Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 2 ศิลาลึกลับ
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ตอนนี ้จะแปลออกมาแย่นิดนึงนะครับ แปลตังแต่
้ ครึ่งปี ก่อนแล้ วไม่ได้ กลับมาแก้ ไขซะที ขอโทษ
ด้ วยนะครับ ตอนอื่นๆจะดีวา่ นี ้ครับ
“พี่หมิง,พี่เป็ นผู้ร้ ูอย่างแท้ จริ ง!” หลินเซี่ยวตงว่ากล่าวอย่างออกรสขณะที่พวกเขาเดินลงไปที่
ถนน
หลินหมิงยังคงเงียบสงบ สิ่งที่เขาได้ กล่าวฟั งดูที่ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจ แต่มนั จะเป็ นเรื่ องยาก
มากสําหรับเขาที่จะแซงจู้ยนั ปริ มาณของความพยายามที่เขาจะต้ องใช้ นนมหาศาลั้
เขาไม่มีความกลัวในการทํางานหนักหรื อขมขื่นแต่อย่างใด แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถ
กล่าวว่าสําหรับการบาดเจ็บภายใน สมุนไพรเป็ นสิง่ ที่จําเป็ นในการรักษาผู้บาดเจ็บและยา
รักษาโรคเหล่านันมี
้ ราคาแพงอย่างไม่ต้องสงสัย
หลินเซี่ยวตงเองก็สามารถที่จะคาดเดาสิ่งที่หลินหมิงคิดและพูดว่า “พี่หมิงทังหมดที
้ ่พี่ต้องทํา
คือการฝึ กซ้ อมอย่างหนัก ส่วนทางด้ านการเงินข้ าคอยจะสนับสนุนพี่เอง เพียงแค่มีความมัน่ ใจ
ในตัวเอง,แม้ วา่ ตําแหน่งของคุณปู่ ของข้ าในครอบครัวอาจไม่ได้ สงู ส่งแต่ก็ยงั คงไม่มีอะไรที่จะ
เย้ ยหยันได้ แค่เพียงไม่กี่ร้อยเหรี ยญทองคงไม่ได้ สําคัญสําหรับเขา ”
หลินหมิงหยุดเดินและหันไปรอบๆ ก่อนที่จะเผชิญกับหลินเซีย่ วตง ในชีวติ มีเพื่อนหลายคนที่
เป็ นธรรม แต่ผ้ ทู ี่จะให้ ความช่วยเหลือเขาในเวลาที่เขาต้ องการนันหาได้
้ ยาก ถึงแม้ ระหว่างพี่
น้ องการขอบคุณอาจไม่จําเป็ น แต่หลินหมิงยังคงหยุดและพูดด้ วยนํ ้าเสียงจริ งจัง “เซี่ยวตง,
ขอบคุณมาก”
“พอแค่นนเถอะ
ั้ เพียงเท่านี ้ก็มากเกินไปแล้ ว ข้ าไม่ได้ เป็ นคนที่แสวงหามากในชีวิต การสอบเข้ า
สํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นเพียงวิธีการที่จะปกป้องชื่อเสียงของพ่อข้ า พี่หมิง, ข้ าจะเดิมพันในตัวพี่
หลังจากที่พี่ได้ กลายเป็ นเสาหลักในอนาคตพี่จะต้ องช่วยให้ คนอื่นเทิดทูนข้ าสักหน่อยฮ่า ๆ ๆ ๆ .
”
หลินหมิงยิ ้มและหัวเราะ “แน่นอน! กับน้ องชายอย่างเจ้ า แน่นอนข้ าเองก็ต้องอดทนในวิถีการ
แห่งต่อสู้. ”
เมื่อหลินหมิงกลับไปยังสถานที่ที่อยูอ่ าศัยของเขามันเป็ นตอนเย็นแล้ ว ห้ องพักนี ้เป็ นห้ องหนึง่ ที่
เคยถูกเปิ ดให้ เช่า ในช่วงเวลานี ้ตังแต่ ้ วนั ที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ เริ่ มลงทะเบียนสําหรับการประเมิน
เข้ าจนกว่าจะถึงวันของการประเมินตนทุกสถานที่ที่อยูอ่ าศัยภายในเมืองลิขิตนภา จะได้ รับการ
บริ การอย่างเต็มรูปแบบ อัตราค่าเช่าเพิ่มขึ ้นกว่าครึ่ง ดังนันผู ้ ้ สมัครจํานวนมากจะเลือกที่จะเช่า
ห้ องพักที่อยูท่ ี่นี่ไม่ได้ เป็ นตัวเลือกที่ถกู ๆเอาเสียเลย
หลินหมิงได้ เช่าห้ องเดี่ยวเพียงสิบตารางเมตรในพื ้นที่ที่ดเู รี ยบง่าย ในขณะที่เขากําลังจะเริ่ มต้ น
การทําสมาธิของเขาบนที่นอนมีคนมาเคาะประตู
หลินหมิงเปิ ดประตูเพื่อดูเจ้ าของที่พกั ที่เป็ นหญิงยืนอยูท่ ี่นนั่ เจ้ าของที่พกั เป็ นผู้หญิงอายุ
ประมาณห้ าสิบปี ที่มีร่างกายที่คอ่ นข้ างอ้ วน ใบหน้ าของเจ้ าของที่พกั แลดูรุนแรง แต่วนั นี ้เธอ
กําลังหยอกรอยยิ ้มที่ดนู ่ารื่ นรมย์ก่อให้ หลินหมิงจะรู้สกึ ว่ามีเรื่ องบางอย่างผิดปกติ
“เจ้ าของที่พกั ท่านมีอะไร?”
“นี่ … ท่านผู้เช่าข้ าขอโทษ แต่เจ้ าโปรดออกไปจากห้ องนี ้”.
“หะ?” หลินหมิงขมวดคิ ้ว “ทําไม?”
“หึหขึ อโทษนะ แต่ข้าได้ เช่าห้ องนี ้แล้ ว” เสียงอันรุนแรงของชายหนุ่มดังขึ ้นมาขัดจังหวะ หลินห
มิงหันไปรอบๆ และพบว่าคนที่มีใสต่างหูลิงขนาดใหญ่มาด้ วยเดินมาจากห้ องโถง ชายคนนี ้ยิ ้ม
ในลักษณะที่ดเู หมือนขี ้เล่น
เมื่อมองดูเขา หลินหมิงก็ร้ ูได้ วา่ เขาเป็ นหนึง่ ในลูกน้ องที่ได้ ปฏิบตั ิตามคําสัง่ ของจู้ยนั พร้ อมชาย
หนุ่มคนอื่นๆ ชายหนุ่มคนอื่นๆ ก็ยงั คงเงียบเพียงมองไปที่หลินหมิงและหลินเซี่ยวตงด้ วยท่าที
แสดงออกถึงการดูถกู
ไม่มีข้อสงสัย เขาต้ องผู้ที่กําลังพยายามหาความดีความชอบจากจู้ยนั ด้ วยการส่งสมุนของเขา
เองมาสร้ างปั ญหาให้ หลินหมิง ทังหมดที
้ ่เขาต้ องทําก็มีแค่เพิ่มค่าเช่าให้ สงู ขึ ้นหลายเท่า เป็ น
ธรรมดาที่เจ้ าของที่พกั จะบังคับไล่ให้ เขาออกไป
ปั จจุบนั สํานักเจ็ดแก่นแท้ จดั งานลงทะเบียนที่นําไปสูค่ วามยากลําบากในการค้ นหาสถานที่พกั
อาศัย การจะหาสถานที่อื่นเช่าเป็ นเรื่องยาก แต่ถงึ อย่างไรเขาก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าสมุน
ของจู้ยนั จะไม่ตามไปก่อปั ญหาให้ เขาอีก
ใบหน้ าหลินหมิงหนักแน่นและเขาจ้ องมองอย่างเย็นชาไปที่เจ้ าของที่พกั “ตอนนันพวกเราได้ ้
เห็นพ้ องกันว่าข้ าจะได้ เช่าเป็ นเวลาห้ าเดือน ข้ าได้ จ่ายเงินเป็ นค่าเช่าห้ าเดือนล่วงหน้ าไปแล้ ว
ปั จจุบนั ยังคงมีเวลาอีกสามเดือนจนกว่าจะหมดสัญญา แต่เจ้ าต้ องการให้ ข้าไปออกตอนนี ้
อย่างงันหรอ
้ ”
เจ้ าของที่พกั หญิงยิ ้มขอโทษ “นี่ … ธรรมดาที่ข้าจะตระหนักถึงเรื่ องนี ้และวิธีจดั การกับเรื่ องนี ้
เข้ าจะคือเช่าสําหรับสามเดือนกลับคือให้ เจ้ าซะ ? ”
“อ่า! คืนค่าเช่าสามเดือน ‘? ช่างมีจิตใจเที่ยงธรรมซะเหลือเกิน! “ความโกรธหลินหมิงเริ่ ม
เดือดขัน้ หากเจ้ าของที่พกั นี ้ถูกบังคับให้ ขบั ไล่เขาเนื่องจากการกดดันของบุคคลอื่นแล้ วหลินห
มิงก็จะยอม แต่การกระทําของมันในปั จจุบนั และคําพูดของมันที่ได้ ทําให้ เขาโกรธ
“เฮ้ พวกเราพูดถึงการจ่ายคืน พวกเราได้ พดู คุยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่ องนี ้ และไม่ได้ ลงนามลาย
้ “เมื่อ
ลักษณ์อกั ษรในสัญญาไว้ เป็ นหลักฐาน สิทธ์ในการเลือกคนเช่ามันขึ ้นอยูก่ บั ข้ าเท่านัน!
พิจารณาสถานะเมืองลิขิตฟ้าเป็ นเมืองหลวงของอาณาจักรทังหมดเจ้้ าของทรัพย์สินที่นี่มี
ความรู้สกึ ในจิตใต้ สํานึกที่เหนือกว่ากับพวกเขาทุกคนที่มาจากภายนอก พวกเขาจะมองลงมา
ในขณะที่พดู ในโทนของความรังเกียจ นอกจากนี ้ชายคนที่อยูข่ ้ างๆเธอเห็นได้ ชดั ว่าเป็ นคนที่สง่
มาจากครอบครัวที่รํ่ารวยและมีฐานะดี เมื่อมีใครบางคนเช่นนี ้สนับสนุนมัน เจ้ าของที่พกั จึงมี
ความกล้ าหาญมากขึ ้น
ตอนนี ้คนที่มีลิงก็หวั เราะออกมาอย่างวางท่า “ถ้ าแกเป็ นยอมรับและออกไปในทันที ข้ าจะบอก
อะไรแกอย่างหนึง่ ไม่วา่ แกจะจัดการหาสถานที่อนื่ เช่าข้ าก็จะยังคงสามารถที่จะไปไล่แกออกอยู่
ดี ภายในสามเดือนก่อนการประเมินเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ จะเริ่ มต้ นแกก็ควรจะไปนอนหลับอยู่
บนถนนฮ่าฮ่า! ”
สําหรับผู้ที่เกิดในตระกูลของชนชันสู
้ งมันเป็ นเพียงธรรมชาติสําหรับพวกเขาที่จะสร้ างความรู้สกึ
ที่เหนือกว่าและหยิ่ง อย่างไรก็ตามแม้ พวกเขาได้ แสดงความเย่อหยิ่งของพวกเขาพวกเขาจะ
ยังคงรักษาท่าทีในการพูดกับคนอย่างจู้ยนั คนนี ้ยืนอยูต่ รงหน้ าได้ เผยให้ เห็นรูปแบบที่เปลือย
เปล่าของความเย่อหยิ่งของผู้ที่จะรังเกียดบางคนเพราะคนอื่นรังเกียด
หลินหมิงจ้ องมองมาที่คนที่ใสต่างหูลิง ตาของเขาเปลี่ยนเป็ นสายตาที่เย็นชาอย่างไม่สนใจ
ช่วงเวลาที่ผา่ นมา
“มองหาอะไรของแก? กําลังคิดจะสู้กบั ข้ า? จะบอกอะไรให้ นะ นายน้ อยของข้ าเป็ นลูกคนที่
สองของแม่ทพั แห่งเมืองลิขิตฟ้า ถ้ าแกกล้ าทําร้ ายข้ า เขาจะต้ อง … ”
“ไปซะ!” หลินหมิงตะโกนและออกหมัดอย่างรุนแรงใส่ไปที่จมูกของมัน “ปั ก” มันลอยออกไป
ด้ วยเสียงกระแทก หลังจากนันชายคนนั
้ นพู
้ ดบนกองเศษเฟอร์ นิเจอร์ ที่หกั และกระถาง ผมของ
เขากระเซิงและใบหน้ าของเขาเต็มไปด้ วยหยดเลือด
ด้ วยความสามารถของหมัดที่สะเทือนต้ นไม้ เหล็กได้ คนที่หลงโดนเข้ าไปเต็มที่หน้ า ผลที่ได้ รับ
อาจคิดไม่ถงึ จมูกของชายคนนันทั
้ งหมดจมเข้
้ าไป
กลายเป็ นเจ้ าของที่พกั หญิงที่ตกใจ ดวงตาของมันโป่ งออกก่อนที่จ่ๆู ก็ตะโกนออกมาอย่างน่า
สังเวช “ช่วยด้ วย! ฆาตกรรม! ”
เจ้ าของที่ดินหญิงรี บหนีออกไป แต่ด้วยขาที่เต็มไปด้ วยไขมันของมันจึงไม่สามารถที่จะไปได้ ไกล
นักและมันล้ มลงบนพื ้นดัง”พร็ อบ”
หลินหมิงก้ าวไปหาคนที่ใส่ตา่ งหูลิง แม้ วา่ ขันตอนแรกของการฝึ
้ กอบรมทางกายภาพเป็ นเพียง
ดินแดนเริ่ มต้ นของการต่อสู้มนั ก็ไม่ได้ หมายความว่าจะไร้ คา่ หลังจากที่คนจํานวนมากที่อยูใ่ น
อาณาจักรลิขิตฟ้า ไม่สามารถที่จะฝึ กอบรมในศิลปะการต่อสู้ ในทางกลับกันหลินหมิงที่มี
ความสามารถที่ดีที่ขนเริ
ั ้ ่ มต้ น นอกจากนี ้เขายังฝึ กหนักอย่างมาก ในหนึง่ พันคนที่มี
ความสามารถระดับเดียวกับเขา ก็อาจจะเป็ นเรื่ องยากที่มีซกั คนที่มีความแข็งแรงเท่าเขา ใน
ฐานะที่ชายคนนี ้เขาเป็ นเพียงลูกสมุนและไม่ได้ ใช้ ความพยายามมากสําหรับหลินหมิงที่จะ
จัดการกับเขา
มันเก็บเสียครางเอาไว้ อย่างไม่เคยคิดว่าหลินหมิงจะกล้ าทําเช่นนี ้ มันยกนิ ้วเปื อ้ นเลือดและชี ้ไป
ที่หลินหมิง “แก … แกกล้ าทําร้ ายข้ า… แกเสร็จแน่”
“ข้ าไม่ร้ ูสิ่งใดจะเกิดขึ ้นกับข้ า แต่ข้ารู้วา่ เจ้ าเสร็จไปแล้ ว” หลินหมิงเตะไปที่หน้ าท้ องของชายคน
นันทํ
้ าให้ มนั ร้ องไห้ ออกมาอย่างน่าสังเวช อีกครัง้ และอีกครัง้ เวลานี ้ยากจะผ่านประตูออกไป
และจบลงด้ วยการถูกเตะออกไป
หลินหมิงไม่ได้ พดู อะไร เขากลับไปที่ห้องของเขาและเก็บข้ าวของของเขาและเริ่ มที่จะจากไป
บ้ านทังหลั ้ วใจ มันกล่าวว่าเหนียม “แก …แกจะไป
้ งพังเละทําให้ เจ้ าของที่พกั เจ็บปวดไปทังหั
้ ได้ … แก … แกต้ องชดใช้ .”
