You are on page 1of 33

ตารางวิเคราะห์ ข้อสอบมาตรฐานชั้นปี วิชา วิทยาศาสตร์ ชุ ดที่ 1

ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4
มาตรฐาน / ตัวชี้วดั
มฐ. มฐ.
ข้ อ มฐ. ว 1.1 มฐ. ว 5.1
ว 6.1 ว 7.1
1 2 3 4 1 2 3 4 5 6 1 2 1
1 
2 
3 
4 
5 
6 
7 
8 
9 
10 
11 
12 
13 
14 
15 
16 
17 
18 
19 
20 
21 
22 
23 
24 
25 
26 
27 
28 
29 
30 

มาตรฐาน / ตัวชี้วดั
มฐ. มฐ.
ข้ อ มฐ. ว 1.1 มฐ. ว 5.1
ว 6.1 ว 7.1
1 2 3 4 1 2 3 4 5 6 1 2 1
31 

1
32 
33 
34 
35 
36 
37 
38 
39 
40 
41 
42 
43 
44 
45 
46 
47 
48 
49 
50 

หมายเหตุ : มฐ. ว 8.1 ป.4 / 1-8 ประเมินในระหว่างการเรี ยนการสอน

ข้ อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุดที่ 1 กลุ่มสาระ วิทยาศาสตร์


วิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4 จำนวน 50 ข้ อ

ให้ กาเครื่องหมาย  ทับตัวอักษรหน้ าคำตอบที่ถูกต้ อง


1.

จากภาพ ส่ วนนี้อยูใ่ นบริ เวณใดของพืช


ก. ราก ข. ใบ
ค. ลำต้น ง. ดอก

2
ใช้ ข้อความที่กำหนด ตอบคำถามข้ อ 2 – 4
(1) ตัดลำต้นของต้นเทียนขวางใช้แว่นขยายส่ องดู จากนั้นบันทึกผลการสังเกต
(2) นำต้นเทียนมาล้างรากให้สะอาด แล้วสังเกตลักษณะของลำต้น
(3) แช่ตน้ เทียนลงในน้ำหมึกแดง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
2. ข้อใดเรี ยงลำดับการทดลองได้ถูกต้อง
ก. (1) (3) (2) ข. (3) (2) (1)
ค. (2) (3) (1) ง. (2) (1) (3)
3. การทดลองนี้เป็ นการทดลองเพื่อศึกษาเรื่ องใด
ก. การคายน้ำของพืช
ข. ท่อลำเลียงน้ำของพืช
ค. การสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
ง. การดูดซึมน้ำและอาหารของพืช
4. นักเรี ยนจะสรุ ปผลการทดลองนี้ วา่ อย่างไร
ก. รากทำหน้าที่ยดึ ลำต้นให้ต้ งั อยูบ่ นดิน
ข. พืชลำเลียงน้ำไปสู่ ใบเพื่อใช้ในการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
ค. ภายในลำต้นของพืชมีโครงสร้างที่ใช้ในการลำเลียงน้ำ
ง. พืชลำเลียงน้ำและธาตุอาหารจากด้านบนสู่ ดา้ นล่างของลำต้น
5. ข้อใดไม่ ใช่ หน้าที่ของใบ
ก. สร้างอาหาร ข. หายใจ
ค. คายน้ำ ง. ดูดน้ำ
6. ข้อใดไม่ ใช่ ประโยชน์ของการคายน้ำ
ก. ช่วยในการลำเลียงน้ำ ข. กระตุน้ ให้แตกใบใหม่
ค. ช่วยให้ใบของพืชมีความชุ่มชื้น ง. ลดความร้อนในใบและลำต้น
7.

ข้อใดไม่ ใช่ ผลที่พืชได้รับจากการกระทำในภาพ

3
ก. พืชเจริ ญเติบโต
ข. พืชมีความชุ่มชื้น
ค. พืชสามารถหายใจได้
ง. พืชสามารถดูดธาตุอาหารในดินไปใช้ได้
8. ข้อใดกล่าวถูกต้ อง
ก. พืชหายใจในเวลากลางคืนเท่านั้น
ข. พืชหายใจเอาแก๊สออกซิเจนตลอดเวลา
ค. ธาตุอาหารที่จ ำเป็ นต่อพืชมีเฉพาะในปุ๋ ยเท่านั้น
ง. พืชจะคายแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาหลังจากกระบวนการสร้างอาหาร
9. ถ้าพืชขาดแสงแดด จะเกิดผลอย่างไร
ก. พืชจะไม่สามารถหายใจได้
ข. พืชจะคายน้ำทางรู ปากใบ
ค. พืชจะไม่สามารถสร้างอาหารได้
ง. พืชไม่สามารถดูดธาตุอาหารไปเลี้ยงส่ วนต่างๆ ได้
10. เราควรปลูกต้นไม้ไว้ในห้องนอนหรื อไม่ เพราะเหตุใด
ก. ควร เพราะทำให้บรรยากาศในห้องนอนสดชื่นขึ้น
ข. ควร เพราะสี เขียวของใบไม้ช่วยในการพักผ่อนสายตา
ค. ไม่ควร เพราะพืชจะแย่งอากาศเราหายใจ
ง. ไม่ควร เพราะพืชจะไม่ได้รับแสงแดด

11. ปั จจัยใดที่มีความสำคัญต่อการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช


ก. น้ำ ธาตุอาหาร
ข. แสงแดด แก๊สออกซิเจน
ค. แสงแดด ธาตุอาหาร น้ำ
ง. แสงแดด คลอโรฟิ ลล์ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ
12. ข้อใดเป็ นผลจากกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
ก. น้ำตาล
ข. น้ำตาล + น้ำ
ค. น้ำตาล + แก๊สออกซิเจน

4
ง. น้ำ + แก๊สออกซิเจน
13. พืชชนิดใดที่ล ำต้นทำหน้าที่สงั เคราะห์ดว้ ยแสงได้
ก. โป๊ ยเซียน ข. โกงกาง
ค. ตะบองเพชร ง. กล้วยไม้
14.
พืชจะมีการเจริ ญเติบโตดังภาพในสถานการณ์ใด
ก. มีน้ำและแสงเพียงพอ
ข. มีธาตุอาหารในดินไม่เพียงพอ
ค. อยูใ่ นบริ เวณที่มีแสงน้อย
ง. ขาดอากาศในการหายใจ

15. พืชในภาพใดมีการตอบสนองต่อการสัมผัสเพื่อป้ องกันอันตราย

ก. ข.

ค. ง.

ใช้ ภาพต่ อไปนี้ ตอบคำถามข้ อ 16 – 18


(1) (2)

(3) (4)

16. สัตว์ในภาพใด มีการตอบสนองต่อแสง


ก. (1) ข. (4)

5
ค. (3) ง. (2)
17. การตอบสนองของสัตว์ในภาพใดที่เป็ นการปกป้ องตัวเอง
ก. (3) ข. (4)
ค. (1) ง. (2)
18. ภาพใดเป็ นการตอบสนองของสัตว์เมื่อสภาพอากาศไม่เหมาะสม
ก. (2) ข. (1)
ค. (4) ง. (3)
19.

นักเรี ยนคิดว่า สถานการณ์ใดต่อไปนี้ ทำให้แมวมีการตอบสนองตามที่ก ำหนด


ก. ขณะมีแสงสว่างมาก
ข. ขณะอยูใ่ นที่มืดตลอดเวลา
ค. ขณะอยูใ่ นที่สว่างและมาอยูใ่ นที่มืด
ง. ขณะที่มีอาการหวาดกลัวอันตราย
20. การตอบสนองของสัตว์ในข้อใดแตกต่ างจากข้ออื่น
ก. นกเค้าแมวออกหากินในเวลากลางคืน
ข. แมลงเม่าบินเข้าหาแสงไฟ
ค. แมวจะหรี่ ม่านตาเมื่อมีแสงจ้า
ง. กิ้งก่าหลบแดดในที่ร่ม
21. ข้อใดไม่ ใช่ ประโยชน์ที่ได้จากการศึกษาเรื่ องการตอบสนองของสัตว์
ก. จัดสภาพแวดล้อมให้สตั ว์ได้อย่างเหมาะสม
ข. นำไปปรับปรุ งและพัฒนาสายพันธุ์ของสัตว์ได้
ค. เข้มใจพฤติกรรมการตอบสนองของสัตว์ได้ดียิง่ ขึ้น
ง. เข้าใจการดำรงชีวิตของสัตว์และสามารถเลี้ยงดูได้อย่างถูกวิธี

ใช้ แผนภาพที่กำหนดให้ ตอบคำถาม ข้ อ 22 – 24


6

22. องค์ประกอบของดินคู่ใดที่มีปริ มาณเท่าๆ กัน


ก. อากาศ – น้ำ
ข. อินทรี ยวัตถุ – น้ำ
ค. อนินทรี ยวัตถุ – อากาศ
ง. อินทรี ยวัตถุ – อนินทรี ยวัตถุ
23. ส่ วนประกอบในดินหมายเลขใดมีความสำคัญกับพืชมากที่สุด
ก.  ข. 
ค.  ง. 
24. ข้อความใดไม่ ถูกต้ อง
ก. หมายเลข  ได้จากการสร้างตัวของหิ นและแร่
ข. หมายเลข  แทรกตัวอยูร่ ะหว่างเม็ดดิน
ค. หมายเลข  อาจเป็ นน้ำหรื ออากาศก็ได้
ง. อนินทรี ยวัตถุ คือหมายเลข 

