Professional Documents
Culture Documents
เป็นเมียแม่ทัพ... ไม่ง่าย เล่ม1
เป็นเมียแม่ทัพ... ไม่ง่าย เล่ม1
หมอหลวงต่างพากันวินิจฉัยว่าอาการบาดเจ็บทีขาของ
ท่านแม่ทพั ไร้หนทางเยียวยา มิเพียงแต่จะไม่เหมือนเดิม
แต่ขาอาจใช้การไม่ได้อีก เรืองนีสร้างผลกระทบแม้แต่
ในงานเลียงรับรองขุนนาง บรรดาจอหงวนใหม่ทีเพิงจะ
ดืมนําสาบานกลับถูกฮ่องเต้ระบายอารมณ์ใส่ หาว่า
1
ปฏิบตั ิตนไม่ถกู ธรรมเนียมและลดชันให้เป็ นเพียงเสมียน
ธรรมดา
2
ใต้หล้าล้วนรําลือว่าแม่ทพั น้อยตระกูลปูเ้ ก่งกล้าไร้คตู่ อ่
กร
ทว่าความรุง่ โรจน์ทีเคยโถมซัดเข้ามาดุจคลืนลูกใหญ่
กลับจางหายรวดเร็วนัก
3
หลังจากแม่ทพั น้อยกลับมาพร้อมอาการบาดเจ็บและแพ้
พ่าย ในระยะเวลาเพียงสามเดือนให้หลัง คําสรรเสริญ
เยินยอเริมแปรเปลียนเป็ นความหมางเมิน และเนือง
จากตระกูลปูไ้ ม่มีผใู้ ดทีสามารถทําหน้าทีแทนปูถ้ านได้
สุดท้ายตระกูลนีจึงถูกฮ่องเต้รบิ อํานาจทางทหาร
ตระกูลปูห้ มดสินความหวัง
ซําร้ายยังมีราชโองการเนรเทศครอบครัวนีให้ไปเฝ้า
สุสานจักรพรรดิทีเมืองลัวหยางอีกด้วย ถึงเบืองบนจะยัง
คงบรรดาศักดิแม่ทพั ไว้ให้ปถู้ าน แต่กลับไม่ใช่แม่ทพั ที
4
ได้รบั การยกย่องให้เกียรติอีกต่อไป
หลังจากราชโองการประกาศ บรรดาญาติสนิทมิตร
สหายทีเคยติดต่อไปมาหาสูต่ ระกูลปูต้ า่ งก็พากันคิดว่า
ตระกูลนีหมดประโยชน์แล้ว หากจะคบหากันต่อก็รงั แต่
จะทําให้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัย สุดท้ายอาจหนีไม่พน้ ถูก
เชือมโยงจนกลายเป็ นผูม้ ีความผิดไปด้วย ดังนันพวก
เขาจึงพากันตัดสายสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว เพียงไม่นาน
บ้านตระกูลปูก้ ็เหลือแต่ความว่างเปล่า
6
หลังจากพูดจบ เขาก็นิงไป
7
ตอนที 1 ชีวิตแร้นแค้น
เมืองลัวหยาง
สีหยุนจือยืนหยัดต้านสายลม เส้นผมสีหมึกสะบัดพลิว
นางยืนอยูข่ า้ งรถม้า กําลังบันทึกบัญชีกองผ้าทีเพิงซือ
มาจากในเมือง
สาวใช้คนหนึงเดินออกมาเรียกให้นางเข้าไปด้านใน
8
บอกว่าฮูหยินผูเ้ ฒ่าเรียกพบหลานสาวทุกคนในบ้าน
เพราะมีเรืองจะประกาศให้รบั รู ้
9
หลังจากทีมารดาของนางจากไป ชีวิตของสีหยุนจือก็ตก
ตําลง แม้วา่ สีเจิงผูเ้ ป็ นบิดาจะไม่ได้แต่งงานใหม่แต่ก็
กลายเป็ นคนติดสุราไปเสียแล้ว
เมือยังเด็กคุณหนูใหญ่ตระกูลสีถกู เลียงดูอย่างสุขสบาย
สมฐานะ จนกระทังอายุได้เก้าขวบ ชีวิตเด็กน้อยกลับ
พลิกผันจากหน้ามือเป็ นหลังมือ ทีเคยอยูด่ ีกินดีมีผดู้ แู ล
ใกล้ชิด กลายเป็ นมีแต่คนทีจ้องจะเอาเปรียบอยูต่ ลอด
เวลา
ต่อมาตระกูลสีได้แต่งฮูหยินสามเข้ามาในบ้าน นางจึง
เป็ นผูเ้ ลียงดูสีหยุนจือ ทว่า...โชคดีนนสั
ั นนัก เพราะ
หลังจากนันไม่กีปี ฮหู ยินสามก็ขอลาไปบวชทีวัดจือหยุ
10
น ฮูหยินห้าจึงได้เป็ นผูด้ แู ลตระกูลคนต่อไป
ครังหนึงในวันทีอากาศหนาวเหน็บ ฮูหยินห้าสังให้สีหยุ
นจือสวมเพียงเสือผ้าบางๆ ไปล้างจาน มือนางต้องแช่
ในนําเย็นจัดจนเป็ นเกล็ดนําแข็ง และยังต้องจุ่มจานแต่
ละใบลงในนําให้ครบสิบครังจึงจะยอมให้หยุดพักทีหนึง
สุดท้ายมือของนางก็บวมและบอบชําจนแทบดูไม่ได้
สีหยุนจือเก็บงําความอึดอัดคับแค้นใจมาตลอดโดยไม่
11
ปริปากบ่น
เมืออายุครบสิบสอง สีหยุนจือวิงไปทีเรือนของฮูหยินผู้
เฒ่าแล้วคุกเข่าขอร้องอยูห่ น้าประตูสามวันสามคืนโดย
ไม่มีเสียงร้องไห้หรือฟูมฟาย นางหวังเพียงว่าฮูหยินผู้
เฒ่าจะยอมอนุญาตให้ไปช่วยงานทีร้านค้าของตระกูลสี
แม้เพียงเล็กน้อยก็ยงั ดี
เหตุทีสีหยุนจือเลือกทีจะมาช่วยงานในร้าน นันเพราะไม่
12
อยากทนให้คนในบ้านรังแก และข้าวของเงินทองของ
นางก็ถกู ฮูหยินห้ายักยอกไปเกือบทังหมด จนตอนนีนาง
แทบไม่มีจะกินจะใช้ หากนางไม่ทาํ อะไรสักอย่าง อาจ
จะได้ชือว่าเป็ นคุณหนูใหญ่คนแรกในประวัติศาสตร์ทีอด
ตายคาบ้านก็เป็ นได้
สีหยุนจือได้เรียนรูแ้ ละสังสมประสบการณ์จากการทํา
งานในร้าน แต่ถา้ เจอปั ญหาทีจัดการไม่ได้นางก็จะไป
หาฮูหยินสามทีวัดจือหยุนเพือขอคําปรึกษา
ผ่านไปเพียงไม่กีปี สีหยุนจือทําให้กิจการของร้านค้า
ตระกูลสีเจริญรุง่ เรืองขึนอย่างเห็นได้ชดั
นางหวังว่าต่อไปถ้ามีโอกาส นางจะใช้เงินทีเพียรเก็บ
13
หอมรอมริบจากการทํางาน เปิ ดร้านค้าเป็ นของตนเอง
สักร้าน
หากภายภาคหน้ามีเหตุให้นางต้องถูกขับไล่ออกจาก
ตระกูล อย่างน้อยก็ยงั มีทีให้ซกุ หัวนอน ไม่ตอ้ งไปนอน
ข้างถนนอย่างคนยากไร้
บ้านตระกูลสี
อีกอย่างคือนางไม่ชอบให้ผหู้ ญิงในบ้านแต่งตัวมอมแมม
สาวใช้จงึ ลอบสํารวจตัวสีหยุนจือ พอเห็นว่าชายแขน
เสือของหญิงสาวเปื อนฝุ่ น จึงทําท่าส่งสัญญาณว่าควร
จะไปเปลียนชุดใหม่
สีหยุนจือกล่าวขอบคุณในคําเตือน ทว่านางทําเพียงแค่
กลับไปล้างมือและยังคงใส่ชดุ เดิมทีใส่ทาํ งานวันนีไปพบ
ฮูหยินผูเ้ ฒ่า เพราะนางรูด้ ีวา่ คนบ้านนีไม่มีใครอยาก
15
เห็นตนแต่งตัวสวย ในเมือพวกเขาไม่อยากเห็นนางก็
คร้านทีจะแต่ง เพราะหากแต่งแล้วไปขัดหูขดั ตาใครเข้า
จะกลายเป็ นสร้างความลําบากให้ตวั เองเปล่าๆ
เรือนฮูหยินผูเ้ ฒ่า
รุน่ ต่อมาของตระกูลก็คือท่านพ่อและท่านอาทังสีของ
นาง ท่านพ่อเคยเข้าสอบคัดเลือกเพือเป็ นจอหงวน เขา
ผ่านการทดสอบจนมาถึงขันสุดท้าย แต่กลับเกิดเรืองกับ
ภรรยาเสียก่อน หลังจากนันชีวิตของเขาก็เหมือนดิงลง
เหว ถูกตัดรายชือและไม่ได้รบั สิทธิให้เข้าร่วมการสอบ
ใดๆ อีก
ส่วนบรรดาท่านอาแม้จะพยายามลองสอบอยูห่ ลายครัง
แต่ก็ลม้ เหลวไปเสียทุกครัง จนพวกเขาคิดว่าคงหมดหวัง
แล้ว จึงตัดสินใจทีจะเปลียนมาทําการค้าเพือเลียงดูคน
ในตระกูล
18
ขณะทีสีหยุนจือกําลังนังจิบชารออยูใ่ นห้องรับรองอย่าง
สงบนิง
นางก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากด้านนอกประตู จาก
นันไม่นานประตูหอ้ งก็ถกู เปิ ดออก สตรีกลุม่ หนึงกําลัง
เดินเข้ามาด้านใน พวกนางแต่งกายด้วยเสือผ้าอาภรณ์
งดงาม ต่างพูดคุย ยิมและหัวเราะให้กนั อย่างสนุก
สนาน กลบบรรยากาศทีเงียบงันเมือครูเ่ สียหมดสิน
บรรดาสาวงามทีเดินเข้ามาคือน้องสาวทังสีของนาง
น้องบ้านรองสีหยุนชุน น้องบ้านสีสีหยุนซิว น้องบ้านห้า
สีหยุนเจิง และน้องสาวคนเล็กบ้านสามสีหยุนถง พวก
นางเป็ นหลานสาวทีเป็ นหน้าเป็ นตาของตระกูล และ
เป็ นหลานสาวทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าทังรักทังหวง
19
สีหยุนชุนงดงามตังแต่หวั จรดเท้า ไม่วา่ นางจะสวมชุด
อะไรก็ดโู ดดเด่น
สีหยุนถงแม้จะเป็ นลูกสาวของบ้านสามแต่นางอายุนอ้ ย
สุดในบรรดาหลานสาวทังหมด และยังคงไร้เดียงสา
รอยยิมของนางเหมือนภาพวาดตุ๊กตา ทําให้ผพู้ บเห็น
ต่างพากันเอ็นดู
แต่หากจะพูดถึงรูปโฉมต้องยกให้สีหยุนเจิง นางได้ชือว่า
เป็ นหญิงงามประจําเมือง ความงามของนางมิอาจมีใคร
20
เทียบ เพียงแค่รอยยิมก็สามารถทําให้ผพู้ บเห็นถึงกับนิง
อึงราวถูกสะกด
ในบรรดาน้องทังสีมีเพียงหยุนถงทีเมือเจอนางก็ยอมทัก
ตามมารยาท ใบหน้าไร้เดียงสาและรอยยิมของน้องเล็ก
มักจะปรากฏให้เห็นเสมอ ต่างกับหยุนเจิงทีไม่เคยคิดแม้
แต่จะมองหน้านางเสียด้วยซํา ยิงเรืองทีจะทักทายหรือ
ชวนคุยยิงไม่ตอ้ งพูดถึง
สีหยุนถงเหมือนอยากจะพูดอะไรต่อ แต่กลับถูกสีหยุ
นซิวดึงตัวเอาไว้แล้วกระซิบบางอย่างทีข้างหู สีหน้าของ
น้องเล็กแดงเรือขึนเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามพีๆ ทังสาม
เข้าไปนังด้านใน
ระหว่างทีนังรอ สีหยุนจือได้ยินน้องสาวบ้านรองพูดว่า
“นางเป็ นพีสาวคนโตแล้วอย่างไร? นิสยั ไม่ดี ทังยังหน้า
ด้านอยูท่ ีนีให้คนอืนหัวเราะเยาะอยูไ่ ด้ เจ้าจะไปยุง่ เกียว
นางทําไมกัน?”
“...”
22
ทุกคนในห้องโถงล้วนได้ยินทีสีหยุนชุนพูด บ้างก็
พยายามกลันหัวเราะ บ้างก็ยกผ้าขึนมาปิ ดปากแล้ว
แอบยิม
23
ตอนที 2 ข่าวดีข่าวร้าย
เมือทุกคนนังประจําทีเรียบร้อยก็มีเสียงดังมาจากด้าน
นอก ประตูถกู เปิ ดออกอีกครัง
24
ฮูหยินรองและฮูหยินห้ากําลังประคองฮูหยินผูเ้ ฒ่าเข้ามา
ในห้องรับรอง บรรดาหลานสาวและสาวใช้ตา่ งพากันลุก
ขึนทําความเคารพ
25
เมือฮูหยินผูเ้ ฒ่าพูดจบ ฮูหยินรองทียังสวยและดูออ่ น
เยาว์ ชิงพูดขึนว่า “โถท่านแม่ พูดเรืองความเป็ นความ
ตายเช่นนี ลูกหลานก็ตกใจหมดสิเจ้าคะ ท่านแม่ยงั แข็ง
แรง อายุยืนได้อีกเป็ นร้อยปี เจ้าค่ะ”
ฮูหยินห้ายกผ้าเช็ดหน้าขึนปิ ดปากแล้วแอบยิมเยาะ
นางสอดสายตาเข้าไปในกลุม่ ลูกหลานทีนังอยูเ่ พือมอง
หาหญิงสาวผูเ้ ป็ นทีเกลียดชังของทุกคนในบ้าน
“รองเจ้าเมืองขุนนางขันหก เขาเพิงจะได้เลือนตําแหน่ง
เมือปี ทีแล้ว ตระกูลเขาก็นบั ว่ามีชือเสียงทางด้านการ
ศึกษาเหมือนกับตระกูลของเรา หากได้ผกู สัมพันธ์ดว้ ย
คงเหมาะสมกันไม่นอ้ ย หยุนชุน เจ้าเข้ามาดูส”ิ
หยุนชุนสีหน้าแดงเรือด้วยความเขินอายแต่ยงั ไม่ลืม
มารยาท นางทําความเคารพฮูหยินผูเ้ ฒ่าด้วยกิรยิ า
นอบน้อม กล่าวตอบว่า “หยุนชุนไม่กล้าปฏิเสธให้ทา่ น
27
ย่าเสียหน้าหรอกเจ้าค่ะ” กิรยิ าของนางไม่ได้ดเู กินงาม
บรรดาพีน้องได้ยินก็แอบอมยิม บางคนก็แสร้งผลักนาง
เบาๆ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความยินดี
28
เป็ นสะใภ้ใหญ่ ท่านเจ้าเมืองเคยเป็ นลูกศิษย์ของท่านปู่
และยังระลึกถึงบุญคุณของท่านปู่ อยูเ่ สมอ ลูกชายบ้าน
นีก็หน่วยก้านไม่เลว เจ้าคิดว่าอย่างไร”
ทุกคนพากันหัวเราะชอบใจในคําตอบของหยุนซิว ทว่า
เมือเห็นฮูหยินผูเ้ ฒ่าหยิบซองแดงซองสุดท้ายขึนมา ทัง
ห้องก็เงียบเสียงลงอีกครัง ใครๆ ก็รูว้ า่ สีหยุนเจิงงดงาม
โดดเด่นทีสุดในตระกูล ไม่วา่ จะเป็ นเรืองรูปลักษณ์หรือ
ความสามารถ คูค่ รองของหยุนชุนและหยุนซิวต่างก็ไม่
ธรรมดา ทําให้ไม่อาจเดาได้วา่ คูค่ รองของหยุนเจิงจะรํา
รวยและมีหน้ามีตาในสังคมขนาดไหน จึงตังตารอฟั งคํา
29
ฮูหยินผูเ้ ฒ่า
“ต้องโทษข้าทีไม่ได้เตรียมการไว้ แต่เรืองของพรหมลิขิต
ไม่ใช่เรืองทีจะไปบังคับกันได้ เมือสามเดือนก่อน หยุ
นเจิงติดตามข้าไปเมืองหยางโจว หลานสาวคนนีช่างซน
นักแอบพาสาวใช้ไปเดินเล่นทีตลาด ก็เลยไปต้องตาใคร
บางคนเข้า”
ในขณะทีทุกคนต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ฮูหยินผู้
30
เฒ่าก็ยืนซองแดงไปทีสีหยุนเจิง พลางบอกว่า “ใต้เท้าอี
ท่านผูต้ รวจการ เมือสามเดือนก่อนเขาไปว่าราชการที
เมืองหยางโจวและได้เห็นเจ้าโดยบังเอิญ ใต้เท้าอี
ตามหาเจ้าจนแทบจะพลิกเมืองหยางโจวกว่าจะหาบ้าน
ของเราพบ หยุนเจิงแม้เป็ นเด็กเอาแต่ใจอยูบ่ า้ ง แต่มีจิต
ใจดีงามเสมอมา ใต้เท้าอีก็เป็ นถึงข้าราชการขันสูง ช่าง
เป็ นเรืองน่ายินดีจริงๆ”
31
แค่เพราะพรหมลิขิตอย่างทีว่าไว้แน่ เรืองนีต้องมีการวาง
แผนล่วงหน้าไว้เป็ นอย่างดี
เรืองมงคลถูกประกาศให้ทราบโดยทัวแล้ว ทุกคนต่าง
รายล้อมแสดงความยินดีกบั สตรีทงสามอย่
ั างชืนมืน แม้
ว่าสีหยุนจือจะอยากเข้าไปร่วมยินดีดว้ ยแต่ก็คงทําไม่ได้
นางจึงจะขอตัวกลับก่อน แต่ก็ไม่ลืมทีจะค้อมกายคา
รวะฮูหยินผูเ้ ฒ่าและบรรดาฮูหยินทีนังอยู่ แม้จะไม่มีใคร
หันมาสนใจ แต่หากนางไม่ทาํ ก็จะถูกตําหนิวา่ ‘ไม่
เคารพผูใ้ หญ่ ไร้มารยาท ไม่รูจ้ กั ทีตําทีสูง’ ในทันที
32
สีหยุนจือไม่คาดคิดว่าฮูหยินผูเ้ ฒ่าจะเรียกนางไว้ แม้ไม่
รูว้ า่ มีเรืองอันใดแต่นางรูส้ กึ สังหรณ์ใจว่าเรืองนีอาจจะไม่
ใช่เรืองดีแน่ ทว่าก็จาํ ต้องเดินตามฮูหยินผูเ้ ฒ่าเข้าไป
ภายในห้อง มีโต๊ะไหว้เจ้าขนาดใหญ่ตงอยู
ั ่ บนโต๊ะมีรูป
จําลองเจ้าแม่กวนอิมทีแกะสลักจากหยกดําอย่างวิจิตร
ประดิษฐานไว้ รูปปั นนีเป็ นรูปปั นจําลองทีลูกศิษย์ของ
ท่านปู่ สงให้
ั ช่างฝี มือดีจากเจียงหนานแกะสลักแล้วนํา
มามอบให้ ฮูหยินผูเ้ ฒ่าจึงนํามาตังไว้เคารพบูชาและยัง
สังให้คนมาเช็ดทําความสะอาดวันละสามเวลา
กลินไม้จนั ทน์ภายในห้องโชยมาเตะจมูกสีหยุนจืออย่าง
แรง ยิงคิดยิงเป็ นกังวลในใจอย่างบอกไม่ถกู สองมือกํา
33
แน่นอยูใ่ ต้แขนเสือ
“ชือเสียงของเจ้านับว่าแย่ หากคิดจะแต่งออกคงเป็ น
34
เรืองยาก อย่าหาว่าลําเอียงเลยนะ ใจข้าก็ไม่ได้อยากให้
เจ้าแต่งออกไปกับครอบครัวยาจกให้ตอ้ งลําบากนัก
หรอก”
หยุนชุนและหยุนซิวได้แต่งกับตระกูลขุนนางทีอยูห่ า่ งไป
ไม่ไกลนัก มีเพียงหยุนเจิงทีต้องย้ายเข้าไปอยูใ่ นเมือง
หลวง หรือว่า...ท่านย่าอยากให้นางแต่งไปเป็ นเมียรอง
35
ของใต้เท้าอีอย่างนันหรือ?
36
นางอย่างจริงใจ
สีหยุนจือพยายามกลันนําตาจนไหล่สองข้างเริมสันเทา
37
พลางส่ายหัวอย่างผูน้ อ้ ยทีไม่มีทางเลือก สายตามอง
ท่านย่าอย่างอ้อนวอน
“หญิงไร้คา่ อย่างเจ้ายังมีหน้าบอกว่าไม่ยินยอมอีกรึ?
ไม่วา่ หน้าตาหรือกิรยิ ามารยาทก็หาได้เชิดหน้าชูตาวงศ์
ตระกูล อย่าหาว่าข้าดูถกู ...ทีข้ายอมให้เจ้าไปกับหยุ
นเจิงก็ถือว่าให้เกียรติเจ้าเกินไปด้วยซํา!”
สีหยุนจือไม่แม้แต่จะเอ่ยปาก ได้แต่เก็บงําความคับแค้น
38
ไว้ในใจ กํามือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนือ
“ท่านย่า...หยุนจือไม่ขอแต่งงานกับคนตระกูลสูงส่ง
แต่ขอให้ทา่ นย่าโปรดเห็นแก่ความเป็ นหลาน” นางคุก
เข่าลงขยับไปข้างหน้าสองก้าว ยืนมือทีสันเทาเพือจะจับ
ชายเสือของผูเ้ ป็ นย่า
ฮูหยินผูเ้ ฒ่าพลันลุกขึนจากเก้าอีแล้วเดินไปทีหน้าโต๊ะ
ไหว้เจ้าโดยมีบรรดาแม่นมคอยประคอง หญิงชราคุกเข่า
39
ลงกราบทีหน้าแท่นบูชา ไม่แม้แต่จะชายตามองหลาน
สาวทีถูกกดหัวหมอบอยูก่ บั พืนเสียด้วยซํา
แม่นมทังสองลากสีหยุนจือออกไปยังสวนด้านนอก
ระหว่างทีโดนลากออกไปนางยังทันได้ยินเสียงฮูหยินผู้
เฒ่ากําชับให้ฮหู ยินห้าไปหยิบแผนผังวงศ์ตระกูล
คงเหลือเพียงสตรีทีไม่มีหวั นอนปลายเท้า...
40
ตอนที 3 ลบชือ
สาวใช้ทีลอบดูเหตุการณ์รบี วิงออกจากเรือนฮูหยินผูเ้ ฒ่า
41
นางลอดผ่านช่องรัวออกไปด้านนอก วิงฝ่ าฝูงชนทีเดิน
ขวักไขว่ไปตามตรอกซอกซอย กวาดสายตามองราวกับ
จะหาใครบางคน
เด็กสาววิงไปตามถนนหลายสาย จนในทีสุดก็เจอคุณ
ชายใหญ่สีเจิงทีนังเมาอยูใ่ นร้านเหล้า
43
แล้วเรียกซําๆ
“คุณชาย...คุณชาย!”
ให้ตายอย่างไรข้าก็จะไม่ยอมอยูร่ ว่ มหอเดียวกับสีหยุ
นเจิงเด็ดขาด
44
รีบกลับไปเก็บของทีห้อง นางหยิบเสือผ้าออกมาจากตู้
เพียงสองชุด เตรียมจะหนีออกทางประตูดา้ นหลัง แต่
คิดไม่ถงึ ว่าฮูหยินห้าจะคาดการณ์ไว้ก่อนล่วงหน้าและ
สังให้คนมาเฝ้าประตูดา้ นหลังไว้
เมือยามหน้าประตูเห็นสีหยุนจือเดินมาก็ไม่พดู พรํา พา
กันลากตัวนางไปขังไว้ในห้องเก็บฟื น
แม้อากาศข้างนอกจะหนาวเหน็บเพียงใด ก็ไม่เท่าความ
หนาวทีเสียดแทงใจของนางในเวลานี
45
นันเพราะนางไม่คิดจะยอมแพ้!
สีหยุนเจิงเตรียมตัวแต่งเข้าเมืองหลวง
ในครังนีตระกูลสีตงใจจั
ั ดงานฉลองอย่างยิงใหญ่ คงใช้
เวลาเตรียมงานไม่นอ้ ยกว่าหนึงเดือน สีหยุนจือได้แต่คิด
ในใจ ภายในหนึงเดือนนีต่อให้ตนเองต้องเสียงต่อการ
ถูกโบยก็ตอ้ งหาทางหนีไปจากทีนีให้ได้
46
“คุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่เจ้าคะ บ่าวชุ่ยยาเองเจ้าค่ะ”
สีหยุนจือมองลอดผ่านช่องหน้าต่างก็เห็นใบหน้าทีคุน้
เคย นางยืดตัวขึนมองไปด้านหลังของสาวใช้คนสนิท
อย่างระแวง เด็กสาวส่งขนมสองชินผ่านช่องสลักของ
ประตูเข้ามาให้
47
“ชุ่ยยา ฮูหยินห้าได้ปล่อยข่าวว่าข้าป่ วยหรือหาย
สาบสูญบ้างหรือไม่?”
ถ้าคํานวณไม่ผิด นางน่าจะถูกจับมาขังได้ราวหนึงชัว
ยาม ตอนนีฮูหยินผูเ้ ฒ่าคงจะหาโอกาสเหมาะๆ เพือ
ประกาศปลดชือนางออกจากตระกูลเป็ นแน่ แต่จะใช้
เหตุผลอะไรในการปลดอย่างกะทันหันนี คงไม่ใช่แค่การ
ตายหรือหายสาบสูญธรรมดาแน่นอน ดังนันนางจะต้อง
48
สร้างข่าวลือบางอย่างก่อนทีอีกฝ่ ายจะปล่อยข่าวออกไป
คนภายนอกจะได้รูว้ า่ นางยังมีชีวิตอยู่ นีอาจจะเป็ นการ
ช่วยยืดเวลาให้นางได้อีกสักพัก
พอคิดได้เช่นนีสีหยุนจือก็กวักมือเรียกเด็กสาวให้เอาหู
มาใกล้ๆ แล้วบอกว่า
49
หลังเตรียมจะไปทําตามคําสังของคุณหนูใหญ่
“ทราบแล้วเจ้าค่ะ” เมือพูดจบเด็กสาวก็เดินหายเข้าไป
ในพงหญ้าข้างทาง
สีหยุนจือนังพิงผนังห้อง ได้แต่หวังว่าชือเสียงของคุณหนู
ใหญ่แห่งตระกูลสียงั จะพอมีประโยชน์อยูบ่ า้ ง อย่าง
น้อยทีสุดก็สามารถทําให้เจ้าของร้านค้าแถวเป่ ยถางทีไม่
ชอบการค้างค่าสินค้าออกมาโวยวายสักหน่อย
50
สีหยุนจือไม่ได้หวังว่าฮูหยินผูเ้ ฒ่าจะยอมปล่อยตัวนาง
ขอแค่สามารถยืดเวลาออกไปได้สกั ระยะก็พอ
51
ทว่าซางซูเ่ อ๋อย่อมรูใ้ จฮูหยินผูเ้ ฒ่าดี นางยิมแล้วพูดว่า
“ท่านแม่ก็พดู เกินไปเจ้าค่ะ ในบ้านเราไม่วา่ จะมีเรือง
อะไร ท่านแม่ก็ตดั สินใจได้อยูแ่ ล้ว ยังจะมีเรืองทีต้อง
การความคิดเห็นจากข้าอีกหรือเจ้าคะ”
“นี...ท่านแม่หมายความว่า...”
52
ฮูหยินผูเ้ ฒ่ามองมาทีสะใภ้หา้ “เจ้าจะถามว่า...ข้าจะ
ทําอะไรงันรึ? ตอนแรกเจ้าอยากให้หยุนจือแต่งงานไป
พร้อมกับหยุนเจิง ทว่าตระกูลผูด้ แู ลสุสานถึงจะตกอับ
แต่ก็มีเชือสายขุนนาง พวกเขาอยากสูข่ อหลานสาวคน
โตของตระกูลเรา ข้าก็เลยอยากถามว่าเจ้าคิดเห็นเช่น
ไร?”
ฮูหยินห้าตอบว่า “ตระกูลสีไม่มีชือสีหยุนจือแล้วนีเจ้า
คะ ในเมือเขาอยากได้หลานสาวคนโตของตระกูล ก็สง่
ลูกบ้านรองอย่างสีหยุนเจียวไปให้ก็ได้นีเจ้าคะ”
ฮูหยินผูเ้ ฒ่ากับฮูหยินห้าถึงกับมองตากันด้วยความ
ประหลาดใจว่าพ่อค้าแม่คา้ จะมาแสดงความยินดีกบั สี
หยุนจือเรืองอะไร?
55
ยินดีมากขึนเรือยๆ และยังพูดถึงเรืองทีตระกูลสีบอกว่า
จะจ่ายค่าสินค้าให้ครบในอีกหนึงเดือนข้างหน้า
ข่าวนีแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว แม้คนทีผ่านโลก
มามากอย่างฮูหยินผูเ้ ฒ่ายังรับมือกับผูค้ นทีมารวมตัว
กันอยูห่ น้าบ้านตระกูลสีแทบไม่ทนั อีกทังแผนการทีวาง
ไว้ก่อนหน้านีก็เป็ นอันต้องพังทลายลง
ตอนแรกนางตังใจว่าจะรออีกสักสองวัน จึงค่อยปล่อย
ข่าวว่าคุณหนูใหญ่สีหยุนจือป่ วยกะทันหันและเสียชีวิต
จากนันค่อยแอบส่งตัวนางเข้าเมืองหลวง แต่ในตอนนี
เรืองกลับตาลปั ตรไปหมด
ห้องเก็บฟื น
56
สีหยุนจือยังคงนังท่าเดิมอยูข่ า้ งประตูหอ้ งด้วยท่าทางอิด
โรย ร่างกายทีขาดทังนําและอาหารมาสองวันเริมซูบ
ผอมไร้เรียวแรง ใบหน้าทีเคยมีเลือดฟาดกลับซีดขาว
ราวกระดาษ เหลือเพียงแววตาทียังคงความเด็ดเดียว
ฉายชัดว่านางจะไม่ยอมแพ้!
ทันใดนันมีเสียงฝี เท้าดังมาจากภายนอกตัดบทความคิด
ของนาง สีหยุนจือไม่แน่ใจว่าตนหูฝาดไปเองหรือไม่ จึง
เกาะผนังพยุงตัวขึนแล้วมองลอดผ่านรอยแยกของประตู
ออกไป
58
ตอนที 4 สูข่ อ
นอกประตู
ฮูหยินผูเ้ ฒ่าทีในมือถือไม้เท้ากําลังเดินตรงมาพร้อมกับ
บรรดาแม่นม ขณะทีนางสังให้คนเฝ้ายามเปิ ดประตูหอ้ ง
เก็บฟื น แม่นมคนหนึงก็ยกเก้าอีไม้มาวางให้เจ้านายนัง
59
ทีหน้าห้อง
“หยุนจือ...เข้ามาใกล้ๆ ข้าหน่อย”
60
“หยุนจือคารวะฮูหยินผูเ้ ฒ่าเจ้าค่ะ”
“ย่าเพียงต้องการจะทดสอบเจ้า เจ้าคงไม่คิดว่าย่าจะ
ทํากับเจ้าอย่างนันจริงๆ ใช่ไหม อย่างไรเสียเจ้าก็เป็ น
หลานสาวของตระกูลสี” หลังจากพูดจบจึงตบเบาๆ ที
61
หลังมือสีหยุนจือเป็ นการปลอบประโลม
62
แต่งออกไปเสียวันนี ข้าจะมอบสินสอดทังหมดให้เจ้า
เป็ นขวัญถุงแต่งงาน เจ้าเห็นเป็ นอย่างไร?”
หญิงสาวก้มหน้ามองซองแดงในมือ ลายมือด้านบนมอง
เพียงปราดเดียวก็รูว้ า่ ไม่ใช่ลายมือของชาวบ้านธรรมดา
ซองแดงระบุวนั ทีด้วยตัวอักษรทีมีลายเส้นหนักแน่นแฝง
ไว้ดว้ ยจิตวิญญาณราวกับจะถ่ายทอดตัวตนของผูเ้ ขียน
ออกมา
63
เมืองได้อย่างไร และถ้าไม่ใช่ตระกูลตกอับ ฮูหยินผูเ้ ฒ่า
ก็คงไม่ยอมให้นางแต่งกับคุณชายบ้านนันแน่ๆ
64
ต่อ
สีหยุนจือเก็บซองแดงใส่ไว้ในสาบเสือ พยายามข่ม
อารมณ์ให้เป็ นปกติ ไม่วา่ ฮูหยินผูเ้ ฒ่าจะคิดอย่างไร ใน
เมือวันนีมีโอกาสรอดพ้นจากการต้องเดินทางไปเมือง
หลวงกับหยุนเจิงได้ นางย่อมไม่ทิงโอกาสนีแน่นอน
ส่วนเรืองบ้านสามี ในภายภาคหน้าหากพวกเขารูเ้ รือง
ของนาง สุดท้ายแล้วไม่วา่ เกิดอะไรขึนก็ขอให้เป็ นเรือง
ของสวรรค์ลขิ ิตแล้วกัน
“ตกลงเจ้าค่ะ ข้าจะแต่ง”
สีหยุนจือพยายามควบคุมอารมณ์นอ้ ยเนือตําใจทีผุดขึน
มา เนือตัวเริมสันเทา สีหน้าซีดเผือด แต่ก็ยงั ไม่ลืมทํา
ความเคารพฮูหยินผูเ้ ฒ่า
“ขอบคุณฮูหยินผูเ้ ฒ่าทีเมตตาหยุนจือเจ้าค่ะ”
66
แม่นมทังสองพาหญิงสาวออกไปเตรียมตัวตามคําสัง
ส่วนฮูหยินผูเ้ ฒ่ายังคงนังอยูท่ ีเดิมอย่างไม่รบี ร้อน
ครูห่ นึงแม่นมคนสนิทจึงได้เข้ามาประคองแล้วพากันเดิน
กลับเรือน ระหว่างทางแม่นมถามขึนด้วยความสงสัย
“ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเจ้าคะ ท่านรีบให้คณ
ุ หนูใหญ่แต่ง
งานออกไปอย่างนี ไม่เกรงว่าคุณหนูคนอืนๆ จะเสียใจ
หรือเจ้าคะ?”
67
แม่นมคนสนิทรูต้ วั ว่าตัวเองพูดผิดก็รบี แก้คาํ “บ่าวผิด
ไปแล้วเจ้าค่ะ ไม่วา่ ท่านเอ่ยอะไรออกไปก็คงไม่มีใคร
กล้าขัดหรอกเจ้าค่ะ เพียงแต่ก่อนหน้านีเห็นท่านตกลง
กับฮูหยินห้าว่าจะให้คณ
ุ หนูใหญ่เข้าเมืองหลวงกับคุณ
หนูหยุนเจิง ในเมือเป็ นอย่างนีฮูหยินห้าคงได้มารบเร้า
ท่านอีกเป็ นแน่”
68
“หมายความว่าท่านไม่ได้อยากให้คณ
ุ หนูใหญ่ไปเมือง
หลวงตังแต่แรกหรือเจ้าคะ” แม่นมถึงกับตาสว่าง แต่ยงั
มีขอ้ สงสัยจึงพูดต่อ “ถ้าอย่างนันเราก็ควรดูแลคุณหนู
ใหญ่ให้ดีกว่านีหน่อย ต่อไปหากมีเรืองขัดแย้งกับฮูหยิน
ห้าขึนมา อย่างน้อยก็จะมีคนช่วยท่านดูแลตระกูลอย่าง
จริงใจนะเจ้าคะ”
69
อย่างไร? ต่อให้ขา้ ทําดีกบั นางก็ไร้ประโยชน์ ในเมือไร้
ประโยชน์ ข้าจะทําไปทําไม?”
คืนก่อนแต่งงาน
เวลาแค่คืนเดียวแทบไม่พอให้สีหยุนจือได้ทนั เตรียม
อะไรด้วยซํา นางทําได้เพียงนําชุดของมารดามาแก้ไข
ปรับขนาดให้พอดีกบั ตัวก็เท่านัน
70
ทังหมดให้เพือเป็ นขวัญถุงในวันแต่งงาน
สินสอดทีว่าก็คือของจากฝ่ ายชายสองหาบทียกมาสูข่ อ
นางแอบไปดูมาแล้วเห็นเพียงผ้าธรรมดา เนือปลา หมัน
โถว และขนมต่างๆ โชคดีทียังอยูใ่ นช่วงเดือนสาม
อากาศจึงยังไม่รอ้ นเท่าไรนัก ไม่อย่างนันของทังสอง
หาบนันก็คงเสียไปแล้ว ตระกูลทีนางจะแต่งด้วยคง
กําลังตกยาก จึงไม่แปลกทีคนอย่างฮูหยินผูเ้ ฒ่าจะคิดดู
ถูก
หากตระกูลสีไม่มีนาง...ผูด้ ียากไร้อย่างตระกูลนีก็คงไม่
มีทางสูข่ อหลานสาวบ้านนีไปได้ ยิงในยามปกติฮหู ยินผู้
เฒ่าคงไม่ยอมให้ของพวกนันมากองอยูห่ น้าบ้านเสีย
ด้วยซํา แต่เพราะมีนาง...ฮูหยินผูเ้ ฒ่าจึงรีบขับไสยกให้
71
แต่งออกไปโดยเร็ว
สีหยุนจือนังปรับแก้ชดุ แต่งงานของตนจนกระทังเช้า
เนืองจากนางไม่มีสาวใช้จงึ ต้องเก็บข้าวของของตนเพียง
ลําพัง โชคดีทีหลายปี มานีนางมีขา้ วของเครืองใช้ไม่มาก
นัก จึงไม่มีอะไรให้เก็บมากเท่าไร
เงินเก็บสองร้อยตําลึงนีแหละทีนางเตรียมสํารองไว้ให้
ตนเอง ในภายหน้าหากนางทนอยูบ่ า้ นของสามีไม่ไหว
อย่างน้อยเงินก้อนนีก็คงพอให้นางหยิบมาใช้ได้
73
เดิมทีสีหยุนจือเป็ นสตรีทีมีใบหน้างดงาม แต่ควบางที
ิ ไร้
การตกแต่งทําให้ใบหน้าดูจืดชืด หนําซําต้องทนลําบาก
มาหลายปี ผิวจึงซีดเหลืองไม่เปล่งปลัง ภายนอกก็ดรู าว
กับสตรีทีอ่อนแอไร้เรียวแรง
หญิงสาวได้แต่มองเงาสะท้อนของตนเองในกระจกแล้ว
ยิมน้อยๆ จากนันก็กม้ มองโต๊ะเครืองแป้ง มีเพียงแป้ง
ทาหน้าทีมารดาของนางเคยใช้เหลือทิงไว้ ในยามปกติ
อย่าว่าแต่หยิบมาใช้ แม้แต่จะเปิ ดออกนางยังไม่กล้า
เพราะแป้งนีถ้าวางไว้นานกลินจะจางลงเรือยๆ สีหยุ
นจือกลัวว่าหากเปิ ดตลับบ่อยๆ อาจจะทําให้กลินของ
แป้งจางเร็วกว่าเดิม
74
หน้าบ้าง
ใบหน้าทีถูกแต่งแต้มด้วยแป้งหอมดูมีชีวิตชีวาขึน สีหยุ
นจือถอนหายใจอยูห่ ลายครัง หากนางงดงามได้เหมือน
มารดาสักครึงหนึงก็คงดี
75
แต่น่าเสียดายทีความงามนันย้อนมาทําร้ายท่านแม่ แม้
แต่คนทีได้หน้าตาจากท่านแม่มาบ้างอย่างน้องชายของ
นางก็ยงั ไม่เว้น ส่วนนางก็ตอ้ งมีชีวิตอยูอ่ ย่างลําบากมา
จนถึงตอนนี
76
ตอนที 5 แต่งงาน
ช่วงเช้า
วันนีบรรยากาศช่างเงียบเหงาเหมือนกับทีสีหยุนจือคิด
ไว้
ฮูหยินผูเ้ ฒ่าสังให้แม่นมคนหนึงมาช่วยดูแลความเรียบ
ร้อยให้นางแต่เช้า ทว่าแม่นมคนนีไม่ได้ช่วยยกสัมภาระ
และไม่ได้ช่วยแต่งตัวเจ้าสาว อีกฝ่ ายได้แต่มายืนรออยู่
นอกห้องเท่านัน
แม้นางจะอ้างว้างอยูบ่ า้ งทีต้องจัดการทุกอย่างคนเดียว
77
แต่หญิงสาวก็ไม่ได้วา่ อะไร สีหยุนจือสวมผ้าคลุมศีรษะ
แล้วนังรออยูท่ ีขอบเตียง สองมือกุมกันไว้แน่น ไม่นาน
นางก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก
แม่นมแจ้งความประสงค์ของฮูหยินผูเ้ ฒ่าให้พวกเขา
ทราบ นางจึงได้รูว้ า่ ...ทีแท้ฮหู ยินผูเ้ ฒ่าไม่อยากให้นาง
แต่งงานโดยออกไปทางประตูใหญ่ จึงสังให้ขบวนเกียว
ไปรอทีประตูดา้ นข้างแทน
78
ชายชราพยายามเจรจาต่อรองกับแม่นมแต่ก็ไม่เป็ นผล
หนําซําแม่นมยังไม่ยอมให้พวกเขาไปขออนุญาตกับฮูห
ยินผูเ้ ฒ่าโดยตรงอีกด้วย ชายหนุ่มได้ยินก็ขมวดคิว ทํา
ท่าเหมือนจะพูดบางอย่างแต่กลับถูกชายชราห้ามปราม
ไว้ จากนันทังสองก็ช่วยกันขนย้ายสินสอดและสัมภาระ
ของนางออกไปทางประตูขา้ ง
ไม่นานแม่นมก็เข้ามาในห้อง ประคองเจ้าสาวออกมา
จากประตู สีหยุนจือมองพืนทางเดินก็รูว้ า่ ไม่ใช่ทางเดิน
ทีจะออกประตูใหญ่ เรืองมาถึงขนาดนี ทว่าสุดท้ายแล้ว
ฮูหยินผูเ้ ฒ่าก็ไม่ได้เห็นแก่ความเป็ นหลานของนางแม้แต่
น้อย เห็นได้วา่ อีกฝ่ ายไม่อนุญาตให้นางแต่งออกทาง
ประตูใหญ่ แต่ให้ใช้ประตูเล็กแทน
79
สีหยุนจือสวมผ้าคลุมศีรษะ นังบนเกียวแดงทีมีคนหาม
สองคน
80
คนหามอาจจะทิงเกียวทีนางนังลงจากภูเขาสูง หรืออาจ
จะโยนทิงลงแม่นาเมื
ํ อไรก็ไม่รู.้ ..
นางยิงคิดก็ยิงหวันใจมาตลอดทาง
81
เมือเสียงภายนอกเงียบลง นางพยายามเงียหูฟังอย่าง
ตังใจ พลันก็ได้ยินเสียง ‘โครม’ ราวกับภูเขาถล่ม ทํา
เอานางตกใจจนสะดุง้ สุดตัว
เมือเสียงแรกผ่านไป ก็มีเสียงแบบเดิมดังขึนอีกหลาย
ครัง เสียงดังสนันจนพืนดินแทบสันสะเทือน
82
สีหยุนจือฟั งออกว่าเป็ นเสียงชายชราทีไปรับนางมาจาก
บ้านตระกูลสี ครูห่ นึงก็ได้ยินเสียงชายทีหนุ่มกว่า
ตอบกลับ
เสียงนีไม่ใช่เสียงชายหนุ่มทีไปรับนางทีบ้าน แต่เป็ น
เสียงทีดังฟั งชัดและมีพลังกว่ามาก
83
“ใครจะเป่ าปี เป็ นล่ะ? ฆ้องบ้านเราก็ไม่มี ใช้ฝาหม้อ
แทนได้ไหม เดียวข้าไปหาฟื นมาสักท่อนก่อน...โอ๊ย!”
จู่ๆ ชายหนุ่มก็รอ้ งเสียงหลงราวกับโดนคนเตะ
“...”
สีหยุนจือได้ยินบทสนทนาทีพูดคุยอย่างเป็ นกันเองก็ใจ
ชืนขึนมาบ้าง อย่างน้อยตระกูลทีนางจะแต่งเข้าคงไม่มี
กฎระเบียบทีเคร่งครัดเท่าไรนัก
เสียงด้านนอกเงียบไปราวหนึงเค่อ จากนันจึงได้ยินเสียง
ตะโกนแสดงความยินดี เสียงประโคมเครืองดนตรีดงั
อย่างต่อเนือง พร้อมด้วยเสียงบรรเลงเพลงทีคล้ายกับ
84
เพลงท้องถินดังขึนมา จากนันผ้าม่านของเกียวก็เปิ ด
ออก มือใหญ่เปี ยมพลังข้างหนึงยืนมาจับมือทีซีดเผือด
และเย็นเฉียบของนาง สีหยุนจือพลันรูส้ กึ ได้ถงึ แรงดึง
ดูดบางอย่างทียากจะต้านทานดึงตัวนางออกมาจาก
เกียว
แรงดึงนันทําให้นางเซไปซบกับแผ่นอกกว้างและอุน่ ร้อน
ของบุรุษร่างสูงใหญ่
มือทีร้อนผ่าวดังเหล็กกล้ากําลังวางอยูบ่ นไหล่บอบบาง
ของนาง ใบหน้าเจ้าสาวภายใต้ผา้ คลุมหน้าพลันแดงกํา
หัวใจเต้นแรง ขณะทีกําลังคิดว่าควรจะทําความเคารพ
สามีหรือไม่ เขากลับดึงมือกลับและถอยหลังไปเล็กน้อย
ราวกับต้องการรักษาระยะห่าง
มีคนยัดผ้าไหมแดงใส่ในมือของนาง ตอนนีหญิงสาว
กําลังถือผ้าแดงไหว้ฟา้ ดิน ไหว้ญาติผใู้ หญ่ เมือเสร็จสิน
พิธีการอย่างเรียบง่ายทังสองก็ถกู ส่งตัวเข้าห้องหอ
บรรยากาศช่างต่างจากทีนางคิดลิบลับ ไม่มีเสียงจอแจ
จากบรรดาลุง ป้า น้า อา ทังหลาย
86
ไม่มีเสียงประกาศให้คนในหมูบ่ า้ นได้รบั รู ้ แม้แต่เสียงชน
จอกสุราแสดงความยินดีก็ไม่มีเช่นกัน
นีอาจจะเป็ นงานแต่งงานทีเงียบงันทีสุดเท่าทีนางเคย
เห็นและสามารถจะจินตนาการได้
เมือได้สติอีกครัง ผ้าคลุมหน้าของนางก็หลุดออกแล้ว
แสงทีลอดผ่านผ้าม่านแยงเข้าตาทําให้นางตาพร่า สีหยุ
87
นจือตัวสันด้วยความกลัว พยายามเพ่งมองภาพตรง
หน้า
สีหยุนจือยังคงมึนหัวเล็กน้อย ภาพชายตรงหน้าราวกับ
มีมนต์สะกด ทําให้นางไม่อาจละสายตาไปได้ หญิงสาว
นังนิงไม่ไหวติง ด้วยกลัวว่าทังหมดจะเป็ นเพียงภาพฝัน
หากนางตืนขึนจะต้องกลับมาเจอกับความจริงทีแสน
88
รันทดดังเดิม
“ดืมซะ จะได้นอน”
89
สามีของนางกําลังรูส้ กึ ไม่พอใจ หญิงสาวจึงรีบปรับสี
หน้าให้เป็ นปกติ รับจอกสุรามาถืออย่างนอบน้อม
90
ตัวนางบ้าง
มือคูน่ นไม่
ั ได้เรียวบางเหมือนมือของคุณหนูทีมาจาก
91
ตระกูลสูงส่ง บนนิวชีมีรอยแผลเป็ นทีเห็นชัดอยูส่ องรอย
แผลนันดูเหมือนเพิงจะเกิดขึนไม่นาน เมือมองใบหน้า
นางตรงๆ ก็เห็นว่าแป้งทีทาบางๆ บนหน้าไม่อาจปกปิ ด
รอยชําสีมว่ งอ่อนตรงมุมปากได้เลย
สีหยุนจือถอดเสือตัวนอกให้สามี ไม่กล้าสบตาอีกฝ่ าย
แต่ก็ยงั รับรูไ้ ด้ถงึ สายตาทีจับจ้องมาทีตนทําให้หญิงสาว
รูส้ กึ ประหม่า
92
นางพอจะเคยได้ยินเรืองระหว่างชายหญิงมาบ้าง และ
ตอนนีก็นบั ว่านางเป็ นภรรยาของเขาแล้ว ดังนันหลัง
จากถอดเสือให้สามี นางจึงก้มหน้าถอดชุดแต่งงานของ
ตนออก เหลือเพียงเสือตัวบางด้านใน จากนันก็บอกกับ
เขาว่า
“เชิญใต้เท้าไปพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ”
สีหยุนจือใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก นาง
93
ยืนมือทีสันเทาไปจับแขนเสือของสามี พาเขาออกมา
จากหลังฉากกัน
นางทําเพียงเท่านีก็อายจนหน้าแดงกําแล้ว ไม่กล้าแม้
แต่จะเงยหน้ามองเขาอีก กลัวว่าจะเจอเข้ากับสายตาดู
หมินในท่าทีทีเหมือนไม่สาํ รวมของนาง
94
ตอนที 6 เข้าหอ
ขณะทีหญิงสาวไม่รูว้ า่ จะทําอย่างไรต่อไป จู่ๆ นางก็
รูส้ กึ ว่าตัวเบาหวิว
สีหยุนจือสบกับดวงตาคมเข้มทีจ้องมองมาด้วยแววตา
ลําลึก ก่อนจะทําใจกล้ายิมออกมาเบาบางแล้วกล่าวว่า
95
“ขอ...ขอให้ขา้ ได้รบั ใช้...”
ในตอนแรกเขาคิดว่าจะไม่แตะต้องตัวนาง แต่เมือได้
เห็นผิวขาวเนียนละเอียดราวหยกเนือดีทีซ่อนอยูภ่ ายใต้
เสือผ้า จึงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้อีก ปลด
ปล่อยสัญชาตญาณของบุรุษเพศให้นาํ ทาง ถาโถมใส่
นางด้วยแรงทังหมดทีมี
96
สีหยุนจือทีถูกกดทับอยูบ่ นเตียงเจ็บจนร้องออกมาเบาๆ
แต่ก็ไม่ได้พยายามหยุดการเคลือนไหวของเขา
ปูถ้ านจู่โจมอย่างเร่าร้อนและรวดเร็วราวกับกําลังระบาย
อารมณ์ สีหยุนจือเองก็แทบจะตังรับไม่ไหว นางอยาก
จะหันไปบอกให้เขาช่วยเบาแรงหน่อย แต่เมือหันกลับ
ไปก็ถกู เขากดไว้ไม่ยอมให้ขยับ นางจึงทําได้เพียงรับมือ
กับความเร่าร้อนของเขา จิกมือลงบนทีนอนและ
ครางออกมา
ผ่านไปนานเท่าไรไม่รู ้ จนกระทังชายหนุ่มกระตุกครังสุด
ท้ายและหยุดการเคลือนไหว เขาจึงยอมถอนกายออก
จากตัวนางแล้วพลิกตัวนอนหงายอยูด่ า้ นข้าง สีหยุนจือ
เองก็ไร้ซงเรี
ึ ยวแรงแล้วเช่นกัน ถึงเขาจะปล่อยนางออก
97
จากการเกาะกุมแต่ยงั กดทีท้ายทอยไว้ เมือรูส้ กึ ว่านาง
กําลังจะหันมาก็ออกแรงกดมากกว่าเดิม เมือเป็ นอย่างนี
หญิงสาวก็รูแ้ ล้วว่าเขาคงไม่อยากเห็นหน้า นางจึงไม่ฝืน
สีหยุนจือดึงผ้าห่มมาห่อตัวแล้วนอนตะแคงไปอีกทาง
ขดตัวอยูอ่ ย่างนันและไม่เข้าใกล้เขาอีก
คืนนันนางหลับไปพร้อมกับนําตาและความเหนือยล้า
เช้าวันรุง่ ขึน
สีหยุนจือถูกเสียงไม้กระบองทีกวัดแกว่งไปมากลาง
อากาศปลุกให้ตืน นางมองผ่านช่องหน้าต่างเห็นแสง
98
อาทิตย์แผดจ้าก็เริมร้อนใจ
เขาลุกไปจากเตียงตังแต่เมือไรก็ไม่รู ้ มีเพียงนางที
นอนอยูต่ ามลําพัง
หลังแต่งงานวันแรกนางไม่ได้ตืนแต่เช้าเพือเตรียม
อาหารให้ทกุ คน ซํายังไม่ได้เข้าไปคารวะท่านปู่ ของสามี
นับเป็ นเรืองทีไม่เหมาะสมอย่างมาก
เมือวานนางเข้าบ้านทังทียังมีผา้ คลุมศีรษะจึงไม่ได้เห็น
99
ว่าบ้านของสามีเป็ นอย่างไร นางรูเ้ พียงว่าบ้านหลังนีไม่
ได้ใหญ่โต ผูอ้ ยูอ่ าศัยไม่มาก เมือได้เห็นกับตา...ไม่ใช่
แค่บา้ นไม่ใหญ่ แต่ยงั เล็กมากด้วยซํา ดูเหมือนกับบ้าน
ชาวไร่ชาวนาธรรมดา ผนังห้องเป็ นสีขาว ปูพืนสีดาํ มี
ห้องสีห้องตังเรียงอยูใ่ นแถวเดียวกัน ด้านหน้าเป็ นสวน
หย่อม ส่วนด้านข้างของตัวบ้านก็มีหอ้ งครัวทีมีปล่อง
ระบายควันอยูบ่ นหลังคา
สวนหย่อมทีนีดูโล่งกว้าง มีเพียงหินไม่กีก้อนวางอยู่
ข้างก้อนหินมีชายหนุ่มสองคนกําลังฝึ กซ้อมเพลงกระบี
กระบอง ท่วงท่ารวดเร็วฉับไวจนฝุ่ นโดยรอบฟุง้ กระจาย
เมือทังสองเห็นสีหยุนจือเดินออกมาจากห้องก็หยุดซ้อม
ชายร่างผอมผิวคลําทีสูงกว่าส่งยิมมาให้ ส่วนอีกคนทีรูป
100
ร่างเตีย ผิวขาวสะอาด รีบวิงมาทางนาง
ชายผูน้ นพู
ั ดต่อว่า “ฮูหยินขอรับ ข้าชือจ้าวอี ส่วนเจ้า
คนทีกําลังยืนยิมอยูน่ นชื
ั อหานเฟิ ง พวกเราเป็ นองครักษ์
101
ของคุณชาย หากฮูหยินมีเรืองอะไรให้พวกเรารับใช้ก็
สามารถเรียกได้ตลอด พวกเราจะรีบมาทันที ให้ทาํ อะไร
ก็ได้ขอรับ ไม่มีองู้ านแน่นอน”
“ฮูหยิน...ดูจะเกรงใจพวกเรามากไปหรือเปล่า?”
102
แสงแดดทีเล็ดลอดเข้ามาทําให้เห็นว่าด้านในมีโต๊ะไม้ตวั
หนึงตังอยู่
สีหยุนจือได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ คิดเพียงว่าใน
เมือเป็ นคนของทีนีแล้วก็ตอ้ งอยูแ่ บบคนบ้านนี ทว่าสิงที
นางควรทําเป็ นอันดับแรกคือต้มนําและชงชาไปคารวะ
103
ญาติผใู้ หญ่ในบ้านของสามีก่อน
เมือชายชราเห็นว่าหญิงสาวกําลังก่อไฟก็รบี เข้าไปรับฟื น
104
จากมือนาง พลางบอกว่า “อะไรกันฮูหยิน ท่านจะมา
ทํางานหนักอย่างนีไม่ได้นะขอรับ เดียวข้าทําต่อเองขอ
รับ”
เมือเห็นลุงเยียนเดินไปก่อไฟแล้ว หญิงสาวก็ไม่อาจนิง
เฉย รีบไปเปิ ดฝาหม้อดูวา่ นําทีต้มใกล้เดือดแล้วหรือยัง
สีหยุนจือชะงักมือเล็กน้อยเมือได้ยินชือบิดา ก่อนพยัก
106
หน้าแล้วถามกลับ “ลุงเยียนรูช้ ือของบิดาข้าได้อย่าง
ไร?”
“...”
เมือได้ยินลุงเยียนเล่าเรืองทีพบท่านพ่อโดยบังเอิญ สีหยุ
นจือก็ไม่รูว้ า่ จะควรจะตอบกลับอย่างไรดี
107
เพราะตอนทีท่านพ่อเข้าเมืองเพือไปสอบ...นันก็เกือบ
สิบปี มาแล้ว
ยามนันท่านพ่อยังเป็ นคนหนุ่มทีกระฉับกระเฉงและเต็ม
เปี ยมไปด้วยพลัง พร้อมกับความหวังว่าจะสอบติดจอ
หงวนและนําความภาคภูมิใจมาสูต่ ระกูล แต่เรืองกลับ
ตาลปั ตรไม่เป็ นดังหวัง ท่านพ่อในวันนีจึงต่างจากเมือ
ก่อนอย่างสินเชิง
นางเดาว่าลุงเยียนเองก็คงจะได้ยินเรืองราวหลังจากนัน
ของท่านพ่อมาบ้าง เขาจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ กลับเล่า
เรืองราวของตระกูลปูใ้ ห้ฟังแทน
108
หลังจากฟั งลุงเยียนเล่า นางจึงได้รูว้ า่ ตระกูลทีนางแต่ง
เข้าแซ่ปู้ และสามีนางชือปูถ้ าน เมือก่อนเขาเป็ นแม่ทพั
แต่เพราะพ่ายศึกสงครามและได้รบั บาดเจ็บสาหัส เบือง
บนจึงเห็นว่าหมดประโยชน์ จากนันก็สงให้
ั มาดูแลสุสาน
จักรพรรดิทีเมืองห่างไกลนี
ตระกูลปูเ้ ดินทางมาลัวหยางพร้อมกับกองทัพทหารบาด
เจ็บและพ่ายสงครามทีฮ่องเต้สง่ มา ทว่ามีเพียงลุงเยียน
จ้าวอี และหานเฟิ งทีติดตามมายังบ้านหลังนีเพือดูแลผู้
เป็ นนายอย่างใกล้ชิด
109
นีคงเป็ นสาเหตุทีต้องมีอาหารป่ าและอาหารแห้งมาก
มายในห้องครัวเล็กๆ นีสินะ
สุดท้ายสีหยุนจือก็ตดั สินใจต้มโจ๊กอย่างง่ายๆ
นางเตรียมเครืองปรุงอย่างคล่องแคล่ว หันเนือทีต้มสุก
แล้วให้เป็ นชินแบบลูกเต๋า หันเห็ดเป็ นเส้นๆ จากนันก็ใส่
ลงในหม้อ เพียงไม่นานโจ๊กก็สง่ กลินหอมไปทัว
เมือเดินมาถึงก็เห็นท่านปู่ นงอยู
ั ด่ า้ นใน สีหยุนจือค้อม
110
กายคารวะ ก่อนจะยกถ้วยโจ๊กวางบนโต๊ะให้ดว้ ยกิรยิ า
นอบน้อม
ท่านปู่ ยมอย่
ิ างใจดี กินโจ๊กทีนางนํามาแล้วเอ่ยชืนชม
ฝี มือทําอาหารพร้อมกับยกนิวโป้งให้ เขากินเพียงไม่กีคํา
ก็หมดถ้วย ลุงเยียนยิมพลางส่งผ้าสะอาดให้เจ้านาย
เพือเช็ดปาก
111
แม้ทา่ นปู่ จะเอ่ยชมไม่ขาดปากแต่สีหยุนจือก็ยงั คุกเข่า
นิงอยูก่ บั พืน นางไม่รูว้ า่ ท่านปู่ พดู เพราะรูส้ กึ เช่นนัน
จริงๆ หรือพูดชมไปอย่างนันเอง เหมือนท่านย่าของนาง
ทีแม้จะพูดดีดว้ ยแต่แท้จริงแล้วกลับเกลียดนางเหลือเกิน
มีหลายครังทีนางเดาใจท่านย่าไม่ออก
112
ตอนที 7 หยกคู่
จู่ๆ ท่านปู่ ก็ทาํ ท่าเหมือนนึกบางอย่างได้
เขารีบลุกขึนยืนแล้วเดินวนไปรอบห้องเหมือนกําลังหา
อะไรบางอย่าง ลุงเยียนก็ไม่รูว้ า่ เจ้านายกําลังหาอะไรจึง
113
เดินเข้าไปถาม
114
“จีหยกคูส่ ลักรูปนกเป็ ดนํานีเป็ นสมบัติตกทอดของตระ
กูลปู้ ตอนนีมันเป็ นของเจ้ากับถานเอ๋อแล้ว ให้เจ้าเก็บ
เอาไว้ชินหนึง อีกชินค่อยเอากลับไปใส่ให้สามีของเจ้า
เฮ้อ...โชคยังดีทีก่อนเกิดเรืองข้าเก็บเอาไว้ได้ทนั ไม่
อย่างนันบรรพบุรุษคงได้ลกุ จากสุสานมาต่อว่าข้าเป็ น
แน่”
สีหยุนจือหยิบหยกขาวราวหิมะทังสองชินออกมาจากถุง
ผ้า แม้ทา่ นปู่ จะพูดอย่างนันแต่นางก็รูด้ ีวา่ ท่านจริงจัง
และให้ความสําคัญเพียงไร
115
สีหยุนจือเก็บหยกคูใ่ ส่ไว้ในถุงผ้าตามเดิมแล้วเก็บเข้าใน
สาบเสืออย่างระวัง ค้อมกายกล่าวขอบคุณท่านปู่
พร้อมกับรับปาก
116
ตัวอย่างไรดี พลันได้ยินเสียงท้องของท่านปู่ รอ้ ง
“เดียวหยุนจือไปเอาให้เองเจ้าค่ะ” พูดจบก็หยิบถ้วยโจ๊ก
ทีท่านปู่ กินจนหมด เดินหน้าแดงเรือออกจากห้องไป
117
ลุงเยียนเห็นเจ้านายมองตามหลังหลานสะใภ้ไม่วางตาก็
อดถามไม่ได้ “นายท่าน คิดอะไรอยูห่ รือขอรับ? ฮูหยิน
ออกจะนิสยั ดี มีสมั มาคารวะต่อผูอ้ าวุโส...”
“...”
