You are on page 1of 44

ตารางวิเคราะห์ ข้อสอบมาตรฐานชั้นปี วิชา วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1

ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6
มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ.
ข้ อ ว 1.1 ว 2.1 ว 2.2 ว 3.1 ว 3.2 ว 5.1 ว 6.1 ว 7.1 ว 7.2
1 2 3 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 1 1
1 
2 
3 
4 
5 
6 

1
7 
8 
9 
10 
11 
12 
13 
14 
15 
16 
17 
18 
ตารางวิเคราะห์ ข้อสอบมาตรฐานชั้นปี วิชา วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1
ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6
มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ.
ข้ อ ว 1.1 ว 2.1 ว 2.2 ว 3.1 ว 3.2 ว 5.1 ว 6.1 ว 7.1 ว 7.2
1 2 3 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 1 1
19 
20 
21 
22 
23 
24 

2
25 
26 
27 
28 
29 
30 
31 
32 
33 
34 
35 
36 
ตารางวิเคราะห์ ข้อสอบมาตรฐานชั้นปี วิชา วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1
ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6
มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ.
ข้ อ ว 1.1 ว 2.1 ว 2.2 ว 3.1 ว 3.2 ว 5.1 ว 6.1 ว 7.1 ว 7.2
1 2 3 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 1 1
37 
38 
39 
40 
41 
42 

3
43 
44 
45 
46 
47 
48 
49 
50 

หมายเหตุ : มฐ. ว 8.1 ป.6/1-8 ประเมินในระหว่างการเรี ยนการสอน


ข้อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุดที่ 1 กลุ่มสาระ วิทยาศาสตร์
วิชา วิทยาศาสตร์ ป. 6 จานวน 50 ข้อ

ให้ กาเครื่ องหมาย  ทับตัวอักษรหน้าคาตอบที่ถูกต้อง


1. ข้อใดเรี ยงลาดับการเจริ ญเติบโตของมนุษย์ตามช่วงวัยได้ถูกต้อง
ก. วัยแรกเกิด  วัยทารก  วัยเด็ก  วัยผูใ้ หญ่
ข. วัยแรกเกิด  วัยเด็ก  วัยเรี ยน  วัยผูใ้ หญ่
ค. วัยแรกเกิด  วัยเด็ก  วัยรุ่ น  วัยผูใ้ หญ่
ง. วัยทารก  วัยเรี ยน  วัยรุ่ น  วัยผูใ้ หญ่
2. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการเจริ ญเติบโตของคน
ก. ระยะก่อนเกิดจะมีพฒั นาการเร็ วกว่าช่วงวัยอื่นๆ
ข. วัยเด็กช่วงก่อนวัยเรี ยนจะเริ่ มมีฟันแท้งอกขึ้นมา
ค. ช่วงวัยรุ่ นเป็ นช่วงที่มีพฒั นาการทางเพศอย่างชัดเจน
ง. วัยผูใ้ หญ่ช่วงวัยกลางคนเป็ นช่วงที่ร่างกายเริ่ มมีการเสื่ อมถอย
3. อาหารในข้อใดต่อไปนี้ให้สารอาหารเหมือนกัน
ก. ถัว่ ลิสงต้ม – นมสด
ข. ขนมปัง – ไข่ดาว
ค. ข้าวเหนียว – หมูปิ้ง
ง. ไก่ทอด – มันฝรั่งทอด
4. เราควรเลือกกินอาหารในข้อใดต่อไปนี้ เพื่อให้ได้รบั สารอาหารชนิดต่างๆ ที่มีประโยชน์
ต่อร่ างกายมากที่สุด
ก. ขนมปัง ไข่ดาว นมสด
ข. ข้าว ไข่ตม้ มันเชื่อม
ค. ข้าว ไก่ทอด ถัว่ เขียวต้มน้ าตาล
ง. ข้าว น้ าพริ กปลาทู มะเขือชุบไข่ทอด

4
อ่ านข้ อมูลในตาราง แล้วตอบคาถาม ข้ อ 5
ตารางแสดงพลังงานจากอาหารที่ควรได้ รับใน 1 วัน

เพศ อายุ (ปี ) พลังงาน (กิโลแคลอรี)


10 - 12 1,850
ชาย 13 - 15 2,300
16 - 19 2,400
10 - 12 1,700
หญิง 13 - 15 2,000
16 - 19 1,850

5. ใน 1 วัน ด.ญ. นีรา อายุ 14 ปี ได้รับพลังงานจากการรับประทานอาหารมื้อเช้า


700 กิโลแคลอรี มื้อกลางวัน 800 กิโลแคลอรี มื้อเย็น 515 กิโลแคลอรี
ด.ญ. นีราได้รับพลังงานในปริ มาณมากหรื อน้อยกว่าที่ควรได้รับเท่าไร
ก. มากกว่า 15 กิโลแคลอรี
ข. มากกว่า 20 กิโลแคลอรี
ค. น้อยกว่า 15 กิโลแคลอรี
ง. น้อยกว่า 20 กิโลแคลอรี
6. ความสัมพันธ์ระหว่างมดแดงกับเพลี้ยแป้งบนต้นส้มเป็ นแบบใด
ก. ภาวะปรสิต ข. ภาวะอิงอาศัย
ค. ภาวะพึ่งพากัน ง. ภาวะได้ประโยชน์ร่วมกัน
7. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับรู ปแบบความสัมพันธ์ของสิ่ งมีชีวิต
ก. สิงโตกับหมาไฮยีนา มีความสัมพันธ์กบั แบบภาวะอิงอาศัย
ข. ต้นฝอยทองกับต้นไม้ใหญ่ มีความสัมพันธ์กนั แบบภาวะปรสิ ต
ค. ปลาการ์ตูนกับดอกไม้ทะเล มีความสัมพันธ์กนั แบบภาวะพึ่งพากัน
ง. ต้นไม้ 2 ต้น ที่อยู่ในกระถางเดียวกัน มีความสัมพันธ์กนั แบบภาวะแข่งขัน

5
ใช้ ข้อมูลในแผนภาพตอบคาถาม ข้อ 8 – 9

นก
แมลง
พืช หนอน
หมาจิง้ จอก
กระต่ าย
เหยี่ยว
หอยทาก

8. จากแผนภาพ ผูบ้ ริ โภคในข้อใดกินอาหารได้หลายชนิด


ก. หมาจิ้งจอก ข. เหยี่ยว
ค. นก ง. แมลง
9. จากแผนภาพ เมื่อสิ่ งมีชีวิตชนิดใดลดจานวนลง จะมีผลต่อการถ่ายทอดพลังงานมากที่สุด
ก. นก ข. กระต่าย
ค. หอยทาก ง. พืช
10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการปรับตัวของสิ่ งมีชีวิต
ก. อูฐมีขนตายาวจึงทาให้ทรายเข้าตาได้ยาก
ข. ตะบองเพชรมีรากแผ่กระจายเพื่อให้ดูดซึมน้ าได้มาก
ค. โกงกางมีรากอากาศเพื่อช่วยพยุงลาต้นไม่ให้โค่นล้มได้ง่าย
ง. แมวน้ ามีรูปร่ างและลาตัวเพรี ยวเพื่อให้ว่ายน้ าได้คล่องแคล่ว
11. แหล่งทรัพยากรธรรมชาติในข้อใดต่อไปนี้ ไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้ในเวลา 1 ชัว่ อายุของคนเรา
ก. ดิน น้ า ข. แร่ ธาตุ ถ่านหิ น
ค. น้ ามันดิบ ป่ าไม้ ง. แก๊สธรรมชาติ สัตว์ป่า
12. ข้อใดกล่าวถูกต้อง หากโลกยังมีการเพิ่มของประชากรมนุษย์อย่างไม่หยุดยั้ง
ก. มีการนาทรัพยากรธรรมชาติมาใช้เพิ่มมากขึ้น
ข. เกิดปัญหาสิ่ งแวดล้อมเพิ่มขึ้น
ค. พื้นที่ป่าไม้ถูกทาลายมากขึ้น
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

6
13. การเกิดสึ นามิ มีผลกระทบต่อสิ่ งแวดล้อมอย่างไร
ก. เกิดความเสี ยหายของปะการังบริ เวณน้ าตื้น
ข. ดินบริ เวณภูเขาถล่มลงมาพังทับอาคารบ้านเรื อน
ค. เกิดความร้อนสู งทาให้พืชและสัตว์ในบริ เวณนั้นตาย
ง. อาคารบ้านเรื อนพังถล่มจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก
14. การกระทาในข้อใดที่แสดงว่ามีการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ก. กาจัดขยะทุกวันด้วยการเผา
ข. ปลูกต้นไม้ทดแทนต้นไม้ที่ตดั ไป
ค. ใช้ยาฆ่าแมลงฉีดพ่นผลผลิตเพียงเล็กน้อย
ง. ใช้รถจักรยานยนต์แทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล
15. นักเรี ยนสามารถมีส่วนร่ วมในการดูแลรักษาแหล่งน้ าในชุมชนได้ตามข้อใด
ก. ขุดบ่อเก็บกักน้ าไว้รอบบริ เวณบ้าน
ข. ขยายพันธุ์สัตว์น้ าให้มากขึ้น
ค. กาจัดสิ่ งปฏิกูลในแหล่งน้ า
ง. ปลูกพืชรอบๆ แหล่งน้ า
16. ข้อใดกล่าวถึงสมบัติของของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ไม่ ถูกต้ อง
ก. ของแข็งมีรูปร่ างแน่นอน มีปริ มาตรคงที่ อนุภาคมีการจับตัวกันแน่ น
ข. ของเหลวมีรูปร่ างไม่แน่นอน มีปริ มาตรคงที่ อนุภาคสามารถเคลื่อนที่ได้
ค. แก๊สมีรูปร่ างไม่แน่นอน มีปริ มาตรคงที่ อนุภาคเคลื่อนที่ได้มากที่สุด
ง. ของเหลวและแก๊สมีรูปร่ างไม่แน่นอน และมีการจับตัวของอนุภาคแตกต่างกัน
17. ข้อใดต่อไปนี้ไม่จดั อยู่ในสถานะของแข็ง ของเหลว หรื อแก๊ส
ก. ขนนก เสียงเพลง
ข. แสงแดด แรงแม่เหล็ก
ค. ไอน้ า แก๊สออกซิเจน
ง. ควันรถ ก้อนเมฆ

7
18. แบลคจาแนกสารตามตาราง

กลุ่มของสาร ชนิดของสาร
A แอลกอฮอล์ เบนซิน น้ าเชื่อม
B ไฮโดรเจน ออกซิเจน มีเทน
C น้ าตาล ถ่านไม้ ผงชูรส