อย่างนันไม่
หลินหมิงหยุดเดินเขาหันกลับมาเผชิญกับเจ้ าของที่ล้มลงบนพื ้นเหมือนก้ อนเนื ้อ เขาถาม.
“ชดใช้ ?”
“ชดใช้ แกต้ องชดใช้ … … ” เสียงของเจ้ าของที่พกั เริ่ มสูญเสียความแข็งแรง มันรู้สกึ ราวกับว่า
สายตาของชายหนุ่มคนที่เธอเห็นเป็ นเหมือนหน้ าต่างเข้ าไปสูเ่ หวนรกที่ทําให้ เธอตัวสัน่
โดยไม่ได้ พดู อะไร หลินหมิงเจาะผนังด้ วยกําปั น้ ของเขาทะลุผา่ นกําแพงอิฐของบ้ านทําให้ บ้าน
ทังหลั
้ งสัน่ และเกิดฝุ่ นละอองจะตกมาจากเพดาน เจ้ าของที่พกั กรี ดร้ องออกมาและเป็ นลมไป
หลินหมิงสะพายกระเป๋ าเดินทางของเขาและเดินออกจากบ้ านโดยไม่เหลีย่ วแลคนที่เป็ นลม
หลินหมิงก็ร้ ูดีวา่ หลังจากที่จดั การชายคนนัน้ คนที่อยูเ่ บื ้องหลังเขาจะไม่ปล่อยเรื่ องนี ้ไปและ
แน่นอนว่าจะนําพาปั ญหามาให้ แต่หลินหมิงก็ไม่มีความเสียใจในสิ่งที่ทําลงไป
ในฐานะที่เป็ นคน จําเป็ นที่จะต้ องอดทน ถ้ าคนทีม่ าในวันนี ้มีศิลปะการต่อสู้ หลินหมิงจะไม่ทํา
อะไรเขาทําและจะได้ เลือกที่จะทน การสูญเสียนี ้เป็ นสิ่งคนหนึง่ ที่จะต้ องทน อย่างไรก็ตามการ
ปรากฏออกมาก่อนของสมุนไร้ คา่ คนหนึง่ ที่ได้ ขึ ้นอยูก่ บั การสนับสนุนของเจ้ านายของมัน หาก
หลินหมิงต้ องทนสิ่งที่มนั ผู้นนได้
ั ้ กล่าวแล้ วสิ่งที่เป็ นจุดประสงค์แห่งวิถีการต่อสู้จะเหลืออะไร?
มันเป็ นสิ่งที่เข้ ากันไม่ได้ กบั วิธีการต่อสู้ภายในหัวใจของหลินหมิง
ดังนันหลิ
้ นหมิง เลือกไปอยูใ่ นพื ้นที่ใกล้ เคียง หลังจากที่ในขณะที่เขาสะพายกระเป๋ าเป้บนหลัง
ของเขาและเริ่ มการพิจารณาวิธีการที่จะแก้ ปัญหาเรื่ องอยูอ่ าศัยของเขา ณ ตอนนี ้ที่พกั ขนาด
เล็กทังหมดต่
้ างก็เต็มหมดแล้ ว นอกจากนี ้ราคาก็ยงั เป็ นราคาที่แพงเกินไปสําหรับเขา แม้ จะไม่มี
ใครคัดค้ านหากเขาจะหลับนอนในป่ า หลินเซี่ยวตงอาจจะเอะอะโวยวายและยืนยันที่จะนําเขา
ไปอยูด่ ้ วย
หากหลินหมิงทําเช่นนันและลู
้ กชายคนที่สองของชายคนนันส่้ งกองทัพมา อาจทําให้ หลินเซี่ยว
ตงเองไม่สามารถอยูอ่ ย่างเป็ นสุขในบ้ านของเขา เขาอาจยังต้ องมาหลับนอนอยูบ่ นท้ องถนน
พร้ อมกับหลินหมิง
ยิ่งกว่านัน้ หลินหมิงอาจเป็ นตัวปั ญหาที่อนั ตราย ไม่มีการรับประกันว่าลูกชายคนที่สองของมัน
จะไม่สง่ กองทัพอันธพาลมา ในสายตาของคนเหล่านี ้ที่มองคนอื่นๆ การทําให้ กลายเป็ นคน
พิการไม่ได้ เป็ นเรื่ องใหญ่อะไรเลย หลินหมิงไม่ได้ ต้องการที่จะนําเรื่ องเช่นนี ้มาเป็ นปั ญหาให้
หลินเซี่ยวตง
เมื่อเป็ นเช่นนัน้ แล้ วเขาจะไปที่ไหน?
หลังจากใคร่ครวญเกี่ยวกับเรื่ องนี ้ในที่สดุ หลินหมิงคิดได้ สถานที่ -นันคื
้ อ สถานประกอบการ
อาหารที่หรูหราที่สดุ ในเมืองลิขิตฟ้า – ศาลาจันทร์ กระจ่าง
ที่ศาลาจันทร์ กระจ่างมีทงหมดลู
ั้ กค้ าชันสู
้ งส่ง พวกเขานันมี
้ พื ้นฐานที่แข็งแกร่ง ด้ วยเช่นฐานะที่
แข็งแกร่งนัน้ การเป็ นลูกชายคนที่สองที่เป็ นกองทัพกลาโหมไม่สามารถทําอะไรได้
เหตุผลหลินหมิงเลือกที่จะไปศาลาจันทร์ กระจ่างนันเห็ ้ นได้ ชดั ว่าจะเขาจะไม่จ่ายเงินในการเช่า
สถานที่พกั เขากําลังมุง่ หน้ าไปที่นนั่ เพื่อหางานทํา พ่อแม่หลินหมิงทํางานร้ านอาหารทําให้
หลินหมิงจะสามารถปรุงรสชาติอาหารของเขาออกมาได้ ดีมากเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้ มนั่ ใจ
พอที่จะคิดว่าเขาสามารถแข่งขันกับพ่อครัวผู้ที่อยูใ่ นเมืองลิขิตฟ้าได้ เพราะความชอบของเขา
ไม่ได้ อยูใ่ นเรื่ องการปรุงอาหาร …
…
ศาลาจันทร์ กระจ่างยังคงสว่างสดใสในขณะที่หลินหมิงมาถึง มันเป็ นสถานประกอบการที่มี
ธุรกิจที่ดีที่สดุ ในเมืองลิขิตฟ้า
หลินหมิงในชุดที่เป็ นธรรมดาเกินไป ทําให้ ทกุ คนที่เห็นเขาเดินเข้ าสูส่ ถานประกอบการ มองไปที่
เขาด้ วยสีหน้ าแปลกใจ คนที่มีใส่เสื ้อผ้ าเช่นนันมั
้ กจะไม่อาจที่รับประทานในศาลาจันทร์ กระจ่าง
นี ้ได้ นอกจากนี ้ยังมีความจริ งที่วา่ หลินหมิงเป็ นเด็กวัยสิบห้ าปี
แต่พวกบริ กรก็ยงั ทําตัวเป็ นกันเองกับเขาแล้ วเดินมาถามถาม “น้ องชายตัวน้ อย หลงกับพ่อแม่
หรื อป่ าว?”
หลินหมิงส่ายหัวและตอบว่า “ข้ ามาที่นี่เพื่อหางาน.”
ได้ ยินดังนันบริ
้ กรก็ขมวดคิ ้ว ด้ วยงานของพวกเขา เด็กสิบห้ าปี จะทําได้ อย่างไร นี่ต้องการสาว
งามอายุอย่างน้ อยสิบแปดปี หรื อหนุ่มหล่อที่มีอายุอย่างน้ อยยี่สิบปี ในฐานะที่เป็ นผู้ช่วยปรุง
อาหาร เด็กสิบห้ าปี สามารถปรุงอาหารอะไรได้ ?
“ไปให้ พ้นอย่าก่อให้ เกิดความวุน่ วายที่นี่” บริ กรโบกมืออย่างไม่สบอารมณ์
“ข้ าสามารถทํางานได้ เพียงแค่ให้ ข้าเข้ าไปในห้ องครัว”
บริ กรถามอย่างหัวเสีย “อย่างเจ้ าจะไปทําอะไรได้ ?”