118
ห้องแต่กลับถูกเจ้านายเรียกไว้
“เจ้าไปเอาบัญชีและเงินทีเหลือทังหมดของบ้านเราให้
นางด้วย จากนีให้นางเป็ นคนดูแล”
119
ตอนนันเขาไม่ได้หว่ งยศถาบรรดาศักดิ ไม่ได้หว่ งความ
ชราของตน ใช้เวลาสามเดือนเต็มกับการศึกษานิสยั และ
ความอดทนของหลานสะใภ้คนนี จนแน่ใจว่านางเหมาะ
สมทีสุด
120
“...”
สีหยุนจือไม่คิดว่าโจ๊กธรรมดาทีนางทําจะได้รบั คําชม
มากมายขนาดนี จึงยิมออกมาด้วยความดีใจ
พูดพลางเดินไปหยิบถ้วยออกมาจากตู้ เพือทีจะตักโจ๊ก
ไปให้ทา่ นปู่ เพิม แต่กลับเห็นเพียงหม้อว่างเปล่าจนเห็น
รอยดําทีก้น นางจําได้วา่ ตัวเองทําโจ๊กในปริมาณสําหรับ
คนสิบคน และเพิงจะตักไปให้ทา่ นปู่ เพียงถ้วยเดียว จะ
หมดได้อย่างไรกัน?
121
จ้าวอียังคงก้มหน้าก้มตากินโจ๊กอย่างเอร็ดอร่อย ส่วน
หานเฟิ งเริมรูส้ กึ ตัว เอามือลูบท้ายทอยพลางยิมเจือน
เอ่ยสารภาพกับนายหญิง
“โจ๊กอร่อยมากเหลือเกินขอรับ พวกเราก็เลยเติมเพิมอีก
สองสามถ้วย”
“...” แค่สองสามถ้วย...เท่านันหรือ
122
ขณะทีกําลังคิดว่าจะทําอย่างไร จู่ๆ จ้าวอีก็วางถ้วยลง
รีบเดินออกจากห้องครัวแต่ไม่ลืมหันมาบอกกับหานเฟิ ง
“คุณชายกลับมาแล้ว”
ใบหน้าหล่อเหลากอปรกับแววตาทีเย็นชาทําให้บรุ ุษตรง
หน้ายิงดูคมเข้มมากขึน หากไม่ใช่เพราะขาทีเดินไม่
สะดวก ชายผูน้ ีก็คงมีรูปลักษณ์เพียบพร้อมอย่างยากจะ
หาบุรุษใดเทียบ
123
จ้าวอีและหานเฟิ งราวกับเปลียนเป็ นคนละคน จากสี
หน้าและท่าทางขีเล่นเมือครูก่ ลับเปลียนเป็ นเคร่งขรึม
ทังสองยืนเรียงแผ่นหลังหยัดตรงอยูห่ น้าห้องครัวอย่าง
กับต้นไม้ใหญ่ทีตังตระหง่าน
124
อย่างจริงใจแล้วถามว่า
สีหยุนจือมองตามหลังสามีทีเดินห่างออกไปแล้วถอน
หายใจ
125
จึงรีบบอกนางว่า “ปกติคณ
ุ ชายไม่กินอาหารเช้าขอรับ
ฮูหยินอย่าได้เก็บไปคิดให้มากเลย”
“เอาขอรับ เอาขอรับ!”
เป็ นอีกคืนทีเร่าร้อน
126
ฉากหลังผ้าม่านทีเปิ ดไว้เพียงครึงมีเสียงครางเบาๆ
ระคนเสียงหายใจหอบหนักตามจังหวะการเคลือนไหว
สีหยุนจือนอนงอตัวตอบรับการจู่โจมของปูถ้ านทีไม่มีที
ท่าว่าจะหยุด สองมือแกร่งจับอยูท่ ีเอวบาง นิวมือของ
เขาพันธนาการไว้แน่นจนนางไม่สามารถขยับหนีหรือ
ต้านทานได้ แรงทีโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วงทําให้เอว
นางแทบหัก แผ่นหลังขาวนวลเต็มไปด้วยเหงือผุดพราว
เส้นผมดําขลับสยายลงมาปกคลุมร่างบอบบางเกิดเป็ น
ภาพยัวยวนใจจนปูถ้ านยากจะห้ามใจได้ไหว เขาเพิม
แรงกระแทกให้เร็วและแรงขึน เพือให้รา่ งอ่อนนุ่มทีโค้ง
ตัวอยูต่ รงหน้าตอบรับความปรารถนาท่วมท้นของตน
127
สีหยุนจือซบหน้ากับแขนตัวเอง เอวของนางถูกกุมไว้ทาํ
ให้จาํ ต้องเคลือนไหวไปตามแรงทีโถมเข้าใส่จนร่างแทบ
แหลกสลาย หญิงสาวหายใจหอบ ขาและแขนไร้เรียว
แรง ราวกับปลาขาดนําทีกําลังจะหมดแรงดิน
128
แล้ว
ความเงียบภายในห้องยิงทําให้สีหยุนจืออึดอัดและคับ
ข้องใจยิงกว่าเดิม นําตานางเริมรืนขึนมา
“นอนเสียเถอะ”
129
สีหยุนจือยกมือปิ ดหน้าของตนทีร้อนผ่าวจนแดงกํา ทัง
โกรธทังอายแต่ก็ทาํ ใจกล้าหันไปดึงแขนเสือของปูถ้ านที
นอนอยูด่ า้ นข้าง แต่อีกฝ่ ายกลับไม่ใส่ใจซํายังทําเสียงใน
คอเหมือนรําคาญ
“ใต้เท้า ข้าขอนอนเตียงฝังด้านนอกได้ไหมเจ้าคะ?”
“...”
ภายในห้องเงียบกริบ ไม่มีเสียงตอบกลับจากชายหนุ่ม
จนนางคิดว่าเขาคงไม่ยอม แต่ปถู้ านกลับลุกขึนนัง เสือ
130
ทีสวมเพียงลวกๆ เผยให้เห็นแผงอกกว้าง สีหยุนจือรีบ
ก้มหน้างุด หลบสายตาจากภาพตรงหน้า
เขาเบียงตัวขยับให้นางออกมานอนอีกฝัง ชุดนอนสตรี
แบบบางพลิวไหวผ่านหน้า ชุดตัวในทีนางสวมไว้อย่าง
หลวมๆ เผยให้เห็นเนินอกอวบอิมขาวผ่อง พลันให้นกึ
ถึงกายอ่อนนุ่มทีแนบชิดเมือครู ่ ปูถ้ านรูส้ กึ ราวกับมีไฟ
ร้อนหมุนวนอยูใ่ นท้องจนต้องข่มตาหลับเพือสงบ
131
อารมณ์ทีเริมจะพลุง่ พล่าน
132
ตอนที 8 ผูด้ แู ลคนใหม่
ปูถ้ านตืนขึนมาหลังยามสองเล็กน้อย
หญิงสาวทีกําลังหลับไม่ได้มีทา่ ทีสงบเสงียมและเรียบ
ร้อยเหมือนตอนตืน ปากเล็กๆ เผยอเล็กน้อย สองแก้ม
แดงระเรือ ทําให้คนมองอดหวันไหวไม่ได้
133
จากภาพตรงหน้าแล้วลงจากเตียง เดินไปทีหลังฉากกัน
เพือเปลียนเสือผ้า
หลังฉากกันเขาเห็นชุดของตัวเองถูกจัดเตรียมไว้เรียบ
ร้อย เสือผ้าทังตัวนอกและตัวในถูกวางพับอย่างเป็ น
ระเบียบบนเก้าอี ไม่เว้นแม้แต่ถงุ เท้าและเชือกมัดผมซึง
เป็ นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ยงั มีวางไว้พร้อมสรรพ
เขามองลอดลายฉลุของฉากกันไปยังสตรีทีนอนอยูบ่ น
เตียง นีเป็ นครังแรกทีเขาเริมพิจารณาในตัวนางอย่าง
จริงจัง
134
สีหยุนจือพยายามทีจะตืนแต่เช้า
นางหวังว่าตนจะได้ช่วยสามีแต่งตัวบ้าง แต่เวลานียังไม่
ถึงยามสี ฟ้ายังไม่ทนั สาง สามีของนางก็ตืนและ
หายออกไปจากบ้านแล้ว
สีหยุนจือล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกครังด้วยความผิดหวัง
ดึงผ้าห่มขึนมาคลุมโปง จมูกพลันได้กลินของเขาทียัง
ติดอยูบ่ นผ้า สีหน้าหญิงสาวจึงแดงกํา รีบผุดลุกขึนนัง
ก่อนจะสะบัดผ้าห่มออกแล้วเดินลงจากเตียงไปเปลียน
เสือผ้าหลังฉากกัน
เช้าวันนีสีหยุนจือตืนขึนมาทําความสะอาดห้องอย่าง
อารมณ์ดี
136
นางหันขนมนําผึงเป็ นแผ่นแล้วเก็บบางส่วนไว้ทาํ เป็ น
อาหารเช้า ส่วนขนมทีเหลือก็ถกู เรียงไว้อย่างเป็ น
ระเบียบในกระจาดใบใหญ่สองใบ จากนันนางก็นาํ
กระจาดไปวางบนเก้าอีทียกออกมาจากห้องครัว ก่อน
จะเอาไปตากแห้งเพือให้เก็บไว้ได้นานๆ
หญิงสาวนึกถึงเรืองทีลุงเยียนเล่าจึงเข้าใจทันทีวา่ ทําไม
งานแต่งงานถึงได้จดั แบบเรียบง่ายเช่นนัน นางจะหวัง
ให้บา้ นทีมีสมาชิกเพียงห้าคนสร้างความครึกครืนให้กบั
งานแต่งงานได้อย่างไร
137
บอบชําไม่นอ้ ย
ขณะทีกําลังตากขนม ลุงเยียนก็เดินเข้ามาพร้อมกับของ
บางอย่างในมือ เมือเขาเห็นนางก็ทาํ ท่าจะค้อมกายทํา
ความเคารพแต่กลับถูกหญิงสาวห้ามไว้ก่อน
138
“จําเป็ นขอรับ” ลุงเยียนยิมกว้าง นางเห็นว่าเขามี
เรืองอยากจะพูดด้วยจึงวางงานในมือแล้วรอฟั ง
ลุงเยียนค้อมคํานับอย่างนอบน้อมก่อนจะผายมือไปทาง
ห้องรับแขก สีหยุนจือรีบเช็ดมือกับผ้ากันเปื อน ถึงจะ
แปลกใจ แต่นางก็ยงั เดินตามลุงเยียนออกไป
139
บ้านฮูหยินมีอาํ นาจตัดสินใจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด”
สีหยุนจือเห็นลุงเยียนพูดกับนางอย่างนอบน้อมก็คิดว่า
เขาคงอยากลองใจเท่านัน จึงรีบโบกมือปฏิเสธ
“ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ เรืองใหญ่ขนาดนีข้าจะทําได้อย่างไร
กัน ให้ทา่ นปู่ กบั ลุงเยียนดูแลอย่างเดิมก็ดีอยูแ่ ล้ว”
ลุงเยียนได้ยินก็ยิมเจือน วางสมุดและกล่องไม้ลงบนโต๊ะ
แล้วอธิบายต่อ
“นีคือสมุดบัญชี ส่วนเงินทีเหลือทังหมดของตระกูลอยู่
ในกล่องนีแล้วขอรับ ต้องขออภัยฮูหยินด้วย ข้าแก่แล้ว
140
ไม่มีแรงจะดูแลเรืองพวกนีต่อไป จากนีคงต้องพึงท่าน
แล้ว”
เมือลุงเยียนพูดจบก็ไม่ได้รอให้สีหยุนจือได้พดู อะไรอีก
รีบคารวะแล้วออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
สีหยุนจือหยิบสมุดบัญชีขนมาโดยไม่
ึ รูว้ า่ จะทําอย่างไร
ต่อไปดี แต่หลังจากทีเปิ ดสมุดดูไปสองสามหน้าก็เข้าใจ
ความหมายของลุงเยียนและท่านปู่ ในทันที
141
ห้าตําลึง! นีคือเงินทีเหลืออยูท่ งหมดของตระกู
ั ลปู้
ข้าอยากจะร้องไห้!
ลุงเยียนเดินออกจากห้องก็พบกับจ้าวอีและหานเฟิ งที
กําลังเดินมาพอดี
142
ว่าฮูหยินทําอาหารอร่อย
สีหยุนจือเพิงเดินออกมาจากห้องก็เห็นจ้าวอีและหาน
เฟิ งยืนรออยู่
143
นางนําขนมลงไปทอดในนํามัน พอเหลืองได้ทีก็ยกขึน
จากกระทะ แล้ววางลงบนจานกระเบือง จากนันก็โรย
นําตาลลงไปสองช้อน เมือนําตาลเจอกับความร้อนก็
ค่อยๆ ละลายซึมเข้าไปในเนือขนม
144
เมือคํานวณจากเวลา ป่ านนีเขาน่าจะต้องกลับมาแล้ว
แต่วนั นีกลับไม่เห็น ขณะทีนางกําลังครุน่ คิดคิดอยูน่ นั
พลันได้ยินเสียงบางอย่างทีหน้าประตู จ้าวอีและหาน
เฟิ งรีบวางถ้วยลงอย่างรวดเร็ว ออกไปยืนตัวตรงอยูน่ อก
ห้องครัวเพือเตรียมรับเจ้านาย
ทว่าวันนีเขาไม่ได้เดินมาล้างมือเหมือนเคย แต่เดินตรง
ไปทีห้องหนังสือทันที
สีหยุนจือมองตามหลังสามีแล้วยิมน้อยๆ นางถือถ้วยใส่
ข้าวต้มกับขนมนําผึงทีเตรียมใส่จานไว้ไปทีห้องหนังสือ
โชคดีทีนางตักแบ่งไว้ก่อน ไม่อย่างนันเขากลับมาสาย
ขนาดนี อาหารเช้าคงถูกจ้าวอีและหานเฟิ งกินหมดก่อน
145
เป็ นแน่
ส่วนจ้าวอีไปหาเก้าอีตัวยาวมาวางไว้หน้าห้องครัวให้สี
หยุนจือนังพักผ่อน
หญิงสาวไม่อาจทัดทานคนทังสองได้ แต่เมือนังลง
แล้วกลับนึกบางอย่างออก นางนิงคิดอยูค่ รูห่ นึง ก่อนจะ
หันไปบอกชายหนุ่มทังสองทีกําลังล้างหม้อล้างจานอยู่
ในครัว
146
มีรถเข็นอยูส่ องคันคงจะใช้ได้พอดี”
147
จ้าวอีกับหานเฟิ งหันมาสบตากัน “ฮูหยิน ท่านไม่ได้จะ
ไปซือของแต่จะไปขายของอย่างนันรึ?”
สีหยุนจือพยักหน้า “อืม”
จ้าวอียิมเจือน “แต่ของพวกนันคงไม่มีใครซือหรอกขอ
รับ แต่ก่อนข้ากับหานเฟิ งเคยลองเอาไปขายแล้ว คน
ส่วนใหญ่มกั จะซือแต่พวกสัตว์เป็ นๆ ไปทําอาหารกัน
มากกว่า”
148
“...”
สีหยุนจือให้หานเฟิ งเข็นรถตรงไปทีร้านกว่างจินซึงอยูใ่ น
เมือง
150
ตอนที 9 เถ้าแก่รา้ นขายเนือแกะ
เมือไปถึงร้านกว่างจิน นางก็แจ้งความประสงค์กบั เสียว
เอ้อ
เสียวเอ้อรีบไปบอกเจ้าของร้านและพ่อครัวทันที เพียง
ครูเ่ ดียวก็ออกมาเรียกนางให้ไปทีหลังร้านเพือขอดูสนิ ค้า
สีหยุนจือยิมอย่างยินดี กล่าวขอบคุณเถ้าแก่รา้ น
152
เขาลองประมาณนําหนักถุงเงินในมือ คาดว่าในถุงน่า
จะมีเงินมากกว่าสิบแปดตําลึง ซึงเป็ นจํานวนมากสุด
เท่าทีเคยเห็นตังแต่ออกมาจากเมืองหลวง เขาจึงรูส้ กึ ตืน
ตะลึงกับเรืองนีมาก
154
พอได้ยินชือของกินหานเฟิ งก็ยมร่
ิ า รีบไปซือของตามที
นายหญิงสังทันที
ระหว่างทางสีหยุนจือเหลือบเห็นคนจํานวนมากยืน
มุงอยูใ่ นตรอกฮวนสี พอมองเข้าไปพลันเห็นใบหน้าทีคุน้
เคย...
พ่อค้าจางจากร้านผ้าไหมของตระกูลสีกบั สาวใช้ในบ้าน
ชือกุย้ หนิงกําลังทะเลาะกับเถ้าแก่หลิวซึงเป็ นเจ้าของ
ร้านขายเนือแกะเก่าแก่ในตรอกฮวนสี เถ้าแก่หลิวผลัก
พ่อค้าจางและกุย้ หนิงออกจากร้านด้วยท่าทางโกรธจัด
พร้อมกับตะโกนไล่ให้พวกเขาไสหัวไป
155
ผูท้ ีถูกไล่ตะโกนด่าทอเถ้าแก่รา้ นไม่ขาดปาก สุดท้ายก็
ต้องออกจากตรอกฮวนสีแล้วมุง่ หน้าไปตลาดทางเหนือ
แทน
เมือเห็นท่าทางโวยวายของเถ้าแก่กอปรกับสีหน้าทีเดือด
จัด นางก็เกิดความสงสัย หญิงสาวหันไปบอกให้หาน
เฟิ งไปรอทีปากตรอกก่อน ส่วนนางเดินเข้าไปในตรอก
ฮวนสีเพือทักทายเถ้าแก่หลิว และถามไถ่เรืองราวทีเกิด
ขึน
156
เมือฟั งเรืองราวจากเถ้าแก่หลิวซึงได้ความมาว่า เสียว
หลิวลูกสาวเพียงคนเดียวของเถ้าแก่ได้แต่งงานออกไป
เมือสามปี ก่อน ครังนันสีหยุนจือยังได้ไปร่วมงานเลียง
ฉลองแต่งงานของลูกสาวเถ้าแก่ดว้ ย
พอเถ้าแก่หลิวได้รบั จดหมายทีเต็มไปด้วยคราบนําตา
ของลูกสาว มีหรือทีผูเ้ ป็ นพ่อจะทนได้ ด้วยความเป็ น
ห่วงเขาจึงคิดจะขายร้านเก่าแก่นีเพือไปอยูก่ บั ลูกสาวที
กันเซา
157
ร้านเนือแกะของเถ้าแก่หลิวเปิ ดในตรอกฮวนสีมา
นานกว่าสิบปี ด้วยสูตรอาหารต้นตํารับทีสืบทอดกันมา
ในตระกูลหลิวทําให้รา้ นนีมีชือเสียงอย่างมากในเมืองลัว
หยาง จึงมีผคู้ นมากมายคอยจ้องจะขโมยสูตรของ
ตระกูลเขา
เมือเป็ นเช่นนีเถ้าแก่หลิวก็ยงร้
ิ อนใจ เพราะเมือข่าวขาย
ร้านแพร่กระจายออกไป ก็มีแต่พวกนายหน้าทีมาติดต่อ
เพือกดราคา ซํายังขอให้เถ้าแก่บอกสูตรต้นตํารับทีตก
ทอดในตระกูลให้อีก ในบรรดาคนเหล่านีก็รวมถึงสอง
คนทีนางเห็นเมือครูด่ ว้ ย
158
เพราะกุย้ หนิงเคยมาขอเรียนสูตรลับกับเถ้าแก่แต่เขา
ปฏิเสธ นางจึงสังให้คนแอบใส่ยาถ่ายลงในนําแกงต้ม
แกะทีทําเสร็จแล้ว หวังจะให้รา้ นของเขาต้องเสียชือ
เสียง แต่โชคยังดีทีเถ้าแก่รูต้ วั เสียก่อนว่านําแกงทีทําผิด
ปกติจงึ ไม่ได้นาํ ออกขาย นับแต่นนมาเขาจึ
ั งโกรธและเก
ลียดกุย้ หนิงมาก
คนของตระกูลสีมาวันนีเพือกดราคาค่าร้าน เท่านันยังไม่
พอ อีกฝ่ ายยังจะให้เขาสอนสูตรลับของตระกูล ทําให้
เถ้าแก่หลิวถึงกับบันดาลโทสะ ตะโกนใส่หน้าคนทังสอง
ว่าจะไม่ยอมขายร้านนีให้เด็ดขาด
สีหยุนจือได้ฟังเรืองราวทังหมดก็ปลอบใจเถ้าแก่หลิวจน
เขาเริมใจเย็นลง
159
เถ้าแก่หลิวรับรูม้ าตลอดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลสีเป็ นคน
นิสยั ดี แต่นางกลับต้องลําบากตรากตรําทํางานหนัก
ช่างน่าสงสารยิงนัก ดังนันก่อนหน้านีหากมีอะไรทีพอจะ
ช่วยเหลือได้ เขาก็เต็มใจทําอย่างสุดความสามารถ
ส่วนสีหยุนจือเองก็อยากจะช่วยเถ้าแก่หลิว แต่เวลานี
นางยังมีกาํ ลังไม่พอ ไหนจะต้องห่วงปากท้องของคนใน
บ้านอีก จึงทําได้เพียงให้กาํ ลังใจเถ้าแก่หลิว ก่อนจะเดิน
ออกจากตรอกฮวนสีไป
160
ตระกูลสี นางแทบไม่มีจะกินจึงคิดอยากจะปลูกผักไว้
กินเอง ถึงจะลําบากอยูบ่ า้ งแต่ก็ดีกว่าอดตาย แต่ติด
ปั ญหาทีว่าในสวนบ้านตระกูลสีปลูกดอกไม้เต็มไปหมด
จึงไม่มีพืนทีเหลือให้นางปลูกผัก
เมือกลับถึงบ้าน
162
กลินหอมของอาหารกลางวันทําให้บรุ ุษตระกูลปูต้ อ้ ง
ประหลาดใจอีกครัง เกียวในหม้อต้มยังไม่ทนั ยกลงจาก
เตาก็สง่ กลินหอมจนคนนังรอพากันนําลายสอ พวกเขา
จับจ้องหม้อต้มเกียวไม่วางตา เมือสีหยุนจือเริมตักเกียว
ชามแรก จ้าวอีแทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
เขารีบเข้ามารับชามจากมือนาง จากนันก็วางลงบนโต๊ะ
ก่อนจะกินอย่างรวดเร็ว
สีหยุนจือมองพวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย แล้วออก
ไปยืนทีหน้าประตู เห็นประตูหอ้ งหนังสือยังปิ ดสนิทก็
ถามออกมา
“ยิงนกก็คือไปเทียวเล่นนันแหละขอรับ ว่าแต่...เกียวนี
164
ยังมีอีกไหม?”
ลุงเยียนเอาตะเกียบเคาะหัวจ้าวอีและหานเฟิ ง ส่งเสียง
ดุพวกจอมตะกละ “พวกเจ้าสองคนกล้าใช้ฮหู ยินรึไง
ยังไม่รบี เข้าไปช่วยอีก”
165
พวกเรามาช่วยแล้วขอรับ”
“ทําได้ดีมาก เจ้าสองคนนันมันกินเก่งเหลือเกิน”
ลุงเยียนหัวเราะ คีบเกียวแป้งบางไส้แน่นใส่ในชามของผู้
เป็ นนาย
166
ตอนที 10 ร้อยห้าสิบตําลึง
ยามคําคืนบรรยากาศเงียบสงัด
167
ปูถ้ านเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย เสือผ้าที
เปี ยกชืนไปด้วยหยาดนําค้างแนบกับร่างกํายํา เผยให้
เห็นกล้ามเนือแข็งแกร่ง
“ใต้เท้ากลับมาแล้วหรือเจ้าคะ?” สีหยุนจือรีบเดินเข้า
ไปรับ แต่เขากลับพยักหน้าให้อย่างเย็นชา แล้วเดินผ่าน
ตัวนางไปยืนข้างโต๊ะ
สีหยุนจือเห็นเขานิงเฉยไม่ยอมตอบก็ไม่ถามอีก นาง
หยิบเสือคลุมมาสวมแล้วเดินออกจากห้องไป ปูถ้ านไม่รู ้
ว่านางออกไปไหนและไม่สนใจทีจะถาม ทําเพียงเดินไป
เปลียนเสือผ้าหลังฉากกัน
เมือเปลียนเสือเสร็จก็เห็นสีหยุนจือถือชามทีมีอาหาร
168
ร้อนๆ เดินเข้ามา ถึงอากาศจะเย็นแต่ก็ไม่ได้ทาํ ให้
อาหารในชามเย็นแม้แต่นอ้ ย
นางยิมให้เขาแล้วพูดว่า “ใต้เท้ายังไม่ได้กินอะไรมาใช่
ไหมเจ้าคะ นีเป็ นเกียวทีข้าทําวันนี ลุงเยียนบอกว่าท่าน
ไม่ชอบกินกุย้ ช่าย ข้าจึงทําไส้ผกั โขมให้แทนเจ้าค่ะ”
นางวางชามลงบนโต๊ะ แล้วเชือเชิญให้เขาลองชิม
169
ถึงชายหนุ่มจะรูส้ กึ ขัดหูขดั ตากับกิรยิ าของนางอยูบ่ า้ ง
แต่จะว่าไปแล้วรอยยิมของนางก็ไม่ได้น่ารําคาญอย่างที
คิดไว้ หากลองพิจารณาอย่างจริงจัง ปูถ้ านก็ยงั สงสัยว่า
นางทําผิดอะไรต่อเขางันหรือ?
เพราะตังแต่ทีถูกเนรเทศมาเฝ้าสุสานอยูท่ ีลัวหยาง จน
กระทังตอนนีทีเขาแต่งงานกับนาง นางก็ยงั ไม่ได้ทาํ
ความผิดอะไร เพียงแต่ทาํ ไปตามทีสมควรเท่านัน
ถ้าอย่างนันทําไมเขาต้องพูดหรือมองนางด้วยความเย็น
ชาด้วยเล่า?
“จริงสิ...ใต้เท้าชอบกินเกียวกับซีอิวหรือว่าจิกโฉ่วเจ้า
คะ?”
“จิกโฉ่ว”
เมือพูดจบเขาแทบจะอยากกัดลินตัวเองทิง แต่พอเห็น
171
ท่าทางรีบร้อนออกไปจากห้องของนางก็จาํ ต้องกลืน
ความโมโหลงท้องไป
สีหยุนจือรีบนําจิกโฉ่วมาให้ ในมือยังถือขนมมาเพิมอีก
จาน นางยิมน้อยๆ พลางกล่าวด้วยนําเสียงอ่อนโยน
“วันนีข้าทําเกียวน้อยไปหน่อย เก็บไว้ได้เพียงชามเดียว
เท่านัน เผือใต้เท้ายังไม่อิม ข้าเลยนําของหวานมาให้
เจ้าค่ะ”
อันทีจริงวันนีนางเตรียมไส้เกียวและแป้งไว้มากเป็ น
172
พิเศษ เพราะนางเริมรูว้ า่ ผูช้ ายบ้านนีกินจุแค่ไหน แต่สดุ
ท้ายก็ยงั ไม่พอ โชคดีทีนางแอบแบ่งเกียวไว้หนึงชาม
และด้วยกลัวว่าสามีจะกินไม่อิมจึงอาศัยตอนทีคนใน
บ้านหลับกันแล้ว แอบไปทีครัวเพือทําของหวานเพิม
ดังนันการมีสีหยุนจืออยูใ่ นบ้านทําให้พวกเขามีโอกาสได้
กินอาหารอย่างทีคนทัวไปกินกัน เมือเป็ นเช่นนีแล้วใคร
173
จะหักห้ามใจไหว
เขากินเกียวจนหมดชาม สีหยุนจือคิดว่าเขาคงยังไม่อิม
จึงรินนําและเลือนของหวานทีหน้าตาไม่คอ่ ยน่ากิน
เท่าไรไปให้ตรงหน้า ปูถ้ านมีทา่ ทีลงั เลเล็กน้อย แต่สดุ
ท้ายก็ยอมกินตามคําชวน
สีหยุนจือดูออกว่าตอนนีสามีของตนกําลังอารมณ์ดี จึง
อยากใช้โอกาสนีปรึกษาเรืองทีนางคิดมาตลอดทังบ่าย
แต่ก็กลัวว่าหากพูดออกไปแล้วจะทําให้อีกฝ่ ายไม่พอใจ
174
จึงไม่รูว้ า่ ควรจะเริมเล่าจากตรงไหนก่อน เพราะอันทีจริง
เรืองเช่นนีฮูหยินอย่างนางไม่สมควรเข้าไปยุง่
“มีเรืองอะไรก็รบี พูดมา”
“ใต้เท้า วันนีลุงเยียนเอาสมุดบัญชีและเงินทีเหลือของ
175
บ้านมาให้ขา้ ลุงเยียนบอกกับข้าว่าจากนีไปท่านปู่ จะให้
ข้าเป็ นคนดูแลบัญชีของบ้าน และท่านปู่ ยงั บอกอีกว่าให้
ข้าเป็ นคนดูแลเรืองในบ้านทังหมด แต่หากเงินของบ้าน
เราเหลือเท่านี ต่อไปคงได้กินของป่ าจนหมดเขาแน่ๆ ข้า
ก็เลย...อยากจะซือร้านสักหนึงแห่งไว้ขายอาหาร ท่าน
ว่าดีหรือไม่เจ้าคะ”
“เจ้าตัดสินใจเองแล้วกัน”
176
แม้วา่ คําตอบจะไม่ได้บง่ บอกว่าสนับสนุนแต่เขาก็ไม่ได้
ปฏิเสธนางเช่นกัน สีหยุนจึงยิมอย่างดีใจ
เมือเห็นว่าสามีกินอาหารเสร็จแล้ว นางจึงรีบเข้ามาเก็บ
ชามแล้วเดินไปทางครัวโดยไม่รูต้ วั ว่ามีสายตาคูห่ นึง
กําลังจับจ้องตามหลัง เป็ นท่านแม่ทพั ปูท้ ีไม่เคยรูม้ า
ก่อนว่าการพูดคุยกับสตรีตอ้ งมีความละเอียดอ่อนนัน
เอง
ตังแต่ฮ่องเต้มีราชโองการสังให้เขาออกจากเมืองหลวง
มาเฝ้าสุสานทีเมืองลัวหยาง เพียงไม่นานสมบัติของตระ
กูลปูก้ ็ถกู คนในตระกูลกอบโกยจนหมด เหลือไว้เพียง
ข้าวของทีขายไม่ได้ ดังนันทําไมเขาจะไม่รูว้ า่ ตระกูลปูไ้ ม่
มีเงินเก็บอีกแล้ว และทีนางพูดเช่นนันก็เพราะอยากจะ
177
รักษาหน้าเขา
เมือสีหยุนจือล้างชามเสร็จก็หวถั
ิ งใส่นาอุ
ํ น่ มาให้ปถู้ าน
ล้างหน้าล้างตา ส่วนตัวนางเองพอถอดเสือคลุมออกก็
ขึนไปนอนบนเตียง ขยับตัวเข้าด้านในอย่างระมัดระวัง
เพือไม่ให้โดนตัวเขา
สีหยุนจือไม่เข้าใจในการกระทําของสามี แต่ก็ไม่ได้พดู
หรือซักถามอะไร ในใจไพล่นกึ ไปถึงตอนทีเจอเถ้าแก่
หลิวในตรอกฮวนสี
นับแต่นนนางก็
ั ครุน่ คิดมาตลอดว่าสตรีทีต้องแต่งออกไป
อยูต่ า่ งบ้านต่างเมือง ไร้คนคุน้ เคยใกล้ชิดให้พงพิ
ึ ง คน
เป็ นพ่อก็ยอ่ มต้องห่วงลูกสาวเป็ นธรรมดา ไม่วา่ ใครก็คง
อยากจะได้อยูก่ นั พร้อมหน้าทังครอบครัว เถ้าแก่หลิวถึง
ได้ตดั สินใจขายร้าน นันเพราะรูว้ า่ หากนานวันเข้าก็อาจ
จะโดนกดราคาได้
179
นางไม่อยากเห็นคนดีๆ อย่างเถ้าแก่หลิวต้องย้ายไปจาก
ลัวหยางโดยทีมีความรูส้ กึ ติดค้างในใจ
เช้าวันรุง่ ขึน
สีหยุนจือเรียกหานเฟิ งให้เข้าไปในเมืองพร้อมกับนาง
เห็นเถ้าแก่หลิวเอาแต่นงถอนหายใจอยู
ั ท่ ีบันไดหินอ่อน
หน้าร้าน
180
สีหยุนจือเดินเข้าไปหาเขาแล้วเอ่ยเสียงนุ่มนวล “เถ้าแก่
หลิว ท่านยังทํานําแกงต้มแกะอยูห่ รือไม่? ข้าขอซือนํา
แกงสักสองถ้วยสิ”
เถ้าแก่หลิวเดินก้มหน้าไปทางห้องครัว แต่กลับถูกสีหยุ
นจือเรียกเอาไว้ นางดึงมือเขาให้ไปนังทีโต๊ะตรงมุมห้อง
แล้วยืนกล่องไม้สีดาํ ให้ เถ้าแก่หลิวมองอย่างงุนงง ไม่
เข้าใจการกระทําของนาง
181
สีหยุนจือส่งยิมให้ แล้วบอกว่า “ท่านจะขายร้านนีไม่ใช่
รึ? ขายให้ขา้ ได้ไหมเจ้าคะ?”
เถ้าแก่หลิวไม่คิดว่าสีหยุนจือจะพูดจริงจึงนิงไปครูห่ นึง
เมือได้สติก็ตอบกลับ “แม่นาง ร้านนีแม้จะเก่า แต่ถา้ ไม่
จําเป็ นข้าก็ไม่ได้อยากจะขาย ถึงเราจะมีไมตรีทีดีตอ่ กัน
และข้าเองก็ระลึกถึงความดีของแม่นางเสมอ แต่อย่าได้
มาล้อเล่นกับข้าแบบนีเลย”
182
เถ้าแก่หลิวได้ยินชือคุณชายหวังก็ชะงักฝี เท้า มองสีหยุ
นจือด้วยสีหน้าสงสัย เมือเห็นนางทําหน้าจริงจัง ไม่ได้มี
ทีทา่ ว่าจะล้อเล่น มือทังสองของเถ้าแก่จงึ กําแน่นอยูใ่ น
แขนเสือขณะตอบด้วยเสียงจริงจังเช่นกัน
“แปดสิบตําลึง ไม่ขาดแม้แต่อีแปะเดียว”
สีหยุนจือเห็นท่าทางของเถ้าแก่หลิว ก็เอ่ยด้วยเสียงหนัก
แน่นกลับไป
“ข้าให้หนึงร้อยห้าสิบตําลึง”
183
ตอนที 11 เจ้าชีวติ
เถ้าแก่หลิวถึงกับนิงอึง ดวงตาเบิกโพลงมองสีหยุนจือ
อย่างไม่อยากจะเชือ
นางจึงยืนยันด้วยการดันกล่องดําตรงหน้าไปให้เขารับไว้
“ขายสิ!” เถ้าแก่หลิวรีบรับคําเสียงดังจนคนทีผ่านไป
มาหน้าร้านหันมามอง แต่ก็อดถามอีกครังไม่ได้ คราวนี
นําเสียงทีใช้ทมุ้ ตําลงกว่าเดิม “แม่นางพูดจริงรึ?”
1
สีหยุนจือพยักหน้า “เงินข้าก็เอามาแล้ว จะล้อเล่นได้
อย่างไรเล่าเจ้าคะ”
“...”
แววตาทีหม่นหมองของเถ้าแก่หลิวพลันสดใสขึนมาทันที
ริมฝี ปากสันเหมือนอยากจะพูดบางอย่าง แต่กลับพูดไม่
ออก สุดท้ายก็เอ่ยเสียงตะกุกตะกักออกมา
“อย่างนัน...สูตร...สูตรต้นตํารับ...”
2
หรอก ท่านทิงพวกโต๊ะเก้าอี และหม้อไหจานชามในครัว
ไว้ให้ขา้ ก็พอ ถ้าท่านยอมขายก็ไปเอาโฉนดมาเถิดเราจะ
ได้ทาํ สัญญากัน ท่านตกลงตามนีไหมเจ้าคะ?”
“...”
พอเถ้าแก่หลิวเข้าไปในห้องเพือไปหยิบโฉนดกับนับเงิน
3
ในกล่อง หานเฟิ งก็หนั มามองฮูหยินของตน เห็นนางยัง
คงมีสีหน้าเรียบเฉยก็อดไม่ได้ทีจะถาม
สีหยุนจือยิมออกมา ลุกจากเก้าอีเดินไปทีบันไดหินหน้า
ร้านแล้วบอกกับเขาว่า
“ข้าคิดว่าร้านนีควรจะราคาหนึงร้อยห้าสิบตําลึง”
4
ออกแล้วอธิบาย
5
ขึนมา แต่เงินตังเจ็ดสิบตําลึงก็เพียงพอสําหรับให้ชาว
บ้านธรรมดาใช้ถงึ ครึงปี เลยนะขอรับ ถึงจะเพิมโต๊ะ
เก้าอี กับจานชามเก่าๆ ก็ไม่น่าจะได้ราคาสูงขนาดนี”
6
บรรดาสตรีทีเขาเคยเห็นล้วนเป็ นหญิงงามเพียงหน้าตา
รักความสะดวกสบาย ไม่รูจ้ กั ความลําบากและหงุดหงิด
ง่าย
แต่ฮหู ยินคนนีถึงดูจากภายนอกจะไม่ใช่สตรีทีงามล่ม
เมือง อีกทังรูปร่างยังผอมบาง แม้แต่กาํ ไลหยกทีใส่ยงั
หลวม ถึงอย่างนันนางกลับแกร่งราวกับบุรุษ หนําซํา
ความคิดและการวิเคราะห์ก็แม่นยํา ทําให้ผทู้ ีรูจ้ กั อดชืน
ชมและนับถือในตัวนางไม่ได้
หลังทําสัญญาและประทับตราเรียบร้อยแล้ว เถ้าแก่หลิว
ก็ให้โฉนดกับสีหยุนจือและบอกว่าพรุง่ นีเขาจะย้ายออก
จากเมืองลัวหยาง จึงให้นางนับโต๊ะเก้าอี และจานชาม
เอาไว้ แต่หญิงสาวกลับส่ายหน้ายิมๆ ก่อนจะพาหานเฟิ
7
งออกจากตรอกฮวนสีไป
เขาเห็นในห้องยังมีแสงเทียนอยูจ่ งึ เดินไปหยุดยืนข้าง
ประตู มองผ่านกระดาษบางๆ ทีขึงหน้าต่าง เห็นสีหยุ
นจือนังอยูด่ า้ นหลังโต๊ะเขียนหนังสือ แสงเทียน
ส่องกระทบใบหน้าผอมเรียวทําให้ผิวพรรณยามต้องแสง
ดูผอ่ งใส เขานิงมองอย่างตะลึงงัน ทีแท้...สีหน้านาง
เวลาจริงจังก็เป็ นอย่างนีนีเอง
เขาพยักหน้า หยิบแผ่นกระดาษขึนมาดูก่อนจะวางลง
นับเป็ นครังแรกทีเขาสบตากับนาง แม้นาเสี
ํ ยงทีใช้จะ
เย็นชาเช่นเดิม
9
“เงินพอหรือ?”
10
ระหว่างทีนางกําลังล้างเท้าให้ ปูถ้ านก็มองเส้นผมทีหลุด
ลุย่ ลงมาปรกใบหน้าเล็กๆ แล้วอดไม่ได้ทีจะยืนมือไปลูบ
ใบหน้านวล เมือสัมผัสกับแก้มทีเย็นเยียบราวกับหยก
เขาก็เอ่ยว่า
“อย่าได้โทษข้าทีทํากับเจ้าเมือคืนก่อนเลยนะ”
“อะไรนะเจ้าคะ?” สีหยุนจือชะงักมือทีกําลังล้างเท้าให้
สามี เงยหน้าขึนสบกับดวงตาคมเข้ม หัวใจพลันเต้นแรง
เพราะรูว้ า่ เขาหมายถึงคืนทีทังสองมีความสัมพันธ์ลกึ ซึง
ต่อกัน
นางหลบสายตาด้วยความเขินอาย ส่ายหัวพลางบอกว่า
11
“ข้าไม่โทษท่านหรอกเจ้าค่ะ”
12
สีหยุนจือพูดจบก็ตงท่
ั าจะลุกขึนไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ด
เท้าให้เขา แต่กลับถูกมือแข็งแกร่งดึงนางเข้าไปในอ้อม
กอดอย่างไม่ทนั ตังตัว
13
เขาถามสีหยุนจือด้วยเสียงแหบแห้ง ราวกับกระซิบ
14
ตอบ หญิงสาวสูดลมหายใจลึก แล้วบอกไปว่า “ไม่ฝืน
ใจหรอกเจ้าค่ะ ในเมือข้าเป็ นภรรยาของท่านย่อมต้อง
เคารพการตัดสินใจของสามี”
เมือสีหยุนจือพูดจบก็พยายามจะดันตัวเองออกจากอ้อม
กอดของเขา แต่กลับถูกปูถ้ านกอดไว้แน่นกว่าเดิม แล้ว
ถามคําถามใหม่อีก
“เจ้าพูดจริงรึ?”
15
“จริงสิเจ้าคะ ตังแต่วนั ทีข้าเข้ามาอยูใ่ นตระกูลปู้ สามีก็
ถือว่าเป็ นเจ้าชีวิต คือทีพึงหนึงเดียวของภรรยา เป็ นผูท้ ี
ข้าจะฝากชีวิตและร่วมผ่านร้อนผ่านหนาวไปด้วยกัน มี
สุขร่วมสุข มีทกุ ข์รว่ มทุกข์ ไม่แยกจาก”
“...”
16
เมือเขาพูดจบก็ปล่อยนางออกจากอ้อมกอดแล้วยกขา
ข้างทีบาดเจ็บขึนมา ใบหน้าและแววตาช่างดูเย้ยหยัน
สีหยุนจือมองเท้าของเขาแล้วลูบอย่างเบามือ พูดกับเขา
ด้วยนําเสียงจริงจังกว่าเดิม
“เพียงแค่เท้าข้างนีบาดเจ็บไม่ได้แปลว่าท่านเป็ นคนไร้
ประโยชน์ และในสายตาของข้า นีคือเกียรติยศ ข้าไม่
เคยไปเมืองหลวง ไม่เคยร่วมศึกสงคราม แต่ขา้ รูด้ ีวา่ ...
นีคือเกียรติยศทีต้องแลกมาด้วยเลือดเนือนับครังไม่ถว้ น
ซึงทําให้เราได้มีแผ่นดินทีสงบสุขและร่มเย็นในวันนี”
17
นางไม่ได้มีความงามเหนือกว่าหญิงใดแต่กลับมีจิตใจ
แข็งแกร่งอย่างทีหาไม่ได้ในสตรีทวไป
ั ผูห้ ญิงเช่นนีควร
จะมีชีวิตทีดีทีสุด
ตอนนีในใจของสีหยุนจือรับรูเ้ พียงว่าสามีของตนแปลก
18
ไป ไม่วา่ การพูดจาหรือการกระทําก็ลว้ นแปลกไป ถ้า
เขาเป็ นอย่างนีตังแต่ตอนแรกทีแต่งงานกันหรือพูดเยิน
ยอกันทุกวันมาก่อน นางก็คงไม่แปลกใจเพราะคงคิดว่า
เขาอยากให้ตนยอมมีลกู เพือสืบทอดตระกูลปู้ แต่คืนนี
เขากลับไม่ทาํ อะไรทังนัน เพียงหันหน้ามากอดนางแล้ว
หลับไป ในเมือเป็ นเช่นนีแล้วจะให้นางเข้าใจว่าอย่าง
ไร?
19
ตอนที 12 ไก่ย่างรสเลิศ
ตอนนีสีหยุนจือไม่มีเวลาสงสัยหรือหาสาเหตุของการ
เปลียนไปของสามี
เพราะในเมือนางซือร้านมาจากเถ้าแก่หลิวแล้วก็ไม่อาจ
นิงดูดาย อีกทังทําเลในตรอกฮวนสีก็ไม่คอ่ ยดีนกั ถ้าจะ
เปิ ดร้านขายของก็คงไม่เหมาะ แต่ถา้ เปิ ดร้านขายอาหาร
ทีนางพอจะมีความถนัดอยูบ่ า้ งก็คงจะพอขายได้
ก่อนเถ้าแก่หลิวจะไปได้ทาํ ความสะอาดโต๊ะและเก้าอีไว้
ให้เป็ นอย่างดี ทังยังทิงเครืองปรุงไว้ให้นางอีกเป็ น
จํานวนมาก เขาบอกว่าหากอยากกินนําแกงต้มแกะของ
1
ทางร้านให้นาํ เครืองปรุงเหล่านีมาทํา นางกล่าวขอบคุณ
เถ้าแก่ดว้ ยความซาบซึงใจและรับเครืองปรุงเหล่านันไว้
2
นจือรูว้ า่ เขาพูดความจริง
เพราะครังหนึงในฤดูหนาว นางพาคนงานจากร้าน
ตระกูลสีไปขนสินค้า ระหว่างทางกลับเข้าเมืองมีหิมะตก
หนักปิ ดเส้นทางการขนของ สินค้าทีขนมาจึงได้รบั ความ
เสียหาย นางกับพวกคนงานจึงหลบพักอยูท่ ีวัดร้างแห่ง
หนึง ในช่วงเวลานันเองทีนางได้พบกับจางถิง
ก่อนหน้าจะพบกัน เขาได้ขโมยไก่มาสองตัวและกําลัง
ก่อไฟย่างอยูใ่ นวัดร้างแห่งนัน ไก่ยา่ งส่งกลินหอมยัว
นําลาย เมือสีหยุนจือและคนอืนๆ มาถึงพร้อมกับความ
หิว เขาทีกําลังมองถุงเหล้าทีแขวนอยูข่ า้ งตัวม้าได้เสนอ
จะขอแลกไก่กบั เหล้าถุงนัน สีหยุนจือจึงตอบตกลง
3
นางแบ่งไก่ตวั นันให้ทกุ คนกิน พวกคนงานต่างก็บอกว่า
ช่างเป็ นไก่ทีเลิศรส อร่อยอย่างทีไม่เคยได้ลมลองจากที
ิ
ไหนมาก่อน
นางจึงคิดว่าเขานีแหละทีน่าจะเหมาะสมทีสุด
4
“ถ้าร้านใดได้ขา้ เป็ นพ่อครัว ร้านนันก็จะทําเงินมหาศาล
ดังนันเจ้าต้องแบ่งกําไรให้ขา้ เจ็ดส่วนเจ้าสามส่วน เจ้า
จะว่าอย่างไร?”
“...”
“...”
หลายปี มานีไม่เคยมีใครยกย่องหรือเห็นเขาในสายตา
ทุกคนไม่เชือในสิงทีเขาโอ้อวด คิดเพียงว่าเป็ นคําพูด
ของคนขีเมาเท่านัน จางถิงยิมเยาะตัวเอง ทว่าหนวด
เคราทีรกรุงรังปกปิ ดรอยยิมนันเสียมิดชิด
เมือสีหยุนจือกลับมาทีร้าน
จ้าวอีและหานเฟิ งก็ใช้กระดาษขาวมาติดผนังร้านทังสี
ด้านเรียบร้อยแล้ว ทําให้รา้ นดูสะอาดและใหม่ยงกว่
ิ า
เดิม นางบอกให้ทงสองหยุ
ั ดพักก่อน
7
เนืองจากช่วงนีงานยุง่ ตอนเทียงสีหยุนจือจึงผัดกับข้าว
สองอย่างไว้ให้คนทีบ้านกิน และจะกลับไปทําอาหารมือ
ใหญ่ในตอนเย็น
ขณะทีนางกําลังเก็บอุปกรณ์ พลันได้ยินเสียงแหบแห้ง
ตะโกนเรียกจากด้านนอก
“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณหนูใหญ่”
สีหยุนจือหันมองตามเสียง เห็นชุ่ยยาทีเนือตัวมอมแมม
หน้าตาเต็มไปด้วยรอยฟกชําดําเขียว ยืนเรียกนางอยู่
หน้าร้าน สีหยุนจือรีบวางของในมือ วิงไปประคองอดีต
สาวใช้ทีเดินโซซัดโซเซเข้ามา
8
หญิงสาวแทบไม่อยากเชือสายตาตัวเอง รีบซักถาม
“ชุ่ยยา เกิดอะไรขึน ใครรังแกเจ้าถึงเพียงนี”
ชุ่ยยากอดขาสีหยุนจือแน่น นําตาไหลพรากไม่หยุด
ร้องไห้ครําครวญปานจะขาดใจ
9
สีหยุนจือสงสารชุ่ยยาจับใจ รีบประคองอีกฝ่ ายให้ลกุ ขึน
พร้อมกับเช็ดนําตาให้เบาๆ จากนันก็พาเข้าไปในร้าน
10
จ้าวอีทีเงียหูฟังอยูต่ ลอดอดไม่ไหวสบถออกมา “ตระกูล
สีทาํ เกินไปจริงๆ แต่ก่อนก็ไม่เคยเห็นฮูหยินเป็ นคุณหนู
ของบ้าน ตอนนีถึงขันจะเอาชีวิตบ่าวไพร่ในบ้านอีก ช่าง
ใจดําอํามหิตจริงๆ”
ตอนทีเขากับลุงเยียนไปรับนายหญิงทีบ้านก็รูท้ นั ทีวา่
นางต้องลําบากเพียงใด มาตอนนียังได้ยินชุ่ยยาพูด
อย่างนีอีกจึงยิงรูส้ กึ โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ
สีหยุนจือถอนหายใจ บอกกับชุ่ยยาว่า
“ในเมือเจ้ากลับไปทีบ้านตระกูลสีไม่ได้แล้ว ถ้าอย่างนัน
11
เจ้า...”
สีหยุนจือยิมแล้วลูบหัวสาวน้อยเพือปลอบ จากนันนางก็
สังให้หานเฟิ งไปซือยาทาแผลจากร้านยาข้างๆ ส่วนนาง
เข้าไปในครัวเพือต้มนําร้อน จากนันก็มาล้างแผลและ
ทายาให้ช่ยุ ยาอย่างอ่อนโยน
“ฮูหยินขอรับ หากท่านจะให้แม่นางคนนันกลับไปอยูท่ ี
บ้านด้วย เดียวข้ากับจ้าวอีนอนเบียดห้องเดียวกันแล้ว
แบ่งห้องหนึงให้นางอยูก่ ็ได้ขอรับ” หานเฟิ งเห็นฮูหยิน
กําลังเป็ นกังวลว่าคืนนีชุ่ยยาจะไม่มีทีนอน จึงเสนอทีจะ
แบ่งห้องให้สาวใช้ได้พกั สักคืน
13
“เอ่อ...”
ระหว่างทางกลับบ้าน
15
ให้มาพักทีนี ข้าเกรงว่าจะไม่เหมาะสม”
เมือกลับมาถึงบ้าน
สีหยุนจือรีบเข้าครัวทําอาหาร มือกลางวันนางทํากับ
ข้าวไว้เพียงสองอย่าง เย็นนีจึงซือเนือมาหนึงจินเพือทํา
16
หมูผดั นําแดง และซือไก่มาหนึงตัวทําเป็ นนําแกงไก่
แล้วยังมีกบั ข้าวแบบผัดอีกสองอย่าง สุดท้ายนางยังต้ม
เหล้าให้ทา่ นปู่ กบั ลุงเยียนด้วย
ท่านปู่ ยงเอ่
ิ ยชมนางไม่ขาดปาก
17
เป็ นเมียแม่ ทพั ... ไม่ ง่าย!
ตอนที่ 13 แปลก
สีหยุนจือรู้ สึกเขินจนทาตัวไม่ ถูก จึงลุกขึน้ เก็บถ้ วยและตะเกียบเตรียมจะไปล้ างทีค่ รัว
แต่จา้ วอี้กบั หานเฟิ งมารับไปจากมือนางเสี ยก่อน นางจึงเดินตามพวกเขาเข้าไปในครัวเพื่อไปหัน่ ผักแทน
หานเฟิ งเป็ นคนหิ้วน้ า ส่วนจ้าวอี้มีหน้าที่ลา้ ง ทั้งสองช่วยกันอย่างขันแข็ง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะหันมาถามหญิงสาวว่า “ฮูหยิน
ท่านหัน่ ผักที่จะใช้ทากับข้าววันพรุ่ งนี้ไว้ต้ งั แต่คืนนี้เลยหรื อขอรับ?”
สี หยุนจือยิม้ พลางส่ายหัว “ไม่ใช่ ข้าจะเตรี ยมมื้อเย็นให้ใต้เท้าต่างหากเล่า”
หานเฟิ งกับจ้าวอี้มองตากันแล้วยิม้ กริ่ ม แกล้งพูดหยอกนาง “ฮูหยินดูแลคุณชายดีจริ งๆ นะขอรับ”
สี หยุนจือยิม้ แล้วเหมือนจะนึกบางอย่างได้จึงถามว่า “พวกเจ้ารู ้ไหมว่าใต้เท้าไปทาอะไรข้างนอกถึงได้กลับดึกดื่นทุกวัน
เลย?”
คาพูดของนางทาให้หานเฟิ งและจ้าวอี้ถึงกับชะงัก ทั้งสองมองหน้ากันแล้วคิดว่าไม่มีความจาเป็ นต้องปิ ดบังเรื่ องนี้อีกต่อไป
จึงบอกกับนายหญิงว่า
“ตั้งแต่คุณชายย้ายมาอยูท่ ี่ลวั่ หยาง เขาก็ดูซึมลงไป คาดว่าสงครามครั้งนั้นคงกลายเป็ นปมในใจของเขา ตอนนั้นทหารคน
สนิทที่เขาไว้ใจทรยศไปเข้าพวกแคว้นฉี ซ้ ายังสัง่ ให้คนมาลอบทาร้ายคุณชายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นับแต่น้ นั คุณชายก็ปิด
กั้นตัวเอง ไม่คุยกับใครและไม่เชื่อใจใครอีก จึงชอบที่จะไปอยูเ่ พียงลาพังในป่ าขอรับ”
หานเฟิ งพูดจบ จ้าวอี้กเ็ สริ มอีกว่า “อันที่จริ งข้ากับหานเฟิ งเคยแอบตามขึ้นไปดูบนเขา เห็นคุณชายเอาแต่นงั่ เหม่ออยูบ่ น
ต้นไม้ ไม่ทาอะไรทั้งนั้น เขาทาเพียงนัง่ มองท้องฟ้า ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณชายมองเห็นอะไรบนนั้นหรื อจะมองดูนกที่บิน
ไปมา ช่างน่า...”
จ้าวอี้ได้โอกาสก็พดู เสี ยยาวยืด ทว่าเขายังไม่ทนั พูดจบก็เห็นหานเฟิ งมีสีหน้าและท่าทางแปลกๆ ส่วนหานเฟิ งเองก็พยายาม
ขยิบตาให้จา้ วอี้จนอีกฝ่ ายเริ่ มแปลกใจ จึงถามหานเฟิ งด้วยน้ าเสี ยงจริ งจัง
“หานเฟิ ง เจ้าเป็ นอะไรไป? หนังตากระตุกรึ ไง?” แล้วเหมือนกับเพิ่งเข้าใจจึงรี บเอ่ยต่อว่า “ข้ายังพูดไม่จบเลย ข้ากาลังจะ
บอกว่า...คุณชายคงกาลังคิดถึงอนาคตว่าตระกูลเราจะดาเนินต่อไปอย่างไรแน่ๆ เพราะคุณชายดูมีสมาธิมากทีเดียว พวกเรา
อยูบ่ า้ นจะต้องไม่เพิม่ ภาระให้เขา เจ้าเข้าใจไหม?”
พอพูดจบจ้าวอี้ก็หนั หลังกลับ สบสายตากับท่านแม่ทพั ที่มายืนอยูด่ า้ นหลังตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เขายิม้ แหยเป็ นการกลบเกลื่อน
“คะ... คุณชาย...วันนี้กลับมาเร็ วนะขอรับ กินข้าวหรื อยังขอรับ? ฮูหยินกาลังหัน่ ผัก ข้า...”
ท่านแม่ทพั มองเขาด้วยแววตาคมกริ บ จ้าวอี้รีบหุบปากทันที ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
ปู้ถานเดินมาข้างเตาแล้วหยุดตรงหน้าสี หยุนจือ จากนั้นก็สงั่ นางอย่างที่ไม่เคยทามาก่อน
“ข้าไม่ชอบขึ้นฉ่าย ทาอย่างอื่นมาแล้วกัน ข้าจะอยูท่ ี่หอ้ งหนังสื อ”
“...”
หลังพูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องครัว ทิ้งความตะลึงงันไว้ให้ทุกคนในห้อง จ้าวอี้และหานเฟิ งมีท่าทางราวกับเพิ่งพบกับสัตว์
ประหลาด คุณชายของพวกเขาเอ่ยปากขอเอง แล้วยังบอกความชอบของตนกับฮูหยินอีก...
ถึงสี หยุนจือจะประหลาดใจ แต่กไ็ ม่ได้มากมายเท่ากับองครักษ์ท้ งั สอง นางมองตามหลังสามีที่เดินห่างออกไป ผ่านไปครู่
หนึ่งจึงได้สติกลับมา รี บวางขึ้นฉ่ายลงแล้วเลือกวัตถุดิบอื่นมาทาอาหาร
นางหยิบซีหงซื่อ[1]หนึ่งลูก ถู่โต้ว[2]หนึ่งหัว และซื่อจื่อเจียว[3]ครึ่ งเม็ดมาหัน่ เป็ นชิ้นๆ แล้วนาไปผัดกับน้ ามันในกระทะ ไม่
นานก็เสร็ จสิ้นอาหารจานแรก ก่อนหน้านี้นางเก็บหมูผดั น้ าแดงไว้ให้เขาหนึ่งถ้วย จึงทาน้ าแกงไก่เพิม่ อีกหนึ่งอย่าง
เมื่อจัดสารับเรี ยบร้อย สี หยุนจือก็ถอดผ้ากันเปื้ อนออกแล้วยกถาดอาหารไปที่หอ้ งหนังสื อด้วยตนเอง
ขณะที่นางเปิ ดประตูหอ้ ง ปู้ถานกาลังปรับไฟในตะเกียง พอเห็นนางเดินเข้ามา เขาก็ละมือจากตะเกียงจากนั้นก็เดินไปนัง่ ที่
หน้าโต๊ะกลม
ระหว่างที่รอหญิงสาวจัดโต๊ะอาหาร เขาก็มองนางจัดของทีละอย่างด้วยสายตาอบอุ่นจนหัวใจสี หยุนจือเต้นไม่เป็ นจังหวะ ไม่
กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองสามี นางก้มหน้าหลบสายตาพลางบอกกับเขาว่า
“ใต้เท้ากินข้าวก่อนนะเจ้าคะ ข้าจะไปห้องครัว...”
นางตั้งใจไว้วา่ ระหว่างที่สามีกินข้าว ตัวเองจะไปหัน่ ผักสาหรับทากับข้าววันพรุ่ งนี้ในครัว แต่หญิงสาวยังพูดไม่ทนั จบก็ถูก
เขาพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“นัง่ ลงกินข้าวเป็ นเพื่อนข้าก่อน”
สี หยุนจือตะลึงงัน ถือถาดในมือนิ่ง พอได้สติก็เดินไปที่โต๊ะ ตั้งใจจะนัง่ เก้าอี้ที่อยูต่ รงกันข้ามกับเขา แต่เมื่อเห็นปู้ถานชี้ไปยัง
เก้าอี้ตวั ที่อยูต่ ิดกัน นางจึงเดินไปนัง่ ข้างสามี จากนั้นเขาก็เริ่ มกิน
หญิงสาวไม่เข้าใจเจตนาของอีกฝ่ ายจึงได้แต่นงั่ นิ่งราวกับถูกหมุดตอกตรึ ง พอเห็นเขากินอิ่ม นางก็เตรี ยมเก็บจานและ
ตะเกียบ ทว่าพอยืน่ มือออกไปกลับถูกเขาจับมือที่ถือตะเกียบไว้แล้วจ้องมองด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา ทาให้สีหยุนจือรู ้สึก
เกร็ งมากกว่าเดิม ไม่รู้วา่ ตนทาอะไรผิดไปหรื อไม่ หรื อจะทาให้ใต้เท้าไม่พอใจเข้าแล้ว...
ขณะที่นางกาลังกังวลใจก็ได้ยนิ เขาพูดขึ้นว่า
“ซีหงซื่อและถู่โต้วอร่ อยมาก แต่ซื่อจื่อเจียวคราวหน้าไม่ตอ้ งใส่แล้วนะ”
“...”
สี หยุนจือแทบจะลมจับ เขาจับมือนางไว้เพื่อบอกเรื่ องนี้เองหรื อ หญิงสาวหันกลับไปมองจาน ทั้งซีหงซื่อและถู่โต้วถูกกินจน
เกลี้ยง มีเพียงซื่อจื่อเจียวที่ยงั เหลืออยู่ ที่แท้สามีของนางก็พิถีพิถนั กับเรื่ องกินไม่นอ้ ยเลย
“เจ้าค่ะ ข้าจะจาไว้” นางตอบรับอย่างว่าง่าย
สี หยุนจือเก็บถ้วยจานแล้วออกจากห้อง ก่อนจะออกมาปู้ถานบอกกับนางว่าอยากดื่มชา หญิงสาวจึงรี บไปต้มน้ าในครัว กว่า
น้ าจะร้อนและชงชาเสร็ จก็ใช้เวลาพอสมควร นางจึงคิดว่าคืนนี้สามีคงจะอ่านหนังสื ออยูจ่ นดึกก็เลยใส่ใบชาเพิม่ ให้อีก
เล็กน้อย
แต่เมื่อยกชาไปที่หอ้ งหนังสื อกลับไม่พบเขา สี หยุนจือจึงก้าวไปตามทางเดินเล็กแคบตรงไปยังห้องนอน
นางมองจากด้านนอก เห็นปู้ถานยืนหันหลังอยูห่ น้าฉากกั้น พอนางเปิ ดประตูเข้าไป เขาก็หนั กลับมากวักมือเรี ยกให้เข้าไปหา
สี หยุนจือจึงวางกาน้ าชาลงบนโต๊ะแล้วเดินไปหาสามี
ปู้ถานอ้าแขนทั้งสองข้างออก แล้วยืนนิ่งอยูอ่ ย่างนั้นโดยไม่พดู อะไร
สี หยุนจือถึงกับชะงัก เขาอยากจะให้นางช่วยถอดเสื้ อให้อย่างนั้นรึ ? แล้วเขามายืนอยูห่ น้าฉากกั้นตั้งนานทาไมกัน? หรื อเขา
ตั้งใจยืนอยูต่ รงนั้นเพื่อรอนางเข้ามาแล้วเรี ยกให้ช่วยถอดเสื้ อ...
เขาต้องการอะไรกันแน่?
