You are on page 1of 626

บทที่ 1 หลินหมิง

แปลโดย Facebook Fanpage :


https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ในอาณาจักรลิขิตฟ้า มีสาํ นักเจ็ดแก่นแท้ ซงึ่ ถูกก่อตังโดยปรมาจารย์
้ จากหุบเขาเจ็ดแก่นแท้
สํานักต่อสู้แห่งนี ้สือทอดวิชาต่อสู้โบราณมายาวนานกว่า600ปี
สํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นสํานักต่อสู้ที่ใหญ่ที่สดุ ในอาณาจักรแห่งนี ้ เป็ นเรื่ องธรรมดาที่สํานักแห่งนี ้
จะเป็ นตัวเลือกอันดับหนึง่ ของเหล่าหนุ่มสาว ทว่าผู้ที่จะผ่านการทดสอบของสํานักและเข้ ามา
ฝึ กฝนในสํานักแห่งนี ้ได้ ก็ต้องเป็ นผู้ที่มีความสามารถสูงส่งเช่นกัน กล่าวได้ วา่ มีเด็กเพียงหนึง่ ใน
ล้ านเท่านันที
้ ่จะสามารถผ่านการทดสอบไปได้
แสงแดดสาดส่องไปทัว่ ภูเขาโจว เด็กหนุ่มคนหนึง่ ยืนอยูใ่ นป่ าบนภูเขาลูกนัน้ เขาแต่งกายด้ วย
ชุดผ้ าและมองไปที่ต้นไม้ ใหญ่ เขาปล่อยหมัดซํ ้าแล้ วซํ ้าอีกใส่ต้นไม้ อย่างรุนแรง
“ปึ ง” “ปึ ง!” เสียงสะท้ อนดังก้ องกังวานไปทัว่ เปลือกไม้ ยบุ ลงไปเล็กน้ อยและเผยให้ เห็นรอย
เลือดที่ติดอยูบ่ นผิวของเปลือกไม้
ชายหนุ่มคนนี ้มีนามว่าหลินหมิง เขาเป็ นนักสู้ที่มีพรสวรรค์ระดับสาม
ในอาณาจักรลิขิตฟ้า ผู้คนกว่าครึ่งหนึง่ ไม่มีพรสวรรค์ในการต่อสู้ ส่วนอีก40%จะมีพรสวรรค์
ระดับหนึง่ และแม้ พวกเขาจะฝึ กฝนการต่อสู้ก็ไม่อาจจะพัฒนาไปได้ ไกลซักเท่าไร อีก9%จะมี
พรสวรรค์ระดับสอง หากพวกเขามุง่ มัน่ ตังใจฝึ
้ กฝนก็สามารถที่จะสําเร็ จการต่อสู้ได้ ใน
ระดับพื ้นฐาน
หลินหมิงซึง่ มีพรสวรรค์ระดับสามจึงถือว่าค่อนข้ างสูงเมื่อเทียบกับคนทัว่ ๆไป อย่างไรก็ตาม
เพียงแค่พรสวรรค์ระดับสามของเขาก็ไม่มากพอที่จะทําให้ เขาผ่านบททดสอบของสํานักเจ็ด
แก่นแท้ ได้ !
หลินหมิงตระหนักถึงเรื่ องนี ้ดี เพื่อนของเขาเองก็เช่นกัน เธอเป็ นหญิงสาวงามนามว่าหลานยุน
เยี่ย เธอเองก็มีพรสวรรค์ระดับสามเหมือนกับเขา พวกเขาทังสองคนทํ้ าได้ เพียงสอบเข้ าสํานัก
ลิขิตฟ้าเท่านัน้
สํานักลิขิตฟ้าพึง่ จะก่อตังมาได้
้ เพียง80ปี ทังวรยุ
้ ทธ์และตําราต่างๆก็เป็ นรองสํานักเจ็ดแก่นแท้
อยูม่ าก
การฝึ กฝนเป็ นสิ่งสําคัญอย่างมาก ระดับการฝึ กฝนมีทงหมด6ขั
ั้ น้ หากสามารถฝึ กฝนจนสําเร็ จ
ขันที
้ ่6ได้ นักสู้คนนันก็
้ จะได้ รับเกียรติยศและนําพาชื่อเสียงมาให้ แก่วงศ์ตระกูล
แม้ จิตใจของหลินหมิงจะมุง่ มัน่ ในการฝึ กฝน แต่การที่เขาจะสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ สําเร็จ
ก็แทบไม่มีโอกาสเป็ นไปได้ เขาจึงได้ สญ
ั ญากับหลานยุยเยียว่าจะเข้ าสํานักลิขิตฟ้าด้ วยกันแทน
หลินหมิงและหลานยุนเยี่ย รู้จกั และสนิทสนมกันมานานหลายปี แม้ วา่ ทังสองจะยั
้ งไม่คิดเรื่ อง
แต่งงาน แต่ทางพ่อแม่ของหลินหมิงก็สนใจในตัวหลานยุนเยีย พวกเขามักจะเชิญหลานยุนเยีย
ไปทานข้ าวที่บ้านอยูบ่ อ่ ยๆ
ความรู้สกึ ระหว่างพวกเขาเหลือเพียงแผ่นกระดาษบางๆที่กนเอาไว้
ั้ เมื่อพวกเขาโตขึ ้นกระดาษ
แผ่นนันก็
้ จะสลายไป ความรักความผูกพันธ์ของพวกเขาก็จะก่อตัวขึ ้นอย่างช้ าๆ
หลินหมิงตังใจที
้ ่จะฝึ กฝนให้ ถงึ ขันที
้ ่6 ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ แต่ในวันที่สํานักลิขิตฟ้ารับศิษย์เข้ า
สํานัก กลับมีเพียงแค่เขาที่ไปสมัครอยูเ่ พียงลําพัง
ไม่กี่วนั หลังจากนัน้ เธอก็มาบอกเขาว่าเธอจะเข้ าฝึ กฝนในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ที่เธอสามารถเข้ า
เป็ นศิษย์ในสํานักอันดับหนึง่ นี ้ได้ เป็ นเพราะการช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มอัจฉริ ยะคนหนึง่ เขามี
นามว่าจู้ยนั
เขาเข้ าใจจุดประสงค์เบื ้องหลังของจู้ยนั เป็ นอย่างดี ที่จ้ ยู นั ทําเช่นนี ้ก็เพราะเขาต้ องการที่จะแต้ ง
งานกับหลานยุนเยี่ย
สําหรับตระกูลที่สงู ส่งอย่างตระกูลจู้ พวกเขาจําเป็ นที่จะต้ องมีภรรยาที่ดีเพื่อที่จะให้ กําเนิดบุตร
ที่มีพรสวรรค์สงู และหญิงที่มีพรสวรรค์สงู ก็มีโอกาสทําให้ บตุ รมีพรสวรรค์ที่สงู ตาม แม้ วา่
ตระกูลหลานจะไม่ได้ ใหญ่โตมากนัก แต่หลานยุนเยี่ยก็เป็ นหญิงสาวที่งดงามที่สดุ ในเมืองแห่งนี ้
เป็ นธรรมดาที่จ้ ยู นั จะหลงรักเธอ
สําหรับหลานยุนเยี่ยแล้ ว หากเธอสามารถเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ จะเป็ นการนําพาชื่อเสียง
เกียรติยศมาสูว่ งศ์ตระกูล และยังทําให้ เธอมีอนาคตดีกว่าการฝึ กฝนในสํานักลิขิตฟ้าอย่างเทียบ
กันไม่ติด
เมื่อต้ องเผชิญกับโอกาสที่จะได้ มาซึง่ ชื่อเสียงและความมัง่ คัง่ รํ่ ารวยเช่นนี ้ เหล่าหญิงสาวก็คงไม่
อาจปฏิเสธได้ ตระกูลจู้เป็ นตระกูลที่ร่ํ ารวยที่สดุ ในเมืองแห่งนี ้ และจู้ยนั เองก็หล่อไม่เบาเลย เขา
น่าสนใจกว่าหลินหมิงเป็ นไหนๆ
เรื่ องนี ้ทําร้ ายจิตใจของหลินหมิงอย่างมาก เขาขังตัวเองอยูใ่ นห้ องตลอด3วัน3คือ จากนันเขาก็

ตัดสินใจที่จะเลิกคิดถึงหลานยุนเยียและตังหน้ ้ าตังตาฝึ
้ กฝน การฝึ กฝนของเขาหนักกว่า
เมื่อก่อนหลายเท่า
เขาได้ สละสิทธ์ที่จะเข้ าฝึ กฝนในสํานักลิขิตฟ้า และมุง่ มัน่ ตังใจที
้ ่จะสอบผ่านบททดสอบของ
สํานักเจ็ดแก่นแท้ ให้ ได้
“ปึ ง” “ปึ ง!” เสียงหมัดของเขากระแทกกับต้ นไม้ อย่างต่อเนื่อง ต้ นไม่ชนิดนี ้มีชื่อว่าต้ นไม้ เหล็ก
ผิดของมันแข็งเหมือนเหล็ดกล้ า นักสู้จํานวนมากเลือกใช้ มนั ในการฝึ กฝน
ผ่านไปหลายชัว่ โมง ในที่สดุ เขาก็หมดแรงลง เขาหยิบสมุนไพรขึ ้นมาจากกระเป๋ าสพาย
สมุนไพรเป็ นที่สิ่งจําเป็ นอย่างยิ่งในการฝึ กฝนการต่อสู้
สมุนไพรชนิดนี ้มีชื่อว่า หญ้ ากระทู้เหล็ก มันเป็ นสมุนไพรราคาถูกที่ใช้ รักษาแผลได้ แต่การใช้ มนั
ก็ทรมานไม่น้อย หากเป็ นสมุนไพรที่มีราคาสูงกว่านี ้ ก็จะไม่ทําให้ ผ้ ใู ช้ ต้องรู้สกึ ทรมาน
หลินหมิงกัดฟั นแน่นทนรับความเจ็บปวดจากสมุนไพร เขาดึงผ้ าออกมาพันหมัดของเขา
มีสนุมไพรมากมายที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าและส่งผลให้ เจ็ดปวดเหมือนหญ้ ากระทู้เหล็ก แต่
สมุนไพรเหล่านนันก็
้ มีราคาค่อนข้ างแพง ด้ วยฐานะของตระกูลที่ไม่ได้ รํ่ารวยของหลินหมิงจึงไม่
สามารถที่จะหาซื ้อมันมาใช้ ได้
พ่อแม่ของหลินหมิงเป็ นเพียงลูกจ้ างในร้ านอาหารแห่งหนึง่ แม้ วา่ ตระกูลหลินจะเป็ นตระกูลที่
ใหญ่มาก แต่ครอบครับของหลินหมิงก็เป็ นเพียงตระกูลสาขา พวกเขาเป็ นเพียงลูกจ้ างที่ซื่อสัตย์
ของตระกูลหลัก และเงินค่าจ้ าที่พวกเขาได้ รับก็ไม่มากพอที่สง่ เสริ มการฝึ กฝนของหลินหมิง
พ่อแม่ของหลินหมิงอยากให้ หลินหมิงมาทํางานร่วมกับครอบครัว แต่เมื่อได้ เห็นความมุง่ มัน่ ที่
จะต่อสู้ของหลิมหมิงแล้ ว พวกเขาก็ตดั สินใจจะนําเงินเก็บของครอบครัวมาส่งเสริ มหลินหมิง
เป็ นค่าใช้ จ่ายในการฝึ กฝนของหลินหมิง ตังแต่
้ นนมาหลิ
ั้ นหมิงก็ใช้ เงินในส่วนนี ้อย่างประหยัด
และรอบคอบมาโดยตลอด และเขาก็มีการฝึ กฝนเพียงขันแรกเท่ ้ านัน้
การฝึ กฝนนันมี
้ ทงหมด6ขั
ั้ น้ ขันสุ
้ ดท้ ายคือขันผสานชี
้ พจร และเมื่อบรรลุถงึ ขันนี
้ ้ก็จะมีโอกาสที่
จะพัฒนาต่อไปยังระดับปราณฟ้าได้ ซึง่ ก็แบ่งเป็ นปราณฟ้าขันต้
้ น กับปราณปลายฟ้า
หลังจากใช้ หญ้ ากระทู้เหล็กและทิ ้งไว้ ประมาณ 1 ชัว่ โมง บาดแผลของเขาก็สมานตัว เขาตังใจที
้ ่
จะฝึ กฝนการต่อสู้ของเขาต่อ แต่จ้ ๆู ก็มีเจ้ าอ้ วยคนหนึง่ ตะโกนขึ ้นมา “พี่ชาย วันนี ้เป็ นวันที่สํานัก
เจ็ดแก่นแท้ เปิ ดรับศิษย์ เหตุใดพี่ยงั ฝึ กฝนอยูอ่ ีกเล่า พี่ควรไปร่วมการทดสอบมิใช่หรื อ? ”
ชื่อของเจ้ าอ้ วนคือคนนี ้คือหลินเซี่ยวตง เขามีอายุน้อยกว่าหลินหมิงเล็กน้ อย พวกเขาเติบโต
ขึ ้นมาด้ วยกัน
หลินเซีย่ วตงเป็ นทายาทที่แท้ จริ ง เขาเป็ นคนตระกูลหลัก อย่างไรก็ตามในตระกูลหลักก็มีการ
จัดอันดับความสําคัญอยู่ เขาเป็ นผู้ที่อยูใ่ นอันดับตํ่าสุด
หลังจากหันกลับไปเห็นหลินเซี่ยวตง หลินหมิงก็หนั กลับไปยังต้ นไม้ และกล่าว “ช่วงแรกจะมีคน
เข้ าไปลงชื่อจํานวนมาก ข้ าไม่อยากเสียเวลาในการฝึ กฝนของข้ าไป ”
“ให้ ตายเถอะ ! “หลินเซีย่ วตงพูดออกเมื่อเห็นรอบยุบของเปลือกไม้ และรอยเลือกของหลินห
มิง “พี่บ้าไปแล้ วรึ หากพี่ยงั ฝึ กฝนอย่างหักโหมเช่นนี ้ พี่จะต้ องพอการในที่สดุ หญ้ ากระทู้เหล็ก
ไม่เพียงพอที่จะรักษาแผลของพี่ได้ ”
หลินหมิงไม่ได้ พดู อะไร เดิมทีการที่ผ้ ทู ี่มีพรสวรรค์ระดับสามจะฝึ กฝนให้ สาํ เร็ จขันผสานชี
้ พจรก็
ถือว่าเป็ นไปได้ ยากมาก แต่เขาก็ยงั มีความหวัง แม้ มนั จะมีโอกาสที่จะทําให้ เขาต้ องพิการจาก
การฝึ กฝนไปตลิดชีวิตก็ตาม
สําหรับหลินหมิงนี่คือการต่อสู้ที่เดินพันด้ วยชีวิตของเขา
หลินเซี่ยวตงถอนหายใจและดึงบางอย่างออกมาจากช่องในกระเป๋ าพร้ อมกับยื่นให้ หลินหมิง
“พี่ชายใช้ นี่เถอะ.”
หลินหมิงหันมามอง และก็ต้องตกใจ มันคือโสมสีเลือดอายุร้มปี มันเป็ นยาระดับสูงสามารถใช้
สมานแผลและบํารุงร่างกายได้ มันมีความอ่อนโยนมาก ไม่ทําให้ ทรมานเหมือนกับหญ้ ากระทู้
เหล็ก มันมีราคาประมาณ150เหรี ยญทอง เทียบได้ รับรายได้ ตลอดทังปี
้ ของพ่อและแม่ของเขา
รวมกัน
เขาส่ายหัว “ข้ ารับโสมเลือดนี ้ไว้ ไม่ได้ ”
ถึงแม้ วา่ พวกเขาจะใกล้ ชิดสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง แต่ของสิ่งนี ้ก็มีราคาสูงเกินไป ครอบครัว
ของหลินเซี่ยวตงมัง่ คัง่ กว่าหลินหมิงมาก แต่หลินเซี่ยวก็ก็ไม่ได้ มีความมุง่ มัน่ ที่จะฝึ กฝนการต่อสู้
มากซักเท่าไร
หลินเซี่ยวตงพยายามยัดโสมเลือดให้ กบั หลินหมิงและกล่าว “ข้ าซื ้อโสมเลือดนี ้มาให้ พี่ ถ้ าพี่
ปฏิเสธมันก็เท่ากับปฏิเสธความเป็ นพี่น้องของเรา ข้ าไม่ได้ มีความทะเยอทะยานมากนัก แค่ข้า
ยังเป็ นคนตระกูลหลักก็มากพอสําหรับข้ าแล้ ว ”
หลินหมิงเงียบไปชัว่ ครู่ก่อนที่จะรับโสมเลือดเอาไว้ “ขอบคุณอย่างมาก ข้ าจะไม่ลืมบุญคุณ
้ ่หกให้ ได้ เพื่อไม่ใช้ ความช่วยเหลือของเจ้ าสูญเปล่า ”
ของเจ้ าเลย ข้ าจะต้ องฝึ กฝนให้ ถงึ ขันที
“ฮ่าๆ เมื่อถึงวันนัน้ พี่ต้องจัดการไอ้ ลกู หมาจู้ยนั ให้ ข้าด้ วยล่ะ ตระกูลของมันข่มเหงตระกูลของ
เรามานานแล้ ว! ”
จู้ยนั … หลินหมิงถอนหายใจเบาๆ จู้ยนั เป็ นศิษย์ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ และเขายังอยูใ่ นนิกาย
สวรรค์ เขาฝึ กฝนไปจนถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สามแล้ ว จู้ยนั คือเป้าหมายสูงสุดที่เขาหวังจะก้ าว
ข้ ามให้ ได้ ในซักวันหนึง่
พื ้นที่ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ในกว้ างใหญ่ไพศาล หลินหมิงและหลินเซี่ยวตงมาถึงสํานักแห่งนี ้
ในช่วงปลายของการสมัคร ผู้สมัครเรี ยงเป็ นแถวยาวอย่างเป็ นระเบียบ
“เราคงต้ องรออีกนาน” หลินเซี่ยวตงถอนหายใจ
“ก็คงเป็ นเช่นนัน”
้ หลินหมิงพยักหน้ า
“เฮ้ ดตู รงนันสิ
้ ” หลินเซี่ยวตงชี ้ไปทางประตูเล็กๆ มีเพียงไม่กี่คนเท่านันที
้ ่อยูบ่ ริ เวณนัน้
“เฉพาะตระกูลขุนนาง… ” หลินหมิงสังเกตป้ายที่เขียนกํากับไว้
“บ้ าเอ้ ย!” หลินเซี่ยวตง พึมพําด้ วยความไม่พอใจ พวกขุนนางช่างเอาเปรี ยบคนธรรมดาเสีย
จริ ง
ในขณะที่หลินเซี่ยวตงกําลังสาปแช่งพวกขุนนาง จู่ๆประตูนนก็ั ้ เปิ ดออก ชายหนุ่มสองคนก้ าว
ออกมา คนหนึง่ ในนันสวมชุ
้ ดสีฟ้า มีดาบยาวที่แนบที่เอว บุคลิกดูสง่างาม
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของชายคนนี ้ หลินหมิงขมวดคิ ้วในทันนี ้ เขาคือจู้ยนั
หญิงสาวในตระกูลจู้ได้ แต่งานเข้ าไปในราชวงศ์ เป็ นนางสนมและได้ ให้ กําเนิดองค์ชายขึ ้นมา
ทําให้ ตระกูลจู้กลายเป็ นตระกูลที่มีชื่อเป็ นเป็ นอับดับหนึง่ ในเมืองใบหม่อนสีเขียว ด้ วยฐานะของ
พวกเขา มันมากพอที่จะให้ สิทธ์ในการเข้ าเป็ นศิษย์ในสํานักได้ โดยไม่ต้องเข้ าร่วมการทดสอบ
และพวกเขาก็ได้ มอบศิษย์นี ้ให้ กบั หลานยุนเยีย
“จู้ยนั ? มันเป็ นคนที่น่ารังเกียจ” หลินเซี่ยวตงพึมพํา
จู้ยนั กําลังเดินนําชายหนุม่ อีกคนอยู่ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนันคงจะเป็
้ นลูกน้ องของเขา ด้ วย
ทิศทางที่พวกเขาก้ าวเดิน ไม่มีทางที่พวกเขาจะมองไม่เห็นหลินหมิง
แต่หลินหมิงก็ไม่คิดที่จะหนี เขากลับยืนอยูอ่ ย่างสงบขณะที่จ้ ยู นั เดินเข้ ามาใกล้
จู้ยนั หยุดเดิน สายตาจับจ้ องไปยังหลินหมิงและหลินเซี่ยวตง เขาขมวดคิ ้วเล็กน้ อย เมื่อได้ เห็น
หลินหมิงทําให้ เขารู้สกึ อึดอัด แม้ วา่ เขาจะได้ หลานยุนเยี่ยไปแล้ ว แต่เธอก็ปฏิเสธที่จะใกล้ ชิดกับ
เขาก่อนที่จะแต่งงาน เห็นได้ ชดั ว่าหลินหมิงยังกุมหัวใจของเธอเอาไว้ อยู่ เหตุผลที่เธอยอมรับ
การแต่งงานจากจู้ยนั เป็ นเพราะสํานักเจ็ดแก่นแท้ จู้ยนั รู้สกึ ไม่พอใจเป็ นอย่างมากที่หวั ใจของ
ภรรยาในอนาคตของเขาไปอยูก่ บั คนอื่น
“เจ้ าคือหลินหมิงสินะ? มีเพียงการฝึ กฝนในขันแรกริ
้ ั้ ?
อาจจะทดสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ งนรึ

คําพูดของจู้ยนั ให้ ความหมายอย่างชัดเจน เขาไม่ต้องการให้ หลินหมิงได้ อยูใ่ นสํานักแห่งนี ้ มัน
จะทําให้ หลานยุนเยียลืมหนิมหมิงไม่ได้
“ข้ ามาที่นี่เพราะต้ องการแสวงหาวิถีแห่งการต่อสู้? มันไม่ได้ เกียวข้ องอะไรกับเจ้ า”
“วิถีแห่งการต่อสู้? อวดดีเหลือเกิน” จู้ยนั หยิบดาบที่พาดเอาไว้ ที่เอวขึ ้นมา เขาใช้ มนั ฟาดไป
ในอากาศ คลื่นพลังที่มองไม่เห็นพุง่ ไปกระแทกกับต้ นไม่ที่อยูห่ า่ งออกไป
“ปึ ง” กิ่งและใบ้ ไม้ มากมายล่วงลงมาสูพ่ ื ้พร้ อมกับรอยแตกขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยูบ่ นลําต้ น
เหตุผลที่จ้ ยู นั ทําเช่นนี ้ก็เพื่อข่มหลินหมิง เขาต้ องการที่จะแสดงความห่างชันระหว่
้ างตัวเขาเอง
กับหลินหมิง “ข้ ามีพรสวรรค์ระดับสี่ เริ่ มฝึ กฝนการต่อสู้ตงแต่
ั ้ อายุสิบสอง ใช้ สมุนไพรราคา
แพงอีกมากมายที่คนอย่างเจ้ าไม่อาจจะหามันมาได้ และในตอนนี ้ข้ าก็ได้ เข้ าร่วมกับนิกาย
สวรรค์ คนที่ออ่ นแอเช่นเจ้ ายังกล้ าพูดถึงวิถีแห่งการต่อสู้อีกรึ ?”
จู้ยนั พูดอย่างเย้ อหยิ่งทําให้ หลินเซี่ยวตงโมโหขึ ้นมา “เจ้ าแค่อายุมากกว่าข้ า2ปี ถ้ าข้ าอายุ
เท่ากับเจ้ า ข้ าคงจะถีบหัวเจ้ าไปแล้ ว! ”
จู้ยนั ขมวดคิ ้วและหันไปยังหลินเซี่ยวตง “เจ้ าเป็ นใคร?”
“ข้ า… ” ด้ วยแรงกดดันอันมหาศาลที่ถกู ส่งออกมาจากจู้ยนั ทําให้ หลินเซีย่ วตกได้ แต่กลืน
นํ ้าลาย “ข้ าคือหลินเซี่ยวตง เจ้ าจงดีจําเอาไว้ ให้ ดี!”
“หลินเซี่ยวตง ? คนตระกูลหลินมีคณ ุ สมบัติที่จะพูดคุยกับข้ าด้ วยรึ? พวกเจ้ าไม่คคู่ วรที่จะ
สนทนากับข้ า ไม่วา่ จะเจ้ าหรื อหลินหมิง! ถ้ าไม่ใช่เพราะหลานยุยเยี่ย ข้ าก็คงไม่ต้องมารู้จกั สวะ
อย่างพวกแกหรอก! และต่อจากนี ้หลายยุนเยี่ยไม่ใช่ใครที่พวกเจ้ าจะแตะต้ องได้ อีกต่อไป ”
“ข้ าจะให้ เจ้ าหนึง่ พันเหรียญทอง! และหวังว่าจากนี ้เป็ นต้ นไปข้ าจะไม่เห็นหน้ าพวกเจ้ าอีก! “จู้
ยันกล่าวในขณะที่เขาเอาถุบเหรี ยญทองออกมา
คนรอบๆต่างตะลึงกับสิ่งที่ได้ ยิน หนึง่ พันเหรี ยญทอง?! มันมากพอที่จะใช้ ในการสนับสนุนการ
ฝึ กฝนด้ วยสมุนไพรระดับสูงได้ นานถึง3ปี
“หนึง่ พันเหรี ยญทอง? เอาไปให้ ขอทานเถอะ ! “หลินเซี่ยวตงผลักมันกลับไป แต่ในความเป็ น
จริ งแล้ วมันเป็ นก้ อนเงินที่มีมลู ค่ามาก
จู้ยนั สะบัดมือของหลินเซีย่ วตก และหันหน้ าไปทางหลินหมิงเพื่อรอคําตอบ
หลินหมิงสูดลมหายใจเข้ าลึกๆ ก่อนที่จะพูดออกมาด้ วยโทนที่กล้ าหาญและชัดถ้ อยชัดคํา “การ
ฝึ กฝนการต่อสู้นนไม่
ั ้ ได้ เกี่ยวข้ องอะไรกับฐานะของตระกูลหรื อพรสวรรค์อะไรทังนั
้ น้ สิง่ ที่สําคัญ
กับการฝึ กฝนอย่างแท้ จริงก็คือ… หัวใจที่มงุ่ มัน่ ที่จะฝึ กฝนการต่อสู้อย่างไม่ยอ่ ท้ อ! ”
“วิถีการต่อสู้ที่แท้ จริ งไม่ได้ ขึ ้นอยูก่ บั พสวรรค์ อํานาจ หรื อเงินทอง ! ซักวันหนึง่ ข้ าจะเอาชนะเจ้ า
ให้ ได้ ! ” คําพูดของหลินหมิงมีความหมายลึกซึ ้ง ทุกคนที่อยูบ่ ริ เวณใกล้ เคียงต่างก็ได้ ยินถ้ อยคํา
ของเขาอย่างชัดเจน

บทที่ 2 ศิลาลึกลับ
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ตอนนี ้จะแปลออกมาแย่นิดนึงนะครับ แปลตังแต่
้ ครึ่งปี ก่อนแล้ วไม่ได้ กลับมาแก้ ไขซะที ขอโทษ
ด้ วยนะครับ ตอนอื่นๆจะดีวา่ นี ้ครับ
“พี่หมิง,พี่เป็ นผู้ร้ ูอย่างแท้ จริ ง!” หลินเซี่ยวตงว่ากล่าวอย่างออกรสขณะที่พวกเขาเดินลงไปที่
ถนน
หลินหมิงยังคงเงียบสงบ สิ่งที่เขาได้ กล่าวฟั งดูที่ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจ แต่มนั จะเป็ นเรื่ องยาก
มากสําหรับเขาที่จะแซงจู้ยนั ปริ มาณของความพยายามที่เขาจะต้ องใช้ นนมหาศาลั้
เขาไม่มีความกลัวในการทํางานหนักหรื อขมขื่นแต่อย่างใด แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถ
กล่าวว่าสําหรับการบาดเจ็บภายใน สมุนไพรเป็ นสิง่ ที่จําเป็ นในการรักษาผู้บาดเจ็บและยา
รักษาโรคเหล่านันมี
้ ราคาแพงอย่างไม่ต้องสงสัย
หลินเซี่ยวตงเองก็สามารถที่จะคาดเดาสิ่งที่หลินหมิงคิดและพูดว่า “พี่หมิงทังหมดที
้ ่พี่ต้องทํา
คือการฝึ กซ้ อมอย่างหนัก ส่วนทางด้ านการเงินข้ าคอยจะสนับสนุนพี่เอง เพียงแค่มีความมัน่ ใจ
ในตัวเอง,แม้ วา่ ตําแหน่งของคุณปู่ ของข้ าในครอบครัวอาจไม่ได้ สงู ส่งแต่ก็ยงั คงไม่มีอะไรที่จะ
เย้ ยหยันได้ แค่เพียงไม่กี่ร้อยเหรี ยญทองคงไม่ได้ สําคัญสําหรับเขา ”
หลินหมิงหยุดเดินและหันไปรอบๆ ก่อนที่จะเผชิญกับหลินเซีย่ วตง ในชีวติ มีเพื่อนหลายคนที่
เป็ นธรรม แต่ผ้ ทู ี่จะให้ ความช่วยเหลือเขาในเวลาที่เขาต้ องการนันหาได้
้ ยาก ถึงแม้ ระหว่างพี่
น้ องการขอบคุณอาจไม่จําเป็ น แต่หลินหมิงยังคงหยุดและพูดด้ วยนํ ้าเสียงจริ งจัง “เซี่ยวตง,
ขอบคุณมาก”
“พอแค่นนเถอะ
ั้ เพียงเท่านี ้ก็มากเกินไปแล้ ว ข้ าไม่ได้ เป็ นคนที่แสวงหามากในชีวิต การสอบเข้ า
สํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นเพียงวิธีการที่จะปกป้องชื่อเสียงของพ่อข้ า พี่หมิง, ข้ าจะเดิมพันในตัวพี่
หลังจากที่พี่ได้ กลายเป็ นเสาหลักในอนาคตพี่จะต้ องช่วยให้ คนอื่นเทิดทูนข้ าสักหน่อยฮ่า ๆ ๆ ๆ .

หลินหมิงยิ ้มและหัวเราะ “แน่นอน! กับน้ องชายอย่างเจ้ า แน่นอนข้ าเองก็ต้องอดทนในวิถีการ
แห่งต่อสู้. ”
เมื่อหลินหมิงกลับไปยังสถานที่ที่อยูอ่ าศัยของเขามันเป็ นตอนเย็นแล้ ว ห้ องพักนี ้เป็ นห้ องหนึง่ ที่
เคยถูกเปิ ดให้ เช่า ในช่วงเวลานี ้ตังแต่ ้ วนั ที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ เริ่ มลงทะเบียนสําหรับการประเมิน
เข้ าจนกว่าจะถึงวันของการประเมินตนทุกสถานที่ที่อยูอ่ าศัยภายในเมืองลิขิตนภา จะได้ รับการ
บริ การอย่างเต็มรูปแบบ อัตราค่าเช่าเพิ่มขึ ้นกว่าครึ่ง ดังนันผู ้ ้ สมัครจํานวนมากจะเลือกที่จะเช่า
ห้ องพักที่อยูท่ ี่นี่ไม่ได้ เป็ นตัวเลือกที่ถกู ๆเอาเสียเลย
หลินหมิงได้ เช่าห้ องเดี่ยวเพียงสิบตารางเมตรในพื ้นที่ที่ดเู รี ยบง่าย ในขณะที่เขากําลังจะเริ่ มต้ น
การทําสมาธิของเขาบนที่นอนมีคนมาเคาะประตู
หลินหมิงเปิ ดประตูเพื่อดูเจ้ าของที่พกั ที่เป็ นหญิงยืนอยูท่ ี่นนั่ เจ้ าของที่พกั เป็ นผู้หญิงอายุ
ประมาณห้ าสิบปี ที่มีร่างกายที่คอ่ นข้ างอ้ วน ใบหน้ าของเจ้ าของที่พกั แลดูรุนแรง แต่วนั นี ้เธอ
กําลังหยอกรอยยิ ้มที่ดนู ่ารื่ นรมย์ก่อให้ หลินหมิงจะรู้สกึ ว่ามีเรื่ องบางอย่างผิดปกติ
“เจ้ าของที่พกั ท่านมีอะไร?”
“นี่ … ท่านผู้เช่าข้ าขอโทษ แต่เจ้ าโปรดออกไปจากห้ องนี ้”.
“หะ?” หลินหมิงขมวดคิ ้ว “ทําไม?”
“หึหขึ อโทษนะ แต่ข้าได้ เช่าห้ องนี ้แล้ ว” เสียงอันรุนแรงของชายหนุ่มดังขึ ้นมาขัดจังหวะ หลินห
มิงหันไปรอบๆ และพบว่าคนที่มีใสต่างหูลิงขนาดใหญ่มาด้ วยเดินมาจากห้ องโถง ชายคนนี ้ยิ ้ม
ในลักษณะที่ดเู หมือนขี ้เล่น
เมื่อมองดูเขา หลินหมิงก็ร้ ูได้ วา่ เขาเป็ นหนึง่ ในลูกน้ องที่ได้ ปฏิบตั ิตามคําสัง่ ของจู้ยนั พร้ อมชาย
หนุ่มคนอื่นๆ ชายหนุ่มคนอื่นๆ ก็ยงั คงเงียบเพียงมองไปที่หลินหมิงและหลินเซี่ยวตงด้ วยท่าที
แสดงออกถึงการดูถกู
ไม่มีข้อสงสัย เขาต้ องผู้ที่กําลังพยายามหาความดีความชอบจากจู้ยนั ด้ วยการส่งสมุนของเขา
เองมาสร้ างปั ญหาให้ หลินหมิง ทังหมดที
้ ่เขาต้ องทําก็มีแค่เพิ่มค่าเช่าให้ สงู ขึ ้นหลายเท่า เป็ น
ธรรมดาที่เจ้ าของที่พกั จะบังคับไล่ให้ เขาออกไป
ปั จจุบนั สํานักเจ็ดแก่นแท้ จดั งานลงทะเบียนที่นําไปสูค่ วามยากลําบากในการค้ นหาสถานที่พกั
อาศัย การจะหาสถานที่อื่นเช่าเป็ นเรื่องยาก แต่ถงึ อย่างไรเขาก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าสมุน
ของจู้ยนั จะไม่ตามไปก่อปั ญหาให้ เขาอีก
ใบหน้ าหลินหมิงหนักแน่นและเขาจ้ องมองอย่างเย็นชาไปที่เจ้ าของที่พกั “ตอนนันพวกเราได้ ้
เห็นพ้ องกันว่าข้ าจะได้ เช่าเป็ นเวลาห้ าเดือน ข้ าได้ จ่ายเงินเป็ นค่าเช่าห้ าเดือนล่วงหน้ าไปแล้ ว
ปั จจุบนั ยังคงมีเวลาอีกสามเดือนจนกว่าจะหมดสัญญา แต่เจ้ าต้ องการให้ ข้าไปออกตอนนี ้
อย่างงันหรอ
้ ”
เจ้ าของที่พกั หญิงยิ ้มขอโทษ “นี่ … ธรรมดาที่ข้าจะตระหนักถึงเรื่ องนี ้และวิธีจดั การกับเรื่ องนี ้
เข้ าจะคือเช่าสําหรับสามเดือนกลับคือให้ เจ้ าซะ ? ”
“อ่า! คืนค่าเช่าสามเดือน ‘? ช่างมีจิตใจเที่ยงธรรมซะเหลือเกิน! “ความโกรธหลินหมิงเริ่ ม
เดือดขัน้ หากเจ้ าของที่พกั นี ้ถูกบังคับให้ ขบั ไล่เขาเนื่องจากการกดดันของบุคคลอื่นแล้ วหลินห
มิงก็จะยอม แต่การกระทําของมันในปั จจุบนั และคําพูดของมันที่ได้ ทําให้ เขาโกรธ
“เฮ้ พวกเราพูดถึงการจ่ายคืน พวกเราได้ พดู คุยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่ องนี ้ และไม่ได้ ลงนามลาย
้ “เมื่อ
ลักษณ์อกั ษรในสัญญาไว้ เป็ นหลักฐาน สิทธ์ในการเลือกคนเช่ามันขึ ้นอยูก่ บั ข้ าเท่านัน!
พิจารณาสถานะเมืองลิขิตฟ้าเป็ นเมืองหลวงของอาณาจักรทังหมดเจ้้ าของทรัพย์สินที่นี่มี
ความรู้สกึ ในจิตใต้ สํานึกที่เหนือกว่ากับพวกเขาทุกคนที่มาจากภายนอก พวกเขาจะมองลงมา
ในขณะที่พดู ในโทนของความรังเกียจ นอกจากนี ้ชายคนที่อยูข่ ้ างๆเธอเห็นได้ ชดั ว่าเป็ นคนที่สง่
มาจากครอบครัวที่รํ่ารวยและมีฐานะดี เมื่อมีใครบางคนเช่นนี ้สนับสนุนมัน เจ้ าของที่พกั จึงมี
ความกล้ าหาญมากขึ ้น
ตอนนี ้คนที่มีลิงก็หวั เราะออกมาอย่างวางท่า “ถ้ าแกเป็ นยอมรับและออกไปในทันที ข้ าจะบอก
อะไรแกอย่างหนึง่ ไม่วา่ แกจะจัดการหาสถานที่อนื่ เช่าข้ าก็จะยังคงสามารถที่จะไปไล่แกออกอยู่
ดี ภายในสามเดือนก่อนการประเมินเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ จะเริ่ มต้ นแกก็ควรจะไปนอนหลับอยู่
บนถนนฮ่าฮ่า! ”
สําหรับผู้ที่เกิดในตระกูลของชนชันสู
้ งมันเป็ นเพียงธรรมชาติสําหรับพวกเขาที่จะสร้ างความรู้สกึ
ที่เหนือกว่าและหยิ่ง อย่างไรก็ตามแม้ พวกเขาได้ แสดงความเย่อหยิ่งของพวกเขาพวกเขาจะ
ยังคงรักษาท่าทีในการพูดกับคนอย่างจู้ยนั คนนี ้ยืนอยูต่ รงหน้ าได้ เผยให้ เห็นรูปแบบที่เปลือย
เปล่าของความเย่อหยิ่งของผู้ที่จะรังเกียดบางคนเพราะคนอื่นรังเกียด
หลินหมิงจ้ องมองมาที่คนที่ใสต่างหูลิง ตาของเขาเปลี่ยนเป็ นสายตาที่เย็นชาอย่างไม่สนใจ
ช่วงเวลาที่ผา่ นมา
“มองหาอะไรของแก? กําลังคิดจะสู้กบั ข้ า? จะบอกอะไรให้ นะ นายน้ อยของข้ าเป็ นลูกคนที่
สองของแม่ทพั แห่งเมืองลิขิตฟ้า ถ้ าแกกล้ าทําร้ ายข้ า เขาจะต้ อง … ”
“ไปซะ!” หลินหมิงตะโกนและออกหมัดอย่างรุนแรงใส่ไปที่จมูกของมัน “ปั ก” มันลอยออกไป
ด้ วยเสียงกระแทก หลังจากนันชายคนนั
้ นพู
้ ดบนกองเศษเฟอร์ นิเจอร์ ที่หกั และกระถาง ผมของ
เขากระเซิงและใบหน้ าของเขาเต็มไปด้ วยหยดเลือด
ด้ วยความสามารถของหมัดที่สะเทือนต้ นไม้ เหล็กได้ คนที่หลงโดนเข้ าไปเต็มที่หน้ า ผลที่ได้ รับ
อาจคิดไม่ถงึ จมูกของชายคนนันทั
้ งหมดจมเข้
้ าไป
กลายเป็ นเจ้ าของที่พกั หญิงที่ตกใจ ดวงตาของมันโป่ งออกก่อนที่จ่ๆู ก็ตะโกนออกมาอย่างน่า
สังเวช “ช่วยด้ วย! ฆาตกรรม! ”
เจ้ าของที่ดินหญิงรี บหนีออกไป แต่ด้วยขาที่เต็มไปด้ วยไขมันของมันจึงไม่สามารถที่จะไปได้ ไกล
นักและมันล้ มลงบนพื ้นดัง”พร็ อบ”
หลินหมิงก้ าวไปหาคนที่ใส่ตา่ งหูลิง แม้ วา่ ขันตอนแรกของการฝึ
้ กอบรมทางกายภาพเป็ นเพียง
ดินแดนเริ่ มต้ นของการต่อสู้มนั ก็ไม่ได้ หมายความว่าจะไร้ คา่ หลังจากที่คนจํานวนมากที่อยูใ่ น
อาณาจักรลิขิตฟ้า ไม่สามารถที่จะฝึ กอบรมในศิลปะการต่อสู้ ในทางกลับกันหลินหมิงที่มี
ความสามารถที่ดีที่ขนเริ
ั ้ ่ มต้ น นอกจากนี ้เขายังฝึ กหนักอย่างมาก ในหนึง่ พันคนที่มี
ความสามารถระดับเดียวกับเขา ก็อาจจะเป็ นเรื่ องยากที่มีซกั คนที่มีความแข็งแรงเท่าเขา ใน
ฐานะที่ชายคนนี ้เขาเป็ นเพียงลูกสมุนและไม่ได้ ใช้ ความพยายามมากสําหรับหลินหมิงที่จะ
จัดการกับเขา
มันเก็บเสียครางเอาไว้ อย่างไม่เคยคิดว่าหลินหมิงจะกล้ าทําเช่นนี ้ มันยกนิ ้วเปื อ้ นเลือดและชี ้ไป
ที่หลินหมิง “แก … แกกล้ าทําร้ ายข้ า… แกเสร็จแน่”
“ข้ าไม่ร้ ูสิ่งใดจะเกิดขึ ้นกับข้ า แต่ข้ารู้วา่ เจ้ าเสร็จไปแล้ ว” หลินหมิงเตะไปที่หน้ าท้ องของชายคน
นันทํ
้ าให้ มนั ร้ องไห้ ออกมาอย่างน่าสังเวช อีกครัง้ และอีกครัง้ เวลานี ้ยากจะผ่านประตูออกไป
และจบลงด้ วยการถูกเตะออกไป
หลินหมิงไม่ได้ พดู อะไร เขากลับไปที่ห้องของเขาและเก็บข้ าวของของเขาและเริ่ มที่จะจากไป
บ้ านทังหลั ้ วใจ มันกล่าวว่าเหนียม “แก …แกจะไป
้ งพังเละทําให้ เจ้ าของที่พกั เจ็บปวดไปทังหั
้ ได้ … แก … แกต้ องชดใช้ .”
อย่างนันไม่
หลินหมิงหยุดเดินเขาหันกลับมาเผชิญกับเจ้ าของที่ล้มลงบนพื ้นเหมือนก้ อนเนื ้อ เขาถาม.
“ชดใช้ ?”
“ชดใช้ แกต้ องชดใช้ … … ” เสียงของเจ้ าของที่พกั เริ่ มสูญเสียความแข็งแรง มันรู้สกึ ราวกับว่า
สายตาของชายหนุ่มคนที่เธอเห็นเป็ นเหมือนหน้ าต่างเข้ าไปสูเ่ หวนรกที่ทําให้ เธอตัวสัน่
โดยไม่ได้ พดู อะไร หลินหมิงเจาะผนังด้ วยกําปั น้ ของเขาทะลุผา่ นกําแพงอิฐของบ้ านทําให้ บ้าน
ทังหลั
้ งสัน่ และเกิดฝุ่ นละอองจะตกมาจากเพดาน เจ้ าของที่พกั กรี ดร้ องออกมาและเป็ นลมไป
หลินหมิงสะพายกระเป๋ าเดินทางของเขาและเดินออกจากบ้ านโดยไม่เหลีย่ วแลคนที่เป็ นลม
หลินหมิงก็ร้ ูดีวา่ หลังจากที่จดั การชายคนนัน้ คนที่อยูเ่ บื ้องหลังเขาจะไม่ปล่อยเรื่ องนี ้ไปและ
แน่นอนว่าจะนําพาปั ญหามาให้ แต่หลินหมิงก็ไม่มีความเสียใจในสิ่งที่ทําลงไป
ในฐานะที่เป็ นคน จําเป็ นที่จะต้ องอดทน ถ้ าคนทีม่ าในวันนี ้มีศิลปะการต่อสู้ หลินหมิงจะไม่ทํา
อะไรเขาทําและจะได้ เลือกที่จะทน การสูญเสียนี ้เป็ นสิ่งคนหนึง่ ที่จะต้ องทน อย่างไรก็ตามการ
ปรากฏออกมาก่อนของสมุนไร้ คา่ คนหนึง่ ที่ได้ ขึ ้นอยูก่ บั การสนับสนุนของเจ้ านายของมัน หาก
หลินหมิงต้ องทนสิ่งที่มนั ผู้นนได้
ั ้ กล่าวแล้ วสิ่งที่เป็ นจุดประสงค์แห่งวิถีการต่อสู้จะเหลืออะไร?
มันเป็ นสิ่งที่เข้ ากันไม่ได้ กบั วิธีการต่อสู้ภายในหัวใจของหลินหมิง
ดังนันหลิ
้ นหมิง เลือกไปอยูใ่ นพื ้นที่ใกล้ เคียง หลังจากที่ในขณะที่เขาสะพายกระเป๋ าเป้บนหลัง
ของเขาและเริ่ มการพิจารณาวิธีการที่จะแก้ ปัญหาเรื่ องอยูอ่ าศัยของเขา ณ ตอนนี ้ที่พกั ขนาด
เล็กทังหมดต่
้ างก็เต็มหมดแล้ ว นอกจากนี ้ราคาก็ยงั เป็ นราคาที่แพงเกินไปสําหรับเขา แม้ จะไม่มี
ใครคัดค้ านหากเขาจะหลับนอนในป่ า หลินเซี่ยวตงอาจจะเอะอะโวยวายและยืนยันที่จะนําเขา
ไปอยูด่ ้ วย
หากหลินหมิงทําเช่นนันและลู
้ กชายคนที่สองของชายคนนันส่้ งกองทัพมา อาจทําให้ หลินเซี่ยว
ตงเองไม่สามารถอยูอ่ ย่างเป็ นสุขในบ้ านของเขา เขาอาจยังต้ องมาหลับนอนอยูบ่ นท้ องถนน
พร้ อมกับหลินหมิง
ยิ่งกว่านัน้ หลินหมิงอาจเป็ นตัวปั ญหาที่อนั ตราย ไม่มีการรับประกันว่าลูกชายคนที่สองของมัน
จะไม่สง่ กองทัพอันธพาลมา ในสายตาของคนเหล่านี ้ที่มองคนอื่นๆ การทําให้ กลายเป็ นคน
พิการไม่ได้ เป็ นเรื่ องใหญ่อะไรเลย หลินหมิงไม่ได้ ต้องการที่จะนําเรื่ องเช่นนี ้มาเป็ นปั ญหาให้
หลินเซี่ยวตง
เมื่อเป็ นเช่นนัน้ แล้ วเขาจะไปที่ไหน?
หลังจากใคร่ครวญเกี่ยวกับเรื่ องนี ้ในที่สดุ หลินหมิงคิดได้ สถานที่ -นันคื
้ อ สถานประกอบการ
อาหารที่หรูหราที่สดุ ในเมืองลิขิตฟ้า – ศาลาจันทร์ กระจ่าง
ที่ศาลาจันทร์ กระจ่างมีทงหมดลู
ั้ กค้ าชันสู
้ งส่ง พวกเขานันมี
้ พื ้นฐานที่แข็งแกร่ง ด้ วยเช่นฐานะที่
แข็งแกร่งนัน้ การเป็ นลูกชายคนที่สองที่เป็ นกองทัพกลาโหมไม่สามารถทําอะไรได้
เหตุผลหลินหมิงเลือกที่จะไปศาลาจันทร์ กระจ่างนันเห็ ้ นได้ ชดั ว่าจะเขาจะไม่จ่ายเงินในการเช่า
สถานที่พกั เขากําลังมุง่ หน้ าไปที่นนั่ เพื่อหางานทํา พ่อแม่หลินหมิงทํางานร้ านอาหารทําให้
หลินหมิงจะสามารถปรุงรสชาติอาหารของเขาออกมาได้ ดีมากเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้ มนั่ ใจ
พอที่จะคิดว่าเขาสามารถแข่งขันกับพ่อครัวผู้ที่อยูใ่ นเมืองลิขิตฟ้าได้ เพราะความชอบของเขา
ไม่ได้ อยูใ่ นเรื่ องการปรุงอาหาร …

ศาลาจันทร์ กระจ่างยังคงสว่างสดใสในขณะที่หลินหมิงมาถึง มันเป็ นสถานประกอบการที่มี
ธุรกิจที่ดีที่สดุ ในเมืองลิขิตฟ้า
หลินหมิงในชุดที่เป็ นธรรมดาเกินไป ทําให้ ทกุ คนที่เห็นเขาเดินเข้ าสูส่ ถานประกอบการ มองไปที่
เขาด้ วยสีหน้ าแปลกใจ คนที่มีใส่เสื ้อผ้ าเช่นนันมั
้ กจะไม่อาจที่รับประทานในศาลาจันทร์ กระจ่าง
นี ้ได้ นอกจากนี ้ยังมีความจริ งที่วา่ หลินหมิงเป็ นเด็กวัยสิบห้ าปี
แต่พวกบริ กรก็ยงั ทําตัวเป็ นกันเองกับเขาแล้ วเดินมาถามถาม “น้ องชายตัวน้ อย หลงกับพ่อแม่
หรื อป่ าว?”
หลินหมิงส่ายหัวและตอบว่า “ข้ ามาที่นี่เพื่อหางาน.”
ได้ ยินดังนันบริ
้ กรก็ขมวดคิ ้ว ด้ วยงานของพวกเขา เด็กสิบห้ าปี จะทําได้ อย่างไร นี่ต้องการสาว
งามอายุอย่างน้ อยสิบแปดปี หรื อหนุ่มหล่อที่มีอายุอย่างน้ อยยี่สิบปี ในฐานะที่เป็ นผู้ช่วยปรุง
อาหาร เด็กสิบห้ าปี สามารถปรุงอาหารอะไรได้ ?
“ไปให้ พ้นอย่าก่อให้ เกิดความวุน่ วายที่นี่” บริ กรโบกมืออย่างไม่สบอารมณ์
“ข้ าสามารถทํางานได้ เพียงแค่ให้ ข้าเข้ าไปในห้ องครัว”
บริ กรถามอย่างหัวเสีย “อย่างเจ้ าจะไปทําอะไรได้ ?”
หลินหมิงยิ ้มและตอบว่า “หัน่ เนื ้อไร้ กระดูก”
“มันคืออะไร” กลายเป็ นบริ กรที่ตะลึง
การหัน่ เนื ้อไร้ กระดูก เป็ นเส้ นทางการทําอาหารอย่างหนึง่ และไม่ได้ ทกุ ร้ านอาหารจะทําได้ งาน
นี ้ต้ องตัดแต่งเนื ้อเป็ นชิ ้นขณะที่ถอดออกจากกระดูก
การตัดแต่งเนื ้อเมื่อชํานาญจะตัดเนื ้อวัวได้ อย่างง่ายดายและด้ วยทักษะการตัดแต่งเนื ้อนี ้ยังเมื่อ
ใช้ กบั เนื ้อวัวกว่าจะจําเป็ นต้ องเปลี่ยนมีดอาจใช้ เวลาเป็ นปี ๆ สําหรับบางคนการตัดเนื ้อวัว
จําเป็ นที่จะต้ องเปลี่ยนมีดของพวกเขาในทุกๆเดือน นอกจากยังอาจต้ องใช้ เวลานานถึงครึ่งวัน
สําหรับวัวตัวหนึง่
สําหรับจันทร์ กระจ่างวัตถุดิบของพวกเขาไม่ได้ ใช่เนื ้อวัว แต่เป็ นเนื ้อสัตว์ดรุ ้ าย เนื ้อของสัตว์ดุ
ร้ ายอร่อยมาก เป็ นที่ต้องการลิ ้มลองของผู้คน, ผิวหนัง กระดูกและเส้ นเอ็นจะเหนี่ยวเป็ นพิเศษ
คนธรรมดาจะต้ องเสียเวลาอันยาวนานเพียงเพื่อตัดมันออกเป็ นส่วนๆ ในทางกลับกันผู้มีศิลปะ
การต่อสู้ก็ไม่เต็มใจที่จะลดตัวมาทํางานเช่นนี ้ แม้ วา่ พวกเขายินดีที่จะทํา คนที่ไม่เข้ าใจเรื่ องของ
กล้ ามเนื ้อ กระดูกและเส้ นเอ็นทังสามเรื
้ ่ องจะไม่สามารถที่จะทํามันได้ หากใช้ ความแข็งแรง
เพียงอย่างเดียวเดียวในกระบวนการตัดขึ ้นจะทําให้ เกิดการสูญเสียรสแห่งความชาติอร่อย
การหัน่ เนื ้อไร้ กระดูกคือวิธีหนึง่ ที่หลินหมิงได้ นํามาเป็ นพื ้นฐานของการต่อสู้ ภายในร้ านอาหาร
ของพ่อแม่ เขาได้ รับการฝึ กฝนตัวเองในกระบวนการหัน่ เนื ้อไร้ กระดูกทุกวันเป็ นเวลากว่าสิบปี
มันเป็ นงานที่เหนื่อยมาก! หลินหมิงไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็ นอัจฉริ ยะในวิธีการต่อสู้ ทังหมดที
้ ่เขา
ทําได้ ดงั ปั จจุบนั เพราะการฝึ กอย่างหนักของเขาเองและการฝึ กทบทวนอย่างต่อเนื่องซํ ้าแล้ วซํ ้า
อีก นัน่ คือวิธีที่เขาทําเพื่อสร้ างรากฐานการต่อสู้ให้ เป็ นจุดแข็งของเขา ด้ วยการจับมีดเฉือน
เฉือน เฉือนซํ ้าแล้ วซํ ้าอีกภายในห้ องครัว
ขณะนี ้บริ กรนันไม่
้ สามารถที่จะไล่หลินหมิงออกไปได้ อีก และได้ นําเขาไปยังห้ องครัว …
“พี่สาวลาน น้ องชายคนเล็กนี ้ต้ องการที่จะเป็ นคนงานแร่เนื ้อ”
“คนงานแร่เนื ้อ?” ภายในห้ องครัวขอศาลาจันทร์ กระจ่าง มีผ้ หู ญิงสาวสวยในวัยยี่สิบ เธอสวม
ใส่ชดุ สวยมองมาที่หลินหมิง สังเกตเสื ้อผ้ าธรรมดาบนร่างกายและกระเป๋ าเป้สะพายบนหลัง
ของเขา ให้ ความรู้สกึ ดังเช่นผู้ลี ้ภัย เธอขมวดคิ ้ว จากนันเธอก็
้ พดู ในลักษณะที่ไม่พอใจต่อการบริ
กรที่นําหลินหมิงมา “เจ้ ากําลังทําอะไร บังอาจนําใครเข้ ามาในห้ องครัว ดงซึย ให้ เงินมันซัก
หน่อยและไล่เขามันไปซะ ”
เห็นได้ ชดั ว่าหญิงสาวงามผู้นี ้เห็นว่าหลินหมิงเป็ นแค่เด็ก ในฐานะที่เป็ นบริ กรเมื่อถูกตําหนิ
ใบหน้ าของเขาก็ขมขื่น ตามความเป็ นจริ งเขาได้ พยายามที่จะผลักดันหลินหมิงออก แต่เมื่อค้ น
พบว่าหลินหมิงดูเหมือนจะแข็งแรงและใช้ งานได้
ชายหนุ่มจึงพยายามพาหลินหมิงออกไป อย่างไรก็ตามในขณะนี ้เขาก็ร้ ูสกึ ว่ามือของเขาไม่มีแรง
พอจะทําได้ เขาจ้ องมองในมือหลินหมิงด้ วยความสับสน มือนันได้
้ ถือมีดของเขาไว้ อย่างเหนี่ยว
แน่น
ก่อนที่ชายคนที่ชื่อดงซึย สามารถเข้ าใจสิ่งที่เกิดขึ ้นหลินหมิงกล่าวว่า “ข้ าไม่ได้ มาที่นี่เพื่อขอเงิน
พี่สาวยังไม่สายเกินไปที่จะเปลี่ยนใจหลังจากได้ เห็นฝี มือของข้ า ”
หญิงสาวรู้สกึ ประหลาดใจเล็กน้ อย ปรากฏว่านี ้เด็กน้ อยมีประสบการณ์บางอย่างในฝี มือการ
ทําอาหาร เธอมองไปดงซึยและกล่าวว่า “ไร้ ประโยชน์เสียจริ ง เจ้ าไม่สามารถแม้ แต่จะจัดการ
กับเด็กน้ อย ไปที่โกดังและนําเนื ้อหมูยกั ษ์ มา “หลังจากนันเธอหั
้ นไปที่หลินหมิงและกล่าวว่า
“ถ้ าเจ้ าสามารถทําเสร็จได้ ในช่วงครึ่งชัว่ โมงยาม (1 ชัว่ โมง) แล้ วข้ าจะช่วยให้ เจ้ าได้ ที่อยูใ่ น
ศาลาจันทร์ กระจ่าง”
ดงซึย รู้วา่ เขาเสียหน้ าและรี บประเจิดประเจ้ อไปนําหมูขนาดยักษ์ มา แต่หลินหมิงเขาขัดจังหวะ
“ไม่จําเป็ นผมจะแสดงให้ ดกู บั เนื ้อชนิดอื่น”
หลินหมิงกล่าวว่าในขณะที่เขาชี ้ไปที่สว่ นสิ่งมีชีวิตสายพันธ์มงั กร
หญิงสาวประหลาดใจ เนื ้อมังกรสัตว์ดรุ ้ ายสัตว์ระดับสอง ชันของร่
้ างกายจะเต็มไปด้ วย
กล้ ามเนื ้อ กล้ ามเนื ้อเหล่านี ้เป็ นแข็งแกร่งอย่างมากและสามารถต้ านทานการโจมตีปกติด้วย
ดาบได้ อย่างไรก็หากใส่สมุนไพรบางอย่างต้ มเนื ้อให้ เดือดปุดๆ สามวันสามคืนจะได้ ซุปที่มี
รสชาติอร่อย
สําหรับเนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายเช่นนัน้ แม้ แต่ผ้ เู ชี่ยวชาญเฉพาะทาง ก็ยากที่จะตัดมัน เด็กคนนี ้บ้ าไปแล้ ว
“ล้ อเล่นอะไรของเจ้ า? นี ้เนื ้อมังกรเป็ นมูลค่ากว่าร้ อยเหรี ยญทอง เจ้ าต้ องตกลงที่จะจ่ายเงินให้
ข้ าถ้ าหากว่าเจ้ าทํามันเสียหาย “ดงซึย พูดออกมาด้ วยความไม่พอใจ เขายังคงไม่สบายใจที่
หลินหมิงมีมีดของเขา
หญิงสาวตะคอกออกมา”ถ้ าข้ าให้ เจ้ าทําลายมัน, เจ้ าคิดว่าเจ้ ามีวิธีที่จะทําลายมันได้ ?”
ดงซึยก็พบว่าตัวเขาเองไร้ ประโยชน์ที่จะพูด เนื ้อมังกรไม่ได้ เป็ นเช่นเดียวกับหมู, วัวหรือแกะ คน
ธรรมดาจะไม่สามารถที่จะทําลายเกล็ดของมันได้ แม้ จะใช้ มีดมันก็ไม่ใช่สิ่งที่คนปกติสามารถจะ
กระทําได้
้ นไปเผชิญหน้ าหลินหมิงและกล่าวว่า “ข้ าจะให้ เจ้ าได้ ลงมือ!”
หญิงคนนันหั
หลินหมิงพยักหน้ าและหยิบมีดแร่เนื ้อที่ดีที่สดุ ในห้ องครัว เขาเคยได้ ผ่าครึ่งเนื ้อมังกรเพียงสอง
ครัง้ ; ทังสองครั
้ ง้ เกิดขึ ้นในช่วงวันเกิดของบุคคลสําคัญในตระกูลหลิน หลังจากนันเนื
้ ้อดุร้าย
สัตว์ไม่ได้ ยากที่คนทัว่ ไปสามารถจะหาซื ้อได้
หลินหมิงสูดหายใจเข้ าลึกๆ ลูบเกล็ดของมังกรอย่างระมัดระวัง รับรู้ถงึ ตําแหน่งของหลอดเลือด
ดําของมัน กระบวนการนี ้เกิดขึ ้นในเวลาธูปไหม้ หมดดอก ในใจของเขาเขากลายแผนภาพของ
หลอดเลือดดําที่เปรี ยบเสมือนเป็ นลายบนฝ่ ามือของเขาเอง ก่อนจะยืนยันว่ามันจะถูกต้ อง
ในขณะที่รอ บางคนถึงกับทนไม่ไหวและถามในที่สดุ “เจ้ ากําลังทําอะไร? ทําไมคุณลงมือเสีย
ที? ”
“หยุดทําลับๆล่อๆและลงมือตัดมันซะ”
มันเป็ นเพียงธรรมดาที่คนเหล่านี ้ก็จะรอไม่ไหว วัยรุ่นสิบห้ าปี ที่อ้างว่าสามารถแร่เนื ้อสัตว์ดรุ ้ าย
ระดับสอง มันจะดูเหมือนจะเป็ นการเล่นตลกกับพวกเขา
หลินหมิงได้ ยินคําพูดเหล่านัน้ เขาหยิบมีดขึ ้นมา ตาของเขากลายเป็ นที่มงุ่ เน้ นมากด้ วยสามธิ
สําหรับเขาแล้ วกระบวนการ แร่เนื ้อได้ เทียบเท่ากับการฝึ กอย่างหนึง่
หลังจากที่แน่ใจในแผนภาพของหลอดเลือดดําแล้ ว ในที่สดุ ก็เริ่ มลงมือ เขาไม่ได้ ใช้ ขวานหรื อ
ใบมีดขนาดใหญ่ เขาเพียงใช้ แค่มีธรรมดาควงไปมา
ในมือของหลินหมิง มีดธรรมดานี ้กลายเป็ นอาวุธที่คมเป็ นพิเศษ มีดพุง่ ลงมาและเนื ้อมังกรสัตว์
ถูกตัดออกจากกัน!
เมื่อได้ เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ ้นนี ้ บุคคลเคยที่ได้ พดู กล่าวหาเงียบไปในทันที ด้ วยความสําเร็ จ
นี ้เพียงอย่างเดียวจะต้ องมีความแข็งแรงข้ อมืออย่างน้ อยสามร้ อยจิน (181.4 กิโลกรัม) สําหรับ
พวกเขาการนี ้ปกติจําเป็ นจะต้ องใช้ ทงขวานและเลื
ั้ ่อย
ใบมีดตัดผ่านช่องว่างในหลอดเลือดดํา ตัดผ่านมันไปได้ อย่างราบรื่ นราวกับว่าเขาได้ ตดั ผ่าน
กระดาษอยู่ ทุกคนจะสามารถได้ ยินเสียง”ชูว ชูว ” ก่อนจะพบกล้ ามเนื ้อมังกรสีขาว
เมื่อมองดูวิธีการที่งา่ ยดายของหลินหมิงที่ คนที่ถกู เรี ยกว่าดงซึย ลูบตาของเขา เขาสงสัยว่ามี
บางอย่างผิดปกติกบั ดวงตาของเขา นี ้คือเด็กน้ อยจริ งๆ เขาสามารถตัดเนื ้อมังกรออกจากกัน
ได้ ?
หลินหมิงกระทําได้ อย่างสง่างาม บางครัง้ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่เส้ นเอ็นอาจจะขัดขวางการผ่าของ
เขา เขาใช้ เวลาครึ่งชัว่ โมงในการลงมือตัดเนื ้อมังกรสัตว์เป็ นชิ ้น ชิ ้นส่วนของเนื ้อแถวซี่โครงถูก
วางแยกไว้ ส่วนเหล่านี ้เป็ นส่วนที่มีคณ
ุ ค่ามากที่สดุ ของเนื ้อมังกรสัตว์ ความยาวของกระดูก
ซี่โครงเหล่านี ้มีความสอดคล้ องกันทังหมด
้ แสดงให้ วา่ ไม่มีการเคลื่อนไหวที่เสียเปล่าในการลง
มือ
ฉากนี ้ทําให้ ทกุ คนประหลาดใจ อย่างกับว่าหลินหมิงได้ ทํามันอย่างง่ายดาย แต่ทกุ คนที่นี่ร้ ูวา่
เนื ้อมังกรสัตว์เป็ นโครงสร้ างขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ ประมาณห้ าคนที่แข็งแกร่งในการทํางาน
ประสานงานกันประมาณครึ่งวัน แต่เจ้ าเด็กนี่มีเพียงแค่ใบหน้ าสีแดงเล็กน้ อยหลังจากเสร็จสิ ้น
งาน เมื่อได้ เห็นเขาแล้ วต่อให้ ต้องตัดอีกสองสามอันก็ไม่เป็ นปั ญหา!
ในขณะที่เป็ นเวลามืดคํ่าแล้ ว ศาลาจันทร์ กระจ่างก็ไม่ได้ มีงานยุง่ มากนัก ทําให้ สมาชิกหลายคน
ในห้ องครัวได้ ดฉู ากเหล่านัน้ หลินหมิงวางลงมีดและถาม “จะให้ ข้าทํางานที่นี่ตอนนี ้หรื อไม่
ชัว่ โมงการทํางานของข้ าจะต้ องไม่เกินสองชัว่ โมงยาม (4 ชัว่ โมง) และเงินเดือนรายเดือนของข้ า
ห้ าเหรี ยญทอง อีกหนึง่ อย่างข้ าจําเป็ นต้ องมีอาหารและที่พกั ”
หญิงสาวครุ่นคิดเรื่ องนี ้สักครู่ก่อนที่จะพยักหน้ า “ตามนัน!”

เงื่อนไขหลินหมิงไม่ใช้ น้อยๆ แต่มนั ก็ค้ มุ ค่า ตัดสินโดยความเร็ วหลินหมิงก่อนหน้ านี ้ได้ แสดงให้
เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถทําได้ ภายในเวลาสองชัว่ โมง สิ่งสําคัญที่สดุ คือการทํางาน
ของเขาที่มีประสิทธิภาพสูงก่อให้ เกิดการสูญเสียน้ อยมากในส่วนผสมที่สาํ คัญ
ดังนันหลิ
้ นหมิงจึงได้ เริ่ มทํางานที่ศาลาจันทร์ กระจ่าง อีกทังสองชั
้ ว่ ยามในการทํางานก็ไม่ใช้ สิ่ง
เสียเปล่า เพราะมันก็เป็ นรูปแบบหนึง่ ของในฝึ กฝนสําหรับเขา การชกลําต้ นของต้ นไม้ เป็ น
รูปแบบของการฝึ กฝนเพื่อความแข็งแกร่ง ในขณะที่การแร่เนื ้อเป็ นรูปแบบของการฝึ กฝนความ
แม่นยํา
สําหรับคนสุดท้ ายเขาก็เลือกอีกอย่าง เนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายระดับสอง – ตัวนิ่มทองดํา สัตว์นี ้ดุร้ายมี
ฟั นที่สามารถบดขยี ้ก้ อนหินและสามารถเจาะผ่านภูเขาได้ ราวเต้ าหู้ เหตุผลที่เขาเลือกนี ้ตัวนิ่ง
ทองคําคือการบังคับให้ ทะลุเกินขีดจํากัดของตัวเองไปได้
หลังจากตัดลงบนเนื ้อ การทํางานของเขากลายเป็ นเรื่ องง่าย ใบมีดเลื่อนผ่านช่องว่างระหว่าง
กล้ ามเนื ้อของช่องท้ อง ของตัวนิ่มทองดํา แต่ก็มีชว่ งเวลาที่หลินหมิงรู้สกึ ว่าใบมีดถูกบล็อก มัน
ให้ ความรู้สกึ ราวกับว่ามีดใช้ การไม่ได้
กระดูก? บริ เวณหน้ าท้ องช่วงกลางไม่ควรมีกระดูก
หากที่ไม่หละ มันอาจจะเป็ นหิน? ตัวนิ่มทองดําบางครัง้ อาจกลืนก้ อนหินลงไป แต่หินเหล่านัน้
จะได้ รับการบดไป ถึงแม้ วา่ มันจะไม่ได้ บดด้ วยกรดที่มีประสิทธิภาพภายในกระเพาะอาหารซึง่
้ หรื ออาจจะเป็ น …
จะกัดเซาะมัน แม้ หินขนาดใหญ่ท่ีไม่อาจยังคงอยูภ่ ายในนันได้
แกนภายใน??
อาจเป็ นอย่างนันก็ ้ ได้ หลินหมิงเต็มไปด้ วยความตื่นเต้ น แกนภายในของชันดุ ้ ร้ายระดับสอง
สัตว์เป็ นสิ่งที่มีคา่ แม้ วา่ เขาจะได้ ไม่ขาย เขาจะกินมันเพื่อผลประโยชน์มากมายให้ กบั ร่างกาย
ของเขา
หลินหมิงสวมถุงมือ ดึงมันออกมาอย่างยากเย็นขณะที่หลีกเลีย่ งกรดในกระเพาะอาหารอย่าง
ระมัดระวัง เมื่อมองมาที่มนั หลินหมิงก็ได้ แต่ผิดหวัง มันเป็ นวัตถุทรงสี่เหลีย่ มเป็ นตาราง ซึง่ นัน่
หมายความว่ามันไม่ไช่แกนภายใน เพราะภายในมีรูปร่างเป็ นทรงกลมทังหมด ้
จริ งๆแล้ วมันจะมีลกั ษณะเหมือนหิน แต่มีบางสิ่งที่แปลกประหลาดในหินก้ อนนี ้ …
ลูกบาศก์ก้อนสีเทาดูเหมือนจะได้ รับการตัดอย่างประณีตด้ วยมุมที่แม่นยํา นอกจากนี ้ยังมีพื ้นที่
ผิวทังหกด้
้ านของลูกบาศก์ที่ถกู สลักจารึกสีดําให้ มนั มีกลิ่นอายลึกลับ
โลหะ?
หลินหมิงตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง มันไม่ได้ ดเู หมือนเป็ นโลหะหรื อหินเลย บางทีมนั อาจจะ
เป็ นหยกอย่างนันหรอ?

บทที่ 3 วิญญาณที่ไร้ จิตสํานึก


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
หลินหมิงล้ างหินด้ วยนํ ้าจากแม่นํ ้า หลังจากลังเลใจอยูพ่ กั หนึง่ เขายกขวานที่วางอยูบ่ นพื ้น และ
ใช้ ปลายด้ านทูต่ ีเบาๆ ลงบนหินทรงลูกบาศก์ หินยังคงสภาพสมบูรณ์โดยไม่มีแม้ แต่รอยขีดข่วน
เดียวบนผิวของมัน
ด้ วยความคาดหวัง ความจริ งที่วา่ หินก้ อนนี ้ยังคงเหมือนเดิมหลังจากที่ถกู กลืนกินโดยตัวนิ่ม
ทองดําเป็ นหลักฐานของความทนทานของมันอย่างไม่น่าเชื่อ หลินหมิงค่อยๆเพิ่มความนํ ้าหนัก
ที่ในการทุบขึ ้นเรื่ อยๆ ในที่สดุ ขวานก็เกิดรอยร้ าว โดยที่ไม่ได้ มีเป็ นความผิดปกติบนก้ อน
ลูกบาศก์แม้ แต่น้อย
ให้ ตายเถอะ!!
หลินหมิงตะลึง เขาคาดว่าหินแข็งแกร่ง แต่ใครจะคาดว่ามันจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี ้ มันถูกสร้ าง
ขึ ้นอย่างไรกัน?
หลินหมิงไม่ได้ มาซึง่ คําตอบ หินก้ อนนี ้มีรูปร่างของมันแปลกเกินไป บางทีต้นแบบในการสร้ าง
หินก้ อนนี ้อาจใช้ วสั ดุที่มีความทนทานสูงบางอย่าง เมื่อพิจารณาถึงความเป็ นไปได้ หลินหมิง
ตัดสินใจโยนมันเข้ ากระเป๋ า แม้ วา่ เขาจะไม่ร้ ูวา่ มันคืออะไรเขาก็ยงั คงสามารถใช้ มนั ในการ
ตกแต่งได้
หลังจากเก็บเครื่ องมือเสร็จ หลินหมิงมุง่ หน้ าไปศาลาจันทร์ กระจ่างได้ เตรี ยมไว้ ให้ เขาและ
จากนันก็
้ เข้ าสูก่ ารพักผ่อนของเขา
หลังจากฝึ กหมัดของเขาทังยั ้ งแร่เนื ้อติดกันตลอดสองชัว่ โมงยาม (4 ชัว่ โมง) หลินหมิงในขณะนี ้
รู้สกึ เหนื่อยมากเลยทีเดียว
หลังจากการนัง่ สมาธิและการปรับลมหายใจสักครู่ หลินหมิงทรุดตัวลงบนเตียงโดยไม่ต้อง
เปลี่ยนเสื ้อผ้ าและผล็อยหลับไป เตียงที่ศาลาจันทร์ กระจ่างได้ เตรี ยมไว้ สําหรับพนักงานนันอยู
้ ่
สบายมาก นอกจากนี ้ลูกชายของแม่ทพั นันก็ ้ ไม่อาจไม่อาจสร้ างปั ญหาใดๆให้ เขาที่นี่ได้
เมื่อคิดถึงเรื่ องนัน้ หลินหมิงก็สามารถที่จะนอนหลับได้ อย่างหายห่วง ในการนอนหลับของเขา
เขามีความฝั นที่แปลก เขาฝั นถึงพระราชวังรุ่งโรจน์ที่ทําจากหยก แต่ละหลังต่างก็ทําจากหยก
แสดงให้ เห็นถึงระดับของช่างผู้สร้ างสูงสงเพียงใด
ด้ วยทิวทัศที่สวยงาม โดยรอบพระราชวังเต็มไปด้ วยความแพรวพราวงดสุดแสนที่ธรรมชาติจะ
รังสรรค์ขึ ้นมาได้ มองไปบนท้ องนภาน่าก็พบเหล่าฝูงนกบินเกาะกลุม่ อย่างน่าชื่นชม ปรากฏเป็ น
ภาพแห่งโลกที่ไม่มีวนั สูญสลาย
หลินหมิงไม่อาจเคยมีโอกาสจะได้ เห็นพระราชวังที่สง่างามเช่นนี ้แม้ ในในภาพวาด ทันใดนันเอง้
ฉากก็เปลี่ยนไป พระราชวังรุ่งโรจน์ทรุดตัวลง ลําแสงนับไม่ถ้วนได้ ปรากฏขึ ้นบนท้ องฟ้า เกิด
กระแสของแสงยิงออกมาช่างส่องสว่างและสวยงาม แต่เมื่อมันสัมผัสลงไปบนดินแดนมันทําให้
แผ่นดินสนัน่ หวันไหว แม้ แต่ภเู ขายังพังทลาย!
พื ้นดินเกิดรอยแยก ในขณะที่ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้ วยเปลวไฟปี ศาจ อักขระเวทครอบคลุม
พื ้นที่หลายร้ อยลี ้(0.5 กม.) ปรากฏให้ เห็นเป็ นชันอากาศบางๆ
้ สัญลักษณ์ลกึ ลับมากมายปก
คลุมทัว่ ท้ องฟ้า
ปรากฏการณ์ในระดับนี ้เป็ นสิง่ ที่หลินหมิงอาจคาดฝั นถึง! สิง่ เหล่านี ้มีอยูใ่ นระดับความ
แข็งแกร่งที่แทบเป็ นไปไม่ได้ !
แต่ละสิง่ ที่อยูใ่ นภาพล้ วนเป็ นสิ่งมีชีวติ ที่หลินหมิงไม่อาจมีโอกาสใดจะได้ เห็นแม้ แต่พริ บตาเดียว
แน่นอนว่าเป็ นสิ่งที่ยืนยันให้ ร้ ูวา่ มีหลายสิ่งที่ยิ่งใหญ่ดงั เช่นพระเจ้ าปรากฏอยูท่ ี่นี่?
หลังจากนันฉากก็
้ เปลี่ยนไปอีกครัง้ ไปสูโ่ ลกของหิมะและนํ ้าแข็ง หญิงสาวที่หวาดกลัวถือ
ลูกบาศก์นิ ้วหนึง่ เผชิญหน้ ากับหมื่นนักรบอยูบ่ นท้ องฟ้า
หญิงคนนันเป็
้ นยืนห่างจากหลินหมิงเพียงสามฟุต แม้ เขาจะเข้ าใจว่าทังหมดนี ้ ้เป็ นภาพแห่ง
ความฝั น หลินหมิงก็ยงั รู้สกึ ได้ ถงึ กลิน่ อายที่ออ่ นโยนและบริ สทุ ธิ์แผ่จากร่างกายของผู้หญิง
อย่างแจ่มชัด!
สิ่งที่สร้ างความประหลาดใจหลินหมิงเป็ นที่สดุ ก็คือสิ่งที่ผ้ หู ญิงคนนันถื
้ ออยู่ มันเป็ นก้ อนหินที่
หลินหมิงได้ พบภายในช่องท้ องของตัวนิ่มทองดํา!
ผู้หญิงคนนันพู
้ ดออกมาเป็ นชุดอย่างรวดเร็ ว แต่เสียงพูดคลุมเครื อ หลินหมิงสามารถได้ ยินเพียง
สองคําเท่านัน้ – ลูกบาศก์ ศักดิส์ ิทธิ์!
ลูกบาศก์ ศักดิ์สิทธิ์???
ไม่ทราบด้ วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเขาได้ ยินคําพูดเหล่านันใจของหมิ
้ งนึกไปถึงหินก้ อนนัน้ มัน
อาจจะเป็ นลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์?
เกิดการระเบิดขึ ้น! พื ้นดินสัน่ สะเทือนแล้ วแยกออกจากกันบนท้ องฟ้า บรรยากาศถูกบิดเป็ นรูป
อ่างนํ ้าวนอย่างบ้ าคลัง่ มีพลังอํานาจไร้ ที่สิ ้นสุด ดูเหมือนเป็ นกวาดล้ างทังสวรรค์
้ และปฐพี ทุกที่
ที่มนั ผ่าน แม้ แต่ผายังถล่มทรายและท้ องฟ้าแหลกสลาย ธารนํ ้าแข็งแตกระแหงเหลือเพียงพื ้นที่
ว่างเปล่าและนักรบทังหมื ้ ่นเหลือเพียงฝุ่ น วิญญาณของพวกเขาถูกแยกส่วนและดูดเข้ าไปใน
ลูกบาศก์!
หลินหมิงพบว่าตัวเขาเองยืนอยูใ่ จกลางของอ่างนํ ้าวนเป็ นสักขีพยานด้ วยตาของตัวเองว่าทุก
อย่างถูกดูดกลืนหายเข้ าสูว่ งั วน อย่างไม่สิ ้นสุด ทุกอย่างรอบๆตัวเขาเหลือเพียงเถ้ าถ่านใน
ขณะที่ตวั เขาเองยังสัน่ สะท้ าน ความรู้สกึ เหล่านี ้ไม่สามารถอธิบายได้ ด้วยคําพูดและยังเป็ น
ประสบการณ์ที่น่าจดจําสําหรับหลินหมิง!
หลินหมิงรู้สกึ ว่าตัวเองเปี ยกชุ่มไปด้ วยเหงื่อ ตอนนันเองเขาพบว่
้ าเขาได้ ถกู ส่งมาในพื ้นที่ขนาด
ใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อและเต็มไปด้ วยความมืดมิด ในที่แห่งนี ้มีจดุ แสงวนเวียนอยูค่ ล้ ายส่วนของ
เศษกระจก จุดต่างๆมีขนาดแตกต่างกันใหญ่บ้างเล็กบาง ในช่วงกลางของจุดเหล่านันทั ้ งหมดมี

แสงรูปทรงกลมซึง่ ถูกปล่อยออกมา เป็ นแสงที่อบอุน่ อ่อนโยนและศักดิ์สทิ ธิ์
ช่างลึกลับยิ่งนัก หลินหมิงรู้สกึ ว่าบรรยากาศของแสงนี ้คล้ ายกับออร่าของผู้หญิงที่เขาเคยเห็น
มาก่อนหน้ านี ้เป็ นอย่างมาก ไม่สิมนั เป็ นสิ่งเดียวกันต่างหาก!
มันเป็ นลําแสงจากผู้หญิงคนนัน?

หลินหมิงจําได้ วา่ หญิงผู้นนได้
ั ้ กลายเป็ นกระแสของลําแสงสีขาวและถูกดูดกลืนเข้ าสูล่ กู บาศก์
หลังจากที่เกิดการระเบิดขึ ้น …
กระแสของลําแสงสีขาว…. อาจเป็ นมันที่ได้ เปลีย่ นเป็ นจุดแสงใช่หรื อไม่? หากเป็ นเช่นนันแล้
้ ว
นี ้คงจะเป็ นพื ้นที่ภายในลูกบาศก์ศกั ดิส์ ิทธ์…
หลินหมิงอ้ าปากค้ าง มันอาจจะเป็ นที่จดุ แสงเหล่านี ้ที่เคยเป็ นชิ ้นส่วนทังหมดของสรรพสิ
้ ง่ นับไม่
ถ้ วนที่ถกู ดูดกลืนโดยลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธิ์ หลังจากที่มนั ถูกบดโดยที่การบิดเบือนของ
บรรยากาศ?
เมื่อปะติปะต่อเรื่ องได้ ทันใดนันหลิ
้ นหมิงตกใจเป็ นอย่างมาก!
ณ ตอนนี ้เขาเข้ าใจอย่างชัดเจนว่าฉากสดใสที่เขาได้ เห็นนันเป็
้ นความจริ ง แม้ วา่ เขาจะเคยบอก
ตัวเองว่ามันเป็ นเพียงความฝั นเขาก็ไม่สามารถเชื่อว่ามันจะเป็ นแค่ความฝั นไปได้ ทุกอย่างที่เขา
เคยเห็นในความฝั นนี ้เสมือนจริ งเกินไป และภาพของอ่างนํ ้าวนที่บิดเบือนบรรยากาศสลักลึกลง
ไปในจิตใจของหลินหมิง ในฐานะที่เป็ นผู้ที่โง่เขลาที่ยงั ไม่ได้ บรรลุขนควบแน่
ั้ นชีพจรเขาจะฝั นถึง
พลังอํานาจในระดับดังกล่าวได้ อย่างไร?
วิสยั ทัศน์ทงหมดเหล่
ั้ ้ นจริ ง? ก้ อนหินนี ้ได้ กลืนกินนักรบนับไม่ถ้วนซึง่ กําลังอยูใ่ นระดับที่
านันเป็
เขาไม่เคยมีแม้ แต่มีโอกาสในที่จะใฝ่ ฝั นว่าจะก้ าวไปได้ ถงึ
หลินหมิงไม่อาจจินตนาการถึงราชอาณาจักรดังกล่าวซึง่ มีนกั รบระดับสูงเต็มไปหมดถูกดูดกลืน
เข้ ามา เขามุง่ สมาธิไปที่ดวงตาของเขาและตรวจสอบพื ้นที่ที่มืดมิด ซึง่ เต็มไปด้ วยจุดแสงนับไม่
ถ้ วน หลังจากลังเลใจอยูซ่ กั พัก เขายื่นมือของเขาออกไปและสัมผัสเบาๆกับจุดแสงที่เล็กที่สดุ
และอยูใ่ กล้ กบั เขา
เมื่อได้ สมั ผัสกับมัน, จุดแสงไหลเข้ าสูป่ ลายนิ ้วของหลินหมิงในทันที หลินหมิงไม่มีเวลาแม้ แต่
จะตอบสนองในที่เกิดขึ ้นได้ ทนั เขารู้สกึ ราวกับว่ามีค้อนหนักๆกดเขาลงอย่างรุนแรง จู่ ๆ เขาร้ อง
ออกมาเสียดังและล้ มลงกับพื ้น
“อ๊ ากกกกก!”
หลินหมิงจับหัวของเขาเอาไว้ แน่น เขารู้สกึ ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างหมดยํ่ายีจิตใจของเขา
ความเจ็บปวดที่ทะลุทะลวงเข้ ามาหลินหมิงหวังว่ากะโหลกศีรษะของเขาคงไม่ระเบิดไปเสีย
ก่อนที่ความเจ็บปวดจะหมดไป!
เขาไม่สามารถต้ านทานมันได้ ! หลินหมิงรู้สกึ ราวกับว่าเขากําลังจะถูกดูดกลืน!
ดูดกลืน?
อย่างนี ้นี่เอง! นี ้จะต้ องเป็ นเศษเสี ้ยวของจิตวิญญาณที่มีสญ
ั ชาตญาณแห่งธรรมชาติ มัน
พยายามที่จะกินห่วงสติของเขา!
“ให้ ตายสิ!”
เมื่อตระหนักถึงความเป็ นจริ งนี ้ หลินหมิงก็ตื่นตระหนกอยูซ่ กั ครู่หนึง่ แต่ก็สงบตัวลงทําที สิ่งที่
คุกคามเขาเป็ นเพียงเศษเสี ้ยว ของจิตวิญญาณ นอกจากนี ้มันยังไร้ ซงึ่ ชีวติ มันจะทําให้ เขาต้ อง
สูญเสียสติไปไปอย่างนันหนะหรอ?

หลินหมิงคํารามออกมา กําหมัดของเขาชกไปที่หน้ าของเขาทําให้ เลือดไหลออกมาเพื่อ
รักษาการคงสติของเขาเอง! หัวใจของเขาเต้ นอย่างรุนแรงหา!
ปฏิญาณที่เขาเลือกในเส้ นทางแห่งวิถีการต่อสู้จะต้ องมาจบลงที่นี่?
หลินหมิงคิดเกี่ยวกับวิธีกําจัดเศษเสี่ยวจิตวิญญาณที่ไร้ ชีวิต ที่เขาทําได้ ทงหมดเพี
ั้ ยงกัดฟั นของ
เขาและยึดมัน่ ในตัวตนที่เขามี ภาพต่างๆไหลลงไปในห่วงของสติของเขา ทําให้ เกิดอย่างปวด
อย่างทารุณจนทําให้ เขาหมดสติ แต่เขายังคงกัดฟั นและรักษาเขาสติของเขาไว้ พร้ อมกับจิตใจที่
เด็ดเดี่ยวในหนทางแห่งวิถีการต่อสู้ของเขา!
หลังจากผ่านไปเป็ นเวลานาน ความทรมานจางหายไปอย่างช้ าๆ ในที่สดุ หลินหมิงก็ตื่นขึ ้นจาก
ความฝั นของเขา เขาเปิ ดตาของเขามองออกไปก็พบรุ่งอรุณยามเช้ าและเต็มไปด้ วยเหงื่อบน
ร่างกาย ที่นอนเปี ยกชุ่มและฝ่ ามือของเขาเกิดเลือดจากการบีบที่แน่นเกินไป!
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ ้นทังหมดนี
้ ้ หลินหมิงมัน่ ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ ้นมิใช้ เพียงแค่ความฝั น ไม่มีฝันร้ ายใด
ที่อาจจะก่อให้ ผลกระทบเช่นนี ้ได้
เขาสงบจิตใจไตร่ตรองอย่างไม่หวาดหวัน่ วิญญาณของคนประกอบด้ วยสองส่วน:จิตสํานึกและ
ความทรงจํา เมื่อสํานึกตายวิญญาณก็จะไร้ ซงึ่ ชีวติ จิตวิญญาณที่ไร้ ซงึ่ ชีวิตเท่านันที
้ ่จะมี
สัญชาตญาณ จิตวิญญาณ(จุดแสงนัน่ แหละ)ที่เขาได้ สมั ผัสมีขนาดเพียงครึ่งหนึง่ ของข้ าวเม็ด
เล็กๆ และยังเกือบถูกกลืนหายไปกับมันช่างน่ากลัว! ถ้ าหากเขาได้ สมั ผัสจุดที่ใหญ่กว่านี ้เขา
อาจไม่ได้ กลับมาเหมือนที่เป็ นอยูต่ อนนี ้!
ลูกบาศก์นี ้มันอันตรายมากเกินไป!
ลูกบาศก์มีความอันตรายเกินไปหลินหมิงจึงคิดหาวิธีจดั การกับมัน ใบหน้ าของเขาเปลีย่ นไป
ในทันที เอ๊ ะ… ห่วงสติ … !
มันเต็มไปด้ วยบางสิ่งมากมายอยูภ่ ายใน!
บรรทัดของอักขระ… จารึก …ภาพสลัก … สัญลักษณ์แปลกประหลาดต่างๆ อักขระลึกลับที่ดู
เหมือนจะเป็ นวิชาที่มีทรงพลัง…
มันเป็ นสิ่งใดกันแน่?
นี่อาจจะเป็ นความทรงจําแห่งจิตวิญญาณ ที่ไร้ ชีวิตดวงนัน?

มันทําให้ หลินหมิงตกใจ เขามีรางสังหรว่าความทรงจําเหล่านี ้จะมีคา่ เกินกว่าจะเทียบกับภูเขา
แห่งทรัพย์สมบัติเสียอีก …
แม้ วา่ มันจะเข้ ามาในห่วงสติของเขาแล้ ว แต่ความทรงจํานันก็
้ ยงั ที่ความซับซ้ อน มันไม่ใช่สิ่งที่
หลินหมิงจะจัดการเองได้ อย่างที่เขาต้ องการ ความทรงจําเหล่านันจํ
้ าเป็ นต้ องได้ รับการชําระ
ล้ างและบูรณการต่อไป
ในขณะที่ทําเช่นนันหลิ้ นหมิงไม่สนใจความทรงจําเกี่ยวกับอักขระและจารึก ความทรงจําเหล่านี ้
เป็ นสิง่ เล็กๆน้ อยๆและยุง่ เหยิง แต่ที่น่าสนใจคือความทรงจําที่ดเู หมือนจะเป็ นอาวุธให้ กบั เขาได้
จัดเป็ นเรื่ องน่าสนใจสําหรับหลินหมิง มีบางสิ่งที่เขาต้ องการ บางสิ่งที่จําเป็ นสําหรับเขา เขา
ยังคงค้ นหาในห่วงสติตอ่ ไปและในที่สดุ ก็เขาก็ได้ พบมัน: วรยุทธการฝึ กทางกายภาพ – วรยุทธ
จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล!
มรดกวรยุทธ!
เหตุผลที่สํานักลิขิตฟ้าต่อยตํ่ากว่าสํานักเจ็ดแก่นแท้ คืออะไร? เหตุผลนันก็
้ คอื มรดกวรยุทธ!

บทที่ 4 มรดกวรยุทธ
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
***ต่อจากนี ้จะใช้ คําว่า ขันผสานชี
้ พชร แทน ขันควบแน่
้ นชีพจร เพื่อความสละสลวยและความ
ลื่นไหลในการอ่านนะครับ***
สํานักลิขิตฟ้ามีประวัติศาสตร์ ความเป็ นมาเพียงสิบแปดปี ตรงข้ ามกับสํานักเจ็ดแก่นแท้ ที่ก่อตัง้
โดยเจ็ดผู้เชี่ยวชาญจากสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่มีประวัติศาสตร์ ความเป็ นกว่าหกร้ อยปี ซึง่ มีมรดก
ทักษะมากมาย!
ผู้ที่ฝึกมรดกวรยุทธ์จากสํานักลิขิตฟ้ามีความหวังเล็กๆน้ อยๆ ที่บรรลุขนควบแน่
ั้ นชีพจร แต่
สําหรับสํานักเจ็ดแก่นแท้ แล้ ว ราวกับฟ้ากับเหว เพียงมีทกั ษะขันต้
้ นระดับสี่ ก็สําเร็ จขันผสานชี
้ พ
จรได้ อย่างง่ายดาย ด้ วยแนวทางการฝึ กที่ดีของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ไม่ใช่เรื่ องยากเลยที่จะทําได้
เกือบทุกคน!
สําหรับหลินหมิงเขาแม้ ไม่มีแนวการฝึ กที่ดี แนวทางทังหมดของเขามี
้ เป็ นแนวทางการฝึ กแบบ
‘มือใหม่’ ‘ ทุกวันเขาจะฝึ กฝนโดยการเจาะลําต้ นของต้ นไม้ และแร่เนื ้อสัตว์นี่เป็ นแนวทางการ
ฝึ กของหลินหมิง!
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวทางการฝึ กขึ ้นอยูก่ บั ตัวเขาเอง จากการฝึ กหนักบ้ าง จากงานต่างๆ
บ้ าง ทีละขันๆจนกระทั
้ ง่ เขาสําเร็จการฝึ กฝนกายภายขันแรก!

สําหรับเขามรดก วรยุทธเป็ นสิ่งสําคัญยิ่ง!
หลินหมิงตืน่ เต้ นอย่างมากและเขาตะกละตะกลามที่จะศึกษาความรู้เกี่ยวกับมรดกวรยุทธ์นี ้
หลังจากนันไม่
้ นาน วรยุทธ์จดุ สูงสุดแห่งความโกลาหลก็ทําให้ เขาประหลาดใจอีกครัง้ !
‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เป็ นวรยุทธระดับสุดยอดของการฝึ กฝนทางกายภาพจาก
อาณาจักรพระเจ้ า อย่างไรก็ตามแม้ วา่ จะเป็ นระดับสุดยอดก็เป็ นเพียงฝึ กฝนทางกายภาพ ทํา
ให้ ไม่ใช่สิ่งมีคา่ มากนักในอาณาจักรพระเจ้ า เหตุผลหลินหมิงประหลาดใจเป็ นเพราะในที่สดุ เขา
ก็ได้ เข้ าใกล้ อาณาจักรพระเจ้ า
อาณาจักรพระเจ้ าเป็ นดินแดนที่มีมรดกอารยธรรมหลายร้ อยล้ านปี ทังการฝึ
้ กฝนทางกายภาพ,
ศิลปะการต่อสู้, ทักษะจารึกอักขระต่าง ทังหมดได้
้ ผ่านการพัฒนาและปรับปรุงให้ ดีขึ ้นตลอด
ช่วงเวลาที่ผา่ นมา มันเป็ นโลกที่สงวนไว้ สําหรับผู้แข็งแกร่งในวิถีแห่งการต่อสู้! ความสามารถ
และความแข็งแกร่งของพวกเขานันไม่ ้ อาจเป็ นสิ่งที่หลินหมิงจะจินตนาการได้ ในปั จจุบนั !
ดังนันวรยุ
้ ทธ์จดุ สูงสุดแห่งความโกลาหลจะเป็ นสิง่ ลํ ้าค่าเพียงแค่ช่วงต้ นของการฝึ กฝนเท่านัน!

นอกจากนี ้ยังมีเศษเสี ้ยววิญญาณที่เก็บไว้ ในลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์อีกมากมาย เมื่อความแข็งแรง
ถึงระดับที่เพียงพอเขาก็จะสามารถที่จะไปดึงความทรงจําจากเศษเสี ้ยววิญญาณเหล่านันมา ้
เพิ่มได้ อีก!([พระเอกแม่งโกงกว่าหลินตงอีกWTF!!!หลินตงเจอหลินหมิงหน่อยมัยสาสส]

<<<ข้ อความข้ างต้ นนี ้มีคําหยาบคายหากต้ องการอ่านกรุณาcopyไปzoomเอาเอง)
พิจารณาทังหมดนี
้ ้หัวใจหลินหมิงรู้สกึ ตื่นเต้ นอย่างไม่น่าเชื่อ!!
ปั จจุบนั สิ่งที่หลินหมิงกลัวที่สดุ คือความทรงจําของวรยุทธ์นี ้อาจไม่สมบูรณ์(ประมานว่าคนพอ
ตายก็จะเกิดเป็ นวิญญาณที่มีความทรงจํา+จิตสํานึก แต่เมื่อตายด้ วยลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์แล้ ว
มันทําลายไม่เหลือแม้ แต่จิตสํานึกโหดชิบ ความทรงจําของคนๆนันเองก็ ้ แตกเป็ นหลายๆเศษ
เสี ้ยว ซึง่ ความทรงจําในลูกบาศก์ศกั ดิ์ก็เป็ นของพวกหมื่นนักรบที่โคตรเก่งที่โผล่มาในดินแดน
หิมะในปฐมบทอะแหละ เลยกลายเป็ นว่าพระเอกมีความทรงจําของนักรบในอาณาจักรศักดิ์ทงั ้
หมื่นตน แต่ตอนนี ้มันเข้ าไปเอามาแค่เสี ้ยวเล็กๆของนักรบคนหนึง่ )เพราะว่าความทรงจําที่เข้ า
ได้ มาเป็ นเพียงส่วนเล็กๆของคนๆหนึง่ มันจะเป็ นที่น่าเสียดายหากมันเป็ นเช่นนัน้ โชคดีที่ใน’
จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เขาเห็นว่ามันครบเหมือนเดิม มีการฝึ กทางกายภาพทังความ ้
แข็งแรง สร้ างกล้ ามเนื ้อ อวัยวะภายใน ดัดแปลงกล้ ามเนื ้อ ดัดกระดูก และผสานชีพจร ครบทัง้
6ขัน้
เป็ นความจริงที่น่าแปลกใจสําหรับหลินหมิง ในทวีปนภาลินไหล(น่าจะเป็ นทวีปที่มีอาณาจักร
ลิขิตฟ้าอยู)่ โดยทัว่ ไปวรยุทธการฝึ กฝนทางกายภาพจะมีหนึง่ ขันตอนเท่
้ านัน้ ยกตัวอย่างเช่น
วรยุทธ’ดัดแปลงกล้ ามเนื ้อถ่องแท้ ’ ใช้ สําหรับบรรลุขนดั
ั ้ ดแปลงกล้ ามเนื ้อ
วรยุทธ’สูตรกระดูกทอง’ ใช้ สําหรับบรรลุขนดั
ั ้ ดกระดูก
วรยุทธ ‘พระเจ้ าเก้ าชีพจร’ ใช้ สําหรับบรรลุขนผสานชี
ั้ พจรและอื่น ๆ . แต่นี ้ ‘จุดสูงสุดแห่งความ
โกลาหล’ มีความสามารถฝึ กได้ ตงแต่ ั ้ ขนที
ั ้ ่หนึง่ ความแข็งแกร่ง ไปจนถึงขันที
้ ่หก ผสานชีพจร
แต่สิ่งที่หลินหมิงเห็น ก็ยิ่งทําให้ เขาตกใจมากยิ่งขึ ้นไปอีก!!!
ภายทวีปนภาลินไหล ขันผสานชี
้ พจรคือจุดสิ ้นสุดของขันตอนการฝึ
้ กฝนทางกายภาพ จากนัน้
จะก้ าวเข้ าสูร่ ะดับปราณฟ้า ระดับปราณฟ้าแบ่งเป็ นขันต้
้ นฟ้าและขันปลายฟ
้ ้ า สําหรับคนส่วน
ใหญ่ที่มีชีพจรการควบแน่นจะเป็ นเหมือนคอขวดหากพวกเขาไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้ คน
เหล่านี ้จะตกลงไปติดอยูใ่ นขันดั
้ ดกระดูกตลอดไป
ขันผสานชี
้ พจรเป็ นข้ อจํากัดของระดับกายภาพ นัน่ คือความรู้ที่ได้ รับการยอมรับโดยทัว่ กัน
อย่างไรก็ตามตามที่ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ มีตอ่ อีกขันตอนหนึ
้ ง่ นอกเหนือจากการ
ควบแน่นชีพจร – ผ่อนไขกระดูก!
้ อนกระดูกมีอยูจ่ ริ งๆ ! แปดประตูแห่งสวรรค์ที่ซอ่ นอยูส่ อดคล้ องกับกายาศักดิ์สิทธ์ทงเก้
ขันผ่ ั ้ า!
หากสามารถเปิ ดแต่ละประตูทงแปด ั้ มันก็ทะลวงฝ่ าขีดจํากัดของร่างกายและการเข้ าถึงระดับที่
สูงขึ ้นของความแข็งแกร่ง!
แม้ จะไร้ ซงึ่ ขันผ่
้ อนไขกระดูกและประตูทงแปด ั้ มันก็ยงั ทําให้ เข้ าก้ าวสูร่ ะดับปราณฟ้าได้ และ
หากมีสองสิง่ ข้ างต้ นนี ้ด้ วยแล้ วคงจะทําให้ เหนือกว่าผู้อื่นที่อยูใ่ นระดับเดียวกันหรื อกระทังใน

ระดับสูงกว่า ช่างเป็ นประโยชน์ที่ชดั เจนอย่างแท้ จริ ง!
เมื่อตระหนักได้ เช่นนี ้ หลินหมิง เข้ าใจอย่างถ่องแท้ วา่ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เป็ นสมบัติ
อมตะ!
หลินหมิงรู้สกึ ตื่นเต้ นเร่าร้ อนที่จะเริ่ มต้ นการฝึ กซ้ อม แต่ก่อนที่เขาจะได้ เริ่ม กระเป๋ าของเขา
ลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์ลกู นันทํ
้ าให้ เขาต้ องประหลาดใจ มันได้ หายไปเสียแล้ ว!(อ้ าว! ไม่มีลกู บาศก์ก็
หมดประโยชน์ละมึงจะเอาอะไรไปสู้หลินตงหละ ฮ่าๆ นัง่ แปลมาทังเรื
้ ่ องขนาดนี ้ลูกบาศก์
หายไปลูกเดียวนี ้ไปไม่เป็ นเลย 5555)
หลินหมิงตกใจกลัวและหยาดเหงื่อเริ่มไหลออกมา มือของเขาควานหาไปมาโดยรอบ และรู้สกึ
ว่าบางสิ่งบางอย่างที่แปลกบนหน้ าอกของเขา เขาถอดเสื ้อผ้ าของเขาและพบสัญลักษณ์แปลกๆ
บนผิวของหน้ าอกซ้ ายของเขา สัญลักษณ์เป็ นเหมือนกับสัญลักษณ์ลกึ ลับของพื ้นผิวของ
ลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธิ์
ก้ อนเมจิกฝั งเข้ าไปในร่างกายของเขา? หลินหมิงจําได้ วา่ ผู้หญิงผู้บริ สทุ ธิ์ได้ เรี ยกลูกบาศก์ศกั ดิ์
สิทธ์ออกมาจากฝ่ ามือของเธอ มันก็ไม่น่าแปลกใจหากเธอจะทําอย่างนันได้ ้ แต่หลินหมิงไร้ ซงึ่
เงื่อนงําของวิธีที่จะเรี ยกมัน
หลินหมิงพยายามที่จะเรียกลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์ แต่ก็ไม่มีประโยชน์ หลินหมิงรู้สกึ ผิดหวัง
เล็กน้ อย หลังจากที่แต่ละคนมีชิ ้นส่วนจิตวิญญาณจํานวนมากดังนันภายในลู้ กบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์
จะต้ องมีความทรงจํามหาศาล เขาได้ สมั ผัสเพียงที่เล็กที่สดุ ที่มีเพียงแสงสลัวๆ ยังได้ รับสิ่งลํ ้าค่า
ขนาดนี ้ ถ้ าหากเขาได้ เข้ าไปอีก ไปเอาเศษเสี ้ยวความทรงจํามากอีก ปริ มาณของสมบัติที่เขาได้
ครอบครองจะมหาศาลเพียงใด
เมื่อคิดได้ เช่นนัน้ จู่ๆหลินหมิงก็ทรุดตัวลง เขาได้ ลืมไปว่า แม้ เป็ นเพียงชิ ้นส่วนที่เล็กที่สดุ ของจิต
วิญญาณไร้ ชีวิตยัง กลืนเกือบจะกลืนกินจิตสํานึกของเขาแล้ วไปแล้ ว หากเป็ นสิง่ ใหญ่กว่ามี
แนวโน้ มที่จะสามารถที่จะกําจัดทันทีเขา! หลินหมิงฝั นสลาย!!!
เขาอาจเข้ าใจวิธีเรี ยกลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์และสามารถทนการกลืนกินจิตสํานึกของความทรงจํา
ได้ เมื่อได้ ไปถึงระดับที่สงู ขึ ้น สิ่งที่เขาต้ องทําในขณะนี ้คือการฝึ ก ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’
ให้ เร็ วที่สดุ เท่าที่เป็ นไปได้
หลินหมิงเลิกพยายามที่จะเรี ยกลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์และเริ่ มศึกษามรดกวรยุทธ์จากอาณาจักร
พระเจ้ า
สิ่งสําคัญของ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ คือการเปลี่ยนร่างกายทุกส่วนให้ เป็ นอาวุธของที่มี
ความแข็งแรงได้ อย่าน่าตกใจ
นอกจากนี ้ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ยังเน้ นวิธีที่ใช้ ความแข็งแรงชันแรกของการฝึ
้ กอบรม
ความแข็งแรงอยูแ่ ล้ วแตกต่างกันไกลจากบรรทัดฐาน
โดยทัว่ ไปเมื่อมีผ้ ใู ดมีแรงพันจิ๋น (604 กิโลกรัม) ผู้นนจะประสบความสํ
ั้ าเร็ จในการฝึ กกับต้ นไม้
แต่’จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ไม่เพียงแต่การฝึ กฝนด้ านความแข็งแรง แต่ยงั ฝึ กด้ านแม่นยํา,
การควบคุมพลังที่ใช้ หากผู้ใดเข้ าใจและประสบความสําเร็ จ มันผู้นนจะสามารถใช้
ั้ ฝ่ามือฟาด
ทะลวงลําต้ นของต้ นไม้ ทะลุไปถึงชันเยื
้ ่อไม้ ได้ อย่างง่ายดาย!

สามวันต่อมา
ที่ตีนเขาของภูเขาโจวมีพระจันทร์ เต็มดวงส่องสว่างกลางฟากฟ้า หลินหมิงยืนหลับตาอยูบ่ นที่
ราบพื ้นหญ้ า เขาสูดลมหายใจเป็ นจังหวะ ไม่มีใครรู้วา่ เขาอยูม่ านานเพียงใด เป็ นดัง่ เหมือน
ประติมากรรมส่องสว่างทร่ามกลางแสงจันทร์
เขาฝึ กฝน ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เกิดการไหลเวียนของพลังงานที่แท้ จริ ง เมื่อความ
เข้ าใจที่สําคัญของมันคือความเพียร ทําให้ ความความแข็งแกร่งและความคงทนพัฒนาขึ ้นอย่าง
มากในระดับที่เหนือกว่าผู้อนื่ ในขันเดี
้ ยวกัน!
ภายใต้ ลมยามคํ่าคืน ต้ นหญ้ ามากมายพลิ ้วไหวเป็ นคลืน่ การหายใจของหลินหมิงเป็ นไปตาม
ลูกคลื่นเหล่านี ้นราวกับว่าเขาได้ กลายเป็ นหนึง่ เดียวกับธรรมชาติโดยรอบ
หยดนํ ้าค้ างกลัน่ ตัวบนใบไม้ เหนือหัวของหลินหมิง กลัน่ ตัวอย่างช้ าๆ ในที่สดุ ก็หลดลงมา
หลินหมิงที่เดิมทียืนอยูน่ ิ่งๆก็เปิ ดตาของเขา เขาเหยียดแขนขวาออกไปช่วยให้ หมดนํ ้าค้ างไปอยู่
ที่ปลายนิ ้วของเขา จู่ๆมือข้ างขวาของหลินหมิงก็กําหมัด ไหล่และต้ นขาของเขาเคลื่อนไปสู่
ตําแหน่งที่เหมาะสมและออกหมัดในทันที
“บูม!”
เกิดเสียงดังก้ องกังวาน ลําต้ นของต้ นไม้ หนาข้ างหน้ าหลินหมิงสัน่ สนัน่ หวันไหว ร่องรอยของ
กําปั น้ ปรากฏท่ามกลางฝุ่ นเป็ นวงบนเนื ้อไม้ !
หลินหมิงหายใจออกและปล่อยกําปั น้ ของเขา ทําให้ นํ ้าค้ างสาดกระเซนลงมา “ปา ดา”(เสียง
นํ ้าค้ างกระทบพื ้น) เสียงนันดั
้ งมาจากพื ้นหญ้ าหยดนํ ้ากระจัดกระจาย
เกิดรอยยิ ้มโผล่ออกมาบนใบหน้ าของหลินหมิง
เมื่อใช้ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ได้ สมบูรณ์แบบแล้ วหยดนํ ้าค้ างจะพุง่ ออกมาด้ วยกันโดย
ไม่เกิดเป็ นสะเก็ด แม้ วา่ ปั จจุบนั เขาเข้ าใจยังทําไม่ได้ แต่ในอนาคตเขาต้ องทําให้ สําเร็จ
นอกจากนี ้ยังได้ ทิ ้งรอยกําปั น้ ลึกลงไปครึ่งฝ่ าเท้ าบนต้ นไม้ เหล็ก สามวันก่อนการชกที่ดีที่สดุ ทํา
ได้ เพียงครึ่งนิ ้วเท่านัน้ ผลสัมฤทธิ์ในนการฝึ กฝนปั จจุบนั ทังหมดเกิ
้ ดจากการ ‘จุดสูงสุดแห่ง
ความโกลาหล’
ในทังสามวั
้ นนี ้หลินหมิงฝึ ก’จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ไม่หยุดและในที่สดุ ก็ประสบ
ความสําเร็ จในการเข้ าถึงช่วงเริ่ มต้ น ในความเป็ นจริ งหลินหมิงต้ องขอบคุณที่ความทรงจําของ
นักรบระดับสูงผู้นนั ้ ทําให้ ได้ รับเป็ นประโยชน์อย่างมากในการฝึ กฝนของหลินหมิง แม้ เข้ าจะมี
ความทรงจํา’จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ แต่หลินหมิงก็ต้องโดยใช้ ร่างกายของเขาเอง
เนื่องจากการฝึ กอย่างบ้ าคลัง่ เขามีอตั ราการบริ โภคสมุนไพรสูงขึ ้นมาก ด้ วยอัตรานี ้โสมเลือด
ของเขาจะหมดไปในเวลาครึ่งเดือน
ตอนนี ้เขามีแนวทางฝึ กฝน แต่ยงั คงต้ องเผชิญกับปั ญหาสมุนไพรไม่เพียงพอ …
อีกสองวันผ่านไป ความแข็งแกร่งของหลินหมิงก็เติบโตขึ ้นอีก ปั จจุบนั หลินหมิงก็สามารถที่จะ
แร่เนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายระดับหนึง่ ได้ อย่างง่ายดาย สําหรับเขาแม้ จะต้ องบดสัตว์ดรุ ้ ายระดับสองทังห้
้ า
ตัวพร้ อมกันยังถือว่าไม่ยากเกินไป
….
เช้ าวันหนึง่ หลินเซี่ยวตง มาถึงศาลาจันทร์ กระจ่างเพื่อพบหลินหมิง เขาเคยบอกหลินเซีย่ วตง
ก่อนหน้ านี ้ว่าเขากําลังทํางานอยูใ่ นศาลาจันทร์ กระจ่าง แม้ วา่ หลินเซี่ยวตงจะไม่เห็นด้ วยที่เขา
จะไปที่นนั่
“ไปงานศิลปะการต่อสู้ประจําปี ?” หลินหมิงรู้สกึ ตกใจที่ได้ ยินคําชวนของหลินเซี่ยวตง
“ที่นนั่ มีนกั รบมากมายและเหล่าขุนนางชันสู
้ ง ที่นนไร้
ั ้ ซงึ่ สิ่งของหายากจะมีก็เพียงสิ่งของหา
้ ”
ยากโครตๆเท่านัน!
หลินหมิงยักไหล่และตอบว่า “จะเอาทองจากไหนไปซื ้อของเหล่านันหละ
้ ณ ตอนนี ้ข้ ามีอยูเ่ พียง
ยี่สิบเหรี ยญทอง ”
“ไม่จําเป็ นว่าสามารถซื ้อได้ หรื อไม่ เราเพียงไปดูรอบๆ ใช้ เวลานี ้เก็บประสบการณ์ นอกจากนี ้
เราจะเข้ าสูส่ าํ นักเร็วนี ้ อย่างน้ อยเราต้ องมีอาวุธที่ดี แม้ วา่ ข้ าจะไม่สามารถซื ้ออาวุธระดับสูง
แพงๆได้ ข้ าก็ยงั สามารถที่จะซื ้ออาวุธระดับกลางส่วนใหญ่ได้ ”
และแล้ วหลินเซี่ยวตงก็ไม่ผิดหวัง หลินหมิงเลือกที่ไปกับเขา เพราะที่กล่าวมาทังหมดล้
้ วนเป็ น
ประสบการณ์ที่มีประโยชน์
ขณะออกเดินทาง หลินเซี่ยวตงพูดเรื่องงานศิลปะการต่อสู้ประจําปี ไม่หยุด เขาเป็ นคนที่ค้ นุ เคย
กับรายละเอียดของงานเป็ นอย่างดี ขณะที่พวกเขากําลังเดินทางอยูใ่ นซอยหลินหมิงก็หยุดลง
และวางมือบนไหล่ของหลินเซี่ยวตง
“มีอะไรไม่ชอบมาพากลหรื อ?” หลินเซี่ยวตงถาม
“มีใครบางคนกําลังล้ อมเราไว้ ” หลินหมิงถึงมีดแร่เนื ้อที่เอวของเขาออกมา ต้ องขอบคุณการ
ฝึ กฝนของเขา’จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ หลินหมิงมีความสามารถในการรับรู้เพิ่มขึ ้นอย่าง
มาก
เขาเดาได้ วา่ มันเป็ นใคร หลายวันก่อนเขาได้ ทําร้ ายคนที่ใส่ตา่ งหูลิง ตอนนี ้มันผู้นนก็
ั ้ ได้ ตดั สินใจ
ที่จะเผยตัวตนออกมา ขณะที่หลินหมิงเองก็เตรี ยมพร้ อมรับมือเอาไว้ แล้ ว
บทที่ 5 การเดิมพัน
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ทันใดนันเองหลิ
้ นหมิงหยุดเคลื่อนไหว เกิดเสียงที่คมชัดดังออกมาจากในตรอกซอย “หึหึ ไม่คิด
มาก่อนเลย แกเองก็ระมัดระวังตัวดีเหลือเกินนะ แกคือหลินหมิงใช่ไหม? “วัยรุ่นสวมชุดผ้ าไหม
ค่อยๆเดินออกมาจากด้ านหลังของหอพัก มีรอยยิ ้มอย่างดูถกู บนใบหน้ าของเขา ด้ านหลังของ
เขามีชายห้ าคนอายุประมาณสิบแปดปี ตามมา พวกเขาทังห้ ้ าส่วนใหญ่อยูใ่ นขันแรกของฝึ
้ กฝน
ทางกายมีเพียงคนเดียวที่อยูใ่ นขันที
้ ่สองเช่นเดียวกับคนที่ใส่ชดุ ผ้ าไหมคนแรกที่แสดงตัวออกมา
ก่อน
ในสถานการณ์เช่นนี ้จูๆ่ หลินเซี่ยวตงก็ตื่นตระหนก เขาจําชายในชุดผ้ าไหมได้ มันเป็ นสมุนคน
หนึง่ ของจู้ยนั ที่เห็นในช่วงลงทะเบียนของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ไม่วา่ ใครก็บอกได้ วา่ มันมาที่นี่เพื่อ
หาเรื่ อง
พวกเขามีทงหมดหก
ั้ มีสองคนที่มีการฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สองและอีกสี่คนมีการฝึ กผลกายภาพ
ขันแรก
้ สําหรับเขาและหลินตงพวกเขาทังสองเพี
้ ยงระดับการฝึ กฝนทางกายภาพขันแรก ้ หาก
เกิดการการต่อสู้กนั แล้ วแน่นอนว่าพวกเขาจะจบลงด้ วยการถูกทําร้ ายฝ่ ายเดียว วัยรุ่นในชุดผ้ า
ไหมต้ องเป็ นนักสู้จากตระกูลที่มีฐานะอยูบ่ ้ างในเมืองลิขิตฟ้า คนเหล่านี ้มีทงพละกํ
ั้ าลังและ
อํานาจ ขณะที่พวกเขาต้ องเคารพกฏหมาย แต่คนพวกนี ้มีเส้ นสายสามารถรังแกหรื อทําร้ ายใคร
ก็ได้ ตามใจชอบ
“พวกแกต้ องการอะไร?” หลินเซี่ยวตงตะโกนออกมาด้ วยความโกรธเกรี ย้ ว
“ไปถามมันเองสิ” ชายในชุดผ้ าไหมชี ้ไปที่หลินหมิง “แกค่อนข้ างน่าประทับใจที่กล้ าทําร้ าย
หนึง่ ในสมุนของข้ า จนมันบอบชํ ้าไปทังตั
้ ว ผิวหนังเต็มไปด้ วยรอยฟกชํ ้า กระดูกซี่โครงหักไปถึง
สองซี่ ”
สําหรับชายชุดผ้ าไหมที่มาจากตระกูลที่มีฐานะอาจไม่จําเป็ นต้ องเห็นค่าชีวิตของลูกน้ อง แต่
เมื่อพูดถึงชื่อเสียงของพวกเขามันก็เป็ นอีกเรื่ อง นอกจากนี ้สมุนนัน่ ได้ รายงานว่ามันได้ พดู ชื่อ
ของชายในชุดผ้ าไหม แต่ก็ยงั จบลงด้ วยการถูกทําร้ าย แสดงให้ เห็นว่าหลินหมิงดูถกู ชื่อเสียง
ตระกูลของมัน จึงเป็ นสิ่งที่ทําให้ ชายชุดผ้ าไหมที่โกรธแค้ น
“แกก็พอจะมีฝีมือนี ้ ข้ าหวังยี่เกา! วันนี ้ข้ าอยากจะดูวา่ แกจะไปได้ ซกั แค่ไหน! “วัยรุ่นในเสื ้อผ้ า
ไหมกล่าว ด้ วยใบหน้ าที่โมโห
หลินหมิงไม่เคยได้ ยินชื่อหวังยีเกามาก่อนทังยั
้ งไม่เคยเหยียบยํ่าชื่อเสียงอันใดเลย สมุนส่วน
ใหญ่มกั จะตอแหลเพื่อที่จะกระตุ้นหวังยี่เกา หลินหมิงจึงหมดโอกาสที่จะได้ อธิบายความจริ ง
ไม่วา่ อย่างไรก็คงต้ องเกิดการต่อสู้ขึ ้น!!
‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’จะได้ ทําประโยชน์ก็ตอนนี ้แหละ!! แต่หลินหมิงเพิ่งเริ่ มฝึ กมันได้
ไม่กี่วนั มันยังคงยากเกินไปที่จะสู้กบั คนจํานวนมากเช่นในเวลานี ้ ยิ่งพวกมันทังสองมี
้ การฝึ กฝน
ทางกายภาพอยูใ่ นขันที้ ่สอง ไม่ต้องพูดถึงหลินเซี่ยวตง คงต้ องถูกจับเป็ นตัวประกันเป็ นแน่
พิจารณาถึงภาพรวม เมื่อเรื่ องนันเกิ้ ดขึ ้นเขาต้ องถูกบังคับให้ ต้องสู้กบั วังยี่เกาแน่นอน ต่อให้ เขา
ชนะได้ ขึ ้นมาเขาก็ยงั เดือดร้ อน ปั ญหาต่อไปจะมาจากพ่อของหวังยี่เจา พ่อมันเป็ นหัวหน้ า
กองทัพของเมืองลิขิตฟ้า หลินหมิงสงสัยว่าบุคคลนี ้เองก็คงไม่ฟังเขาอธิบายความจริ ง
เช่นเดียวกัน จากการคํานึงถึงปั ญหาต่างๆเขาก็ไม่ควรทําตัวให้ เป็ นที่น่าจับตามองของบุคคล
เหล่านัน้
(ผู้แปลขออภัย:คนที่มาแย่งที่พกั หลินหมิงเป็ นลูกน้ องหวังยี่เจา “มันขูว่ า่ นายน้ อยมันเป็ นลูกคน
ที่สองของแม่ทพั แห่งเมืองลิขิตฟ้า” จากเดิมที่แปรผิดเป็ น “มันขูว่ า่ ลูกคนที่สองของมันอยู่
กองทัพกลาโหม” ต้ องขออภัยท่านผู้อา่ นไว้ ณ ที่นี ้ด้ วย)
หลินหมิงครุ่นคิด ทันใดนันก็
้ จดุ ประกายความคิดภายในหัวของเขาถึงวิธีที่จะแก้ ไขปั ญหานี ้ เขา
หันหน้ าไปทางหวังยี่เกา
“เจ้ าต้ องการอะไร?”
“ข้ าต้ องการอะไรงันรึ
้ ?”หวังยี่เกา หัวเราะออกมาทันที
“เจ้ ายังกล้ าถามอีกหรื อ ว่าข้ าต้ องการอะไร?”
พวกชายหนุม่ ที่มากับเขาต่างพากันหัวเราะออกมา ในสายตาของพวกมันหลินหมิงไม่แตกต่าง
จากคนโง่เง่าเพราะคําถามที่เขาได้ ถามออกไป
หลังจากหัวเราะไปสักครู่ ในที่สดุ หวังยี่เกาก็หยุดและกล่าวว่า “ข้ าไม่แน่ใจว่าควรจะเรี ยกแกว่า
ไอ้ หน้ าโง่หรือหมาหน้ าโง่ดีตงแกถามประโยคนั
ั้ นออกมา
้ ข้ าจะเมตตาให้ โอกาสแกซักครัง้ ”
หวังยี่เกาพูดอย่างโหดเหี ้ยม “เพียงแค่คกุ เข่าลงแล้ วเลียเท้ าของข้ าให้ สะอาด จากนันหั
้ กแขน
้ ”
หักขาอย่างละข้ าง ถ้ าแกยอมทําข้ าจะลืมเรื่ องนันไป
ได้ ยินเงื่อนไขของหวังยี่เกา หลินเซี่ยงตงถึงกลับโกรธแค้ น “ไอ้ หา่ เอ้ ย พี่หมิงไม่มีความ
จําเป็ นต้ องคุยกับพวกมัน สู้กบั มันเลยดีกว่า ตระกูลหลินแห่งเมืองใบหม่อนสีเขียวไม่ได้ ออ่ นแอ
ดูซิมนั จะกล้ าทําอะไรเราได้ ! ”
หลินเซี่ยวตง รู้วา่ พวกเขาจะต้ องทนทุกข์ทรมานอย่างน่าสังเวชในวันนี ้ ทังหมดที
้ ่เขาทําได้ ก็คือ
ใช้ ชื่อเสียงของครอบครัวของเขาและหวังว่าพวกนันจะเกิ
้ ดความกลัวขึ ้นมาบ้ าง ความเจ็บปวด
ทางกายคงไม่ได้ เป็ นปั ญหา แต่หากพวกเขาต้ องพิการมันจะเป็ นจุดจบของวิถีแห่งการต่อสู้
พวกเขาไม่อาจฟื น้ ฟูกลับมาสมบูรณ์ได้ แม้ จะมีสมุนไพรหายากแค่ไหนก็ตาม
“ตระกูลหลินแห่งเมืองใบหม่อนสีเขียว? พวกแกคิดว่าข้ าจะต้ องกลัวตระกูลหลินหรื อไม่ หลินห
มิงแกจะหักแขนหักขาแกเองหรื อต้ องให้ ข้าเป็ นคนทําให้ ? ”
“ข้ าขอท้ าเจ้ าสู้! เข้ ามาได้ เลย”หลินเซี่ยวตงก้ าวไปข้ างหน้ าอย่างมัน่ คงมือข้ างหนึง่ จับดาบของ
เขาเอาไว้ ความจริ งเขารู้สกึ กังวลอย่างมาก แต่เขาเป็ นคนจําพวกยอมหักไม่ยอมงอ ยอมตาย
เสียดีกว่าต้ องอับอาย!
หลินหมิงดึงหลินเซี่ยวตงไว้ และพูดกับหวังยี่เกา “เงื่อนไขที่เจ้ าต้ องการก่อนหน้ านี ้? ก็เป็ น
เงื่อนไขที่น่าสนใจดีนี ้ ตราบใดที่เจ้ าสามารถเอาชนะข้ าได้ ข้ าจะยอมรับเงื่อนไขของเจ้ า ”
“พี่หมิง … ” หลินเซี่ยงเกิดความกังวล แม้ เขาจะเชื่อว่าหลินหมิงเป็ นที่ประสบความสําเร็ จ
อย่างสูงในอนาคต แต่ปัจจุบนั หลินหมิงมีการฝึ กฝนกายภาพขันแรก้ จะมีวิธีเอาชนะหวังยี่เกาที่
อยูข่ นที
ั ้ ่สองของการฝึ กฝนกายภาพได้ อย่างไร? หลินเซี่ยวตง กลัวว่าหลินหมิงจะจบลงด้ วยการ
เส้ นเอ็นฉีกขาดจนพิการ
หลินหมิงกล่าว “ไม่ต้องห่วงข้ ารู้วา่ ข้ าทําอะไรอยู”่
“ท้ าประลอง?เจ้ าคิดว่าเจ้ ามีคณ
ุ สมบัติที่จะสู้กบั ข้ าได้ ?”
หวังยี่เกาไม่คิดว่าหลินหมิงจะเสนออะไรเช่นนี ้ ภายในอาณาจักรลิขิตฟ้าเจ้ าหน้ าที่ของรัฐจะไม่
แทรกแซงในการท้ าประลองระหว่างนักสู้ ดังนันความขั
้ ดแย้ งระหว่างนักสู้จะจบลงที่การท้ าปละ
ลอง ตราบใดที่ทงสองฝ่
ั้ ายตกลงพวกเขาจะกลายเป็ นผู้ชนะและผู้พา่ ยแพ้ หลังจากการต่อสู้จบ
ความขัดแย้ งจะถูกตัดสินโดยผู้ชนะ และด้ วยเกียรติแห่งวิถีการต่อสู้ ผู้แพ้ ไม่อาจตามรังควานผู้
ชนะได้ อีก เป็ นความเชื่อถือที่สําคัญอย่างยิ่ง
จากการพิจารณาของหวังยี่เกา หลินหมิงซึง่ มีเพียงการฝึ กฝนกายภาพขันแรก ้ เขาไม่เชื่อว่ามัน
้ ่ากว่าอาจเสียศักดิ์ศรี
จะทําอะไรเขาได้ แต่เขาก็ร้ ูสกึ ว่าการประลองกับหลินหมิงซึง่ อยูใ่ นขันตํ
หลินหมิงตอบ “ไม่มีสิ่งใดต้ องคิดให้ ยงุ่ ยาก มีเพียงคําถามที่วา่ เจ้ านันกล้
้ าหรื อไม่ ?”
“เจ้ ากําลังบอกว่าข้ าไม่กล้ า? เจ้ าได้ สนุกจริ งๆแน่เจ้ าพลาดเองนะ ข้ าตกลงรับคําท้ าประลอง !

หลินหมิงกล่าวว่า “เยี่ยม มาเริ่ มกันเลยดีกว่า”
ในตรอกซอยนันอยู ้ ไ่ กลเมืองยิ่งยัก ไม่มีใครที่จะรู้เห็นเป็ นพยาน หลินหมิงกลัวว่าหวังยี่เกาจะ
กลับคําพูด แต่ถ้าพวกเขาท้ าประลองในที่ที่มีฝงู ชนคนของเมืองลิขิตฟ้าแม้ จะด้ วยเหตุผลอันใด
หวังยี่เกาก็ไม่อาจกลับคําได้ เว้ นแต่วา่ เขาไม่ต้องการที่จะอาศัยอยูใ่ นเมืองลิขิตฟ้าอีกต่อไป
การท้ าปละลองระหว่างนักสู้มกั เป็ นที่น่าจับตามองและได้ รับความสนใจจากคนบริ เวณนัน้
อย่างไม่ขาดสาย ในช่วงเวลาที่คนจํานวนมากได้ เริ่ มมาชุมนุม แม้ กระทัง่ นักสู้บางคนก็ยงั
รวมอยูใ่ นผู้สงั เกตการณ์ เมื่อเห็นสองผู้แข่งขันทัง้ ฝูงชนก็เริ่ มพูดคุยกันเสียงดัง
“นันใช่
้ ลกู ชายแม่ทพั แห่งเมืองลิขิตฟ้าใช่ไหม?”
“เอาอีกแล้ ว!!! ไอ้ นี่มนั กลัน่ แกล้ งคนอื่นๆอีกแล้ ว ข้ าขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเด็ก
้ วย ”
น้ อยที่โชคร้ ายคนนันด้
“ผู้ฝึกฝนกายภาพขันแรกจะท้
้ าประลองผู้ฝึกฝนกายภาพขันที
้ ่สอง? ไอ้ เด็กนันไม่
้ หดั เจียมตัว
เอาซะเลย ”
“มันดูเหมือนว่าเด็กนันเป็
้ นเพียงคนธรรมดาสามัญ คนธรรมดาสามัญบังเอิญบรรลุฝึกฝน
กายภาพขันแรกได้
้ ช่างน่าสงสาร! โลกนี ้คงมีคนพิการเพิ่มอีกคนแล้ วสินะ … ”

ชื่อเสียงของหวังยี่เกา ในเมืองลิขิตฟ้าค่อนข้ างจะอยูใ่ นทางที่ไม่ดี คนส่วนใหญ่จงึ มักเห็นอกเห็น
ใจผู้ที่ออ่ นแอกว่า ในสายตาของพวกเขาอาจเห็นความรักความเมตตาที่มีให้ ตอ่ หลินหมิง
ผู้คนจํานวนมากต่างมาถึง หวังยี่เการู้สกึ ลําบากใจ การรังแกคนระดับตํ่ากว่าไม่มีอะไรให้ น่า
ภาคภูมิใจเลยสําหรับเขา นอกจากนี ้ตัวตนของศัตรูของเขา ก็ตํ่าเตี ้ยเลี่ยดินเกินไปเมื่อเทียบกับ
เขา ดังนันหวั
้ งยี่เกาจึงไม่อยากให้ มีผ้ พู บเห็นฉากนี ้มากนัก!
หวังยี่เกากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “แกรออะไรอยู?่ ข้ าจะทําลายเส้ นเอ็นแกให้ เอง ให้ แกได้
างเรา ”
เห็นถึงความห่างชันระหว่

เมื่อเห็นประชาชนจํานวนมากมายมารวมตัวกันรอบๆ หลินหมิงหันหน้ าไปหาหวังยี่เกา และ
ตอบว่า”แน่นอนมาเริ่ มกันเลย หากเจ้ าเป็ นผู้ชนะข้ าจะยอมรับความเมตตาจากเจ้ า(ความ
เมตตา=ความเมตตาที่หวังยี่เกาให้ โอกาสหลิงหมิงเลียเท้ าและหักแขนหักขา)แต่ถ้าหากข้ าเป็ น
ผู้ชนะจะให้ ข้าเมตตาเจ้ าบ้ างหรื ออย่างไรดี? ”
ชนะ? เขาคิดว่าเขาสามารถชนะได้ ?!!! (เสียงมวลมหาประชาชน)

บทที่ 6 การต่อสู้มือเปล่า
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
หวังยี่เการู้สกึ ว่าคนตรงหน้ าของมันต้ องมีปัญหาทางจิตบางอย่าง ในขณะที่มนั เป็ นไปไม่ได้ ที่จะ
มีผ้ ใู ดเอาชนะฝ่ ายตรงข้ ามที่อยูใ่ นระดับที่สงู กว่าของการฝึ กฝน ทังมั
้ นยังมีพรสวรรค์และความ
เป็ นอัจฉริ ยะที่ถกู สอนโดยผู้เชี่ยวชาญ
สําหรับมันหลินหมิงเป็ นเพียงชายหนุม่ ที่ยากจนยากที่จะบรรลุความแข็งแกร่งได้ สําเร็ จ ด้ วยการ
ที่มีความสามารถปานกลางของหลินหมิง มันคิดว่ามันจะชนะได้ ?
เมื่อวานนี ้มันคงลืมฝั นสินะ? ถึงได้ มาละเมอเพ้ อฝั นเอาตอนนี ้?
หวังยี่เกา ถามพร้ อมกับรอยยิ ้ม “บอกสิ่งที่เจ้ าต้ องการมาสิ?”
“ถ้ าข้ าชนะ ข้ อต้ องการโสมเลือดสองร้ อยปี พร้ อมทอง500เหรี ยญทอง”
โสมเลือดสองร้ อยปี และห้ าร้ อยเหรี ยญทอง! คนรอบทังหมดพู
้ ดต่างพูดอย่างตกใจ : ไอ้ เด็กคนนี ้
ช่างโลภมากเสียจริ ง! โสมเลือดสองร้ อยปี มีมลู ค่าถึง300เหรี ยญทอง ทังหมดนั
้ นรวมกั
้ นกว่า800
เหรี ยญทอง!
นี ้มันไม่ใช่มลู ค่าน้ อยๆเลย มันมหาศาลถึงกับทําให้ คนธรรมดาคนหนึง่ สบายไปทังชี้ วิต (ถ้ าจํา
กัน ทังครอบครั
้ วของหลินหมิงได้ มีรายได้ ปีละ120เหรี ยญทอง หลินหมิงทํางานที่ศาลาจันทร์
กระจ่างได้ เดือนละ5เหรี ยญทอง เอาไปเทียบดูนะจะได้ เข้ าใจว่าหลินหมิงมันโลภขนาดไหน
ฮ่าๆ)
“800ทองเหลียง?” หวังยี่เกากล่าวอย่างเย็นชา “แกคิดว่าอย่างแกจะมีโอกาส? ข้ าว่าแขนขา
ของแกมีคา่ มากกว่านันนะ?
้ ”
ภายในอาณาจักรลิขิตฟ้า ชีวิตของขุนนางและสามัญชนมีคา่ ไม่เท่ากัน แม้ วา่ หวังยี่เกา กําลังจะ
ฆ่าใครสักคน เขาเพียงถูกกักขังเป็ นการลงโทษ จากนันก็
้ แค่จา่ ยค่าชดเชยสองร้ อยเหรี ยญทองก็
ออกมาได้
หลินหมิงตอบกลับไป”สําหรับนักสู้อย่างเจ้ า แขนและขาคงไม่ได้ มีคา่ อะไรมากมาย ที่เจ้ าต้ อง
ทําเพียงแค่ก้าวเข้ ามาแล้ วข้ าจะหักมันให้ เจ้ าเอง”
“ไอ้ หา่ นี่! เจ้ าอยากตายนักรึ ! “หวังยี่เกาคําราม พร้ อมทังดึ
้ งดาบยาวบนเอวออกมา
ใบหน้ าของหลี่หมิงยังคงมีอารมณ์ขําในขณะที่เขาพูด “เจ้ ายังไม่ตอบรับเงื่อนไขข้ าเลย”
“เหอะ! เพียงแค่800เหรี ยญทองหนะรึ? ข้ าจะให้ แก1000 เหรี ยญทอง! แต่เจ้ าคิดว่าวันนันเจ้
้ า
จะมีชีวิตอยูห่ รื อไม่ เพียงสามกระบวนท่า ข้ าจะฆ่าเจ้ าเอง! ”
หวังยี่เกาทําให้ หลินหมิงยิ ้ม มีเงินมากขึ ้นในเดิมพัน
“ดีมากเปลีย่ นเป็ นทอง1000เหรี ยญทอง!”
ทันทีที่เขาพูดจบ หวังยี่เกาฟาดดาบยาวลงไปที่เขา
เห็นประกายแสงสะท้ อนสีทองแผ่จากดาบและเกิดเสียงดังก้ องไปหลายสิบเมตร
ทักษะต่อสู้!!
ทักษะต่อสู้คอื การใช้ พลังงานอย่างรุนแรงฆ่าศัตรู เมื่อวังยี่เกากล่าวว่าเขาจะฆ่าหลินหมิงภายใน
สามกระบวนท่า คําพูดนันไม่ ้ ได้ เป็ นเพียงอารมณ์ชวั่ วูบที่พดู ออกไป แต่เขามีความเชื่อมัน่ ใน
ความสามารถในทักษะต่อสู้ของเขา!
โอกาสที่จะได้ เรี ยนรู้ทกั ษะเหล่านี ้มีเพียงพวกที่มีอนั ดับสูงๆในตระกูลที่มีฐานะหรื อสาวกของ
สํานักต่อสู้
เมื่อทักษะต่อสู้ถกู ใช้ งาน ยากที่ผ้ ทู ี่ไม่มีทกั ษะต่อสู้จะรับมือได้ ยิ่งมีความแตกต่างในระดับการ
ฝึ กฝนกายภาพระหว่างหวังยี่เกา และหลินหมิงด้ วยแล้ ว หวังยี่เกาเชื่อมัน่ ในชัยชนะเพียงหนึง่
กระบวนท่า เหตุผลที่เขาบอกจะฆ่าหลินหมิงในสามกระบวนท่าเป็ นเพียงการสํารองไว้ เมื่อเกิด
ข้ อผิดพลาด
วังยี่เกาคาดการณ์ได้ ถกู ต้ องว่าหลินหมิงไม่ได้ เรี ยนรู้ทกั ษะต่อสู้ใดๆ หลินหมิงทําได้ เพียงใช้ การ
เคลื่อนไหวของมือเปล่าเพื่อรับมือการโจมตีจากหวังยี่เกา
เมื่อคนรอบข้ างเห็นฉากนี ้พวกเขาทังหมดก็
้ ร้ ูได้ ถงึ ผู้ชนะในการต่อสู้ทนั ที สําหรับหลินเซีย่ วตง
หัวใจของเขากังวนเป็ นอย่างมาก หลินหมิงจะหาวิธีป้องกันการโจมตีนี ้ได้ หรื อไม่?
้ เขาฝึ ก ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’
ความสนใจของหลินหมิงมุง่ ไปที่ดาบของหวังยี่เกา ตังแต่
การรับรู้ของเขาเพิ่มขึ ้นหลายเท่า ในสายตาหลินหมิงหวังยี่เกาเป็ นดังสัตว์ป่าพุง่ เข้ ามา! ไม่กี่
วันที่ผ่านมาหลินหมิงทําการหักแขนขาสัตว์ป่ามากมาย แม้ วา่ พวกมันจะตายแล้ ว การหักแขน
ขาพวกมันยังช่วยให้ เขาระบุช่องว่างระหว่างกระดูกได้ อย่างงรวดเร็ วและแม่นยํา!
ในขณะที่ดาบของหวังยี่เกาฟาดลงมา มีดของหลินหมิงก็พงุ่ ออกมา ไม่จําเป็ นต้ องกะระยะหรื อ
เล็งเป้าหมาย ทุกอย่างอยูใ่ นสัญชาตญาณของเขา มีดฟาดผ่านช่องโหว่ในการเคลื่อนไหวของ
หวังยี่เกา เกิดบาดแผลเจ็บแสบที่มีรอยเฉียงเล็กน้ อยขึ ้น
ด้ วยดาบที่แพรวพราวพุง่ ไปปะทะกับมีดที่พบได้ ทวั่ ไป แต่ผลลัพธ์เป็ นสิ่งที่ไม่มีใครคาดการณ์ได้
หลินหมิงโน้ มตัวไปด้ านข้ างและหลบดาบของหวังยี่เกา มีดในมือของเขาแทงเข้ าไปที่ซี่โครงของ
หวังยี่เกาได้ อย่างไม่น่าเชื่อ !
“อึก!” หลังจากที่ทกุ ข์ทรมานจากการถูกแทงด้ วยมีด หวังยี่เกาอุทานขึ ้นมาร่างกายของเขา
ทรุดลงและล่วงลงสูพ่ ื ้นดิน
เกิดอะไรขึ ้น? ฝูงคนที่มงุ รอบๆไม่สามารถเข้ าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ ้นได้ และตกตะลึงไปตามๆกัน
ปั จจุบนั รอยขาดหนึง่ ฟุตปรากฏบนเสื ้อผ้ าของหวังยี่เกา จากบนหน้ าอกยาวไปถึงเอวของเขา
แต่ไม่มีเลือดออกมา แต่บางสิ่งบางอย่างส่องแสงสีเงินผ่านออกมา(เหมือนคนโดนยิงล้ มไปกับ
พื ้นคิดว่าตาย แต่ใส่เสื ้อกันกระสุนไว้ ลกุ ขึ ้นมาใหม่)
“เกราะเบา”!!!
หลินหมิงแอบเสียใจ มันกลับกลายเป็ นว่าหวังยี่เกาสวมชุดเกราะเบาภายใต้ เสื ้อผ้ าของเขา หาก
ไม่ใช่เพราะเกราะเบาช่วยเอาไว้ หวังยี่เกาต้ องได้ รับบาดเจ็บเป็ นแน่
“แก!” หวังยี่เกาทังตกใจทั
้ งโกรธ
้ ดวงตาของมันเปลี่ยนเป็ นสีเลือด เขาถูกโจมตีจริ งๆ! เขาถูก
โจมตีจากคนที่มีระดับตํ่ากว่าเขาในสถานที่ที่มีผ้ เู ข้ าชมนับไม่ถ้วน! สําหรับหวังยี่เกา นี ้เป็ นที่ไม่
อาจยอมรับได้
“แกต้ องตาย!”
หวังยี่เกาคํารามลัน่ ด้ วยความโกรธ หวังยี่เกาไม่อาจยอมรับความอับอายได้ !! พร้ อมกวัดแกว่ง
ดาบของเขาอีกครัง้ มุง่ เป้าไปที่หลินหมิง!
อีกหนึง่ ทักษะต่อสู้ถกู ใช้ งาน!
สําหรับหลินหมิงเขาก็เหมือนนักล่าผู้ชํ่าชองสามารถจับจุดอ่อนสัตว์ในป่ าได้ ทกุ ชนิด!
“แคว๊ ก” ฉากจากก่อนหน้ าเกิดขึ ้นอีกครัง้ เวลานี ้มีดได้ ฉีกชุดของหวังยี่เกาเผยให้ เห็นเสื ้อกัก๊ ตัว
หนึง่
ฝูวชนต่างตกตะลึง พวกเขาจ้ องมองอย่างไม่อยากจะเชื่อในผลการต่อสู้ มันเกิดขึ ้นได้ อย่างไร?
กลับกลายเป็ นว่ามีดาบของหวังยี่เกาช้ ากว่า มีดแร่เนื ้อของหลินหมิง ด้ วยคุณสมบัติของทักษะ
ต่อสู้และระดับขันที
้ ่แตกต่างกันถึงหนึง่ ขึ ้น แต่ในการต่อสู้ครัง้ นี ้มันกลับถูกแทงเป็ นครัง้ ที่สอง!!!
“เด็กนัน้ ทังการเคลื
้ ่อนไหวร่างกายและความเร็ วในการใช้ อาวุธต่างรวดเร็ วกว่าหวังยี่เกา!” นัก
ต่อสู้ที่มองอยูต่ า่ งก็แสดงความคิดเห็น การฝึ กฝนกายภาพขันแรกจะเอาชนะการฝึ
้ กฝน
กายภาพขันที ้ ่สองได้ อย่างไร เป็ นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ ้นอย่างผิดปกติ!
ความเร็ วของหลินหมิงสูงกว่าหวังจี่เยาจริ งๆ ในความเป็ นจริ งมีความแตกต่างด้ านความเร็วเป็ น
อย่างมากเลยทีเดียว นี่คอื ผลของการฝึ ก ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ! หากขาดมันไปหละก็
แม้ หลินหมิงจะใช้ มีดได้ ชํานาญลึกซึ ้งเพียงใด แต่ความเร็ วและรุนแรงของเขาก็มีไม่มากนัก เป็ น
ธรรมดาที่จะไม่อาจที่จะเอาชนะหวังยี่เกาซึง่ มีระดับการฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สองได้
แต่ด้วยคุณสมบัติของ ‘จุดสิ ้นสุดแห่งความโกลาหล’ สถานการณ์ตอนนี ้แตกต่างไปอย่าง
สิ ้นเชิง!
“เฮื๊อก!” มันร้ องอย่างบ้ าคลัง่ หวังยี่เกาฉีกเสื ้อผ้ าด้ านนอกของมันออกเผยให้ เห็นเกราะเบามี
เงินที่สอ่ งประกายแวววับ เขาได้ เสียท่าให้ กบั เด็กเหลือขอขันแรก้ ถ้ าเขาไม่สามารถที่จะแก้ แค้ น
ได้ แล้ วเขาจะไปมีใบหน้ าอยูเ่ มื่องลิขิตฟ้าต่อได้ อย่างไร
“แกได้ ตายแน่!” หวังยี่เกาถ่ายเทพลังงานในร่างกายของเขาออกมาทําให้ ดาบปล่อยความ
เปล่งประกายยิ่งกว่าก่อน เขาฟาดลงบนหัวของหลินหมิง หากการโจมตีนี ้สัมผัสถูกหลินหมิง
แม้ แต่นิดเดียวเขาต้ องตายอย่างแน่นอน!!!
ทันใดนันเองหลิ
้ นหมิงก็ทําให้ ทกุ คนเกิดความสงสัย เขาโยนมีดทิ ้งและเผชิญหน้ ากับศัตรูของ
เขาด้ วยมือเปล่า!
ผู้ที่เฝ้ามองทุกคนต่างก็ไม่สามารถเข้ าใจในสิ่งที่หลินหมิงได้ ทําลงไป การฟาดฟั นหวังยี่เกาครัง้ นี ้
เห็นได้ ชดั ว่าเป็ นครัง้ สุดท้ ายซึง่ เต็มไปด้ วยพลังทังหมดของมั
้ น ดังนันทํ
้ าไมเด็กนันถึ
้ งทิ ้งอาวุธ
ของมันในช่วงเวลาที่สําคัญที่สดุ เช่นนี ้?
แน่นอนอยูแ่ ล้ วว่ามีดจะแข็งแกร่งกว่ากําปั น้ ? ในช่วงวิกฤตเช่นนี ้อย่างน้ อยเขาก็ยงั ใช้ มนั ปั ด
ป้องดาบจากฝ่ ายตรงข้ ามได้ แล้ วเขาจะโยนมันทิ ้งเพื่ออะไร!!

บทที่ 7 กําเนิดความแข็งแกร่งแห่งพระเจ้ า!!!


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
วิธีการโจมตีที่แข็งแกร่งของ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ที่หลินหมิงฝึ กไม่ได้ โจมตีด้วยดาบ
ทว่าเป็ นการจู่โจมด้ วยกําปั น้ !
ปั จจุบนั กําลังหมัดของหลินหมิงแข็งแกร่งเป็ นอย่างมาก ซึง่ สามารถทําให้ เกิดรอยแหว่งครึ่งฟุต
ลึกลงใบเหล็กต้ นไม้ ความทนทานของต้ นไม้ เหล็กนันไม่ ้ ด้อยกว่าเหล็กจริ งๆเลยแม้ แต่น้อย หาก
วัตถุที่เขาชกใส่คือหิน มันก็จะแตกเป็ นเสี่ยงๆอย่างง่ายดาย!
หลินหมิงเพ่งสายตาไปยังหวังยี่เกา สายตาของเขามุง่ ลงบนหน้ าอกของมัน โน้ มตัวไปด้ านข้ าง
และออกหมัดในพริ บตา!
” ปึ ก”
เกิดเสียหนักๆดังขึ ้น หวังยี่เกาถ่มนํ ้าลายปนเลือดออกมาจากปาก แม้ จะมีการป้องกันของเกราะ
เบาและการฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สอง เขาก็ยงั ไม่สามารถที่ทนรับแรงชกจากหลินหมิงได้
เมื่อมองดูหวังยี่เกาล้ มลงไปบนพื ้นเหมือนหมูที่ตายแล้ ว ผู้เข้ าชมโดยรอบพูดกันสนุกปาก หวังยี่
เกาขูจ่ ะจัดการหลินหมิงในสามกระบวนท่า แต่ผลที่ได้ กลับตรงข้ ามอย่างสมบูรณ์ หลินหมิง
จัดการหวังยี่เกาได้ ในสามกระบวนท่า!
เพียงแค่แลกเปลี่ยนวรยุทธสามกระบวนท่า ก็จบลงด้ วยการที่หลินหมิงเป็ นฝ่ ายได้ รับชัยชนะ
หากไม่ได้ เกราะเบาแล้ วหละก็หวังยี่เกาคงถูกจัดการตังแต่ ้ มีดแรกแล้ ว ด้ วยการต่อสู้ระหว่าง
ระดับกายภาพขันแรกและขั
้ นที
้ ่สอง ผลการต่อสู้มนั ดูเหมือนตรงข้ ามอย่างสิ ้นเชิง! (ประมานว่า
เหมือนหลิมหมิงอยูข่ นสองสู
ั้ ้ กบั หวังยี่เกาอยูข่ นแรกเสี
ั้ ยมากกว่า)
“ผู้อาวุโสหลิว ท่านคิดเห็นอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ ้นนี ้” ท่ามกลางฝูงชน ชายสูงอายุคน
หนึง่ ปรากฏตัวขึ ้นในหมูผ่ ้ ชู ม เขามีการฝึ กฝนกายภาพขันดั ้ ดกระดูก(ขันห้
้ า) อีกเพียงก้ าวเดียวก็
จะเข้ าสูข่ นผสานชี
ั้ พจร(ขันหก) ้ แต่เขาล้ มเหลวช่วงสุดท้ าย ธรรมชาติของร่างกายของเขาไม่
สามารถทนต่อการก้ าวไปต่อได้ เป็ นเพราะอายุของเขา ตอนนี ้ผู้อาวุโสหลิวมีอายุเกินเจ็ดสิบขึ ้น
ไปแล้ วเขาไม่อาจมีความแข็งแก่รงดังเช่นวัยหนุ่มๆ แต่สายตาของเขายังคงไว้ ซงึ่ ความฉลาด
เฉลียว
ในขณะที่ผ้ สู งู อายุครุ่นคิดอยูค่ รู่หนึง่ ก่อนที่จะตอบ “เด็กคนนี ้มีพรสวรรค์ เขามีความแข็งแกร่ง
แห่งพระเจ้ า!”
พรสวรรค์ของนักสู้ ไม่วา่ จะเป็ นพรสวรรค์ขนหนึ
ั ้ ง่ หรื อสองเป็ นเพียงตัวชี ้วัดของความเร็ วและ
ความเข้ ากันได้ ของร่างกาย ทําให้ พวกเขาสามารถดูดซับพลังและฝึ กฝนได้ เร็ วขึ ้น พวกเขา
สามารถซึมซับพลังงานจากวรยุทธ์ได้ มากขึ ้นเมื่อมีพรสวรรค์ที่สงู ขึ ้น
อย่างไรก็ตามความแข็งแก่รงของร่างกาย ไม่ได้ ขึ ้นอยูก่ บั พรสวรรค์ พรสวรรค์เป็ นเพียงสิ่งที่ช่วย
ให้ ฝึกฝนได้ เร็วขึ ้นเท่านัน(หากมี
้ พรสวรรค์ที่ดีขนาดไหนแต่ไม่ฝึกก็เป็ นเพียงคนธรรมดา)
แม้ วา่ บางคนจะเกิดมาพร้ อมกับความแข็งแกร่งของพระเจ้ า มีความแข็งแกร่งเป็ นสิบเท่าของคน
ปกติหรื อมากกว่านัน!

เป็ นความแข็งแก่รงที่มาพร้ อมความเร็ วที่ยอดเยี่ยม เป็ นธรรมชาติที่พวกเขาจะได้ เปรี ยบในการ
ต่อสู้
แต่จํานวนของคนที่มีพรสวรรค์เหล่านี ้มีน้อยยิ่งนัก นอกจากนี ้ยังมีไม่มากที่จะประสบ
ความสําเร็ จเนื่องจากทุกขันในการฝึ
้ กฝนมีช่องว่างมหาศาล
“นัน่ คือสิ่งที่เด็กนัน่ มี… ” ผู้สงั เกตการณ์โดยรอบพยักหน้ าหน้ าของพวกเขา คําอธิบายนี ้เป็ นที่
เหมาะสมมาก
หลินหมิงหยิบมีดของเขาและเดินไปยังหวังยี่เกา ปั จจุบนั หวังยี่เกาอยูใ่ นสภาพที่อนาถ เสื ้อผ้ า
ของเขาได้ กลายเป็ นแถบผ้ าสีเลือดที่รั่วไหลออกมาจากปากและใบหน้ าถูกปกคลุมด้ วยสิ่ง
สกปรก หวังยี่เกาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการฆ่าตัวตาย เขาจะได้ หายไปอย่างสมบูรณ์ใน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ ้นในวันนี ้ เขามีแนวโน้ มที่จะกลายเป็ นตัวตลกในหมูเ่ พื่อนของเขาที่อยูใ่ นเมือง
ลิขิตฟ้า
หลินหมิงพูดขึ ้น “ก่อนหน้ านี ้เจ้ าเป็ นคนกล่าวมันเอง 1000เหรี ยญทอง ส่งมันมา!!!”
เหอะ!
ได้ ยินคําพูดเหล่านันหวั
้ งยี่เกา แทบจะกะอักเลือดออกมาอีก
อือหือไอ้ ลกู หมา! ข้ าจะทําอย่างไร? ข้ าจะต้ องจ่าย1000ทองจริ งๆรึ?แม้ วา่ หวังยี่เกาจะเป็ นลูก
ของตระกูลดีมีฐานะ การจะจ่าย1000เหรี ยญทองก็มิใช้ เรื่ องเล็กๆ!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ ้นในวันนี ้แน่นอนว่าเขามีความสุขและช่างน่าจดจําที่สดุ ในชีวิตของเขา คน
จํานวนมากเป็ นพยานหวังยี่เกาไม่อาจจะกลับคําพูดของมันได้
นอกจากนี ้ตังแต่
้ มนั ตกลงรับการท้ าประลอง มันไม่ได้ คิดเกี่ยวกับการสูญเสียทรัพย์หรื อชื่อเสียง
ที่จะถูกถูกเยาะเย้ ยโดยฝูงชนทังหมด

“ทอง!!ไปนํามาทองมา!” หวังยี่เกาตะโกนใส่คนของมัน! วันนี ้มันต้ องยอมรับการสูญเสีย แต่นี ้
ไม่ใช่จดุ สิ ้นสุด มันสาบานมันจะต้ องสับหลินหมิงชิ ้นให้ ได้ !
กลุม่ ของฝูงชนต่างก็ตกใจในชัยชนะหลินหมิง แม้ วา่ พวกเขาทังหมดจะขึ
้ ้นไปปล้ นหลินหมิง
รับประกันได้ วา่ พวกเขาไม่มีทางชนะไปได้ ! พวกเขาเป็ นเพียงผู้ฝึกฝนกายภาขันแรก?

“เซี่ยวตง รวบรวมทอง!!!” หลินหมิงกล่าว 1000เหรี ยญไม่ใช่จํานวนน้ อยๆ แม้ วา่ หวังยี่เกาจะ
รํ่ ารวย มันก็ไม่ได้ พกทองติดตัวมากขนาดนัน้ ดังนันมั
้ นจึงสัง่ ผ่านคนของมัน
ช่วงเวลานี ้หวังยี่เกาอาเจียนเลือดออกมา หลินเซีย่ งตงตกตะลึงอยูน่ าน หลังจากหลินหมิงบอก
กับเขา เขาพึง่ จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง: โอ้ พระเจ้ า! นี ้เรื่ องจริ ง? เราชนะมันได้ ?นอกจากนี ้พวก
เขาได้ รับ1000เหรี ยญทอง!
1000เหรี ยญทอง!!!!!
ทังชี
้ วิตของหลินเซี่ยงตงของทุกชิ ้นของเขารวมกันได้ เพียง200เหรี ยญทอง ซื ้อโสมเลือดอันเดียว
ยังต้ องใช้ เงินหมดไปกว่าครึ่งของมันของมัน!(มี200แม่งซื ้อโสมเลือด[ร้ อยปี ]150เหรี ยญทองให้
หลินหมิง เหลือแค่50เหรี ยญไปซื ้ออาวุธ555 ส่วนโสมเลือด[สองร้ อยปี ]ราคา300เหรี ยญทอง)
มองไปที่ทองในมือของเขา หลินเซี่ยวตงถึงกับช็อก จากนันก็ ้ กลายเป็ นความปี ติยินดีก่อนที่จะ
เปลี่ยนเป็ นเสียงหัวเราะ
ดวงตาของเขาไม่เคยเปิ กกว้ างถึงเพียงนี ้มาก่อน ตอนนี ้ว่าเขากําลังยิ ้มกว้ างดวกตาเต็มไปด้ วย
ประกาบแพรวพราว
“ฮ่าๆ เรารวยแล้ ว พวกเรารวยแล้ ว!” มันแสดงท่าทีเกิดกว่าจะบรรยายออกมาได้ !! “ขอบคุณ
สําหรับเงินทองเหล่านี ้ เราอยูใ่ นสถานการณ์ที่ยากลําบากจําเป็ นต้ องใช้ จ่ายสูงมาก ขอบคุณที่
ชวยรวบรวมมาให้ ขอบคุณมาก “(พูดประชดพวกหวังยี่เกา)
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านหวังยี่เกา เจ้ ารู้ซึ ้งดีวา่ 800เหรี ยญคงไม่เพียงพอและได้ มีการเพิ่มมัน
เป็ น1000เหรี ยญทอง ต้ องขอบคุณเป็ นอยากมาก ยี่เกาหวัง* ฮ่าๆ “หลินเซี่ยวตงเยาะเย้ ย (*
อ่านชื่อกลับหลังเป็ นการดูหมิ่น)
ได้ ยินคําพูดเหน็บแนมจากหลินเซี่ยวตง หวังยี่เกาที่บาดเจ็บสาหัสถ่มนํ ้าลายออกมาพร้ อมกับ
เลือด
พ่อตาแกตายรึ!!(อุทานเป็ นเสียงในปาก)
หวังยี่เกาขบฟั นของเขา ใบหน้ าของมันบิดเบี ้ยวไปมาก ในขณะนันหลิ้ นเซีย่ วตงไม่ได้ คิดที่จะ
สนใจ ทังยั้ งทําหน้ าขยะแขยงใส่มนั อีก หลังจากเก็บทอง หลินเซี่ยวตงถุยนํ ้าลายในลักษณะโอ้
อวดและเริ่ มนับทองกองหนึง่ ทีละเหรี ยญ
“ยี่สิบ สามสิบ ห้ าสิบ, ร้ อย ห้ าร้ อย เจ็ดร้ อย … ”
หลินเซี่ยวตงนับทองกองใหญ่ สามครัง้ แล้ วกล่าวพร้ อมกับรอยยิ ้มและเหล่ตา “850เหรี ยญ ขาด
ไป150เหรี ยญ ที่นี่มีผ้ คู นมากมาย? มันเป็ นวิธีการที่ไม่ดีเลยที่พวกเจ้ าจะขาดตกบกพร่องแม้ แต่
เล็กน้ อย? ”
ได้ ยินคําพูดของหลินเซี่ยว หวังยี่เกาเกือบอาเจียนเลือดออกมาอีกครัง้ ใบหน้ าของเขาจมลึกเขา
เอามือข้ างขวาจับดาบของเขาและ “ฉึก” เสียงดังเกิดขึ ้น ดาบยาวของเขาแทงลงบนผืนดิน
“ดาบเล่นนี ้สามารถขายได้ 200เหรี ยญทองในร้ านค้ าอาวุธทัว่ ไป พวกเรากลับ! ”
พวกเขาทังหกไม่
้ สามารถแก้ แค้ นเพื่อชื่อเสียงได้ แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็ นว่าพวกเขาต้ อง
สูญเสียทรัพย์สินของพวกเขาทังหมดแม้
้ แต่ดาบเล่มโปรดของเขา ผู้คนที่นี่เริ่ มสงสารหวังยี่เกา
เป็ นครัง้ แรก!
เมื่อเห็นดาบเขียวขจี หลินตงยิ ้ม เขามีความรู้บางประการเกี่ยวกับอาวุธและดาบเขียวขจีเป็ น
อาวุธที่พิเศษ อย่างน้ อยมันก็จะถูกใช้ ประโยชน์ได้ มากกว่าเจ้ าของเก่าของมัน
หลินหมิงกล่าวว่า “ถ้ าเจ้ าชอบเจ้ าเอามันไปก็ได้ ”
หลินเซี่ยวตง ตอบอย่างเกรงใจ “ข้ าทําไม่ได้ หรอก พี่หมิง พี่เองก็ยงั ไม่มีอาวุธเลย”
หลินหมิงตอบ “กําปั น้ คืออาวุธของข้ า ตอนนี ้ข้ าไม่มีความจําเป็ นต้ องใช้ อาวุธอันใด ต่อไปข้ าจะ
ได้ รับหาอาวุธที่เหมาะกับข้ าเอง ดาบเขียวขจีนี ้จะมีนํ ้าหนักเบาเกินไปสําหรับทักษะต่อสู้ของข้ า

ก่อนที่หลินเซี่ยวตงจะทันได้ ถามอะไรอีก หลินหมิงก็โยนดาบมาแล้ วบอกว่า”ดาบนี ้คงเหมาะ
กับเจ้ ามากกว่า”
“‘งันก็
้ ดี ฉันจะใช้ ดาบนี่เอง แต่พี่แน่ใจนะว่าพี่ไม่ต้องการมัน ข้ าไม่เคยเห็นลักษณะการฝึ กฝน
ของพี่เลย “นับตังแต่ ้ หลินหมิงเริ่ มฝึ กฝนการต่อสู้ หลินเซี่ยวตงไม่เคยเห็นฝึ กของหลินหมิง เมื่อ
เขาจะได้ ร้ ูวา่ หลินหมิงมีความแข็งแก่รงเพิ่มสูงขึ ้นไป เขาก็เชื่อว่านี ้จะเป็ นผลจากการฝึ กฝนอย่าง
หนักของหลินหมิง
หลินหมิงอธิบาย “หวังยี่เกาไม่ได้ มีความเข้ าใจถึงความแข็งแกร่งของเขาเองและพึง่ จะเข้ าสูก่ าร
ฝึ กฝนกายภาพขันสองได้
้ ไม่นาน นอกจากนันยั ้ งขาดพื ้นฐานประสบการณ์ ระดับในการฝึ กฝน
ของมันคงเป็ นเพราะยา แม้ ข้าจะไม่มีทกั ษะต่อสู้ข้าก็เอาชนะมันได้ ไม่ได้ เป็ นความภาคภูมิใจ
อะไรเลย เป้าหมายต่อไปคือจู้ยนั ”
จู้ยนั แตกต่างจากหวังยี่เกา จู้ยนั มีความแข็งแก่รงมากและเข้ าใจพื ้นฐานอย่างถ่องแท้ มี
พรสวรรค์ขนสีั ้ ่ นอกจากนี ้เขายังฝึ กฝนอย่างหนัก ดังนันในปั
้ จจุบนั หลินหมิงยังไม่มีโอกาส
เอาชนะจู้ยนั ได้
หลินหมิงเดินไปหาทองแล้ วแบ่งมันออกและส่งทองฝั่ งหนึง่ ให้ เซี่ยวตงโดยไม่ต้องนับ “ใช้ นี ้สิ”
“พี่ทําอะไร? ทองทังหมดนี
้ ้เป็ นของพี่ ข้ าได้ รับดาบมาแล้ ว ข้ าไม่มีความต้ องการทองอีก ข้ าใช้
เพียงแค่10เหรี ยญเป็ นค่าฝึ กฝนต่อเดือนเท่านัน้ ”
หลินหมิงยังคงเงียบและไม่ได้ คดั ค้ าน เขาเก็บค่าทองไปในอกของเขาเอง ระหว่างเขาและเซี่ยว
ตง เซี่ยวตงมีทองพอใช้ ในการใช่จ่ายที่จําเป็ นอยูแ่ ล้ ว
“เยี่ยม เป็ นธรรมแล้ ว”
“ใช่แล้ ว! ตอนนี ้เรามีเงินทุน1000เหรี ยญทอง! ข้ าผู้นี ้ไม่เคยเห็นเงินทองมากมายขนาดนี ้มาก่อน
เวลานี ้ข้ าจะใช้ มนั ได้ อย่างมันมือ! ”

บทที่ 8 ฉินชิงหวน
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
หลินหมิงหัวเราะออกมาและกล่าวว่า “นัน่ เป็ นสิทธิที่เราจะใช้ จ่าย แต่เราต้ องระมัดระวังการไป
ไหนต่อไหนในช่วงไม่กี่วนั ต่อจากนี ้ ”
“หืม? พี่หมายถึงหวังยี่เกา ? ”
“อืม มันต้ องมาแก้ แค้ นแน่นอน มันจะไม่ทําเช่นนันอย่
้ างเปิ ดเผย มันจะมาแบบลอบกัดเสีย
มากกว่า”
หลินหมิงลดเสียงลงแล้ วกล่าวว่า หากหวังยี่เกาล้ มเลิกในเรื่ องนี ้แล้ วทุกอย่างก็จะจบ แต่ถ้ามัน
แอบสมคบคิดกับพวกของมันหรื อส่งมือสังหารที่มีเป้าหมายสังหารพวกเราแล้ ว หลินหมิงอาจ
จําเป็ นต้ องสอนให้ หวังยี่เการู้รสชาติของความขมขื่นอีกครัง้ โดยธรรมชาติที่หวังยี่เกามีพอ่ เป็ น
คนใหญ่คนโตคงไม่ยอมให้ จบแต่เพียงแค่นี ้แน่ ในเมื่อพ่อของหวังยี่เกาเป็ นแม่ทพั แห่งเมืองลิขิต
ฟ้า เหตุการณ์ดงั กล่าวย่อมไม่จบลงด้ วยดี
มีการค้ าอย่างยุติธรรมถูกจัดขึ ้นที่เขตชานเมืองของเมืองลิขิตฟ้า สถานที่แห่งนี ้เป็ นที่ที่มีคน
จํานวนมากมายทําการแลกเปลี่ยนซื ้อขายกันอยู่ การชุมนุมสุดยอดของงานแสดงสินค้ าที่จดั ขึ ้น
เป็ นประจําทุกปี ในงานนี ้แม้ นกั สู้จากอาณาจักรใกล้ เคียงก็จะมาร่วมด้ วย พวกเขาจะค้ นหา
เลือกซื ้อสินค้ าที่พวกเขาต้ องการ
ในขณะที่หลินหมิงมาถึงทางเข้ าเทศกาล เขาก็ต้องตกใจที่เขาสังเกตเห็นฝูงชนที่คกึ คักและ
สินค้ าระดับสูงมากมายตรงหน้ า นี่คอื สถานที่แห่งความหรูหราสําหรับขุนนางและยอดนักสู้ มัน
ไม่เป็ นที่น่าแปลกใจเลยที่จะเจอผู้ฝึกกายภาพขันผสานชี
้ พจรในฝูงชน
เมื่อหลินหมิงมองดูกลุม่ ฝูงชนเคลื่อนไหวอย่างหนาแน่น ความวุน่ วายเกิดขึ ้นในหมูพ่ วกเขา
หลินหมิงหันหน้ าไปดูอย่างประหลาดใจ พบรถม้ าสุดหรูสีขาวกําลังขับเคลือ่ นที่เข้ าสูง่ าน
เทศกาล ม้ าแต่ละตัวเป็ นม้ าชนิดเดียวกันคือม้ ามักกรหิมะ ม้ าเหล่านี ้มีความเร็ วที่ยอดเยี่ยมและ
ความอดทนสูง พวกมันมีราคาถึง10000เหรี ยญทอง ต้ องเป็ นนักสู้ในตระกูลที่รํ่ารวยมัง่ คัง่ เป็ น
มหาเศรษฐี เท่านันที
้ ่จะมีได้ ต่อให้ เป็ นตระกูลที่มีฐานะดีอย่างตระกูลของหวังยีเกาก็มิอาจเอื ้อม
จะหาซื ้อพาหนะเช่นนี ้ได้
บุคคลที่อยูภ่ ายในนันจะเป็
้ นเช่นใด? สําหรับบุคคลจะขี่อยูใ่ นรถม้ ามูลค่านับ10000เหรี ยญทอง
อาจเป็ นไปได้ วา่ เจ้ าชายเจ้ าหญิงในพระราชวงศ์? หลินหมิงคิดในใจ
้ นเซี่ยวตงพูดขึ ้น “เห็นอัศวินสีทองถือหอกข้ างรถม้ านัน่ ไหม ? นัน่ คือหนึง่ ในสี่
ในขณะนันหลิ
จอมพล ”
“หนึง่ ในสี่จอมพล? เจ้ าหมายถึงจอมพลฉิน? “หลินหมิงถาม
ภายในโครงสร้ างทางทหารของอาณาจักรลิขิตฟ้าตําแหน่งของผู้นําต่างๆล้ วนเป็ นความสําเร็ จที่
ยิ่งใหญ่ เริ่ มจากแม่ทพั พันตรี พันเอก สุดท้ ายคือจอมพล ในอาณาจักรลิขิตฟ้า มีเพียงคนเดียว
ไปยังตําแหน่งจอมพลได้ ในช่วงแปดสิบปี ที่ผ่านมา
ประชาชนมหาศาลแห่งราชอาณาจักรลิขิตฟ้าอาจไม่ทราบชื่อของจักรพรรดิองค์ปัจจุบนั แต่
พวกเขาทังหมดรู
้ ้ จกั ชื่อของจอมพลเป็ นอย่างดี
ผู้เป็ นป้อมปราการแห่งราชอาณาจักร จอมพลฉินเสี่ยว แปดสิบปี ที่ผ่านมา ราชอาณาจักรลิขิต
ฟ้าได้ รับความเดือดร้ อนจากการรุกรานที่นําโดยอาณาจักรทองตะวันออก ชีวิตนับไม่ถ้วนถูก
กลืนหายไปและพระราชวงศ์ได้ ไปหลบภัยในภาคใต้ มีเพียงฉินเสี่ยวเป็ นเพียงคนเดียวที่ได้ ยืน
ยัดปกป้องบ้ านเมือง กองทัพฉินและผู้ใต้ บงั คับบัญชามีสว่ นกระทําความดีความชอบในการปก
ปั กรักษาเมืองและช่วยชีวติ ผู้คนทางตอนเหนือ หลังจากสามปี ที่ผ่านมากองทัพฉินก็สามารถ
เอาชนะ
อาณาจักรตะวันออกได้ ในที่สดุ ฉินเสีย่ วได้ รับแต่ตงในชื
ั ้ ่อจอมพลในปี เดียวกัน ในขณะเดียวกัน
ทหารผ่านศึกของกองทัพฉินก็จดั ตังสํ
้ านักลิขิตฟ้าขึ ้น
เนื่องจากงบประมาณมีอยูอ่ ย่างจํากัด สํานักลิขิตฟ้าของพวกเขาไม่สามารถที่จะแข่งขันสํานัก
เจ็ดแก่นแท้ ที่จดั ตังขึ
้ ้นโดยเจ็ดผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลใหญ่ทงสามได้
ั้ อย่างไรก็ตามสํานักลิขิต
ฟ้าทําหน้ าที่เป็ นสถาบันฝึ กฝนสําหรับอาณาจักรลิขิตฟ้า บรรดาผู้ที่ศกึ ษาในสํานักต่างก็จบ
การศึกษาและได้ บรรลุตาํ แหน่งที่ดีในอาณาจักรลิขิตฟ้า
สําหรับฉินเสีย่ วเขาเป็ นอาจารย์ใหญ่หรื อผู้อํานวยการแห่งสํานักลิขิตฟ้า การฝึ กฝนของเขา
บรรลุถงึ ขันปราญฟ
้ ้ าขันต้
้ นช่วงกลางๆ สําหรับนักต่อสู้โดยทัว่ ไป ขันผสานชี
้ พรและผู้ที่อยูเ่ หนือ
ขึ ้นไปเป็ นสิ่งที่ยากจะบรรลุได้
ปั จจุบนั รถม้ าหยุดชะงักลง หลินหมิง สูดลมหายใจเข้ าลึก เขาอยากเป็ นอย่างฉินเสี่ยวให้ ได้
เป็ นคนที่เป็ นตํานาน!
ลมพัดเข้ ามาทําให้ มา่ นพลิ ้วไปตามลมเผยให้ เห็นผู้คนหนึง่ ที่อยูบ่ นรถม้ า ผิดจากที่หลินหมิงคาด
การไว้ ผู้นนเป็
ั ้ นเพียงสาวน้ อยนางหนึง่ เท่านัน้
เมื่อเห็นหญิงสาวหลินหมิงรู้สกึ แปลกใจในขณะที่ตาหลินหลินตงจ่องมองตรงไปที่เธอ ความงาม
ที่สามารถโค่นล้ มราชอาณาจักรคืออะไร? นี่ไง!!!
หญิงสาวสวมขาวผมสีดาํ ลดหลัน่ ลงมาบนเอวของเธอ ผิวของเธอเป็ นเงาวาววับเหมือนหยกที่
งดงาม การปรากฏตัวของเธอชวนให้ หลงใหลเป็ นดัง่ พระจันทร์ เต็มดวงส่องแสง ดวงตาของเธอ
เหมือนหยาดนํ ้าค้ างในฤดูใบไม้ ร่วง เธอมีจมูกโด่ง คางแหลมและคอเรี ยวหยก มีเพียง
ข้ อบกพร่องที่หนึง่ ที่อาจไม่สงั เกตเห็น
นอกจากนี ้เธอยังปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งภูมิปัญญาและความบริ สทุ ธิ์ที่กอ่ ให้ เกิดความคิดที่ไม่
อาจหลีกเลี่ยงที่เธอจะเข้ าไปในจิตใจของเหล่าชายที่เฝ้ามอง: หญิงสาวผู้ไม่มีผ้ ใู ดเสมอเหมือน
เพียบพร้ อมไปด้ วยองครักษ์ และสาวใช้ มากมาย หญิงสาวลงจากรถม้ าและเดินเข้ าไปในงาน
เทศกาล เมื่อใดก็ตามที่เธอไปก็จะดูเหมือนกับว่ามีแสงสว่างสะไหวขึ ้นในพื ้นที่ และดอกไม้ จะ
เบ่งบาน สําหรับหญิงสาวที่ดเู หมือนจะเต้ นอยูภ่ ายในภาพที่สวยงามนี ้นําไปสูก่ ารทําให้ ทกุ คน
เห็นเธอหายเข้ าไปในภวังค์
สายตาทุกคูถ่ กู รวบรวมเข้ าสูเ่ ธอ รถม้ ากว่า10000เหรี ยญทอง ด้ วยความงามของเธอ ตระกูลฉิน
ยืนหยัดมันคงมายาวนานกว่าแปดสิบปี ปั จจัยเหล่านี ้เพียงพอที่จะทําให้ เธอกลางเป็ นศูนย์รวม
ของความสนใจ
จนกระทัง่ หญิงสาวได้ หายลับไปจากสายตา หลินเซี่ยวตงพึง่ จะรู้สกึ ตัวหลังตกอยูใ่ นภวังค์
หลินหมิงถาม “เธอเป็ นใคร? เจ้ ารู้จกั เธอหรื อไม่? ”
หลินเซี่ยวตงตอบ “ข้ ารู้วา่ เธอเป็ นใคร แต่เสียดายเธอไม่ร้ ูจกั ข้ าเลย เธอเป็ นหลานสาวของฉิน
เสี่ยว ฉินชิงหวน แถมยังสืบทอดสายเลือดมาโดยตรง. “ในขณะหลินเซี่ยวตงอธิบาย หลินหมิ
งยกย่อง “โอ้ ” เขาค่อนข้ างเดาตัวตนของเธอได้ และเขาเองก็ไม่ได้ แปลกใจเกินไป
หลินเซี่ยวตง เหลือบมองไปที่หลินหมิงและยิ ้ม “ผู้หญิงคนนันมี
้ พรสวรรค์ระดับหก.”
“อะ … อะไรนะ?”
หลินหมิงได้ แต่ตะลึง “พรสวรรค์ระดับหก? เจ้ าแน่ใจรึ? ”
ความสามารถสูงสุดที่หลินหมิงเคยเห็นมาก่อนเป็ นพรสวรรค์ระดับสี่ เพียงแค่พรสวรรค์ระดับห้ า
ก็ไม่อาจพบได้ ในมืองใบหม่อนสีเขียวแม้ แต่คนเดียว บางทีคนเหล่านี ้มีอยูใ่ นอาณาจักรลิขิตฟ้า
แต่จํานวนของพวกเขามีเพียงน้ อยนิด แต่เขาเพิ่งได้ รับการบอกเล่าว่าหญิงสาวคนหนึง่ ที่ผ่านไป
มีพรสวรรค์ระดับหก สําหรับเขานันเป็
้ นความจริ งไปไม่ได้ !
หลินเซี่ยวตงคาดไว้ แล้ วว่าหลินหมิงต้ องมีปฏิกิริยาเช่นนี ้และกล่าวว่า “พี่หมิง อย่าได้ ไป
เปรี ยบเทียบกับเธอที่มีพรสวรรค์ระดับหกเลย สามารถพิเศษของเธอดูน่าอัศจรรย์เกินไป ?”
หลินหมิงตอบ “ข้ าคิดว่าช่างน่าอัศจรรย์ใจมาก พรสวรรค์ระดับหก! นี ้คือสิง่ ที่ข้าไม่เคยได้ ยินมา
ก่อน ! แล้ วเธอ… มีระดับการฝึ กฝนเป็ นอย่างไรบ้ าง? ”
หลินเซี่ยวตง ยักไหล่ “ข้ าเองก็ไม่ร้ ูเรื่ องนัน้ แต่มนั ก็ต้องสูงอย่างไม่น่าเชื่อ พิจารณาจากการที่
เธอมีพรสวรรค์ระดับหกเช่นนัน้ ความพัฒนาการที่รวดเร็ วและยังเกิดภายในตระกูลที่ยิ่งใหญ่
หากจะมีการฝึ กฝนกายภาพขันสี
้ ่หรื อขันห้
้ า ก็เป็ นอะไรที่ไม่น่าแปลกใจ อย่างไรก็ตาม… พี่หมิง
ทําไมพี่ถามเกี่ยวกับเรื่ องนี ้หละ ?
หลังจากที่ได้ เห็นความงามที่สมบูรณ์แบบ หัวใจของพี่ถกู ขโมยไปหมดแล้ วหรื อไม่ ”
เป็ นคําถามที่ทําให้ หลินหมิงประหลาดใจ เขาไม่ได้ ทําจากไม้ เป็ นธรรมดาที่ผ้ หู ญิงจะเป็ นที่
สนใจของสุภาพบุรุษ และฉินชิงหวน เป็ นหญิงที่สมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเรื่ องของหลานยุยเยี่ย ทําให้ หลินหมิงได้ เข้ าใจว่าความรักจาก
ครอบครัวเท่านันที
้ ่ยาวนานตลอดไป ด้ วยระดับประสบการณ์ปัจจุบนั ของเขา การแสวงหา
ความรู้ดงั กล่าวเป็ นมีความหมายอย่างยิ่ง เขาหันกลับมาถาม
“ทําไม? เจ้ าชอบที่เธอ? ”
“แน่นอน ข้ าทําได้ เพียงแค่ชื่นชอบเธอ เธอคนนี ้ห่างไกลเกินกว่าข้ าจะอาจเอื ้อม ข้ าไม่อาจหวัง
ว่ามันจะเป็ นจริ งได้ เลย ข้ าไม่ทราบว่าหลายคนที่อยูใ่ นเมืองลิขิตฟ้า ใครจะเป็ นคนโชคดีได้ หวั ใจ
เธอไป เธอคนนี ้ต้ องเข้ าสูต่ ระกูลที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตดังเช่นสามตระกูลที่ร่วมกันสร้ างสํานักเจ็ด
แก่นแท้ เป็ นแน่ เธอเป็ นสาวกหลักของสํานักเจ็ดแก่นแท้ เมื่อนานมาแล้ ว ปุถชุ นอย่างเราไม่
สามารถหวังจะยืนเคียงข้ างกับคนอย่างเธอ แต่สิ่งที่ทําให้ ข้าอิจฉาที่สดุ คือเธอเป็ นผู้เชียวชาญ
การจารึก ”
“ผู้เชี่ยวชาญการจารึก?”
หลินหมิงไม่ได้ มีความเข้ าใจเกี่ยวกับอาชีพพวกนี ้ โดยทัว่ ไปอาชีพเหล่านี ้มีความต้ องการสูงใน
ด้ านคุณสมบัติและมีผ้ เู ชี่ยวชาญเพียงน้ อยนิด แม้ ผ้ ปู ระกอบอาชีพเหล่านี ้จะมีคา่ ฝึ กฝนค่อนข้ าง
น้ อยเมื่อเทียบกลับค่าใช้ จ่ายที่จําเป็ นสําหรับการฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้ แต่ผ้ ทู ี่จะฝึ กฝนได้ ต้อง
แรงดันวิญญาณ
” ผู้เชี่ยวชาญการจารึกสามารถใช้ วสั ดุพิเศษที่จะแกะสลักอักขระและสัญลักษณ์บนอาวุธ พวก
เขาสามารถสร้ างความเข้ มแข็งให้ อปุ กรณ์โดยการแกะสลักสัญลักษณ์ให้ กบั มัน อาชีพนี ้ต้ องมี
แรงดันจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง และเมื่อกลายเป็ นผู้เชี่ยวชาญการจารึก เงินทองจะเป็ นเรื่ อง
ง่ายดายเหมือนการรับประทานอาหารและดื่ม!”
“แต่น่าเสียดายที่นกั สู้สว่ นใหญ่ไม่มีโอกาสที่จะเข้ ามาประกอบอาชีพนี ้ ถึงแม้ วา่ พวกเขามี
แรงดันวิญญาณสูงก็ไม่อาจมีโอกาสแห่งความสําเร็ จตามมา เพราะในทางปฏิบตั ิจะมีคา่ วัสดุที่
สูงเกินคาด แต่มลู ค่าของสิ่งเหล่านันเป็
้ นเพียงเศษเสี ้ยวส่วนหนึง่ สําหรับตระกูลฉิน ความสําเร็ จ
ของฉินชิงหวนในทักษะการจารึกอยูใ่ นระดับสูง เธอเป็ นดาวเด่นในหมูเ่ พื่อนของเธอและยัง
เหนือกว่าผู้อาวุโสบางคนเสียอีก ”
หลินเซี่ยวตงมีการศึกษาอย่างสูงจึงนําไปสูค่ วามเข้ าใจมากกว่าเมื่อเทียบกับหลินหมิง ขณะที่
เขากําลังอธิบายอย่างฉะฉาน เขาก็พบว่าหลินหมิง งอหัวของเขาลงราวกับว่าเขากําลังพิจารณา
บางสิ่งบางอย่างอย่างลึกซึ ้ง
“พี่หมิง…พี่หมิง พี่ร้ ูสกึ ถึงแรงกระตุ้น? ดีแล้ วหละ เมื่อพิจารณาความงามบนสวรรค์อย่างเธอ
นี ้ก็เป็ นเรื่ องปกติ ”
“ไม่มีอะไร” หลินหมิงโบกมือ
อะไรกัน! อักขระ สลักสัญลักษณ์ตา่ งๆ อาวุธที่มีบรรยากาศที่แข็งแกร่ง เรื่ องพวกนี ้ต่างอยูใ่ นจิต
วิญญาณของเขา ทังหมดเกี
้ ่ยวข้ องกับการจารึก!
มันกลับกลายเป็ นว่าตลอดมาเขาได้ ละเลยสิ่งต่างๆที่สงู ค่าเหล่านันไปช่
้ างโง่เขลายิ่ง!

บทที่ 9 เทคนิคการจารึก
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ในความจริ งแล้ วหลินหมิงมีความคิดทีจะยอมแพ้ ตอ่ เส้ นทางเพื่อจะเป็ นผู้เชี่ยวชาญการจารึก
มันเป็ นเพราะเขาต้ องใช้ เวลาส่วนใหญ่ฝึกฝนการต่อสู้และขันตอนการเป็
้ นนักจารึกเป็ นเรื่ องที่
ยากเกินไป! ด้ วยการที่ไม่มีพรสวรรค์ในด้ านการศึกษาและไม่อาจความเข้ าใจการจารึกได้ ใน
ระยะเวลาสันๆ้ หลินหมิงไม่อาจก้ าวเดินทังเส้
้ นทางการต่อสู้และการจารึกได้ ในเวลาเดียวกัน
แต่ตอนนี ้มีสงิ่ ที่มีการเปลีย่ นแปลงความคิดทังหมดของเขา
้ นัน่ ก็คือเขาต้ องการ … เงิน!
สําหรับพัฒนาการฝึ กฝน ไม่มีสิ่งใดมีคา่ ไปกว่าโอสถ! สิ่งที่เขาต้ องการมีเพียงทุนสําหรับสรรหา
สินค้ าเท่านัน!
้ มีโอสถในโลกที่สามารถเพิ่มระดับการฝึ กฝนโดยตรงและยังช่วยให้ สามารถทะลุ
ทะลวงผ่านขันที ้ ่ตีบตันได้ เป็ นอย่างดี สําหรับโอสถประเภทนี ้เป็ นที่ทราบกันดีวา่ มีราคาแพง
ขนาดไหน
ไม่เพียงเท่านี ้ อาวุธ เกราะ ทักษะต่อสู้ทงหมดของพวกเขาจํ
ั้ าเป็ นต้ องใช้ เงิน! สําหรับหลินหมิง
1000 เหรี ยญทองคําที่เขาได้ รับเป็ นเพียงเล็กน้ อย มันไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ เขาฝ่ าไปถึงขัน้
ผสานชีพจรได้
ถ้ าเขาอยากจะทําเงินให้ ได้ มากมายมหาศาล เขาจะต้ องกลายเป็ นผู้เชี่ยวชาญการจารึก หลินห
มิงตัดสินใจทันทีที่จะเช่าห้ องพักและเริ่ มที่ผสานความทรงจํากับชิ ้นส่วนจิตวิญญาณที่เหลือ
ความทรงจําเหล่านี ้เต็มไปด้ วยชิ ้นส่วนจิตวิญญาณเล็กๆน้ อยๆและยังมีมากมหาศาลและยากที่
จะเข้ าใจ สําหรับหลินหมิง การผสานครัง้ นี ้ใช้ เวลาหลายชัว่ โมง
หลินเซี่ยวตงที่ถกู ทิ ้งไว้ เพียงลําพัง จึงไปเดินเล่นในเทศการการค้ าเที่ยงธรรม มันยากที่จะ
จินตนาการว่าเพื่อนของมันที่เจอกันมีระดับการฝึ กฝนสูงขึ ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ! การอุทิศตนนี่คือ
สิ่งที่น่าชื่นชมและน่าสนับสนุน เขาเป็ นคนที่บ้าการต่อสู้อย่างแท้ จริ ง
ในช่วงบ่ายในที่สดุ หลินหมิงก็ลืมตาตื่น แม้ วา่ เขาจะมีอาการปวดหัว แต่ใบหน้ าของเข้ ากลับเต็ม
ไปด้ วยรอยยิ ้ม ดวงตาแวววับสดใสเหมือนว่ามีป่ากว้ างขวางแห่งความสุขอยูใ่ นนัน! ้
เทคนิคการจารึกที่มีต้นกําเนิดจากดินแดนพระเจ้ ามีประณีตและวัฒนธรรมอันลึกซึ ้ง สิ่งเหล่านี ้
ไม่ใช่สิ่งที่จะมีผ้ ใู ดริ อาจไปเปรี ยบเทียบได้ !
เทคนิคการจารึกถูกพบในชิ ้นส่วนจิตวิญญาณโดยไม่คาดคิด! มันสามารถเพิ่มระดับของ
อุปกรณ์ ทังยั
้ งสามารถเพิ่มความแรงของยา และเหนือสิ่งอื่นใดมันสามารถสลักลงบนร่างกาย
เพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึ กฝนและความแข็งแกร่ง!
นัน่ คือการรวบรวมความรู้ในมิติตา่ งๆนับพันปี จากดินแดนพระเจ้ า และมันเป็ นเพียงส่วนเล็กๆ!
อาจจะมีเทคนิคที่คล้ ายกันบางอย่างก็เป็ นได้ แต่สว่ นใหญ่หายไปในกาลเวลาเนื่องจากการ
ทําลายล้ างของนิกายโบราณหรื อเหตุผลอื่นๆ
เทคนิคจารึกของทวีปนภาริ นไหลทําได้ เพียงเพิ่มระดับของอุปกรณ์เท่านัน้ นอกจากนี ้แม้ จะ
สามารถทําเช่นนันได้
้ แต่ก็มีผ้ ทู ําได้ น้อยยิ่งนัก! เมื่อเปรี ยบเทียบกับดินแดนพระเจ้ าซึง่ เทคนิค
การจาลึกนันมี
้ ความลึกซึง่ ถึงแก่นแท้ อย่างจริ งแท้ แล้ ว การจาลึกในปั จจุบนั เป็ นเพียงบ่อนํ ้าเล็กๆ
ในมหาสมุทรที่กว้ างใหญ่
หลินหมิงยกตัวให้ ยืนขึ ้น ทันใดนันอาการคลื
้ ่นไส้ ถาโถมเข้ ามาในทันที การที่ได้ รับข้ อมูลจํานวน
มากจากภายในจิตใจของเขา มันทําให้ เกิดความเจ็บปวดที่ร้ายกาจเกินจะรับไหว เขาใช้ เวลา
สามชัว่ โมงกับการผสานจิตวิญญาณ และดูดซับมาเพียงครึ่งหนึง่ ของข้ อมูล และเขาวางแผนไว้
แล้ ว
อย่างแรกคือเขาจะซื ้อวัสดุและเริ่ มต้ นเรี ยนรู้เรื่ องพื ้นฐาน! โดยจะมุง่ เน้ นไปที่การเพิ่มประสิทธิ
ภาพของโอสถและสมุนไพรอื่น ๆ ตามมาด้ วยวิธีการแกะสลักลงบนร่างกาย หลินหมิงตื่นเต้ น
กับความเป็ นไปได้ ที่ไม่มีที่สิ ้นสุด!
เป็ นที่ร้ ูทราบทัว่ กันว่าโอสถและสมุนไพรในโลกนี ้หายากและมีคา่ เพียงใด แม้ วา่ จะรํ่ ารวย
เพียงใด ก็ไม่สามารถจะซื ้อโอสถเหล่านัน! ้ หากการจารึกลงบนโอสถถูกนําไปใช้ แล้ ว ความแรง
ของโอสถที่มีเพียงหนึง่ เท่าอาจจะกลายเป็ นสองเท่า! เป็ นแนวความคิดที่ไร้ สาระ !?แต่อาจเป็ น
จริ งก็ได้ !!
สําหรับการจารึกลงบนร่างกายไม่ใช้ เพียงความเร็ วในการฝึ กฝนมันเท่ากับการเพิ่ม
ความสามารถโดยไม่ต้องสิ ้นเปลืองโอสถใดๆ มันเป็ นเทคนิคฝื นชะตากรรมอย่างแท้ จริ ง!(ระดับ
พรสวรรค์ของนักสู้ไม่สามารถเพิ่มขึ ้นได้ อีกเกิดมาเท่าไหรตายไปก็เท่านันซึ
้ ง่ มันส่งผลต่อ
ความเร็ วในการฝึ กฝนกายภาพขันต่้ างๆ)
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงวัสดุที่ราคาแพงที่เขาจะต้ องซื ้อ หลินหมิงฝื นยิ ้ม เขานึกไปถึงเหตุการณ์
ที่ผ่านมา เขาประสบความสําเร็จและได้ รับทองกว่า800เหรี ยญ แต่มนั จะพอรึ? เขาจะต้ องใช้
จ่ายเงินก้ อนนี ้อย่างชาญฉลาด
นํ ้าสมุนไพรหญ้ าลมฟ้า เลือดสัตว์ดรุ ้ ายระดับสาม คราบของจักจัน่ เลือดหางยาว กุ้งนํ ้าแข็ง…
หมิงหลิงซื ้อวัสดุเหล่านี ้ในอย่างบ้ าคลัง่ เขาพบเพียงไม่กี่อย่างที่ตรงกับความต้ องการของเขา
บางส่วนผสมเขาจําได้ วา่ มาจากดินแดนพระเจ้ า ถ้ าเป็ นเช่นนันเป็ ้ นไปได้ วา่ วัสดุเหล่านี ้ไม่ได้ อยู่
ในทวีปนภาริ นไหล
ไม่วา่ จะดีหรื อร้ าย หลินหมิงได้ ใช้ เงินทังหมดในการซื
้ ้อวัสดุ เขาซื ้อตําราอักขระมากมายและมุง่
หน้ ากลับไปฝึ กเทคนิคการจารึกของเขา นี ้เป็ นการเผาไหม้ เงินทองอย่างแท้ จริ ง เขาจะต้ อง
ประสบความสําเร็จในการจารึกเหล่านี ้และทําเงินจากมัน มิฉะนันเขาจะไม่ ้ มีอะไรมากไปกว่า
การล้ มละลาย
ในขณะที่หลินหมิงกําลังวางแผน หลินเซี่ยวตงกลับมาจากเทศการการค้ าเที่ยงธรรม ดวงตาของ
เขากว้ างขึ ้นในขณะที่เขาเห็นวัสดุกองใหญ่ที่กองอยูต่ รงหน้ า
“พี่บ้าไปแล้ ว พี่ทําอะไรลงไปเนี ้ย !?”
หลินหมิงไม่ร้ ูจะพูดอย่างไร เขาเพียงแต่ตอบไปตามความเป็ นจริ งว่า “ข้ ากําลังศึกษาการ
จารึก”
” ศะ ศึ… ศึกษาการจารึก?” หลินเซีย่ วตงถามด้ วยเสียงตระกุกตระกัก เบ้ าตาขยายกว้ างขึ ้น
เท่าขนาดของไข่ เขาไม่อยากจะเชื่อหูของเขา!
“ข้ ากําลังศึกษาเทคนิคการจารึก” หลินหมิงตอบกลับไปอีกครัง้
“พี่ ศึ…ศึกษาเทคนิคการจะ..จารึก !? ศักดิส์ ิทธิ์! พี่ชายของข้ า… พี่ชายของข้ ากลายเป็ นคนงี่
เง่าไปแล้ วในเช้ าวันนี ้? ด้ วยเงินไม่ถงึ 1000เหรี ยญทอง ยังต้ องการที่จะศึกษาเทคนิคการจารึก?
จะไปมีอาจารย์จากไหนยอมมาสอนกัน !? ”
“ข้ าซื ้อตําราหายากมา.” หลินหมิงชี ้ไปที่โต๊ ะ ตาของหลิวเซี่ยวตง โป่ งอีกครัง้ ในขณะที่เขาอ่าน
ตัวอักษรขนาดใหญ่
‘เทคนิคการจารึก: การเริ่มต้ นบนเส้ นทางแห่งการจารึก’
หลินหมิงได้ ซื ้อหนังสือเล่มส่วนใหญ่เพื่อจะเข้ าใจเทคนิคการจารึกของทวีปนภาริ นไหลใน
ระดับพื ้นฐานและเชื่อมโยงเข้ ากับความทรงจําที่เขารับจากชิ ้นส่วนจิตวิญญาณ
เมื่อหลินเซี่ยวตงได้ เห็นตํารา ‘เทคนิคการจารึก: การเริ่ มต้ นบนเส้ นทางแห่งการจารึก’เล่มชุ่ยๆ
นัน้ เขาเกือบจะอาเจียนเป็ นเลือด เขาไม่น่าพูดถึงการจารึกเลย เขาเริ่ มจะเสียใจที่โม้ เกี่ยวกับ
ความยิ่งใหญ่ของผู้เชี่ยวชาญการจารึกให้ หลินหมิงฟั ง เสียใจจนเป็ นปวดไปทังหั ้ วใจ
เมื่อเขาหันดูวสั ดุอื่นๆเป็ นกองพะเนิน ทันใดนันหลิ
้ นเซี่ยวตงรู้สกึ ว่าหัวใจของเขาถูกทิ่มแทงอีก
ครัง้ แม้ วา่ เขาไม่ต้องการจะรู้ เขาก็ยงั หันไปหาหลินหมิงและถาม: “นี่… ทังหมดนี
้ ่พี่จ่ายไปเท่า
ไหร”
หลินหมิงตอบว่าช่วยไม่ได้ ” … 70 เหรี ยญทอง … ”
หลินเซี่ยวตงถอนหายใจอย่างโล่งอก 70 เหรี ยญทองเขายอมรับได้ แต่นํ ้าเสียงของเขาแสดงให้
เห็นว่าหลินหมิงยังพูดออกมาไม่เสร็จสิ ้น คําพูดต่อไปนี ้เกือบทําให้ เขาต้ องทรุดอย่างสิ ้นหวัง
“… ข้ าเหลือ 70 เหรี ยญทอง”
ณ จุดๆนี ้โลกของหลินเซีย่ วตงกลายเป็ นสีดํามืด แข้ งขาอ่อนทรุดลงไปบนพื ้น




“พ่อหนุ่มและพ่อหนุ่มสุดหล่อผู้เชี่ยวชาญ! นี่คือตําราจารึกที่ลํ ้าเลิศ เป็ นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง
ของปรมาจารย์ใบหงส์ ! หากใช้ สมบัติชิ ้นนี ้หละก็ ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ ้นไม่ตํ่ากว่าร้ อยละ
ยี่สิบ! ”
ณ เทศกาลการค้ าเที่ยงธรรม ชายคนหนึง่ สวมใส่เสื ้อผ้ าเป็ นทางการยิ ้มในขณะที่เขาแนะนํา
สินค้ าให้ กบั รุ่นน้ องตระกูลชนชันสู
้ ง หลังจากที่ได้ กระดาษจารึกไปแล้ ว สามารถใช้ มนั เพียงที่พดู
หนึง่ คําสัง่ เพื่อทําเครื่ องหมายลงอุปกรณ์ที่ต้องการ มันเป็ นความสะดวกสบายมาก!
เทศกาลดังกล่าวไม่ได้ เป็ นสถานที่ที่ใครก็จะเข้ าไปได้ มนั จําเป็ นต้ องจ่ายค่าผ่านทาง 50 เหรี ยญ
ทอง! สําหรับนักต่อสู้โดยเฉลี่ยเงินจํานวนนี ้ไม่ใช่น้อยๆเลย มันมากพอที่พวกเขาจะซื ้อยา
สมุนไพรได้ ถงึ ครึ่งเดือน
หลินหมิงได้ จ่ายเงินค่าผ่านทางและเข้ าไป ในเวลานี ้ทองทังหมดของเขามี
้ พียง 25 เหรียญทอง
เขาเดินเข้ าไปในห้ องโถงธุรกรรมอย่างรอบคอบด้ วยความระมัดระวังสูงสุด หากเขาไปสัมผัส
ขวดหรื อหม้ อแม้ วา่ เขาจะร่างกายดุจกุลสตรี เขาก็ไม่สามารถที่จะชดใช้ มนั !
หลินหมิงอยากจะดูวา่ ผู้เชี่ยวชาญการจารึกทําเงินอย่างไร ที่นี่เป็ นชันที
้ ่ผลิตภัณฑ์จากการจารึก
ถูกนําไปขายให้ พวกเขาผู้ที่สามารถใช้ จ่ายเงินค่าผ่านทางเข้ ามาได้ เท่านัน้
“นี่เป็ นผลงานของปรมาจารย์ใบหงส์?” หนุ่มผู้ออ่ นโยนถามขึ ้นมาในขณะที่เขาก้ าวไปข้ างหน้ า
เขาถูกดึงดูดอย่างเห็นได้ ชดั โดยชื่อเสียงของเจ้ าของผลผลงาน
“มีหลักฐานใดยืนยันงันรึ
้ เสมียน?”
“เจ้ าหนุม่ น้ อย เรามีหลักฐานว่าเป็ นฝี มือของปรมจารย์ใบหงส์แน่นอน มัน่ ใจได้ เลยว่าสินค้ าที่
เทศกาลการค้ าเที่ยงธรรมซื ้อขายนี ้มีความถูกต้ องปลอดภัยเป็ นที่ร้ ูจกั กัน! ถ้ าไม่เช่นนันเราจะ

้ ”
ชดเชยที่สิบเท่าในราคานัน!
” … อืม … มันราคากี่ทองหละ?”
“1500เหรี ยญทอง หากคุณมีบตั รสมาชิกเรายังมีสว่ นลดให้ อีก 10%”
“อืม … ข้ าคิดว่า … ” หนุ่มผู้ออ่ นโยนครุ่นคิดเรื่ องนี ้สักครู่ แม้ วา่ เขาจะเป็ นเด็กจากตระกูลที่
รํ่ ารวย 1500เหรี ยญทองก็ไม่ใช่จํานวนน้ อยๆ
เมื่อได้ ยินราคานี ้ แม้ วา่ หลินหมิงจะคาดการณ์ไว้ บางแล้ ว เขาก็ยงั ต้ องตกใจ! 1500 เหรี ยญ
ทอง! นี่คือเหรี ยญทองที่ลว่ งหล่นจากสวรรค์!
แต่…สําหรับเขาที่พงึ่ ได้ เรียนรู้เทคนิคการจารึกด้ วยแล้ ว มันเป็ นเรื่ องยากที่จะทํากําไรแบบนันได้

ในช่วงต้ น
ความคิดเรื่ องทองที่ลว่ งหล่นจากสวรรค์นี ้หลินหมิงทําให้ เขาตื่นเต้ น เขาก็เต็มไปด้ วยความ
มุง่ มัน่ ที่จะเรียนรู้เทคนิคการจารึก!

บทที่ 10 เหล่าหญิงสาวในเขตศักดิ์สทิ ธ์
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
แม้ วา่ หลินหมิงจะดูดซับความทรงจําของชิ ้นส่วนจิตวิญญาณไป เขาก็ยงั ไม่สามารถเข้ าใจการ
จารึกที่แสนยากเย็นนันได้
้ เพื่อให้ ได้ ความรู้เพิ่มเติมมาปะติปะต่อส่วนที่ขาด เขาจะต้ องฝึ ก
ร่างกายและจิตวิญญาณควบคูก่ นั ไปเพื่อที่จะได้ รับความทรงจําได้ อย่างเต็มที่!
วัสดุในการจารึกล้ วนหมายถึงเงินทองที่เขาได้ มาอย่างยากลําบาก เขาไม่อยากเสียมันแม้ แต่
เหรี ยญเดียว ขณะนี ้หลินหมิงจึงไม่กล้ าใช้ วสั ดุใดๆ เขาจึงได้ แต่รวบรวมสาระที่แท้ จริ งจาก
การศึกษาของต่อไป เขาหมุนเวียนพลังงานในร่างกายของเขาและรอเวลาที่มนั จะเชื่อมโยงกับ
ความทรงจําจากชิ ้นส่วนจิตวิญญาณ เขาค่อยๆผสานความเข้ าใจต่างๆในใจของเขา
นี่เป็ นกระบวนการที่น่าเบือ่ มาก แต่ในใจหลินหมิงเขาจะได้ เห็นตํารานับหมื่นๆหน้ าครัง้ แล้ วครัง้
เล่า ในขณะที่จิตวิญญาณและร่างกายของเขาค่อยๆปรับตัวและเรี ยบเรี ยงเนื ้อหาให้ งา่ ยแก่การ
เข้ าใจ
มันจําเป็ นต้ องมีแรงจิตวิญญาณมากอย่างเหลือล้ น ในทุกขณะหลินหมิงใช้ เวลาที่เหลือน้ อยๆใน
การอ่านตําราชุ่ยๆ ‘เทคนิคการจารึก: วิธีการเริ่ มต้ นบนเส้ นทางการจารึก’ เขาผ่อนคลายทําใจ
ให้ ปลอดโป่ ง แม้ วา่ ตํารานี ้จะอธิบายสิ่งที่เขาไม่ร้ ูจากชิ ้นส่วนจิตวิญญาณ มันก็มีบางเรื่ องที่ไม่
อาจเข้ าใจได้ ในการจารึกแห่งทวีปนภาริ นไหล
หลังจากหนึง่ วันเต็มของการฝึ กฝน หลินหมิงปิ ดตํารา ‘จารึกการเทคนิค: วิธีการเริ่ มต้ นบน
เส้ นทางการจารึก’ ในตําราไม่ได้ อธิบายเกี่ยวกับเส้ นไหมนภา
เส้ นไหมนภาเป็ นสิง่ ที่สําคัญที่สดุ สําหรับหลินหมิง เขาได้ เห็นวัสดุหลายชนิดในเทศกาลการค้ า
เที่ยงธรรม แต่ไม่เคยเห็นมันนี ้แม้ วา่ เขาได้ พบเส้ นทางที่ดีของข้ อมูล แม้ วา่ เขาจะพบใน
แหล่งข้ อมูลของราชอาณาจักรลิขิตฟ้าว่ามีเส้ นไหมนภา แต่ปกติพวกมันถูกนํามาใช้ ในการทํา
สายเครื่ องดนตรี (หมายถึงพวกเครื่ องดนตรี ที่ใช้ ในการต่อสู้เป็ นหลักนะอาจจะใช้ เพื่อความ
บรรเทิงบ้ างเล็กน้ อย พวกพิณ เครื่ องสีตา่ งๆ)
หลินหมิงไม่แน่ใจว่ามันคือสิ่งเดียวกันหรื อไม่…
เพราะความแตกต่างของภูมิประเทศและระดับการฝึ กฝน วัสดุที่ระบุไว้ ในอาณาจักรของพระเจ้ า
กับในดินแดนของเขาอาจไม่ใช่สิ่งเดียวกันแม้ วา่ พวกมันจะมีชื่อเดียวกัน เส้ นไหมนภาใน
ดินแดนพระเจ้ าอาจจะแตกต่างกันอย่างสิ ้นเชิงกับเส้ นไหมนภาของทวีปนภาริ นไหล แม้ หลินห
มิงจะไม่อาจใช้ ชื่อค้ นหาได้ แต่ก็ยงั มีปัจจัยอื่นๆ เช่นรูปลักษณะและกลิ่น ถ้ าสิ่งเหล่านี ้
เหมือนกันแล้ วมันก็น่าจะเป็ นสิ่งเดียวกัน แต่ในใจของเขามีเพียงความทรงจําจากดินแดนของ
พระเจ้ าของเส้ นไหมนภา แต่เขายังไม่เห็นพวกมันในทวีปนภาริ นไหล เขาไม่สามารถตรวจสอบ
ให้ แน่ชดั ถึงการมีอยูข่ องมัน
หลินหมิงคิดอย่างรอบครอบเกี่ยวกับการที่เขาจะหาเส้ นไหมนภาและในท้ ายที่สดุ ก็สรุปได้ วา่ เขา
อาจจะสามารถหามันได้ ในสํานักเจ็ดแก่นแท้
ส่วนใหญ่นกั ต่อสู้จะใช้ ดาบเป็ นอาวุธ บางครัง้ อาจเป็ นกระบีห่ รื อธนูและอืน่ ๆ แต่อย่างไรก็ตามก็
ยังมีผ้ ใู ช้ อาวุธที่หายากและมีคา่ สูง อย่างเช่นพิณ!
ชื่อเสียงของสํานักเจ็ดแก่นแท้ มากจากเจ็ดผู้เชี่ยวชาญแห่งหุบเขาแก่นแท้ ทงเจ็
ั ้ ด แต่ชื่อของหุบ
เขาแก่นแท้ ทงเจ็
ั ้ ดมีต้นกําเนิดมาจากผู้เชี่ยวชาญทังเจ็
้ ด ซึง่ แต่ละคนใช้ อาวุธต่างๆกัน หนึง่ ในนัน้
มีหญิงคนหนึง่ และอาวุธของเธอคือพิณ!
ดังนันพิ
้ ณจึงเป็ นหนึง่ ในอาวุธที่เจ็ดผู้เชี่ยวชาญเลือกใช้ และได้ รับการสืบทอดจากรุ่นสูร่ ุ่นมา
จนถึงปั จจุบนั ด้ วยเหตุนี ้จึงเป็ นส่วนหนึง่ ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ !
แต่ความยากลําบากในการใช้ มากเกินคาด จําเป็ นต้ องมีความสามารถที่สงู เหลือล้ น ทังผู ้ ้ ใช้ ยงั
จะต้ องมีอารมณ์ที่สงบและมีสมาธิสงู ด้ วยเหตุนี ้สํานักเจ็ดแก่นแท้ แทบจะไร้ ผ้ ฝู ึ กฝนด้ วยอาวุธนี ้
เมื่อเทียบกับหน่วยที่ใช้ อาวุธที่นิยมมากกว่า อย่างน้ อยร้ อยละ 99 ของผู้ที่มาเรี ยนพิณจะเป็ น
ผู้หญิงที่เข้ ามาเพื่อรํ่ าเรี ยนตัวอักษรและทักษะตราสารต่างๆ พวกเขาจะไม่เน้ นไปทางการต่อสู้
ฆ่าฟั นในศิลปะการต่อสู้มากนัก
หลินหมิงตังเป
้ ้ าหมาย ปลายทางของเขาคือห้ องโถงของหน่วยพิณที่ พวกเขาจะให้ การศึกษาแก่
สาธารณชน!
ในแต่ละปี สํานักเจ็ดแก่นที่ได้ รับการจัดตังขึ ้ ้นในราชอาณาจักรลิขิตฟ้า จะเลือกผู้มีพรสวรรค์
สูงสุดเพื่อเป็ นศิษย์เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ซงึ่ มักจะเป็ นตระกูลที่สงู ส่งเท่านันที
้ ่จะถูกเลือก แต่
สํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็ยงั ให้ สิทธิ์พิเศษให้ กบั ศิษย์นอกสํานักเพื่อเข้ าสูห่ ้ องโถงส่วนกลางที่พวกเขาก็
สามารถเข้ าร่วมฟั งการบรรยายพื ้นฐานได้
อย่างไรก็ตามการเข้ าสูห่ ้ องโถงบรรยายสาธารณะจําเป็ นต้ องมีบตั รผ่านพิเศษ!
มิฉะนันใครต่
้ อใครแม้ แต่สนุ ขั ก็จะมา ดังนันห้
้ องบรรยายสาธารณะจะกีดกันทุ
้ กคนยกเว้ นผู้ถือ
ครองบัตรผ่านพิเศษ!
สํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ วางหลักเกณฑ์สําหรับเรื่ องนี ้ว่าผู้จะเข้ าต้ องผ่านอย่างน้ อยข้ อหนึง่ ในสาม
ข้ อต่อไปนี ้ หนึง่ จะต้ องมีการฝึ กฝนกายภาพขันสาม้ สองเป็ นตระกูลชันสู้ ง หรื อสามเป็ นศิษย์
สํานักเจ็ดแก่นแท้ หรื อสํานักลิขิตฟ้า หากไม่ผ่านข้ อใดข้ อหนึง่ ในสามข้ อนี ้ได้ จะไม่มีสิทธิพิเศษใน
การเข้ ามาในห้ องบรรยายสาธารณะ การบรรยายได้ รับความนิยมอย่างมากและมีความ
ต้ องการสูง แต่เนื ้อหาที่แท้ จริ งยังคงสงวนไว้ สําหรับสาวกหลัก
ด้ วยบัตรผ่านพิเศษที่หลินหมิง ยืมมาจากหลินเซี่ยวตง เพราะหลินเซี่ยวตงอยูใ่ นสายตระกูลแท้
และมีขนาดใหญ่มากทังบุ ้ ตรหลานและผู้อาวุโสต่างก็เป็ นศิษย์ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ หลินเซี่ยว
ตงจะได้ มนั มาก็ไม่ใช้ เรื่ องยากเกินไป
เมื่อไม่นานมานี ้หลินหมิงไปเยี่ยมหลินเซี่ยวตง ที่ตะโกนออกมา “พี่!ข้ านับถือพี่มาก!พี่จะต้ อง
รักษาตัวเองจากความโง่เขลาให้ ได้ เพื่อตัวพี่เอง “(แมร่งชมหรื อหลอกด่าฟะ 555 อาจเป็ น
สํานวนของเขาผู้แปลขอแปลตรงตัวไปนะ)
หลินเซี่ยวตงได้ ชื่นชมการฝึ กหนักและหาความรู้ของพี่ของเขาอย่างแท้ จริ ง ในหัวใจของเขา เขา
มีความเชื่ออยูเ่ สมอว่าพี่ของเขาจะไปถึงระดับสูงสุดที่เป็ นไปได้ ของนักสู้เป็ นตํานานที่ร้ ูจกั ไปทัว่
แผ่นดิน! แต่เทคนิคการแกะจารึกเป็ นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจทําได้ ใช้ แค่ความเชื่อมัน่ ของคนๆ
หนึง่ มันจําเป็ นต้ องมีความถนัดเฉพาะทาง!
ถ้ ามันเป็ นไปได้ ที่จะกลายเป็ นนักจารึกด้ วยการใช้ จ่ายเพียง 800 เหรี ยญทองที่จะซื ้อวัสดุ
บางอย่างและตําราคูเ่ ล่มนี ้ ‘เทคนิคการจารึก: การเริ่ มต้ นบนเส้ นทางการจารึก’ แล้ วนักจารึกคง
จะมีอยูเ่ ต็มไปหมด เหมือนมด
สําหรับหลินเซี่ยวตง เพื่อให้ หลินหมิงได้ ศกึ ษาการจารึกและทําฝั นให้ เป็ นจริง เขาไม่เพียงยอม
สูญเสียเงินทังหมดของเขาและกลายเป็
้ นขอทาน แต่เขายังยอมเสียเวลาอันมีคา่ เพื่อช่วยเหลือ!
เพราะหลินเซี่ยวตงเป็ นพี่น้องโดยสายเลือดของหลินหมิง ดังนันสิ
้ ่งที่หลินเซี่ยวตงทําได้ คือหา
ผ่านบัตรมาให้ ในขณะที่เขาถือว่ามันเป็ นสิ่งทีเขาควรทํา
เขาตัดสินใจว่าเขาจะพบว่าเวลาที่เหมาะสมพาหลินหมิงไปห้ องโถงการแพทย์เพื่อพบแพทย์ที่มี
ชื่อเสียง อาจเป็ นสิง่ ที่คนอื่นไม่ร้ ูเกี่ยวกับหลินหมิง แต่เขารู้สกึ ได้ วา่ สมองและจิตวิญญาณของ
หลินหมิงถูกรบกวน!
จากนันหลิ
้ นหมิงก็มาถึงที่หอประชุมของสํานักเจ็ดแก่นแท้ หน่วยพิณ มันเป็ นอาคารที่สง่างาม
สามชัน้ มีพื ้นที่การบรรยายกว้ างขวาง
แต่ที่น่าสงสารก็คือหลินหมิงไม่ร้ ูเลยว่า หน่วยพิณเป็ นการบรรยายสาธารณะสําหรับผู้หญิง มัน
เป็ นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ที่แท้ จริ ง ที่ผ้ ชู ายทุกคนไม่ได้ รับอนุญาตให้ ข้องเกี่ยว!
เหตุผลของเรื่ องนี ้ก็คือการที่หน่วยพิณมีศิษย์เป็ นผู้หญิงทุกคน ผู้หญิงเหล่านี ้ที่อยากจะศึกษา
พิณมักจะมาจากครอบครัวชนชันสู ้ ง ในชีวิตของพวกเขาเต็มไปด้ วยท่วงทํานองหวานๆของ
เพลงและการปรากฏตัวของพวกเขายังอยูใ่ นระดับสูงเหลือใจ! พวกเขาเป็ นหนึง่ ในกลุม่ ผู้หญิงที่
สวยที่สดุ ผลก็คือพวกหนุ่ม ขุนนาง นักสู้ มากมายถูกล่อลวงด้ วยความคิดลามกและฝั นว่าพวก
เขาจะได้ สมั ผัสแม้ เพียงซักครึ่งหนึง่ ในความงามเหล่านี ้
อาจมีพวกหนุ่มๆอาศัยสถานะของตระกูลเพื่อที่รับบัตรผ่าน ซึง่ จะมีคนของหน่วยพิณมา
สอดส่อง พวกที่มีความตังใจที
้ ่ไม่ดีและสกปรก พวกเขาอาจไม่ได้ มาเพื่อศึกษาเป็ นหลัก ดูจาก
แววตาของพวกเขา ที่มงุ่ เน้ นแต่การสังเกตความโค้ งเว้ าของสาวๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีต้นขา
เรี ยวและ … ทรวงอกโต
หลังจากการบรรยายจบ พวกเขาจะพากันไปทานอาหารในบริ เวณใกล้ เคียงและไปเลือกหาซื ้อ
สินค้ า! ในที่สดุ ความงามของหน่วยพิณก็จะเป็ นที่ประจัก ความอดทนของเหล่าชายหนุ่มอาจถึง
ขีดจํากัด พวกเขาต้ องการที่จะเยี่ยวยาหัวใจและหาอาหารสายตา ซึง่ อาจเป็ นการรบกวนเหล่า
นักศึกษาส่วนใหญ่ เพราะเกือบทังหมดเป็
้ นผู้หญิง ซึง่ อาจเป็ นการสร้ างความรํ าคาญที่มีพวก
ลามกคอยไล่ตาม!
หน่วยพิณเริ่ มที่จะป้องกันไม่ให้ เหล่าชายหนุ่มใช้ บตั รผ่านเข้ ามาโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผ้ ชู ายที่มี
เล่ห์เหลีย่ มความอันธพาล พวกเขาไล่พวกนันออกไปอย่
้ างไม่ลดละและไม่มีความเมตตา!
เมื่อหลินหมิงเข้ าในห้ องโถงของหน่วยพิณ แต่เวลาบรรยายยังไม่ได้ เริ่ มต้ นและศิษย์หญิงหลาย
คนคุยกันเงียบๆ แลกเปลีย่ นพูดคุยทักษะพิณกับคนอื่นๆ ในห้ องโถงหญิงคนหนึง่ กําลังเล่นเพลง
ใหม่ มันเป็ นเพลงที่วอ่ งไวและสดใหม่ที่เต็มไปด้ วยความสง่างามเป็ นเสียงที่ไพเราะ มันเป็ น
ทํานองที่ดงึ ดูดอยูใ่ นใจของคน
หลินหมิงเดินเข้ ามาและสังเกต เส้ นสายบนพิณไม่ใช้ เส้ นไหมนภาอย่างที่เขาได้ คาดการณ์ไว้
แน่นอนว่าเส้ นไหมนภาเป็ นรายการที่มีราคาแพงและหายาก เส้ นไหมนภาต้ องทําให้ เกิดเสียงที่
รุนแรงและหวงแหน คนที่มีการฝึ กฝนตํ่าอาจจะได้ รับบาดเจ็บพยายามได้ หากเล่นดนตรี ด้วย
เส้ นเสียงที่ทําจากเส้ นไหมนภา เหล่าศิษย์นองที่เป็ นดังเช่นดอกไม้ เล็กและเปราะบางของหน่วย
พิณคงไม่มีประสิทธิภาพที่จะใช้ มนั ได้
สาวที่กําลังเล่นพิณเป็ นคนที่อทุ ิศตัวเพื่อฝี มือของเธอ เธอพยายามส่งสัญญาณเตือนหลินหมิง
และศิษย์หญิงสองคนที่กําลังฟั งฟั งท่วงทํานองสังเกตเห็นการปรากฏตัวของชายคนหนึง่ พวก
เธอขมวดคิ ้วแน่น แต่ก็ไม่ได้ พดู อะไร
ปกตินนั ้ มักจะมีผ้ ชู ายบางคนที่มีความตังใจที
้ ่ชวั่ ร้ ายโฉบเช่นแมลงวัน พวกเขามักทําท่าเป็ นผู้ที่
ชื่นชอบเสียงพิณแต่ก็ทําเพื่อจะมาใกล้ ชิดเท่านัน้ และหาโอกาสมองทรวงอกของศิษย์หญิง ‘
เป็ นผู้ชายประเภทที่ทําให้ นกั เรี ยนหญิงรู้สกึ ขยะแขยงที่สดุ
เหล่าศิษย์หญิงที่มาศึกษาพิณมักจะมีผิวพรรณเปล่งประกายสวยงาม ไม่ต้องการที่จะเสียหน้ า
มาเถียงกับสัตว์สกปรกผิดปกติทางเพศ กลุม่ ศิษย์สาวต่างรวมตัวกันหมดและรอพี่สาวอาวุโส
มาจัดการ พวกที่นิสยั เสียทังหมดคงถู
้ กโยนออกนอกประตูไป
ดังนันแม้
้ จะมีบรรดาเหล่าชายร้ ายไร้ ยางอายมา ก็มกั จะถูกโยนออกมาและถูกไล่กลับไปพร้ อม
กับข้ ออ้ างที่วา่ พวกเขาเป็ นนักศึกษาที่ต้องการศึกษาพิณอย่างแท้ จริ งร่วมกับศิษย์หญิงคนอื่นๆ
พวกเขาไม่ได้ มีความคิดสกปรกใดๆ แต่ก็ไม่ต้องสงสัย มันย่อมเป็ นผู้ไร้ ยางอายที่ชวั่ ช้ า!
ด้ วยเหตุนี ้พี่สาวอาวุโสก็กลายเป็ นคนไร้ ความปรานีมาตลอด เธอติดป้ายที่เขียนเป็ นตัวหนา
เหนือประตูทางเข้ าเขียนไว้ วา่ ‘ห้ ามหมาตัวผู้เข้ า”(ห้ ามผู้ชายเข้ า)
เรื่ องนี ้กลายเป็ นที่รุนแรงมากขึ ้นเรื่ อยๆ และในที่สดุ ก็ถกู ส่งผ่านไปสูส่ มาชิกระดับสูงในแผนก
ผู้ชายจึงไม่ได้ รับอนุญาตจากหน่วยพิณในการเข้ าไปในห้ องโถง ยกเว้ นว่าจะเป็ นศิษย์ชายที่เข้ า
มาภายใต้ เงื่อนไขที่เข็มงวดซึง่ จะถูกกําหนดโดยศิษย์หญิงของหน่วยพิณ คนที่มีแววความลามก
และความตังใจชั ้ ว่ ร้ ายถูกไล่ออกทันทีและได้ เพิกถอนสิทธิ์ทงหมดตลอดไป!
ั้
เมื่อเป็ นเช่นนี ้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ห้ องโถงของหน่วยพิณไม่เห็นแม้ แต่เงาของผู้ชาย
เป็ นธรรมดาที่หลินหมิงจะไม่ทราบประวัติของหน่วยพิณและพวกนิสยั เสียๆที่ถกู ไล่ออกไป เขา
มองไปรอบๆสักครู่แต่ก็ไม่พบเครื่ องดนตรี ที่ทําจากเส้ นไหมนภา และเริ่ มที่จะเดินเล่นไปยังด้ าน
หนึง่ ห้ องโถงที่สะสมตําราไว้ หวังว่าบางทีนนั่ อาจจะมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้ องกับสิ่งที่เขา
ต้ องการ
ขณะที่เขาเดินไปนัน้ ศิษย์หลายคนเริ่มมองไปที่หลินหมิงที่ยืนอยูใ่ กล้ ๆชันหนั
้ งสือ พวกเขากล่าว
พร้ อมกับเสียงกระซิบ “คนผู้นี ้ดูไม่เหมือนว่าจะมาศึกษาพิณ”
“อืมข้ าคิดว่าข้ าจะเห็นว่าคนพาลเจ้ าเล่ห์ถกู เสี่ยวเซียนจัดการในอีกสักครู่”(ผู้แปลค่อนข้ าง
มัน่ ใจว่าเสี่ยวเซียนคือพี่สาวอาวุโสที่กล่างถึงกันอยูบ่ อ่ ยๆ)
“น่าแปลกที่เขายังดูเด็ก เขามองดูราวๆ 15-16 ปี . ”
“ฮึ! เดียวนี ้เด็ก16ปี แล้ วควรจะแต่งงาน ใครบางคนที่อายุน้อยอย่างข้ าก็อาจจะเป็ นแม่คนแล้ วก็
ได้ ”
หญิงสาวที่พดู เป็ นเพียงสาวอายุ 17 ปี ในเมืองลิขิตฟ้า หญิงอายุ 18 ปี โดยทัว่ ไปจะต้ องแต่งงาน
แล้ ว ในชนบทพวกเขาก็จะแต่งงานกันเร็วขึ ้นไปอีกหนึง่ หรื อสองปี ชายที่แต่งงานแล้ วอายุ 16 ปี
ก็ไม่ได้ หายากเกินไป
“มันไม่อยูภ่ ายใต้ การควบคุมของเรา พี่สาวอาวุโสคงจะมาบรรยายในเร็ วๆนี ้ ถ้ ามันมีความคิด
สกปรกใดๆ เธอจะรู้ได้ ทนั ทีและจะส่งเขาออกไป. ”
หลินหมิงไม่เคยได้ ยินการสนทนาเหล่านี ้จากเหล่าศิษย์หญิง มิฉะนันเขาคงจะไม่
้ ปิดปากเงียบ
แน่นอนเขาไม่ได้ มองไปที่ป้ายของเสี่ยวเซียน แต่นนั่ ก็เป็ นเพราะเขาเอาแต่ตรวจสอบให้ แน่ใจว่า
สายเส้ นเสียงทํามาจากวัสดุใด!
เขายังคงมองหาข้ อมูลเกี่ยวกับเส้ นไหมนภา โชคดีที่หน่วยพิณบรรยายในห้ องโถงขนาดใหญ่
มาก แต่ละด้ านจะมีพื ้นที่สําหรับการตังตํ
้ าราหนังสือ แต่ละมุมแยกแยะตามความหลากหลาย
ของความรู้ทางดนตรี และประวัติศาสตร์
แน่นอนว่าหลินหมิงไม่ได้ สนใจในดนตรี ใดๆ ในการค้ นหาของเขาในที่สดุ ก็พบสิ่งที่เขากําลังมอง
หา! มันเป็ นตําราชื่อ’พิณนภา’
‘พิณนภา’ เป็ นสารานุกรมเครื่ องดนตรี โบราณทุกประเภทซึง่ รวมถึงต้ นกําเนิดของผู้ใช้ ผู้ผลิต
วัสดุและความรู้ที่เป็ นความลับอื่น ๆ ทังหมดที
้ ่ถกู อธิบายอย่างละเอียด แน่นอนวัสดุที่หายาก
เหล่านี ้ยังรวมถึงเส้ นไหมนภา! หลินหมิงก็ตื่นเต้ นเหลือใจและเขาก็เริ่ มอ่านด้ วยความมุมานะ
‘พิณนภา’ แนะนําคุณสมบัติของเส้ นไหมนภาและวิธีการรวบรวม ตําราเล่มนี ้มีข้อบกพร่อง
เพียงอย่างเดียวคือไม่มีภาพเส้ นไหมนภาอยูด่ ้ วย แต่หลินหมิงก็สามารถที่จะตรวจสอบว่ามัน
เป็ นเส้ นไหมนภาที่กําลังมองหาหรื อไม่!
หลินหมิงจริ งจังในอ่านและไม่ได้ ตระหนักถึงศิษย์หญิงทุกคนในห้ องขณะที่การบรรยายเริ่ มขึ ้น
ในทางกลับกันเหล่าสาวงามบนแดนสวรรค์นี ้ต่างมองดูผ้ ชู ายเพียงคนเดียวในเสื ้อผ้ าสกปรกของ
เขา
โชคดีที่หลินหมิงไม่ได้ มองไปรอบๆ สมาธิทงหมดกํ
ั้ าลังจดจ่ออยูก่ บั หนังสือเล่มนี ้ แม้ วา่ ศิษย์
หญิงจะคิดว่ามันอาจเป็ นการเสแสร้ งแต่พวกเธอก็ไม่ได้ มีหลักฐานใดๆ ที่พวกเธอจะไล่เขาออก
เดิมทีการบรรยายจะมีการดําเนินการได้ อย่างราบรื่ น แต่ด้วยการดํารงอยูข่ องพี่สาวอาวุโสแห่ง
หน่วยพิณที่เต็มไปด้ วยอคติอย่างมากกับเพศชาย!
ในแวดวงสังคมของหนุ่มขุนนางนักสู้ ชื่อพี่สาวอาวุโสเป็ นเหมือนสายฟ้าที่ดงั ก้ องอยูใ่ นหูของ
พวกเขาและทําให้ เกิดความเดือดร้ อนขึ ้นในหัวใจของพวกเขา ป้ายที่เขียนว่า”ห้ ามหมาตัวผู้
เข้ า’เป็ นตัวหนังสือที่แสดงถึงการดูถกู จากพวกเธอ ทําให้ พวกเขารู้สกึ ถึงความเจ็บปวดของการ
เสียหน้ ากับเหล่าศิษย์หญิง ! พวกเขาต่างสาปแช่งให้ เธอขึ ้นคานสําหรับช่วงชีวิตที่เหลือของเธอ!
ในความเป็ นพี่สาวอาวุโสคือความงามในหมูค่ วามงาม เธอเป็ นคนที่อายุประมาณ 20 ปี และมี
ใบหน้ ารูปไข่ที่สมบูรณ์แบบด้ วยสัดส่วนที่น่าหลงใหล สูง และต้ นขาเรี ยวสูง
มันช่างน่าเสียดายที่พี่สาวอาวุโสไม่เคยแสดงความสนใจใดๆต่อผู้ชายและมักจะรู้สกึ หงุดหงิด
กับอารมณ์ได้ อย่างง่ายดาย ผู้ชายคนไหนที่กล้ าที่จะจ้ องมองความงดงามของนางจะถูกเตะ
อย่างรวดเร็ วไปที่ระหว่างขาของพวกเขา! (ใครมองที่นี่จกุ ไปอีกนาน)
หลังจากพี่สาวอาวุโสมาถึงเธอสังเกตเห็นหลินหมิงในทันที! คิ ้วของเธอเหี่ยวย่นในทันใด เธอวาง
ลงพิณของเธอและมายืนด้ านหน้ าของเขา เธอทุบฝ่ ามือลงบนโต๊ ะทํางานสามครัง้ และถามเขา
ว่า “แกเข้ ามาได้ ยงั ไง?”