อยากทราบว่า แบลคใช้เกณฑ์ใดในการจาแนกสาร
ก. การใช้ประโยชน์ ข. การทาละลาย
ค. การติดไฟ ง. สถานะ
19. ถ้าจาแนกสารโดยใช้สมบัติการนาไฟฟ้าเป็ นเกณฑ์ สารใดต่อไปนี้จะอยู่ในกลุ่ม
ก. น้ ากลัน่ ข. น้ ามะนาว
ค. พลาสติก ง. น้ าตาล
20. ในชัง่ โมงวิทยาศาสตร์ ครู เตรี ยมของผสมชนิดหนึ่งประกอบด้วย เกลือ ผงถ่าน
และผงตะไบเหล็ก มาให้นกั เรี ยนทาการแยกสารโดยแยกเฉพาะเกลือ นักเรี ยนจะใช้วิธีใด
ก. ละลายน้ า  กรอง  ต้มจนแห้ง
ข. ละลายน้ า  กรอง  ใช้แม่เหล็กดูด
ค. ใช้แม่เหล็กดูด  ละลายน้ า  กรอง
ง. ใช้แม่เหล็กดูด  ละลายน้ า  ต้มจนแห้ง
21. ของผสมในข้อใดต่อไปนี้ใช้วิธีแยกสารด้วยวิธีเดียวกัน
ก. สาคูถวั่ ดา แป้งทาขนม
ข. ทรายก่อสร้าง แป้งทาขนม
ค. พิมเสนกับพริ กไทยป่ น น้ าอบ
ง. น้ าเกลือ ทรายกับผงตะไบเหล็ก
22. เครื่ องดื่มโคลามีสมบัติเป็ นกรด ข้อใดไม่ ถูกต้ อง
ก. มีรสเปรี้ ยว
ข. ไม่ละลายเกลือ
ค. หยดลงบนชอล์กแล้วเกิดฟองแก๊ส
ง. เปลี่ยนสี กระดาษลิตมัสจากสี น้ าเงินเป็ นสี แดง

8
23. ข้อใดจาแนกสารตามการใช้ประโยชน์ได้ถูกต้อง
ก. น้ ายาล้างห้องน้ า น้ ายาฟอกขาว ตะไคร้หอมกันยุง น้ าใบเตย
ข. ซอสปรุ งรส น้ านมแมว สารกันบูด สบู่กอ้ น
ค. สี ผสมอาหาร ผงชูรส ยากันยุง น้ าตาลทราย
ง. ยาสี ฟัน น้ ายาล้างจาน ผงซักฟอก สบู่เหลว
24. ข้อใดเป็ นหลักการเลือกซื้อยาสี ฟันผสมฟลูออไรด์ที่ถูกต้องและปลอดภัย
ก. มีเนื้อสารเป็ นเนื้อเดียวกัน บรรจุภณ
ั ฑ์ไม่มีรอยบุบ ระบุวนั ผลิต
ข. มีฉลาก ระบุผผู้ ลิต วันผลิต วันหมดอายุ และมี อย.
ค. มีบรรจุภณ ั ฑ์สวยงาม มีการโฆษณา ระบุแหล่งผลิต
ง. มี อย. คนนิยมใช้ ระบุแหล่งผลิต
25.
สถบดีทาการทดลองโดยสังเกตลักษณะของเทียนไข จากนั้นจุดเทียนไขแล้วเอียงเทียนไข
เขาสังเกตเห็นของเหลวสี เหลืองใส เมื่อดับไฟทิ้งไว้สักครู่ ของเหลวสี เหลืองใสมีการ
เปลี่ยนแปลงไป

จากข้อมูล ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถึงการเปลี่ยนสถานะของสารได้ถูกต้อง
ก. ของแข็ง  แก๊ส  ของเหลว
ข. ของแข็ง  ของเหลว  แก๊ส
ค. ของแข็ง  ของเหลว  ของแข็ง
ง. ของแข็ง  ของเหลวใส  ของเหลวขุ่น
26. ข้อใดกล่าวถึงสารละลายไม่ถูกต้อง
ก. ไม่ทาให้เกิดสารชนิดใหม่
ข. ประกอบด้วยตัวทาละลาย และตัวละลาย
ค. ตัวละลายจะมีปริ มาณมากกว่าตัวทาละลาย
ง. สมบัติของสารไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

9
ใช้ ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคาถาม ข้อ 27 – 28

ในชัว่ โมงวิทยาศาสตร์ ครู ให้นกั เรี ยนทดลองผสมสารแต่ละคู่เข้าด้วยกัน


แล้วดูการเปลี่ยนแปลง
1. ผงตะไบเหล็กกับน้ าอัดลม 2. น้ าส้มสายชูกบั ผงฟู
3. น้ ามะนาวกับหิ นปูน 4. น้ าขี้เถ้ากับน้ าสบู่

27. สารในข้อใดต่อไปนี้เมื่อผสมกันแล้วเกิดปฏิกิริยาเคมีทาให้เกิดสารใหม่
ก. 1, 2 ข. 2, 4
ค. 3, 4 ง. 4, 1
28. สารในข้อใดต่อไปนี้เมื่อผสมกันแล้วไม่ทาให้เกิดสารใหม่
ก. 1, 2, 3 ข. 2, 3, 4
ค. 1, 3, 4 ง. 4
29. กรดมักกัดกร่ อนโลหะละลายได้ อาหารหรื อเครื่ องดื่มในข้อใดมีโอกาสพบโลหะอันตราย
มากที่สุด ถ้ามีปริ มาตรเท่ากันและอยู่ในภาชนะขนาดเท่ากัน
ก. พริ กน้ าส้มในถ้วยอะลูมิเนียม
ข. แกงส้มในหม้อสเตนเลส
ค. น้ าส้มคั้นในแก้ว
ง. โค้กบรรจุกระป๋ อง
30. การเปลี่ยนแปลงในข้อใดเป็ นการเปลี่ยนแปลงสถานะ และทาให้เกิดโทษต่อสิ่ งมีชีวิต
ก. การเกิดฝนกรดในเขตอุตสาหกรรม
ข. การตากผ้าที่เปี ยกชื้นไว้กลางแดด
ค. การใช้ปยเคมี ุ๋ ใส่บารุ งต้นไม้
ง. การเกิดพายุลูกเห็บ
31. ถ้าต้องการต่อวงจรไฟฟ้าให้มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จะต้องจัดสิ่ งใดให้แตกต่ างกัน
ก. จานวนเซลล์ไฟฟ้า
ข. ขนาดของหลอดไฟ
ค. ความยาวของตัวนา
ง. เวลาในการใช้เซลล์ไฟฟ้า

10
32. แผนภาพวงจรไฟฟ้าในข้อใดแสดงทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าถูกต้อง
( แทนทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้า)
ก.

ข.

ค.

ง.

11
33.

ในการทดลองนาวัสดุ A ไปต่อวงจรไฟฟ้า พบว่า หลอดไฟสว่าง และเมื่อนา


วัสดุ A ไปลนไฟจนร้อน แล้วนามาต่อกับวงจรไฟฟ้าอีกครั้ง พบว่า หลอดไฟ
สว่างมากขึ้น แล้วจึงค่อยๆ หรี่ ลง

ข้อใดสรุ ปผลที่ได้จากการทดลองได้ถูกต้อง
ก. วัสดุ A เป็ นตัวนาไฟฟ้าที่ดี
ข. วัสดุ A เป็ นฉนวนไฟฟ้าเมื่ออุณหภูมิลดลง
ค. วัสดุ A เป็ นฉนวนไฟฟ้าเมื่อถูกลนไฟจนร้อน
ง. วัสดุ A เป็ นตัวนาไฟฟ้าที่ดีเมื่อมีอุณหภูมิสูงขึ้น
34. จากตาราง สารใดนาไฟฟ้าได้ดที ี่สุด ณ อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส

สารขนาดเดียวกัน ความต้ านทาน (โอห์ ม)


ก. นิโครม 109
ข. ทองเหลือง 7.5
ค. เหล็กกล้า 20
ง. แมงกานีส 48

12
35.
A
B
จากแผนภาพวงจรไฟฟ้า
สัญลักษณ์ใดแทนแหล่งกาเนิดไฟฟ้า

D C

ก. A ข. B
ค. C ง. D
36. แผนภาพวงจรไฟฟ้าในข้อใดแสดงการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม
ก.

ข.

ค.

ง.

13
37. การต่อวงจรไฟฟ้าตามแผนภาพในข้อใด ถ้าหลอด A ไส้หลอดขาด หลอดที่เหลือยังคงสว่างอยู่
ก.

ข.

ค.
A

ง.
A

14
38. การต่อเซลล์ไฟฟ้าในไฟฉายโดยนาถ่านไฟฉายมาต่อเรี ยงกัน 2 ก้อน สามารถเขียนเป็ นแผนภาพ
วงจรไฟฟ้าได้ตามข้อใด
ก.

ข.

ค.

ง.

39. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับอานาจแม่เหล็กไฟฟ้า
ก. จานวนรอบของขดลวดที่พนั รอบแกนเหล็กมีผลต่ออานาจแม่เหล็กไฟฟ้า
ข. ปริ มาณกระแสไฟฟ้าที่ผ่านเข้าไปในขดลวดมีผลต่ออานาจแม่เหล็กไฟฟ้า
ค. ถ้าเพิ่มทั้งจานวนรอบขดลวดที่พนั รอบแกนเหล็ก และเพิ่มทั้งปริ มาณกระแสไฟที่ผ่านเข้าไป
ในขดลวด ยิ่งมีผลทาให้แม่เหล็กไฟฟ้ามีอานาจมากยิ่งขึ้น
ง. ถูกทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมา

15
40. ข้อใดไม่ได้ใช้ประโยชน์จากแรงแม่เหล็กไฟฟ้า
ก. พัดลม ข. เครื่ องซักผ้า
ค. หลอดไฟ ง. กริ่ งไฟฟ้า
41. ถ้าได้รับมอบหมายให้ไปสารวจลักษณะของหิ นในท้องถิ่น นักเรี ยนจะดาเนินการด้วยวิธีการใด
เป็ นอันดับแรก
ก. สังเกตลักษณะของหิน
ข. รวบรวมตัวอย่างหินพร้อมกับชื่อของหิ น
ค. แยกประเภทของหินโดยใช้ขนาดเป็ นเกณฑ์
ง. ออกแบบตารางสารวจและบันทึกลักษณะของหิ น
42. พัทธยาทากรดหยดลงบนพื้นห้อง ปรากฏว่าเกิดฟองแก๊ส แสดงว่าพื้นห้องทาด้วยหิ นชนิดใด
ก. หิ นอัคนี ข. หิ นแกรนิต
ค. หินอ่อน ง. สรุ ปไม่ได้
43. โขดหิ นบริ เวณชายฝั่งทะเลเกิดการผุกร่ อนพังทลาย เพราะสาเหตุใดมากที่สุด
ก. เกิดปฏิกิริยาเคมีกบั น้ าทะเล
ข. เกิดการขยายตัวจนแตกร้าว
ค. ถูกกระแสน้ ากัดเซาะ
ง. ถูกกระแสลมกัดเซาะ
44. การเกิดธรณีพิบตั ิภยั ในข้อใดที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน
ก. แผ่นดินไหวใต้ทะเล – สึนามิ
ข. น้ าป่ าไหลหลาก – โคลนถล่ม
ค. น้ าป่ าไหลหลาก – อุทกภัย
ง. สึนามิ – คลื่นพายุซัดฝั่ง
45. ในเวลาเที่ยงวันของวันหนึ่ง ปรมีรู้สึกว่าบรรยากาศมืดลงผิดปกติ เมื่อมองไปทีด่ วงอาทิตย์
พบเงามืดบนดวงอาทิตย์บางส่ วน เหตุการณ์ดงั กล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุขอ้ ใด
ก. เงาของดวงจันทร์บงั ดวงอาทิตย์
ข. เงาของดวงอาทิตย์บงั ดวงจันทร์
ค. เงาของโลกบังดวงจันทร์
ง. เงาของโลกบังดวงอาทิตย์