สี หยุนจือกาลังยืนงงกับการแสดงออกของสามี แต่สุดท้ายนางก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ ไม่กล้าถาม ขอเพียงนางทาตาม
คาสัง่ เมื่อเขาพูดอย่างไรก็ทาอย่างนั้น นางจะได้ไม่เผลอทาอะไรผิดที่อาจจะทาให้เขาไม่พอใจ
“ใต้เท้า ดื่มชาก่อนนะเจ้าคะ ข้าทางานในครัวเสร็ จจะหิ้วน้ ามาให้ท่านล้างหน้า”
นางพูดจบก็หนั หลังเตรี ยมจะเดินกลับไปที่ครัว แต่จู่ๆ ก็ถูกกระชากโดยไม่ทนั ตั้งตัว ด้วยความตกใจนางจึงหันไปคว้าตัวชาย
หนุ่มเพราะอยูใ่ กล้มือที่สุด จังหวะนั้นเองก็มีแรงฉุดรั้งตัวนางอีกครั้ง เพียงครู่ เดียวสี หยุนจือก็ถูกกดให้นอนหงายบนที่นอน
ดวงตาคมเข้มลึกล้ าของปู้ถานกาลังจับจ้องใบหน้าตกใจของนาง ในแววตาซ่อนความอบอุ่นและอ่อนหวานไว้มากมาย เขา
เอ่ยด้วยสี หน้าจริ งจัง
“ตอนแรกข้าอยากจะอุม้ เจ้าขึ้นเตียงแต่ขาข้ายังเจ็บอยู่ ข้าทาเจ้าเจ็บตรงไหนหรื อเปล่า?”
สี หยุนจือส่ายหน้าทั้งที่ยงั ตะลึงงัน นางยืน่ มือไปอังหน้าผากสามี เขามองการกระทาของนางอย่างสงสัยจนหญิงสาวพูดขึ้น
เบาๆ ว่า
“ใต้เท้า...ท่านโดนมนตร์สะกดหรื อเปล่าเจ้าคะ?”
ปู้ถานรู ้วา่ นางคงอายที่เขาทาเช่นนี้ แต่คิดไม่ถึงว่านางจะสงสัยว่าเขาโดนมนตร์สะกด ชายหนุ่มผละจากนางอย่างหมด
อารมณ์ จัดการกับเสื้ อผ้าตัวเองด้วยสี หน้าไม่พอใจ สายตาที่มองนางเปลี่ยนเป็ นเย็นชา ทาเอาสี หยุนจือตกใจจนต้องลุกขึ้นมา
นัง่ ที่ขอบเตียง มองเขาอย่างไม่รู้ความผิดของตัวเอง
นางได้ยนิ เขาทาเสี ยง “ฮึ” ในลาคอ แล้วเดินจากไปด้วยความขุ่นเคืองใจ
แต่เมื่อเขาหันกลับมา สี หยุนจือก็เหมือนจะได้ยนิ ประโยคหนึ่งที่ทาให้ใจเต้นแรงอย่างไม่เป็ นจังหวะอีกครั้ง
“หึ ช่างไม่รู้อะไรเลย เจ้ารออยูน่ ี่ก่อน เดี๋ยวข้าไปตักน้ ามาให้”
“...”
สี หยุนจือกลืนน้ าลายลงคอ พอเจออาการเช่นนี้ของสามี นางยิง่ มัน่ ใจว่าเขาต้องโดนมนตร์แน่ๆ
เช้ าวันรุ่งขึน้
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ปู้ถานเรี ยกหานเฟิ งให้เข้าไปคุยในห้องทางาน ผ่านไปครู่ หนึ่งหานเฟิ งก็กลับมาช่วยงานนาง
เหมือนเดิม
วันนี้สีหยุนจือกับจ้าวอี้นงั่ เกวียนเข้าไปในเมือง นางเอามือเท้าคางเหม่อมองทิวทัศน์ระหว่างทาง แต่กลับเห็นเพียงใบหน้า
สง่างามของปู้ถานลอยอยูเ่ ต็มไปหมด
จ้าวอี้เห็นนางนัง่ เหมือนคนเหม่อลอยอย่างนั้น จู่ๆ เขาก็พดู ขึ้นว่า
“ฮูหยินขอรับ คุณชายของพวกเราดูเหมือนเป็ นคนเย็นชา แต่ใจจริ งแล้วเป็ นคนอบอุน่ นะขอรับ ข้ากับหานเฟิ งมาอยูก่ บั
คุณชายตั้งแต่อายุสิบเอ็ด ยังไม่เคยเห็นคุณชายตักน้ าล้างหน้าให้ผหู ้ ญิงคนไหน คราวนี้ฮูหยินคงจะได้สบายไปทั้งชีวติ แล้วล่ะ
ขอรับ”
“ฮึ...”
สี หยุนจือรู ้วา่ จ้าวอี้กาลังหยอกนางจึงค้อนใส่ไปทีหนึ่ง แล้วหันหลังให้ไม่สนใจเขาอีก
แต่เมื่อคิดถึงคาพูดของจ้าวอี้ นางกลับรู ้สึกอุน่ ใจขึ้นมาอย่างประหลาด เพราะหากเป็ นเมื่อก่อน นางคงหวังเพียงให้ตนเอง
สามารถอยูใ่ นตระกูลปู้ได้โดยไม่เกิดปั ญหาใดๆ พอมาตอนนี้ นางกลับมีความคาดหวังอย่างอื่นผุดขึ้นในใจโดยไม่รู้ตวั
คาว่า ‘สามี’ สาหรับนางแล้ว ไม่ใช่คาธรรมดาอีกต่อไป แต่เป็ นคาจากัดความของบุรุษนามว่า ‘ปู้ถาน’ ไม่วา่ คนอื่นจะพูดถึง
สามีนางอย่างไร แต่นางแน่ใจว่าคาเรี ยกนี้จะไม่มีวนั เปลี่ยนแปลงแน่นอน นางจะไม่ยอมให้ใครมาสัน่ คลอนชีวติ คู่ของตน
ด้วยเช่นกัน
---------------------------------------------
[1] มะเขือเทศ
[2] มันฝรั่ง
[3] พริ กหยวก
เป็ นเมียแม่ ทพั ... ไม่ ง่าย!
ตอนที่ 14 ร้ านซิงหลัว
ชุ่ยยามารออยู่ทหี่ น้ าร้ านตั้งแต่ เช้ า เมื่อเห็นสีหยุนจือมาถึง นางก็รีบเข้ าไปรับหน้ าทันที
“คุณหนูใหญ่ ข้ามารอที่นี่ต้ งั แต่ฟ้ายังไม่สางเลยเจ้าค่ะ งานในร้านข้าทาได้หมด เชิญคุณหนูใหญ่สงั่ มาได้เลยเจ้าค่ะ” อดีตสาว
ใช้พดู กับนายหญิงด้วยความกระตือรื อร้น เปลี่ยนจากคนเมื่อวานที่เอาแต่ร้องไห้ฟมู ฟายราวกับเป็ นคนละคน
สี หยุนจือเห็นอีกฝ่ ายดูมีความตั้งใจจริ ง จึงเริ่ มด้วยการให้แยกประเภทจานชามในครัวให้เป็ นระเบียบ และสัง่ ให้จา้ วอี้ออกไป
เอาป้ ายร้านที่ตนสัง่ ทาไว้เมื่อหลายวันก่อน
ส่วนตัวเองนัง่ ลงเขียนรายการอาหารที่จะทาขายในร้าน ส่วนมากเป็ นรายการที่นางจามาจากตอนที่ทางานในโรงเตี๊ยมของ
ตระกูลสี นางยังไม่แน่ใจว่าจางถิงจะทาตามรายการได้มากน้อยแค่ไหนจึงเขียนชื่อรายการอาหารธรรมดาๆ ใส่ลงไปด้วย
จ้าวอี้นาป้ ายกลับมาที่ร้านโดยใส่รถเข็น ไม้ที่ใช้ทาป้ ายเป็ นไม้ที่ถูกที่สุดในตลาด ทาสี พ้นื ไม้ดว้ ยสี ดาเขียนตัวหนังสื อสี แดงที่
ช่วยให้อกั ษรบนป้ ายโดดเด่นขึ้นมา
สี หยุนจือยืนประคองบันไดให้จา้ วอี้ปืนขึ้นไปติดป้ าย เพียงครู่ เดียวร้านที่ดูไร้ชีวติ ชีวาก่อนหน้านี้ก็มีสีสนั ขึ้นในทันที ยิง่ เมื่อ
ติดม่านหน้าร้านขนาบป้ ายทั้งสองข้าง ก็ยงิ่ ทาให้ดูเหมือนร้านอาหารมากขึ้น
บนป้ ายเขียนไว้วา่ ‘ซิงหลัว’ เป็ นชื่อร้านใหม่ของนาง ที่สีหยุนจือเลือกชื่อนี้เพราะตั้งใจจะให้ชื่อคล้ายกับโรงเตี๊ยมใหญ่ใน
เมืองที่ชื่อ ‘ซินเฟิ งย่วน’ เพียงเท่านั้น
ในขณะที่นางกาลังแหงนหน้ามองป้ ายร้าน ก็มีเสี ยงหนึ่งดังมาจากด้านข้าง
“โธ่เอ๊ย! ข้าก็นึกว่าร้านจะใหญ่โตมโหฬาร ที่แท้ก็เล็กเท่าแมวดิ้นตาย”
สี หยุนจือหันไปตามเสี ยง เมื่อเห็นว่าเป็ นใครก็ยมิ้ ให้ทนั ที
“เจ้าบอกข้าว่าขอเวลาคิดสามวันไม่ใช่รึ? ทาไมวันนี้พอ่ ครัวจางจึงมาถึงนี่ได้เล่า?”
จางถิงขมวดคิ้วแน่นพลางพูดกลบเกลื่อน “กาไรข้าเจ็ดส่วนเจ้าสามส่วน ข้าก็ตอ้ งมาสารวจสักหน่อย ห้องครัวอยูต่ รงไหน พา
ข้าไปดูสิ”
แม้จางถิงจะพูดอย่างนั้นแต่สีหยุนจือก็ไม่ได้ถือสาหรื อว่าอะไร แต่กลับเป็ นจ้าวอี้ที่หูผ่ งึ ด้วยความสงสัย อยากจะถามว่า ‘ข้า
เจ็ดส่วนเจ้าสามส่วน…’ หมายความว่าอย่างไร? แต่ยงั ไม่ทนั ได้ถามก็ถูกนายหญิงกวักมือเรี ยกเพื่อบอกว่า “จ้าวอี้ คนผูน้ ้ ีเป็ น
พ่อครัวที่จะมาทาอาหารให้ร้านเรา เจ้าพาเขาเข้าไปดูหอ้ งครัวหน่อย หากมีสิ่งใดที่ตอ้ งการเพิ่มเติมเจ้าก็ค่อยมาบอกข้า”
จ้าวอี้รับคาเตรี ยมจะพาพ่อครัวเข้าไปด้านใน แต่อีกฝ่ ายยังไม่ยอมเดิมตาม กลับกอดอกพูดอย่างโอหัง
“ต่อไปอย่าเรี ยกข้าว่าพ่อครัวอีก เจ็ดส่วนเป็ นของข้า สามส่วนเป็ นของเจ้า อย่างน้อยต้องให้ขา้ ได้เป็ นเจ้าของร่ วมด้วย หากไม่
ยอมข้าก็ไม่ทา”
จางถิงพูดด้วยน้ าเสี ยงหยิง่ ยโส ยิง่ ทาให้จา้ วอี้คนั ปากอยากโต้กลับ แต่ติดที่ฮูหยินยืนอยูด่ ว้ ยเขาเลยไม่กล้าวูว่ ามจึงได้แต่ยนื
มอง ทีแรกคิดว่านายหญิงคงต้องโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ แต่นางกลับยิม้ แล้วพูดเออออกับจางถิง
“ข้าพูดผิดไป รี บพาเถ้าแก่ไปดูหอ้ งครัวเร็ ว”
“เจ้า! เชอะ!” จางถิงขมวดคิว้ เหมือนอยากจะโต้กลับคาของนาง แต่กลับถูกรอยยิม้ ของสี หยุนจือหยุดเอาไว้ เขาสะบัดตัวแล้ว
เดินออกไปจากร้านด้วยความโกรธ
สี หยุนจือยังคงยืนนิ่งอยูท่ ี่เดิม เพียงแต่พดู ตามหลังว่า
“เงินที่เจ้าติดพนันไว้จะครบกาหนดพรุ่ งนี้แล้ว ห้าสิ บตาลึงแลกกับการตัดมือทั้งสองข้างของเจ้าก็น่าจะพอ ในเมื่อเจ้าไม่อยาก
ทางานที่ร้านข้าก็ไม่เป็ นไร ข้าก็แค่หาพ่อครัวคนใหม่”
“...”
จางถิงชะงักฝี เท้า สี หยุนจือตีสีหน้าเรี ยบเฉย ไม่พดู อะไรอีก นางเก็บมือไว้ใต้วงแขนเสื้ อเดินเข้าไปในร้าน สักพักก็เห็นจางถิง
เดินตามมา
จ้ าวอีพ้ าพ่ อครัวคนใหม่ เดินสารวจห้ องครัวรอบหนึ่ง
เขาไม่ได้เสนออะไรเพิ่มเติมเกินจริ ง ขอเพียงมีดที่ถนัดมือสักเล่ม และตะหลิวอันใหม่ สี หยุนจือจึงไปจัดหามาให้ จากนั้นก็
ลองให้จางถิงทาอาหารง่ายๆ ไม่กี่อย่างให้ชิม จากอาหารธรรมดากลายเป็ นอาหารรสเลิศ จ้าวอี้ถึงขนาดวิง่ ออกไปซื้อข้าวสุก
กลับมาหม้อหนึ่งแล้วนัง่ กินอย่างเอร็ ดอร่ อย พลางบ่นเสี ยดายที่หานเฟิ งไม่ได้ตามมาด้วย
สี หยุนจือชิมไปเล็กน้อย แล้วหันไปถามชายที่มีหนวดเครารุ งรังอย่างจางถิงว่า
“เจ้าถนัดทากับข้าวอะไรบ้าง?”
เดิมจางถิงเป็ นคนชอบคุยโวอยูแ่ ล้ว เพียงแต่ทุกครั้งที่พดู ไม่มีใครยอมฟัง มาวันนี้ในเมื่อมีคนถาม เขาก็ได้โอกาสคุยโอ้อวด
ออกมาสารพัด
“นึ่ง ต้ม ทอด ย่าง อบ ผัด ข้าทาได้หมด สมัยที่ขา้ อยูใ่ นวังหลวง ข้าคนเดียวทาอาหารให้หา้ ตาหนักในคราวเดียว บรรดา
เจ้านายในวัง ไม่มีใครบอกว่าไม่อร่ อย...”
สี หยุนจือไม่รอให้เขาพูดจบก็ถามแทรกขึ้นว่า
“ไก่ยา่ ง เป็ ดย่าง ทาได้ไหม?”
จางถิงนิ่งไป “ได้สิ ทาไมข้าจะทาไม่ได้ ข้าเป็ นถึงพ่อครัวของห้าตาหนักเชียวนะ ข้า...”
“ดีเลย ถ้าอย่างนั้นพรุ่ งนี้เริ่ มงานได้ สิ บวันแรกเจ้าย่างไก่สิบห้าตัว สิ บวันจากนั้นย่างไก่สิบตัว และสิ บวันสุดท้ายย่างไก่แค่หา้
ตัว ส่วนอาหารอย่างอื่นก็ขอเป็ นกับข้าวธรรมดา ลูกค้าสัง่ อะไรเจ้าก็ผดั ตามที่สงั่ ทาตามนี้ได้หรื อไม่?”
“...”
คนที่ถูกขัดจังหวะหลายครั้งอย่างจางถิงเริ่ มอึดอัดใจ แต่ก็อดถามเรื่ องที่สงสัยไม่ได้
“แม่นาง ข้าก็ไม่อยากจะขัด แต่ยงั ไม่ทนั เปิ ดร้าน เจ้าก็เตรี ยมจะพักมือแล้วรึ ? คิดจะทาการค้าต้องยิง่ ทาให้เติบโตขึ้นไปเรื่ อยๆ
สิ ”
สี หยุนจือเพียงแต่ยมิ้ แล้วตอบว่า “เจ้าทาตามที่ขา้ บอกก็พอ”
“...”
สี หยุนจือให้จางถิงอาศัยอยูท่ ี่ร้าน และยังมอบเงินต่างหากอีกห้าร้อยอีแปะเพื่อให้เขาไปจ้างพวกวณิ พกตามตรอกซอกซอยให้
ป่ าวประกาศเรื่ องร้านของนาง
จางถิงเป็ นคนเร่ ร่อนอยูใ่ นเมืองนี้มาหลายปี ย่อมรู ้จกั คนกลุ่มนี้ดีพอสมควร จึงไม่ใช่เรื่ องยากสาหรับเขาในการหาคนกระจาย
ข่าว
ยามเซิน
สี หยุนจือเพิง่ กลับมาถึงบ้านจึงเร่ งมือทาอาหารเย็นอย่างรี บร้อน ส่วนจ้าวอี้ที่กินมื้อกลางวันมาเต็มอิ่มก็มาช่วยนายหญิง
ทากับข้าวอยูใ่ นครัว
นางใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทากับข้าวได้ถึงสี่ อย่าง มีผดั เฉี ยจื่อ[1] ผัดเต้าหู ้ ลูกชิ้นเนื้อ ถู่โต้วน้ าแดง พร้อมด้วยน้ าแกงใส่ไข่
ในขณะที่นางกาลังจัดวางถ้วยและตะเกียบให้กบั คนในบ้าน จ้าวอี้กเ็ ดินไปทางด้านหลังเพื่อเชิญนายท่านกับเรี ยกลุงเยีย่ นมา
กินข้าว ส่วนหานเฟิ งออกไปข้างนอกตามคาสัง่ คุณชาย ไม่มีใครในบ้านรู ้วา่ คุณชายสัง่ ให้เขาไปทาอะไร แต่จนป่ านนี้เขาก็ยงั
ไม่กลับ
สี หยุนจือจึงเอาจานที่จดั ไว้ให้หานเฟิ งไปเก็บ คิดไว้วา่ จะรอตอนที่นางทาอาหารให้สามีแล้วค่อยแบ่งส่วนหนึ่งให้หานเฟิ ง
ด้วย แต่คาดไม่ถึงว่าเมื่อนางหันหลังกลับมาก็ชนกับแผงอกแกร่ งของใครคนหนึ่งเข้าอย่างจัง
ในขณะที่นางกาลังเจ็บทั้งจมูกและหัวอยูน่ ้ นั ก็ได้ยนิ เสี ยงหัวเราะดังขึ้น สี หยุนจือถอยห่างตามสัญชาตญาณทันที แต่เพราะ
ขยับตัวเร็ วเกินไป ข้อพับขาจึงไปกระแทกกับเก้าอี้ที่อยูด่ า้ นหลังจนตัวนางล้มลงนัง่ บนเก้าอี้ จังหวะนั้นเองก็มีมือแข็งแกร่ งมา
โอบตัวหญิงสาวไว้ไม่ให้หงายหลัง
กลิ่นกายที่คุน้ เคยลอยมากระทบจมูก สี หยุนจือเงยหน้ามอง สบเข้ากับดวงตาคมเข้ม หญิงสาวหน้าแดงก่าด้วยความเขินอาย
พูดตะกุกตะกักไปว่า
“ตะ...ใต้เท้าเองหรื อเจ้าคะ”
“อืม” ปู้ถานตอบนางด้วยน้ าเสี ยงเย็นชา
ท่ านแม่ ทพั นัง่ กินอาหารเย็นท่ ามกลางสายตาประหลาดใจของคนในบ้ าน
ส่วนสี หยุนจือที่เพิง่ หายจากอาการตกใจกาลังอายจนทาตัวไม่ถูก เพราะนางรู ้สึกว่าท่านปู่ ลุงเยีย่ นและจ้าวอี้เอาแต่มองนาง
กับสามีไปมาด้วยสายตามีเลศนัยจนนางแทบจะมุดโต๊ะหนี
หลังกินข้าวเสร็จ สามีนางก็เดินกลับห้อง ส่วนตัวนางยังอยูใ่ นครัวเพื่อปอกผลไม้ที่ซ้ือกลับมาจากตลาดตั้งแต่เมื่อกลางวัน
หญิงสาวจัดผลไม้ใส่จานก่อนจะนาไปให้ท่านปู่ บางส่วน แล้วปอกอีกส่วนนาไปที่หอ้ งให้สามี
เมื่อสี หยุนจือเดินมาถึงห้องก็เห็นเขาเปลี่ยนชุดเพื่อเตรี ยมจะนอนแล้ว อีกฝ่ ายกาลังเดินออกมาจากหลังฉากกั้น ร่ างสูงใหญ่
แข็งแกร่ งอย่างนักรบค่อยๆ ก้าวมาหานาง ถึงจะปราศจากรอยยิม้ บนใบหน้า แต่กลับยิง่ เพิ่มความเป็ นตัวตนของเขาให้โดด
เด่นมากขึ้น บุรุษรู ปงามที่ชวนให้หลงใหลแต่ทรงอานาจเกินกว่าจะกล้าเข้าใกล้
เมื่อเห็นสี หยุนจือนิ่งงันไป ปู้ถานจึงเป็ นฝ่ ายเดินมาหานาง มือข้างหนึ่งรับจานผลไม้มาจากมือหญิงสาว ส่วนอีกข้างเก็บปอย
ผมที่ระใบหน้านวลไปทัดหูให้
ทั้งที่เขายังไม่ได้พดู อะไร แต่กลับทาให้สีหยุนจือรู ้สึกราวกับหูอ้ือไปชัว่ ขณะ ทั้งหน้าและหูแดงก่า ก้มหน้าน้อยๆ เพื่อหลบ
นิ้วของเขาแล้วออกจากห้องไปอย่างรี บร้อน หญิงสาวหลบไปสงบสติอารมณ์อยูใ่ นห้องครัวพักหนึ่ง หลังอาการใจเต้นแรง
เมื่อครู่ เบาบางลงจึงค่อยกล้ากลับมาที่หอ้ งนอน
----------------------------------------------------
[1] มะเขือยาว
เป็ นเมียแม่ ทพั ... ไม่ ง่าย!
ตอนที่ 17 ชายประหลาด
“อะไรนะ!”
เขาพูดเสี ยงดังลัน่ จนหลังคาร้านเล็กๆ แทบจะสัน่ ไหว ขนาดจางถิงยังเดินออกมาจากห้องครัวด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นคน
หน้าตาท่าทางประหลาดยืนอยูใ่ นร้านก็ร้องเสี ยงหลงแล้วรี บวิง่ ไปหลบในครัวตามเดิม
“ข้าอุตส่าห์ขา้ มน้ าข้ามทะเลเดินทางมากว่าพันลี้ก็เพื่อมากินน้ าแกงฝี มือเขา เขาจะไปไหนได้อย่างไร? ทาเช่นนี้ได้อย่างไร
กัน!”
สี หยุนจือเห็นว่าชายประหลาดเริ่ มคลุม้ คลัง่ ก็คิดจะพูดกล่อมให้เขาใจเย็น แต่อีกฝ่ ายกลับปั ดผมที่ปรกหน้าออก เดินวนไปทัว่
ร้านพลางสูดดมตามจุดต่างๆ ราวกับสุนขั ล่าเนื้อ เมื่อดมจนแน่ใจ เขาก็ส่งเชือกทั้งสองเส้นให้กบั สีหยุนจือ ส่วนตัวเองเดิน
ตามกลิ่นนั้นเข้าไปในครัว
สี หยุนจือมึนงงกับเรื่ องที่เกิดขึ้นจนลืมความกลัวเมื่อครู่ ไปเสี ยสนิท นางมองไล่ไปตามเชือกสองเส้นในมือ จนสบเข้ากับ
สายตาสิ้นหวังของคนทั้งสองที่ถกู ผูกไว้
ชายหนุ่มและหญิงสาวตรงหน้าดูอ่อนเพลียราวกับคนไร้เรี่ ยวแรง ฝ่ ายหญิงนอนฟุบอยูก่ บั พื้น ส่วนฝ่ ายชายคลานไปเบื้อง
หน้านาง จับเท้าของหญิงสาวแล้วเอ่ยด้วยเสี ยงแผ่วเบาจนแทบจะฟังไม่เป็ นภาษา
สี หยุนจือเห็นเขาชี้ไปที่ถว้ ยน้ าชาบนโต๊ะ ริ มฝี ปากขยับเล็กน้อยเหมือนกาลังพูดอะไรบางอย่าง แต่เสี ยงนั้นเบาเกินกว่าที่นาง
จะได้ยนิ จึงลองถามออกไป “เจ้าอยากจะดื่มน้ ารึ ?”
“อืม...” เขาตอบกลับอย่างแผ่วเบา
สี หยุนจือริ นน้ าชาใส่ถว้ ย ค่อยๆ ส่งให้เขาอย่างลังเล อีกฝ่ ายรี บยืน่ มือมาแย่งถ้วยน้ าชาไปอย่างรวดเร็ วราวกับสัตว์ที่อดอยาก
และหิ วโหยมานาน สองมือสัน่ เทากาลังยกถ้วยชาขึ้นดื่ม
ทันใดนั้นแส้หลากสี ก็ฟาดลงมาระหว่างตัวสี หยุนจือและชายผูห้ ิ วโหย จนถ้วยน้ าชาในมือเขาแตกกระจาย น้ าในถ้วยสาด
กระเซ็นไปทัว่ พื้น
ชายประหลาดกาลังเดินออกมาจากห้องครัว มือข้างหนึ่งถือหม้อที่มีควันลอยขึ้นจางๆ มืออีกข้างถือแส้ที่เพิ่งฟาดลงไปเมื่อครู่
เขาวางหม้อลงบนโต๊ะบัญชีแล้วสะบัดแส้ลงบนร่ างชายที่ถูกมัดหลายครั้งอย่างไม่เกรงสายตาใคร ชายผูน้ ้ นั เจ็บปวดจนต้อง
คลานหนี ส่วนหญิงสาวที่ฟบุ อยูบ่ นพื้นเมื่อครู่ กลับฝื นคลานไปหา แล้วเอาตัวไปบังให้ชายหนุ่มที่ถกู แส้ฟาดอย่างโหดเหี้ ยม
สี หยุนจือจึงเพิ่งเข้าใจว่าทาไมหญิงผูน้ ้ นั จึงดูบาดเจ็บสาหัสกว่าชายหนุ่มมาก
เสี ยงร้องโอดครวญของทั้งสองทาให้นางรู ้สึกสะเทือนใจ หากตอนนี้จา้ วอี้และหานเฟิ งอยูก่ ็คงพอช่วยอะไรได้บา้ ง แต่วนั นี้
ช่างบังเอิญที่ท้ งั สองไม่ได้เข้ามาที่ร้าน นางจึงต้องเผชิญหน้ากับเรื่ องนี้เพียงลาพัง
เมื่อเหลือบไปเห็นหม้อที่ยงั มีควันลอยขึ้นจางๆ นางก็คิดบางอย่างได้ จึงตะโกนขึ้นว่า
“ท่านยังจะเอาน้ าแกงต้มแกะอยูไ่ หมเจ้าคะ?”
เมื่อได้ยนิ คาว่า ‘น้ าแกงต้มแกะ’ ความสนใจทั้งหมดของชายประหลาดก็มุ่งมาที่นางทันที เขาเก็บแส้ในมือ เดินไปหยุด
ตรงหน้าสี หยุนจือ พยักหน้าซ้ าๆ แล้วพูดว่า
“เอาๆ ข้าต้องเอาอยูแ่ ล้ว ข้าอุตสาห์บากบัน่ มาถึงที่นี่ก็เพื่อกินน้ าแกงนี่ ถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นหอมหวนของมันข้าคงโดนแม่นาง
หลอกไปแล้ว” เขายืน่ หน้าไปดมกลิ่นน้ า สี หน้ามีความสุขราวกับได้ในสิ่ งที่รอคอยมานาน
แม้สีหยุนจือจะยังหวาดกลัวแต่ก็พยายามทาใจดีสูเ้ สื อ แบมือของตนตรงหน้าเขาแล้วบอกว่า “ถ้าจะกินก็จ่ายเงินมาเจ้าค่ะ”
ชายประหลาดจึงหยุดอาการน้ าลายสอ หันไปพยักหน้ากับสี หยุนจือ “อ้อ... ใช่ๆๆ ต้องจ่ายเงิน ข้ามีเงิน”
พูดจบเขาก็ลว้ งมือเข้าไปในแขนเสื้ อแล้วหยิบถุงผ้าออกมาใบหนึ่ง บนถุงปั กลวดลายดอกไม้ไว้อย่างงดงาม ช่างขัดกับบุคลิก
ของเขายิง่ นัก นางเดาว่าถุงผ้าใส่เงินใบนี้ตอ้ งเป็ นของคนอื่นแน่ๆ หญิงสาวแอบมองคนทั้งสองที่กาลังร่ าไห้อยูท่ ี่พ้นื แล้ว
รวบรวมความกล้าบอกกับชายประหลาด
“ทั้งหมดห้าร้อยอีแปะเจ้าค่ะ” พอพูดไปแล้ว นางก็ยนื นิ่งอย่างหวาดหวัน่
“อ้อ...” ชายผูน้ ้ นั พยักหน้าแล้วแทบจะเงยหน้าขึ้นทันที “อะไรนะ! ห้าร้อยอีแปะรึ ?”
ชายประหลาดเอามือกุมหัว เดินกลับไปกลับมาอยูห่ น้าโต๊ะบัญชี ชี้ไปที่หม้อน้ าแกงแล้วพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ “น้ าแกงหม้อ
เดียวเจ้าขายห้าร้อยอีแปะเชียวรึ ร้านเถ้าแก่หลิวขายของราคาหน้าเลือดอย่างนี้ต้ งั แต่เมื่อไรกัน?”
สี หยุนจือยังคงฝื นยืนนิ่ง บอกกับอีกฝ่ ายว่า “นี่ไม่ใช่น้ าแกงต้มแกะของร้านเถ้าแก่หลิว เถ้าแก่ร้านคนใหม่แซ่ปู้ และนี่คือน้ า
แกงเนื้อแกะของร้านตระกูลปู้ ข้าให้ราคานี้เพราะเห็นว่าท่านรู ้จกั กับเถ้าแก่หลิวมาก่อนหรอกนะ”
ชายประหลาดมือไม้สนั่ ด้วยความโกรธ เขาโมโหจนหน้าแดง ยืนนิ่งอย่างพูดอะไรไม่ออก
สี หยุนจือเห็นสีหน้าและท่าทางของอีกฝ่ ายก็รวบรวมความกล้าอีกครั้ง แล้วกล่าวออกมาด้วยเสี ยงที่ดงั ขึ้น
“ตกลงท่านจะซื้อหรื อไม่?”
ชายประหลาดเอามือกุมหัวพลางกระทืบเท้า ชี้หน้าด่านางอย่างมีโทสะ
“เจ้ามันแม่คา้ หน้าเลือดชัดๆ น้ าแกงหม้อเดียวขายตั้งห้าร้อยอีแปะ เจ้าคิดว่าข้าเป็ นคนบ้าหรื อเจ้าบ้าไปแล้วกันแน่?”
สี หยุนจือยังตีสีหน้าเรี ยบเฉย ซ้ ายังโต้กลับด้วยเสี ยงที่ดงั ไม่นอ้ ยกว่าเขา
“ท่านหาว่าข้าหน้าเลือด ต่อให้ขา้ ขายน้ าแกงห้าร้อยอีแปะหรื อห้าพันอีแปะ แล้วข้าได้บงั คับท่านซื้องั้นรึ ? นี่เป็ นอาหารใน
ร้านข้า และข้าก็เป็ นเจ้าของร้าน หากท่านไม่มีเงินจ่าย ข้าก็ไม่ขาย ต่อให้ท่านไปฟ้องศาลที่ไหน ข้าก็ยนื ยันจะขายราคานี้!”
“...”
เสี ยงในร้านเงียบไปชัว่ ขณะ นางไม่เคยพูดด้วยเสี ยงที่ดงั ขนาดนี้มาก่อน เมื่อพูดจบจึงรู ้สึกว่าหูท้ งั สองข้างร้อนผ่าว จางถิ
งแอบแหวกม่านมองมาจากในครัว เมื่อเห็นกิริยานั้นของสี หยุนจือก็นิ่งอึ้งไปเช่นกัน
ชายประหลาดผูน้ ้ นั หน้าแดงก่ายิง่ กว่าเดิม ถลึงตาใส่นางอย่างเดือดจัด แต่ก็ไม่ได้เถียงอะไรอีก
สี หยุนจือเห็นดังนั้นก็แอบโล่งใจ หันกลับไปยกหม้อน้ าแกงแล้วยืน่ ไปตรงหน้าชายประหลาดผูน้ ้ นั ก่อนบอกด้วยน้ าเสี ยง
เรี ยบเฉย
“หรื อมีอีกวิธี...ตอนนี้ร้านของข้ากาลังขาดคน บ่าวทั้งสองของท่านดูแล้วหน่วยก้านไม่เลว ข้าอยากได้มาช่วยทางานในร้าน
ถ้ายอมแลกพวกเขากับน้ าแกงหม้อนี้ ต่อไปหากท่านอยากกินอีกเมื่อไรก็เข้ามากินได้ทุกเมื่อ ข้าจะไม่คิดเงินท่านอีก อย่างนี้ดี
ไหมเจ้าคะ?”
“...”
ชายประหลาดจ้องสี หยุนจือด้วยแววตาครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ทาเอานางใจเต้นไม่เป็ นจังหวะ กระทัง่ ผ่านไปครู่ ใหญ่ เขาจึง
กระทืบเท้าอย่างแรงจนกระเบื้องที่พ้นื แตกไปหลายแผ่น ก่อนจะหันไปหยิบเชือกแล้วเดินออกจากร้านไปโดยไม่หนั กลับมา
มองอีก
จางถิงเห็นชายประหลาดเดินออกไปแล้วจึงกล้าโผล่หน้าออกมาจากห้องครัว เขาตกใจกับเรื่ องเมื่อครู่ จนเข่าอ่อนถึงกับต้อง
จับโต๊ะเพื่อพยุงร่ างเอาไว้พลางยกนิ้วโป้ งให้กบั สี หยุนจือ นับถือในความกล้าหาญของนาง จากนี้เขาจะไม่สงสัยวิธีขายไก่
ของนางอีก
สตรี ผนู ้ ้ ีขายไก่ยา่ งที่ไหนกัน นางกาลังขายชีวติ อยูต่ ่างหาก!
ท่ านแม่ ทพั กลับมาในตอนคา่
สี หยุนจือทากับข้าวเตรี ยมไว้ให้เขาสามอย่างกับเหล้าต้มหนึ่งไห จากนั้นก็นงั่ รอเขาอยูท่ ี่หอ้ ง เมื่อชายหนุ่มเปิ ดประตูเข้ามาก็
เห็นนางนัง่ อยูใ่ ต้แสงไฟ มือหนึ่งเท้าคาง สายตาหลุบลงเล็กน้อยราวกับกาลังครุ่ นคิดบางอย่าง ในสายตาชายหนุ่มยามนี้ กิริยา
ท่าทางของนางช่างงดงามเกินบรรยาย
ทันทีที่ได้ยนิ เสี ยงประตูเปิ ด สี หยุนจือจึงได้สติ รี บเดินเข้ามาเตรี ยมปรนนิบตั ิสามี
ปู้ถานลูบแก้มนางอย่างแผ่วเบา สองสามวันที่ผา่ นมาเขาชอบที่จะสัมผัสใบหน้าเนียนนุ่มของนาง ผิวหญิงสาวเนียนละเอียด
ราวกับผิวของเด็กน้อย ยิง่ ได้แตะต้องก็ยงิ่ หลงใหล
สี หยุนจือริ นเหล้าให้สามีพลางเล่าเรื่ องที่เกิดขึ้นเมื่อกลางวันให้เขาฟัง ชายหนุ่มถือจอกสุราไว้ในมือขณะฟังเรื่ องราวทั้งหมด
พลางครุ่ นคิดตามเหตุการณ์ที่นางเล่า จนกระทัง่ หญิงสาวคีบเฉี ยจื่อใส่ถว้ ยให้ เขาจึงได้หลุดจากภวังค์ความคิดของตน
วันนี้สีหยุนจือทาผัดเฉี ยจื่อ ไข่ต๋ นุ เห็ดหอม กุง้ ผัดเต้าหู ้ และน้ าแกงไป๋ ช่าย[1] นางเริ่ มรู ้วา่ สามีชอบหรื อไม่ชอบกินอะไร ดู
เหมือนอาหารที่เขาชอบมากที่สุดก็คือเฉี ยจื่อ นางพยายามจดจาความชอบของเขา เมื่อรู ้อย่างนี้ผเู ้ ป็ นสามีก็อดชื่นใจไม่ได้ พอ
เห็นภรรยานัง่ ยิม้ อยูข่ า้ งๆ เขาจึงยืน่ จอกสุราไปตรงหน้าแล้วป้ อนให้นางดื่มไปอึกหนึ่ง
เมื่อเหล้าเข้าปากพลันรู ้สึกถึงความร้อนผ่าวที่ไหลลงไปตามลาคอ นางไอออกมาเล็กน้อย ชายหนุ่มยิม้ อย่างเอ็นดูและป้ อนกุง้
ให้อีกคา ไม่รู้เป็ นเพราะฤทธิ์สุราหรื อเพราะอาการไอเมื่อครู่ ใบหน้าของสี หยุนจือจึงแดงระเรื่ อยิง่ ขึ้น ดูน่ารักและน่าเอ็นดูยงิ่
นัก
ชายหนุ่มยิม้ กริ่ ม ริ นเหล้าให้นางเพิม่ อีก หญิงสาวมีท่าทีลงั เลเล็กน้อยก่อนจะดื่มเข้าไปอีกอึก
หลังจากนั้นไม่นาน แสงเทียนพลันสะท้อนเงาร่ างของทั้งสองที่กอดเกี่ยวกันและกันไว้ขณะหลอมรวมเป็ นหนึ่ง มีเพียงเสี ยง
ครวญครางแผ่วเบาท่ามกลางแสงสลัวในยามค่าคืน
---------------------------------------------
[1] ผักกาดขาว
เป็ นเมียแม่ ทพั ... ไม่ ง่าย!
ตอนที่ 20 แมลงพิษ
เมื่อคิดดังนี้ สีหยุนจือจึงถือถ้ วยนา้ ชาตรงไปทีค่ อกม้ า
นางเปิ ดประตูคอกม้าด้วยอาการง่วงงุนเล็กน้อยแล้วเดินไปนัง่ ข้างๆ หญิงสาวผูน้ ้ นั
พอสตรี ที่นอนหมดแรงบนพื้นคอกม้ารู ้วา่ มีคนเข้ามาใกล้จึงค่อยๆ ลืมตามอง นางพยายามจะลุกขึ้นแต่ร่างกายกลับไม่มี
เรี่ ยวแรง
สี หยุนจือเห็นอย่างนั้นจึงวางถ้วยน้ าชาลงด้านข้าง ประคองตัวอีกฝ่ ายให้พิงกับตัวของนาง แล้วยกถ้วยน้ าชาให้จิบ เมื่อน้ าไหล
ลงคอไปอึกแรกหญิงผูน้ ้ นั ก็ดื่มน้ าชาที่เหลืออย่างรวดเร็ ว
สี หยุนจือมองถ้วยที่วา่ งเปล่า แล้วมองแววตาอ้อนวอนของอีกฝ่ าย ก่อนถามว่า “อยากดื่มอีกรึ ?”
หญิงสาวที่ท่าทางอิดโรยและไร้กาลังเพียงพยักหน้าเบาๆ สี หยุนจือจึงวางหญิงผูน้ ้ นั ลงแล้วเดินกลับไปที่หอ้ งครัว
ระหว่างที่เดินนางได้ยนิ เสี ยงทะเลาะกันดังมาจากห้องของสามีแต่ก็ไม่ได้หยุดฟัง หญิงสาวรี บเข้าไปในครัว ริ นน้ าชาอีกถ้วย
แล้วกลับไปที่คอกม้าเพื่อให้หญิงสาวผูน้ ้ นั ดื่มอีก
หลังจากอีกฝ่ ายได้ดื่มน้ าสี หน้าก็ดูดีข้ นึ ทันตา สี หยุนจือประคองร่ างที่ยงั คงไร้เรี่ ยวแรงให้พิงกับกาแพง อีกฝ่ ายมองมาที่สีหยุ
นจือ ริ มฝี ปากขยับเล็กน้อย พูดอย่างแผ่วเบา
“ขอบคุณนะ”
สี หยุนจือส่ายหน้าแล้วลุกเดินออกจากคอกม้า หญิงสาวที่นงั่ พิงกาแพงมองตามหลังสี หยุนจือด้วยดวงตาเป็ นประกาย
ทันทีที่เดินออกจากคอกม้าสี หยุนจือก็เริ่ มรู ้สึกหน้ามืด ตั้งใจว่าจะเดินไปนัง่ พักที่หอ้ งหนังสื อสักครู่ แต่นางยังเดินไม่ถึงก็ฝืน
ต่อไปไม่ไหว ทุกอย่างตรงหน้าพลันดับวูบแล้วล้มลงทันที
.
สีหยุนจือทีไ่ ม่ ได้ พกั ผ่อนติดต่ อกันหลายคืน อีกทั้งยังมีความกังวลในใจทาให้ เป็ นลมล้ มลงไป
พอนางลืมตาขึ้นอีกครั้งก็เห็นใบหน้าสง่างามของปู้ถานอยูต่ รงหน้า ดวงตาคมเข้มคู่น้ นั ฉายแววห่วงใยทาให้นางยิม้ ออก
ดวงตะวันสาดแสงเข้ามาในห้อง ส่องไปทัว่ ทุกซอกทุกมุมราวกับในห้องถูกทาด้วยสี ทองอร่ ามสะท้อนดวงตาให้พร่ ามัว
ชายหนุ่มมองรอยยิม้ จริ งใจของนางด้วยความหลงใหล เขาไม่เคยรู ้มาก่อนว่าสตรี ที่รูปร่ างภายนอกแสนจะธรรมดาเช่นนาง
จะมีรอยยิม้ ที่น่ารักได้เพียงนี้ ชายหนุ่มนิ่งงันไม่อยากแม้แต่จะเคลื่อนไหว ต้องการมองรอยยิม้ นั้นและประทับไว้ในใจเพียง
คนเดียว
“ขาของท่าน...” สี หยุนจือพูดด้วยน้ าเสี ยงแหบแห้ง ปู้ถานยืน่ มือไปปิ ดปากนางไว้ พลางส่ายหน้าเป็ นการบอกว่าไม่อยากให้
พูดอะไรมากในตอนนี้ จากนั้นก็เป็ นฝ่ ายบอกกับนางแทน
“อาจารย์เหยียนฝังแมลงพิษลงในข้อเท้าของข้า ขอเพียงมีอาหารบารุ งให้แมลงเติบโตและค่อยๆ สมานเส้นเอ็น ไม่เกินสาม
เดือน ขาของข้าก็จะหายเป็ นปกติ”
บนเท้าของปู้ถานมีผา้ พันแผลพันไว้อย่างแน่นหนาทาให้มองไม่เห็น นางจึงไม่เข้าใจวิธีการรักษาที่เขาอธิบายเมื่อครู่ หญิง
สาวลุกขึ้นนัง่ บนเตียง มองหน้าสามีพลางถามว่า
“อาจารย์เหยียนเป็ น...ศิษย์พี่ของท่านหรื อเจ้าคะ?” เนื่องจากนิสยั ของทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่หากเทียบอายุกนั
แล้ว อาจารย์เหยียนก็น่าจะต้องเป็ นศิษย์พี่กระมัง
ปู้ถานมองดวงตาไร้เดียงสาของนางแล้วรู ้สึกขบขัน เขายืน่ มือไปลูบหัวนางอย่างอ่อนโยน แล้วตอบว่า “ใครบอกว่าอายุ
มากกว่าจะต้องเป็ นศิษย์พี่กนั ? เขาเข้าสานักหลังข้าและยังเรี ยนวิชากับอาจารย์ของข้า”
“...” สี หยุนจือไม่ค่อยเข้าใจเรื่ องพวกนี้เท่าไรนัก แต่มีเรื่ องหนึ่งที่ยงั ติดค้างในใจ “ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า...ต่อให้ขา้ ทาให้
อาจารย์เหยียนไม่พอใจ เขาก็ยงั คงรักษาท่านอยูด่ ี ใช่ไหมเจ้าคะ?”
ถ้างั้นการที่นางยอมพูดเช่นนั้นออกไปเพราะกลัวว่าสามีจะไม่ได้รับการรักษา ก็เป็ นเรื่ องที่นางคิดมากไปเองทั้งสิ้น
ปู้ถานยิม้ เล็กน้อย เขารู ้วา่ หลายวันมานี้นางเหนื่อยล้าเพียงใด เพราะมีจา้ วอี้คอยพูดให้ฟังซ้ าแล้วซ้ าเล่าอยูห่ ลายรอบ แล้วทาไม
เขาจะไม่รู้เจตนาและความจริ งใจของนาง
“ก่อนจะกลับศิษย์นอ้ งมีเรื่ องฝากให้ขา้ บอกเจ้า...” ชายหนุ่มตั้งใจเงียบไปครู่ หนึ่ง
สี หยุนกัดริ มฝี ปาก สี หน้าเริ่ มวิตกแต่ก็ฝืนสงบนิ่งรอฟังคาพูดจากเขา ในใจก็ยงั คาดหวังว่าชายประหลาดคนนั้นคงจะไม่ได้
พูดถึงนางในทางที่ไม่ดีกระมัง?
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมีท่าทางกังวล เขาจึงยิม้ ออกมาแล้วบอกว่า “ศิษย์นอ้ งบอกว่า...เจ้าเป็ นคนดีมาก ทุกวันนี้จะหาสตรี ที่
อ่อนโยนและกล้าหาญ ซ้ ายังกล้าทากล้ารับอย่างเจ้าไม่ได้อีกแล้ว”
“...”
สี หยุนจือนิ่งอึ้งไป นางคิดว่าอีกฝ่ ายคงจะพูดในสิ่ งที่ตนเคยทาไม่ดีกบั เขา ทว่าผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม จู่ๆ นางก็นึกบางอย่าง
ขึ้นจึงได้รีบถามว่า “อ้อ แล้วสองคนนั้นล่ะเจ้าคะ?”
“เจ้าหมายถึงหลานตงกับเถี่ยโหรวน่ะรึ ?” ปู้ถานพูดพลางขยับตัวมานัง่ พิงหัวเตียง
สี หยุนจือพยักหน้า “ใช่เจ้าคะ สองคนนั้นถูกศิษย์นอ้ งของท่านทารุ ณจนบอบช้ าไปหมด ดูน่าสงสารเหลือเกิน”
ปู้ถานหันมามองนางครู่ หนึ่ง ก่อนจะบอกว่า “พวกเขาถูกอาจารย์พาตัวไปแล้ว แต่ศิษย์นอ้ งเกลียดคนแคว้นฉี เข้ากระดูกดาคง
จะไม่ไว้ชีวติ พวกเขาแน่ ปล่อยให้เรื่ องนี้เป็ นไปตามชะตากรรมเถิด”
“...”
ในเมื่อเขาพูดด้วยน้ าเสี ยงหนักแน่นอย่างนั้น นางจึงเอนตัวพิงอ้อมอกของสามีเงียบๆ และไม่พดู อะไรอีก
.
สิ่งทีส่ ีหยุนจือคาดไม่ ถึงอีกอย่ างก็คือ
ถึงนางจะไม่ได้มาที่ร้านสิ บกว่าวันแต่จางถิงก็สามารถดูแลจัดการร้านได้อย่างดีเยีย่ ม ซ้ ายังมีลูกค้าเข้ามานัง่ กินข้าวที่ร้านอยู่
ตลอด
เมื่อนางเดินเข้ามาในร้านก็เห็นจางถิงเดินถือจานอาหารออกมาจากครัวแล้ววางลงบนโต๊ะของลูกค้า พอเขาเห็นนางก็ตะโกน
ทักอย่างดีใจ
“โอ้โห แม่นางของข้า ในที่สุดเจ้าก็มาจนได้ เร็ วๆ มาช่วยข้าหน่อย ข้ายุง่ จนมือเท้าพันกันหมดแล้ว โต๊ะนั้นกับโต๊ะที่อยูต่ ิด
ประตูกินเสร็ จแล้ว เจ้าไปคิดเงินหน่อย”
รายการอาหารในร้าน สี หยุนจือเป็ นคนคิดและตั้งราคาเองทั้งหมด นางจึงรู ้ราคาเป็ นอย่างดี ขณะที่กาลังเก็บเงินก็ตะโกนถาม
จางถิง
“ชุ่ยยาล่ะ? นางหายไปไหนรึ ?”
จางถิงชะงักฝี เท้า ขมวดคิว้ แล้วตอบว่า “ชุ่ยยาน่ะรึ ...นางมาสายกลับเร็ ว ป่ านนี้ไม่รู้นางไปตายที่ไหนแล้ว”
“...”
.
กิจการในร้ านดีขนึ้ ทุกวัน
อาหารที่จางถิงเป็ นคนทาไม่วา่ จะเป็ นอะไรก็จะมีคนซื้อกลับไปเสมอ โดยเฉพาะไก่ยา่ งของเขา ผูค้ นต่างพากันร่ าลือถึง
รสชาติอร่ อยเลิศรสจนเกินจริ ง คนที่ซ้ือทันก็ร่ าลือถึงรสชาติ คนที่ซ้ือไม่ทนั ก็ร่ าลือถึงชื่อเสี ยงจนของไม่พอขาย
แม้จางถิงจะลงมือย่างไก่ท้ งั วัน วันละสองถึงสามเตาก็จะได้ไก่ยา่ งประมาณแปดสิ บตัวต่อวันเท่านั้น ไก่ยา่ งขายในราคาตัวละ
ยีส่ ิ บอีแปะ แม้ราคาจะแพงกว่าร้านอื่นๆ อยูพ่ อสมควร แต่ลูกค้าที่ต้ งั ใจมาซื้อมีแต่จะเพิ่มเงินให้ ไม่มีใครต่อรองราคาแม้แต่
คนเดียว
สี หยุนจือออกไปซื้อของข้างนอก ตอนที่นางกลับเข้ามาอีกทีก็หลังมื้อกลางวันผ่านไปแล้ว พอเข้ามาก็เห็นชุ่ยยากาลังนัง่ แทะ
เมล็ดทานตะวันอยูห่ ลังโต๊ะบัญชีแล้วแอบมองรายการในสมุดบัญชี แม้จะเห็นอย่างนั้นแต่นางก็ไม่วา่ อะไร ถือตะกร้าลูก
เหมยมาวางบนโต๊ะ พูดกับชุ่ยยาอย่างอ่อนโยน
“ชุ่ยยา มากินลูกเหมยเร็ วกาลังสดเชียว”
เด็กสาวที่นงั่ อยูห่ ลังโต๊ะบัญชีสะดุง้ เล็กน้อยแล้วรี บปิ ดสมุดทันที นางโยนเมล็ดทานตะวันในมือทิ้งก่อนจะเดินออกมาจาก
หลังโต๊ะบัญชี พูดกับสี หยุนจือว่า
“คุณหนูใหญ่รู้ใจข้าจริ งๆ ชุ่ยยาชอบกินลูกเหมยที่สุดเลยเจ้าค่ะ” พูดจบก็รีบเดินมารับตะกร้าจากสี หยุนจือไปนัง่ กินลูกเหมย
ที่โต๊ะ
สี หยุนจือหยิบผ้าชุบน้ ามาเช็ดโต๊ะในขณะที่ชุ่ยยากาลังกินอย่างเอร็ดอร่ อย แต่จู่ๆ เด็กสาวก็ลุกขึ้นเดินมาหานาง พูดทั้งๆ ที่
ปากยังเคี้ยวลูกเหมยอยูว่ า่
“คุณหนูใหญ่ ข้ามีเรื่ องอยากจะคุยกับท่านเจ้าค่ะ พอดีช่วงนี้ป้าของข้าเข้ามาในเมือง ข้าจึงอยากซื้อของให้ท่านป้ าสักหน่อย
แต่วา่ เงินที่มีติดตัวข้าก็ใช้หมดไปแล้ว...เมื่อครู่ ขา้ เห็นในบัญชี ร้านเรามีรายได้ไม่นอ้ ย หากข้าจะขอยืมเงินท่านสักหน่อยจะ
ได้หรื อไม่เจ้าคะ?”
สี หยุนจือหลุบตาต่า ถามด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย “ต้องการยืมเท่าไรรึ ?”
ชุ่ยยากลอกตาไปมา จากนั้นก็แบมือ ยืน่ ไปตรงหน้าสี หยุนจือ “ห้าตาลึงได้หรื อไม่เจ้าคะ?”
สี หยุนจือยิม้ พลางช่วยจัดผมหน้าม้าให้อีกฝ่ าย พยักหน้าและบอกว่า “ได้สิ ไปหยิบที่โต๊ะเถอะ”
ชุ่ยยาวางตะกร้าลงพลางเดินไปหลังโต๊ะบัญชีอย่างมีความสุข นางเดินเข้าไปหยิบเงินในกล่องเหล็กใต้โต๊ะบัญชีอย่าง
คล่องแคล่ว หันมาพยักหน้าและกล่าวขอบคุณสี หยุนจือก่อนจะเดินถือเงินและตะกร้าลูกเหมยออกจากร้านไป
จางถิงเดินออกมาจากครัวเห็นภาพนั้นเข้าพอดี จึงสบถออกมาและพูดกับสี หยุนจือว่า “ฮึ เพราะเจ้านัน่ แหละที่ดีกบั นางจน
เสี ยคน ข้าไม่เคยเห็นเถ้าแก่คนไหนยอมให้ลูกน้องเปิ ดกล่องเงินและหยิบเอาเอง เจ้าน่ะใจดีเกินไปแล้ว”
สี หยุนจือเพียงแต่ยมิ้ ไม่ได้กล่าวอะไร นาผ้าไปชุบน้ าในกะละมังที่วางอยูบ่ นพื้นแล้วเช็ดโต๊ะต่อ ทาราวกับไม่ได้ยนิ ที่จางถิ
งพูด
---------------------------------------------
เป็ นเมียแม่ ทพั ... ไม่ ง่าย!
ตอนที่ 21 ฮุบร้ าน
เย็นวันนั้น
สี หยุนจือนัง่ นวดเท้าให้สามี หลังจากที่ได้รับการรักษา ใบหน้าของเขาซีดเผือดทั้งยังผอมลงจนเห็นได้ชดั ไม่รู้วา่ ท่านอาจารย์
ใช้ยาอะไรรักษาเขา แม้จะผ่านมาหลายวันแล้วอาการก็ยงั ไม่ดีข้ ึน ซ้ าร้ายนางยังรู ้สึกว่าอาการเขาทรุ ดลงกว่าเดิมอีกด้วย
หญิงสาวได้แต่เก็บความกังวลไว้ในใจไม่กล้าแสดงออกมา เพราะเกรงว่าเขาจะคิดมากและจะมีผลต่อการฟื้ นตัว
จู่ๆ ปู้ถานที่นงั่ พิงกับหัวเตียงก็พดู ขึ้นว่า “ได้ยนิ จ้าวอี้บอกว่าที่ร้านของเจ้าเกิดการจารกรรมรึ ?”
สี หยุนจือคิดอยูน่ านจึงได้เข้าใจความหมายของคาเฉพาะอย่าง ‘จารกรรม’ ก็อดหัวเราะไม่ได้ “ใต้เท้าข้าไม่ได้ทาสงครามสัก
หน่อย จะเรี ยกว่าจารกรรมได้อย่างไรกันล่ะเจ้าคะ?”
ชายหนุ่มมองนางด้วยแววตาลึกซึ้ง ใบหน้านางเวลายิม้ ช่างมีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล คนถูกจ้องพอรู ้ตวั ก็อายจนต้องก้มหน้า
งุด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองเขาอีก
“รับมือไหวไหม?” เขาแค่ตอ้ งการถามไถ่ดว้ ยความเป็ นห่วง จึงไม่เข้าใจว่าทาไมนางถึงเอาแต่กม้ หน้า
สี หยุนจือจึงพยักหน้าแล้วตอบ “ยังรับมือได้อยูเ่ จ้าค่ะ อันที่จริ งก็เป็ นเพียงเรื่ องเล็กๆ เท่านั้น”
พอพูดถึงเรื่ องนี้ทาให้ปู้ถานนึกถึงอีกเรื่ องขึ้นมาได้ จึงบอกกับนางว่า “จิตใจมนุษย์น้ นั ยากแท้หยัง่ ถึง”
สี หยุนจือยิม้ ให้เขา ไม่อยากให้ชายหนุ่มเป็ นห่วงอีกจึงตั้งใจเปลี่ยนเรื่ อง “ไม่รู้อาจารย์เหยียนให้ยาอะไรกับท่าน ผ่านมาหลาย
วันแล้วทาไมอาการของท่านยังไม่ดีข้ ึนอีก เมื่อก่อนท่านเดินด้วยตัวเองได้ แต่มาตอนนี้กลับต้องมีไม้ค้ ายันคอยช่วย”
ปู้ถานมองเท้าขวาที่พนั ผ้าพันแผลไว้อย่างแน่นหนา แล้วบอกว่า “เป็ นเพราะฤทธิ์ของแมลงพิษ ต้องรออีกสักสามเดือนขา
ของข้าถึงจะหาย”
แม้จะได้ยนิ ปู้ถานพูดอย่างนั้น ทว่าในใจนางกลับเกิดความรู ้สึกไม่ไว้ใจอาจารย์เหยียนขึ้นมา แต่หญิงสาวก็คิดไว้ต้ งั แต่แรก
แล้วว่า ไม่วา่ ปู้ถานจะอาการดีข้ นึ จนกลับมาเดินได้ปกติ หรื อต่อให้รักษาไม่หายกระทัง่ กลายเป็ นคนพิการที่ตอ้ งนอนอยูแ่ ต่
บนเตียง นางก็ยนิ ดีที่จะอยูข่ า้ งๆ คอยดูแลเขา
.
เช้ าวันรุ่งขึน้
สี หยุนจือต้มน้ าแกงไก่เอาไว้ในครัว พอเสร็ จแล้วนางก็ไปที่ร้านอาหารจึงพบว่ามีคนมารออยูก่ ่อนแล้ว
กุย้ หนิงบ่าวรับใช้ตระกูลสี ยนื อยูห่ น้าโต๊ะบัญชี เขาหยิบที่ทบั กระดาษบนโต๊ะบัญชีข้ ึนมาถือเล่น เมื่อเห็นสี หยุนจือเดินเข้ามา
ในร้านก็เปรับสี หน้า ก่อนจะเดินเข้ามารับพร้อมกับทักทายอย่างนอบน้อม
“โอ๊ะ คุณหนูใหญ่ ท่านมาแล้วหรื อขอรับ ข้าน้อยกุย้ หนิงขอคารวะ”
สี หยุนจือรู ้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในท่าทีของกุย้ หนิง แต่ยงั คงทักกลับด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย “พ่อบ้านกุย้ สบายดีหรื อ ไม่
จาเป็ นต้องมากพิธีหรอก”
กุย้ หนิงยิม้ เดินเข้ามาหานาง แล้วบอกวัตถุประสงค์ในการมาของตน
“คุณหนูใหญ่ ข้าขอพูดตรงๆ นะขอรับ ฮูหยินห้าถูกใจร้านนี้มาก ในตอนแรกอยากให้ขา้ มาซื้อเก็บไว้เป็ นสมบัติของตระกูลสี
แต่ไม่วา่ จะเจรจากับเถ้าแก่หลิวอย่างไร เขาก็ไม่ยอมขายท่าเดียว บอกว่าต่อให้ตอ้ งขายให้ผี เขาก็ยนื ยันว่าจะไม่ขายให้ตระกูล
สี เด็ดขาด ฮ่าๆๆ ข้าล่ะขายิง่ นัก ท้ายที่สุดเขาก็ขายให้คนตระกูลสี ของเรามิใช่หรื อขอรับ?”
สี หยุนจือฟังกุย้ หนิงพูดด้วยรอยยิม้ ความหมายของเขาคือต้องการเก็บร้านนี้ไว้เป็ นสมบัติของตระกูลสี นางจึงตอบกลับแค่
ว่า “พ่อบ้านกุย้ ลืมไปแล้วหรื อไร เถ้าแก่หลิวไม่ได้พดู ผิดแต่อย่างใด”
กุย้ หนิงหุบยิม้ ทันที เบิกตาโตมองสี หยุนจือ “อะไรกัน? คุณหนูใหญ่หมายความว่าอย่างไร?”
นางไม่อยากอ้อมค้อมอีกต่อไป จึงบอกว่า “ข้าแต่งงานออกจากตระกูลสี มาตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว บ้านสามีขา้ แซ่ปู้ เช่นนั้น
แล้วร้านนี้จึงเป็ นของตระกูลปู้”
นัน่ หมายความว่าร้านแห่งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลสี แม้แต่นอ้ ย กุย้ หนิงได้ยนิ สี หยุนจือพูดอย่างนั้นก็เปลี่ยนท่าที ใช้
น้ าเสี ยงเกรี้ ยวกราดด่านางว่า “อกตัญญู! เมื่อก่อนฮูหยินผูเ้ ฒ่าเมตตาท่านอย่างไร แต่ท่านกลับตอบแทนด้วยวิธีน้ ีรึ?”
สี หยุนจือยิม้ โดยไม่ได้กล่าวอะไร กุย้ หนิงขว้างของที่หยิบมาจากโต๊ะบัญชีของนางลงพื้น ชี้หน้าสี หยุนจือและตะโกนใส่นาง
ว่า
“ดี! ให้มนั ได้อย่างนี้สิ! ตอนแรกที่ขา้ รู ้วา่ ท่านเปิ ดร้าน ข้ายังคิดอยากจะมาให้คาแนะนา แต่ในเมื่อเป็ นอย่างนี้ก็อย่าหาว่าข้าไม่
เตือน ไม่เกินสามเดือนข้ารับรองว่าร้านนี้จะต้องถูกปิ ด พอถึงตอนนั้นต่อให้ท่านมาคุกเข่าขอร้องต่อหน้า ข้าก็ไม่มีทางใจ
อ่อนเด็ดขาด”
สี หยุนจือไม่ได้ตอบโต้ เพียงแต่ผายมือแล้วเอ่ยด้วยน้ าเสี ยงสุภาพ
“เชิญ พ่อบ้านกุย้ ”
กุย้ หนิงถลึงตาใส่นางพลางเรี ยกบ่าวไพร่ คนอื่นๆ ออกไปจากร้าน ก่อนจะเดินออกไปแต่ละคนก็เดินเตะโต๊ะเก้าอี้ระบาย
อารมณ์ราวกับเป็ นอันธพาล
เมื่อกุย้ หนิงไปแล้ว จางถิงจึงกล้าออกมาจากหลังครัว เขารี บเดินเข้ามาถาม
“เป็ นอย่างไรบ้าง? พวกเขาอยากจะซื้อร้านเราใช่หรื อไม่? เมื่อครู่ พวกเขาพุง่ พรวดเขามาในร้าน เดินกร่ างอย่างกับอันธพาล
ทาเอาข้าขวัญเสี ยหมด”
สี หยุนจือมองจงถิงที่เอาแต่หลบซ่อนตอนมีเรื่ องด้วยสายตาเย็นชา แล้วตอบเสี ยงเรี ยบเฉย
“พวกเขาไม่ได้อยากมาซื้อร้าน เพราะพวกเขาไม่ได้จะจ่ายเงิน แต่อยากจะยึดร้านนี้ไว้เลย”
“อะไรนะ!” จางถิงพูดด้วยความตกใจ “พวกเขาคิดว่าตัวเอง...” พ่อครัวจางพูดค้างไว้อย่างนั้นเพราะยังไม่เข้าใจว่าจู่ๆ จะมายึด
กันได้อย่าไร จึงเปลี่ยนมาถามว่า “แล้วพวกเขามีเจตนาอะไรกัน?”