บทที่ 11 พี่สาวอาวุโส
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
เมื่อมีใครสักคนโกรธอาจมีความแตกต่างในการแสดงออกของความโกรธ มีเพียงไม่กี่คําพูดหรื อ
การกระทําเล็กน้ อยในภาษากายที่จะบ่งบอกและมีผลกระทบที่ตามมาอย่างเห็นได้ ชดั
ตัวอย่างเช่นพี่สาวอาวุโสคนนี ้คิ ้วเรี ยวของเธอชี ้ตรงขึ ้นเอวของเธอก็แข็งและยืดตรง
นอกเหนือจากการเคาะบนโต๊ ะอย่างรุนแรงและตะโกนด้ วยเสียงอันกราดเกรี ย้ วอย่างกับว่า
ตะโกนลงมาจากบนสวรรค์! ศิษย์ชายคนใดได้ เห็นได้ ฟังเป็ นต้ องหวาดกลัวจนกระทังอาจฉี ้ ่ราด
คากางเกงกันได้ เลยทีเดียว
หลินหมิงก็ยงั คงสับสนและไม่แน่ใจว่าเขามาฟั งบรรยายในที่แห่งนี ้เข้ าผิดอะไร เขาถามแหย่
กลับไปนิด “ทําไมข้ าจะไม่ได้ รับอนุญาตให้ เข้ ามาหละ?”
ทันทีที่พี่สาวอาวุโสได้ ยินถ้ อยคําของหลินหมิง หัวใจของนางโหมกระหนํ่าไปด้ วยเปลวไฟแห่ง
ความโกรธ! นี ้เจ้ าอัธพาลน้ อย! เธอไม่เชื่อว่าเขาจะมีบตั รผ่าน! ทันใดนันเองเสี
้ ยงหวานและ
อ่อนโยนดังออกมา “พี่สาวหลิง เกิดอะไรขึ ้น?”(พี่สาวอาวุโสนะจะชื่อ หลิน หลิงเสีย่ วเซียน)
หลินหมิงมองออกไปทางเสียงหวานและเขาก็ตกใจ กึก! เสียงนันมาจากหญิ
้ งสาวสวมชุดสีขาว
เรี ยบง่ายกับผมเงางาม เธอเป็ นความงามอมตะด้ วยความสง่างามหาที่เปรี ยบมิได้ เธอเป็ นคนที่
ไม่อาจมีใครอื่นเทียบได้ เธอคือจากหลานจอมพลฉินเสี่ยว ฉินชิงหวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง!
ในเทศกาลการค้ าเที่ยงธรรมหลินหมิงเคยเห็นเธอจากที่ไกลๆ จําทุกลักษณะของเธอได้ ทังเป็ ้ น
คนตระกูลอันดับ1 เพรี ยบพร้ อมด้ วยพรสวรรค์ระดับหก ความงามหาที่เปรี ยบมิได้ ของเธอและ
เสน่ห์อนั ล้ นเหลือจากทักษะจารึก ความแข็งแกร่งทังหมดนี
้ ้ทําให้ กระทัง่ นักสู้ทวั่ พื ้นปฐพีร้ ูสกึ
ด้ อยกว่า
แม้ วา่ หลินหมิงจะคิดว่าเขาถูกลิขิตให้ เป็ นผู้ยิ่งใหญ่และจะสามารถกลายเป็ นวีรบุรุษของทังทวี
้ ป
นภาริ นไหล แต่ในขณะนี ้แม้ แต่ฉินชิงหวน ก็ยงั ไม่มิใช่วีรสตรี แห่งแผ่นดิน นับประสาอะไรกับเขา
ไม่ต้องพูดถึงไอ้ หมาหน้ าโง่จ้ ยู นั ยิ่งไร้ คา่ ไม่ตา่ งจากกบตัวเล็กๆน้ อยในกะลา
หลินหมิงไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะได้ พบฉินชิงหวนในตอนนี ้ แต่ความประหลาดใจของเขาก็
เหมือนกับคนอื่นในห้ องโถงโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่สาวอาวุโส!
นี่คือความจริ งที่เกิดการแบ่งเพศในการศึกษา!
“คางคกตํ่าเตียริ อาจจะกินหงส์ฟ้า!” หัวใจของพี่สาวอาวุโสแผดเผาขณะที่เธอได้ วิจารณ์เขา
ความคิดของเหล่าหญิงสาวล้ วนซับซ้ อนยิ่งนัก แม้ วา่ พี่สาวอาวุโสกล่าวหาว่าเขาเป็ นคนที่น่า
รังเกียจแต่หลินหมิงไม่ตอบสนองอันใด หลังจากที่ได้ เห็นฉินชิงหวน เธอไม่ได้ ร้ ูสกึ เหมือนหญิง
ทัว่ ไปว่าเขาเป็ นผู้ชายที่ผิดหรื อน่ารังเกียจ เรื่ องนี ้เธอไม่ได้ คิดเกี่ยวกับมัน หลังจากที่ศิษย์หญิง
ที่นี่ตา่ งติดนิสยั รังเกียจผู้ชายกันทัว่ หน้ า!
เธอตอบฉินชิงหวน “เด็กน้ อยตัวผู้นา่ รังเกียจนี ้แอบไปก่อกวนเหล่าศิษย์หญิงอย่างเราๆ ข้ า
กําลังสอบปากคํามัน เรื่ องที่มนั บังอาจเข้ ามาที่นี ้ ? “(อีนงั ป้าหน้ าแก่นี ้ใส่ร้ายพระเอกกูชดั ๆ)
้ าให้ หลินหมิงถึงกับต้ องเกาหัว เขามาที่นี่เพื่อไปราวีสาวๆ ? ทําไมเขา
คําพูดไม่กี่คําเหล่านันทํ
ถูกกล่าวหาว่าอย่างนัน?

เขากล่าวตอบ “ข้ ามาที่นี่เพื่อดูหนังสืออ้ างอิงบางอย่างโปรดอย่ากล่าวโทษข้ าในสิ่งที่ข้าไม่ได้ ทํา
โดยไม่มีหลักฐาน สิ่งที่พี่สาวกําลังทําคือเรื่ องที่ไร้ สาระดังเช่นการดูถกู สติปัญญาของตัวเอง”
“หาหนังสืออ้ างอิง? สิ่งที่แกดูตํารา’พิณนภา’อย่างแกจะไปมีปัญญาสร้ างพิณได้ ยงั ไง? ”
หลินหมิงไม่ได้ ตอบสนองต่อการเยาะเย้ ย เขาเพียงกล่าวว่า”ข้ าแค่อยากเข้ าใจบางสิ่ง
บางอย่าง.”
“ฮึ! ชายเหล่านี ้ช่างไร้ ยางอายกล่าวเสมอว่าต้ องการเข้ าใจท่วงทํานอง และใช้ วิธีนี ้เป็ นข้ ออ้ างใน
การแอบเข้ ามาก่อกวน! การกระทําดังกล่าวเป็ นที่น่าขยะแขยงจริ งๆ แกมีความสนใจในพิณ? ดี
งันข้
้ าขอถามแกหน่อย บันทึกพิณมีทงหมดกี ั้ ่เล่มเป็ นอย่างไรบ้ าง? สิ่งที่ราชาแห่งวัสดุพิณกล่าว
ไว้ วา่ ให้ เสียงแหลมที่สดุ คืออะไร วัสดุใดเหมาะสมกับพิณเสียงตํ่า หากแกสามารถบอกข้ าได้ ข้า
จะเชื่อว่าแกมีความสนใจในดนตรี และแกต้ องการที่จะศึกษาพิณจริ งๆ ”
หลินหมิงค้ างไปในทันที เขารู้เพียงรายละเอียดเล็กน้ อยที่สดุ ของพิณและท่วงทํานองอีกเล็กน้ อย
ซึง่ เรี ยกได้ วา่ เขาไม่ร้ ูอะไรเลย!
“ฮึ! เมื่อแกตอบไม่ได้ แกยังกล้ าที่นี ้อีกรึ! แกเพียงต้ องการมองไปที่หนังสือเพื่อให้ เราไม่สนใจงัน้
สินะ เป้าหมายที่แท้ จริ งของแกคือการแอบมองเหล่าศิษย์สาว! ข้ าเคยชายชัว่ อย่างแกมานักต่อ
นัก ส่งบัตรผ่านของแกมา ! “พี่สาวอาวุโสเอามือของเธอชี ้หน้ าของหลินหมิง
หลินหมิงเงียบไป บัตรผ่านของเขาถูกยืมมาและแม้ วา่ สํานักเจ็ดแก่นแท้ การต่อสู้เจ็ดจะ
หละหลวมในการใช้ บตั รผ่าน แต่เขาก็ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบตังแต่
้ เขาใช้ บตั รผ่านเข้ ามาอยูท่ ี่นี่
ฉินชิงหวนก็กล่าวขึ ้นมา “พี่สาวหลิงการพิจารณาตัดสินนัน้ นี ้เป็ นเพียงความผิดครัง้ แรกของ
เขา ไม่มีความจําเป็ นที่จะต้ องรุนแรงกับเด็ก ”
ฉินชิงหวยเองก็ยงั คิดว่าหลินหมิงโกหกและความจริ งก็คือเขาต้ องโกหกแน่นอน!
แน่นอนว่าพี่สาวอาวุโสไม่อาจเพิกเฉยต่อคําของฉินชิงหวน ดังนันเธอจึ
้ งกล่าวว่า “ชิงหวน เธอ
ช่างมีหวั ใจที่ออ่ นโยนมาก บางทีมนั ก็มากเกินไป เราไม่อาจจะทนชายชัว่ เช่นนี ้ได้ ชายประเภทนี ้
เพียงแค่แอบผ่านเข้ ามาก่อกวน”
‘ต้ องการบัตรผ่านของข้ ารึ’ หลินหมิงกล่าว “พี่สาวเป็ นเพียงศิษย์คนหนึง่ มิใช่ผ้ มู ีอํานาจใน
สํานัก จะมีอํานาจทําสิ่งนี ้ได้ อย่างไรและจะกล่าวหาว่าข้ าผิดในเรื่ องใด? ”
“ฮึ! นันใช้
้ ปากพูด? ข้ ามีคณุ สมบัติที่จะยึดบัตรผ่านทุกใบและได้ รับอนุญาตโดยเจ้ าสํานัก ใน
หน่วยพิณ ทุกคนต้ องเชื่อฟั งข้ า นี่แห่งนี ้ข้ านี่แหละพระเจ้ า! ตอนนี ้แกคิดว่าข้ าทําได้ รึยงั !
ผ่านบัตรนันถู
้ กยืมมาจากหลินเซี่ยวตง หลินหมิงไม่สามารถปล่อยให้ มนั ยึดไปได้ หากเป็ น
เช่นนันเขาต้
้ องเผชิญกับน้ องชายของเขาที่ได้ รับความเจ็บปวดในสิ่งที่เกิดขึ ้นเพราะเขา!
หลินหมิงไม่มีทางเลือกใดๆ แต่ต้องยอมรับว่าจุดประสงค์ของเขาไม่ได้ อะไรเพิ่มเลย ในการ
จารึกเขาก็ไม่ได้ ข้อมูลอะไรใหม่ ช่างน่าผิดหวังเสียจริ ง
หลินหมิงกล่าวออกไป “ข้ ากําลังค้ นคว้ าการจารึกโดยใช้ วสั ดุคือเส้ นไหมนภา”
ค้ นคว้ าการจารึก? การใช้ เส้ นไหนนภาคือวัสดุชนิดใหม่บางอย่าง?(ประมานว่าตอนนี ้ไม่มีใครรู้
ว่าใช้ เส้ นไหมนภาในการจารึกได้ เพราะเป็ นความรู้ที่หลินหมิงได้ มาจากดินแดนพระเจ้ า )
หากคําพูดเหล่านี ้ออกมาจากผู้เชี่ยวชาญการจารึกอยูอ่ ายุ 50 หรื อ 60 พวกเธอแลพี่สาวอาวุโส
คงไม่แปลกใจ แต่นี่เป็ นเพียงเด็กหนุม่ 16ปี ซึง่ จะไปรู้เรื่ องการจารึกได้ อย่างไร? การพัฒนาวัสดุ
และเทคนิคใหม่? แกกําลังหลอกข้ า? นี ้ต้ องเป็ นฝั นร้ ายของแก?
มีเพียงผู้เชี่ยวชาญการจารึกเท่านันที
้ ่จะค้ นหาวัสดุและเทคนิคใหม่ๆ แต่นี ้เด็ก15 ปี เด็กบ้ านนอก
ที่อา่ นตํารากระจอกๆเช่น ‘เทคนิคการจารึก: วิธีการเริ่ มต้ นบนเส้ นทางการจารึก’จะไปทําอะไร
ได้ แม้ จะพิจารณาอีกกี่ครัง้ การหาวัสดุใหม่ยอ่ มต้ องเป็ นเรื่ องที่โกหกออกมาอีกครัง้ อย่างแน่นอน
พี่สาวอาวุโสหัวเราะออกมาดังๆ “แกคิดว่าข้ าโง่รึ? แม้ ข้าจะไม่เข้ าใจการจารึกเลย แต่โชคไม่ดี
สําหรับแก! ที่ด้านข้ างของข้ าคือผู้เชี่ยวชาญการจารึกที่ยิ่งใหญ่แห่งราชอาณาจักรลิขิตฟ้า! แก
ต้ องการที่จะแสดงทักษะขยะของแกกับผู้เชี่ยวชาญที่แท้ จริ งมัยหละ?
้ ข้ ากําลังจะขําตาย ชิง
หวนท่านเริ่ มศึกษาวัสดุชนิดใหม่หรื อยัง “(คือโดยทัว่ ไปก่อนที่จะศึกษาวัสดุใหม่นกั จารึก
จะต้ องศึกษาตําราที่เคยมีมาให้ เข้ าใจทะลุปรุโปร่งเสียก่อน ผู้ศกึ ษาวัสดุใหม่จงึ เป็ นพวกแก่ๆที่มี
ความเข้ าใจลึกซึ ้งในเรื่ องการจารึกแล้ ว)
ฉินชิงหวนมองตรงไปที่หลินหมิง เธอคล้ ายกับเขาในเรื่ องของอายุและไม่ได้ เชื่อว่าหลินหมิงจะ
พูดความจริ ง เธอกล่าวว่า “การจารึกมีเทคนิคมากมายและมีความหลากหลายอย่างลึกซึ ้ง
เพียงแค่ในวัสดุหลักก็มีการบันทึกไว้ กว่า 13,600 ชนิดและวัสดุขนสู
ั ้ งมากมักจะเป็ นความลับ
ของผู้ค้นพบเป็ นเรื่ องยากที่จะระบุจํานวน แต่เพียงแค่ 13,600 ก็เพียงพอพอสําหรับการจารึก
และการเรี ยนรู้ซงึ่ คุณสมบัติและอัตราส่วนในการผสมและสิ่งอื่นๆ ข้ ายังไม่สามารถที่จะใช้ งาน
ครบทุกวัสดุหลักเหล่านี ้ ข้ าจึงยังไม่ค้าหาซึง่ วัสดุชนิดใหม่”
พี่สาวอาวุโสหัวเราะด้ วยรอยยิ ้ม”ฮ่า! เจ้ าเด็กโฉดชัว่ ที่แอบเข้ ามาเพื่อก่อกวน หมดหนทางรึยงั
หละ!หาข้ ออ้ างมาอีกสิ ผู้เชี่ยวชาญการจารึกที่แท้ จริ งรอแกอยู!่ ”
หลินหมิงได้ ยินเสียงหัวเราะที่เกินจริงและไม่มีการลดละ ผู้หญิงคนนี ้รับรองได้ เลยว่าบ้ าบออย่าง
สมบูรณ์ เพราะเธอถูกทิ ้งไม่มีชายใดเอาหรื ออะไร? เธอมีความผิดปกติทางด้ านจิตใจต่อผู้ชาย
แทบทุกคน
เขากล่าวว่า “ข้ ามาเพื่อศึกษาจริ งๆ ข้ าเรี ยนเทคนิคการจารึกและมีแรงบันดาลใจจากความ
ใฝ่ ฝั น ไม่มีใครเป็ นคนกําหนดได้ วา่ ข้ าจะต้ องประสบความสําเร็จหรื อจะไม่ประสบความสําเร็จ?
มีใครห้ ามไม่ให้ ผ้ ฝู ึ กหัดการจารึกไปค้ นหาวัสดุใหม่หรื ออย่างไร”
“ฮึ! ดูเหมือนว่าแกไม่กลัวตายจนกว่าแกจะได้ เห็นโลงศพตัวเอง! ดี! ดีมาก วันนี ้ข้ าจะให้ แกถูก
ตัดสินโดยชิงหวนละกัน ข้ าไม่เข้ าใจมัน ให้ เธอเป็ นผู้ทดสอบเขา”
ฉินชิงหวนรู้สกึ ผิดหวัง พี่สาวอาวุโสหวาดระแวงของผู้ชายเสียจริ ง แต่มองไปที่ชายหนุ่มคนนี ้เขา
จะต้ องโกหกแน่ๆ เขาเป็ นคนหนุ่มสาวและสวมใส่ชดุ ที่เรี ยบง่ายส่อให้ เห็นภูมิหลังของตระกูลที่
ไม่ได้ โดดเด่นอะไรและไม่โอกาสที่จะได้ เรี ยนรู้การจารึก แต่ทําไมถึงต้ องโหดร้ ายต้ องเด็กชาย
ขนาดนัน?

เธอกล่าวว่า “พี่สาวหลิง โปรดปล่อยเรื่ องนี ้ให้ ข้าเป็ นผู้พิจารณาเอง”
พี่สาวอาวุโสตอบว่า “ชิงหวน เจ้ าอย่าใจอ่อนเกินไป! เจ้ าไม่ถงึ การที่เหล่าศิษย์หญิงของเราถูก
คุกคามโดยพวกสวะเหล่านี ้และเราต่อสู้เพื่อจะหยุดพวกเขา! ถ้ าเรามีความใจอ่อนและเมตตา
แล้ ว พวกมันจะสิ ้นไปจะมาก่อกวนการศึกษาของเหล่าศิษย์หญิงเรื่ อยไป! ”
ฉินชิงหวนไม่ร้ ูจะทําอย่างไร ที่เธอทําได้ มีเพียงหาคําถามที่ไม่ยากจนเกินไป มันน่าจะดีถ้าเขาจะ
ตอบได้ ซกั ข้ อหนึง่ !
“นี่เจ้ ารู้หรื อไม่ ใครเป็ นผู้ก่อตังหน่
้ อยจารึกแห่งอาณาจักรลิขิตฟ้า?”
ฉินชิงหวนถามด้ วยคําถามทัว่ ไป แต่มนั ก็ทําให้ หลินหมิงเงียบไปและเกิดความสับสนในหัวของ
เขา ไอเวรนรกที่ไหนจะไปรู้จกั ไอ้ แก่ผ้ กู อ่ ตังหน่
้ วยจารึกของอาณาจักรลิขิตฟ้า? ความทรงจํา
แห่งอาณาจักรพระเจ้ าไม่มีความรู้เล็กๆน้ อยๆเช่นนี ้และแม้ กระทัง่ ตําราเทคนิคการจารึก: วิธีการ
เริ่ มต้ นบนเส้ นทางการจารึก’ก็พดู เพียงความรู้พื ้นฐานในแง่ของวิธีการไม่ได้ มีเรื่ องราวทาง
ประวัติศาสตร์ ของอาณาจักรลิขิตฟ้าอยูเ่ ลย
เมื่อเห็นหลินหมิงชะงัก รอยยิ ้มของพี่สาวอาวุโสเติบโตก็สดใสมากขึ ้น นี ้จะเป็ นการยืนยัน
สําหรับเธอว่าชายชัว่ ผู้นนไม่
ั ้ ได้ มีอะไรมากไปกว่าความชัว่ ช้ าและโรคจิต และเธอเองก็อยากจะ
ทรมานคนพาลโฉดชัว่ เพื่อความสนุกสนานสักเล็กน้ อย
“แกคงไม่ร้ ูงนสิ
ั ้ ? แม้ ข้าจะรู้ข้าก็ไม่บอกแก ฮ่าๆ”
หลินหมิงกล่าวอย่างไม่เต็มใจ “ข้ าไม่ทราบเรื่ องประวัติ แต่ข้ารู้เรื่ องโอสถและวัสดุ”
โอสถและวัสดุ? นี ้มันมีซบั ซ้ อนและความหลากหลายที่แม้ แต่ฉินชิงหวนยังไม่อาจเข้ าใจในวัย
เพียงเท่านี ้ ฉินชิงหวนคิดว่ามันเป็ นสิ่งที่ไม่สมควรที่จะโกหกไปเรื่ อยๆ หากเขาผิดเขาควรต้ อง
ยอมรับมันและแก้ ไข ทําไมถึงต้ องหลอกลวงอย่างต่อเนื่องต่อไป?
ดังนันเธอจึ
้ งถามคําถามที่ยากและลึกซึ ้งเพราะเธอต้ องการที่จะจบการสอบสวนที่น่าเบื่อและไร้
สาระนี ้ หลังจากที่เธอมาที่นี่เพื่อศึกษาพิณ แม้ วา่ ฉินชิงหวนจะใช้ ดาบเป็ นอาวุธแต่เธอก็ไม่หยุด
ที่จะหาเครื่ องดนตรี อย่างใดซักอย่างหนึง่ มาประกอบ
“งันข้
้ าขอถามว่า เจ้ าสามารถแสดงการจารึกอักขระ’ช็อก’ขึ ้นมาได้ หรื อไม่”

บทที่ 12 คําเชิญจากฉินชิงหวน
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
เป็ นคําถามที่ยากเหลือเกิน วัสดุเหล่านันเมื
้ ่อนํามารวมกันด้ วยความหลากหลายที่แตกต่างกัน
เมื่อมาอยูใ่ นมือผู้เชี่ยวชาญการจารึก พวกเขาสามารถวาดอักขระจารึกลงไปได้ มากมาย!
เทคนิคการจารึกมีสาย 3600 อักขระพื ้นฐานและ 4900 สัญลักษณ์พื ้นฐาน ด้ วยปริ มาณของ
อักขระและสัญลักษณ์เหล่าเมื่อนํามารวมกันเป็ นความหลากหลายทางพีชคณิต ทําให้ มีการ
เรี ยนรู้และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
การ ‘ช็อก’ เพียงอักขระหนึง่ ใน 3600 ชนิดของอักขระพื ้นฐาน
หลินหมิงรู้จกั การ ‘ช็อก’ ซึง่ เป็ นอักระพื ้นฐาน แต่ในความเป็ นจริ ง อักขระพื ้นฐานไม่ได้ มีอยู่
เพียง 3600 แต่มีถงึ 6000 ประเภทที่แตกต่างกัน มันเกือบจะเป็ นสองเท่าของที่ผ้ เู ชี่ยวชาญการ
จารึกแห่งทวีปนภาริ นไหลครอบครอง
แต่มนั ก็เป็ นเช่นเดียวกับเส้ นไหมนภา หลินหมิงไม่แน่ใจว่าการ’ช็อก’ รั่วไหลในทวีปนภาริ นไหล
เป็ นเช่นเดียวกับในดินแดพระเจ้ า หรือไม่ เขาทําได้ เพียงคาดหวังให้ มนั ไม่แตกต่างกันมาก
จนเกินไป พระองค์ทรงเหยียดพระหัตถ์ขวาของเขาและสาระสําคัญที่แท้ จริ งรวมกันบนนิ ้วของ
เขา ด้ วยมือของเขาเขาดึงชุดของเส้ นที่ยอดเยี่ยมในอากาศ พวกเขาเรื องแสงด้ วยไฟเงียบและ
งดงามและในที่สดุ ก็รวมตัวกันเป็ นแผนภาพที่ซบั ซ้ อนที่สอ่ งในด้ านหน้ าของฉินชิงหวน และ จ้ อง
มองพี่อาวุโส
หลินหมิงได้ ฝึกฝนการจารึกเหล่านี ้ทุกวันร่วมกับความทรงจําจากชิ ้นส่วนจิตวิญญาณและใน
ที่สดุ มันก็เริ่ มผสานเข้ าด้ วยกัน ผลลัพธ์ของมันมีประโยชน์มากทีเดียว
หลินหมิงถามขึ ้น “นี่เป็ นคืออักขระ’ช็อก’ที่พดู ถึงใช่หรื อไม่?”
ฉินชิงหวนจ้ องด้ วยความตกตะลึงขณะพี่สาวอาวุโสมองไปที่ฉินชิงหวนและสังเกตเห็นการ
แสดงออกของเธอ เธอเข้ าใจในทันทีวา่ นี ้หนุ่มอันธพาลไม่ได้ เล่นตลกด้ วยนิ ้วของเขา แต่ได้ วาด
อักขระ’ช็อก’ที่สมบูรณ์ไร้ ซงึ่ ข้ อผิดพลาด! เรื่ องบ้ าอะไรกัน!หนุ่มบ้ านนอกนันเข้
้ าใจเทคนิคการ
้ ?! มันไม่ได้ เป็ นแค่คนตอแหลหลอกลวง?
จารึกได้ อย่างนันรึ
ในใจของฉินชิงหวนรู้สกึ ประหลาดใจอย่างแท้ จริ งและพยายามที่จะไม่เปิ ดเผยอารมณ์ของเธอ
มีอกั ขระพื ้นฐาน 3600 ชนิดและมันเป็ นเรื่ องยากที่ผ้ ฝู ึ กหัดจะสร้ างมันออกมาได้ อย่างสมบูรณ์
มันก็น่าแปลกอยูแ่ ล้ วที่หลินหมิงสามารถสร้ างมันออกมาได้ แต่สิ่งที่ทําให้ เธอตกใจยิ่งกว่าก็คือ
อักขระ’ช็อก’ของเขามันถูกต้ องสมบูรณ์แบบ พลังงานที่ถกู วางไว้ ในจุดที่เหมาะสมและมันช่าง
เป็ นเรื่ องที่อศั จรรย์ยิ่ง เพียงความเพียรพยายามในการฝึ กฝนไม่คงไม่อาจทําได้ ถงึ เพียงนี ้!
ด้ วยความตกใจของเธอ เธอค่อยๆพูดขึ ้น “มันคือ… ”
หลินหมิงกล่าว ” ‘ช็อก’ รูปแบบอักขระแห่งการฆ่าฟั น การใช้ งานโดยทัว่ ไปจะมีการวางมันอยู่
บนอาวุธ เมื่อนักสู้ใช้ อาวุธเขาจะมีสมาธิและประสาทสัมผัสในการรับรู้มากขึ ้น และพลังงานจะ
ถูกนํามาใช้ ในการต่อสู้เพื่อเอาชนะศัตรู แต่ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ ้นก็มีอยูอ่ ย่างจํากัด ถ้ าอักขระ’
ช็อก’วางอยูบ่ นอาวุธ เมื่อนักสู้สง่ พลังงานของเขาเข้ าไปในอาวุธที่มีอกั ขระ’ช็อก’ จะสร้ าง
แรงสัน่ สะเทือนความเร็วสูงซึง่ จะเป็ นการเพิ่มอํานาจทะลุทะลวงอย่างรุนแรงให้ กบั อาวุธ… ”
หลินหมิงอธิบายอักขระ’ช็อก’ได้ อย่างง่ายๆ ให้ ฉินชิงหวนฟั ง ถ้ าเขาสามารถที่จะวาดอักขระ’
ช็อก’ได้ แล้ วแน่นอนว่าเขาต้ องรู้หลักการที่อยูเ่ บื ้องหลังมัน! มันจะแปลกมากที่เขาจะไม่ร้ ู!
จิตวิญญาณที่รักในการแข่งขันฉินชิงหวนก็เกิดการกระตุ้น! เธอไม่อาจปล่อยให้ เขาเอาชนะเธอ!
เธอถามเขาต่อว่า “แล้ วเจ้ ารู้จกั และวาดสัญลักษณ์’ธง’และอธิบายหลักการของมันได้ หรื อไม่
เธอเลิกถามถึงเรื่ องขันต้
้ นที่คอ่ นข้ างง่ายและถามถึงสัญลักษณ์ที่ซบั ซ้ อนมากขึ ้น แต่เรื่ องแค่นี ้ไม่
สามารถสร้ างความสับสนให้ หลินหมิงได้ ! ในความเป็ นจริ งหลินหมิงมีความเข้ าใจในสัญลักษณ์
พื ้นฐานหลากหลายและลึกซึ ้งยิ่งกว่าที่ทวีปนภาริ นไหลจะค้ นพบเสียอีก
เขาทําสมาธิเริ่ มวาดสัญลักษณ์ ‘ธง’ ขึ ้นมาในอากาศ แม้ วา่ สัญลักษณ์นี ้จะซับซ้ อนแต่นิ ้วของ
เขาไม่ได้ หยุดชะงักแม้ เพียงน้ อยนิดและในพริ บตาสัญลักษณ์จารึกที่ซบั ซ้ อนก็ปรากฏขึ ้นใน
อากาศ
ตอนนี ้แม้ แต่ฉินชิงหวนก็ยงั หวาดหวัน่ สัญลักษณ์พื ้นฐานที่ซบั ซ้ อนขนาดนัน้ และยิ่งยากที่จะ
วางพลังงานในสัญลักษณ์ให้ สมบูรณ์ แต่หลินหมิงกลับทํามันได้ อย่างง่ายดาย นี ้มันแน่อยูแ่ ล้ ว
ว่าเขาไปไกลเกินกว่าฉินชิงหวน!
โอ้ วพระเจ้ า นี ้มันอัจฉริ ยะ! ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเด็กหนุม่ แสนธรรมดาผู้นี ้จะเป็ นอัจฉริ ยะ
ในหมูอ่ จั ฉริ ยะในเรื่ องความสามารถในการจารึก!
แต่ผ้ ทู ี่จะสอนมันให้ เขาจะเป็ นใครหละ ? รูปร่างหน้ าตาของเขาบอกว่าเขาไม่ได้ มาจากตระกูล
ขุนนางใหญ่ มันเป็ นไปได้ ที่เขาจะมีนกั ปราชญ์โบราณหรื อฤาษีที่ชอบอาศัยอยูใ่ นภูเขาลึกๆและ
เงียบสงบเป็ นอาจารย์?
ฉินชิงหวนพบว่าหลินหมิงนันเต็
้ มไปด้ วยปริ ศนาและเธอยังคงทดสอบเขาต่อ สิ่งที่เขาแสดง
ออกมาทําเธอรู้สกึ ประหลาดใจ!แต่เขาทํามันได้ อย่างง่ายดาย! มีขกั ขระ3600ชนิดและ
สัญลักษณ์4900ชนิด รวมแล้ วกว่า 8000 ชนิดที่แตกต่างกันและราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับพวกมัน
เหมือนแขนขาของเขาเอง!
เมื่อเทียบกับความประหลาดใจฉินชิงหวน พี่สาวอาวุโสยิ่งตกตะลึงเสียยิ่งกว่าและยังคงสับสน
อยูใ่ นขณะที่ทงสองนั
ั้ กจารึกพูดคุยกันซึง่ มันดูเหมือนจะเป็ นภาษาที่แตกต่างกับภาษาที่เธอจะ
เข้ าใจได้ แต่เธอก็สมั ผัสได้ ถงึ ประหลาดใจและความชื่นชมของชิงหวนที่เพิ่มขึ ้นทุกขณะ
พี่สาวอาวุโสเข้ าใจชิงหวนเป็ นอย่างดี ฉินชิงหวนมักแสดงออกถึงความหรูหราและเย็นชาเสมอ!
เธอได้ รับความเคารพจากทุกคน ด้ วยพรสวรรค์ระดับหกและความแข็งแรงอันยิ่งใหญ่ของเธอ
เธอจึงมีจิตวิญญาณที่เย้ อหยิ่ง ก่อนหน้ านี ้เธอไม่เคยประเมินใครในรุ่นเดียวไว้ สงู มาก่อน
ในที่สดุ พี่สาวอาวุโสก็ร้ ูสกึ เฉยชา เธอเข้ าใจสิ่งหนึง่ เป็ นไปไม่ได้ ที่จะยึดบัตรผ่านจากเด็กคนนัน!

บ้ าเอ๊ ย! ที่เธอทําคือความผิดพลาดครัง้ ใหญ่! เธอกระทืบเท้ าของเธอบนพื ้น! เด็กบ้ านนอกคนนี ้
มีความสามารถในการจารึก!
พี่สาวอาวุโสแทบจะเป็ นบ้ า!
ฉินชิงหวนค่อยๆยําเกรงเขามากขึ ้น ในการสนทนากับหลินหมิง ความรู้เรื่ องสัญลักษณ์และ
อักขระทังเรื
้ ่ องของการวางพลังงานในสิ่งเหล่านันของเธอมี
้ แนวโน้ มขยายขีดจํากัดเนื่องจาก
ความเข้ าใจและความลึกซึ ้งในความรู้ของเขาที่แสดงออกมา มันเป็ นความรู้สกึ ที่ดีและมีคา่
ฉินชิงหวนสามารถยืนยันข้ อสงสัยของเธอได้ วา่ หลินหมิงมีพรสวรรค์ที่หาได้ ยากที่อาจจะพบเจอ
ได้ เพียงคนเดียวในรอบหนึง่ ศตวรรษ แต่เบื ้องหลังของเขานันลึ
้ กลับยิ่งนัก! ผู้ที่สอนเขาคือใคร
กันแน่ อาจจะเป็ นผู้เชี่ยวชาญการจารึกที่เก่งกาจและมีอํานาจ! แม้ จะเทียบกับอาจารย์ของเธอ
ก็เหมือนเปลวเทียนเทียบกับดวงอาทิตย์!
เธอไม่อาจคาดเดาถึงแหล่งกําเนิดแห่งภูมิปัญญาของชายหนุม่ ผู้นี ้ได้ เลย
ฉินชิงหวนมีความสนใจหลินหมิงอย่างมาก แต่ไม่ได้ หมายถึงการสนใจในตัวเขาเอง สิ่งที่เธอจะ
ได้ ประโยชน์ก็คือการเชื่อสัมพันธ์ที่ดีกบั อาจารย์ลกึ ลับที่อยูเ่ บื ้องของเขา มันมีความสําคัญอย่าง
ยิ่งสําหรับตระกูลฉิน!
ด้ วยความคิดนัน้ ฉินชิงหวนกล่าวว่า “ตอนนี ้เป็ นเวลาในการเรี ยนพิณข้ าขอโทษที่ทําให้
เสียเวลา แต่มนั เป็ นสิ่งที่วิเศษมากที่เราได้ สนทนากันในวันนี ้ ให้ ข้าได้ ชดเชยเวลาที่เสียไป ถ้ า
เป็ นไปได้ หลังจากการบรรยายพิณจบแล้ ว ข้ าชิงหวนอยากจะขอเชิญเจ้ าไปร่วมทานอาหารที่
ศาลาจันทร์ กระจ่าง … เพื่อแลกเปลีย่ น… หลักการและเทคนิคในการจารึกซึง่ กันและกัน จะ
เป็ นที่น่าพอใจสําหรับเจ้ าหรื อไม่ ”
ด้ วยเสียงหวานไพเราะเพราะพริ ง้ ของฉินชิงหวนซึง่ โน้ มน้ าวใจเป็ นอย่างมาก ควบคูไ่ ปกับการ
แสดงออกอย่างจริ งใจและความน่าหลงใหลของเธอ มันเป็ นเรื่ องที่จะมีผ้ ชู ายคนไหนกล้ าปฏิเสธ
ความจริ งแล้ วหลินหมิงไม่ได้ ต้องการที่จะปฏิเสธเธอ ไม่เพียงเบื ้องหลังของฉินชิงหวนจะน่า
ประทับใจและตัวเธอเองยังงดงามหาหญิงใดเปรี ยบ เป็ นเรื่ องยากที่เธอจะเอ่ยปากเชิญใครซัก
คนก่อน และเธอก็เป็ นเพียงเด็กสาวคนหนึง่ เป็ นไปไม่ได้ ที่จะปองร้ ายใดๆ
อย่างไรก็ตามหลินหมิงมีเวลาจํากัดเพียงสามเดือนในการทดสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ทังเขา ้
ยังต้ องการที่จะสร้ างรายได้ จากเทคนิคการจารึกเพื่อไปซื ้อโอสถที่เขาต้ องการและจากนันก็

ฝึ กฝนการจารึกโอสถและฝึ กฝนกายภาพของตัวเองให้ เร็ วที่สดุ เท่าที่จะทําได้ ทังหมดเพื
้ ่อที่จะ
เข้ าสูส่ ํานักเจ็ดแก่นแท้
แม้ วา่ เขาจะเข้ าไปในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ แล้ วเขาก็ยงั ต้ องมีความแข็งแรง ยังคงมีไอ้ หน้ าหมาจู้
ยันที่เป็ นเป๋ าหมายในการต่อสู้ หากเขาไม่ได้ เพิ่มความแข็งแกร่งของเขาแล้ วเขาไม่อาจที่จะสู้กบั
จู้ยนั ได้ และอาจกลายเป็ นเรื่ องน่าอนาถ!
หลินหมิงไม่สนใจที่จะในหน่วยพิณอีกต่อไป แล้ วไปรับประทานอาหารกับสาวงามแทน หลังมื ้อ
อาหารพวกเขายังคงพูดคุยถึงที่อยูข่ องกันและกัน และได้ แลกเปลี่ยนข้ อมูลการติดต่อกัน
สําหรับฉินชิงหวน เธอได้ เรี ยนรู้บางสิง่ บางอย่างเป็ นเรื่ องที่ดีสาํ หรับเธอ แต่สําหรับหลินหมิงเขา
ไม่ได้ เรี ยนรู้อะไรเพิ่มเลย! หลังจากที่พวกเขาแลกเปลี่ยนความรู้กนั กลับเป็ นฉินชิงหวนที่ได้ หยิบ
ทุกความรู้ที่เธอมีมาแบ่งบัน แต่กลับไม่มีเรื่ องใดเป็ นความรู้ใหม่สําหรับหลินหมิงเลย!
หลินหมิงแอบผิดหวังเล็กน้ อยและกล่าวว่า “ข้ าเสียใจนะ แต่วนั นี ้ข้ ามีบางสิ่งบางอย่างจะต้ อง
ทํา ข้ อต้ องขอตัวกลับก่อน”
“โอ้ … ดี … มันก็ควรได้ เวลาแล้ ว” ฉินชิงหวนกล่าวด้ วยความเสียใจและแก้ มของเธอมีสีแดง
จางๆ เธอได้ เชิญเขามาและเขาเองก็ไม่ได้ ปฏิเสธ แต่ในความเป็ นจริ งตังแต่
้ เธอยังเด็กๆ ฉินชิง
หวนไม่เคยเชิญชายใดมาร่วมทานอาหารด้ วยแม้ แต่ครัง้ เดียว! เธอมักจะได้ รับคําเชิญจากผู้อื่น
นับไม่ถ้วน! ซึง่ ทังหมดนั
้ นเธอปฏิ
้ เสธไปนานๆครัง้ อาจตอบรับบ้ างสําหรับเพื่อนสนิทของเธอ
ปกติเมื่อเธอได้ ปฏิเสธคําเชิญจากคนอื่นๆเธอไม่มีความรู้สกึ อะไรต่อมัน แต่เวลานี ้เธอเป็ นคน
หนึง่ ที่เหมือนถูกปฏิเสธและเธอก็ได้ ร้ ูวา่ รสชาติของการปฏิเสธมันขมขื่นมากเพียงไร แต่สําหรับ
หัวใจของเธอ ก็ยงั เป็ นเพียงหัวใจของเด็กสาวอายุ 15 ปี ธรรมดา!
การปฏิเสธของหลินหมิง ทําให้ หวั สมองของพี่สาวอาวุโสถึงจุดเดือด เธอเกือบจะวิ่งไปตบเขาให้
รู้แล้ วรู้รอด แต่เธอก็ทําได้ เพียงแค่ในความคิด! ผู้ชายคนนี ้ … ผู้ชายคนนี ้กล้ าปฏิเสธฉินชิงหวน
!
(การขอตัวกลับกลางคันก็เหมือนกับการปฏิเสธ)
โอ้ พระเจ้ า!
เขากล้ าทําลงไปได้ อย่างไร!?
เขาเป็ นผู้ชายประเภทไหนถึงกล้ าทําเช่นนี ้!?

บทที่ 13 ลุยเลยการจารึก!
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
“เฮ้ เจ้ าหยุด! หยุดนะ ฟั งข้ าสิ! เจ้ ารู้ไหมว่านางเป็ นใคร ?! “พี่สาวอาวุโสตะโกนอย่างไร้
ยางอาย แม้ วา่ มันจะไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้ ชดั จากฉินชิงหวน แต่เพราะเธอเป็ นคนสนิทของชิงหวน
เธอเข้ าใจความคิดของชิงหวน มีหรื อที่เธอจะปล่อยให้ เรื่ องไร้ สาระเช่นนี ้ไปทําร้ ายหัวใจของน้ อง
รักได้ ? ทําไมมนุษย์ต้องเป็ นแบบนี ้ ต้ องมีความคิดที่โหดร้ ายเสมอ? นี่คือสิ่งเรี ยกว่าความ
ยุติธรรมอย่างนันหรื
้ อ!(แกนันแหละที
้ ่โหดร้ ายไร้ ความยุติธรรม นังป้า ทีตอนนี ้มาทําตัวมีเมตตา
เหอะ)
ผู้ชายคนนี ้คือความเกลียดชังของมวลมนุษยชาติ แม้ แต่กบั ชิงหวน หญิงสาวที่งดงามที่สดุ
แม้ วา่ เหล่าศิษย์สาวจากตระกูลสูงส่งใดในหน่วยพิณก็ยงั ไม่อาจกล้ าทํากริ ยาเช่นนี ้ เด็กนี่ไม่ร้ ูจกั
ฐานะของตัวเองเอาเสียเลย!
การจะมีชายใดที่จะกล้ าปฏิเสธฉินชิงหวน มันคงเป็ นเรื่ องที่เกิดขึ ้นได้ เพียงในความฝั น!
หลินหมิงเองก็โศกเศร้ า แน่นอนเขารู้วา่ ฉินชิงหวนเป็ นใคร แต่มนั ก็ไม่อาจทําให้ เขาออกนอก
แผนการของเขาได้ เขาจึงพยายามที่เบี่ยงเบนไม่ให้ เกิดปั ญหา “พี่สาวอาวุโสข้ ามีสิ่งจําเป็ นที่ข้า
ต้ องทําจริ งๆ ข้ าไม่เคยโกหกใคร ”
“เจ้ าคงรู้จกั ชื่อเสียงเธอดี? ข้ าไม่ได้ พดู เล่นลิ ้นกับเจ้ า ไม่วา่ เจ้ าจะมีสิ่งใดสําคัญ ก็ไม่สําคัญไป
กว่าการเคารพและมีมารยาทต่อบุคคลที่มาจากตระกูลที่สงู ส่งเช่นฉินชิงหวน “พี่สาวอาวุโสยืน
อยูต่ รงหน้ าของหลินหมิง มือของเธอตังอยู
้ บ่ นเอวและปิ ดกันไม่
้ ให้ เขาจากไป แม้ วา่ ภูมิตระกูล
ของเธอไม่ได้ สงู ส่งเหมือนฉินชิงหวน แต่เธอก็ยงั มาจากตระกูลชันสู
้ ง
หลินหมิงไม่ร้ ูจะพูดอย่างไรให้ เธอเข้ าใจ หญิงสาวคนนี ้เอาแต่ใจและหยิ่งผยองเกินไป เขากล่าว
ว่า “ข้ าจําเป็ นต้ องกลับไปฝึ กฝน ข้ าไม่ได้ มีเวลาเหลือมากมายนัก ”
ก่อนที่พี่สาวอาวุโสจะได้ พดู อะไรต่อ ฉินชิงหวนได้ พดู ขัดจังหวะขึ ้นมา “ให้ เขาจากไปเถอะ บาง
ทีอาจารย์ของเขาอาจเรี ยกหาเขาก็ได้ ”
สําหรับฉินชิงหวน เธอรู้ดี ด้ วยความสําเร็ จของหลินหมิงในวัยหนุ่มของเขาจะต้ องมุง่ เน้ นความ
สนใจในการฝึ กซ้ อมอย่างขยันขันแข็ง มันเป็ นเพียงธรรมชาติที่อาจารย์ของเขาจะมีบทเรี ยน
ที่สดุ โหดให้ เขาทุกวัน
เมื่อได้ ยินคําพูดเหล่านี ้ของเธอ หลินหมิงก็ร้ ูสกึ โล่งอก แม้ วา่ เขาจะพูดความจริ ง แต่สําหรับสอง
สาวงามเขาไม่สามารถไปขัดใจอะไรได้ เพราะความแกร่งของพวกเธอและภูมิหลังตระกูลที่สงู ส่ง
พวกเธอสามารถเอาชนะเขาได้ อย่างายดาย!
เมื่อหลินหมิงเตรี ยมจะจากไป ฉินชิงหวนยิ ้มและกล่าวว่า “ข้ าชื่อฉินชิงหวน ถ้ าเจ้ าฝึ กฝนจบ
แล้ วพอมีเวลาว่าง กรุณามาพบท่านจอมพลเพื่อขอพบข้ า การมาเยือนของเจ้ าจะได้ รับการ
ต้ อนรับ ”
หลินหมิงหยุดเล็กน้ อยและบอกเธอให้ ร้ ูชื่อของเขา “หลินหมิง”
จากนันหลิ
้ นหมิงก็เดินจากไป ฉินชิงหวนก็ถอนหายใจ คําที่ใช้ ในการสะกดชื่อของเขา? คือหลิน
หมายถึงป่ า และหมิงหมายถึงสดใส? เพียงสองคํานี ้ ยากเกินไปที่จะหาตัวเขาในเมืองลิขิตฟ้า
เธอจะหาเขาพบได้ อย่างไร?



ในขณะที่เขากลับมาจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ หลินหมิงตัดสินใจแล้ วถึงสิ่งที่เขาต้ องการ
อาณาจักรลิขิตฟ้ามีการผลิตไหมนภา แต่มนั ก็ถกู ใช้ เป็ นวัสดุสร้ างเครื่ องดนตรี ระดับสูง เป็ นเรื่ อง
ยากที่เขาจะค้ นหาและซื ้อมัน แต่เขาอาจขอร้ องให้ หลินเซี่ยวตงที่มาจากตระกูลชันสู ้ งหาซื ้อให้
และมันจะเป็ นเรื่ องง่ายที่จะได้ มนั มา ตราบใดที่ยงั มีเงินพอจ่าย
จาก ‘พิณนภา’ หลินหมิงสามารถบอกราคาโดยประมาณของไหมนภาได้ 20 เหรี ยญทองต่อ
ฟุต แม้ วา่ มันจะไม่ได้ มีราคาแพงเกินไป แต่มนั เป็ นเส้ นที่บางมาก หากวัดโดยนํ ้าหนักต้ องใช้
มากกว่า 10,000 เหรี ยญทองเพียงเพื่อซื ้อมันแค่ปอนด์เดียว!
หลินหมิงเหลือเพียง 70 เหรี ยญทอง พอที่เขาจะซื ้อได้ สามฟุต ในเทศกาลการค้ าเที่ยงธรรมเขา
ได้ ใช้ 800 เหรี ยญทองซื ้อวัสดุกองใหญ่ แต่เพียงสามฟุตของไหมนภาเขาต้ องจ่ายถึง 60 เหรี ยญ
ทอง ทังสามฟุ
้ ตไหมนภานี ้ ไม่ต้องสงสัยว่ามันเป็ นราคาแพงที่แพงขนาดไหน
หลินหมิงจ้ องปฏิทินของเขา หน้ าที่ถกู ฉีกเท่ากับจํานวนวันที่ผ่านมา เขาจะฉีกหนึง่ หน้ าออกทุกๆ
วัน เดือนแรกเขาจะใช้ เวลาฝึ กเทคนิคการจารึกและอื่นๆ เดือนที่สองเขาจะซื ้อยาที่เขาต้ องการ
แล้ วฝึ กฝนเหมือนคนบ้ า! เขาเชื่อว่ามีนํ ้าทิพย์และโอสถที่จะช่วยเขาทะลวงผ่านขันแรกของการ

ฝึ กฝนกายภาพไปจนถึงจุดสูงสุดของขันตอนที ้ ่สอง!
ถ้ าเขาจะไปถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สองได้ แม้ วา่ เขาจะเอาชนะจู้ยนั ไม่ได้ อย่างน้ อยเขาจะไม่
สูญเสียจนเกิดความหายนะ
หลังจากที่ใช้ ฝึกฝนร้ อยครัง้ จบ ในที่สดุ หลินหมิงก็เริ่ มขันตอนจารึ
้ กที่เกี่ยวข้ องกับวัสดุอย่างจิงจัง
นี่เป็ นการเริ่ มต้ นที่ยาก เพราะหลินหมิงไม่ได้ มีวสั ดุที่ดีเพียบพร้ อม ! เขาพยายามทําแต่ละ
ขันตอนด้
้ วยความระมัดระวังสูงสุด สําหรับกองวัสดุมลู ค่า 800 เหรี ยญทองเขาจะต้ องทําให้ ได้
จารึกที่ทํางานได้ เพียงชิ ้นเดียวก็เกินพอ!
การจารึกไม่เพียงต้ องการความเข้ าใจที่ดี แต่ยงั ต้ องการอาจารย์ที่ดี การสนับสนุนทางการเงิน
และแรงจิตวิญญาณที่มีประสิทธิภาพ
เพราะในกระบวนการจารึกต้ องควบคุมรอยแกะสลักโดยใช้ แรงดันจิตวิญญาณวาดโครงสร้ าง
พลังงาน แรงดันจิตวิญญาณของหลินหมิงนันถู
้ กวัดตังแต่
้ เขายังเป็ นเด็กและมันก็ยงั เป็ นแรงดัน
จิตวิญญาณระดับสาม
แรงดันจิตวิญญาณระดับสามและพรสวรรค์ตอ่ สู้ระดับสาม ซึง่ ถือว่าดีสําหรับตระกูลชันกลางที ้ ่
มีประวัติของศิลปะการต่อสู้ไม่นานเท่าไร แต่สําหรับตระกูลที่สงู ส่งมันไม่ได้ เข้ าใกล้ คําว่าดีเลย
นักสู้ไม่จําเป็ นต้ องฝึ กแรงดันจิตวิญญาณ ในขันตอนการฝึ
้ กฝนกายภาพไม่ได้ มีเหตุผลที่จะใช้
แรงดันวิญญาณ แต่หลินหมิงกลับใช้ รูปแบบของพลังงานนี ้ เขาเริ่ มที่จะระดมแรงจิตวิญญาณ
ของเขาผสานเข้ ากับความทรงจําที่พบในชิ ้นส่วนจิตวิญญาณ เขาโคจรแรงจิตวิญญาณนี ้ใน
ร่างกายของเขาจนคุ้นเคยราวกับว่ามันเป็ นความคิดของเขา
มนุษย์ทกุ คนมีแรงจิตวิญญาณ แต่ความสามารถที่จะใช้ มนั ยากยิ่งนักเป็ นสิ่งที่คนทัว่ ไปไม่อาจ
ที่จะประสบความสําเร็จ มันจําเป็ นต้ องเข้ าใจกฎแห่งจิตวิญญาณและจําเป็ นต้ องฝึ กใช้ ใน
ชีวิตประจําวันการอยูเ่ สมอ นักจารึกหลายคนได้ จดจํารูปแบบสัญลักษณ์และโครงสร้ างพื ้นฐาน
แต่ถ้าพวกเขาไม่เข้ าใจกฎของแรงดันวิญญาณ ก็จะส่งผลให้ พวกเขาไม่สามารถใช้ แรงจิต
วิญญาณได้ หากไม่สามารถใช้ แรงจิตวิญญาณได้ แล้ ววัสดุที่นํามาใช้ ก็จะไม่ได้ มีคณ
ุ สมบัติที่
กลายเป็ นสินค้ า และเป็ นวัสดุที่เสียเปล่า!
ทันทีที่หลินหมิงเริ่ มทําความเข้ าใจกฎแห่งจิตวิญญาณจากความทรงจําของชิ ้นส่วนจิต
วิญญาณ มันเต็มไปด้ วยความรู้สกึ คุ้นเคย กฎแห่งจิตวิญญาณจากความทรงจําที่เก่าแก่นี ้มี
ความน่ากลัวอย่างมาก ดูเหมือนจะเป็ นความทรงจําก่อนที่เจ้ าของมันจะเสียชีวิต เป็ นความทรง
จําที่ได้ รับการฝึ กการจารึกตลอดชีวิตของมัน ส่วนของการบังคับแรงจิตวิญญาณถูกเก็บรักษาไว้
และเขาก็ไม่จําเป็ นต้ องกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลเชิงลบใดๆจากความทรงจํา
เขาวางมือลงเบาๆและใช้ แรงจิตวิญญาณที่มองไม่เห็น มันเริ่ มที่จะดึงหญ้ านภาและกลัน่ นํ ้า
ออกมาด้ วยการใช้ ความคิดของเขา หลินหมิงเริ่ มปฏิบตั ิเปลี่ยนนํ ้าเป็ นรูปทรงต่างๆภายใต้ การ
ควบคุมของเขา บางครัง้ เขาก็ทําให้ มนั เป็ นอักขระ บางครัง้ เขาก็ทําให้ มนั กลายเป็ นผลึกฟองใส
ใส
สิ่งที่เกิดขึ ้นทําให้ หลินหมิงประหลาดใจ เขารู้วา่ ในตําราระบุวา่ แม้ ผ้ ทู ี่สามารถเข้ าใจกฎแห่งจิต
วิญญาณได้ แต่กําเนิดยังต้ องใช้ เวลาอย่างน้ อยหนึง่ เดือนในการหัดควบคุม ในขณะที่ผ้ ทู ี่มี
ความสามารถน้ อยลงมาจะสามารถทําได้ เมื่อฝึ กไปครึ่งปี หรื อมากกว่านัน้
นักจารึกแต่ละคนมีกฎแห่งจิตวิญญาณของพวกเขาเอง กฎแห่งจิตวิญญาณมีการจัดอันดับที่
แตกต่างกันเช่นของบางคนอ่อนแอ บางคนรุนแรงกว่า นักจารึกจึงยกย่องกฎแห่งจิตวิญญาณ
ของตัวเองด้ วยความรักและการนับถือ! มันเป็ นสิง่ ที่พวกเขาอาจไม่ได้ สง่ ผ่านไปถึงสาวกของ
พวกเขา เพราะกฎแห่งจิตวิญญาณมีผลต่อความสามารถในการแรงจิตวิญญาณ มันเป็ นสิ่ง
สําคัญที่สดุ กับผู้จารึก!
โดยไม่มีเงาแห่งความสงสัย มี’ครอบงําวิญญาณ’ อยูภ่ ายในความทรงจํานัน้ นี่คือกฎแห่งจิต
วิญญาณ! แม้ ทวีปนภาริ นไหลที่ยิ่งใหญ่ที่สดุ ในด้ านการจารึกยังไม่อาจได้ เป็ นเจ้ าของ แต่เด็ก
บ้ านนอกอย่างเขากลับมีมนั
หลินหมิงมีความคุ้นเคยกับกฎแห่งจิตวิญญาณที่มาจากความทรงจํา ด้ วยแรงดันจิตวิญญาณ
ระดับสามของเขาและกฎแห่งจิตวิญญาณนี ้ อาจทําให้ เขาเทียบได้ กบั ผู้มีแรงดันจิตวิญญาณ
ระดับสี่หรื ออาจไปถึงระดับห้ า! สิ่งเหล่านี ้เป็ นสิ่งที่มีคา่ ที่ถกู ทิ ้งไว้ ในความทรงจํา!
นิ ้วมือทังห้
้ าของเขามีตราประทับปรากฏขึ ้น ดึงคลื่นวิญญาณออกมาจากหยดนํ ้าของหญ้ านภา
นิ ้วของหลินหมิงดึงเส้ นในอากาศที่สอ่ งแสงเป็ นประกาย แรงจิตวิญญาณที่ใช้ จะต้ องสัมพันธ์กบั
หยดนํ ้าจากหญ้ านภา และต้ องทํามันอย่างรวดเร็ วมันรวมตัวกันเป็ นอาคมที่น่าพอใจและลึกลับ
อาคมมีขนาดเล็กกว่าเล็บมือ แต่มนั มีพลังงานที่ซบั ซ้ อน แม้ จะเป็ นอาคมเดียวกันแต่ความ
แตกต่างที่ลกึ ซึ ้งในรูปแบบของความแข็งแรงของแรงจิตวิญญาณและปั จจัยอื่นๆ หมื่นนักจารึก
จะมีหมื่นลักษณะที่แตกต่างกัน หลินหมิงไม่สามารถบอกได้ วา่ สัญลักษณ์ที่เขาสร้ างขึ ้นเป็ นขยะ
หรื อสมบัติ แต่เขาก็ยงั คงอยูก่ บั ความพึงพอใจในผลของเขา
เขาเริ่ มที่จะสร้ างอาคมของเขาต่อไป เขาใช้ เพียงครึ่งหนึง่ ของหยดนํ ้าหญ้ านภาเพื่อให้ เขายังคง
มีครึ่งหยดเหลือ นิ ้วมือของเขาเกิดรูปแบบตราประทับอีกครัง้ และเริ่ มที่จะดึงแรงจิตวิญญาณ
จากหยดนํ ้าเข้ าไปรวมกับตราประทับอีก อย่างไรก็ตามตราประทับเกิดแสงขึ ้นมา หลินหมิง
อํ ้าอึ ้งเล็กน้ อย มันเกิดจากการย่อยสลายในการรวม หลินหมิงเพียงจ้ องมองมันในขณะที่
ของเหลวนันกลายเป็้ นขี ้เถ้ า
มันเป็ นเรื่ องยากที่จะจินตนาการ แต่สําหรับผู้ที่เพิ่งเริ่ มการจารึกวิธีบงั คับจิตวิญญาณจะไม่มี
เสถียรภาพ และจะประสบความล้ มเหลวเป็ นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ ้นธรรมดาและหากประสบ
ความสําเร็ จจะเป็ นเรื่ องอัศจรรย์ยิ่ง
ในพริ บตาหลายเหรี ยญทองหายวับไปในอากาศ ในหนึง่ วันมันไม่ยากเลยที่จะเสียเป็ นร้ อยๆ
เหรี ยญทองไปในการฝึ กจารึก มันเป็ นการเผาเงินอย่างแท้ จริ ง! รสชาติแห่งความล้ มเหลวยังคง
สดใหม่สาํ หรับเขา หลินหมิงจึงระมัดระวังมากขึ ้น เขาขยับนิ ้วมือของเขาอีกครัง้ รูปแบบตรา
ประทับเกิดขึ ้นมาครัง้ แล้ วครัง้ เล่า แน่นอนว่าเขาล้ มเหลวบ่อยกว่าเขาประสบความสําเร็จ แต่
เมื่อเวลาผ่านไปจํานวนของความล้ มเหลวเริ่ มลดลง
ในขณะที่หลิงหมิงสร้ างอาคมมากขึ ้นเรื่ อยๆ เขาเริ่ มที่จะค้ นพบว่าแรงดันจิตวิญญาณของเขา
เองอ่อนแรงลง ถึงแม้ จะมีวรยุทธและกฎแห่งจิตวิญญาณระดับสูง ‘จุดสูงสุดแห่งความ
โกลาหล’ และ ‘ครอบงําวิญญาณ’ สนับสนุนเขา เขาก็สามารถทําต่อไปได้ อีกไม่นาน
การใช้ แรงจิตวิญญาณที่เหลือเพียงน้ อยนิด หลินหมิงไม่สามารถสร้ างอาคมได้ เร็ วเหมือนก่อน
หน้ านี ้ นอกจากนี ้โอกาสผิดพลาดยังมีมากขึ ้นด้ วย เนื่องความสามารถในการบังคับแรงดันจิต
วิญญาณที่ลดลง!
ตอนนี ้แรงดันจิตวิญญาณของตํ่ามาก กระบวนการฝึ กจารึกของหลินหมิงก็ไปได้ เพียงเล็กน้ อย
เขาก็เริ่ มที่จะมีความยากลําบากในการบังคับแรงด้ นจิตวิญญาณ และเขารู้สกึ เหนื่อยมากและ
เกิดอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะเดิน อาคมด้ านหน้ าของเขาเริ่ มที่จะสัน่ สะเทือน ขอบของพวกมัน
เริ่ มจะแตกออก!
หัวใจหลินหมิงเต้ นแรงและเขาพยายามรักษาความเสถียรของแรงจิตวิญญาณอย่างรวดเร็ ว ฝ่ า
มือของเขาถูกปกคลุมไปด้ วยเหงื่อ แต่เขากลับทําให้ มนั ยิ่งยุง่ เหยิง! หลายสิบเหรี ยญทองกําลัง
จะสูญเปล่า!?
ในที่สดุ หลินหมิงก็เห็นแสงแพรวพราว(แสงที่เกิดออกมาตอนวัสดุกลายเป็ นขี ้เถ้ า) ตัวเขาปก
คลุมไปด้ วยเหงื่อ เขาทุบมือขวาลงพื ้น
ตึง!

บทที่ 14 การเสริ มความแข็งแกร่ง


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
หลินหมิงใช้ สมาธิครึ่งหนึง่ เพื่อรักษาสภาพอาคมสัญลักษณ์ของเขาและอีกครึ่งหนึง่ กับ
‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เพื่อเพิ่มการฝึ กฝนทางกายภาพไปพร้ อมๆกัน กับทังสองสิ
้ ่งที่ตรง
ข้ ามกัน เขาจึงล้ มเหลวในจารึกการของเขา!
หลังจากเกิดความล้ มเหลวห้ าครัง้ ติดต่อกันและห้ ากองวัสดุกลายเป็ นขี ้เถ้ า หลินหมิงตระหนัก
ว่าเขาไม่สามารถที่จะทําสําเร็จก่อนที่เขาจะเข้ าใจสาระสําคัญที่แท้ จริ ง หลังจากใช้ เวลากับ
ความพยายามที่ไร้ ประโยชน์เหล่านี ้ในที่สดุ เขาก็ล้มเลิกการส่งแรงดันจิตวิญญาณ ตราประทับที่
เหลืออยูใ่ นอากาศสัน่ ไหว และหายลับไป
แม้ ว่าเขาจะไม่ได้ คาดหวังที่จะประสบความสําเร็ จในครัง้ แรก แต่การสูญเสียเงินทองมากมาย
เป็ นเรื่ องยากที่เขาจะยอมรับ แต่อย่างน้ อยมันก็ยงั ไม่ได้ มาถึงขันตอนที
้ ่จะใช้ วสั ดุที่หายากและมี
ราคาแพง ที่สดุ ไหมนภา!
วัสดุที่เหลือมากพอจะพยายามทําได้ อีกสิบครัง้ ถ้ าเขาไม่สามารถทําได้ ก่อนหน้ านันแล้
้ วเขา
จะต้ องเป็ นคนยากจนไร้ ซงึ่ เงินทอง
สําหรับนักจารึกทัว่ ไปอาจต้ องพยายามกระทัง่ เลือดระเหยเป็ นไอ หากต้ องการที่จะประสบ
ความสําเร็ จในสิบครัง้ ถัดไป?! นี่เป็ นครัง้ แรกของเขาในการจารึก เขาพยายามด้ วยตัวคนเดียว
แน่นอนว่าเป็ นเรื่ องยากมากที่จะประสบความสําเร็ จ!
หลินหมิงรวบรวมขี ้เถ้ าวัสดุและเริ่ มพิจารณาความผิดพลาดของเขาในช่วงเวลาที่ผ่านมา ความ
ทรงจําที่เขาได้ รับมานันไม่
้ ได้ ผิดแต่อย่างใด แต่มนั เพราะช่องว่างของการบังคับจิตวิญญาณ
ของเขามันยังไม่ดีพอ เขาอาจทํามันได้ โดยง่าย
เทคนิคการจารึกในความทรงจําของนักสู้แห่งอาณาจักรพระเจ้ า มันเป็ นสิ่งที่ทําได้ งา่ ยๆสําหรับ
นักสู้คนนัน้ แต่ในทวีปนภาริ นไหล มันยังเป็ นเทคนิคที่ซบั ซ้ อนอย่างเหลือเชื่อ มันสามารถทําให้
นักจารึกทัว่ ทังทวี
้ ปดินแดนแห่งนี ้ตะลึงไปตามๆกัน!
หลังจากสรุปสาเหตุของความล้ มเหลว หลินหมิงเริ่ มที่จะจับประเด็นของมันได้ เขาไม่สามารถ
เพิ่มแรงดันจิตวิญญาณของตัวเองในเวลาอันสัน้ แต่สิ่งที่เขาทําได้ ก็คือลดความผิดพลาดให้ ได้
มากที่สดุ เท่าที่เป็ นไปได้ เพราะความผิดพลาดในแต่ละครัง้ ทําให้ เสียแรงดันจิตวิญญาณไป
เปล่าๆ ถ้ าเขาทําผิดพลาดน้ อยกว่าเดิม นันเขาจะไม่
้ เพียงจะเหลือวัสดุและเงินทองมากขึ ้น เขา
ยังมีแรงดันจิตวิญญาณเหลือมากขึ ้นด้ วย
การคิดเช่นนี ้ทําให้ หลินหมิงยอมแพ้ ที่จะฝึ กฝนกายภาพไปพร้ อมกับการจารึก และเน้ นฝึ กฝน
การใช้ แรงดันจิตวิญญาณของเขาครัง้ แล้ วครัง้ เล่าเหมือนผีดบิ บ้ าคลัง่
ในความคิดของเขา การใช้ แรงดันจิตวิญญาณอย่างอิสระมันไม่ได้ ยากเกินไป หากเขาคุ้นเคย
กับแรงดันจิตวิญญาณแล้ ว การฝึ ก ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ไปด้ วยก็ไม่น่ามีผลเสียอะไร
มันสามารถที่จะปฏิบตั ไิ ด้ ในเวลาเดียวกัน มันจะเป็ นสิง่ ที่สมบูรณ์แบบ! มันเป็ นเหมือนกับว่า
สองสิ่งนี ้ถูกสร้ างขึ ้นมาเพื่อกันและกัน


..
ณ เมืองลิขิตฟ้า คฤหาสน์จอมพล
ในเมืองลิขิตฟ้า สองสิ่งปลูกสร้ างที่ยิ่งใหญ่ที่สดุ ซึง่ เป็ นความสําเร็ จทางสถาปั ตยกรรม วัง
จักรพรรดิและคฤหาสน์จอมพล ซึง่ ตังอยู ้ ด่ ้ านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองลิขิตฟ้า คฤหาสน์
จอมพล มีขนาดยาวสามไมล์จากปลายด้ านหนึง่ ไปยังอีกด้ านหนึง่ มีนํ ้าตกหินประดับดอกไม้ ที่
สวยงามและสวนทางเดินคดเคี ้ยวพร้ อมกับศาลาริ มนํ ้านับไม่ถ้วน เป็ นดังสวรรค์แท้ จริ งนัน่ เอง
ในคฤหาสน์จอมพล ห้ องสมุดแห่งหนึง่ ชายสูงอายุคนหนึง่ สวมชุดยาวและถือกรงนกสีทอง เขา
ยืนมองหญิงสาวที่เงียบสงบในชุดสีขาว เธอคือฉินชิงหวน
“โอ้ ว? มีคนอย่างที่เจ้ าพูดมาด้ วยรึ ? มันมีความสามารถมากกว่าเจ้ าในวัยเท่ากันรึ ? ”
“แน่นอน” ฉินชิงหวน พยักหน้ าอย่างสุภาพ ชายชราคนนันคื
้ ออาจารย์ของเธอ และเป็ นผู้ที่มี
ชื่อเสียงทางด้ านหลักจารึก หมูย่ ี่
ฉินชิงหวนจําเขาได้ เป็ นอย่างดี เธอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ ้นและทุกคําพูดของหลินหมิงได้ อย่าง
สมบูรณ์ หลังจากที่ชายชราได้ ฟังการแสดงออกของเขาก็ได้ แต่ตะลึงมากขึ ้น มากขึ ้น ในตอน
แรกเขาคิดว่าศิษย์สาวของเขาตกอยูใ่ นความลุม่ หลงและความเจียมเนื ้อเจียมตัวกับเด็กผู้ชาย
บางคนที่เธอชอบ แต่มนั ดูเหมือนว่าจริ งๆแล้ วเธอด้ อยกว่าเด็กคนนัน้ นอกจากนี ้ความรู้เด็กคน
นันที
้ ่มนั มีมากเกินไป มันไม่น่าใช่คนในอาณาจักรลิขิตฟ้า แต่มาจากอาณาจักรที่รุ่งเรื องยิ่งกว่า
หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็เล่าให้ ฟังว่าหลินหมิงวาดอักขระและสัญลักษณ์ได้ อย่างง่ายดายและ
ลื่นไหล มันไม่ได้ เป็ นสิ่งที่เธอคิดว่าจะมีใครทํามันได้
“ความสามารถในการวาดอักขระด้ วยแรงดันจิตวิญญาณ แต่ยงั ไม่พอ ยังสามารถเข้ าใจความ
ซับซ้ อนของการวางพลังงานในแต่ละจุด … เป็ นไปได้ อย่างไรกัน?” หมูย่ ี่ กล่าวว่าด้ วยความ
ประหลาดใจ
“อืมมม … ” หมูย่ ี่ สูดลมหายใจ อย่างกับความฝั นสิ่งนี ้เรี ยกว่าการวาดภาพโดยสัญชาตญาณ
อาจเป็ นหนึง่ ในล้ าน ไม่สอิ าจหลายพันล้ าน ไม่ใช่วา่ เด็กหนุ่มคนนันเริ
้ ่ มฝึ กตังแต่
้ ในครรภ์ของแม่
ของเขาหรอกรึ?
“เจ้ าแน่ใจนะ ว่าเขาเป็ นอายุราวๆ 15 หรื อ 16 ปี เท่านัน?”

“ใช่อย่างแน่นอน” ฉินชิงหวน ตอบด้ วยความมัน่ ใจ
“มหัศจรรย์ยิ่งนัก!” หมูย่ ี่ถอนหายใจ “ด้ วยอายุเพียงแค่นนั ้ เขาประสบความสําเร็ จถึงเพียงนี ้
มันช่างน่าตืน่ ตาตื่นใจเหลือเกิน นี ้เป็ นครัง้ แรกในชีวิตข้ าที่ได้ เห็นสิ่งอัศจรรย์เช่นการท้ าทายลิขิต
สวรรค์ของเหล่าหนุ่มสาว! ข้ าคิดว่าข้ าได้ ยินเรื่ องของอัจฉริ ยะเช่นนี ้แต่ในตํานาน ข้ าอยากเห็น
อนาคตของเจ้ าเด็กนันเสี ้ ยจริ ง” หมูย่ ี่ คิด ในไร้ สาระในใจ เขาคิดว่าทังราชอาณาจั
้ กรลิขิตฟ้า
และอาณาจักรใกล้ เคียงไม่น่าจะมีนกั จารึก ผู้เยาว์คนใดที่มีสามารถเทียบกับผู้เชี่ยวชาญได้
ก่อนจะได้ ร้ ูจกั เด็กคนนัน้
แม้ วา่ หมูย่ ี่คิดในแง่ของความรู้การจารึก เขาพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้ าใน
อาณาจักรลิขิตฟ้า รวมถึงในอาณาจักรใกล้ เคียง ตัวเขานันเที้ ยบได้ กบั ระดับหัวหน้ า แต่เมื่อ
เทียบกับชายลึกลับคนนัน(น่ ้ าจะหมายถึงอาจารย์ของหลินหมิง)เขาไม่อาจมีโอกาสชนะใดๆ !
หมูย่ ี่ กล่าวว่า “ข้ าไม่คิดว่าเด็กนันจะมี
้ ความสามารถในการเรี ยนรู้ที่มหัศจรรย์ แต่ข้าเดาว่า
อาจารย์ของเขาต้ องมาจากตระกูลโบราณ”
“ตระกูลโบราณ?” ฉินชิงหวนตกใจ ทวีปนภาลินไหลเป็ นทวีปใหญ่มีขนบธรรมเนียมประเพณี
ของชนเผ่าโบราณมานานกว่าหลายพันล้ านปี ชนเผ่าเหล่านี ้มีมรดกลึกลับและทรัพย์สมบัติ
มากมาย!
ยกตัวอย่างเช่น ตระกูลที่จดั ตังสํ
้ านักเจ็ดแก่นแท้ แห่งราชอาณาจักรลิขิตฟ้า พวกเขาน่าจะมี
ผู้เชี่ยวชาญลับของตระกูลและมรดกมากมาย
สิบสองปี ก่อน เจ็ดผู้อาวุโสแห่งหุบเขาแก่นแท้ ได้ มาเยือนอาณาจักรลิขิตฟ้า แม้ กระทัง่ เหล่า
ราชวงศ์ยงั ต้ องเคารพ แม้ แต่อาจารย์ของฉินชิงหวน หมูย่ ี่ ที่เป็ นถึงนักจารึกชันนํ
้ าในอาณาจักร
เขาก็ไม่ได้ จดั ว่าพิเศษอะไร
หมูย่ ี่ กล่าวว่า “ ชิงหวน หาก เธอได้ พบกับเขาในหน้ า ช่วยถามให้ แน่ใจถึงสถานที่พกั ของเขา
เพื่อที่ข้าจะสามารถไปแนะนําตัวเอง ชายหนุ่มผู้นี ้น่าผูกมิตร เขามีอาจารย์ที่มาจากตระกูล
โบราณ เขามีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์ได้ ในอายุเพียงแค่นนั ้ นอกจากนี ้ให้ สภุ าพกับเขา
และปฏิบตั ิตอ่ เขาด้ วยความเคารพ อาจารย์ของเขาเป็ นคนที่มีทกั ษะที่คาดไม่ถงึ ซึง่ ทัว่ ทัง้
อาณาจักรลิขิตฟ้ามิ อาจดูหมิ่นได้ ”
“รับทราบ ท่านอาจารย์”



ผ่านมาอีกหนึง่ วัน หลินหมิงฉีกหน้ าปฏิทินอีกครัง้ หลินหมิงฝึ กฝนการจารึกทุกวัน การ
เรี ยงลําดับของสัญลักษณ์ อักขระและอาคมทุกอย่างได้ รับการฝึ กฝนด้ วยความรู้ในอาณาจักร
พระเจ้ า ความเข้ าใจแต่ละอย่างตราตรึงในหัวของเขาอย่างลึกซึ ้ง
เขาใช้ แรงดันจิตวิญญาณทังกลางวั
้ นและกลางคืน ทําให้ เขาเหนื่อยมาก ดวงตาของเขาเป็ นสี
แดงด้ วยความอ่อนเพลีย เขาทํามันอย่างต่อเนื ้องเหมือนกับตะเกียงที่ไม่ต้องนํ ้ามันใดๆ แต่เขา
ได้ รับรู้บางอย่าง หลินหมิงพบว่านอกเหนือจากความคืบหน้ าในการจารึก ของเขารับรู้ถงึ มันได้
รวดเร็ วขึ ้น
แม้ ในตอนนี ้เขาก็ยงั ฝึ กแร่เนื ้อเหมือนกับตอนที่อยูศ่ าลาจันทร์ กระจ่าง แม้ วา่ จะเป็ นสัตว์ดรุ ้ าย
ระดับสอง หลินหมิงทํามันได้ อย่างง่ายดาย เขาสามารถรับรู้โครงสร้ างทังหมดของสั
้ ตว์ ปล่อย
ให้ มีดของเขาได้ ผ่านไปตามเนื ้ออย่างเรี ยบง่าย เขาใช้ เวลาเพียงธูปไหมหมดก้ านก็เพียงพอที่จะ
เสร็ จสมบูรณ์!
เป็ นความเร็วที่น่าอัศจรรย์ คนที่ศาลาจันทร์ กระจ่างต่างไม่เชื่อ แต่หลังจากที่ได้ เห็นมันก็ยากที่
จะปฏิเสธ ขณะนี ้เขาอยูใ่ นเขาอยูใ่ นศาลาจันทร์ กระจ่าง สถานะของเขาสูงขึ ้นมาก เขาสามารถ
เลือกชัว่ โมงการทํางานของเขาได้ เอง! ค่าจ้ างของเขาได้ ไม่น้อยกว่าบรรดาเชฟ!
กับสิทธิประโยชน์นี ้ พนักงานคนใดต่างต้ องการจะได้ รับ ถึงแม้ วา่ หลินหมิงมีสิทธิพิเศษเขาก็ยงั
แร่เนื ้อสองชัว่ โมงต่อวันเช่นเดิม มันเป็ นรูปแบบของการปฏิบตั ิของเขา การแร่เป็ นวิธีที่ดีที่จะ
ส่งเสริ มแรงดันจิตวิญญาณ
อย่าง ไรก็ตาม เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถที่จะทํางานได้ ถงึ สองชัว่ โมง มีสตั ว์ดรุ ้ ายไม่เพียงพอ
จะให้ เขาให้ เวลาจนครบ จริ งๆแล้ วสินค้ าทังหมดในสต็
้ อกถูกหัน่ บางๆ เตรี ยมไว้ แล้ วโดยหลินห
มิง เมื่อพี่สาวหลาน ผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบห้ องครัวทุกวันเข้ าไปในคลังนํ ้าแข็งเธอเห็นว่า
ทัง้ หมดของสัตว์ป่ากลายเป็ นกองเนื ้อไร้ กระดูกเรี ยบร้ อยแล้ ว แต่ละชิ ้นยังถูกจัดการอย่าง
สมบูรณ์แบบ พี่สาวหลานพูดตามความเป็ นจริ ง
เด็กหนุ่มคนนันอย่
้ างกับเครื่ องจักร!
ในที่สดุ ก็มาถึงสิบวันสุดท้ ายของเดือนแรก หลินหมิงได้ เตรี ยมทังจิ
้ ตใจและวัสดุของเขาให้ พร้ อม
มันเป็ นช่วงเวลาที่จะเริ่ มต้ นจารึกอีกครัง้ !

บทที่ 15 อาคมล้ มล้ าง


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



วันนี ้หลินหมิงได้ เตรี ยมตัวมาเป็ นอย่างดีในสิ่งที่เขาจะทํา การวาดอักขระและสัญลักษณ์ของ
เขาไม่ได้ ด้อยไปกว่าเหล่านักจารึกคนอื่นๆเลย!
ในการจัดการกับหญ้ านภา หลินหมิงแบมือทังสองข้ ้ างของเขา และหนึง่ หยดของเหลวมรกต
ลอยขึ ้นไปในอากาศ มันลอยอยูอ่ ย่างนัน้
มองไปที่มกุ ของเหลวสีเขียว หลินหมิงปิ ดตาของเขา มือของเขาเปล่งประกายเป็ นรูปแบบตรา
ประทับ การเคลื่อนไหวเหล่านี ้มีมานานแล้ วในใจของเขา และด้ วยความทรงจําของชิ ้นส่วนจิต
วิญญาณ สิ่งเหล่านี ้เป็ นสัญชาตญาณเหมือนกับการหายใจ
หลินหมิงสูดหายใจเข้ าลึกๆ สิบนิ ้วมือของเขาไหลเหมือนสายนํ ้า ตราประทับก่อตัวขึ ้นมาอย่าง
รวดเร็ ว นิ ้วมือของเขาสัมผัสหยดของเหลวที่อยูใ่ นอากาศด้ วยแรงจิตวิญญาณ หลินหมิงสร้ าง
รูปแบบสัญลักษณ์จารึกที่สวยงามขึ ้นมาในทันที เพื่อที่จะรักษาแรงดันจิตวิญญาณของเขา
หลินหมิงเริ่ มทําอีกขันตอนอื
้ ่นก่อนที่ขนตอนแรกจะเสร็
ั้ จสิ ้น!
ด้ วยความยุ่งยากและซับซ้ อนของรูปแบบ อัตราความผิดพลาดของหลินหมิงอยูใ่ นระดับที่
ค่อนข้ างสูง
เมื่อเขาวาดจารึกเสร็จได้ ครึ่งหนึง่ หลินหมิงเริ่ มที่จะรู้สกึ กังวล
เมื่อวาดจารึกเสร็จไปสองในสาม หลินหมิงรู้สกึ ว่าแรงดันจิตวิญญาณของเขานันมาถึ
้ งจุดสิ ้นสุด
ของตนแล้ วและเขาจึงฝื นโคจรพลัง ‘ปฐมโกลาหล’ เพื่อให้ ทํามันต่อได้ สําเร็ จ(แบบว่าปกติคน
อื่นๆเขาฝึ กไปอย่างใดอย่างหนึง่ ระหว่างการต่อสู้กบั การจารึก แต่หลินหมิงรู้วา่ หากเข้ าใจการ
จารึกระดับหนึง่ แล้ วจะสามารถใช้ พลังต่อสู้มาเสริ มแรงดันวิญญาณได้ )
ในใจของเขามีปัญหาบางอย่างที่อาจจะเกิดขึ ้น หลินหมิงกําฟั นของเขาและขบฟั นไว้ เขาแบ่ง
วัสดุอีกบางส่วนเพื่อใช้ มนั วาดอาคมต่อไป
“ไหมนภา…สําเร็จ!” หลินหมิงในที่สดุ ก็ปล่อยลมหายใจด้ วยความโล่งอก ไหมนภาคือสิ่งที่เขา
ขาดแคลนมากที่สดุ เขาอาจปิ ดช่องว่างสําหรับความล้ มเหลวนี ้ได้
“เหลืออีกเพียงห้ าอาคม … ” หลินหมิงนับมันในหัวใจ เขาถึงขีดจํากัดของแรงดันจิตวิญญาณ
ของเขาแล้ ว
‘สี่ … สาม … สอง …. ”
“สําเร็ จ!”
ในขณะนี ้ หลินหมิงวาดจารึกเสร็จแล้ ว อาคมแต่ละแบบส่องแสงประกายในช่วงสันๆที ้ ่พวกมัน
รวมตัวกันเป็ นจารึกขนาดหนึง่ ตารางนิ ้ว ลอยอยูใ่ นอากาศ
หลินหมิงได้ ทรุดตัวลง ในขณะที่เขามองไปที่จารึกที่เสร็ จสมบูรณ์ลอยอยูใ่ นอากาศ เขาไม่ได้
รู้สกึ อะไร นอกเสียจากความความสุข! จารึกนี ้มีขนาดเล็ก มันมีคา่ อย่างกับลูกของเขา เขาใช้
เวลาทังเดื
้ อนด้ วยความทุกข์ทรมานและเงินจํานวนมหาศาลเพื่อจะสร้ างมันขึ ้นมา!
้ ่อการจารึกนี ้ว่า ‘อาคมล้ มล้ าง’ ชื่อนี ้อาจจะหยาบคายเกินไป
ผู้อาวุโสเจ้ าของความทรงจําตังชื
แต่ด้วยความเคารพของหลินหมิงมีให้ แก่ผ้ อู าวุโสเจ้ าของวิชา เขาจึงไม่ได้ เปลี่ยนชื่อมัน ยังคง
เรี ยก ‘อาคมล้ มล้ าง’เช่นเดิม !
หลินหมิงได้ ซื ้อแผ่นจารึก(น่าจะเป็ นแผ่นที่ไว้ เก็บจารึกที่วาดขึ ้นมา)ถูกๆมามากมายในราคา
เพียง 1-2 เหรี ยญทองต่อโหล มันมีดนั แรงจิตวิญญาณอยูเ่ ล็กน้ อยเพื่อคงสภาพจารึก เขาวาง
จารึก‘อาคมล้ มล้ าง’บนแผ่นจารึก จารึกแปรสภาพไปอยูใ่ นรูปแบบอักขระโบราณอยูบ่ น
กระดาษจารึก
ในขันตอนสุ
้ ดท้ ายของการขึ ้นรูปแผ่นจารึก หลินหมิงออกแบบภายนอกให้ มีแรงดันวิญญาณ
มันคล้ ายๆกับเปลวไฟ
ชนิดของการออกแบบนี ้มักมีอยูบ่ นสมบัติจารึกและมันคือเครื่ องหมาย เครื่ องหมายของเขา! นัก
จารึกหลายคนมีการออกแบบเครื่ องหมายกํากับชิ ้นงานของพวกเขา
หลินหมิงตัดสินใจใช้ รูปเปลวไฟลุกไหม้ เป็ นตัวแทนของการเกิดใหม่
ฝึ กฝนการต่อสู้บนเส้ นทางแห่งไฟ อาการปวดและอันตรายที่เคยมีในปั จจุบนั จายกลายเป็ น
ขี ้เถ้ า! เพียงแค่มีหวั ใจที่เด็ดเดี่ยว จะได้ รับการเกิดใหม่ผ่านเปลวไฟและกลายเป็ นมังกรดังเช่น
พระเจ้ าบนสวรรค์!
หลินหมิงเก็บแผ่นจารึกอย่างรอบคอบ แผ่นจารึกนี ้มีคา่ มากนัก เขาเปิ ดหน้ าต่างรับอากาศ
บริ สทุ ธิ์ แสงแดดสดใสโรยลงบนภูเขาสะท้ อนให้ เห็นว่าดวงตาของเขาแดงกํ่า เขาอ่อนเพลียและ
ต้ องการที่จะพักผ่อน หลินหมิงมีความพึงพอใจในความสําเร็ จที่ผ่านมา
เวลาที่เหลือก่อนที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ จะสอบ – สองเดือนกับอีกสิบวัน!



ในห้ าวันที่ผา่ นมาหลินหมิงได้ สร้ างจารึกสุดท้ ายของเขาลงบนแผ่นจารึก ดังนันวั
้ สดุทงหมดของ
ั้
เขาได้ ถกู ใช้ อย่างคุ้มค่า ทัว่ ถึง เขาใช้ มนั ทังหมดเพื
้ ่อสร้ าง สี่แผ่นจารึก ‘อาคมล้ มล้ าง’
มองไปที่แผ่นจารึกเหล่านี ้ หลินหมิงรู้สกึ ถึงความสําเร็ จที่น่าจดจํา ตอนนี ้เขาอยากจะขายสี่แผ่น
จารึกเหล่านี ้!
ในงานแสดงสินค้ าที่ผ่านมา ปรมาจารย์ใบหงส์ขายแผ่นจารึกในราคา 1500 เหรี ยญทอง เห็นได้
ชัดว่าเป็ นเพราะชื่อเสียงของนักจารึก หลินหมิงอาจไม่ได้ ขายจารึกใดๆมาก่อนเพื่อให้ เขามี
ชื่อเสียง แต่เขาก็มีความมัน่ ใจในผลงานของเขา จารึกนี ้มาจากดินแดนพระเจ้ า! ผลของมันเมื่อ
เทียบกับผลงานของปรมาจารย์ ใบหงส์ มันเหมือนท้ องนภากับพื ้นดิน มิอาจเทียบกันได้
ในความทรงจําของอาวุโส ‘อาคมล้ มล้ าง’ ‘เป็ นเพียงจารึกพื ้นฐานที่สดุ แต่มนั ก็ใช้ สําหรับ
อุปกรณ์ระดับสามหรื อสูงกว่า หากใช้ กบั อุปกรณ์ระดับตํ่ากว่านี ้ ประสิทธิภาพอาจเหลือเพียง
ร้ อยละหกสิบ!
ไม่เพียงแค่นนั ้ แต่ ‘อาคมล้ มล้ าง’ ยังให้ ทกั ษะเพิ่มเติม!
บางเทคนิคระดับสูงสามารถเพิ่มทักษะให้ อปุ กรณ์ได้ โดยมุง่ เน้ นบังคับจิตวิญญาณ ไปที่ทกั ษะ
เหล่านี ้ พวกมันสามารถเพิ่มระยะการโจมตี เสริ มความแข็งแกร่งของเกราะและโล่ อาวุธลวงตา
และเทคนิคชัว่ ร้ ายอื่น ๆ !
จารึกของหลินหมิงถ้ าประทับบนอาวุธจะให้ อาวุธที่มีทกั ษะ ‘จู่โจมหนักชัว่ พริ บตา’
อาคมที่จารึกมีขนาดเล็กแต่มนั ก็เป็ นอักขระที่ซบั ซ้ อน เมื่อผู้ใช้ เพล่งสมาธิสง่ แรงดันจิตวิญญาณ
ลงไป อาวุธจารึกจะดูดซับพลังงานนี ้บีบอัดมันจนถึงขีดจํากัด แล้ วปะทุทนั ที! ในการต่อสู้ การ
ปิ ดการต่อสู้ด้วยกระบวนท่านี ้ถือว่าน่ากลัวมากทีเดียว
หลินหมิงคิดว่าคงไม่มีใครเชื่อเรื่ องความรู้จากผู้อาวุโสในความทรงจําของเขาเป็ นแน่ มันทําให้
อุปกรณ์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ ้นถึง 60% แต่สําหรับ‘จู่โจมหนักชัว่ พริ บตา’ หลินใจไม่ทราบว่า
จริ งๆแล้ วมันจะทํางานอย่างไรแน่ มันเป็ นเทคนิคการจารึกที่ซบั ซ้ อนเกินไป หลังจากการสร้ าง
มันขึ ้น ทุกอาคมเหล่านันมี
้ ไม่แน่นอนอยูบ่ ้ าง มันเป็ นเรื่ องยากสําหรับผู้สร้ าง มีทงโอดาสที
ั้ ่สําเร็จ
และผิดพลาด หากผิดพลาดในกรณีที่แย่ที่สดุ อาวุธก็อาจระเบิดขึ ้น! หาดมีโอกาสเกิดปั ญหา
เหล่านี ้อาจจะมีการขายในราคาส่วนลดพิเศษ
ในที่สดุ หลินหมิงก็มีหนึง่ คืนเต็มสําหรับนอนอย่างสุขสันต์จนกระทัง่ ตอนเช้ า แรงจิตวิญญาณ
และพลังงานของเขาอยูใ่ นสภาพสูงสุดอีกครัง้ เขาถามหลินเซีย่ วตงถึงงานแสดงสินค้ าและที่อยู่
ของการประมูล จากนันเขาก็
้ ออกเดินทางไปพร้ อมกับแผ่นจารึกของเขา
เขาได้ ซื ้อเสื ้อผ้ าใหม่รวมถึงเสื ้อคลุมที่ที่ปกคลุมใบหน้ าของเขาได้ แม้ วา่ งานแสดงสินค้ าและการ
ประมูลมักจะมีชื่อเสียงที่ดีในเรื่ องความปลอดภัยและจะไม่มีการรั่วไหลข้ อมูลของลูกค้ าแต่มนั ก็
จําเป็ นต้ องระวังไว้ ก่อน ที่ หากทุกคนเห็นหน้ าเขา และสี่แผ่นจารึกถูกขายในราคาสูงๆ คนบาง
กลุม่ อาจวางแผนจะปล้ นและฆ่าเขาเพื่อแย่งชิงทรัพย์สินของเขา
หลินหมิงไปห้ องโถงประมูลแห่งเมืองลิขิตฟ้าเป็ นครัง้ แรก มีห้องโถงประมูลจํานวนมาก เขา
เลือกห้ องหนึง่ ที่เหมือนมีชื่อเสียงที่ดีกว่าเล็กน้ อย
ตราบใดที่สี่แผ่นจารึกเหล่านี ้ขายได้ เขาก็สามารถที่จะซื ้อวัสดุสําหรับยาได้ !
อย่างไรก็ตามเมื่อหลินหมิงเดินเข้ ามาใกล้ ห้องโถง แต่เขาก็ร้ ูสกึ ว่ามันอาจจะเป็ นเรื่ องที่งา่ ยดาย
เกินไป!!!!

บทที่ 16 แหลกเหลว
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



ห้ องโถงประมูลมีการตรวจสอบที่เข้ มงวดมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้ าที่นํามาขายประมูล
มิฉะนันอามี
้ ของปลอมของเลียนและอาจหลุดรอดเข้ ามาทําให้ ชื่อเสียงของห้ องโถงประมูล
เสียหายได้ สําหรับผู้จดั ประมูลชื่อเสียงของงานประมูลนันสํ
้ าคัญเป็ นอย่างมาก
มีชายวัยกลางคนมาออกมาต้ อนรับแล้ วขวางทางเข้ าไว้ และถามขึ ้นมา “นายท่าน มีสงิ่ ใดให้
ช่วยหรื อไม่?”
หลินหมิงสวมเสื ้อคลุมที่สะอาดเรี ยบร้ อย ดูเหมือนพลเมืองดีมีฐานะ แต่ความสูงของเขาก็น้อย
กว่าผู้ใหญ่ทวั่ ไปหลายนิ ้ว นอกจากนี ้เสียงของเขายังไม่ดเู หมือนผู้ใหญ่พอ มันยากที่จะจะปกปิ ด
ความจริ งที่วา่ เขาเป็ นเด็กหนุ่มเพียง 15 หรื อ16 ปี เพื่อให้ ไม่มีพิรุธและทําการประมูลได้ อย่าง
เรี ยบง่าย
้ นหมิงจึงกล่าวด้ วยเสียงของเขาเอง “ข้ ามาที่นี่เพื่อประมูลขายแผ่นจารึก”
ดังนันหลิ
“โอ้ ? “ชายวัยกลางคนมองมาที่หลินหมิงเหมือนว่าเขามีพิรุธ “ให้ ข้าตรวจสอบแผ่นจารึก
ก่อน?” ความจริ งแล้ วมารยาทของผู้ชายคนนี ้ถือว่าแล้ วสุภาพมากต่อเด็ก 15-16 ปี อย่างเขาที่
เข้ ามาในการประมูล มันเป็ นเรื่ องที่แปลกมากที่จะมีเด็กอายุเพียงเท่านี ้มาประมูลขายจารึก
ราคาของพวกมันสูงกว่า1000เหรี ยญทอง คนส่วนใหญ่จะต้ องคิดว่านี่เป็ นเรื่ องตลกเป็ นแน่
หลังจากที่หลินหมิงดึงแผ่นจารึกออกมา ชายวัยกลางคนขมวดคิ ้ว เขาสังเกตเห็นคุณภาพที่ตํ่า
ของมัน นี่เป็ นแผ่นจารึกระดับพื ้นฐานที่สดุ และราคาถูกมากที่สดุ ที่มีอยูใ่ นตลาด เพียง1-2
เหรี ยญทองต่อโหล แม้ วา่ ต้ นทุนค่าแผ่นจารึกจะไม่ได้ สง่ ผลกระทบต่อคุณภาพของจารึก แต่มนั
ก็ยงั เป็ นสัญลักษณ์บง่ บอกถึงของสถานะของผู้จารึก เป็ นเรื่ องธรรมดาที่ผ้ จู ารึกเกือบทังหมดจะ

ไม่วางจารึกในแผ่นจารึกถูกๆแบบนี ้เพื่อนํามาประมูล พวกเขามักจะใช้ แผ่นจารึกคุณภาพสูงที่
ราคาหลายเหรี ยญต่อแผ่นที่ดหู รูหราเพื่ออวดผลงานของพวกเขา
อย่างไรก็ตามมันมีพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากแผ่นจารึก และชายวัยกลางคนสามารถที่
จะตรวจสอบได้ วา่ นี่เป็ นสินค้ าที่สมบูรณ์และไม่ใช่เรื่ องตลก เขามองไปที่หลินหมิงและถามว่า
“ท่านมีใบรับรองที่นกั สร้ างจารึกหรื อไม่?”
หลินหมิงส่ายหัว
เยี่ยม ตามข้ ามา ”
ในขณะที่ชายวัยกลางคนนําหลินหมิงผ่านห้ องโถงไปที่ห้องประเมินราคาด้ านหลังที่อยูด่ ้ านหลัง
โถงประมูล คนที่อยูใ่ นห้ องประเมินราคาสวมเสื ้อผ้ าสีดํามีริว้ รอยและดูเหมือนจะเป็ นคุณปู่ ที่วยั
50 หรื อ 60ปี หลินหมิงสังเกตป้ายด้ านหน้ าของปู่ คนนัน้ มันว่าเขียน “นักประเมินชันสู
้ ง”
ในขณะที่คนเสื ้อคลุมสีดาํ ถือแผ่นจารึกของหลินหมิงไว้ ในมือและสังเกตถึงแผ่นจารึกระดับตํ่า
แต่เขาก็ไม่ได้ แสดงออกใดๆที่แสดงถึงความรังเกียจหรื อดูถกู เขายังคงมีทา่ ทางที่เงียบสงบและ
สุขมุ เขาถือมันไว้ บนถุงมือสีขาวและให้ ความสนใจต่อการประเมินอย่างจริ งจังและการปฏิบตั ิ
ของในทํางานนี ้ แสดงให้ เห็นว่าเขาเป็ นมืออาชีพที่แท้ จริ ง!
เขาค่อยๆเริ่ มประเมินราคาอย่างช้ าๆ เขายกศีรษะขึ ้นใบหน้ าก็ดเู ข้ มขึ ้นมา และมองไปที่หลินห
มิง “ถ้ าข้ าคาดการณ์ไม่ผิด ผู้ที่สร้ างจารึกนี ้ คงจะมีการฝึ กฝนกายภายไม่เกินระดับที่สาม?”
ในจารึกมักจะพบคําใบ้ เล็กน้ อยจากแรงดันจิตวิญญาณของผู้สร้ าง มันเป็ นไปได้ ที่ผ้ ปู ระเมิน
ราคาที่จะตัดสินว่าผู้สร้ างมีการฝึ กฝนสูงเพียงใดผ่านร่องรอยเหล่านี ้ เขาได้ ฝึกฝน ‘ปฐม
โกลาหล’ จึงมีพลังสูงกว่านักสู้โดยเฉลี่ย หากนักประเมินราคารู้วา่ จารึกนี ้ถูกสร้ างขึ ้นโดยเด็กที่
มรการฝึ กฝนกายภาพขันแรก
้ เขาคงอึ ้งจนหัวหาดพื ้นเป็ นแน่
หลินหมิงรู้วา่ เขาไม่มีทางปิ ดบังเรื่ องนี ้ได้ เขาจึงพยักหน้ าตอบรับ
้ ดลมหายใจเข้ าและถอนหายใจอย่างแรง “มีผ้ มู ีความสามารถระดับนี ้ในรุ่นหนุ่ม
ชายคนนันสู
สาวด้ วยรึ เพียงการฝึ กฝนระดับสาม สามารถวาดจารึกชิ ้นนี ้ขึ ้นมาได้ น่าตกใจจริ งๆ! ”
โดยปกติแล้ วนักจารึกมักจะเป็ นคนเก่าคนแก่มีอายุคอ่ นข้ างมาก ส่วนใหญ่จะมีการฝึ กฝน
กายภาพอยูข่ นห้
ั ้ า น้ อยยิ่งนักที่จะมีนกั จารึกสักคนที่เข้ าสูข่ นผสานชี
ั้ พจร(ขัน6)และเข้
้ าสูร่ ะดับ
ปราณฟ้าได้
บางทีเด็กระดับสามนี่อาจเป็ นเป็ นเพียงแค่เด็กฝึ กงานของนักจารึกแล้ วบังเอิญโชคดีสร้ างมัน
ขึ ้นมาได้ แต่เด็กคนนี ้นํามันมาถึงสี่แผ่น เป็ นเรื่ องที่น่าตกใจอย่างแท้ จริ ง
จากที่หลินหมิงได้ ยินชายชราสรรเสริญกล่าวชมและคิดว่าคงจะเป็ นเรื่ องดี แต่ความจริ งกลับไม่
เป็ นเช่นนัน้ เมื่อชายชรากล่าวคําพูดต่อไปขึ ้นมา”มันเป็ นจารึกที่สมบูรณ์ก็จริ ง แต่ผ้ สู ร้ างเป็ น
เพียงเด็กฝึ กงานเท่านัน้ เราจึงไม่สามารถที่จะระบุประสิทธิภาพได้ แน่ชดั เรารู้วา่ แรงดันจิต
วิญญาณของเด็กฝึ กงานมีจํากัด โดยทัว่ ไปเป็ นเรื่ องยากมากที่จะวางอาคมมากมายและมี
ความซับซ้ อนเช่นนี ้ แม้ วา่ จารึกจะมีความแข็งแรงเพิ่มขึ ้นร้ อยละสิบ ถ้ ามันไม่สามารถใช้ กบั
ั ้ งได้ แล้ วเรานํามันเข้ าประมูล จะเป็ นอันตรายต่อชื่อเสียงของที่ประมูล ”
อุปกรณ์ชนสู
จารึกถูกนํามาใช้ เฉพาะกับอุปกรณ์ระดับสูงเพราะเพียงอุปกรณ์ระดับสูงมีความทนทานและ
แข็งแรงพอ มันมีระดับพลังงานของในต่อสู้ นักจารึกจึงต้ องมีการฝึ กฝนอย่างน้ อยในระดับนัน้
(เผื่อใครจะงงนะ คือนักจารึกจะฝึ กฝนกายภาพไว้ ช่วงขัน5-6เพื
้ ่อให้ จารึกที่วาดออกมาใช้ กบั
อุปกรณ์ระดับสูงได้ ส่วนใหญ่เลยเป็ นพวกแก่เพราะต้ องฝึ กฝนกายภาพ+ฝึ กจารึก ส่วนนักสู้แก่ๆ
แล้ วก็ไประดับปราณฟ้าเลย)
เป็ นเพราะเหตุนี ้เองที่ทําให้ สินค้ าที่มีคณ
ุ ภาพตํ่าที่สดุ มีมลู ค่าอย่างน้ อยหลักพันเหรี ยญทอง!
อุปกรณ์ชนสู
ั ้ งมิใช่สิ่งของสําหรับนักสู้ธรรมดา อย่างน้ อยต้ องเป็ นนักสู้จากตระกูลชันสู
้ งที่มีการ
ฝึ กฝนอย่างน้ อยในขัน4หรื
้ อขัน5ที
้ ่จะได้ รับการพิจารณาให้ มีอาวุธคุณภาพสูงไว้ ครอบครอง
ยกตัวอย่างเช่นหวังยี่เกา ถึงเขาจะมาจากตระกูลที่ดี แต่เป็ นเพราะการฝึ กฝนของเขาอยูใ่ น
ระดับตํ่า แม้ เขาจะได้ ดาบสีฟ้ามา แต่มนั ก็ไม่ใช้ อปุ กรณ์ระดับสูง ดาบสีฟ้ามีมลู ค่าเพียง200
เหรี ยญทอง
จํานวนครัง้ ที่สามารถวางจารึกบนอาวุธมีจํากัด มันทําได้ เพียงครัง้ เดียว หลังจากนันไม่
้ สามารถ
วางจารึกอื่นได้ อีก การจะใช้ จ่ายเป็ นพันเหรี ยญทองเพื่อวางจารึกบนอาวุธ มันต้ องมีความ
ปลอดภัยไร้ ความผิดพลาด!
ดังนันจึ
้ งมีการดํารงอยูต่ ลาดการจารึก
หลินหมิงคาดการณ์ไว้ บางแล้ วและกล่าวว่า “ข้ าต้ องการใช้ ประมูลเพียงสามแผ่น อีกหนึง่ นัน้
สําหรับการทดลองของท่าน ”
หลังจากที่สร้ างจารึกขึ ้นมา มันเป็ นเรื่ องยากเกินไปที่จะทดสอบผลที่ตามมา มีเพียงผู้สร้ าง
เท่านันที
้ ่พอจะคาดเดาความสามารและประสิทธิภาพได้
เมื่อนักสู้ซื ้อแผ่นจารึกไป เหมือนกับเขาได้ เดิมพันกับโชคชะตาให้ ผ้ สู ร้ างแผ่นจารึกเหล่านันเป็
้ น
ผู้ที่เชี่ยวชาญที่มีความสามารถสูงเพียงพอกับอุปกรณ์ของเขา มีไม่กี่คนที่จะซื ้อจารึกจากผู้สร้ าง
ที่ไร้ ชื่อเสียงหรื อยังฝึ กหัดอยู่ มันเป็ นเพียงแค่การพนันด้ วยเงินที่มีคา่ ของพวกเขาเอง!
ผู้ประเมินกล่าวว่า “ได้ แน่นอน แต่ทว่าการทดลองนี ้จะต้ องทํากับอุปกรณ์ของเจ้ าเอง ”
หลินหมิงชะงักเงียบๆ อุปกรณ์ระดับสูงนันมี
้ มลู ค่าหลายพันเหรี ยญทอง? มันเป็ นไปไม่ได้ ที่เขา
จะมีอปุ กรณ์สําหรับการทดสอบตามคําขอจากโถงประมูล
หากหลินหมิงเป็ นนักจารึกที่มีชื่อเสียงแล้ วเรื่ องเหล่านี ้จะต่างอกไปเพราะนักจารึกที่มีชื่อเสียงจะ
ไม่จําเป็ นต้ องมีการทดสอบ ซํ ้ายังอยากให้ ทดสอบกับอาวุธของพวกเขาเองอีก
สําหรับหลินหมิง ทังชี
้ วิตเขาเคยมีเงินมาที่สดุ เพียง 800 เหรี ยญทอง จะเป็ นไปได้ อย่างไรที่เขา
จะหาอาวุธที่มีมลู ค่าหลายพันเหรี ยญทองมาวางจารึก?
เขาไม่ได้ โต้ เถียงหรื อพูดอะไรอีก เขาอาจบอกได้ วา่ อุปกรณ์ที่วางจารึกของเขาจะไร้ ซงึ่ ความ
เสียหาย แต่มนั ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อคําพูดของเขา เพราะแรงดันจิตวิญญาณในจารึกมันก็
อ่อนแอเกินไป
ดังนันหลิ
้ นหมิงหยิบเอาแผ่นจารึกทังสี
้ ก่ ลับมาและเดินออกจากโถงประมูลไป



“ขอโทษนะ แต่ทางเราจําเป็ นต้ องพิสจู น์วา่ สมาคมจารึกได้ ลงนามให้ เจ้ าได้ เป็ นนักจารึกหรื อ
ยัง… ”
ที่งานการค้ าเที่ยงธรรม ผู้ประกอบการค้ าได้ ปฏิเสธหลินหมิงหลังจากที่ได้ เห็นอายุของเขา
แต่มนั ก็เป็ นการปฏิเสธอย่างสุภาพ หลังจากที่หลินหมิงไปถามขายยังร้ านค้ าหลายแห่งและ
ทัศนคติของคนเหล่านี ้ล้ วนเลวร้ ายทังสิ
้ ้น
เขาพยายามที่จะขายแผ่นจารึกที่ให้ อีกที่หนึง่ คือสมาคมการค้ าจารึก ตัวอาคารดูมงั่ คัง่ และ
หรูหรามีหกชันเต็
้ มไปแต่ละชันสร้ ้ างด้ วยสิ่งก่อสร้ างชันสู
้ งอย่างปราณีต ทุกอย่างที่อยูท่ ี่นี่ไร้ ซื ้อ
ของราคาถูก สินค้ ามีมลู ค่าตังแต่
้ ไม่กี่ร้อยถึงหลายพันเหรี ยญทอง แม้ เจ้ าของร้ านจะมีความหยิ่ง
ยโส แต่ถ้าหนุ่มสาวรํ่ ารวมเข้ ามาแล้ ว เขาก็จะสุภาพและประจบประแจงเป็ นอย่างดี แต่สําหรับ
คนซื ้อขายที่ดยู ากจนทําได้ เพียงไปติดต่อทางด้ านหลัง
บางคนยังรํ าคาญที่จะพูดอะไร เพียงแค่โบกมือไล่เขาออกไปอย่างหงุดหงิด
“เห้ เด็กน้ อย อย่ามาสร้ างปั ญหาที่นี่ มันขว้ างการค้ าของข้ า”
“ที่นี่ไม่ได้ เป็ นสถานที่ที่เด็กน้ อยควรมา … .โอ้ ว ท่านลูกค้ ามีสิ่งใดให้ ช่วยหรื อไม่คะ! ต้ องการ
…”
“ฮ่า ๆ เด็กเอ้ ย อย่าพยายามเล่นตลกกับข้ า นี่มนั แผ่นกระดาษชําระ! แล้ วแกคิดว่าวาดเปลวไฟ
เล็กๆ บนกระดาษชําระนี ้ มันจะกลายเป็ นจารึก? ฮ่า ๆ … “

บทที่ 17 หลายยุนเยีย
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ในช่วงตลอดทังวั ้ นมานี ้หลินหมิงไปยังสถานที่จดั ประมูลอีกสองแห่งและอีกห้ าตลาดซื ้อขาย
สมบัติซงึ่ ถูกจัดตังขึ
้ ้นโดยตระกูลชันสู
้ ง แต่เขายังไม่ได้ พบผู้ที่จะซื ้อสินค้ าของเขา
ในขณะที่เขากําลังจะกลับไปที่ศาลาจันทร์ กระจ่างหลินหมิงถอนหายใจ เขาไม่ได้ คาดคิดมา
ก่อนเลยว่าการขายจารึก3-4แผ่นจะเป็ นเรื่ องที่ยากถึงเพียงนี ้
อย่างไรก็ตามเรื่ องนี ้เป็ นเพียงความล้ มเหลวเล็กๆน้ อยๆ คําพูดเหน็บแนมและเหยียดหยาม
ต่างๆไม่มีผลต่อหลินหมิง ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานจากการฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้ที่
ผ่านมาของเขานันเกิ้ นกว่าความเจ็บปวดจากคําพูดเหล่านี ้มากนัก ที่เขาจะมีประสบการณ์จาก
หลายต่อหลายครัง้ แม้ วา่ จู้ยนั จะด่าเขาเกี่ยวกับหลานยุยเยีย เพราะตระกูลของเขาก็ยากจน
และมีการฝึ กฝนที่ตํ่ากว่า แต่สิ่งเหล่านี ้ไม่มีผลต่อจิตใจของหลินหมิง
เขาวางแผ่นจารึกลงและเริ่ มฝึ กฝน ‘ปฐมโกลาหล’ เขาได้ ฝึกฝนการจารึกทุกวันในเดือนนี ้ แต่
เขาก็ยงั ต้ องการที่จะฝึ ก’ ปฐมโกลาหล’ อีก ด้ วยการฝึ กฝนอย่างหนักของเขา ‘ปฐมโกลาหล’
ได้ บรรลุทงหมดแล้
ั้ วในระดับแรก การฝึ กฝนการต่อสู้ของเขาเป็ นที่จดุ สูงสุดของขันแรกในการ

ฝึ กฝนกายภาพ
ด้ วยพลังขนาด9ก้ อนหินของกําปั น้ ที่สามารถทลายต้ นไม้ เหล็กนี่คือหลักฐานที่เขาอยูบ่ น
จุดสูงสุดของการฝึ กฝนกายภาพขันแรก!้
9ก้ อนหินเท่ากับ 900 จิ๋น นี่คือจุดสูงสุดของร่างกายในขันแรก
้ แต่ความเป็ นจริ งพละกําลัง
าก็1000 จิ๋นเสียอีก นี่เป็ นผลมาจากวรยุทธ ‘จุดสูงสุดแห่งความ
ปั จจุบนั ของหลินหมิงนันมากกว่

โกลาหล’ มีที่เขาฝึ กฝนมา แม้ ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มสูงขึ ้นทุกวัน แต่หลินหมิงก็ยงั คงติด
อยูใ่ นขันแรกของการฝึ
้ กฝนกายภาพ
หลินหมิงโคจรพลังของเขากับ ‘ปฐมโกลาหล’ เขาเริ่ มที่จะมุง่ เน้ นไปที่ความเข้ าใจของกระดูก
จินตนาการถึงช่วงเวลาที่เขาจะแร่เนื ้อของตัวเอง แม้ จะเป็ นสัตว์ดรุ ้ ายระดับสองก็ไม่เพียง
พอที่จะตอบสนองเขาได้ น่าเสียดายที่แม้ ศาลาจันทร์ กระจ่างก็ยงั หาสัตว์ดรุ ้ ายระดับสามได้ ยาก
หลินหมิงอยากจะฝึ กกับสัตว์ดรุ ้ ายหายากเหล่านี ้ แต่ก็ไม่สามารถทําได้ ! ดังนันเขาจึ
้ งคิดหาทาง
อื่นโดยฝึ กใช้ อีกด้ านของมีดที่ไม่คมในการแร่เนื ้อ!
โดยปกติคนที่จะแร่เนื ้อ มักจะใช้ มีดที่คมที่สดุ เท่าที่จะหามาได้ หรื อแม้ กระทัง่ ขวานหรืออุปกรณ์
อื่นๆ การแร่เนื ้อมักจะใช้ เวลาหนึง่ วันเต็มสําหรับสัตว์ดรุ ้ ายระดับสอง แต่หลินหมิงกลับใช้ ด้านที่
ไม่มีคมของมีดแร่เนื ้อ มันเป็ นเรื่ องไร้ เหตุผลและแทบจะเป็ นไปไม่ได้ เหมือนกับว่ามีดที่ใช้ แร่เนื ้อ
นันสั
้ มผัสอยูบ่ นหินแข็งและทุกคืบที่ผา่ เข้ าไปนันต้
้ องใช้ พละกําลังและความพยายามอย่างมาก
การฝึ กฝนนี ้ เหมือนเป็ นการบังคับให้ หลินหมิงทะลวงขีดจํากัดของเขาอยูต่ ลอดเวลา
ก่อนหน้ านี ้มันต้ องใช้ เวลานานเป็ นอย่างมากที่จะแร่เนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายระดับสองให้ สมบูรณ์ แต่
ในตอนนี ้เพียงสองชัว่ โมงก็เป็ นเวลาที่มากเพียงพอแล้ ว แม้ วา่ หลังจากนันร่ ้ างกายของเขาจะ
เปี ยกปอนไปด้ วยเหงื่อ
โชคดีที่ผลลัพธ์ของมันออกมาดี เขาบรรจงตัดแผ่นเนื ้อสัตว์ได้ ออกมาเหมือนกับที่ใช้ มีดด้ านที่มี
คม หากศาลาจันทร์ กระจ่างรู้วา่ หลินหมิงแร่เนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายระดับสองเหล่านี ้ด้ วยด้ านหลังของมีด
พวกเขาคงจะรี บส่งหลินหมิงเข้ าไปตรวจสมองในสถานพยาบาลที่ใกล้ ที่สดุ !
หลังจากเสร็จงานก็เป็ นเวลากลางคืน หลินหมิงอ่อนเพลียและอยากพักผ่อน เขาลืมเรื่ องการ
จารึกไปและล้ มตัวนอนหลับไป

..

หลังจากที่หลับลึกไปในคํ่าคืนนัน้ หลินหมิงตื่นขึ ้นมาก่อนรุ่งสางและมุง่ หน้ าไปยังสถานที่ลบั
ของเขาเทือกเขาโจวเพื่อฝึ กศิลปะการต่อสู้ของเขา หลังจากที่เขาจะเริ่ มออกเดินทาง ดวง
อาทิตย์เริ่ มขึ ้นสูท่ ้ องฟ้า ในเวลานี ้เด็กหนุ่มคนหนึง่ โผล่ออกมาจากที่โล่งในป่ า เขาเป็ นคนที่สงู ดู
มีสขุ ภาพดีในชุดสีขาว “พี่หลิน ที่ได้ ถามข้ าเมื่อวานนี ้ ถึงสถานที่ซงึ่ จะขายแผ่นจารึก? พี่สร้ าง
มันสําเร็ จแล้ วจริ งๆรึ ? ”
เด็กคนนันก็
้ คือหลินเซี่ยวตง เมื่อวานนี ้ในเวลานี ้หลินหมิงเคยถามเขาและเขาตอบออกไปโดยไม่
คิดอะไร แต่หลังจากที่คิดเกี่ยวกับมันมากขึ ้นและเขาก็ตระหนักว่าเป็ นไปได้ วา่ หลินหมิงจะ
สามารถสร้ างจารึกขึ ้นมาได้ จริ งๆ
แม้ วา่ หลินเซีย่ วตงจะไม่ได้ มีความรู้ความเข้ าใจเรื่ องการจารึก แต่เขาคาดการณ์วา่ มันเป็ นไป
ไม่ได้ สําหรับหลินหมิงที่จะสร้ างจารึกขึ ้นมาได้ อย่างสมบูรณ์ มันคงจะเป็ นเพียงบางส่วนหรื อ
เพียงครึ่งเดียว ถ้ าเขานําสิ่งของเช่นนี ้ไปที่การค้ าเที่ยงธรรม พ่อค้ าที่นนั่ จะกล่าวหาว่าพวกเขา
เป็ นนักต้ มตุน๋ เป็ นแน่ !
หลินหมิงยิ ้มและพยักหน้ า “ข้ าทํามันเสร็จไปบ้ างแล้ ว”
หลินเซี่ยวตงยํ ้าอีกครัง้ “แล้ วเอาพวกมันไปขายรึ?”
“อืม แต่ข้ายังไม่ได้ ขายออกไป ”
มันเป็ นไปตามคาดว่าเขาคงขายไม่ออก ร้ านค้ าเหล่านันคงไม่
้ ได้ โง่ หลินเซี่ยวตงคิดด้ วยความ
กังวล สายตาของเขาเต็มไปด้ วยความวิตกกังวลในขณะที่เขาถาม “พี่ที่คงไม่ถกู ใครซ้ อมมาใช่
ไหม?”
หลินหมิงตะลึงเงียบ น้ องชายคนเล็กของเขามีจินตนาการอย่างแท้ จริ ง เขาระเบิดเสียงหัวเราะ
ออกและปรบมือท้ องแข็ง “ข้ าทํามันสําเร็ จจริ งๆ และข้ าก็ไม่ได้ คดโกงผู้ใด เหตุใดข้ าต้ องถูกซ้ อม
หละ?”
ในขณะที่เขากล่าว เขาก็เอาแผ่นจารึกที่เขาลําบากทําขึ ้นมากว่าเดือน ส่งพวกมันให้ หลินเซี่ยว
ตง เขาไม่อยากให้ น้องชายเขาต้ องมากังวลในเรื่ องของเขา
อย่างไรก็ตามทันทีที่หลินเซี่ยวตงเห็นเหล่าแผ่นจารึกทังสี
้ ่ ใบหน้ าของเขาแข็งทื่ออย่างกับเห็นผี
ในหนังสยองขวัญ…
เขาเดาว่าแผ่นจารึกของหลินหมิงอาจมีการใช้ มาก่อนหรื อข้ อบกพร่อง! กระดาษหนาสีเหลือง
มันก็เหมือนกับกระดาษชําระที่ถกู นํามาใช้ หลายครัง้ จนเกินไป มีเพียงคนโง่ที่จะซื ้อมัน หลิน
เซี่ยวตงเคยเห็นแต่แผ่นจารึกโดยนักจารึกที่พวกมันมักจะดูสะอาดเรี ยบร้ อย เหมือนกับว่าส่อง
แสงสีออกมา
หลินเซี่ยวตง ดูราวกับว่าเขาได้ กินโจ๊ กบูดมา เขายิ ้มออกมาแห้ งๆ พี่ชายของข้ า โอ้ พี่ชายแสน
หวานของข้ า! เขาอาจคิดว่าหลายร้ อยเหรี ยญทองค่าวัสดุได้ กลายมาเป็ นกระดาษชําระใช้ ไป
เสียแล้ ว หัวใจของหลินเซีย่ วตงเจ็บปวดขึ ้นมาทันที นี ้เป็ นการใช้ เงินที่ไร้ ประโยชน์เสียจริ ง!
หลินหมิงสังเกตเห็นการแสดงออกของหลินเซี่ยวตง เขาสามารถคาดเดาได้ ถงึ สิ่งที่เซี่ยวตงคิดใน
ขณะนี ้ เขารับเอาแผ่นจารึกกลับมา ไม่มีวิธีการใดๆที่พอจะสามารถอธิบายให้ หลินเซี่ยวตง
เข้ าใจได้
“พี่หลิน ข้ าต้ องบอกว่าด้ วยพรสวรรค์และความพยายามของพี่ พี่จะทะลวงผ่านขันผสานชี
้ พจร
ไปได้ ไม่ช้าก็เร็ว ทําไมไม่เน้ นเรื่ องนี ้? “หลินเซี่ยวตงตัดสินใจที่จะลองแนะนําด้ วยความคิดที่ดี
ของเขา ติดอย่างเห็นได้ ชดั ไม่ได้ ทํางาน
หลินหมิงยิ ้มอยูเ่ งียบๆ หลินเซี่ยวตงก็ไม่ได้ ผิด แม้ วา่ เขาจะไม่ได้ รําคาญเรื่ องการจารึก แต่มนั ก็
ทําให้ เขาเสียเวลาที่จะเข้ าสูข่ นั ้ ผสานชีพจร
การฝึ กฝนการต่อสู้คือสิ่งสําคัญในชีวิตประจําวัน และเวลาย่อมไม่เคยรอมนุษย์คนใด ถ้ าเขา
ไม่ได้ เร่งการฝึ กฝนของเขาให้ เร็วที่สดุ เท่าที่จะทําได้ ในขณะที่เขายังเป็ นเด็ก มันก็จะกลายเป็ น
เรื่ องที่ยากเมื่ออายุมากขึ ้น
ถ้ าเขาไม่ได้ ใช้ โอสถวิเศษหรื อวัตถุอาคมก็มีเพียงการอาศัยความพยายามและความขยันของ
ตัวเอง แม้ วา่ เขาจะมีพื ้นฐานที่มนั่ คงก็ยงั คงต้ องใช้ เวลาจํานวนมาก เวลาเป็ นสิ่งที่หลินหมิงมีอยู่
อย่างจํากัด!
ดังนันเขาจึ
้ งต้ องการที่จะทําเงินโดยใช้ การจารึกและใช้ ทางลัดให้ มากที่สดุ เท่าที่เขาจะสามารถ
ทําได้
เขากล่าวว่า “เซี่ยวตง เจ้ ามุง่ หน้ ากลับไปก่อนเถอะ ข้ ายังคงมีบางเรื่ องที่ข้าจะต้ องทํา”
“เรื่ องใด? พี่หลินคงไม่ได้ คิดที่จะไปขายแผ่นจารึกเหล่านันใช่
้ ไหม? ”
หลินหมิงหัวเราะและกล่าวด้ วยรอยยิ ้ม “อย่ากังวลเกี่ยวกับมันให้ มากเกินไป ข้ ารู้ในเรื่ องที่ข้า
สมควรทํา” ในขณะที่เขากล่าวนี ้หลินหมิงก้ าวไปแล้ วหลายสิบหลายเมตร
“F * CK!” หลินเซี่ยวตงเห็นหลินหมิงหายลับไปและจะพยายามจะสาปแช่งในความดื ้อรัน้
ของเขา เซี่ยวตงรู้วา่ หลินหมิงได้ ตดั สินใจในเส้ นทางของเขาและเขาไม่มีวนั ยอมแพ้ โอ้ พี่ชายของ
ข้ าโปรดระวังด้ วย!
แม้ วา่ หลินหมิจะมีความมุง่ มัน่ อย่างแรงกล้ า แต่บางสิ่งบางอย่างมันอยูเ่ หนือความเป็ นไปได้
เกินกว่าสวรรค์จะดลบันดาล …



แม้ วา่ จะมีร้านค้ าจํานวนมากในเมืองลิขิตฟ้า ร้ านที่มีการซื ้อขายแผ่นจารึกก็มีไม่มาก รวมทังโถง

ประมูลและงานแสดงสินค้ าต่างๆทังหมดมี
้ น้อยกว่าสามสิบแห่ง
สถานที่เหล่านี ้หลินหมิงล้ วนเคยไปมาหมดแล้ วและไม่มีที่ใดที่ตกลงซื ้อขายแผ่นจารึกของเขา
ทุกแห่งล้ วนปฏิเสธเขา มันเป็ นเพราะเหตุผลที่วา่ เขาเป็ นเด็กฝึ กงานมิใช่ผ้ เู ชี่ยวชาญ บางครัง้
เด็กฝึ กงานอาจจะโชคดีและสร้ างจารึกที่สมบูรณ์ออกมาได้ แต่ก็ไม่มีใครอยากลองเสี่ยงกับ
อาวุธอันมีคา่ ของพวกเขาด้ วยแผ่นจารึกที่ไม่แน่นอน!
หลินหมิงเป็ นต้ องผิดหวังจากความล้ มเหลวนี ้ แต่มนั ก็ไม่ได้ สง่ ผลกระทบต่อเขา ในใจของเขา
เขารู้วา่ เขาต้ องใช้ เวลามากขึ ้นอีกและเขาจะต้ องได้ เห็นผลของการทุม่ เทของเขา
“เจ้ าต้ องการที่จะขายแผ่นจารึกนี ้รึ ? เจ้ ากําลังหลอกข้ ารึเด็กน้ อย? เจ้ าหนุ่มมากและเจ้ า
ต้ องการที่จะทําบางสิ่งบางที่ไม่สจุ ริ ตรึ ไป ไปและอย่าให้ ธุรกิจของข้ าล่าช้ า เจ้ ากําลังบังหน้ า
ร้ านข้ า ”
เจ้ าของร้ านมหาสมบัติโบกมือไล่ให้ เขาออกไปเหลืออด มารยาทของเจ้ าของร้ านมักจะเลวร้ าย
เป็ นธรรมดากับผู้ที่ไม่ใช้ ลกู ค้ า ในขณะที่เขาหันไปรอบๆ เขาเห็นใบหน้ าที่ค้ นุ เคย มันเป็ นใบหน้ า
ที่สวยงามมาก แต่เขาก็ยงั ไม่เต็มใจที่จะเห็น
ไม่ไกลจากเขามีเด็กผู้หญิงสองคนสวมใส่ชดุ สีเหลืองอ่อน หนึง่ ในนันคื
้ อคนหนึง่ ที่เคยผิดสัญญา
ต่อเขาไม่กี่เดือนที่ผ่านมาและติดตามจู้ยนั ไปสํานักเจ็ดแก่นแท้ หลานยุยเยีย
หลานยุยเยียที่เพิ่งมาถึง เธอมองลงไปที่แผ่นจารึกที่เลอะเทอะในมือของหลินหมิง และคิด
เกี่ยวกับคําที่เจ้ าของร้ านพูด ผิวที่สดชื่นของเธอก็เปลี่ยนไป
หลานยุยเยี่ยไม่เคยเห็นแผ่นจารึกมาก่อน แต่แม้ วา่ เธอจะมีเธอก็จะไม่พยายามขายวัตถุที่
หลอกลวงอย่างที่หลินหมิงทํา เธอเดาว่าหลินหมิงกําลังพยายามหลอกขายของปลอมอยู… ่
สินค้ าบางอย่างมีราคาไม่แพง พวกเขาจะพยายามที่จะซื ้อสิง่ ดังกล่าวและหลอกขายมันในราคา
สูง
นอกจากนี ้… ครอบครัวของหลินหมิงก็ไม่ได้ รํ่ารวยและเขาได้ รับการสนับสนุนค่าใช้ จ่ายในการ
ฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้พร้ อมกับค่าใช้ จ่ายในชีวิตประจําวัน เขาอาจขัดสนในเรื่ องเงินทอง ดังนัน้
เขาจึงพยายามทําสิ่งที่เขาสามารถทําได้ …
เมื่อคิดเช่นนัน้ หลานยุยเยี่ยถอนหายใจ เธอไม่ทราบว่าเธอควรจะพูดอะไรในสถานการณ์เช่นนี ้
เธอรู้สกึ ราวกับว่าสิ่งที่เธอบอกว่าอาจจะทําร้ ายศักดิ์ศรี หลินหมิง แต่เธอก็ยงั ไม่สามารถแกล้ งทํา
เป็ นว่าเธอไม่ได้ ดถู กู เขา
เมื่อเจ้ าของร้ านเห็นหลานยุยเยีย หน้ าตาลังเกียจก่อนหน้ านี ้เปลี่ยนเป็ นรอยยิ ้มต้ อนรับในทันที
จากที่ผ่านมาถึงตอนนี ้มันเหมือนกับว่าเขาเป็ นคนที่แตกต่างกันอย่างสิ ้นเชิง “ท่านสาวงาม
กําลังมองหาซื ้อสินค้ าใด? เมื่อวานท่านได้ ซื ้อดาบไป มันใช้ งา่ ยหรื อไม่ โอ้ ใช่แล้ วท่านอาจารย์
หนุ่มที่มาพร้ อมกับท่านเมื่อวานนี ้ไปไหนแล้ วหละ? ข้ าไม่เห็นเขาเลย ”
เห็นได้ ชดั ว่าอาจารย์หนุ่มที่เจ้ าของร้ านกล่าวถึงต้ องเป็ นจู้ยนั เป็ นแน่ เมื่อเห็นรอยยิ ้มบนใบหน้ า
หลินหมิงก็ร้ ูวา่ วันที่ผ่านมาจู้ยนั ได้ มาที่นี่กบั หลานยุยเยีย เจ้ าของร้ านคงได้ กําไรมหาศาล
หลานยุยเยีย ไม่ได้ คิดว่าเจ้ าของร้ านจะพูดถึงจู้ยนั ในเวลานี ้ทําให้ สถานการณ์อดึ อัดใจและตึง
เครี ยดมากขึ ้น เธออยากจะอธิบายว่าเธอไม่ได้ ทําอะไรกับจู้ยนั แต่เธอไม่ได้ เป็ นสาวน้ อยอีก
ต่อไปแล้ ว และเธอต้ องมีความชัดเจนกับสิ่งเหล่านี ้ ไม่ช้าก็เร็วเธอจะแต่งงานเข้ าไปในครอบครัว
จู้และถึงแม้ วา่ เธอไม่ได้ ชอบจู้ยนั แต่เพื่อเป้าหมายของเธอ เธอก็ยอมทําผิดสัญญาที่เธอให้ ไว้
และได้ เลือกเส้ นทางของการทรยศ …
หลังจากเวลาผ่านไปเล็กน้ อย ความอึดอัดตึงเครี ยดก็เริ่ มมากขึ ้น หลานยุยเยี่ยถามด้ วยเสียง
โทนตํ่า “เดีย๋ ว … ที่ผ่านมาเจ้ าสบายดีหรื อไม่”
“ก็ดี” หลินหมิงตอบอย่างใจเย็น มันเป็ นสิง่ ที่อยูใ่ นอดีตที่ผ่านมา เขาไม่ได้ ต้องการที่จะกลับไป
คิดเรื่ องเหล่านี ้
ก็ดี? ถ้ าเจ้ าไม่เป็ นไรจริ งๆ แล้ วเจ้ ากําลังทําสิ่งใดอยู?่ เด็กสิบห้ าปี ที่ทกุ ข์ทรมานจากความ
เจ็บปวดของการฝึ กฝน มีความกังวลเกี่ยวกับการทํามาหากินของตัวเองและพบกับการดูถกู
จากคนอื่นๆ … เป็ นแบบก็ดีจริ งๆรึ?
หลานยุยเยียรู้จกั ความดื ้อรัน้ ของหลินหมิงดี แต่สภาพหน้ าตาของเขาเช่นนี ้เธอเท่านันที
้ ่จะช่วย
ผลักดันได้ “เจ้ าไม่เคยคิดที่จะหันหลังกลับ … ?”
“หันหลังกลับ? หันกลับไปที่ไหน? ฮ่าฮ่า เจ้ ากําลังบอกให้ ข้ายอมแพ้ ในเส้ นทางแห่งการต่อสู้
รึ? ”
“ข้ าไม่ได้ กล่าวเช่นนัน้ ข้ าเพียงต้ องการบอกว่าการฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้อาจเป็ นอันตรายต่อ
ร่างกาย หากเจ้ าไม่ได้ มีเงินมากพอที่จะซื ้อยาสมุนไพรรักษาแล้ ว มันเป็ นเรื่ องง่ายดายที่เจ้ าจะ
กลายเป็ นคนพิการอย่างถาวร … “หลานยุยเยี่ย ถอนหายใจและสายตาของเธอมองลงบนแผ่น
จารึกมือหลินหมิง “เงินที่เจ้ าได้ จากการขายสินค้ าไร้ คา่ พวกนันคงจะไม่
้ เพียงพอที่จะรองรับ
ความต้ องการของการฝึ กฝนการต่อสู้ ข้ าไม่ร้ ูวา่ เจ้ าจะได้ รับความเดือดร้ อนอะไรมาหรื อยัง …
ข้ ารู้วา่ เจ้ าคงจะไม่เต็มใจที่จะรับฟั ง แต่ข้าไม่ต้องการที่จะคิดว่า ต่อไปในชีวิตสิ่งเดียวที่เจ้ าจะทํา
ได้ คือการนอนลงบนเตียง”
เมื่อได้ ยินคําพูดที่จริ งใจของเธอ หลินหมิงยิ ้มและกล่าวว่า “ขอขอบคุณสําหรับคําแนะนํา แต่จะ
ไม่ยอมแพ้ ข้ าไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้ ”
เขายกมือของเขาและชี ้ไปที่เปลวไฟที่สวยงามบนแผ่นจารึกและกล่าวว่า “เส้ นทางของนักสู้ก็
เป็ นดัง่ เปลวไฟนี ้ การฝึ กฝนการต่อสู้อาจให้ เกิดอาการปวด อันตรายมีนบั ไม่ถ้วนเป็ นหนทางที่
เต็มไปด้ วยอุปสรรค ทุกคนที่เลือกเดินเส้ นทางนี ้ในที่สดุ ก็อาจกลายเป็ นขี ้เถ้ า แต่นกั สู้ที่แท้ จริ ง
จะเกิดจากขี ้เถ้ าเหล่านี ้ แม้ วา่ ข้ าจะเป็ นเพียงมอดขนาดเล็กอ่อนแอ ข้ าจะเดินเข้ าไปในเปลวไฟ
โดยไม่ลงั เลแม้ แต่น้อย ข้ าจะต่อสู้กบั ชะตากรรมของข้ า แม้ จะมีโอกาสเพียงหนึง่ ในล้ านที่ข้าจะ
ได้ สมั ผัสกับการเวียนว่ายตายเกิด ข้ าจะเกิดใหม่เป็ นเช่นเดียวกับนกฟี นิกซ์ เมื่อถึงตอนนันเปลว

เพลิงใดก็เผาข้ าให้ มอดไม่ได้ … ”
หลินหมิงพูดคําเหล่านันด้
้ วยรอยยิ ้ม เขาเก็บแผ่นจารึกของเขาไว้ และเดินจากไป แต่เขาก็ยงั ได้
ความภาคภูมิใจกลับมา
หลินหมิงออกจากร้ านร้ อยสมบัติเช่นมอดที่หายไปกับแสง นี่คือหัวใจของเขาในศิลปะการต่อสู้
นี่เป็ นความทะเยอทะยานของเขา เขาจะสานมันต่อจนถึงวันที่เขาหมดลมหายใจ เขาจะไม่หยุด
จนกว่าจะถึงวันที่เขาจะทะยานไปในท้ องฟ้า!!!

ที่ 18 ขายออกแล้ ว
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



หลินหมิงหยุดอีกครัง้ ที่โถงประมูลที่มีรูปใบเมเปิ ลสีแดง หลินหมิงไม่ได้ มีความคิดเรื่ อง
ความสําเร็ จใดๆ ในขณะที่เขาคิดเช่นนัน้ หญิงผู้ขายประมูลของโถงประมูลก็ออกมาปฏิเสธเขา
แต่หญิงสาวที่สวยงามคนนี ้รู้สกึ ว่าหลินหมิงได้ รับการปฏิบตั ิอย่างไม่เป็ นธรรมมาตลอด ดังนัน้
เธอจึงแนะนําทางออกให้ เขาสองทาง ทางแรกคือให้ เขาไปสมาคมจารึก บางทีพวกนันอาจจะมี ้
ความสนใจที่จะซื ้อแผ่นจารึกของเขาเก็บไว้ เป็ นคอเล็กชัน ปกติแผ่นจารึกระดับฝึ กงานค่อนข้ าง
หายากเพราะอัตราความสําเร็จตํ่า แต่หลินหมิงมีถงึ สี่ บางทีมนั อาจมากเกินไป ส่วนทางเลือกที่
สองเขาอาจจะลองมุง่ หน้ าไปยังกลางเมืองเล็กๆและเร่ขายสินค้ าพวกนัน้
หลินหมิงไม่เคยไปที่สมาคมจารึกมาก่อน เขาไม่ได้ มีข้อมูลประจําตัวของนักจารึกและแม้ กระทัง่
ผู้เชี่ยวชาญจารึกระดับแนวหน้ าก็ไม่สามารถเห็นความลึกลับที่อยูเ่ บื ้องหลังการจารึกหลินหมิง
ได้ ความแตกต่างระหว่างเทคนิคการจารึกที่อาณาจักรลิขิตฟ้าและดินแดนพระเจ้ ามีมากเกินไป
สิ่งเดียวที่หลินหมิงจะทําคือการไปที่ใจกลางเมืองและหวังว่าจะขายแผ่นจารึกที่เขามีได้ แต่น่า
เสียดายมันเป็ นไปไม่ได้ ที่เขาจะขายมันได้ ในราคาสูง
แม้ วา่ กลางเมืองจะเป็ นศูนย์กลางการค้ าระดับล่างมันก็ยงั คงเป็ นสถานประกอบการอย่างเป็ น
ทางการ ในที่นี่มีสินค้ าหลากหลายให้ ซื ้อขายและมีการเก็บภาษี ศูนย์การค้ าจะคิดร้ อยละห้ า
เป็ นค่าภาษี แต่ชื่อเสียงของศูนย์การค้ าก็เป็ นที่ร้ ูจกั กันดีและมีไม่ใครกลัวว่าจะถูกโกงผู้คน
จํานวนมากเป็ นเช่นนัน้
เกณฑ์คณ ุ ภาพของสินค้ าที่จะเข้ าสูศ่ นู ย์กลางการค้ าอยูใ่ นระดับที่ตํ่า เพียงแค่มนั เป็ นของแท้
และใช้ งานได้ แล้ วสินค้ านันก็
้ อาจจะขายได้ ในราคาที่เหมาะสม สําหรับแผ่นจารึกของหลินหมิง
มันก็เป็ นเพียงแค่ผลงานของเด็กฝึ กงานมีคา่ อยูใ่ นระดับตํ่า
หลังจากที่ศนู ย์ซื ้อขายประเมินราคาและตรวจสอบสินค้ าของเขา คนอ้ วนเสนอราคาให้ เริ่ มต้ นที่
100 เหรี ยญทอง
ได้ ยินราคานี ้ หลินหมิงตะลึงด้ วยความเงียบ เรื่ องบ้ าอะไรเนี่ย! ทําไมถึงเป็ นแบบนี ้!
วัสดุสําหรับการจารึกค่าใช้ จ่าย 800 เหรี ยญทองและศูนย์กลางการค้ าที่นําเสนอให้ 100 เหรี ยญ
ทองหนึง่ ถ้ าเขาขายที่ 100 เหรี ยญทองหลินหมิงจะเหลือเพียง 400 เหรี ยญทอง!
“ตกลงว่าเจ้ าต้ องการที่จะขายหรื อไม่?”
หลินหมิงกําฟั นของเขา “อ่า..ข้ าจะขาย ข้ าจะขายแค่สองแผ่น ”
หลินหมิงใช้ จ่ายเงินทังหมดของเขาเมื
้ ่อไม่นานมานี ้ ถ้ าเขาไม่ได้ เงินเดือนและเงื่อนไขที่ดีของ
ศาลาจันทร์ กระจ่าง เขาคงจะต้ องอดอาหารอยูบ่ นท้ องถนนเป็ นแน่
ถึงแม้ วา่ มันจะเป็ นการขาดทุก เขาสามารถที่จะยอมรับการขายสักสองชิ ้น สําหรับอีกสองชิ ้นเขา
จะเก็บไว้ และรอระยะเวลา หัวใจของเขาเองก็ไม่เต็มใจที่จะขายสองชิ ้นในราคาเพียงชิ ้นละ 100
เหรี ยญทอง
“ทิ ้งที่อยูข่ องเจ้ าไว้ ด้วย” ผู้ประเมินตัวอ้ วนกล่าว ศูนย์การค้ าเป็ นผู้รับผิดชอบในการขายสินค้ า
ที่มีคา่ ภาษี เมื่อคนมาซื ้อสินค้ าพวกเขาจะต้ องจ่ายเพิ่ม สําหรับหลินหมิงเองเขาก็ยงั ไม่คอ่ ย
พอใจที่จะขายแผ่นจารึกทังสอง ้
“ค่าวางประมูล1เหรี ยญทองสําหรับการลงประมูลระดับตํ่า 3เหรี ยญทองสําหรับการลงประมูล
ระดับกลาง และ5เหรี ยญทองสําหรับการลงประมูลระดับสูง ต่อหนึง่ เดือน ถ้ าหลังจากช่วงเวลา
ที่วา่ มันไม่สามารถที่จะขายออกไปได้ การประมูลจะถูกยกเลิก “ผู้ประเมินอ้ วนกล่าว
หลินหมิงหยิบเหรี ยญทองจากกระเป๋ า5เหรี ยญของเขาและยื่น3เหรี ยญทองให้ ไป “ข้ าเลือกลง
ประมูลระดับกลางกลาง”
เมื่อคิดเช่นนัน้ แม้ จารึกจะไม่ได้ ถกู สร้ างขึ ้นจากนักจารึกผู้เชี่ยวชาญ แต่ตอนนี ้มันมีราคาเพียง
100 เหรี ยญทองเท่านันและเขายั้ งต้ องจ่ายภาษี ร้อยละห้ าพร้ อมกับค่าลงประมูลอีก! และมันยัง
ขึ ้นอยูก่ บั คนที่จะซื ้อสินค้ าของเขาอีก!
หลินหมิงลงนามตกลงวางประมูลสิ ้นค้ า จริ งๆมันก็เป็ นเรื่ องยากที่ใครจะรู้จกั เขา
เขาเก็บอีก2เหรี ยญทองกลับเข้ าไปในกระเป๋ าและฝื นยิ ้มออกมา แทบเป็ นไปไม่ได้ เลยที่เขาจะ
หาซื ้อยาที่ดดี ีเพื่อส่งเสริ มการฝึ กฝนของเขา หากเขาโชคดีเขาหวังเพียงมีอาหารเพียงพอในแต่
ละวัน
โดยไม่ต้องมียาโอสถและวัสดุอื่นใด หลินหมิงรู้สกึ ว่าการจะขอยืมเงินจากน้ องชายของเขา หลิน
งใช้ ชีวิตอยูใ่ นเทือกเขาโจวและได้ ฝึกฝน ‘ปฐมโกลาหล’
เซี่ยวตง คงไม่ใช่เรื่ องที่ดีนกั ดังนันเขาจึ

ตลอดเวลาที่เหลืออยูท่ งวั ั้ น
แล้ วเวลาอีกเจ็ดวันก็ผ่านไป
ศูนย์การค้ ากลางเมืองเป็ นสถานที่ที่คกึ คัก ผู้ที่มีวิจารณญาณความรู้ที่ดีจะมาที่นี่และมักจะ
เลือกซื ้อสินค้ าหายากบางอย่างที่วางราคาถูกว่ามูลค่าของมัน มันเป็ นความรู้สกึ ที่ค้ มุ ค่าสําหรับ
การสมบัติที่ซอ่ นอยูใ่ นกลุม่ สิ่งของชันตํ
้ ่าพวกนัน! ้
แต่คนเหล่านี ้มักจะไม่คอ่ ยสนใจสมุนไพรโอสถหรื อแผ่นจารึกเท่าใดนัก เพราะสําหรับสินค้ าพวก
นี ้มันยากที่จะมองเห็นคุณภาพที่แท้ จริ งของพวกมัน ดังนันพวกเขามั
้ กจะข้ ามรายการเหล่านี ้ไป
เพราะเหตุนี ้และหลายร้ อยหลายพันลูกค้ าที่พบเห็นแผ่นจารึกของหลินหมิง ต่างก็ปล่อยมันไว้
บนหิ ้งโดยไม่มีใครสนใจ
แต่ในวันนี ้ ชายสูงใหญ่ผ้ มู ีพละกําลังและร่างกายใหญ่โตมาเดินเล่นที่ศนู ย์การซื ้อขาย ร่างทัง้
ร่างของเขาถูกห่อด้ วยกล้ ามเนื ้อหนาและมีลกั ษณะขรุขระเป็ นมัดๆ เขาสามารถข่มขูผ่ ้ อู ื่นได้
อย่างง่ายดาย เขาสะพายดาบยักษ์ ยาว4ฟุตไว้ บนหลังและเดินอย่างภาคภูมิใจเหมือนเสือที่
กําลังมองหาปั ญหา
เขาคนนันมี
้ สายตาเย็นชา ร่างของเขาปรากฏรอยแผลเป็ น เขาเป็ นคนที่มีประสบการณ์ชีวิต
เสี่ยงตายมานับไม่ถ้วน ผู้ชายคนนี ้อาจเป็ นฆาตกรตัวจริ ง บรรดาคุณชายตัวน้ อยที่ได้ รับการ
ฝึ กฝนการต่อสู้จากสํานักต่างๆคงไม่อาจเปรี ยบเทียบกับการปรากฏตัวของเขาได้
เมื่อได้ เห็นชายผู้นนั ้ ผู้ประเมินอ้ วนหดตัวลง ผู้ชายคนนี ้มีการฝึ กกายภาพระดับ5! เขาอยูบ่ น
จุดสูงสุดของขันดั
้ ดกระดูก(ขัน5)! ้
อีกเพียงก้ าวเดียวชายคนนี ้ก็จะก้ าวเข้ าสูข่ นผสานชี
ั้ พจร แต่ขนนั
ั ้ นมี
้ คนจํานวนมากเกินที่ไม่
สามารถก้ าวเข้ าไปได้ แม้ จะใช้ เวลาทังชี
้ วิตของพวกเขา
“ท่านมีความปรารถนาในสินค้ าจําพวกใดรึ?” ผู้ประเมินอ้ วนยืนขึ ้นและให้ การต้ อนรับ
ชายคนนันไม่
้ ได้ พดู อะไรแม้ แต่คําเดียวและทําเพียงแค่มองไปรอบๆเท่านัน้ นักประเมินก็ยงั คง
เงียบสงบรอให้ บริ การเขา
ชายคนนันมองไปรอบๆได้
้ ซกั พัก สินค้ าทังร้้ านมันไม่ได้ ดเู หมือนสิ่งที่เขาสนใจ เขามองข้ ามสิ่ง
อื่นๆไป และชี ้ไปที่แผ่นกระดาษสีเหลืองที่ถกู หนีบอยูบ่ นบานหน้ าต่างกระจก “นี่คือแผ่นจารึก
รึ?”
“ใช่ขอรับ”
“มันราคาเพียง 100 เหรี ยญทอง?” ชายคนนันกล่ ้ าวด้ วยความประหลาดใจ แผ่นจารึกปกติ
ล้ วนแพงกว่า 1000 เหรี ยญทอง แต่นี่เพียงแผ่นละ 100 เหรียญทอง มันราคาถูกเสียจริ ง
เจ้ าของร้ านกล่าวตามความเป็ นจริ งว่า “นี่เป็ นสินค้ าจากฝึ กงานการจารึก ระดับการฝึ กฝนเขามี
้ ่3 ความแข็งแรงที่เพิ่มขึ ้นก็ไม่น่าจะมากไปกว่าร้ อยละสิบ ”
เพียงขันที
“ร้ อยละสิบ … ” ชายคนนันขมวดคิ
้ ้ว มันเป็ นระดับคุณภาพที่ตํ่าก็จริ ง แต่อนิจจาเขาไม่
สามารถที่จะซื ้อแผ่นจารึกมูลค่ามากกว่า 1000เหรี ยญทองได้
ชื่อของบุรุษผู้นนคื
ั ้ อ ไท้ เฟิ ง ภูมิหลังของเขาเป็ นทหารธรรมดาและเงินเดือนของเขาขึ ้นอยูก่ บั ที่
กองทัพที่จะจัดสรรไว้ ให้ เขาจะต้ องแบ่งให้ พอ่ แม่ผ้ ขู องเขาพร้ อมตัวของเขาเอง ดังนันเขาไม่

สามารถใช้ จ่ายทองจํานวนมากได้ เช่น 1000 เหรี ยญทองได้ แต่เพียง 100 เหรี ยญทองช่างเป็ น
ราคาที่น่าสนใจยิ่งนัก
เมื่อหนึง่ เดือนก่อน ไท้ เฟิ งได้ ออกรบพร้ อมกับกองกําลังนักรบ ในการเดินทางพวกเขาได้ นําหัว
ของผู้นําศัตรูที่มีการฝึ กฝนกายภาพขัน5 ้ ขันดั
้ ดกระดูกกลับมา! มันทําให้ ดาบของเขาบิน่ ใน
สงคราม ดาบนี ้เป็ นถึงสมบัติของเขา!
กฎระเบียบของกองทัพบอกว่าหากพบสมบัติในการออกรบ สมบัตินนจะเป็ ั้ นของผู้ค้นพบ เช่นนี ้
ไท้ เฟิ งจึงได้ รับดาบสมบัตเิ ล่มนันมา
้ แต่ดาบกลับได้ รับความเสียหาย ปลายดาบหักออกไป
สมบัตินี ้มันไม่สมบูรณ์ มันถูกจํากัดความสามารถ เมื่อนักสู้ใส่จิตวิญญาณของเขาเข้ าไปใน
อาวุธ พลังของดาบที่ไม่สมบูรณ์จงึ มีไม่สงู มากดังที่ควรจะเป็ น
นอกจากนี ้ ไท้ เฟิ ง ผิดหวังที่ดาบเล่มนี ้ไม่มีการจารึกมาก่อน เพื่อเพิ่มความแข็งแก่รงเป็ นดาบจะ
ไม่สมบูรณ์ก็ตาม
ไท้ เฟิ งเองไม่ได้ ไม่ได้ มีความรู้ในการจารึกมาก่อน และเขาก็ไม่สามารถที่จะจ่ายในราคาที่สงู ทัง้
ยังเป็ นดาบสมบัติที่ได้ รับความเสียหายมา ดังนันอาจจะบอกได้
้ วา่ มันไม่น่าใส่จารึกลงไป แต่
เมื่อได้ เห็นแผ่นจารึกนี ้จากเด็กฝึ กงาน เขาเริ่ มที่จะเห็นการโอกาสเพิ่มประสิทธิภาพให้ มนั
โดยทัว่ ไปแผ่นจารึกที่เสริ มความแข็งแก่รงขึ ้นร้ อยละสามสิบ จะมีมลู ค่า 1500 เหรี ยญทอง แต่
แผ่นจารึกนี ้เพิ่มขึ ้นเพียงร้ อยละสิบและมีราคาถูกเพียง 100 เหรี ยญทอง อัตราส่วนของ
ค่าใช้ จ่ายกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ ้นถือว่าคุ้มค่า แต่ที่สําคัญกว่านันคื
้ อเขามีเงินพอจะซื ้อมันได้ !
พรุ่งนี ้วันที่แข่งขันศิลปะการต่อสู้ของกองทัพรอบที่สาม ฝ่ ายตรงข้ ามคนต่อไปของเขาอาจจะเก่ง
มาก ถ้ าหากเขาสามารถเพิ่มความแข็งแก่รงให้ ดาบของเขาได้ แม้ เพียงสึกนิด โอกาสชนะของ
เขาก็จะเพิ่มสูงขึ ้น
การแข่งขันโดยนักสู้อายุไม่เกิน30 ถ้ าใครมีผลการแข่งที่ดีพวกเขาจะได้ รับผลตอบแทนที่ดี
เช่นกัน แม้ กระทัง่ การส่งเสริ มเลื่อนยศทหาร!
ไท้ เฟิ งได้ รับความดีความชอบสะสมมาตลอดทังปี ้ ถ้ าหากเขาแสดงให้ เห็นผลการแข่งที่ยอด
เยี่ยมในเวลานี ้ได้ เขาอาจจะได้ รับการเลื่อนยศให้ เป็ นกัปตันคุมคนหมื่นคน นอกจากนี ้
ผลตอบแทนที่ได้ ก็จะสูงขึ ้น สิบปี ที่แล้ วแม่ของเขาได้ ออกไปหายาสมุนไพรเพื่อที่เขาจะได้
ฝึ กซ้ อมศิลปะการต่อสู้และได้ พลัดตกจากหน้ าผาและเสียขาทังสองข้้ างของเธอไป เธอทําได้
เพียงใช้ ชีวิตอยูบ่ นเตียงตังแต่
้ นนมา
ั ้ ไท้ เฟิ งสาบานว่าต่อสวรรค์ทงหลายว่
ั้ าเขาจะซื ้อโอสถหยก
ดําที่หายากให้ แม่ของเขา โอสถหยกดํามีความสามารถในการรักษากระดูกที่หกั ถ้ าใช้ มนั อย่าง
ถูกต้ อง มันจะสามารถรักษาขาทังสองข้ ้ างของแม่ของเขาได้ และเธอจะกลับมาเดินได้ อีกครัง้ !
แต่ราคาของยาโอสถที่หายากนี ้คือ 5000 เหรี ยญทอง สําหรับเขาตอนนี ้มันเป็ นตัวเลขที่เป็ นไป
ไม่ได้
ในใจของเขา ไท้ เฟิ งต้ องซื ้อมันให้ ได้ ด้วยตัวของเขาเอง! พรุ่งนี ้เป็ นวันที่สามของการแข่งขัน
แม้ กระทัง่ จอมพลฉินเสี่ยวก็จะเข้ าร่วมชมด้ วย เขาเป็ นบุคคลหนึง่ ที่สําคัญในแผ่นดิน! ไม่มีทางที่
เขายอมจะเสียโอกาสแสดงฝี มือในครัง้ นี ้!
เพื่อครอบครัวและแม่ของเขา!
ไท้ เฟิ งกัดฟั นของเขาและพูดกับเจ้ าของร้ าน”แผ่นจารึกนัน้ ข้ าต้ องการมัน!”

“เป็ นไปไม่ได้ ! พี่ขายมันออกในราคา 95 เหรี ยญทอง? “หลินเซี่ยวตงมองเงินในมือของหลินห
มิง และไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็ นเรื่ องจริ ง เขาอยากจะคิดว่าคนโง่ที่น่าสงสารคนไหนยอมเสีย
95 เหรี ยญทองเพื่อซื ้อแผ่นจารึกเน่าๆนันไป

“ข้ าได้ มาแค่ 92 เหรี ยญทอง” หลินหมิงกล่าวขึ ้น ศูนย์การค้ ากลางเมืองเก็บเงินค่าภาษี และส่ง
มอบให้ หลินหมิง แต่เดิมมันเป็ น 100 เหรี ยญทองและหักภาษีร้อยละห้ าและอีกสามเหรี ยญทอง
ค่าวางขาย สุดท้ ายเหลือมา 92 เหรี ยญทอง
แท้ จริ งแล้ วแผ่นจารึกควรจะได้ มีคา่ ตํ่าสุด 1000 เหรี ยญทอง เขาขายออกไปได้ เพียง 92 เหรี ยญ
ทอง หลินหมิงว่าคนที่ซื ้อมันไปคงได้ ประโยชน์เป็ นอย่างมาก แต่มนั เป็ นความจริ งที่วา่ ผู้ที่ซื ้อมัน
มีความเสี่ยง
90 เหรี ยญทองก็ไม่มากพอที่จะซื ้อยาโอสถหายาก มันพอเพียงเป็ นสมุนไพรรักษาบาดแผล
หลินหมิงยักไหล่และเดินไปที่ร้านโอสถมองหาของบางอย่าง
สิ่งที่เขาไม่ร้ ูก็คือในขณะนี ้มีการแข่งขันกันเอิกเกริ ก มันเกิดขึ ้นอย่างยิ่งใหญ่ การชุมนุมใหญ่ของ
ยอดนักสู้!

บริ เวณโดยรอบระยะสิบไมล์ มีนายทหารสวมเกราะเหล็กหนักภายใต้ ดวงอาทิตย์ที่สอดส่องนับ
หมื่นนายยืนอยู่ หากหนึง่ ในนันเดิ
้ นมาทางพวกเขา พวกเขาจะรู้สกึ กลิ่นอายแห่งสงครามราวกับ
ว่าพวกเขาจะจมอยูใ่ นสนามรบโบราณ และมีพระเจ้ าแห่งความตายควบคุมพวกเขาอยู่ นักรบ
เหล่านี ้เป็ นนักรบที่ยอดเยี่ยมที่สดุ แห่งอาณาจักรลิขิตฟ้า หกสุม่ หนึง่ ในหมื่นนันออกมาคนหนึ
้ ง่
มันเป็ นเรื่ องธรรมดาที่นกั รับคนนันจะสู
้ ้ นกั รบอื่นๆสิบคนได้ !
ตรงข้ ามกับทหารเหล่านี ้เป็ นแถวที่นงั่ มีชายคนหนึง่ สวมชุดเกราะสีทองนัง่ อยูต่ รงกลาง แม้ วา่
เส้ นผมที่หนาของเขาจะหงอก การแสดงออกของเขาก็ยงั ดูน่าเกรงขามและดวงตาของเขามี
ความคมชัดดุดนั เหมือนเหยี่ยว เขาให้ ความรู้สกึ ถึงการแผ่พลังงานที่ใร้ ขีดจํากัดเช่นในหมู่
วีรบุรุษ เขาคือป้อมปราการที่แข็งแกร่งแห่งฝั่ งตะวันออกของอาณาจักรตลอด 80 ปี ที่ผา่ นมา
จอมพลฉินเสี่ยว!
การปรากฏตัวท่านจอมผลที่นี่แสดงให้ เห็นถึงความสําคัญของการแข่งขันครัง้ นี ้ แม้ แต่คน
ตระกูลฉินก็ยงั มาเข้ าร่วมประชุมในครัง้ นี ้ รวมทังฉิ
้ นชิงหวนและอาจารย์ของเธอท่านมูย่ ี่ ท่านมูย่ ี่
มีอายุกว่า 100 ปี การฝึ กฝนของเขาไปถึงขันกลางปราณฟ
้ ้ าชันต้
้ น เขายังเป็ นผู้นําชันแนวหน้
้ า
ของเหล่านักจารึกในอาณาจักรลิขิตฟ้า แม้ แต่ราชาแห่งอาณาจักรลิขิตฟ้ายังต้ องปฏิบตั ิตอ่ เขา
ด้ วยความเคารพ
นอกจากครอบครัวฉินแล้ วก็ยงั มีเจ้ าหน้ าที่ทหารอื่นๆอีกหลายพันมาเข้ าชมการแข่งขันในครัง้ นี ้!

บทที่ 19 ความสงสัยของมูย่ ี่
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ชาวอาณาจักรลิขิตฟ้าให้ ความเคารพศิลปะการต่อสู้มากเป็ นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเหล่าทหาร
การแข่งขันนี ้จะจัดขึ ้นทุกสามปี เพื่อแสดงความสามารถและเลื่อนยศไปสูต่ ําแหน่งที่สงู ขึ ้นเพื่อ
ยกระดับจิตวิญญาณการต่อสู้ของนักรบ
ข้ อกําหนดที่เป็ นเงื่อนไขของการแข่งขันครัง้ คือจะต้ องมีอายุน้อยกว่าสามสิบปี และประสบ
ความสําเร็ จอย่างน้ อยการฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สาม คูต่ อ่ สู้กว่าคนที่เข้ าร่วมในการแข่งนี ้และ
หลังจากการทดสอบหลายต่อหลายรอบ จะเหลือเพียงห้ าสิบคนเท่านันที ้ ่ยงั คงอยู่
ตอนนี ้เป็ นการแข่งขันรอบที
้ ่สามและเป็ นรอบสุดท้ ายที่กําลังจะเริ่ มขึ ้น เหล่าคูแ่ ข่งที่ได้ ผ่านเข้ า
มาพวกเขาจะเหลือเพียงห้ าสิบคนในเร็วๆนี ้
นี่เป็ นการแข่งขันรอบสุดท้ าย ผู้เข้ าแข่งขันจะแสดงความสามารถทังหมดที
้ ่ซอ่ นไว้ ออกมา และ
ต่อสู้อย่างสุดความสามารถ! เป็ นรอบที่จะเต็มไปด้ วยกลิ่นอายของไฟโทสะเพื่อแย่งชิงจุดยืน
สุดท้ ายของกันและกัน!
การแข่งขันในรอบแรกๆไม่ได้ ทําให้ เกิดความสนใจจากผู้ชมมากนัก คูแ่ ข่งที่อยูใ่ นสนามส่วน
ใหญ่มกั จะมีความแข็งแก่รงตํ่าหรื อสูงเกินไป มีความแตกต่างมากเกินไประหว่างผู้เข้ าแข่งขัน
จึงไม่คอ่ ยมีการต่อสู้ที่สสู ีเร้ าใจใดๆ ทังหมดนี
้ ่ฉินเสี่ยวคือผู้ดแู ลการดําเนินงานและผลการ
แข่งขันที่ได้
การแข่งขันในขณะนี ้แบ่งเป็ นมีสองฝ่ าย ฝ่ ายหนึง่ เป็ นบุตรชายของนายพล เขาหล่อมากอายุ 29
ปี ฝึ กฝนถึงจุดสูงสุดของขันดั
้ ดกระดูก(ขัน5)
้ ไม่กี่ปีที่ผ่านมาชายคนนี ้ฝ่ าฟั นภารกิจต่างๆมา
มากมาย ได้ รับเหรี ยญยกย่องจํานวนมากและได้ รับรางวัลสําหรับความสามารถของเขา ความ
แข็งแก่รงของเขาเพิ่มขึ ้นเรื่ อยๆจากเหตุการณ์เหล่านี ้และมีสมบัติในครอบครองมากถึงสองชิ ้น
กระบี่และชุดเกราะ กระบี่ของเขามีจารึกที่วาดโดยผู้เชี่ยวชาญผนึกไว้ ความแข็งแก่รงของมันมิ
อาจมองข้ ามได้ เลย!
และอีกด้ านหนึง่ เขาเป็ นทหารที่เกิดของจากครอบครับธรรมดาๆ ชื่อของเขาคือ ไทฟิ ง
ความสามารถของเขาก็ไม่ได้ โดดเด่นมากนัก แต่เขามีความมุมานะฝึ กฝนอย่างขยันขันแข็งทุก
ลมหายใจของเขา เขาเป็ นคนที่กล้ าหาญในการต่อสู้ ไม่ลงั เลที่จะเสี่ยงชีวติ ในการต่อสู้ เขาได้
ฆ่าศัตรูจํานวนมากและมีประสบการณ์มากยิ่งกว่านายทหารทัว่ ๆไป! ตอนนี ้ ไทเฟิ งเองก็อยูบ่ น
จุดสูงสุดของขันดั
้ ดกระดูก
มันเป็ นเรื่ องที่ยากสําหรับทหารสองคนนี ้ ด้ วยระดับการฝึ กฝนที่แทบจะเท่ากันของพวกเขา
หลังจากฆ่าฟั นศัตรูของพวกเขามานับไม่ถ้วน ในอนาคตมันเป็ นไปได้ วา่ พวกเขาจะก้ าวไปสูข่ นั ้
ผสานชีพจร(ขัน6 ้ )และกลายเป็ นเสาหลักของราชอาณาจักร!
ในฐานะที่เป็ นผู้ตดั สินการแข่งขันของทังสอง
้ ชายอาวุโสชุดเกราะเงินยิ ้มอย่างมีความสุขและพึง
พอใจ เรื่ องนี่น่าภาคภูมิใจกําลังจะเกิดขึ ้นบุตรชายของเขาบนเวที!
“ฮ่า ๆ อาวุโสหลี่ ลูกชายของเจ้ าช่างน่าภาคภูมิใจยิ่งนัก ” ฉินเสี่ยวยิ ้มในขณะที่เขากล่าว ชาย
ชุดเกราะเงินนี ้เคยอยูภ่ ายใต้ คําสัง่ ของเขาและพวกเขาเป็ นเพื่อนเก่ากัน
“ท่านผู้บญ
ั ชาการ(จอมพลฉิน)สุภาพเกินไปแล้ ว บุตรชายที่นา่ สงสารของข้ าได้ เติบโตขึ ้นมา
พร้ อมกับยาโอสถที่หายากจํานวนมากและยังไม่ได้ แสดงให้ เห็นถึงความทุม่ เทอย่างสุดหัวใจ
จริ งๆแล้ วเขาไม่ได้ มีความมุง่ มันขนาดนัน้ ข้ าหละเสียใจ “แม้ วา่ ชายอาวุโสชุดเกราะเงินกล่าว
อย่างถ่อมตัวเช่นนันออกมา
้ แต่เขาก็ไม่อาจปกปิ ดรอยยิ ้มของเขาไว้ ได้ เขาพอใจในบุตรชายของ
เขาอย่างมากและความภาคภูมิใจที่มีลกู ชายเช่นนี ้
“ฮืมมม ไท้ เฟิ งเองทําที่ผา่ นมาได้ ดี แต่มนั ก็เป็ นเรื่ องยากที่จะชนะในวันนี ้”
ฉินเสี่ยวกล่าวเพราะความแตกต่างในทักษะการต่อสู้และความเหลื่อมลํ ้าในอุปกรณ์หายากของ
พวกเขาทังสอง(พวกแกไม่
้ ร้ ูจกั อิทธิฤทธิ์ของแผ่นจารึกใบละร้ อยเสียแล้ ว ไอ้ พวกเหล่าทหารแก่
้ าปู่ นางเอกอีก@ 555)
หัวหงอก ว่าไปนันไปว่
ลูกชายของชายชุดเกราะเงินมีสองสมบัติลํ ้าค่า ทังยั ้ งมีการจารึกที่สงู ส่งเสริ มพลังของมันอีก
งานนี ้ไท้ เฟิ งผู้มาจากตระกูลที่ตํ่าต้ อยไม่อาจเทียบได้ เป็ นธรรมชาติที่เขาจําต้ องยอมรับ
สงครามครัง้ นี ้อาจดูเหมือนจะไม่ยตุ ธิ รรม แต่การแข่งขันอาณาจักรลิขิตฟ้าก็เป็ นเช่นนี ้เสมอ
ดังนันสมบั
้ ตแิ ละอุปกรณ์ถือว่าเป็ นส่วนหนึง่ ของความแข็งแรงโดยธรรมชาติของเหล่าทหาร! ใน
ท่ามกลางสนามรบความเหลื่อมลํ ้าในอุปกรณ์ก็เป็ นส่วนหนึง่ ที่ใช้ ตดั สินกับศัตรู ดังนันใครจะมา

บ่นว่ามันไม่เป็ นธรรมไม่ได้ !!
มันเป็ นไปไม่ได้ ที่ทางกองทัพจะจัดหาอุปกรณ์หายากให้ กบั เหล่าทหารทุกคน ถ้ าทหารต้ องการ
ที่จะโดดเด่นแล้ วภูมิหลังของตระกูลของพวกเขาก็คือส่วนหนึง่ ของความแข็งแก่รงของพวกเขา
มันเป็ นส่วนที่สําคัญอย่างยิ่ง(อย่างกะใช้ เส้ นสายวงใน)
เมื่อไท้ เฟิ งขึ ้นมาบนเวที เขาดึงดาบยาวสี่ฟตุ ของเขสออกมา ฉินเสี่ยวหันไปหามูย่ ี่ซงึ่ นัง่ อยูข่ ้ าง
เขา “ท่านมูยี่ ท่านคิดเห็นอย่างไรกับดาบของไท้ เฟิ ง?”
มูย่ ี่ลบู เคราของเขาเล็กน้ อยและพยักหน้ า “แน่นอนมันเป็ นสมบัติลํ ้าค่า แต่ทว่ามันได้ รับความ
เสียหายมาก่อน”
“โอ้ ความเสียหายรึ?” หลังจากมูย่ ี่กล่าว ฉินเสีย่ วพึง่ สังเกตเห็นว่าปลายดาบหักออกไป
เล็กน้ อย มันเป็ นดาบที่เสียหายจริ งๆ
มูย่ ี่กล่าวขึ ้นต่อ “อุปกรณ์ที่เสียหาย แน่นอนว่ามิอาจเทียบอุปกรณ์ที่สมบูรณ์ได้ ไม่เพียงเท่านัน้
หลี่ฉี คูต่ อ่ สูข่ องไท้ เฉิงยังมีถงึ สองสมบัติลํ ้าค่า แม้ ทงสองจะมี
ั้ ระดับพลังในการฝึ กฝนคล้ ายกัน
แต่ในหลายๆเรื่ องไท้ เฟิ งด้ อยกว่าหลี่ฉี การแข่งขันครัง้ นี ้ ไท้ เฟิ งจะเป็ นฝ่ ายแพ้
ฉินเสี่ยวกล่าว “ถึงแม้ วา่ เขาจะพ่ายแพ้ แต่ไท้ เฟิ งก็เก่งมาที่มาถึงรอบนี ้ได้ ด้วยดาบสมบัติลํ ้า
ค่าที่เสียหายเล่มนัน้ นอกจากนี ้ยังเป็ นเรื่ องที่น่าตื่นตาตื่นใจ หากในการต่อสู้ตอ่ ไปนี ้เขาสามารถ
รับมือคูต่ อ่ สู้ได้ ถงึ ยี่สิบกระบวนท่า ข้ าอาจจะส่งเสริ มให้ เขาเข้ ามาในฝ่ ายกองทัพฉิน…. ชิงหวน
ลูกข้ า เจ้ าจงดูการต่อสู้ครัง้ นี ้ให้ ดี เจ้ าเองก็จะก้ าวเข้ าสูข่ นที
ั ้ ่ห้าแล้ ว แม้ วา่ เจ้ าฝึ กทักษะการต่อสู้
เฉพาะสําหรับผู้หญิง แต่ทกุ สิ่งมันก็ไม่ตา่ งกันมากนักดังนันถ้ ้ าเจ้ าตังใจดู
้ และศึกษามัน มันจะ
ช่วยเจ้ าได้ ”
้ บฉินชิงหวน เธอพยักหน้ าอย่างสุภาพและกล่าวตอบรับ “เพค่ะ
ฉินเสี่ยวกล่าวคําไม่กี่คํานันกั
ท่านปู่ ”
ทันทีที่ผ้ ตู ดั สินให้ สญ
ั ญาณเริ่ มการต่อสู้ ผู้ชายคนหนึง่ ที่ชื่อหลี่ฉีพงุ่ ไปข้ างหน้ าอย่างรวดเร็ วด้ วย
การจู่โจมที่รุนแรง เขาหวังที่จะยุติการสู้รบโดยเร็ วที่สดุ เท่าที่เป็ นไปได้ เขานันมี ้ ความได้ เปรี ยบ
ในทุกด้ าน! แน่นอนว่ามันจะจบอย่างรวดเร็ว!
เขาเริ่ มใช้ ทกั ษะแห่งตระกูลหลี่ ‘กระบี่ห้าเทือกเขาศักดิ์สิทธ์’! กระบี่เหมือนถูกครอบงําด้ วยพลัง
รุนแรงเช่นภูเขาถูกที่ถล่มลงมา แต่ละครัง้ ที่จ่โู จมจะมีแรงผลักดันที่มาพร้ อมกับความรู้สกึ อัน
สง่างามและพลังงานอันล้ นหลาม มันก็สามารถที่จะเอาชนะทุกคนที่มีการฝึ กฝนระดับตํ่ากว่า
ได้ ในกระบวนท่าเดียว แม้ กบั ผู้ที่มีการฝึ กฝนเท่ากันมันก็ยงั เป็ นเรื่ องยากที่จะรับการจู่โจมที่เป็ น
ดังภูเขาถล่มของมัน นักรบส่วนใหญ่จะต้ องยอมจํานนต่อการโจมตีอนั หนักหน่วงนี ้
เร็ วที่สดุ เท่าเขาจะทําได้ หลี่ฉีกําดาบฟาดผ่านอากาศเกิดเป็ นลมตัดอากาศเป็ นเสียงท่วงทํานอง
อันไพเราะ(กรรม มาสู้หรื อมาออกซิงเกิลใหม่ครับเฮีย) ดาบในมือของเขาเป็ นมีพละกําลัง 500
จิ๋น มันเป็ นกระบวนท่าที่สมบูรณ์แบบที่จะแสดงอํานาจของ ‘กระบี่ห้าเทือกเขาศักดิส์ ทิ ธ์!’
ออกมา หากปะทะกับอาวุธที่มีระดับตํ่ากว่าแล้ ว อาวุธเหล่านันคงแหลกสลายเป็
้ นแน่!
ไท้ เฟิ งเห็นหลี่ฉีฟาดกระบี่ลงมา ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็ นจริ งจังมีสมาธิขึ ้นมาทันที เขารู้
ความลับของกระบวนท้ านัน้ เขาย่อเอวลงและวางขาของเขาอย่างมัน่ คง มือทังสองจั ้ บดาบไว้
มัน่ เขาพุง่ ร่างของเขาออกไปราวกับระเบิดออกมาด้ วยพลังทังหมดของเขา!

สําหรับการจูโ่ จมของหลีฉ่ ี เขาเองก็ใส่พลังทังหมดของเขาลงไปเช่
้ นกัน!
ไทเฟิ งถ่ายเทพลังปราณของเขาเข้ าไปในดาบ หัวใจของถูกดึงพลังงานออกไปจนเกินขีดจํากัด
ไปบ้ างเล็กน้ อย พลังมันไหลออกไปราวกับว่า … ราวกับว่ามันจะดูดกลืนพลังปราณทังหมดของ

เขา!(จําบทแรกๆที่จ้ ยู นั โชว์พลังฉีฝาดดาบผ่าต้ นไม้ ขม่ หลินหมิงได้ มยั ้ @เปลี่ยนเป็ นพลังปราณ
นะ)
ไท้ เฟิ ง เคยใช้ ดาบเล่มนี ้มาเป็ นเวลาหลายเดือนแล้ ว ก่อนหน้ านี ้เมื่อเขาถ่ายเทพลังปราณลงไป
มันเป็ นเหมือนเทนํ ้าเข้ าไปในคลองระบายนํ ้า ดาบไม่สามารถดูดซับพลังปราณเหล่านันได้ ้ สกั
เท่าไร แต่ในขณะนี ้เขากลับถูกดูดพลังปราณโดยดาบเสียเอง ดาบนันดู ้ ดพลังปราณของเขา
เหมือนลมบ้ าหมู แต่ก็มิได้ ร้ ูสกึ ว่าพลังปราณที่ถกู ดูดเข้ าไปเหล่านันจะเสี
้ ยเปล่าเลยแม้ แต่น้อย!
***คือปกติต้องถ่ายเทพลังให้ ดาบเอง แล้ วดาบก็ได้ รับพลังที่ถา่ ยเทให้ ไม่เต็มที่ด้วย แต่นี ้พอเขา
เริ่ มถ่ายเทพลังปราณให้ ดาบ ดาบกลับเป็ นฝ่ ายดูดพลังงานจากเขาเอง แล้ วใช้ ทกุ หยดของพลัง
ปราณได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพ
มันเกิดเรื่ องเช่นนี ้ได้ อย่างไร?
ไม่ได้ มีเวลาให้ ไท้ เฟิ งได้ คดิ แม้ แต่น้อย กระบี่ของหลี่ฉีกําลังฟาดลงมาที่เขาดังนันเขาก็
้ ตะโกน
ออกมาและฟาดดาบของเขาสวนกลับไป!
ด้ วยทักษะระดับตํ่าจากกองทัพของเขาท่า‘ผสานการทําลายล้ าง’ เขาได้ ร้ ูความลับทักษะ
ระดับสูงของหลี่ฉีที่สืบทอดในตระกูล’กระบี่ห้าเทือกเขาศักดิ์สิทธ์!’ดาบของพวกเขาจะระเบิด
อย่างรุนแรง การปะทะกันของพลังปราณ เกิดการปะทุขึ ้นในอากาศและพื ้นเวทีการประลองถูก
ทุบแยกออกจากกันเป็ นสองฝั่ ง หลีฉ่ ีพลังปราณผลักดันบังคับให้ ต้องก้ าวถอยหลังไปหลายก้ าว
แต่ไท้ เฟิ ง ถอยกลับมาเพียงก้ าวเดียวเท่านัน!

้ ?
มันคือเหตุการณ์ที่เป็ นความจริ งอย่างนันรึ
ไท้ เฟิ งอ้ าปากค้ างและมองไปที่ดาบในมือของเขาใบหน้ าของเขาเต็มไปด้ วยความไม่อยากจะ
ศรัทธา เขาไม่เคยต่อสู้กบั หลีฉ่ ีมาก่อน แต่ก็เคยได้ ยินว่าเขาน่าจะเป็ นอันดับหนึง่ หลังจากการ
ปะทะกัน ในที่สดุ เขาก็ตระหนักได้ วา่ กลัวผู้ชายคนนี ้น่าเกรงขามอย่างแท้ จริ ง!
เขามัน่ ใจแน่นอนว่ามันไม่ใช่ความแข็งแก่รงของเขาเองที่เพิ่มขึ ้น แต่เป็ นเพราะดาบเล่นนี ้ของเขา
มีการเปลี่ยนแปลง … บางทีมนั เป็ นเพราะการจารึกเมื่อวานนี ้?
ไท้ เฟิ งไม่เข้ าใจว่าการจารึกทํางานอย่างไร แต่ร้ ูวา่ มันสามารถเสริ มพลังให้ อาวุธได้ ไท้ เฟิ งคิดว่า
มันอาจเพิ่มความคมของตัวดาบแต่หลังจากการทดสอบมันเมื่อวานนี ้กับต้ นไม้ หลายต่อหลาย
ต้ น เขาไม่ได้ ร้ ูสกึ ถึงอะไรที่แตกต่างกันเลย เขาผิดหวังอย่างมาก เขาไม่เคยตระหนักว่าผลของ
จารึกจะแสดงออกเมื่อถ่ายเทพลังปราณลงไปภายในอาวุธ!
มันเป็ นจารึกฝึ กที่วาดโดยเด็กฝึ กงานจริ งๆรึ? เหตุใดมันถึงได้ รุนแรงเช่นนี ้? แม้ วา่ เขาจะไม่
เข้ าใจการตังราคาของแผ่
้ นจารึก แต่ในหัวใจของเขารู้วา่ มันมีความแข็งแก่รงและประสิทธิภาพ
เพิ่มสูงขึ ้นมากนัก มันจะสามารถหาซื ้อได้ ด้วยเงิน 100 เหรี ยญทองได้ อย่างไรกัน!
จากการปะทะกัน หลี่ฉีพงึ่ ได้ สติกลับมาสูค่ วามเป็ นจริ ง ผู้ชายคนนันตอบโต้
้ เขาด้ วยดาบที่หกั
ทังผลที
้ ่ออกมายังแสดงให้ เห็นว่าเขาเป็ นฝ่ ายเสียเปรี ยบ… บางทีมนั อาจซ่อนพลังบางอย่าง
เอาไว้ ! ผู้ชายคนนี ้ … น่ากลัว!
“เยี่ยม!” ฉินเสี่ยวยกย่อง “นายทหารสามัญสามารถต่อกรกับหลี่ฉีที่ใช้ ‘กระบี่ห้าเทือกเขา
ศักดิ์สิทธ์’ ได้ อย่างสูสี ด้ วยดาบที่หกั ไท้ เฟิ งทําได้ เยี่ยมยอด! น่าประทับใจ! ท่านมูย่ ี่ทา่ นคิด
เช่นเดียวกับข้ ารึไม่? ”
มูย่ ี่ยน่ คิ ้วของเขาและไม่ร้ ูจะตอบอย่างไรดี แม้ วา่ เขากับฉินเสี่ยวจะระดับการฝึ กฝนไม่ตา่ งกัน
มาก แต่เขาก็เป็ นนักจารึกผู้เชี่ยวชาญดังนันความเข้
้ าใจเรื่ องคุณสมบัติตา่ งๆย่อมมากกว่าฉิน
เสี่ยว หลังจากการปะทะกันในช่วงสันๆ ้ เขาเห็นได้ อย่างชัดเจนว่าดาบที่หกั ของไท้ เฟิ งไม่ได้ มี
ความรุนแรงน้ อยไปกว่าดาบของหลีฉ่ ี! และนัน่ ก็เพราะพลังปราณที่ถ่ายเทไปสูด่ าบ ดาบ
สามารถซึมซับแล้ วใช้ มนั ได้ เต็มประสิทธิภาพจนน่าตกใจ!
มันจะเป็ นเช่นนันอย่
้ างนันรึ ้ เมื่อพิจารณาดาบที่เสียหายของเขา ถึงมันจะเป็ นสมบัตลิ ํ ้าค้ าแต่
มันก็เป็ นสมบัติลํ ้าค่าระดับตํ่า
ทังหมดนี
้ ่อาจเป็ นเพราะการจารึกของดาบเล่มนันอย่ ้ ?
้ างนันรึ

บทที่ 20 ทักษะของจารึก
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
“ปั ง!”
ไท้ เฟิ งและหลี่ฉีปะทะกันอีกครัง้ ปรากฏเป็ นประกายไฟขึ ้นมา พวกเขาทังสองเป็
้ นนักรบที่มี
ความแข็งแกร่งและอดทน แต่ละการเคลื่อนไหวของพวกเขาปะทะกันอย่างต่อเนื่อง! ไท้ เฟิ งใช้
ดาบที่หกั ต่อสู้กบั หลี่ฉี แต่พลังปราณที่โผล่ออกมาจากดาบของเขารุนแรงกว่ากระบี่ของหลี่ฉี
มากนัก!
“!”
การปะทะกันในครัง้ ถัดมา หลี่ฉีผิดพลาดด้ วยความประมาท ทําให้ ได้ รับบาดแผลจากดาบของ
ไท้ เฟิ ง แม้ วา่ เกราะของหลี่ฉีจะเป็ นสมบัติหายาก แต่ดาบของฝ่ ายตรงข้ ามที่มีปราณที่รุนแรง
เป็ นสิง่ ที่อนั ตรายและสามารถเจาะผ่านมาถึงร่างกายของเขาได้ ใบหน้ าของหลี่ฉีซีดขาวในทันที
เขาเกือบจะสําลักเลือดออกมา!
ฉินเสี่ยวเองก็สงั เกตเห็นความผิดปกติที่ดาบ เขามองไปที่มยู่ ี่และกล่าว “ดูเหมือนข้ าจะประเมิน
ว่าดาบเล่มนันผิ ้ งอยูใ่ นระดับมนุษย์หรื อไม่ ?”
้ ดไป ดาบสมบัติเล่มนันยั
มูย่ ี่ตอบว่า “แน่นอนมันเป็ นสมบัติระดับมนุษย์หรื อตํ่ายิ่งกว่า…” เขาเคาะนิ ้วมือของเขากับ
ส่วนแขนของเขาในขณะที่เขาครุ่นคิดถึงสาเหตุที่เป็ นเช่นนัน้ ขณะนี ้ฉินชิงหวนที่เฝ้าจับตาดูอยู่
เปิ ดปากของเธอและพูดว่า “อาจารย์บางทีสมบัตนิ นอาจถู
ั้ กวางจารึกโดยยอดนักจารึก ?”
มูย่ ี่กล่าว “ข้ ายังสงสัยว่า ผู้ที่วาดจารึกลงดาบเล่มนันเป็
้ นผู้วิเศษคนใด แม้ วา่ ดาบจะได้ รับความ
เสียหายขนาดนัน้ ยังทําให้ เกิดพลังอํานาจได้ ถงึ เพียงนี ้…”
ขณะที่พวกเขากําลังพูดคุยกันอยูน่ นั ้ การต่อสู้บนเวทีก็ใกล้ มาถึงตอนจบ หลี่ฉีได้ รับบาดเจ็บ
และไม่มีทางออกอื่นใดให้ เขา มันถึงเวลาที่เขาจะใช้ รูปแบบต่อไปของ ‘กระบี่ห้าเทือกเขาศักดิ์
สิทธ์’ เขาเรี ยนรู้มาเพียงเท่านี ้และเก็บมันไว้ เป็ นไม้ ตายก้ นหีบสําหรับรอบสุดท้ าย แต่ตอนนี ้เขา
ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ ว หากไม่ใช้ มนั เขาจะต้ องพ่ายแพ้ เป็ นแน่
หลี่ฉียกกระบี่ของเขาไว้ บนหน้ าอก พลังปราณที่อยูภ่ ายในตัวเขาเริ่ มที่จะดังก้ อง เขากล่าวขึ ้นมา
“ไท้ เฟิ ง ข้ ารับรู้ถงึ ความแข็งแกร่งของเจ้ า เจ้ าเป็ นยอดคนอย่างแท้ จริ ง! เพียงทักษะสามัญของ
เจ้ าสามารถทําลายทักษะของตระกูลที่ข้ภาคภูมิใจได้ และข้ าจะระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สดุ ของ
ข้ า และให้ การต่อสู้จบลงในเวลานี ้! จงเตรี ยมพร้ อมที่จะรับมือการจู่โจมอย่างสุดพลังในครัง้
สุดท้ ายของข้ าซะ! มังกรดําแห่งเทือกเขาหิมาลัย! ”
หลี่ฉีร้องคํารามออกมาในขณะที่ถ่ายเทพลังปราณลงดาบของเขา ดาบสีดําส่องแสงสว่างสีส้ม
สดใสและดูหยิ่งผยอง หลี่ฉียกดาบขึ ้นสูงเหนือศีรษะของเขาและมุง่ เป้าไปที่ไทเฟิ ง แล้ วฟาดฟั น
ไปอย่างรุนแรง! ตัวดาบของเขามีลําแสงหลายเฉดสีและอากาศสัน่ สะเทือนเป็ นคลื่นพลังซัด
ออกไป นี่คือ กรงเล็บมังกรดํา!
“เขาได้ ใช้ รูปแบบมังกรดําแล้ ว มันแสดงให้ เห็นว่าหลี่ฉีประสบความสําเร็ จในวรยุทธของวงศ์
ตระกูลอย่างยิ่ง ไท้ เฟิ งจะได้ ร้ ูวา่ เป็ นไปไม่ได้ ที่จะต่อต้ านการจู่โจมครัง้ นี ้! ”
เมื่อเป็ นเป๋ าหมายของท่ามังกรดํารี บ ไทฟิ งรู้ดีวา่ นี่คือกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สดุ ของหลี่ฉี แม้ วา่
มังกรดําจะมีพลังที่สามารถข่มขูน่ กั รบมากมายให้ หวาดหวัน่ ได้ ไท้ เฟิ งกลับไร้ ความรู้สกึ นึกคิด
ใดใดไม่มีสิ่งอะไรในหัวของเขา มีแต่เพียงความสงบทอันหาที่เปรี ยบมิได้ ไม่ต้องกล่าวถึงความ
หวาดกลัว มันไม่มีอยูเ่ ลยแม้ แต่น้อย เขาจับดาบด้ วยมือทังสอง ้ เขารู้สกึ ได้ ถงึ ความคุ้นเคยกับ
มันราวกับว่ามันเป็ นเพื่อนเก่าของเขา
F * ck! เจ้ าคิดว่าเจ้ าจะชนะรึ แต่ข้าจะต้ องเป็ นผู้ชนะ!
สมองของไท้ เฟิ งทิ ้งความคิดที่ไม่จําเป็ นทังหมด
้ เขาส่งเสียงคํารามอันดังก้ องสะท้ อนไปใน
อากาศและส่งพลังปราณทังหมดเข้
้ ามาสูด่ าบของเขา พลังปราณในตัวดาบถูกบีบอัดอย่างหน้ า
แน่น จนถึงขีดจํากัด! ในเวลานี ้มันปะทุขึ ้นแสดงถึงความแข็งแกร่งอย่างท่วมท้ น!
ไฟสว่างตระการตาที่ปล่อยออกมาจากตัวดาบแต่ละองศาก็คือพลังปราณ เป็ นดังเช่นภูเขาไฟ
ปะทุขึ ้นจากดาบ มันกลายเป็ นสีร้ ุงสดใสที่เหวี่ยงคลื่นพลังไปข้ างหน้ าเหมือนดาวตก ปะทะเข้ า
กับพลังมังกรดํา
ล้ มล้ างฝ่ ายคูต่ อ่ สู้ทงหมด!!
ั้ ล้ มล้ างศัตรูทงหมด!!
ั้ ล้ มล้ างทุกผู้ตอ่ กรตรงหน้ า !!!
(หากใครงง มันคืออาคมล้ มล้ มล้ างของหลินหมิงนัน่ เอง เป็ นอาคมแรกของกฎวิญญาณ
‘ครอบงําวิญญาณ’)
มันคือทักษะของ ‘อาคมล้ มล้ าง’ – ‘จู่โจมหนักหน่วงชัว่ พริ บตา’!
“ปั ง!”
เกิดการระเบิดครัง้ ยิ่งใหญ่ขึ ้นจนแทบไม่น่าว่ามันนะรุนแรงได้ ถงึ เพียงนี ้ พลังมังกรดําถูกผ่าครึ่ง
ด้ วยพลังดาบของไม้ ! หลี่ฉีถกู เหวี่ยงหน้ าควํ่าและสําลักเลือดออกมา!
ฉินเสี่ยวตะลึงเมื่อได้ เห็นฉากตรงหน้ านี ้ พลังปราณผสานตัวกันได้ อย่างไร้ ที่ติ! ไม่มีการเสียเปล่า
แม้ แต่น้อย เป็ นไปได้ อย่างไร!!
แสงสว่างนันเป็
้ นพลังปราณ แต่จะใช้ พลังปราณได้ เช่นนันอย่ ้ างน้ อยต้ องฝึ กฝนอยูใ่ นขันผสาน

ชีพจร(ขัน6)
้ ไท้ เฟิ งที่ฝึกฝนถึงเพียงขันดั
้ ดกระดูก(ขัน5)ทํ
้ าเช่นนันได้
้ อย่างไร
ในเวลานี ้ทันทีที่หลีฉ่ ีออกไปจากเขตเวที ไท้ เฟิ งทรุดตัวลงไปกับพื ้นอย่างรวดเร็ ว พลังปราณของ
เขาถูกใช้ จนหมดไปอย่างสมบูรณ์ เขาถึงกับประคองตัวด้ วยขณะที่เขาพยายามดันตัวเองขึ ้นมา
ดวงตาทังสองจ้
้ องตรวจสอบที่มาจารึกอย่างเคารพ จารึกนี ้ … มันช่วยให้ เขาประสบ
ความสําเร็ จ
เขายื่นมือออกมาช้ าๆ ค่อยๆลูบไปที่เปลวไฟของจารึก กระแสของจิตวิญญาณการต่อสู้แผ่
ออกมาอย่างต่อเนื่องจากจารึกและไท้ เฟิ งรู้สกึ ถึงความผูกพันใกล้ ชินเหมือนเป็ นครอบครัว
เดียวกันกับมัน
ผู้ตดั สินกระโดดกระทืบเวทีและประกาศชัยชนะ ไท้ เฟิ ง!!! น่าทึง่ อะไรเช่นนี ้! เขามีความสามารถ
และเป็ นดาวรุ่งพุง่ แรงแซงหลี่ฉีที่ถกู เอาชนะโดยเขา!
ฉินเสี่ยวมองไท้ เฟิ งอย่างใจจดใจจ่อ และพูดกับมูย่ ี่ “พลังปราณนันเปลี
้ ่ยนรูปร่างได้ อย่างไร?
ไท้ เฟิ งใช้ วิธีการใดทําเช่นนัน?
้ มันคงจะไม่ใช่วรยุทธสินะ”
“มันจะปรากฏขึ ้นมาให้ ได้ เห็น!” มูย่ ี่สดู ลมหายใจเข้ า ดวงตาของเขาแสดงให้ เห็นร่องรอยของ
อาการตื่นตะลึง เขากล่าวว่า “ถ้ าข้ าคาดการณ์ไว้ ไม่ผิดมันต้ องเป็ นฝี มือของทักษะจากจารึก
จารึกอาจมีการเปลี่ยนแปลงการไหลพลังปราณและปล่อยทักษะออกมา … .ในอาณาจักรลิขิต
ฟ้า เทคนิคดังกล่าวนันได้
้ สญ ู หายไปเกือบหมดแล้ ว … ”
***(ผู้คนในเมืองยังคิดว่าจารึกทําได้ เพียงเสริ มความสามารถ ความคม ความเร็ ว ความ
แข็งแกร่งได้ เท่านัน)***

“ทักษะจากจารึก?” ฉินเสี่ยวตะลึง เขาไม่เคยได้ ยินเรื่ องทักษะจากจารึกมาก่อน แต่เขาก็เคย
ได้ เห็นมันมาก่อน แปดสิบปี ที่ผ่านมา เขาสัง่ บัญชาการกองทัพเพื่อต่อสู้กบั ประเทศทาง
ตะวันออก เขาได้ ตอ่ สู้กบั นายพลของศัตรูและได้ พบเห็นทักษะของจารึกในเวลานัน้
ไม่คิดว่ามาก่อนว่าเมื่อผ่านมาอีกหลายสิบปี เขาจะได้ เห็นมันอีกครัง้ ! เขาคิดเกี่ยวกับเรื่ องนี ้แล้ ว
พูดกับทหาร “ส่งคําข้ าลงไปให้ ไท้ เฟิ งมาพบข้ า”
“ขอรับ ท่านจอมพล!”

ไท้ เฟิ งไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจอมพลฉินจะเรี ยกเขามาพบเป็ นการส่วนตัว มันคือการได้ รับ
เกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สดุ ของเขา! ในกรณีปกติทหารไม่ได้ มีคณ
ุ สมบัติที่จะพบท่านจอมพลฉิน
โดยตรง
แม้ วา่ เขาจะได้ ผ่านความเป็ นความตายมานับไม่ถ้วนหลากหลายสถานการณ์ แต่ทนั ทีที่เขาเห็น
จอมพล คลืน่ พลังอันหนักหน่วงบังคับให้ เขาต้ องคุกเข่า เขากล่าวด้ วยความเคารพ “ไท้ เฟิ ง ของ
แสดงความเคารพขอรับ ท่านจอมพล.”
“ยืนขึ ้น” ฉินเสี่ยวโบกมือ “ข้ าเรี ยกเจ้ ามาที่นี่เพื่อถามเจ้ าในบางคําถาม เจ้ าได้ ดาบของเจ้ ามา
จากไหน? ”
“ด้ วยความเคารพขอรับท่านจอมพล สามเดือนที่ผ่านมามันถูกนํามาจากศัตรูหลังจากการสู้รบ
ขอรับ”
“โอ้ ว? ให้ ข้าดูมนั หน่อย ”
“ขอรับ” ไท้ เฟิ งยกดาบของเสนอให้ กบั จอมพลฉิน ฉินเสี่ยวสะบัดนิ ้วบนใบดาบเป็ นเสียงที่
ชัดเจนดังขึ ้นในอากาศ ข้ าว่ามันต้ องแตกหักมาเป็ นนานแล้ วแน่นอน
ดาบเป็ นสิง่ ที่ดี แต่มนั ก็เสียหาย!
ฉินเสี่ยวส่งดาบให้ กบั มูย่ ี่
มูย่ ี่ถือดาบไว้ ในมือและเพ่งสายตาของเขาไปยังรอยสลักเปลวไฟ เขาเอื ้อมมือออกมาและสัมผัส
กับจารึก เขาปิ ดตาของเขาลงในขณะที่พยายามรับรู้ถงึ แรงจิตวิญญาณ
มูย่ ี่ยงั คงนิ่งอยูเ่ ป็ นเวลานาน เขาไม่ได้ เอ่ยคําได้ ออกมาแม้ แต่คําเดียว แต่ฉินเสี่ยวเองรอคอย
อย่างอดทน
หลังจากช่วงเวลาผ่านไปได้ ซกั พัก ในที่สดุ มูย่ ี่ก็เปิ ดตาของเขา เขาหันไปและให้ ฉินชิงหวนถือมัน
ไว้ ถึงมันเป็ นไปไม่ได้ สําหรับเธอที่จะบอกอะไรจากมันได้ แต่เขาก็อยากให้ เธอลองรู้สกึ ถึงการ
ทํางานของจารึกที่ถกู วาดปรมาจารย์ผ้ นู ี ้
ฉินชิงหวนถือดาบไว้ แน่นและบังคับใช้ จิตวิญญาณของเธอจมลงไปในรอยเปลวไฟที่สลักลงบน
ดาบ เธอเป็ นที่มงุ่ เน้ นเพ่งสมาธิคิ ้วคู้ที่งามของเธอขมวดลงช้ า
“มันเป็ นไปอย่างไร” มูย่ ี่ ถามฉินชิงหวน
ฉินชิงหวน ตอบว่า “ด้ วยพรสวรรค์ความรู้ในการจารึกของชิงหวนยังไม่สงู พอ ข้ ารู้สกึ เพียงว่า
มันเป็ นรูปแบบของจารึกลึกลับซับซ้ อนยากที่จะเข้ าใจและผู้วาดมันขึ ้นมาต้ องเป็ นปรมาจารย์ที่
เก่าแก่และเก่งกล้ า”
มูย่ ี่กล่าวขึ ้น “มันเป็ นเรื่ องปกติที่เจ้ าจะไม่สามารถเข้ าใจมันได้ หลังจากที่จารึกเสร็ จสมบูรณ์
อาคมนันจะถู้ กซ่อนอยูใ่ นไว้ สมบัติ มันเป็ นเรื่ องยากที่จะสัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคําจารึกที่
ลึกลับและซับซ้ อนชิ ้นนี ้ มันเรื่ องที่น่าตกใจ บางทีหากข้ ารู้วา่ เขาได้ มนั มาจากไหน ข้ าอาจพบ
ความลับมากขึ ้น”
หลังจากมูย่ ี่ กล่าววเช่นนัน้ ไท้ เฟิ งกล่าวตอบโดยทันที “ด้ วยความเคารพขอรับท่านจอมพล ข้ า
ไท้ เฟิ งซื ้อแผ่นจารึกนี ้ที่ร้านค้ าแห่งหนึง่ มันมีทงหมดเพี
ั้ ยงสองแผ่น แต่ที่น่าเสียใจที่ข้าซื ้อหนึง่ ใน
นันมาแล้
้ ้ ”
ว ถ้ าท่านมูยี่ต้องการณ์ ข้ าสามารถพาท่านไปร้ านค้ าแห่งนันได้
“หืมมม? ฉินเสี่ยวตกใจ “เจ้ าซื ้อจารึกนี ้มารึ? มันไม่ได้ มีอยูใ่ นดาบแต่แรกหรอกรึ? ”
“ใช่ขอรับ ข้ าวางมันในดาบ เมื่อวานนี ้เอง ”
เมื่อมูย่ ี่ ได้ ยินถ้ อยคํานันจาก
้ ไท้ เฟิ ง เขาตื่นเต้ นขึ ้นมาทันที เขาถามว่า “เจ้ าซื ้อมันจากที่แห่ง
ใด?”
“ร้ านค้ าเล็กๆ ย่านการค้ ากลางเมือง”
“ร้ านค้ ากลางเมือง?” มูย่ ี่ชะงักชัว่ คราว สินค้ าที่ขายในร้ านค้ ากลางเมืองมีราคาไม่ควร200
เหรี ยญทอง วิธีใดที่พวกเขาจะขายแผ่นจารึกที่ทรงพลังอย่างนี ้ในที่แห่งนันได้ ้ อย่างไร แล้ วไท้ เฟิ ง
มีเงินทองพอจะซื ้อมันด้ วยอย่างนันรึ ้
ดังนัน้ มูย่ ี่ กล่าวถามข้ อสงสัยบางอย่าง “เท่าที่ข้ารู้มาครอบครัวของเจ้ าเป็ นเพียงปุถชุ นธรรมดา
พวกเจ้ าไม่นา่ มีเงินทองมาพอจะซื ้อจารึกราคาแพงนี ้ได้ มิใช่รึ? ”
ผูกฮลังเลเล็กน้ อยแล้ วกล่าวตามความเป็ นจริ ง “มัน… ในเวลาที่ข้าซื ้อมัน มันถูกติดราคาไว้
้ ”
เพียง 100 เหรี ยญทอง ข้ าจ่ายเพื่อมันไปแค่เพียงเท่านัน…
“หนึง่ ร้ อ… เท่าไหร่นะ?” ดวงตาของมูย่ ี่เบิกกว้ างขึ ้นอย่างกับจาน “เหนึง่ ร้ อยเหรี ยญทอง
รึ!!!!!!? แผ่นจารึกนี ้ราคา 100 เหรี ยญ ทอง!?!? “

บทที่ 21 จารึกของเด็กฝึ กงานรึ?


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ไท้ เฟิ งไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่ามูย่ ี่จะอึง่ ตกตะลึงถึงเพียงนัน้ เขากล่าวว่า “ใช่ขอรับมันมีราคา
100 เหรี ยญทอง ที่ร้านค้ าย่านการค้ ากลางเมือง เจ้ าของร้ านบอกว่าเป็ นเด็กฝึ กงานที่ทําให้ วาด
มันขึ ้น… ”
“เด็กฝึ กงาน ?! เด็กนรกล่ะสิ! “มูย่ ี่ร้ ูสกึ ประหลาดใจและอุทานออกมา แต่ก็คิดว่านี ้เป็ นไป
ไม่ได้ ที่เด็กฝึ กงานจะวาดจารึกระดับนี ้ได้ มันควรจะเป็ นเจ้ าของร้ านที่เข้ าใจผิดพลาด แต่ใครที่
มันเป็ นคนโง่และยอมขายมันด้ วยราคาเพียงไม่กี่เหรี ยญทองเช่นนี ้ จริ งๆหากคํานึงถึงความ
ยุตธิ รรมแล้ ว แม้ มนั จะมีมลู ค่าหลายพันเหรี ยญทอง มันก็ยงั ถูกแย่งซื ้ออย่างรวดเร็วเช่น
กะหลํ่าปลี
“นําข้ าไปสถานที่แห่งนัน!”

“ขอรับท่าน”
จากนันมู
้ ย่ ี่พาฉินชิงหวนไปพร้ อมกับเขาในทิศทางที่ไท้ เฟิ งนําไป พวกเขารถม้ าที่ลากด้ วยม้ าตรง
ไปยังกลางเมือง
รถม้ าแห่งของวงศ์ตะกูลฉินอาจจะไม่เป็ นที่ร้ ูจกั สําหรับทุกคนในเมืองลิขิตฟ้า แต่มนั ก็ได้ รับการ
ยอมรับมากในส่วนมาก ในฐานะที่พวกเขาเดินอยูบ่ นถนน พวกเขาต่างหยุดเท้ าเพื่อที่จะดูรถม้ า
และยืนอยูน่ ิ่งๆขณะที่รถม้ าขับผ่านไป นี ้คือการแสดงความเคารพต่อจอมพลฉิน

เวลาบ่ายในช่วงฤดูร้อนที่สดใส มันทําให้ หลายๆคนรู้สกึ ถึงความเกียจคร้ าน มันทําให้ ทงร่
ั ้ างกาย
ของเราอ่อนแอและไม่สนใจใยดีตอ่ การทํางาน (สภาพแวดล้ อมรอบตัวน้ องไข่เป็ นฤดูนี ้ทังปี ้ )
ในศูนย์การซื ้อขายจัตรุ ัสของเมือง เจ้ าของร้ านตัวอ้ วนที่รับฝากขายแผ่นจารึกจากหลินหมิง เขา
นัง่ อยูบ่ นเก้ าอี ้โยกที่ทางเข้ าหน้ าร้ าน เขานอนลงในท่าที่สบายคล้ ายจะไม่มีทางตื่นขึ ้นมาได้ อีก
เขากําลังอยูใ่ นระหว่างการนอนหลับกลางวัน
ธุรกิจวันนี ้ซบเซามาก ดังนันคนอ้
้ วนอย่างเขาจึงยิ่งแสดงความขี ้เกียจมากขึ ้นอีก แต่ในขณะนี ้
เขาได้ ยินเสียงจังหวะก้ าวเท้ าชัดเขารี บตื่นขึ ้นมาในทันที
เขาค่อยๆเปิ ดตาของเขาและประณามความคิดของคนเหล่านี ้ พวกเขาไม่ร้ ูหรื ออย่างไรว่ารถม้ า
ไม่ได้ รับอนุญาตให้ ใช้ ในย่านกลางเมือง?
อย่างไรก็ตามในขณะที่หนั ไปทางเสียงฝี เท้ า(ฝี เท้ าม้ า)ที่ก้าวเข้ ามา เขาเห็นสังเกตเห็นม้ าหิมะ
ขาวทังสี
้ ่ สายพันธุ์ของมันแสดงความสูงส่งของสายเลือดวงศ์ตระกูลของผู้เป็ นเจ้ าของ และยังมี
เป็ นสัญลักษณ์รูปโล่ทอง เขาตะลึงจนแทบจะตกออกจากเก้ าอี ้ของเขา
” ม้ าดึงรถม้ าของท่านจอมพล”
เจ้ าของร้ านตัวหนักรี บยืนขึ ้น ทําไมท่านจอมพลถึงมาในเมือง มาในตลาดกลางเมืองเช่นนี ้ ?
เขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่ องนี ้ แต่แล้ วก็ต้องประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม เป็ นรถม้ าพาหนะที่วิ่งมาอย่าง
รวดเร็ ว และได้ มาหยุดอยูห่ น้ าประตูทางเข้ าของร้ านเขา พระเจ้ าร้ านของข้ า … นี่เรื่ องอะไร …
ท่านจอมพลจะมาในร้ านของเขา?
เมื่อม่านของรถม้ าถูกยกขึ ้น เจ้ าของร้ านร้ างอ้ วนเห็นชายชราและเด็กสาวที่งดงามก้ าวออกมา
ขาของเขาเริ่มสัน่ ท่านมูย่ ี่!!! แม่นางน้ อยฉิน!!! สาเหตุที่บคุ คลที่มีชื่อเสียงเป็ นที่ร้ ูจกั ไปทัว่ ทัง้
เมืองตัดสินใจที่จะที่ร้านเล็กๆของเขา?
“นี่มนั อย่างนันรึ
้ ?” ฉินชิงหวนถามไท้ เฟิ ง เมื่อเธอได้ ยินว่ามีแผ่นจารึกขายที่นี่ เธอเต็มไปด้ วย
ความตื่นเต้ น ฉินชิงหวน มีความสนใจอย่างมากในการจารึกตังแต่ ้ วยั เด็กและหลังจากที่ได้ เห็น
การต่อสู้ของไท้ เฟิ งและหลี่ฉี เธอปรารถนาที่จะเรี ยนรู้เทคนิคการจารึกระดับนัน!้
“มันคือที่แห่งนี ้ ที่ข้าซื ้อแผ่นจารึกมา” ไท้ เฟิ งกล่าวในขณะที่เขาเดินนําไปด้ านหน้ า ร่วมกับฉิน
ชิงหวนและมูย่ ี่ พวกเขาเข้ ามาในร้ าน
เจ้ าของร้ านมีร่างกายเหมือนลูกชิ ้นยักษ์ เขาพยายามยืนหลบทางตัวติดอยูก่ บั ฝาผนัง เขาไม่
กล้ าแม้ แต่จะหายใจ บรรยากาศเช่นเดียวกับอยูต่ อ่ หน้ าแขกผู้มีเกียรติทงสอง
ั้
“เจ้ าของร้ านเมื่อวานนี ้ข้ าซื ้อแผ่นจารึกใดมา เจ้ าจํามันได้ หรื อไม่?”
ไท้ เฟิ งอยูใ่ นระดับห้ าของการฝึ กฝนกายภาพ นอกจากนี ้เขายังดูคล้ ายกับโกเล็มเหล็กยักษ์ ทัว่
ทังร่้ างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้ วยรอยแผลเป็ น เหมือนว่าสนามรบที่หา่ งไกลและอันตรายคือ
บ้ านของเขา ทําให้ เจ้ าของร้ านใจสัน่ ขึ ้นมาทันที
เจ้ าของร้ านรับพยักหน้ า “ข้ าจําได้ ข้ าจําได้ วา่ มันเป็ นแผ่นจารึกของเด็กฝึ กงานราคา 100
เหรี ยญทอง … ”
เจ้ าของร้ านร่างอ้ วนตอบอย่างกลัวว่าจะมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ ้นกับแผ่นจารึกที่เขาขายออกไป
ถ้ ามันมีปัญหาใดๆ แล้ วคนเหล่านี ้จะมาหาเขาเพื่ออะไร เขาคงต้ องถูกลงโทษถึงตายเป็ นแน่
Sh*T! เขาไม่ควรปล่อยให้ เด็กโง่เง่านันเช่
้ าจุดขายของเลย! แต่มนั ยังคงเป็ นเพียงแผ่นจารึก
จากเด็กฝึ กงานที่ขายอยูส่ ว่ นในระดับกลางของร้ าน เหตุใดเรื่ องนี ้ถึงไปเกี่ยวข้ องกับจอมพลฉิน
ได้ ?
“ข้ าได้ ยินว่าเจ้ ายังมีอีกแผ่นหนึง่ มันอยูไ่ หน?” มูย่ ี่ถามอย่างหงุดหงิด
เจ้ าของร้ านชี ้นิ ้วไปที่มมุ ๆหนึง่ ชิ ้นส่วนกระดาษสีเหลืองหยาบถูกกดอยูเ่ บื ้องหลังบานหน้ าต่าง
แก้ ว
มูย่ ี่คอ่ ยๆก้ าวไปที่ชนวางของและก็
ั้ มาถึงด้ านหน้ าของที่ที่ใช้ เก็บแผ่นจารึก เขายกแก้ วขึ ้นอย่าง
ระมัดระวังแล้ วหยิบแผ่นจารึกขึ ้นมาอย่างนิ่มนวลเหมือนลูกคนหนึง่ เขารู้สกึ ถึงความผันผวน
ของแรงดันจิตวิญญาณที่มาจากมัน แล้ วสูดลมหายใจเข้ าไปด้ วยอากาศที่เย็นเฉียบ ดวงตาของ
เขาเต็มไปด้ วยความสับสน!
“มันเป็ นอย่างไร ทานอาจารย์ ?” ฉินชิงหวนถามขณะที่เธอเดินเข้ าไป
“จารึกชิ ้นนี ้ … .” มูย่ ี่หายใจอีกสองสามครัง้ เพื่อให้ ตวั เองสงบลง แม้ ตวั เขาเองก็ไม่เชื่อในสิ่งที่
เขาพูดออกมา “ในจารึกนี ้ผู้สร้ างที่ทิ ้งพลังจิตวิญญาณเอาไว้ มีการฝึ กฝนกายภาพไม่เกินขันที
้ ่
สาม ทังยั ้ ”
้ งอาจจะตํ่ายิ่งกว่านัน!
(ประมาณว่าการฝึ กฝนจะแสดงถึงอายุของผู้จารึก เพราะตอนแรกจะมาฝึ กฝนกายภาพจนถึง
ขัน5ก่
้ อน เพื่อให้ มีพลังมากพอจะวางจารึกที่วาดลงในสมบัติอปุ กรณ์ได้ แล้ วจึงฝึ กจารึกทีหลัง
ที่ตะลึงเพราะอยูต่ ํ่ากว่าขันสามก็
้ เพราะรู้วา่ คนวาดมันเป็ นเด็ก)
ฉินชิงหวน รู้สกึ ตื่นเต้ นในหัวใจของเธอ เธอเอาแผ่นจารึกไปและตรวจสอบด้ วยแรงดันจิต
วิญญาณของเธอ มันเป็ นตามที่อาจารย์ของเธอกล่าว!
เมื่อไท้ เฟิ งได้ กล่าวว่าแผ่นจารึกผลงานของเด็กฝึ กงาน ฉินชิงหวนไม่เชื่อว่ามันจะเป็ นไปได้ และ
สันนิษฐานว่าเขาคงถูกหลอก แต่ตอนนี ้เธอได้ ข้อพิสจู น์แล้ วว่ามันเป็ นเช่นนัน้ … ไม่น่าเชื่อ!
เธอกล่าวว่า “มันเป็ นไปได้ วา่ ผู้จารึกจงใจ ลดระดับพลังความแข็งแกร่งที่แท้ จริ งของตนให้ อยูใ่ น
ระดับที่สามของการฝึ กฝนกายภาพเพื่อวาดจารึก ??
มูย่ ี่ ตอบ “ช่วงของขันผสานชี
้ พจร กับระดับปราณฟ้าขันต้ ้ น มีช่องว่างความแตกต่างกันอย่าง
สิ ้นเชิง ไม่เพียงแต่มนั เป็ นเรื่ องยากอย่างล้ นพ้ นที่ลดหลัน่ ระดับลงมา แต่มนั ยังอาจก่อให้ เกิด
อันตรายต่อตัวเอง และมันยังไม่มีความจําเป็ นหรื อผลประโยชน์อนั ใดที่จะทําเช่นนัน้ ทังยั ้ งจะ
ลดคุณภาพของจารึกลงไปอีก ข้ าไม่สามารถเข้ าใจความคิดของปรมาจารย์ผ้ ทู ี่สร้ างมันได้ เลย
จริ งๆ ”
เจ้ าของร้ านตัวอ้ วนฟั งทังสองหารื
้ อเกี่ยวกับจารึกและรู้สกึ ว่าสมองจะลัดวงจร เกิดความรู้สกึ ที่
ขัดแย้ งกัน เดิมทีเขาคิดว่าจารึกต้ องมีข้อบกพร่องบางอย่างพวกเขาถึงมาที่ร้านเช่นนี ้ แต่เมื่อฟั ง
ทังสองแล้
้ ว จารึกมีความลับบางอย่างให้ พวกเขามาเพื่อตรวจสอบมันด้ วยตัวเอง
นัน่ คือท่านมูย่ ี่! เขาเป็ นถึงหนึง่ ในสามอันดับแรกของนักจารึกที่เก่งกาจแห่งอาณาจักรลิขิตฟ้า!
แม้ แต่เขาก็ยงั ตกใจในความแข็งแกร่งของจารึกชิ ้นนี ้ มันหมายความว่าอย่างไร
เจ้ าของร้ านตัวอ้ วนรู้สกึ เสียใจแทบปางตาย ถ้ าเขารู้เรื่ องนี ้เขาคงไม่มีทางขายมันในราคาตํ่า
แต่ … มันถูกวาดโดยเยาวชนที่แต่ตวั โทรมๆ เหตุใดมันถึงได้ วาดจารึกที่รุนแรงร้ ายกาจเช่นนี ้
ออกมา?
“เจ้ าของร้ าน เจ้ าจําสิ่งใดเกี่ยวกับผู้นํามันมาฝากขายได้ บ้างหรื อไม่?”
“ใช่ ใช่ แน่นอนข้ าจํามันได้ ” เจ้ าอ้ วนรี บพยักหน้ า “เขาเป็ นเด็กหนุ่มอายุประมาณสิบห้ าหรื อ
สิบหกปี แต่งตังในชุดเสื ้อผ้ าธรรมดาและข้ ายังมีที่อยูข่ องเขาด้ วย” (แม่งไม่หวั การค้ าเล๊ ย เป็ นส
แคร็ ทนะ จะไปเหมามาขายเองไม่บอกใครหรอก หึห)ึ
ในฐานะที่เป็ นคนอ้ วนกล่าวว่าเรื่ องนี ้เขาได้ อย่างรวดเร็ วเริ่ มพลิกผ่านหนังสือของเขาของ
ระเบียน ศูนย์กลางการค้ ามักจะเก็บไว้ จดุ ของการติดต่อเพื่อให้ พวกเขาสามารถส่งมอบ
ยอดขายของคณะกรรมการ
เด็กอายุ 15-16 ปี … เร็ วที่สดุ เท่าที่ฉินชิงหวนได้ ยินเช่นนัน้ ความคิดแรกของเธอคือหลินหมิง
เด็กหนุ่มที่มีความน่าประทับใจจากเธออย่างมากที่หน่วยพิณ มันน่าจะเป็ นเขา?
การฝึ กฝนกายภาพระดับที่สามหรื อตํ่ากว่า … นักจารึกฝึ กงาน … ทังหมดนี่ … คือ … มันต้ อง
เป็ นเขาแน่?
ตระหนักถึงความเป็ นไปได้ ฉินชิงหวนรู้สกึ สัน่ ในหัวใจของเธอ ถ้ ามันเป็ นความจริ งแล้ ว
‘อัจฉริ ยะ’ ยังไม่เพียงพอที่จะยกย่องให้ เขา เขาคนนันอาจถู
้ กกล่าวขาลด้ วยตํานานอันยิ่งใหญ่
ผู้ซงึ่ มีพรสวรรค์ไร้ ขีดจํากัด!!!
เจ้ าของร้ านตัวอ้ วนก็สนั่ อย่างรุกรี ร้ ุกรนในขณะที่เขารี บวิ่งไปหาที่อยู่ เขามองไปที่ที่อยูข่ องเด็ก
หนุ่ม และพูดอย่างติดอ่างว่า “ศะ … ศาลาจันทร์ กระจ่าง เด็กคนนันอาศั
้ ยอยูท่ ี่ศาลาจันทร์
้ ”
กระจ่าง เขาเขียนไว้ เช่นนันลง
“ศาลาจันทร์ กระจ่างรึ? รี บไปกันได้ แล้ ว “มูย่ ี่กล่าว
ทันทีที่พวกเขาขึ ้นรถม้ า ฉินชิงหวนกล่าวด้ วยความกังวลบางอย่าง “ที่อยูน่ ี ้ถูกทิ ้งไว้ แล้ วแปด
วันที่ผ่านมา ข้ าไม่ทราบว่าเขาจะยังคงพักอยูท่ ี่ศาลาจันทร์ กระจ่างอีกหรื อไม่ ผู้คนมักจะไม่ได้
อยูท่ ี่นนั่ นานเกินไป ”
ฉินชิงหวนสันนิษฐานว่าหลินหมิงเป็ นผู้เข้ าพักอยูท่ ี่นนั่ ศาลาจันทร์ กระจ่างเป็ นหนึง่ ใน
ร้ านอาหารที่หรูหราที่สดุ ของเมืองลิขิตฟ้า มันมีห้องโถงสําหรับจัดงานเลี ้ยงและห้ องพักจํานวน
มาก แต่ภายใต้ สถานการณ์ปกติมนั ก็เป็ นเพียงที่สาํ หรับการเข้ าพักชัว่ คราวเพียงเท่านัน้

บทที่ 22 แข็งแกร่งและประณีต
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



วันนี ้หลินหมิงฝึ กฝนการแร่เนื ้อด้ วยด้ านหลังที่ไร้ คมของมีด เขานําเงินครึ่งหนึง่ ที่ได้ จากขาย
จารึก92เหรี ยญทองไปใช้ ในการซื ้อยา ในตอนนี ้เมื่อเขาได้ ฝึกฝนมา เขาก็สามารถปล่อยหมัดลึก
ลงไปในต้ นไม้ เหล็กได้ ถงึ 7 นิ ้วในแต่ละหมัด พละกําลังของเขาคงไม่ตํ่าไปกว่า 1500 จิ๋น
แต่เขาก็ยงั ไม่ถงึ ขอบเขตชันเลิ
้ ศตามที่อธิบายไว้ ในตํารา‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ซึง่ แต่ละ
กําปั น้ จะรุนแรงและพลิ ้วไหวดัง่ แพรไหม มันเรี ยกว่า ‘ไหลลื่นดุจแพรไหม’ มันเป็ นการควบคุม
ความแรงของหมัด ทันทีที่เขาประสบความสําเร็ จนี ้ตามที่ได้ อธิบายไว้ ใน ‘จุดสูงสุดแห่งความ
โกลาหล’ แล้ ว ถ้ าเขาจะชกต่อยที่ต้นไม้ เหล็ก เปลือกนอกของมันจะไร้ รอยด่างพร้ อย แต่เนื ้อไม้
เหล็กภายในจะแตกออกเป็ นเสี่ยงๆ! หลินหมิงยังไปไม่ถงึ ขัน้ ‘ไหลลืน่ ดุจแพรไหม’
หลินหมิงดื่มซุปสมุนไพรและถอดเสื ้อของเขาออก เขาได้ ฝึกแร่เนื ้อเช่นนี ้ทุกวัน ด้ วยวิธีนี ้เขา
กําลังค่อยๆเริ่ มเข้ าใจวิธีการควบคุมความรุนแรงของเขา
ห้ องครัวร้ อนมากและด้ วยการใช้ ด้านหลังของมีดมันจึงต้ องใช้ พละกําลังเพิ่มขึ ้นหลายต่อหลาย
เท่า เขายังโคจรพลัง’ปฐมโกลาหล’ ในเวลาเดียวกับที่เขาตัดมัน เส้ นทางของเหงื่อไหลลงบน
ร่างกายของเขาไปทัว่ ในเวลานี ้เขาไม่ได้ ร้ ูเลยว่าการจารึกของเขาได้ ก่อให้ เกิดความโกลาหลที่
ครัง้ ยิ่งใหญ่ถงึ เพียงใด


“ท่านมูย่ ี่ แม่นางน้ อยฉิน สถานประกอบการของเรายินดีต้อนรับพวกท่าน หากท่านต้ องการที่
จะเข้ ามาพัก ทางเรามีที่พกั ส่วนตัวที่หรูหราเตรี ยมไว้ ให้ ทา่ นแล้ ว “พี่สาวลาน(แม่ครัว) ได้ รับ
ทราบข่าวล่วงหน้ าและมาที่ประตูทางเข้ าหลักเพื่อทักทายแขกที่นบั ถือ ในนามของศาลาจันทร์
กระจ่าง ซึง่ เป็ นสถานที่ซงึ่ มีร้านอาหารชันสู ้ งและห้ องพักพิเศษที่เตรี ยมไว้ สาํ หรับแขกผู้มีเกียรติ
และอื่น ๆ ที่ผ้ เู ข้ าพักต้ องการ แขกผู้มีเกียรติบางท่านมักจะไม่ชอบทานอาหารในภัตตาคาร
ดังนันเพื
้ ่อที่จะสร้ างสภาพแวดล้ อมที่สะดวกสบายมากขึ ้นสําหรับพวกเขา จึงที่มีห้องพักส่วนตัว
หลายห้ องเตรี ยมไว้ ให้ บริ การ
“เสี่ยวเหลียนไปเตรี ยมชาสีฟ้าฤดูใบไม้ ผลิที่ดีที่สดุ ที่เรามีและแจ้ งที่ห้องครัวเพื่อเตรี ยมความ
พร้ อมเป็ นให้ ดี นําอาหารที่ดีที่สดุ มาเสิร์ฟ “ศาลาจันทร์ กระจ่างมักจะสร้ างความประทับใจให้
แขกผู้มีเกียรติอีกมากมาย! มูย่ ี่และฉินชิงหวนเป็ นผู้มีชื่อเสียงทางสังคมพวกเขาเกี่ยวข้ องกับ
จอมพลฉินและพระราชวังจักรพรรดิ พวกเขาย่อมเชฟฝี มือยอดเยี่ยมอยูแ่ ล้ ว ไม่มีความจําเป็ นที่
พวกเขาจะมาเพื่อทานอาหารของที่นี่
ฉินชิงหวนกล่าว “สิ่งเหล่านัน่ ไม่จําเป็ นแต่อย่างใด อาจารย์และข้ ามาที่นี่เพื่อตามหาใครบาง
คน.”
“โอ้ ? ใครกันที่ทําให้ พวกท่านทังสองต้
้ องออกมาตามหาด้ วยตัวเองเช่นนี ้?”
“ข้ าได้ ยินว่ามีเด็กอายุราวๆ 15-16 ปี อาศัยอยูท่ ี่นี่ ความสูงของเขาเท่าๆข้ า และชื่อตระกูลของ
เขาคือหลิน “ฉินชิงหวนกล่าวถามหาหลินหมิง มันเป็ นเรื่ องธรรมดาที่ห้องพักจะมีการ
ลงทะเบียนด้ วยชื่อตระกูลเพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่นนายหลิน ฉิน ชิงหวนเดาว่าหลินหมิง
ก็อาจจะอาจารย์ของเขาถ้ าเป็ นเช่นนันการลงทะเบี
้ ยนอาจไม่อยูภ่ ายใต้ ชื่อหลิน
“สิบห้ าหรื อสิบหกปี … .” พี่สาวลานคิดเกี่ยวกับเรื่ องนี ้แล้ วถามเสี่ยวเหลียน “มีชายหนุ่ม
้ ค่ นที่นี่หรือไม่?”
ลักษณะนันอยู
เสี่ยวเหลียนส่ายหัวของเธอและกล่าวว่า “ข้ าจําไม่ได้ แต่ข้าจะตรวจสอบสมุดบันทึกดู”
หลังจากที่เสีย่ วเหลียนจากไป พี่สาวลานไปต้ องรับชิงหวนและมูย่ ี่ ขณะที่พวกเขานัง่ ลงคุยกันได้
ไม่นาน เสี่ยวเหลียนกลับมาและกล่าวว่า “ข้ าตรวจสอบหนังสือบันทึกและไม่พบบันทึกของชาย
หนุ่มที่มาพักในเร็วๆนี ้เลย”
ศาลาจันทร์ กระจ่างเป็ นสถานประกอบการที่มีลกู ค้ าส่วนใหญ่เป็ นผู้เชี่ยวชาญและผู้มีชื่อเสียง
พวกเขามักจะมีอายุมาก แทนจะไม่มีเด็กหนุ่มมาพักในแห่งนี ้
มูย่ ี่ขมวดคิ ้วและกล่าวว่า “ไม่ได้ อยูใ่ นช่วงสิบวันนี ้รึ? เป็ นไปได้ อย่างไร? แปดวันที่ผ่านมาชาย
้ งอยูท่ ี่ศาลาจันทร์ กระจ่างอยูเ่ ลย ”
หนุ่มคนนันยั
พี่สาวลานกล่าวอย่างจริ งจังว่า “ศาลาจันทร์ กระจ่างไม่ได้ มีเหล่าหนุ่มสาวผู้เยาว์มาพักมากนัก
บางทีถ้าท่านกําลังมองหาคนที่มีสกุลหลิน ยังมีอกี หนึง่ คนและมาทํางานในครัวที่นี ้ตังแต่
้ หลาย
เดือนที่แล้ ว แต่ทว่า… เขาคงไม่ใช่คนที่แม่นางน้ อยฉินกําลังตามหา ”
พี่สาวลานคิดว่าฉินชิงหวนและท่านมูย่ ี่ จะตามหาเด็กลูกชนชันสู
้ ง แม้ วา่ หลินหมิงจะมีเรื่ องราว
ที่น่าสนใจในห้ องครัว แต่ภมู ิหลังของตระกูลของเขาธรรมดาสามัญอย่างยิ่ง และการฝึ กฝน
กายภาพของเขาก็ไม่ได้ สงู เขาไม่ควรจะได้ มีการติดต่อใดๆกับจอมพลฉิน
“ทํางานในครัว?” ฉินชิงหวน ถามอย่างประหลาดใจ
“เขาเป็ นผู้แร่เนื ้อ… เขาเป็ นเด็กหนุ่มที่มีความรับผิดชอบมาก… มันเป็ นผลงานที่ยอดเยี่ยม”
พี่สาวลานเห็นฉินชิงหวนไม่ร้ ูจกั ว่าอาชีพแร่เนื ้อเป็ นอย่างไร พี่สาวลานจึงอธิบายให้ เธอ
“หัน่ เนื ้อ? เป็ นไปไม่ได้ “มูย่ ี่ได้ ยินมันและไม่ได้ สร้ างความหวังใดๆให้ แก่เขา ปรมาจารย์ยอด
นักจารึกที่นา่ นับถือเป็ นเครื่ องตัดเนื ้อ?(@แปลท่อนนี ้ไปขําไป 555)
แต่ฉินชิงหวนไม่ได้ สนใจถึงเรื่ องนัน้ เธอถามรายละเอียดเพิ่มเติม “เขามีชื่อเต็มว่าอย่างไร ?”
“ข้ าไม่แน่ใจเท่าไหร่ เขาเป็ นคนพูดน้ อย เรารู้เพียงว่าชื่อตระกูลของเขาคือหลิน เขาควรจะ
ทํางานในห้ องครัวในขณะนี ้ พวกท่านต้ องการที่จะไปดูหรื อไม่? ”
“แน่นอน นําไปเลย “ฉินชิงหวนพยักหน้ าขณะที่เธอลุกขึ ้นยืน
พวกเขาเดินตามพี่สาวลานไป และมาถึงที่ห้องครัวของศาลาจันทร์ กระจ่าง เมื่อเปิ ดประตูฉินชิง
หวน รู้สกึ ถึงคลื่นอากาศร้ อนอบอ้ าวและไอนํ ้ารอบๆตัวเธอ มันเหมือนช่วงปลายฤดูร้อนที่บวก
กับความร้ อนจากห้ องครัว เป็ นความร้ อนที่ยากจะทนได้
ฉินชิงหวนโคจรแรงจิตวิญญาณของเธอและปล่อยมันกระจัดกระจายไปรอบๆ และเข้ าห้ องครัว
ไปพร้ อมกับพี่สาวลาน เหล่าเชฟในครัวต่างมองพวกเขาด้ วยความประหลาดใจ บางส่วน
ระหว่างขากรรไกรของหนุ่มๆเกือบจะยืดลงถึงพื ้น
ศาลาจันทร์ กระจ่างมีแขกผู้มีเกียรติจํานวนมากเข้ าออกเป็ นประจํา เหล่าบริกรและพ่อครัวที่มี
ประสบการณ์ความรู้ยอ่ มต้ องรู้จกั คนสําคัญเหล่านี ้ พวกเขารู้จกั ฉินชิงหวนดีและไม่เชื่อใน
สายตาของพวกเขา ทังเมื้ องลิขิตฟ้าไม่มีใครที่ไม่เคยได้ ยินชื่อของเธอและเรื่ องราวความรู้
ความสามารถที่โดดเด่นของเธอ ทําไมเธอเข้ ามาในห้ องครัวของศาลาจันทร์ กระจ่าง?
ในที่สดุ พี่สาวลานก็หยุดและชี ้ไปที่ห้องๆหนึง่ ที่มมุ ของห้ องครัว “เขาควรจะอยูท่ ี่นนั่ … ”
ห้ องครัวของศาลาจันทร์ กระจ่างมีขนาดใหญ่มากแต่หลินหมิงทํางานอยูใ่ นห้ องแร่เนื ้อเล็กๆของ
เขา เขาจะหัน่ เนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายที่นี่แล้ วส่งเข้ าไปแช่ต้ เู ย็นสําหรับการเก็บรักษา
ประตูคอ่ ยๆเปิ ดออก ฉินชิงหวนจ้ องมองเข้ ามาภายใน เธอได้ เห็นเด็กหนุ่มสวมเพียงกางเกงสี
เขียว กล้ ามเนื ้อบนหลังของเขาไร้ เสื ้อผ้ าอาภรใดปกคลุม เขาก็ถือมีดแร่เนื ้ออยูใ่ นขณะที่เขา
กําลังตัดลงไปบนเนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายที่แข็งดุจหิน
เด็กหนุ่มกําลังเผชิญหน้ ากับฉินชิงหวน มองที่ด้านหลังของชายหนุ่มที่มีกล้ ามเนื ้อสมมาตรและ
พอดีเหมาะสมกลับผิวสีแทนจากแสงแดด แสดงให้ เห็นถึงสุขภาพที่ดีจากการออกกําลังกาย
บางทีมนั อาจจะเป็ นเพราะความร้ อนในห้ องครัวหรื ออาจเพราะเขาทํางานหนักมาก แต่เขากลับ
ถูกปกคลุมไปทัว่ ร่างด้ วยเหงื่อและส่อให้ เห็นถึงความรู้สกึ ที่น่ากลัวของความแข็งแก่รง
เขาคือหลินหมิง?
ฉินชิงหวนไม่แน่ใจดังนันเธอจึ
้ งเดินเข้ ามาอีกหลายก้ าว เธอสังเกตรายละเอียดของชายหนุ่ม เขา
มีใบหน้ าของหนุ่มอายุราว15ปี อ่อนโยนด้ วยและเด็ดเดี่ยว แม้ จะไม่เห็นได้ ชดั แต่มองอีกไม่นาน
มันก็ทําให้ หวั ใจเต้ นระรัวและก่อให้ เกิดความรู้สกึ น่าจดจําไม่ร้ ูลืม
แม้ วา่ เธอจะเห็นเพียงมุมเล็กๆของเขา ฉินชิงหวนยอมรับว่ารูปลักษณ์ที่เห็นมันก็เริ่ มที่ซ้อนทับ
กับภาพของหลินหมิงในหน่วยพิณ ไม่ร้ ูทําไม แต่มนั เกิดขึ ้นในใจของเธอ ความตื่นเต้ นและ
อาการหน้ าแดงที่แสดงถึงความเขินอายเล็กๆ
เธอไม่เคยจิตนาการถึงฉากตรงหน้ าของเธอมาก่อน การจารึกที่ยอดเยี่ยมจําเป็ นต้ องใช้ การ
ควบคุมที่ดีของแรงดันจิตวิญญาณและความละเอียดอ่อน มันเป็ นเช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนี ้ที่
สร้ างความประณีตลงบนเนื ้อสัตว์? สองสิ่งนี ้เป็ นความคิดที่ขดั แย้ งกันอย่างสมบูรณ์แต่ปรากฏ
ในคนคนเดียวกัน ความประณีตอันละเอียดอ่อนที่ออ่ ยโยนและความแข็งแก่รงที่เรี ยบง่ายพลิ ้ว
ไหวไหลลื่น แสดงถึงสิ่งที่ตรงกันข้ ามกันอยู่ ทําให้ หวั ใจของเธอเกิดความรู้ สกึ สงบมีสมาธิ
ในขณะนี ้หลินหมิงมองไปรอบๆ ในห้ องครัวที่มีหลายๆคนที่ผา่ นมาและเมื่อหลินหมิงฝึ กฝนเขา
มักจะไม่สนใจสภาพแวดล้ อมของเขา แต่เขารู้สกึ ว่ามีบางสิ่งที่แตกต่างจากปกติ มันอาจจะ
เป็ นไปได้ วา่ บางคนมาหาเขา
ทันทีที่เขาเห็นว่าคนๆนันคื
้ อฉินชิงหวน เขาหยุดชะงักชัว่ คราว ฉินชิงหวน!!! เธอมาศาลาจันทร์
กระจ่างทําไม? มาหาเขา?
ฉินชิงหวนสังเกตเห็นมีดที่ธรรมดาทัว่ ไปในมือหลินหมิง มันด้ วยกว่ามีดแร่ เนื ้อทัว่ ๆไปเสียอีก แต่
สิ่งที่ฉินชิงหวนประหลาดใจยิ่งกว่านันคื
้ อการที่หลินหมิงใช้ ด้านหลังของมีดในการตัดเนื ้อ นี ้.. นี ้
เป็ นเรื่ องจริ ง …
สายตาของเธอหันไปมองชิ ้นส่วนของเนื ้อสัตว์ที่หลินหมิงได้ หนั่ บางๆเอาไว้ มันมีความ
สอดคล้ องเรียบคนเป็ นระเบียบเรี ยบร้ อย พวกมันเหล่านี ้ถูกแร่โดยใช้ ด้านหลังของมีด?
“แม่นางฉิน ท่านกําลังตามหาข้ ารึ ” หลินหมิงถาม เขาเห็นมูย่ ี่ ที่อยูด่ ้ านหลังและหัวใจของเขา
หดตัว ชายชราคนนี ้ทําให้ เขารู้สกึ ถึงความแข็งแก่รง แน่นอนว่าภูมิหลังของเขาก็น่าจะยอดนักสู้
ที่มีการฝึ กฝนกายภาพไปถึงขันผสานชี
้ พจรหรื อแม้ กระทัง่ จะก้ าวไปถึงในระดับปราณฟ้าก็ยงั
เป็ นเรื่ องที่เป็ นไปได้ !
“เจ้ าเด็กตัวน้ อย เจ้ าคือหลินหมิง?” ชายชราถามหลินหมิงด้ วยรอยยิ ้มบนใบหน้ าของเขา
หลินหมิงพยักหน้ า เขาไม่สามารถปกปิ ดอะไรได้ จากอาจารย์ผ้ เู ชี่ยวชาญระดับนี ้ เขาเดาว่ามัน
เป็ นเพราะการขายแผ่นจารึกถูกให้ ความสนใจจากชายชรา แม้ วา่ เขาจะเคยคิดอยูแ่ ล้ วว่า
สัญลักษณ์จารึกจะต้ องได้ รับความสนใจจากใครสักคน แต่เขาไม่ได้ คิดว่ามันจะเกิดขึ ้นได้ เร็ วถึง
เพียงนี ้
เหตุการณ์นี ้อาจจะเป็ นโชคดี แต่มนั ก็อาจจะเป็ นหายนะเช่นกัน ถ้ ามันเป็ นโชคดีแล้ วราคาจารึก
ของเขาจะดีดตัวสูงขึ ้นอย่างมิอาจประเมินได้ และเขาจะสามารถที่จะหาซื ้อยาโอสถหายาก
บางอย่างเพื่อการฝึ กฝน แต่ถ้ามันเป็ นภัยพิบตั ิแล้ วเขาจะเป็ นเช่นกวางที่ถกู ตามล่าและฆ่าเพื่อ
แย่เอาเขาของมัน แม้ หลินหมิงมีความสามารถในการปกป้องตัวเอง แต่เหตุการณ์ที่เลวร้ ายที่สดุ
ก็เขาอาจถูกกักขังและบังคับให้ สร้ างจารึกตลอดทังวั
้ น
ก่อนที่หลินหมิงจะลงประมูล เขาเคยคิดถึงเรื่ องเหล่านี ้ เขามีความคิดที่จะปลอมตัวและจารึก
ของเขา แต่เขาไม่ได้ ร้ ูทกั ษะลึกซึ ้งใดๆที่จะทําเช่นนันได้
้ และยิ่งกว่านันด้
้ วยอายุเพียงสิบห้ าปี ของ
เขาเป็ นเรื่ องยากที่จะปกปิ ดตัวตนไว้ ได้
ไม่ช้าก็เร็ วทักษะการจารึกของเขาจะได้ รับความสนใจและมีกองกําลังหลักมาตามตัวเขา เขา
เป็ นเพียงเด็กหนุ่มมีการฝึ กฝนกายภาพเพียงขันแรกและมี
้ วงศ์ตระกูลที่ธรรมดาทัว่ ไป เขาใช้ วิธี
สินค้ าราคาถูกเพื่อปิ ดบังตัวเองจากมหาอํานาจเหล่านี ้ จริ งๆแล้ วมันก็ไม่แตกต่างจากเรื่ องไร้
สาระปั ญญาอ่อน
ดังนันหลิ
้ นหมิงจึงไม่ได้ วางแผนหลบหนีเอาไว้ แต่เขามีความคิดในอีกหนทางที่แตกต่างกัน

บทที่ 23 ระดับปราณปลายฟ้า
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ชี ้แจงหน่อยนะ เรื่ องระดับพลัง การฝึ กฝนกายภาพขันผสานชี
้ พจร(ขัน6)>>ปราณฟ
้ ้ น>>
้ าขันต้
ปราณปลายฟ้าแต่เดิมใช้ คําว่าปราณฟ้าขันปลาย้ รู้สกึ ว่ามันไม่ลื่นไหลเท่าไหร ของใช้ ปราณ
ปลายฟ้าแทน



หลินหมิงรู้วา่ มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะปกปิ ดว่าเขาเป็ นใคร เขาจึงตัดสินใจว่าเขาจะปั น้ ตัวแทน
ปรมาจารย์ตนเขาขึ ้นมา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกข่มขูแ่ ละปั ญหาต่างๆ
การจารึกเป็ นเรื่ องที่เป็ นไปไม่ได้ ที่จะฝึ กฝนด้ วยตันเอง ยิ่งสําหรับเด็กหนุ่มสาววัยเยาว์แล้ วยิ่ง
เป็ นไปไม่ได้ หลินหมิงจึง สร้ างตัวละครของอาจารย์ของเขาขึ ้นมา แม้ วา่ ตัวละครตัวนี ้จะไม่ได้ มี
อยูจ่ ริ ง
แน่นอนว่ามันมีความเสีย่ ง ในโลกมีคนบ้ าจํานวนมากที่จะไม่สนใจการดํารงอยูข่ องบุคคล
ดังกล่าว หากหลินหมิงพบกับคนเช่นนัน้ เขาจะตกอยูใ่ นอันตราย
แต่หลินหมิงก็ต้องยอมรับ ความเสี่ยงดังกล่าว เขาเลือกเผชิญหน้ ากับพวกเขา เขาเองก็ได้ รับ
การฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้มา เขาควรจะยอมแพ้ และหวาดกลัวปั ญหาเหล่านี ้หรื อ? ถ้ าเขาเกิด
ความกลัวแล้ ว มันจะเป็ นไปไม่ได้ เลยที่จะก้ าวไปถึงจุดสูงสุดของเส้ นทางการต่อสู้
มูย่ ี่เห็นหลินหมิงยืนเผชิญหน้ าไม่คิดจะหลบหนี เขาจึงกล่าวบอกกับทุกคนที่อยูข่ ้ างหลังเขา
“ออกไปก่อน”
ทุกคนได้ ออกจากห้ องเล็กๆนี ้ไปอย่างรวดเร็ ว รวมถึงไท้ เฟิ งเองก็ด้วย มีเพียงมูย่ ี่และฉินชิงหวน
ที่ยงั คงอยู่
มูย่ ี่โคจรแรงจิตวิญญาณของเขาไปล้ อมรอบทัว่ ทังห้ ้ อง “เจ้ าหนุ่ม ข้ าไม่ได้ มีความตังใจที
้ ่ไม่ดี
ใดๆ นี ้เป็ นเพียงทักษะการปิ ดผนึกเสียงของข้ า ภายใต้ มนั ไม่มีใครจะสามารถที่จะได้ ยินสิ่งที่เรา
กําลังพูดคุยกันได้ ข้ าเพียงแค่อยากจะถามเจ้ า เจ้ าคือผู้วาดจารึกที่มีสญั ลักษณ์รูปเปลวไฟใช่
หรื อไม่? ”
มันเป็ นประเพณีสําหรับนักจารึกที่จะทิ ้งสัญลักษณ์มีของตัวเองเอาไว้ กบั ผลงานจารึก มันระบุ
ถึงผู้สร้ างของพวกมันและเป็ นตัวแทนของจิตวิญญาณที่อยูเ่ บื ้องหลังเส้ นทางการจารึกของพวก
เขา หลินหมิงใช้ รูปเปลวไฟโหมกระหนํ่าเป็ นตัวแทนความปรารถนาของเขาที่จะเหยียบยํ่าลงบน
เส้ นทางการต่อสู้
ฉินชิงหวน หยุดหายใจ ดวงตาของเธอกว้ างและไม่กะพริ บตาเลยในขณะที่เธอรอคอยคําตอบ
ของเขา
หลินหมิงลังเลและพยักหน้ ากล่าวว่า “เป็ นข้ าเอง”
เมื่อเขาตัดสินใจที่จะทําแล้ วเขาก็จะทําเช่นนันอย่
้ างไม่ลงั เล เขาจะอยูใ่ นสถานะที่แข็งแกร่งและ
คนอื่น ๆ จะเชื่อว่ามีปรมาจารย์ลกึ ลับที่อยูเ่ บื ้องหลังของเขา เป็ นหนุนหลังที่ไม่อาจให้ ใครผู้ใด
มารุกรานเขาได้
ถึงแม้ วา่ พวกเขาจะรู้อยูแ่ ล้ วว่าต้ องเป็ นเช่นนี ้ หลังจากที่ได้ ยินคํายืนยันจากหลินหมิง มูย่ ี่ อ้ า
ปากค้ างและฉินชิงหวนเองก็ทําตาโตด้ วยความตกใจ
เธอเองก็เป็ นนักจารึก! เธอรู้วา่ มันเป็ นเรื่ องยากซักเพียงใดที่จะเป็ นนักจารึกได้ ตอนอายุสิบห้ า!
ฉินชิงหวนเข้ าใจทุกความยากลําบากที่พบเจอมา อาณาจักรลิขิตฟ้าเป็ นอาณาจักรเล็กๆ ใน
ทวีปนภาริ นไหล(แปลมาถึงตอนที่23ก็แน่ใจเสียทีวา่ ทวีปใหญ่กว่าอาณาจักร 555) ตัวเธอเอง
ถือว่ามีความสามารถและพรสวรรค์ที่สงู แต่หากเธอได้ ออกไปยังดินแดนอื่นๆแล้ ว บางทีคน
จํานวนมากมายในต่างดินแดนอาจจะมีความสามารถระดับเดียวกับเธอ
แต่ฉินชิงหวนยังไม่เคยได้ ออกจากอาณาจักรมาก่อน เพราะอาณาจักรที่ล้อมรอบล้ วนแต่มี
พรสวรรค์ที่สงู ส่ง
ด้ วยพรสวรรค์ระดับหก และความสามารถในการจารึกที่เรี ยกได้ วา่ ไม่เป็ นสองรองใครใน
ราชอาณาจักรลิขิตฟ้าฉินชิงหวนมีความภาคภูมิใจเช่นได้ เกิดเป็ นเทพเทวดา และไม่เคยรู้สกึ
ด้ อยกว่าใครในบรรดาเด็กรุ่นเดียวกับเธอ ฉินชิงหวนเติบโตขึ ้นมาพร้ อมกับความเย่อหยิ่ง
แต่ในวันนี ้เธอก็พา่ ยแพ้ อย่างชัดเจนกับผู้มีอายุรุ่นเดียวกับเธอในด้ านการจารึก แม้ วา่ เธอจะมี
พรสวรรค์ที่สงู กว่าและมีการฝึ กฝนกายภาพในขันที ้ ่สงู กว่ามากนัก
สําหรับการจารึกจะบอกว่าเธอเป็ นเพียงนกตัวน้ อยๆที่ยงั ไม่ได้ หดั บินและเขาเป็ นนกอินทรี
ทะยานขึ ้นไปบนฟ้า ช่องว่างระหว่างคนทังสอง
้ มันห่างชันกั ้ นเกินไป!
เธอรู้สกึ ผิดหวัง แต่ฉินชิงหวนก็ไม่ได้ หดหูห่ รื อสิ ้นหวัง เธอรู้สกึ ตืน่ เต้ นเพราะในตอนนี ้เธอได้ พบ
เป้าหมายของเธอแล้ ว เธอจะมุง่ มัน่ ที่พฒ ั นาตัวเอง!
กับชายหนุ่มคนนี ้ฉินชิงหวนเต็มไปด้ วยความอยากรู้ นอกจากนี ้เธอยังหวังว่าจะได้ กลายเป็ น
เพื่อนของเขาและมีความสามารถทัดเทียมกับเขาในอนาคต เธออยากเรี ยนรู้แลกเปลี่ยนเทคนิค
จารึกกับเขา!
แต่เธอจําได้ วา่ ก่อนหน้ านี ้เธอได้ รับการปฏิเสธจากเขา ฉินชิงหวนกลัวว่ามันอาจเกิดขึ ้นอีกก็
เป็ นได้ สําหรับผู้หญิงเป็ นธรรมดาที่จะเขินอายและเป็ นแผลในใจที่ถกู ปฏิเสธเช่นนัน้ หญิงสาวผู้
งดงามจากตระกูลขุนนางเช่นนี ้ แม้ วา่ ในหัวใจของเธอ เธอจะอยากจะเป็ นเพื่อนของเขา แต่ใน
เวลาเดียวกันเธอก็ไม่กล้ าคิดที่จะเชิญเขาอีกครัง้
หลังจากที่มยู่ ี่ได้ ยินคําตอบจากหลินหมิง ในที่สดุ เขาก็เชื่ออย่างมัน่ ใจว่า เรื่ องนี ้คือเรื่ องที่ไม่น่า
เชื่อและไม่นา่ เป็ นไปได้ อย่างแท้ จริ ง เดิมที่เขาได้ เดาว่าผู้สร้ างจารึกจะต้ องมีการฝึ กฝนอยูใ่ นขัน้
ที่สาม แต่มนั ดูเหมือนว่าเขาผิด
การฝึ กฝนของหลินหมิงมีเพียงขันแรก
้ เป็ นเพียงจุดสูงสุดของชันแรกเท่
้ านัน้ แต่เพราะรากฐานที่
มัน่ คง,ประสบการณ์,ความแม่นยําของการบังคับจิตวิญญาณของเขา มันได้ ร่วมกันสร้ างภาพ
ลวงตาว่ามันเป็ นสิง่ ที่สร้ างโดยผู้ที่มีการฝึ กฝนกายภาพขันสาม!

