Professional Documents
Culture Documents
pptดาราศาสตร์และอวกาศปี66
pptดาราศาสตร์และอวกาศปี66
กาแล็กซีทางช้างเผือก
กาแล็กซีทางช้างเผือก
ตาแหน่งของระบบสุ ริยะบนกาแล็กซีทางช้างเผือก
นักเรี ยนทาแบบทดสอบก่อนเรี ยนเรื่ องดาราศาสตร์และอวกาศ
ดาวเคราะห์ในระบบสุ ริยะ
ดาวเคราะห์ในระบบสุ ริยะมีอะไรบ้าง ?
ดาวเคราะห์ใดมีมวลมากที่สุดและน้อยที่สุด ?
ดาวเคราะห์แต่ละดวงมีการหมุนรอบตัวเองอย่างไร ?
การหมุนรอบตัวเองของดาวต่างๆในระบบสุ ริยะ
การโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์
กิจกรรมที่ 10.1
ความสัมพันธ์ระหว่างมวลของดาวกับแรงโน้มถ่วงของดาว
ชื่ อดาวเคราะห์ มวลของดาวเคราะห์ จานวนดาวบริวาร
พุธ 0.330 0
ศุกร์ 4.87 0
โลก 5.97 1
อังคาร 0.642 2
พฤหัสบดี 1898 79
เสาร์ 568 62
ยูเรนัส 86.8 27
เนปจูน 102 14
เรี ยงลาดับมวลของดาวเคราะห์จากมากที่สุดไปน้อยที่สุดได้อย่างไร ?
เรี ยงลาดับดาวเคราะห์ที่มีจานวนดาวบริ วารจากมากที่สุดไปน้อยที่สุดได้อย่างไร ?
แรงโน้มถ่วงทีด่ วงอาทิตย์กระทาต่อดาวเคราะห์
ชื่ อดาวเคราะห์ มวลของดาวเคราะห์ มวลของดวงอาทิตย์ ระยะห่ างจากดวงอาทิตย์ F=
𝑮𝒎𝟏𝒎𝟐
𝒓𝟐
F =1,306.38 ×𝟏𝟎𝟏𝟗 N
F =1.31 ×𝟏𝟎22 N
kg
นักเรี ยนคานวณค่าแรงโน้มถ่วงของดาว
โดยใช้ขอ้ มูลจากตารางกิจกรรมที่ 10.2
อัตราเร็วในการโคจรของดาวเคราะห์ รอบดวงอาทิตย์
คาบการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ = ระยะเวลาที่ดาวเคราะห์ใช้ในการเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์
ครบ 1 รอบ
อัตราเร็วในการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ = อัตราส่วนระหว่างระยะทางในการโคจรของดาว
เคราะห์รอบดวงอาทิตย์กบั เวลาที่ดาวเคราะห์ใช้ในการโคจร
อัตราเร็วในการโคจรของดาวเคราะห์ รอบดวงอาทิตย์
ชื่อดาวเคราะห์ ระยะห่ างจากดวง อัตราเร็วในการโคจรของดาว คาบในการโคจรของดาว
อาทิตย์ เคราะห์รอบดวงอาทิตย์ เคราะห์รอบดวงอาทิตย์
(km/s) (วัน)
( × 𝟏𝟎𝟗 m)
พุธ 57.9 47.4 88
ตารางที่ 10.1 ศุกร์ 108.2 35.0 224.7
อัตราเร็ วในการ
โครจรและคาบใน
โลก 149.6 29.8 365.2
V2 = อัตราเร็วในการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ (km/s)
G = ค่านิจโน้มถ่วงสากล 6.674 x 10 m /kg s
-11 3 -1 -2
M = มวลของดวงอาทิตย์ (kg)
r = ระยะห่างระหว่างดาวเคราะห์และดวงอาทิตย์ (m)
ให้ นักเรียนสรุ ปหัวข้ อต่ อไปนีเ้ ป็ นแผนภาพลงในสมุดประจาตัวนักเรียน
➢แผนภาพปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ
➢แผนภาพความสัมพันธ์ระหว่างระยะห่างของดาวเคราะห์จากดวงอาทิตย์
อัตราเร็วและคาบการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์
ตัวอย่างแผนภาพ ปั จจัยทีม่ ีผลต่อแรงโน้มถ่วง
ของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ
มวลของดาวเคราะห์ ระยะห่างจากดาวเคราะห์
ความสัมพันธ์ระหว่างระยะห่างของดาวเคราะห์จากดวงอาทิตย์ อัตราเร็ว
และคาบการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์
▪ การเกิดฤดูกาลเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
แนวคาตอบ : ทาให้เกิดฤดูกาลต่างๆ
การเกิดฤดูกาล
ให้นักเรียนดูวดิ ที ศั น์จากลิงก์หรือคิวอาร์โค้ดด้านล่าง
https://www.youtube.com/watch?v=8_dSV249fDg
ตารางที่ 10.2
พลังงานที่ได้ รับและฤดูที่เกิดขึน้ ในซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ ณ ตาแหน่ งบนผิวโลกที่รังสี ดวงอาทิตย์ ตกกระทบ