สี หยุนจือถอนหายใจแต่ยงั ไม่ทนั ได้ตอบ จางถิงก็พดู เสริ มอีกว่า “พวกเขาเป็ นใครกัน? เป็ นโจรรึ ? แต่ถา้ เป็ นโจรก็ยงั ต้องกิน
ของป่ า อาศัยตามป่ าตามเขา แล้วคนพวกนี้เป็ นใคร ไม่ทามาหากินกันรึ ?”
สี หยุนจือไม่ตอบอะไรเขาอีก ส่วนจางถิงก็ยงั ไม่วางใจ เพราะในเมื่อกิจการของร้านเพิง่ จะดีข้ นึ เขาเองก็ยงั หาเงินได้ไม่มาก
พอ จะยอมให้ถูกยึดง่ายๆ ได้ยงั ไง
แต่ต่อไปจะทาอย่างไรดี?
.
ยามเว่ ย[1]
สี หยุนจือออกไปข้างนอก หลังจากจัดการงานในร้านเสร็ จ
วัดจือหยุนตั้งอยูน่ อกเมืองลัว่ หยาง สี หยุนจือมักจะมาที่วดั นี้เวลาที่มีเรื่ องไม่สบายใจ เพื่อมาพบกับอดีตฮูหยินสามผูด้ ูแล
ตระกูลสี ที่ตอนนี้บวชเป็ นแม่ชีอยูใ่ นวัดแห่งนี้ ไม่มีใครรู ้วา่ เพราะเหตุใดฮูหยินสามจึงเลือกที่จะออกบวชแทนการเป็ นฮูหยิน
ใหญ่ของบ้าน
เมื่อก่อนสี หยุนจือเคยอยูอ่ ย่างลาบากในบ้านตระกูลสี แต่นนั่ ก็เป็ นเรื่ องของนางเพียงคนเดียว มาตอนนี้นางแต่งงานแล้วจึงไม่
อาจทาให้บา้ นของสามีตอ้ งมายุง่ ยากไปด้วย นางมาหาแม่ชีก็เพื่อทาให้ตนเองสบายใจและเผื่อจะได้คาแนะนาดีๆ กลับไป
นางเดินเข้าไปจุดธูปไหว้พระในอารามวัดจือหยุน หลังจากไหว้เรี ยบร้อยแล้วจึงตรงไปยังที่พกั ของ ‘แม่ชีจิ้นผิง’ ซึ่งอยู่
ด้านหลังวัด แต่ยงั ไม่ทนั จะเดินเข้าไปก็มีแม่ชีรูปหนึ่งออกมาขวางหน้าไว้
แม่ชีท่านนี้ในอดีตมีชื่อว่า ‘อาเอ้อ’ อายุไล่เลี่ยกับสี หยุนจือ อาเอ้อเคยเป็ นสาวใช้คนสนิทของฮูหยินสาม แต่ตอนนี้กลายมา
เป็ นแม่ชีศึกษาธรรมและมีฉายาใหม่วา่ ‘จิ้งอี’
แม่ชีจิ้งอีประนมมือขึ้นและพูดกับสี หยุนจือว่า “อาจารย์ไม่สบายเล็กน้อย ไม่สะดวกให้ใครเข้าพบ” เมื่อเห็นสี หยุนจือยังคง
นิ่งเงียบก็หยิบม้วนกระดาษออกมาจากแขนเสื้ อ แล้วยืน่ ให้ก่อนจะบอกว่า “ท่านอาจารย์รู้ข่าวเรื่ องสีกาแต่งงานเมื่อไม่นานมา
นี้ แต่ไม่มีโอกาสได้ไปแสดงความยินดี จึงเขียนคาอวยพรใส่กระดาษแผ่นนี้ไว้ เชิญท่านรับไปเถิด”
สี หยุนจือไม่รู้วา่ ในกระดาษแผ่นนี้เขียนอะไร แต่จุดประสงค์ที่มาครั้งนี้ก็เพื่อพบแม่ชีที่นางนับถือดัง่ มารดาและอาจารย์ หญิง
สาวเดินหน้าขึ้นไปหนึ่งก้าว แล้วพูดขอร้องกับแม่ชีจิ้งอี
“ได้โปรดเมตตาด้วยเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้พบกับแม่ชีจิ้นผิงมานานมากแล้ว และมีหลายเรื่ องที่ตอ้ งการคุยกับนางจริ งๆ ได้โปรดให้
ข้าได้พบแม่ชีจิ้นผิงด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
ทว่าคาขอของนางกลับไม่เป็ นผล แม่ชีจิ้งอียงั ยืน่ กระดาษแผ่นนั้นให้แล้วเดินพลางสวดมนต์กลับไปยังที่พกั ของตน ปล่อยให้
สี หยุนจือยืนนิ่งอยูเ่ พียงลาพังด้วยความผิดหวัง
นางยังคงรอจนกระทัง่ ตะวันตกดินเพราะหวังว่าจะได้รับอนุญาตให้เข้าพบ แต่เมื่อแสงสี ทองของยามเย็นเริ่ มสาดส่องไปทัว่
บริ เวณวัด นางจึงถอนหายใจอย่างหมดหวัง หันหลังกลับแล้วเดินออกจากวัดไป
.
เมื่อกลับมาถึงบ้ านหญิงสาวก็เข้ าครัวทากับข้ าวให้ ทุกคน
ระหว่างที่กาลังทาอาหารนางคลี่มว้ นกระดาษแผ่นนั้นออก บนหน้ากระดาษมีอกั ษรที่บรรจงเขียนอย่างเป็ นระเบียบเพียงไม่กี่
ตัว เมื่อนางอ่านจบก็พบั กระดาษกลับอย่างเบามือแล้วโยนม้วนกระดาษเข้าไปในเตาไฟ
ปู้ถานถือไม้เค้ายันสองข้างเดินเข้ามาในห้องครัว เห็นสี หยุนจือมีสีหน้ากังวล จึงหาเก้าอี้มานัง่ ลงข้างๆ แล้วถามด้วยความเป็ น
ห่วง
“วันนี้ที่ร้านมีเรื่ องอะไรรึ ?”
สี หยุนจือหยิบฟื นท่อนหนึ่งใส่กองไฟ แล้วมองเปลวไฟที่ลุกโชน ก่อนพยักหน้าให้เขาเบาๆ “วันนี้พอ่ บ้านตระกูลสี ชื่อกุย้
หนิงมาที่ร้าน ดูเหมือนว่าเขาอยากจะยึดร้านข้าให้ได้”
ปู้ถานมองดวงตาของนางที่แฝงด้วยความกังวล จึงถามว่า “มีอะไรให้ขา้ ช่วยไหม?”
“...”
---------------------------------------------
[1] เวลา 13.00-14.59 น.
เป็ นเมียแม่ ทพั ... ไม่ ง่าย!
ตอนที่ 23 แผลในใจ
ซางซู่ เอ๋ อแสดงสีหน้ าว่ ายังไม่ วางใจในเรื่ องนีน้ ัก
นางหมุนกาไลหยกที่ขอ้ มือพลางถามว่า“สี หยุนจือไม่ได้สงสัยสาวใช้นนั่ จริ งๆ รึ ?”
อบ้านพยักหน้า “จริ งขอรับ เมื่อวานเด็กนัน่ ขโมยสมุดบัญชีของคุณหนูใหญ่มาจากร้าน ข้าเอามาลอกแล้วให้นางนากลับไป
วางที่เดิม คุณหนูใหญ่ไม่มีทางรู ้เรื่ องนี้แน่ๆ เพราะนางไว้ใจเด็กนัน่ เหมือนน้องสาว ซ้ ายังบอกความลับให้ฟังอย่างไม่ปิดบัง
อีกด้วย”
ซางซู่เอ๋ อแสดงสี หน้าว่ายังไม่วางใจในเรื่ องนี้นกั นางหมุนกาไลหยกที่ขอ้ มือพลางถามว่า
“สี หยุนจือไม่ได้สงสัยสาวใช้นนั่ จริ งๆ รึ ?”
กุย้ หนิงยกมือตบอกตัวเอง ยืนยันเสี ยงหนักแน่น “ไม่แม้แต่นอ้ ยขอรับ คุณหนูใหญ่ยงั คงฝังใจว่าเมื่อก่อนชุ่ยยาเคยช่วยนางไว้
จึงไม่สงสัยในตัวเด็กนัน่ เลย ซ้ ายังดูแลอย่างดีราวกับเป็ นน้องสาวคลานตามกันมา เด็กนัน่ อยากได้อะไร นางก็หามาให้ หากมี
อะไรดีๆ ก็จะเก็บไว้ให้เป็ นคนแรกเลยขอรับ”
ซางซู่เอ๋ อได้ฟังก็นิ่งไปชัว่ ครู่ นางเดินไปมาพลางครุ่ นคิดก่อนจะพูดขึ้นว่า “แล้วเรื่ องคุณชายหลูกบั นางคณิ กาคนนั้น เด็กนัน่
เป็ นคนบอกเจ้าเองรึ ?”
“ขอรับ” กุย้ หนิงพยักหน้าอีกครั้ง ใบหน้าเจ้าเล่ห์ฉายแววภาคภูมิใจ “ทีแรกบ่าวก็เกรงว่าจะเป็ นเรื่ องโกหกจึงส่งคนไปสื บ
สุดท้ายได้ความมาว่าเมื่อวานสาวใช้คนสนิทของนางคณิ กาคนนั้นไปที่ร้านของคุณหนูใหญ่จริ งๆ แล้วยัง...” กุย้ หนิงลังเล
เล็กน้อย ไม่กล้าพูดต่อ
ซางซู่เอ๋ อจ้องไปที่เขาอย่างขัดใจ ตะคอกเสี ยงดัง “พูดสิ !”
“แล้วยัง...รู ้มาว่าเมื่อปี ที่แล้วคุณชายหลูอยากจะได้ตวั หญิงคณิ กาที่ชื่อฟางเฟยนัน่ มากจนถึงขั้นทะเลาะวิวาทกับผูอ้ ื่น ดูท่าว่า
เขาคงจะหลงผูห้ ญิงคนนั้นมากทีเดียว พอมาครั้งนี้ก็ยงั อยากจะเอาใจถึงกับขอซื้อร้านชิงหลัวให้เป็ นของขวัญอีกด้วยขอรับ”
“บัดซบที่สุด!” ฮูหยินห้าสบถด้วยความโมโห
เมื่อเห็นฮูหยินห้าไม่พอใจอย่างมาก กุย้ หนิงจึงออกอาการกลัวจนหัวหด เอ่ยต่ออย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ฮูหยินขอรับ คุณหนูสี่ก็ใกล้จะแต่งงานแล้ว ถ้าเช่นนั้นเรื่ องนี้...”
ทว่าเขายังไม่ทนั พูดจบก็โดนถลึงตาใส่ “เหยียบเรื่ องนี้ไว้ให้มิด ห้ามแพร่ งพรายออกไปเด็ดขาด หากข้ารู ้วา่ มีใครพูด ข้าไม่เอา
มันไว้แน่”
พ่อบ้านที่กาลังกลัวจนตัวสัน่ พยักหน้าซ้ าๆ รี บตอบรับคา “ขอรับๆ บ่าวรู ้แล้ว บ่าวจะไม่ให้คุณหนูหยุนซิ่วรู ้เรื่ องนี้เด็ดขาด
เพียงแต่...จะต้องบอกฮูหยินผูเ้ ฒ่าหรื อไม่ขอรับ?”
ซางซู่เอ๋ อกลอกตาใส่ “จะรายงานทาไม? สี หยุนซิ่วกาลังจะแต่งงานอยูแ่ ล้วแต่วา่ ที่เจ้าบ่าวกลับไปเอาใจนางคณิ กานัน่ ต่อให้
บอกไปแล้วฮูหยินผูเ้ ฒ่าจะรับได้รึ!”
เรื่ องกลายเป็ นเช่นนี้ได้อย่างไร?
การจะไปสื บหาความจริ งถึงจวนเจ้าเมืองก็ใช่วา่ จะทาได้ง่ายๆ หากไปถามตรงๆ ก็อาจจะเกิดความบาดหมางระหว่างสอง
ตระกูลว่าเพียงแค่ข่าวลือที่ลอยมาตามลม ก็ทาให้ตระกูลสี ถึงกับตีโพยตีพายเสี ยแล้ว แต่หากนิ่งเฉยปล่อยให้เป็ นเช่นนี้ต่อ
ภายภาคหน้าหยุนซิ่วจะมีสิทธิ์พดู อะไรได้อีก สุดท้ายแล้วหากนางต้องอยูท่ ี่จวนเจ้าเมืองโดยไร้อานาจ ตระกูลสี ก็คงไม่พน้
ต้องอับอายขายหน้า ถ้าถึงขั้นนั้นจริ งๆ คนในตระกูลคงต้องเอาผ้าคลุมหน้าออกจากบ้านเป็ นแน่
เมื่อคิดทบทวนอยูค่ รู่ ใหญ่ ฮูหยินห้าจึงเอ่ยปากกับกุย้ หนิงว่า “เจ้าบอกว่าคุณชายหลูจะซื้อร้านนั้นด้วยราคาเท่าไรนะ?”
พ่อบ้านกุย้ นึกทบทวน ก่อนจะยกนิ้วแล้วตอบว่า “สองพันตาลึงขอรับ”
ซางซู่เอ๋ อตบโต๊ะ พูดด้วยความโมโห “ถ้าอย่างนั้นข้าให้สามพันตาลึง แล้ให้ป่าวประกาศว่าตระกูลสี ซ้ือร้านนั้นเป็ นของขวัญ
แต่งงานให้คุณหนูสี่”
กุย้ หนิงไม่เข้าใจ ถามนายหญิงว่า “ท่านจะซื้อร้านเก่าๆ นัน่ ในราคาสามพันตาลึงเลยหรื อขอรับ? ขอเวลาบ่าวสักสองสามวัน
บ่าวจะทาให้ท่านได้ร้านนั้นโดยไม่ตอ้ งจ่ายเงินแม้แต่อีแปะเดียว”
“ไม่!” นางตอบกลับด้วยแววตาเคร่ งขรึ ม พูดด้วยเสี ยงเย็นชา “ต้องซื้อในราคาสามพันตาลึงเท่านั้น ข้าอยากป่ าวประกาศให้
ทุกคนรู ้วา่ ข้าซื้อร้านหลังนี้ในราคาสามพันตาลึง เพื่อเป็ นของขวัญแต่งงานให้คุณหนูสี่”
ประการแรกก็เพื่อประกาศความร่ ารวยให้คนตระกูลหลูได้รู้ และไม่กล้าดูถูกคนตระกูลสี อีก
ประการที่สอง จะได้เป็ นการตอกหน้าคุณชายมักมาก ให้รู้วา่ ของขวัญที่เขาอยากซื้อให้หญิงคณิ กากลายมาเป็ นของขวัญ
แต่งงานของว่าที่เจ้าสาวของตน
ข้าอยากรู ้เหมือนกันว่าเขาจะทาอย่างไรเมื่อต้องอยูต่ ่อหน้าภรรยาและชูร้ ัก!
.
เย็นวันนั้น
หลังจากที่สีหยุนจือนวดขาให้สามี หญิงสาวก็ประคองเขามาเดินเล่นภายในบริ เวณบ้าน มือนางประคองอยูท่ ี่เอวของเขา
ส่วนชายหนุ่มก็โอบแขนอยูก่ บั ไหล่ของนางทาให้ร่างของทั้งสองแนบชิดกัน
ตอนนี้ปู้ถานกาลังพยายามเดินโดยไม่ใช้ไม้ค้ ายันโดยมีสีหยุนจือคอยประกบข้างกาย
นางเล่าเรื่ องที่เกิดขึ้นที่ร้านเมื่อกลางวันให้เขาฟัง ปู้ถานฟังอย่างตั้งใจแต่ก็ไม่ได้พดู อะไรมาก ทาเพียงเสนอความคิดเห็นบ้าง
ในบางครั้ง
เนื่องจากบริ เวณบ้านไม่ได้กว้างมากนัก สองสามีภรรยาเดินพูดคุยกันไม่นานก็ครบรอบแล้วจึงเดินกลับไปที่หอ้ ง
เมื่อเข้ามาในห้องนอน สี หยุนจือตักน้ ามาให้สามีลา้ งหน้า จากนั้นก็พยุงเขาไปพักผ่อนบนเตียง หลังจัดท่าทางให้เขาได้นอน
สบายแล้วนางก็นงั่ ลงเย็บผ้าที่ขา้ งเตียง
ชายหนุ่มอ่านหนังสื อไปได้ไม่กี่หน้าก็หนั มามองภรรยา เขาไม่เคยจินตนาการถึงชีวติ ที่สงบสุขเช่นนี้มาก่อนจึงอดที่จะยิม้
ออกมาไม่ได้ เป็ นจังหวะเดียวกันกับที่สีหยุนจือเงยหน้ามาเจอสามีกาลังยิม้ อย่างมีความสุข นางจึงยิม้ ออกมาแล้วถามเขาว่า
“ใต้เท้า เมื่อก่อนท่านเป็ นอย่างไรหรื อเจ้าคะ?”
“...”
ปู้ถานนิ่งคิดถึงเรื่ องราวที่ผา่ นมา พอเห็นสองตากลมโตที่กาลังจับจ้องด้วยอาการตื่นเต้นและรอคอยคาตอบอย่างใจจดใจจ่อ
เขาก็เริ่ มเล่า
“ตอนข้าเป็ นเด็กได้เรี ยนหนังสื อและฝึ กวรยุทธกับผูอ้ าววุโสในตระกูล พอโตเป็ นหนุ่มก็ใช้ชีวติ อยูท่ ่ามกลางสงครามทั้ง
ยากลาบากและแร้นแค้น เมื่อเป็ นผูใ้ หญ่ก็ได้เข้ามาคุมกองทัพ ผ่านความเป็ นความตายมาหลายสนามรบจนได้รับรางวัล
เกียรติยศนับไม่ถว้ น...”
หญิงสาวฟังเขาเล่าเรื่ องที่ผา่ นมาก็คิดภาพตาม คนที่เคยมีชีวติ สูงส่งอยูเ่ หนือคนทั้งกองทัพ ในวันนี้กลับตกต่าถึงเพียงนี้ และ
บังเอิญมาตกลงตรงหน้านางพอดี
เรื่ องของพรหมลิขิตช่างยากจะหาเหตุผลมาอธิบาย ขณะที่หญิงสาวกาลังใจลอยอยูน่ ้ นั เขาก็ถามกลับบ้าง
“เจ้าล่ะ? เล่าเรื่ องตอนที่ยงั เป็ นเด็กให้ขา้ ฟังบ้างสิ ”
จู่ๆ สี หยุนจือที่กาลังถือเข็มอยูก่ ็สะดุง้ เล็กน้อย นางรู ้สึกเจ็บที่นิ้ว เมื่อก้มมองก็เห็นเลือดเม็ดโตผุดออกมา หญิงสาวนิ่งเงียบไป
เหม่อมองหยดเลือดนิ่งอยูอ่ ย่างนั้น พอปู้ถานเห็นเข้าก็รีบวางหนังสื อ ดึงนิ้วที่ถูกเข็มตาขึ้นมาดูดโดยไม่ลงั เล
สัมผัสอุน้ ร้อนของเขาดึงสติของนางกลับมา พอรู ้ตวั อีกทีก็อายจนหน้าแดง นางอยากจะดึงมือออกแต่กลับถูกเขาจับไว้แน่น
เมื่อเห็นอีกฝ่ ายมองมาด้วยสี หน้าจริ งจัง นางก็เริ่ มเล่าช้าๆ
“ท่านแม่ของข้าตายอย่างเป็ นปริ ศนาตั้งแต่ขา้ ยังเด็ก ก่อนหน้านั้นข้ามีท้ งั บิดาและมารดาอยูข่ า้ งกาย แล้วยังมีนอ้ งชายอีกหนึ่ง
คนชื่อ ‘หยุนหราน’ พวกเรามีชีวติ ในวัยเด็กที่แสนจะสุขสบาย แต่หลังจากที่ท่านแม่เสี ยชีวติ ท่านพ่อก็ติดเหล้าและไม่ยอม
กลับบ้าน จากนั้น...ข้าก็จาต้องใช้ชีวติ เพียงลาพังจนถึงตอนนี้”
ปู้ถานนิ่งฟังที่นางเล่าเงียบๆ ความทรงจาเหล่านั้นคงไปสะกิดแผลในใจหญิงสาว สี หยุนจือตาแดงระเรื่ อ ก้มหน้าราวกับทา
อะไรผิด เขาเห็นท่าทางของนางก็สงสารจับใจจึงก้มตัวลงไปจุมพิตเพื่อปลอบประโลม
บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด ทาให้เสี ยงที่ต่างฝ่ ายต่างสัมผัสกันดูดดื่มดังชัดเจนขึ้น ปู้ถานชี้ไปที่มวยผมของหญิงสาวเป็ นเชิง
บอกให้นางปลดมวยผมออก
เส้นผมราวไหมสี ดาขลับแผ่สยายลงบนบ่า เพิ่มความมีชีวติ ชีวาให้สตรี ตรงหน้า ทั้งยังเชิญชวนให้ลมุ่ หลง ชายหนุ่มบรรจงจูบ
นางอย่างทะนุถนอม ปลายลิ้นซอกซอนสัมผัสความหวานอย่างซุกซนจนร่ างหญิงสาวสัน่ เทาไร้เรี่ ยวแรง เขาอ้าแขนโอบนาง
ไว้ในอ้อมกอดอย่างแนบแน่น
สี หยุนจือพยายามผลักเขาออกเล็กน้อย ถามอย่างกังวล “ใต้เท้า แผลของท่าน...”
ชายหนุ่มพูดด้วยเสี ยงทุม้ ต่าแกมแหบพร่ า “ช่างเถอะ...ข้าไม่เป็ นไรหรอก”
“...”
นางยังไม่ได้พดู อะไรอีก ร่ างแข็งแกร่ งก็ทาบทับลงบนตัว เขาจู่โจมอย่างรวดเร็ วจนนางไม่ทนั ได้ต้ งั รับ หญิงสาวกลัวว่าอีก
ฝ่ ายจะเจ็บแผลจึงปล่อยให้เขาทาตามใจพร้อมกับตอบสนองอย่างเร่ าร้อน จนกระทัง่ ชายหนุ่มได้ปลดปล่อยความปรารถนา
ของบุรุษเพศ เขาก็หอบหายใจอย่างหนักบนตัวหญิงสาว
สี หยุนจือเองก็แทบจะหายใจไม่ทนั นางไล่ปลายนิ้วเบาๆ ไปบนแผ่นหลังกายา เมื่อรู ้สึกว่าร่ างที่เร่ าร้อนบนตัวแข็งเกร็ งขึ้น
นางก็รีบหุบขาทั้งสองข้าง คิดจะลงจากเตียงไปชาระล้าง แต่เมื่อพลิกตัวก็ถูกดึงกลับมาอยูใ่ ต้ร่างชายหนุ่มอีกครั้ง เขาจับให้
นางนอนคว่าหน้าและเริ่ มขยับเขยื้อนกายแกร่ งซ้ าแล้วซ้ าเล่า ผ่านไปครู่ ใหญ่กว่าอีกฝ่ ายจะยอมปล่อยให้นางได้พกั ผ่อน
--------------------------------------------------------
เป็ นเมียแม่ ทพั ... ไม่ ง่าย!
ตอนที่ 24 สั ญญาซื้อขาย
เช้ าวันต่ อมา
สี หยุนจือตื่นมาพร้อมอาการปวดเมื่อยไปทั้งตัวจึงเข้าไปที่ร้านสายกว่าทุกวัน
วันนี้นางตั้งใจยืมตัวจ้าวอี้และหานเฟิ งไปที่ร้านด้วย เพราะช่วงนี้มกั จะมีเรื่ องยุง่ ๆ เข้าหาให้ตอ้ งจัดการได้ทุกวัน นางจึงมีลาง
สังหรณ์วา่ วันนี้ก็คงจะมีเข้ามาอีกแน่ๆ
เมื่อนางและองครักษ์ท้ งั สองของสามีมาถึงปากซอย จางถิงที่นงั่ รออยูห่ น้าร้านมองมาเห็นนางก็รีบวิง่ มาหาอย่างรวดเร็ ว ก่อน
จะเอ่ยทักแล้วบอกอย่างร้อนรน
“โอ้โห! มาจนได้นะแม่นาง เกิดเรื่ องใหญ่แล้ว...เกิดเรื่ องใหญ่แล้ว!”
หญิงสาวถูกจางถิงดึงแขนกึ่งวิง่ กึ่งเดินเข้าไปในร้าน เมื่อเห็นผูค้ นที่แออัดอยูด่ า้ นใน จ้าวอี้และหานเฟิ งก็ถึงกับตกใจจนทา
อะไรไม่ถูก สี หยุนจือเองก็แปลกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า แต่ยงั คงมีสีหน้าเรี ยบเฉย
พ่อบ้านกุย้ นัง่ รอด้วยสี หน้าฉายชัดว่าไม่พอใจ เมื่อเห็นสี หยุนจือเดินเข้ามา เขาก็หมดความอดทน ผุดลุกขึ้นยืน จ้องไปที่นาง
แล้วพูดว่า
“เป็ นเจ้าของแท้ๆ แต่กลับมาถึงร้านสายเอาป่ านนี้”
สี หยุนจือไม่ได้สนใจอีกฝ่ าย เดินเลยเขาไปหลังโต๊ะบัญชีราวกับมองไม่เห็น
“ฮึ!”
แต่ก่อนในสายตาของกุย้ หนิง นางก็เป็ นแค่หญิงอ่อนแอคนหนึ่งที่พอเจอหน้าใครก็เอาแต่ยมิ้ เพราะกลัวว่าตนจะโดนหาเรื่ อง
และถูกรังแก แต่สีหยุนจือในวันนี้กลับให้ความรู ้สึกที่ต่างออกไป
เขาจ้องมองนางอย่างพิจารณาพลางเดินไปหยุดหน้าโต๊ะบัญชี สี หยุนจือจึงเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยทักราวกับเพิ่งจะเห็น
“พ่อบ้านกุย้ พักนี้ดูท่านขยันมาที่นี่เหลือเกิน”
กุย้ หนิงค้อมตัวน้อยๆ แล้วเอ่ยว่า “ทาไมรึ หรื อคุณหนูใหญ่ไม่อยากให้ขา้ มาที่ร้านนี้?”
สี หยุนจือเห็นเขาพูดจายียวนก็ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด นางสูดลมหายใจลึก นัง่ กุมมือบนโต๊ะบัญชี แล้วพูดด้วยน้ าเสี ยงจริ งจัง
“ไม่วา่ ข้าจะยินดีให้ท่านมาที่นี่หรื อว่าไม่ยนิ ดีก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะข้าขายร้านนี้ให้คนอื่นไปแล้ว”
กุย้ หนิงได้ยนิ นางพูดเช่นนั้นก็ยมิ้ ออก แสร้งถามว่า “ขายให้ใครรึ ? คุณชายตระกูลหลูใช่หรื อไม่?”
สี หยุนจือหน้าเปลี่ยนสี กุย้ หนิงเห็นอย่างนั้นยิง่ ได้ใจกล่าวต่อว่า “คุณหนูใหญ่ไม่น่าตัดสิ นใจเช่นนั้นเลยขอรับ หากมีเรื่ องดีๆ
ทาไมไม่นึกถึงคนในตระกูลก่อนล่ะขอรับ?”
เขาพูดพลางล้วงเข้าไปในแขนเสื้ อแล้วหยิบตัว๋ แลกเงินออกมาสะบัดแล้วบอกว่า
“ไม่วา่ ท่านจะขายให้ใครก็ตอ้ งเอากลับมาให้ได้ ฮูหยินห้าสัง่ ไว้วา่ ...คุณหนูใหญ่อตุ ส่าห์เปิ ดกิจการทั้งที นางก็ควรจะ
สนับสนุน จริ งไหมขอรับ?”
สี หยุนจือมองตัว๋ แลกเงินในมือเขา แสร้งถามกลับ “พ่อบ้านกุย้ พูดอย่างนี้...ท่านรู ้หรื อไม่วา่ คุณชายให้ราคาเท่าไร?”
กุย้ หนิงสบถในลาคอ “สองพันตาลึงไม่ใช่รึ? นี่เป็ นตัว๋ แลกเงินทั้งหมดสามพันตาลึง เห็นอย่างนี้แล้วท่านจะขายหรื อไม่?”
สี หยุนจือมองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ กุย้ หนิงวางตัว๋ แลกเงินลงบนโต๊ะบัญชี ตัว๋ ใบละห้าร้อยตาลึง ทั้งหมดหกใบทาเอานาง
ใจเต้นคับอก แต่ยงั คงมีสีหน้าปกติไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา จากนั้นก็ยนื่ มือไปรับตัว๋ แลกเงินทั้งหมดแล้วสัง่ การอย่าง
รวดเร็ ว
“จางถิง เอาพูก่ นั กับหมึกมาให้ขา้ หน่อย ข้าจะให้พอ่ บ้านกุย้ ประทับตราในโฉนด”
สี หยุนจือเขียนสัญญาอย่างคล่องแคล่วราวกับซ้อมมาอย่างดี
ด้านบนเขียนที่อยูข่ องร้าน ชื่อเจ้าของร้าน ชื่อผูซ้ ้ือ และราคาซื้อขาย นางเขียนลงไปบนสัญญาทั้งหมด ท้ายสัญญายังมีประทับ
ลายนิ้วมือของทั้งสองไว้อีกด้วย
นางเรี ยกจ้าวอี้มารับโฉนดส่งให้กยุ้ หนิงดู อีกฝ่ ายอ่านเพียงผ่านๆ ก่อนจะประทับลายนิ้วมือลงบนสัญญา การซื้อขายก็เป็ นอัน
เสร็ จสมบูรณ์
สี หยุนจือเก็บเงินสามพันตาลึงใส่ไว้ในสาบเสื้ อ เตรี ยมจะส่งมอบโฉนดร้านให้กบั กุย้ หนิง แต่ก่อนจะยืน่ ให้นางพูดกับเขา
ด้วยน้ าเสี ยงอ่อนน้อมว่า
“อาหารที่ข้ ึนชื่อของร้านนี้กค็ ือไก่ยา่ ง ข้าจะให้พอ่ ครัวบอกสูตรไก่ยา่ งให้กบั ท่านแล้วกัน”
กุย้ หนิงส่งโฉนดร้านให้กบั ผูช้ ่วยที่ยนื อยูด่ า้ นหลัง พลางลุกขึ้นเดินสารวจร้านรอบหนึ่ง
สี หยุนจือรู ้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงส่งสายตาเป็ นสัญญาณให้จา้ วอี้และหานเฟิ งเตรี ยมการป้ องกันไว้
กุย้ หนิงพูดด้วยความพอใจว่า “ในเมื่อซื้อขายกันเสร็จแล้ว ข้าก็ขอตัวกลับก่อน”
สี หยุนจือถอยหลังหนึ่งก้าว ผายมือให้กยุ้ หนิงและพูดด้วยเสี ยงนุ่มนวล “ขอให้พอ่ บ้านกุย้ เดินทางโดยสวัสดิภาพ วันนี้ขา้ จะ
เก็บของให้เรี ยบร้อย พรุ่ งนี้จะย้ายของที่จาเป็ นออกทั้งหมด”
กุย้ หนิงเดินเนิบนาบเข้ามาหยุดตรงหน้าสี หยุนจือ องครักษ์ท้ งั สองกลัวว่าเขาจะมีเจตนาไม่ดีจึงขยับมาขวางหน้าไม่ให้เขาเข้า
ใกล้นายหญิง แต่สีหยุนจือส่งสัญญาณมือให้ท้ งั สองเป็ นเชิงบอกให้รอก่อน
ทางฝ่ ายกุย้ หนิงจึงพูดขึ้นว่า “ไม่ตอ้ งเก็บของหรอก ของทุกอย่างในร้านนี้ก็วางไว้ที่เดิม ตอนบ่ายข้าจะเลือกพ่อครัวจากตึกซิ่
งเซียงมาอยูท่ ี่นี่หนึ่งคน ก็แค่ยา่ งไก่ไม่ใช่รึ? ข้าไม่เคยรู ้มาก่อน...ว่าขายแค่ไก่ยา่ งจะมีรายได้เป็ นร้อยๆ ตาลึงต่อวัน คุณหนู
ใหญ่ยอมขายร้านในราคาสามพันตาลึง ต่อไปอาจจะเสี ยดายเอานะขอรับ”
สี หยุนจือยิม้ อย่างเย็นชา “พ่อบ้านกุย้ รู ้รายได้ของร้านข้าได้อย่างไร?”
กุย้ หนิงยิม้ อย่างมีเลศนัย ส่ายหัวและพูดด้วยความลาพองใจ “เอาเถอะ ข้ามีวธิ ีของข้าก็แล้วกัน ว่าแต่คุณหนูใหญ่...จ่ายมาเถอะ
ขอรับ!” พูดเสร็ จ กุย้ หนิงก็ยนื่ มือข้างหนึ่งมาหาสี หยุนจือ
นางไม่เข้าใจความหมายที่กยุ้ หนิงพูดจึงถามว่า “พ่อบ้านกุย้ หมายความว่าอย่างไร?”
กุย้ หนิงกระแอม แสดงท่าทางเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างไม่ปิดบังอีกต่อไป
“ไม่เข้าใจหรื อขอรับ? ดี ถ้าอย่างนั้นข้าจะอธิบายให้ฟัง คุณหนูใหญ่คงไม่คิดว่าท่านจะได้เงินก้อนนี้จริ งๆ ใช่หรื อไม่? เงิน
ตั้งสามพันตาลึง มากพอให้ครอบครัวชาวบ้านอยูก่ ินอย่างสุขสบายไปทั้งชีวติ ท่านคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์อะไรถึงจะได้เงินก้อน
นี้?”
สี หยุนจือมองเขาด้วยสี หน้าจริ งจัง ตอบกลับไปว่า “ก็สิทธิ์ของสัญญาฉบับนั้นไง?”
กุย้ หนิงหัวเราะเสี ยงดัง “สัญญาฉบับไหนรึ ? ฮ่าๆๆๆ สัญญาข้าเขียนแล้วและจ่ายเงินแล้ว แต่ท่านดูแลไม่ดีก็เลยถูกพวกสาร
เลวขโมยไป เช่นนี้แล้วจะกล่าวโทษใครได้?”
พูดจบกุย้ หนิงก็โบกมือ ชายร่ างกายาสิ บกว่าคนพุง่ มาด้านหน้าทันที แต่ละคนกาหมัดแน่น เตรี ยมพร้อมจะจู่โจมมาที่สีหยุ
นจือ
หญิงสาวตกใจจนใบหน้าซีดเผือด คิดว่าคนเหล่านั้นต้องพุง่ มาที่ตวั นางแน่ๆ จึงหลับตาเตรี ยมรับชะตากรรม
นางหลับตายืนนิ่งอยูค่ รู่ หนึ่งแต่กย็ งั ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจึงทาใจกล้าหรี่ ตามอง เห็นหานเฟิ งและจ้าวอี้กาลังสวนหมัดโต้กลับ
ชายร่ างกายาพวกนั้นอย่างรวดเร็ วและคล่องแคล่ว จนบรรดาลิ่วล้อสิ บกว่าคนที่กาลังจะรุ มทาร้ายนางต้องเลือดตกยางออก
พ่ายแพ้อย่างราบคาบ
กุย้ หนิงถูกหมัดซัดใส่หน้าจนต้องเอามือกุมหน้าร้องอย่างเจ็บปวด พลางชี้ไปที่หานเฟิ งและจ้าวอี้ดว้ ยมือสัน่ เทา ขู่อย่างกล้าๆ
กลัวๆ
“พวกแก...พวกแกเป็ นใคร กล้าดียงั ไงมายุง่ เรื่ องของคนอื่น ข้าจะสัง่ คนมาสับพวกแกให้เป็ นชิ้นๆ เลยคอยดู!”
หานเฟิ งสบถออกมา “เฮอะ ใครใช้ให้สวะพวกนี้มาทาร้ายฮูหยินของพวกข้าก่อน ยังจะมีหน้ามาถามอีกว่าข้าเป็ นใคร? จะสับ
ข้าเป็ นชิ้นๆ งั้นรึ ? ถ้าแน่จริ งก็เข้ามา ข้าก็รออยูเ่ หมือนกัน!”
จ้าวอี้อดรนทนไม่ไหว กาหมัดแน่น “มัวรออะไรอยู่ ถ้าไม่เข้ามาก็ดูขา้ สับพวกเจ้าก่อนแล้วกัน!”
พูดจบก็พงุ่ ตัวไปข้างหน้า เหล่าลิ่วล้อและกุย้ หนิงต่างพากันหนีเตลิดเปิ ดเปิ ง วิง่ ไปก็พลางด่าไปพลาง และบอกว่าจะกลับมา
แก้แค้นให้ได้
สี หยุนจือวิง่ ตามออกไปแล้วตะโกนตามหลัง “พ่อบ้านกุย้ ตกลงตามนี้ พรุ่ งนี้พวกข้าจะย้ายออก”
กุย้ หนิงไม่แม้แต่จะหันกลับมาฟัง เขาวิง่ หนีอย่างไม่คิดชีวติ ได้ยนิ ที่นางพูดหรื อไม่ก็ไม่รู้ หญิงสาวหันกลับมาพร้อมรอยยิม้
เห็นหานเฟิ งและจ้าวอี้กาลังมองนางด้วยสายตาเหลือเชื่อ
จ้าวอี้เป็ นฝ่ ายพูดขึ้นก่อนว่า “ฮูหยิน ท่านบอกขายร้านนี้ต้ งั แต่เมื่อไรกัน แล้วยังขายตั้ง...สามพันตาลึง เหลือเชื่อจริ งๆ”
สี หยุนจือเพียงแต่ยมิ้ โดยไม่ได้ตอบอะไร นางหยิบตัว๋ แลกเงินออกมาจากสาบเสื้ อ เดินเข้ามาในร้าน แล้วตะโกนว่า “จางถิง
พวกนั้นไปหมดแล้ว เจ้าออกมาเถอะ”
เรื่ องความขี้ขลาดของเขา นางเองก็พอจะรู ้อยูบ่ า้ ง ดังนั้นหากเกิดเรื่ องอะไรขึ้นคงสัง่ ให้เขาพุง่ เข้าไปเผชิญหน้าไม่ได้เด็ดขาด
เพราะสิ่ งแรกที่เขาจะทาคือวิง่ หาที่หลบราวกับหนูตวั หนึ่ง
.
เมื่อสีหยุนจือส่ งเสียงเรียก จางถิงก็เดินออกมาจากห้ องครัว
เขามีเหงื่อผุดพราวเต็มใบหน้าราวกับทางานหนักจนเหน็ดเหนื่อย และถูกเสี ยงเรี ยกรบกวนทาให้ไม่สบอารมณ์
“เจ้าทาอะไร? ไหนบอกจะไม่ขายร้านไม่ใช่รึ? เพิ่งพูดกันไม่กี่วนั นี้เอง เจ้าจะมากลับคาได้อย่างไร?”
เขาย่อมไม่เห็นด้วยอยูแ่ ล้ว ในเมื่อนางบอกเองว่าหากร้านนี้ยงั เปิ ดอยูเ่ ขาจะมีรายได้จากกาไรของร้านในแต่ละวัน แต่หากร้าน
ถูกปิ ดไป เขาก็ตอ้ งกลับไปตกงานอีกครั้ง!
สี หยุนจือส่งยิม้ ให้ พลางยืน่ ตัว๋ แลกเงินให้ใบหนึ่งแล้วบอกว่า
“นี่คือเงินห้าร้อยตาลึง ถือเป็ นค่าชดเชยให้เจ้าแล้วกัน พอหรื อไม่?”
จางถิงดีใจจนเนื้อเต้น พยักหน้าซ้ าแล้วซ้ าเล่า “พอๆๆ ยิง่ กว่าพอเสี ยอีก เถ้าแก่เนี้ยช่างมีเมตตาเหลือเกิน ข้าจางถิงมองคนไม่
ผิดจริ งๆ ฮ่าๆๆๆ”
“...”
เขากล่าวสรรเสริ ญเยินยอไม่หยุดปาก ทาเอาสี หยุนจือทาตัวไม่ถูก หากจางถิงไม่ไปเป็ นนักเล่านิทานก็น่าเสี ยดายพรสวรรค์
ด้านการพูดที่หาตัวจับยากของเขาจริ งๆ
----------------------------------------------------------
เป็ นเมียแม่ ทพั ... ไม่ ง่าย!
ตอนที่ 25 แมวขีเ้ ซา
หญิงสาวไม่ ได้ สนใจคาขอบคุณฟ้าดินและบรรพบุรุษของจางถิงอีก
นางเพียงเดินเข้าไปในครัว เพราะในเมื่อเงินก็ได้มาแล้ว สัญญาซื้อขายก็ประทับตราเรี ยบร้อย นางจะมัวโอ้เอ้อยูท่ ี่นี่นานไม่ได้
พอมองดูขา้ วของเครื่ องใช้ในห้องครัวก็ไม่มีอะไรน่าเก็บกลับไป หัวน้ าแกงที่เถ้าแก่หลิวทิง้ ไว้ นางก็เอาไปทาน้ าแกงต้มแกะ
ให้อาจารย์เหยียนจนเหลือเพียงครึ่ งเดียว นางจึงไม่คิดจะนากลับไป แต่ต้ งั ใจมอบให้จางถิงเก็บไว้กินหรื อไม่ก็นาไปใช้หาก
จะเปิ ดร้านเป็ นของตัวเอง
จางถิงยิง่ ซึ้งใจจนแทบกลั้นน้ าตาไว้ไม่อยู่ คุกเข่ากอดขานางไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
สองเดือนกว่าที่เปิ ดร้าน นางทุ่มเทแรงกายแรงใจไปไม่นอ้ ย เมื่อถึงเวลาต้องจากไปจริ งๆ ก็อดใจหายไม่ได้ จ้าวอี้ปืนขึ้นไป
ถอดป้ ายร้านลงมา
“ฮูหยินขอรับ ตระกูลสี คงไม่อยากได้ป้ายนี้แน่ๆ พวกเราเอาป้ ายนี้กลับบ้านไปด้วย เก็บไว้เป็ นที่ระลึกก็ดีเหมือนกันนะขอรับ”
สี หยุนจือยิม้ ให้เขา ทั้งสามมุ่งหน้ากลับบ้านโดยมีป้ายร้านติดมือไปด้วย
.
ระหว่ างกินข้ าวมื้อเย็น
สี หยุนจือเล่าเรื่ องที่นางขายร้านให้ทุกคนฟัง ลุงเยีย่ นนับถือและชื่นชมในไหวพริ บของนาง ส่วนท่านปู่ ก็เอ่ยชมไม่ขาดปาก
เมื่อกินข้าวเสร็ จ สี หยุนจือก็ประคองสามีไปหาท่านปู่ ที่หอ้ ง
ท่านปู่ กาลังเล่นหมากรุ กกับลุงเยีย่ น เมื่อเห็นทั้งสองเดินเข้ามา ลุงเยีย่ นก็ลุกขึ้นแล้วเชิญให้ปู้ถานนัง่
“เชิญคุณชายเถิดขอรับ นายท่านบอกให้ขา้ เล่นหมากล้อมด้วย แต่ฝีมือข้าด้อยนักเทียบกันไม่ได้จริ งๆ”
สี หยุนจือและลุงเยีย่ นช่วยกันประคองปู้ถานนัง่ ลงตรงข้ามท่านปู่ ชายหนุ่มส่งไม้ค้ ายันให้สีหยุนจือพิงไว้ดา้ นข้างแล้วหยิบ
หมากสี ดาขึ้นมาหนึ่งตัว ท่านปู่ แสร้งทาสี หน้าไม่รู้ไม่ช้ ี หรี่ ตามองแล้วถามหลานชาย
“ดีข้ ึนบ้างหรื อยังล่ะ?”
ปู้ถานวางหมากลงบนกระดานที่มีหมากสี ขาวสี ดาวางอยูป่ ระปราย ตอบเสี ยงเรี ยบเฉย
“ใกล้แล้วขอรับ”
ปู้เฉิ งจงครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ก่อนจะวางหมากลงบนมุมหนึ่งของกระดาน แล้วพูดอย่างสบายอารมณ์
“ข้าหมายถึงเรื่ องในใจเจ้าต่างหากเล่า”
ปู้ถานเหลือบมองหมากของท่านปู่ เวลานั้นเองสีหยุนจือนาน้ าชาเข้ามาในห้องพอดี นางกาลังจะส่งถ้วยน้ าชาให้ท่านปู่ กลับ
ถูกปู้ถานรั้งเอาไว้แล้วรับถ้วยมาจากมือนาง ส่งไปตรงหน้าชายชรา แล้วจึงชี้ไปที่เก้าอี้วา่ งข้างๆ ให้นางนัง่ ลง
สี หยุนจือนัง่ ลงแล้วก้มหน้างุดเพราะรู ้สึกกระดากอาย นางบอกกับเขาว่าอยากปรนนิบตั ิท่านปู่ ก่อนแต่กลับถูกปู้ถานกดตัวไว้
ไม่ให้ลุกขึ้น
ปู้เฉิ งจงเห็นอย่างนั้นก็นึกขา ตั้งใจพูดหยอกหลายชายว่า “ตอนนั้นข้าก็บอกว่าแล้วว่าหยุนจือเป็ นคนดี จนมาวันนี้นางก็เป็ น
ดังคาที่ขา้ ว่าจริ งๆ เจ้าหลานคนนี้...ต่อให้อยากจะหนีก็หนีไม่พน้ หรอก ทีแรกไม่รู้จะดื้ออะไรนักหนา?”
เมื่อเห็นหลานชายยังนิ่งไม่ยอมพูดอะไร ชายชราก็แสร้งเมินหน้า หันไปอมยิม้ พลางขยิบตาให้สีหยุนจือ
“จริ งหรื อไม่ หลานสะใภ้”
สี หยุนจือยิม้ อย่างเขินอาย หันไปมองคนที่แกล้งทาเป็ นไม่รู้ไม่ช้ ีอย่างปู้ถาน แล้วพยักหน้าน้อยๆ แทนคาตอบ
“ถ้าเป็ นข้า ข้าจะจดจ่อกับหมากกระดานนี้วา่ จะเดินหมากต่อไปอย่างไร แม่ทพั ของข้ากาลังจะตีเมืองท่านแตกอยูแ่ ล้ว แต่ท่าน
กลับเอาแต่หลงสตรี บ้านเมืองก็วอดวายหมดสิ ขอรับท่านปู่ ”
หลานชายพูดกับคนเป็ นปู่ ด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย
ใครจะคิดว่า ท่านปู่ กลับเหลือบตามองเพียงครู่ เดียวก็วางหมากตัวหนึ่งบนกระดาน จัดการล้อมหมากของปู้ถานได้สาเร็จ
“ปากดีอย่างนี้ ดูท่าอาการจะหนักล่ะสิ แค่กลหมากลวงตาของเจ้าจะมาสูฝ้ ี มือตาแก่อย่างข้าได้อย่างไร? ข้าวางหมากรับมือ
แม่ทพั ฝ่ ายเจ้าไว้แล้ว ดูสิวา่ เจ้าจะทาอย่างไรต่อ”
ชายชราไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ขิงแก่ยอ่ มมีรสร้อนแรงกว่า ทั้งสองสลับกันวางหมาก ไม่นานปู้ถานก็เริ่ มจู่โจมอีกครั้ง
“หากฝ่ ายตรงข้ามรับมือได้ ข้าก็เปลี่ยนกลยุทธ จะไปยากอะไร?”
“...”
บุรุษต่างวัยจดจ่ออยูก่ บั หมากสี ขาวสี ดาบนกระดาน ต่างคนต่างก็หากลยุทธมาประชันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ถึงสี หยุนจือ
จะเล่นหมากล้อมไม่เป็ น แต่ก็ยงั ดูกลยุทธการวางหมากบนกระดานด้วยความสนใจ
ปู้เฉิ งจงไม่ได้เล่นหมากล้อมสนุกอย่างนี้มานานแล้วจึงไม่ยอมให้หลานชายกลับสักที จนกระทัง่ สี หยุนจือแอบปิ ดปากหาว ปู้
ถานจึงรี บจบหมากกระดานสุดท้าย ไม่สนใจท่านปู่ ที่พยายามรั้งเขาไว้ และพาภรรยากลับห้องไป
เมื่อทั้งสองกลับไปแล้ว ปู้เฉิ งจงก็แอบบ่นอย่างน้อยใจ
“ตอนแรกก็บอกไม่อยากแต่งงาน ทีตอนนี้หลงเมียอย่างกับอะไรดี โชคดีที่หลานสะใภ้ขา้ เป็ นคนดี”
ลุงเยีย่ นที่กาลังเตรี ยมที่นอนให้ พอได้ยนิ ที่นายท่านบ่นจึงพูดว่า
“โชคดีที่ฮูหยินเป็ นคนดีนะขอรับ ไม่อย่างนั้นคนมีไหวพริ บปฏิภาณขนาดนี้คงน่ากลัวไม่นอ้ ย”
ปู้เฉิ งจงไม่ได้ถือสา เขาแสร้งโมโหและพูดปกป้ องนางว่า
“น่ากลัวอะไรกัน? ที่ผา่ นมาฮูหยินของตระกูลปู้แต่ละคนก็ไม่เห็นมีใครเก่ง ถึงได้พลาดท่าให้คนอื่นง่ายๆ หากชุนหลานเมีย
ข้ากับซิ่วฉิ นมารดาปู้ถานเก่งได้สกั ครึ่ งของหลานสะใภ้คนนี้ ตระกูลเราคงไม่ตอ้ งตกต่าถึงขั้นนี้ ”
เมื่อพูดถึงฮูหยินที่อ่อนโยนทั้งสองคน ลุงเยีย่ นก็อดถอนหายใจไม่ได้
“เรื่ องก็ผา่ นมาแล้ว หากคุณชายกลับมาเดินได้เป็ นปกติ ตระกูลปู้ของเราก็ยงั มีโอกาสกอบกูช้ ื่อเสี ยงได้ กลศึกของคุณชายช่าง
แยบยลนัก ไม่ใช่วา่ ข้าแกล้งประจบนะขอรับ แต่ทวั่ ทั้งแคว้นเซียวไม่มีใครเทียบเท่าคุณชายได้เลย”
“เฮ้อ...ไปอาบน้ านอนดีกว่า”
ตัวเขาเองก็อยากให้ตระกูลปู้กลับมาตระหง่านดังเดิม แต่ก็ไม่อยากกลับไปสนามรบที่ดูดกลืนเลือดเนื้อของผูค้ นอีกครั้ง อันที่
จริ งการมีชีวติ ที่เรี ยบง่ายอย่างทุกวันนี้ก็ดีอยูแ่ ล้ว ตัวเขาเองก็แก่ข้ ึนทุกวัน ออกรบมาแล้วทั้งชีวติ มาถึงตอนนี้จึงได้เข้าใจ...ใน
ชัว่ ชีวติ ของคนคนหนึ่งต้องการเพียงความเรี ยบง่ายและเงียบสงบเท่านั้น
.
หลังจากขายร้ านไปแล้ วสีหยุนจือก็ไม่ มคี วามจาเป็ นต้ องไปทีน่ ั่นอีก
นางจึงมีเวลาปรนนิบตั ิสามีมากขึ้น ได้ดูแลเขาตั้งแต่เริ่ มตื่นนอนล้างหน้า เปลี่ยนเสื้ อผ้าและพาเขาเดินรอบบริ เวณบ้าน ไม่วา่
จะเป็ นเรื่ องเล็กหรื อเรื่ องใหญ่ อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเขาได้ถกู จัดเตรี ยมไว้ให้พรักพร้อม นางทาสิ่ งต่างๆ ด้วยความ
ละเอียดละออ
หญิงสาวเริ่ มประหม่าเพราะถูกกระเซ้า นางเกรงจะโดนคาครหาว่ากระทาไม่เหมาะสม บางครั้งจึงเดินห่างจากเขาเล็กน้อย
แต่ทุกครั้งที่เดินออกห่าง เขาก็จะเดินตามมาจับมือและดึงตัวนางให้กลับมาอยูข่ า้ งกายโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง
บ่ายวันนี้ อากาศปลอดโปร่ ง ท่านปู่ เรี ยกจ้าวอี้และหานเฟิ งไปพบ ส่วนสี หยุนจือกาลังสระผมให้ปู้ถานอยูห่ น้าบ้าน
ชายหนุ่มหรี่ ตาลง นอนเอนหลังกับพนักเก้าอี้โดยมีสีหยุนจือนัง่ แปรงผมที่เปี ยกน้ าให้อย่างสบายอารมณ์ เขานิ่งเงียบไปนาน
จนนางคิดว่าอีกฝ่ ายคงหลับไปแล้ว แต่จู่ๆ ชายหนุ่มก็พดู ขึ้นว่า
“ท่านปู่ บอกว่า ท่านได้มอบหยกคู่ให้เจ้าแล้ว?”
สี หยุนจือได้ยนิ ก็ชะงักมือเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าแล้วบอกว่า “ให้แล้วเจ้าค่ะ”
“ให้ต้ งั แต่เมื่อไรกัน?”
ชายหนุ่มยังคงหลับตา แล้วพูดด้วยน้ าเสี ยงราบเรี ยบจนนางเดาไม่ออกว่าเขากาลังรู ้สึกอย่างไร หญิงสาวเริ่ มกังวลเล็กน้อย หัว
ใจเต้นไม่เป็ นจังหวะ ไม่รู้วา่ ที่เขาถามนั้นมีเจตนาอะไรจึงตอบตามความจริ ง
“หลังวันแต่งงานสองสามวันเจ้าค่ะ”
เขายังคงนอนนิ่งอยูค่ รู่ หนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมองนาง ดวงตาคู่คมฉายแววดุดนั เล็กน้อย
“แล้วทาไมไม่ใส่? ยังโกรธข้าอยูร่ ึ ?”
สี หยุนจือส่ายหน้าเบาๆ มองชายหนุ่มตรงหน้า ภายใต้แสงแดดราไรที่ส่องลงมา กล้ามเนื้อแข็งแกร่ งแสดงถึงพลกาลังที่กล้า
แข็ง ทุกท่วงท่าเผยให้เห็นความสง่างาม ราวกับต้องการจะอวดความห้าวหาญให้ปรากฏแก่สายตาสาวชาวบ้านอย่างนางจน
ต้องเอ่ยอย่างเจียมตัว
“ข้าอยากรอให้ใต้เท้ายอมรับข้าจากใจจริ งเสี ยก่อน ในเมื่อเป็ นหยกคู่จะให้ขา้ ใส่เพียงลาพังได้อย่างไร คนอื่นจะหัวเราะเยาะ
เอาได้ จริ งไหมเจ้าคะ?”
ปู้ถานเห็นรอยยิม้ ขัดเขินของนางก็นอนหลับตาดังเดิม
“ถ้าอย่างนั้น...พรุ่ งนี้ก็เอามาใส่เถอะ”
สี หยุนจือพยักหน้า ยิม้ กว้างด้วยความดีใจ “เจ้าค่ะ ใต้เท้า”
.
เวลาผ่านไปอย่ างรวดเร็วจนถึงตอนบ่ าย
สี หยุนจือจึงได้รู้วา่ เขาชอบที่จะให้นางหวีผมให้ เพราะเขานอนหลับตาพริ้ มด้วยท่วงท่าสบายอารมณ์ ราวกับแมวสายพันธุ์ดี
ที่ฮูหยินสี่ เลี้ยงไว้ แม้มนั จะวางมาดด้วยท่าทางหยิง่ ยโส แต่เมื่อถูกลูบขนก็ยอมสยบร้องเมี้ยวๆ อย่างว่าง่าย
พอนึกถึงภาพนั้น สี หยุนจือก็อดขาออกมาไม่ได้
ปู้ถานส่งเสี ยง “หื ม?” อย่างสงสัย
นางลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง ก่อนจะรวบรวมความกล้าบอกออกไป “ข้ารู ้สึกว่าท่านเหมือนแมวตัวหนึ่งที่ดูสูงส่งแต่ก็มกั จะขี้เซา”
“...”
ปู้ถานลืมตา หันไปมองหญิงสาวที่ยมิ้ ราวกับดอกไม้เบ่งบาน แววตาเปล่งประกายสดใส พลางนึกไปว่า...ช่างเถอะ เห็นแก่
ความน่ารักของนาง ครั้งนี้เขาจะไม่เอาเรื่ องแล้วกัน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยืน่ มือไปด้านหลังเก้าอี้แล้วบีบก้นที่เขาเคยลูบคลา
หลายต่อหลายครั้งใต้ผา้ ห่ม
หญิงสาวร้องด้วยความตกใจ หันมองซ้ายขวาอย่างลุกลน กลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า ส่วนปู้ถานพอเห็นสี หน้าเขินอายของ
ภรรยาก็ยมิ้ ออกมาอย่างพอใจ
สี หยุนจืออายจนหน้าแดงก่าพลางเอามือปิ ดก้นของตนเอง โชคยังดีที่ไม่มีใครเห็น ไม่อย่างนั้นนางคงถูกหัวเราะเยาะแน่ พอ
เห็นเขายิม้ อย่างชอบอกชอบใจ หญิงสาวก็รู้วา่ ตัวเองโดนแกล้งเข้าแล้วจึงตีที่ไหล่เขาเบาๆ แต่กลับถูกชายหนุ่มคว้ามือไว้
แน่นไม่ยอมปล่อย
ตอนที 26 พืนทีว่างพันฉิง
สีหยุนจือและปูถ้ านหยุดหยอกล้อและมองตากันอย่าง
แปลกใจ หญิงสาวรีบเก็บของและถามกลับ
“นันใครรึ?”
1
ผูท้ ีอยูน่ อกประตูบา้ นได้ยินเสียงผูห้ ญิงตอบกลับมาก็องึ
ไป ก่อนจะเอ่ยต่อว่า
สีหยุนจือหันไปมองสามีและเห็นว่าอีกฝ่ ายแต่งตัวเรียบ
ร้อยแล้ว เขาพยักหน้าให้เป็ นเชิงอนุญาต นางจึงเช็ดมือ
กับผ้าแห้งแล้วเดินไปปลดกลอนประตู
2
ทีมีตวั อักษร ‘兵’[1] ปั กอยูด่ า้ นหน้า ผมถูกรวบไว้
ด้านหลังอย่างหลวมๆ สองแก้มแดงกํา ดวงตาเลือนลอย
ในมือถือปล้องยาสูบและถุงใส่ยาสูบทีมีลกู เต๋าสองลูก
ห้อยอยู่ พอนางเปิ ดประตูเขาก็เดินยิมเข้ามาทันที
นําเสียงของจ้าวอีแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน แต่
3
หวังชงไม่สนใจกลับเดินตรงมาหาฮูหยินของบ้านแล้ว
ค้อมตัวคารวะก่อนจะเงยหน้ามอง สีหยุนจือรูส้ กึ ไม่ดีที
ถูกมองอย่างนันจึงเดินไปยืนอยูข่ า้ งปูถ้ าน แต่จ่ๆู หวังชง
ก็คกุ เข่าลง บอกกับนางว่า
4
“เจ้าสารเลว! เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไรต่อหน้าฮูหยิน? เมือไม่
กีวันเพิงส่งข้าวสารไปให้พวกเจ้าถึงสิบกระสอบ แล้วยัง
มีหน้ามาบอกว่าไม่ได้กินข้าวงันรึ ไม่มีความละอายบ้างรึ
ไง? ไสหัวไป!”
จ้าวอีได้ยินหวังชงพูดอย่างนันก็อยากจะโต้กลับ แต่กลับ
ถูกฮูหยินรังเอาไว้
สีหยุนจือพูดอย่างคล่องแคล่วและดูมีเหตุมีผล แม้แต่คน
ทีพยายามลองใจนางก่อนหน้านียังเชืออย่างไม่มีขอ้
สงสัย เขามีสีหน้าลําบากใจขึนมาทันที กลับได้ยินสีหยุ
นจือเอ่ยต่อว่า
7
หวังชงแววตาเป็ นประกาย แลบลินเลียปากตนเอง
พลางกล่าวขอบคุณฮูหยินซําแล้วซําเล่าก่อนจะเดินออก
จากบ้านไป
8
ได้อย่างไรว่าเขาเป็ นนักพนันล่ะขอรับ?”
“...”
9
นันถ้าดูเพียงหน้าตาและท่าทางจะสามารถคาดเดาได้
อย่างแม่นยําขนาดนีเชียวหรือ?
สีหยุนจือเพียงแต่ยมโดยไม่
ิ ตอบอะไร หันมาสบตากับ
สามีอย่างรูก้ นั เขายิมให้นางแล้วพากันเดินกลับไปทีห้อง
หนังสือ ทิงคนทังคูไ่ ว้เบืองหลัง จ้าวอีและหานเฟิ งม
องหน้ากันไปมาอย่างงุนงง
10
ดู...โง่ไปทันทีเลย?”
“...”
นางรูส้ กึ ว่าช่วงนีขาของเขาเริมมีแรงขึนมาบ้างแล้วก็
แอบดีใจ เงยหน้ามองเขาแล้วลองถามว่า
“ใต้เท้า ข้ามีเรืองอยากจะปรึกษาท่านหน่อยเจ้าค่ะ”
11
ปูถ้ านยังคงจดจ่อกับการอ่านหนังสือ ไม่ได้เงยหน้ามอง
เพียงส่งเสียง “อืม” ตอบกลับมา
12
ยกมือขึนนวดพลางคิดไปว่าเขาคงไม่อยากคุยเรืองนี
ด้วยจึงไม่ได้พดู อะไรอีก แต่จ่ๆู สามีของนางก็พดู ขึนว่า
สีหยุนจือมองหน้าเขาก่อนจะพูดต่อว่า “ปล่อยว่างไว้
อย่างนันก็เปล่าประโยชน์น่ะสิเจ้าคะ หากเอามาทํานา
เราก็จะมีขา้ วกินไปตลอดปี ถ้าข้าวเหลือก็ยงั ขายได้ เรา
ก็จะมีรายได้เพิมอีกทางนะเจ้าคะ”
“...”
ชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยตอบเพียงแต่พยักหน้าอยูห่ ลังหนังสือ
หญิงสาวดีใจจนยิมไม่หบุ ทังบีบ ทังนวดขาเขาอย่างตัง
อกตังใจ
จากนันไม่นานเขาก็ปิดหนังสือแล้ววางลงข้างหมอน ดึง
14
มือของสีหยุนจือมากุมไว้ พูดด้วยเสียงแหบพร่า
“ดึกแล้ว นอนกันเถอะ”
พูดจบก็ดงึ ตัวภรรยาเข้ามาแนบกายแล้วทาบทับลงบน
ตัวนุ่มนิม ไม่สนใจท่าทางเอียงอายของอีกฝ่ าย เขา
เคลือนไหวบนร่างบางอย่างเร่าร้อน จู่โจมนางอย่างชํา
ชองและโหยหา ร่างเล็กทีถูกกดทับสัมผัสได้ถงึ ความร้อน
จากบุรุษบนกาย นางรูส้ กึ ราวกับถูกไฟแผดเผาร่างให้
หลอมละลายไปกับเขา เป็ นอีกคืนทีอบอวลไปด้วยกลิน
อายแห่งแรงปรารถนาทีหอมหวาน
15
เช้าวันรุง่ ขึน สีหยุนจือเริมงานทีตังใจไว้ทนั ที
16
ประสงค์การมาของตน หลังจากนันผูใ้ หญ่บา้ นจึง
ตะโกนบอกลูกบ้านว่าฮูหยินอยากจะหาคนไปทํางาน
ด้วย
ชายฉกรรจ์หลายคนเสนอตัวไปช่วยงานนี นางจึงเลือก
คนทีมีหน่วยก้านดีมาช่วยงานห้าคน เพือให้พวกเขาไปดู
ทีดินและประเมินว่าต้องเริมจากการทําอะไรก่อนหลัง
และในแต่ละขันตอนต้องใช้คนมากเท่าไรจึงจะสามารถ
ทําได้สาํ เร็จ
ชาวบ้านต่างก็ยืนมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงใจ แม้จะ
ไม่รูว้ า่ หลังจากทีฮูหยินท่านนีวางแผนงานเสร็จแล้วจะ
จ้างพวกเขาให้ทาํ งานต่อหรือไม่ แต่ทกุ คนก็ทาํ งานใน
ความรับผิดชอบของตนอย่างเต็มที
18
-------------------------------------------------------------
19
ตอนที 27 ลงโทษ
หลังจากนันสองวัน ลุงฝูก็มารายงานกับสีหยุนจือ
พวกเขาคิดว่าหากจะทําการเกษตรบนพืนทีว่างกว่าพัน
ฉิงรอบๆ ตระกูลปูใ้ ห้เสร็จในคราวเดียวคงต้องใช้แรง
งานกว่าหลายร้อยคนและค่าจ้างต่อคนในตอนนีอยูท่ ีห้า
อีแปะต่อวัน หากจ้างแรงงานสามร้อยคน วันหนึงจะต้อง
จ่ายค่าแรงถึงสิบห้าตําลึง และต้องทําอย่างนีกว่าครึง
เดือนจึงจะเริมเห็นผล ทังหมดทีว่ามานียังไม่รวมถึงต้น
ทุนในการเพาะปลูก อีกทังนําและต้นกล้าทีจะใช้ทาํ การ
เกษตรอีกด้วย
1
เมือสีหยุนจือลองคํานวณดู เงินทีนางมีคงไม่มากพอจะ
ลงทุนทําทังหมดทีว่ามานี แต่ในเมือคิดจะทําแล้วก็คง
ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายจากทางอืน ทว่านางยังไม่รูด้ ว้ ย
ซําว่าผลผลิตทีได้จะเป็ นอย่างไร จะขายได้หรือไม่ สิง
เหล่านียังคงเป็ นเรืองทีนางต้องแบกรับความเสียงอยู่
มากทีเดียว
2
เมือถึงต้นเดือนสี อาการบาดเจ็บของปูถ้ านดีขนมากจน
ึ
สามารถเปิ ดผ้าพันแผลออกได้
ชายหนุ่มค่อยๆ ดึงขากลับก่อนวางเท้าลงบนพืนแล้วทํา
3
ท่าจะลุกขึน สีหยุนจือรีบลุกขึน ตังใจจะไปช่วยประคอง
เขาแต่กลับถูกชายหนุ่มห้ามไว้ นางหยุดชะงักไปทันที
และมองมาอย่างเป็ นกังวลขณะทีขยับตัวไปยืนอยูข่ า้ งๆ
แทน เพราะหากเขาล้มลงนางจะได้รบั ได้ทนั
ส่วนตัวปูถ้ านเองกลับไม่ได้ยินดีหรือแสดงความดีใจใดๆ
ออกมา ราวกับรูว้ า่ ถึงอย่างไรขาข้างนีก็ตอ้ งหายเป็ น
ปกติอยูแ่ ล้ว ชายหนุ่มจึงยังคงนิงเฉยราวกับขาทีหายดี
ไม่ใช่ขาของตน
5
ต่อบนเตียงข้างๆ ภรรยา
เมือไฟอันเร่าร้อนดับลงแล้ว หญิงสาวก็นอนซบบนแผง
อกเปลือยเปล่าของชายหนุ่ม นางหลับตาพริม ฟั งเสียง
หัวใจทีเต้นเป็ นจังหวะอยูอ่ ย่างนัน
เขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังขาวนวลราวหยกเนือดี ช่างให้
สัมผัสนุ่มเนียนจนยากจะละมือจาก เขารูว้ า่ นางยังไม่
หลับจึงพูดขึนว่า
6
“อีกสองวันข้าต้องไปทําธุระ”
สีหยุนจือได้ยินก็ลืมตาแล้วยกหัวขึนเล็กน้อย ดวงตาดํา
ขลับมีหยดนํารืนขึนมาทันที
ภรรยาเขาในตอนนีดูสดใสกว่าแต่ก่อนมาก สองแก้มมีสี
ชมพูระเรือและไม่ได้ซบู ผอมเหมือนตอนทีแต่งงานใหม่ๆ
ดวงตากลมโตฉํานําจ้องมองมาทีเขา ดวงตาคูน่ ีไม่ได้ดู
น่าเวทนาเหมือนเมือก่อนอีกแล้ว กลับน่ารักน่าเอ็นดูจน
เขาอดไม่ได้ทีจะยืนมือไปลูบใบหน้าของนางอย่างอ่อน
โยน
“ใต้เท้าจะไปไหนหรือเจ้าคะ? แล้วจะไปนานไหม?”
7
เมือเห็นภรรยามีสีหน้ากังวลราวกับจะบอกว่า ‘ท่านไป
แล้วไม่รูจ้ ะกลับมาหรือไม่’ เขาก็ยิมออกมา ชายหนุ่ม
ช้อนมือกับท้ายทอยของนางแล้วประทับจูบลงบนริม
ฝี ปากบางอยูน่ านจนหญิงสาวเริมหายใจหอบจึงยอม
ถอนจูบนันออก เขายกนิวขึนลูบเบาๆ บนเรียวปากที
บวมขึนเล็กน้อย
“ข้าจะไปหนานหนิง อย่างช้าไม่เกินเดือนหน้าก็กลับ”
เมือได้รบั คําตอบชัดเจนทังสถานทีและเวลาสีหยุนจือก็มี
สีหน้าดีขนบ้
ึ าง แต่แววตายังคงกังวลอยูไ่ ม่นอ้ ย ชาย
หนุ่มโอบร่างบางไว้ในอ้อมกอดเพือปลอบประโลม จูบที
ข้างใบหูของนางเป็ นระยะ กล่อมอย่างนีอยูพ่ กั ใหญ่จน
8
นางหลับไปในอ้อมกอด
ใบหน้าในยามหลับทําให้เขารูส้ กึ ว่าไม่มีสตรีใดในโลกจะ
งดงามเทียบเท่านางได้อีกแล้ว
ก่อนหน้าเขาเคยได้ยินคนอืนพูดว่า ‘เมือสามีจากบ้านไป
ไกลจะต้องแอบหวันว่าภรรยาจะนอกใจหรือไม่’ แม้จะรู ้
ดีวา่ นางไม่มีทางทําอย่างนัน แต่เพียงแค่คิดเขาก็แทบ
ทนไม่ได้ นีเขาคงต้องป่ วยหนักไปแล้วอย่างแน่นอน และ
ครังนีคงยากจะหายาใดมารักษาได้
9
เป็ นเรืองเป็ นราว เขาก็คงไม่ตอ้ งห่วงนางขนาดนีใช่หรือ
ไม่?
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขาลี
ทหารทังห้าร้อยนายทีโดนเนรเทศมาอยูเ่ มืองลัวหยาง
พร้อมกับแม่ทพั ปู้ ตอนนีไร้คนคอยบังคับบัญชาและควบ
10
คุม ต่างคนต่างอยูอ่ ย่างกระจัดกระจายไร้ระเบียบ และ
ไม่เคร่งครัดในกฎทหารเหมือนเมือก่อน อีกทังยังส่งเสียง
พูดคุยกันให้วนุ่ วาย
11
ไม่นานก็มีทหารทยอยวิงออกมาเข้าแถว
หานเฟิ งจดชือทหารทีมาเข้าแถวทีละคนไว้บนกระดาษ
ส่วนจ้าวอียังคงยืนเป่ าแตรไม่หยุด
ทังสองจัดแถวโดยให้ทหารทีวิงมาถึงเข้าแถวก่อน
บรรยากาศโดยรอบวุน่ วายอยูค่ รูใ่ หญ่ สุดท้ายก็ได้แถว
ทหารทียืนเรียงต่อกันบิดๆ เบียวๆ กว่าสิบแถว แต่ละ
แถวมีทหารอยูส่ บิ กว่านาย จ้าวอียังคงเป่ าแตรต่ออีกพัก
หนึง เมือเห็นว่าคงไม่มีใครออกมาแล้วจึงหยุดเป่ า
12
“นับจํานวน”
13
แม่ทพั ปูเ้ ดินมานังลงบนเก้าอีเบืองหน้าทหารเหล่านัน
สายตากวาดมองแถวทหารด้วยสีหน้าเรียบเฉย
14
หานเฟิ งขมวดคิว ถามต่อว่า “ผูบ้ งั คับบัญชาไปไหน?”
พลทหารทังกองต่างเงียบกริบ...
ขณะทีพูด ทุกคนก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของคน
เมาดังใกล้เข้ามา ผูท้ ีเดินนําหน้าก็คือหวังชง คนทีเคยไป
ขอเงินถึงบ้านตระกูลปู้ เขาเป็ นหัวหน้าค่ายแต่กลับ
15
ตะโกนเสียงดังราวกับนักเลงหัวไม้
17
คําสังลงโทษของหานเฟิ งถือเป็ นคําสังเด็ดขาดจากแม่
ทัพ จึงไม่มีทหารคนไหนกล้าขัดขืน พวกเขาได้แต่มองตา
กันแล้วปฏิบตั ิตาม ส่วนทหารในเจ็ดแถวแรกแอบยิมใน
ใจแล้วรีบไปหยิบไม้มาถือไว้เพือรอรับคําสัง
18
ตอนที 28 ภารกิจ
ท่านแม่ทพั ยังคงมีสีหน้าเรียบนิงราวกับไม่ได้ยินเสียง
โอดโอยทีดังระงม ในมือถือถ้วยนําชาทีจ้าวอีเพิงจะยืน
มาให้ แล้วยกขึนจิบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึน
การโบยสามสิบครังใช้เวลาเพียงครูเ่ ดียวก็โบยได้ครบ
การลงโทษเช่นนีหากจะว่าหนัก...แต่ก็ยงั ไม่ถงึ กับเสีย
1
ชีวิต หรือหากจะว่าเบา...ก็สามารถทําให้ทหารทีเคยฝึ ก
ร่างกายอยูเ่ ป็ นประจําต้องนอนซมไปหลายวันทีเดียว
ทหารกลุม่ ทีไปค้างคืนข้างนอกกับหวังชงต่างขวัญหนีดี
ฝ่ อ ใครจะคาดว่าแค่ไปดืมฉลองในงานแต่ง เมือกลับมา
ทีค่ายจะเจอกับสถานการณ์แบบนี จึงพากันคิดว่าเมือ
ก่อนปูถ้ านก็เป็ นแค่แม่ทพั ตกยาก ทําไมวันนีจึงลุกขึนมา
สังการอย่างบ้าคลังเช่นนีได้?
2
ลุกขึนแล้วค้อมตัวลง เมือท่านแม่ทพั พูดจบ เขาก็ถงึ กับ
ทรุดลงกับพืนอีกครัง
“แขวนประจานไว้หา้ วัน”
4
ทหารร่างสูงใหญ่นายหนึงเดินออกมาจากกลุม่ ทหารที
ต้องโทษแขวน เขาชีหน้าแม่ทพั ปู้ แล้วพูดอย่างอาจหาญ
ว่า
5
เมือชายคนนันพูดจบ ทหารคนอืนๆ ก็สง่ เสียงสนับสนุน
ไม่เว้นแม้แต่คนทีถูกโบยไปแล้วก็ยงั พูดแย้งขึนมาเช่นกัน
“...”
7
คิดถึงเขา ก็มีทหารผลัดเปลียนกันมาเคาะประตูเรียกฮูห
ยินทีหน้าบ้าน
8
นางไม่คาดคิดว่า พอวันต่อมาจะมีทหารมาทีบ้านอีก
และพากันมามากกว่าวันแรกเป็ นเท่าตัว แต่ละคนต่างก็
ขอให้ฮหู ยินมอบหมายงานให้ทาํ แล้วขอให้นางเลียง
อาหารพวกเขาสักมือ
9
“...” สามีของนางเป็ นคนสังอย่างนันรึ? แม้จะได้ฟังที
หวังเทาบอก แต่นางก็ยงั ไม่เข้าใจอยูด่ ี
ทหารคนนันพูดเสียงดังจนทหารทีนังกินข้าวอยูอ่ ีกสาม
โต๊ะได้ยิน ต่างพากันชืนชมฮูหยินไม่ขาดปาก
10
ทหารอีกคนพูดเสริม “ฮูหยิน ให้พวกเราทํางานเถอะขอ
รับ พวกเราจะได้มีของอร่อยๆ กินกันทุกวัน”
“...”
เมือเห็นพวกเขาแสดงท่าทางกระตือรือร้น สีหยุนจือก็พดู
อย่างลําบากใจ “แต่วา่ ...ข้าไม่มีอะไรให้พวกเจ้าทํา...อ้อ
เดียวก่อน...”
นางเพิงจะนึกบางอย่างออกจึงเอ่ยถามหวังเทา “พวก
เจ้ามีกนั กีคน? มีเพียงเท่านีรึ?”
11
หวังเทากัดเนือคําใหญ่เข้าปากแล้วส่ายหัว “ไม่ขอรับ
ค่ายของเรามีทหารเกือบห้าร้อยคน แต่ทีพอจะทํางานได้
ตอนนีมีอยูร่ อ้ ยกว่าคน ต่อไปก็อาจจะมีมามากขึนเรือยๆ
ขอรับ”
หวังเทากําลังกินอย่างตังอกตังใจ ทหารอีกคนจึงแย่ง
ตอบ “ใช่ขอรับ ฮูหยิน ขอแค่มีเนือให้กินทุกวัน ต่อให้
ต้องไปขุดส้วมพวกเราก็ยอม”
12
มาไม่ได้ เมือเห็นท่าทางแบบนีของพวกเขาก็เข้าใจได้
ทันทีวา่ สามีของนางคงต้องการหาคนมาช่วยนางทํา
งานนันเอง เมือคิดได้อย่างนัน หญิงสาวก็แอบเก้อเขิน
ในใจ
.
13
บ่ายวันนัน
สีหยุนจือบอกให้ลงุ เยียนไปเชิญลุงฝูและชายหนุ่มในหมู่
บ้านทีหน่วยก้านดีมาช่วยจัดเตรียมงาน เมือดูรายการ
เครืองมือทีจะต้องใช้เรียบร้อยก็ให้ลงุ เยียนพาทหารกลุม่
หนึงไปซือของในตลาด จากนันก็แบ่งทหารอีกจํานวน
หนึงไปเตรียมทํางานทันที
ตอนนีเพิงต้นเดือนสี ลุงฝูบอกว่าถ้าลงมือทําช่วงนีและ
งานเสร็จได้เร็วก็ยงั พอทีจะลงต้นกล้าทัน
ความรูเ้ รืองการเกษตรของนางจะว่าไปแล้วก็แค่พอทํา
14
ได้เท่านัน นางก็เลยไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายการทํางาน
ของลุงฝูกบั ลุงเยียน จึงมอบหมายให้พวกเขาเป็ นผูด้ แู ล
งานทังหมด
จากเดิมทีมีทหารมาช่วยทํางานเพียงร้อยกว่าคน ผ่านไป
สิบกว่าวันตอนนีเพิมมารวมๆ แล้วเกือบสามร้อยคน
15
ดังนันทีดินทีเคยว่างเปล่ารอบๆ บริเวณบ้านตระกูลปูจ้ งึ
ถูกล้อมไปด้วยคันนาอย่างรวดเร็ว หากเริมปลูกข้าวได้
เมือไร พืนทีตรงนีก็จะกลายเป็ นทุง่ ข้าวเขียวขจี ถ้ามอง
จากทีไกลๆ คงเป็ นทิวทัศน์ทีงดงามยิงนัก
ในแต่ละวัน นอกจากสีหยุนจือจะเตรียมเหล้าและข้าว
ปลาอาหารให้พวกเขาแล้ว นางยังให้พวกทหารแบ่งเป็ น
กลุม่ ย่อยสิบกลุม่ และจะมีรางวัลให้กบั กลุม่ ทีขยันทํา
งานในวันนัน อาจจะเป็ นเหล้าเพิมหรือเงินรางวัลเล็ก
น้อย แม้จะไม่มากแต่ก็ทาํ ให้ทหารในแต่ละกลุม่ กระตือ
รือร้นทีจะทํางานมากขึน
พอนานวันเข้า ข้าวของรางวัลก็ไม่ใช่สงที
ิ พวกเขาอยาก
16
ได้อีกต่อไป แต่กลับเป็ นการทีจะได้รบั การขานชือเพือ
เป็ นเกียรติจากการขยันทํางาน เพราะพวกเขาไม่ได้รบั
การชืนชมและยอมรับจากผูอ้ ืนมานานแล้ว
หลังจากอาหารมือกลางวันของทุกคน สีหยุนจือก็มาจัด
เก็บข้าวของอย่างเคย
ในขณะทีกําลังเก็บอยูน่ นก็
ั เห็นหวังเทาวิงมาจากทุง่ นา
ขวางหน้าทหารผูห้ นึงทีเพิงกินอิมและเตรียมจะเดินจาก
ไป
17
ทังสองยือยุดกันอยูน่ านแต่หวังเทาก็ไม่สามารถรังทหาร
ผูน้ นไว้
ั ได้ เขากุมหมัดแน่นชกลงบนต้นไม้ดว้ ยความ
โมโห
สีหยุนจือเห็นอย่างนันจึงเช็ดมือกับผ้ากันเปื อนแล้วเดิน
เข้าไปถาม
18
ตอนที 29 หญิงทังเก้า
“เกิดอะไรขึนรึ?”
1
จากภาพทีนางเห็นเมือครูก่ ็พอจะเดาเรืองราวได้ จึงพูด
ปลอบใจเขาว่า
แต่หวังเทากลับพูดด้วยความโมโหมากกว่าเดิม “ไม่ใช่
อย่างนันขอรับฮูหยิน เขาเห็นหวังชงได้ทาํ งานกับนาย
ท่านทีจวนเจ้าเมือง เขาก็เลยอยากไปทํางานบ้าง คน
แบบนีอยูใ่ นค่ายก็มีแต่จะทําให้แตกแยก ท่านแม่ทพั น่า
จะสังแขวนพวกมันทังหมด”
“...”
2
สีหยุนจือได้ยินดังนันก็ไม่ได้รูส้ กึ โกรธแต่อย่างใด กลับ
รูส้ กึ เสียดายมากกว่า “ถ้าอย่างนันก็ช่างเถอะ หากเขา
อยากไปทํางานทีจวนเจ้าเมืองก็ปล่อยเขาไป ถ้าเขามี
ทางไปทีดีกว่าก็ไม่มีอะไรทีจะต้องตําหนิ เจ้ากลับไปทํา
งานเถอะ”
หวังเทาพยักหน้า เดินบ่นงึมงํากลับไป
หลังจากทีหวังเทาไปแล้ว นางก็คิดเรืองคนทีเขาพูดถึง
‘หวังชง’ คือคนทีเคยมาขอเงินทีบ้านตระกูลปูไ้ ม่ใช่ร?ึ
ครังนันทีได้พบกันเขาหน้าแดงกําด้วยฤทธิสุราและติด
การพนันจนกลายเป็ นผีพนัน เขาคนนันไปอยูจ่ วนเจ้า
เมืองแล้ว...พอรูอ้ ย่างนีนางก็แอบเบาใจขึนมาก
3
งานยังคงดําเนินไปอย่างราบรืนโดยมีลงุ ฝูและลุงเยียน
เป็ นผูด้ แู ลทังหมด พวกเขาคุยกันราวกับเป็ นเพือนทีสนิท
สนมมานาน อีกทังยังทํางานร่วมกันได้เป็ นอย่างดี และ
ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทังสอง พืนทีนาว่างเปล่าก็
ถูกไถเสร็จในเวลาอันสันและพร้อมสําหรับการลงต้นกล้า
แล้ว
สีหยุนจือยังคงจัดการเรืองอาหารการกินของทหารทีมา
ทํางานในทุกๆ วัน ต่อให้ตอ้ งจ่ายเงินมากกว่าเดิมนางก็
ไม่เกียงเพือให้ทกุ คนได้กินอิม บรรดาอาซ้อในหมูบ่ า้ น
เมือมีเวลาว่างก็จะผลัดเปลียนกันมาช่วยนางจัดเตรียม
อาหาร ทําให้เบาแรงไปได้มาก
4
.
เพียงพริบตาเวลาก็ผา่ นไปครึงเดือนแล้ว
ในช่วงบ่ายเมือมีเวลาว่างจากงาน สีหยุนจือจะมานัง
เย็บรองเท้าให้กบั ปูถ้ าน พลางมองไปยังประตูบา้ นด้วย
สายตารอคอยอย่างมีความหวัง
5
ในกระดูก สะกดอยูใ่ นทุกลมหายใจ สร้างความทรมาน
ไม่นอ้ ยเลยทีเดียว
ขณะทีนางกําลังแทงเข็มเข้าไปในรองเท้าพลันได้ยิน
เสียงล้อรถบดกับหินบนถนน ก็นกึ ดีใจไปว่าความคิดถึง
ของนางอาจจะสือไปถึงใจของสามี เขาจึงกลับบ้านก่อน
กําหนดเวลาทีบอกไว้ นางรีบชะเง้อมองไปทางถนนก็
เห็นเพียงรถม้าทีทังเก่าทังเล็กกําลังตรงมา
รถม้าคันนีมีขนาดเล็กทีสุดเท่าทีนางเคยเห็น ขนาดของ
ตัวรถสามารถบรรทุกคนได้เพียงหนึงหรือสองคนเท่านัน
ล้อรถม้าก็เบียวเล็กน้อย เมือขับบนถนนลูกรังก็กระแทก
ขึนลงโคลงเคลงไปมาอย่างเห็นได้ชดั
6
รอบๆ ตัวรถถูกคลุมด้วยผ้าสีฟา้ บนหลังคามุงด้วยผ้า
กํามะหยีสีแดงทีถูกซักจนซีด ดูภายนอกทัวทังรถเหมือน
ผ่านการใช้งานมานานทังเก่าและทรุดโทรม คนขับรถม้า
ทีผอมซูบกําลังบังคับม้าทีผอมแห้งไม่ตา่ งกัน ให้เคลือน
ตัวไปข้างหน้าอย่างยากลําบาก
สีหยุนจือวางอุปกรณ์และรองเท้าในมือลง ขณะทีกําลัง
ลุกขึนยืนรถม้าก็จอดทีหน้าบ้านพอดี
7
คนขับรถม้าทีดูผอมแห้งคนนันพูดกับนางด้วยสําเนียง
ท้องถิน
สีหยุนจือเดินเข้าไปต้อนรับแล้วพยักหน้า “นีคือบ้านตระ
กูลปู้ ท่านมาหาใครรึ?”
8
ขณะทีนางกําลังมองด้วยความสงสัยก็ได้ยินเสียงคุยกัน
ดังมาจากในรถม้า เหมือนมีผหู้ ญิงสักเจ็ดแปดคนกําลัง
แย่งกันพูดไม่หยุดปาก ดังระงมราวกับเป็ ดกําลังแย่งกัน
กินอาหาร
เมือสายโยงรถลากถูกปลดออก สิงทีออกมาจากรถเป็ น
อย่างแรกไม่ใช่หวั คน แต่เป็ นบันท้ายใหญ่ๆ ของสตรีนาง
หนึงในเครืองแต่งกายหรูหราอย่างสาวชาวเมือง นาง
ค่อยๆ ขยับก้นเตรียมลงมาจากรถ
9
“รูท้ งรู
ั ว้ า่ เบียดแต่ก็บน่ อยูน่ นแหละ
ั แทนทีจะรีบขยับออก
ให้ขา้ ได้ลงไปบ้าง”
“จริงด้วย ออกไป…ออกไปได้แล้ว”
10
“...”
จนกระทังสตรีบนท้
ั ายใหญ่คนนันหาถุงผ้าของนางบนรถ
เจอ จึงหันหน้ามาเปิ ดผ้าม่านออกแล้วลงจากรถม้าเป็ น
คนแรก และเพราะสตรีนางนันเปิ ดผ้าม่านแรงไปหน่อย
ผ้าม่านทีเก่าอยูแ่ ล้วก็เลยหลุดลงมากองทีพืน
ภาพในรถม้าตรงหน้าตอนนีเป็ นภาพทีคึกคักทีสุดเท่าทีสี
หยุนจือเคยเห็นมาในชีวิต พืนทีบนรถม้าไม่วา่ จะบน
ล่าง ซ้าย ขวา ต่างมีคนแออัดอยูเ่ ต็มคันรถ เบียดกันหน้า
11
แดงหูแดง ผมเผ้ารุงรังไปหมด
หญิงร่างท้วมผูน้ นลงมายื
ั นทีพืน ตรงมุมปากเลอะชาดที
ทาไว้ เครืองสําอางทีแต่งแต้มใบหน้าก็ดซู ีดจาง ทังยัง
เลอะเทอะราวกับนักแสดงบทตัวตลก
ในขณะทีสีหยุนจือกําลังประหลาดใจว่าพวกนางเบียด
กันมาในรถม้าคันนีได้อย่างไร สตรีทงหมดก็
ั มายืนเรียง
หน้ากระดานอยูต่ อ่ หน้านาง โดยมีหญิงร่างท้วมคนนัน
12
ยืนอยูห่ วั แถว สตรีรา่ งท้วมกระแอมเล็กน้อยแล้วทังหมด
ก็ตะโกนขึนว่า
“...”
.
13
ท่านปู่ นงนิ
ั ง ในมือมีถว้ ยนําชา สีหน้าบ่งบอกถึงความ
เบือหน่ายและพร้อมจะเดือดดาลได้ทกุ เมือ
สีหยุนจือชงนําชามาเพิมให้อีกกา พวกนางบางคนทียัง
ไม่ได้กินนําชาก็พงุ่ เข้ามาหาเหมือนฝูงผึงจนสีหยุนจือเอง
ยังตกใจ มีเพียงหญิงร่างท้วมทีค่อนข้างสงวนท่าที มือ
ข้างหนึงถือถ้วยนําชาไว้ในมือแล้วก้มดมกลินหอมของ
ชาก่อนแต่ยงั ไม่ได้ดืม ส่วนมืออีกข้างวางทาบไว้บนหน้า
ท้องของตน อีกฝ่ ายกวาดสายตามองสีหยุนจือตังแต่หวั
14
จรดเท้าแล้วพูดขึนว่า
“เจ้าคือหลานสะใภ้ใหญ่ร?ึ ”
“เจ้าค่ะ”
“จริงด้วย หน้าตาก็งนๆ
ั รูปร่างก็ผอมบางเหลือเกิน แม้
แต่กน้ นางก็ยงั เล็กอีกด้วย”
“...”
เพราะไม่รูส้ ถานะทีแท้จริงของหญิงสาวเหล่านีว่าเกียว
ข้องกับตระกูลปูอ้ ย่างไร แต่ก็ดเู หมือนว่าจะมีความ
สัมพันธ์กนั แน่นอน ดังนันหากนางจะพูดอะไรมากก็คง
ไม่ดี อีกอย่างพวกนางก็ถือว่าเป็ นแขกและสิงทีวิจารณ์ก็
เป็ นเรืองจริง ไม่ได้พดู เกินเลยหรือแฝงเจตนาร้ายแต่
17
อย่างใด สีหยุนจือจึงเลือกทีจะนิงเงียบ ยอมให้พวกนาง
ติชมจนกว่าจะพอใจ
“หุบปาก!”
18
ตอนที 30 ยึดห้อง
สตรีกลุม่ นันรีบสงบปากสงบคําไม่มีใครกล้าส่งเสียงออก
มาอีก ท่านปู่ ยืนขึนแล้วพูดว่า
คนทีถูกเรียกว่าท่านลุงจ้องกลับด้วยสายตาเย็นชา สตรี
ทังหมดกลัวจนก้มหน้างุด ได้ยินเพียงเสียงหญิงร่างท้วม
พูดต่อว่า
“แต่ไหนแต่ไรพวกเราก็อาศัยบารมีตระกูลปู้ มาตอนนี
ทุกอย่างพังทลายจนไม่มีทีให้พงพิ
ึ ง แล้วพวกข้าจะอยูท่ ี
2
นันต่อไปได้อย่างไร”
3
“...”
“พวกเจ้าก็เห็นแล้วว่าตระกูลปูใ้ นเวลานีไม่เหมือนเมือ
ก่อน แล้วข้าจะเอาอะไรมาเลียงดูพวกเจ้าได้อีก?”
เมือหญิงสาวเหล่านันได้ยินคําพูดของนายท่านผูเ้ ฒ่าก็
มองหน้ากันไปมา สุดท้ายไม่รูใ้ ครเป็ นคนเริมก่อน สตรี
ทังหมดทรุดตัวนังลงกับพืน ครูเ่ ดียวห้องรับแขกก็เต็มไป
ด้วยเสียงร้องไห้ระงม หากมองมาจากข้างนอกคงคิดว่า
4
มีโศกนาฏกรรมเกิดขึนทีนีแน่ๆ
ปูเ้ ฉิงจงได้ยินเสียงร้องไห้ทีดังต่อเนืองไม่หยุดก็โมโหจน
หัวแทบระเบิด เขาเอามือกุมขมับพูดขึนว่า
เมือพูดจบ เขาก็เดินกุมหัวเดินไปทางหลังบ้าน
สีหยุนจือนังมองเหตุการณ์อยูท่ างด้านหลังสตรีเหล่านัน
เห็นพวกนางค่อยๆ ยืนขึนด้วยความดีใจ บนใบหน้า
ปราศจากรอยนําตา สีหยุนจือจึงรูไ้ ด้ทนั ทีวา่ ท่านปู่ ได้
5
ผลักภาระทังหมดมาให้นางจัดการเสียแล้ว นางจึงจํา
เป็ นต้องยืนขึนรับมือกับสถานการณ์ทีเกิดขึนอย่าง
กะทันหันตรงหน้า
สตรีทงเก้
ั านางนีเกียวดองกับตระกูลปู้ สิงหนึงทีพวกนาง
มีเหมือนกันคือ สามีทีแต่งงานด้วยไปทําศึกสงครามร่วม
กับตระกูลปูแ้ ล้วตายในหน้าทีทังหมด ดังนันไม่วา่ อย่าง
ไรตระกูลปูก้ ็ควรจะเลียงดูพวกนางต่อ แต่ใครจะไปคิด
ว่าตระกูลปูจ้ ะถูกเนรเทศมาอยูน่ อกเมืองเช่นนี ทําให้
พวกนางไร้ทีพึงพิงจึงต้องเดินทางรอนแรมมาจนถึงเมือง
ลัวหยาง
เมือมองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นแม้แต่บา้ นเรือนหรือร้านค้า
พวกนางจึงต้องรีบรังคนขับรถม้าคนนันไว้ แล้วให้ราคา
สูงถึงห้าตําลึงเพือพาพวกนางมาส่งทีบ้านตระกูลปูท้ ีอยู่
ภูเขาลีในเมืองลัวหยาง
ทังหมดคือทีมาของภาพทีสีหยุนจือเห็นในตอนบ่าย
7
เมือรูส้ าเหตุอย่างนีแล้ว สีหยุนจือจึงไม่ได้ไล่ให้พวกนาง
ไปนอนนอกบ้าน แต่หากจะให้นอนในบ้าน นางก็ตอ้ งจัด
เตรียมทีนอนให้สาํ หรับทุกคน บ้านตระกูลปูแ้ ต่เดิมก็มี
ห้องอยูไ่ ม่กีห้อง แต่จะให้ไปนอนทีอืนก็ดจู ะไม่สะดวก
เมือคิดทบทวนไปมา สุดท้ายสีหยุนจือจึงยอมสละห้อง
นอนของตนให้หญิงเหล่านัน แม้วา่ นอนรวมกันในห้อง
เดียวจะอึดอัดอยูบ่ า้ ง แต่หอ้ งนอนของนางและปูถ้ านก็
เป็ นห้องทีใหญ่ทีสุดในบ้านนี ในสถานการณ์ทีไม่มีทาง
เลือกมากนัก นีดูจะเป็ นตัวเลือกทีดีทีสุดแล้ว
หลังจากตัดสินใจแล้วสีหยุนจือก็เรียกทหารมาสองนาย
ให้เข้าไปในเมืองกับนาง พร้อมกับเข็นรถเข็นไปด้วยสอง
8
คันเพือไปซือผ้าห่มและของใช้ทีจําเป็ น เมือผ่านร้านขาย
ของนางแวะซือลูกเหมย นําตาลก้อน และขนมหวาน
ต่างๆ ผูห้ ญิงต่างก็ชอบกินของหวานกันทังนัน พวกนาง
เดินทางมาตังไกลย่อมต้องเหนือยล้าเป็ นธรรมดา
เดิมทีในห้องมีเพียงเตียงเดียว นอนได้มากสุดก็แค่สอง
คน นางจึงปูทีนอนลงบนพืนหนึงที ปูหน้าฉากกันอีกหนึง
ที และพืนทีแคบทางซ้านของห้องอีกหนึงที เพียงเท่านัน
ในห้องก็มีฟกู นอนถึงสีทีด้วยกัน ซึงเพียงพอต่อจํานวน
คนทังเก้าคน
9
นางนําผ้านวมกองพะเนินลงมาจากรถเข็น เดือนนี
อากาศไม่หนาวเท่าไรแต่ก็ยงั ไม่ถงึ กับร้อน หญิงสาวจึง
วางผ้าห่มไว้บนฟูกด้านล่างสามผืนและบนเตียงใหญ่อีก
หนึงผืนเพือใช้หม่ นอน
ตอนทีนางจะเดินออกจากห้องก็เห็นขนมและของหวาน
ทีซือมาพร่องไปพอสมควรแล้ว
สตรีทงเก้
ั าต่างยืนบ้างนังบ้างคุยกันไม่หยุดปาก เมือเห็น
สีหยุนจือจัดเตรียมทีนอนให้เสร็จแล้วก็ไม่ได้กล่าวขอบ
คุณแต่อย่างใด กลับทยอยเดินเข้าไปในห้องทีจัดไว้
10
ช่วงเย็นของวันนัน สีหยุนจือทําอาหารให้พวกทหารกิน
เช่นเคยโดยมีบรรดาอาซ้อจากในหมูบ่ า้ นมาช่วยทํากับ
ข้าว เมือทหารทุกคนกินข้าวเสร็จ นางและลุงเยียนก็ยก
อาหารไปทีห้องนอน
11
เพราะหญิงสาวยกห้องนอนของตนให้แขก จึงต้องไป
นอนในห้องรับรองแขกเล็กๆ แทน นางคิดว่าตอนนีก็
จัดการเช่นนีก่อนแล้วกัน รอให้สามีกลับมาแล้วค่อยคิด
หาวิธีอืน
ทว่ากว่าจะผ่านพ้นไปแต่ละวัน นางแทบจะนับนิวรอให้
เขากลับมาเร็วๆ
จากนันสตรีทงเก้
ั าก็อยูแ่ ต่ในห้องไม่ยอมออกมา
12
พวกนางบอกว่าหญิงสูงศักดิควรอยูแ่ ต่ในบ้าน ไม่
สมควรออกมาแสดงตัวบ่อยนัก พวกนางจึงพากันเก็บ
เนือเก็บตัว เล่นไพ่นกกระจอกบ้าง ปั กดอกไม้บา้ ง แต่ก็
ยังออกมาข้างนอกเป็ นครังคราวเพือขออะไรเข้าไปกิน
และอดไม่ได้ทีจะพูดจาเหน็บแนมสีหยุนจือ ทว่าหญิง
สาวก็ไม่ได้โกรธหรือถือโทษแต่อย่างใด เพราะอย่างน้อย
ผูห้ ญิงพวกนีก็ไม่ได้สร้างความวุน่ วายให้ตนมากนัก
ส่วนเรืองทีพวกนางชอบวิจารณ์ สีหยุนจือก็ไม่ได้เก็บมา
คิดอยูแ่ ล้ว พวกนางมักจะบอกว่าสะใภ้ใหญ่หน้าตาแสน
ธรรมดาซึงเป็ นเรืองทีนางเองก็ไม่เคยคิดจะปฏิเสธ ทังยัง
บอกว่านางผอมแห้งดูทา่ จะมีลกู ยากและทีพูดก็เพราะ
เป็ นห่วงการสืบสกุลของตระกูลปู้ บ้างก็วา่ นางไม่เหมาะ
สมกับหลานชายคนเดียวของตระกูล เพียงเพราะว่านาง
13
ไม่ได้มาจากตระกูลทีมีชือเสียง
สีหยุนจือทําเพียงยิมรับคําวิจารณ์เหล่านัน เพราะไม่วา่
จะเหมาะสมหรือไม่ อย่างไรนางก็ได้ชือว่าเป็ นเป็ น
ภรรยาของปูถ้ านและคนของตระกูลปู้ ถึงจะมาวิพากษ์
วิจารณ์ตอนนีก็ไม่มีประโยชน์ จึงไม่คคู่ วรทีนางจะต้อง
ต่อปากต่อคํา
สีหยุนจือหาพืนทีเหมาะๆ ระหว่างห้องครัวกับหลังบ้าน
จากนันก็ซืออุปกรณ์ตา่ งๆ ในการก่อสร้างมาให้พวก
ทหารช่วยสร้างห้องขึนมาห้องหนึง เมือเสร็จเรียบร้อยก็
จัดเตรียมของใช้ทีจําเป็ นไว้ให้ จากนันก็บอกให้สตรีทงั
เก้าคนย้ายเข้าไป แต่ใครจะคาดว่าพวกนางจะปฏิเสธ
ทังยังบอกว่าตังแต่มาถึงบ้านนีพวกนางก็อาศัยอยูแ่ ต่ใน
14
ห้องนอนนีมาตลอด จะให้ไปอยูท่ ีอืนพวกนางคงไม่คนุ้
ชินสักเท่าไร พอได้ฟังอย่างนีสีหยุนจือก็จนปั ญญาแต่ก็
ไม่อยากไล่ตรงๆ จึงจําต้องยอมให้พวกนางทําตามใจไป
ก่อน
ย่างเข้าเดือนห้า
15
เขาทีหน้าบ้าน
ชายหนุ่มทีกําลังควบม้าตรงมาด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบ
หน้าหล่อเหลาคมคาย ดวงตาคมเข้ม ริมฝี ปากทีปอด
สนิทให้ความรูส้ กึ เยือกเย็นและสุขมุ แต่เมือสายตาเฉียบ
คมคูน่ นมองเห็
ั นสีหยุนจือทีวิงมารออยูห่ น้าบ้านก็พลัน
ฉายแววอ่อนโยนอย่างทีใครเห็นเป็ นต้องหลงใหล
16
ตอนที 31 คิดถึง
ปูถ้ านกระโดดลงมาจากหลังม้าด้วยท่าทางเหนือยล้า
แต่เมือได้พบหน้าหญิงสาวทีเฝ้าคิดถึงมาตลอด ความ
เหนือยล้าทังหมดก็หายไปในทันที เขายังไม่ทนั ได้วางแส้
ม้าในมือก็สง่ สายตาไปหาหญิงสาวทียืนรออยูก่ ่อน แล้ว
อ้าสองแขนออกพลางยิมอย่างอ่อนโยน สีหยุนจือวิงไป
หาเขาด้วยความดีใจ แต่ยงั ไม่ทนั วิงถึงอ้อมกอด
นางกลับชะงักฝี เท้าเสียก่อน สองแก้มแดงระเรือด้วย
ความอาย ปูถ้ านจึงยิมออกมาแล้วเป็ นฝ่ ายเดินเข้าไปดึง
นางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างชืนใจ
1
ทังคูแ่ สดงความรักกันท่ามกลางสายตาคนโดยรอบ คน
อืนทีเห็นภาพนีก็ถงึ กับนิงอึงไป เพราะฝ่ ายหญิงยังคงถือ
ทัพพีในมือ ส่วนฝ่ ายชายก็ยงั ถือแส้มา้ ไว้ไม่ปล่อย...
“ใต้เท้า เดียว...”
3
ชายหนุ่มใช้เท้าข้างหนึงดันประตูหอ้ งให้เปิ ดออก แล้ว
อุม้ นางเดินเข้าไปด้านใน
จากนัน...
จากนัน...ทังห้องก็เงียบเสียงลง
บรรดาสตรีทีกําลังเล่นไพ่นกกระจอก บ้างก็แต่งหน้า
บ้างก็กาํ ลังปั กผ้าอยูต่ า่ งชะงักงันทันทีทีเห็นปูถ้ านอุม้ สี
หยุนจือเดินเข้ามา
สีหยุนจือผลักอกเขาให้ออกห่างเล็กน้อย ก่อนกระซิบ
บอกว่า
4
“ใต้เท้า ข้าลืมบอกท่านไปว่าป้าสะใภ้ อาสะใภ้ น้าสะใภ้
และพีสาวน้องสาวของท่านมาขออาศัยอยูด่ ว้ ย ข้าจึงให้
พวกนางอยูท่ ีห้องของเราไปก่อนชัวคราวเจ้าค่ะ”
“...”
ตอนนีแม่นางทังหลายเพิงได้สติ หญิงร่างท้วมหลบสาย
ตาเขา เดินเข้าไปหาสีหยุนจือและปูถ้ านทังทีในมือยังถือ
ไพ่นกกระจอก นางยิมให้ชายหนุ่มแล้วเตรียมพูดอย่าง
5
ประจบประแจง
“ถาน...”
“ออกไปเดียวนี!”
“ช้าก่อนปูถ้ าน...”
“ออกไป!”
สีหยุนจืออยากจะรังพวกนางไว้แต่กลับถูกปูถ้ านถลึงตา
ใส่ จึงได้แต่นิงเงียบ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่กม้ หน้าก้ม
7
ตาเก็บผ้าห่มในห้องแล้วกึงเดินกึงวิงออกจากห้องไปเช่น
กัน
เพราะสีหยุนจือยกห้องนอนของเขาให้หญิงสาวพวกนัน
โดยทีไม่ได้ขออนุญาตเขาก่อน ทําให้นางรูส้ กึ เสียว
สันหลังอย่างประหลาด ทีแรกก็ตงใจว่
ั าจะให้ผหู้ ญิงพวก
นันย้ายไปอยูท่ ีห้องใหม่ก่อนทีเขาจะกลับมา จึงสังให้
ทหารสิบกว่าคนรีบสร้างห้องให้เสร็จโดยเร็ว แต่สดุ ท้าย
พวกนางก็ไม่ยอมย้ายจึงเกิดเรืองในวันนีขึนจนได้
8
สุดท้ายสีหยุนจือก็จดั เตรียมทีพักให้พวกนางเป็ นห้อง
ใหม่ถงึ สองห้อง เนือทีรวมกันย่อมกว้างกว่าห้องนอน
ของนางแน่นอน อีกทังภายในห้องก็ได้ปทู ีนอนเตรียมไว้
ให้เรียบร้อยแล้ว ถึงพวกนางจะดูไม่พอใจแต่ก็ไม่มีใคร
กล้าขัดอีก
9
จากนันสีหยุนจือจึงกลับเข้าครัวเพือทํากับข้าว เย็นนีนาง
เตรียมทําผัดเฉียจือกับกระเทียม ผัดถู่โต้วกับเนือวัว และ
ไก่ผดั เปรียวหวาน เพราะอาหารทีปูถ้ านชอบกินมีไม่กี
ชนิด กับข้าวทีทําในแต่ละวันจึงซําๆ กัน ส่วนสตรีทงเก้
ั า
นางได้จดั โต๊ะอาหารแยกไว้ให้ตา่ งหาก
สีหยุนจือยกนําแกงถ้วยสุดท้ายมาวางบนโต๊ะ ขณะที
กําลังจะกินข้าวก็ได้ยินเสียงหญิงร่างท้วมจากโต๊ะข้างๆ
เรียกพร้อมกับยืนถ้วยเปล่ามาให้แล้วพูดด้วยเสียงไม่ดงั
นัก
10
“เอาข้าวมาอีกถ้วย”
สีหยุนจือกลับมานังตามเดิมด้วยความแปลกใจ พอหัน
หน้าไปก็เห็นปูถ้ านกําลังนังนิง ดวงตาสีเข้มฉายแววขุ่น
เคืองจนนางยังอดกลัวไม่ได้ หญิงสาวจึงก้มหน้าก้มตา
กินข้าวโดยไม่พดู อะไรอีก
11
.
คืนนันในห้องนอนใหญ่
มีเสียงครางเบาๆ ผ่านม่านหน้าต่างทีกําลังพลิวไหวไป
มา
บนเตียงร่างของชายหญิงคูห่ นึงกําลังสอดประสานกัน
อย่างเร่าร้อน ทังห้องอบอวลไปด้วยความหอมหวาน
สีหยุนจือโอบกอดแผ่นหลังกํายําของเขาไว้แน่น เคลือน
ไหวตามแรงรุกของชายหนุ่ม เหงือเม็ดโตผุดพราวบน
12
หน้าผาก นางหรีตาและหายใจหอบราวกับปลาทีขาดนํา
มาเป็ นเวลานาน เสียงครางกระเส่าปนสะอืนน้อยๆ ดัง
ออกมาเป็ นครังคราว
เขาไม่เพียงแต่ไม่ยอมเบาแรงลง เสียงกระเส่าของนางยิง
ปลุกพลังบุรุษในตัวให้ลกุ โชนจนยากจะควบคุม เขายิงจู่
โจมนางอย่างเร่งเร้ามากกว่าเดิม
เรือนร่างทีเขาสัมผัสยังคงนุ่มเนียนไม่เปลียน และดู
เหมือนจะมีนามี
ํ นวลกว่าตอนทีเขาออกจากบ้านเสีย
13
ด้วยซํา
ชายหนุ่มกดแขนทังสองข้างของนาง หมายจะลงโทษ
หญิงสาวทีไม่เชือฟั ง เขาขยับกายรุกหนักขึนเรือยๆ จนสี
หยุนจือไม่มีเรียวแรงทีจะส่งเสียงใดๆ ออกมาอีก ร่าง
เปลือยเปล่าหมดแรงจะต้านทาน หญิงสาวถูกพลิกตัวไป
มาอยูห่ ลายครังจนจําไม่ได้แล้วว่าเขากอดรัดนาง
แน่นอย่างสุขสมไปแล้วกีครัง
14
ผ่านไปนานเท่าไรไม่รู ้ หญิงสาวเหนือยจนไม่อยากแม้แต่
จะขยับนิว ในทีสุดชายหนุ่มก็ลกุ ขึน เขาลงจากเตียงไป
ตักนําอุน่ มาเช็ดเนือเช็ดตัวให้นางด้วยตนเอง
สีหยุนจือนอนซบอกปูถ้ านเหมือนแมวน้อยขีอ้อนตัวหนึง
อ้อมกอดของเขาให้ความรูส้ กึ ทังอบอุน่ และปลอดภัย
นางแนบใบหน้าบนร่างแกร่งพลางถูไถไปมาอย่างผ่อน
คลาย จนกระทังเขาถามขึนว่า
“ช่วงทีข้าไม่อยู่ เจ้าคิดถึงข้าหรือไม่?”
คําถามของเขาทําให้นางใจเต้นแรง จึงพยักหน้าเบาๆ
แทนคําตอบ
15
นิวของชายหนุ่มลูบไล้แผ่นหลังของนางอย่างเบามือ ทํา
ให้หญิงสาวรูส้ กึ สบายจนแทบจะหลับไปตรงนัน แต่กลับ
มีคาํ ถามหนึงผุดขึนในความคิด นางจึงเงยหน้าสบตากับ
เขา
“แล้วท่านล่ะเจ้าคะ?”
เส้นผมดําขลับของนางแผ่สยายบนทีนอน ท่าทางออด
อ้อนเหมือนแมวน้อยขีเซา แต่แววตากลับเป็ นประกาย
รอคอยคําตอบอย่างใจจดใจจ่อ เขาเห็นแววตาอย่างนัน
ของภรรยาก็อดไม่ได้ทีจะลูบหัวนางเบาๆ อย่างทะนุ
ถนอมแล้วพูดด้วยนําเสียงหยอกเย้า
16
“ข้ารังแกเจ้าจนร่างแทบจะแตกสลาย จนข้าแทบจะตาย
ในสนามรบ เช่นนีแล้วเจ้ายังสงสัยอยูอ่ ีกหรือ?”
“...”
17
สีหยุนจือโอบเอวของปูถ้ าน ส่ายหน้าช้าๆ “ไม่กงั วล
หรอกเจ้าค่ะ เรืองทํานาก็มีลงุ เยียนกับลุงฝูเป็ นคนดูแล
ข้ารับผิดชอบเฉพาะเรืองอาหารการกิน ส่วนรายจ่ายยัง
พอรับมือไหวอยู่ ใต้เท้าไม่ตอ้ งเป็ นกังวลหรอกเจ้าค่ะ”
ด้วยความเหนือยล้าเหลือเกิน สีหยุนจือจึงได้แต่นอนนิง
บนร่างเขาไม่ยอมลุก ปูถ้ านดึงมือของนางออกแล้วหา
หมอนนุ่มๆ สองใบมารองหัวให้แทน ส่วนตัวเขาก็เดินลง
18
จากเตียงไปใส่เสือผ้าหลังฉากกัน
19
ตอนที 32 ของฝากจากหนานหนิง
เมือเดินออกมาจากหลังฉากกัน เขาก็หยิบห่อผ้าหนึงห่อ
ออกมาด้วย ชายหนุ่มยืนห่อผ้านันให้สีหยุนจือแล้วพูด
ด้วยนําเสียงเรียบนิง
“ข้าให้เจ้า”
สีหยุนจือมองห่อผ้าในมือเขาด้วยความสงสัย หญิงสาว
ยันตัวลุกขึนนังแล้วรับห่อผ้ามาจากอีกฝ่ าย
“นีคืออะไรหรือเจ้าคะ?”
1
หญิงสาวเอ่ยถามแต่เขาไม่ตอบ นางจึงวางห่อผ้าลงบน
ตักของตนแล้วเปิ ดออก ทันทีทีเห็นของในห่อผ้าเพียง
แวบเดียว นางถึงกับนิงอึงไปทันที
หญิงสาวตะลึงงันอยูน่ าน จึงได้ถามออกมาอย่างแผ่ว
2
เบา
“ใต้เท้า ท่านไม่ได้ไปปล้นใครทีหนานหนิงใช่ไหมเจ้า
คะ?”
“...”
3
เมือเห็นภรรยามีสีหน้าคิดมาก เขาก็จาํ ต้องบอกตาม
ความจริง พร้อมกับถามกลับไปว่า
“เจ้าคงไม่คิดว่า...ตระกูลปูท้ าํ ศึกสงครามมาหลายสิบปี
มาวันนีจะไม่มีสมบัติเหลืออยูเ่ ลยอย่างนันใช่ไหม?”
“...”
4
หลังจากทีปูถ้ านกลับมาจากหนานหนิง
ก่อนหน้านีเขาก็ให้หอ่ ผ้าทีด้านในมีเครืองประดับมีคา่
มากมายมาหนึงห่อ วันต่อมาก็ไม่รูไ้ ปเอาดอกไม้จาก
ไหนมาให้จนเต็มห้องไปหมด
5
งานสีหยุนจือ
อีกอย่างพืนทีในบ้านเดิมทีก็ไม่ได้กว้างมากนัก ตอนนี
จ้าวอีและหานเฟิ งจึงต้องย้ายไปนอนห้องเดียวกัน และ
ยกอีกห้องให้ปา้ หลิวและสาวใช้สองคนพักอยูด่ ว้ ยกัน
ส่วนบ่าวรับใช้ชายให้ไปอยูใ่ นห้องรับรองแขกเล็กๆ ที
ว่างอยู่ เมือทังหมดต้องมาอยูร่ วมกัน บ้านหลังเล็กจึง
แออัดขึนในทันที
ตอนเย็นวันนันนางได้ลองปรึกษาเรืองนีกับปูถ้ าน แต่ที
6
นางไม่คาดคิดคือวันต่อมาอีกฝ่ ายจะยืนแผนการต่อเติม
บ้านทีเขาออกแบบและเขียนไว้บนกระดาษอย่างเรียบ
ร้อยส่งมาให้แล้วถามนางว่ามีอะไรอยากจะเสริมอีกหรือ
ไม่
สุดท้ายหญิงสาวจึงยืนยันกับเขาว่า นางจะสร้างบ้าน
ใหม่ขนหนึ
ึ งหลัง และต่อเติมห้องภายในเพียงห้าหรือหก
ห้องเท่านัน โดยสร้างบนพืนทีว่างข้างๆ ห้องนอนหลัก
แล้วแยกเป็ นหลังเดียวจากบ้านหลังอืนๆ แต่ให้อยูใ่ น
บริเวณเดียวกัน และบ้านใหม่นีจะให้มีหอ้ งนอนหนึงห้อง
ห้องของลูกๆ อีกสองห้อง ห้องหนังสือหนึงห้อง และห้อง
ทํางานเย็บปั กอีกหนึงห้อง
8
บ้านหลังนีตังอยูไ่ ม่หา่ งจากบ้านเดิมของท่านปู่ ทีอยูด่ า้ น
หลังมากนัก แต่มีกาํ แพงแยกเป็ นสัดเป็ นส่วนชัดเจน
เวลาสร้างจึงไม่จาํ เป็ นต้องทุบกําแพง และไม่เป็ นการ
รบกวนการพักผ่อนของท่านปู่
ตอนนีงานบ้านส่วนใหญ่มีปา้ หลิวและสาวใช้อีกสองคน
คอยดูแล สีหยุนจือจึงดูแลเฉพาะเรืองทําอาหารให้คนใน
บ้านเท่านัน ซึงทําให้นางมีเวลาว่างมากกว่าเดิม
9
วันนีพอมีเวลาว่างจึงมานังนอกบ้านเพือปั กรูปดอก
กล้วยไม้ทีมุมเสือให้เขา ขณะทีกําลังปั กจนใกล้จะเสร็จ
พีสะใภ้ทา่ นหนึงบังเอิญเดินผ่านมาจึงเข้ามาดูวา่ นาง
กําลังทําอะไร
แม่นางเชียนก้มตัวมาหยิบเสือในมือของสีหยุนจือไปดู
10
แล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “เจ้าพยายามปั กดอกไม้นีมา
หลายวันแล้วล่ะสิ?”
แม่นางเชียนถอนหายใจทีหนึง โยนเสือตัวนันคืนให้สีหยุ
นจือ พูดอย่างไม่รกั ษานําใจ “ฝี มือมีเท่านีรึ ดอกไม้ก็ดไู ม่
เป็ นรูปเป็ นร่าง ไม่มีชีวิตชีวา สีก็เชย ไม่รูม้ ารดาของเจ้า
สอนมาอย่างไร?”
11
หน้าไม่พดู อะไรอีก
อาสะใภ้หลานเดินออกมาตามหาแม่นางเชียนเหมือนจะ
มีธุระบางอย่าง แม่นางเชียนมีสีหน้าดีใจราวกับเจอคนที
จะร่วมวิจารณ์เรืองของสีหยุนจือด้วยแล้ว จึงรีบกวักมือ
เรียกอีกฝ่ าย จากนันก็ดงึ เสือจากมือของสีหยุนจือไปยืน
ให้ดแู ล้วพูดว่า
หญิงสูงวัยกว่าเดินเข้ามารับไปดูอย่างพินิจพิเคราะห์ครู ่
หนึงแล้วพูดขึนว่า “นีมันอะไรกัน? จะว่าดอกไม้ก็ไม่ใช่
12
จะว่าเป็ นต้นหญ้าก็ไม่เหมือน ฝี มือมีเพียงเท่านีไม่รูว้ า่
หลานชายข้าจะใส่เสือตัวนีลงได้อย่างไร”
“...”
13
สีหยุนจือเพียงแต่ยมโดยไม่
ิ พดู อะไร ก้มหน้าก้มตาเก็บ
เข็มกับด้าย จากนันก็เห็นว่าอาสะใภ้ไม่ได้สนใจนางแล้ว
แต่หนั ไปดึงมือพีสะใภ้พาเข้าไปในห้องเหมือนมีเรืองที
อยากคุยกันแต่ไม่อยากให้ใครรู ้
ต้นเดือนห้า
หญิงสาวเก็บเทียบเชิญไว้แต่ไม่ได้ตอบตกลงกับคนทีนํา
มามอบให้ในทันที เพราะจางถิงไม่ได้เชิญนางเพียงคน
เดียว แต่เชิญครอบครัวตระกูลปูท้ กุ คน นางจึงไม่อาจ
ตัดสินใจได้เพียงลําพัง
15
ระหว่างทีกินอาหารเย็นร่วมกัน สีหยุนจือจึงพูดเรืองนีขึน
ผูช้ ายทีนังร่วมโต๊ะอาหารต่างนิงฟั งทีนางบอก ท่านปู่ ที
กําลังคีบอาหารเข้าปาก ถามนางว่า
“หลานสะใภ้ เจ้าบอกว่ามีคนเชิญบ้านเราไปกิน
ข้าวอย่างนันรึ?”
สีหยุนจือเห็นว่าท่านปู่ มีสีหน้าเปลียนไปจึงวางตะเกียบ
ลง พยักหน้าน้อยๆ แล้วตอบอย่างมีมารยาท
17
“ข้าหมายความว่า...ในเมือเขาอุตส่าห์เชิญมาแล้ว ตระกู
ลปูข้ องเราก็ควรจะตอบรับคําเชิญ จะให้เจ้าภาพเสีย
หน้าได้อย่างไร”
คนทีเหลือมองหน้ากันไปมาราวกับจะบอกว่า ‘ถึงจะพูด
อย่างนัน ก็ปิดอารมณ์ดีใจไม่มิดอยูด่ ี’
18
ท่านปู่ จงึ ยอมนังลงอย่างพอใจ ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
19
ตอนที 33 ข้าไม่อยากรู้แล้วเจ้าค่ะ
หญิงสาวถือเสือทีตังใจทําให้สามีแต่กลับถูกอาสะใภ้
และแม่นางเชียนดูถกู ฝี มือการปั กขึนมาดู จากนันก็หนั
ซ้ายมองขวา เมือไม่เห็นใครนางจึงนังเลาะด้ายทีเย็บไป
แล้วออก
1
ดี และทันทีทีนางเห็นเขาก็ลกุ ขึนเดินไปหาพร้อมรอยยิม
ปูถ้ านอยากจะดึงหญิงสาวเข้ามากอดแล้วจุมพิตนางสัก
หน่อย แต่อีกฝ่ ายกลับหลบได้ทนั ทว่าเขาก็ไม่ได้ถือสา
การกระทําแบบนันของนาง
ชายหนุ่มกางแขนทังสองข้างออก เมือสีหยุนจือเห็นท่า
ทางอย่างนันของสามีก็รูไ้ ด้ทนั ที จึงเข้าไปเปลียนเสือ
นอกให้เขาอย่างคล่องแคล่ว
2
“เย็บเสร็จแล้วไม่ใช่ร?ึ ”
สีหยุนจือเดินไปหยิบเสือตัวใหม่ออกมาจากตู้ บอกกับ
ชายหนุ่มด้วยรอยยิม “ยังไม่เสร็จเจ้าค่ะ ข้าอยากปั ก
ดอกไม้ไว้ทีมุมเสือ จะได้ตา่ งจากเสือตัวอืนๆ ของท่าน”
ปูถ้ านเห็นนางพูดด้วยท่าทางเขินอายจึงไม่ได้ถามอะไร
อีก เขาขึนไปนอนอ่านหนังสือบนเตียงโดยมีสีหยุนจือนัง
ปั กผ้าอยูข่ า้ งๆ บรรยากาศภายในห้องจึงเงียบสนิท ไม่มี
ใครพูดอะไร จนกระทังปูถ้ านละสายตาจากหนังสือและ
เหลือบมองหญิงสาวข้างกาย เห็นนางจ้องลายดอกไม้ที
กําลังปั กด้วยสายตาเศร้าสร้อยจึงพูดขึนว่า
3
“งานฝี มือของพวกนางล้วนแต่เรียนมาจากอาจารย์ฝีมือ
ดีในเมืองหลวง ปกติพวกนางก็ชอบติชมงานของคนอืน
ไปทัว เจ้าไม่ตอ้ งไปใส่ใจหรอก ไม่วา่ เจ้าจะปั กออกมา
เป็ นรูปอะไร ข้าก็ใส่ได้ทงนั
ั น”
4
เมือได้ยินนางพูดอย่างนัน ปูถ้ านก็เงยหน้าขึน พอเจอกับ
แววตาซุกซนของนาง เขาก็นิงงันไปครูห่ นึง เพราะในใจ
ยังนึกแปลกใจทีตัวเองพูดคําหวานๆ อย่างนันออกมา
เขาจึงไม่ปฏิเสธ ซํายังพยักหน้าแล้วพูดยืนยันกับนางว่า
“...”
5
เมือชายหนุ่มถูกภรรยาของตนพูดเย้าแหย่ดว้ ยสีหน้า
อย่างนัน ก็เปลียนเป็ นมองหน้าหญิงสาวอย่างมีเลศนัย
เขาวางหนังสือลงแล้วเก็บด้ายจากมือของนางนําไปวาง
ไว้ดา้ นในสุดของเตียง ก่อนจะยิมเจ้าเล่หเ์ ล็กน้อยพลาง
ถามว่า
“เจ้าอยากรูใ้ ช่หรือไม่?”
สีหยุนจือถูกเขามองด้วยสายตาอย่างนันก็เริมเสียว
สันหลัง หากตอนนีนางไม่รูว้ า่ ปูถ้ านกําลังคิดอะไรก็คง
ไปบวชเป็ นผูท้ รงศีลได้แล้ว หญิงสาวพยักหน้าพร้อมกับ
ตอบกลับไปว่า
6
“เจ้าค่ะ...”
ปูถ้ านดึงตัวนางทีนังในท่าพิงหมอนลงมานอนราบบน
เตียง แล้วค่อมอยูเ่ หนือร่าง “ถ้าอย่างนันข้าจะบอกเจ้าที
ใต้ผา้ ห่มนีแล้วกัน”
7
“ว้าย... ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากรูแ้ ล้ว...”
“...”
หลังจากเสียงนันขาดช่วงไปก็กลายเป็ นเสียงครางเบาๆ
ของหญิงสาวทีตอบรับทุกการเคลือนไหวของชายหนุ่ม
อย่างเร่าร้อน แน่นอนว่า...คืนนีใครบางคนคงไม่ปล่อย
โอกาสในการลงโทษให้ผา่ นไปง่ายๆ แน่
9
กับเถ้าแก่เนียหน่อย”
“...”