เพราะจิตวิญญาณอันแรงกล้ าและหนาแน่นของเขา เป็ นไปได้ วา่ เขาจะได้ รับการฝึ กโดย
มรดกวรยุทธในตํานาน ชนิดที่แม้ แต่ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดินยังยากจะหามันมาครอบครอง
นอกจากนี ้เด็กหนุ่มคนนี ้ยังขยันหมัน่ เพียรทุม่ เทอย่างเต็มที่ … เขาสามารถใช้ เพียงแค่ด้านหลัง
ของมีดเพื่อตัดเนื ้อของสัตว์ที่ดรุ ้ ายออกจากกันได้ อย่างราบเรี ยบ บางทีเด็กหนุ่มคนนี ้อาจมาจาก
ตระกูลที่เก่าแก่ และได้ รับการสนับสนุนจากปรมาจารย์ที่มากความสามารถ!
เมื่อมีความคิดเช่นนี ้ มูย่ ี่สดู ลมหายใจเข้ าลึกๆและถามด้ วยนํ ้าเสียงเคารพ “ขอโทษที่ต้องถาม
เช่นนี ้ ข้ าจะรู้ช่ือของปรมาจารย์ที่น่านับถือของเจ้ าได้ หรื อไม่”
มูย่ ี่มีตําแหน่งที่สงู ส่งในราชอาณาจักรลิขิตฟ้า แม้ เผชิญหน้ ากับจักรพรรดิเขายังไม่จําเป็ นต้ อง
เคารพหรื อเกรงกลัว แต่จากการแสดงออกของเขา เขามีความเคารพเกรงกลัวต่อความลึกลับ
และอํานาจอันยิ่งใหญ่จากปรมาจารย์ผ้ อู ยูเ่ บื ้องหลังของหลินหมิง
หลิงหมิงกล่าวว่า “เรื่ องนี ้… ข้ าต้ องขออภัยด้ วย แต่ปรมาจารย์ของข้ าเคยบอกข้ าว่า ห้ ามกล่าว
นามของท่านกับผู้ใดเป็ นอันขาด เมื่อข้ ามีอายุได้ สิบสองปี ปรมาจารย์ของข้ าได้ พบข้ าและสอน
ข้ าถึงทักษะบางอย่าง”หลินหมิงได้ อาศัยอยูใ่ นเมืองใบหม่อนสีเขียวมาตังแต่
้ เด็กดังนันนี
้ ้เป็ น
เรื่ องง่ายในการตรวจสอบ ที่เขากล่าวเป็ นการทําไปเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสงสัยต่างๆ
มูย่ ี่กล่าว “ข้ าขอโทษที่ลว่ งเกินถามถึงนามปรมาจารย์ของเจ้ า สําหรับผู้อาวุโสที่มีทกั ษะสูง
เช่นนัน้ พวกเขาคงเดินทางไปทัว่ ทุกมุมโลก และเป็ นเรื่ องยากที่จะหาเบาะแสของพวกเขา ข้ าไม่
ควรผลีผลามถามออกไป… มันเป็ นเหมือนกับว่าการทักษะการจารึกทัว่ ทังราชอาณาจั
้ กรลิขิต
ฟ้า เป็ นเพียงของเด็กเล่นสําหรับปรมาจารย์คนนัน้ เขาน่าจะเป็ นใครซักคนจากนิกายโบราณใน
ต่างแดน … ”
แม้ มยู่ ี่จะบอกว่าเขาไม่ต้องการที่จะรู้ถงึ ปรมาจารย์ของหลินหมิง แต่เขายังพยายามจะสอบถาม
ถึงข้ อมูลบางอย่าง เพราะปรมาจารย์ที่มีความสามารถระดับนี ้ ถือเป็ นบุคคลระดับตํานานยาก
ที่จะได้ พบเจอ มันคงต้ องอาศัยโชคชะตาอย่างมากที่หนึง่ ชีวิตที่เกิดมาจะได้ พบเจอกับบุคคล
เหล่านี ้แม้ เพียงซักครัง้ !
มูย่ ี่ได้ ติดอยู่ที่จดุ สูงสุดของระดับปราณฟ้าขันต้
้ นมาเป็ นเวลานานมาก เขาต้ องการที่จะผ่านไปสู่
ขันต่
้ อไป
แต่ไม่มีผ้ ใู ดที่มีความรู้มากพอจะให้ คําแนะนําเขาได้ เลย อีกเพียงขันตอนเดี
้ ยวเขาก็จะเข้ าสู่
ระดับปราณปลายฟ้า แต่เขาก็มาถึงทางตัน!
ในประวัติศาสตร์ แปดปี ที่ผ่านมาของอาณาจักรลิขิตฟ้า มีผ้ เู ข้ าถึงขันผสานชี
้ พจรเป็ นจํานวน
มาก และพวกเขาเหล่านันก็้ สามารถเข้ ามาสูร่ ะดับปราณฟ้าขันต้ ้ นได้ จํานวนหนึง่
แต่กลับไม่มีใครในอาณาจักรลิขิตฟ้าที่มีความสามารถมากพอจะเป็ นนักสู้ผ้ เู ชี่ยวชาญระดับ
ปราณปลายฟ้าได้ เลยแม้ แต่คนเดียว!
หากขันดั้ ดกระดูกและผสานชีพจรมีความยากที่จะก้ าวข้ ามเป็ นดังแม่นํ ้าสายหนึง่ ความยากที่
จะก้ าวข้ ามระดับปราณฟ้าขันต้ ้ นเพื่อไปสูร่ ะดับปราณปลายฟ้าก็เป็ นเหมือนมหาสมุทรที่บ้า
คลัง่ ! หากไร้ ซงึ่ นิกายทรงพลังที่ให้ การชี ้นําสนับสนุนหรื อคําชี ้แนะจากประสบการณ์ของผู้ที่ผ่าน
เข้ าไปได้ แล้ ว โอกาสที่จะเข้ าสูร่ ะดับปราณปลายฟ้าแทบเท่ากับศูนย์!
มันก็สายเกินไปแล้ วสําหรับมูย่ ี่ที่จะหาโอกาสเข้ านิกายเพื่อฝึ กฝน ความหวังเดียวของเขาก็คือ
การพบปรมาจารย์ผ้ เู ก่งกาจที่สามารถจะชี ้นําเขาให้ มีโอกาสก้ าวเข้ าไปสูร่ ะดับปราณปลายฟ้า
ได้ แม้ เพียงสักนิดก็ยงั ดี
ในท้ ายที่สดุ เขาไม่ได้ ต้องการที่จะเข้ าสูร่ ะดับปราณปลายฟ้า เขาแค่อยากความลับของมัน
อยากรู้ทิศทางที่เขาควรจะฝึ กฝนต่อไปด้ วยระยะเวลาที่ที่เหลือของชีวิตของเขา
หลินหมิงกล่าวขึ ้นมา “ปรมาจารย์ของข้ าเป็ นผู้สนั โดษ แต่ทา่ นเคยบอกว่าท่านเคยได้ เข้ าร่วม
นิกาย”
หลังจากที่ได้ ยินเช่นนัน้ มูย่ ี่เกิดความอิจฉาเล็กๆขึ ้นมา เขาไม่เคยได้ โอกาสที่จะเข้ าสูน่ ิกาย แต่
ปรมาจารย์ของ หลินหมิงกลับได้ เข้ าร่วมในนิกาย เขากล่าวว่า “ระดับการฝึ กฝนของปรมาจารย์
ของเจ้ าจะต้ องสูงส่งอย่างมาก ที่จะออกมาจากนิกายและออกเดินทางไปทัว่ โลก เขาอาจมาถึง
ขีดจํากัดของระดับใดระดับหนึง่ และไม่อาจก้ าวข้ ามไปได้ อีก บางทีระดันนันอาจจะระดั
้ บปราณ
ปลายฟ้าใช่หรื อไม่ ”
สําหรับมูย่ ี่ ระดับปราณปลายฟ้ามันช่างห่างไกลแสนไกล สําหรับนักสู้ที่ไม่ได้ อยูใ่ นนิกาย ระดับ
ปราณปลายฟ้าคือสิ่งที่ไม่อาจแม้ จะจินตนาการถึงมัน
เมื่อได้ ยินคําถามของมูย่ ี่ ในที่สดุ หลินหมิงก็เข้ าใจเจตนาของชายชราคนนี ้ ความสนใจของมูย่ ี่
ในครัง้ นี ้คือ ‘ปรมาจารย์’ของเขา ดวงตาของมูย่ ี่มีความกระตือรื อล้ นและเต็มไปด้ วยความ
จริ งจัง เขาต้ องการที่จะหาคําตอบบางอย่างสําหรับการฝึ กฝนของตันเอง มันเป็ นเรื่ องยากมากที่
จะฝึ กฝนให้ ก้าวข้ ามไปอีกระดับหลังจากที่เขามีอายุมากถึงเพียงนี ้ ในความเป็ นจริ งเขาอาจจะ
มาถึงขีดจํากัดของตัวเองแล้ ว
เมื่อคิดเช่นนัน้ หลินหมิงคิดถึงความทรงจําของชิ ้นส่วนวิญญาณจากผู้อาวุโส ในความทรงจํา
เหล่านี ้มีความทรงจําของการฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้ มันเป็ นเรื่ องง่ายที่จะบอกถึงระดับต่างๆ
หลินหมิงกล่าว “ข้ าไม่ทราบถึงระดับของท่านปรมาจารย์ แต่ทา่ นได้ เคยกล่าวไว้ วา่ วิถีการต่อสู้
ถูกแบ่งออกเป็ นสองส่วนที่สําคัญ ตอนนี ้เขากําลังอยูใ่ นส่วนที่สอง ”
“โอ้ ? ส่วนที่สองรึ? “ดวงตาของมูย่ ี่สอ่ งสว่างขึ ้นมา เขากลัวว่าอาจเสียโอกาสที่จะได้ ฟังคําพูด
จากปรมาจารย์ระดับสูงเช่นนี ้ไป แม้ เพียงคําเดียว เพียงแค่คําเดียวก็ถือว่าลํ ้าค่ายิ่งนัก
ตาฉินชิงหวนบังเกิดความสดใสและเธอไม่อาจกระพริ บตาได้ เลยในขณะที่เธอได้ ฟังหลินหมิง
สนทนากับอาจารย์ของเธอ

บทที่ 24 ความเข้ าใจ


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



หลินหมิงกล่าวว่า “ศิลปะการต่อสู้จะถูกแบ่งออกเป็ นสองส่วนที่สําคัญสําหรับการฝึ กฝน คือ
การฝึ กฝนร่างกายและการฝึ กฝนจิตวิญญาณ เพื่อจะปลูกฝั งความเข้ าใจเหล่านันเข้้ าสูร่ ่างกาย
ให้ เป็ นดัง่ สัญชาตญาณ เหล่านักสู้มกั จะกล่าวว่าเส้ นทางการฝึ กฝนนันเป็
้ นทะเลที่ไม่มีที่สิ ้นสุด
และร่างกายก็เปรี ยบเสมือนเรื อที่จะข้ ามทะเลและจิตวิญญาณก็คือการพายเรื อให้ เคลือ่ นที่
ไป… ”
“หากไม่ฝึกฝนร่างกายให้ แข็งแกร่งแล้ วเรื อก็จะไม่แข็งแกร่งไม่สามารถใช้ เพื่อข้ ามทะเลไปได้
เมื่อเจอกับพายุมนั ก็จะถูกควํ่าอย่างง่ายดาย หากไม่ปลูกฝั งจิตวิญญาณให้ เข้ มแข็งแล้ วแรงจูง
ใจของพวกเขาก็จะไม่เพียงพอและไม่สามารถพายเรื อลํานันให้ ้ มาถึงชายฝั่ งห่างที่แสนห่างไกล
ได้ ”
“จากเดิมเราฝึ กฝนร่างกายมาตลอดเพื่อมาถึงระดับปราณฟ้าขันต้
้ น แต่จากปราณฟ้าขันต้
้ นไป
ยังปราณปลายฟ้ามันมีจดุ เปลี่ยน การฝึ กฝนระดับปราณฟ้าขันต้
้ นก็เหมือนการฝึ กร่างกาย การ
างกันอย่างสิ ้นเชิง”
ฝึ กฝนระดับปราณปลายฟ้าก็เหมือนการฝึ กฝนจิตวิญญาณทังสองแตกต่

ทันทีที่ได้ ยนิ ดังนันมู
้ ย่ ี่ เป็ นต้ องต้ องสะดุ้งและรู้สกึ ว่าอยากจะเป็ นลม ไม่น่าแปลกใจเลยทุกปี ที่
ผ่านมา เขาไม่สามารถไปต่อได้ อีก แม้ จะเพียงก้ าวเล็กๆ เขาตระหนักได้ วา่ เขามุง่ หน้ าไปยัง
ทิศทางที่ผิดพลาดมาตลอดเวลา เขาไม่ได้ คิดมาก่อนว่าระดับปราณปลายฟ้าจะเป็ นเช่นนี ้ เขา
พึมพําขึ ้น “แล้ วความหมายของระดับปราณปลายฟ้าคือสิ่งใด?”
หลินหมิงกล่าวต่อ “ท่านปรมาจารย์เคยบอกว่าความลับอยูท่ ี่วิธีการหายเช่นทารกในครรภ์ เขา
กล่าวว่าเมื่อมนุษย์เป็ นทารกในครรภ์พวกเขาไม่สามารถหายใจได้ ทางจมูกหรื อปาก มันขึ ้นอยู่
กับแม่ที่ให้ กําเนิดจะส่งผ่านการเชื่อมต่อแห่งการดํารงชีวิตลงมาให้ นี่คือวิธีที่พวกเขาใช้ หายใจ
นี่คือความหมายของระดับปราณปลายฟ้า หลังจากที่มนุษย์เกิดมาแล้ วพวกเขาสามารถหายใจ
ทางจมูกและปาก อากาศในโลกจึงเต็มไปด้ วยสิ่งสกปรกที่คอ่ ยๆสะสมมากขึ ้นๆ นี่คือลักษณะ
ของปราณฟ้าขึ ้นต้ น แต่ในระดับปราณปลายฟ้าจิตวิญญาณจะเข้ าสูส่ ภาวะของความเงียบสงบ
และความสุข ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีที่จะปฏิสมั พันธ์กบั สภาพแวดล้ อมและจิต
วิญญาณจะกลายเป็ นแกนโลกและมีความสามารถในการสื่อสารกับธรรมชาติ กระทัง่
ความสามารถในการกระตุ้นท้ องนภาฟ้าและแผ่นดินด้ วยให้ สนั่ สะเทือนด้ วยแรงจิตวิญญาณ
นัน่ คือแก่นแท้ ของปราณปลายฟ้าแต่การข้ ามระดับปราณฟ้าขันต้
้ นไปปราณปลายฟ้า อนึง่
จะต้ องตัดทุกรากฐานของชีวิตและกลับไปสูส่ ถานะเดียวกับทารกที่อยูใ่ นครรภ์. ”
“อย่างนี ้เอง … ข้ าเข้ าใจ … มันคือ … ” มูย่ ี่พมึ พําภายใต้ ลมหายใจของเขา ดวงตาของเขา
แสดงให้ เห็นทังความชื
้ ่นชมและความหวาดกลัว เด็กหนุ่มคนนี ้กล่าวคําพูดเพียงไม่กี่คําในการ
อธิบายให้ ผ้ อู ื่นเข้ าใจ(ไม่กี่คําพ่อง กุแปลแทบลากเลือด) เขาเป็ นดังนักปราชญ์โบราณ ถ้ าเด็ก
คนนี ้มีคําสอนเหล่านี ้เขาคงไปถึงระดับปราณปลายฟ้าได้ ในเร็ ววัน!
นิกายและพรรคสามารถเข้ าร่วมเพื่อที่จะพึง่ พามรดกทางวัฒนธรรมของพวกเขา นักสู้ที่
พยายามจะคลําหาทางด้ วยตนเองควรจะไปพึงพากลุม่ คนเหล่านี ้ มูย่ ี่กล่าว “เป็ นเรื่ องที่โง่เง่า!
ข้ ามาถึงขันผสานชี
้ พจรเมื่ออายุสามสิบหกปี และขึ ้นสูร่ ะดับปราณฟ้าขันต้ ้ นตอนอายุได้ ห้าสิบปี
และหลังจากนันเวลาอี
้ กหกสิบปี ของข้ าก็มีคา่ เป็ นศูนย์ข้าไม่อาจแม้ จะคิดหรื อฝั นถึงระดับปราณ
ปลายฟ้าได้ ! และข้ าได้ รับข้ อมูลที่ผิดพลาดมาตลอดเวลา! ข้ าได้ เริ่ มต้ นในเส้ นทางที่ผิดมาจนถึง
ในขณะนี ้! ข้ าสูญเสียเวลาไปหกสิบปี ! น่าเศร้ า! น่าเศร้ าอย่างยิ่ง! ”
ใบหน้ าของมายี่ร้ ูสกึ ตื่นเต้ นและอารมณ์ของเขาเองก็มีความซับซ้ อน หลินหมิงยืนอยูท่ ี่ด้านข้ าง
และเฝ้าดูการถอนหายใจของเขา คนแก่ที่ไม่ได้ มีนิกายหนุนหลัง ต้ องการจะก้ าวเข้ ามาในระดับ
ปราณปลายฟ้า นี ้คือความหวังตามธรรมชาติ สิ่งหนึง่ ที่จําเป็ นคือมรดกความรู้และความเข้ าใจ
จากนิกายเพื่อให้ บรรลุในเรื่ องเหล่านี ้ แต่ที่นิกายจะควบคุมความลับเหล่านี ้เอาไว้ ไม่ให้
แพร่กระจายออกไป?
จากระดับปราณฟ้าขันต้ ้ นไปสูป่ ราณปลายฟ้า อีกสิ่งหนึง่ ที่จําเป็ นเพื่อฝึ กฝนจิตวิญญาณ มัน
จําเป็ นต้ องมีโอสถที่ลํ ้าค่า วิธีการหามาซึง่ ตัวโอสถเหล่านี ้ถูกควบคุมอย่างเข้ มงวดโดยนิกาย
เหล่านัน้ ไม่ต้องพูดถึงคนทัว่ ไป แต่แม้ พระราชวงศ์ไม่สามารถซื ้อมันได้ !
ดังนันแม้
้ วา่ หลินหมิงจะบอกมูย่ ี่เรื่ องความทรงจําเหล่านี ้ เพื่อจะให้ เขาได้ มีโอกาสเข้ าสูร่ ะดับ
ปราณปลายฟ้า แต่มนั ก็แทบเป็ นไปไม่ได้ เพราะยังขาดโอสถลํ ้าค่าพวกนัน้
หลินหมิงกล่าวว่า “ท่านปรมาจารย์เคยบอกว่าหากไม่ได้ รับการสนับสนุนจากพรรคหรื อนิกาย
แล้ ว การจะเข้ าสูร่ ะดับปราณปลายฟ้าเป็ นไปไม่ได้ ”
มูย่ ี่กล่าว “ข้ ารู้ … ข้ ารู้แล้ ว … มันคือชีวิตความปรารถนาตลอดมาของข้ า แม้ วา่ ข้ าผมจะไม่
สามารถบรรลุความปรารถนาของข้ าได้ แต่อย่างน้ อยข้ าก็ได้ ร้ ูถงึ ทิศทางและสามารถตายได้
อย่างสงบและโดยไม่มีเรื่ องใดค้ างคาใจ ”
แม้ วา่ มูย่ ี่จะกล่าวว่าคําพูดเหล่านันออกมาได้
้ อย่างง่ายดาย แต่นํ ้าเสียงของเขาแสดงถึงความ
โดดเดี่ยว หลินหมิงถอนหายใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้ าเขาไม่ได้ มีลกู บาศก์ลกึ ลับแล้ วบางทีเขา
ก็คงจะเป็ นเช่นเดียวกับมูย่ ี่ หลังจากถึงระดับปราณฟ้าขันต้้ น ตลอดเวลาต่อจากนันคงทํ
้ าได้
เพียงฝั นถึงระดับปราณปลายฟ้าไปตลอดชีวิต
ในที่สดุ มูย่ ี่ก็พดู กับหลินหมิง “เจ้ าเพื่อนวัยเยาว์ หลังจากได้ พบเจ้ าครัง้ แรก ข้ าก็ร้ ูสกึ กับเจ้ าเช่น
เพื่อนเก่าคนหนึง่ หากว่าเจ้ าไม่สนใจเรื่ องอายุแล้ ว ข้ าก็จะเป็ นเพื่อนที่ดีของเจ้ า ”
หลินหมิงเองก็ต้องการผูกมิตรกับคนมีชื่อเสียงอย่างมูย่ ี่เช่นกัน เขากล่าว “ข้ าเองก็ต้องการที่จะ
ผูกมิตรเป็ นเพื่อนกับท่านเช่นกัน”
“ฮ่าฮ่า! แล้ วไม่มีวนั อื่นวันใด ที่น่าเฉลิมฉลองไปมากกว่าวันนี ้อีกแล้ ว! เราไปชันล่ ้ างและจัดงาน
เลี ้ยงที่ศาลาจันทร์ กระจ่าง เราจะดืส่ รุ าและพูดคุยกัน แน่นอนทังหมดนี
้ ่ข้าเลี ้ยงเอง! เป็ นมิตรกับ
ข้ าเจ้ าไม่ต้องกังวลเรื่ องเงินทอง ”
หลินหมิงลังเลเล็กน้ อยและตกลง นอกจากนี ้เขายังกล่าว “ท่านมูย่ ี่เรื่ องการจารึกของข้ า ข้ า
อยากจะขอให้ ทา่ นช่วยเก็บไว้ เป็ นความลับ ”
แม้ วา่ หลินหมิงจะสร้ างปรมาจารย์ที่ไร้ ตวั ตนขึ ้นมาแล้ ว เขายังต้ องการที่จะหลีกเลี่ยงผู้ที่มีความ
โลภ มันจะลดอันตรายและความเสี่ยงของเขา หากไม่เผยแพร่เรื่ องความสามารถที่แท้ จริ งของ
เขาออกไป
มูย่ ี่เองก็เดาไว้ ได้ ถงึ ความกังวลของหลินหมิงและกล่าว “น้ องชายข้ า โปรดโล่งใจเถิด ตราบใดที่
จอมพลฉินยังเป็ นจอมพลแห่งเมืองลิขิตฟ้า ข้ ากล้ ารับประกันความปลอดภัยของเจ้ า! หาก
น้ องชายของข้ าได้ พบกับปั ญหาใด ๆแล้ วเจ้ าจงใช้ ยนั ต์สื่อสารนี ้เรี ยกข้ า ข้ าจะมาจัดการกับเรื่ อง
้ เอง ตอนนี ้ข้ าได้ ร้ ูเรื่ องทุกอย่างแล้ ว แต่ … ทําไมน้ องชายจะต้ องขายจารึกราคาถูก
เหล่านันให้
้ ?
และทํางานเป็ นเด็กแร่เนื ้อที่ศาลาจันทร์ กระจ่างด้ วย มันเป็ นส่วนหนึง่ ของการฝึ กฝนอย่างนันรึ

ได้ ฟังมูย่ ี่พดู เช่นนัน้ หลินหมิงยิ ้มออกมาและกล่าวอย่างจริ งใจ “มันเป็ นเพราะเหตุผลทางฐานะ
ของข้ า ปรมาจารย์เพียงสอนความรู้ข้าเท่านัน้ ท่านไม่เคยได้ ให้ สมบัติเงินทองใดใด ตระกูลของ
ญชน ข้ าจึงขัดสนเงินทองสําหรับฝึ กฝนการต่อสู้”
ข้ าก็เป็ นเพียงตระกูลชันกลางสามั

“มันก็ยอ่ มเป็ นเช่นนัน้ เส้ นทางการฝึ กฝนของนักสู้นนมี
ั ้ คา่ ใช้ จ่ายสูงฟุ่ มเฟื อย ทังยั
้ งต้ องขยัน
อดทน ห้ ามเกียจคร้ านในการฝึ กฝน และต้ องเผชิญกับความยากลําบากอยูต่ ลอดเวลา
ปรมาจารย์ของเจ้ าต้ องมีสติและมีประสบการณ์มากถึงจะประสบความสําเร็ จได้ ถงึ เพียงนัน้
ธรรมชาติยอ่ มมีเหตุผลของมัน แต่ถ้าน้ องหลินยังคงต้ องการที่จะขายจารึกอยู่ ข้ าสามารถซื ้อมัน
ได้ ในราคาในตลาด ถ้ ามันเป็ นจารึกระดับเดียวกับชิ ้นนัน้ หากข้ าจะซื ้อมันในราคา 3000
เหรี ยญทองเพียงพอหรื อไม่?”
หลังจากที่หลินหมิงได้ ยินราคานี ้หัวใจของเขาเกือบจะพุง่ ทะลุหน้ าอกออกมา 3000 เหรี ยญ
ทอง!
3000 เหรี ยญทอง เขามีมนั อีกสามชิ ้นนัน่ คือ 9000 เหรี ยญทอง! แม้ วา่ หลินหมิงจะคาดว่าจารึก
ของเขาจะต้ องมีราคาสูงขึ ้น แต่เขาไม่ได้ คิดว่าพวกมันจะรวมกันสูงถึง 9000 เหรี ยญทอง!
ทังหมดนั
้ น่ คือ 9000 เหรี ยญทอง! มูลค่าทังร้้ านอาหารของตระกูลหลิน ยังมีมลู ค่าเพียง 3000
เหรี ยญทอง ถ้ าเขาสามารถซื ้อร้ านอาหารให้ พอ่ แม่ที่เคยเป็ นเพียงลูกจ้ าง พ่อแม่ของเจ้ าจะ
กลายเป็ นเจ้ าของร้ านและไม่ต้องทํางานหนักเช่นเดียวกับปั จจุบนั
เขาจะเหลืออีก 6000 เหรี ยญทองและสามารถใช้ มนั ซื ้อโอสถ เขาอาจจะซื ้อมันมากินๆเพื่อเร่ง
การฝึ กฝน ได้ มากมายเช่นเดียวกับที่ซื ้อข้ าวกินในแต่ละวัน!
สําหรับโสมเลือดแล้ ว เขาสามารถกินหนึง่ และโยนทิ ้งอีกหนึง่ ได้ อย่างไม่ต้องเสียดายซักนิด
เพราะสําหรับเขา การสร้ างจารึกมันช่างง่ายดาย
หลิงหมิงตื่นเต้ นอย่างสุดหัวใจ และพูดขึ ้น “ท่านผู้อาวุโส ข้ าขอบคุณท่านมาก”
มูย่ ี่เห็นความสุขของหลินหมิง เมื่อหลินหมิงอยูก่ บั เจ้ านายของเขาที่ศาลาจันทร์ กระจ่าง เขาใช้
ชีวิตอย่างเรี ยบง่ายและประหยัด แต่ตอนนี ้เขามีชีวิตชีวาขึ ้นมาอย่างกะทันหัน ชายหนุ่มอายุสิบ
ห้ าปี พบว่ามันยากที่จะยอมรับสิ่งมหัศจรรย์ตรงหน้ าทังหมด ้ เหมือนว่าเขาได้ ครอบครองสมบัติ
ที่ทวั่ ทังโลกจะมี

มูย่ ี่กล่าวขึ ้นมา “เป็ นเรื่ องธรรมดาที่จารึกระดับนันจะมี
้ มลู ค่าเท่านี ้ นอกจากนี ้โปรดอย่าเรี ยกข้ า
ท่านผู้อาวุโส ข้ ามรชื่อว่ามูย่ ี่ ชื่อเต็มของข้ าฉันคือ มูย่ ี่เชา เรี ยกเพียงแค่ มูย่ ี่ ก็พอ ”
“จะดีรึ … “หลินหมิงลังเลเล็กน้ อย แม้ วา่ เขาจะไม่ร้ ูวา่ มูย่ ี่มีฐานะอะไร แต่จากการแสดงความ
เคารพของฉินชิงหวนสถานะของผู้ชายคนนี ้จะต้ องอยูใ่ นระดับสูง หลินหมิงไม่ได้ มีปัญหาว่าจะ
เรี ยกผู้อาวุโสตรงหน้ าว่าอะไร และผู้อาวุโสก็เป็ นคนเป็ นผู้ต้องการใช้ เขาเรี ยกเช่นนัน้ เขาจึงพยัก
หน้ าตอบตกลง
มูย่ ี่ยิ ้มและกล่าว “ชิงหวนไปแจ้ งศาลาจันทร์ กระจ่าง สํารองห้ องจัดเลี ้ยงและเครื่ องดื่มให้ ข้า
และสําหรับน้ องชายหลินด้ วย ”
ฉินชิงหวนที่เคยเงียบ เธอตังใจฟั
้ งเกี่ยวกับสิ่งที่หลินหมิงอธิบายถึงระดับปราณปลายฟ้าอย่าง
้ ตอนนี ้เธอได้ ยิน มูย่ ี่กล่าวเช่นนัน้ เธอกล่าวตอบอย่างตื่นเต้ น “ค่ะ ท่านอาจารย์ ”
ตังใจ
เมื่อพนักงานของศาลาจันทร์ กระจ่าง ได้ รับคําสังจากมูย่ ี่ และได้ ถามหลินหมิงถึงเครื่ องดื่ม
สําหรับเขา และคิดในใจ
มูย่ ี่เป็ นคนระดับใด? เขาเป็ นยอดนักสู้ผ้ มู ีเกียรติที่ได้ รับเชิญมารับใช้ ในวัง อาจารย์ของฉินชิง
หวนที่เป็ นผู้สืบราชสมบัติของจอมพลฉิน อาจเป็ นอาจารย์ขององค์จกั รพรรดิหญิงในอนาคต! ที่
ไม่เพียงมีการฝึ กฝนสูงส่ง เขายังเป็ นผู้มีความชํานาญในการจารึกและมีฝีมือในทางภูมิศาสตร์
และประวัตศิ าสตร์ โบราณ เขาเป็ นคนที่โดดเด่นอย่างแท้ จริ ง! แม้ พระมหากษัตริ ย์ยงั ต้ องให้ การ
เคารพแก่เขา
เมื่อทังสามจากไปทั
้ ว่ ทังห้
้ องครัวดูเหมือนจะกําลังพูดถึงเรื่ องที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นตาตื่นใจ
แท้ จริ งแล้ วหลินหมิงเป็ นใคร มูยี่ถงึ ได้ พดู คุยเหมือนสหายเช่นนัน?

หากความจริ งแล้ วฐานะของเขาไม่ได้ เล็กๆอย่างที่เป็ นอยู่ เขาจะเต็มใจที่จะทํางานแร่เนื ้อที่
ศาลาจันทร์ กระจ่างหรื อไม่ เป็ นไปได้ วา่ เขาจะไปจากห้ องครัว หลินหมิงมีทกั ษะการแร่เนื ้อที่
ใครๆต่างให้ การยอมรับ แต่มนั ก็เป็ นเรื่ องยากที่จะบอกว่ามันเป็ นงานที่ใครต่อใครอยากจะทํา
“เจ้ าเด็กแร่เนื ้อคนนันมี
้ ภมู ิหลังเช่นไรกันแน่นะ?”
“ข้ าเองก็ไม่ทราบจริ งๆ … ”
บริ กรทังสองที
้ ่ให้ บริ การอยูก่ ็ไม่อาจเข้ าใจเรื่ องของหลินหมิง ได้ แต่คยุ กันในขณะที่พวกเขา
ให้ บริ การ พวกเขาทังสองทุ ้ ม่ เทที่ทํางานอย่างหนักหวังได้ ขึ ้นเงินเดือน แต่ละคนมีอายุยี่สิบปี
พร้ อมกับรูปลักษณ์ที่ดดู ีโดดเด่นและยังมีความเชี่ยวชาญในบทกวีและภาพวาด พวกเขาได้ เห็น
เป็ นมูย่ ี่และฉินชิงหวนเป็ นครัง้ แรกและถึงกับตกใจ หลังจากที่การจะได้ เงินรางวัล(ทิป)จากแขก
ผู้มีเกียรติเป็ นที่เกิดขึ ้นไม่บอ่ ยนัก แต่ในครัง้ นี ้มันก็เกิดขึ ้นมีรางวัลสําหรับพวกเขาถึง10เหรี ยญ
ทอง สําหรับการให้ บริ การที่ดีซงึ่ มันมีคา่ เทียบเท่ากับค้ างจ้ างของพวกเขาถึงสองเดือน พวกเขา
ต่างไม่อยากจะเชื่อ ได้ แต่ชายตามองตามหลินหมิงที่เคยเป็ นเด็กแร่เนื ้อคนนันไป ้
อาหารที่จดั เลี ้ยงดูเรี ยบง่าย แต่รสชาตินนเลิ
ั ้ ศลํ ้ากว่าที่ตาเห็น สุราราคาหลายร้ อยเหรี ยญทอง
‘สุรามังกรแดง’ มันถูกปรุงขึ ้นเป็ นพิเศษด้ วยสูตรลับและผสมด้ วยสมุนไพรที่หายากมากมาย
นักสู้ที่ได้ ดื่มมันจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายในและส่งเสริ มความแข็งแรงของร่างกาย
ให้ มีสขุ ภาพที่ดี พร้ อมทังยั
้ งช่วยเร่งการฝึ กฝนอีกด้ วย อย่างไรก็ตามวิธีการปรุงแต่งของมันนัน้
ซับซ้ อนและวัตถุดิบที่ใช้ ก็มีราคาสูง หากหลินหมิงไม่ได้ เป็ นมิตรสหายของบุคคลชนชันสู ้ งแล้ ว
คงหมดโอกาสที่จะได้ ลิ ้มรสมัน
หลังจบงานเลี ้ยง มูย่ ี่ถามหลินหมิงเรื่ องที่อยูข่ องเขา มูย่ ี่อยากให้ เขาย้ ายมาพักในคฤหาสน์จอม
พลถ้ าเขาต้ องการ แต่หลินหมิงคิดว่ามันจะไม่สะดวกในการฝึ กฝนการต่อสู้ของเขา และการ
ปกปิ ดความลับของเขา หากมีการจารึกระดับนันเกิ ้ ดขึ ้นในเมืองพร้ อมกับการย้ ายไปคฤหาสน์
จอมพลของเขา ผู้คนส่วนใหญ่คงสามารถเดาได้ ถงึ เรื่ องของมัน เขาจึงปฏิเสธอย่างสุภาพ
มูย่ ี่เองก็ไม่ได้ บงั คับเขา ในแง่ของความคิดของเขา หลินหมิงมีความคิดริ เริ่ มสร้ างสรรค์ เขามอบ
9000 เหรี ยญทองพร้ อมกับบัตรสมาชิกสีมว่ ง ด้ วยบัตรใบนี ้จะได้ สว่ นลด 10% จากร้ านค้ าที่อยู่
ภายในอาณาเขตของเมืองลิขิตฟ้า
ในที่สดุ เขาก็ได้ ครอบครองเงินมากมายถึง 9000 เหรี ยญทอง เขามองไปที่จํานวนเงินที่มากมาย
เหล่านี ้ และรู้สกึ ตื่นเต้ นอย่างมาก จนเลือดในร่างกายแทบจะเดือด ด้ วยความภาคภูมิใจ!
ด้ วยเงิน 9000 เหรี ยญทอง แม้ เขาจะส่ง 3000 เหรี ยญทองให้ พอ่ แม่ของเขา เขาก็ยงั มีเหลือพอ
ไปซื ้อยาโอสถเพื่อให้ งา่ ยต่อการทะลวงไปสูข่ นที
ั ้ ่สอง ถ้ าเขาได้ รับยาโอสถที่มีมีคณ
ุ ภาพและเพิ่ม
ผลของมันด้ วยการจารึกเขาก็สามารถไปถึงขันผสานชี ้ พจรได้ โดยง่าย
ถึงเวลาที่เขาจะก้ าวสูก่ ารฝึ กฝนกายภาพอย่างจริ งจังเสียที ในอดีตจู้ยนั เป็ นเหมือนภูเขาที่หลินห
มิงแทบจะไม่อาจก้ าวข้ ามไปได้ แต่ตอนนี ้จู้ยนั เป็ นเพียงหินก้ อนเล็กๆบนท้ องถนนเท่านัน้ หลินห
มิงเพียงแค่ต้องใช้ เวลาอีกไม่มากเพื่อยกระดับการฝึ กฝนของเขาให้ สงู ขึ ้นอย่างรวดเร็ วเท่านัน้
หลินหมิงอยูใ่ นอารมณ์มงั่ คัง่ รํ่ ารวย เขาใช้ ยนั ต์สอื่ สารเพื่อคุยกับหลินเซี่ยวตง “เซี่ยวตง วันนี ้ข้ า
จะพาน้ องชายที่น่ารักของข้ าไปเที่ยงเลือกซื ้อสินค้ า ข้ าจะพบเจ้ าที่ทางเข้ าหอร้ อยสมบัติ ”
หลินเซี่ยวตงได้ ช่วยหลินหมิงหลายครัง้ เขาเชื่อมัน่ ในตัวหลินหมิงอย่างสุดหัวใจ! และตอนนี ้ที่
สถานการณ์ของหลินหมิงรํ่ ารวยขึ ้น เป็ นธรรมดาที่หลินหมิงจะตอบแทบให้ เซี่ยวตงกลับ ผู้ชาย
คนหนึง่ มักจะต้ องชําระหนี ้บุญ!
“ไปเลือกซื ้อสินค้ า?” หลังจากที่หลินเซี่ยวตง เห็นยันต์สื่อสาร เขาคิดกับตัวเองว่าพี่ชายของ
เขาต้ องบ้ าเอามากๆ ถึงใช้ เงินจํานวนมากเพื่อซื ้อยันต์สื่อสารมาใช้ เช่นนี ้?

บทที่ 25 สันติภาพของโลกคือหน้ าที่ของข้ า


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



หลังจากที่หลินเซี่ยวตงมาถึงหอร้ อยสมบัติแล้ วเขากล่าว”พี่หลิน พี่ต้องการมาหาซื ้อสิ่งใดกัน?
พี่ขายจารึกที่เหลือออกหมดแล้ วรึ? ”
หลินหมิงยิ ้มและพูดว่า “ข้ าได้ โชคดีและได้ ขายพวกมันออกไปทังหมด”

“ไม่น่าเชื่อ!” หลินเซี่ยวตงร้ องออกมา คนโง่ที่ไหนนํามันไปใช้ ? เขาเป็ นกังวลนิดหน่อยและ
กล่าวว่า “พี่หลินขายมันไปจํานวนมาก ดังนันหากมั
้ นไม่มีคณ
ุ ภาพที่สมกับราคาของมัน อาจมี
คนเข้ ามาหาหาเรื่ องเราในอนาคตพวกเขา มันอาจจะทําร้ ายพวกเราถึงชีวิต… ”
หลินหมิงตะคอกกลับไป “ฮึ! เจ้ ายังคิดว่าข้ าสร้ างจารึกปลอมมาหลอกขายคนอื่นอีกรึ? ”
“ข้ าไม่ได้ หมายความว่าพี่จงใจหลอกลวง ข้ าเพียงแค่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ ้นถ้ าจารึกพี่ไม่ได้
ทํางานได้ ดีเหมือนราคาของมัน มันราคาถึง100เหรี ยญทอง เมื่อเวลานันมาถึ
้ งเราอาจจะต้ อง
คืนเงินให้ พวกเขา… ”
หลินหมิงยิ ้มและส่ายหัว “อย่ากังวล ไม่มีปัญหาเช่นนันแน่
้ เตรี ยมตัวให้ พร้ อมกับการเลือกซื ้อ
สินค้ าที่เจ้ าชอบก็พอ ”
หลินหมิงบอกว่าพวกเขาจะไปเลือกซื ้อขอกันที่หอร้ อยสมบัติ ทําให้ หลินเซี่ยวตงอึ ้งไปในทันที
เขาคิดว่าพวกเขาคงทําได้ เพียงไปเลือกซื ้อสินค้ าได้ จากย่านกลางเมืองเท่านัน้ หรื อสถานที่
ค้ าขายเล็กๆอื่นๆ เขาไม่ได้ คาดหวังว่าพวกเขาจะตรงไปที่หอร้ อยสมบัติ สินค้ าแทบทังหมดใน

สถานที่แห่งนี ้มีราคาตังแต่
้ หลายร้ อยไปจนถึงหลายพันเหรี ยญทอง มันเป็ นหนึง่ ในร้ านค้ าที่
หรูหราที่สดุ ในเมืองลิขิตฟ้า
“ท่านพี่ เราจะมาเลือกซื ้อสินค้ าที่นี่จริ งๆรึ?”
” แน่นอน ที่นี่แหละ “หลินหมิงกล่าวตอบในขณะที่เขาเดินเข้ าไปในหอร้ อยสมบัติ ผู้ดแู ลร้ าน
คนนันจํ ้ าหลินหมิงได้ เขายังอยูใ่ นเสื ้อผ้ าธรรมดา เป็ นหนุ่มสาวรุ่นเยาว์ นี่คอื ลักษณะเด่นที่เห็น
ได้ ชดั เจนมาก เจ้ าของร้ านจําได้ วา่ หลินหมิงเป็ นเด็กที่ได้ พยายามที่จะเสนอขายแผ่นจารึกเน่าๆ
เมื่อไม่กี่วนั ที่ผ่านมา
ผู้ดแู ลร้ านใจร้ อนขึ ้นมาทันทีและตะโกนขึ ้นมา”แกอีกแล้ ว จะให้ ข้าบอกอีกซักกี่ครัง้ ข้ าไม่สนใจ
จารึกเน่าๆของแก ”
หลินหมิงรู้วา่ โดยธรรมชาติผ้ ดู แู ลหอร้ อยสมบัติไม่เคยปฏิบตั ิตอ่ ผู้ดตู อ่ ยตํ่าด้ วยความเคารพ แต่
จริ งๆแล้ วผู้ดแู ลก็มิใช่ผ้ เู ป็ นเจ้ าของ ผู้เป็ นเจ้ าของจะจ้ างผู้ดแู ลมาเพื่อทําธุรกิจร้ านค้ า แน่นอนว่า
เงินเดือนของผู้ดแู ลจะขึ ้นอยูก่ บั ยอดขายของร้ าน ผู้ดแู ลร้ านที่พบกับพวกเด็กข้ างถนนก็คงจะ
ทราบดีวา่ ไม่มีทางที่พวกมันจะจ่ายเพื่อสินค้ าในร้ านได้ หลินหมิงยังคงดูยากจน
หลินหมิงกล่าวว่า “แผ่นจารึกนัน่ ข้ าได้ ขายไปแล้ ว ข้ ามาที่นี่เพื่อหาซื ้อสินค้ า”
ขายแล้ ว? แววตาเจ้ าของผู้ดแู ลร้ านแสดงให้ เห็นถึงการดูถกู ด้ วยประสบการณ์ของมันจารึก
แบบนันตํ
้ ่าต้ อยยิ่งนัก มันคงขายได้ ไม่กี่สิบเหรี ยญทอง คนยากจนก็ยงั เป็ นคนยากจน เขาคิดว่า
มีเพียงไม่กี่สบิ เหรี ยญทองยังต้ องการมาหาซื ้อสินค้ าที่นี่ มันเป็ นเรื่ องตลก
สิ่งที่เป็ นเด็กไร้ สาระ ผู้ดแู ลอยากจะไล่พวกเขาออกไป แต่ติดก็ตรงที่วา่ หอร้ อยสมบัติไม่ได้ มีกฎ
ว่าต้ อนรับเฉพาะผู้มีเงินเท่านัน้
หลินหมิงมองไปที่ชนวางของที
ั้ ่สอ่ งประกายแพรวพราวที่ถกู วางด้ วยวัสดุที่มีคา่ และสินค้ าหา
ยาก มันน่าตืน่ ตาตื่นใจที่ได้ ชมด้ วยสามตา โสมร้ อยปี ที่หลินเซีย่ วตงเคยซื ้อให้ เขาเมื่อนาน
มาแล้ ว
นอกจากนี ้ยังมีโอสถหายากและจารึกต่างๆที่มีมลู ค่าหลักพันเหรี ยญทอง
หลินหมิงกล่าว “เซี่ยวตงเจ้ าอยากได้ อะไรไหม?”
หลินเซี่ยวตงฝื นยิ ้มและกล่าวว่า “พี่หลินวันนี ้พี่เป็ นบ้ าอะไรขึ ้นมา แม้ วา่ เราจะมีเงินพอสําหรับ
ค่าใช้ จ่าย แต่พี่ไม่เห็นกริยาของผู้ดแู ลร้ านรึ มันทําเหมือนเราเป็ นเด็กบ้ านนอก มันทําให้ ข้าอึด
อัด ”
หลินหมิงกล่าว “เขาเป็ นเพียงคนโง่เขลา ไม่มีความจําเป็ นต้ องสนใจคนโง่เช่นนัน้ เจ้ าไปเลือก
สินค้ าที่เจ้ าอยากจะได้ หากไม่แล้ วข้ าจะเลือกให้ เอง อย่างชุดเกราะหนังนัน่ ดีมยนะ?
ั้
หลินเซี่ยวตงส่ายหัวอย่างหมดปั ญญา “พี่หลินอย่าเสียเวลาที่หอร้ อยสมบัติแห่งนี ้เลย หากเรา
ไม่มีเงินที่จะจ่ายแล้ ว หากพวกเขาจะไล่ลา่ เรา พี่จะวิ่งหนีไปได้ อย่างรวดเร็ ว แต่ข้าที่อ้วนกว่าจะ
ตกอยูเ่ บื ้องหลังและอาจถูกทําร้ าย ”
หลินหมิงไม่อาจจะสรรหาคําพูดใดมาตอบสนองความคิดเหล่านัน้ เขาจึงกล่าวว่า “ใช่อย่างที่
เจ้ าว่า อย่าเสียเวลาเลย?”(ตอนแรกเซี่ยวตงบอกหลินหมิงว่าอย่าเสียเวลามาที่นี่ ประโยค
ข้ างบน)
“เจ้ านัน่ แหละที่จะเสียเวลา อะไรทําให้ เจ้ าเอาเวลาไปคิดเรื่ องไร้ สาระแบบนัน?
้ มองที่ข้า พี่ของ
เจ้ าเป็ นคนซือ่ สัตย์และจงเชื่อพี่ของเจ้ า… ”
หลินหมิงหัวเราะและแง้ มเสื ้อคลุมออกเล็กน้ อย ในกระเป๋ าหน้ าอกของเขามีปึกของธนบัตรสี
ทอง เขากล่าวขึ ้น “นี ้ไม่ได้ เงินรึ?”
หลินเซี่ยวตงที่เหลือบไปเห็นธนบัตรสีทองจํานวนมากถึงกับตัวแข็งค้ างชะงัก กึก ไปในทันที เขา
รู้สกึ ว่าหัวใจของเขาเกิดความว่างเปล่าและดวงตาของเขาก็แวววับขึ ้นมาทันตา
“แต่ละใบของพวกนัน้ มันเป็ นธนบัตรที่มีมลู ค่า 1,000 เหรี ยญทอง”
มันเป็ นเรื่ องจริ ง มันเป็ นธนบัตร 1,000 เหรี ยญทอง! นอกจากนี ้ด้ วยความหน้ าของบึกธนบัตร
กองนันไม่
้ แน่วา่ มันอาจมีมลู ค่ารวมกันได้ ถงึ 10,000 เหรี ยญทอง!
10,000 เหรี ยญทอง! มันหมายความว่าอย่างไร ?!!
หลินเซี่ยวตงคิดถึงเรื่ องต่างๆที่เกิดขึ ้นและในที่สดุ ก็เกิดสีหน้ าแห่งความหวาดกลัวและถามด้ วย
เสียงตํ่าๆ”พี่หลินพี่ไปปล้ นใครมา? มันไม่ถกู ต้ องแม้ จะมีศิลปะการต่อสู้แต่เราไม่ควรขโมย… ”
เมื่อได้ ยินคําพูดเช่นนันของหลิ
้ นเซี่ยวตง หน้ าผากหลินหมิงก็เต็มไปด้ วยรอยหงิกสีดํา น้ องของ
เขานี ้มันช่าง เข้ าใจอะไรยากเสียเหลือเกิน… เขากล่าวอย่างจนปั ญญา”มันเป็ นเงินที่ได้ มาจาก
การขายแผ่นจารึกของข้ า”
“แผ่นจารึก? พี่บอกว่าเศษกระดาษเน่านันเป็
้ นแผ่นจารึก? ขายเท่าไร … พี่ขายพวกมันแผ่น
ละเท่าไร? ”
“3000 เหรี ยญทอง”
“3 ………… 3000!?!?!?!?” หลินเสี่ยวตงเริ่ มตัวสัน่ เขาก็ตกใจอย่างมาก แต่ก็คอ่ ยๆลด
เสียงลง อย่างกลัวว่าคนอื่นได้ ยินเสียงของเขา “พี่ขายมันไปในราคา 3000 เหรี ยญทอง? พี่จะ
บอกว่าฝึ กจารึกเพียงหนึง่ เดือนและสามารถจารึกมูลค่า 3000 เหรี ยญทองได้ รึ? ”
หลินหมิงพยักหน้ า หลินเซี่ยวตงเป็ นเพื่อนน้ องชายชายที่ดีกบั เขามาก เขาไม่ได้ ต้องการที่จะ
ปิ ดบังความลับใด หากเขาอยากซื ้อบางอย่างให้ หลินเซี่ยวตงแล้ วเขาคงต้ องให้ เซี่ยวตงเข้ าใจถึง
สิ่งที่เกิดขึ ้น นอกจากนี ้ในอนาคตเขาจะมีโอกาสที่จะได้ ติดต่อกับฉินชิงหวน,มูย่ ี่และบุคคล
ระดับสูงอื่นๆ และมันคงจะเป็ นไปไม่ได้ ที่จะปิ ดไม่ให้ บงั หลินเซีย่ วตงรู้อยูแ่ ล้ ว
“พี่คิดว่าข้ าโง่รึ!” หลินเซีย่ วตงอุทาน “พี่พงึ่ เริ่ มฝึ กได้ เพียงหนึง่ เดือน จะสามารถทําเช่นนันได้

อย่างไร? พี่คิดว่าข้ าที่อายุน้อยกว่าเพียงสามปี จะถูกหลอกได้ งา่ ยๆรึ? ”
(ณ ตอนนี ้ผู้แปลเริ่ มอยากกระโดดถีบขาคูใ่ ส่เซี่ยวตงจริ งๆ แม่งจะเข้ าใจอะไรยากจังว่ะ)
หลินหมิงยักไหล่ “ความจริ งก็คือความจริ ง ถ้ าเจ้ าไม่เชื่อข้ าแล้ วข้ าจะทําไงได้ ละ่ ”
“โอ้ วท่านพี่ โปรดเลิกล้ อข้ าเล่นเถอะ บอกเรื่ องทังหมดกั
้ บข้ าได้ แล้ ว”
หลินหมิงถอนหายใจและกล่าวว่า “ก็ได้ ข้าจะบอกเจ้ า แต่เจ้ าต้ องสัญญาว่าเจ้ าจะไม่บอกใคร ”
“ข้ าสัญญา!” หลินเซี่ยวตงกล่าวขึ ้นมาในทันที
“อืม… ข้ ามีความลับจะบอกเจ้ า … .เมื่อข้ าอายุสิบสองปี มีปรมาจารย์คนหนึง่ ปรากฏตัวขึ ้น
และกล่าวว่าความสามารถของข้ านันเป็
้ นสิ่งที่หาได้ ยากยิ่ง ข้ ามีสติปัญญาอันชาญฉลาด ท่านผู้
นันต้
้ องการให้ ข้ารักษาสันติภาพของโลก เขาอยากให้ ข้ารับหน้ าที่นนและบั
ั้ งคับให้ ข้าไปทํางาน
เป็ นเด็กฝึ กงานของเขา ในที่สดุ ข้ าก็ได้ เริ่ มศึกษาการจารึกจากเขา … . ”
“มันเป็ นเช่นนี ้นี่เอง!” หลินเซี่ยวตงรู้สกึ อึ ้งอย่างสุดๆ “พี่หลินมันคือเรื่ องจริ งใช่ไหม?”
หลินหมิงกล่าว”ข้ าไม่เคยโกหกเจ้ าอยูแ่ ล้ ว ปรมาจารย์ผ้ นู นสอนข้
ั้ าจริ งๆ”
“เคาะมันออกถ้ าคุณมีหลักและจารึกศึกษาเป็ นเวลาหลายปี แล้ วที่คณ
ุ ไม่ได้ ถามฉันว่าทําไมสิ่ง
ที่จารึกเป็ นเทคนิค?
หลินหมิงกล่าว “ปรมาจารย์ของข้ าเพียงสอนให้ ข้าเข้ าใจเท่านัน้ ไม่ได้ ให้ เงินใดๆเลย สําหรับ
การจารึกแม้ วา่ ข้ าจะเรี ยนมันมา ข้ าก็ไม่ร้ ูวา่ มันใช้ ทําอะไรได้ จนกระทัง่ เจ้ าบอกกับข้ าในวันนัน้
ข้ าถึงได้ ร้ ูวา่ ข้ าสามารถใช้ มนั เพื่อทํากําไรได้ … ”
“ปาฎิหาร!” หลินเซี่ยวตงรู้สกึ ราวกับว่าโลกได้ เกิดปาฏิหาริ ย์ขึ ้น อย่างกับลูกแมวน้ อยที่เคย
เลี ้ยงดูมาหลายปี ได้ กลายเป็ นหญิงสาวแสนสวยที่เป็ นจักรพรรดิหญิงแห่งโลกปี ศาจ เจ้ าหญิงใน
ตํานาน!
“โอ้ วดี เยี่ยมเลย…ตอนนี ้เจ้ าเริ่ มจะเข้ าใจแล้ ว เราไปหาซื ้อสิ ้นค้ ากันต่อ”หลินหมิงดึงสติของ
หลินเซี่ยวตงกลับมาและพาเขาไปดูชดุ เกราะหนัง
หลินเซี่ยวตงก็ไม่ได้ เป็ นคนที่มีความทะเยอทะยานมากนัก เขาไม่ชอบที่จะฝึ กฝนการต่อสู้ เขา
ต้ องการเพียงรักษาสถานะของเขาให้ เป็ นผู้สืบเชื ้อสายของตระกูลหลินเท่านัน้ หลินหมิงคิดว่า
เสื ้อเกราะหนังจะเป็ นอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะกับเขา
“ชุดเกราะหนังตัวนี ้เป็ นอย่างไรบ้ าง?” หลินหมิงถาม ผู้ดแู ลร้ านทําหน้ าหงุดหงิดมองไปที่
หลินหมิงและกล่าวว่า “มันเป็ นอุปกรณ์ที่มีคณ
ุ ภาพสูงของหอร้ อยสมบัติ คําอธิบายอยูใ่ นป้ายที่
อยูบ่ นโต๊ ะ เจ้ าไปดูมนั เองเถอะ ”
คําพูดของเขามีการเยาะเย้ ยว่าหลินหมิงเข้ ามาในร้ านที่มีของราคาแพงและคงไม่มีปัญญาจะ
ซื ้อ
ผู้ดแู ลร้ านคนนันทํ
้ าธุรกิจมานานพอจะรู้ได้ วา่ ใครมีเงินมากพอจะซื ้อสินค้ าได้ หรื อไม่ หากผู้ที่
แต่งตัวดีมีฐานะมาเยือนร้ านค้ าของเขา เขาจะทักทายพวกเขาอย่างยิ ้มแย้ มและให้ ความ
ช่วยเหลือ แต่ผ้ ทู ี่ไม่มีเงินเขาจะไม่สนใจ ไม่ต้องพูดถึงหลินหมิงที่ไม่กี่วนั ก่อนพยายามขายจารึก
ให้ เขา มันไม่ตา่ งกับแผ่นกระดาษเน่าๆแผ่นหนึง่ สําหรับเด็กคนนี ้เป็ นไปไม่ได้ ที่เขาจะมีเงินทอง
มากพอจะซื ้อสินค้ าในร้ านได้
หลินหมิงเดินไปที่ชดุ เกราะหนังและอ่านคําอธิบาย เกราะหนังนี ้ทําจากผ้ าไหมเนื ้อดีและได้ รับ
การผสมกับรากไม้ ทองคํา ถูกสร้ างขึ ้นโดยวิธีที่รวมยี่สิบหัตถกรรมขันสู
้ งเข้ าด้ วยกัน มีราคา 392
เหรี ยญ ทอง
ระดับของชุดเกราะหนังชิ ้นนี ้คือสมบัตริ ะดับดีเยี่ยม มันสามารถทนต่อการโจมตีที่การฝึ กฝนขัน้
กายภาพขันสี ้ ่ได้ แต่หลังจากขันสี
้ แ่ ล้ วมันก็จะถูกทําลายได้ อย่างง่ายดาย หลินหมิงคงไม่
จําเป็ นต้ องใช้ มนั แต่มนั จะดีมากสําหรับหลินเซีย่ วตง
ขณะที่เขามองมันอยู่ บางสิ่งบางอย่างได้ มาสะดุดสายตาของเขา – มันคือโอสถกวางทอง และ
ยาเม็ดผสานวิญญาณ
ก่อนหน้ านี ้หลินหมิงไม่เคยได้ ใช้ ยาโอสถใดๆ เพราะราคาของพวกมันเหล่านันสู
้ งเกินไป
โอสถและยาเม็ดทําจากการรวมสมุนไพรและวัตถุดิบจากสัตว์ดรุ ้ ายและปรุงพวกมันอย่างลงตัว
มันดีกว่าการใช้ เพียงแค่สมุนไพรหรื อวัตถุดิบจากสัตว์ดรุ ้ ายเพียงอย่างเดียว นอกจากนี ้ด้ วยสูตร
ของมันแม้ จะให้ ทงสมุ
ั ้ นไพรและวัตถุดิบจากสัตว์ดรุ ้ ายก็ไม่มีประสิทธิภาพเท่าโอสถและยาเม็ดที่
ถูกปรุงด้ วยอัตราส่วนที่เหมาะสมที่สดุ
กวางทองเป็ นสัตว์หายากมาก โอสถนันทํ ้ ามาจากตัวอ่อนของกวางทองร้ อยปี เป็ นส่วนผสมหลัก
และเสริ มด้ วยสมุนไพร กวางทองเป็ นสัตว์หายากอย่างยิ่งนอกจากนี ้ยังพบมันเพียงในภูเขาลึกที่
ห่างไกล มันไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะล่าตัวอ่อนกวางทองมาได้
เพราะยากวางทองถูกกลัน่ จากตัวอ่อนกวางทองที่อดุ มไปด้ วยพลังและมีกลิ่นหอม นอกจากนี ้
พวกมันไม่ได้ รับการปนเปื อ้ นจากอากาศที่สกปรกแบบปราณฟ้าขันต้
้ นจากภายนอกมดลูก
ดังนันพวกมั
้ นจึงช่วยขจัดสิ่งสกปรกภายในร่างกายและส่งเสริ มระดับแรงดันจิตวิญญาณและ
การฝึ กฝนกายภาพ
ยากวางทองนี ้มีสีเหลืองขนาดเท่าเม็ดข้ าว มูลค่า 200 ทอง
ยาเม็ดผสานวิญญาณ มันจําเป็ นต้ องใช้ วตั ถุดิบที่มีคา่ ในการปรุงมัน ส่วนผสมหลักคือเชื ้อรา
เลือดร้ อยปี มีความสามารถเพิ่มการดูดซับแรงดันจิตวิญญาณและเร่งความเร็ วในการฝึ กฝน
กายภาพ
ยาเม็ดนี ้ก็มีราคา 200 เหรี ยญทอง ลูกหลานของชนชันสู
้ งและตระกูลที่มีฐานะมักจะซื ้อมัน
หลินหมิงหยุดมองและตัดสินใจที่จะซื ้อ
เขาหันไปที่ผ้ ดู แู ลร้ านและกล่าวว่า “ข้ าเอาเกราะหนังรากไม้ ทองคํา ห่อมันให้ ข้าด้ วย และข้ ายัง
ต้ องการโอสถกวางทอง6ชิ ้นและยาเม็ดผสานวิญญาณอีก10เม็ด ทุกสิ่งที่ข้าได้ กล่าวไปห้ ามขาด
แม้ เพียงเล็กน้ อย”
หลินหมิงกล่าวในขณะที่ดงึ กระดาษออกมาเขียนรายการของวัสดุมากมายที่ต้องใช้ ในการจารึก
เขาสังเกตสินค้ าของที่นี ้ มันมีทกุ อย่างที่เขาต้ องการ เขาสามารถซื ้อทุกอย่างได้ ที่นี่

บทที่ 26 ความก้ าวหน้ า


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



เมื่อได้ ฟังคําพูดของหลินหมิงและได้ รายการวัสดุยาวเหยียดผู้ดแู ลหอร้ อยสมบัติหน้ าแดงด้ วย
ความโกรธขึ ้นมาทันที ไอ้ เด็กบ้ านนอกมันคิดว่าจะมาเล่นในหอร้ อยสมบัติได้ อย่างนันรึ ้
อย่างเช่นการสัง่ ซื ้อสินค้ าชุดใหญ่ที่มีมลู ค่ารวมแล้ วหลายพันเหรียญ! มันเป็ นเหมือนกับว่าเด็ก
หนุ่มนี่กําลังซื ้อผักกวางตุ้งที่ตลาด! แม้ แต่ลกู หลานตระกูลขุนนางก็ไม่อาจมีเงินมากถึงหลาย
พันเหรี ยญทองเช่นนี ้!
เขาโบกมือปฏิเสธอย่างอดทนพร้ อมวางกระดาษรายการวัสดุลงบนโต๊ ะและกล่าวว่า”ข้ าจะ
เตือนเจ้ าให้ ร้ ูถงึ บทลงโทษที่จงใจทําให้ เกิดปั ญหาในหอร้ อยสมบัติ โทษของมันรุนแรงอย่าง
ยิ่ง!”
“ไปเตือนแม่ของเจ้ าแทนเถอะ!” หลินเซี่ยวตงทุบลงบนมือของผู้ดแู ลร้ าน เดิมทีผ้ ดู แู ลร้ านใช้
ชีวิตในการทําธุรกิจเท่านัน้ เขาไม่มีพรสวรรค์ในการต่อสู้ เพียงการทุบเบาๆของหลินเซีย่ วตงก็
ทําให้ เขากรี ดร้ องออกมาอย่างน่าเวทนา
“แก!” ผู้ดแู ลร้ านไม่อยากจะเชื่อว่าจะถูกทําร้ ายเช่นนี ้ มันกล้ าที่จะก่อเหตุในหอร้ อยสมบัติ!
“ดูไอ้ หน้ าโง่เหมือนหมานี่สิ คิดว่าพวกข้ าไม่มีเงินรึ!” ในขณะที่หลินเซี่ยวตงกล่าว เขาเอื ้อมมือ
เข้ าไปในเสื ้อคลุมของหลินหมิงและหยิบเอาธนบัตรสีทองออกมา เขาทุบลงบนโต๊ ะด้ วยแรง
ขนาด 100 จิ๋น โต๊ ะถึงกับแตกร้ าว เขาไม่มีทางพลาดที่จะสัง่ สอนบทเรี ยนกับคนหยาบคาย
เช่นนี ้?
ผู้ดแู ลหอร้ อยสมบัติมนึ งงไปชัว่ ครู่ เขารี บสังเกตธนบัตรนันทั
้ นที มันเป็ นธนบัตรที่มีคา่ ใบละ
1000 เหรี ยญทอง!! จากที่ดเู ด็กสองคนนี ้มีมนั อยูท่ งปึ
ั ้ ก ตีคา่ ออกมามีคา่ หลายพันทอง!!! เงิน
ก้ อนใหญ่ขนาดนี ้มีแต่ชนชันสู
้ งเท่านันที ้ ่จะมีโอกาสได้ ถือครอง
ผู้ดแู ลถึงกับหน้ าถอดสี เป็ นไปไม่ได้ เด็กที่พยายามเอาจารึกเน้ าๆมาขายเมื่อไม่กี่วนั ก่อนจะเป็ น
ชนชันสู
้ ง หรื อว่าเขาขายอาคมเหล่าได้ แพงถึงเพียงนี ้?
ก็อาจจะเป็ นไปได้ จารึกเหล่านันอาจจะเป็
้ นของจริ งที่มีราคาสูง พวกเขาถึงได้ มีเงินมากมาย
เช่นนี ้
ผู้ดแู ลเศร้ าสลดลงไปในทันที เขาได้ ทําตัวหยาบคายต่อหน้ าลูกค้ าระดับสูงทังสองคน
้ ถือเป็ น
ความโง่เขล่าของตัวเขาเอง แต่อย่างไรเงินคือพระเจ้ า!!
เขาทําได้ เพียงยิ ้มแห้ งๆ แล้ วเอากระดาษรายการวัสดุขึ ้นมาดู ของพวกนี ้ไม่ได้ มีราคาถูกๆเลย
เขาคํานวณอย่างคร่าวๆ มันราคารวมกันเกือบๆ 6พันเหรี ยญทองเลยทีเดียว!! ซึง่ เขาจะได้ สว่ น
แบ่งประมาน 120 เหรี ยญ ว้ าวววว!!
มันไม่ใช่จํานวนน้ อยๆเลยสําหรับส่วนแบ่งที่เขาจะได้ ถึงเขาจะไม่คอ่ ยพอใจเด็กพวกนี ้ แต่มนั ก็
ต้ องทน เขามีทางยอมเสียส่วนแบ่งถึง 120 เหรี ยญทองไปอย่างแน่นนอน เขาจึงรี บลุกขึ ้นแล้ ว
โค้ งลงอย่างสุภาพ “ข้ าน้ อยมีตาหามีแววไม่ ที่ไม่ร้ ูวา่ นายน้ อยทังสองจะซื
้ ้อสินค้ ามากมายเช่นนี ้
ได้ โปรดรอซักครู เดี๋ยวข้ าน้ อยจะรี บไปเตรี ยมสินค้ ามาให้ ทา่ นในทันที” (แหม พูดดีเชียวนะ
เมิงง)
ผู้ดแู ลที่อ้วนเหมือนหมูรีบวิ่งดัง่ สายลม สิ ้นค้ าที่หลินหมิงต้ องการนันล้
้ วนอยูใ่ นสถานที่ซงึ่
ห่างไกลกัน แต่ผ้ ดู แู ลก็จดั หามาได้ อย่างรวดเร็ ว เขากลับมาที่โต๊ ะแล้ วบอกว่า “นายน้ อยทังสอง้
นี่คือสินค้ าทังหมดที
้ ่ทา่ นต้ องการขอรับ ได้ โปรดตรวจสอบอีกครัง้ หนึง่ ด้ วย ทังหมดมี
้ มลู ค่า
5800 ทองขอรับ”
เมื่อเห็นกองสินค้ ากองตรงหน้ า หลินเซี่ยวตงหันไปถามหลินหมิง “ครบไหมท่านพี่?”
“ก็น่าจะประมานนันแหละ”
้ หลินหมิงตอบ
เห็นดังนัน้ หลินเซี่ยวตงก็ยิ ้มนิดๆ แล้ วกล่าวว่า “โทษทีนะ นี่อาจจะเป็ นเรื่ องของความพอใจของ
ลูกค้ า แต่ถ้าข้ าได้ ชําระเงินกับผู้ดแู ลท่านอื่น ข้ าจะพอใจมากกว่า?” ใบหน้ าที่ยิ ้มระรื่ นของ
ผู้ดแู ลพลันบึ ้งขึ ้นมาในทันที
ในร้ านค้ าระดับสูงเช่นหอร้ อยสมบัติ มันเป็ นปกติอยูแ่ ล้ วที่จะมีผ้ ดู แู ลหลายคน ซึง่ ถูกคัดตาม
ความสามารถ ส่วนค่าคอมมิชชัน่ ของแต่ละคนขึ ้นอยูก่ บั ราคาสินค้ าที่ตนเองได้ ขายออกไป
หลินเซี่ยวตงรู้ในเรื่ องนี ้ดี จึงอยากจะสัง่ สอนผู้ดแู ลที่ตํ่าทรามคนนี ้เสียหน่อย “ช่วยไปเรี ยกมา
เร็ วๆล่ะ พวกข้ ากําลังรี บ”
เมื่อผู้ดแู ลรู้วา่ หลิน เซี่ยวตงจะเล่นงานเขา ไฟแค้ นในใจก็พลันปะทุขึ ้นมา ถ้ าเป็ นคนชนชันสู
้ ง
เขาคงจะยอมปล่อยไปแล้ วถือว่าเป็ นข้ อผิดพลาดของเขาเอง แต่นี่!! มันเป็ นแค่เด็กหนุม่ สองคน
ที่จ่ๆู ก็รวยขึ ้นมา บังอาจมาข่มเหงเขา เป็ นธรรมดาที่เขาจะไม่ปล่อยให้ ตนเองถูกหยามศักดิ์ศรี
เช่นนี ้ เขาตอบกลับไปด้ วยเสียงเย็นชา “ในหอคอยร้ อยสมบัติแห่งนี ้ มีข้าเป็ นผู้ดแู ลแต่เพียงคน
เดียว ข้ าจะไปหาคนอื่นได้ ที่ไหน?” (แหมโกหกหน้ าด้ านๆเลยนะเมิง)
“ไอ้ คนโป้ปด อย่าพยายามโกหกข้ าหน่อยเลย อย่าให้ ข้าต้ องไปคุยกับผู้บริ หารของร้ านด้ วย
ตนเอง”
“เอาสิ!!” ผู้ดแู ลกล่าวอย่างมัน่ ใจ ผู้บริ หารรึ เจ้ าเด็กพวกนี ้คิดว่าจะมีสิทธิพบผู้บริ หารของหอ
ร้ อยสมบัติได้ งนรึ ั ้ เหอะ
ในขณะที่เขาคิดในใจอยู่ ผู้ดแู ลอ้ วนก็เหลือบไปเห็นสิ่งหนึง่ เข้ า!! บัตรสมาชิกสีมว่ ง!! (บัตรที่มยู่ ี่
ให้ หลินหมิง)
ผู้ที่มีบตั รนี ้จะได้ รับส่วนลด 10%ตราบเท่าที่ไปซื ้อของในร้ านที่อยูใ่ นเขตเมืองลิขิตฟ้า
มีเพียงตระกูลราชวงศ์เท่านันที
้ ่จะมีบตั รนี ้ได้ !!!
หัวใจของผู้ดแู ลหยุดเต้ นในทันที บัตรสมาชิกสีมว่ งนี ้ ราชวงศ์จะมอบให้ คนในตระกูลนักรบ
ชันสู
้ งเท่านัน้ มีไม่ถงึ 100ใบในอาณาจักรแห่งนี ้ นัน่ แสดงว่า ผู้ที่มีบตั รนี ้ถ้ าไม่ใช่ราชวงศ์ก็ต้อง
เป็ นผู้อาวุโสในกองทัพ ซึง่ ตระกูลเหล่านันสามารถขยี
้ ้เขาได้ เหมือนขยี ้แมลง
“จบแล้ ว…. ชีวิตข้ าจบแล้ ว….” เขาได้ แต่พดู ในใจ เด็กหนุ่มสองคนนี ้จะต้ องได้ ตระกูลนักรบ
ชันสู
้ งสนับสนุนเป็ นแน่ ไม่ก็..ลูกของจักรพรรษที่ออกมาเดินเล่นนอกปราสาท
ไม่จริ งน่า ชีวติ ข้ าช่างรันทดเสียจริ ง ข้ าไม่น่าประมาทเช่นนันเลย
้ ผู้ดแู ลร้ านพึมพําอย่างหมด
อาลัยตายอยาก
“ท่านทังสอง
้ ข้ าน้ อยผู้ตาํ่ ต้ อยนี ้ผิดไปแล้ วสมควรได้ รับโทษ ข้ าน้ อยจะไปเรี ยกผู้ดแู ลคนอื่นให้
ท่าน ได้ โปรดอย่าถือสาข้ าน้ อยเลยยย” แล้ วผู้ดแู ลก็เริ่ มตบหน้ าตัวเองซํ ้าๆ แก้ มยุ้ยๆของเขา
เด้ งดึง๋ ๆๆ
หลินเซี่ยวตง งงเป็ นไก่ตาแตก นี่มนั กินยาไม่เขย่าขวดรึเปล่าเนี่ย??
ผู้ดแู ลตัวอ้ วนรี บไปตามผู้ดแู ลท่านอื่นอย่างรวดเร็ ว(กลัวโดนเชือด) และแล้ วเขาก็พบกับผู้ดแู ลอี
คนหนึง่ แล้ วเขาก็ได้ แต่ขอโทษซํ ้าแล้ วซํ ้าอีก จากนันก็
้ ได้ เรี ยกรถม้ ามาเพื่อรับพวกเขาทังคู
้ ไ่ ปส่ง
เมื่อกลับมาถึงที่พกั ของหลินหมิง หลินเซี่ยวตงไม่ทนั เห็นบัตรสมาชิกสีมว่ ง จึงไม่ร้ ูเหตุผลที่
แท้ จริ งที่ทําให้ ผ้ ดู แู ลทําตัวเช่นนัน้ เขาคิดว่าเป็ นเพราะอํานาจเงินของหลินหมิง แต่กระนันเขาก็

รู้สกึ สนุกสุดๆ
“ฮ่าๆ มันตลกมากเลย ข้ ายังจําตอนที่มนั กลัวพี่ได้ อยูเ่ ลย นี่ถ้าพี่ไม่รีบนะ ข้ าคงจะได้ ฟ้องผู้จบั ริ
หารแล้ วบังคับให้ ไล่เจ้ านัน่ ออกแล้ วเชียว”
กลับกันหลินหมิงนันรู ้ ้ เรื่ องราวทุกอย่าง เขารู้วา่ ผู้ดแู ลอ้ วนนัน่ เห็นบัตรม่วงของเขา แนวคิดที่เขา
มีตอ่ บัตรได้ เปลี่ยนไปทันที เขาไม่คิดเลยว่าตระกูลนักรบชันสู ้ งจะมีอํานาจทัดเทียมราชวงศ์เลย
ทีเดียว
“คนบางคนใช้ ชีวิตอย่างยากลําบาก การประจบประแจกและความก้ าวร้ านเป็ นสิ่งที่พวกเขาทํา
ไปเพื่อความอยูร่ อด ไม่จําเป็ นต้ องไปโหดเหี ้ยมกับเขาขนาดนัน้ เซี่ยวตง เกราะหนังและโอสถ
กวางทอง3เม็ดนี่เป็ นของเจ้ า”
โอสถกวางทองนันสามารถขั
้ ดสิ่งปฏิกลู ออกจากร่างกายได้ ดี โดยเม็ดแรกจะได้ ผลมากที่สดุ เม็ด
ต่อไปผลจะเหลือเพียงครึ่งเดียว ถ้ าใช่มากกว่า3เม็ดก็ถือว่าเสียของเปล่าๆ ส่วนยาเม็ดผสาน
วิญญาณนันสามารถทานได้
้ ไม่จํากัด แต่วา่ มันจะส่งผลต่อผู้ที่ขยันฝึ กเท่านัน้ เซี่ยวตง ไม่คอ่ ย
ฝึ ก ดังนันไม่
้ มีประโยชน์ที่จะให้ เขาไป
โอสถกวางทอง 3เม็ดและเกราะหนังอันนัน้ มีคา่ ถึง1000เหรี ยญทอง เลยทีเดียว สําหรับหลิน
เซี่ยวตงแล้ วมันเป็ นของที่มีคา่ มหาศาล เขาคิดอยูใ่ นใจว่า ถ้ า1000เหรี ยญ เป็ นแค่เศษเงินของ
หลินหมิงแล้ วล่ะก็ ไม่ต้องคิดเลยว่าต่อไปหลินหมิงจะมีเงินมากขนาดไหน “งันข้
้ าไม่เกรงใจล่ะ
นะพี่หมิง ต่อไปท่านจะต้ องเป็ นร่มเงาให้ ข้าอาศัยแล้ วล่ะ”
หลิงหมิงยิ ้มแล้ วบอกว่า “เราเป็ นพี่น้องกัน ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ อ้ อแล้ วก็……” เขาหยิบ
ธนบัตรออกมา 3 ใบ
“เมื่อคนส่งข่าวมาถึงเมืองลิขิตฟ้าในครัง้ ต่อไป ฝากเจ้ าเอาธนบัตรพวกนี ้ไปให้ พอ่ -แม่ข้าหน่อย
แล้ วบอกให้ พวกเขาซื ้อภัตตาคารไว้ เลย”
พ่อแม่ของเขาได้ ใช้ เวลากว่าครึ่งชีวิตทํางานในภัตตาคารนันจึ
้ งเป็ นธรรมดาที่จะรู้สกึ ผูกพันธุ์
หลินหมิงจึงอยากจะช่วยซื ้อภัตตาคารให้ เป็ นของขวัญ และเพื่อแบ่งเบาภาระของพวกเขาด้ วย
“เชื่อมือข้ าได้ เลย”
เมื่อหลินเซี่ยวตงกลับไป หลินหมิงก็กลับมาในห้ องของเขา เขามองไปที่ปฏิทิน แล้ วเห็นว่าวัน
สอบเขาสํานักเจ็ดแก่นแท้ เหลือเพียง 50วันเท่านัน้ ในช่วงนัน้ เขาจะต้ องแกร่งขึ ้นให้ ได้ !!
โอสถกวางทองและยาผสานวิญญาณไม่ได้ เพิ่มพลังการต่อสู้โดยตรง โดยโอสถกวางทองนันจะ ้
ขับสิ่งปฏิกลู ออกจากร่างกาย ในขณะที่ยาผสานวิญญาณจะทําให้ การฝึ กจิตนันง่
้ ายขึ ้น เมื่อใช้
รวมกันเขาจะสามารถฝึ กได้ นานขึ ้น
ในการบ่มพลังอย่างใดอย่างหนึง่ นันจะทิ
้ ้งสิ่งปฏิกลู เอาไว้ ในร่างกาย ถึงแม้ จะฝึ กได้ เร็วขึ ้นแต่
รากฐานวิญญาณจะไม่มนั่ คงพอ ส่วนใหญ่จงึ ต้ องใช้ เวลามากในการควบคุมพลังให้ เสถียร
หลินหมิงรู้วธิ ีเพิ่มสรรพคุณของยา แต่โอสถกวางทองไม่สามารถทําเช่นนันได้
้ เขาจึงทานมันเข้ า
ไปเลย
หลินหมิงเติมนํ ้าลงในอ่างแล้ วรี บเปลื ้องผ้ าลงไป เขารู้สกึ ถึงการไหลเวียนของเลือดบริ เวณอก
เขาเริ่ มโคจรพลัง ปฐมโกลาหลทันที สิ่งปฏิกลู ที่ตกค้ างก็เริ่ มหายไป โอสถกวางทองออกฤทธ์
แล้ ว!!
หลินหมิงรู้สกึ ได้ วา่ ร่างกายของเขาถูกชําระล้ าง!!
ในร่างกายของนักสู้แล้ ว ตังแต่
้ ออกมาจากท้ องแม่ได้ รับสิ่งปฏิกลู หลากหลายทังในอากาศ

อาหาร นํ ้า สะสมมาในร่างกาย โอสถกวางทองมีอากาศบริ สทุ ธ์โดยกลัน่ มาจากตัวอ่อนของ
กวางทอง จึงสามารถชําระล้ างสิ่งปฏิกลู ทังหลายในร่
้ างกายได้ เป็ นอย่างดี
หลินหมิงอยูใ่ นอ่างตลอดทังคื
้ น จนนํ ้าในอ่างเริ่ มจะเปลี่ยนสีเป็ นสีดําๆ นี่คือสิ่งปฏิกลู ในร่างของ
หลินหมิง
ในตระกูลชันสู
้ งแล้ วเมื่อบุตรของพวกเขาอายุ12ปี แล้ ว เขาจะให้ บตุ รแช่ในอ่างนํ ้าที่เต็มไปด้ วย
ยาหายาก เพื่อทําการชําระล้ างก่อนฝึ กจิต หรื อ วิถีนกั รบ ซึง่ จะทําให้ สามารถบ่มพลังได้ ดีขึ ้น
มาก
รุ่งสาง หลินหมิงเปิ ดตาขึ ้นโอสถกวางทองได้ ถกู เขาดูดซับไปจดหมดและร่างของเขาได้ ถกู ชําระ
ล้ างแล้ ว
หลินหมิงลองใช้ วิชา ปฐมบทความโกลาหล มันง่ายมากที่จะควบคุม หลินหมิงยังพบอะไรอีก
อย่าง ดูเหมือนว่าพลังวิญญาณจะแผ่ออกไปทัว่ ทังร่้ างของเขา นี่เป็ นจุดเริ่ มต้ นของขันที
้ ่สอง ขัน้
ผิวกายภายนอก!
หลินหมิงบรรลุขนที
ั ้ ่สอง ขันผิ
้ วกายภายนอกแล้ ว !!!!!

บทที่ 27 การทดสอบ!
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
หลินหมิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาได้ มาถึงจุดสูงสุดของการฝึ กฝนกายภาพขันแรก ้
และอีกเพียงขันตอนเล็
้ กๆก็จะสามารถก้ าวไปสูข่ นที
ั ้ ่สองได้ แม้ จะไม่มีโอสถกวางทองก็คงจะใช้
เวลาอีกไม่กี่วนั เขาก็จะไปถึงขันที
้ ่สอง!!
การฝึ กฝนขันแรกคื
้ อการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย การฝึ กความแข็งแก่รงที่เป็ นปั จจัยที่แท้ จริ ง
ส่วนใหญ่ก็คือพละกําลังของกล้ ามเนื ้อและในขันที้ ่สองจะเป็ นการแพร่กระจายความแข็งแกร่ง
ไปทัว่ ร่างกาย ไม่เพียงแต่จะเพิ่มพละกําลัง ทังความคงทนของร่
้ างกายก็เช่นกัน ถึงแม้ จะไม่ถงึ
ขันอยู
้ ย่ งคงกระพัน แต่ก็บอกได้ วา่ แม้ แต่ดาบก็ยากที่จะแทงทะลุร่างกายได้ และมีอาการ
บาดเจ็บที่ลดลง ประสิทธิผลการต่อสู้โดยรวมก็จะเพิ่มขึ ้นอีกเล็กน้ อย
อย่างไรก็ตามจู้ยนั เองก็พงึ่ ไปได้ ถงึ แค่จดุ สูงสุดของขันที
้ ่สามในช่วงครึ่งปี ที่ผ่านมา ตัวเขาพึง่
มาถึงขันที
้ ่สองพร้ อมด้ วยวรยุทธ’ปฐมโกลาหล’ แต่เมื่อเทียบกับจู้ยนั แล้ วก็ยงั มีเพียงความห่าง
ชันที
้ ่มากเกินไประหว่างพวกเขา เมื่อจู้ยนั ได้ รับการฝึ กอบรมอีกครึ่งปี เขาเป็ นคนที่มีพรสวรรค์
ระดับสี่เช่นมัน คงจะมีความเร็วในการฝึ กฝนได้ อย่างรวดเร็ วในทํานองเดียวกัน
แม้ วา่ เขาจะยังไม่ได้ นอนเลย หลินหมิงยังรู้สกึ สดชื่นและไม่เหนื่อยหรื ออ่อนล้ าแม้ แต่น้อย เขารี บ
วิ่งออกไปและมุง่ หน้ าไปยังเทือกเขาโจว
ศาลาจันทร์ กระจ่างอยูห่ า่ งออกไปไม่กี่ไมล์จากสถานที่ที่หลินหมิงมักจะไปฝึ กฝน หากวิ่งออกไป
ด้ วยความเร็วสูง ก็ใช้ เวลาเพียงธูปหนึง่ ก้ านไหม้ หมดเท่านัน้ แต่วนั นี ้เขาจะได้ เริ่ มการฝึ กฝน
กายภาพเพื่อไปสู้ขนที
ั ้ ่สอง หลินหมิงจึงมีความสุขเป็ นพิเศษในเวลานี ้
หลังจากที่เขาไปถึงสถานที่ที่เขาฝึ กฝนเป็ นประจํา หลินหมิงโยนเป้ของเขาลงกับพื ้นดิน มันมี
วัสดุสําหรับปรุงยาและผ้ าพันแผล ยานี ้มันมีราคาไม่ใช่น้อยๆ ของพวกนันทั ้ งหมดเป็
้ นยาที่หา
ยากและมีคา่ แม้ แต่ผ้าพันแผลเองมันได้ ซมึ ซับนํ ้าหญ้ ากระดูกดําเอาไว้ ซึง่ ทําให้ มีคณ
ุ สมบัติ
เปรี ยบได้ กบั สมุนไพรชันเลิ
้ ศ ด้ วยสิ่งเหล่านี ้ เขาไม่ได้ มีความกังวลที่จะบาดเจ็บเลย หลินหมิง
สามารถเพลิดเพลินไปกับการฝึ กได้ มากเท่าที่หวั ใจของเขาต้ องการ
หลินหมิงกินยาเม็ดผสานวิญญาณเพื่อเพิ่มอัตราการดูดซับพลังปราณ หลินหมิงเริ่ มฝึ กฝน
‘ปฐมโกลาหล’ ซึง่ เป็ นวรยุทธขันที
้ ่หนึง่ ของ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’
ทวีปนภาริ นไหล ผู้ที่มีพละกําลัง 1000 จิ๋น ก็ถือว่าเป็ นความสําเร็ จเพียงเล็กๆน้ อยๆ หาก
สามารถก้ าวไปถึงขันที
้ ่ห้า ขันดั
้ ดกระดูก หรื อ ขันที
้ ่หก ขันผสานชี
้ พจร เมื่อถึงเวลานันเหล่
้ านักสู้
จะมีพละกําลังมากถึง 8000 จิ๋น และหากเป็ นผู้ที่พรสวรรค์ที่ลํ ้าเลิศเป็ นไปได้ วา่ เขาผู้นนั ้
สามารถแสดงพละกําลังขนาด 10,000 จิ๋นออกมาก็เป็ นได้
มันคือขีดจํากัด โดยทัว่ ไปสําหรับคนส่วนใหญ่และปรมาจารย์ทงหลายเมื
ั้ ่อมาถึงระดับปราณฟ้า
ขันต้
้ นพวกเขาก็จะถึงทางตัน ความแข็งแกร่งของพวกเขายากยิ่งนักที่จะสามารถพัฒนาต่อไป
ได้ อีก พวกเขาทําได้ เพียงเพิ่มพลังปราณให้ มากขึ ้นเท่านัน้
แต่หากเกิดปาฏิหาริ ย์ ผู้ใดที่สามารถเข้ าไปสูร่ ะดับปราณปลายฟ้าได้ พวกเขาจะเข้ าใจถึงพลัง
ปราณและพลังแห่งจิตวิญญาณ ถือได้ วา่ เป็ นเส้ นทางที่แท้ จริ งของเหล่านักสู้
แต่ที่ถกู บันทึกไว้ ใน ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ผู้มีพละกําลัง 1000 จิ๋นเป็ นเพียงจุดเริ่ มต้ น
เล็กๆเท่านัน้ ผู้ที่ฝึกมันแล้ วจะมีพละกําลังถึง 10,000 จิ๋น และคนส่วนเล็กๆที่เข้ าใจทังหมดของ
มันได้ อย่างถ่องแท้ และประสบความสําเร็ จ จะมีพละกําลังถึง 100,000 จิ๋น ในฐานะที่เป็ น
จุดสูงสุดของพลังที่ไม่อาจมีสิ่งใดมาต่อกรได้ หากพวกเขาสามารถเปิ ดแปดประตูสวรรค์เก้ า
ดวงดาวได้ แล้ ว คนๆนันสามารถยื
้ มพลังจากสวรรค์และแผ่นดินได้ การก้ าวเดินของพวกเขา
สามารถทลายได้ กระทัง่ ภูเขา หมัดของพวกเขาจะทําให้ ทวั่ ทังโลกปั
้ ่ นป่ วน เป็ นพลังที่ไม่อาจจะ
บรรยายได้ ด้วยวาจา ผู้ที่สามารถทําเช่นนันได้
้ ต้องมีพละกําลังเกินกว่า 1,000,000 จิ๋นเป็ นแน่
เมื่อหลินหมิงเห็นมันในความทรงจําของเขา เขาแทบจะไม่เชื่อความทรงจําของตัวเอง แต่ยงั ไง
ซะนี ้ก็เป็ นมรดกที่ตกทอดมาหลายพันปี จากดินแดนพระเจ้ า
แต่ด้วยพละกําลังแตกต่างกันกว่าพันเท่า มันก็อาจจะดูเหลือเชื่อเกินไป แต่เมื่อเขาสํารวจความ
ทรงจํานันให้
้ ละเอียด ทําให้ เขาได้ ทราบว่าเพียงคนเร่ร่อนและเด็กตัวเล็กๆที่วงิ่ เล่นกันอยู่ พวก
เขาเหล่านันมี
้ พละกําลังหลายพันจิ๋น สําหรับลูกศิษย์ในสํานักแล้ ว หากพวกเขาจะมีพละกําลัง
ระดับ 100,000 จิ๋นก็ถือเป็ นเรื่ องธรรมดาเมื่อที่แห่งนันคื
้ อดินแดนแห่งพระเจ้ า
ความทรงจํานี ้มีรายละเอียดมากมายทําให้ หลินหมิงเชื่อว่า แม้ จะเป็ นจอมพลฉินเสี่ยวก็ไม่อาจ
เทียบได้ กบั คนเร่ร่อนหรื อเด็กตัวเล็กๆในดินแดนพระเจ้ าด้ วยซํ ้า
อย่างไรก็ตามการเรี ยงลําดับของความแข็งแกร่งเหล่านี ้ยังห่างไกลจากหลินหมิงมากนักเพราะ
ถ้ าจะบอกว่าขันดั
้ ดกระดูกไปสูข่ นผสานชี
ั้ พจรเป็ นเรื่ องยากแล้ ว ขันดั
้ ดที่จะมีการเปิ ดแปดประตู
สวรรค์เก้ าดวงดาวก็คงเป็ นเรื่ องที่ยากขึ ้นไปอีก นับประสาอะไรกับหลินหมิง จากความทรงจํา
ของเขา เขารู้วา่ มีลกู ศิษย์จํานวนมากที่ไม่สามารถทํามันได้ เมื่อเทียบกับบุคคลในอาณาจักร
ลิขิตฟ้าแล้ วมันยากยิ่งกว่าการก้ าวจากปราณฟ้าขึ ้นต้ นไปปราณปลายฟ้าเสียอีก
หลินหมิงคิดถึงเรื่ องทังหมดนี
้ ้และหายใจเข้ าลึกๆ มันยังเร็ วเกินไปที่จะพิจารณาเรื่ องเหล่านัน้ สิ่ง
ที่เขาควรจะทําได้ ในตอนนี ้ก็คือฝึ กพื ้นฐานของ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ และอย่างน้ อยก็
ต้ องบรรลุขนตอน
ั้ ‘ไหลลืน่ ดุจแพรไหม’ ให้ ได้ เสียก่อน
‘ไหลลืน่ ดุจแพรไหม’ เป็ นวิชาที่สามารถโจมตีต้นไม้ ด้วยหมัดมันทําให้ เนื ้อเยื่อภายในเสียหาย
รุนแรงโดยที่เปลือกภายนอกไม่เป็ นอะไรเลยด้ วยซํ ้า
แต่ความทรงจําของผู้เฒ่านันออกจะเลื
้ อนรางไปบ้ าง หลินหมิงจึงยังไม่เข้ าถึงขันตอนนี
้ ้และทํา
ได้ เพียงพยายามที่จะค้ นหาส่วนที่ยงั ไม่ชดั เจนของมัน เหมือนชิ ้นส่วนจิกซอที่ขาดหายไป
ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของเมืองลิขิตฟ้า มีทีมกองกําลังทหารติดอาวุธที่ยืนอยูอ่ ย่างระมัดระวัง
หนุ่มนักรบชุดผ้ าไหมที่มีดาบยาวคาดไว้ ที่เอวของเขา ยืนอยูบ่ นทางเดินและมองไปรอบๆ ราว
กับว่าเขากําลังรอใครซักคนอยู่
ทันทีที่เวลาธูปไหม้ หมดก้ านผ่านไปชายหนุ่มอีกคนที่สวมหมวกและชุดเกราะ ค่อยๆเดินลงมา
ในห้ องโถง ดูเหมือนว่าเขาจะมีอายุยี่สิบปี กว่าๆ แม้ วา่ ความรู ปลักษณ์ของเขาจะไม่เหมือนกับ
เจ้ าชายนัก แต่การเดินและลมหายใจที่สงบนัน้ เขาดูเหมือนจะเป็ นปรมาจารย์ซะมากกว่า
เมื่อชายหนุม่ ชุดผ้ าไหม ได้ เห็นชายคนนี ้ก็ยิ ้มอย่างมีความสุข และกล่าวต้ อนรับต้ อนรับเขา
“กลับมาแล้ วรึทา่ นพี่ ท่านพ่อจะต้ องดีใจกับความสําเร็ จของท่านพี่แน่ๆ ”
ชายหนุ่มในชุดผ้ าไหมยิ ้ม เขาเป็ นคนที่ต้องเสียเงินถึง 1000 เหรี ยญทองและได้ รับเพียงความ
อับอายกลับ เขาคือ หวังยี่เกา
ในตอนนี ้หวังยี่เกาดีใจมาก แม้ วา่ เขาจะพยายามปิ ดเรื่ องนันเอาไว้
้ เป็ นความลับ และป้องกันมิ
ให้ ขา่ วการพ่ายแพ้ เสียเงินแพร่กระจายออกไป แต่พอ่ ของเขาก็ยงั รู้เรื่ อง ซึง่ ทําให้ พอ่ เขานันโกรธ

เคืองอย่างมาก
พ่อของเขาไม่ได้ โกรธในเรื่ องที่หวังยี่เกาเสียเดิมพัน แต่โกรธตรงที่เขาพ่ายแพ้ ให้ กบั หนุม่ ที่มีการ
ฝึ กฝนกายภาพขันที้ ่หนึง่ และยังได้ เสียชื่ออับอายกลับมาอีก มันจึงถือเป็ นความอับอายของ
ตระกูลที่อาจจะโดนดูถกู เยาะเย้ ยจากตระกูลอื่นๆ
หวังจูซ้ อู อกคําสัง่ ให้ กกั บริ เวณเขาเป็ นเวลาสองเดือนและเขาก็พงึ่ ได้ ออกมาในวันนี ้
การถูกกักบริ เวณเป็ นเวลาสองเดือน สร้ างความยากลําบากให้ แก่หวังยี่เกา เป็ นอย่างมาก
นอกจากจะไม่ได้ รับประทานอาหารดีๆแล้ ว ยังไร้ ผ้ หู ญิงคอยบําเรอ หรื อแม้ กระทัง่ พาลูกน้ องไป
เที่ยวข่มขวัญชาวบ้ านก็ไม่ได้ แถมยังต้ องมาทนนัง่ เรี ยนเรื่ องการทหารและทําการบ้ านของทาง
สํานักอีก
หวังยี่เกาเกลียดสิ่งเหล่านี ้ยิ่งกว่าอะไรที่เขาเคยได้ พบเจอมาเสียอีกและทังหมดนี
้ ้ก็เป็ นเพราะ
หลินหมิง มันทําให้ เขาไม่อาจจะยอมรับความเจ็บปวดและความอับอายในครัง้ นี ้ได้
แต่หวังยี่เกาก็ยงั ไร้ หนทางที่จะจัดการกับหลินหมิง เขาไม่มีลกู น้ องที่มีพละกําลังมากพอที่จะสู้
หลินหมิงได้ ยิ่งสู้ด้วยตัวเขาเองแล้ วยิ่งไม่ต้องพูดถึง และเหล่าเพื่อนๆของเขาเองที่นกั เลง
อันธพาลก็เทียบพลังของหลินหมิงไม่ไหว ยิ่งไปกว่านันเขายั ้ งโดนพ่อลดเงินที่ให้ เป็ นค่าใช่จ่าย
อีกต่างหาก จึงแทบเป็ นไปไม่ได้ ท่ีเขาจะไปจ้ างวานให้ ใครมาช่วย เขาจนปั ญญาที่จะแก้ แค้ น
หลินหมิง ทําได้ เพียงเก็บความขมขื่นที่ผ่านมาเอาไว้
จนกระทัง่ มาถึงวันนี ้ วันที่พี่ชายของเขากลับมาหวังยี่เกาดีใจจนแทบหลัง่ นํ ้าตา ในที่สดุ โอกาสที่
จะชําระแค้ นให้ กบั ความข่มขื่นที่เขาต้ องทนแบกรับมาตลอดก็มาถึงเสียที ดังนั ้ นเขาจึ
้ งตังหน้
้ า
ตังตารอท่
้ านพี่ของเข้ ากลับมา พร้ อมการต้ อนรับอย่างดี
หวังยี่หมิง มองไปยังน้ องชายที่น่าสงสาร พวกเขาทังสองล้
้ วนแล้ วเป็ นลูกของคนตระกูลหลัก
และยังมีพอ่ แม่คนเดียวกันอีกด้ วย พี่ชายจึงเข้ าใจความเจ็บปวดของน้ องชายได้ ในทันทีแต่ด้วย
ความมีเหตุผลแล้ วเขาจึงกล่าว “เจ้ ารอข้ ามาจนถึงวันนี ้เพื่อที่จะเล่าเรื่ องที่เจ้ าไปสร้ างความอับ
อายให้ กบั ตระกูลรึ?”มันเป็ นเรื่ องธรรมดาที่ทา่ นพ่อจะลงโทษเจ้ า
หวังยี่เกามองไปที่พี่ชายของเขาด้ วยแววตาอันน่าสงสาร“ท่านพี่ข้าเองก็เข้ าใจที่ทา่ นพ่อลงโทษ
ข้ า แต่เจ้ านรกที่มาลังแกข้ ามันหยิ่งยะโสโอหังเกินไป มันทําร้ ายลูกน้ องของข้ าและยังโกงการ
เดิมพันอีก ถือเป็ นการดูหมิ่นเกียรติตระกูลของเราอย่างมาก ”
หวังยี่หมิงได้ ฟังก็ร้ ูได้ วา่ ไอ้ น้องชายตัวแสบพยายามกุเรื่ องไร้ เหตุผลขึ ้นมาอธิบาย เขาตัดบท
อย่างหมดความอดทน”แกคิดว่าข้ าจะไม่ร้ ูรึวา่ แกนายต้ องการอะไร แกต้ องการให้ ข้าไปล้ าง
แค้ นให้ นายสินะ”
“พี่ชาย ท่านพี่เป็ นถึงยอดฝี มือ ไม่มีผ้ ไู ด้ อาจต่อกรท่านได้ การไปจัดการเจ้ าเด็กเลวนัน่ ก็
เหมือนกับแค่กระดิกนิ ้วเท่านันเอง”

หวังยี่หมิงกล่าว “ข้ าเป็ นถึงท่านแม่ทพั ที่มีชื่อเสียงใหญ่โต แต่แกกลับต้ องการให้ ข้าช่วยกําจัด
เด็กที่มีการฝึ กฝนกายภาพเพียงขันหนึ
้ ง่ ตลกซะจริ ง ฮ่าๆ”
หวังยี่เกายิ ้มเล็กน้ อย “ก็เป็ นเช่นนันจริ
้ ง มันอาจจะเกินเลยไปหน่อย คงไม่จําเป็ นต้ องถึงขนาดที่
เราจะขี่ช้างจับตัก๊ แตน แต่ทา่ นพี่ ท่านมีพลทหารที่แข็งแกร่งถึงสี่คนไม่ใช่รึ ให้ พวกเขาช่วยข้ าได้
หรื อไม่”
“ท่านพ่อของเราก็เป็ นถึง ผู้นํากองกําลังทหารนักรบแห่งเมืองลิขิตฟ้า บัลลังก็ใกล้ จะถูกส่งต่อ
อยูแ่ ล้ ว ช่วงเวลานี ้ถือเป็ นเวลาที่มีความเสี่ยงสูงมาก เจ้ าต้ องการให้ ข้าใช้ ทหารของข้ าในการแก้
แค้ นเรื่ องไร้ สาระให้ เจ้ าเนี่ยนะ เพื่อแก้ ไขในการกระทําการอันโง่เขล่าเบาปั ญญาของเจ้ าน่ะรึ
แล้ วเจ้ าคิดว่ามันจะเป็ นเช่นไรต่อไป ข้ าคิดว่าโดนกักบริ เวณเพียงสองเดือนคงไม่พอสําหรับ
เจ้ า” หวังยี่หมิงตะโกนใส่น้องชายและเดินจากไป
หวังยี่เกาถูกทิ ้งให้ อยูค่ นเดียวเหลือเพียงความคับแค้ นใจที่อยูเ่ คียงข้ างกับเขา เขานึกมาก่อน
เลยว่าแม้ แต่ทา่ นพี่ของเขาก็จะตําหนิติเตียนเขาเช่นนี ้ เขากําหมัดและกัดฟั นจนตัวสัน่ ด้ วย
ความโกรธแค้ น “เหี ้xเอ้ ย ข้ าไม่เคยรู้สกึ ถึงความทรมานน่าเวทน่าเช่นนี ้มาก่อน แก ไอ้ ชาติชวั่
หลินหมิง ถ้ าข้ าทําให้ แกพิการไม่ได้ ก็อย่ามาเรี ยกข้ าว่าคนตระกูลหวังเลย”



พระอาทิตย์ขึ ้นทางทิศตะวันออก และตกลงทางทิศตะวันตก ห้ าสิบวันผ่านไปอย่างรวดเร็ ว…
ณ ภูเขาโจว เด็กหนุ่มคนหนึง่ กําลังฝึ กซ้ อมการต่อสูอ่ ยูบ่ นที่ราบโล่งของป่ า ลมภูเขาพัดเสียดสี
กิ่งไม้ และใบไม้ ให้ เกิดเสียงดังที่แสดงความเป็ นเอกลักษณ์ของเขตป่ าไม้ แต่เสียงหมัดของเด็ก
หนุ่มกลับบดบังเสียงของสายลมได้ อย่างสิ ้นเชิง
“ปึ งง!!!”
ทันทีที่เด็กหนุ่มคนนันชกไปที
้ ่ต้นไม้ เบื ้องหน้ าของเขา เสียงแตกดังสนัน่ หวัน่ ไหวก้ องกังวาลไป
ทัว่ ทังป่
้ า ถึงแม้ วา่ ต้ นไม้ นี ้จะมีคณ ุ สมบัติเด่นในเรื่ องของความทนทานและความแข็งแกร่ง แต่
มันก็หกั สะบัน่ ภายในหมัดเดียวของชายหนุ่ม
เมื่อได้ ปล่อยหมัดออกไป ในขณะที่ฝนยั ุ่ งไม่ทนั ตกถึงพื ้นด้ วยซํ ้า เขาตวัดขาไปที่ทอ่ นล่างของ
ต้ นไม้ และได้ แยกมันออกเป็ นอีกสองส่วน
ถึงแม้ เขาจะยังไม่ร้ ูถงึ เคล็ดของ ‘ไหลลื่นดุจแพรไหม’ แต่เขาก็ได้ ก้าวผ่าน ‘ปฐมโกลาหล’ และ
เข้ าสูก่ ารฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สองที่มีความแข็งแกร่งสูงขึ ้นอย่างเห็นได้ ชดั ในตอนนี ้พลังของเขา
ก็คงจะอยูร่ าวๆ 2600 จิ๋น ชายหนุ่มที่วา่ นี่ก็คือ หลินหมิง ในห้ าวันที่ผ่านมา เขาได้ ฝึกอย่างไม่
หลับไม่นอนที่เขาแห่งนี ้ เขามียามากมายที่ประเมินค่ามิได้ และยังมียาเม็ดผสานวิญญาณอีก
กว่ายี่สิบเม็ด ด้ วยจํานวนเงินที่มากขนาดนัน้ หลินหมิงจ่ายด้ วยผลงานจารึกเพื่อซื ้อพวกมัน
อย่างไรก็ตาม แม้ วา่ จะมียามากมายขนาดนัน้ หลินหมิงก็ยงั ไม่สามารถไปถึงการฝึ กฝน
้ ่สามได้ การฝึ กอวัยวะภายใน เขาพยายามใช้ ความรู้จากวรยุทธ ‘จุดสูงสุดแห่ง
กายภาพขันที
ความโกลาหล’ เพ่งสมาธิไปยังการสร้ างรูปลักษณ์ขึ ้นมา ไม่ใช่สิ่งที่จะทําได้ ในเวลาอันสัน้
“นี่มนั ก็ห้าวันแล้ ว พรุ่งนี ้ก็จะถึงการสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ซะที เข้ น่าจะผ่านมันไปได้ อย่าง
ง่ายดาย” หลินหมิงพูดขณะหยิบเสื ้อที่วางบนโขดหินก้ อใหญ่ แล้ วตรงไปที่แม่นํ ้า
ภายใต้ แสงอาทิตย์ที่สาดส่อง กล้ ามเนื ้อของหลินหมิงจับตัวกันอย่างได้ สดั ส่วน แสงที่สาดลงมา
ที่ผิวของเขาส่องสว่างเป็ นประกายและถูกเติมเต็มด้ วยความแข็งแกร่งที่งดงาม เขาเหมือนดัง่
พยัคฆ์ที่พลิ ้วไหวด้ วยพลังอันสูงส่งของเขา แค่มองจากด้ านหลังมันยากที่จะเชื่อว่านี่เป็ นรูปร่าง
และจิตวิญญาณของเด็กหนุ่มอายุ15ปี
หลังจากอาบนํ ้าเสร็จแล้ ว หลินหมิงเก็บข้ าวของและไปจากภูเขาลูกนัน้ เขาพุง่ ตัวไปอย่าง
รวดเร็ วดุจเหยี่ยวที่กําลังไล่ลา่ กระต่าย ความเร็ วของเขาเปรี ยบดัง่ ความเร็ วแสง เขาหายเข้ าไป
ในป่ าที่กว้ างใหญ่ไพศาลภายในไม่กี่อดึ ใจ

บทที่ 28 แผนการอันชัว่ ร้ าย
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ในทุกๆปี ณ เวลาช่วงเริ่ มต้ องของฤดูใบไม้ ร่วงและฤดูใบไม้ ผลิ สํานักเจ็ดแก่นแท้ จะมีการรับ
สมัครทดสอบบุคคลผู้มีความสามารถเข้ ามาเป็ นศิษย์ ซึง่ นี่ก็ถือเป็ นอีกหนึง่ วันที่สําคัญของพวก
หนุ่มๆที่ใช้ ชีวิตอยูใ่ นอาณาจักรลิขิตฟ้า ยิ่งโดยเฉพาะกับผู้ที่มีความใฝ่ ฝั นในการต่อสู้แล้ ว พวก
เขาไม่มีทางลืมวันนี ้อย่างแน่นอน
สําหรับพวกเขาแล้ วสํานักเจ็ดแก่นแท้ เปรี ยบเสมือนเป้าหมายสูงสุด หากพวกเขาทําได้ สําเร็ จ
พวกเขาก็เหมือนดัง่ มังกรที่ทะยานขึ ้นไปท่ามกลางท้ องนภาเปล่งประกายเจิดจรัสมีชื่อเสียงเป็ น
ที่ร้ ูจกั ไปทัว่
โดยสาเหตุหลักๆที่ผ้ คู นต้ องการจะเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ นนั่ ก็คือวรยุทธซึง่ เป็ นสิ่งที่สําคัญยิ่ง
สําหรับการต่อสู้ มันจะตกทอดลงมารุ่นสูร่ ุ่นเป็ นดัง่ มรดกที่ลํ ้าค่า นักสู้ทกุ คนต่างต้ องการที่จะ
เรี ยนรู้และฝึ กฝนมัน
และแต่ละครัง้ ที่สืบทอดมานัน้ มันก็ถกู สัง่ สมประสิทธิภาพมากขึ ้นๆตลอดเวลา เนื ้อหาภายใน
ล้ วนแล้ วแต่เป็ นจุดสูงสุดของเคล็ดวิชาทังสิ
้ ้น ซึง่ ทังหมดนั
้ นจะทํ
้ าให้ พวกเขามีพลังมากขึ ้นอย่าง
ก้ าวกระโดดและเอาชนะศิษย์พี่จากสํานักอื่นได้ อย่างง่ายดาย แต่หากว่าใครซักคนจะพยายาม
ที่จะเรี ยนเคล็ดวิชาเหล่านันด้
้ วยตัวเองแล้ วละก็ คงไม่ตา่ งจากคนโง่ๆคนหนึง่ ที่พยายามงมเข็ม
ในมหาสมุทร
แม้ วา่ วรยุทธทัว่ ๆไปก็เป็ นอีกทางหนึง่ ที่สามารถพัฒนาการต่อสูไ่ ด้ แต่ถ้าจะให้ ดีเลิศที่สดุ ก็ต้อง
เป็ นวรยุทธที่ถกู สืบทอดกันมาอย่างยาวนานจากสํานัก
ซึง่ วรยุทรเหล่านันก็
้ ถกู เก็บรักษาอย่างเคร่งครัดโดยแต่ละสํานัก ถ้ าพวกเขาค้ นพบว่ามีลกู ศิษย์
คนใดนํามันไปเผยแพร่แล้ วละก็ โทษอย่างเบาที่สดุ ที่ลกู ศิษย์คนนันจะได้
้ รับคือการถูกทําลาย
การฝึ กฝนที่มีมาทังหมดจากภายใน
้ และโทษสถานหนักก็คงเป็ นการประหารชีวิตในทันที
มันเป็ นเรื่ องยากที่จะส่งต่อวรยุทธเคล็ดวิชาต่างๆ และมันก็คงจะเป็ นเรื่ องที่ยากที่จะพยายาม
คัดลอกตําราที่วา่ ขึ ้นมา เคล็ดวิชาส่วนใหญ่จะมีความลึกลับและการเข้ าใจที่ยากอย่างสุดซึ ้ง
การไหลเวียนของพลังและความรู้สกึ ต่างๆ หนทางแห่งการปลูกฝั งพลังแต่ละขันตอน ้ สิ่งเหล่านี ้
ล้ วนแล้ วแต่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็ นตัวหนังสือได้
วรยุทธส่วนใหญ่มกั จะถูกบันทึกลงในแผ่นหยก ซึง่ ในหยกแผ่นเล็กๆก็จะบันทึกเกี่ยวกับข้ อมูล
ลับอัดแน่นเอาไว้ แม้ กระนันตํ
้ ารานี ้ก็ทําได้ เพียงอธิบายเท่านัน้ ถ้ าจะมีใครซักคนที่ต้องการ
สําเร็ จวรยุทธนันแล้
้ ว เขาผู้นนจํ
ั ้ าเป็ นที่จะต้ องเข้ าใจตําราวรยุทธนันอย่
้ างถ่องแท้ ซึง่ เป็ นเรื่ อง
ยากยิ่งนักที่จะทําได้ และนอกจากนันยั ้ งต้ องใช้ เวลาและความมุง่ มัน่ มากเกินกว่าจะบรรยาย
ออกมาได้
แม้ วา่ จะเข้ าใจในสิ่งที่บนั ทึกลงในตําราวรยุทธแล้ ว ทว่าในตําราวรยุทธเหล่านันก็ ้ มีความลับ
ซ่อนอยู่ มันไม่ใช่สิ่งที่ทกุ คนจะสามารถเข้ าใจได้ หมด ซึง่ มันก็เหมือนกับผ้ าขี ้ริ ว้ ห่อทอง ที่หากไม่
เข้ าใจและไม่ร้ ูความรับของมัน สมบัติเหล่านันก็้ เป็ นแค่เพียงกระดาษชําระแผ่นหนึง่
ด้ วยเหตุนนแผ่
ั ้ นหยกวรยุทธที่สืบทอดต่อๆกันมาจึงเหลืออยูน่ ้ อยมาก และไม่สามารถซื ้อได้ ด้วย
เงินทอง นี่ก็ถือเป็ นเหตุผลหนึง่ ที่เหล่านักสู้หนุ่มๆทังหลายกลายเป็
้ นบ้ าเพราะความต้ องการที่จะ
เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ เงื่อนไขที่จะผ่านเข้ าไปก็นบั ว่า โหดหินสุดๆ และทุกๆปี ผู้คนจํานวนมาก
ต่างก็ไม่ผ่านเงื่อนไขมากมายเหล่านัน้
หลินหมิงในตอนนี ้เขามีมรดกวรยุทธที่ลํ ้าค่ายิ่งว่านันเสี
้ ยอีก ด้ วยวรยุทธ“จุดสูงสุดแห่งความ
กาหล”ของเขา เขาจึงไม่คอ่ ยสนใจเกี่ยวกับตําราวรยุทธของสํานักเจ็ดแก่นแท้ มากนัก เหตุผลที่
ทําให้ เขาอยากจะเข้ าสํานักก็ไม่ใช่เพราะหลานยุยเยี่ย หลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะอุทิศทังชี
้ วิต
เพื่อก้ าวไปสูจ่ ดุ ยอดของการต่อสู้ หลายยุยเยี่ยก็ไม่มีความสําคัญใดใดกับจิตใจเขาอีกต่อไป
สาเหตุที่หลินหมิงต้ องการที่จะเข้ าสูส่ ํานักเจ็ดแก่นแท้ มิใช่เพื่อต้ องการเคล็ดวิชามรดกวรยุทธ
หรื อยาโอสถสมุนไพรใดๆ แต่เขาต้ องการสถานที่ที่พิเศษสําหรับฝึ กซ้ อมเพียงเท่านัน้ สถานที่
ดังกล่าวที่สร้ างขึ ้นจากวัสดุ มีสภาพแวดล้ อมพิเศษที่ถกู สร้ างขึ ้นโดยผู้อาวุโสปราณปรายฟ้า สิ่ง
เหล่านันทํ
้ าให้ ผ้ ทู ี่ได้ มาฝึ กในที่แห่งนี ้ได้ ผลลัพธ์จากการฝึ กเป็ นสองเท่า และใช้ พลังในการฝึ กฝน
เพียงครึ่งเดียวเท่านัน้
แต่สิ่งที่สําคัญไม่แพ้ กนั ก็คือทักษะการต่อสู้ ทักษะดังกล่าวจะเป็ นสิ่งที่มีบทบาทสําคัญเพราะ
มันจะแสดงพลังของคนๆนันออกมาได้ ้
(อธิบายนะครับ เผื่อใครไม่เข้ าใจ วรยุทธ์ก็เหมือนเลเวลยิ่งฝึ กยิ่งมีพละกําลังต่างมากขึ ้น ส่วน
ทักษะก็เหมือนสกิลหากมีทกั ษะกระบวนท่าที่เยี่ยมยอดแล้ วก็สามารถเอาชนะอีกฝ่ ายได้ เช่นไท้
เฟิ งที่ใช้ ทกั ษะจากจารึกของหลินหมิง)
หลินหมิงก็ร้ ูเกี่ยวกับสิ่งพวกนันมาบ้
้ างจากความทรงจําของผู้อาวุโสที่เข้ าได้ ดดู ซับมา ในทังหมด

นันเขาได้
้ เห็นทักษะต่างๆมากมายสามถึงสี่แบบ แต่พวกมันก็ยงั ไม่ครบสมบูรณ์ แต่ในความจริ ง
แล้ วแม้ พวกมันจะยังไม่สมบูรณ์ก็มนั ก็ยงั มีประสิทธิภาพสูงกว่าทักษะใดใดในอาณาจักรลิขิตฟ้า
อย่างเห็นได้ ชดั
ซึง่ ก็น่าเสียดายที่ สามในสี่ทกั ษะที่หลินหมิงได้ เห็นมา มันเป็ นทักษะของผู้มีระดับปราณปลาย
ฟ้า ซึง่ เป็ นไปไม่ได้ ที่เขาจะฝึ กฝนมัน เขาก็จําเป็ นต้ องไปให้ ถงึ ระดับปราณปลายฟ้าเสียก่อน ใน
ความทรงจําเหล่านันแม้ ้ แต่ทกั ษะที่ดจู ะอ่อนแอที่สดุ ก็ยงั สามารถถล่มทลายภูเขาทังลู ้ กทิ ้งไปได้
ด้ วยการทุบเพียงครัง้ เดียวไม่ต้องพูดถึงมนุษย์เลย เป็ นเรื่ องซะด้ วยซํ ้าที่จะทําลายทังเมื
้ องลิขิต
ฟ้าทังเมื
้ อง
แต่ถ้อยคําที่อยูใ่ นความทรงจําของเขาก็ไม่ตา่ งจากภาษาต่างแดน มันยากที่จะเข้ าใจ
ความหมาย
หลินหมิงจึงต้ องการผ่านการทดสอบของสํานักเจ็ดแก่นแท้ และเขาต้ องบรรลุถงึ ผลลัพธ์ที่ดีขึ ้น
ทุกๆปี ผู้ที่อยูบ่ นจุดสูงสุดของการทดสอบมักจะได้ รางวัลอันยิ่งใหญ่เสมอ
บางทีอาจจะเป็ นยาโอสถที่ลํ ้าค่าหรื อสมบัติชนเลิ
ั ้ ศที่มิอาจประเมินค่าได้ เพราะยาโอสถเหล่านี ้
จะถูกผลิตโดยสํานักเจ็ดแก่นแท้ แม้ แต่คนจากตระกูลที่มงั่ คัง่ ที่สดุ ในอาณาจักรก็ไม่สามารถจะ
ซื ้อมันได้
แม้ แต่ลกู ขุนนางชันสู
้ งก็ยงั ต้ องนํ ้าลายไหลด้ วยความอิจฉาเมื่อได้ เห็นของรางวัลเหล่านี ้ ซึง่
แม้ แต่หลินหมิงเองก็ยงั ถูกยัว่ ยวนด้ วยของพรรคนี ้เหมือนกัน ซึง่ แต่ก่อนพลังของเขาน้ อยกว่านี ้
เพราะเขาไม่ได้ สนใจมันนัก แต่ตอนนี ้มันทําให้ เขากระหายที่จะครอบครองพวกมันเป็ นอย่าง
มาก
ในวันแรกของฤดูใบไม้ ผลิ สนามกลางแจ้ งของสํานักลิขิตฟ้าเต็มไปด้ วยฝูงชนที่เบียดเสียดแน่น
อยูภ่ ายใน เพราะมีผ้ มู าลงสมัครมากเกินไป ซึง่ การสอบจะเริ่ มขึ ้นเมื่อดวงอาทิตย์ขึ ้นและจะ
ดําเนินไปตลอดทังวั
้ น
หลินหมิงและหลินเซี่ยวตงยังไม่ได้ เข้ าไปในพื ้นที่ที่เต็มไปด้ วยฝูงชนเหล่านัน้ พวกเขาทังสอง ้
เพียงอยูร่ อบๆสํานักลิขิตฟ้าเท่านัน้ แม้ วา่ จะไม่ได้ เข้ าไปด้ านใน แต่พวกเขาก็ยงั ได้ ยินเสียงดัง
ออกมาอย่างวุน่ วายเต็มไปหมด
“พวกเขาพูดกันว่าจะมีบคุ คลชนชันสู
้ งมาด้ วยมากมาย รวมถึงหวังยานเฟิ ง ด้ วยอายุเพียง 15
ปี และพรสวรรค์ระดับสี่ ทําสามารถไปถึงการฝึ กฝนกายภาพขึ ้นที่สามได้ ช่างเป็ นคนที่น่ากลัว
อะไรเช่น”
“มันไม่แปลกไปหน่อยรึ ทําไมเขาไม่สอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ตงแต่
ั ้ การสอบครัง้ ที่แล้ ว ทําไม
้ การคัดเลือกเมื่อฤดูใบไม้ ผลิกนั ล่ะ”
เขาไม่มาสอบเข้ าตังแต่
“ข้ าว่าเป้าหมายของเขาคงจะเป็ น นิกายสวรรค์ ทันทีที่เขาเข้ ามาที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ เขาก็
ต้ องการที่จะเข้ าร่วมนิกายสวรรค์ ช่างเป็ นคนที่อกุ อาจยิ่งนัก”
“เอ่อ…แต่วา่ นิกายสวรรค์ก็ถือเป็ นนิกายที่เข้ าร่วมได้ ยากยิ่งนัก ในช่วงหลายปี ที่ผ่านมาผู้ที่เข้ า
ร่วมกับนิกายสวรรค์ได้ มีเพียง แต่ ฉินชิงหวนเท่านัน้ ขันตํ ้ ่าที่จะสามารถเข้ าไปได้ จะต้ องมีการ
ฝึ กฝนถึงจุดสูงสุดของการฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สาม ทังพวกที
้ ่อยูใ่ นนิกายสวรรค์ก็เป็ นพวกมีการ
ฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สี่ แม้ แต่หวังยานเฟิ งก็ยงั ไม่มีคณ
ุ สมบัติพอจะเข้ าร่วมได้ ข้ าคิดว่าเขาแค่มา
เพื่อเอารางวัลจากการทดสอบเท่านัน”

นิกายสวรรค์อย่างนันรึ
้ !!!
หลินหมิงพึมพําในใจ เมื่อครึ่งปี ที่แล้ วจู้ยนั พึง่ ไปถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สามเพื่อที่จะเข้ าร่วมกับ
นิกายสวรรค์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังของเขาโดดเด่นขนาดไหนในบรรดาคนรุ่นเดียวกัน ยิ่งไม่
ต้ องพูดถึงหวังยี่เกาเลย มันเป็ นเพียงคนตระกูลชันสู ้ งที่ไม่ฝึกฝนและไร้ ความสามารถ
ขณะที่ลินหมิงกําลังคิดอย่างเหม่อลอย เขาก็ร้ ูสกึ ได้ วา่ มีใครกําลังจ้ องมองเขาอยู่
ในฝูงชนขนาดใหญ่ มีจํานวนหลายคนที่มองมาที่เขาก็จริ ง แต่เขารู้วา่ คนเหล่านี ้มองมาอย่าง
ไม่ได้ เจตนา แต่หลินหมิงที่ได้ ฝึกฝน “ปฐมโกลาหล” มาก่อน ทําให้ เขามีประสาทสัมผัสที่เฉียบ
คมเป็ นพิเศษ แม้ วา่ จะมีคนมองมาที่เขามากมายแต่เขาก็สมั ผัสได้ ถงึ สายตาที่เย็นชาคูน่ งึ ที่
กําลังจ้ องมองดูเขาอยู่
เขาแกล้ งทําเป็ นไม่ร้ ูเรื่ องขณะที่หนั หน้ าไปดู เขาเห็นรถม้ าสีฟ้ากําลังเคลื่อนตัวเข้ ามา แต่เมื่อเขา
หันไปม่านรถม้ านัน่ ก็ปิดสนิทเสียแล้ ว
หลินหมิงถอนหายใจ เขายังไม่แม้ แต่จะได้ เริ่ มการทดสอบคัดเลือกเลย ก็มีคนว่างแผนจะกําจัด
เขาซะแล้ วอย่างนันรึ

ในเวลาเดียวกันภายในรถม้ าดังกล่าว มีหนุ่มในชุดผ้ าไหมและคนที่มีทา่ ทางมืดมนนัง่ อยูข่ ้ างๆ
เขาคือหวังยี่เกาและจู้ยนั
“มัน….มันยังไม่เห็นเรา” หวังยี่เกากล่าวขึ ้นอย่างกล้ าๆกลัวๆ ถึงแม้ วา่ เขาอยากจะประกาศต่อ
หน้ าทุกคนว่าต้ องการแก้ แค้ น แต่เขาก็กลัวหลินหมิง การเคลื่อนไหวสามกระบวนท่าของหลินห
มิงทําให้ เขาพ่ายแพ้ อย่างเจ็บปวด น่าอับอาย และสิ่งเหล่านันยั
้ งเป็ นรอยแผลในจิตใจที่ทําลาย
ความมัน่ ใจของเขามาจนถึงในวันนี ้
จู้ยนั กล่าวอย่างเรี ยบๆ “หยุดหวาดกลัวซะ และเลิกทําท่าน่าสมเพศได้ แล้ ว มีคนตังมากมายอยู ้ ่
ที่นี่ มันไม่ได้ มีตาหลังที่จะมามองเจ้ า เจ้ ากลัวมันงันรึ
้ ไอ้ คนบ้ านนอกที่จะเข้ าสูข่ นที
ั ้ ่สองได้ หรื อ
ยังก็ยงั ไม่ร้ ูคนนัน”

ช่องว่างระหว่างขันที ้ ่1และ2นันมี
้ พละดําลังต่างกันอย่างยิ่ง เด็กบ้ านนอกที่อายุ15ปี ที่ทําได้ ถงึ
ขนาดนี ้ก็ไม่ใช่เรื่ องง่ายๆเลย โดยเฉพาะหลินหมิงที่มีมาจากครอบครัวที่ยากจนด้ วยแล้ ว แถมยัง
มีพรสวรรค์เพียงระดับ3
“ข้ าว่าเจ้ านัน่ ต้ องฝึ กอะไรประหลาดๆเป็ นแน่ ขนาดข้ ากว่าจะไปถึงการฝึ กฝนขันที
้ ่สองได้ ก็อายุ
16ปี แล้ ว เขาอาจจะฝื นฝึ กฝนจนเกินกําลังและบาดเจ็บภายในก็เป็ นได้ เจ้ าโง่นนั่ มันอาจจะมี
สภาพไม่ตา่ งจากคนพิการในอีกไม่กี่ปีข้ างหน้ า”
หวังยี่เกาสาปแช่งอย่างโหดร้ าย ส่วนจู้ยนั เองก็แอบดูถกู เจ้ าคนขี ้ประจบประแจงคนนี ้ในใจ
แม้ วา่ หวังยี่เกาจะมียาหายากราคาแพง มันก็ยงั ทําได้ เพียงมาถึงขันที้ ่สองตอนอายุ16ปี เท่านัน้
ยิ่งกว่านันทั
้ กษะการต่อสู้ของมันก็ยงั อ่อนสุดๆ ถ้ าพ่อของมันไม่ใช่คนใหญ่คนโตในเมืองลิขิตฟ้า
จู้ยนั ก็คงไม่มาทําตัวสนิทสนมเป็ นมิตรกับมันอย่างแน่นอน
จู้ยนั กล่าวขึ ้น “ตามหลักปกติแล้ วมันคงจะเป็ นไปไม่ได้ ที่มนั จะมีการฝึ กฝนกายภาพขันที
้ ่สองใน
เวลานี ้ แต่หากมันมี1000เหรี ยญทองที่ได้ จากเจ้ าไปนันล่
้ ะ มันจะเป็ นเหตุผลที่ไอ้ บ้านนอกนันจะ

้ ่สองได้ ”
ไปถึงขันที
เมื่อได้ ยินจู้ยนั พูดแบบนัน้ หวังยี่เกาหน้ าแดงขึ ้นมาทันที เขาไม่คิดว่าจู้ยนั จะรู้เรื่ องความอับอาย
ของซะอีก(เขินสิมงึ 555)
ทังๆที
้ ่หวังยี่เกาพยายามปิ ดเรื่ องทังหมดนี
้ ้เป็ นความลับ แต่มนั ก็ขา่ วมันก็เผลแพร่ไปอย่าง
รวดเร็ ว คงยากที่จะมีซกั คนที่จะไม่ร้ ูเรื่ องเหล่านี ้
แก…!!! ไอ้ หมาบ้ านนอก แกมันชาติชวั่ สารเลวสิ ้นดี
จู้ยนั เลิกสนใจท่าทางของหวังยี่เกา สีหน้ าของเขาดูมืดมน ถ้ าหากจะว่าไปสําหรับเด็กอายุ16ปี
ถ้ าพละกําลังของมันก้ าวผ่านขันที ้ ่สองไปได้ มันก็มีโอกาสได้ เข้ าร่วมสํานักเจ็ดแก่นแท้ ศิษย์
หลายๆคนส่วนใหญ่ก็เข้ ามาแบบนี ้ สําหรับพวกคนเหล่านี ้มักจะมียาโอสถราคาแพงที่คอย
ส่งเสริ มให้ บรรลุถงึ ขันที
้ ่สองได้ ไม่ยาก
ซึง่ อันที่จริ งสํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็ไม่สนใจอยูแ่ ล้ วว่าทางตระกูลจะช่วยเหลือพวกเขาหรื อไม่
อย่างไรทังหมดนี
้ ้ก็ถือเป็ นส่วนหนึง่ ของการต่อสู้ ฐานะของตระกูลก็ถือเป็ นการแข่งขันอย่างหนึง่
เช่นกัน ไม่วา่ จะใช้ พลังการฝึ กฝนของตัวเอง หรื อใช้ ยาโอสถช่วย พวกนันก็ ้ ประสบความสําเร็ จ
เป็ นนักสู้จากสํานักเจ็ดแก่นแท้ เช่นเดิม
สําหรับผู้ที่ต้องพึง่ ยาโอสถในการก้ าวขึ ้นมายังขันที
้ ่สองเพื่อจะได้ เขาสํานักเจ็ดแก่นแท้ พวกเขา
ยังห่างชันกั
้ บหลินหมิงที่มีทกั ษะต่อสู้และประสบการณ์อีกมากนัก ดังนันโอกาสของหลิ
้ นหมิงจึง
มีมากกว่า
จู้ยนั ไม่ต้องการให้ หลินหมิงได้ เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ เขาไม่ได้ กลัวว่าหลินหมิงจะแข็งแกร่งกว่า
เขา มันเป็ นเพียงเด็กบ้ านนอกพรสวรรค์ระดับสาม ซึง่ จู้ยนั มัน่ ใจในตัวเองมากว่า แม้ หลินหมิง
จะพัฒนาแบบก้ าวกระโดดและเอาชนหวังยี่เกาได้ ก็ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร เพราะหวังยี่เกามีการ
ฝึ กฝนกายภาพเพียงขึ ้นที่สองเท่านัน้ นอกจากความสามารถขึ ้นที่สองที่ได้ มากจากสาและโอสถ
ที่ปราศจากการฝึ กฝนแล้ ว มันยังมีทกั ษะที่ออ่ นแอมาก
เขามีความมัน่ ใจมากว่าเขาจะสามารถอยูเ่ หนือหลินหมิงได้ ตลอดเวลา หากหลินหมิงสอบเข้ า
มาได้ จริ งๆ มันคงจะไปกระตุ้นจิตใจของหลายยุยเยี่ยอย่างมากเป็ นแน่
หลานยุยเยี่ยก็ยงั ไม่ลืมความสัมพันธ์อนั ใกล้ ชิดสนิทสนมกับหลินหมิง มันยังจะเหมือนเดิมอยูร่ ึ
เปล่าถ้ าเจ้ านัน่ สามารถผ่านการทดสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ เข้ ามาได้ จู้ยนั หลงรักหลายยุยเยี่ย
ครึ่งหนึง่ เป็ นเพราะรูปโฉมอันงดงามของนาง อีกครึ่งเป็ นความหึงหวนที่ไม่อาจให้ มีชายใดมาอยู่
นาง
เนื่องจากตระกูลของจู้ยนั มีความสัมพันธ์กบั ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ เขาจึงมีเส้ นสายกับสํานักเจ็ดแก่น
แท้ อยูบ่ ้ าง อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยของที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นกลางและ
เข้ มงวดมาก ยากที่จะให้ เส้ นสายกีดกันหลิ
้ นหมิงออกจากการเข้ าทดสอบ แผนการเดียวที่อยูใ่ น
หัวเขาก็เหลือเพียง…….ไม่ให้ หลินหมิงได้ มีโอกาสเข้ าร่วมการทดสอบในครัง้ นี ้
บทที่ 29 ทหารม้ าลอยฟ้า
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
จู้ยนั ครุ่นคิดขณะจ้ องมองแหวนบนนิ ้วของเขา “พี่หวัง เมืองลิขิตฟ้าเองก็เป็ นบ้ านของท่าน ท่าน
คงมีเส้ นสายความสัมพันธ์กบั ทางแม่ทพั พี่ชายของท่านอยูบ่ ้ าง ท่านพอจะติดต่อให้ ผ้ ทู ี่มีการ
้ ่4ได้ ซกั คนหรือไม่” จู้ยนั ไม่แน่ใจในพลังที่แท้ จริ งของหลินหมิง หลินหมิงอาจจะเก่ง
ฝึ กฝนขันที
กว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ ก็เป็ นได้ เขาไม่ต้องการให้ เกิดความผิดพลาดเช่นเดียวกับกรณีของหวังยี่
เกา เพื่อความแน่ใจแล้ วเขาไม่ควรส่งผู้ฝึกฝนขึ ้นสามไปจัดการ การส่งส่งผู้ที่อยูใ่ นขันสี
้ ่ไป
จัดการคงจะเป็ นการแน่นอนและมีประสิทธิมากกว่า
้ ่4 แต่…พวกเขาเป็ นคนอารักขาของท่าน
หวังยี่เกากล่าว”ข้ ารู้จกั หลายคนที่อยูใ่ นการฝึ กฝนขันที
พ่อและท่านพี่ เพราะสิ่งที่ข้าทําไปก่อนหน้ านัน้ ท่านพ่อจึงออกคําสัง่ ให้ ข้าไร้ อํานาจที่จะสัง่
นักรบในกองทัพของท่านพ่อ”
เหล่าผู้ที่มีการฝึ กฝนขันที
้ ่4 ก็มกั จะไม่ใช่พวกวัยรุ่น คนพวกนี ้จะอายุประมาณ30ปี และอยูใ่ น
ตําแหน่งที่สงู ด้ วย เช่นเป็ นผู้อารักขาส่วนตัว เป็ นไปไม่ได้ ที่หวังยี่เกาจะของร้ องให้ พวกเขาลดตัว
ลงมาทํางานตํ่าๆอย่างจดการกับเด็กอายุ15ปี คนหนึง่
จู้ยนั ครุ่นคิดและกล่าวกับหวังยี่เกา “หัวหน้ าผู้รักษาความปลอดภัยในครัง้ นี ้ มิใช่เฉ่าหมิงชาน
หรอกรึ ดูเหมือนเขาพึง่ จะได้ รับการเลื่อนตําแหน่งเป็ นหัวหน้ าเมื่อเร็วนี ้”
หวังยี่เกาแสดงสีหน้ าประหลาดใจ แต่เขาก็พยักหน้ าและกล่าว “ใช่แล้ ว พี่เฉ่าเองก็เป็ นมิตรดี
ต่อข้ าเช่นกัน”และ เฉ่าหมิงชานก็เป็ นถึงหัวหน้ าผู้รักษาความปลอดภัยของเมืองลิขิตฟ้า
ผู้รักษาความปลอดภัยของที่นี่จะแบ่งเป็ นสองส่วนก็คือกองกําลังทัว่ ไปและกองกําลังองครักษ์
กองกําลังทัว่ ไปจะรับผิดชอบในส่วนของชาวเมือง เช่นปราบโจรและรักษากฎหมาย ส่วนกอง
กําลังองครักษ์ จะคอยอารักขาเชื ้อพระวงศ์และกษัตริ ย์ และรวมถึงต่อต้ านพวกกบฏ
“ฮ่า..ข้ ารู้แล้ วว่าจะจัดการไอ้ หลินหมิงอย่างไร…”จู้ยนั มองลอดผ่านช่องว่างของม่านออกไป
และจ้ องไปที่หลินหมิงดัง่ งูพิษขณะที่ใบหน้ าของเขาก็มืดลงเรื่ อยๆ
การทดสอยเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ จะแบ่งเป็ นสามตอน ทดสอบพละกําลัง ทดสอบความมุง่ มัน่
ทดสอบความประณีต
ในตอนเช้ านี ้จะเป็ นการทดสอบแรก การทดสอบพละกําลัง
การฝึ กพละกําลังถือเป็ นขันแรกที
้ ่จะก้ าวการฝึ กฝนขึ ้นที่1 และก็เป็ นจุดเริ่ มต้ นของทักษะการ
ต่อสู้ทงมวล
ั้ ถ้ าพละกําลังไม่กล้ าแข็งพอ การจะฝึ กเลือดลม อวัยวะภายใน การแปรรูป
กล้ ามเนื ้อและกระดูกก็เป็ นอันสูญเปล่า
ด้ วยเหตุนนั ้ พละกําลังจึงเป็ นสิง่ สําคัญต่อทักษะการต่อสู้อย่างมาก การประเมินกําลังนันก็
้ งา่ ย
มาก หากผ่านการทดสอบไปได้ ก็จะเป็ นการลดจํานวนคูแ่ ข่งลงได้ เยอะมาก
เพราะฉะนัน้ ทางสํานักเจ็ดแก่นแท้ จงึ ทําการทดสอบพละกําลังเป็ นอันดับแรก
การทดสอบก็คือ จะมีหินที่สงู เท่ากับใหญ่กว่าสองเมตร มันจะมีแสงที่ยอดหินก้ อนนัน้ เมื่อมีคน
มาชกที่หิน แสงก็จะปรากฏเป็ นสัญญาณที่บง่ บอกถึงพละกําลังของคนๆนันโดยจะบอกค่
้ าได้
ตังแต่
้ 100 จิ๋น ไปจนถึง 1000 จิ๋นถ้ าหากออกแรงได้ น้อยกว่านันจะไมมี
้ อะไรเกิดขึ ้น
แต่สําหรับผู้ที่อยูบ่ นจุดสูงสุดของการฝึ กฝนขันที
้ ่1 แม้ จะมีพละกําลังขนาดบดขยี ้ไม้ ที่แข็งแกร่ง
ได้ ทว่าโดยปกติพวกเขาจะมีพละกําลังเพียง 900 จิ๋น มันจึงไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะผ่านการทดสอบ
แรกไปได้
ซึง่ หลินหมิงก็เคยทดสอบพละกําลังของเจากับต้ นไม้ เหล็กมาก่อนแล้ ว เขามีพละกําลังมากกว่า
หนึง่ พันจิ๋นอย่างแน่นอน ตอนนี ้ที่เขามาถึงการฝึ กฝนขึ ้นที่สองเขาคงมีพละกําลังประมาณ2600
จิ๋นเป็ นอย่างน้ อย ทังหมดนี
้ ่เป็ นเพราะวรยุทธ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ซึง่ ในการทดสอบนี ้
พละกําลังก็ถือเป็ นจุดเด่นของลินหมิงอยูแ่ ล้ ว ดังนั
้ นเขาจึ
้ งสามารถแข่งขันกับคนอื่นๆได้ ในด้ าน
นี ้
ณ ลานกว้ าง การทดสอบยังไม่ได้ เริ่ มขึ ้นหลินหมิงกําลังทําสมาธิให้ พร้ อมอยู่บนแท่นหิน เขา
กําลังกําหนดลมหายใจของเขาอยู่
้ มีเสียงดังตะโกนออกมาอย่างน่าลําคาน “หลบไป….หลบออกไป”
และในตอนนันก็
หลินหมิงเปิ ดตามองและก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชายอายุประมาณยี่สิบปี รี บกินอาหารทังที
้ ่ขี่ม้าอยู่
เขาสวมเกราะเงาวับเป็ นประกาย ในมือของเขาถือหอกยาวกว่าสองเมตรหนาเท่ากับท่อนแขน
เด็ก เขาเปิ ดทางฝูงชนด้ วยการเหวี่ยงหอกนันพร้
้ อมกับอีกมือที่กําลังควบม้ าอยู่
เสียงกีบเท้ าของม้ าดังไปทัว่ เหล่าฝูงชนก็พากันกระจัดกระจายออกไปคนละทิศละทาง หลินหมิ
งมองด้ วยท่าทีไม่พอใจ “วันนี ้เป็ นถึงวันทดสอบของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ทางอาณาจักรควรต้ องมี
ผู้รักษาความปลอดภัยมาคอยดูแลความเป็ นระเบียบเรี ยบร้ อยมิใช่รึ เหตุใดคนบ้ าแบบนันถึ
้ ง
เข้ ามาก่อความวุน่ วานเช่นนี ้ได้ ”
หลินหมิงพึง่ สังเกตได้ วา่ ถึงแม้ เขาจะแหวกทางอย่างอุกอาจรุนแรงเช่นนัน้ แต่เขาก็ไม่ได้ ชน
กระแทกใครเลย ดูเหมือนว่าเขาจะมีทกั ษะการต่อสู้ที่ดีพอตัว รวมถึงทักษะในการขี่ม้าด้ วย
หลินหมิงนัง่ อยูท่ ี่ด้านข้ างของล้ านกว้ างมาตังแต่
้ แรกและก็ยงั ไม่ได้ ลกุ ออกไปไหน ในตอนนัน้
หลินหมิงก็ได้ เห็นผู้ชายคนนันยิ ้ ้มลางๆ ก่อนจะสะบัดบังเหียนม้ าและควบมาด้ านหน้ าของเขา
ไป
หลินหมิงรู้สกึ แปลกๆ เขารู้สกึ ว่าผู้ชายคนนันต้
้ องเกี่ยวข้ องกับเขา ม้ าเร็ วที่ถกู ควบให้ วิ่งมาอย่าง
ว่องไว ไม่เพียงแค่นนั ้ ด้ วยหอกที่เขาถือนันน่
้ าจะหนักอย่างน้ อย 100 จิ๋น บวกกับความเร็ วของ
ม้ าด้ วยแล้ ว หอกนันสามารถทลายกํ
้ าแพงได้ เลยทีเดียว
เมื่อเขาเข้ ามาถึงระยะ10เมตร หอกของเขาก็เริ่ มเปล่งแสงสีเหลืองออกมา
ทักษะการต่อสู!่ !!
“พวกมันคงกังวลเกี่ยวกับข้ ามากสินะ ถึงขนาดใช้ ทกั ษะการต่อสู้มาจู่โจมข้ าก่อน” หลินหมิงคิด
ขณะอ้ าแขนขวาออกเล็กน้ อย เพื่อให้ พลังของ ‘ปฐมโกลาหล’ ได้ โคจรในตัวเขาอย่างรวดเร็ ว
เมื่อผู้ชายคนนันอยู
้ ใ่ นระยะ3เมตร หลินหมิงก็กระโจนออกมาจากที่ๆเขาเคยนัง่ อยู่ หลินหมิง
ไม่ได้ พยายามที่จะหลบ แต่พงุ่ มือทังสองข้
้ างออกไปเพื่อจับหอกไว้
ด้ วยหอกที่อยูใ่ นมือ หลินหมิงโคจรพลังไปที่มือและเท้ าของเขา เท้ าขวาของเขาถอยหลังไปหนึง่
ก้ าว และติดกับแท่นหิน และด้ วยแรงจากมือทังสอง้ ก็เกิดการปะทะของพละกําลังขนาด 2600
จิ๋นขึ ้น
ลินหมิงคํารามออกมา ขณะที่มือยึดหอกเล่มนันเอาไว้
้ ผู้ชายคนนันถู
้ กหลินหมิงยกขึ ้นผ่านหอก
อย่างช้ าๆราวกับหุน่ ฟางขึ ้นไปกลางอากาศ
ชายคนนันเป็
้ นต้ องประหลาดใจ เขารู้สกึ เหมือนว่ากําลังลอยได้ อยูก่ ลางอากาศ และสายตาก็
พร่ามัวขณะถูกหมุนเหวีย่ งออกไปอย่างรุนแรง เขากระแทกลงบนพื ้นดินในเวลาต่อมา เกิด
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแล่นเข้ าสูส่ มอง อาจเป็ นไปได้ วา่ อวัยวะภายในของเขาจะเคลือ่ นตัว
ไปอยูผ่ ิดที่ผิดเสียแล้ ว ราวกับพุง่ เข้ าชนต้ นไม้ แล้ วเลือดทะลักออกจากปาก
หลินหมิงเขวี ้ยงหอกที่หนักถึง 100 จิ๋นทิ ้งไปและนัง่ ลงกับพื ้น ผู้ชายคนนันมี
้ การฝึ กฝนเพียงขันที
้ ่
สองเท่านัน้ แม้ วา่ เขาจะมีม้าคอยหนุนแรงให้ แต่ถ้าเทียบกับ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ แล้ ว
ละก็ มันยังห่างชันกั้ นอีกหลายขุม
ฝูงชนที่มองอยูต่ า่ งตกตะลึง ทังๆที
้ ่ชายคนนันพุ
้ ง่ ตัวมาอย่างรวดเร็ วเข้ าปะทะกับหลินหมิง แต่
กลายเป็ นว่าเขากลับถูกหลินหมิงจับโยนออกมาไปอย่างรุนแรง คนคนนันไม่ ้ ตง่ จากปี ศาจที่ชวั่
ร้ ายในคราบมนุษย์
จู้ยนั ที่ได้ มองอยูไ่ กลๆบนรถม้ า สีหน้ าของเขามืดมนลงเรื่ อยๆ หวังยี่เกาไอ้ คนไร้ ประโยชน์ แม้ แต่
คนรู้จกั ของมันก็ไม่ตา่ งจากไอ้ เศษสวะตัวหนึง่ ทังๆที
้ ่มีม้าเสริ มแรงและความเร็ วให้ ขนาดนัน้ แต่
ก็ยงั ถูกรับไว้ ได้ และบาดเจ็บสาหัสกลับมา
อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ คาดไว้ แล้ วถึงผลลัพธ์เช่นนี ้ เขาแค่คิดไม่ถงึ ว่าหลินหมิงจะโต้ ตอบด้ วย
ความโหดร้ ายถึงเพียงนี ้
ทันใดนัน้ เหล่าฝูงชนต่างก้ าวถอยหลังออกไปและมีเสียงตะโกนดังลัน่ “นี่มนั เรื่ องอะไรกัน มี
ผู้ใดกล้ าทําร้ ายผู้อื่นในที่สาธารณะของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ด้วยรึ”
ทันทีที่หลินหมิงหันไปมอง ก็เห็นหวังยี่เกาได้ เดินนําฝูงชนมาที่เกิดเหตุ เขาเองได้ แต่ดถู กู มันอยู่
ในใจ ทังหมดนี
้ ้นี ้ก็เป็ นแผนการแก้ แค้ นของไอ้ ชาติชวั่ นี ้งันสิ
้ นะ
หวังยี่เกามองดูชายที่ถกู เหวี่ยงลอยกลางอากาศมากระแทกลงกับพื ้น เขาถึงกับต้ องใจหาย
พลังกําลังของหลินหมิงสูงจนน่าตกใตจริ งๆ แต่เขาก็ยงั รักษาท่าทีที่สงบเอาไว้ เขากัดฟั นแน่น
และหันไปมองลินหมิงด้ วยความโกรธแค้ น “หลินหมิง เจ้ าคนสารเลว ครัง้ แล้ วครัง้ เล่าที่เจ้ าทํา
ร้ ายคนของข้ า ข้ าจะไม่ถามเกี่ยวกับรายละเอียดเล็กน้ อยนันเหล่
้ านัน้ แต่ครัง้ นี ้เจ้ าทําเกินไป
แล้ ว”
“เอาเลยทุกคน เอาตัวมันมาให้ ข้า จะฆ่ามันทิ ้งเลยก็ยอ่ มได้ การถูกสังหารของมันข้ าจะ
รับผิดชอบเอง”หวังยี่เกา ตะโกนอย่างกล้ าหาญ แต่ผลของมันกลับไม่เป็ นไปตามคาด ไม่มีใคร
กล้ าขยับเขยื ้อนเลยแม้ แต่คนเดียว
“ฆ่ามันแล้ วแกจะรับผิดชอบรึ แกมันโง่เง่า ถ้ าหากมันฆ่าพวกเราแกจะรับผิดชอบอย่างไร”
ฝูงชนที่อยูต่ รงนันต่
้ างก็มีการฝึ กฝนเพียงขันที
้ ่1เท่านัน้ น้ อยนักที่จะมีผ้ ไู ปถึงขันที
้ ่2รวมอยู่ พวก
เขาซึง่ ได้ เห็นฉากน่าขนหัวลุกตรงหน้ าที่ลินหมิงได้ เหวี่ยงชายคนนันลอบไปในอากาศนอนคาที
้ ่
อยูจ่ นถึงในตอนนี ้ สิ่งเหล่านันยั
้ งคงเป็ นภาพติดตาน่าหวาดกลัวในใจของพวกเขา
หลินหมิงพูดสวนกลับไปอย่างยัว่ โมโห “สามเดือนมานี ้พวกแกก็ยงั อ่อนหัดไม่ตา่ งจากเดิม ยัง
อับอายกันไม่พออีกรึ”

บทที่ 30 กําราบบุตรท่านแม่ทพั
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



เมื่อได้ ยินคํากล่าวยัว่ ยุจากหลินหมิง ถึงเรื่ องเมื่อ 3 เดือนก่อน หวังยี่เกาก็โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ
มันเป็ นสิ่งที่น่าอับอายที่สดุ ในชีวิตเขา
“พวกเจ้ ารออะไรกันอยู!่ จะจัดการมันดีๆหรื อจะไปด้ วยนํ ้าตา?”
ในบรรดาลูกน้ องที่ติดตามหวังยี่เกา ล้ วนแล้ วแต่เคยไปข่มเหงรังแกผู้คนทังชายหญิ
้ ง หวังยี่เกา
เป็ นดัง่ ร่มเงาของพวกเขา
ถ้ า หากถูกเขี่ยทิ ้งแล้ ว พวกเขาก็ไม่มีที่พงึ่ อีกต่อไป อาจจะมีคนที่มีความแค้ นเก่ามาแก้ แค้ นพวก
เขาก็เป็ นได้ พวกเขาจะไม่มีที่ให้ ยืนในเมืองลิขิตฟ้าอีกต่อไป
เมื่อคิดถึงผลที่ตามมาแล้ ว พวกลูกสมุนจึงตัดสินใจที่จะคาบลูกปื น (ไปตายเอาดาบหน้ า) แล้ ว
วิ่งตรงไปยังหลินหมิง
หลินหมิงมองด้ วยสายตาเย็นชา เขาตวัดหอกที่หล่นอยูแ่ ทบเท้ าขึ ้นมา จับมันไว้ อย่างมัน่ คง แล้ ว
กวัดแกว่งหอกออกไปเหมือนการกวาดลูกไก่ 5-6คนลอยไปในอากาศทันที
ความเจ็บปวดพลันแล่นเข้ าหาพวกเขากลางอากาศ พวกเขาดูน่าสงสารยิ่ง เมื่อตกลงมา
กระแทกกับพื ้นก็ร้องครวญครางด้ วยความเจ็บปวด หลินหมิงไม่ได้ พดู คําใดออกมา เขาแค่แกว่ง
หอกเบาๆ โดยใช้ พลังไม่ถงึ 1ใน4ส่วน เท่านัน้ พวกเขาไม่น่าจะบาดเจ็บขนาดนันได้
้ (เก่งไปนะ
บางที)
ถึงแม้ วา่ พวกเขาจะเป็ นแค่ลกู น้ อง แต่เมื่อเห็นหลินหมิงล้ มไปได้ 7-8 คนในคราเดียวก็ทําให้ ฝงู
ชนรอบๆตื่นตะลึง ผู้คนเริ่ มมาร่วมดูหตุการณ์กนั เยอะขึ ้นเรื่ อยๆ
ในพริ บตาเดียวหลินหมิงก็ได้ เก็บกวาดลูกน้ องของหวังยี่เกาจนหมด จนเหลือแต่มนั เพียงคน
เดียวเท่านัน้
หวังยี่เกาเริ่ มกลัวตัวสัน่ และก้ าวถอยหลังออกไป เมื่อเห็นหลินหมิงเดินเข้ ามาหาอย่างช้ าๆ หวัง
ยี่เกาที่เคยได้ ปรากฏตัวออกมาอย่างองอาจแต่ทว่า ณ ตอนนี ้เหล่าลูกน้ องมากมายของเขาแพ้
หมดรูป เขาจะต้ องพ่ายแพ้ อย่างขายหน้ าอีกครัง้ รึ….
“หลินหมิง แกต้ องการอะไร ข้ าขอเตือนเจ้ าไว้ ก่อน อย่าทําอะไรที่อกุ อาจให้ มากนัก ไม่งนศพ
ั้
เจ้ าไม่สวยแน่!!”
หลินหมิงมองหวังยี่เกาดัง่ มองแมลงวันตัวเล็กๆแล้ วกล่าวว่า “แม้ กระทัง่ เศษใบไม้ ออ่ นๆยังมี
เส้ นใบชัดเจน แต่ในฐานะนักรบเจ้ ากลับสูญเสียความกล้ าหาญทังยั ้ งทําตัวขลาดเขลา ข้ าปล่อย
เจ้ าไปแล้ วเจ้ ายังกลับมาระรานข้ าอีก ถ้ าข้ าปล่อยเจ้ าไปในครานี ้ ข้ าจะฝึ กฝนวรยุทธไปเพื่ออะไร
กัน!!”
ว่าแล้ วหลินหมิงก็พงุ่ เข้ าประชิดตัวมันในทันที หวังยี่เกา กลัวจนฉี่แทบราดพลางคิดในใจ หลินห
มิงบ้ าไปแล้ วรึ ข้ าเป็ นถึงลูกของท่านแม่ทพั ผู้ยิงใหญ่!!
มันจะทําร้ ายข้ าเนี่ยนะ!!
“บังอาจ!! พ่อข้ าเป็ นถึง………”
หวังยี่เกา ร้ องออกมาอย่างน่าสงสารในขณะที่หลินหมิงต่อยไปที่ท้องของมัน หมัดของหลินหมิ
งเปี่ ยมด้ วยกําลังภายใน แม้ เขาจะใช้ ‘ไหลลืน่ ดุจแพรไหม’ ไม่ได้ ถงึ ขีดสุดที่ แต่เขาก็สามารถใช้
มันได้ ในขันแรก

หมัดที่เต็มไปด้ วยพลังปราณ กระแทกเข้ าที่หน้ าท้ องของหวังยี่เกา จนเลือดกกปาก
หลินหมิงใช้ มืออีกข้ าง ตบไปที่แก้ มข้ างขวาเสียงดัง “แป๊ ะ” แรงเสียจนฟั นหลุดกระเด็นออกมา
หวังยี่เกา หมุนตัวลอยแล้ วตกลงพื ้นมองเห็นดาวเต็มไปหมด (ซู้ดด เพลงมา)
“แก…แก…” หวังยี่เกาเอามือปิ ดปากตนเองไว้ พลันโกรธจนตาแดงกํ่า หวังยี่เกา โตมาด้ วย
การเลี ้ยงดูแบบลูกผู้ดี ไม่มีใครเคยทําร้ ายเขามาก่อน เขาพยายามเอานิ ้วชี ้หน้ าหลินหมิง “ข้ า…
ข้ าจะต้ องฆ่าเจ้ า!!”
“ฆ่าข้ ารึ ข้ าว่าเจ้ าคงไม่มีโอกาสนันนะ”
้ หลินหมิงเดินเข้ าไปหาหวังยี่เกาอีกครัง้ พร้ อมด้ วยจิต
สังหารอันน่าหวาดกลัว
หลังจากรู้สกึ ถึงจิตสังหารรุนแรง คอของเขาอยูห่ า่ งจากปลายหอกแค่คืบเดียว ความโกรธและ
ความจองหองของหวังยี่เกาหายไปหมดสิ ้น!! เหลือไว้ แต่ความรักตัวกลัวตาย เขาคลานหนี
อย่างน่าสมเพช พลางตะโกนว่า
“ฆาตกร!!!”
หลินหมิงรู้วา่ เขาไม่สามารถฆ่าลูกชายของมาทัพได้ ในตอนนี ้ มันโจ่งแจ้ งเกินไป และแม้ วา่ หมัด
ที่เขาต่อยไปจะประกอบด้ วยพลังปราน มันก็แค่ทําให้ จกุ และบอบชํ ้าเท่านัน้ แผลพวกนัน้
สามารถบรรเทาได้ ด้วยการใช้ ยาสมุนไพร
บนถนนสายหลัก เสียงฝี เท้ าม้ าใกล้ เข้ ามา หลินหมิงมองไป ก็เห็นชายวัยประมาน30 เขาไว้
หนวด สวมชุดหัวหน้ าหน่วย และคล้ องดาบไว้ ที่เอว เขาควบม้ ามาอย่างว่องไว ด้ านหลังของเขา
ก็มีพวกเจ้ าหน้ าที่ตามมาติดๆ
เมื่อเห็นผู้รักษาความปลอกภัยมา หวังยี่เกาเหมือนเห็นแสงสว่าง เขารี บตะโกน “ช่วยข้ าด้ วย!
มันพยายามจะฆ่าข้ า!!”
หลินหมิงเห็นดังนันก็้ หน้ าบึ ้งลงทันที ทําไมเขาจะไม่ร้ ูวา่ หวังยี่เกาพยายามจะกุเรื่ องเหลวไหล
ขึ ้นมา จริ งๆแล้ วหลินหมิงต้ องการให้ เรื่ องบานปลายไปอีกหน่อย เพื่อผู้ที่ควบคุมดูแลจากสํานัก
เจ็ดแก่นแท้ มาจับหวังยี่เกาไป
มันจะทําให้ หวังยี่เกาพลาดโอกาสในการสอบ จนอาจถึงขันถู ้ กกักขัง
“เกิดอะไรขึ ้นที่นี่?” หัวหน้ าผู้รักษาความปลอดภัยเฉ่าหมิงชาน ถามออกมา เขาอายุได้ 30 ปี
และมีการฝึ กฝนขันที ้ ่4 นอกจากนันยั ้ งเป็ นหัวหน้ าของผู้รักษาความปลอดภัยในเมืองลิขิตฟ้า
แห่งนี ้ด้ วย
เฉ่าหมิงซาน ถามไปยังพวกที่นอนหมดสภาพอยู่ พวกนันคลานไปใกล้
้ ๆเฉ่าหมิงชาน
“มันทําร้ ายพวกข้ าขอรับ มันวางแผนจะฆ่านายน้ อยของพวกเรา!!” หลินหมิงคิดไว้ แล้ วไม่มีผิด
พวกมันต้ องวางแผนชัว่ ร้ ายเอาไว้
“ถูกต้ องแล้ วขอรับ ดูบาดแผลบนตัวข้ าสิ มันจูโ่ จมพวกข้ าโดยใช้ หอก โชคดีที่ข้าป้องกันไว้ ได้ ทนั
จึงมีเพียงกระดูกที่หกั บางแห่งเท่านัน”

หนึง่ ในพวกลูกน้ องถอดเสื ้อแสดงหลักฐานให้ ดู ลักษณะแผล เป็ นแผลถูกฟาดเป็ นรอยยาว
ในมือหลินหมิงเองก็กําลังถือหอกอยู่ จากพยานและหลักฐานตรงหน้ าแทบจะสรุปได้ ทนั ทีวา่
ใครผิด
“พี่เฉ่า ข้ าขอยาหน่อ….” ทันทีที่หวังยี่เกาเริ่ มจะเปิ ดปากพูด เลือดก็ไหลออกมาจนแทบสําลัก
เฉ่าหมิงชาน จึงรี บเอายาสมุนไพรของเขาให้ กิน แม้ มนั จะมีราคาสูง หวังยี่เกา ผู้ซงึ่ ไม่ได้ คิดเรื่ อง
พวกนันกลื
้ นมันลงไปทันที แผลก็เริ่ มค่อยๆฟื น้ ตัวอบ่างช้ าๆ!!
“พี่เฉ่าท่านต้ องให้ ความเป็ นธรรมกับข้ านะ” หวังยี่เกามองหลินหมิงอย่างโกรธแค้ น เขาไม่คิด
ว่าหลินหมิงจะกล้ าทําขนาดนี ้ “ข้ าตัดสินใจแล้ ว ข้ าจะฆ่าเจ้ า แม้ เจ้ าจะอยูใ่ นเรื อนจํา ข้ าจะยัด
สินบนเพื่อเข้ าไปฆ่าเจ้ าให้ ได้
ไม่ส…
ิ . เช่นนันมั
้ นจะง่ายดายเกินไป ข้ าจะทรมานเจ้ าให้ ตายลงอย่างช้ าๆ ฮ่าฮ่าฮ่า” หวังยี่เกา
กําลังวางแผนในใจ…
ปั ญหาเล็กๆน้ อยๆแบบนี ้ พ่อของหวังยี่เกาไม่ได้ กงั วลอะไรมาก หวังยี่เกาแพ้ พนันและพ่ายแพ้
ต่อเด็กขันแรกทํ
้ าให้ เขาเสียศักดิ์ศรี หวังยี่เกาจึงโกรธแค้ นอยากสุดแสน
ถึงหวังยี่เกาจะไปทําร้ ายคนมามากมาย แต่ถ้าไม่ได้ ทําให้ ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียงก็ยงั พอจะ
อนุโลมได้
พอคิดได้ เช่นนี ้ หัวใจของเขากลับมาสดชื่นอีกครัง้ หนึง่ ถึงเขาจะโดนต่อย แต่แผลก็บรรเทาไป
มากแล้ ว เขาต้ องหาทางแก้ แค้ น เหมือนที่ได้ วางแผนไว้ ตราบใดที่ตระกูลของเขาทรงอํานาจ
ย่อมจะแก้ ผิดเป็ นถูกได้ เสมอ
เฉ่าหมิงซานไม่ได้ โง่เขลา เขาทํางานมาได้ หลายปี แล้ ว ที่เขาได้ เป็ นถึงหัวหน้ าเพราะการ
ตัดสินใจที่รวดเร็วของเขา เพียงแค่มองสถานที่เกิดเหตุก็ร้ ูวา่ เหตุการณ์ที่แท้ จริ งเป็ นเช่นไร “เด็ก
หนุ่มคนนี ้กล้ าทําร้ ายคนจากตระกูลของท่านแม่ทพั แม้ เขาจะแค่มีเรื่ องนิดหน่อยก็ตาม แต่ทว่า
เขาก็ไม่สามารถสู้คดีได้ แน่นอน จบแล้ ว เจ้ าหนุ่มน้ อย”
ในฐานะหัวหน้ า เขาย่อมรู้วิธีที่จะรักษาตําแหน่งนี ้ไว้ อย่างแน่นอน ด้ วยสถานะของเขาถ้ าตัดสิน
สุม่ สี่สมุ่ ห้ า มีหวังได้ ตกงานเป็ นแน่ การตัดสินในครัง้ นี ้ แม้ เขาจะรู้ความจริ ง แต่เขาก็ต้องเข้ าข้ าง
ตระกูลชนชันสู ้ ง
เมื่อมองดูทางหลินหมิง การแต่งตัวเหมือนกับชาวบ้ านทัว่ ไป ถ้ าเดาไม่ผิดเด็กนี่คงมาจาก
ตระกูลเล็กๆที่ไม่มีความสําคัญ
เฉ่าหมิงชานได้ ให้ คนของเขาสํารวจบาดแผลทันที แล้ วก็ได้ รับคํายืนยันว่า ทุกแผลเป็ นแผลจาก
หอกทังสิ
้ ้น
“หนุ่มน้ อย เจ้ ามีนามว่าอะไร?” หลินหมิงมองเฉ่าหมิงซานด้ วยสีหน้ าไม่สบอารมณ์
“หลินหมิง” เขารู้อยูแ่ ล้ วว่าผลของการตัดสินจะออกมาเป็ นแบบไหน
เฉ่าหมิงซาน มองหลินหมิงแล้ วรู้สกึ ได้ ถงึ แรงกดดันจากหลินหมิง ได้ แต่พดู ว่า “เหตุการณ์นี ้ได้
ข้ อสรุปแล้ ว เจ้ ามีอะไรจะแก้ ตวั หรื อไม่?” “ฮ่าๆ! ได้ ข้อสรุปรึ! ท่านยังไม่สอบปากคําผู้อยูใ่ น
เหตุการณ์เลยด้ วยซํ ้า ท่านฟั งความฝ่ ายเดียวแล้ วท่านยังจะบอกว่าคดีได้ ข้อสรุปแล้ วงันเหรอ?”

เฉ่าหมิงซาน หงุดหงิดเล็กน้ อย เจ้ าเด็กนี่ไม่เข้ าใจหรื อไงนะ ทังๆที
้ ่ความตายจะมาเยือนอยูแ่ ล้ ว
ยังจะมีหน้ ามาเล่นลิ ้นอีกหรอ ทําไมเจ้ าเด็กนี่กล้ าทําร้ ายหวังยี่เกา หรื อมันจะไม่ร้ ูวา่ พ่อของหวัง
ยี่เกาเป็ นแม่ทพั ใหญ่แห่งเมืองฟ้าลิขิต?
แม้ วา่ ท่านแม่ทพั จะลงโทษลูกตัวเองเพราะความโง่ของมันเอง แต่เขาคงไม่ยอมให้ มีใครมาทํา
ร้ ายลูกของตัวเองเป็ นแน่
เจ้ าเด็กที่ชื่อหลินหมิงคนนี ้ น่าจะไม่มีใครหนุนหลังเมื่อได้ ดกู ารแต่งกายที่ธรรมดาของมันแล้ ว
เขาก็ยิ่งมัน่ ใจ
“ข้ าจะสอบปากคําผู้คนโดยรอบในภายหลัง แต่ตอนนี ้ ข้ าคงต้ องให้ เจ้ าตามไปที่สถานที่คมุ ขัง
เสียก่อน เจ้ าจะถูกคุมตัวจนกว่าการตัดสินจะได้ ข้อเท็จจริ งที่ถกู ต้ อง ”
ถ้ าคนพวกนี ้ไม่ได้ โง่น่าจะรู้วา่ ควรให้ ปากคําอย่างไรที่จะไม่ให้ ตนเองต้ องเดือดร้ อน ถ้ ามีคน
ปากโป้งล่ะก็อาจจะจบไม่สวยแน่
“เอาหล่ะ ไปกันได้ แล้ ว!!” พอเฉ่าหมิงซานพูดจบ ก็มีเจ้ าหน้ าที่2คน ถือเชือกเตรี ยมจะมามัด
มือหลินหมิง
หวังยี่เกาได้ แต่ยิ ้มสะใจ ‘คิดจะต่อกรกับข้ ารึ ฮ่าฮ่า เดี๋ยวเจ้ าต้ องตายแน่นอน’
้ วพูดว่า “คิดจะจับกุมข้ างันรึ
หลินหมิงมองเจ้ าหน้ าที่2คนนันแล้ ้ ถ้ าพวกเจ้ าคิดว่าทําได้ ละ่ ก็ลอง
ดู ผลลัพธ์ที่ออกมาคงจะแย่ยิ่งกว่าพวกที่นอนกองอยูกบั พื ้นพวกนันเป็
้ นแน่!!!”

บทที่ 31 ช่วงแห่งความผิดพลาด
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



ขณะที่หลินหมิงเห็นเจ้ าหน้ าที่สองคนเดินเข้ ามาหาเขาพร้ อมด้ วยเชือกในมือ หลินหมิงจับแขน
ของเขาอย่างรุนแรงและกล่าวอย่างเย็นชา “พวกเจ้ าต้ องการที่จะจับข้ ารึ หากเจ้ าทําเช่นนัน้
ย่อมไม่เกิดผลดีตอ่ พวกเจ้ าแน่นอน”
“แกคิดว่าจะรอดไปได้ รึ? อย่าแม้ แต่จะฝั นเช่นนัน!
้ ในตอนนี ้แกก็เหมือนลูกไก่ในกํามือข้ า ฮ่า
ฮ่า! “หวังยี่เกาหัวเราะอย่างมีความสุขอย่างสะใจกับเหตุการณ์ตรงหน้ า แม้ เขาจะเป็ นคนหนึง่ ที่
ได้ รับบาดเจ็บแต่เขาก็ยงั ยิ ้มออกมา นอกจากนี ้เขายังวางแผนที่จะทรมานหลินหมิงอย่างทารุณ
โดยใช้ คําว่า ‘อุบตั ิเหตุ’ เป็ นข้ ออ้ าง …
หวังยี่เกาสังเกตเห็นเฉ่าหมิงซาน จ้ องมองมาที่เขาด้ วยการแสดงออกที่น่ารังเกลียดและเบื่อ
หน่าย หวังยี่เกากระแอ้ มเล็กน้ อย “พี่เฉ่า ข้ าขอฝากท่านตรวจสอบสถานการณ์ ในตอนนี ้ข้ า
อาจดูไม่เป็ นกลางพอ ไอ้ เด็กนี ้เย่อหยิ่งและสมควรถูกประณาม. ”
หลินหมิงปั ดฝุ่ นบนร่างและกล่าวกับเฉ่าหมิงซาน “มันเป็ นความรับผิดชอบของเจ้ าที่จะดูแล
ความปลอดภัยในการสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ แต่มีใครบางคนพยายามทําร้ ายข้ าด้ วยหอก
พวกมันต้ องการให้ ข้าตายหรื อพิการในขณะที่ไม่มีผ้ รู ักษาความปลอดภัยมาคอยดูแล และเมื่อ
ผู้ดแู ลความปลอดภัยอย่างเจ้ าเข้ ามา เจ้ ากลับไม่ได้ พยายามที่จะถามเหตุการณ์ใดๆกับผู้คนแต่
กลับจ้ องจะจับกุมข้ า ด่วนตัดสินใจว่าข้ าเป็ นผู้กระทําผิด พวกเจ้ าอย่ามาเล่นละครตลกโง่ๆกับ
ข้ า ”
หลินหมิงออกเสียงแต่ละคําอย่างหนักแน่น มันก่อให้ หวั ใจของเฉ่าหมิงซานเต้ นรัว เด็กหนุ่มคนนี ้
ช่างกล้ าหาญยิ่งนัก เหตุใดเขาถึงยังสงบเสงี่ยมอยูไ่ ด้ ในสถานการณ์เช่นนี ้?
เฉ่าหมิงซานมองที่หลินหมิง เขาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวและเริ่ มพูดอย่างโกรธเกรี ย้ ว “นี่เป็ นคํา
ตัดสินของทางการ! มันไม่เกี่ยวว่าแกจะยอมรับหรื อไม่ จับมันมัดเอาไว้ ! ”
เมื่อเขาออกคําสัง่ เชือกก็ถกู มันไว้ รอบคอของหลินหมิง แม้ วา่ หลินหมิงจะมีความสามารถใน
การต่อสู้ แต่เฉ่าหมิงซานมีการฝึ กฝนถึงขันที
้ ่สี่ ดังนันในตอนนี
้ ้เขายากที่จะขัดขืน
ในขณะนี ้เสียงที่ค้ นุ เคยก็คํารามกึกก้ องกังวานไปทัว่ “หลีกทางให้ ข้า!!
หลินหมิงเงยหน้ าขึ ้นอย่างประหลาดใจ เขาเห็นเด็กหนุ่มตัวอ้ วนวิ่งฝ่ าฝูงชนเข้ ามา ในมือของเขา
เต็มไปด้ วยของกิน เขาคือหลินเซี่ยวตง เมื่อหลินหมิงคิดถึงเรื่ องก่อนหน้ านี ้ หลินเซี่ยวตงปลีกตัว
ไปหาของกินและเพิ่งจะได้ รับรู้ถงึ ความวุน่ วายที่เกิดขึ ้น
ทันทีที่หลินเซี่ยวตงเห็นหลินหมิงถูกมัดคอไว้ หัวใจของเขาก็ปวดร้ าวอย่างกระทันหัน “ไม่จริ ง!
ทําไมพี่ถงึ ถูกจับกุมตัว?! ”
เฉาหมิงซานไม่ร้ ูวา่ เด็กอ้ วนนี ้เป็ นใครมาจากไหน เขากําลังจะโบกมือออกคําสัง่ ให้ โยนมัน
ออกไป ทันใดนันสายตาของเขาเหลื
้ อบสายตาไปเห็นแสงประกายเล็กๆ ประกายแสงนันเกิ ้ ดขึ ้น
ในฝ่ ามือหลินหมิง
ยันต์สื่อสาร?
แววตาของเฉาหมิงซานเบิกกว้ าง ยันต์นนสามารถเก็
ั้ บบันทึกเสียงและถ่ายโอนออกไป มันถูก
นํามาใช้ ในการสื่อสาร เด็กนี ้ต้ องการเก็บบันทึกการสนทนาและส่งออกไป!
ไอ้ หนุ่มคนนี ้!
เฉาหมิงซานรู้สกึ ถึงลางร้ ายและมองไปที่ชายหนุ่ม วันนี ้มัน(หลินหมิง)ต้ องโกรธเคืองเขามาก
หลังจากนันมั
้ น(หลินหมิง)ต้ องหากทางมาแก้ แค้ นเขา จริ งๆเขาไม่ควรต้ องทนทําตามแผนการงี่
เง่าของหวังยี่เกาและรี บฆ่ามันเสียจะเป็ นการดี เพื่อมิให้ เกิดปั ญหาตามมาในอนาคต
แต่ … มันกําลังใช้ ยนั ต์สง่ เสียงไปถึงใคร?
หลินหมิงได้ สง่ เสียงยันต์สื่อสารไปยังมูย่ ี่ เพราะก่อนหน้ านี ้มูย่ ี่และหลินหมิงได้ แลกเปลีย่ นเคล็ด
ลับการจารึกซึง่ กันและกัน เขาได้ กลายเป็ นเพื่อนที่ดีของมูย่ ี่ มูย่ ี่ได้ ยํ ้ากับเขาว่าตราบใดที่ยงั อยู่
ในเมืองลิขิตฟ้าเขารับประกันความปลอดภัยของหลินหมิงได้ อย่างแน่นอน หากมีปัญหาใดๆให้
ใช้ ยนั ต์สื่อสารเพื่อแจ้ งเขา
แม้ วา่ หลินหมิงจะเป็ นผู้กล้ าหาญ แต่เขาก็ไม่ได้ เป็ นคนใจร้ อนที่จะผลีผลามกระทําสิ่งที่อกุ อาจ
โดยมิได้ คํานึงถึงผลกระทบที่ตามมา ก่อนที่เขาจะเล่นตามแผนของหวังยี่เกา เขาซ้ อนแผน
เอาไว้ แล้ ว สําหรับสถานการณ์เช่นนี ้ เขาเป็ นคนที่จะไม่ปล่อยให้ เป็ นเรื่ องเล็กๆน้ อยๆเช่นนี ้มา
หยุดเขาได้
แม้ วา่ มูย่ ี่จะเป็ นคนใหญ่คนโตและมีหน้ าที่สําคัญที่ต้องรับผิดชอบ แต่ในหัวใจของเขา เขาก็ยงั
เป็ นคนหนึง่ บนโลกที่มีนบั ถือศรัทธาในมิตรภาพเหนือสิ่งอื่นใด มูย่ ี่ไม่ใช่คนที่จะตกลงรับปาก
อะไรลอยๆ เมื่อเขาได้ ตกลงเป็ นเพื่อนกับหลินหมิง เขาทํามันด้ วยความเชื่อมัน่ ในหัวใจของเขา
เมื่อได้ ยินเสียงที่บนั ทึกจากยันต์สง่ เสียง มูย่ ี่มีความเข้ าใจสถานการณ์ขึ ้นมาทันที เขาถอน
หายใจออกมา เขาเองก็เคยเบื่อหน่ายเจ้ าหน้ าที่แย่ๆที่ทําตัวตํา่ ช้ าเช่นนี ้กับคนไร้ อํานาจ ไม่ต้อง
พูดถึงหลินหมิง หลินหมิงเป็ นถึงเพื่อนสนิทที่แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้ าใจอันลึกซึ ้งกันมา
แม้ วา่ เขาจะไม่ได้ เกี่ยวข้ องกับเรื่ องนี ้เขาก็ยงั จะเข้ าไปช่วย
มันเป็ นเอกลักษณ์ของยันต์สีมว่ งที่จะส่งเสียงไปยังคฤหาสน์จอมพล!!
ข้ อความนี ้จะต้ องมาจากผู้ที่มีความเกี่ยวข้ องกับพระมหากษัตริ ย์หรื อเหล่าจอมพล!
หลังจากที่เขา(เฉาหมิงซาน)ได้ ร้ ูถงึ ชนิดและปลายทางของยันต์สื่อสาร เขารู้สกึ ราวกับว่ามีใคร
บางคนทุบลงบนศีรษะของเขาด้ วยหินขนาดใหญ่ ขาของเขาอ่อนตัวย่อลง อย่างกับว่ากําลังจะ
ขาดอากาศหายใจและพยายามกล่าว”โปรดยกโทษให้ ข้าผู้ตาํ่ ต้ อยที่มิได้ เข้ มงวดการกํากับดูแล
ของข้ า ข้ าทําผิดไปแล้ ว” แต่ละคําพูดที่เขาได้ กล่าวออกมาเป็ นดังจังหวะการเต้ นของหัวใจของ
เขา
แน่นอนว่าเฉาหมิงซานรู้ถงึ ปลายทางของยันต์สง่ เสียงนัน้ เด็กหนุ่มคนนี ้มีประวัติคลุมเครื อ เดิม
ทีมนั เป็ นเรื่ องง่ายที่เฉาหมิงซานจะจัดการเรื่ องนี ้แต่ … เขาเพียงไม่คิดมาก่อนว่าเด็กคนนี ้จะมี
ความเกี่ยวข้ องกับเชื ้อพระวงศ์หรื อท่านจอมพล!

“ไอ้ ชวั่ นรก! พวกแกมัดเขาไว้ ทําไม !? “หลินเซี่ยวตงตะหวาดอย่างโกรธแค้ น เฉาหมิงซานโบก
มือและชี ้ไปที่หลินเซี่ยวตง “แกขัดขวางภารกิจของทางการและด่าว่าเจ้ าหน้ าที่! จํามันมัด
เอาไว้ ! ”
เฉาหมิงซานส่งเจ้ าหน้ าที่สองคนไปคว้ าหลินเซี่ยวตง พวกเขามีการฝึ กฝนในขันที
้ ่สอง พวกเขาก็
ไม่ใช้ คนที่ออ่ นแอเหมือนหวังยี่เกา พวกเขามีรากฐานที่มนั่ คงและการฝึ กการต่อสู้มาอย่าง
ชํานาญ
หลินเซี่ยวตงมีเพียงการฝึ กฝนขันแรก
้ ถึงแม้ วา่ เขาจะไม่สามารถต่อต้ านทานได้ เขาก็ยงั ดิ ้นรน
ด้ วยความโกรธ “พวกแกกล้ าแตะต้ องตัวข้ า !?แกจําใบหน้ าของข้ าเอาไว้ ! ข้ าจะจ่ายคืนมันให้
พวกแกในเร็ววัน! ”
“หุบปากไปซะ!” เฉ่าหมิงซานตะคอกขึ ้นมาและชายคนหนึง่ ก็มาปิ ดปากขอหลินเซี่ยวตงเอาไว้
ด้ วยผ้ าผืนหนึง่ ผลที่ตามมาก็คือเสียงโวยวายของเขากลายเป็ นเสียงหอน
“ไปกันได้ แล้ ว!” ทันทีที่เฉ่าหมิงซานโบกมือ พวกเขาก็ยํ่าลงไปบนถนนพร้ อมกับหลินหมิงและ
หลินเซี่ยวตงที่ถกู มัดอยูบ่ นหลังม้ า ในเวลาไม่นานพวกเขาก็ออกมาเป็ นระยะหลายไมล์แล้ ว
หวังยี่เกาที่อยูเ่ บื ้องหลังพวกเขาก็หวั เราะและกล่าวว่า “พี่เฉ่าทิ ้งพวกมันลงไป พวกเราจะใช้ วิธี
ลากพวกมันแทน”
ยันต์เสียงนันจะส่
้ งสัญญาณโดยตรงถึงสมอง คนอื่นๆจะไม่สามารถที่จะได้ ยินมัน
เฉ่าหมิงซานคํารามตอบโต้ ขึ ้นมาอย่างสุดเสียง “แกมันเด็กไม่ร้ ูจกั โต! จะลากพวกเขารึ! เจ้ ารู้
ไหมว่าจริ งๆแล้ วพวกเขาเป็ นใคร!? เขาเกี่ยวข้ องกับเชื ้อพระวงศ์และจอมพล! เจ้ าต้ องการทํา
้ งๆรึ!? เจ้ ากล้ าที่จะแตะต้ องเชื ้อพระวงศ์!? แม่โง่เง่าของเจ้ าคงยังสะกดคําว่า’ตาย’
อย่างนันจริ
ไม่ถกู สินะ ?! ข้ าสาบานได้ เลยถ้ าชีวติ ของข้ าต้ องมาเจอปั ญหาเพราะเจ้ า ข้ าจะฆ่าเจ้ าด้ วย
ตัวเอง !! ”
เฉ่าหมิงซานด่าเสียงดังหัวของเขาแทบจะระเบิด ร่างกายของเขาทังแข็
้ งทื่อและความคิดของ
ว่างเปล่า … .รัชทายาท…เชื ้อพระวงศ์?
เฉ่าหมิงซานหยุดม้ าและมองมาที่หลินหมิงพร้ อมกับกับอ้ าปากค้ าง หลินหมิงก็ยงั มองไปเขาที่
เขาอย่างสงบอย่างกับว่ากําลังดูตวั ตลกกําลังแสดงละคร
เฉ่าหมิงฉานจําเสียงที่บนั ทึกโดยยันต์สง่ เสียงที่หลินหมิงส่งออกไปได้ … คนที่จะส่งข้ อความ
เหล่านันได้
้ จะต้ องเป็ นเหล่ารัชทายาท!?
เบื ้องหลังของชายหนุ่มผู้นี ้คือองศ์รัชทายาท ? เขาเป็ นเพียงหัวหน้ าผู้ดแู ลความปลอดภัย! เขา
ไม่เคยเกี่ยวข้ องกับพระมหากษัตริ ย์หรื อเจ้ าชายมาก่อนในชีวิตของเขา! หัวใจของเขาได้ แต่
หวาดกลัวกับคําพูดที่เคยพูดออกไป
ในที่สดุ เขาก็เข้ าใจความหมายที่อยูเ่ บื ้องหลังการจ้ องมองของหลินหมิง
“ข้ าไม่เข้ าใจท่านเฉ่า ตอนนี ้ก็เป็ นเวลาที่ดี ไม่มีใครซักคนมองดูพวกเราทีนี่ ดังนันขอให้
้ ข้าได้
ลากพวกมันให้ สาแกใจข้ าซักหน่อย ข้ าไม่เอาถึงตายอยูแ่ ล้ ว”หวังยี่เกากล่าวด้ วยรอยยิ ้ม ‘หึห’ึ
ข้ าสิจะลากแม่ของเจ้ ายํ ้าไปรอบเมือง! เมื่อเขาได้ ยินหวังยี่เกาพูดเรื่ องไร้ สาระเช่นนี ้ มันเหมือน
เป็ นการหาเรื่องใส่ตวั เอง! จะมีคนโง่เง่าคนไหนที่คดิ จะรองดีมีปัญหากับรัชทายาทซักคน!?
“ทุกคนลงจากหลังม้ า ปล่อยพวกเขา”
ทันทีที่คําสัง่ ของเฉ่าหมิงซานถูกกล่าวออกมา หวังยี่เกาถึงกับประหลาดใจและผิดหวัง
ปล่อยให้ พวกเขางันรึ ้ ?
หวังยี่เกาเป็ นถึงลูกแม่ทพั แห่งเมืองลิขิตฟ้า เขาไม่ได้ เป็ นคนโง่ เขารู้ถงึ ประโยชน์ของยันต์สื่อสาร
ดี แค่เพียงเก็บเสียงที่พวกเขาพูดคุยกันส่งไปยังที่แห่งหนึง่ ใครจะมาช่วยมันได้ !!
อย่างไรก็ตามเฉ่าหมิงซานก็ยืนกรานว่าจะต้ องปล่อยพวกเขาไป หวังยี่เกาผิดหวังอย่างมา เขา
กําลังจะเถียงขึ ้น แต่ทนั ใดนันเสี
้ ยงยันต์สง่ สัญญาณเกิดเพล่งประกายขึ ้นมาตรงหน้ าเขา
หลังจากได้ ยินนํ ้าเสียงที่พกู ออกมาจากยันต์สื่อสารนัน้ หวังยี่เกาแทบจะตัวสัน่ ลงไปกองกับพื ้น
นี่คือนํ ้าเสียงของพ่อของเขา! “กลับมาหาข้ าในทันที!”
หวังยี่เกาสัมผัสได้ ถงึ นํ ้าเสียงอันเย็นชาจากบิดาของเขา เขาเดาได้ ทนั ทีวา่ เขาอาจต้ องถูกกักขัง
ในโลกแห่งความเจ็บปวดอีกครัง้
ฝ่ ายหนึง่ เป็ นถึงรัชทายาทเชื ้อพระวงศ์และอีกฝ่ ายหนึง่ เป็ นเพียงลูกชายของแม่ทพั มีการใช้ ยนั ต์
สื่อสารมาอธิบายเหตุการณ์ตา่ งๆถึงแม่ทพั หวัง ก่อนหน้ านี ้แม้ ลกู ของขําจะไปรุกรานชาวเมือง
เขาก็ไม่เคยโกรธมาก่อน แต่ทว่าราชบัลลังก์คือเจ้ าของเมือง พวกเขายิ่งใหญ่ที่สดุ ในเมืองแห่งนี ้
และนี่หวังยี่ถงึ กับไปรุกรานเหล่ารัชทายาท! แม้ เพียงเรื่ องกระทบกระทัง่ เล็กๆน้ อยๆมันก็มาก
พอที่ทางการจะปลดตําแหน่งแม่ทพั ของเขาให้ กบั ผู้อื่น! เขาอยากจะฆ่าไอ้ ลกู ชัว่ นี่ยิ่งนัก!
เฉาหมิงซานเห็นหวังยี่เกาตัวแข็งทื่อเต็มไปด้ วยความหวาดผวาหลังจากที่ได้ รับข้ อความจาก
ยันต์สื่อสารอันนัน้ เขายิ่งเร่งคนของเขาอีกครัง้ “แค่แก้ มดั ยังจะช้ าอีก รี บปล่อยพวกเขา
เดี๋ยวนี ้!”
หลังจากได้ รับการตําหนิพวกเขาเริ่ มที่จะหวาดกลัว พวกเขารี บแก้ มดั เชือกเพื่อปล่อย แต่หลินห
มิง ก็กล่าวตอบกลับมาอย่างมัน่ ใจ “เจ้ าต้ องการจับกุมข้ า เจ้ าก็จบั กุมข้ าได้ แต่ข้าบอกพวกเจ้ า
แล้ วว่ามันจะไม่เกิดผลดีตอ่ พวกเจ้ าแน่นอน “

บทที่ 32 อํานาจเหนือทุกสรรพสิ่ง
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
เฉ่าหมิงซานอึ ้งอ้ าปากค้ างต่อหน้ าหลินหมิง เขาจําได้ วา่ หลินหมิงได้ เคยกล่าวไว้ วา่ “เจ้ า
ต้ องการจับกุมข้ า เจ้ าก็จบั กุมข้ าได้ แต่ข้าบอกพวกเจ้ าแล้ วว่ามันจะไม่เกิดผลดีตอ่ พวกเจ้ า
แน่นอน ”
เมื่อต้ องเผชิญหน้ ากับพลังที่มหาศาลเช่นนี ้ เฉ่าหมิงซานไม่มีทางเลือกอืน่ นอกจากยอมก้ มหัวให้
ผู้ชายคนนี ้ แม้ วา่ มันจะเป็ นการเสียหน้ าอย่างแสนสาหัสสําหรับเขา แต่มนั ก็ค้ มุ ค่าเป็ นอย่าง
มากถ้ ามันจะทําให้ เขามีชีวิตรอดได้
เฉ่าหมิงซานเปลี่ยนสีหน้ าไปอย่างกะทันหัน ใบหน้ าของเขาย้ อมไปด้ วยรอยยิ ้มอย่างคํารพขณะ
กล่าวว่า “ครัง้ นี ้ผู้น้อยได้ พบกับท่านรัชทายาทผู้ยิ่งใหญ่ทงสองท่
ั้ าน อาจมีการการเข้ าใจผิด
ระหว่างผู้ปฏิบตั ิหน้ าที่ ผู้น้อยหวังว่าท่านจะให้ ความเมตตาและไม่ถือโทษโกรธในความโอหัง
ของข้ า … รีบแก้ มนั สิไอ้ พวกโง่”
ถึงแม้ วา่ เขาจะยังแก้ มดั ไม่เสร็จก็ตาม หลินเซี่ยวตงก็ถกู ปฏิบตั อิ ย่างเบามือและนอบน้ อม เขา
รู้สกึ งงเล็กน้ อยกับเหตุการณ์ตรงหน้ า แต่สําหรับหลินหมิงมันก็เป็ นไปตามแผนที่เขาวางไว้ อยู่
แล้ ว เขาจึงไม่ได้ แปลกใจกับสิ่งที่มนั ควรจะเกิด
นันนะรึ
้ ปรมาจารย์ลกึ ลับที่ทา่ นพี่หลินหมิงเคยพูดถึง
สําหรับหลินเซี่ยวตงแล้ ว พลังอํานาจที่มากมายมหาศาลและน่ากลัวถึงเพียงนี ้ เคยมีอยูแ่ ต่เพียง
ในความฝั นเท่านัน้ แต่สําหรับปั จจุบนั ต่อจากนี ้ หากมีบคุ คลทรงอํานาจเช่นนี ้หนุนหลัง พวกเขา
ก็ไม่จําเป็ นต้ องกลัวสิ่งใดอีกต่อไป
“ข้ าขอสาปแช่งตระกูลของแก สาปแช่งพ่อแม่และลูกหลานของแกให้ วอดวายชัว่ กัลป์ชัว่ กัลป์”
หลินเซี่ยวตง ตะหวาดด่าออกมาดังลัน่ ไปทัว่ ขณะที่คนกําลังแก้ มดั ให้ เขาอยู่ พวกมันก็ยงั ถูก
หลินเซี่ยวตงสะบัดตัวใส่อย่างไม่พอใจ
“พวกแกคิดว่าอยากจะมัดข้ าและปล่อยข้ าไปเมื่อไรก็ได้ ที่พวกแกต้ องการรึ” หลินเซี่ยวตงคํา
ราบอย่างโกระเกรี ย้ ว แน่นอนว่าเขาต้ องการชําระแค้ นกับเรื่ องที่เกิดขึ ้นในครัง้ นี ้
เฉ่าหมิงซานมิอาจพูดคําได้ ๆออกมาได้ มันทําได้ เพียงนิ่งเงียบและทนทุกข์อยูใ่ นใจ และเสแสร้ ง
ยิ ้มออกมาอย่างยากเย็น”ข้ าช่างตาบอดและโง่เขลายิ่งนัก ท่านจะไร้ เมตตาถึงขันต้
้ องลงโทษข้ า
เลยรึ ข้ าจะดีใจมากถ้ าหากข้ าได้ รับใช้ พวกท่านหรื อจ่ายค่าชดเชยให้ ”
หลินเซี่ยวตงทําตัวงออย่างไม่พอใจ เดิมทีเงินเดือนของพวกเจ้ าหน้ าที่ก็น้อยนิดอยูแ่ ล้ วและเขาก็
ไม่ได้ ต้องการเงินซะด้ วย แล้ วเขาจะจัดการชําระแค้ นนี ้อย่างไร
ในเวลานี ้หลินเซี่ยวตงสังเกตเห็นหวังยี่เกากําลังหนีออกไป มันอาศัยช่วงเวลาที่ชลุ มุนนี ้เพื่อ
หลบหนี หลินเซี่ยวตงกล่าวอย่างเดือดดาลว่า “หยุดนะเว้ ย แม่แกสอนให้ หางจุกตูดเป็ นเต่าหัว
หดรึ กลับมาเดี๋ยวนี ้”
หวังยี่เกาแทบตกจากม้ าเมื่อได้ ยินคําพูดเมื่อนัน้ มันหันกลับมาด้ วยความหวาดกลัวสุดขีด พ่อ
ของเขาต้ องการตัวเขาเป็ นชําระโทษ นี่มนั ฝั นร้ ายชัดๆเลย
ตอนนี ้แม้ เพียงมองไปที่หลินหมิง ก็ทําให้ เขาสัน่ สะท้ านไปทัว่ ทังร่้ าง ถึงกับลืมเรื่ องการแก้ แค้ น
ไปได้ เลย ถ้ าเขาต้ องพบกับหลินหมิงอีกครัง้ เขารี บหนีให้ เร็ วที่สดุ ไม่ใช่เพียงกลัวความแข็งแกร่ง
ของหลินหมิงเท่านัน้ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าผู้ที่หนุนหลังเขาอยูท่ รงอํานาจเพียงไร ถึงแม้ จะไม่ร้ ูถงึ
ตัวตนของท่านผู้นนั ้ แต่เขาต้ องยิ่งใหญ่วา่ แม่ทพั อย่างเทียบไม่ได้
เมื่อข้ อได้ เปรี ยบของเขากลายเป็ นข้ อเสียเปรี ยบ หวังยี่เการู้วา่ ตอนนี ้เขาเทียบหลินหมิงไม่ติด
เลยแม้ แต่น้อย
“แล้ วเจ้ า…..เจ้ าต้ องการให้ ข้าทําสิ่งใด”
“เจ้ าคิดจะหนีรึ เจ้ าคิดว่าทุกสิ่งบนโลกนี ้มันเป็ นเรื่ องง่ายๆสินะ” หลินเซี่ยวตงถาม เขาหันไปที่
เฉ่าหมิงซานและกล่าวอย่างหนักแน่น “จัดการมันให้ ข้า”
หวังยี่เกาถึงกับตัวสัน่ เมื่อได้ ยินเช่นนัน้ เฉ่าหมิงซานเองก็หน้ าบิดเบี ้ยว ตอนนี ้พวกเขาทังสองไม่

รู้จริ งๆว่าจะรักษาหัวไว้ บนบ่าได้ อีกนานแค่ไหน ถ้ าเกิดเขาจัดการกับหวังยี่เกา เขาก็จะมีปัญหา
กับท่านแม่ทพั และอาจถูกลงโทษอย่างร้ ายแรง
เฉ่าหมิงซานมองไปที่หลินหมิงด้ วยสายตาวิงวอน
ในที่สดุ หลินหมิงก็กล่าวว่า “ข้ าจะปล่อยพวกเจ้ าไปก็ยอ่ มได้ ” คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมีเรื่ อง
กัน
เขาหันไปทางหวังยี่เกาแล้ วถาม “เมื่อไม่กี่ชวั่ โมงก่อน ข้ าสัมผัสได้ วา่ ใครบางคนกําลังแอบมอง
ข้ าอยูบ่ นรถม้ าคันนัน้ มันคงจะเป็ นจู้ยนั สินะ ”
หวังยี่เการู้สกึ เหมือนกระเพาะตัวเองจะทะลุออกมา ผู้ชายคนนี ้มีตาหลังจริ งๆรึเนี ้ย โอ้ วพระ
เจ้ า!!
ตอนนี ้เขากลัวหลินหมิงอย่างสุดขีด ความหวาดกลัวได้ ล้นทะลักออกมาทางแววตาของเขา
เขายังไม่ได้ ตอบอะไร หลินหมิงค่อยๆก้ าวเข้ ามาหาช้ าๆพร้ อมกับพูดด้ วยนํ ้าเสียงเย็นชาว่า “ใช่
หรื อไม่”
หัวใจของหวังยี่เกาแทบจะหยุดเต้ น เขาพยักหน้ าให้ ตอบรับ
“เรื่ องทุกอย่างที่เกิดขึ ้นนี ้คือฝี มือพวกเจ้ าสินะ”
หวังยี่เกาพยักหน้ าอีกครัง้
“ก็ดี เจ้ าไสหัวไปได้ แล้ ว”
หลินหมิงรู้วา่ จู้ยนั คงไม่ต้องการให้ เขาเข้ าร่วมสํานักเจ็ดแก่นแท้ หวังยี่เกาเป็ นหมากตัวหนึง่
สําหรับขัดขวางพวกเขาเท่านัน้ หลินหมิงเองก็ไม่อยากที่จะไปยุง่ กับคนพวกนี ้ ยังไงพ่อของหวังยี่
เกาเองก็เป็ นถึงแม่ทพั เมื่อเขาโดยตําหนิเช่นนี ้ เขาจะต้ องลงโทษลูกของเขาโดยการกักบริ เวณ
อีกสักพักก็เป็ นได้
เฉ่าหมิงซานถอนหายใจอย่างโล่งอกเป็ นที่สดุ เมื่อได้ ยินลินหมิงพูด เขารี บพุง่ มาแก้ มดั ให้ หลินห
มิงด้ วยตัวเองอย่างรวดเร็ว
หลินหมิงบิดข้ อมือและมองไปที่เฉ่าหมิงซานที่กําลังกระโดดขึ ้นม้ าสีดํา หลินเซี่ยวตงมีสายตาที่
แหลมคมและจะชาญฉลาดขึ ้นมาทันทีถ้ามันเกี่ยวกับเรื่ องเงิน เมื่อเหลียวมองดูก็ร้ ูได้ วา่ ม้ าตัวนี ้
เป็ นสายพันธ์ระดับสูง ถึงแม้ จะเทียบกับม้ าหิมะไม่ได้ แต่ถ้านําไปขายต้ องได้ เงินไม่ตํ่ากว่า 500
เหรี ยญทองเป็ นแน่
“พวกข้ าไม่เป็ นไร เจ้ าไม่จําเป็ นต้ องมาส่งพวกเรา แต่จงมอบม้ าทังสองตั
้ วนันมาชดเชย
้ เจ้ าตัว
ดํานี่ดมู ีสง่าราศีดี ข้ าอยากได้ ”
เฉ่าหมิงซานถึงกับปากเบี ้ยวทันทีที่ได้ ยิน ม้ าตัวนี ้เป็ นถึงม้ าสุดรักและเป็ นสมบัติของเขาเลย
ทีเดียว แต่เขาก็กดั ฟั นตอบไปว่า ”ถ้ าท่านอยากได้ ม้าของข้ าก็ยอ่ มได้ เชิญใช้ ได้ ตามสบายเลย”
“ฮ่าๆ งันก็
้ ต้องขอโทษที่ด้วยที่ข้าทําไม่สภุ าพใส่เจ้ า” หลินเซี่ยวตงพูด เขากระโดดด้ วยร่าง
อ้ วนๆขึ ้นไปบนหลังม้ าสีดํา “ฮ่าๆๆเยี่ยมไปเลย ”
ทันทีที่หลินเซี่ยวตงได้ ม้านันมาครอบครอง
้ ก็อารมณ์ดีขึ ้นมาทันที “สุดยอด นี่มนั ยิ่งกว่าทองซะ
อีก ข้ าไม่เคยรู้สกึ ดีอย่างนี ้มาก่อนในชีวิตไม่ใช่แค่เจ้ า ‘เกา ยี่หวัง’ จะถูกสัง่ สอนจนกลัวตัวสัน่
แม้ แต่หวั หน้ าผู้ดแู ลความปลอดภัยของเมืองก็ยงั ต้ องมอบม้ าที่หายากเช่นนี ้ให้ ข้า”
หลินหมิงยิ ้มและกล่าวว่า “วันนี ้เรายืมพลังอํานาจคนอื่นมาเท่านัน้ ใครๆก็ทําแบบนันได้
้ ถ้ า
อยากภูมิใจอย่างแท้ จริ ง พวกเราต้ องแข็งแกร่งขึ ้นอีกและยืนหยัดด้ วยพลังของตนเองอยูเ่ หนือ
คนทังโลก
้ เพื่อไม่ให้ ใครกล้ ามาก่อปั ญหาให้ เราได้ อีก ความรู้ สกึ นันต้
้ องยิ่งใหญ่มากแน่ๆ
”อยูเ่ หนือคนทังโลกเลยรึ
้ ฮ่าๆพี่หลินหมิง ข้ าไม่ได้ มีความฝั นที่ใหญ่โตอะไรเช่นนันหรอก
้ ข้ ามี
ความสุขกับความพอใจในพลังอํานาจของผู้อื่น เมื่อวันหนึง่ ชื่อเสียงของพี่เป็ นที่ร้ ูจกั ไปทัว่ โลก พี่
ก็ปกป้องข้ า แล้ วข้ าก็จะใช้ ชื่อเสียงของพี่จดั การคนชัว่ แบบจู้ยนั ให้ หมดไปจากโลกเอง”
“ได้ เลย”หลินหมิง หัวเราะเสียงดัง
ทังสองคน
้ ควบม้ าไป 3ถึง4ไมล์ ตามถนน เขาควบม้ าอย่างรวดเร็ วเพื่อกลับมาที่ลานทดสอบ
สํานักเจ็ดแก่นแท้ ซึง่ ที่ลานนันยั
้ งมีผ้ คู นมากมาย ดูเหมือนว่าการทดสอบพละกําลังพึง่ จะเริ่ มต้ น
ขึ ้น
หลินหมิงลืมเกี่ยวกับรถม้ าสีฟ้าไปซะสนิท เขาพึง่ สังเกตเห็นว่ามันจอดอยูต่ รงนัน้ เพียงแต่จ้ ยู นั
ไม่ได้ อยูท่ ี่นนั ้
“ดูเหมือนว่าข้ าจะประเมินเจ้ าตํ่าเกินไป เจ้ าช่างน่าสนใจจริ งๆ” ในตอนนี ้ จู้ยนั ได้ สง่ ข้ อความ
มาให้ หลินหมิง เขาอยูห่ า่ งออกไปไกลกว่า200เมตร
นี่เป็ นข้ อความที่สร้ างจากพลังปราณ มันต้ องใช้ ความชํานาญเป็ นอย่างมากเพื่อที่จะควบคุมมัน
จู้จะต้ องถึงจุดสูงสุดของขันสามใน6เดื
้ อนที่ผ่านมาเป็ นแน่
“อย่าคิดว่าเมื่อแกขึ ้นมาขันสองแล้
้ วจะคิดมาเทียบกับข้ าได้ แกทําได้ เพียงแค่เอาชนะพวกไร้
ประโยชน์ที่อยูใ่ นระดับเดียวกับแก มันไม่ได้ มีอะไรน่าชื่นชมเลย แกเคยบอกว่าวันหนึง่ จะก้ าว
ข้ ามข้ าสินะ ก็ดี ข้ าจะรอวันนัน้ ข้ าจะแสดงให้ แกเห็นถึงความต่างชันระหว่
้ างเรา แกจะได้ ร้ ูวา่
แกไม่ได้ ถกู กําหนดให้ อยูเ่ หนือโลกใบนี ้”
“อยูเ่ หนือแค่โลกใบนี ้รึ ” หลินหมิงยิ ้ม “สําหรับคนอย่างข้ ามิใช้ เพียงแค่โลกใบนี ้แน่นอน….”