หลินหมิงยิ ้มและตอบว่า “หัน่ เนื ้อไร้ กระดูก”
“มันคืออะไร” กลายเป็ นบริ กรที่ตะลึง
การหัน่ เนื ้อไร้ กระดูก เป็ นเส้ นทางการทําอาหารอย่างหนึง่ และไม่ได้ ทกุ ร้ านอาหารจะทําได้ งาน
นี ้ต้ องตัดแต่งเนื ้อเป็ นชิ ้นขณะที่ถอดออกจากกระดูก
การตัดแต่งเนื ้อเมื่อชํานาญจะตัดเนื ้อวัวได้ อย่างง่ายดายและด้ วยทักษะการตัดแต่งเนื ้อนี ้ยังเมื่อ
ใช้ กบั เนื ้อวัวกว่าจะจําเป็ นต้ องเปลี่ยนมีดอาจใช้ เวลาเป็ นปี ๆ สําหรับบางคนการตัดเนื ้อวัว
จําเป็ นที่จะต้ องเปลี่ยนมีดของพวกเขาในทุกๆเดือน นอกจากยังอาจต้ องใช้ เวลานานถึงครึ่งวัน
สําหรับวัวตัวหนึง่
สําหรับจันทร์ กระจ่างวัตถุดิบของพวกเขาไม่ได้ ใช่เนื ้อวัว แต่เป็ นเนื ้อสัตว์ดรุ ้ าย เนื ้อของสัตว์ดุ
ร้ ายอร่อยมาก เป็ นที่ต้องการลิ ้มลองของผู้คน, ผิวหนัง กระดูกและเส้ นเอ็นจะเหนี่ยวเป็ นพิเศษ
คนธรรมดาจะต้ องเสียเวลาอันยาวนานเพียงเพื่อตัดมันออกเป็ นส่วนๆ ในทางกลับกันผู้มีศิลปะ
การต่อสู้ก็ไม่เต็มใจที่จะลดตัวมาทํางานเช่นนี ้ แม้ วา่ พวกเขายินดีที่จะทํา คนที่ไม่เข้ าใจเรื่ องของ
กล้ ามเนื ้อ กระดูกและเส้ นเอ็นทังสามเรื
้ ่ องจะไม่สามารถที่จะทํามันได้ หากใช้ ความแข็งแรง
เพียงอย่างเดียวเดียวในกระบวนการตัดขึ ้นจะทําให้ เกิดการสูญเสียรสแห่งความชาติอร่อย
การหัน่ เนื ้อไร้ กระดูกคือวิธีหนึง่ ที่หลินหมิงได้ นํามาเป็ นพื ้นฐานของการต่อสู้ ภายในร้ านอาหาร
ของพ่อแม่ เขาได้ รับการฝึ กฝนตัวเองในกระบวนการหัน่ เนื ้อไร้ กระดูกทุกวันเป็ นเวลากว่าสิบปี
มันเป็ นงานที่เหนื่อยมาก! หลินหมิงไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็ นอัจฉริ ยะในวิธีการต่อสู้ ทังหมดที
้ ่เขา
ทําได้ ดงั ปั จจุบนั เพราะการฝึ กอย่างหนักของเขาเองและการฝึ กทบทวนอย่างต่อเนื่องซํ ้าแล้ วซํ ้า
อีก นัน่ คือวิธีที่เขาทําเพื่อสร้ างรากฐานการต่อสู้ให้ เป็ นจุดแข็งของเขา ด้ วยการจับมีดเฉือน
เฉือน เฉือนซํ ้าแล้ วซํ ้าอีกภายในห้ องครัว
ขณะนี ้บริ กรนันไม่
้ สามารถที่จะไล่หลินหมิงออกไปได้ อีก และได้ นําเขาไปยังห้ องครัว …
“พี่สาวลาน น้ องชายคนเล็กนี ้ต้ องการที่จะเป็ นคนงานแร่เนื ้อ”
“คนงานแร่เนื ้อ?” ภายในห้ องครัวขอศาลาจันทร์ กระจ่าง มีผ้ หู ญิงสาวสวยในวัยยี่สิบ เธอสวม
ใส่ชดุ สวยมองมาที่หลินหมิง สังเกตเสื ้อผ้ าธรรมดาบนร่างกายและกระเป๋ าเป้สะพายบนหลัง
ของเขา ให้ ความรู้สกึ ดังเช่นผู้ลี ้ภัย เธอขมวดคิ ้ว จากนันเธอก็
้ พดู ในลักษณะที่ไม่พอใจต่อการบริ
กรที่นําหลินหมิงมา “เจ้ ากําลังทําอะไร บังอาจนําใครเข้ ามาในห้ องครัว ดงซึย ให้ เงินมันซัก
หน่อยและไล่เขามันไปซะ ”
เห็นได้ ชดั ว่าหญิงสาวงามผู้นี ้เห็นว่าหลินหมิงเป็ นแค่เด็ก ในฐานะที่เป็ นบริ กรเมื่อถูกตําหนิ
ใบหน้ าของเขาก็ขมขื่น ตามความเป็ นจริ งเขาได้ พยายามที่จะผลักดันหลินหมิงออก แต่เมื่อค้ น
พบว่าหลินหมิงดูเหมือนจะแข็งแรงและใช้ งานได้
ชายหนุ่มจึงพยายามพาหลินหมิงออกไป อย่างไรก็ตามในขณะนี ้เขาก็ร้ ูสกึ ว่ามือของเขาไม่มีแรง
พอจะทําได้ เขาจ้ องมองในมือหลินหมิงด้ วยความสับสน มือนันได้
้ ถือมีดของเขาไว้ อย่างเหนี่ยว
แน่น
ก่อนที่ชายคนที่ชื่อดงซึย สามารถเข้ าใจสิ่งที่เกิดขึ ้นหลินหมิงกล่าวว่า “ข้ าไม่ได้ มาที่นี่เพื่อขอเงิน
พี่สาวยังไม่สายเกินไปที่จะเปลี่ยนใจหลังจากได้ เห็นฝี มือของข้ า ”
หญิงสาวรู้สกึ ประหลาดใจเล็กน้ อย ปรากฏว่านี ้เด็กน้ อยมีประสบการณ์บางอย่างในฝี มือการ
ทําอาหาร เธอมองไปดงซึยและกล่าวว่า “ไร้ ประโยชน์เสียจริ ง เจ้ าไม่สามารถแม้ แต่จะจัดการ
กับเด็กน้ อย ไปที่โกดังและนําเนื ้อหมูยกั ษ์ มา “หลังจากนันเธอหั
้ นไปที่หลินหมิงและกล่าวว่า
“ถ้ าเจ้ าสามารถทําเสร็จได้ ในช่วงครึ่งชัว่ โมงยาม (1 ชัว่ โมง) แล้ วข้ าจะช่วยให้ เจ้ าได้ ที่อยูใ่ น
ศาลาจันทร์ กระจ่าง”
ดงซึย รู้วา่ เขาเสียหน้ าและรี บประเจิดประเจ้ อไปนําหมูขนาดยักษ์ มา แต่หลินหมิงเขาขัดจังหวะ
“ไม่จําเป็ นผมจะแสดงให้ ดกู บั เนื ้อชนิดอื่น”
หลินหมิงกล่าวว่าในขณะที่เขาชี ้ไปที่สว่ นสิ่งมีชีวิตสายพันธ์มงั กร
หญิงสาวประหลาดใจ เนื ้อมังกรสัตว์ดรุ ้ ายสัตว์ระดับสอง ชันของร่
้ างกายจะเต็มไปด้ วย
กล้ ามเนื ้อ กล้ ามเนื ้อเหล่านี ้เป็ นแข็งแกร่งอย่างมากและสามารถต้ านทานการโจมตีปกติด้วย
ดาบได้ อย่างไรก็หากใส่สมุนไพรบางอย่างต้ มเนื ้อให้ เดือดปุดๆ สามวันสามคืนจะได้ ซุปที่มี
รสชาติอร่อย
สําหรับเนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายเช่นนัน้ แม้ แต่ผ้ เู ชี่ยวชาญเฉพาะทาง ก็ยากที่จะตัดมัน เด็กคนนี ้บ้ าไปแล้ ว
“ล้ อเล่นอะไรของเจ้ า? นี ้เนื ้อมังกรเป็ นมูลค่ากว่าร้ อยเหรี ยญทอง เจ้ าต้ องตกลงที่จะจ่ายเงินให้
ข้ าถ้ าหากว่าเจ้ าทํามันเสียหาย “ดงซึย พูดออกมาด้ วยความไม่พอใจ เขายังคงไม่สบายใจที่
หลินหมิงมีมีดของเขา
หญิงสาวตะคอกออกมา”ถ้ าข้ าให้ เจ้ าทําลายมัน, เจ้ าคิดว่าเจ้ ามีวิธีที่จะทําลายมันได้ ?”
ดงซึยก็พบว่าตัวเขาเองไร้ ประโยชน์ที่จะพูด เนื ้อมังกรไม่ได้ เป็ นเช่นเดียวกับหมู, วัวหรือแกะ คน
ธรรมดาจะไม่สามารถที่จะทําลายเกล็ดของมันได้ แม้ จะใช้ มีดมันก็ไม่ใช่สิ่งที่คนปกติสามารถจะ
กระทําได้
้ นไปเผชิญหน้ าหลินหมิงและกล่าวว่า “ข้ าจะให้ เจ้ าได้ ลงมือ!”
หญิงคนนันหั
หลินหมิงพยักหน้ าและหยิบมีดแร่เนื ้อที่ดีที่สดุ ในห้ องครัว เขาเคยได้ ผ่าครึ่งเนื ้อมังกรเพียงสอง
ครัง้ ; ทังสองครั
้ ง้ เกิดขึ ้นในช่วงวันเกิดของบุคคลสําคัญในตระกูลหลิน หลังจากนันเนื
้ ้อดุร้าย
สัตว์ไม่ได้ ยากที่คนทัว่ ไปสามารถจะหาซื ้อได้
หลินหมิงสูดหายใจเข้ าลึกๆ ลูบเกล็ดของมังกรอย่างระมัดระวัง รับรู้ถงึ ตําแหน่งของหลอดเลือด
ดําของมัน กระบวนการนี ้เกิดขึ ้นในเวลาธูปไหม้ หมดดอก ในใจของเขาเขากลายแผนภาพของ
หลอดเลือดดําที่เปรี ยบเสมือนเป็ นลายบนฝ่ ามือของเขาเอง ก่อนจะยืนยันว่ามันจะถูกต้ อง
ในขณะที่รอ บางคนถึงกับทนไม่ไหวและถามในที่สดุ “เจ้ ากําลังทําอะไร? ทําไมคุณลงมือเสีย
ที? ”
“หยุดทําลับๆล่อๆและลงมือตัดมันซะ”
มันเป็ นเพียงธรรมดาที่คนเหล่านี ้ก็จะรอไม่ไหว วัยรุ่นสิบห้ าปี ที่อ้างว่าสามารถแร่เนื ้อสัตว์ดรุ ้ าย
ระดับสอง มันจะดูเหมือนจะเป็ นการเล่นตลกกับพวกเขา
หลินหมิงได้ ยินคําพูดเหล่านัน้ เขาหยิบมีดขึ ้นมา ตาของเขากลายเป็ นที่มงุ่ เน้ นมากด้ วยสามธิ
สําหรับเขาแล้ วกระบวนการ แร่เนื ้อได้ เทียบเท่ากับการฝึ กอย่างหนึง่
หลังจากที่แน่ใจในแผนภาพของหลอดเลือดดําแล้ ว ในที่สดุ ก็เริ่ มลงมือ เขาไม่ได้ ใช้ ขวานหรื อ
ใบมีดขนาดใหญ่ เขาเพียงใช้ แค่มีธรรมดาควงไปมา
ในมือของหลินหมิง มีดธรรมดานี ้กลายเป็ นอาวุธที่คมเป็ นพิเศษ มีดพุง่ ลงมาและเนื ้อมังกรสัตว์
ถูกตัดออกจากกัน!
เมื่อได้ เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ ้นนี ้ บุคคลเคยที่ได้ พดู กล่าวหาเงียบไปในทันที ด้ วยความสําเร็ จ
นี ้เพียงอย่างเดียวจะต้ องมีความแข็งแรงข้ อมืออย่างน้ อยสามร้ อยจิน (181.4 กิโลกรัม) สําหรับ
พวกเขาการนี ้ปกติจําเป็ นจะต้ องใช้ ทงขวานและเลื
ั้ ่อย
ใบมีดตัดผ่านช่องว่างในหลอดเลือดดํา ตัดผ่านมันไปได้ อย่างราบรื่ นราวกับว่าเขาได้ ตดั ผ่าน
กระดาษอยู่ ทุกคนจะสามารถได้ ยินเสียง”ชูว ชูว ” ก่อนจะพบกล้ ามเนื ้อมังกรสีขาว
เมื่อมองดูวิธีการที่งา่ ยดายของหลินหมิงที่ คนที่ถกู เรี ยกว่าดงซึย ลูบตาของเขา เขาสงสัยว่ามี
บางอย่างผิดปกติกบั ดวงตาของเขา นี ้คือเด็กน้ อยจริ งๆ เขาสามารถตัดเนื ้อมังกรออกจากกัน
ได้ ?
หลินหมิงกระทําได้ อย่างสง่างาม บางครัง้ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่เส้ นเอ็นอาจจะขัดขวางการผ่าของ
เขา เขาใช้ เวลาครึ่งชัว่ โมงในการลงมือตัดเนื ้อมังกรสัตว์เป็ นชิ ้น ชิ ้นส่วนของเนื ้อแถวซี่โครงถูก
วางแยกไว้ ส่วนเหล่านี ้เป็ นส่วนที่มีคณ
ุ ค่ามากที่สดุ ของเนื ้อมังกรสัตว์ ความยาวของกระดูก
ซี่โครงเหล่านี ้มีความสอดคล้ องกันทังหมด
้ แสดงให้ วา่ ไม่มีการเคลื่อนไหวที่เสียเปล่าในการลง
มือ
ฉากนี ้ทําให้ ทกุ คนประหลาดใจ อย่างกับว่าหลินหมิงได้ ทํามันอย่างง่ายดาย แต่ทกุ คนที่นี่ร้ ูวา่
เนื ้อมังกรสัตว์เป็ นโครงสร้ างขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ ประมาณห้ าคนที่แข็งแกร่งในการทํางาน
ประสานงานกันประมาณครึ่งวัน แต่เจ้ าเด็กนี่มีเพียงแค่ใบหน้ าสีแดงเล็กน้ อยหลังจากเสร็จสิ ้น
งาน เมื่อได้ เห็นเขาแล้ วต่อให้ ต้องตัดอีกสองสามอันก็ไม่เป็ นปั ญหา!
ในขณะที่เป็ นเวลามืดคํ่าแล้ ว ศาลาจันทร์ กระจ่างก็ไม่ได้ มีงานยุง่ มากนัก ทําให้ สมาชิกหลายคน
ในห้ องครัวได้ ดฉู ากเหล่านัน้ หลินหมิงวางลงมีดและถาม “จะให้ ข้าทํางานที่นี่ตอนนี ้หรื อไม่
ชัว่ โมงการทํางานของข้ าจะต้ องไม่เกินสองชัว่ โมงยาม (4 ชัว่ โมง) และเงินเดือนรายเดือนของข้ า
ห้ าเหรี ยญทอง อีกหนึง่ อย่างข้ าจําเป็ นต้ องมีอาหารและที่พกั ”
หญิงสาวครุ่นคิดเรื่ องนี ้สักครู่ก่อนที่จะพยักหน้ า “ตามนัน!”