สีหยุนจือมองเสียวเอ้อสิบกว่าคน และยังมีคนทีวางมือ
ออกมาจากครัวอีกสามคนซึงตอนนีกําลังยืนห้อมล้อม
นางอยู่
“คารวะเถ้าแก่เนีย”
10
ทุกคนแสดงความเคารพสีหยุนจืออย่างพร้อมเพรียง ทํา
เอาหญิงสาวสะดุง้ ตกใจ นางขมวดคิวแล้วกระซิบถาม
จางถิงว่า
“เจ้าทําอะไรของเจ้าน่ะ?”
จางถิงกระซิบตอบกลับมา “ข้า--จางถิงไม่ใช่คนลืมบุญ
คุณคน เมือก่อนเจ้าดีกบั ข้าอย่างไร หากข้าไม่รูจ้ กั ตอบ
แทนจะกล้าสูห้ น้าเจ้าได้ร”ึ
11
จางถิงบอกให้บรรดาลูกน้องพาคนตระกูลปูข้ นไปที
ึ ห้อง
รับรองแขกสําคัญทีชันบน ส่วนเขาดึงมือนางมาคุยที
ด้านข้าง ทํานิวมือให้นางดูแล้วบอกว่า “แต่ก่อนข้าเจ็ด
ส่วนเจ้าสามส่วน ตอนนีเราก็แบ่งกันแบบเดิม ข้าเจ็ดเจ้า
สาม แต่เจ้าไม่ตอ้ งทําอะไรทังนัน นังรอเงินแต่ละเดือน
จากข้าก็พอ”
“ถนนเซียงหลัวงันรึ? ของทีขายในซอยนันส่วนมากก็จะ
เป็ นเครืองประทินโฉมและมีแต่ของใช้ของผูห้ ญิงทังนัน
13
เจ้าจะขายอะไรรึ?”
นางไม่ได้ตอบคําถามของจางถิงแต่กลับยิมอย่างมีเลศ
นัย ก่อนจะเดินไปยังห้องรับรองแขกด้านบน
สีหยุนจือถือตะกร้าใส่ดา้ ยเดินออกมาจากห้อง
นางอยากจะนําดอกไม้ทีปั กใหม่ไปให้พวกอาซ้อดูสกั
หน่อย แต่กลับเห็นป้าหลิวบ่นงึมงําออกมาจากห้องของ
พวกนาง
14
เมือเห็นสีหยุนจือป้าหลิวก็รบี กลับมาอยูใ่ นท่าสํารวม
และยืนอย่างสุภาพอยูด่ า้ นข้าง แต่สีหน้ายังมองออกว่า
กําลังโมโห สีหยุนจือจึงถามว่า
“ป้าหลิว มีอะไรรึ?”
“ข้ากําลังจะเข้าไปเอาเสือผ้าของพวกนางมาซักเจ้าค่ะ
แต่ดนั ไปจับเสือใหม่ของฮูหยินหลานเข้า ก็เลยถูกด่า
15
และไล่ตะเพิดออกมานีแหละเจ้าค่ะ”
สีหยุนจือถามยํากับป้าหลิว “เสือใหม่ของฮูหยินหลาน
รึ?”
อาสะใภ้ใช้เงินของตัวเองหมดไปตังนานแล้วไม่ใช่ร?ึ จะ
เอาเงินจากทีไหนไปซือเสือใหม่กนั ? ขณะทีนางกําลังนึก
แปลกใจอยูน่ นั ป้าหลิวก็พดู ขึนอีกว่า
“เจ้าค่ะ ได้ยินว่าไม่กีวันก่อนฮูหยินหลานยืมเงินแม่นาง
เชียนแล้วก็ให้ปินปั กผมทีนางไม่คอ่ ยได้ใช้เป็ นของจํานํา
จากนันก็นาํ เงินทีได้ไปซือเสือใหม่มาจากตลาด แต่ไม่วา่
ของจะแพงแค่ไหนก็เป็ นแค่เสือไม่ใช่หรือเจ้าคะ ข้าก็แค่
16
จับ ไม่ได้หยิบมาใส่สกั หน่อย ทําไมจะต้องด่ากันจนไม่
เป็ นผูเ้ ป็ นคนขนาดนีด้วย?”
“...”
สีหยุนจือฟั งป้าหลิวเล่าก็พอจะเข้าใจเรืองราวคร่าวๆ
นางพูดปลอบแล้วบอกให้ปา้ หลิวกลับไปทํางานต่อและ
อย่าได้คิดมาก ส่วนตนเองถือเสือเข้าไปในห้องของพวก
นาง
17
เดิมทีแม่นางเชียนก็ดถู กู ฝี มือของนางอยูแ่ ล้ว แต่สีหยุ
นจือก็ไม่นกึ โกรธ ทว่ายิงนางถามก็ยงกลายเป็
ิ นการยัว
โมโหอีกฝ่ ายโดยไม่รูต้ วั แม่นางเชียนแสดงสีหน้าไม่พอ
ใจ แต่จะให้ปฏิเสธตรงๆ ก็จะดูไม่ดี จึงแนะนําสีหยุนจือ
ไปอย่างรําคาญ เพือทีนางจะได้รบี ๆ ออกไปจากห้อง
ของพวกตนเสียที แต่สีหยุนจือกลับยืนยิมราวกับไม่รูส้ กึ รู ้
สาอะไรเสียอย่างนัน
18
เมือได้ฟังทีสาวใช้บอก สีหยุนจือกลับยิมแต่ก็ไม่ได้พดู
อะไร เพราะนางไม่คิดจะสนใจคําพูดพวกนันอยูแ่ ล้ว
19
ตอนที 34 รางวัลตอบแทน
วันต่อมา สีหยุนจือบอกให้สาวใช้ไปเชิญแม่นางเชียนมา
สอนงานปั กให้นางทีห้อง
แม่นางเชียนมาตามคําเชิญด้วยสีหน้าและท่าทางที
บ่งบอกชัดเจนว่ารําคาญเหลือทน แต่ละถ้อยคําทีพูดกับ
สีหยุนจือบอกถึงความเย่อหยิงและทะนงตน
1
พอให้ตดั เสือได้สกั สองตัว ท่านมีรูปร่างทีงดงามเหมาะ
กับผ้าผืนนีมาก สมควรแล้วทีข้าจะมอบของเล็กๆ น้อยๆ
นีให้”
เมือได้ฟังสีหยุนจือพูดแบบนี แม่นางเชียนก็เปลียนสี
หน้าทันที ไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจหรือพูดว่าน้อง
สะใภ้อีก
แม่นางเชียนถือผ้าไหมกลับห้องด้วยหน้าตาชืนมืน ตังใจ
จะเอาไปอวดคนอืนๆ พร้อมกับบอกว่าน้องสะใภ้ชืนชม
ในความงามของนาง ดูเหมือนว่านางจะเริมพูดเข้าข้างสี
หยุนจือขึนมาบ้างแล้ว
2
แม่นางคนอืนๆ แสร้งทําเป็ นไม่สนใจ แต่ในใจกลับนึก
อิจฉาและอยากได้ผา้ ไหมอย่างนันบ้าง
นางจึงให้สาวใช้ไปตามแม่นางเชียนมาสอนทีห้อง แต่แม่
นางเชียนนําผ้าออกไปตัดทีตลาด สาวใช้จงึ ต้องเรียกแม่
นางท่านอืนทีปั กผ้าเป็ นให้ไปช่วยสอนฮูหยินแทน
แม่นางหนิงเดินเข้าไปในห้องด้วยแววตาคาดหวัง พูดคุย
กับสีหยุนจืออย่างอารมณ์ดี
3
หลังจากทีสีหยุนจือถามนางเรืองงานปั กเรียบร้อยแล้ว
ก่อนกลับก็ได้มอบปิ นทองรูปดอกเหมยให้เป็ นการขอบ
คุณ แม่นางหนิงถือปิ นปั กผมกลับห้อง ทุกคนในห้องต่าง
มองหน้ากันไปมา
ครังทีแล้วแม่นางเชียนก็ได้รบั ผ้าไหมเนือดีมาผืนใหญ่
มูลค่าของผ้าอย่างน้อยๆ ไม่ตากว่
ํ าสองตําลึง มาครังนี
ยังมอบปิ นปั กผมฝี มือประณีตงดงามให้กบั แม่นางหนิง
อีก ราคาของปิ นก็คงไม่ตากว่
ํ าห้าตําลึงแน่นอน พวกนาง
ต่างก็คิดในใจว่าสะใภ้ตระกูลปูค้ นนีช่างใจกว้างจริงๆ
เมือแม่นางเชียนกลับมาจากตัดเสือ แล้วเห็นแม่นางหนิง
มีปินปั กผมอันใหม่จงึ ถามทีมาทีไป พอนางรูเ้ รืองก็โกรธ
4
เป็ นฟื นเป็ นไฟ แล้วต่อว่าอีกฝ่ าย “เจ้าทําอย่างนีไม่ถกู
ต้อง จะมาแย่งของทีเดิมทีควรจะเป็ นของข้าได้อย่างไร”
แม่นางหนิงได้ฟังคํากล่าวหาก็โกรธจัด ตอกกลับไปว่า
“นีเป็ นของทีน้องสะใภ้มอบให้ขา้ เองกับมือ เช่นนัน
แล้วจะเป็ นของเจ้าได้อย่างไร?”
5
ความช่วยเหลือก็บอกได้ทกุ เมือ ส่วนคนทีปั กผ้าไม่เป็ นก็
เข้าไปประจบประแจงทําดีกบั นางสารพัด เผือว่าบางที
อาจจะได้ของติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง
ผ่านไปครึงเดือน
แม่นางเชียนก็ไปรับเสือทีตัดเสร็จแล้วกลับมา
พวกนางบางคนทียังไม่เคยได้รบั ของกํานัลจากการไป
ช่วยงานสีหยุนจือต่างก็เก็บความอิจฉาไว้ในใจ เมือเห็น
แม่นางเชียนใส่เสือตัวใหม่เดินอวดโฉมไปมาในห้องก็ยงิ
6
เกิดความหมันไส้ จนกระทังพวกนางสุดจะทนกับความ
โอ้อวดนี
7
สีหยุนจือเตรียมรถม้าไว้สามคัน พาสตรีทงเก้
ั านางและ
สาวใช้อีกสองคนเดินทางเข้าเมือง
รถม้าวิงไปตามทางจนถึงถนนเซียงหลัว บนถนนเส้นนีมี
ทังเครืองสําอาง เสือผ้า เครืองประดับ และของใช้ของ
ผูห้ ญิงวางขายอยูเ่ ป็ นจํานวนมาก เมือเดินเข้าไปกลิน
หอมของเครืองประทินผิวก็อบอวลไปหมด บรรยากาศ
ในตลาดก็คกึ คัก แม่นางทังหลายเดินคุยกันเสียงดังไม่
หยุดปากอยูด่ า้ นหลังสีหยุนจือ ชวนกันชีนันชีนีราวกลับ
ฝูงนกทีเพิงถูกปล่อยออกจากรัง
พอเห็นสีหยุนจือเดินเข้าไปในร้านเครืองประดับร้านหนึง
แม่นางทังหลายต่างก็มองหน้ากันไปมาอย่างตืนเต้น
พลางสํารวจของในร้านด้วยแววตาเป็ นประกาย
8
สีหยุนจือเลือกต่างหูไข่มกุ ออกมาคูห่ นึง เป็ นมุกเม็ดกลม
โตเมือลงวางบนผ้าสีดาํ ยิงเพิมความสวยงามโดดเด่นให้
กับต่างหูคนู่ นั ความงามของมันดูแล้วไม่ใช่เครือง
ประดับธรรมดาแน่นอน
9
เถ้าแก่ทาํ มือบอกราคากับสีหยุนจือ พร้อมกับกล่าวชม
“ฮูหยินสายตาเฉียบคมมากขอรับ นีเป็ นไข่มกุ ทะเลทีพ่อ
ค้าชาวเปอร์เซียเพิงจะเอามาขายให้ขา้ เป็ นไข่มกุ ทีหา
ยากมากเลยขอรับ หากฮูหยินอยากได้จริงๆ ข้าก็ยินดีให้
ราคาพิเศษเพียงแปดตําลึงเท่านันขอรับ”
หลังจากทีนางเลือกของมาจํานวนหนึงก็ถามกับเถ้าแก่
ว่า
“ทังหมดเท่าไร?”
11
“ฮูหยินขอรับ ทังหมดนีราคายีสิบเอ็ดตําลึงกับแปดอี
แปะ ฮูหยินจะรับทังหมดเลยไหม? ข้าจะได้ใส่หอ่ ให้ทา่ น
เลยขอรับ?”
สีหยุนจือหยิบทองแท่งสิบตําลึงออกมาสองก้อนวางลง
บนโต๊ะ แล้วบอกว่า “ยีสิบตําลึง ห่อให้ขา้ ทังหมดนีเลย”
บรรดาแม่นางทีมาเดินตลาดกับสีหยุนจือต่างดีใจว่าครัง
12
นีพวกนางคงมาไม่เสียเปล่า พากันเดินไปมาในร้าน ถาม
ราคาของชินนันชินนีกับคนขายราวกับว่าจะซือทังหมด
สีหยุนจือกวักมือเรียกสาวใช้ทงสอง
ั หรูอีและหรูเย
ว่รบี มาหาตามคําเรียกทันที นางยืนแหวนวงเล็กสองวงที
ซือเมือครูใ่ ห้ทงสองแล้
ั วบอกว่า “พวกเจ้าทํางานหนักกัน
ทุกวัน เจ้าของบ้านอย่างข้าก็ไม่มีอะไรจะให้ มีเพียงของ
เล็กๆ น้อยๆ พวกนี เจ้าสองคนอย่าได้รงั เกียจและรับไว้
เถอะนะ”
สาวใช้ทงสองล้
ั วนมาจากครอบครัวทียากจน เครือง
ประดับเพียงชินเดียวทีมีก็คือปิ นปั กผมไม้ทีใช้อยูเ่ ท่านัน
พวกเพชรนิลจินดาทังหลายยิงไม่ตอ้ งนึกฝันว่าจะได้มีไว้
ครอบครองอย่างคนอืน ไม่คิดว่ามาทํางานเพียงไม่นาน
13
เจ้าของบ้านก็มอบแหวนให้จงึ นึกประหลาดใจอยูไ่ ม่นอ้ ย
แต่ก็รบี คุกเข่าคารวะฮูหยินแล้วรับแหวนมาสวมด้วย
ความดีใจ
อาสะใภ้หลานเห็นอย่างนันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงตังใจ
จะเดินไปพูดประจบหลานสะใภ้สกั หน่อย จากนันก็คอ่ ย
บอกกับนางว่า เมือครูท่ ีเดินดูของในร้านตนถูกใจปิ นปั ก
ผมหยกอันนัน แน่นอนว่าด้วยความทีตนเองเป็ นญาติ
ผูใ้ หญ่ สีหยุนจือทีเป็ นหลานสะใภ้ยอ่ มจะต้องออกเงิน
ซือให้แน่ๆ
14
“ของทีนีไม่เหมือนของทีเมืองหลวง คงจะไม่มีชินไหนที
ถูกใจพวกท่านหรอก ข้าเพียงอยากพามาเดินเล่นแก้เบือ
เท่านัน ตอนนีข้าซือของเสร็จแล้วพวกเราเดินไปดูผา้ กัน
ต่อเถอะเจ้าค่ะ”
“...”
สีหยุนจือพูดจบก็เดินออกจากร้านเครืองประดับทันที
เหลือเพียงแม่นางทังหลายทีมองหน้ากันไปมาแล้วได้แต่
เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ
15
มาก ร้านเครืองประดับทีเมืองหลวงกับทีลัวหยางจะต่าง
กันสักเท่าไรเชียว? มาถึงตอนนีพวกนางไม่เกียงหรอกว่า
เครืองประดับนันจะซือมาจากทีไหน
สตรีทงเก้
ั าเดินตลาดเป็ นเพือนสีหยุนจือตลอดทังวัน
หญิงสาวเองก็ซือข้าวของไปมากมาย ทังของกิน ของใช้
เสือผ้า และยังซือเผือให้คนครอบครัวตระกูลปูท้ ีอยูท่ ี
บ้านทุกคน ทังหมดล้วนเป็ นของดีราคาแพงแต่ไม่เห็นจะ
ถามหรือซือให้พวกนางเลย
ถึงพวกนางจะมาจากทีเดียวกันแต่ก็ไม่มีใครยอมใคร ถ้า
จะให้เอ่ยปากขอจากคนอืนก่อนพวกนางก็ไม่อาจทําได้
แต่ทีน่าโมโหทีสุดก็คือ...ทําไมสีหยุนจือถึงไม่คิดจะให้
ของพวกนางเหมือนกับทีให้แม่นางเชียนและแม่นางหนิง
บ้าง แต่ละนางต่างก็เก็บงําความอึดอัดใจนีไว้แล้วพากัน
17
กลับบ้านด้วยความผิดหวัง
---------------------------------------------------
18
ตอนที 35 โจมตีจุดอ่อน
เมือปูถ้ านกลับมาก็พบว่าภายในบ้านวันนีเงียบกว่าปกติ
ไม่มีเสียงเซ็งแซ่เหมือนเคย
พอเปิ ดประตูเข้าไปในห้องก็พบสีหยุนจือกําลังนังเก็บ
เครืองประดับทีวางกองอยูเ่ ต็มโต๊ะ
ทันทีทีนางเห็นสามีเดินเข้ามาก็ยมหวานให้
ิ ชายหนุ่ม
เห็นแล้วอดทีจะหยอกนางไม่ได้ จึงใช้มือหนีบแก้มเบาๆ
ไปสองที ก่อนจะนังลงข้างๆ พลางปลดผ้าคาดเอวแล้ว
ถามว่า
1
“เจ้าเตรียมจะเอาไปขายรึ?”
สีหยุนจือได้ยินเขาล้ออย่างนันก็แสร้งค้อนใส่แล้วบอกว่า
“ใต้เท้า ท่านล้อข้าเล่นอีกแล้ว ข้าเพียงแต่เอาของมา
เทียบกัน ท่านดูส.ิ ..”
สีหยุนจือพูดพลางหยิบมุกขึนมาสองเม็ดแล้วยืนให้ปู้
ถานดู พูดต่ออีกว่า “นีเป็ นไข่มกุ ทีอยูใ่ นถุงผ้าทีท่านมอบ
ให้ขา้ ส่วนนีเป็ นไข่มกุ ทีข้าเพิงไปซือมาวันนีราคาแปด
ตําลึง ไม่วา่ จะดูจากสีหรือขนาดของมุก หรือแม้กระทัง
ความประณีตของงาน ไม่วา่ จะเทียบอย่างไรไข่มกุ ทีท่าน
ให้ก็ดมู ีราคาสูงกว่ามาก หากนําไปขายคงได้ราคาไม่ตาํ
2
กว่าสองร้อยตําลึง”
3
“ถ้ามาจากราชวงศ์จริงๆ ก็ตอ้ งไม่ใช่แค่สองร้อยตําลึง
แน่ๆ”
4
“...”
5
ชายหนุ่มรูส้ กึ ประหลาดใจกับคําตอบของภรรยา เพราะ
นันดูไม่เหมือนการกระทําของนางทีมักจะใช้วิธีทีรวบรัด
ในการเอาชนะใจคนอืน
“ข้าคิดว่าเราไม่ควรจะให้ปลากับพวกนาง แต่ควรสอน
ให้รูจ้ กั ตกปลาด้วยตัวเอง เพราะพวกนางจะเอาแต่พงึ
พาคนอืนอย่างนีไปตลอดชีวิตไม่ได้จริงไหมเจ้าคะ?”
6
เขาเองก็คิดถึงปั ญหานีอยูเ่ ช่นกัน ยามตระกูลปูม้ ีพร้อม
ทุกอย่างก็สามารถอุม้ ชูพวกนางให้อยูไ่ ด้อย่างสบายโดย
ไม่คิดว่าผูห้ ญิงเหล่านีจะสร้างปั ญหาใดๆ
เมือเห็นภรรยามีสีหน้าท่าทางมันใจอย่างนัน เขาก็รูส้ กึ
ประหลาดใจและอดสงสัยไม่ได้ นางจะใช้วิธีอะไรในการ
‘สอนจับปลา’ กันเล่า
7
สีหยุนจือบอกวิธีทีตนคิดได้กบั ปูถ้ าน เมือเขาฟั งแล้วก็
เห็นดีดว้ ย เพียงแต่ยงั เป็ นห่วงอยูเ่ รืองหนึง
“วิธีของเจ้านับว่าดีมาก แต่พวกนางใช้ชีวิตหรูหรา
ฟุ่ มเฟื อยจนเคยชิน อาจจะไม่ยอมทําอย่างทีเจ้าคิดก็ได้”
สีหยุนจือก้มหน้าก้มตาเก็บเครืองประดับอย่างระมัด
ระวังและพูดด้วยรอยยิม “เมือความปรารถนาของมนุษย์
มีพลังมากกว่าสิงของทีครอบครอง ก็ยอ่ มทําได้ทกุ อย่าง
นันแหละเจ้าค่ะ”
8
ไปแล้ว และดูทา่ จะเป็ นไปตามแผนทีวางไว้ แต่เขาก็ยงั
อดห่วงไม่ได้
“คนมากขนาดนี เจ้าจะคุมไหวรึ?”
หญิงสาวยิมให้เขาแล้วส่ายหัวเบาๆ “คนยิงมากยิงควบ
คุมง่ายไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”
ภรรยาของเขามักจะมีเรืองทีทําให้เขารูส้ กึ ประหลาดใจ
ในสติปัญญาของนางเสมอ ราวกับของลําค่าทีมี
คุณสมบัติมากมายไม่สนสุ
ิ ด เขารูส้ กึ ว่าตัวเองรักและ
หลงใหลในตัวนางมากขึนจนยากจะถอนตัว
10
.
สีหยุนจือเช่าห้องไว้สองห้องบนถนนเซียงหลัวเพือเปิ ด
ร้านขายของ
นางเริมจากการขายของต่างถิน โดยอาศัยประสบการณ์
จากทีเคยทํางานในร้านค้าตระกูลสี ในเรืองการประเมิน
ราคาสินค้าทีหายาก
11
ตลาดทางเมืองเหนือ ในแต่ละเดือนจะมีพอ่ ค้าชาวเปอร์
เซียนําสินค้ามาขายหลายครัง บางครังพวกเขาก็เดิน
ทางข้ามผ่านทะเลทรายหรือไม่ก็มาทางเรือ ซึงต้องใช้
เวลาหลายเดือนกว่าจะมาถึงทีนี เพือนําของหายากจาก
ประเทศต่างๆ มาขาย สินค้าบางอย่างก็สามารถซือขาย
ได้ดว้ ยเงิน แต่ของบางอย่างต้องนําสิงของไปแลก
เปลียนมา
12
หญิงสาวตังชือร้านของตัวเองว่า ‘ร้านหนานเป่ ย’ เพือสือ
ความหมายว่าร้านนีขายสินค้าทีมาจากต่างถิน
เนืองจากสีหยุนจือเก่งเรืองทําการค้าและมีสายตาเฉียบ
คมในการเลือกของ ดังนันร้านของนางจึงมีรายได้เข้ามา
มากมาย อันทีจริงนางคิดอยากจะเปิ ดร้านแบบนีมาตัง
นานแล้ว
บรรดาหญิงสาวทีเคยมาเยียมชมร้าน เมือเจอของแปลก
ใหม่ก็เล่าขานกันปากต่อปาก อีกทังยังใส่สีตีไข่ให้ใหญ่
โตเกินจริง แม้แต่คณ
ุ หนูตระกูลใหญ่ทีได้ยินชือเสียงเรียง
นามของร้านนี ก็ถงึ กับนังเกียวจากบ้านมาทีร้านของนาง
เพือเลือกซือของทีชอบกลับไปไม่นอ้ ย
สีหยุนจือให้คนมากันห้องพิเศษไว้สามห้องทีชันบนของ
ร้าน เพือให้บรรดาคุณหนูทีต้องการความเป็ นส่วนตัว
สามารถเลือกของและเลือกชมได้อย่างสะดวกสบาย ทํา
ให้รา้ นนียิงได้รบั การตอบรับจากคุณหนูทงหลายเป็
ั น
อย่างดี
14
เพียงไม่นานร้านหนานเป่ ยก็เป็ นร้านทีได้รบั ความนิยม
เป็ นอันดับหนึงบนถนนเซียงหลัว สีหยุนจือสร้างรายได้
เข้าร้านเป็ นกอบเป็ นกํา ทุกเย็นนางจะนังนับเงินทีห้อง
รับแขกอย่างเปิ ดเผย วันนีในขณะทีนางกําลังนับเงินอยู่
ก็เห็นอาสะใภ้หลานกับพีสะใภ้สองคนเดินเข้ามาหา
เงียบๆ
“เอ่อ...คือพวกเรามีเครืองประดับทีเก็บไว้อยูบ่ า้ ง ร้าน
ของเจ้าจะช่วยรับของของพวกเราไปขายแล้วให้ได้ราคา
ดีๆ หน่อยจะได้ไหม?”
สีหยุนจือมองพวกนางแล้วพูดด้วยนําเสียงเย็นชา “ร้าน
หนานเป่ ยไม่รบั ของเก่าเจ้าค่ะ”
สีหยุนจือพยักหน้าพร้อมกับรอยยิม พูดยืนยันกับนาง
“ขอแค่ฝีมือประณีต ข้ารับทังหมดเจ้าค่ะ”
“...”
17
เมือพวกนางได้ยินประโยคนีสีหน้าก็ดีขนทั
ึ นที พากันเดิน
กลับห้องอย่างอารมณ์ดี
สีหยุนจือมองตามหลังพวกนางแล้วยิมออกมาอย่างพอ
ใจ เก็บเงินทังหมดลงกล่องแล้วเดินกลับไปห้องของตน
ในทีสุดก็ไม่ตอ้ งนังนับเงินต่อหน้าคนทังบ้านอีกแล้ว
18
ตอนที 36 ร้านปั กผ้า
ในวันหนึงระหว่างกินข้าวนางจึงแอบถามองครักษ์ทงั
สอง พวกเขาเหลือบมองไปทางสามีของนาง แล้วก้ม
หน้าก้มตากินข้าวต่อโดยไม่ยอมตอบ ในเมือพวกเขาไม่
อยากเล่า นางก็ไม่คิดจะคาดคัน เพราะไม่วา่ พวกเขาจะ
1
ทําอะไร เรืองนันคงต้องใช้ความพยายามมากแน่ๆ หญิง
สาวจึงนึกเป็ นห่วงสามี คิดว่าเขาเองก็คงจะเหนือยมาก
เช่นกัน นางจึงเตรียมอาหารพร้อมกับเหล้าไว้ทีห้องเพือ
รอเขากลับมา และจะได้ถือโอกาสเล่าเรืองของหญิงทัง
เก้าให้เขาฟั งด้วย
พอเข้ายามไฮ่ สามีของนางก็กลับมาถึงบ้าน
เขาไม่ได้เดินไปทีห้องหนังสือแต่ตรงมาทีห้องนอน ทันที
ทีปูถ้ านเปิ ดประตูเข้ามาก็เห็นอาหารห้าหกอย่างวางอยู่
บนโต๊ะ ด้านข้างมีเหล้าหนึงไหกับจอกสุราสองจอก
2
สีหยุนจือได้ยินเสียงประตูเปิ ดก็รบี วางผ้าทีกําลังปั กลง
บนโต๊ะแล้วเข้ามาปรนนิบตั ิสามี จากนันก็ช่วยเขา
เปลียนเสือผ้าอย่างทีทําเป็ นประจํา
“ช่วงนีทีค่ายมีเรืองต้องจัดการ กว่าข้าจะกลับก็คงคํา
เจ้าไม่ตอ้ งรอกินข้าวพร้อมข้าหรอก”
ปูถ้ านมองใบหน้าทีเต็มไปด้วยรอยยิมอ่อนโยนขณะทีสี
หยุนจือจัดถ้วยและตะเกียบให้เขา แสงจากตะเกียง
ส่องกระทบใบหน้าหญิงสาวเป็ นประกายสีทองจางๆ
ช่วยเพิมเสน่หแ์ ละความน่าหลงใหลในตัวนางจนยากที
จะละสายตา
3
“วันนีมีเรืองอะไรรึ?” ภรรยาของเขายิมอย่างอิมเอมใจ
แบบนี เขาจึงเดาว่าคงมีเรืองดีๆ เกิดขึนแน่
หญิงสาวนังลงตรงหน้าสามี และเริมเล่าให้เขาฟั ง
4
ภาคภูมิใจ เขาก็พลอยดีใจไปกับนางด้วย
ชายหนุ่มหยิบไหสุราขึนมารินใส่จอกให้หญิงสาวไปได้
เพียงครึง นางก็รบี บอกว่า “พอแล้ว พอแล้วเจ้าค่ะ”
แต่เขาไม่ได้ฟังคําทัดทาน รินสุราให้นางจนเต็มและริน
ใส่จอกของตนเองจนเต็มเช่นกัน
จากนันเขาก็ยกจอกสุราของตนขึนชนกับจอกของนาง
แล้วดืมรวดเดียวหมด ไม่เปิ ดโอกาสให้หญิงสาวได้
ปฏิเสธ สีหยุนจือเห็นอย่างนันจึงไม่กล้าบ่ายเบียง ยกมือ
ขึนป้องปากแล้วจิบสุราไปอึกหนึง
5
รสชาติเผ็ดร้อนของสุราไหลผ่านลงคอจนลินของนางชา
วูบ ในคอรูส้ กึ ขมจนนางขมวดคิวทําหน้าเหยเก ชาย
หนุ่มมองใบหน้าหญิงสาวทีเริมแดงเล็กน้อยดูน่า
หลงใหลมากกว่าเดิม ก็หยิบไหสุราแล้วทําท่าจะเติม
เหล้าให้นางอีก
หญิงสาวแอบเคืองเขาเล็กน้อยทีบังคับให้ดืมสุราจึงส่ง
สายตาค้อนให้ทีหนึง แล้วดืมรวดเดียวหมดจอกเลียน
แบบทีเขาทําเมือครู ่ ทว่านางกลับสําลักและไอออกมา
ยกใหญ่จนชายหนุ่มอดนึกสงสารไม่ได้ เขาดึงตัวภรรยา
ขึนมานังบนตักแล้วโอบกอดไว้จนกระทังเสียงไอเริมลด
ลง หญิงสาวพยายามจะลุกขึน แต่ถกู แขนแข็งแกร่งรัง
ตัวไว้ นางจึงทําได้เพียงนังนิงๆ บนตักของเขา
6
ปูถ้ านรินสุราให้นางอีก เพียงแต่ครังนีไม่ได้เร่งร้อนให้ดืม
ทว่ากลับป้อนอาหารใส่ปากให้นางก่อนคําหนึงแล้วจึง
ยกจอกสุราขึนชนให้ดืมอีกครัง
หลังจากดืมสุราทีเขารินให้หลายจอก หญิงสาวก็เริมมึน
หัว นางยังคงนังอยูบ่ นตักของชายหนุ่มและทําได้เพียง
โอบรอบคอของเขาไว้ ร่างทีโอนเอนของนางซบลงบน
แผ่นอกกว้าง ดวงตาดําขลับเป็ นประกายฉํานํา ความ
ร้อนเริมแผดเผาไปทัวกายสาว
8
สิบวันต่อมา
พวกนางดีใจมากทีได้เงินสมการรอคอย ต่างซาบซึงใจที
สีหยุนจือให้การช่วยเหลือ ทังยังให้คาํ มันอีกว่า พวกนาง
9
จะตังใจปั กผ้าเพิมและจากนีอีกสิบวันจะเอาผ้ามาขาย
ให้ทีร้านหนานเป่ ย
เมือสีหยุนจือรับปากจะรับผ้าปั กของพวกนางมาขายให้
ทังหมดก็เตรียมจะกลับ สีหยุนจือจึงตังใจพูดกับกับแม่
นางซูจิวด้วยเสียงทีดังขึนว่าทังสองจะร่วมกันเปิ ดห้อง
เย็บผ้า จากนันก็พดู ถึงเรืองความกว้างขวางของห้อง อีก
ทังความเงียบสงบทีเหมาะกับการปั กผ้าอย่างยิงให้
บรรดาสตรีทีตังใจฟั งได้ยิน
และแล้วยังไม่ทนั ข้ามวันก็ได้ผลดังทีคาดไว้
10
หญิงสาวคนอืนๆ ก็เข้ามาหาแล้วถามสีหยุนจืออย่าง
อ้อมๆ ว่า พวกนางจะขอไปปั กผ้าทีห้องปั กผ้าได้หรือไม่
เพราะพวกนางมีกนั เก้าคนต้องอยูใ่ นห้องสองห้อง พืนที
ค่อนข้างแคบ ระหว่างทีปั กผ้าก็จะมีคนทีปั กผ้าไม่เป็ น
เดินไปเดินมาทําให้ไม่มีสมาธิ สภาพแวดล้อมภายใน
ห้องก็ไม่เอืออํานวยเท่าไร
ในเมือตัดสินใจจะทําอย่างจริงจังแล้วย่อมต้องอยากได้
ความสะดวกสบายและพืนทีทํางานทีเหมาะสมกว่านี ใน
ทีสุดห้องปั กผ้าทีสร้างไว้ชนบนของร้
ั านหนานเป่ ยก็ได้
เปิ ดใช้งาน
พวกอาสะใภ้และพีสะใภ้ทีเพิงเริมทํางานจะมีติดขัดบ้าง
ในช่วงแรก พอมาตอนนีก็เริมเข้าทีเข้าทางแล้ว พวกนาง
ทํางานด้วยความขยันขันแข็งและตังอกตังใจ แต่ละคน
ปรึกษาหารือเรืองวิธีปักผ้ากับคนปั กผ้าด้วยกัน ราวกับ
ว่าพวกนางค้นพบสิงทีตัวเองต้องการจริงๆ จึงทําด้วย
ความกระตือรือร้นจนบางครังถึงกับอยูป่ ั กผ้ากระทังดึก
ดืน หรือไม่ก็นอนทีห้องปั กผ้าเสียเลย
สีหยุนจือเห็นพวกนางทํางานกันอย่างเต็มกําลังก็นกึ
12
สงสารในใจ จึงเช่าห้องเช่าแถวนันให้พวกนางสองห้อง
เตรียมไว้สาํ หรับผูท้ ีอยูป่ ั กผ้าจนดึกดืนกระทังไม่สามารถ
กลับบ้านได้ อีกทังยังเตรียมข้าวของเครืองใช้ไว้ให้เพือ
จะได้สะดวกสบายมากขึน บรรดาหญิงสาวทีปั กผ้าต่าง
ดีอกดีใจ พากันทุม่ เทความสามารถทีมีตงใจปั
ั กผ้าอย่าง
เต็มกําลัง
วันนีสีหยุนจืออยูท่ ีร้านหนานเป่ ย
13
เห็นว่ามีรถม้าหรูหราขนาดใหญ่แบบนังได้ถงึ สีคนมา
หยุดอยูห่ น้าร้าน
เมือรถม้าจอดเรียบร้อยก็มีบา่ วรับใช้สคนเดิ
ี นลงมาแล้ว
นําทีวางเท้าไปรองตรงทางลง ส่วนคนขับรถม้ายืนรออยู่
ด้านข้างอย่างสํารวม จากนันบ่าวรับใช้คนหนึงก็แหวก
ผ้าม่านเพือให้คนด้านในลงมาจากรถม้า
14
สตรีทงสองเหยี
ั ยบลงบนทีวางเท้าทีเตรียมไว้พลางยืนมือ
ให้บา่ วรับใช้หญิงทีรอรับอยูด่ า้ นล่าง นิวทีวางลงบนแขน
ของพวกบ่าวดูเรียวยาว เล็บขาวสะอาดถูกขัดให้มนั
วาวอย่างดี เมือใครเห็นก็ยอ่ มรูว้ า่ สองคนนีต้องเป็ นคุณ
หนูจากตระกูลสูงส่งแน่ๆ
สีหยุนจือวางใบรายการในมือและให้ผดู้ แู ลร้านรับไป
จัดการต่อ ส่วนนางเดินออกจากโต๊ะบัญชีไปต้อนรับสตรี
ทังสอง
สีหยุนชุนและสีหยุนซิวเดินเข้ามาในร้าน ความงดงาม
และสง่างามของสตรีทงสอง
ั ทําให้พวกนางดูโดดเด่น
ต่างจากหญิงสาวคนอืนในร้านอย่างชัดเจน
15
สีหยุนจือเดินออกมาต้อนรับพร้อมกับเอ่ยทักทายด้วย
รอยยิม
“น้องพีทังสอง พวกเจ้าสบายดีหรือ?”
การทีได้เห็นสีหยุนจือทีร้านหนานเป่ ยทําให้คณ
ุ หนู
ตระกูลสีทงสองอึ
ั งไปเล็กน้อย เป็ นสีหยุนชุนทีตังสติได้
ก่อน นางทักกลับอย่างเหยียดหยาม
16
และแววตาของสีหยุนชุนแสดงออกอย่างชัดเจนว่านาง
คิดเช่นนันจริงๆ
..............................................................
17
ตอนที 37 ว่าด้วยเรืองของยา
1
สีหยุนจือรูว้ า่ สีหยุนซิวได้แต่งงานไปตังแต่ตน้ เดือนสี ผม
ดําขลับของนางเปลียนมามวยผมในแบบของฮูหยินแล้ว
ดูสง่างามไม่นอ้ ย
สีหยุนชุนได้ยินสีหยุนซิวบอกอย่างนันก็ยมอย่
ิ างปี ติ
“ขอบคุณเจ้ามาก”
สีหยุนชุนหน้าแดงด้วยความเขินอาย “อะไรกัน...ข้ายัง
ไม่ทนั แต่งงานจะเรียกว่าคนบ้านนันได้อย่างไรเล่า?”
ทังสองเดินจับมือพลางพูดคุยหยอกล้ออย่างพีน้องที
สนิทสนม โดยมีสีหยุนจือยืนอยูด่ า้ นข้างเงียบๆ เพือคอย
ดูแลตอนทีพวกนางเลือกสินค้า
3
เมือเห็นท่าทางของสีหยุนซิว นางจึงเดาว่าสีหยุนซิวน่า
จะไม่รูเ้ รืองทีตระกูลสีมาขอซือร้านซิงหลัวของตน
สีหยุนซิวแต่งงานกับคุณชายใหญ่ตระกูลหลู ส่วนสีหยุ
นชุนก็กาํ ลังจะแต่งงานไปอยูท่ ีจวนของรองเจ้าเมือง
เดิมทีทงสองตระกู
ั ลก็มีความสัมพันธ์ทีดีตอ่ กันอยูแ่ ล้ว
ตอนนียังมีแม่นางทังสองคอยเป็ นสะพานเชือมไมตรีอีก
จึงเดาได้ไม่ยากว่าทังสองตระกูลคงจะพัฒนามิตรภาพ
ระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม
ดังนันสีหยุนซิวจึงอยากซือของขวัญแต่งงานให้สีหยุนชุน
เพือแสดงความเอาใจใส่ในตัวพีสาว
4
ทังสองเดินคุยกันอย่างยิมแย้ม กระทังพวกนางนังลงบน
เก้าอีสําหรับรับรองลูกค้า สีหยุนซิวทีเห็นสีหยุนจือยังยืน
นิงเฉยอยูท่ ีเดิมก็มีสีหน้าไม่คอ่ ยพอใจจึงพูดขึนว่า
“...”
สีหยุนจือยิมเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปทีโต๊ะบัญชี แล้ว
บอกผูด้ แู ลร้านทีกําลังตรวจสอบรายการสินค้าให้ไปต้อน
5
รับคุณหนูสองท่านทีนังอยู่
ขณะทีสีหยุนจือกําลังตรวจสอบรายการสินค้าต่อจากผู้
ดูแลร้าน นางก็แอบสังเกตท่าทางของสีหยุนซิวไปด้วย
อีกฝ่ ายดูมีมารยาทและมีทา่ ทางใจดีเฉพาะตอนทีอยูก่ บั
สีหยุนชุนเท่านัน แต่เวลาพูดกับคนอืนมักจะมีทา่ ทีหงุด
หงิด ราวกับไม่วา่ ใครจะทําอะไรก็ดขู ดั หูขดั ตาไปหมด
อาการอย่างนี...ไม่น่าจะเป็ นอาการของเจ้าสาวทีเพิง
แต่งงานใหม่
ดูทา่ ว่าชีวิตแต่งงานของสีหยุนซิวกับคุณชายใหญ่จวน
เจ้าเมืองคงจะไม่ราบรืนเท่าไร
6
.
เมือสินค้าของร้านหนานเป่ ยส่งไปถึงท่าเรือ
บรรดาพ่อค้าชาวเปอร์เซียต่างแย่งกันซือจนหมด เพราะ
สินค้าทีนํามาขายมีราคายุติธรรม อีกทังผลงานปั กจาก
ห้องผ้าของสีหยุนจือก็มีฝีมือประณีต ทังยังทําออกมา
หลากหลายรูปแบบ มีทงกระเป๋
ั าผ้าลายปั กทรงดอกบัว
ถุงใส่ยาสูบ เสือผ้า ผ้าเช็ดหน้า และสีสนั ทีเลือกใช้ก็แตก
ต่างกันไปในแต่ละชินงาน ทําให้ลวดลายบนผ้าพลิวไหว
ดูสมจริง แม้แต่คนทีไม่มีความรูเ้ รืองผ้าปั กยังดูออกว่า
ต้องเป็ นงานคุณภาพเยียมของช่างมืออาชีพแน่นอน ทํา
ให้มีรายการสังซือเข้ามาอีกเป็ นจํานวนมาก
7
สีหยุนจือได้มอบหมายงานให้กบั ช่างในห้องปั กผ้าเพิม
ขึน ช่างปั กแต่ละคนทํางานกันจนหามรุม่ หามคํา ผ้าบาง
ส่วนทีทําเสร็จแล้วนางจะแยกเอาไว้เพือนําไปแลกสินค้า
หายากกับพ่อค้าชาวเปอร์เซีย จึงยิงทําให้ชือเสียงของ
ห้องปั กผ้าร้านหนานเป่ ยเป็ นทีรําลือไปเป็ นกว้างขวาง
ต่อมาได้มีรา้ นตัดเสือบางร้านนําผ้าเนือดีมาขอแลกงาน
ปั กทีร้านของนาง ทําให้สีหยุนจือได้กาํ ไรจากการขายผ้า
อีกจํานวนไม่นอ้ ย อีกทังทําให้นางมีรา้ นพันธมิตรทีเป็ น
ร้านขายผ้าเพิมมากขึนและร่วมใช้กลยุทธในการขายให้
ไปในทิศทางเดียวกัน
ทุกวันนีหญิงสาวทําหน้าทีเพียงนับเงินทีหลังไหลเข้ามา
8
ในร้าน แทบจะไม่มีรายจ่ายในการซือสินค้าเพือนํามา
ขาย ดังนันร้านหนานเป่ ยจึงสามารถกอบโกยรายได้เป็ น
กอบเป็ นกําได้ภายในเวลาไม่นาน
กลางเดือนหก
9
แม้สีหยุนจือจะพอได้ข่าวมาบ้าง แต่นางก็ไม่มีเวลา
สนใจเรืองนีมากนัก เนืองจากอีกหนึงเดือนข้างหน้าก็จะ
ได้เวลาทีข้าวในนากว่าพันฉิงจะออกรวงและพร้อมให้
เก็บเกียว หญิงสาวจึงต้องเตรียมแผนงานไว้ให้ดี เพราะ
ถ้าเกิดปั ญหาขึนมา ข้าวกว่าหนึงร้อยตัน[1] ทีเก็บได้
อาจเกิดความเสียหายอย่างมหาศาล ทว่าในเมืองลัว
หยางนีมีเพียงสองตระกูลทีค้าข้าว นันคือตระกูลลัวและ
ตระกูลหวัง
ตระกูลหวังมีญาติทีรับราชการในเมืองหลวง จึงได้รบั
สิทธิในการส่งข้าวให้ทางการโดยใช้เส้นทางเรือในการ
ลําเลียง ส่วนตระกูลลัวก็ทาํ การค้าแบบขนส่งทางเรือเช่น
เดียวกันแต่เป็ นการค้าขายปกติไม่เกียวข้องกับทาง
10
ราชการ ซึงหากจะเลือกทําการค้ากับตระกูลใดตระกูล
หนึง นางจึงเลือกทีจะขายข้าวให้กบั ตระกูลลัว เพราะ
การทีจะติดต่อค้าขายกับทางการนันต้องจัดเตรียม
เอกสารหลายอย่าง และขันตอนค่อนข้างยุง่ ยากกว่า
มาก
ในช่วงบ่ายหลังจากทีสีหยุนจือสังงานคนในร้านเรียบ
ร้อยแล้ว นางจึงเดินทางไปร้านขายข้าวของตระกูลลัวที
อยูท่ างทิศตะวันตกของเมือง เพือนัดแนะเถ้าแก่รา้ นเรือง
กําหนดส่งข้าวไปขาย
11
เมือถึงวันทีนัดหมายเถ้าแก่รา้ นมาดูทีนาของตระกูลปู้
ด้วยตนเอง
เมือส่งเถ้าแก่กลับร้านเรียบร้อยแล้ว สีหยุนจือก็ผอ่ น
คลายความกังวลไปกว่าครึง นางเลยอารมณ์ดีเป็ นพิเศษ
ตังใจว่าจะเตรียมมือเย็นแสนอร่อยให้ทกุ คนทีบ้าน หญิง
สาวจึงไปเดินตลาด ซือไก่หนึงตัว ขาหมูอีกสองขา ทว่า
ขณะทีกําลังเดินกลับ...พลันเห็นใครคนหนึงทีคุน้ เคย
กําลังเดินผ่านไป
12
โหรวเอ๋อบ่าวรับใช้หญิงคนสนิทของสีหยุนซิวกําลังเดิน
อย่างรีบร้อน อีกฝ่ ายกอดของบางอย่างไว้แนบอก แต่
เมือเห็นสีหยุนจือก็ชะงักฝี เท้าไปเล็กน้อย แล้วมองหน้า
นางด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ
“โหรวเอ๋อ เจ้ามาซือยาให้ใครอย่างนันรึ?”
13
แต่นางก็รูด้ ีวา่ ตนได้รบั ความเมตตาจากเจ้านายใน
ตระกูลมากกว่าคุณหนูใหญ่ทีอยูต่ รงหน้าเสียอีก นางจึง
แสดงท่าทางเย่อหยิงต่อหน้าสีหยุนจือพลางซุกยากับอก
ให้มิดชิดกว่าเดิม จากนันก็ตอบไปว่า
“แม้แต่งานของบ่าวรับใช้ คุณหนูใหญ่อย่างท่านยัง
ต้องออกมาทําเอง ทีบ้านไม่มีคนให้เรียกใช้หรือเจ้าคะ?
ช่างน่าสงสารจริงๆ”
14
แม้จะโดนพูดจาถากถางแต่สีหยุนจือก็ยงั ยิมตอบกลับ
อย่างใจเย็น โหรวเอ๋อจึงคิดว่าต่อให้พดู ไปก็คงไม่มี
ประโยชน์ จึงเดินจากไปโดยไม่สนใจสีหยุนจืออีก
สีหยุนจือมองตามหลังบ่าวรับใช้หญิงตระกูลสีพลางหรี
ตาเล็กน้อย จากนันก็หนั ไปมองร้านยาทีโหรวเอ๋อเดิน
ออกมาเมือครู ่ หญิงสาวลังเลอยูค่ รูห่ นึงก่อนจะเดินเข้า
ไปในร้านยาเพือซือโสมป่ าไปตุน๋ กับไก่และถือโอกาส
ถามเถ้าแก่รา้ นยาว่า
15
เถ้าแก่หอ่ โสมให้สีหยุนจือเรียบร้อยแล้วจึงบอกกับนาง
ว่า “อ้อ บ่าวรับใช้หญิงคนนันรึ เฮ้อ...ข้าไม่รูจ้ ริงๆ ว่า
บ้านนันอยากทําอะไรกันแน่...”
สีหยุนจือถามด้วยรอยยิม “หมายความว่าอย่างไร?”
“วันก่อนบ่าวรับใช้หญิงคนนันมาซือยาบํารุงครรภ์ วันนี
กลับมาซือยาขับเลือด ข้าเองก็ไม่รูว้ า่ พวกเขากําลังคิด
จะทําอะไรแน่”
พอเถ้าแก่พดู จบ สีหยุนจือก็พยักหน้าราวกับว่าไม่ได้
16
สนใจมากนัก นางจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านไปโดย
ไม่ถามอะไรอีก
..................................................................
17
[1] 1 ตัน เท่ากับ 50 กิโลกรัม
18
ตอนที 38 บ้านหลังใหม่
ในทีสุดบ้านอีกหลังของตระกูลปูก้ ็สร้างเสร็จ
สีหยุนจือซือของตกแต่งบ้านตามความชอบของปูถ้ าน
และตัวนางเอง บ้านหลังใหม่ของนางกับสามีมีทงหมด
ั
ห้าห้อง เป็ นห้องนอนใหญ่หนึงห้อง ห้องหนังสือ ห้องเย็บ
ผ้าห้องเล็ก และห้องว่างอีกสองห้องสําหรับลูกๆ ใน
1
อนาคต ภายในสวนปลูกต้นหอมหมืนลีทีนางชอบไว้
หลายต้น
บ้านของนางในวันนีเหมือนบ้านในฝันทีเคยวาดหวังไว้
ทุกประการ ไม่จาํ เป็ นต้องใหญ่โตโอ่อา่ ขอเพียงสงบและ
เรียบง่ายนางก็พอใจทีสุดแล้ว
2
เงยหน้ามองภรรยา
3
“หลบหลีกจากโลกภายนอก ใช้ชีวิตอยูก่ บั ธรรมชาติ
อย่างนันรึ?” ชายหนุ่มได้ยินนางพูดอย่างนันถึงกับทํา
หน้าไม่ถกู บ้านหลังแค่นียังเล็กกว่าห้องเก็บฟื นของจวน
แม่ทพั หลังเดิมของเขาเสียอีก แต่กลับทําให้นางอิมเอม
ใจได้ถงึ เพียงนี เขาวางหนังสือลง ถามกับนางว่า
4
“ตระกูลใหญ่ๆ ทังหลายก็เริมมาจากครอบครัวเล็กๆ ที
รวมตัวกัน การมีบา้ นขนาดพอดีและได้อยูก่ บั คนทีรัก มี
ลูกจอมแก่นสักสามคน ชีวิตทีเรียบง่ายเช่นนีเป็ นชีวิตที
ทุกคนปรารถนาไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”
หญิงสาวได้ยินก็นิงอึงไปทันที ชายหนุ่มส่งสายตาหวาน
ซึงอย่างมีเลศนัยมาให้จนหญิงสาวเริมแก้มแดง รีบพูด
5
แก้ตา่ งว่า
“ข้าหมายถึงชีวิตทีปรารถนา ไม่ได้บอกว่าอยากจะมีลกู
สักหน่อย เรืองอย่างนีจะบังคับกันได้อย่างไรเจ้าคะ”
เขาเห็นนางเหนียมอายอย่างนันก็กวักมือเรียกให้เข้ามา
หา อีกฝ่ ายอ่านแววตาทีเต็มไปด้วยความปรารถนาของ
เขาออก จึงเยืองกรายหนีไปจากโต๊ะเขียนหนังสือ ไปเดิน
สํารวจบ้านในฝันของนางต่อ
แม้จะถูกปฏิเสธแต่ชายหนุ่มไม่ได้แสดงความไม่พอใจ
แต่อย่างใด เขารอจนกระทังนกกระจิบตัวน้อยบินกลับ
มาสูอ่ งุ้ มือ ถึงตอนนันค่อยปรึกษาเรืองครอบครัวในฝัน
6
ร่วมกันต่อก็ได้
เช้าวันรุง่ ขึน
สีหยุนจือไปทีร้านเหมือนเช่นเคย ทว่าวันนีหญิงสาวรูส้ กึ
ปวดเมือยไปทังตัวตังแต่เอวลงไปจนขยับร่างกายไม่คอ่ ย
คล่อง นางคิดว่าตัวเองคงต้องหายาบํารุงกินสักหน่อย
ไม่อย่างนันคงรับมือกับแรงรุกของปูถ้ านไม่ไหวอีกแน่ๆ
เมือสีหยุนจือเดินเข้ามาในร้าน บ่าวรับใช้หญิงในร้านก็
เดินเข้ามาต้อนรับแล้วรายงาน
7
“เถ้าแก่เจ้าคะ ฮูหยินจากจวนเจ้าเมืองสังเครืองประดับ
ไปหลายชุด บอกว่านางเป็ นพีน้องฝังมารดาของท่าน
แล้วยังสังไว้วา่ ให้ทา่ นนําเครืองประดับไปส่งให้นางเองที
จวนเจ้าค่ะ”
สีหยุนจือชะงักมือทีกําลังนวดเอว “ฮูหยินจากจวนเจ้า
เมืองงันรึ?”
“...”
8
สีหยุนจือครุน่ คิดอยูค่ รูห่ นึงก่อนจะพยักหน้า บอกกับ
นางว่า “ข้ารูแ้ ล้ว ฮูหยินท่านนันจองสินค้าอะไรไว้บา้ ง
เจ้าไปเตรียมให้ขา้ เถอะ”
เมือบ่าวรับใช้หญิงเดินไปแล้ว สีหยุนจือก็เดินไปทีโต๊ะ
บัญชีพลางคิดว่า...โหรวเอ๋อคงบอกนายหญิงของตน
แล้วว่าเจอนางทีหน้าร้านขายยา สีหยุนซิวจึงอยากแน่ใจ
ว่านางรูเ้ รืองยาทีให้บา่ วรับใช้หญิงไปซือหรือไม่ วันนีจึง
ตังใจเรียกให้ไปหาเพือสอบถามให้รูค้ วาม
สรุปแล้วเกิดเรืองอะไรขึนกันแน่ ทําไมพวกนางต้อง
ระมัดระวังตัวถึงเพียงนี? ยิงคิดหญิงสาวก็ยงสงสั
ิ ยมาก
9
ขึน
จวนเจ้าเมืองอยูท่ างทิศตะวันออกของเมืองลัวหยาง
สีหยุนจือสังให้บา่ วรับใช้เตรียมเกียวธรรมดาให้หลังหนึง
แม้ระยะทางจะไม่ไกลมากเท่าไร แต่เพราะละแวกนันมี
แต่บา้ นตระกูลผูด้ ีหลังใหญ่ จู่ๆ หากจะเดินเท้าเข้าไปขอ
10
พบคนข้างใน ย่อมไม่มีใครยอมให้นางเข้าพบง่ายๆ เป็ น
แน่
เมือเกียวของนางมาถึงหน้าจวนเจ้าเมือง จึงเห็นว่ามีรถ
ม้าคันหนึงจอดทีหน้าจวนอยูก่ ่อนแล้ว คนบังคับม้าพอ
เห็นนางก็เข้ามาทําความเคารพพร้อมเอ่ยทักอย่าง
นอบน้อม เขาเป็ นบ่าวรับใช้ของบ้านตระกูลสีและเป็ น
คนจริงใจคนหนึง นางจึงได้รูว้ า่ รถม้าคันนีเป็ นของฮูหยิน
สีทีมาเยียมลูกสาว
สีหยุนจือบอกกับคนเฝ้าประตูวา่ นางมาขอเข้าพบฮูหยิน
หยุนซิว เขาหายเข้าไปเพียงชัวครูก่ ็กลับออกมานําทาง
นางเข้าไปด้านใน
11
แท้จริงแล้วพืนทีบ้านตระกูลหลูไม่ได้ใหญ่ไปกว่าบ้าน
ตระกูลสีมาก ทว่าภายในถูกตกแต่งอย่างวิจิตรตระการ
ตา แม้แต่หินทีประดับนําตกยังเป็ นหินทีสังมาจากต่าง
แดน พวกมันวางไล่ชนไว้
ั อย่างงดงาม ดอกไม้ในสวน
ล้วนเป็ นดอกไม้ทีหายาก ส่วนบ้านหลังทีสีหยุนซิวอยูน่ นั
รัวบ้านทําจากเหล็ก ดัดเป็ นลวดลายประณีตล้อมไว้รอบ
บริเวณบ้าน ภายในรัวมีรูปปั นเสือขาววางอยูส่ องตัว คน
ทีพานางเข้ามาบอกว่าเป็ นเพราะคุณชายชืนชอบสัตว์
ป่ าทีดุรา้ ย
เมือมาถึงประตูทางเข้าด้านหลังจวนเจ้าเมืองซึงเป็ นที
พักของสีหยุนซิว ก็มีสาวรับใช้อีกคนมาพานางเข้าไป
ด้านใน สีหยุนจือจึงได้รูว้ า่ กฎระเบียบของบ้านนีค่อน
12
ข้างเคร่งครัด บ่าวรับใช้ภายนอกไม่สามารถเข้ามาใน
ส่วนของเรือนพักด้านในได้
สีหยุนจือยังไม่ทนั ได้เข้าไปในห้องก็มีเสียงของสตรีดงั
ลอยมาจากด้านใน
“คนบ้านนีจ้องแต่จะมาเหยียบยําข้า ไม่เว้นแม้แต่มารดา
13
แท้ๆ วันนีก็ยงั มาซําเติมข้าอีก ไป...ออกไปให้หมด!”
เมือฮูหยินสีพูดจบก็เตรียมจะกลับ นางเดินลงบันไดผ่าน
ทางเดินเล็กๆ สายตาพลันเหลือบเห็นสีหยุนจือยืนอยู่
ตรงนันพอดี นางถึงกับนิงอึงไปครูห่ นึง รีบเช็ดนําตาที
อาบแก้ม พลางเก็บอารมณ์ไว้ภายใต้สีหน้านิงเฉย
14
สีหยุนจือทําความเคารพอย่างนอบน้อม ชิงบอกก่อน
โดยไม่รอให้อีกฝ่ ายถาม
“น้องหยุนซิวซือเครืองประดับทีร้านของข้าไว้หลายชุด
วันนีข้าจึงนํามาส่งด้วยตนเอง อาสะใภ้มาเยียมน้องหยุ
นซิวหรือเจ้าคะ?”
ฮูหยินสีหันหน้าหลบรีบซับนําตา ไม่มีทางทีนางจะยอม
ให้นงั เด็กตําต้อยคนนีได้เห็นความเศร้าโศกของตนเด็ด
ขาด จึงฝื นสีหน้าให้เป็ นปกติหนั มาพยักหน้าแล้วพูดด้วย
นําเสียงเย็นชา
15
“ใช่น่ะสิ...ช่วงนีหยุนซิวสุขภาพไม่คอ่ ยดี ข้าย่อมต้องมา
ดูเป็ นธรรมดา เจ้ามาแล้วก็ดี...ในเมือนางเรียกให้มาพบ
ก็อย่าทําให้นางโกรธล่ะ เข้าใจไหม?”
“เจ้าค่ะ”
หลังจากทีฮูหยินสีกลับไปแล้ว สาวรับใช้ทีพานางมาก็
เข้าไปรายงานคนในห้อง
16
สีหยุนจือยืนรออยูใ่ นสวนครูใ่ หญ่ก็เห็นโหรวเอ๋อเดินออก
มาจากห้องด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเรียกนางให้
เข้าไปข้างใน
17
สีหยุนจือเดินเข้ามาตามคําเรียกพลางช่วยจัดแต่งทรง
ผมให้แล้วเอ่ยถามอย่างเป็ นห่วง
สีหยุนซิวมองตัวเองในกระจกด้วยแววตาเหม่อลอยไม่
ยอมพูดยอมจา
สีหยุนจือเงยหน้ามองคนในกระจกแวบหนึงแล้วหยิบปิ น
ปั กผมรูปใบหลิวออกมาก่อนจะค่อยๆ ปั กบนผมให้ทีละ
อันด้วยสีหน้าเป็ นปกติ ราวกับไม่เห็นเงาสะท้อนของคน
ทีมีหน้าตาโศกเศร้าในคันฉ่อง จากนันก็พดู ต่อว่า
18
“เมือวานข้าบังเอิญเจอกับโหรวเอ๋อ นางก็บอกว่าเจ้าไม่
ค่อยสบาย ช่วงนีอากาศเปลียนต้องดูแลสุขภาพของตัว
เองให้ดี”
19
ตอนที 39 ลองเชิง
“เจ้าไปรูอ้ ะไรมาใช่ไหม?”
สีหยุนซิวนังนิงไม่ไหวติงราวกับท่อนไม้ พูดด้วยนําเสียง
เย็นเยียบ สายตาทีจับจ้องอีกฝ่ ายฉายแววอํามหิตจนน่า
กลัว
สีหยุนจือมองสบตาน้องสาวแล้วถามกลับด้วยนําเสียง
เรียบเฉย “รูเ้ รืองอะไร? เจ้าบอกให้ขา้ มาส่งของให้ไม่ใช่
รึ? ปิ นปั กผมนีก็ของเจ้า...”
1
นางอธิบายพลางยืนปิ นปั กผมให้ สีหยุนซิวรับปิ นไป
พิจารณาครูห่ นึง หลังจากนันก็เดินใจลอยไปยังห้องโถง
ถึงริวผ้าม่านจะเกียวปิ นบนหัว แต่นางก็ยงั เดินต่อไป
อย่างเลือยลอย
ทันใดนันสีหยุนจือทีเดินตามหลังมาก็หยุดชะงัก เพราะ
จู่ๆ คนทีเดินนําหน้าก็หนั กลับมาเงือปิ นปั กผมขึนหมาย
จะแทงลงบนร่างนาง ด้วยความตกใจสีหยุนจือจึงยกมือ
ขึนบัง ทําให้ปลายปิ นทีแหลมคมบาดลงบนแขนเป็ นทาง
ยาว
“...”
3
สีหยุนจือไม่เข้าใจว่าทําไมสีหยุนซิวถึงเปลียนไปมาก
ขนาดนี นางจึงได้แต่ซอ่ นตัวจนกระทังสีหยุนซิวไม่ได้วิง
ตามนางอีก แต่กลับยืนหัวเราะอย่างบ้าคลังอยูอ่ ย่างนัน
“คุณหนูเจ้าคะ อย่าทําอย่างนีอีกเลยนะเจ้าคะ”
สีหยุนซิวก้มลงมองโหรวเอ๋อพลันแสยะยิมออกมา แล้ว
เงือปิ นปั กผมแทงลงบนหลังของบ่าวรับใช้หญิงอย่างแรง
สีหยุนซิวใช้ปินปั กผมแทงลงบนตัวโหรวเอ๋ออีกหลายครัง
จนเลือดสีแดงสดไหลนองพืน จากนันก็ผลักตัวอีกฝ่ าย
ลงพืนแล้วตบตีอย่างน่าอเนจอนาถ
สีหยุนจือมองออกไปด้านนอกเห็นบ่าวรับใช้ยืนอยู่
สิบกว่าคน แต่ทงหมดทํ
ั าราวกับไม่รูไ้ ม่เห็นเรืองทีเกิดขึน
ภายในห้องโถง ไม่มีใครเข้ามาหยุดความบ้าคลังของสี
หยุนซิวและทําราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่าง
ทรมานของโหรวเอ๋อ
5
เป็ นนางเองทีทนไม่ไหวอีกต่อไป จําต้องเดินเข้าไปรังมือ
ของสีหยุนซิวไว้แล้วตะคอกใส่หญิงสาวทีกําลังบ้าคลัง
นางใช้แรงทังหมดทีมีเข้าไปช่วยพยุงร่างของบ่าวรับใช้
หญิงทีนอนกองอยูก่ บั พืนแล้วพากันออกมาจากห้องโถง
6
จนกระทังทังสองมายืนอยูน่ อกเรือนในสภาพบอบชํา
เต็มที แต่สีหยุนซิวก็ยงั วิงตามออกมาจนบ่าวรับใช้
สิบกว่าคนทียืนนิงอยูใ่ นทีแรกต้องรีบพุง่ ตัวเข้ามากันฮูห
ยินของตนเอาไว้
โหรวเอ๋อยกมือกุมหน้าอกของตน พยายามเค้นนํา
เสียงออกมาแล้วบอกกับสีหยุนจือว่า “ขอบคุณคุณหนู
ใหญ่ทีช่วยข้าไว้ วันนีขอให้ทา่ นกลับไปก่อน ส่วนของ
ของท่านทีอยูท่ ีนี ไว้ขา้ จะเก็บเอาไปคืนให้นะเจ้าคะ”
7
.