16
46. การเกิดอุปราคาขึ้นอยู่กบั สิ่ งใด
ก. ตาแหน่งของดาวเคราะห์ในระบบสุ ริยะ
ข. ความแปรปรวนของกลุ่มแก๊สในอวกาศ
ค. ตาแหน่งของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์
ง. ความแรงของลมสุริยะและแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์
47. ข้อใดไม่ใช่ ปัจจัยที่ทาให้เกิดฤดูกาลต่างๆ บนโลก
ก. แกนของโลกเอียงทามุมคงที่
ข. โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
ค. ดวงจันทร์โคจรรอบโลก
ง. โลกหมุนรอบตัวเอง
48. ในการส่งยานอวกาศหรื อดาวเทียมออกจากโลก จะต้องพบอุปสรรคที่สาคัญมากที่สุดคืออะไร
ก. แรงโน้มถ่วงของโลก
ข. ความร้อนจากดวงอาทิตย์
ค. ขนาดของยานอวกาศหรื อดาวเทียม
ง. การขาดแคลนเชื้อเพลิงที่ใช้ในยานอวกาศ
49. ความก้าวหน้าทางด้านใดที่ทาให้คนทัว่ โลกได้รับชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กได้พร้อมๆ กัน
ก. วิทยุสื่อสาร
ข. การคมนาคม
ค. เทคโนโลยีอวกาศ
ง. วิทยาศาสตร์การกีฬา
50. ดาวเทียมสารวจทรัพยากรของโลกมีคุณค่าสาหรับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดาวเทียมดังกล่าว
คือข้อใด
ก. ดาวเทียมไทยคม
ข. ดาวเทียมปาลาปา
ค. ดาวเทียม GMS
ง. ดาวเทียมแลนด์แซต



17
ตารางวิเคราะห์ ข้อสอบมาตรฐานชั้นปี วิชา วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 2
ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6
มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ.
ข้ อ ว 1.1 ว 2.1 ว 2.2 ว 3.1 ว 3.2 ว 5.1 ว 6.1 ว 7.1 ว 7.2
1 2 3 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 1 1
1 
2 
3 
4 
5 
6 

18
7 
8 
9 
10 
11 
12 
13 
14 
15 
16 
17 
18 
ตารางวิเคราะห์ ข้อสอบมาตรฐานชั้นปี วิชา วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 2
ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6
มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ.
ข้ อ ว 1.1 ว 2.1 ว 2.2 ว 3.1 ว 3.2 ว 5.1 ว 6.1 ว 7.1 ว 7.2
1 2 3 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 1 1
19 
20 
21 
22 
23 
24 

19
25 
26 
27 
28 
29 
30 
31 
32 
33 
34 
35 
36 
ตารางวิเคราะห์ ข้อสอบมาตรฐานชั้นปี วิชา วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 2
ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6
มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ. มฐ.
ข้ อ ว 1.1 ว 2.1 ว 2.2 ว 3.1 ว 3.2 ว 5.1 ว 6.1 ว 7.1 ว 7.2
1 2 3 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 1 2 3 1 2 3 4 5 1 2 3 1 1
37 
38 
39 
40 
41 
42 

20
43 
44 
45 
46 
47 
48 
49 
50 

หมายเหตุ : มฐ. ว 8.1 ป.6/1-8 ประเมินในระหว่างการเรี ยนการสอน


ข้อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุดที่ 2 กลุ่มสาระ วิทยาศาสตร์
วิชา วิทยาศาสตร์ ป. 6 จานวน 50 ข้อ

ให้ กาเครื่ องหมาย  ทับตัวอักษรหน้าคาตอบที่ถูกต้อง


1.
ธนดลเริ่ มมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ไหล่กว้าง เริ่ มมีหนวดขึ้นเล็กน้อย ใบหน้ามีสิวขึ้น เสี ยงเริ่ ม
แตก ในปี นี้ความสู งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว

จากข้อมูล ธนดลอยู่ในวัยใด
ก. วัยก่อนวัยเรี ยน ข. วัยรุ่ น
ค. วัยหนุ่มสาว ง. วัยผูใ้ หญ่
2. ส่ วนใดของอวัยวะต่อไปนี้ มีการย่อยอาหารแต่ไม่ดูดซึม
ก. กระเพาะอาหาร ข. ลาไส้เล็ก
ค. ลาไส้ใหญ่ ง. ตับ
3. ข้อใดกล่าวถึงการทางานของระบบอวัยวะในร่ างกายไม่ ถูกต้ อง
ก. สารอาหารจากระบบย่อยอาหาร  ระบบไหลเวียนเลือด  สารอาหารไปยังส่วนต่างๆ ของร่ างกาย

ข. แก๊สออกซิเจนจากระบบหายใจ  ระบบไหลเวียนเลือด  แก๊สออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่ างกาย

ค. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากระบบหายใจ  ปอด  แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกนอกร่ างกาย

ง. กากอาหารจากระบบย่อยอาหาร  ระบบขับถ่าย  ขับอุจจาระออกนอกร่ างกาย

4. ถ้านักเรี ยนมีอาการโรคปากนกกระจอกบ่อยๆ นักเรี ยนควรเลือกรับประทานอาหารในข้อใด


มากที่สุด

อาหารปริมาณ 100 กรัม ปริมาณวิตามินบี 2


ก. เห็ดฟาง 0.33 มิลลิกรัม
ข. นมสด 0.16 มิลลิกรัม
ค. ไข่ไก่ 0.40 มิลลิกรัม
ง. ตับไก่ 1.32 มิลลิกรัม

21
ใช้ ข้อมูลในตาราง แล้วตอบคาถาม ข้ อ 5
ตารางแสดงพลังงานจากอาหารที่ควรได้ รับใน 1 วัน

เพศ อายุ (ปี ) พลังงาน (กิโลแคลอรี)


10 - 12 1,850
ชาย 13 - 15 2,300
16 - 19 2,400
10 - 12 1,700
หญิง 13 - 15 2,000
16 - 19 1,850

5. ถ้า ด.ช. นนนที อายุ 12 ปี ว่ายน้ าท่ากบเป็ นเวลา 30 นาที ต้องใช้พลังงาน 210 กิโลแคลอรี
กับ ด.ญ. ไปรดา อายุ 13 ปี ว่ายน้ าท่ากบเป็ นเวลา 30 นาที ต้องใช้พลังงาน 210 กิโลแคลอรี
ใน 1 วัน ใครต้องการพลังงานมากกว่าหรื อน้อยกว่ากันเท่าไร
ก. นนนทีตอ้ งการปริ มาณพลังงานมากกว่า 50 กิโลแคลอรี
ข. นนนทีตอ้ งการปริ มาณพลังงานน้อยกว่า 150 กิโลแคลอรี
ค. ไปรดาต้องการปริ มาณพลังงานน้อยกว่า 150 กิโลแคลอรี
ง. ทั้งสองคนต้องการปริ มาณพลังงานเท่ากัน คือ 2,060 กิโลแคลอรี
6. การอยู่ร่วมกันของสิ่ งมีชีวิตคู่ใดที่สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดสามารถแยกไปดารงชีวิตได้เองตามลาพัง
ก. ไลเคน ข. โพรโตซัวในลาไส้ปลวก
ค. มดดากับเพลี้ยอ่อน ง. ต่อไทรกับลูกไทร
7.
(1) เหาฉลามกับปลาฉลาม (2) แมงมุมกับไส้เดือนดิน
(3) ปลาเสื อตอกับตัก๊ แตน (4) พลูด่างกับต้นไม้ใหญ่
(5) หมาไฮยีนากับสิงโต (6) กาฝากกับต้นไทร

จากข้อมูล สิ่ งมีชีวิตคู่ใดบ้างที่มีความสัมพันธ์กนั ในแง่บวกกับศูนย์


ก. (1), (2), (3) ข. (1), (4), (5)
ค. (3), (4), (6) ง. (2), (5), (6)

22
8. จากสิ่ งมีชีวิตที่กาหนด ให้เรี ยงลาดับสิ่ งมีชีวิตในโซ่อาหาร
งู หนอน ต้นไม้ เหยี่ยว นก
ให้ถูกต้อง
ก. ต้นไม้  หนอน  งู  นก  เหยี่ยว
ข. เหยี่ยว  นก  งู  หนอน  ต้นไม้
ค. หนอน  นก  งู  ต้นไม้  เหยี่ยว
ง. ต้นไม้  หนอน  นก  งู  เหยี่ยว
9.
3
1 2 5
4
จากแผนภาพ สายใยอาหาร หากอยู่ในภาวะสมดุล สิ่ งมีชีวติ หมายเลขใดจะมีปริ มาณมากที่สุด
ก. ข.
1 3

ค. ง.
4 5

10. ต้นตะบองเพชรมีการปรับโครงสร้างโดยเปลี่ยนใบเป็ นหนามเพื่ออะไร


ก. ลดการแลกเปลี่ยนแก๊สภายในเซลล์
ข. ช่วยเพิ่มอุณหภูมภิ ายในลาต้น
ค. ดักแมลงเป็ นอาหาร
ง. ลดการคายน้ า
11. คุณภาพของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในข้อใดที่มีผลกระทบต่อการดารงชีวิตของคนในท้องถิ่น
มากที่สุด
ก. อากาศ ข. ป่ าไม้
ค. ดิน ง. แหล่งน้ า

23
12. การเพิ่มขึ้นของจานวนประชากรขึ้นอยู่กบั ปัจจัยในข้อใด
ก. การศึกษาที่ทนั สมัย
ข. การแพทย์ที่กา้ วหน้า
ค. การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
ง. ถูกทั้งข้อ ข และ ค
13. ข้อใดมีผลที่ทาให้เกิดภาวะโลกร้อน
ก. การคายน้ าของต้นไม้
ข. การหายใจของคนและสัตว์
ค. กระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช
ง. การเผาไหม้เชื้อเพลิงของโรงงานอุตสาหกรรม
14. การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติวิธีใดที่เป็ นการอนุรักษ์อย่างยัง่ ยืน
ก. สร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรให้กบั คนในชุมชน
ข. จัดหน่วยเฝ้าระวังทรัพยากรธรรมชาติ
ค. ปลูกต้นไม้ทดแทนที่สูญเสียไป
ง. เพิ่มโทษแก่ผูก้ ระทาความผิด
15. ใครไม่มีส่วนร่ วมในการดูแลรักษาสิ่ งแวดล้อมในท้องถิ่น
ก. นัทใช้ปยชี ุ๋ วภาพรดต้นไม้
ข. จอยแยกประเภทขยะก่อนทิ้ง
ค. ฮูกข้ามถนนโดยใช้สะพานลอย
ง. โต้งขี่รถจักรยานแทนการขับรถยนต์
16. น้ าในสถานะที่เป็ นของแข็ง ของเหลว และแก๊ส มีสิ่งใดที่แตกต่ างกัน
ก. การเคลื่อนที่ของอนุภาค
ข. การเรี ยงตัวของอนุภาค
ค. การถ่ายเทของอนุภาค
ง. การไหลของอนุภาค
17. สารชนิดใดต่อไปนี้เมื่อใส่ ลงในภาชนะและปิ ดฝาภาชนะ สารนี้จะฟุ้งกระจายจนเต็มภาชนะนั้น
ก. มีเทน ข. โยเกิร์ต
ค. น้ าผึ้ง ง. ฝุ่นละออง