บทที่ 33 ทดสอบความแข็งแกร่ง
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



สํานักเจ็ดแก่นแท้ มีแท่นหินที่ใช้ ทดสอบพละกําลังทังหมด20แท่
้ น หลังจากที่การทดสอบเริ่ มต้ น
ขึ ้น ผู้เข้ าการทดสอบทังหมดจะถู
้ กแบ่งออกเป็ น20ทีม เพื่อลดความแออัดของผู้คนลง
แท่นหินทังหมด20แท่
้ ง จะถูกตังอยู
้ ข่ ้ างหน้ าประตูที่แยกไปคนละทิศของสํานักเจ็ดแก่นแท้ โดย
ที่จดุ ยอดของแต่ละแท่นหินจะมีประกายแสงที่จะกําหนดชะตาของผู้เข้ าสอบอยู่ ว่าจะผ่าน
เข้ ารอบหรื อถูกเขี่ยทิ ้งออกไป
ทันใดนันก็ ้ มีหญิงวัยกลางคนอายุประมาณ30-40ปี เข้ ามาตรงหน้ าฝูงชนและเธอขึ ้นไปยืนบน
เวทีที่ถกู เตรียมไว้ “อรุณสวัสดิ์ทกุ ๆคน ข้ าคือหนึง่ ในผู้คมุ สอบในด่านนี ้ ข้ าจะขอประกาศว่าการ
สอบของสํานักเจ็ดแก่นแท้ จะถูกแบ่งออกเป็ นสามส่วน และผู้ที่ทําการทดสอบจะถูกประเมิน
ตามอายุ ความสามารถ และผลการทดสอบ ผู้ที่ติดหนึง่ ในสิบอันดับ จะได้ รับรางวัล และที่หนึง่
จะได้ รับยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง”
ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง! ฝูงชนทังหมดต่ ้ างตกตะลึง แม้ แต่บตุ รหลานของเหล่าขุนนางชันสู ้ ง
ก็ยงั มิอาจเมินเฉยต่อรางวัลชิ ้นนี ้ ยิ่งกับพวกคนที่มีทกั ษะการต่อสู้ตํ่าๆยิ่งแสดงสีหน้ าผิดหวัง
เศร้ าโศกเสียใจอย่างออกนอกหน้ าเหมือนรู้สกึ ได้ วา่ แม้ แต่การทดสอบแรกพวกเขาก็แทบไม่มี
โอกาสผ่านไปได้ แล้ ว ส่วนพวกที่เก่งขึ ้นมาหน่อยก็ร้ ูสกึ ถึงความหวัง ดวงตาเป็ นประกาย
เหมือนกับว่ายานี ้มีเพื่อให้ พวกเขาครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
หลินหมิงได้ ศกึ ษามาก่อนแล้ วถึงคุณสมบัติและสรรพคุณของมัน ยานี ้มีขนาดเท่าเมล็ดองุน่ ยา
เม็ดไขกระดูกมังกรทองถูกปรุงขึ ้นจากไขกระดูกลํ ้าค่าและตัวยาสมุนไพรลํ ้าค่าอื่นๆอีกมากมาย
โดยมันจะสามารถเพิ่มพลังทางกายภาพ สติปัญญา หรื อแม้ กระทัง่ ทําลายช่องว่างของการ
ฝึ กฝนได้
ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองไม่ได้ มาจากตัวมังกรจริ งๆ เพียงแต่ทําจากสิ่งที่เป็ นเชื ้อสายของมังกร
เท่านัน้ อย่างไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวพันกับมังกรย่อมแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แม้ แต่ผ้ เู ชี่ยวชาญ
ระดับปราณฟ้าขันต้ ้ นเทียบไม่ติด
อาณาจักรลิขิตฟ้าเองก็ไม่ได้ มีผ้ เู ชี่ยวชาญระดับปราณฟ้าขันต้
้ นที่สามารถปรุงมันได้ แม้ เพียง
วัตถุดิบที่จะปรุงมันก็หายากอย่างยิ่ง ด้ วยเหตุนี ้อาณาจักรลิขิตฟ้าจึงไม่มีทางที่จะปรุงยานี ้ด้ วย
ตัวเองได้ เลย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้ องมาจากเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขาที่เป็ นผู้ร่วมกันก่อตังสํ
้ านักเจ็ดแก่น
แท้ ในทุกๆปี ปรมาจารย์แห่งขุนเขาทังเจ็
้ ดจะคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถ และให้ ยาโอสถอันลํ ้า
เป็ นรางวัลในการทดสอบเพื่อดึงดูดนักสู้รุ่นเยาว์ที่มีฝีมือมาเข้ าร่วมสํานัก
สําหรับปรมาจารย์แห่งขุนเขาทังเจ็
้ ด ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองอาจจะไม่ได้ มีคา่ มากมายนัก
แต่สําหรับชาวเมืองในอาณาจักรลิขิตฟ้าแล้ ว มันเป็ นถึงสมบัติที่มิอาจซื ้อได้ ด้วยเงินใดๆทังสิ
้ ้น
แม้ แต่ขนุ นางชันสู
้ งก็ต้องอิจฉาตาเป็ นไฟเมื่อได้ เห็นใครก็ตามต่างก็ต้องการครอบครองยาเม็ดนี ้
้ ไม่ได้ ตื่นเต้ นใดใด เธอกล่าวต่อไปว่า “ อันดับที่2 3 และ4 จะได้ รับโอสถ
ผู้คมุ สอบหญิงคนนันดู
พญางูทองคํา และอันดับที่5ถึง10จะได้ รับยาเม็ดผสานวิญญาณสิบเม็ด”
โอสถพญางูทองคําถูกปรุงขึ ้นจากถุงนํ ้าดีของพญางูทองคําที่มีอายุนบั ร้ อยปี ถึงแม้ มนั จะมีคา่
น้ อยยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองก็ตาม มันก็ยงั เป็ นยาที่มีคา่ และหายาก น้ อยคนนักที่จะเคยได้
เห็นมัน
สําหรับอันดับ5ถึง10 ที่ได้ รับยาเม็ดผสานวิญญาณสิบเม็ดซึง่ ก็มีคา่ รองลงมาจากโอสถพญางู
ทองคําถึงอย่างนันเพี
้ ยงหนึง่ เม็ดก็ซื ้อขายกันด้ วยราคาถึง 200 เหรี ยญทอง สิบเม็ดก็ 2000
เหรี ยญทอง (ยาเม็ดผสานวิญญาณก็คือยาที่หลินหมิงเคยไปซื ้อมาจากหอร้ อยสมบัติ) โอสถ
พญางูทองคํามีราคาถึง 10,000 เหรี ยญทอง ยิ่งสําหรับยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองที่มีเพียงเม็ด
เดียวแล้ ว แม่จะยอมจ่ายถึงหลายหมื่นเหรี ยญทองก็มิอาจซื ้อมันมาครอบครองได้
รางวัลที่วา่ มานันทํ
้ าให้ ผ้ เู ข้ าการทดสอบรู้สกึ ตื่นเต้ นอย่างไม่เคยเป็ นมาก่อน พวกเขาแทบจะทน
ไม่ไหวที่จะออกไปแสดงพลังของพวกเขา ในฝูงชนที่กําลังตื่นเต้ นอยูน่ นั ้ มีชายหญิงกลุม่ หนึง่
กําลังหัวเราะดูถกู ผู้อื่นอยู่ พวกเขาสวมใส่ชดุ ผ้ าไหม ผู้ชายสวมสาวรัดหยกและกําลังยิ ้มเยอะ
เย้ ย
ผู้ติดตามของเขาเองก็ยิ ้มอย่างประจบประแจง “คนโง่เหล่านี ้ก็ได้ ร้ ูอะไรเสียเลย ยาเม็ดไข
กระดูกมังกรทองต้ องเป็ นของนายท่านอยูแ่ ล้ ว ชัยชนะครัง้ นี ้ถูกตัดสินตังแต่
้ แรกแล้ ว พวกมันคิด
รึวา่ จะชนะนายท่านได้ ช่างไม่ร้ ูจกั ที่ตํ่าที่สงู เลยจริ งๆ”
ชายหนุ่มคนนันยิ
้ ้มเบาๆและโบกพัดในมืออย่างใจเย็น เขาไม่ได้ ตอบอะไร เขามีพรสวรรค์ระดับ
สี่ และฝึ กฝนจนบรรลุขนที
ั ้ ่สาม เขามาจากเมือง เยว่ลู่ ซึง่ ก็ถือเป็ นเมืองที่มีชื่อเสียงที่ร้ ูจกั กัน
อย่างแพร่หลาย (แปลจนจบตอนก็ยงั ไม่ร้ ูวา่ มันมาทําอะไรในบทนี ้ -*-)
บนเวทีผ้ คู มุ หญิงยังคงกล่าวต่อไปว่า “เราจะเริ่ มการทดสอบรอบแรกในตอนนี ้ ขอให้ ทกุ คนเข้ า
ร่วมด้ วยพลังทังหมดที
้ ่มี แสงจากบนเสาหินจะบอกถึงค่าพลังของพวกเจ้ าทุกคน แต่ละนิ ้วจะ
แสดงค่าถึงพละกําลัง100จิ๋น เมื่อค่าถึง1,000จิ๋น ก็จะถือว่าผ่านการทดสอบ ทุกคนสามารถ
ทดสอบได้ ทงหมด3ครั
ั้ ง้ เพียงถึง1000 จิ๋นหนึง่ ในสามครัง้ นันได้
้ ก็จะถือว่าผ่าน เดี๋ยวข้ าจะสาธิต
ให้ ดู หลิงเซ็น ก้ าวออกมาข้ างหน้ า”
ทันทีที่หญิงสาวพูดจบ ก็มีชายคนหนึง่ ก้ าวขึ ้นมาบนเวที เขามีลกั ษณะสูงและผอมแห้ ง เกือบจะ
เก้ งก้ างเลยก็วา่ ได้ เขามีสหี น้ าดูซีดเซียว มีดวงตาที่ดรุ ้ าย
เขาใส่ชดุ สีดาํ และสะพายดาบที่ยาวถึง3ฟุตเอาไว้ บนบ่า แม้ วา่ ในขณะนี ้จะช่วงเช้ าที่มีแสงแดด
เจิดจรัส แต่เมื่อเขาได้ ก้าวขึ ้นมามาเวที มันทําให้ บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้ วยความเงียบสงัด
“เขาคนนันรึ
้ หลิงเซ็น ”
“คนจากนิกายสวรรค์แห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ ”
แน่นอนว่าหลิงเซ็นเป็ นบุคคลที่มีชื่อเสียงรู้จกั กันไปทัว่ แต่หลินหมิงกลับไม่เคยได้ ยินชื่อเสียง
ของหลิงเซ็นมาก่อน เขาหันไปถามหลินเซี่ยวตง “คนนันเป็
้ นใคร”
หลินเซี่ยวตงอาจจะไม่ได้ ขยันฝึ กฝนทักษะการต่อสู้มากนัก แต่เขาเป็ นคนที่ชอบยุง่ เรื่ องของ
ชาวบ้ านเป็ นอย่างมาก แน่นอนว่าเขาต้ องรู้จกั คนคนนัน้ เขากล่าวขึ ้นมา “หลิงเซ็นเป็ นหนึง่ ใน
ศิษย์ผ้ อู าวุโสของนิกายสวรรค์ที่เก่งกาจอันดับต้ นๆของสํานักเจ็ดแก่นแท้ เขามีอายุเพียง20ปี
และมีพรสวรรค์ระดับสี่ การฝึ กฝนของเขาไปถึงจุดสูงสุดของขันที ้ ่สี่ เขาพึง่ ได้ เข้ าร่วมนิกาย
สวรรค์เมื่อไม่กี่ปีมานี ้ เขาอาสาไปอยูแ่ นวหน้ าของสงครามเป็ นเวลาหนึง่ ปี เขาฆ่าคนไปนับไม่
ถ้ วน จนถึงตอนนี ้ทักษะและประสบการณ์ของเข้ าเก่งกล้ าจนยากจะต่อกร หลายๆคนกล่าวว่า
เขาจะบรรลุขนที
ั ้ ่ห้าในเร็ววันนี ้”
“อายุเพียง20ปี ฝึ กฝนไปถึงขันที้ ่ห้า? หลินหมิงตกใจเล็กน้ อย โดยทัว่ ไปแล้ วทักษะการต่อสู้
ระดับนี ้มันสูงเกินคาดยิ่งนัก ปกติแล้ วบุคคลที่จะฝึ กฝนไปถึงขันที
้ ่ห้าควรมีอายุราวๆ30ปี หลิง
เซ็นมีบรรยากาศที่เต็มไปด้ วยจิตสังหาร ดูเหมือนว่าเขาได้ ฆา่ คนไปเป็ นจํานวนมากในสนามรบ
ถ้ าเทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ ว เจ้ านี ้ถือเป็ นปรมาจารย์เลยก็วา่ ได้ ”
หลิงเซ็นเกลียดการสาธิตแบบนี ้มาก แต่มนั ก็เป็ นธรรมเนียม ที่ลกู ศิษย์ในนิกายสวรรค์จะเป็ นผู้
แสดงพลังออกมาให้ เป็ นที่ประจักษ์ นี่ก็เพื่อแสดงให้ เห็นว่ายังมีคนที่แข็งแกร่งเพียงไรอยูใ่ น
สํานักแห่งนี ้ ซึง่ มันจะผลักดันให้ พวกเขาฝึ กฝนตนเองเพิ่มมากขึ ้น
หลิงเซ็นก้ าวขึ ้นมายืนบนเวที ซึง่ ในขณะนี ้ยังไม่มีใครได้ เตรี ยมตัวใดใดทังสิ
้ ้น เขาเหวี่ยงแขนออก
แรงไปที่แท่นหิน “ปั งง!!” แท่นหินสัน่ สะเทือนอย่างรุนแรง แสงบนตัวหินพุง่ สูงปรี๊ ดและหยุดลง
อยูท่ ี่คา่ ๆหนึง่
4900จิ๋น!!!
ทุกๆคนต่างตกตะลึงและอึ ้งไปตามๆกัน นี่ถ้าหลิงเซ็นใช้ พลังทังหมดของเขาละแล้
้ ว มันอาจจะ
ทะลุเกิน 5000 จิ๋นก็เป็ นได้
เมื่อเห็นค่าพลังนัน้ หลินหมิงตาโตเท่าไข่หา่ น พลังของหลินเซ็นเกือบจะเป็ นสองเท่าของเขา
ในตอนนี ้
หลินเซี่ยวตงบอก “มันไม่ใช้ เรื่ องน่าตกใจอันใด เขาก็เป็ นถึงหนึง่ ในสิบบุคคลที่แข็งแก่งที่สดุ ใน
รุ่นเดียวกัน มันคงจะแปลกเสียด้ วยซํ ้าที่เขาจะทําได้ ไม่ถงึ ขันนี
้ ้”
“หนึง่ ในสิบผู้ที่แกร่งที่สดุ ในรุ่นรึ ฉินชิงหวนสู้เขาได้ หรื อไม่” หลินหมิงถาม
หลินเซี่ยวตงยักไหล่ “ข้ าไม่ร้ ูพลังของฉินชิงหวนแม้ แต่น้อย แต่เธอนันฝึ้ กฝนทุกศาสตร์ เป็ นถึงผู้
รอบรู้ในทุกๆเรื่ อง และรวมถึงเรื่ องการจารึกด้ วย แต่กบั หลิงเซ็นที่เอาแต่มงุ่ เน้ นในการฝึ กฝน
ต่อสู้เพียงอย่างเดียว ข้ าว่าฉินชิงหวนคงไม่อาจสู้เขาได้ ทังนี
้ ้ฉินชิงหวนก็มีอายุเพียง15ปี ส่วนห
ลิงเซ็น เขามีอายุ20ปี แล้ ว”
เมื่อได้ ยินอย่างนัน้ หลินหมิงก็พยักหน้ าหงึกๆ
การฝึ กฝนกายภาพมีทงหมด6ขั
ั้ น้ ยิ่งไปได้ ไกลขนาดไหน ยิ่งมีช่องว่างห่างกันมากขึ ้นเท่านัน้
พลังที่อยูใ่ นขันผสานชี
้ พจรอาจจะมีพละพลังถึง 8000 จิ๋นซึง่ หลินหมิงยังห่างไกลจากขันนั ้ นอยู
้ ่
อีกมากนัก
“เริ่ มการทดสอบได้ แล้ ว”ในช่วงเวลานัน้ ผู้คมุ หญิงก็ได้ ประกาศเริ่ มการทดสอบพละกําลังทันที
ผู้เข้ าทดสอบวัยหนุ่มสาวต่างก็เต็มไปด้ วยความกระตือรื อร้ น ต่างคนต่างเข้ ามาทําการทดสอบ
แต่อย่างไรก็ตามก็มีคนจํานวนไม่น้อยไม่ผ่านการคัดเลือก
“900 จิ๋น, 850 จิ๋น, 850 จิ๋น ครบสามครัง้ แล้ วไม่ผ่าน คนต่อไป”
“950 จิ๋น, 900 จิ๋น, 900 จิ๋น ครบสามครัง้ แล้ วไม่ผ่าน คนต่อไป”
ผู้เข้ าทดสอบส่วนใหญ่ยงั ไม่ฝึกฝนถึงขันที
้ ่สองเลยด้ วยซํ ้า แต่หากพวกเขามาถึงจุดสูงสุดของขัน้
แรกแล้ ว การที่พวกเขาอาจจะแสดงพละกําลัง 1000 จิ๋นออกมาก็เป็ นเรื่ องที่เป็ นไปได้ แต่ด้วย
ความกดดันและความกังวลต่างทําให้ พละกําลังถูกบัน่ ทอนลงมา ซึง่ คนพวกนี ้ก็จะไม่ผา่ นการ
ทดสอบไปโดยปริ ยาย
“1000 จิ๋นผ่าน”ผู้ที่ทําการทดสอบในแถวเดียวกับหลินหมิงผ่านการทดสอบ เขากระโดดโลด
เต้ นดีอกดีใจอย่างสุดตัว แต่ในความเป็ นจริ งแล้ ว การผ่านมาด้ วยพละกําลังที่เฉียดฉิวเช่นนี ้ ก็
ยากที่จะผ่านการทดสอบในรอบที่สองไปได้ แต่ถงึ อย่างนันมั ้ นก็น่าดีใจที่เขาผ่านด่านแรกใน
การทดสอบมาได้ แล้ ว
“1300 จิ๋นผ่าน!”
“950 จิ๋นไม่ผ่าน!”
เมื่อผลออกมาไม่ผ่าน พวกคนเหล่านันก็้ ต้องจําใจจากไปอย่างเศร้ าสลด ส่วนคนที่ผ่านก็ผ่าน
แบบงงๆ บางคนก็เหมือนเป็ นเรื่ องธรรมดาอยูแ่ ล้ วที่จะแสดงพละกําลัง1000จิ๋นออกมาได้
ทันใดนัน้ ก็เกิดความวุน่ วายตรงหน้ าหลินหมิง เขาเห็นผู้ชายสวมชุดลินินสีฟ้ายืนอยูด่ ้ านหน้ า
แท่นหิน เขากําลังรวบรวมพละกําลังอยู่
หลินหมิงเกิดความสงสัยว่าผู้ชายคนนี ้เป็ นใคร เมื่อเขาได้ ยินเสียงผู้คนคุยกันจ้ าระหวัน่ “เขาคือ
ซันปิ งจากเมืองสายนํ ้าตะวันออก เขาฝึ กฝนถึงขันสามแล้
้ ว พละกําลังของเขาต้ องแข็งแกร่งมาก
เป็ นแน่”
ระหว่างที่ผ้ คู นกําลังโต้ เถียงกันอยูน่ นั ้ ซันปิ งได้ ชกลงไปยังหินที่อยูด่ ้ านหน้ าอย่างรุนแรง ลําแสง
บนหินพุง่ สูงขึ ้นอย่างน่ากลัว และในที่สดุ ก็หยุดลง
“2300 จิ๋น!”
นี่เป็ นครัง้ แรกที่มีผ้ เู ข้ าสอบแสดงพละกําลังเกิน2000จิ๋นออกมา เหล่าฝูงชนต่างก็สง่ เสียงโห่ร้อง
กันอย่างอึกทึก

บทที่ 34 ด่านทดสอบความมุง่ มัน่


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



“เจ้ าซันปิ งมันไปถึงขันที
้ ่สามมาได้ ระยะหนึง่ แล้ ว แต่ยงั คงปล่อยพละกําลังออกมาได้ เพียง
้ ก็มากถึง17ปี อีก คงไม่อาจเป็ นอันตรายต่อข้ าได้ ” หวังยานเฟิ งกล่าวขณะโบก
2300 จิ๋น ทังอายุ
พัดไปๆมาๆ(อ่อมึงนี ้เองที่โบกพัดอย่างถูกลืมในตอนที่แล้ ว55) เขาหรี่ ตาลงขณะประเมินซันปิ ง
การประเมินเข้ าทดสอบในครัง้ นี ้ ไม่ได้ มาจากผลการสอบเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงอายุ และ
ระดับขันของผู
้ ้ เข้ าสอบด้ วย ยิ่งการฝึ กฝนและอายุสงู ขึ ้น เกณฑ์ที่จะให้ รางวัลก็ยิ่งสูงขึ ้นตามไป
ด้ วย และสําหรับการสอบครัง้ นี ้ ผู้มีอายุถงึ 17ปี แต่มีพละกําลังเพียง2300จิ๋นยังถือว่าค่อนข้ าง
น้ อย
“นายท่าน ถึงเวลาที่ทา่ นจะแสดงพลังแล้ วขอรับ”
“แน่นอน” หวังยานเฟิ ง พับเก็บพัดของเขาลงไปและส่งให้ ผ้ ตู ดิ ตามของเขา
ทันทีที่เขาได้ ก้าวขันมาบนเวที
้ ใครต่อใครหลายๆคนก็เริ่ มจําหน้ าเขาได้
“นันคื
้ อหวังยานเฟิ งแห่งเมืองเยว่ล!ู่ ”(คนที่ถือพัดตอนที่แล้ ว ชื่อตระกูลหวังเหมือนกันไม่ร้ ู
เกี่ยวข้ องกับหวังยี่เกาหรือป่ าว แต่น่าจะมาจากคนละเมือง)
ทันทีที่ฝงู ชนรู้จกั เขาและเริ่ มแพร่ขา่ ว ผู้เข้ าทดสอบหลายๆคนต่างก็จ้องมองมาที่เขา ในบรรดาผู้
ทดสอบกลุม่ นี ้หวังยานเฟิ ง ถือได้ วา่ มีโอกาสที่จะผ่านด่านแรกมากเสียยิ่งกว่าผู้ใด ไม่ใช่แค่
พละกําลังที่น่ากลัวเท่านัน้ แต่เขาพึง่ จะอายุได้ เพียง15ปี เท่านัน้
แต่ที่สําคัญที่สดุ ก็คือ ระดับพรสวรรค์ที่สงู มากต่างหาก
แม้ หวังยานเฟิ งจะมีพรสวรรค์ระดับสี่ แต่ความจริ งแล้ ว พรสวรรค์ระดับสี่ที่วา่ นี ้ ก็แบ่งออกเป็ น
สามช่วง คือ ช่วงตํ่า ช่วงกลาง และช่วงสูง ซึง่ หวังยานเฟิ งได้ ถือว่าอยูใ่ นช่วงที่สงู ซึง่ พบเจอได้
ยากยิ่ง
หวังยานเฟิ งยืนอยูต่ อ่ หน้ าแท่นหิน เขาสูดลมหายใจเข้ าลึกๆ ลมหายใจไหลผ่านไปตาม
หลอดลมเหมือนดัง่ อสรพิษกําลังเคลื่อนไหวอย่างดุดนั นัน่ เป็ นลักษณะของผู้ที่ฝึกฝนอยูใ่ นขันที
้ ่
3 ขันอวั
้ ยวะภายใน!!
ฝูงชนที่อยูโ่ ดยรอบต่างพากันอ้ าปากค้ างอย่างเกรงกลัว “จริ งหรื อนี่ เขาฝึ กฝนถึงขันที
้ ่สาม ทัง้
ยังสําเร็ จการหายใจเช่นอสรพิษได้ โดยมีอายุเพียง15ปี เท่านัน้ เขาต้ องได้ รับพลังที่สวรรค์
ประทานลงมาให้ เป็ นแน่ ”
“อืม..ทักษะของการฝึ กขันอวั
้ ยวะภายในจะช่วยในการปกป้องจุดชีพจรและปอดของผู้ใช้ และ
อวัยวะใหญ่ๆที่สําคัญอีก5แห่ง มันสามารถคุ้มครองอวัยวะที่เปราะบางจากการถูกโจมตีได้ และ
ยิ่งกว่านันหั
้ วใจและปอดของผู้ใช้ จะแข็งแกร่งขึ ้นอย่างมาก ทําให้ มีกําลังวังชามากกว่าปกติ
กล้ ามเนื ้อของพวกเขาเองก็จะแข็งแกร่งขึ ้นไปอีก หวังยานเฟิ งสามารถพ่นลมหายใจออกมาเช่น
อสรพิษได้ นัน่ ทําให้ ใครหลายๆคนเป็ นต้ องรู้สกึ อิจฉาเขาขึ ้นมาทันที”
ขณะที่การโต้ เถียงกําลังดําเนินอยูน่ นั่ หวังยานเฟิ งก็ได้ ชกไปที่แท่นหินอย่างรุนแรง จนเสียงดัง
สนัน่ กึกก้ องไปตามอากาศ ลําแสงบนหินพุง่ ขึ ้นอย่างต่อเนื่องและในที่สดุ ก็คอ่ ยๆหยุดลง
“2400 จิ๋น ”(บรรยายตังนาน
้ เยอะกว่าคนก่อนร้ อยเดียว -*-)
ในบรรดาผู้ที่ฝึกฝนถึงขันที ้ ่สามมักจะมีพละกําลังประมาณ2000จิ๋น แต่หวังยานเฟิ งเขาพึง่ เข้ าสู่
ขันที
้ ่สามได้ ไม่นาน ทังยั ้ งมีอายุเพียง15ปี เท่านัน้ แต่กลับแสดงพละกําลังออกมาได้ ถงึ 2400จิ๋น
ส่งผลให้ ผ้ ทู ี่มองอยูต่ ะลึงอ้ าปากค้ าง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ฝงู ชนจะเริ่ มสงบสติอารมณ์ได้ ก็มีเสียงประกาศออกมาจากการอีกด้ าน
หนึง่ มีชายรูปร่างสูงกํายําได้ ชกไปที่แท่นหิน และแสงบนหินก็ได้ แสดงค่าพละกําลังของเขา
ออกมา “2400 จิ๋น”
พละกําลังของหวังยานเฟิ งพึง่ จะประจักษ์ แก่สายตาผู้คนได้ ไม่นาน ก็มีคนอื่นที่ทําแต้ มออกมา
ได้ สสู ีมาเป็ นคูแ่ ข่งกับเขาเสียแล้ ว หลินหมิงมองไปยังชายตัวสูงกํายําที่วา่ นัน่ และก็ต้องตกใจที่ร้ ู
ว่า ชายคนนันพึ ้ ง่ ฝึ กฝนถึงขันที
้ ่สองเท่านัน้ ไม่ใช่เรื่ องง่ายๆเลยที่ผ้ ฝู ึ กฝนขันสามจะแสดง

พละกําลัง2000จิ๋นออกมาได้ แต่นี ้เขากลับฝึ กฝนถึงขันที ้ ่สองเท่านันเอง ้ มันจะแข็งแกร่งเกินไป
แล้ ว!!!
หลินหมิงสังเกตว่าถึงแม้ ชายคนนันจะไม่
้ ได้ ทําตัวเด่นอะไรนัก แต่ด้วยความสูงและร่างกายที่โต
ทําให้ เขาดูโดดเด่นมากกว่าผู้คนโดยรอบ เป็ นไปได้ วา่ กล้ ามเนื ้อของเขาจะต้ องหนาแน่นและ
แข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้ใหญ่เสียอีก
นี่รึที่เขาเรี ยกว่าพละกําลังแห่งพระเจ้ าที่มีมาแต่กําเนิด
พวกที่มีพลังดังกล่าวจะแข็งแรงกว่าผู้คนในรุ่นเดียวกันหลายเท่านัก ถึงแม้ วา่ จะหายากมากก็
ตาม แต่นนั่ ก็แสดงให้ เห็นแล้ วว่าชายหนุ่มคนนี ้ก็เป็ นหนึง่ ในนันเหมื
้ อนกัน
หวังยานเฟิ งเองก็ได้ เห็นชายหนุ่มคนที่วา่ เช่นเดียวกัน เขาไม่ได้ สนใจอะไรมากนัก พละกําลัง
แห่งพระเจ้ ารึ ทักษะการต่อสู้มิใช้ เพียงใช้ พละกําลังอย่างเดียวเท่านัน้ แต่รวมไปถึงกระบวนท่า
และสมาธิด้วย คนที่มีพละกําลังแห่งพระเจ้ ามาแต่กําเนิดไม่จําเป็ นจะต้ องเป็ นผู้เชี่ยวชาญด้ าน
การต่อสู้ทกุ คนซะหน่อย
….
การทดสอบยังคงดําเนินต่อไป หลายๆคนที่ผ่านมาได้ ก็จะอยูบ่ นจุดสูงสุดของขันที
้ ่2เป็ นส่วน
ใหญ่
สํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ กําหนดไว้ วา่ ผู้ที่จะเข้ าร่วมทดสอบได้ ต้องมีอายุระหว่าง 15 ถึง 18ปี ซึง่ ใน
อายุช่วงนี ้มันเป็ นเรื่ องธรรมดาที่จะไปสูจ่ ดุ สูงสุดของขันที
้ ่2
ส่วนบางคนก็อาจไปได้ ถงึ ขันที
้ ่สามแล้ ว ซึง่ ส่วนใหญ่กลุม่ คนพวกนี ้จะทําแต้ มพละกําลังได้ ที่
ประมาณ2000จิ๋น บางคนที่มีพรสวรรค์สงู ก็อาจทําได้ ถงึ 2500 จิ๋นเลยทีเดียว
ในที่สดุ ก็ถงึ เวลาของหลินหมิงแล้ ว
ก่อนที่หลินหมิงจะขึ ้นไปบนเวทีที่มีแท่นหินทดสอบ เขาก็พงึ่ ตระหนักได้ วา่ สถานการณ์ในตอนนี ้
มันแย่กว่าที่เขาคิดไว้ เสียอีก แม้ วา่ เขาจะไม่คิดว่าเขาจะแพ้ ให้ แก่หวังยานเฟิ งก็ตาม แต่พลังของ
เขาก็ยงั ห่างไกลจากหวังยานเฟิ งอยูถ่ งึ หนึง่ ขัน้
ในการทดสอบทุกๆรอบ หลินหมิงจําต้ องทุม่ เทพลังทังหมดออกมาเพื
้ ่อให้ สามารถแย่งชิงรางวัล
กับพวกที่แข็งแกร่งเหล่านันได้

หลินหมิงสูดลมหายใจเข้ าอย่างแผ่วเบาและผ่อนคลาย เขาพยายามกําจัดสิ่งรบกวนในจิตใจ
ออกให้ หมด ‘ปฐมโกลาหล’ โคจรไหลเวียนอย่างสงบในร่างกายของเขา เมื่อเทียบกับคนระดับ
เดียวกันแล้ ว พลังของเขาแข็งแกร่งกว่าหลายเท่านัก
การฝึ ก ‘ไหลลื่นดุจแพรไหม’ ซึง่ เป็ นแก่นแท้ แห่งการผสานความแข็งแกร่งและพลิ ้วไหวเข้ า
ด้ วยกัน หลินหมิงพยายามจดจําและใช้ สมาธิและใช้ พลังแห่งวรยุทธ‘จุดสูงสุดแห่งความ
โกลาหล’ ทันใดนันร่
้ างกายของเขาก็ผ่อนคลาย และขาค่อยๆตึงเหมือนคันธนูโค้ ง ข้ อมือของเขา
ลดตํ่าลงและปล่อยหมัดออกไปอย่างรวดเร็ วดัง่ พยัคฆ์ตะครุบเหยื่อ (อธิบาย วรยุทธ‘จุดสูงสุด
แห่งความโกลาหล’คือสิ่งที่หลินหมิงได้ มาจากความทรงจําในลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธิ มีแบ่งเป็ นขันๆ

ขันแรกคื
้ อ ‘ปฐมโกลาหล’ )
“ปึ งง!!!”
หมัดของsลินหมิงพุง่ ตรงไปยังกลางแท่นหินอย่างพอดิบพอดี แสงบนแท่นหินพุง่ ขึ ้นสูงด้ วย
ความเร็ วที่แทบไม่น่าเชื่อ จนกระทัง่ ค่อยๆหยุดลงอย่างช้ าๆที่คา่ ๆหนึง่
“2700 จิ๋น”
“เป็ นไปไม่ได้ เจ้ าเด็กนัน่ … เจ้ าเด็กนัน่ มันเหมือนกับปี ศาจในร่างมนุษย์ อีกเพียงไม่กี่ร้อยจิ๋นก็
จะเทียบได้ กบั ผู้ที่ฝึกฝนอยูใ่ นขึ ้นที่สี่แล้ ว!!!!”
“ไม่แน่เสมอไป อาจจะเป็ นเช่นนันก็
้ ได้ การที่เด็กที่ฝึกฝนถึงขึ ้นสองจะมีพละกําลังเช่นนี ้ เป็ นไป
ได้ วา่ เด็กคนนี ้เองก็เป็ นพวกมีพละกําลังแห่งพระเจ้ ามาแต่กําเนิดเช่นกัน”
ฝูงชนต่างโต้ เถียงเรื่ องนี ้กันอย่างบ้ าคลัง่ และบางคนก็จําได้ วา่ เขาคือหลินหมิง เขาได้ ตะโกน
ขึ ้นมา “ข้ ารู้จกั เขา เมื่อครึ่งชัว่ โมงก่อน บนถนนสายหลักเขาใช้ พลังแขนโยนคนขี่ม้าที่พงุ่ มาด้ วย
ความเร็ วลอยกระเด็นขึ ้นไปบนฟ้าได้ เขาสามารถโยนคนที่พงุ่ เขามาอย่างรวดเร็ วบนหลังมาที่มี
การฝึ กฝนขันที ้ ่สองไปในอากาศได้ อย่างง่ายดาย ข้ าก็คิดว่าเป็ นเด็กปี ศาจเสียอีก แต่ดเู หมือนว่า
เขาจะเป็ นคนที่มีพละกําลังแห่งพระเจ้ ามาแต่กําเนิดจริ งๆ ไม่ต้องสงสัยเลยที่เขาจะทําเช่นนัน้
ได้ ”
“ไม่ใช่วา่ เขาถูกเจ้ าหน้ าที่จบั ตัวเอาไว้ รึ เขารอดออกมาได้ อย่างไรกัน”
ขณะที่คนกําลังโต้ เถียงกันอยู่ ชายหนุม่ รูปร่างสูงกํายําที่ทําแต้ มพละกําลังออกมาได้ สสู ีกบั หวัง
ยานเฟิ งก็มองมาที่หลินหมิง ชายหนุ่มร่างโตเผยรอยยิ ้มให้ เขาอย่างเป็ นมิตร ชายคนนันไม่ ้ คิดว่า
จะได้ เจอกับคนที่มีพละกําลังแห่งพระเจ้ ามาแต่กําเนิดเหมือนกับตนเอง เขาจึงค่อนข้ างเข้ าใจ
หลินหมิงที่อาจถูกมองเป็ นตัวประหลาด
หวังยานเฟิ งมองมาที่หลินหมิงและทําปากเบ้ ด้วยความไม่พอใจ เจ้ านี ้เองก็เป็ นคนที่มีพละกําลัง
แห่งพระเจ้ าด้ วย เจ้ าพวกนี ้น่ารํ าคาญเสียจริ ง มีอยูย่ วเยี
ั ้ ้ยะเหมือนแมลงสาบคลานออกมาจาก
ซากไม้
“พี่เฟิ งคนพวกนี ้โผล่มาจากไหนก็ไม่มีใครรู้แถมยังแย่งความโดดเด่นไปจ่กท่านพี่เฟิ งอีก นี่มนั
เหมือนปล้ นกันชัดๆเลย”คนที่อยูข่ ้ างๆหวังยานเฟิ งพูดขึ ้นมา
หวังยานเฟิ งตอบกลับ“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก การจะมีพละกําลังระดับนี ้ในขันสองก็
้ ถือว่า
เหมาะสมแล้ ว ในการต่อสู้ที่แท้ จริ ง เพียงพละกําลังทื่อเช่นนันไม่
้ มีโอกาสเอาชนะข้ าได้ อย่าง
แน่นอน ถึงแม้ พวกมันจะมีพละกําลังแห่งพระเจ้ าก็ตาม แต่ก็มีไม่กี่คนหรอกที่จะประสบความ
จริ งๆได้ ”(ถ้ าจําไม่ผิดมันเคยอธิบายไว้ ช่วงแรกๆที่หลินหมิงพนันกับหวังยี่เกา คือคนที่มี
พละกําลังแห่งพระเจ้ าเกิดมาจะมีพละกําลังเยอะ แต่จะฝึ กฝนเพื่อเลื่อนขันได้ ้ ยาก)
หวังยานเฟิ งพูดด้ วยนํ ้าเสียงที่หงุดหงิด แม้ วา่ เขาจะคาดการณ์ไว้ แล้ วว่าเขาจะผ่านด่านแรกไป
ได้ โดยง่ายและเป็ นตัวเต็งในงานนี ้ แต่เขากลับถูกบดบังรัศมีซํ ้าแล้ วซํ ้าเล่าโดยเจ้ าเด็กเหลือขอ
พวกนัน้ ซึง่ มันทําให้ เขาหนักใจอย่างมาก
“ที่ทา่ นพูดมานัน่ ก็เป็ นเรื่องจริ ง ในภายภาคหน้ าเราจําเป็ นจะต้ องให้ ความสําคัญกับปลังปราณ
พละกําลังก็มีประโยชน์เพียงแค่เพียงช่วงเริ่ มต้ นเท่านัน้ เจ้ าเด็กพวกนี ้ก็คงผยองได้ อีกไม่นานนัก
หรอก” ผู้ติดตามของหวังยานเฟิ งกล่าวเสริ ม
หลังจากหลินหมิงผ่านการทดสอบ ก็ถงึ คราวของหลินเซี่ยวตง เขาก้ าวมาที่แท่นหินแล้ วก็เริ่ ม
หมุนคอหมุนมือไปมา เขาทําเช่นนี ้นี ้อยูห่ ลายนาที จนเจ้ าหน้ าที่คมุ สอบเริ่ มหมดความอดทน
หลินเซี่ยวตงถึงได้ เริ่ มออกแรงชกไปที่แท่นหิน
“ปั๊ ก” เสียงที่ท้ มุ ๆแน่นๆดังออกมาจากแท่นหิน แล้ วก็มีแสงพุง่ ขึ ้นเบาๆและหยุดนิ่งลงในที่สดุ
เจ้ าหน้ าที่ขมวดคิ ้วขณะที่มองมาที่หลินเซี่ยวตง “750 จิ๋นยังไม่ผ่าน… แต่เจ้ ายังมีโอกาสอีก2
ครัง้ ”
ผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าแย่น่าดู เพราะว่าโดยทัว่ ไปคนที่มาสมัครล้ วนแน่ใจแล้ วว่าตนมีพละกําลัง
มากกว่า900จิ๋น ไม่มีใครต้ องการแสดงความอับอายขายขี ้หน้ าออกมา แต่สําหรับหลินเซี่ยวตง
แล้ วแค่นี ้ถือว่าจิ๊บๆ เพราะเดิมทีเขาก็เป็ นคนที่คอ่ นข้ างหน้ าด้ านอยูแ่ ล้ ว จึงไม่ยากที่จะเมินไม่
สนใจผู้คนรอบข้ างที่มองมายังเขา เขาเหวี่ยงข้ อมือและชกออกไปอีกครัง้
“700 จิ๋น ”
อีกครัง้ !!
“750 จิ๋น”
โดยปราศจากข้ อสงสัยหลินเซี่ยวตงรู้สกึ แย่กบั ความล้ มเหลวในครัง้ นี ้มากพอดู
สําหรับหลินเซี่ยวตงแล้ ว ผลลัพธ์เช่นนี ้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ ว เขาพึง่ จะอายุ15ปี และพ่อของเขาก็
ได้ ตดั สินใจไว้ วา่ จะส่งเขาให้ เขาศึกษาที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ เมื่อมีอายุ 18 ปี หลินเซี่ยวตงไม่ได้
วางแผนว่าจะไปให้ ถงึ ขันผสานชี
้ พจรตังแต่
้ ต้นอยูแ่ ล้ ว สิง่ ที่เขาต้ องการเพียงอย่างเดียวก็คือ
รักษาสถานะในตระกูลไว้ เท่านัน้
“ที่ข้ามอบโอสถกวางทองให้ เจ้ า เจ้ าไม่ได้ ใช้ มนั เลยรึ”หลินหมิงถามขณะที่หลินเซี่ยวตงเดิน
กลับออกมา
“ข้ าใช้ มนั ไปหมดแล้ ว ไม่เช่นนันอย่
้ างข้ าจะแสดงพละกําลังมากว่า600จิ๋นได้ อย่างไร” หลิน
เซี่ยวตงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนัก เขาจากไปและทิ ้งหลินหมิงไว้ เบื ้องหลัง
อย่างไรก็ตามหลินหมิงก็คิดว่านี่เป็ นเพียงเรื่ องธรรมดา ก่อนที่เขาได้ ฝึกวรยุทธแห่งดินแดนพระ
เจ้ า ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’
เขาก็ทําได้ เพียงแค่ 850 จิ๋นเท่านัน้ ซึง่ การฝึ กของเขาทังหนั
้ กและโหดร้ ายกว่าหลินเซี่ยวตงมาก
นัก ไม่แปลกที่ก่อนหน้ าจะใช้ โอสถกวางทองเซี่ยวตงจะทําได้ เพียง600จิ๋น
มันเป็ นเรื่ องยากสําหรับผู้ที่มีพรสวรรค์เพียงระดับสามทังยั
้ งไร้ ขนุ นางคอยหนุนหลังให้ ในการที่
จะเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ตังแต่
้ อายุ15ปี แม้ แต่ดา่ นทดสอบแรกก็ยงั ยากที่จะผ่านเข้ าไปได้ เลย
การทดสอบด้ านพละกําลังยังคงดําเนินต่อไปจนเกือบๆเที่ยง ผู้เข้ าทดสอบได้ รับอนุญาตให้
พักผ่อนได้ สกั พักก่อนจะดําเนินการทดสอบในด่านต่อไป
แต่เนื่องจากเวลาที่ให้ พกั นันมี
้ น้อยเกินไป หลินหมิงได้ แค่ทานอาหารเล็กน้ อยก่อนจะได้ นงั่ ทํา
สมาธิแล้ วรี บกลับไปที่ลานทดสอบอีกครัง้
การทดสอบที่สองคือ การแสดงถึงความทะเยอทะยาน ซึง่ เป็ นหัวใจของการทดสอบทักษะการ
ต่อสู้เลยก็วา่ ได้
สําหรับเหล่ายอดนักสู้ที่จะมีอนาคตไกลและยิ่งใหญ่แล้ ว เพียงแค่ความสามารถหรื อการ
สนับสนุนจากตระกูลเท่านันยั ้ งไม่เพียงพอ พวกเขายังจําเป็ นต้ องมีความตังใจที
้ ่เด็ดเดียวเพื่อ
ไปสูฝ่ ั นอันยิ่งใหญ่อย่างไม่ยอ่ ท้ อด้ วยเช่นกัน

บทที่ 35 แท่นหยกแห่งทะเลสาบมรกต
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
แก่นแท้ แห่งศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่สิ่งที่แสดงถึงคุณธรรมหรื อธรรมะแต่อย่างใด ไม่วา่ จะเป็ น
พระพุทธรูปผู้มีความชอบธรรมหรื อประมุขนิกายปี ศาจที่ชวั่ ร้ าย ความจริ งแล้ วแก่นแท้ แห่ง
ศิลปะการต่อสู้ไม่ได้ เป็ นตัวตัดสินว่าจะดีหรื อชัว่ ร้ าย มันเพียงแค่แยกแยะได้ วา่ ใครจะเลือกเดิน
ไปบนเส้ นทางไหน
การฝึ กศิลปะการต่อสู้คือการดิ ้นรนต่อสู้ในแต่ชีวิตประจําวัน ชีวิตคนคนหนึง่ จะเต็มไปด้ วยความ
ทุกข์ยากอันตรายและสิ่งล่อใจ หากว่าจิตใจไม่มนั่ คงแล้ วมันเป็ นเรื่ องง่ายที่จะถอดใจและยอม
แพ้ ตอ่ เส้ นทางของนักสู้ดงั นันความพยายามก่
้ อนหน้ านันทั
้ งหมดก็
้ จะสูญเปล่า
บางคนฝึ กศิลปะการต่อสู้เพียงเพื่อความมัง่ คัง่ และความสนุกสนาน แท้ จริ งแล้ วในจิตใจของ
พวกเขาเหล่านันพวกเขาฝึ
้ กศิลปะการต่อสู้โดยไม่เข้ าใจความหมายที่แท้ จริ งของมัน สิง่ นี ้อาจจะ
ไม่สง่ ผลกระทบอะไรในช่วงต้ นของการบ่มเพาะการฝึ กฝน แต่มนั จะเป็ นสิง่ กีดขวางที่ยากจะ
ก้ าวข้ ามในภายหลัง เมื่อมาถึงขันผสานชี
้ พจรก็เพียงพอแล้ วสําหรับคนคนหนึง่ ซึง่ ต้ องการใช้
ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่ มเฟื อยบนกองเงินทอง มีหญิงงามทัว่ ราชอาณาจักรลิขิตฟ้าและนักรบ
มากมายที่จะยอมรับในตัวของบุคคลที่ไปถึงขันนี ้ ้ ผู้คนส่วนใหญ่เมื่อประสบความสําเร็ จในขันนี้ ้
แล้ ว การฝึ กฝนพัฒนาตนก็จะหยุดอยูเ่ พียงเท่านันเพราะไม่
้ อาจต้ านทานความหรูหรา
สะดวกสบายได้
การทดสอบความมุง่ มัน่ ไม่ใช่การทดสอบการบ่มเพาะพลังของแต่ละคน แต่มนั ทําให้ รับรู้ถงึ
ความมุง่ มัน่ และแก่นแท้ ของศิลปะการต่อสู้ของแต่ละคน หลินหมิงมัน่ ใจมากเกี่ยวกับเรื่ องนี ้
แม้ วา่ เขาจะไม่ได้ รับศิลาลึกลับนัน่ เขาก็เชื่อว่าเขาจะมีโอกาสผ่านถึง 120%
ณ เวลานี ้มีมากกว่าครึ่งของผู้สมัครเข้ าทดสอบที่ล้มเหลวในการทดสอบแรก ดังนันหลั
้ งจากที่
พวกเขาออกจากสนามสอบไป สนามก็มีที่วา่ งมากขึ ้น
โชคร้ ายที่หลินเซี่ยวตงก็ไม่มีคณ
ุ สมบัติที่จะเข้ าสํานัก ดังนันเขาจึ
้ งต้ องถูกไล่ไปอยูบ่ นถนนหลักที่
อยูห่ า่ งไกลออกไปจากสนาม
หลินหมิงหันกลับไปดูหลินเซี่ยวตง แม้ วา่ คนจะเยอะหลินหมิงก็ยงั หาเขาพบ
หลินเซีย่ วตงเองก็เห็นหลินหมิงเช่นกัน เขายกนิ ้วโป้งส่งไปให้ กําลังใจหลินหมิง หลินหมิงก็ยิ ้ม
ตอบ เมื่อเขาหันกลับมาเขาก็พบว่าคนๆหนึง่ ในกลุม่ คนมองมาที่เขา เด็กผู้หญิงคนหนึง่ สวมชุด
กระโปรงดอกไม้ งาม เธอดูเหมือนหญิงสาวชนชันสู ้ งด้ วยหมวกที่ทําจากขนของหงส์ เธอยืนอยู่
ในมุมที่ไม่เด่นมุมหนึง่ แต่เธอก็เห็นทุกอย่าง
หลินหมิงจําเด็กผู้หญิงคนนันได้
้ เธอคือหลานยุนเยีย
หลินหมิงรี บถอนสายตาของเขาออกจากเธอ เขารู้ตวั ว่าถ้ าเขายังมองเธอต่อไป มันจะยิ่งเพิ่ม
ความลําบากใจให้ กบั หลานยุนเยีย มันยังดีกว่าถ้ าเธอจะไม่ร้ ูวา่ เขามองเธอ…
ในใจของหลินหมิง เขาก็ไม่ได้ ตําหนิอะไรหลานยุนเยีย อย่างไรก็ตามมันก็เป็ นแค่ข้อตกลงลับๆ
ระหว่างสองครอบครัว และพวกเขาก็ไม่ได้ กล่าวถึงการแต่งงานหรื ออะไรทํานองนันในวงกว้้ าง
หลานยุนเยียก็แค่เลือกเหมือนเด็กผู้หญิงทัว่ ไปเมื่อต้ องตกอยูใ่ นสถานการณ์เช่นนัน้
หลานยุนเยียไม่ร้ ูวา่ หลินหมิงมองเธออยู่ หลานยุนเยียต้ องต่อสู้กบั หัวใจของเธอมาเป็ น
เวลานานกว่าจะตัดสินใจได้ วา่ จะมาดูการทดสอบในครัง้ นี ้หรื อไม่ เดิมทีเธอเองก็ไม่ต้องการที่จะ
พบเจอหลินหมิงอีก แต่ในใจของเธอยังเต็มไปด้ วยความกังวล เธอต้ องการจะรู้วา่ เขายังสบายดี
อยูห่ รื อไม่
เธอจําได้ วา่ สองเดือนที่แล้ วเธอเห็นหลินหมิงพยายามที่จะขายจารึกที่ด้อยคุณภาพหลายแผ่น
เหตุการณ์ที่หน้ าหอร้ อยสมบัติทําให้ เธอรู้สกึ สงสารเขา
การสนับสนุนในด้ านศิลปะการต่อสู้ของเด็กคนหนึง่ มักจะขึ ้นอยูก่ บั ฐานะความมัง่ คัง่ ในตระกูล
ของเด็กคนนัน้ หากว่าเด็กคนนันมิ
้ ได้ มีพรสวรรค์ที่ลํ ้าเลิศและยังขาดแคลนทุนทรัพย์ในการซื ้อ
สมุนไพรและยาโอสถต่างๆ ในสถานการณ์ที่น่าเศร้ าเช่นนี ้พวกเขาอาจทําได้ เพียงใช้ หญ้ า
สมุนไพรถูกๆในการบรรเทาอาการเจ็บปวดจากการฝึ ก และหากเป็ นเช่นนันแล้ ้ วร่างกายก็จะ
สะสมอาการบาดเจ็บไว้ ภายใน
ความคิดเหล่านี ้ทําให้ หลานยุนเยียเจ็บปวดใจ โดยส่วนตัวเธอชอบความเข้ มแข็งและความ
มุง่ มัน่ ของเขา เธอจําได้ วา่ ตอนที่เธอยังเป็ นเด็ก เขาปกป้องเธอจากอันธพาลกลุม่ ใหญ่ เขายืน
อยูด่ ้ านหน้ าของเธอเป็ นดัง่ อัศวินผู้กล้ าหาญ เขาทําให้ เธอรู้สกึ ว่าได้ รับการปกป้องและปลอดภัย
จากอันตรายทังปวง ้
แต่แล้ วในท้ ายที่สดุ ความรู้สกึ เหล่านันก็
้ ไม่ได้ ยงั่ ยืนตลอดไป…
เธอเป็ นหญิงสาวที่มีเสน่ห์และโดดเด่นกว่าหญิงใดในเมืองใบหม่อนสีเขียว พรสวรรค์ของเธออยู่
ในเกณฑ์ที่ดีและถึงแม้ วา่ เธอจะไม่ได้ มาจากครอบครัวชนชันสู ้ ง แต่ครอบครัวของเธอก็รํ่ารวย
เด็กผู้หญิงเช่นนี ้ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะมีความรู้สกึ เหนือกว่า เธอไม่สามารถโน้ มน้ าวให้ ตวั เอง
ให้ ชีวิตดังเช่นคนปกติธรรมดาได้ ชีวิตที่เธอจะต้ องแต่งงานกับหลินหมิงน่ะรึ และกลายเป็ นเพียง
นายหญิงของร้ านอาหารเล็กแห่งหนึง่ ชีวิตที่เขาและเธอจะรักกันและมีลกู ตังแต่ ้ อายุยี่สบิ และ
ซักวันหนึง่ เขาก็จะตายจากไป ทิ ้งเธอไว้ ให้ อยูต่ วั คนเดียวกับรูปลักษณ์ที่โรยราลงไปตาม
กาลเวลา
เธอไม่ต้องการที่จะมีชีวิตเช่นนันอย่
้ างเด็ดขาด เธอต้ องการอนาคตที่ก้าวหน้ า!
ดังนันเธอจึ
้ งเลือกจู้ยนั ไม่เพียงเพราะความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลจู้และราชวงศ์ แต่เขายัง
สามารถช่วยให้ เธอเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ เขายังให้ ยาโอสถที่หายากแก่เธอ และยังจะช่วยเธอ
ให้ เข้ าสูข่ นผสานชี
ั้ พรให้ ได้ ภายใต้ สิ่งล่อใจเช่นนัน้ หลานยุนเยียไม่อาจทนต่อความน่าหลงใหล
ในอนาคตที่ก้าวหน้ าของเธอได้
ในเช้ าวันนี ้หลานยุนเยียสับสนว่าเธอควรจะทําเช่นไร เมื่อพิจารณาจากความเหมาะสมแล้ วเธอ
ไม่ควรมาดูเขา แต่สดุ ท้ ายเธอก็ล้มเหลวในความตังใจเช่ ้ นนัน้ เธอมาดูเขาในตอนบ่าย เธอคิดว่า
หลินหมิงน่าจะไม่ผา่ นด่านการทดสอบพละกําลัง เมื่อเป็ นเช่นนันเขาก็ ้ จะยอมแพ้ ตอ่ ความฝั น
ของเขาและกลับบ้ านไปใช้ ชีวิตปกติอย่างปลอดภัย และทําให้ เธอเลิกกังวลใจเรื่ องเขาเสียที เธอ
ไม่คิดว่าจะได้ เห็นหลินหมิงอยูใ่ นกลุม่ ผู้ที่ผ่านเข้ ารอบ มันทําให้ เธอต้ องประหลาดใจและเป็ น
กังวล
เธอประหลาดใจเพราะเธอคิดว่าเป็ นไปไม่ได้ ที่คนธรรมดาอย่างหลินหมิงจะสามารถฝึ กฝนมาถึง
ขันที
้ ่สอง ได้ โดยมีอายุเพียง15ปี และไร้ ขนุ นางหนุนหลัง
เธอกังวลว่าหลินหมิงจะต้ องฝึ กฝนอย่างหักโหม จนร่างกายของเขาได้ รับบาดเจ็บภายในขัน้
รุนแรง และเขาอาจจะต้ องพิการในอีกไม่กี่สิบปี …



ผู้คมุ การทดสอบหญิงกลับมาอีกครัง้ เธอจ้ องมองไปที่ฝงู ชนเห็นได้ วา่ มีกลุม่ คนจํานวนหนึง่ ที่
ผ่านเข้ ามาได้ เธอคิดว่าผลที่ออกมานี ้ก็ไม่ได้ เลวร้ ายเกินไป “ทุกคนตามข้ ามา พวกเรากําลังจะ
มุง่ หน้ าไปแท่นหยกแห่งทะเลสาบมรกต
ฝูงชนคนกว่าร้ อย เหล่าหนุ่มสาวทังชายหญิ
้ งต่างก้ าวตามหญิงสาวผู้คมุ การทดสอบไปอย่าง
มุง่ มัน่ ตังใจ
้ เธอได้ เดินผ่านประตูที่ดทู รงพลังอํานาจและแผ่รังสีคกุ คามแห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้
เข้ าไป
สํานักเจ็ดแก่นแท้ นนตั
ั ้ งอยู
้ บ่ นหุบเขา ที่แห่งนี ้ไร้ ซงึ่ ตึกอาคารสูงหรื อสิ่งก่อสร้ างขนาดใหญ่ใดใด
จะมีก็แต่เพียงแผ่นดินกว่างไกลไร้ ที่สิ ้นสุดและศาลาที่ห้อมล้ อมไปด้ วยลําธารที่ดเู ป็ นธรรมชาติ
ศาลาเหล่านี ้ถูกสร้ างขึ ้นอย่างประณีตงดงาม ตังตระหง่ ้ านอยูก่ ลางทิวทัศน์ที่สดใสสวยงาม มัน
ทําให้ เหล่าผู้คนจําต้ องอุทานออกมาอย่างซาบซึ ้งกินใจในงานฝี มืออันไร้ ที่ติ และกลมกลืนกับ
ธรรมชาติเช่นนี ้
เหล่าหนุ่มสาวเดินต่อไปเป็ นเวลาดื่มชาหมดหนึง่ ถ้ วย พวกเขาก็คอ่ ยๆเข้ ามาใกล้ ทะเลสาบสี
เขียวมรกต มันมีสีสนั สดใสเช่นเดียวกับหยกลํ ้าค่า บนผิวนํ ้าไม่มีแม้ แต่ละลอกคลื่น นํ ้าแต่ละ
หยาดหยดเรียงตัวกันอย่างเรี ยบสงบ และแม้ วา่ นี่จะเป็ นฤดูใบไม้ ร่วง แต่กลับไม่มีใบไม้ แม้ แต่ใบ
เดียวที่ลอยอยูบ่ นผิวของทะเลสาบนี ้ มันเป็ นเรื่ องที่ทําให้ ทกุ คนต้ องแปลกใจ
ในใจกลางทะเลสาบสีเขียวมรกต มีแท่นหยกที่ได้ รับการแกะสลักจากหยกขาว แท่นหยกนี ้ถูก
เชื่อมจากฝั่ งเข้ าไปสูก่ ลางทะเลยสาบด้ วยสะพานหินเก้ าแห่ง มันเป็ นดังเช่นโลกแห่งจิตนาการที่
เกิดอยูใ่ นชีวิตจริ ง
หลินหมิงพบว่าไม่กี่เมตรห่างออกไปจากแท่นหยกมีศาลาตังอยู ้ ่ ในศาลานันมี้ โต๊ ะหินเงาแวววับ
บนโต๊ ะหินเต็มไปด้ วยชาหอมกรุ่นและผลไม้ แห้ ง รอบๆโต๊ ะนัง่ มีคนแก่หลายคนและเด็กสาวคน
หนึง่ ที่กําลังมองพวกเขาอย่างความสนใจ
โดยไม่มีทางที่ใครจะได้ คาดคิดมาก่อน พวกเขาคือฉินชิงหวนและท่านมูย่ ี่
หลินหมิงชะงักในทันที เหตุใดพวกเขาทังสองจึ
้ งได้ ปรากฏตัวอยูใ่ นที่แห่งนี ้?
มูย่ ี่เห็นว่าหลินหมิงมองไปที่เขา เขาก็ยิ ้มตอบกลับมาอย่างสงบแผ่วเบา ฉินชิงหวนก็ยิ ้มให้ เขา
อย่างเป็ นมิตรเช่นกัน
หลินหมิงยิ ้มตอบรับพวกเขาอย่างมีมารยาท เขาสงสัยว่าคนอืน่ ๆที่อยูก่ บั มูย่ ี่ก็ต้องไม่ธรรมดา
เช่นกัน ในหมูพ่ วกเขาเมื่อดูจากการหายใจและการแสดงออกแล้ ว พวกเขาต้ องแข็งแกร่งไม่น้อย
ไปกว่ามูย่ ี่อย่างแน่นอน
คนเหล่านี ้เป็ นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง!
หลินหมิงคาดเดาไม่ผิด คนเหล่านี ้บางคนเป็ นเพื่อนของมูย่ ี่ บางคนเป็ นเจ้ าหน้ าที่อาวุโสแห่ง
อาณาจักรลิขิตฟ้า ทังยั
้ งมีผ้ อู าวุโสแห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ ด้วย การทดสอบเช่นนี ้จะจัดขึ ้นเพียง
สองครัง้ ต่อปี พวกเขาจะต้ องมาเฟ้นหาต้ นกล้ าที่มีพรสวรรค์ในหมูผ่ ้ สู มัคร
พวกเขาต่างมองหาผู้ที่มีความสามารถเพียงพอและยังต้ องมีแก่นแท้ อนั บริ สทุ ธิ์แห่งจิตวิญญาณ
การต่อสู้ ในทุกๆปี ผู้สมัครต้ องแสดงพรสวรรค์และข้ อมูลอื่นๆในการสมัครสอบ ดังนันเหล่
้ าผู้
อาวุโสจึงไม่จําเป็ นต้ องตรวจวัดด้ วยตนเอง พวกเขาสามารถตรวจสอบได้ ผ่านข้ อมูลที่สมัครเข้ า
มา
ผู้สมัครที่น่าจับตาที่สดุ ก็คือเด็กคนหนึง่ เขาน่าจะเป็ นผู้ที่แข็งแกร่งที่สดุ ในกลุม่ และมีพรสวรรค์
ระดับสี่ ในช่วงที่สงู
การจะมีเด็กที่มีพรสวรรค์ระดับห้ าเกิดขึ ้นแม้ เพียงสักคนในรอบหนึง่ ทศวรรษก็เป็ นเรื่ องน่ายินดี
โดยปกติก็จะเป็ นเช่นนี ้ ผู้เข้ าสอบที่มีพรสวรรค์สงู สุดก็มกั จะมีพรสวรรค์ระดับสี่ช่วงสูงหรื อไม่ก็
พรสวรรค์ระดับสี่ช่วงกลาง
การสอบรอบแรกไม่ได้ สําคัญอะไรนัก ดังนันผู ้ ้ อาวุโสของสํานักจึงไม่ได้ ปรากฏตัว พวกเขา
สามารถประเมินได้ จากข้ อมูลการฝึ กฝนที่มีอยูแ่ ล้ ว และในตอนนี ้พวกเขามาสังเกตผู้สมัครที่มี
หัวใจมุง่ มัน่ ที่จะก้ าวไปบนเส้ นทางแห่งการต่อสู้
“เข้ ามาได้ ปกป้องความคิดของพวกเจ้ าให้ ดี ตังจิ
้ ตอยูบ่ นสมาธิอนั แน่วแน่ และเมื่อเจ้ าข้ ามผ่าน
้ ่ห้าไปได้ เจ้ าก็จะผ่านการทดสอบด่านนี ้ “ผู้คมุ หญิงกล่าว
ขันที
ผู้สมัครก้ าวขันมาบนสะพานหิ
้ น หัวใจของพวกเขาเริ่ มสัน่ สะท้ าน ความมัน่ ใจที่มีในรอบแรงจาง
หายไปแทบไม่เหลือในครานี ้ ในด่านแรกพวกเขารู้ดีถงึ ขีดจํากัดพละกําลังของพวกเขาอยูแ่ ล้ ว มี
แค่บางคนที่เกิดความกังวลและไม่สามารถแสดงความแข็งแกร่งทังหมดของพวกเขาได้
้ ถงึ ได้ ตก
รอบไป พวกเขาส่วนใหญ่ที่มนั ใจในพละกําลังของตนเองจึงไม่ได้ กงั วลนัก แต่ในด่านนี ้คือการ
ทดสอบจิตใจ พวกเขาไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับมันมาก่อน
ผู้สมัครหลายคนไม่เคยรู้แม้ แต่รายละเอียดของการทดสอบจิตใจในครัง้ นี ้ เพียงแต่พวกเขาเคย
ได้ ยินว่านี่คือการสอบที่มีอตั ราการคัดออกสูงมากถึง 90%!
ในสิบคนจะมีเพียงคนเดียวเท่านันที ้ ่ผ่านเข้ าไปได้ !
เหล่าเด็กหนุม่ สาวที่มีพรสวรรค์อนั โดดเด่นกว่าผู้ใดในกลุม่ คนที่อายุเท่ากับพวกเขา พวกที่เคย
ได้ รับความเคารพนับถือและถูกเรี ยกว่าอัจฉริ ยะตังแต่
้ วยั เด็ก แต่แม้ ในกลุม่ เด็กอัจฉริ ยะดังกล่าว
ก็ยงั ถูกคัดออกไปในด่านทดสอบจิตใจ!
นี่เป็ นการทดสอบที่น่าหวาดกลัวอย่างแท้ จริ ง!
“จงนัง่ ลงบนแผ่นหยก หลังจากนับสิบลมหายใจแล้ วการทดสอบก็จะเริ่ มขึ ้น”ผู้คมุ หญิงกล่าว
แม้ วา่ เธอจะอยูไ่ กลจากผู้เข้ าสอบ แต่ทกุ คนก็ยงั ได้ ยินเสียงของเธอดังภายในหู มันคือวิธีการใน
การส่งผ่านข้ อความด้ วยพลังปราณที่เหนือกว่าครัง้ ที่จ้ ยู นั เคยใช้ สง่ ข้ อความให้ กบั หลินหมิง
หลินหมิงสงสัยว่าผู้คมุ การทดสอบหญิงคนนี ้ อาจไปถึงขันผสานชี
้ พจรแล้ วก็เป็ นได้ !!
เมื่อหลิงหมิงเดินขึ ้นไปบนแท่นหยก เขามองดูฝงู ชนที่อยูห่ า่ งไกลออกไป และพบว่าหญิงคนหนึง่
ในหมูฝ่ งู ชนที่มาชมการทดสอบในรอบที่สองของพวกเขา เธอคือหลานยุนเยีย เธอยืนพิงต้ นไม้
และจ้ องมาที่เขา และดูเหมือนว่าเธอจะไม่คิดว่าเขาจะหาเธอพบ
หลินหมิงมองอยูเ่ พียงครู่เดียวและตัดสายตาจากเธอ เขาค่อยๆนัง่ ขัดสมาธิอย่างช้ าๆลงบนแท่น
หยก

บทที่ 36 จิตใจแห่งการต่อสู้ของหลินหมิง
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



หลังจากที่นงั่ ลงบนแท่นหยกแล้ ว หลินหมิงพบว่าถึงแม้ แท่นหยกนันจะทํ ้ าจากหินอ่อนก็ตาม แต่
มันก็ไม่ได้ ร้ ูสกึ ให้ ความรู้สกึ เย็นเหมือนที่คิดเอาไว้ ในทางกลับกัน เหมือนมีไออุน่ ที่ไม่สามารถ
อธิบายได้ ไหลเวียนออกมา หากสังเกตมันดีๆจะเห็นด้ วยว่าแท่นหยกนี ้มีการแกะสลักเอาไว้ มัน
ได้ ถกู ลงอาคมเอาไว้
แท่นหยกขนาดใหญ่นี ้ก็มีอกั ขระเวทมนต์ ว่ากันว่าอักขระเวทมนต์นี ้ถูกสร้ างขึ ้นโดย ปรมาจารย์
ระดับปราณปลายฟ้าผู้เป็ นหนึง่ ในเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขา สําหรับพวกเขาแล้ ว พวกเขาไม่
สามารถแยกได้ เลยว่าสิ่งได้ จะเป็ นภาพจริ ง สิ่งใดจะเป็ นเพียงภาพลวงตา
อย่างไรก็ตามหลินหมิงก็ไม่ได้ กงั วลในเรื่ องนัน้ ความฝั นจะอย่างไรเสียก็ยงั เป็ นเพียงแค่ความ
ฝั น ตราบใดที่เขายังคงสติไว้ อยู่ ต่อให้ ความฝั นนันจะโหดร้
้ ายอํามหิตเหนือจินตนาการซัก
เพียงใด เขาก็จะยึดมัน่ อยูก่ บั ความเป็ นจริ งเท่านัน้
ขณะที่หลินหมิงนัง่ อยูท่ ี่แท่นหยก ในหัวเขาก็เต็มไปด้ วยแสงสว่าง
เมื่อเวลาผ่านไป หลินหมิงก็ได้ เห็นแสงกําลังครอบคลุมตัวของเขา และผู้ทดสอบคนอื่นๆก็ได้
หายไปจากสายตาของเขา ทิ ้งให้ เขาอยูเ่ พียงลําพัง
สภาพแวดล้ อมโดยรอบ กลายเป็ นทุง่ หญ้ าที่กว้ างใหญ่ไพศาลแผ่ขยายออกไปจนสุดสายตา ใน
ตอนนันก็
้ มีปีศาจฝูงหนึง่ ที่มีความสูงเท่าๆกับคนกําลังพุง่ ตรงมาที่เขา
ฝูงปี ศาจกว่าหลายสิบตัวที่วา่ นี ้ เป็ นดัง่ ฝูงปี ศาจที่หลินหมิงได้ เคยสังหารมาก่อนแล้ ว แผ่นดิน
และผืนหญ้ าเริ่ มสัน่ สะเทือน กลุม่ พลังอํานาจที่นา่ กลัวกําลังคืบคลานเข้ ามาหาเขา
หลินหมิงไม่แม้ แต่จะลืมตาขึ ้นมาด้ วยซํ ้า จนกระทัง่ หนึง่ ในปี ศาจนัน่ พุง่ กระโจนเข้ าใส่หลินหมิง
“ฟุบบบ!”
ปี ศาจที่ทา่ ทางดุร้ายได้ พงุ่ ผ่านตัวหลินหมิงไป ก่อนหน้ านันหลิ
้ นหมิงยังคงไม่ได้ รับบาดเจ็บอะไร
แต่เมื่อปี ศาจดังกล่าวได้ พงุ่ ผ่านร่างของเขาไป เขารู้สกึ ได้ ถงึ แรงสัน่ สะเทือนพุง่ ตรงมาสูภ่ ายใน
จิตใจของเขา แม้ วา่ เขาจะรู้ดีวา่ นี่เป็ นเพียงแค่ความฝั นก็ตาม เขาก็ไม่สามารถขจัดความรู้สกึ นี ้
ออกไปได้ มันคือความกลัวจากส่วนลึกของจิตใจ
นี่คือพลังอํานาจแห่งอักขระเวทมนต์อย่างนันรึ้ ถึงแม้ วา่ เขาจะรู้วา่ นี่เป็ นภาพลวงตาก็ตาม แต่
เขาก็เกือบจะคิดว่าเป็ นของจริ ง หากเมื่อใดที่เขาไม่สามารถคงรักษาสติเอาไว้ ได้ แน่นอนว่าเขา
จะไม่สามารถแยกได้ ระหว่างความเป็ นจริ งกับภาพลวงตา
ถ้ าเป็ นเช่นนัน้ ภาพลวงตาก็จะกลายเป็ นความจริ ง และถ้ าภาพลวงตาฆ่าเขาได้ เขาก็อาจจะ
ตายในความฝั นนันก็ ้ เป็ นได้
ขณะที่หลินหมิงผ่านด่านแรกไปได้ อย่างปลอดภัย บนเวทีหยกนันก็ ้ ได้ มีแสงจํานวนมากส่อง
สว่างขึ ้น ทันใดนันผู
้ ้ เข้ าทดสอบที่เคยหายไปจากเวทีก็ได้ กลับมาอีกครัง้ ซึง่ แต่ละคนมีสีหน้ า
หวาดกลัวและซีดเผือด เขาได้ พา่ ยแพ้ ให้ แกภาพลวงตาของตนเอง เมื่อเขาสูญเสียสติไปพวก
เขาก็จะคิดว่าเขาได้ ถกู ฉีกเป็ นชิ ้นๆโดยปี ศาจพวกนันจริ
้ งๆ นันทํ
้ าให้ พวกเขาหวาดกลัวและขวัญ
ผวาอย่างกับว่าต้ องตายอย่างทารุณเช่นนันจริ
้ งๆ และกลับมาที่โลกแห่งความเป็ นจริ งแห่งนี ้ใน
ที่สดุ
ณ ที่ตําหนัก เจ้ าหน้ าที่แห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ เขย่าพวกเขาเบาๆเพื่อเรี ยกสติกลับคืนมา ใน
การสอบรอบแรกนันเกี ้ ่ยวกับความกล้ าในความฝั น หนทางแห่งการต่อสู้นนเต็ ั ้ มไปด้ วยอันตราย
ถ้ าคนคนนันไม่
้ มีความกล้ าที่จะเผชิญกับมัน แล้ วจะเดินทางในหนทางแห่งการต่อสู้ได้ อย่างไร
“มูยี่ เจ้ าสัมผัสได้ ถงึ ความกล้ าหาญของเด็กคนนันบ้
้ างรึเปล่า เขาสามารถผ่านการทดสอบได้
อย่างรวดเร็ วเช่นนี ้ได้ อย่างไร ” ชายที่พดู อยูร่ ้ ูวา่ มูยี่ร้ ูจกั หลินหมิง แต่มยู ี่ก็ไม่ได้ พดู ถึงพลังที่
หลินหมิงได้ จากจารึกพวกนัน้ เพราะเป็ นสิ่งที่หลินหมิงได้ ขอเขาไว้
มูยี่พดู แค่วา่ เขารู้จกั หลินหมิง และเขาก็มาเพื่อดูวา่ ลินหมิงจะเติบโตไปไกลขนาดไหนแล้ ว
เท่านัน้
เจ้ าหน้ าที่หญิงยังคงยืนอยูบ่ นเวที เนื่องจากความสามารถด้ านพละกําลังที่โดดเด่นของหลินห
มิงในด่านแรก เธอได้ บนั ทึกส่วนนันเอาไว้
้ เธอเห็นหลินหมิงทําหน้ าไม่พอใจอยูส่ กั ครู่ จากนันก็

เปลี่ยนเป็ นสงบนิ่งและเยือกเย็นกลับสูส่ มาธือีกครัง้
แต่เมื่อหันไปมองคนอื่นๆแล้ ว พวกเขาต่างกัดฟั นแน่น สีหน้ าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปด้ วย
แน่นอนไม่ใช่เพราะอะไรอื่น นอกจากพวกปี ศาจที่กําลังอยูใ่ นความฝั นของพวกเขา
ในโลกแห่งภาพลวงตา ยิ่งมีความเชื่อมัน่ ในตัวเองมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีจิตใจที่เข้ มแข็งมากขึ ้น
เท่านัน้ ถึงแม้ วา่ พวกเขาเหล่านันจะมี
้ ความกล้ าหาญอยูบ่ ้ างก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครเทียบหลินหมิง
ได้ ในด้ านนี ้ จิตใจของหลินหมิงนันเหมื
้ อนดัง่ หินผาอันหนักแน่นที่ไม่อาจสัน่ สะเทือนได้ แม้ จะ
เกิดวิกฤตใดขึ ้นมาก็ตาม ดังนันไม่
้ วา่ ปี ศาจเหล่านันจะทํ
้ าอย่างไร ก็ไม่อาจรบกวนสมาธิสติอนั
เข้ มแข็งของเขาได้ และนันทํ้ าให้ เหล่าปี ศาจแตกสลายหายไปเอง
“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้ าจะมาเพื่อดูเด็กคนนี ้โดยเฉพาะ จิตใจแห่งการต่อสู้ของเขายอดเยี่ยมอย่าง
เหลือเชื่อ เขาเทียบได้ กบั หลิงเซ็นเลยทีเดียว (คนจากนิกายสวรรค์ที่ออกมาโชวพลัง4900จิ๋นใน
ด่านแรก)” ชายแก่พดู
มูยี่ยิ ้มตอม เขาไม่แปลกใจเลยที่หลินหมิงจะผ่านด่านแรกมาได้
ฉินชิงหวนก็แอบเปรี ยบเทียบกับเขาอย่างลับๆ แม้ วา่ หลินหมิงจะอ่อนด้ อยกว่าเธอมากนักใน
ด้ านระดับขันการฝึ
้ กฝน แต่จิตใจเขาก็ยงั หนักแน่นและมัน่ คง เมื่อครัง้ ที่เธอทําการทดสอบนี ้ เธอ
ยังต้ องใช้ เวลาไปซักพักหนึง่ กว่าจะผ่านมันมาได้ แต่หลินหมิงกลับใช้ เวลาเพียงแค่ชวั่ อึดใจเดียว
เท่านัน้
เมื่อถึงตอนนี ้ หลินหมิงก็ได้ เข้ าสูด่ า่ นทดสอบที่สอง
ในการทดสอบที่สอง สภาพแวดล้ อมก็ได้ เปลี่ยนไป ก่อนที่จะทันได้ กระพริ บตาอีกครัง้ หลินหมิง
ก็ได้ มาอยู่ ท่ามกลางฝูงมนุษย์ที่เต็มไปด้ วยจิตสังหาร เกิดการต่อสู้เต็มไปทุกทิศทุกทาง ศพที่
กองเหมือนกับภูเขา และทะเลสาบสีเลือด เศษดาบและอาวุธที่แตกหักกระจัดกระจาย ปั กอยู่
ทัว่ พื ้นที่โดยรอบ
ในสนามรบแห่งนี ้ เต็มไปด้ วยเสียงผู้คนกรี ดร้ อง ควันปกคลุมไปทัว่ ทังบริ
้ เวณ หลินหมิงพบว่า
ตนได้ อยูร่ ะหว่างการต่อสู้ของกองทัพทังสอง
้ เหล่าทหารที่สวมเกราะหนาถือหอกพุง่ เข้ ามาหา
เขา(สงสัยมันอย่างบิน 555)จากทังสองด้
้ าน หลินหมิงติดอยูใ่ จกลางระหว่างสองกองทัพ
กองทัพที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังทังสองต่
้ างพุง่ เข้ าเป้ามาที่เขา เสียงโห่ร้องที่น่ากลัวทําให้ บรรยากาศ
เต็มไปด้ วยจิตสังหาร หลินหมิงก็ยงั คงไม่ขยับตัว เขารวบรวมสมาธิ ในการทดสอบแรกเขา
ตื่นเต้ นทําให้ จิตใจแปรปรวนไปเล็กน้ อย แต่ครัง้ นี ้เขาได้ เตรี ยมพร้ อมและมีสมาธิเพิ่มขึ ้นยิ่งกว่าที่
ผ่านมา
แต่ในท้ ายที่สดุ ขณะที่ทงกองทั
ั้ พได้ พงุ่ ทะยานเข้ ามาหาเขา กองทัพเหล่านันก็
้ ได้ แตกสลาย
กลายเป็ นฝุ่ นผงไปต่อหน้ าเขา ภาพลวงตาได้ แตกสลายไปอีกครัง้
“หือออ เขาทําลายมันได้ อย่างนันรึ
้ ”ชายแก่มองมาที่หลินหมิง เด็กคนนี ้ช่างน่าประหลาดยิ่งนัก
สีหน้ าของเขาไม่ได้ เปลี่ยนไปเลยแม้ แต่น้อย นี่ถ้าเขาไม่เห็นลําแสงจากออกมาจากอาคมนัน้
แล้ วละก็ คนแก่อย่างเขาคงคิดว่ามันจะต้ องพังไปแล้ วแน่ๆ
“เด็กคนนี ้ไม่ธรรมดาจริ งๆ ข้ าไม่ร้ ูวา่ เขาจะไปได้ อกี ไกลขนาดไหน แต่หากเขาสามารถไล่
ตามหลิงเซ็นได้ ทนั คงจะน่าชื่นชมน่าดู”
การทดสอบในด่านความมุง่ มัน่ นัน้ ผู้คนส่วนใหญ่จะต้ องใช้ เวลาเป็ นชัว่ โมงเพื่อที่จะผ่านมันได้
ในสิบปี ที่ผ่านมา ผู้ที่ผ่านด่านได้ เร็วที่สดุ ในนิกายสวรรค์คือ หลิงเซ็น เขาใช้ เวลาเพียงธูปหนึง่
ก้ านไหม้ ก็ผา่ นออกมาได้ หากไม่นบั หลิงเซ็นแล้ ว คนที่ผ่านออกมาได้ เร็ วที่สกุ ก็ต้องใช้ เวลากว่า
ครึ่งชัว่ โมง
หลิงเซ็นไม่ได้ เป็ นผู้ที่เปิ ดเผยเรื่ องส่วนตัวมากนัก เขาเข้ าใกล้ กบั คําว่านักฆ่าเลือดเย็นมากกว่า
ผู้ใดในสํานักแห่งนี ้ หากจะพูดกันตรงๆ คนเช่นนี ้แหละที่น่าเกรงกลัวมากที่สดุ
หลิงเซ็นได้ พิสจู น์แล้ ว เมื่อตอนนันเขามี
้ อายุ20ปี และมีพรสวรรค์เพียงระดับสี่ขนกลาง
ั้ แต่เขา
กลับได้ เป็ นถึงศิษย์พี่ในนิกายสวรรค์ ใครต่อใครหลายๆคนที่อยูใ่ นระดับสี่ขนสู
ั ้ ง ก็ยงั ตามเขาไม่
ติดฝุ่ นเลยซักคน
“ตอนนี ้ยังไม่เวลามาฉลองหรอกนะ อีกสามด่านที่เหลือจะยิ่งยากกว่านี ้เสียอีก” ชายแก่พดู
ขณะลูบเคราของตนเอง “และสถิติของหลิงเซ็นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมาทําลายได้ งา่ ยๆซะหน่อย”
สําหรับด่านทดสอบในครัง้ นี ้ หลินหมิงได้ มาถึงด่านที่สามแล้ ว สภาพแวดล้ อมที่มีทหารนับพัน
และซากศพในสงครามได้ หายไป เขาได้ เข้ ามาอยูใ่ นกระโจมที่มีการตกแต่งอย่างหรูหรา กําแพง
และเพดานประดับไปด้ วยผ้ าไหมอันงดงาม กลิน่ หอมที่ชวนให้ เบิกบานใจต่างโชยมาจากทัว่ ทุก
สารทิศ
แต่ยิ่งไปกว่านัน้ มีหญิงสาวจํานวนนับสิบฟ้อนรํ าอยูต่ อ่ หน้ าเขา ร่างกายของพวกเธอคอดเว้ า
อย่างงดงาม การปรากฏตัวของพวกเธอสามารถทําให้ ดวงจันทร์ และเหล่าพฤกษาไม้ งามต่าง
ต้ องถูกบดบัง ขณะที่พวกเธอก้ าวเข้ า พวกเธอก็คอ่ ยๆเปลืองผ้ าออกทีละชิ ้นๆ เผยให้ เห็นหน้ าอก
และสะโพกชวนหลงใหลที่มาพร้ อมกับกลิ่มหอมอันเย้ ายวน พวกเธอค่อยๆก้ าวมาล้ อมรอบตัว
หลินหมิง
ในตอนนี ้หลินหมิงก็ได้ ร้ ูสกึ ถึงความแห้ งเหือดและความร้ อนรุ่มแผ่ซา่ นออกมาจากภายใน มัน
ทําให้ เลือดบริ เวณหน้ าท้ องเขาไหลพุง่ พล่านไปด้ วยความรวดเร็ ว แต่เขาก็ต้องรี บหยุดและ
รวบรวมสมาธิอีกกลับมาครัง้
แต่อย่างไรก็ตามเหล่าหญิงสาวพวกนันก็ ้ ไม่ได้ หายไป แต่พวกเธอกลับทําหน้ าบึ ้งตึงด้ วยความ
ไม่พอใจขณะที่หยิบเสื ้อผ้ าและเดินกรี ดกรายสายสะโพกกลับไปในที่ๆพวกเธอมา และ
ต่อจากนันฉากก็
้ เปลี่ยนไปอีกครัง้ ในครัง้ นี ้เป็ นเตียงนอนที่อบอุน่ และดูค้ นุ เคยเป็ นอย่างดี และมี
ผู้หญิงในชุดคลุมที่ทําจากขนนกนัง่ อยู่ เธอมีปิ่นปั กผมหยกปั กอยูบ่ นหัว มันมีรูปร่างคล้ ายกับ
ดอกไม้ งาม อายุของเธอน่าคงจะประมาณ25ปี ขณะที่นงั่ อยูก่ ็เหมือนมีไอแห่งความงดงามโชย
ออกมา ถึงแม้ วา่ จะเปลีย่ นไปบ้ างจากที่เขาจําได้ ถึงแม้ วา่ เธอจะดูโตขึ ้นอีกเล็กน้ อย ทังยั้ งมี
ความยัว่ ยวนมากถึงเพียงนี ้ เธอคือหลานยุนเยีย
…หลานยุนเยีย…
หลินหมิงตกตะลึงอยูก่ บั ความคิดของเขา เธอคือหลานยุนเยียในอีกสิบปี ต่อมางันเหรอ

“โอ๋ๆ อย่าร้ องนะ…” หลานยุนเยียฮัมเพลงกล่อมเด็กอย่างไพเราะอ่อนโยน กับเด็กทารกสอง
คนบนเตียง เด็กทารกสองคนนี ้ดูเหมือนจะเป็ นฝาแฝดกัน เด็กทารกพวกนี ้เหมือนกับมีสว่ น
คล้ ายหลินหมิงอยูไ่ ม่มากก็น้อย
ทันใดนันพวกเขาก็
้ มองมาที่หลินหมิง สายตาของเด็กทารกเบิกกว้ าง และยิ ้มอย่างไร้ เดียงสามา
ที่เขา เสียงร้ องของเด็กดังก้ องเข้ าไปในหูของหลินหมิง มันทําให้ หวั ใจของเขาเต้ นอย่างเป็ นสุข
หลานยุยเยียเองก็สง่ ยิ ้มมาให้ เขา ริ มฝี ปากอันอ่อนโยนของเธอก็คอ่ ยๆเปิ ดขึ ้น และกล่าวว่า
“หลินหมิงที่รัก ตอนนี ้ก็ดกึ มากแล้ ว คุณควรจะพักผ่อนนะคะ”
ในขณะนี ้ เมื่อได้ เห็นหลานยุนเยียและลูกฝาแฝด กําลังส่งยิ ้มมาให้ เขา หัวใจของหลินหมิงก็เริ่ ม
สัน่ ไหวให้ กบั ภรรยาและลูกๆที่น่ารัก พวกเธอคือครอบครัวที่น่าอบอุน่
้ วิต?
สิ่งนี ้มิใช่หรื อคือสิ่งที่เขาต้ องการมาทังชี
ตอนนี ้เขาได้ ครอบครองสิ่งเหล่านี ้แล้ ว เขาหยุดคิดถึงความสุขต่อจากนี ้ไม่ได้ เลย…
ในขณะนัน้ สติของเขาก็เริ่ มเลือนรางไป หลินหมิงพยายามดึงสติกลับมา เขากัดริ มฝี ปากอย่าง
รุนแรงเพื่อให้ เกิดความเจ็บปวดที่จะช่วยดึงสติของเขาเอาไว้
ในไม่ช้าสภาพรอบๆก็ได้ เปลี่ยนไปอีกครัง้ หลานยุนเยียและลูกๆของเขาจางหายไป
ขณะที่จ้องมองเข้ าไปในความมืดมิดอันว่างเปล่า หัวใจของหลินหมิงสัน่ ระรั่ว ร่างกายของเขาก็
ถูกปกคลุมไปด้ วยเหงื่อที่ล้นไหลออกมา
เกือบไปแล้ ว เขาเกือบเสียตัวตนของเขาไปแล้ ว
เมื่อนึกถึงความฝั นเมื่อกี ้ หลินหมิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทังหมดนั
้ นคื
้ อภาพลวงตา
อย่างนันรึ

บางทีหวั ใจของเขาอาจจะต้ องการอยูก่ บั สิ่งเหล่านี ้ มากกว่าความเป็ นจริ งในชีวิตก็ได้
“มันเป็ นเพียงแค่ภาพลวงตา…อย่างนันหรื
้ อ”
เสียงที่ค้ นุ เคยเปล่งออกมาจากด้ านหลังอย่างแผ่วเบา หลินหมิงหันกลับไป หญิงสาวในชุด
อาหมวยจีดสีแดงสดอันเย้ ายวน เธอถือดาบในมือพร้ อมกับกลิ่นอายแห่งความน่าเกรงขาม และ
เปี่ ยมล้ นไปด้ วยความกล้ าหาญ
“ฉินชิงหวน?”
หลินหมิงตกใจอย่างหนัก ผู้หญิงตรงหน้ าของเขาผู้นี ้คือ ฉินชิงหวน ถึงเธอจะดูโตขึ ้นเล็กน้ อย
ตอนนี ้เธอดูอายุ20ปี ได้
“ตังแต่
้ ในอดีตที่ผ่านมา เจ้ าต้ องการที่จะฝึ กวิชาร่วมทางไปกับ…ข้ าไหม? เราจะท่องโลกแห่ง
การต่อสู้อนั ยื่งใหญ่นี ้ไปด้ วยกัน….ฟั งดูเป็ นเช่นไร? ”ขณะที่ฉินชิงหวนกําลังพูด เธอก็คอ่ ยๆ
เปลืองผ้ าไหมสีแดงสดบนร่างของเธอออกอย่างช้ าๆ เผยให้ เห็นเรื อนร่างอันงดงามที่สดุ เท่าที่เขา
จะจินตนาการได้ หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้ นในขณะที่ดวงตาจ้ องไปที่เรื อนร่างอันงดงามของ
เธอ
เธอค่อยๆก้ าวเท้ าเข้ ามาหาเขาอย่างยัว่ ยวน….
บทที่ 37 คงกระพันต่อหมื่นภูติผี
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



ขณะที่มีหญิงสาวผู้งดงามเพียบพร้ อมไปด้ วยสัดส่วนโค้ งเว้ าที่ชวนให้ หลงใหลอย่างไม่น่าเชื่อ
มายืนอยูต่ อ่ หน้ าเขา มันเป็ นภาพที่น่าชื่นชมและจดจําไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว เหมือนความ
ตังใจที
้ ่ผ่านมาของเขาจะถล่มลงมา ลมหายใจของเขาปั่ นป่ วน เลือดสูบฉีดพุง่ ขึ ้นสมองอย่าง
รุนแรง ถ้ าจะกล่าวถึงเรื่ องของชายหญิงแล้ วละก็ หลินหมิงเองก็ยงั เป็ นแค่เด็กน้ อยอยูเ่ ลย
ฉินชิงหวนโอบมือไปล้ อมรอบตัวของหลินหมิง เธอทังอุ
้ น่ และมีกลิ่นหอมแห่งความบริ สทุ ธ์ กลิ่น
ของเธอโชยเข้ าไปในจมูกของหลินหมิง มันทําให้ เขาใจเต้ นระรั่ว
มันเป็ นเพียงภาพที่ถกู สร้ างขึ ้น!!!
มันเป็ นเพียงภาพลวงตา!!!
***แก้ คําแปลจาก ‘ปฐมโกลาหล’ เป็ น ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ เพื่อความสละสลวย***
หลินหมิงหลับตาแน่น เขาเริ่ มโคจรพลัง ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ ให้ ไหลเวียนอยูใ่ นร่างกาย
เพื่อจัดการกับสติที่ยงั หลงเหลืออยูข่ องเขาอย่างรวดเร็ ว
“หลินหมิง… เจ้ าไม่ชอบข้ าหรื ออย่างไร ”
เสียงที่ออ่ นนุม่ และสุภาพเหมือนหยาดฝนพรํ่ าฤดูใบไม้ ผลิ หลินหมิงเผยอเปลือกตาออก แต่เขา
ยังคงแน่นิ่งอยู่
“อา…”ด้ วยลมหายใจที่ออ่ นโยน เธอปล่อยหลินหมิงออก ฉินชิงหวนยืนขึ ้น สีหน้ าของเธอ
แสดงออกถึงความเสียใจ แล้ วในที่สดุ เธอก็เดินจากไปอย่างช้ าๆ
ฉากที่อยูร่ อบๆตัวหลินหมิงค่อยๆจางหายไป บรรยากาศรอบตัวของเขาค่อยๆเริ่ มกลับเป็ นปกติ
หลินหมิงสูดหายใจเข้ าอย่างลึกๆ หัวใจเขายังเต้ นอย่างรุนแรงอยูแ่ ละฝ่ ามือของเขาก็ยงั เต็มไป
ด้ วยเหงื่อ
ในด่านที่สามนี ้ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก มันใช้ ปมในจิตใจของมนุษย์มาเล่นกับจิตใจของเรา ดู
เหมือนว่าเขาอาจจะไร้ เดียงสาเกินไป แต่มนั ก็แน่นอนอยูแ่ ล้ วที่มนุษย์ทกุ ๆคนก็ต้องมีจดุ อ่อน
ภายในจิตใจของตนเอง
“อืมมม..เด็กคนนันผ่
้ านด่านมาได้ แล้ ว แต่ก็ใช่เวลาไปไม่น้อย ถึงตอนนี ้เขาก็ใช้ เวลาไปเกือบ
ครึ่งก้ านธูปแล้ ว”ชายชรามองไปที่ธูปที่กําลังไหม้ อยูแ่ ท่งหนึง่
“เด็กคนนี ้ต่างไปจากหลิงเซ็น ในการทดสอบของหลิงเซ็น เขาใช้ เวลาเพียงชัว่ อึดใจเท่านัน้ แต่
เด็กคนนี ้ใช้ เวลานานถึงครึ่งก้ านธูป จิตใจของเขาคงจะเต็มไปด้ วยเหล่าหญิงสาวที่เขาหลงรัก
้ แต่ยงั ไงก็ตาม เขาก็ไม่สามารถทําลายสถิติของหลิงเซ็นได้ อยูด่ ี” ชายชราพูดขณะยิ ้ม
อย่างนันรึ
กว้ างเหมือนจะบอกคนอืน่ ในใจว่า “ฮ่า ฮ่า” เสียมากกว่า
“หึห.ึ .ขนาดนักรบผู้กล้ าหาญในสมัยบรรพกาลยังต้ องตกหลุมรักหญิงรูปงาม นับประสาอะไร
กับบุรุษธรรมดาผู้หนึง่ ข้ าชอบส่วนที่เป็ นปกติของเจ้ าหนุ่มนี ้มากกว่า ไอ้ เจ้ าหลิงเซ้ นมันทําให้ ข้า
รู้สกึ หนาวสันหลังไม่สบายตัวเอาซะเลย”
ชายชราทังหลายต่
้ างก็คยุ โม้ กนั ไปในกลุม่ ของพวกเขา อาจจะเพราะความต่างของอายุ ฉินชิง
หวนได้ แยกออกมาจากวงสนทนา เธอออกมานัง่ อย่างเงียบๆคนเดียวขณะที่มองดูหลินหมิง
ขณะที่มีความรู้สกึ แปลกประหลาดออกมาจากภายในจิตใจของเธอ หลินหมิงเห็นใครในความ
ฝั นของเขากันนะ?
ในการทดสอบที่สี่ หลินหมิงเหมือนตกไปอยูใ่ นห่วงหุบเหวลึกของขุมนรก โดยรอบข้ างของเขามี
แต่ความมืดและแสงสลัวๆ หลินหมิงรู้สกึ เหมือนถูกแช่อยูใ่ นนํ ้าจมไปถึงเอว มันคือทะเลสาบสี
เลือด มีกะโหลกกองสุมกันเป็ นภูเขาขนาดใหญ่โผล่ขึ ้นมาจากทะเลสาบสีเลือด และยังมีเสียง
กรี ดร้ องโหยหวนจากภูตผีปีศาจ ดังก้ องอยูเ่ หนือหัวของหลินหมิง
“เพียงแค่เหล่าภูติผีหมื่นตนแค่นี ้นะรึจะหยุดข้ าได้ ”หลินหมิงกล่าวอย่างดูถกู ขณะโคจรพลัง
‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ร่างกายของเขาเปล่งแสงสีทองออกมาและแผ่ขยายออกไปทัว่ ทุก
ทิศทาง
‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ที่มาจากอาณาจักรแห่งพระเจ้ านัน้ ว่ากันว่าถูกคิดค้ นโดยพระ
โพธิสตั ว์แห่งสงคราม ซึง่ พลังของมันเปี่ ยมล้ นไปด้ วยแสงแห่งหยาง มันสามารถขจัดปี ศาจและ
ภาพลวงตาทังหมดออกไปได้
้ อย่างง่ายดาย
หลินหมิงไม่สนใจพวกภูตผีพวกนัน้ และเริ่ มโคจร‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ต่อจนถึงขีดสุด
“จิตใจของข้ าเต็มไปด้ วยสันติ แม้ เหล่าภูตผีนบั หมื่นก็ไม่อาจแตะต้ องข้ าได้ ”
แสงสีทองสาดส่องไปทัว่ ทุกสารทิศ และเมื่อมันได้ สมั ผัสกับภูตผีเหล่านัน้ ก็ทําให้ ร่างของมัน
แตกสลายกลายเป็ นฝุ่ นผงไปในที่สดุ
“หึหึ ในด้ านนี ้จบแล้ วรึ?”
ในด่านแรกเป็ นด่านทดสอบความกล้ า ด่านที่สองเป็ นการทดสอบขวัญกําลังใจ ด่านที่สามเป็ น
การทดสอบต่อสิ่งยัว่ ยวน ด่านที่สี่ก็เป็ นการทดสอบปี ศาจในจิตใจ เขาคาดการณ์ได้ วา่ ด่านที่ห้า
จะต้ องเป็ นการทดสอบความมุง่ มัน่ ตังใจเป็
้ นแน่
สองด่านแรกนันค่ ้ อนข้ างจะง่าย แต่สามด่านหลังจะต่างออกไป การปรากฏตัวของพวกมันจะ
มาเพื่อทดสอบปี ศาจภายในจิตใจ อาจเป็ นเพราะหลิงเซ็นเป็ นพวกกระหายเลือด การทดสอบที่
สี่จงึ ยากสําหรับเขา เพราะเขาใช้ เวลาไปกว่าครึ่งก้ านธูป แต่นนก็
ั ้ ไม่ได้ ทําให้ เขามีความเป็ น
ปี ศาจในจิตใจน้ อยลงเลย
“เจ้ าหลินหมิงนัน่ ไม่มีปีศาจแม้ แต่ตวั เดียวในจิตใจเลยหรื ออย่างไรกัน”
“จิตใจและความคิดของเขาช่างบริสทุ ธิ์จริ งๆ หาได้ ยากยิ่งนัก ตังแต่
้ การทดสอบด่านที่หนึง่ มา
จนถึงด่านที่สี่เขาใช้ เวลาไปเพียงครึ่งก้ านธูปเอง เป็ นต้ นอ่อนที่น่าจับตาดูเสียจริ ง” ชายชรา
อุทานออกมาจากจริ งใจ

ในขณะที่เวลากําลังเดินไป ก็มีเหล่าผู้ทดสอบที่คอ่ ยๆตกรอบมากยิ่งขึ ้น แม้ ในด่านที่หนึง่ และ
สองจะง่ายก็จริ ง แต่ตงแต่
ั ้ ดา่ นที่สามเป็ นต้ นไป จํานวนผู้ที่ตกรอบก็เริ่ มเพิ่มสูงขึ ้นอย่างรวดเร็ ว
หลานยุนเยียเองก็กําลังแอบให้ ความสนใจกับหลินหมิงอยูจ่ ากที่ไกลๆ ถึงหลินหมิงจะไม่ได้ อยู่
ในท่าทีที่สงบตลอดเวลา แต่จิตใจของเขาก็มนั่ คงหนักแน่นไม่เหมือนกับผู้ทดสอบคนอื่นๆที่มี
รู้สกึ หวาดกลัว มีใบหน้ าที่บิดเบี ้ยว ซีดเซียวแต่อย่างใด
ในตอนนี ้หลานยุนเยียมีความรู้สกึ ที่เธอไม่อาจจะอธิบายมาเป็ นคําพูดได้ เธอรู้สกึ ว่าหลินหมิง
จะต้ องผ่าน และเอาชนะด่านทดสอบแห่งมุง่ มัน่ นี ้ได้ ตลอดไปจนการทดสอบที่สาม
การทดสอบในด่านสุดท้ าย หลินหมิงยังคงไม่ได้ ออกจากขุมนรกแห่งนัน่ เขายังคงเปี ยกชุ่มไป
ด้ วยเลือด ต่อมาทะเลเลือดแห่งนี ้ก็เดือดขึ ้นอย่างช้ าๆ มีฟองเลือดเดือดปุดๆผุดขึ ้นมา
อุณหภูมิกําลังพุง่ สูงขึ ้น ทะเลสีแดงกํ่านี ้เหมือนถูกทําให้ เดือดด้ วยความโกรธเกรี ย้ วแห่งความ
มืด ฟองแต่ละฟองที่ผดุ ขึ ้นมาก็แตกออกเป็ นไอเลือดระเหยคลุ้งไปในอากาศ เหมือนกับ
ทะเลสาบเลือดแห่งนี ้กําลังจะกลายเป็ นบ่อลาวาเดือดในไม่ช้า
หลินหมิงรู้สกึ ได้ ถงึ ความเจ็บปวดที่เริ่ มถาโถมเข้ ามาในร่างกายของเขา เหมือนว่าเขากําลังถูก
ต้ มทังเป็
้ นในทะเลเลือดแห่งนี ้ ถึงแม้ วา่ เขาจะรู้วา่ นี่เป็ นเพียงภาพลวงตา แต่ความเจ็บปวดที่
เกิดขึ ้นนันไม่
้ มีอะไรมาเทียบได้ เลย มันเป็ นความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสขนาดที่วา่ ยอม
ตายเสียจะยังดีกว่าจะมาทนกับความทรมานเช่นนี ้
ด่านที่หนึง่ ถึงสี่ตา่ งก็เป็ นเพียงภาพลวงตา เขาไม่ได้ คาดคิดเลยว่าในด่านที่ห้านี ้จะทําให้ เขา
เจ็บปวดทรมานขึ ้นมาจริ งๆ หลินหมิงกัดฟั นแน่นและพยายามพยุงสติเอาไว้ เขาพยายามคิดใน
แง่ดีสดุ ๆขณะที่กําลังแบกรับความเจ็บปวดนี่เอาไว้ เจ้ าทะเลเดือดนี่มนั ไม่เท่าไหร่หรอก มันก็แค่
แดดหน้ าร้ อนเท่านันเองงงง!!!

ขณะที่หลินหมิงกําลังคิดอยู่ ทะเลเลือดก็ติดไฟขึ ้นมาทันที เปลวไฟแผดเผาอันรุนแรงพุง่ ขึ ้นไป
ในอากาศเหมือนลาวาปะทุในขุมนรกไม่มีผิด
กองไฟดังกล่าวกําลังพุง่ ตรงมายังหลินหมิง เขารู้สกึ ได้ ถงึ ความร้ อนที่แผ่เข้ ามาในตัวของเขาได้
อย่างชัดเจน เมื่อได้ เห็นทะเลเพลิงอันใหญ่โตขนาดนี ้ เป็ นใครก็ต้องหวาดกลัวจนหัวใจวายกัน
ทังนั
้ น้
ทันใดนันหลิ
้ นหมิงก็ได้ ตะโกนออกมาอย่างกึกก้ อง
“เส้ นทางแห่งการต่อสู้ของข้ า เป็ นดัง่ แมลงเม่าบินเข้ ากองไฟอยูแ่ ล้ ว ท่านต้ องการให้ ข้า
กลายเป็ นเถ้ าธุลีในทะเลเพลิงแห่งนี ้รึ? หากเป็ นเช่นนันข้
้ าก็ไม่จําเป็ นต้ องหวังอะไรให้ มากไป
กว่านี ้ ”
ทะเลเพลิงได้ ดดู กลืนหลินหมิงเข้ าไป และในเวลาต่อมา ทุกสิ่งทุกอย่างก่อเกิดกลายเป็ นความ
ว่างเปล่า หลินหมิงยืนขึ ้นและมองออกไปรอบๆ เขากลับมาที่แท่นหยกแล้ ว รอบๆตัวเขาเต็มไป
ด้ วยเหล่าชายหญิงที่กําลังร้ องโอดครวญอย่างเจ็บปวดกับสิ่งที่พวกเขาได้ เผชิญในความฝั น
เมื่อได้ เห็นหลินหมิงลืมตาและยืนขึ ้น มูยี่ถงึ กับต้ องตกตะลึง เขามองไปยังก้ านธูปที่กําลังไหม้ อยู่
มันยังไหม้ ไปไม่ทนั หมดหนึง่ ก้ านเลย แม้ มนั จะเหลืออีกไม่มากก็ตาม
ไอ้ เจ้ ามนุษย์นํ ้าแข็งเลือดเย็น หลิงเซ็น ถูกทําลายสถิติซะแล้ ว!!!
ฉินชิงหวนเองก็ตกใจมากเช่นกัน เธอได้ เคยลองทดสอบในด่านแห่งความมุง่ มัน่ นี ้มาก่อนแล้ ว
และเธอก็ตระหนักได้ ถงึ ความยากและน่ากลัวของแต่ละด่านเป็ นอย่างดี ถึงแม้ วา่ พรสวรรค์
ระดับหกของเธอจะไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ของอาณาจักรแห่งนี ้ แต่ความสามารถนัน้
ก็ไม่ได้ ช่วยให้ เธอผ่านด่านนี ้ได้ เร็วขึ ้นนัก ฉินชิงหวนใช้ เวลาเกือบครึ่งชัว่ โมงในการผ่านด่าน
เหล่านี ้ แต่หลินหมิงกลับใช้ เวลาแค่ไม่ถงึ หนึง่ ก้ านธูปด้ วยซํ ้า ใครจะไปคิดว่าจะมีเรื่ องที่ไม่น่า
เชื่อขนาดนี ้เกิดขึ ้นในวันนี ้
“ยอดเยี่ยม …ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ ว นี่เป็ นครัง้ แรกที่ข้าเห็นผู้ที่แสดงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
ออกมาได้ ยอดเยี่ยมมากถึงเพียงนี ้ ใช่แล้ ว…คะแนนในด่านทดสอบแรกของเขาอยูท่ ี่เท่าไร? ”
ชายชราถามผู้คมุ การทดสอบหญิงที่ดแู ลอยูต่ รงนัน้
“2700 จิ๋น” หลินหมิงได้ คะแนนเป็ นอันดับหนึง่ ของด่านทดสอบพละกําลัง หญิงสาวตอบอย่าง
มัน่ ใจ เพราะเธอจําได้ อย่างแม่นยํา
“โอ้ …?” ชายชราถามต่อด้ วยความกระตือรื อร้ น “เขามีพรสวรรค์อยูใ่ นระดับใดกันรึ?”
หลังจากที่ฟังชายชราถาม ก่อนที่เจ้ าหน้ าที่สาวจะตอบ มูยี่ก็ชิงตอบก่อนว่า “เพียงแค่ระดับ
สาม”
“ระดับสามงันรึ
้ ?”ชายชราถามขึ ้นอีกครัง้ อย่างแปลกใจ และเริ่ มที่จะถอนหายใจอย่างผิดหวัง
“น่าเห็นใจ น่าเห็นใจเสียจริ งๆ” แม้ ในความจริ งพรสวรรค์ระดับสามจะไม่ได้ ถงึ กับแย่มากนัก
แต่มนั ก็ตํ่ากว่าเหล่าเด็กอัจฉริ ยะของสํานักเจ็ดแก่นแท้ อยูด่ ี
้ ย่ ี่ก็พดู สวนขึ ้นมา “ในบางครัง้ ระดับพรสวรรค์ก็มิได้ เป็ นตัวบ่งบอกไปเสียทุก
แต่ทนั ใดนันมู
อย่าง ท่านเพียงแค่ต้องรอดูความสามารถของเขาต่อไป เขาเป็ นดัง่ ราชามังกรท่ามกลางฝูง
เหล่านัน”

มูย่ ี่พดู ด้ วยความมัน่ ใจ เมื่อเขาเห็นระดับของหลินหมิงในตอนแรก เขาก็ตกใจและคิดว่ามันต้ อง
มีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แต่ในตอนนี ้เขารู้แล้ วว่าหลินหมิงสามารถประสบความสําเร็ จได้ ในขณะที่
คนบางคนยังใช้ เวลาทังชี ้ วิตทําไม่ได้ แบบเขาเลยด้ วยซํ ้า หลินหมิงจะต้ องเป็ นคนที่พิเศษ
เหนือกว่าผู้ใดในอนาคตเป็ นแน่
ถึงแม้ มยู ี่จะพูดด้ วยความมัน่ ใจก็ตาม แต่เส้ นทางของการต่อสู้ก็อนั ตรายและละเอียดอ่อน
เกินไป มันอาจจะเป็ นจุดหักเหที่สําคัญในอนาคตก็เป็ นได้ ด้ วยพรสวรรค์ระดับสาม แม้ วา่ เขาจะ
มีเงินทองจํานวนมากคอยหนุน แต่ในที่สดุ การฝึ กฝนของเขาก็คงจะไปติดอยูใ่ นขันๆหนึ ้ ง่
เหมือนกับคนอื่นๆ ขันผสานชี
้ พจร
ขณะที่หลินหมิงกําลังก้ าวลงมาจากเวที หลานยุนเยียที่แอบมองหลินหมิงจากที่ไกลๆก็มองมาที่
เขาด้ วยแววตาที่ซบั ซ้ อน เธอรู้มาตลอดว่าหลินหมิงเป็ นคนหนักแน่นและมัน่ คง แต่เธอก็ไม่คิดว่า
เขาจะผ่านด่านได้ เร็วถึงเพียงนี ้
เธอรู้แก่ใจดีวา่ สําหรับหลินหมิงแล้ ว การจะให้ เลิกเดินบนเส้ นทางแห่งการต่อสู้นนเป็
ั ้ นไปไม่ได้
เขาได้ กําหนดจุดมุง่ หมายสูงสุดของเขาเอาไว้ แล้ ว และเขาจะมุง่ หน้ าไปในเส้ นทางนี ้เท่านัน้
หลังจากที่หลินหมิงลงจากเวที เขาก็ถกู พาไปยังห้ องพักแห่งหนึง่ ที่ๆเขาจะถูกพาไปนี ้ยังเป็ นที่ๆ
จัดการทดสอบสุดท้ าย-พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง

บทที่ 38 พระมหาเจดีย์วจิ ิตรบรรจง

แปลโดย Facebook Fanpage :


https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงถูกสร้ างขึ ้นโดยเจ็ดปรมาจารย์ขนุ เขา สถาปั ตยกรรมแห่งนี ้ถูกสร้ าง
จากวัสดุลกึ ลับและพบเห็นได้ ยากบนโลก วัสดุเหล่านี ้ไม่มีให้ พบเห็นในอาณาจักรลิขิตฟ้าอย่าง
แน่นอน มันมีแสงที่สอ่ งผ่านออกมาเปล่งประกายสว่างไสวเช่นเดียวกับแสงอาทิตย์ตอน
กลางวันเลยทีเดียว
พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงมีทงหมด7ชั
ั้ น้ แต่ละชันจะถู
้ กสลักด้ วยอักษรที่ลกึ ซึ ้งอย่างพิถีพิถนั
อักษรเหล่านันก็
้ คืออักขระอาคม
อย่างไรก็ตามอักขระอาคมที่เห็นอยูต่ รงหน้ านี ้ต่างออกไปจากที่พบเห็นอยูบ่ นแท่นหยกในด่าน
ทดสอบก่อนหน้ า อักขระอาคมบนแท่นหยกนันเพี ้ ยงสร้ างภาพลวงตาทําให้ เกิดเป็ นความฝั นที่
ไม่เป็ นอันตรายถึงชีวิต แต่อกั ขระอาคมที่อยูต่ อ่ หน้ าพวกเขานี ้มันรุนแรงถึงขันสามารถฆ่
้ าคนได้
อักขระอาคมพวกนี ้สามารถสร้ างภาพลวงตามาฆ่าคนได้ จริ งๆ ผู้ที่ติดอยูภ่ ายในความฝั น
เหล่านันจะตาย

แต่วา่ เมื่อพระมหาเจดีย์วจิ ิตรบรรจงถูกใช้ ในการทดสอบรับศิษย์เข้ าสํานัก มันจึงถูกลดระดับลง
มาในขันสู้ งสุดที่ไม่เกิดอันตรายต่อชีวิต คนที่ผ่านมันไปไม่ได้ ก็จะถูกส่งกลับออกมาจากอักขระ
อาคมเท่านัน้
ภายในพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงนัน้ ไม่มีใครสามารถใช้ อาวุธชุดเกราะหรื อสมบัติอปุ กรณ์หา
ยากๆใดๆได้ พวกเขาใช้ ได้ เพียงแค่อปุ กรณ์ธรรมดาๆเท่านัน้ ในการทดสอบนี ้ทุกๆอย่างจะขึ ้นอยู่
กับความสามารถที่แท้ จริ งของนักสู้เท่านัน้
ขณที่เวลาค่อยๆผ่านไป จํานวนผู้ทดสอบในด่านแท่นหยกก็เริ่ มลดลงเรื่ อยๆ แสงที่ปรากฏ
ออกมาต่างบ่งบอกว่ามีผ้ ทู ดสอบที่ตกรอบไปเป็ นจํานวนมาก พูดได้ วา่ มีคนที่ไม่ผ่านด่านนี ้ถึง
60%-70% เลยก็วา่ ได้ แม้ กระทัง่ ผู้ที่มีการฝึ กฝนในขันที
้ ่สามบางคนก็ไม่ผ่านด่านนี ้
ไม่นาน พวกที่อยูใ่ นขันสามบางคนก็
้ เดินออกมาแบบไหล่ตกด้ วยสีหน้ าผิดหวัง พวกเขาคงไม่คิด
ว่าจะสอบตกในครัง้ นี ้ ทังในขณะนี
้ ้พวกเขาก็อายุ18ปี แล้ วด้ วย นัน่ หมายความว่านี่จะเป็ น
โอกาสครัง้ สุดท้ ายของพวกเขา
หลังจากผ่านไปไม่ถงึ ครึ่งชัว่ โมง ผู้ทดสอบคนที่สองบนแท่นหยกก็ได้ ลืมตาขึ ้น เขาหายใจเข้ า
อย่างลึกๆ ด้ วยสีหน้ าที่ดซู ีดเซียว และขาที่สนั่ เทิ ้ม เขาค่อยๆยืนขึ ้น เห็นได้ ชดั ว่าด้ านหลังของเขา
นันเปี
้ ยกชุ่มไปด้ วยเหงื่อ
เขาคือผู้มีพรสวรรค์ระดับสี่ หวังยานเฟิ ง
หลังที่เขายืนขึ ้น เขาก็พยายามมองหาหลินหมิง ผู้ที่ดงึ ความสนใจทุกอย่างในด่านแรกไปจาก
เขา แต่เขาก็ไม่พบหลินหมิง เขาจึงยิ ้มออกมาด้ วยความภาคภูมิใจและเปี่ ยมไปด้ วยความสุข
แต่เมื่อผู้คมุ การทดสอบพานําเขามาถึงห้ องพัก เขาก็ได้ พบกัยหลินหมิงที่รออยูข่ ้ างใน หลินหมิง
กําลังนัง่ ทําสมาธิอยูอ่ ย่างสงบนิ่ง เขาถึงกับหน้ ามืดขึ ้นมาทันที เขาคาดการณ์เอาไว้ วา่ หลินหมิง
จะต้ องไม่ผ่านการทดสอบ เขาไม่คิดมาว่าหลินหมิงจะผ่านด่านความฝั นด่านแรกมาได้ ด้วยซํ ้า
ไอ้ เวรนี ้!!!
หวังยานเฟิ งรู้สกึ ว่าตนเองกําลังตกตํ่าอย่างมาก เขาเดินออกจากห้ องพัก ไปพบพรรคพวกของ
เขา หวังยี่เกากระซิบข้ างหูพวกนันเบาๆ
้ “ดูไอ้ เวรนัน่ ทักษะของมันไม่ธรรมดาเลย”
หลินหมิงรู้ตวั แล้ วว่าหวังยานเฟิ งได้ พบเขาแล้ ว เขาคงเป็ นศัตรูของมัน ซึง่ นี่ก็เรื่ องเป็ นธรรมดา ผู้
เข้ าทดสอบทุกคนต่างก็ต้องแข่งขันเพื่อของรางวัลอยูแ่ ล้ ว อันดับหนึง่ มีเพียงตําแหน่งเดียว
เท่านัน้
ในระหว่างนัน้ ห้ องพักก็คอ่ ยๆมีคนเข้ ามาเพิ่มขึ ้นเรื่ อยๆ การทดสอบด่านความฝั นกําลังจะ
สิ ้นสุดลงแล้ ว
ในท้ ายที่สดุ ผู้ที่ผ่านด่านความฝั นมาได้ มีเพียง92คนเท่านัน้ หากจะคิดเป็ นเปอร์ เซ็นต์แล้ ว มีผ้ ทู ี่
ตกรอบในครัง้ นี ้ถึง 90%
ผู้ที่พงึ่ ผ่านด่านแห่งความฝั นมาได้ พวกเขาไม่มีเวลาให้ พกั ผ่อนแม้ แต่น้อย เพราะการทดสอบที่
สามกําลังจะเริ่ มต้ นในไม่ช้านี ้
ถ้ าหากพวกเขาผ่านการทดสอบสุดท้ ายนี่ได้ พวกเขาจะได้ เป็ นศิษย์ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ทนั ที
แต่หากพวกเขาพลาด ทุกๆสิ่งที่เขาได้ ฝ่าฟั นมาก่อนหน้ านี ้ก็จะไร้ คา่ ในทันที
“ด่านทดสอบที่3 พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง”
เสียงที่ดงั ก้ องกังวาน ฟั งดูมีพลังอํานาจได้ เปล่งออกมาท่ามกลางฝูงชน ผู้คมุ สอบในครัง้ นี ้เป็ น
คนผอมสูงวัยกลางคน ดูเหมือนคนทัว่ ๆไป ทว่าร่างกายของเขาก็มีรอยแผลอันน่ากลัวอยู่ เมื่อ
หลินหมิงมองมาที่ผ้ คู มุ สอบคนนี ้ เขาก็ร้ ูได้ ทนั ทีเลยว่าคนๆนี ้จะต้ องเป็ นระดับปรมาจารย์ บางที
คนๆนี ้อาจไปถึงระดับปราณฟ้าขันต้ ้ นแล้ วก็ได้
หลินหมิงได้ แต่ถอนหายใจ ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เขาไม่เคยพบเห็นกลุม่ บุคคลที่มีการฝึ กฝนขันหก้
หรื อสูงกว่ามาอยูร่ วมกันมากขนาดนี ้มาก่อน แต่ในขณะนี ้เท่าที่เขาได้ พบในวันนี ้ก็มากถึง5-6คน
เลยทีเดียว
แต่ยงั ไงมันก็เป็ นคงเรื่ องปกติ ในอานาจักรลิขิตฟ้า เหล่าปรมาจารย์ระดับปราณฟ้าขันต้
้ น จะไม่
ค่อยถูกพบเจอในพระราชวังหรื อคฤหาสน์จอมพล บุคคลเหล่านี ้ส่วนใหญ่จะอยูท่ ี่สํานักเจ็ดแก่น
แท้ เสียมากกว่า ซึง่ ส่วนใหญ่ก็เป็ นลูกศิษย์ของเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขาที่มาจากนอก
อาณาจักรลิขิตฟ้า
“จงตามข้ ามา” ชายวัยกลางคนกล่าวขึ ้น จากนันก็
้ หนั หลังเดินจากไป
ผู้ที่ผ่านการทดสอบในรอบที่สองมาทัง้ 92 คน ต่างก็ตามเขาเข้ าไป ผู้คนที่ดเู หตุการณ์อยูบ่ าง
คนก็ยงั ตามเข้ าไปด้ วย ไม่ใช่ทกุ คนที่จะสามารถชมการทดสอบด่านที่2และ3ได้ พวกเขาต้ อง
เป็ นขุนนางชันสู
้ งหรื อไม่ก็เป็ นคนของสํานักเจ็ดแก่นแท้ เท่านัน้
การย่างเท้ าของชายผู้นี ้ดูเหมือนเป็ นไปอย่างเชื่องช้ าและสุขมุ แต่ความเร็ วที่เคลื่อนที่ไปข้ างหน้ า
นันราวกั
้ บคนวิ่ง ผู้ที่ผ่านการทดสอบถึงกับต้ องออกตัววิ่งเพื่อตามเขาให้ ทนั
ผ่านไปได้ ไม่นาน พวกเขาก็ได้ มาถึง หุบเขาโจว หุบเขาแห่งนี ้กว้ างใหญ่ไพศาล มีสิ่งก่อสร้ างที่
้ ด่ ้ ายหน้ า ทางเข้ าของมันถูกเขียนเอาไว้ อย่างบรรจง ‘ศาลาเจ็ดแก่นแท้ ’
งดงามตังอยู
ขณะที่พวกเขาก้ าวเข้ าไป ก็ได้ พบกับสิ่งก่อสร้ างขนาดใหญ่โต มันสูงถึง 200ฟุต มันคือพระมหา
เจดีย์วิจิตรบรรจง
“สูงสุดๆไปเลย”
นี่คือความคิดแรกของหลินหมิงหลังจากที่ได้ เห็นสิง่ ก่อสร้ างนี ้ เขาไม่เคยเห็นสิ่งก่อสร้ างที่สงู
ขนาดนี ้มาก่อน มันมีทงหมด7ชั
ั้ น้ ซึง่ แต่ละชันก็
้ สงู ถึง30ฟุต มันคงต้ องใช้ คนจํานวนมาก
เพื่อที่จะต่อตัวขึ ้นไปให้ ถงึ เพดานชันที
้ ่หนึง่ แม้ แต่โบสถ์ที่ใหญ่โตที่สดุ แห่งเมืองใบหม่อนสีเขียวก็
ไม่อาจเทียบได้ เลยกับที่แห่งนี ้
“พวกเจ้ าสามารถเข้ าไปได้ แล้ ว ไม่มีการจํากัดเวลาใดใด เพียงแค่ผ่านชันแรกได้
้ เจ้ าก็ถือว่าได้
เป็ นลูกศิษย์ร่วมสํานักเจ็ดแก่นแท้ แล้ ว หากผ่านชันที
้ ่สองได้ ก็ถือว่าดี ชันที
้ ่สามถือว่าเยี่ยมยอด
ชันที ้ ่ห้าก็…หึห.ึ .”ชายวัยกลางคนยิ ้มอย่างมีเลศนัยและปล่อยให้ ผ้ ทู ี่
้ ่สี่ถือเป็ นอัจฉริ ยะ และชันที
ฟั งงงกับสิ่งที่เขากําลังพูดออกมา”แต่ก็คงจะเป็ นไปไม่ได้ หรอก ฮ่าๆ”
เมื่อได้ ยินชายคนนันพู
้ ดจนจบ คนบางคนก็ยงั ไม่แน่ใจในสิ่งที่เขาพูด หวังยานเฟิ งมองไปยังกลุม่
คนนันและดู
้ ถกู เหยียดหยามในใจ พวกมันช่างโง่ซะจริ ง คิดว่าจะผ่านชันแรกของพระมหาเจดี
้ ย์
วิจิตรบรรจงไปได้ งา่ ยๆงันรึ

สํานักเจ็ดแก่นแท้ มีการทดสอบทังหมดสามอย่
้ าง อย่างแรกคือพละกําลัง สองคือการทดสอบ
ด้ านจิตใจ และสามคือด่านที่สําคัญที่สดุ มันเป็ นการทดสอบความกล้ าหาญในการต่อสู้และ
ความเป็ นอัจฉริ ยะ
ระดับความเป็ นอัจฉริ ยะ ถ้ าให้ เทียบกับเจ้ าพวกนี ้ละก็ คงจะแตกต่างกันหลายขุมทีเดียว
พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงเต็มไปด้ วยรังสีแห่งการเข่นฆ่า มันจะเลือกคูต่ อ่ สู้ให้ เองว่าเราจะต้ อง
สู้กบั สิ่งใด ยิ่งผู้ทดสอบอายุมากขึ ้น ก็จะยิ่งเจอกับคูต่ อ่ สู้ที่เก่งกาจมากขึ ้น
ด้ วยเหตุนี ้ ตังแต่
้ เริ่ มมีการทดสอบมา จึงมีแค่คนเดียวที่ผ่านไปถึงชันที
้ ่ห้าได้ และผู้นนก็
ั ้ ไม่ใช่ห
ลิงเซ็นแห่ง นิกายสวรรค์แต่เป็ นหญิงสาวที่แสนบริ สทุ ธิ์ ฉินชิงหวน
พรสวรรค์ระดับหกนันไม่ ้ เรื่ องล้ อเล่น หลายต่อหลายคนไม่ร้ ูวา่ ฉินชิงหวนมีพรสวรรค์ระดับหก
แต่หวังยานเฟิ งรู้เรื่ องนันดี
้ แม้ แต่เรื่ องที่วา่ เธอฝึ กฝนไปถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สี่แล้ วเขาก็ร้ ู
เธอเปรี ยบเหมือนกับหลิงเซ่นทุกอย่าง ที่แตกต่างไปก็แค่ เธออายุน้อยกว่าเขาถึง5ปี
ถึงแม้ วา่ หวังยานเฟิ งจะเป็ นคนหยิ่งยโส แต่เขาก็ไม่อาจจะเอาตนไปเทียบกับฉินชิงหวนได้ เพียง
แค่เขาฝึ กฝนไปให้ ถงึ ขันสี
้ ไ่ ด้ ในเร็ววัน เขาก็คงจะพอใจแล้ ว
เมื่อมองไปที่พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง หัวใจของหวังยานเฟิ งก็ถกู เติมเต็มด้ วยจิตใจที่อยาก
ต่อสู้อย่างเต็มเปี่ ยม สําหรับเขาแล้ ว ในการทดสอบด่านที่หนึง่ และด่านที่สองมันไม่ใช่ดา่ นที่จะ
แสดงพลังที่แท้ จริ งของเขาออกมาได้ แต่ทว่าในด่านที่สามนี ้แหละ เขาจะได้ แสดงทักษะการ
ต่อสู้ที่มิใช่มาจากพละกําลังเพียงอย่างเดียวอันแสนภาคภูมิใจของเขาให้ เป็ นที่ประจักษ์
พละกําลัง ทักษะ ความว่องไว กลยุทธ์ และประสบการณ์ทกุ ๆอย่าง จะถูกทดสอบพร้ อมกันใน
ครัง้ นี ้ หวังยานเฟิ งมัน่ ใจในตนเองอย่างมาก เขาจะต้ องทําให้ ทงสํ
ั ้ านักตกตะลึงในพลังของเขา
และการผ่านไปถึงชันสู ้ งๆอย่างยอดเยี่ยมของเขาซึง่ จะทําให้ เขาโด่งดังในชัว่ ข้ ามคืน
“เข้ าไปได้ แล้ ว ความยากของการทดสอบจะขึ ้นอยูก่ บั อายุของพวกเจ้ าแต่ละคน” ทันทีที่ชาย
กลางคนพูดจบ ประตูของพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงก็คอ่ ยๆเปิ ดออก
ภายในนันได้
้ มีแสงสว่างเลือนรางส่องออกมา หลินหมิงหายใจเข้ าลึกๆและเดินเข้ าไปอย่างช้ าๆ
ในขณะนี ้ฉินชิงหวนก็มองเขาอยู่ เธอเห็นลินหมิงกําลังหายเข้ าไปในประตูที่สอ่ งแสงหลากสี
ออกมา
“ฮ่าฮ่า… ชิงหวนดูทา่ เจ้ าจะสนใจหลินหมิงมากเลยละสิ”
เมื่อถูกถามอย่างไม่ทนั ตังตั
้ วโดยอาจารย์ของเธอ ฉินชิงหวนก็ก้มหน้ าลงด้ วยความเขินอาย เธอ
้ “ถึงชิงหวนอาจจะไม่มีความรู้ในเรื่ องจารึกมากเท่ากับหลินหมิง แต่หากเทียบกันใน
พูดขันมา
ด้ านการต่อสู้แล้ ว ชิงหวนค่อนข้ างมัน่ ใจว่าเหนือกว่าเขาค่ะ”
“อืมม..สนใจแต่การต่อสู้อย่างเดียวเลยรึ ฮ่าๆ ในด้ านนี ้หลินหมิงอ่อนกว่าเจ้ าอยูห่ ลายขุมทีนกั
(ว่าใครอ่อนฟะ ไอ้ แก่นี ้วอนซะแล้ ว) แล้ วเธอคิดว่าเขาจะไปได้ ถงึ ชันไหนกั
้ นละ”
“ก็…เอ่อ…จากการคาดการณ์ของข้ า ด้ วยอายุ15ปี และมีการฝึ กขันที
้ ่2 คงจะเป็ นเรื่ องยากมาก
สําหรับด่านนี ้ แต่พละกําลังของเขาก็สงู กว่าคนทัว่ ไป ข้ าคิดว่าเขามีโอกาสจะไปได้ ถงึ ชัน3ค่ ้ ะ”
ที่ฉินชิงหวนประเมินในครัง้ นี ้ เธอคิดว่านี่เป็ นการประเมินที่สงู ที่สดุ แล้ วที่หลินหมิงจะทําได้ ถ้ า
หากหลินหมิงต้ องการที่จะไปไกลกว่านัน้ เขาก็ต้องฝึ กฝนให้ สงู กว่าขันที ้ ่สามเป็ นอย่างน้ อย
“นัน่ ก็ถกู ของเจ้ านะ….แต่ข้าคิดว่าหลินหมิงอาจจะทําให้ พวกเราต้ องตกตะลึงยิ่งกว่าครัง้ ไหนๆ
ก็เป็ นได้ ”
ขณะที่มยู ี่และฉินชิงหวนกําลังคุยกันอยู่ ที่มมุ มืดแห่งหนึง่ ของหุบเขา หลานยุนเยีย ก็มองหลินห
มิงอยูจ่ ากที่ที่หา่ งไกลออกไปเช่นกัน สายตาของเธอเต็มไปด้ วยอารมณ์ที่ซบั ซ้ อน
ในฐานะที่เป็ นศิษย์ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ หลานยุนเยียมีสิทธิ์ที่จะเข้ ามาดูการทดสอบนี ้ได้ นี่จะ
เป็ นการสอบครัง้ สุดท้ าย ทันทีที่ใครคนหนึง่ ผ่าน เขาคนนันก็
้ จะได้ เป็ นศิษย์ของสํานักเจ็ดแก่น
แท้ ใน ทันที
ด้ วยสภาพของหลินหมิงในตอนนี ้ เขาก็น่าจะผ่านด่านแรกไปได้ ด้วยดี
เธอไม่ได้ คิดมาก่อนเลยว่า ด้ วยเวลาเพียงครึ่งปี ที่ผ่านจะทําให้ หลินหมิงสามารถเติบโตขึ ้นได้ ถงึ
เพียงนี ้ (ไม่ต้องมาไม่คิด ข้ ออ้ างทังนั
้ น้ ไม่ต้องมาเสียดายเอาตอนนี ้ นังตัวร้ าย)
หากว่าเธอต้ องฝึ กร่วมกับหลินหมิง ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ เธอก็ไม่ร้ ูวา่ จะมีความรู้สกึ อย่างไร
เกิดขึ ้นในใจของเธอ
แต่ในขณะนี ้ หลินหมิงไม่สามารถรู้ถงึ ความคิดของผู้อื่นได้ เขาได้ มาถึงศูนย์กลางแห่งจิตสังหาร
แล้ ว
ทันทีที่เขาเข้ ามาในพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงผู้ทดสอบคนอื่นๆที่อยูร่ อบตัวเขาต่างก็หายวับ
ออกไป เหลือเพียงแต่เขาคนเดียวเท่านัน้
เขาโผล่เข้ ามาในโลกที่มืดมิด ท้ องฟ้าที่ดํามืดถูกทําให้ เจิดจ้ าโดยดาวบนท้ องฟ้า และเบื ้องหน้ าที่
ไม่ไกลจากเขามากนัก ก็มีเงาดําทมิฬที่คอ่ ยๆก่อเกิดเป็ นร่างจริ งๆขึ ้นมา มันเป็ นนักรบที่ถือ
พลองไว้ ในมือ
“งันเจ้
้ าก็คือคูต่ อ่ สู้ของข้ าสินะ” เขาประเมินว่าเงานัน่ น่าจะมีการฝึ กฝนขันที
้ ่สอง เหมือนๆกับ
เขา
ชายผู้คมุ คนนันเคยพู
้ ดเอาไว้ นี่นะ ว่าระดับพลังของคูต่ อ่ สู้จะขึ ้นกับอายุ ตอนนี ้หลินหมิงก็อายุ
15ปี กับอีก8เดือน ดังนันเจ้
้ านี ้ก็ต้องคงจะอยูใ่ นระดับการฝึ กฝนขันที ้ ่สอง แล้ วพวกที่อายุมากๆ
คนอื่นๆก็คงต้ องเจอกับอะไรที่ยากกว่านี ้แน่นอน
สําหรับเด็กอายุ15ปี แล้ ว หากสามารถจัดการเงาที่มีการฝึ กฝนขันที ้ ่สองไปได้ ก็จะถือว่าผ่านสินะ
หลินหมิงไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป ร่างกายที่วอ่ งไวของเขาพุง่ เข้ าหาเงานันอย่
้ างรวดเร็ วเหมือน
ดัง่ พยัคฆ์ ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ โคจรไปทัว่ ในร่างกายของเขา การโจมตีในครัง้ นี ้
สามารถปลิดชีวิตคนได้ ในคราเดียว!!!

บทที่ 39 พลังอํานาจที่ไม่อาจหยุดยัง้
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



ยังมีชนที
ั ้ ่สงู ขึ ้นไปบนพระมหาเจดีย์วจิ ิตรบรรจงรอเขาอยู่ เขาจะต้ องใช้ เวลาทุกวินาทีอย่าง
คุ้มค่ามากที่สดุ เพื่อที่จะคว้ าเอารางวัลอันดับหนึง่ มาเป็ นของเขา ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง!
ขณะที่หลินหมิงพุง่ ทะยานเข้ าไป เงาดํานัน่ ก็พยายามจะตังพลองขึ ้ ้นมาหมายจะป้องกันการจู่
โจมจากเขา แต่ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าอย่างสุดขัวของหลิ ้ นหมิง ก่อนที่เงาดําจะทันได้ ตงตั
ั้ ว
กําปั น้ ของหลินหมิงก็พงุ่ เข้ าใส่หน้ าอกของเงาดํานัน่ เสียแล้ ว
“เพล้ ง”
เลือดพวยพุง่ ออกมาจากอกของเงาดํานัน่ และก็ล้มลงสิ ้นใจในที่สดุ
หลินหมิงผ่านด่านแรกได้ ไปอย่างง่ายดาย มันก็แน่อยูแ่ ล้ ว พลังของหลินหมิงในตอนนี ้สามารถ
เอาชนะผู้ที่มีการฝึ กฝนอยูใ่ นขันเดี
้ ยวกันได้ อย่างง่ายดาย
จากนันเขาก็
้ รีบขึ ้นไปที่ชนสอง
ั้
ในชันนี
้ ้ก็ยงั คงมีบรรยากาศมืดสลัวเช่นเดียวกับชันล่
้ าง ตรงหน้ าของเขาในตอนนี ้ปรากฏปี ศาจดุ
ร้ ายท่าทางน่ากลัวขึ ้นมา
“ปี ศาจร้ ายระดับหนึง่ อย่างนันรึ
้ ”
ปี ศาจระดับหนึง่ นันถ้
้ าจะให้ เทียบกับมนุษย์ก็คงจะมีฝีมือเทียบได้ กบั ผู้ฝึกฝนขันสาม
้ ปี ศาจตัวนี ้
มีเขาเดียว พลังของมันค่อนข้ างจะน้ อยหากเทียบกับปี ศาจตนอื่นๆ อาจจะเทียบได้ กบั ผู้ที่อยู่
จุดสูงสุดในการฝึ กฝนขันที
้ ่สองหรื อผู้ที่พงึ่ จะถึงข้ ามไปขันที
้ ่สามก็ได้
ถึงแม้ วา่ พละกําลังของมันจะอยูใ่ นระดับปกติ แต่ด้วยพลังป้องกันที่แข็งแกร่งอันเนื่องมาจาก
ผิวหนังปี ศาจของมัน ก็ถือได้ วา่ มันแข็งแกร่งมาก อาจจะต้ องใช้ เวลานานระดับหนึง่ เพื่อที่จะ
เอาชนะมันให้ ได้
หลินหมิงรู้วา่ เขาควรเสียเวลาและพละกําลังให้ น้อยที่สดุ เพื่อที่จะผ่านแต่ละชันขึ
้ ้นไป หลินหมิง
ขยับมือเบาๆทันใดนันก็ ้ เห็นมีดเล่มหนึง่ ก็ปรากฏอยูใ่ นฝ่ ามือของเขา หลินหมิงจินตนาการถึง
โครงสร้ างร่างกาย จุดสําคัญต่างๆ เพื่อหาจุดอ่อนของมัน
ข้ อได้ เปรี ยบของหลินหมิงคือความคุ้นเคยกับจุดอ่อนของปี ศาจเหล่านี ้(ก็แน่หละ ผ่าเนื ้อมันอยู่
ทุกวัน)
ทันใดนัน่ ปี ศาจก็คํารามขึ ้นมาอย่างโกรธเกรี ย้ ว มันพุง่ ตรงเข้ ามาหาหลินหมิงอย่างไม่ลงั เล
แม้ วา่ นี่จะเป็ นเพียงส่วนหนึง่ ของความฝั นก็ตามแต่หลินหมิงก็ร้ ูสกึ ถึงแรงสัน่ สะเทือนนี ้ได้ อย่าง
ชัดเจน
อาคมภาพลวงตา ไม่เหมือนกับ อาคมแห่งจิตสังหาร เพราะ อาคมภาพลวงตานันไม่ ้ สามารถ
ฆ่าคนได้ จริ งๆ มันทําได้ เพียงแค่ทําให้ คนหวาดกลัวเท่านัน้ ตราบใดที่ยงั มีสติมนั่ คง มันก็สยู
สลายหายไปในที่สดุ แต่กบั อาคมแห่งจิตสังหารแล้ ว มันต่างกันอย่างสิ ้นเชิง หากพวกเขาถูกฆ่า
ตายในนี ้ ก็อาจตายได้ ในชีวิตจริ ง
ขณะที่เขามองดูปีศาจเขาเดียวที่พงุ่ ตรงมาหาเขา หลินหมิงก็พงุ่ ตัวหลบไปด้ านข้ าง การกระโดด
หลบของเขาค่อนข้ างจะแปลกๆ คือไหล่ของเขาแทบจะแตะสัมผัสกับพื ้น ในขณะที่ปีศาจพุง่
ผ่านเขามา หลินหมิงก็ใช้ มือทุบลงกับพื ้นเพื่อให้ ร่างของเขา เปลี่ยนทิศทางไปหาปี ศาจตนนันอี
้ ก
ครัง้
เขาเงื ้อมมือขึ ้นและใช้ มีดแทงลงบนท้ องของมัน
“ฉึก”
มีดปั กลงไปที่กลางท้ องของปี ศาจอย่างแม่นยํา มันเป็ นที่ๆไม่มีผิวหนังที่แข็งแกร่งคอยคุ้มกันอยู่
และมันยังเป็ นจุดศูนย์กลางของเส้ นเลือดใหญ่อีกด้ วย
ในขณะที่มีดได้ เสียบอยูท่ ี่ท้องของมัน เลือดก็ได้ พงุ่ กระเส็นออกมาเหมือนท่อนํ ้าแตก ปี ศาจตน
นันร้
้ องโอดครวญด้ วยความเจ็บปวดทรมานและกลิ ้งลงไปดิ ้นกับพื ้นอย่างทุรนทุราย
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของเขาสําเร็จ หลินหมิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาคิดว่าภาพลวง
ตาแห่งพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงแห่งนี ้กับความจริ งบนโลกแทบจะเป็ นสิ่งเดียวกัน
โครงสร้ างของมันเหมือนกับตัวจริ งไม่มีผิด บางทีอาจจะเป็ นเพราะว่ามีวิญญาณของปี ศาจเขา
เดียวสถิตอยูจ่ ริ งๆก็เป็ นได้
หลังจากนัน่ หลินหมิงก็ดงึ มีดออกมาและเขาเก็บมีดไว้ กบั ตัวแทนที่จะใช้ มนั แทงต่อ ถึงแม้ วา่ การ
จะฆ่ามันในตอนนี ้จะไม่ยากแล้ วก็ตาม แต่เขาต้ องการจะเก็บพลังงานเอาไว้ เพราะว่าต่อจากนี ้
ไปจะไม่มีเวลาใดใดให้ เขาได้ พกั อีกแล้ ว
เมื่อเส้ นเลือดใหญ่ถกู ตัดขาด เจ้ าปี ศาจเขาเดียวก็เสียเลือดเพิ่มมากขึ ้นเรื่ อยๆ มันขยับเขยื ้อน
อย่างทุกข์ทรมาน หลินหมิงแทงมันซํ ้าอีกรอบ เขาได้ แทงมีดลงไปที่เส้ นเลือดใหญ่อีกครัง้ หนึง่
การต่อสู้ในชันนี้ ้ได้ จบลงแล้ ว ตอนนี ้ก็ถงึ เวลาพักของเขา ปี ศาจเขาเดียวได้ พา่ ยแพ้ ให้ แก่หลินห
มิงแล้ ว ที่มนั ต้ องทําก็แค่นอนรอความตายเท่านัน้
ผ่านไปไม่นานปี ศาจตนนันก็
้ สิ ้นใจลงในที่สดุ หลินหมิงได้ เข้ ามาสูช่ นที
ั ้ ่สามแล้ ว
“โฮ่…มีคนไปได้ ถงึ ชันสามแล้
้ วรึ” ด้ านนอกของพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง ผู้เฒ่าทังหลายได้

เห็นแสงที่เปล่งขึ ้นมาจากสัญลักษณ์ในชันนี้ ่สาม มันหมายความว่ามีใครซักคนในกลุม่ ผู้
ทดสอบผ่านเข้ าไปถึงชันที้ ่สามแล้ ว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ วา่ เขาคนนันเป็
้ นใคร
“นัน่ ต้ องเป็ นหวังยานเฟิ งเป็ นแน่ เขาเป็ นคนที่มีพรสวรรค์สงู ที่สดุ ในหมูเ่ ด็กรุ่นเดียวกัน สําหรับ
หลินหมิงที่มีเพียงพละกําลังที่มากกว่าคนปกตินิดหน่อยไม่มีทางขึ ้นไปถึงชันสามได้ ้ แน่ ในด้ าน
ทดสอบนี ้ไม่เพียงพละกําลังที่สําคัญ ทังประสบการณ์
้ ความเร็ ว ทักษะ เทคนิค ต่างก็สาํ คัญไม่
แพ้ กนั ”
“ผู้ทดสอบส่วนใหญ่ก็หวังเพียงจะผ่านชันแรกไปให้
้ ได้ เท่านันสิ
้ นะ แต่หวังยานเฟิ งสามารถผ่าน
้ ่สามได้ แล้ วรึ น่าประทับใจเสียจริ ง”
ไปถึงชันที
ขณะที่ผ้ เู ฒ่ากําลังสนทนากันอยู่ ก็มีอีกคนแสงหนึง่ เปล่งขึ ้นมาในชันที
้ ่สาม ในตอนนี ้มีคนไปถึง
ชันที
้ ่สามแล้ วถึงสองคน เขาช้ ากว่าหลินหมิงเพียงเล็กน้ อย เขาก็คือหวังยานเฟิ ง
หวังยานเฟิ งและหลินหมิงต่างก็มีอายุเท่ากัน ดังนันศั
้ ตรูที่เจอในชันที
้ ่สองก็จะเป็ นตัวเดียวกัน
นัน่ ก็คือ ปี ศาจเขาเดียวนัน่ เอง
หวังยานเฟิ งฝึ กฝนไปถึงขันที
้ ่สามแล้ ว แถมยังมีพละกําลังยังมากกว่าเด็กในรุ่นเดียวกันซะอีก
ไม่แปลกที่ปีศาจนัน่ จะไม่ใช่คมู่ ือของเขา แต่เนื่องจากเขาใช้ มือเปล่าต่อสู้ตรงๆ ทําให้ หวังยาน
เฟิ งต้ องสูญเสียกําลังไปบางส่วนในการเอาชนะผิวหนังอันแข็งแกร่งของปี ศาจเขาเดียว
ไม่มีการหยุดพักใดใดในพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง ทันทีที่เอาชนะศัตรูได้ ผ้ ทู ดสอบก็จะถูกย้ าย
ขึ ้นไปชันต่
้ อไปในทันที (ที่หลินหมิงพักคือแทงปี ศาจจนพิการ แต่ยงั ไม่ให้ มนั ตายจึงยังไม่ถกู ย้ าย
ไปชันต่
้ อไป ระหว่างที่มนั ค่อยๆตายอย่างช้ าๆเขาก็ได้ พกั ผ่อนเล็กน้ อย)
ในชันที
้ ่สามหวังยานเฟิ งได้ เผชิญหน้ ากับ เงาดําสองคนที่ถือดาบยาวเอาไว้ เงาดําทังสองต่
้ างก็
มีการฝึ กฝนในขันที
้ ่สามทังคู
้ ่
หวังยานเฟิ งขบฟั นแน่นแต่ก็ยงั คงอยูใ่ นท่าทีที่สงบนิ่ง เขาน่าจะสามารถจัดการเงาสองตัวนันได้

อย่างง่ายดายหากเขามีสภาพพร้ อมเต็มร้ อย ในตอนนี ้ที่เขาสูญเสียกําลังบางส่วนไปในชันที ้ ่สอง
เขากําลังวางแผนว่าจะเอาชนะพวกมันอย่างไรโดยใช้ กําลังให้ น้อยที่สดุ หากไม่ทําเช่นนี ้เขาอาจ
ไม่เหลือกําลังเพื่อใช้ ตอ่ สู้ในชันที
้ ่สเี่ ป็ นแน่
เขาต้ องเอาชนะมันให้ เร็วที่สดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้ เขารวบรวมพลังที่ไหลเวียนในร่างกายของเขา
และเตรี ยมใช้ พลังที่ถกู สืบทอดในตระกูลของเขา ‘สัจธรรมเก้ าวิถี’

ในเวลานี ้หลินหมิงเองก็ได้ เผชิญหน้ ากับเงาดําสองตัวที่มีการฝึ กฝนขันที
้ ่สาม
การฝึ กฝนขันที
้ ่สามเป็ นการฝึ กอวัยวะภายใน เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะต้ องเจอศัตรูที่มีการฝึ กฝน
ขันที
้ ่สามพร้ อมกันถึงสองตน ถ้ าเป็ นเช่นนี ้ ไม่ต้องคิดถึงชันที
้ ่สแี่ ละชันที
้ ่ห้าเลยว่าเขาจะต้ องพบ
กับศัตรูระดับใด ในตอนนี ้เขาไม่แปลกใจแม้ แต่น้อย เหตุใดชายคนนันถึ
้ งได้ มนั่ ใจว่าจะไม่มีใคร
ผ่านไปถึงที่ชนห้
ั ้ าได้
ขณะที่หลินหมิงกําลังโคจร ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ เงาทังสองตั ้ วนันก็
้ ยงั ไม่ได้ ขยับ
เคลื่อนไหวใดใด ทําให้ เขารู้สกึ ยินดีที่จะได้ พกั อีกซักเล็กน้ อย แม้ วา่ ที่ผ่านมาเขาจะยังไม่ได้ ใช้
กําลังไปมากนักก็ตาม
แต่ทนั ใดนันเงาสองตั
้ วนัน่ ก็พงุ่ ตัวเข้ ามาหาเขาอย่างพร้ อมเพียงจากทังสองด้้ าน ตัวหนึง่ พุง่ เข้ า
มาทางด้ านซ้ าย และอีกตัวเข้ ามาทางด้ านขวา แต่พวกมันทังคู ้ เ่ ปี่ ยมด้ วยจิตสังหารอันแรงกล้ า
เงาทังสองตั
้ วนี ้มีความว่องไวและเข้ าขากันได้ ดีอย่างไม่น่าเชื่อ การเคลื่อนผสานงานขอพวกงมัน
อย่างกับว่าเป็ นนักรบคูใ่ จที่ร่วมรบด้ วยกันมายาวนานหลายปี เงาร่างหนึง่ พุง่ มาเร็ วกว่าเงาอีก
ตัวเล็กน้ อย มันฟั นลงไปที่บริ เวณเข่าของเขา บังคับให้ หลินหมิงต้ องกระโดดหลบการโจมตีนนั ้
เงาอีกตัวก็ใช้ ประโยชน์จากการที่หลินหมิงกระโดดลอยขึ ้นมาอยูก่ ลางอากาศ แทงดาบอันคม
กริ บเข้ าไปที่หน้ าอกของหลินหมิง
“ฝั นไปเถอะ”
หลินหมิงพึมพําเบาๆ ก่อนจะใช้ เท้ าเตะเข้ าไปที่ข้อมือของเงาตัวนัน้ “กร๊ อบบบ” ข้ อมือของเงา
ดําหักเสียดังด้ วยการเตะอันรุนแรงของเขา
แต่ถงึ อย่างนัน้ พวกเงาต่างก็ไม่ร้ ูสกึ เจ็บใดใด เงาดํานัน่ สะบัดข้ อมือเล็กน้ อยก่อนจะเข้ าโจมตี
หลินหมิงอีกครัง้ ทุกๆครัง้ ที่มนั โจมตี มันจะเผยช่องโหว่ เงาพวกนี ้มันทําได้ แค่โจมตีสินะ มันไม่
คิดจะป้องกันหรื อถอยไปตังหลั ้ ก นี่เป็ นการต่อสู้โดยการเอาชีวิตเข้ าแลกชัดๆ
เมื่อได้ เห็นศัตรูที่ใช้ ชีวิตเข้ าแลกเช่นนี ้ เขาก็ได้ โคจรพลัง ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ อย่างเต็ม
กําลัง เขาปล่อยหมัดเข้ าปะทะกับฝ่ ามือของเงาดําเข้ าอย่างจังๆ
“กร๊ อบบ” เงาดํากระเด็นถอยออกไปพร้ อมกับเลือดที่พงุ่ ออกมาจากปาก
ในตอนนี ้พลังของหลินหมิงมีแต่จะเพิ่มมากขึ ้น มันควรจะเป็ นเรื่ องง่ายมากที่เขาจะจัดการกับ
เงาพวกนันโดยไร้
้ การบาดเจ็บใดใด แต่มนั ก็ไม่เป็ นเช่นนัน้ แม้ เงาทังสองตั
้ วนี ้จะมิได้ เก่งกาจใน
ระดับสุดยอดแต่ก็ไม่ได้ ออ่ นแอเช่นกัน ด้ วยการโจมตีทีผสานกันได้ อย่างสมบูรณ์ และการต่อสู้
แบบเอาชีวิตเข้ าแลกแล้ ว ทําให้ เป็ นเรื่องยากที่จะเอาชนะพวกมันได้ นี ้เป็ นเพียงแค่ชนที
ั ้ ่สาม
หากจะให้ มนั่ ใจว่าเขาจะได้ เป็ นอันดับหนึง่ เขาควรจะไปให้ ได้ ถงึ ชันที
้ ่ห้าเทียบเท่ากับฉินชิงหวน
แม้ วา่ สมองของเขาจะคิดเรื่ องนันอยู
้ ่ แต่ร่างกายหลินหมิงก็ไม่ได้ ชะงักลงแม้ แต้ เสี่ยววินาที เขา
ถอยออกจากแรงกระแทกเมื่อครู่ ในขณะที่เงานันได้ ้ รับบาดเจ็บ เขาได้ สง่ หมัดตรงไปยังหน้ า
ของเงานันอี
้ กครัง้
ในตอนนี ้ เงาอีกตัวหนึง่ ก็พงุ่ เข้ ามาขวางไว้ มันเหวี่ยงดาบหมายจะปลิดชีพของเขา
“หึ…ทีนี ้ก็ถงึ คราวของแกบ้ าง ตายซะเถอะ”
การออกหมัดของหลินหมิงเป็ นเพียงแค่การหลอกล่อเท่านัน้ เขาชักมีดออกมาฟั นปะทะกับดาบ
ของเงาตัวนัน่
“เพล้ งงง” สะเก็ดไฟกระเด็นออกมาจากดาบและมีดที่ปะทะกันอย่างรุนแรง
ขณะที่มีดและดาบกระทบกันอยู่ หลินหมิงไม่ได้ ก้าวถอยหลังไปแม้ แต่น้อย นี่เป็ นผลจากพลังใน
ตัวหลินหมิงอย่างนันหรื
้ อ
“ตายด้ วยมือข้ าซะเถอะ” หลังจากที่ปัดดาบของเงาออกไป หลินหมิงชกไปที่อกของเงานัน้
อย่างรุนแรง
“กร๊ อบบบ” ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี ้ต้ องเป็ นเสียงหักของกระดูกซี่โครงแน่ๆ เป็ นบริ เวณที่อยูข่ อง
หัวใจของมัน เป็ นจุดตายของเงาพวกนัน้
หลังจากที่กําจัดเงาตัวหนึง่ ไปได้ แล้ ว หลินหมิงมองไปที่เงาอีกตนที่เขาชกใส่มือของมันไปก่อน
หน้ านี ้ เขาเตะไปที่ขาของเงานันอย่
้ างรุนแรง และปิ ดท้ อยด้ วยการแทงมีดลงไปบนหัวใจของมัน
ชันที
้ ่สาม ผ่าน!!!
ณ ด้ านนอกของพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง เหล่าผู้เฒ่าได้ เห็นแสงชันที
้ ่เปล่งขึ ้นมาบนชันที
้ ่สี่
หนึง่ ในพวกเขาพูดขึ ้นอย่างประหลาดใจ “โอ้ ว ผู้เข้ าทดสอบในครัง้ นี ้เยี่ยมยอดยิ่งนัก หนึง่ ใน
พวกเขาสามารถผ่านไปถึงชันที
้ ่สี่ได้ โดยใช้ เวลาเพียงธูปครึ่งก้ านเท่านันจริ
้ งๆหรื อนี ้!!!”

บทที่ 40 ทะลวงเข้ าสูช่ นที


ั ้ ่4
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



ภายนอกพระมหาเจดีย์วจิ ิตรบรรจง เหล่าผู้อาวุโสมองเห็นแสงจากชัน4สว่
้ างวาบขึ ้นมา พวก
เขาเริ่ มผวาอย่างตกใจ “โอ้ วพระเจ้ า มีผ้ เู ข้ าทดสอบไปถึงชันที
้ ่4ได้ โดยใช้ เวลาเพียงแค่ธูปครึ่ง
ดอก!!”
“หวังยานเฟิ ง เขาไม่ธรรมดาจริ งๆ” เหล่าผู้อาวุโสได้ คาดการณ์ไว้ แล้ วว่าในที่สดุ หวังยานเฟิ ง
้ ่4 แต่พวกเขาไม่คิดว่ามันจะเร็วถึงเพียงนี ้ “หากเขาผ่าน3ชันแรกได้
จะต้ องขึ ้นไปถึงชันที ้ ด้วย
ความเร็ วระดับนี ้ หวังยานเฟิ งอาจจะสามารถผ่านชันที ้ ่4ขึ ้นไปถึงชันที
้ ่5เลยก็เป็ นได้ เดิมทีข้าคิด
ว่าการไปถึงชันที
้ ่5ไม่มีทางเป็ นไม่ได้ สําหรับผู้เข้ าทดสอบในปี นี ้ แต่หากเขาผ่าน3ชันแรงมาได้

เร็ วขนาดนี ้มันก็ไม่แน่ แม้ จะผ่านไปถึงชัน5ไม่
้ ได้ ก็น่าภูมิใจแล้ วที่เขามาได้ ไกลขนาดนี ้!!”
“ข้ าไม่คิดเลยว่า หลินหมิงกับเหลียนตีซานจะมาได้ ถงึ ขันนี
้ ้ ผลการทดสอบของทังสองคนถื
้ อว่า
ดีทีเดียว” เหลียนตีซานคือชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงกํายํา มีพละกําลังแห่งประเจ้ าแต่กําเนิด เขา
เองก็มีอายุ15ปี เช่นกัน
แต่ถงึ อย่างไรก็ตาม ในสายตาเหล่าผู้อาวุโส หากนําผู้มีพละกําลังแห่งพระเจ้ าทังสองคนนี
้ ้ไป
เทียบกับหวังยานเฟิ ง อัจฉริ ยะอย่างหวังยานเฟิ งก็ยงั อยูเ่ หนือกว่าพวกเขาอีกหลายขุม
ถึงหลินหมิงจะมีพละกําลังแห่งพระเจ้ าก็จริ ง แต่เขามีการฝึ กฝนเพียงขันที ้ ่สองเท่านัน้ สําหรับ
หวังยานเฟิ งเขาฝึ กฝนไปถึงขันที
้ ่สามแล้ ว เมื่อเข้ าฝึ กฝนถึงขันที
้ ่สามแล้ ว ร่างกายจะเปลี่ยนไป
เล็กน้ อย คือ การที่อวัยวะภายในมีพลังปราณไหลเวียนอยู่ หัวใจและปอดจะแข็งแกร่งขึ ้น ระบบ
การหายใจจะดีขึ ้น และความทนทานของร่างกายจะสูงกว่าผู้ที่ฝึกฝนขึ ้นที่สองมากถึงสองเท่า
หวังยานเฟิ่ งมีเทคนิคการฝึ กฝนบ่มเพาะพลังที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย มีเพียงเรื่ อง
พละกําลังเท่านันที
้ ่เขาเป็ นรองหลินหมิง และก็เป็ นรองเพียงแค่300จิ๋นเท่านัน้
สําหรับการทดสอบนี ้ หวังยานเฟิ งจะต้ องได้ อนั ดับ1อย่างแน่นอน
ในการทดสอบด่านสุดท้ ายสําคัญที่สดุ ถ้ าหวังยานเฟิ่ งได้ เป็ นอันดับ1ในการทดสอบด่าน
สุดท้ ายนี ้ จะทําให้ ผลการทดสอบของเขาอยูเ่ หนือหลินหมิง การทดสอบในสองรอบแรกมี
ความสําคัญเพียงแค่ใช้ เทียบหากในด้ านที่สามมีอนั ดับหนึง่ หลายคนเท่านัน้ หากเขาแซงหลินห
มิงได้ ในด่านนี ้เขาก็จะเป็ นอันดับ1ของการทดสอบและได้ ครอบครองรางวัล
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ข้างนอกกําลังคุยกันอยู่ หวังยานเฟิ งยังคงติดอยูใ่ นชันที
้ ่ 3 การจัดการ
นักรบเงาทัง2ตั
้ วพร้ อมกัน ไม่ใช้ งา่ ยสําหรับเขาเลย
หวังยานเฟิ งสูญเสียกําลังและปราณไปเยอะมากเพื่อที่จะกําจัดนักรบเงาตัวหนึง่ และเขายัง
ได้ รับบาดเจ็บอีกด้ วย
“บ้ าเอ้ ย! ทําไมมันถึงเป็ นเช่นนี ้ ข้ าใช้ พลังสัจธรรมเก้ าวิธี ซึง่ เป็ นวรยุทธลับที่สืบทอดกันมาใน
ตระกูลของข้ า ยังสามารถจัดการมันได้ เพียงแค่ตวั เดียวเองหรื อ โอกาสที่จะขึ ้นไปให้ ถงึ ชัน4ของ ้
ข้ าช่างริ บหรี่ เสียจริ ง”หวังยานเฟิ งพูดกับตัวเองอย่างเป็ นกังวล
หวังยานเฟิ งใช้ ปราณไปกว่า20%แล้ ว ในมิติแห่งนี ้ไม่อาจใช้ ยาสมุนไพรใดใดได้ ความหวังที่
เหลืออยูข่ องเขาก็คือการฝึ กฝนขันที
้ ่สามของเขาเท่านัน้

หวังยานเฟิ งเริ่ มกังวลเกี่ยวกับการใช้ พลังปราณของเขา หลินหมิงเองก็กําลังกังวลเรื่ องนี ้อยู่
เช่นกันเช่นกัน เป็ นเพราะอวัยวะภายในของเขานันไม่ ้ แกร่งเช่นเดียวกับหวังยานเฟิ ง เนื่องจาก
เขามีเพียงการฝึ กฝนในขันที ้ ่2 เขาจึงมีพลังปราณน้ อยมากหากจะเทียบกับผู้ที่ฝึกฝนไปถึงขึ ้นที่
สาม
โชคดีที่หลินหมิงมีมรดกวรยุทธ์ “ปฐมบทแห่งความโกลาหล” เขาได้ บรรลุในขันที ้ ่1แล้ ว
ในตอนนี ้มันได้ หลอมรวมเข้ ากับร่างกายของหลินหมิง ทําให้ เขาสามารถมีพลังปราณมากขึ ้น
ในขณะนี ้ เบื ้องหน้ าของหลินหมิงคือ หมีเกราะเงิน สัตย์ดรุ ้ ายระดับหนึง่ 2ตัว มันมีตวั หนึง่ ที่ดู
แข็งแกร่ง และอีกตัวหนึง่ ที่ดอู อ่ นแอกว่า ทังตั
้ วที่ออ่ นแอและแข็งแกร่ง
เจ้ าหมีเกราะเงินพวกนี ้ เทียบได้ กบั ผู้ฝึกฝนที่ไปถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สามเลยทีเดียว ทังยั
้ งมา
พร้ อมกันถึงสองตัว!!
หลินหมิงจริ งจังขึ ้นมาในทันที เขาไม่เคยสู้กบั ศัตรูที่อยูใ่ นระดับสูงเช่นนี ้มาก่อน หลินหมิงยังไม่
แน่ใจเลยว่าเขาจะจัดการมันได้ ซกั ตัวหรื อไม่ แต่ในขณะนี ้มีพวกมันอยูต่ รงหน้ าเขาถึง2ตัว
สิ่งที่สําคัญที่สดุ ก็คือ2อย่างนี ้ คือ 1.ต้ องใช้ ปราณอย่างคุ้มค่าที่สดุ 2.จะรับการโจมตีแม้ เพียง
ครัง้ เดียวไม่ได้ เด็ดขาด
หลินหมิงหายใจเข้ าลึกๆแล้ วนึกความทรงจําเกี่ยวกับหมีเกราะเงินทังหมดที
้ ่มีขึ ้นมา
การโจมตีของหมีเกราะเงินมีพละกําลังถึง5000จิ๋น แม้ มนั จะเคลื่อนที่ช้า แต่ทวั่ ร่างของมันมี
เกราะที่มีรูปร่างคล้ ายกระดูกหุ้มอยู่ การจะใช้ ดาบและหอกกําจัดมันนัน้ ต้ องใช้ เวลานานกว่าจะ
สามารถเจาะทะลุเกราะของมันได้
ยิ่งไปกว่านันเกราของพวกมั
้ นไม่มีจดุ อ่อนใดๆอยูเ่ ลย
แม้ วา่ สําหรับตัวเกราะแล้ วจะไม่มีจดุ อ่อนใด แต่สําหรับตัวหมีนนก็
ั ้ ยงั มีจดุ อ่อนอยูบ่ ้ าง!! จุดอ่อน
ของหมีพวกนี ้จะอยูท่ ี่รอยต่อของเกราะพวกนันและทั
้ งรอยต่
้ อเหล่านี ้ยังอยูใ่ นตําแหน่งที่เป็ นข้ อ
ต่ออีกด้ วย
รอยต่อของเกราะนันมั้ กจะอยูใ่ นตําแหน่งของข้ อต่อ จุดพวกนี ้มีช่องว่างอยูเ่ ล็กน้ อยบางและหา
ยากอย่างมาก ถ้ าหลินหมิงต้ องการจะจบศึกนี ้ให้ ไว เขาต้ องเพ่งสมาธิสํารวจร่างกายของพวก
มันให้ ดี และหาจังหวะในการลงมีดอย่างแม่นยําไปที่จดุ เหล่านี ้ มันจะทําให้ เขาจะมีโอกาสชนะ
เพิ่มมากขึ ้น
หลังจากเขาผสานเข้ ากับ “ปฐมบทแห่งความโกลาหล” แล้ ว การตัดสินใจและความแม่นยํา
ของเขา เพิ่มขึ ้นเป็ นอย่างเห็นได้ ชดั
“เมื่อ6เดือนก่อน จู้ยนั น่าจะสามารถรับมือกับเจ้ าหมีเกราะเงิน2ตัวนี ้ได้ อย่างง่ายดาย ไม่ต้อง
คิดเลยว่า ณ ตอนนี ้มันจะก้ าวหน้ าไปถึงไหนแล้ ว เขาจะมายอมแพ้ อยูต่ รงนี ้ไม่ได้ เด็ดขาด”
หลินหมิงจ้ องไปที่หมีเกราะเงินทังสองตั
้ ว และแผ่จิตสังหารออกมา
“โฮกกก!!!”
หมีเกราะเงินกระโดดพุง่ เข้ าหาหลินหมิงในทันที มันพยายามที่จะโจมตีหลินหมิงด้ วยอุ้งเท้ าที่
หนาและหนักของมัน หมีเกราะเงินมีนํ ้าหนักตัวกว่า1000จิ๋น บวกกับพละกําลังของมัน การ
โจมตีครัง้ นี ้สามารถล้ มช้ างได้ งา่ ยๆเลย
หลินหมิงเบิกตาให้ กว้ างขึ ้นโดยปราศจากความหวาดกลัว เขากลับตัวหลบหลีกในขณะที่หมีตวั
้ าลังพุง่ เข้ ามา พลางมองหาจุดอ่อนบนร่างของหมีเกราะเงิน… และแล้ วเขาก็พบกับรอยต่อ
นันกํ
ระหว่างตัวเกราะ2ชิ ้น เขาไม่รอช้ า หยิบมีดขึ ้นมาในทันที
“!!!”
ถึงมันเป็ นแค่มีดธรรมดา แต่หลินหมิงสามารถใช้ มนั ได้ อย่างเชี่ยวชาญ มีดเล่มนันเฉื
้ อนลงไป
ตรงช่องว่างของเกราะอย่างแม่นยํา
การเฉือนในครัง้ นี ้เกิดขึ ้นรวดเร็วมาก มีดได้ เฉือนลงไปบนเนื ้อของมันด้ วยความเร็ วสูง
ในขณะที่มีดเฉือนลงไปนี ้ ภายในเวลาเสี ้ยววินาทีนนั ้ เลือดพุง่ ออกมาสาดกระเซ็นไปทัว่
“โฮกกก!!!” หมีเกราะเงินเกิดอาการบ้ าเลือดขึ ้นมา มันพุง่ เข้ าใส่หลินหมิงอย่างไม่ลงั เล



“ผู้ทดสอบกว่า40คนจะสอบตกและ ประมาณ50คนจะสอบผ่าน ผลการทดสอบก็น่าจะออกมา
ประมาณนี ้ ผู้อาวุโสแห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ พดู พลางมองไปยังนักเรี ยนที่กระเด็นออกมาจาก พระ
มหาเจดีย์วิจิตรบรรจง
พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง7ชันนี
้ ้ได้ ถกู ตัดขาดกับโลกภาพนอกโดยสิ ้นเชิง ผู้อาวุโสที่ไม่ได้ เป็ นถึง
ระดับปราณปลายฟ้าจะมองไม่เห็นสิง่ ที่เกิดขึ ้นภายในที่แห่งนี ้ พวกเขาจะสามารถรับรู้ได้ ก็
ต่อเมื่อผู้เข้ าทดสอบตกรอบและกระเด็นออกมาจากชันที ้ ่พวกเขาไม่อาจก้ าวข้ ามผ่านไปได้
เท่านัน้
หากผู้เข้ าทดสอบคนใดกระเด็นออกมาจากชันแรกก็
้ จะถือว่าสอบตก และหากกระเด็นออกมา
จากชันที
้ ่2ขึ ้นไปก็จะถือว่าผ่านการทดสอบ
ผ่านไป15นาทีตงแต่
ั ้ การเหล่าผู้ทดสอบได้ เข้ ามาสูช่ นที
ั ้ ่1 ผู้ทดสอบหลายคนได้ ผ่านชันที
้ ่1ไป
นานแล้ ว บางคนก็ไปถึงชันที
้ ่3 และบางคนยังไปได้ จนถึงชันที ้ ่4
“ตอนนี ้มีผ้ ทู ดสอบอีกเพียงแค่5คนเท่านันที
้ ่ยงั อยูใ่ นพระมหาเจ…” ในเวลาเดียวกันกับที่ผ้ ู
อาวุโสท่านนี ้พูดออกมา ก็ได้ มีแสงที่เปล่งออกมาจากบนชัน3ของหอคอย7ชั
้ น้ มีผ้ ทู ดสอบ2คน
กระเด็นออกมา นันหมายความว่
้ าพวกเข้ าไม่สามารถผ่านชันที ้ ่3ได้
ผู้คมุ การทดสอบมุง่ หน้ าไปดูอาการของผู้เข้ าทดสอบที่หมดสติไป
ผู้เข้ าสอบทังสองคนนี
้ ้มีการฝึ กฝนถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สาม และพละพลังของทังคู ้ ม่ ีมากถึง
2300จิ๋น พวกเขามีอายุ17และ18ปี แต่กลับไม่สามารถผ่านชันที ้ ่3ไปได้ แต่ยงั ไงผลลัพธ์ก็ยงั เป็ น
ที่น่าพอใจ พวกเขาได้ เข้ าเป็ นศิษย์ในสํานัก!!
เมื่อ2คนนี ้กระเด็นออกมาจากหอคอย หลานยุนเยี่ยหันไปมองพวกเขาทันที แต่เมื่อพวกเขา
ไม่ใช่หลินหมิง เธอก็เลิกที่จะสนใจ
หลานยุน่ เยี่ยสังเกตว่าหลินหมิงไม่ได้ อยูใ่ นกลุม่ ของคนพวกนัน้ เมื่อแน่ใจแล้ วว่าหลินหมิงยัง
ไม่ได้ ถกู ส่งกลับออกมา นัน่ หมายความว่าหลินหมิงยังคงอยูใ่ นหอคอย7ชัน!! ้
หลินหมิง… หลานยุน่ เยี่ยเม้ มริ มฝี ปากเบาๆ พลางนึกถึงความทรงจําในอดีต
หลานยุน่ เยี่ยรู้วา่ หลินหมิงจะต้ องสอบผ่าน และอย่างน้ อยๆเขาก็ต้องขึ ้นไปถึงชันที
้ ่3
สําหรับชันที ้ ่3ในหอคอย7ชันนี
้ ้ถือว่าเป็ นเรื่ องที่น่าภูมิใจอย่างมาก ในประวัติของสํานักเจ็ดแก่น
แท้ นนั ้ ผู้ที่สามารถผ่านมาถึงชันที
้ ่3ได้ นนั ้ ซักวันหนึง่ พวกเขาก็จะสามารถฝึ กฝนไปจนถึงระดับที่
้ กรต่างนับถือ… การฝึ กฝนขันที
ทัว่ ทังอาณาจั ้ ่6 ผสานชีพจร!!!
สําหรับขันผสานชี
้ พจรแล้ ว อาณาจักรจะสนับสนุนพวกเขาเป็ นอย่างดี พวกเขาจะมีอาํ นาจพอๆ
กับเจ้ าหน้ าที่ของอาณาจักร หรื ออาจจะมากกว่านันเสี
้ ยอีก
มันเป็ นยศที่คอ่ นข้ างสูง! ในเมืองลิขิตฟ้า มันเป็ นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจและเป็ น
สัญลักษณ์ของชนชันสู ้ ง ด้ วยเกียรติยศนี ้สามารถทําให้ ทงครอบครั
ั้ วของพวกเขากลายเป็ นชน
ชันสู
้ งได้ และยังเป็ นที่น่าภาคภูมิใจของบรรพบุรุษอีกด้ วย
ลูกศิษย์อีกคนหนึง่ ได้ กระเด็นออกมาจากชันที
้ ่4
หมายความว่าหลินหมิงสามารถผ่านชันที
้ ่3ไปแล้ วอย่างนันหรื
้ อ!!
ชายหนุ่มรูปร่างสูงกํายําผู้นี ้คือ เหลียนตีซาน เขาได้ ทมุ่ เทอย่างสุดความสามารถและในที่สดุ เขา
ก็สามารถทะลวงผ่านชันที ้ ่3ไปได้ แต่ทว่าด้ วยบาดแผลของเขาทําให้ เหลียนตีซาน ต้ องพ่ายแพ้
ต่อสัตว์อสูรในชันที
้ ่4อย่างง่ายดาย
“เหลียนตีซานเป็ นผู้นี ้มีพรสวรรค์ เขาคูค่ วรต่อการสนับสนุนจากสํานัก”
“อืมม.. เขาก็ดแู ข็งแกร่งดี ในตอนนี ้เหลือผู้ทดสอบอีกเพียงแค่2คนเท่านัน้ หลินหมิง และ หวัง
ยานเฟิ ง”
“แม้ วา่ หลินหมิงจะยังคงต่อสู้อยูใ่ นตอนนี ้ แต่พลังของเขาก็พอๆกับเหลียนตีซาน เขาจะ
้ ่4ได้ อีกนานเท่าไรกัน…”
สามารถยื ้อเวลาอยูใ่ นชันที
“ข้ าว่าต่อให้ เป็ นหวังยานเฟิ งก็ไม่สามารถผ่านชันนี
้ ้ไปได้ อย่างแน่นอน”

“ฉูดด” ด้ วยการลงมีดเพียงครัง้ เดียว ขาของหมีเกราะเงินก็มีเลือดพุง่ ออกมาเป็ นสายนํ ้า
หลินหมิงกลิ ้งตัวหลบออกไปด้ านข้ างขณะที่หมีได้ พงุ่ สวนกับเขา
ในตอนนี ้ร่างของหมีเกราะเงินถูกอาบไปด้ วยเลือด พวกมันทังคู
้ ถ่ กู ฟั นในจุดอ่อนที่อยูร่ ะหว่าง
รอยต่อของเกราะ แม้ แผลจะไม่ใหญ่มาก แต่เลือดที่ไหลออกมาก็มากพอที่จะทําให้ พวกค่อยๆ
อ่อนแอลง
การเคลื่อนไหวของหมีเกราะเงินเชื่องช้ าลงอย่างเห็นได้ ชดั เนื่องจากการสูญเสียเลือดใน
ปริ มาณมาก
โอกาส!!
หลินหมิงวิ่งหลบไปรอบๆตัวหมี อาการเสียเลือดและความเหนื่อยล้ าทําให้ หมีไม่สามารถจับเขา
ได้ ทังยั
้ งทําให้ พวกมันสับสนและเปิ ดช่องว่างให้ เขาอีกด้ วย
“โฮกกกก!!” หมีเกราะเงินยืนขึ ้นแล้ วตบลงไปด้ วยอุ้งเท้ าที่หนักหน่วง แต่ในขณะที่หลินหมิง
หลบนันเขาก็
้ ได้ เสียบมีดลงไปบนดวงตาของหมีเกราะเงิน!!
เลือดสาดออกมาจากบาดแผล พร้ อมทังเสี
้ ยงคํารามที่โกรธเกรี ย้ วอย่างเจ็บปวด หลินหมิงกํา
หมัดแน่นและชกที่มีดบนดวงตาของมัน ทําให้ มีดเล่มนันฝั
้ งทะลุลงไปถึงสมองของมัน!!
เขากําจัดหมีเกราะเงินตัวแรกได้ แล้ ว!!
บทที่ 41 ชันที
้ ่ห้าแห่งพระมหาเจดีย์วจิ ิตรบรรจง
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



“เวลาพึง่ จะผ่านมาได้ เพียงครึ่งชัว่ โมงเท่านัน”
้ ผู้เฒ่าพูดพร้ อมกับแสดงสีหน้ าประหลาดใจ
ขณะที่มองไปยังนาฬิกาทราย
“มีผ้ ทู ดสอบถึง2คนที่สามารถขึ ้นไปถึงชันที
้ ่4ได้ โดยใช้ เวลาเพียงแค่นน”
ั้
ด้ านนอกของพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง แสงที่บง่ บอกถึงผู้ทดสอบในชันที ้ ่1ถึง3ได้ ดบั ลง
หมดแล้ ว เหลือแต่เพียงแสงไฟจากชันที้ ่4เท่านันที
้ ่ยงั คงส่องสว่างอยูอ่ ีก2ดวง มันเป็ นหลักฐาน
ว่ามีคน2คนกําลังทดสอบอยูบ่ นที่ชนที
ั ้ ่4
“นี่มนั ชักจะน่าสนใจมากขึ ้นเรื่ อยๆซะแล้ ว เดิมทีข้าก็คิดว่าจะมีแต่หวังยานเฟิ งคนเดียวเท่านัน้
ที่จะสามารถทําได้ ถงึ ขันนี
้ ้ แต่หลินหมิงเองกลับสามารถทําได้ เช่นกัน เขาที่มีพรสวรรค์เพียงแค่
ระดับ3และพึง่ จะฝึ กฝนถึงขันที
้ ่2 แม้ วะจะมีพละกําลังแห่งพระเจ้ ามาแต่กําเนิด มันก็ไม่งา่ ยเลย
ที่จะผ่านไปถึงด่านที่4ได้ ” ผู้เฒ่าพูดคุยขณะลูบเคราของตนเอง พลังของหลินหมิงนันดู
้ แปลก
พิกล เขาไม่สามารถอธิบายได้ เลยว่าทําไมถึงเป็ นเช่นนี ้ได้
แต่มยู ี่ก็ได้ พดู ขึ ้นมา “ท่านซัน ในบางครัง้ บางสิ่งบางอย่างก็ไม่สามารถจะอธิบายหรื อ
คาดการณ์ได้ ในการทดสอบที่ผ่านๆมาเองก็มิอาจประเมินพรสวรรค์ได้ เช่นกัน ”
มูย่ ี่ไม่ได้ บอกใครว่าหลินหมิงนันมี
้ พลังลึกลับที่ช่วยหนุนหลังเขาอยู่ พลังที่ทําให้ เขาสามารถ
เข้ าใจระดับปราณปลายฟ้า พลังที่ตกทอดมาตังแต่ ้ บรรพกาลและซับซ้ อนเกินกว่าที่มนุษย์จะ
เข้ าใจได้
“อืมมม…ท่านมูยี่กล่าวได้ ถกู ต้ องยิ่งนัก การต้ อสู้ของเขาโดดเด่น แต่อย่างไรการฝึ กฝนของเขา
ก็ยงั อยูเ่ พียงขันที้ ่สอง ทักษะที่เขาก็ยงั เป็ นทักษะธรรมดา แม้ วา่ เขาจะสามารถใช้ มนั เผชิญหน้ า
กับคูต่ อ่ สู้ที่เก่งกาจกว่าบางได้ แต่มนั ก็ยอ่ มต้ องมีขีดจํากัดของมัน เหมือนที่เขาว่ากันว่า แม้
พละกําลังอันมหาศาลจะสามารถต่อกรกับหลากหลายกระบวนท่าได้ แต่เพียงกระบวนท่าเดียว
ก็สามารถเอาชนะผู้มีพละกําลังมหาศาลได้ เช่นกัน”
มูยี่ยิ ้มเล็กน้ อยก่อนพูดต่อ “เชิญท่านซันดูผลของการทดสอบต่อไปด้ วยสายตาของท่านเอง”

ขณะที่พวกเขากําลังพูดคุยกันอยูห่ วังยานเฟิ งก็กําลังต่อสู้อยูบ่ นชันที
้ ่4 การฝึ กฝนของเขาก็ยงั อยู่
ที่ขน3ต้
ั ้ นๆ แต่เขาก็สามารถรับมือกับศัตรูที่อยูใ่ นขัน3ปลายๆได้
้ แต่ถงึ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี ้
เขาต้ องเผชิญกับหมีห้ มุ เกราะที่ดเู หมือนว่าพวกมันจะอยูใ่ นขัน3ปลายๆ
้ พร้ อมกันถึงสองตัว
ถึงแม้ วา่ มันจะแสดงท่าทีที่น่ารักออกมา แต่การโจมตีและกลยุทธ์ที่มนั ใช้ กลับเข้ ากันได้ เป็ น
อย่างดี พละกําลังของมันมีมากมายมหาศาล และด้ วยการป้องกันที่แข็งแกร่งของมัน ทําให้ ยาก
ที่จะเอาชนะได้
ถึงแม้ วา่ ตอนนี ้เขาจะมีเพียงบาดแผลขีดข่วนเล็กน้ อย แต่เหมือนว่าโชคชะตาจะกําหนดให้ ใน
อนาคตอันใกล้ ของเขาจะต้ องถูกฉีกเป็ นชิ ้นๆยังไงยังงัน้
ไม่นานต่อจากนัน้ เขาพยายามใช้ วรยุทธที่ตกทอดมาจากตระกูลของเขาไปถึงสามครัง้ ในที่สดุ
เขาก็สามารถล้ มหมีห้ มุ เกราะลงได้ หนึง่ ตัว แต่ในขณะนี ้พลังของเขาก็ใกล้ จะถึงขีดจํากัดแล้ ว
และดูเหมือนหมีห้ มุ เกราะที่ยงั เหลืออยูอ่ ีกตัวก็จะสามารถรับมือกับพลังจากวรยุทธแห่งตระกูล
ของเขาได้ แล้ วด้ วย
หมีที่ยงั เหลืออยูอ่ ีกตัวพุ่งเข้ ามาหาเขา หวังยานเฟิ งคํารามออกมาขณะที่กระโดดขึ ้นไปด้ านบน
เขากําดาบไว้ แน่นพร้ อมกับแทงเข้ าไปที่ปากของมันอย่างรวดเร็ ว
ร่างหมีทงตั
ั ้ วนันหุ
้ ้ มไปด้ วยเกราะ จุดอ่อนสองตําแหน่งที่พอจะเห็นได้ ก็แค่ที่ตาและปากของมัน
เท่านัน้
ดาบของหวังยานเฟิ งแทงทะลุผ่านคอของหมีลงไป แต่ในเวลาเดียวกันข้ อมือของเขาก็ถกู มันกัด
เข้ าเหมือนกัน
“ฮ๊ ากกก” หมีห้ มุ เกราะได้ ใช้ อ้ งุ เท้ าตบลงไปที่หน้ าอกของหวังยานเฟิ งด้ วยความโกรธเกรี ย้ ว
เหมือนกับว่าเขาถูกหวดด้ วยค้ อนปอนยักษ์ ยงั ไงยังงัน้ มันสะเทือนไปถึงอวัยวะภายในของเขา
หวังยานเฟิ งถูกตบกระเด็นไปข้ างหลังและกระแทกเข้ ากับพื ้นเหมือนไก่ปีกหัก เขาพยายามจะ
ลุกขึ ้นมาอย่างทุลกั ทุเล ทังตั
้ วของเขาชุ่มไปด้ วยเลือด เลือดของเขาผสมเข้ าไปกับเศษเนื ้อของ
เขาด้ วย ซึง่ เศษเนื ้อพวกนันก็
้ มาจากอวัยวะภายในของเขานันเอง ้
“แม้ วา่ ข้ าจะฝึ กอวัยวะภายใน จนสามารถที่จะใช้ พลังปราณหุ้มป้องกันไว้ แล้ ว แต่ด้วย
้ …”
พละกําลังในการตบที่รุนแรงของมันสามารถทําให้ ข้าถึงได้ ได้ เลยงันรึ
ถึงแม้ วา่ หวังยานเฟิ งจะบาดเจ็บอย่างหนักและใกล้ จะสิ ้นใจลงแล้ ว ทว่าสภาพของหมีห้ มุ เกราะ
ก็ไม่ได้ ดีไปกว่าเขานัก ลําคอของมันถูกแทง และพลังชีวิตของมันก็กําลังค่อยๆลดลง จนในที่สดุ
มันก็จะตายลง ซึง่ การต่อสู้ของพวกเขาต่อจากนี ้ล้ วนขึ ้นอยูก่ บั เวลาว่าใครจะตายก่อนกัน
หวังยานเฟิ งกระอักเลือดออกมาจากปาก “ข้ าจะต้ องผ่านชันสี้ ่ไปให้ ได้ …ข้ าต้ องการเป็ นอันดับ
หนึง่ หากข้ าสามารถผ่านชันที
้ ่สี่ไปได้ ฐานะของข้ าในตระกูลก็จะต้ องสูงขึ ้นอย่างแน่นอน ถึงข้ า
จะไม่ใช่ลกู คนโตที่สดุ แต่ข้าก็มีโอกาส…โอกาสที่จะได้ เป็ นผู้นําตระกูลคนต่อไป ข้ าจะได้ เอาคือ
้ พวกตาแก่ที่วนั ๆเอาแต่หาเรื่ องพ่อของข้ า”
ไอ้ แก่พวกนันซะ
ขณที่เขากําลังคิดเรื่ องเหล่านี ้ ใบหน้ าของเขาก็เต็มไปด้ วยความโกรธแค้ นและสีหน้ าเขาก็คอ่ ยๆ
หายไป
ขณะที่หวังยานเฟิ งกําลังต่อสู้อย่างเอาเป็ นเอาตาย เขาไม่ร้ ูเลยว่าหลินหมิงได้ ใช้ แผนหลอกล่อ
กับหมีห้ มุ เกราะที่ยงั เหลือรอดอยูอ่ ีกตัวหนึง่ และแทงเข้ าไปที่สมองของมัน ทําให้ เขาสามารถ
เอาชนะมันไปเรี ยบร้ อยแล้ ว
ชันที
้ ่สี่ ผ่าน !!!
หลินหมิงหายใจเข้ าลึกๆ ในที่สดุ เขาก็ผ่านมาถึงชันที
้ ่ห้าแล้ ว ที่นี่เป็ นด่านสุดท้ ายที่ฉินชิงหวน
เคยมาถึง ชันที
้ ่ชายวัยกลางคนคนนันบอกว่
้ าเป็ นไปไม่ได้ ที่จะมาถึงอย่างนันรึ ้

“คิดไม่ถงึ เลยว่าหลินหมิงจะสามารถขึ ้นไปได้ สงู ขนาดนัน…”้ ด้ านนอกของพระมหาเจดีย์
วิจิตรบรรจง ฉินชิงหวนมองไปยัง แสงจากชันที้ ่สี่ซงึ่ เปล่งออกมา และในใจของเธอรู้สกึ ตกใจ
อย่างมาก
เธอคาดการณ์เอาไว้ วา่ การที่หลินหมิงสามารถไปถึงชันที ้ ่สามได้ นนก็
ั ้ น่าจะเป็ นขีดจํากันของเขา
แล้ ว เธอไม่คิดด้ วยซํ ้าว่าหลินหมิงจะสามารถต่อสู้เอาชีวิตรอดอยูบ่ นชันที
้ ่สี่ได้ นานถึงขนาดนี ้ ซึง่
้ ่สี่ไปได้ …
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางผ่านชันที
“ครัง้ แรกที่ข้าได้ มาทดสอบที่นี ้ ข้ าก็ฝึกฝนถึงขันที
้ ่สี่แล้ ว ด้ วยพลังการฝึ กฝนของข้ าในตอนนัน้
ทําให้ สามารถเอาชนะศัตรูในชันที ้ ่สี่ได้ แต่หากข้ ามีการฝึ กฝนเพียงขันที้ ่สองเมื่ออายุ15ปี ข้ าก็
คงเทียบเขาไม่ได้ แน่ๆ”
“นี่ก็ผ่านไปอีกครึ่งชัว่ โมงแล้ ว..” ฉินชิงหวนพูดขณะมองไปยังนาฬิกาทรายข้ างตัวของเธอ
แต่ระหว่างที่เธอยังมองนาฬิกาทรายอยู่ สัญลักษณ์ในชันที ้ ่ห้าก็ได้ เปล่งแสงขึ ้นมา และในทันทีที่
เหตุการณ์เช่นนี ้เกิดขึ ้นก็จะเกิดการผันผวนของพลังไปทัว่
เมื่อได้ เห็นแสงที่เปล่งออกมาจากชัน5
้ เหล่าหัวใจของเหล่าผู้เฒ่าทังหลายแทบจะกระโดด

ออกมาเต้ นอยูข่ ้ างนอก “ชันที
้ ่ห้าเร้ อออ..”
“เหตุใดหวังยี่เกาถึงได้ เก่งกาจถึงเพียงนี ้ นี่พงึ่ จะผ่านมาได้ ครึ่งชัว่ โมงเท่านัน้ ในที่สดุ ตระกูล
หวังแห่งเมืองเยว่ลู่ ก็ได้ มีผ้ ทู ี่เก่งกาจก็ขึ ้นมาเสียที”
“ในสิบปี ที่ผา่ นมานี่ก็มีแค่ชิงหวนคนเดียวเท่านันที
้ ่สามารถขึ ้นไปบนนัน้ ” ชายวัยกลางคนพูด
ขณะที่มองไปยังฉินชิงหวน เขาเห็นตาของฉินชิงหวนเบิกกว้ างเป็ นประกายแต่เขาก็ไม่ร้ ูวา่ มัน
หมายถึงอะไร
“นี่มนั เป็ นไปไม่ได้ เด็กคนนี ้ไม่ใช่เพียงปลาน้ อยในหนองบึงเล็กๆ ด้ วยพรสวรรค์ระดับสี่ขนสูั้ ง
ทังยั
้ งมีตระกูลคอยหนุนหลังอยูอ่ ีก ไม่แปลกเลยที่เขาจะโดดเด่นแม้ กระทัง่ ในสํานักเจ็ดแก่นแท้
นี ้ก็ตาม และเขาก็คงจะเป็ นลูกศิษย์ที่สําคัญคนหนึง่ ของสํานักได้ ไม่ยาก เจ้ าเด็กคนนี ้ถือเป็ น
ของขวัญจากสวรรค์อย่างแท้ จริ ง ”
ขณะที่พวกเขากําลังกล่าวเทิดทูนหวังยานเฟิ งกันอยู่ แสงจากชันที
้ ่สี่ก็เกิดการสัน่ แปลกๆ
เหมือนว่าจะผลักอะไรบางอย่างออกมา
เมื่อพวกเขาเห็นเหตุการณ์เช่นนัน้ ผู้อาวุโสท่านหนึง่ ตะโกนขึ ้นมา “หลินหมิงจะออกมาแล้ ว
เตรี ยมตัวรับเขาให้ ดี อย่าให้ เขาได้ รับบาดเจ็บจากการตกจากที่สงู ในสภาพหมดสติ”
เป็ นเวลาเกือบครึ่งชัว่ โมงมาแล้ ว แน่นอนว่าผู้เข้ าทดสอบที่ตกลงมาจะทังเหนื ้ ่อยและอาจถึงขัน้
หมดสติ แต่ก็อย่างไรก็ตามจากที่ผ้ อู าวุโสซันได้ กล่าวไว้ การตายของพวกเขาจะเกิดขึ ้นเพียงใน
ความฝั นเท่านัน้ หากพวกเขาถูกฆ่าพวกเข้ าก็จะได้ รับความเจ็บปวดจนอาจหมดสติและ
กระเด็นออกมา ซึง่ ในแต่ละชันนั้ นสู้ งกว่า30ฟุต ซึง่ ชันที
้ ่สี่ก็สงู 90ฟุต ซึง่ ถ้ าจะให้ คนหมดสติตก
ลงมาแล้ วละก็ ยังไงก็ไม่มีทางทนแรงกระแทกได้ แน่ๆ
ผู้ที่ทําหน้ าที่ในการรับคนที่ตกลงได้ รับเด็กชายคนหนึง่ ที่ตกลงเอาเอาไว้ ได้ อย่างปลอดภัย ดู
เหมือนว่าเขาจะมีไข้ และหน้ าซีดๆ
ต้ องใช้ เวลาซักพักจึงจะสามารถระบุตวั ตนของเขาได้ แต่ไม่นานหลังจากนัน้ ใบหน้ าของเด็ก
หนุ่มนันก็
้ ทําให้ พวกเขาอํ ้าอึ ้งเป็ นใบ้ กนั หมด
เด็กคนนี ้..ค..คือ… หวังยานเฟิ ง!!
ผู้เฒ่าทังหลายอ้
้ ้ ่ห้า….แสดงว่า…เด็กคนนันก็
าปากค้ างขณะที่มองไปยังแสงบนชันที ้ คอื หลินห
มิง!!!
ผู้เฒ่าแห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ ยงั คงตัวสัน่ อยูก่ บั ความเป็ นจริ งตรงหน้ า ในขณะนี ้พวกเขาได้
ตระหนักถึงสิ่งที่มยู ี่เคยพูดออกมามันเป็ นความจริ งทังหมด ้ หลินหมิงพึง่ จะฝึ กฝนมาถึงขันที
้ ่สอง
ซึง่ ด้ อยกว่าหวังยานเฟิ งถึง1ขันเต็
้ มๆ แต่ในตอนนี ้เขากลับเป็ นคนเดียวที่สามารถขึ ้นไปได้ ถงึ ชัน้
ห้ า
ฉินชิงหวนมองไปบนชันที
้ ่ห้า สายตาของเธอเต็มไปด้ วยอารมณ์อนั ซับซ้ อน ความสงสัย ความ
หวาดกลัว ความเคารพ หลินหมิงทําให้ เธอต้ องประหลาดใจอีกครัง้ เขาจะค่อยๆจะก้ าวข้ ามเธอ
้ อ…
ไปทีละนิดๆอย่างนันหรื
ในเวลานี ้ ในสถาที่อีกมุมหนึง่ ของพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง หลานยุนเยียตัวสัน่ ขณะมองไปบน
้ าของหอคอย เธอรู้สกึ สับสนอย่างมาก “หลินหมิง…เขาสามารถขึ ้นไปถึงชันที
ชันห้ ้ ่ห้าได้ อย่าง
้ อ”
นันหรื
ในประวัติศาสตร์ ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ มีเพียงฉินชิงหวนและอีกไม่กี่คนเท่านันที้ ่สามารถขึ ้นไป
ถึงชันนี
้ ้ได้ ซึง่ แต่ละคนต่างก็มีพรสวรรค์อยูใ่ นระดับที่น่ากลัวทังนั
้ น้ และในอนาคตบุคคลเหล่านี ้
จะต้ องไปถึงขันผสานชี
้ พจรอย่างแน่นอน ขึ ้นอยูก่ บั เวลาเท่านัน้
“หลินหมิง…” ความคิดผุดขึ ้นมาในหัวหลานยุนเยีย ถ้ าจะเทียบกับจู้ยนั แล้ ว หลินหมิงก็ไม่ได้
ด้ อยไปกว่าจู้ยนั เลยแม้ แต่น้อย ต่อให้ หลินหมิงไม่ได้ มีตระกูลคอยหนุนหลังอยู่ แต่เขาก็จะต้ อง
ไปถึงขันผสานชี
้ พจรได้ แน่ และเขาก็จะถูกจารึกไว้ ในประวัติศาสตร์ เช่นกัน

แต่ในตอนนี ้ ชันบนห้
้ าของพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง หลินหมิงได้ พบกับปี ศาจที่ดรุ ้ ายระดับสอง
พร้ อมกันถึงสองตัว
พวกมันดูเหมือนปี ศาจที่ออ่ นแอ แต่พลังของมันก็เทียบเท่ากับผู้ที่ฝึกฝนไปถึงขันที้ ่สี่เลยทีเดียว
ไม่เพียงเท่านันปี
้ ศาจทังสองนี
้ ้ยังถูกล้ อมรอบไปด้ วยปี ศาจตัวเล็กๆที่มีพลังเท่ากับผู้ฝึกฝนขันที
้ ่
สามอีก8ตัว
ปี ศาจทังสิ
้ บตัวยืนอยูต่ อ่ หน้ าหลินหมิง พวกมันต่างมีเกราะกระดูกที่ดนู ่าสยดสยอง เกราะนัน้
เปล่งสีแดงฉานออกมา และเขี ้ยวเล็บที่มีรอยเลือดเปื อ้ นอยู่ ภาพเหล่านี ้สามารถทําให้ คนอื่นๆที่
อยูใ่ นระดับเดียวกับหลินหมิงต้ องนึกถึงความหวาดกลัว ที่จะต้ องถูกเจ้ าปี ศาจฝูงนี ้รุมฉีกร่าง
ออกเป็ นชิ ้นเล็กชิ ้นน้ อยจนหมดกําลังใจที่จะต่อสูไ่ ปอย่างแน่นอน

บทที่ 42 ผู้มีความปรารถนา
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



ในตอนนี ้หลินหมิงเริ่ มที่จะสามารถปรับตัวให้ ต้านทานจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากฝูงปี ศาจพวก
นันได้
้ แล้ ว แต่ถงึ อย่างนันเขาก็
้ ร้ ูวา่ มันเป็ นไปไม่ได้ เลยทีเ่ ขาจะผ่านชันนี
้ ้ไปได้
จะให้ เขาสู้กบั เจ้ าปี ศาจระดับสองทังสองตั
้ วนันนะรึ
้ แค่จะจัดการลูกสมุนที่อยูร่ อบๆตัวมันยังทํา
ไม่ได้ เลยด้ วยซํ ้า ต่อให้ เขามีพละกําลังมากมหาศาลเพียงใด ก็คงไม่รอดจากชันนี ้ ้ไปได้
เขารู้อยูแ่ ก่ใจว่า ถึงแม้ เขาจะผ่านมาถึงชันห้
้ าได้ แล้ ว แต่เขาก็ยงั ห่างไกลจากฉินชิงหวนมากนัก
เมื่อครึ่งปี ก่อนฉินชิงหวนสามารถจัดการกับเจ้ าพวกปี ศาจทังสิ ้ บตัวนี ้ได้ และเธอสามารถผ่าน
ชันนี
้ ้ไป แต่เพียงแค่หลินหมิงได้ สมั ผัสถึงรังสีอํามหิตที่แผ่ออกมาจากปี ศาจพวกนันก็ ้ อยากถอด
ใจแล้ ว
สมแล้ วที่ฉินชิงหวนจะเป็ นคนที่มีพรสวรรค์ระดับ6อย่างแท้ จริ ง เธอทังงดงามและเก่
้ งกาจยิ่งนัก
ด้ วยการประเมินพลังที่เขามีอยูท่ งหมด
ั้ หลินหมิงคาดการณ์วา่ เขาจําเป็ นต้ องเพิ่มการฝึ กฝน
ขึ ้นมาอีกขัน้ อย่างน้ อยก็ต้องถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สาม เขาถึงจะมีโอกาสผ่านชันนี้ ้ขึ ้นไปได้
แต่ฉินชิงหวนสามารถผ่านขึ ้นไปได้ แล้ วเมื่อครึ่งปี ก่อน เธอได้ ก้าวข้ ามมันไปได้ แล้ วในครึ่งปี ที่
ผ่านมานี ้
ไม่สงสัยเลยเหตุใดทําให้ ชายวัยกลางคนคนนันมั
้ น่ ใจกับชันนี
้ ้นัก
มันเป็ นไปไม่ได้ เลยที่จะผ่านชันนี้ ้ไปได้ แต่ถ้าหากมันจะเป็ นไปได้ จริ ง เขาก็จําเป็ นต้ องฆ่าเจ้ า
ปี ศาจพวกนี ้ให้ มากที่สดุ เท่าที่เขาจะทําได้ อาจจะมีปาฏิหาริ ย์เกิดขึ ้นก็เป็ นได้
หลินหมิงไม่คิดจะยอมแพ้ การต่อสู้ในครัง้ นี ้ นี่เป็ นโอกาสที่เขาจะพัฒนาและลับประสาทสัมผัส
ในการต่อสู้ในขณะที่มีชีวติ อยูร่ ะหว่างความเป็ นความตาย ซึง่ จุดนี ้จะช่วยผลักดันให้ เขา
แข็งแกร่งขึ ้น ทังสถานการณ์
้ ที่พลาดพลังไปซึ
้ ง่ อาจหมายถึงชีวิต มันจะเป็ นโอกาสที่มีคา่ และหา
ยากมากสําหรับเขา
“เข้ ามาเลย” เมื่อเห็นฝูงปี ศาจพุง่ ตรงมาที่เขา หลินหมิงตะโกนขณะที่ชกั มีดออกมาถือเอาไว้
เขารู้วา่ เขาไม่มีโอกาสได้ จะสร้ างบาทแผลให้ ปีศาจระดับสองได้ (เทียบกับขันสี
้ )่ แต่เป้าหมาย
ของเขาก็คือการกําจัดลูกสมุนปี ศาจทัง8ตั้ วนัน้ ซึง่ บางตัวก็แลดูมีหนังและขนที่หนาซึง่ ยากแก่
การทะลวง เขาจึงเลือกที่จะทุม่ ไปที่การโจมตีมากกว่าจะป้องกัน
“ฮ๊ ากกก..”มีดเสียบเข้ าไปที่ท้องของเสือสีเงิน ในขณะนันหลิ
้ นหมิงก็ร้ ูสกึ ได้ ถงึ แรงสัน่ สะเทือนที่
ส่งผ่านมา เนื ้อของเสือสีเงินตัวนันบี
้ บมีดของเขาไว้ และหลินหมิงก็เกือบจะดึงมีดออกมาไม่ได้
“เวรละ..”
อีกไม่กี่วินาทีตอ่ มา หางที่เรี ยวยาวเหมือนแส้ ก็ได้ หวดไปที่ท้องของหลินหมิงอย่างรุนแรง นี่เป็ น
การโจมตีของปี ศาจระดับสอง ความเร็วของมันรวดเร็ วดุจสายฟ้าฟาดและเฉียบแหลมดัง่ คมมีด
ซึง่ การโจมตีนี่สามารถตัดคนธรรมดาออกเป็ นสองเสี่ยงได้ อย่างง่ายดาย หลินหมิงบิดตัวกลาง
อากาศและหลบหางที่ฝาดมาได้ อย่างฉิวเฉียด แต่ก็ยงั คงได้ รับบาดเจ็บที่ขาเป็ นรอยฉีกขาดอยู่
บ้ าง
หลินหมิงร้ สกึ เหมือนมีใครเอาเหล็กร้ อนๆมาทาบที่ขาของเขา มันบวมเหมือนกับเป็ นแผลพุพอง
ออกมา ดูเหมือนว่าต่อให้ แตะที่ขาของเขาเบาๆก็สามารถทําให้ หนังลอกออกไปได้ เลย
ในตอนนี ้ปี ศาจระดับสองก็ได้ ล้อมหลินหมิงเอาไว้ แล้ ว เขากําลังอยูใ่ นวงล้ อมแห่งความตาย
ทันทีที่ปีศาจนันพุ
้ ง่ เข้ ามา ก็เป็ นไปได้ วา่ เขาจะถูกฉีกออกเป็ นชิ ้นๆในทันที
“เป็ นแบบนี ้ ต้ องแย่แน่ ” หลินหมิงรู้ดีวา่ หากพวกปี ศาจเข้ ามาพร้ อมๆกันแล้ วละก็ เขาจะไม่
สามารถหลบออกไปทางไหนได้ เลย ในเวลาวิกฤตเช่นนี ้ หลินหมิงใช้ เท้ าดันกับพื ้นเพื่อชักมีดพุง่
เข้ าไปโจมตีพวกปี ศาจพวกนันก่ ้ อน แน่นอนว่าโจมตีก่อนย่อมได้ เปรี ยบ
“โฮ๊ กกก” เสือสีเงินคํารามด้ วยความโมโห มันพุง่ เข้ าใส่หลินหมิงเช่นกัน ณ ที่แห่งนี ้ ปี ศาจอย่าง
พวกมันไม่ได้ ร้ ูสกึ หวาดกลัวอะไรเลยแม้ แต่น้อย
“ฉึก…” มีดแทงเข้ าไปบนคอหอยของเสือสีเงินอย่างแม่นยํา แต่หลินหมิงก็ได้ รับบาดเจ็บจาก
กรงเล็บของมันที่ทะลวงเข้ ามาที่กลางท้ องของเขา ต้ องขอบคุณการฝึ กฝนขันที ้ ่สองของเขาที่ทํา
ให้ เครื่ องในของเขายังไม่ปลิ ้นออกมาจากการโจมตีของเจ้ าเสือสีเงินตัวนัน้
“เสร็ จไปหนึง่ ” หลินหมิงจับท้ องของเขาเอาไว้ ขณะที่เลือดค่อยๆไหลออกมา เขารู้สกึ เจ็บ
บาดแผลในตอนนี ้เป็ นอย่างมาก และพลังปราณของเขาก็แทบจะหมดลงแล้ ว เขาไม่คิดมาก่อน
เลยว่าชันห้
้ ามันจะโหดร้ ายถึงขนาดนี ้ หากเทียบกับชันสี
้ แ่ ล้ วมันยากกว่าถึงสิบเท่าก็วา่ ได้

“ผ่านไปอีก15นาทีแล้ ว หลินหมิงยังสามารถเอาชีวิตรอดอยูใ่ นชันที
้ ่ห้าได้ ไม่น่าเชื่อเลยจริ งๆ”
“อืมม ถึงแม้ วา่ ตอนนี ้เขาจะเอาแต่วิ่งหนีก็เถอะ เขาไม่น่าจะเหลือพลังที่จะต่อสู้อีกแล้ ว แม้ วา่
เขาจะวิ่งหนีมาถึง15นาทีก็ถือว่าเขาประสบความสําเร็ จอย่างยิ่งในการทดสอบครัง้ นี ้”
“อาจจะมีพลังบางอย่างอยูใ่ นตัวหลินหมิงก็เป็ นไปได้ มูยี่ ท่านเคยได้ พดู ถึงเขาก่อนหน้ านี่นี ้
ท่านหัวหน้ าไม่สนใจในตัวเด็กหนุ่มผู้นี ้หรื ออย่างไร”
มูยี่ยิ ้มตอบกลับมา แต่เขาก็ไม่ได้ พดู อะไร คนเหล่านี ้ไม่ได้ ร้ ูถงึ เบื ้องหลังของหลินหมิงเหมือนที่
เขารู้วา่ หลินหมิงมีสดุ ยอดปรมาจารย์อยูเ่ บื ้องหลัง บางทีเขาคนนันอาจจะพาหลิ้ นหมิงกลับไป
เพื่อฝึ กฝนต่อก็เป็ นได้ หากเป็ นอย่างนันแล้
้ ว หัวหน้ าของพวกเขาจะสิทธิหวังได้ อย่างไรกัน
แต่มยู ี่ก็ไม่ได้ พดู สิ่งที่คิดออกไป ในตอนนันผู
้ ้ เฒ่าจากตระกูลซู ผู้ที่กําลังกลิ ้งลูกบอลหยกทังสอง

ลูกไว้ บนมือก็ได้ พดู อย่างช้ าๆว่า “ผู้เฒ่าซัน ท่านประเมินเขาสูงเกินไปแล้ ว ข้ ารู้วา่ หลินหมิงนัน้
ทําได้ ดีทีเดียว แต่ถงึ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยงั เป็ นแค่คนที่มีพรสวรรค์ระดับ3เท่านัน้ ที่เขาผ่านมา
ได้ จนถึงบัดนี ้อาจเป็ นเรื่ องบังเอิญก็ได้ ข้ าว่าพวกท่านยกย่องเขามากเกินไปแล้ ว”
เมื่อพวกเขาได้ ยินคําพูดจากผู้เฒ่าตระกูลซู ทําให้ พวกเขาเริ่ มตระหนักได้ วา่ ต้ องมีความจริ ง
บางอย่างถูกปกปิ ดเอาไว้ เป็ นไปได้ วา่ เขาอาจจะใช้ ยาโอสถลํ ้าค่าหายากที่สามารถยกระดับการ
ฝึ กฝนได้ แต่สิ่งเหล่านี ้ก็มีขีดกําจัดของมัน พลังของมันจะลดลงเรื่ อยๆจนกระทัง่ จางหายไปใน
ที่สดุ
้ “หลินหมิงคนนี ้เก่งก็จริ งแต่ ความเร็ วในการฝึ กฝนของเขาไม่มีทางที่
ผู้เฒ่าตระกูลซูพดู ขันมา
จะไล่ตามคนอื่นได้ ทนั ในอนาคต ไม่เพียงแค่นนเขายั
ั้ งจะถูกคนอื่นแซงไปได้ อย่างง่ายดาย”
ผู้เฒ่าคนอื่นๆต่างก็เห็นด้ วย มูยี่ยิ ้มแล้ วตอบไปว่า “พวกท่านไม่จําเป็ นต้ องกล่าวอะไรอีกแล้ ว
ความสําเร็ จของหลินหมิงในอนาคต เราก็จะได้ เห็นกันในอนาคตอย่างแน่นอน”
ขณะที่พดู จบเขาก็หนั ไปดูชนห้
ั ้ าของพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง เริ่ มสัน่ ไหว มีแสงเปล่งประกาย
และมีร่างของมนุษย์กระเด็นออกมา เขาตกลงไปบนแผ่นกระดานสําหรับรองรับ
“ในที่สดุ หลินหมิงก็ได้ ออกมาเสียที”
หลินหมิงได้ ฆา่ พวกลูกสมุนพวกนันไปอี้ กหลายตัว และเขาได้ รับบาดแผลฉกรรจ์เป็ นการ
แลกเปลี่ยน แต่ถงึ แม้ จะรู้วา่ ตนเองกําลังจะตาย เขาก็ได้ ลากหมาป่ าวายุและปี ศาจระดับหนึง่
อีกสองตัวไปลงนรกด้ วยเป็ นผลสําเร็จ
เขาพอใจกับผลลัพธ์นี ้มาก แน่นอนว่าการฆ่าปี ศาจระดับหนึง่ ถึงสี่ตวั ในระหว่างที่โดนล้ อมอยู่
นันยากกว่
้ าชันสี
้ ห่ ลายเท่านัก
ในระยะทางที่หา่ งออกมาหลานยุนเยี่ยมองไปยังหลินหมิงที่ถกู ล้ อมด้ วยผู้คน เธอไม่ร้ ูวา่ ทําไมใจ
ของเธอถึงได้ ร้ ูสกึ สัน่ ไหวเช่นนี ้ เธอเม้ มปากและเดินจากไปอย่างเงียบๆ
….
“หืมมม … เจ้ าฟื น้ แล้ วรึ… หลินหมิง”
การตายที่โลกแห่งนันเป็
้ นเพียงจินตนาการเท่านัน้ ร่างจริ งของเจ้ าจะถูกดีดกระเด็นออกมาจาก
พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงขณะที่เจ้ าตายในจินตนาการ แต่มนั ก็ทําให้ เจ้ าได้ ร้ ูสกึ ว่าตายไปจริ งๆ
แต่จริ งๆแล้ วก็แค่หมดสติไปสักพักเท่านัน้ แต่หลินหมิงก็ฟืน้ ขึ ้นมาหลังจากหมดสติไปได้ ไม่นาน
และดูจะอ่อนเพลียลงเล็กน้ อยเท่านัน้ ทําให้ พวกผู้เฒ่าจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ต้องแปลกใจในร่าง
รายของเขาไม่มากก็น้อย หากจะเทียบกับหวังยานเฟิ งแล้ ว ในขณะนี ้เขายังไม่ฟืน้ ขึ ้นมาเลยด้ วย
ซํ ้า “เด็กคนนี ้สมควรแล้ วที่จะได้ เป็ นอันดับหนึง่ ในการทดสอบครัง้ นี ้’ ผู้เฒ่าซันพูดขึ ้นมา
“รางวัลสําหรับที่หนึง่ คือยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง พวกท่านไม่คิดว่ามันจะเป็ นการเสียเปล่า
หรอกหรื อ ที่จะมอบมันให้ กบั มนุษย์ที่มีพรสวรรค์เพียงระดับสาม พวกท่านคิดว่าเขาจะรับพลัง
จากมันได้ ซกั เท่าไร การประเมินผลการทดสอบไม่ได้ ขึ ้นกับผลสอบอย่างเดียว มันขึ ้นอยูก่ บั
ระดับพรสวรรค์ของพวกเขาด้ วย”ผู้เฒ่าซูโต้ เถียงด้ วยเสียงแหบแห้ ง
ผู้เฒ่าซันพูดค้ านขึ ้นมา “ก็จริ งอยู่ ที่วา่ เราจะประเมินจากระดับพรสวรรค์ด้วย แต่นนเฉพาะใน
ั้
กรณีที่ผลการทดสอบออกมาใกล้ เคียงกันเท่านัน้ แต่ในครัง้ นี ้หลินหมิงเป็ นอันดับหนึง่ ในจากทุก
การทดสอบ แล้ วจะมีเหตุผลใดที่ทําให้ เขาไม่ได้ อนั ดับหนึง่ จากการทดสอบโดยรวม เจ้ าคิดว่า
มันจะยุติธรรมหรื อหากรางวัลอันดับหนึง่ ไม่ใช้ ของเขา”
“ยิ่งไปกว่านัน้ เท่าที่ข้าได้ ร้ ูมา ผู้เฒ่าซูและผู้นําตระกูลหวังจากเมืองเยว่ลเู่ คยเป็ นเพื่อนสนิทกัน
มาก่อนมิใช่รึ”
ขณะที่ ผู้เฒ่าซํฯพูดจบ ผู้เฒ่าซูก็ทําตาขวางและพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ซันไซฟาน ข้ า
ประเมินถึงทุกอย่างในการสอบและทังหมดก็ ้ เพื่อผลประโยชน์สงู สุดของสํานัก หากท่านยืนยัน
ว่าจะให้ หลินหมิงเป็ นอันดับหนึง่ ข้ าก็จะไม่คดั ค้ านอะไร แต่เรามาลองพนันกันหน่อยไหม ว่า
ระหว่างหลินหมิงกับหวังยานเฟิ งในอีกหกเดือนข้ างหน้ า ใครจะแกร่งกว่ากัน และใครจะ
สามารถเข้ านิกายสวรรค์ได้ ก่อน”
ผู้เฒ่าซันรู้สกึ ตกใจกับคําท้ าของผู้เฒ่าซูเป็ นอย่างมาก เขารู้สกึ พูดไม่ออก เขาแอบรู้สกึ โมโหอยู่
ในใจ เขาพยายามตัดสินอย่างเป็ นธรรม แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าผู้เฒ่าซู จะขัดขวางเขาเช่นนี ้
เดิมทีคนตระกูซูก็เป็ นคนที่ทําอะไรเพื่อตนเองอย่างเห็นแก่ตวั อยูแ่ ล้ ว
แต่เมื่อผู้เฒ่าซูได้ ท้าเขา แม้ วา่ เขาจะไม่อยากเล่นด้ วยนัก เพราะพรสวรรค์ของหลินหมิงอยูท่ ี่
ระดับ3เท่านัน้ มีความเป็ นไปได้ สงู ทีเดียวที่หลินหมิงอาจผ่านมาถึงชัน5ได้ ้ โดยบังเอิญหรื อเขา
ใช้ โอสถลํ ้าค่าจึงได้ ผลลัพธ์เช่นนี ้ แต่กบั หวังยานเฟิ งเมื่อเทียบกันแล้ วถือเขาเป็ นผู้มีพรสวรรค์สงู
มาก เขาคือหนึง่ ในล้ านอย่างแท้ จริ ง ด้ วยพรสวรรค์ระดับ4ขันสู ้ ง ถ้ าให้ คิดไปถึงการฝึ กฝนต่อไป
ในอนาคต ไม่มีทางที่หลินหมิงจะตามเขามาได้ ทนั
เมื่อเห็น ผู้เฒ่าซันแสดงท่าทีเหมือนจะยอมจํานน ผู้เฒ่าซูก็ยิ ้มเยาะเย้ ยซํ ้าและกล่าว “ท่านคง
ไม่กล้ าซินะ ถ้ าท่านคิดว่าหลินหมิงสมควรที่จะเป็ นอันกับหนึง่ อย่างน้ อยท่านก็ควรกล้ าพนันกับ
ข้ า ข้ าได้ ยินมาว่าท่านมีสมบัติ สมบัติระดับมนุษย์อยูม่ ิใช่รึ”
เมื่อผู้เฒ่าซูกล่าวถึงสมบัติระดับมนุษย์ ผู้เฒ่าซันถึงกับต้ องทําหน้ าตาบูดเบี ้ยวออกมาอย่างเห็น
ได้ ชดั มันเป็ นสมบัติที่หายากอย่างสุดแสนสาหัส มันมีมลู ค่ามหาศาลมากเสียยิ่งว่าเมืองแห่งนี ้
เสียอีก ถึงแม้ จะมีเงินกี่หมื่นเหรี ยญทองก็ไม่อาจซื ้อมันได้ มันเป็ นสมบัติที่สบื ทอดมาจาก เจ็ด
ปรมาจารย์แห่งขุนเขา และมันก็เป็ นสมบัติที่มีคา่ มากที่สดุ ของเขา แล้ วเขาจะตอบตกลงได้
อย่างไร ทังโอกาสที
้ ่เขาจะชนะก็ยงั น้ อยและไม่มีความแน่นอนเอาเสียเลย
เมื่อได้ เห็นผู้เฒ่าซันเงียบเป็ นใบ้ ผู้เฒ่าซูก็ยิ ้มออกมาอย่างพออกพอใจ เขารู้วา่ ซันไซฟานไม่กล้ า
รับพนันนี ้อย่างแน่นอน ที่เขาพูดก็เพราะต้ องการทําลายชื่อเสียงและเกียรติของผู้เท่าซัน
ต่างหาก
แต่ทนั ใดนันเอง
้ มูยี่ก็ได้ กล่าวคําพูดไม่กี่คําออกมา มันทําให้ เหล่าผู้เฒ่าทังหลายแห่
้ งสํานักเจ็ด
แก่นแท้ ต้องตกตะลึงไปตามๆกัน
“ข้ าจะพนันกับเจ้ าเอง!!! ”

บทที่ 43 ปฏิเสธที่จะยอมรับ
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
้ ย่ ี่พดู ขึ ้นขณะที่ยิ ้มออกมา “ข้ าจะพนันกับเจ้ าเอง!!!”
ณ เวลานันมู
“หืมมม” ผู้อาวุโสซูถงึ กับต้ องสะดุ้งในขณะที่เขาได้ ยินถ้ อยคําเหล่านัน้ เขาไม่คิดมาก่อนเลย
ว่ามูย่ ี่จะเอ่ยปากรับคําท้ าเช่นนัน้ ยิ่งไปกว่านันด้
้ วยปฏิกิริยาการแสดงออกอย่างมีความสุข
เช่นนัน้ ทําให้ เขาสัมผัสได้ ถงึ ความมัน่ ใจอันมากมายมหาศาลของมูย่ ี่
สิ่งเหล่านันทํ
้ าให้ ความเชื่อมัน่ ของผู้อาวุโสซูสนั่ คลอนไปเล็กน้ อย เป็ นไปได้ หรื อว่าเจ้ าเด็กหลินห
มิงคนนันยั
้ งมีไพ่ตายบางอย่างที่เขาไม่ร้ ู แต่เขาก็ไม่เข้ าใจว่าทําไมเด็กที่มีพรสวรรค์ระดับสาม
ช่วงกลางถึงเหนือกว่าหวังหยานเฟิ งที่มีพรสวรรค์ระดับสี่ช่วงสูงได้ นอกจากนี ้เขายังได้ พดู สิ่งที่ดู
หยิ่งยโสดังกล่าวต่อหน้ าเพื่อนๆจํานวนมากดังนัน้ ในตอนนี ้เขาได้ ขึ ้นหลังเสือไปเสียแล้ ว เขาจะ
มากลับคําเอาตอนนี ้ได้ อย่างไร ดังนันผู
้ ้ อาวุโสโซขบฟั นของเขาในขณะที่เขากล่าว
ออกมา “เยี่ยม ท่านมูย่ ี่ต้อกการเดิมพันสิ่งใดล่ะ?”
มูย่ ี่ยิ ้มและกล่าวว่า “ข้ าอยากเดิมพันเบาๆเท่านัน้ เราควรเน้ นความสนุกสนานเป็ นหลัก อย่าให้
การเดิมพันเหล่านี ้มาทําลายมิตรภาพความสัมพันธ์อนั ดีงามของพวกเราได้ ข้ าคิดว่าเพียง
สมบัติระดับมนุษย์ ก็คงจะเพียงพอ”
สมบัติระดับมนุษย์! นัน่ ยังเรี ยกว่าการเดิมพันเบาๆอีกอย่างนันเหรอ?

มุมปากของผู้อาวุโสซูกระตุกเล็กน้ อย มูย่ ี่ซงึ่ เป็ นถึงนักจารึกผู้มีชื่อเสียงรํ่ าลือไปทัว่
ราชอาณาจักร ดังนันหลายปี
้ ที่ผ่านมานี ้ เขาจึงได้ รับของขวัญมากมาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขา
คือหนึง่ ในบุคคลที่มีความมัง่ คัง่ แทบจะมากที่สดุ คนหนึง่ ในอาณาจักรแห่งนี ้
ผู้อาวุโสซูกดั ฟั นของเขาและกล่าวตอบ “ก็ดี งันข้
้ าจะเดิมพันกับเจ้ าด้ วยสมบัติระดับมนุษย์ชนั ้
ตํ่า แหวนมิต”ิ
แหวนมิติเป็ นแหวนที่ไว้ ใช้ สําหรับเก็บสมบัติ มันสามารถสวมใส่ไว้ ตรงไหนก็ได้ บนร่างกายของ
เจ้ าของ และใช้ ในการเก็บอะไรก็ตามที่คณ ุ ต้ องการ นี่เป็ นสมบัติที่ยากจะสร้ างขึ ้น ดังนันราคา

ของมันจึงแพงกว่าสมบัติที่อยูใ่ นขันเดี
้ ยวกันหลายเท่า แหวนมิตินี ้เป็ นสมบัติระดับมนุษย์ขนตํ ั ้ ่า
ที่ราคาเท่าๆกับสมบัติระดับมนุษย์ขนกลางเลยที
ั้ เดียว
“น่าสนใจ ข้ าตกลง” มูย่ ี่ตอบตกลงโดยแทบไม่ต้องคิด เขาหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ แสดง
ให้ เห็นถึงความรู้สกึ ของคนที่เชื่อมัน่ ในตัวเองอย่างมากของเขาออกมา
ตําแหน่งอันดับหนึง่ ของผู้เข้ าทดสอบจึงถูกมอบให้ กบั หลินหมิง
อย่างไรก็ตามการตรวจสอบใช้ เวลาไปมากดังนันจึ ้ งล่าช้ าไปเป็ นชัว่ โมงแล้ ว การประกาศผลจึง
จะจัดขึ ้นในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี ้ นอกจากหลินหมิงจะได้ อนั ดับหนึง่ แล้ ว ตังแต่้ อนั ดับที่สองไป
จนถึงที่สิบก็ยงั ต้ องถูก ประเมิน อายุ ผลลัพธ์ พรสวรรค์ ของผู้สมัครเพื่อความเหมาะสม ซึง่ ถูก
ตัดสินโดยให้ ผ้ อู าวุโสของสํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นผู้ตดั สินอีกที
“ชิงหวน เราไปทักทายหลินหมิงกันเถอะ” มูย่ ี่กล่าวขณะที่เขาลุกขึ ้น แม้ วา่ หลินหมิงจะถูกปลุก
ให้ ตื่นแล้ ว แต่มยู่ ี่ก็ยงั นัง่ อยูก่ บั กลุม่ ผู้อาวุโสจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ดงั นันหลิ
้ นหมิงจึงไม่อาจจะ
เดินไปหาพวกเขาได้
“อืม” ฉินชิงหยวนพยักหน้ า แม้ วา่ ขณะที่ผ้ อู าวุโสสํานักเจ็ดแก่นแท้ กําลังพูดคุยกันอยู่ ฉินชิง
หยวนก็แสดงมารยาทต่อผู้อาวุโสและนัง่ เงียบๆอยูอ่ ีกมุมหนึง่ แต่ในความจริ งแล้ วในแง่ของ
สถานะในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ของเธอ ฉินชิงหยวนเทียบได้ กบั ผู้อาวุโสเหล่านี ้เลยทีเดียว
นี่เป็ นเพราะว่าฉินชิงหยวนเป็ นศิษย์หลักที่มีพรสวรรค์มากที่สดุ ในอนาคตเส้ นทางในการฝึ กฝน
ก็จะราบรื่ นถ้ าไม่มีอบุ ตั เิ หตุใดๆเกิดขึ ้นกับเธอ เธอก็จะได้ เข้ าเป็ นศิษย์ของเจ็ดปรมาจารย์แห่ง
ขุนเขาได้
นี่เป็ นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ เป็ นที่ร้ ูกนั ว่าแม้ แต่หลิงเซ็นก็ยงั แทบจะไม่มีโอกาสที่จะได้ เข้ าเป็ นศิษย์
ของเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขา
แต่หากเขาสามารถขึ ้นไปถึงจุดสูงสุดของขันผสานชี
้ พจรได้ ในเวลาสันๆเขาก็
้ อาจจะได้ เข้ าเป็ น
ศิษย์ของเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขาเช่นกัน แต่มนั ก็เป็ นไปได้ ยากยิ่ง
ขณะนี ้หลิงเซินมีอายุเกือบจะยี่สบิ แล้ ว เขายังฝึ กฝนถึงขันที
้ ่สี่เท่านัน้
ในตอนบ่ายหลินหมิงและมูย่ ี่คยุ กันเล็กน้ อยก่อนที่หลินหมิงจะกลับเข้ าห้ องของเขาที่สาํ นักเจ็ด
แก่นแท้ จดั เตรี ยมเอาไว้ ให้ สําหรับผู้เข้ าสอบทุกคน เขาพักผ่อนและนัง่ ทําสมาธิ
คํ่าคืนที่เงียบสงบผ่านไป
ในตอนนี ้เป็ นช่วงเวลาบ่ายของวันที่สอง อากาศบริ สทุ ธิ์แจ่มใส สนามแข่งขันของสํานักเจ็ดแก่น
แท้ ที่แห่งนี ้มีบคุ คลคนสําคัญมากมายของสํานักได้ มาประชุมกัน และผู้เข้ าสอบทังหมดห้
้ าสิบ
สามคนที่ผ่าน
วันนี ้คือประกาศผลการจัดอันดับในการทดสอบ
หลังจากการถกเถียงกันเมื่อคํ่าวันก่อน ผลสุดท้ ายก็ถกู ตัดสินออกมาในทีสดุ
เมื่อหลินหมิงมาถึงสนาม ผู้คนมองมาที่เขาอย่างอิจฉาริ ษยาและชื่นชม หลินหมิงโด่งดังภายใน
คํ่าคืนเดียว การที่ขึ ้นไปถึงชันห้
้ าของเจดีย์ไม่ใช้ เรื่ องง่ายๆ แม้ แต่ศิษย์อาวุโสในนิกายก็ยงั ให้
ความสนใจกับเขา
“ยินดีด้วย” ในเวลานันเสี
้ ยงหนึง่ ดังขึ ้นมา หลินหมิงหันกลับไปเห็น เขาพบกับหวังหยานเฟิ งยืน
อยูใ่ กล้ ๆ เขายืนกอดอกและยิ ้มอย่างเสแสร้ ง “คงต้ องขอบคุณโชคดีของเจ้ า ด้ วยพรสวรรค์
ระดับสามขันกลาง
้ แต่สามารถขึ ้นไปถึงชันห้
้ าได้ อ่าาา ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อ!”
หวังหยานเฟิ งพูดเสียงดังมาก ผู้คนรอบๆได้ ยินเสียงเขา พวกเขาต่างตกใจว่าหลินหมิงคนนันมี

พรสวรรค์ระดับสามขันกลางเท่
้ านันเองหรื
้ อ พวกเขาคิดว่าหลินหมิงจะมีพรสวรรค์อย่างน้ อย
ระดับสี่ชนสู
ั ้ งเสียอีก เป็ นไปได้ อย่างไรที่เขามีเพียงพรสวรรค์ระดับสามขันกลาง?