สีหยุนจือไม่ได้ตรงกลับบ้านทันที
นางเข้ามาทีร้านเพือสังงานกับลูกน้อง หลังจากสังงาน
เสร็จจึงค่อยกลับไปทีบ้านเพือจัดการกับแผลของตน
8
หรูเยว่ก็ออกไปตลาดกับป้าหลิว
เมือนางกลับมาจึงพบว่าทังบ้านเงียบสนิท เรือนด้าน
หน้าตอนนีเหลือนางเพียงคนเดียว
สีหยุนจือนังลงบนเก้าอียาวในสวน ถลกแขนเสือขึนเพือ
ดูแผลของตน
9
ในขณะทีนางกําลังตักนําจากบ่อขึนมาเพือล้างเลือด
ออก จ้าวอีก็กลับมาพอดี สีหยุนจือยังไม่ทนั ได้ถามว่า
เขากลับมาทําอะไรก็เห็นอีกฝ่ ายมองนางอย่างตะลึงงัน
จากนันทังสองยังไม่ทนั ได้พดู จากัน เขาก็รบี ควบม้ากลับ
ออกไปด้วยความตกใจ
สีหยุนจือหิวถังนําวิงตามเพือจะเรียกอีกฝ่ ายไว้แต่ก็ไม่
ทันเสียแล้ว นางมองตามหลังจ้าวอีทีเร่งฝี เท้าม้า
ห่างออกไปเรือยๆ พลันรูส้ กึ สังหรณ์ใจไม่ดีบางอย่าง
จากนันไม่นานเมือนางล้างแผลเสร็จจึงไปเปลียนเสือผ้า
ทีห้อง ทว่ายังไม่ทนั ได้ผกู เสือตัวนอก ปูถ้ านก็เข้ามาใน
ห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เดินตรงเข้ามาหมายจะถอดเสือ
ผ้าของนางออก
10
สีหยุนจือพยายามขัดขืน รีบดึงปกเสือของตนไว้แน่น
พลางพูดว่า
นางคิดว่าปูถ้ านกลับมาเพือจะทําเรืองอย่างนันกับตนจึง
หน้าแดงกําด้วยความอาย แต่ชายหนุ่มกลับมองมาด้วย
แววตาถมึงทึงจนสีหยุนจือจําต้องยอม เวลาทีสามีของ
นางมองด้วยสีหน้านิงเฉยไม่พดู อะไร แววตาก็ดเู หมือน
คนกําลังซ่อนบางอย่างไว้ ทําให้คนโดนจ้องราวกับมีคม
ดาบจ่ออยูท่ ีคอ หากขยับเพียงนิด ปลายดาบนันก็พร้อม
11
จะบันคอและร่างให้ขาดสะบันเป็ นสองท่อน
“ถอดออก!”
หญิงสาวค่อยๆ เดินถอยหลังจนไปชนกับขอบเตียงแล้ว
ล้มนังลงบนเตียง ชายหนุ่มไม่พดู ไม่จาเข้าไปประชิดตัว
นางทันที จากนันก็ปลดผ้าม่านลงมาปิ ดหน้าเตียงเอาไว้
แล้วถอดเสือผ้าของสีหยุนจือออกทังตัว เขาสํารวจทัว
ร่างบอบบางตรงหน้าแล้วจ้องไปยังแผลทีแขนของนาง
ก่อนถามเสียงเข้ม
12
“นีอะไร?”
สีหยุนจือมองแขนตัวเองจึงเข้าใจความหมายของเขาใน
ทันใด เมือครูค่ งเพราะจ้าวอีบังเอิญกลับบ้านมาเห็นนาง
ในสภาพทีเสือผ้าเต็มไปด้วยเลือดก็เลยคิดว่านางได้รบั
บาดเจ็บสาหัส เขาก็เลยกลับไปรายงานเจ้านาย ปูถ้ าน
จึงรีบกลับมาดูให้รูว้ า่ เกิดอะไรขึนกับนางกันแน่
13
ชายหนุ่มยังคงนิงเฉยไม่พดู อะไร มองสํารวจสีหยุนจือ
จนทัวตัว เมือเห็นนางไม่มีรอยฟกชําและไม่มีรอยแผล
อืนๆ บนร่างกายจึงยอมวางใจในทีสุด
เขาคว้าแขนของนางมาเลียทีแผลเบาๆ โดยไม่ลงั เล
สัมผัสจากลินอุน่ ๆ ทําให้สีหยุนจือหน้าแดงด้วยความ
เขินอาย
พอเห็นนางจ้องเขาด้วยสายตาตืนตะลึง ชายหนุ่มจึง
อธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง
“นําลายสามารถรักษาแผลได้ พวกสัตว์ป่าก็ใช้วิธีนี
14
รักษาแผลของตัวเอง”
“...”
สีหยุนจือยิมจนตาหยี มองเขาแล้วถามว่า
“...”
“ใครใช้ให้เจ้ามองยัวข้า?”
16
ชายหนุ่มมองหญิงสาวทีกําลังยิมอย่างอารมณ์ดีใต้รา่ ง
ของเขา พลันรูส้ กึ ว่านางเหมือนแกะน้อยทีเดินลอยหน้า
ลอยตาต่อหน้าเสือทีกําลังหิวโซ เมือเป็ นอย่างนันแกะตัว
นีก็ดทู า่ จะหาทางรอดได้ยาก
“ข้ากําลังจะสอนเจ้าว่า ห้ามส่งสายตายัวยวนให้กบั
ผูช้ ายทีแรงมากกว่าเจ้า เข้าใจไหม?”
“...”
หญิงสาวอ่อนใจกับคําอธิบายเข้าข้างตัวเองของเขา คํา
พูดยัวเย้าเมือครูถ่ กู แทนทีด้วยความเร่าร้อนราวกับเปลว
ไฟ เบืองหลังผ้าม่านทีพลิวไหวอบอวลไปด้วยกลินหอม
หวานของความสุขและความปรารถนาในกายชายหนุ่ม
ทีพลุง่ พล่านไม่รูจ้ บ
18
ตอนที 40 สืบความ
เป็ นอีกคืนทีสีหยุนจือหลับไปด้วยความเหนือยล้า
1
“สืบต่อไป”
“สืบ!”
เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วจึงไม่สนใจว่าเรืองสืบจะ
เป็ นเรืองของตระกูลใดหรือจะข้ามเขตใคร ในเมือภรรยา
ของเขาได้รบั บาดเจ็บ นันถือว่าเป็ นเรืองทีใหญ่ทีสุดสํา
หรับปูถ้ าน
วันถัดมาสีหยุนจือก็เข้าไปทีร้านตามปกติ
พอเสียวฟางซึงบ่าวรับใช้หญิงในร้านหนานเป่ ยเห็นเจ้า
นายก็รบี เดินมาหา แล้วรายงานว่าเมือเช้ามีคนจากจวน
เจ้าเมืองมาหาและเรียกนางไปพบ
เมือนึกถึงเรืองทีสีหยุนซิวอาละวาดอย่างคลุม้ คลังเมือ
วานนี สีหยุนจือรูด้ ีวา่ หากนางไปทีจวนเจ้าเมืองอีกครัง
3
คงจะเกิดเหตุการณ์เดิมซําอีกแน่ๆ
เสียวฟางยังคงยืนรอคําตอบ สีหยุนจือทําเพียงพยักหน้า
4
แล้วบอกว่า
สีหยุนจือรูแ้ ก่ใจว่าน้องสาวของตนกําลังต้องการที
ระบายอารมณ์ ซึงหากนางไม่ยอมไป หยุนซิวคงต้องส่ง
ลูกน้องมาลวงคนของนางให้ตกหลุมพรางเป็ นแน่ ซึง
นางจะไม่ปล่อยให้เป็ นอย่างนันเด็ดขาด
5
เรืองนีอีก
‘จางถิงคนจริง’ คําทีเขาใช้เอ่ยถึงตนเองเสมอ
เดือนนีเขามอบกําไรสามในสิบส่วนทีได้จากการเปิ ดร้าน
อาหารให้สีหยุนจือ ทว่านางปฏิเสธทีจะรับเงิน จางถิงจึง
พูดต่อหน้าธารกํานัลว่า...หากนางไม่รบั เงินก้อนนีต่อไป
ก็ไม่ตอ้ งมาเป็ นเพือนกันอีก สุดท้ายสีหยุนจือจึงจําต้อง
รับเงินก้อนนันอย่างจนปั ญญา จากนันก็บอกกับจากถึง
ว่านางจะเก็บเงินก้อนนีไว้ หากต่อไปเขาต้องการทุนเพิม
ก็ให้มาบอก
6
จางถิงเดินบ่นพึมพําว่านางแช่งเขา แล้วออกจากร้าน
หนานเป่ ยเพือกลับร้านของตน
7
อีกฝ่ ายมีแซ่เดิมว่าโจว เป็ นมารดาแท้ๆ ของสีหยุนซิว
สีหยุนจือเชิญฮูหยินสีขึนไปทีชันบนของร้านแล้วสังให้
คนยกนําชามารับรองแขก
หญิงสาวนังตรงข้ามโจวซือทีกําลังนังนิงด้วยสีหน้าเรียบ
เฉย ท่าทางอีกฝ่ ายเหมือนไม่มีกะจิตกะใจจะดืมนําชา
นางรูว้ า่ ผูม้ าเยือนไม่ได้มีเจตนาจะมาเยียมหรือมาดืมนํา
8
ชาด้วยจึงได้กล่าวทักทายแล้วสนทนากับฝ่ ายตรงข้าม
เหมือนเวลาทีรับรองลูกค้าคนหนึง
“เจ้าค่ะ”
สีหยุนจือยังคงนิงเงียบ โจวซือเห็นนางไม่โต้ตอบจึงเอ่ย
ต่อว่า “หยุนซิวเรียกเจ้าไปพบทีจวนเจ้าเมือง ทําไมเจ้า
ไม่ไป” แววตาฮูหยินสีฉายโทสะออกมาอย่างไม่ปิดบัง
หญิงสาวเองก็ไม่อยากอ้อมค้อมอีกต่อไป จึงตอบกลับ
อย่างไม่เกรงใจ
“ในเมือไปแล้วต้องกลายเป็ นทีระบายอารมณ์ให้นางทุบ
ตี ถ้าอย่างนันข้าจะไปทําไมกัน”
10
อีกฝ่ ายได้ยินนางพูดเช่นนันสีหน้าก็เปลียนทันที ท่าทาง
เย่อหยิงและงามสง่าดังทีเคยเป็ นไม่หลงเหลืออีกต่อไป
โจวซือปั ดถ้วยนําชาล้มลงบนโต๊ะอย่างแรงแล้วพูดด้วย
นําเสียงเย็นชา
บรรยากาศในห้องเงียบสงัดเต็มไปด้วยความอึดอัด ได้
ยินกระทังเสียงนําชาทีหกบนโต๊ะหยดลงพืน
โจวซือสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามระงับอารมณ์โกรธ
เกรียวในใจ แล้วเอ่ยต่อรอง
สีหยุนจือทําท่าผายมือเพือส่งแขก
12
ฮูหยินสียืนขึนด้วยความโมโห “สีหยุนจือ! เจ้ามีสทิ ธิ
อะไรมาลองดีกบั ข้า? อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทําอะไรเจ้า!
หากหยุนซิวเรียกแล้วเจ้าคิดขัดขืนไม่ไปหานาง วันรุง่ ขึน
ข้าจะเผาร้านนีให้วอดวายไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก ถ้ากล้า
ดีก็ลองดู!”
สีหยุนจือยังคงยืนนิงไม่สนใจต่อคําขู่ ก่อนจะไปฮูหยินสี
ยังหันกลับมามองนางด้วยสายตาอาฆาตมาดร้าย
“อย่ามาร้องเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”
“...”
13
นางจนปั ญญากับแม่ลกู คูน่ ีจริงๆ คําพูดดูถกู เหยียดยาม
ทีออกมาจากปากของคนทังสองไม่หลงเหลือความเป็ น
ผูด้ ี ซํายังน่าละอายยิงนัก
ในคืนนัน
โจวซือไม่รอให้สีหยุนจือมีโอกาสได้เตรียมป้องกัน ก็สง่
ชายฉกรรจ์กลุม่ หนึงมาโต้กลับการกระทําสามหาวของ
นางทันที
14
ชายร่างใหญ่กลุม่ หนึงเดินหิวถังทีมีเลือดสุนขั อยูเ่ ต็มถัง
สาดเข้าใส่กาํ แพงหน้าร้านหนานเป่ ยอย่างอุกอาจ บ่าว
รับใช้หญิงในร้านรีบเข้าไปห้ามแต่กลับถูกทําร้ายตบตี
กลับมา
แววตาของชายฉกรรจ์เหล่านันมองสอดส่องเข้าไปใน
ร้านเหมือนจะหาใครบางคน โชคยังดีทีจ้าวอีกับหางเฟิ ง
มาทันเวลา พวกเขาใส่หมัดไม่ยงไล่
ั ตะเพิดคนพวกนันไป
จนหมด ช่วยให้สีหยุนจือรอดพ้นจากการถูกจับตัวใน
ครังนี
หญิงสาวตกใจจนแทบขวัญหาย จ้องมองเลือดแดงฉาน
ทีเลอะเต็มผนังหน้าร้าน ภายในร้านข้าวของกระจัด
กระจายเต็มไปหมด ในใจพลันคุกรุน่ ไปด้วยโทสะ จ้อง
15
เขม็งไปข้างหน้าด้วยแววตาเด็ดเดียว นางแค่อยากจะ
ก้มหน้าก้มตาทํามาหากินแต่พวกเขาก็ไม่วายหาเรือง
นางอย่างนันรึ?
เสียงกรีดร้องของสีหยุนซิว ดังแว่วมาจากเรือนด้านหลัง
ของจวนเจ้าเมือง
นอกจากจะไม่ฟังทีมารดาพูดแล้ว สีหยุนซิวกลับทุบหน้า
ท้องของตน แสดงอารมณ์เกรียวกราดรุนแรงมากขึน
17
“นางสารเลว! มันมีสทิ ธิอะไรมามีชีวิตทีดีกว่าข้า แต่ไหน
แต่ไรมันไม่มีอะไรเทียบข้าได้แม้แต่นอ้ ย แล้วทําไมต้อง
เป็ นข้าทีต้องรับเคราะห์กรรมเหล่านีด้วย?”
พอได้ฟังทีมารดาพูดสีหยุนซิวก็มีสีหน้าดีขนึ โจวซือเห็น
ลูกสาวอยูใ่ นสภาพอย่างนีก็อดปวดใจไม่ได้ โทสะทีมีตอ่
สีหยุนจือยิงเพิมมากขึนเป็ นทวีคณ
ู พลางคิดว่า นางไพร่
สารเลวคนนันคิดว่าตัวเองแต่งงานออกไปแล้วจึงทํา
18
ปี กกล้าขาแข็งไม่ยอมก้มหัวให้กบั ลูกสาวข้า หนําซํายัง
เหิมเกริมกล้าขัดคําสัง คงหมายจะให้หยุนซิวก้มหัวให้
ข้าจะต้องทําให้นางมาสยบแทบเท้าหยุนซิวให้ได้ จะไม่
ยอมให้นางดูถกู เหยียดหยามเราสองแม่ลกู ได้อีก
19
ตอนที 41 ถือว่าหายกัน
สองวันหลังจากนัน
จางถิงเดินเข้ามาในห้องรับรองของร้านหนานเป่ ยด้วย
อาการเหนือยหอบ บอกกับสีหยุนจือทีกําลังเดินไปเดิน
มาในห้องว่า
“ได้ความมาแล้ว ทางทิศตะวันออกของเมืองมีป่ากล้วย
ในทีนันมีซอ่ งโสเภณีอยูแ่ ห่งหนึง คุณชายหลูเอาแต่
หมกมุน่ อยูก่ บั นางคณิกาทีนันทุกคืน ไม่ได้กลับบ้าน
มากว่าครึงเดือนแล้ว”
1
จางถิงรูจ้ กั คนมาก การให้เขาเป็ นคนไปสืบข่าวจึงได้
ความคืบหน้ามาอย่างรวดเร็ว สีหยุนจือพยักหน้าแล้ว
พูดว่า “บ้านตระกูลสีเล่า? คนจากบ้านตระกูลสีไปบ้าน
ตระกูลหลูบอ่ ยขึนหรือไม่?”
สีหยุนจือได้ฟังทีจางถิงพูดก็พอจะคาดเดาเรืองราวได้
เรืองแรกทีนางมันใจคือสีหยุนซิวกําลังตังครรภ์อยูแ่ น่
นอน แต่พฤติกรรมของสามีนางทําให้เดาว่าลูกในท้อง
2
ต้องไม่ใช่ลกู ของเขาแน่ๆ อาจจะเป็ นลูกทีเกิดจากชาย
คนอืนในช่วงทีสีหยุนซิวแต่งงานใหม่ๆ ทว่าชายคนนัน
เป็ นใครกัน? แต่อย่างน้อยคนบ้านตระกูลสีหรือฮูหยินสีก็
ต้องรูเ้ รืองนีแน่ ดังนันฮูหยินสีจึงไปพบลูกสาวทีจวนเจ้า
เมืองทุกวัน
หากสิงทีนางคาดเดาทังหมดเป็ นเรืองจริงก็พอจะปะติด
ปะต่อเรืองราวทังหมดได้ไม่ยาก ตระกูลสีและตระกูลหลู
เป็ นตระกูลทีรํารวย มีชือเสียงมากในเมืองลัวหยาง หาก
เจ้าสาวทีเพิงแต่งงานหมาดๆ มีข่าวเสียหายออกไป ทัง
สองตระกูลก็ตอ้ งพยายามปกปิ ดเรืองนีไว้ให้มิด
4
“เจ้าพอจะหาคนทีเป็ นปากเป็ นเสียงในตระกูลหลูให้ขา้
ได้หรือไม่?”
ส่วนเรืองทีจะให้บา่ วคนนันทําอย่างไรหรือทําอะไรต่อไป
นัน เขาก็ไม่อยากถามให้มากความเพราะเรืองนีไม่เกียว
อะไรกับตน อีกทังเขากับเป้าหมายของนางไม่ได้มีความ
เกียวข้องกัน เขาเพียงช่วยเหลือนางในฐานะเพือนคน
5
หนึงเท่านัน เลยไม่รูจ้ ะถามให้วนุ่ วายทําไม
จากนันนางก็กระซิบทีข้างหูจางถิง เขาพยักหน้า
แล้วออกจากห้องไปจัดการให้
6
สีหยุนจือเดินไปเดินมาในห้องรับรอง สองมือซุกอยูใ่ น
แขนเสือ ครุน่ คิดเรืองราวต่างๆ
สีหยุนซิวคงไม่อยากคลอดเด็กทีเป็ นความอับยศอดสูคน
นีออกมา จึงสังให้โหรวเอ๋อไปซือยาขับเลือด และแน่
นอนว่าหยุนซิวคงทําไม่สาํ เร็จก็เลยกระวนกระวายใจจน
คลุม้ คลัง
7
ขณะทีกําลังหลับ คุณชายหลูก็ถกู ลากตัวออกมาจากหอ
นางโลมแล้วจับโยนลงบ่อโคลน
ในยามนีคุณชายหลูเนือตัวมอมแมมดูสกปรกยิงนัก เขา
พยายามจะลุกจากบ่อโคลน แต่เพิงจะลุกขึนได้ก็ถกู
หมัดหนึงชกเข้าทีหน้าอย่างแรง
8
รูว้ า่ ตัวเองถูกนํามาโยนไว้บนพืนทีโล่งแห่งหนึง ด้านข้าง
มีชนวางอาวุ
ั ธและถังนําสองถัง นอกจากนันก็ไม่มีสงอื
ิ น
ใดอีก เมือมองไปเรือยๆ สายตาเขาก็ไปหยุดอยูท่ ีชาย
สามคนทีกําลังมองมายังเขาด้วยใบหน้าเหียมเกรียม
ชายหนุ่มรูส้ กึ กลัวจนขนลุกไปทัวร่าง เนือตัวสันเทาอย่าง
ไม่อาจควบคุม
พอสินเสียงเขาก็ถกู ตบเข้าทีบ้องหูอย่างแรงอีกครังจน
ฟั นร่วงออกมาอีกรอบ คุณชายหลูจงึ เข้าใจได้ทนั ทีวา่ ไม่
ควรทําให้คนพวกนีโมโห เขาจึงปรับนําเสียงทีแสดง
ความยโสโอหังลง
9
ชายตรงหน้าจ้องมองเขาด้วยสายตาดูแคลน ราวกับจะ
บอกว่าเขาเป็ นเพียงนักเลงทีเก่งแต่ปาก แล้วก็พดู ว่า “ข้า
มีนามว่าปูถ้ าน เจ้าจงจําไว้ และข้ากับเจ้าไม่เคยมีความ
แค้นใดๆ ต่อกัน”
“ถ้าอย่างนัน...ถ้าอย่างนันพวกเจ้าจับข้ามาทําไม เจ้า...
เจ้าอยากได้เงินรึ ข้ามี...ข้ามีเงิน”
10
คุณชายหลูกลัวจนตัวสันพูดตะกุกตะกัก รีบควักเงินออก
มาจากถุงผ้าเตรียมจะยัดใส่มือของปูถ้ าน แต่กลับถูก
หานเฟิ งขวางเอาไว้
“พีชายผูย้ งใหญ่
ิ หากเงินแค่นีไม่พอ...บิดาข้า...บิดาข้า
คือท่านเจ้าเมือง พวกเจ้า...พวกเจ้าไปเอากับเขาได้ ท่าน
พ่อข้าต้องให้พวกเจ้าแน่ๆ”
11
“เจ้าเมืองหลูซิวงันรึ ข้าจะจําไว้เผือวันหน้าอาจจะไปหา
แต่ตอนนีมาชําระความแค้นระหว่างเราก่อน”
12
“...” คุณชายหลูไม่เข้าใจสิงทีปูถ้ านพูดจึงนิงงันอยูอ่ ย่าง
นัน จากนันเขาก็ถกู ซัดเข้าทีปากอีกหมัด ปูถ้ านยิมอย่าง
อํามหิต มองเขาแล้วถามยําว่า
“ใช่หรือไม่?”
13
“...”
จ้าวอีและหานเฟิ งไม่รอให้คณ
ุ ชายหลูได้พดู อีก ทังสอง
รุมซ้อมเขาจนน่วมไปทังตัว เมือสาแก่ใจแล้วก็ถอดเสือ
ผ้าอีกฝ่ ายออกทังหมดแล้วนําตัวไปทิงไว้ทีหน้าประตู
ใหญ่จวนเจ้าเมืองในสภาพเปลือยเปล่า
สีหยุนจือสังให้ลกู จ้างร้านทําความสะอาดกําแพงทีเปื อน
เลือดสุนขั
เดิมทีสีหยุนจือไม่อยากให้พวกเขามาทีร้าน แต่ทงสองก็
ั
15
ดือดึงแล้วยังบอกว่าไม่วา่ จะเป็ นตายอย่างไรก็ตอ้ งตาม
นางมาให้ได้ เหตุการณ์ในครังนีหากจะบอกว่าหญิงสาว
ไม่รูส้ กึ กลัวก็คงจะเป็ นเรืองโกหก แต่นางอยากลองสูด้ ู
สักตัง
หลังจากนันสองวันนางก็สงให้
ั คนนําจดหมายปิ ดผนึก
ฉบับหนึงส่งไปยังตระกูลสี ให้ฮหู ยินสีเป็ นคนเปิ ด
จดหมายด้วยตัวเอง ในจดหมายมีเพียงข้อความสันๆ ว่า
‘ครรภ์นีมีพิรุธ’
สีหยุนจือรูว้ า่ เพียงเท่านีก็มากพอทีจะทําให้โจวซือรูส้ กึ
หวาดผวาและไม่กล้ามายุง่ กับตนอีก
16
.
ช่วงเวลากลางวันแดดกําลังร้อนจัด
สีหยุนจือเรียกจ้าวอีและหานเฟิ งเข้ามาพักดืมชาข้างใน
ร้าน
จ้าวอีนังลงบนเก้าอีอีกตัวด้านข้างนายหญิงแล้วเท้าแขน
บนโต๊ะบัญชี ก่อนจะบอกกับนางด้วยนําเสียงมันอกมัน
ใจ
“จริงรึ? เจ้ามันใจได้อย่างไร?”
จ้าวอีหันไปมองหานเฟิ งทีกําลังจ้องเขาพร้อมกับขึงตาใส่
เป็ นเชิงตักเตือน แต่เขากลับทําท่าทางซุบซิบเหมือนต้อง
การจะบอกบางอย่างกับนายหญิง
“ฮูหยินขอรับ อันทีจริง...”
18
ตอนที 42 เรืองทีห้ามบอก
จ้าวอีมองไปทางหานเฟิ งพลางกลอกตามองเพดาน
“คุณชายห้ามไม่ให้บอกข้าอย่างนันรึ?”
เมือหานเฟิ งคนซือถูกนายหญิงถามอย่างนันก็หน้าแดงหู
แดง รีบปฏิเสธแล้วอธิบายอย่างลุกลีลุกลน
2
“เปล่า...เปล่านะขอรับ คุณชายไม่ได้หา้ มแบบนัน แค่
บอกว่าไม่ให้ฮหู ยินรูเ้ รืองนีขอรับ”
“...”
3
“...”
หานเฟิ งรีบหันไปมองจ้าวอีทีกําลังตกใจตาเบิกโพลงไม่
ต่างกันกับเขา จ้าวอีนิงงันอยูน่ านจึงค่อยๆ ถามว่า
หานเฟิ งทําหน้าราวกับความซวยกําลังจะมาถึงในไม่ชา้
มองสีหยุนจือด้วยแววตาตืนตระหนก
นางยังคงก้มหน้าก้มตาดีดลูกคิดต่อไป ราวกับไม่เห็นสี
หน้าของคนทังสอง ยังแกล้งพูดสําทับให้อีกฝ่ ายร้อนรน
กว่าเดิม
4
“ในเมือพวกเจ้าไม่ยอมบอกข้าแล้วข้าจะรูไ้ ด้อย่างไร แต่
ไม่เป็ นไรหรอก เดียวคืนนีข้าจะกลับไปบอกกับคุณชาย
ของพวกเจ้าให้วา่ พวกเจ้าไม่ได้บอกอะไรข้าทังนัน ข้าไม่
รูเ้ ลยสักนิดว่าพวกเจ้าไปหาเรืองคนตระกูลหลูมา”
สีหยุนจือเงยหน้าขึนอีกครัง มองเขาด้วยแววตาจริงจัง
5
“ถ้าอย่างนัน...”
หานเฟิ งมองหน้านายหญิงก็เข้าใจคําพูดทีเหลือทันที
ทว่าเขายังลังเลอยูค่ รูห่ นึง สุดท้ายก็ยอมพูดออกมา
สีหยุนจือขมวดคิว “เจ้าหมายความว่าพวกเจ้าไปหาเรือง
6
ตระกูลหลูมาแล้วงันรึ?”
จากนันทังสองก็เล่าเรืองทีเกิดขึนในคืนนันให้สีหยุนจือ
ฟั ง แต่สงที
ิ ไม่คาดคิดคือหลังจากทีนายหญิงได้ฟังเรือง
ทังหมดแล้ว ไม่ใช่เพียงแต่ไม่แสดงอาการสาแก่ใจยังรีบ
เดินออกมาจากโต๊ะบัญชี แล้วถามด้วยนําเสียงจริงจังว่า
7
“เกิดเรืองขึนตังแต่เมือไร?”
จ้าวอีไม่เข้าใจว่าทําไมสีหยุนจือจึงแสดงอาการร้อนรน
ขนาดนันจึงตอบว่า “คืนก่อนขอรับ”
8
นางส่ายหัวตอบว่า “ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน พวกเจ้าไป
สืบตามทีข้าบอกก็พอ โดยเฉพาะเรืองครรภ์ของหลูฮหู
ยิน พวกเจ้าต้องสืบมาให้ละเอียด”
“...”
9
เมือทังสองออกไปแล้ว สีหยุนจือก็กลับไปทีโต๊ะบัญชีดงั
เดิม
นางนังลงพลางครุน่ คิดถึงเรืองทีเกิดขึนในจวนเจ้า
เมือง...
คุณชายหลูชอบพวกสัตว์ดรุ า้ ย ซึงนันก็หมายความว่า
เขาไม่ใช่คนทีอ่อนโยนและน่าจะโมโหร้ายอยูพ่ อสมควร
และเขาต้องรูแ้ น่วา่ หลังจากทีสีหยุนซิวแต่งงานด้วยก็
แอบคบชูส้ ชู่ าย ดังนันเขาจึงไม่ยอมกลับจวน ได้แต่หมก
ตัวอยูท่ ีหอนางโลม
ส่วนหนึงอาจเป็ นเพราะถูกห้ามไม่ให้กระทําการวูว่ าม
10
หากเขาคิดจะทําอะไรลงไปก็ตอ้ งคํานึงถึงหน้าตาของ
วงศ์ตระกูลก่อน ดังนันในฐานะสามี คุณชายหลูจงึ ยังไม่
กล้าลงมือทําการใดๆ
11
อารมณ์กบั ผูท้ ีเป็ นต้นเรือง นันก็หมายความว่าเรืองทีเกิด
ขึนนีอาจทําให้เขาไปอาละวาดใส่สีหยุนซิว และหากเขา
ลงไม้ลงมือกับภรรยาของตัวเองจริงๆ ก็อาจจะถึงขัน...
สีหยุนจือนังคิดถึงเรืองนีวนเวียนไปมาตลอดทังเช้า
จ้าวอีและหานเฟิ งเชียวชาญด้านการสืบข่าวเพราะเคย
ทํางานเช่นนีให้กบั กองทัพมาก่อน นับประสาอะไรกับ
การสืบเรืองของชาวบ้านธรรมดา ชายทังสองจึงได้คาํ
ตอบกลับมารายงานฮูหยินอย่างรวดเร็ว
12
เรืองราวใดๆ ทังสิน อย่าว่าแต่เรืองเสียหายใหญ่โต แม้
แต่เรืองเล็กๆ น้อยๆ ก็แทบจะไม่มีเลยด้วยซํา
13
“จริงตามนันขอรับ บ้านตระกูลหลูดแู ลฮูหยินท่านนัน
เป็ นอย่างดี มีทงอาหารและยาบํ
ั ารุงให้กบั นาง ข้าแอบ
ไปดูของแต่ละอย่างล้วนเป็ นของราคาแพงทังนัน ดู
เหมือนตระกูลหลูจะให้ความสําคัญกับครรภ์นีของฮูหยิน
ท่านนันมากเหลือเกินขอรับ”
“...”
สีหยุนจือคิดทบทวนในใจอยูห่ ลายครังว่ามีรายละเอียด
ตรงไหนทีนางมองข้ามไปหรือเปล่า หรือมีเรืองทีนางคิด
ไม่ถงึ อีกหรือไม่?
สีหยุนจือกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น
15
หญิงสาวนังอยูใ่ นห้องภายใต้แสงตะเกียงทีส่องสว่าง
โดยมีเข็มกับด้ายอยูใ่ นมือ หญิงสาวนังนิงในท่านันอยู่
นาน เหมือนกําลังครุน่ คิดบางอย่าง จนกระทังปูถ้ านเปิ ด
ประตูเข้ามา นางจึงได้สติและรีบเดินเข้าไปปรนนิบตั ิ
สามี
“กําลังคิดอะไรอยูห่ รือ?”
16
สีหยุนจือลังเลเล็กน้อยทีจะเอ่ยปาก สุดท้ายก็ตดั สินใจ
เล่าเรืองทีตนสงสัยให้ปถู้ านฟั งทังหมด
“เรืองนีใต้เท้ามีความคิดเห็นว่าอย่างไรเจ้าคะ?”
ชายหนุ่มบีบเอวนางเบาๆ ครังหนึงก่อนจะยอมปล่อย
หญิงสาวออกจากอ้อมกอด เขาเดินไปนังลงบนเก้าอี
ด้านหลังโต๊ะหนังสือ เห็นสีหยุนจือมองตามมาอย่างใจ
จดใจจ่อเหมือนกําลังรอคําตอบ
17
ปูถ้ านชีนิวไปทีถาดนําหมึก นางก็เดินเข้ามาฝนนําหมึก
ให้อย่างว่าง่าย เขาหลุบตาลง มุมปากยิมเล็กน้อยก่อน
จะพูดขึนว่า
เดิมทีสีหยุนจือใช่คนทีชอบพูดอ้อมค้อม เมือเห็นปูถ้ าน
ทําสีหน้าจริงจังก็อดยิมไม่ได้
18
พอได้ยินนางพูดเช่นนันมือทีกําลังจรดพูก่ นั ก็ชะงักทันที
หมึกสีดาํ หยดจากปลายพูก่ นั เกิดเป็ นวงบนกระดาษ เขา
วางพูก่ นั ลงแล้วเงยหน้ามองภรรยาทีกําลังยิมอย่าง
อารมณ์ดี
19
ตอนที 43 ค่าปิ ดปาก
“เรืองสกปรกอย่างนัน ข้าไม่อยากให้เจ้ารู”้
“...”
หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่ม สีหน้าและแววตาจริงจังที
เขาแสดงออกไม่มีทีทา่ ว่าจะล้อเล่นแม้แต่นอ้ ย แน่นอน
ว่านางย่อมต้องซาบซึงใจ แต่ทีเหนือกว่าสิงอืนใด นาง
รูส้ กึ ถึงความเป็ นเจ้าเข้าเจ้าของทีชัดเจนขึนในใจของตน
ความรูส้ กึ นีเองทีทําให้นางมันใจทีจะยืนเคียงข้างเขา
และสูเ้ คียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกัน
2
ตระกูลสีและตระกูลหลูเป็ นอย่างทีปูถ้ านว่าไว้จริงๆ
พวกเขาไม่ได้มารังควานสีหยุนจืออีก ร้านของนางจึง
เปิ ดค้าขายตามปกติและมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนือง
เมือมาถึงเขาก็ลากสีหยุนจือไปทีมุมหนึงของร้านด้วยทํา
ท่าทางลับๆ ล่อๆ แล้วพูดด้วยเสียงกระซิบกระซาบ
“มีเรืองผิดปกติเกิดขึนทีตระกูลสี”
3
สีหยุนจือฟั งทีจางถิงพูดก็ขมวดคิวด้วยความสงสัย เขามี
สีหน้าตืนเต้นตอนบอกกับนางว่า
“ตระกูลสีเริมขายสมบัติแล้วทังคฤหาสน์ตีช่ยุ และโรงงิว
หนานเฉิง เมือสองวันทีแล้วข้าเห็นติดประกาศขายอยู”่
สีหยุนจือนิงคิดตามทีจางถิงพูด ก่อนจะพยักหน้าแล้ว
พูดว่า
4
“เรืองนีจริงแท้แน่นอน นีเจ้ายังสงสัยทีมาของข่าวจากข้า
อยูร่ ?ึ ” จางถิงรูส้ กึ โกรธเคืองทีสีหยุนจือแสดงท่าทีไม่เชือ
มันในข้อมูลทีตนนํามาบอกจึงทําท่าจะหันหลังเดินจาก
ไป แต่ถกู สีหยุนจือรังเอาไว้แล้วกระซิบกับเขาว่า
5
จางถิงแสดงสีหน้าหมันไส้ราวกับว่านางช่างไม่รูอ้ ะไรเสีย
เลย นางเห็นท่าทางอีกฝ่ ายก็จนปั ญญาจะอธิบายจึง
กล่าวเพียงว่า
“ถ้างันก็ไปสืบให้รูว้ า่ ทําไมพวกเขาจึงขาดเงิน”
“...”
เมือจางถิงกลับไปแล้ว สีหยุนจือก็กลับมานังทีโต๊ะบัญชี
และตรวจนับสินค้าต่อ ขณะกําลังแกะกระดาษทีห่อของ
จู่ๆ ก็นกึ ถึงกระดาษทีได้มาจากวัดจือหยุนทีตนเผาทิงไป
แล้ว บนกระดาษแผ่นนันแม่ชีจินผิงได้เขียนข้อมูลสมบัติ
ของตระกูลสีทงหมดไว้
ั อย่างละเอียด
6
ตระกูลสีมีทงหมดห้
ั าครอบครัว ในเมือเป็ นตระกูลใหญ่
กิจการก็ใหญ่โตตามไปด้วย แต่ละบ้านต่างก็มีสมบัติ
พัสถานและกิจการต่างๆ เป็ นของครอบครัวตนเอง ส่วน
ครอบครัวทีมีสมบัติมากทีสุดจะเป็ นครอบครัวของท่าน
อาสามซึงเคยมีฮหู ยินสามเป็ นผูด้ แู ลตระกูล แต่ตอนนี
สมบัติสว่ นใหญ่อยูใ่ นมือของฮูหยินห้าผูด้ แู ลตระกูลคน
ล่าสุด
ปกติแล้วฮูหยินสีมักจะชอบไปพักผ่อนยังทีสองแห่งนี
เป็ นประจํา แต่มาวันนีกลับปิ ดป้ายประกาศขาย สีหยุ
นจือจึงมันใจว่าเรืองนีจะต้องมีความเกียวข้องกับเรือง
ของสีหยุนซิวทีเกิดขึนในบ้านตระกูลหลูอย่างแน่นอน
หรือว่า...ฮูหยินสีจะถูกข่มขู่กรรโชกทรัพย์อย่างนันรึ
8
จางถิงออกไปสืบความไม่นานก็วิงกลับเข้ามาด้วยท่า
ทางกระหืดกระหอบ
9
ปลูกสร้างภายในทีตกแต่งอย่างประณีตงดงามก็ประเมิน
ราคาไม่ได้แล้ว
ในตอนแรกนางคิดว่าราคาทีประกาศขายอย่างน้อยคง
ไม่ตากว่
ํ าหนึงแสนตําลึงเป็ นแน่ แต่ดเู หมือนพวกเขาจะ
ร้อนเงินมากกว่าทีนางคิดเสียแล้ว
10
“อ้อ...จริงสิ โหรวเอ๋อกําลังทําตามทีข้าบอกอยูห่ รือไม่?”
ก่อนหน้านีนางให้จางถิงหาคนเข้าไปคุยกับโหรวเอ๋อก็
เพือให้สาวใช้คนนันจัดการธุระบางอย่างให้ และหากทํา
งานนีได้สาํ เร็จ โหรวเอ๋อจะกลายเป็ นหมากทีดีตวั หนึง
จางถิงกําลังยืนดูนาฬิกาเรือนใหญ่ทีมีนกร้องบอกเวลา
พอได้ยินสีหยุนจือพูดถึงประเด็นนีเขาก็ชกั สายตากลับ
มาแล้วบอกว่า
11
เรืองอะไรทีนางจะปฏิเสธใช่ไหมเล่า?”
12
คุณชายหลูเล่า? ช่วงนีเขาไปดูนางบ้างหรือไม่?”
จางถิงสืบเรืองทุกอย่างมาอย่างละเอียดถีถ้วน จึง
สามารถตอบคําถามของสีหยุนจือได้ทนั ที
“เขาไปดูนางเพียงสองหรือสามครัง พูดกับนางเพียงไม่กี
คําก็กลับ”
“...”
จางถิงพยักหน้าตอบกลับอย่างงงๆ จากนันสีหยุนจือก็
ไม่ได้พดู อะไรอีก
เงินห้าหมืนตําลึงสามารถซือสถานทีหรูหราโอ่อา่ ได้ถงึ
สองทีนับว่าคุม้ ค่ามากทีเดียว
ในเมือโอกาสมาถึงแล้วสีหยุนจือย่อมไม่ยอมพลาดเด็ด
ขาด จึงบอกให้จางถิงนําเงินห้าหมืนตําลึงไปซือสองทีนี
14
ไว้ก่อนจะมีคนอืนมาตัดหน้าไป
เมือได้โฉนดทีดินกับสัญญามาแล้วนางก็นาํ ไปเก็บไว้
อย่างดีจากนันก็สงงานคนในร้
ั าน หลังมอบหมายงาน
เสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็เดินออกไปทีตลาด
เงินห้าหมืนตําลึงนับว่ามากเลยทีเดียว ต่อให้ตระกูลนัน
รํารวยเพียงใดแต่แน่นอนว่าเจ้าของเงินจะต้องหาทีเก็บ
เงินก้อนนีไว้เป็ นอย่างดี เพราะถ้าหากยับยูย่ ี ฉีกขาดหรือ
เกิดความชืนทําให้ขอ้ ความบนตัวเลือนรางก็จะใช้ไม่ได้
ถึงตอนนันก็จะเกิดความเสียหายเป็ นอย่างมาก
นางอยากรูว้ า่ ทําไมฮูหยินสีถึงขายสถานทีทังสองแห่งใน
15
ราคาเพียงเท่านี จึงตัดสินใจทีจะสืบเรืองนีด้วยตนเอง
เพราะต่อให้เป็ นจางถิงไปถามก็คงไม่ได้คาํ ตอบทีแท้จริง
กลับมา
สีหยุนจือนังอยูใ่ นห้องรับรองบนชันสองของร้านนําชา
แห่งหนึง นางกําลังนังจิบชาร้อนกับขนมหวานอย่าง
สบายอารมณ์ พลางสอดส่ายสายตามองลงมายังโรงรับ
แลกเงินทงเทียนทีอยูฝ่ ังตรงข้าม โรงรับแลกเงินแห่งนี
เป็ นโรงรับแลกเงินทีใหญ่ทีสุด และเป็ นโรงรับแลกเงิน
แห่งเดียวในเมืองลัวหยาง นางมันใจว่าหากมีใครทีได้
เงินถึงห้าหมืนตําลึงในคราเดียว คนผูน้ นจะต้
ั องนําเงิน
มาฝากไว้ทีนี
17
ขณะทีกําลังนังมอง พลันเห็นพ่อบ้านกุย้ หนิงเดินทําท่า
ลับๆ ล่อๆ เข้าไปในโรงรับแลกเงิน
ระหว่างทีกําลังเดิน เสือของเขาก็ขยับไปมาตามจังหวะ
การก้าวขา ทําให้มีบางอย่างแลบออกมาจากสาบเสือ
ด้านใน
นันคือถุงเงินทีทําจากผ้าเปอร์เซียร์ทีนางใส่เงินห้าหมืน
ตําลึงให้จางถิงไปเมือเช้าไม่ใช่ร?ึ
18
ในเมือผูท้ ีข่มขู่เอาทรัพย์ฮหู ยินสีก็คือฮูหยินห้า ดูทา่ ว่า
เรืองจะง่ายขึนแล้ว
19
ตอนที 44 แขกผู้มาเยือน
เช้าวันต่อมา
1
มาวันนีกลายเป็ นว่าเรืองทีพยายามปิ ดบังถูกคนนําไป
ป่ าวประกาศอย่างครึกโครม แน่นอนว่าคนตระกูลหลู
ย่อมไม่พอใจเป็ นอย่างมาก และคนจากตระกูลสีทีเข้า
ออกจวนเจ้าเมืองเป็ นประจําก็มีเพียงฮูหยินสี
ตระกูลหลูคิดว่าฮูหยินสีคงต้องการปกป้องชือเสียงของ
ลูกสาว จึงเปิ ดฉากรุกก่อนและตระกูลหลูก็ไม่พน้ ต้อง
เป็ นฝ่ ายตังรับ ซึงหากเป็ นเช่นนันแน่นอนว่าเพือรักษา
หน้าตน คนในตระกูลหลูก็จาํ ต้องดูแลสตรีทีกําลังตัง
2
ครรภ์ผสู้ ืบทอดตระกูลของตนเป็ นอย่างดี
โจวซือไม่อาจอธิบายข้อข้องใจเหล่านีได้อย่างชัดเจน ดัง
นันไม่วา่ นางจะพูดอะไรคนในตระกูลหลูก็ไม่ไว้วางใจอีก
ต่อไป พวกเขาจึงไม่อนุญาตให้นางเข้าออกจวนเจ้าเมือง
ได้ตามอําเภอใจอีก และไล่ฮหู ยินสีออกจากจวนแทบจะ
ทันที
โจวซืออึดอัดและคับแค้นใจอย่างทีสุด พยายามทบทวน
เรืองราวต่างๆ และคิดได้วา่ มีเพียงสองคนเท่านันทีรูเ้ รือง
นีนันก็คือ ‘สีหยุนจือ’ และ ‘ซางซูเ่ อ๋อ’
3
นางจะรูเ้ รืองก็คงเป็ นเพียงบางส่วน และนีเป็ นเหตุผลที
นางไม่โดนตามรังควานอีก เพราะโจวซือมันใจว่าไม่มี
ทางทีสีหยุนจือจะคาดเดาเรืองราวออกทังหมด หรือถึง
นางจะรูเ้ รืองทังหมดจริงก็คงไม่มีทางป่ าวประกาศได้เร็ว
เพียงนี เมือคิดเช่นนีก็เหลือคนร้ายแค่คนเดียวเท่านัน
ซางซูเ่ อ๋อ!
วันต่อมาโจวซือจึงรีบไปทีบ้านตระกูลหลูอีกครังและเปิ ด
เผยความร้ายกาจของซางซูเ่ อ๋อให้ฮหู ยินผูเ้ ฒ่าตระกู
4
ลหลูได้ฟัง พอฮูหยินผูเ้ ฒ่ารูเ้ รืองย่อมโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ
หลายวันมานีสีหยุนจืออารมณ์ดีเป็ นพิเศษ
5
วันนีนางตังใจจะกินข้าวเทียงทีห้องปั กผ้า บรรยากาศบน
โต๊ะอาหารเป็ นไปอย่างอบอุน่ อาสะใภ้หลานและแม่นาง
เชียนเอาใจใส่นางเป็ นพิเศษ ทังคีบอาหาร เติมนําแกง
ทุกคนให้การดูแลนางเป็ นอย่างดี เดิมทีอาสะใภ้ชอบกิน
น่องไก่ก็กลับคีบน่องไก่ให้นางก่อน
6
แม่นางเชียนทีกําลังถือถ้วยข้าว พูดเสริมว่า “จริงด้วย
เจ้าเหนือยเพือพวกเรามากทีเดียว หากไม่ใช่เพราะเจ้า
ป่ านนีก็ไม่รูว้ า่ พวกเราจะไปทําอะไรอยูท่ ีไหน”
เมือได้ยินคําเยินยอและขอบคุณต่อหน้าแบบนี หญิง
สาวก็อดทีจะเขินไม่ได้จงึ พยักหน้าแล้วบอกอย่างอายๆ
“ข้าเพียงหวังว่าพวกท่านจะไม่ถือโทษหรือโกรธทีข้าเคย
หลอกพวกท่านเมือครังนัน”
7
ได้เจ้าทีช่วยดึงออกมา ป่ านนีก็คงยังจมโคลนอยูเ่ ป็ นแน่”
ตังแต่อาสะใภ้หลานมาทํางานทีห้องปั กผ้าก็เหมือน
เปลียนเป็ นคนละคน จากทีเคยโมโหร้าย หงุดหงิดง่าย
ชอบทําหน้าปั นปึ งจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ตอนนี
สามารถเข้ากับคนอืนๆ ได้เป็ นอย่างดี เมือรูอ้ ย่างนีสีหยุ
นจือจึงยิมออกมาอย่างพึงพอใจ
หลังจากกินข้าวเสร็จสีหยุนจือก็กลับไปทํางานต่อ ยังมี
สินค้าอีกกองพะเนินทีรอให้นางไปตรวจสอบ ทัง
กระดาษจากเมืองใต้ เครืองดนตรีจากเมืองเหนือ และ
ของอืนๆ อีกมากมาย
8
กว่าสีหยุนจือจะตรวจสอบรายการของทุกอย่างเสร็จก็
เป็ นเวลาคํา นางเพิงนึกขึนได้วา่ วันนีสามีบอกให้กลับ
บ้านเร็วหน่อย ก่อนกลับนางแวะไปซือไก่และปลาอย่าง
ละตัวพร้อมกับสุราอย่างดีหนึงไหไปให้ทา่ นปู่ ดว้ ย
ระหว่างทางกลับบ้านนางพบกับขบวนรถขนของเหมือน
จะย้ายมาจากต่างถิน ผูค้ นเดินแบกข้าวของเรียงกันมา
ไม่ขาดสาย อีกทังยังมีรถม้าไม่ตากว่
ํ าสามสิบคัน แล้วยัง
มีมา้ ลักษณะดีนาํ ขบวนม้าลากจูงมาอีกต่างหาก ส่วน
ท้ายขบวนมีบา่ วรับใช้ราวยีสิบถึงสามสิบคนเดินตามมา
ดูทา่ ว่าคนตระกูลนีคงไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา หญิงสาว
จึงหยุดยืนข้างทางรอขบวนเหล่านันผ่านไปให้หมดก่อน
แล้วค่อยเดินต่อโดยไม่ได้หนั ไปสนใจขบวนขนของนันอีก
9
.
เมือสีหยุนจือกลับมาถึงบ้านก็เห็นปูถ้ านก็นงเขี
ั ยน
จดหมายอยูใ่ นห้องหนังสือ
เขาเปลียนมาใส่เสือผ้าแบบสบายสําหรับอยูบ่ า้ นแล้ว
ชายหนุ่มกําลังนังอยูท่ ีโต๊ะหนังสือด้วยท่าทางสง่า ใบ
หน้าหล่อเหลาคมคายมีเหงือเม็ดเล็กผุดพราวราวกับเพิง
กลับมาไม่นาน แม้แต่เสือคลุมยังถูกถอดและวางไว้
อย่างลวกๆ บนชันหนังสือ
10
บางอย่าง พอเห็นอย่างนีนางก็ไม่อยากรบกวนจึงเก็บ
ถ้วยชาและเสือคลุมของเขาแล้วเดินออกไป
11
สง่างาม เขาเดินเข้ามาข้างในและยังมีผตู้ ิดตามมาด้วย
สองคน ดูเหมือนจะเป็ นผูค้ มุ้ กัน คุณชายท่านนันสะบัด
พัดเบาๆ แล้วพูดกับหรูอีว่า
หรูอีไม่เคยพบชายหนุ่มรูปงามและพูดจาสุภาพเช่นนี
ก่อนหน้านางรูส้ กึ ว่าคุณชายปูเ้ ป็ นบุรุษทีงามสง่า ทว่า
น่าเกรงขามอย่างทีสุด มาวันนีนางได้พบคุณชายอีกคน
ทีหล่อเหลาไม่แพ้กนั แต่ทีสําคัญคือเขาเรียกนางอย่าง
สุภาพว่า...แม่นาง
หญิงสาวหน้าแดงกําด้วยความเขินอาย พยักหน้าสอง
12
สามครังแล้วบอกว่า “เจ้าค่ะ คุณชายคือ...”
หญิงสาวหน้าแดงยิงกว่าเดิม รีบวิงไปรายงานคุณชาย
ในห้องหนังสือ
เมือเซียวลัวเห็นปูถ้ านเดินออกมาก็แสดงท่าทางดีใจจน
13
ออกนอกหน้า รีบเดินเข้ามาหา
“พีชาย ไม่เจอกันนานสบายดีหรือไม่?”
ปูถ้ านขมวดคิวแน่นเหมือนกําลังพยายามควบคุม
อารมณ์ พอเห็นเจ้าบ้านทําสีหน้าอย่างนัน ชายผูม้ า
เยืยนถึงกับยิมเจือน แต่ก็ยงั ถือวิสาสะเดินเข้ามาสํารวจ
ด้านในราวกับเป็ นบ้านของตนเอง
เมือเห็นว่าคนในบ้านกําลังเตรียมจะกินข้าว เขาก็เข้าไป
ร่วมวงด้วยอย่างไม่เกรงใจ
15
เซียวลัวทําเป็ นไม่สนใจคนในบ้านทีกําลังมองมา เขา
เห็นเก้าอีว่างอยูแ่ ละมีถว้ ยข้าวพร้อมตะเกียบวางเตรียม
ไว้ก็นงลงแล้
ั วเริมกินอาหารบนโต๊ะ เขาคีบหลูสนุ่ [1] เข้า
ปาก พยักหน้าพลางบอกว่า
“อึม... อร่อยจริงๆ”
16
นางวางชามไก่ตนุ๋ ลงบนโต๊ะก็เห็นแขกทีกําลังกินข้าวส่ง
ยิมมาให้ ขณะทีหญิงสาวกําลังจะนังลงก็เห็นชายผูน้ นั
มองมาแล้วพูดขึนว่า
-----------------------------------------------------------------
[1] หน่อไม้ฝรัง
17
ตอนที 45 คําสังปิ ดร้าน
“...”
ในใจนางรูส้ กึ ว่าแขกคนนีวาจาสามหาวซํายังไร้มารยาท
แต่ในเมือเขาเป็ นแขกนางก็ไม่ควรแสดงอาการโกรธ จึง
ตอบกลับไปว่า “หากสามีของข้ายินยอม จะให้ขา้ จะไป
ช่วยคุณชายซักผ้าหรือทํากับข้าวก็ได้เจ้าค่ะ”
2
คีบอาหารทีอยูต่ รงหน้าปูถ้ าน แต่กลับถูกมือหนึงรังไว้
“...”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบลงทันที เซียวลัวเบิกตาโต
จ้องปูถ้ านอย่างไม่อยากเชือ เขารูส้ กึ มึนงงกับสิงทีได้ยิน
พอตังสติได้ก็รบี กลบเกลือนด้วยการก้มหน้าก้มตากิน
ข้าวราวกับเมือครูไ่ ม่มีอะไรเกิดขึน ทังยังเชือเชิญทุกคนที
นังร่วมโต๊ะอาหารว่า
3
“กินๆๆ กินข้าวกันเถอะ ดูส.ิ ..อาหารจะเย็นชืดหมดแล้ว”
“...”
คําวันนัน
“ได้ยินหรือไม่?”
5
ภรรยาของเขางดงามขึนทุกวัน ก่อนหน้านีทีเคยผ่าย
ผอมและอ่อนแอกว่าผูห้ ญิงทัวไป หน้าตาก็ซบู ซีดไม่
เหมาะแม้แต่จะเป็ นเมียรองในบ้าน มาตอนนีนางกลับดู
เปล่งปลัง ถึงร่างกายจะยังผอมบางอยูบ่ า้ งแต่หน้าตาก็มี
นํามีนวลผ่องใสกว่าแต่ก่อนมาก
เช้าวันต่อมา
6
สีหยุนจือไปทีร้านแต่เช้า ได้ยินสาวใช้ในร้านพูดคุยกันถึง
เรืองหนึง
7
สี และตระกูลสีกบั จวนเจ้าเมืองก็เกียวดองกันอยู่ ตาม
จริงก็ไม่ควรเกิดเรืองอย่างนีขึน”
“...”
เมือเด็กในร้านเห็นสีหยุนจือเดินเข้ามาจึงเงียบเสียงทันที
ต่างก็กล่าวทักทายเถ้าแก้เนียแล้วรีบแยกย้ายกันไปทํา
งาน
8
สีหยุนจือเดินไปทีโต๊ะบัญชี แววตาของนางเป็ นประกาย
อย่างประหลาด คนอืนอาจจะไม่รูแ้ ต่นางรูเ้ รืองนีเป็ น
อย่างดี โรงเตียมเต๋อหยุน ร้านเซียงถาน และร้านอูเ่ ย
ว่ลว้ นเป็ นสมบัติของตระกูลสี อีกทังยังเป็ นสถานทีทีทํา
รายได้ให้กบั ครอบครัวของท่านอาห้ามากทีสุด ดูทา่ ว่า
คนทีจวนเจ้าเมืองจะเชือคําพูดของฮูหยินสีจริงๆ จึงรีบ
แสดงอํานาจมาข่มขู่ซางซูเ่ อ๋อแบบนี
9
เช่นนันแล้วการข่มขู่ในครังนียิงเป็ นการบีบบังคับซางซู่
เอ๋อให้รอ้ นรนมากกว่าเดิม และนางคงต้องหาทางตอบ
โต้กลับโดยไม่สนใจอะไรทังสินเป็ นแน่
พอถึงตอนนันตนก็แค่นงดู
ั เสือสองตัวกัดกัน เพราะไม่วา่
อย่างไรเรืองนีก็ไม่สง่ ผลกระทบต่อตัวนางและร้านของ
นาง เท่ากับยิงธนูดอกเดียวได้นกสองตัว
เมือก่อนสีหยุนจือเคยได้รบั แรงกดดันจากคนในบ้าน
ตระกูลสีมามากมาย ทังเรืองทีมารดาของนางตายอย่าง
มีเงือนงํา น้องชายหายสาบสูญอย่างไร้รอ่ งรอย ภาพ
การตายอย่างอนาถของมารดายังคงติดอยูใ่ นใจไม่ลืม
เลือน แต่นางก็ทาํ ได้เพียงเก็บความทุกข์ทรมานแล้ว
เปลียนเป็ นพลังเพือรอคอยเวลาทีจะแก้แค้น
10
และเวลาแห่งการแก้แค้นมาถึงแล้ว เรืองทีเกิดขึนในวันนี
เป็ นเพียงการเริมต้นเท่านัน
สีหยุนจือซือขนมและผลไม้หวานมาจากร้านหยุนเสียง
เพือนําไปฝากบรรดาอาสะใภ้และคนอืนๆ ทีห้องปั กผ้า
11
ขณะทีกําลังเดินกลับก็เห็นจางถิงเดินฝ่ าฝูงชนมาหา
อย่างรีบร้อน เขาพูดกับนางด้วยเสียงเหนือยหอบ
“หาตัวเจอจนได้”
“เกิดอะไรขึนรึ?”
“...”
14
ราคาสูงขนาดนี หากตอบว่าไม่ให้เช่าข้าก็โง่น่ะสิ”
ใครจะคิดว่าคฤหาสน์ตีช่ยุ ทีเพิงซือมาได้ไม่นานจะทํา
กําไรได้มากถึงเพียงนี สองหมืนตําลึงเช่าเพียงครึงปี ถึง
คฤหาสน์ตีช่ยุ จะงดงามมาก แต่ราคานีก็สงู จนน่า
ประหลาดใจ
15
แม้นางจะเคยคิดว่าอยากขายคฤหาสน์นีหรือไม่ก็อาจจะ
เปิ ดให้เช่า แต่ราคาทีคุณชายท่านนันเสนอมาก็ยงั สูง
กว่าทีคิดไว้มากทีเดียว
คําวันนัน
จางถิงเดินถือสัญญาเช่ากับเงินสองหมืนตําลึงมาหานาง
ทีร้านหนานเป่ ยด้วยความภาคภูมิใจ เขาวางของ
ทุกอย่างลงบนโต๊ะตรงหน้าสีหยุนจือ ก่อนจะยืนมือหยิบ
กานําชามารินใส่ถว้ ยแล้วยกขึนดืม
16
นางไม่คิดจะถือสาท่าทีเป็ นกันเองของเขา ทําเพียงหยิบ
สัญญาเช่าไปวางไว้ดา้ นข้างแล้วหยิบตัวเงินใบละพัน
ตําลึงยีสิบใบออกมา นางดูตราประทับบนตัวเงินจึงรูว้ า่
เป็ นตัวเงินทีมาจากเมืองหลวง ทีแท้ผทู้ ีมาเช่าคฤหาสน์ตี
ชุ่ยก็เป็ นคนจากเมืองหลวง มิน่าเล่าถึงให้ราคาสูงขนาด
นี
เดิมทีจางถิงก็ไม่ได้ช่วยนางเพราะต้องการเงินเป็ นค่า
ตอบแทนอยูแ่ ล้วจึงคิดจะปฏิเสธ แต่เงินห้าพันตําลึงที
17
วางอยูต่ รงหน้าก็ช่างยัวใจเหลือเกิน สุดท้ายก็ไม่อาจ
ต้านทานความต้องการในใจ เก็บเงินนันเข้ากระเป๋ าแล้ว
ถามสีหยุนจือให้แน่ใจว่านางจะไม่คิดเปลียนใจทีหลังใช่
หรือไม่? เมือได้รบั คํายืนยันจากหญิงสาว เขาก็เก็บเงิน
แล้วเดินจากไปอย่างสบายใจ
เมือสีหยุนจือกลับมาถึงบ้านก็เห็นคุณชายเซียว คนทีมา
ร่วมวงกินข้าวด้วยกันเมือวานอีกครัง
18
เมือเห็นสีหยุนจือเดินมา ท่านปู่ ก็รบี กวักมือเรียกแล้ว
มองหน้านางอย่างดีใจ ราวกับเห็นวีรสตรีทีเข้ามาช่วย
ชีวิตไว้ได้ทนั พอดี
19
ตอนที 46 ผู้เช่าคฤหาสน์ตชี ุ่ย
แต่เพราะต้องอดกลันเอาไว้สีหน้าจึงดูเหยเกผิดปกติ แท้
จริงแล้วท่านปู่ คงต้องการความช่วยเหลือจากนาง
มากกว่า คงไม่ได้อยากให้มาเล่นหมากล้อมด้วยจริงๆ สี
หยุนจือจึงตอบอย่างถ่อมตน
1
มาให้นะเจ้าคะ”
“ข้าชอบทีสุดก็นาแกงเห็
ํ ดหูหนูขาวนีแหละ เอามาๆ ตัก
มาให้ขา้ สองถ้วย” พูดจบก็หนั ไปมองเซียวลัว ยิมให้อีก
ฝ่ ายเล็กน้อยแล้วบอกว่า
“คุณชายเซียว พวกเราหยุดพักกินนําแกงกันสักหน่อยดี
ไหม รอให้ปถู้ านกลับมาแล้วค่อยให้เขาเล่นหมากรุกเป็ น
เพือนท่านให้หนําใจไปเลย”
2
“...”
ขณะทีนางกําลังตักนําแกง ร่างสูงใหญ่ก็เดินเข้ามาอย่าง
องอาจ ทว่าดูรบี ร้อนจนเห็นได้ชดั คาดว่าท่านปู่ คงให้คน
ไปตามตัวปูถ้ านกลับมาจากค่าย สีหยุนจือเดินไปต้อน
รับเขาทีหน้าประตู ในขณะทีมือของนางยังถือถ้วยนํา
แกงสองถ้วย
3
ชายหนุ่มมองภรรยา ก่อนจะเหลือบมองไปยังห้องรับรอง
แขกแล้วก็เข้าใจเรืองราวทังหมดทันที เขารับถ้วยนําแกง
ใบหนึงจากมือนางมาถือ แล้วเดินตรงไปยังห้องรับรอง
แขก
เซียวลัวเห็นปูถ้ านเดินเข้ามาพร้อมถ้วยนําแกงในมือก็
เข้าใจว่าอีกฝ่ ายตังใจยกมาให้ตนจึงแสดงทีทา่ ดีใจจน
ออกนอกหน้า เขายืนมือออกไปรับ แต่ปถู้ านชักมือกลับ
แล้วยกถ้วยขึนซดนําแกงหอมหวานไปหนึงอึก จากนันก็
ทําหน้าราวกับได้ดืมนําแกงเลิศรส ก่อนจะเดินไปนังบน
เก้าอีรอสีหยุนจือนําช้อนมาให้
“...”