้
เงื่อนไขหลินหมิงไม่ใช้ น้อยๆ แต่มนั ก็ค้ มุ ค่า ตัดสินโดยความเร็ วหลินหมิงก่อนหน้ านี ้ได้ แสดงให้
เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถทําได้ ภายในเวลาสองชัว่ โมง สิ่งสําคัญที่สดุ คือการทํางาน
ของเขาที่มีประสิทธิภาพสูงก่อให้ เกิดการสูญเสียน้ อยมากในส่วนผสมที่สาํ คัญ
ดังนันหลิ
้ นหมิงจึงได้ เริ่ มทํางานที่ศาลาจันทร์ กระจ่าง อีกทังสองชั
้ ว่ ยามในการทํางานก็ไม่ใช้ สิ่ง
เสียเปล่า เพราะมันก็เป็ นรูปแบบหนึง่ ของในฝึ กฝนสําหรับเขา การชกลําต้ นของต้ นไม้ เป็ น
รูปแบบของการฝึ กฝนเพื่อความแข็งแกร่ง ในขณะที่การแร่เนื ้อเป็ นรูปแบบของการฝึ กฝนความ
แม่นยํา
สําหรับคนสุดท้ ายเขาก็เลือกอีกอย่าง เนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายระดับสอง – ตัวนิ่มทองดํา สัตว์นี ้ดุร้ายมี
ฟั นที่สามารถบดขยี ้ก้ อนหินและสามารถเจาะผ่านภูเขาได้ ราวเต้ าหู้ เหตุผลที่เขาเลือกนี ้ตัวนิ่ง
ทองคําคือการบังคับให้ ทะลุเกินขีดจํากัดของตัวเองไปได้
หลังจากตัดลงบนเนื ้อ การทํางานของเขากลายเป็ นเรื่ องง่าย ใบมีดเลื่อนผ่านช่องว่างระหว่าง
กล้ ามเนื ้อของช่องท้ อง ของตัวนิ่มทองดํา แต่ก็มีชว่ งเวลาที่หลินหมิงรู้สกึ ว่าใบมีดถูกบล็อก มัน
ให้ ความรู้สกึ ราวกับว่ามีดใช้ การไม่ได้
กระดูก? บริ เวณหน้ าท้ องช่วงกลางไม่ควรมีกระดูก
หากที่ไม่หละ มันอาจจะเป็ นหิน? ตัวนิ่มทองดําบางครัง้ อาจกลืนก้ อนหินลงไป แต่หินเหล่านัน้
จะได้ รับการบดไป ถึงแม้ วา่ มันจะไม่ได้ บดด้ วยกรดที่มีประสิทธิภาพภายในกระเพาะอาหารซึง่
้ หรื ออาจจะเป็ น …
จะกัดเซาะมัน แม้ หินขนาดใหญ่ท่ีไม่อาจยังคงอยูภ่ ายในนันได้
แกนภายใน??
อาจเป็ นอย่างนันก็ ้ ได้ หลินหมิงเต็มไปด้ วยความตื่นเต้ น แกนภายในของชันดุ ้ ร้ายระดับสอง
สัตว์เป็ นสิ่งที่มีคา่ แม้ วา่ เขาจะได้ ไม่ขาย เขาจะกินมันเพื่อผลประโยชน์มากมายให้ กบั ร่างกาย
ของเขา
หลินหมิงสวมถุงมือ ดึงมันออกมาอย่างยากเย็นขณะที่หลีกเลีย่ งกรดในกระเพาะอาหารอย่าง
ระมัดระวัง เมื่อมองมาที่มนั หลินหมิงก็ได้ แต่ผิดหวัง มันเป็ นวัตถุทรงสี่เหลีย่ มเป็ นตาราง ซึง่ นัน่
หมายความว่ามันไม่ไช่แกนภายใน เพราะภายในมีรูปร่างเป็ นทรงกลมทังหมด ้
จริ งๆแล้ วมันจะมีลกั ษณะเหมือนหิน แต่มีบางสิ่งที่แปลกประหลาดในหินก้ อนนี ้ …
ลูกบาศก์ก้อนสีเทาดูเหมือนจะได้ รับการตัดอย่างประณีตด้ วยมุมที่แม่นยํา นอกจากนี ้ยังมีพื ้นที่
ผิวทังหกด้
้ านของลูกบาศก์ที่ถกู สลักจารึกสีดําให้ มนั มีกลิ่นอายลึกลับ
โลหะ?
หลินหมิงตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง มันไม่ได้ ดเู หมือนเป็ นโลหะหรื อหินเลย บางทีมนั อาจจะ
เป็ นหยกอย่างนันหรอ?
้
บทที่ 4 มรดกวรยุทธ
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
***ต่อจากนี ้จะใช้ คําว่า ขันผสานชี
้ พชร แทน ขันควบแน่
้ นชีพจร เพื่อความสละสลวยและความ
ลื่นไหลในการอ่านนะครับ***
สํานักลิขิตฟ้ามีประวัติศาสตร์ ความเป็ นมาเพียงสิบแปดปี ตรงข้ ามกับสํานักเจ็ดแก่นแท้ ที่ก่อตัง้
โดยเจ็ดผู้เชี่ยวชาญจากสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่มีประวัติศาสตร์ ความเป็ นกว่าหกร้ อยปี ซึง่ มีมรดก
ทักษะมากมาย!
ผู้ที่ฝึกมรดกวรยุทธ์จากสํานักลิขิตฟ้ามีความหวังเล็กๆน้ อยๆ ที่บรรลุขนควบแน่
ั้ นชีพจร แต่
สําหรับสํานักเจ็ดแก่นแท้ แล้ ว ราวกับฟ้ากับเหว เพียงมีทกั ษะขันต้
้ นระดับสี่ ก็สําเร็ จขันผสานชี
้ พ
จรได้ อย่างง่ายดาย ด้ วยแนวทางการฝึ กที่ดีของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ไม่ใช่เรื่ องยากเลยที่จะทําได้
เกือบทุกคน!
สําหรับหลินหมิงเขาแม้ ไม่มีแนวการฝึ กที่ดี แนวทางทังหมดของเขามี
้ เป็ นแนวทางการฝึ กแบบ
‘มือใหม่’ ‘ ทุกวันเขาจะฝึ กฝนโดยการเจาะลําต้ นของต้ นไม้ และแร่เนื ้อสัตว์นี่เป็ นแนวทางการ
ฝึ กของหลินหมิง!
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวทางการฝึ กขึ ้นอยูก่ บั ตัวเขาเอง จากการฝึ กหนักบ้ าง จากงานต่างๆ
บ้ าง ทีละขันๆจนกระทั
้ ง่ เขาสําเร็จการฝึ กฝนกายภายขันแรก!
้
สําหรับเขามรดก วรยุทธเป็ นสิ่งสําคัญยิ่ง!
หลินหมิงตืน่ เต้ นอย่างมากและเขาตะกละตะกลามที่จะศึกษาความรู้เกี่ยวกับมรดกวรยุทธ์นี ้
หลังจากนันไม่
้ นาน วรยุทธ์จดุ สูงสุดแห่งความโกลาหลก็ทําให้ เขาประหลาดใจอีกครัง้ !
‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เป็ นวรยุทธระดับสุดยอดของการฝึ กฝนทางกายภาพจาก
อาณาจักรพระเจ้ า อย่างไรก็ตามแม้ วา่ จะเป็ นระดับสุดยอดก็เป็ นเพียงฝึ กฝนทางกายภาพ ทํา
ให้ ไม่ใช่สิ่งมีคา่ มากนักในอาณาจักรพระเจ้ า เหตุผลหลินหมิงประหลาดใจเป็ นเพราะในที่สดุ เขา
ก็ได้ เข้ าใกล้ อาณาจักรพระเจ้ า
อาณาจักรพระเจ้ าเป็ นดินแดนที่มีมรดกอารยธรรมหลายร้ อยล้ านปี ทังการฝึ
้ กฝนทางกายภาพ,
ศิลปะการต่อสู้, ทักษะจารึกอักขระต่าง ทังหมดได้
้ ผ่านการพัฒนาและปรับปรุงให้ ดีขึ ้นตลอด
ช่วงเวลาที่ผา่ นมา มันเป็ นโลกที่สงวนไว้ สําหรับผู้แข็งแกร่งในวิถีแห่งการต่อสู้! ความสามารถ
และความแข็งแกร่งของพวกเขานันไม่ ้ อาจเป็ นสิ่งที่หลินหมิงจะจินตนาการได้ ในปั จจุบนั !
ดังนันวรยุ
้ ทธ์จดุ สูงสุดแห่งความโกลาหลจะเป็ นสิง่ ลํ ้าค่าเพียงแค่ช่วงต้ นของการฝึ กฝนเท่านัน!
้
นอกจากนี ้ยังมีเศษเสี ้ยววิญญาณที่เก็บไว้ ในลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์อีกมากมาย เมื่อความแข็งแรง
ถึงระดับที่เพียงพอเขาก็จะสามารถที่จะไปดึงความทรงจําจากเศษเสี ้ยววิญญาณเหล่านันมา ้
เพิ่มได้ อีก!([พระเอกแม่งโกงกว่าหลินตงอีกWTF!!!หลินตงเจอหลินหมิงหน่อยมัยสาสส]
้
<<<ข้ อความข้ างต้ นนี ้มีคําหยาบคายหากต้ องการอ่านกรุณาcopyไปzoomเอาเอง)
พิจารณาทังหมดนี
้ ้หัวใจหลินหมิงรู้สกึ ตื่นเต้ นอย่างไม่น่าเชื่อ!!
ปั จจุบนั สิ่งที่หลินหมิงกลัวที่สดุ คือความทรงจําของวรยุทธ์นี ้อาจไม่สมบูรณ์(ประมานว่าคนพอ
ตายก็จะเกิดเป็ นวิญญาณที่มีความทรงจํา+จิตสํานึก แต่เมื่อตายด้ วยลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์แล้ ว
มันทําลายไม่เหลือแม้ แต่จิตสํานึกโหดชิบ ความทรงจําของคนๆนันเองก็ ้ แตกเป็ นหลายๆเศษ
เสี ้ยว ซึง่ ความทรงจําในลูกบาศก์ศกั ดิ์ก็เป็ นของพวกหมื่นนักรบที่โคตรเก่งที่โผล่มาในดินแดน
หิมะในปฐมบทอะแหละ เลยกลายเป็ นว่าพระเอกมีความทรงจําของนักรบในอาณาจักรศักดิ์ทงั ้
หมื่นตน แต่ตอนนี ้มันเข้ าไปเอามาแค่เสี ้ยวเล็กๆของนักรบคนหนึง่ )เพราะว่าความทรงจําที่เข้ า
ได้ มาเป็ นเพียงส่วนเล็กๆของคนๆหนึง่ มันจะเป็ นที่น่าเสียดายหากมันเป็ นเช่นนัน้ โชคดีที่ใน’
จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เขาเห็นว่ามันครบเหมือนเดิม มีการฝึ กทางกายภาพทังความ ้
แข็งแรง สร้ างกล้ ามเนื ้อ อวัยวะภายใน ดัดแปลงกล้ ามเนื ้อ ดัดกระดูก และผสานชีพจร ครบทัง้
6ขัน้
เป็ นความจริงที่น่าแปลกใจสําหรับหลินหมิง ในทวีปนภาลินไหล(น่าจะเป็ นทวีปที่มีอาณาจักร
ลิขิตฟ้าอยู)่ โดยทัว่ ไปวรยุทธการฝึ กฝนทางกายภาพจะมีหนึง่ ขันตอนเท่
้ านัน้ ยกตัวอย่างเช่น
วรยุทธ’ดัดแปลงกล้ ามเนื ้อถ่องแท้ ’ ใช้ สําหรับบรรลุขนดั
ั ้ ดแปลงกล้ ามเนื ้อ
วรยุทธ’สูตรกระดูกทอง’ ใช้ สําหรับบรรลุขนดั
ั ้ ดกระดูก
วรยุทธ ‘พระเจ้ าเก้ าชีพจร’ ใช้ สําหรับบรรลุขนผสานชี
ั้ พจรและอื่น ๆ . แต่นี ้ ‘จุดสูงสุดแห่งความ
โกลาหล’ มีความสามารถฝึ กได้ ตงแต่ ั ้ ขนที
ั ้ ่หนึง่ ความแข็งแกร่ง ไปจนถึงขันที
้ ่หก ผสานชีพจร
แต่สิ่งที่หลินหมิงเห็น ก็ยิ่งทําให้ เขาตกใจมากยิ่งขึ ้นไปอีก!!!
ภายทวีปนภาลินไหล ขันผสานชี
้ พจรคือจุดสิ ้นสุดของขันตอนการฝึ
้ กฝนทางกายภาพ จากนัน้
จะก้ าวเข้ าสูร่ ะดับปราณฟ้า ระดับปราณฟ้าแบ่งเป็ นขันต้
้ นฟ้าและขันปลายฟ
้ ้ า สําหรับคนส่วน
ใหญ่ที่มีชีพจรการควบแน่นจะเป็ นเหมือนคอขวดหากพวกเขาไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้ คน
เหล่านี ้จะตกลงไปติดอยูใ่ นขันดั
้ ดกระดูกตลอดไป
ขันผสานชี
้ พจรเป็ นข้ อจํากัดของระดับกายภาพ นัน่ คือความรู้ที่ได้ รับการยอมรับโดยทัว่ กัน
อย่างไรก็ตามตามที่ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ มีตอ่ อีกขันตอนหนึ
้ ง่ นอกเหนือจากการ
ควบแน่นชีพจร – ผ่อนไขกระดูก!
้ อนกระดูกมีอยูจ่ ริ งๆ ! แปดประตูแห่งสวรรค์ที่ซอ่ นอยูส่ อดคล้ องกับกายาศักดิ์สิทธ์ทงเก้
ขันผ่ ั ้ า!
หากสามารถเปิ ดแต่ละประตูทงแปด ั้ มันก็ทะลวงฝ่ าขีดจํากัดของร่างกายและการเข้ าถึงระดับที่
สูงขึ ้นของความแข็งแกร่ง!
แม้ จะไร้ ซงึ่ ขันผ่
้ อนไขกระดูกและประตูทงแปด ั้ มันก็ยงั ทําให้ เข้ าก้ าวสูร่ ะดับปราณฟ้าได้ และ
หากมีสองสิง่ ข้ างต้ นนี ้ด้ วยแล้ วคงจะทําให้ เหนือกว่าผู้อื่นที่อยูใ่ นระดับเดียวกันหรื อกระทังใน
้
ระดับสูงกว่า ช่างเป็ นประโยชน์ที่ชดั เจนอย่างแท้ จริ ง!