ใช้ ข้อมูลในตาราง ตอบคำถามข้ อ 25 – 26

ชนิดของดิน เนือ้ ดิน การอุ้มน้ำ การจับตัว


1 หยาบ ไม่ดี ไม่ดี
2 ละเอียด ดี ดี
3 ค่อนข้างหยาบ พอสมควร ปานกลาง

25. ข้อใดเรี ยงลำดับดินเหนียว ดินร่ วน ดินทรายได้ถูกต้อง


ก. 3 1 2 ข. 2 1 3
ค. 2 3 1 ง. 1 2 3
26. ข้อใดสรุ ปถูกต้อง

7
ก. ดินชนิดที่ 1 เหมาะแก่การปลูกพืชทัว่ ไป
ข. ดินชนิดที่ 2 ใช้ในการปลูกพืชที่ตอ้ งการน้ำมาก
ค. ดินชนิดที่ 3 มีความอุดมสมบูรณ์นอ้ ยที่สุด
ง. ดินชนิดที่ 1 และ 3 มีฮิวมัสปนอยูม่ าก
27. ข้อใดเป็ นลักษณะของดินที่มีฮิวมัสปนอยูม่ าก
ก. มีช่องว่างระหว่างเม็ดดินมาก ข. อากาศและน้ำผ่านได้สะดวก
ค. มีเนื้อดินหยาบ ง. มีสีคล้ำ เนื้อดินร่ วนซุย
28. เพราะเหตุใด เราจึงต้องพรวนดินให้ตน้ ไม้
ก. เพื่อให้ดินไม่จบั ตัวกัน ข. กำจัดศัตรู พืชในดิน
ค. รักษาหน้าดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ง. ละลายสารประกอบในดิน
29. ดินที่เหมาะกับการปลูกพืชควรมีสมบัติตามข้อใด
ก. มีความเป็ นกรดสูง เนื้ อละเอียด ข. เนื้อดินร่ วนซุย มีสีคล้ำ
ค. เนื้อดินหยาบ มีเหล็กปนอยูม่ าก ง. มีความเป็ นเบสสู ง มีสีแดง
30. ใครเลือกใช้ดินได้เหมาะสมกับพืชที่ปลูก
ก. นนท์ปลูกตะบองเพชรโดยใช้ดินร่ วน
ข. ปอปลูกมะลิโดยใช้ดินเหนียว
ค. ก้อยปลูกมะเขือโดยใช้ดินร่ วน
ง. โต้งปลูกข้าวโดยใช้ดินทราย

ใช้ ภาพการทดลองต่ อไปนี้ ตอบคำถามข้ อ 31 – 32

31. จากภาพเป็ นการทดลองเรื่ องใด


ก. การเคลื่อนที่ของแสง ข. การสะท้อนของแสง
ค. การหักเหของแสง ง. ตัวกลางของแสง
32. ข้อใดสรุ ปผลการทดลองนี้ ได้ถูกต้อง
ก. ตัวกลางของแสงมี 3 ชนิด คือ ตัวกลางโปร่ งใส ตัวกลางโปร่ งแสง และตัวกลางทึบแสง

8
ข. เมื่อแสงเคลื่อนที่ผา่ นตัวกลางต่างชนิดกันจะเกิดการเบนออกจากแนวเดิม
ค. แสงเป็ นพลังงานรู ปหนึ่งที่เดินทางออกจากแหล่งกำเนิดทุกทิศทาง
ง. แสงเดินทางออกจากแหล่งกำเนิดทุกทิศทางในแนวเส้นตรง
33. ข้อใดเป็ นตัวกลางของแสงที่ต่างชนิดกัน
ก. อากาศ กระจกใส ข. ผ้า แผ่นไม้
ค. กระดาษไข กระจกฝ้ า ง. กระจกใส กระดาษขาว
ใช้ ตารางบันทึกผล ตอบคำถามข้ อ 34 – 36
วัตถุ แสงผ่ านวัตถุ
ผ่านได้ ดี ผ่ านได้ บ้าง ผ่ านไม่ ได้
1 
2 
3 
4 
5 

34. ข้อใดสรุ ปถูกต้อง


ก. หมายเลข 1 คือ กระจกเงา
ข. หมายเลข 3 และ 5 คือ ตัวกลางโปร่ งแสง
ค. ตัวกลางแต่ละชนิดยอมให้แสงผ่านได้ไม่เท่ากัน
ง. แสงเคลื่อนที่ผา่ นวัตถุผวิ เรี ยบได้ดี
35. ข้อใดเป็ นตัวกลางชนิดเดียวกับวัตถุหมายเลข 4
ก. แก้วน้ำ ข. กระดาษไข
ค. หนังสื อ ง. ปกพลาสติก
36. แสงจะเกิดการสะท้อนเมื่อเคลื่อนที่ผา่ นวัตถุหมายเลขใด
ก. 1 ข. 4
ค. 2 ง. 5
37.
จากภาพ กำหนดให้ มุม 1 มีคา่ เท่ากับ 30ْ มุม 2 จะมีคา่ เท่ากับข้อใด
ก. 30ْ ข. 45ْ
12
ค. 60ْ ง. 75ْ

9
38. การหักเหของแสงจะเกิดขึ้นเมื่อใด
ก. แสงเดินทางผ่านตัวกลางทึบแสง
ข. เมื่อมีสิ่งกีดขวางกั้นทางเดินของแสง
ค. เมื่อแสงเดินทางผ่านตัวกลางโปร่ งใสชนิดเดียวกัน
ง. เมื่อแสงเดินทางผ่านตัวกลางโปร่ งใสต่างชนิดกัน

39. ภาพใดเป็ นไปตามกฎการหักเหของแสง

ก. อากาศ ข. น้ำ
น้ำ อากาศ

ค. อากาศ ง. แก้ว
แก้ว น้ำ

40. การหักเหของแสงผ่านเลนส์ในข้อใดถูกต้อง

ก. ข.

ค. ง.

41. สมชายไม่สามารถมองวัตถุที่อยูไ่ กลๆ ได้ชดั เจน จึงควรใช้แว่นตาที่ท ำจากเลนส์ชนิดใด


ก. เลนส์นูน ข. เลนส์นูนแกมเว้า
ค. เลนส์เว้า ง. เลนส์เว้าแกมระนาบ

10
42. ข้อใดเป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ใช้พลังงานแสง

ก. ข.

ค. ง.

43. ข้อใดไม่ ใช่ พลังงานที่ได้จากแสงอาทิตย์


ก. พลังงานแสง ข. พลังงานความร้อน
ค. พลังงานไฟฟ้ า ง. พลังงานเสี ยง
44.
(1) เป็ นพลังงานที่สะอาด (3) ให้กระแสไฟฟ้ าได้โดยไม่ตอ้ งผ่าน
อุปกรณ์
(2) ก่อให้เกิดมลพิษเพียงเล็กน้อย (4) เป็ นพลังงานหมุนเวียน
ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์
ก. (1) (2) (3) ข. (1) (3) (4)
ค. (1) (3) ง. (1) (4)

45. ข้อใดสรุ ปไม่ ถูกต้ อง


ก. รุ ้งกินน้ำเกิดในทิศทางตรงกันข้ามกับดวงอาทิตย์
ข. สเปกตรัมของแสงอาทิตย์สามารถรวมกันเป็ นแสงขาวได้
ค. เมื่อเรามองแสงแดดในเวลาปกติ จะเห็นแถบสี ท้ งั หมด 7 สี
ง. การกระจายแสงขาวสามารถทำได้โดยให้แสงหักเหผ่านปริ ซึม
46. ดาวดวงในข้อใดเป็ นดาวเคราะห์หินที่เป็ นดาวเคราะห์วงนอก
ก. ดาวพุธ ข. โลก
ค. ดาวเนปจูน ง. ดาวอังคาร
47. ดาวหางเป็ นส่ วนหนึ่งของระบบสุ ริยะหรื อไม่ เพราะเหตุใด
ก. ไม่เป็ น เพราะอยูไ่ กลจากดวงอาทิตย์

11
ข. ไม่เป็ น เพราะดาวหางประกอบด้วยน้ำและแก๊สที่เย็นจัด
ค. เป็ น เพราะดาวหางมีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์
ง. เป็ น เพราะหางของดาวหางชี้ ไปในทิศทางตรงข้ามกับดวงอาทิตย์
48. ดาวเคราะห์นอ้ ยอยูร่ ะหว่างดาวดวงใดกับดวงใด
ก. ดาวศุกร์ กับ โลก ข. ดาวอังคาร กับ ดาวพฤหัสบดี
ค. ดาวเสาร์ กับ ดาวยูเรนัส ง. โลก กับ ดาวอังคาร
49. ดาวศุกร์มีลกั ษณะคล้ายคลึงกับโลก เพราะเหตุใดจึงไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่
ก. ประกอบด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และไอของกรดกำมะถัน
ข. มีอุณหภูมิต ่ำกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะดำรงชีวิตอยูไ่ ด้
ค. ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์เร็ วกว่าโลก
ง. มีบรรยากาศเบาบางมาก
50. ซี เรส พลูโต ดีรีส มาเกะมาเกะ เป็ นชื่อของอะไร
ก. ดาวเคราะห์นอ้ ย ข. ดาวหาง
ค. ดาวตก ง. ดาวเคราะห์แคระ



ตารางวิเคราะห์ ข้อสอบมาตรฐานชั้นปี วิชา วิทยาศาสตร์ ชุ ดที่ 2


ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4
มาตรฐาน / ตัวชี้วดั
มฐ. มฐ.
ข้ อ มฐ. ว 1.1 มฐ. ว 5.1
ว 6.1 ว 7.1
1 2 3 4 1 2 3 4 5 6 1 2 1
1 
2 
3 
4 
5 
6 
7 
8 

12
9 
10 
11 
12 
13 
14 
15 
16 
17 
18 
19 
20 
21 
22 
23 
24 
25 
26 
27 
28 
29 
30 