ผู้คนที่อยูร่ อบๆต่างเริ่ มพูดคุยกันและหวังหยานเฟิ งเองก็ได้ ยินมัน เขายิ ้มออกมาเต็มใบหน้ า
เมื่อวานเขาส่งลูกน้ องของเขาได้ ดสู าํ รวจพรสวรรค์ของหลินหมิงมา
“เจ้ า หลินหมิง ข้ าไม่ร้ ูวา่ หมาจรจัดเช่นเจ้ าเหตุถงึ ได้ โชคดีเช่นนี ้ เจ้ าจะใช้ สมุนไพรหายากเมื่อ
ตอนเด็กๆหรืออาจไม่ ข้ าก็ไม่สนใจ แต่ถ้าเจ้ าคิดว่าเจ้ าสามารถกดดันข้ าและเอาชนะข้ า ก็ฝันไป
เถอะ! เจ้ าแค่มีโชคเล็กน้ อยเท่านันและเจ้
้ ้ อ ? เจ้ าคงใช้
าคิดว่าพลังการต่อสู้เจ้ าสูงอย่างนันหรื
พละกําลังแห่งพระเจ้ าของเจ้ าผ่านสัตว์โง่ๆในเจดีย์มาสินะ แต่เจ้ าคิดหรื อว่าเจ้ าจะสู้กบั คนจริ งๆ
ได้ ? ฮืมมม ด้ วยทักษะโง่ๆของเจ้ าที่อาจจะเรี ยนจากวัวตัวหนึง่ เจ้ าคิดเหรอว่าจะสามารถ
เอาชนะมนุษย์ได้ จริ งๆ?
ความจริ งที่วา่ เมื่อวานในเจดีย์แห่งนัน้ หวังหยานเฟิ งสามารถฆ่าหมีเกราะเหล็กบนชันสี ้ ่ได้ แต่
เขาก็ได้ รับบาดเจ็บและถูกบังคับให้ ออกจากเจดีย์ สิ่งเหล่านี ้ทําให้ หวังหยานเฟิ งเศร้ าโศก ถ้ าเขา
สามารถอยูใ่ นนันได้
้ อีกสักช่วงลมหายใจเดียวและเขาก็จะสามารถขึ ้นไปบนชันห้ ้ าได้
และถ้ าหากเขาสามารถขึ ้นไปบนเจดีย์ชนห้ ั ้ าได้ เขาก็จะได้ ผลลัพธ์เช่นเดียวกับหลินหมิง หวังห
ยานเฟิ งไม่เชื่อว่าหลินหมิงจะทําอะไรได้ บนชันห้
้ า แม้ วา่ หลินหมิงจะอยูบ่ นชันห้
้ าได้ ถงึ สิบห้ า
นาที แต่หวังหยานเฟิ งก็เชื่อว่าหลินหมิงคงทําได้ เพียงวิ่งหนีเฉกเช่นเดียวกับหมาตัวหนึง่ อยูบ่ น
นัน้
ความผิดพลาดของหวังหยานเฟิ งก็คือเขาข้ ามผ่านชันแรกๆไปอย่
้ างเร็ วเกินไป ผลที่ตามมาคือ
เขาต้ องพึง่ กลยุทธ์ที่มีทงหมดของเขาโดยไม่
ั้ มีเวลาได้ พกั ผ่อน ถ้ าหากเขาผ่านไปแบบช้ าๆและ
ดึงเวลาออกไปในแต่ละชัน้ การจัดการกับหมีเกราะเหล็กก็อาจจะไม่ทําให้ เขาได้ อาการบาดเจ็บ
ที่รุนแรงเช่นนี ้
ยิ่งไปกว่านันสาเหตุ
้ สําคัญที่สดุ ที่ทําให้ เขาพ่ายแพ้ ตอ่ หลินหมิงก็คือ ในเจดีย์นนเขาไม่
ั้ สามารถที่
จะใช้ อาวุธหายากของเขาได้ !
หากปราศจากอาวุธหายากของเขา หวังหยานเฟิ งก็ไม่สามารถแสดงพลังของทักษะลับใน
ตระกูลออกมาได้ อย่างเต็มที่ หากไร้ ซงึ่ ดาบหายากของเขาแล้ ว พลังของมันก็จะลดลง ผลก็คือ
ทําให้ เขาไม่สามารถผ่านชันที
้ ่สี่ไปได้
แต่ในการต่อสู้จริ ง สมบัติอาวุธต่างๆจะไม่ถกู จํากัดและสามารถใช้ มนั ได้ อย่างเต็มที่ ยาโอสถ
ต่างๆเองก็เช่นกัน พวกมันเป็ นความได้ เปรี ยบของพวกคนรํ่ ารวย ทําให้ พวกเขาสามารถนําเอา
สมบัติที่ได้ จากตระกูล มาใช้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมในการต่อสู้
หวังหยานเฟิ งสัมผัสดาบโค้ งของเขาและมองไปที่หลินหมิงด้ วยใบหน้ าที่เกลียดชังอย่างเต็มที่
“ถ้ าหากข้ าสามารถใช้ ดาบสัจธรรมเล่มนี ้ได้ ข้ าสามารถจะฆ่าเจ้ าได้ อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับ
ไก่ตวั หนึง่ !” หวังหยานเฟิ งคิดอย่างชัว่ ร้ ายในใจแต่เขาก็ไม่พดู ออกมา “ข้ าจะแพ้ เจ้ าได้ อย่างไร!
ไม่มีทางอย่างแน่นอนสําหรับในปั จจุบนั ในอนาคตเองก็เช่นกัน ”
บรรยากาศเต็มไปด้ วยความตึงเครี ยด หลินหมิงไม่ตอบสนองหรื อโต้ แย้ งต่อคําพูดของหวังห
ยานเฟิ งราวกับว่าเขาไม่ต้องการสร้ างความขัดแย้ งโดยไม่จําเป็ น และเขาก็ยงั ทําเหมือนว่าหวังห
ยานเฟิ งไม่ได้ อยูใ่ นสายตา
“แกหัดฟั งซะบ้ าง นายน้ อยของข้ ากําลังพูดกับแกอยู่ แกหูหนวกรึ? ไอ้ โง่? แกไม่ได้ ยินรึไง?”
ข้ ารับใช้ ของหวังหยานเฟิ งกล่าวขึ ้นในขณะที่เขายืนอยูข่ ้ างๆหวังหยานเฟิ ง
คําพูของคนรับใช้ หยาบช้ ากว่าเจ้ านายของมันเสียอีก หลินหมิงหยุดเดิน เขาหันกลับมาอย่าง
สงบและใช้ สายตาที่รุนแรงมองไปที่ข้ารับใช้ “ที่นี่คือสนามทดสอบแข่งขันของสํานักเจ็ดแก่นแท้
ขี ้ข้ าอย่างเจ้ าที่มีการฝึ กฝนขันแรกยั
้ ้ ?”
งจะเสนอหน้ ามาอีกอย่างนันรึ
“แก…!” ข้ ารับใช้ หน้ าแดงจากความโกรธและอับอาย ตามระเบียบจริ งๆแล้ วเขาไม่มี
คุณสมบัติที่จะเข้ ามาในที่แห่งนี ้ด้ วยซํ ้า
บรรยากาศเริ่ มตึงเครี ยด แต่ในขณะนันผู
้ ้ อาวุโสจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ เดินขึ ้นไปบนเวทีและ
กล่าวบางอย่าง “ทุกคนเงียบ เราจะประกาศผลกาทดรสอบแล้ ว”
คนที่อยูด่ ้ านล่างเงียบในทันทีแม้ แต่ข้ารับใช้ คนนันก็
้ ได้ แต่สาปแช่งอยูใ่ นใจ มันทําได้ เพียงยืนอยู่
ตรงนันอย่
้ างเงียบ ๆ
ผู้อาวุโสคนนันหยิ้ บแผ่นรายชื่ออันยาวเหยียดออกมาและกล่าวว่า “ในการแข่งขันสอบเข้ าครัง้
นี ้ ผู้เข้ าสอบได้ รับการตัดสินจากทังสามด่
้ าน รวมถึงอายุและพรสวรรค์ คุณสมบัติเหล่านี ้เองก็
จะถูกนําไปพิจารณาและประเมินโดยเหล่าผู้อาวุโส ในตอนนี ้เราจะประกาศอันดับหนึง่ ถึงสิบ
ดังต่อไปนี ้ อันดับสิบ โจวเจิ ้นหยาง รางวัลยาเม็ดผสานวิญญาณสิบเม็ด อันดับเก้ า…”
ผู้อาวุโสประกาศผลอย่างไม่เร่งรี บจนกระทัง่ ถึงอันดับที่สอง…
“อันดับสอง หวังหยานเฟิ ง รางวัล ยาโอสถพญางูทองคํา อันดับหนึง่ หลินหมิง รางวัล ยาเม็ด
ไขกระดูกมังกรทอง ผลในการทดสอบถูกประกาศแล้ ว ยินดีด้วยกับทุกๆคนที่อยูใ่ นสิบอันดับ
แรก หากไม่มีใครคัดค้ าน ขอเชิญผู้อาวุโสซันมอบรางวัล”
“โปรดรอสักครู่! ข้ าขอคัดค้ าน” หวังหยานเฟิ งยกมือขึ ้น ผู้อาวุโสซูจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ซงึ่ เป็ น
เพื่อนกับพ่อของเขาดังนันเขาจึ
้ งรู้ผลของมันอยูแ่ ล้ ว สาเหตุที่เขาคัดค้ านก็เพราะว่าผู้อาวุโสซู
เป็ นคนแนะนําให้ เขาทํา
“หืม? เจ้ าจะคัดค้ านอะไร?” ผู้อาวุโสที่ประกาศผลขมวดคิ ้วและกล่าวถาม
หวังหยานเฟิ งยิ ้มและเดินออกไปกลางสนาม เสียงของเขาดังก้ องไปทัว่ ทุกบริ เวณอย่างชัดเจน
“เท่าที่ข้าได้ ร้ ูมา พรสวรรค์ของหลินหมิงคือระดับสามช่วงกลางเท่านัน้ แต่พรสวรรค์ของข้ าอยู่
ในระดับสี่ขนสู
ั ้ ง ผู้อาวุโสกล่าวว่าผลการตัดสินประเมินขันสุ
้ ดท้ ายจากสามการทดสอบ อายุ
และพรสวรรค์ การตัดสินใจขันสุ ้ ดท้ ายอยูใ่ นมือผู้อาวุโส แต่เงื่อนไขในข้ อ‘พรสวรรค์’สําคัญยิ่ง
นัก หากผู้มีที่พรสวรรค์เพียงระดับสามได้ รับยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองไป มันค่ากลายเป็ นของ
ไร้ คา่ เป็ นแน่ ข้ าขอปฏิเสธที่จะยอมรับหลินหมิงเป็ นอันดับหนึง่ ”
สําหรับหวังยานเฟิ ง ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองนันเป็ ้ นสิ่งที่เขาไม่อาจตัดใจได้ ลง หากเขาได้ ยา
นันมา
้ เขามัน่ ใจว่าเขาจะสามารถเข้ าสูข่ นที
ั ้ ่สี่ได้ ก่อนที่จะอายุสิบแปดปี เสียอีก และมัน่ ใจว่าจะ
เขาจะไปถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สี่ก่อนอายุ20ปี และแข็งแกร่งกว่าหลิงเซ็นจากนิกายสวรรค์ได้
อย่างแน่นอน
ถ้ าเรื่ องเหล่านี ้เป็ นไปตามแผนของเขา สถานะในตระกูลของเขาก็จะสูงขึ ้นจนไม่มีผ้ อู าวุโสคนได้
ข่มเหงเขาได้ อีกต่อไป
ในเวลานี ้ผู้อาวุโสซันยืนขึ ้นและแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา “เจ้ ากล้ าตังคํ
้ าถามเกี่ยวกับการ
้ ?” เสียงเย็นชานี ้เต็มไปด้ วยสาระสําคัญอย่างแท้ จริ ง
ประเมินของพวกผู้อาวุโสอย่างนันรึ
ในขณะนันคนที
้ ่อยูใ่ นแวดวงตรงนันถู
้ กทําให้ ตกใจจากอุณหภูมิที่เย็นลงอย่างฉับพลัน
หวังหยานเฟิ งไม่สามารถทนต่อแรงกดดันที่น่ารังเกียจนี ้ได้ เขาถูกบังคับให้ ถอยหลังออกไป
หลายก้ าว
“ผู้อาวุโสซันไซฟาน ท่านกําลังข่มขูเ่ ด็กๆหรื อ ” ผู้อาวุโสซูกล่าวว่าในขณะที่เขายังยืนอยู่ โดย
ธรรมชาติแล้ วเขาก็ไม่ชอบผู้อาวุโสซันไซฟานเช่นกัน
ในขณะนี ้หวังหยานเฟิ งก็กล่าวขึ ้นมาว่า “ผู้อาวุโสซันโปรดสงบลงก่อน ข้ าไม่กล้ าที่จะตังคํ ้ าถาม
กับการตัดสินใจของท่านผู้อาวุโส แต่ข้าคิดว่ามันไม่ยตุ ิธรรม ในการตัดสินการแข่งขันที่สาม ข้ า
ก็ฆา่ สัตว์ดรุ ้ ายทังสองได้
้ เช่นกัน มันเป็ นเพียงเพราะข้ ารี บร้ อนเกินไปเพียงเล็กน้ อย เป็ นเหตุให้
ข้ าได้ รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถที่จะก้ าวเข้ าสูช่ นที ั ้ ่ห้าได้ ถ้ าข้ าก้ าวไปอย่างช้ าๆแล้ วข้ าก็
้ ่ห้าได้ เช่นกัน ”
สามารประสบความสําเร็จในชันที
“ดังนันข้
้ าจึงไม่สามารถทําอะไรได้ นอกเสียจากปฏิเสธที่จะยอมรับผลการตัดสินในครัง้ นี ้ ข้ าไม่
เชื่อว่าความแข็งแรงของข้ าจะแพ้ ให้ กบั หลินหมิง! ”
“แล้ วเจ้ าต้ องการอะไร?”
“เป็ นคําถามที่ตรงประเด็นมากขอรับ ข้ าต้ องการที่จะต่อสู้ตดั สินแพ้ ชนะกับหลินหมิง ถ้ าข้ าแพ้
ในการต่อสู้ครัง้ นี ้แล้ วข้ าก็จะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่โดยดี แต่ถ้าข้ าชนะแล้ วตําแหน่งอันดับ
หนึง่ จะต้ องเป็ นของข้ า! หวังหยานเฟิ งหันหน้ าไปหาหลินหมิงและกล่าวยัว่ ยุเขา “หลินหมิง เจ้ า
กล้ ารับคําท้ าของข้ าหรื อไม่!?”

บทที่ 44 แกมันสมควรตายอยูแ่ ล้ ว
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



“พูดง่ายๆก็คือ ข้ าต้ องการตัดสินแพ้ นชนะกับหลินหมิง ถ้ าข้ าแพ้ ข้ าก็จะยอมรับความพ่ายแพ้
แต่โดยดี แต่ถ้าหากข้ าเป็ นผู้ชนะ อันดับหนึง่ ในการสอบครัง้ นี ้ต้ องเป็ นของข้ า” หวังยานเฟิ ง พูด
ด้ วยนํ ้าเสียงยัว่ ยุ “หลินหมิง เจ้ ากล้ ารับคําท้ าข้ าของข้ าหรื อไม่”
ก่อนที่หลินหมิงจะทันได้ ตอบอะไร ผู้เฒ่าซูก็ได้ พดู ยิ ้มๆอออกมา “เป็ นความคิดที่ดีทีเดียว ผล
ของการสอบอาจจะบอกอะไรได้ ไม่มากนัก แต่เราควรจะก็ประเมินพวกเขาจากคุณสมบัติ
สําคัญทังสอง
้ ซึง่ หนึง่ ก็คอื ทักษะในการต่อสู้จริ ง และสองก็คือ พรสวรรค์ ซึง่ ก็ชดั เจนอยูแ่ ล้ วว่า
ผู้ที่มีพรสวรรค์อนั ดับหนึง่ ก็คือ หวังยานเฟิ ง”
คําพูดของผู้เฒ่าซูได้ ปิดทางหนีของหลินหมิงไปเป็ นที่เรี ยบร้ อยแล้ ว แต่ถงึ อย่างไรก็ตาม ผู้เฒ่าซู
ก็คิดว่าเพียงเท่านี ้คงยังไม่เพียงพอ เขาหันไปมองหลินหมิงและพูดต่อว่า “ไม่ใช่แค่ระดับขันการ

ฝึ กฝนกายภาพเท่านันที ้ ่สําคัญ แต่รวมถึงสภาพจิตใจอีกด้ วย เจ้ าจะต้ องมีความพยายามที่จะ
เอาชนะอุปสรรคต่างๆที่เจ้ าพบเจอ หากเจ้ ารู้สกึ หวาดกลัวแล้ วละก็ เจ้ าก็ไม่ตา่ งอะไรกับพ่าย
แพ้ ไปแล้ ว”
คําพูดของผู้เฒ่านันมิ
้ ได้ ผิด แต่ตา่ งตรงที่เขาพูดด้ วยความมุง่ ร้ าย โดยในสถานการณ์นี ้ คนที่โดน
กล่าวถึงก็จะเสียความเชื่อมันอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะหลินหมิงที่พงึ่ มีอายุได้ เพียง15ปี
เท่านัน้ ถ้ าอันดับหนึง่ แพ้ ให้ กบั อันดับสองแล้ วละก็ เขาก็คงไม่มีคณ
ุ สมบัติที่จะเป็ นอันดับหนึง่ ใน
การทดสอบนี ้เป็ น
ผู้เฒ่าซูได้ คาดการณ์ไว้ แล้ วการที่หลินหมิงจะได้ รับความพ่ายแพ้ นนคื
ั ้ อความจริ งที่ไม่อาจ
เปลี่ยนแปลงได้ เพราะการฝึ กฝนของหวังยานเฟิ งสูงกว่าหลินหมิงถึงหนึง่ ขัน้ สําหรับหวังยาน
้ มๆ เขาสามารถจัดการหลินหมิงโดยไม่จําเป็ นต้ องใช้ ‘สัจ
เฟิ งที่มีการฝึ กฝนสูงกว่าถึงหนึง่ ขันเต็
้ า’เลยด้ วยซํ ้า มันคือวรยุทธลับในตระกูลซึง่ สามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้ เป็ นอย่าง
ธรรมทังเก้
มากมายมหาศาล
สําหรับหลินหมิงที่มีเพียงพละกําลังของพระเจ้ า มันอาจจะเป็ นเรื่ องง่ายที่จะใช้ พละนันจั
้ ดการ
กับปี ศาจพวกนันที
้ ่มีพลังป้องกันสูงมาก แต่ถ้าใช้ ส้ กู บั คนแล้ วละก็ พละกําลังเพียงอย่างเดียวไม่
พอหรอก
ด้ วยสภาพในตอนนี ้ ไม่มีทางที่หวังยานเฟิ งจะแพ้ ได้ เลย
หลินหมิงมองไปยังผู้เฒ่าและหวังยานเฟิ งด้ วยสายตาอันเย็นชา “ถ้ าจะให้ ส้ กู ็ส้ ไู ด้ อยูห่ รอก แต่
การเดิมพันครัง้ นี ้คนที่เสียมีแต่ฝั่งข้ าเท่านัน้ ถ้ าข้ าเอาชนะแกได้ แล้ วจะเกิดประโยชน์อนั ใดแก่
ข้ า ข้ าก็ยงั คงเป็ นที่หนึง่ เช่นเดิม แต่หากข้ าแพ้ ข้าจะต้ องเสียอันดับหนึง่ ไป เจ้ าคิดว่ามันยุติธรรม
รึ ”
เมื่อหวังยานเฟิ งรู้วา่ หลินหมิงทําท่าทีจะยอมแข่งด้ วยแล้ ว เขาก็ร้ ูสกึ โล่งอกโล่งใจขึ ้นมา “หาก
แกคิดว่าจะเอาชนะข้ าได้ เพียงเพราะแกสามารถไปได้ ถงึ ชันห้ ้ าแล้ วละก็ มันก็คงจะเป็ น
ความคิดที่โง่เขล่ามากทีเดียว ข้ าจะทําให้ แกได้ ร้ ูซึ ้งถึงพลังของ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ เอง”
หวังยานเฟิ งถามไปแบบยิ ้มๆ “แล้ วเจ้ าต้ องการสิ่งใดในการเดิมพัน”
หลินหมิงตอบ “ถ้ าข้ าชนะข้ าต้ องการ ยาโอสถพญางูทองคํา แต่หากข้ าแพ้ เจ้ าก็เอาอันดับหนึง่
พร้ อมกับ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองไปได้ เลย”
“ก็ดีนี ้ ตกลงตามนัน”หวั
้ งยานเฟิ รู้สกึ ว่า วันนี ้เป็ นวันที่ทําให้ เขามีความสุขที่สดุ ในชีวติ ในที่สดุ
เขาก็จะได้ เป็ นอันดับหนึง่ ในการสอบเข้ าได้ อย่างงายดาย เพียงแค่จดั การนักสู้ขนสองอี ั้ กคน
หนึง่ เท่านัน้ เขากล่าวอย่างรี บเร่ง “งันก็
้ เรามาเริ่ มกันได้ เลย ”
“ตกลง”
เมื่อได้ เห็นหลินหมิงตอบตกลง ผู้เฒ่าซันก็ได้ แต่สา่ ยหัวไปมา หลินหมิงต้ องแพ้ อย่างแน่นอน
ด้ วยความต่างชันทั้ งในด้
้ านการฝึ กฝนที่มากถึงหนึง่ ขันและสมบั
้ ติที่ทําให้ หวังยานเฟิ งได้ เปรี ยบ
หลินหมิงอย่างเห็นได้ ชดั แม้ ไม่ต้องใช้ วรยุทธ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ หวังยานเฟิ งซึง่ เกิดในตระกูลขุน
นางชันสู
้ งและก็มีอาจารย์สว่ นตัวพรํ่ าสอนอยูท่ กุ คืนวันก็สามารถเอาชนะหลิมหมิงได้ อย่าง
ง่ายดาย
จากการพูดคุยเหล่านัน้ สถานการณืในตอนนี ้ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากการต่อสู้ของพวกเขาทังสอง

ได้
ทันทีที่หวังยานเฟิ งขึ ้นมาบนเวที เขาก็ได้ ชกั ดาบขึ ้นมาและคํารามออกมา “เข้ ามา!!!”
เมื่อผู้คนได้ เห็นอาวุธของหวังยานเฟิ งก็เป็ นต้ องตกตะลึง “นันมั
้ น สมบัติหายาก!!!”
เมื่อเป็ นสมบัติหายากแล้ ว ราคาของมันก็สงู ถึงหลายพันเหรี ยญทอง สําหรับตระกูลขุนนางโดย
ปกติแล้ วผู้ที่จะได้ ครอบครองมันจะต้ องมีการฝึ กฝนขันที
้ ่สี่หรื อสูงกว่าเท่านัน้ ไม่มีใครคาดคิดว่า
หวังยานเฟิ งที่มีการฝึ กฝนเพียงขันที
้ ่สามจะมีมนั ไว้ ในครอบครอง แสดงว่าหวังยานเฟิ งจะต้ องมี
ตําแหน่งที่สงู มากแน่ๆ
จากนันผู
้ ้ คนต่างก็มองไปที่หลินหมิงหวังให้ หลินหมิงพอจะมีอาวุธดีดีกบั เขาบ้ าง เพราะดูจาก
สภาพแล้ วหลินหมิงคงไม่มีปัญญาหาสมบัติแบบนันมาได้้
ถึงแม้ วา่ นี่จะดูเป็ นการสู้ที่ไม่ยตุ ิธรรมนัก แต่ในอาณาจักรลิขิตฟ้า การประลองมันก็เป็ นเช่นนี ้
มันเป็ นไปไม่ได้ ที่จะเช่ายืมอาวุธเหล่านันมาใช้้ และยิ่งเป็ นไปไม่ได้ ที่ใครจะคุ้นเคยและชินกับ
การใช้ อาวุธซักชิ ้นในเวลาอันสัน้
ถ้ าหากจะบอกว่าเรื่ องอาวุธไม่ยตุ ิธรรมแล้ วละก็ เรื่ องการใช้ ยาโอสถต่างๆก็ยิ่งไม่ยตุ ิธรรมเข้ าไป
ใหญ่ มันคงจะยากมากๆที่จะห้ ามคนไม่ให้ ใช้ ยาเพื่อยกระดับพลังของตน
“หืมม หลินหมิงไม่น่าจะมีอาวุธดีๆใช้ สินะ”
“อืมม ไม่มีทางที่เขาจะมีอาวุธที่มีคา่ ขนาดนันได้
้ คนธรรมดาย่อมเสียเปรี ยบเป็ นธรรมดา หวัง
ว่าเขาจะพอมีอาวุธที่ดีและรับมือหวังยานเฟิ งได้ บ้างซักเล็กน้ อย”
ขณะที่ผ้ คู นกําลังโต้ เถียงกันอยู่ หลินหมิงก็ชกั มีดที่ได้ ใช้ ในการสังหารพวกปี ศาจเหล่านันขึ
้ ้นมา
เมื่อได้ เห็นมีดเล่มแบบนัน้ แววตาของทุกคนก็เบิกกว้ างอย่างชัดเจนนัน…นั
้ นมั้ น….มีดหัน่ หมู
ชัดๆ ฮ่าๆ
ไม่มีใครคิดมาก่อนเลยว่าหลินหมิงจะมีอาวุธด้ วย แต่มนั ก็เป็ นมีดแร่เนื ้อธรรมดาเท่านัน้ มันยาว
เพียงแค่หนึง่ ฟุตเท่านัน้ ซึง่ บางคนก็พดู ว่ายิ่งอาวุธยาวก็ยิ่งดี เมื่อมีดเช่นนี ้ต้ องไปเทียบกับดาบ
เงาวับยาวสามฟุตแล้ วละก็เห็นผลของการต่อสู้นี ้ชัดเจนอยูแ่ ล้ ว ยิ่งไปกว่านันมี ้ ดที่ใช้ แร่เนื ้อมัน
จะรับมือดาบได้ จริ งๆหรือ มันจะต้ องแตกหักด้ วยการปะทะไม่กี่ครัง้ อย่างแน่นอน
เมื่อหวังยานเฟิ งเห็นอาวุธของเขาก็หวั เราะออกมา “แกจะใช้ มีดนัน่ สู้กบั ข้ าจริ งๆรึ นันมั
้ นมีดแร่
เนื ้อนะโว้ ย แกนี่มนั ช่างโง่เชล่าเสียจริ งๆ”
หลินหมิงแสดงอาการแปลกใจเล็กน้ อย ก่อนจะเอ่ยคําพูดออกมา “ปกติมนั ก็มีไว้ ใช้ สําหรับฆ่า
สัตว์เท่านัน้ แต่จากการที่เจ้ าไม่ยอมรับในคําตัดสินของผู้อาวุโส ทําให้ เจ้ าเองก็ดไู ม่ตา่ งจากสัตว์
เดรัจฉานเหล่านันเท่
้ าไร”
เมือโดนหลินหมิงเหน็บแหนม ว่าตนเองไม่ตา่ งจากสัตว์เดรัจฉาน ทําให้ หวังยานเฟิ งโกรธเป็ น
ฟื นเป็ นไฟและคํารามขึ ้นมาอย่างโกรธเกรี ย้ ว “แกคงไม่ร้ ูจกั กับความตายเสียแล้ ว”
ขณะที่หลินหมิงกําลังก้ าวขึ ้นเวทีอย่างช้ าๆหวังยานเฟิ งก็ถือดาบเอาไว้ ในมือ เขาได้ เข้ าใจ
เกี่ยวกับทักษะของจารึกที่มีในดาบของเขา ซึง่ หลินหมิงก็เชี่ยวชาญทางด้ านนี ้เช่นกัน
ดาบของหวังยานเฟิ งดูมีทรงพลังและงดงาม แต่ในสายตาของหลินหมิงแล้ วมันก็เป็ นแค่ดาบ
ธรรมดาๆเล่มหนึง่ แม้ แต่จารึกที่ผนึกเอาไว้ ในดาบก็ไม่ได้ ทําให้ เขาสนใจแม้ แต่น้อย เพราะ
หลินหมิงได้ ศกึ ษาสิ่งเหล่านี ้จากความทรงจําของเหล่าผู้ที่อยูใ่ นอาณาจักรพระเจ้ ามาแล้ วเขาจึง
รู้ถงึ ภาพรวมของมัน ถึงแม้ วา่ หลินหมิงจะได้ เรี ยนเรื่ องพวกนี ้มานิดหน่อย แต่มนั ก็เพียงพอที่จะ
ประเมินดาบของหวังยานเหิงได้ ในทันทีที่เขาเห็น
ดาบนันสามารถเพิ
้ ่มพลังการต่อสู้ให้ กบั ผู้ใช้ ได้ เป็ นอย่างมาก แต่กบั หวังยานเฟิ งที่พงึ่ จะมีการ
ฝึ กฝนขันที
้ ่สาม ทําให้ หลินหมิงไม่ได้ กงั วลอะไรมากนัก เพราะเขายังไม่สามารถดึงพลังจากดาบ
ออกมาใช้ ได้ จนถึงขีดสุด
แน่นอนว่าแม้ หวังยานเฟิ งจะยังไม่ชํานาญกับดาบนันนั
้ ก แต่ถ้าเทียบกับมีดของหลินหมิงแล้ ว
มันยังคงสามารถตัดผ่ามีดของหลินหมิงออกเป็ นสองท่อนได้ อยูด่ ี ถึงมีดนี่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ
เขามานาน แต่ยงั ไงมันก็ทําจากเหล็กธรรมดาโดยช่างตีเหล็กธรรมดาๆเท่านัน้
แต่มนั ก็ไม่ได้ สง่ ผลอะไรต่อหลินหมิงมากนักห ลินหมิงคิดจะใช้ มีดนันแบบธรรมดาๆอยู
้ แ่ ล้ ว เขา
เชื่อในพลังกําปั น้ ของเขามากกว่าและสําหรับ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ก็เป็ นกระบวนท่าที่
ทรงพลังและยากแก่การเอาชนะอยูแ่ ล้ ว ดังนันกระดู
้ กและกล้ ามเนื ้อของเขาต่างหากที่เป็ นอาวุธ
ที่แท้ จริ ง
เมื่อเทียบกันในระหว่างที่เขาอยูบ่ นจุดสูงสุดของการฝึ กฝนขันที ้ ่สองแล้ วละก็ พลังเขาคงจะมี
หละกําลัง ประมาณ 2700 จิ๋น ด้ วยพละกําลังขนาดนี ้คงจะสามารถต่อยทะลวงผ่านเหล็กหนา
ได้ อยูแ่ ล้ ว และถ้ าหากใช้ กบั คนแล้ วละก็ แม้ แต่ผ้ ทู ี่ฝึกฝนไปถึงขันที
้ ่สห่ี รื อห้ าก็ไม่อาจเมินเฉยต่อ
พละกําลังเช่นนี ้ได้

บทที่ 45 เส้ นทางอันน่าอัปยศอดสู


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



ตอนนี ้ทัว่ ทังร่้ างของหวังยานเฟิ งเต็มไปด้ วยพลังปราณอันพุง่ พล่านร้ อนแรง เขาไม่คิดจะรอให้
เสียเวลาอีกแม้ แต่น้อย ในขณะนี ้ดาบขนาดสามฟุตของเขาก็คอ่ ยๆเปล่งประกายแสงออกมา
มันมีอกั ขระทังสิ ้ ้น10ตัวอักขระ และในตอนนี ้เขาสามารถทําให้ มนั เปล่งแสงสีเขียวออกมาได้ ถงึ
9อักขระ อีกหนึง่ ที่เหลือนันสํ ้ าหรับเหล่าปรมาจารย์เท่านันที
้ ่จะควบคุมมันได้
เพลงดาบ“สัจธรรมทังเก้ ้ า” ที่สือทอดมาจากตระกูลจะถูกครอบครองโดยผู้นําตระกูลหวัง
เท่านัน้ ซึง่ จักรพรรดิองค์แรกผู้ได้ มอบมันให้ กบั ตระกูลหวังแห่งเมืองเยว่ลู่ และสืบทอดกันมารุ่น
ต่อรุ่น ซึง่ พลังของหวังยานเฟิ งในตอนนี ้ที่ฝึกฝนถึงขันที
้ ่สาม กลับสามารถเบิกอักขระได้ ถงึ 9
อักขระ น่าประทับใจมิใช่น้อย!!
สําหรับผู้เฒ่าหลายๆคนที่ดอู ยู่ พวกเขาก็เองได้ ผา่ นประสบการณ์มามากมาย และทําให้ พวก
เขาสามารถสัมผัสพลังอันรุนแรงของหวังยานเฟิ งได้ ในทันที
‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ จะสามารถแสดงพลังที่แท้ จริ งออกมาได้ ก็ตอ่ เมื่อใช้ รวมกับอาวุธหายาก ซึง่
สําหรับตระกูลขุนนางแล้ ว การมีทงกระบวนท่
ั้ าลับและอาวุธหายากที่มีมลู ค่ามหาศาลย่อม
ได้ เปรี ยบอย่างเห็นได้ ชดั
“หลินหมิงต้ องแย่แน่ๆ เขาเป็ นเพียงแค่เด็กยากจนคนหนึง่ เขาไม่มีทางที่จะรับมือกับ ‘สัจธรรม
้ า’ได้ ”
ทังเก้
ขณะที่ยืนอยูบ่ นเวที ดวงตาของหลินหมิงก็สอ่ งประกายขณะที่มองไปยังอักขระบนดาบของหวัง
ยานเฟิ ง ก่อนที่เขาจะได้ เรี ยนเกี่ยวกับการจารึก เขาได้ ศกึ ษากฎแห่งจิตวิญญาณจนเข้ าใจลึกซึ ้ง
อย่างถ่องแท้ และพัฒนามันต่อในแบบของเขาเอง ด้ วยความเข้ าใจที่ลกึ ซึ ้งในกฎแห่งจิต
วิญญาณและ กฏแห่งจิตวิญญาณอีกส่วนหนึง่ จากความทรงจําในลูกบาศก์ศกั ดิส์ ิทธ์‘ครอบงํา
วิญญาณ’ ทําให้ ในตอนนี ้หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ ถงึ การไหลเวียนของพลังที่อยูภ่ ายในดาบ
นันได้
้ อย่างชัดเจน ตราบใดที่เขายังมีจิตวิญญาณอยู่ เขาก็สามารถรับรู้ได้ ถึงทุกสรรพสิ่ง
“มันคงกําลังใช้ กระบวนท่าบางอย่าง แม้ ข้าจะไม่เคยเห็นมาก่อนและไม่ใช้ เรื่ องง่ายที่จะหา
จุดอ่อนของมัน แต่หากเป็ นเรื่ องการจารึกแล้ ว ไม่มีทางที่จะมีมนุษย์ผ้ ใู ดในอาณาจักรแห่งนี ้เก่ง
เกินข้ าไปได้ เขาเข้ าใจมันอย่างถ่องแท้ ”
ขณะที่หลินหมิงกําลังคิดเพลินๆอยูห่ วังยานเฟิ งก็จบั ดาบพุง่ ตรงเข้ ามาหาเขา เมื่อเข้ ามาใกล้ ถงึ
ระยะที่พอเหมาะมันก็ได้ ใช้ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ และทันที ในเวลาต่อมา ตัวปั ญหาที่มีชื่อว่า “ไอ้
หลินหมิง” ก็จะถูกจัดการและทําให้ หวังยานเฟิ งได้ เป็ นอันดับหนึง่ สีชื่อเสียงโด่งดังในชัว่ ข้ ามคืน
พลังปราณถูกรวมไว้ ในดาบจนเกิดพลังอันรุนแรง สิ่งนี ้เองที่เป็ นข้ อดีของการมีอาวุธหา
ยาก ทันทีที่มงุ่ สมาธิถ่ายเทพลังปราณ มันจะเพิ่มพลังให้ กบั อาวุธและผู้ใช้ เป็ นอย่าง
มาก สําหรับคนที่ไม่มีอาวุธในระดับเดียวกันแล้ วก็จะรับรู้ได้ ทนั ทีวา่ ไม่มีทางที่จะรับมือกับสิ่ง
เหล่านี ้ได้ เลย แต่ถ้าหากอยากจะลองแล้ วละก็ ผลลัพธ์ก็คงจะเศษซากอาวุธของพวกเขาเองก็
แตกละเอียดเป็ นชิ ้นเล็กชิ ้นน้ อยด้ วยการปะทะเพียงครัง้ เดียว
“หลินหมิง แกเตรี ยมตัวตายซะ”
หวังยานเฟิ งแหกปากในขณะที่อกั ขระทัง9ตั ้ วอักษร เริ่ มเปล่งแสงสีเขียวเจิดจ้ าออกมา มันใช้
ดาบฟั นมาตรงหน้ าหลินหมิง ทําให้ เขารู้สกึ ได้ ถงึ แรงลมที่ปะทะเข้ ากับไหล่ของเขา แววตาของ
หลินหมิงเบิกกว้ างและใช้ เท้ ายันพื ้นอย่างรุนแรง และสามารถหลบไปได้ อย่างฉิวเฉียด
ปั งงงง!!
ขณะที่ดาบของหวังยานเฟิ งผ่าแยกเวทีออกเป็ นสองส่วน แรงระเบิดก็ได้ ทําให้ เศษหินกระจัด
กระจายไปในอากาศ ซึง่ หินที่ใช้ สร้ างเวทีนนถู
ั ้ กปกคลุมด้ วยพลังเวทย์ที่แข็งแกร่ง แต่ด้วยพลัง
ของ‘สัจธรรมทังเก้ ้ า’และดาบหายากของเขากลับสามารถฝากรอยแตกร้ าวลึกลงไปกว่าครึ่งฟุต
ไว้ ได้ อย่างง่ายดาย
ถึงแม้ ดาบของเขาจะฟั นเฉี่ยวหลินหมิงไป แต่หวังยานเฟิ งก็ไม่ได้ ผิดหวังอะไรมากนัก แต่เขา
กลับหัวเราะออกมาแทน “ฮ่าๆไอ้ หลินหมิง หนีเข้ าไปอีกไอ้ หมาน้ อย แกอยากจะเล่นวิ่งไล่จบั กับ
ข้ ารึ มีความเร็วเพียงเต่าคลาดแต่กลับไม่หดั เจียมเนื ้อเจียมตัวมารับคําท้ าจากข้ า ช่างน่า
สมเพชเสียจริ ง!!”
“ความเร็ วน่ะรึ แกต่างหากที่น่าสมเพชอย่าคิดว่าจะไล่ตามข้ าได้ ทนั ” หลินหมิงกล่าวตอบไป
อย่างยอกย้ อน
แต่ทนั ใดนันการเคลื
้ ่อนไหวของหวังยานเฟิ งก็เปลีย่ นไป กลายเป็ นภาพเบลอๆที่ซ้อนทับกัน
“เจ็ดก้ าวแห่งศรัทธา’ วรยุทธลับตระกูลหวัง! ”
“นันคื
้ อ.. วรยุทธลับแห่งตระกูลหวัง การย่างก้ าวที่สามารถปรากฏตัวและหายไปได้ ดงั่ ใจ
ปรารถนา ความเร็วที่เหนือกว่าทังภู
้ ตผีและเทวดาทังมวล
้ เพียงการฝึ กฝนขันที
้ ่สามมันสําเร็ จวร
ยุทธ์ลบั นี ้ได้ อย่างไร”
“อาวุธก็ระดับหายาก วรยุทธก็ทรงพลัง แม้ แต่ความเร็ วก็ยงั เทียบไม่ติด การต่อสู้ในครัง้ นี ้มัน
เห็นผลชัดเจนอยูแ่ ล้ ว”
ขณะที่ผ้ คู นกําลังคุยกันอยูห่ วังยานเฟิ งก้ าวเท้ าออกมาและหายวับไป เพียงชัว่ อึดใจมันก็ปรากฏ
กายอยูข่ ้ างหลินหมิงในทันที แสงสีเขียวที่เปล่งประกายออกมาจากดาบปรากฏให้ เห็นอีกครัง้
จุดหมายปลายทางของดาบเล่มนันก็ ้ คือแขนของหลินหมิง ดูจากลักษณะของดาบแล้ วหวังยาน
เฟิ งคงคิดจะตัดแขนของหลินหมิงให้ ขาดกระจุดในดาบเดียวอย่างแน่นอน
แม้ มนั จะผิดต่อกฎของสํานักที่จะฆ่ากันในระหว่างการประลองของสํานักเจ็ดแก่นแท้ หวังยาน
เฟิ งจึงทําได้ เพียงตัดแขนของหลินหมิงเท่านัน้ แม้ วา่ จะไม่ถงึ ตายแต่ก็สามารถทําลายเส้ นเอ็น
และกระดูกให้ ไม่สามารถกลับมาใช้ งานได้ แม้ จะมียาโอสถลํ ้าค่าก็มิอาจรักษาให้ หายกลับมา
สมบูรณ์ได้ เหมือนเดิม
นี่เป็ นดาบที่เต็มไปด้ วยจิตมุง่ ร้ ายอย่างแท้ จริ ง
ริ มฝี ปากของหวังยานเฟิ งเผยให้ เห็นรอยยิ ้มที่เต็มไปด้ วยความสะใจ “แกมีความสามารถแค่นี ้
เองรึ ด้ วยดาบนี ้จะเปลี่ยนเส้ นทางในชีวิตของแกไปอย่างสิ ้นเชิง ดูซิวา่ แกจะยังกล้ ามาท้ าสู้กบั
ข้ า”
นี่เป็ นเหตุผลของการลงดาบรึ เขาเองก็คิดว่าเขาจะไม่แพ้ เช่นกัน หลินหมิงคํารามออกมาแล้ ว
ปล่อยหมัดที่เต็มไปด้ วยพลังของเขาออกมา
หมัดนี ้มิได้ เป็ นเพียงหมัดธรรมดา แต่เป็ นหมัดที่มีพละกําลังถึง 3000 จิ๋น
ตูมมมม!!
หมัดของเขาปะทะเข้ ากับคมดาบของหวังยานเฟิ งอย่างรุนแรง เขาพยายามเล็งและปล่อยหมัด
ไปที่ซงึ่ เป็ นจุดที่เปราะบางที่สดุ บนดาบเล่มนัน้
ด้ วยความเร็วที่หวังยานเฟิ งฟั นลงมา แทบเป็ นไปไม่ได้ เลยที่จะเล็งปะทะที่จดุ ๆนันได้
้ อย่าง
แม่นยํา หากเขาไม่ได้ ผา่ นการฝึ กสุดโหดที่เขาฝึ กฝนการเคลือ่ นไหวและความแม่นยําแล้ วก็คง
ยากที่จะทําได้ และถ้ าหากไม่ได้ โจมตีไปที่จดุ ๆนี ้เขาก็ไม่มีทางจะรับดาบเล่มนี ้ได้
ในช่วงเวลาขณะนันหวั
้ งยานเฟิ งสัมผัสได้ ถงึ แรงกระแทกอันรุนแรงที่ไหลผ่านเข้ ามาในร่างกาย
ถ้ าพลังในดาบของเขาเปรียบเสมือนอสรพิษแล้ วละก็ หมัดของหลินหมิงก็เปรี ยบได้ กบั มีดที่ตดั
หัวของอสรพิษให้ ขาดสะบัน้
เป็ นไปได้ อย่างไร!!!
ทันทีที่พลังปราณเริ่ มลดลง หวังยานเฟิ งก็เริ่ มได้ ถงึ ความเจ็บปวดที่กําลังกัดกินร่างกายของเขา
อยู่ ก่อนที่เขาทันได้ ร้ ูวา่ เกิดอะไรขึ ้นกับตัวเขา หลินหมิงก็ใช้ เท้ าเตะไปที่หวั ของหวังยานเฟิ ง
อย่างรุนแรงอีกครัง้
ทุกๆวันในช่วงหลายปี ที่ผ่านมานี ้ หลินหมิงได้ ฝึกการเคลื่อนไหวขาของเขากับตอไม้ ดังนันความ

เสียหายที่หลินหมิงทํานันก็
้ คงจะเหมือนกับเอาเหล็กไปทุบกับแก้ ว ด้ วยพลังที่น่ากลัวจากการ
ฝึ ก ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ มันไม่ตา่ งจากโดนแรงระเบิดที่หวั เลย
ขาของหลินหมิงเปรี ยบเสมือนหางของมังกรที่ตวัดออกมา แม้ หวังยานเฟิ งจะมึงงงอยูบ่ ้ าง มันก็
ยังรู้สกึ ได้ มันพยายามยกแขนขึ ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตีนนั ้
แต่ถงึ อย่างนัน้ การเตะของหลินหมิงก็ทําให้ หวังยานเฟิ งรู้สกึ เหมือนกับโดนเหล็กหวดเข้ าที่แขน
แขนของเขาชาจนไร้ ความรู้สกึ มันแทบจะทําให้ เขาหมดสติลงจากการโจมตีในครัง้ นี ้
หัวใจของหวังยานเฟิ งตกลงไปอยูท่ ี่ตาตุม่ นี่มนั ไม่ใช่พละกําลังของคนที่ฝึกฝนในขันที
้ ่สองแล้ ว
จากการพลิกผันกระแสของการต่อสู้ ผู้เฒ่าที่ดอู ยูห่ ลายๆคนเป็ นต้ องตกตะลึงไปตามๆกัน หมัด
นันไม่
้ ธรรมดาเลย ผู้ทดสอบคนอื่นๆอาจจะไม่สามารถรับรู้ได้ ถึงพลังของมัน แต่สําหรับเหล่า
อาจารย์ระดับปราณต้ นฟ้าแล้ ว พวกเขารู้ได้ ทนั ทีวา่ มันเกิดอะไรขึ ้นบ้ าง
หลินหมิง ทําแบบนันได้
้ อย่างไร!!
การเตะในครัง้ นี ้ทําให้ ร่างกายของหวังยานเฟิ งลอยกระเด็นถอยหลังออกไป แต่ก่อนที่มนั จะทัน
ได้ สดู ลมหายใจในครัง้ ถัดไป มันก็เห็นหลินหมิงโผล่มาอยูต่ อ่ หน้ ามันอีกครัง้
เป็ นไปไม่ได้ !!
“เจ็ดก้ าวแห่งศรัทธา” หวังยานเฟิ งขยับเท้ าของมัน ทําให้ ร่างของมันทําลายหายวับไปในทันที
มันหายไปจากระยะหมัดของหลินหมิงได้ ในพริ บตา แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่มนั ได้ รับมาก่อน
หน้ านี ้ทําให้ มนั ควบคุมพลังของ ‘เจ็ดก้ าวแห้ งศรัทธา’ไว้ ได้ ไม่นานและเผยร่างของมันออกมาใน
ที่สดุ หวังยานเฟิ งสําลักเลือดออกมาจากปาก ตอนนี ้หวังยานเฟิ งรู้สกึ ได้ ถงึ ความหวากกลัวที่ผดุ
ขึ ้นภายในจิตใจของมัน มันเริ่ มจะคิดได้ แล้ วว่าพลังของมันอ่อนลงอย่างชัดเจนตังแต่
้ การใช้
‘สัจธรรมทังเก้
้ า ’ต่อสู้กบั พวกปี ศาจในชันสี
้ ่สองตัวนัน้ มันคิดว่าถ้ าหากมันมีดาบหายากเล่มนี ้
แล้ ว มันก็จะสามารถผ่านไปชันห้้ าได้ อย่างง่ายดาย และคงจะฆ่าปี ศาจในชันได้้ หลายตัว
แน่ๆ แต่ตอนนี ้มันกลับถูกไล่ต้อนโดยหลินหมิง หลินหมิงสามารถฆ่าปี ศาจบนชันที
้ ่ห้าได้ ด้วย
อย่างนันหรื
้ อ
ท่า ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’และ ‘เจ็ดก้ าวแห่งศรัทธา’ ที่เขาภาคภูมิและทําให้ เขาได้ อวดดีมาตลอด
กําลังถูกโค่นงันหรื
้ อ เพียงแค่คิดก็ทําให้ หวังยานเฟิ งรู้สกึ อัปยศและสิ ้นหวัง แต่ก่อนที่มนั จะได้
รู้สกึ อะไรไปมากกว่านี ้ หลินหมิงก็พงุ่ เข้ าไปหามันอีกครัง้ ในครัง้ นี ้หลินหมิงได้ มาพร้ อมกับมีดแร่
เนื ้อคูก่ าย
“ข้ าจะทําลายมีดของเจ้ าซะให้ แหลกละเอียด ”
คงเป็ นเพราะความเหนื่อยล้ าจากการใช้ พลังปราณ ก่อนหน้ านี ้ ทําให้ ในตอนนี ้หวังยานเฟิ ง
สามารถใช้ พลังปราณได้ อีกเพียงครึ่งเดียวเท่านัน้ หวังยานเฟิ งไม่มีเวลาพอที่จะใช้ พลังของ ‘สัจ
้ า’ แล้ ว ในตอนนี ้มันทําได้ แค่รวบรวมพลังที่เหลืออยูท่ มุ่ ลงไปในดาบเพื่อใช้ มนั
ธรรมทังเก้
ป้องกันมีดของหลินหมิง มันคาดการณ์เอาไว้ วา่ ถ้ าหากมันใช้ ดาบหายากของมันรับมีด หลินห
มิงจะต้ องชักมีดเก็บไปแน่นอน ไม่อย่างนันมี ้ ดของหลินหมิงจะต้ องแตกเป็ นเสี่ยงๆ
แต่หลินหมิงกลับไม่ได้ ทําอย่างที่หวังยานเฟิ งได้ คาดการณ์เอาไว้ เขาใช้ มีดแร่เนื ้อปะทะกับดาบ
หายาก!!!
เปล้ งงง!!
ด้ วยแรงปะทะอันรุนแรงได้ ทําให้ มีแร่เนื ้อแต่ออกเป็ นเสี่ยงๆ (เอ้ ยย!! ต้ นฉบับEngแปลผิดป่ าว
ฟะ มันต้ องเป็ นดาบหายากนันไม่
้ ใช้ หรา)
หวังยานเฟิ งไม่มีเวลาแม้ แต่จะได้ ตกใจ ขณะที่มีกแร้ เนื ้อของหลินหมิงแตกกระจายออกเป็ น
เสี่ยงๆ
ด้ วยระยะที่ใกล้ ขนาดนันและความตกใจจากการที
้ ่อาวุธแตกกระจุยออกเป็ นชิ ้นเล็กชิ ้นน้ อย ทํา
ให้ หวังยานเฟิ งไม่ทนั คิดแม้ แต่จะหลบเศษของมีเหล่านัน้ แต่ถงึ อย่างนันมั
้ นก็ยงั พยายามจะใช้
‘เจ็ดก้ าวแห่งศรัทธา’เพื่อที่จะหลบ
“อ๊ ากกกก”
หวังยานเฟิ งร้ องออกมาอย่างน่าเวทนาทังไหล่้ ท้ อง แขน ขา ทัว่ ทังร่้ างของมันถูกฝั งด้ วยเศษคม
มีดที่แตกเป็ นชิ ้นเล็กออกมา เลือดในร่างกายพุง่ สาดกระเซ็นไปทุกทิศทุกทาง เศษมีดเหล่านัน้
บ้ างก็ทะลุผา่ นร่างกายของมันไป บ้ างก็ยงั คงฝั งอยูใ่ นร่างกายของมัน
โดยไม่รอให้ เสียเวลาหลินหมิงยกเตะไปที่หน้ าอกของหวังยานเฟิ งอีกครัง้ ทําให้ หวังยานเฟิ ง
เลือดพุง่ ออกจากปากขณะที่กลิ ้งลอยไปกลางอากาศอย่างหมดสภาพ
“หยุด!! พอได้ แล้ ว”
ขณะที่หลินหมิงเตะหวังยานเฟิ งลอยออกไป ผุ้เฒ่าซูก็พงุ่ ตรงไปราวกับพยัคฆ์ ทําให้ เก้ าอี ้ที่เขา
เคยนัง่ อยูก่ ็ถกู ทําลายกลายเป็ นเสี่ยงๆด้ วยพลังปราณ
ผุ้เฒ่าซูพงุ่ ขึ ้นไปกลางเวทีและรับหวังยานเฟิ งเอาไว้ ได้ เขาได้ หยิบขวดยาสมุนไพรออกมาจาก
แขนเสื ้อและป้อนให้ กบั หวังยางเฟิ งในทันที ผู้เฒ่าซูเป็ นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กบั พ่อของหวังยาน
เฟิ งเป็ นธรรมดาที่ผ้ เู ฒ่าซุจะรักหวังยานเฟิ งเหมือนบุตรหลานคนหนึง่
หลังจากที่ให้ ยาไปแล้ ว ผุ้เฒ่าซูก็มองตรงไปหาหลินหมิงอย่างดุดนั “เจ้ าเด็กนรก การกระทํา
ของเจ้ าช่างโหดเหี ้ยมยิ่งนัก”
ขณะที่ ผุ้เฒ่าซูพดู ออกมา คําพูดแต่ละคําเต็มไปด้ วยพลังปราณประดุจคลืน่ เสียงคํารามดังก้ อง
กังวานไปทัว่
เมื่อต้ องเผชิญหน้ ากับคลื่นเสียงอันทรงพลังเช่นนี ้ หลินหมิงหรี่ ตาลงและโคจรพลัง‘จุดสูงสุดแห่ง
ความโกลาหล’ อย่างลับๆ และกล่าวขึ ้นมา “ถ้ าหากจะว่าข้ าว่าโหดเหี ้ยม สิ่งที่มนั พยายามจะ
ทํากับข้ าก่อนหน้ านี ้ไม่โหดเหี ้ยมกว่าหรอกหรื อ มันพยายามจะตัดแขนของข้ า ข้ าคงจําเป็ นต้ อง
ปล่อยให้ มนั เขาตัดแขนของข้ าไปสินะ ถ้ าหากข้ าไม่โต้ ตอบด้ วยหมัดนันแขนข้
้ าก็คงจะขาด
้ วหวังยานเฟิ งเองก็เป็ นคนโหดเหี ้ยมด้ วยใช่หรื อไม่ ”
ออกไปแล้ ว เช่นนันแล้
“แก… แกกล้ าย้ อนคําพูดของข้ างันรึ
้ ” ผุ้เฒ่าซูก้าวออกมาข้ างหน้ าพร้ อมกับจิตสังหารที่ราว
กับจะลุกเป็ นไฟในทุกขณะ เช่นเดียวกับพยัคฆ์ที่กําลังจะสังหารเหยื่อและพร้ อมที่จะกระโจนเข้ า
ไปขยํ ้าได้ ทกุ เมื่อ

บทที่ 46 ยาโอสถลํ ้าค่าทังสอง



แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



ถ้ าเป็ นเพียงคนธรรมดาทัว่ ไปแล้ วละก็คงจะสัน่ กลัวเหมือนถูกแช่แข็งไปแล้ ว เมื่อต้ องเผชิญหน้ า
กับพยัคฆ์ที่เปี่ ยมไปด้ วยจิตสังหารถึงเพียงนี ้ ผู้เฒ่าซูดเู หมือนกับว่าจะสามารถพุง่ เข้ ามาโจมตี
ได้ ทกุ เมื่อ แต่หลินหมิงก็ยงั ไม่ได้ แสดงสีหน้ าที่หวาดกลัวแต่อย่างใด ถึงพลังของผู้เฒ่าซูจะ
เหนือกว่าเขาเป็ นอย่างมากก็ตาม แต่ก็ยงั ไม่ถงึ ขันเซี ้ ยนที่สามารถเหาะเหินไปมาได้ ตามใจ
ปรารถนา เหมือนกับนักรบที่อยูใ่ นอาณาจักพระเจ้ าที่เขาเห็นในนิมิต นักรบพวกนันสามารถ ้
แยกมหาสมุทรหรื อทลายภูเขาทิ ้งได้ ในพริ บตา ผู้เฒ่าซูเป็ นได้ เพียงแค่เศษเสี ้ยวของนักรบ
เหล่านัน้ และยิ่งกว่านันถ้
้ าหากหลินหมิงแสดงอาการหวาดกลัวแล้ วละก็ เขายังจะสามารถเดิน
บนวิถีแห่งการต่อสู้ได้ อีกงันหรื
้ อ
เมื่อเห็นว่าการใช้ จิตสังหารข่มหลินหมิงไม่ได้ ผล ผู้เฒ่าซูก็ยิ่งรู้สกึ โมโหขึ ้นมาอีก แต่ก่อนที่เขาจะ
ได้ ขยับอะไรไปมากกว่านี ้ เขาก็ร้ ูสกึ ได้ วา่ มีเงาพุง่ ผ่านเขาไป
“ซูเฟิ งหยวนนี่ทา่ นคิดจะรังแกเด็กตัวน้ อยๆอย่างนันรึ
้ สมกับที่เป็ นท่านเสียจริ ง” ศัตรูของเขา
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซันไซฟาน ผู้เฒ่าซันไม่ยอมให้ ผ้ เู ฒ่าซูได้ ทําอะไรตามใจชอบ เขาพุง่ มา
ตรงหน้ าหลินหมิงในทันที
เมื่อได้ เห็นผู้เฒ่ามายืนอยูข่ ้ างหน้ า หลินหมิงก็ร้ ูสกึ ได้ วา่ แรงกดดันจากจิตสังหารหายไปแล้ ว
จากตอนที่หวังยานเฟิ งได้ ใช้ พลังของมันเพื่อโจมตีหลินหมิง เหมือนเป็ นการพลิกผันอย่างรุนแรง
เมื่อหลินหมิงได้ ทําร้ ายหวังยานเฟิ งจนบาดเจ็บสาหัสและผู้เฒ่าทังสองคนก็
้ ได้ โผล่ขึ ้นมาบนเวที
ซึง่ เรื่ องทังหมดนั
้ นเกิ
้ ดขึ ้นภายในเวลาอันรวดเร็ วมากหลินหมิงในตอนนี ้ได้ พฒ
ั นาไปไกลมาก
แล้ ว
แต่ถงึ อย่างไรก็ตามในตอนนี ้เขาก็ได้ เป็ นศัตรูกบั สองคนนันเรี
้ ยบร้ อยแล้ ว ชีวิตในอนาคตของเขา
คงไม่ราบรื่ นเท่าไรนัก
ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาจากฐานะที่ยากจนนัน้ ต่างรู้สกึ เห็นอกเห็นใจหลินหมิง ตระกูลของพวกเขา
เหล่านันก็
้ ไม่ตา่ งจากหลินหมิงนัก พวกเขาเองก็ร้ ูสกึ ทรมานที่ต้องพ่ายแพ้ ให้ กบั พวกตระกูลขุน
นางที่มีทงเส้
ั ้ นสายและเงินทอง
เมื่อได้ เห็นผู้เฒ่าซันไซฟานเข้ ามาปกป้องหลินหมิงเอาไว้ แล้ ว ผู้เฒ่าซูก็ได้ แต่ฮดึ ฮัดด้ วยความ
เคียดแค้ นและโบกมือเป็ นเชิงให้ หวังบานเฟิ งตามเขาออกจากเวที แต่ในตอนนันหลิ ้ นหมิงก็ได้
พูดว่า “ผู้เฒ่าซู รอเดี๋ยวก่อน”
“หืมม” ผู้เฒ่าซูหนั กลับมาด้ วยสีหน้ าที่บึ ้งตึง เขาไม่คิดว่าหลินหมิงจะกล้ าพอที่จะเรี ยกเขาด้ วย
ซํ ้า ซึง่ คนส่วนใหญ่เมื่อได้ เห็นคนระดับนี ้แล้ วละก็คงทําได้ เพียงก้ มหน้ าก้ มตาอยูเ่ งียบๆไป
เท่านัน้ แต่หลินหมิงกลับเรี ยกเขาไว้ ช่างโง่ซะจริ งๆ เขาตอบกลับไป “เจ้ าต้ องการจะพูดอะไร”
“ก่อนที่ข้ากับหวังยานเฟิ งจะสู้กนั พวกเราได้ ตกลงกันไว้ วา่ ไม่ใช่แค่ข้าจะได้ เป็ นอันดับหนึง่
เท่านัน้ แต่เขายังจะให้ ยาโอสถพญางูทองคํา ที่เป็ นรางวัลที่อนั ดับสองจะได้ รับกับข้ าอีกด้ วย แต่
เพราะท่านกําลังพาเขาไป ข้ าจะไปรับมันด้ วยตัวเองก็ได้ ”
หลินหมิงได้ พดู ทุกอย่างไปหมดแล้ ว ถึงยังไงมันก็ชดั เจนอยูแ่ ล้ ว ถ้ าหากเขาไปทวงในขณะที่ไม่
มีฝงู ชนแล้ วละก็ เขาไม่มีทางที่จะได้ มนั มาง่ายๆแน่นอน
ในตอนนี ้หวังยานเฟิ งก็ได้ หมดสติไปแล้ ว การพ่ายแพ้ ในครัง้ นี ้อาจทําให้ เขาไม่อยากตื่นขึ ้นอีก
เลยก็เป็ นได้ เมื่อได้ ยินหลินหมิงพูด เขาก็ได้ กระอักเลือดเพิ่มออกมาอีก ถึงแม้ วา่ มันจะมิใช้
รางวัลของอันดับหนึง่ แต่มนั ก็ถือเป็ นของลํ ้าค่า แม้ แต่กบั ตระกูลหวังแห่งเมืองเยว่ลทู่ ่ีเป็ นถึง
ตระกูลขุนนางเก่าแก่มายาวนาน มันมีราคาสูงลิบลิ่วแทบไม่มีทางที่ตระกูลหวังแห่งเมืองเยว่ลู่
จะมีทรัพย์สนิ มากพอที่จะหาซื ้อมันได้ ในตอนนี ้ ยิ่งไปกว่านันตลอดระยะเวลาหลายปี
้ ที่ผ่านมา
หวังยานเฟิ งเองก็ได้ ใช้ เงินไปเป็ นจํานวนมาก ซึง่ ถ้ าหากเขาไม่ได้ นํายานี ้กลับไปด้ วยละก็ เขา
และตระกูลต้ องขาดทุนย่อยยับเป็ นแน่
“แกมันสมควรตาย”หวังยานเฟิ งสาปแช่งหลินหมิงอยูใ่ นใจ มันจ้ องไปที่หลินหมิงด้ วยความ
เกลียดชัง แต่สญ
ั ญาก็ต้องเป็ นสัญญา คงเป็ นเป็ นไม่ได้ ที่จะคืนคํา
“ข้ าได้ ส้ กู บั ผู้คนมามากมาย ทังจู
้ ้ ยนั ,หวังยี่เกา,หวังยานเฟิ ง พวกเขาเหล่านี ้ล้ วนมาจาก
ตระกูลขุนนางทังสิ
้ ้น แต่สําหรับหวังยี่เกามันอาจจะต่างออกไป จากเรื่ องในครัง้ ก่อนมันคงไม่
กล้ ากลับมาหาเรื่ องข้ าอีก แต่กบั จู้ยนั และหวังยานเฟิ งที่เป็ นศิษย์ในสํานักแห่งนี ้ พวกมันทังสอง

จะต้ องหาทางแก้ แค้ ข้าเป็ นแน่ ในอนาคตคงจะต้ องมีการล้ างแค้ นเกิดขึ ้นอีก ”
“เมื่อมาถึงจุดนี ้แล้ วสิ่งที่สําคัญคือข้ าจะต้ องฝึ กฝนพัฒนาตนเองให้ เร็ วที่สดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้
ในตอนนี ้ข้ ายังเทียบจู้ยนั ไม่ได้ แต่กบั หวังยานเฟิ งโชคดีที่มนั ดูถกู พลังของข้ ามากเกินไป มันคิด
ว่าพลังของมันจะทวีคณ ู ขึ ้นหลายเท่าเมื่อได้ ใช้ วรยุทธผสานรวมกับดาบหายากและคิดว่าข้ าไม่
มีทางรอด บางทีข้าเองก็ควรอาวุธหายากเช่นนันมาใช้
้ บ้าง”
หลินหมิงคิดอะไรๆไปอย่างเรื่ อยเปื่ อย พรุ่งนี ้เขาก็จะได้ เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ อย่างเป็ นทางการ
แล้ ว ซึง่ เป็ นจุดๆเดียวกับที่จ้ ยู นั ยืนอยูใ่ นตอนนี ้ เมื่อครึ่งปี ก่อนจู้ยนั เองก็มีการฝึ กฝนบนจุดสูงสุด
ของขันที
้ ่สาม ขณะที่เข้ าสํานักแห่งนี ้ เขาจะประมาทไม่ได้ เด็ดขาด
หลังจากที่ได้ เห็นผู้เฒ่าซูเดินจากไป ผู้เฒ่าซันก็มองไปหาหลินหมิงด้ วยความประหลาดใจและ
ยากที่จะเชื่อ
ถ้ าหากหลินหมิงจะใช้ ทา่ ลับอะไรซักอย่างที่ทรงพลังในการเอาชนะหวังยานเฟิ ง เขาจะไม่แปลก
ใจมากเท่าไหร แต่นี ้หลินหมิงไม่ได้ ใช้ อะไรเลยนอกจากหมัดกับเท้ า ไม่ได้ ใช้ อย่างอื่นนอกจาก
ร่างกายของตนเองต่อกรกับหวังยานเฟิ งทีมีดาบหายาก
คงจะบอกได้ แค่วา่ หลินหมิงต้ องฝึ กหนักเป็ นเวลานานมากทีเดียวถึงจะทําอะไรแบบนันได้ ้ การที่
จะพุง่ เข้ าโจมตีจดุ อ่อนของดาบด้ วยความแม่นยําเช่นนัน่ ไม่ตา่ งอะไรกับการจับลูกธนูที่พงุ่ มา
อย่างรวดเร็วเอาไว้ ได้ เลย
ประสบการณ์แบบนันเป็ ้ นอะไรที่ไม่สามารถประเมินได้ ด้วยอายุเลย เขาพึง่ จะอายุปี15ปี เป็ นไป
ไม่ได้ ที่จะมีประสบการณ์ตอ่ สู้มามากมายถึงเพียงนี ้ อัจฉริ ยะจริ งๆ!!
คนบางคนก็เป็ นอัจฉริ ยะด้ านการต่อสู้ บางคนสามารถรับรู้ได้ ถงึ การมีอยูข่ องทุกคนในสนามรบ
ด้ วยซํ ้า ถ้ าต้ องเจอคนแบบนัน้ ไม่อยากคิดเลยว่าศัตรูของพวกอัจฉริ ยะจะถูกจัดการได้ เร็ ว
เพียงใด
ผู้เฒ่าซันครุ่นคิดเล็กน้ อยและกล่าวกับหลินหมิง “ตามข้ ามาสิ”
“ขอรับ” หลินหมิงพึง่ นึกได้ วา่ ทิศทางที่ผ้ เู ฒ่าซันเดินไปนัน่ ไม่ใช่ทางที่จะไปรับเอารางวัลซะด้ วย
เขารู้สกึ สงสัยอยูใ่ นใจ
“หลินหมิง เจ้ ามาทดสอบพรสวรรค์พลังวิญญาณกับข้ าหน่อย”
“เจ้ าสามารถขึ ้นไปได้ ถงึ ชันห้ ้ งสามารถเอาชนะหวังยานเฟิ งได้ อีก”
้ าทังยั
นี่เป็ นห้ องที่เงียบสงบและมีพื ้นเป็ นหินสีฟ้า จู้ยนั ยืนอยูต่ รงกลางห้ องโดยมีคนยืนอยูร่ อบข้ างเขา
คนพวกนันก็ ้ คือคนรับใช้ ของเขาเอง แต่แม้ แต่คนรับใช้ ของเขาก็ยงั มีการฝึ กฝนในขันที้ ่สาม
คนรับใช้ ของจู้ยนั กับหวังยานเฟิ งแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน คงเป็ นเพราะตระกูลจู้มีเชื ้อสาย
ใกล้ ชิดกับกษัตริ ย์และทรงอิทธิพลกว่าตระกูลหวัง
ถึงแม้ จ้ ยู นั จะไม่ได้ อยูด่ หู ลินหมิงก็ตาม แต่เขาก็ได้ สง่ คนรับใช้ มาดูให้ แทน ทันทีที่การต่อสู้
สุดท้ ายหลินหมิงจบลง มันก็ได้ กลับไปรายงานให้ จ้ ยู นั ทราบทันที
“ไอ้ นรก ไม่คิดเลยว่ามันจะซ่อนลูกเล่นอะไรไว้ มากมายถึงเพียงนี ้”
“ปั งงง” จู้ยนั ออกหมัดต่อยไปยังกําแพงไม้ ถึงกําแพงนัน่ จะแข็งแรงก็ตาม แต่ยงั ก็ยงั ต้ องแยก
ออกเป็ นเสีย่ งๆด้ วยนํ ้ามือของจู้ยนั มันสามารถบ่งบอกได้ เลยว่าหมัดของจู้ยนั อยูใ่ นขันที
้ ่ทรง
พลังอย่างยิ่ง
มันคงมีพละกําลังราวๆ 4000 จิ๋น แม้ วา่ เมื่อเทียบกับหลิงเซ็นแล้ วจะยังด้ อยกว่าบ้ าง แต่มนั ก็
ยังถือว่าสูงมากอยูด่ ี
“ไอ้ หวังยานเฟิ งมันชะล่าใจเกินไป มันทังมี ้ วรยุทธ‘สัจธรรมทังเก้ ้ า’และ‘เจ็ดเก้ าแห่งศัทธา’ ทัง้
ยังเปิ ดใช้ อกั ขระจารึกได้ ถงึ 9อักขระ แต่ก็ยงั แพ้ ให้ กบั ไอ้ หลินหมิงอีกงันรึ
้ ”
คนรับใช้ กล่าว “นายท่าน หลินหมิงยังไม่ได้ ใช้ วรยุทธหรื ออาวุธ เขาแค่ตอ่ ยแล้ วก็เตะ การ
เคลื่อนไหวของเขาทังธรรมดาและตรงไปตรงมา
้ ไม่ได้ มีลกู ไม้ ใดใด”
“อะไรนะ มันเป็ นไปได้ ยงั ไง” จู้ยนั เชื่อไม่ลง
“คนรับใช้ คนนันมี
้ สายตาที่ธรรมดาเช่นเดียวกับมนุษย์ทวั่ ไปและไม่เห็นว่าหลินหมิงใช้ พลังอะไร
แต่ยงั ไงเขาก็สามารถจัดการกับ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ ได้ ”
“ เขาทําลาย‘สัจธรรมทังเก้ ้ า’ได้ งนรึ
ั ้ ” จู้ยนั รู้สกึ ตกใจเป็ นอย่างมาก กระบวนท่าแต่ละท่าต่าง
ก็มีจดุ อ่อนของมัน แต่ถงึ ยังไรจุดอ่อนพวกนี ้ก็ถกู ปิ ดไว้ เป็ นความลับยากที่จะหาพบ หลินหมิง
เป็ นเพียงเด็กจากตระกูลหลินเป็ นไปไม่ได้ ที่เขาจะรู้ถงึ จุดอ่อนของมัน และเอาชนะ‘สัจธรรมทัง้
เก้ า’ ได้
นี่ข้าฝั นไปหรื อไง
จู้ยนั ไม่เข้ าใจว่าทําไม แต่แล้ วคนรับใช้ ก็กล่าวขึ ้นมา “นายท่าน ข้ ายังได้ ร้ ูมาอีกว่าหลังปราณ
ของหลินหมิงนันบริ ้ สทุ ธิ์ยิ่ง เขาไม่เหมือนกับคนที่มีการฝึ กฝนขึ ้นที่สองคนอื่นๆ”
จู้ยนั ตอบกลับมา “ข้ ารู้อยูแ่ ล้ วไม่มีอะไรให้ น่าตกใจเลย เจ้ าเด็กคนนี ้อาจจะค้ นพบกระบวนท่าที่
ทรงพลังบางอย่าง ยิ่งไปกว่านันความขยั
้ นเองก็เป็ นส่วนสําคัญ แม้ แต่หมาบ้ าก็อาจกลายเป็ น
ราชสีห์ได้ ถ้าหากฝึ กฝนมากๆเข้ า”
“อาจเป็ นเพราะโชคดีของมัน เพราะพรสวรรค์ของมันที่ตํ่าต้ อยเพียงขันที
้ ่สามของมันไม่มีทางที่
จะเก่งกล้ าขึ ้นมาได้ แน่ มันก็แค่โชคดีที่หวังยานเฟิ งประมาทเกินไป”
จู้กําหมัดแน่น จริ งๆแล้ วเขาไม่ได้ สนใจเกี่ยวกับหลินหมิง ไม่คิดว่าจะต้ องมานัง่ จําชื่อคนอย่าง
มันด้ วยซํ ้า ทังๆที
้ ่อายุก็น้อยกว่าถึงสองปี ทังระดั ้ บการฝึ กฝนก็ตํ่าว่าหลายขัน้ คงจะเป็ นเพราะ
หลายยุนเยียที่ทําให้ จ้ ยู นั รู้สกึ กังกลได้ ถงึ ขนาดนี ้ ไอ้ หลินหมิง แกมันก็ไอ้ ขี ้เรื อ้ นดีดีนี ้เอง
บทที่ 47 พรสวรรค์พลังวิญญาณของหลิงหมิง
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ชี ้แจงเรื่ องสถานที่ตา่ งๆ
ดินแดนมนุษย์>>ทวีปนภาริ นไหล>>อาณาจักรลิขิตฟ้า>>เมืองลิขิตฟ้า,เมืองใบหม่อนสีเขียว
,เมืองเยว่ลู่
ดินแดนพระเจ้ า : ดินแดนที่ถกู ลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธิ์ทําลายล้ าง( ปล.แก้ คําแปลจากอาณาจักรพระ
เจ้ าเป็ นดินแดนพระเจ้ า จะได้ ไม่ซํ ้ากับอาณาจักรลิขิตฟ้าหรื ออาณาจักรอื่นๆที่จะมาเพิ่มเติมใน
อนาคต ) เมื่อลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธิ์ทําลายล้ างดินแดนพระเจ้ าแล้ วก็หายเข้ าไปในมิติไปโผล่ใน
ดินแดนมนุษย์
ดินแดนประมาณว่าเป็ นโลกๆหนึง่ อะไรแบบนี ้อะ �



“นี่เป็ นการทดสอบพรสวรรค์พลังวิญญาณอย่างนันหรื ้ อ ” หลินหมิงคิด ขณะที่เขาได้ มายืนอยู่
ด้ านหน้ าของแท่นหินใหญ่ๆแท่นหนึง่ มันเหมือนกับแท่นหินที่ใช้ วดั พละกําลังจากในการทดสอบ
ที่1 แต่มีสีที่ตา่ งออกไป หินที่ใช้ วดั พละกําลังนัน่ จะมีสีดําเข้ ม แต่หินก้ อนนี ้กลับมีสแี ดงเข้ ม มันดู
ไม่ตา่ งจากสีของเลือดเท่าไร
หลินหมิงเป็ นคนตระกูลหลิน ซึง่ พรสวรรค์ทงสองอย่
ั้ างของเขานันก็
้ ถกู วัดในทันทีที่เกิดมา
พรสวรรค์ทงคู
ั ้ อ่ ยูใ่ นระดับสามปานกลาง ถ้ าหากหลินหมิงได้ เกิดในตระกูลหลักแล้ วละก็ เขาก็
คงจะมีคณ
ุ ค่าพอที่จะเลี ้ยงดูและส่งเสริ ม แต่น่าเสียดายที่เขาเกิดในตระกูลย่อย ซึง่ ระดับสาม
ปานกลางนันสํ
้ าหรับตระกูลย่อยแล้ วยังไม่เพียงพอที่จะยกเว้ นให้ เขาได้ รับการเลี ้ยงดูที่ดีได้
สําหรับเด็กคนหนึง่ แล้ วระหว่างพรสวรรค์ในการต่อสู้พรสวรรค์พลังวิญญาณ พรสวรรค์ในการ
ต่อสู้ถือว่าสําคัญกว่าอย่างเห็นได้ ชดั เพราะมันสามารถบ่งบอกได้ ถงึ อนาคตของเด็กคนนันใน

ฐานะนักสู้คนหนึง่
สําหรับพรสวรรค์พลังวิญญาณแล้ ว มันไม่ได้ สําคัญเท่าไรนัก เพราะมันจะจําเป็ นเฉพาะกับ
อาชีพที่ต้องการมันเท่านัน้ เช่นนักจารึก ,นักค้ นหาผลึก,นักปรุงยา,นักแปรธาตุ และอืน่ ๆ ถ้ าให้
พูดแล้ วละก็ มีเพียงวิญญาณที่โดดเด่นเท่านัน้ เช่น ระดับสี่ระดับห้ า ถึงจะมีคา่ พอให้ ตระกูลใช้
เงินมากมายมหาศาลในการทําให้ เด็กที่มีพรสวรรค์พลังวิญญาณสูงๆเหล่านี ้ เติบโตก้ าวหน้ าไป
ได้
หลินหมิงรู้มาตลอดว่าพลังวิญญาณนันไร้
้ ประโยชน์สําหรับการฝึ กฝนการต่อสู้ แต่มนั จะมี
ประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อไปถึงขันปราณปลายฟ
้ ้ าและเริ่ มปลูกฝั งวิญญาณ
ในอาณาจักรลิขิตฟ้าพวกนักสู้ระดับล่างๆแทบจะไม่ได้ ใช้ พลังวิญญาณกันเลยแม้ แต่น้อย
ผู้เฒ่าซันเองก็สงสัยถึงพลังวิญญาณของหลินหมิง จึงพาเขามาในที่แห่งนี ้
“ถึงแม้ วา่ เจ้ าจะบอกว่าเจ้ าได้ รับการวัดระดับพลังวิญญาณจากตระกูลของเจ้ าแล้ วก็ตาม แต่
ข้ าว่าวัดอีกทีน่าจะเป็ นการดี แต่เจ้ าหินนี ้ก็ไม่ได้ วดั ได้ แม่นยําเท่าไหรนัก อาจจะมีการ
คลาดเคลื่อนซักเล็กน้ อยก็เป็ นได้ ”
ขณะที่ผ้ เู ฒ่าซัน พูด เขาก็ถ่ายเทพลังลงไปยังใจกลางของหินสีเลือดก้ อนนัน้ ถึงมันจะให้
ความรู้สกึ เหลือหินก้ อนที่ใช้ วดั พละกําลัง แต่มนั ก็มีมลู ค่าสูงกว่าหลายเท่านัก
หลินหมิงวางมือลงบนแท่นหิน เขาเห็นภาพในหัวมากมาย พวกมันสลับสับเปลี่ยนกันไปมาใน
หัวของหลินหมิงอย่างรวดเร็ว กินเวลาไปหลายอึดใจจนเขาได้ ยินผู้เฒ่าพูด
ออกมา “ตรวจสอบ”
หลินหมิงเปิ ดตากว้ าง เขาเห็นแสงของแท่นหินพุง่ สูงถึงระดับสีใ่ นระดับ1ส่วน3 ระดับสี่ต้นๆงัน้
เหรอ
หลินหมิงมองดูมนั อย่างงุนงง เขารู้มาว่าพรสวรรค์พลังวิญญาณของเขาอยูท่ ี่ระดับสามกลางๆ
แล้ วมันเพิ่มขึ ้นมาได้ อย่างไร (ปกติแล้ วพรสวรรค์เกิดมาเท่าไหรก็เท่านันตลอดไป
้ )

ทันใดนันความคิ
้ ดบางอย่างก็ผดุ ขึ ้นมาในหัวของเขา
หรื อมันอาจจะเป็ นเพราะลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์ที่ผสานเข้ าไปในร่างกายของเขา?
คงเป็ นเพราะเขาได้ ดดู ซับเศษเสี ้ยวหลังวิญญาณจากลูกบาศก์พวกนัน้ ระดับพรสวรรค์พลัง
วิญญาณของเขาจึงพุง่ สูงขึ ้นจากระดับสามกลางๆมาเป็ นสี่ต้นๆ
หลินหมิงไม่ร้ ูอะไรเกี่ยวกับพลังวิญญาณเลย แต่มีสิ่งหนึง่ ที่เขาค่อนข้ างมัน่ ใจก็คือใน ด้ วย
ความรู้ทงหมดของทวี
ั้ ปนภาริ นไหลในตอนนี ้ ยังไม่สามารถพัฒนาหรื อเปลี่ยนแปลงระดับของ
พรสวรรค์เหล่านี ้ได้
ในทวีปที่เขาอยูไ่ ม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงระดับของพรสวรรค์ทงสองได้
ั้ หลังจากที่เกิดขึ ้นมาแล้ ว
และไม่มีตวั ยาโอสถลํ ้าค่าหายากชนิดใดที่ทําเช่นนันได้

แถมความทรงจําที่เขาได้ ดดู ซับเข้ ามานันจากดิ
้ นแดนแห่งพระเจ้ า มันก็ไม่ได้ มีข้อมูลอะไรแบบนี ้
อยูด่ ้ วย แต่ความทรงจํานันมั
้ นก็ไม่ได้ สมบูรณ์ซะทีเดียว หลินหมิงจึงยังไม่สามารถหาข้ อสรุปใด
ใดได้ ในตอนนี ้
เป็ นไปได้ หรือไม่ที่ตอนที่เขาเกิดมาจะเกิดความผิดพลาดในการวัดระดับพรสวรรค์ขึ ้น ถ้ าหาก
การดูดซับสิง่ เหล่านันสามารถทํ
้ าให้ ระดับพรสวรรค์เพิ่มสูงขึ ้นได้ จริ งๆ งันพวกมนุ
้ ษย์ที่อยูใ่ น
ดินแดนพระเจ้ าก็อาจจะทําได้ เหมือนกัน คนพวกนันอาจจะมี
้ พรสวรรค์ระดับ 6 7 หรื อแม้ กระทัง่
8 เลยก็เป็ นได้
้ ่ เป็ นเวลานานแล้ วที่เขารู้สกึ ได้ ถงึ ลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธิ์
ขณะที่เขากําลังคิดเรื่ องเหล่านันอยู
หลังจากครัง้ สุดท้ ายที่เขาได้ ดดู ซับเศษเสี ้ยวพลังวิญญาณจากมัน เขาก็ไม่สามารถจะเข้ าไปยัง
มิติที่เก็บเศษเสี ้ยวดวงวิญญาณของลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธิ์ได้ อีกเลย
ถึงเขาจะไม่ได้ คาดหวังอะไรมากนัก แต่เขาก็หวังไว้ วา่ จะได้ ดดู ซับมันอีกซักครัง้ แล้ วเขาจะ
พิสจู น์ได้ เสียทีวา่ การดูดซับเศษเสี ้ยววิญญาณเล่านัน้ สามารถเพิ่มระดับพรสวรรค์ได้ จริ งๆ
ผู้เฒ่าซันไม่ร้ ูเกี่ยวกับรายละเอียดประวัติของหลินหมิงมากนัก แต่เขาก็แสดงสีหน้ าหงอยๆ
ขณะที่เขามองไปยังผลลัพธ์ที่แสดงออกมา ขันสี ้ ่ต้นๆนันทํ
้ าให้ เขารู้สกึ ไม่คอ่ ยพอใจเอาเสียเลย
เขามีความหวังว่าหลินหมิงอาจจะมีพรสวรรค์ในระดับที่คาดไม่ถงึ อย่างเช่นระดับห้ าขันสู
้ ง
หรื อระดับหกเช่นเดียวกับบุคคลในตํานาน (มึงก็หวังมากไป ไอแก่)
ถ้ าเป็ นอย่างเช่นแล้ ว เขาก็จะส่งหลินหมิงก็ไปศึกษาเกี่ยวกับการจารึก และการแปรธาตุ ซึง่
จะต้ องใช้ เงินปริ มาณมหาศาลสําหรับเด็กคนหนึง่ แต่หากมีผ้ มู ีพรสวรรค์สงู เช่นนันสํ
้ านักเจ็ด
แก่นแท้ ก็ไม่ลงั เลที่จะทุม่ ทุนเพื่อส่งเสริ มทังฉิ
้ นชิงหวนทังหลิ
้ นหมิง พวกเขาทังสองจะเป็
้ น
อัจฉริ ยะทางสายอาชีพแห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ ทางสํานักเองก็มีความหวังว่าจะได้ รับยาโอสถ
,หินผลึก,หรื ออาวุธอันประเมินค่ามิได้ ซงึ่ เป็ นผลงานของพวกเขาเป็ นการตอบแทน แต่
ความหวังเหล่านันก็
้ หายเข้ าไปในกลีบเมฆทันทีที่ได้ เห็นระดับพรสวรรค์พลังวิญญาณของ
หลินหมิง
ผู้เฒ่าซันสะบัดหัวไปมาอย่างผิดหวังพร้ อมกับถอนหายใจเบาๆ เขาพูดกับหลินหมิง “ตามมา
ข้ าจะพาเจ้ าไปรับรางวัล”

“นี่นะหรื อ… ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง และ ยาโอสถพญางูทองคํา”
ขณะที่กลับเข้ าไปในสํานักเจ็ดแก่นแท้ แล้ ว หลินหมิงก็มองไปยัง ยาทังสองที
้ ่อยูใ่ นกล่อง เขา
รู้สกึ ตื่นเต้ นอย่างยิ่ง ในที่สดุ เวลานี ้ก็มาถึง
ยาสองอย่างนี ้ อันหนึง่ มาจากกระดูกสันหลังของมังกรทอง และยาอีกชนิดหนึง่ ก็มาจากถุงนํ ้าดี
ของพญางูทองคํา ซึง่ เจ้ ามังกรทองก็เป็ นถึงปี ศาจระดับสี่ ที่แม้ แต่ปรมาจารย์ระดับปราณต้ นฟ้า
ก็ยงั มิอาจต่อกรได้ และพญางูทองคํา แม้ มนั จะเป็ นแค่ปีศาจระดับสาม แต่มนั ก็อยูใ่ นระดับสาม
ขันสู
้ งสุดซึง่ หายากอย่างยิ่ง
ยาทังสองชนิ
้ ดนี ้ไม่อาจประเมินค่าได้ ในตลาด มันไม่สามารถหาซื ้อได้ ในอาณาจักรลิขิต แม้ แต่
เชื ้อพระวงศ์ก็ยงั ไม่อาจจะหาซื ้อมันมาได้
“ถ้ าข้ าได้ ใช้ ยาพวกนี ้ พลังของข้ าก็จะพัฒนาขึ ้นไปแบบก้ าวกระโดด แต่การใช้ ยาโอสถพวกนี ้
เข้ าไปตรงๆอาจจะเป็ นการสิ ้นเปลืองเกินไป ซึง่ ความทรงจําที่ได้ รับมาก็ไม่ได้ มีเพียงเรื่ องการ
ฝึ กฝนการต่อสู้อย่างเดียวเท่านันยั ้ งมีเรื่ องการจารึก และเรื่ องการเพิ่มประสิทธิภาพของยาอีก
ด้ วย ข้ าแค่ต้องแปรรูปมันอีกซักเล็กน้ อย จึงค่อยกินมันเข้ าไป เพื่อคุณประโยชน์ที่สงู ที่สดุ ”
ในดินแดนพระเจ้ าทุกสิ่งทุกอย่างถูกพัฒนาไปแทนจะถึงขีดสุดของมัน และยากที่จะพัฒนาให้
สูงขึ ้นไปได้ อกี แม้ จะเพียงเล็กน้ อยก็ตาม ทังระดั
้ บการฝึ กฝน ทังทั
้ กษะการใช้ อาวุธ ทุกสิง่ ทุก
อย่างนันถู
้ กพัฒนาไปจนถึงจุดสูงสุดเท่าที่จะเป็ นไปได้ แล้ ว มันไม่ใช่สิ่งที่ทวีปนภาริ นไหลจะ
สามารถเทียบเคียงได้ เลย
การจารึกในดินแดนพระเจ้ าถูกแบ่งออกเป็ นสี่ประเภท สมบัติ ยาโอสถ ร่างกาย และจิต
วิญญาณ
สมบัติ หมายถึง สิ่งที่มีคา่ พวกอุปกรณ์อาวุธและชุดเกราะต่างๆ
ยาโอสถ หมายถึง ยาเม็ด สมุนไพรต่างๆที่จะเพิ่มพลังให้ กบั ผู้ใช้
ร่างกาย หมายถึง อวัยวะของมนุษย์ ซึง่ การจารึกประเภทนี ้ต้ องการความรู้ความเข้ าใจที่ลกึ ซึ ้ง
ถึงแก่นแท้ มันสามารถเพิ่มความเร็วในการฝึ กฝนให้ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ ้น
จิตวิญญาณ หมายถึง ดวงจิตแห่งมนุษย์ การจารึกประเภทนี ้เป็ นสิง่ ที่อยูเ่ หลือการจารึกทุก
ประเภท แม้ แต่ความทรงจําที่เขาได้ รับมาก็ยงั ไม่มีการอธิบายถึงการจารึกประเภทนี ้เลยแม้ แต่
น้ อย ไม่แน่วา่ แม้ แต่กบั มนุษย์ในดินแดนพระเจ้ าก็ยงั ไม่มีความสามารถมากพอที่จะทํามันได้
ด้ วยพลังของหลินหมิงในตอนนี ้ คงไม่จําเป็ นต้ องคิดเกี่ยวกับการจารึกประเภทร่างกายและ
ประเภทจิตวิญญาณ ในส่วนของยาโอสถยังมีความเป็ นไปได้ ที่เขาจะทําความเข้ าใจได้ สําเร็ จ
อยูบ่ ้ าง แต่เหนือสิ่งอื่นใด หลินหมิงในตอนนี ้กําลังยุง่ อยูก่ บั การฝึ กฝนการต่อสู้ ซึง่ ในตอนนี ้เขา
ต้ องการใช้ เวลาทังหมดสํ
้ าหรับฝึ กฝนเพื่อไล่ตามจู้ยนั และอีกหลินหมิงก็ไม่มีเงินมากพอจะซื ้อ
พวกยาโอสถพวกนันมาฝึ ้ กฝนซะด้ วย เขาจึงเก็บเรื่ องพวกนี ้เข้ ากรุไปก่อน
แต่ตอนนี ้เขาก็ได้ ยายาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง และ ยาโอสถพญางูทองคํา มาไว้ ในกํามือแล้ ว
ถ้ าเขาสามารถเรี ยนรู้เกี่ยวกับการจารึกยาโอสถไว้ เร็ วกว่านี ้ละก็ เขาคงจะเพิ่มความสามารถ
ของยาให้ มากกว่านี ้ได้ อีกแน่นอน
ทันใดนันหลิ
้ นหมิงก็ได้ ยินเสียงเคาะประตูที่ดงั ราวกับฟ้าผ่า นี่ถ้าไม่ใช่ประตูของสํานักเจ็ดแก่น
แท้ ที่ทําจากวัสดุอนั แข็งแก่ง มันก็คงจะต้ องแตกออกเป็ นเสีย่ งๆแล้ วอย่างแน่นอน

บทที่ 48 บททดสอบนักจารึก
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



“พี่หลิน พี่หลินหลิง มาเปิ ดประตูให้ ข้าเร็ว”
หลินหมิงยิ ้มออกมาทันทีเมื่อรู้วา่ ใครเป็ นเจ้ าของเสียงนัน่
“สุดยอด พี่หลินเป็ นความภาคภูมิใจของตระกูลหลินโดยแท้ ”
หลินเซี่ยวตงไม่ได้ ไปถึงการทดสอบที่สองด้ วยซํ ้า ดังนันเขาจึ
้ งไม่ร้ ูวา่ หลินหมิงไปเจออะไรมา
บ้ าง ได้ ยินก็แต่ขา่ วที่ลือกันออกมาเท่านัน้
“อืมม ข้ าก็แค่แสดงผลของการฝึ กออกมาได้ ดีเท่านันเอง
้ ข้ าถึงได้ เป็ นอันดับหนึง่ อยูน่ ี่ไง ”
“ไปกันเถอะ อย่ามัวแต่เสียเวลาอยูเ่ ลย เราคงต้ องฉลองกันหน่อยแล้ ว”
“เป็ นความคิดที่ดี แต่ข้ายังไม่มีเวลาสําหรับมื ้ออาหารหรอกนะ ข้ ามีบางอย่างต้ องไปเอามา
ก่อน”
หลินหมิงหยิบเอาแผ่นกระดาษออกมาและเขียนสิง่ ที่เขาต้ องการสําหรับการจารึกยาโอสถ มัน
ต้ องการวัสดุหลากหลายชนิดทีเดียว แต่หลินหมิงก็ได้ เลือกทําวิธีที่งา่ ยที่สดุ ซึง่ เป็ นขันแรกของ

การจารึกโอสถ ‘อาคมรักษาวิญญาณระดับล่าง’ ซึง่ ยาสองชนิดเหล่านี ้ หากมันได้ ไปอยูใ่ น
ดินแดนพระเจ้ าแล้ ว มันก็จะถูกพิจารณาให้ เป็ นยาระดับล่างเท่านัน้ ซึง่ ในสายตาของนักรบใน
ดินแดนพระเจ้ า ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองและยาโอสถพญางูทองคํา ที่แทบจะไม่มีทางหามา
ได้ ในอาณาจักลิขิตฟ้าก็เป็ นได้ เพียงแค่ยาระดับล่างเท่านันเอง

ด้ วยพลังของหลินหมิงในตอนนี ้การจะใช้ ‘อาคมรักษาวิญญาณระดับล่าง’ ก็เป็ นเรื่ องยากอย่าง
ยิ่งสําหรับเขาแล้ ว ยิ่งไปกว่านัน้ วัตถุดิบที่ใช้ ทํายาพวกนันหลิ
้ นหมิงก็ยงั ไม่เคยได้ ยินชื่อของพวก
มันเลยซักอย่าง
แม้ แต่วตั ถุดิบที่ใช้ สําหรับการจารึกยาโอสถอย่างง่ายก็มีหลายอย่างที่อยูใ่ นขันหายากสุ
้ ดๆและ
อีกหลายอย่างที่เขายังไม่ร้ ูจกั หรื อเคยได้ ยินชื่อของมันมาก่อน
ถึงแม้ วา่ หลินเซี่ยวตงจะไม่ได้ ร้ ูอะไรมากเกี่ยวกับการจารึก แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่หลินหมิงเขียน
เขาก็พอรู้เกี่ยวกับมันอยูบ่ ้ าง เช่น ‘เลือดของสัตว์ดรุ ้ ายระดับสี่’
“พี่หลินท่านต้ องการหาซื ้อ ‘เลือดของสัตว์ดรุ ้ ายระดับสี’่ จริ งๆอย่างนันหรื
้ อ”
เป็ นที่ร้ ูกนั ดีวา่ มังกรทองก็ถือเป็ น ปี ศาจระดับสี่เช่นกัน มันเก่งพอๆกับปรมาจารย์ขนปราณฟ
ั้ ้า
ขันต้
้ นเลยทีเดียว ถึงแม้ มนั จะไม่มีขายในอาณาจักรแห่งนี ้ แต่มนั ก็ยงั สามารถหาซื ้อจาก
ภายนอกได้ ในราคาที่แพงมากๆ แค่หลอดสองหลอดก็มีราคาสูงถึงหลังพันๆเหรี ยญทอง
หลินหมิงยังคงเขียนต่อไป ยิ่งมากขึ ้นๆ หลินเซี่ยวตงก็ร้ ูสกึ หวัน่ ๆ จนทนไม่ไหวและถาม
ขึ ้นมา “พี่หลิน ท่านมีเงินพอจะซื ้อของทังหมดนี
้ ้เลยหรื อ”
หลินหมิงพยักหน้ า “ท่านมูยี่ ให้ ข้ามา 15,000 เหรี ยญทองเมื่อไม่กี่วนั ก่อน สําหรับซื ้อแผ่น
จารึก ‘อาคมล้ มล้ าง’ ล่วงหน้ า ข้ าแค่ต้องเอาแผ่นจารึกไปให้ เขาทีหลังเท่านัน”

“15000…..โอ้ พระเจ้ า!!!” หลินเซี่ยวตงกลืนนํ ้าลายดังเอื๊อก ครัง้ ที่แล้ วก็ 9000 เหรี ยญทอง
ครัง้ นี ้ 15000 เหรี ยญทอง นี่มนั ยิ่งมากขึ ้นเรื่ อยๆ

มีสถานที่แห่งหนึง่ ในเมืองลิขิตฟ้าซึง่ มีการซื ้อขายวัสดุการจารึกมากที่สดุ มันไม่ใช่หอร้ อยสมบัติ
หรื อร้ านค้ าสวยหรูใดใดทังนั
้ น้ แต่มนั คือสมาคมจารึก
ที่แห่งนันขายวั
้ ตถุดิบมีคา่ มากมายหลายชนิดที่หาซื ้อจากที่อนื่ ไม่ได้ ทังราคาของมั
้ นก็ยงั ถูกกว่า
ในตลาดอีกเล็กน้ อยด้ วย
“ว่าอย่างไรนะ มีที่แบบนันอยู ้ อ ” หลินเซี่ยวตงรู้สกึ ไม่อย่างจะเชื่อหูตวั เอง
้ ด่ ้ วยอย่างนันหรื
แม้ วา่ จะได้ ยินมันจากปากของหลินหมิงก็ตาม
หลินหมิงยักไหล่ “ข้ าเองก็ได้ ยินมาเช่นนัน”

พวกเขาใช้ เวลาไปกับการดูหาสิ่งของที่ตลาดแต่ก็ไม่สามารถหาวัตถุดิบที่เขาต้ องการได้ เลย
“ข้ าว่าเราคงต้ องไปที่สมาคมจารึกกันแล้ วละ”
“อืม..เหมือนว่าจะเหลืออีกแค่ตวั เลือกเดียวละนะ”หลินหมิงสงสัยว่า การซื ้อของที่แห่งนันต้
้ อง
ใช้ ฐานะที่สงู ๆอะไรแบบนันหรื
้ อไม่ จนกว่าเขาจะฝึ กจนถึงขันที
้ ่เขาตังใจเอาไว้
้ เขายังไม่อยาก
เปิ ดเผยพลังของเขาให้ ใครต่อใครได้ รับรู้ เพราะมันอาจจะเป็ นการสร้ างปั ญหาให้ เขาในอนาคต
แม้ วา่ เขาจะมีมยู่ ี่ค้ มุ หัวให้ อยูก่ ็ตาม แต่เขาก็ไม่อยากสร้ างปั ญหาให้ กบั มูยี่มากนัก

“ไม่ใช่แค่ต้องมีใบรับรองนักจารึก แต่ยงั ต้ องมีแต้ มนักจารึกอีกหรื อ” หลังจากที่หลินหมิงได้
มาถึงที่สมาคมจารึก เขาก็ถามผู้เฒ่าหญิงคนหนึง่ เกี่ยวกับการซื ้อขายวัตถุดิบในที่แห่งนี ้ และ
นัน่ ก็คือคําตอบที่เขาได้ รับ
“ข้ าว่าแล้ วเชียว ไม่มีทางที่ของดีๆราคาถูกอยูจ่ ริ งเลยจริ งๆ” หลินเซี่ยวตงยืนกอดอก มันเป็ น
เรื่ องธรรมดาอยูแ่ ล้ ว
“แล้ วแต้ มนักจารึกคืออะไร” หลินหมิงถาม
“อืม..ดูเหมือนอาจารย์ของเจ้ าจะไม่ใช่นกั จารึกซินะ” ผู้เฒ่าหญิงที่กําลังจัดการกับโต๊ ะอยูพ่ ดู
ขึ ้น ขณะที่เธอคิดว่าหลินหมิงมาที่นี ้เพื่อซื ้อของให้ อาจารย์ของเขา “แต้ มนักจารึกก็ได้ มาจาก
การตามหน้ าที่ที่เขียนอยูด่ ้ านล่างเหล่านัน้ เขาก็จะได้ รับแต้ มนักจารึกมาหรื อจะทํางานเป็ น
พนักงานก็ได้ แน่นอนว่าเจ้ าสามารถแลกเปลี่ยนแต้ มนี่กบั คนอื่นๆได้ มันมีหลายวิธีเลยที่จะได้
แต้ มนัน่ มา ถ้ าอาจารย์ของเจ้ าสนใจจะเข้ าร่วมแล้ วละก็ ข้ าก็ยินดีอย่างยิ่ง”
สมาคมจารึกก็เหมือนองค์กรแห่งหนึง่ นักจารึกหลายๆคนที่สนใจในด้ านความรู้ ส่วนใหญ่ก็เป็ น
คนที่ไม่คอ่ ยมีความสัมพันธ์กบั คนอื่น ถ้ าเขาไม่ก่อตังระบบแต้
้ มจารึกขันมา
้ สมาคมการจารึก ก็
มาถึงจุดๆนี ้ไม่ได้ หรอก
หลินหมิงเปิ ดดูกฎของสมาคมการจารึก ถ้ าเขาเข้ าร่วม เขาจะได้ รับแต้ มบริ จาค 100 แต้ ม
ในทันที แล้ วก็ยงั มีอีกหลายวิธีที่เขาจะได้ รับแต้ มพวกนัน้ ขายอุปกรณ์หายากหรื อวัตถุดิบลํ ้าค่า
ให้ กบั สมาคมจารึก
“เหอะ ถ้ ามีของหายากแล้ วละก็ น่าจะเก็บไว้ ใช้ เองสิ จะขายให้ คนอื่นๆไปทําไม” หลินเซี่ยวตง
พูดด้ วยสีหน้ าบึ ้ง
หลินหมิงตอบว่า “ในบางครัง้ พวกเขาก็มีอปุ กรณ์เยอะเกินไป ถ้ าปล่อยทิ ้งไว้ ก็เสียดายแย่ การ
ขายก็น่าจะเป็ นทางเลือกที่ดีกว่า ถึงอย่างนันมั
้ นก็ไม่ใช่แนวของข้ าเลย ดูเหมือนต้ องไปทํา
ภารกิจอย่างเดียวละนะ”
หลินหมิงหันแผ่นกระดาษไปให้ ผ้ เู ฒ่าหญิงดู“ท่านผู้เฒ่า ข้ าจะไปทําภารกิจได้ ที่ไหนได้ บ้าง
หรื อ”
“ถ้ าจะทําภารกิจ เจ้ าต้ องไปที่หอภารกิจ แต่เจ้ าจะทําได้ ก็ตอ่ เมื่อเจ้ ามีใบรับรองแล้ วเท่านัน้ ถ้ า
อาจารย์เจ้ าสนใจ ข้ าก็ขอแนะนําให้ เขามารับภารกิจด้ วยตัวเอง พวกเจ้ าจะได้ ผลประโยชน์
หลายอย่างจากการเข้ าร่วมกับเรา”
หลินหมิงคิดอยูพ่ กั หนึง่ แล้ วถามต่อ “แล้ วที่แห่งนี ้เก็บข้ อมูลของสมาชิกเอาไว้ รึเปล่า”
“ก็ต้องอยูบ่ ้ าง แต่ถ้าอาจารย์ของเจ้ าต้ องการความส่วนตัว ทางเราก็สามารถเก็บเป็ นความลับ
ให้ ได้ ”
“อืมม.. แล้ วท่านพาข้ าเข้ าไปได้ หรื อเปล่า”
“หือ..”ผู้เฒ่าหญิงจ้ องหลินหมิงตาไม่กระพริ บ
หลินหมิงยักไหล่แล้ วพูดว่า “ข้ านี่แหละ ผู้เชี่ยวชาญการจารึก ”
้ หวั จรดปลายเท้ า แล้ วถามว่า “เจ้ าอายุ
ผู้เฒ่าหญิงถอยห่างออกมาแล้ วมองดูหลินหมิงตังแต่
เท่าไหร่”
“15”
“15ปี ?!” เมื่อได้ ยินก็ถงึ กับอึ ้ง ตอนแรกเขาเดาว่าเด็กคนนี ้คงจะมีอาจารย์เป็ นผู้เชี่ยวจารการ
จารึก แต่อายุ 15 ปี เป็ นผู้เชี่ยวจารการจารึกเนี่ยนะ มันออกจะโม้ เกินไปหน่อยรึเปล่า ใน80ปี ที่
ผ่านมา คนที่อายุน้อยที่สดุ ยังต้ องมีอายุ 18 ปี
ซึง่ คนที่วา่ นัน่ ก็คือฉินชิงหวนแห่งคฤหาสน์จอมพลกับหวังยู้ฮานแห่งสมาคมจารึก
“นี่เจ้ าหนุ่มน้ อย ถ้ าเจ้ าอยากเข้ าร่วมการทดสอบนักจารึก เจ้ าต้ องเตรี ยมสมบัติและวัตถุดิบมา
เอง” ผู้เฒ่าเตือนด้ วยความหวังดี โดยทัว่ ไปแล้ วจะให้ นกั จารึกหน้ าใหม่ประทับจารึกระดับ
ตํ่าลงไปในของหายากมันก็กระไรอยู่ แม้ วา่ สมาคมจารึกจะรํ่ ารวยก็จริ ง แต่ก็ไม่อาจแบกรับ
ความฟุ่ มเฟื อยในส่วนนันได้
้ ดังนัน้ ผู้เข้ าทดสอบจึงต้ องใช้ อปุ กรณ์ของตนเอง
“อืมม ถ้ าหากเป็ นไปได้ ข้าก็อยากจะซื ้อของเพื่อใช้ ในการทดสอบครัง้ นี ้ ข้ าว่าข้ ามีเงินพอนะ”
ว่าแล้ วหลินหมิงก็ล้วงกระเป๋ าและหยิบปึ กตัว๋ เงินออกมา ซึง่ แต่ใบมีคา่ 1000 เหรี ยญทอง
เมื่อเห็นหลินหมิงมีเงินเยอะขนาดนี ้ ผู้เฒ่าหญิงก็มองด้ วยความประหลาดใจเป็ นอย่างยิ่ง เงิน
ทังหมดนั
้ น่ แม้ แต่ลกู ขุนนางชันสู
้ งก็ไม่มีทางมีไว้ ในครองครองได้
เธอมองไปยังหลินหมิง และรู้ได้ วา่ หลินหมิงไม่ได้ ล้อเล่น “ถ้ าเจ้ าว่าเช่นนัน้ ก็ตามข้ ามา”
หลินหมิงเดินตามไปและเข้ าไปยัง ส่วนในของสมาคมจารึกซึง่ หลินเซี่ยวตงก็ตามเข้ าไปด้ วย
ขณะที่พวกเขาผ่านหอภารกิจเขาก็ได้ เห็น อักขระ สัญลักษณ์ตา่ งๆตามกําแพงหลินเซี่ยวตงรู้สกึ
ตื่นเต้ นเป็ นอย่างมาก
การตกแต่งในสมาคมจารึกนันไม่ ้ ได้ เลิศหรูมากนัก แต่มีพื ้นที่กว้ างขวาง ไม่มีอะไรตกแต่งผนัง
กําแพงเลย แต่มนั กลับมีอกั ขระอยูม่ ากมาย ให้ ความรู้สกึ ที่เก่าแก่โบราณมากทีเดียว
“เรามาถึงแล้ ว” ผู้เฒ่าหญิงเปิ ดประตูเข้ าไป
นี่เป็ นห้ องแห่งหนึง่ ในสมาคมจารึก และก็เป็ นสถานที่ซงึ่ ใช้ ในทดสอบด้ วยเช่นกัน
“ขอบคุณมากท่านผู้เฒ่า”
ขณะที่หลินหมิงเดินเข้ ามา เขาพบกับห้ องกว้ าง100ฟุต และมีแท่นหินอยูเ่ ต็มไปหมด และตรง
กลางก็มีแท่นหินที่ถกู ปกคลุมไปด้ วยวัตถุดิบมากมาย ซึง่ ถัดไปอีกก็คือ สาวคนหนึง่ ที่อายุ
ประมาณ 15-16ปี ที่กําลังวาดอักขระขึ ้นมาอยู่
หญิงสาวคนนี ้มีหนุ่ ที่ผอมเพรี ยว และกําลังใช้ นิ ้วมือของเธอวาดไปในอากาศ ตาของเธอจดจ้ อง
อยูก่ บั อักขระที่เธอกําลังวาดอยู่ เธอไม่ร้ ูสกึ ถึงการมาเยือนของหลินหมิงเลยด้ วยซํ ้า และดู
เหมือนว่าเธอจะเป็ นผู้ที่ชํานาญด้ านการจารึกเป็ นอย่างดีด้วย
และข้ างๆเธอก็เป็ นตาแก่อีกคนหนึง่ เขานัง่ อยูข่ ้ างหลังเธอบนเก้ าอี ้ไม้ ตวั เล็กๆ ขณะที่เขากําลัง
ทําสมาธิอยู่ แต่หลินหมิงเห็นมากกว่านัน่ วิญญาณของชายแก่คนนัน่ กําลังช่วยเหลือหญิงสาว
คนนัน่ อยู่ อักขระแต่ละตัวที่เธอวาดล้ วนมาจากชายแก่คนนันทั ้ งสิ้ ้น

บทที่ 49 พระโพธิสตั ว์เด็ดดอกบัว


แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



“เป็ นพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งยิ่งนัก” หลินหมิงคิดขณะที่อยูใ่ นอาการตกตะลึง แม้ แต่มยู่ ี่เองก็
ยังด้ อยกว่าเขาคนนี ้ มูย่ ี่เป็ นถึงผู้ที่ทมุ่ เททังชี
้ วิตเพื่อเดินตามเส้ นทางแห่งการต่อสู้ การเป็ นเป็ น
นักจารึกของมูjยี่ก็เป็ นแค่อาชีพเฉยๆเท่านัน้ แต่เขาคนนี ้เป็ นถึงระดับปรมาจารย์เลยทีเดียว
สําหรับนักจารึกแล้ วต้ องใช้ เวลานานมากทีเดียวกว่าจะมาถึงระดับนี ้ได้ รวมถึงความตังใจที
้ ่
สูงส่งและมัน่ คงอย่างมากอีกด้ วย
หลินหมิงมองดูเขาสักพักก่อนจะหันกลับไปหา หลินเซี่ยวตงที่มองไปที่ยงั หญิงสาวคนนันตาไม่ ้
กระพริ บ ไอ้ น้องจอมหื่นนี่ หลินหมิงรู้สกึ ปวดหัวกับเขามาก เขาใช้ ศอกสะกิดหลินเซี่ยวตง ทําให้
หลินเซี่ยวตงรู้สกึ สะดุ้งตกใจด้ วยความเขินอาย เขาเป็ นคนฉลาดนะแต่หวั ช้ าไปหน่อย และก็ยงั
ไร้ เดียงสาอีกด้ วย
ตอนนี ้หลินหมิงรู้สกึ ได้ ถงึ การเปลี่ยนแปลงพลังวิญญาณของหญิงสาวคนนัน้ อักขระที่เธอวาด
ไว้ ก็เริ่ มเปล่งแสงและเกิดควันออกมา มันแตกกระจายออกไปเหมือนกับการระเบิดของประทัด
อันหนึง่
้ าหน้ าเศร้ า แลดูไม่คอ่ ยสบายใจนัก ก่อนหันไปพูดว่า “ท่านปู่ ข้ าพลาดอีกแล้ ว
หญิงสาวคนนันทํ
ค่ะ”
ชายแก่คนนันยั
้ งคงนัง่ ด้ วยความสงบขณะที่เขากําลังเปิ ดตาออกจากการทําสมาธิและกล่าว
ด้ วยรอยยิ ้มว่า “ยู้ฮาน เจ้ าทําได้ ดีแล้ ว ถ้ าฝึ กทําต่อไปเรื่ อยๆ ในไม่กี่เดือนนี ้ เจ้ าก็จะได้ ใบรับรอง
การเป็ นนักจารึกอย่างแน่นอน” ก่อนหน้ านันปู่
้ ของเธอได้ ใบรับรองเมื่อเขามีอายุได้ 18ปี และ
เธอเองก็ดอู ายุราวๆ 16-17ปี ในตอนนี ้
หญิงสาวคนนี ้ถือว่ามีพรสวรรค์นกั จารึกระดับอัจฉริ ยะเลยทีเดียว เธอคือหวังยู้ฮาน และชายแก่
คนนันก็
้ คือปู่ ของเธอนันเอง
้ ประธานสมาคมจารึก หวังหวนจี่
“อืมมม แต่ถ้าเทียบข้ ากับฉินชิงหวน เธออ่อนกว่าข้ าตังครึ
้ ่งปี แต่กลับอยูใ่ นระดับเดียวกับข้ า
ในช่วงนี ้เองความเร็วในการเรี ยนรู้ของข้ าก็ตกลงไปด้ วย ข้ าไม่ร้ ูวา่ ทําไม”
ถึงยังไงพรสวรรค์กบั ความสามารถก็ต้องจบลงด้ วยการเปรี ยบเทียบกับคนอื่น หวังยู้ฮาน รู้วา่
ตนนันไม่
้ สามารถเทียบกับฉินชิงหวนได้ ในด้ านการฝึ กฝนการต่อสู้ แต่การจารึกคืองานหลัก
ของเธอและเธอจะไม่ยอมแพ้ ในเรื่ องนี ้ไปด้ วย
ขณะที่ทงสองคนกํ
ั้ าลังคุยกันอยู่ หญิงเฒ่าก็ได้ เดินเข้ ามาด้ วยความเคารพและกล่าวว่า “ท่าน
ประธาน”
“หืออ มีอะไรรึ”
ผู้เฒ่าหญิงดูลงั เลเล็กน้ อยก่อนจะหันกลับไปที่หลินหมิงและกล่าวว่า “เด็กหนุ่มคนนี ้อยากจะ
เข้ าร่วมในการทดสอบจารึกค่ะ”
“เจ้ าชื่ออะไร อายุเท่าไรแล้ ว”หวังหวนจี่ ถามเขา
หลินหมิงลังเลไปครู่หนึง่ เขาไม่คิดมาก่อนว่าชายแก่ผ้ นู ี ้จะเป็ นถึงประธานสมาคมจารึก แต่ด้วย
ฐานะนันแล้
้ วหลินหมิงไม่คิดว่า ชายแก่คนนี ้จะอยากรู้เรื่ องอะไรของหลินหมิง ตราบใดที่เขาไม่
แพร่งพรายเกี่ยวกับ การจารึกโอสถออไปในอาณาจักรแห่งนี ้ มันก็คงไม่มีปัญหา
หลินหมิงระวังตัวเป็ นอย่างมาก เกี่ยวกับพวกอันธพาลและอาชญากรที่อยากจะได้
ความสามารถของเขา มันมีมลู ค่ากว่า หลายพันเหรี ยญ แต่สาํ หรับหวังหวนจี่ และ มูย่ ี่ และ
ปรมาจารย์อาวุโสคนอื่นๆก็คงแค่อยากจะเห็นพรสวรรค์ของหลินหมิงเท่านัน้
ขณะที่คิด หลินหมิงก็ตอบกลับไป “หลินหมิง 15ปี ”
เมื่อได้ ยินคําว่า 15 ปี ตาของ หวังยู้ฮานก็ได้ เบิกกว้ างขึ ้น เด็กคนนี ้ก็เป็ นอัจฉริ ยะงันหรื
้ อ อายุ
ของเขาน้ อยกว่าเธอเสียอีก และการฝึ กฝนการต่อสู้ก็ดจู ะไม่ตํ่าต้ อยเสียด้ วย แต่ละวันเด็กหนุ่ม
คนนี ้เคยทําอะไรอย่างอื่นนอกจากการฝึ กบ้ างไหม
แต่ถงึ อย่างไรทางสมาคมจารึกก็ไม่ได้ จดั หาอุปกรณ์อะไรมาให้ สําหรับการทดสอบอยูแ่ ล้ ว คนที่
จะมาป่ วนงานสอบก็คงจะมีไม่มาก มันต้ องใช้ เงินหลายพันเหรี ยญทอง ถ้ าพวกเขาไม่เพี ้ยนก็
คงไม่มาทดสอบเล่นๆเพื่อก่อปั ญหาแน่นอน
“เจ้ าต้ องหาวัตถุอปุ กรณ์มาเพื่อใช้ สอบเอง เจ้ ารู้ใช่ไหม”
“อืม ข้ ารู้ ข้ าอยากจะซื ้อจากสามคมจารึก ” หลินหมิงได้ หยิบใบบันทึกวัตถุไว้ ออกมายื่นให้
หลินหมิงได้ ตดั สินใจที่จะสร้ าง ‘อาคมล้ มล้ าง’ แบบง่าย ซึง่ แตกต่างจากแบบปกติที่ไม่ต้องใช้
ไหมนภาและสามารถสร้ างได้ งา่ ยและรวดเร็ วมากขึ ้น แต่ถงึ อย่างนัน้ ประสิทธิภาพมันก็ลดลง
ไปบ้ างเหมือนกัน
เป้าหมายของเขาแค่ผ่านการสอบในครัง้ นี ้เท่านัน้ ไม่จําเป็ นต้ องทําอะไรที่ยากลําบากและทําให้
ผู้คนตกใจ แต่ ‘อาคมล้ มล้ าง’ ก็มีการใช้ อกั ขระอาคมที่ไม่เคยมีในอาณาจักรแห่งนี ้ในการสร้ าง
ด้ วย หากเป็ นไปได้ หลินหมิงก็ไม่อยากจะเปิ ดโปงมันเสียเลย
“ถ้ าข้ าจะของซื ้อสิ่งของเหล่าพวกนี ้จะได้ หรื อไม่ ”หลินมหมิง ส่งกระดาษแผ่นนันให้
้ กบั ผู้เฒ่า
หญิง
ผู้เฒ่าหญิงได้ รับมันมาและมองดูมนั และหันไปรอคํายืนยันจากหวังหวนจี่เธอกล่าวว่า “อืม งัน้
ข้ าขอถามเจ้ าว่า เจ้ าจะใช้ อปุ กรณ์อะไรในการทดสอบครัง้ นี ้”
“หากข้ าจะใช้ ดาบในการทดสอบ เมื่อจบการทดสอบดาบเล่มนันจะเป็
้ นของข้ าเช่นเดิมใช่
หรื อไม่”
“แน่นอน ยังไงของพวกนันก็
้ เป็ นของเจ้ าอยูแ่ ล้ ว มาเลือกดาบกับข้ าสิ”
“อืมมม ”
ขณะที่หลินหมิงเดินออกไปหวังยู้ฮานก็มองดูจนร่างเขาค่อยๆห่างไกลออกไปๆ และเธอก็บน่
อุบอิบว่า “ปู่ นะปู่ เด็กหนุ่มนันอายุ
้ แค่15ปี เอง ถ้ าหากเขาเกิดสอบผ่านขึ ้นมา ปู่ จะทําให้ ข้าต้ อง
พ่ายแพ้ ให้ กบั เขาอีกคน ให้ ข้าแพ้ ให้ กบั ฉินชิงหวนคนเดียวยังไม่พอสินะ ”
หวังหวนจี่ตอบกลับด้ วยรอยยิ ้ม“การสอบเป็ นนักจารึกไม่ใช่เรื่ องง่ายๆหรอกนะ แต่เพราะเจ้ า
หนุม่ นี ้กล้ าที่จะมาขอทดสอบ เขาจะต้ องมีอะไรพิเศษอย่างแน่นอน และอาจจะไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่
ในอาณาจักรแห่งนี ้ก็เป็ นได้ เขาอาจจะเป็ นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ลกึ ลับก็เป็ นได้ เขาก็ต้อง
อยากมาสร้ างชื่อเป็ นธรรมดา แต่มนั อาจจะไม่งา่ ยอย่างนันหรอกนะ
้ ฮ่าๆ”
ขณะที่หวังหวนยี่กําลังพูด เขาก็ได้ สง่ กระแสจิตไปยังผู้คมุ สอบอีกสองคนให้ มาที่นี่อย่างเร่งด่วน
หวังยู้ฮานเม้ มปากแน่นและพูดเบาๆอย่างไร้ เดียงสา “ข้ าจะไม่ยอมแพ้ หรอก ข้ าต้ องจะไม่แพ้ ให้
ฉินชิงหวน”
สมาคมจารึกมีสมบัติที่ใช้ สําหรับการทดสอบอยูเ่ ป็ นจํานวนมาก หลินหมิงมองดูอยูซ่ กั พัก ใน
ที่สดุ เขาก็ได้ เลือกดาบยาวๆเล่มหนึง่ ขึ ้นมาพูดว่า “ข้ าเลือกดาบเล่มนี ้ ”
ดาบนี ้มีมลู ค่าถึง 3600 เหรี ยญทองและเป็ นหนึง่ ในสมบัติที่แพงยิ่งกว่าบรรดาสมบัติชิ ้นอื่นๆ ผู้
เฒ่าหญิงค่อนข้ างประหลาดใจ โดยทัว่ ไปผู้เข้ าทดสอบมักจะเลือกสมบัติถกู ๆไว้ ก่อน แต่เด็ก
หนุ่มคนนี ้กลับเลือกของที่มีราคาสูงมาก สงสัยตระกูลของเขาคงจะมีเงินมากเกินไปสินะ
หลินหมิงมีความคิดดีๆอยูใ่ นหัว เมื่อเขาจะต้ องซื ้อสมบัติซกั ชิ ้น แน่นอนว่าเขาต้ องสามารถใช้
งานมันได้ ด้วย คงจะเป็ นการดีที่จะซื ้ออาวุธระดับสูงแพงๆมาผสานเข้ ากับอักขระอาคมอันทรง
พลัง และค่อยขายมันไปในราคาที่สงู ยิ่งขึ ้นไปอีก
หลินหมิงหยิบตัว๋ เงินออกมา4ใบและยื่นให้ อย่างเขินๆ
“อืมม งันตามข้
้ ามา”
หลังจากที่จา่ ยเงินเสร็จเรี ยบร้ อยแล้ ว ผู้เฒ่าหญิงก็ได้ พาหลินหมิงกลับมาที่ห้องทดสอบ
หลังจากที่เขาได้ กลับมาหลินหมิงเห็นคนสองคนที่ดมู ีอายุจะซัก 40-50ปี คนหนึง่ ใส่เสื ้อสีเขียว
และอีกคนหนึง่ ก็ดทู า่ ทางมีความสุข ดูใจดีมากพอๆกับความอ้ วนที่เขามี
เขาสองคนนี ้เป็ นผู้คมุ การทดสอบของสมาคมจารึก ที่จะรับผิดชอบในการสอบครัง้ นี ้ ปกติแล้ ว
หวังหวนจี่จะไม่ได้ มาคุมการทดสอบด้ วยตนเอง แต่ครัง้ นี ้เขาดูสนใจเป็ นกรณีพิเศษ
“เจ้ าพร้ อมรึยงั ” หวังหวนจี่ถาม
“แน่นอน” หลินหมิงพยักหน้ า เขาวางดาบไว้ บนแท่นจารึก จากนันก็ ้ เริ่ มคลี่หอ่ วัตถุดิบออกมา
วัตถุดิบพวกนี ้ถูกเตรี ยมไว้ เป็ นอย่างดี ซึง่ หลินหมิงไม่ต้องปรับปรุงอะไรมันเพิ่มเติมเลย
ชายที่อยูใ่ นชุดเขียว กล่าวว่า “เวลาในการทดสอบคือ 2ช.ม. และถ้ าพลาดเกินกว่า3ครัง้ จะถือ
ว่าสอบตก และถ้ าดาบแกร่งขึ ้นได้ ไม่ถงึ 20% ก็ถือว่าสอบตกเช่นกัน ”
“ข้ ารู้แล้ ว”
“ดี เริ่ มได้ ” ชายคุมสอบกลับด้ านนาฬิกาทราย ทรายค่อยๆไหลลงไปด้ านล่างอย่างเงียบๆ
หลินหมิงนัง่ ลงและหลับตาลงสักครู่ เขาโคจรพลังปราณในร่างกายซักครู่จนถึงจุดๆหนึง่ และได้
ยื่นมือออกไป ทันใดนันหยดนํ
้ ้าสีนํ ้าเงินก็ถกู ดึงที่ฝ่ามือของเขาเหมือนกับว่า มันถูกหลินหมิง
ควบคุมอยู่
แม้ วา่ สิ่งที่เขาทําจะเป็ นแค่ลกู เล่นง่ายๆ แต่กลับสัมผัสได้ วา่ เด็กหนุ่มคนนี ้ได้ ควบคุมหยดนํ ้านี ้
เอาไว้ ด้วยพลังวิญญาณที่กล้ าแข็งมากๆ
“พลังวิญญาณนี ้มันอะไรกัน เด็กคนนี ้มีพรสวรรค์พลังวิญญาณระดับห้ าอย่างนันหรื
้ อ ” หวัง
หวนจี่พดู ด้ วยความตกใจ
“ข้ าไม่สงสัยเลยว่าทําไมเขาถึงได้ กล้ ามาทดสอบทังๆที
้ ่พงึ่ มีอายุแค่15ปี เท่านัน้ เขามี
ความสามารถบางอย่างซ่อนอยู”่
ชายคุมสอบกล่าวขณะพยักหน้ าไปด้ วย
หวังยู้ฮานเม้ มปากแน่น “ระดับห้ างันหรื
้ อ เท่ากับข้ าเนี่ยนะ คูแ่ ข่งของข้ าไม่ได้ มีแค่ฉินชิงหวน
คนเดียวเสียแล้ ว”
ผู้มีพรสวรรค์พลังวิญญาณระดับห้ านันถื
้ อว่าหาได้ ยากมากมาก ถ้ าจะเทียบพรสวรรค์พลัง
วิญญาณระดับห้ ากับพรสวรรค์การต่อสู้ระดับห้ า ผู้มีพรสวรรค์พลังวิญญาณระดับห้ าถือว่าหา
ยากยิ่งกว่า ยิ่งพรสวรรค์พลังวิญญาณระดับห้ า ในรอบสิบปี ถึงจะมีซกั คน
พรสวรรค์การต่อสู้ของหวังหวังยู้ฮานอยูเ่ พียงแค่ระดับสี่ แต่พรสวรรค์พลังวิญญาณกลับอยู่
ระดับห้ าคงเป็ นเพราะได้ บางส่วนมาจากปู่ ของเธอ โดยปกติแล้ วมนุษย์จะมีพรสวรรค์การต่อสู่
ไม่น้อยกว่าพรสวรรค์พลังวิญญาณ
พรสวรรค์พลังวิญญาณระดับห้ าของหวังยู้ฮาน ถือเป็ นชันบนของเหล่
้ านักจารึก ยิ่งไปกว่านัน้
หวังหวนจี่ยงั ได้ สงั่ สอนเธอให้ เข้ าใจเรื่ องการจารึกมาตังแต่
้ เด็กๆ ในเรื่ องของ เธอมี
ความสามารถเทียบเท่ากับฉินชิงหวนแต่เธอก็อายุมากกว่าฉินชิงหวนเล็กน้ อย
จริ งๆแล้ วหลินหมิงไม่ได้ มีพรสวรรค์พลังปราณถึงระดับห้ า แต่เขาใช้ ‘ครอบงําวิญญาณ’ กฏ
แห่งจิตวิญญาณที่มาจากดินแดนพระเจ้ า เพราะเหตุนี ้ทําให้ หลินหมิงจึงทําออกมาได้ ดีกว่าที่ทกุ
คนคาดการณ์เอาไว้ มากนัก
แค่ทา่ แรกก็ทําให้ หวังหวนจี่ร้ ูสกึ ประหลาดใจได้ แล้ ว แต่ในท่าต่อๆไปมันจะต้ องทําให้ ทกุ คนคิด
ไม่ถงึ
เมื่อนํ ้าหยดนันลอยไปถึ
้ งปลายนิ ้วของหลินหมิง นิ ้วของเขาเคลื่อนไหวด้ วยความเร็ วที่ทําให้ เกิด
ร่างแยกได้ หยดนํ ้าหยดนันได้
้ เคลื่อนไหวไปตามปลายนิ ้วของเขา มันเหมือนกับดาวหางดวง
หนึง่ ที่เคลื่อนไหวสะบัดกลับไปกลับมากลางอากาศ
ในชัว่ เวลานัน้ อักขระอาคมก็เสร็จสมบูรณ์
หวังหวนจี่หายใจเข้ าไปลึกๆครัง้ หนึง่ ด้ วยความชื่นชม
“พระโพธิสตั ว์เด็ดดอกบัว!”
อันที่จริ งเขาแค่จะมาชมการทดสอบเพื่อความสนุกสนานเท่านัน้ แต่เขากลับได้ มาเห็นนิ่วมือ
ของหลินหมิงที่เคลื่อนไหวดัง่ สายนํ ้า นี่เป็ นสิ่งที่หายากในบรรดาปรมาจารย์ มันเรี ยกว่า ‘พระ
โพธิสตั ว์เด็ดดอกบัว’ พระโพธิสตั ว์เป็ นเรื่ องเล่าลึกลับตังแต่
้ อดีตกาลที่ถกู เรี ยกว่าพระโพธิสตั ว์
พันนิ ้ว ตํานานเล่าว่าพระโพธิสตั ว์ มีสบิ มือ แต่ละมือมีพนั นิ ้ว ทุกๆปี ทุง่ ดอกบัวจะเบ่งบานซึง่ มี
เมล็ดของมันอยูด่ ้ วย ด้ วยการเคลื่อนไหวเพียงชัว่ พริ บตาพระโพธิสตั ว์สามารถเก็บเมล็ดเหล่านัน้
ได้ ทงหมดทั
ั้ ้ ง่ มันจึงถูกกล่าวขานกันว่า ‘พระโพธิสตั ว์เด็ดดอกบัว’ จะมีก็แต่เพียงปรมาจารย์
งทุ
ที่เชี่ยวชาญและฝึ กฝนมันเป็ นเวลาเกือบทังชี
้ วิตเท่านันที
้ ่จะสามารถทําได้ ด้วยความเร็ วถึงขนาด
นี ้
ถ้ าหากจะพูดถึงความเร็วแล้ วละก็ แม้ ปรมาจารย์บางคนอาจทําได้ เร็ วกว่านี ้ แต่เมื่อเขาต้ องเก็บ
พลังเอาไว้ และไม่ให้ เสียความมัน่ คงและความประณีตในการจารึก มันยากเสียยิ่งกว่ายาก
เด็กคนนี ้อายุเท่าไรกันแน่ เขาเริ่ มฝึ กตังแต่
้ อยูใ่ นท้ องแม่หรื อย่างไร เป็ นไปไม่ได้ เขาไม่มีทางที่จะ
สามารถทําได้ เร็วได้ ถงึ ขนาดนัน…

บทที่ 50 วัตถุดิบจํานวนมหาศาล
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ



หวังหวนจี่ร้ ูอยูแ่ ล้ วว่าเด็กคนนี ้ต้ องไม่ได้ ใช้ ทกั ษะธรรมดาๆที่รํ่าเรี ยนได้ ทวั่ ไปตามสํานักต่างๆใน
อาณาจักรลิขิตฟ้าเป็ นแน่ มันเป็ นอะไรที่ลกึ ลํ ้ากว่านันหลายเท่
้ านัก
“อาจารย์ของเขาคงไม่ใช่คนในอาณาจักรลิขิตฟ้าซินะ” ชายวัยกลางคนพูดขึ ้น
“แน่นอน ยิ่งไปกว่านัน้ วิชาของเขาลํ ้าหน้ ากว่าพวกเราเสียอีก ”
แสงหลากสีแผ่ออกมากลางอากาศ และจางหายไป เหลือไว้ เพียงแสงบางๆเป็ นเงาเท่านัน้
หวังยู้ฮาน หายใจเข้ าลึกๆอย่างตื่นเต้ น พลังวิญญาณของเขา ช่างงดงามและแปรเปลี่ยนไปได้
อย่างประณีตยิ่งนัก
ในการวาดอักขระนันส่ ้ วนที่ยากที่สดุ ก็คือ การกะพลังงาน ในส่วนนี ้จําเป็ นต้ องมีคลาดเคลื่อน
น้ อยที่สดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้ หากพลาดแม้ แต่เพียงนิดเดียว ทังหมดก็
้ อาจล้ มเหลวได้ แต่เด็กคน
นี ้สามารถกะพลังวิญญาณได้ อย่างแม่นยํา เขาวาดอักขระได้ เหมือนกับ ศิลปิ นที่กําลังวาดนก
และดอกไม้ ได้ ยา่ งลื่นไหล ราวกับว่ารูปนกนันจะสามารถบิ
้ นออกมาได้ จริ งๆ
ตอนแรก หวังยู้ฮาน วิตกว่าตนจะถูกเด็กคนนี ้ก้ าวข้ ามไปหรื อไม่ เธอหวังว่าเด็กคนนี ้จะไม่ผ่าน
การสอบ แต่ในขณะนี ้ จิตใจของเธอกลับเต็มไปด้ วยการยอมรับและความตื่นเต้ นไปกับ
ความสามารถของเขา เธอหวังเพียงแค่วา่ ให้ หลินหมิงแสดงการวาดอักขระอาคมต่อไปอีกให้
นานที่สดุ ตอนนี ้จิตใจของเธอไม่ร้ ูสกึ เสียใจอีกต่อไปแล้ ว
ความรู้สกึ นี ้มันเหมือนกับ การที่นกั ดนตรี ได้ ฟังเสียงแห่งสวรรค์และธรรมชาติ หรื อ ศิลปิ นที่ได้
ยลโฉมของภาพวาดที่ดีที่สดุ จากศิลปิ นที่เก่งที่สดุ ความรู้สกึ นี ้ถือเป็ นสุดยอดแห่งอารมณ์เลย
ทีเดียว
เมื่อได้ เห็นสีหน้ าและท่าทางของเด็กหนุ่มที่อทุ ิศตนให้ กบั ผลงานถึงเพียงนี ้ หวังยู้ฮานก็ได้ ร้ ูวา่
ทําไมทักษะของเธอถึงไม่พฒั นาขึ ้นเท่าไรนัก คงเป็ นเพราะเธอจดจ่อแต่การแข่งกับ ฉินชิงหวน
จนเกิดความกลัวว่าจะต้ องพ่ายแพ้ ให้ กบั คนที่อายุน้อยกว่า
แต่เมื่อได้ เห็นการแสดงของหลินหมิงแล้ ว เธอก็ได้ บรรลุถงึ จิตใจของเธอในทันที ดินแดนแห่งนี ้
ช่างกว้ างใหญ่ไม่มีที่สิ ้นสุดจริ งๆ คงจะมีคนระดับเดียวกับเธอรออยูอ่ ีกเป็ นมากมาย มันไม่
สําคัญแล้ วว่าเธอจะชนะหรื อแพ้ ให้ กบั ฉินชิงหวน
ตอนนี ้เธอไม่ได้ ไล่ตามเงาของฉินชิงหวนอีกต่อไปแล้ ว แต่เหนือไปกว่านัน้ ตอนนี ้จุดหมายของ
เธอไม่ใช่การเป็ นที่หนึง่ แต่เป็ นการทําให้ เต็มที่ด้วยความมุง่ มัน่ ตังใจทั
้ งหมดที
้ ่มีตา่ งหาก
หนึง่ นาทีกบั อีกหนึง่ วินาที ต่อหน้ าของหลินหมิง จํานวนอักขระได้ เพิ่มขึ ้นอย่างรวดเร็ ว ขณะที่
พวกมันกําลังซ้ อนทับกัน ด้ วยแสงสว่างและความมืด ราวกับว่ามันมีชีวิต หลินหมิงคุ้นเคยกับ
‘อาคมล้ มล้ าง’ อยูแ่ ล้ วและวาดมันออกมาได้ อย่างชํ่าชอง ด้ วยการฝึ กฝนจนถึงจุดสูงสุดของขัน้
ที่สอง ทําให้ หลินหมิงมีพลังปราณมาก พอที่จะทําการทังหมดนี
้ ้ได้ เขาไม่จําเป็ นต้ องทรมาน
เหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน
ในวันนี ้ การวาดอักขระของหลินหมิงนัน้ ผ่านไปได้ ด้วยดี เขาได้ จดจ่ออยูก่ บั การวาดอักขระ
เพียงอย่างเดียว และลืมเกี่ยวกับการทดสอบไปจนหมดสิ ้น ในที่สดุ เขาก็วาดอักขระหลากสีจน
เสร็ จสิ ้น และในพริ บตาต่อมาหลินหมิงก็ได้ รวมมันเข้ าด้ วยกัน มันควบแน่นกันกลายเป็ นตาราง
เพลิงขนาดหนึง่ นิ ้ว
ครัง้ นี ้ หลินหมิงไม่ได้ วางอักขระนี ้ลงบนแผ่นจารึก แต่วางลงไปบนดาบยาวเล่มนันแทน
้ และ
อักขระก็ได้ ผสานเข้ าไปในดาบยาว และสลักอักษรไว้ วา่ ‘ ชิ ชิ ’
เสร็ จแล้ ว!!
เมื่อได้ เห็นดาบในมือของหลินหมิงแล้ วจิตใจของหวังหวนจี่ก็เต็มไปด้ วยความปี ติยินดีและยก
ย่องเขาจากก้ นบึ ้งของหัวใจ เขารู้สกึ ได้ เลยถึงพลังไฟอันโชตช่วงในดาบเล่มนัน้ หลินหมิงได้
ถ่ายเทพลังวิญญาณของเขาลงไปด้ วย
หวังหวนจี่ร้ ูสกึ ได้ เลยว่ามันเป็ นอักขระที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง แต่คนวาดมันขึ ้นมากลับเป็ นแค่
เด็กหนุ่มคนหนึง่ ที่เพิ่งมีการฝึ กฝนถึงขันที
้ ่สองเทานัน้ แล้ วอักขระที่เขาวาดขึ ้นเหล่านี ้จะเสริ ม
พลังอาวุธได้ ซกั แค่ไหนกัน
พลังที่เสริ มเข้ าไปในดาบไม่ใช่การทําให้ ดาบนันคมขึ
้ ้น แต่หมายถึงการไหลเวียนของพลังปราณ
ต่างหาก ถ้ าหากอักขระอยูใ่ นแผ่นจารึก ก็ไม่มีใครรู้ได้ วา่ มันแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ถ้าหากอยูใ่ น
อาวุธแล้ วละก็ นักจารึกสามารถใส่พลังวิญญาณของตนเองลงไปเพื่อตรวจสอบได้ วา่ มันมีพลัง
เพียงใด ทําให้ สามารถบอกได้ เลยว่าดาบเล่มนันทรงพลั
้ งขึ ้นกี่เปอรเซนต์
หวังหวนจี่ยกดาบขึ ้นมาและรวบรวมพลังปราณใส่เข้ าไปในดาบ เขาหลับตาเพื่อให้ ประสาท
สัมผัสทําหน้ าที่ของมัน และลืมตาขึ ้นมาในพริ บตาต่อมา ถึงแม้ เขาจะคาดการณ์เอาไว้ แล้ วแต่
เขาก็ยงั ต้ องรู้สกึ ตกใจอยูด่ ี
อักขระเหล่านันสามารถเพิ
้ ่มพลังให้ ดาบได้ ถงึ 32% นี่มนั ระดับผู้เชี่ยวชาญชันสู
้ ง!!
“เพิ่มพลังได้ 32% ” หวังหวนยี่อทุ านออกมา
“บ้ าน่า!!” ชายวัยกลางคนเบิกตากว้ างพร้ อมกับจับดาบนัน้ โดยทัว่ ไปแล้ วนักจารึกจะสามารถ
้ ถือว่ายากมากแล้ ว แต่เด็กนี ้ทําได้ ถงึ 32% ….นี่มนั มากเกินไปแล้ ว
ทําได้ ประมาณ 20% ซึง่ นันก็
ชายวัยกลางคนคนนี ้ทํางานเป็ นคนคุมสอบมานาน เมื่อพูดถึงการวัดระดับพลัง เขาสามารถวัด
้ งมีความแม่นยํามากกว่าอีกด้ วย “ 32.5% !!!”
ได้ เร็ วกว่าหวังหวนจี่เสียอีก ทังยั
ชายคนนันวางดาบลงบนโต๊
้ ะ เขามาจากที่แห่งใดกันแน่ เขามีเพื่อนหรื อไม่ หรื อเขาอาจจะมา
จากสํานักโบราณซักแห่ง ? แล้ วเขามาทําอะไรในอาณาจักรเล็กๆแห่งนี ้ ?
“ยินดีด้วย หลินหมิง เจ้ าผ่านการทดสอบแล้ ว ” หวังหวนจี่กล่าวขึ ้นมา
“ขอรับ ท่านประธาน”
“อืมม เจ้ าตังใจที ้ ” หวังหวนจี่ถามเพื่อความแน่ใจ ใน
้ ่จะเข้ าร่วมสมาคมจารึกจริ งๆอย่างนันรึ
มุมมองของเขา ศิษย์จากสํานักโบราณไม่มีทางที่จะอยากเข้ าร่วมสมาคมของเขาหรอก เขาไม่
คิดว่าหลินหมิงจะตอบตกลงด้ วยซํ ้า “แน่นอน ข้ าต้ องการเข้ าร่วม ”
“ หะ!! ” หวังหวนจี่สะดุ้ง “เจ้ าจะเข้ าร่วมกับเราจริ งๆรึ ”
“แน่นอน ที่ข้ามาทดสอบก็เพราะเหตุนี ้อยูแ่ ล้ ว ”
“นี่มนั ..” หวังหวนจี่ร้ ูสกึ แปลก เขาไม่เข้ าใจถึงสาเหตุที่แท้ จริงที่หลินหมิงอยากจะเข้ าร่วม
สมาคมจารึกเอาเสียเลย
“อย่าห่วงเลย ที่ข้าเข้ าร่วมก็เพราะต้ องการแต้ มบริ จาคเพื่อไปแลกซื ้อวัตถุดิบหายาก ”
ซื ้อวัตถุดิบเนี่ยนะ ถ้ าอยากได้ วตั ถุดิบหายาก เจ้ าก็ต้องมีแต้ มบริ จาค เขาจะเอาวัตถุดิบหายาก
ไปทําอะไร หรื อนําไปให้ อาจารย์ของเขา
แต่อาจารย์ของเขาต้ องไม่ธรรมดาแน่ๆ แล้ วทําไมพวกเขาถึงต้ องมาหาวัตถุดิบในสถานที่เล็กๆ
เช่นนี ้ด้ วย
หวังหวนจี่ คิดอยูเ่ ป็ นเวลานาน และลังเลอยูพ่ กั หนึง่ ก่อนจะตอบไป “ถ้ าเจ้ ายอมขายดาบเล่มนี ้
ให้ กบั สมาคมจารึก ข้ าจะให้ แต้ มบริ จาคเจ้ า 3000 แต้ ม เพื่อนําไปซื ้อวัตถุดิบที่เจ้ าต้ องการ”
หลินหมิงรู้สกึ แปลกใจและดีใจไปพร้ อมๆกัน เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะต้ องไปทําภารกิจอีก
มากมายเพื่อแลกแต้ มพวกนัน้ เขาไม่คิดว่าเขาจะโชคดีถงึ ขนาดนี ้ หวังหวนจี่ขอเสนอซื ้อดาบ
ของเขาด้ วยแต้ มบริ จาค 3000 แต้ ม ตอนที่เขาได้ ดใู นใบรายชื่อวัตถุดิบนัน้ 3000 แต้ ม นี่มนั
ไม่ใช่น้อยๆเลย มันมากพอจะซื ้อวัตถุดิบทังหมดที
้ ่เขาต้ องการได้ ทงยั
ั ้ งเหลือไว้ สําหรับซื ้อวัตถุดิน
ในครัง้ ต่อไปอีก
“หวังหวนจี่คงจะต้ องการซื ้อไปเพื่อศึกษามันอย่างแน่นอน แต่มนั ก็เป็ นเรื่ องที่ซบั ซ้ อนอย่างยิ่ง
ต่อให้ เป็ นถึงผู้เชี่ยวชาญก็คงยากที่จะตรวจสอบมันได้ ทงหมด
ั้ แต่หากเขาเก็บมันเอาไว้ มันก็
ไม่ได้ มีประโยชน์เท่าไร เพราะเดิมทีเขาก็ไม่ได้ ใช้ ดาบเป็ นอาวุธอยูแ่ ล้ ว” เมื่อคิดได้ เช่นนี ้แล้ ว
หลินหมิงก็กล่าวว่า “ขอบคุณครับ ท่านประธาน ข้ ากําลังต้ องการแต้ มบริ จาคอยูพ่ อดี”
“ไม่จําเป็ นต้ องสุภาพนักก็ได้ ถ้ าอาจารย์ของเจ้ ามาที่อาณาจักรแห่งนี ้เมื่อไร ก็อย่าลืมเชิญท่าน
ั ้ นแขกคนสําคัญของสมาคมจารึก ” หวังหวนจี่ต้องการจะ
มาที่นี ้ด้ วยล่ะ เราจะให้ ทา่ นผู้นนเป็
ศึกษาเกี่ยวกับดาบนี ้ เขาต้ องการที่จะเข้ าใจถึงพลังอันลึกลับและเบื ้องหลังของหลินหมิง

“เลือดปี ศาจระดับสี่ 1 จิ๋น 1100 เหรี ยญทอง และ 150 แต้ มบริ จาค”
“เมล็ดดอกไม้ เมฆนภา 12 เมล็ด 600 เหรี ยญทอง และ 80 แต้ มบริ จาค”
“เลือดมังกร 1 จิ๋น 600 เหรี ยญทอง และ 60 แต้ มบริ จาค”

คนขายที่ขายของหล่านี ้ อายุ40-50 ปี เป็ นหญิงวัยกลางคน เธอได้ เขียนราคาไว้ หลังชื่อวัตถุดิบ
แต่ละอย่าง และทุกๆครัง้ เธอหันกลับไปมองหลินหมิง เด็กหนุ่มคนนี ้ต้ องการวัตถุดิบพวกนันจริ
้ ง
หรื อ เขาคิดจะเอาพวกมันไปใช้ ทําอะไรกันแน่
หลินหมิงได้ จดรายการวัตถุดิบเป็ นหลายสิบอย่าง ซึง่ รวมถึงวัตถุดิบลํ ้าค่าและหายากไว้ แล้ ว
ด้ วย เช่น เลือดปี ศาจระดับสี่ ที่หลอดเล็กๆก็เทียบได้ กบั สมบัติหายาก ซึง่ ถ้ าซื ้อ ที่ตลาดทัว่ ไป ก็
จะมีราคาถึง 3000เหรี ยณทอง แต่ที่นี่เพียง1100 เหรี ยญทองเท่านัน้
เมื่อเทียบกับครึ่งปี ที่แล้ ว หลินหมิงคงไม่กล้ าคิดถึงราคาของวัตถุพวกนี ้ เขาไม่มีทางที่จะหาเงิน
จํานวนขนาดนี ้มาได้ อย่างแน่นอน
ในตอนนี ้ราคาของวัตถุดิบทังหมดก็
้ คือ 10000 เหรี ยญทองและแต้ มบริ จาคอีก 2100 แต้ ม
ขณะที่หลินเซี่ยวตงได้ เห็นจํานวนเงินที่ต้องจ่าย ทําให้ เขาได้ ยินแต่เสียงลูกคิดดีดไปมาอยู่
ตลอดเวลา เสียงนันมั
้ นทําให้ เขารู้สกึ แปลกๆพิกล ในที่สดุ เขาก็ได้ เห็นกับตาว่าการใช้ เงินของ
เขามันเหมือนการเททิ ้งดีดีนี่เอง
“ทังหมด
้ 10,000 เหรี ยญทอง กับ 2100 แต้ มบริ จาค ยืนยันการซื ้อหรื อไม่” หญิงวัยกลางคน
ได้ วางลูกคิดลงและถามหลินหมิง ต่อให้ เป็ นผู้เชี่ยวชาญการจารึกระดับสูงก็ยงั แทบเป็ นไปไม่ได้
เลยที่จะซื ้อวัตถุดิบมากมายถึงเพียงนี ้ เด็กนี ้มีเงินขนาดนันเลยหรื
้ อ
“ตกลง”

MW#051 – หน้ าผาจัดอันดับ

ขณะที่หลินหมิงกําลังกลับไปที่พกั ของเขา เขาได้ มองไปยังกองวัตถุดิบในห้ องของเขาด้ วย


ความรู้สกึ ที่เต็มไปด้ วยความตื่นเต้ น วัตถุดิบที่ลํ ้าค่าและยังมีปริ มาณขนาดนี ้สามารถทําให้ ผ้ ู
เชียวชาญจารึกระดับสูงแทบทุกคนในอาณาจักรแห่งนี ้ถึงกับเหงื่อตกได้ เลยทีเดียว พวกเขา
จะต้ องระวังในการใช้ วตั ถุดิบเหล่านี ้เป็ นอย่างมากและไม่ยอมให้ มนั เสียเปล่าแม้ แต่น้อยนิด
สําหรับพวกเขาแล้ วของเหล่านี ้นันถื
้ อกว่าดีเกินไปสําหรับพวกเขาด้ วยซํ ้า แต่หลินหมิงต้ องการที่
จะสร้ างอักขระจารึกโอสถ ซึง่ ต้ องการใช้ วตั ถุดิบทังหมดนี
้ ้เป็ นส่วนประกอบ แต่ด้วยทักษะที่เขา
มีในตอนนี ้ หลินหมิงไม่มีทางทําสําเร็จได้ เลย

“ถ้ าข้ าสามารถสร้ าง ‘จิตฟื น้ ฟูพลัง’ ใส่ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองและยาโอสถพญางูทองคําได้


และกินมันเข้ าไป พลังของข้ าคงจะเพิ่มขึ ้นอย่างมหาศาลเป็ นแน่” ยาโอสถทังสองชนิ
้ ดนี ้ถือเป็ น
ยาชันเลิ
้ ศในบรรดายาทังหมด
้ ด้ วยพลังของมันผสมเข้ ากับความพยายามของเขา เขาก็จะก้ าว
ขึ ้นไปสู้การฝึ กฝนระดับ3ได้ อย่างง่ายดาย

ยิ่งไปกว่านันถ้
้ าหากเขาสามารถเสริ มพลังยาได้ สําเร็ จ ทักษะของเขาเองก็จะรุดหน้ าขึ ้นอีก
เช่นกัน และเขาก็จะยิ่งเข้ าใกล้ กบั การจารึกร่างกายที่เพิ่มความเร็ วและพลังต่อสู้ได้ อีกมหาศาล

แม้ วา่ หลินหมิงจะรู้สกึ ตืน่ เต้ นและมีความสุขเป็ นอย่างมากก็ตาม เขาก็ร้ ูวา่ การที่จะทําแบบนัน้
ได้ เพียงแค่มีเศษเสี ้ยวแห่งความทรงจําอย่างเดียวคงไม่พอ เขาจําเป็ นต้ องฝึ กฝน เพื่อให้
ร่างกายและวิญญาณเป็ นหนึง่ เดียวกันเสียก่อน

เพื่อความประหยัดในการใช้ วตั ถุดิบ หลินหมิงได้ ใช้ วตั ถุดิบเก่าๆที่เขามีและพลังปราณของเขา


ในการฝึ กฝน ซึง่ ไม่ต้องใช้ วตั ถุดิบใหม่ๆอะไรทังสิ
้ ้น

เพื่อที่จะฝึ กทักษะอะไรแบบนัน้ มันจําเป็ นต้ องฝึ กแบบซํ ้าไปซํ ้ามาและฝึ กอย่างไม่ยอ่ ท้ อ ถ้ าพัน
ครัง้ ยังไม่พอ เขาก็จะฝึ กหมื่นครัง้ ถ้ าหมื่นครัง้ ยังไม่พออีก เขาก็จะฝึ กแสนครัง้

การฝึ กซํ ้าไปซํ ้ามาเช่นนี ้ ส่งผลให้ เหนื่อยล้ าเป็ นอย่างมาก ราวกับว่าเขาจะไม่ได้ นอนมาแล้ วกว่า
3วัน3คืนเลยทีเดียว

เมื่อหลินหมิงฝึ กไปได้ ถงึ 2วัน ทําให้ เขารู้สกึ ได้ วา่ เลือดตาแทบกระเด็นออกมา เขาหยุดฝึ กฝน
เพื่อพักผ่อน ในขณะนี ้เพียงแค่จะยกถ้ วยชาขึ ้นมาจิบยังแทบจะทําไม่ได้ เลย

“ข้ าใช้ ‘ครอบงําวิญญาณ’ อย่างต่อเนื่องพร้ อมกับใช้ ยาเพื่อลดอาการเหนื่อยล้ าอีก แต่ก็ยงั


รู้สกึ ได้ วา่ ในขณะนี ้มันถึงขีดสุดที่เขาจะต้ องพักแล้ ว การจารึกยาโอสถมันยากยิ่งกว่าการจารึก
อุปกรณ์หลายเท่านัก”
“พรุ่งนี ้ก็จะถึงวันที่ต้องเข้ าเรี ยนในสํานักเจ็ดแก่นแท้ แล้ ว ดูเหมือนว่าการจะฝึ กจารึกยาโอสถให้
สําเร็ จภายในวันนี ้คงเป็ นไปไม่ได้ สินะ ”

้ สิ ้นสุดวันสอบมา นี่ก็ผ่านมาได้ 3วันแล้ ว พรุ่งนี ้เขาจะต้ องไปรายงานตัวที่ห้องพสุธา


ถ้ านับตังแต่
แห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้

นักสู้จากห้ องพสุธาจะได้ รับโอกาสให้ ตอ่ สู้กบั คนของในนิกายสวรรค์ เมื่อเขาสามารถฝึ กฝนขึ ้น


ไปได้ ถงึ ขันที
้ ่สี่ แต่บางคนที่ฝึกฝนจนถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สามและมีความสามารถพิเศษก็
สามารถท้ าสู้กบั คนจากนิกายสวรรค์ได้ เช่นกัน

ด้ วยพลังของหลินหมิงในตอนนี ้ เขายังขาดคุณสมบัติที่จะเข้ าร่วมกับนิกายอยู่

ในเช้ าวันต่อมา ศิษย์ในห้ องพสุธาก็ได้ มารวมตัวกันอยูท่ ี่ด้านหลังของเขา ชายผิวคลํ ้าตัวสูงมีผม


สีแดงออกมายืนตรงหน้ าของพวกเขาพร้ อมกับดาบที่สะพายไว้ บนไหล่ เขามองไปรอบๆก่อนจะ
กล่าวว่า “นับตังแต่
้ วนั นี ้ พวกเจ้ าได้ เป็ นศิษย์สํานักเจ็ดแก่นแท้ ในห้ องพสุธา อย่างเป็ นทางการ
แล้ วและข้ าก็คืออาจารย์ของพวกเจ้ า ข้ าชื่อว่า ฮ่องซี หรื อจะเรี ยกข้ าว่าอาจารย์ฮ่องก็ได้ ”

“ครัง้ นี ้มีไอโง่ที่ผ่านเข้ ามาได้ มากถึง53คน แต่ที่ยืนอยูท่ ี่นี่20คน จะได้ รับการรับรองให้ ได้ เข้ า
ห้ องพสุธา โดยไม่มีข้อกังขา พวกเจ้ าทุกคน ล้ วนมีพรสวรรค์และความเป็ นอัจฉริ ยะภาพอยูเ่ ต็ม
เปี่ ยม แต่ถ้าพวกเจ้ าคิดว่าสามารถเข้ าห้ องพสุธาได้ แล้ วจะได้ เป็ นที่สดุ ในรุ่นของพวกเจ้ า เจ้ าก็
คิดผิดแล้ ว เฉพาะผู้ที่อยูร่ อดเท่านันแหละที
้ ่จะได้ สลักชื่อลงบนหน้ าประวัติศาสตร์ ”

“จงจําเอาไว้ ความแข็งแกร่งเท่านันที้ ่สาํ คัญที่สดุ มีคนอีกมากมายที่ต้องการเอาชนะพวกเจ้ า


เช่นกัน นัน่ ก็เพราะพวกเจ้ านันแข็
้ งแกร่ง ถ้ าไม่มีความแข็งแกร่งแล้ วพวกเจ้ าก็ไม่มีอะไรดีหรอก
ตามข้ ามาสิ”
ชายผมแดงพูดจบก็นํากลุม่ ของพวกเขาไปตามทางลึกของภูเขาแห่งหนึง่

อาณาเขตของสํานักเจ็ดแก่นแท้ นนกว้ ั ้ างใหญ่ไพศาลมาก ภูเขาโจวทังลู ้ กตังอยู


้ ใ่ นเขตของสํานัก
เจ็ดแก่น ที่ด้านหลังของภูเขาจะมีสิ่งก่อสร้ างอยูเ่ ล็กน้ อย ระหว่างทางเต็มไปด้ วยผืนหญ้ าเขียว
ชอุม่ หิน และต้ นไม้ ทําให้ ดเู หมือนว่าสถานที่นี ้มีชีวิตชีวาและเป็ นหนึง่ เดียวกับธรรมชาติ

หลังจากที่เดินกันมาเป็ นระยะเวลาหนึง่ ก้ านธูป พวกเขาก็ได้ มาถึงหน้ าผาขนาดใหญ่แห่งหนึง่


หน้ าผานี ้สูงหลายสิบฟุต และพื ้นผิวของมันก็ถกู ขัดจนเงาวับเหมือนดัง่ กระจก บนนันได้
้ มีชื่อ
สลักเอาไว้ เต็มไปหมด และชื่อที่อยูบ่ นสุดได้ เขียนเอาไว้ วา่ ‘หลิงเซ็น’

หลินหมิงรับรู้ได้ ถงึ สาเหตุการมีอยูข่ องหน้ าผาแห่งนี ้ คําพูดของฮ่องซีได้ พิสจู น์ความจริ ง


บางอย่างที่เขาไม่แน่ใจ “พวกเจ้ าเห็นผานี ้สินะ แต่ความจริ งมันเป็ นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านัน้
ชื่อเหล่านันมั
้ นจะค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่ อยๆ มันคืออันดับของศิษย์ในสํานักลิขิตฟ้า มันบันทึกชื่อ
ของศิษย์ทกุ คนจากห้ องพสุธาและนิกายสวรรค์เอาไว้ ทงสิ
ั ้ ้น200คน”

มันเป็ นเหมือนระบบเรี ยงรายชื่อ หลินหมิงมองไปยังชื่อที่อยูด่ ้ านล่างของหลิงเซ็น เขามองหาแต่


กลับไม่พบชื่อของฉินชิงหวน

ทําไมกลับไม่มีชื่อของฉินชิงหวนอยูน่ ะ หลินหมิงสงสัย บางทีฉินชิงหวนอาจจะไม่ได้ ถกู รวมอยู่


ในกลุม่ นี ้ก็เป็ นได้

หลินหมิงมองต่อไป เขาก็ต้องเบิกตากว้ าง เขาเห็นชื่อที่แสนจะคุ้นเคยเป็ นอย่างดี จู้ยนั !

‘ จู้ยนั อันดับที่ 39 ’

หลินหมิงหายใจเข้ าลึกๆ มันทํายังไงถึงไปอยูต่ รงจุดนันได้


้ !!
เขามองลงมาอย่างใจเย็น และก็เห็นชื่อของตนเอง หลังจากชื่อของเขาก็เป็ นชื่อของชายคนหนึง่
หวังยานเฟิ ง

ฮิ่งซี พูดขึ ้นมา “ทางเดียวที่จะไปให้ สงู ขึ ้นได้ ก็คือ การสร้ างหนทางให้ ตนเองขึ ้นไป นันรวมถึ
้ ง
การเหยียบพวกพ้ องเพื่อจะยกให้ ตนเองขึ ้นไปให้ สงู ขึ ้นด้ วยเช่นกัน แต่พวกเจ้ าเคยรู้หรื อไม่วา่
ทําไมเราถึงเรี ยกพวกเจ้ าบางคนว่าอัจฉริ ยะ?!”

ขณะที่ฮ่องซีกําลังพูดอยู่ ลูกศิษย์บางคนก็กําลังงงๆ มีคนหนึง่ ถามขึ ้นมา “อาจารย์ฮ่อง เพราะ


พวกเขาสามารถยกระดับของพรสวรรค์ของตนเองได้ ใช่หรื อไม่ขอรับ ”

“ยกระดับพรสวรรค์รึ ” ฮ่องซีหวั เราะแล้ วหัวเราะอีก “ เจ้ ารู้ไหมว่า นักฝึ กปี ศาจจะฝึ กพวก
ปี ศาจที่ดรุ ้ ายอย่างไร ปี ศาจที่มีคณ
ุ สมบัติที่ดีพอจะถูกเลือก พวกมันจะได้ กินอาหารดีๆ และถูก
จัดให้ ได้ อยูใ่ นกรงเดียวกันเพื่อต่อสู้ จากปี ศาจหนึง่ ร้ อยตัว ในที่สดุ ก็จะเหลือเพียงตัวเดียว นัน้
คือเจ้ าแห่งปี ศาจ”

“พวกเจ้ าเองก็เหมือนปี ศาจพวกนัน้ ในหนทางต่อไปนี ้พวกเจ้ าจําต้ องเหยียบยํ่าพวกเดียวกัน


เพื่อไปให้ ถงึ จุดสูงสุด ในอีกแง่หนึง่ พวกเจ้ าเองก็ไม่ตา่ งอะไรจากก้ อนหินเพื่อให้ นกั สู้ที่แท้ จริ ง
เดินเหยียบขึ ้นไป”

“ไม่มีคําว่าแข็งแกร่งที่สดุ มีแค่แข็งแกร่งกว่าเท่านัน้ พวกเจ้ าจงเลือกเอาเองว่าจะเหยียบศพ


เพื่อนพ้ องเพื่อไปยืนอยูบ่ นจุดสูงสุดหรื อจะถูกเหยียบยํ่าเสียเอง”

คําพูดแต่ละคําของเขา เหมือนลูกเหล็กพุง่ เข้ าไปที่ตวั ของเหล่าศิษย์ มันทําให้ จิตใจของพวกเขา


ตกไปอยูท่ ี่ตาตุม่ นี่ไม่ใช่แค่การฝึ กแล้ ว แต่เป็ นการใช้ เพื่อนพ้ องเป็ นบันไดให้ ตนเองไปสูจ่ ดุ สูงสุด
ต่างหาก
“ผู้ที่เหลือคนสุดท้ ายก็คอื ราชางันรึ
้ ..” หลินหมิงกําหมัดแน่น

“ดี ข้ างในจะเป็ นข้ อปฏิบตั ิและกฎระเบียบของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ที่พกั ของพวกเจ้ าจะอยูต่ รง


ด้ านหลังเขา ทุกอย่างเขียนไว้ บนแผ่นหยกหมดแล้ ว พวกเจ้ าแยกย้ ายกันได้ พรุ่งนี ้เราจะเริ่ ม
เรี ยนกัน”

ชายผมแดงแกว่งมือและทันใดนันก็ ้ มีแผ่นหยก20แผ่นตกสูล่ งสูม่ ือของศิษย์แต่ละคน หลินหมิ


งเองก็ได้ รับมาแผ่นหนึง่ เขารี บใส่วิญญาณลงไปทันทีและก็ได้ เห็นที่อยูซ่ งึ่ เป็ นที่พกั ของเขา

“ตอนนี ้ข้ าต้ องหาที่พกั ของข้ าให้ ได้ เสียก่อน แล้ วค่อยหาวิธี จารึกโอสถ เพื่อเสริ มพลังให้ กบั ยา
เม็ดไขกระดูกมังกรทอง หากข้ าจารึกยาโอสถได้ สาํ เร็ จ มันคงทําให้ ข้าไปถึงการฝึ กฝนขึ ้นที่สาม
ได้ อย่างแน่นอน”

การกลายสภาพมีทงหมด ั้ 6 ขัน้ พละกําลัง เลือดเนื ้อ อวัยวะภายใน กล้ ามเนื ้อ กระดูก และ


ผสานชีพจร การจะไต่จากระดับหนึง่ ไปสูอ่ ีกระดับหนึง่ จะต้ องใช้ เวลานานอย่างมาก ตอนนี ้
หลินหมิงพึง่ จะถึงขันที
้ ่สองเมื่อไม่นานมานี ้ เขารู้วา่ การจะเลื่อนขันไปสู
้ ข่ นที
ั ้ ่สามในเวลาอันสัน้
คงไม่ใช่เรื่ องง่ายๆ ถ้ าหากตอนนี ้เขามียาชันสู
้ งอยู่ และด้ วยพลังของการจารึกโอสถ สิ่งที่
ยากเย็นจนแทบเป็ นไปไม่ได้ ก็จะกลายเป็ นเรื่ องง่านขึ ้นมา

“หลินหมิง”

ขณะที่หลินหมิงกําลังครุ่นคิดอยู่ เขาก็ได้ ยินเสียงดังมาจากด้ านหลังและต้ องประหลาดใจเมื่อ


เจ้ าของเสียงคือ หวังยานเฟิ ง ในระหว่างการสอบนัน้ หวังยานเฟิ งโกรธแค้ นหลินหมิงเป็ นอย่าง
มากที่บงั อาจขโมยอันดับหนึง่ ไปจากมัน แล้ วยังแย่งชิง ยาโอสถพญางูทองคําไปอีก ทังหมดนี
้ ้
เป็ นเพราะไอ้ หลินหมิงคนเดียว หลินหมิงเปรี ยบเสมือนดาบยอกอกที่ยงั ปั กอยูก่ ลางใจของมัน
“ยาสองอันนัน้ เจ้ ากินเข้ าไปหรื อยัง” หวังยานเฟิ งถามด้ วยนํ ้าเสียงเย็นชาพร้ อมกับกัดฟั นไป
ด้ วย

“แล้ วอาจจะยังไม่ได้ กิน หรื ออาจจะกินไปแล้ วก็ได้ ” หลินหมิงตอบอย่างใจเย็น ถึงยาสองอัน


นันจะมิ
้ อาจประเมินค่าได้ แต่เขาก็ไม่ได้ กลัวที่จะถูกแย่งชิงไป ในอาณาจักรนี ้สํานักเจ็ดแก่นแท้
นันยึ
้ ดมัน่ ในสัจจะยิ่งนัก เมื่อได้ ยกให้ แก่ใครไปแล้ ว ก็มิอาจจะแย่งชิงกลับมาได้

“ข้ ารู้วา่ เจ้ ายังไม่ได้ กินมัน ยาสองอันนันมั


้ นอันตรายสําหรับเจ้ ามากเกินไป ร่างกายของเจ้ าไม่มี
ทางรับมันไหวแน่ หลินหมิง มีพรสวรรค์เพียงระดับสาม เจ้ าน่าจะรู้อยูแ่ ก่ใจดีนี่ ด้ วยระดับ
พรสวรรค์เพียงแค่นนของเจ้ ั้ า แม้ จะกินยานันไป
้ มันเสียเปล่า อย่างมากเจ้ าก็ทําได้ แค่ดดู ซับ
พลังของมันได้ หนึง่ ในสิบส่วนเท่านัน้ เจ้ าอย่าให้ ยาลํ ้าค่าเช่นนันต้
้ องกลายเป็ นของไร้ คา่ เพราะ
เจ้ าเลย ”

หลินหมิงทําสีหน้ าบึ ้งตึง “เจ้ าต้ องการจะพูดอะไรกันแน่”

“ข้ าต้ องการขอซื ้อยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองจากเจ้ า”

หลินหมิงยิ ้มเยาะ เขาไม่คิดว่าหวังยานเฟิ งจะพูดอะไรตลกๆเช่นนี ้ออกมาได้ “เจ้ าเพี ้ยนไปแล้ ว


้ ”
หรื ออย่างไร คิดว่าข้ าจะยอมขายให้ เจ้ าอย่างนันรึ

“อย่างพึง่ รี บปฏิเสธข้ า ข้ าขอร้ องให้ เจ้ าฟั งข้ อเสนอของข้ าเสียก่อน”

MW#052 เด็กหนุ่มตระกูลหลิน
“ข้ าให้ ยอมให้ เจ้ ายืมป้ายหยกที่บนั ทึกพลังที่สืบทอดมานานจากตระกูลของข้ า ‘สัจธรรมทัง้
เก้ า’ แต่ให้ เวลาได้ เพียงแค่6ชัว่ โมงเท่านัน้ และเงินอีก 5000 เหรี ยญทอง! ถึงแม้ วา่ มันจะเป็ น
แค่ข้อเสนอของข้ า แต่เจ้ าก็อย่าได้ ไปพูดแพร่งพรายเรื่ องนี ้ให้ ใครรู้เด็ดขาด ไม่เช่นนันจะต้
้ องเกิด
เรื่ องขึ ้นอย่างแน่นอน ไม่แน่วา่ นายอาจจะถูกตามล่าด้ วย” หวังยานเฟิ งพูดด้ วยเสียงที่แผ่วเบา
ที่สดุ

ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองไม่สามารถซื ้อได้ ด้วยเงืนเพียงอย่างเดียว แต่หวังยานเฟิ งก็ยงั


พยายามจะขอซื ้อด้ วยเงินทังหมดเท่
้ าที่มนั มี และมันยังเสนอวิชาลับของตระกูลของมันให้ อีก
‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ ซึง่ เป็ นวิชาลับที่ตกทอดจากรุ่นสูร่ ุ่น มันเป็ นสมบัติลํ ้าค่าและถูกเก็บเป็ น
ความลับเฉพาะของคนในตระกูลมาตลอด

หวังยานเฟิ งคาดการณ์วา่ หลินหมิงนันรู ้ ้ เพียงเรื่ องการฝึ กหัวใจให้ แข็งแรงเท่านัน้ และยังไม่ได้


ฝึ กวรยุทธใดใด มันจึงเสนอวรยุทธลับของมันให้ เขา ตราบใดที่หลินหมิงไม่บอกเรื่ องนี ้กับใคร ก็
ไม่มีทางที่ใครรู้ได้ หวังยานเฟิ งเองก็ร้ ูวา่ หลินหมิงคงไม่โง่พอจะทําอะไรแบบนัน้ หากเผยแพร่
เรื่ องมีวรยุทธ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ออกไปคนในตระกูลของมันก็จะไล่ลา่ สังหารเขาเอง

หวังยานเฟิ งประเมินว่าหลินหมิงคงจะมีพรสวรรค์ระดับกลางๆ เขาน่าจะไม่สามารถทําความ


เข้ าใจทังหมดได้
้ ภายในเวลา 6 ชัว่ โมงเป็ นแน่

“ วรยุทธ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ 6 ชัว่ โมงรึ ” หลินหมิงยิ ้มเยาะ วรยุทธนี ้เมื่อเทียบกับ ‘จุดสูงสุด
แห่งความโกลาหล’ แล้ ว ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ ก็ไม่ตา่ งอะไรกับของวรยุทธไร้ คา่ “ข้ าไม่ได้ สนใจมัน
แม้ แต่น้อย”

(วรยุทธ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ของหลินหมิง เป็ นวรยุทธมือเปล่า หากไม่ใช่ผ้ เู ชี่ยวชาญ


และสังเกตดีดีก็จะเห็นเป็ นเพียงการต่อยธรรมดาๆ ทําให้ หวังยานเฟิ งคิดว่าหลินหมิงยังไม่มีวร
ยุทธใด และเสนอวรยุทธของมันให้ )

หวังยานเฟิ งหน้ าแดงปรี๊ด “หลินหมิง แกรู้ถงึ สถานะของตัวแกเองหรื อไม่ ด้ วยพลังของแก


ในตอนนี ้ มันเป็ นไปไม่ได้ เลยที่จะฝึ กฝนให้ ถงึ ขันที
้ ่สามได้ ต่อให้ แกกินยานัน่ เข้ าไปก็ตาม แต่ถ้า
แกพยายามฝึ ก ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ มันจะเพิ่มพูนพลังของแกอย่างมากมายมหาศาล แกมีแต่ได้
กับได้ กระบวนท่าลับนี ้ตกทอดมารุ่นสูร่ ุ่น แม้ แต่เงินเป็ นล้ านเหรี ยญทองก็ซื ้อไม่ได้ ด้วยซํ ้า”

หลินหมิงตอบกลับว่า “สํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็มีวรยุทธให้ ฝึกฝนมากมาย และวรยุทธบางชนิดก็


ทรงพลังมากกว่า ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ หลายเท่า เหตุใดข้ าต้ องไปสนใจวรยุทธที่ไม่ได้ ทรงพลังที่สดุ
้ วย ”
เท่าที่หาจะหาได้ เช่นนันด้

“ฮึม่ ม ถึงแม้ สํานักเจ็ดแก่นแท้ จะมีวรยุทธระดับสูงกว่า ‘สัจธรรมทังเก้


้ า’ๆอยูก่ ็ตาม แต่มนั ก็ถกู
ถ่ายทอดเฉพาะศิษย์พิเศษเท่านัน้ ศิษย์พวกนันคื ้ อพวกที่ถกู เลือกจากเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขา
แม้ แต่ศิษย์พี่หลิงเซ็น จากนิกายสวรรค์ ก็ยงั ไม่มีคณ
ุ สมบัติพอที่จะถูกเลือกจากเจ็ดปรมาจารย์
แห่งขุนเขาเลย เท่าที่ข้ารู้ นอกจากฉินชิงหวนแล้ ว ก็คงไม่มีผ้ ใู ดในอาณาจักลิขิตฟ้าที่จะถูกเลือก
จากเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขา อย่างแน่นอน ศิษย์พิเศษเหล่านันมั ้ กจะมาจากตระกูลโบราณ
ลึกลับจากอาณาจักรอื่นๆ แกคิดว่าแกยังจะมีหวังอยูอ่ ีกหรื อไม่ ”

อย่างไรก็ตามหลินหมิงก็มี ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ อยูแ่ ล้ ว แม้ จะเป็ นวรยุทธสูงสุดของ


สํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็ไม่ทําให้ เขารู้สกึ อิจฉาแม้ แต่น้อย

หลินหมิงตอบ “แค่เพราะเจ้ าหมดหวัง ไม่ได้ หมายความว่าข้ าจะหมดหวังไปกับเจ้ าด้ วย ข้ า


เสียเวลากับเจ้ ามามากพอแล้ ว ลาก่อน”

“แก… แกคิดว่าการบังเอิญเอาชนะข้ าได้ ครัง้ หนึง่ หมายความว่าแกจะเก่งกว่าข้ างันรึ ้ รอก่อน


เถอะ ข้ าจะเหยียบยํ ้าให้ แกกองอยูใ่ ต้ เท้ าของข้ า แกคิดว่าแกจะได้ เป็ นศิษย์พิเศษอย่างนันรึ
้ อย่า
ให้ ขําหน่อยเลยน่า ข้ าจะรอดูแกเป็ นซากศพให้ คนอื่นๆเหยียบยํ ้าขึ ้นไป อย่างทุกข์ทรมาน…”

หลินหมิงเลิกสนใจหวังยานเฟิ งแล้ ว เขาล้ มหวังยานเฟิ งได้ แล้ ว ในความคิดของเขา หวังยานเฟิ ง


อ่อนแอกว่าจู้ยนั ฉินชิงหวน และ หลิงเซ็น แต่เขาจะไม่ยอมแพ้ ให้ กบั คนที่เคยเอาชนะมาแล้ ว
แน่นอน หากเป็ นเช่นนัน้ ถ้ าวันหนึง่ เขาต้ องแพ้ ให้ กบั คนที่เขาเคยชนะมาก่อน เขาก็คงต้ อง
พิจารณาตัวเองใหม่เสียแล้ ว

ก่อนจะถึงเวลาเที่ยงเล็กน้ อย หลินหมิงได้ ย้ายข้ าวของทังหมดของเขาเข้


้ าไปในที่พกั ใหม่ ใน
สํานักเจ็ดแก่นแท้ ทันกว้ างใหญ่มาก มันมีพื ้นที่เพียงพอสําหรับศิษย์ห้องพสุธาทังห้
้ องเลย
ทีเดียว

ที่พกั ของหลินหมิงอยูบ่ นพื ้นที่เล็กๆหลังภูเขา ซึง่ ภายในมีลําธารอยูด่ ้ วย ในนันเป็


้ นสีเหมือนกับ
ไม้ ที่มีอายุร้อยปี ถึงจะเป็ นฤดูร้อนก็ยงั รู้สกึ ถึงความเงียบสงบและสดชื่น มันเป็ นที่ๆเหมาะ
สําหรับการฝึ กฝนเป็ นอย่าง มาก

ขณะที่หลินหมิงกําลังพออกพอใจกับที่พกั ใหม่ของเขาอยู่ เขาก็เริ่ มอ่านสิ่งที่อยูใ่ นป้ายหยกที่ได้


รับมาจากอาจารย์คนนัน้

ป้ายหยกนัน่ อธิบายเกี่ยวกับกฎของสํานักเจ็ดแก่นแท้ รวมถึง การฝ่ าฝื นกฎและการถูกลงโทษ


ด้ วย การแข่งขัน ชัว่ โมงเรี ยน กําหนดการฝึ ก และอื่นๆอีกมากมาย สุดท้ ายเขาก็อา่ นจบ จนถึง
รางวัลของแต่ละอันดับ ที่จดั ขึ ้นโดยสํานักเจ็ดแก่นแท้

เมื่ออ่านทุกอย่างจบ หลินหมิงก็ร้ ูสกึ อยากรู้อยากเห็นขึ ้นมาทันที เหตุผลส่วนใหญ่ที่เขาเข้ า


มาร่วมก็เพื่อสิ่งนี ้

สํานักเจ็ดแก่นแท้ นนมี
ั ้ ศษิ ย์อยูม่ ากมาย ซึง่ แต่ละคนก็มีอนั ดับของตนเอง
หลายร้ อยปี ที่แล้ วเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขาคนหนึง่ ได้ สร้ างอักขระอาคมขึ ้นมา ในการจัดอันดับ
ศิษย์นนั ้ เขาจะใช้ อาคมแบบเดียวกับในพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง ซึง่ สํานักเจ็ดแก่นแท้ จะถูก
ควบคุมโดยเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขา

อักขระอาคมที่ใช้ จดั อันดับถูกเรี ยกว่า อักขระอาคม สังหารหมื่นอักษร ทันทีที่เข้ าไป เขาจะต้ อง


ต่อสู้กบั ศัตรูนบั ไม่ถ้วย และศัตรูพวกนันก็
้ รวมถึงปี ศาจดุร้ายด้ วย

และอันดับของพวกเขาจะถูกตัดสินโดยจํานวนที่ฆา่ ไปกับระดับของศัตรู

ในบรรดาศัตรูพวกนัน้ พวกที่ออ่ นแอที่สดุ ก็จะเทียบได้ กบั การฝึ กฝนขันที


้ ่สอง หากฆ่าได้ ตวั หนึง่
บสูงได้ ก็จะได้ 5แต้ ม ขันสามได้
ก็จะได้ หนึง่ แต้ ม แต่ถ้าหากฆ่าพวกขันสองระดั
้ ้ 10แต้ ม ขัน้
สามระดับสูงได้ 50 แต้ ม ขันสี
้ ่ได้ 100 แต้ ม ขันสี
้ ่ระดับสูงได้ 500 แต้ ม เป็ นต้ น

ศัตรูเริ่ มแรกก็เป็ นพวกระดับสอง และค่อยๆแข็งแกร่งขึ ้นเรื่ อยๆ จนถึงขันสี


้ ร่ ะดับสูงที่จะเข้ ามาสู่
เรื่ อยจนกว่าผู้ทดสอบจะตายลง

และผลคะแนนจะถูกคํานวณก่อนตาย นันก็
้ เป็ นการสาธิตในการจัดอันดับละนะ

ถ้ ามีอนั ดับสูงๆ ก็จะได้ ประโยชน์หลายอย่าง เช่น ยาเม็ดผสานวิญญาณ ถ้ าอันดับที่200 ก็จะ


ได้ ยาเม็ดผสานวิญญาณ ทุกๆสามเดือน ถ้ าได้ สิบอันดับแรก ก็จะได้ ยาเม็ดผสานวิญญาณถึง
10เม็ด ในทุกๆเดือน ซึง่ ยาเม็ดผสานวิญญาณ10เม็ดนัน่ มีมลู ค่าถึง 2000 เหรี ยญ ซึง่ ก็เป็ น
จํานวนที่ เด็กจากตระกูลขุนนางไม่สามารถหาซื ้อได้ งา่ ยๆ

ซึง่ ความจริ งแล้ ว ยาเม็ดผสานวิญญาณเป็ นแค่สว่ นหนึง่ เท่านัน้ ถึงยังไงมันก็เป็ นยาที่สามารถ


หาซื ้อได้ อยูแ่ ล้ วถ้ ามีเงินทองมากพอ แต่ก็มีบางอย่างที่แม้ แต่เงินก็ซื ้อไม่ได้ เช่นถ้ า ได้ อนั ดับ
200 เขาสามารถเลือกฝึ กฝนวรยุทธพื ้นฐานที่อยูใ่ นสํานักได้ ยิ่งถ้ าได้ เป็ น10อันดับแรกละก็
พวกเขาสามารถเดินเข้ าไปห้ องวรยุทธลับที่พวกเขาต้ องการฝึ กฝนได้ เลย

แต่ถ้าได้ ที่หนึง่ เขาสามารถที่จะเรี ยนวิชาที่ถกู เก็บไว้ เป็ นอย่างดีในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ซึง่ เป็ นวิชา
ที่ศิษย์พิเศษเท่านันที้ ่มีโอกาสเรี ยนได้ แม้ แต่คนจากเชื ้อพระวงศ์ก็ไม่มีโอกาสได้ เห็น

แน่นอนว่า หลินหมิงไม่ได้ สนใจวิชาเหล่านันเท่


้ าไรนัก เขาสนใจเรื่ องยาโอสถมากกว่า

เจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขานันชํ ้ ่าชองในเรื่ องการสร้ างอักขระอาคม ในตอนที่เริ่ มก่อตังสํ้ านักเจ็ด


แก่นแท้ พวกเขาได้ สง่ อาจารย์ระดับปราณปลายฟ้า มาตังเสาอาคมเหล่ ้ านันเพื
้ ่อให้ ศิษย์ได้
ฝึ กฝนกัน เมื่อใช้ เสานัน้ เหล่าศิษย์สามารถฝึ กได้ เร็ วขึ ้นเป็ นสองเท่าและใช้ ทรัพยากรเพียงครึ่ง
เดียวเท่านัน้ แต่เสาก็มีอยูจ่ ํากัด และยิ่งไปกว่านันพวกเขาต้
้ องใช้ พลังปราณปริ มาณมหาศาล
เพื่อรักษาการคงอยูข่ องมันเอาไว้ ด้ วยเหตุนนั ้ ไม่ใช่ทกุ คนหรอกนะที่จะได้ ใช้ มนั แต่ต้องเป็ นคน
ที่มีคณ
ุ สมบัติสงู พอเท่านัน้

เพราะฉะนัน้ ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ อันดับจึงสําคัญมาก ยิ่งมีอนั ดับดีๆ ก็ยิ่งได้ ยามากขึ ้น พวกที่


เก่งก็จะเก่งขึ ้นไปอีก พวกอ่อนแอก็จะถูกทิ ้งห่างออกไปเรื่ อยๆ การเหยียบพวกพ้ องขึ ้นไปสู่
จุดสูงสุด ไม่ใช่เรื่ องที่พดู ขึ ้นมาเล่นๆเท่านัน้

“ตอนนี ้เขาก็ได้ เข้ าสํานักอย่างเป็ นทางการแล้ ว ถ้ าอยากได้ ของดีๆ ก็ต้องทําอันดับดีๆให้ ได้ แต่
...เขายังฝึ กการจารึกไม่สําเร็จ ถ้ าให้ ฝึกตอนนี ้ อาจจะต้ องใช้ เวลาวาดอักขระนานถึงครึ่งเดือน
เพื่อให้ ได้ ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง และ ยาโอสถพญางูทองคํา
แต่มนั ก็ค้ มุ ค่ากับเวลาที่เสีย”

หลินหมิงพูดกับตัวเอง และเริ่ มฝึ กการจารึกอีกครัง้


...

ในตอนเช้ าวันที่สองห ลินหมิงลุกจากเตียงตังแต่


้ เช้ าๆ ไปอาบนํ ้าชําระล้ างร่างกาย วันนี ้จะเป็ น
การเรี ยนการสอนครัง้ แรกในสํานักเจ็ดแก่นแท้

การเรี ยนการสอนไม่ได้ เกี่ยวกับการ อธิบายกระบวนท่าอะไรทังนั


้ น้ แต่มนั เกี่ยวกับข้ อควรรู้ของ
การฝึ กฝน และความรู้เรื่ องธาตุพื ้นฐาน และวิธีดแู ลร่างกาย ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ มีถงึ 7-8วิชา
ให้ เรี ยน ศิษย์แต่ละคนสามารถเลือกเรี ยนได้ หนึง่ วิชา หรื อจะไม่เรี ยนเลยก็ได้

ในการเรี ยนวันนี ้ ป้ายหยกได้ บอกว่า วันนี ้จะเป็ นเรื่ องเกี่ยวกับพื ้นฐานร่างกาย

ถึงหลินหมิงจะมีความทรงจําในเรื่ องนี ้อยูบ่ ้ าง แต่เขาก็ยงั ไม่เข้ าใจทังหมด


้ เพราะฉะนัน้ วิชานี ้จึง
สําคัญสําหรับเขามาก

สถานที่เรี ยนวิชานี ้คือ โถงบรรยายแห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ เมื่อหลินหมิงมาถึง เขาพบว่าที่แห่งนี ้


เต็มไปด้ วยผู้คนมากมายที่นงั่ รออยูเ่ รี ยบร้ อยแล้ วกว่า80คน

ในบรรดาคนพวกนัน้ ไม่ได้ มีแค่ศิษย์ใหม่ 53 คนเท่านัน้ แต่มีคนแก่ๆบางคนมานัง่ ฟั งด้ วย


เช่นกัน

สํานักเจ็ดแก่นแท้ นิกายสวรรค์และห้ องพสุธา มีศษิ ย์รวมกันทังหมด


้ 230 คน ห้ องมนุษย์มี
400 คน ทังหมดก็
้ ประมาณ 600 คน นอกจาก 600 คนนี ้แล้ วก็มีอีกหลายสิบคน ที่มาโดย
ใช้ เส้ นสาย ถึงจะมาโดยใช้ เส้ นสาย แต่มนั ก็ไม่ได้ เลวร้ ายเท่าไร

ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ศิษย์แต่ละคน สามารถเรี ยนรู้ได้ สงู สุด 5 ปี และถ้ าหากเขายังอายุไม่ถงึ 22


ปี เขาก็ยงั สามารถอยูต่ อ่ ได้ อีกหรื อจะเลือกจบการศึกษาออกไปก็ได้
และถ้ าหากมีพละกําลังมากพอ พวกเขาสามารถขอจบก่อนก็ได้ แต่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะอยูใ่ ห้
ครบห้ าปี เพราะมันมีทรัพยากรที่หาไม่ได้ งา่ ยๆมากมาย

หลังจากที่หลินหมิงเข้ ามาแล้ ว เขาก็มองหาที่นงั่ ขณะนันเขารู


้ ้ สกึ ว่ามีคนหลายคนจ้ องมองมาที่
เขา

หลินหมิงหันไปก็พบกับคนที่มองเขาอย่างเป็ นมิตร และยิ ้มให้ ด้วย

พวกเขารู้จกั เขาอย่างนันหรื
้ อ

“นายคือหลินหมิงสินะ” ชายหนุ่มรูปงามในชุดสีฟ้าถามด้ วยใบหน้ ายิ ้มแย้ ม

“ใช่ แล้ วนายเป็ นใคร” เขาถามกลับไป

“ข้ าขอแนะนําตัวเลยละกัน ชันชื


้ ่อ หลินหวู่ นี่คือน้ องสาวของข้ า หลินเฟิ งหยวน ” ชายคนนัน้
ผ่ายมือมาทางเด็กผู้หญิงคนหนึง่ ด้ านข้ างของเขา

หลินหวู,่ หลินเฟิ งหยวน หรื อว่าจะเป็ น...

หลินหมิงแปลกใจมาก เขาถามต่อว่า “พวกเจ้ ามาจากเมืองใบหม่อน จากตระกูลหลินอย่างนัน้


หรื อ?”

หลินหวูย่ ิ ้มและตอบว่า “ถูกแล้ ว”


ตระกูลหลินเป็ นตระกูลใหญ่ และเป็ นที่น่านับถือใน เมืองใบหม่อนสีเขียว ถึงจะไม่มีชื่อเสียง
ระดับขุนนาง แต่พวกเขาก็มีชื่อในทางธุรกิจและความรํ่ ารวย ในตระกูลใหญ่ขนาดนี ้ ก็ยอ่ มต้ อง
มีคนที่สามารถเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ อยูแ่ ล้ ว เมื่อหนึง่ เดือนก่อน หลินหมิงได้ ยืมบัตรผ่านมา
เพื่อเข้ าฟั งการบรรยายในหน่วยพิณ ซึง่ ยืมมาจากหลินเซี่ยวตง

MW#053 หินพลังปราณ

ถึงแม้ วา่ ตระกูลหลักจะมีมรดกมากมายก็ตาม แต่ถ้าทางตระกูลต้ องการจะพัฒนาแบบยัง่ ยืน


แล้ วละก็ พวกเขาก็ยงั จําเป็ นต้ องจดจ่ออยูก่ บั ด้ านการเงินเป็ นอย่างดี ธุรกิจของตระกูลนันจะถู
้ ก
ส่งต่อให้ ผ้ ทู ี่สืบทอดโดยตรงเท่านัน้

หลินหมิงที่เกิดในตระกูลย่อย ซึง่ ถูกแยกออกมาเป็ นเวลาหลายชัว่ อายุคนแล้ ว ไม่มีทางเป็ นไป


ได้ เลยที่เขาจะยกให้ หลินหมิงมาบริ หารกิจการ ตังแต่
้ เกิดมา หลินหมิงแทบจะไม่ได้ ตดิ ต่อกับ
ทายาทของตระกูลหลักเลย จึงไม่แปลกที่เขาจะจําสองคนนี ้ไม่ได้

หลินหวูพ่ ดู “พวกเราพึง่ รู้เมื่อไม่กี่วนั มานี ้ว่ามีคนจากตระกูลหลินอีกคนที่สอบเข้ ามาได้ ซึง่ ก็คือ


นาย ยิ่งไปกว่านันนายยั
้ งมาจากตระกูลย่อยอีกด้ วย นายมาถึงจุดนี ้โดยไม่ต้องพึง่ ทรัพยากรจาก
ตระกูลหลักเลย มันทําให้ ข้ารู้สกึ อับอายเสียจริ ง ”

หลินเฟิ งหยวนกล่าวสนับสนุน “ข่าวที่วา่ พี่ได้ เป็ นอันดับหนึง่ ในการสอบดังไปถึงทางตระกูล


หลักเรี ยบร้ อยแล้ ว นี่เป็ นความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่มากทีเดียว ท่านผู้นําตระกูลไปเยี่ยมพ่อแม่ของพี่
และมอบภัตตาคารให้ กบั พวกท่านด้ วย ท่านผู้นําตระกูลฝากแสดงความยินดีกบั พี่ที่นําชัยชนะ
ในครัง้ นี ้มาสูต่ ระกูลหลินของเรา เมื่อท่านพี่กลับไปรับรองว่าพี่จะได้ รับการต้ อนรับอย่างอบอุน่
เป็ นแน่”

หลังจากที่ได้ ยินสองคนนันพู
้ ด หลินหมิงก็พดู ไม่ออก เขาไม่คิดมาก่อนว่าสิ่งพวกนี ้จะเกิดขึ ้น
สําหรับเขาแล้ วเขาไม่คอ่ ยมีความสัมพันธ์กบั ทางนันมากนั
้ น้ เขาจึงไม่คอ่ ยรู้สกึ สนใจพวนนัน้
มากเท่าไหร่

ถึงอย่างไรหลินหมิงก็ร้ ูวา่ นี่เป็ นความฝั นที่ยิ่งใหญ่ที่สดุ เท่าที่พอ่ แม่ของเขาจะหวังเอาไว้ ใครมัง่


ที่ไม่อยากให้ ลกู ของตนเองกลับมาบ้ านพร้ อมกับชื่อเสียง,เกียรติยศและเงินทอง

ยิ่งไปกว่านัน้ พ่อแม่ของเขาก็ยดึ ปฏิบตั ิตามธรรมเนียมอย่างเคร่งครัดมาตลอด และหวังจะนํา


ชื่อเสียงกลับมาให้ แก่บรรพบุรุษ และชื่อเสียงที่ได้ มาจากการเป็ นที่หนึง่ ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็
คงจะสร้ างชื่อเสียงให้ แก่ตระกูลได้ อีกหลายชัว่ อายุคน ประชากรอาณาจักรแห่งนี ้ก็ประมาณ
70-80ล้ านคน การเป็ นที่หนึง่ ก็ไม่ตา่ งอะไรจากอยูแ่ ถวหน้ าสุดของคนเหล่านันเลย

เมื่อคิดได้ เช่นนัน้ หลินหมิงก็ร้ ูสกึ พออกพอใจเป็ นอย่างมาก ลูกๆที่ไหนก็อยากทําให้ พอ่ แม่ภมู ิใจ
ทังนั
้ น้

หลินหมิงยิ ้มและตอบหลับไปว่า “เมื่อข้ าได้ มาที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ ข้ าก็ยงั ไม่ได้ หาเพื่อนร่วมสํา


นัดเลย โชคดีที่ข้าได้ พบกับพวกนายที่นี ้ ท่านพี่ชา่ งจิตใจดียิ่งนัก ข้ าขอฝากเนื ้อฝากตัวด้ วย ”

“ฮ่าๆ น้ องก็ชมกันเกินไปแล้ ว ถ้ ามีอะไรให้ พวกเราช่วยก็บอกได้ เลย ถึงข้ าจะไม่คอ่ ยเก่งอะไรก็


เถอะ แต่ถงึ ยังไงทางตระกูลหลักก็สามารถส่งเงินมาช่วยได้ ”
“ข้ าขอบคุณท่านมาก”

หลังจากที่ได้ แลกเปลี่ยนข้ อมูลกันตามสมควรแล้ ว ในห้ องเรี ยนก็เงียบลง และมีเสียงว่า


“อาจารย์ มาแล้ ว”

หลินหมิงมองไปยังเวทีด้านหน้ า ตรงนันมี ้ คนแก่สวมเสื ้อสีขาวกําลังเดินเข้ ามาที่โถงบรรยาย เขา


ถือตําราเก่าๆเล่มหนึง่ ไว้ ในมือขณะที่กําลังเดินเข้ ามา พลังปราณของเขาตํ่ากว่ามูย่ ี่อย่างเห็นได้
ชัด เขาน่าจะมีการฝึ กฝนในขันผสานชี
้ พจร

ในเมืองใบหม่อนสีเขียว ขันผสานชี
้ พจรก็ถือว่าหายากอย่างยิ่ง แต่หลังจากเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้
เขาก็พบกับระดับปรมาจารย์อยูท่ กุ หนทุกแห่ง มันดูเหมือนว่าอาจารย์ที่อยูท่ ี่นี่ทกุ คนจะอยูใ่ นขัน้
นี ้เป็ นอย่างตํา่

ชายแก่คนนันวางตํ
้ าราลงบนโต๊ ะและพูดขึ ้นมา “ตังแต่
้ วนั นี ้ ข้ าจะมาเพื่อสอนพวกเธอทุกๆคน
ทังทั
้ กษะร่างกาย การใช้ ดาบ การโจมตี การป้องกัน การหลบหลีก และสิ่งที่จําเป็ นในการต่อสู้
อื่นๆอีกมากมาย ถ้ าไม่มีคําถามอะไรแล้ ว เราจะเริ่ มกันเลย”

ชายแก่เปิ ดตัวค่อนข้ างรวบรัดเลยทีเดียว และเริ่ มพูดถึงหัวข้ อที่เขากําลังจะสอน เขาพูดเกี่ยวกับ


ทักษะการเคลื่อนไหว และกระบวนท่าที่มีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่นวิธีฟืน้ ฟูพละกําลัง วิธี
หลบการโจมตี วิธีพลิกตัวกลางอากาศ หรื อแม้ กระทัง่ วิธีกดดันคูต่ อ่ สู้

ทักษะพวกนี ้ก็ไม่ใช่ทกั ษะธรรมดาๆ ถ้ าหากประยุกต์ใช้ มนั ได้ อย่างคล่องแคล่วและเชี่ยวชาญ


มันสามารถเพิ่มทักษะในการต่อสู้ได้ เป็ นอย่างดี และนี่ก็คือช่องโหว่ระหว่างคนที่มีประสบการณ์
กับเด็กใหม่

มก่อนจะกล่าวว่า “วันนี ้พอแค่นี ้ก่อน


ชายแก่พดู เกี่ยวกับเรื่ องพวกนี ้เป็ นเวลาหนึง่ ชัวโมงเต็

นักเรี ยนที่พงึ่ มาใหม่รออยู่เพื่อรับหินพลังปราณก่อน”

“หินพลังปราณ” หลินหมิงแปลกใจ เขาเคยได้ ยินมาเหมือนกัน มันจะบรรจุพลังปราณไว้ และมี


ประโยชน์หลายอย่าง เช่น เปิ ดใช้ งานอักขระอาคมบางอย่าง

หลินหวูพ่ ดู “น้ องชาย เจ้ าหินนัน่ ถือเป็ นทรัพยากรชันดี


้ มันบรรจุพลังปราณเอาไว้ ข้างใน มันใช้
เร่งการฝึ กฝนได้ และยังมีความบริ สทุ ธิ์สงู มาก ง่ายต่อการสกัดอีกด้ วย”

“พี่ชาย เพราะว่าพี่ได้ เป็ นถึงอันดับหนึง่ พี่จะได้ รับหินนันถึ


้ ง10ก้ อน ”หลินเฟิ งหยวนกล่าว
ออกมาดังๆแกมอิจฉานิดๆ

“โอ้ หินนันมี
้ คา่ ขนาดนันเลยหรอ?”

“อืมม จริ งอยูท่ ี่อาณาจักรแห่งนี ้สามารถหาขุดเอาจากเหมืองได้ แต่เขาก็ต้องยกมันมาให้ สํานัก


เจ็ดแก่นแท้ พวกสํานักใหญ่จงึ มีพวกมันมากมาย พวกมันหาซื ้อได้ ยากมากเลยนะ ”

ในอาณาเขตบริ เวณนี ้ทังหมด


้ พวกเชื ้อพระวงศ์ก็ต้องยอมให้ กบั อํานาจของเจ็ดปรมาจารย์แห่ง
ขุนเขา พลังคือทุกสิ่งจริ งๆ

“น้ องชาย รีบไปเถอะ อีกเดียวนายก็จะถูกจัดอันดับที่หินนันแล้


้ ว นายอาจจะได้ เพิ่มมาอีกก็
เป็ นได้ ”

หลินหมิงออกไปรับหินพลังปราณมา 10 ก้ อน มันสีเหมือน หินควอทซ์(หินเขียวใส) แต่ไม่โปร่ง


แสง

้ ว แต่มนั ได้ รับมาแค่5ก้ อนเท่านัน้ และ คนอื่นๆ


หลังจากที่หลินหมิงและหวังยานเฟิ งรับหินนันแล้
จะได้ รับก 2 ก้ อนสําหรับห้ องพสุธา และ1ก้ อนสําหรับห้ องมนุษย์ยิ่งไปกว่านัน้ พวกเขายังถูกขู่
อีกว่า ถ้ าหากในอนาคตยังไม่สามารถเข้ าห้ องพสุธาได้ พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสได้ รับมีนอีก
แม้ แต่ก้อนเดียว

หลินหวูพ่ ดู “น้ องชาย นานๆเราจะได้ เจอกันสักที อยากไปดืม่ กับข้ าหน่อยหรื อไม่”

้ กล่าวขอโทษ “น้ องขอโทษจริ งๆ แต่น้องอยากจะฝึ กฝนให้ มากกว่า


หลินหมิงรู้สกึ ลังเล จากนันก็
นี ้จนกว่าจะถึงการสอบอันดับ สําหรับการดื่มแล้ ว น้ องจะขอเชิญท่านพี่มาดื่มในวันหลัง” การ
จารึก นันกิ
้ นเวลาเป็ นอย่างมาก ทังยั
้ งการฝึ กฝนการต่อสู้อีก หลินหมิงยังมีอีกหลายอย่างที่
จะต้ องทํา และเขายังจะต้ องฝึ กควบคุมการหายใจขณะนอนหลับอีกด้ วย

“ฮ่าๆ น้ องชายช่างขยันเสียจริ ง ไม่แปลกใจเลยที่ทํามาได้ ถงึ ขนาดนี ้ ดีจริ งๆ งันไว้


้ เรามาดื่มวัน
หลัง”

หลินหมิงกล่าวอําลาหลินหวูแ่ ละหลินเฟิ งหยวน หลังคาบเรี ยนเขาเดินมาคนเดียวจนถึงทาง


แยกและได้ พบกับหวังยานเฟิ งและคนอีกสองคนที่หน้ าตาคล้ ายๆว่าจะมาจากเมืองเดียวกัน
หวังยานเฟิ งกําลังหน้ าบูดบึ ้ง แน่นอนว่าคงไม่ใช่เรื่ องดีแน่ๆ

“เฮ้ นันรึ
้ เปล่าอัจฉริ ยะจากตระกูลหวัง หวังยานเฟิ ง ? ฮ่าๆ ตัวเต็งของการสอบ เจ้ าของวรยุทธ
‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ ข้ าก็คิดว่าแกจะเก่งกว่านี ้ซะอีก แต่แกก็แพ้ ให้ กบั ใครที่ไหนก็ไม่ร้ ู มันทําให้
เมืองเยว่ลเู่ สือ่ มเสียชื่อเสียไปไม่น้อยเลย ” หนุ่มคนหนึง่ ในชายแปลกหน้ าทังสองคนนั
้ นกํ
้ าลัง
พูดจาเสียดสีมนั อยู่ เขาน่าจะอายุ 18-19 ปี และเขามีการฝึ กฝนอยูบ่ นจุดสูงสุดของขันที
้ ่สาม
ด้ วย เขาถือดาบยาวเอาไว้ ในมือ และแสดงท่าทางหยิ่งทระนงมากทีเดียว

หวังยานเฟิ งเริ่ มมีอารมณ์โกรธพุง่ ขึ ้นมาอย่างเห็นได้ ชดั “ลุย่ หมิงเซียง แกมันก็แค่ลกู จนๆจาก


ตระกูลลุน่ ยังมีหน้ ามาพูดแบบนันต่ ้ อหน้ าข้ าอีกรึ ตระกูลแกมาของแบ่งยาไปตังมากมาย้ แต่จะ
ทําให้ ได้ 10อันดับแรงยังทําไม่ได้ ด้วยซํ ้า แม้ แต่หมาหน้ าโง่ยงั ทําได้ ดีกว่าแกอีก”

“เฮ้ ย แกว่าใครเป็ นหมาหน้ าโง่วะ่ ก็ดี มาลองกันหน่อยก็ดี มาดูกนั ว่าแกจะโดนชันเหยี


้ ยบอยูใ่ ต้
ตีนได้ มย”
ั ้ ลุย่ หมิงเซียง พูดด้ วยนํ ้าเสียงดูถกู และยิ ้มเป็ นเชิงเหยียดหยาม

หวังยานเฟิ งกําหมัดแน่น ศัตรูของมันเป็ นถึงผู้มีการฝึ กฝนสูงสุดในขันที


้ ่สาม ทังยั
้ งศึกษาใน
สํานักเจ็ดแก่นแท้ มาถึงสองปี แล้ วด้ วย เมือเทียบกับมันแล้ ว โอกาสชนะมีไม่มากเท่าไร

แต่ถงึ อย่างนันหวั
้ งยานเฟิ งก็ไม่อยากถอยอีกต่อไป เขารู้วา่ ถ้ าเขาไม่รับคําท้ าตอนนี ้ ลุย่ หมิ
งเซียง ก็จะกระจายข่าวเรื่องนี ้ไปทัว่ แน่ ว่ามันปอดแหก ซึง่ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ นันก็
้ เป็ นวรยุทธ
ทรงพลังที่ใครๆก็ร้ ูจกั “ไอ้ ลยุ่ หมิงเซียง แกไม่ร้ ูเสียแล้ วว่าใครเป็ นใคร พรสวรรค์ก็ตํ่ากว่าข้ า อายุ
18ปี ท้ า15ปี สู้งนรึ
ั ้ ช่างกล้ าหาญดีเหลือเกิน”

“ละเมออยูร่ ึไง ถ้ าแกถูกฆ่าในสงครามแกจะบ่นว่าคนที่ฆา่ แกมีอายุมากว่า แก่กว่าแกได้ อย่าง


นันหรอ
้ หุบบอก แล้ วมาสู้กนั เลยดีกว่า”

“ทําไมข้ าจะไม่กล้ าว่ะ” หวังยานเฟิ งตะโกนลัน่ ถึงจะรู้วา่ นี่เป็ นการยัว่ ยุก็เถอะ แต่เขาก็ต้อง
รับคําท้ า ถ้ าเขายอมแพ้ เขาก็ถือว่าหัวใจของเขาไม่อยูใ่ นหนทางต่อสู้อีกต่อไป

“ดี งันเราจะดวลกั
้ นตามกฎของสํานักเจ็ดแก่นแท้ แต่ก่อนอื่นเรามาพนันอะไรกันหน่อยมัย้ ได้
ข่าวว่าพึง่ ได้ หินพลังปราณมา 5 ก้ อน เอามันมาเดิมพันกับข้ าหน่อยเป็ นไง”

เดิมพัน?!

หวังยานเฟิ งกัดฟั นแน่น เขาไม่ได้ โง่ เขารู้แล้ วว่า ลุย่ หมิงเซียงมาเพื่ออะไร


นี่ถงึ กับมาดักรอหาเรื่ องเลยอย่างนันหรื
้ อ

ถึงเขาจะรู้อยูแ่ ก่ใข เขาก็ถอยไม่ได้ อยู่ดี เขาอาจจะเสียหินพวกนันไป


้ แต่เขาจะแพ้ ไม่ได้ เด็ดขาด

“ก็ได้ ตกลงตามนัน”

หลินหมิงที่มองจากที่ไกลๆได้ แต่สา่ ยหัวไปมา เจ้ านัน่ รู้ถงึ จุดอ่อนของหวังยานเฟิ งและได้ ยวั่ ยุให้
เขาต้ องต่อสู้ พวกมันรู้วา่ หวังยานเฟิ งไม่ถอยอยูแ่ ล้ ว เพราะถ้ าถอย มันจะคงจะมีชีวิตที่มืดมน
และน่าอัปยศไปอีกนาน

บางทีหวังยานเฟิ งอาจจะแพ้ ก็ได้ ชายอีกคนได้ ศกึ ษาที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ มานานแล้ ว พลังจริ งๆ


ของมันคงจะเทียบกับขันที
้ ่สี่ได้ เลยก็เป็ นได้ ต่อให้ เป็ นเขาก็ยงั ไม่แน่วา่ จะชนะได้

“เจ้ าลุย่ หมิงเซียงมันหยิ่งยะโสและมุทะลุเกินไป แต่พลังของมันก็ไม่ใช้ น้อยๆเลย แม้ แต่ข้าก็คง


จะยังไม่ชนะมันในตอนนี ้ สํานักเจ็ดแก่นแท้ นี่มีแต่พวกตัวร้ ายๆกันรึไงนะ” ฟลินหมิงคิดว่านี่ก็
ถือเป็ นเรื่ องปกติ ทุกคนๆก็ต้องแก่งแย่งกันเป็ นธรรมดา ยิ่งมีทรัพยากรเยอะก็ยิ่งดี ทังยั
้ งอดทน
ฝึ กฝนมาตังนาน ้ ถ้ าไม่เอามาใช้ แกล้ งเด็กใหม่ซกั หน่อยก็คงเสียดายแย่

เรื่ องพวกนี ้ไม่เกี่ยวกับหลินหมิงเลย เขาหันตัวกลับและกําลังจากไป แต่ก็ได้ ยินเสียงมาจากทาง


ข้ างหลัง “ไงๆ นันใช่
้ คนที่ได้ อนั ดับหนึง่ จากการสอบครัง้ นี ้หรื อป่ าวนะ บังเอิญจริ งๆ ฮ่าๆ”

ถึงนันจะเป็
้ นนํ ้าเสียงที่ดมู ีความสุขก็เถอะ แต่มนั ก็แฝงความยัว่ ยุเอาไว้ อย่างเห็นได้ ชดั เขาหัน
กลับไปดูวา่ มันเป็ นใคร มันคือชายหนุ่มอีกคนซึง่ มาพร้ อมกับลุย่ หมิงเซียง มันยืนอยูร่ ะหว่าง
ลุย่ หมิงเซียงกับและหวังยานเฟิ งหนุม่ คนนันดู ้ ทา่ จะมีการฝึ กฝนที่สงู มากทีเดียว
MW#054

ชายหนุ่มคนนันอยู
้ ใ่ นชุดสีฟ้าทังตั้ ว และมือของเขาก็ถือกระบี่ยาวสามฟุตเอาไว้ และกระบี่เล่ม
นันก็
้ เป็ นกระบี่แบบไร้ ที่ป้องกันมืออีกด้ วย

ในบรรดานักสู้ คนที่ใช้ กระบี่นนมี ั ้ น้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่ใช้ ดาบ ซึง่ หลินหมิงก็สนใจในอาวุธ


ประเภทนี ้เช่นเดียวกัน ด้ วยด้ ามจับที่สนกว่
ั ้ ามาก มันไม่งา่ ยเลยที่จะกวัดแกว่งได้ อย่างอิสระ
และมันก็ไม่มีที่ป้องกันมืออีกด้ วย ซึง่ ง่ายต่อการได้ รับบาดแผลที่มือมากขึ ้น แต่ก็มีข้อดีอยูใ่ น
เรื่ องความเร็วที่เหนือกว่า ซึง่ แลกมาด้ วยการป้องกันที่ลดลง นันก็้ พิสจู น์ได้ วา่ ผู้ใช้ นนต้
ั ้ องเก่ง
มากแน่ๆ

บางทีมนั อาจจะเก่งกว่า ลุย่ หมิงเซียง ด้ วยซํ ้า หลินหมิงเพิ่มความระมัดระวังมากขึ ้น เขาลังเล


สักพักก่อนจะถามออกไป “เจ้ าต้ องการอะไร”

“ก็ไม่มีอะไรมาก ข้ าแค่อยากจะมาดูหน้ าอันดับหนึง่ ในปี นี ้ซะหน่อย ถ้ าจําไม่ผิด นายมีการ


ั ้ ่2สินะ”
ฝึ กฝนอยูข่ นที
“ปี นี ้มีแต่พวกอ่อนๆทังนั
้ น้ การฝึ กฝนขันที
้ ่สองได้ เป็ นอันดับหนึง่ ในการสอบ แสดงว่าปี นี ้มีแต่
พวกขันหนึ
้ ง่ ขันสองมาเข้
้ าทดสอบงันสิ ้ นะ” ลุย่ หมิงเซียงกล่าวเสริ ม แต่ที่จริ งมันก็ร้ ูอยูแ่ ล้ วว่า
หลินหมิงมีพรสวรรค์ระดับสามกลางๆ ซึง่ ระดับพรสวรรค์นี ้อาจจะสูงเมื่อเทียบกับคนทัว่ ๆไป แต่
หากมาอยูใ่ นสํานักเจ็ดแก่นแท้ แล้ วละก็ ตํ่ายิ่งกว่าตํ่าเสียอีก มันตังใจที
้ ่จะยัว่ ยุให้ หลินหมิงเกิด
โทสะ

“ระดับพรสวรรค์ของข้ าหนักหัวพวกแกมากงันรึ้ ” หลินหมิงโต้ ตอบกลับไปอย่างใจเย็น เขารู้วา่


สองคนนี ้ต้ องการจะยัว่ โมโหเขา และจะหลอกล่อเดิมพันกับเขาเหมือนที่ทํากับหวังยานเฟิ ง

ในอาณาจักลิขิตฟ้าเป็ นเรื่ องปกติมากที่จะมีการต่อสู้และเดิมพันกันเกิดขึ ้น จะไม่มีใครมา


ขัดขวางได้ หากทังสองฝ่
้ ายเห็นชอบตอบตกลงกันแล้ ว

วิธีการเหล่านี ้เป็ นที่นิยมกันมาก แม้ แต่ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็เช่นกัน

“ฮ่าๆ แน่นอนว่ามันไม่ได้ หนักหัวพวกข้ าหรอก แค่ได้ ยินข่าวมาว่า น้ องหลิน มีพรสวรรค์ตํ่า


ขนาดนันแต่
้ กลับสอบเข้ ามาได้ ทงยั
ั ้ งเป็ นอันดับหนึง่ อีกด้ วย ทําให้ ข้ารู้สกึ แปลกใจเล็กน้ อย
ถึงแม้ พวกที่เข้ ามาทดสอบร่วมกับพวกแกจะมีแต่พวกขยะก็เถอะ แต่แกก็ไม่น่าจะเป็ นอันดับ
หนึง่ ได้ ”

หลินหมิงตอบกลับไปด้ วยการเหยียดหยาม “พวกแกทําเรื่ องไร้ ศกั ดิ์ศรี เหล่านี ้ในสํานักเจ็ดแก่น


แท้ งนรึ
ั ้ เป็ นศิษย์พี่แต่หลอกล่อยัว่ ยุเพื่อจะเดิมพันเอาหินพลังปราณจากพวกเด็กใหม่ เพื่อยืนยัน
ถึงการมีอยูอ่ นั น่าสมเพชของพวกแก ทางที่ดีพวกแกรี บไสหัวไปซะดีกว่า อย่าทําให้ ตระกูลพวก
แกขายขี ้หน้ าไปมากกว่านี ้เลย”

“ไอ้ เด็กนรกนี ้ แกอยากตายมากสินะ” หนุ่มคนนันเลื ้ อดขึ ้นหน้ า “ มีระดับพรสวรรค์ไม่ตา่ งกับ


พวกสวะ แกก็แค่โชคดีได้ กินยาดีๆเข้ าไปก็เท่านัน้ ในสายตาของข้ า แกมันก็ยงั เป็ นเศษสวะอยู่
ดี”

ได้ ยินคําด่าเหล่านัน้ หลินหมิงก็เริ่ มเดือดขึ ้นมาบ้ าง “ปกติข้าก็ไม่คอ่ ยชอบทะเลาะวิวาทหรอก


นะ แต่ก็ได้ ถ้ าแกอยากหาเรื่ องใส่ตวั มากนัก ข้ าก็จะเดิมพั… ”

“หลินหมิง” เสียงตะโกนดังมาจากด้ านหลังของเขา “อย่าไปหลงกลมันนะ”

หลินหมิงหันหน้ ากลับไปก็เห็น หลินหวู่ และ หลินเฟิ งหยวน กําลังวิ่งตรงมาหาเขา คนที่ตะโกน


เตือนเขาก็คอื หลินหวู่ สีหน้ าเขาดูไม่คอ่ ยดีนกั ถ้ าให้ พดู แล้ วละก็ ตระกูลลุย่ ก็ไม่ได้ ด้อยไปกว่า
ตระกูลหลินเลยแม้ แต่น้อย แต่ถ้าพูดถึงเรื่ องพลังในตอนนี ้แล้ วละก็ หลินหวูส่ ้ ไู อ้ ศิษย์พี่สารเลว
ทังสองคนนี
้ ้ไม่ไหวแน่

“หลินหวูถ่ ้ าแกยังมีสมองและคิดได้ อยู่ ก็รีบไสหัวออกไปซะดีกว่า” หนุ่มคนนันตะโกนออกมา



พร้ อมกับแผ่รังสีอาฆาต ดาบของหนุม่ คนนันสั ้ มผัสได้ ถงึ จิตของเจ้ านายพร้ อมกับเริ่ มสัน่ ขึ ้นมา

หนุ่มคนนันสามารถเป็
้ นหนึง่ เดียวกับดาบได้ แล้ วอย่างนันหรื
้ อ

หลินหมิงมีความทรงจําเรื่ องนี ้ ถ้ าผู้ใช้ ดาบสามารถรวมเป็ นหนึง่ เดียวกับดาบได้ แล้ วละก็ ดาบก็


จะสามารถสัมผัสถึงจิตและอารมณ์ของผู้ใช้ ได้ มันจะตอบสนองออกมา ซึง่ การจะทําเช่นนันได้ ้
ต้ องมีระดับพรสวรรค์ที่สงู มาก มันไม่ใช่สิ่งที่หวังยานเฟิ งจะเทียบได้ เลย แม้ วา่ หวังยานเฟิ งจะมี
สมบัติระดับสูงก็ตาม

ยิ่งไปกว่านัน้ มันยังแผ่จิตสังหารแห่งการฆ่าฟั นออกมาอีกด้ วย มันคงจะฆ่าคนไปแล้ วไม่น้อย


ไม่ใช้ เรื่ องง่ายเลยที่จะปะทะกับคนประเภทนี ้

หลินหมิงถึงกับแสดงสีหน้ าเครี ยดออกมา ไม่วา่ จะเจ้ านี ้หรื อ ลุย่ หมิงเซียง ต่างก็มีทกั ษะการ
ต่อสู้ที่ทรงพลัง ไม่มีทางที่เขาจะต่อกรได้ อย่างแน่นอน

หลินหวูโ่ ดนจิตสังหารกดดัน สีหน้ าของเขาบิดเบี ้ยวไปไม่น้อย แม้ วา่ เขาจะเป็ นคนจากห้ อพสุธา
แต่เขาก็ร้ ูวา่ ฝี มือของเขาห่างกับสองคนนี ้อีกมาก ถ้ าจะให้ ส้ กู นั คงไม่ใช่เรื่ องที่ฉลาดนัก เขาดึง
แขนเสื ้อหลินหมิงแล้ วบอกว่า “หลินหมิง ไปกันเถอะ”

“จะไปงันเหรอ
้ ฮ่าๆ หลินหวู่ ตระกูลหลินของแกนี ้มันพวกขี ้แพ้ ชดั ๆ ข้ าล่ะแปลกใจจริ งๆที่
ตระกูลเศษสวะอย่างตระกูลของแก มีคนที่สามารถสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาได้ ทังยั ้ งอยูใ่ น
ห้ องพสุธาอีกด้ วย เหลือเชื่อจริ งๆ เมืองใบหม่อนสีเขียวมีแต่พวกขี ้ขลาดสินะ”

หลินหวูส่ ญ
ู เสียความเยือกเย็นในทันที โดยเฉพาะเมื่อมีคนเหยียดหยามตระกูลของเขา เขาไม่
สามารถทนได้ อีกต่อไป เขาชักดาบออกมาแล้ วเดินตรงไปข้ างหน้ า แต่หลินหมิงห้ ามเอาไว้
หลินหมิงรู้ดวี า่ หลินหวูไ่ ม่มีทางเอาชนะมันได้ แน่

“ใจเย็นก่อน พวกมันมาเพราะข้ า บางทีเดิมพันนี ้อาจจะไม่ได้ แย่อย่างที่คิด”หลินหมิงกล่าว

“ฮ่าๆ ตรงไปตรงมาดีจริ ง บอกเวลาและสถานที่มา ข้ าพร้ อมเสมอ” มันพูดพร้ อมกับหัวเราะไป


ด้ วย

หลินหวูพ่ ดู กับหลินหมิงอย่างเร่งรี บ “หลินหมิง อย่าไปหลงกลพวกมัน พวกมันมาเพื่อแย่งเอา


หินของเจ้ าไป มันชื่อ ซางฉาง มันมีการฝึ กฝนสูงสุดในขันที
้ ่สามมานาน อีกเพียงก้ าวเดียวก็จะ
ั ้ ่สี่แล้ ว และวิชาดาบของมันก็ยงั ทรงพลังอย่างยิ่งอีกด้ วย มันอยูอ่ นั ดับที่109 ของ
ก้ าวไปสูข่ นที
แท่นหินนัน้ เจ้ ารู้ไหมว่ามันหมายความว่าอย่างไร แม้ แต่ หลิงเซ็น, ทาคุ , ซางกวนยู่ และคน
อื่นๆที่เป็ นอันดับหนึง่ ในการสอบก็ยงั มีอนั ดับไม่ถงึ 130 เลยด้ วยซํ ้า”

หลิงเซ็น? หลินหมิงรู้จกั เขา เขาเป็ นศิษย์พี่จากนิกายสวรรค์ ถ้ าเขาไม่ได้ เป็ นหนึง่ ในศิษย์พอ


เศษแล้ วละก็ หลิงเซ็นก็คงจะเป็ นอันดับต้ นๆของสํานักเจ็ดแก่นแท้ พลังของเขาอาจจะเหนือกว่า
ฉินชิงหวนเสียอีก

ถึงเขาจะไม่เคยได้ ยินชื่อของ ทาคุ และ ซางกวนยู่ ก็ตามแต่เขาก็พอเดาได้ พวกนันก็


้ คงมีระดับ
พอๆกับหลิงเซ็น

หลินหวูพ่ ดู ต่อ “ซาง ฉาง เป็ นคนอันดับต้ นๆของห้ องพสุธา แต่จริ งๆแล้ วมันสามารถเข้ านิกาย
สวรรค์ได้ แน่หากมันต้ องการ เจ้ าไม่มีทางเอาชนะมันได้ ยา่ งแน่นอน ”

หลินหมิงตอบกลับไป “ข้ ารู้ดี ท่านพี่”

หลินหวู่ พูดต่อด้ วยสีหน้ าเคร่งเครี ยด “แล้ วทําไมเจ้ าถึงยังดื ้อดึงอยูเ่ ล่า ข้ ารู้วา่ เจ้ าอาจจะ
สามารถต่อสู้กบั คนที่มีการฝึ กฝนในขันที ้ ่สามได้ แต่กบั ขันที
้ ่สามที่เกือบจะขึ ้นไปขันที ้ ่สขี่ องเจ้ านี่
แล้ ว รวมกับวิชากระบี่ของมัน ต่อให้ เป็ นคนที่มีการฝึ กฝนขันที
้ ่สี่บางคนก็ยงั สู้มนั ไม่ได้ ด้วยซํ ้า”

ที่หลินหวูพ่ ดู ออกมาไม่ได้ ผิดแม้ แต่น้อย สํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นสถานที่ที่เหล่าอัจฉริ ยะมารวมตัว


กัน แม้ วา่ หลินหมิงจะมี ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ วรยุทธที่ทรงพลังอยูก่ ็ตาม แต่มนั ก็ยงั
เป็ นไปไม่ได้ ที่จะต่อกรกับอัจฉริ ยะที่มีการฝึ กฝนสูงกว่าถึงสองขัน้

ขณะที่หลินหวูก่ ําลังพูดอยู่ ซางฉาง ก็กอดอกแล้ วส่งสายตายิ ้มปนดูถกู เหยียดหยามออกมา

“คุยกันเสร็ จรึยงั แกจะเดิมพันกับข้ า หรื อใช้ ตระกูลของแกถูกตราหน้ าว่าเป็ นพวกขี ้ขลาดดีละ่ ”


หลินหมิงตอบกลับไป “หุบปากไปซะ สิ่งที่แกจะพูดออกมามีเพียงของที่จะนํามาเดิมพันกับข้ า
เท่านัน”

55-56

**มีการแปลผิดพลาดเล็กน้ อย หลินหวูเ่ ป็ นพี่ใหญ่สดุ > หลินเฟิ งหยวนโตกว่าหลินห


มิง > หลินหมิงเล็กสุด

“น้ องหลิน เจ้ าอย่าได้ ไปรับคําท้ าของมันเชียวนะ” หลินเฟิ งหยวน พูดเสริ มอีกแรง แต่เมื่อต้ อง
เผชิญหน้ ากับ ซางฉาง นํ ้าเสียงของเธอก็ฟังดูปวกเปี ยกขึ ้นมาทันที

หลินหมิงโบกมือ เขารู้เรื่ องนันดี



“แน่นอนว่าพวกเราจะใช้ หินพลังปราณในการเดิมพัน ถ้ าแกพ่ายแพ้ แกต้ องเสียหินพลังปราณ
ทังสิ
้ บก้ อนนันให้
้ กบั ข้ า แต่หากแกชนะข้ าได้ ข้ าจะให้ แกเป็ นสองเท่าหรื อก็คอื หินพลัง
ปราณ 20 ก้ อนไปเลย ตกลงสินะ”

“ก็ดี เจ้ าเคยบอกให้ ข้าเป็ นคนเลือกเวลาและสถานที่เองสินะ ข้ าขอเลือกสนามประลองของ


สํานักแห่งนี ้ แต่เราจะประลองกันในอีกหนึง่ เดือนข้ างหน้ า เวลาเที่ยงตรง”

“ในอีกหนึง่ เดือนรึ”ซางฉางถามด้ วยสีหน้ าประหลาดใจ มันไม่คิดว่าหลินหมิงจะกําหนดเวลา


แบบนี ้ แต่ไม่วา่ เวลาจะผ่านไปนานซักเท่าไร ผลมันก็ยงั คงเหมือนเดิม ด้ วยพรสวรรค์ระดับสาม
อันตํ่าต้ อยเช่นนัน้ ก็มีแต่จะยิ่งทําให้ มนั ทิ ้งห่างหลินหมิงออกไปไกลขึ ้นๆเท่านัน้

“ย่อมได้ แต่แค่1เดือนแกจะไปทําอะไรได้ ฮ่าๆ”ซางฉางพูดขณะที่มองไปยังหลินหมิง มัน


อดทนรอที่จะแย่งชิงหินพลังปราณจากหลินหมิงมาเป็ นของตนเองแทบไม่ไหวแล้ ว

ซางฉาง และ ลุย่ หมิงเซียงต่างเดินกลับไปด้ วยสีหน้ ายิ ้มแย้ ม ปล่อยให้ หลินหวูส่ า่ ยหัวพร้ อมกับ
ถอนหายใจ “น้ องพี่ เจ้ ามุทะลุเกินไปแล้ ว คนที่มาที่นี ้ใหม่ๆต่างก็มีความมัน่ อกมัน่ ใจกันทังนั
้ น้
แต่ถงึ ยังไงเจ้ าพวกนันก็
้ เก่งกว่าอยูห่ ลายขัน้ เจ้ าคนพวกนันยั
้ งไงก็เคยศึกษาที่สํานักเจ็ดแก่นแท้
มานาน โดยเฉพาะซางฉาง เอ่อ...ข้ าก็ไม่อยากพูดหรอก แต่ข้าว่าเจ้ าต้ องพบกับการสูญเสียที่
เป็ นบทเรี ยนราคาแพงเสียแล้ ว”

หลินหมิงหัวเราะอย่างเริ งร่า จากนันก็ ้ พดู ออกมาพร้ อมกับรอยยิ ้ม “ขอบคุณท่านพี่หวู่ ท่านพี่อุ


ส่าเสี่ยงชีวิตเข้ ามาช่วยข้ าแท้ ๆ แต่ข้ามิอาจหลีกหนีการต่อสู้ในครัง้ นี ้ได้ จริ งๆ เพราะมันจะ
ทําลายความตังใจและเส้
้ นทางการต่อสู้ของข้ า”
หลินหมิงตัดสินใจที่จะนับหลินหวูเ่ ป็ นพี่ เขารู้วา่ หลินหวูเ่ ป็ นคนดี เมื่อเกิดอะไรเลวร้ ายขึ ้นมา
เขาก็จะต้ องออกมาช่วยเหลือหลินหมิงอย่างกล้ าหาญ

ขณะที่หลินหมิงพูด เขาก็สงั เกตว่าหวังยานเฟิ งยืนมองเขามาสักพักแล้ ว

เมื่อเห็นหลินหมิงมองไปที่มนั หวังยานเฟิ งก็พดู ขึ ้นมา “ขอให้ โชคดี ”

“ฮ่าๆ เจ้ าก็ด้วย ” เมื่อมีศตั รูร่วมกัน พวกเขาจึงเริ่ มมีความรู้สกึ เหมือนเป็ นพวกเดียวกันเพิ่ม


ขึ ้นมาบ้ าง

“ข้ าไม่แพ้ หรอก หากข้ าแพ้ ข้าก็จะชนะพวกมันให้ ได้ ในซักวัน ข้ าไม่สนว่ามันจะเป็ นลุย่ หมิงเซียง
หรื อเจ้ า หลินหมิง!!! ” หวังยานเฟิ งพูดพร้ อมกับเดินจากไป หลินหวูเ่ องก็ได้ ยินสิ่งที่มนั พูด
เช่นกัน เขารู้ดีวา่ หวังยานเฟิ งเองก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะลุย่ หมิงเซียง

แต่นี่ก็ถือเป็ นเส้ นทางที่หวังยานเฟิ งเลือกเอง ถึงมันจะแพ้ แต่การยอมแพ้ และโดนดูถกู เหยียด


หยามทังที
้ ่ยงั ไม่ได้ ส้ ู ก็คงเป็ นไปไม่ได้ ที่คนอย่างหวังยานเฟิ งจะยอมรับ

หวังยานเฟิ งมีหวั ใจที่มนั่ คงและมีพรสวรรค์ แต่เขาก็ยงั ต้ องฝึ กฝนอีกมาก ทวีปนภาลินไหลนัน้


กว้ างใหญ่ ถ้ าหากต้ องการจะอยูบ่ นจุดสูงสุดละก็ คงต้ องทุม่ เทแรงกายและแรงใจในการขัด
เกลาฝี มืออีกไม่น้อย
้ นหมิงก็นกึ อะไรบางอย่างขึ ้นได้ “จริ งสิ พี่ข้า ไอ้ การเดิมพันนี ้มันมีมานานแล้ วหรื อ
ทันใดนันหลิ
ยัง มันเหมือนกับว่าศิษย์ใหม่จะแพ้ เสมอใช่หรื อไม่ สํานักเจ็ดแก่นแท้ ไม่ได้ มีกฎสําหรับเรื่ อง
้ ”
เช่นนี ้เลยอย่างนันรึ

หลินหวูต่ อบ“ไม่ สํานักเจ็ดแก่นแท้ แค่ไม่อนุญาตให้ ฆา่ กันหรื อทําร้ ายกันจนพิการเท่านัน้


นอกจากนันจะสู้ ้ กนั อย่างไรก็ยอ่ มได้ ดังนันสํ
้ านักเจ็ดแก่นแท้ จงึ ได้ ปรากฏการต่อสู้ที่เยี่ยมยอด
และโหดร้ ายอยูเ่ สมอ แต่อย่างไร เรื่ องที่ศิษย์พี่จะมาแย่งชิงหินหลังปราณของศิษย์น้องก็ไม่ได้
เกิดขึ ้นบ่อยๆ เพราะมันทําให้ ศิษย์พี่ที่ทําเช่นนันมี
้ ชื่อเสียงที่ไม่ดีติดตัวไปด้ วย ซึง่ ไม่ใช่เรื่ องดี
สําหรับตระกูลของพวกเขา ที่”

“งันสิ
้ ่งที่พวกนันทํ
้ าก็เป็ นสิ่งที่น่าสังเวชงันสิ
้ นะ”

“เดิมที่ลยุ่ หมิงเซียงก็เป็ นอันธพาลมาแต่ไหนแต่ไรแล้ ว มันจะทําเช่นนันก็


้ ไม่แปลก แต่กบั ซาง
ฉาง… ความจริ งมันก็เป็ นคนหยาบคาย มันอยูใ่ นกองทัพและฆ่าคนไปมากมาย คงยากที่จะ
รู้จกั นิสยั จริ งๆของมัน”

“แล้ ว... ซางฉางรู้จกั จู้ยนั หรื อไม่”

“จู้ยนั รึ เท่าที่ข้ารู้จ้ ยู นั และซางฉางเป็ นพันธมิตรกันนะ พวกเขาเข้ าร่วมกองทัพด้ วยกัน มีเรื่ อง


้ ”
อะไรงันรึ

หลินหวูไ่ ม่ร้ ูถงึ ความสัมพันธ์ระหว่างจู้ยนั กับหลินหมิง เขาจึงได้ ถามออกไปตรงๆ


“ก็ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร..” หลินหมิงพูดเบาๆ เขาไม่อยากพูดถึงคนๆนันให้
้ หลินหวูฟ่ ั ง

หลินหมิงสงสัยว่าทําไมจู้ยนั ถึงยังไม่เริ่ มลงมือเสียที ที่จริ งแล้ วมันก็สง่ ซางฉาง คนของมันมา


นี่เอง ไม่มีทางเลยที่จ้ ยู นั จะปล่อยให้ เขาเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ และใช้ ชีวิตได้ อย่างปกติสขุ เดิมที
จู้ยนั ต้ องการจะหยุดเขาไม่ให้ มาทดสอบเข้ าที่นี ้ แต่สํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็เป็ นถึงที่ๆมีการป้องกัน
และกฎระเบียบที่แน่นหนา แม้ แต่เชื ้อพระวงศ์ก็ไม่กล้ ามาก่อปั ญหาที่นี่

ตราบใดที่เขายังอยูท่ ี่สํานักเจ็ดแก่นแท้ ต่อให้ จ้ ยู นั ฝึ กฝนไปถึงระดับปราณฟ้าขันต้


้ น มันก็ยงั ไม่
อาจกล้ ามาสร้ างปั ญหาที่นี่ได้ ดังนันสิ
้ ่งที่มนั จะทําได้ ก็ต้องเป็ นไปตามกฎที่สํานักเจ็ดแก่นแท้
วางเอาไว้ และมองหาใครซักคนมาเดิมพันกับเขาแทน

และซางฉางที่อยูห่ ้ องพสุธากับหลินหมิง ก็เหมาะสมกับบทนันพอดี


้ มันสามารถกระทืบหลินห
มิงให้ จมดินได้ อย่างง่ายดาย

แต่ถงึ อย่างนัน้ หลินหมิงก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ และต้ องการที่จะสัง่ สอนพวกของจู้ยนั เช่นกัน

หลินหมิงหายใจเข้ าลึกๆ และกําหมัดแน่น เขาไม่คิดว่าจู้ยนั จะเป็ นคนของกองทัพ ไม่ต้องสงสัย


้ ่4 มันเหนือกว่าซางฉางเสียอีก
เลยว่าเหตุใดมันถึงเข้ านิกายสวรรค์ได้ ด้ วยการฝึ กฝนขันที

หลินหวูส่ งั เกตได้ ถงึ การเปลี่ยนแปลงของหลินหมิง และกล่าวว่า “น้ องข้ า เจ้ าอยากรู้เรื่ องของจู้
ยันจากข้ าหรือไม่”
หลินหมิงตอบ “แน่นอน ข้ าอยากรู้เรื่ องของเขา”

หลินหวูพ่ ดู ด้ วยนํ ้าเสียงเป็ นกังวล “น้ องข้ า ข้ ารู้วา่ จู้ยนั มีการฝึ กฝนบนจุดสูงสุดของขันที
้ ่
3 ในขณะที่มนั กําลังจะทดสอบเพื่อเข้ านิกายสวรรค์ และเป็ นอันดับที่72 แต่คนที่มนั เอาชนะ
้ ่4”
มาได้ มีการฝึ กฝนขันที

***จากตอนที่51 หน้ าผาจัดอันดับ หากใครจําได้ ปัจจุบนั จู้ยนั ขึ ้นไปอันดับ 39 แล้ ว

หลินหมิงถึงกับอึ ้งไปเลย แม้ เขาก็ร้ ูวา่ ในนักสู้ขนสามจากในสํ


ั้ านักอาจจะเอาชนะนักสู้ขนสี
ั ้ ่ที่
ไม่ได้ ฝึกฝนในสํานักได้ แต่จ้ ยู นั ตอนที่มีการฝึ กฝนขัน3สามารถเอาชนะนั
้ กสู้ขน4จากในสํ
ั้ านัก
ได้ อย่างนันหรื
้ อ มันจะเก่งเกินไปแล้ ว

“นิกายสวรรค์นนมี ั ้ ศิษย์อยูท่ งหมด


ั้ 72 คนแน่นอนว่าแต่ละคนมีการฝึ กฝนขันที ้ 4
่ แทบทังนั
้ น้
เงื่อนไขที่จะเข้ าได้ ก็คือต้ องล้ มหนึง่ ในศิษย์ที่อยูใ่ นนิกายสวรรค์ให้ ได้ ซึง่ ด้ วยการฝึ กฝนขันที
้ ่
3 แต่กลับสามารถล้ มขัน4ได้
้ จู้ยนั มันเป็ นปี ศาจในคราบมนุษย์ชดั ๆ หากเจ้ าไปทําให้ เขาไม่
พอใจล่ะก็...”

