สวัสดีครับ ผมนายสิรภพ จันปะระ ห้อง 446 เลขที่ 41 วันนีผ

้ มจะมาพูด
ถึงประวัติความเป็ นมาของอาหารที่ผมชอบที่สุด นั่นก็คือผัดกะเพราครับ ทุก
ๆ คนในที่นก
ี ้ ็คงเคยกินผัดกะเพรากันใช่ไหมครับ ก็ผัดกะเพรานัน
้ เป็ นทัง้
อาหารจานเดียวยอดนิยม หากินได้ง่าย แล้วก็ยังอร่อย จนบางครัง้ จะเรียกว่า
อาหารสิน
้ คิดเลยก็ว่าได้ เพราะเวลาไม่ร้จ
ู ะกินอะไรก็มักจะสั่งผัดกะเพรา แต่
มีใครเคยสงสัยกันไหมครับว่า ผัดกะเพรานัน
้ มีต้นกำเนิดและความเป็ นมา
อย่างไร วันนีผ
้ มจึงได้รวบรวมข้อมูลมาให้ทุกคนได้ร้ก
ู ันครับ

ในส่วนของกะเพรานัน
้ มีมาตัง้ แต่สมัยอยุธยา โดยอ้างอิงจาก
“จดหมายเหตุ ลา ลูแบร์” ของมองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ ที่กล่าวถึงอาหาร
ของชาวสยามที่ได้พบเห็นเมื่อครัง้ เข้ามาในกรุงศรีอยุธยา ในรัชกาลสมเด็จ
พระนารายณ์มหาราช

แต่เมนู “ผัดกะเพรา” นัน

้ พึ่งจะได้รับความนิยมมาเมื่อไม่นานมากนัก
โดยอ้างอิงจากหนังสือ “อาหารรสวิเศษของคนโบราณ” ของ อาจารย์
ประยูร โดยได้เล่าถึงประวัติความเป็ นมาของผัดกะเพราว่า ผัดกะเพราพึ่งจะ
เป็ นที่นิยมเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2500 ก่อนหน้านัน
้ คนไทยนิยมใส่มันหมูใน
ผัดเผ็ด ต่อมาคนจีนได้ปรับปรุงสูตรโดยการนำเนื้อมาผัดกับเต้าเจีย
้ วดำกับ
กระเทียม ใส่พริก ใส่ใบกะเพรา นำมาโปะข้าวพร้อมไข่ดาวบนข้าวร้อนๆ
ภายหลังคนไทยก็ได้นำสูตรมาทำเองเลยตัดการใส่เต้าเจีย
้ วออกไป

นอกจากนีย
้ ังมีการสันนิษฐานอื่น ๆ อีก บ้างก็ว่า ผัดกะเพราน่าจะเกิด
ขึน
้ ราวสมัยรัชกาลที่ 7 เพราะคนจีนนำเอามาขายในร้านอาหารตามสั่ง โดย
ดัดแปลงจากอาหารไทย หรือตามที่คุณรงค์ วงษ์สวรรค์ ได้กล่าวไว้ว่าผัด
กะเพราเกิดจากนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งได้แวะกินอาหารในร้านอาหารที่บาง
แสนกลางดึก เจ้าของร้านบอกว่าไม่เหลือวัตถุดิบอะไรให้ทำแล้ว แต่ด้วย
ความหิว นักท่องเที่ยวก็รบเร้าพ่อครัวให้ทำให้ได้ พ่อครัวจึงโมโห เดินเข้า
ครัวหยิบเนื้ออะไรได้ก็โยนลงกระทะผัดกับใบกะเพราแบบขอไปที คิดว่านัก
ท่องเที่ยวจะต้องไม่พอใจกับอาหารที่ได้รับแน่ ๆ แต่ผลกลับไม่เป็ นไปตามที่
คิดไว้ เพราะลูกค้ากลับติดใจในรสชาติอาหารอย่างแรง และนั่นจึงเป็ นที่มา
ของผัดกะเพราที่เรารู้จักกันครับ

จากการหาข้อมูลทัง้ หมด ก็เลยสรุปไม่ได้ว่าใครเป็ นผู้คิดค้นผัดกะเพรา

เป็ นคนแรก แต่ข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดก็คือ ผัดกะเพรามีที่มาจากคนจีน
เนื่องจากในทุกวันนีท
้ ี่เมืองจีนทางตอนใต้ ยังมีการกินผัดกะเพรา (แต่ใส่
เต้าเจีย
้ ว) กันอยู่อย่างแพร่หลายครับ เรื่องที่ผมจะพูดทัง้ หมดก็มีเท่านีค
้ รับ
ขอบคุณครับ