เมื่อตระหนักได้ เช่นนี ้ หลินหมิง เข้ าใจอย่างถ่องแท้ วา่ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เป็ นสมบัติ
อมตะ!
หลินหมิงรู้สกึ ตื่นเต้ นเร่าร้ อนที่จะเริ่ มต้ นการฝึ กซ้ อม แต่ก่อนที่เขาจะได้ เริ่ม กระเป๋ าของเขา
ลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์ลกู นันทํ
้ าให้ เขาต้ องประหลาดใจ มันได้ หายไปเสียแล้ ว!(อ้ าว! ไม่มีลกู บาศก์ก็
หมดประโยชน์ละมึงจะเอาอะไรไปสู้หลินตงหละ ฮ่าๆ นัง่ แปลมาทังเรื
้ ่ องขนาดนี ้ลูกบาศก์
หายไปลูกเดียวนี ้ไปไม่เป็ นเลย 5555)
หลินหมิงตกใจกลัวและหยาดเหงื่อเริ่มไหลออกมา มือของเขาควานหาไปมาโดยรอบ และรู้สกึ
ว่าบางสิ่งบางอย่างที่แปลกบนหน้ าอกของเขา เขาถอดเสื ้อผ้ าของเขาและพบสัญลักษณ์แปลกๆ
บนผิวของหน้ าอกซ้ ายของเขา สัญลักษณ์เป็ นเหมือนกับสัญลักษณ์ลกึ ลับของพื ้นผิวของ
ลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธิ์
ก้ อนเมจิกฝั งเข้ าไปในร่างกายของเขา? หลินหมิงจําได้ วา่ ผู้หญิงผู้บริ สทุ ธิ์ได้ เรี ยกลูกบาศก์ศกั ดิ์
สิทธ์ออกมาจากฝ่ ามือของเธอ มันก็ไม่น่าแปลกใจหากเธอจะทําอย่างนันได้ ้ แต่หลินหมิงไร้ ซงึ่
เงื่อนงําของวิธีที่จะเรี ยกมัน
หลินหมิงพยายามที่จะเรียกลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์ แต่ก็ไม่มีประโยชน์ หลินหมิงรู้สกึ ผิดหวัง
เล็กน้ อย หลังจากที่แต่ละคนมีชิ ้นส่วนจิตวิญญาณจํานวนมากดังนันภายในลู้ กบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์
จะต้ องมีความทรงจํามหาศาล เขาได้ สมั ผัสเพียงที่เล็กที่สดุ ที่มีเพียงแสงสลัวๆ ยังได้ รับสิ่งลํ ้าค่า
ขนาดนี ้ ถ้ าหากเขาได้ เข้ าไปอีก ไปเอาเศษเสี ้ยวความทรงจํามากอีก ปริ มาณของสมบัติที่เขาได้
ครอบครองจะมหาศาลเพียงใด
เมื่อคิดได้ เช่นนัน้ จู่ๆหลินหมิงก็ทรุดตัวลง เขาได้ ลืมไปว่า แม้ เป็ นเพียงชิ ้นส่วนที่เล็กที่สดุ ของจิต
วิญญาณไร้ ชีวิตยัง กลืนเกือบจะกลืนกินจิตสํานึกของเขาแล้ วไปแล้ ว หากเป็ นสิง่ ใหญ่กว่ามี
แนวโน้ มที่จะสามารถที่จะกําจัดทันทีเขา! หลินหมิงฝั นสลาย!!!
เขาอาจเข้ าใจวิธีเรี ยกลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์และสามารถทนการกลืนกินจิตสํานึกของความทรงจํา
ได้ เมื่อได้ ไปถึงระดับที่สงู ขึ ้น สิ่งที่เขาต้ องทําในขณะนี ้คือการฝึ ก ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’
ให้ เร็ วที่สดุ เท่าที่เป็ นไปได้
หลินหมิงเลิกพยายามที่จะเรี ยกลูกบาศก์ศกั ดิ์สิทธ์และเริ่ มศึกษามรดกวรยุทธ์จากอาณาจักร
พระเจ้ า
สิ่งสําคัญของ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ คือการเปลี่ยนร่างกายทุกส่วนให้ เป็ นอาวุธของที่มี
ความแข็งแรงได้ อย่าน่าตกใจ
นอกจากนี ้ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ยังเน้ นวิธีที่ใช้ ความแข็งแรงชันแรกของการฝึ
้ กอบรม
ความแข็งแรงอยูแ่ ล้ วแตกต่างกันไกลจากบรรทัดฐาน
โดยทัว่ ไปเมื่อมีผ้ ใู ดมีแรงพันจิ๋น (604 กิโลกรัม) ผู้นนจะประสบความสํ
ั้ าเร็ จในการฝึ กกับต้ นไม้
แต่’จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ไม่เพียงแต่การฝึ กฝนด้ านความแข็งแรง แต่ยงั ฝึ กด้ านแม่นยํา,
การควบคุมพลังที่ใช้ หากผู้ใดเข้ าใจและประสบความสําเร็ จ มันผู้นนจะสามารถใช้
ั้ ฝ่ามือฟาด
ทะลวงลําต้ นของต้ นไม้ ทะลุไปถึงชันเยื
้ ่อไม้ ได้ อย่างง่ายดาย!
…
สามวันต่อมา
ที่ตีนเขาของภูเขาโจวมีพระจันทร์ เต็มดวงส่องสว่างกลางฟากฟ้า หลินหมิงยืนหลับตาอยูบ่ นที่
ราบพื ้นหญ้ า เขาสูดลมหายใจเป็ นจังหวะ ไม่มีใครรู้วา่ เขาอยูม่ านานเพียงใด เป็ นดัง่ เหมือน
ประติมากรรมส่องสว่างทร่ามกลางแสงจันทร์
เขาฝึ กฝน ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ เกิดการไหลเวียนของพลังงานที่แท้ จริ ง เมื่อความ
เข้ าใจที่สําคัญของมันคือความเพียร ทําให้ ความความแข็งแกร่งและความคงทนพัฒนาขึ ้นอย่าง
มากในระดับที่เหนือกว่าผู้อนื่ ในขันเดี
้ ยวกัน!
ภายใต้ ลมยามคํ่าคืน ต้ นหญ้ ามากมายพลิ ้วไหวเป็ นคลืน่ การหายใจของหลินหมิงเป็ นไปตาม
ลูกคลื่นเหล่านี ้นราวกับว่าเขาได้ กลายเป็ นหนึง่ เดียวกับธรรมชาติโดยรอบ
หยดนํ ้าค้ างกลัน่ ตัวบนใบไม้ เหนือหัวของหลินหมิง กลัน่ ตัวอย่างช้ าๆ ในที่สดุ ก็หลดลงมา
หลินหมิงที่เดิมทียืนอยูน่ ิ่งๆก็เปิ ดตาของเขา เขาเหยียดแขนขวาออกไปช่วยให้ หมดนํ ้าค้ างไปอยู่
ที่ปลายนิ ้วของเขา จู่ๆมือข้ างขวาของหลินหมิงก็กําหมัด ไหล่และต้ นขาของเขาเคลื่อนไปสู่
ตําแหน่งที่เหมาะสมและออกหมัดในทันที
“บูม!”
เกิดเสียงดังก้ องกังวาน ลําต้ นของต้ นไม้ หนาข้ างหน้ าหลินหมิงสัน่ สนัน่ หวันไหว ร่องรอยของ
กําปั น้ ปรากฏท่ามกลางฝุ่ นเป็ นวงบนเนื ้อไม้ !
หลินหมิงหายใจออกและปล่อยกําปั น้ ของเขา ทําให้ นํ ้าค้ างสาดกระเซนลงมา “ปา ดา”(เสียง
นํ ้าค้ างกระทบพื ้น) เสียงนันดั
้ งมาจากพื ้นหญ้ าหยดนํ ้ากระจัดกระจาย
เกิดรอยยิ ้มโผล่ออกมาบนใบหน้ าของหลินหมิง
เมื่อใช้ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ได้ สมบูรณ์แบบแล้ วหยดนํ ้าค้ างจะพุง่ ออกมาด้ วยกันโดย
ไม่เกิดเป็ นสะเก็ด แม้ วา่ ปั จจุบนั เขาเข้ าใจยังทําไม่ได้ แต่ในอนาคตเขาต้ องทําให้ สําเร็จ
นอกจากนี ้ยังได้ ทิ ้งรอยกําปั น้ ลึกลงไปครึ่งฝ่ าเท้ าบนต้ นไม้ เหล็ก สามวันก่อนการชกที่ดีที่สดุ ทํา
ได้ เพียงครึ่งนิ ้วเท่านัน้ ผลสัมฤทธิ์ในนการฝึ กฝนปั จจุบนั ทังหมดเกิ
้ ดจากการ ‘จุดสูงสุดแห่ง
ความโกลาหล’
ในทังสามวั
้ นนี ้หลินหมิงฝึ ก’จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ไม่หยุดและในที่สดุ ก็ประสบ
ความสําเร็ จในการเข้ าถึงช่วงเริ่ มต้ น ในความเป็ นจริ งหลินหมิงต้ องขอบคุณที่ความทรงจําของ
นักรบระดับสูงผู้นนั ้ ทําให้ ได้ รับเป็ นประโยชน์อย่างมากในการฝึ กฝนของหลินหมิง แม้ เข้ าจะมี
ความทรงจํา’จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ แต่หลินหมิงก็ต้องโดยใช้ ร่างกายของเขาเอง
เนื่องจากการฝึ กอย่างบ้ าคลัง่ เขามีอตั ราการบริ โภคสมุนไพรสูงขึ ้นมาก ด้ วยอัตรานี ้โสมเลือด
ของเขาจะหมดไปในเวลาครึ่งเดือน
ตอนนี ้เขามีแนวทางฝึ กฝน แต่ยงั คงต้ องเผชิญกับปั ญหาสมุนไพรไม่เพียงพอ …
อีกสองวันผ่านไป ความแข็งแกร่งของหลินหมิงก็เติบโตขึ ้นอีก ปั จจุบนั หลินหมิงก็สามารถที่จะ
แร่เนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายระดับหนึง่ ได้ อย่างง่ายดาย สําหรับเขาแม้ จะต้ องบดสัตว์ดรุ ้ ายระดับสองทังห้
้ า
ตัวพร้ อมกันยังถือว่าไม่ยากเกินไป
….
เช้ าวันหนึง่ หลินเซี่ยวตง มาถึงศาลาจันทร์ กระจ่างเพื่อพบหลินหมิง เขาเคยบอกหลินเซีย่ วตง
ก่อนหน้ านี ้ว่าเขากําลังทํางานอยูใ่ นศาลาจันทร์ กระจ่าง แม้ วา่ หลินเซี่ยวตงจะไม่เห็นด้ วยที่เขา
จะไปที่นนั่
“ไปงานศิลปะการต่อสู้ประจําปี ?” หลินหมิงรู้สกึ ตกใจที่ได้ ยินคําชวนของหลินเซี่ยวตง
“ที่นนั่ มีนกั รบมากมายและเหล่าขุนนางชันสู
้ ง ที่นนไร้
ั ้ ซงึ่ สิ่งของหายากจะมีก็เพียงสิ่งของหา
้ ”
ยากโครตๆเท่านัน!