มาตรฐาน / ตัวชี้วดั
มฐ. มฐ.
ข้ อ มฐ. ว 1.1 มฐ. ว 5.1
ว 6.1 ว 7.1
1 2 3 4 1 2 3 4 5 6 1 2 1
31 
32 
33 
34 
35 
36 
37 
38 
39 
40 
41 
42 
43 
44 
45 

13
46 
47 
48 
49 
50 

หมายเหตุ : มฐ. ว 8.1 ป.4 / 1-8 ประเมินในระหว่างการเรี ยนการสอน

ข้ อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุดที่ 2 กลุ่มสาระ วิทยาศาสตร์


วิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4 จำนวน 50 ข้ อ

ให้ กาเครื่องหมาย  ทับตัวอักษรหน้ าคำตอบที่ถูกต้ อง

ใช้ ภาพต่ อไปนี้ ตอบคำถาม ข้ อ 1 – 2

1. จากภาพ เป็ นโครงสร้างพืชที่ท ำหน้าที่อย่างไร


ก. ลำเลียงน้ำและธาตุอาหารไปเลี้ยงลำต้น

14
ข. ใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
ค. ดูดน้ำจากดินไปเลี้ยงส่ วนต่างๆ
ง. หายใจและแลกเปลี่ยนแก๊ส
2. ข้อความใดไม่ ถูกต้ อง
ก. ท่อลำเลียงน้ำจะลำเลียงน้ำและธาตุอาหารขึ้นไปสู่ ใบ
ข. ท่อลำเลียงอาหารจะแทรกอยูก่ บั ท่อลำเลียงน้ำ
ค. โครงสร้างดังภาพพบได้บริ เวณรากเท่านั้น
ง. ลำต้นของพืชเป็ นทางลำเลียงน้ำและธาตุอาหาร
3. จากภาพ ผลการทดลองที่ได้จะเป็ นอย่างไร
ก. ถุงพลาสติกที่ครอบใบไม้ไว้จะมีหยดน้ำเกาะอยูภ่ ายใน
ข. ใบไม้จะเหี่ ยวเฉาเพราะขาดอากาศหายใจ
ค. พืชแตกใบใหม่เพื่อสังเคราะห์ดว้ ยแสง
ง. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด

4. ข้อใดไม่ ใช่ หน้าที่ของโครงสร้างพืชในภาพ


ก. แลกเปลี่ยนแก๊ส ข. สร้างอาหาร
ค. คายน้ำ ง. หายใจ

อ่ านข้ อมูลต่ อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้ อ 5 – 7


ด.ช. เบนซ์ ทดลองปลูกพืชในกระถางที่ 1 และนำกล่องกระดาษมา
ครอบต้นพืชไว้ และปลูกพืชในกระถางที่ 2 ไว้กลางแจ้ง ต้นพืชทั้ง
2 กระถางปลูกด้วยดินชนิดเดียวกัน และรดน้ำในปริ มาณที่เท่ากัน
5. ด.ช. เบนซ์ตอ้ งการศึกษาเกี่ยวกับตัวแปรใด
ก. ชนิดของดิน ข. น้ำ
ค. แสง ง. อากาศ
6. พืชในกระถางที่ 1 และกระถางที่ 2 จะมีการเจริ ญเติบโตแตกต่างกันหรื อไม่ เพราะเหตุใด
ก. ต่างกัน เพราะพืชได้รับแสงแดดไม่เท่ากัน
ข. ไม่ต่างกัน เพราะพืชได้รับน้ำในปริ มาณเท่ากัน
ค. ต่างกัน เพราะรากพืชดูดธาตุอาหารและน้ำไม่เท่ากัน
ง. ไม่ต่างกัน เพราะพืชทั้ง 2 กระถางสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ

15
7. ด.ช. เบนซ์ ควรจะสรุ ปผลการทดลองนี้ วา่ อย่างไร
ก. พืชใช้แก๊สออกซิเจนในการหายใจ
ข. พืชแต่ละชนิดสามารถสร้างอาหารเองได้
ค. การคายน้ำช่วยลดความร้อนของใบและลำต้นของพืช
ง. พืชที่ได้รับน้ำและแสงแดดอย่างพอเพียงจะมีการเจริ ญเติบโตได้ดี
8.
 



จากการทดลอง บริ เวณใดของใบที่ไม่เกิดกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
ก.  ข. 
ค.  ง. 
9. ทำไมเราจึงรู้สึกสดชื่น เมื่ออยูใ่ ต้ตน้ ไม้ในเวลากลางวัน
ก. ต้นไม้ปล่อยแก๊สออกซิเจนที่ได้จากการสังเคราะห์ดว้ ยแสงออกมา
ข. การมองต้นไม้สีเขียวเป็ นการพักผ่อนสายตา
ค. ต้นไม้ใช้แก๊สออกซิเจนในการหายใจ
ง. ต้นไม้ช่วยให้ร่มเงาแก่เรา
10. พืชชนิดใดมีลกั ษณะพิเศษที่ท ำให้สามารถสังเคราะห์ดว้ ยแสงได้เพิ่มขึ้น
ก. พลูด่าง ข. ทานตะวัน
ค. ผักกระเฉด ง. กล้วยไม้ป่า
11. ข้อใดเป็ นการตอบสนองของพืชเพื่อป้ องกันอันตราย
ก. ตะบองเพชรเปลี่ยนใบเป็ นหนาม
ข. ไมยราบหุบใบราบลงเมื่อถูกปลายนิ้วสัมผัส
ค. ต้นถัว่ เขียวโน้มลำต้นเข้าหาแสงเมื่อได้รับแสงไม่พอ
ง. กาบหอยแครงจับแมลงที่มาเกาะกินเป็ นอาหาร
12. ข้อใดไม่ ใช่ ประโยชน์ของการตอบสนองของพืช
ก. สังเคราะห์ดว้ ยแสงเพิ่มขึ้น ข. เพื่อจับแมลงเป็ นอาหาร
ค. เพื่อป้ องกันอันตราย ง. เพื่อสื บพันธุ์
13. การตอบสนองของพืชในข้อใดไม่ ใช่ การตอบสนองต่อแสงหรื อการสัมผัส

16
ก. ต้นตะบองเพชรเปลี่ยนใบเป็ นหนาม ข. ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงกินแมลง
ค. มะเขือโน้มกิ่งเข้าหาแสงแดด ง. ผักกระเฉดหุบใบราบลง

อ่านข้ อความต่ อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้ อ 14 – 15


หลุยส์ การ์เซีย ได้น ำพืชไปไว้ในห้องทดลองทั้งสองห้อง โดยห้องแรก
เปิ ดเพลงแร็ พ ห้องที่สองเปิ ดเพลงคลาสสิ ก ผลการทดลองปรากฏว่า หลังจาก 7
วัน ต้นไม้ที่ได้ฟังเพลงคลาสสิ กมีความสมบูรณ์ดี และโน้มกิ่งเข้าหาวิทยุ ส่ วน
ต้นไม้ที่ฟังเพลงแร็ พครึ่ งหนึ่งใบเริ่ มลีบ ต้นที่เหลือหยุดการเจริ ญเติบโต

14. ปัญหาของการทดลองนี้ คือข้อใด


ก. พืชมีการตอบสนองต่อสิ่ งเร้าต่างๆ อย่างไร
ข. เสี ยงเพลงทำให้พืชมีการเจริ ญเติบโตได้หรื อไม่
ค. พืชมีการตอบสนองต่อเสี ยงเพลงที่แตกต่างกันหรื อไม่
ง. พืชมีการตอบสนองต่อปัจจัยอื่นๆ นอกจากแสง เสี ยง และสัมผัสหรื อไม่
15. การทดลองนี้ตอ้ งจัดสิ่ งใดให้แตกต่างกัน
ก. ชนิดของดิน ข. ความสู งของพืช
ค. ปริ มาณของดิน ง. ชนิดของเพลง
16. ข้อใดไม่ ใช่ การตอบสนองต่อสิ่ งเร้าของสัตว์
ก. ม่านตาของแมวจะหรี่ เมื่อมีแสงจ้า ข. แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ
ค. สุ นขั นอนหลับเวลากลางคืน ง. อึ่งอ่างพองตัวเพื่อให้ดูน่ากลัว
17. ข้อใดเป็ นการตอบสนองต่ออุณหภูมิของสัตว์
ก. แมวเลียอุง้ เท้า ข. กิ้งก่าเปลี่ยนสี ล ำตัว
ค. นกเค้าแมวออกหากินเวลากลางคืน ง. หอยหดตัวเข้าไปอยูใ่ นเปลือก
18. การตอบสนองต่อการสัมผัสเป็ นการทำงานร่ วมกันของระบบใดของสัตว์
ก. ระบบประสาทและระบบหายใจ ข. ระบบกล้ามเนื้อและระบบหมุนเวียนเลือด
ค. ระบบประสาทและระบบกล้ามเนื้ อ ง. ระบบประสาทและระบบหายใจ
19. สัตว์ที่อาศัยอยูใ่ นเขตหนาวในข้อใดไม่ ได้ จ ำศีลในฤดูหนาว
ก. หมี ข. กระรอก
ค. สกังค์ ง. กระต่ายอาร์กติก
20. ข้อใดไม่ ใช่ เหตุผลที่สตั ว์มีการตอบสนองต่ออุณหภูมิ
ก. สามารถดำรงชีวิตอยูไ่ ด้ ข. ลดการใช้พลังงาน