หลินหมิงยิ ้มและกล่าว “ขอบคุณสําหรับคําแนะนํานะพี่ใหญ่”

หลินหวูต่ อบ “อืมม เจ้ าอย่าได้ ไปมีเรื่ องกับจู้ยนั จู้ยนั มันมีฐานะใหญ่โตในตระกูลมัน แม้ มนั จะ
ไม่ใช่ลกู คนโตที่สดุ แต่ฝีมือและพรสวรรค์ของมันนันลํ ้ ้าเลิศยิ่งนัก เป็ นไปได้ วา่ มันอาจจะเป็ น
หัวหน้ าตระกูลจู้คนต่อไป เจ้ าอาจจะไม่ร้ ู แต่ลกู สาวของตระกูลจู้ได้ แต่งงานกับหนุ่มเชื ้อพระวงศ์
แล้ ว ทําให้ ตระกูลของมันมีอํานาจขึ ้นไปอีก แม้ วา่ สําหรับนักสู้อย่างเจ้ าแล้ ว การขอโทษอาจจะ
น่าอับอาย แต่เพื่ออนาคตของเจ้ า เจ้ าควรทําเพื่อไม่ให้ เกิดปั ญหาต่างๆตามมา”

“ข้ าเข้ าใจแล้ ว” หลินหมิงยิ ้มขณะที่เขาฟั งหลินหวูพ่ ดู เขารู้ถงึ สถานภาพของจู้ยนั ดี ไม่เช่นนัน้


มันคงไม่มีทางพาหลายยุนเยียเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาได้ การจะทําเช่นนันเส้ ้ นสายเพียงอย่าง
เดียวอาจไม่พอ ต้ องอาศัยความแข็งแกร่งและอํานาจอีกด้ วย

“ไว้ เจอกันใหม่ ข้ าขอตัวก่อน” ถึงจะพึง่ ได้ ร้ ูจกั กันไม่นาน แต่หลินหมิงก็ร้ ูสกึ ได้ วา่ หลินหวูน่ นั ้
เป็ นคนดีทีเดียว ถือเป็ นเรื่ องดีที่ได้ ร้ ูจกั และผูกมิตรกับคนเช่นนี ้

“ข้ าอยากจะยํ ้าเจ้ าอีกครัง้ ระวังตัวด้ วยนะ น้ องเรา อย่าไปเสี่ยงกับคนพวกนันเลย


้ ตระกูลของ
พวกเราก็ไม่ได้ ขดั สนแต่อย่างใด ทางตระกูลจะคอยสนับสนุนพวกเราเสมอ พวกเขาคาดหวังกับ
เจ้ ามากทีเดียว”

หลินหมิงหัวเราะในใจ และก้ มหน้ าด้ วยรอยยิ ้มว่า “ข้ าทราบดีขอรับ ท่านพี่”

MW#56 ความสําเร็จ


หลังจากที่กล่าวลาหลินหวูแ่ ล้ วหลินหมิงก็กลับไปที่พกั ของตน ดูเหมือนในวันนี ้จะไม่มีเวลา


เหลือซักเท่าไหร่เขาต้ องแข่งกับเวลาจริ งๆ

ที่หลินหมิงตกลงเดิมพันในครัง้ นี ้ก็ไม่ได้ เป็ นเรื่ องตืน่ เต้ นอะไรซักเท่าไหร่ เพราะในใจของเขาได้


คิดแผนการไว้ แล้ ว ที่หลินหวูพ่ ดู เกี่ยวกับหลิงเซ็น ทาคุ ซางกวนยู่ พวกที่เป็ นอันดับ1ในการสอบ
เข้ าปี ก่อนๆจะเอาชนะพวกที่อนั ดับ130ได้ ตงแต่
ั ้ วนั แรกที่เข้ ามาก็ไม่ใช้ เรื่ องแปลกอะไร แต่ซาง
ฉางอยูอ่ นั ดับ109 เห็นได้ ชกั ว่าฝี มือของพวกเขายังอยูห่ า่ งกันอีกหลายขัน้ แต่หลินหมิงเชื่อว่า
เขาจะต้ องทําได้ ดีกว่าพวกอันดับ1ในการสอบเข้ าปี ก่อนๆอย่างแน่นอน

เขาต้ องการเวลาอีกแค่หนึง่ เดือน

หลิงเซ็น,ทาคุ และ ซางกวนยู่ เอาชนะพวกที่อนั ดับช่วง130ได้ ทนั ทีที่เข้ าสํานัก พวกเขาไม่


ต้ องการเวลาเพิ่มด้ วยซํ ้า

เพื่อจะสําเร็จการจารึกโอสถ เขาต้ องใช้ เวลาอย่างน้ อยครึ่งเดือน และอีกครึ่งเดือนสําหรับการ


ดูดซับยาโอสถพวกนัน้ อย่างแรกเขาต้ องเสริ มพลังให้ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองและยาโอสถ
พญางูซงึ่ เป็ นยาลํ ้าค่าและไม่อาจหาซื ้อได้ และเมื่อเขาได้ ใช้ ยาโอสถลํ ้าค่าทังสองชนิ
้ ดนี ้แล้ วและ
้ ่3ได้ เมื่อเป็ นเช่นนัน้ เขากับซางฉาง
ใช้ เวลาดูดซับมันให้ เต็มที่ซกั ชัว่ หนึง่ จะทําให้ เขาไปถึงขันที
ก็ตา่ งกันเพียงขันเดี
้ ยวเท่านัน้ (มันถือว่าซางฉางที่อยูบ่ นจุดสูงสุดของขัน3ซึ
้ ง่ เอาชนะขัน4ได้

้ 4
เป็ นขันที ่ )

ถ้ าหากเขาเชื่อในพลังของ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’และยังไม่สามารถข้ ามกําแพงการแห่ง
ั ้ ่3ได้ มันก็ยตุ ิธรรมแล้ วที่เขาจะแพ้ ในการเดิมพันครัง้ นี ้
การฝึ กฝนไปสูข่ นที

เมื่อคิดได้ เช่นนัน้ หลินหมิงก็เริ่ มฝึ กจารึกโอสถอีกครัง้ ทันที ถึงเขาจะมีความทรงจําของบรรพ


บุรุษจากดินแดนพระเจ้ า เขาก็ยงั เป็ นแค่เด็กหนุ่มที่มีทกั ษะพื ้นฐานอันน้ อยนิด คงจะเร็วเกินไปที่
จะพูดถึงพลังใหม่ๆ ที่เขาจะทําได้ ในตอนนี ้คือ ฝึ กฝนอย่างมุง่ มัน่ และปล่อยให้ เหงื่อหยดลงไป
เรื่ อยๆอย่างไม่ยอ่ ท้ อ

วันนี ้หลังจากที่หลินหมิง โคจรพลังปราณตามปกติ เขาก็เริ่ มใช้ วตั ถุดิบในการฝึ กฝนด้ วย

การเริ่ มต้ นนันมี


้ โอกาสผิดพพลาดสูงมาก เขาจึงเริ่ มโดยใช้ วตั ถุดิบที่มีราคาถูกที่สดุ ก่อน

เมื่อคันนํ
้ ้าออกมาจากดอกผลึกฟ้า หลินหมิงก็รวบรวมสมาธิและใช้ พลังวิญญาณทําให้ นํ ้าหยด
นันลอยอยู
้ ก่ ลางอากาศ เขาหายใจเข้ าลึกๆ และค่อยๆผ่อนคลายลง

“ได้ เวลาเริ่ มต้ อนแล้ วสินะ”

หลินหมิงเริ่ มที่จะขยับมือขวา อักขระแรก สําเร็จ เริ่ มต้ นได้ ดี ของเหลวนัน่ กระพริ บแสงสีร้ ุง
ออกมา!

เมื่อเทียบกับการจารึกอุปกรณ์แล้ ว การจารึกโอสถนันซั ้ บซ้ อนกว่าหลายเท่า หลินหมิงสามารถ


ฝึ กจารึกอุปกรณ์โดยใช้ พลังปราณทังหมดเท่
้ าที่นกั สู้ขนหนึ
ั ้ ง่ อย่างเขาจะมี แต่ตอนนี ้เขามีการ
ฝึ กฝนขันที
้ ่สองแล้ ว พลังปราณของเขาจึงกล้ าแกร่งและมีปริ มาณมากขึ ้น

โชคดีที่หลินหมิงไม่ร้ ูสกึ ยากลําบากมากนักเขารู้สกึ ยินดีเป็ นอย่างยิ่ง การผลักดันให้ ไปถึงขีดสุด


เป็ นหนทางเดียวที่จะพัฒนาต่อไปได้
หนึง่ ชัว่ โมงผ่านไป หน้ าผากของหลินหมิงปรากฏเหงื่อหยดเล็กๆออกมา อักขระแต่ละตัวที่เขา
วาดขึ ้นมาตลอดหนึง่ ชัว่ โมงมานี ้ลํ ้าลึกซับซ้ อนยิ่งกว่าอักขระที่วาดในการจารึกอุปกรณ์อย่าง
เทียบกันไม่ได้ เขากัดฟั นและอดทนต่อไป ถึงจะมี ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ คอยช่วยอยู่
หลินหมิงก็แทบจะทนต่อไปไม่ไหว กับการใช้ พลังปราณปริ มาณมหาศาลเช่นนี ้ ถึงอย่างนันเขาก็

ยังทําไม่ได้ ถงึ ครึ่งของ‘อาคมรักษาวิญญาณระดับล่าง’เลยด้ วยซํ ้า

หลินหมิงได้ เคยเผชิญหน้ ากับเหตุการณ์เช่นนี ้มาแล้ วตอนที่เขาพยายามจะจารึกอุปกรณ์


เป็ นไปไม่ได้ ที่จะเพิ่มพลังปราณในเวลาอันสันนี ้ ้ ทางเดียวที่เป็ นไปได้ คือลดอัตราความล้ มเหลว
ที่เกิดขึ ้น เพื่อให้ เขาสามารถที่จะสร้ างอักขระแต่ละอักขระขึ ้นมาโดยใช้ พลังปราณน้ อยที่สดุ

(ประมาณว่า ‘อาคมรักษาวิญญาณ’ ต้ องใช้ พลังปราณวาดอักขระขึ ้นมาหลายตัว ซึง่ เมื่อวาด


อักขระตัวแรกขึ ้นมาได้ สาํ เร็จก็ต้องส่งพลังปราณเพื่อคงสภาพมันเอาไว้ และไปวาดตัวที่สองหา
กวาดตัวที่สองไม่สําเร็จก็ต้องวาดตัวที่สองใหม่ เมื่อวาดสําเร็ จแล้ วก็ต้องส่งพลังปราณเพื่อคง
สภาพทังตั
้ วแรกและตัวที่สอง ทําไปเรื่ อยๆจนถึงตัวสุดท้ ายอย่างต่อเนื่องถึงจะสําเร็ จ หากพลัง
ปราณหมดก่อนวาดอักขระตัวสุดท้ ายเสร็ จอักขระทังหมดที ้ ่คงสภาพไว้ อยูก่ ็จะแตกสลายไป )

เขาฝื นวาดอักขระต่อไปไม่ไหวอีกแล้ ว

“เพล้ ง!”

มันเป็ นเสียงของการแตกสลายของอักขระมากมายที่อยูต่ รงหน้ าของหลินหมิง มันแตกออกเป็ น


เสี่ยงๆมากมายเหมือนประทัด และเมื่อเวลาผ่านไปก็เหลือไว้ เพียงแต่ความมืดมิด

“หืม คํ่าแล้ วหรื อนี ้..” หลินหมิงหายใจเข้ าลึกๆ และนัง่ ลงบนเตียง ห้ องของเขามันช่างเงียบสงบ
เสียจริ ง หลินหมิงได้ ยินกระทัง่ เสียงลมหายใจของเขาเอง
เขารู้สกึ เหนื่อยอย่างยิ่ง เขาแผ่ตวั นอนลงไปกับเตียงของเขา แม้ แต่จะให้ ขยับนิ ้วซักนิ ้วยังแทบ
ทําไม่ได้ หลายเดือนที่ผ่านมานี ้ เขาฝึ กการจารึกและเขาได้ ใช้ พลังปราณจนหมดหลายต่อหลาย
ครัง้ แต่เขายังไม่เคยรู้สกึ เหนื่อยขนาดนี ้มาก่อน ถ้ าเขาไม่มี‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ เขาคง
ไม่มีพลังปราณมากขนาดนี ้แน่ๆ การจารึกโอสถ นี่มนั ก็ไม่ตา่ งกับทะเลทรายอันร้ อนระอุที่
ดูดกลืนพลังปราณของเขาไปอย่างบ้ าคลัง่

“ข้ าคงต้ องนอนพักซักหน่อย..”

ถึงผลลัพธ์ของการฝึ กจะออกมาดีก็เถอะ แต่พลังของเขาในตอนนี ้นันไม่ ้ เหลือแม้ แต่น้อย มันทํา


ให้ เขารู้สกึ เหมือนว่าไม่สามารถ รวบรวมพลังได้ อีกแล้ วแล้ วในตอนนี ้

ฮืมม จริ งสิ ข้ าลืมมันไปได้ อย่างไร หินหลังปราณ!

เขาลืมไปสนิทเลย เขายังมีหินพวกนันอยู
้ ่ ถ้ าเขาใช้ หินพวกนันช่
้ วย มันจะเป็ นอย่างไร

หลินหมิงยันตัวลุกขึ ้น ในตอนนันเขาได้
้ รับหินมาทังหมด
้ 10 ก้ อน เขาหยิบออกมาก้ อนหนึง่
และเริ่ มดูดซับพลังจากมันทันที

พลังปราณที่มากมายมหาศาลกําลังไหลเข้ าสูร่ ่างกายผ่านฝ่ ามือของเขา แต่เพราะหลินหมิงยัง


ไม่ถงึ ขันผสานวิ
้ ญญาณ(ขัน6)
้ เส้ นเอ็นของเขาจึงขัดขวางการไหลของพลังเอาไว้ พลังปราณจึง
สามารถไหลผ่านเข้ าไปได้ ทางรูขมุ ขนอย่างเดียวเท่านัน้

เมื่อเทียบกับพลังในร่างของเขาแล้ ว พลังของเขาเหมือนเป็ นแค่บอ่ นํ ้าเล็กๆ พลังปราณจากหิน


นันมหาศาลจริ
้ งๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมพวกคนที่ฝึกถึงขันผสานชี
้ พจรจึงสามารถพัฒนาได้
ก้ าวกระโดดเช่นนัน้
ด้ วยพลังที่หลัง่ ไหลเข้ ามาอย่างไม่หยุดยัง้ หลินหมิงรู้สกึ เหมือนเป็ นอ่างนํ ้าเหือดแห้ งที่กําลัง
ได้ รับการเติมเต็ม นี่มนั เป็ นความรู้สกุ ที่สดชื่นจริ งๆ อาการเหนื่อยล้ าจางหายไปอย่างไร้ ร่องลอย
หลินหมิงเริ่ มโคจร ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ และดูดซับพลังปราณพวกนันเข้
้ าสูร่ ่างกาย
ต่อไป

แม้ ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ จะเป็ นวรยุทธระดับสูงก็ตาม แต่ในสถานการณ์ที่ยงั ดูดซับ


พลังปราณผ่านเส้ นเอ็นไม่ได้ เช่นนี ้ ความเร็ วในการดูดซับจึงมีจํากัด

ขณะที่เขาโคจรพลังไปเรื่อยๆ การโคจรพลังปราณและการดูดซับพลังก็คอ่ ยๆเร็ วขึ ้น มันเร็ วขึ ้น


เรื่ อยๆจนถึงความเร็วสูงสุด

“เป็ นไปได้ อย่างไรกัน”

หลินหมิงรู้สกึ แปลกใจ และเขาก็โคจร ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ ตามปกติแต่มนั กลับมีการ


โคจรและการดูดซับพลังที่เร็วขึ ้น

“เพล้ ง” หินพลังปราณในมือของหลินหมิงแตกออกเป็ นรอยแยก

“พลังปราณในหินนันหมดแล้
้ ้ ”
วอย่างนันรึ

หลินหมิงก็ไม่ใช่คนขี ้เหนียวที่จะเก็บทรัพยากรที่มีคา่ เอาไว้ หากมันใช้ เพิ่มพลังให้ เขาได้ เขาก็จะ


ยอมใช้ มนั เขาวางหินก่อนที่แตกลง และหยิบกฃหินหลังปราณก้ อนใหม่ขึ ้นมา และโคจร‘ปฐม
บทแห่งความโกลาหล’อีกครัง้ พลังปราณอันบริ สทุ ธิ์ก็เริ่ มไหลเข้ าสูร่ ่างกายของเขา ความเร็ วก็
ไม่มีทา่ ทีวา่ จะลดช้ าลงเลยแม้ แต่น้อย

เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ ว หากจะเทียบเรื่ องความเร็ ว ความเร็ วของหลินหมิงก็ยงั เทียบเท่ากับเด็กหัด


เดิน แต่ในตอนนี ้ความเร็วของเขาไม่ตา่ งอะไรกับ นักวิ่งมากประสบการณ์ที่กําลังวิ่งอย่างสุด
ฝี เท้ า

นี่...นี่มนั ...

นี่เป็ นความสําเร็จครัง้ ใหญ่ในขันแรกของ‘ปฐมบทแห่


้ งความโกลาหล’ อย่างแน่นอน

หลินหมิงหายใจเข้ าลึกๆ สีหน้ าของเขาแสดงถึงความสุขและความตื่นเต้ น เขาได้ ฝึกขันแรกของ



‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ มาเป็ นเวลา3เดือนแล้ ว ในที่สดุ ก็สําเร็ จ

หลินหมิงรี บเปิ ดประตูออกไปข้ างนอกทันที เขาวิ่งไปยังห้ องวัดพลังของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ใน


ป้ายหยกนันบอกตํ
้ าแหน่งของห้ องวัดพลังเอาไว้ ด้วย ใครๆก็สามารถใช้ ห้องวัดพลังนันได้
้ เขา
อยากรู้เหลือเกินว่าในขณะนี ้เขาจะมีพละกําลังมากเท่าไร

บทที่ 57 - สงครามการจัดอันดับ

...

...

...

ในขณะนี ้ก็เป็ นเวลามืดคํ่าแล้ ว บรรดาศิษย์ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ หากไม่ได้ กําลังฝึ กฝนอยูใ่ นห้ อง


ของตนเอง ก็ตา่ งนอนหลับสนิทกันหมดแล้ ว ไร้ ซงึ่ ผู้คนตามท้ องถนนในสํานักแห่งนี ้ หลินหมิงวิ่ง
อย่างรวดเร็ วราวกับว่าเขากําลังบินอยู่ มุง่ หน้ าไปยังห้ องทดสอบพละกําลัง

ไม่มีใครเลยที่เขาจะพบเจอระหว่างการเดินทางครัง้ นี ้ จะมีก็เพียงชายชราผู้คอยรักษาความ
ปลอดภัยของสํานักที่กําลังถือโคมไฟขนาดเล็กริ บหรี่ อยูข่ ้ างๆ เขานอนหมอบบนเก้ าอี ้มองดู
คล้ ายคนง่วงนอน

หลินหมิงยิ ้มรับการต้ อนรับจากเขา และมุ้งหน้ าเข้ าไปในห้ อง ภายในเสาหินที่ถกู นํามาใช้ ในการ


วัดพละกําลังเรี ยงอยูเ่ ป็ นแถวอย่างเรี ยบร้ อยสมบูรณ์แบบ

หลินหมิงสุม่ เลือกเสาหินแท่นหนึง่ เขาหลับตาผ่อนคลายร่างกายและโคจร 'ปฐมบทแห่งความ


โกลาหล' ไปทัว่ ร่าง หลินหมิงออกหมัดไปอย่างรุนแรง มันเหมือนกับกระสุนที่ยิงลงไปบนแท่น
หิน

"ปึ งงง!!"

แท่นหินสัน่ ลําพอง แม้ กระทัง่ พื ้นดินใต้ ฝ่าเท้ าของหลินหมิงก็ยงั สัน่ ตามไปด้ วย แสงไฟจากแท่น
หินพุง่ สูงขึ ้นอย่างไม่มีทา่ ทีวา่ จะหยุดลงในเร็ วๆนี ้ 2700 2800 2900 3000 ...

3200!

"3200 จิ๋น!" หลินหมิง สูดลมหายใจเข้ าอย่างภาคภูมิใจพร้ อมกับแววตาที่สอ่ งประกาย

พละกําลังของเขาเพิ่มขึ ้นมาอีก 500 จิ๋น! ความสําเร็จในขันแรกของ‘ปฐมบทแห่


้ งความ
โกลาหล' ได้ เพิ่มพละกําลังของเขามากถึง 500 จิ๋น! แต่สําหรับนักสู้ทวั่ ๆไปการจะมีพละกําลัง
ที่เพิ่มขึ ้นถึง500จิ๋น ก็จะเกิดขึ ้นเมื่อก้ าวไปสู้ขนต่
ั ้ อไปเท่านัน!

ทว่า ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล' เป็ นวรยุทธส่วนหนึง่ ของ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ซึง่


เป็ นวรยุทธลํ ้าเลิศที่แท้ จริง!

'จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล' เป็ นมรดกลํ ้าค่าจากดินแดนพระเจ้ า คุณค่าของการเป็ นดินแดน


ของพระเจ้ า เขาจําได้ วา่ ผู้ที่อยูใ่ นนิกายโบราณที่ได้ รับการฝึ กฝน ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’
เพียงสาวกรับใช้ ที่คอยกวาดพื ้นหรื อแม้ แต่เด็กตัวเล็กๆในสํานัก ก็มีพละกําลังหลายหมื่นจิ๋น
หากพวกเขาสําเร็จ 'จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ส่วนอื่นๆอีก พวกเขาคงจะสามารถทลาย
เทือกเขาหรื อแบ่งครึ่งทะเลและท้ องฟ้าได้

"การเข้ าถึงความสําเร็จขันแรกของ'ปฐมบทโกลาหล'
้ เป็ นเพียงขันตอนแรกของเขา
้ ยังมีหกขัน้
ซึง่ ในแต่ละขันก็
้ จะยิ่งใช้ ความพยายามและมีความยากลําบากมากขึ ้นเรื่ อยๆ นอกเหนือจาก'
จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’และ ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’แล้ ว ยังมีประตูแห่งดาวเก้ า
สวรรค์อีกแปดประตูที่ยงั ซ่อนอยู่ ซึง่ แม้ แต่ศิษย์ระดับสูงจากนิกายโบราณก็ยงั แทบจะเปิ ดมัน
ไม่ได้ ซกั บาน"

หลินหมิงรู้สกึ ตื่นเต้ นยิ่งนัก นี่คือเส้ นทางที่เขาใฝ่ ฝั นจะเลือกเดินอย่างแท้ จริ ง

ในคืนนี ้หลินหมิงได้ ดดู ซับพลังปราณจากหินพลังปราณมา ทําให้ เขาสดชื่นและมีเรี่ ยวแรงมาก


พอจะฝึ กฝนการต่อสู้ของเขาต่อไป

หลังจากที่หลินหมิงโคจรพลังของ 'ปฐมบทแห่งความโกลาหล' การประสบความสําเร็ จในขัน้


แรกของ'ปฐมบทแห่งความโกลาหล'ช่วยส่งเสริ มให้ เขามีความสามารถในการจารึกโอสถ
เพิ่มขึ ้นอย่างมาก เนื่องจากพลังปราณที่เพิ่มมากขึ ้น
ถ้ าหากหลินหมิงยังฝึ กจารึกโอสถต่อไปเช่นนี ้อีกเจ็ดหรื อแปดวัน ขาก็จะสามารถทํา ‘อาคม
รักษาวิญญาณระดับล่าง’ ให้ เสร็จสมบูรณ์ได้

การฝึ กฝนทําให้ หลายๆคนใช้ หินพลังปราณเป็ นว่าเล่น เพียงแค่ในคืนนี ้หลินหมิงก็ใช้ มนั ไปแล้ ว


ถึง3ก้ อน แม้ วา่ เขาจะต้ องใช้ หินพลังปราณทัง10ก้
้ อนในการเดิมพันกับซางฉาง แต่เดิมทีเขาก็
ตังใจจะทุ
้ ม่ เททุกอย่างที่มีเพื่อต่อสู้กบั ซางฉางอยูแ่ ล้ ว เขาจึงไม่เสียดายที่จะใช้ มนั

ในขณะที่เขามองหินพลังปราณที่แตกออกไปสองส่วนทังสามก้
้ อน เขาก็ตระหนักว่านี่เป็ นการใช้
อย่างรวดเร็ วและสิ ้นเปลืองเกินไป แต่ในเดือนต่อไปเขาอาจจะได้ รับมันมากถึง20ก่อนก็ได้
หากเขาชนะซางฉางในการต่อสู้

ในเช้ าวันต่อมาหลินหมิงก็ตื่นขึ ้นมาและเข้ าร่วมฟั งการบรรยายตามปกติ แต่วนั นี ้เขาก็ได้ พบกับ


เพื่อนเก่าคนหนึง่ คนที่เขาไม่ได้ ต้องการที่จะพบเลย – หลานยุนเยีย สํานักเจ็ดแก่นแท้ มีศิษย์
้ ้นกว่า700คน ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องพบเธอ มันเป็ นเรื่ องธรรมดาสําหรับศิษย์ในสํานัก
ทังสิ
เดียวกัน

หลินหมิงไม่ได้ ให้ ความสนใจใด ๆต่อเธออีกแล้ ว ในขณะที่เขาตังใจฟั


้ งการบรรยายจากอาจารย์
อาวุโสในเรื่ องการใช้ อาวุธหอก
หลินหมิงฟั งด้ วยความสนใจ แม้ วา่ อาจารย์อาวุโสท่านนันจะออกไปจากห้
้ องแล้ ว ความรู้
ทังหมดก็
้ ยงั ฝั งอยูใ่ นหัวของหลินหมิง ผู้อาวุโสท่านนันได้
้ สร้ างแรงบันดาลใจให้ เขาอย่างมาก

จนในที่สดุ ศิษย์ทงหมดก็
ั้ ทยอยออกจากห้ องไปจนหมด เว้ นแต่หลานยุนเยียที่ยงั ไม่ได้ รุกไปไหน
เธอยังนัง่ อยูท่ ี่เดิมเหมือนกับว่าเธอกําลังคิดอะไรอยู่

หลังจากที่ศิษย์คนอื่นๆออกจากห้ องกันไปหมดแล้ ว หลินหมิงก็เริ่ มลุกขึ ้นและเตรี ยมพร้ อมที่จะ


จากไป แต่ทนั ใดนันหลานยุ
้ นเยียก็กล่าวขึ ้นมาอย่างกะทันหัน " หลินหมิง ช่วยรอซักครู่จะได้
หรื อไม่?"

้ ?"
หลินหมิงหยุดการเคลื่อนไหวของเขา และถามขึ ้นมา "มีอะไรอย่างนันรึ

แม้ วา่ จะเป็ นคําพูดที่มีนํ ้าเสียงสุภาพ แต่มนั ก็แฝงด้ วยสิ่งแปลกปลอมบางอย่างทําให้ หลานยุน


เยียถอนหายใจเบาๆออกมา เธอกล่าว "ขอแสดงความยินดีที่ได้ เป็ นอันดับหนึง่ ในการทดสอบ"

"ขอบคุณ"

" ... " หลังจากที่หลานยุนเยีย พูดจบ ความเงียบก็ คืบคลานเข้ ามา บรรยากาศระหว่างพวก


เขาทังสองเริ
้ ่มอึดอัดขึ ้นเรื่ อยๆ

"ชัน...
้ ชันได้
้ ยินมาว่าในอีกหนึง่ เดือนต่อจากนี ้ นายจะประลองกับซางฉาง?"

ดวงตาของหลินหมิงกระตุกเล็กน้ อย เขากล่าว"ข่าวนันแพร่ ้ กระจายไปเร็ วเสียจริ ง ใช่แล้ ว ข้ าเดิม


พันกับซางฉาง"ข่าวของศิษย์ใหม่ผ้ เู ป็ นอันดับหนึง่ ในการทดสอบท้ าประลองกับศิษย์พี่อนั ดับสูง
ถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว เป็ นเพราะซางฉางและ ลุย่ หมิงเซียงเองก็จงใจให้ เป็ นเช่นนัน้

หลานยุนเยีย กัดริ มฝี ปากของเธอ เธอลังเลแล้ วกระซิบเบา ๆ "ซางฉาง เป็ นสหายของจู้ยนั ... "

หลานยุนเยียคิดเกี่ยวกับเรื่ องเหล่านี ้มากกว่าที่เขาเคยคิดเอาไว้ เธอกล่าวได้ ถกู ต้ องแล้ ว เรื่ อง


เหล่านี ้ต้ องมีจ้ ยู นั อยูเ่ บื ้องหลังอย่างแน่นอน

"ข้ าก็พอจะรู้เรื่ องนันมาบ้


้ าง" หลินหมิงตอบอย่างแผ่วเบา

"แล้ วเจ้ ายังจะ... " หลานยุนเยียอยากจะขอให้ หลินหมิงยกเลิกการเดิมพันนี ้ แต่เธอก็กลัวว่า


หลินหมิงจะไม่สนใจต่อคําอ้ อนวอนของเธอ

"ชันรู
้ ้ วา่ นายไม่เต็มใจที่จะฟั งชัน้ แต่...ชันใช้
้ ชีวิตอยูใ่ นสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาตลอดครึ่งปี และได้
เห็นการเดิมพันของเหล่าศิษย์มากหลายต่อหลายครัง้ ซึง่ แทบจะไม่มีครัง้ ไหนเลยที่ศิษย์หน้ า
ใหม่จะเอาชนะศิษย์เก่าได้ แม้ วา่ นายจะเป็ นอันดับหนึง่ ในการสอบเข้ า แต่ทว่าซางฉางเองก็เป็ น
คนที่แข็งแกร่งและมีความโหดร้ าย เขามีชื่อเสียงในการต่อสูงที่รุนแรง "

หลินหมิงยิ ้ม "เจ้ าบอกว่าข้ าจะไม่เต็มใจที่จะฟั งรึ? ตังแต่


้ ข้าตกลงรับเดิมพันข้ าก็ไม่คิดที่จะ
ยกเลิกเด็ดขาด มันเป็ นเส้ นทางแห่งการต่อสู้ของข้ า "

" แต่... " หลานยุนเยียถอนหายใจ เธอรู้วา่ เมื่อหลินหมิงได้ ตดั สินใจไปแล้ ว แทบเป็ นไปไม่ได้ เลย
ที่เขาจะเปลีย่ นใจ

"ขอบคุณสําหรับคําแนะนํา "หลินหมิงกล่าวในขณะที่เขากําลังลุกขึ ้นยืน และเดินออกจากห้ อง


บรรยายไป

เหลือเพียงหลานยุนเยียเพียงคนเดียวในที่แห่งนี ้ เธอยังอยูบ่ นที่นงั่ ของเธอ ในขณะที่เธอไม่


สามารถอธิบายความรู้สกึ ของเธอออกมาเป็ นคําพูดได้ เลย มันเป็ นไปไม่ได้ ที่จะเปลี่ยนความคิด
ของจู้ยนั และมันก็เป็ นไปไม่ได้ ที่จะเปลี่ยนความคิดของหลินหมิงเช่นกัน ในที่สดุ พวกเขาทังสอง

จะต้ องต่อสู้กนั ในซักวันอย่างแน่นอน แต่กบั หลานยุนเยีย เธอแอบเป็ นห่วงหลินหมิงที่มีพื ้นฐาน
การต่อสู้และการสนับสนุนจากตระกูลด้ อยกว่าจู้ยนั หลายขัน้ การสู้รบที่จะเกิดขึ ้นจะต้ องทําให้
หลินหมิงต้ องทุกข์ทรมานเป็ นแน่...

...

...

เวลาผ่านไปเหมือนนํ ้าไหล ในขณะนี ้ก็เป็ นวันที่สี่ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ของหลินหมิง เช้ าวันนัน้


หลินหมิงได้ รับหนังสือแจ้ งการชุมนุม และเขาเองก็รีบไปประชุมตากหนังสือที่ได้ รับมาจากสํานัก
เจ็ดแก่นแท้

เหล่าศิษย์หน้ าใหม่จากห้ องพสุธาทังหมดมาประชุ


้ มร่วมกัน หลังจากที่พวกเขามาถึง ชายผมสี
แดงถือดาบก็ปรากฏตัวขึ ้นกลางสนามแข่งขันที่เป็ นสถานที่ซงึ่ พวกเขามารวมตัวกันอยู่ นี่เป็ น
ครัง้ แรกที่มีการเรี ยนแบบบังคับเฉพาะในห้ องพสุธา อาจารย์ฮ่องไซ

ฮ่องไซ แผ่พลังแห่งความกล้ าหาญและพลังอํานาจออกมาอย่างรุนแรง ถ้ าเขาอยูใ่ นกองทัพเขา


จะสามารถฝึ กฝนกองกําลังของเขาได้ อย่างเคร่งครัดและปฏิบตั ติ ามอย่างเชื่อฟั งโดยไม่มีใคร
กล้ าท้ าทายเขาอย่างแน่นอน
หลังจากที่ฮอ่ งไซ ปรากฏตัวขึ ้นกลางสนามประลอง เขาก็ชําเลืองมองเหล่าศิษย์หน้ าใหม่ทกุ ๆ
คนและกล่าว "นี่เป็ นสงครามการจัดอันดับ! ทุกคนตามข้ ามา! "

"สงครามการจัดอันดับ?"

พวกเขารู้อยูแ่ ล้ วว่าเมื่อพวกเขาได้ เข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ไม่ช้าก็เร็ วพวกเขาจะต้ องมีสว่ น


ร่วมในการจัดอันดับ!

สําหรับศิษย์ใหม่ทง20คนจากห้
ั้ องพสุธา นี่คือโอกาสที่จะพิสจู น์ตวั เองของพวกเขา พวกเขาทุก
คนคิดว่าการจัดอันดับจะทําให้ ได้ รับหินหลังปราณและทรัพยากรมากขึ ้น

อัจฉริ ยะอย่างพวกเขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับสถานะอันต่อยตํ่ากว่าคนอื่นๆ คนเหล่านี ้ทังหมด



เต็มไปด้ วยความทะเยอทะยาน และตังใจจะทํ
้ าสงครามการจัดอันดับนี ้เพื่อให้ โลกได้ ตะลึงกับ
ความสําเร็ จอันยอดเยี่ยมของพวกเขา

"หึหึ ในที่สดุ เวลาแห่งสงครามการจัดอันดับก็มาถึง ข้ าดีใจจริ งๆ ข้ าจะได้ แสดงพลังของข้ าเสีย


ที" ศิษย์คนหนึง่ ซึง่ ถือมีดยาว พูดออกมา หน้ าอกของเขามีรอยแผลขนาดครึ่งฝ่ าเท้ า บนฝ่ ามือ
ของเขาสวมสนับมือเอาไว้ และหักนิ ้วเสียงดัง

“ก๊ อก ก๊ อก”

MW#058 อาคมหมื่นสังหาร

้ รอยแผลบนอก เขามีชื่อว่าหวางหมาง อายุ 18 ปี เขาเข้ าร่วมกับกองทัพของ


ชายหนุ่มคนนันมี
้ อายุ 15 ปี และถูกส่งไปประจําการในต่างแดน
อาณาจักรลิขิตฟ้า ในฐานะทหารรับจ้ างตังแต่
เขาได้ ฆา่ ผู้คนไปมากมาย เป็ นเวลากว่าสามปี ที่เขามีสภาพกึง่ เป็ นกึง่ ตาย จนกระทัง่ เขามีการ
ฝึ กฝนขันที
้ ่สาม และมีประสบการณ์การต่อสู้มาอย่างโชกโชน ในตอนทดสอบนัน้ เขาแสดง
พละกําลังออกมาได้ ถงึ 2500 จิ๋นและได้ ถงึ ชันสามของพระมหาเจดี
้ ย์วิจิตรบรรจง

“เจ้ าเด็กนี ้คิดว่าจะสู้ข้าได้ หรื ออย่างไร หากว่าการทดสอบในพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงไม่ได้ ขึ ้น


เรื่ อยๆตามอายุของผู้ทดสอบแล้ วล่ะก็ หากข้ าได้ ทดสอบที่ความยากระดับเดียวกับพวกที่อายุ
15ข้ าสามารถผ่านชัน5ไปได้
้ อย่างง่ายดาย” เสียงนันมาจาก
้ หลีไท้ เขาเป็ นสหายกับหวาง
หมาง เขาเองก็มีพลังระดับเดียวกับหวางหมาง ทังยั
้ งมีการฝึ กฝนขัน3เท่
้ ากันอีกด้ วย

พละกําลังไม่ใช่เรื่ องเดียวที่ทหารรับจ้ างจะเหนือกว่าคนทัว่ ๆไป ทังพรสวรรค์


้ การฝึ กฝน ทักษะ
การใช้ อาวุธ และจิตสังหารที่พร้ อมจะสังหารมนุษย์อย่างไรซึง่ ความลังเลสงสาร

“หวังยานเฟิ ง, หลินหมิง เจ้ าเด็กพวกนี ้ก็เป็ นแค่พวกไก่ออ่ นเท่านัน้ การต่อสู้ของพวกเราที่เสี่ยง


เป็ นเสี่ยงตายมานักต่อนัก พวกมันไม่มีทางเทียบพวกเราได้ ”

ที่พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงนัน้ มีเรื่ องอายุมาเกี่ยวข้ องในการประเมินด้ วย แต่หากพวกเขาทัง้


สองจะต่อสู้กบั หลินหมิงหรื อหวังยานเฟิ งแล้ ว พวกเขาก็สามารถเอาชนะได้ โดยง่าย เนื่องจาก
อายุที่มากกว่าถึง3ปี ในขณะที่อายุไม่มีความเกี่ยวข้ องอีกต่อไป ก็คงจะถึงเวลาในการแสดง
ฝี มือของพวกเขาแล้ ว

...

อาคมหมื่นสังหาร ที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ ใช้ เพื่อจัดอันดับนันอยู


้ ไ่ ม่ไกลจากพระมหาเจดีย์วิจิตร
บรรจงเท่าไร แต่ภเู ขาลูกนันก็
้ เต็มไปด้ วยคมจากต้ นไผ่ ซึง่ ยากแก่การเดินทาง

ซึง่ ก่อนที่หลินหมิงจะมาถึงที่นี่ ก็มีศษิ ย์หลายคนถึงก่อนเขาเป็ นจํานวนมาก

เพราะว่าอาคมเหมือนสังหารนัน้ ใช้ หินพลังปราณเป็ นจํานวนมากในการเปิ ดใช้ งาน มันจึงถูก


เปิ ดแค่เดือนละหนึง่ ครัง้ เท่านัน้ ทังยั
้ งมีกําหนดการที่แน่นอน ในตอนนัน้ ศิษย์ทกุ ๆคนในสํานัก
เจ็ดแก่นแท้ จะสามารถมาเพื่อเข้ าร่วมการจัดอันดับครัง้ นี ้ได้ แต่การจะเข้ าร่วมจําเป็ นต้ องจ่าย
หินพลังปราณก้ อนหนึง่ เป็ นค่าธรรมเนียม ถ้ าอันดับตํ่ากว่า100 แล้ วเปิ ดได้ 5จุด หรื ออันดับสูง
กว่า 100 แล้ วเปิ ดได้ 3จุด พวกเขาก็จะได้ หินคืน ถ้ าหากไม่เป็ นเช่นนัน้ พวกเขาก็จะเสียหิน
พลังปราณไปเปล่าๆ

กฎแบบนี ้มีไว้ เพื่อกันคนที่ไม่ได้ ตงใจจะมาทดสอบอย่


ั้ างจริ งจัง เพราะหากจะต้ องทดสอบศิษย์
ให้ ครบทุกคนต่อให้ ใช้ เวลาทังวั
้ น ก็ยงั ไม่แน่วา่ จะได้ ทดสอบกันครบหมดทุกคนหรื อไม่

ฮ่องไซพูด “ศิษย์ใหม่ที่พงึ่ มาทดสอบเป็ นครัง้ แรกไม่จําเป็ นต้ องจ่ายหินพลังปราณ พวกเจ้ าแค่


ใช้ ป้ายหยกนันแสดงความจํ
้ านงขอเข้ าร่วมการทดสอบ และในอาคมหมื่นสังหาร ร่างจริ งของ
พวกเจ้ าจะไม่ได้ รับบาดเจ็บ ทันทีที่พวกเจ้ าตายในนัน้ อันดับของพวกเจ้ าก็จะปรากฏขึ ้นมา ซึง่
มันก็จะสอดคล้ องกับจํานวนศัตรูที่พวกเจ้ าสังหารไป”

ขณะที่เขาพยายามจะสังเกต อาคมหมื่นสังหาร เขาก็ได้ พบกับคนสองคนที่เขารู้จกั ซึง่ พวกเขาก็


คือลุย่ หมิงเซียง และซางฉาง พวกที่มาเดิมพันกับเขาเมื่อไม่กี่วนั ก่อน

ในขณะนันซางฉางก็
้ เห็นหลินหมิงเช่นกัน มันมองมาที่หลินหมิงด้ วยรอยยิ ้มเชิงดูถกู

“แกเองรึ ข้ าเกือบลืมหน้ าแกไปแล้ ว ดูเหมือนพวกศิษย์ใหม่ ก็จะได้ เข้ าร่วมการจัดอันดับ


เหมือนกันสินะ ข้ าคาดหวังกับแกไว้ สงู หวังว่าคงจะออกมาซักอันดับ180 อย่าให้ ข้าต้ อง
ผิดหวังและเบื่อแกเสียก่อนที่การเดิมพันจะเริ่ มขึ ้นละกัน ฮ่าๆ”

“อย่ามายุง่ เกี่ยวกับอันดับของข้ า จู้ยนั ไม่ได้ มากับเจ้ าด้ วยรึ ” หลินหมิงเดาว่า ที่มนั มาก่อกวน
ในครัง้ ก่อนก็เพราะจู้ยนั คอยบงการอยูเ่ บื ้องหลัง

ถึงยังไงซางฉางก็ไม่ได้ สนใจ มันไม่สนอยูแ่ ล้ วว่าหลินหมิงจะรู้หรื อไม่

ซางฉาง ยิ ้มเยาะพร้ อมกับกล่าวว่า “ จู้ยนั เป็ นถึงศิษย์จากนิกายสวรรค์ และมีอนั ดับ 39 ด้ วย


อันดับ เขาก็คงยุง่ มากเป็ นธรรมดา เขาคงจะมาทดสอบทุกเดือนไม่ได้ หรอก แกคงไม่ร้ ูถงึ
ภาระหน้ าที่ของเขาสินะ”

หลินหมิงตอบกลับ “ข้ าเองก็ไม่ได้ สนใจเจ้ าหรื อจู้ยนั อยูแ่ ล้ ว หลังจากผ่านเดือนไป ข้ าจะจบ


เรื่ องน่าลําคาญพวกนี ้เสียที หวังว่านอีกหนึง่ เดือนข้ างหน้ า เจ้ าคงยังยิ ้มได้ เหมือนในขณะนี ้ ”

“ฮ่าๆๆ ข้ าก็ตงใจจะพู
ั้ ้ อนกัน”
ดกับแกแบบนันเหมื

ข่าวการเดิมพันระหว่างซางฉางกับหลินหมิง แพร่ออกไปเป็ นวงกว้ าง หลายๆคนก็อยากมาดู


ศิษย์ใหม่ที่ต้องรู้สกึ เจ็บใจจากความพ่ายแพ้ ในครัง้ แรกของพวกเขา และก็มีบางคนที่เกลียดซาง
ฉางเข้ าไส้ การกระทําของมันเองก็ไม่เป็ นที่พอใจของคนส่วนมากเท่าไหร
แต่ศกึ ระหว่างหวังยานเฟิ งกับลุย่ หมิงเซียง ด้ วยความโอหังโดยกําเนิดของลุย่ หมิงเซียง และ
ความภาคภูมิใจของหวังยานเฟิ ง ก็ทําให้ ขา่ วแพร่ไปเร็ วไม่แพ้ กนั

แต่นนเป็
ั ้ นเรื่องของในอีกหนึง่ เดือนข้ างหน้ า ในขณะนี ้ แท่นหยกได้ เปล่งแสงเป็ นสายๆออกมา
นับไม่ถ้วน มันคือสัญญาณว่าการทดสอบเริ่ มขึ ้นแล้ ว

ในอาคมหมื่นสังหาร มีทงหมด
ั้ 12 จุด หรื อก็คือการทดสอบรอบหนึง่ สามารถเข้ าร่วมได้ ครัง้ ละ
12 คน

หลินหมิงมองไปยังอาคมหมื่นสังหาร แล้ วก็หวั เราะ “ หวังยานเฟิ ง พวกเราคงไม่ต้องพูดพรํ่ าว่า


ให้ เสียเวลาอีกแล้ ว เรามาใช้ เจ้ านี ้วัดให้ มนั รู้เรื่ องกันไปเลยดีกว่า ว่าเจ้ าหรื อข้ า ใครจะเก่งกว่า
กัน”

“เจ้ าก็คิดเช่นเดียวกับข้ า” ถึงหลินหมิงจะพูดข่มขวัญมัน แต่กําลังใจของมันก็ไม่ได้ ลดลงไป


แม้ แต่น้อย ถึงมันจะรู้ดีวา่ ไม่อาจสู้ลยุ่ หมิงเซียงได้ แต่มนั ก็ยงั รับคําท้ าไว้ ด้วยความกล้ าหาญ

“เจ้ าพวกลูกวัวหน้ าใหม่นนั ้ ไม่กลัวเสือเอาเสียเลย หวังยานเฟิ ง แกพอจะมีกนึ๋ บ้ างไหม ”

“มีไปก็ไม่ช่วยอะไร มันยังเด็กเกินไป ไม่มีทางที่มนั จะชนะได้ ”

“เจ้ าพวกศิษย์ใหม่ที่สามารถขึ ้นไปอยูใ่ นอันดับ 180 ได้ ก็ถือว่าหายากแล้ ว อันดับ 150 ก็ยิ่ง
ไร้ ที่ติ อันดับ 130 ก็เหมือนกับปาฏิหาริ ย์ แม้ แต่หลิงเซ็น และ ทาคุ ก็ยงั ทําเช่นนันไม่
้ ได้
สําหรับลุย่ หมิงเซียงที่อยูอ่ นั ดับ125 แล้ ว หวังยานเฟิ งจะไปเอาชนะได้ อย่างไร”

หลินหมิงฟั งคนอื่นพูดคุยกัน เขามองไปยังแท่นหยกอันดับ เพื่อยืนยันในคําพูดพวกนัน้ ลุย่ หมิ


งเซียงมีอนั ดับ125 จริ งๆ มันอยูอ่ บั ต้ นๆของห้ องพสุธา
้ องพสุธาและนิกายสวรรค์มีศิษย์รวม 230 คน มันเป็ นเรื่ องดีมากที่ ศิษย์ใหม่ๆจะทํา
ทังห้
อันดับได้ อย่างน้ อย 200 ซึง่ หวังยานเฟิ งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่เขาต้ องการอันดับที่สงู
กว่านัน้ หลินหมิงเองก็เช่นกัน เขารู้มาว่า ถ้ าเขาต้ องการอันดับประมาณ 180 เขาต้ องได้
100 คะแนน อันดับ 150 ก็ต้องการคะแนนเพิ่มอีกหลายร้ อย และการฆ่าศัตรูที่มีการฝึ กฝน
้ 3
ขันที ่ ก็ได้ คะแนนเพียง50คะแนนเท่านัน้

ศิษย์ทงั ้ 12 คนได้ มาอยูท่ ี่กลางแท่นบูชาอย่างมัน่ คง เจ้ าหน้ าที่ที่คมุ ก็กล่าวขึ ้นมา “การ
ทดสอบนี ้ไม่จํากัดเวลา หากฆ่าศัตรูขนสองจะได้
ั้ 1 คะแนน ฆ่าศัตรูขนสองระดั
ั้ บสูงได้ 5
คะแนน ฆ่าพวกระดับได้ 10 คะแนน ฆ่าศัตรูขนสามระดั
ั้ บสูงได้ 50 คะแนน ฆ่าศัตรูขนสี
ั ้ ่ได้
100 คะแนน ฆ่าศัตรูขนสี
ั ้ ่ระดับสูงได้ 500 คะแนน ฆ่าศัตรูระดับห้ าได้ 1000 คะแนน และ
ั ้ าระดับสูงได้ จะได้ 5000 คะแนน ”
หากฆ่าศัตรูขนห้

“และศัตรูขนหก
ั ้ หรื อก็คอื ขันผสานชี
้ พจร หากฆ่ามันได้ สําเร็จ ก็จะได้ รับ10000คะแนน
หลังจากเข้ าไปแล้ ว ก็สามารถเลือกอาวุธได้ ตามใจชอบ หากตายก็จะถูกส่งกลับมาเอง”

“เริ่ มได้ ”

หลังจากเสียงของผู้คมุ ค่อยๆเบาลงแท่นบูชา ก็เริ่ มเปล่งแสงออกมา ศิษย์ทงั ้ 12 คนค่อยๆ


เลือนหายไป เหมือนกับว่าถูกกลืนกินโดยพลังงานบางอย่าง

หวังยานเฟิ งเบิกตากว้ าง ในโลกสีขาวโพลน ด้ านหน้ าของเขาเต็มไปด้ วยอาวุธทุกชนิดเท่าที่เขา


จะนึกออก ดาบขนาดใหญ่ ดาบเบาเล่มบาง ดาบยาว ดาบสัน้ คาตานะ กระบี่ หอก ขวาน ค้ อน
และอาวุธอื่นๆอีกมากมาย

“จงมาหาข้ า ดาบยาว” ทันทีที่หวังยานเฟิ งคิดในใจ ดายยาวที่วา่ ก็ปรากฏบนมือของเขาทันที


ในอาณาจักรลิขิตฟ้า กว่า90เปอร์ เซ็นต์ของนักสู้จะใช้ ดาบเป็ นอาวุธ และ 80เปอร์ เซ็นต์ของ
นักสู้ที่ใช้ ดาบเป็ นอาวุธก็เลือกที่จะให้ ดาบยาว ดาบยาวเป็ นการผสานของอาวุธที่ทรงพลังและ
ว่องไว

ในที่สดุ การทดสอบก็เริ่มต้ นขึ ้น ปี ศาจท่าทางดุร้ายก็โผล่ออกมาด้ านหน้ าของหวังยานเฟิ ง ดู


เหมือนมันจะมีการฝึ กฝนในขัน้ 2 หรื อ 3

หวังยานเฟิ งมองไปทางมันด้ วยสายตาเรี ยบๆ เขาต้ องจัดการเจ้ าพวกนี ้ เมื่อการทดสอบเริ่ มขึ ้น


หวังยานเฟิ งก็พบว่า การทดสอบนี ้มันก็คอ่ นข้ างสะดวกดี เมื่อเขาฆ่าศัตรูไปแล้ ว ศัตรูใหม่ก็จะ
ปรากฏตัวขึ ้นมาในทันที แต่พวกที่ปรากฏตัวขึ ้นมาใหม่ก็จะทรงพลังขึ ้นเรื่ อยๆ

หวังยานเฟิ งเพิ่งจะสังหารพวกมันไป 5-6 ตัว ศัตรูขนสี


ั ้ ่ก็เริ่ มปรากฏออกมา

เมื่อเขานับคะแนนของเขา ในขณะนี ้เข้ ามี 110 คะแนน หวังยานเฟิ งส่งเสียงฮึดฮัดเล็กน้ อย


ขณะที่เขาได้ รับบาดแผลเล็กๆ เมื่อเข้ ามีคะแนนถึง 180 คะแนน เขาก็ได้ รับบาดแผลที่ฝังลึก
ลงไปในกระเพาะของเขา และในท้ ายที่สดุ หวังยานเฟิ งก็ได้ บนหั
ั ้ วของนักสู้คนหนึง่ ในขณะที่
คนๆนันได้
้ แทงดาบเข้ าไปที่หวั ใจของเขาเช่นกัน

คะแนน 190 คะแนน

หลังจากตายในโลกนัน้ หวังยานเฟิ งก็ถกู ส่งกลับออกมา เขามีสีหน้ าซีดๆ แต่ก็ไม่ถงึ กับหมดสติ


ดูเหมือนหวังยานเฟิ งจะปรับตัวให้ เขากับโลกนันได้
้ ในระดับหนึง่ ที่จริ งแล้ วมันก็มาจากการที่
ระบบประสาทที่คิดว่าตัวเองตายจริ งๆเท่านัน้

หวังยานเฟิ งมองไปรอบๆแท่นบูชา สีหน้ าเขาก็ซีดเป็ นไก่ต้มทันที เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็ นคน


แรกที่ตายในนัน้ อีก 11 คนยังคงต่อสู้อยู่
MW#059 ช่องว่างระกว่างศิษย์ใหม่กบั ศิษย์เก่า

...

...

...

หวังยานเฟิ งมองไปรอบๆแท่นบูชา มันยังคงไม่เชื่อว่ามันเป็ นคนแรกที่ต้องตกรอบออกมา! คน


อื่นๆข้ างๆมัน ทังหมด
้ 11 คนยังคงอยูบ่ นแท่นบูชา!

"ข้ า... ทําไม... ข้ าอ่อนแอที่สดุ ในกลุม่ คนเหล่านี ้อย่างนันหรื


้ อ?"

"อย่าได้ ท้อแท้ อนาคตของเจ้ ายังอีกยาวไกลนัก" นํ ้าเสียงเย็นฟั งดูสงบและเอาใจใส่ดงั ขึ ้นมา


หวังยานเฟิ งมองไปรอบๆเพื่อที่จะหาคนที่เอ่ยประโยคนัน้ คนที่กล่าวมันก็คืออาจารย์ของห้ อง
พสุธา ฮ่องไซ

"11คนที่ยงั อยูบ่ นแท่นบูชานัน้ ต่างก็เป็ นศิษย์ที่โดดเด่นด้ วยกันทังสิ


้ ้น การจัดอันดับของเจ้ าก็
ไม่ได้ เลวร้ ายจนเกินไป "ฮ่องไซกล่าว ชื่อของหวังยานเฟิ งถูกจัดอยูใ่ นอันดับที่ 168 ซึง่ ก็ถือว่า
น่าประทับใจไม่น้อยสําหรับศิษย์ใหม่ แม้ ผลที่ได้ นี ้จะยังห่างไกลจากศิษย์ที่มีอนั ดับสูงกว่า150
อยูม่ าก แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าหวังยานเฟิ งยังมีอายุเพียง 15 ปี เท่านัน้ หากเขาได้ ศกึ ษาในสํานัก
เจ็ดแก่นแท้ เป็ นเวลาหกปี เป็ นไปได้ วา่ เขาจะได้ เข้ าร่วมกับนิกายสวรรค์ และสิบอันดับแรกใน
การจัดอันดับก็จะตกเป็ นของเขาภายในเวลาห้ าถึงหกปี
แม้ วา่ ฮ่องไซจะกล่าวว่าการจัดอันดับของเขาไม่ได้ น่าผิดหวัง แต่หวังยานเฟิ งก็ไม่ได้ พอใจกับอัน
ดันที่เขาได้ รับ หากเทียบกับลุย่ หมิงเซีย่ ง ที่มีอนั ดับ 125 แล้ ว มันมีความแตกต่างมากเกินไป

หวังยานเฟิ งไม่สามารถยับยังตั
้ วเองไม่ให้ หนั ไปมองหลินหมิงที่ยงั คงอยูใ่ นการทดสอบจัดอันดับ
ได้

"แม้ มนั จะแข็งแกร่งกว่าข้ า แต่มนั ก็ไม่ได้ ช่วยอะไร ถ้ าข้ าเป็ นอันดับที่ 168 อย่างมันก็คงได้
อันดับประมาณ 150 หากจะเทียบกับซางฉางทีม่ ีอนั ดับ 109 มันไม่ได้ กงั วลเลยอย่างนันรึ
้ ?
"

ในเวลานี ้ศิษย์หลายคนก็ถกู ผลักออกมาจากอาคมหมื่นสังหาร การจัดอันดับของพวกเขา


แตกต่างกันระดับหนึง่ ซึง่ ก็อยูใ่ นช่วง 120-150

แล้ วในที่สดุ ลุย่ หมิงเซียงก็ถกู ผลักออกมา เขาทําได้ น่าประทับใจมาก อันดับของเขาในตอนนี ้คือ


122 แต่ก็นา่ เสียดายที่ทําให้ อนั ดับเพิ่มขึ ้นมาได้ ไม่ถงึ 5อันดับ

ลุย่ หมิงเซียงเอื ้อมมือเข้ าไปในเสื ้อของเขาและนํายาออกมา เขากินมันเพื่อฟื น้ พลังเล็กน้ อยก่อน


จะยิ ้มให้ หวังยานเฟิ งอย่างผิดหวัง

ในตอนนี ้ใบหน้ าของหวังยานเฟิ งดูหดหูแ่ ละน่าเกลียด ในที่สดุ เขาก็เข้ าใจช่องว่างระหว่างศิษย์


ใหม่และศิษย์เก่า สํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นสถานที่ที่รวบรวมเหล่าอัจฉริ ยะเอาไว้ ศิษย์เหล่านี ้เป็ น
อัจฉริ ยะในหมูอ่ จั ฉริ ยะ นอกเหนือไปจากทรัพยากรที่มีให้ จากสํานักเจ็ดแก่นแท้ แล้ ว การ
บรรยายและการสอนโดยอาจารย์ที่มีชื่อเสียงทําให้ ศิษย์เก่ามีพฒ ั นาการที่ก้าวหน้ าได้ รวดเร็ ว
อย่างน่าอัศจรรย์
ลุย่ หมิงเซียง ได้ รับการศึกษาในสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาแล้ วกว่า2ปี ช่องว่างนี ้ไม่ได้ เป็ นเรื่ องเล็กๆ
เลย!

สําหรับหวังยานเฟิ ง เขารู้ดวี า่ การประลองระหว่างเขากับลุย่ หมิงเซียง แม้ เขาจะเสียเปรี ยบอย่าง


เห็นได้ ชดั แต่เขาก็ยงั จะต่อสู้ ทุกอย่างที่เขาต้ องสูญเสีย เขาจะเอามันคืนกลับมาในอนาคต
อย่างสาสม!

"อันดับ 168 รึ? หึหึ " หวางหมางล้ อเลียนหวังยานเฟิ งด้ วยรอยยิ ้มเมื่อได้ เห็นอันดับของหวัง
ยานเฟิ ง

" ทังหมดที
้ ้ ่3 ข้ าก็ได้ อนั ดับเท่าเจ้ ามาแล้ ว
่ข้าต้ องทําก็คือการฆ่าสี่คนที่อยูจ่ ดุ สูงสุดของขันที
อย่างข้ าคงได้ อนั ดับประมาณ 150! "หลีไท้ ลบู ปลายจมูกของเขาด้ วยนิ ้วหัวแม่มือ เขามีการ
ฝึ กฝนอยูบ่ นจุดสูงสุดของขันที ้ ่3 เพราะหลายปี ในการเป็ นทหารรับจ้ างมืออาชีพของเขา ที่ต้อง
ใช้ ชีวิตอยูก่ บั การต่อสู้และความตาย ทําให้ ทกั ษะการต่อสู้ของเขาเหนือกว่านักสู้ที่มีการฝึ กฝน
ในขันเดี
้ ยวกัน

"เราพี่น้องจะต้ องมีอนั ดับอย่างน้ อยที่150 และจะแสดงให้ แกและไอ้ หลินหมิงได้ เห็นว่า พวก


เรานันเหนื
้ อกว่า "

"รอบที่เริ่ มได้ ก้ าวขึ ้นไป!"

อักขระอาคมเริ่ มหมุนและทํางานอีกครัง้ หลีไท้ และหวางหมางก็เดินขึ ้นไปอยูบ่ นแท่นบูชานัน้


ทังสองยื
้ นติดกันอยู่ หวางหมางกล่าวขึ ้นมา “ เห้ ย เจ้ าอันดับหนึง่ แกจะไม่ขึ ้นมาหรื อไงกัน ?"
"พวกเจ้ าไปก่อนเลย" หลินหมิงตอบ ขณะที่เขาเหลือบมองไปที่หลีไท้ และหวางหมาง สองคนนี ้
มีบรรยากาศแห่งการฆ่าฟั นปกคลุมอยู่ พวกเขาต้ องฆ่าคนมามากมายในอดีตที่ผ่านมา พวก
เขาต้ องแข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน

แสงจากอาคมส่องขึ ้นมาครอบคลุมร่างของศิษย์ทง12คนนั
ั้ น้ ทังหลี
้ ไท้ และหวางหมางก็หาย
เข้ าไปในอาคมหมื่นสังหาร

พวกเขาทังคู ้ เ่ ลือกใช้ ดาบ มันเป็ นอาวุธที่สามารถฆ่าศัตรูจํานวนมากที่รวมตัวกันได้ แต่ทงสองั้


คนก็ร้ ูดีวา่ การทดสอบในอาคมหมื่นสังหารนันยากเพี ้ ยงไร แม้ วา่ หลี่ไท้ จะฆ่านักสู้ทงหกคนที
ั้ ่อยู่
บนจุดสูงสุดของขันสามได้้ ในขณะที่อยูใ่ นสงคราม แต่ตอนนี ้เขาต้ องต่อสู้ไปพร้ อมๆกับป้องกัน
การโจมตีของศัตรูกว่าสิบตัว ที่พงุ่ เข้ าหาเขา!

พวกเขาทังคู ้ เ่ ป็ นนักสู้มากประสบการณ์ที่สามารถต่อกรกับนักสู้ขนสี
ั ้ ่ได้ อย่างง่ายดาย แต่
ในตอนนี ้พวกเขาจะต้ องเผชิญกับศัตรูพร้ อมกันจากทุกทิศทุกทาง และเมื่อเวลาผ่านไปนานธูป
หนึง่ ก้ านไหม พวกเขาทังคู ้ ก่ ็ผ่ายแพ้ และถูกผลักออกมา

ผลของพวกเขาก็คือ หวางหมางได้ อนั ดับ156 และหลี่ไท้ ได้ อนั ดับ 158

พวกเขาไม่สามารถที่จะยืนอยูบ่ นอันดับที่สงู กว่า150ได้ !

เมื่อทังคู
้ ถ่ กู ผลักออกมาจากอาคมหมื่นสังหาร พวกเขาก็มองไปที่ผลการจัดอันดับด้ วย
ความรู้สกึ ที่ทนทุกข์ทรมานและผิดหวัง ความทุม่ เทและการฝึ กฝนของพวกเขาไม่มากพอที่จะ
ทําให้ ได้ เป็ น150อันดับแรกของสํานัก!
นอกจากนี ้พวกเขาก็มีอายุ 18 ปี แล้ ว เหลือเวลาอีกไม่กี่ปีในการศึกษาในสํานักแห่งนี ้ บางทีแม้
ในขณะที่พวกเขามีอายุ21ปี และจบการศึกษาจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ พวกเขาอาจจะเป็ น100
อันดับแรกไม่ได้ ด้วยซํ ้า

หลินหมิงเห็นสองคนนันท้ ้ อแท้ เขารู้ดีวา่ ผู้ที่ได้ เป็ น150ดันดับแรก ตังแต่


้ การทดสอบจัดอันดับ
ในครัง้ แรกถือว่าเป็ นอัจฉริ ยะชันยอด
้ แต่บางครัง้ แม้ จะมีความสามารถพิเศษแต่ก็ไม่อาจทํา
เช่นนันได้
้ หวังยานเฟิ งเองก็ถือได้ วา่ เป็ นอัจฉริ ยะชันยอด ้ แต่โชคร้ ายที่ต้องบอกว่าเขายังเด็ก
เกินไป

เขามองไปที่ซางฉาง ซางฉางก็ยิ ้มตอบกลับมา

"ซางฉาง มันแทบจะขึ ้นไปขัน4แล้


้ ้ จริ งๆ ต่อให้ ข้ามี'ปฐมบท
ว หากมันฝึ กฝนจนขึ ้นไปขัน4ได้
แห่งความโกลาหล'ที่ยกระดับขึ ้นไปอีกขัน้ ก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะมันได้ อย่างแน่นอน "

"นัน่ เหลียงไท้ ซาน เขาเป็ นอันดับสามในการทดสอบเข้ าสํานักในครัง้ นี ้” บางคนในฝูงชน


ตะโกนขึ ้น เหลียงไท้ ซาน มีร่างกายขนาดใหญ่ที่ดทู รงพลังและแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

"เหลียงไท้ ซาน และ หลินหมิง พวกเขาทังคู


้ ม่ ีพละกําลังแห่งพระเจ้ าที่มีมาตังแต่
้ กําเนิด อันดับที่
สามยังได้ รับ ยาโอสถพญางูทองคําที่มีประสิทธิภาพอีกด้ วย”

เหลียงไท้ ซานมักจะถูกเปรี ยบเทียบกับหลินหมิงเพราะทังคู


้ ม่ ีความคล้ ายคลึงกันทังในด้
้ านอายุ
และยังมีพละกําลังพระเจ้ าเหมือนกันอีกด้ วย

หลังจากที่เหลียงไท้ ซานขึ ้นมาบนเวที เขายิ ้มพร้ อมกับก้ าวไปบนแท่นบูชาแห่งอาคมหมื่นสังหาร


เขาได้ ใช้ ยาโอสถพญางูทองคําไปนานแล้ วและในตอนนี ้เขาก็เกือบจะไปถึงขันที ้ ่สามอยูแ่ ล้ ว
การพัฒนาต่อไปก็เป็ นเพียงเรื่ องของเวลาเท่านัน้ การฝึ กฝนของเขาก็ไม่ได้ แตกต่างกับหวังยาน
เฟิ งซักเท่าไร และพละกําลังแห่งพระเจ้ าก็มาช่วยอุดช่องว่างต่างๆของเขา

แม้ วา่ การฝึ กฝนของเหลียงไท้ ซาน จะอยูร่ ะดับเดียวกันหวังยานเฟิ ง แต่เขาก็ยงั ขาดประสบ


การณ์การต่อสู้อยูอ่ ีกมาก นอกจากนี ้เขายังไม่มีวรยุทธที่ทรงพลังเหมือนกับ 'สัจธรรมทังเก้
้ า'
และทักษะการเคลื่อนไหว ‘เจ็ดก้ าวแห่งศรัทธา' ทําให้ โดยรวมและเหลียงไท้ เฟิ งก็ยงั ด้ อยกว่า
หวังยานเฟิ ง และแล้ วไม่นานเขาก็ถืออาคมหมื่นสังหารผลักออกมา อันดับที่เขาได้ ก็คือ176
ซึง่ ก็ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึง่

"เหลียงไท้ ซานอันดับ176 หวังยานเฟิ งอันดับ168 ข้ าอยากรู้อนั ดับของหลินหมิงเสียจริ ง เขา


จะได้ อนั ดับเท่าไรกันแน่?"

ในฐานะที่เป็ นผู้ชมพวกเขาต่างก็พดู ถึงอันดับหนึง่ ในการทดสอบเข้ าสํานักในครัง้ นี ้ ทันใดนันเอง



หลินหมิงก็กระโจนขึ ้นไปบนเวที

"เฮ้ ! ศิษย์ใหม่อนั ดับหนึง่ ขึ ้นไปบนเวทีแล้ ว! "

"ข้ าไม่ร้ ูอะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี ้เลย แต่ข้าได้ ยินมาว่าเขามีพละกําลังแห่งพระเจ้ าและได้ กินยา


โอสถลํ ้าค่าบางอย่างไป เขาอาจจะเป็ น150อันดับแรกก็เป็ นได้ "

"เจ้ าคิดว่ามันเป็ นเรื่ องง่ายๆรึที่จะเป็ น150อันดับแรก? มีเพียงหลิงเซ็น,ทาคุและซางกวนยู่


้ ่เป็ นเด็กอายุ15ปี และได้ เป็ น150อันดับแรกตังแต่
เท่านันที ้ การทดสอบในครัง้ แรก อันดับหนึง่
ในการทดสอบส่วนใหญ่จะมีอายุ15ปี เพราะพวกเขาได้ เปรี ยบคนที่อายุมากกว่าในด่านประ
มหาเจดีย์วิจิตรบรรจง แต่อาคมหมื่นสังหารนัน่ อายุไม่ได้ มีสว่ นเกี่ยวข้ อง พวกที่อายุแค่15ปี
ยากที่จะเป็ น150อันดับแรกได้ " ศิษย์คนหนึง่ กล่าว

"ฮ่าๆ เจ้ าอิจฉาศิษย์หนุ่มสาวพวกนันรึ


้ ไม่วา่ อายุจะเป็ นเท่าไร แต่กบั อาคมหมื่นสังหารมันก็
ไม่ได้ เป็ นข้ อได้ เปรี ยบแต่อย่างใด เหล่าหนุ่มสาวอายุ15ปี จะเสียเปรี ยบอย่างยิ่งในการจัด
อันดับนี ้ หลินหมิงที่มีอายุเพียง15ปี แม้ เขาจะมีพรสวรรค์สงู ส่งเพียงใดก็ตาม เขาก็คงจะได้
้ อันดับ140-150ถือได้ วา่ เป็ นสัญลักษณ์ของอัจฉริ ยะที่ชวั่ ร้ าย!
อันดับประมาณ160เท่านัน!
หลิงเซ็น,ทาคุและซางกวนยูม่ ีอนั ดับในช่วงนันตั
้ งแต่
้ การจัดอันดับครัง้ แรก”

หลิงเซ็น,ทาคุและซางกวนยู่ พวกเขาทังสามกลายเป็
้ นคนมีชื่อเสียงและอํานาจเพิ่มมากขึ ้น
อย่างมหาศาลในช่วงหลายปี มานี ้ บางทีอาจมากยิ่งว่าฉินชิงหวนเสียด้ วยซํ ้า พวกเขาเปี่ ยมล้ น
ไปด้ วยการส่งเสริ มทรัพยากรในการฝึ กฝน การให้ การอบรมศึกษา วรยุทธที่พวกเขาจะได้ รับ ทุก
อย่างล้ วนแล้ วเกินกว่าที่เหล่าศิษย์ทวั่ ๆไปจะได้ รับหลายเท่า

เพราะเหตุผลเหล่านี ้เอง ที่ทําให้ ฉินชิงหวนที่ไม่ได้ ชอบการต่อสู้ซกั เท่าไร มีชื่อเสียงน้ อยกว่าหลิง


เซ็น,ทาคุและซางกวนยู่

บทที่ 60 - เสือในฝูงแกะ

...
...

หลินหมิงมีประสาทสัมผัสการรับเสียงที่เฉียบคม เขาได้ ยินความคิดเห็นจากผู้คนเหล่านันอย่


้ าง
ชัดเจน เขาหันหน้ าไปทางแท่นจัดอันดับ หลิงเซ็น ทาคุและซางกวนยู่ ถูกจัดอยูใ่ นอันดับที่สงู
มาก นอกจากนันทั
้ กษะและฝี มือของพวกเขาเองก็ยงั เป็ นของจริ งคูค่ วรกับอันดับของพวกเขา

ซางกวนยูม่ ีความสามารถสูงที่สดุ ในเหล่าศิษย์ที่ไม่ใช่ศิษย์พิเศษแล้ วก็ถือเรี ยกได้ วา่ เขามี


พรสวรรค์สงู ที่สดุ เลยก็วา่ ได้ เขามีพรสวรรค์ระดับห้ า

รองลงมาก็เป็ นทาคุ เขามีพรสวรรค์ที่สงู กว่าระดับสี่อย่างมาก แต่ก็ยงั ไม่ถงึ ระดับห้ า นอกจากนี ้


เขายังมีพละกําลังแห่งพระเจ้ าตังแต่
้ กําเนิดอีกด้ วย

แต่หลิงเซ็นนันเลวร้
้ ายยิ่งกว่า เขามีพรสวรรค์ไม่ถงึ ระดับสี่ด้วยซํ ้า ดูเหมือนจะมีบางสิ่งบางอย่าง
ที่ช่วยให้ เขามาถึงจุดนี ้ได้

หลังจากที่หลินหมิงได้ ร้ ูถงึ ความสามารถของหลิงเซ็น เขาก็คิดไม่ถงึ ว่าหลิงเซ็นที่มีพรสวรรค์ไม่


ถึงระดับสี่จะใช้ ความพยายามและความมุง่ มัน่ ฝึ กฝนจนไปถึงอันดับที่สงู เช่นนันได้

ความแข็งแกร่งโดยรวมนันขึ ้ ้นอยูก่ บั ปั จจัยหลายอย่าง พรสวรรค์ก็เป็ นเพียงหนึง่ ในปั จจัย


เหล่านัน้ แต่มนั ก็ถือว่าเป็ นสิ่งที่สําคัญที่สดุ มันเป็ นไปได้ วา่ หลิงเซ็นจะใช้ ยาโอสถลํ ้าค่าเพื่อสง
เสริ มความแข็งแกร่งของเขา

แม้ วา่ หลินหมิงรู้วา่ จิตใจอันบริ สทุ ธิ์ที่มงุ่ มัน่ ในการต่อสู้นนจะเป็


ั้ นอีกหนึง่ ปั จจัยหนึง่ ที่ยิ่งใหญ่
มากในการกําหนดความแข็งแกร่ง แต่นกั ต่อสู้ทกุ คนก็ไม่ใช่วา่ จะมีจิตใจที่มงุ่ มัน่ เช่นนัน้
หลิงเซ็น ทาคุและซางกวนยูท่ งสามคนได้
ั้ เข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ด้วยการสอบเหมือนกัน มัน
แสดงถึงความสามารถที่แท้ จริ งของพวกเขา ในอาณาจักรลิขิตฟ้าทุกๆสิบปี เป็ นอย่างน้ อย
จะต้ องมีผ้ ทู ี่มีความสามารถที่เรี ยกได้ กว่าแข็งแกร่งอย่างแท้ จริ งปรากฏขึ ้น แต่ในรุ่นของหลิงหมิ
งมันกลับมีการปรากฏตัวของบุคคลที่แข็งแกร่งเหล่านันมากมาย ้ เหมือนเป็ นรุ่นแห่งอัจฉริ ยะ มี
คนระดับเดียวกันฉินชิงหวนเต็มไปหมด

หลินหมิงยืนอยูท่ ี่แท่นบูชาของอาคมหมื่นสังหาร เขาทําจิตใจให้ สงบและโคจรพลังของ ‘ปฐม


ง่ ของ 'ปฐมบทแห่ง
บทแห่งความโกลาหล' หลังจากที่เขาประสบความสําเร็จในขันตอนหนึ

ความโกลาหล' เขาเองก็อยากที่จะเห็นพลังที่แท้ จริ งของมัน

นี่เป็ นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะทดสอบพลังของเขา!

อาคมหมื่นสังหารส่องแสงออกมาปกคลุมร่างกายของหลินหมิง เขาถูกปกคลุมไปด้ วยแสง


เหล่านันบนเวที
้ ที่เต็มไปด้ วยสายตาของผู้ชม

ปากของซางฉางกระตุกด้ วยรอยยิ ้ม อีกเพียงก้ าวเดียวเขาก็จะเข้ าสูก่ ารฝึ กฝนขึ ้นที่4แล้ ว และ


ด้ วยทักษะและประสบการณ์การต่อสู้ของเขาก็จะทําให้ เขาสามารถอาชนะผู้ที่มีการฝึ กฝนในขัน้
ที่สี่คนอื่นๆได้ อย่างง่ายดาย ความแข็งแก่รงระดับนันของมั
้ น ทําให้ มนั รู้สกึ เกียจชังและดูถกู การ
ฝึ กฝนขันที้ ่สองของหลินหมิงของหลินหมิง

อาคมหมื่นสังหารถูกเปิ ดใช้ งาน หลินหมิงถูกย้ ายมาอยูใ่ นพื ้นที่ที่มีสีขาวสดใสตระการตา


ด้ านหน้ าของเขาเต็มไปด้ วยอาวุธมากมายหลากหลายชนิด ทังดาบยาว
้ กริ ช ดาบสัน้ และอืน่ ๆ
ก่อนจะเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ หลินหมิงมักจะใช้ อาวุธที่คล้ ายกับดาบสันหรื
้ อมีดแร่เนื ้อเป็ นอาวุธ
แต่หลังจากที่เขาฝึ กฝน 'จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล' ความแข็งแกร่งของเขาได้ เพิ่มมากขึ ้นและ
มีพลังปราณมากขึ ้นอีกหลายเท่า และในขณะนี ้เองดาบสันก็
้ ไม่ใช้ อาวุธที่เหมาะสมกับเขาอีก
แล้ ว

“ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ทําให้ ข้ารู้สกึ ได้ วา่ กําปั น้ ของข้ าคืออาวุธที่ดีที่สดุ และข้ าไม่คิดที่
จะเลือกอาวุธชิ ้นใดอีก "หลินหมิงคิดในใจ และทันใดนันอาวุ ้ ธเหล่านันก็ ้ หายเข้ าไปในหมอก

ในขณะเดียวกันด้ านหน้ าของหลินหมิงก็มีแสงหลากสีปรากฏขึ ้นมากกว่าสิบสาย พวกมันคือ


สัตว์ดรุ ้ ายและนักสู้ การฝึ กฝนของพวกมันมีตงแต่
ั ้ ช่วงแรกของขันที
้ ่สองไปจนถึงขันที
้ ่สาม

้ ่งเข้ ามาด้ วยเจตนาฆ่าที่มีตอ่ เขา หลินหมิงก็รีบโคจรพลังของ ‘ปฐมบท


เมื่อเห็นศัตรูพวกนันวิ
แห่งความโกลาหล’อย่างเต็มที่จนถึงขีดสุดในขันแรกของมั
้ น เขารู้สกึ เหมือนกับว่ามีความ
แข็งแรงอย่างไม่มีที่สิ ้นสุดถูกถ่ายเทออกมาจากร่างกายของเขา

"โฮ่งง!" เสือตัวหนึง่ ที่เป็ นสัตว์ดรุ ้ ายคํารามขึ ้นมา ผิวของมันหยาบและหนา นํ ้าหนักตัวของมัน


มากถึง 600-700 จิ๋น และการพุง่ ของมันทําให้ มนั มีพละกําลังในการจู่โจมมากขึ ้นอีกหลาย
เท่า!

ในขณะที่เขาต้ องเผชิญหน้ ากับสัตว์ดรุ ้ าย หลินหมิงกําหมัดของเขาและตังท่


้ าอย่างฉับพลัน
เหมือนเป็ นเสียงฟ้าร้ องอย่างรุนแรง

"ตายซะ!" หลินหมิงตะโกน เขาออกหมัดของเขาพุง่ ไปตรงหน้ า สัตว์ดรุ ้ ายตัวนันถู


้ กกระแทก
ลอยไปด้ วยพละกําลังทังหมด
้ 3200 จิ๋นซึง่ เป็ นพละกําลังของเขา

ปั ง! กําปั น้ ของเขาปะทะเข้ ากับใจกลางหน้ าผากของเสือดุร้ายตัวนัน้ กะโหลกศีรษะเกิดเสียง


แตกร้ าวดังขึ ้น สัตว์ดรุ ้ ายที่วิ่งไปหาหลินหมิงต่างก็ถกู ส่งกลับให้ ลอยไปข้ างหลังด้ วยหมัดเพียง
หมัดเดียว เขาเพียงแต่ก้าวเดินและยอตัวเพื่อปล่อยหมัดใส่พวกมันเท่านัน้

เสือสัตว์ดรุ ้ ายไม่มีโอกาสแม้ แต่จะสงเสียงแห่งความทุกข์ทรมานอออกมา กะโหลกศีรษะของมัน


ถูกทําลายอย่างสมบูรณ์ มันเสียชีวิตในทันทีขณะที่มนั ตกลงมาบนพื ้นดิน!

ด้ วยหมัดเดียวที่ปะทะเข้ ากับศัตรูตรงหน้ าของเขา มันกระตุ้นจิตใจของหลินหมิง พลังของ'ปฐม


บทแห่งความโกลาหล'ถูกโคจรในขันสู ้ งสุด หมุนเวียนให้ วงเงินสูงสุด เขาพุง่ ไปข้ างหน้ าและ
ปล่อยหมัดปะทะเข้ ากลางร่างของศัตรูของเขา กําปั น้ ของเขาเป็ นเหมือนพายุเฮอริ เคน และทุก
การเตะก็เหมือนกับสึนามิ เขาเป็ นดัง่ พยัคฆ์ร้ายที่อยูท่ ร่างกลางฝูงแกะ เขาเต็มไปด้ วยจิต
สังหาร!

ตรงหน้ าเต็มไปด้ ายเลือดที่สาดกระเซ็นและเสียงกระดูกที่แตกละเอียด ผิวอันหยาบและหนา


ของสัตว์ดรุ ้ ายเหล่านันไม่
้ สามารถที่จะป้องกันหมัดของหลินหมิงได้ แม้ แต่ครัง้ เดียว พวกมันช่าง
อ่อนแอ เพียงหมัดเดียวก็ถกู ทําให้ สลายไปเสียแล้ ว

"การฝึ กฝนที่จดุ สูงสุดของขันที


้ ่สาม!" หลังจากหลิงหมิงจัดการพวกการฝึ กฝนขันที ้ ่สองลงไปได้
ด้ วยหมัดเดียว นักสู้ที่มีการฝึ กฝนขันที
้ ่สามก็ปรากฏขึ ้นมา พวกมันที่มีการฝึ กฝนในขันที ้ ่สามจะ
มีการฟื น้ ฟูตวั เองจากพลังปราณและพลังป้องกันที่สงู มากขึ ้น หลินหมิงรู้ดวี า่ มันยากที่จะ
เอาชนะการต่อสู้ในครัง้ นี ้ด้ วยหมดของเขา ไม่เพียงเท่านันการเคลื
้ ่อนไหวของพวกมันยังมีความ
ยืดหยุน่ พลิ ้วไหว และการโจมตีของมันรวดเร็วและรุนแรง การจะจู่โจมใส่พวกมันไม่ใช้ เรื่ องง่าย
เลย

"50 คะแนน!" เมื่อหลินหมิงต้ องสู้กบั นักสู้ที่มีการฝึ กฝนขันที


้ ่สาม แต่เขาก็ไม่ได้ กลัวแม้ แต่น้อย
จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขานัน่ ยิ่งใหญ่กว่าความกลัว หลังจากที่ประสบความสําเร็ จอย่าง
ยิ่งใหญ่ใน 'ปฐมบทแห่งความโกลาหล'ขันแรกได้
้ เขาจําเป็ นต้ องมีศตั รูที่แข็งแกร่งเพื่อที่จะ
ทดสอบความแข็งแกร่งของเขา

"!" นักสู้คนนันเหวี
้ ่ยงดาบของมันออกมา หลินหมิงลดตัวลงตํ่า หลบให้ ดาบฟาดผ่านเหนือหัว
ของเขาไป และเหวี่ยงตัวเองใกล้ พื ้นดินให้ ดาบบินอยูเ่ หนือศีรษะของเขา จากนันก็
้ ชกเข้ าไปที่หวั
เข่าของนักสู้คนนัน้

หลังจากที่สาํ เร็จ 'ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ ในขันแรก


้ พลังปราณของเขามีความหนาแน่น
และความเร็วของเขาเองก็ยงั เพิ่มมากขึ ้นอีกระดับหนึง่ ด้ วย ความเร็ วที่ปล่อยหมัดออกไปเป็ น
เหมือนมังกรที่พงุ่ ออกมา นักสู้คนนันตื
้ น่ ตระหนกและพยายามหลบหลีกการปะทะในครัง้ นี ้ แต่
ทันใดนันหลิ
้ นหมิงก็วางมือลงกับพื ้นและกวาดขาไปที่ด้านหลังของนักสู้คนนัน้

ขาของเขาก็เป็ นเหมือนแส้ นักสู้คนนันไม่


้ สามารถที่จะหลบหลีกมันได้ เลือดจํานวนมากกระเด็น
ออกมาในขณะที่มนั ถูกเตะกระเด็นไปด้ านข้ าง

หลินหมิงยังคงไม่ลดละการโจมตีของเขาและกระโดดขึ ้นไปพร้ อมกับซัดหมัดรัวอย่างรุนแรง


เช่นเดียวกับพายุใต้ ฝนใส่
ุ่ นกั สู้คนนัน้ แม้ วา่ อวัยวะภายในของมันจะถูกปกป้องเอาไว้ ด้วยพลัง
ปราณ แต่จากพละกําลังของหมันที่สงู ถึง 3200 จิ๋นก็สามารถทําให้ มนั ได้ รับบาดเจ็บสาหัสได้
อยูด่ ี
นักสู้คนนันอาเจี
้ ยนออกมาเป็ นลิ่มเลือด กระดูกของมันแตกหัก และการป้องกันทุกอย่างของมัน
ก็ถกู ทําลาย หลินหมิงใช้ หนึง่ หมัดจู่โจมไปยังอกด้ านซ้ ายของนักสู้คนนัน้ หัวใจของมันถูก
ทําลายในทันที นักสู้ที่มีการฝึ กฝนขันที
้ ่สามถูกสังหารอย่างสมบูรณ์

ท่ามกลางความสับสนวุน่ วายของศัตรูเหล่านัน้ เขาก็ได้ จดั การสังหารพวกมันไปอีกหลายตัว ผล


ที่ออกมานี ้ก็เพียงพอให้ ภาคภูมิใจเป็ นอย่างมาก แต่หลินหมิงก็ร้ ูดีวา่ มันยังไม่พออย่างแน่นอน
หากจะต้ องไปเทียบกับซางฉาง!

"นัน่ ก็เป็ นอีก 50 คะแนนของข้ า ตอนนี ้ข้ ามีมากกว่า 200คะแนนแล้ ว"

...

"เวลาผ่านไปนานกว่าหนึง่ ก้ านธูปไหม้ หมดแล้ ว ในตอนนี ้หลินหมิงยังคงต่อสู้อยู่ ร่างกายของ


เขายังคงยืนอย่างมัน่ คงบนเวที เขาเอาชนะหวังยานเฟิ งได้ จริงๆ "

"เขาเหนือกว่าหวังยานเฟิ งจริ งๆ แต่อย่าลืมเขาได้ รับรางวัลอันดับหนึง่ ในการสอบเข้ า - ยาเม็ด


ไขกระดูกมังกรทองและ ยาโอสถพญางูทองคํา จากหวังยานเฟิ ง เขากินยาโอสถที่หายากทัง้
สองนัน่ แต่เขาก็ยงั ไม่สามารถที่จะบรรลุการฝึ กฝนขันที
้ ่สามได้ เพราะพรสวรรค์ระดับสามของ
เขาช่างน่าผิดหวังยิ่งนัก

เมื่อเหล่าศิษย์เดินขึ ้นไปบนเวทีและทําการทดสอบ เป็ นธรรมดาที่จะมีเสียงวิจารณ์และแสดง


ความคิดเห็นจากผู้ชม แต่สําหรับซางฉาง เขากําลังกอดอกและมองขึ ้นไปบนเวทีด้วยท่าทีที่ผ่อน
คลายดูทา่ ทางสบายๆ และรอยยิ ้มเจ้ าเล่ห์บนหน้ าของเขา โชคดีที่ความแข็งแก่รงของหลินหมิง
เป็ นตามที่มนั คาดเอาไว้ มิฉะนันล่
้ ะก็มนั คงอดสนุกเป็ นแน่
ไม่นานธูปหอมก้ านที่สองก็คอ่ ยๆไหม้ หมดลงไป…

MW#061 หอก

“เวลาผ่านไปนานกว่าสองก้ านธูปแล้ วสินะ” สีหน้ าหลีไท้ และ หวางหมาง ดูเป็ นกังวล พวกเขา
ไม่คิดว่าหลินหมิงจะต่อสู้อยูใ่ นนันได้
้ นานถึงเพียงนี ้ มันเป็ นหลักฐานอย่างดีที่แสดงให้ เห็นว่า
หลินหมิงอาจจะสามารถขึ ้นไปอยูบ่ น 150 อันดับแรกก็เป็ นได้

“หลินหมิงมันยังสู้ในนัน...”
้ ปากของหลีไท้ ดบู ิดเบี ้ยวนิดๆ เดิมทีพวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า
พลังของพวกเขาจะด้ อยกว่าใครทังนั้ น้ แต่ในตอนนี ้พวกเขาได้ ร้ ูแล้ วว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะ
อยูใ่ นนันได้
้ นานเท่ากับที่หลินหมิงได้ ทําในตอนนี ้

สิ่งเหล่านันทํ
้ าให้ หลีไท้ ร้ ูสกึ เครี ยดขึ ้นมา

“ฮึม..พวกเราคงดูถกู สํานักเจ็ดแก่นแท้ มากเกินไป ในตอนที่หลินหมิงสู้กบั หวังยานเฟิ ง มัน


จะต้ องออมพลังของมันเอาไว้ อย่างแน่นอน หรื อไม่มนั ก็เพิ่มพลังของมันได้ เร็วขึ ้นจนแทบไม่น่า
เชื่อ”

ทันใดนัน้ แสงก็ได้ เปล่งออกมา มีศิษย์คนหนึง่ ถูกส่งกลับออกมาจากอาคมหมื่นสังหาร เขาไม่ใช่


หลินหมิง แต่เป็ นศิษย์จากห้ องปฐพี เขาได้ ผลในการทดสอบออกมาเป็ นอันดับที่ 147

“147?!..เยี่ยมไปเลย ด้ วยอายุของหลินหมิงในตอนนี ้ เขาก็สามารถที่จะเข้ ามาอยูใ่ นอันดับท็


อป 150 ได้ แล้ วอย่างนันรึ
้ นี่มนั ระดับเดียวกับพวก หลิงเซ็น ทาคุ และ ซางกวนยู่ ที่เคยได้ ทํา
ไว้ ในอดีตเลย”

เมื่อเทียบหลินหมิงกับทังสามคนนั
้ น้ หลายๆคนที่ได้ ยินชื่อถึงกับหน้ าถอดหน้ าสี สามคนนี ้ไม่เคย
หลุดไปจากอันดับต้ นๆในการจัดอันดับเลย ไม่มีใครสนใจหรอกว่าหลินหมิงจะได้ ยาโอสถลํ ้าค่า
หรื อไม่ หรื อจะมีวรยุทธ์ที่ทรงพลังเพียงใด แต่หากคิดจะไปเทียบกับสามคนนันแล้ ้ วละก็ ยังมี
ช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขา

“อย่าพึง่ ตัดสินอะไรในตอนนี ้ นัน่ ก็แค่เวลาที่ผ่านไปเท่านัน้ ไม่แน่วา่ เขาอาจจะเก็บแต้ มอย่าง


ช้ าๆอยูก่ ็เป็ นได้ เขาอาจจะวิ่งหนีหวั ซุกหัวซุนอยูโ่ ดยที่ยงั ไม่ได้ สงั หารพวกมันก็ ถ้ าเป็ นเช่นนัน้
คะแนนของเขายังไม่ถงึ 200 แน่”

“ก็มีเหตุผล การอยูใ่ นนันได้


้ นานไม่ใช่วา่ จะมีคะแนนเยอะตามไปด้ วย เรายังตัดสินอะไรไม่ได้
ทังนั
้ น”้

ในโลกของอาคมหมื่นสังหาร ถึงจะยังไม่ได้ สงั หารศัตรูที่อยูต่ รงหน้ าในปั จจุบนั แต่ศตั รูตวั ถัดไป
ก็จะปรากฎออกมาตามเวลาปกติ ดังนันถึ
้ งจะเก่งขนาดไหนก็ไม่สามารถอยูใ่ นนันไปตลอดได้ ้
เว้ นแต่วา่ เขาคนนันจะมี
้ เป็ นระดับปราณปลายฟ้า

หลินหมิงไม่ได้ หลบหลีกอะไรแบบไร้ ประโยชน์ ตังแต่ ้ เริ่ มต้ นการทดสอบ เขายังไม่ได้ หยุดพักเลย


แม้ แต่อดึ ใจเดียว ในหัวของเขามีแต่คําว่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า เท่านัน้
‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เป็ นการฝึ กฝนในฝั่ งของพลังหยางอย่างสุดขัว้ ทุกท่วงท่าของมัน
มีแต่พงุ่ ไปข้ างหน้ าและเข่นฆ่าศัตรู ไม่ใช่วรยุทธที่จะนํามาใช้ ในการเยื ้อเวลาแต่อย่างใด

กําปั น้ ขอหงลินหมิงในตอนนี ้ เปี ยกชุม่ ไปด้ วยเลือด

ทุกๆครัง้ ที่ศตั รูตายลง ศัตรูที่แข็งแกร่งขึ ้นก็จะปรากฏออกมา เจ้ าพวกนี ้ต่างเริ่ มต้ นที่ การฝึ กฝน
ขันสามไปจนถึ
้ งจุดสูงสุดของขันสาม
้ หรื ออาจจะไปถึงขันที
้ ่สี่ด้วย

้ ่สี่ปรากฏตัวออกมาพร้ อมกันถึง3คน ทังยั


ในในตอนนี ้เอง ก็มีศตั รูที่มีการฝึ กฝนในขันที ้ งมีศตั รูที่
มีการฝึ กฝนในขันที
้ ่สามมาช่วยก่อกวนอีก แม้ แต่หลินหมิงก็ส้ ไู ด้ อย่างยากลําบากอย่างยิ่ง

แต่ยงั ดีที่หลินหมิงได้ สําเร็จขันแรกของ


้ ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ พลังปราณของเขาจึงมีล้น
เหลืออยู่ ทังมั
้ นค่อยๆฟื น้ กลับขึ ้นมาอีกด้ วย ดังนันพลั
้ งปราณของเขาจึงยังคงมีมากพออยู่ แม้
จะเป็ นคนที่มีฝึกขันอวั ้ ่3)ก็ยงั เทียบกับพลังปราณที่เขามีไม่ได้
้ ยวะภายในได้ สําเร็ จ(ขันที

ศัตรูก็มีแต่จะแข็งแกร่งขึ ้นเรื่ อยๆ และในที่สดุ ปี ศาจระดับสองก็ได้ ปรากฏตัวออกมา มันเป็ นแมง


มุมหลังเพชร หลินหมิงรู้สกึ ถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาอย่างเห็นได้ ชดั เมื่อเจ้ านันโผล่
้ ออกมา การ
ป้องกันของแมงมุมตัวนันเป็้ นอะไรที่ไม่น่าพูดถึงจริ งๆ ถึงจะเป็ นดาบก็ไม่อาจสร้ างรอยขีดข่วน
ให้ ผิวของมันได้ นอกจากนันใยของมั
้ นยังเหนียวและทนทานยิ่งกว่าลวดเหล็กซะอีก ถ้ าหากโดน
ใยมันรัดแล้ วละก็ นอกจากความตายแล้ วก็ไม่มีทางที่จะเป็ นอืน่ ไปได้

“เจ้ าแมงมุมนี ้เป็ นตัวปั ญหาเสียจริ ง” หลินหมิงพูดด้ วยสีหน้ าเคร่งเครี ยด ถ้ าเป็ นการสู้ตวั ตัวละ
ก็ เขาอาจจะพอล้ มมันได้ แต่ในตอนนี ้เขามีศตั รูอยูร่ อบด้ าน เขาคิดแผนการอะไรไม่ออกเลย

ในขณะเดียวกันเขายังต้ องรับมือกับศัตรูตวั อื่นๆอีกมากมาย ทังยั


้ งต้ องหลบใยของไอ้ แมงมุมนัน้
อีก ตอนนี ้เขาถูกล้ อมไว้ แล้ ว

“ชี่...”

ดาบที่แหลมคมพุง่ มาหาเขาอย่างรวดเร็ ว หลินหมิงก้ มหลบดาบนันได้


้ ทนั อย่างฉิวเฉียด ความ
คมของมันทําให้ ใครต่อใครต้ องขนหัวรุก

หลินหมิงรู้สกึ ตัวแล้ วว่าแค่กําปั น้ ของเขาเพียงอย่างเดียวคงไม่รอดแน่ๆ

ถ้ าเป็ นศัตรูซกั ตัวสองตัวก็คงจะไม่เป็ นปั ญหา แต่เมื่อมาอยูใ่ จกลางของกองทัพศัตรูเช่นนี ้ การ


เคลื่อนไหวของเขาก็ถกู จํากัด หากเขาจะโจมตีศตั รูซกั ตัว ก็จะมีศตั รูตวั อื่นๆเข้ ามาเล่นงานเขา
ในเวลาเดียวกัน

บางทีเขาควรจะต้ องมีอาวุธซักชิ ้น

เขาควรจะเลือกใช้ อะไรดี หลินหมิงเริ่ มใช้ สมองอย่างหนัก

ดาบเหรอ?!

ในอาณาจักรลิขิตฟ้า นักสู้กว่า90%เลือกที่จะใช้ ดาบ เหตุผลก็คือมันคมและมีความคล่องตัว


ค่อนข้ างสูง ถึงจะเป็ นการยากที่จะใช้ มนั ให้ ได้ อย่างชํานาญก็เถอะ แต่มนั ก็ไม่ได้ ยากจนเกินไป

ดาบสามารถรุกและรับได้ ทงสองอย่
ั้ าง สามารถหนักและเบาได้ ในคราเดียว เป็ นอาวุธ
อเนกประสงค์ที่สดุ ในโลกเลยก็วา่ ได้

แต่หลินหมิงคิดว่า ดาบไม่ใช่คําตอบของเขา พลังที่เขาโคจรอยูก่ ็คือ ‘จุดสูงสุดแห่งความ


โกลาหล ซึง่ เกือบทังหมดเป็
้ นพลังหยาง ถ้ าหากเขาได้ สําเร็ จวรยุทธนันอย่
้ างแท้ จริ ง พลังของเขา
ก็เทียบได้ กบั คลื่นทะเลยักษ์ ที่สามารถดูดกลืนได้ ทงสวรรค์
ั้ และโลกได้ เขาสามารถฆ่าได้ ทงเทพ
ั้
เจ้ าและปี ศาจทังปวง

แต่ดาบนันจะเน้
้ นไปที่ความว่องไว ความเจ้ าเล่ห์ และการจู่โจมที่ซบั ซ้ อน ซึง่ มันไม่ได้ เหมาะกับ
เขาเอาเสียเลย

ถ้ าเป็ นดาบโค้ งละ

ถ้ า 90% ใช้ ดาบ อีก 10% ที่เหลือส่วนใหญ่ก็ใช้ เจ้ านี่ ถึงมันจะไม่ได้ มีความแม่นยําเท่ากับ
ดาบ แต่ก็แลกมาด้ วยพลังทําลายที่สงู ขึ ้น มันสามารถโจมตีได้ อย่างไม่หยุดยังเลยหากอยู
้ ใ่ นมือ
ของผู้ที่ชํานาญ ถ้ าหากใช้ ในสงครามแล้ วละก็ มันถือเป็ นเครื่ องมือสังหารชันยอดเลยที
้ เดียว

แต่หลินหมิงก็ยงั ไม่คิดว่า สิ่งนันมั


้ นเหมาะกับเขา ถึงดาบโค้ งจะมีพลังทําลายที่สงู ก็ตาม แต่มนั
ยังดูเหมือนจะขาดอะไรบางอย่างไปอยู่

ทันใดนันหลิ
้ นหมิงก็นกึ ขึ ้นได้ ตอนที่เขาพบกับหลานยุนเยียที่ ห้ องโถงบรรยาย อาจารย์คนหนึง่
ได้ สาธยาย เกี่ยวกับอาวุธชนิดหนึง่ อยูน่ านมาก นันก็
้ คือหอก

น้ อยคนนักที่จะใช้ หอกในอาณาจักรลิขิตฟ้า ไม่ใช่เพราะหอกมันไม่ดี ตรงกันข้ าม ทุกการโจมตี


ของหอกนันทั
้ งรวดเร็
้ วและดุดนั แต่เป็ นการยากอย่างยิ่งที่จะใช้ มนั ให้ คล่องได้

มันใช้ เวลานานมากๆ เพื่อที่จะฝึ กฝนหอกให้ ชํานาญได้ นานยิ่งกว่าอาวุธใดๆ หอกสามารถผ่า


ทะลวง ถอย พุง่ สามารถร่ายรํ าได้ ดงั่ บุปผา สามารถฆ่าศัตรูได้ เป็ นจํานวนมาก

มันสามารถกวาดศัตรูนบั พันได้ ในคราเดียว อาวุธที่ทําเช่นนันได้


้ ก็มีแต่หอกเท่านัน้
หอกถูกเรี ยกว่า ราชาแห่ง100ทหาร ฉายานันก็
้ มาจากความทรหดในการฝึ กของมันนัน่ เอง
แม้ แต่การจะสร้ างขันมาก็
้ ซบั ซ้ อนกว่าดาบหลายเท่านัก

สําหรับดาบแล้ ว ขอแค่มีเหล็กยาวๆซักแท่งก็สามารถสร้ างมันได้ แล้ ว

แต่หอกต้ องการมากกว่านัน้ เหล็กนัน้ ถ้ าหากไม่ยืดหยุน่ พอแล้ วล่ะก็จะไม่สามารถนํามาสร้ าง


ได้ และถ้ าเป็ นไม้ ไผ่ ถึงแม้ จะหยืดหยุน่ แต่มนั ก็จะขาดความแข็งแกร่งไป ทังยั
้ งมีนํ ้าหนักที่เบา
ไปอีกด้ วย หากนํามาใช้ ตอ่ สู้ก็คงจะโดนดาบตัดฉับเดียวก็แยกเป็ นสองท่อนแล้ ว หลินหมิงคิดไป
พร้ อมกับสู้ไปด้ วยมือข้ างเดียว

อย่างไรก็ตามในการสู้ระหว่างความเป็ นความตายเช่นนี ้ ขณะที่หลินหมิงกําลังคิดอยู่ แมงมุม


นันก็
้ ได้ ยิงหนามมาที่หลินหมิง หลินหมิงกระโดนขึ ้นไปบนอากาศ เขาหลบมันได้ อย่างฉิวเฉียด
แต่ระหว่างนันเอง
้ ดาบเล่มหนึง่ ก็ได้ พงุ่ มาหาเขาจากมุมอับ หลินหมิงรู้สกึ ถึงความเจ็บปวดจาก
ด้ านหลังของเขา

“เขาได้ รับบาดเจ็บ” ภายนอกอาคมหมื่นสังหาร ร่างและใบหน้ าของหลินหมิงดูซีดขึ ้นมาอย่าง


ชัดเจน

“เด็กนันคงทนได้
้ อกี ไม่นานแน่” ผู้คมุ ที่ออกมาช่วยนักสู้ที่ออกมาจากอาคมหมื่นอสูรสังหารที่
อยูท่ ี่นนั ้ ก็ไม่ได้ ชอบนักหรอกที่จะเห็นใครต่อใครได้ ดีไปกว่าตนเอง

“เขารอดมาได้ นานถึงขนาดนี ้ก็เก่งมากแล้ ว นานถึง2ก้ านธูป ถ้ าหากนานกว่านี ้ก็จะเป็ นการฝื น


ลิขิตสวรรค์แล้ ว”

“เขาทําได้ ดมี ากพอแล้ ว เขาน่าจะได้ อนั ดับแถวๆ 150 อย่างแน่นอน”


“เจ้ าหลินหมิงนันกิ
้ นยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง และ ยาโอสถพญางูทองคํา เข้ าไปสินะ มิน่าละ
ถึงแข็งแกร่งขนาดนัน้ ถึงพลังมันจะมาจากการใช้ ยาโอสถลํ ้าค่านันก็
้ เถอะ ดูทา่ ข้ าจะประมาท
ไม่ได้ ซะแล้ ” ซางฉาง กําหมัดแน่น และรู้สกึ ได้ ถงึ แรงกดดันที่เกิดขึ ้นหลังจากที่ได้ เห็น
พัฒนาการของหลินหมิง

บทที่ 62 อันดับของหลินหมิง

...

...

...

"แผลนี ้สาหัสยิ่งนัก!" หมิงหลินโคจรพลังของปฐมบทแห่งความโกลาหล'เพื่อเยียวยาบาดแผล


ของเขา แต่มนั ก็ไม่สามารถที่จะหยุดการไหลของเลือดได้

"เลือดที่ไหลออกมาทําให้ พลังของข้ าค่อยๆลดลง... มันเป็ นไปไม่ได้ เลยที่ข้าจะต่อสู้ไปด้ วย


สภาพยํ่าแย่เช่นนี ้” ตาของหลินหมิงถูกปกคลุมด้ วยอากาศเย็นเฉียบ ในขณะที่เขาถูกล้ อมด้ วย
นักสู้ที่มีการฝึ กฝนในขันที
้ ่สี่และแมงมุมอสูรอีกหนึง่ ตัว "อีกสอง?! ข้ ายังต้ องข้ าพวกมัน ข้ าจะ
ทําให้ ดีที่สดุ ด้ วยพละกําลังที่ยงั เหลืออยูข่ องข้ า ข้ าจะต้ องทําคะแนนเพิ่มขึ ้นอีกเท่าที่ข้าจะทําได้
"
"หอกของข้ า!"

เมื่อหลินหมิงคิด อาวุธชิ ้นหนึง่ ก็ปรากฏขึ ้นมาตรงหน้ าของเขา

"หอกที่ทรงอํานาจ!"

นี ้หอกที่ทรงอํานาจนี ้เป็ นงานฝี มือที่ถกู สร้ างขึ ้นจาก เหล็กทมิฬ วัตถุดิบนี ้จะมีข้อเสียในด้ าน
ความยืดหยุน่ แต่มีอํานาจการทําลายล้ างที่รุนแรง!

เพลาของหอกยาวแปดฟุตและหัวหอกที่ยาวแปดนิ ้ว หน้ าเท่ากับท่อนแขน เพราะมันถูกสร้ าง


จากเหล็กทมิฬทําใหม่มีนํ ้าหนักถึง 580 จิ๋น ด้ วยการกวาดของหอก แม้ แต่ต้นไม้ ใหญ่ก็ยงั ต้ อง
พังทลายลง

พละกําลังของหลินหมิง 3200 จิ๋น ควงหอกนันด้


้ วยมือขวา

"เยี่ยม เป็ นหอกที่ดี ฮ่าๆ!" หลินหมิงหัวเราะออกมา เขาจับหอกนัน่ และกวาดออกอย่างรวดเร็ ว


นักสู้ที่มีการฝึ กฝนถึงขันที
้ ่สามยกดาบขึ ้นมาเพื่อป้องกัน และถูกส่งให้ กระเด็นลอบไปข้ างหลัง
อย่างง่ายดาย!

"ฮะ!" หลินหมิงตะโกนออกมา และร่างกายทุกส่วนของเขามีออร่าบางอย่างเปล่งออกมา


พละกําลังอันยิ่งใหญ่จากออร่าแห่งพลังหยางครอบคลุมพื ้นที่ทงหมดในบริ
ั้ เวณนันด้
้ วยจิต
สังหาร ศัตรูกว่าสิบชีวิตต้ องตื่นกลัวและขวัญผว่า พวกมันไม่กล้ าแม้ แต่จะก้ าวเข้ ามา

พื ้นยุบตัวลงไปอย่างเห็นได้ ชดั ในขณะที่เขากระแทกเท้ าของเขากับพื ้นดินและพุง่ ไปข้ างหน้ า


ด้ วยกลิ่นอายที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ พร้ อมกับหอกขนาด 580 จิ๋นในมือ เขากําลังพุง่ ไปหา
แมงมุมนัน่

"ฟ่ อ!" แมงมุมมีปฏิกิริยาตอบสนอง มันถ่มนํ ้าลายใยแมงมุมตรงไปที่หน้ าอกของหลินหมิง ใย


แมงมุมนี ้ผูกมัดตัวมนุษย์ได้ อย่างเหนียวแน่นและคมอย่างมาก มันไม่ตา่ งอะไรกับลูกศรที่ผ่า
ทะลุร่างกายของคนได้ !

หลินหมิงไม่ได้ คิดที่จะหลบหลีกใยแมงมุมนัน่ แม้ แต่น้อย เขายังวิ่งตรงไปที่ใยแมงมุมและตัดมัน


ออกด้ วยหอกที่ทรงพลังของเขา! ด้ วยลักษณะของใยแมงมุมที่เป็ นเส้ นบางๆ การจะตัดมันจริ งๆ
นันยากยิ
้ ่งการพูดหลายเท่า

แม้ วา่ หลินหมิงจะไม่ได้ เชี่ยวชาญการใช้ อาวุธชนิดนี ้ซักเท่าไร แต่เขาก็ได้ ใช้ เวลาหลายปี ในการ
ทํางานด้ วยมีดอย่างประณีต ทําให้ เขามีสายตาที่แหลมคม เขามีประสบการณ์และความ
แม่นยํามากพอ ด้ วยสิ่งเหล่านี ้มันทําให้ เขาสามารถเอาชนะวรยุทธ์ 'สัจธรรมทังเก้
้ า' ของหวัง
ยานเฟิ งมาได้ ด้วยกําปั น้ ที่แม่นยําของเขา!

ไม่วา่ จะเป็ นกําปั น้ หรื อมีด หรื อแม้ แต่หอกที่หนัก 580 จิ๋นในมือของเขาเล่มนี ้ก็ไม่ได้ ทําให้
ความแม่นยําของเขาลดลง!

หอกแทงตัดใยแมงมุมอย่างแม่นยําเหมือนดัง่ ลูกศร ด้ วยนํ ้าหนักของมันที่มากถึง 580 จิ๋น มัน


ก็ไม่เหมาะที่จะเอามาใช้ งานแบบนี ้ซักเท่าไร

เขาแทงตัดเส้ นใยพวกนันออกและแทงเขาใส่
้ แมงมุมหลังเพชรตัวในในคราเดียว!
เจ้ าแมงมุมนันไม่
้ คิดมาก่อนว่าใยแมงมุมที่แข็งแกร่งของมันจะถูกกําจัดโดยการใช้ หอกเล่มนัน้
ตอนนี ้แม้ แต่ชีวิตของมันก็อาจถูกฆ่าด้ วยหอกนันเช่
้ นกัน!

ความเร็ วไม่ใช้ จดุ เด่นของแมงมุมหลังเพชร ความโดนเด่นที่แท้ จริ งของมันอยูบ่ นร่างกายที่ปก


คลุมด้ วยเกราะเพชรของมัน ซึง่ มีความสามารถในการป้องกันสูงดัง่ เสาหินขนาดใหญ่ที่ทนทาน
มันมีการป้องกันที่อยูเ่ หนือความคาดหมายของผู้โจมตี ทําให้ ผ้ ทู ี่จ่โู จมมันถึงกับต้ องตกตะลึงใน
พลังป้องกันของมัน

แต่มนั จะสามารถป้องกันหอกที่ทรงพลังขนาด 580 จิ๋นที่ถกู ใช้ โดนผู้มีพละกําลัง 3200จิ๋


้ อ?
นได้ อย่างนันหรื

"กึก!" แมงมุมหลังเพชรตัวนันที
้ ่มีขนาดใหญ่เท่ากับวัวถูกแทงทะลุสมองด้ วยหอกของหลินหมิง!

"ซี่ ซี่!" แปดขาของมันยังคงกระตุกอยูอ่ ีกเล็กน้ อย ก่อจะสิ ้นใจ ด้ วยหอกเดียวสามารถฆ่าศัตรู


ได้ !

เมือกของเหลวสีเขียวพุง่ ออกมา หลินหมิงดึงหอกของเขาออกและรี บหันไปสนใจนักสู้คนอื่นๆ


พวกมันมีการฝึ กฝนในขันที้ ่สี่ อย่างไรก็ตามในขณะนี ้มีลมแผ่วๆพัดมันที่ด้านหลังของหลินหมิง
สิ่งมีชีวิตบางอย่างกําลังลอบโจมตีเขาจากทางด้ านหลัง

เขาหลบไปด้ านข้ างและแสงบางอย่างก็ฝาดมาที่พื ้นดินที่เขาเคยอยู่

วรยุทธ ?!

หลินหมิงหันหัวกลับไปในทันที ด้ านหลังของเขาคือนักสู้ถือดาบยาวและสวมหมวกไม้ ไผ่


"การฝึ กฝนสุดสุดของขันที
้ ่สี่ ?!"

ศัตรูตวั นี ้พึง่ จะปรากฏขึ ้นหลังจากที่เขาฆ่าแมงมุมหลังเพชร! ไม่เพียงการฝึ กฝนของมันจะสูงถึง


จุดสูงสุดของขันที
้ ่สี่ มันยังสามารถใช้ ทกั ษะวรยุทธได้ อีกด้ วย

เมื่อเห็นว่าศัตรูของเขาเป็ นนักสู้ที่มีการฝึ กในขันที


้ ่สงู ขนาดนัน้ หัวใจของหลินหมิงก็เต็มไปด้ วย
ความภาคภูมิใจ นี่เป็ นครัง้ แรกที่เขาได้ ตอ่ สู้กบั ศัตรูที่อยูใ่ นขันนี
้ ้!

...

"มันได้ รับบาดเจ็บสาหัสไม่ใช่รึ ? ทําไมมันยังไม่ตายและถูกส่งกลับมาเสียที?!

"ชายคนนี ้เข้ มแข็งจริ งๆ ตอนนี ้ก้ านธูปดอกที่สามก็ไหม้ ไปกว่าครึ่งแล้ ว! หลังจากที่เขาได้ รับ


บาดเจ็บเขายังสามารถต่อสู้ได้ อีกถึงครึ่งก้ านธูป! "

"มีเพียงหกคนที่ยงั เหลืออยูบ่ นเวที คนสุดท้ ายที่ถกู ส่งออกมาได้ อนั ดับ 139 ไม่น่าเชื่อว่า
หลินหมิงจะยังคงต่อสู้อยูใ่ นขณะนี ้! " เหล่าศิษย์สว่ นใหญ่ที่เข้ ามาชมการจัดอันดับต่างก็ไม่
ต้ องการให้ คนอื่นประสบความสําเร็จ

"หลินหมิงได้ รับบาดเจ็บสาหัส ปฏิเสธไม่ได้ วา่ ความสามารถของเขาจะลดลง แม้ วา่ เขาจะยัง


ดื ้อรัน้ อยูใ่ นนันต่
้ อไปก็ใช่วา่ เขาจะได้ คะแนนเพิ่มขึ ้น ไม่มีใครที่จะรู้ถงึ คะแนนของเขา"

ขณะที่ผ้ คู นเหล่านี ้พูดคุยกัน คนสองคนบนแท่นก็มีอาการสาหัสขึ ้นทุกที เหมือนกับว่าพวกเขา


ไม่สามารถที่จะทนต่อสู้อยูใ่ นนันได้
้ อีกต่อไป และถูกส่งออกมาจากแท่นอาคมหมื่นอสูรสังหาร
หนึง่ ในนันก็
้ คือหลินหมิง
หลินหมิงหน้ าสีซีดและลมหายใจของเขาก็หนักอึ ้ง เขาอาจจะมีอนั ดับสูงกว่าคนก่อนหน้ าอีก
เล็กน้ อย แต่เขาไม่สนใจเรื่ องนันเท่
้ าไรนัก ในช่วงเวลาสุดท้ ายของเขา เขาสามารถที่จะควงหอก
และฆ่าศัตรูของเขาอีกสองตัวที่มีการฝึ กฝนช่วงต้ นของขันที
้ ่สี่ได้ เขาได้ รับประสบการณ์ที่เป็ น
ประโยชน์หลายอย่างจากการต่อสู้ในครัง้ นี ้

"ในที่สดุ มันก็ออกมา มันใช้ เวลากว่าสองก้ านธูปปี ครึ่ง ทําไมถึงได้ นานขนาดนัน?!


้ "

"อืมมม ดูเหมือนว่าเขาจะมีอนั ดับสูงกว่า150เสียด้ วย ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง และ ยา


โอสถพญางูทองคําเป็ นยาวิเศษอย่างแท้ จริ ง หลังจากที่ได้ รับยาโอสถลํ ้าค่าทังสองนั
้ นเพี
้ ยงไม่กี่
วันเขาดูไม่ตา่ งจากหวังยานเฟิ งที่ใช้ ยาโอสถที่มีคณ
ุ ภาพมาตลอดทังชี
้ วิต มันจะดีมากถ้ าหากข้ า
จะได้ รับโอสถลํ ้าค่าเช่นนันบ้
้ าง"ฝูงชนกล่าว หลายคนอิจฉาเขาและไม่สามารถยอมรับใน
ความสามารถของหลินหมิงได้

ในขณะนี ้แสงจากการจัดอันดับของอาคมหมื่นอสูรสังหารก็ปรากฏขึ ้นมา แสงแรกคืออันดับของ


้ อนั ดับ 136 เขามีอายุเพียง 17 ปี และได้ รับ
คนที่ถกู ส่งออกมาพร้ อมกับหลินหมิง เขาคนนันมี
การฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้จากสํานักเจ็ดแก่นแท้ มานานถึงสองปี ครึ่งแล้ ว

้ ่อหลินหมิงก็ประกายแสงออกมา มันหายไปจากตําแหน่งเดิมซึง่ เป็ นอันดับที่ 210


จากนันชื
สายตามากกว่า100 คูต่ า่ งจ้ องมองไปยังอันดับของเขาบนแท่นอาคมที่ถกู วัดผลในครัง้ นี ้

การจัดอันดับของแท่นหินอาคมหมื่นอสูรสังหารมีทงหมด
ั้ 23 แถว แต่ละแถวมีสิบชื่อ สายตา
ของคนส่วนใหญ่กําลังหาที่แถวที่ 15 หรื อก็คือกําลังหาชื่อของหลินหมิงในช่วงอันดับที่140-
150 เพราะมันเป็ นช่วงที่มีแนวโน้ มว่าชื่อของหลินหมิงจะปรากฏขึ ้นในช่วงนี ้
อย่างไรก็ตามในส่วนของอาคมหมื่นอสูรสังหารนี ้ก็เป็ นดัง่ สายนํ ้าที่เงียบสงบ รายชื่ออันดับที่
140-150ไม่ได้ ถกู เปลีย่ นแปลเลยแม้ แต่น้อย

"อืม…?"

มันสายเกินไปแล้ วที่จะตกใจ ชื่อของหลินหมิงปรากฏอยูบ่ นแถวที่ 13 อันดับที่ 126คนเดิม


ถูกดึงลงมาเป็ นอันดับที่ 127 ด้ วยพลังที่มองไม่เห็น และอักษรที่เขียนว่า 'หลินหมิง' ก็ปรากฏ
ขึ ้นมาแทนที่อย่างน่าประทับใจในหมูพ่ วกเขา

MW#063 หออาวุธศักดิ์สิทธิ์

“126”

“พระเจ้ า เขาพึง่ อายุแค่ 15 ปี เท่านันเอง”


หลังจากที่หลายๆคนได้ เห็นอันดับของหลินหมิง ก็มีเสียงฮือฮากันดังสนัน่

แม้ แต่หลิงเซ็น ทาคุ และซางกวนยู่ ก็ยงั ทําไม่ได้ ขนาดนี ้เลย ในการทดสอบครัง้ แรกของพวก
เขาหลิงเซ็นได้ อนั ดับที่ 145 ทาคุได้ อนั ดับที่ที่ 142 และ ซางกวนอยูไ่ ด้ อนั ดับที่ 138 มา
ครอง แม้ พวกเขาทังสามจะทํ
้ าได้ ยอดเยี่ยมถึงเพียงนัน้ แต่อนั ดับในการวัดผลในครัง้ แรกของ
หลินหมิงก็นําอยูม่ ากทีเดียว

เขาเป็ นอัจฉริ ยะอย่างงันสิ


้ นะ

คนบางคนที่ยงั ไม่เชื่อสายตาของตัวเองก็ยงั มองไปที่แท่นอันดับต่อไป “หินอันดับอาจจะมี


ปั ญหาอะไรรึเปล่า พึง่ ผ่านไป 2ก้ านธูปครึ่งเอง เขาไม่น่าจะกําจัดศัตรูด้านในได้ เยอะถึงขนาด
นี ้”

“หินอันดับนี ้ถูกสร้ างโดย ปรมาจารย์ประดับปราณปลายฟ้า จากเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขา มัน


จะไปมีปัญหาไปได้ ยงั ไง ก็จริ งอยูว่ า่ ปกติการจะได้ อนั ดับเท่านี ้อาจต้ องใช้ เวลาถึง 3 ก้ านธูป
นอกเสียจากว่าเขาจะสามารถฆ่าล้ างศัตรูโดยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้ อยและทําได้ อย่าง
รวดเร็ ว” คนที่พดู ก็คือฮ่องซี อาจารย์ของห้ องพสุธานันเอง

เมื่อได้ ยินคําพูดของเขา ศิษย์หลายคนที่พดู เกี่ยวกับความบกพร่องของแท่นอาคมก็หบุ ปาก


เงียบลงในทันทีเด็กคนนันทํ
้ าได้ ถงึ ขนาดนันเลยงั
้ นเหรอเนี
้ ่ย ?!

น่ากลัวเหลือเกิน…

ซางฉางอยูใ่ นสีหน้ าที่บึ ้งตึงเมื่อได้ เห็นอันดับของหลินหมิง 126... ถึงจะห่างจากอันดับของ


เขาอยูอ่ ีกมากก็ตาม แต่อายุหลินหมิงน้ อยกว่ามันถึง3ปี

“หลินหมิง ข้ าไม่ร้ ูหรอกนะว่าเจ้ าไปได้ ยาโอสถลํ ้าค่ามาจากไหน แต่เจ้ าพึง่ จะฝึ กฝนถึงจุดสูงสุด
ของขันที
้ ่สองเจ้ าจะสามารถดูดกลืนพลังของยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองและยาโอสถพญางู
้ อ”
ทองคํา ได้ ค้ มุ ค่ากับประสิทธิภาพของมันจริ งๆอย่างนันหรื
หลินหมิงมองกลับไปที่ซางฉางแต่ก็ไม่ได้ พดู อะไรกัน ด้ วยพลังในตอนนี ้ การจะล้ มซางฉางให้ ได้
ก็มีโอกาสเกิดขึ ้นจริ งอยูบ่ ้ าง

“เยี่ยม..ทําเยี่ยมมาก” เสียงดังผ่านหูของหลินหมิง มันเป็ นคําทักทายจากซางฉาง ที่สง่ ผ่าน


พลังปราณมา “แกทําให้ ข้าได้ ประหลาดใจอีกแล้ ว ถึงจะเป็ นแค่สวะ แต่ก็สามารถดูดซับพลัง
ของทังยาเม็
้ ้ งได้ อนั ดับ 126 อีก แต่ถ้า
ดไขกระดูกมังกรทองและยาโอสถพญางูทองคําได้ ทังยั
หากว่าแกคิดว่าแค่นี ้จะสามารถจัดการข้ าได้ แล้ วล่ะก็ แกคงคิดผิดเสียแล้ ว ”

“แกจะต้ องพ่ายแพ้ ”

ซางฉางพูดด้ วยความโมโห ขณะที่มนั เดินไปที่อาคมหมื่นอสูรสังหาร มันก็ไม่สามารถคุม


อารมณ์ได้ แล้ ว

ในที่สดุ ผู้เข้ าทดสอบคนสุดท้ ายก็ได้ ออกมาจากอาคมหมื่นอสูรสังหาร แม้ วา่ เขาจะอยูใ่ นนันเป็


้ น
เวลานาน แต่อนั ดับของเขาก็ด้อยกว่าหลินหมิง เขาได้ อนั ดับที่ 129

เมื่อแสงแห่งอาคมเริ่ มเปล่งออกมาซางฉางก็นงั่ ลงบนแท่นเพื่อสงบจิตใจลง เพื่อให้ พร้ อมที่จะ


เข้ าไปทดสอบ

ด้ วยความเยือกเย็นของซางฉางในตอนนี ้ ศัตรูที่อยูเ่ บื ้องหน้ าเขาเป็ นแค่ขยะสําหรับเขาเท่านัน้

“เขาคนนันคื
้ อซางฉาง เขาอยูอ่ นั ดับที่อนั ดับ 109 เขาคือนักสู้ที่แท้ จริ ง”

เมื่อศิษย์หน้ าใหม่ๆได้ ยินเข้ า ก็ร้ ูสกึ ตืน่ เต้ นและหวาดกลัว เป็ นครัง้ แรกที่เขาได้ เห็นคนที่อนั ดับสูง
ถึงเพียงนี ้
“ใช่ๆ ข้ าได้ ยินมาว่า ครัง้ ล่าสุดที่เขาร่วมคือเมื่อ3เดือนที่แล้ ว ในตอนนี ้เขาอาจจะเป็ น100
อันดับแรกก็ได้ ”

หลินหมิงมองดูธูปที่กําลังไหม้ และมันก็ผ่านไปถึง 2 ก้ านธูปในที่สดุ

แท่นอาคมหมื่นอสูรสังหารได้ สง่ คนกลับออกมาเป็ นจํานวนมาก หนึง่ ในนันเป็


้ นศิษย์จากห้ อง
พสุธา เขาได้ อนั ดับที่ 215 ก็ไม่ได้ ยํ่าแย่เท่าไรสําหรับครัง้ แรกในการทดสอบ

และแล้ วเวบาก็ผ่านไปเป็ น 2 ก้ านธูปครึ่ง ซางฉางใช้ เวลานานกว่าหลินหมิง แต่ถ้าหากพูดถึง


เรื่ องอายุแล้ ว มันก็เป็ นธรมดาที่คนที่อายุมากกว่าจะแข็งแกร่งกว่า และต่อสู้อยูใ่ นอาคมหมื่น
อสูรสังหารได้ นานกว่า

ไม่มีใครคิดว่าแท่นหินอาคมผิดพลาด การที่ซางฉางจะแพ้ ตา่ งหากที่เป็ นเรื่ องผิดพลาด

ในที่สดุ ก็ธูปก้ านที่สามก็ไหม้ หมดลง ซางฉางเริ่ มดูเหมือนจะอ่อนแรงลงเล็กน้ อย

เมื่อผ่านไปถึง3ก้ านธูป ซางฉางก็ไอออกมา เขาบาดเจ็บในอาคมหมื่นอสูรสังหารและเมื่อเวลา


ผ่านไปถึง 3 ก้ านธูปครึ่ง เขาก็ถกู ส่งออกมา

เขาได้ อนั ดับ 103

หลังจากที่ซางฉางถูกส่งกลับออกมาจากแท่นอาคมหมื่นอสูนสังหาร เขาเห็นอันดับใหม่ของเขา
แล้ วก็ร้ ูสกึ ผิดหวังเล็กน้ อย มันไม่ได้ นา่ พอใจเอาซะเลย ถึงแม้ วา่ มันจะดีกว่าเมื่อ3เดือนก่อนถึง
5อันดับ แต่เขาก็หวังเอาไว้ วา่ เขาจะได้ เป็ น100อันดับแรกในการทดสอบครัง้ นี ้

เขามองไปที่หลินหมิง และส่งเสียงมาผ่านพลังปราณ “จากนี ้ไปอีกหนึง่ เดือน ข้ าจะรอเจ้ าที่นี่”


แต่หลินหมิงไม่ได้ สนใจคําพูดของเขา เขากําลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ เรื่ องอาวุธของเขา

เขาต้ องไปหาหอกที่เขาต้ องการ!

การทดสอบได้ เริ่ มขึ ้นทังช่


้ วงเช้ า ซึง่ ในช่วงเช้ าคนส่วนใหญ่ที่เข้ าทดสอบ มีแต่ระดับการฝึ กฝนขัน้
ที่สามหรื อตํ่ากว่า ซึง่ อันดับของพวกเขาก็ไม่มีใครที่ได้ ไปถึง100อันดับแรก

และในช่วงบ่ายก็จะมีเหล่าศิษย์พี่เริ่ มทยอยกันมาร่วมการทดสอบ พวกเขาล้ วนมีการฝึ กฝนใน


ขันที
้ ่สี่กนั ทังนั
้ น้ แน่นอนว่าพลังของพวกเขาต่างกับพวกที่มาเข้ าทดสอบในตอนเช้ าลิบลับ บาง
คนก็มีอนั ดับสูงกว่า50เสียอีก

ศิษย์ใหม่หลายๆคนในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็กระตือรื อร้ นอยากจะดูการทดสอบของพวกเขา แต่


หลินหมิงไม่คิดเช่นนัน้ ถ้ าเกิดเขาได้ เห็นพวกศิษย์พี่ส้ กู บั ไอ้ พวกข้ างในจริ งๆแล้ ว เขาก็สนใจอยู่
หรอก แต่ที่เห็นจริ งๆก็แค่การขึ ้นไปนัง่ บนแท่นอาคม เขาจึงไม่สนใจการทดสอบของคนอื่นๆ

...

ก่อนจะถึงช่วงบ่ายๆ หลินหมิงก็ได้ เดินผ่านเส้ นทางมามากมายและมาถึงที่ สถานที่ขายอาวุธที่


ใหญ่ที่สดุ ในเมืองลิขิตฟ้าหออาวุธศักดิ์สิทธ์

หออาวุธศักดิ์สิทธ์เป็ นร้ านที่ขายอาวุธที่เก่าแก่ที่สดุ ในอาณาจักรแห่งนี ้ มันถูกส่งต่อรุ่นสูร่ ุ่นมา


้ ้นมาเมื่อ 200 ปี ที่แล้ ว และที่แห่งนี ้ก็อยู่
เป็ นเวลานานมากแล้ ว อาณาจักรลิขิตฟ้าได้ ถกู ก่อตังขึ
มาอย่างน้ อย 100 ปี

หลินหมิงชะเง้ อไปที่ร้านๆนันจากที
้ ่ไกลๆ ทางเข้ าของมันถูกตกแต่งด้ วยของเคลือบทอง และ
ด้ านบนก็มีป้ายไม้ พร้ อมกับมีคนๆหนึง่ กําลังทาสีให้ มนั อยู่ หลินหมิงรู้สกึ ได้ ถงึ ออร่าที่แผ่
ออกมาจากตัวเขา ไม่ต้องสงสัยเลย คนที่เขียนป้ายนัน่ ต้ องไม่ธรรมดาแน่ๆ

ไม่ได้ มีลกู ค้ าในร้ านมากนัก แต่ในนัน่ มากกว่าครึ่งอยูใ่ นระดับปรมาจารย์ทงสิ


ั ้ ้น นัน่ ทําให้ หลินห
มิงประหลาด

ก่อนที่หลินหมิงจะมาที่นี่เขาได้ ใส่ชดุ ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาด้ วย เพราะงันถึ


้ งเขาจะดูเด็ก แต่
เขาก็ทําให้ คนขายหันมาสนใจเขาได้ ยังไงเขาก็เป็ นถึงศิษย์จากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ซึง่ ฐานะนี ้ของ
เขาก็ดสู งู อยูใ่ นระดับหนึง่

“หนุ่มน้ อย เจ้ ามาซื ้ออาวุธชนิดไหนอย่างนันรึ


้ ”

“หอก” หลินหมิงตอบกลับไป

“หา..?!!” คนขายสะดุ้งพร้ อมกับอาการมึนงงเล็กน้ อย ไม่ได้ มีลกู ค้ าที่เข้ ามาเพื่อซื ้อหอกมา


นานมากแล้ ว หากจะมีคนที่มาซื ้อหอก คนที่มาซื ้อก็จะมีรูปร่างสูงใหญ่ มีร่างกายกํายํา เด็กรุ่น
ราวคราวเดียวกับหลินหมิง 99%ก็มาเพื่อซื ้อดาบทังนั
้ น้ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า เด็กอายุ 15-
16 ปี จะมาที่ร้านของเขาเพื่อเอ่ยปากขอซื ้อหอก

MW#064 การสร้ างที่ซบั ซ้ อน


“แล้ วพ่อหนุม่ ต้ องการหอกแบบไหนกันละฮึ แล้ วมีงบในการซื ้อหอกเท่าไหร่”

“มีของระดับหายากรึเปล่า”หลินหมิงเอ่ยปากถาม

“หอกระดับสูงนะรึ” คนขายไม่คิดว่าหลินหมิงจะทําให้ เขาต้ องประหลาดใจได้ อีกครัง้ แน่นอน


ว่าของแบบนันต้
้ องราคาแพงมากๆอยูแ่ ล้ ว ของระดับอย่างน้ อยๆก็มีราคาช่วง10,000-
20,000 เหรี ยญทองเลยทีเดียว บางอันอาจถึง 40000เลยด้ วยซํ ้า เจ้ าหนุ่มนี ้คงจะรวยมาก
เลยสินะ

ที่จริ งหลินหมิงก็ไม่ได้ รวยอะไรขนาดนันหรอก


้ แค่เขาคิดว่าในอนาคตเขาก็คงจะมี

“หนุ่มน้ อย ร้ านของเราไม่มีหอกแพงๆแบบนันขายหรอก
้ แต่ถ้าเป็ นพวกดาบละก็เรามีหลาย
แบบให้ เลือกใช้ ”

“….” หลินหมิงรู้สกึ ผิดหวังเล็กน้ อย เขาไม่คิดว่าแม้ แต่ร้านระดับนี ้ก็ยงั ไม่มีอาวุธที่เขาต้ องการ


รึวา่ มันจะหายากจริ งๆ

คนขายพูดต่อ “ถ้ าเป็ นหอกระดับสูงละก็ มันมีอยูน่ ้ อยมากทีเดียว เพราะความต้ องการใช้ ใน


้ นตํ่ามาก เมื่อ2เดือนที่แล้ วทางร้ านของเราก็เคยมีนะ แต่ก็มีคนมันซื ้อไป
อาวุธประเภทนันมั
แล้ ว”
“เท่าที่ข้ารู้ น้ อยคนนักที่จะใช้ หอก แล้ วหอกที่ดีแบบนันสามารถขายได้
้ ้ อ”
ด้วยอย่างนันหรื

“อื ้ม ใช่แล้ ว มันเป็ นสินค้ ายอดนิยมเชียวละ ถึงจะไม่คอ่ ยมีคนใช้ ก็เถอะ แต่สําหรับพวกทหาร


แล้ ว... พวกทหารระดับสูงๆก็ใช้ หอกนะ แต่มนั หายากเอามากๆเลยล่ะ ถ้ าพ่อหนุ่มจะหาซื ้อใน
อาณาจักรแห่งนี ้ละก็ คงจะยากน่าดู”

อย่างนี ้นี่เอง หลินหมิงเข้ าใจในทันทีวา่ หอกนันคื


้ ออาวุธที่ทางการทหารใช้ กนั มากที่สดุ ตังแต่

อดีตมาแล้ ว 80%ของทหารก็ใช้ หอก และอีก 20% ก็ใช้ อาวุธพวกง้ าวที่คล้ ายๆหอก น้ อยคน
นักที่จะใช้ พวกดาบๆในกองทัพ

เพราะในสนามรบ สําหรับนักรบที่ขี่ม้า การจะใช้ ดาบจะทําให้ มีข้อจํากัดเรื่ องระยะการโจมตีที่


ใกล้ เกินไป เพราะงันพวกเขาจึ
้ งเลยใช้ พวกหอก ทวนหรื อง้ าวแทน แม้ วา่ เขาจะตกอยูก่ ลางวง
ล้ อมศัตรูพวกเขาก็มีโอกาสที่จะเปิ ดทางหนีให้ แก่ตนเองได้ แถมยังสามารถสังหารศัตรูได้ เป็ น
จํานวนมากอีกด้ วย ซึง่ เป็ นสิ่งที่พวกดาบ ขวาน ทําไม่ได้

ดังนันอาวุ
้ ธที่สามารถใช้ ในการกวาดล้ างศัตรูก็เห็นจะมีแต่พวกหอกเท่านันแหละ

“ดีละ สําหรับหอกระดับสูงนัน้ ไว้ ข้าจะกลับมาดูในภายหลัง หอกที่ดีๆก็คงจะมีราคาไม่ใช่น้อยๆ


ตอนนี ้ข้ าเองก็ไม่มีเงินจะจ่ายซะด้ วย เงินครัง้ ก่อนที่ได้ จากมูย่ ี่ก็หมดลงแล้ ว นอกจากนี ้จารึกที่
ขายให้ มยู่ ี่ มูย่ ี่ก็รับซื ้อมันในราคาแพง ข้ าคิดว่าเขาคงไม่ต้องการจะซื ้อมันอีกแน่ ข้ าสร้ างปั ญหา
ให้ เขามามากพอแล้ ว หลายพันเหรี ยญทองก็ไม่ใช่ยอดเงินน้ อยๆเลย แล้ วหากข้ าได้ หอก
ระดับสูงมาในตอนนี ้ ข้ าก็ไม่อาจใช้ มนั ได้ เต็มที่แน่ๆ”

เมื่อคิดดังนัน้ หลินหมิงก็กล่าวว่า “ถ้ าอย่างนัน้ ข้ าขอดูหอกดีๆเท่าที่ที่นี ้จะมีหน่อยสิ”

“ได้ สิ พ่อหนุม่ รอสักครู่นะ” คนขายหันหลังกลับไปและมองหาหอกให้ หลินหมิง และก็ได้ หอกสี


ดํายาว7ฟุตมาเล่มหนึง่

เมื่อร้ านจะขายหอกส่วนมากเขาจะแยกขายด้ ามหอกกับหัวหอก ด้ ามหอกนันจะถู ้ กเก็บไว้ ในหีบ


ไม้ เพื่อป้องกันการสึกกร่อน และหัวหอกจะถูกชโลมด้ วยนํ ้ามันเพื่อให้ แน่ใจว่าจะมันเงาวับอยู่
ตลอดเวลา และส่วนทังสองจะถู
้ กประกอบเข้ าด้ วยกันเพื่อขายในตอนท้ ายสุด

“พ่อหนุ่ม ลองเจ้ านี่ส”ิ คนขายพูดขณะยื่นหอกสีดําเล่มนันให้


้ กบั หลินหมิง

หลินหมิงรับหอกมาไว้ ในมือ นํ ้าหนักของมันประมาณ30จิ๋น มันไม่ได้ ถกู สร้ างขึ ้นจากโลหะ


หลินหมิงรู้สกึ ได้ เลยว่า หอกนี ้ค่อนข้ างจะยืดหยุน่ มากทีเดียว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เพียงแค่ปล่อย
หอกนี ้ลงบนหัวสัตว์ ก็สามารถเปิ ดกระโหลกมันได้ แล้ ว

“ราคาเท่าไหร่” หลินหมิงถาม

“1200 เหรี ยญทอง”

ถึงจะเตรี ยมใจมาแล้ วก็เถอะ แต่หลินหมิงก็ยงั รู้สกึ เครี ยดๆเมื่อได้ ยินราคานัน้ มันแพงเกินไป


แล้ ว ก็ร้ ูอยูห่ รอกว่าพวกระดับสูงๆนะราคาหลายพันเหรี ยญทอง แต่นี่มนั ไม่ใช่ระดับสมบัติซะ
หน่อย

คนขายเห็นสีหน้ าของหลินหมิงก็อธิบายว่า “เจ้ านี่หน่ะ ถูกสร้ างมาจากไม้ ทมิฬ ซึง่ ถูกคัดเลือก


จากไม้ ที่มีอายุหลายร้ อยปี และแช่ในนํ ้าพุร้อนนานถึง7สัปดาห์ หลังจากนันก็
้ นําไปต้ มในนํ ้ามัน
เดือดอีก3วัน เปลือกของมันจะถูกเลาะออกจนหมดเหลือแต่สว่ นที่แข็งที่สดุ ไว้ หลังจากนันก็
้ มดั
ไว้ กบั ไหมทองและแช่ในถังนํ ้ามัน อีก3ปี ”

“ไม่วา่ จะไม้ ทมิฬหรื อ ไหมทองล้ วนเป็ นวัตถุดิบหายากทังนั


้ น้ ทังยั
้ งยากต่อการถูกทําลายอีก
และยังมีกระบวนการผลิตที่เป็ นความลับอีกด้ วย หอกเล่มนี ้ไม่มีทางหักในการต่อสู้อย่าง
แน่นอน ถึงจะต้ องปะทะกับอาวุธระดับสูงก็เถอะ”

เมื่อหลินหมิงได้ ยินเช่นนันก็
้ ร้ ูสกึ เนื ้อเต้ นเลยทีเดียว เขาไม่คิดเลยว่า แค่หอกธรรมดาจะมี
กรรมวิธีการผลิตที่ซบั ซ้ อนถึงเพียงนี ้ ถึงไหมทอง จะด้ อยกว่า ไหมนภาเล็กน้ อย แต่ก็เป็ นถึงของ
หายากอยูด่ ี และยังทํามาจากต้ นไม้ ที่มีอายุนบั ร้ อยปี อีก

ยิ่งไปกว่านัน้ ถ้ าหากเกิดความผิดพลาดแม้ เล็กน้ อยระหว่างการสร้ างละก็ ทุกอย่างก็จะเป็ นอัน


จบ อย่างเช่น การแช่ในนํ ้ามันเดือด ถ้ าหากทําได้ ไม่ดีละก็ ปกติหอกจะต้ องมีด้ามที่ตรงดัง่ ไม้
บรรทัด ถ้ าหากผิดพลาดก็จะ เกิดการโค้ งงอได้

ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมราคาของมันถึงได้ แพงขนาดนี ้ มันเป็ นราคาที่คนบางคนทํางานทังชี ้ วิตก็


จ่ายไม่ไหว ถ้ าหอกนี ้ได้ เป็ นของใครซักคนแล้ วละก็ มันคงจะถูกส่งต่อรุ่นสูร่ ุ่นเป็ นแน่แท้

คนขายกล่าวต่อว่า “ส่วนที่แพงที่สดุ ก็มาจากส่วนด้ ามนี่แหละ หอกที่ดีหนะ 80% มาจากด้ าม


อีก 20% มาจากหัวหอก หัวหอกดีๆราคาแค่ 200-300 เหรี ยญทองเท่านัน้ แต่ด้ามที่ดีน่ะ
ราคาถึง 800 เหรี ยญทอง”

หลินหมิงลองเหวี่ยงมันไปมาดู เขารู้สกึ ถูกชะตากับมัน ไม่ต้องพูดถึงเรื่ องความยืดหยุน่ กับความ


ทนทานเลย นี่มนั ของดีจริ งๆ

เสียอย่างเดียวที่มนั ยังเบาเกินไป

“มีเล่มที่หนักกว่านี ้อีกมัย้ ซักประมาณ 100 จิ๋น?”

“หะ?!” คนขายรู้สกึ แปลกใจอีกครัง้ สําหรับหอกหนัก 100 จิ๋นแล้ ว ถ้ าจะใช้ ให้ คล่องจริ งๆ


อย่างน้ อยก็ต้องมี พลํากําลังหลายพันจิ๋นเลยทีเดียว เด็กคนนี ้แข็งแกร่งขนาดนันเลยอย่
้ างนัน้
หรื อ

ขณะที่กําลังสงสัย คนขายก็ได้ หยิบหอกอีกอันขึ ้นมาให้ ดู ซึง่ มันทําจาก เหล็กทมิฬล้ วนๆ มัน


ค่อนข้ างหนาและยาวถึง 7 ฟุต นํ ้าหนักประมาณ 400 จิ๋น

“ด้ ามหอกอันนี ้ 800 เหรี ยญทอง”

แม้ เหล็กทมิฬนันจะมี
้ ราคาแพง แต่กระบวนการผลิตนันไม่
้ ได้ ยงุ่ ยากมากเท่าไหร่ เพราะงันราคา

ของมันจึงถูกลงมา

“ระวังนะพ่อหนุม่ มันหนักมาก” คนขายกล่าวขณะยื่นหอกเล่มนันให้


้ หลินหมิง แต่ก็ต้องทึง่ อีก
ครัง้ ที่เมื่อเห็นหลินหมิงถือมันเหมือนแท่งไม้ ธรรมดาๆ

หลินหมิงเหวี่ยงหอกไปมาแล้ วหันกลับมาถามอีกว่า “ยังมีเล่มที่หนักกว่านี ้อีกหรื อไม่?”

้ ?!
หนักกว่านี ้ เขาต้ องการอาวุธที่หนักกว่านี ้อีกอย่างนันรึ

“ทางเรายังมีหอกที่หนักกว่านี ้ แต่ราคาของมันก็แพงมากด้ วยเช่นกัน”

“ไม่มีปัญหา” เพื่อหลีกเลี่ยงปั ญหาอืน่ ๆอีก หลินหมิงก็ควักตัว๋ เงินออกมาจากเสื ้อ ตอนนี ้เขามี


8000 เหรี ยญทอง ตราบใดที่มนั ยังไม่ใช่หอกระดับสูงเขาก็ยงั สามารถซื ้อมันได้

เมื่อได้ เห็นดังนัน้ คนขายก็พดู อย่างสุภาพว่า “งันตามข้


้ ามาเลย พ่อหนุ่ม”

หลังจากนัน้ คนขายก็เดินไปที่ชนสองทั
ั้ นที
MW#065 หอกทะลวงสายรุ้ง

...

...

...

เมื่อพวกเขาขึ ้นไปบนชันสอง
้ บนนี ้มีคนอยูน่ ้ อยมาก เป็ นพื ้นที่ขนาดใหญ่ที่มีลกู ค้ าอยูเ่ พียงไม่กี่
คนเท่านัน้ มีชายวัยกลางที่ดนู ่ากลัวสวมเสื ้อคลุมสีเทากําลังนัง่ ดื่มชาอยูห่ ลังเคาน์เตอร์

พนักงานขายพี่พาเขาขึ ้นมา แสดงความเคารพให้ กบั ชายวัยคนที่นงั่ อยูแ่ ล้ วเดินเข้ าไปกระซิบที่


ข้ างหูด้สนคําพูดเพียงไม่กี่คํา

"โอ้ ? เจ้ าหนุ่ม เจ้ าต้ องการหอกหนักงันรึ


้ ? " ชายวัยกลางคนถามด้ วยความสนใจ ในขณะที่
มองไปที่หลินหมิง" เจ้ าต้ องการหอกหนักขนาดไหนกันล่ะ? "

"800 จิ๋น"

"800 จิ๋น?" แววตาของชายวัยกลางเกิดประกายแสง "800 จิ๋นรึ อย่างน้ อยเจ้ าก็ต้องมี


พละกําลังถึง4000จิ๋น เจ้ าถึงจะสามารถที่จะใช้ มนั ได้ อย่างเต็มที่ เจ้ ามีพละกําลังขนาดนัน้
หรื อยัง?"

หลินหมิงกล่าวตอบ "แม้ วา่ ข้ าจะยังไม่สามารถใช้ มนั ได้ เต็มที่ในตอนนี ้ แต่อีกไม่นานข้ าก็จะทํา


เช่นนันได้
้ "
"การตัดสินใจแน่วแน่ดี ! ข้ าจะหาหอกดีดีให้ เจ้ าเอง "

ในขณะที่คนวัยกลางคนยืนขึ ้นและเดินจากออกไปด้ านข้ าง ไม่นานเขาก็กลับมาพร้ อมกล่องไม้


ยาวๆกล่องหนึง่ ทุกการก้ าวเดินของเขาทําให้ แผ่นไม้ สง่ เสียงดังเอี๊ยดออกมาเหมือนกันมันไม่
สามารถทนต่อนํ ้าหนักของเขาได้

มันแสดงให้ เห็นว่า สิ่งที่อยูใ่ นกล่องไม้ ที่เขาถืออยูจ่ ะต้ องหนักเป็ นอย่างมาก!

ในขณะที่ชายวัยกลางคนวางกล่องไม้ ลงบนเคาน์เตอร์ และเปิ ดฝาออก ภายในนันเป็


้ นหอก
ขนาด 8 ฟุตที่ถกู ห่อเอาไว้ ด้วยผ้ าผืนหนา

ในขณะที่ชายวัยกลางคนเปิ ดผ้ าออก เผยให้ เห็นเพลาสีมว่ งเข้ มและหัวหอกสีแดง ตัวหอกสีมว่ ง


เข้ มและสลักอักขระจารึกเอาไว้ 2ตัว ‘ทะลวง’ และ ‘สายรุ้ง’

คําสองคําธรรมดารวมกับหอกขนาดใหญ่ทําให้ มนั รู้สกึ ว่ามีพลังที่แผ่ซา่ นออกมาอย่างไม่มีที่


สิ ้นสุด

หอกนี ้เยี่ยมยอด!

ในขณะที่ชายวัยกลางคนกล่าวว่า "นี ้คือหอกทะลวงสายรุ้ง เพลายาว 8 ฟุต หัวหอกยาว 8 นิ ้ว


มันอยูใ่ นระดับ ครึ่งสมบัติ "

"หะ? ครึ่งสมบัติ? "

ชายวัยกลางคนกล่าวอธิบาย "มีเพียงเฉพาะหัวหอกเท่านันที
้ ่เป็ นระดับสมบัติ ส่วนเพลาหอก
ไม่ได้ เป็ นระดับสมบัติด้วย ทําให้ หอกเล่นนี ้ถูกจัดอยูใ่ นระดับสมบัติเพียงครึ่งเดียว"

หลินหมิงเข้ าใจความหมายของมันในทันที กระบวนการงานหัตถกรรมที่ออกแบบเพลาหอกก็


ถือว่าซับซ้ อนดังนันจึ
้ งเป็ นเรื่ องยากเกินไปที่จะวางใส่อกั ขระจารึกเข้ าไป แต่หวั หอกเป็ น
เช่นเดียวกับดาบหรื อกระบี่ดงั นันมั้ นเป็ นเรื่ องง่ายที่จะใส่อกั ขระจารึกลงไป และทําให้ มนั
กลายเป็ นระดับสมบัติ

โชคร้ ายที่มนั เป็ นไปไม่ได้ ที่จะเชื่อมต่อพลังปราณของเขากับเพลาหอก เพื่อที่จะจารึกเสริ มพลัง


ให้ มนั

ชายวัยกลางคนกล่าว "แม้ วา่ เพลาหอกจะไม่ได้ เป็ นระดับสมบัติ แต่ถ้าหากเปรี ยบเทียบความ


เหนียวของมันแล้ ว มันเทียบได้ กบั สมบัติมนุษย์ระดับล่าง "

ความแตกต่างระหว่างสมบัติและอาวุธธรรมดาก็คือ สมบัติจะถูกอักขระจารึกเอาไว้ ทําให้ ผ้ ใู ช้


สามารถใส่พลังปราณของพวกเขาเข้ าไปได้ แต่สมบัติกบั อาวุธธรรมดาก็ไม่ได้ มีความแตกต่าง
ในด้ านของความแข็งแรงทนทานแต่อย่างใด

อาวุธนี ้ไม่สามารถใส่พลังปราณลงไปได้ ในระหว่างการต่อสู้ที่เกิดขึ ้นอย่างรวดเร็ ว ทักษะและวร


ยุทธในการต่อสู้จะเป็ นตัวตัดสินความเหลื่อมลํ ้าระหว่างบุคคลทังสอง
้ อาวุธระดับสมบัติจะเป็ น
อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าอาวุธธรรมดา

ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างต่อเนื่อง "เพลาของหอกนี ้ถูกสร้ างมาจากเหล็กเหนียวทมิฬ และหัว


หอกถูกสร้ างขึ ้นมาจาก ใยเหล็กทมิฬ ทังสองด้
้ านของขอบหอกได้ รับการผสมกับทองด้ วย
วิธีการที่ซบั ซ้ อนและเป็ นความลับ ทําให้ มีความคมกริ มอย่างเหลือเชื่อ หัวหอกและหอกของ
หอกเล่มนี ้เป็ นคูท่ ี่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ มีนํ ้าหนักรวมเป็ น 820 จิ๋น"

เหล็กเหนี่ยวทมิฬ?

หลินหมิงเคยได้ เข้ าร่วมการบรรยายที่พดู คุยเกี่ยวกับโลหะที่แปลกประหลาดนี ้ โลหะที่ยอดเยี่ยม


นันเปรี
้ ยบเทียบตามนํ ้าหนักและความยืดหยุน่ ของมัน หากนํามันไปทําคันธนู พร้ อมด้ วยเส้ น
เอ็นจากสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง มันสามารถยิงลูกศรได้ ไกลถึง 2000 ก้ าวและยังสามารถทะลวง
แผ่นเหล็กได้ อีกด้ วย!

ถ้ าเหล็กเหนี่ยวทมิฬถูกนํามาใช้ เพื่อสร้ างเพลาหอก ด้ วยเพลาหอกที่หนานี ้สามารถโค้ งงอและ


ดีดกลับมาทลายต้ นไม้ ได้ เทียบได้ กบั พละกําลัง5000จิ๋นของนักสู้คนหนึง่ แรงดีดของมัน
สามารถฆ่าคนได้ อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม ข้ อดีและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของเหล็กเหนี่ยวทมิฬก็ต้องแลกมาด้ วยการตีและ


การหลอมขึ ้นรูปอย่างยากลําบากนับไม่ถ้วน มันเป็ นไปไม่ได้ เลยที่จะสลักอักขระจารึกบนโลหะ
ชนิดนี ้ ดังนันโลหะนี
้ ้ไม่สามารถที่จะกลายเป็ นระดับสมบัติได้

หลินหมิงยกหอกที่ทําจากเหล็กเหนียวทมิฬขึ ้นมาไว้ บนมือของเขา เขาเขย่ามัน ตลอดเพลาหอก


เริ่ มสัน่ แต่การสัน่ ก็ไม่รุนแรงเกินไปเพราะพละกําลังของหลินหมิงยังไม่เพียงพอ

ชายวัยกลางคนถึงกับต้ องสะดุ้งโย่งอย่างกระทันหัน เด็กหนุ่มนี ้! เขาต้ องมีความผิดปกติในด้ าน


พละกําลังเป็ นแน่! ถ้ าเขาสามารถเขย่าหอกเช่นนันได้
้ แสดงว่าพละกําลังของเขาต้ องไม่น้อย
กว่า 3000 จิ๋น! ทว่าเขายังเป็ นนักสู้ที่มีการฝึ กฝนขันที
้ ่สองเท่านัน!

หลินหมิงใช้ หอกกวัดแกว่งไปมา แม้ วา่ เขาก็สามารถที่จะยกหอกหนัก 820 จิ๋นได้ แต่เขาก็ไม่
สามารถกวาดมันออกไปให้ สงู กว่าระดับไหล่ของเขาได้ แม้ วา่ เขาจะมี 'ปฐมบทแห่งความ
โกลาหล' คอยสนับสนุนพละกําลังของเขาอยู่

แต่หลินหมิงก็ไม่ได้ เป็ นกังวลใดๆ เร็วๆนี ้เขาจะทําลายขีดจํากัดและเพิ่มพละกําลังให้ มือขวาของ


เขา

"หอกนี่ราคาเท่าไร?"

"9000 เหรี ยญทอง!"

9000... หลินหมิงไม่ได้ แปลกใจกับราคาของมัน ถือได้ วา่ เป็ นราคาที่ค้ มุ ค่าเสียด้ วย ราคาใย


เหล็กทมิฬที่เป็ นหักหอกระดับสมบัติคดิ เป็ น 3000 เหรี ยญทอง กับด้ ามเพลาที่ทําจากเหล็ก
เหนี่ยวทมิฬอีก 6000 เหรี ยญทอง ทังสองสิ
้ ่งเหล่านี ้เป็ นราคาที่ไม่ได้ แพงเกินไป

หลินหมิงดึงธนบัตรทองทังหมดที
้ ่เขามีออกมา พร้ อมกับบัตรส่วนลดพิเศษสีมว่ ง และวางมันลง
บนเคาน์เตอร์ หออาวุธศักดิ์สิทธ์เป็ นพันธมิตรการค้ ากับเมืองลิขิตฟ้า เขาจึงสามารถใช้ บตั ร
ส่วนลดพิเศษและได้ รับส่วนลดพิเศษอีก 10% ทําให้ ราคาที่แท้ จริ งเหลือเพียง 8100 เหรี ยญ
ทอง ทว่าแม้ จะรวมเหรี ยญทองที่เขามีทงหมดแล้
ั้ ว เขาก็ยงั ขาดอีก 50 เหรี ยญทอง

ชายวัยกลางคนได้ เห็นบัตรส่วนลดพิเศษสีมว่ ง ดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย "พ่อหนุ่ม เจ้ า


้ ?"
เกี่ยวข้ องกับคฤหาสน์จอมพลอย่างงันรึ

หลินหมิงคิดเกี่ยวกับมันและลังเลอยูเ่ ล็กน้ อยก่อนจะกล่าวตอบ "ก็ไม่เชิง ข้ ายืมมาจากเพื่อน


ของข้ าที่อยูใ่ นคฤหาสน์จอมพล
แม้ วา่ หลินหมิงกล่าวว่าเบาๆ ชายวัยกลางคนก็ร้ ูวา่ เด็กหนุ่มคนนี ้ต้ องเกี่ยวโยงกับจอมพลฉิน
อย่างแน่นอน มิฉะนันก็้ จะเป็ นไปไม่ได้ ที่เขาจะมีบตั รส่วนลดพิเศษสีมว่ งนัน้ เขากล่าวด้ วย
รอยยิ ้ม "ในฐานะที่พอ่ หนุม่ เป็ นคนรู้จกั กับท่านจอมพล สําหรับหอกเล่มนี ้ เพียง 8000 เหรี ยญ
ทองก็เพียงพอแล้ ว "

"ขอบคุณมาก" หลินหมิงเองก็ไม่ได้ ซาบซึ ้งอะไรซักเท่าไร จริ งๆแล้ วแค่ 100 เหรี ยญทองมันก็
ไม่ได้ มากเกินไปสําหรับเขาหรื อหออาวุธศักดิ์สิทธ์

พนักงานขายอาวุธใช้ ผ้าผูกหอกและวางมันกลับลงไปภายในกล่อง หลินหมิงแบกกล่องขึ ้นบน


หลังของเขาและบอกลาพร้ อมกับเดินกลับไปบนภูเขา

เพลาทําจากเหล็กเหนี่ยวทมิฬและหัวหอกระดับสมบัติที่ถกู สร้ างขึ ้นมาจากใยเหล็กทมิฬ นี ้เป็ น


หอกชันยอด
้ มันทําให้ หลินหมิงตื่นเต้ นอย่างมาก!

หลังจากที่เขามาถึงภูเขาซึง่ เป็ นพื ้นที่กว่างโล่ง เป็ นเพราะเขาถือหอกขนาด 820 จิ๋นเอาไว้ ใน


มือ ทําให้ พื ้นหญ้ าในแต่ละก้ าวของเขาเกิดเป็ นรอยยุบตัวลงไปบนพื ้นดิน

เขามุง่ เป้าไปที่หินก้ อนใหญ่และใช้ ฟาดลงไป เกิดเสียงดังสนัน่ 'ปั งง..' หินยักษ์ แหลกเป็ นเศษ
เสี ้ยวในทันทีด้วยหอกหนักเล่มนัน้ เพราะความยืดหยุน่ ของเพลาหอก หลินหมิงจึงไม่ได้ ร้ ูสกึ ถึง
รุนแรงสะท้ อนใดๆกลับมา นี่คือประโยชน์ของเหล็กเหนี่ยวทมิฬ สําหรับด้ ามเพลา เหล็กทมิฬ
บริ สทุ ธิ์จะสัน่ สะเทือน ทําให้ นิ ้วหัวแม่มือและนิ ้วชี ้ของผู้ใช้ เกิดอาการชาขึ ้น ซึง่ จะส่งผลเสียกับ
ผู้ใช้ งาน

"เยี่ยมยอด! หอกนี่เยี่ยมยอดจริ งๆ! "


หมิงหลิงกวักแกว่งหอกไปรอบๆ เขาไม่ได้ ร้ ูเทคนิคการใช้ หอกใดๆ เขาเพียงแค่ต้องการจะใช้ มนั
ให้ เหมือนกันส่วนหนึง่ ในร่างกายของเขา เช่นเดียวกับกําปั น้ ของเขา การรํ าทวนของเขาเป็ นการ
ย่างก้ าวและกวัดแกว่งอาวุธไปรอบๆอย่างง่ายๆเพื่อทําความคุ้นเคยกับมัน หลินหมิงฝึ กฝนอยู่
เป็ นเวลากว่าสามชัว่ โมงและค่อยๆรู้สกึ ว่าแขนของเขาเริ่ มจะบวมและพละกําลังของเขาก็ตกลง
ไป

"หอกนี ้หนักจริ งๆ!"

ในเวลานันเอง
้ ด้ านหน้ าของหลินหมิง ปรากฏเปลวไฟสว่างพรวดพราดขึ ้นมา

ยันต์สื่อสาร?!

MW#066 ทรัพยาการจากสํานัก

ในตอนนี ้ ด้ านหน้ าของหลินหมิง ประกายไฟเริ่ มส่องสว่างขึ ้นเหมือนมีชีวิต และมีเสียงออกมา


“จงมาที่ ลานต่อสู้ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ เราจะมีของรางวัลมอบให้ ตามอันดับของแต่ละคน”

ของรางวัลงันเหรอ?!

ด้ วยความดีใจ หลินหมิงเก็บหอกไว้ บนหลัง แล้ ววิง่ ลงเขาไปด้ วยความเร็ วเท่าที่เขาจะทําได้ แต่


ถึงจะเร็ วที่สดุ แต่ก็ยงั ช้ ากว่าแต่ก่อนถึง 30% เพราะเขาได้ สะพายหอกที่หนักมากเอาไว้ ด้วย
แต่ก่อนเขาสามารถกระโดดข้ ามต้ นไม้ ได้ แต่ตอนนี ้เขาทําได้ แค่วิ่งบนพื ้นอย่างเดียวเท่านัน้

แต่นี ้ก็ไม่ได้ ทําให้ ลินหมิงรู้สกึ เป็ นภาระแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านัน้ มันทําให้ หลินหมิงรู้สกึ ตื่นเต้ น
มากขึ ้นด้ วย สําหรับขํา การแบกของหนักๆเช่นนี ้ก็ถือเป็ นการฝึ กอีกอย่างหนึง่

...

หลังจากผ่านไปไม่นาน หลินหมิงก็มาถึงลานต่อสู้ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ อาจารย์ฮ่องซีได้ มาถึง


ก่อนแล้ ว พร้ อมกับศิษย์จากห้ องพสุธาอีกกว่า 20 คน เมื่อเขาเห็นหลินหมิง เขาก็ได้ โยนป้าย
หยกมาให้ หลินหมิง

“รายละเอียดอยูข่ ้ างในนัน้ จงดูเอาเอง”

“ขอรับ ท่านอาจารย์” หลินหมิงใส่พลังเข้ าไปในป้ายหยก ภายในบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับแผนที่


ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ แต่สถานที่ที่จะให้ ไปรับของรางวัลนันกลั
้ บอยูน่ อกสํานักเจ็ดแก่นแท้

ภายในป้ายหยกนันมี ้ อาคมที่ระบุถงึ สถานที่ตา่ งๆ คือ หอทหารทองคํา ตรอกหุน่ กระบอกไม้ ถํ ้า


ลาวา เนินศิลา นํ ้าตกเยือกแข็ง อุโมงวายุ และ หุบเขาฟ้าคําราม สถานที่ทงเจ็
ั ้ ดนี ้คือตัวแทนจาก
ธาตุทงเจ็
ั ้ ดก็คือ โลหะ ไม้ ไฟ ธรณี นํ ้า วายุ และสายฟ้า
สถานที่ทงเจ็
ั ้ ดนี ้ถูกเปิ ดให้ ใช้ งานอยูต่ ลอดเวลา และมันก็ใช้ พลังปราณมหาศาลด้ วย

ถึงแม้ วา่ มันจะถูกเปิ ดอยูต่ ลอดเวลา แต่มนั ก็สามารถให้ คน เพียงแค่ 12 คนเข้ าไปฝึ กได้ ในแต่
ละครัง้ เท่านัน้ ซึง่ สํานักเจ็ดแก่นแท้ มีศิษย์มากเกินไป คงเป็ นไปไม่ได้ ที่จะให้ ศิษย์ทกุ ๆคน
สามารถเข้ าไปใช้ สถานที่เหล่านี ้ได้ หนทางแก้ ไขปั ญหาเหล่านี ้ก็คือให้ ศิษย์ที่มีอนั ดับต้ นๆเท่านัน้
ที่มีโอกาสได้ ใช้ งาน

และด้ วยอันดับของหลินหมิงในตอนนี ้ ทุกๆเดือนเขาสามารถเข้ าไปฝึ กได้ เพียง 3 วันเท่านัน้

และในการฝึ กนี ้ หลินหมิงสามารถเลือกวิชา ขันตอนการฝึ


้ กฝนของมนุษย์ขนต้
ั ้ น และ วรยุทธ
ของนักสู้ ได้ ถึงหลินหมิงจะไม่สามารถเอาวิชาพวกนี ้ออกมาจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ แต่เขา
สามารถนํามันกลับมาฝึ กต่อที่ที่พกั ของตนได้

“ทักษะการต่อสู้ และ ขันตอนการฝึ้ กฝน ทังยั้ งอาคมที่ช่วยเร่งการฝึ กฝนจากสถานที่เหล่านันอี


้ ก
สิ่งเหล่านี ้ลํ ้าค่าอย่างยิ่ง ทักษะการต่อสู้สามารถเพิ่มพลังการต่อสู้และความหลากหลายในการ
ต่อสู้ได้ ส่วนขันตอนการฝึ
้ กฝนก็เป็ นถึงพื ้นฐานของทักษะการต่อสู้อีกที และหากได้ ฝึกฝนสิ่ง
เหล่านี ้ในสถานที่ทง7แห่
ั้ งนัน้ ผลการฝึ กคงจะรุดหน้ าไปอย่างรวดเร็ วแน่ สามสิ่งนี ้เป็ นที่ต้องการ
ของนักสูท่ กุ คน”

“นอกจาก3สิ่งนี ้แล้ ว สิง่ สําคัญที่สดุ ก็คือวรยุทธ แต่ ข้ าก็มี ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ อยู่


แล้ ว เพราะงันวรยุ
้ ทธอื่นๆมันคงไม่เป็ นจําเป็ นสําหรับข้ า สิ่งที่ข้าต้ องการที่สดุ ในตอนนี ้คือทักษะ
การต่อสู้ และสถานที่ฝึกฝน น่าเสียดายที่ข้าสามารถใช้ สถานที่เหล่านันในการฝึ
้ กได้ เพียง 3 วัน
ต่อเดือน มันยังน้ อยเกินไป ข้ าจะต้ องมีอนั ดับที่ดีกว่านี ้

หลินหมิงครุ่นคิดเล็กน้ อย จากนันก็
้ ดงึ พลังออกจากป้ายหยกหลังจากอ่านข้ อมูลเสร็ จ
ฮ่องซีพดู “ทุกๆคนก็มาถึงกันแล้ ว ทีนี ้ก็ตามข้ ามา เราจะไปที่คลังกัน”

คลังของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ถูกแบ่งออกเป็ นห้ องโถงชันในและห้


้ องโถงชันนอก
้ ศิษย์ระดับสูง
้ ่จะมีสิทธิ์เข้ าไปห้ องโถงชันในของคลั
เท่านันที ้ งได้ ส่วนห้ องโถงชันนอกนั
้ นมี
้ ไว้ สําหรับศิษย์ทกุ
ระดับ

ห้ องโถงฝั่ งในเป็ นห้ องที่บรรจุวิชาและศาสตร์ ลบั ต่างๆที่ถกู เก็บไว้ โดยเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขา


ซึง่ สิ่งของในนี ้ทุกอย่างรวมถึงป้ายหยกล้ วนไม่อนุญาตให้ นําออกไปนอกสถานที่แห่งนี ้อย่าง
เด็ดขาด

ซึง่ หลินหมิงในตอนนี ้ก็ได้ รับอนุญาติให้ เข้ าไปได้ เฉพาะโถงชันนอกเท่


้ านัน้

ถึงโถงชันนอกจะด้
้ อยกว่าโถงชันใน
้ แต่มนั ก็บรรจุอะไรหลายๆอย่างที่มีคา่ ไว้ เช่นกัน ภายในโถง
ชันนอกแห่
้ งนี ้มีป้ายหยกเป็ นจํานวนมากที่ถกู เก็บมากกว่า 600 ปี ซึง่ ศิษย์บางคนถึงกับต้ อง
ฆ่ากันเพื่อแย่งชิงป้ายหยกมาขายให้ กบั ที่แห่งนี ้ได้

แม้ จะเป็ นพัยงห้ องโถงชันนอก


้ แต่สงิ่ ของที่อยูใ่ นห้ องชันนอกนี
้ ้ก็ล้วนเป็ นของที่มีคา่ มหาศาลใน
อาณาจักรลิขิตฟ้า นอกจากศิษย์ห้องพสุธาทัง้ 20 คนนี ้แล้ ว แทบไม่มีใครเคยฝึ กวิชาเหล่านี ้มา
ก่อน เพราะงันจึ
้ งไม่แปลกที่ใครซักคนจะมาเห็นที่นี ้แล้ วตื่นเต้ นจนแทบหยุดหายใจ

หลังจากที่หลินหมิงได้ มาที่คลังแห่งนี ้ เขายื่นป้ายหยกของเขาให้ กบั ผู้คมุ ที่ดแู ลห้ องนี ้อยู่ ป้าย
หยกนี ้ไม่ใช่แค่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับที่นี ้เท่านัน้ แต่ยงั มีข้อมูลเกี่ยวกับหลินหมิงอีกด้ วย

ผู้คมุ ตรวจสอบป้ายหยกด้ วยพลังของเขา แล้ วก็สง่ คืนมาให้ กบั หลินหมิง “เจ้ าผ่านเข้ าไปได้ เจ้ า
สามารถเลือกขันตอกการฝึ
้ กฝนได้ 1 อย่างและทักษะการต่อสู้ได้ อีก 2 อย่าง เจ้ าสามารถนํา
แผ่นหยกเหล่านันกลั ้ บไปที่พกั ได้ แต่ห้ามนําออกจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ และหากมีคนต้ องการ
ยืมมันต่อเจ้ าต้ องนํามันมาคืนให้ ตรงเวลา ระยะเวลาที่สามารถยืมได้ นนก็
ั ้ ขึ ้นอยูก่ บั อันดับของ
เจ้ า”

มันเป็ นเรื่ องยากอย่างยิ่งที่จะลอกเลียนแบบแผ่นหยกพวกนี ้ซักอัน เพราะฉะนันของเลี


้ ยนแบบ
แต่ละอันจึงหายากมากๆ ขันตอนการฝึ
้ กฝนใดที่เป็ นที่นิยมมากๆ เมื่อมีคนมายืมก็จะยืมไปนาน
มาก เพื่อความเหมาะสม ระเวลาจึงขึ ้นอยูก่ บั อันดับของคนๆนัน้ ด้ วยเหตุนนั ้ คนที่มีอนั ดับตํ่าๆ
จึงเลือกวิชาที่ไม่คอ่ ยมีใครสนใจ ไม่งนเขาก็
ั้ แทบจะไม่มีโอกาสที่จะฝึ กอะไรเลย

*อ่านเข้ าใจกันหรื อป่ าว ประมาณว่าถ้ าเป็ นของที่เป็ นนิยมฝึ กกัน ก็จะมีคนมาต่อคิวรอ และเมื่อ
หมดเวลาก็ต้องเอามาคืน ซึง่ คนมีมีระดับน้ อยๆก็มีเวลายืมน้ อย ยังฝึ กไม่ทนั เสร็ จก็ต้องเอามา
คืนแล้ วอะไรแบบนี ้

“สํานักเจ็ดแก่นแท้ ใช้ พละกําลังตัดสินทุกอย่างเลยจริ งๆ อันดับคือตัวตัดสินทุกอย่างอย่างนัน้


สินะ” หลินหมิงถอนหายใจก่อนจะเดินเข้ าไปในคลัง

ในตอนนี ้มีคนหลายคนที่กําลังอ่านข้ อความในป้ายหยกอยูเ่ ต็มไปหมด ทุกๆคนจดจ่ออยูก่ บั วิชา


ที่ตนเองจะเลือกไปฝึ กฝน

“มีคนเยอะมาก...” หลินหมิงถอนหายใจเบาๆ สํานักเจ็ดแก่นแท้ นี่มีแต่พวกเก่งๆกันทังนั ้ น้ จู้ยนั


ก็เป็ นอันดับต้ นๆจากในเมืองใบหม่อนสีเขียว แต่เมื่อมาอยูท่ ี่สํานักเจ็ดแก่นแท้ แห่งนี ้ เขากลับ
เป็ นแค่อนั ดับที่ 30 เท่านัน้

ฮ่องซี กล่าวว่า “เลือกกันได้ เลย ไม่ต้องเครี ยด ยังมีเวลาอีกเยอะ คิดให้ ดีๆ พวกป้ายหยกที่ไม่มี


สัญลักษณ์ก็คือพวกวิชาพื ้นฐาน ถ้ ามีสญ ั ลักษณ์สีแดงคือขันต้
้ น สีมว่ งคือขันกลาง
้ และข้ างๆก็
บอกไว้ วา่ มีคนมาใช้ ไปเท่าไหร่แล้ ว ขอแนะนําว่าเลือกให้ เหมาะสมกับตนเอง เพราะเวลาในการ
ยืมมันขึ ้นอยูก่ บั อันดับของพวกเจ้ า หากเลือกวิชาที่ยากเกินไป เจ้ าก็จะฝึ กมันไม่สําเร็ จในเวลาที่
กําหนด”

ตามกฎของสํานักเจ็ดแก่นแท้ อนั ดับที่ 100 ถึง 200 สามารถเลือกวิชาที่มีสญ


ั ลักษณ์สีแดง
วิชาขันต้
้ นได้

ไม่ต้องพูดถึง วิชาขันต้
้ นหรื อขันกลางหรอก
้ ต่อให้ เป็ นวิชาขันสู
้ งหลินหมิงก็ไม่สนใจมันแม้ แต่
น้ อย แต่หากมันมีจริ งเขาก็อยากได้ เก็บไว้ อยูบ่ ้ าง

หลินหมิงเริ่ มค้ นหาสิ่งที่เขาสนใจ วิชาที่เป็ นที่นิยมก็จะมีชื่อของคนที่เคยฝึ กมาก่อน 4-5 คน


แต่ถ้าไม่เป็ นที่นิยมแล้ วละก็ อาจจะไม่มีคนเคยฝึ กมันมาก่อนก็ได้

หลินหมิงมองไปเรื่ อยๆและก็ต้องหยุดเมื่อเห็นชื่อ ซางฉาง

“ศิลปะไร้ เงา นี่คงเป็ นวิชาที่ ซางฉาง เลือกงันสิ


้ นะ”

หลินหมิงมองไปที่ชื่อพวกนัน้ แล้ วก็ต้องอึ ้งเมื่อเห็นถึง7ชื่อของคนที่ใช้ วิชานัน่ วิชานี ้มันเป็ นที่


นิยมอย่างมาก

หลินหมิงใส่พลังเข้ าไปในป้ายหยกนัน่ เพื่อดูรายละเอียดของวิชา

“ศิลปะไร้ เงา เป็ นวิชาที่มีการโจมตีที่ดดุ นั แต่ไร้ การป้องกัน ซึง่ พลังของผู้ฝึกต้ องมีอยูส่ งู มากๆ
ซึง่ เทียบได้ กบั ระดับสูงๆ นี่เป็ นวิชาที่โดดเด่นในบรรดาวิชาขันต้
้ นทังหมดและด้
้ อยกว่าวิชาขัน้
กลางเพียงเล็กน้ อยเท่านัน้ ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะฝึ กวิชานี ้ และผู้ที่สําเร็จวิชานี ้จริ งๆก็มี
อยูน่ ้ อยยิ่งนัก จงเลือกให้ ดี”
เมื่อได้ เห็นรายละเอียดทังหมด
้ หลินหมิงก็ยิ ้มและหัวเราะ ทุกๆคนในห้ องพสุธาล้ วนอันดับเกิน
100 ทังนั้ น้ ยิ่งเป็ นวิชาที่ฝึกยากเท่าไร พวกเก่งๆก็ยิ่งต้ องการมากขึ ้นเท่านัน้ ทังวิ
้ ชานี ้ยังเป็ น
วิชาที่โดดเด่นอย่างมากอีก ใครบ้ างล่ะจะไม่อยากได้

แต่แน่นอนว่า หลินหมิงไม่สนใจ

เขายังคงมองหาสิ่งที่เขาสนใจต่อไป และเขาก็ได้ ไปพบป้ายหนึง่ ในมุมของชันนั


้ น้

“ศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธหอก งันเหรอ”

MW#067 วิชาไร้ อนั ดับ

“หืม..” มีวิชาที่เกี่ยวกับหอกด้ วยงันรึ


้ อย่างหวังยานเฟิ งที่ใช้ วรยุทธ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ ก็คงเป็ น
วิชาเกี่ยวกับดาบสินะ บางวิชาก็จะเน้ นไปที่อาวุธประเภทใดประเภทหนึง่

หลินหมิงเอื ้อมมือไปหยิบป้ายหยกที่เขียนไว้ วา่ “ทักษะการใช้ หอก” ถึงแม้ วา่ มันจะดูไม่เหมือน


วิชาระดับสูงๆซักเท่าไร แต่หลินหมิงก็ไม่สนใจ เขาใส่พลังเข้ าไปในป้ายหยกเพื่อดูรายละเอียด
ของมัน
“ทักษะการใช้ หอกวิชานี ้ เป็ นพื ้นฐานของการใช้ หอกทุกประเภท มันสอนเกี่ยวกับการพุง่ แทง
การกวาด การร่ายรํ า และอื่นๆที่เป็ นหัวใจของการใช้ หอก แต่ไม่ได้ บรรจุวิชาพิเศษเอาไว้ นี่เพียง
เป็ นขันตอนการฝึ
้ ้ น”
กฝนขันต้

้ า’ ของหวังยานเฟิ ง ในตอนที่ส้ กู นั หวังยาน


เมื่อได้ เห็นดังนี ้ หลินหมิงก็นกึ ถึง วิชา‘สัจธรรมทังเก้
เฟิ งใช้ วิชานันและพลั
้ งของเขาก็เปลีย่ นเป็ น อักขระสีเขียวบนดาบนัน้ ถ้ าจะเทียบกับวิชาหอกนี ้
กับวิชานันแล้
้ ว วิชานี ้ดูพื ้นๆไปเลย มันมีแต่ทา่ พื ้นฐานสมกับที่เป็ นขันตอนการฝึ
้ กฝนขันต้ ้ นจริ งๆ

แต่หลินหมิงไม่ได้ คิดอย่างนัน้ ยิ่งวิชายากเท่าไหร่ ก็ยิ่งฝึ กได้ ยากและไม่สมบูรณ์เท่านัน้ และยัง


ต้ องใช้ พลังงานมากในการจะฝึ กมัน ในตอนนี ้การฝึ กพวกวิชาพื ้นฐานถือเป็ นสิ่งสําคัญเช่นกัน

ถ้ าหากเขาสามารถฝึ กวิชาพื ้นฐานนี ้ให้ ชํานาญ เขาจะสามารถดึงพลังของหอกออกมาได้ ถงึ ขีด


สุด

“ข้ าเลือกวิชานี ้” หลินหมิงตัดสินใจ เขามองไปยังรายชื่อของผู้ที่เคยใช้ วิชานี ้ และก็พบกับ


ความว่างเปล่า ไม่มีใครสนใจที่จะฝึ กมันเลย

“ก็ดีที่ไม่มีใครใช้ งันก็
้ ไม่จําเป็ นต้ องรีบนํามาคืนสินะ”

หลังจากเลือกวิชาหอกนี ้ หลินหมิงก็เริ่มมองหาวิชาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวต่อ

เขามองไปยังชันบนๆ
้ " ‘ก้ าวพริ บตา’ , ‘บันไดผ่านสวรรค์’ , ‘เชือกแขวนเมฆ’ , ‘เจ็ดดารา
เหาะเหิน', ‘ตัวเบาดัง่ ขนหงส์ " และอืน่ อีก มีแต่วิชาที่ซบั ซ้ อนและมีชื่ออลังกาลน่าสนใจ
มากมาย

เช่น ‘ตัวเบาดัง่ ขนหงส์’ ว่ากันว่าผู้คนที่ฝึกวิชานี ้จนชํานาญแล้ ว จะสามารถโบยบินบนท้ องนภา


ได้

และ ‘เจ็ดดาราเหาะเหิน’ ผู้ใดที่ฝึกจนสําเร็ จจะสามารถเดินได้ ไกลถึงเจ็ดก้ าวด้ วยการย่างก้ าว


เพียงครัง้ เดียว ไม่มีใครบอกได้ วา่ เริ่ มขึ ้นหรื อจบลงเมื่อไร เพราะผู้ที่ฝึกวิชาได้ สําเร็ จจะมี
ความเร็ วมากกว่าปกติหลานเท่า

ถึงยังไง หลินหมิงก็ยงั ส่ายหัวไม่สนใจวิชาเหล่านี ้ เขาเดินไปเรื่อยๆจนเห็นวิชาชื่อ “พื ้นฐานการ


เคลื่อนไหว”

ความคิดของหลินหมิงนันง่ ้ ายมาก การฝึ กพวกวิชาขันตอนการฝึ


้ กฝนขันต้
้ น นันการจะฝึ
้ กต้ อง
เริ่ มตังแต่
้ ศนู ย์ ถึงมันจะมีชื่อที่ฟังดูเท่ก็ตาม แต่มนั ก็ส้ กู ารฝึ กพวกวิชาพื ้นฐานแล้ วไปปรับใช้ ตอ่
ในแบบของตัวเองไม่ได้

เขาได้ เลือกวิชาการเคลื่อนไหวแล้ ว ทีนี ้ก็เหลือแต่ทกั ษะการต่อสู้ ที่จริ งแล้ วมันก็ไม่ตา่ งอะไรกับ


ทักษะการเคลื่อนไหว ถ้ าหากฝึ กฝนวิชาใหม่ที่เหนือกว่าได้ สําเร็ จ มันก็จะมาแทนวิชาเก่าๆที่
อ่อนแอกว่า แต่ตอนนี ้หลินหมิงขาดทักษะในการโจมตี เขาต้ องการสิ่งที่จะสามารถผสมผสาน
กับท่าหอกของเขาได้

หลินหมิงยังอยากได้ อะไรอีกมากเลย แต่เขาไม่ต้องการอะไรที่เท่หรื อสวยหรู เขาต้ องบางอย่างที่


สามารถปรับใช้ ได้ กบั ทุกๆสถานการณ์ อะไรที่ไม่ออ่ นจนเกินไป และอะไรที่สามารถใช้ ร่วมกับ
หอกได้

หลินหมิงมองหาทุกๆตําราก็ยงั ไม่เจอสิ่งที่เขาต้ องการเสียที

แต่ก็ไม่ได้ น่าแปลกซักเท่าไร ก็คลังชันนอกมั


้ นคือศูนย์รวมของขยะไม่ใช้ แล้ วของเจ็ดปรมจารย์
แห่งขุนเขานี่ แล้ วมันยังจะเหลืออะไรดีๆอยูอ่ กี งันหรื
้ อ
ขณะที่เขากําลังรู้สกึ ผิดหวัง หลินหมิงก็ได้ หยุดชะงักลง

“หืม ทําไมมีป้ายหยกหักอยูน่ ี่ด้วยล่ะ” หลินหมิงได้ พบชันๆหนึ


้ ง่ ที่เต็มไปด้ วยป้ายหักๆเต็มไป
หมด

“มันเป็ นขันตอนการฝึ
้ กฝนและทักษะต่อสู้ด้วยหรื อเปล่า?” หลินหมิงสุม่ หยิบแผ่นหยกหักๆ
ขึ ้นมาอันหนึง่ และใส่พลังเข้ าไปข้ างใน “ทักษะการต่อสู้ขนสู
ั ้ ง ไม่ทราบรายระเอียด ส่วนที่ขาด
หายไป 90%”

เมื่อป้ายหยกหัก ข้ อมูลที่อยูภ่ ายในก็จะสูญเสียไปด้ วย ไม่มรใครสนใจหรอกว่ามันจะเป็ นวิชาที่


ยอดเยี่ยมขนาดไหน แต่เมื่อมีสว่ นที่ขาดหายไปถึง 90% ใครจะไปฝึ กได้ สําเร็ จกัน

หลินหมิงยังคงค้ นหาต่อไป และก็พบว่าป้ายหยกที่หกั ส่วนใหญ่จะเป็ นวิชาระดับสูงทังนั


้ น้
นอกจากนันก็
้ เป็ นวิชาระดับตํ่าที่ไม่สมบูรณ์

วิชาเหล่านี ้ ถ้ าเทียบกับ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ซึง่ มาจากดินแดนพระเจ้ าแล้ ว มันคงจะ


ต่างกันเหมือนฟ้ากับดิน ทังมั
้ นยังไม่สมบูรณ์อีก มันไม่มีความน่าสนใจเหลืออยูเ่ ลย

“ถึงวิชาพวกนี ้จะเป็ นระดับสูงก็เถอะ แต่ใครหลายๆคนก็ไม่สนใจมัน เป็ นมันไม่สมบูรณ์ทําให้ มี


โอกาสฝึ กสําเร็จน้ อย และข้ าก็มี ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ อยูแ่ ล้ วด้ วย ข้ าไม่สนใจวิชาพวก
นี ้หรอก”

หลินหมิงไม่ได้ สนใจวิชาพวกนี ้มากนัก แต่ก่อนที่เขาจะละสายตาจากไป เขาก็เห็นป้ายหยกที่


เขียนไว้ วา่ “หมัดสลายกระดูก” วิชานี ้เป็ นวิชาที่ไม่สมบูรณ์ จึงไม่มีการจัดระดับให้ มนั
“วิชาหมัดสลายกระดูก” เป็ นชื่อที่ดเู ถื่อนๆ เมื่อเทียบกับชื่อของวิชาอื่นๆ แต่หลินหมิงรู้ดีวา่ ชื่อ
ของมันนันมาจากผู
้ ้ ที่สร้ างมันขึ ้น บางวิชามันก็ไม่คอ่ ยจะแข็งแกร่งผู้ที่สร้ างมันขึ ้นมาก็ต้องตังชื
้ ่อ
ให้ ดเู ท่ๆหรูๆเพื่อจะให้ มีคนเอาไปฝึ ก

แต่ถงึ อย่างงัน้ หลินหมิงก็ไม่ได้ สนใจที่ชื่อของมัน แต่เพราะการโจมตีของมันเป็ นการโจมตี


โดยตรงเข้ าที่ร่างกายศัตรูได้ ป้ายอธิบายไว้ วา่ “ภายนอกจะไร้ ซงึ่ บาดแผล แต่ภายในจะถูก
ทําลายย่อยยับ จึงเป็ นที่มาของชื่อ หมัดสลายกระดูก”

ภายนอกไม่เป็ นอะไร แต่ภายในยับเยินงันรึ


หลินหมิงก็นกึ ถึง แก่นของ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ที่ฝึกความ 'ไหลลื่นดุจแพรไหม’

การฝึ กพละกําลัง 'ไหลลืน่ ดุจแพรไหม’ ของหลินหมิงนันยั


้ งไม่สมบูรณ์ เพราะงันหลิ
้ นหมิงจึงยัง
ไม่สําเร็ จวิชานี ้จริ งๆ

“เจ้ าหมัดสลายกระดูกนี่คล้ ายๆกับ 'ไหลลื่นดุจแพรไหม’ เลย บางทีมนั อาจจะมีอะไรเกี่ยวข้ อง


อะไรกันอยูก่ ็ได้ ”

หลินหมิงได้ อา่ นรายละเอียดของมัน ถึงมันจะมีสว่ นที่ยงั ขาดหายไปบางส่วน แต่สว่ นที่เหลือก็


ยังพอจะใช้ ฝึกฝนได้ อยู่

“รวมพลังปราณไปที่หมัดพร้ อมกันการสัน่ สะเทือน ถ้ าหากความถี่ในการสัน่ สะเทือนมีความ


มัน่ คงแล้ ว จะเกิดคลื่นพลังสะท้ อนที่สง่ ตรงเข้ าไปภายในร่างของศัตรู และทําลายร่างกายของ
ศัตรูเหล่านันจากภายใน
้ อย่างนี ้นี่เอง ผู้ที่คิดค้ นวิชานี ้ขึ ้นมาจะต้ องมีความเข้ าใจเกี่ยวกับพลัง
ปราณเป็ นอย่างลึกซึ ้ง”
“แม้ วา่ วิชาจากดินแดนพระเจ้ าจะไร้ จดุ บอดและทรงพลังมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าคน
ที่โลกนี ้จะคิดตามไม่ได้ ซะทีเดียว เวลาก็ผ่านมานานนับหลายพันปี แล้ ว จะมีเหล่าอัจฉริ ยะที่
สามารถคิดค้ นวิชาที่ใกล้ เคียงกับวิชาจากดินแดนพระเจ้ าได้ บ้างก็ไม่แปลก เมื่อคิดได้ เช่นนัน้
แล้ ว การเลือกวิชาทังสามของหลิ
้ นหมิงก็เป็ นอันเสร็ จสมบูรณ์”

บทที่ 68 การคัดสรรที่ยอดเยี่ยมของหลินหมิง

...

...

...

หลินหมิงตัดสินใตเลือกป้ายหยกวิชาทังสาม
้ 'ศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธหอก ', 'พื ้นฐานการ
เคลื่อนไหว' และ 'วิชาหมัดสลายกระดูก’ ในการลงทะเบียนยืมจากผู้คมุ อาวุโส มีศิษย์คนอื่นๆ
กําลังต่อแถวรออยูม่ ากมาย ทังวั
้ งยานเฟิ ง และคนอื่นๆก็ยงั ต่อแถวรออยู่ ฮ่องซีก็ยืนอยูใ่ นกลุม่
พวกเขาเพื่อให้ คําแนะนําสําหรับขันตอนการฝึ
้ กฝนและทักษะการต่อสู้ที่ศิษย์แต่ละคนได้ เลือก
มา

ในฐานะที่เป็ นอาจารย์ผ้ สู อนศิษย์ใหม่ในห้ องพสุธา ฮ่องซีเพียงต้ องรับผิดชอบเรื่ องการฝึ กสอน


ทัว่ ๆไปเท่านัน้ ไม่มีความจําเป็ นมาดูแลการเลือกขันตอนการฝึ
้ กฝนหรื อทักษะการต่อสู้ของศิษย์
ให้ เหนื่อยแต่อย่างใด แต่นี ้คือสิ่งที่สําคัญอย่างยิ่งสําหรับศิษย์ทกุ คน ดังนันฮ่
้ องซีจงึ ยอมสละ
เวลามาให้ คําแนะนําในการเลือกขันตอนการฝึ้ กฝนของศิษย์แต่ละคน ทําให้ ศิษยืแต่ละคนได้ สิ่ง
ที่เหมาะสมกับพวกเขามากที่สดุ

"หวังยานเฟิ ง เจ้ าได้ ตดั สินใจที่จะเลือกแผ่นหยกทังสามนี


้ ้แล้ วใช่หรื อไม่?" ผู้อาวุโสหล่าวถาม
เพื่อยืนยัน

"แน่นอนขอรับ" หวังยานเฟิ งยืนยัน

"เจ้ าเลือก 'เจ้ าแห่งพลังหยาง', 'ตัวเบาดัง่ ขนหงส์' และ 'จู่โจมฟ้าคําราม' วิชาทังสามนี


้ ้เป็ น
เรื่ องยากมากที่จะฝึ กฝนให้ สําเร็จ โดยเฉพาะ 'ตัวเบาดัง่ ขนหงส์' มันเป็ นวิชาที่ต้องมีความ
เชี่ยวชาญในการใช้ พลังปราณเป็ นอย่างมาก เจ้ าแน่ใจแล้ วรึที่จะเลือกวิชาเหล่านี ้? "

"ท่านผู้อาวุโส ข้ าเข้ าใจถึงความยากลําบากในการฝึ กฝนวิชาเหล่านี ้เป็ นอย่างดี" หวังยานเฟิ งมี


แผนของตัวเอง แม้ ตระกูลของเขามีเทคนิคการเคลื่อนไหว 'เจ็ดก้ าวแห่งความหวัง' แต่อย่างไรก็
ตาม 'เจ็ดก้ าวแห่งความหวัง' ก็ยงั ด้ อยกว่า 'ตัวเบาดุจขนหงส์' อยูด่ ี

แต่เขาก็ไม่ได้ คิดจะละทิ ้ง'เจ็ดก้ าวแห่งความหวัง' 'เจ็ดก้ าวแห่งความหวัง'นันเป็


้ นทักษะการ
้ านัน้ แต่ 'ตัวเบาดัง่ ขนหงส์' นันใช้
ต่อสู้ที่ใช้ เคลือ่ นย้ ายในระยะสันๆเท่ ้ ในการเคลื่อนที่ระยะไกล
แม้ ทงสองทั
ั้ กษะนี ้มีจดุ อ่อนของพวกมันอยู่ และทังสองทั
้ กษะนี ้ก็จะอุดจุดอ่อนซึง่ กันและกัน
การที่เขาเลือก'ตัวเบาดัง่ ขนหงส์' มันเหมาะสมที่สดุ แล้ วในความคิดของเขา

สําหรับ 'เจ้ าแห่งพลังหยาง' ความยากของมันไม่ได้ สงู เท่าไร มันเป็ นวิชาขันต้


้ นอย่างหนึง่ หาก
เขามีอนั ดับที่สงู กว่านี ้และสามารถเลือกวิชาขันกลางได้
้ และก็คงจะไปเลือกวิชาที่ทรงพลังกว่า
มาแทน อย่างเช่น 'ศิลปะไร้ เงา'

"ก็ตามใจเจ้ า" ดูเหมือนผู้อาวุโสจะไม่คอ่ ยเต็มใจ เขาส่ายหัวพร้ อมกับลงทะเบียนแผ่นหยกให้


หวังยานเฟิ ง เหล่าอัจฉริยะหนุ่มสาวทุกคนมีแรงบันดาลใจและความมัน่ ใจที่สงู ส่ง พวกเขา
มักจะเลือกขันตอนการฝึ
้ กฝนและทักษะการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่จะหาได้ แต่
สําหรับทักษะการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพสูงดังกล่าวมันไม่ใช้ เรื่ องง่ายๆเลยที่จะฝึ กได้ สําเร็ จ

แต่มนั เป็ นเรื่ องยากมากที่จะบอกให้ เหล่าศิษย์ได้ เข้ าใจถึงเรื่ องนี ้ เหล่าศิษย์อจั ฉริ ยะอย่างพวก
เขายังไม่เคยคํานึงถึงความยากลําบากในการฝึ กฝนทักษะการต่อสู้ หรื อในอีกแง่หนึง่ พวกเขา
อาจต้ องการที่จะใช้ ความยากลําบากในการฝึ กฝนเป็ นตัวพิสจู น์ความสามารถที่แท้ จริ งของพวก
เขา

หลังจากหวังยานเฟิ ง ก็เป็ นหวางหมางกับหลี่ไท้ ทังสองคนนี


้ ้ก็มีอนั ดับที่โดดเด่น พวกเขาเองก็
เลือกทักษะการต่อสู้ ในทํานองเดียวกันกับหวังยานเฟิ ง ทักษะที่ไม่ได้ ฝึกกันได้ งา่ ยๆ

"เจ้ าแน่ใจที่จะเลือกแผ่นหยกทังสามนี
้ ้แล้ วใช่หรื อไม่?"

"ข้ าได้ ตดั สินใจแล้ ว"

"เรี ยบร้ อยแล้ ว คนต่อไป...? หลินหมิง? "

หลินหมิงวางแผ่นหยกทังสามลงบนเคาน์
้ เตอร์ ทังหวั
้ งยานเฟิ ง หวางหมาง หลี่ไท้ ทังสามเต็
้ มไป
ด้ วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะความแข็งแกร่งของหลินหมิงทําให้ พวกเขาอยากรู้วา่ หลินห
มิงจะเรื่ องขันตอนการฝึ
้ กฝนและทักษะการต่อสู้แบบไหน

หวังยานเฟิ งจ้ องไปที่แผ่นหยกทังสามบนเคาน์


้ ้ นหมิง อันดับของเขาคือ 126 เขา
เตอร์ "นันหลิ
อาจเลือก 'ศิลปะไร้ เงา' หรื ออาจจะเป็ น 'การดูดซับหยางทังเก้
้ า' หรื อขันตอนการฝึ
้ กฝน
ระดับสูงอื่นๆ ความแข็งแกร่งของมันเหนือกว่าข้ า ถ้ ามันได้ ขนตอนการฝึ
ั้ กฝนที่สดุ ยอดไป ข้ าคง
จะเป็ นได้ เพียงแค่เงาของมันไปชีวิตแน่ "
เพราะชีวิตของเขานันล้
้ มเหลวไปตังแต่
้ ได้ รับความพ้ ายแพ้ ครัง้ นัน้ ในความคิดของเขาหลินหมิ
งคือสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่มีพลังเหนือกว่าพรสวรรค์ที่มี และเป็ นคูต่ อ่ สู้ที่แข็งแกร่งที่สดุ ที่
เขาเคยต่อสู้ด้วยสําหรับคนที่มีอายุเท่ากัน

แม้ วา่ หวังยานเฟิ งจะเข้ าใจความแข็งแกร่งของหลินหมิงเป็ นอย่างดีและรู้วา่ เขาต้ องเลือกวิชาที่


ทรงพลังไปฝึ กฝน แต่คําพูดต่อไปของผู้อาวุโสกลับทําให้ เขาตะลึง

"สิ.. ศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธหอก พื ้นฐานการเคลื่อนไหว และ วิชาหมัดสลายกระดูกที่ไม่


สมบูรณ์... เจ้ าจะเลือกแผ่นหยกทังสามนี
้ ้ ?"
้อย่างนันรึ

วิชาทังสามนั
้ ้ อสิ่งที่หลินหมิงเลือก? 'หมัดสลายกระดูก' ?! หวังยานเฟิ งไม่เคยได้ ยินแม้ แต่
นคื
ชื่อของมัน ส่วน งศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธหอก’ และ ‘พื ้นฐานการเคลื่อนไหว’ หวังหยานเฟิ ง
ไม่คิดจะมองพวกมันด้ วยซํ ้า ทังสองเป็
้ นขันตอนการฝึ
้ กฝนพื ้นฐานและพื ้นฐานการเคลือ่ นไหวที่
ง่ายแสนง่าย ทําไมหลินหมิงถึงได้ เลือกวิชาเหล่านี ้

เขายีงมีความเชื่อมัน่ ในตัวเองอยูห่ รื อไม่? เขาไม่ได้ มีความมัน่ ใจในความสามารถของตัวเอง


้ อ?
เลยอย่างนันหรื

แม้ แต่ผ้ อู าวุโสก็ไม่เข้ าใจการเลือกของหลินหมิง เขาเป็ นคนเดียวที่เลือกวิชาพื ้นฐานเหล่านี ้ ใน


ทุกปี ที่ผ่านมาที่ผ้ อู าวุโสได้ ดแู ลอยูท่ ี่นี่ เหล่าสาวกต่างเลือกขันตอนการฝึ
้ กฝนที่ทรงพลังและ
ฝึ กฝนได้ ยาก แต่นี ้เป็ นครัง้ แรกที่เขาได้ เห็นเป็ นศิษย์หน้ าใหม่เลือกวิชาที่งา่ ยแสนง่าย เหมือนกับ
กลัวว่าจะฝึ กไม่สําเร็จ

และสําหรับ 'หมัดสลายกระดูก'มันก็ไม่สมบูรณ์ หลินหมิงรู้ถงึ ความไม่สมบูรณ์ของมันหรื อไม่?


เขาคิดอย่างไรถึงได้ เลือกวิชาเช่นนี ้?

ฮ่องซีเองก็กําลังยืนอยูข่ ้ างๆ และเขาก็ยงั ไม่เข้ าใจสาเหตุที่หลินหมิงเลือกวิชาแบบนัน้ เขามาที่นี่


ในวันนี ้เพื่อช่วยเหลือและให้ คําแนะนําศิษย์ใหม่เพื่อให้ ได้ เลือกขันตอนการฝึ
้ กฝนได้ อย่าง
เหมาะสม เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าที่เลือกได้ แย่ที่สดุ จะเป็ นหลินหมิง เขากล่าวเตือน "หลินหมิง
้ อ?"
เจ้ าแน่ใจแล้ วอย่างนันหรื

หลินหมิงพยักหน้ าและกล่าวว่า "ข้ าพิจารณาแล้ ว ข้ าต้ องการสร้ างรากฐานที่มนั่ คงดังนันข้


้ าจึง
เลือก ‘ศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธหอก’ และ ‘พื ้นฐานการเคลื่อนไหว’ "

ฮ่องซีกล่าว "ก็ดีมนั ไม่ผิดที่เจ้ าจะต้ องการที่จะสร้ างรากฐานที่มนั่ คง แต่ 'หมัดสลายกระดูก' นัน้


เสียหายไปกว่า70% เจ้ าจะฝึ กมันได้ อย่างไร เจ้ าต้ องการที่จะกลับไปเปลีย่ นใหม่หรื อไม่?”

หลินหมิงตอบ"ข้ าอยากจะนัง่ ทําสมาธิและพิจารณาไตร่ตรองมัน ฝึ กฝนไม่สําเร็ จไม่ใช่ปัญหา ข้ า


เพียงต้ องการความท้ าทายบางอย่าง"

ความท้ าทายบางอย่าง?!

ฮ่องซีขมวดคิ ้ว หลินหมิงเป็ นเด็กอายุ15ปี ที่มีฝึกฝนเพียงขันที


้ ่2 และเขาต้ องการ 'ความท้ า
ู หายไปกว่า70% เขาจะทําได้ อย่างไร เขามีเพียงแค่ความ
ทาย' ด้ วยเนื ้อหาสาระที่สญ
ทะเยอทะยานแต่ไร้ ซงึ่ ความเป็ นไปได้ ที่จะสําเร็ จ

"หลินหมิง เจ้ าอย่างได้ คิดเรื่ องโชคชะตาฟ้าลิขิตแม้ อจั ฉริ ยะที่มีพรสวรรค์สงู ลํ ้าก็ไม่อาจฝึ กฝน
'หมัดสลายกระดูก’ เจ้ ายังมีโอกาสที่จะได้ เลือกทักษะต่อสู้ที่ทรงคุณค่ากว่านี ้ หากเจ้ ายังยืนยัน
ที่จะเลือกสิ่งนี ้เจ้ าจะเสียโอกาสที่มีคา่ นัน่ ไป น่าเสียดายอย่างมาก!
หลินหมิงยิ ้มและกล่าวว่า "ขอบคุณท่านอาจารย์ฮ่องซี ข้ าได้ พิจารณาเกี่ยวกับเรื่ องนี ้แล้ ว และ
ข้ าก็มนั่ ใจในการตัดสินใจของข้ า"

"งันก็
้ ทําตามที่เจ้ าต้ องการ" ฮ่องซีสา่ ยหัว อัจฉริ ยะเหล่านี ้ปากแข็งเกินไป พวกเขาจะไม่เปลี่ยน
จนกว่าพวกเขาได้ พบกับความผิดหวัง ดังนันเขาจะต้
้ องปล่อยให้ ศิษย์เช่นนี ้ได้ ผิดหวังเสียบ้ าง
ไม่เจ็บก็คงไม่จํา

เมื่อเป็ นเช่นนัน้ หลินหมิงจึงได้ เลือกขันตอนการฝึ


้ กฝนและทักษะการต่อสู้เป็ นที่เรี ยบร้ อยแล้ ว
ชื่อของเขาถูกเขียนในบันทึกแผ่นหยก และจากนันเขาได้ ้ รับกุญแจทังสาม
้ กุญแจทังสามมี

ลักษณะเป็ นหินก้ อนเล็กๆสีเทา และที่ด้านบนของแต่ละก้ อนมีเครื่ องหมายสีแดง

เมื่อศิษย์ใหม่มาเลือกขันตอนการฝึ
้ กฝนจากแผ่นหยกที่ถกู ปิ ดผนึกเนื ้อหาเอาไว้ อยู่ หากไม่มีหิน
กุญแจเหล่านี ้ ไม่วา่ งจะด้ วยวิธีไหน พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นเนื ้อหาภายในได้

MW#069 ฝึ กฝน ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’

ภายใต้ ความเงียบสงบ ณ พื ้นที่กว้ างใหญ่ด้านหลังภูเขา หลินหมิงได้ นงั่ บนแท่นหินอ่อน เขา


กําลังทําสมาธิอย่างสงบ ขณะที่ใบไม้ จากฤดูใบไม้ ร่วง ค่อยๆร่วงโรยลงสูผ่ ืนดิน ในเช้ าวันนี ้
หลินหมิงตืน่ ขึ ้นมาก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ ้นเสียอีก

หลินหมิงวางป้ายหยก “หมัดสลายกระดูก” ไว้ บนแท่นหิน มันเป็ นวิชาที่ไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก


ถึงแม้ วา่ หลินหมิงจะมี ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เป็ นแนวทางหลักอยูแ่ ล้ วก็ตาม แต่เขาก็
ยังคงต้ องการอะไรบางอย่างที่สามารถนํามาผสานเพื่อเสริ มพลังของมัน

พรสววรณ์พลังวิญญาณของหลินหมิงอยูใ่ นระดับสี่ ซึง่ คนทัว่ ไปส่วนใหญ่จะตํ่ากว่านี ้ จะบอกได้


ว่าระดับพรสวรรค์พลังวิญญาณของหลินหมิงในตอนนี ้นันเป็
้ นอันดับต้ นๆในอาณาจักรลิขิตฟ้า
เลยก็วา่ ได้

หลินหมิงทําสมาธิและกําจัดความคิดไร้ ประโยชน์ออกไป ตอนนี ้เขาตังใจที


้ ่จะใช้ เวลาทังวั
้ นใน
การเข้ าใจถึงแก่นของวิชา “หมัดสลายกระดูก”

เขาใส่พลังปราณเข้ าไปในป้ายหยก และก็ได้ เห็นถึงรายละเอียดที่ยงั ไม่สมบูรณ์ของมัน

“ข้ อมูลของหมัดสลายกระดูก สูญหายไปถึง 70% ถ้ าหายไปซักครึ่งหนึง่ ก็ยงั พอจะสามารถ


้ ช่วงแรก ทําให้ ยิ่งยากต่อการฝึ กเข้ าไปอีก”
เรี ยนรู้อะไรได้ บ้าง แต่นี ้มันหายไปตังแต่

“ไม่แปลกใจเลยที่วชิ านี ้เป็ นวิชาที่ถกู ทอดทิ ้ง และไม่มีใครสนใจมัน ถึงภาพรวมของมันจะ


ดูงา่ ยๆ แต่คาํ แนะนําของผู้สร้ างก็ยงั หายไปด้ วยนี่สิ”

อย่างไรก็ตาม ความทรงจําจากเศษเสี ้ยวแห่งความทรงจําในดินแดนพระเจ้ าของหลินหมิง ก็


อธิบายรายละเอียดของ ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’ ไว้ ไม่หมดเหมือนกัน

(ยังจําตอนที่หลินหมิงเริ่มฝึ ก ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’ ได้ ไหม หากฝึ กสําเร็ จจะสามารถต่อยต้ นไม้


เหล็กให้ ภายในแตกละเอียดแต่ภายนอกยังสมบูรณ์ เป็ นวิชาคล้ ายๆกับ ‘หมัดสลายกระดูก’ ที่
ต่อร่างกายและภายนอกไม่เป็ นอะไรแต่ภายในได้ รับความเสียหายรุนแรง)

หลินหมิงเริ่ มที่จะรวมทังสองวิ
้ ชานันเข้
้ าไว้ ด้วยกัน เขาเริ่ มรู้สกึ เหนื่อยขณะที่เขาพยายามแกะ
รอยจุดเริ่ มต้ นของวิชา ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’

“หายใจเข้ าลึกๆ..” หลินหมิงบ่นพึมพํา “ต้ องเริ่ มจากการหายใจลึกๆก่อน”

ในเศษเสี ้ยวแห่งความทรงจํา เขารู้มาว่าในร่างกายของเขาประกอบไปด้ วยสิ่งเล็กๆหลายล้ าน


รวมกันอยู่ ไม่วา่ จะเป็ นกระดูก กล้ ามเนื ้อ หรื อเลือดก็ตาม มันถูกสร้ างขึ ้นจากสิ่งเล็กๆนี ้หมด
และขนาดมันก็เล็กกว่าฝุ่ นผงเสียอีก

ซึง่ แต่ละตัวของมันมีชีวิต และมันก็หายใจได้

ซึง่ สําหรับคนปกติ พวกสิ่งเล็กๆเหล่านันจะหายใจแบบกระจั


้ ดกระจายกัน แต่ถ้าสําเร็ จวิชา‘ลื่น
ไหลดุจแพรไหม’ แล้ ว เราจะสามารถควบคุมการหายใจของพวกมันได้ และทําให้ เกิดการ
สะท้ อนของคลื่นพลังปราณ

นี่เป็ นจุดเริ่ มต้ นของวิชา ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’ และก็เป็ นจุดเริ่มต้ นของการสร้ างพลังการ


สัน่ สะเทือนอีกด้ วย

ตอนนี ้หลินหมิงเริ่ มเข้ าใจแล้ ว

เป็ นไปได้ ไหมที่ผ้ สู ร้ างวิชานี ้ขึ ้นมาจะรู้เกี่ยวกับการมีอยูข่ องสิ่งเล็กๆพวกนี ้ด้ วย บางทีวิชานี ้


อาจจะเป็ นวิชาระดับสูงมากก็เป็ นได้

“การควบคุมการหายใจของสิ่งเล็กๆเหล่านันไม่
้ ใช่เรื่ องง่ายๆเลย แถมต้ องควบคุมให้ คล่องจน
มันเป็ นหนึง่ เดียวกันอีก”

หลินหมิงนัง่ ขัดสมาธิและเริ่ มโคจรพลังปราณในร่างกาย เขาจะต้ องปรับการหายใจของเขาให้


เข้ ากับสิ่งเล็กๆพวกนันให้
้ ได้

หนึง่ ...สอง...หลินหมิงรู้สกึ ได้ วา่ ลมหายใจของเขานันยาวขึ


้ ้นและยาวขึ ้น เขารู้สกึ เหมือนสติของ
เขาจะหลุดลอยออกไป ร่างกายของเขารู้สกึ ถึงความว่างเปล่า เจ้ าสิ่งเล็กๆพวกนันเริ ้ ่ มจะ
เคลื่อนไหวตามร่างของเขาขณะที่เกิดการสัน่ สะเทือนเล็กๆขึ ้นมา

หลินหมิงนัง่ ทําสมาธิอยูอ่ ย่างนัน...ทั


้ งวั ้ น

ใบไม้ ตกลงมาที่ไหล่ของเขา หัวของเขา และ แขนของเขา แต่หลินหมิงก็ยงั คงไร้ การเคลื่อนไหว


จนกว่าอาทิตย์จะลับขอบฟ้า จากนันหลิ
้ นหมิงก็เปิ ดตาขึ ้นมาอย่างช้ าๆ

“พลังในการสัน่ สะเทือนและวิชา ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’ ยังคงเป็ นปริ ศนาเกินไป นัง่ มาจะทังวั


้ น
แต่แทบจะไม่ได้ อะไรเพิ่มเลย พลังแบบนี ้คนธรรมดาๆไม่มีทางคิดค้ นได้ เป็ นแน่ มันยากเกินกว่า
จินตนาการของมนุษย์”

ถึงแม้ วา่ การฝึ กจะไม่ได้ คบื หน้ าอะไรนัก แต่หลินหมิงก็เห็นหนทางลางๆข้ างหน้ าแล้ ว ไม่ช้าก็เร็ว
เขาต้ องไขปริ ศนานี ้ได้ แน่

หลินหมิงวางป้ายหยกนันแล้
้ วนอนลง น่าแปลกที่เขาไม่ได้ กินอะไรมาทังวั
้ น แต่ก็ไม่ได้ ร้ ูสกึ หิว
เลยแม้ แต่น้อย

นักสู้ที่ยงั ฝึ กฝนไม่ถงึ ขันผสานชี


้ พจร(ขัน6)
้ จะต้ องรับประทานอาหารเหมือนคนปกติทวั่ ไปใน
ทุกๆวัน และถึงจะสําเร็จขันนั ้ นแล้
้ ว ก็สามารถทนได้ อีกเพียงไม่กี่วนั เท่านัน้ ถ้ าไม่กินก็อดตาย
เป็ นธรรมดา

เขาไม่ร้ ูสกึ หิวเลย เขารู้สกึ เหมือนพวกสิ่งเล็กๆในร่างจะสูดเอาพลังปราณเข้ าไปเต็มอิม่ แล้ ว ‘ลื่น


ไหลดุจแพรไหม’ นี่มนั ยอดเยี่ยมจริ งๆ บางทีวิชานี ้อาจจะไม่ใช่วิชาทางกายภาพก็เป็ นได้ ถ้ าฝึ ก
จนสามารถใช้ ได้ คล่องแคล่วแล้ วละก็ นี ้อาจจะเป็ นก้ าวสําคัญของวิชา ‘ลืน่ ไหลดุจแพรไหม’ ก็
เป็ นได้

“นี่ก็มากที่สดุ เท่าที่ข้าจะทําได้ ในวันนี ้แล้ วสิ คงต้ องไปดูเจ็ดสถานที่เร่งการฝึ กฝนของสํานักเจ็ด


แก่นแท้ เสียหน่อย ข้ าอยากรู้วา่ มีอะไรลึกลับซ่อนอยูร่ ึเปล่า”

...

ในขณะที่หลินหมิงกําลังฝึ ก ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’ .... ซางฉาง และ จู้ยนั ก็ได้ เดินเข้ าไปใน


คลังของสํานักเจ็ดแก่นแท้ “ไอ้ หลินหมิงได้ วิชาใหม่ไปแล้ ว แต่ด้วยเวลาเพียงหนึง่ เดือนก็มนั จะ
ไปทําอะไรได้ ” จู้ยนั พูดขณะที่ถือป้ายหยกสีมว่ งไว้ ในมือ สีนนบ่
ั ้ งบอกถึงวิชาระดับกลางของ
ขันตอนการฝึ
้ กฝน

ซางฉางกล่าว “ข้ าอยากรู้เสียจริ ง มันเลือกวิชาอะไรไป”

จู้ยนั ยิ ้มเยาะ “ หลินหมิงมันมัน่ ใจในพลังของตัวเองมากเกินไป ในขณะที่มนั ยังมีเพียงการ


ฝึ กฝนขันแรก้ มันยังกล้ ามาเผชิญหน้ ากับข้ า มันคงจะเลือกวิชายากๆไปแน่นอน ต่อให้ มนั จะ
เรี ยนรู้ได้ เร็ วก็ตาม แต่ข้าจะไม่ให้ มนั ได้ มีเวลาฝึ กวิชาอะไรนัน่ หรอก ฮ่าๆ ”

พวกวิชาที่เป็ นที่นิยมนัน่ จําเป็ นจะต้ องจองไว้ ลว่ งหน้ า และระยะเวลาที่ยืมก็ขึ ้นอยูก่ บั อันดับของ
แต่ละคน บางวิชาก็มีศิษย์ถงึ 7 –8 คนรอฝึ กอยู่ และถ้ าได้ อนั ดับน้ อยๆก็จะได้ เรี ยนรู้มนั เพียง
แค่ไม่กี่วนั เท่านัน้
แต่ปกติคนที่ยืมส่วนใหญ่ก็จะเป็ นพวกศิษย์พี่ที่เคยฝึ กฝนวิชานันมาก่
้ อนแล้ ว พวกเขาต้ องการ
ยืมอีกครัง้ เพื่อพัฒนาและทบทวนวิชานันเพิ
้ ่มอีก

แต่ถงึ อย่างนันก็
้ ไม่ได้ มีกฎห้ ามไม่ให้ ยืมซํ ้า ตราบใดที่จ้ ยู นั คิดจะกลัน่ แกล้ งหลินหมิง หลินหมิงก็
อาจจะไม่ได้ ฝึกฝนกับแผ่นหยกนัน่ อีกก็เป็ นได้

ตามกฎของสํานักเจ็ดแก่นแท้ จู้ยนั ไม่สามารถเล่นงานหลินหมิงตรงๆได้ แต่เขาสามารถเล่น


สกปรก เช่นนี ้เพื่อกลัน่ แกล้ งหลินหมิงได้

ซางฉาง และ จู้ยนั เดินหาชื่อของลินหมิง เขาเดินหาแค่ชื่อเท่านัน้ พวกเขาหาชื่อของหลินหมิ


งจากวิชาที่เป็ นที่นิยม อย่างเช่น ‘ศิลปะไร้ เงา’ ‘การดูดซับพลังหยางทังเก้
้ า’ และวิชายอดนิยม
อื่นๆเท่านัน้ แต่พวกเขาก็ไม่อาจหาชื่อของหลินหมิงได้ พบ หลังจากนัน่ พวกเขาทังสองก็
้ ไล่หา
จากพวกวิชาระดับล่างๆต่อ แต่ก็ไม่เห็นชื่อของหลินหมิงเลยแม้ แต่เงา

“หืม..นี่มนั ยังไงกันแน่” จู้ยนั เริ่ มหมดความอดทน

ซางฉางพูดขึ ้น “จู้ยนั ข้ าเจอชื่อมันแล้ ว”

จู้ยนั เดินมาและก็ได้ พบชื่อของหลินหมิง อะไรกัน มีแค่ชื่อเดียวงันเหรอ


“พื ้นฐานการใช้ หอก...”

หลินหมิงเลือกเจ้ านี ้เหรอ หมอนัน่ คิดอะไรอยูก่ นั แน่

“ข้ าเจออีกวิชาของมันแล้ ว”
เมื่อได้ ยินเช่นนัน้ จู้ยนั ก็รีบหันไปดูทนั ที และก็ต้องตกใจอีกครัง้ “พื ้นฐานการเคลื่อนไหว..”

จู้ยนั รู้สกึ สับสนอย่างมาก มันไม่น่าเป็ นไปได้

เมื่อได้ เห็นสิง่ ที่หลินหมิงเลือก ซางฉากก็พดู ขึ ้นมา “จู้ยนั เจ้ าประเมินมันสูงเกินไปแล้ ว ข้ าคิดว่า


คนที่ได้ อนั ดับ126อย่างมันจะน่าสนใจกว่านี ้เสียอีก แต่ดเู หมือนมันจะมีดีแค่โชคเท่านันล่
้ ะ ดู
ชาที่มนั เลือกสิ แล้ วมันจะเอาอะไรไปสู้กบั คนที่มีฝีมือได้ ”
จากทังสองวิ

MW#070 นํ ้าตกเยือกแข็ง

เมื่อได้ ร้ ูวา่ หลินหมิงเลือกวิชาที่ออ่ นด้ อยเช่นนัน้ ซางฉางก็กล่าว “จู้ยนั เจ้ าประเมินมันสูงเกินไป


แล้ ว ข้ าคิดว่าคนที่ได้ อนั ดับ126อย่างมันจะน่าสนใจกว่านี ้ซะอีก แต่ดเู หมือนมันจะมีดีแค่โชค
เท่านันล่
้ ะ ดูจากทังสองวิ
้ ชาที่มนั เลือกสิ มันจะไม่ส้ ศู ิษย์คนอื่นๆได้ อย่างไร”

“ฮ่าๆ คงเพราะมันไม่มีความมัน่ ใจในตนเองงันรึ


้ มันถึงไม่กล้ าฝึ กวิชายากๆ”
เมื่อได้ ยินซางฉางพูดแบบนัน้ จู้ยนั ก็ดมู ีสีหน้ าบึ ้งขึ ้นมาเล็กน้ อย เขาวางป้ายหยกนันลงแล้
้ วพูด
ว่า “ซางฉาง ข้ าแนะนําว่าเจ้ าอย่าได้ ดถู กู จะดีกว่า อาจจะจริ งที่มนั ขาดความมัน่ ใจในตัวเองไป
แต่อย่าลืมว่ามันนี ้แหละที่ได้ ทําลายสถิติของ หลิงเซ็น ในการทดสอบ”

เมื่อจู้ยนั กล่าวเช่นนัน้ ซางฉางก็เงียบไปในทันที หากจะพูดถึงการจัดอันดับครัง้ แรกของศิษย์


ใหม่ การจัดอันดับครัง้ แรกของซางฉางนัน้ ด้ อยกว่าหลินหมิงไม่น้อยเลยทีเดียว

“งันก็
้ รอดูกนั ต่อไป ข้ าล่ะอยากรู้นกั ว่าอีกหนึง่ วิชาที่มนั เลือกคือเป็ นวิชาแบบไหน”

พวกเขาออกค้ นหาอีกครัง้ เป็ นเวลานาน เขาก็ได้ พบป้ายที่หลินหมิงเลือก วิชาที่ไม่สมบูรณ์

“เสียหาย 70% วิชาหมัดสลายกระดูกงันรึ ้ ” ปกติแล้ วจู้ยนั จะใจเย็นและสุขมุ แต่เมื่อได้ เห็นสิง่


นี ้ ตาเขาก็เบิกกว้ าง หลินหมิงมันบ้ าไปแล้ วหรื ออย่างไร

แม้ แต่จ้ ยู นั ก็ไม่ร้ ูถงึ ระดับของวิชาหมัดสลายกระดูก แต่จากการคาดการณ์ มันก็น่าจะเป็ นเพียง


วิชาขันต้
้ นเท่านัน้

หลินหมิงมันเพี ้ยนไปแล้ วหรื อไง ตอนที่มนั เลือก พื ้นฐานการใช้ หอก แล้ วก็พื ้นฐานการ
เคลื่อนไหว พวกเขายังเข้ าใจว่ามันอาจจะมีลบั ลมคมในบ้ างอย่างในวิชาเหล่านัน้ แต่เมื่อมาเจอ
แบบนี ้เข้ า ทําให้ พวกเขามัน่ ใจได้ วา่ หลินหมิงก็เป็ นแค่คนโง่ๆคนหนึง่ เท่านัน้

จู้ยนั พูดต่อ “ซางฉาง ถึงมันจะเลือกวิชาที่ออ่ นด้ อยเช่นนี ้ แต่เจ้ าจงระวังเอาไว้ ก่อนจะดีที่สดุ ถึง
ยังไงหลินหมิงมันก็เป็ นถึงอันดับที่ 126 แม้ วา่ อาจจะเป็ นเพราะ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง กับ
ยาโอสถพญางูทองคําการที่มนั สามารถดูดซับพลังของยาโอสถสองอย่างนันได้ ้ ก็ทําให้ ข้าแปลก
ใจอย่างมาก มันอาจมีความลับอะไรบางอย่าง”
“อย่าได้ กงั วลไป ยังไงมันก็เป็ นได้ แค่สวะ ในอีก 20 วัน ข้ าจะเอาชนะมันให้ เจ้ าได้ เห็นกับตา”

“ฮ่า ไม่ใช่แค่เอาชนะ เจ้ าต้ องทําลายความมัน่ ใจของมันด้ วย ทําให้ มนั ทรมานให้ มากที่สดุ เท่าที่
กฎของที่แห่งนี ้จะยอมรับได้ เจ้ าสามารถทําให้ มนั พิกาล และเมื่อเป็ นเช่นนัน้ แม้ แต่ยาโอสถลํ ้า
ค่าก็รักษะให้ มนั กลับมาหายดีไม่ได้ อย่างแน่นอน เจ้ านัน่ มันคิดว่ามันจะเอาชนะข้ าและพา
ผู้หญิงของมันกลับไป ข้ าจะเหยียบยํ่ามัน ให้ จมดินจนเงยหัวไม่ขึ ้น” จู้ยนั พูดด้ วยสายตาเย็นชา
เขากําหมัดแน่นประดุจจะขยี ้หลินหมิงให้ ตายคามือ

...