24
18. สารในข้อใดเรี ยงลาดับตามสถานะของแข็ง ของเหลว และแก๊ส
ก. ผงฟู น้ าปูนใส ขี้เถ้า
ข. การบูร พิมเสน ยากันยุง
ค. ลูกเหม็น น้ านมแมว ควันรถ
ง. น้ าตาลทราย น้ าเกลือ น้ าแข็งแห้ง
19. ถ้าหากจาแนกสารโดยใช้สมบัติการระเหิ ดเป็ นเกณฑ์ ข้อใดจาแนกสารไม่ ถูกต้ อง
ก. พิมเสน เกล็ดไอโอดีน ข. น้ าแข็งแห้ง เกลือแกง
ค. การบูร พิมเสน ง. ลูกเหม็น น้ าแข็งแห้ง
20. สารในข้อใดที่ใช้วิธีแยกสารโดยการกรองได้
ก. น้ าคลอง ข. น้ าเชื่อม
ค. น้ าเกลือ ง. น้ าอบ
21. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการแยกสาร

ก. ของแข็ง + ของแข็ง  ใช้ตะแกรงร่ อน  ของแข็งอนุภาคเล็ก ของแข็งอนุภาคใหญ่

ข. ของแข็งแขวนลอย + ของเหลว  ใช้กรวยกรอง  ของแข็ง ของเหลวใส

ค. ของแข็งระเหิดได้ + ของแข็งระเหิ ดไม่ได้ ของแข็ง


 ใช้ความร้อนทาให้ระเหิ ด 
ที่ระเหิ ดไม่ได้

ง. ของแข็งที่ละลายได้ + ของเหลว  ใช้ความร้อนทาให้ระเหยแห้ง  ของแข็ง

22. ถ้าจาแนกสารโดยใช้การใช้ประโยชน์เป็ นเกณฑ์ ข้อใดจาแนกสารได้ถูกต้อง


ก. น้ ามะนาว น้ ามะขาม น้ ายาล้างห้องน้ า
ข. ยาสีฟัน ผงซักฟอก ยากันยุง
ค. น้ าตาล น้ าใบเตย ซอสมะเขือเทศ
ง. น้ ายาปรับผ้านุ่ม สบู่กอ้ น น้ าปูนใส

25
23. อนนต์จาแนกสารได้ดงั นี้ นา้ มะขาม นา้ สับปะรด ซอสมะเขือเทศ ข้อใดไม่ ใช่ สมบัติของสาร
กลุ่มนี้
ก. มีรสเปรี้ ยว
ข. มีฤทธิ์กดั กร่ อน
ค. เปลี่ยนสี กระดาษลิตมัสสี แดงเป็ นสี น้ าเงิน
ง. ไม่มีขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง
24. หากภาชนะบรรจุสารที่นกั เรี ยนหยิบมาใช้มีสัญลักษณ์รูป “หัวกะโหลก” หมายความว่าอย่างไร
ก. เป็ นสารพิษ ห้ามซื้อขาย
ข. เป็ นสารพิษ ห้ามนามาใช้
ค. เป็ นสารพิษ ห้ามรับประทาน
ง. เป็ นสารพิษ ห้ามมีไว้ในบ้าน
25. สารในข้อใดเมื่อนามาผสมกันจะเกิดการละลาย
ก. น้ า + ผงถ่าน
ข. น้ า + ทราย
ค. น้ า + เกลือแกง
ง. น้ า + พริ กไทยป่ น
26. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานะของน้ า
ก. น้ าเมื่อคายความร้อนจะเปลี่ยนสถานะเป็ นไอน้ า
ข. น้ าแข็งเมื่อได้รับความร้อนจะระเหยกลายเป็ นไอน้ า
ค. น้ าแข็งเมื่อคายความร้อนจะหลอมเหลวกลายเป็ นน้ า
ง. ไอน้ าเมื่อคายความร้อนจะควบแน่ นกลายเป็ นหยดน้ า
27. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
ก. การเกิดสนิมเหล็ก ข. การทาน้ าเชื่อม
ค. การสุกของผลไม้ ง. การเผากระดาษ
28. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ก. มีสารใหม่เกิดขึ้น
ข. สารยังคงแสดงสมบัติเดิม
ค. เกิดจากสารตั้งแต่ 2 ชนิด ทาปฏิกิริยากัน
ง. ไม่สามารถเปลี่ยนสารให้กลับสู่ สภาพเดิมได้

26
29. ข้อใดเป็ นประโยชน์จากการละลายของสาร
ก. การละลายตัวยารักษาโรค
ข. การทาให้อาหารสุก
ค. การทาไอศกรี ม
ง. การทาน้ าแข็ง
30. ข้อใดเป็ นโทษจากการเกิดปฏิกิริยาเคมีของสาร
ก. การเกิดฝนกรด
ข. การเกิดสนิมเหล็ก
ค. การเกิดพายุลูกเห็บ
ง. น้ าแข็งขั้วโลกละลาย
ใช้ แผนภาพวงจรไฟฟ้า ตอบคาถาม ข้อ 31 – 32
A
B

D C

31. หมายถึงสิ่ งใด


ก. มอเตอร์ ข. หลอดไฟ
ค. ออดไฟฟ้า ง. พัดลม
32. หากสัญลักษณ์ C ในแผนภาพเป็ นสัญลักษณ์น้ ี ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. เป็ นวงจรปิ ด
ข. กระแสไฟฟ้าเดินทางได้ครบวงจร
ค. อุปกรณ์ไฟฟ้าไม่สามารถทางานได้
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.

27
33.

วัสดุในข้อใด เมื่อนามาต่อเข้ากับวงจรในตาแหน่ง A แล้วทาให้หลอดไฟสว่าง


ก. หนังยาง ข. เชือกฟาง
ค. กระดาษฟอยล์ ง. หลอดดูด
34. จากคาตอบข้อ 33 วัสดุชนิดนั้นมีสมบัติอย่างไร
ก. มีความต้านทานกระแสไฟฟ้าต่า
ข. กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ยาก
ค. ไม่นาไฟฟ้า
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
35. ข้อใดต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมได้ถูกต้อง
ก.
- + - + + -
ข.
+ - + - - +
ค.
- + - + - +
ง.
- + + - - +

28
ใช้ แผนภาพวงจรไฟฟ้า ตอบคาถามข้อ 36 - 37

(1) (2)

(3) (4)

36. หากจะต่อวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน นักเรี ยนจะเลือกต่อวงจรตามภาพใด เพราะอะไร


ก. ภาพที่ (1) เพราะการต่อหลอดไฟฟ้าลักษณะนี้ หลอดไฟฟ้าจะสว่างน้อยกว่า จึงช่วย
ประหยัดไฟฟ้า
ข. ภาพที่ (2) เพราะการต่อหลอดไฟฟ้าลักษณะนี้ หลอดไฟฟ้าจะสว่างมากกว่า จึงเหมาะกับ
การต่อภายในบ้าน
ค. ภาพที่ (3) เพราะการต่อหลอดไฟฟ้าลักษณะนี้ ช่วยยืดอายุการทางานของหลอดไฟ
ง. ภาพที่ (4) เพราะการต่อหลอดไฟฟ้าลักษณะนี้ เมื่อหลอดใดหลอดหนึ่งขาด หลอดที่เหลือ
ยังคงสว่างอยู่
37. การต่อวงจรไฟฟ้าตามแบบภาพใดบ้าง เมื่อหลอดไฟหลอดหนึ่งชารุ ด หลอดที่เหลือ
จะไม่สามารถทางานได้
ก. (1), (2), (3) ข. (2), (3), (4)
ค. (1), (2), (4) ง. (4), (3), (1)
38. จานวนรอบของขดลวดทองแดงที่พนั รอบตะปูของแม่เหล็กไฟฟ้าในข้อใด ที่ทาให้แม่เหล็กไฟฟ้า
มีแรงแม่เหล็กมากที่สุด
ก. 30 รอบ ข. 40 รอบ
ค. 50 รอบ ง. 60 รอบ

29
39. นนท์ทดลองนาขดลวดทองแดงพันรอบตะปู แล้วต่อเข้ากับวงจรไฟฟ้า แล้วนาไปเข้าใกล้
เข็มหมุด ผลการทดลองเป็ น ดังนี้

ครั้งที่ จานวนของขดลวดทองแดงที่พันรอบตะปู (รอบ) จานวนเข็มหมุดที่ตะปูดูดได้ (ตัว)


1 10 9
2 20 20
3 30 29
4 40 A

จากข้อมูล A น่าจะเป็ นจานวนเท่าใด


ก. มากกว่าครั้งที่ 1 และ 2
ข. มากกว่า 29 ตัว
ค. มากกว่า 50 ตัว
ง. สรุ ปไม่ได้
40. จากภาพ รถไฟในข้อใดแล่นด้วยแรงแม่เหล็กไฟฟ้า
ก. ข.

ค. ง.

41. หากใช้การเกิดของหินเป็ นเกณฑ์ในการจาแนกหิ น หิ นในข้อใดจัดอยู่ในกลุ่มหิ นหลอมละลาย


(หิ นหนืด) ที่เย็นตัวลงบนเปลือกโลก
ก. หินแกรนิต ข. หิ นไดออไรต์
ค. หินพัมมิซ ง. หิ นทราย

30
42. หากพบหิ นที่มีร่องรอยของฟอสซิ ลปรากฏอยู่ ควรสันนิ ษฐานว่าหิ นชนิดนั้นเป็ นหิ นชนิดใด
ก. หินอ่อน ข. หิ นตะกอน
ค. หินแกรนิต ง. หิ นไนส์
43. การตรวจพบซากฟอสซิลในหินมีประโยชน์อย่างไร
ก. ใช้เป็ นแนวทางศึกษาแร่ ธาตุในหิ น
ข. ใช้พฒั นาเชื้อเพลิงจากซากฟอสซิ ล
ค. ใช้เป็ นแนวทางศึกษาสิ่ งมีชีวิตในอดีต
ง. ใช้ทานายลักษณะของสิ่ งมีชีวิตในอนาคต
44. สาเหตุใดทีท่ าให้หินเกิดการเปลี่ยนแปลงรู ปร่ างได้เร็ วที่สุด
ก. การขยายตัวของหิ นจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
ข. การซัดสาดของคลื่นผ่านหิน
ค. การเติบโตของต้นไม้บนหิน
ง. การระเบิดหิน
45.
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศประจาวันที่ 10 พ.ค. 2555 ว่ามรสุ มตะวันตก-
เฉี ยงใต้กาลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ทาให้ทวั่ ทุกภาคของประเทศ
มีฝนน้อยลง แต่ประชาชนในพื้นที่เสี่ ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ าไหลผ่านยังคงต้อง
ระวังอันตรายจากฝนตกสะสมบริ เวณเทือกเขา ซึ่งอาจจะทาให้เกิด .....

หากนักเรี ยนอาศัยอยู่ในบริ เวณที่ลาดเชิงเขา ในระยะนี้ควรระมัดระวังภัยธรรมชาติต่อไปนี้


ยกเว้นข้อใด
ก. น้ าท่วมฉับพลัน ข. น้ าป่ าไหลหลาก
ค. โคลนถล่ม ง. แผ่นดินไหว
46. แผนภาพลาดับการเกิดข้างขึ้นข้างแรม เป็ นดังนี้

จากแผนภาพ ลักษณะของดวงจันทร์ในช่อง ควรเป็ นดังข้อใด

ก. ข. ค. ง.