17
ค. ระบายความร้อนออกจากร่ างกาย ง. ข่มขูศ่ ตั รู
21. เมื่อนำดินใส่ ถุงพลาสติกแล้วมัดปากถุงให้แน่น แล้วทิ้งไว้กลางแดด จะเกิดผลอย่างไร
ก. มีไอน้ำเกาะในถุงพลาสติก ข. ดินเปลี่ยนเป็ นสี แดง
ค. เม็ดดินมีขนาดเล็กลง ง. ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
22. การย่อยสลายของอนินทรี ยวัตถุ เกิดจากปั จจัยต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด
ก. สภาพอากาศ ข. ลมพายุ
ค. จุลินทรี ย ์ ง. กระแสน้ำ
23. องค์ประกอบของดินในข้อใดที่มีความสำคัญต่อการเจริ ญเติบโตของพืชมากที่สุด
ก. อินทรี ยวัตถุ ข. อนินทรี ยวัตถุ
ค. น้ำ ง. อากาศ
24. การกระทำในข้อใดไม่ช่วยให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์
ก. ปลูกพืชหมุนเวียน ข. ปลูกพืชคลุมดิน
ค. ใส่ ปุ๋ยเคมี ง. พรวนดินสม่ำเสมอ
พิจารณาการทดลอง แล้วตอบคำถามข้ อ 25 – 26
ชนิดของดิน ความสู งของต้ นถั่วเขียว
A 10 เซนติเมตร
B 5 เซนติเมตร
C 2 เซนติเมตร
25. ต้นถัว่ เขียวเจริ ญเติบโตได้ดีในดินชนิดใด
ก. A ข. B
ค. C ง. A และ B
26. ข้อความใดสรุ ปถูกต้อง
ก. ปริ มาณของดินมีผลต่อการเจริ ญเติบโตของต้นถัว่ เขียว
ข. ดิน A อุม้ น้ำได้ดี จึงทำให้ตน้ ถัว่ เขียวเจริ ญเติบโตได้ดี
ค. ชนิดของดินมีผลต่อการเจริ ญเติมโตของต้นถัว่ เขียว
ง. เราควรปลูกต้นถัว่ เขียวในดิน C
27. เพราะเหตุใดดินชั้นบนจึงเหมาะแก่การปลูกพืชมากที่สุด
ก. มีเนื้อดินแน่นและเหนียว
ข. มีอินทรี ยวัตถุปนอยูม่ าก

18
ค. อุม้ น้ำได้ดีกว่าดินชั้นล่าง
ง. มีความเป็ นกรดสูง
28. ข้อใดไม่ ใช่ สมบัติของดินที่บ่งบอกว่าดินเหมาะกับการปลูกพืช
ก. มีอนินทรี ยวัตถุปนอยูม่ าก ข. มีช่องว่างระหว่างเม็ดดินน้อย
ค. เนื้อดินไม่ละเอียดหรื อหยาบจนเกินไป ง. มีฮิวมัสปนอยูใ่ นดินมาก
29. ข้อใดเป็ นสาเหตุที่ท ำให้ดินมีสภาพเป็ นกรด
ก. มีปริ มาณไฮโดรเจนมากเกินไป ข. ใช้ปยอิ ุ๋ นทรี ยใ์ นการเพาะปลูก
ค. มีธาตุอาหารที่จ ำเป็ นต่อพืชน้อยเกินไป ง. มีช่องว่างระหว่างเม็ดดินมากเกินไป

ใช้ แผนภาพต่ อไปนี้ ตอบคำถามข้ อ 30 – 32


ซากพืช ซากสัตว์

สลาย สลาย
ตัว ตัว

วัตตุตน้ กำเนิดดิน 
(อนินทรี ยวัตถุ)

คลุกเคล้า
30. หมายเลข  คือข้อใด
ก. สารเคมีที่ปะปนอยู่
ข. เศษวัสดุตามธรรมชาติ
ค. น้ำและอากาศที่มีอยูท่ วั่ ไป

19
ง. หินและแร่ ธาตุต่างๆ
31. ข้อใดไม่ สัมพันธ์ กบั หมายเลข 
ก. เป็ นองค์ประกอบในดินที่มีอยูน่ อ้ ยที่สุด
ข. ได้จากการย่อยสลายของสิ่ งมีชีวิต
ค. เป็ นส่ วนหนึ่งของดินชั้นล่าง
ง. ทำให้ดินมีสีคล้ำและร่ วนซุย
32. สิ่ งใดทำหน้าที่ในการย่อยสลายหมายเลข 
ก. จุลินทรี ย ์
ข. กรด
ค. สารเคมี
ง. แร่ ธาตุ

33. ดินเหนียว ดินร่ วน ดินทราย ดินแต่ละประเภทประกอบด้วยเม็ดดินเล็กๆ เรี ยกว่า อนุภาคดิน


จากข้อความนี้ขอ้ ใดเป็ นไปได้
ก. ดินเหนียวน้ำซึมผ่านเร็ วกว่าดินร่ วน
ข. อนุภาคดินทรายเล็กกว่าอนุภาคดินเหนียว
ค. ดินที่มีอนุภาคใหญ่ ช่องว่างระหว่างดินมีนอ้ ย
ง. ดินที่มีอนุภาคเล็ก ยอมให้น ้ำซึ มผ่านช้ากว่าดินที่มีอนุภาคใหญ่
34. การแกล้งดิน ตามแนวทางพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มีวตั ถุประสงค์อย่างไร
ก. ทำให้ดินเปรี้ ยวจัด ข. ลดค่า pH ในดิน
ค. ฟื้ นฟูดินให้สามารถทำการเพาะปลูกได้ ง. เพิ่มธาตุอาหารในดิน
35. จากภาพ ถ้าวางกระดาษแข็งที่เจาะรู ไว้ ไม่ตรงกัน แสงจะ
ปรากฏบนฉากหรื อไม่ เพราะเหตุใด

ก. ปรากฏ เพราะแสงสามารถเกิดการหักเหได้
ข. ไม่ปรากฏ เพราะแสงเคลื่อนที่เป็ นเส้นตรง
ค. ปรากฏ เพราะแสงเกิดปรากฏการณ์เลี้ยวเบนได้
ง. ไม่ปรากฏ เพราะแสงมีความเข้มน้อยเกินไป

20
ใช้ ตัวกลางของแสงที่กำหนดให้ ตอบคำถามข้ อ 36 – 38
(1) แฟ้ มพลาสติกใส (2) กระจกฝ้ า (3) กระจกเงา
(4) กระดาษไข (5) หนังสื อ (6) อากาศ
D”
36. ข้อใดเป็ นตัวกลางโปร่ งใส
ก. (1) (6) ข. (5) (6)
ค. (1) (4) ง. (1) (2)
37. ตัวกลางหมายเลขใดที่แสงสามารถเคลื่อนที่ผา่ นไปได้บางส่ วน
ก. (3) (5) ข. (1) (3)
ค. (2) (4) ง. (3) (4)
38. เมื่อแสงเคลื่อนที่ผา่ นตัวกลางในหมายเลขใดจะทำให้เกิดเงา
ก. (1) (5) ข. (3) (5)
ค. (1) (2) ง. (1) (6)
39. ข้อใดไม่ ใช่ ขอ้ สรุ ปที่ได้จากผลการทดลองนี้
ก. แสงจะเกิดการสะท้อนเมื่อเคลื่อนที่ผา่ นตัวกลางทึบแสง
ข. แสงจะเกิดการสะท้อนได้ดีบนวัตถุผวิ เรี ยบ
ค. มุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน
ง. กระจกเงาเป็ นตัวกลางทึบแสง

40. จากภาพเกิดจากปรากฏการณ์ใดของแสง
ก. การสะท้อนของแสง
ข. สเปกตรัมของแสง
ค. การหักเหของแสง
ง. การเลี้ยวเบนของแสง

41.

21
เมื่อฉายลำแสงผ่านอากาศและแก้ว ลำแสงจะมีทิศทางอย่างไร เมื่อเทียบกับเส้นปกติ
ก. เบนเข้าหาเส้นปกติ ข. เบนออกจากเส้นปกติ
ค. ไม่เปลี่ยนแปลง ง. สะท้อนกลับ
42. เมื่อฉายแสงผ่านเลนส์เว้า ลำแสงที่ได้จะมีลกั ษณะอย่างไร
ก. เบนเข้าหากัน ข. กระจายออกห่างจากกัน
ค. สะท้อนกลับทิศทางเดิม ง. แนวเส้นตรง
43. เพราะเหตุใด นักวิทยาศาสตร์จึงนำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟฟ้ า
ก. ผลิตกระแสไฟฟ้ าได้ในปริ มาณมาก ข. เป็ นพลังงานที่ใช้ไม่มีวนั หมด
ค. สิ้ นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อย ง. ให้มนุษย์รู้จกั ประหยัดไฟฟ้ า
44. เซลล์สุริยะมีหลักการทำงานอย่างไร
ก. พลังงานแสง  พลังงานความร้อน ข. พลังงานความร้อน  พลังงานกล
ค. พลังงานแสง  พลังงานไฟฟ้ า ง. พลังงานไฟฟ้ า  พลังงานแสง
ใช้ ภาพต่ อไปนี้ ตอบคำถามข้ อ 45 – 46


45. แสงที่ได้จากหมายเลข  คือแสงชนิดใด
ก. แสงเลเซอร์ ข. สเปกตรัมของแสงอาทิตย์
ค. แสงอัลตราไวโอเลต ง. แสงขาว
46. จากภาพข้อใดกล่าวไม่ ถูกต้ อง
ก. เราสามารถมองเห็นแสงอาทิตย์เป็ นแถบสี 7 สี
ข. แสงสี บางสี อาจเหลื่อมล้ำกัน จึงสังเกตไม่ชดั เจน
ค. แถบสี ต่างๆ 7 สี สามารถรวมกันเป็ นแสงขาวได้
ง. แสงอาทิตย์ประกอบด้วยแถบสี ต่างๆ 7 สี
47. ศูนย์กลางของระบบสุ ริยะ จัดเป็ นดาวประเภทใด
ก. ดาวฤกษ์ ข. ดาวเคราะห์
ค. ดาวเคราะห์นอ้ ย ง. ดาวเคราะห์แคระ

