You are on page 1of 2

คาอธิบายโดยสรุปสาระสาคัญของพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ.

๒๕๖๒
๑ วัตถุประสงค์
เพื่ อ ส่ ง เสริ ม ให้ ชุ ม ชนได้ ร่ ว มกั บ รั ฐ ในการอนุ รั ก ษ์ ฟื้ น ฟู จั ด การ บ ารุ ง รั ก ษาและใช้ ป ระโยชน์ จ าก
ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืนในรูปแบบของป่าชุมชน
เพื่ อ ให้ ชุ ม ชนสามารถจั ด การป่ า ชุ ม ชนและได้ ป ระโยชน์ จ ากป่ า ชุ ม ชน อั น จะส่ ง ผลให้ ชุ ม ชนดู แ ลรั ก ษา
ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศให้มีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน
๒ คณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน
กาหนดให้ประกอบด้วยกรรมการจานวน ๒๒ คน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
เป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมป่าไม้เป็นกรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่และอานาจในการเสนอความเห็น
ต่ อ คณะรั ฐ มนตรี เ กี่ ย วกั บ นโยบายในการส่ ง เสริ ม และสนั บ สนุ น ป่ า ชุ ม ชนและเครื อ ข่ า ยป่ า ชุ ม ชน เสนอแนะ
ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกาหนดมาตรการทางการเงิน การคลัง หรือมาตรการอื่นเพื่อสนับสนุนการดาเนินงานป่าชุมชน
ของคณะกรรมการจัดการป่าชุมชน เสนอแนะการตราพระราชกฤษฎีกาและการออกกฎกระทรวง กาหนดระเบียบ
ให้ ความเห็ นชอบบั ญชีร ายชื่อผู้ท รงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการป่าชุมชนประจาจังหวัด พร้อมทั้งเสนอความเห็ น
ต่อคณะรัฐมนตรีปีละหนึ่งครั้ง พิจารณาอุทธรณ์มติการจัดตั้งป่าชุมชน เป็นต้น
๓ คณะกรรมการป่าชุมชนประจาจังหวัด
กาหนดให้ประกอบด้วยกรรมการจานวน ๑๘ คน โดยมีผู้ว่าราชการจั งหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัด
ที่ได้รับมอบหมายเป็นประธานกรรมการ มีอานาจหน้าที่ในการพิจารณาเกี่ยวกับการขอจัดตั้งป่าชุมชน ขยายเขต
ป่าชุมชน หรือเพิกถอนป่าชุมชน มีมติให้กรรมการจัดการป่าชุมชนพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ แต่งตั้งและถอดถอน
เจ้าหน้าที่ป่าชุมชน อนุมัติแผนจัดการป่าชุมชน ให้ความเห็นชอบข้อบังคับของคณะกรรมการจัดการป่าชุมชน
ควบคุมดูแลการจัดการป่าชุมชน ตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลการจัดการป่าชุมชนในจังหวัด เป็นต้น
๔ หลักเกณฑ์การขอจัดตั้งป่าชุมชน
กาหนดให้ชุมชนใดที่อยู่ในอาเภอเดียวกันกับพื้นที่ป่าซึ่งอยู่นอกเขตป่าอนุรักษ์ และมีความสามารถดูแล
รักษาป่านั้นได้ หากประสงค์จะนาพื้นที่ป่านั้นมาจัดตั้งป่าชุมชน ให้บุคคลซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่มี
ภูมิลาเนาในท้องที่นั้นไม่น้อยกว่าห้าปี จานวนตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไปร่วมกันตั้งตัวแทนเป็นหนังสือเพื่อยื่นคาขอจัดตั้ง
ป่าชุมชน ในพื้นที่ป่าชุมชนจะต้องกาหนดบริเวณเพื่อการอนุรักษ์ และบริเวณเพื่อการใช้ประโยชน์ หรือบริเวณเพื่อ
การอนุรักษ์เพียงอย่างเดียว โดยให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชน
และวัตถุประสงค์ของป่าชุมชน และการจัดตั้งป่าชุมชนมีผลเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
๕ การจัดการป่าชุมชน
กาหนดให้คณะกรรมการจัดการป่าชุมชนและสมาชิกป่าชุมชนมีหน้าที่ และอานาจในการจัดการป่าชุมชน
โดยสมาชิ ก ป่ า ชุ ม ชนมี สิ ท ธิ ใ ช้ ป ระโยชน์ จ ากผลผลิ ต และบริ ก ารจากป่ า ชุ ม ชน ได้ แ ก่ การพั ก ผ่ อ นหย่ อ นใจ
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชน การเก็บหาของป่า และการใช้ประโยชน์จากไม้ในบริเวณเพื่อการใช้ประโยชน์
ให้ทาได้ตามความจาเป็นเพื่อใช้สอยในครัวเรือนของสมาชิกป่าชุมชน หรือใช้ในกิจกรรมสาธารณะภายในชุมชนนั้น
และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอื่นให้ทาได้เท่าที่จาเป็นต่อการอุปโภคบริโภคในครัวเรือน หรือใช้ใน
กิจกรรมสาธารณะภายในชุมชนนั้น ทั้งนี้ การใช้ประโยชน์จากผลผลิตและบริการป่าชุมชนของสมาชิกป่าชุมชนให้
เป็ นไปตามระเบี ย บที่ ค ณะกรรมการนโยบายป่ า ชุม ชนก าหนด และบุ คคลใดที่มิ ใ ช่ส มาชิ กป่ า ชุม ชนมี สิ ท ธิ ใ ช้
