส�ำเร็จอย่างงดงาม มีพวก
เวียดกงได้รับบาดเจ็บ ๒ คน คนหนึ่งเป็นผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่แขนและ
พวกเราก็ช่วยท�ำแผลให้ เธอถลึงตามองพวกเราอย่างท้าทาย ผลจากการ
จู่โจมคราวนี้มีพวกเวียดกงเสียชีวิต ๔ คน ผมมองไปที่ศพที่นอนอยู่
มันท�ำให้เกิดความรู้สึกแปลก ๆ ผมเห็นภาพอย่างนี้มามาก จนท�ำให้อดคิด
ไม่ได้ว่าเราจะเป็นโรคจิตไปแล้วหรือ ความรู้สึกเย็นชาแบบนี้ไม่ควรจะ
เกิ ด ขึ้ น กั บ คนที่ ม าจากโลกที่ เจริ ญ แล้ ว สงครามที่ เ กิ ด บนภาคพื้ น ดิ น
ไม่เหมือนกับการทิ้งระเบิดใส่ข้าศึกจากเครื่องบิน มันเป็นการปะทะที่
เกิดขึ้น โดยคนที่เกี่ยวข้องต้องเอาตัวเข้าไปร่วมโดยตรง ไม่เขาก็เราที่ต้อง
ตาย ซึ่งต่างจากการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินซึ่งนักบินไม่ได้มีอารมณ์ร่วม
โดยตรงกับสถานการณ์ อารมณ์นี้มีทั้งความกลัว ความเกลียดชัง ความ
สงสาร ความผิดหวังหดหู่ และความรู้สึกของชัยชนะ สภาพศพที่นอนเรียง
อยู่เหมือนจะบอกว่าพวกเขาได้ต่อสู้อย่างห้าวหาญในสิ่งที่พวกเขาเชื่อ
ในแต่ละวันพวกเราต้องเจอสิ่งเหล่านี้หลายครั้ง จนท�ำให้เกิดความเคยชิน
196
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ความสุขที่เกิดขึ้นในสนามรบคือการที่เรายังมีชีวิตอยู่ นั่นหมายความว่า
ข้าศึกต้องตายเพื่อให้เรารอด ถ้าไม่ฆ่าก็ต้องถูกฆ่า มันมีแค่นี้
หรือว่าพวกเราอยู่ในสนามรบนานเกินไปจนความรู้สึกของความ
มี ม นุ ษ ยธรรมถู ก แทนที่ ด ้ ว ยความเป็ น ความตาย แต่ ผ มไม่ มี เวลามา
คิดเรื่องแบบนี้นานจนเกินไป ผมสั่งให้ลูกน้องรวบรวมอาวุธของข้าศึก
ค้นศพว่ามีเอกสารส�ำคัญอะไรหรือไม่ และวางคนส�ำหรับท�ำแนวป้องกัน
๓๖๐ องศา แจกจ่ายกระสุนและกินอาหารทีละคนจากกลุ่มละสามคน
สิ่งที่พวกเราท�ำเป็นกิจวัตรที่นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาอะไรเลย
มันเป็นเรื่องที่ว่าจะท�ำอะไรอย่างไรเพื่อให้มีชีวิตรอดเท่านั้น
มีบางอย่างผิดปกติกับศพ สองศพแรกบาดแผลไม่ใหญ่นัก แต่
ท�ำให้อวัยวะภายในที่ส�ำคัญถูกท�ำลาย ส่วนอีกสองศพถูกยิงเข้าที่กลาง
หน้าผาก รูด้านหน้าดูเรียบแต่ด้านหลังเหวอะหวะ ส่วนอื่น ๆ ตามร่างกาย
มีบาดแผลที่ไม่ท�ำให้เสียชีวิตแต่พิการได้ มีบางอย่างผิดปกติ ผมดูที่แผล
ที่หน้าผากเห็นเขม่าดินปืนซึ่งแสดงว่าผู้ที่เสียชีวิตถูกยิงในระยะเผาขน
รูกระสุนก็ใหญ่เกินกว่าจะเป็นกระสุน เอ็ม-๑๖ แต่มันคือปืนพกขนาด
.๔๕ มม. และคนเดียวที่ปืนพกชนิดนี้คือพยาบาลสนาม เขาจะพกมันไว้
เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น
สกิบเปอร์ ไชฟ์ พยาบาลสนามซึง่ เป็นคนเดียวในหมวดทีม่ ไิ ด้เป็น
พลรบ (non combatant) คือคนทีผ่ มสงสัย ซึง่ เป็นพยาบาลสนามคนเดียว
ในหมวดเป็นผูต้ อ้ งสงสัย สถานะเขาคือท�ำหน้าทีร่ กั ษาผูป้ ว่ ยในสนาม ไม่ได้
มีหน้าที่มารบกับข้าศึก เขาเป็นคนที่เอาผ้าพันแผลให้กับทหารที่บาดเจ็บ
ปลอบทหารหรือท�ำให้เสียงร้องเบาลง และเป็นคนสุดท้ายที่ได้ยินค�ำพูด
ของทหารที่เสียชีวิต ผมเรียกเขามาคุยทันที
197
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
“มีข้าศึกที่ได้รับบาดเจ็บกี่คน หมอ”
“๒ คน ครับ” ไชฟ์ตอบ
“แล้วคนที่ตายล่ะ ไชฟ์ มีโอกาสที่จะรักษาเขาไหม”
“ไม่ครับ เสียชีวิตก่อนที่ผมจะไปถึง”
ผมมองไปที่ตาเขา พยายามหาพิรุธ “อย่างน้อยเวียดกงก็น้อยลง
ไปสี่คนนะ ฉันว่า”
สามวันต่อมาผมส่งไชฟ์ไปอยู่ที่กองร้อยเรนเจอร์ ผมและไชฟ์เห็น
ตรงกันว่าเขาน่าจะเหมาะกับการเป็นเรนเจอร์มากกว่าเป็นเสนารักษ์
เขาไม่เหมาะต่อหน้าที่นั้นอีกต่อไป เขากลายเป็นนักฆ่าที่ร้ายกาจมากกว่า
พวกเราเสียอีก และสิ่งที่เขาท�ำไม่สามารถให้อภัยได้ สงครามก็แย่พอ
อยู่แล้ว ผมจะไม่ให้มันแย่ไปกว่านี้อีก
หลังจากการปะทะในตอนเช้าจบลง ผมก็ประสานและจับมือกับ
กองร้อย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คือหมวดทหารราบเพิ่มเติมก�ำลังมาท�ำหน้าที่เป็น
แนวกั้นให้ ผมส่งเชลยให้กับผู้หมวดที่ท�ำหน้าที่ควบคุมทหารมา ดู ๆ แล้ว
คงเป็นการรบครั้งแรกของเขา ผมทราบภายหลังว่าเขาเสียชีวิตในอีก ๒
สัปดาห์ต่อมา และก็เป็นไปตามคาดว่าผู้บังคับกองร้อยไม่ได้มาด้วย แต่อยู่
ที่ฐานของกองร้อย
“เอาไอ้พวกผิวเหลืองมาที่นี่” ผู้หมวดคนนั้นบอกลูกน้องผม
“พวกเขาไม่ใช่ไอ้พวกผิวเหลือง” ผมพูดกับเขาเบา ๆ “พวกเขา
ก็เป็นทหารเหมือนคุณกับผม”
แว๊บหนึ่งผมสังเกตเห็นสายตาของคิลลิแกนเป็นประกาย จากนั้น
เราก็ออกเดินทางกลับบ้าน
198
บทที่ ๒๐
คำ�สั่งบุก
199
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ดังนั้นในตอนบ่ายวันหนึ่งผมได้รับวิทยุจากกองร้อยให้หมวดผม
ลาดตระเวนไปยังหมวดที่ ๓ ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือห่างจาก
ฐานเราเป็นระยะทาง ๓,๐๐๐ เมตร และผูบ้ งั คับกองร้อยจะไปเจอพวกเรา
ทั้ง ๓ หมวดที่นั่นเพื่อให้ค�ำสั่งยุทธการ
ผู้บังคับหมู่เจมส์ และทหารอีก ๓ นายจะพาผมและพลวิทยุ