22
48. ดาวดวงใดบ้างที่มีวงแหวนล้อมรอบ
ก. ดาวยูเรนัส ดาวอังคาร ข. ดาวศุกร์ ดาวเสาร์
ค. ดาวพุธ ดาวเสาร์ ง. ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส
49. เพราะเหตุใดดาวพลูโต จึงถูกจัดเป็ นดาวเคราะห์แคระ
ก. มีวงโคจรซ้อนทับกับดาวดวงอื่น
ข. เป็ นวัตถุที่มีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์
ค. ไม่เป็ นบริ วารของดาวดวงอื่น
ง. มีรูปร่ างเกือบทรงกลม
50. ถ้าแบ่งดาวเคราะห์ตามลักษณะพื้นผิว ข้อใดไม่ เข้ าพวก
ก. ดาวพุธ ข. ดาวพฤหัสบดี
ค. โลก ง. ดาวศุกร์



เฉลยข้ อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุ ดที่ 1

1. ค 2. ค 3. ข 4. ค 5. ง
6. ข 7. ค 8. ข 9. ค 10. ค
11. ง 12. ค 13. ค 14. ค 15. ข
16. ก 17. ง 18. ค 19. ค 20. ง
21. ข 22. ก 23. ก 24. ก 25. ค
26. ข 27. ง 28. ก 29. ข 30. ค
31. ก 32. ง 33. ง 34. ค 35. ข
36. ค 37. ก 38. ง 39. ง 40. ข
41. ค 42. ค 43. ง 44. ง 45. ค
46. ง 47. ค 48. ข 49. ก 50. ง

เฉลยข้ อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุ ดที่ 2

1. ก 2. ค 3. ก 4. ข 5. ค

23
6. ก 7. ง 8. ก 9. ก 10. ข
11. ข 12. ง 13. ก 14. ค 15. ง
16. ค 17. ก 18. ค 19. ง 20. ง
21. ก 22. ค 23. ก 24. ค 25. ก
26. ค 27. ข 28. ก 29. ก 30. ง
31. ค 32. ก 33. ง 34. ค 35. ข
36. ก 37. ค 38. ข 39. ง 40. ค
41. ก 42. ข 43. ข 44. ค 45. ง
46. ก 47. ก 48. ง 49. ก 50. ข

เฉลยข้ อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุดที่ 1


เฉลยอย่ างละเอียด
1. ตอบ ค เพราะท่อลำเลียงน้ำเป็ นส่ วนประกอบที่อยูใ่ นลำต้นของพืช
2. ตอบ ค เพราะการศึกษาท่อลำเลียงน้ำของต้นเทียนมีข้นั ตอนการปฏิบตั ิดงั นี้
1. นำต้นเทียนมาล้างรากให้สะอาด แล้วสังเกตลักษณะของลำต้น 2. แช่ตน้ เทียน
ลงในน้ำหมึกแดง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที 3. ตัดลำต้นของต้นเทียนตามขวางใช้
แว่นขยายส่ องดู และบันทึกผลการทดลอง ซึ่ งตรงกับข้อ ค.
3. ตอบ ข การทำการทดลองนี้ศึกษาในเรื่ องท่อลำเลียงน้ำของต้นเทียน โดยนำลำต้นของต้นเทียน
มาตัดขวาง แล้วจะพบว่ามีสีแดงอยูเ่ ป็ นจุดๆ ซึ่ งเกิดจากการที่รากดูดน้ำสี แดงขึ้นไปสู่
ลำต้นพืช
4. ตอบ ค จากการทดลองนี้สามารถสรุ ปได้วา่ ในลำต้นพืชมีโครงสร้างที่ใช้ในการลำเลียงน้ำและ
ธาตุอาหาร เรี ยกว่า ท่อลำเลียงน้ำ ซึ่ งเป็ นกลุ่มเซลล์ที่เรี ยงต่อกันเป็ นท่อยาว ตั้งแต่ราก
ลำต้น จนถึงใบ
5. ตอบ ง ใบของพืชมีหน้าที่ในการสังเคราะห์ดว้ ยแสง หายใจ และคายน้ำ ส่ วนการดูดน้ำเป็ น
หน้าที่ของราก
6. ตอบ ข การคายน้ำของพืชมีประโยชน์ ดังต่อไปนี้ คือ
1. ช่วยในการลำเลียงน้ำ เพราะทำให้รากดูดน้ำได้อย่างต่อเนื่อง
2. ช่วยให้ใบของพืชมีความชุ่มชื้น
3. ช่วยลดความร้อนในใบและลำต้นของพืช
7. ตอบ ค จากภาพ เป็ นภาพเด็กกำลังรดน้ำต้นไม้ ซึ่ งทำให้พืชมีการเจริ ญเติบโต เนื่องจากราก
ของพืชสามารถดูดน้ำและธาตุอาหารในดินไปใช้ได้ เนื่องจากน้ำช่วยละลายธาตุอาหาร
ในดิน แต่การรดน้ำไม่ได้ช่วยให้พืชเกิดการหายใจ เพราะพืชมีการหายใจตลอดเวลา

24
8. ตอบ ข พืชใช้แก๊สออกซิเจนในการหายใจ โดยที่การหายใจของพืชนั้นจะเกิดขึ้นตลอดเวลา
ส่ วนธาตุอาหารที่จ ำเป็ นต่อพืชจะมีท้ งั ในดินและปุ๋ ย

9. ตอบ ค ก. พืชมีการหายใจและแลกเปลี่ยนแก๊สทางรู ปากใบ ซึ่ งจะเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ใช่


เฉพาะเวลาที่มีแสงแดด
ข. พืชจะมีการคายน้ำเพื่อให้สามารถลำเลียงน้ำได้อย่างต่อเนื่องและช่วยลดความร้อน
ให้กบั พืช
ค. เมื่อพืชไม่ได้รับแสงแดด จะไม่เกิดกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
ง. รากของพืชทำหน้าที่ในการดูดน้ำและธาตุอาหารไปเลี้ยงส่ วนต่างๆ ของพืช ซึ่ งไม่
ต้องอาศัยแสงแดด
10. ตอบ ค เราไม่ควรปลูกต้นไม้ไว้ในห้องนอน เพราะพืชใช้แก๊สออกซิ เจนในการหายใจและจะ
ปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา เช่นเดียวกับคน ทำให้ตน้ ไม้แย่งอากาศเรา
หายใจ
11. ตอบ ง ปัจจัยที่ท ำให้พืชเกิดกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง ได้แก่ แสงแดด คลอโรฟิ ลล์ แก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำ
12. ตอบ ค หลังจากพืชสังเคราะห์ดว้ ยแสงแล้ว จะได้อาหารคือ น้ำตาล และจะนำไปสะสมไว้ใน
รู ปของแป้ ง และปล่อยแก๊สออกซิ เจนออกมาสู่ บรรยากาศ
13. ตอบ ค ตะบองเพชร เป็ นพืชที่อยูใ่ นบริ เวณที่แห้งแล้งจึงเปลี่ยนใบเป็ นหนามเพื่อลดการคายน้ำ
จึงใช้ล ำต้นซึ่ งมีสีเขียวในการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
14. ตอบ ค จากภาพจะเห็นว่าพืชจะเจริ ญเติบโต โดยโน้มลำต้นไปทางด้านซ้าย ซึ่ งก็คือ
การตอบสนองต่อแสงแดดของพืชนัน่ เอง โดยจะโน้มกิ่งหรื อลำต้นเข้าหาบริ เวณ
ที่มีแสงแดดส่ องถึง
15. ตอบ ข ทานตะวันจะมีการตอบสนองต่อแสงแดดโดยหันหน้าเข้าหาแสงอาทิตย์
ไมยราบมีการตอบสนองต่อการสัมผัสโดยเมื่อเราใช้นิ้วมือเขี่ยที่ใบ ไมยราบจะหุบใบ
ราบลง เพื่อป้ องกันอันตราย
หม้อข้าวหม้อแกงลิง กาบหอยแครง มีการตอบสนองต่อการสัมผัสโดยเปลี่ยนใบเป็ น