สีหยุนจือกําลังจะเดินไปตักนําแกงมาเพิมอีกถ้วย
บังเอิญได้ยินเซียวลัวพูดนางจึงชะงักฝี เท้า
เช่าคฤหาสน์ร?ึ
5
เขาคงไม่ใช่คนจากเมืองหลวงทีมาเช่าคฤหาสน์ตีช่ยุ ของ
นางใช่ไหม?
สีหยุนจือได้แต่เก็บความกังวลนีไว้ในใจ
6
จนกระทังหลังกินมือเย็นเสร็จ
“ให้เช่าถูกเกินไปแล้ว!”
7
สีหน้าทีพูดดูจริงจังไม่มีการล้อเล่นแม้แต่นอ้ ย ในเมือ
กลายเป็ นแบบนีนางยิงทําตัวไม่ถกู จึงได้แต่ทาํ หน้างุน
งง ถามสามีไปว่า
“ใต้เท้าเจ้าคะ ข้าซือคฤหาสน์นนมาไม่
ั เกินสามหมืน
ตําลึง คุณชายเซียวเช่าแค่ครึงปี แต่ให้คา่ เช่าถึงสองหมืน
ตําลึง ราคาขนาดนีไม่ถือว่าถูกหรอกนะเจ้าคะ”
8
“...”
นางได้แต่คิดว่า...จะไม่ขอปรึกษาเขาเรืองการทําการค้า
ขายอีกเด็ดขาด เพราะคงเหมือนเวลาทีเป็ ดคุยกับไก่ ต่อ
ให้ทาํ อย่างไรก็คยุ กันไม่รูเ้ รือง ขอเพียงเขาไม่ตาํ หนินาง
ในเรืองทีให้คณ
ุ ชายเซียวเช่าคฤหาสน์ในราคานันก็พอ
แล้ว
เช้าวันต่อมา
หลังจากกินข้าวเช้า สีหยุนจือไม่ได้ออกไปทีร้านหนานเป่
9
ยอย่างเคย แต่กลับมาเดินตามลําพังบนถนนจงอิง
นางเดินมองถนนทีกว้างขนาดรถม้าวิงเรียงได้สามคัน
แล้วมองร้านค้าต่างๆ ทีเรียงรายอยูส่ องฟากพลางคิดว่า
หากนางสามารถเปิ ดร้านบนถนนแห่งนีได้ กิจการคงจะ
รุง่ เรืองและกอบโกยเงินได้ไม่นอ้ ย
กิจการของตระกูลสีบนถนนจงอิงมีทงหมดสิ
ั บสามร้าน
ร้านทีถูกทางการสังปิ ดไปเมือไม่นานมานีมีทงหมดสาม
ั
ร้านและตังอยูบ่ นถนนสายนีเช่นกัน
10
สุด เพราะนางชอบกินอาหารหูหนานจึงสังให้เปิ ดร้าน
อาหารแห่งนีขึนมา ส่วนอูเ่ ยว่เป็ นโรงนําชา เนืองจาก
ท่านอาห้าเป็ นคนหลงใหลในวรรณกรรม ทังตระกูลสี
นอกจากบิดาของนางแล้วก็ยงั มีทา่ นอาห้า ‘สีชิง’ ทีได้ชือ
ว่าเป็ นผูม้ ีการศึกษา เขามักจะใช้เวลาว่างนังสนทนา
เกียวกับงานวรรณกรรมและบทกลอนกับสหายของตน
อยูเ่ สมอ เมือพวกเขาตังโรงนําชาแห่งนีขึนมาจึงสามารถ
ดึงดูดแขกเข้ามาใช้บริการได้ไม่นอ้ ย
สีหยุนจือเพียงต้องการมาเห็นด้วยตาตนเองว่าทังสาม
ร้านปิ ดทําการแล้วจริงๆ ทีหน้าร้านมีกระดาษสีเหลืองที
เขียนข้อความเดียวกันติดประกาศไว้วา่
‘เจ้าของร้านมีธุระ ปิ ดทําการสิบวัน’
11
นางยืนอยูท่ า่ มกลางผูค้ นทีมองกระดาษสีเหลืองแผ่นนัน
พลางยกยิมทีมุมปาก มือทังสองข้างซุกอยูใ่ นแขนเสือ
ขณะทีเดินผ่านฝูงชนบนถนนทีหลังไหลราวกับสายนํา
แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องกระทบใบหน้านวลยิงทําให้นาง
ดูออ่ นกว่าวัย ทว่าใบหน้านีกลับฉายชัดให้เห็นความ
ทระนงในศักดิศรี ไม่หวันเกรงต่ออันตรายหรือความเจ็บ
ปวดใดๆ หญิงสาวดูสขุ มุ เยือกเย็นราวกับมีวิญญาณดวง
ใหม่มาสวมทับร่างเดิม ความมันใจทีฉายชัดจากตัวนาง
ดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างเป็ นอย่างมาก
12
พยายามอดทนอดกลัน สีหยุนจือรูด้ ีวา่ คนตระกูลสีอยาก
จะเห็นนางเป็ นอย่างไร ดังนันนางจึงแสดงออกตามที
พวกเขาคิดไว้ อย่างเช่นนางรูว้ า่ การปล่อยผมจะ
ปลอดภัยกว่าการรวบผมสูง หากสวมเสือผ้าหยาบๆ จะ
ทําให้คนในบ้านสบายใจมากกว่าการใส่ผา้ ฝ้ายอย่างดี
นางเคยคิดว่าหากจะต้องถูกพวกเขาเหยียบยําไปตลอด
ชีวิต ต่อให้นางต้องใช้พละกําลังทังหมดหรือใช้เวลาทัง
ชีวิต นางก็ตอ้ งหาทางหลุดพ้นจากนรกขุมนันให้ได้ แม้
จะต้องออกมาเผชิญกับชีวิตทีลําบากยิงกว่าก็จะไม่ขอ
13
ศิโรราบให้กบั คนพวกนัน เพราะนางรูด้ ีวา่ การก้มหัวยอม
รับความพ่ายแพ้เท่ากับบิดา มารดาและน้องชายก็ตอ้ ง
ยอมรับผลกรรมนันเช่นกัน ดังนันเพือพวกเขา...นาง
ต้องอดทนและมีชีวิตอยูต่ อ่ ไป
ในช่วงเวลาทีมืดมนทีสุด หญิงสาวเคยอธิษฐานขอให้
สามารถย้อนเวลากลับไปเพือหยุดโศกนาฏกรรมทีเกิด
ขึน หรือไม่ก็หยุดเวลาไว้เพียงเท่านันเพือให้นางได้มี
โอกาสเติบโตอย่างเข้มแข็ง
ทว่าคําอธิษฐานไม่เป็ นผล
14
นางได้เจอกับสามี บุรุษซึงให้เกียรติและมอบอิสระแก่
นางอย่างไม่มีทีสินสุด โชคดีเหลือเกินทีได้แต่งงานกับ
เขา ชายผูง้ ามสง่า ดุดนั และน่าเกรงขาม นามว่า ‘ปูถ้ าน’
เขาคือความอบอุน่ และสถานทีทีปลอดภัยทีสุดของนาง
เป็ นดังสายฝนทีหลังมารดชีวิตอันแห้งแล้งและสินหวัง
ของผูห้ ญิงคนหนึง เขาเคยพูดว่าไม่อยากให้นางต้องรับรู ้
เรืองเลวร้ายพวกนัน แต่สงที
ิ เขาไม่รูก้ ็คือ...เรืองทีเลว
ร้ายกว่านีนางก็เคยเจอมาแล้ว บนโลกนีไม่มีเรืองเลวร้าย
หรือเรืองสกปรกใดๆ ทีจะทําร้ายนางได้อีก
เช่นนันแล้ว สิงทีนางจะทําในวันนีก็คือการตีแผ่ให้โลกได้
รับรู ้ ให้ความเลวร้ายของพวกเขาปรากฏต่อหน้าฝูงชน
15
ให้พวกเขาตายด้วยนํามือตัวเอง!
ว่ากันว่าลูกในท้องของฮูหยินสีหยุนซิวไม่ใช่ลกู ของคุณ
ชายหลู แต่เป็ นลูกทีเกิดจากชายชูข้ องนาง
เมือข่าวลือถูกปล่อยออกไปก็มีผคู้ นให้ความสนใจเป็ น
อันมาก ฝ่ ายทีควรจะออกมาแสดงความเดือดเนือร้อนใจ
16
มากทีสุดอย่างตระกูลหลูกลับนิงเฉยราวกับเรืองนีไม่ใช่
เรืองของตน
เข้าวันทีเก้า โรงเตียมเต๋อหยุนและร้านเซียงถานก็กลับ
มาเปิ ดทําการตามปกติอีกครัง ซึงก็เป็ นไปตามทีสีหยุ
นจือได้คาดการณ์ไว้แต่แรก
ซางซูเ่ อ๋อไม่เพียงไม่ยอมถอยแต่กลับโต้ตอบตระกูลหลู
อย่างสาสม นางปล่อยข่าวให้ผคู้ นรูว้ า่ ครรภ์ของหลูฮหู
ยินหรือคุณหนูสีหยุนซิวมีมลทิน และแน่นอนว่านางรู ้
เบืองลึกเบืองหลังของเรืองนีจึงไม่มีความเกรงกลัวต่อ
อะไรทังสิน
17
ตอนที 47 อาหารเย็นมือใหญ่
1
เหมาะสมก็พอ
สินค้าในร้านหนานเป่ ยมีหลากหลายมากกว่าเดิม
เพราะสีหยุนจือนําเครืองประดับประเภทไข่มกุ มาวาง
ขายเพิมจากสินค้าทีมีอยู่ ซึงนางได้ไข่มกุ ทีไม่สมบูรณ์มา
จากชาวประมงทีเลียงหอยมุก
ก่อนหน้านีนางเคยติดตามพ่อค้าของตระกูลสีไปค้าขาย
กับชาวประมงจึงรูว้ า่ ชาวบ้านเหล่านันเลียงหอยมุกเป็ น
งานหลัก มุกทีถูกเลียงมาหลายปี จะมีขนาดใหญ่ กลม
เรียบและแวววาว พวกเขาจะเลือกขายมุกพวกนีให้กบั
ร้านขายเครืองประดับก่อนเพราะได้ราคาดีกว่า พอคัด
ไข่มกุ ดีๆ ออกไปขายแล้วก็จะเหลือไข่มกุ เม็ดเล็กทีรูปร่าง
ไม่สมบูรณ์ ในเมือไข่มกุ มีขนาดเล็กก็เลยไม่มีใครสนใจ
จะซือ พวกเขาจึงจําต้องขายในราคาถูกให้กบั ร้านปรุง
ยาเพือนําไปบดเป็ นผงไข่มกุ
3
สีหยุนจือรับซือไข่มกุ ทีเหลือจากการคัดทังหมด ชาว
ประมงชังไข่มกุ นําหนักหนึงจินขายให้นางในราคาแปด
ตําลึง
4
เครืองประดับมุกทีสังทําขึนต่อชินต้นทุนมากสุดไม่เกิน
สามสิบอีแปะ แต่สามารถขายได้ในราคายีสิบถึงสามสิบ
ตําลึง นันหมายความว่าเครืองประดับต่อชินทํากําไรได้
หลายเท่าตัว
สีหยุนจือเห็นว่าทุกคนเหน็ดเหนือยกันมากจึงแจกอังเปา
ให้คนละร้อยตําลึง พวกนางรับไปอย่างตืนเต้นดีใจพา
5
กันลืมความเหน็ดเหนือยจนหมดสิน แล้วชวนกันไปเดิน
เทียวในตลาดช่วงบ่าย บรรดาสาวๆ จึงมาชวนเถ้าแก่
เนียไปด้วย แต่สีหยุนจือเพิงนึกขึนได้วา่ วันนีต้องจัดการ
รายจ่ายทีร้านหนานเป่ ยให้เสร็จเรียบร้อยจึงตอบปฏิเสธ
ตอนใกล้เทียงจ้าวอีก็วงเข้
ิ ามาหานางในร้านแล้วบอกว่า
เย็นนีท่านแม่ทพั สังให้เตรียมเหล้าและอาหารไว้เป็ น
พิเศษเพราะจะชวนทหารทีค่ายมาร่วมกินข้าวด้วยกัน
แล้วยังรายงานเพิมอีกว่า
“ฮูหยิน ช่วงนีคุณชายจัดการกับทหารทีค่ายจนราบคาบ
จากทหารสามสีร้อยนายตอนนีกลับลดเหลือแปดสิบ
นายในพริบตา”
6
สีหยุนจือไม่เข้าใจจึงถามว่า “แล้วคนอืนๆ เล่า?”
“คุณชายยังบอกว่าทหารขีขลาดพวกนีเลียงไว้ก็เสีย
เปล่า”
สีหยุนจือไม่เข้าใจเรืองพวกนีเท่าไรนัก นางเพียงยิมแล้ว
7
บอกจ้าวอีว่า “เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ
เดียวเย็นนีข้าจะเตรียมอาหารและเหล้าไว้ให้”
จากนันจ้าวอีก็กลับไปทีค่ายทหารดังเดิม สีหยุนจือมอง
ตามหลังอีกฝ่ ายไป ในใจอดกังวลไม่ได้วา่ สามีของนาง
กําลังทําอะไรเกินกําลังหรือไม่ แล้วอย่างนีจะทําให้ทหาร
บางคนไม่พอใจหรือปล่า?
ในตอนเย็น
เนืองจากสีหยุนจือต้องจัดเตรียมอาหารและเหล้าให้กบั
8
คนร่วมร้อยคน นางจึงคิดว่าหากอาศัยเพียงแรงของตน
กับป้าหลิวช่วยกันทํากับข้าวก็คงได้ไม่กีอย่าง นางจึงไป
ทีโรงเตียมเต๋อเยว่พร้อมกับลูกจ้างร้านหนานเป่ ย เพือ
บอกจางถงให้สงพ่
ั อครัวทีนันช่วยทําอาหารชันเลิศมา
สิบอย่าง อย่างละแปดชุด เพราะช่วงนีทหารถูกฝึ กหนักก็
คงจะเหน็ดเหนือยกันมาก มือนีนางจึงอยากให้พวกเขา
ได้กินอย่างอิมหนําสําราญ
ขณะทีพ่อครัวกําลังจัดเตรียมอาหาร นางก็ไปตลาดเพือ
หาซือผลไม้ตามฤดูกาลทีสดใหม่พร้อมกับขนมและของ
หวานต่างๆ เตรียมไว้ให้พวกทหารนํากลับไปกินทีค่าย
เมือเดินตลาดจนทัวแล้วสีหยุนจือก็ไปทีโรงเตียมเต๋อเย
ว่อีกครังเพือนําอาหารทีพ่อครัวทําเสร็จกลับบ้าน
9
เมือถึงบ้านนางเรียกให้ปา้ หลิวและสาวใช้ทงสองนํ
ั ากับ
ข้าวจัดใส่ถว้ ยชามแล้วนําผลไม้ไปล้างให้สะอาด ส่วน
ขนมและของหวานให้จดั เป็ นชุดๆ ขณะทีพวกนางจัด
โต๊ะอาหารใกล้จะเสร็จ หญิงสาวก็ได้ยินเสียงฝี เท้าก้าว
อย่างสมําเสมอดังมาจากนอกบ้าน เมือฟั งก็รูท้ นั ทีวา่
เป็ นเสียงฝี เท้าของเหล่าทหารทีถูกฝึ กวินยั มาอย่างเคร่ง
ครัด
สีหยุนจือเช็ดมือกับผ้าสะอาดแล้วเดินออกมาจากห้อง
ครัว เห็นแม่ทพั หนุ่มกระโดดลงมาจากหลังม้าด้วยท่วง
ท่าสง่างาม ชุดทีนางช่วยเขาใส่เมือเช้าขาดเป็ นรอยที
แขนเสือ เผยให้เห็นเส้นเอ็นบนกล้ามเนือแขนกํายํา ส่ง
เสริมความเป็ นบุรุษชาตินกั รบให้แข็งแกร่งยิงขึน
10
ในสายตาของนาง แม่ทพั หนุ่มทีกําลังถือแส้มา้ อยูใ่ นมือ
ตอนนีช่างเปี ยมไปด้วยพลังอํานาจมากกว่าชายใดทีนาง
เคยพบ ช่างชวนให้หลงใหลในความองอาจและห้าว
หาญ
“เข้ามาข้างในก่อน”
ในบ้านจัดเตรียมอาหารไว้พร้อมทังหมดแปดโต๊ะ โต๊ะ
อาหารเหล่านีเป็ นโต๊ะทีพวกทหารเคยประกอบทิงเอาไว้
ให้ก่อนหน้า ตอนนีก็เลยมีโอกาสได้นาํ มาใช้ประโยชน์
11
อีกครัง
สีหยุนจือจําต้องยอมรับว่าครังก่อนทีนางเจอพวกเขา
ทหารเหล่านียังคงทําตัวตามสบาย แต่ตอนนีกลับกลาย
เป็ นทหารทีถือวินยั อย่างเคร่งครัดและปฏิบตั ิตนด้วยท่า
ทางสํารวมอยูใ่ นระเบียบวินยั ของทหารตลอดเวลา
เพียงพริบตาทุกคนก็นงประจํ
ั าทีของตนเรียบร้อย ไม่มี
เสียงพูดคุยหรือหัวเราะเฮฮาเหมือนแต่ก่อน
12
ชายหนุ่มนังอยูบ่ นเก้าอียาว ถอดเสือออกเผยให้เห็นแผง
อกกํายํา แม้วา่ นางจะเคยเห็นอกของเขามานับครังไม่
ถ้วนแต่ก็ยงั อดหน้าแดงไม่ได้ หญิงสาวยืนมือไปเช็ดหน้า
อกให้เขาด้วยมือทีสันเทา ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตา
เขาเห็นนางหน้าแดงด้วยความอายก็รูส้ กึ อยากแกล้งขึน
มา จากทีอมยิมเล็กน้อยก็เปลียนสีหน้ามาเป็ นเคร่งขรึม
จงใจแอ่นแผงอกกว้างใส่นางแล้วพูดว่า
“เช็ดอีกรอบ”
“...”
13
สีหยุนจือเงยหน้ามองอีกฝ่ าย เห็นเขาแอบอมยิม
แล้วกลับมาทําสีหน้าเคร่งขรึมอีกครังก็รูว้ า่ ตนกําลังโดน
หยอกเล่นเสียแล้ว หญิงสาวจึงสูดลมหายใจเข้าลึก
สะกดความเขินอายเอาไว้ ก่อนจะจ้องแผงอกเปลือย
เปล่าแล้วเช็ดทําความสะอาดให้อีกครังด้วยสีหน้าเรียบ
เฉย
เดิมทีเขาคิดว่านางจะต้องอายมากกว่าเดิมแต่กลับได้
ผลตรงกันข้าม อาการนิงเฉยของภรรยาทําให้เขาแสดงสี
หน้าขัดใจออกมาแต่ไม่ได้พดู ว่าอะไร สีหยุนจือเห็นเขา
ทําหน้าอย่างนันก็แสร้งกระแอมแล้วพูดขึนว่า
“ใต้เท้า นําเย็นเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ?”
14
“...”
ชายหนุ่มฉีกยิมกว้าง อ้าแขนกอดเอวบางแล้วซุกหน้ากับ
อกนุ่ม สูดกลินกายหอมอ่อนๆ พลางเลือนมือลงไปบีบ
เบาๆ ทีแก้มก้นนุ่มๆ ของนาง แล้วพูดด้วยเสียงทุม้ ตําว่า
“คืนนีค่อยคิดบัญชีก็แล้วกัน”
15
.
เมือสีหยุนจือกลับมาทีโต๊ะอาหารก็ตอ้ งประหลาดใจ
อีกรอบ
จากทหารทีเคยทําตัวตามสบายไร้ระเบียบ ผ่านไปชัว
ระยะเวลาสันๆ มาถึงตอนนีแม้กระทังตอนกินข้าวก็ยงั
รักษาระเบียบวินยั อย่างเคร่งครัดจนนางไม่อยากจะเชือ
สายตาตัวเอง
พวกเขากินข้าวอย่างตังอกตังใจราวกับจะกินช้อนกับ
จานเข้าไปด้วย แต่กลับไม่มีใครพูดคุยเสียงดัง ไม่มีใคร
เดินไปเดินมาหรือพูดคุยกันระหว่างกินข้าวอย่างเคย
16
หลังจากกินข้าวเสร็จทหารทังแปดสิบนายก็กล่าวขอบ
คุณฮูหยินอย่างพร้อมเพรียง ทําให้เกิดเสียงดังกระหึมไป
ทังบ้าน ตามมาด้วยเสียงฝี เท้าทีเดินกลับค่ายเป็ นจังหวะ
สมําเสมอเหมือนทหารทีกําลังจะออกรบ ช่างเป็ นกอง
ทหารทีน่าเกรงขามยิงนัก
สีหยุนจือเตรียมขนมและของหวานให้พวกเขาเอากลับ
ไปทีค่าย ตอนแรกพวกเขาทําท่าจะไม่ยอมรับเอาไว้
พลางส่งสายตาเป็ นเชิงถามไปยังแม่ทพั ปู้ เมือเห็นแม่
ทัพพยักหน้าเป็ นเชิงอนุญาต พวกเขาจึงกล้ารับของจาก
ฮูหยิน
17
ตอนที 48 ขอบคุณทีช่วยสังสอน
ภายในห้อง
“ใต้เท้าเจ้าคะ ทําไมทหารพวกนันจึงเปลียนไปได้ถงึ
เพียงนี?”
หญิงสาวเดินออกมาจากหลังฉากกันในชุดผ้าพลิวสีฟา้
ด้านหน้าปั กลายดอกโบตันสีชมพูทีกําลังเบ่งบานอย่าง
งดงาม มีหมูผ่ ีเสือเล็กๆ บินห้อมล้อมจนดูเหมือนจริง ชุด
นีเป็ นชุดทีอาสะใภ้ตงใจปั
ั กให้นางเมือไม่กีวันก่อน ถึงจะ
ใส่เป็ นชุดอยูบ่ า้ นธรรมดาได้ แต่เนือผ้าค่อนข้างบางอีก
ทังสีสนั ก็ฉดู ฉาด นางก็เลยไม่กล้าใส่ออกไปข้างนอก ได้
แต่เอามาใส่เฉพาะเวลานอนเท่านัน
2
ต่อว่า “แค่พวกเขาดูตา่ งจากเมือก่อนเหลือเกินเจ้าค่ะ”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึนมองแล้วก็ไม่อาจละสายตาจากนาง
ได้อีก เขาจ้องมองสตรีตรงหน้าทีราวกับเป็ นคนละคน
จากเมือก่อน สีหยุนจือในชุดสีฟา้ ปั กลายสีชมพู เมือรวม
กับเนือผ้าบางพลิวไหวยิงทําให้ผิวขาวนวลดูผดุ ผ่อง
มากกว่าเดิม เส้นผมราวไหมเนือดีทีเคยรวบไว้ถกู ปล่อย
ลงมาคลุมแผ่นหลัง ร่างเล็กเอวบางแม้จะถูกคลุมด้วย
เสือตัวโคร่งก็ยงั ไม่อาจบดบังความงามของนางได้ และ
ยิงทําให้ดมู ีเสน่หเ์ ย้ายวนใจอย่างมาก
สายตาของนางหลุบลงตอนผูกเชือกทีเอว เห็นแพขนตา
งอนยาวทีช่วยขับเน้นดวงตาดําขลับให้เป็ นประกายส่ง
ให้ใบหน้ายิงดูงดงาม การเคลือนไหวของหญิงสาวดู
3
อ่อนโยนมีชีวิตชีวายิงกว่าหมูม่ วลผีเสือบนอาภรณ์ทีสวม
ใส่ ภรรยาของเขาเปลียนไปเป็ นสตรีทีงดงามตังแต่เมือ
ใด หรือความงามเหล่านีซ่อนอยูใ่ นตัวนางตังแต่แรก
แล้ว?
“ทหารแบบนีจึงจะเหมาะกับตัวอักษร 兵บนหน้าอก
ของเขา”
เมือสีหยุนจือผูกเชือกเสร็จแล้วเงยหน้าขึนก็สบกับสาย
ตาอ่อนโยนของชายหนุ่มทีกําลังมองมา หยิงสาวรีบก้ม
4
ลงมองเสือผ้าของตนทันทีพลางคิดว่าชุดนีจะไม่ยวยวน
ั
ไปหน่อยรึ?
สีหยุนจือรีบปฏิเสธ “เปล่านะเจ้าคะ”
เขายิมทีมุมปากแล้วบอกว่า “ถ้าอย่างนันข้าก็คง
ต้องบอกเจ้าว่า เจ้าทําสําเร็จแล้วปี ศาจน้อย”
5
“...”
ผ้าม่านถูกปลดลง หญิงสาวร่างบอบบางถูกร่างทีหนัก
อึงของชายหนุ่มทาบทับไว้ ร่างแกร่งกดทับลงบนตัวจน
นางแทบหายใจไม่ออก แต่ก็ได้มอบอ้อมกอดทีอบอุน่
6
และปลอดภัยพร้อมกับจุมพิตทีหอมหวานให้กบั นางเช่น
เดียวกัน ความเย้ายวนค่อยๆ ก่อตัวขึนจนกลายเป็ น
ความเร่าร้อนทีแผดเผาในกายสาวอย่างไม่รูจ้ กั จบสิน
ชายหนุ่มถอนจุมพิตจากนางเพียงชัวครู ่ ไม่ลืมทีจะพูดว่า
“...”
7
สองสามวันมานี สีหยุนจือใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ ไม่มี
เรืองราวชวนให้ปวดหัว
หลังจากจัดการงานในร้านเรียบร้อย นางก็กลับบ้านไป
ศึกษาตําราอาหารของจางถิง เนืองจากอาหารทีสามี
ของนางชอบกินมีไม่มากแต่สงที
ิ เขาไม่ชอบกลับมีมาก
มายหลายอย่าง
ดังนันทุกครังทีเขากลับมากินข้าวทีบ้านก็ได้แต่นงมอง
ั
กับข้าวไม่กีอย่างตรงหน้า ส่วนนางเองก็ทาํ เป็ นแต่
อาหารพืนเมืองธรรมดา เมือเป็ นเช่นนันพอนานวันเข้า
สามีของนางอาจจะรูส้ กึ เบืออาหารได้ สีหยุนจือจึงนํา
เรืองนีไปปรึกษากับจางถิง อีกฝ่ ายก็ใจดียกตําราอาหาร
ให้เล่มหนึง เพือทีนางจะได้เอาไปศึกษาด้วยตนเอง
8
ขณะทีหญิงสาวกําลังนังอ่านตําราอาหารอยูใ่ นห้องปั ก
ผ้า หรูอีกับหรูเยว่ก็วงหน้
ิ าตาตืนเข้ามาในห้องราวกับเพิง
กินแมลงวันหัวเขียวเข้าไป
“แล้ว...แล้วยังขนของกํานัลมามากมายเลยเจ้าค่ะ จะทํา
อย่างไรดี...จะทําอย่างไร งานนีต้องมีเรืองแน่ๆ เลยเจ้า
ค่ะ”
9
หรูอีกระวนกระวายราวกับยายแก่ แต่คาํ พูดของนางก็
เรียกความสนใจของสีหยุนจือได้เป็ นอย่างดี
10
ภูมิฐาน พุงกลมโตกลับทําให้เขาดูรารวยสมฐานะ
ํ
ในฐานะฮูหยินของบ้าน สีหยุนจือจึงจําต้องออกมาต้อน
รับอีกฝ่ ายแทนสามี
เมือเจ้าเมืองหลูเห็นสีหยุนจือเดินมา เขาก็มองนางนิงๆ
อยูค่ รูห่ นึงก่อนจะยิมอย่างยินดี ถึงเขาจะเป็ นเจ้าเมือง
แต่ก็ไม่ได้มีทา่ ทางทะนงตัว เจ้าเมืองหลูประสานมือเพือ
แสดงความเคารพสีหยุนจือก่อน นางเองก็ยอบกาย
11
คารวะเขาเช่นกัน
“คารวะท่านเจ้าเมืองเจ้าค่ะ”
ในฐานะเจ้าบ้านสีหยุนจือจึงเชิญให้เจ้าเมืองหลูนงลงที
ั
เก้าอีรับรองแขก ส่วนนางหันไปสังหรูอีกับหรูเยว่ให้ไปยก
นําชามารับรอง เมือสังเสร็จนางจึงนังลงทีเก้าอีฝังตรง
ข้ามแล้วบอกกับเขาว่า
นางพูดกับเขาด้วยถ้อยคําสุภาพแต่ในใจกําลังหยังเชิงผู้
มาเยือน ในเมือเขามาถึงหน้าบ้านและพบว่าเจ้าบ้านไม่
อยู่ เขาก็อาจจะรูอ้ ยูแ่ ก่ใจว่าแม่ทพั ปูไ้ ปไหนแต่กลับไม่ได้
จากไปในทันที แต่ให้สาวใช้มาบอกนางว่าตนมาขอพบ
สุดท้ายนางก็ตอ้ งออกมาต้อนรับ นันหมายความว่าเขา
อาจจะไม่ได้มีธุระเป็ นพิเศษ
เจ้าเมืองหลูโบกมือให้ผตู้ ิดตามสองคนยกหีบสองใบมา
วางไว้บนโต๊ะระหว่างเขากับนาง จากนันก็เปิ ดหีบทังสอง
แล้วพูดว่า
13
“ข้าไม่อาจรบกวนฮูหยินขนาดนัน นีเป็ นนําใจเล็กๆ
น้อยๆ จากข้า ฮูหยินโปรดรับไว้”
สีหยุนจือมองดูของด้านใน หีบใบหนึงบรรจุทองคําแท่ง
ส่องแสงแวววาว ส่วนอีกใบข้างในเป็ นโสม เขากวางอ่อน
และสมุนไพรทีมีราคาแพง
ขณะทีทังสองกําลังสนทนากันนัน หรูอีและหรูเยว่ก็ยก
นําชาเข้ามาในห้อง สีหยุนจือรับถ้วยนําชามายืนให้เจ้า
เมืองหลู จากนันก็เชิญเขาดืมชาแล้วพูดขึนว่า
“อ้อ เรืองคุณชายหลูนนเอง
ั ท่านแม่ทพั ก็พอจะเล่าให้ขา้
ฟั งอยูบ่ า้ ง สามีของข้าเป็ นคนคิดเร็วทําเร็วจึงลงไม้ลงมือ
กับคุณชายหลูหนักไปหน่อย ขอใต้เท้าอย่าได้กล่าวเช่น
นัน ส่วนของเหล่านีข้าคงรับไว้ไม่ได้ เชิญท่านนํากลับไป
เถิด”
15
เจ้าเมืองหลูฉีกยิมกว้างมากกว่าเดิม แต่หญิงสาวกลับ
สังเกตเห็นมือทีกุมกันอยูข่ องเขาสันเทาด้วยความโกรธ
จึงรูไ้ ด้ทนั ทีวา่ ชายผูน้ ีปากปราศรัยนําใจเชือดคอ
เจ้าเมืองหลูยกถ้วยชาขึนจิบเพือกลบเกลือนสีหน้าของ
ตน เมือเห็นเขาดืมชา นางจึงได้ละสายตาออกมาแล้วยก
ถ้วยนําชาของตนขึน พลางพูดว่า
16
“อ้อ จริงสิ วันก่อนสีหยุนซิวตามข้าให้ไปพบทีจวน แต่ดู
ท่าทางนางจะอารมณ์แปรปรวนอยูส่ กั หน่อย ไม่ทราบว่า
ตอนนีนางดีขนหรื
ึ อยังเจ้าคะ”
สีหยุนจือเบียงประเด็นมาคุยเรืองของสีหยุนซิว ทําให้สี
หน้าอีกฝ่ ายเปลียนไปทันทีเหมือนทีนางคาดการไว้ ทว่า
เพียงแวบเดียวสีหน้าเขาก็กลับเป็ นปกติดงั เดิมอีกฝ่ าย
ตังสติได้อย่างรวดเร็วจนนางแทบมองไม่ออก
17
ตอนที 49 ครรภ์นีมีพริ ุ ธ
หลูซิวเพียงแค่ยมแล้
ิ วตอบสีหยุนจือว่า
“สีหยุนซิวกําลังตังครรภ์ อารมณ์ก็เลยแปรปรวนง่ายจน
ทําร้ายฮูหยินเข้า ข้าต้องขออภัยแทนนางด้วย”
1
สีหยุนจือพูดด้วยสีหน้าท่าทางปกติ แต่หลูซิวกลับมีสี
หน้าเคร่งเครียดอย่างฉับพลัน เขายกนําชาขึนดืมเพือ
กลบเกลือนอารมณ์แล้วพูดอย่างไม่เต็มเสียงว่า
“ฮูหยินพูดเช่นนีหมายความว่าอย่างไร?”
มือของเขาทีกําลังถือถ้วยชาเริมสันเทาจนทําให้นาชา
ํ
กระเซ็นออกมาจากถ้วย
สีหยุนจือเรียกให้หรูอีมาเช็ดทําความสะอาด แล้วตอบ
ว่า
2
“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ เพียงแต่เมือวันก่อนข้ากลับบ้าน
ไปคารวะอาสะใภ้หา้ จึงได้สนทนากันเกียวกับเรืองน้อง
หยุนซิว อันทีจริงตอนแรกทีข้ารูเ้ รืองนีก็รอ้ นใจแทนอา
สะใภ้สอยู
ี เ่ หมือนกัน แต่พอคิดไปคิดมา ในเมือเรืองก็
เกิดขึนแล้ว นันคงเป็ นชะตากรรมของน้องหยุนซิวเอง ไม่
อาจโทษใครได้ ต่อให้ทะเลาะกันก็มีแต่จะทําให้เรือง
บานปลายจนกลายเป็ นเรืองใหญ่ รังแต่จะทําให้ทงสอง
ั
ตระกูลเสือมเสียชือเสียงเปล่าๆ ข้าจึงอยากจะบอกให้อา
สะใภ้สทํี าใจยอมรับ แต่คิดไม่ถงึ ว่าเรืองนีจะถูกลือไปทัว
เสียแล้ว ข้าจึงอยากถามความเห็นจากใต้เท้าแทนน้อง
หยุนซิว”
“...”
3
หลูซิวยังคงไม่พดู อะไร ใบหน้าแดงกําด้วยความโกรธ
มือทีถือถ้วยนําชาสันเทามากกว่าเดิม สีหยุนจือเห็น
อย่างนันก็แอบยิมเยาะ แต่สีหน้ายังคงแสดงออกราวกับ
ว่าเป็ นห่วงน้องสาวจริงๆ
“...”
หลูซิวได้แต่พยักหน้าเป็ นการตอบจากนันจึงขอตัวกลับ
นางมองเห็นเม็ดเหงือผุดพราวทีไรผมของเขาก็แอบยิม
ในใจ แต่ภายนอกยังคงแสดงท่าทางนอบน้อมและทํา
หน้าทีของเจ้าบ้านส่งแขกกลับจนเรียบร้อย
5
ขณะทีมองตามรถม้าทีจากไปอย่างรีบร้อนของหลูซิว
หญิงสาวก็ยมมุ
ิ มปากก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปใน
ห้อง พอหันกลับมาจึงเห็นสาวใช้ทงสองยื
ั นกลืนนําลาย
อยูห่ น้าหีบสองใบนัน หรูเยว่เอามือลูบปากแล้วพูดกับสี
หยุนจือว่า
“ฮูหยินเจ้าคะ เราจะทําอย่างไรกับของพวกนีดีเจ้าคะ?”
6
“เจ้าค่ะ”
เย็นวันนัน
7
ปูถ้ านกลับบอกว่า “แล้วแต่เจ้าเถอะ ต่อไปภายภาคหน้า
คงจะมีเรืองเช่นนีอีกมาก ข้าคร้านจะจัดการ...ให้เจ้า
ตัดสินใจก็แล้วกัน”
“...”
8
พอนางนึกถึงสีหน้าและท่าทางของหลูซิวเมือกลางวันก็
เลิกกังวลเรืองทีเขามอบของให้ทนั ที จึงไม่ถามอะไรสามี
อีก
เช้าวันต่อมา
สีหยุนจือใช้เวลานังอ่านตําราอาหารอยูค่ อ่ นวัน จน
กระทังถึงตอนบ่ายจึงได้เข้าไปทีร้าน ไม่คาดคิดว่าเมือไป
ถึงร้านจะมีลกู ค้าคนหนึงนังรออยูก่ ่อนแล้ว
สีหยุนชุนแต่งกายด้วยอาภรณ์ชนเลิ
ั ศ นังตัวตรงด้วยท่า
9
ทางสง่าสมฐานะของฮูหยินผูด้ แู ลบ้าน นางกําลังดูเครือง
ประดับทีลูกจ้างในร้านนํามาให้ พอเห็นสีหยุนจือเดินเข้า
มา นางก็ยิมหวานแล้วกล่าวทักทายด้วยสีหน้าเอาอก
เอาใจราวกับเป็ นคนละคนกับทีสีหยุนจือเคยรูจ้ กั
10
ในเมืออีกฝ่ ายกล่าวทักทายก่อน สีหยุนจือก็ไม่มีเหตุผลที
จะต้องทําหมางเมินใส่ หากอีกฝ่ ายต้องการทําตัวเส
แสร้งมา ตนก็จะเสแสร้งกลับไปเช่นกัน
11
สีหยุนจือฝื นยิมอย่างไม่เป็ นธรรมชาตินกั นางไม่ถนัดปั น
หน้าเสแสร้งกล่าววาจาเช่นนี เมือก่อนนางเคยแต่ถกู เย็น
ชาใส่ แต่นนกลั
ั บทําให้รูส้ กึ ดีกว่าทําแบบนีเสียอีก การ
ต้องปั นหน้าแสดงท่าทางสนิทสนมและทักทายอย่างเป็ น
กันเอง ช่างฝื นใจตัวเองยิงนัก
สีหยุนชุนเสแสร้งแสดงท่าทีออ่ นหวานเอาอกเอาใจคน
อืนแบบนีจนเคยชิน เพียงแต่ครังนีเปลียนมากระทํากับ
คนทีตนไม่เคยคิดจะทําดีดว้ ยอย่างสีหยุนจือ แต่นนก็
ั ไม่
ใช่เรืองยากสําหรับนาง
12
สีหยุนจือแทบจะทนฝื นต่อไปไม่ไหว โชคดีทีสีหยุนชุน
เปลียนเรืองสนทนาเสียก่อน อีกฝ่ ายเริมพูดเข้าประเด็น
ว่า
สีหยุนจือตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เรืองน้องหยุนซิว
กําลังตังครรภ์น่ะรึ? ข้ารูแ้ ล้วล่ะ…เป็ นเรืองน่ายินดีจริงๆ”
สีหยุนชุนได้ยินก็ยกผ้าเช็ดหน้าขึนมาปิ ดปากพลาง
อมยิมด้วยท่าทางมีลบั ลมคมใน จากนันก็ดงึ มือสีหยุ
13
นจือไปทีมุมห้อง แอบกระซิบทีข้างหูวา่
14
อย่างไรกัน?”
“...”
ครังหนึงนางเคยเข้าใจว่าความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่าง
สีหยุนชุนและสีหยุนซิวมากกว่าทีพวกนางมีให้ตนหลาย
เท่านัก อีกทังพวกนางยังเป็ นพีน้องทีรักใคร่และดูแลกัน
15
มาสิบกว่าปี ในขณะทีตนเองนันถูกกีดกันให้เป็ นคน
นอกราวกับไม่ใช่คนในตระกูล เป็ นคนอืนทีไม่มีความ
เกียวข้องใดๆ กับทังสองแม้แต่นอ้ ย สีหยุนจือได้แต่คิดใน
ใจ ทว่าจําต้องแสร้งทําหน้าตกตะลึงแล้วพูดว่า
16
เลย”
เมือเห็นสีหยุนจือแสดงสีหน้าเห็นอกเห็นใจสีหยุนซิว สี
หยุนชุนก็พดู ขึนอีก
“...”
17
เรืองนีสีหยุนจือไม่เคยรูม้ าก่อนและไม่คิดว่าใต้เท้าหลูจะ
จัดการได้รวดเร็วขนาดนี ถึงขันออกหน้าตัดสินใจทําใน
สิงทีเหนือความคาดหมาย
18
ตอนที 50 ใกล้ฤดูเก็บเกียว
สีหยุนชุนเห็นพีสาวเงียบไปจึงเอ่ยเสริมขึนว่า
1
สีหยุนจือมองหญิงสาวตรงหน้าทีทําหน้าเหมือนทองไม่รู ้
ร้อน ช่างใจดําอํามหิตเหลือเกิน ก่อนหน้านีอีกฝ่ ายกับสี
หยุนซิวมีความสัมพันธ์ทีดีตอ่ กันเพียงใด แต่พอเกิดเรือง
ขึนก็เปลียนจากหน้ามือเป็ นหลังมือ แม้แต่ถอ้ ยคําที
แสดงความสงสารสักคําก็ยงั ไม่มี
สีหยุนจือรูส้ กึ ขอบคุณทีก่อนหน้านีตนไม่ได้มีความ
สัมพันธ์ฉนั พีน้องกับสตรีเหล่านี เพราะหากต้องมีพีน้อง
เช่นนี นางขอเป็ นคนไร้ญาติขาดมิตรยังดีเสียกว่า
2
เจ้าเมืองหลูซิวกําลังจะแต่งฮูหยินรองและสตรีผนู้ ียังเคย
เป็ นลูกสะใภ้ทีเพิงแต่งเข้าจวนเมือสีเดือนก่อน
สีหยุนจือคิดว่าการทีใต้เท้าหลูยอมเสือมเสียชือเสียงเอา
ลูกสะใภ้มาเป็ นเมีย หนําซํายังแต่งตังให้เป็ นฮูหยิน
รองอย่างเปิ ดเผยคงเพราะต้องการตัดปั ญหาเรืองของ
ซางซูเ่ อ๋อและโจวซือ เพือจะได้ไม่มีใครมาคุกคามตระกู
ลหลูได้อีก เมือเป็ นอย่างนีตระกูลสีเองก็คงจะหมดหน
ทางขู่เข็ญใดๆ ได้แล้ว
3
ในตอนแรกนางก็เดาไม่ออกว่าเรืองราวจะเป็ นอย่างไร
ต่อไป ทว่าตังแต่สีหยุนชุนเข้ามาทําดีกบั ตน อีกฝ่ ายก็มกั
หาเรืองมาทีร้านหนานเป่ ยทุกวันพร้อมกับนําข่าวสารมา
เล่าให้ฟังด้วยท่าทีเย้ยหยัน
“อาสะใภ้สร้ี องไห้ทงวั
ั นจนไม่เป็ นอันทําอะไร ถึงขนาดไป
ร้องไห้ตอ่ หน้าท่านย่าเลยนะเจ้าคะ ส่วนท่านย่าก็ให้
อํานาจอาสะใภ้หา้ ในการตัดสินใจ พอได้รบั อนุญาต
อย่างนันนางก็รบี จัดการทันทีเลยเจ้าค่ะ อาสะใภ้หา้ ไปที
จวนเจ้าเมืองเพือขอให้ใต้เท้าหลูเลิกกับภรรยาแล้วแต่ง
ตังสีหยุนซิวเป็ นเมียเอก”
พอคิดตามก็จริงอย่างทีสีหยุนชุนพูด สีหยุนจือจึงก้ม
หน้าก้มตาคิดบัญชีตอ่ ในขณะทีอีกฝ่ ายยังพูดเจือยแจ้ว
ต่อไปอีก
5
“แต่คนอย่างอาสะใภ้หา้ ท่านกับข้าก็คงรูด้ ีพอๆ กันว่าไม่
มีทางทีนางจะยอมเสียเปรียบใครแน่ๆ เมือถูกปฏิเสธ
เรืองทีขอ พอกลับมาถึงบ้านก็โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ สุด
ท้ายอดรนทนไม่ไหวออกไปขวางทางหลูฮหู ยินทีกําลังจะ
ไปวัด แล้วยืนด่านางอย่างสาดเสียเทเสีย ทําเอาหลูฮหู
ยินร้องไห้จนต้องรีบกลับจวน จากนันก็ไม่กล้าออกไปวัด
อีก”
สีหยุนจือได้ฟังทีสีหยุนชุนเล่าจนจบก็ยมเล็
ิ กน้อย กล่าว
อย่างไม่ใส่ใจว่า
“นีแหละอาสะใภ้หา้ ตัวจริง”
6
ถึงปากสีหยุนจือจะพูดอย่างนันแต่ใจกลับคิดอีกอย่าง
นันเพราะนางเคยพบกับใต้เท้าหลูและรูว้ า่ เขาเป็ นคน
ปากปราศรัยนําใจเชือดคอเพียงใด ส่วนหลูฮหู ยิน...การ
ทีนางอยูใ่ นตําแหน่งฮูหยินใหญ่ของตระกูลหลูได้ยอ่ มไม่
ธรรมดา คงไม่ใช่เพราะมีความเป็ นศรีภรรยาหรือจงรัก
ภักดีตอ่ สามีเพียงอย่างเดียว ซางซูเ่ อ๋อคิดว่านางอ่อนแอ
รังแกได้ง่ายจึงเข้าไปหาเรืองแล้วตังตัวเป็ นศัตรูกบั นาง
หารูไ้ ม่วา่ ตนเองนันแหละทีจะพ่ายแพ้อย่างราบคาบ คง
ไม่พน้ ถูกบดขยีจนย่อยยับในศึกนี
7
เมือเข้าฤดูเก็บเกียวในช่วงเดือนเจ็ด
ลุงฝูกบั ลุงเยียนเข้ามารายงานพร้อมใบหน้าทีกรําแดด สี
หยุนจือเดินตามหลังท่านลุงทังสองไปด้วยความดีใจ
และพบว่ารวงข้าวในนาโน้มลงเล็กน้อย ข้าวแต่ละเม็ด
อวบอ้วนสมบูรณ์
“รออีกสักสองสามวันก็เก็บเกียวได้แล้วขอรับ ถึงตอนนัน
จะได้ขา้ วทีดีเยียมทีเดียว”
8
ลุงฝูทาํ นามาทังชีวิตแต่ไม่มีครังไหนทีทํานาบนพืนที
กว้างใหญ่ไพศาลขนาดนี เขาจึงเฝ้ารอวันแห่งการเก็บ
เกียวอย่างใจจดใจจ่อ ในทีสุดวันทีเขารอคอยก็มาถึงจึง
รีบบอกนางด้วยความตืนเต้น
สีหยุนจือมองนาข้าวทีกว้างสุดลูกหูลกู ตา ในทีสุดนางก็
วางใจได้เสียที เพราะไม่มีความรูเ้ รืองการทํานามากนัก
นางจึงคอยแต่กงั วลว่าถ้าเกิดความเสียหายขึนมาจะทํา
อย่างไร หรือหากข้าวไม่ออกรวงจะทําอย่างไร มาวันนีได้
เห็นผลผลิตออกมาเป็ นรูปธรรมก็อดดีใจไม่ได้
การจะเก็บเกียวข้าวบนผืนนาทีมีเนือทีมากขนาดนีย่อม
ไม่ใช่เรืองง่าย ครังนีหากจะเรียกทหารทีค่ายมาช่วยอีกก็
9
คงไม่ได้ หรือต่อให้ทหารทังแปดสิบคนทีเหลือมาก็ยงั ไม่
เพียงพอต่องานทีใหญ่ขนาดนี
โชคดีทีนางบอกพวกรับจ้างใช้แรงงานในตลาดไว้วา่ ให้
มาช่วยเกียวข้าว กอปรกับชาวบ้านในหมูบ่ า้ นลุงฝูทีมี
ราวๆ เจ็ดสิบหรือแปดสิบคน พอรวมกันก็คงมีจาํ นวน
ร้อยกว่าคนน่าจะได้
ทีนาผืนใหญ่ขนาดนีหากมีคนลงงานร้อยกว่าคนก็ตอ้ งใช้
เวลาหลายวัน หากโชคไม่ดีเจอฝนตกก็ตอ้ งรอไปอีกสัก
พัก ดังนันการวางแผนการเก็บเกียวหากเริมได้เร็วเท่าไร
ก็ยงดี
ิ
10
.
เมือสีหยุนจือเข้าไปทีร้าน
หญิงสาวคํานวณแล้วว่าถ้าจะเก็บเกียวให้เสร็จภายใน
หนึงวันจะต้องมีคนอย่างน้อยห้าร้อยคน ต่อให้มีคนมา
ลงชือทีร้านเกินห้าร้อยคนแล้วก็ตอ้ งเผือไว้สาํ หรับคนที
อาจจะมาไม่ได้ในวันทีทํางานจริง ซึงคาดว่าคงมีราวๆ
สักห้าสิบถึงหนึงร้อยคน
11
ขณะทีนางกําลังกังวลใจอยูน่ นั สีหยุนชุนก็มาหาทีร้าน
แล้วนําข่าวน่าประหลาดใจมาบอก นางบอกว่าได้นาํ
เรืองของสีหยุนจือไปเล่าให้สามีฟัง ใต้เท้าหยางจึงตัดสิน
ใจให้บา่ วไพร่ในศาลไปช่วยนางทํางาน
แม้สีหยุนจือไม่อยากจะรับความปรารถนาดีจากอีกฝ่ าย
แต่สีหยุนชุนกลับบอกว่าใต้เท้าหยางได้เตรียมการไว้
เรียบร้อยแล้วเหลือแต่รอคําสังของนางเท่านัน ในเมืออีก
ฝ่ ายเสนอตัวขนาดนี สีหยุนจือจึงยากจะปฏิเสธ
12
เย็นวันนันสีหยุนจือกลับไปเล่าเรืองนีให้ปถู้ านฟั ง เขานิง
ไปครูห่ นึงก่อนตอบเสียงเรียบ
“ในเมือเขาอยากจะช่วยก็ให้มาช่วยเถอะ เพราะคนของ
ข้าก็ไม่ได้มีมากมายนัก”
13
วันแห่งการเก็บเกียวใกล้เข้ามาเรือยๆ คนงานทีหาได้มี
เพียงสองร้อยกว่าคนซึงไม่เพียงพอต่อการลงงานครังนี
แน่ๆ สีหยุนจือเองก็ไม่อยากเพิมภาระให้กบั สามีจงึ ได้แต่
เก็บเรืองนีไว้ในใจ โดยทียังไม่ได้ตกปากรับคํากับสีหยุ
นชุน
วันทีหกเดือนเก้า
14
สีหยุนชุนเข้ามาทีร้านหนานเป่ ยตังแต่เช้าตรู ่ อีกฝ่ ายนํา
ชุดกระโปรงมาชุดหนึงแล้วบอกว่าต้องการให้ช่างปั กผ้า
ของทางร้านปั กดอกไม้ลงบนชุดนีให้ หลังจากนันสักพัก
อีกฝ่ ายก็ถามถึงคนทีไปช่วยเกียวข้าวว่ามีเพียงพอหรือ
ไม่ แต่สีหยุนจือยังไม่ทนั ได้ตอบก็มีคนเดินเข้ามาในร้าน
ท่าทางราวกับเป็ นพ่อบ้านของคนตระกูลใหญ่ พอสีหยุ
นชุนเห็นเข้าก็ลกุ ขึนยืนแล้วคารวะท่านผูน้ นอย่
ั างมี
มารยาท
“ท่านหม่านันเอง ข้าขอคารวะเจ้าค่ะ”
“หยางฮูหยินมาอยูท่ ีนีได้อย่างไรขอรับ?”
สีหยุนชุนยิมอย่างเหนียมอายพลางชีนิวไปทางสีหยุนจือ
แล้วบอกว่า
16
หม่าเทาเข้าใจทันที “อ้อ... ใช่ๆ ขอรับ ข้าไม่น่าถามเช่น
นันเลย” พูดจบก็หนั ไปทางโต๊ะบัญชี ทําความเคารพสี
หยุนจืออย่างนอบน้อม “คาราวะปูฮ้ หู ยินขอรับ”
“...”
17
สีหยุนจือได้ยินดังนันก็องไป
ึ
18
ตอนที 51 เทียบเชิญจากตระกูลสี
ก่อนหน้านีสีหยุนชุนฮูหยินของรองเจ้าเมืองเสนอตัวช่วย
เหลือนาง
ตอนนียังมีคนจากจวนเจ้าเมืองอยากจะมาช่วยเพิมอีก
ดูทา่ ว่านาข้าวของนางจะมีผคู้ นให้ความสนใจอย่างมาก
เกรงแต่วา่ ต่อไปคนพวกนีจะหาเรืองมาทวงบุญคุณ ถึง
ตอนแรกจะเสนอตัวมาแล้วอ้างความเห็นอกเห็นใจก็
ตาม
สีหยุนชุนได้ยินท่านหม่าพูดก็รบี ลุกยืนขึนแล้วบอกว่า
1
“ท่านหม่า เห็นทีทา่ นจะมาช้าไปแล้ว สามีของข้าได้บอก
แล้วว่าธุระของพีหญิงใหญ่ก็เหมือนธุระของข้า คนใน
ครอบครัวเสนอตัวช่วยเหลือกันเองแล้วยังจะต้องไปขอ
ความช่วยเหลือจากคนอืนทําไมกันเล่า?”
หม่าเทาเห็นภาพนีจนชินตา เพียงแต่สีหยุนชุนไม่ใช่เป้า
หมาย เขาจึงโต้กลับด้วยรอยยิมแบบมีเลศนัย “คุณหนู
พูดอย่างนีก็ไม่ถกู นะขอรับ ปูฮ้ หู ยินก็เป็ นญาติกบั ตระกู
ลหลูเช่นกัน คุณหนูลืมไปแล้วรึ?”
“...”
สีหยุนชุนจะลืมได้อย่างไร ในเมือเดือนทีแล้วนางยังไป
2
งานแต่งของสีหยุนซิวอยูเ่ ลย นันหมายความว่าทังใต้เท้า
หลูและคุณชายหลูตา่ งก็เป็ นน้องเขยของสีหยุนจือด้วย
กันทังคู่ เมือยกเรืองความสัมพันธ์ในครอบครัวมาอ้าง
แล้วไม่เป็ นผล นางจึงพูดด้วยเสียงทีอ่อนลง ก่อนจะมอง
ไปทางสีหยุนจือพร้อมกับถามว่า
“พีหญิงใหญ่ ทังเจ้าเมืองและรองเจ้าเมืองต่างก็อยากจะ
ช่วยเหลือท่าน แล้วอย่างนีท่านจะเลือกทางไหนดีเล่า?”
“...”
สีหยุนจือมองคนสองคนตรงหน้าแล้วนึกขําในใจ ทัง
หมดก็แค่หาคนมาทํางานเท่านัน แต่พวกเขากลับทําให้
3
เป็ นเรืองยากได้เพียงนี หญิงสาวครุน่ คิดอยูค่ รูห่ นึง ก่อน
จะตัดสินใจเอ่ยกับท่านหม่าโดยไม่มีทา่ ทีลงั เล
“ในเมือเป็ นอย่างนีก็คงต้องรบกวนใต้เท้าหลูแล้วล่ะเจ้า
ค่ะ”
บางครังการรับความช่วยเหลือจากคนอืนก็เป็ นการยัวยุ
ศัตรูอีกวิธีหนึง อย่างน้อยก็ทาํ ให้ศตั รูคิดว่านางมิได้
เตรียมการป้องกัน
เมือท่านหม่ากลับไปแล้ว สีหยุนชุนก็แสดงสีหน้าไม่พอ
ใจออกมาแต่ก็มิได้อาละวาดโวยวายเหมือนเมือก่อน
เพียงแต่พดู กับนางว่า
4
“ทําไมพีหญิงใหญ่ลาํ เอียงอย่างนีเล่า ทังทีข้าพูดเรืองนี
กับท่านอยูห่ ลายครัง แต่พอคนอืนมาพูดเพียงไม่กีคํา
ท่านก็ตกปากรับคํากับเขาเสียแล้ว”
สีหยุนจือได้ยินสีหยุนชุนพูดก็วางลูกคิดลง เอ่ยกับนาง
ด้วยนําเสียงจริงจัง
5
แม้วา่ สีหยุนจือจะไม่รูเ้ หตุผลทีสีหยุนชุนพยายามเอาใจ
ใส่ตน แต่หนึงในนันต้องมีสาเหตุมาจากใต้เท้าหยาง
แน่ๆ อีกฝ่ ายถึงกับยกเอาความสัมพันธ์ฉนั พีน้องมาอ้าง
ทําให้ตนไม่กล้าทีจะตอบรับหรือแม้แต่จะปฏิเสธ
สีหยุนชุนยังนังใจลอยอยูท่ ีร้านสักพักก่อนจะขอตัวกลับ
สีหยุนจือเดินไปส่งอีกฝ่ ายถึงหน้าประตูแล้วบอกว่านาง
เข้าใจเจตนาของน้องสาวดี จากนันก็กล่าวขอบคุณด้วย
ความซาบซึงใจ
เมือส่งน้องสาวขึนเกียวแล้วสีหยุนจือจึงเดินกลับเข้ามา
ในร้าน
6
.
ย่างเข้าเดือนเก้าฤดูเก็บเกียวก็มาถึง
ผูค้ นจํานวนมากมาช่วยสีหยุนจือในการเก็บเกียวครังนี
ชาวบ้านในหมูบ่ า้ นของลุงฝูก็มาช่วยทํางานอย่างขมี
ขมัน เพราะสีหยุนจือได้ให้คา่ แรงในราคายุติธรรมตอนที
พวกเขามาช่วยไถนาเมือครังก่อน มาครังนีเมือลุงฝูไป
ตามให้มาช่วยงาน แม้แต่คนทีไม่ได้มาในรอบทีแล้วก็ยงั
มาร่วมแรงแข็งขันด้วย
8
บ่าวไพร่จากจวนเจ้าเมืองตังใจทํางานกันมาก เมือถึง
เวลาพลบคําก็หาทีนอนกันในทุง่ นา พอวันรุง่ ขึนก็ลงงาน
ตังแต่เช้าตรู ่
เถ้าแก่รา้ นข้าวตระกูลลัวมาดูการทํางานในวันทีสองของ
การเก็บเกียว เขาเห็นฟางข้าวกองพะเนินตรงลานบ้าน
ตระกูลปูก้ ็รูส้ กึ ประหลาดใจกับการทํางานอย่างรวดเร็ว
สีหยุนจือเสนอลดราคาหนึงอีแปะสําหรับข้าวสารหนึงจิ
นให้เถ้าแก่รา้ นข้าวเพือขออนุญาตใช้ลานตากข้าว จาก
ประสบการณ์คา้ ข้าวมาหลายปี เขาย่อมรูว้ า่ ทีนากว้าง
ใหญ่ไพศาลขนาดนีจะสร้างผลผลิตได้มหาศาล ดังนัน
ข้อเสนอของสีหยุนจือจึงถือว่าเป็ นการเอือผลประโยชน์
9
ให้เขาอย่างมาก เขาย่อมไม่ปฏิเสธ
หลังจากนันสามวัน เมือข้าวถูกตากจนแห้งก็สามารถนํา
มาชังขายได้ สีหยุนจือใช้เวลาเกือบทังวันในยุง้ ข้าว ในที
สุดก็ชงข้
ั าวทังหมดเสร็จ
10
ค้าในครังนีได้เงินทังหมดแปดพันหนึงร้อยหกสิบตําลึง
เงิน มิหนําซําตระกูลลัวยังสัญญากับสีหยุนจืออีกว่า
หากต่อไปนางต้องการลานตากข้าวหรือเกวียนขนข้าว
ขอเพียงนางบอกล่วงหน้าพวกเขาจะจัดเตรียมให้ทนั ที
สีหยุนจือกล่าวขอบคุณในความช่วยเหลือเป็ นอย่างดี
ของเถ้าแก่ แล้วให้องเปาเขาต่
ั างหากอีกสามร้อยตําลึง
เถ้าแก่เองก็พอใจในการทํางานของสีหยุนจือมาก ดังนัน
11
ไม่วา่ จะไปติดต่อการค้าหรือไปทีไหนๆ ก็มกั จะพูด
ยกย่องวิธีทาํ การค้าของนางให้ใครต่อใครฟั งเสมอ
กลางเดือนเก้า
สีหยุนจือได้รบั เทียบเชิญฉบับหนึงซึงส่งมาจากฮูหยินผู้
เฒ่าตระกูลสี ข้อความด้านในเขียนบอกว่า คนในตระกูล
ไม่ได้เจอคุณหนูใหญ่มานานแล้ว และอีกสองวันข้าง
หน้าจะมีการจัดงานเลียงเชิญเหล่าพ่อค้า และคหบดีใน
เมืองลัวหยางมาร่วมสังสรรค์กนั จึงขอเชิญนางมาเข้า
ร่วมงานนีด้วย
12
สีหยุนจือมองเทียบเชิญผนึกทองทีดูหรูหรางดงามในมือ
ของตนแล้วยกยิมมุมปาก จากนันหญิงสาวก็ยืนเทียบ
เชิญนันคืนให้กบั บ่าวรับใช้ทีนํามา ตอบกลับเพียงว่า
“ฮูหยินขอรับ...เมือครูท่ า่ นไม่กล่าวหนักเกินไปหน่อย
หรือขอรับ? ถึงท่านจะออกเรือนแล้วแต่ตระกูลสีก็ยงั เป็ น
บ้านของบิดาของท่าน ทําไมจึงบอกไปว่าท่านไม่ใช่คน
ของตระกูลสีอีกแล้วล่ะขอรับ?”
14
สีหยุนจือรูอ้ ยูแ่ ก่ใจว่าฮูหยินผูเ้ ฒ่าได้ลบชือนางออกจาก
แผนผังวงศ์ตระกูลเรียบร้อยแล้ว เมือได้ยินผูช้ ่วยร้านพูด
อย่างนัน นางจึงยิมแล้วตอบว่า “เจ้าไม่เคยได้ยินคําทีว่า
‘ผูห้ ญิงทีแต่งงานแล้วก็เหมือนสาดนําออกจากบ้าน’ งัน
รึ?”
ทันทีทีคนส่งเทียบกลับไปถึงบ้านตระกูลสีก็รบี ไป
รายงานคําพูดของสีหยุนจือให้ฮหู ยินผูเ้ ฒ่าฟั ง จากนัน
เด็กหนุ่มก็ถกู แม่นมคนสนิทของหยินผูเ้ ฒ่าตบเข้าทีบ้อง
15
หูอย่างแรง
“แต่...แต่วา่ ”
16
แม่นมเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเขาก็อยากจะตบอีกสัก
ฉาด แต่กลับถูกฮูหยินผูเ้ ฒ่าปรามเอาไว้ก่อน
เด็กหนุ่มรีบกลับออกไปอย่างลุกลีลุกลน
17