สํานักเจ็ดแก่นแท้ จะมี 7 สถานที่ซงึ่ แสดงถึงพลังของแต่ละธาตุ ซึง่ ก็คือ โลหะ ไม้ นํ ้า ไฟ ผืนดิน


ลม และสายฟ้า ซึง่ ก็คือสถานที่เหล่านี ้ หอทหารทองคํา ตรอกหุน่ กระบอกไม้ ถํ ้าลาวา เนินศิลา
นํ ้าตกเยือกแข็ง อุโมงวายุ และ หุบเขาฟ้าคําราม

สถานที่ฝึกฝนทังเจ็
้ ดนันไม่
้ ใช้ สถานที่ฝึกฝนธรรมดาๆ แต่เป็ นการฆ่าจริ งตายจริ ง ซึง่ สถานที่
ฝึ กฝนแบบธรรมดานัน่ จะสร้ างภาพลวงตาและฆ่ากันในฝั นเท่านัน้ ทันทีที่ออกมาจากความฝั น
สิ่งเหล่านันก็
้ กลายเป็ นเพียงเรื่ องสมมุติ แต่สถานที่ฝึกฝนทังเจ็
้ ดนี ้คือของจริ งซึง่ สามารถพัฒนา
ทักษะทางกายภาพได้ ด้วย

และแต่ละสถานที่ฝึกฝนนัน่ จะมีแค่เพียง 12 คนเท่านันที


้ ่ได้ เข้ าไปในแต่ละครัง้ เพราะที่นนั่ กิน
ปราณปริ มาณมหาศาล และระยะเวลาที่จะได้ ฝึกฝนในสถานที่ฝึกฝนเหล่านี ้ก็ขึ ้นอยูก่ บั อันดับ
ของแต่ละคน

ถ้ ามีอนั ดับตํ่ากว่า 180 ในแต่ละเดือน พวกเขาจะสามารถเข้ าไปฝึ กในสถานที่เหล่านี ้ได้ เพียง


12ชัว่ โมง
ถ้ ามีอนั ดับอยูร่ ะหว่าง150-180 พวกเขาจะได้ ในที่แห่งนี ้เป็ นเวลา 1วัน

และอันดับที่สงู กว่า 150 ก็จะคิดเป็ นชัว่ โมง ถ้ าอันดับ 50 ขึ ้นไป จํานวนชัว่ โมงในการฝึ กฝน
ในสถานที่แห่งนี ้จะเพิ่มขึ ้นทุกๆสิบอันดับ และ3อันดับแรก จะได้ ฝึกฝนในสถานที่เหล่านี ้ถึง 10
วันในแต่ละเดือน โดยไม่จําเป็ นต้ องแจ้ งเวลาที่จะเขาไปฝึ กฝนล่วงหน้ า

หลินหมิงมีอนั ดับที่ 126 เขาสามารถเข้ าฝึ กได้ 2 วัน แต่เขาจําเป็ นต้ องแจ้ งเวลาที่จะเข้ าไว้
ล่วงหน้ าก่อน ซึง่ หากเขาไม่ได้ มาในเวลาที่ได้ แจ้ งเอาไว้ สิทธิในการเข้ าไปฝึ กฝนก็จะสูญเปล่า

สถานที่ต้องของสถานที่ฝึกฝนทังเจ็้ ดนัน่ อยูแ่ ยกกันออกไปในหุบเขาทังเจ็ ้ ด ศูนย์กลางของแต่


ละสถานที่ฝึกฝน จะมีผ้ ดู แู ลคอยแจ่งข้ อมูลอยู่ ศิษย์ทกุ คนจะได้ รับข้ อมูลบางอย่างเพิ่มเติมจาก
ผู้ดแู ลเหล่านี ้

“เหล่าศิษย์จงฟั ง พวกเจ้ าทุกคนจะได้ รับเวลาในการเข้ าฝึ กฝนเพิ่มขึ ้นอีก 1 ชัว่ โมง ก่อนที่พวก
เจ้ าจะเข้ าไปฝึ กฝน พวกเจ้ าต้ องให้ อาจารย์ที่ดแู ลอยูต่ รวจสอบและเลือกระดับในการฝึ กฝนให้
เหมาะสมกับพวกเจ้ าเสียก่อน มาดูนี ้ก่อน” อาจารย์ผ้ ดู แู ลพูดด้ วยนําตํ่าๆ

ฟลินหมิงมองไปยังแท่นอันดับ เขาอยูอ่ นั ดับที่ 126 ซึง่ มันจะส่งผลต่อความยากด้ วย

โลหะ ไม้ นํ ้า ไฟ ดิน ลม และสายฟ้า เขาจะเลือกอะไรดีนะ

ขณะที่หลินหมิงกําลังลังเลอยู่ ฮ่องซีก็พดู ขึ ้นมา ”ข้ าขอเตือนไว้ ก่อน สถานที่ทงเจ็


ั ้ ดนันเป็
้ นของ
จริ ง เจ็บจริ ง พิการจริ ง ตายจริ ง อย่าได้ เลือกระดับที่สงู เกินไปเด็ดขาด โดยเฉพาะ หุบเขาฟ้า
คําราม พวกเจ้ าอย่าได้ คิดจะไปที่นนั ้ หากมียาเม็ดผสานวิญญาณก็จงใช้ มนั ซะ ด้ วยเวลาเพียง
หนึง่ ชัว่ โมงในการฝึ กฝนรวมกับยานัน้ มันจะช่วยกระตุ้นศักยภาพร่างกายพวกเจ้ าได้ ”
หลินหมิงพกยานัน่ มาด้ วย เขาเชื่อคําแนะนําของฮ่องซี และใช้ ยานันตามคํ
้ าแนะนํา

้ อ? หรื อมีเหตุผลอื่น? แม้ จะ


เหตุใดจึงไม่ควรเลือกหุบเขาฟ้าคําราม? มันยากเกินไปงันหรื
สงสัยแตต่หลินหมิงก็ไม่ได้ กล่าวถาม และเขาก็เลือกนํ ้าตกเยือกแข็ง

หลินหมิงเลือก นํ ้าตกเยือกแข็ง เดิมทีมนั เป็ นนํ ้าตกบนภูเขาโจว แต่หลังจากถูกวางอักษะอาคม


ลงไป ที่แห่งนัน่ ก็เต็มไปด้ วยพลังปราณ ลําธารนํ ้าตกแห่งนันกลายเป็
้ นสถานที่ที่หนาวเย็นจน
ผิดปกติ เย็นยะเยือกไปถึงแกนกระดูกเลยทีเดียว

ขณะที่หลินหมิงถูกย้ ายมาสถานที่แห่งนัน้ หลินหมิงก็ได้ ยินเสียงเหมือนฟ้าผ่า พื ้นดินสัน่ ไหว


นํ ้าตกถูเขาโจว เป็ นสถานที่ที่สงู สุดในอาณาจักรลิขิตฟ้า มีความสูงกว่า 300 ฟุต และนํ ้าที่ตก
กระทบลงมานันก็
้ รุนแรงเหมือนถูกค้ อนปอนทุบ

ขณะที่หลินหมิงได้ มาถึงนํ ้าตกแห่งนัน้ ก็ได้ พบกับไอนํ ้าที่ครอบคลุมไปทัว่ บริ เวณ บ่งบอกถึง


ปริ มาณนํ ้าอันมหาศาล

“นํ ้าตก”หลินหมิงแหกปากลัน่ ขณะที่จิตใจของเขาเต็มไปด้ วยความตื่นเต้ น นี่เป็ นครัง้ แรกที่เขา


ได้ เห็นอะไรที่น่าตื่นตาตืน่ ใจในธรรมชาติเช่นนี ้

Chapter 71 – Cultivation Method Complete


ขณะที่หลินหมิงเดินไปยังนํ ้าตกนัน่ ก็มีคนรออยูแ่ ล้ ว เขาอายุราวๆ 20-30ปี เขาพูดกับหลินห


มิงว่า “ศิษย์น้องหลิน เจ้ าสามารถเข้ าไปได้ เจ้ ามีเวลาเพียงหนึง่ ชัว่ โมงเท่านัน้ และนี่เป็ นกรณีพิ
เศษสําหรับผู้ที่เข้ ามาใหม่วา่ ระดับความยากจะถูกตังต้ ้ นไว้ ที่ระดับเจ็ดเลย มีอะไรจะถาม
อีกมัย”

“อืม ช่างเป็ นรุ่นพี่จอมจุ้นอะไรอย่างนี ้เนี ้ย” หลินหมิงคิดในใจ ระดับที่เจ็ดนัน้ เหมาะสําหรับ


อันดับที่ 110-130 ซึง่ มันก็เหมาะสมอยูห่ รอก

“เจ้ าเข้ าไปได้ แล้ ว ถึงจะตึงมือสําหรับเจ้ าอยูบ่ ้ างในระดับที่เจ็ดก็เถอะ ถ้ าเจ้ าไม่ไหวก็ออกมาพัก


ได้ นะ โดยปกติแล้ วไม่มีใครอยูใ่ นนัน่ ได้ นานนักหรอก ถ้ านานเกินมันจะทําลายร่างกายของเจ้ า
นะ” รุ่นพี่เตือนหลินหมิง

“ขอบคุณมาก ศิษย์พี่ ถ้ าข้ าทนไม่ไหว เดี๋ยวข้ าก็ออกมาเองแหละ”

เมื่อมองจากภายนอก นํ ้าตกแห่งนี ้ก็เป็ นแค่นํ ้าตกธรรมดา หลินหมิงสัมผัสอะไรไม่ได้ เลยเมื่ออยู่


จากด้ านนอก

ถึงนํ ้าตกแห่งนี ้จะเป็ นเวทย์อาคม จึงสามารถฝึ กพร้ อมกันได้ ถงึ 12 คน แต่ละคนก็จะถูกแยก


ออกมาอีกที คงไม่มีใครอยากฝึ กท่ามกลางคนดูหรอก

หลินหมิงได้ หนั กลับไป และพบว่าด้ านหลังของเขาได้ กลายเป็ นเพียงเงามืดแล้ วเท่านัน้ เหมือน


ท้ องฟ้ายามคํ่าคืน บึงแห่งนี ้ลึกและเงียบสงบมากและยังไม่ด้วยหมอกควันอีกด้ วย

“ดูสิ สามารถรู้สกึ ได้ ถงึ ลมที่เหน็บหนาวเลย นี่มนั ยิ่งกว่าลมจากฤดูหนาวซะอีก” หลินหมิง


หายใจเข้ าลึกๆ และโคจรพลังของเขาจนถึงขีดสุด จากนันก็
้ โดดลงบึงแห่งนัน้

“หนาวเหี ้ยๆ”

หลังจากที่โดดลงไปแล้ ว หลินหมิงก็ร้ ูสกึ ถึงแรงเยือกแข็งที่รุนแรง เขาไม่สงสัยเลยว่านํ ้าพวกนี ้ถ้ า


ออกไปยังข้ างนอกแล้ วมันจะต้ องกลายเป็ นนํ ้าแข็งอย่างแน่นอน แต่ที่นี่มนั ยังคงเป็ นของเหลว
อยู่ นี่มนั ยอดจริ งๆ

หลินหมิงโคจรพลังปฐมบทแห่งความโกลาหลจนถึงขีดสุด กระดูกของเขาเริ่ มจะลัน่ เปรี๊ ยะๆ


ขณะที่มนั กําลังสร้ างความร้ อนเพื่อมาต้ านความหนาวของนํ ้า

“นํ ้านี่ ทําไมรู้สกึ เหมือนปรอทอยูน่ ิดๆเลยละ” หลินหมิงเริ่ มพยายามที่จะดํานํ ้า นํ ้านี่มนั


หนาแน่นและมีความเข้ มข้ นกว่านํ ้าธรรมดามาก และเหนียวกว่าด้ วย

“มีคนบอกว่า บึงแห่งนี ้ ลึก ถึง1000 ฟุต ไม่ร้ ูหรอกว่าวัดได้ ไง ถ้ าเป็ น ข้ าในตอนนี ้อย่าว่าแต่
1000ฟุตเลย 10 ฟุตก็แย่แล้ ว คนที่ลงไปวัดได้ นี่เซียนแท้ ”
นํ ้าแห่งนี ้ยิ่งลึกลงไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งหนาวเหน็บมากเท่านัน้ หลินหมิงไปสงสัยเลยว่าหากคน
ธรรมดาๆเข้ ามาที่แห่งนี ้จะต้ องแข็งตายภายในไม่กี่วินาทีเลย

“มือของข้ าเริ่ มจะแข็งซะแล้ วสิ โหดจริ งๆ” หลินหมิงได้ ดําลงไปอีก 30 ฟุต ในตอนนี ้หลินหมิง
รู้สกึ ได้ ถงึ ความหนาวเหน็บอันมหาศาลกําลังถาโถมมาที่เข้ าอย่างไม่หยุดหย่อน เขาดําลงไปลึก
กว่านี ้ไม่ได้ อีกแล้ ว

“ถึง ข้ าจะโคจรพลังปฐมบทแห่งความโหลาหล และมีพลังมากกว่าคนทัว่ ไปแล้ วก็ตาม มันก็ยงั


ไม่พอ คนที่จะอยูท่ ี่นี ้ได้ คงต้ องมีพลังการกลายสภาพไม่ตํ่ากว่าระดับสามเป็ นแน่ๆ”

ทุกสิ่งรอบตัวหลินหมิงเงียบสงบ มันเหมือนกับหลินหมิงได้ อยูใ่ นมิติห้วงเวลาที่หยุดเอาไว้


ตอนนี ้เขาได้ ยินแต่เสียงหัวใจของเขาที่กําลังเต้ นอยูเ่ ท่านัน้

ตอนนี ้ เหมือนวิญญาณของหลินหมิงจะหลุดออกจากร่างเลย ตัวของเขาไม่ร้ ูสกึ อะไรอีกแล้ ว


แม้ วา่ ทุกส่วนในร่างกายของเขาจะกําลังพยายามต้ านทานความเย็นนี่อยูก่ ็ตาม พลังของเขาดู
เหมือนจะไม่ได้ ถกู เขาควบคุมโดยสมบูรณ์ เพราะตอนนี ้มันกําลังโคจรตัวมันเองอยู่ เหมือนกับ
มันเป็ นส่วนหนึง่ ของร่างกายไปแล้ ว และโคจรด้ วยความเร็ วและแม่นยํากว่าที่ลินหมิงทําอีก
ด้ วย

หลินหมิงได้ สําเร็จขันแรกของวิ
้ ชาปฐมบทแห่งความโกลาหลมาแล้ ว ดังนันจึ
้ งดึงพลังได้ เร็ วขึ ้น
มาก แต่นี ้มันเร็วกว่าอีกหลายขุมเลย พูดได้ วา่ มันเหมือนเป็ นสองเท่าของครัง้ ก่อนเลย

หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก ลินหมิงก็ได้ ตื่นขึ ้นมา”หือ เหิดอะไรขึ ้นกับ ข้ าเนี่ย”

ลินหมิงได้ โผล่ขึ ้นมายังผิวนํ ้า ลินหมิงจําความรู้สกึ ในตอนนันได้


้ มันเหมือนทุกอนุภาคในร่างเขา
รวมเป็ นหนึง่ เดียวกัน ซึง่ คล้ องกับ วิชาหมัดสลายกระดูกมาก
“หืม ดูเหมือน ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’จะพัฒนาไปได้ อีกขันหนึ
้ ง่ แล้ ว เมื่อหลินหมิงลอง
โคจรพลังดู น่าตกใจที่ความเร็วของมันเพิ่มขึ ้นมากถึง 40% นี่มนั จุดสูงสุดของขันที
้ ่หนึง่ เลยรึ
เปล่าเนี่ย”

“หรื อจะเป็ นเพราะช่วงที่ ข้ าหมดสติไปในตอนนัน”


้ หลินหมิงตื่นเต้ นสุดๆ

ว่ากันว่าบางครัง้ ยอดนักสู้ก็ได้ อยูใ่ นสถานะที่ไม่คาดคิด ซึง่ เรี ยกว่า ‘เห็นแจ้ งไร้ จิต’ หนังสือบาง
เล่มได้ บนั ทึกเอาไว้ วา่ มีคนนัง่ อยูใ่ ต้ ต้นโพธิ์และทําสมาธิเป็ นเวลาหนึง่ คืน ทังคื
้ นนัน่ ผมเขากลับ
เปลี่ยนเป็ นสีขาว และตืน่ ขึ ้นมาพบว่าวิชาของตนได้ สําเร็ จโดยสมบูรณ์แล้ ว หรื อบางเล่มก็กล่าว
ไว้ วา่ บางคนก็เกิดเหตุการณ์แบบนี ้ขึ ้น และกลายเป็ นผู้อมตะ และทําลายช่องว่างของความเป็ น
และความตายได้

บางทีนี่อาจจะเป็ นแบบเดียวกันก็ได้ น่าเสียดาย ถ้ าอยูน่ านกว่านี ้คงจะได้ อะไรที่มากกว่านี ้แท้ ๆ

เพราะว่าเขาไม่สามารถไปอยูส่ ถานะแบบนันได้
้ อกี เขาจึงเริ่ มใช้ ความเย็นจากนํ ้านันฝึ
้ กร่างกาย
ของเขาต่อ และด้ วยพลังจากยาผสานวิญญาณด้ วย ทําให้ ตวั ทังตั
้ วของเขาเต็มไปด้ วยพลัง
อย่างล้ นเหลือ

พลังที่ปกคลุมเขาอยูต่ อนนี ้เป็ นสัญลักษณ์ของการกลายสภาพขันที


้ ่สาม ขันการฝึ
้ กอวัยวะ
ภายใน

ลินหมิงได้ เข้ าสูข่ นที


ั ้ ่สามไปครึ่งก้ าวแล้ ว ที่เหลือก็ขึ ้นอยูก่ บั เวลาเท่านัน้

ในขันที
้ ่สองนันพลั
้ งจะเพียงแค่ปกคลุมกล้ ามเนื ้อรอบตัวเท่านัน้ แต่ขนที
ั ้ ่สาม พลังจะปกป้องไป
ถึงอวัยวะภายในด้ วย ขันที
้ ่สี่และห้ าก็เช่นกัน มันจะยิ่งหลอมรวมเข้ ากับร่างกายยิ่งๆขึ ้นไปอีก
แต่โดยปกติแล้ ว นักสู้เขาใส่พลังลงไปเพียงกล้ ามเนื ้อเท่านัน้ ซึง่ จะมีบางจุดเท่านันที
้ ่ไม่สามารถ
้ ได้ เราเรี ยกมันว่า “ช่องโหว่”
ดูดซับพลังเหล่านันไว้

ในการต่อสู้ “ช่องโหว่”เป็ นจุดอ่อนที่ร้ายแรงมาก และเมื่อถึงขัน้ การกลายสภาพที่สาม ขัน้ ชีพ


จร “ช่องโหว่”เหล่านันก็
้ จะค่อยๆเล็กลงจนหายากขึ ้นเรื่ อยๆ

แต่มนั ต่างกับการแช่บงึ นี ้จริ งๆ บึงนี ้จะแช่แข็งทุกๆส่วนของร่างกาย มันเข้ าถึงได้ หมดไม่วา่ จะ


ร่างกาย กล้ ามเนื ้อ กระดูก หรื อแม้ กระทัง่ สันหลัง

ด้ วยการจะต้ านความหนาวนี ้ ทุกอนุภาคในร่างกายจะต้ องเป็ นหนึง่ เดียวกัน จึงจะต้ านทาน


ความหนาวนี ้ได้

เมื่อรู้แบบนันแล้
้ ว ลินหมิงก็หายใจเข้ า ไม่แปลกใจเลยที่ทําไมคนที่อยูใ่ นขันชี ้ พจรส่วนใหญ่จะ
มาจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ มันมีที่ฝึกดีๆแบบนี ้ การที่จะเข้ าสูข่ นชี
ั ้ พจรก็เลยง่ายกว่าคนอื่นๆเยอะ
ไม่ต้องพูดถึงหลิงเซ็น กับ ทาคุ และคนที่เก่งๆอีกมากเลย แถมมียาดีๆกินอีก ไม่สงสัยเลยว่า
ทําไมไปถึงขันชี
้ พจรกันได้ หมด

“ก่อนหน้ านัน้ ถ้ า ข้ าเลือกที่จะเข้ าสํานักลิขิตฟ้าถึงจะมีวรยุทธ์ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’


ข้ าก็ยงั ไม่สามารถควบคุมอนุภาคเล็กๆพวกนี ้ได้ เลย แต่บงึ แห่งนี ้มันต่างกัน สถานที่นี ้และอีกหก
แห่งนี ้มันมีคา่ มากจริ งๆ”

“ข้ าต้ องไต่อนั ดับให้ เร็วที่สดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้ เพื่อที่จะได้ ฝึกที่แบบนี ้ได้ นานๆซะแล้ วสิ”
MW#072 สําเร็จอาคมรักษาวิญญาณ
...

...

...

"ศิษย์พี่ ข้ ามีข้อสงสัง? จะเกิดอะไรขึ ้นหากความยากระดับเจ็ดไม่ได้ เหมาะกับข้ า"

ผู้อาวุโสยิ ้มบอกบุญและกล่าว "เจ้ าไม่จําเป็ นต้ องอยูใ่ นนันตลอดเวลา


้ นํ ้าตกและบ่อนํ ้าแห่งนัน้
มันหนาวเย็นอย่างมาก หากเจ้ าอยูใ่ นนันตลอดเวลา
้ เพียงไม่กี่ชวั่ โมงเจ้ าก็จะถูกแช่แข็ง ศิษย์
หลิน เจ้ าเข้ าไปและไม่ได้ ออกมา แม้ เจ้ าจะน่าประทับใจ ทว่าเจ้ าจงอย่างได้ ลืมคํานึงถึงสุขภาพ
ของร่างกายของเจ้ าด้ วย "

"ขอบคุณสําหรับคําแนะนําขอรับ "หลินหมิงกล่าวอย่างพอเป็ นพิธี

"ไม่จําเป็ นต้ องสุภาพนักก็ได้ ชื่อของข้ าคือ ซี่ดง สองปี ก่อนข้ าก็เป็ นศิษย์ของสํานักเจ็ดแก่นแท้
และข้ าก็จบออกมา ศิษย์อย่างเจ้ าไฟแรงเช่นวัยหนุ่มสาวจริ งๆ เจ้ ามีโอกาสก้ าวหน้ าอย่างไม่มีที่
สิ ้นสุดในอนาคต หากเจ้ ามีคําถาม อย่าได้ ลงั เลที่จะถามข้ า”

การฝึ กฝนของ ซี่ดง หยุดชะงักอยูใ่ นขันที


้ ่ห้า สําหรับนักสู้ขนผสานชี
ั้ พจร(ขัน6)และนั
้ กสู้สว่ น
ใหญ่ พวกเขาจะอุทิศชีวติ ของพวกเขาเพื่อรับใช้ อาณาจจักรและทําให้ พวกเขามีชื่อเสียง ซี ้ดง
เองก็เคยได้ ยินชื่อของหลินหมิงมาบ้ าง ความแข็งแกร่งของหนุม่ น้ อยคนนี ้เป็ นที่รํ่าลือ ซี่ดงเชื่อ
ว่าสําหรับหลินหมิงที่สามารถสร้ างปาฏิหาริ ย์ได้ เมื่อมีอายุ 15 ปี เขาจะต้ องสร้ างปาฏิหาริ ย์ได้
อีกครัง้ ในอณาคตอย่างแน่นอน ทําให้ เขาเกิดความคิดที่จะผูกมิตรกับหลินหมิง

"ขอบคุณศิษย์พี่" หลินหมิงกล่าวและขอตัวออกมา

หลังจากที่กลับไปยังที่พกั ของเขา หลินหมิงคว้ าหอกทะลวงสายรุ้งและมุง่ หน้ าไปยังห้ องฝึ กฝน

...

แต่ละวันในสํานักเจ็ดแก่นของหลินหมิงก็มกั จะเป็ นเช่นนี ้ เขาตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ ้น ลุกออก


จากที่นอน เขาจะนัง่ อยูก่ ลางธรรมชาติและสูดหายใจรับอากาศบริ สทุ ธิ์ในยามเช้ า หลังจากที่
ปรับสภาพร่างกายให้ เข้ าที่เข้ าทางแล้ ว เขาก็จะฝึ กฝน ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’

หลินหมิงใช้ ข้อมูลจาก 'หมัดสลายกระดูก' ร่วมกับความทรงจําของเขา เขาค่อยๆค้ นพบองค์


ความรู้มากขึ ้น และมากขึ ้น !
หลินหมิงมักจะนัง่ ฝึ กฝนอยูเ่ ช่นนี ้ในทุกๆเช้ า เขาจะไม่ทานอาหาร ดื่มนํ ้า หรื อแม้ กระทัง่
เคลื่อนไหวเลยแม้ แต่น้อย ในตอนเย็นเขาจะใช้ เวลาทานอาหารเพียงเล็กน้ อยและใช้ เวลาที่
เหลือมุง่ หน้ าไปยังนํ ้าตกเยือกแข็ง ให้ ทวั่ ร่างกายถูกปกคลุดด้ วยความหนาวเย็น น่าเสียดายที่
หลินหมิงมีเวลาที่จะอยูใ่ นนี ้เพียง 24 ชัว่ โมงในแต่ละเดือน สําหรับหลินหมิงแต่ละวันเขาจะใช้
เวลาอยูใ่ ต้ นํ ้าของนํ ้าตกเยือกแข็งวันละครึ่งชัว่ โมงบ้ าง หนึง่ ช่วงโมงบ้ าง ซึง่ เวลาเพียงเท่านัใน

แต่ละวันก็เกิดประโยชน์อย่างมากแล้ ว อย่างมาก

ในช่วงเวลากลางคืนหลินหมิงจะฝึ กการจารึก แม้ วา่ หลินหมิงจะฝึ กฝนการต่อสู้จนเหนื่อยล้ ามา


ทังวั
้ น แต่เขาก็ไม่ได้ ละเลยการฝึ กฝนจารึก และด้ วยความสําเร็ จในขันแรกของ
้ ‘ปฐมบทห่ง
ความโกลาหล' ทําให้ เขามีพลังปราณในการจารึกและคงสภาพอักขระมากขึ ้น

ในการฝึ กจารึกโอสถ หลินหมิงก็ยงั ฝึ กฝน 'ปฐมบทแห่งความโกลาหล' ควบคูไ่ ปด้ วย เขาใช้ หิน


พลังปราณในแต่ละวันไม่น้อยกว่าหนึง่ ก้ อน

วันนี ้เป็ นวันที่ 10 ของหลินหมิงในสํานักเจ็ดแก่นแท้ แห่งนี ้

ในตอนกลางคืน มีดวงดาวมากมายบนท้ องฟ้า เทือกเขาโจวก็เงียบสงย หลินหมิงนัง่ อยูใ่ น


กระท่อมไม้ บนภูเขา นิ ้วมือของเขาเคลื่อนไหวราวกับดีดพิณท่วงทํานองที่ไพเราะ เขาวาด
อักขระขึ ้นมากมายหลากสีสนั

ภายในสิบวันที่ผ่านมา เกิดความล้ นเหลวนับไม่ถ้วน และด้ วยการเพิ่มขึ ้นของพลังปราณ ใน


ที่สดุ อัตราความผิดพลาดก็ลดลงไปถึง 31% และด้ วยการพัฒนาเช่นนี ้ มันจะเพียงพอให้ เขา
จารึกยาโอสถได้ สําเร็จหรื อไป

วัตถุดิบแต่ละชิ ้นลอยขึ ้นมากลางอากาศด้ วยพลังปราณภายใต้ การควบคุมของหลินหมิง


อักขระอาคมที่ซบั ซ้ อนค่อยๆถูกวาดขึ ้นมาด้ วยนิ ้วมือที่พริ ว้ ไหวของเขา หยาดเหงื่อปรากฏให้
เห็นบนหน้ าผากของหลินหมิง แต่การแสดงออกของเขาแสดงให้ เห็นถึงความตื่นเต้ น

"สุดท้ าย หินโลหินสัตว์อสูรระดับสี่... สําเร็ จ! "

เกิดประกายแสงสว่างวาบในขณะที่อกั ขระอาคมหลายสิบอักระขระกําลังผสานเข้ าในด้ วยกัน


พร้ อมกับวัตถุดิบอีกนับไม่ถ้วน มันเกิดเป็ นเปลวไฟสุดประเสริ ฐ

'อาคมรักษาวิญญาณ’ สําเร็จ!
หลินหมิงเอาแผ่นจารึกออกมา เขาค่อยๆวาง ‘อาคมรักษาวิญญาณ’ ลงไปอย่างทะนุถนอม
เพียงแค่แผ่นจารึกเล็กๆที่มี ‘อาคมรักษาวิญญาญ’ ระดับตํ่าอยู่ ใครจะรู้วา่ หลินหมิงต้ องแลก
ด้ วยเงินทองและเวลาไปมากเท่าไรเพื่อสิ ้งเล็กๆสิ่งนี ้ แผ่นจารึกนันเต็
้ มไปด้ วยพลังปราณที่พรุ่ง
พร่าน เขารู้สกึ พึงพอใจเป็ นที่สดุ

จะไม่ให้ เขาตื่นเต้ นได้ อย่างไร? ในเมื่อแผ่นจารึก ‘อาคมรักษาวิญญาณ’ ระดับตํ่าแผ่นนี ้


สามารถเพื่อประสิทธิภาพของยาโอสถได้ หลายเท่า!

และยาโอสถที่เขามีก็เป็ นยาโอสถลํ ้าค่าที่อาจจะประเมินราคาออกมาเป็ นตัวเลขได้ แม้ แต่ เจ็ด


ปรมาจารย์แห่งขุนเขาก็ยงั ต้ องเห็นถึงคุณค่าของมัน!

มันเป็ นที่ร้ ูกนั ดีอยูแ่ ล้ วว่า หากประสิทธิภาพของยาเพิ่มขึ ้นสองเท่า มูลค่าของมันก็จะเพิ่มสูงขึ ้น


กว่าสิบเท่า!

เป็ นเพราะเมื่อร่างกายได้ รับยาชนิดเดิมในครัง้ ต่อๆไป ประสิทธิภาพของมันจะลดตํ่าลงไปอย่าง


เห็นได้ ชดั ยกตัวอย่างเช่นเมื่อหลินหมิงใช้ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองในครัง้ แรก ก็จะเกิดผลดี
ที่สดุ แต่สําหรับยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองเม็ดที่สอง จะมีคณ ุ ประโยชน์เหลือเพียงครึ่งเดียว
เท่านัน้ และในเม็ดที่สามคุณประโยชน์ของมันก็จะเหลือเพียงครึ่งเดียวของเม็ดที่ ดังนันแม้
้ วา่
หลินหมิงจะเป็ นเศรษฐี ที่สามารถกวาดซื ้อทุกอย่างบนโลกได้ เขาก็จะซื ้อยาเช่นนี ้เพียง6เม็ด
เท่านัน้ สําหรับเขาและหลินเซี่ยวตงคนละ3เม็ด เพราะตังแต่
้ เม็ดที่สี่เป็ นต้ อนไป ก็แทบจะไม่มี
คุณประโยชน์หลงเหลืออยูแ่ ล้ ว!
ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองและยาโอสถพญางูทองคําก็เป็ นเช่นนัน้ หากเพิ่มประสิทธิภาพของ
มันให้ สงู ขึ ้นในครัง้ แรกแล้ วล่ะก็ มันก็จะมีคณ
ุ ประโยชน์สงู ส่งอย่างหาที่เปรียบมิได้ !

เมื่อคิดได้ เช่นนัน้ เขาก็ยิ่งตื่นเต้ าเข้ าไปอีก แต่เขาก็ยงั ไม่ได้ ใช้ จารึกโอสถของเขาในทันที เขาเก็บ
มันเอาไว้ อย่างดี และไปอาบนํ ้าชําระร่างกาย หลังจากนันเขาก็ ้ นงั่ ทําสมาธิและปรับการหายใจ
ของทุกสิ่งเล็กๆในร่างกายเพื่อให้ สภาพร่างกายของเขามีความพร้ อมมากที่สดุ

หลินหมิงรู้ดวี า่ ถ้ าเขากินยานี ้เข้ าไป เขาก็จะพัฒนาไปสู้ขนต่


ั ้ อไป ขันอวั ้ ่3) นี ้
้ ยวะภายใน(ขันที
เป็ นเหตุการณ์ที่สําคัญอย่างมาก หากมีบางอย่างผิดพลาดไปแมแต่นิดเดียวอาจจะทําให้ เขา
ได้ รับผลกระทบที่รุนแรง ด้ วยประสิทธิของยาโอสถพญางูทองคําที่เพิ่มขึ ้นหลายเท่า มันก็
อาจจะกลายเป็ นอันตรายต่อเขาแทนหากเขาดูดซับพลังของมันไม่ไหว มันอาจจะมีอนั ตรายถึง
ชีวิตของเขาเลยก็เป็ นได้

ดังนันก่
้ อนที่จะใช้ ยาเหล่านัน้ หลินหมิงจะต้ องแน่ใจว่าร่างกายและจิตใจของเขาจะอยูใ่ น
สภาวะที่พร้ อมที่สดุ

หลินหมิงทําสมาธิเพื่อความพร้ อมของร่างกายและจิตใจเป็ นเวลากว่าครึ่งชัว่ โมง เขาโคจรพลัง


'ปฐมบทแห่งความโกลาหล' อยูต่ ลอดเวลาเพื่อให้ ร่างกายมีประสิทธิภาพสมบูรณ์ที่สดุ

หลังจากที่เตรี ยมทุกอย่างเพรี ยมพร้ อมแล้ ว เขาใช้ หขู องเขาฟั งเสียง พลังของ'ปฐมบทแห่งความ


โกลาหล'ทําให้ เขามีประสาทสัมผัสที่เยี่ยมยอด แม้ จะเป็ นเวลาดึกดื่น เขาก็สามารถได้ ยินเสียง
ร้ องของแมลงที่อยูห่ า่ งไกลแสนไกลได้ เพื่อเป็ นการระวังตัว หากมีศตั รูแอบซุม่ อยูเ่ พื่อแย่งชิงยา
เม็ดไขกระดูกมังกรทองและ’อาคมรักษาวิญญาณ’ของเขา

" พลังของ 'ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง' ที่ถกู เพิ่มประสิทธิภาพขึ ้นมาหลายเท่านันจะมี


้ พลังที่
สูงส่งมากเกินไป ข้ าไม่อาจจะดูดซับพลังนันเอาไว้
้ ได้ ข้ าจะเริ่ มต้ นกับ 'ยาโอสถพญางูทองคํา'!
"

------------------------

MW#073 เวลาแห่งการฝึ กฝนอวัยวะภายใน

...
...

...

หลินหมิงสูดลมหายใจเข้ า และเริ่ มใช้ งานแผ่นจารึก ‘อาคมรักษาวิญญาณ’ ในมือของเขา ใน


ห้ องที่มืดมิดเกิดเป็ นอักขระเปลวไฟแห่งการดํารงชีวิต พวงมาลาเพลิงค่อยๆพันล้ อมรอบยา
โอสถพญางูทองคํา ใช้ เวลาในการหลอมรวมเข้ ากับยาโอสถพญางูทองคําอยูช่ วั่ ครู่ ในที่สดุ มันก็
ผสานกันได้ อย่างสมบูรณ์และเกิดสัญลักษณ์เปลวเพลิงเล็กๆขึ ้นมาบนยาโอสถพญางูทองคํา
ประกายแสงเจิดจร้ าทําให้ ห้องทังห้
้ องสว่างวาบขึ ้นมาเป็ นช่วงสันๆ
้ และชัว่ พริ บตาก็กลับสูค่ วาม
มืดอีกครัง้

สําเร็ จ!

หลินหมิงค่อยๆประคองยาโอสถพญางูทองคําที่มีสญ
ั ลักษณ์เปลวเพลิงเข้ าไปในปากแล้ วกลืน
มันลงไป

ยาโอสถที่มีศกั ยภาพสูงเกินไป ก็อาจจะเป็ นอันตรายต่อผู้ใช้ ได้ เช่นกัน สําหรับยาที่มี


ประสิทธิภาพสูงเช่นนี ้มันไม่ได้ ทําให้ เขารู้สกึ ผ่อนคลายแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ ามมันกลับ
ทําให้ เขารู้สกึ ถึงความรุนแรงที่ถาโถมออกมาจากภายใน เหมือนว่ามีพายุที่โหมกระหนํ่าอยู่
ภายในร่างกายของเขา นี ้เป็ นสิง่ เหล่านักสู้จะต้ องเผชิญเมื่อใช้ ยาที่มีคณ
ุ ภาพสูง ซึง่ หลินหมิงก็
ได้ เตรี ยมใจเอาไว้ แล้ ว
ยาโอสถนี ้เย็นยะเยือกเช่นเดียวกับนํ ้าแข็ง มันไหลลงคอไปในร่างกายของเขา ทว่าแม้ เวลาจะ
ผ่านไปสักเท่าไร มันก็ไม่ได้ ละลายเลยแม้ แต่น้อย

หลินหมิงเองก็ร้ ูถงึ เรื่ องนี ้ดี เขาเริ่ มโคจรพลัง ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ อย่างมีสมาธิเพื่อ


ละลายและดูดกลือยาโอสถ

หลังจากเวลาไม่กี่ชวั่ โมงผ่านไป ร่างกายของหลินหมิงก็เต็มไปด้ วยไอพลังแห่งความเย็นยะ


เยือก ความเย็นเหล่านันแพร่
้ กระจายไปตามเส้ นเลือดของเขา ไปสูท่ กุ อวัยวะบนร่างกาย อย่าง
กับว่าในขณะนี ้เขากําลังจมอยูใ่ นนํ ้าตกเยือกแข็ง

เหงื่อที่เย็นยะเยือกค่อยๆไหลผ่านหน้ าผากของเขา ไปถึงไหล แขน มันเหมือนกับว่าร่างกายของ


เขาเป็ นถุงนํ ้าที่มีรูพรุ่นเต็มไปหมด

ยาโอสถพญางูทองคําเป็ นโอสถที่มีวตั ถุดิบเป็ นสัตว์อสูรเลือดเย็น ธรรมชาติของมันจะอยูใ่ น


สถานที่ซงึ่ หนาวเย็นมาก ถุงนํ ้าดีของพญางูทองคําเป็ นต้ นเหตุของความเย็นเหล่านัน้ เมื่อใช้ ยา
ที่ปรุงขึ ้นจากถุงนํ ้าดีของพญางูทองคํา ก็จะทําให้ ร้ ูสกึ ถึงความหนาวเย็นที่ทรงหลัง!
เขาพยายามโคจรพลัง ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ เพื่อบรรเทาความเย็นที่เกิดขึ ้นในร่างกาย
อย่างไรก็ตามเหมือนกับว่าในตอนนี ้พลังปราณของเขาจะถูกแช่แข็ง และร่างกายของเขาก็สนั่
ด้ วยความหนาวเหน็บ การดูดซับพลังของยาโอสถชะลอตัวลงอย่างมีนยั สําคัญ

ในนํ ้าตกเยือกแข็ง หลินหมิงสัมผัสได้ ถงึ ความเย็นที่คอ่ ยๆไหลผ่านเข้ ามาตามรูขมุ ขนเข้ าสู่


ร่างกาย แต่สําหรับยาโอสถพญางูทองคํา! พลังปราณแห่งความหนาวเย็นละลายอยูใ่ นร่างกาย
ของเข้ าอย่างหนาแน่น มันซึมเข้ าไปถึงไขกระดูกของเขา!

ถ้ าหากเป็ นเพียง ยาโอสถพญางูทองคํา ที่อยูใ่ นสภาพปกติ หลินหมิงจะสามารถต้ านทานและ


ดูดซึมพลังของมันได้ ไม่ยากนัก แต่ยาโอสถพญางูทองคําที่กําลังละลายอยูใ่ นท้ องของเขานี ้ มัน
คือ ยาโอสถพญางูทองคํา ที่ถกู เสริ มประสิทธิภาพดด้ วย ‘อาคมรักษาวิญญาณ’ เพื่อให้ มี
ประสิทธิภาพสูงขึ ้นหลายต่อหลายเท่า เมื่อมันมีคณ ุ สมบัติที่สงู ส่งเช่นนี ้ มันก็อาจสังหารเหล่า
นักสู้ด้วยการทําให้ เลือดทัว่ ร่างกลายเป็ นนํ ้าแข็งได้

ถึงแม้ มนั จะมีผลข้ างเคียงที่ร้ายแรง และหลินหมิงก็เตรี ยมตัวรับมือกับมันเอาไว้ เรี ยบร้ อยแล้ ว


้ ง มันก็รุนแรงและยากที่จะต้ านทานกว่าที่เขาเคยได้ คาดการณ์เอาไว้ !
แต่เมื่อเวลานันมาถึ

พลังปราณก็เป็ นเหมือนสายเลือดที่ไหลไปยังทุกส่งของร่างกาย และหากมันถูกแช่แข็ง เขาก็จะ


ไม่สามารถใช้ พลังปราณได้ และจะแข็งตายในที่สดุ !

หลินหมิงรู้ถงึ เรื่ องเหล่านันเป็


้ นอย่างดี ถ้ าเขาไม่สามารถโคจรพลังปราณในบริ เวณส่วนใดส่วน
หนึง่ ได้ ส่วนนันๆของร่
้ างกายก็จะถูกแช่แข็ง และกลายเป็ นอวัยวะที่ตายแล้ ว

แม้ วา่ หลินหมิงจะสามารถโคจรพลังปราณเพื่อปกป้องอวัยวะส่วนที่สําคัญๆเอาไว้ ได้ แต่หากมี


อวัยวะส่วนใดที่ถกู แช่แข็งและตายลงไป การใช้ ยาที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นนี ้ก็จะกลายเป็ น
ผลเสียต่อผู้ใช้ แทน และแม้ วา่ อาจจะสามารถรักษะให้ กลับมาใช้ งานเหมือนเดิมได้ แต่ก็ต้อง
แลกด้ วยเวลาที่ยาวนาน

หลินหมิงกัดฟั นแน่น เขากระตุ้นพลังปราณของเขาให้ สนั่ สะเทือนอย่างรุนแรงอยูใ่ นร่างกาย


การสัน่ สะเทือนของพลังปราณทัว่ ร่างกําลังสลายความหนาวเย็นที่กําลังแช่แข็งพลังปราณของ

แต่เดิมหลินหมิงคิดว่าร่างกายของเขาจะต้ องเจ็บปวดและทุกข์ทรมานเมื่อทําการสัน่ สะเทือน


พลังปราณสู้กบั ความหนาวเย็นภายในร่างกาย แต่ในความเป็ นจริ ง สิ่งเหล่านันเกิ
้ ดขึ ้นอย่าง
สงบและเป็ นไปได้ อย่างราบลื่น คงเป็ นเพราะวิชา ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’ ที่อยูเ่ บื ้องหลังพลังของ
เขา !

พลังความเย็นจาก ยาโอสถพญางูทองคํา ถูกสัน่ สะเทือนจนละลายเป็ นหน่วยเล็กๆและถูกดูด


ซึมเขาไปในกระดูกของหลินหมิง!
"พลังความเย็นจาก ยาโอสถพญางูทองคํา เริ่ มหมดไปแล้ ว ร่างกายขอข้ าเกิดการเปลีย่ นแปลง
อะไรบางอย่าง?" หลินหมิงกําลังยุง่ อยูก่ บั การใช้ พลังปราณ จนไม่อาจคิดถึงความสุขเกี่ยวกับ
เรื่ องเหล่านี ้ เขาเริ่ มที่จะผลักดันพลังปราณให้ สะสัน่ เทือนและดูดซับพลังความเย็นเหล่านันให้

ผสานกันเป็ นหนึง่ เดียวกับร่างกาย

การเปลี่ยนแปลงในครัง้ นี ้ไม่เพียงแค่เกิดขึ ้นบนอวัยวะภายนอกเท่านัน้ แต่ยงั รวมถึงอวัยวะ


ภายในร่างกายของเขาด้ วย

พลังแห่งการฝึ กฝนขันที
้ ่สาม ขันอวั
้ ยวะภายใน!

หลินหมิงสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ อย่างชัดเจน ผลของการใช้ ยาโอสถพญางู


ทองคํา ทําให้ เขาก้ าวขึ ้นไปสูก่ ารฝึ กฝนขันที
้ ่สามได้ สําเร็ จ

สําหรับการฝึ กฝนขันที ้ ่สาม พลังปราณจะผสานและปกป้องอวัยวะภายในเอาไว้ ความคงทนใน


การต่อสู้จะเพิ่มสูงขึ ้น หัวใจและปอดจะมีความแข็งแรงยิ่งขึ ้น มีลดให้ ใจที่ยาวและสงบนิ่ง
กล้ ามเนื ้อทัว่ ทุกส่วนจะอุดมไปด้ วยพละกําลังที่เพิ่มมากขึ ้น!

หลังจากที่ประสบความสําเร็จในการฝึ กฝนขันที
้ ่สาม หลินหมิงรู้สกึ ได้ ถงึ แรงดันในร่างกาย พลัง
ปราณของเขาสามารถสามารถย่อยสลายและดูดซึมพลังแห่งความเย็นที่ยงั หลงเหลืออยู่
เหล่านันได้
้ ด้วยตัวเอง
ในตอนนี ้ หลินหมิงได้ รอดชีวิตจากการถูกแช่แข็งจากภายในร่างกายแล้ ว และดูดซึบพลังความ
เหนาวเย็นของยาโอสถพญางูทองคําอย่างสมบูรณ์แบบ

สิ่งสุดท้ ายก็เพียงจัดระเบียบของพลังให้ พลังเหล่านันเกิ


้ ดเสถียรภาพมากขึ ้นเท่านัน้

หลังจากใช้ เวลาจัดระเบียบพลังของเขาอยูป่ ระมาณสองชัว่ โมง หลินหมิงเปิ ดตาทังสองข้


้ างของ
เขาขึ ้นมา เขาหายใจออกยาวๆ ครัง้ หนึง่ ลมหายใจของเขาเย็นยะเยือก จนเกิดเป็ นหมอกสีขาว
เหมือนลูกศรอยูก่ ลางอากาศ

หายใจเข้ าก็เหมือนงู หายใจออกเป็ นเหมือนลูกศร นี ้เป็ นสัญญาณของการฝึ กฝนขันอวั ้ ยวะ


ภายใน แต่ก็ใช่วา่ ทุกคนที่อยูใ่ นขันอวั
้ ยวะภายในจะทําเช่นนี ้ได้ ทกุ คน นักสู้บางคนไม่ได้ เข้ าใจ
การฝึ กฝนขันอวั
้ ยวะภายในอย่างถ่องแท้ และละเลยบางอย่างที่สําคัญไป แม้ จะเป็ นเพียงส่วน
เล็กๆ ก็จะทําให้ พวกเขาอ่อนแอกว่าผู้ที่สามารถบรรลุขนนีั ้ ้ได้ อย่างสมบูรณ์

การฝึ กฝนในห้ าขันแรก้ จะมีผลต่อการบรรลุการฝึ กฝนในขันที ้ ่หกอย่างมาก หากการฝึ กฝนใน


ห้ าขันแรกเกิ
้ ดความบกพร่องหรื อละเลยสาระสําคัญบางอย่างไป ก็จะทําให้ เป็ นไปได้ ยากที่จะ
บรรลุเข้ าสู้ขนที
ั ้ ่หกได้ นี่เป็ นเหตุผลหลักที่นกั สู้จากอาณาจักรลิขิตฟ้าไม่สามารถเข้ าสูข่ นผสาน
ั้
ชีพจรได้ ตลอดชีวิตของพวกเขา

และความสมบูรณ์ของแต่ละขันในการฝึ้ กฝนก็เป็ นอีกปั จจัยหนึง่ ที่สง่ ผลต่อพื ้นฐานที่แข็งแกร่ง


ของเหล่านักสู้ ซึง่ ก็เหมือนจุดแข็งของแต่ละคน แต่สําหรับศิษย์จากสํานักเจ็ดแก่นแท้ การจะ
สามารถบรรลุแต่ละขันได้ ้ อย่างสมบูรณ์แบบก็ไม่ไกแป็ นเรื่ องที่พิเศษอะไร แต่หากไม่สามารถ
บรรลุการฝึ กฝนต่ละขันตอนได้
้ อย่างสมบูรณ์ก็จะเป็ นเรื่ องน่าเสียดายยิ่ง

อีกเจ็ดวันหลังจากที่เขาได้ ก้าวเข้ าสูก่ ารฝึ กฝนขันที


้ ่สาม เขาไม่ได้ ออกไปที่ไหนเลย เขาใช้ เวลา
หลายวันนี ้ในการย่อยส่วนที่ยงั ตกข้ างของ ยาโอสถพญางูทองคํา ให้ สมบูรณ์ที่สดุ และจัด
ระเบียบเพื่อเพิ่มความเสถียรของพลังปราณที่เพิ่มขึ ้นอย่างก้ าวกระโดดของเขา ในตอนนี ้เอง
หินหลังปราณที่เขาเคยได้ รับมาก็คอ่ ยๆถูกใช้ ไปวันละก้ อนสองก้ อนจนหมดลงในที่สดุ

เมื่อได้ เห็นหินพลังปราณหมดไป หลินหมิงก็ยิ ้มและส่ายหัวเบาๆ จริ งๆแล้ วเขาต้ องการมันซัก


หนึง่ ร้ อย… ไม่สิ แม้ แต่หนึง่ พันก้ อนก็อาจจะยังไม่เพียงพอ ถ้ าเขาต้ องการที่จะพัฒนาการ
ฝึ กฝนให้ ไปได้ ไกลและเร็วขึ ้น หินพลังปราณถือเป็ นสิ่งที่จําเป็ นอย่างยิ่ง! ถ้ าหากเขาต้ องการที่
จะหาซื ้อหินพลังปราณซักก้ อน มันจะต้ องใช้ เงินทองปริ มาณมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ มันเป็ น
ความพยายามที่ไร้ ประโยชน์ที่เขาจะขายจารึก ‘อาคล้ มล้ าง’ เพื่อที่จะเอาเงินไปซื ้อหินพลัง
ปราณพวกนี ้
'อีกไม่นานก็จะถึงวันที่ข้าได้ นดั หมายกับซางฉางแล้ ว ข้ าอยากรู้วา่ ข้ าแข็งแกร่งขึ ้นเพียงใด
ในตอนนี ้? '

ในตอนนี ้เขาไม่ได้ มีศตั รูที่จะนํามาประเมินความแข็วแข็งของเขาได้ เหมือนกับในอาคมหมื่นอสูร


สังหาร ดังนันเขาจึ
้ งมุง่ หน้ าตรงไปยังห้ องความพละกําลังเพื่อดูความก้ าวหน้ าของพละกําลัง
ของเขา

--------------------------

MW#074 ฝึ กหอกใต้ นํ ้าตกเยือกแข็ง


เมื่อหลินหมิงมาที่ห้องใช้ วดั พละกําลัง ในตอนนี ้ก็เป็ นเวลาช่วงบ่าย ภายในที่แห่งนี ้มีคนอื่นๆอยู่


อีก4-5คนหลินหมิงเลือกแห่งหินที่มมุ หนึง่ ของห้ อง จากนันก็
้ ปล่อยหมัดออกไปเต็มแรง

“ปึ งง”

แท่นหินวัดพละกําลังสัน่ ไหวอย่างรุนแรง และในที่สดุ ก็หยุดลง

“3900 จิ๋น”

นี่เป็ นเพียงแค่หมัดธรรมดาๆเท่านัน้ หลินหมิงพอใจกับผลการวัดพลังในครัง้ นี ้อย่างมาก

ในครัง้ ที่หลิงเซ็นสาธิตวิธีการใช้ แท่นทดสอบพละกําลัง หลิงเซ็นใช้ หมัดธรรมดาๆที่มีพละกําลัง


ถึง 4900 จิ๋น
หลินหมิงจําเวลานันได้
้ อย่างชัดเจน นันเป็
้ นตอนที่เขาได้ ร้ ูถงึ ระยะห่างระหว่างเขากับหลิงเซ็น

“หลินเซ้ นมีการฝึ กฝนในขันที


้ ่สี่ และอีกเพียงก้ าวเดียวก็จะเข้ าสู้ขนที
ั ้ ่ห้า แต่ข้าพึง่ จะเข้ าสูข่ นที
ั้ ่
สาม หากข้ ามีการฝึ กฝนในขันเดี
้ ยวกันกับหลิงเซ็น พละกําลังของข้ าต้ องเหนือกว่าอย่าง
แน่นอน”

“แต่นกั สู้ที่แท้ จริ งจะวัดแค่พละกําลังเพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้ ”

เมื่อคิดเช่นนัน้ หลินหมิงก็สดู หายใจเข้ าไปลึกๆ และผ่อนคลายร่างกาย เขาปิ ดตาลงครู่นงึ ปรับ


ลมหายใจเหมาะสม อนุภาคเล็กๆในร่างกายของเขาก็รวมเป็ นหนึง่ เดียวกันและเริ่ มส่งพลังการ
สัน่ สะท้ อนออกมา และรวบรวมพลังไว้ ที่หมัดเพื่อต่อยเข้ าไปที่แท่นหินอีกครัง้

ปั ง!! แท่นหินสัน่ ไหวเหมือนโดนกระแทกเข้ าด้ วยเหล็กกล้ า แสงชี ้วัดพละกําลังพุง่ ขึ ้นไปถึง


4200 จิ๋น และจากนันก็
้ สนั่ ไปมาระหว่าง 4200-4300 จิ๋น

นี่เป็ นการโจมตีด้วยพลังแห่งการสัน่ สะเทือนของวิชา ‘ไหลลื่นดุจแพรไหม’

“พลังหมัดของข้ าอยูท่ ี่ 4200-4300 จิ๋น ด้ วยวิชา ‘ไหลลื่นดุจแพรไหม’ ทําให้ ข้าสามารถ


ทะลวงและทําลายอวัยวะภายในของศัตรูได้ คนที่ได้ รับหมัดของข้ าถ้ าไม่ได้ ฝึกจนถึงขันอวั
้ ยวะ
ภายในก็มีโอกาสตายได้ ส่วนคนที่ฝึกถึงขันนี
้ ้อย่างน้ อยก็ต้องได้ รับบาดเจ็บภายในอยูไ่ ม่น้อย”
“วรยุทธ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ได้ ระบุไว้ วา่ วิชา ‘ลืน่ ไหลดุจแพรไหม’ เป็ นวิชาที่มีพลัง
ทําลายล้ างสูงมาก แต่ถ้าไม่เข้ าใจวิธีควบคุมอนุภาคพลังปราณก็เปล่าประโยชน์”

...

นี่ก็21วันมาแล้ วตังแต่
้ หลินหมิงได้ มาอยูท่ ี่สํานักเจ็ดแก่นแท้ แห่งนี ้

ในตอนเช้ าหลินหมิงสะพายหอกขึ ้นมาและมุง่ หน้ าไปยังนํ ้าตกเยือกแข็ง ผู้ดแู ลสถานที่ฝกฝน


แห่งนัน้ ซี่ดง เมื่อได้ เห็นหลินหมิงเดินทางมา เขาก็กล่าวทักทายด้ วยรอยยิ ้มและกล่าว “ศิษย์
น้ อง มาตังแต่
้ เช้ าเช่นนี ้ ช่างขยันจริ งๆ”

“อรุณสวัสดิ์ ศิษย์พี่” หลินหมิงตอบกลับอย่างสุภาพ หลินหมิงชอบที่จะมาฝึ กฝนในสถานที่


แห่งนี ้ในตอนเช้ าหรื อไม่ก็ตอนเย็น เพราะมันเป็ นเวลาที่มีคนเข้ ามาฝึ กน้ อยกว่าปกติ

“อีก 15 นาที สถานที่แห่งนี ้ถึงจะเปิ ดให้ ใช้ งาน ศิษย์น้องไปรออยูท่ ี่ตําแหน่งความยากระดับ


เจ็ดได้ เลย” ซี่ดงพูด

“อืม.. วันนี ้ข้ าอยากจะเลื่อนไปฝึ กระดับที่ความยากระดับแปด” นี่เป็ นครัง้ แรกที่หลินหมิงมา


ที่นี่หลังจากบรรลุการฝึ กฝนขันที
้ ่สาม ซึง่ ครัง้ ก่อนในความยากระดับเจ็ดหลินหมิงก็สามารถดํา
ลงไปได้ ลกึ พอสมควรแล้ ว แต่คราวนี ้หลินหมิงนําหอกทะลวงสายรุ้งมาด้ วย ซึง่ มันก็หนักถึง
820 จิ๋น ซึง่ ถ้ าดําลึกเกินไปก็อาจจะไม่สามารถเอากลับขึ ้นมาได้

“หืม ระดับแปดงันรึ
้ ” ซี่ดงรู้สกึ แปลกใจ ที่ความยากระดับแปดนันเหมาะสํ
้ าหรับ อันดับที่ 80
–110 เจ้ าจะฝึ กที่ความยากระดับนันจริ
้ งๆหรื อ?” เขาเองก็ร้ ูสกึ ได้ ถงึ การเปลี่ยนแปลงของ
หลินหมิง “ศิษย์น้อง เจ้ าพัฒนาขึ ้นอีกขันแล้ ้ ”
้ วงันรึ

ซี่ดงจําครัง้ สุดท้ ายที่หลินหมิงมาฝึ กฝนที่นนั่ ได้ เขาพึง่ จะมีการฝึ กฝนในขันที


้ ่สองเท่านัน้ ซี่ดงไม่
คิดว่าหลินหมิงจะขึ ้นไปสูข่ นสามได้
ั้ เร็วขนาดนี ้

“ใช้ เข้ า ข้ าพึง่ เข้ าสูข่ นที


ั ้ ่สามเมื่อไม่นานมานี ้”

“ฮ่าๆ ข้ ายินดีด้วย แต่ศิษย์น้องฟั งข้ าก่อน การที่เจ้ าพึง่ ขึ ้นมาสูข่ นที


ั ้ ่สาม เจ้ าจําเป็ นต้ องรอเวลา
ให้ พลังปราณและร่างกายของเจ้ าปรับตัวซักระยะนึง เจ้ าแน่ใจแล้ วหรื อที่จะฝึ กที่ความยาก
ระดับแปด”

“อืม..ข้ าได้ ตดั สินใจแล้ ว”

“งันเตรี
้ ยมตัวได้ ” ซี่ดงพยักหน้ าและทําตามที่หลินหมิงร้ องขอ
หลังจาก15นาทีนนั ้ หลินหมิงก็แบกหอกและเดินเข้ าไปสูน่ ํ ้าตกเยือกแข็ง ซี่ดงสังเหตเห็นว่าทุก
ย่างก้ าวของหลินหมิงนันหนั
้ กหน่วงอย่างมาก หญ้ าที่ถกู เหยียบจมลงไปใต้ พื ้นดิน

ซี่ดงมองด้ วยความสงสัย “ในกล่องนันคงจะเป็


้ นอาวุธจําพวกหอกหรื อง้ าวสินะ มันคงจะหนัก
ประมาณ700-800จิ๋น คนที่เลือกอาวุธเช่นเจ้ าหาได้ ยากอย่างยิ่ง”

หลังจากหลินหมิงได้ เข้ ามาในสถานที่ฝึกฝนนํ ้าตกเยือกแข็ง เขาก็กระโดดลงไปกลางบ่อในทันที

ที่ความยากระดับแปดนันรุ ้ นแรงกว่าระดับเจ็ดมาก แต่ด้วยพลังที่เพิ่มขึ ้นมาอย่างมากจากการ


เข้ าสูก่ ารฝึ กฝนขันที ้ ่สาม มันก็ไม่ได้ ยากจนเกินไปสําหรับเขา เขาได้ ดําลงไปที่บงึ นัน้ เมื่อเขาดํา
นํ ้าเขารู้สกึ ว่านํ ้านี ้

ด้ วยการสะพายหอกหนักไว้ บนหลัง ทําให้ หลินหมิงดําดิ่งลงไปในนํ ้าได้ ไม่ยากเท่าไร

เขาโคจรพลังด้ วยความยากลําบาก เขาใช้ ขาทังสองข้


้ างว่ายนํ ้าและมาเกาะแท่นหินใกล้ ๆกับผิว
นํ ้า

ที่บอ่ แห่งนี ้มีนํ ้าตกที่หนาวเหน็บ และนํ ้าที่พงุ่ ลงมาก็ตกลงมาจากความสูงกว่า 300ฟุตอีก ซึง่


ความแรงของมันก็ไม่น้อยกว่า 1000จิ๋นอย่างแน่นอน
ใต้ นํ ้าตกแห่งนี ้มีแท่นหินอยู่ มันมีไว้ สําหรับผู้ที่อยากจะฝึ กวิชาข้ างใต้ นํ ้าตกแห่งนี ้ แท่นหินนี ้ถูก
สร้ างโดยปรมาจารย์ทา่ นเดียวกับที่สร้ างอาคมนํ ้าตกเยือกแข็ง แท่นหินใต้ นํ ้าตกนันมี ้ อาคมที่
ทรงพลัง เพราะถ้ าเป็ นเพียงหินธรรมดาก็คงจะโดนแรงนํ ้าที่ตกลงมาบดให้ เป็ นเศษๆไปแล้ ว

“ช่างเป็ นแรงกระแทกที่หนักหน่วงจริ งๆ”หลินหมิงพยายามขึ ้นไปยืนบนแท่นหินอาคมใต้ นํ ้าตก


และก็พบว่าเพียงแค่จะยืนอยูบ่ นนี ้ ก็เป็ นเรื่ องที่ยากเย็นอย่างยิ่ง

“ปึ ก” หลินหมิงทิ่มหอกไปยังแท่นหินและยันตัวเอาไว้ บนยอดหิน แรงของนํ ้าที่พงุ่ ลงมาหนักถึง


1000จิ๋น กระแทกลงไปทบนหลังและไหล่ของเขา ความรู้สกึ เจ็บปวดเหมือนโดนเอาค้ อนมา
ทุบใส่และยังหนาวเย็นมากอีกด้ วย ถึงแม้ หลินหมิงจะโคจร ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ อยูแ่ ต่
เขาก็ร้ ูสกึ ได้ ถงึ ความเย็นที่ทะลวงเข้ ามาภายในร่างกาย เหมือนโดนเข็มนับพันทิ่มแทง

หลินหมิงพยายามควบคุมอนุภาคทังหลายในร่
้ างของเขาและใช้ การสัน่ สะเทือนอนุภาค
เหล่านันช่
้ วยพยุงสภาพร่างกายเอาไว้

แต่ละครัง้ ที่เขาหายใจหลินหมิงรู้สกึ ได้ เลยว่าพลังปราณในร่างกายของเขาจะสงบมากขึ ้นเรื่ อยๆ


จนเขาสามารถยืนได้ อย่างมัน่ คง

หลินหมิงดึงหอกของเขาออกมาจากหิน เขาไม่ได้ กวัดแกว่งมันหรื อร่ายรํ าหอก เขายืนเฉยๆ


พร้ อมถือหอกเอาไว้ ในมือ
หอกนันคื
้ อเจ้ าแห่งการกวาดล้ าง มันสามารถกวัดแกว่ง สะบัน้ ร่ายรํ าดัง่ บุปผาได้ แม้ การ
เคลื่อนไหวของอาวุธประเภทนี ้จะได้ ไม่ซบั ซ้ อน แต่การจะสําเร็ จวิชาจริ งๆนันไม่
้ งา่ ยเลย และ
การจะเป็ นเซียนในวิชาหอกก็ยิ่งยากเข้ าไปอีก

หอกนันเป็
้ นอาวุธยาวและแข็งแกร่ง หากผสานเข้ ากับพลังปราณและวิชาอื่นๆ มันจะกลายเป็ น
เครื่ องมือสังหารที่ทรงพลังอย่างมาก คนที่อยูท่ ร่ามกลางสนามรบที่อาจต้ องต่อสู้กบั ศัตรู
มากมายพร้ อมๆกันล้ วนใช้ หอกเป็ นอาวุธกันทังนั ้ น้ ไม่มีใครใช้ ดาบในสงคราม

แต่ในทางกลับกัน ยิ่งสันก็
้ ย่ิงเบา ถึงดาบจะด้ อยกว่าหอกในด้ านพลังการทําลายล้ าง แต่มนั
เหนือกว่าในด้ านความแม่นยําและความรวดเร็ ว และมีดก็จะเหนือกว่าดาบขึ ้นไปอีก ไม่สงสัย
เลยว่าทําไมเหล่านักฆ่าถึงใช้ อาวุธจําพวกมีดกันเต็มไปหมด มันสามารถปลิดชพศัตรูได้ อย่าง
รวดเร็ วและแม่นยํา

นันคื
้ อสาเหตุวา่ ทําไมก่อนฝึ กวิชาหอก เขาจึงต้ องฝึ กฝนความแม่นยํามาก่อน

หลินหมิงได้ พยายามฝึ กเรื่ องความแม่นยํามานานมากแล้ ว เพราะงันตอนที ้ ่ส้ กู บั แมงมุมหลัง


เพชร เขาจึงสามารถตัดใยที่พงุ่ เข้ ามาได้ อย่างแม่นยํา แต่การที่จะสู้กบั นักสู้ระดับสูงๆนัน้ การใช้
หอกทิ่มไปยังจุดอ่อนของพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่ องง่ายเลย

เพราะเหตุนนั ้ ขันแรกของการฝึ
้ กหอกไม่ใช่การใช่มนั กวัดแกว่งไปมาแต่เป็ นการฝึ กใช้ มนั ให้ มี
แม่นยํามากที่สดุ เวียก่อน
ตอนนี ้หลินหมิงยกหอกทะลวงสายรุ้งด้ วยมือทังสองข้
้ าง และสองส่วนสามของหอกก็ถกู
กระแสนํ ้าที่ตกลงมากดทับอยูด่ ้ วยแรง1000จิ๋นอยูต่ ลอดเวลา

หอกทะลวงสายรุ้งหนัก 820 จิ๋น ยาว 8 ฟุต และหัวหอกยาว 8 นิ ้ว ด้ วยความยาวระดับนัน้


การจะจับมันให้ มนั่ คงขณะที่อยูใ่ ต้ นํ ้าตกที่สงู 300 ฟุตนันไม่
้ ใช่เรื่ องง่ายๆเลย

“หนักเป็ นบ้ า”

หลินหมิงกัดฟั น เขาอยูใ่ นสภาพนี ้มาซักพักแล้ ว จนกระทัง่ แขนของเขาเริ่ มชา และตัวหอกก็เริ่ ม


ที่จะโดนกดตํ่าลงๆจากแรงของนํ ้าตก

------------------------

MW#075 วันแห่งการเดิมพัน

หลินหมิงส่งพลังปราณไปที่แขน พร้ อมๆกับโคจรพลังเพื่อต้ านทานความหนาวเย็นจากนํ ้าตก


แห่งนี ้ และแม้ วา่ เขาจะใช้ พลัง ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ อย่างเต็มที่แล้ วก็ตาม

แขนของเขาก็เริ่ มที่จะเยือกแข็งและกลายเป็ นสีฟ้า ตอนนี ้เขากําลังรับแรงจากนํ ้าที่ตกลงมา


อย่างไม่มีที่สิ ้นสุด เขารู้สกึ เหมือนจะควบคุมแขนของเขาไม่ได้ อีกต่อไปแล้ ว เขาพยายามจะยืน
หยัดแต่วา่ พลังของเขาก็ใกล้ จะหมดลงแล้ ว

“ซ่าๆ” นํ ้าจากนํ ้าตกถาโถมลงมาอย่างรุนแรง เขาถึงกับต้ องใช้ หอกทิ่งลงไปบนหินเพื่อพยุงตัว


เอาไว้

“นี่ก็ 15 นาทีแล้ ว ดูเหมือนข้ าจะมาได้ เท่านี ้สินะ น่าสมเพชซะจริ ง ถ้ าหากข้ ามีหินหลังปราณ


อีกก็คงจะดี ข้ าจะใช้ มนั ฟื น้ พลังปราณและฝึ กฝน การเดิมพันระหว่างข้ ากับซางฉางก็ใกล้ เข้ ามา
ทุกที ต่อให้ ข้าชนะมันได้ หินพลังปราณที่ได้ จากมันก็ไม่ได้ มากพอ ข้ าจําเป็ นต้ องหาวิธีที่จะได้
หินพลังปราณจํานวนมากมา”

...

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลินหมิงฝึ กการใช้ หอกทุกๆวัน วันละ 2 ชัว่ โมงที่นํ ้าตกเยือกแข็ง


แห่งนี ้ ในที่สดุ พลังของยาโอสถพญางูทองคําก็ถกู ดูดซับอย่างสมบูรณ์

า 16 ชัว่ โมงในการฝึ กใช้ หอก และในวัน


หลังจากผ่านไป8วัน หลินหมิงก็ได้ ใช้ เวลาทังหมดกว่

สุดท้ ายหลินหมิงก็สะพายหอกไปยืนอยูใ่ ต้ นํ ้าตกแห่งนันเป็
้ นเวลานานถึงหนึง่ ชัว่ โมง แม้ เวลาจะ
ผ่านไปกว่าครึ่งชัว่ โมงแล้ ว แต่เขาก็ยงั ไม่สะทกสะท้ าน

หลังจากนันอี
้ กสองวัน ก็เป็ นเวลาหนึง่ เดือนพอดีนบั จากที่หลินหมิงเข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้
หลินหมิงตืน่ นอนก่อนเวลาปกติ เขายืนอยูห่ น้ าประตูที่พกั ของเขาอย่างสุขมุ และหยิบหอก
ทะลวงสายรุ้งของเขาออกมา มันเหมือนกับกลายเป็ นส่วนหนึง่ ของร่างกายเขาไปแล้ วในตอนนี ้

เพราะว่าเขาไม่เหลือเวลาที่จะเข้ าไปฝึ กฝนในนํ ้าตกเยือกแข็งได้ อีกแล้ วในเดือนนี ้ เขาจึงคิดวิธี


ฝึ กในแบบของเขาเองขึ ้นมา

หลินหมิงได้ ฝึกฝนตามวิธีฝกฝนของเขาจนถึงเที่ยงวัน เขารับประทานอาหารง่ายๆ และพักผ่อน


เล็กน้ อย จากนันเขาก็
้ สะพายหอกตรงไปยัง ลานประลองของสํานักเจ็ดแก่นแท้ นี่เป็ นวันที่เขา
จะปละลองกับซางฉาง …

...

แม้ วา่ ตอนนี ้จะเป็ นฤดูใบไม้ ร่วง แต่ดวงอาทิตย์ก็ยงั ส่งไอร้ อนไปทัว่ ทุกพื ้นที่ เป็ นเวลาที่พลังห
ยางหนาแน่นที่สดุ ในอากาศ ซึง่ เวลาแบบนี ้คนส่วนใหญ่จะไม่คอ่ ยออกมาข้ างนอก แต่ตอนนี ้ที่
ลานประลองสํานักเจ็ดแก่นแท้ กลับเต็มไปด้ วยฝูงชนนับไม่ถ้วน

ซึง่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็ นศิษย์ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ทังห้ ้ องพสุธา และห้ องมนุษย์ และก็มีบางส่วน


ที่มาจากนิกายสวรรค์ วันนี ้เป็ นวันที่หลินหมิง ซางฉาง หวังยานเฟิ ง ลุย่ หมิงเซียง ได้ ตกลงเดิม
พันกันเอาไว้ สองคนในนันคื ้ อสองอันอับแรงในการทดสอบเข้ าสํานักในปี นี ้ และอีกสองคนก็
เป็ นศิษย์เก่าที่แข็งแกร่ง สิ่งเหล่านี ้สามารถเรี ยกผู้คนให้ สนใจเข้ ามาดูการประลองได้ มากมาย

ศิษย์จากห้ องมนุษย์มาดูเพื่อความสนุกของตน แต่ศิษย์จากห้ องพสุธาและนิกายสวรรค์มาเพื่อ


ดูความแข็งแกร่งของคูแ่ ข็งในอนาคตของพวกเขา จะหลินหมิงหรื อหวังยานเฟิ งก็มีอนาคตที่ไกล
และไม่อาจจะดูถกู ได้

“มันก็คงเป็ นเช่นเดียวกับที่ผ่านๆมา ไม่มีทางที่ศิษย์ใหม่จะเอาชนะศิษย์เก่าได้ ขึ ้นอยูก่ บั เวลา


เท่านันว่
้ าพวกศิษย์หน้ าใหม่จะยืนอยูบ่ นเวทีได้ นานเท่าไร โดยฉพาะกับลุย่ หมิงเซียงและซาง
ฉาง ศิษย์ใหม่ทงสองคนนั
ั้ นคงไม่
้ ได้ ยืนบนเวทีนานนักหรอก” ศิษย์จากนิกายสวรรค์กล่าว

“ก็จริ งอยู่ แต่อย่าไปเจ้ าเด็กที่ชื่อหลินหมิงนันดี


้ กว่า แม้ มนั จะพึง่ เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ แต่การ
จัดอันดับในครัง้ แรกของมันคือ อันดับที1
่ 26 หากหลินหมิงได้ ส้ กู บั ลุย่ หมิงเซียงแทนที่จะเป็ น
ซางฉาง ข้ าว่าเขาก็มีโอกาสที่จะชนะได้ ”

“เจ้ าคิดว่าลุย่ หมิงเซียงจะแพ้ หลินหมิงอย่างงันหรื


้ อ บ้ าไปแล้ ว ถึงหลินหมิงจะได้ อนั ดับที่สงู เกิน
คาดแต่ในด้ านประสบการณ์ของเขา มันก็ตา่ งชันกั ้ บลุย่ หมิงเซียงลิบลับ แม้ เขาจะมียาโอสถลํ ้า
น้ เขาก็ไม่มีทางที่จะควํ่าลุย่ หมิงเซียงได้ ”
ค่าทังสองนั

“เจ้ าจะเอาแต่ยดึ ตึดกับพรสวรรค์ของเขาไม่ได้ เจ้ าไม่ได้ เห็นที่เขาได้ แสดงพลังที่เหนือกว่า


พรสวรรค์ที่เขามีหรื ออย่างไร ผู้ที่ดถู กู เขาจะต้ องเสียใจในภายหลัง” ศิษย์จากนิกายสวรรค์
กล่าวอย่างหนักแน่น

“ฮ่าๆ คาดหวังกับหลินหมิงเอาไว้ สงู จริ งๆ พวกเจาไม่ร้ ูสินะว่ามันเลือกวิชาอะไรกลับไปบ้ าง


ข้ าน่ะตามสืบมาหมดแล้ ว” ศิษย์จากห้ องพสุธาพูด “มันเลือกวิชาพื ้นฐานการใช้ หอก พื ้นฐาน
การเคลื่อนไหวละ และวิชาที่ไม่สมบูรณ์ หมัดสลายกระดูก ทักษะที่ด้อยคุณค่าเหล่านันจะช่ ้ วย
อะไรมันได้ สิ่งที่พวกเจ้ าได้ เห็นนัน่ เป็ นขีดจํากัดของมันแล้ วล่ะ มันไม่มีทางพัฒนาต่อไปได้ อีก
แล้ ว นัน่ เป็ นเหตุให้ มนั ไม่มีทางที่จะเอาชนะลุย่ หมิงเซี่ยงได้ ”

หลินหมิงได้ ทําผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจไว้ ในการจัดอันดับจากอาคาหมื่นอสูรสังหาร ทําให้ ผ้ คู น


มากมายอยากจะเห็นถึงวิชาที่เขาเลือกฝึ ก ซึง่ ก็สามารถสืบได้ ไม่ยาก เพราะชื่อของเขาจะถูก
สลักไว้ บนแผ่นหยกที่คลังตํารา

“หา...พื ้นฐานการใช้ หอก พื ้นฐานการเคลื่อนไหว หลินหมิงเลือกสองวิชานี ้งันหรอ


้ ข้ าก็นกึ ว่า
เขาจะเลือกพวกวิชา ‘ศิลปะไร้ เงา’ หรื อ ‘การดูดซับพลังหยางทังเก้
้ า’ เสียอีก”

“ ‘ศิลปะไร้ เงา’ ‘การดูดซับพลังหยางทังเก้ ้ า’ งันเหรอ?


้ มันเป็ นวิชาที่สดุ ยอดก็จริ ง แต่เจ้ าคิด
ว่าคนธรรมดาๆจะสามารถฝึ กมันให้ สาํ เร็ จได้ อย่างงันหรื้ อ เจ้ าลืมคํานึงถึงพรสวรรค์ของหลินห
มิงไปแล้ วสินะ ข้ าบอกแล้ วไงว่าเจ้ านัน่ มีขีดจํากัดของมันอยู่ มันรู้ตวั เองดียิ่งกว่าใคร มันถึงได้
เลือกวิชาอ่อนๆพวกนันมาฝึ้ กยังไงล่ะ” ศิษย์คนหนึง่ พูดด้ วยนํ ้าเสียงเยาะเย้ ย แน่นอนว่าการที่
หลินหมิงมีอนั ดับที่สงู กว่ามัน ทําให้ มนั อิจฉาและจะอยูไ่ ม่เป็ นสุขหากไม่ได้ นินทาว่าร้ ายหลินห
มิง

ตอนนี ้ฝูงชนมากมายมารอชมการปละลองอยูเ่ ต็มไปหมด ห่างออกไปชายสองคนนันอายุ


้ ราวๆ
20ปี ก็เดินมาด้ วยกัน

หนึง่ ในนันมี ้ สีหน้ าดูซีดๆ เย็นชา เขาสะพายดาบสีดําทมิฬไว้ บนหลัง เพียงแค่ยา่ งก้ าวธรรมดาๆ
ก็ทําให้ ร้ ูสกึ ได้ ถงึ แรงกดดันที่แผ่ออกมาอย่างรุนแรง

อีกคนหนึง่ มีร่างกายสูงและสีหน้ ามีชีวิตชีวา ดูมีพลัง ร่างกายของเขาเต็มไปด้ วยกล้ ามเนื ้ออัด


แน่นอยู่ เขาสะพายไม้ เท้ ายาวแปดฟุตไว้ บนหลัง ทุกๆก้ าวของเขานันเงี
้ ยบกริ บ และระยะห่าง
ของแต่ละสองก้ าวก็หา่ งกันถึง 6 ฟุต นี่เป็ นผลลัพธ์ของผู้ที่ฝึกวิชา ‘ขันตอนหกย่
้ างก้ าว’ ได้
สําเร็ จนันเอง

“หลิงเซ็น!”
“ทาคุ!”

“พวกเขาสองคนก็มาดูการต่อสู้ครัง้ นี ้ด้ วยอย่างงันหรอ?!”


ในบรรดาพวกที่มาดูการต่อสู้ครัง้ นี ้ ส่วนใหญ่จะเป็ นศิษย์จากห้ องพสุธา และพวกนิกายสวรรค์ที่


มีอนั ดับช่วง 50-60 คงเป็ นเพราะศิษย์ใหม่ทงสองคนนี
ั้ ้อาจจะมาสัน่ คลอนอันดับของพวกเขา
ก็เป็ นได้ พวกเขาจึงต้ องมาดูความสามารถของศิษย์ใหม่ด้วยตาตัวเอง

แต่กบั หลิงเซ็นและทาคุ พวกเขาอยูใ่ นอันดับที่สงู มาก สูงจนไม่มีใครมาแย่งได้ แล้ ว แต่พวกเขาก็


ยังมาดูการประลองในครัง้ นี ้ พวกเขาจะเสียเวลามาดูการประลองของศิษย์ห้องพสุธาทําไม
กัน?!

MW#076 หลิงเซ็นและทาคุ

...

...

...

ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ หลิงเซ็น ทาคุ และซางกวนยู่ เป็ นผู้มีอิทธิพลและทรงอํานาจ ไม่วา่ จะศิษย์


คนไหนก็ต้องเคารพและให้ เกียรติในชื่อเสียงของพวกเขาทังสาม ้ พวกเขาทังสามได้
้ ขึ ้นเป็ นสาม
อันดับแรกไม่นานหลังจากได้ เข้ ามาในสํานัก และก็ยงั คงรักษาสามอันดับแรกของพวกเขามาได้
จนถึงปั จจุบนั ไมมีศิษย์คนใดเลยที่สามารถจะแย่งชิงสามอันดับแรกจากพวกเขาทังสามมาได้
้ !

การจัดอันดับของอาคมหมื่นอสูรสังหารนัน้ จะแสดงให้ เห็นถึงอันดับของพวกเขาทังสามเพี


้ ยง
เท่านัน้ มันไม่ได้ บง่ บอกว่าพวกเขาทังสามมี
้ คะแนนเท่าไร ดังนันจึ
้ งไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาทัง้
สามลํ ้าหน้ าศิษย์คนอื่นๆไปมากเพียงใด มีขา่ วลือว่า ซางกวนยูส่ ามารถทําคะแนนในการจัด
อันดับได้ มากกว่า10000คะแนนเสียอีก ทว่าข่าวลือนันจะเป็
้ นจริ งไม่ก็ไม่มีใครรู้

หลิงเซ็น ทาคุ และซางกวนยู่ สามเสาหลักแห่งความแข็งแกร่ง พวกเขาลือว่าหลินเซ็นเกือบจะ


เข้ าสู้การฝึ กฝนขันที
้ ่ห้าได้ แล้ ว ซึง่ ความแข็งแกร่งของหลิงเซ็นในขันที
้ ่ห้านันจะสามารถเที
้ ยบได้
กับผู้มีการฝึ กฝนในขันผสานชี
้ พจร(ขัน6)เลยที
้ เดียว!

บุคคลที่มีความโดดเด่น พวกเขาก็จะได้ รับความสนใจอย่างมาจากเหล่าศิษย์ร่วมสํานัก

เรื่ องแบบนันไม่
้ ได้ เกิดขึ ้นกับ ซางฉาง หรื อ ลุย่ หมิงเซียง แม้ วา่ พวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่ในสองปี
ที่ผ่านมานี ้พวกเขาทังสองยั
้ งไม่สามารถที่จะก้ าวเข้ าสูอ่ นั ดับ100อันดับแรกของสํานักได้ ด้วย
ซํ ้า อย่างพวกเขาทังสอง
้ จึงไม่ใช่บคุ คลที่หลิงเซ็นและทาคุให้ ความสําคัญ หวังยานเฟิ งก็เอง
เช่นกัน แม้ เขาจะมีพรสวรรค์สงู ถึงระดับสี่ขนสู
ั ้ ง แต่การจัดอันดับในครัง้ แรกของเขาก็ไม่น่า
พอใจเท่าที่ควร เขาเป็ นคนที่น่าสงสาร ดังนันศิ ้ ษย์หน้ าใหม่ที่ควรค่าต่อความสนใจของพวกเขา
ก็มีเพียง หลินหมิงเท่านัน!

ในการจัดอันดับในครัง้ แรกด้ วยอาคมหมื่นอสูรสังหาร หลิงหมิงสามารถทําได้ ถงึ อันดับที่ 126


แม้ กระทัง่ ซางกวนยู่ ก็ยงั ด้ อยกว่าเขาในการจัดอันดับครัง้ แรก นี ้เป็ นสามารถที่ทําให้ พวกเขา
สนใจหลิงหมิง

ทร่ามกลางฝูงชนที่รอคอย ในที่สดุ ซางฉางและลุย่ หมิงเซียงก็มาถึง แต่เนื่องจากการมีอยูข่ องห


ลิงเซ็นและทาคุ ทําให้ พวกเขาทังสองไม่
้ ได้ รัยความสนใจจากผู้คนที่รอชมการต่อสู้อยูม่ ากเท่าไร
นัก
ซางฉางรู้อยูแ่ ก่ใจดี หลิงเซ็นและทาคุไม่ได้ มาที่นี ้เพื่อดูการต่อสู้ของเขา พวกเขาทังสองมาเพื
้ ่อดู
ความสามารถของศิษย์ใหม่ที่มีพรสวรรค์อย่างหลินหมิง สําหรับซางฉาง เขารู้สกึ อึดอัดใจมากที่
ถูกบุคคลทังสองมองข้
้ ามเช่นนี ้ แม้ วา่ เขาจะชนะหลินหมิง หลิงเซ็นและทาคุก็คงไม่ได้ คิดจะ
สนใจเขาอยูด่ ี

"ฮึ! จะเก่งแค่ไหนก็มองข้ ามหัวข้ าไม่ได้ ! ข้ าจะทําให้ พวกเจ้ าเสียใจ ที่เสียเวลามาดูการต่อสู้ของ


ไอ้ ลกู หมานัน่ !" ซางฉางกําหมัดของเขา

ลุย่ หมิงเซียงก็ร้ ูสกึ ไม่ตา่ งกัน "ซางฉาง ไม่เพียงแต่พวกเราต้ องชนะเท่านัน้ พวกเราต้ องชนะแบบ
ขาดลอย ภายในห้ ากระบวนท่าเราจะทําให้ พวกเด็กนัน่ ลงไปนอนกองอยูแ่ ทบเท้ าของพวกเรา
ให้ ได้ ไม่เช่นนันผู
้ ้ คนที่มาดูได้ เห็นพวกเราเป็ นสวะแน่ ! "

"ฮึ ข้ าจะสลักบาดแผลร้ ายแรงไว้ บนร่างของมัน ให้ มนั เสียใจที่ได้ มาเดิมพันกับข้ าไปชัว่ ชีวิต"
ในขณะซางฉางพูด เขาก็หยิบมีดเรี ยบยาวขึ ้นมาด้ วยสายตาเย็นชา การได้ รับบาดแผลร้ ายแรง
จะส่งผมกับการฝึ กฝนในอนาคต

ในตอนนี ้เอง หลิงหมิงและหวังยานเฟิ งก็ได้ เดินทางมาถึง หลินหมิงแต่งกายด้ วยชุดผ้ าสีดํา


พร้ อมหอกสีมว่ งเข้ มบนหลังของเขา หอกขนาด 820 จิน หอกทะลวงสายรุ้ง!

แม้ วา่ การฝึ กฝนของเขาจะเป็ นเพียงการฝึ กฝนขันที


้ ่สาม ทว่าพลังปราณที่ดเู ข้ มข้ นและหนาแน่น
ของเขา ทําให้ สามารถสัมผัสได้ ถงึ ความแข็งแกร่งที่ไม่อาจจะถูกดูกได้ !

"นัน่ หลินหมิงนิ ไม่เลว!" ทาคุพดู "ดูเหมือนหอกของเขาจะสร้ างขึ ้นจาก เหล็กเหนียวทมิฬ มันมี


ความยืดหยุน่ มีสีมว่ งเช่นเดียวกับอาวุธของข้ า ดูจากขนาดของมันมันคงจะหนักประมาณ
800 จิ๋น เพลามีความแข็งแกร่งที่น่ากลัว หากเขากล้ าที่จะเลือกใช้ อาวุธนันแล้
้ ว แสดงว่าเขา
จะต้ องมีความมัน่ ใจในความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างมาก "

อาวุธของตากู่เป็ นไม้ กระบอง(เหมือนหอกแต่ไม่มีหวั ) มันเป็ นอาวุธที่นกั สู้ไม่นิยมใช้ กนั แต่ใน


กองทัพบางคนก็ยงั เลือกใช้ อาวุธประเภทนี ้ มันเป็ นที่ร้ ูจกั กันดีในกองทัพทหาร

กระบองของทาคุหนักถึง 860 จิ๋น ตัวกระบองสร้ างขึ ้นจากเหล็กเหนียวทมิฬ ปลายทังสองทํ ้ า


จากเหล็กเส้ นทมิฬ แม้ วา่ มันจะไม่ได้ เป็ นอาวุธระดับสมบัติ แต่มนั ก็มีพลังรุนแรงที่น่ากลัว

หากจะอธิบายถึงอํานาจของกระบองนัน่ ก็อธิบายสันๆได้ ้ วา่ 'เพียงสัมผัสก็ตายแล้ ว’ ที่เป็ น


เช่นนันก็
้ เพราะการสัน่ สะเทือนของมันทําให้ เกิดแรงบดขยี ้ที่ทรงพลานุภาพร้ ายแรง! และหาก
ถูกกระบองนันฟากเข้
้ าตรงๆแม้ แต่เกราะเหล็กก็ยงั แตกออกเป็ นเสี่ยงๆ!

ดังนันสํ
้ าหรับอาวุธประเภทนี ้ อาวุธระดับสมบัติอาจจะด้ วยกว่าอาวุธที่ถกู ตีขึ ้นจากเหล็กเหนียว
ทมิฬเสียอีก!

หอกเป็ นอาวุธที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับกระบอง แต่จะมีรูปแบบทวงท่าที่ซบั ซ้ อนหลากหลาย


มากกว่า

ทาคุที่เลือกใช้ กระบอง และหลินหมิงที่เลือกใช้ หอก ทังคู


้ ก่ ็เป็ นบุคคลหายากที่เลือกใช้ อาวุธ
ประเภทนี ้เช่นเดียวกัน

"น่าเสียดายที่คตู่ อ่ สูข่ องเขาคือซางฉาง ข้ าไม่คอ่ ยอยากจะดูการประลองที่เขาจะถูกลังแกเช่นนี ้


เลย เจ้ าคิดว่าหลินหมิงจะสามารถรับมือกับซางฉางได้ ซกั กี่กระบวนท่า?" ทาคุหนั ไปถาม
ความคิดเห็นจากหลิงเซ็นที่อยูข่ ้ างๆ
หลิงเซ็นมองมาที่ทาคุและตอบกลับไปด้ วยคําตาม "เจ้ าคิดว่าหลินหมิงจะแพ้ อย่างนันรึ
้ ?"

"โอ้ ? เจ้ าคิดว่าหลินหมิงจะชนะได้ รึ?" ทาคุร้ ูดีวา่ หลินหมิงนันแข็


้ งแกร่งกว่าใครๆในรุ่ นเดียวกัน
แต่มนั ก็ยงั เร็วเกินไปที่จะเทียบกับซางฉาง เขาไม่คิดว่าหลิงเซ็นจะประเมินหลินหมิงไว้ สงู ขนาด
ที่วา่ อาจจะสามารถเอาชนะซางฉางได้ !

เหตุผลที่หลิงเสนสนใจหลินหมิง ส่วนหนึง่ เป็ นเพราะหลินหมิงได้ อนั ดับ 126 ในการจัดอันดับ


ครัง้ แรก ในอาคมหมื่นอสูรสังหาร และอีกส่วนหนึง่ เป็ นเพราะเขาสัมผัสได้ ถงึ จิตใจแห่งการต่อสู้
ที่เข้ มแข็งของหลินหมิง!

หลิงเซ็นมีความคิดที่มนั่ คงเด็ดเดี่ยวเช่นเหล็กกล้ า ไม่มีความต้ องการอันใดมาล่อลวงเขาได้ แต่


นัน่ ไม่ได้ หมายความว่าเขาไม่มีข้อบกพร่อง ข้ อบกพร่องของเขาคือหัวใจแห่งการเข่าฆ่า ความ
กระหายเลือดของหลิงเซ็นนัน่ รุนแรงมาก มันก็เป็ นเรื่ องยากที่จะกําจัดความชัว่ ร้ ายที่อยูใ่ นจิตใจ
ของเขา

แน่นอนหลินหมิงก็ยงั มีข้อบกพร่อง ไม่มีใครในโลกที่ไร้ จดุ อ่อนในจิตใจ เพียงแค่จิตใจของหลินห


มิงนัน่ เข้ มแข็งและมีจดุ อ่อนเหล่านี ้น้ อยกว่าคนทัว่ ไป

พรสวรรค์ของหลิงเซ็นนันถ้ ้ อยกว่าขันที
้ ่สี่ ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ศิษย์ที่มีพรสวรรค์เช่นเดียวกับเขา
ก็ยงั จัดว่าพอใช้ ได้ สิ่งที่ทําให้ เขามาอยูบ่ นบนอันดับที่สงู ส่งเช่นนี ้ได้ ก็เป็ นเพราะจิตใจแห่งนักสู้ที่
เข้ มแข็งของเขา เขาได้ เห็นเงาของตัวเองในตัวหลินหมิง เขาสัมผัสได้ วา่ จิตใจแห่งนักสู้ของ
หลินหมิงนันเข้
้ มแข็งกล้ าหาญกว่าจิตใจของเขาเสียอีก เขาต้ องการที่จะรอดูปาฏิหาริ ย์ของ
หลินหมิง
หลิงเซ็นกล่าวว่า "ข้ าก็ไม่ได้ แน่ใจว่าหลินหมิงจะชนะหรื อแพ้ แต่ส่งิ ที่ข้ามัน่ ใจก็คอื ในตอนที่
หลินหมิงอยูใ่ นอาคมหมื่นอสูรสังหาร การฝึ กฝนของเขาอยูบ่ นจุดสูงสุดของขันที ้ ่สอง และ
ในตอนนี ้เขาก็มีการฝึ กฝนในขันที้ ่สามอย่างสมบูรณ์และมีเสถียรภาพ"

"อืม ดูเหมือนจะเป็ นเช่นนัน"้

เมื่อมีการฝึ กฝนที่สงู กว่า พวกเขาก็สามารถที่จะบ่งบอกถึงการฝึ กฝนของผู้อนื่ ได้ โดยธรรมชาติ


ซางฉางและลุย่ หมิงเซียง ก็สมั ผัสได้ ถงึ พัฒนาการของหลินหมิง

"เด็กนัน่ โชคดีเยี่ยงสุนขั ขี ้เรื อ้ นถูกรับไปเลี ้ยง มันสามารถยกระดับของมันได้ ในเวลาเช่นนี ้! "


ซางฉางกล่าวอย่างไม่พอใจ

"มันคงเป็ นเพราะยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองและ ยาโอสถพญางูทองคํา ถ้ าเขาใช้ ยาปาฏิหาร


ทังสองนั
้ นมั
้ นก็ไม่ได้ ไร้ เหตุผลจนเกินไปที่เขาจะบรรลุการฝึ กฝนขันที
้ ่สามในเวลานี ้ จริ งๆแล้ ว
หากเขาไม่ได้ ยาทังสองนั
้ ้ วยเหลือ เขาก็คงไม่มีทางไปถึงอันดับ126ได้ ในการจัดอันดับครัง้
นช่
แรก ซางฉางเจ้ าต้ องระมัดระวัง อย่าได้ ประมาทมันเด็ดขาด "

"ฮึ ขันที
้ ่สามแล้ วยังไง มันมีทกั ษะ 'ศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธหอก' และ 'พื ้นฐานการ
เคลื่อนไหว' ต่อให้ มนั สามารถฝึ กทักษะทังสองได้
้ สําเร็ จในหนึง่ เดือน มันก็ไม่ได้ มีพิษสงใดกับข้ า
ไอ้ หมาขี ้ขลาดที่เลือกวิชาคนงี่เง่าพวกนันจะไปทํ
้ าอะไรข้ าได้ ทักษะวิชาของข้ านันวิ ้ องไวดุจสาย
ลม พริ ว้ ไหวดุจสายนํ ้า หอกเทอะทะของมันไร้ ซงึ่ โอกาสที่จะเกี่ยวถูกชายผ้ าของข้ า! "

ในขณะนี ้ เงาจากแสงอาทิตย์ก็สอ่ งตรงลงมาจากด้ านบน บ่งบอกว่าเป็ นเวลาเทียงตรง ได้ เวลา


เสียที!

----------------------

MW#077 เมื่อข้ าต้ องการ ข้ าก็ต้องได้

ลุย่ หมิงเซียงเป็ นคนแรกที่ก้าวกระโดดขึ ้นมาบนเวที เขาชี ้หน้ าหวังยานเฟิ งด้ วยดาบของเขา และ
แสยะยิ ้มพร้ อมกับกล่าวว่า “หวังยานเฟิ ง ถึงเวลาได้ รับความพ่ายแพ้ ของเจ้ าแล้ ว”

“ฮึ” หวังยานเฟิ งคํารามในลําคอ และก้ าวขึ ้นไปบนเวทีอย่างห้ าวหาญ วันนี ้จะเป็ นวันชี ้ชะตา
ศึกระหว่างพวกเขาทังสอง

“ท่าทางหวังยานเฟิ งจะมีวิชาขันสู ้ งติดตัวมาด้ วยสินะ” หลินหมิงรู้ได้ วา่ หวังยานเฟิ งไม่ได้ แกล้ ง


ทําเป็ นมัน่ ใจ ช่องว่างระหว่างพวกเขาสองคนนันห่ ้ างกันเกินไป แม้ หวังยานเฟิ งจะมีพรสวรรค์
สูงส่ง แต่มนั ก็เป็ นไปไม่ได้ ที่จะไล่ตามลุย่ หมิงเซี่ยงได้ ภายในหนึง่ เดือน แต่กระนันการ

เผชิญหน้ าด้ วยความกล้ าหาญและแพ้ อย่างมีเกียรติก็ถือว่าไม่เลว

หวังยานเฟิ งชักดาบของตนออกมา และใส่พลังปราณเข้ าไปภายใน อักขระสีเขียว ‘สัจธรรมทัง้


เก้ า’ เปล่งประกายแสงออกมาราวกับมีชีวิต มันดูสว่างไสวมากกว่าครัง้ ที่เคยใช้ กบั หลินหมิง
เมื่อเดือนก่อนเท่าทีเดียว

ในหนึง่ เดือนที่ผ่านมานี่ หวังยานเฟิ งเอาแต่ฝึกฝนอย่างบ้ าระหํ่า เขาไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ ว

เมื่อได้ เห็นพลังของ ‘สัจธรรมทังเก้


้ า’ ที่ใช้ ร่วมกับดาบเล่มนัน้ ลุย่ หมิงเซี่ยงก็ยิ ้มออกมา “ดู
เหมือนแกจะพัฒนาขึ ้นมาบ้ างสินะ แต่ก็ยงั น่าเสียดาย มันก็ยงั ทําอะไรข้ าไม่ได้ อยูด่ ี”

“ตายซะ” ลุย่ หมิงเซียงคําราม เขาชักดาบออกมาและฟั นลงไปที่หวังยานเฟิ ง ดาบของเขาเริ่ ม


เปลี่ยนเป็ นสีมว่ งและเปี่ ยมล้ นไปด้ วยแสงที่เปล่งออกมา

เปรี ย้ งๆๆ ดาบของลุย่ หมิงเซียงจูโ่ จมออกมาถึงสามครัง้ ดาบนันกู้ ่ร้องออกมาในขณะที่ลยุ่ หมิ


งเซียงใส่พลังเข้ าไป เกิดเป็ นคลื่นพลังพุง่ เข้ าหาหวังยานเฟิ ง

หวังยานเฟิ งถอยออกมาเล็กน้ อยอักขระอาคมจาก ‘สัจธรรมทังเก้


้ า’ เริ่ มเปล่งแสงออกมาและ
ทําลายคลื่นพลังปราณที่สง่ ออกมาจากดาบของลุย่ หมิงเซียงในครัง้ แรกได้

ฟุ่ ม ฟุ่ ม ฟุ่ ม! หวังยานเฟิ งเหวี่ยงดาบขณะที่ก้าวถอยหลังออกมา เขาพยายามทําลายคลื่นพลัง


ดาบอีกสองคลื่นที่เหลือ และแม้ คลืน่ พลังสุดท้ ายจะถากชายเสื ้อของเขาไปบ้ าง แต่เขาก็ยงั คง
สงบอยู่

“แกก็ยงั พอมีดีอยูเ่ หมือนกันนี่ รับมือ วิชา‘ดาบราชันสวรรค์พินาศ’ ”


ลุย่ หมิงเซียงก้ าวมาข้ างหน้ า พลังปราณของเขาเริ่ มเปล่งเป็ นสีมว่ งมากขึ ้นเรื่ อยๆ และปกคลุม
รอบกายของเขาเหมือนเป็ นหมอก และพลังปราณพวกนันก็ ้ รวมไปอยูท่ ี่ดาบและเริ่ มโคจรอย่าง
รุนแรงที่ปลายดาบ

“ดาบราชันสวรรค์พินาศ เป็ นวิชาขันสู


้ งจากคลังของสํานักเจ็ดแก่นแท้ การฝึ กฝนวิชานี ้นัน้
ยากลําบากยิ่ง แต่ลยุ่ หมิงเซียงสามารถสําเร็ จวิชานันได้ ้ อ”
้ อย่างงันหรื

“หวังยานเฟิ งต้ องแย่แน่ๆ”

หลินหมิงหรี่ ตาลงขณะที่สงั เกตวิชา ‘ดาบสวรรค์ราชันพินาศ’ มันคือพลังปราณที่กลายสภาพ


เป็ นรูปลักษณ์และเป็ นวิชาที่แปลงสภาพพลังปราณได้ อย่างสมบูรณ์ หลินหมิงรู้วา่ ลุย่ หมิงเซียง
นันถู
้ กบีบให้ ใช้ วิชานี ้ เขาคาดว่ามันอาจจะมีข้อบกพร่องบางอย่างซ่อนอยูใ่ นการโคจรพลังของ
ดาบนัน้

ถ้ าหวังยานเฟิ งอยากชนะ เขามีเพียงทางเลือกเดียวก็คือ พุง่ เข้ าไปตอนนี ้เพื่อหยุดการโคจรพลัง


ของดาบนัน่ ถึงอย่างนัน้ หากหวังยานเฟิ งไม่ใช่นกั จารึกและไม่เข้ าใจถึงกฏครอบงําวิญญาณ
เขาจึงไม่สามารถมองเห็นถึงการโคจรของพลังปราณบนดาบของลุย่ หมิงเซียงอย่างที่หลินหมิง
ได้ เห็น

ตอนนี ้หวังยานเฟิ งเคลื่อนไหวแล้ ว ถึงแม้ ลยุ่ หมิงเซียงจะแผ่จิตสังหารออกมา แต่หวังยานเฟิ งก็


ได้ โคจรรวบรวมพลังปราณคลุมกายเอาไว้ เพื่อฝ่ าเข้ าไป เขารู้นี่ นี่เป็ นโอกาสเดียวของเขา เขา
ต้ องจัดการลุย่ หมิงเซียงให้ ได้ ก่อนที่จะพลังปราณจะถูกรวบรวมไว้ ที่ปลายดาบจนเสร็ จสมบูรณ์

หวังยานเฟิ งขยับดาบของเขา เป้าหมายของเขาไม่ใช่ทําลายการสะสมพลังปราณของวิชา‘ดาบ


ราชันสวรรค์พินาศ’ แต่เป็ นบริ เวณอกของลุย่ หมิงเซียงต่างหาก หวังยานเฟิ งใส่พลังปราณลงไป
้ อวิชา ‘การจู่โจมฟ้าคําราม’
ในดาบ เทําให้ ดเู หมือนมีสายฟ้าเคลือยอยูบ่ นดาบของเขา นันคื
การเคลื่อนไหวแบบนัน้ นัน่ เป็ นวิชาระดับสูงที่หวังยานเฟิ งเลือกจากคลังในตอนนันนี
้ ่

้ งยานเฟิ งได้ เลือกสามวิชา ‘เจ้ าแห่งพลังหยาง’, ‘ตัวเบาดัง่ ขนหงส์’ และ ‘การจู่


ในเวลานันหวั
โจมฟ้าคําราม’ ซึง่ ทังสามวิ
้ ชานี ้ไม่ใช่วิชาดาษๆเลย แม้ หวังยานเฟิ งจะมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นก็
ตาม มันก็ยงั ยากที่เขาจะสามารถเข้ าใจวิชาเหล่านันได้้ ในเวลาอันสัน้

‘เจ้ าแห่งพลังหยาง’ เป็ นวิชาที่ใช้ เสริมพละกําลัง มันอาจต้ องใช้ ระยะเวลาเป็ นเดือนๆกว่าจะ


ฝึ กฝนได้ สําเร็จ ‘ตัวเบาดัง่ ขนหงส์’ ก็เป็ นวิชาการเคลื่อนไหว แต่ก็ไม่ใช่วิชาที่เหมาะจะฝึ กฝนใน
ช่วงเวลานี ้สักเท่าไร เพราะงัน้ เขาจึงทุม่ เทฝึ กวิชา “การจู่โจมฟ้าคําราม’ และในตอนนี ้เขาก็จะ
แสดงผลของการฝึ กฝนออกมา และเขาก็เชื่อว่าเขาอาจจะสร้ างปาฏิหาริ ย์ขึ ้นมาก็ได้

“โงเง่าเสียจริ ง แค่วิชาขันกลางอย่
้ าง “การจู่โจมฟ้าคําราม’ ที่ใช้ เวลาฝึ กฝนมาเพียงเดือนเดียว
จะไปเทียบกับวิชา ‘กาบราชันสวรรค์พินาศ’ วิชาขันสู
้ งของข้ าได้ อย่างไร’ ลุย่ หมิงเซียงตะโกน
ออกมา ดาบยาวที่รวบรวมพลังปราณเอาไว้ อยูถ่ กู ฟาดฟั นลงมาอย่างรุนแรง มันดูเหมือนหลุม
ดําที่สามารถกลืนกินทุกสรรพสิ่งได้

ตู้มมม! ‘การจู่โจมฟ้าคําราม’ ปะทะเข้ ากับ ‘ดาบราชันสวรรค์พินาศ’ เกิดเป็ นแรงสัน่ สะเทือน


และเสียงดัง่ สนัน่ ทังหวั
้ งยานเฟิ งและลุย่ หมิงเซียงต่างก็กระเด็นออกไปคนละทิศละทาง

ลุย่ หมิงเซี่ยงทรงตัวกลางอากาศชัว่ ครู่ ก่อนจะปั กดาบลงบนพื ้นดินเพื่อตังหลั


้ ก มีรอยบาดแผล
อยูก่ ลางหน้ าอกของเขา เขาได้ รับบาดเจ็บจากการปะทะเมื่อครู่นี ้

แต่ในด้ านของหวังยานเฟิ งแย่ยิ่งกว่า ร่ายของเขากระเด็นไปไกลอย่างกับไร้ แรงโน้ มถ่วงจนประ


ทกเข้ ากับต้ นไม้ ใหญ่ พร้ อมกับกระอักเลือกคําโตออกมา
“หวังยานเฟิ งแพ้ แล้ ว”

“ถึงเขาจะแพ้ แต่ความกล้ าหาญของเขาก็น่าประทับใจอย่างยิ่ง”

“เป็ นเรื่ องธรรมดา ศิษย์พี่จะแพ้ ให้ กบั ศิษย์น้องได้ ยงั ไงกัน เรามาที่นี ้ก็เพื่อฝึ กฝนไม่ใช่รึไง ถึง
เกิดแพ้ พวกศิษย์น้องขึ ้นมาความภูมิใจทังหมดก็้ สญ
ู เปล่า หลินหมิงเองก็เช่นกัน เขาก็จะต้ องแพ้
ให้ กบั ซางฉางอย่างแน่นอน” พวกศิษย์พี่จากของห้ องพสุธาพูดคุยกัน

หวังยานเฟิ ง ดันตัวเองขึ ้นมาด้ วยดาบแล้ วก็ล้มลงไปอีกครัง้ เขาเช็ดเลือดออก และจ้ องไปยัง


ลุย่ หมิงเซียง จากนันก็
้ โยนหินหลังปราณห้ าก้ อนไปข้ างหน้ า

“จะ..จําไว้ ซักวัน.. ข้ าจะมาเอาพวกมันคือเป็ นสิบเท่า”

หวังยานเฟิ งพยายามพูดออกมาอย่างยากลําบาก จากนันก็


้ หนั หลังเดินกระโผลกกระเผลกจาก
ไป

หลินหมิงมองไปยังหวังยานเฟิ งขณะที่เขากําละงเดินจากไป หลินหมิงรู้สกึ ชมเชยถึงความกล้ า


หาญของเขา ตังแต่ ้ ที่หวังยานเฟิ งเข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้ เขาได้ ทนทุกข์กบั ความพ่ายแพ้
ครัง้ แล้ วครัง้ เล่า ซึง่ ถ้ าเป็ นคนบางคนก็อาจจะถอดใจไปแล้ ว แต่หวังยานเฟิ งยังคงยืนหยัดต่อสู้
ด้ วยความกาญหาญได้ อย่างน่าชื่นชม

“หลินหมิง ขึ ้นมา แกจะต้ องมีชะตาเช่นเดียวกันกับไอ้ ขี ้แพ้ นนั่ ” หลังจากที่ลยุ่ หมิงเซียงกลับลง


มา ซางฉางก็ก้าวขึ ้นไปบนเวที อันดับของเขาในตอนนี ้คือ 103 พลังของเขาเหนือว่าลุย่ หมิ
งเซียงเสียอีก

หลินหมิงสะพายหอกทะลวงสายรุ้งขึ ้นมาบนเวที และยืนอยูต่ อ่ หน้ าซางฉาง


การต่อสู้ระหว่างหวังยานเฟิ งกับลุย่ หมิงเซียงเป็ นแค่ครู่ องเท่านัน้ การต่อสูท่ ี่ทกุ คนในวันนี ้ต่าง
เฝ้ารอคอยมาตลอดหนึง่ เดือนก็คือการต่อสูท่ ี่กําลังจะเริ่ มต่อจากนี ้

เมื่อเห็นลินหมิงก้ าวขึ ้นมาบนเวที หลิงเซ็น และ ทาคุ ก็ยืนขึ ้นทันทีเพื่อที่จะได้ เห็นหลินหมิงอ


ย่างชัดเจน ตอนนี ้พวกเขารู้แล้ วว่าทําไมหลินหมิงถึงสามารถคว้ าอันดับที่126มาครองได้

ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่ มขึ ้น ซางฉางนําดาบเล็กๆเรี ยวๆออกมา ดาบนี ้ยาว2ฟุตกับอีก8นิ ้ว และ


กว้ างไม่เกิน 3นิ ้ว ปลายมันบางราวกับกระดาษ แน่นอนมันสามารถเหวี่ยงได้ ด้วยความเร็ วที่น่า
เหลือเชื่อเลย

“แสดงวิชาหอกโง่เง่านัน่ ของแกให้ ข้าดูหน่อยซิ วิชาพื ้นฐานพวกนัน้ เพียงใช้ เวลาฝึ กไม่กี่วนั ก็


สําเร็ จแล้ วนี่”

ซางฉางยิ ้มเยาะเย้ ย ไม่ต้องพูดถึงวิชาหอกเลย ต่อให้ สําเร็ จถึงขันเซี


้ ยนก็ทําอะไรมันไม่ได้ อยูด่ ี
เป็ นเพราะว่า หลิงเซ็นและทาคุให้ ความสนใจแต่กบั หลินหมิง ดังนันเขาจะต้
้ องขยี ้ไอ้ เด็กนี ้ให้
เละคามือให้ ได้

“แล้ วแกจะชักอาวุธของแกออกมาได้ รึยงั ” ซางฉางถามด้ วยความลําคาญ

หลินหมิงตอบ “หยุดปากของเจ้ าไว้ แค่นนั ้ หากถึงเวลาข้ าก็จะชักมันออกมาเอง”

“แกว่ายังไงนะ” ซางฉางโมโหเดือดดาลขึ ้นมาทันที หลินหมิงที่ออ่ นกว่ากล้ าพูดเช่นนี ้กับเขา?


มันยังไม่เคยตายเสียแล้ ว “แกว่าแกจะเอาออกมาเมื่อจําเป็ นงันเรอะ
้ ก็ดี มาดูกนั ซิวา่ แกจะมี
โอกาสได้ หยิบมันออกมาใช้ หรื อไม่ ข้ าให้ โอกาสเจ้ าเตรี ยมอาวุธไปแล้ ว อย่าได้ หาว่าข้ าไม่เตือน
หากเจ้ าจะแขนหักขาหักเสียก่อนที่จะได้ หยิบอาวุธออกมา”

-------------------------------

MW#078 มือเปล่าปะทะดาบ

“เจ้ าหลินหมิงนัน่ มันบ้ าบิ่นเกินไปแล้ ว”

“ทังๆที
้ ่มนั ต้ องเผชิญหน้ ากับซางฉาง มันยังไม่รีบเอาอาวุธออกมาอีก ดาบของซางฉางเลื่องลือ
ในด้ านความเร็ว และอาวุธของหลินหมิงยังเป็ นหอกหนักๆ และยังทักษะและประสบการณ์ที่
ต่างกันของพวกเขา เป็ นไปได้ วา่ หลินหมิงอาจไม่มีโอกาสได้ หยิบหอกนัน่ ออกมาก็ได้ เขาจะแพ้
โดยที่ยงั ไม่ทนั ได้ ใช้ อาวุธ”

ทาคุสา่ ยหัว “หลินหมิงประมาทเกินไปแล้ ว คิดจะใช้ มือเปล่ารับดาบนัน่ รึไงกัน ดาบของเจ้ านัน่


ถ้ าหากใส่พลังลงไปแล้ วจะสามารถตัดเหล็กได้ อย่างง่ายดาย ต่อให้ เป็ นผูท่ ี่สําเร็ จการฝึ กฝนฝน
ขันที
้ ่สี่ก็ไม่มีทางใช้ มือเปล่ารับดาบของซางฉางได้ หรอก”

หลิงเซ็นมองไปยังหลินหมิงอย่างสงบ ถึงเขาจะไม่เข้ าใจหลินหมิงก็เถอะ แต่เขารู้วา่ หลินหมิง


ไม่ใช่คนจําพวกที่จะประมาทหรื อดูถกู คูต่ อ่ สู้ เขาเชื่อมัน่ ในการตัดสินใจของหลินหมิง และเลือก
ที่จะชมการต่อสู้ตอ่ ไปอย่างสงบ

“ถ้ าแกอยากจะตายถึงขนาดนัน้ จะก็จะช่วยสงเคราะห์ให้ ” ซางฉางกัดฟั นอย่างโกรธเกรี ย้ ว


จากนันเขาก็
้ เคลื่อนไหวด้ วยความรวดเร็ ว ร่างกายของเขากลายเป็ นเพียงเงาหายไปในอากาศ

เร็ วจนไม่น่าเชื่อ นี่หรื อวิชา ‘เจ็ดดาราเหยียบเมฆา’

จากนันก็้ มีเสียงดาบตัดผ่านอากาศ ดาบของซางฉางพุง่ ตรงมาจากด้ านล่างหมายจะโจมตีไป


ยังซี่โครงของหลินหมิง

การจู่โจมของดาบนี ้ยังไม่ได้ ใช้ วิชาอะไรเลย แต่ถงึ อย่างนันมั


้ นก็บางและเบา ซางฉางได้ ใส่พลัง
ปราณลงไปเพียงเล็กน้ อย ทว่าความเร็วของมันกลับสูงอย่างไม่น่าเชื่อ ยากแก่การเดาทิศทาง
และหยุดยัง้

แม้ แต่นกั สู้ที่มีประสบการณ์ก็ยากที่จะหลบดาบนี่ได้ แม้ แต่ผ้ ทู ี่เชี่ยวชาญด้ านการป้องกันก็ยาก


ที่จะตังรั้ บการโจมตีนี ้

ซึง่ ตอนนี ้หลินหมิงมีเพียง วิชาพื ้นฐานการเคลื่อนที่เท่านัน้ และด้ วยหอกบนหลังก็ยงั ทําให้ เขา


เคลื่อนที่ได้ ยากลําบากและช้ าลงอีก

แล้ วเขาจะทําอย่างไร… ตอนนี ้ความสนใจของหลิงเซ็นอยูท่ ี่ดาบของซางฉาง เขาไม่ร้ ูเลยว่า


หลินหมิงจะหลบหรื อรับมือการจู่โจมนันอย่
้ างไร

ตอนนี ้หลินหมิงก็ได้ ยืดแขนออกมา และเคลื่อนไหวไปยังดาบนันด้


้ วยฝ่ ามือเปล่าๆ

เมื่อเห็นเช่นนัน้ ตาของทาคุก็เบิกกว้ างอย่างงุนงง หลินหมิงต้ องเพี ้ยนไปแล้ วแน่ๆ

้ อ?!
มือเปล่ากับดาบอย่างนันหรื

ซางฉางยิ ้มที่มมุ ปาก ใช้ มือรับงันรึ


้ ฮ่าๆ ถ้ าไม่ได้ ตดั มือของแกให้ ขาดเป็ นสองท่อน ที่ข้าอดทน
ฝึ กฝนมา 12 ปี ก็สญ
ู เปล่า

ในเสี ้ยววินาทีตอ่ มา ทุกสายตาจับจ้ องไปยังหลินหมิง มือของหลินหมิงได้ ปะทะกับดาบของซาง


ฉาง

ในตอนนัน้ ทุกอนุภาคในร่างกายของหลินหมิงก็หายใจผสานกันเป็ นหนึง่ เดียว พลังปราณใน


ร่างของหลินหมิงก็สนสะเทื
ั้ อนพร้ อมกันอย่างสมบูรณ์ พลังปราณในร่างของเขาถาโถมออกมา
ราวกับคลื่นยักษ์

นี่เป็ นพลังของวิชา ลื่นไหลดุลแพรไหม!!

พลังปราณที่สนั่ สะท้ านนัน่ ถูกส่งต่อไปยังดาบของซางฉาง พลังปราณบนดาบของดาบของซาง


ฉางถูกขจัดออกไปและถูกแทนที่ด้วยพลังปราณของหลินหมิง

ซางฉางรู้สกึ ได้ วา่ มือของมันด้ านชาและไม่สามารถจับดาบได้ อีก

“นี่มนั เรื่ องบ้ าอะไรกัน!!” ก่อนที่เขาจะรู้วา่ เกิดอะไรขึ ้น หลินหมิงก็ออกหมัดไปแล้ ว หมัดนัน่ ส่ง


ตรงไปยัง หน้ าอกของซางฉาง แม้ มนั จะดูเหมือนหมัดธรรมดาๆ แต่มนั ก็เต็มไปด้ วย
แรงสัน่ สะเทือนของพลังปราณที่ผสานกันอย่างไร้ ที่ติ

หมัดสลายกระดูก!! ซึง่ ถ้ าโดนตรงๆแล้ วล่ะก็ อย่างน้ อยก็ต้องบาดเจ็บภายในอย่างสาหัส

ซางฉางที่อยูใ่ นกองทัพมาหลายปี เขาได้ ฆา่ ผู้คนไปมากมายเหมือนเป็ นเรื่ องปกติ เมื่อได้ เห็น


หมัดของหลินหมิง สัญชาตญาณของเขาบอกในทันทีวา่ หมัดนัน่ ท่าทางอันตรายมาก ซางฉาง
รี บเคลื่อนไหวหลบหลีกโดยใช้ ‘เจ็ดดาราเหยียบเมฆา’

ถึงแม้ เขาจะสามารถหลบหมัดนัน่ ได้ ซางฉางก็ยงั โดนแรงลมจากหมัดนัน่ สร้ างรอยขีดข่วนไว้ ให้


ทําให้ เขารู้สกึ ได้ วา่ อวัยวะภายในปั่ นป่ วนไปหมดและอยากจะสําลักเอาเลือกออกมา

“นี่มนั ...เรื่ องบ้ าอะไรกัน..” ซางฉางรู้สกึ หวาดกลัวเนื่องจากความปั่ นป่ วนของกระแสเลือดที่


เกิดขึ ้นในร่างกาย เขาถอยออกมาและใช้ ดาบยันตัวเอาไว้

เมื่อได้ เห็นแบบนี ้ เหล่าผู้ชมก็ได้ แต่มองดูด้วยความงุนงง เมื่อกี ้นี ้มันเกิดอะไรขึ ้น มือเปล่าของ


หลินหมิงสามารถรับดาบของซางฉางได้ โดยไร้ บาดแผล และยังสามารถต่อยสวนกลับไปได้ อีก
ไม่เพียงเท่านันด้
้ วยหมัดธรรมดาๆของเขาสามารถทําให้ ซางฉางต้ องทรุดลงขนาดนันได้ ้ อย่างไร
กัน?

ความสงสัยเกิดขึ ้นในความคิดของผู้ชมทุกคน และทุกอย่างก็ยงั คงเป็ นปริ ศนาต่อไป

“โอ้ สวรรค์ ข้ าไม่ได้ ตาฝาดไปใช่มยั ้ หลินหมิงมันยังเป็ นคนอยูร่ ึเปล่า แขนขามันทําจากเหล็ก


ั ้ อ?”
หรื ออย่างไรกัน เขาใช้ มือเปล่ารับดาบได้ งนหรื

“ซางฉางสามารถหลบหมัดนัน่ ได้ นี ้ แล้ วเขาทรุดตัวลงไปทะไมกัน ?”


“เป็ นไปได้ ยงั ไง หลินหมิงมีอนั ดับแค่ 126 เมื่อหนึง่ เดือนที่แล้ ว ทําไมระยะเวลาเพียงเดือน
เดียวเขาถึงเก่งขึ ้นได้ ขนาดนี ้ ”

“ตอนที่เขาเข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้ เขายังอ่อนแอกว่าหวังยานเฟิ งเสียอีก แต่หวังยานเฟิ งได้


อันดับที่ 170 แต่หลินหมิงกลับไปได้ ถงึ อันดับที่ 126”

ทันทีที่ทกุ คนได้ ยิน ก็มีแต่ความงุนงง และความสงสันอันเป็ นปริ ศนา ทุกคนรู้สกึ หนาววาบๆ


ขึ ้นมาทันที นี่มนั ปี ศาจชัดๆ

...

“เจ้ าเห็นหมัดนัน่ ของเขาหรื อป่ าว?” ทาคุเอ่ยถามหลิงเซ็นที่ยืนอยูข่ ้ าง

หลิงเซ็นหรี่ ตาลง “ข้ าเห็นไม่คอ่ ยชัดเท่าไรนัก ฝ่ ามือของหลินหมิงที่ไปสัมผัสกับดาบนัน่ จะต้ อง


มีวิชาลึกลับบางอย่างแอบแฝงอยูเ่ ป็ นแน่ ฝ่ ามือนัน่ สัมผัสที่ด้านข้ างซึง่ ไร้ คมมิใช่ด้านหน้ าที่มีคม
ดังนันเขาจึ
้ งไม่เกิดบาดแผล แต่เหตุใดเขาถึงบ้ าดีเดือดขนาดนัน้ ความเร็ วของดาบนันไม่ ้ ใช้
น้ อยๆเลย หากผิดพลาดขึ ้นแขนของเขาขาดเป็ นสองท่อนแน่”

ทาคุกล่าว “ถึงจะพยายามจับที่ตวั ดาบก็เถอะ แต่คมดาบควรจะต้ องสัมผัสกับเขาบ้ างหากเขา


พยายามที่จะจับมัน และดาบของซาฉางก็มีพลังปราณอยู่ หลินหมิงต้ องมีความมัน่ ใจในตนเอง
สูงมากแน่ๆ สําหรับเขาการต่อสู้ครัง้ นี ้ยังไม่มีคา่ พอให้ ใช้ หอกด้ วยซํ ้า”

ขณะที่ทาคุร้ ูสกึ ว่าหัวใจเต้ นแรงด้ วยความตื่นเต้ น เจ้ านัน่ พึง่ เข้ ามาในสํานักได้ เดือนเดียว กลับ
สามารถต่อสู้กนั อันดับ100ต้ นๆได้

...
เหมือนอย่างที่หลิงเซ็นเคยพูดไว้ เขาไมได้ สมั ผัสที่ปลายดาบ หลินหมิงนันมี
้ ความรวดเร็ วและ
แม่นยําอย่างเหลือเชื่อ

ตอนนี ้ซางฉางถอยออกมาห่างจากหลินหมิงเป็ นระยะหลายสิบฟุต ในแววตาของเขามีเพียงแต่


ความความกลัวที่แฝงอยู่

ข้ อได้ เปรี ยบของซางฉางคือการต่อสู้ระยะประชิดที่ทําให้ นกั สู้ที่ใช้ อาวุธจําพวกหอกต่อสู้ได้


ยากลําบาก แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะต้ องมาสู้กบั มือเปล่าของหลินหมิง

เขากัดฟั นแน่นซางฉางจับดาบด้ วยมือทังสองข้


้ าง “หลินหมิง แกทําให้ ข้าประหลาดใจอีกแล้ ว
แต่อย่าคิดว่าจะชนะข้ าได้ เจ้ าต้ องเจอกับพลังที่แท้ จริ งของข้ า”

ถึงเขาจะไม่สามารถสู้ในระยะประชิดได้ แต่ซางฉางก็ยงั มีวิชาลับไม้ ตายก้ นหีบที่ยงั ซุกซ่อน


เอาไว้ อยู่

--------------------------

MW#079 มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร


...

...

...

แม้ วา่ ซางฉางจะไม่สามารถต่อสู้ในระยะประชิดกับหลินหมิงได้ แต่เขาก็ยงั มีวิชาลับไม้ ตายก้ น


หีบที่เก็บเอาไว้ อยู!่

ย๊ ากกก! ซางฉางตําราม พลังปราณทัว่ ร่างเกิดการปะทุรุนแรง พลังปราณที่พรุ่งพร่านเหล่านัน้


ถูกถ่ายเทสูด่ าบบนมือของเขา เกิดประกายแสงสีเลือดแดงสดบนดาบ!

"นัน่ มันวิชา 'ผ่าอาทิตย์อสั ดง'!"

"ซางฉางมีวิชาขันสู
้ งระดับนันได้
้ อย่างไรกัน มันเป็ นวิชาขันสู
้ งของการใช้ ทกั ษะดาบ!"

แววตาของผู้ชมถูกปกคลุมไปด้ วยความหวาดกลัว การแข่งขันในครัง้ นี ้ควรจะเป็ นชัยชนะที่


ง่ายดายของซางฉาง แต่ทว่าในความเป็ นจริ งการต่อสู้ของทังสองกลั
้ บพอฟั ดพอเหวี่ยงกันได้ อยู่
้ งอย่าง ‘ผ่าอาทิตย์อสั ดง’ ก็ไม่มีใครคิดว่าหลินหมิงจะเสียท่าได้
แม้ ซางฉางจะมีวิชาดาบขันสู
โดยง่าย

ซางฉางยกดาบเรี ยวยาวไว้ เหนือหัวเขา ใบดาบปะทุพลังปราณสีเลือดแดงฉานล้ นทะลักออกมา


รอบกายของซางฉางถูกแสงจากพลังปราณที่ปะทุออกมาจากดาบส่องจนเป็ นสีแดงเข้ ม

เมื่อเห็นการกระทําของซางฉาง หลินหมิงค่อยๆดึงหอกบนหลังของเขาออกมา เขาถือหอกด้ วย


มือข้ างหนึง่ ของเขา แขนขนานกับเพลาหอก หอกทะลวงสายรุ้งขนาด 820 จิ๋นถูกถือใน
แนวนอนขนาดกับพื ้นด้ วยมือเพียงข้ างเดียวของหลินหมิงอย่างมัน่ คง นี่พื ้นฐานของ 'ศิลปะการ
ต่อสู้ด้วยหอก' - 'สะพานเหล็กกันแม่
้ นํ ้า'

"หลินหมิงเริ่ มใช้ หอกของเขาแล้ ว!"

"นันมั
้ นทักษะพื ้นฐาน ‘ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก' !? หลินหมิงจะใช้ วิชาขันพื
้ ้นฐานอย่าง
'ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก' รับมือกับวิชาขันสู
้ ง 'ผ่าอาทิตย์อสั ดง' อย่างนันหรื
้ อ? เขาบ้ าเกินไป
แล้ ว!

สายตาของทุกชีวิตที่ชมการประลองอยูไ่ ม่ได้ ถกู ปกคลุมจากความกลัวในทักษะ ‘ผ่าอาทิตย์


อัสดง’ ของซางฉางอีกต่อไป แต่กลับตกตะลึงอยูก่ บั การกระทําที่บ้าบอของหลินหมิงแทน!

'ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก' ปะทะ 'ผ่าอาทิตย์อสั ดง'! ผลของมันจะเป็ นอย่างไร?!

แม้ วิชาที่เขาใช้ จะเป็ นเพียงวิชาขันพื


้ ้นฐานแต่ก็ไม่มีใครกล้ าที่จะถูกถูกพลังของเขาอีก ยิ่งได้ เห็น
พลังปราณลึกลับที่โคจรอยูร่ อบกายของเขา มันทําให้ ทกั ษะพื ้นฐานธรรมดาๆดูเหมือนจะ
กลายเป็ นวิชาที่ลกึ ลับยากจะหยัง่ ถึง!!!

‘ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก ไม่ได้ มีขนตอนใดที


ั้ ่ยากต่อการฝึ กฝน มันเป็ นเพียงวิชาพื ้นฐานง่ายๆ
มันเป็ นเพราะพื ้นฐานพละกําลัง 4200 จิ๋นของหลินหมิงที่ทาํ ให้ ทกั ษะพื ้นฐานธรรมดาๆทง
พลังขึ ้นมา และเมื่อได้ ผสานกับการโคจร ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ ที่เสริ มพละกําลังและ
พลังปราณ กับ ‘ลืน่ ไหลดุจแปรไหม’ ทําให้ ทกั ษะธรรมดาๆที่เขากําลังใช้ อยูด่ นู ่ากลัวและทรง
พลังไม่ตา่ งกับวิชาขันสู
้ งที่น่าสะพรึงกลัว!
้ ง 'ผ่าอาทิตย์อสั ดง'
ซางฉางขบฟั นของเขา กล้ ามเนื ้อใบหน้ าของเขาเกิดการบิดเบี ้ยว วิชาขันสู
นี ้คือขีดจํากัดสูงสุดแล้ วที่เขาจะทําได้ เขาถ่ายเทพลังปราณทังหมดลงไปเพื
้ ่อจัดการทุกอย่างใน
ครัง้ เดียว

"หลินหมิงแกตาย!"

ซางฉางเหวีย่ งดาบอย่างรุนแรง เกิดเป็ นคลื่นพลังรุนแรงสีแดงฉาน อากาศโดยรอบถูกตัดผ่าน


เกิดเสียงดังก้ อง ศิษย์บางคนที่มีการฝึ กฝนเพียงขันที
้ ่สองถึงกับมีใบหน้ าซีดเซียวและไม่สามารถ
ที่จะทนอยูใ่ นระยะของ ‘ผ่าอาทิตย์อสั ดง’ได้

แข็งแกร่งอย่างยิ่ง!

เหล่าศิษย์สาวกที่ออ่ นแอรู้สกึ ถึงความปั่ นป่ วนจากภายใน หากพวกเขายังยืนอยูเ่ ช่นเดิมเป็ นไป


ได้ วา่ เพียงแค่ออร่าและกลิ่นอายของคลื่นพลังสีแดงนัน่ ก็สามารถทําให้ พวกเขาบาดเจ็บได้ !

คลื่นพลังปราณสีแดงถูกเหวี่ยงข้ างหน้ า คลื่นพลังนัน่ เป็ นดัง่ คลื่นยักษ์ ที่บ้าคลัง่ ในทิศตรงข้ า


้ า 'สะพานเหล็กกันแม่
หลินหมิงตังท่ ้ นํ ้า' มันเป็ นเพียงทักษะที่เรี ยบง่ายและไม่มีอะไรซับซ้ อน

้ นํ ้า '!
เขาดูทรงพลังในขณะใช้ ทกั ษะ "สะพานเหล็กกันแม่

"เจ้ าต้ องการเห็นทักษะหอกของข้ าสินะ ข้ ายังฝึ กฝนมันมาเพียงกระบวนท่าเดียว 'มังกรวารี


ถล่มมหาสมุทร'!"

หลินหมิงคําราม แม้ จะมีชื่อ 'มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร' แต่ในความเป็ นจริง หอกของเขาก็ยงั


เป็ นเพียงหอกธรรมดๆไร้ ซงึ่ พลังปราณใดใด!(หอกทําจากเหล็กเหนียวทมิฬใส่พลังปราณไม่ได้ )
หอกยาวมีการกวัดแกว่งหลายรูปแบบ ทังสั ้ บ ร่ายรํ า กวาด แทง และการเคลื่อนไหวอืน่ ๆ แต่
พื ้นฐานที่แท้ จริ งก็คือ จิตแห่งการรุกรานของหอก !

หอกยาว8ฟุต ขนาด 820 จิ๋น ที่ถกู ใชโดยผู้มีพละกําลัง4200จิ๋น สร้ างจิตรุกรานที่รุนแรง


และทรงพลัง!

เพียงได้ อยูใ่ นระยะของหอก ก็เหมือนมีแม่นํ ้าที่เชี่ยวกราดปรากฏอยูร่ อบทิศทาง แม่นํ ้าพลัง


ปราณทังหมดโคจรเป็
้ นหนึง่ เดียวกันไหลเข้ าสูร่ ่างกายของหลินหมิง

หลินหมิงฝึ กฝนทักษะ ‘มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร' มาไม่น้อยกว่าพันครัง้ หลินหมิงฝึ กฝนมัน


อย่างยากลําบากจนสามารถใช้ มนั ได้ อย่างสมบูรณ์แบบ

คลื่นพลัง 'ผ่าอาทิตย์อสั ดง' พุง่ เข้ ามาปะทะกับวิชา ‘มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร' คลื่นพลังปราณ


ของซางฉางปั่ นป่ วนอย่างรุนแรง

ปั ง!!

การปะทะกันของคลื่นพลังปราณที่รุนแรงทังสอง
้ ทําให้ เกิดเป็ นเกล็ดพลังปราณสีแดงกระจาย
ไปทัว่ ท้ องฟ้า คลื่นพลัง ‘ผ่าอาทิตย์อสั ดง’ ถูกทลายราวกับเมฆที่พงุ่ เข้ ามาปะทะกับคลืน่ ทะเล

แม้ แต่กระแสนํ ้าจากนํ ้าตกเยือกแข็งที่ความยากระดับ8ยังไม่สามารถสัน่ คลอนหอกของหลินห


มิงได้ นับประสาอะไรกับทักษะดาบที่เน้ นความรวดเร็ วเป็ นหลักของซางฉาง เมื่อความเร็ วอัน
ภาคภูมิใจที่ใช้ ตอ่ สู้ในระยะประชิดของซางฉางถูกหมัดสลายกระดูกของหลินหมิงจัดการ มันจึง
ถูกบีบให้ ตอ่ สู้ระยะไกลด้ วยพลังปราณแทน แล้ วมีหรื อที่พลังจากดาบเล่มบางๆจะสู้พลังของ
หอกหนักได้ เมื่อสู้กนั ซึง่ ๆหน้ า

คลื่นพลังสีแดงของซางฉางแตกสลายไปกลางอากาศ พร้ อมๆกับร่างของซางฉางที่กระเด็นไป


ไกลและเลือดคําโตที่ลอยออกมาจากปากของมัน ไม่นานร่างของมันก็ตกลงสูพ่ ื ้นดิน ไม่มีใคร
สามารถที่จะยืนยันได้ วา่ มันยังมีชีวิตอยูห่ รื อไม่

หลินหมิงเก็บหอกของเขา และยืนอยูก่ ลางของเวทีพร้ อมหอกที่ทรงพลังบนหลัง!

"ทรงพลังอย่างยิ่ง เขาเอาชนะซางฉางได้ !! "

" ‘ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก’ ... 'มีพลังอํานาจอยูเ่ บื ้องหลังมากขนาดนันเลยงั


้ นหรื
้ อ เขาใช้
เพียงวิชา ‘ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก’ ก็สามารถเอาชนะซางฉางได้ ? ข้ าต้ องการที่จะเรี ยนรู้มนั
อย่างมาก! "

"เจ้ าต้ องการฝึ กฝนวิชานัน่ รึ จริ งๆแล้ วนัน่ ก็ไม่ใช่วิชาที่ทรงพลังอะไรหรอก แต่เพราะหลินหมิง


้ พลังกําลังที่สงู ลํ ้า ทักษะ 'มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร' ก็เพียงสร้ างจิตรุกรานที่รุนแรงของ
นันมี
หอกเท่านัน้ ทังหมดเป็
้ นเพราะความแข็งแกร่งของเขาไม่ใช้ เพราะวิชา ‘ศิลปะการต่อสู้ด้วย
หอก’ แต่หากเจ้ าต้ องการฝึ กมันจิงๆ เจ้ ามาสามารถเข้ ารวมกองทัพได้ ในกองทัพก็ฝึกวิชา
เช่นนันทุ
้ กวัน

"นักสู้ที่พงึ่ จะเข้ าสูข่ นที


ั ้ ่สาม สามารถเอาชนะนักสู้ที่เกือบจะเข้ าสู้ขนที
ั ้ ่สี่ได้ หลินหมิงเป็ นฝ่ าย
ชนะ!! ไม่ใช้ เรื่ องน่าแปลกใจที่คนที่พงึ่ เข้ าสูข่ นที
ั ้ ่สามจะเอาชนะผู้ที่อยูข่ นที
ั ้ ่สามนานแล้ วได้ แต่
ซางฉางมีพรสวรรค์และปรสบการณ์ที่สามารถเอาชนะนักสู้ขนที ั ้ ่สี่ได้ หลินหมิงเอาชนะเขาได้
อย่างไร
"พวกเจ้ าได้ สงั เกตกันหรื อป่ าว ตังแต่
้ หลินหมิงก้ าวขึ ้นมาบนเวที และการต่อสูไ่ ด้ เริ่ มต้ นขึ ้น เขา
ยังไม่ได้ ก้าวเท้ าออกไปจากตําแหน่งเดิมในตอนแรกแม้ แต่ก้าวเดียว... "

น้ อยคนนักที่สงั เกตเห็นจุดนี ้ เริ่ มแรกซางฉางเข้ าจู่โจมหลินหมิง เขาเพียงยืนอยูก่ บั ที่และรับดาบ


ของซางฉางพร้ อมกับต่อสวนกลับไป และในตอนท้ านเขาก็เพียงใช้ หอกโต้ พลังปราณของซาง
ฉางกลับไปเท่านัน้ หลินหมิงไม่ได้ เคลื่อนไหวแม้ แต่ก้าวเดียว!

เมื่อตระหนักได้ เช่นนัน้ บรรดาศิษย์จากนิกายสวรรค์เป็ นต้ องรู้สกึ เย็นวาบบนหลัง แม้ วา่ อันดับ


ของหลินหมิงจะอยูห่ า่ งไกลจากพวกเขา ในไม้ ช้าก็เร็ วเขาจะต้ องเข้ ามาในนิกายสวรรค์อย่าง
แน่นอน เมื่อต้ องต่อสู้กบั คูต่ ้ องสู้เช่นนี ้ พวกเขาต่างก็ไม่คอ่ ยสบายใจเท่าไหร

ลุย่ หมิงเซียงเผชิญหน้ ากับหลินหมิง ลําคอของมันเหือดแห้ ง โชคดีที่จ้ ยู นั บงการให้ ซางฉางไป


เป็ นคูต่ อ่ สู้ของหลินหมิง มิเช่นนันคงเป็
้ นมันต่างหากที่จะกระเด็นไปกลางอากาศและสําลัก
เลือดคําโตออกมาอย่างทุรนทุราย

มันยังรู้สกึ ได้ ถงึ การเต้ นของชีพจรของซางฉาง แต่วา่ มันแผ่วเบาอย่างมาก จากอาการบาดเจ็บ


สาหัสและกระดูกที่หกั หลายแห่ง แม้ วา่ จะได้ รับการรักษาอย่างดีด้วยโอสถระดับสูงอย่างน้ อยก็
ต้ องใช้ เวลาถึงครึ่งเดือนกว่าจะหายเป็ นปกติ!

หลินหมิงไม่ได้ เป็ นฆาตกร ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ มีกฏว่าห้ ามสังหารเพื่อนร่วมสํานักในการ


ประลองหรื อในการเดิมพัน ลุย่ หมิงเซียงเขาไปแบกร่างของซางฉางไว้ บนหลัง และกําลังที่จะ
จากไป

้ นหมิงก็กล่าวคําพูดอย่างสงบ "จงนําหินพลังปราณทัง้ 20 ของมันมาให้ ข้า


ทันใดนันหลิ
เสียก่อน! "
MW#080 เจตจํานงแห่งการต่อสู้

เมื่อครัง้ ที่ซางฉางท้ าหลินหมิงเดิมพัน เข้ ามันใจในชัยชนะอย่างมาก เขาไม่มีทางที่จะแพ้ การ


เดิมพันอย่างแน่นอน เขาจึงไม่คิดที่จะเตรี ยมหินหลังปราณทัง20ก้
้ อนเอาไว้ ให้ หลินหมิง ทําให้
ลุย่ หมิงเซี่ยงที่ต้องหาหินพลังปราณทัง20ก้
้ อนมาให้ ก่อนที่จะนําร่างของซางฉางกลับไปหน้ า
ซีดขึ ้นมาทันที

ซางฉางไม่ได้ มีหินพลังปราณถึง 20 ก้ อน และลุย่ หมิงเซียงก็ไม่ได้ นําหินพลังปราณติดตัวมา


ด้ วยมากเท่าไร ลุย่ หมิงเซียงจึงวางซางฉางลงกับพื ้นอย่างแผ่วเบา ก่อนจะนับรับหินพลังปราณ
ทังหมดที
้ ่พวกเขาทังสองมี
้ และไปขอยืมมิตรสหายของพวกเขามาจนครบ 20 ก้ อน

หลังจากนันเขาก็
้ มอบหินพลังปราณทัง20ให้
้ กบั หลินหมิง และแบกซางฉางไว้ บนไหล่พร้ อมกับ
เดินจากไป

“หลินหมิงชนะแล้ ว ตังแต่
้ ต้นจนจบ เข้ ายังไม่ได้ เคลื่อนที่เลยแม้ แต่ก้าวเดียว วิชา ‘สะพานเหล็ก
กันแม่
้ นํ ้า’ แข็งแกร่งจริ งๆ ทาคุพดู ด้ วยความตื่นเต้ น แม้ วา่ ในตอนนี ้หลินหมิงจะไม่ใช้ คมู่ ือของ
เขา แต่เวลาที่พวกเขาจะต้ องประมือกันก็คงอีกไม่นานซักเท่าไร”

หลิงเซ็นกล่าว “ซางกวนยูจ่ ะต้ องเสียใจแน่ๆที่ไม่ได้ มาดูการประลองในครัง้ นี ้ ชื่อเสียงของ


หลินหมิงจะโด่งดังไปทัว่ เขาอาจจะมีฝีมือเทียบเท่าพวกเราในอีกไม่กี่เดือนนี ้ก็ได้ ”

“เป็ นการประลองที่น่าสนใจดี ถึงข้ าจะไม่คอ่ ยมัน่ ใจแต่ข้าว่าหลินหมิงจะต้ องพอๆกับข้ าแน่ๆ”

“แน่นอน เขาจะต้ องมาเป็ นคูแ่ ข็งในอนาคตของพวกเราอย่างแน่นอน”

“ข้ าว่ามันแปลกๆ ทําไมหลินหมิงถึงได้ มีพฒ


ั นาการที่รวดเร็ วเช่นนี ้ การทดสอบครัง้ สุดท้ าย
หลินหมิงยังอยูอ่ นั ดับที่ 126 เท่านัน้ ต่อให้ เขาใช้ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง และ ยาโอสถ
พญางูทองคํา มันก็ยงั ถือว่าเร็วเกินไปอยูด่ ี”

หลิงเซ็นตอบ “อนาคตของแต่ละคนนันเป็
้ นสิ่งไม่เที่ยง หลินหมิงจะต้ องมีเจตจํานงแห่งการต่อสู้
ที่ทรงพลังอยูก่ ็เป็ นได้ เจตจํานงแห่งการต่อสู้เช่นเดียวกับ ‘อาชูร่า’ ของข้ า แต่จิตวิญญาณแห่ง
้ อกว่าข้ าเสียอีก ข้ าอยากรู้จริ งๆว่าเจตจํานงแห่งการต่อสู้ ของเขากับ ‘อาชู
นักสู้ของเขานันเหนื
ร่า’ ของข้ า เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของใครจะทรงพลังกว่ากัน

สีหน้ าของทาคุดแู ปลใจ “เขาอาจจะมีเจตจํานงแห่งการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า ‘อาชูร่า’ ของศิษย์


้ อ”
พี่อีกอย่างนันหรื

หลิงเซ็นมีการฝึ กฝนเพียงขันที
้ ่สี่ ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ มีอจั ฉริ ยะอีกหลายคนที่เหนือกว่าเขา
โดยเฉพาะคนในรุ่นเดียวกับเขา เช่น ทาคุ และซางกวนยู่ ที่มีการฝึ กฝนในขันที ้ ่ห้า

แต่ถงึ จะมีระดับการฝึ กฝนที่สงู กว่าถึงหนึง่ ขัน้ ทว่าทังทาคุ


้ และซางกวนยูก่ ็ยงั ต้ องพ่ายแพ้
ให้ กบั หลิงเซ็น

ผู้คนมากมาย รวมทังหลิ ้ นหมิง ก็พอจะเดาได้ วา่ หลิงเซ็นมีวิชาลับอะไรบางอย่างอยู่ หรื อไม่ก็


กินยาโอสถลํ ้าค่าเข้ าไป แต่ความจริ งไม่ได้ เป็ นเช่นนัน้ ความเป็ นจริ งก็คือเพราะเขามีเจตจํานง
แห่งการต่อสู้ ‘อาชูร่า’

‘อาชูร่า’ เป็ นเจตจํานงแห่งการต่อสู้เฉพาะตัว ผู้ที่สามารถเป็ นหนึง่ เดียวกับมันจะมีโอกาสเข้ าสู่


สภาวะลึกลับบางอย่างได้ และในบางครัง้ ก็อาจจะบังเอิญได้ เข้ าสูส่ ภาวะ ‘เห็นแจ้ งไร้ จิต’ ( หาก
ใครจําตอนที่หลินหมิงเขาไปฝึ กในนํ ้าตกเยือกแข็งครัง้ แรกแล้ วหมดสติไปได้ ตอนนันหลิ ้ งหมิงก็
ได้ เข้ าสูส่ ภาวะเห็นแจ้ งไร้ จิต โดยบังเอิญเป็ นช่วงเวลาสันๆ
้ ทําให้ หลินหมิงเข้ าใจการสันสะเทื
้ อน
ของพลังปราณ)

ตํานานกล่าวไว้ วา่ สามล้ านปี ก่อน มีปรมาจารย์คนหนึง่ นัง่ อยูใ่ ต้ ต้นไม้ ใหญ่ เขานัง่ ฝึ กสมาธิอยู่
เป็ นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน เมื่อเขาตื่นขึ ้นมา เขาก็ได้ กลายเป็ นอมตะ แต่ก็ไม่มีใครรู้วา่ มันเป็ นเรื่ อง
จริ งหรื อไม่

มันจะขึ ้นอยูก่ บั จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ซึง่ เป็ นสิ่งที่ไม่สามารถจะอธิบายออกมาเป็ นคําพูดได้


มันเป็ นความรู้สกึ ที่ซบั ซ้ อน อย่างเช่น ฉินชิงหวนที่ไม่ได้ มีจิตวิญญาณที่ไฝ่ หาการต่อสู้ แม้ จะมี
พรสวรรค์สงู และสามารถฝึ กฝนได้ เร็วแต่ก็ไม่สามารถที่จะเข้ าใจเรื่ องพวกนี ้ได้

แต่หลินหมิง เมื่อเขาได้ ดาํ ลงไปในนํ ้าตกเยือกแข็ง เขาก็บงั เอิญได้ เข้ าสูส่ ภาวะนัน้ พลังปราณ
ของเขาโคจรไปตามสัญชาติญาณ ซึง่ ความแม่นยําและความรวดเรฌวของมันเหนือกว่าใน
ขณะที่หลินหมิงควบคุมเสียอีก และท้ ายที่ก็ทําให้ เขาสําเร็ จขันแรกของ
้ ‘ปฐมบทแห่งความ
โกลาหล’

แน่นอนว่า ถึงแม้ หลินหมิงจะไม่มีโอกาสได้ เข้ าสูส่ ภาวะแบบนันได้


้ อีก แต่อย่างไรเขาก็มีจิต
วิญญาณแห่งการต่อสู้ที่เข็มแข็ง และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

ก่อนหน้ านัน้ คนๆเดียวที่มีความสามารถลึกลับแบบนันก็


้ มีเพียงหลิงเซ็นเท่านัน้
เมื่อเขาเข้ าสูเ่ จตจํานงแห่งการต่อสู้ของ ‘อาชูร่า’ หลิงเซ็นจะตืน่ ขึ ้นมากลางสงคราม ในที่แห่ง
นันทํ
้ าให้ เขาตายไปหลายรอบ และเขาก็จะเกิดใหม่ซํ ้าแล้ วซํ ้าอีก ซึง่ มันเป็ นความหวาดกลัว
ที่สดุ ของหลิงเซ็นเลยก็วา่ ได้ การฝึ กฝนในแต่ละครัง้ ที่จบลงด้ วยความตาย ทําให้ เขาฝึ กฝนได้
อย่างมีประสิทธิภาพที่น่าเหลือเชื่อ

หลิงเซ็นแข็งแกร่งขึ ้นอย่างไม่น่าเชื่อหลังจากเข้ าไปฝึ กฝนในสภาวะ ‘อาชูร่า’ ถึงอย่างนัน้ น้ อย


คนนักที่จะทําได้ แบบหลิงเซ็น ต่อให้ คนอื่นมีเจตจํานงแห่งการต่อสู้ ‘อาชูร่า’ เช่นเดียวกับเขา
แต่ใครล่ะจะอยากสัมผัสกับความตายอยูท่ กุ วี่ทกุ วัน

เพราะแบบนัน้ หลิงเซ็นจึงมีจิตสังหารรุนแรงแผ่ออกมา ไม่วา่ จะการสู้เพื่อเอาชีวิตรอดหรื อเพื่อ


การฝึ กฝน หลิงเซ็นก็เหนือกว่าคนธรรมดาๆในขันเดี ้ ยวกันอย่างแน่นอน ในอาณาจักรนี ้หลิงเซ็น
ก็แข็งแกร่งที่สดุ ในกลุม่ นักสู้รุ่นเดียวกัน เขาสามารถรับมือกับปรมจารย์ขนผสานชี
ั้ พจรได้ เลย
ด้ วยซํ ้า

แต่ถงึ อย่างนัน้ มีได้ ก็ต้องมีเสีย เพื่อที่จะได้ มาซึง่ จิตสังหารอันแรงกล้ าและความแข็งแกร่งเช่น


ในปั จจุบนั เขาต้ องแลกมาด้ วยความรู้สกึ รอยยิ ้ม อารมณ์ ที่ไม่ได้ มีเหมือนกับคนทัว่ ๆไป มันทํา
ให้ เขาเป็ นกลายเป็ นเครื่ องจักรสังหาร

พลังของเขานันแข็
้ งแกร่งถึงขันที ้ ่จะสามารถท้ าทายสวรรค์ได้ การที่หลิงเซ็นกล่าวว่า หลินหมิงก็
อาจจะมีพลังลึกลับเช่นนี ้ มันทําให้ ทาคุไม่อยากจะเชื่อ

“อย่ามาล้ อข้ าเล่นเลยน่า ศิษย์พี่ ถึงหลินหมิงจะเก่งกล้ า มีจิตวิญญาณห่งการต่อสู้ที่เข้ มแข็ง


แต่เขาก็มีอายุเพียงแค่15ปี เขาจะไปมีอะไรที่เทียบกับ ‘อาชูร่า’ ของศิษย์พี่ได้ อย่างไร ”

หลิงเซ้ นกล่าว “ข้ าก็แค่คาดเดาเท่านัน้ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่าข้ าเสีย


อีก ดังนันหากเขาจะมี
้ พลังอะไรบางอย่างอยูก่ ็เป็ นไปได้ และเมื่อเขาได้ เข้ าใจถึงแก่นแท้ ของมัน
เขาก็จะสามารถพัฒนาการได้ อย่างก้ าวกระโดด และค่อยช้ าลงๆในที่สดุ ”

“อย่างนันรึ
้ หลินหมิงช่างน่าสนใจเสียจริ ง ข้ าจะสู้กบั เขาในซักวันหนึง่ ” ขณะที่ทาคุพดู เขาก็กํา
มือข้ างหนึง่ ทุบเข้ ากับมืออีกข้ างหนึง่ อย่างได้ อารมณ์

หลิงเซ็นกล่าว “อีกไม่กี่วนั กันจัถงึ การจัดอันดับด้ วยอาคมหมื่นอสูรสังหารอีกครัง้ หลินหมิงต้ อง


้ กครัง้ ”
เข้ าร่วมอย่างแน่นอน ไว้ รอดูเขาในวันนันอี

“เป็ นความคิดที่ดีมาก การฝึ กมันน่าเบื่อจะตายไป ไปดูหลินหมิงตืน่ เต้ นกว่าเป็ นไหนๆ ฮ่าๆ ”

หลินหมิงจะต้ องเข้ าร่วมอยูแ่ ล้ ว ยิ่งได้ อนั ดับสูง ก็จะได้ รับของรางวัลจากสํานักมากยิ่งขึ ้น

หากเขาได้ ไปฝึ กฝนในสถานที่ฝึกฝนอีก6แห่งที่เหลือ เขาจะพัฒนาไปได้ อีกไกลเพียงใด หลินห


มิงอยากรู้อย่างมาก แต่ฮ่องซีเคยเตือนไว้ วา่ อย่าเข้ าไปที่หบุ เขาฟ้าคําราม ที่แห่งนันจะต้
้ องมี
อะไรพิเศษอยูแ่ น่ๆ

หลินหมิงยังไม่ร้ ู แต่สิ่งที่ทําให้ เขาสําเร็จขันแรกของ


้ ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ ได้ ก็คือ
‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ เหมือนที่หลิงเซ็นเคยได้ พดู ไว้

...

ณ เมืองลิขิตฟ้า

ภัตตาคารเลิศรสเป็ นร้ านอาหารอันดับต้ นๆที่อยูค่ กู่ บั เมืองแห่งนี ้มายาวนาน เช่นเดียวกับศาลา


จันทร์ กระจ่าง บนชันสอง
้ จู้ยนั กําลังนัง่ กินอาหารกลางวันอยู่ และหญิงสาวที่นงั่ อยูต่ รงข้ ามของ
เขาก็คือ หลานยุนเยี่ย
หลานยุนเยียทานอาหารอย่างเงียบๆ บรรยากาศในห้ องเต็มไปด้ วยความเงียบหงัน

จู้ยนั ยกถ้ วนนํ ้าชุบขึ ้นมาจิบ เมื่อเขาวางถ้ วยลงบนโต๊ ะและนําผ้ าเช็ดปากมาเช็ด เขาก็เอ่ยขึ ้นมา
“เธอคิดอะไรอยูอ่ ย่างนันหรื
้ อ”

“ไม่มีอะไร ชันไม่
้ ได้ คิดอะไรทังนั
้ น”้ หลานยุนเยียส่ายหัวทันควัน ต่อหน้ าจู้ยนั เธอรู้สกึ ถึงแรง
กดดันบางอย่างที่กําลังกดดันเธออยู่ ระหว่างเขาและเธอ ไม่ได้ ดเู หมือนคูร่ ักกันเลย ดูเหมือน
พระราชากับนางสนมเสียมากกว่า แน่นอนว่าปกติแล้ วนางสนมจะต้ องกลัวพระราชาอยูแ่ ล้ ว

หลานยุนเยียรู้ดีวา่ หากจู้ยนั ชอบเธอได้ เขาก็ทิ ้งเธอได้ ในยามที่เขาต้ องการ เธอก็แค่ผ้ หู ญิงคน


หนึง่ ที่มีฐานะแต่ตา่ งกับเขาอย่างสิ ้นเชิง เธอไม่มีสิทธ์พอจะเรี ยกร้ องอะไรจากเขาได้

จู้ยนั ยิ ้มให้ เธอ ถึงเขาจะยิ ้มอย่างเป็ นมิตร แต่ในแววตาก็เต็มไปด้ วยความเย็นชา วันนี ้เป็ นวัน
ประลองระหว่างหลินหมิงกับจู้ยนั แน่นอนว่าเธอเองก็ร้ ู

เธอกังวลเรื่ องของหลินหมิง กังวลว่าเขาจะบาดเจ็บไหม ยิ่งกว่านันจู


้ ้ ยนั เองก็กําลังรอฟั งผลงาน
ของซางฉางอยู่ เขาอยากจะรู้วา่ ตอนนี ้หลิงหมิงกระดูกหักไปกี่ซี่แล้ ว

แน่นอนว่านี่มนั เพิ่งเริ่ มต้ นเท่านัน้ นอกจากหลินหมิงจะต้ องบาดเจ็บสาหัสในวันนี ้แล้ ว เขาก็ไม่


เคยคิดจะปล่อยมันไป เขาจะต้ องทําลายยิ่งที่ยงั เหลืออยูข่ องมันให้ หมด ต้ องให้ หลินหมิงไม่อ
ยากมีชีวิตอยูต่ อ่ และตรอมใจตามอย่างหดหูอ่ ยูถ่ งึ จะพอใจ

จู้ยนั กําลังนัง่ จิบนํ ้าชุบอย่างเพลิดเพลิน ระหว่างรอฟั งข่าวดีจากซางฉาง แต่ถงึ อย่างนันนี


้ ้มันก็
ได้ เวลาที่สมควรแล้ วนี่ ซางฉางใช้ เวลากับหลินหมิงนานเกินไปหรื อป่ าว

ปล. เจตจํานงแห่งการต่อสู้ ประมาณว่าเป็ นมิติอีกมิติหนึง่ ซึง่ เมื่อทําสมาธิแล้ วก็จะสามารถเข้ า


ไปในนันได้
้ คล้ ายๆกับสถานที่ฝึกฝนทังเจ็
้ ดแห่งของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ซึง่ หลิงเซ็นมีสถานที่
ฝึ กฝนแบบนันเป็
้ นของตัวเอง สามารถเข้ าออกเมื่อไรก็ได้ ในบางครัง้ เมื่อเข้ าไปในมิติเหล่านันก็

จะสามารถเข้ าสู้สภาวะ ‘เห็นแจ้ งไร้ จิต’ ที่พลังปราณจะโคจรไปตามสัญชาตญาณซึง่ เป็ น
สภาวะที่ฝึกฝนได้ รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ

#อธิบายตามความเข้ าใจของผู้แปล ไม่รับประกันความถูกต้ อง

-------------------------------

MW#081 ความแข็งแกร่งของ ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’

จู้ยนั จิบซุปรังนกไปพลางๆระหว่างรอฟั งข่าวดีจากซางฉาง แม้ เวลาจะผ่านไปนานกว่าที่ควร


แล้ วก็ตาม แต่ซางฉางก็ยงั ไม่มีทีทา่ ว่าจะกลับมา

ขณะนันเองก็
้ มีเสียงเคาะประตูดงั ขึ ้น
“เข้ ามาได้ ” จู้ยนั กล่าว

ประตูถกู เปิ ดเข้ ามาอย่างช้ าๆ เผยให้ เห็นคนรับใช้ คนหนึง่ ของจู้ยนั เขาเดินเข้ ามาก้ มหน้ าและ
กระซิบถ้ อยคําบางอย่างข้ างๆหูของจู้ยนั

เมื่อจู้ยนั ได้ ยิน สีหน้ าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

เพล้ ง!!

ชามสีทองราคาแพงในมือของเขาแตกออกเป็ นเสีย่ งๆ “เจ้ าว่ายังไงนะ!?”

หลานยุยเยียผวาสุดขีด แต่ดเู หมือนคนรับใช้ จะชินกับการกระทําของจู้ยนั แล้ ว เขาถอยหลังไป


ก้ าวนึงและพูดต่อ “นายน้ อย ซางฉางพ่ายแพ้ ให้ กบั หลินหมิงใน3กระบวนท่า เขาได้ รับบาท
เจ็บสาหัสและหมดสติอยูใ่ นขณะนี ้”

เหตุการณ์นี ้ทําให้ จ้ ยู นั โมโหอย่างกับจะเป็ นบ้ า แต่หลานยุนเยียกําลังรู้สกึ แปลกใจ หลินหมิง


ชนะอย่างนันหรื
้ อ ทังยั
้ งชนะด้ วย3กระบวนท่า และยังทําให้ จ้ ยู นั บาดเจ็บสาหัสและหมดสติไป
อีก!

เป็ นไปได้ ยงั ไง เธอคิดว่าหลินหมิงจะเสียท่าเสียอีก

จู้ยนั ในตอนนี ้ดูน่ากลัวอย่างมาก เขาประเมินหลินหมิงไว้ สงู ก็จริ ง แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะ


เอาชนะคนที่อยูอ่ นั ดับ100ต้ นๆอย่างซางฉางได้

ก่อนหน้ านี ้ จู้ยนั ทําเหมือนว่าหลินหมิงเป็ นเพียงขอบเล่นชิ ้นหนึง่ เขาสามารถที่จะกลันแกล้


้ ง
หรื อจะกดขี ้ข่มเหงมันอย่างไรก็ได้ เพราะพลังที่เหนือกว่าหลายขันของเขา
้ ทําให้ หลินหมิงไม่เคย
อยูใ่ นสายตา เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าหลินหมิงจะกลายเป็ นภัยคุกคามของเขาได้ ถงึ ขนาดนี ้ ถึง
เขาจะวางอุปสรรคขวางกันมั ้ นไว้ ซกั แค่ไหน มันก็ยงั ผ่านไปได้ ตลอด นี่มนั บ้ าชัดๆ

หลินหมิงมีพฒ ั นาการที่รวดเร็วเกินไป เมื่อสี่เดือนก่อน มันยังเป็ นเศษสวะที่มีการฝึ กฝนขันแรก



อยูเ่ ลย แต่ในช่วงเวลาสันๆมั
้ นก็กลายเป็ นอันดับหนึง่ ในการสอบเข้ าซะอย่างงัน้

แม้ เรื่ องอันดับหนึง่ ของหลินหมิงจะไม่ใช่เรื่ องที่น่าสนใจเท่าไร แต่เขาไม่คดิ มาก่อนว่าหลินหมิง


สามารถเอาชนะซางฉางได้

มันช่างเป็ นตัวปั ญหาเสียจริ ง!

การจะพัฒนาให้ ได้ เร็วเช่นนัน้ มันกินโอสถลํ ้าค่าอะไรเข้ าไป?!

หรื อว่ามันจะมี เจตจําจงแห่งการต่อสู้ มันทําสมาธิแล้ วเข้ าไปฝึ กฝนในสภาวะพิเศษอย่างนัน้


หรื อ?!

เมื่อคิดเช่นนัน้ จู้ยนั กําหมัดแน่น จนได้ ยินเสียงกระดูก ส่วนลึกในใจของเขาบอกว่า ซักวัน


หลินหมิงอาจจะกลายคูต่ อ่ สู้ที่เหนือกว่าตัวของมันเอง

“ข้ าต้ องฆ่ามันก่อนที่มนั จะแข็งแกร่งไปมากกว่านี ้ แต่วา่ ...หากมันยังอยูใ่ นสํานักเจ็ดแก่นแท้


แม้ จะเป็ นอํานาจของท่านน้ า ก็ทําอะไรศิษย์ในสํานักแห่งนี ้ไม่ได้ ข้ าจะทําอย่างไรดี”

ด้ านหลังภูเขาของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ดวงจันทร์ กําลังส่องแสงสว่างเจิดจร้ า


ภายใต้ แสงจันทร์ นนั ้ หลินหมิงกําลังนัง่ อยูบ่ นแท่นหิน เขาถือหอกไว้ ในมือ แขนของเขาขนานไป
กับด้ ามของหอก และศอกของเขาก็กดลงไปยังปลายหอก นี่เป็ นหนึง่ ในท่าของ ‘ศิลปะการต่อสู้
ด้ วยหอก’ – ‘สะพานเหล็กกันแม่
้ นํ ้า’

ถึงอย่างนันด้
้ ามของมันที่ยื่นออกไปข้ างหน้ าก็ไม่ได้ ตรงซักเท่าไร หลินหมิงวางหอกไว้ บนหิน
และแบกทังหมดนั
้ น่ ไว้ บนไหล่

ถึงมันจะดูเหมือนว่าจะหนักเพียง 100 จิ๋น แต่จริ งๆแล้ วมันหนักกว่านันเป็


้ น 10 เท่า ด้ วย
นํ ้าหนักของแท่นหินและหอกรวมกัน อาจจะหนักถึง 4000 จิ๋นเลยทีเดียว ซึง่ สําหรับหลินหมิง
ที่มีการฝึ กฝนขันที
้ ่สาม นี่ก็ถือเป็ นขีดจํากัดของเขาพอดี

ขณะที่หลินหมิง ถือหอกไว้ ที่มือขวา แขนข้ างซ้ ายของเขาก็ถือหินพลังปราณเอาไว้ เขาหลับตา


และโคจรพลังปราณเพื่อดูดซับพลังปราณจากหินพลังปราณให้ เข้ าสูร่ ่างกายของเขา

ถ้ าจะให้ เปรียบเทียบ หินพลังปราณก็เปรี ยบได้ กบั นํ ้า และร่างกายของเขาก็เปรี ยบได้ กบั เขื่อน


เราสามารถดูดซับพลังปราณเอาไว้ ได้ จนกว่าเขื่อนจะเต็ม โดยไม่มีผลต่อการฝึ ก แต่ถ้าหากใน
ระหว่าการงฝึ ก เกิดได้ รับบาดเจ็บสาหัส ก็มีความเป็ นไปได้ ที่เขื่อนจะรั่ว และสูญเสียผลจากการ
ฝึ กไป

ถ้ ามีการฝึ กฝนในขันที ้ ่สองก็สามารถเก็บพลังปราณได้ ประมาณแอ่งนํ ้าเล็ก ถ้ าเป็ นขันที้ ่สามก็


เป็ นบ่อนํ ้า ขันที
้ ่สี่และห้ าก็เป็ นบ่อนํ ้าขนาดใหญ่ สําหรับขันที
้ ่หก ขันผสานชี
้ พชรก็เทียบได้ กบั
แม่นํ ้า และหากเป็ นระดับปราณฟ้า ก็เปรี ยบได้ กบั ท้ องทะเลมหาสมุทรอันกว้ างใหญ่ไพศาล

ในเวลาสองวันนี ้ หลินหมิงใช้ หินหลังปราณไปถึง 3 ก้ อน ขณะที่หลินหมิงฝึ กวิชาอัตราการดูด


ซับพลังปราณจากหินพลังปราณก็เร็วขึ ้นเรื่ อยๆ จนอดคิดไม่ได้ วา่ ทังสํ
้ านักเจ็ดแก่นแท้ ก็อาจจะ
มีหินพลังปราณไม่พอสําหรับเขา
“แม้ วา่ ข้ าจะได้ เข้ าร่วมกับนิกายสวรรค์ และได้ เป็ นอันดับต้ นๆในการจัดอันดับ หินพลังปราณที่
ได้ รับมาก็คงจะยังไม่พออยูด่ ี”

ตามกฏของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ศิษย์ใหม่จะได้ หินพลังปราณเยอะขึ ้นตามอันดับที่สอบเข้ าสํานัก


ได้ ในครัง้ แรก และในครัง้ ต่อๆไปก็จะขึ ้นอยูก่ บั อันดับของพวกเขา ถ้ าเป็ นอันดับ 150ขึ ้นไป ก็
จะได้ รับเพียงก้ อนเดียวในแต่ละเดือน อันดับที่120-150 ได้ รับ 2 ก้ อนต่อเดือน อันดับ
100-120 ได้ รับ 3 ก้ อน อันดับ 72-100 ได้ รับ4 ก้ อน เพราะงันอั ้ นดับของหลิงเซ็นและ
ทาคุ คงจะได้ เป็ นสิบๆก้ อนในแต่ละเดือน แต่มนั ก็อาจจะยังไม่พอสําหรับพวกเขาอยูด่ ี

ว่ากันว่าระยะห่างระหว่างอาณาจักรลิขิตฟ้ากับหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ นนไกลถึั้ ง 100,000 ไมล์


ต่อให้ ใช้ ม้าเร็ววิ่งทังวั
้ นทังคื
้ อก็ต้องใช้ เวลาถึงครึ่งไปกว่าจะไปถึง

ถ้ าคิดจะเดินเท้ าละก็ อาจจะต้ องใช้ เวลาทังชี


้ วิตก็เป็ นได้

หลินหมิงส่ายหัว เขายังไม่จําเป็ นต้ องคิดถึงเรื่ องไกลตัวแบบนัน้ เขาต้ องจดจ่ออยูก่ บั ปั จจุบนั


เสียก่อน การจัดอันดับด้ วยอาคมหมื่นอสูรสังหารในครัง้ ต่อไป หลินหมิงคิดจะเข้ าร่วมอยูแ่ ล้ ว
และเขาก็หวังเอาไว้ สงู ด้ วยเขาต้ องการรางวัลทรัพยากรต่างๆมากยิ่งกว่าที่ได้ รับอยูใ่ นขณะนี ้

นี่ก็เหลือเวลาอีกเพียงแค่สามวันเท่านัน้ การจะเพิ่มพลังให้ สงู ขึ ้นอย่างเห็นได้ ชดั ในช่วงเวลาแค่


นี ้คงจะเป็ นไปไม่ได้ นอกเสียจาก....จะใช้ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง

ถ้ าหลินหมิงไม่ได้ คิดจะใช้ อาคมรักษาวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังของยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง เขา


ก็คงจะกินมันลงไปแล้ ว แต่ถ้าใช้ อาคมรักษาวิญญาณก็จะสามารถเพิ่มพลังของมันได้ อีกหลาย
เท่า แต่ตอนที่เขากิน ยาโอสถพญางูทองคํา เขารู้สกึ ได้ วา่ เขายังไม่สามารถที่จะดูดซับพลัง
ทังหมดได้
้ อย่างเต็มที่ ส่วนที่เกินกว่าการดูดซับของเขาก็จะเสียไปเปล่าๆ ไม่ค้ มุ กับกับผลลัพธ์ที่
งคิดจะใช้ เวลาที่เหลือฝึ ก ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’
ได้ ซกั เท่าไร ดังนันเขาจึ

ปึ งง!

ถึงขีดจํากัดของเขาแล้ ว หินหนัก100จิ๋นถูกปล่อยให้ ตกลงบนพื ้น เกิดฝุ่ นฝุ้งกระจัดกระจายไป


ทัว่ หลินหมิงหยิบหอกและเล็งไปที่หินนัน่ พร้ อมกับพุง่ ออกไป

ปึ ง! เกิดเสียงดังสนัน่ หินก้ อนนันแตกออกเป็


้ นเสีย่ งๆ ทว่าสาเหตุมิใช่เพราะแรงปะทะจากหอก
แต่เป็ นพลังปราณที่สนั สะท้ านอยูภ่ ายในก้ อนหินต่างหาก เศษหินแตกกระจัดกระจายไปทุก
ทิศทาง

-------------------------

MW#082 อํานาจและชื่อเสียง


เมื่อได้ เห็นเศษหินที่แตกกระจายออกไปทุกทิศทาง หลินหมิงก็ถอนหายใจเบาๆ

วิชา ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’ เป็ นส่วนหนึง่ ของวรยุทธ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เป็ นวิชาที่


ทรงพลังกว่า หมัดสลายกระดูกหลายเท่า ต่อให้ เป็ นหมัดสลายกระดูกแบบสมบูรณ์ก็ทําเทียบ
ได้ เพียง ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’ ในช่วงต้ นๆเท่านัน้ หากเขาสําเร็จ แบบต้ นๆเท่านัน้ ‘ลื่นไหลดุจ
แพรไหม’ ขันสู้ งๆแล้ วละก็ เศษหินที่เขาปาหอกใส่จะกลายเป็ นเพียงฝุนผงเท่านัน้ ไม่ได้ เป็ น
ก้ อนเล็กๆเช่นนี ้

ในตอนนี ้ หลินหมิงสามารถใช้ มือเปล่าในการรับดาบของซางฉางได้ และคลื่นพลังปราณของ


เขาก็หกั ล้ างกับพลังปราณของซางฉางได้ ถ้ าสามารถสําร็ จวิชา ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’ ในขันสู้ ง
กว่านี ้หลินหมิงก็คงจะสามารถใช้ มือเปล่ารับกระบวนท่าของซางฉางได้ อย่างง่ายดาย ไม่
จําเป็ นต้ องใช้ หอกและกระบวนท่ามังกรวารี ถล่มมหาสมุทรเหมือนในครัง้ ที่ผา่ นมา แค่มือเปล่า
ก็เพียงพอ

ถ้ าหากพลังปราณสลายไปแล้ ว กระบวนท่าก็จะสลายไปด้ วย ไม่วา่ จะเป็ นวิชาที่ยิ่งใหญ่มาจาก


ไหนก็ตาม ถ้ าหากมันไม่ได้ แข็งแกร่งกว่าเขามาก เขาก็สามารถสลายพลังปราณและทําราย
กระบวนท่าเหล่านันได้

พลังของ ‘ลืน่ ไหลดุจแพรไหม’ช่างยิ่งใหญ่เสียจริ ง หลินหมิงถอนหายใจออกมา ยิ่งเขาฝึ ก เขาก็


ยิ่งได้ รับรู้ถงึ ความแข็งแกร่งที่แท้ จริ งของมัน เขาพึง่ ฝึ กมันในขันแรกเท่
้ านัน้ ถ้ าหากเขาสามารถ
สําเร็ จขันต่
้ อๆไปได้ ในอนาคตละก็ นึกไม่ออกเลยว่าจะเขาจะแข็งแกร่งขึ ้นขนาดไหน

ในความทรงจํานัน้ เขาจําได้ วา่ เมื่อสําเร็ จวิชา ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เขาจะสามารถเปิ ด


ประตูลกึ ลับทังแปดภายในร่
้ างกายได้ และเมื่อมันเกิดขึ ้น พลังของเขาก็จะเหมือนกับสายรุ้งที่
ข้ ามผ่านโลก ทุกคําพูดจะเป็ นดังฟ้าผ่า และหมัดๆนึงมีพลังเพียงพอจะทําลายดาวทังดวงได้
้ ซึง่
ยังไม่เคยมีใครทําได้ มาก่อนและก็คงจะยังไม่มีตอ่ ไป

“ครัง้ นี ้ข้ าเอาชนะซางฉางได้ พลังก็เพิ่มขึ ้นอย่างต่อเนื่องใน2-3เดือนที่ผา่ นมา มันก็เป็ นเรื่ องดี


อยูห่ รอก แต่ข้ายังอยากได้ ทรัพยากรของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ที่มากยิ่งกว่านี ้”

แม้ การเดิมพันระหว่าง หลินหมิงกับซางฉาง จะดูไม่มีความสําคัญอะไรมากนัก แต่เรื่ องราวใน


ครัง้ นี ้ จะต้ องถูกกล่าวขานไปทัว่ อย่างแน่นอน มันจะต้ อง เรื่ องเหล่านนี ้จะต้ องไปเข้ าหูของคน
เก่งๆคนอื่นอีกแน่

หลินหมิงมีชื่อเสียง และจะเป็ นที่ร้ ูจกั มากขึ ้น

หลินหมิง เด็กหนุ่มอายุ15ปี ศิษย์จากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ห้ องพสุธา อันดับ126 อาวุธที่ใช้


หอก

สามารถล้ มซางฉางอันดับที่ 103 ลงได้ หลินหมิงพึง่ จะเข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ แค่เดือน


เดียวเท่านัน้ เรื่ องราวเหล่านี ้ต้ องสร้ างความประหลาดใจให้ ใครต่อใครที่ได้ ฟัง เขานันมี

ความสามารถในการพัฒนาที่รวดเร็วถึงกับแซงศิษย์เก่าในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ที่อายุมากกว่าได้

ใครต่อใครก็ร้ ูวา่ แม้ แต่หลิงเซ็น ทาคุ และซางกวนยู่ ก็ไม่ได้ มีพฒ


ั นาการที่ก้าวลํ ้าไปไกลได้
ขนาดนี ้ภายในระยะเวลาแค่หนึง่ เดือน

้ คือ หลินหมิงสามารถเอาชนะซางฉางได้ ด้วย ‘พื ้นฐานการใช้ อาวุธหอก’


แล้ วที่น่าขํายิ่งกว่านันก็
และเขาก็ยงั ใช้ มนั เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านัน้ – ‘มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร’!
ถึง ‘มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร’! จะเป็ นชื่อที่ดดู ีก็ตาม แต่มนั ก็เป็ นแค่การแทงด้ วยหอกเท่านัน้
ในกองทัพขณะที่เกิดสงครามมีการแทงหอกไปยังศัตรูพร้ อมๆกัน และตะโกนร้ องรวมเป็ นเสียง
เดียวกัน ทําให้ ดเู หมือนราวกับว่ามังกรกําลังของพุง่ ออกมา สิ่งนี ้นัน่ เองที่เป็ นที่มาของชื่อนี ้

ปกติแล้ วสําหรับการต่อสู้ ผู้คนทัว่ ๆไปต่างก็จะสนุกไปกับมัน จะมีก็แต่พวกระดับต้ นๆเท่านันที


้ ่
จะสังเกตพลังปราณและความลับของกระบวนท่าบางอย่างของนักสู้ที่กําลังสู้กนั อยู่ และทาคุ
เองก็เป็ นคนที่สนใจในความลับของพลังในการแทงของหลินหมิง(ลื่นไหลดุจแพรไหม-ตอนที่
หลินหมิงแทงหอกใส่คลืน่ พลังของซางฉางเขาใช้ ลื่นไหลดุจแพรไหมในการสัน่ สะเทือนพลัง
ปราณเพื่อสลายคลื่นพลังของซางฉาง กระบวนท่าหอกเป็ นแค่สว่ นเล็กๆที่ใช้ บงั หน้ าเท่านัน้ )

ทาคุเป็ นถึงนักสู้อนั ดับต้ นๆ เขาคืออันดับ2ของสํานักแห่งนี ้ในหลายปี ที่ผ่านมา เขาก็ยงั ไม่


สามารถที่จะเข้ าใจความลับของพลังที่หลินหมิงใช้ ได้ ซึง่ แม้ แต่หลิงเซ็นที่ทาคุนบั ถือก็ยงั ไม่
สามารถอธิบายถึงความลับของพลังที่หลินหมิงได้ แสดงออกมาได้

หลายๆคนได้ เห็นหมัดและฝ่ ามือนัน้ แต่น้อยคนนักที่จะรู้วา่ มันมีอะไรแฝงอยูใ่ นฝ่ ามือนันกั


้ นแน่
และแม้ พวกเขารู้วา่ มันมีอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีใครเดาออกหรอกว่านัน่ คือวิชาหมัดสลาย
ู หายไปกว่า 70%
กระดูก วิชาหมัดสลายกระดูกที่มีเนื ้อหาที่สญ

ด้ วยรัศมีที่เปล่งออกมาจากหลินหมิงในตอนนี ้ ทําให้ พวกคนระดับอัจฉริ ยะต้ องหันกลับมามอง


ตัวเองเสียใหม่

ผลลัพธ์คือทุกสิ่ง ไม่วา่ จะพรสวรรค์ อายุ และฐานะที่ตํ่าต้ อย แต่หลินหมิงก็สามารถที่จะ


กดดันหลิงเซ้ นและทาคุได้ ไม่แน่วา่ ในอนาคตหลินหมิงอาจจะเหนือกว่าพวกเขาเสียอีก

ซึง่ แน่นอนว่าพวกองค์กรที่มีอิทธิพลก็ไม่สามารถมองข้ ามความเร็ วในการพัฒนาระดับนี ้ได้ ถึง


อย่างนันสํ
้ านักเจ็ดแก่นแท้ ก็ได้ มีกฎว่าไม่วา่ จะเป็ นตระกูลที่ใหญ่โตมาจากไหน ก็ไม่สามารถเข้ า
มาก้ าวก่ายการฝึ กสอนในสํานักได้ เพื่อไม่ให้ กระทบกับการฝึ กสอนของเหล่าศิษย์ในสํานัก

เพราะแบบนัน้ จึงมีตระกูลใหญ่ๆบางตระกูลส่งคนมาเฝ้ารอหลินหมิงอยูหน้ าสํานัก เพื่อรอให้


หลินหมิงออกมา

ไม่ใช่เพียงแค่รออย่างเดียวเท่านัน้ แต่จบั ตาดูพฒ


ั นาการของเขาอย่างต่อเนื ้อง พวกเขาต้ องการ
ที่จะรู้ความคืบหน้ าของหลินหมิงอย่างระเอียด

แน่นอนว่าพวกเขาเองก็จบั ตาดูศิษย์ใหม่คนอื่นๆอยูบ่ างเช่นกัน แต่ก็คงไม่มีใครที่โดดเด่น


เท่ากับหลินหมิง

นี่แหละความเจิดจรัสของหลินหมิง แม้ แต่อจั ฉริ ยะจากเมืองเยียลู่ ตระกูลหวัง หวังยานเฟิ งก็ยงั


เทียบเขาไม่ติดแล้ วในตอนนี ้

...

หลินหมิงได้ เข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นเวลา 34 วันแล้ ว และวันนี ้ก็เป็ นวันที่จะจัดอันดับ


ด้ วยอาคมหมื่นอสูรสังหาร ในครัง้ ที่สอง

อาคมหมื่นอสูรสังหารนันอยู
้ บ่ นหุบเขาที่ถกู ล้ อมด้ วยต้ นไผ่อนั แหลมคม ซึง่ มันทังสู
้ งและแข็ง
แม้ แต่ใบของมันก็ยงั คมกริ บ

สถานที่ทดสอบ อยู่ ณ ใจกลางของป่ าดงไผ่นนั ้ ซึง่ ตรงนันจะมี


้ แท่นอาคมอยู่ ซึง่ ในเวลานี ้ ก็มี
ผู้คนมากมายมารวมตัวกันเป็ นที่เรี ยบร้ อยแล้ ว ส่วนใหญ่ก็จะเป็ นศิษย์ในห้ องพสุธาทัง20คน

เพื่อแยกศิษย์ที่มีความตังใจที
้ ่จะทดสอบกับศิษย์ที่มาทดสอบเพื่อเล่นสนุกออกจากกัน สํานัก
เจ็ดแก่นแท้ จงึ ได้ ออกกฎมาว่า ทุกๆครัง้ จะเข้ าทดสอบ จะต้ องวางหินพลังปราณไว้ ก่อนก้ อนนึง
และถ้ าหากผลการทดสอบที่ออกมาสูงขึ ้นกว่าเดิมไม่ถงึ 5 อันดับ พวกเขาก็จะไม่ได้ รับหินพลัง
ปราณก้ อนนันคื
้ น

สําหรับศิษย์ใหม่ที่ได้ อนั ดับล่างๆแล้ ว พวกเขาจะได้ รับหินพลังปราณเพียงแค่เดือนละหนึง่ ก้ อน


เท่านัน้ ซึง่ เป็ นจํานวนที่ใช้ เข้ าทดสอบพอดี ซึง่ พวกเขาก็ไม่มนั่ ใจด้ วยว่าจะได้ อนั ดับสูงกว่าเดิม
ถึง5อันดับหรื อไม่ พวกเขาส่วนใหญ่จงึ ยังไม่ได้ เข้ าร่วมการทดสอบในครัง้ นี ้ เพราะหินพลัง
ปราณเพียงก้ อนเดียวของพวกเขานันมี
้ คา่ มากกว่าที่จะนํามาเสียงเช่นนี ้

หวางหมาง และ หลี่ไท้ ศิษย์ใหม่สองทหารกล้ าผู้มากประสบการณ์ในการต่อสู้ก็ไม่มาในวันนี ้


ในการทดสอบเมื่อเดือนก่อนพวกเขาได้ แสดงฝี มืออย่างสุดความสามารถ แต่ก็ยงั ทําได้ เพียง
อันดับที่ 160 เท่านัน้ นันคื
้ อขีดจํากัดของพวกเขาแล้ ว การจะใหขึ ้นมาอีก 5 อันดับนันไม่
้ ใช่
เรื่ องง่ายๆเลย

ในหมูค่ นพวกนันไม่
้ ได้ มีแต่คนของสํานักเจ็ดแก่นแท้ เท่านัน้ ยังมีคนจากภายนอกเข้ ามา
เหมือนกัน พวกเขาได้ รวมตัวกันและชมอยูห่ า่ งๆที่มมุ ๆหนึง่ ของหุบเขา พวกเขาเหล่านันคื
้ อคนที่
ถูกส่งมาจากพวกตระกูลใหญ่ๆ หน้ าที่พวกเขาก็คือการรายงายผลของเหล่าศิษย์ที่น่าสนใจให้
เจ้ านายของพวกเขาฟั ง

ตามกฎของสํานักเจ็ดแก่นแท้ พื ้นที่ในส่วนของอาคมหมื่นอสูรสังหาร และประมหาเจดีวิจิตร


บรรจง นันเป็
้ นพื ้นที่ต้องห้ าม ที่ผ้ คู นธรรมดาไม่ได้ รับอนุญาตให้ เข้ าไป

พวกผู้สงั เกตการณ์เหล่านัน้ ที่มาที่หบุ เขาห่งนี ้เพื่อเป็ นหูเป็ นตาให้ กบั เจ้ านายจึงได้ แต่
สังเกตการณ์อยูห่ า่ งๆ ผู้ที่มาสังเกตการณ์เหล่าศิษย์ในครัง้ นี ้ไม่ได้ มีแต่พวกขี ้ข้ าจากตระกูล
ใหญ่ๆเท่านัน้ อย่างเช่น ชายในผ้ าคลุมทังสี ้ ่คนนี ้ พวกเขาคือทหารผู้เก่งกล้ าที่ถกู ส่งมาจาก
เจ้ าชายองค์ปัจจุบนั !
------------------------------

MW#083 การแย่งชิงบัลลังก์ของเหล่าเจ้ าชาย

...

...

...

ชายในชุดคลุมสี่คนกําลังเฝ้าสังเกตการการจัดอันดับของสํานักเจ็ดแก่นแท้ แม้ วา่ จะเป็ นความ


ต้ องการขององค์ชายที่สามผู้เป็ นรัชทายาทคนปั จจุบนั พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเข้ าไปรบกวน
การจัดอันดับของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ แม้ แต่การจะติดต่อสื่อสารกับศิษย์ในสํานักก็ไม่สามารถ
ที่จะทําได้ เช่นกัน

ในอาณาจักรลิขิตฟ้า สํานักเจ็ดแก่นแท้ ไม่ได้ อยูภ่ ายใต้ อํานาจของจักรวรรดิ สํานักแห่งนี ้อยู่


ภายใต้ อํานาจของหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ หุบเขาเจ็ดแก่นแท้ เป็ นยักษ์ ใหญ่ที่น่ากลัวซึง่ ครองอํานาจ
ของจักรพรรดิเอาไว้ ! หุบเขาเจ็ดแก่นแท้ สามารถที่จะยกเลิกการปกครองครองของทุกจักรวรรดิ
ในพื ้นที่รัศมีกว่า 200,000 ไมล์ได้ อย่างง่ายดาย!

หากมีเชื ้อพระวงศ์คนได้ กล้ าฝ่ าฝื นกฏของพวกเขา หุบเขาเจ็ดแก่นแท้ จะส่งนักสู้ระดับปราณ


ปลายฟ้า 3-4 คนมาจัดการ พวกเขาสามารถที่จะกวาดล้ างทังอาณาจั้ กรและตัดหัวของ
จักรพรรดิได้ อย่างง่ายดาย มันก็เป็ นเพียงงานธรรมดาๆที่พวกเขาต้ องทําในแต่ละวัน

แม้ วา่ อาณาจักรลิขิตฟ้าจะมีนกั สู้ระดับปราณต้ นฟ้าอยูห่ ลายคน เช่น ฉินเสีย่ ว มูย่ ี่ และคนอื่นๆ
ที่มีเป็ นระดับปราณต้ นฟ้า และต่อให้ พวกเขาทังหมดในอาณาจั
้ กรยอมร่วมมือกัน ก็ยงั ไม่อาจที่
จะต้ านพลังของนักสู้ที่ถกู ส่งมาจาก หุบเขาเจ็ดแก่นแท้ ทง3-4คนนั
ั้ นได้

ดังนันเมื
้ ่อจักรพรรดิไม่เห็นด้ วยกับคําสัง่ ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ สิ่งที่รออยูก่ ็คือความพินาศของ
ราชวงศ์เท่านัน้ จากนันทางหุ
้ บเขาเจ็ดแก่นแท้ ก็จะจัดตังจั
้ กรพรรดิคนใหม่ขึ ้นมาปกครองดูแล
อาณาจักร

ด้ วยการดํารงอยูท่ ี่แข็งแกร่งและน่ากลัวเกินกว่าสามัญสํานึกของมนุษย์ ทังอาณาจั


้ กรลิขิตฟ้า
และอาณาจักรใกล้ เคียงทังหมดต่
้ างยกย่องให้ หบุ เขาเจ็ดแก่นแท้ เป็ นกฏที่อยูเ่ หนือทุกสรรพสิ่ง
พวกเขาไม่ริอาจคิดที่จะขัดขืนและระมัดระวังการกระทําทุกอย่างมิให้ สง่ ผลดระทบต่อทางหุบ
เขาเจ็ดแก่นแท้ นอกจากนี ้อาณาจักรต่างๆยังต้ องส่งยาโอสถลํ ้าค่า หินพลังปราณ รวมถึง
แรงงานสําหรับช่วยทําเหมืองอีกด้ วย

ตราบใดที่จกั รพรรดิยงั เชื่อฟั งคําสัง่ ทังหมดและส่


้ งทรัพยากรให้ ทางหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ ทางหุบ
เขาเจ็ดแก่นแท้ ก็จะไม่เข้ ามายุง่ ในเรื่ องการปกครองในอาณาจักร รวมถึงยังช่วยเหลือพวกเขาใน
การจัดการกับพวกกบฏที่คิดจะโค่นอํานาจของอาณาจักรอีกด้ วย

แน่นอนว่ายังมีข้อจํากัดอยูอ่ ีกเรื่ องหนึง่ หากพระมหากษัตริ ย์ผ้ ปู กครองอาณาจักรเป็ นคนชัว่ ร้ าย


หรื อไร้ ความสามารถ ประชากรในอาณาจักรอยูก่ นั ไม่เป็ นสุข เจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขาจาก
ทางหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ ก็จะเข้ ามาจัดการเรื่ องทังหมด
้ และก่อตังราชวงศ์
้ ใหม่ที่จะสามารถดูแล
อาณาจักรนี ้ได้ อย่างเป็ นสุข

ทางหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ จะจัดตังสํ
้ านักที่ทรงพลังและทรงอํานาจอย่างสํานักเจ็กแก่นแท้ ในทุกๆ
อาณาจักรที่พวกเขาปกครอง เพื่อที่จะสรรหานักสู้อฉั ริ ยะที่จะมาเข้ ารวมกับพวกเขา รวมถึงเพื่อ
รับหน้ าที่ปกครองอาณาจักรของพวกเขา

สําหรับสํานักต่อสู้แห่งอาณาจักร หน้ าที่หลักของพวกเขามิใช่การฝึ กฝนการต่อสู้เช่นเดียวกับ


สํานักเจ็ดแก่นแท้ ทว่าเป็ นการทําเหมืองแร่และแสวงหาทรัพยากรที่สําคัญ รวมถึงวัตถุดิบลํ ้าค่า
ต่างๆ และทรัพยากรอื่น ๆ สิง่ เหล่านี ้จะถูกส่งให้ กบั ทางหุบเขาเจ็ดแก่นแท้

สํานักต่อสู้แห่งอาณาจักรมีอํานาจมหาศาลในอาณาจักรลิขิตฟ้า พวกเขาเป็ นผู้รับผิดชอบการ


รวบรวมทรัพยากร รวมถึงการจัดส่งให้ กบั ทางหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ ซึง่ เหล่าราชวงศ์จากจักรพรรดิ
จะเป็ นผู้บริ จารการในสํานักต่อสู้แห่งอาณาจักร!

มันอาจจะกล่าวได้ วา่ หุบเขาเจ็ดแก่นแท้ เป็ นแวมไพร์ ดดู เลือดขนาดยักษ์ ที่เข้ ามาแย่งชิง


ทรัพยากรทังหมดของทุ
้ กอาณาจักรในรัศมี 200,000 ไมล์ แต่พวกเขาก็เป็ นแวมไพร์ ดดู
เลือดที่แข็งแกร่งเกินกว่าที่ทกุ อาณาจักรจะร่วมมือกันเพื่อต่อกรได้ และแต่ละอาณาจักรก็
ยินยอมที่จะส่งทรัพยากรให้ เพื่อแลกกับความมัน่ คงในอาณาจักร

ดังนันสํ
้ าหรับสํานักเจ็ดแก่นแท้ พระราชวงศ์จงึ ไม่กล้ าที่จะเข้ าไปรบกวนและยังต้ องพึงระวังใน
การกระทําของพวกเขาที่จะไปกระทบต่อสํานักเจ็ดแก่นแท้

แต่อย่างไรก็ตาม สํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็ยงั คอยมอบการฝึ กฝนและวรยุทธต่างให้ ให้ บคุ คลใน


อาณาจักร รวมถึงยาโอสถลํ ้าค่าและทรัพยากรอีกบางส่วน และสําหรับตระกูลขุนนาง พวกเขา
สามารถส่งบุตรหลานเพื่อเข้ าฝึ กฝนในห้ องมนุษย์ได้ โดยไม่ต้องสอบเข้ า (ห้ องมนุษย์ออ่ นกว่า
ห้ องพสุธา)
ผู้ที่ต้องการกําลังคนนักสู้ที่แข็งแกร่งมากที่สดุ มิใช่ตระกูลที่แข็งแกร่งหรื อหอการค้ า ทว่าเป็ น
เหล่าจอมพลและองค์ชาย!

จอมพลต้ องการรักษาชายแดน เมื่อเกิดสงครามในอาณาจักร พวกเขาต้ องการความแข็งแกร่งที่


มากพอจะจัดการกับปั ญหาเหล่านันได้ ้ ด้วยตัวเอง รวมถึงการป้องกันการลอบสังหารหรื อ
เหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆที่จะเกิดขึ ้น

ในฐานะที่เป็ นองค์ชาย พวกเขาต้ องการการสนับสนุนจากเหล่านักสู้ผ้ มู ีฝีมือเพื่อกวาดล้ างเหล่า


ศัตรูของพวกเขา!

ด้ วยฐานะที่ใหญ่โตของพวกเขา พวกเขาจะขาดนักสู้ที่แข็งแกร่งไปได้ อย่างไร?

ก่อนที่หลินหมิงจะเป็ นที่สนใจจากผู้คน ผู้ที่ได้ รับความสนใจที่สดุ ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็คือ หลิง


เซ็น ทาคุ และ ซางกวนยู่ และบรรดาศิษย์สาวกหลักคนอื่นๆ

สําหรับบรรดาสาวกหลัก หากไม่เกิดอุบตั ิเหตุหรื อพิกลพิกาลไปเสียก่อน หลังจากจบการศึกษา


จากสํานัก พวกเขาก็จะเข้ าร่วมงานกับทางหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ อย่างไม่ต้องสงสัย บางคนอาจจะ
ไปได้ ดีจนถึงขันได้
้ รับการแต่งตังให้
้ เป็ นปรมจารย์แห่งสํานักต่อสูใ่ นสังกัดหุบเขาเจ็ดแก่นแท้
หรื อตําแหน่งที่สงู ส่งอื่นๆ

หากพวกเขาได้ ทํางานที่หบุ เขาเจ็ดแก่นแท้ ชีวิตของพวกเขาก็จะห่างไกลจากอาณาจักรลิขิตฟ้า


อย่างมาก แต่ถ้าพวกเขาได้ รับหน้ าที่ให้ เป็ นปรมจารย์ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ หรื อทูตประจํา
อาณาจักรก็จะถือว่าโชคดีเป็ นพิเศษ!
ในอาณาจักรแห่งนี ้ สถานะของปรมจารย์แห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ และทูตประจําอาณาจักรนัน้ สูง
กว่าจักรพรรดิเสียอีก!

หรื ออาจจะพูดในอีกแง่หนึง่ ได้ วา่ หากบรรดาองค์ชายทังหลายสามารถที


้ ่จะเอาชนะใจพวกศิษย์
ระดับสูงได้ ที่มีโอกาศจะเป็ นปรมจารย์หรื อทูตของอาณาจักรได้ พวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้ รับสืบ
ทอดราชบัลลังก์จะเพิ่มขึ ้นถึง 50%!

ถึงอย่างนัน้ ศิษย์ระดับสูงทุกคนในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็มาจากตระกูลนักสู้ที่เก่าแก่และแข็งแกร่ง


เพราะงันแทบไม่
้ ต้องหวังเลยว่าจะทําให้ พวกเขาสนใจได้

ทังหลิ
้ นเซ็น และทาคุ พวกเขามาจากกองทัพ ซึง่ เป็ นกองกําลังทหารจาก กองกําลังติดอาวุธ
ทางตะวันตกเฉียงใต้ ภายใต้ อํานาจของเจ้ าชายองค์ที่แปด ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะมาร่วมมือ
กับองค์ชายที่สามรัชทายาทคนปั จจุบนั อย่างแน่นอน

เช่นเดียวกับซางกวนยู่ เขามาจากตระกูลการค้ าที่รํ่ารวย และมีชื่อเสียงมาตังแต่ ้ อดีต ซึง่ พวก


ตระกูลการค้ าจะไม่คอ่ ยสนใจเรื่ องจักรวรรดิ์อยูแ่ ล้ ว ไม่วา่ องค์ชายคนได้ จะได้ ขึ ้นครองบัลลังก์ ก็
ไม่ได้ กระทบกับการค้ าของพวกเขาซักเท่าไร

ในเวลาที่บลั ลังก์สนั่ ครอน หลินหมิงก็โผล่มาอย่างเจิดจรัส ถึงพลังของหลินหมิงจะมีอยูอ่ ย่าง


จํากัดก็เถอะ แต่เขาก็อาจจะสร้ างความประหลาดใจให้ คนอื่นๆอีกก็เป็ นได้ แม้ วา่ องค์ชายบาง
คนจะไม่ได้ เห็นคุณค่าของหลินหมิงเท่าไรนัก แต่ถ้าเกิดปาฏิหาริ ย์ขึ ้นมา เขาอาจจะเอาชนะหลิง
เซ็นและทาคุได้ ก็เป็ นได้

15นาทีก่อนที่การจัดอันดับด้ วยอาคมหมื่นอสูรสังหารจะเริ่ มขึ ้น หัวหน้ าของชายชุดคลุมที่อยู่


ภายใต้ คําสัง่ ของเจ้ าชายที่สามก็กระซิบขึ ้นมาเบาๆ “หลินหมิงมาแล้ ว”
“ตังใจกั
้ นหน่อย!”

“ขอรับ!”

“งานนี ้ เราจะต้ องทําให้ สาํ เร็จ เราจะล้ มเหลวไม่ได้ ถ้ าเราเอาชนะใจหลินหมิงไม่ได้ อย่างน้ อยก็
วหลุดกันหมดแน่”
ต้ องห้ ามให้ เขาไม่ร่วมมือกับองค์ชายที่สิบเด็ดขาด ไม่อย่างนันพวกเราหั

“ขอรับ!”

MW#084 การรวมตัวของยอดยุทธ

หลังจากที่พดู คําพูดนันออกมาไม่
้ กี่อดึ ใจ หลินหมิงก็ปรากฏอยูท่ ี่มมุ หนึง่ ของดงไผ่ คนพวกนัน้
มองหลินหมิงราวกับเหยี่ยวที่กําลังล่าเหยื่อ “ช่างดูเด็กเสียจริ งๆ อายุก็ยงั ไม่ถงึ 16 ด้ วยซํ ้า
หน้ าตาก็ยงั ไร้ เดียงสาอยูเ่ ลย แต่หากมองให้ ดีๆแล้ วละก็ ข้ าสัมผัสได้ ถงึ ออร่าอันแหลมคมที่แผ่
ออกมาเด็กคนนัน้ เขาต้ องไม่ใช่เด็กธรรมดาๆอย่างแน่แน่นอน”
้ อหอกขนาด 820 จิ๋นที่ชื่อว่าหอกทะลวงสายรุ้ง เมื่อวานข้ าไปที่หออาวุธศักดิ์สิทธิ์เพื่อ
“นันคื
ถามเจ้ าของร้ านถึงอาวุธของเด็กคนนัน้ เด็กนันบ้
้ าบิ่นและกล้ าหาญไม่ใช่น้อยเลย”

“ถ้ าวันใดที่องค์ชายที่สบิ คิดจะแย่งชิงราชบัลลังหรื อก่อกบฏ หลินหมิงก็คงจะสามารถปกป้อง


องค์จกั รพรรดิ์ไว้ ได้ ด้วยหอกเล่มนัน้ หอกนัน่ นะ สามารถคร่าชีวิตผู้คนได้ มากมายภายในครา
เดียว”

เมื่อหลินหมิงมาถึงพร้ อมกับ หอกทะลวงสายรุ้ง เขาก็เป็ นที่สนใจจากสายตาของทุกๆคน บาง


คนถึงกับจ้ องเขาตาไม่กระพริ บ

หลังจากที่หลินหมิงได้ ฝึกฝน ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ การรับรู้ของเขาก็สงู ขึ ้นจนน่า


เหลือเชื่อ เขาสามารถสัมผัสได้ ถงึ ชายชุดคลุมที่แอบจับตาดูเขาอยู่

ชายชุดคลุมรู้สกึ ลังเลเล็กน้ อย “เด็กนัน่ รู้ถงึ การมีอยูข่ องเรางันรึ


้ ?!”

ที่ๆพวกเขาอยู่ นันห่
้ างไกลจากหลินหมิงมาก มันเป็ นไปไม่ได้ เลยที่หลินหมิงจะสัมผัสได้

“มันมีสมั ผัสพิเศษหรื อไง ช่างคาดเดาได้ ยากจริ งๆ พลังวิญญาณของมันก็เหนือกว่าคนทัว่ ๆไป


อีก” ชายชุดคลุมพูดขณะบันทึกข้ อมูลของหลินหมิงเอาไว้ เขาจะต้ องรายงานให้ องค์ชายสาม
ได้ รับรู้
หลังจากที่หลินหมิงมาถึง เขาก็เลือกที่นงั่ และวางหอกของเขาไว้ บนตัก เขาหลับตาเพื่อทําสมาธิ

ศิษย์หลายๆคนในสํานักก็มองไปที่เขาตาไม่กระพริ บ แม้ แต่ศิษย์จากนิกายสวรรค์ ก็ยงั รู้สกึ


หวาดหวัน่ ต่อการพัฒนาอันรวดเร็วของเขา ถึงตอนนี ้พวกเขาจะยังเก่งกว่าก็ตาม แต่หลินหมิง
อาจจะไล่ตามพวกเขาทันในช่วงเวลาสันๆก็
้ เป็ นได้

ตามกฎของสํานักเจ็ดแก่นแท้ หากว่าศิษย์จากห้ องพสุธามีอนั ดับ 80 ขึ ้นไป พวกเขาจะ


สามารถท้ าประลองกับศิษย์ในนิกายสวรรค์ได้ และหากศิษย์จากห้ องพสุธาชนะ เขาก็จะได้ เข้ า
มาอยูใ่ นนิกายสวรรค์แทนศิษย์คนก่อน และศิษย์คนก่อนจะถูกขับไล่ออกจากสํานัก

ั ้ อยู่ 72 คน และจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกๆเดือน ทุกๆครัง้


จํานวนของศิษย์ในนิกายสวรรค์นนมี
ก็จะมีประมาณ2-3คนที่ได้ เขามาในนิกายสวรรค์

ศิษย์จากห้ องพสุธาต่างก็พยายามที่จะแย่งชิงตําแหน่งของศิษย์ในนิกายสวรรค์อยูต่ ลอดเวลา


แต่ถงึ อย่างนัน่ ช่องว่างระหว่างพวกเขาก็มากเกินไป แต่ทนั ทีที่มีคนได้ เข้ าไปแทนที่ เขาจะได้
รางวัลก้ อนโตเลยทีเดียว อย่างน้ อยก็มียาโอสถลํ ้าค่า หินพลังปราณ15ก้ อน และเวลาในการ
เข้ าฝึ กในเจ็ดสภานที่ฝึกฝนของสํานักอีก 30ชัว่ โมง

ซักวันหลินหมิงจะต้ องมีอนั ดัยสูงกว่า 80 อยูแ่ ล้ ว และเขาก็คงจะท้ าประลองกับใครซักคน


อย่างแน่นอน
จะไม่ให้ เป็ นกังวลได้ อย่างไร ไม่มีใครอยากถูกไล่ออกจากสํานักหรอก ไม่ใช่แค่เสียตําแหน่ง
เท่านันนะ
้ แต่ยงั ชื่อเสียงอีกด้ วย

ในตอนนี ้ฝูงชนกําลังอยูใ่ นความวุน่ วาย

“ลียนั วูเ่ หว่ยเดา จู้ยนั 3 ตัวเต็งจาก50อันดับแรกโผล่มาแล้ ว”

“การจัดอันดับในครัง้ นี ้มีแต่พวกเก่งๆเต็มไปหมด”

ขณะที่ฝงู ชนกําลังพูดคุยกันอยู่ หลินหมิงก็ได้ มองไปยังจู้ยนั แน่นอนว่าเขามากับหลานยุนเยีย

หลานยุนเยีย พอมาถึงสถานที่ทดสอบ เธอก็ไปหลบหลังดงไผ่ แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการพบกับ


หลินหมิง มันคงจะเป็ นเหตุการณ์ที่กระอักกระอ่วนใจไม่น้อย

“สุดท้ ายเจ้ าก็โผล่หน้ ามาเสียทีนะจู้ยนั ตังแต่


้ ข้าได้ เข้ ามาอยูใ่ รสํานักเจ็ดแก่น นี่ก็เป็ นครัง้ แรกที่
ได้ เจอเจ้ า”

จู้ยนั มองไปยังหลินหมิง น้ อยคนนักที่จะรู้วา่ สองคนนี ้มีเรื่ องอะไรกัน ซึง่ ก็ไม่ได้ มีใครสนใจมาก


นักเพราะ ลียนั กับ วูเ่ หว่ยเดา มาในวันนี ้ด้ วย พวกเขาก็เป็ นที่สนใจของฝูงชนเหมือนกัน อย่าง
น้ อยพวกเขาก็แข็งแกร่งพอๆกัยหลินหมิง

จู้ยนั มองไปที่หลินหมิงราวกับไม่ร้ ูจกั เขามาก่อน สักครู่จ้ ยู นั ก็หนั หลังกลับไป

แต่ในตอนนัน้ หลินหมิงสัมผัสได้ ถงึ จิตสังหารจากจู้ยนั ได้ อย่างชัดเจน

การต่อสู้ระหว่างพวกเขาเริ่ มมาจาก หลานยุนเยีย แต่ในตอนนี ้มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธออีกแล้ ว


ตอนนี ้หลินหมิงมองจู้ยนั เป็ นอุปสรรคที่ต้องก้ าวข้ ามให้ ได้ เท่านัน้

แต่คงเป็ นเพราะการพ่ายแพ้ ซํ ้าแล้ วซํ ้าอีก จู้ยนั จึงมองหลินหมิงเป็ นหนามยอกอกที่ต้องถูก


กําจัด ไม่งนหั
ั ้ วใจเขาไม่มีวนั เป็ นสุขแน่ๆ

เพราะงันทั
้ งสองฝ่
้ ายในตอนนี ้จึงไม่มีที่วา่ งให้ กบั ความพ่ายแพ้ อีกแล้ ว ตอนนี ้ทังสองฝ่
้ ายอยากที่
จะทําลายอีกฝ่ ายให้ ได้ จู้ยนั เองก็วางแผนจะฆ่าหลินหมิงไว้ แล้ วเช่นกัน

“ดูนนั่ ไบชิงหยุน กับ มูห่ ลงชี ที่อยู5


่ 0อันดับแรกก็มาด้ วย ”

“มีพวกเก่งๆเข้ ามาเรื่ อยๆเลยแฮะ การทดสอบครัง้ นี ้ เหมือนกับเป็ นการรวมตัวของเหล่ามังกร


ไม่มีผิด”
การมาเยือนของ ไบชิงหยุน กับ มูหลงชี ได้ ดงึ ดูดสายตาของทุกๆคนไว้ พวกเธอดูโดดเด่นกว่า
หลินหมิงเสียอีก หลินหมิงนันเป็ ้ นที่สนใจของทุกๆคนก็จริ ง แต่พวกเธอสองคนนี ้สามารถทําให้
ชายทุกคนต้ องรู้สกึ ตื่นเต้ น เพราะนอกจากจะเก่งมากแล้ ว พวกเธอยังงดงามมากอีกด้ วย

สํานักเจ็ดแก่นแท้ มีศิษย์หญิงไม่มากนัก ซึง่ ไบชิงหยุนและมูห่ ลงชี ถือเป็ นสุดยอดศิษย์หญิงเลย


ก็วา่ ได้ ทังอาณาจั
้ กรแทบจะเป็ นไปไม่ได้ เลยที่จะหาแบบนี ้ได้ ที่ไหนอีก

เธอสองคนนี ้ถูกขนานนามให้ เป็ น ‘สองสาวแห่งความภาคภูมิใจ’ พวกเธองดงามกว่าหญิงใด


ในอาณาจักร เหล่าชายหนุ่มจากตระกูลชันสู้ งทังหลายต่
้ างก็หวังที่จะได้ สมั ผัสไรผมของเธอ ซึง่
จนถึงบัดนี ้ก็ยงั ไม่มีชายใดสมหวัง

พวกเธอสวย สง่างาม และดื ้อรัน้ เกินกว่าจะแต่งงานเป็ นศรี ภรรยาได้ หรื อต่อให้ อยากแต่งพวก
เธอก็ต้องเลือกมังกรในหมูค่ นอยูแ่ ล้ ว ถ้ าฐานะและชื่อเสียงไม่สงู พอ อย่างน้ อยก็ต้องแข็งแกร่ง
และมีคณ ุ ธรรม

จู้ยนั และคนอื่นๆที่มีฐานะระดับเดียวกับเขา ก็ยงั ไม่น่าสนใจพอสําหรับพวกเธอทังสอง


้ หรื อ
แม้ กระทัง่ กับเหล่าองค์ชายก็ยงั ไม่สามารถขอแต่งงานกับพวกเธอได้ สําเร็ จ

หลังจากที่หญิงสาวทังสองมาถึ
้ ง ไบชิงหยุน ก็มองไปที่หลินหมิงและนัง่ ลงบนพื ้นหญ้ านิ่มๆ
เช่นเดียวกับมูห่ ลงชี พวกเธอคุยกันตามประสาผู้หญิงเล็กน้ อย และไม่ได้ สนใจสายตาของศิษย์
คนอื่นๆเลยแม้ แต่น้อย
ฝูงชนต่างจับจ้ องไปที่พวกเธอทังสอง
้ จนกระทังมี
้ เสียงของศิษย์คนหนึง่ ดังขึ ้นมา

“หลิงเซ็น! ทาคุ! โอ้ พระเจ้ า พวกเขาก็มาด้ วยอย่างนันหรื


้ อ ?! ”

สําหรับหลิงเซ็นและทาคุ พวกเขาไม่จําเป็ นต้ องมาทดสอบอีกแล้ ว เพราะอันดับของพวกเขานัน่


ไม่มีทางที่จะถูกสัน่ คลอนได้ แต่พวกเขาก็ยงั มา

“พวกเขาไม่จําเป็ นต้ องจัดอันดับแล้ วนี่ พวกเขาคงจะมาดูเฉยๆ”

“อืม… ก็เป็ นไปได้ ครัง้ นี ้มีพวกเก่งๆมาทดสอบมากมาย อย่างเช่น หลินหมิงดาวรุ่งในตอนนี ้


ไม่แปลกหรอกที่พวกเขาจะมาดู”

หลินหมิงมองไปยังหลิงเซ็น ถึงนี่จะเป็ นครัง้ ที่สามแล้ วก็ตาม ในครัง้ แรกนันหลิ


้ นหมิงไม่ได้ รับรู้
ถึงความน่ากลัวของหลิงเซ็นเลย แต่ในตอนนี ้เขาสัมผัสได้ ถงึ ความน่ากลัวของหลิงเซ็นได้ อย่าง
ชัดเจน

ถึงพลังของหลิงเซ็นจะพอๆกับฉินชิงหวน แต่หลินหมิงก็ร้ ูวา่ ฉินชิงหวนคงไม่ใช่คมู่ ือของเขาแน่


หลิงเซ็นในตอนนี ้ไม่ตา่ งอะไรกับเครื่ องจักรสังหารโดยสมบูรณ์แบบ เขามันปี ศาจชัดๆ
ในสถานที่แห่งนี ้ พวกศิษย์เก่งๆต่างก็มารวมตัวกันมากขึ ้นเรื่ อยๆ ขณะที่การทดสอบกําลังจะ
เริ่ มขึ ้น 9ตัวเต็งที่อยูใ่ น50อันดับแรกต่างก็มาถึงกันหมด ซึง่ 9คนถือว่าเยอะมากทีเดียว ใน
หนึง่ ปี ที่ผ่านมาก็มีครัง้ นี ้นี่แหละ ที่จะได้ เห็นพวกตัวเต็งๆอันดับสูงๆมารวมตัวกันเยอะขนาดนี ้

-------------------

MW#085 มูห่ ลงชี กับ ไบชิงหยุน


“การจัดอันดับกําลังจะเริ่ มขึ ้นแล้ ว สําหรับผู้ที่ต้องการจัดอันดับ จะต้ องมัดจําหินหลังปราณ 1


ก้ อน ก่อนที่จะเข้ าไปในอาคมหมื่นอสูรสังหารด้ วย”

ก่อนที่ศิษย์พี่ที่คมุ อาคมหมื่นอสูรสังหารจะกล่าวจบ หวังยานเฟิ งก็กระโดดขึ ้นมาไปบนแท่น


อาคม

“หวังยานเฟิ งช่างใจสู้เสียจริ ง ข้ าคิดว่าเขาหดหูจ่ ากความพ่ายแพ้ หลายต่อหลายครัง้ เสียอีก”

“ข้ าอยากจะรู้นกั ว่าในครัง้ นี ้เขาจะทําได้ อนั ดับที่เท่าไหร่?”

ผู้ชมข้ างล่างต่างพากันพูดคุยเกี่ยวกับการทดสอบครัง้ ก่อนของหวังยานเฟิ ง ครัง้ ก่อนเขาได้


อันดับที่ 168 และหลังจากที่เขาทดสอบเสร็จก็มีบางคนที่แซงหน้ าเขาไป ทําให้ อนั ดับของเขา
ตกลงมาเป็ น172

หวังยานเฟิ งกําลังสงบอารมณ์ด้วยการทําสมาธิบนแท่นอาคมหมื่นอสูรสังหาร ตอนนี ้เขารู้แก่ใจ


ดีแล้ วว่า นี่ยงั ไม่ถงึ เวลาของเขา แม้ จะผ่านไปอีก1หรื อ2ปี ก็ยงั ไม่ใช่ ที่เขาต้ องทําคือทําตอนนี ้
ให้ ดีที่สดุ และรอโอกาสของเขาเท่านัน้
แสงแดดสาดลงบนยังเวที หวังยานเฟิ งเริ่ มการต่อสูข่ องเขาพร้ อมกับศิษย์คนอื่นๆอีก11คนที่
อยูบ่ นแท่นอาคม ส่วนใหญ่พวกเขาจะมีอนั ดับแถวๆ 120 และในที่สดุ การทดสอบของพวก
เขาก็จบลง หวังยานเฟิ งได้ อนั ดับที่ 145

“หวังยานเฟิ งได้ อนั ดับสูงกว่า 150 เสียอีก”

“เขาทําได้ ดที ีเดียว น่าชื่นชมจริ งๆ”

แม้ หวังยานเฟิ งจะมีพรสวรรค์ที่สงู แต่ถงึ อย่างนันหลิ


้ นหมิงก็ยงั โดดเด่นกว่าเขา เพราะงันตอนนี
้ ้
จึงไม่คอ่ ยมีใครสนใจเขามากเท่าไร

“รอบต่อไป ศิษย์คนใดต้ องการทดสอบขึ ้นมาได้ เลย ”ศิษย์พี่ผ้ คู มุ กล่าวขึ ้นอีกครัง้

ขณะที่ยงั มีที่วา่ งอยูค่ รบทัง้ 12 ที่ หญิงสาวในชุดสีมว่ งก็ขึ ้นมาบนเวที เธอเป็ นที่สนใจจากฝูง
ชนอย่างมาก เธอคือมูห่ ลงชี

“พี่ชิงยุน รี บๆจบการทดสอบนี่เร็วๆเถอะค่ะ”

“แน่นอน” ไบชิงหยุนตามขึ ้นมาบนแท่นอาคมอย่างรวดเร็ ว


ฝูงชนเริ่ มฮือฮากัน หญิงสาวสองคนนันอายุ้ เพียง17-18ปี เท่านัน้ ซึง่ ระดับของพวกเธอทังคู ้ ่
สามารถเรี ยกได้ วา่ เป็ นหนึง่ ในสิบของอาณาจักรเลยก็วา่ ได้ ยิ่งไปกว่านัน้ พวกเธอทังสองยั
้ งมา
จากตระกูลที่มีฐานะดีอกี ด้ วย ชายหนุ่มหลายๆต่างต้ องถอดใจที่จะไคว่คว้ าหญิงสาวที่สงู ส่ง
เช่นนี ้

มูห่ ลงชีเข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นเวลาสองปี แล้ ว และอันดับของเธอคือ 36 ส่วนไบชิง


หยุนเธออยูใ่ นสํานักแห่งนี ้มา3ปี แล้ ว เธอเป็ นอันดับที่ 26 ในครัง้ ก่อน ซึง่ อันดับของมูห่ ลงชีนนั ้
ก็พอๆกับจู้ยนั เลยทีเดียว

เมื่อมีหญิงงามขึ ้นมายังแท่นอาคม มันก็เป็ นเรื่ องง่ายที่จะเป็ นที่ดงึ ดูดสายตาของคนอื่นๆ


โดยเฉพาะพวกสายลับ เช่นผู้รับใช้ ที่แอบมาสอดแนม แม้ กระทังองค์ ้ ชายที่สิบก็ยงั ต้ องการจะ
แต่งงานกับพวกเธอทังสอง้

เมื่อเทียบกับพวกเธอทัง้ แม้ ฉินชิงหวนจะงดงามกว่า แต่ใครๆก็ร้ ูวา่ หลายจอมพลอย่างเธอไม่ได้


สนใจเรื่ องแต่งงาน เธอสนใจเพียงแค่การฝึ กฝนให้ ไปถึงระดับปราณปลายฟ้าเท่านัน้ ไม่มีชาย
ใดที่จะอาจเอื ้อมแตะต้ องเธอได้ ความคิดที่จะแต่งงานกับฉินชิงหวนนันเป็
้ นได้ เพียงเรื่ องเพ้ อฝั น
เท่านัน้ เพราะแบบนันมู
้ ห่ ลงชีและไบชิงหยุน จึงเป็ นที่สนใจของเหล่าชายหนุ่มมากกว่า

ถ้ าได้ แต่งงานกับพวกเธอจริ งๆ ไม่ใช่เพียงแค่จะได้ เป็ นสามีที่มีความสุขที่สดุ เท่านัน้ พวกเขายัง


จะมีฐานะที่พงุ่ สูงขึ ้นอย่างมากอีกด้ วย ใครล่ะจะไม่สนใจ
ยิ่งหากใครได้ แต่งานกับพวกเธอทังสองพร้
้ อมๆกัน เขาคงจะเป็ นชายที่มีความสุขที่สดุ ใน
อาณาจักร แม้ แต่เหล่าองค์ชายก็ยงั ไม่กล้ าฝั นเช่นนัน้

การทดสอบของสองสาวได้ เริ่ มขึ ้น ศิษย์จากห้ องมนุษย์ตา่ งจ้ องไปยังสองสาวตาไม่กระพริ บ


เหมือนกับว่ากําลังดูเธออาบนํ ้าก็ไม่ปาน

เมื่อได้ เห็นเช่นนัน้ หลินหมิงก็ร้ ูสกึ ว่าหัวใจเต้ นแรงเมื่อเขาได้ มาเห็นหญิงสาวทังสอง


้ มันก็เป็ น
เรื่ องปกติที่จะสนใจหญิงสาวที่งดงามเช่นนี ้

เวลาผ่านไปแล้ วถึง 6 ก้ านธูป มูห่ ลงชี ไอออกมาเล็กน้ อย และออกมาจากการต่อสู้พร้ อมกับ


เดินลงมาจากแท่นอาคม ซึง่ มันทําให้ เหล่าชายหนุม่ ที่อยูข่ ้ างล่างแทบทุกคนแสดงสีหน้ าเป็ น
ห่วงออกมาอย่างเห็นได้ ชดั หากพวกเขาสามารถเจ็บแทนเธอได้ พวกเขาก็คงยินดี

สุดท้ าย มูห่ ลงชีก็ได้ อนั ดับ 28 มาครอง

หญิงสาวทังสองคนนี
้ ้ช่างน่าประทับใจจริ งๆ นี่ถ้าปี หน้ า เธอมาทดสอบอีกครัง้ ละก็ ไม่แน่วา่
พวกเธออาจจะได้ เป็ น10อันดับแรกก็เป็ นได้

พวกสายลับต่างรี บส่งข่าวไปยังเจ้ านายทันที มันน่าจะเพียงพอที่จะทําให้ เจ้ านายของเขาสนใจ


ขึ ้นมาบ้ าง
หญิงสาวสองคนนี ้ถือเป็ นหญิงชันยอด ้ แม้ เหล่าองค์ชายจะต้ องการพวกเธอเพียงไร แต่ก็ไม่อาจ
ฝื นใจพวกเธอได้ พวกเขาต่างก็กลัวพลังที่อยูข่ ้ างหลังของเธอ ไม่มีองค์ชายคนไหนที่กล้ าขัดกฎ
ของสํานักเจ็ดแนแท้ ถ้ าหากพวกเขาคิดจะขัดละก็ มันก็จะถือเป็ นการไม่ให้ เกียรติกบั ทางหุบเขา
เจ็ดแก่นแท้ ซึง่ ต่างก็ร้ ูกนั ดีวา่ แม้ แต่จกั รพรรดิก็ยงั ต้ องก้ มหัวให้ กบั ความน่ากลัวของหุบเขาเจ็ด
แก่นแท้ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“รอบที่สามจะเริ่ มขึ ้นแล้ ว ใครต้ องการทดสอบก็ขึ ้นมา” ผู้คมุ ประกาศอีกครัง้

ในตอนนี ้จู้ยนั เหลือบมองไปยังหลินหมิงเล็กน้ อย แล้ วก็ขึ ้นไปยังแท่นอาคม

“จู้ยนั ขึ ้นมาแล้ ววว!!”

ด้ วยพรสวรรค์ของจู้ยนั เขาอาจจะไม่ได้ เป็ นหนึง่ ในสิบของยุคนี ้ แต่พลังของเขาก็คงไม่ดอ่ ยไปก


้ กเท่าไร เขายังอายุแค่ 17ปี และด้ วยพรสวรรค์ระดับสี่ เขาอยูใ่ นสํานักเจ็ดแก่นแท้
ว่าพวกนันซั
มา2ปี และอันดับของเขาอยูท่ ี่ 39 ซึง่ ตํ่ากว่ามูห่ ลงชีเล็กน้ อย

แต่ถงึ อย่างนันจู
้ ้ ยนั ก็ใช้ เวลาในการฝึ กฝนมากกว่ามูห่ ลงชีเสียอีก

ด้ วยพลังของจู้ยนั ในตอนนี ้ เขาได้ เป็ นที่สนใจจากพวกผู้มีอิทธิพลอื่นๆด้ วยเช่นกัน


ตระกูลจู้มีลกู สาวคนหนึง่ ซึง่ ก็คือน้ าของจู้ยนั เธอได้ แต่งงานกับพวกเชื ้อพระวงศ์ และต่อมาก็ได้
เป็ นนางสนม เธอก็คือแม่บงั เกิดเกล้ าขององค์ชายที่สิบนัน่ เอง

เพราะงันจู
้ ้ ยนั จึงน่ากลัวก็ตรงนี ้

ตามกฎของอาณาจักรลิขิฟ้า ลูกของสนมมิอาจเป็ นรัชทายาทได้ ถึงแบบนันกษั ้ ตริ ย์ก็ไม่ใช่


หนุม่ ๆแล้ ว แถมราชีนีก็ไม่มีลกู อีก ตามกฎ ลูกของสนมคนแรกก็จะได้ เป็ นทายาท และองค์ชาย
ที่สาม หรื อ รัชทายาทคนปั จจุบนั ก็มีการฝึ กฝนเพียงขันที
้ ่สอง ถึงเขาจะมีจิตใจที่ดีและมี
คุณธรรม แต่นนก็ ั ้ ไม่พอที่จะทําให้ เขาปกครองบัลลังก์ได้ หรอก

แต่องค์ชายที่สิบ ซึง่ มีการฝึ กฝนสูงที่สงู ที่สดุ ในบรรดาองค์ชายทังหมด


้ เขามีประสบการณ์ใน
การบัญชาการรบมาหลายครัง้ ทังยั ้ งมีได้ รับชัยชนะแทบทุกครัง้ จึงมีชื่อเสียงโด่งดัง

ถ้ าคาดเดาจากอํานาจแล้ วละก็ องค์ชายที่สิบเหนือกว่าคนอื่นๆอย่างเห็นได้ ชดั

ทันทีที่องค์ชายที่สิบได้ ขึ ้นครองบัลลังก์ จู้ยนั ก็จะกลายเป็ นญาติกบั ถึงแม้ สายเลือดจะห่างไป


หน่อย แต่ด้วยพลังของจู้ยนั เอง เขาจะต้ องเป็ นบุคคลสําคัญที่เป็ นที่ไว้ วางใจของกษัตริ ย์องค์
ใหม่แน่ๆ
“เริ่ มการทดสอบได้ ”

หลังจากที่จ้ ยู นั ได้ ขึ ้นมาบนแท่นอาคมหมื่นอสูรสังหาร ผู้คนต่างก็จบั จ้ องไปที่ก้านธูปเพื่อดูเวลา


ที่ผ่านไป

เมื่อก้ านธูปที่ห้าไหม้ ไปครึ่งก้ าน จู้ยนั ก็ออกมาพร้ อมกับสีหน้ าที่ดอู อ่ นเพลีย

เขาได้ อนั ดับที่ 32

หลินหมิงได้ มองที่อนั ดับนัน่ อย่างเงียบๆ และไม่คดิ ว่ามันแปลกเท่าไร จู้ยนั อยูใ่ นนิกายสวรรค์มา


นานกว่าครึ่งปี แล้ ว ไม่แปลกที่จะพัฒนาได้ แบบก้ าวกระโดดแบบนี ้

“32 วันก่อนข้ ามีอนั ดับ 126 ” หลินหมิงชักหอกทะลวงสายรุ้งออกมา “มาดูกนั หน่อยสิวา่


ช่องว่างระหว่างข้ ากับจู้ยนั จะเหลืออีกแค่ไหน”

--------------------
MW#086 ขีดจํากัดของความเร็วในการสังหาร

เหล่าสายลับที่ถกู ส่งมาโดยองค์ชายสามต่างก็รีบใช้ ยนั สื่อสารส่งข่าวไปบอกองค์ชายสาม รัช


ทายาทองค์ปัจจุบนั เกี่ยวกับข้ อมูลของจู้ยนั ในทันที ซึง่ จู้ยนั เป็ นศัตรูคนสําคัญที่จะเข้ าร่วมกับ
องค์ชายสิบอย่างแน่นอน

มูห่ ลงชีเห็นอันดับของจู้ยนั แล้ ว เธอก็ร้ ูสกึ เอียนเล็กน้ อย เธอไม่คอ่ ยชอบที่อนั ดับของจู้ยนั จะเธอ
มาติดๆขนาดนี ้

“ฮึ ครัง้ หน้ าชันจะทิ


้ ้งห่างให้ ไกลแบบไม่เห็นฝุ่ นเลยคอยดู” มูห่ ลงชีพดู ขึ ้นมา
“ฮ่าๆ ถ้ างันเธอก็
้ ต้องพยายามขึ ้นอีกหน่อย ยังไงพรสวรรค์ของเธอก็เหนือกว่าเขาอยูแ่ ล้ ว ” ไบ
ชิงหยุนพูดพร้ อมกับยิ ้มออกมา

“มันไม่ได้ มีความหมายอะไรนักหรอก ทังสํ ้ านักเจ็ดแก่นแท้ ถ้ าไม่นบั พวกศิษย์ระดับสูงนันแล้


้ ว
ก็มีแต่ซางกวนยู่ ที่มีพรสวรรค์อยูร่ ะดับห้ า แต่เขาก็เป็ นแค่ยอดฝี มือสมองกลวงเท่านัน้ ชันไม่

ค่อยชอบเขานัก แต่วา่ นะพี่...พีส่ นใจคนที่ชื่อหลินหมิงนัน่ รึเปล่าละ” มูห่ ลงชีพดู ขึ ้น

ไบชิงหวนส่ายหัวแล้ วพูดว่า “โชคก็ถือเป็ นพลังอย่างหนึง่ เกิดในฐานะที่ดีก็เป็ นโชคดี มันก็


เหมือนกับเราที่โชคดีเกิดในตระกูลชนชันสู
้ ง ไม่มีใครบอกได้ หรอกว่าหลินหมิงจะโชคดีไปถึง
เมื่อไหร่ ตอนแรกเขาก็เป็ นเด็กหนุ่มธรรมดาๆเท่านัน้ มันต้ องเป็ นเพราะยาเม็ดไขกระดูกมังกร
ทอง และ ยาโอสถพญางูทองคํา ที่ทําให้ เขาพัฒนาได้ เร็ วขนาดนี ้ สงสัยร่างกายของเขาจะ
สามารถดูดซับพลังของมันได้ มากเป็ นพิเศษละมัง”

ขณะที่ไบชิงหยุนกําลังพูดอยู่ หลินหมิงก็ขึ ้นไปบนแท่นอาคมแล้ ว

สายตาของทุกคนจับจ้ องไปยังหลินหมิง พวกเขาอยากรู้วา่ หลินหมิงจะสามารถทุบสถิติของ


ตัวเองได้ รึไม่ แล้ วชื่อของเขาจะถูกจารึกในฐานะเด็กหนุ่มปาฏิหารย์แห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้
หรื อไม่

แสงจากอาคมหมื่นอสูรสังหารสาดลงมา ทําให้ ร่างของหลินหมิงสว่างไสว และก็ถกู ส่งไปยังอีก


มิติหนึง่
เหมือนครัง้ ก่อน ในมิติแห่งนันมี
้ ศาสตร์ ตราวุธให้ เลือกมากมาย ทังดาบโค้
้ ง ดาบยาว หอก และ
อื่นๆ

“หอก!! ข้ าต้ องการด้ ามหอกที่ยาว8ฟุต หัวหอกที่ยาว8นิ ้ว ทําจากเหล็กเหนียวทมิฬ และหนัก


820จิ๋น”

หลินหมิงนึกภาพอาวุธไว้ ในหัว และไม่กี่อดึ ใจต่อมาก็มีหอกที่มีลกั ษณะคล้ ายหอกทะลวง


สายรุ้งปรากฏอยูใ่ นมือของเขา

หลินหมิงลองกวัดแกว่งมันดู แรงสัน่ สะเทือนของมันสามารถทะลายหินได้ อย่างง่ายดาย

ต่อหน้ าหลินหมิงก็ได้ ปรากฏเงาปี ศาจออกมาเป็ นสิบๆตน พวกมันมีทงนั ั ้ กสู้และสัตว์ดรุ ้ าย


ปะปนกันอยู่ ส่วนใหญ่จะมีระดับการฝึ กฝนขันที้ ่สองและมีเล็กน้ อยที่อยูข่ นสาม
ั้ และก็มีอีกตัว
หนึง่ ที่มีการฝึ กฝนขันสามปลายๆเกื
้ อบจะขันสี
้ ่

ต่อหน้ าของหลินหมิงในตอนนี ้ พวกมันก็ไม่ตา่ งอะไรจากขยะ

หลินหมิงเริ่ มตังท่
้ าต่อสู้ มือขวาของเขาถือหอกในแนวราบ และศอกขนานไปกับหอก นี่คือท่า
‘สะพานเหล็กกันแม่
้ นํ ้า’
“โฮกก” เงาเหล่านันเริ
้ ่ มกกระจายไปรูปครึ่งวงกลมล้ อมหลินหมิงเอาไว้ และพุง่ มาพร้ อมๆกัน

ซึง่ คนทัว่ ๆไป ต่อให้ เป็ นปรมจารย์ก็คงคิดที่จะหลบก็ในจังหวะแรก แล้ วจึงจะมาจัดการกับพวก


มันทีหลัง คงไม่มีใครอยากจะกับมือกับศัตรูเป็ นสิบที่พงุ่ เข้ ามาพร้ อมกัน

แต่หลินหมิงไม่คิดเช่นนัน!!!