25
ที่ดกั จับแมลงกินเป็ นอาหาร
16. ตอบ ก ไส้เดือนมีการตอบสนองต่อแสง โดยจะเคลื่อนที่หนีแสงแดด
17. ตอบ ง กิ้งกือ เมื่อถูกสัมผัสจะม้วนตัวเป็ นวงกลมโดยขดหัวเข้าด้านใน เพื่อป้ องกันอันตราย
18. ตอบ ค เมื่ออากาศหนาวเย็น นกบางชนิดจะอพยพย้ายถิ่นไปยังบริ เวณที่อบอุ่นกว่าและมี
อาหารอุดมสมบูรณ์กว่า
19. ตอบ ค เมื่อแมวอยูใ่ นบริ เวณที่มีแสงสว่างมาก ม่านตาของแมวจะหรี่ เพื่อให้แสงเข้าในปริ มาณ
ที่พอเหมาะ และเมื่ออยูใ่ นบริ เวณที่มืด ม่านตาของแมวจะขยายกว้าง
20. ตอบ ง กิ้งก่าเมื่ออยูใ่ นสภาพอากาศที่ร้อนจัด จะหลบเข้าไปอยูใ่ นที่ร่ม ซึ่ งเป็ นการตอบสนอง
ต่ออุณหภูมิ ส่ วนในตัวเลือกอื่นๆ เป็ นการตอบสนองต่อแสง
21. ตอบ ข การศึกษาเรื่ องการตอบสนองของสัตว์ ทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมการตอบสนองของ
สัตว์ และการดำรงชีวิตของสัตว์ รวมไปถึงการเลี้ยงดูสตั ว์อย่างถูกวิธี ตลอดจนสามารถ
จัดสภาพแวดล้อมให้สตั ว์ได้อย่างเหมาะสม ส่ วนการปรับปรุ งสายพันธุ์ของสัตว์
เป็ นการศึกษาทางด้านพันธุกรรม
22. ตอบ ก ในดินมีองค์ประกอบสำคัญดังต่อไปนี้
1. อนินทรี ยวัตถุ 45 % 2. อินทรี ยวัตถุ 5 %
3. น้ำ 25 % 4. อากาศ 25 %
23. ตอบ ก หมายเลข  เป็ นส่ วนที่มีความสำคัญของพืชมาก เพราะมีธาตุอาหารที่จ ำเป็ นของพืช
ปะปนอยู่ และทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์
24. ตอบ ก หมายเลข  คืออินทรี ยวัตถุซ่ ึ งเป็ นองค์ประกอบของดินที่มีอยูน่ อ้ ยที่สุด ได้มาจาก
การสลายตัวของซากพืชซากสัตว์
25. ตอบ ค ดินเหนียว มีลกั ษณะเนื้ อดินละเอียด อุม้ น้ำได้ดี และเนื้อดินจับตัวกันแน่น
ดินร่ วน มีลกั ษณะเนื้ อดินโปร่ งกว่าดินเหนียว อุม้ น้ำได้ดีพอสมควร เนื้ อดินมีการจับตัว
ไม่แน่นจนเกินไป
ดินทราย มีลกั ษณะเนื้ อดินหยาบ อุม้ น้ำได้ไม่ดี ทำให้เนื้อดินไม่จบั ตัวกัน
ถ้าเรี ยงลำดับจากข้อมูลจะได้ ดินเหนียว , ดินร่ วน , ดินทราย ซึ่ งตรงกับข้อ ค.
26. ตอบ ข ดินชนิดที่ 2 มีเนื้อดินละเอียดทำให้อุม้ น้ำได้ดี จึงเหมาะกับปลูกพืชที่ตอ้ งการน้ำมาก
27. ตอบ ง การที่จะบอกว่าสารใดเป็ นองค์ประกอบในดิน เราสามารถสังเกตได้จากสี ของดิน ดัง
นั้นดินที่มีฮิวมัสปนอยูม่ ากจะมีสีคล้ำ และฮิวมัสจะช่วยให้เนื้ อดินร่ วนซุย
28. ตอบ ก การพรวนดิน เป็ นการทำให้เม็ดดินไม่จบั ตัวกัน ทำให้มีช่องว่างระหว่างเม็ดดินมากขึ้น
อากาศและน้ำผ่านได้สะดวก ช่วยให้รากพืชชอนไชหาอาหารได้ดี

26
29. ตอบ ข ดินที่เหมาะกับการปลูกพืช ควรมีเนื้ อดินไม่ละเอียดหรื อหยาบจนเกินไป เพื่อให้อากาศ
และน้ำผ่านได้สะดวก และมีสีคล้ำ แสดงว่ามีฮิวมัสปนอยูม่ าก ซึ่ งเป็ นดินที่มีธาตุ
อาหารที่พืชต้องการ
30. ตอบ ค ตะบองเพชรเป็ นพืชที่ตอ้ งการน้ำน้อย จึงควรปลูกในดินทราย ส่ วนมะลิ มะเขือ พริ ก
ควรปลูกในดินร่ วน ตัวเลือก ค. จึงถูกต้อง

31. ตอบ ก จากภาพ จะเห็นได้วา่ เทียนไขเป็ นแหล่งกำเนิดแสง ซึ่ งจะให้แสงกระจายออกไป


ทุกทิศทุกทางในแนวเส้นตรง ดังนั้น การทดลองนี้จึงเป็ นการทดลองเรื่ องการเคลื่อนที่
ของแสง
32. ตอบ ง จากการทดลองเป็ นการทดลองเรื่ องการเคลื่อนที่ของแสง ดังนั้นผลการทดลองที่ได้คือ
แสงเดินทางออกจากแหล่งกำเนิดทุกทิศทุกทางในแนวเส้นตรง
33. ตอบ ง กระจกใส เป็ นตัวกลางโปร่ งใส ส่ วนกระดาษขาวเป็ นตัวกลางทึบแสง ในตัวเลือกข้อ
อื่นๆ คือ ก. เป็ นตัวกลางโปร่ งใส ข. เป็ นตัวกลางทึบแสง และค. เป็ นตัวกลางโปร่ งแสง
34. ตอบ ค ก. หมายเลข 1 ยอมให้แสงผ่านได้บา้ งจึงเป็ นตัวกลางโปร่ งแสง แต่กระจกเงาเป็ น
ตัวกลางทึบแสง ข. หมายเลข 3 และ 5 ยอมให้แสงผ่านได้ดีจึงเป็ นตัวกลางโปร่ งใส
ง. การที่แสงเดินผ่านตัวกลางได้น้ นั ไม่จ ำเป็ นต้องขึ้นอยูก่ บั พื้นผิวของวัตถุ
35. ตอบ ข หมายเลข 4 ยอมให้แสงผ่านได้บา้ งจึงเป็ นตัวกลางโปร่ งแสง ซึ่ งตัวกลางโปร่ งแสง จะ
ตรงกับตัวเลือก ข. คือ กระดาษไข ที่เป็ นตัวกลางชนิดเดียวกับหมายเลข 4
36. ตอบ ค แสงจะเกิดการสะท้อนเมื่อกระทบกับตัวกลางทึบแสง ซึ่ งตรงกับวัตถุหมายเลข 2
37. ตอบ ก จากกฎของการสะท้อนของแสง
1. ลำแสงตกกระทบ ลำแสงสะท้อน และเส้นปกติจะอยูร่ ะนาบเดียวกันเสมอ
2. มุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน
จากโจทย์ก ำหนดให้ มุม (1) ซึ่ งเป็ นมุมตกกระทบมีค่าเท่ากับ 30ْ ดังนั้น มุม (2) ซึ่ งเป็ น
มุมสะท้อน จะต้องมีค่าเท่ากับ 30ْ ตามกฎของการสะท้อนของแสงในข้อ 2.
38. ตอบ ง การหักเหของแสงจะเกิดขึ้นเมื่อแสงเดินทางผ่านตัวกลางโปร่ งใสต่างชนิดกัน
39. ตอบ ง จากกฎของการหักเหของแสง
1. ถ้าแสงเดินทางผ่านตัวกลางที่มีเนื้ อบางเบากว่าไปยังตัวกลางที่มีเนื้ อแน่นกว่า
ลำแสงจะหักเหเบนเข้าหาเส้นปกติ
2. ถ้าแสงเดินทางผ่านตัวกลางที่มีเนื้ อแน่นกว่าไปยังตัวกลางที่มีเนื้ อบางเบากว่า

27
ลำแสงจะหักเหออกจากเส้นปกติ
ก. และ ค. แสงเดินทางจากตัวกลางที่มีเนื้ อบางเบากว่า ลำแสงหักเหจึงต้องเบนเข้าหา
เส้นปกติ
ข. แสงเดินทางจากตัวกลางที่มีเนื้ อแน่นกว่า ลำแสงหักเหจึงต้องเบนออกจากเส้นปกติ
ง. แสงเดินทางจากแก้วไปน้ำ แก้วมีเนื้อแน่นกว่า ลำแสงหักเหจึงต้องเบนออกจากเส้น
ปกติ ดังนั้น ตัวเลือก ง. จึงถูกต้อง
40. ตอบ ข เมื่อฉายแสงผ่านเลนส์นูน แสงจะเกิดการหักเหและรวมกันที่จุดหนึ่ง เมื่อฉายแสงผ่าน
เลนส์เว้า แสงจะเกิดการหักเหและกระจายออกห่างกัน
41. ตอบ ค สมชายมีอาการมองเห็นวัตถุที่อยูไ่ กลๆ ไม่ชดั เจน แสดงว่าสมชายสายตาสั้น เนื่องจาก
กระบอกตายาวเกินไป จึงควรสวมแว่นตาที่ท ำจากเลนส์เว้า เพราะเลนส์เว้าจะช่วย
หักเหแสงให้ภาพตกบนเรตินาพอดี
42. ตอบ ค เครื่ องคิดเลขมีเซลล์สุริยะซึ่ งสามารถเปลี่ยนพลังงานแสงเป็ นพลังงานไฟฟ้ าได้
43. ตอบ ง แสงจากดวงอาทิตย์ให้พลังงานแสงช่วยให้เรามองเห็นสิ่ งต่างๆ ให้พลังงานความร้อน
ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น และแสงจากดวงอาทิตย์สามารถเปลี่ยนเป็ นพลังงานไฟฟ้ าได้
44. ตอบ ง พลังงานจากแสงอาทิตย์เป็ นพลังงานที่ได้จากธรรมชาติ จึงเป็ นพลังงานที่สะอาด
ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ และใช้แล้วไม่มีวนั หมด จึงจัดเป็ นพลังงานหมุนเวียน
45. ตอบ ค ก. รุ ้งกินน้ำเกิดจาก แสงแดดส่ องผ่านละอองน้ำ จะเกิดการหักเหและสะท้อนกลับ
หมด ดังนั้นรุ ้งกินน้ำจึงเกิดในทิศทางตรงกันข้ามกับดวงอาทิตย์
ข. สเปกตรัมของดวงอาทิตย์เกิดจากการหักเหของแสงผ่านปริ ซึม สามารถรวมกัน
เป็ นแสงขาวได้
ค. เมื่อเรามองแสงแดดในเวลาปกติจะเห็นเป็ นแสงขาว
ง. เมื่อแสงอาทิตย์หรื อแสงขาวหักเหผ่านปริ ซึมจะกระจายออกเป็ นแถบสี ท้ งั หมด 7 สี
46. ตอบ ง ในระบบสุ ริยะ มีดาวเคราะห์ที่มีพ้ืนผิวเป็ นหิน ดังนี้ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดาว
อังคาร
มีดาวเคราะห์ที่แบ่งตามวงโคจรดังนี้ คือ ดาวพุธ และดาวศุกร์ เป็ นดาวเคราะห์วงใน
ส่ วนดาวเคราะห์วงนอก ได้แก่ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาว
เนปจูน ดังนั้น ดาวอังคาร จึงเป็ นดาวเคราะห์หินที่เป็ นดาวเคราะห์วงนอก
47. ตอบ ค ดาวหาง เป็ นส่ วนหนึ่งของระบบสุ ริยะ เนื่องจากเป็ นบริ วารของดวงอาทิตย์ ดาวหางจะ
มีวงโคจรเป็ นวงรี รอบดวงอาทิตย์