31
47. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการเกิดจันทรุ ปราคา
ก. เกิดในช่วงเวลากลางคืนของวันขึ้น 15 ค่า
ข. เงาของโลกบังดวงจันทร์ ทาให้คนบนโลกมองเห็นดวงจันทร์มืดไปชัว่ ขณะ
ค. โลกโคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันกับดวงอาทิตย์ โดยดวงจันทร์อยู่ระหว่าง
ดวงอาทิตย์กบั โลก
ง. ตาแหน่งของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ เป็ นปัจจัยสาคัญที่ทาให้เกิดจันทรุ ปราคา
48. ในการขึ้นสู่ อวกาศของมนุษย์ เพราะเหตุใดจึงต้องสวมชุดป้องกันและรักษาระดับความดัน
เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับอันตราย
ก. ในอวกาศได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์มากกว่าพื้นโลก
ข. ในอวกาศอาจมีเชื้อโรคที่ไม่เคยพบบนโลกมนุษย์
ค. ในอวกาศมีสภาพเป็ นสุญญากาศ
ง. ในอวกาศไม่มีแรงโน้มถ่วง
49. ข้อใดไม่ใช่ ประโยชน์ของดาวเทียม
ก. การสื่อสาร
ข. การสารวจทรัพยากร
ค. การพยากรณ์สภาพภูมิอากาศ
ง. การนาอุปกรณ์ออกไปสารวจอวกาศ
50. ข้อใดไม่ตอ้ งพึ่งพาประโยชน์ของดาวเทียม
ก. การใช้โทรศัพท์สาธารณะพูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัด
ข. การค้นหาบริ เวณต้นกาเนิดของไฟป่ าในส่ วนต่างๆ ของโลก
ค. การถ่ายทอดสดสัญญาณภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกไปยังประเทศต่างๆ
ง. การประมาณขนาดของพายุเฮอริ เคนที่กาลังก่อตัวในบริ เวณมหาสมุทรแอตแลนติก



32
เฉลยข้ อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุดที่ 1

1. ค 2. ข 3. ก 4. ง 5. ก
6. ง 7. ค 8. ค 9. ง 10. ค
11. ข 12. ง 13. ก 14. ข 15. ค
16. ค 17. ข 18. ง 19. ข 20. ก
21. ข 22. ก 23. ง 24. ข 25. ค
26. ค 27. ก 28. ง 29. ก 30. ง
31. ก 32. ง 33. ง 34. ข 35. ก
36. ก 37. ค 38. ค 39. ง 40. ค
41. ง 42. ค 43. ค 44. ง 45. ก
46. ค 47. ค 48. ก 49. ค 50. ง

เฉลยข้ อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุดที่ 2

1. ข 2. ก 3. ค 4. ง 5. ข
6. ค 7. ข 8. ง 9. ก 10. ง
11. ก 12. ง 13. ง 14. ง 15. ค
16. ข 17. ก 18. ค 19. ข 20. ง
21. ข 22. ค 23. ค 24. ค 25. ค
26. ง 27. ข 28. ข 29. ก 30. ข
31. ข 32. ง 33. ค 34. ก 35. ค
36. ง 37. ก 38. ง 39. ข 40. ก
41. ค 42. ข 43. ค 44. ง 45. ง
46. ข 47. ค 48. ค 49. ง 50. ก

33
เฉลยข้อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุดที่ 1
เฉลยอย่างละเอียด
1. ตอบ ค เพราะการเจริ ญเติบโตของมนุษย์ แบ่งเป็ น 4 ช่วงวัย ดังนี้
1) วัยทารก (วัยแรกเกิด) แรกเกิด ถึง 1 ปี
2) วัยเด็ก แบ่งเป็ น 2 ช่วง คือ วัยก่อนวัยเรี ยน อายุ 1 - 6 ปี
วัยเรี ยน อายุ 6 - 12 ปี
3) วัยรุ่น อายุ 13 - 19 ปี
4) วัยผู้ใหญ่ แบ่งเป็ น 3 ช่วง คือ วัยหนุ่มสาว อายุ 20 - 39 ปี
วัยกลางคน อายุ 40 - 59 ปี
วัยชรา อายุ 60 ปี ขึ้นไป
2. ตอบ ข เพราะฟันแท้ของคนเราจะเริ่ มงอกเมื่ออายุประมาณ 6 ปี ซึ่งอยู่ในช่วงวัยเรี ยน
3. ตอบ ก เพราะถัว่ ลิสงกับนมสดให้สารอาหารโปรตีนเหมือนกัน
ข. ขนมปัง – ให้คาร์โบไฮเดรต / ไข่ดาว – ให้โปรตีน
ค. ข้าวเหนียว – ให้คาร์โบไฮเดรต / หมูปิ้ง – ให้โปรตีน
ง. ไก่ทอด – ให้โปรตีน ไขมัน / มันฝรั่งทอด – ให้คาร์โบไฮเดรต ไขมัน
4. ตอบ ง เพราะให้สารอาหารครบทุกประเภท ข้าว – คาร์โบไฮเดรต ปลาทู – โปรตีน
น้ าพริ ก – วิตามันและเกลือแร่ มะเขือชุบไข่ทอด – วิตามิน เกลือแร่ โปรตีน ไขมัน
5. ตอบ ก เพราะใน 1 วัน นีราต้องการพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี เธอรับประทานอาหาร
3 มื้อ ได้รับพลังงาน 700 + 800 + 515 = 2,015 กิโลแคลอรี แสดงว่าเธอได้รับ
พลังงานในปริ มาณที่มากกว่าร่ างกายต้องการ 15 กิโลแคลอรี
6. ตอบ ง เพราะมดแดงจะพาเพลี้ยแป้งไปยังพื้นที่หาอาหารและคอยป้องกันอันตรายไม่ให้ศตั รู
มาทาร้ายเพลี้ยแป้ง ส่ วนเพลี้ยแป้งจะปล่อยหยดน้ าหวานออกมาให้มดแดงเป็ นอาหาร
7. ตอบ ค เพราะปลาการ์ตูนมีความสัมพันธ์กบั ดอกไม้ทะเลแบบภาวะได้ประโยชน์ร่วมกัน
โดยปลาการ์ตูนอาศัยหลบภัยในดอกไม้ทะเล ขณะเดียวกันก็คอยปกป้องดอกไม้ทะเล
จากปลาบางชนิดที่กินดอกไม้ทะเลเป็ นอาหาร ความสัมพันธ์น้ ีเป็ นความสัมพันธ์
ที่อยู่ร่วมกันชัว่ ขณะหนึ่ง เมื่อแยกจากกันแล้วทั้งปลาการ์ตูนและดอกไม้ทะเล
ก็ยงั สามารถดารงชีวิตอยู่ได้ ส่ วนความสัมพันธ์แบบภาวะพึ่งพากัน เป็ นความสัมพันธ์
ระหว่างสิ่ งมีชีวิต 2 ชนิด ที่ตอ้ งอาศัยอยู่ร่วมกันตลอดชีวิต ไม่สามารถแยกจากกันได้
8. ตอบ ค เพราะจากแผนภาพนกกินพืช หนอน และแมลง เป็ นอาหาร

34
9. ตอบ ง เพราะพืชเป็ นผูผ้ ลิตอาหารในโซ่อาหาร ซึ่งมีปริ มาณมากที่สุด และเป็ นจุดเริ่ มต้น
ของการถ่ายทอดพลังงานในโซ่ อาหาร
10. ตอบ ค เพราะโกงกางเป็ นพืชที่ข้ นึ อยู่บริ เวณป่ าชายเลน จึงมีรากค้ าจุนเพื่อป้องกันไม่ให้
โค่นล้มง่ายเมื่อมีน้ าทะเลขึ้น – ลง
11. ตอบ ข เพราะดิน แร่ ธาตุ ถ่านหิ น น้ ามันดิบ และแก๊สธรรมชาติ เป็ นทรัพยากรธรรมชาติ
ที่ใช้เวลายาวนานหลายล้านปี จึงจะเกิดขึ้นได้
12. ตอบ ง เพราะเมื่อประชากรเพิ่มขึ้นย่อมต้องมีการนาทรัพยากรธรรมชาติมาใช้เพิ่มขึ้น
เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ รวมทั้งการใช้พ้นื ที่ป่าไม้เพื่อนาไปสร้าง
พื้นที่ทากิน ดังนั้นจึงเกิดปัญหาสิ่ งแวดล้อมตามมา
13. ตอบ ก เพราะสึ นามิเป็ นคลื่นขนาดใหญ่ที่เคลื่อนที่เข้าหาชายฝั่งอย่างรวดเร็ว จึงทาให้เกิด
ความเสี ยหายต่อสิ่ งต่างๆ ที่อยู่บริ เวณชายทะเลน้ าตื้น และพื้นที่ที่อยู่บริ เวณ
ชายฝั่งทะเล เช่น ทาให้ปะการังใต้น้ าเกิดความเสี ยหาย แนวชายหาดเกิดการ
เปลี่ยนแปลง อาคารบ้านเรื อนและสิ่ งต่างๆ ที่อยู่ใกล้แนวชายฝั่งเกิดความเสี ยหาย
14. ตอบ ข เพราะการปลูกต้นไม้ช่วยทาให้อากาศชุ่มชื้น ฝนตกตามฤดูกาล ส่ งผลให้เกิด
ความสมดุลของสภาพอากาศ ส่ วนข้อ ก, ค, ง ทาให้เกิดมลพิษ
15. ตอบ ค เพราะการช่วยกาจัดสิ่ งปฏิกูลในแหล่งน้ าจะช่วยทาให้แหล่งน้ าในชุมชนสะอาด
ซึ่งนับเป็ นสิ่ งที่เด็กในวัยนักเรี ยนสามารถทาได้
16. ตอบ ค เพราะที่ถูกต้อง คือ แก๊สมีรูปร่ างไม่แน่นอน มีปริ มาตรไม่คงที่ และอนุภาคเคลื่อนที่
มากที่สุด ดังนั้น แก๊สจึงฟุ้งกระจายเต็มภาชนะที่บรรจุ
17. ตอบ ข เพราะของแข็ง ของเหลว และแก๊ส จัดเป็ นสสารที่มีมวล มีน้ าหนัก และต้องการ
ที่อยู่ แต่แสงแดดและแรงแม่เหล็กจัดเป็ นพลังงาน จึงไม่มีสมบัติดงั ที่กล่าวมา
18. ตอบ ง เพราะกลุ่ม A เป็ นสารที่เป็ นของเหลว กลุ่ม B เป็ นสารที่เป็ นแก๊ส กลุ่ม C เป็ นสาร
ที่เป็ นของแข็ง จึงกล่าวได้ว่า ใช้สถานะเป็ นเกณฑ์ในการจาแนกสาร
19. ตอบ ข เพราะน้ ามะนาวเป็ นสารอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งสามารถแตกตัวเป็ นประจุบวกและประจุ
ลบได้ จึงสามารถนาไฟฟ้าได้
20. ตอบ ก เพราะเมื่อนาของผสมมาละลายน้ า เกลือจะละลายน้ า ส่ วนผงถ่านและผงตะไบเหล็ก
ไม่ละลายน้ า จากนั้นจึงใช้กระดาษกรองเอาผงถ่านและผงตะไบเหล็กออก
เหลือน้ าเกลือจึงนาไประเหยแห้งจนเหลือแต่เกลือ