ไปทีจ่ ดุ นัดพบ แต่กอ่ นออกเดินทางผมเปลีย่ นต�ำแหน่งของลูกน้องเล็กน้อย
คือให้ฟิล เนลมาท�ำหน้าที่พลวิทยุเหมือนเดิมและให้คิลลิแกนไปอยู่กับ
หมู่ของเจมส์เพื่อท�ำหน้าที่พลน�ำทาง ซึ่งเป็นต�ำแหน่งที่เขาชอบมาก แต่
ก่อนหน้านี้คิลลิแกนก็กระแนะกระแหนและบ่นกับผมเรื่องที่ให้เขามาเป็น
พลวิทยุมาตลอด เขายิม้ ด้วยอาการดีใจอย่างเห็นได้ชดั และก็สง่ วิทยุพร้อม
คู่มือการเข้ารหัสให้กับเนล พร้อมกับเดินไปท�ำหน้าที่พลน�ำทางต่อไป
เส้นทางที่พวกเราต้องไปนั้นต้องไปทางทิศตะวันตกก่อนจากนั้น
จึงเลี้ยวไปทางทิศเหนือ คิลลิแกนท�ำหน้าที่เป็นพลน�ำทางได้ดีมาก โดยพา
เราเลี่ยงกับระเบิดสองจุดไปได้อย่างปลอดภัย ประมาณ ๑,๕๐๐ เมตร
ห่างจากฐานเราไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เขาพาพวกเราข้ามล�ำธาร
ที่ไหลเชี่ยว จากนั้นก็พาเราไปตามทางเดินไปทางทิศเหนือ แต่พอเดินไป
ได้ไม่กี่เมตรพวกเราก็ต้องหาทางเดินใหม่ให้ห่างจากทุ่งนา
เมื่อเราเข้าไปฐานของหมวดที่ ๓ ผมก็สังเกตเห็นผู้บังคับกองร้อย
คือร้อยเอก มอเรย์ ซึ่งยังดูหนุ่มมากยืนคุยกับผู้หมวดอีก ๒ คน มอเรย์ดู
สะอาดสะอ้านมาก สะอาดเกินไปส�ำหรับผู้บังคับหน่วยสนาม และดูจะ
สดชื่นมากจากการได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ อายุเขาก็พอ ๆ กับผม และเป็น
ศิษย์เก่าจากเวสต์พอยต์เหมือนกัน แต่ก่อนผมแค่ปีเดียว สมัยนั้นยศจะขึ้น
เร็วมาก จบมาได้หนึ่งปีก็ติดร้อยโท และอีกหนึ่งปีก็ร้อยเอก ส�ำหรับผม
200
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ปีหน้าก็จะติดร้อยเอกเหมือนเขา แต่หวังว่าจะไม่แสดงออกถึงความ
ไร้ประสบการณ์อย่างโจ่งแจ้งเหมือนที่มอเรย์ท�ำ
ไปถึงผมก็รายงานตัว “ผู้หมวดแมคดาน่ามารายงานตัวตามค�ำสั่ง
ครั บ ” ผมท� ำ วั น ทยาหั ต ถ์ ด ้ ว ยมื อ ขวาและมื อ ซ้ า ยก็ ถื อ ปื น เอ็ ม -๑๖
ปากกระบอกปืนชี้ลงพื้น
“สวัสดีจิม” ร้อยเอก มอเรย์ยิ้มทักทาย ผมหันไปพยักหน้าให้
ผู้หมวดอีก ๒ คนซึ่งเป็นคนใหม่ที่ผมไม่คุ้นหน้าเลย
อัตราการสูญเสียของผูบ้ งั คับหมวดในสนามรบโดยเฉพาะในระดับ
กองร้อยและกองพันสูงมาก ส�ำหรับผมถือว่าเป็นผู้หมวดทหารราบเพียง
ไม่กคี่ นทีอ่ ยูร่ อดมาได้นานขนาดนี้ บางทีผมอาจจะเป็นผูห้ มวดทีอ่ ยูร่ อดได้
นานที่สุดในกองพันก็ได้
“เอาล่ะสุภาพบุรุษทั้งหลาย นี่คือแผนของเรา” ผู้กองมอเรย์
บรรยายต่อ “หมวดที่ ๒ และ ๓ จะเข้าบรรจบกันหลังมืดค�่ำและปฏิบัติ
ภารกิจค้นหาและท�ำลายในพื้นที่ปฏิบัติการของกองร้อยแอลฟ่าที่อยู่ทาง
ทิศตะวันตก ส่วนหมวดที่ ๑ จะท�ำหน้าที่เป็นกองหนุนให้กับกองร้อยและ
ให้อยู่ที่หมวดของตัวเอง ส่วน ค.ของกองร้อยจะเป็นอาวุธยิงสนับสนุน”
“แล้วผู้กองจะอยู่ไหนครับ” ผมถามทั้ง ๆ ที่รู้ค�ำตอบอยู่แล้ว
“ฉันจะอยู่กับหมวดที่ ๑ เพื่อที่จะได้ควบคุมการปฏิบัติได้ทั้งหมด
รวมถึงการยิงสนับสนุน และการติดต่อกับกองพันและกองร้อยแอลฟ่าด้วย”
ผูก้ องมอเรย์ตอบค�ำถามผมอย่างระมัดระวัง ส�ำหรับแผนการนีผ้ กู้ องมอเรย์
จะอยู่ห่างจากที่ที่เราอยู่ในปัจจุบัน ๒,๐๐๐ เมตร และประมาณ ๔,๐๐๐
เมตรจากที่หมาย ผมพยายามระงับสีหน้าไม่ให้แสดงอาการดูถูกออกมา
201
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
“ขออนุญาตควบคุมการปฏิบัติของก�ำลังภาคพื้นในช่วงแรกของ
การเคลื่อนที่ครับ” ผมพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
“ได้สิจิม มันก็มีเหตุผลดีนะ คุณเป็นผู้บังคับหมวดที่อาวุโสที่สุด
แล้วคุณมีแผนการอะไรไหม”
มอเรย์เป็นคนง่าย ๆ และผมจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้เพื่อให้
ภารกิจส�ำเร็จ ผมเล่าแผนการทีผ่ มคิดไว้ในใจให้เขาฟัง รวมถึงเส้นทางทีค่ วร
ใช้ สถานทีท่ คี่ วรใช้เป็นจุดนัดพบ เวลาทีค่ าดว่าน่าจะมีการปะทะ และชนิด
ของอาวุธที่ควรจะน�ำไป เขาเห็นด้วยกับแผนการ และขอตัวกลับ
“ฉันต้องกลับไปที่ท�ำการกองร้อยและรายงานให้กองพันทราบ”
ผมเห็นโอกาสที่ท�ำให้การท�ำงานง่ายขึ้นเลยบอกเขา “ขออนุญาต
ครับ ระหว่างทีผ่ กู้ องไม่อยู่ ผมขออนุญาตสรุปแผนการปฏิบตั ใิ ห้ผหู้ มวดอีก
๒ คนทราบครับ”
“ได้สิ ตามสบายเลย” และเขาก็ไป พวกเราลุกขึ้นท�ำความเคารพ
ผมพยายามทีจ่ ะท�ำให้บรรลุวตั ถุประสงค์ของผูก้ องมอเรย์ ซึง่ ก็คอื
การขัดขวางเสรีการปฏิบัติของข้าศึกบริเวณแนวแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการของ
หน่วยในพื้นที่ และพยายามใช้ยุทธวิธีที่รอบคอบ ผมรู้ว่าการที่หมวด
สองหมวดจะเข้ า บรรจบกั น ตอนเที่ ย งคื น นั้ น เป็ น สิ่ ง ที่ อั น ตรายมาก
มันไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายเลย ดังนั้นผมจะให้หมวดที่ ๓ อยู่กับที่
ในขณะเดียวกันผมก็จะท�ำเหมือนมีการลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ
ของหมวดผมเพื่อลวงข้าศึก และขอให้ผู้หมวดของหมวด ๓ จัดพลน�ำทาง
ที่ดีที่สุดน�ำหมวดของผมผ่านพื้นที่ของหมวด ๓ ไปยังพื้นที่ปฏิบัติการ