ตั้งฉากในแต่ ละช่ วงเวลาของปี
▪ ฤดูกาลเกิดขึ้นได้อย่างไร
▪ ใน 1 ปี มีฤดูต่างๆกีฤ่ ดู ฤดูอะไรบ้าง
แนวคำตอบ : มี 4 ฤดู ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ
▪ ประเทศไทยไม่มีฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ เกิดจากสาเหตุใด
แนวคำตอบ : ประเทศไทยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ในปริมาณที่พอเหมาะตลอดปี ต้นไม้ไม่
ผลัดใบ ประเทศไทยจึงไม่มีฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ
เส้นทางการเคลื่อนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์
หินเอน (heel stone) มีประโยชน์
ชาวอังกฤษโบราณได้จัดวางหินก้อนหนึ่งซึง่ เรียกว่า หินเอน ไว้ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ของสโตนเฮนจ์เพือ่ ใช้บอกตาแหน่งทีด่ วงอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้ าขึน้ มาในวันทีม่ กี ลางวันยาวนานทีส่ ุด
ในรอบปี ซึง่ ถือเป็ นช่วงทีเ่ ริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน เรียกวันดังกล่าวว่า วันครีษมายัน (คี-สะ-มา-ยัน)
วันครี ษมายัน มีความสาคัญอย่างไร และตรงกับช่วงเวลาใด
ให้นักเรียนดูวดิ ที ศั น์จากลิงก์หรือคิวอาร์โค้ดด้านล่าง
https://www.youtube.com/watch?v=lRx5Br8iQbU
ภาพเส้นทางการเคลื่อนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์
การที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ในลักษณะที่แกนโลกเอียงกับแนวตั้งฉากของระนาบทางโคจร
ทาให้ส่วนต่าง ๆ บนโลกได้รับปริ มาณแสงจากดวงอาทิตย์แตกต่างกันในรอบปี
การที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ในลักษณะที่แกนโลกเอียงกับแนวตั้งฉากของ
ระนาบทางโคจร ทาให้ส่วนต่าง ๆ บนโลกได้รับปริ มาณแสงจากดวงอาทิตย์แตกต่างกัน
ในรอบปี เกิดเป็ นฤดูกาล (seasons) และตาแหน่งการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ที่ขอบ
ฟ้าและเส้นทางการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์เปลี่ยนไปในรอบปี จึงมีระยะเวลากลางวัน
กลางคืนยาวไม่เท่ากัน ซึ่งส่ งผลต่อการใช้ชีวิตบนโลก เช่น การออกหากินของสัตว์
ฤดูกาลของโลก
• โลกจะมี 4 ฤดู อันได้แก่
• ฤดูร้อน: เมื่อโลกหันซีกโลกนั้น เข้าหาดวงอาทิตย์ (กลางวันนานกว่า
กลางคืน)
• ฤดูใบไม้ร่วง: เมื่อแต่ละซีกโลกหันเข้าหาดวงอาทิตย์เท่ากัน (กลางวันนาน
เท่าๆ กลางคืน)
• ฤดูหนาว: เมื่อโลกหันซีกโลกนั้น ออกจากดวงอาทิตย์ (กลางคืนนานกว่า
กลางวัน)
• ฤดูใบไม้ผลิ: เมื่อแต่ละซีกโลกหันเข้าหาดวงอาทิตย์เท่ากัน (กลางวันนาน
เท่าๆ กลางคืน)
ฤดูกาลของประเทศไทย
• ประเทศไทยตัง้ อยู่บนคาบสมุทรอินโดจีน ระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับทะเลจีนใต้ จึง
ตกอยู่ในอิทธิพลของลมมรสุม (Monsoon) ทาให้ประเทศไทยมี 3 ฤดู
ประกอบด้วย
• ฤดูร้อน : เดือนมีนาคม - เดือนพฤษภาคม
• ฤดูฝน : เดือนมิถุนายน - เดือนตุลาคม
• ฤดูหนาว : เดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์
ตะวันอ้อมข้าว
▪ ดวงจันทร์มีรูปร่างเปลี่ยนไปในแต่ละคืนอย่างไร ?
▪ ปรากฎการณ์ที่เห็นด้านสว่างของดวงจันทร์ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในแต่ละคืนเรียกว่าอะไร ?
▪ ปรากฎการณ์ที่เห็นด้านมืดของดวงจันทร์ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในแต่ละคืนเรียกว่าอะไร ?
▪ ข้างขึ้น เริ่มตั้งแต่วันอะไร ?
▪ ข้างแรม เริ่มตั้งแต่วันอะไร ?