35
21. ตอบ ข เพราะใช้วิธีร่อน
ส่ วน ข้อ ก. สาคูถวั่ ดา – ตักออก แป้งทาขนม – ร่ อน
ข้อ ค. พิมเสนกับพริ กไทยป่ น – ทาให้ระเหิด น้ าอบ – กรอง
ข้อ ง. น้ าเกลือ – ระเหยแห้ง ทรายกับผงตะไบเหล็ก – ใช้แม่เหล็กดูด
22. ตอบ ก เพราะโคลาเป็ นสารละลายกรด แต่ไม่มีรสเปรี้ ยว เนื่องจากประกอบด้วยน้ ากับน้ าตาล
เป็ นส่วนใหญ่
23. ตอบ ง เพราะยาสี ฟัน น้ ายาล้างจาน ผงซักฟอก และสบู่เหลว เป็ นสารทาความสะอาด
ทั้งหมด
24. ตอบ ข เพราะยาสี ฟันผสมฟลูออไรด์ เป็ นเครื่ องสาอางควบคุมพิเศษ จึงต้องยื่นขึ้นทะเบียน
ตารับเครื่ องสาอางต่อสานักคณะกรรมการอาหารและยาก่อนการผลิตหรื อนาเข้า
จึงต้องมีเครื่ องหมาย อย. กากับ นอกจากนี้ควรพิจารณาฉลากผลิตภัณฑ์ซ่ ึงควรระบุ
ชื่อผูผ้ ลิต วันผลิต และวันหมดอายุ
25. ตอบ ค เพราะเทียนไขเป็ นของแข็ง เมื่อถูกความร้อนจะหลอมเหลวเป็ นของเหลว
และเมื่อคายความร้อนจะเปลี่ยนกลับเป็ นของแข็ง
26. ตอบ ค เพราะสารละลายประกอบด้วยตัวทาละลายและตัวละลาย ซึ่งตัวทาละลายจะมีปริ มาณ
มากกว่าตัวละลายเสมอ
27. ตอบ ก เพราะผงตะไบเหล็กกับน้ าอัดลม ทาปฏิกิริยาเคมีทาให้เกิดเกลือและแก๊สไฮโดรเจน
น้ าส้มสายชูกบั ผงฟู ทาปฏิกิริยาเคมีทาให้เกิดเกลือและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
น้ ามะนาวกับหิ นปูน ทาปฏิกิริยาเคมีทาให้เกิดเกลือและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ส่ วนน้ าขี้เถ้าเป็ นเบสไม่ทาปฏิกิริยาเคมีกบั สบู่
ดังนั้นสารที่ทาปฏิกิริยากัน ได้แก่ ข้อ 1, 2 และ 3 เท่านั้น
28. ตอบ ง ดูเฉลย ข้อ 27
29. ตอบ ก เพราะน้ าส้มสายชูเป็ นกรดจะกัดกร่ อนโลหะอะลูมิเนียม ทาให้เกิดอันตราย
ต่อผูบ้ ริ โภคได้มากกว่าข้ออื่นๆ
30. ตอบ ง เพราะ ข้อ ก. และ ค. เป็ นการละลาย ข. เป็ นการเปลี่ยนสถานะ และมีประโยชน์
ส่วน ข้อ ง. เป็ นการเปลี่ยนสถานะ และพายุลูกเห็บสามารถสร้างความเสี ยหายให้กบั
สิ่ งมีชีวิตต่างๆ ได้ เช่น ทาให้ตน้ ไม้หักเสี ยหาย ร่ างกายคนได้รับบาดเจ็บ
31. ตอบ ก เพราะการนาเซลล์ไฟฟ้าหลายๆ เซลล์มาต่อเข้าด้วยกันจะทาให้แรงเคลื่อนที่ไฟฟ้า
เพิ่มขึ้น

36
32. ตอบ ง เพราะทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าจะไหลออกจากขั้วบวก (ขีดยาว) ผ่านสายไฟ
ไปยังหลอดไฟ ( ) และผ่านจากหลอดไฟกลับเข้ามายังขั้วลบ (ขีดสั้น) หลอดไฟ
จึงทางานได้ เพราะกระแสไฟฟ้าเดินทางครบวงจร เรี ยกว่า วงจรปิ ด ซึ่งเขียนแสดง
ได้ดงั ข้อ ง.
33. ตอบ ง เพราะเมื่อวัสดุ A มีอุณหภูมเิ พิ่มขึ้น เมื่อนามาต่อเข้ากับวงจรไฟฟ้า ทาให้หลอดไฟ
สว่างมากขึ้น จึงสรุ ปได้ว่า วัสดุ A เป็ นตัวนาไฟฟ้าทีด่ ีเมือ่ มีอุณหภูมิสูงขึ้น
34. ตอบ ข เพราะสารที่นาไฟฟ้าได้ดีจะต้องมีความต้านทานไฟฟ้าต่า ดังนั้นจากข้อมูลที่กาหนด
ทองเหลืองมีความต้านทานไฟฟ้าต่าที่สุด จึงสามารถนาไฟฟ้าได้ดีที่สุด
35. ตอบ ก เพราะ เป็ นสัญลักษณ์แทนเซลล์ไฟฟ้า ซึ่งเป็ นแหล่งกาเนิดไฟฟ้า
36. ตอบ ก เพราะการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมเป็ นการนาเซลล์ไฟฟ้าหลายๆ เซลล์มาเรี ยงต่อกัน
โดยนาขั้วบวกของเซลล์ไฟฟ้าแต่ละเซลล์มาต่อเข้ากับขั้วลบของเซลล์ไฟฟ้าแต่ละเซลล์
ซึ่งเขียนแสดงได้ดงั นี้
37. ตอบ ค เพราะเป็ นการต่อหลอดไฟแบบขนาน โดยนาสายไฟมาต่อคร่ อมขั้วของหลอดไฟ
แต่ละดวง ซึ่งการต่อหลอดไฟลักษณะนี้เมื่อส่ วนใดส่ วนหนึ่งของวงจรชารุ ดไป
อุปกรณ์ไฟฟ้าส่วนอื่นยังสามารถใช้งานได้
38. ตอบ ค เพราะการต่อเซลล์ไฟฟ้าในไฟฉายเป็ นการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม เขียนแสดงได้
ดังนี้
39. ตอบ ง เพราะอานาจแม่เหล็กไฟฟ้าจะมากหรื อน้อยขึ้นอยู่กบั
1. จานวนรอบของขดลวดทีพ่ ันรอบแกนเหล็ก ถ้าจานวนขอบของขดลวดที่พนั รอบ
แกนเหล็กยิ่งมาก อานาจแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
2. ปริมาณกระแสไฟฟ้ าทีผ่ ่ านเข้ าไปในขดลวด ถ้าให้ปริ มาณกระแสไฟฟ้าผ่านเข้าใน
ขดลวดมาก อานาจแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
40. ตอบ ค เพราะหลอดไฟไม่ได้มมี อเตอร์เป็ นส่ วนประกอบ และไม่ได้ทางานโดยใช้แรง
แม่เหล็กไฟฟ้า
41. ตอบ ง เพราะควรออกแบบตารางสารวจและบันทึกลักษณะของหิ นก่อน เพื่อจะได้ทราบว่า
ต้องการข้อมูลลักษณะใด และสามารถเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน
42. ตอบ ค เพราะหินอ่อนเป็ นหินแปรชนิดหนึ่ง จึงทาปฏิกิริยากับกรด
43. ตอบ ค เพราะโขดหิ นบริ เวณชายฝั่งทะเลจะถูกคลื่นซัดกระทบอยู่ตลอดเวลา จึงทาให้เกิด
การผุกร่ อนพังทลายได้

37
44. ตอบ ง เพราะสึนามิเกิดจากแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่ใต้ทะเลลึก
ส่ วนคลื่นพายุซัดฝั่ง คือ ปรากฏการณ์คลื่นที่เกิดขึ้นพร้อมกับพายุหมุนโซนร้อน
ที่เคลื่อนตัวเข้าหาฝั่ง
45. ตอบ ก เพราะการเกิดสุริยุปราคาเกิดจากโลกและดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน
กับดวงอาทิตย์ โดยมีดวงจันทร์อยู่ระหว่างดวงอาทิตย์กบั โลก ทาให้เงาของดวงจันทร์
ไปปรากฏบนโลก คนบนโลกที่อยู่บริ เวณเงาของดวงจันทร์จะมองเห็นดวงอาทิตย์
มืดลงไปชัว่ ขณะหนึ่ง
46. ตอบ ค เพราะการเกิดอุปราคา เกิดจากความสัมพันธ์ของตาแหน่งของดวงอาทิตย์ โลก
และดวงจันทร์
47. ตอบ ค เพราะการเกิดฤดูกาลเกิดจากการที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ในขณะเดียวกัน
โลกหมุนรอบตัวเองในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา โดยมีแกนของโลกเอียงทามุมคงที่
ตลอดเวลา ทาให้บริ เวณต่างๆ ของโลกได้รับแสงสว่างและความร้อนจากดวงอาทิตย์
ไม่เท่ากัน ทาให้เกิดฤดูกาลต่างๆ สลับกันไปมาระหว่างซีกโลกเหนือและซี กโลกใต้
48. ตอบ ก เพราะโลกมีแรงดึงดูดหรื อแรงโน้มถ่วงซึ่งจะดึงดูดวัตถุทุกชนิดให้ตกลงมาที่พ้นื โลก
ดังนั้นในการส่ งยานอวกาศหรื อดาวเทียมออกจากโลก จึงต้องออกแรงมหาศาล
ที่จะเอาชนะแรงนี้ จึงจะขึ้นไปโคจรรอบโลกได้
49. ตอบ ค เพราะการถ่ายทอดกีฬาข้ามประเทศจะต้องใช้ดาวเทียมในการถ่ายทอดสัญญาณ
โทรทัศน์ ซึ่งดาวเทียมเป็ นเทคโนโลยีอวกาศอย่างหนึ่ง
50. ตอบ ง เพราะดาวเทียมแลนด์แซต เป็ นดาวเทียมสหรัฐอเมริ กา เพื่อใช้ในการสารวจ
ทรัพยากรของโลก เช่น ใช้ในการทาแผนที่บริ เวณชายฝั่ง แยกความแตกต่างระหว่าง
ดินและพืชพรรณ ใช้ประเมินความแข็งแรงของพืช ใช้จาแนกชนิดของดิน เป็ นต้น
ดาวเทียม GMS เป็ นดาวเทียมของประเทศญี่ปนุ่ เพื่อสารวจด้านอุตุนิยมวิทยา
ดาวเทียมปาลาปา เป็ นดาวเทียมของอินโดนีเซีย เพื่อใช้ในการสื่ อสารภายในประเทศ
และให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเช่าเพื่อใช้ประโยชน์ในการสื่ อสารภายในประเทศนั้นๆ
ดาวเทียมไทยคม เป็ นดาวเทียมดวงแรกของไทย เพื่อใช้ในการสื่ อสาร