ของกองร้อย
202
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
203
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
204
บทที่ ๒๑
การลาดตระเวนกลับ
“โอเคผู้หมู่เจมส์ บอกให้ทุกคนเตรียมพร้อมออกเดินต่อ” ผม
สั่งการพร้อมกับเก็บแผนที่ไปด้วย
ส่วนพลทหารเจมส์ เทเลอร์ จากเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์
มองมาที่ผมแบบไม่ค่อยจะพอใจ คือเขาอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นสาว ๆ
พวกนั้นได้ถนัด “ผู้หมวดครับ พวกเราไม่ต้องรีบก็ได้นี่ครับ ขออีกสัก ๑๐
นาทีได้ไหมครับ”
“ไม่ เ อาน่ า เทเลอร์ ทุ ก คนก� ำ ลั ง รออยู ่ ว ่ า จะเอายั ง ไงกั น คื น นี้
ความจริงฉันท�ำเพื่อนายนะเนี่ย ฉันรู้ว่านายมีอีหนูพวกนี้อยู่ในใจเยอะมาก
จนสับสนวุ่นวายไปหมดแล้ว” ผมหัวเราะเบา ๆ บอกให้รู้ว่ารู้ทันความคิด
เขา
เทเลอร์เป็นหนึ่งในทหารผิวด�ำทั้งหมดสามคนในหมวดและเป็น
ทหารราบเกรดเอ เขาตัวสูงมากกว่า ๑๘๐ เซนติเมตร เคยได้รับบาดเจ็บ
มาแล้ว ๒ ครั้ง แต่ก็ยังกลับมาอีก เขาคิดว่าเพื่อน ๆ ต้องการเขา ไม่ว่าจะ
ผิวด�ำหรือขาว
คิลลิแกนพาพวกเราออกจากฐานมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ใจผมยัง
ครุ่นคิดเกี่ยวกับแผนการในคืนนี้ ส่วนผู้บังคับหมู่เจมส์ซึ่งเดินเป็นล�ำดับ
205
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
207
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
208
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
“ทนหน่อยไอ้เพื่อนรัก เดี๋ยวฉันจะเอานายออกจากที่นี่ในไม่ช้า”
ผมให้ค�ำมั่นสัญญากับเขา เขาเหลือบมามองที่ผมหนึ่งครั้ง มันท�ำให้ผม
ยิ่ ง ต้ อ งท� ำ ให้ เขารอดให้ ไ ด้ ไ ม่ ว ่ า จะด้ ว ยวิ ธี ไ หน ขณะนั้ น ก็ มี เ สี ย งของ
เฮลิคอปเตอร์มาพอดี เสียงของนักบินฟังไม่ค่อยถนัดผ่านมาทางวิทยุ
“จาก แคสเปอร์ ๔๙ ให้ยิงระเบิดควันด้วย เปลี่ยน” เนล เมื่อได้ยินดังนั้น
ก็ปาระเบิดควันสีแดงออกไป “เห็นแล้ว เป็นสีแดงสดเลย” นักบินตอบกลับ
ทางวิทยุ เนลตอบกลับไปว่า “ยืนยันครับ”
“ให้บอกที่จะลงจอด แล้วผมจะลงให้” ผมรู้สึกว่าเขาเรื่องมาก
แต่มันก็เป็นหน้าที่เขา ผมมองไปรอบ ๆ ที่ที่ใกล้ที่สุดเป็นป่าทึบ เครื่อง
ลงจอดไม่ได้แน่ และที่ที่เป็นไปได้มากที่สุดอยู่ทางด้านหลังออกไปทาง
ทิศตะวันออก ๓๐ เมตร เฮลิคอปเตอร์สามารถลอยตัวอยู่ได้ชั่วขณะ “ยิง
คุ้มกันสูงสุด” ผมตะโกนสั่งลูกน้องและบอกเนล “เนลรีบไปตรงที่เป็นที่
โล่งนั่นและให้ขว้างระเบิดควันอีกครั้งและให้รีบกลับมาหาที่ก�ำบัง” ส่วน
ผมก็อุ้มคิลลิแกนทั้งสองมือ ปืนเอ็ม-๑๖ ของผมที่พาดที่ตัวก็รั้งที่คอผม
ราวกับว่าจะตัดคอผมให้ขาด คิลลิแกนและผมต่างหนักคนละประมาณ
๑๕๐ ปอนด์ แต่ละก้าวของผมมันช่างนานและล�ำบากเหลือเกิน ผม
พยายามเดินผ่านดงป่าไปที่จุดของระเบิดควันสีเขียว เพื่อให้เฮลิคอปเตอร์
มารั บ รู ้ สึ ก ได้ ว ่ า แขนผมกระตุ ก เป็ น ระยะและทุ ก ครั้ ง ที่ มี ก ารกระตุ ก
คิลลิแกนจะกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวด ถ้าเขาอ่อนแอป่านนี้คงหมดสติ
ไปแล้ว เลือดของคิลลิแกนไหลเป็นทางมาที่แขนผมผ่านข้อศอกหยดลงไป
บนพื้นดิน
ส่วนผู้บังคับหมู่เจมส์เห็นสภาพผมก็รีบมาเอาปืนออกจากล�ำคอ
เพราะกลัวผมจะขาดอากาศเสียก่อน โดยที่เขาก็ต้องถืออาวุธตัวเองและ
สั ม ภาระของคิ ล ลิ แ กนด้ ว ย พร้ อ มกั บ ต้ อ งกั ด ฟั น ทนกั บ บาดแผลของ
209
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
210
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
จ่าแพลโลแมนก�ำลังใกล้เข้ามาจากทางด้านทิศใต้ และก�ำลังของ
หมวดเอแวนส์ได้ข้ามนาข้าวมาแล้วเตรียมจะหันมาทางทิศใต้ แผนการคือ
กดดันให้ข้าศึกปะทะด้านหนึ่งแล้วโอบทางปีกทั้งสองข้าง ผมคิดว่าข้าศึก
คงพอจะเดาแผนการได้และพยายามผละออกจากการปะทะ ผมไม่สามารถ
ร้องขอการสนับสนุนปืนใหญ่หรือ ค. ได้เพราะเป็นพื้นที่ที่คนอยู่หนาแน่น
และกว่าจะขอได้ก็ใช้เวลานานมาก มีทางเลือกเพียงแค่ทางเดียวคือการ
ด�ำรงการกดดันโดยการไล่ติดตาม
ระยะทาง ๕๐ เมตร ทีจ่ ะข้ามทุง่ นาในสถานการณ์แบบนีถ้ อื ว่าไกล
มาก ไม่ต่างจากการข้ามพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกับระเบิดเลย และข้าศึกก็
สามารถโจมตีเราได้ทกุ เมือ่ ดินทีเ่ กาะทีข่ าท�ำให้การเคลือ่ นทีย่ งิ่ ท�ำได้ชา้ จะ
หาทีก่ ำ� บังทีไ่ หนก็ยากและเมือ่ มองไปข้างหน้าสุดปลายของผืนนาข้าวก็เป็น
พุ่มไม้ที่ข้าศึกจะยิงออกมาจากตรงไหนก็ได้ น่าทึ่งที่ลูกน้องผมทั้ง ๓ คน
ปฏิบัติตามค�ำสั่งโดยเคร่งครัดที่ให้เคลื่อนไปข้างหน้า
จ่าแพลโลแมนท�ำเวลาได้ดีมากคือกระชับพื้นที่จากทางทิศใต้
ผมสามารถได้ยินเสียงปืนปะทะเป็นระยะ ๆ และเมื่อผมพาลูกน้องข้าม
ทุ่งนามาได้และเดินลุยเข้าไปในพุ่มไม้ที่อยู่ข้าง ๆ ผมก็เห็นข้าศึกก�ำลัง
หลบหนี และมีคนบาดเจ็บด้วย ไม่เหมือนพวกเราที่เมื่อได้รับบาดเจ็บ