28
48. ตอบ ข ดาวเคราะห์นอ้ ย จัดเป็ นบริ วารของดวงอาทิตย์และโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยเกาะกัน
เป็ นวงแหวนอยูร่ ะหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี
49. ตอบ ก ดาวศุกร์ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยูเ่ พราะมีพ้ืนผิวแห้งแล้ง มีสภาพบรรยากาศหนาแน่นเป็ น
100 เท่าของโลก แก๊สส่ วนใหญ่เป็ นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และไอของกรดกำมะถัน
มีอุณหภูมิสูงเกือบ 500 องศาเซลเซี ยส
50. ตอบ ง ซีเรส พลูโต ดีรีส และมาเกะมาเกะ เป็ นชื่อของดาวเคราะห์แคระ ซึ่ งสหพันธ์
ดาราศาสตร์สากลประกาศให้ดาวเคราะห์แคระมีท้ งั หมด 4 ดวง
เฉลยข้ อสอบมาตรฐานชั้นปี ชุดที่ 2
เฉลยอย่ างละเอียด
1. ตอบ ก จากภาพเป็ นโครงสร้างพืชที่อยูใ่ นลำต้นพืช คือ ท่อลำเลียงน้ำ ซึ่ งทำหน้าที่ล ำเลียงน้ำ
และธาตุอาหารไปยังส่ วนต่างๆ ของพืช
2. ตอบ ค ท่อลำเลียงน้ำเป็ นโครงสร้างของพืชพบอยูท่ ี่บริ เวณลำต้นของพืช
3. ตอบ ก การนำถุงพลาสติกมาครอบกิ่งไม้ที่มีใบและไม่มีใบ จะพบว่าถุงพลาสติกที่ครอบกิ่งไม้
ที่มีใบจะมีหยดน้ำมาเกาะอยูภ่ ายในถุง ส่ วนกิ่งที่ไม่มีใบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
4. ตอบ ข จากภาพเป็ นส่ วนของปากใบ ซึ่ งมีหน้าที่ในการหายใจ แลกเปลี่ยนแก๊ส และคายน้ำ
5. ตอบ ค จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า พืชกระถางที่ 1 ถูกกล่องทึบครอบไว้ท ำให้ไม่ได้รับ
แสงแดด ส่ วนกระถางที่ 2 จะได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ และใช้ดินชนิดเดียวกันในการ
ปลูก รวมทั้งรดน้ำในปริ มาณที่เท่ากัน ดังนั้น การทดลองของ ด.ช. เบนซ์ จึงเป็ นการ
ทดลองเพื่อศึกษาว่าแสงมีผลต่อการเจริ ญเติบโตของพืชหรื อไม่
6. ตอบ ก ต่างกัน เพราะพืชในกระถางที่ 1 เมื่อไม่ได้รับแสงแดดจะไม่เกิดกระบวนการสร้าง
อาหาร จึงทำให้เจริ ญเติบโตได้ไม่ดีเท่ากับกระถางที่ 2 ซึ่ งได้รับน้ำและแสงแดดอย่าง
เต็มที่
7. ตอบ ง น้ำและแสงแดด เป็ นปัจจัยสำคัญในการเจริ ญเติบโตของพืช นอกจากนี้ ยงั รวมไปถึง
อากาศและธาตุอาหารด้วย ถ้าพืชได้รับปั จจัยในการเจริ ญเติบโตได้ไม่ครบถ้วนก็จะ
ทำให้พืชเจริ ญเติบโตได้ไม่ดี
8. ตอบ ก บริ เวณที่ปิดกระดาษสี ด ำไว้จะทำให้พืชไม่ได้รับแสงแดดจึงไม่เกิดกระบวนการ
สังเคราะห์ดว้ ยแสง จึงไม่มีการเปลี่ยนสี สารละลายไอโอดีน
9. ตอบ ก ในเวลากลางวัน พืชจะเกิดกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง และใช้แก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์เป็ นวัตถุดิบ แล้วคายแก๊สออกซิ เจนออกมา ซึ่ งเป็ นอากาศที่เรา
ใช้ในการหายใจ จึงทำให้เรารู ้สึกสดชื่น

29
10. ตอบ ข ทานตะวัน เป็ นพืชที่มีลกั ษณะพิเศษในการตอบสนองต่อแสง โดยที่ล ำต้นสามารถบิด
หมุนได้ จึงทำให้ใบและดอกหมุนหันไปตามดวงอาทิตย์เสมอ ทำให้สามารถ
สังเคราะห์ดว้ ยแสงได้เพิ่มขึ้น
11. ตอบ ข เมื่อสัมผัสถูกต้นไมยราบ ไมยราบจะหุบใบราบลงเพื่อป้ องกันอันตราย

12. ตอบ ง พืชมีการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยูไ่ ด้ เช่น เมื่อพืชอยูใ่ น


บริ เวณที่มีแสงแดดไม่เพียงพอ ก็จะโน้มลำต้นเข้าหาแสง หรื อเมื่อพืชบางชนิดถูก
สัมผัสก็จะหุบใบเพื่อป้ องกันอันตราย หรื อเปลี่ยนจากใบเป็ นกระเปาะในการดักจับ
แมลง ดังนั้นพืชจึงไม่มีการตอบสนองเพื่อสื บพันธุ์
13. ตอบ ก ต้นตะบองเพชรเปลี่ยนใบเป็ นหนามเพื่อลดการคายน้ำ เป็ นการตอบสนองต่ออุณหภูมิ
ที่สูงเกินไป และทำให้ตน้ ตะบองเพชรรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้ ส่ วนการที่ตน้ หม้อข้าว
หม้อแกงลิงจับแมลงเป็ นอาหาร และผักกระเฉดหุบใบราบลง เป็ นการตอบสนองต่อ
การสัมผัส และการโน้มลำต้นเข้าหาแสงแดดเป็ นการตอบสนองต่อแสง
14. ตอบ ค จากการทดลอง จะเห็นได้วา่ หลุยส์ การ์เซี ย ใช้เพลงต่างชนิดกัน และพบว่าผลการ
ทดลองคือ พืชที่อยูใ่ นห้องทดลองที่เปิ ดเพลงคลาสสิ ก จะเจริ ญเติบโตได้ดีกว่า ดังนั้น
ปัญหาของการทดลองนี้ คือ ต้องการทราบว่า พืชมีการตอบสนองต่อเสี ยงเพลงที่แตก
ต่างกันหรื อไม่
15. ตอบ ง จากการทดลองนี้ จะเห็นว่าเพลงที่เลือกใช้เปิ ดในห้องทดลอง เป็ นเพลงต่างชนิดกัน ดัง
นั้นสิ่ งที่จดั ให้แตกต่างกันในการทดลองนี้ คือ ชนิดของเพลง
16. ตอบ ค สุ นขั นอนหลับในเวลากลางคืน เป็ นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของสุ นขั ซึ่ ง
จะออกหากินในเวลากลางวัน และนอนหลับในเวลากลางคืน
17. ตอบ ก แมวเลียอุง้ เท้าเป็ นการระบายความร้อนและการระเหยของน้ำลายจะพาความร้อนออก
ไป จึงเป็ นการตอบสนองต่ออุณหภูมิของแมว
18. ตอบ ค สัตว์ที่มีการตอบสนองต่อการสัมผัสจะมีประสาทสัมผัสอยูท่ ี่บริ เวณผิวหนัง ดังนั้นเมื่อ
ได้รับการสัมผัส ระบบประสาทกับกล้ามเนื้อจะทำงานประสานกันและแสดง
พฤติกรรมตอบสนองต่อสิ่ งเร้า
19. ตอบ ง กระต่ายอาร์กติกเป็ นสัตว์ที่อยูใ่ นเขตที่มีอากาศหนาวเย็น มันจะสร้างขนหนาขึ้นเพื่อให้
ร่ างกายอบอุ่น ป้ องกันอากาศหนาวเย็น และพรางตัวจากนักล่าเพราะขนของมันมีสีขาว
เหมือนกับสี ของหิมะ