เขาได้ กวาดหอกไปในแนวราบเป็ นท่าที่ใช้ กวาดล้ างศัตรู ซึง่ หอกนัน่ ก็ไปปะทะกับเงาตัวแรกเข้ า


มันเป็ นปี ศาจระดับหนึง่ ด้ วยแรงอันมหาศาลของหอกทําให้ เกิดเสียง เปร๊ าะ! ดังขึ ้นมา มันเป็ น
เสียงกระดูกที่แตกหักของปี ศาจผู้โชคร้ ายตัวนัน้

ซึง่ การกวาดของหอกก็ยงั ไม่จบเพียงแค่นนั่ หอกยังกวาดไปโดนตัวที่สอง

“ฉวัะ” ร่างของศัตรูตวั ที่สองขาดออกเป็ นสองท่อน

แล้ วก็ตามด้ วยตัวที่สาม…

พลังของหลินหมิงตอนนี ้ มากกว่า 4000จิ๋น บวกกับหอกหนัก 820 จิ๋น การหวดจึงรุนแรง


อย่างน่าเหลือเชื่อ ด้ วยการกวาดเพียงครัง้ เดียว กองทัพศัตรูกว่าสิบตัวมลายสิ ้น

“โฮกก” สัตว์ดรุ ้ ายที่ที่มีการฝึ กฝนขันสามปลายๆ


้ หลบหอกของหลินหมิงได้ จากนันมั
้ นก็พงุ่ เข้ า
มาอย่างรวดเร็วและเล้ งที่อกของหลินหมิง

ในตอนนี ้หลินหมิงมีช่องว่างอยู่ เขาไม่มีอะไรป้องกันตนเองได้ เลย

ขณะที่หลินหมิงเห็นเขี ้ยวกําลังพุง่ เข้ ามาจะฝั งที่คอของเขา หลินหมิงก็คาํ รามออกมา พร้ อมกับ


กําหมัดซ้ ายที่กําไว้ แน่น

“หมัดสลายกระดูก”

“กร๊ อบบบ”

หมัดของหลินหมิงพุง่ ไปยังอกของสัตว์ตวั นัน่ อย่างรุนแรงจนได้ ยินเสียงแตกกระดูกแตกเป็ น


เสี่ยงๆ และชัว่ ครู่ตอ่ มาร่างของมันก็แหลกสลายไปในทันที

ทัว่ ร่างของหลินหมิงอาบไปด้ วยเลือด แขนขวาของเขาชักหอกกลับเข้ ามา เขาเริ่ มจับหอกด้ วย


มือทังสองข้
้ าง หากมองไม่ยงั หลินหมิงในตอนนี ้ ก็จะพบกับพื ้นรูปคล้ ายจันทร์ เสี ้ยวสีแดง
ปรากฏอยูด่ ้ านหน้ าของเขา
“สังหารรอบทิศทาง!”

“โพล๊ ะ ๆๆๆ” มันดูเหมือนมีเลือดจํานวนมากแตกอยูก่ ลางอากาศ พื ้นที่ครึ่งวงกลมตรงหน้ า


ของเขาปกคลุมไปด้ วยสีเลือด ศัตรูมากมายที่เคยอยูต่ อ่ หน้ าเขาเหลือหายไปหมดสิ ้น

จากเวลาที่สตั ว์ดรุ ้ ายพวกนันเริ


้ ่ มโจมตีเข้ ามาจนถึงเวลาที่พวกมันถูกกําจัดจนหมดสิ ้น กินเวลา
แค่สองอึดใจเท่านัน้

หลินหมิงยังพึง่ จะกวาดหอก2ครัง้ และอีก1หมัดเท่านัน้ แม้ แต่อาคมหมื่นอสูรสังหารก็ยงั สร้ าง


ศัตรูใหม่มาต่อสู้กบั เขาไม่ทนั

อาคมหมื่นอสูรสังหารถูกหลินหมิงกวาดล้ างในชัว่ อึดใจ

เป็ นการฆ่าล้ างเผ่าพันธุ์ที่รวดเร็วเสียจริ ง

หลังจากผ่านไปสองพริบตา ก็เกิดมิติที่บิดเบี ้ยวกลางอากาศ พวกศัตรูกลุม่ ใหม่ปรากฏตัว


ออกมา ในครัง้ นี ้พวกมันเก่งขึ ้นกว่าในครัง้ แรกอย่างมาก
“จู่โจมก่อนได้ เปรี ยบ”

หลินหมิงไม่รอแม้ แต่จะให้ พวกเงาได้ ปรากฏตัวออกมาจนครบ เขาพุง่ ทะยานไปยังศัตรูที่ใกล้


ที่สดุ ที่สดุ “มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร!”

“ฉัวะ” นักสู้เงาที่มีการฝึ กฝนขันสามปลายๆถู


้ กทะลวงเป็ นรูด้วยหอกของหลินหมิง

หลินหมิงสลัดร่างไร้ วิญญาณของมันทิ ้งไป มันดูเหมือนว่าการกวัดแกว่งหอกแต่ละครัง้ หอก


ของเขาจะต้ องได้ ดื่มเลือดทุกครา

ที่จะกวาดล้ างศัตรูในคราเดียวเช่นนี ้ได้ ก็มีแค่อาวุธประเภทนี ้เท่านัน้

ในการต่อสู้ที่ชลุ มุนวุน่ วาย อาวุธประเภทนี ้คืออาวุธที่เหมาะสมที่สดุ

“สังหารรอบทิศทาง!”

หลิหมิงกวัดแกว่งหอก ส่งผลให้ ปีศาจสามตัวกระเด็นถอยหลังไป กล้ ามเนื ้อของพวกมันเริ่ มบิด


เบี ้ยวและเสียหาย หลินหมิงโคจร ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ในร่างกายของเขา ทุกๆการ
หายใจอากาศก็ก่อตัวเหมือนกับงูที่เลื ้อยไปตามอากาศ
ด้ วยความสําเร็จในขันแรกของ
้ ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ และการฝึ กฝนขันสามของเขา
้ ทํา
ให้ หลินหมิงกวาดล้ างเหล่าศัตรูได้ ด้วยความเร็ วที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี ้

----------------------

MW#087 กวัดแกว่งไปทัว่ ทุกสารทิศ

“ข้ าอยากจะรู้นกั ว่าหลินหมิงจะทนต่อสู้ได้ อีกนานซักแค่ไหน?” ด้ านนอก แท่นอาคมหมื่นอสูร


สังหาร ทุกคนต่างจับจ้ องหลินหมิงอยู่ แม้ แต่ศิษย์จากนิกายสวรรค์ที่มีอนั ดับ70กว่าๆก็ยงั ไม่
เป็ นที่สนใจเท่ากับหลินหมิงในตอนนี ้
“เขาน่าจะใช้ เวลาไปประมาณ4ก้ านธูปแล้ วนี่ หรื ออาจจะเกือบถึง5แล้ วก็ได้ ขนาดซางฉางยัง
อยูต่ อ่ สู้อยูใ่ นนันได้
้ เพียง3ก้ านธูปครึ่งเอง และเขายังเอาชนะซางฉางได้ อกี หากหลินหมิงจะได้
อันดับในช่วง 80-90 ข้ าก็จะไม่แปลกเลยแม้ แต่น้อย”

“การไต่อนั ดับขึ ้นมาเป็ น100อันดับแรกอาจจะไม่ใช่เรื่ องยากเท่าไรนัก แต่จะให้ สงู กว่า 80 ก็


คงไม่ใช่เรื่ องง่ายๆ 80อันดับแรกคือพวกนิกายสวรรค์ หากมีอนั ดับสูงกว่า80ละก็ จะสามารถ
้ ”
ท้ าประลองกับพวกนันได้

“ถ้ ามันเป็ นจริ งละก็นะ ข้ าไม่อยากจะคิด เด็กอายุ15ปี ที่พงึ่ เขามาในสํานักได้ เดือนเดียว จะ


เข้ านิกายสวรรค์ได้ บ้ าไปแล้ ว!!! ”

“สําหรับเด็กหนุ่มอายุ 15 ปี ที่จะมีอนั ดับสูงกว่า 100 นะรึ เรื่ องแบบนันมั


้ นไม่เคยเกิดขึ ้นมา
เป็ นร้ อยๆปี แล้ ว”

“อืมม.. ฉินชิงหวนสามารถทําเช่นนันได้
้ สําเร็ จ และเธอก็ยงั ได้ รับการแต่งตังให้
้ เป็ นศิษย์
ระดับสูงโดยตรอีกด้ วย”


จํานวนก้ านธูปผ่านไปอย่างรวดเร็ว 1...2...3…

ขณะที่ก้านธูปก้ านที4
่ กําลังไหม้ อยู่ ร่างของหลินหมิงเปี ยกโชคได้ วยเลือดจากศัตรูของเขา

“อืม… พี่ชิงหยุน ดูเหมือนว่าหลินหมิงจะทนได้ อกี ไม่นานนัก ก้ านที่สี่พี่งจะเริ่ มไหม้ เอง เขา


อาจจะขึ ้นมาไม่ถงึ อันดับที่100แล้ วล่ะ หากดูจากสภาพของเขามนตอนนี ้”

มูห่ ลงชีมีสายตาที่แหลมคมมาก เธอสามารถมองเห็นได้ อย่างปรุโปร่งถึงลมหายใจของหลินห


มิงที่เริ่ มจะแปรปรวน เขาคงจะใช้ พลังเยอะเกินไป

ไบชิงหยุนก็ทําหน้ าเซ็งๆ พวกเธอคิดว่า หลินหมิงจะอยูไ่ ด้ ถงึ ห้ าก้ านธูปเสียอีก แต่ดเู หมือนสี่


ก้ านธูปก็จะเป็ นขีดจํากัดของเขาเสียแล้ ว

“หลินหมิงกําลังอ่อนแอลง เขาคงจะประมาทเกินไป เขาประมาทจนบาดเจ็บตังแต่


้ ช่วงแรกหรื อ
ป่ าว?”

หากใครได้ รับบาดเจ็บตังแต่้ ช่วงแรก พลังปราณที่ต้องใช้ ในการต่อสู้ก็จะมากกว่าปกติ ซึง่ เป็ น


ความสิ ้นเปลื ้องที่จะส่งผลให้ พวกเขาได้ อนั ดับที่ไม่น่าพอใจ ซึง่ ทุกคนต่างก็ร้ ูเรื่ องนี ้ดี และ
พยายามหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บในการต่อสู้อย่างสุดความสามารถ
“พี่ชิงหยุน ดูเหมือนหลินหมิงจะไม่ได้ เก่งกาจเหมือนที่ทา่ นคาดการณ์เอาไว้ เสียแล้ ว” มูห่ ลงชี
กล่าว มูห่ ลงชีนนั่ เก่งกาจและเป็ นอัฉริยะที่ใครต่อใครต่างยกย่อง เมื่อมีเด็กหนุ่มอยากหลินหมิง
มาบดบังรัศมีความเจิดจรัสของเธอ และเขายังอายุน้อยกว่าเธอถึง2ปี เธอจึงรู้สกึ หมัน่ ไส้ เขา
เป็ นธรรมดา

“หึ… เขาไม่เก่งอย่างนันเหรอ?
้ ถ้ าหลินหมิงอ่อนแออย่างที่เธอว่าจริ ง เธอยังจําเมื่อหนึง่ เดือน
หลังจากเธอเข้ ามาในสํานักได้ ไหม เธออยูใ่ นนันได้
้ นานกว่าเขาในตอนนี ้หรื อป่ าว”

เมื่อได้ ฟังเช่นนัน้ มูห่ ลงชีถงึ กับพูดไม่ออก ครัง้ แรกที่เธอทําการทดสอบจัดอันดับ เธอยังไม่ติด


150อันดับแรกด้ วยซํ ้า และในรอบที่สองเธอก็ได้ อนั ดับที่ 140 ซึง่ ตํ่ากว่าครัง้ แรกของหลินห
มิงเสียอีก เธอหันหน้ ากลับไปมองบนแท่นอาคมและทําเป็ นไม่ได้ ยิน

ความจริ งก็คือ การสอบในครัง้ นี ้ หนึง่ เดือนหลังจากมีศิษย์ใหม่เข้ าสํานัก จะมีศิษย์เก่าที่จบ


ออกไปเยอะในช่วงนี ้ ทําให้ การสอบในครัง้ นี ้แทบทุกคนจะมีอนั ดับที่เพื่มสูงขึ ้น

เพราะแบบนี ้เอง แม้ วา่ ในครัง้ แรกของศิษย์ใหม่ที่จดั อันดับ อันดับที่ได้ อาจจะไม่ได้ น่าพอใจนัก
แต่ในครัง้ นี ้เอง อันดับของพวกเขาก็จะเพิ่มสูงขึ ้น เพียงแค่ฝึกฝนไปเรื่ อยๆ ก็จะมีศิษย์จบออกไป
เรื่ อยๆ และอันดับก็จะเพื่มสูงขึ ้นเรื่ อยๆเอง

เมื่อได้ เห็นมูห่ ลงชีมําตัวเหมือนเด็ก ไบชิงหยุนก็ยิ ้มและไม่ได้ กล่าวว่าอะไรต่อ หากหลินหมิงจะ


สามารถไต่ขึ ้นมาอยู่ 100 อันดับแรกได้ มันก็ถือเป็ นเรื่ องน่าภูมิใจอยู่ คนเพียงหยิบมือเท่านัน้
ที่ทําเช่นนันได้

...

“พี่ใหญ่ หลินหมิงดูเหมือนจะทนได้ อีกไม่นานเสียแล้ ว” ทาคุพดู กับหลิงเซ็น

“ฮึ สําหรับครัง้ ที่สองของการจัดอันดับ แค่นี ้ก็ยอดเยี่ยมมากแล้ ว”

“ฮ่าๆ ก็แน่ละ เขาใช้ หอกนี่น่า และยังเป็ นหอกหนักด้ วย ถึงมันจะกวาดล้ างศัตรูหลายๆตัวได้ ใน


คราเดียว แต่มนั ก็กินพลังไปมากเหมือนกัน ในอาคมหมื่นอสูรสังหาร แม้ จะใช้ อาวุธหอกก็ใช่วา่
จะได้ เปรี ยบอาวุธอื่นๆ เพราะศัตรูที่เก่งขึ ้นโผล่มาเรื่ อยๆ ไม่มีเวลาให้ หยุดพัก ทังยั
้ งเสียแรง
มากกว่าอาวุธอื่นๆอีก การใช้ หอกในอาคมหมื่นอสูรสังหารก็เพียงช่วยให้ ผลออกมาเร็ วขึ ้น
เท่านัน”
้ ทาคุนนใช้
ั ้ ไม้ พลองเป็ นอาวุธ ซึง่ ก็เป็ นอาวุธประเภทเดียวกับหอก

“งันก็
้ มารอดูกนั ดีกว่าว่าหลินหมิงจะทนได้ อีกนานแค่ไหน…”

ในอาคมหมื่นอสูรสังหาร หลินหมิงที่มีใบหน้ าเปี ยกชุ่มไปด้ วยเลือดพูดขึ ้น “เฮ้ อ.. ตายได้ ซะที


นะแก”
หลินหมิงมองไปข้ างหน้ า อัศวินในชุดเกราะดําถือง้ าวกําลังอยูบ่ นหลังม้ าศึกตัวโตดูแข็งแกร่ง

มันมีการฝึ กฝนขันที
้ ่ห้า ขันหลอมกระดู
้ ก

หลินหมิงกวัดแกว่งหอกกวาดศัตรูอย่างบ้ าคลัง่ หากสามารถฆ่าศัตรูได้ หนึง่ ตัวในแต่ละครัง้ ที่


กวาดหอกก็ถือว่าเยอะมากแล้ ว แต่ในช่วงแรกๆ การกวาดหอกของเขาฆ่าศัตรูไปได้ เยอะกว่า
นันหลายเท่
้ า

เพราะแบบนัน้ ถึงเวลาจะผ่านไปไม่นาน แต่ศตั รูที่มีการฝึ กฝนขันที


้ ่ห้าก็ปรากฏตัวมาแล้ ว

ซึง่ มันเหนือกว่าหลินหมิงอยูถ่ งึ สองขันที


้ เดียว

หลินหมิงได้ ส้ กู บั อัศวินนันมาหลายรอบแล้
้ ว มันแข็งแกร่งและเคลื่อนไหวได้ อย่างรวดเร็ ว ตอน
มันพุง่ มาด้ วยม้ า มันแทบจะไร้ จดุ อ่อน

สําหรับสํานักเจ็ดแก่นแท้ แล้ ว ปกติแล้ วต่อให้ เป็ นนักสู้ที่เก่งกาจจะสามารถต่อสู้ได้ สสู ีกบั คนที่


ระดับสูงกว่าได้ ไม่มากนัก เช่น ซางฉางที่มีการฝึ กฝนขันสามปลายๆ
้ อาจจะสามารถต่อสู้ได้ ส้ สู ี
กับนักสู้ขนสี
ั ้ ไ่ ด้
แต่หลินหมิงสามารถสู้กบั นักสู้ระดับสูงกว่าตนได้ เขาเอาชนะซางฉางที่มีการฝึ กฝนขันสามได้

แต่อศั วินนี ้มีการฝึ กฝนขันห้
้ า แค่จะให้ เสมอกับมันได้ ยงั ยากเลย ถึงพวกเงาจะไม่ได้ ฉลาด
เหมือนมนุษย์ก็เถอะ แต่ถ้าจะมีปริ มาณขนาดนี ้ก็เป็ นเรื่ องยากที่จะสู้ด้วยได้

เปรี ย้ ง!!

ขณะที่หลินหมิงปะทะกับอัศวินเกราะดํา แม้ หอกของหลินหมิงจะมีความสามารถในการทะลวง


ก็เถอะ แต่มนั ก็ไม่ได้ ช่วยอะรได้ ซกั เท่าไร

อัศวินดํา ได้ พงุ่ เข้ ามาจากด้ านหลัง แต่หลินหมิงก็ได้ กระโดดหลบไปกลางอากาศหลบออกมา


ได้ ทนั

“โฮกก” ปี ศาจระดับสอง อาศัยจังหวะนี ้ ขณะที่หลินหมิงอยูก่ ลางอากาศ พุง่ เข้ ามาหาเขา กรง


เล็บอันแหลมคมกําลังพุง่ เข้ ามายังอกของหลินหมิง

หลินหมิงได้ ยินแต่เสียงเท่านัน้ เขาจับหอกและใช้ มนั เพื่อสร้ างสมดุลขึ ้นกลางอากาศ เขาหายใจ


เข้ าลึกๆ และมองไปที่ปีศาจนัน้ และปล่อยหมัดออกไป

หมัดสลายกระดูก!!

โพล๊ ะ!! ปี ศาจร่างนัน่ ร่างแหลกสลาย พร้ อมกับเลือดที่สาดกระเซ็นไปทัว่


หนึง่ หมัดสังหาร!

หลินหมิงกลิ ้งไปหาพวกปี ศาจนัน้ ก่อนที่เขาจะได้ หายใจอีกครัง้ ปี ศาจที่อยูต่ รงนันทุ


้ กตัวต่างก็
พุง่ ทะยานเข้ ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว…

MW#088 หอกสุดท้ าย

...

...

...

หลินหมิงกระโจนเข้ ามากลางวงของสัตว์ดรุ ้ าย ก่อนที่เขาจะสูดลมหายให้ ให้ เต็มปอด และฆ่า


พวกมันอย่างไม่ลงั เล!

หอกถูกกวาดออกไปเป็ นวงกลมขนาดใหญ่ดเู หมือนพระจันทร์ เต็มดวงสีมว่ ง เหล่าสัตว์ดรุ ้ ายถูก


แบ่งครึ่งออกเป็ นสองส่วนก่อนที่แต่ละส่วนจะกระเด็นไปคนละทิศละทาง
อย่างไรก็ตามจํานวนของสัตว์ดรุ ้ ายพวกนันก็ ้ มีมากเกินไป ทังพวกมั
้ นยังผสานการลอบจู่โจมได้
อย่างโหดร้ าย ในหมูพ่ วกมันมีนกั สู้ที่ปรากฏตัวขึ ้นและหายไปได้ ดงั ใจนึกเหมือนผี มันคงจะมี
ทักษะการเคลื่อนไหวที่สงู ส่ง หลังจากที่หลินหมิงกวาดเพื่อจัดการพวกมันนัน้ เขาก็ถกู ลอบ
โจมตีถงึ สองครัง้ ดาบถูดแทงเข้ ามายังท้ องของเขา มันเป็ นบาดแผลที่รุนแรง!

ถ้ าหากเขาไม่ได้ สําเร็จการฝึ กฝนขันที้ ่สาม และได้ ฝึกฝนในนํ ้าตกเยือกแข็งเขาก็คงไม่สามารถที่


ต่อสู้กยั ศัตรูที่เก่กาจเช่นนี ้ได้ !

ทังร่้ างกายของหลินหมิงเปี ยกโชกไปด้ วยเลือด ทังเลื


้ อดของศัตรูกว่าหลายสิบชีวิตและเลือดของ
เขาเอง หอกทะลวงสายรุ่งเองก็เช่นกัน มันถูกเลือดของเหล่าศัตรูเคลือบอยูท่ งด้ ั ้ าม อย่างไรก็
ตามโชคดีที่มนั ถูกสร้ างขึ ้นจากวัตถุดิบชันยอด
้ ทําให้ ไม่เกิดการลื่นหรื อความไม่มนั่ คงในการใช้
งาน

หลังจากที่หลินหมิงได้ สงั หารศัตรูไปอีกห้ าตัว สักครู่ก็มีศตั รูอีกห้ าตัวปรากฏขึ ้นมา พวกมันมี


การฝึ กฝนขันที
้ ่ห้า ขันดั
้ ดกระดูก!

...

"ในตอนนี ้ หลินหมิงยื่งดูเลวร้ ายมากขึ ้นทุกที ข้ าคิดว่าเขาคงจะไม่สามารถอยูไ่ ด้ นานเกินธูป


ก้ านที่สี่"ศิษย์ร่วมสํานักคนหนึง่ กล่าวขึ ้นมา
ติดก้ านที่สี่ถกู ไฟไหม้ ไปเกือบหมดแล้ ว หลินหมิงเองก็สําลักออกมา หน้ าซีดและดูออ่ นเพลีย
เช่นกัน เห็นได้ ชดั ว่าเขาคงได้ รับบาดเจ็บสาหัส

เป็ นที่ร้ ูกนั อยูแ่ ล้ วว่า หากผู้ทดสอบได้ รับบาดเจ็บเช่นนี ้ ก็คงไม่สามารถที่จะต่อสู้ได้ อกี นานซัก
เท่าไร อีกไม่นานพวกเขาก็ต้องถูกศัตรูสงั หาร

"การทดสอบจัดอันดับของเขาคงจะจบแล้ วล่ะ เขาอาจจะผิดพลาดไปบ้ าง แต่เขาก็คงได้ เป็ น


100อันดับแรก "

"อืมมม เขาเองก็ยงั เป็ นแค่ศิษย์ใหม่ ดูเหมือนว่าเวลาสี่ก้านธูปจะเป็ นข้ อจํากัดของเขา "

แม้ หลินหมิงจะเคยเป็ นคนที่สร้ างปาฏิหาริ ย์เอาไว้ หลายครัง้ แต่ดเู หมือนว่าจะไม่ใช้ กบั ครัง้ นี ้
ทุกๆคนที่เคยเชียรเขาอยูอ่ ย่างมีความหวัง เริ่ มที่จะถอดใจ

เป็ นธรรมดาที่ใครหลายๆคนจะคาดหวังว่าเขาจะสร้ างปาฏิหาริ ย์อีกครัง้ ในครัง้ นี ้ และหากเขา


ทําได้ แค่ในระดับที่ดีหรื อค่อยข้ างดีเหมือนดัง่ เช่นคนอื่นๆแล้ วล่ะก็ เขาอาจจะไม่ได้ รับเสียงเชียร์
อีกต่อไป แต่ได้ เสียงโห่จากผู้ที่คาดหวังใรตัวเขาแทน
คนส่วนใหญ่ก็มกั จะเป็ นเช่นนี ้ แม้ แต่กบั หลิงเซ็น ถ้ าหากเขาแพ้ และเสียอันดับหนึง่ ไป เขาก็จะดู
แย่อย่างยิ่งในสายตาของคนอื่นๆ แม้ วา่ เขาจะตกลงไปเพียงหนึง่ อันดับ และยังเป็ นนักสู้ที่
แข็งแกร่ง

และในที่สดุ ธุปก้ านที่ห้าก็ถกู จุดขึ ้น และค่อยๆเปล่งแสงสว่างเล็กๆออกมา

เวลาได้ ผ่านไปสี่ก้านธูปแล้ ว!

ในเวลานี ้ในอาคมหมื่นอสูรสังหาร หลินหมิงได้ รับบาดแผลมากถึง12แห่ง โชคดีที่เขาสําเร็ จขัน้


แรกของ 'ปฐมบทแห่งความโกลาหล' และได้ รับการสนับสนุนจากพลังของมัน มิฉะนันเขาก็
้ คง
ไม่เหลือพลังปราณและเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้อีก

"ตาย!"

หลินหมิงกวาดหอกไปยังขาของนักสู้ และพุง่ เขาไปชกเข้ าที่กลางลําตัวของมัน เขาใช้ ทกั ษะ’


หมัดสลายกระดูก’ ด้ วยความรุนแรงกว่าที่สงู กว่า 4000 จิ๋น ทําให้ นกั สู้ผ้ โู ชคร้ ายคนนัน่ ถูก
ปลิดชีพในทันที

ในขณะเดียวมีเสียงคํารามก้ องกังวาลมาจากด้ านหนึง่ ในอาคมหมื่นอสูรสังหาร เมื่อหลินหมิง


หันไปมองในทิศทางนัน้ เขาก็พบกับสิ่งมีชีวิตขนาดตัวสูงกว่า10ฟุต มันดูคล้ ายกับหมี ทัว่ ร่าง
ของมันถูกปกคลุมด้ วยขนสีดําทมิฬ มันจะต้ องมีนํ ้าหนักหลายพันจิ๋นอย่างแน่นอน!

"สัตว์ดรุ ้ ายระดับ3!"

หลินหมิงอ้ าปากค้ าง ต่อให้ มนั เป็ นสัตว์ดรุ ้ ายระดับสามที่ออ่ นแอที่สดุ อย่างน้ อยๆพลังของมันก็
เทียบได้ กบั นักสู้ที่อยูบ่ นจุดสูงสุดของขันที
้ ่ห้า!

กับศัตรูระดับนี ้ แทบไม่มีทางที่หลินหมิงจะทําอะไรมันได้ เลย ยิ่งไปกว่านัน่ เมื่อสัตว์ดรุ ้ ายที่


แข็งแกร่งนัน่ โผล่ออกมา มันยังเป็ นอันตรายต่อเขาอย่างมาก!

หลินหมิงตระหนักได้ วา่ เขาคงจะมีชีวติ อยูไ่ ด้ อีกไม่นาน เมื่อต้ องพบกับศัตรูระดับนี ้!

เขาหันหน้ ากลับมาอีกทาง ด้ านหน้ าของเขาคืออัศวินดําคนหนึง่ เขายกหอกของเขาขึ ้นมา กํา


มันเอาไว้ อย่างมัน่ คงด้ วยแรงเฮือกสุกท้ ายที่ยงั เหลืออยู่ และพุง่ ทะยานไปหามัน!

พลังปราณทัง่ ร่างถูกใช้ งานอย่างเต็มพิกดั เพื่อการโจมตีครัง้ สุดท้ ายนี ้ ขณะที่เขาพุง่ ทะยานไป


หาอัศวินดํา พลังปราณและการจายใจก็เข้ าสูจ่ งั หวะที่ซบั ซ้ อนและสอดคล้ องกัน พลังปราณ
ทังหมดที
้ ่ยงั เหลืออยูส่ นั่ สะเทือนพร้ อมกันอย่างรุนแรงและรวดเร็ว

เนื่องจากการสัน่ สะเทือนที่รุนแรงของพลังปราณทําให้ กล้ ามเนื ้อของเขาพองขึ ้นเล็กน้ อย เสื ้อผ้ า


บนร่างกายของหลินหมิงเริ่ มที่จะฉีกขาดออกจากกัน เสื ้อผ้ าของเขาขาดรุ่งริ่ งไปรอบๆตัว
ร่างกายของเขาเหมือนกับกระสุนที่ถกู ยิงออกไปอย่างรุนแรง!

อัศวินในชุดเกราะดํายกง้ าวของมันขึ ้นและฟากลงมา เขาไม่คิดที่จะหลบมันแม้ แต่น้อย เขารอ


คอยจังหวังที่ง้าวของมันฟากลงมาและถ่ายเทพลังปราณไปยังสองเท้ าของเขา การสัน่ สะเทือน
ที่รุนแรงของพลังปราณ ทําให้ พื ้นดินใต้ เท้ าของเขาทรุดลงไป เขากระโดดให้ สงู ขึ ้นจากพื ้น
เล็กน้ อยและยังพยายามที่จะพุง่ ไปด้ านหน้ าให้ เร็วและรุนแรงขึ ้นอีก หอกทะลวงสายรุ้งดูราวกับ
ลูกศรสีดําทมิฬไปถูกยิงด้ วยความเร็วสูงไปยังอัศวินในชุดเกราะสีดํา!

"ฉึก!"

หลินหมิงแทงทะลุร่างของอัศวินในชุดเกราะดําก่อนที่ง้าวของมันจะทันได้ ฟาดลงมาถึงร่างของ
เขาเสียอีก!

"มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร!"
ด้ วยการสัน่ สะเทือนอย่างรุนแรงของพลังปราณ อัศวินเกราะดําเหมือนกลายเป็ นแค่เศษ
กระดาษบางๆ หอกทะลวงสายรุ่งเจาะทะลุเข้ ากลางร่างของมันและตวัดขึ ้นทะลุคอออกมา
อัศวินดําเลือดท่วมไปทัว่ ร่าง น่ากลัวว่ามันจะเสียชีวิตไปแล้ วจากบาดแปลภายในที่รุนแรงเกิน
เยียวยา!

ด้ วยพลังปราณทังหมดที้ ่ใช้ เพื่อสังหารอัศวินดําตนนี ้ ทําให้ หลินหมิงไม่เหลือพลังปราณอยูเ่ ลย


แม้ แต่น้อย กล้ ามเนื ้อของเขาเองก็ไม่สามารถทนต่อความรุนแรงของการสัน่ สะเทือนของพลัง
ปราณของเขาเองได้ ทําให้ ร่างกายได้ รับความเสียหายที่ร้ายแรงตามมา ซึง่ ทําให้ เขาไม่สามารถ
ที่จะเคลื่อนที่ หรื อแม้ แต่จะหายใจได้ อีกต่อไป ณ เวลานี ้ การทดสอบของเขาก็ได้ สิ ้นสุดลง!

...

บนแท่นอาคมหมื่นอสูรสังหาร หลินหมิงสําลักอย่างรุนแรงอีกครัง้ ก่อนจะมีสติกลับมาในร่าง


จริ ง

ในขณะนี ้บนแท่นอาคมเหลือศิษย์ที่ยงั ทําการทดสอบอยูเ่ พียง3คนเท่านัน้ แน่นอนว่าพวกเขา


ต่างทําได้ ดีกว่าเดือนที่ผ่านมา

"ใช้ เวลาสี่ก้านธูปนิดๆ เขาจะได้ อนั ดับที่เท่าไรกันนะ? “ มูห่ ลงชี กล่าวด้ วยรอยยิ ้มและเสียง
หัวเราะ เธอหันหน้ าไปมองที่แท่นจัดอันดับ
"อันดับ 89 กุยู่ ยังทําการทดสอบอยู่ ดังนันอั
้ นดับของก็คงจะไม่สงู ไปกว่าเขา หลินหมิงก็คงได้
ไม่เกินอันดับที่90 "

"อืม มันอาจจะไม่สงู ถึงขนาดนันก็


้ ได้ ... "

คนที่ดอู ยูต่ า่ งก็ให้ ความสนใจเกี่ยวกับอันดับของหลินหมิง จู้ยนั เองก็ยืนอยูใ่ นฝูงชนเหล่านัน้ เขา


จ้ องไปบนแท่นจัดอันดับด้ วยสีหน้ าเย็นชา และดูหงุดหงินเล็กน้ อย

ผู้สอดแนบที่สง่ มาจากรัชทายาทก็ใช้ พลังปราณเพ็งเล็งอันดับของหลินหมิงอยูจ่ ากระยะไกลสุก


สายตา พวกเขาได้ มาที่นี่ในวันนี ้ก็เพราะเหตุนี ้เอง พวกเขาได้ เตรี ยมยันต์สื่อสารไว้ รายงาน
สถานการณ์ทงหมดแล้
ั้ ว

คนส่วนใหญ่กําลังหาชื่อของหลินหมิงในช่วงอันดับที่ 90-100 แต่รายชื่อที่ถกู ลื่นให้ ลน่ ถอย


หลังไปกลับเริ่ มแถวๆบรรทัดที่หก หากไม่ได้ ตาฝาดไปเขาคงต้ องถูกจารึกไว้ ในประวัติศาสตร์
ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ และอาณาจักรแห่งนี ้อย่างแน่นอน

หลินหมิง อันดับที่ 62 !!
---------------------------------

MW#89 ผลการทดสอบที่ฝืนชะตาสวรรค์

“62!?”

“โอ้ .. พระเจ้ า”
ขณะที่ทกุ คนกําลังจับจ้ องกันอยู่ เมื่อได้ เห็นอันดับของหลินหมิงโผล่ออกมา ทําให้ ทกุ คนต้ อง
ตะลึงกันทัว่ หน้ า…

62 เนี่ยนะ?!

นี่พงึ่ จะเป็ นการทดสอบครัง้ ที่สองของเขาเท่านัน้ แต่เขากลับได้ อนั ดับสูงกว่า 72 เสียแล้ ว มี


สมาชิกในนิกายสวรรค์อยูท่ งหมด
ั้ 72 คน ซึง่ ก็หมายความว่าไม่ใช่เรื่ องยากเลยที่หลินหมิงจะ
เอาชนะพวกนันและเขามาในนิ
้ กายสวรรค์ ล

เขาอายุ15 เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาได้ แค่เดือนเดียว พรสวรรค์ก็แค่ระดับสามต้ นๆ แต่สามารถ


เข้ านิกายสวรรค์ได้ แล้ ว

ในรอบ100ปี ที่ผ่านมา ก็มีคนผ่านเข้ ารอบ 100 อันดับแรกตัแต่


้ การทดสอบครัง้ ที่สองเพียง3
คนเท่านัน้ แต่ทง3คนนี
ั้ ้ก็ไม่มีคนใดเลยที่มีอนั ดับสูงว่า72ในตอนนัน้

เหล่าผู้สอดแนบที่ถกู ส่งมาโดยองค์ชายรัชทายาทต่างก็ตาโตกันเป็ นแถวเมื่อได้ เห็นอันดับของ


หลินหมิง มู่หลงชีเองก็ยงั ไม่เชื่อสายตาตัวเอง

นี่มนั เหลือเชื่อเกินไปแล้ ว!
นี่มนั ระดับที่สามารถก้ าวข้ ามพวกหลิงเซ็น ทาคุ และซางกวนยู่ ได้ ในอนาคต!

“ไม่..เป็ นไปไม่ได้ เขาใช้ เวลาเพียงแค่4ก้ านธูปเท่านัน้ เขาน่าจะทําได้ แค่ผา่ น100อันดับแรก


เท่านัน้ ทําไมอันดับของเขาถึงได้ สงู ขนาดนี ้” ศิษย์จากนิกายสวรรค์พดู คุยกัน พวกเขาต่างมี
อันดับ70กว่าๆ ซึง่ หมายความว่าหลินหมิงจะมาแย่งตําแหน่งของพวกเขาไปในเร็ วๆนี ้

“มันจะต้ องมีอะไรผิดพลาด…”

“มันจะผิดพลาดได้ อย่างไร แท่นอาคมนัน่ ถูกสร้ างด้ วยปรมาจารย์ระดับปราณปลายฟ้า เรื่ อง


แบบนัน่ ไม่มีทางเกิดขึ ้นแน่”

“ระดับปราณปลายฟ้าก็อาจผิดพลาดกันได้ …”บางคนยังไม่เชื่อนัก และพวกเขาก็ยงั ไม่อยาก


ถูกขับไล่ออกจากสํานัก จากการเข้ านิกายสวรรค์ของหลินหมิง

“เงียบไปซะ แท่นอาคมไม่มีทางผิดพลาดเด็ดขาด ที่หลินหมิงมันทําได้ โดยใช้ เวลาแค่น้อยนิดก็


เพราะเขาสังหารศัตรูด้วยความที่เร็วสูงกว่าคนอื่นๆยังไงล่ะ”

ผู้คมุ แท่นอาคมพูดขึ ้น เขาจบการฝึ กฝนจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ แล้ ว นอกจากนัน่ เขายังเป็ นหนึง่


ในผู้ฝึกสอนคนหนึง่ อีกด้ วย แม้ การฝึ กฝนของเขาจะอยูเ่ พียงขันผสานชี
้ พจรก็ตาม
สังหารด้ วยความเร็วที่เหนือกว่าคนอื่นๆงันหรอ?!

เมื่อได้ ยินเช่นนัน้ ถ้ าหากหลินหมิงฆ่าศัตรูด้วยความเร็ วระดับนันจริ


้ ง ก็ไม่แปลกที่เขาจะหมด
แรงและตายออกมาก่อน นี่คือเขาฆ่าเร็วแล้ วออกมาเร็ วแล้ วหรื อนี่ นี่มนั สี่ก้านธูปเลยนะ?!

นี่มนั บ้ าชัดๆ!!

มูห่ ลงชีก็ยงั คงตะลึงไม่หาย เธอหันมาทางไบชิงหยุน “ท่านพี่พดู ถูกแล้ ว ข้ าล่ะอยากรู้นกั ว่า


วันๆเขากินโอสถอะไรเข้ าไปบ้ าง?”

เธอเข้ าใจถึงความหมายอันดับนันดี
้ การที่ศิษย์ซกั คนจะจบการศึกษาจากสํานักโดยมีอนั ดับ
62ขึ ้นไปก็ไม่ใช่เรื่ องแปลก แต่ถ้าหลินหมิงมาอยูอ่ นั ดับนี ้ในตอนนี ้แล้ ว เขาอาจจะเข้ าสูอ่ นั ดับ
50 ในสิ ้นปี นี ้ก็ได้

และก็ทเี่ ธอจะจบการศึกษา เขาอาจจะไต่ขึ ้นมาจนถึงอันดับ 30 ก็ได้ เมื่อเป็ นเช่นนันเธอก็



อาจจะต้ องต่อสู้กบั เขา

ไบชิงหยุนยิ ้มแล้ วพูดว่า “น้ องรัก เจ้ าจงรักษาท่าทีเอาไว้ ด้วย เจ้ าแสดงความอิจฉาเขาเกินไป
แล้ ว”
“ฮึ ทําไมข้ าจะต้ องไปอิจฉาเขาด้ วย ข้ าแค่ต้องเอาจริ งอีกซักหน่อยก็เท่านัน้ เขาไม่มีทา่
เหนือกว่าข้ าไปได้ หรอกน่า” มูห่ ลงชีชหู มัดขึ ้นและพูดอย่างมัน่ ใจ แต่ก็เป็ นเรื่ องจริ งที่วา่ เธอยัง
ชอบเล่นสนุกอยูบ่ ้ าง หากเธอจริ งจังกับการฝึ กฝนมากกว่านี ้ เธอก็จะมีอนั ดับที่สงู กว่านี ้

...

...

“เหลือเชื่อจริ งๆ ต้ องรี บรายงานให้ ทา่ นรัชทายาทได้ รับทราบ ผลลัพธ์เช่นนี ้มันเหนือกว่าที่พวก


เราได้ คาดการณ์เอาไว้ มากเลยทีเดียว” หัวหน้ าของเหล่าสายสืบกล่าว

“ขอรับ เราจะรายงานกลับไปโดยเร็วที่สดุ ” หนึง่ ในลูกน้ องของเขาตอบ

ขณะเดียวกัน “ช่างโง่ซะจริ งๆ ยังจะพยายามจะดิ ้นรนอยูอ่ ีกงันรึ


้ ยังไงซะองค์ชายสิบก็ต้องชนะ
อยูแ่ ล้ ว และสําหรับหลินหมิง ท่านก็ได้ เตรี ยมของสมบัติระดับมนุษย์และสมบัติอื่นๆอีก
มากมายรอไว้ ให้ แล้ ว…”


ตอนนี ้องค์รัชทายาท หยางหลินอยูท่ ี่พระราชวังทางตะวันออก เขากําลังเล่นหมากรุกอยูก่ บั ที่
ปรึกษาของเขา มูย่ ี่

“ฮ่าๆ ท่านองค์ชายคิดอะไรอยูร่ ึ ถึงได้ เดินหมากผิดอยูบ่ อ่ ยครัง้ เช่นนี ้” มูย่ ี่ยิ ้มขณะที่เขาเลื่อน


หมากไปกินตัวหมากขององค์ชาย ทําให้ กองทัพขององค์ชายมีช่องโหว่

หยางหลินยิ ้มแล้ วส่ายหัว “อาจารย์ ข้ าไม่เคยเล่นหมากรุกชนะท่านได้ เลย ถึงจะช้ าหรื อเร็ว


ผลลัพท์มนั ก็ไม่ได้ ตา่ งกัน”

“ฮ่าๆ แม้ ทา่ นจะรู้ดีกว่าท่านด้ อยกว่าข้ า แต่ทา่ นอย่าได้ เสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไป


เด็ดขาด หมากรุกมันก็เหมือนกับสนามรบนันแหละ ้ ถ้ าหากกลยุทธของท่านด้ อยกว่า แต่อย่าง
น้ อยนักรบที่ตายในสนามรบก็ยงั ถูกยกย่องในฐานะวีรชน แต่ถ้าหากยอมแพ้ และถูกจับเป็ น
เชลยจะน่าอายเสียยิ่งกว่า”

“ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ชี ้แนะ”

สําหรับมูยี่แล้ ว แม้ หยางหลินจะมีศกั ย์เป็ นองค์รัชทายาท แต่เขาก็ไม่จําเป็ นต้ องเกรงใจแม้ แต่


น้ อย ในอาณาจักรแห่งนี ้ สําหรับคนที่อยูใ่ นขันปราญฟ
้ ้ าขันต้
้ นนัน้ แม้ แต่กษัตริ ย์ก็ยงั ต้ องพูด
กับมูย่ ี่ด้วยถ้ อยคําที่สดุ ภาพนอบน้ อมเลย
“บอกข้ าทีสิ ว่าท่านกําลังคิดอะไรอยู”่ มูยี่ถามอีกครัง้

หยางหลินพูด “ข้ าไปหาท่านพ่อมา อาการของท่านดูแย่มาก แย่กว่าเมื่อก่อนเสียอีก…”

“อืมม…” มูยี่คิดอย่างเงียบๆ เขารู้วา่ หยางหลินกังวลเรื่ องอะไรอยู่ ถ้ าจะเกิดศึกชิงบัลลังค์ละก็


ผ่ายเขาเองก็มีกําลังคนไม่มาก และองค์ชายสิบ ก็ยงั มีความทะเยอทะยานสูงมากอีกด้ วย ถ้ าจะ
วัดกันตรงๆแทบไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะได้ เลย

ในเมื่อเขาเป็ นถึงองค์รัชทายาทที่แท้ จริ งที่มีสายเลือดแท้ มิใดมีสายเลือดของนางสนม ถึงเขาจะ


ไม่อยากเข้ าไปยุง่ ด้ วย แต่เขาก็คงถูกกําจัดอยูด่ ีหากองค์ชายสิบคิดที่จะครองบัลลังก์ เพราะ
งันหยางหลิ
้ นจึงวิตกกังวลเป็ นอย่างมาก

มูยี่กล่าว”องค์ชาย ข้ าบอกท่านไปแล้ ว หมากรุกก็เหมือนกับสนามรบ ท่านห้ ามเสียจิต


วิญญาณแห่งการต่อสู้ไปเด็ดขาด ถ้ าหากท่านขาดความมัน่ ใจ ท่านก็จะทําให้ ผ้ ใู ต้ บงั คับบัญชา
เกิดความกังวลเสียเปล่าๆ พวกเขาได้ ตดั สินใจที่จะรับใช้ ทา่ นแล้ ว ถ้ าหากท่านแพ้ องค์ชายสิบ
เขาก็คงไม่เมตตาท่านเป็ นแน่ และเมื่อเวลานันมาถึ
้ ง...”

ในศึกชิงบัลลังค์ มักจะจบลงด้ วยการสังหารหมู่ และอบอวลไปด้ วยกลิ่นคาวเลือดและกลิ่น


ซากศพ เมื่อถึงเวลานัน้ จะความรักหรื อความเพื่อนก็เป็ นแค่การหลอกลวงเท่านัน…

-------------------------------

MW#090 องค์ชายสิบ

...

...

...

มูย่ ี่สา่ ยหัว หยางหลินนันยั


้ งไม่มีความสามารถพอที่จะขึ ้นเป็ นจักรพรรดิ แม้ วา่ เขาจะเป็ นผู้ที่มี
ความเมตตาและจะสามารถปกครองชาวเมืองได้ อย่างยุติธรรม แต่เขาก็คงจะไม่มี
ความสามารถพอที่จะปกป้องบ้ านเมืองจากศัตรูภายนอกอาณาจักรได้ หรื อแม้ แต่การกบฏที่
อาจจะเกิดขึ ้นนี ้ เขาก็คงไม่มีความสามารถพอที่จะรับมือกับมัน

หยางหลินกล่าว " ในตอนนี ้ สํานักเจ็ดแก่นแท้ กําลังมีการจัดอันดับกันอยู่ ข้ าส่งซีฉานและกลุม่


ของเขาไปสืบหานักสู้ยอดฝี มือ ทังหมดนี
้ ่ก็เพราะข้ าเองก็อยากจะชนะองค์ชายสิบ น้ องชายของ
ข้ า แต่... ข้ าก็แทบจะไม่มีความหวังใดใดเลย น้ องชายข้ านัน่ ออกรบมานับครัง้ ไม่ถ้วน เขาเปี่ ยม
ล้ นไปด้ วยทักษะและประสบการณ์ตลอดระยะเวลาหลายปี เขาสามารถจับขุนนางของ
อาณาจักรอื่นมาเป็ นตัวเชลยได้ ด้วยความสามารถอันสูงส่งของเขา และเขายังได้ รับความมัง่ คัง่
อย่างล้ นเหลือ ทังหญิ
้ งงามและตําราวรยุทธ์ โดยเฉพาะตําราวรยุทธ์ระดับสูงที่ดงึ ดูดเหล่านักสู้
ให้ ต้องอิจฉาของเขา ข้ าไม่มีข้อเสนออะไรที่น่าสนใจกว่าข้ อเสนอขององค์ชายสิบ ที่จะเสนอ
ให้ กบั นักสู้ยอดฝี มือเหล่านันเลย"

เป็ นธรรมดาที่ หากองค์ชายต้ องการชนะใจของนักสู้ยอดฝี มือ ก็ต้องมีสิ่งตอบแทนที่ลํ ้าค่ามอบ


ให้ กบั นักสู้เหล่านัน้ ดังนันความมั
้ ง่ คัง่ ขององค์ชายก็เป็ นสิง่ สําคัญ หากมันไม่มากพอแล้ วล่ะก็
ใครล่ะจะมากยอมสู้รบเสีย่ งชีวิตเพื่อพวกเขา?

"โอ้ ว? มีนกั สู้ยอดฝี มือที่ทา่ นสนใจด้ วยรึ? เขาเป็ นใครกันล่ะ? " แม้ มยู่ ี่จะพอรู้อยูก่ ่อนแล้ ว แต่
เขาก็แกล้ งถาม

"หลินหมิง เขาอายุเพียง 15 ปี แต่เขาคือ100อันดับแรกแห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ "

"หลินหมิงรึ?" มูย่ ี่ยิ ้ม "องค์ชายโปรดมัน่ ใจ หลินหมิงไม่มีทางที่จะถูกองค์ชายสิบหว่านล้ อม


ด้ วยวรยุทธ์หรื อยาโอสถเหล่านัน่ ได้ หรอก "
"โอ้ ? ทําไมท่านปรมาจารย์จงึ กล่าวเช่นนัน?
้ "

"หนุ่มน้ อยหลินหมิงกับข้ านันเป็


้ นมิตรสหายกัน เขามีภมู ิหลังที่ลกึ ลับ ยิ่งไปกว่านันเขายั
้ งมี
ปรมาจารย์ที่เก่งกาจอยูเ่ บื ้องหลัง ที่เขาเข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้ นนั่ ก็เป็ นการหา
ประสบการณ์เล็กๆน้ อยๆของเขาเท่านัน่ แม้ วา่ องค์ชายสิบจะนําวรยุทธ์ลํ ้าเลิศหรื อยาโอสถลํ ้า
ค่าเพียงใดมาเสนอให้ เขา สิ่งเหล่านันก็ ้ ไม่มีทา่ นอยูใ่ นสายตาของเขาอย่างแน่นอน... หากองค์
ชายยังจําเรื่ องเมื่อเดือนก่อนได้ ที่ข้าให้ ทา่ นช่วยเพื่อนของข้ าคนหนึง่ ท่านยังจําได้ หรื อไม่? ใน
ตอนนันเป็
้ นช่วยฤดูใบไม้ ร่วงและยังเป็ นวันเดียวที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ เปิ ดรับสมัครศิษย์เข้ าร่วม
สํานัก และวันนันเขาก็
้ ถกู ล้ อมและเกือบจะถูกจับส่งเข้ าคุก…"

"อะไรนะ... ท่านปรมาจารย์...ท่านกําลังจะบอกว่าชายที่ทา่ นให้ ข้าช่วยไว้ ในคราวนันคื


้ อหลินห
้ ?" หยางหลินคิดอย่างรวดเร็ว เขาเข้ าใจในสิ่งที่มยู่ ี่กําลังต้ องการจะสื่อ
มิงงันรึ

"ฮ่าๆ ใช่แล้ ว เด็กหนุ่มที่เจ้ าเคยช่วยเอาไว้ ในตอนนันก็


้ คือหลินหมิง แม้ วา่ ช้ าจะไม่คอ่ ยได้ ติดต่อ
อะไรกับเขามากนัก แต่ข้ามัน่ ใจว่าเด็กหนุ่มหลินหมิงเป็ นคนดี มีความยุติธรรม แน่นอนว่าเขาก็
คงต้ องการที่จะตบแทนองค์ชายเช่นกัน อย่างน้ อยหากท่านไม่สามารถที่จะทําให้ เขามาเข้ า
ร่วมกับท่านได้ เขาก็จะไม่ไปเข้ าร่วมกับองค์ชายสิบเพื่อเป็ นศัตรูกบั ท่านอย่างแน่นอน "

"นี่มนั เป็ นเรื่ องเหลือเชื่อเสียจริ งๆ…"


องค์ชายสามเงยหน้ ามองฟ้าอย่างมีความหวัง ถึงแม้ วา่ พระอาการขององค์จกั รพรรดิจะเลวร้ าย
ขึ ้นทุกวัน แต่ด้วยยาโอสถระดับสูง ก็สามารถเยื ้อชีวิตของเขาได้ อีกไม่ตํ่ากว่า5ปี หรื ออาจจะ
มากถึง6-7ปี ก็เป็ นได้ ซึง่ ช่วงเวลาเหล่านี ้ก็มากพอให้ หลินหมิงได้ เติบโตจนแข็งแกร่ง

แม้ วา่ จะมีนกั สู้ที่อยูใ่ นขันผสานชี


้ พจรในอาณาจักรนี ้อยูไ่ ม่น้อย แต่พวกเขาก็จะเป็ นคนของ
สํานักเจ็ดแก่นแท้ ซึง่ อยูใ่ ต้ บญั ชาของหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ ที่จะไม่เข้ ามายุง่ กับเรื่ องสงครามชิง
บัลลังก์

คนที่เหล่าองค์ชายพอจะชวนมาเข้ ารวมสงครามชิงบัลลังค์ได้ จงึ มีน้อย ยิ่งไปกว่านัน่ ศึกชิง


บัลลังก์ถือเป็ นสงครามที่เสี่ยงอย่างยิ่ง หากพวกเขาเลือกข้ าผิด ก็หมายถึงจุดจบของชีวติ ของ
พวกเขาเอง!

สําหรับหยานหลิง เขาสนใจนักสู้ยอดฝี มือจกสํานักเจ็ดแก่นแท้ หลิงเซ็นเองก็มีการฝึ กฝนบน


จุดสูงสุดของขันที
้ ่สแี่ ล้ ว อีกไม่นานเขาก็คงจะเข้ าสูข่ นผสานชี
ั้ พจร!

เขาคงใช้ เวลาอีกไม่กี่ปีอย่างแน่นอน !

หลินหมิงเองก็เดินมาในเส้ นทางเดียวกับหลิงเซ็น!

หลินหมิงมีความสามารถที่หายาก แม้ จะในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็ต้องใช้ เวลาเป็ นสิบปี ถึงจะได้ พบ


ผู้ที่มีความสามารถเช่นนี ้ หากเขาตัดสินใจที่จะเข้ าร่วมกับขัว่ อํานาจใดซักแห่ง มันจะต้ องส่งผล
ต่อขัว่ อํานาจอื่นๆอย่างแน่นอน

ดังนันสํ
้ าหรับการได้ หลินหมิงมาร่วมด้ วย จึงมีความสําคัญอย่างมาก!

ในเวลานี ้เปลวไฟสีแดงปรากฏขึ ้นด้ านหน้ าของหยางหลิน

ยันต์สื่อสารเร่งด่วน!

"ใต้ ฝ่าพระบาท… ท่านองค์ชายสาม ผลการจัดอันดับออกมาแล้ ว หลินหมิงได้ อนั ดับที่ 62!"

"อะไรนะ!?" หยางหลินลุกขึ ้นยืนอย่างฉับพลันเมื่อได้ ยินอันดับของหลินหมิง!!!

ในฐานะที่องค์ชาย เขาเข้ าใจความหมายของการได้ อนั ดับที่ 62 ในการทดสอบครัง้ ที่สองของ


เด็กหนุ่มอายุเพียง15ปี เป็ นอย่างดี! แม้ แต่หลิงเซ็นก็ยงั ทําเช่นนี ้ไม่ได้ !

หลิงเซ็นนับได้ วา่ เป็ นยอดฝี มือที่น่าเหลือเชื่อมากพออยูแ่ ล้ ว ด้ วยการฝึ กฝนขันที


้ ่สี่ของเขา
ในตอนนี ้ อีกไม่นานเขาก็จะต้ องไปถึงขันผสานชี
้ พจรได้ อย่างแน่นอน ซึง่ การที่เขามีพฒ ั นาการ
ที่รวดเร็ วขนาดนัน่ มันก็แทบจะเหนือกว่าทุกคนในอาณาจักรแห่งนี ้แล้ ว!
องค์ชายสามรู้ดีกว่า คนรอบครอบอย่างซีฉานไม่มีทางตรวจสอบอันดับของหลินหมิงผิดอย่าง
แน่นอน พวกเขาจะต้ องยืนยันและมัน่ ใจในความถูกต้ องเสียก่อนที่จะส่งข่าวม้ เช่นนี ้

"มันเป็ นไปได้ อย่างไร?" เสียงจากยันต์สื่อสารส่งตรงถึงจิตขององค์ชายสาม ดังนัน่ มูย่ ี่จงึ ไม่ได้


ยินอะไร

หยางหลินสูดลมหายใจเข้ าลึกๆและกล่าวกับมูย่ ี่วา่ "ท่านปรมาจารย์ หลินหมิงได้ อนั กับที6


่ 2"

"อะไรนะ? 62? " แม้ แต่มยู่ ี่ก็ยงั ตกใจ แต่เมื่อพิจารณาถึงปรมาจารย์ผ้ เู ก่งกาจที่อยูเ่ บื่องหลัง
ของหลินหมิงแล้ ว มันก็ไม่ได้ น่าแปลกใจซักเท่าไร หากมีปรมาจารย์ที่เก่งกาจและเป็ นสาวกของ
นิกายที่ยิ่งใหญ่ระดับนันคอยสั
้ ง่ สอนอยู่ แม้ วา่ หลินหมิงจะได้ อนั ดับที่62ตังแต่
้ ครัง้ แรก มันก็ยงั
เป็ นเรื่ องที่เป็ นไปได้ !

มูย่ ี่เชื่อว่าการที่หลินหมิงถูกเลือกมาเป็ นศิษย์โดยปรมาจารย์ที่เก่งกาจผู้นนั ้ หลินหมิงจะต้ องมี


อะไรที่พอเศษกว่าเด็กทัว่ ๆไปซักอย่างสองอย่าง แม้ วา่ หลินหมิงจะเอาชนะหลิงเซ็นได้ ในอีกไม่กี่
เดือนข้ างหน้ า มันก็ไม่ใช่เรื่ องน่าแปลกใจสําหรับเขา (แต่จริ งๆแล้ วหลินหมิงไม่มีปรมาจารย์อยู่
เบื ้องหลังนะ หลินหมิงแค่หลอกว่ามี เพื่อไม่ให้ มยู ี่สงสัยในความรู้ที่มาจากดินแดนพระเจ้ าของ
ตนเอง )

...
ในขณะที่หยางหลินได้ รับการติดต่อสื่อสารจากสายสืบของเขา ทางด้ านองค์ชายสิบเองก็ได้ รับ
การติดต่อจากลูกน้ องของเขาเช่นกัน แต่สําหรับองค์ชายสิบ เดิมทีเขาไม่ได้ สนใจในตัวหลินหมิ
งมากเท่าไรนัก เพราะเขามีนกั สู้ยอดฝี มือเก่งๆคนอื่นๆอีกมากมาย ซึง่ มันก็มากเพียงพอที่จะทํา
ให้ แย่งชิงบัลลังก์มาได้ ในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี ้มันก็เป็ นแค่ผลจากยาโอสถทังสองอย่
้ างนัน้
เท่านัน้ หากไร้ ซงึ่ โอสถลํ ้าค่าทังสอง
้ ลําพังเด็กหนุม่ ที่มีพรสวรรค์ระดับสามจะไปสู้ใครได้ !

แต่ตอนนี ้หลังจากที่ได้ ยินข่าวจากยันต์สือสาร สีหน้ าขององค์ชายสิบก็เปลีย่ นไปทันที!

เพียงแค่เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาหนึง่ เดือน มีการฝึ กฝนเพียงขันที


้ ่สาม แต่หลินหมิงกลับได้
อันดับที่ 62!

สิ่งเหล่านี ้เหลือกว่าหลิงเซ็นโดยสมบูรณ์!

หลายร้ อยปี ที่ผ่านมาของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็ไม่เคยมีใครที่ทําเช่นนี ้ได้ !

สําหรับใครซักคนหนึง่ ที่จะเข้ าร่วมกับนิกายสวรรค์ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ พวกเขาต้ องมีการ


้ ่สาม และมีอนั ดับที่70กว่าๆเป็ นอย่างน้ อย แต่หลินหมิงกลับพุง่
ฝึ กฝนบนจุดสูงสุดของขันที
ทยานพรวดเดียวจากอันดับที่126มาถึงอันดับที่ 62 ในเวลาเพียง1เดือน! นี่มนั อัจฉริ ยะ
ปี ศาจชัว่ ร้ ายชัดๆ!

ด้ วยพัฒนาการที่ลํ ้าเลิศเช่นนี ้ มันเป็ นไปได้ ท่ีหลินหมิงจะแซงหลิงเซ็นในอนาคต เขาจะต้ องมี


อิทธิพลและอํานาจอย่างมากในอนาคต และสิง่ เหล่านันจะดึ
้ งดูดนักสู้ยอดฝี มือคนอื่นให้ เขา
ร่วมกับเขา ทังหมดนี
้ ้ทําให้ เจ้ าชายสิบตะลึง!

อย่าลืมว่า หลินหมิงยังอายุเพียง 15 ปี และมีการฝึ กฝนในขันที


้ ่สามชัง่ ต้ นเท่านัน้ เขายัง
สามารถที่จะพัฒนาไปได้ อีกอย่างไม่สิ ้นสุด!

ฮ่าๆ สวรรค์ทรงโปรด! ไม่มีใครทําเช่นนันได้


้ ในรอบหลายร้ อยปี มานี ้ เขาจะต้ องเป็ นคนที่จะมา
สัน่ ครอนทุกขัว่ อํานาจในอาณาจักรลิขิตฟ้าอย่างแน่นอน ไปหว่านล้ อมให้ เจ้ าหนุ่มนัน่ มาเข้ า
ร่วมกับเราซะ!

"ใต้ ฝ่าพระบาท… ข้ าน้ อยน้ อบรับคําสัง"้

"จัดเตรี ยมเงิน 50,000 เหรี ยญทอง เพชรพลอยที่ลํ ้าค่าที่สดุ อีก2หีบ หญิงสาวงามบริ สทุ ธิ์
อายุตํ่ากว่า 16 ปี 12 นาง คนรับใช้ 100คน และที่ดินใน หุบเขาชุนหยวนอีก 500 ไร่! "

คนที่ได้ ยินคําสัง่ นี ้ต่างเป็ นต้ องตกใจ นี่คือข้ อเสนอสําหรับเด็กหนุ่มอายุ15ปี คนหนึง่ จริ งๆ


หรื อ?!

สําหรับองค์ชายสิบ เขายังมีอีกหนึง่ ข้ อเสนอที่เก็บไว้ เผื่อว่าข้ อเสนอแรกที่กล่าวมานันจะยั


้ งชนะ
ใจหลินหมิงไม่ได้ มันคือวรยุทธ์ระดับมนุษย์ ที่เขาได้ ปล้ นมาจากครอบครัวขุนนางชนชันสู ้ งเมื่อ
นานมาแล้ ว
"หยางหลิน… เจ้ าจะต้ องพ่ายแพ้ ตอ่ ข้ า ข้ อเสนอของเจ้ าไม่มีทางที่จะเทียบได้ กบั เพียงหนึง่ ใน
สิบส่วนของข้ อเสนอจากข้ า เจ้ าจะต้ องถูกข้ ากดดันอย่างหนักที่สดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้ ! "

------------------------------------

MW#091 การท้ าทายด้ วยหอก

...

...
...

ณ แท่นอาคมหมื่นอสูรสังหาร

จู้ยนั ชายตามองไปยังหลินหมิงด้ วยสายตาเย็นชาปราศจากคําพูดใดใด

ความขัดแย้ งของพวกเขาจะต้ องจบลงในการต่อสู้ในซักวันหนึง่ อย่างแน่นอน แต่จ้ ยู นั ไม่เคยคิด


มาก่อนเลยว่าวันนันจะจะมาถึ
้ งในเร็วๆนี ้

หลานยุนเยียได้ แต่ยืนมองพวกเขาทังสองอย่
้ างเงียบๆจากหลังต้ นไผ่ เธอมองการเผชิญหน้ า
ระหว่างจู้ยนั กับหลินหมิงด้ วยความสับสน จะเกิดอะไรขึ ้นต่อจากนี ้... ?

ใครต่อใครที่กําลังเฝ้าชมอยูต่ า่ งก็ตกใจกับสิ่งที่ได้ เห็น ในที่สดุ ผู้คมุ ก็กล่าวขึ ้นมาหลังจากตก


ตะลึงอยูช่ วั่ ครู่ "ข้ าขอแสดงความยินดีด้วย เจ้ าคืออันดับที่ 62 ตามกฎของสํานัก เมื่อศิษย์คน
ใดก้ าวข้ ามอันดับที่80ขึ ้นไปได้ เขาผู้นนจะมี
ั ้ คณุ สมบัติที่จะสามารถท้ าทายศิษย์ในนิกาย
สวรรค์ ผู้ชนะจะได้ อยูใ่ นนิกายสวรรค์และผู้แพ้ จะถูกขับไล่ออกจากนิกายสวรรค์ไปอยูห่ ้ อง
พสุธา "

สํานักเจ็ดแก่นแท้ มีศิษย์ในนิกายสวรรค์ได้ เพียง72คน พวกเขาเหล่านี ้มีความสามารถในการ


ต่อสู้ที่เก่งกาจ แต่ทงนี
ั ้ ้ความสามารถของพวกเขาก็ไม่ได้ ขึ ้นอยูก่ บั การจัดอันดับของอาคมหมื่อน
อสูรสังหารเพียงอย่างเดียว

แม้ วา่ การจัดอันดับจากอาคมหมื่นอสูรสังหารจะสามารถตัดสินความแข็งแกร่งของนักสู้ได้ แต่ก็


ไม่ใช้ ทงหมด
ั้ อย่างเช่นสําหรับเหล่านักฆ่า พวกเขาอาจจะไม่มีความสามารถพอจะกวาดล้ าง
ศัตรูจํานวนมากในอาคมหมื่นอสูรสังหารจนสามารถมีอนั ดับที่70ได้ แต่เขาสามารถเอาชนะผู้
ที่อยูอ่ นั ดับ70ได้ พวกเขาเน้ นที่การต่อสู้จริ งกับนักสู้มากกว่าการถูกรุมโดยสัตว์อสูร

้ านักเจ็ดแก่นแท้ จงึ ระบุวา่ เพียงแค่สามารถข้ ามอันดับที่80มาได้ ก็เพียงพอที่จะท้ าทาย


ดังนันสํ
นิกายสวรรค์ โดยทัว่ ไปแล้ วบุคคลจากนิกายสวรรค์ที่ถกู ท้ าทายก็จะเป็ นอันดับสุดท้ ายที่ออ่ นแอ
ที่สดุ ของนิกายสวรรค์

หลินหมิงมองไปยังการจัดอันดับบนแท่นหิน บนแท่นหินมีชื่อของเหล่าสาวกนิกายสวรรค์อยู่
มันไม่ใช้ เรื่ องยากเลยที่จะหาคนที่ออ่ นแอที่สดุ ในนิกายสวรรค์ ในที่สดุ เขาก็เจอชื่อของคนๆนัน้
คนที่ออ่ นแอที่สดุ ในนิกายสวรรค์ เธอคือสาวน้ อยอายุ 17 ปี ชื่อว่า ไบหลงหลง อันดับ 75

ไบหลงหลงเองก็พงึ่ จะได้ เข้ านิกายสวรรค์ได้ ไม่นาน เธอกังวลอย่างมากเมื่อเห็นหลินหมิงมองไป


ยังอันดับของเหล่าศิษย์ในนิกายสวรรค์ หากเป็ นเช่นนันไม่
้ วา่ ใครก็ร้ ูวา่ เธอคงสู้เขาไม่ได้ เขา
สามารถไปถึงอันดับที่62 ได้ โดยใช้ เวลาเพียง 4ก้ านธูป แม้ วา่ จะมีเธอจะแยกร่างเป็ นสองคน
ได้ ก็ไม่มีโอกาศที่เธอจะเอาชนะอัจฉริ ยะที่น่ากลัวเช่นนี ้ได้ เลย

เธอไม่สามารถโยนผ้ าขาวขอยอมแพ้ โดยที่ยงั ไม่ได้ ตอ่ สู้ได้ เธอจะต้ องต่อสู้กบั เขาด้ วยพลัง
ทังหมดที
้ ่เธอมี เธอหวังให้ เขาไม่ได้ ไร้ ความปรานีเกินไป...
ในสายตาของใครหลายๆคน พวกเขาคาดว่าไบหลงหลงจะต้ องเสียตําแหล่งให้ หลินหมิงอย่าง
แน่นอน เธอช่างเป็ นหญิงสาวที่โชคร้ ายเสียจริ ง

"เจ้ าตัดสินใจจะท้ าทายผู้ใด?" ผู้คมุ กล่าวถาม

"ข้ ามีคําถาม การท้ าทายศิษย์ในนิกายสวรรค์มีข้อจํากัดเรื่ องเวลาในการต่อสู้หรื อไม่? "


หลินหมิงถามกลับ

"เวลาในการต่อสู้นนเจ้
ั ้ าสามารถเลือกได้ ด้วยตนเอง แต่ข้าแนะนําว่าควรจะเป็ นใน1เดือนต่อ
จากนี ้ หากอันดับของเจ้ าถูกแซงจนตํา่ กว่าอันดับที่80ก่อนจะถึงวันที่เจ้ าต่อสู้ การท้ าทายเพื่อ
ต่อสู้กบั ศิษย์จากนิกายสวรรค์จะถูกยกเลิก "

"ข้ าเข้ าใจแล้ ว... ขอบคุณท่านผู้อาวุโส"

"เจ้ าตัดสินใจได้ หรื อยัง? ข้ าต้ องการชื่อของบุคคลที่เจ้ าต้ องการท้ าทายเพื่อรายงานไปยังผู้


อาวุโสที่ดแู ลนิกายสวรรค์ "

"แน่นอน ข้ าตัดสินใจแล้ ว เวลาคือในอีก1เดือนนับจากนี ้ และผู้ที่ข้าจะท้ าทายก็คือ..." หลินหมิ


งยกหอกของเขาชี ้ตรงไปยังชายหนุ่มคนหนึง่ "ข้ าขอท้ าทายจู้ยนั !"
จู้ยนั !?

ทุกคนที่ได้ ยินชื่อนี ้ต่างต้ องชะงัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไบหลงหลง เธอไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง

โดยรอบแท่นอาคมหมื่นอสูรสังหารถูกปกคลุมด้ วยความเงียบ

ผู้ที่หลินหมิงต้ องการท้ าทายคือ... จู้ยนั !?

ในตอนแรกใครต่อใครก็คิดว่าเขาพูดผิด แต่เมื่อได้ เห็นปลายหอกที่ชี ้ไปยังจู้ยนั อย่างชัดเจน จึง


ทําให้ พวกเขาแน่ใจว่าไม่ได้ ฟังผิดอย่างแน่นอน!

ท้ าทายด้ วยการใช้ หอกชี ้! ช่างเป็ นการท้ าทายที่เด่นชัดอะไรเช่นนี ้!

เขาคือผู้ที่อยูอ่ นั ดับที่ 32!

จู้ยนั !

หลินหมิงไม่เคยหยุดสร้ างความน่าอัศจรรย์ในสายตาของเหล่าศิษย์ทกุ คน!


"หลินหมิงนี่นะ... เขาจะเอาจริ งงันรึ
้ ... บ้ าไปแล้ วหรื อไง!" มูห่ ลงชีพมึ พํา

ไบชิงหยุนก็ยงั ประหลาดใจ เขาไปเอาความกล้ าหาญนัน่ มาจากไหน! เขาคิดว่าจะเหนือกว่าจู้


ยันได้ ในอีก1เดือนจริ งๆหรื อ!?

เป็ นที่ร้ ูกนั ดีวา่ อันดับที่สงู ขึ ้นก็ยิ่งเพิ่มขึ ้นได้ ยากขึ ้นด้ วย จากอันดับ162ไป132ไม่ใช้ เรื่ องยาก
แต่ อันดับที6
่ 2จะไปสู้กบั อันดับที3
่ 2ในหนึง่ เดือน มันยากจนแทบจะเป็ นไปไม่ได้ !

้ เพื่อที่จะไต่อนั ดับจากอันดับที่65มาอันดับที2
เธอใช้ เวลาตลอดทังปี ่ 6

ความก้ าวหน้ านี ้เหมือนว่าจะเป็ นการพัฒนาการที่ดี แต่แท้ ที่จริ งแล้ วมันคือขีดจํากัด!

"น่าสนใจจริงๆ " ทาคุกล่าวด้ วยรอยยิ ้ม "ดูเหมือนหลินหมิงจะมีความแค้ นกับจู้ยนั สินะ


ทําเช่นนี ้ "
ไม่เช่นนันเขาคงไม่

"อืม ระหว่างพวกเขาคงมีความขัดแย้ งที่น่ากลัว ข้ าสัมผัสได้ ถงึ จิตสังหารของจู้ยนั ที่ปรากฎ
ออกมาชัว่ วูบเมื่อหลินหมิงชี ้หอกไปที่เขา การชี ้หอกไปยังจู้ยนั ก็คือการยัว่ ยุดีดีนี่เอง”หลิงเซ็น
กล่าว แม้ วา่ ในขณะนันจู
้ ้ ยนั จะพยายามลบจิตสังหารไปในทันที แต่ประสบการณ์อนั สูงส่งใน
สนามรบของหลิงเซ็นก็ยงั สามารถสัมผัสถึงมันได้

"จู้ยนั เป็ นคนที่ไร้ ความปรานี แม้ วา่ เขาจะมาจากตระกูลชันสู


้ ง แต่เขาก็ทมุ่ เทในการฝึ กฝนอย่าง
สุดหัวใจ เขาเป็ นคนที่แข็งแกร่งมากและไม่เพียงแค่นนั ้ เขายังมีความทะเยอทะยาน ในอนาคต
เขาคงจะเข้ าร่วมกับกองทัพของอาณาจักรอย่างแน่นอน ข้ าสนใจเขาอยูม่ ากทีเดียว ข้ าล่ะอยาก
เห็นการต่อสู้ของเขากับหลินหมิงเสียจริ ง! "ทาคุเลียริ มฝี ปากด้ วยความตื่นเต้ น

ผลการต่อสู้ในอีกหนึง่ เดือนนับจากนี ้จะเป็ นอย่างไร? ไม่มีใครเลยที่จะกล้ าคาดเดา!

หากเป็ นแต่ก่อน ใครต่อใครต่างก็ต้องคิดว่าหลินหมิงเป็ นคนโง่เง่า ทว่าที่ผา่ นมาเขาได้ สร้ าง


ปาฏิหาริ ย์มาแล้ วหลายครัง้ ไม่มีใครกล้ าที่จะดูถกู การตัดสินใจของเขา

...

หะ? อะไรนะ? หลินหมิงท้ าทายจู้ยนั ? และยังยัว่ ยุด้วยการชี ้หอกไปทางหน้ าของจู้ยนั อีก!?


เป็ นไปได้ วา่ เขาอาจจะเป็ นปฏิปักษ์ กบั จู้ยนั ? " ณ พระราชวังตะวันออกมีเพียงข่าวว่าหลินหมิง
ได้ ท้าทายจู้ยนั
"เขาเรี ยกชื่อของจู้ยนั อย่างชัดเจนและยังใช้ หอกชี ้หน้ าจู้ยนั อีกงันรึ
้ มันออกจะเป็ นการยัว่ ยุกนั
จนเกินไปหน่อย ระหว่างพวกเขาทังสองคนจะต้
้ องมีความขัดแย้ งอะไรกันอย่างแน่นอน" มูย่ ี่
กล่าว

"ถ้ าพวกเขามีความขัดแย้ งกันจริ งๆ แล้ วโอกาสที่หลินหมิงจะอยูข่ ้ างเราจะเพิ่มสูงขึ ้นเพียงไร จู้


ยันเป็ นญาติขององค์ชายสิบ จู้ยนั จะต้ องเข้ าร่วมกับองค์ชายสิบอย่างแน่นอน ข้ าไม่ร้ ูถงึ ความ
ขัดแย้ งของพวกเขา ความขัดแย้ งของพวกเขาอยูเ่ หนือข้ อมูลที่พวกเรามี... "

เรื่ องระหว่างหลินหมิงและหลานยุนเยีย นอกจากหลิงเซี่ยวตงก็ไม่ได้ มีคนอื่นที่จะรู้เรื่ องเหล่านี ้


แม้ แต่หน่วยสืบราชการลับที่เก็บรวบรวมข้ อมูลพื ้นหลังวงศ์ตระกูลก็ยงั ไม่ร้ ูเรื่ องเหล่านี ้

...

เป้ง! ถ้ วยนํ ้าชาในมือขององค์ชายเมฆมายา(องค์ชายสิบ)สิบถูกบดจนแตกเป็ นเสี่ยงๆ เขาได้ รับ


ยันต์สื่อสารรายงานเรื่ องนี ้เช่นเดียวกับองค์รัชทายาท(องค์ชายสาม)

การชี ้หอกท้ าทายจู้ยนั ของหลินหมิงเช่นนี ้ไม่ใช้ สญ


ั ญาณ์ที่ดีตอ่ ผู้เป็ นองค์ชายสิบผู้เป็ นญาติของ
จู้ยนั เอาเสียเลย

"จู้ยนั เจ้ านี่มนั ตัวปั ญหาจริ งๆ!"


องค์ชายสิบคิ ้วขมวด เขากับจู้ยนั เกี่ยวข้ องกันทางสายเลือดห่างๆจากมารดาของพวกเขา

สิ่งใดที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ เขาได้ เขาก็จะไขว้ ขว้ ามันเอาไว้ จู้ยนั เป็ นคนที่มี


ความสามารถและองค์ชายสิบก็ต้องการจะมีจ้ ยู นั อยูใ่ ต้ บงั คับบัญชาของเขา ถึงแม้ จ้ ยู นั จะไม่ได้
เป็ นคนที่เชื่อถือและไว้ ใจได้ อย่างสุดหัวใจ เพราะเขามีความทะเยอทะยานเกินไป

"นี่คือคําสัง่ ข้ าต้ องการพบจู้ยนั ในคืนนี ้!" องค์ชายสิบต้ องการที่จะสอบถามเกี่ยวกับความ


บาดหมางระหว่างจู้ยนั และหลินหมิง เพื่อที่จะเปลี่ยนสถานะของหลินหมิงจากศัตรูให้ เป็ นมิตร
ของพวกเขา

MW#092 ปฏิเสธ
...
...
...
หลังจากจู้ยนั กลับมาถึงที่พกั ของเขา เปลวไฟส่องแสงเป็ นประกายเจิดจร้ าก็ปรากฎขึ ้นตรงหน้ า
นี่คือยันสื่อสารจากองค์ชายสิบ หยางเซ็น องค์ชายสิบต้ องการให้ เขามาพบในคืนนี ้ที่พระราชวัง
จู้ยนั ได้ ยินนํ ้าเสียงขององค์ชายอย่างชัดถ้ องชัดคํา นํ ้าเสียงของเขาดูไม่ได้ มีความสุขซักเท่าไหร!
จู้ยนั พอจะรู้ถงึ สาเหตุที่องค์ชายสิบต้ องการจะพบเขา มันต้ องเป็ นเพราะการท้ าทายจากหลินห
มิงเป็ นแน่ หน่วยสืบข่าวจากองค์ชายคงจะรายงานกลับไปให้ องค์ชายได้ รับรู้แล้ ว
จะให้ ญาติดีกบั หลินหมิง? ฝั นไปเถอะ!
จู้ยนั ใช้ มือขยี ้เปลวไฟจากยันสื่อสารตรงหน้ าให้ หายไปพร้ อมกับเสียงขององค์ชายสิบ
จู้ยนั ลุกขึ ้นและริ นไวน์ลงแก้ วอย่างช้ าๆ เขายกแก้ วและอาหารที่ตงอยู
ั ้ ข่ นมารั
ั ้ บประทาน ดวงตา
ของเขาดูเย็นชาและเงียบสงัด
้ ?"
"เวลาเพียงแค่หนึง่ เดือน แกคิดว่าจะไล่ตามข้ าได้ ทนั งันรึ
...
...

ในด้ านของหลินหมิงเองก็เช่นกัน เมื่อเขากลับมาถึงที่พกั ก็มีทงแสงไฟจากยั


ั้ นสื่อสารจากองค์
ชายสิบและองค์ชายสามติดต่อมาหาเขา
ข้ อความจากองค์รัชทายาทที่ถกู ส่งมาโดยมูย่ ี่

มูย่ ี่กล่าวแสดงความยินดีและเชิญเขาไปยังพระราชวังของพระมหากษัตริ ย์เพื่อเยี่ยมชมและกิน


ดื่ม
สําหรับยันสือ่ สารขององค์ชายสิบ เขาได้ เสนอสิ่งต่างๆให้ หลินหมิงมากมาย รวมถึงตําราวรยุทธ
ระดับมนุษย์ที่เขามี เขาก็ยงั ตกลงที่จะให้ หลินหมิงยืมไปฝึ กฝน
ในความเป็ นจริ งการติดต่อสื่อสารกับเหล่าศิษย์ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ เช่นนี ้ ถือเป็ นการละเมิด
กฎระเบียบของสํานักเจ็ดแก่นแท้ อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์การแย่งชิงบัลลังค์ที่จะเกิดขึ ้น
อนาคต สํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็พอจะเปิ ดช่องโหว่ให้ พวกเขาได้ ทําเช่นนันได้

"มันดูเหมือนว่าพวกเขาทังสองฝ่
้ ายต้ องการข้ าไปร่วมกับฝั่ งของพวกเขา... ข้ าจะกลายเป็ นคนที่
มีศตั รูจํานวนมาก... แม้ ข้าจะปลอดภัยเมื่ออยูใ่ นสํานักเจ็ดแก่นแท้ แต่หาข้ าก้ าวออกไปจาก
อาณาเขตของสํานักก็เป็ นไปได้ วา่ จะถูกลอบสังหาร! มูย่ ี่มีนํ ้าใจช่วงเหลือข้ าและก็ยงั เป็ นมิตร
กับข้ า องค์รัชทายาทเองก็เคยช่วยข้ าไว้ ครัง้ หนึง่ ถ้ าข้ าเข้ าฉันร่วมกับพวกเขาดูคงจะเป็ ทางเลือก
ที่ดี องค์ชายสิบเองก็เป็ นลูกของนางสนมจากตระกูลจู้... " หลินหมิงไม่ได้ สนใจเรื่ องการเมือง
มากนัก แต่เขาก็ร้ ูความเชื่อมโยงระหว่างตระกูลจู้กบั องค์ชายสิบ ตระกูลจู้ใช้ ความสัมพันธ์นี ้
เป็ นบันไดเพื่อยกระดับวงศ์ตระกูลให้ สงู ขึ ้น พวกเขามีอิทธิพลเพิ่มขึ ้นอย่างต่อเนื่องตังแต่
้ มีองค์
ชายสิบ
มันเป็ นไปไม่ได้ เลยที่หลินหมิงจะเข้ าร่วมกับฝั่ งขององค์ชายสิบ ซึง่ เป็ นฝ่ ายเดียวกับจู้ยนั เขาคง
จะปฏิเสธข้ อเสนอขององค์ชายสิบในทันทีที่ร้ ูวา่ ต้ องเป็ นพันธมิตรกับจู้ยนั !
ในด้ านข้ อเสนอของมูย่ ี่กบั องค์ชายสามต่างหาก ที่เขาควรจะตอบรับ แต่ตอนนี ้เขากลับไม่มี
เวลาที่จะทําเช่นนัน...

"ข้ าน้ อยขอกราบขอบพระคุณคําเชิญจากท่านองค์รัชทายาท แต่ยงั มีการต่อสู้ที่สําคัญรอข้ าอยู่
ในอีกหนึง่ เดือนต่อจากนี ้ เวลาทุกวินาทีจากนี ้สําคัญต่อข้ ายิ่งนัก ข้ าคงจะไม่สามารถตบรับคํา
เชิญของท่านองค์รัชทายาทได้ ในตอนนี ้ แต่ในเดือนหน้ าข้ าจะไปเยี่ยมท่านองค์รัชทายาทอย่าง
แน่นอน”
ในพระราชวังตะวันออก มูย่ ี่ได้ รับการติดต่อผ่านยันสื่อสารของหลินหมิง มูย่ ี่ลบู เคราอย่างช้ าๆ
และกล่าวกับองค์ชายสามด้ วยรอยยิ ้มว่า "หลินหมิงบอกว่าเขาจะตอบรับคําเชิญของเราใน
เดือนหน้ า"
"โอ้ ? เจ้ าหลินหมิงนี ้ช่างขยันฝึ กฝนอะไรเช่นนี ้ หรือว่าเขาตอบเช่นนันเพื
้ ่อปฏิเสธเราหรื อป่ าว? "
มูย่ ี่ตอบ "ท่านองค์รัชทายาทโปรดเข้ าใจ เหล่านักสู้ที่มีความคิดและจิตใจบริ สทุ ธิ์อย่างหลินหมิง
เขาไม่ต้องการให้ สิ่งใดมารบกวนการฝึ กฝนของเขา ทําให้ เขามีสมาธิอยูก่ บั การฝึ กฝนและ
สามารถพัฒนาฝี มือได้ อย่างรวดเร็ว หากเขามาเพื่อกินดื่มกับเราในตอนนี ้ มันอาจส่งผลเสียต่อ
การพัฒนาการของเขา"
"นัน่ สินะ ไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถฝึ กฝนได้ อย่างก้ าวกระโดดเช่นนี ้”
"ใช่แล้ ว หัวใจที่ฝักใฝ่ ในการต่อสู้ของเขาเข้ มแข็งอย่างยิ่งเหมื่อเทียบกับนักสู้คนอื่นๆ และหาก
หัวใจของพวกเขาอ่อนแอก็จะถูกล่อลวงด้ วยสิ่งต่างๆได้ อย่างง่ายดาย ทังความมั ้ ง่ คัง่ รํ่ ารวยและ
ชื่อเสียง คนเหล่านี ้จะมีพฒ
ั นาการที่ช้าลง และอีกหนึง่ สาเหตุที่หลินหมิงทําเช่นนันก็
้ เพราะเขามี
ปรมาจารย์ที่เก่งกล้ าคอยสนับสนุนอยูเ่ บื ้องหลัง"
หลินหมิงเพียงตกลงกับมูย่ ี่ให้ เก็บความลับเรื่ องความสามารถในการจารึกของเขา ซึง่ ไม่ได้
รวมถึงเรื่ องปรมาจารย์ที่อยูเ่ บื ้องหลังของเขา
ในความเป็ นจริ งแล้ ว หากเขาจะเผยสถานะการเป็ นยอดนักจารึกของเขาในตอนนี ้ มันก็ไม่ใช้
เรื่ องอันตรายอีกต่อไป ทังองค์
้ รัชทายาทและมูย่ ี่ที่จะคอยสนับสนุนและสํานักเจ็ดแก่นแท้ ไม่มี
ทางที่ใครจะมาทําร้ ายเขาได้
"จริ งรึ... มีปรมาจารย์ที่เก่งกล้ าคอนสนับสนุนอยูเ่ บื ้องหลังของหลินหมิง? องค์ชายสามถามยํ ้า
ด้ วยดวงตาที่เบิกกว้ าง
เมื่อมูย่ ี่เห็นท่าทีขององค์รัชทายาทก็เข้ าใจถึงความคิดของเขาในทันที มูย่ ี่ยิ ้มและกล่าว "ใต้ ฝ่า
พระบาทไม่ควรคาดหวังกับท่านปรมาจารย์คนนัน้ ข้ าคาดว่าท่านปรมาจารย์อาวุโสของหลินห
มิงคนนันจะต้ ้ องฝึ กฝนจนเกินระดับปราณปลายฟ้าไฟแล้ ว สถานะของเขาคือสิ่งที่เราไม่ควรเข้ า
ไปยุง่ เกี่ยว "
"เหนือกว่าระดับปราญปลายฟ้า?!" หัวใจหยางหลินสัน่ ระรัวเมื่อได้ ยินเช่นนัน้ "เขาก้ าวข้ าม
ระดับปราญปลายฟ้าไปแล้ วงันรึ
้ แล้ วพวกเขาจะเป็ นเช่นไร?"
มูย่ ี่ได้ แต่ยิ ้มฝื ดๆและกล่าว "ข้ าเองก็ไม่ทราบถึงเส้ นทางที่เหนือว่าระดับปราณปลายฟ้า สําหรับ
ผู้ที่ไม่ได้ มาจากตระกูลโบราณหรื อเข้ าร่วมกับนิกายโบราณ สิ่งเหล่านี ้ก็เป็ นเช่นเดียวกัยหมอก
หน้ า ข้ าเองก็ไม่ร้ ูวา่ หลังจากก้ าวข้ ามระดับปราณปลายฟ้าไปแล้ วจะเป็ นเช่นไร... "
หยางหลินถอนหายใจเบาๆกล่าวว่า "ท่านอาจารย์โปรดอย่าได้ ดถู กู ตนเอง ท่านทีความสามารถ
สูงส่งอยูแ่ ล้ วแม้ วา่ จะมิได้ มาจากตระกูลโบราณ ข้ าแค่ไม่เข้ าใจเพียงจุดเดียว หากหลินหมิงที่
้ เ่ บื ้องหลัง เขาจะเข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ทําไมกัน? "
ปรมาจารย์ที่เก่งกล้ าเช่นนันอยู
มูย่ ี่กล่าวตอบ “เกี่ยวกับของสงสัยขององค์ชาย ข้ าเองก็ยงั ไม่มนั่ ใจเท่าไรนัก แต่ข้าคาดการณ์วา่
การจะพัฒนาการให้ ก้าวข้ ามระดับปราณฟ้าไปได้ เขาก็คงต้ องการสะสมประสบการณ์ตา่ งๆ นี่
คงจะเป็ นเหตุผลทีส่ มเหตุสมผลที่หลินหมินเข้ ามาฝึ กฝนในอาณาจักรลิขิตฟ้า "
"อย่างนี ้นี่เอง ข้ าคิดว่าหากข้ าต้ องการให้ เขามาเข้ าร่วมกับเรา อย่างน้ อยข้ าก็ต้องเป็ นเพื่อนกับ
เขาให้ ได้ เสียก่อน ในอีกหนึง่ เดือน เมื่อหลินหมิงมาเยี่ยมเรา เราจะเป็ นคนต้ อนรับเขาด้ วย
ตนเองและเป็ นกันเองกับเขาให้ มากที่สดุ "
...
"ไอ้ หลินหมิง แกปฏิเสธกล้ าปฏิเสธของเสนอของข้ า!"
ณ พระราชวังขององค์ชายเมฆมายา,องค์ชายสิบหยางเซ็น ได้ รับยันต์สื่อสารจากหลินหมิงที่
ปฏิเสธกลับมาทําให้ เขาผิดหวังไม่น้อย "ไอ้ จ้ ยู นั เจ้ าไม่น่าไม่แย่งผู้หญิงของมันเลย ข้ าล่ะผิดหวัง
เสียจริ ง!"
จู้ยนั ซึง่ ยืนอยูต่ รงหน้ าก็ได้ แต่เงียบ แต่เดิมเขาสามารถแย่งชิงหลานยุนเยียมาจากหลินหมิงได้
สําเร็ จ และหลินหมิงก็เป็ นเพียงลูกไก่ในกํามือของเขา ไม่วา่ อย่างไรเขาก็สามารถจัดการกับมัน
ได้ อย่างง่ายดาย ใครจะไปเชื่อล่ะว่าหลินหมิงจะเติบโตได้ อย่างรวดเร็ วจนกลายมาเป็ นศัตรูตวั
ปั ญหาในตอนนี ้?
หยางเซ็นได้ สงั่ ให้ จ้ ยู นั มาเข้ าพบเพื่อปล่อยอารมณ์ของเขา เป็ นที่ร้ ูกนั ดีวา่ ที่ตระกูลจู้สามารถ
ก้ าวมาถึงจุดที่ใหญ่โตมีชื่อเสียงได้ เหมือนกับทุกวันนี ้ก็เพราะองค์ชายสิบ องค์ชายสิบก็ไม่ตา่ ง
อะไรกับหัวหน้ าตระกูลจู้ในตอนนี ้ ไม่มีทางที่จ้ ยู นั จะขัดขืนคําสัง่ ได้
"ข้ าให้ การสนันสนุนตระกูลจู้มาถึงทุกวันนี ้ก็เพราะคิดว่าตระกูลจู้สามารถช่วยข้ าจัดการกับอุป
สรรค์ตา่ งๆของข้ าได้ แต่เจ้ าก็ทําได้ เพียงสร้ างความวุน่ วายให้ ข้า! เดิมทีข้ามัน่ ใจว่าหลินหมิง
จะต้ องเข้ าร่วมเป็ นกําลังที่แข็งแกร่งให้ กบั ข้ า แต่ตอนนี ้มันไม่ใช่! "
"จู้ยนั ข้ าเชื่อว่าเจ้ ายังต้ องการอนาคตที่ดีและประสบความสําเร็ จ! เพียงคนโง่เท่านันที
้ ่จะยอม
สละทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนเดียว! ไปหย่ากับหยานยุนเยี่ยซะ! "
จากคําพูดขององค์ชายสิบ ทําให้ จ้ ยู นั ขมวดคิ ้วไม่พอใจเล็กน้ อยก่อนจะกล่าวตอบ "ใต้ ฝ่าพระ
บาท แม้ วา่ ข้ าจะหย่ากับหลานยุนเยียแล้ ว ก็ไม่มีทางที่ความของข้ ากับหลินหมิงจะดีขึ ้นมาได้
ท่านคิดว่าหลินหมิงจะให้ อภัยและกลับมาหาหลายยุนเยียอีกครัง้ อย่างนันหรื ้ อ? แม้ วา่
ความแค้ นของเขากับข้ าจะเกิดขึ ้นเพราะหลายยุนเยีย แต่ตอนนี ้มันไม่ได้ เกี่ยวกับหลานยุนเยีย
อีกต่อไปแล้ ว"
"ข้ าไม่ได้ ต้องการให้ เจ้ าออกความเห็นหรื ออธิบายเรื่ องของพวกเจ้ าให้ ข้าฟั ง! ข้ ารู้อยูแ่ ล้ วว่า
หลินหมิงไม่ได้ ต้องการที่จะกลับมาหาหลานยุนเยียอีกครัง้ แต่การที่เจ้ าหย่ากับเธอจะเป็ นการ
แสดงความเคารพและให้ เกียรติตอ่ หลินหมิง หลังจากนันเจ้ ้ าจงไปขอโทษเขาด้ วยความจริ งใจ
เพียงเท่านี ้ก็สามารถที่จะทําให้ เขาเปิ ดใจตอบรี บข้ อเสนอของข้ าได้ แล้ ว หากไม่เช่นนันเขาก็ ้ จะ
กลายเป็ นศัตรูตวั ฉกาจไม่ชวั่ นิรันดร์ ข้ าจะหาหญิงที่งามกว่าหลายยุนเยียให้ เขา เขาจะทําให้ เขา
มัง่ คัง่ ยิ่งใหญาหากเลือกที่จะอยูฝ่ ั่ งข้ า ข้ าเหนือว่าองค์รัชทายาทอย่างชัดเจนในเรื่ องข้ อเสนอที่
สามารถยื่นให้ เขาเข้ ามาอยูข่ ้ างเรา"
"ท่านต้ องการให้ ข้าแสดงความเคารพต่อหลินหมิงงันรึ ้ ... ?" จู้ยนั พูดพร้ อมกับกําหมัดแน่น
สําหรับคนที่หยิ่งยโสโอหังอย่างจู้ยนั แล้ ว การที่จะต้ องมาก้ มหัวขอโทษแสดงความเคารพต่อคน
ที่เขาเคยดูถกู ก็ไม่ตา่ งอะไรกับการฆ่าเขาทังเป็
้ น!

----------------------

บทที่ 93 - อุปสรรค
...
...
...
้ ? เป็ นบุรุษต้ องหัดมีความยืดหยุนและปรับตัวให้ เข้ ากับสถานการณ์
"เจ้ าไม่เต็มใจจะทํางันรึ
ปั จจุบนั ได้ หรื อเจ้ าต้ องการที่จะสร้ างปั ญหาให้ ข้าเพราะความโอหังของเจ้ า? "
จู้ยนั สูดหายใจเข้ าลึกๆและคลายมือที่กําไว้ แน่นออกและกล่าวอย่างเย็นชาว่า "ใต้ ฝ่าพระบาท
อัจฉริ ยะที่ไม่มีลมหายใจ ก็ไม่มีคา่ อันใดให้ ต้องหวัน่ เกรง"
“ฮึ เจ้ าต้ องการให้ ข้าลอบสังหารหลินหมิงงันรึ้ ? จู้ยนั เจ้ าลืมความแข็งแกร่งของสํานักเจ็ดแก่น
แท้ ไปแล้ วหรื ออย่างไร หลินหมิงเป็ นศิษย์ที่มีพรสวรรค์ที่หายาก ไม่มีทางที่ใครจะลอบสังหารเขา
ได้ ต่อให้ มนั ออกมาจากสํานักองค์รัชทายาทก็คงจะปกป้องมัน แม้ วา่ หยางหลินจะไม่ได้ เก่งกล้ า
อะไรนัก แต่เขามีปรมาจารย์มยู่ ี่คอยคุ้มครองอยู่ ต่อให้ สงั หารหลินหมิงได้ สําเร็ จ พวกมันก็ต้อง
สืบหาพวกเราจนพบอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานันแม้ ้ แต่ข้าก็ไม่อาจรอดเงื ้อมมือของสํานักเจ็ด
แก่นแท้ ไปได้ แม้ แต่ทา่ นพ่อที่เป็ นจักรพรรดิก็ไม่อาจจะช่วยปกป้องข้ าได้ หากสํานักเจ็ดแก่นแท้
ต้ องการชีวิตข้ า! "
"เพียงแค่มยู่ ี่คนเดียวก็ทําให้ ข้าปวดหัวแล้ ว! ข้ าอาจจะต้ องส่งยอดฝี มือกว่า 18 คนที่พร้ อมที่จะ
ตายเพื่อไปรับมือกับเจ้ าเฒ่านัน่ คนเดียว และหากหลินหมิงเติบโตขึ ้นและเข้ าร่วมกับองค์รัช
ทายาท โอกาสที่ข้าจะเอาชนะองค์ชายสามได้ ก็จะลดลงอย่างเห็นได้ ชดั ! "
จู้ยนั กําหมัดแน่นอีกครัง้ เขาพูดอย่างช้ าและชัดเจน "ใต้ ฝ่าพระบาทโปรดให้ เวลาแก่ข้า ข้ าจะไม่
ทําให้ ทา่ นผิดหวัง"
"ก็ได้ ข้ าจะเชื่อใจเจ้ าซักครัง้ หากเจ้ าทําให้ ข้าผิดหวังเจ้ าคงรู้ดีสินะว่าต้ องทําอย่างไร? "

จู้ยนั สูดลมหายใจเข้ าลึกๆและกล่าวคําพูดออกมา "หากข้ าแพ้ ให้ กบั มัน หากมันสามารถฝึ กฝน
พัฒนาฝี มือได้ อย่างรวดเร็วจนเอาชนะข้ าได้ ในอีกหนึง่ เดือนข้ างหน้ า ข้ าจะหย่ากับหลายยุนเยีย
และขอโทษหลินหมิงด้ วยความจริ งใจ!"
"ฮึ เข้ าใจแล้ วก็ดี ข้ าหวังว่าเวลานันมั
้ นคงจะยังไม่สายเกินไป!
...
ณ ห้ องพักของศาลาจันทร์ กระจ่าง อาหารสุดหรูวางอยูต่ รงหน้ าของจู้ยนั แต่เขาไม่ได้ มีความ
สนใจอาหารเหล่านันแม่
้ แต่น้อย เขากําลังคิดบางสิ่งบางอย่างที่สําคัญอยู่
เมื่อเห็นจู้ยนั ไม่รับประทานอาหารหลานยุนเยียเองก็ไม่กล้ าที่จะสัมผัสกับตะเกียบที่วางอยูบ่ น
โต๊ ะ เธอรู้ดีวา่ สิ่งที่จ้ ยู นั กังวลอยูก่ ็คือการท้ าทายของหลินหมิง เธอไม่กล้ าที่จะเอ่ยปากพูดคําใด
ใดในสถานการณ์เช่นนี ้
"วันนี ้องค์ชายสิบเรี ยกข้ าไปเข้ าพบเพื่อหารื อเรื่ องบางอย่าง" จู้ยนั กล่าวขึ ้นหลังจากที่เงียบมา
เป็ นเวลานาน
"อืม..? หารื อ... เรื่ องอะไร?" หลานยุนเยียรู้สกึ ได้ ถงึ ความไม่พอใจของจู้ยนั เขาสามารถระเบิด
ความโกรธและอาละวาดได้ ทกุ เมื่อหากเขาไม่พอใจ เขาเป็ นเหมือนสัตว์ดรุ ้ ายที่ดเู หมือนจะสงบ
แต่แท้ จริ งแล้ วแผ่จิตสังหารออกมาอย่างรุนแรง
เมื่อเธอได้ มาอยูร่ ่วมกับจู้ยนั เธอรู้สกึ ได้ ถงึ ความกดดันที่มองไม่เห็น ทําให้ เธอรู้สกึ อึดอัดและไม่
สามารถหายใจได้ อย่างทัว่ ท้ อง มันต่างกับครัง้ ที่เธอเคยอยูร่ ่วมกับหลินหมิง แม้ หลินหมิงจะชอบ
ทําให้ เธออารมณ์เสียอยูบ่ อ่ ยๆ แต่เด็กหนุ่มคนนันก็ ้ จะมอบรอยยิ ้มให้ กบั เธออยูเ่ สมอ สิง่
เหล่านันทํ
้ าให้ เธอคิดถึงเขาอย่างไม่มีเหตุผล
แต่น่าเสียดายที่วนั เวลาเหล่านันไม่
้ มีทางที่จะย้ อนกลับมาได้ เธอได้ แต่เสียดายช่วงเวลาดีดี
เหล่านัน้ เธอคงไม่มีโอกาสที่จะได้ พบกับความรู้สกึ ดีดีเหล่านันอี
้ ก เหมือนกับว่าจู้ยนั เป็ นนก
อินทรี ที่จะเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมของเธออยูต่ ลอดเวลา จนเธอไม่ร้ ูสกึ เป็ นตัวเอง
“เขาบอกให้ ข้า... " จู้ยนั กล่าวพร้ อมกับมองไปที่หลานยุนเยีย "เขาบอกให้ ข้าหย่ากับเจ้ า... "
ในขณะนัน้ หลานยุนเยียแทบจะเป็ นลม เหมือนกับว่าใบหน้ าของจู้ยนั กําลังลอยออกไปช้ าๆ
ภาพตรงหน้ าก็เบลอไปหมด
แม้ วา่ เธอจะยังรักษาความบริ สทุ ธิ์ของร่างกายของเธอไว้ อยู่ แต่เธอก็ได้ หมันหมายกั
้ บจู้ยนั เอาไว้
แล้ ว และตามประเพณีของอาณาจักรลิขิตฟ้า หญิงสาวที่หย่าหลังจากหมันแล้ ้ วจะโดนดูถกู
เหยียดหยาม นี่เป็ นเรื่ องที่น่าอับอายมากสําหรับเธอ และแน่นอนว่ามันจะส่งผลร้ ายต่ออนาคต
ของเธอในหลายๆเรื่ อง หากจู้ยนั ตัดสินใจที่จะหย่ากับเธอ เธอจะไปขัดขืนเขาได้ อย่างไร?
เธอมองจู้ยนั ด้ วยสีหน้ าบิดเบี ้ยวและพยายามที่จะไม่ร้องไห้ แต่นํ ้าตาก็ยงั ไหลริ นออกมาจาก
ดวงตาของเธอ เธอรู้ดีวา่ คําพูดขององค์ชายสิบมีอํานาจเพียงไรต่อตระกูลจู้ มันไม่ได้ ตา่ งอะไร
กับคําสัง่ จากหัวหน้ าตระกูลเลย
"แล้ วนาย...ตอบรับ?" หลานยุนเยียเอ้ ยถ้ อยคําออกมาในขณะที่นํ ้าตาหยดลงมา
"ตอนนี ้ยัง" จู้ยนั ตอบไปตามความเป็ นจริ ง
"ทําไม...?" หลานยุนเยียถูกจิตใต้ สํานึกสัง่ ให้ กําตะเกียบเอาไว้ ในมือ แต่นิ ้วมือของเธอกลับดู
เป็ นสีขาวซีดเซียวเหมือนกับว่าไม่ได้ มีเลือดไหลเวียนอยู่
"เพราะหลินหมิง องค์ชายสิบต้ องการให้ หลินหมิงเข้ าร่วมกับฝ่ ายเรา แต่เพราะเรื่ องของข้ ากับ
เจ้ า... เรื่ องของข้ ากับเจ้ ากลายเป็ นอุปสรรคที่ขวางกันให้
้ หลินหมิงไม่เข้ าร่วมกับองค์ชายสิบ"
ในที่สดุ หลานยุนเยียก็ไม่สามารถทนต่อความปวดใจนี ้ได้ เธอร้ องไห้ ฟมู ฟายนํ ้าตาหลัง่ ไหล
ออกมาเหมือนฝนที่ตก เธอเป็ นเพียงผู้หญิงธรรมดา เธอมาเกี่ยวข้ องกับการแย่งชิงราชบัลลังก์
ของเหล่าองค์ชายและกลายมาเป็ นอุปสรรคของพวกเขาได้ อย่างไร...
ทําไมต้ องเกิดเรื่ องเช่นนี ้ขึ ้น?
จู้ยนั กล่าวปลอบใจเธอ "ข้ ายังมีเวลาอีกหนึง่ เดือน ข้ ามีโอกาสที่จะไม่ต้องทําเช่นนัน้ เจ้ ายังไม่
จําเป็ นต้ องสิ ้นหวัง ไม่มีใครรู้วา่ อนาคตจะเกิดอะไรขึ ้น... "
หลังจากที่กล่าวเช่นนัน้ จู้ยนั ก็ลกุ ขึ ้นค่อยๆผลักประตูออกไปอย่างช้ าๆและจากไป

หลานยุนเยียถูกทิ ้งอยูใ่ นห้ องนัน้ ดูเหมือนกับว่าจิตวิญญาณของเธอจะถูกทําร้ ายอย่างรุนแรง


แม้ วา่ จู้ยนั จะกล่าวให้ ความหวังเช่นนัน้ แต่เธอก็ไม่ได้ ไร้ เดียงสาพอที่จะปั กใจเชื่อทังหมด
้ หาก
เธอกลายเป็ นอุปสรรคในอนาคตของเขา เขาก็คงไม่ลงั เลที่จะเขี่ยเธอทิ ้ง!
ความคิดเหล่านี ้ทําให้ หลานยุนเยียเศร้ าเสียใจอย่างไม่เยเป็ นมาก่อน
ในที่สดุ เธอก็ลกุ ขึ ้นและเดินออกจากห้ องไป
ห้ องโถงใหญ่ในศาลาจันทร์ กระจ่างมีเสียงของเหล่าขุนนางกินเลี ้ยงกันเฮฮาสนัน่ หวัน่ ไหว แก้ ว
ไวน์ทองทําที่ชนกันไปมาอย่างสนุกสนาน แต่เหมือนกับว่าสิ่งเหล่านันเป็
้ นอะไรที่จะกัดกินชิต
ของเธอ...
ห้ องโถงอันหรูหราปูพรมกํามะหยี่ มีจานหยก ชามทอง และอาหารที่เลิศรสที่สดุ ในอาณาจักร…
เธอเคยปรารถนาที่จะมีชีวิตในที่แบบนี ้ แต่ในตอนนี ้สิ่งเหล่านันกลั
้ บทําให้ เธอรู้สกึ อ้ าวว้ าง
เธอเดินลงบันไดและออกจากความชัดเจนพาวิลเลี่ยน
ในคืนฤดูใบไม้ ร่วงอากาศเย็นสดชื่น มีลมพัดเบาๆและกลิ่นของหยาดนํ ้าค้ าง ชวนให้ ร้ ูสกึ ปล่าว
เปลี่ยว
ความจริ งแล้ วมันก็ไม่ใช่ความผิดของจู้ยนั ... หลานยุนเยียเข้ าใจเหตุผลที่เขากล่าวเช่นนันและ

ไม่ได้ ไม่พอใจอะไรในสิ่งที่เขาทํา
เธอเลือกจู้ยนั เธอเลือกเขาเพราะเขาจะนําพาความมัง่ คัง่ มาให้ เธอและวงศ์ตระกูลของเธอ
หากวันหนึง่ จู้ยนั สูญเสียอํานาจของเขาไป แม้ แต่ภรรยาของเขาก็คงจะทิ ้งเขาไป...
ถ้ าคนเราเลือกที่งดงามแล้ วล่ะก็ พวกเขาก็จะต้ องสามารถที่จะทนต่อความขมขื่นและความ
เจ็บปวดที่อยูเ่ บื ้องหลังความงดงามให้ ได้ แต่... ว่าเธอจะเข้ าใจสิ่งเหล่านัน้ ก็เหมือนจะสาย
เกินไปเสียแล้ ว

มันทําให้ เธอคิดถึงความสุขที่เธอเคยมี เธอเสียใจในการตัดสินใจของเธออย่างมาก ทังหมดนี


้ ้ไม่
ใช้ เพราะหลินหมิงกลายเป็ นคนมีชื่อเสียง แต่เพราะเธอเองต่างหากที่ไม่เคนตระหนักว่าความสุข
ที่แท้ จริ งคืออะไร
...
ผลจากการสร้ างความประหลาดใจให้ ใครหลายๆคนของหลินหมิง ทําให้ เหล่ามหาอํานาจ
ต้ องการตัวเขาไม่เข้ าร่วมด้ วย แต่ถงึ แม้ เขาจะประสบความสําเร็จมาถึงขนาดนี ้ มันก็ยงั ไม่ใช่
เรื่ องน่าพอใจสําหรับเขา
เขาต้ องมุง่ ความสนใจไปที่เวลาหนึง่ เดือนต่อจากนี ้ การท้ าทายกับจู้ยนั ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มี
ใครสามารถยืนยันได้ วา่ เขาจะเป็ นฝ่ ายชนะ เขาทําได้ เพียงฝึ กฝนให้ เต็มที่
จู้ยนั เป็ นศัตรูคนแรกที่เข้ ามาในชีวิตของเขา
ครัง้ หนึง่ เขากับจู้ยนั เคยอยูใ่ นระดับที่ตา่ งกันจนเทียบไม่ติด ต่อให้ ใช่เวลาทังชี
้ วิตก็คงจะไม่
สามารถไล่ตามได้ ทนั ทว่าเพียง6เดือนต่อจากวันนัน้ เขาก็สามารถเผชิญหน้ ากับจู้ยนั ในฐานะ
เดียวกัน
หลินหมิงรู้สกึ ว่าจู้ยนั เป็ นศัตรูที่พิเศษกว่าคนอื่นๆที่เขาเคยสู้ด้วย
จู้ยนั ก็เป็ นคนที่มีนิสยั เช่นเดียวกับหวังยานเฟิ ง พวกเขามีความภาคภูมิใจในตนเอง แม้ หวังยาน
เฟิ งจะเทียบกับจู้ยนั ไม่ได้ แต่เขาก็มีความมุง่ มัน่ ไม่ย้อท้ อแม้ วา่ จะแพ้ อีกกี่ครัง้ ขาก็ยงั ลุกขึ ้นสู้ จู้
ยันก็เปี่ ยมได้ กบั ดาบที่ยนั อยูใ่ นฝั ก มันเป็ นเรื่ องอยากที่จะรับมือหากเขาเต็มไปด้ วยความมุง่ มัน่
อย่างแรงกล้ า!
จู้ยนั ไม่ใช่ศตั รูที่จะก้ าวข้ ามไปได้ งา่ ยๆ เขาเป็ นถึงบุตรชายของนางสนม เขามีชีวิตและหัวใจที่
เข้ มแข็งและพยายามที่จะฝึ กฝนเพื่อให้ ได้ รับตําแหน่งที่ใหญ่โตเช่นเดียวกับในปั จจุบนั มีความ
เป็ นไปได้ สงู ที่เขาจะได้ เป็ นหัวหน้ าตระกูลคนต่อไป!

แม้ วา่ หลินหมิงจะมียาเม็ดไขกระดูกมังกรทองที่ถกู เพิ่มประสิทธิภาพด้ วยอาคมรักษาวิญญาณ


อยู่ แต่มนั ก็ไม่ได้ ทําให้ เขามัน่ ใจว่าจะสามารถเอาชนะจู้ยนั ได้ !
เดือนนี ้จู้ยนั จะต้ องฝึ กฝนอย่างเต็มที่เพื่อตอบรับการท้ าทายของเขาอย่างแน่นอน!
แต่ถงึ หลินหมิงจะรู้วา่ โอกาสชนะของเขาไม่ได้ มากมายอะไร แต่เขาก็ต้องการที่จะท้ าทายจู้ยนั
อยูด่ ี! นอกจากจู้ยนั จะเป็ นศัตรูของเขาอยูแ่ ล้ ว นี่ยงั เป็ นการท้ าทายตัวของเขาเองเพื่อสร้ างแรง
กดดันในการฝึ กฝน!
เดือนนี ้เอง เขาได้ รับทรัพยากรจากสํานักเพิ่มขึ ้น เขาสามารถที่จะฝึ กฝนในเจ็ดสถานที่ฝึกฝน
ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ ถงึ 5วันเต็ม และยังได้ รับยาเม็ดผสานวิญญาณอีก5เม็ด และหิน
พลังปราญอีก5ก้ อน
ยาเม็ดผสานวิญญาณนันไม่
้ ใช่สิ่งที่สําคัญอะไรนัก แต่หินพลังปราญคือสิ่งที่มีคา่ กับเขามันจะ
ช่วยให้ เขาสามารถฝึ กฝนได้ อย่างรวดเร็ วขึ ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลา5วันที่เขาฝึ กฝนอยูใ่ น
สถานที่ฝึกฝนของสํานักเจ็ดแก่นแท้
ห้ าวันเต็มก็เท่ากับ 60 ชัว่ โมง ค่าเฉลีย่ ในการฝึ กฝนในสถานที่ฝึกฝนก็คือวันละสองชัว่ โมง!
แม้ วา่ จะมีเวลาจํากัดเพียงวันละ2ชัว่ โมง แต่ผลของมันก็ถือว่าน่าพอใจ
ในช่วงเช้ า หลินหมิงยกหอกสายรุ้งขึ ้นและมุ้งหน้ าไปยังนํ ้าตกเยือกแข็ง
แต่ก่อนที่เขาจะได้ เข้ าไปในอาคมนํ ้าตกเยือกแข็ง ก็มีเสียงตะโกนดังมาจะท่ไกลๆ "ศิษย์น้อง
รอข้ าก่อน!"
"…?" หลินหมิงหยุดการย่างเท้ าของเขา และหันกลับไปทางต้ นเสียง เขาคือหลินหวู่
"ศิษย์น้องหลิน ข้ าขอแสดงความยินดีด้วย! เจ้ าคือบุคคลที่นําชื่อเสียงกลับมาให้ ตระกูลของ
เรา!" หลินหวูก่ ล่าวอย่างเป็ นสุข

ตระกูลหลินถือเป็ นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึง่ ในเมืองใบหม่อนสีเขียว แต่ก็ยงั ไม่สามารถ


เทียบเคียงกับตระกูลจู้ได้ เป็ นเพราะตระกูลจู้มีนางสนมและองค์ชายสิบบุตรชายของเธอทําให้
ตระกูลจู้ทรงอํานาจกว่าตระกูลใดใดในเมืองแห่งนี ้
มันหน้ าเหลือเชื่อที่ผ้ หู ญิงนางสนมคนเดียวจะสามารถทําได้ ถงึ เพียงนี ้ ตระกูลหลินต่างต้ องวิตก
กังวล พวกตระกูลหลินต่างก็ถกู ตระกูลจู้กดดันอย่างต่อเนื ้อง โดยเฉพาะจู้ยนั เขาเป็ นเหมือน
ภูเขายักษ์ ที่กดทับตระกูลหลินอยู่ วัยรุ่นที่แข็งแกร่งที่สดุ ในตระกูลหลินก็คอื หลินหวู่ เขาฝึ กฝน
ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ มานานสองปี แล้ ว แต่ก็ทําได้ เพียงย้ ายเข้ ามาในห้ องพสุธาเท่านัน้ และเขามี
อันดับที่ตํ่า ส่วนศิษย์น้องอีกสองคนก็ยงั อยูใ่ นห้ องมนุษย์อยูเ่ ลย ไม่มีวยั รุ่นคนใดในตระกูลหลิน
ที่จะสามารถต่อกรกับจู้ยนั ได้ นี ้คือสิ่งที่ทําให้ เหล่าผู้อาวุโสเป็ นกังวล
ข่าวของหลินหมิงในวันจัดอันดับนันได้
้ ถกู เผยแผร่ผ่านยันต์สอื่ สารต่อกันไปเป็ นทอดๆด้ วย
ถ้ อยคําที่กระชับได้ ใจความ "หลินหมิง เด็กหนุ่มที่เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ เพียง 34 วัน เขาได้
อันอับที่ 62 ในการจัดอันดับจากอาคมหมื่นอสูรสังหาร เขาได้ สิทธิในการท้ าทายศิษย์ในนิกาย
สวรรค์ และเขาเลือกที่จะท้ าทายจู้ยนั พร้ อมกับให้ หอกชี ้ไปยัว่ ยุอย่างเปิ ดเผย การต่อสู้ระหว่าง
พวกเขาจะเริ่มในอีกหนึง่ เดือน"
เมื่อข่าวเช่นนันถู
้ กส่งผ่านยันต์สื่อสารมายังหัวหน้ าตระกูลหลิน เขาถึงกับต้ องกระโดดตัวลอย
ขึ ้นมาจากเก้ าอี ้ และอุทานออกมาอย่างไม่อาจจะบังคับปากตัวเองได้ "โอ้ วพระเจ้ า!"

-----------------------------

MW#094 เจตจํานงแห่งการต่อสู้
...
...
...
เป็ นแรกกระตุ้นที่ดีที่ตรพกูลหลินได้ รับแรงกดดันจากตระกูลจู้ การที่หลินหมิงได้ ชี ้หอกท้ าทายจู้
ยันคือสิ่งที่สมควรทําแล้ ว เพื่อเป็ นการทวงความยุติธรรมให้ กบั ตระกูลหลิน
และเมื่อหัวหน้ าตระกูลหลินได้ ยินข่าวของหลินหมิง เขาก็ตดั สินใจที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่โดย
ไม่ลงั เลแม้ แต่น้อย “ในอีกหนึง่ เดือนต่อจากนี ้ จงใช้ ทรัพยากรและอุปกรณ์ทงหมดที
ั้ ่มีเพื่อ
สนับสนุนหลินหมิง เราจะต้ องทําให้ เขามีโอกาสที่จะเอาชนะจู้ยนั เพิ่มขึ ้นให้ มากที่สดุ เท่าที่พวก
เราจะช่วยได้ "
"นี่คือ... " หลินหมิงมองไปที่ขวดดินเผาและกล่องหยกเล็กๆในมือของหลินหวู่
"หัวหน้ าตระกูลหลินใช้ ยนั สื่อสารเพื่อติดต่อไปยังตระกูลสาขา เขาต้ องการสนับสนุนเจ้ าอย่าง
เต็มที่เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสที่จะเอาชนะจู้ยนั ให้ ได้ สงู ที่สดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้ "
หลินหมิงรับขวดดินเผาและกล่องหยกมา เขาเปิ ดขวดดินเผา มันมียาโอสถที่สง่ กลิน่ หอมจางๆดู
ละเอียดอ่อนและอ่อนโยน ไม่วา่ ใครได้ เห็นก็ต้องสัมผัสได้ ในทันที่วา่ มันลํ ้าค่าเพียงใด
"ยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูง?"
มันถูกปรุงขึ ้นมาจากวัตถุดิบต่างๆที่มีอายุไม่น้อยกว่า 300 ปี แทบจะเป็ นไปไม่ได้ ที่จะหาซื ้อมัน!
ยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงอาจไม่ได้ เพิ่มความแข็งแกร่งของนักสู้โดยตรง แต่มนั จะเพิ่ม
ความสามารถในการดูดซับพลังปราณและเพิ่มความเร็วในการฝึ กฝน ยาประเภทนี ้จะค่อยๆเพิ่ม
ความแข็งแกร่งให้ อย่างช้ าๆโดยไม่สง่ ผลข้ างเคียงใดใด
้ บเม็นในขวดนี ้อาจมากกว่า20000เหรี ยญทองเสียอีก พูดได้ อย่างเต็มปาก
มูลค่าของยาทังสิ
ว่าตระกูลหลินทุม่ เทในตัวหลินหมิงอย่างสุดหัวใจจริ งๆ พวกเขาไม่คิดที่จะเสียดายทรักยากร
ของเขาอีกแล้ ว
หลินหมิงมองที่ไปที่หลินหวูก่ ่อนจะเปิ ดหล่องหยก ภายในนันปรากฏศิ
้ ลาที่ดโู ปร่งใสดุจนํ ้าแข็ง
้ ่2!
มันคือหินพลังปราญขันที
และในกล่องหยกใบนันยั ้ ง30ก้ อน!
้ งมี หินเหล่านันถึ
้ ่2 จํานวน30ก้ อน มูลค่าของมันไม่ใช้ น้อยเลย!
หินพลังปราญขันที
เมื่อได้ เห็นขวดยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงและกล่องหินพลังประญขัน่ ที่สอง หลินหมิงเข้ าใจ
เขาได้ รับการยอมรับจากตระกูลหลักไปโดยปริ ยาย ซึง่ ก็หมายความว่าเขาจะกลายเป็ นทายาท
ของตระกูลหลัก
หลินหวูม่ องดูหลินหมินและกล่าวอย่างลําบากใจ "ศิษย์น้อง ข้ ารู้ดีวา่ มันอาจจะสายไปที่มา
สนับสนุนเจ้ าเอาตอนนี ้ ขอโทษด้ วยที่ไม่ได้ ให้ การสนับสนุนเจ้ าตังแต่
้ แรก มันอาจจะดูไม่
ยุตธิ รรมสําหรับเจ้ า แต่ทรัพยากรของตระกูลเราก็มีจํากัด... มีเด็กรุ้นใหม่มากเกินไปในตระกูล
ของเรา ถ้ าทุกคนได้ รับทรัพยากรเท่าเทียมกัน อาจจะไม่มีใครแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องให้
ตระกูลของเราอยูม่ าจนถึงในทุกวันนี ้ก็ได้ "
หลินหมิงเข้ าใจในสิ่งที่หลินหวูพ่ ดู ครอบครัวของเขาก็เป็ นเพียงตระกูลสาขาเล็กๆ มิใช่ทายาท
หลัก ตระกูลหลักจะปฏิบตั ิกบั คนตระกูลสาขาเหมือนลูกจ้ าง โดยการให้ มาดูแลธุรกิจของพวก
เขา
ถึงแม้ จะถูกสอนว่า เพียงแค่ตระกูลหลักยอมให้ เราใช้ ชื่อตระกูล ‘หลิน’ อยูก่ ็ถือเป็ นบุญคุณแล้ ว
แต่ในความเป็ นจริ งเขากลับไม่ได้ ร้ ูสกึ เช่นนัน้ แต่ทงนี
ั ้ ้พ่อแม่ของเขาก็มีความฝั นที่จะกลับไปเป็ น
คนตระกูลหลัก
สําหรับพ่อแม่ของเขาแล้ ว ชื่อเสียงก็จะมาจากลูก หลินหมิงคืออัจฉริ ยะที่หาได้ ยาก เขามี
คุณสมบัติมาพอที่จะนําพาชื่อเสียงและเกียรติยศกลับมาให้ ครอบครัวของเขา
หลินหมิงได้ รับการยอมรับพร้ อมกับยาผสานวิญญาณและหินพลังปราญ เขากล่าวกับหลินหวู่
"ฝากขอบคุณท่านหัวหน้ าตระกูลแทนข้ าด้ วย "
"ศิษย์น้องถ่อมตนมากไปแล้ ว พวกเขาขอให้ เจ้ ามีชยั " เมื่อเห็นหลินหมิงยอมรับของขวัญหลินหวู่
ก็ผ่อนคลายและปล่อยลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงสิ ้นปี ศิษย์ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ จะได้ กลับไปฉลองปี ใหม่ที่บ้านของพวกเขา
หลินหมิงเองก็ตดั สินใจที่จะให้ โอกาสกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ พวกเขาสมควรที่จะเกษี ยณอายุ
ออกมาพักผ่อนให้ สบายใจได้ แล้ ว
หลินหมิงอําลาหลินหวูแ่ ละมุง่ หน้ าเข้ าสูน่ ํ ้าตกเยือกแข็งอีกครัง้
"ไงหนุ่มน้ อยหลิน" ผู้ดแู ลนํ ้าตกเยือกแข็งยิ ้มให้ เขาอย่างเป็ นมิตร " การไปเจ้ าไปถึงอันดับที่ 62
ได้ ด้วยอายุเท่านี ้จะต้ องถูกบันถึงในประวัติศาสตร์ อย่างแน่นอน! "
หลินหมิงยิ ้มรับคําชมและก็ไม่ได้ ตอบอะไร สองสามวันมานี ้เขาได้ รับคําชมมากเกินไปจนชินเสีย
แล้ ว
"เจ้ าต้ องการไปยังระดับที่ยากขึ ้นอีกหรื อไม่?"
"แน่นอน ส่งข้ าไประดับเก้ า!"
ระดับความยากลําบากที่สงู ที่สดุ คือระดับที่สิบสอง ในตอนนี ้ก็มีศิษย์เพียงคนเดียวที่สามารถ
เข้ าไปฝึ กฝนในนันได้
้ เขาก็คือหลิงเซ็น
ด้ วยระยะเวลาเพียงแค่หนึง่ เดือนหลินหมิงได้ ยกระดับในการฝึ กที่นํ ้าตกเยือกแข็งจากระดับเจ็ด
ไปสูร่ ะดับเก้ า นี่ถือเป็ นเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง แต่หากได้ ร้ ูถงึ อันดับของเขามันก็เป็ นเรื่ องที่
สมเหตุสมผล
"ตกลง" ผู้ดแู ลกล่าว และทําตามคําขอของหลินหมิง
หลินหมิงกลืนยาเม็ดผสานวิญญาณที่จะช่วยเร่งการฝึ กฝนเข้ าไป ก่อนจะยกหอกทะรวงสายรุ้ง
ออกมา และกระโจนลงไปในมิตินํ ้าตกเยือกแข็ง
ทันทีที่เขาเข้ ามาในมิตินํ ้าตกเยือกแข็ง ความหนาวสุดขัว่ หัวใจราวกลับเข็มเล็กๆที่ทิ่มแทง
กระดูกก็ปรากฏขึ ้นตามร่างกาย ระดับเก้ านี ้ยากขึ ้นอย่างเห็นได้ ชดั !
ทรัพยากรจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ทังยาเม็
้ ดผสานวิญญาณและหินพลังปราณไม่ใช้ สิ่งที่สําคัญ
เท่าไรนัก ช่วงเวลาที่ได้ ฝึกฝนในสถานที่เหล่านี ้ต่างหากที่เป็ นสิ่งสําคัญจริ งๆ แต่ละวินาทีที่ได้
ฝึ กฝนในที่แห่งนี ้มีคา่ ยิ่งนัก!
เขามีเวลาเพียงสองชัว่ โมงในแต่ละวัน หลินหมิงยืนอยูบ่ นก้ อนหินก้ อนใหญ่ใต้ นํ ้าตก เขายังจับ
หอกทะลวงยาวรุ้งเอาไว้ อย่างมัน่ คงแม้ จะอยูใ่ นนํ ้าตกเยือกแข็งที่มีความยากระดับเก้ า
แต่ภายใต้ สภาวะที่ยากลําบากนี ้มันก็ไม่ใช้ เรื่ องง่ายๆเลยที่จะยืนถือหอกขนาด820จิ๋นเอาไว้ ใต้
นํ ้าตกเช่นนี ้!
หลินหมิงจําเป็ นต้ องดูดซับพลังปราญจากหินพลังปราญเพื่อสนับสนุนการฝึ กฝนในสภาวะนี ้
ของเขา
"ว้ าว? ความเร็วในการดูดซับพลังปราญจากหินพลังปราญเพิ่มขึ ้นอีก 50%!" หลินหมิงถึงกับ
ต้ องสะดุ้ง แต่เขาก็เข้ าใจทันทีวา่ นี่เป็ นผลจากยาเม็ดผสานวิญญาณ
ผลของยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงที่เขากินเข้ าไปช่างน่าตื่นตาตื่นใจและให้ ประโยชน์ที่น่า
เหลือเชื่อ!
การได้ ใช้ หินพลังปราณขันที
้ ่สองและยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงเช่นนี ้ ไม่รวยจริ งๆก็คงไม่มี
โอกาสได้ ทํา ลําพังตัวเขาคนเดียวคงไม่สามารถที่จะหาทรัพยากรที่ลํ ้าค่าเช่นนี ้มาได้ !

เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะกลันลมหายใจในสภาวะนี
้ ้ได้ ซกั ครึ่งชัว่ โมง แต่ในตอนนี ้เขาสามารถทําได้
นานว่านันอย่
้ างน่าเหลือเชื่อด้ วยการสนับสนุนจากทรัพยากรทังสอง ้
แม้ วา่ หลินหมิงจะรู้สกึ ถึงความเจ็มปวดแต่เขาก็ยงั คงทนยืนฝึ กฝนเช่นนันต่
้ อไป
มีข้อดีของการฝึ กฝนในลักษณะนี ้อยูม่ ากมาย ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มทักษะในการใช้ หอกของ
เขา มันยังช่วยให้ เขาสามารถที่จะควบคุมการผสานกันของพลังปราญหน่วยเล็กๆได้ ดียิ่งขึ ้นอีก
ด้ วย!
ร่างกายของเขาสามารถดูดซับพลังปราญได้ อย่างอิสระและต่อเนื ้อง เพื่อต่อกรกับความหนาว
เย็นที่จโู่ จมเข้ ามาอย่างรุนแรง ของเขาแต่ละดูดซึมได้ อย่างอิสระสาระสําคัญที่แท้ จริ ง ร่างกาย
ของเขาอย่างต่อเนื่อง resisted กับเย็นอย่างรุนแรง เมื่อเหล่านักสู้ได้ ฝึกฝนการต่อสู้ มัน
หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่มาถึงจุดตีบตัน แต่ตราบใดที่ร่างกายของพวกเขาเป็ นอิสระในการดูดซับ
พลังปราญ เรื่ องจุดตีบตันในการฝึ กฝนก็จะไม่เกิดขึ ้น
หลินหมิงหายใจออกมา นี่ก็เป็ นเวลากว่าครึ่งชัว่ โมงแล้ ว!
เพราะความหนาวเย็นที่สามารถสังหารผู้คนได้ เช่นนี ้ เหล่านักสู้ที่จะมาฝึ กในที่แห่งนี ้จะต้ องให้
พลังปราญเพื่อปกป้องร่างกายและอวัยวะภายในของพวกเขา รวมถึงรักษาระบบเลือกให้
ไหลเวียนได้ ตามปกติ
ด้ วยการยืนต่อสู้กบั ความหนาวเย็นที่ทิ่มแทงเข้ ามาเป็ นเวลานาน ทําให้ ร้ ูสกึ เหมือนว่าสติของ
เขากําลังหลุดลอยออกไปอย่างช้ าๆ เสียงนํ ้าตกที่ตกลงมากระทบผิวนํ ้าเริ่ มเลือนหายไปจากหู
ของเขา เขารู้สกึ ได้ วา่ เขากําลังอยูใ่ นพื ้อฃนที่ที่เงียบสงบ และรู้สกึ ถึงการเต้ นของหัวใจได้ อย่าง
ชัดเจนมันช้ าราวกับว่ากําลังถูกแช่แข็ง
ในขณะที่หลินหมิงรู้สกึ ว่าจิตวิญญาณของเขากําลังจะหลุดออกจากร่าง แม้ เขาไม่มีสิตพอที่จะ
สามารถควบคุมการไหลเวียนของพลังปราญได้ แต่มนั ก็ยงั โคจรไปตามสัญชาตญาณของมัน
ซึง่ การโคจรพลังปราญด้ วยสัญชาตญาณในครัง้ นี ้ สมบูรณ์กว่าที่หลินหมิงทําได้ เสียอีก!
สภาวะเช่นนี ้เป็ นรูปแบบพื ้นฐานของการเข้ าสู่ ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’

--------------------------

MW#095 ผลจากจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
...
...
...
หลินหมิงไม่เคยรู้มาก่อน นี ้คือรูปแบบพื ้นฐานของการเข้ าสู้สภาวะ ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’
้ อ?!
อย่างนันหรื
จากครัง้ ก่อนที่เข้ าบังเอิญได้ เข้ าสู้สภาวะนี ้ทําให้ เขาสามารถฝึ กฝนขันแรกของ
้ ‘ปฐมบทแห่ง
ความโกลาหล’ ได้ สําเร็จ แต่หลังจากนันหนลิ ้ งหมิงก็ไม่มีโอกาศได้ เข้ าสู้สภาวะนี ้อีก ในครัง้ นี ้มัน
อาจจะเป็ นเพราะการสนันสนุนของยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงกับหินพลังปราณขันที ้ ่2และ
สถานที่ฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมแห่งนี ้ จึงทําให้ เขาได้ มีโอกาสเข้ าสู้สภาวะแบบนี ้อีกครัง้
แม้ วา่ เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของหลินหมิงจะไม่ได้ สมบูรณ์แบบและมันก็ไม่ได้ ไปถึงขัน้ ‘เห็นแจ้ ง
ไร้ จิต’ ตามที่ตํานานได้ กล่าวเอาไว้ แต่มนั ก็ยงั ให้ ประโยชน์กบั เขาไม่น้อย ภายใต้ สภาวะนี ้การ
ฝึ กฝนของเขาจะก้ าวหน้ าไปอย่างรวดเร็ ว
จิตใจของหลินหมิงนันเข้
้ มแข็งและมุง่ มัน่ มากกว่านักสู้ทวั่ ๆไปอย่างไม่น่าเชื่อ หากเขายักมี
พัฒนาการที่ก้าวกระโดดเช่นนี ้ เป็ นไปได้ วา่ ในอนาคตเขาจะสามารถเข้ าออกสภาวะเช่นนี ้ได้ ดงั
ใจปรารถนา...
หลินหมิงอยูใ่ นสภาวะเช่นนี ้ในนํ ้าตกเยือกแข็งจนครบกําหนดเวลาสองชัว่ โมง นี่เป็ นเวลาที่เขา
จะต้ องกลับมาสู้ตวั ตนที่แท้ จริ งของเขา!
ซี่ดง(ศิษย์พี่ที่เรี ยบจบไปแล้ วและเป็ นผู้ดแู ลนํ ้าตกเยือกแข็ง) เห็นว่าหลินหมิงไม่ได้ ออกมาตาม
เวลาที่กําหนด เขาจึงต้ องเขาไปตามหลินหมิงตามหน้ าที่ เมื่อเขาเข้ ามาแล้ ว เขาก็พบกับหลินห
มิงที่กําลังนัง่ อยูอ่ ย่างสงบ ใต้ นํ ้าตกที่โหมกระหนํ่า ลมหายใจของเขาแทบจะหมดสิ ้นเหมือนคน
ที่ตยไปแล้ ว
ทันทีที่ซี่ดงเห็นหลินหมิง ด้ วยประสบการที่ฝึกฝนในสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาอย่างยาวนาน เขารู้วา่
หลินหมิงจะต้ องก้ าวไปอยูใ่ นขันที
้ ่สงู มากอย่างแน่นอน และการพัฒนาการของเขาก็จะก้ าวหน้ า
ไปได้ อย่างรวดเร็ว!
" มีบางอย่างผิดปกติ... ทําไมลมหายใจของเขาแผ่วเบาเช่นนี ้... " ด้ วยสายตาที่คบกริ บของซี ้ดง
สามารถสังเกตุได้ ถงึ พลังปราญที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของหลินหมิง หากปราศจากมัน
แล้ วล่ะก็ คงจะหมายความว่าหลินหมิงเป็ นเพียงร่างที่ไร้ วิญญาณที่แข็งตายไปแล้ ว”
"นี่มนั ... เจตจํานงแห่งการต่อสู้?" ซี่ดงจําบันทึกเกี่ยวกับเจตจํานงแห่งการต่อสู้ได้ หากใคร
สามารถเข้ าสู้สภาวะเช่นนี ้ได้ การฝึ กฝนของพวกเขาจะก้ าวหน้ าอย่างน่าเหลือเชื่อในวันนัน! ้
หลิงเซ็นเองก็เข้ าใจถึงหลักการของเจตจํานงแห่งการต่อสู้ เขาเป็ นพวกที่มีจิตวิญญาณเข้ มแข็ง
กว่าคนปกติ
สิ่งที่ซี่ดงเห็นอยูต่ รงหน้ า ทําให้ เขาไม่แปลกใจเกี่ยวกับพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของหลินหมิง
้ ่จะต่อสู้ เป็ นที่ร้ ูกนั ดีวา่ ผู้ที่จะเข้ าสู้สภาวะ’เจตจํานงแห่งการต่อสู้’
เลย หลินหมิงมีความมุง่ มันที
จะต้ องมีจิตวิญญาณและหัวใจที่เข้ มแข็ง แต่ก็ใช้ วา่ ผู้ที่มีจิตวิญญาณและหัวใจที่เข้ มแข็งทุกคน
จะสามารถเข้ าสู้สภาวะนี ้ได้
"จะพูดง่ายๆก็คือ นอกจากจะต้ องมีจิตวิญญาณที่เข้ มแข็งแล้ วยังต้ องมีโชคอีกด้ วยถึงจะมี
โอกาสเช่นนี ้! "
ขณะนี ้เหล่าศิษย์คนอื่นได้ เดินทางมาถึงด้ านหน้ าของอาคมมิตินํ ้าตกเยือกแข็งแล้ ว "ท่านผู้
อาวุโส ช่วยเปิ ดมิติอาคมนํ ้าตกเยือกแข็งให้ พวกเราเข้ าไปด้ วย ข้ าต้ องการฝึ กฝนในระดับควา
ยากที่ระดับเจ็ด พัฒนาการของข้ าเป็ นไปตามที่คาดหวังในเร็ วๆนี ้ข้ าจะท้ าทายในระดับที่สงู ขึ ้น "
"..." แม้ วา่ ซี่ดงจะเป็ นผู้รับผิดชอบเรื่ องเราฝึ กฝนในสถานที่แห่งนี ้ และทําหน้ าที่ต้องรับเหล่าศิษย์
ที่จะมาฝึ กฝน แต่ดเู หมือนว่าในตอนนี ้เขาจะไม่เต็มใจเท่าไร "อาคมยังไม่พร้ อม... "
"อะไรนะ?" ซันฉิงขมวดคิ ้วเล็กน้ อย เวลาที่จะได้ ฝึกฝนในสถานที่เห็นนี ้นันมี
้ กว่ายิ่งนัก เพียงแค่
เสียไปหนึง่ ถึงสองนาทีก็จะเป็ นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ งานของซี ้ดงคือยํ ้าให้ ศิษย์ออกมาตรง
เวลา
"ท่านผู้อาวุโส ท่านกําลังทําให้ พวกเราเสียเวลาที่มีคา่ ในการฝึ กฝนไป? ใครอยูภ่ ายในนัน?"

ซันฉิงถามด้ วยความไม่พอใจ เห็นได้ ชดั ว่าซี่ดงกําลังถ่วงเวลาให้ ใครบางคนได้ ฝึกอยูใ่ นนันต่
้ อ
แต่ถงึ กระนันซี
้ ่ดงก็เป็ นผู้คมุ ของที่นี่ หากทําให้ เขาโกรธเคืองคงจะมีปัญหาตามมาในอนาคต
"ผู้ที่กําลังฝึ กฝน... ก็คือหลินหมิง" ซี่ดงกล่าว
“หลิ… หลินหมิง?!” เมื่อได้ ยินชื่อนันซั
้ นฉิงถึงกับเบิกตากว้ างและกลืนนํ ้าลายดังเฮือก เพราะ
หลินหมิงได้ กลายเป็ ฯคนมีชื่อเสียงไปทัว่ ในอาณาจักรแห่งนี ้ เขาเป็ นมนุษย์ผ้ เู อาชนะลิขิตสวรรค์
ได้ ชื่อของเขาไม่วา่ ใครในอาณาจักรนี ้ก็ต้องรู้จกั เขามีชื่อเสียงมากว่าหลิงเซ็นและทาคุเสียอีก!
และหากเขาสามารถเอาชนะจู้ยนั ได้ แล้ วละก็ คงไม่มีศิษย์คนใดกล้ าไปขัดใจเขาอย่างแน่นอน
ซันฉิงรี บซ่อนความไม่พอใจที่เคยมีก่อนหน้ านี ้ "อ่อ เป็ นหลินหมิงที่มีชื่อเสียงคนนันอย่
้ างนันเอง

หรอกรึ ฮ่าฮ่า... แล้ วเขาจะออกมาเมื่อไหร?" แม้ วา่ เขาจะไม่ได้ โกรธเคืองอะไร แต่เขาก็ยงั แอบ
เสียดายเวลาในการฝึ กฝนของพวกเขาอยู่
ซี่ดงกล่าว "ข้ าเองก็ยงั ไม่แน่ใจ เท่าที่ข้าดูหลินหมิงได้ ค้นพบเส้ นทางในการฝึ กฝนที่พิเศษ เขาจึง
ยังไม่สามารถที่จะออกมาได้ ในตอนนี ้ ข้ าต้ องขอแสดงความเสียใจด้ วย เมื่อเขากลับออกมาข้ า
จะขอให้ เขาชดเชยเวลาของเจ้ าให้ เอง"
ซี่ดงไม่ได้ พดู ถึงเรื่ องของ ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ มันไม่ใช่เรื่ องที่เขาจะตัดสินใจว่าควรจะ
เผยแพร่ออกไปหรื อไม่
เมื่อได้ ยินเช่นนันซั
้ นฉิงก็ได้ แต่พยักหน้ าตกลง แน่นอนว่าไม่วา่ ใครก็คงไม่พอใจที่ถกู เลื่อนเวลา
เช่นนี ้ แต่เนื ้องจากผู้ที่ทําเช่นนันคื
้ อหลินหมิง เขาจึงได้ แต่ทําใจยอมรับ เขาคิดอะไรชัว่ ครู่และ
กล่าว "ในครัง้ นี ้ทีหลินหมิงยืมเวลาของข้ าไป ถ้ าหากเขาจําชื่อของข้ าได้ ก็จะเป็ นอะไรที่ยอด
เยี่ยมมาก "
ซันฉิงเองก็อยากจะประจบหลินหมิง การให้ หลินหมิงยืมเวลาไป หากให้ หลินหมิงได้ ร้ ูจกั เขาก็จะ
เป็ นเกียรติไม่น้อย
"ฮ่าๆ แน่นอน" ซี่ดงกล่าว เขาเข้ าใจความคิดของซันฉิง
ด้ วยเหตุการณ์ดงั กล่าว ทําให้ ในวันนี ้หลินหมิงได้ ฝึกฝนในสภาวะ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ใน
นํ ้าตกเยือกแข็งนานถึง4ชัว่ โมง!
เมื่อเขารู้สกึ ตัวขึ ้น เขาก็ต้องประหลาดใจ เขาฝึ กฝนมานานค่ไหนแล้ ว?
ในขณะที่เขาเดินออกมาจากนํ ้าตกเยือกแข็ง ดวงอาทิตย์อยูท่ างทิศตะวันตกแล้ ว นี่เป็ นช่วงบ่าย
้ น้อยกว่า3-4ชัวโมง!
แล้ วสินะ? อย่างน้ อยเข้ าก็ต้องฝึ กฝนอยูใ่ นนันไม่ ้
"ในที่สดุ เขาก็ออกมา…" ซี่ดงรี บวิ่งไปทักทายหลินหมิง "ข้ าเห็นเจ้ ากําลังฝึ กฝนอยูใ่ นขันตอนที
้ ่
สําคัญ จึงไม่ได้ เข้ าไปรบกวน ข้ าคาดว่าเจ้ าคงใช้ เวลาในนันราวๆ3ชั
้ ว่ โมงครัง้ "
"สามชัว่ โมงครึ่ง? แล้ วข้ าไปล่วงเกินเวลาของใครหรื อป่ าว?"
"ใช่แล้ ว เจ้ าจะต้ องใช้ คือเวลาให้ กบั เขา"
“ข้ าต้ องขอขอบคุณท่านผู้ดแู ลที่ช่วยเหลือ" หลินหมิงไม่คิดว่าเขาจะมีโอกาสที่ดีเช่นนี ้ ความ
แข็งแกร่งเป็ นทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้ าผู้ใดแข็งแกร่งผู้นนก็
ั ้ จะมีสทิ ธชี ้ขาด หากใครอ่อนแอแล้ วล่ะก็คง
ทําได้ แต่ฝืนใจยอมรับชะตากรรม

"ฮ่าๆ ก็แค่เรื่องเล็กน้ อย ว่าแต่ศิษย์น้องหลิน ในช่วงเวลานัน้ เจ้ า… กําลังฝึ กฝนอะไรแปลกๆ ลม


หายใจของเจ้ าแทบจะหยุดลงไปแล้ ว "
"อืม…? เป็ นอย่างนันรึ
้ ข้ าไม่ได้ มีความรู้สกึ ใดใดเลย" หลินหมิงไม่ได้ สนใจสิ่งอื่นนอกจากการ
ฝึ กฝนของตนเองเลยในช่วงเวลานัน้
ซี่ดงลังเลเล็กน้ อยก่อนที่จะกล่าว "ศิษย์น้องหลิน ถ้ าข้ าคาดการณ์ไม่ผิด นัน่ คือ ‘เจตจําจงแห่ง
การต่อสู้’ อย่างนันสิ
้ นะ?"
"เจตจํานงแห่งการต่อสู้?" หลินหมิงตะลึงเล็กน้ อย นี่เป็ นครัง้ แรกที่เขาเคยได้ ยินชื่อของสภาวะ
นัน้
“ใช่แล้ ว ข้ าคิดว่าเป็ นเช่นนัน้ ข้ าเองก็ไม่ได้ ร้ ูเรื่ องเหล่านันมากเท่
้ าไร มีเพียงนักสู้ที่มีจิตวิญญาณ
แกร่งกล้ าเท่านันที
้ ่จะได้ สมั ผัสและทําความเข้ าใจมัน ศิษย์น้องหลินมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง
มุง่ มัน่ เช่นเดียวกันกับศิษย์น้องหลิง(หลิงเซ็น) เขาเข้ าใจ‘เจตจํานวนแห่งการต่อสู้’เป็ นอย่างดี
ส่งผลให้ เขาแข็งแกร่งและทรงพลังอย่างมาก! "
"อืม..? หลิงเซ็นสามารถที่จะเข้ าใจมันได้ แล้ วอย่างนันสิ้ นะ" ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผ้ ทู ี่มีการฝึ กฝน
เพียงขันที
้ ่สี่อย่างหลิงเซ็นจะได้ เป็ นอันดับหนึง่ ของสํานกเจ็ดแก่นแท้ มาเป็ นเวลานาน แม้ แต่ผ้ ทู ี่
ฝึ กฝนไปจนถึงขันที้ ่ห้าแล้ วอย่างซางกวนยูก่ ็ยงั ไม่สามารถที่จะเอาชนะเขาได้ !
เดิมทีหลินหมิงรู้เพียงแค่วา่ จิตใจที่เข้ มแข็งจะส่งผลดีตอ่ การฝึ กฝน แต่ในตอนนี ้เขาได้ ร้ ูอะไรมาก
ขึ ้น จิตใจที่เข้ มแข็งจะสามารถช่วยให้ เข้ าใจ ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ได้ สิ่งเหล่านี ้ส่งผลต่อ
พัฒนาการในการฝึ กฝนของเขาอย่างมาก!

MW#096 อาจารย์ฮ่องซี

...

...

...

"ท่านศิษย์พี่ผ้ ดู แู ล ท่านมีข้อมูลอะไรเกี่ยวการสภาวะนันหรื
้ อไม่?" หลินหมิงไม่ร้ ูอะไรเกี่ยวกับ
‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ เลย เขาจึงเอ่ยปากถามเผื่อว่าจะได้ ความรู้มากขึ ้น

"ข้ าเองก็ไม่ร้ ูอะไรมากนัก ข้ ารู้เพียงแค่วา่ หลิงเซ็นเรี ยกมันว่า ‘อาชูร่า’ มันคือสภาวะที่จิต


วิญญาณจะเพ่งสมาธิไปที่การเข่นฆ่า เขาสามารถเขาสู้สภาวะเช่นนันได้ ้ ดงั่ ใจปรารถนา ซึง่ เป็ น
สาเหตุที่ทําให้ การฝึ กฝนของเขาก้ าวหน้ าไปอย่างรวดเร็ ว อันดับของเขาสูงกว่าทาคุ ทังๆที ้ ่ระดับ
ขันการฝึ
้ กฝนตํ่ากว่า เขามีการฝึ กฝนเพียงขันที ้ ่สี่แต่สามารถเอาชนะทาคุที่มีการฝึ กฝนในขันที ้ ่
ห้ าได้ "
เป็ นอย่างนันเองรึ
้ ... เป็ นไปได้ วา่ ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ จะมีอยูห่ ลายประเภทขึ ้นอยูก่ บั แต่ละ
บุคคลที่สามารถเข้ าถึงมันได้ หลิงหมิงต้ องการที่จะรู้วา่ ‘อิธีเรี ยล(จิตบริ สทุ ธิ์)’ เจตจํานงแห่ง
การต่อสู้ของเขา จะแตกต่างกับ ‘อาชูร่า(ฆ่าฟั น)’ เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของหลิงเซ็นอย่างไร?

เมื่อเขากลับไปยังที่พกั ของเขา เขารู้สกึ ราวกับว่าทัว่ ร่างของเขาเป็ นเพียงแสงอนุเล็กๆ การ


ฝึ กฝนตลอดระยะเวลา3ชัว่ โมงนันไม่
้ ได้ ทําให้ เขารู้สกึ เหนื่อนเลยแม้ แต่น้อย และในตอนนี ้ที่เขา
แบกหอกทะลวงสายรุ้งไว้ บนหลัง เขาแทบจะไม่ร้ ูสกึ ถึงนํ ้าหนักขนาด820จิ๋นของมันเลย

"ในช่วงเวลาสามชัว่ โมงครึ่งที่ขํ ้ากําลังฝึ กฝน ข้ ายังไม่สามารถทําความเข้ าใจ ‘ปฐมบทแห่ง


ความโกลาหล’ ในขันที้ ่สองได้ หากข้ าสามารถที่จะเข้ าสู้ ‘อิธีเรี ยล(จิตบริ สทุ ธิ์)’ ได้ อีกซักครัง้
ข้ าก็คงจะสามารถฝึ กฝนมันจนสําเร็จได้ เมื่อข้ าฝึ ก‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ขันที้ ่สองได้
สําเร็ จ ความแข็งแกร่งของข้ าจะเพื่มสูงขึ ้นอย่างก้ าวกระโดด ในเวลานันข้
้ าอาจจะตามหล็งเซ็น
อยูอ่ ีกแค่ไม่กี่ก้าว! "

" 'จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล' มันคือแกนหลักในความแข็งแกร่งของข้ า ข้ าอยากจะรู้


เหลือเกินว่าแกนหลักในความแข็งแกร่งของหลิงเซ็นคืออะไร? "

"หากหลิงเซ็นสามารถที่จะเข้ าสู‘่ อาชูร่า’ในเวลาที่เขาต้ องการได้ ก็เป็ นไปได้ ที่ข้าจะเข้ าสู่ ‘อิธี


เรี ยล’ ในเวลาที่ข้าต้ องการใช่หรื อไม่?"

...

ขณะที่หลินหมิงกําลังฝึ กฝนอยู่ จู้ยนั ก็ทมุ่ เทกับการฝึ กฝนของเขาอย่างเต็มที่เช่นกัน ช่วงเวลา1


เดือนนี ้ ถือเป็ นช่วงเวลาที่สําคัญมากของเขา!
เขาจะแพ้ ไม่ได้ เด็ดขาด!

จู้ยนั ถือดาบยาวและกําลังฝึ กฝนอยูอ่ ย่างมุง่ มัน่ ในหนึง่ ในเจ็ดสถานที่ฝึกฝนของสํานัดเจ็ดแก่น


แท้ สถานที่ฝึกฝนที่เข้ าเลือกก็คือ หอทหารทองคํา!

ในแท่นอาคมหมื่นอสูรสังหาร ศัตรูที่ตอ่ สู้ด้วยเป็ นเพียงภาพลวงตา แต่ในหอทหารทองคําแห่งนี ้


ศัตรูจะเป็ นร่างจริ ง ทังยั
้ งถูกห่อหุ้มด้ วยพลังปราณที่แข็งแกร่ง!

หากประมาทแม้ แต่น้อยพวกเขาจะต้ องได้ รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน!

แม้ อาคมมิติหอทหารทองคําจะสามารถยกเลิกการจู่โจมของศัตรูในมิติแห่งนันได้ ้ โดยอัตโนมัติ


หากเกิดสถานการณ์ที่เสีย่ งต่อชีวิตของเหล่าศิษย์ แต่มนั ก็ไม่ใช่เรื่ องที่ไว้ ใจได้ นกั เพราะใน
ประวัติศาสตร์ มีศิษย์ที่พลาดและถูกฆ่าตายในนี ้ก่อนที่หอทหารทองคําจะประเมินว่าเสี่ยงต่อ
ชีวิตของผู้ฝึกฝน และหยุดการโจมตีอยูไ่ ม่น้อย!

แน่นอนว่าผู้ที่เสียชีวิตก็ยงั ถือเป็ นกลุม่ คนส่วนน้ อย เห็นได้ ชดั ว่ามิติหอทหารทองคํานันไม่


้ ได้ มี
ประสิทธิภาพมากพอจะเทียบกับ ‘อาชูร่า’ ของหลิงเซ็นได้ เลย

"จู้ยนั มันบ้ าระหํ่าเกินไปแล้ ว! เขาฝึ กฝนในความยากระดับที่สิบอยูเ่ ป็ นเวลานานอย่างหักโหม!


ไม่มีอะไรยืนยันว่าตอนนี ้เขายังมีชีวิตอยูห่ รื อไม่! " (เออดี ตายๆไปซะ 555)

"เจ้ าหลินหมิงนันต้
้ องการที่จะเอาชนะจู้ยนั ในหนึง่ เดือนจริ งๆหรื อนี ้ ข้ าคิดว่ามันเป็ นเรื่ องที่
เป็ นไปไม่ได้ ! "
"อืม แม้ หลินหมิงจะเป็ นอัจฉริ ยะที่เก่งกาจ แต่จ้ ยู นั นันแข็
้ งแกร่งเกินไปสําหรับเขา ข้ าคิดว่าจู้ยนั
จะเป็ นฝ่ ายชนะ ในความยากระดับสิบที่เขากําลังฝึ กฝนอยูต่ อนนี ้ หากข้ าเข้ าไปก็คงจะถูกฆ่า
ในทันที! "

...

เวลาผ่านไปทีละวันๆ แต่เรื่ องการปะทะกันระหว่างหลินหมิงกับจู้ยนั นอกจากจะไม่คอ่ ยๆเงียบ


หายไปเหมือนข่าวทัว่ ๆไปแล้ ว มันยังทวีความรุนแรงและแพร่กระจายไปทัว่ ราชอาณาจักรอีก
ด้ วย

ในช่วงเวลานี ้เองก็มีปรากฏการณ์ที่น่าแปลกในเกิดขึ ้นในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ตําราพื ้นฐานวิชาทัง้


สองที่หลินหมิงเคยยืมไปฝึ กฝน ซึง่ ก่อนหน้ านี ้ไม่มีใครเลยที่คิดจะสนใจมัน ในตอนนี ้กลับได้ รับ
ความสนใจจากเหล่าศิษย์อย่างต่อเนื ้อง มีศิษย์หลายคนที่เอาหลินหมิงเป็ นแบบอย่างและเลือก
ที่จะใช้ อาวุธหอกตามเขา

ั ้ ้แผ่นหยก ‘หมัดสลายกระดูก’ ก็ยงั ไม่มีใครสนใจและยังถูกทิ ้งไว้ ในกองตําราไม่สมบูรณ์


แต่ทงนี
ตามเดิม

เป็ นเพราะพวกเขายังไม่เคยเห็นความสามารถของหมัดสลายกระดูกของหลินหมิง ซึง่ ตอนที่


หลินหมิงใช้ มนั มันก็ดเู หมือนการปล่อยหมัดธรรมดาๆ ต่างกับทักษะการใช้ หอกและทักษะการ
เคลื่อนไหว ที่สามารถสังเกตเห็นได้ อย่างชัดเจน

หมัดสลายกระดูกถือเป็ นวรยุทธขันสู ู หายไปกว่า70% แทบจะไม่มี


้ ง แต่เนื ้อหาของมันก็สญ
ทางที่จะฝึ กฝนได้ สําเร็จ

มีศิษย์หน้ าใหม่ที่นบั ถือบูชาเอาหลินหมิงเป็ นต้ นแบบอยูไ่ ม่น้อย พวกเขาต่างเลือกฝึ กฝนวิชา


และเลือกใช้ อาวุธตามหลินหมิง แต่ที่หลินหมิงแข็งแกร่งก็ไม่ใช้ เพราะสิ่งเหล่านัน้ พวกเขาคิดว่า
้ อ?
เมื่อทําตามหลินหมิงแล้ วจะแข็งแกร่งเหมือนหลินหมิงได้ จริ งๆอย่างนันหรื

...

ในตอนเช้ าที่อากาศแจ่มใส หลินหมิงคว้ าหอกทะลวงสายรุ้งด้ วยมือข้ างหนึง่ แขนของเขาทอด


ยาวขนาดกับพื ้น เขาหลับตาและเปิ ดใจให้ กบั ภูเขาและต้ นไม้ ให้ สมาธิของเขาเป็ นหนึง่ เดียวกับ
ธรรมชาติ สงบและบริ สทุ ธ์

เขาตระหนักได้ วา่ ยาผสานวิญญาณระดับสูงและหินพลังปราณไม่ใช้ สาเหตุที่ทําให้ เขาเข้ าสู่


สภาวะ ‘จิตบริ สทุ ธิ์’ หากเขาสามารถที่จะเข้ าเจตจํานงแห่งการต่อสู้ของเขาได้ ดงั่ ใจปรารถนา
เขาจะแข็งแกร่งขึ ้นอีกจนน่าเหลือเชื่อ

จู่ๆหลินหมิงก็เปิ ดตาขึ ้นมา เขาสัมผัสได้ วา่ มีใครบางคนอยูแ่ ถวนี ้ แม้ วา่ สํานักเจ็ดแก่นแท้ จะ
คอยดูแลความลอดภัยของเหล่าศิษย์ในสํานักอยู่ แต่เขาก็ไม่เคยประมาทเพราะเขาเองก็มีศตั รู
มากขึ ้นทุกวัน

"อืม.. เยี่ยมยอด! ประสาทสัมผัสเฉียมคมดีนี่" เสียงชายฉกรรจ์ดงั มาจากรอบๆอย่างไร้ ทิศทาง


และจูๆ่ เท้ าทังสองข้
้ างของชายคนนัน้ ก็มายืนอยูบ่ นปลายหอกที่หลินหมิงยืดแขนออกไปขนาด
กับพื ้นอยู่

ปลายหอกที่ยืดออกไปจนสุดและขนาดกับพื ้นอยูถ่ กู กดลงเล็กน้ อยด้ วยนํ ้าหนักของเขา แต่ด้วย


การจับหอกของหลินหมิงมันก็ยงั ดูมนั่ คงดีอยู่

"ท่อนแขนมีพลังแข็งแกร่งดีนี่!" เขาอุทาน
"ท่านอาจารย์ฮ่องซี!" การมาเยือนของเขาทําให้ หลินหมิงถามประหลาดใจ เขาคืออาจารย์
ผู้ดแู ลศิษย์ในห้ องพสุธา

"เจ้ าได้ สร้ างชื่อเสียงที่ดีให้ ข้าในฐานะที่ข้าเป็ นอาจารย์ของเจ้ า จาการที่เจ้ าได้ อนั ดับที่62และ
การท้ าทายต่อจู้ยนั ! เจ้ าเป็ นศิษย์ที่กล้ าหาญมาก! "

หลินหมิงกล่าว "ขอบคุณท่านอาจารย์สําหรับคําชม แต่ข้าก็ไม่ได้ มนั่ ใจว่าจะสามารถเอาชนะ


เขาได้ "

"แน่นอน จู้ยนั นันแข็งแกร่ง และเขายังได้ เขามาฝึ กฝนในสํานักแห่งนี ้นานกว่าเจ้ าถึง2ปี ครึ่ง ใน


อีกหนึง่ ถึงสอบปี ที่พวกหลิงเซ็นจบการศึกษาไปแล้ ว เขาจะต้ องการเป็ นสิบอันดับแรกอย่าง
แน่นอน ไม่แน่วา่ เขาอาจจะไปได้ ถงึ 5อันดับแรกเลยก็เป็ นได้ เจ้ าเลือกคูต่ อ่ สู้ที่แข็งแกร่งจริ งๆ!
"

หลินหมิงรู้ดวี า่ เหตุใดฮ่องซีถงึ ได้ กล่าวเช่นนัน้ "ท่านอาจารย์ ข้ าเข้ าใจความแข็งแกร่งของจู้ยนั


เป็ นอย่างดี และข้ าก็ไม่ทราบว่าเมื่อถึงเวลาที่พวกได้ ได้ ตอ่ สู้กนั จู้ยนั จะแข็งแกร่งขึ ้นอีกเพียงใด
ในตอนนันที้ ่ทา่ นผู้อาวุโสได้ ถามข้ าว่าจะท้ าทายใครในนิกายสวรรค์ ในหัวใจของข้ ามีความ
ต้ องการที่จะต่อสู้กบั จู้ยนั อย่างแรงกล้ า ข้ าไม่ทนั ได้ ระงับความคิดนี ้และกล่าวออกไปตาม
สัญชาตญาณ"

"ฮ่าๆ เยี่ยม! นัน่ เป็ นสิง่ ที่ดี! ให้ มนั เป็ นไปตามธรรมชาติที่หวั ใจของเจ้ าต้ องการ! เมื่อเหล่านักสู้
ได้ ทําตามแรงปรารถณาที่แท้ จริ งของหัวใจ การไหลเวียนของพลังปราณจะไม่ถกู จํากัด การ
ตัดสินใจของเจ้ าเป็ นทางเลือกที่ถกู ต้ องแล้ ว การตัดสินใจของเจ้ าเป็ นการกระทําที่กล้ าหาญ
มาก! ตังแต่
้ วนั นี ้ ข้ าจะสอนทักษะหอกของให้ ให้ กบั เจ้ า! และเมื่อข้ าได้ ถ่ายทอดวิชาให้ นกั สู้คน
ใดด้ วยตัวข้ าเอง ข้ าไม่ต้องการที่จะเห็นเขาแพ้ กลับมา เจ้ าเข้ าใจสินะ!? "

--------------------

MW#097 เจตจํานงแห่งการต่อสู้ทงเจ็
ั้ ด

...

...

...

เมื่อหลินหมิงได้ ฟังคําพูดของฮ่องซี ในหัวใจของเขาก็เต็มไปด้ วยความสุข ตอนนี ้เขาใช้ หอกได้


แค่ในระดับพื ้นฐานเท่านัน้ หากมีปรมาจารย์มาช่วยชี ้นําให้ แล้ วล่ะก็ เขาก็จะสามารถ
พัฒนาการได้ ไปอย่างรวดเร็ว

ฮ่องซีกล่าว "ข้ าเคยเข้ าร่วมเป็ นทหารในกองทัพร่วมสิบปี และข้ าก็ได้ ใช้ เวลาเหล่านันเพื


้ ่อศึกษา
อาวุธชนิดนี ้ อาวุธยาวจําพวกหอกและง้ าวถือเป็ นอาวุธชันเลิ ้ ศของเหล่าทหาร! แม้ วา่ ข้ าจะ
ไม่ได้ เข้ าใจการใช้ หอกจนถึงแก่นแท้ ในระดับสูงสุด แต่ความรู้ และประสบการณ์ทีข้ามีก็ยงั มาก
พอที่จะชี ้นําเจ้ าได้ แต่ก่อนที่ข้าจะสอนเจ้ า ข้ ามีคําถาม เจ้ าสามารถเข้ าถึงการฝึ กฝนแบบพิเศษ
ได้ ใช่หรื อไม่? "
หลินหมิงชะงักเล็กน้ อย เขาไม่อยากเชื่อว่าฮ่องซีจะรู้เรื่ องนี ้ เขาพยักหน้ าและกล่าว "ใช่แล้ ว"

"ข้ าก็คิดว่าต้ องเป็ นเช่นนัน้ การฝึ กฝนแบบพิเศษเป็ นเหนือกว่าการฝึ กฝนแบบทัว่ ๆไปอย่าง


สิ ้นเชิง มันสามารถทําให้ ผ้ ทู ี่เข้ าถึงมันมีพฒ
ั นาการที่ก้าวกระโดดดัง่ ปาฏิหาริ ย์! นี่คือผลจากจิต
วิญญาณที่แข็งแกร่ง แต่ก็ใช่วา่ ผู้ที่มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งจะสามารถเข้ าถึงมันได้ ทกุ คน การ
้ กเรี ยกว่า ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’! "
ฝึ กฝนแบบพิเศษเหล่านันถู

"แม้ แต่ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ผู้ที่จะเข้ าถึงมันนันก็


้ ยงั ถือว่าหาได้ ยากอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาหลาย
สิบปี มานี ้ก็มีเพียงแค่หลิงเซ็นคนเดียวเท่านัน้ ข้ าไม่อยากจะเชื่อว่าในตอนนี ้มีเจ้ าอีกคนแล้ ว! "

"โห้ ? น้ อยขนาดนันเลยรึ
้ ?" หลินหมิงเข้ าใจเหตุผลที่ไม่คอ่ ยมีใครรู้จกั เจตจํานงแห่งการต่อสู้
ขึ ้นมาทันที เป็ นเพราะมีน้อยคนนักที่จะเข้ าถึงมันได้

"ใช่ มีน้อยคนนักที่จะเข้ าถึงมันได้ และในตําราโบราณก็มีข้อมูลของมันบันทึกเอาไว้ เพียง


เล็กน้ อยเท่านัน้ ไม่เพียงแค่นนั ้ เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของแต่ละคนยังไม่คอ่ ยจะเหมือนกันอีก
ด้ วย ซึง่ มันจะให้ ผลลัพธ์ในการฝึ กฝนที่แตกต่างกันออกไป "

หลินหมิงกล่าว "ท่านอาจารย์ ข้ าไม่เข้ าใจ ทังที


้ ่ศษิ ย์พี่หลิงเซ็นมีความสามารถที่หายากถึง
เพียงนัน้ และมีชื่อเสียงไปทัว่ อาณาจักรลิขิตฟ้า และเป็ นอันดับหนึง่ มายาวนาน แต่เหตุใดเขา
ถึงไม่ถกู เลือกให้ เป็ นศิษย์พิเศษ? "

ฮ่องซีกล่าว "ทางหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ เองก็ให้ ความสนใจในตัวหลิงเซ็น แต่การจะได้ รับเลือกเป็ น


ศิษย์พิเศษจะต้ องผ่านการทดสอบ แต่หลิงเซ็นไม่สามารถที่จะผ่านการทดสอบนันได้ ้ เขาพลาด
ไปเพียงขันตอนเดี
้ ยวเท่านัน้ "
" ทดสอบรึ?! " หลินหมิงรู้สกึ ตื่นเต้ าที่ได้ ยินเช่นนัน้

"ใช่แล้ ว พวกเขามีการทดสอบที่เข้ มงวด ในการทดสอบของหลิงเซ็น เขาจะต้ องเอาชนะนักสู้


จากเหล่าศิษย์พิเศษที่มีอายุเท่ากันหรือมากกว่าให้ ได้ "

"ซึง่ หลิงเซ็นก็สามารถเอาชนะศิษย์พิเศษที่มีอายุมากกว่าเขาถึงครึ่งปี ได้ สําเร็ จ แต่น่าเสียดายที่


เขามีอายุถงึ 17ปี แล้ ว แต่ยงั ไม่บรรลุถงึ จุดสูงสุดของการฝึ กฝนขันที
้ ่4 ด้ วยสาเหตุนี ้จึงทําให้ เขา
ไม่ผ่านการทดสอบ "

"หมายความว่าระดับการฝึ กฝนของหลิงเซ็นนันไม่
้ ผ่านคุณสมบัติในการเป็ นศิษย์พิเศษอย่าง
้ อ?"
นันหรื

"ใช่แล้ ว ข้ าต้ องการจะบอกว่าเจตจํานงแห่งการต่อสู้ก็มีหลายชนิดที่แตกต่างกันออกไป


สําหรับหลิงเซ็นก็คือ ‘อาชูร่า’ มันทําให้ เขาได้ ตอ่ สู้ฆา่ ฟั นกับศัตรูที่เต็มไปด้ วยจิตสังหารนับไม่
ถ้ วย ผลที่ตามมาก็คือสัญชาตญาณที่เฉียมคมดัง่ ปี ศาจและความแข็งแกร่งในการต่อสู้ที่มาจาก
ประสบการณ์ แต่มนั ก็ไม่ได้ สง่ ผลต่อระดับการฝึ กฝนของเขา”

ฮ่องซีกล่าว “มันเป็ นเรื่ องที่น่าเสียดาย ความแข็งแกร่งและระดับการฝึ กฝนเป็ นเรื่ องที่แตก


ต่างกัน”

แม้ มนั จะไม่ใช้ ปัจจัยเดียวที่สง่ ผลต่อความแข็งแกร่ง และยังมีปัจจัยอื่นๆเช่น ทักษะ


สัญชาตญาณ ประสบการณ์จริ ง และพลังปราณ แต่ระดับการฝึ กฝนก็เป็ นปั จจัยที่สําคัญที่สดุ

ระดับการฝึ กฝนเป็ นพื ้นฐานของทุกๆอย่าง หากพวกเขาไม่สามารถยกระดับการฝึ กฝนของพวก


เขาขึ ้นมาได้ พวกเขาย่อมต้ องไปถึงทางตันในที่สดุ ไม่มีทางที่นกั สู้ที่มีการฝึ กฝนขันแรกจะ

สามารถเอาชนะนักสู้ที่มีการฝึ กฝนในขันผสานชี
้ พจรได้ (ขัน6)
้ นี่คือความแตกต่างที่เห็นได้
อย่างชัดเจนของระดับการฝึ กฝน!

หากหลิงเซ็นไม่สามารถที่จะแสดงให้ เห็นว่ามีโอกาสที่จะก้ าวไปได้ ถงึ ระดับปราณปลายฟ้า ตาม


อัตราการเพิ่มขึ ้นของระดับการฝึ กฝนของเขา เขาก็ไม่ใช้ บคุ คลที่นิกาบโบราณต้ องการ

ดังนันหลิ
้ งเซ็นจึงถูกปฏิเสธ!

ฮ่องซีกล่าว "ตอนนี ้หลิงเซ็นมีการฝึ กฝนเพียงขันที


้ ่4ช่วงต้ น หากเขาสามารถยกระดับได้ อีกซัก
ครึ่งขัน้ มาสูข่ นั่ ที่4ช่วงกลาง หุบเขาเจ็ดแก่นแท้ อาจจะสนใจเขาขึ ้นมาก็ได้ เจตจําจงแห่งการ
ต่อสู้ ‘อาชูร่า’ จะส่งผลให้ ผ้ ทู ี่เข้ าถึงมันได้ อยูใ่ นสถาการณ์เสี่ยงเป็ นเสี่ยงตายนับครัง้ ไม่ถ้วน
ช่วยขัดเกลาสัญชาตญาณให้ เฉียบคม ซึง่ จะส่งผลต่อความแข็งแกร่งของนักสู้ที่เข้ าถึงมันได้
อย่างมาก น่าเสียดายที่มนั ไม่ได้ สง่ เสริ มในเรื่ องของพลังปราณและช่วยให้ ระดับการฝึ กฝนของ
เขาสูงขึ ้น "

หลินหมิงกล่าวถาม "ท่านอาจารย์ แล้ วศิษย์พี่หลิงเซ็นยังมีโอกาสที่จะถูกเลือกจากหุบเขาเจ็ด


แก่นแท้ อยูห่ รื อไม่?"

"แน่นอนว่ามี แต่มนั อาจจะเป็ นหนทางที่ยากเกินไป มีความเป็ นไปได้ อยูส่ องทางที่จะทําให้ เขา


ถูกเลือกจากหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ ทางแรกคือ เขาจะต้ องบรรลุขนผสานชี
ั้ พจรให้ ได้ ก่อนที่จะอายุ
้ ่4ช่วง
ครบ22ปี ซึง่ นี ้ถือเป็ นเกณฑ์ที่ยากมาก โดยเฉพาะกับคนที่อาย17ปี แล้ วยังอยูเ่ พียงขันที
ต้ นอย่างเขา อีกทางหนึง่ ก็คือ หากเขาสามารถที่จะเข้ าถึง ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ ได้ มากกว่า
1รูปแบบ ซึง่ ก็ดเู หมือนว่าแทบจะไม่มีทางที่จะเป็ นไปได้

"เข้ าถึง ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ มากกว่า1รูปแบบ? นักสู้สามารถที่จะเข้ าถึงเจตจํานงแห่ง


การต่อสู้ได้ มากกว่า1รูปแบบอย่างนันหรื
้ อ" หลินหมิงรู้สกึ ประหลาดใจ
"อืม… แต่มนั ก็เป็ นเพียงความหวังที่แทบจะสิ ้นหวัง ทัว่ ทังอาณาจั
้ กรลิขิตฟ้าและอาณาเขต
โดยรอบแสนไมล์จากอาณาจักของเรา ยังไม่เคยปรากฏบุคคลที่ทําเช่นนันได้ ้ แม้ แต่คนเดียว แต่
ก็มีตํานานเล่าว่า เคยมีจกั รพรรดิองค์หนึง่ สามารถเข้ าถึงเจตจํานงแห่งการต่อสู้ทงเจ็ ั ้ ดรูปแบบ
ได้ เข้ าใช้ เวลาทําสมาธิครุ่นคิดอยูใ่ ต้ ต้นโพธิ์เป็ นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืนและเข้ าสูส่ ภาวะ ‘เห็นแจ้ งไร้
จิต’ และถึงนิพพานจนกลายอมตะได้ ในที่สดุ ! "

เมื่อหลินหมิงได้ ฟังเช่นนัน้ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ!

คนๆเดียวเข้ าถึงเจตจํานงแห่งการต่อสู้ทงเจ็
ั ้ ด!

นี่มนั ปาฏิหาริ ย์ของปาฏิหาริ ย์!

ฮ่องซีกล่าว "หลินหมิง เจ้ าจงอธิบายถึงเจตจํานงแห่งการต่อสู้ของเจ้ าให้ ข้าฟั ง มันจะมี


ความสําคัญอย่างมากต่อพัฒนาการในอนาคตของเจ้ าเอง! "

หลินหมิงพยักหน้ าและเริ่มอธิบาย 'อิธีเรี ยล(จิตบริ สทุ ธิ์)' เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของเขา

ฮ่องกงฟั งคําอธิบายคร่าวๆของหลินหมิงและกล่าว " เจตจํานงแห่งการต่อสู้ 'อิธีเรี ยล(จิต


บริ สทุ ธิ์)' ของเจ้ าคงจะช่วยสนับสนุนระดับการฝึ กฝนของเจ้ าในระดับหนึง่ จิตสํานึกจะแยก
ออกจากร่างกาย พลังปราณจะถูกควมคุมตามสัญชาตญาณแห่งธรรมชาติ ซึง่ เป็ นการโคจร
พลังปราณที่สมบูรณ์แบบจนน่าเหลือเชื่อ นี่เป็ นครัง้ แรกที่ข้าได้ ร้ ูจกั เจตจํานงแห่งการต่อสู้
รูปแบบนี ้ ข้ าคงไม่อาจจะรู้จกั มันดีไปกว่าตัวของเจ้ าเอง แต่เท่าที่ข้าได้ ฟังมันจะทําให้ เจ้ าหลุด
ออกจากกฏเกณฑ์ที่เป็ นจุดตีบตันต่างๆได้ ดูเหมือนเจตจํานงแห่งการต่อสู้ของเจ้ าจะน่าสนใจ
กว่าของหลิงเซ็นเสียอีก เจ้ าอาจจะถูกเลือกให้ เป็ นศิษย์พิเศษจากหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ ก็ได้ แต่
ทังนี
้ ้ก็ขึ ้นอยูก่ บั ผลของการทดสอบ แน่นอนว่าการทดสอบของพวกเขาไม่ใช่เรื่ องง่ายๆอย่าง
แน่นอน "

ศิษย์พิเศษ... หลินหมิงคิดอย่างเงียบๆ

--------------------------

MW#098 พลังสัน่ สะเทือน

...

...

...

ศิษย์พิเศษ...

หลินหมิงรู้สกึ ได้ วา่ ทางหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ เป็ นแวมไพร์ ดดู เลือดขนาดยักษ์ ที่จะดูดทรัพยากรที่มี


ค่าทุกอย่างจากทุกอาณาจักรในรัศมีกว่าหนึง่ แสนไมล์ไป ทําให้ เป็ นเรื่ องยากที่จะมีใครซักคน
ก้ าวไปถึงระดับปราณฟ้าขันต้ ้ นได้
หลังจากที่หบุ เขาเจ็ดแก่นแท้ จัดตังสํ
้ านักต่อสู้ในอาณาจักรต่างๆภายใต้ การดูแลของพวกเขา
พวกเขาจะส่งมอบทรัพยากรที่มีคา่ ส่วนเล็กๆให้ กบั ศิษย์ที่โดดเด่นและคูค่ วรเท่านัน้

เหล่าพระราชวงศ์เองก็เข้ าใจถึงเรื่ องเหล่านี ้เป็ นอย่างดี และเป็ นเพราะหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ จะ


สนับสนุนการปกป้องอาณาจักรของพวกเขา พวกเขาจึงได้ ยอมทําตามข้ อตกลงที่จะส่งมอบ
ั ้ ราคาที่สงู มาก! (ตอน
ทรัพยากรในอาณาจักรให้ ทําให้ ทรัพยากรส่วนน้ อยที่ยงั เหลืออยูน่ นมี
ก่อนๆเคยกล่าวไว้ วา่ หากไม่ตกลงจะโดนฆ่าล้ างราชวงศ์และก่อตังราชวงศ์
้ ที่ขึ ้นตรงต่อหุบเขา
เจ็ดแก่นแท้ ขึ ้นมาปกครองแทน)

ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ ้นระหว่างหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ ละอาณาจักรต่างๆทําให้ หลินหมิงรู้สกึ อึดอัด


อย่างมาก

"มันทําให้ โอกาสที่จะได้ ฝึกฝนการต่อสู้ของเยาวชนคนรุ่นใหม่ถกู ปิ ดกัน้ กลายมาเป็ นภาระของ


วงศ์ตระกูลที่จะต้ องหาซื ้อทรัพยากรราคาแพงมาให้ บตุ รหลาน หุบเขาเจ็ดแก่นแท้ เป็ นองค์กรที่
เห็นแก่ตวั และน่ารังเกียจ... " สิ่งเหล่านี ้หลินหมิงก็ทําได้ เพียงคิดอยูใ่ นใจเท่านัน้ แม้ เขาจะต้ อง
การพูดออกมา แต่เขาก็พดู ออกมาไม่ได้

"ถ้ าข้ าต้ องการที่จะเข้ าถึงการฝึ กฝนการต่อสู้ในระดับสูง ข้ าก็ต้องเป็ นศิษย์พิเศษเท่านัน้ ไม่มี


้ เพียงลําพัง "
ทางที่ใครคนใดจะมีทรัพยากรมากพอจะพัฒนาไปถึงจุดนันได้

"หลินหมิงเจ้ าเข้ าใจถึงสิ่งที่เจ้ าควรจะรู้แล้ ว ข้ อได้ เปรี ยบของเจ้ ากับจู้ยนั ก็คือจิตวิญญาณที่


แข็งแกร่งของเจ้ า แต่ในแง่ของทักษะและความแข็งแกร่งจู้ยนั ยังเหนือกว่าเจ้ าอยูห่ ลายก้ าว เจ้ า
เคยเอาชนะซางฉางด้ วย ‘มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร’ ในตอนแรกข้ าไม่ต้องการจะให้ เจ้ าเลือก
‘หมัดสลายกระดูก’ แต่เจ้ าก็ยืนยันที่จะเลือกมัน ตอนนี ้มันสายไปแล้ วที่เจ้ าจะเลือกวิชาใหม่ๆ
มาฝึ กฝนเพื่อต่อสู้กบั จู้ยนั ”

" แม้ วา่ การที่เจ้ าท้ าทายจู้ยนั อาจจะดูเกินความสามารถของเจ้ าไปบ้ าง แต่การตัดสินใจตาม


หัวใจของตนเองก็เป็ นการตัดสินใจที่ถกู ต้ องแล้ ว ข้ าจะสอนทักษะการใช้ หอกให้ เจ้ า แต่จ้ ยู นั ก็
เข้ าใจทักษะการต่อสู้อยูห่ ลายรูปแบบ เขามีประสบการณ์มาก! เจ้ าต้ องเตรี ยมตัวให้ ดี!

หลินหมิงพยักหน้ าและกล่าว "ข้ าเข้ าใจแล้ วท่านอาจารย์"

"โจมตีเข้ ามา!! ให้ ข้าได้ ดทู กั ษะการใช้ หอกทังหมดของเจ้


้ า! "

“ข้ าจะไม่เกรงใจล่ะนะ…" หลินหมิงสะบัดมือเล็กน้ อย หอกทะลวงสายรุ้งก็ถกู จับเอาไว้ ในมือ


ของเขาอย่างมัน่ คง และด้ วยพลังในการสัน่ สะเทือนของพลังปราณทําให้ หอกมีพลังทําลายล้ าง
สูงขึ ้นอย่างไม่น่าเชื่อ วัตถุดิบเหล็กเหนียวทมิฬที่ผสานเข้ ากับการสัน่ สะเทือนของพลังปราณ
เพียงแค่สมั ผัสก็มากพอที่จะทําให้ เส้ นเอ็นภายในร่างขาดกระจุยและกระดูกแตกเป็ นเสีย่ งๆได้
อย่างง่ายดาย!

"โอ้ ว? เจ้ าสามารถที่จะใช้ อาวุธที่ทําจากเหล็กเหนียวทมิฬที่มีนํ ้าหนักมากได้ อย่างคล่องแคล่ว


ถือว่ามีพละกําลังที่น่าพอใจ!" ฮ่องซีหวั เราะและดึงเอาหอกยาวที่พาดอยูบ่ นหลังของเขาออกมา

"มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร!" หลินหมิงตะโกน มือทังสองข้


้ างยึดจับหอกเอาไว้ อย่างมัน่ คง การ
เคลื่อนไหวทุกท่วงท่าเป็ นไปอย่างฉับพลัน!
หอกของหลินหมิงแผ่ออร่าแห่งความกล้ าหาญและทรงพลังอํานาจ นี่เป็ นการจู่โจมอย่างเต็ม
กําลังของเขา!

ฮ่องซีสมั ผัสได้ ถงึ ความเคารพของหลินหมิง เขาโน้ มตัวไปข้ างหน้ าหนึง่ ก้ าว จับหอกเอาไว้ อย่าง
มัน่ คงและเล็งไปที่ปลายหอกของหลิงหมิง จากนันก็ ้ ฟาดหอกของเขาปะทะเข้ ากับหอกของ
หลินหมิงอย่างรุนแรง!

แต่พลังจากการฟาดหอกของฮ่องซีก็ไม่สามารถที่จะสกัดการจูโ่ จมของหลินหมิงเอาไว้ ได้ หอก


ของเขาเป็ นดัง่ ภูผาที่ทรงพลังและจะไม่ถกู สกัดหรื อเปี่ ยงทิศทางไปจากเป้าหมายของเขา!

นี ้เป็ นผลจากการฝึ กภายใต้ นํ ้าตกเยือกแข็ง มันทําให้ ทกั ษะหอกของเขากล้ าแกร่งและมัน่ คง!

แววตาของฮ่องซีเปล่งประกายเล็กน้ อย "เป็ นการจู่โจมที่ดี!"

"ย่าห์!" ฮ่องซีคํารามพร้ อมกับพลังปราณที่ระเบิดออกมา หอกที่ดเู หมือนว่าจะไม่สามารถทํา


อะไรหอกของหลินหมิงได้ ของฮ่องซีกลับปั ดหอกของหลินหมิงออกไปได้ อย่างง่ายดายในเวลานี ้
และในชัว่ พริบตา หอกของฮ่องซีก็ตวัดกลับไปยังคอของหลินหมิงเหมือนงูพิษ!

หอกของฮ่องซีเร็วกว่าหอกของหลินหมิงถึงสองเท่า! เมื่อหลินหมิงกวัดแกว่งหอกหนึง่ ครัง้ ฮ่องซี


จะกวัดแกว่งได้ ถงึ สองครัง้ !

เพียงหนึง่ กระบวนท่าก็เหมือนว่าผลการต่อสู้ของพวกเขาจะจบลง ด้ วยพลังของผู้ที่อยูบ่ น


จุดสูงสุดของขันผสานชี
้ พจร(ขัน6)
้ พลังเพียง30%ของเขาก็มากพอที่จดั การกับหลินหมิง

เห็นได้ ชดั ว่าหลินหมิงไม่มีเวลามากพอที่จะตวัดหอกกลับมารับหอกของฮ่องซีได้ แต่ทนั ใด


นันเอง
้ มือขวาของเขาก็คว้ าไปที่ปลายหอกของฮ่องซี พลังปราณทุกอณูทวั่ ร่างเคลื่อนไหว
สอดคล้ องไปกับการหายใจของเขา และถูกบีบอัดไปยังมือขวาพร้ อมกับการสัน่ สะเทือนอย่าง
รุนแรง!

เมื่อฮ่องซีเห็นหลินหมิงยื่นมือเปล่ามาจับหอกของเขา เขาก็เกิดความลังเล เจ้ าหลินหมิงจะทํา


อะไร...

"อืม…?"

ทันทีที่ฝ่ามือของหลินหมิงได้ สมั ผัสกับหอกของฮ่องซี ฮ่องซีสมั ผัสได้ ถงึ พลังสัน่ สะเทือนที่มี


อํานาจทําลายล้ างอย่างรุนแรงที่ถาโถมเข้ ามาผ่านตัวหอก... นี่มนั เกิดอะไรขึ ้น?

ฮ่องซีจําได้ วา่ ในตอนที่หลินหมิงต่อสู้กบั จู้ยนั ฮ่องซีคิดว่าหลินหมิงเพียงใช้ มือเปลี่ยนวิธีของดาบ


ได้ สําเร็ จ แต่ความจริ งแล้ วมันมีอะไรที่มากกว่านัน! ้

"โฮ่!"

ฮ่องซีที่เป็ นถึงนักสู้ขนผสานชี
ั้ พจร ถึงกลับต้ องกระชากหอกของเขากลับคืนมาเพื่อหลีกเลี่ยง
การส่งผ่านพลังปราณสัน่ สะเทือนของหลินหมิง แต่ในเวลานันเอง ้ หอกของหลินหมิงก็ฟาด
กลับมาที่เขา!

ฮ่องซีมีความเร็วมากพอที่จะหลบมันได้ เขากระโจนกลับไปด้ านหลังอย่างพริ ว้ ไหว แต่คลื่นพลัง


สัน่ สะเทือนจากหอกของหลินหมิงก็ยงั ถูกส่งออกไปผ่านอากาศ ลมที่พดั เขามาทําให้ ฮ่องซีร้ ูสกึ
แน่นหน้ าอก!
การต่อสู้นี ้ทําให้ ฮ่องซีประหลาดใจอย่างมาก เขาที่เป็ นถึงนักสู้ขนผสานชี
ั้ พจรเขายังรู้สกึ ได้ ถงึ
แรงกดดันจากหลินหมิง แม้ วา่ สําหรับเขาคลื่นพลังที่ถงู ส่งผ่านอากาศออกมาจากการตวัดหอก
ของหลินหมิงจะไม่มีผลสักเท่าไร แต่หากเป็ นนักสู้ที่มีการฝึ กฝนในขันเดี
้ ยวกับหลิงหมิง มัน
สามารถสร้ างความเสียหายได้ ไม่น้อยเลยที่เดียว!

"เจ้ าเด็กคนนี ้… เขาฝึ กฝนด้ วยวิธีการอย่างไรกันแน่!? ข้ าคิดว่าข้ าจะสามารถจัดการเขาได้ ใน


หนึง่ กระบวนท่า แต่นี่การต่อสูม่ าถึงกระบวนท่าที่สามแล้ ว หากข้ ายังจัดการเขาไม่ได้ ข้าก็ไม่มี
สิทธิ์ที่จะเป็ นอาจารย์!" ฮ่องซีตดั สินใจที่จะใช้ พลังถึงมากถึงครึ่งหนึง่ ของเขา เขากระโจนไป
กลางอากาศและกระหนํ่าโจมตีลงมาใส่หลินหมิงอย่างรวดเร็ วและรุนแรง!

เป้ง!

หลินหมิงยกของเขาขึ ้นมาตังรั้ บการจู่โจมจากฮ่องซี แต่ดเู หมือนว่าหอกของฮ่องซีที่ทรงพลังมาก


เกินไป ทําให้ หอกของเขาถูกปั ดออกไปอย่างง่ายดาย!

"!"

ในชัว่ เสี่ยววินาทีปลายหอกของฮ่องซีก็จ่ออยูท่ ี่คอของหลินหมิง…

การต่อสู้จบลงแล้ ว!

ฮ่องซีชกั หอกกลับและกล่าว "ยอดเยี่ยม ทักษะของเจ้ าลึกลํ ้าอย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่แปลกใจเลย


ที่เจ้ าจะสามารถเอาชนะซางฉางได้ เพียงไม่กี่กระบวนท่า แม้ วา่ ระดับการฝึ กฝนของข้ าจะสูงลํ ้า
กว่าเจ้ าหลายขัน้ แต่ดเู หมือนว่าข้ าจะได้ เรี ยนรู้อะไรใหม่ๆจากการประมือกับเจ้ า! "
ฮ่องซีมองหลินหมิง เขาจําแรงสัน่ สะเทือนที่มีอํานาจทําลายล้ างนันได้
้ เป็ นอย่างดี มันคือทักษะ
ที่แปลกประหลาด หลินหมิงไปฝึ กฝนมันมาจากที่ใด?

ทักษะที่ทรงพลังและลึกซึ ้งเช่นนันไม่
้ มีทางที่จะสามารถเรี ยนรู้ได้ ด้วยตนเอง แน่นอนว่าหลินห
มิงจะต้ องเรียนรู้มนั จากตําราแผ่นหยกที่จารึกทักษะนันเอาไว้
้ ฮ่องซีคิดย้ อนกลับไปถึงตําราที่
หลินหมิงเคยฝึ กฝน ‘ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก’ ‘พื ้นฐานการเคลื่อนไหว’ และ 'หมัดสลาย
กระดูก' ...

ฮ่องกงเข้ าใจตํารา‘ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก’เป็ นอย่างดี เพราะในกองทัพก็มีการฝึ กฝนทักษะ


เหล่านันเช่
้ นกัน มันไม่เกี่ยวกับทักษะแปลกๆที่หลินหมิงใช้ อย่างแน่นอน และทักษะ‘พื ้นฐาน
การเคลื่อนไหว’ ก็ไม่ใช่ทกั ษะที่จะใช้ โจมตีศตั รูได้ นันก็
้ หมายความว่า ...

กษะ ‘หมัดสลายกระดูก’ อย่างนันรึ


พลังแปลกประหลาดเหล่านันมาจากทั
้ ้ ?!"

---------------------------------

MW#099 หอกที่รวดเร็ว

...
...

...

้ ต้องตกตะลึงไปครู่ใหญ่ เขาจําได้ วา่ เนื ้อหาที่ตํารา ‘หมัดสลายกระดูก’


เมื่อฮ่องซีคิดได้ เช่นนันก็
ได้ กล่าวถึงก็คือเรื่ อง… การสัน่ สะเทือน!

การสัน่ สะเทือน!

โอ้ วพระเจ้ า! เจ้ าเด็กคนนี ้…!

เขาไม่ควรที่จะศึกษาวิชาที่มีเนื ้อหาหลงเหลืออยูเ่ พียง30%ได้ สําเร็ จ!

มัน... มันเป็ นไปไม่ได้ แม้ วา่ การสัน่ สะเทือนของพลังปราณจะถูกพูดถึงในตํารา ‘หมัดสลาย


กระดูก’ แต่ในตํารานันก็
้ ไม่ได้ บอกถึงวีธีที่จะฝึ กฝนมัน มันขาดส่วนที่สําคัญที่สดุ ไป! สําหรับ
ตําราที่เสียหายไปกว่า70% แม้ จะมีชีวิตอมตะกี่หมื่นกี่พนั ปี ก็ไม่สามารถที่จะทําความเข้ าใจ
และฝึ กฝนมันได้ !

หากหลินหมิงสามารถทําเช่นนันได้
้ จริง เขาก็ไม่ตา่ งอะไรกับอัจฉริ ยะผู้สร้ างปาฏิหาริ ย์!

"ทักษะการสัน่ สะเทือนพลังปราณที่เจ้ าใช้ เมื่อครู่ เจ้ าไปฝึ กฝนมันมาจากที่ไหน?” เห็นได้


ชัดเจนว่านํ ้าเสียงของฮ่องซีดกู ระวนกระวายและกระสับกระส่าย เขาไม่สามารถทําใจให้ สงบลง
ได้ เลย นอกจากเขาจะมีจิตวิญญาณที่แข็งกล้ าแล้ ว เขายังสามารถเข้ าถึงเจตจํานงแห่งการต่อสู้
ได้ ไม่เพียงแค่นนเขายั
ั้ งสามารถทําลายกฏของสวรรค์จนสามารถฝึ กฝนตําราที่มีเนื ้อหาหลง
้ อ?!
เหลืออยูเ่ พียง30%ได้ สําเร็จอีกอย่างนันหรื
มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ ว… เขาเป็ นอัจฉริ ยะขนาดไหนกันแน่?! ฮ่องซีไม่กล้ าแม้ แต่จะ
คาดการณ์ถึงความแข็งแกร่งในอนาคตของเขา!

หลินหมิงตอบกลับไปตามความเป็ นจริ งว่า "มีการกล่าวถึงพลังการสัน่ สะเทือนในตํารา ‘หมัด


สลายกระดูก’ " เขาไม่ได้ คิดที่จะปกปิ ดมัน หากฮ่องซีคิดที่จะสอนเขา ซักวันฮ่องซีก็ต้อง
สังเกตเห็นอยูด่ ี เว้ นแต่วา่ เขาจะไม่ใช้ มนั อีกเลย

แต่ในความเป็ นจริ ง แม้ จะมีใครยืมตํารา‘หมัดสลายกระดูก’ไปฝึ กฝน ก็แทบจะไม่มีทางฝึ กฝน


ได้ สําเร็ จ และหากเขาเป็ นคนเดียวที่ฝึกฝนมันได้ สําเร็ จ สํานักเจ็ดแก่นแท้ และองค์รัชทายาท
จะต้ องอยากปกป้องเขามากขึ ้นอีกก็เป็ นได้ มันจะทําให้ เขาปลอดภัยมากขึ ้น

เมื่อได้ ยินคํายืนยันจากหลินหมิง ฮ่องซีถงึ กับต้ องอึ ้งอยูน่ าน เขามองไปที่หลินหมิงอย่างกับมอง


ปี ศาจ!

หากเรื่ องนี ้ถูกเผยแพร่ออกไป คงจะไม่มีใครกล้ าคิดที่จะถูกดูเขาได้ อีก!

หลินหมิงเป็ นคนที่มีพรสวรรค์สงู ที่สดุ ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ในช่วงหนึง่ ร้ อยปี มานี ้!

มีเพียงแต่ฉินชิงหวนเท่านันที
้ ่พอจะเทียบเขาได้ !

"เหลือเชื่อ... " ฮ่องซีอทุ านออกมาหลังจากเงียบอยูเ่ ป็ นเวลานาน

"หลินหมิง ในชีวิตของข้ า เจ้ าคือคนที่มีความสามารถโดดเด่นที่สดุ เท่าที่ข้าเคยพบเห็นมา!


แม้ วา่ เจ้ าจะมีพรสวรรค์เพียงระดับสาม แต่ด้วยเจตจํานงแห่งการต่อสู้ ‘อิธีเรี ยล(จิตบริ สทุ ธ์)’
เจ้ าอาจเทียบได้ กบั ผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับห้ า แต่เพียงเท่านี ้ก็ยงั คงไม่พอที่จะดึงดูดความสนใจ
จากหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ แต่ในสายตาของข้ ามีความเป็ นไปได้ สงู ที่เจ้ าจะสามารถเข้ าถึงเจตจํานง
แห่งการต่อสู้ได้ มากกว่าหนึง่ รูปแบบ และในวันนันแม้ ้ แต่หบุ เขาเจ็ดแก่นแท้ ก็ไม่อาจจะมองข้ าม
เจ้ าไปได้ และเจ้ าจะได้ ไปยังทวีปนภาลินไหล! "

เจ้ ามีอนาคตที่ไร้ ขีดจํากัด ในฐานะอาจารย์ของเจ้ า สิ่งใดที่ข้าสามารถจะสอนเจ้ าได้ ข้าก็จะ


ถ่ายทอดให้ เจ้ าอย่างเต็มความสามารถ ในตอนแรกข้ าจะถ่ายทอดความรู้ ที่ข้าได้ ศกึ ษาเพิ่มมา
ด้ วยตนเองให้ แก่เจ้ า แต่ดเู หมือนกว่าความรู้อนั ไร้ ข้อเท็จจริ งนันอาจจะส่
้ งผลร้ ายต่อทักษะหอก
ในแบบของเจ้ าเองเสียมากกว่า ดังนันข้ ้ าจะถ่ายทอดเพียงแก่นแท้ ของทักษะหอกให้ เจ้ านําไป
เป็ นรากฐานและต่อยอดเองในแบบที่เป็ นของเจ้ า "

"ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ข้าได้ ตอ่ สู้กบั เจ้ า ข้ ารู้สกึ ได้ ถงึ ความแข็งแกร่งที่สงู ลํ ้าของเจ้ า แต่สิ่งที่เจ้ า
ยังขาดอยูก่ ็คือความเร็ว ด้ วยความเร็วของเจ้ าในตอนนี ้ไม่สามารถที่จะไล่ตามการกระบวนท่า
ของจู่ยนั ได้ ทนั ! "

"หอกที่มีแต่เพียงความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว มันใช้ เอาชนะศัตรูที่เร็ วกว่าไม่ได้ ! หลินหมิง


เจ้ าจงดูเอาไว้ ! ฮ่องซีหนั หน้ าไปยังต้ นไม้ ต้นหนึง่ เขาใช้ ปล่อยหมัดกระแทกเบาๆให้ ใบไม้ แก่ๆ
ล่วงโรยลงมา

แววตาของฮ่องซีดรู าวกับแววตาของขุนพลผู้กล้ า หอกในมือของเขาแทงเข้ าไปยังต้ นไม้ ที่อยู่


ตรงหน้ าอย่างรวดเร็วและรุนแรง!

ฉึก ฉึก ฉึก!


เงาหอกมืดฟ้า!

แม้ จะเป็ นสายตาที่ยอดเยี่ยมของหลินหมิง ก็ไม่สามารถมองหอกของฮ่งซีได้ ทนั !

เขาใช้ พลังจิตวิญญาณเพื่อช่วยในการมองหอกที่กวัดแกว่งไปอย่างรวดเร็ ว ทันทีที่หอกเสียบ


ทะลุใบไม้ แล้ ว มันก็จะถูกตวัดไปยังใบไม้ ใบอื่นอย่างรวดเร็ว!

เงาของใบไม้ มากมายที่ลว่ งลงมาค่อยๆหายไปอย่างรวดเร็ ว ในไม่กี่อดึ ใจก็ปรากฏใบไม้ กอง


หนาอยูบ่ นปลายหอกของเขา!

ไม่มีใบไม้ แม้ แต่ใบเดียวที่ตกลงไปบนพื ้นดิน

หลินหมิงทําได้ แต่อึ ้งและตะลึงอยูก่ บั ความเร็ วของหอกตรงหน้ า!

เห็นได้ ชดั ว่าปลายหอกของฮ่องซีกว้ างมาก ดังนันเขาจึ


้ งต้ องแทงใบไม้ ทกุ ใบโดยให้ แนวยาวของ
ใบไม้ ตรงกับด้ านยาวของปลายหอก ไม่เช่นนันแทนที
้ ่ใบไม้ จะถูกเสียบอยูบ่ นหอก ใบไม้
เหล่านันจะถู
้ กผ่ากลายเป็ นสองท่อนแทน!

หลินหมิงมองไปยังหอกของฮ่องซี ใบไม้ หลายสิบใบเรี ยงตัวกันอย่างหนาแน่นและเป็ นระเบียบ


นี่เป็ นการแสดงฝี มือที่น่าเหลือเชื่อ!

ใบไม้ แต่ละใบมีขนาดเล็ก ไม่ใช่เรื่ องง่ายเลยที่จะทําเช่นนันได้


้ อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจาก
ความเร็ วที่สงู มากแล้ ว ฮ่องซียงั สามารถความคุมพลังกําลังที่เหมาะสมและความแม่นยําได้
อย่างไร้ ที่ติ!

สําหรับอาวุธประเภทหอก การจะใช้ มนั ให้ ได้ อย่างคล่องแคล่วเสมือนเป็ นอวัยวะส่วนหนึง่ ของ


ร่างกายนันเป็
้ นเรื่ องที่ยากมาก ด้ วยเพลาที่ยาวของอาวุธประเภทนี ้ทําให้ ยากที่จะควมคุมมัน
หากเป็ นดาบฮ่องซีก็คงจะสามารถเสียบทะลุใบไม้ ที่ตกลงมาได้ งา่ ยดายกว่านี ้!

ดาบนันรวดเร็
้ วกว่าหอกและยังมีความแม่นยําที่สงู กว่า

แต่ดาบก็ไม่สามารถจะเทียบเรื่ องความรุนแรงกับหอกได้

การแสดงของฮ่องซีเมื่อครู่นี ้ เป็ นการเปิ ดหูเปิ ดตารับความรู้ที่มีคา่ ของหลินหมิง

ฮ่องซีกล่าว "การฝึ กหอกเช่นนี ้ จะช่วยในเรื่ องของจังหวังการจู่โจมที่สอดคล้ องกับลมหายใจ


แม้ จะไม่ต้องมองเห็นแต่ก็สามารถจู่โจมไปยังเป้าหมายได้ อย่างถูกต้ องแม่นยํา ด้ วยการฝึ ก
ควบคุมพละกําลัง เจ้ าจะสามารถพลิกแพลงจังหวะรุกรับของหอกได้ อย่างอิสระ การฝึ กฝน
เช่นนี ้เป็ นวีธีที่ได้ ผลดี! "

"ใบไม้ เหล่านี ้เปราะบางและถูกตัดขาดได้ โดยง่าย หากเจ้ าใส่พละกําลังมากจนเกินไปมันก็จะ


ขาด หากเจ้ าสามารถที่จะให้ หอกเสียบใบไม้ ได้ ซกั หนึง่ โหล เจ้ าก็จะประสบความสําเร็จใน
ขันตอนแรก
้ เจ้ ามีเวลาอีกหนึง่ เดือนที่จะต้ องฝึ กฝนมันอย่างมุง่ มัน่ ตังใจ
้ อย่าได้ สนใจเรื่ องไร้
สาระต่างๆ เมื่อได้ ที่เจ้ าสามารถความคุมแรงในแต่ละหอกได้ ดงั่ ใจ ความเร็ วในการใช้ หอกของ
เจ้ าก็จะเพิ่มขึ ้นจนสามารถไล่ตามดาบของจู้ยนั ได้ ทนั !

"ข้ าเข้ าใจแล้ ว"

แม้ จะเป็ นเพียงช่วงเวลาสันๆ


้ แต่หลินหมิงก็ได้ รับประโยชน์อย่างมาก

"เจ้ าจงใช้ เวลาต่อจากนี ้เพื่อฝึ กฝนมัน ข้ าจะกลับมาสอนขันตอนต่


้ อไปในภายหลัง "
"ขอบคุณอาจารย์ฮ่อง"

ปั ง! หลินหมิงกระแทกต้ นไม้ ให้ ใบไม้ ตกลงมา เขามองและเพ่งสมาธิไปยังใบไม้ เหล่านัน้ และใช้


หอกทิ่มแทงเข้ าไปอย่างรวดเร็ว

" ... "

ใบถูกตัดเป็ นสองซีกด้ วยหอกของหลินหมิง!

แม้ วา่ เขาจะต้ องการให้ ใบไม้ เหล่านันถู


้ กเสียบอยูบ่ นหอก แต่มนั ก็ไม่ใช่เรื่ องง่ายๆเลย ในชัว่
เวลาสันๆที
้ ่เขาจะตังเล็
้ กไปที่ใบไม้ ที่กําลังเคลื่อนไหวใบนันอย่
้ างแม่นยํา สังเกตรูปแบบการ
เคลื่อนไหวของมัน และแทงหอกเข้ าไปเสียบใบไม้ ไว้ ให้ ได้ เขายังห่างไกลกับคําว่าสําเร็ จอยูอ่ ีก
หลายก้ าว

"บางทีข้าควรจะเริ่ มต้ นฝึ กฝนกับใบไม้ ที่มีขนาดใหญ่กว่านี ้สักเล็กน้ อย... " หลินหมิงคิดว่าใบไม้


รูปไข่เล็กๆนี ้มันยากเกินไปสําหรับเขาในตอนนี ้

เขาหันไปยังต้ นไม้ อีกชนิดหนึง่ ใบของมันดูคล้ ายๆกับรูปหัวใจและมีขนาดใหญ่กว่าใบไม้ รูปวงรี


ต้ นก่อน หากฝึ กกับใบไม้ เช่นนี ้เขาก็ไม่จําเป็ นที่จะต้ องคํานึงถึงมุมที่จะหมุนหอกให้ ตรงกับใบไม้
เพราะใบไม้ รูปหัวใจนี ้ค่อนข้ างจะกลม จะแทงในมุมไหนก็ให้ ผลไม่ตา่ งกัน

"เป็ นใบไม้ ชนิตที่เหมาะแก่การเริ่ มต้ นถึงฝน…"

...

หลายต่อหลายวันมานี ้ หลินหมิงจะใช้ เวลาในช่วงเช้ าของวันในการฝึ กฝนในนํ ้าตกเยือกแข็งที่


ความยากระดับเก้ า เพื่อฝึ กฝนความแข็งแกร่งและเข้ าถึงเจตจํานงแห่งการต่อสู้ได้ มากขึ ้น ส่วน
ในช่วงบ่าย เขาจะใช้ เวลาในการฝึ กฝนทักษะหอกตามที่ฮ่องซีได้ สงั่ สอน และในช่วงเย็นเขาจะ
ฝึ กฝนวรยุทธของเขา ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ และ ‘ลืน่ ไหลดุจแพรไหม

เวลากว่าสิบวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเจตจําจงแห่งการต่อสู้ ‘จิตบริ สทุ ธิ์’ ก็มี


เสถียรภาพมากขึ ้น และด้ วยยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงกับหินพลังปราณขันสอง ้ ทําให้ การ
พัฒนาการของเขาเป็ นไปอย่างรวดเร็ว และก้ าวข้ ามขีดจํากัดของตัวเองได้ ที่ละเล็กที่ละน้ อย

ในตอนนี ้ หากหลินหมิงได้ ฝึกฝนในนํ ้าตกเยือกแข็งเขาสามารถที่จะเข้ าถึงเจตจํานงแห่งการ


ต่อสู้ได้ ดงั่ ใจปรารถนา

หลังจากที่ได้ ฝึกฝนในสภาวะของเจตจํานงแห่งการต่อสู้ในนํ ้าตกเยือกแข็งอย่างต่อเนื่อง ใน


ที่สดุ หลินหมิงก็สําเร็จ ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ ในระดับที่สองทังความหนาแน่
้ นของพลัง
ปราณ ความแข็งแกร่งและความเร็วของเขาพิ่มขึ ้นอย่างเห็นได้ ชดั

ในช่วงเย็นวันนัน้ หลินหมิงนัง่ อยูค่ นเดียวในห้ องของเขา เขาพยายามปรับสภาพของร่างกาย


และจิตใจให้ มีความพร้ อมและสงบนิ่งมากที่สดุ และค่อยๆนําของรางวัลที่ลํ ้าค่าที่สดุ ในชีวิตของ
เขาออกมา

ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง!

ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองมีไขกระดูกของมักกรทองเป็ นวัตถุดิบหลัก ผสานเข้ ากับโอสถ


สมุนไพรลํ ้าค่ามากมายนับไม่ถ้วน

ไขกระดูกมังกรทองคือวัตถุดิบที่หายากอย่างยิ่งและไม่อาจจะประเมินมูลค่าได้ และขันตอนที
้ ่
จะปรุงมันเข้ ากับสมุนไพรชนิดอื่นๆเพื่อที่จะดึงประสิทธิภาพของมันออกมาให้ มากที่สดุ ยังมี
น้ อยคนนักที่จะทําได้ ต้ องเป็ นนักปรุงยาระดับสูงจากนิกายโบราณเท่านันถึ
้ งจะทําได้ สําเร็ จ
ดังนันมั
้ นจึงเป็ นไปไม่ได้ ที่จะถูกปรุงขึ ้นในอาณาจักรลิขิตฟ้า แม่แต่เหล่าองค์ชายก็ยงั ไม่อาจหา
มันมาได้ ไม่วา่ จะใช้ เงินทองมากมายเพียงใดก็ตาม

้ นหมิงนําแผ่นจารึก ‘อาคมรักษาวิญญาณ’ ระดับตํ่าออกมา เขาได้ ฝึกฝนอย่างหนัก


จากนันหลิ
มาเป็ นเวลากว่าครึ่งเดือน เขามีคณ
ุ สมบัติพอที่จะดูดซับยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองได้ อย่างเต็ม
ประสิทธิภาพ

โดยทัว่ ไป เมื่อนักสู้ได้ ดดู ซับพลังของยาโอสถ พวกเขาจะสามารถดูดซับพลังของมันได้ เพียง


ส่วนหนึง่ เท่านัน้ ส่วนที่เหลือจะแตกกระจายและสูญสลายไป แต่ด้วยอาคารักษาวิญญาณใน
จารึกของหลินหมิง มันจะช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ของยาและทําให้ พลังของยาไม่สญ ู สลายไป
พลังของยาจะถูกดูดซึมมาแทบทังหมด ้ ด้ วยผลของมันทําให้ ประสิทธิภาพของยาเพิ่มขึ ้นหลาย
เท่า!

หลินหมิงบดขยี ้แผ่นจารึก 'อาคมรักษาวิญญาณ’ ในมือ ทันใดนันเปลวไฟสี


้ แดงเจิดจร้ าก็ปะทุ
ออกมาจากแผ่นจารึก เปลวไฟลอยออกมาจากแผ่นจารึกทุกทิศทุกทาง มันลอยไปผสานเข้ ากับ
ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองอย่างช้ าๆ ไม่กี่อดึ ใจก็มีสญ
ั ลักษณ์รูปเปลวเพลิง ซึง่ เป็ นเอกลักษณ์
ของจารึกที่ถกู วาดขึ ้นโดยหลินหมิงสลักอยูบ่ นเม็ดยา!

MW#100 สําเร็จขันอวั
้ ยวะภายในช่วงปลาย

...

...
...

ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองเป็ นยาที่มีให้ คณุ ประโยชน์มากมาย และมันก็เป็ นยาที่อนั ตรายมาก


เช่นกัน ยิ่งถูกเสริ มประสิทธิภาพด้ วยอาคารักษาวิญญาณ หากร่างกายและจิตใจไม่แข็งแกร่ง
และมีความพร้ อมที่มากพอแล้ วละก็ จะให้ ผลร้ ายต่อร่างกายเสียมากกว่า ดันนันเขาจึ
้ งไม่คิดที่
จะใช้ มนั ทันทีที่ได้ รับมันมา

แต่ตอนนี ้เขาได้ สําเร็จ 'ปฐมบทแห่งความโกลาหล' ขันที


้ ่สองแล้ ว พลังที่เขาจะได้ รับจากยาเม็ด
ไขกระดูกมังกรทอง จะถูกกลัน่ และดูดซับได้ สมบูรณ์มากขึ ้นและมีอนั ตรายที่ลดลง หลินหมิง
รู้สกึ ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาพร้ อมต่อการที่จะใช้ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองแล้ ว

เขาหายใจลึกๆ ก่อนจะวางยาลงบนปากและกลืนลงไป

ยาไหลลงไปในท้ องของเขาอย่างรวดเร็ว แต่มนั ก็ไม่ได้ สง่ ผลอะไรเลย

หลินหมิงรู้วา่ นี่เป็ นเพียงความสงบก่อนที่พายุเฮอริ เคนยักษ์ จะโหมกระหนํ่า เมื่อใดก็ตามที่ยา


เริ่ มละลาย ความเจ็บปวดอย่างสุดแสนจะทรมานก็จะตามมา

หลินหมิงได้ เตรี ยมถังนํ ้าขนาดใหญ่เอาไว้ เขากระโดดลงไปข้ างในถังที่เต็มไปด้ วยนํ ้าและเริ่ ม


โคจรพลัง ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ นํ ้าที่อยูร่ อบกายของเขาจะช่วยให้ เขารู้สกึ ผ่อนคลาย
มากขึ ้น

เวลาครึ่งชัว่ โมงผ่านไป หลินหมิงรู้สกึ ได้ ถงึ ความร้ อนที่แผ่ออกมาจะกระเพราะอาหารของเขา


ความร้ อนแผ่ออกไปทัว่ ร่างกาย อย่างกับว่าเขากําลังอยูท่ ร่ามกลางเตาเผา ผิวกายของเขาเดือด
พล่าน เสมือนว่าทัว่ ร่างของเขากําลังจะลุกเป็ นไฟ!
นอกจากอาคมรักษาวิญญาที่หลินหมิงจารึกลงบนยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง จะช่วยให้
สามารถดูดซับพลังของมันได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ ว มันยังส่งผลให้ ความเจ็บปวดทรมาน
ระหว่างดูดซับพลังของยาเพิ่มสูงขึ ้นด้ วย!

ยาโอสถพญางูทองคําให้ ความรู้สกึ หยาวเย็นอย่างสุดขัว่ แต่สําหรับยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง


มันกลับให้ ความรู้สกึ ร้ อนระอุเหมือนเปลวไฟจากนรกโลกันต์ ความร้ อนระอุที่เกิดขึ ้นจากภายใน
เป็ นสิง่ ที่ยากจะทนได้ !

หลิงหมิงรู้สกึ ได้ วา่ ร่างกายของเขาถูกไอร้ อนทิ่มแทงไปทัว่ ทุกบริ เวณ เป็ นความเจ็บปวดทรมาน


อย่างที่ไม่เคยได้ สมั ผัสมาก่อน

ในตอนแรกเขาก็พอจะสามารถโคจรพลัง 'ปฐมบทแห่งความโกลาหล' เพื่อบรรเทาความ


เจ็บปวดได้ ในระดับหนึง่ แต่ในตอนนี ้ความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงเข้ ามามันรุนแรงขึ ้นเรื่ อยๆ มันทํา
ให้ ร่างกายของเขาอ่อนแอลงและไม่สามารถที่จะโคจรพลัง 'ปฐมบทแห่งความโกลาหล' ได้ อีก
นี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะทนรับและดูดซับมันเอาไว้ ได้ แม้ วา่ หลินหมิงจะมีจิตใจที่แข็งแกร่ง แต่สิ่งที่
เขากําลังเผชิญอยูน่ ี ้มันโหดร้ ายเกินไป

นํ ้าในอ่างร้ อนขึ ้นๆ มันค่อยๆระเหยกลายเป็ นไอสีขาว บริ เวณโดยรอบที่เขาอยูเ่ ต็มไปด้ วยไอนํ ้า

เกิดอาการปวดเกร็งกล้ ามเนื ้อขึ ้นกับร่างกายของหลินหิงอย่างไม่ทราบสาเหตุ และดูเหมือนว่า


ทุกอณูในร่างกายของเขาจะเริ่ มหายใจผสานกันเป็ นหนึง่ เดียว และแต่ละอณูก็จะช่วยดูดซับ
พลังความร้ อนที่เกิดขึ ้นภายในร่างกายของหลินหมิง

อณูเล็กๆนับล้ านในร่างกายค่อยๆสร้ างพลังปราณขึ ้นมาต้ านทานความร้ อนที่เกิดขึ ้นในร่างกาย


ของหลินหมิง และช่วยดูดซับความร้ อนที่ทิ่มแทงเข้ ามาด้ วยการสัน่ สะเทือนของมัน “หรื อว่า…
นี่คือ…”

เมื่อหลิมหมิงกินยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง ทุกอณูในร่างกายของเขาก็สนั่ สะเทือนตามวิชา ‘ลื่น


ไหลดุจแพรไหม’ ที่เขาได้ ฝึกฝนมา การสัน่ สะเทือนของอ�ูเล็กๆทัว่ ร่างกายทําให้ การดูดซึม
พลังจากยาเป็ นไปได้ อย่างเรี ยบง่ายมากขึ ้น ทุกอณูในร่างกายเกิดการสัน่ สะเทือนไปตาม
สัญชาตญาณเหมือนกับการหายใจ โดยที่เขาไม่จําเป็ นต้ องมีสติเพื่อที่จะบังคับมัน

นี่คือผลของการฝึ กวิชา ลื่นไหลดุจแพรไหม...

‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เป็ นวรยุทธ์ลํ ้าเลิศจากดินแดนพระเจ้ า ไม่ร้ ูวา่ นี่เป็ นครัง้ ที่เท่าไหร


แล้ วที่มนั ช่วยหลินหมิงเอาไว้ เขาอยากจะขอบคุณโชคชะตาที่ทําให้ เขาได้ พบมัน

หากไร้ ซงึ่ วิชา ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’ เขาคงจะต้ องเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส และจะทําให้


อวัยวะภายในขอเขาเสียหายอย่างรุนแรง มันจะส่งผลร้ ายต่อการต่อสู้ของเขา หากเป็ นเช่นนัน้
จะต้ องใช้ เวลาเป็ นปี ๆเพื่อเยี่ยวยารักษา

แต่ด้วยผลของวิชา ‘ลืน่ ไหลดุจแพรไหม’ ทําให้ ร่างกายของเขากลัน่ และดูดซับพลังจากยาเม็ด


ไขกระดูกมังกรทองได้ อย่างสมบูรณ์

เวลาผ่านไปกว่า2ชัว่ โมงแล้ ว หลินหมิงก็ยงั แช่ตวั อยูใ่ นถึงนํ ้าใบเดิมที่เต็มไปด้ วยนํ ้าที่ร้อนจัด

ด้ วยผลจากการดูดซับพลังของยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง ทําให้ การฝึ กฝนของเขาที่จากเดิมอยู่


ในช่วงต้ นของขันที
้ ่สาม สามารถก้ าวไปยังช่วงปลายของขันที
้ ่สามได้ !

หลินหมิงเปิ ดตาทังสองและสู
้ ดหายใจเข้ าลึกๆ อากาศโดยรอบเต็มไปด้ วยไอนํ ้า
ลมหายใจเขาเหมือนนํ ้าวน ในความทรงจําจากดินแดนประเจ้ า ผู้คนที่ฝึกฝนไปถึงขันที ้ ่สงู ขึ ้นจะ
มีการพัฒนาลมหายใจของเขาขึ ้นเรื่ อยๆ และเมื่อการหายใจเป็ นดัง่ ฟ้าคําราม ก็เท่ากับว่าพวก
เขามีอํานาจที่จะทลายผืนฟ้าแยกพสุธาได้

หลังจากที่ก้าวไปถึงการฝึ กฝนขันที
้ ่สามช่วงปลาย หลินหมิงก็ไม่ลืมที่จะทดสอบพละกําลังของ
เขา เขาต้ องการจะรู้วา่ ในขณะนี ้เขายังเป็ นรองหลิงเซ็นอีกเท่าไร

ในเวลากลางดึก เขามุง่ หน้ าไปยังห้ องวัดความแข็งแกร่ง และสุม่ เลือกแท่นทดสอบแท่นหนึง่


เขาอธิษฐานให้ พละกําลังของเขาเพิ่มขึ ้นมาในระดับที่น่าพอใจ เขารวมรวมพลังและปล่อยหมัด
ออกไป!

ปึ งง!

เป็ นเสียงที่ดงั สนัน่ หวัน่ ไหว ค่าพละกําลังเองก็กําลังพุง่ ขึ ้นสูงอย่างไม่มีทีทา่ ว่าจะหยุดลงที่คา่ ใด


ค่าหนึง่ !

5000 จิ๋น!

5100 จิ๋น!

5200 จิ๋น!

และในที่สดุ มันก็คอ่ ยๆหยุดลงที่ 5300 จิ๋น!


เมื่อเห็นผลของการวัดพละกําลัง หลินหมิงก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในที่สดุ เขาก็
ตามหลิงเซ็นได้ ทนั ! (เทียบกับที่หลิงเซ็นได้ แสดงเอาไว้ ในวันแรกที่หลินหมิงทดสอบเข้ าสํานัก
เจ็ดแก่นแท้ ไม่มีใครรู้วา่ ในตอนนันหลิ
้ งเซ็นได้ แสดงพลังทังหมดหรื
้ อไม่ และในช่วงเวลาหลาย
เดือนที่ผ่านมาเข้ าพัฒนามากขึ ้นเพียงใด)

ด้ วย ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ ขันที
้ ่สองและการฝึ กฝนช่วงปลายของขันที
้ ่สาม ทําให้ เขามี
พละกําลังถึง 5000 จิ๋น!

"ในวันแรกที่เขาทดสอบ หลินเซ็นได้ แสดงพละกําลัง 4900 จิ๋นออกมา แน่นอนว่าพลังที่


แท้ จริ งของเขาจะต้ องมากกว่านัน้ "

" แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ได้ อยูท่ ี่พละกําลังของเขา ประสบการณ์และทักษะการต่อสู้ที่ได้ จากการ


เข้ าถึงเจตจํานงแห่งการต่อสู้ ‘อาชูร่า’ และก้ าวข้ ามความตายมานับครัง้ ไม่ถ้วนต่างหากที่น่า
กลัว สัญชาตญาณในการต่อสู้ของเขาจะถูกขัดเกลาอย่างเฉียบคม ไม่ใช่แค่พละกําลังของข้ าที่
ยังอ่อนด้ อยกว่าเขา ประสบการณ์และทักษะการต่อสู้ของข้ าก็ยงั เป็ นรองหลิงเซ็นอยูอ่ กี หลาย
้ "
ขัน!

...

สิบวันผ่านไป

ปึ ง!

หมัดของหลินหมิงกระแทงต้ นไม้ อย่างรุนแรง ใบไม้ นบั ไม่ถ้วนร่วงโรยลงมา หลินหมิงกวัดแกว่ง


หอกทะลวงสายรุ้งอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า!
ฉึก ฉึก ฉึก!

ในช่วงหนึง่ ลมหายใจเขาสามารถที่จะใช้ หอกแทงทะลุให้ ใบไม้ เสียอยูบ่ นหอกได้ กว่าสิบใบ นี่


เป็ นผลของการฝึ กฝนที่สมบูรณ์แบบ!

แต่ใบไม้ ที่ถกู เสียบอยูบ่ นหอกก็ยงั ไม่เรี ยงตัวกันเป็ นระเบียบเรี ยบร้ อยเหมือนในครัง้ ที่ฮ่องซีได้
แสดงให้ ดู แต่เขาก็เข้ าใจถึงการความคุมพลังในแต่ละหอกแล้ ว ความเร็ วในการใช้ หอกของเขา
เพิ่มขึ ้นอย่างมาก

"ยอดเยี่ยม!" ฮ่องซีกล่าว มีศิษย์เพียงไม่กี่คนเท่านันที


้ ่จะได้ ยินคําเอ่ยชมจากปากของฮ่องซี
เช่นนี ้

"ด้ วยระยะเวลาเพียง20วัน เจ้ าก็สามารถก้ าวไปถึงการฝึ กฝนขันที


้ ่สามช่วงปลายได้ เจตจํานง
แห่งการต่อสู้ของเจ้ าเป็ นสิ่งที่น่าอิจฉา "

ครัง้ ก่อน ฮ่องซีได้ สอนทักษะหอกให้ หลินหมิง และหลังจากนันเพี ้ ยง10วัน หลินหมิงก็มีการ


ฝึ กฝนที่สงู ขึ ้นอีกก้ าว และมีความเร็วในการใช้ หอกที่เพิ่มขึ ้นอย่างเห็นได้ ชดั เจน สิ่งเหล่านี ้ทําให้
ฮ่องซีตะลึงอย่างมาก

หลินหมิงกล่าว "ที่จริ งข้ าพึง่ จะใช้ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองไปหลังจากที่ทา่ นได้ สอนทักษะการ


ใช้ หอกให้ แก่ข้า นัน่ คือเหตุผลที่ทําให้ ข้ามีพฒ ้ ่ผ่านมาเช่นนี ้ "
ั นาการที่รวดเร็ วในช่วงสันๆที

เมื่อฮ่องซีได้ ฟังก็ยิ่งตกใจ หมายความว่าก่อนหน้ านี ้เขาก้ าวมาถึงขันที


้ ่สามช่วงต้ นได้ โดยอาศัย
้ อ?!
เพียงแค่ยาโอสถพญางูทองคําอย่างนันหรื
ฮ่องซีกล่าว "ข้ าคิดว่าการที่การฝึ กฝนของเจ้ าบรรลุมาถึงขันที
้ ่สามช่วงต้ นได้ เป็ นเพราะยาโอสถ
ลํ ้าค่าทังสอนนั
้ นเสี
้ ยอีก หากในวันนันที
้ ่เจ้ าก้ าวจะขันที
้ ่สองตอนปลายมาเป็ นขันที ้ ่สามช่วงต้ น
เจ้ าใช้ เพียงแค่ ยาโอสถพญางูทองคํา แสดงว่าร่างกายของเจ้ านันสามารถดู
้ ดซับพลังของอย่าง
ได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพจนน่าเหลือเชื่อ!

"เพียงแค่สบิ วัน ทักษะหอกของเจ้ าก็ก้าวหน้ าไปอย่างรวดเร็ วและมีเสถียรภาพ เดิมที่หอกนันมี



กระบวนท่ามากกว่านี ้ ต่างกับดาบที่ทําได้ เพียงแทงและฟาดฟั น หอกสามารถร่ายรํ า กวาด
แทงตวัด และอะไรอื่นๆอีกมากมาย ข้ าคงช่วยสอนให้ เจ้ าได้ เพียงเรื่ องเหล่านี ้ เตรี ยมตัวให้ ดี…"

"เริ่ ม! ข้ าจะปรับพลังปราณของข้ าให้ อยูใ่ นระดับเดียวกับเจ้ า แต่ข้าจะไม่แสดงความเมตตา


ระหว่างที่ตอ่ สู้กบั เจ้ า” เมื่อกล่าวจบหอกที่ถกู จับอย่างมัน่ คงในมือของฮ่องซีก็มงุ่ หน้ ามายัง
หลินหมิง

ฮ่องซีระงับพลังปราณให้ อยูใ่ นระดับเดียวกับหลินหมิง สิ่งที่เขาเหนือกว่าหลินหมิงในขณะนี ้มี


เพียงทักษะในการใช้ หอกและความเร็วในการใช้ หอกเท่านัน้ ซึง่ สิ่งเหล่านี ้คือสิ่งที่ฮ่องซีต้องการ
ถ่ายทอดให้ หลินหมิงผ่านการต่อสู้ของพวกเขา!

"เร็ วเหลือเกิน! หลินหมิงรู้สกึ ได้ วา่ หอกของฮ่องซีนนเร็


ั ้ วมาก

เป้ง!

หลินหมิงคว้ าหอกทะลวงสายรุ้งออกมาใช้ ตงรั ั ้ บ แม้ วา่ พละกําลังของเขาจะเกิน5000จิ๋นไป


แล้ ว แต่การปะทะก็ยงั ทําให้ ฝ่ามือของเขาเกิดอาการชาขึ ้นมา

ถึงแม้ ฮ่องซีจะใช้ พลังปราณเพียงในระดับที่เท่ากับหลินหมิงในการต่อสู้ครัง้ นี ้ แต่เขาก็เป็ นถึงนัก


สู้ขนผสานชี
ั้ พจร พละกําลังของเขาสูงกว่าหลินหมิงเป็ นอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะพลังการ
สัน่ สะเทือนจาก ‘ลื่นไหนดุจแพรไหม’ ที่ช่วยตังรั้ บการจู่โจมจากฮ่องซี เขาคงจะกระเด็นลอยไป
ไกลจากการปะทะเมื่อครู่

You might also like