ก็สามารถร้องขอเฮลิคอปเตอร์มาช่วยได้ทันที
หมวดที่ ๑ ซึ่งก�ำลังเข้ามาทางทิศเหนือรายงานว่าเห็นข้าศึกกลุ่ม
เล็ก ๆ ก�ำลังเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ผมรีบสั่งให้ลูกน้องซุ่มโจมตีทันที
โชคเข้าข้างข้าศึกคราวนี้ เพราะสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาในพื้นที่สังหารของเราคือ
ชาวนากั บ ควาย ๒ ตั ว ซึ่ ง พอมั น ได้ ก ลิ่ น ก็ อ อกอาการฟ้ อ งว่ า เจอคน
ผมโบกมือให้ชาวนาคนนั้นและก็รู้ว่าตอนนี้ต�ำแหน่งที่พวกเราซุ่มไม่เหมาะ
อีกต่อไป
212
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
213
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
214
บทที่ ๒๒
การเดินทางในเวลากลางคืน
จ่าแพลโลแมนก�ำลังเหมือนคนบ้า เขาไม่อยากจะอยู่ในพื้นที่นี้อีก
ต่อไปในคืนนี้ แต่อยากจะออกไปแก้แค้นให้คิลลิแกน แต่ผมต้องให้เขาอยู่
กับลูกน้องอีก ๗ คน ซึง่ ก็แทบจะไม่พออยูแ่ ล้ว เพราะผูน้ ำ� ทีด่ มี คี วามจ�ำเป็น
มากในสถานการณ์แบบนี้ ผมให้จ่าแพลโลแมนรักษาพื้นที่ไว้ ส่วนผมกับ
ลูกน้องที่เหลือ ๑๒ คน ต้องออกไปลาดตระเวน ผมต้องการคนแบบเขา
ยามที่ผมไม่อยู่
ก�ำลังของเราหายไป ๒ คน คือผู้บังคับหมู่เจมส์กับคิลลิแกน
ผมเลยขอยืมคนจากหมวดที่ ๓ มาจ�ำนวนหนึง่ ตอนนีถ้ อื ว่าผูบ้ งั คับหมูด่ อน
เป็นผู้บังคับหมู่ที่ดีที่สุด และผมก็จะให้เขาไปลาดตระเวนด้วยพร้อมกับ
ก�ำลังเสริมทีข่ อยืมตัวมา ส่วนคนทีจ่ ะมาแทนผูบ้ งั คับหมูเ่ จมส์เป็นพลทหาร
ซึ่งผมแต่งตั้งเอง แต่เขายังขาดประสบการณ์อยู่ ส่วนพลวิทยุผมไม่เปลี่ยน
ยังคงเป็นเนล เพราะถือว่าเขามีประสบการณ์การรบแล้ว สภาพของลูกน้อง
ตอนนี้เหนื่อยมาก แต่พวกเราจะตกเป็นเป้านิ่งไม่ได้ และก�ำลังที่เหลืออยู่
กับแพลโลแมนก็ถือว่าน้อยมาก ถ้าข้าศึกรู้ว่าก�ำลังในฐานมีน้อย พวกมัน
อาจจะย้อนกลับมาเล่นงานได้ง่าย ๆ ในระหว่างที่ก�ำลังส่วนใหญ่ออกไป
215
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ลาดตระเวน ผมเลยต้องวางแผนให้การออกจากฐานเป็นไปอย่างเงียบ ๆ
ไม่ให้ข้าศึกรู้และถึงจะรู้ก็บอกไม่ได้ว่าพวกเราออกไปกันมากแค่ไหน
พลทหารเทเลอร์เดินมาหาผม “ให้ผมท�ำหน้าที่เป็นคนน�ำทางเอง
ครับ หมวด”
“แล้วเป็นยังไงบ้างเทเลอร์?” ผมถามเพื่อจะดูว่าเขาเป็นอย่างไร
ในภาพรวม
เขาตอบ “ผมสบายดีครับ แค่อยากช่วยให้พวกเราไปถึงหมวดที่ ๓
ได้ปลอดภัย และอีกอย่างผู้หญิงของผมก็ก�ำลังคอยอยู่” ผมรู้ได้เลยว่าเขา
ก�ำลังโกหก เขาก็เหมือนกับพวกเราคือให้เกียรติคิลลิแกนมาก และตอนนี้
เขาคงอยากท�ำหน้าที่พลน�ำทางเพราะถือว่าเป็นเกียรติ
“ได้เลย ไปหาอะไรกินก่อน เพราะนายต้องการเรี่ยวแรง เราไม่รู้ว่า
จะมีอะไรรออยู่” พวกเราสื่อสารกันด้วยภาษาทหาร พอถึงเวลาพลบค�่ำ
ท้องฟ้าก็มืดสนิทไม่เห็นดาวหรือดวงจันทร์เลย พวกเราต้องเดินชิด ๆ กัน
ในระหว่างเดินทาง ผมให้ลกู น้องซักซ้อมการปฏิบตั กิ อ่ นทีแ่ สงสว่างจะหมด
ส�ำหรับภารกิจทีต่ อ้ งท�ำ การติดต่อสือ่ สารมีความส�ำคัญมาก ผมต้องใช้วทิ ยุ
สือ่ สาร ๒ เครือ่ งจากหมวดของตัวเองและต้องขอยืมอีก ๒ เครือ่ งจากหมวด
ที่ ๓
พอได้เวลา ๑๙๓๐ พวกเราก็ออกจากฐานโดยมีเทเลอร์เดินน�ำหน้า
ตามด้วยผู้บังคับหมู่มือใหม่ และเนลเป็นคนที่ ๓ ส่วนผมเป็นคนที่ ๔
ตามมาด้วยคิง พลยิงลูกระเบิด คนที่ยิงลูกระเบิดใส่ผมเพราะผมไปเผา
กัญชาเขาเข้าให้
พวกเราเดินลัดเลาะไปทางทิศตะวันตก ถ้าข้าศึกมาเห็นเราตอนนี้
216
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ผมก็หวังว่าจะกันไม่ให้พวกเขาไปที่ฐานได้เพราะที่นั่นก�ำลังของเรามีแค่
จ่าแพลโลแมนกับทหารไม่กคี่ น ถึงแม้มนั จะเป็นคืนทีม่ ดื มากแต่การควบคุม
เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แทบจะไม่มีเสียงคุยกันยกเว้นเสียงกระซิบของ
ผมที่บอกให้คนน�ำทางเลี้ยวซ้ายหรือขวาเท่านั้น หรือไม่ก็เป็นเสียงบอกให้
นับยอดมาจากทางด้านหลังเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนพลัดหลง
มันช่างเป็นวันที่ยาวนานเหลือเกิน แต่ ณ ตอนนี้ความเหนื่อยล้าแทบจะ
หายไปเกือบหมด พวกเราได้กินอาหารแล้ว และการได้อาหารถึงจะได้
พักผ่อนน้อยมันก็พอจะชดเชยกันได้ เราเปลี่ยนทิศทางการเดินไปทาง
ทิศเหนือเพื่อไปยังหมวดที่ ๓
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปที่พวกเราเดินทางออกจากทรองแลม ตอนนี้ที่
ที่พวกเรายืนอยู่คือปลายของทุ่งนาใกล้ ๆ กับที่ที่คิลลิแกนได้รับบาดเจ็บ
ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า
น�้ำในนาข้าวสูงมาก ถ้าพวกเราก้าวขาลงไปก็ลึกถึงระดับเอวและ
การข้ามจะล�ำบากและส่งเสียงดัง ผมเลยสัง่ ให้เทเลอร์มองหาคันนาส�ำหรับ
เดินข้ามไป ผมคิดว่าความมืดคงจะท�ำให้ข้าศึกสังเกตเราได้ยาก
เราเดินบนคันนาไปได้ครึ่งทางก็มีเสียงปืนจากการปะทะกัน จาก
จุดที่ผมอยู่ ผมเห็นแต่ประกายไฟจากปากล�ำกล้องปืนและจากกระสุน
ส่องวิถี และผู้บังคับหมู่ก็ตะโกน “เทเลอร์ถูกยิง!”
