You are on page 1of 1

ณ ยอดเขาสูงสุดของโลกนันเป็ ้ นที่พำนักของเหล่าเทพแห่งพิภพซึง่ ไม่มีมนุษย์ผ้ ใู ดได้

พบเห็น ครัง้ หนึง่ นันพวกเขาเคยอยู


้ ่บนยอดที่เตี ้ยกว่านัน้ แต่เหล่าผู้คนจากทุง่ ราบก็ได้ ปีน
ป่ ายขึ ้นไปตามเนินของศิลาและหิมะ รุกไล่เหล่าเทพไปสูภ่ เู ขาที่สงู ขึ ้นและสูงขึ ้นทุกที จน
กระทัง่ เหลืออยู่เพียงยอดสุดท้ าย เมื่อพวกเขาไปจากยอดเดิมนัน้ พวกเขาก็เอาร่องรอย
ของตนไปด้ วย ว่ากันว่ามีเพียงครัง้ เดียวที่พวกเขาทิ ้งภาพสลักไว้ บนผิวของขุนเขาที่เรี ยกว่า
ราเน็ต

แต่บดั น้ พวกเขาได้ ไปสูค่ าดัธอันลี ้ลับในแดนรกร้ างหนาวเย็นซึง่ มิเคยมีมนุษย์ย่างกราย


และก็ดรุ ้ ายขึ ้นด้ วยว่าไม่มียอดเขาอันสูงกว่านันที้ ่จะใช้ หลบลี ้ไปจากมนุษย์ที่มาเยือนอีก
แล้ ว พวกเขาดุร้ายขึ ้น ครัง้ หนึง่ นันพวกเขายอมให้
้ มนุษย์เข้ ามาแทนที่ตน บัดนี ้เขาห้ ามมิ
ให้ เหล่ามนุษย์มาเยือน หรื อที่มาเยือนแล้ วก็มใิ ห้ จากไป เป็ นเรื่ องดีที่พวกมนุษย์ไม่ร้ ูวา่ คาดั
ธในแดนรกร้ างหนาวเย็นนันอยู ้ ่ที่ใด ไม่เช่นนันพวกเขาคงหาทางปี
้ นขึ ้นไปอย่างไร้ ความคิด

บางครัง้ เมื่อเหล่าเทพแห่งพิภพคิดถึงบ้ านเก่าของตน พวกเขาก็กลับไปเยือนเหล่ายอดเขา


ที่ตนเคยอยู่ในยามราตรี อนั สงบ แล้ วก็ร่ำไห้ เบาๆเมื่อพวกเขาพยายามเล่นสนุกในวิถีเดิม
บนเนินที่ยงั จำได้ นนั ้ เหล่ามนุษย์ได้ สมั ผัสน้ำตาของเหล่าเทพบนยอดสีขาวของธูราย แต่
พวกเขาคิดว่ามันเป็ นฝนและได้ ยินเสียงถอนใจของเหล่าเทพในเสียงครวญของสายลม
ยามอรุณแห่งเลริ ออน เหล่าเทพนันเดิ ้ นทางในเรื อเมฆเป็ นนิสยั อันเคยชิน และเหล่าชาว
พื ้นเมืองผู้ชาญฉลาดก็มีตำนานซึง่ กันพวกเขาออกจากยอดเขาสูงบางแห่งในคืนที่เต็มไป
ด้ วยก้ อนเมฆ เพราะเหล่าเทพนันมิ ้ ได้ มีใจกรุณาเหมือนแต่ก่อน

ในอุลธาร์ ซงึ่ อยู่พ้นแม่น้ำสคายไปนัน้ ครัง้ หนึง่ มีชายชราผู้ปรารถณาจะได้ เห็นเหล่าเทพ


แห่งพิภพ ชายผู้นนได้ ั ้ ศกึ ษาตำราปริ ศนาทังเจ็
้ ดของโลกอย่างลึกซึ ้ง

You might also like