-2-
ประโยชน์ จากผลผลิตและบริการป่าชุมชนให้เป็ นไปตามข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดการป่าชุ มชนที่คณะกรรมการ
จัดการป่าชุมชนกาหนด.นอกจากนี้ได้กาหนดให้บุคคลชาระเงิน ค่าธรรมเนียม ค่าตอบแทนหรือค่าบริการจากการ
ใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน โดยเงินที่เก็บได้ดังกล่าว เงินค่าปรับ เงินที่มีผู้บริจาค เงินสนับสนุนจากรัฐบาล และเงิน
รายได้อื่น ๆ ให้ตกเป็นทรัพย์สินส่วนกลางและเก็บรักษาไว้ใช้จ่ายในกิจกรรมการจัดการป่าชุมชน
๖ การควบคุมดูแลป่าชุมชน
กาหนดห้ามมิให้บุคคลใดกระทาการภายในป่าชุมชน ได้แก่ ยึดถือ ครอบครอง หรือใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือ
ที่ทากิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ขุดหาแร่ ล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือกระทาการด้วยประการใด ๆ
อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าชุมชน ห้ามใช้ประโยชน์จากไม้ในบริเวณเพื่อการอนุรักษ์ เว้นแต่เป็นการกระทา
ตามมาตรา ๕๐ (๒) หรื อมาตรา ๕๒ห้ ามก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติห น้าที่ ของ
คณะกรรมการจัดการป่าชุมชนตามมาตรา ๔๔ (๓) เช่น สร้างหอดูไฟป่า ฝายชะลอน้า หรือศาลาเรียนรู้ และต้อง
ได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการป่าชุมชนประจาจังหวัด โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ป่าชุม ชนมี
หน้าที่และอานาจในการควบคุมดูแลป่าชุมชน ตรวจสอบ ติดตามผลการดาเนินงาน ตามที่กฎหมายกาหนด
๗ การเพิกถอนป่าชุมชน
กาหนดให้อธิบดีกรมป่าไม้มีอานาจสั่งเพิกถอนป่าชุมชนทั้งหมดหรือบางส่วนได้ ในกรณีที่คณะกรรมการ
จัดการป่าชุมชนขอให้เพิกถอน คณะกรรมการจัดการป่าชุมชนทอดทิ้งไม่จัดการฟื้นฟูป่าชุมชน คณะกรรมการ
จัดการป่าชุมชนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญ ญัตินี้ หรือเมื่อมีเหตุความจาเป็ นทางด้านกิจการเพื่อความมั่นคงของ
ประเทศ ซึ่งการเพิกถอนป่าชุมชนให้มีผลเมื่อได้ป ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ทั้งนี้ ทรัพย์สินส่วนกลางของ
ป่าชุมชนที่ถูกเพิกถอนหากเป็นไม้หรือเป็นอสังหาริมทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนทรัพย์สินอื่นให้กรมป่าไม้เก็บ
ไว้เพื่อใช้ในกิจการจัดการป่าชุมชน
๘ บทกาหนดโทษ
ก าหนดโทษอาญาส าหรั บ ผู้ ฝ่ า ฝื น ระเบี ย บของคณะกรรมการนโยบายป่ า ชุ ม ชน และข้ อ บั ง คั บ ของ
คณะกรรมการจัดการป่าชุมชนเกี่ยวกับการจัดการป่าชุมชน และกาหนดโทษอาญาสาหรับผู้กระทาการฝ่าฝืนการใช้
ประโยชน์จากไม้ ใช้เป็ นที่อยู่ อาศัยหรือที่ท ากิน หรือกระทาการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าชุมชน
รวมทั้งกาหนดให้บรรดาไม้หรือของป่ าที่ได้มา หรือมีไว้เป็นความผิด หรือทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทาความผิด
ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ริบเสียทั้งสิ้นไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคาพิพากษาหรือไม่ก็ตาม
๙ บทเฉพาะกาล
ก าหนดบทเฉพาะกาลรองรั บ ให้ ใ บอนุ ญ าต อาชญาบั ต รและประทานบั ต ร ตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยแร่
หรือสัมปทานตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม ซึ่งได้ออกให้แก่บุคคลใดไว้แล้วก่อนวันที่อธิบดีกรมป่าไม้ประกาศการ
อนุมัติจัดตั้งป่าชุมชนในราชกิจจานุเบกษา ให้ยังคงใช้ได้ต่อไปเท่ากาหนดอายุใบอนุญาต อาชญาบัตร และประทาน
บัตร หรือสัมปทานนั้น ๆ และกาหนดให้พื้นที่ป่าที่มีการจัดตั้งป่าชุมชนแล้ว ตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ กฎหมาย
ว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งได้ออกก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับและยังมีอายุโครงการอยู่ให้ถือว่าได้รับ
อนุมัติจัดตั้งเป็นป่าชุมชนโดยพระราชบัญญัตินี้ อีกทั้งยังกาหนดให้มีการออกกฎกระทรวง และระเบียบเพื่อปฏิบัติ
ตามพระราชบัญญัตินี้ ภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

You might also like