เทเลอร์เจอเข้ากับพวกเวียดกง ๓ คนที่ก�ำลังข้ามคันนามาจาก
อีกด้านหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างก็ยิงใส่กันในทันที เป็นเรื่องปกติที่กระสุนนัด
แรก ๆ มักจะสูงจนข้ามหัว เทเลอร์ยิงจนกระสุนหมดซองแล้วหันหลังเพื่อ
จะตะโกนบอกพวกเราเลยถูกยิงเข้าที่กลางหลัง ร่างของเขาล้มลงไปใน
นาข้าว
217
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
218
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
219
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
220
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
222
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
223
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
224
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ส่วนพวกเวียดกง ๓ คนแรกตกใจเสียงระเบิดรีบกระจัดกระจายกันหนี
คนหนึ่งหนีมาทางจุดที่ผมซุ่มอยู่ หนานยิงเข้าใส่โดนด้านข้างล�ำตัวล้มลง
และเข้าไปซ�้ำอีก ๒ นัดที่หัว ส่วนอีก ๒ คนตะเกียกตะกายหนีไปจุดที่
ผูบ้ งั คับหมูด่ อนซุม่ อยูแ่ ละถูกยิง คนหนึง่ เสียชีวติ คาที่ ส่วนอีกคนหนีเข้าไป
ในป่าใกล้ ๆ และผู้บังคับหมู่ดอนก็ตามเข้าไป เวียดกงคนนั้นมุดลงไปในรูที่
ขุดเตรียมไว้ แน่นอนว่าเขาคุ้นเคยกับพื้นที่แห่งนี้เป็นอย่างดี ดอนตะโกน
เป็นภาษาเวียดนามให้เขาออกมา แต่ไม่มีเสียงตอบ เขาเลยตะโกนอีกครั้ง
ทันใดนั้นลูกกระสุนก็พุ่งออกมาจากหลุมที่เวียดกงคนนั้นมุดลงไป ผู้บังคับ
หมู่ดอนเลยตัดสินใจโยนลูกระเบิดลงไป ทั้งก้อนดิน ใบไม้ และชิ้นเนื้อ
กระเด็นปลิวว่อนออกมาจากหลุม จากนั้นดอนก็โยนระเบิดสังหารเข้าไป
อีกลูกเป็นการปิดเกม
เขามองไปที่ทหารซึ่งเด็กสุดอายุเพิ่งจะ ๑๘ ปี และสั่งให้เข้าไป
ในหลุมเพื่อน�ำร่างของเวียดกงคนนั้นออกมา นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
ในการฝึกให้ลูกน้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งส�ำหรับสถานการณ์ในวันข้างหน้า
ทหารคนนั้นก็เข้าไปลากเอาศพของทหารเวียดกงออกมา สภาพดูน่ากลัว
มาก คือเละไปหมดทั้งปาก จมูก หรือดวงตาหายไปหมด บาดแผลเต็ม
ทัว่ ร่าง แต่ยงั มีชวี ติ อยู่ พวกเราไม่สามารถจะช่วยอะไรเขาได้ นอกจากท�ำให้
เขาไม่ต้องทรมาน
ตอนนี้ภารกิจเป็นอันเสร็จสิ้น ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ในพื้นที่
ซุ่มโจมตีอีกต่อไป ผมเป็นห่วงลูกน้องที่เฝ้าฐานอยู่ที่ทรองแลม พวกเรา
ออกเดินทางกลับไปที่หมวดที่ ๓ เพื่อส่งคืนทหาร ๔ นายที่มาช่วยใน
ภารกิจในคืนนี้ และมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เพื่อกลับไปที่
บ้านของเรา
225
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
226
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
227
บทที่ ๒๓
จบภารกิจ
เวลาของผมในฐานะผู้บังคับหมวดปืนเล็กในสนามรบใกล้จะหมด
ลงแล้ว ซึ่งแนวทางการปฏิบัติที่กองทัพบกสหรัฐ ท�ำคือการให้นายทหาร
อยู่ในสนามรบประมาณครึ่งหนึ่งของวาระในเวียดนามและเวลาที่เหลือ
ให้ปฏิบัติหน้าที่อื่นในแนวหลัง หรือในที่ที่เสี่ยงอันตรายน้อยลง ผมได้รับ
การทาบทามให้ปฏิบตั หิ น้าที่ ณ ทีบ่ งั คับการกองพัน คือให้เลือก ๒ ต�ำแหน่ง
แต่ผมคงไม่เลือกถ้าผู้บังคับบัญชาให้ผมเป็นคนตัดสินใจ เพราะลูกน้องผม
ยังต้องท�ำงานอยูท่ ฐี่ านต่อไปจนกว่าจะได้รบั บาดเจ็บหรือเสียชีวติ พวกเขา
ไม่มีโอกาสเลือกเท่านายทหารอย่างผม ผมไม่สามารถจะเสแสร้งท�ำตัวให้
ปกติได้ เมื่อรู้ทั้งรู้ว่าลูกน้องเรายังต้องเสี่ยงอันตรายอยู่ ผู้น�ำที่ดีต้องไม่ทิ้ง
ลูกน้อง
แต่ธรรมเนียมปฏิบัติในเรื่องการหมุนเวียนนายทหารไปปฏิบัติ
หน้าที่ที่เวียดนาม กองทัพบกสหรัฐได้ท�ำมานานแล้วเพื่อให้นายทหาร
มีโอกาสได้รับประสบการณ์ในสนามรบเท่าเทียมกัน เพราะสหรัฐไม่ได้
เข้าร่วมสงครามนานมากนับตั้งแต่สงครามเกาหลีจบสิ้นลง แต่วงรอบใน
การหมุนเวียนนายทหารในเวียดนามทุก ๆ ๖ เดือน เกิดจากสมมติฐานว่า
สงครามจะไม่ยืดเยื้อยาวนาน แต่ในความเป็นจริงสงครามเวียดนามเป็น
สงครามที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐไปเสียแล้ว และ
228
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
229
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ถอนตัวไปทางทิศใต้ หน้าที่ของพวกเราคือต้องสกัดกั้นไว้ให้ได้
ผมน�ำก�ำลังประมาณ ๑ หมู่ปืนเล็กเพิ่มเติมก�ำลังเคลื่อนที่ออกไป
ทางทิศเหนือ แล้ววางก�ำลังเพื่อซุ่มโจมตีแบบเร่งด่วน ข้าศึกไม่ปรากฏตัว
และเนื่องจากเหลือเวลาอีกแค่ ๙๐ นาทีก็จะหมดแสงสว่าง ผมจึงพา
ลูกน้องเดินกลับฐาน แต่ออ้ มไปทางทิศตะวันตกก่อนเพือ่ ไม่ให้ยอ้ นรอยเดิม
พวกเราเดินไปถึงล�ำธารสายหนึ่ง ผมตัดสินใจข้ามโดยใช้สะพาน
ทีช่ าวนา ๒ คนทีท่ ำ� งานอยูด่ า้ นหน้าเพิง่ จะข้ามไป เพราะมันน่าจะปลอดภัย
จากกับระเบิด อีกอย่างยังเป็นวันคริสต์มาสอยู่ ผมไม่อยากให้ลูกน้อง
เครียดจนเกินไป แต่ผมก็ไม่ประมาท ใช้วิธีข้ามทางยุทธวิธีคือมีการระวัง
คุ้มกันเสมอ
ในขณะที่คนสุดท้ายก�ำลังข้าม เวียดกงคนหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาจาก
ใต้น�้ำพร้อมทั้งยกปืน เอเค-๔๗ ยิงใส่พวกเรา แต่กระสุนพุ่งสะเปะสะปะ
ไม่ถูกใคร แต่ทหารคนสุดท้ายที่ข้ามด้วยการเดินถอยหลังก็ยิงปืน เอ็ม-๑๖
สวนไป แต่ก็ไม่ถูกเช่นกัน และเวียดกงคนนั้นก็ด�ำน�้ำหนีไป
พวกเรางงมาก มันเหมือนกับก�ำลังต่อสูก้ บั เรือด�ำน�ำ้ ข้าศึกมาจาก
จุดไหนและจะไปไหนไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ ๆ คือมันวางแผนหลบหนีเอาไว้