30
20. ตอบ ง สัตว์มีการตอบสนองต่ออุณหภูมิเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตในสิ่ งแวดล้อมได้ ลดการใช้
พลังงาน เช่น การจำศีล และระบายความร้อนออกจากร่ างกาย เช่น การหอบของสุ นขั
การเลียอุง้ เท้าของแมว ส่ วนการข่มขู่ศตั รู เป็ นการตอบสนองต่อการสัมผัส
21. ตอบ ก ในดินมีน ้ำเป็ นส่ วนประกอบ ดังนั้นเมื่อนำดินไปตั้งทิ้งไว้กลางแดดจะพบว่า มีหยดน้ำ
มาเกาะภายในถุงพลาสติก เพราะน้ำในดินระเหยออกมา
22. ตอบ ค การย่อยสลายเศษหินและแร่ หรื ออนินทรี ยวัตถุ ขึ้นอยูก่ บั ปั จจัยต่างๆ เช่น สภาพอากาศ
ลม ฝน แสงแดด กระแสน้ำ ทำให้หินเกิดการแตกหักและผุกร่ อน แต่จุลินทรี ยจ์ ะทำ
หน้าที่ในการย่อยสลายอินทรี ยวัตถุ หรื อซากพืชจากสัตว์
23. ตอบ ก อินทรี ยวัตถุหรื อฮิวมัส เป็ นส่ วนที่มีความสำคัญต่อการเจริ ญเติบโตของพืชมากที่สุด
เพราะอุดมไปด้วยธาตุอาหารที่มีความจำเป็ นต่อพืช ซึ่ งพืชสามารถดูดซึ มไปใช้ได้ เช่น
ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซี ยม เป็ นต้น
24. ตอบ ค การใส่ ปุ๋ยเคมีในปริ มาณที่มากเกินไปอาจทำให้ดินเปรี้ ยว และทำให้ดินเสื่ อมคุณภาพ
25. ตอบ ก จากผลการทดลองจะเห็นได้วา่ ต้นถัว่ เขียวเมื่อปลูกในดิน A จะมีความสู งมากกว่าต้น
ถัว่ เขียวที่ปลูกในดิน B และ C ดังนั้นจึงสรุ ปได้วา่ ต้นถัว่ เขียวเจริ ญเติบโตได้ดีในดิน A
26. ตอบ ค จากผลการทดลองจะเห็นได้วา่ เมื่อปลูกต้นถัว่ เขียวในดินทั้ง 3 ชนิด การเจริ ญเติบโต
ของต้นถัว่ เขียวจะมีความแตกต่างกัน โดยดูได้จากความสู งของต้นถัว่ เขียวในดิน
แต่ละชนิด
27. ตอบ ข ดินชั้นบนเป็ นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์เพราะมีอินทรี ยวัตถุปนอยูม่ ากและมีเนื้อดินที่
ไม่แข็งหรื อแน่นจนเกินไป ทำให้พืชสามารถหยัง่ รากลงไปได้ง่าย
28. ตอบ ก อนินทรี ยวัตถุเป็ นองค์ประกอบของดินที่มีอยูม่ ากที่สุดประมาณร้อยละ 45 ซึ่ งมีอยูใ่ น
ดินทุกชนิด ดังนั้นการมีอนินทรี ยวัตถุปนอยูม่ ากจึงไม่ใช่เหตุผลที่บ่งบอกว่า ดินชนิดนี้
เหมาะแก่การปลูกพืช
29. ตอบ ก ดินที่มีความเป็ นกรดสูงเกิดจากในดินมีปริ มาณไฮโดรเจนมากเกินไป หรื อเกิดจากการ
ใช้ปยเคมี ุ๋ ในการเกษตรมากเกินไป
30. ตอบ ง หินและแร่ เมื่อเกิดการสลายตัวจะกลายเป็ นวัตถุตน้ กำเนิดดินหรื ออนินทรี ยวัตถุ
31. ตอบ ค อินทรี ยวัตถุเกิดจากการเน่าเปื่ อยผุพงั ของซากพืชซากสัตว์ ซึ่ งเป็ นองค์ประกอบที่มีอยู่
เพียงร้อยละ 5 ทำให้ดินมีสีคล้ำ และร่ วนซุย มีอยูม่ ากในดินชั้นบน จึงทำให้ดินชั้นบน
เป็ นดินที่เหมาะแก่การปลูกพืชต่างๆ
32. ตอบ ก จุลินทรี ยจ์ ะทำหน้าที่ในการย่อยสลายซากพืชซากสัตว์

31
33. ตอบ ง ดินที่มีอนุภาคเล็ก เม็ดดินจะจับตัวกันแน่นทำให้มีช่องว่างระหว่างเม็ดดินน้อย น้ำจึง
ซึมผ่านได้ชา้ กว่าดินที่มีอนุภาคใหญ่
34. ตอบ ค การแกล้งดินตามแนวพระราชดำริ เป็ นการฟื้ นฟูดินที่เสื่ อมคุณภาพ หรื อดินที่เปรี้ ยวจัด
ให้สามารถทำการเพาะปลูกได้อีกครั้งหนึ่ง
35. ตอบ ข ถ้าวางกระดาษที่เจาะรู ไม่ตรงกัน แสงจะไม่สามารถเคลื่อนที่ผา่ นไปได้ จึงไม่ปรากฏ
บนฉาก เนื่องจากแสงเดินทางเป็ นแนวเส้นตรง
36. ตอบ ก ตัวกลางโปร่ งใส คือ ตัวกลางที่แสงสามารถเดินทางผ่านไปได้ เช่น แก้ว อากาศ
กระจกใส เป็ นต้น
37. ตอบ ค ตัวกลางที่แสงสามารถเดินทางผ่านได้พอสมควร คือ ตัวกลางโปร่ งแสง ซึ่ งตรงกับ
กระจกฝ้ า และกระดาษไข
38. ตอบ ข ตัวกลางทึบแสง (วัตถุทึบแสง) เป็ นตัวกลางที่แสงไม่สามารถเดินทางผ่านไปได้ ดังนั้น
เมื่อเราฉายลำแสงไปที่ตวั กลางทึบแสงจึงทำให้เกิดเงา ซึ่ งตัวกลางทึบแสงที่ก ำหนดให้
คือ กระจกเงาและหนังสื อ
39. ตอบ ง การทดลองนี้เป็ นการทดลองเรื่ องการสะท้อนของแสง ดังนั้น การที่กระจกเงาเป็ น
ตัวกลางทึบแสงจึงไม่ได้เป็ นผลจากการทดลองนี้
40. ตอบ ค เมื่อแสงเคลื่อนที่ผา่ นตัวกลางโปร่ งใส 2 ชนิด ที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดการหักเหของ
แสง ซึ่ งทำให้เรามองเห็นภาพของวัตถุที่อยูใ่ นตัวกลางมีลกั ษณะผิดไปจากวัตถุจริ ง
41. ตอบ ก จากภาพเป็ นการทดลองเรื่ องการหักเหของแสง ซึ่ งจะเห็นได้วา่ เราฉายลำแสงผ่าน
ตัวกลางโปร่ งใส 2 ชนิด คือ อากาศและแก้ว ตามกฎการหักเหของแสง คือ ถ้าแสง
เดินทางผ่านตัวกลางที่มีเนื้ อบางเบากว่าไปยังตัวกลางที่มีเนื้ อแน่นกว่า ลำแสงจะหักเห
เบนเข้าหาเส้นปกติ
42. ตอบ ข เมื่อฉายแสงผ่านเลนส์เว้า แสงจะเกิดการหักเหและกระจายออกห่างจากกัน
43. ตอบ ข นักวิทยาศาสตร์น ำเอาพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้ า เนื่องจาก
เป็ นพลังงานที่ใช้ไม่มีวนั หมดและไม่ตอ้ งซื้ อ เพราะเป็ นพลังงานที่ได้จากธรรมชาติ
44. ตอบ ค เซลล์สุริยะเมื่อได้รับแสงจะเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็ นพลังงานไฟฟ้ า เช่น หลักการ
ทำงานของเซลล์สุริยะที่อยูด่ า้ นหน้าของเครื่ องคิดเลข ซึ่ งถ้าเราเอาสมุดปิ ดที่แผงเซลล์
สุ ริยะ เครื่ องคิดเลขจะไม่สามารถทำงานได้ แต่ถา้ เซลล์สุริยะได้รับแสง เครื่ องคิดเลข
จะสามารถทำงานได้

32
45. ตอบ ง เมื่อแสงอาทิตย์ผา่ นปริ ซึมหมายเลข 1 จะพบว่า แสงขาวจากดวงอาทิตย์ประกอบด้วย
แถบสี ท้ งั หมด 7 สี เมื่อเรานำปริ ซึมหมายเลข 2 มารับแสงที่ผา่ นออกมาจากปริ ซึม
หมายเลข 1 แสงที่ผานออกมาจากปริ ซึมหมายเลข 2 จะเป็ นแสงขาวตามเดิม
46. ตอบ ก เราสามารถมองเห็นแสงอาทิตย์เป็ นแสงสี เดียวคือ สี ขาว แต่เมื่อเราใช้ปริ ซึมรับแสง
อาทิตย์จะเห็นได้วา่ แสงอาทิตย์ประกอบด้วยแถบสี ต่างๆ 7 สี
47. ตอบ ก ศูนย์กลางของระบบสุ ริยะ คือ ดวงอาทิตย์ เป็ นดาวที่มีแสงสว่างในตัวเอง จึงจัดเป็ น
ดาวฤกษ์

48. ตอบ ง ดาวเสาร์และดาวยูเรนัส เป็ นดาวเคราะห์ที่มีวงแหวนล้อมรอบ นอกจากนี้ ยงั มีดาวอีก


2 ดวงที่มีวงแหวนล้อมรอบ คือ ดาวพฤหัสบดี และดาวเนปจูน แต่ถา้ เราใช้
กล้องโทรทรรศน์ส่องดูจะเห็นเพียงแค่วงแหวนของดาวเสาร์เพียงดวงเดียว
49. ตอบ ก ดาวพลูโต ถูกจัดเป็ นดาวเคราะห์แคระเนื่องจากมีวงโคจรซ้อนทับกับดาวเนปจูน ซึ่ ง
ตรงกับสมบัติของดาวเคราะห์แคระที่วา่ ดาวเคราะห์แคระจะมีวงโคจรซ้อนทับหรื อ
ใกล้เคียงกับวัตถุอื่น
50. ตอบ ข ถ้าเราแบ่งดาวเคราะห์ตามลักษณะพื้นผิว จะได้ดาวเคราะห์หิน คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์
และโลก ส่ วนดาวพฤหัสบดีถูกจัดเป็ นดาวเคราะห์แก๊ส



33

You might also like