38
เฉลยข้อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุดที่ 2
เฉลยอย่างละเอียด
1. ตอบ ข เพราะวัยรุ่ นเป็ นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่ างกายอย่างชัดเจน เช่น ผูช้ ายเริ่ มมี
หนวดเคราขึ้น ไหล่กว้าง กล้ามเนื้อแข็งแรง มีขนเริ่ มขึ้นตามรักแร้และอวัยวะเพศ
2. ตอบ ก เพราะกระเพาะอาหารมีหน้าที่ย่อยอาหารประเภทโปรตีน และส่ งผ่านไปยังลาไส้เล็ก
เพื่อย่อยต่อจึงไม่มีการดูดซึมสารอาหาร ส่ วนลาไส้เล็กย่อยอาหารทุกประเภทให้มี
ขนาดเล็กจนสามารถดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ กระแสเลือดได้ ส่ วนลาไส้ใหญ่และตับ
ไม่ได้มีหน้าที่ย่อยอาหาร
3. ตอบ ค เพราะที่ถูกต้อง คือ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากกระแสเลือดซึมเข้าสู่ ถุงลมปอด
อากาศไหลออกจากปอดผ่านทางท่อลม และเป็ นลมหายใจออกผ่านออกทางจมูก
4. ตอบ ง เพราะโรคปากนกกระจอกมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินบี 2 ดังนั้นหากมีอาการ
โรคปากนกกระจอกบ่อยๆ ควรกินอาหารที่มีวิตามินบี 2 มากๆ ซึ่งจากข้อมูลควรเลือก
กินตับไก่ เพราะมีวติ ามินบี 2 มากที่สุด
5. ตอบ ข เพราะนนนทีตอ้ งการพลังงานใน 1 วัน 1,850 กิโลแคลอรี และต้องการพลังงาน
เพื่อใช้ว่ายน้ าท่ากบอีก 210 กิโลแคลอรี ดังนั้นเขาจึงต้องการพลังงานทั้งหมด
1,850 + 210 = 2,060 กิโลแคลอรี
ส่วนไปรดาต้องการพลังงานใน 1 วัน 2,000 กิโลแคลอรี และต้องการพลังงาน
เพื่อใช้ว่ายน้ าท่ากบอีก 210 กิโลแคลอรี ดังนั้นเธอจึงต้องการพลังงานทั้งหมด
2,000 + 210 = 2,210 กิโลแคลอรี
สรุ ปได้ว่า นนนทีตอ้ งการพลังงานน้อยกว่าไปรดา 150 กิโลแคลอรี
6. ตอบ ค เพราะมดดากับเพลี้ยอ่อนมีความสัมพันธ์กันแบบภาวะได้ประโยชน์ร่วมกัน
ซึ่งสิ่ งมีชีวิตทั้ง 2 ชนิดนี้ เมื่อแยกออกจากกันก็สามารถดารงชีวิตอยู่ได้
ส่วน ข้อ ก, ข, ง สิ่ งมีชีวิตมีความสัมพันธ์กนั แบบภาวะพึ่งพากัน ซึ่งต้องดารงชีวิต
อยู่ร่วมกันตลอดชีวิต ไม่สามารถแยกจากกันได้
7. ตอบ ข เพราะเหาฉลามกับปลาฉลาม พลูด่างกับต้นไม้ใหญ่ และหมาไฮยีนากับสิ งโต
มีความสัมพันธ์กนั แบบภาวะอิงอาศัย โดยเหาฉลาม พลูด่าง และหมาไฮยีนา
ต่างได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์ จึงถือเป็ น (+) ส่ วนปลาฉลาม ต้นไม้ใหญ่
และสิงโต ต่างก็ไม่ได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์ แต่ก็ไม่ได้เสี ยประโยชน์อะไร
จึงถือเป็ น (0)

39
ส่วนแมงมุมกับไส้เดือน เป็ นความสัมพันธ์แบบภาวะเป็ นกลาง (ศูนย์กบั ศูนย์)
ปลาเสื อตอกับตัก๊ แตน เป็ นความสัมพันธ์แบบภาวะล่าเหยื่อ (บวกกับลบ)
กาฝากกับต้นไทร เป็ นความสัมพันธ์แบบภาวะปรสิต (บวกกับลบ)
8. ตอบ ง เพราะเรี ยงลาดับสิ่ งมีชีวิตในโซ่อาหารได้ถูกต้อง โดยเริ่ มจากผูผ้ ลิตอยู่ขา้ งหน้า
และผูบ้ ริ โภคอยู่ขา้ งหลังต่อกันไปเรื่ อยๆ และเขียนลูกศรแทนการถ่ายทอดพลังงาน
จากสิ่ งมีชีวิตหนึ่งไปยังสิ่ งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่ง โดยให้หัวลูกศรชี้ไปทางผูบ้ ริ โภคเสมอ
9. ตอบ ก เพราะการถ่ายทอดพลังงานในโซ่อาหารอาจแสดงในลักษณะของพีระมิดสามเหลี่ยม
ของสิ่ งมีชีวิต ซึ่งโดยทัว่ ไปพีระมิดจะมีฐานกว้าง หมายถึง มีจานวนผูผ้ ลิตมากที่สุด
และจานวนผูบ้ ริ โภคลาดับต่างๆ ลดลงมา
10. ตอบ ง เพราะตะบองเพชรเป็ นพืชที่ข้ นึ บริ เวณที่แห้งแล้ง ดังนั้นจึงมีการปรับเปลี่ยนใบ
ให้เล็กลงจนมีลกั ษณะเป็ นหนามแหลมเพื่อลดการคายน้ า
11. ตอบ ก เพราะอากาศมีความจาเป็ นต่อการดารงชีวิตของมนุษย์ หากขาดอากาศเพียงไม่กี่นาที
คนเราจะตายในที่สุด หรื อหากคุณภาพของอากาศไม่ดี เช่น มีควันพิษเจือปน
ก็จะมีผลต่อสุ ขภาพของคนในท้องถิ่น
12. ตอบ ง เพราะเทคโนโลยีใหม่ๆ และการแพทย์ที่กา้ วหน้า ช่วยทาให้คนมีสุขภาพดี และมีอายุ
ยืนยาวขึ้น
13. ตอบ ง เพราะการเผาไหม้เชื้อเพลิงของโรงงานอุตสาหกรรม ทาให้เกิดแก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็ นสาเหตุหนึ่งที่ทาให้เกิดภาวะโลกร้อน
14. ตอบ ก เพราะการสร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรให้กบั คนในชุมชน
จะช่วยให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสาคัญของทรัพยากรธรรมชาติว่ามีความสัมพันธ์
กับสิ่ งแวดล้อม และมีประโยชน์ต่อการดารงชีวิตของคนเราอย่างมาก โดยช่วยกัน
เฝ้าระวังดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้ถูกทาลาย
15. ตอบ ค เพราะจอย นัท และโต้ง ทุกคนได้มีส่วนร่ วมในการดูแลรักษาสิ่ งแวดล้อมในท้องถิ่น
ยกเว้นฮูกที่ไม่มีส่วนร่ วมในการดูแลรักษาสิ่ งแวดล้อมในท้องถิน่
16. ตอบ ข เพราะน้ าเมื่ออยู่ในสถานะที่ต่างกันก็จะมีการเรี ยงตัวของอนุภาคที่ต่างกันด้วย
คือ ถ้าอยู่ในสถานะของแข็งจะมีการจัดเรี ยงตัวของอนุภาคที่จบั ตัวกันแน่น
จนไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ถ้าอยู่ในสถานะของเหลวจะมีอนุ ภาคจับตัวกันอย่าง
หลวมๆ มีช่องว่าง สามารถเคลื่อนที่ได้ และถ้าอยู่ในสถานะแก๊ส การจัดเรี ยงตัว
ของอนุภาคจะอยู่ห่างกันมาก ทาให้เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ

40
17. ตอบ ก เพราะมีเทนเป็ นสารที่อยู่ในสถานะแก๊ส เมื่อบรรจุลงในภาชนะและปิ ดฝาภาชนะ
จะทาให้มีรูปร่ างตามภาชนะที่บรรจุ และมีปริ มาตรไม่คงที่ การจัดเรี ยงตัวของอนุภาค
ก็อยู่ห่างกันมาก ทาให้เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ดังนั้นจึงเกิดการฟุ้งกระจายของสาร
จนเต็มภาชนะ
18. ตอบ ค เพราะลูกเหม็นมีสถานะเป็ นของแข็ง น้ านมแมวมีสถานะเป็ นของเหลว
ส่ วนน้ าแข็งแห้งมีสถานะเป็ นแก๊ส
19. ตอบ ข เพราะการระเหิด คือ การที่สารเปลี่ยนสถานะจากของแข็งกลายเป็ นไอ โดยที่ไม่ผ่าน
สถานะของเหลว ซึ่งเกลือแกงเป็ นสารที่ไม่ระเหิ ด
20. ตอบ ง เพราะการกรองเป็ นวิธีที่ใช้แยกสารที่มีสถานะเป็ นของเหลวออกจากของแข็ง โดยสาร
ที่เป็ นของแข็งนั้นจะต้องไม่รวมตัวกับสารที่เป็ นของเหลว และในข้อนี้ น้ าอบก็เป็ น
สารที่ใช้วิธีการกรองในการแยกสารได้ ส่ วนน้ าคลอง น้ าเชื่อม และน้ าเกลือ
เป็ นสารเนื้อเดียว
21. ตอบ ข เพราะการใช้กรวยกรองจะไม่สามารถช่วยให้ของแข็งแขวนลอยแยกออกจาก
ของเหลวได้ เนื่องจากของแข็งแขวนลอยอาจรวมตัวเข้ากับของเหลว เมื่อใช้
กรวยกรองก็จะได้เป็ นของแข็ง และของเหลวที่มีลกั ษณะขุ่น ดังนั้นวิธีการแยกสาร
ที่ถูกต้อง คือ การใช้สารส้มทาให้ตกตะกอน โดยนาสารส้มไปแกว่งในสารผสมนั้น
เพื่อทาให้เกิดการตกตะกอน จะได้เป็ นของแข็งและของเหลวใส
22. ตอบ ค เพราะน้ าตาล น้ าใบเตย และซอสมะเขือเทศ จัดเป็ นสารประเภทเดียวกัน คือ
เป็ นสารปรุ งแต่งอาหาร
23. ตอบ ค เพราะสารที่กล่าวมานี้เป็ นสารที่มีสมบัติเป็ นกรด ซึ่งเป็ นสารที่เปลี่ยนสี กระดาษลิตมัส
จากสี น้ าเงินเป็ นสี แดงจึงจะถูกต้อง ซึ่งจะมีสมบัติ คือ มีรสเปรี้ ยว และมีฤทธิ์กดั กร่ อน
24. ตอบ ค เพราะสัญลักษณ์รูปหัวกะโหลกที่อยู่บนฉลากของสารนั้น มีความหมายว่าสารที่บรรจุ
ในภาชนะเป็ นสารพิษ ห้ามรับประทาน โดยจะมีขอ้ ความระบุไว้ว่าเป็ นสารอันตราย
25. ตอบ ค เพราะเกลือแกงมีสถานะเป็ นของแข็ง สามารถละลายน้ าได้ดี
26. ตอบ ง เพราะน้ ามีสถานะเป็ นของเหลว เมื่อได้รับความร้อนจะเกิดเป็ นไอน้ า ซึ่งมีสถานะ
เป็ นแก๊ส และเมื่อไอน้ าคายความร้อนจะเกิดการควบแน่นกลายเป็ นหยดน้ าที่มีสถานะ
เป็ นของเหลวดังเดิม
27. ตอบ ข เพราะการทาน้ าเชื่อมเป็ นการละลาย จึงไม่ได้เกิดเป็ นสารใหม่ที่มีสมบัติแตกต่างไป
จากเดิม