ก่อนแล้ว ผมกระโดดลงไปในน�้ำและพบว่ามันลึกถึงระดับหน้าอก ในเมื่อ
ไม่สามารถใช้ปืนยิงได้ ผมจึงตัดสินใจขว้างระเบิดมือไปที่จุดที่เวียดกง
คนนั้นด�ำน�้ำหายไป ลูกแรกไม่ระเบิด ผมขว้างไปอีกลูก คราวนี้ระเบิดขึ้น
ทั้งสองลูกและท�ำให้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่บนฝั่งล้มลงมาเกือบจะทับผม มันคงดู
ตลกถ้ า ไม่ มี อ ะไรเกิ ด ขึ้ น ต่ อ จากนี้ แต่ แ ล้ ว ร่ า งของเวี ย ดกงคนนั้ น
ก็โผล่ขึ้นมาจากน�้ำเหมือนปลาที่ถูกอัดจากแรงระเบิด ที่ใบหน้าของมันไร้
บาดแผล แต่กลายเป็นสีเขียวช�้ำ
231
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ลูกน้องผมคนหนึ่งตรวจเจอทางเข้าที่อยู่ใต้น�้ำที่เวียดกงคนนั้นมุด
เข้าไปและในทางเข้านั้นก็ท�ำเป็นที่อยู่ที่คนคนหนึ่งสามารถเข้าไปผูกเปล
นอนได้ ต้องยอมรับในความกล้าหาญและอดทนของเวียดกงคนนี้มากที่
จุดตะเกียงในอุโมงค์เล็ก ๆ นั้นเพื่อรอคอยโอกาสที่จะได้จู่โจมพวกเรา
พวกเราแบกเขาไปที่หมู่บ้านทรองแลม เพื่อให้ร่างของเขาได้รับการฝัง
อย่างถูกต้องจากเพื่อนร่วมชาติ ในช่วงเย็นของวันพวกเราถูกโจมตีอีกด้วย
กระสุนวิถโี ค้งของข้าศึก จะว่าไปแล้ววันคริสต์มาสของพวกเราแทบจะไม่มี
ความหมายเลย และหลังเที่ยงคืนพวกเราก็ออกไปลาดตระเวนอีกเป็น
ครั้งแรกหลังจากหมดห้วงของการหยุดยิงชั่วคราว
เป็นที่ชัดเจนว่าข้าศึกก�ำลังเตรียมการที่จะบุกพวกเราอีกครั้ง
และการข่าวก็เตือนว่าให้พวกเราระวังการโจมตีจากเวียดกงประมาณ
๑ หรือ ๒ กองร้อย และจะมีก�ำลังสมทบจากทหารเวียดนามเหนือด้วย
อย่างไรก็ตาม หมวดของผมจะไม่ได้รบั ก�ำลังเพิม่ เติม เพราะข้าศึกได้ทำ� การ
กดดันตลอดทั้งพื้นที่ หมวดลาดตระเวนของกองพันถูกจู่โจมโดยไม่รู้เนื้อ
รู้ตัวจากหน่วยแซปเปอร์ข้าศึกที่เปิดทางให้ก�ำลังส่วนใหญ่บุกลุยเข้าไปถึง
ในฐาน ก�ำลังส่วนใหญ่ของหมวดถูกฆ่าตายหรือบาดเจ็บ แต่ตัวผู้หมวด
และก�ำลังอีกส่วนหนึ่งรอดมาได้ ต่อมาเขาก็ถูกย้ายไป แต่มันก็ไม่ช่วย
อะไรส�ำหรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นไปแล้ว
ผมไม่ ไ ด้ กั ง วลมากนั ก ในเรื่ อ งก� ำ ลั ง เพิ่ ม เติ ม จากหน่ ว ยเหนื อ
เพราะมั่นใจในความสามารถของหมวดที่จะต้านทานการโจมตีขนาดใหญ่
เอาไว้ได้ ตราบใดทีเ่ ราไม่ทำ� อะไรโง่ ๆ ผมรอคอยด้วยการใช้การลาดตระเวน
อย่างรุกรบเพื่อเป็นการป้องกันมิให้ข้าศึกรวมก�ำลังเข้าประชิดเราได้ง่าย ๆ
และในฐานของเราก็มีการเข้มงวดด้านวินัยในการเตรียมการตั้งรับเป็น
อย่างดี ไม่มีทาง ผมมั่นใจว่าข้าศึกจะไม่สามารถบุกฐานเราได้ง่าย ๆ
232
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
แต่ผมประเมินจิตใจข้าศึกต�ำ่ ไป บางทีความเห็นต่างทางการเมือง
ก็ท�ำให้มนุษย์ท�ำอะไรที่เกินกว่าจะคาดการณ์ได้ในแง่มนุษยธรรม และ
ท้ายที่สุดพวกเราก็ต้องเสียหมู่บ้านทรองแลม
คืนวันที่ ๒๘ ธันวาคมดูผิวเผินก็ไม่ต่างอะไรจากคืนอื่น ๆ ผมส่ง
ชุดลาดตระเวนตอนกลางคืนออกไปตามปกติ พร้อมกับตรวจความพร้อม
ของฐานในการตั้งรับ เวลาประมาณ ๒๐๐๐ - ๒๒๐๐ ผมงีบหลับเอาแรง
ส่วนจ่าแพลโลแมนคอยดูแลความเรียบร้อยของลูกน้องในฐาน เวลา ๒๒๒๐
ผมเช็กยอดลูกน้องที่เพิ่งกลับเข้ามาจากการลาดตระเวน ถึงแม้ว่าลูกน้อง
ชุดที่ออกไปจะรายงานว่าไม่พบอะไรผิดปกติ แต่ผมก็ตัดสินใจออกไปกับ
ชุดลาดตระเวนชุดใหม่ในเวลาประมาณเที่ยงคืน ระหว่างที่รอผมก็คุยกับ
ทหารใหม่ที่ชื่อมาร์ค คลีเมนซ์ จากเมืองดิมอยน์ รัฐไอโอวา ซึ่งท�ำหน้าที่
เป็นพลปืนกล คลีเมนซ์เป็นคนพูดเสียงเบาและดูเหมือนจะชอบหน้าที่
ที่รับผิดชอบ และรู้สึกไม่ประหม่ากับภารกิจแรกนี้เลย ด้วยความมั่นใจว่า
คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมสงบนิ่งและมองไปที่หมู่บ้านทรองแลม ไม่มีแสงไฟ
ให้ เ ห็ น ไม่ มี เ สี ย งพู ด คุ ย มั น ช่ า งสงบอะไรเช่ น นี้ มั น เหมื อ นกั บ เมื อ ง
เบธเลเฮมทีผ่ มจินตนาการตอนเป็นเด็กไม่มผี ดิ กระท่อมหญ้าแฝกทีใ่ ช้เป็น
ทีพ่ กั พิงของผูค้ นและวัวควายทีช่ าวบ้านเลีย้ งไว้ใช้งานกลางแจ้งใต้ดวงดาว
ช่างเป็นภาพที่สงบและสวยงาม ผมหันไปคุยกับคลีเมนซ์ ขณะนั้นเวลา
ใกล้จะถึง ๒๓๐๐ แล้ว อีกไม่นานหมู่ ๒ ก็จะออกไปลาดตระเวน
จู่ ๆ ก็เกิดระเบิดทีก่ ระท่อมหลังหนึง่ ในหมูบ่ า้ นเสียงดังสนัน่ ไฟลุก
โชติชว่ งไปทัว่ “โอ้พระเจ้า” คลีเมนซ์รอ้ ง และมองไปทีห่ มูบ่ า้ นจากบังเกอร์
กระสอบทรายที่เขาอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสงครามกับตาตัวเอง
“ก้มหัวลงคลีเมนซ์” ผมเองก็ก้มหลบลูกกระสุนและสะเก็ดระเบิดที่
อาจจะมาทางพวกเรา ผมได้ยินจ่าแพลโลแมนตะโกนบอกให้ลูกน้อง
233
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เตรียมพร้อมรับมือการโจมตีที่จะตามมา เสียงระเบิดดังขึ้นอีกหลายลูก
พร้อมทั้งเสียงปืนกล พวกเราพยายามมองหาว่าเสียงมาจากทิศไหน
“จ่าแพลโลแมน พวกมันยิงใส่อะไร” ผมตะโกนถาม “ผมมองไม่เห็นอะไร
เลย”
เสียงแพลโลแมนตะโกนตอบกลับมา แต่ถูกกลบด้วยเสียงระเบิด
จนฟังไม่ถนัด แต่ผมไม่จ�ำเป็นรอค�ำตอบจากแพลโลแมนแล้ว เมื่อเห็น
ผู ้ ห มวดตางจากกองก� ำ ลั ง ของรั ฐ บาลเวี ย ดนามใต้ วิ่ ง มาทางฐานเรา
พร้อมกับขอเข้ามาในฐาน
“โอ้พระเจ้า” ผมร้องออกมา “พวกมันก�ำลังท�ำลายหมู่บ้าน”
นี่มันเป็นการสังหารหมู่ชัด ๆ หนานก�ำลังถามหมวดตางอย่างตื่นเต้น
ตางทิ้งลูกน้องมาหาเรา แต่พวกเขาไม่ใช่เป้าหมายของการโจมตี พวก
เวียดกงบุกเข้ามาทางทิศตะวันออกของหมูบ่ า้ น พวกมันบุกไปตามกระท่อม
ทีละหลัง โยนระเบิดเข้าไปและยิ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เคลื่อนไหว
