You are on page 1of 21

water energy

พลังงานน้า
(water energy)
พลังงานนา้ (water energy)
น้ำ เป็นทรัพยำกรที่สำมำรถเกิดหมุนเวียน
หยำดน้ำฟ้ำ
ได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันหมดสิน พลังงำนจำกน้ำจึง
เป็นพลังงำนหมุนเวียน ที่สำมำรถน้ำไปใช้เป็น
พลังงำนทดแทนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ เมื่อ
แสงแดดส่องมำบนพืนโลก น้ำบนผิวโลก เช่น
แม่ น้ ำ ทะเล มหำสมุทร จะระเหยเป็ นไอน้ ำ
ลอยขึนสู่อำกำศ ด้ำนบน
น้ำระเหย

มหำสมุทร
พลังงานนา้ (water energy)
เนื่องจำกไอน้ำมีน้ำหนักเบำกว่ำอำกำศ เมื่อ หยำดน้ำฟ้ำ
ไอน้ ำ ลอยสู ง ขึ นจนไปเจอชั นบรรยำกำศที่ เ ย็ น
มำกพอก็ จ ะเกิ ด กำรควบแน่ น เป็ น ละอองน้ ำ
ขนำดเล็กๆ ที่เกำะกลุ่มกันเกิดเป็นก้อนเมฆ เมื่อ
ละอองน้ำในเมฆจับตัวกันเป็นหยดน้ำ ขนำดใหญ่
มำกขึนและมีน้ำหนักมำกพอ ก็จะกลำยเป็นฝน
หรือหิมะตกลงสู่พืนโลก หิมะที่ตกลงมำสะสมอยู่
บนยอดเขำ จะพอกพู น เพิ่ ม ขึ นเกิ ด เป็ น ธำร
น้ำแข็ง
เมื่อธำรน้ำแข็งละลำยก็จะกลำยเป็นน้ำไหล
ลงสู่ แ ม่ น้ ำ ส่ ว นฝนที่ ต กลงมำยั ง โลก ก็ จ ะไหล
รวมกันเป็นล้ำธำรหรือแม่น้ำ และน้ำบนผิวโลก
บำงส่วนก็แทรกซึมตำมรอยแตกของชันหินท้ำให้
เกิดน้ำใต้ดิน น้ำจำกแม่น้ำและน้ำใต้ดินก็จะไหล
ไปรวมกันในมหำสมุทร จำกนันน้ำบนผิวโลกเมื่อ หิมะละลำย
ได้ รั บ ควำมร้ อ นจำกดวงอำทิ ต ย์ ก็ จ ะระเหย
กลำยเป็นไอน้ำอีกครัง เกิดขึนหมุนเวียนเป็นวัฏ
จัก รเช่ นนี ไปเรื่อ ยๆ เรียกว่ำ วัฏจั กรน้ ำ (water
cycle)
วัฏจักรนา้ (water cycle)
หยำดน้ำฟ้ำ