41
28. ตอบ ข เพราะการเกิดปฏิกิริยาเคมี เกิดจากการนาสารตั้งแต่ 2 ชนิด มาทาปฏิกิริยากัน
แล้วมีสารใหม่เกิดขึ้น โดยสารมีสมบัติแตกต่างไปจากเดิมและเป็ นสารที่ไม่สามารถ
เปลี่ยนให้กลับสู่ สภาพเดิมได้
29. ตอบ ก เพราะการละลายตัวยารักษาโรค สามารถนาประโยชน์ของการละลายมาใช้ในส่ วน
การแพทย์ที่ช่วยรักษาโรคได้ ส่ วนการทาไอศกรี มและการทาน้ าแข็ง เป็ นประโยชน์
จากการเปลี่ยนสถานะของสาร และการทาให้อาหารสุ กก็เป็ นประโยชน์จากการ
เกิดปฏิกิริยาเคมีของสาร
30. ตอบ ข เพราะการเกิดสนิมเหล็กเป็ นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อเหล็กสัมผัสกับน้ าและความชื้น
โดยจะค่อยๆ สึกกร่ อนกลายเป็ นเหล็กออกไซด์ หรื อที่เรี ยกว่า “สนิมเหล็ก”
ซึ่งทาให้โลหะผุกร่ อน
31. ตอบ ข เพราะจากสัญลักษณ์ A เป็ นสัญลักษณ์ของแหล่งกาเนิดไฟฟ้าหรื อถ่านไฟฉาย
ซึ่งต่อสายไฟ (สัญลักษณ์ B ) มายังหลอดไฟ (สัญลักษณ์ D )
และสัญลักษณ์ C คือ สวิตช์ไฟฟ้านัน่ เอง
32. ตอบ ง เพราะถ้าสัญลักษณ์ C ในแผนภาพเป็ นสัญลักษณ์ หลอดไฟจะสว่าง
เพราะไฟฟ้าเดินทางจากแหล่งกาเนิดไฟฟ้าได้ครบวงจร และเรี ยกวงจรไฟฟ้า
ลักษณะนี้ว่า วงจรปิ ด
33. ตอบ ค เพราะเมื่อนากระดาษฟอยล์ซ่ ึงมีสมบัติในการนาไฟฟ้ามาต่อเข้ากับวงจรในตาแหน่ง A
ทาให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านในวงจรได้ จึงทาให้หลอดไฟฟ้าสว่างได้ ส่ วนหนังยาง
เชือกฟาง หลอดดูด ไม่มีสมบัติในการนาไฟฟ้า
34. ตอบ ก เพราะกระดาษฟอยล์มีคุณสมบัติในการเป็ นตัวนาไฟฟ้าที่ดี จึงทาให้มีความต้านทาน
กระแสไฟฟ้าต่า ทาให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านในวงจรได้ดี จึงทาให้หลอดไฟฟ้า
สว่างได้
35. ตอบ ค เพราะการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม คือ การนาเอาเซลล์ไฟฟ้าหลายๆ เซลล์มาเรี ยง
ต่อกัน โดยนาขั้วของเซลล์ไฟฟ้าที่มีข้วั ต่างกันมาต่อเข้าด้วยกัน แล้วนาเอาขั้วที่เหลือ
ไปต่อเข้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้าส่ วนอื่นๆ เพื่อใช้งาน

42
36. ตอบ ง เพราะการต่อวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน เป็ นการต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน ซึ่งก็ตรงกับ
แผนภาพวงจรไฟฟ้าภาพที่ (4) จะเห็นว่าการต่อวงจรไฟฟ้าลักษณะนี้เกิดจากการต่อ
อุปกรณ์ไฟฟ้าตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป ให้ขนานกับแหล่งจ่ายไฟฟ้า มีผลให้ค่าของ
แรงดันไฟฟ้าตกคร่ อมอุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละตัวมีค่าเท่ากัน ส่ วนทิศทางการไหล
ของกระแสไฟฟ้าจะเกิดได้หลายทาง ดังนั้น เมื่อหลอดไฟหลอดใดหลอดหนึ่งขาด
หลอดที่เหลือก็ยงั คงสว่างอยู่
37. ตอบ ก เพราะภาพที่ (1), (2), (3) เป็ นแผนภาพวงจรไฟฟ้าที่มีการต่อแบบอนุกรม
โดยกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านมีค่าเท่ากันและมีทิศทางเดียวกันตลอดทั้งวงจร ถ้าหาก
มีหลอดไฟหลอดหนึ่งชารุ ด จะทาให้หลอดทีเ่ หลือไม่สามารถทางานได้
38. ตอบ ง เพราะจานวนรอบของขดลวดทองแดงที่เพิ่มขึ้น จะทาให้เกิดอานาจแม่เหล็กไฟฟ้า
มากขึ้นด้วย
39. ตอบ ข เพราะจานวนรอบของขดลวดทองแดงที่พนั รอบตะปูเพิ่มขึ้น จานวนเข็มหมุดที่ตะปู
ดูดไว้ก็จะต้องเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งจะต้องมากกว่า 29 ตัว
40. ตอบ ก เพราะจากภาพเป็ นรถไฟพลังแม่เหล็ก ที่ใช้ประโยชน์จากแม่เหล็กไฟฟ้า
โดยแรงแม่เหล็กไฟฟ้าทาให้ตวั รถไฟลอยขึ้นเหนือราง เมื่อรถไฟเคลื่อนที่
ล้อของรถไฟจะไม่ติดกับรางรถไฟและไม่เกิดแรงเสี ยดทาน ช่วยให้การเดินทาง
สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
41. ตอบ ค เพราะหินพัมมิซเป็ นหินที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ เกิดจากการหลอมละลาย
ของแมกมาพุ่งขึ้นมาแข็งตัวอยู่บนผิวโลก เรี ยกว่า ลาวา เมื่อลาวาเย็นตัวลงอย่าง
รวดเร็วทาให้เนื้อหิ นเป็ นรู พรุ น ทาให้หินชนิดนี้มีน้ าหนักเบาและสามารถลอยน้ าได้
42. ตอบ ข เพราะหิ นตะกอนเป็ นหิ นที่เกิดจากตะกอนของสิ่ งมีชีวิตหรื อเศษหิ นต่างๆ ที่ผุกร่ อน
ถูกพัดพามาโดยลม น้ า หรื อธารน้ าแข็ง แล้วสะสมและทับถมอัดกันแน่ น มักจะมี
ซากพืชหรื อซากสัตว์ที่กลายเป็ นหิ น เรี ยกว่า ฟอสซิล ฝังอยู่ดว้ ยเสมอ
43. ตอบ ค เพราะสามารถใช้เป็ นแนวทางในการศึกษาสิ่ งมีชีวิตในอดีต และศึกษาถึงวิวฒั นาการ
ของสิ่ งมีชีวิตชนิดต่างๆ โดยใช้เป็ นตัวกาหนดอายุของหิ นและใช้เป็ นหลักฐานในการ
หาความสัมพันธ์ของชั้นหิ นในบริ เวณต่างๆ ได้
44. ตอบ ง เพราะการระเบิดหิ น เป็ นการเปลี่ยนแปลงรู ปร่ างของหิ นที่ทาได้เร็ วที่สุด และสามารถ
นาหิ นเหล่านั้นมาใช้งานทางด้านวิศวกรรม เช่น การระเบิดหิ นเพื่อทาถนน การระเบิด
ในเหมืองเพื่อเปิ ดหน้าเหมือง การระเบิดในงานเจาะหลุมผลิตปิ โตรเลียม

43
45. ตอบ ง เพราะภัยธรรมชาติทเี่ กิดจากน้ าท่วมฉับพลัน น้ าป่ าไหลหลาก และโคลนถล่ม
โดยสาเหตุของการเกิดภัยพิบตั เิ หล่านี้ คือ การเกิดฝนตกหนักสะสมต่อเนื่อง
ส่ วนการเกิดแผ่นดินไหวนั้นมีสาเหตุหลักมาจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก
หรื อเกิดการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน
46. ตอบ ข เพราะภาพ ข เป็ นภาพที่ดวงจันทร์โคจรออกมาโดยไม่ได้อยู่ในแนวเดียวกันกับโลก
และดวงอาทิตย์ จะหันด้านเว้าไปทางทิศตะวันตก และภาพต่อไปดวงจันทร์จะสว่าง
ขึ้นเรื่ อยๆ จนมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวง เมื่อดวงจันทร์โคจรมาอยู่แนวเดียวกับโลก
และดวงอาทิตย์ จะมองไม่เห็นดวงจันทร์ เมื่อดวงจันทร์โคจรมาอยู่ระหว่าง
ดวงอาทิตย์กบั โลก
47. ตอบ ค เพราะการเกิดจันทรุ ปราคา เกิดจากการโคจรของโลกและดวงจันทร์มาอยู่ในแนว
เส้นตรงเดียวกันกับดวงอาทิตย์ โดยมีโลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กบั
ดวงจันทร์ ทาให้เงาของโลกไปปรากฏบนดวงจันทร์ จึงเกิดเงามืดขึ้นบนดวงจันทร์
และการเกิดจันทรุ ปราคาจะเกิดขึ้นในเวลาที่มีดวงจันทร์เต็มดวง หรื อวันขึ้น 15 ค่า
โดยคนที่อยู่บนโลกในด้านเดียวกับดวงจันทร์จะมองเห็นดวงจันทร์มืดชัว่ ครู่
เมื่อดวงจันทร์โคจรออกจากเงาของโลกแล้ว เราจะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงปกติ
48. ตอบ ค เพราะในอวกาศมีสภาพเป็ นสุ ญญากาศ คือ สภาพที่ไม่มีอากาศ บรรยากาศจึงมี
ความดันเบาบางมาก ทาให้ความดันโลหิ ตในร่ างกายของนักบินอวกาศสู งกว่า
ความดันบรรยากาศรอบๆ ด้าน ซึ่งอาจทาให้เส้นเลือดแตกออกถึงแก่ความตายได้
ดังนั้นนักบินอวกาศจึงต้องสวมชุดอวกาศ ซึ่งสามารถปรับควบคุมความดัน
ให้เหมาะสมกับสภาพร่ างกาย เพื่อความปลอดภัย
49. ตอบ ง เพราะดาวเทียมเป็ นสิ่ งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นเพื่อส่ งขึ้นไปโคจรรอบโลกคล้ายกับการ
โคจรรอบโลกของดวงจันทร์ เพื่อใช้งานในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น
การติดต่อสื่อสาร การพยากรณ์อากาศ การสารวจทรัพยากรธรรมชาติ เป็ นต้น
50. ตอบ ก เพราะการใช้โทรศัพท์สาธารณะพูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้พ่ งึ พา
การใช้ประโยชน์จากดาวเทียม แต่เป็ นการรับส่ งข่าวสารข้อมูลผ่านทางเครื อข่าย
โทรศัพท์สาธารณะขององค์การโทรศัพท์



44

You might also like