หลินหมิงยักไหล่และตอบว่า “จะเอาทองจากไหนไปซื ้อของเหล่านันหละ
้ ณ ตอนนี ้ข้ ามีอยูเ่ พียง
ยี่สิบเหรี ยญทอง ”
“ไม่จําเป็ นว่าสามารถซื ้อได้ หรื อไม่ เราเพียงไปดูรอบๆ ใช้ เวลานี ้เก็บประสบการณ์ นอกจากนี ้
เราจะเข้ าสูส่ าํ นักเร็วนี ้ อย่างน้ อยเราต้ องมีอาวุธที่ดี แม้ วา่ ข้ าจะไม่สามารถซื ้ออาวุธระดับสูง
แพงๆได้ ข้ าก็ยงั สามารถที่จะซื ้ออาวุธระดับกลางส่วนใหญ่ได้ ”
และแล้ วหลินเซี่ยวตงก็ไม่ผิดหวัง หลินหมิงเลือกที่ไปกับเขา เพราะที่กล่าวมาทังหมดล้
้ วนเป็ น
ประสบการณ์ที่มีประโยชน์
ขณะออกเดินทาง หลินเซี่ยวตงพูดเรื่องงานศิลปะการต่อสู้ประจําปี ไม่หยุด เขาเป็ นคนที่ค้ นุ เคย
กับรายละเอียดของงานเป็ นอย่างดี ขณะที่พวกเขากําลังเดินทางอยูใ่ นซอยหลินหมิงก็หยุดลง
และวางมือบนไหล่ของหลินเซี่ยวตง
“มีอะไรไม่ชอบมาพากลหรื อ?” หลินเซี่ยวตงถาม
“มีใครบางคนกําลังล้ อมเราไว้ ” หลินหมิงถึงมีดแร่เนื ้อที่เอวของเขาออกมา ต้ องขอบคุณการ
ฝึ กฝนของเขา’จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ หลินหมิงมีความสามารถในการรับรู้เพิ่มขึ ้นอย่าง
มาก
เขาเดาได้ วา่ มันเป็ นใคร หลายวันก่อนเขาได้ ทําร้ ายคนที่ใส่ตา่ งหูลิง ตอนนี ้มันผู้นนก็
ั ้ ได้ ตดั สินใจ
ที่จะเผยตัวตนออกมา ขณะที่หลินหมิงเองก็เตรี ยมพร้ อมรับมือเอาไว้ แล้ ว
บทที่ 5 การเดิมพัน
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ทันใดนันเองหลิ
้ นหมิงหยุดเคลื่อนไหว เกิดเสียงที่คมชัดดังออกมาจากในตรอกซอย “หึหึ ไม่คิด
มาก่อนเลย แกเองก็ระมัดระวังตัวดีเหลือเกินนะ แกคือหลินหมิงใช่ไหม? “วัยรุ่นสวมชุดผ้ าไหม
ค่อยๆเดินออกมาจากด้ านหลังของหอพัก มีรอยยิ ้มอย่างดูถกู บนใบหน้ าของเขา ด้ านหลังของ
เขามีชายห้ าคนอายุประมาณสิบแปดปี ตามมา พวกเขาทังห้ ้ าส่วนใหญ่อยูใ่ นขันแรกของฝึ
้ กฝน
ทางกายมีเพียงคนเดียวที่อยูใ่ นขันที
้ ่สองเช่นเดียวกับคนที่ใส่ชดุ ผ้ าไหมคนแรกที่แสดงตัวออกมา
ก่อน
ในสถานการณ์เช่นนี ้จูๆ่ หลินเซี่ยวตงก็ตื่นตระหนก เขาจําชายในชุดผ้ าไหมได้ มันเป็ นสมุนคน
หนึง่ ของจู้ยนั ที่เห็นในช่วงลงทะเบียนของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ไม่วา่ ใครก็บอกได้ วา่ มันมาที่นี่เพื่อ
หาเรื่ อง
พวกเขามีทงหมดหก
ั้ มีสองคนที่มีการฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สองและอีกสี่คนมีการฝึ กผลกายภาพ
ขันแรก
้ สําหรับเขาและหลินตงพวกเขาทังสองเพี
้ ยงระดับการฝึ กฝนทางกายภาพขันแรก ้ หาก
เกิดการการต่อสู้กนั แล้ วแน่นอนว่าพวกเขาจะจบลงด้ วยการถูกทําร้ ายฝ่ ายเดียว วัยรุ่นในชุดผ้ า
ไหมต้ องเป็ นนักสู้จากตระกูลที่มีฐานะอยูบ่ ้ างในเมืองลิขิตฟ้า คนเหล่านี ้มีทงพละกํ
ั้ าลังและ
อํานาจ ขณะที่พวกเขาต้ องเคารพกฏหมาย แต่คนพวกนี ้มีเส้ นสายสามารถรังแกหรื อทําร้ ายใคร
ก็ได้ ตามใจชอบ
“พวกแกต้ องการอะไร?” หลินเซี่ยวตงตะโกนออกมาด้ วยความโกรธเกรี ย้ ว
“ไปถามมันเองสิ” ชายในชุดผ้ าไหมชี ้ไปที่หลินหมิง “แกค่อนข้ างน่าประทับใจที่กล้ าทําร้ าย
หนึง่ ในสมุนของข้ า จนมันบอบชํ ้าไปทังตั
้ ว ผิวหนังเต็มไปด้ วยรอยฟกชํ ้า กระดูกซี่โครงหักไปถึง
สองซี่ ”
สําหรับชายชุดผ้ าไหมที่มาจากตระกูลที่มีฐานะอาจไม่จําเป็ นต้ องเห็นค่าชีวิตของลูกน้ อง แต่
เมื่อพูดถึงชื่อเสียงของพวกเขามันก็เป็ นอีกเรื่ อง นอกจากนี ้สมุนนัน่ ได้ รายงานว่ามันได้ พดู ชื่อ
ของชายในชุดผ้ าไหม แต่ก็ยงั จบลงด้ วยการถูกทําร้ าย แสดงให้ เห็นว่าหลินหมิงดูถกู ชื่อเสียง
ตระกูลของมัน จึงเป็ นสิ่งที่ทําให้ ชายชุดผ้ าไหมที่โกรธแค้ น
“แกก็พอจะมีฝีมือนี ้ ข้ าหวังยี่เกา! วันนี ้ข้ าอยากจะดูวา่ แกจะไปได้ ซกั แค่ไหน! “วัยรุ่นในเสื ้อผ้ า
ไหมกล่าว ด้ วยใบหน้ าที่โมโห
หลินหมิงไม่เคยได้ ยินชื่อหวังยีเกามาก่อนทังยั
้ งไม่เคยเหยียบยํ่าชื่อเสียงอันใดเลย สมุนส่วน
ใหญ่มกั จะตอแหลเพื่อที่จะกระตุ้นหวังยี่เกา หลินหมิงจึงหมดโอกาสที่จะได้ อธิบายความจริ ง
ไม่วา่ อย่างไรก็คงต้ องเกิดการต่อสู้ขึ ้น!!
‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’จะได้ ทําประโยชน์ก็ตอนนี ้แหละ!! แต่หลินหมิงเพิ่งเริ่ มฝึ กมันได้
ไม่กี่วนั มันยังคงยากเกินไปที่จะสู้กบั คนจํานวนมากเช่นในเวลานี ้ ยิ่งพวกมันทังสองมี
้ การฝึ กฝน
ทางกายภาพอยูใ่ นขันที้ ่สอง ไม่ต้องพูดถึงหลินเซี่ยวตง คงต้ องถูกจับเป็ นตัวประกันเป็ นแน่
พิจารณาถึงภาพรวม เมื่อเรื่ องนันเกิ้ ดขึ ้นเขาต้ องถูกบังคับให้ ต้องสู้กบั วังยี่เกาแน่นอน ต่อให้ เขา
ชนะได้ ขึ ้นมาเขาก็ยงั เดือดร้ อน ปั ญหาต่อไปจะมาจากพ่อของหวังยี่เจา พ่อมันเป็ นหัวหน้ า
กองทัพของเมืองลิขิตฟ้า หลินหมิงสงสัยว่าบุคคลนี ้เองก็คงไม่ฟังเขาอธิบายความจริ ง
เช่นเดียวกัน จากการคํานึงถึงปั ญหาต่างๆเขาก็ไม่ควรทําตัวให้ เป็ นที่น่าจับตามองของบุคคล
เหล่านัน้
(ผู้แปลขออภัย:คนที่มาแย่งที่พกั หลินหมิงเป็ นลูกน้ องหวังยี่เจา “มันขูว่ า่ นายน้ อยมันเป็ นลูกคน
ที่สองของแม่ทพั แห่งเมืองลิขิตฟ้า” จากเดิมที่แปรผิดเป็ น “มันขูว่ า่ ลูกคนที่สองของมันอยู่
กองทัพกลาโหม” ต้ องขออภัยท่านผู้อา่ นไว้ ณ ที่นี ้ด้ วย)
หลินหมิงครุ่นคิด ทันใดนันก็
้ จดุ ประกายความคิดภายในหัวของเขาถึงวิธีที่จะแก้ ไขปั ญหานี ้ เขา
หันหน้ าไปทางหวังยี่เกา
“เจ้ าต้ องการอะไร?”
“ข้ าต้ องการอะไรงันรึ
้ ?”หวังยี่เกา หัวเราะออกมาทันที
“เจ้ ายังกล้ าถามอีกหรื อ ว่าข้ าต้ องการอะไร?”
พวกชายหนุม่ ที่มากับเขาต่างพากันหัวเราะออกมา ในสายตาของพวกมันหลินหมิงไม่แตกต่าง
จากคนโง่เง่าเพราะคําถามที่เขาได้ ถามออกไป
หลังจากหัวเราะไปสักครู่ ในที่สดุ หวังยี่เกาก็หยุดและกล่าวว่า “ข้ าไม่แน่ใจว่าควรจะเรี ยกแกว่า
ไอ้ หน้ าโง่หรือหมาหน้ าโง่ดีตงแกถามประโยคนั
ั้ นออกมา
้ ข้ าจะเมตตาให้ โอกาสแกซักครัง้ ”
หวังยี่เกาพูดอย่างโหดเหี ้ยม “เพียงแค่คกุ เข่าลงแล้ วเลียเท้ าของข้ าให้ สะอาด จากนันหั
้ กแขน
้ ”
หักขาอย่างละข้ าง ถ้ าแกยอมทําข้ าจะลืมเรื่ องนันไป
ได้ ยินเงื่อนไขของหวังยี่เกา หลินเซี่ยงตงถึงกลับโกรธแค้ น “ไอ้ หา่ เอ้ ย พี่หมิงไม่มีความ
จําเป็ นต้ องคุยกับพวกมัน สู้กบั มันเลยดีกว่า ตระกูลหลินแห่งเมืองใบหม่อนสีเขียวไม่ได้ ออ่ นแอ
ดูซิมนั จะกล้ าทําอะไรเราได้ ! ”
หลินเซี่ยวตง รู้วา่ พวกเขาจะต้ องทนทุกข์ทรมานอย่างน่าสังเวชในวันนี ้ ทังหมดที
้ ่เขาทําได้ ก็คือ
ใช้ ชื่อเสียงของครอบครัวของเขาและหวังว่าพวกนันจะเกิ
้ ดความกลัวขึ ้นมาบ้ าง ความเจ็บปวด
ทางกายคงไม่ได้ เป็ นปั ญหา แต่หากพวกเขาต้ องพิการมันจะเป็ นจุดจบของวิถีแห่งการต่อสู้
พวกเขาไม่อาจฟื น้ ฟูกลับมาสมบูรณ์ได้ แม้ จะมีสมุนไพรหายากแค่ไหนก็ตาม
“ตระกูลหลินแห่งเมืองใบหม่อนสีเขียว? พวกแกคิดว่าข้ าจะต้ องกลัวตระกูลหลินหรื อไม่ หลินห
มิงแกจะหักแขนหักขาแกเองหรื อต้ องให้ ข้าเป็ นคนทําให้ ? ”
“ข้ าขอท้ าเจ้ าสู้! เข้ ามาได้ เลย”หลินเซี่ยวตงก้ าวไปข้ างหน้ าอย่างมัน่ คงมือข้ างหนึง่ จับดาบของ
เขาเอาไว้ ความจริ งเขารู้สกึ กังวลอย่างมาก แต่เขาเป็ นคนจําพวกยอมหักไม่ยอมงอ ยอมตาย
เสียดีกว่าต้ องอับอาย!
หลินหมิงดึงหลินเซี่ยวตงไว้ และพูดกับหวังยี่เกา “เงื่อนไขที่เจ้ าต้ องการก่อนหน้ านี ้? ก็เป็ น
เงื่อนไขที่น่าสนใจดีนี ้ ตราบใดที่เจ้ าสามารถเอาชนะข้ าได้ ข้ าจะยอมรับเงื่อนไขของเจ้ า ”
“พี่หมิง … ” หลินเซี่ยงเกิดความกังวล แม้ เขาจะเชื่อว่าหลินหมิงเป็ นที่ประสบความสําเร็ จ
อย่างสูงในอนาคต แต่ปัจจุบนั หลินหมิงมีการฝึ กฝนกายภาพขันแรก้ จะมีวิธีเอาชนะหวังยี่เกาที่
อยูข่ นที
ั ้ ่สองของการฝึ กฝนกายภาพได้ อย่างไร? หลินเซี่ยวตง กลัวว่าหลินหมิงจะจบลงด้ วยการ
เส้ นเอ็นฉีกขาดจนพิการ
หลินหมิงกล่าว “ไม่ต้องห่วงข้ ารู้วา่ ข้ าทําอะไรอยู”่
“ท้ าประลอง?เจ้ าคิดว่าเจ้ ามีคณ
ุ สมบัติที่จะสู้กบั ข้ าได้ ?”
หวังยี่เกาไม่คิดว่าหลินหมิงจะเสนออะไรเช่นนี ้ ภายในอาณาจักรลิขิตฟ้าเจ้ าหน้ าที่ของรัฐจะไม่
แทรกแซงในการท้ าประลองระหว่างนักสู้ ดังนันความขั
้ ดแย้ งระหว่างนักสู้จะจบลงที่การท้ าปละ
ลอง ตราบใดที่ทงสองฝ่
ั้ ายตกลงพวกเขาจะกลายเป็ นผู้ชนะและผู้พา่ ยแพ้ หลังจากการต่อสู้จบ
ความขัดแย้ งจะถูกตัดสินโดยผู้ชนะ และด้ วยเกียรติแห่งวิถีการต่อสู้ ผู้แพ้ ไม่อาจตามรังควานผู้
ชนะได้ อีก เป็ นความเชื่อถือที่สําคัญอย่างยิ่ง
จากการพิจารณาของหวังยี่เกา หลินหมิงซึง่ มีเพียงการฝึ กฝนกายภาพขันแรก ้ เขาไม่เชื่อว่ามัน
้ ่ากว่าอาจเสียศักดิ์ศรี
จะทําอะไรเขาได้ แต่เขาก็ร้ ูสกึ ว่าการประลองกับหลินหมิงซึง่ อยูใ่ นขันตํ
หลินหมิงตอบ “ไม่มีสิ่งใดต้ องคิดให้ ยงุ่ ยาก มีเพียงคําถามที่วา่ เจ้ านันกล้
้ าหรื อไม่ ?”
“เจ้ ากําลังบอกว่าข้ าไม่กล้ า? เจ้ าได้ สนุกจริ งๆแน่เจ้ าพลาดเองนะ ข้ าตกลงรับคําท้ าประลอง !