ผมนึกภาพแล้วรู้สึกสยอง หมู่บ้านก�ำลังจะกลายเป็นสนามรบ
ที่ผ่านมาผมพยายามเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ถึงแม้ว่าจะเสี่ยงด้วย
ชีวิตของพวกเราเองก็ตาม แต่คืนนั้นผมเลี่ยงไม่ได้ ถึงอย่างไรข้าศึกก็จะ
ท�ำลายหมู่บ้านให้สิ้นซาก ผมจะต้องรบกับข้าศึกในที่ที่พวกมันเลือก หรือ
ไม่ก็มองมันท�ำลายหมู่บ้านทีละส่วน ๆ อยู่ห่าง ๆ ยุทธวิธีของพวกมัน
ฉลาดมาก ผมจะเป็นไอ้โง่ถ้าผมออกไปสู้กับมันที่นั่น แต่ถ้าผมอยู่เฉย ๆ
ผมก็เป็นไอ้ระย�ำตัวหนึ่งเหมือนกัน
“จ่าแพลโลแมนเหลือหมู่ที่ ๓ ไว้ที่ฐานและมากับผม พวกเราจะ
ตีโต้ตอบเข้าไปในหมู่บ้านในอีก ๒ นาที”
234
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
เราไม่มีเวลาขอรับการสนับสนุนกระสุนส่องสว่างจากกองพัน
ก� ำ ลั ง ๒ หมู ่ ป ื น เล็ ก และกองบั ง คั บ การหมวดก� ำ ลั ง คุ ก เข่ า อยู ่ ต รง
ช่องทางออกขณะที่ผมออกค�ำสั่งท่ามกลางเสียงปืนและเสียงหวีดร้อง
มาจากหมู่บ้าน “ผลักดันพวกเวียดกงออกไปจากหมู่บ้านให้เร็วที่สุด
ระวังอย่ายิงชาวบ้าน สังเกตให้ดีเพราะพวกเขาไม่มีอาวุธ ทหารรัฐบาล
เวียดนามใต้อาจจะสู้ ให้พวกเราใช้ดุลพินิจเอาเอง”
ผมตบพลุส่องสว่างด้วยฝ่ามือ แพลโลแมนตบพลุลูกที่สองตาม
พวกเราวิง่ ออกไปทีห่ มูบ่ า้ นขณะทีพ่ ลุลอยขึน้ ไปบนท้องฟ้า ภาพแรกทีเ่ ห็น
น่าสยดสยองเหลือเกิน ผู้หญิงคนหนึ่งก�ำลังอุ้มลูกที่ไม่มีศีรษะผ่านผมไป
โดยที่ตัวเธอเองก็แขนซ้ายเกือบจะขาด ข้างหลังมีเวียดกง ๒ คนก�ำลังจะ
ยิงเธอ ด้วยความโกรธผมยิงใส่พวกมันเข้าที่หน้าจนล้มลง
หมู ่ ที่ ๑ เคลื่ อ นที่ ผ ่ า นผมไป ในขณะที่ ห มู ่ ที่ ๒ ที่ น� ำ โดย
จ่าแพลโลแมนบุกขึ้นไปทางซ้าย แสงไฟไหม้จากกระท่อมบ่งบอกได้ว่า
พวกเวี ย ดกงได้ ท� ำ อะไรลงไป มี เ ด็ ก ผู ้ ห ญิ ง ๒ คนวิ่ ง มาที่ ผ มทั้ ง น�้ ำ ตา
มองเพียงแว๊บเดียวก็รู้ว่าพวกเธอได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด
“มาอยูข่ า้ งหลังนีแ่ ละก็อย่าไปไหน” ผมตะโกนบอกเด็กทัง้ สองคน
เป็นภาษาอังกฤษและเวียดนามผสมกัน
ภารกิจของพวกเวียดกงในคืนนีค้ อื การฆ่าชาวบ้านให้ได้มากทีส่ ดุ
และดูเหมือนพวกมันจะท�ำส�ำเร็จ แต่พวกมันไม่คิดว่าเราจะเข้ามาปะทะ
แบบซึ่ง ๆ หน้า ในช่วงเวลาแว่บเดียวที่พวกมันสับสน เราจึงได้เปรียบ
แต่กำ� ลังในส่วนทีส่ องปรับตัวได้ทนั และหันมายิงใส่เรา พลปืนเล็ก
ของเราคนหนึง่ ถูกกระสุน เอเค-๔๗ จนมือแหลก คนทีส่ องถูกสะเก็ดระเบิด
ที่สะโพกซ้ายจนกระดูกแหลก แต่เรายังคงบุกเข้าไปเพื่อฆ่าพวกมัน
235
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
236
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ให้มั่นใจว่าข้าศึกจะไม่ย้อนรอยกลับมาโจมตีพวกเราที่หมู่บ้านและที่ฐาน
ซึ่งมีก�ำลังแค่หยิบมือเดียว ในใจผมคิดวางแผนส�ำหรับสิ่งที่จะต้องท�ำอยู่
ตลอด แต่ลกึ ๆ แล้วผมรูส้ กึ โกรธจัด เพราะสิง่ เลวร้ายทีส่ ดุ ได้เกิดขึน้ พวก
เวียดกงได้โจมตีหมู่บ้านตรง ๆ สังหารชาวบ้านซึ่งอาจเป็นญาติตัวเองไป
มากมาย มันไม่นา่ เชือ่ ว่าจะเกิดขึน้ แต่กเ็ กิดขึน้ แล้ว ข้าศึกจะตายไปเท่าไหร่
ไม่สำ� คัญ แต่ทแี่ น่ ๆ หมูบ่ า้ นทรองแลมกลายเป็นความพ่ายแพ้ของพวกเรา
ไปเสียแล้ว พวกเราชาวอเมริกันเข้ามาต่อสู้เพื่อวัตถุประสงค์ที่จ�ำกัด แต่
พวกเวียดกงต่อสู้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองที่มีข้อจ�ำกัดน้อยกว่า
แน่นอนว่าถ้าเป็นอย่างนี้พวกเราแพ้ตั้งแต่เริ่มรบแล้ว
หมู่บ้านทรองแลมได้กลายเป็นเป้าหมายของพวกเวียดกงมานาน
แล้ว ส�ำหรับชาวอเมริกันและรัฐบาลเวียดนามใต้ หมู่บ้านนี้คือตัวแทน
อ�ำนาจของสหรัฐ และเวียดนามใต้ในจังหวัดเล็ก ๆ ที่ชื่อบินดิน ซึ่ง
ก่อนหน้านี้เคยอยู่ภายใต้อิทธิพลของพวกคอมมิวนิสต์เวียดกง ส�ำหรับ
พวกเวียดกง การที่หมู่บ้านนี้ยังตั้งอยู่ได้เท่ากับเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรี
ของพวกมัน ซึ่งได้ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของต�ำบลแทมควานไว้ได้แล้ว
ตราบใดที่หมู่บ้านทรองแลมยังตั้งอยู่ได้ มันจึงไม่ต่างกับก้างขวางคอ
พวกเวียดกง
ผมรูต้ งั้ แต่แรกแล้วว่าคนในหมูบ่ า้ นบางส่วนฝักใฝ่พวกคอมมิวนิสต์
เวี ย ดกง แต่ ก็ เ พี ย งบางส่ ว นเท่ า นั้ น ไม่ ใช่ ทั้ ง หมด และส� ำ หรั บ พวก
เวียดกงบางคน พ่อแม่ลูกและภรรยาก็อยู่ในหมู่บ้านนี้ด้วย ผมจึงคิดว่า
ที่นี่เป็นที่ส�ำหรับหลบภัยหรือที่อยู่ที่ปลอดภัยที่สุดส�ำหรับทั้งสองฝ่าย
และหน้าที่ของหมวดผมก็คือรักษาหมู่บ้านนี้ไว้ให้ได้นานที่สุด ซึ่งพวกเรา
ก็ท�ำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุด และเมื่อมีหน่วยทหารของรัฐบาลเวียดนามใต้
มาประจ�ำอยู่ด้วย มันก็ยิ่งแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
237
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ฐานของผมได้กลายเป็นเป้าหมายการโจมตีจากพวกเวียดกงมา
ตลอดเพราะพวกเราท�ำให้หมู่บ้านด�ำรงอยู่ได้ ถ้าพวกเราตายไป หมู่บ้านก็
อยู่ไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นพวกเราชาวอเมริกันเป็นแค่เป้าหมายรอง ส่วน
เป้าหมายหลักคือหมู่บ้านทรองแลม ถ้าชาวบ้านถูกฆ่าตายหมดก็ไม่มี
หมู่บ้านอีกต่อไป ผมเพิ่งจะมาเข้าใจเรื่องราวแบบนี้ก็ตอนนี้นี่เอง
ผมไม่คาดคิดว่าข้าศึกจะกล้าใช้มาตรการแบบนี้ การโจมตีหมูบ่ า้ น
ก็เท่ากับเป็นการจงใจฆ่าญาติ ๆ ของตัวเอง ในสมรภูมิรบที่เกิดขึ้นใน
หมู่บ้านมันยากมากที่จะแยกแยะว่าใครฝักใฝ่ฝ่ายใด ผมเห็นเด็ก ๆ ใน