การเกิดข้ างขึน้ ข้ างแรม
การเกิดข้ างขึน้ ข้ างแรม
วันแรม 15 คำ่ (รูป ก) เมือ่ ดวงจันทร์อยู่ระหว่ำงโลกกับดวงอำทิตย์
ดวงจันทร์จะหันแต่ทำงด้ำนมืดให้โลก ดวงจันทร์ปรำกฏบน
ท้องฟ้ ำในตำแหน่ งใกล้กบั ดวงอำทิตย์ ทำให้เรำไม่สำมำรถ
มองเห็นดวงจันทร์ได้เลย
้ 8 คำ่ (รูป ค) เมือ่ ดวงจันทร์เคลื่อนมำอยู่ในตำแหน่ งทำมุม
วันขึน
ฉำกกับโลก และดวงอำทิตย์ ทำให้เรำมองเห็นด้ำนสว่ำงและด้ำน
มืดของดวงจันทร์มีขนำดเท่ำๆ กัน
การเกิดข้ างขึน้ ข้ างแรม
https://www.youtube.com/watch?v=uNsbaormV2M
▪ เวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกจากขอบฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในแต่ละวัน ?
▪ วันที่ดวงจันทร์มีเวลาขึ้นและตกจากขอบฟ้าใกล้เคี ยงกันกับเวลาขึ้นและตกของดวง
อาทิตย์มากที่สุกตรงกับวันใดตามปฏิทินจันทรคติ และดวงจันทร์อยู่ที่ตำแหน่งใดในวง
โคจรรอบโลก ?
▪ ปรากฏการณ์แสงโลกเกี่ยวข้องกับดวงจันทร์หรือไม่อย่างไร ?
การขึน้ -ตกของดวงจันทร์
ดวงจันทร์ขน้ึ หมายถึง ดวงจันทร์มาปรากฏอยู่ ณ ขอบฟ้ าทิศตะวันออกซึง่ จะเป็ นเวลาใด
ก็ได้ไม่จากัดว่าต้องเป็ นเวลากลางวันหรือกลางคืน
https://www.youtube.com/watch?v=T1lPT-zsjIs
น้ าขึ้น น้ าลง
ผลของแรงดึงดูด
จากดวงจันทร์
และดวงอาทิตย์
ทาให้เกิดน้ าขึ้น
น้ าลง
การเกิดน้ำขึ้นน้ำลงเกิดจากสาเหตุใด
แรงดึงดูดของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ที่กระทำต่อโลก แรงดึงดูดของดวงจันทร์
ที่กระทำต่อโลกบริเวณที่ใกล้กับดวงจันทร์มากที่สุดจะทำให้น้ำในมหาสมุทรเคลื่อนที่
เข้ามาในบริเวณนี้มากขึ้นทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้น ส่วนระดับน้ำด้านข้างทั้งสอง
ของโลกก็จะลดลงและเกิดปรากฏการณ์น้ำลง ส่วนด้านตรงข้ามก็จะมีแรงกระทำ
เหมือนกันแต่น้อยกว่าด้านที่ใกล้ดวงจันทร์จึงเกิดการดูดน้ำให้มาติดกับผิวโลกแต่
เนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนที่มาด้านหน้าได้จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้นอีกด้านหนึ่ง
การเกิดน้ำขึ้นน้ำลงในรอบวันเกิดขึ้นได้อย่างไร
(ให้หนังสือหน้า 324)
ตัวอย่างการเขียนกราฟ
สรุ ป
เทคโนโลยีอวกาศ คือการนาหลักการทางวิทยาศาสตร์ไป
ใช้ในการขยายขอบเขตการศึกษาค้นคว้าทางด้านดาราศาสตร์
และอวกาศ และประยุกต์ความรู้ทไี่ ด้มาพัฒนาความเป็ นอยูข่ อง
มนุษย์เพือ่ ความอยู่รอดอย่างมีความสุขและยั่งยืน
การเดินทางสู่ อวกาศ
ดาวเทียมลาแรกของมนุษย์ ทส
ี่ ่ งออกไปนอกโลกคือ สปุตนิก 1
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2500 โดยสหภาพโซเวียต (รัสเซีย)
โดยโคจรอยู่จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2501
ดาวเทียมเอ็กพลอเรอร์ 1 โดยสหรัฐอเมริกาสร้ าง
ส่ งออกไปนอกโลกเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2501
ตัวอย่างเทคโนโลยีอวกาศทีม่ นุษย์สร้างขึน้
ยาน
อวกาศ
สถานี
ดาวเทียม
อวกาศ
เทคโนโลยี
อวกาศ
จรวด ยานขนส่ง
อวกาศ
ยานอวกาศ
สิง่ ก่อสร้างทีอ่ อกแบบเพือ่ ใช้เป็ นทีอ่ ยู่ สาหรับดารงชีพหรือวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น ทดลอง หรือ
เป็ นโรงงานซ่อมดาวเทียม ท่าเทียบจอด
จรวด จรวดฟอลคอน 9 (Falcon 9)
ดาราศาสตร์ สื่อสาร
ดาวเทียม
อุตุนิยมวิทยา จารกรรม
ประโยชน์ที่เกิดจากเทคโนโลยีอวกาศ