”
หลินหมิงกล่าวว่า “เยี่ยม มาเริ่ มกันเลยดีกว่า”
ในตรอกซอยนันอยู ้ ไ่ กลเมืองยิ่งยัก ไม่มีใครที่จะรู้เห็นเป็ นพยาน หลินหมิงกลัวว่าหวังยี่เกาจะ
กลับคําพูด แต่ถ้าพวกเขาท้ าประลองในที่ที่มีฝงู ชนคนของเมืองลิขิตฟ้าแม้ จะด้ วยเหตุผลอันใด
หวังยี่เกาก็ไม่อาจกลับคําได้ เว้ นแต่วา่ เขาไม่ต้องการที่จะอาศัยอยูใ่ นเมืองลิขิตฟ้าอีกต่อไป
การท้ าปละลองระหว่างนักสู้มกั เป็ นที่น่าจับตามองและได้ รับความสนใจจากคนบริ เวณนัน้
อย่างไม่ขาดสาย ในช่วงเวลาที่คนจํานวนมากได้ เริ่ มมาชุมนุม แม้ กระทัง่ นักสู้บางคนก็ยงั
รวมอยูใ่ นผู้สงั เกตการณ์ เมื่อเห็นสองผู้แข่งขันทัง้ ฝูงชนก็เริ่ มพูดคุยกันเสียงดัง
“นันใช่
้ ลกู ชายแม่ทพั แห่งเมืองลิขิตฟ้าใช่ไหม?”
“เอาอีกแล้ ว!!! ไอ้ นี่มนั กลัน่ แกล้ งคนอื่นๆอีกแล้ ว ข้ าขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเด็ก
้ วย ”
น้ อยที่โชคร้ ายคนนันด้
“ผู้ฝึกฝนกายภาพขันแรกจะท้
้ าประลองผู้ฝึกฝนกายภาพขันที
้ ่สอง? ไอ้ เด็กนันไม่
้ หดั เจียมตัว
เอาซะเลย ”
“มันดูเหมือนว่าเด็กนันเป็
้ นเพียงคนธรรมดาสามัญ คนธรรมดาสามัญบังเอิญบรรลุฝึกฝน
กายภาพขันแรกได้
้ ช่างน่าสงสาร! โลกนี ้คงมีคนพิการเพิ่มอีกคนแล้ วสินะ … ”
…
ชื่อเสียงของหวังยี่เกา ในเมืองลิขิตฟ้าค่อนข้ างจะอยูใ่ นทางที่ไม่ดี คนส่วนใหญ่จงึ มักเห็นอกเห็น
ใจผู้ที่ออ่ นแอกว่า ในสายตาของพวกเขาอาจเห็นความรักความเมตตาที่มีให้ ตอ่ หลินหมิง
ผู้คนจํานวนมากต่างมาถึง หวังยี่เการู้สกึ ลําบากใจ การรังแกคนระดับตํ่ากว่าไม่มีอะไรให้ น่า
ภาคภูมิใจเลยสําหรับเขา นอกจากนี ้ตัวตนของศัตรูของเขา ก็ตํ่าเตี ้ยเลี่ยดินเกินไปเมื่อเทียบกับ
เขา ดังนันหวั
้ งยี่เกาจึงไม่อยากให้ มีผ้ พู บเห็นฉากนี ้มากนัก!
หวังยี่เกากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “แกรออะไรอยู?่ ข้ าจะทําลายเส้ นเอ็นแกให้ เอง ให้ แกได้
างเรา ”
เห็นถึงความห่างชันระหว่
้
เมื่อเห็นประชาชนจํานวนมากมายมารวมตัวกันรอบๆ หลินหมิงหันหน้ าไปหาหวังยี่เกา และ
ตอบว่า”แน่นอนมาเริ่ มกันเลย หากเจ้ าเป็ นผู้ชนะข้ าจะยอมรับความเมตตาจากเจ้ า(ความ
เมตตา=ความเมตตาที่หวังยี่เกาให้ โอกาสหลิงหมิงเลียเท้ าและหักแขนหักขา)แต่ถ้าหากข้ าเป็ น
ผู้ชนะจะให้ ข้าเมตตาเจ้ าบ้ างหรื ออย่างไรดี? ”
ชนะ? เขาคิดว่าเขาสามารถชนะได้ ?!!! (เสียงมวลมหาประชาชน)
บทที่ 6 การต่อสู้มือเปล่า
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
หวังยี่เการู้สกึ ว่าคนตรงหน้ าของมันต้ องมีปัญหาทางจิตบางอย่าง ในขณะที่มนั เป็ นไปไม่ได้ ที่จะ
มีผ้ ใู ดเอาชนะฝ่ ายตรงข้ ามที่อยูใ่ นระดับที่สงู กว่าของการฝึ กฝน ทังมั
้ นยังมีพรสวรรค์และความ
เป็ นอัจฉริ ยะที่ถกู สอนโดยผู้เชี่ยวชาญ
สําหรับมันหลินหมิงเป็ นเพียงชายหนุม่ ที่ยากจนยากที่จะบรรลุความแข็งแกร่งได้ สําเร็ จ ด้ วยการ
ที่มีความสามารถปานกลางของหลินหมิง มันคิดว่ามันจะชนะได้ ?
เมื่อวานนี ้มันคงลืมฝั นสินะ? ถึงได้ มาละเมอเพ้ อฝั นเอาตอนนี ้?
หวังยี่เกา ถามพร้ อมกับรอยยิ ้ม “บอกสิ่งที่เจ้ าต้ องการมาสิ?”
“ถ้ าข้ าชนะ ข้ อต้ องการโสมเลือดสองร้ อยปี พร้ อมทอง500เหรี ยญทอง”
โสมเลือดสองร้ อยปี และห้ าร้ อยเหรี ยญทอง! คนรอบทังหมดพู
้ ดต่างพูดอย่างตกใจ : ไอ้ เด็กคนนี ้
ช่างโลภมากเสียจริ ง! โสมเลือดสองร้ อยปี มีมลู ค่าถึง300เหรี ยญทอง ทังหมดนั
้ นรวมกั
้ นกว่า800
เหรี ยญทอง!
นี ้มันไม่ใช่มลู ค่าน้ อยๆเลย มันมหาศาลถึงกับทําให้ คนธรรมดาคนหนึง่ สบายไปทังชี้ วิต (ถ้ าจํา
กัน ทังครอบครั
้ วของหลินหมิงได้ มีรายได้ ปีละ120เหรี ยญทอง หลินหมิงทํางานที่ศาลาจันทร์
กระจ่างได้ เดือนละ5เหรี ยญทอง เอาไปเทียบดูนะจะได้ เข้ าใจว่าหลินหมิงมันโลภขนาดไหน
ฮ่าๆ)
“800ทองเหลียง?” หวังยี่เกากล่าวอย่างเย็นชา “แกคิดว่าอย่างแกจะมีโอกาส? ข้ าว่าแขนขา
ของแกมีคา่ มากกว่านันนะ?
้ ”
ภายในอาณาจักรลิขิตฟ้า ชีวิตของขุนนางและสามัญชนมีคา่ ไม่เท่ากัน แม้ วา่ หวังยี่เกา กําลังจะ
ฆ่าใครสักคน เขาเพียงถูกกักขังเป็ นการลงโทษ จากนันก็
้ แค่จา่ ยค่าชดเชยสองร้ อยเหรี ยญทองก็
ออกมาได้
หลินหมิงตอบกลับไป”สําหรับนักสู้อย่างเจ้ า แขนและขาคงไม่ได้ มีคา่ อะไรมากมาย ที่เจ้ าต้ อง
ทําเพียงแค่ก้าวเข้ ามาแล้ วข้ าจะหักมันให้ เจ้ าเอง”
“ไอ้ หา่ นี่! เจ้ าอยากตายนักรึ ! “หวังยี่เกาคําราม พร้ อมทังดึ
้ งดาบยาวบนเอวออกมา
ใบหน้ าของหลี่หมิงยังคงมีอารมณ์ขําในขณะที่เขาพูด “เจ้ ายังไม่ตอบรับเงื่อนไขข้ าเลย”
“เหอะ! เพียงแค่800เหรี ยญทองหนะรึ? ข้ าจะให้ แก1000 เหรี ยญทอง! แต่เจ้ าคิดว่าวันนันเจ้
้ า
จะมีชีวิตอยูห่ รื อไม่ เพียงสามกระบวนท่า ข้ าจะฆ่าเจ้ าเอง! ”
หวังยี่เกาทําให้ หลินหมิงยิ ้ม มีเงินมากขึ ้นในเดิมพัน
“ดีมากเปลีย่ นเป็ นทอง1000เหรี ยญทอง!”
ทันทีที่เขาพูดจบ หวังยี่เกาฟาดดาบยาวลงไปที่เขา
เห็นประกายแสงสะท้ อนสีทองแผ่จากดาบและเกิดเสียงดังก้ องไปหลายสิบเมตร
ทักษะต่อสู้!!
ทักษะต่อสู้คอื การใช้ พลังงานอย่างรุนแรงฆ่าศัตรู เมื่อวังยี่เกากล่าวว่าเขาจะฆ่าหลินหมิงภายใน
สามกระบวนท่า คําพูดนันไม่ ้ ได้ เป็ นเพียงอารมณ์ชวั่ วูบที่พดู ออกไป แต่เขามีความเชื่อมัน่ ใน
ความสามารถในทักษะต่อสู้ของเขา!
โอกาสที่จะได้ เรี ยนรู้ทกั ษะเหล่านี ้มีเพียงพวกที่มีอนั ดับสูงๆในตระกูลที่มีฐานะหรื อสาวกของ
สํานักต่อสู้
เมื่อทักษะต่อสู้ถกู ใช้ งาน ยากที่ผ้ ทู ี่ไม่มีทกั ษะต่อสู้จะรับมือได้ ยิ่งมีความแตกต่างในระดับการ
ฝึ กฝนกายภาพระหว่างหวังยี่เกา และหลินหมิงด้ วยแล้ ว หวังยี่เกาเชื่อมัน่ ในชัยชนะเพียงหนึง่
กระบวนท่า เหตุผลที่เขาบอกจะฆ่าหลินหมิงในสามกระบวนท่าเป็ นเพียงการสํารองไว้ เมื่อเกิด
ข้ อผิดพลาด
วังยี่เกาคาดการณ์ได้ ถกู ต้ องว่าหลินหมิงไม่ได้ เรี ยนรู้ทกั ษะต่อสู้ใดๆ หลินหมิงทําได้ เพียงใช้ การ
เคลื่อนไหวของมือเปล่าเพื่อรับมือการโจมตีจากหวังยี่เกา
เมื่อคนรอบข้ างเห็นฉากนี ้พวกเขาทังหมดก็
้ ร้ ูได้ ถงึ ผู้ชนะในการต่อสู้ทนั ที สําหรับหลินเซีย่ วตง
หัวใจของเขากังวนเป็ นอย่างมาก หลินหมิงจะหาวิธีป้องกันการโจมตีนี ้ได้ หรื อไม่?
้ เขาฝึ ก ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’
ความสนใจของหลินหมิงมุง่ ไปที่ดาบของหวังยี่เกา ตังแต่
การรับรู้ของเขาเพิ่มขึ ้นหลายเท่า ในสายตาหลินหมิงหวังยี่เกาเป็ นดังสัตว์ป่าพุง่ เข้ ามา! ไม่กี่
วันที่ผ่านมาหลินหมิงทําการหักแขนขาสัตว์ป่ามากมาย แม้ วา่ พวกมันจะตายแล้ ว การหักแขน
ขาพวกมันยังช่วยให้ เขาระบุช่องว่างระหว่างกระดูกได้ อย่างงรวดเร็ วและแม่นยํา!
ในขณะที่ดาบของหวังยี่เกาฟาดลงมา มีดของหลินหมิงก็พงุ่ ออกมา ไม่จําเป็ นต้ องกะระยะหรื อ
เล็งเป้าหมาย ทุกอย่างอยูใ่ นสัญชาตญาณของเขา มีดฟาดผ่านช่องโหว่ในการเคลื่อนไหวของ
หวังยี่เกา เกิดบาดแผลเจ็บแสบที่มีรอยเฉียงเล็กน้ อยขึ ้น
ด้ วยดาบที่แพรวพราวพุง่ ไปปะทะกับมีดที่พบได้ ทวั่ ไป แต่ผลลัพธ์เป็ นสิ่งที่ไม่มีใครคาดการณ์ได้
หลินหมิงโน้ มตัวไปด้ านข้ างและหลบดาบของหวังยี่เกา มีดในมือของเขาแทงเข้ าไปที่ซี่โครงของ
หวังยี่เกาได้ อย่างไม่น่าเชื่อ !
“อึก!” หลังจากที่ทกุ ข์ทรมานจากการถูกแทงด้ วยมีด หวังยี่เกาอุทานขึ ้นมาร่างกายของเขา
ทรุดลงและล่วงลงสูพ่ ื ้นดิน
เกิดอะไรขึ ้น? ฝูงคนที่มงุ รอบๆไม่สามารถเข้ าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ ้นได้ และตกตะลึงไปตามๆกัน
ปั จจุบนั รอยขาดหนึง่ ฟุตปรากฏบนเสื ้อผ้ าของหวังยี่เกา จากบนหน้ าอกยาวไปถึงเอวของเขา
แต่ไม่มีเลือดออกมา แต่บางสิ่งบางอย่างส่องแสงสีเงินผ่านออกมา(เหมือนคนโดนยิงล้ มไปกับ
พื ้นคิดว่าตาย แต่ใส่เสื ้อกันกระสุนไว้ ลกุ ขึ ้นมาใหม่)
“เกราะเบา”!!!