หมู่บ้านทุกวัน พวกเขาก็เหมือนกับเด็ก ๆ ทั่วไปบนโลกใบนี้ ผมไม่สามารถ
ท�ำร้ายพวกเขาได้ แค่คิดก็ไม่ควรแล้ว
แต่สิ่งที่ผมคิดไม่ใช่สิ่งที่ข้าศึกคิด แม้ผมจะพยายามเข้าใจพวกมัน
หรือพยายามจะคิดอย่างที่พวกมันคิด แต่คิดอย่างไรก็ไม่มีวันเข้าใจ
ทรองแลมมีคนตายมากกว่าคนรอด และคนบาดเจ็บยิ่งมากกว่า
คนตายเป็นสองเท่า พอรุ่งเช้าชาวบ้านที่รอดชีวิตก็อพยพออกไป พวกเขา
น�ำไปแต่เฉพาะสิ่งของที่เหลืออยู่ แต่ละคนเดินไปอย่างเชื่องช้า ผ่านศพ
ที่นอนเกลื่อนกลาดไปอย่างเฉยเมย สายตามองไปข้างหน้าอย่างไร้ความ
รู้สึก พวกเขาคงคาดหวังว่าสถานที่ที่จะไปคงจะมีความรุนแรงน้อยกว่านี้
ตอนนี้มีแต่เฉพาะญาติของผู้เสียชีวิตเท่านั้นที่อยู่เพื่อจัดการเกี่ยวกับศพ
เสียก่อน
ผมยืนอยูข่ า้ ง ๆ ห้องน�ำ้ ทีเ่ คยใช้และก็จะอายทุกครัง้ ทีม่ คี นเดินผ่าน
ไปมา วันนี้ผมละอายใจที่ไม่สามารถคุ้มครองพวกเขาได้ เด็กผู้หญิงที่มี
แขนข้างเดียวเดินผ่านไป เป็นเด็กคนเดียวกันที่ได้รับบาดเจ็บเพราะบาร์น
ผมคิดว่าสายตาที่เธอมองนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย เด็ก ๆ ก�ำพร้าที่
238
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
239
บทส่งท้าย
หลังจากขึ้นวันแรกของปีใหม่ได้ไม่นาน เบื้องบนก็ตระหนักถึง
ความเป็นจริง ภารกิจของหมวดจึงเปลีย่ นแปลง เราต้องย้ายไปยังพืน้ ทีใ่ หม่
เพื่อแย่งชิงการควบคุมประชาชนกับเวียดกง แต่หมวดจะไม่มีผมไปด้วย
เวลาของผมมาถึงแล้ว หมวดของผมจะมีผู้หมวดคนใหม่มาน�ำไปยังพื้นที่
แห่งใหม่แทน
ในวันสุดท้ายของการปฏิบัติหน้าที่ ผมเรียกลูกน้องมารวมกันเพื่อ
ถ่ายภาพไว้เป็นทีร่ ะลึก ผมอยากจดจ�ำทุกคนทีอ่ ยูเ่ คียงข้างผมจนวันสุดท้าย
ของการท�ำหน้าทีผ่ บู้ งั คับหมวด ผมใช้เวลาไม่นานเพราะไม่อยากให้ตกเป็น
เป้านิ่งส�ำหรับข้าศึก หลายคนเป็นคนหน้าใหม่ ดูเหมือนเด็กมัธยมในงาน
ปาร์ตี้ พอผมมาดูรปู นีห้ ลายเดือนต่อมาจ�ำนวนคนในรูปก็คอ่ ย ๆ ลดลง บ้าง
ก็ได้รับบาดเจ็บ บ้างก็หมุนเวียนกลับไปสหรัฐ จนกระทั่ง ๖ เดือนผ่านไป
เหลือเฉพาะฟิล เนลเท่านั้น ถือได้ว่าเขาเป็นทหารราบผู้อยู่ยงคงกระพัน
ก็ว่าได้
ตกสาย ๆ ผู้หมวดคนใหม่ก็มาถึง ถึงแม้เขาจะรูปร่างใหญ่มี
กล้ามเนื้อ แต่ก็ออกจะไปทางอ้วนนิด ๆ เขาแสดงอาการกลัวจนเห็นได้ชัด
เพียง ๒๕ วันหลังจากที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น เขาก็ถูกส่งกลับสหรัฐ
พร้อมขาที่เหลือเพียงข้างเดียว ตอนที่ผมสรุปสถานการณ์ให้เขาฟังใน
วันนั้น ความรู้สึกผมมีสองอย่างที่ก�ำลังเกิดขึ้นในใจ หนึ่งคือรู้สึกโล่งใจที่
240
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
241
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
242
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ไม่มีพิธีการต้อนรับใหญ่โตใด ๆ ส�ำหรับพวกเราที่กลับมาจาก
สงคราม เมื่อผ่านการตรวจทางศุลกากรและยาเสพติดที่ฐานทัพอากาศ
แมคคอร์ดแล้ว พวกเราก็ต้องเดินทางไปสนามบินซีแอทเทิล-ทาโคมาเอง
ไม่มีเพื่อนร่วมชาติคนไหนเข้ามาทักทาย ราวกับว่าเราเพิ่งกลับมาจาก
ซือ้ ของทีร่ า้ นสะดวกซือ้ ในหมูพ่ วกเราต่างก็แยกย้ายกันไปโดยไม่มกี ารอ�ำลา
ทุกคนท�ำราวกับว่าเป็นคนแปลกหน้าไม่รจู้ กั กัน และไม่มใี ครเลยทีเ่ ดินทาง
ไปเวียดนามพร้อมกันกับผมและกลับมาพร้อมกันในคราวนี้ เพื่อนร่วมรุ่น
จากเวสต์พอยต์สองคนที่นั่งติดกันบนเครื่องตอนขาไปก็เสียชีวิตไปแล้วที่
เวียดนาม
ทีส่ นามบินแห่งชาติทกี่ รุงวอชิงตันดีซี มีผหู้ ญิงหน้าตาดีคนหนึง่ ยืน
รอผมอยู่ในอาคารผู้โดยสาร ข้าง ๆ เธอมีเด็กชายอายุ ๑๕ เดือนหน้าตา
น่ารัก ผมหยักศกสีทองยืนขยับขาไปมา ผมจูบทักทายพวกเขาทั้งสองคน
ภรรยาผมดู ดี อ กดี ใจ ส่ ว นเด็ ก ชายคนนั้ น ดู สั บ สน ส่ ว นผมเองทั้ ง ดี ใจ
และสับสน ในใจผมยังรูส้ กึ เศร้าใจ เสียใจให้กบั ลูกน้องทีผ่ มทิง้ เขาไว้ขา้ งหลัง
ผมรู้สึกหดหู่ทุกครั้งที่นึกถึงว่าประเทศของพวกเขาจะไม่มีวันรู้ว่าพวกเขา
เป็นทหารทีย่ อดเยีย่ มเพียงใด แต่ผมก็ภาคภูมใิ จทีไ่ ด้รว่ มงานกับพวกเขามา
243
บันทึกประสบการณ์ของนายทหารใหม่ในเวียดนาม
(PLATOON LEADER)
ประวัติผู้แต่ง
เจมส์ แมคดาน่า เป็นลูกของนายทหารชั้นประทวนในกองทัพบก
สหรัฐ จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ในปี ค.ศ. ๑๙๖๙
เนื่องจากจบการศึกษาในอันดับต้น ๆ ของรุ่นเขามีสิทธิที่จะเลือกเหล่า
และหน่วยได้ก่อน เขาเลือกเหล่าทหารราบและอาสาไปรบที่เวียดนาม
ในกองพลน้ อ ยส่ ง ทางอากาศที่ ๑๗๓ อั น โด่ ง ดั ง ปั จ จุ บั น แมคดาน่ า
ยศพันโท (ยศในปี ๑๙๘๕ ที่หนังสือเล่มนี้ออกตีพิมพ์) ยังคงท�ำหน้าที่
รับใช้ชาติในฐานะผู้บังคับกองพันทหารราบที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๔๑
ทีฟ่ อร์ทฮูด รัฐเท็กซัส ต�ำแหน่งอืน่ ๆ ทีเ่ คยปฏิบตั หิ น้าที่ เช่น ผูบ้ งั คับหมวด
ผู้บังคับกองร้อย นายทหารฝ่ายยุทธการกองพัน รองผู้บังคับกองพัน
รองเสนาธิการกรมทหารราบ อาจารย์สอนวิชารัฐศาสตร์ที่เวสต์พอยต์
นายทหารการข่าวประจ�ำกองบัญชาการกองทัพบกภาคพืน้ ยุโรป นายทหาร
โครงการพิเศษที่หน่วยงานนิวเคลียร์เพื่อความมั่นคง นายทหารติดต่อ
ประจ�ำกระทรวงการต่างประเทศ เขายังส�ำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท
จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ (MIT) ด้วย
นอกจาก Platoon Leader แล้ว แมคดาน่ายังได้เขียนหนังสือ
Defense of Hill 781 และ The Limits of Glory ปัจจุบันเขาได้เกษียณ
จากกองทัพและอาศัยอยู่ในเมือง Tallahassee รัฐฟลอริดา พร้อม
ครอบครัว
244