หิมะละลำย

พืชคำยน้ำ

น้ำระเหย

แม่น้ำ
น้ำใต้ดิน
มหำสมุทร
พลังงานน้า (water energy)
พลังงำนน้ำจัด เป็นพลังงำนหมุนเวียนที่สะอำด
และใช้ได้อย่ำงไม่มีวันหมด พลังงำนที่ได้จำกแหล่ง
น้ ำ มี หลำยรู ป แบบ เช่ น พลั ง งำนจำกน้ ำ ตกหรื อ
เขื่อน พลังงำนน้ำขึนน้ำลง พลังงำนคลื่น เป็นต้น
1.พลังงานน้าขึนน้าลง
มี พื นฐำนมำจำกพลั ง งำนศั ก ย์ แ ละพลั ง งำนจลน์ ข องระบบที่ ป ระกอบด้ ว ยดวง
อำทิตย์ โลก และดวงจันทร์ ส้ำหรับในกำรเปลี่ยนพลังงำนน้ำขึนน้ำลงให้เป็นพลังงำน
ไฟฟ้ำ คือเลือกแม่น้ำหรืออ่ำวที่มีพืนที่เก็บน้ำได้มำกและพิสัยของน้ำขึนน้ำลงมีค่ำสูง
แล้วสร้ำงเขื่อนที่ปำกแม่น้ำหรือปำกอ่ำว เมื่อน้ำลงมวลน้ำจะไหลออกจำกอ่ำงเก็บน้ำ
กำรไหลเข้ำออกของน้ำต้องควบคุ มให้ไหลผ่ำนกัง หันน้ ำที่ต่อเชื่อมกับเครื่องก้ำเนิ ด
ไฟฟ้ำ เมื่อกังหันน้ำหมุนก็จะได้ไฟฟ้ำออกมำ
(พลังงำนน้ำขึนนำ้ ลง)
2.พลังงานน้าตก
กำรผลิ ต ไฟฟ้ ำ จำกพลั ง งำนน้ ำ ตก ท้ ำ ได้ โ ดยอำศั ย พลั ง งำนของน้ ำ ตกตำม
ธรรมชำติ หรื อ น้ ำ ตกที่ เ กิ ด จำกกำรดั ด แปลงสภำพธรรมชำติ เช่ น น้ ำ ตกจำก
ทะเลสำบบนเทือกเขำ หรือน้ำตกที่เกิดจำกกำรสร้ำงเขื่อนกันน้ำ โดยกำรก้ำเนิด
ไฟฟ้ ำจะมีก้ ำ ลั ง มำกน้ อ ยขึนอยู่กั บ ควำมสู ง ของน้ ำ และอั ตรำกำรไหลของน้ ำ ที่
ปล่อยลงมำ
พลังงำนจำกน้ำตกหรือเขื่อน
3.พลังงานคลื่น
เป็นกำรเก็บเกี่ยวเอำพลังงำนที่ลมถ่ำยทอดให้กับผิวน้ำในมหำสมุทร เกิดเป็น
คลื่ น วิ่ ง เข้ ำ สู่ ช ำยฝั่ ง และเกำะแก่ ง ต่ ำ ง ๆ เครื่ อ งผลิ ต ไฟฟ้ ำ พลั ง งำนคลื่ น จะถู ก
ออกแบบให้ลอยตัวอยู่บนผิวน้ำหันเข้ำหำคลื่น กำรใช้คลื่นเพื่อผลิตไฟฟ้ำนันจะ
ได้ผลก็ต่อเมื่ออยู่ในโซนที่มียอดคลื่นเฉลี่ยอยู่ที่ 8 เมตรขึนไป และบริเวณนันต้อง
มีแรงลมด้วย
พลังงำนคลื่น
ซึ่งกำรผลิตกระแสไฟฟ้ำจำก พลังงำนน้ำส่วน
ใหญ่จะเป็นกำรผลิตกระแสไฟฟ้ำจำกเขื่อนกักเก็บ
น้ำ โดยอำศัยหลักกำรกำรเคลื่อนที่ของน้ำจำกที่สูง
สู่ ที่ ต่้ ำ เมื่ อ น้ ำ บนผิ ว โลกในทะเลและมหำสมุ ท ร
ระเหยกลำยเป็นไอลอยขึนไปในอำกำศแล้วกลั่นตัว
กลำยเป็นฝน บำงส่วนจะตกลงบนที่สูง เช่น ภูเขำ
ในขันตอนนีจึงเอำพลังงำนบำงส่วนมำใช้โดยกำร
สร้ ำ งเขื่ อ น กั ก เก็ บ น้ ำ เพื่ อ ปล่ อ ยน้ ำ ให้ ไ หลผ่ ำ น
กัง หัน น้ ำ น้ำ ที่ ไหลด้ว ยควำมเร็วสูง จะผ่ ำนเข้ำ ท่ อ
แล้วหมุนกังหันน้ำที่ต่อกับ เครื่องก้ำเนิดไฟฟ้ำเพื่อ
ผลิตกระแสไฟฟ้ำ
ประโยชน์ของพลังงานน้า
1 พลังงำนน้ำเป็นพลังงำนหมุนเวียนที่สำมำรถน้ำกลับมำใช้ใหม่ได้ไม่หมดสิน

2
ประโยชน์ของพลังงานน้า
1 พลังงำนน้ำเป็นพลังงำนหมุนเวียนที่สำมำรถน้ำกลับมำใช้ใหม่ได้ไม่หมดสิน

เครื่องกลพลังงำนน้ำสำมำรถเริ่มด้ำเนินกำรผลิตพลังงำนได้ในเวลำ
2 อันรวดเร็ว และควบคุมให้ผลิตก้ำลังงำนออกมำได้ใกล้เคียงกับควำมต้องกำร
ประโยชน์ของพลังงานน้า
เมื่อน้ำพลังงำนน้ำไปใช้แล้ว น้ำยังคงมีคุณภำพเหมือนเดิมท้ำให้สำมำรถน้ำไปใช้
3 ประโยชน์อย่ำงอื่นได้อีก เช่น เพื่อกำรชลประทำน

4
ประโยชน์ของพลังงานน้า
เมื่อน้ำพลังงำนน้ำไปใช้แล้ว น้ำยังคงมีคุณภำพเหมือนเดิมท้ำให้สำมำรถน้ำไปใช้
3 ประโยชน์อย่ำงอื่นได้อีก เช่น เพื่อกำรชลประทำน

4 กำรสร้ำงเขื่อนเพื่อกักเก็บและทดน้ำให้สูงขึน สำมำรถช่วยกักน้ำเอำไว้ใช้ในช่วง
ที่ไม่มีฝนตก ท้ำให้ได้แหล่งน้ำขนำดใหญ่สำมำรถใช้เลียงสัตว์น้ำ
สมาชิกในกลุ่ม
ชันมัธยมศึกษาปีที่ 5/1
1.นำยกันตวิชญ์ จุลวัฒน์ เลขที่ 7
2.นำงสำวปณิตำ นิลแก้ว เลขที 17
3.นำงสำวณิชกำนต์ ชุมเกือ เลขที่ 20
4.นำงสำวสุตะวัน ผอมคง เลขที่ 21
5.นำงสำวอรุณรัตน์ เทพไชย เลขที่ 22

You might also like