หลินหมิงแอบเสียใจ มันกลับกลายเป็ นว่าหวังยี่เกาสวมชุดเกราะเบาภายใต้ เสื ้อผ้ าของเขา หาก
ไม่ใช่เพราะเกราะเบาช่วยเอาไว้ หวังยี่เกาต้ องได้ รับบาดเจ็บเป็ นแน่
“แก!” หวังยี่เกาทังตกใจทั
้ งโกรธ
้ ดวงตาของมันเปลี่ยนเป็ นสีเลือด เขาถูกโจมตีจริ งๆ! เขาถูก
โจมตีจากคนที่มีระดับตํ่ากว่าเขาในสถานที่ที่มีผ้ เู ข้ าชมนับไม่ถ้วน! สําหรับหวังยี่เกา นี ้เป็ นที่ไม่
อาจยอมรับได้
“แกต้ องตาย!”
หวังยี่เกาคํารามลัน่ ด้ วยความโกรธ หวังยี่เกาไม่อาจยอมรับความอับอายได้ !! พร้ อมกวัดแกว่ง
ดาบของเขาอีกครัง้ มุง่ เป้าไปที่หลินหมิง!
อีกหนึง่ ทักษะต่อสู้ถกู ใช้ งาน!
สําหรับหลินหมิงเขาก็เหมือนนักล่าผู้ชํ่าชองสามารถจับจุดอ่อนสัตว์ในป่ าได้ ทกุ ชนิด!
“แคว๊ ก” ฉากจากก่อนหน้ าเกิดขึ ้นอีกครัง้ เวลานี ้มีดได้ ฉีกชุดของหวังยี่เกาเผยให้ เห็นเสื ้อกัก๊ ตัว
หนึง่
ฝูวชนต่างตกตะลึง พวกเขาจ้ องมองอย่างไม่อยากจะเชื่อในผลการต่อสู้ มันเกิดขึ ้นได้ อย่างไร?
กลับกลายเป็ นว่ามีดาบของหวังยี่เกาช้ ากว่า มีดแร่เนื ้อของหลินหมิง ด้ วยคุณสมบัติของทักษะ
ต่อสู้และระดับขันที
้ ่แตกต่างกันถึงหนึง่ ขึ ้น แต่ในการต่อสู้ครัง้ นี ้มันกลับถูกแทงเป็ นครัง้ ที่สอง!!!
“เด็กนัน้ ทังการเคลื
้ ่อนไหวร่างกายและความเร็ วในการใช้ อาวุธต่างรวดเร็ วกว่าหวังยี่เกา!” นัก
ต่อสู้ที่มองอยูต่ า่ งก็แสดงความคิดเห็น การฝึ กฝนกายภาพขันแรกจะเอาชนะการฝึ
้ กฝน
กายภาพขันที ้ ่สองได้ อย่างไร เป็ นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ ้นอย่างผิดปกติ!
ความเร็ วของหลินหมิงสูงกว่าหวังจี่เยาจริ งๆ ในความเป็ นจริ งมีความแตกต่างด้ านความเร็วเป็ น
อย่างมากเลยทีเดียว นี่คอื ผลของการฝึ ก ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ! หากขาดมันไปหละก็
แม้ หลินหมิงจะใช้ มีดได้ ชํานาญลึกซึ ้งเพียงใด แต่ความเร็ วและรุนแรงของเขาก็มีไม่มากนัก เป็ น
ธรรมดาที่จะไม่อาจที่จะเอาชนะหวังยี่เกาซึง่ มีระดับการฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สองได้
แต่ด้วยคุณสมบัติของ ‘จุดสิ ้นสุดแห่งความโกลาหล’ สถานการณ์ตอนนี ้แตกต่างไปอย่าง
สิ ้นเชิง!
“เฮื๊อก!” มันร้ องอย่างบ้ าคลัง่ หวังยี่เกาฉีกเสื ้อผ้ าด้ านนอกของมันออกเผยให้ เห็นเกราะเบามี
เงินที่สอ่ งประกายแวววับ เขาได้ เสียท่าให้ กบั เด็กเหลือขอขันแรก้ ถ้ าเขาไม่สามารถที่จะแก้ แค้ น
ได้ แล้ วเขาจะไปมีใบหน้ าอยูเ่ มื่องลิขิตฟ้าต่อได้ อย่างไร
“แกได้ ตายแน่!” หวังยี่เกาถ่ายเทพลังงานในร่างกายของเขาออกมาทําให้ ดาบปล่อยความ
เปล่งประกายยิ่งกว่าก่อน เขาฟาดลงบนหัวของหลินหมิง หากการโจมตีนี ้สัมผัสถูกหลินหมิง
แม้ แต่นิดเดียวเขาต้ องตายอย่างแน่นอน!!!
ทันใดนันเองหลิ
้ นหมิงก็ทําให้ ทกุ คนเกิดความสงสัย เขาโยนมีดทิ ้งและเผชิญหน้ ากับศัตรูของ
เขาด้ วยมือเปล่า!
ผู้ที่เฝ้ามองทุกคนต่างก็ไม่สามารถเข้ าใจในสิ่งที่หลินหมิงได้ ทําลงไป การฟาดฟั นหวังยี่เกาครัง้ นี ้
เห็นได้ ชดั ว่าเป็ นครัง้ สุดท้ ายซึง่ เต็มไปด้ วยพลังทังหมดของมั
้ น ดังนันทํ
้ าไมเด็กนันถึ
้ งทิ ้งอาวุธ
ของมันในช่วงเวลาที่สําคัญที่สดุ เช่นนี ้?
แน่นอนอยูแ่ ล้ วว่ามีดจะแข็งแกร่งกว่ากําปั น้ ? ในช่วงวิกฤตเช่นนี ้อย่างน้ อยเขาก็ยงั ใช้ มนั ปั ด
ป้องดาบจากฝ่ ายตรงข้ ามได้ แล้ วเขาจะโยนมันทิ ้งเพื่ออะไร!!
บทที่ 8 ฉินชิงหวน
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
หลินหมิงหัวเราะออกมาและกล่าวว่า “นัน่ เป็ นสิทธิที่เราจะใช้ จ่าย แต่เราต้ องระมัดระวังการไป
ไหนต่อไหนในช่วงไม่กี่วนั ต่อจากนี ้ ”
“หืม? พี่หมายถึงหวังยี่เกา ? ”
“อืม มันต้ องมาแก้ แค้ นแน่นอน มันจะไม่ทําเช่นนันอย่
้ างเปิ ดเผย มันจะมาแบบลอบกัดเสีย
มากกว่า”
หลินหมิงลดเสียงลงแล้ วกล่าวว่า หากหวังยี่เกาล้ มเลิกในเรื่ องนี ้แล้ วทุกอย่างก็จะจบ แต่ถ้ามัน
แอบสมคบคิดกับพวกของมันหรื อส่งมือสังหารที่มีเป้าหมายสังหารพวกเราแล้ ว หลินหมิงอาจ
จําเป็ นต้ องสอนให้ หวังยี่เการู้รสชาติของความขมขื่นอีกครัง้ โดยธรรมชาติที่หวังยี่เกามีพอ่ เป็ น
คนใหญ่คนโตคงไม่ยอมให้ จบแต่เพียงแค่นี ้แน่ ในเมื่อพ่อของหวังยี่เกาเป็ นแม่ทพั แห่งเมืองลิขิต
ฟ้า เหตุการณ์ดงั กล่าวย่อมไม่จบลงด้ วยดี
มีการค้ าอย่างยุติธรรมถูกจัดขึ ้นที่เขตชานเมืองของเมืองลิขิตฟ้า สถานที่แห่งนี ้เป็ นที่ที่มีคน
จํานวนมากมายทําการแลกเปลี่ยนซื ้อขายกันอยู่ การชุมนุมสุดยอดของงานแสดงสินค้ าที่จดั ขึ ้น
เป็ นประจําทุกปี ในงานนี ้แม้ นกั สู้จากอาณาจักรใกล้ เคียงก็จะมาร่วมด้ วย พวกเขาจะค้ นหา
เลือกซื ้อสินค้ าที่พวกเขาต้ องการ
ในขณะที่หลินหมิงมาถึงทางเข้ าเทศกาล เขาก็ต้องตกใจที่เขาสังเกตเห็นฝูงชนที่คกึ คักและ
สินค้ าระดับสูงมากมายตรงหน้ า นี่คอื สถานที่แห่งความหรูหราสําหรับขุนนางและยอดนักสู้ มัน
ไม่เป็ นที่น่าแปลกใจเลยที่จะเจอผู้ฝึกกายภาพขันผสานชี
้ พจรในฝูงชน
เมื่อหลินหมิงมองดูกลุม่ ฝูงชนเคลื่อนไหวอย่างหนาแน่น ความวุน่ วายเกิดขึ ้นในหมูพ่ วกเขา
หลินหมิงหันหน้ าไปดูอย่างประหลาดใจ พบรถม้ าสุดหรูสีขาวกําลังขับเคลือ่ นที่เข้ าสูง่ าน
เทศกาล ม้ าแต่ละตัวเป็ นม้ าชนิดเดียวกันคือม้ ามักกรหิมะ ม้ าเหล่านี ้มีความเร็ วที่ยอดเยี่ยมและ
ความอดทนสูง พวกมันมีราคาถึง10000เหรี ยญทอง ต้ องเป็ นนักสู้ในตระกูลที่รํ่ารวยมัง่ คัง่ เป็ น
มหาเศรษฐี เท่านันที
้ ่จะมีได้ ต่อให้ เป็ นตระกูลที่มีฐานะดีอย่างตระกูลของหวังยีเกาก็มิอาจเอื ้อม
จะหาซื ้อพาหนะเช่นนี ้ได้
บุคคลที่อยูภ่ ายในนันจะเป็
้ นเช่นใด? สําหรับบุคคลจะขี่อยูใ่ นรถม้ ามูลค่านับ10000เหรี ยญทอง
อาจเป็ นไปได้ วา่ เจ้ าชายเจ้ าหญิงในพระราชวงศ์? หลินหมิงคิดในใจ
้ นเซี่ยวตงพูดขึ ้น “เห็นอัศวินสีทองถือหอกข้ างรถม้ านัน่ ไหม ? นัน่ คือหนึง่ ในสี่
ในขณะนันหลิ
จอมพล ”
“หนึง่ ในสี่จอมพล? เจ้ าหมายถึงจอมพลฉิน? “หลินหมิงถาม
ภายในโครงสร้ างทางทหารของอาณาจักรลิขิตฟ้าตําแหน่งของผู้นําต่างๆล้ วนเป็ นความสําเร็ จที่
ยิ่งใหญ่ เริ่ มจากแม่ทพั พันตรี พันเอก สุดท้ ายคือจอมพล ในอาณาจักรลิขิตฟ้า มีเพียงคนเดียว
ไปยังตําแหน่งจอมพลได้ ในช่วงแปดสิบปี ที่ผ่านมา
ประชาชนมหาศาลแห่งราชอาณาจักรลิขิตฟ้าอาจไม่ทราบชื่อของจักรพรรดิองค์ปัจจุบนั แต่
พวกเขาทังหมดรู
้ ้ จกั ชื่อของจอมพลเป็ นอย่างดี
ผู้เป็ นป้อมปราการแห่งราชอาณาจักร จอมพลฉินเสี่ยว แปดสิบปี ที่ผ่านมา ราชอาณาจักรลิขิต
ฟ้าได้ รับความเดือดร้ อนจากการรุกรานที่นําโดยอาณาจักรทองตะวันออก ชีวิตนับไม่ถ้วนถูก
กลืนหายไปและพระราชวงศ์ได้ ไปหลบภัยในภาคใต้ มีเพียงฉินเสี่ยวเป็ นเพียงคนเดียวที่ได้ ยืน
ยัดปกป้องบ้ านเมือง กองทัพฉินและผู้ใต้ บงั คับบัญชามีสว่ นกระทําความดีความชอบในการปก
ปั กรักษาเมืองและช่วยชีวติ ผู้คนทางตอนเหนือ หลังจากสามปี ที่ผ่านมากองทัพฉินก็สามารถ
เอาชนะ
อาณาจักรตะวันออกได้ ในที่สดุ ฉินเสีย่ วได้ รับแต่ตงในชื
ั ้ ่อจอมพลในปี เดียวกัน ในขณะเดียวกัน
ทหารผ่านศึกของกองทัพฉินก็จดั ตังสํ
้ านักลิขิตฟ้าขึ ้น
เนื่องจากงบประมาณมีอยูอ่ ย่างจํากัด สํานักลิขิตฟ้าของพวกเขาไม่สามารถที่จะแข่งขันสํานัก
เจ็ดแก่นแท้ ที่จดั ตังขึ
้ ้นโดยเจ็ดผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลใหญ่ทงสามได้
ั้ อย่างไรก็ตามสํานักลิขิต
ฟ้าทําหน้ าที่เป็ นสถาบันฝึ กฝนสําหรับอาณาจักรลิขิตฟ้า บรรดาผู้ที่ศกึ ษาในสํานักต่างก็จบ
การศึกษาและได้ บรรลุตาํ แหน่งที่ดีในอาณาจักรลิขิตฟ้า
สําหรับฉินเสีย่ วเขาเป็ นอาจารย์ใหญ่หรื อผู้อํานวยการแห่งสํานักลิขิตฟ้า การฝึ กฝนของเขา
บรรลุถงึ ขันปราญฟ
้ ้ าขันต้
้ นช่วงกลางๆ สําหรับนักต่อสู้โดยทัว่ ไป ขันผสานชี
้ พรและผู้ที่อยูเ่ หนือ
ขึ ้นไปเป็ นสิ่งที่ยากจะบรรลุได้
ปั จจุบนั รถม้ าหยุดชะงักลง หลินหมิง สูดลมหายใจเข้ าลึก เขาอยากเป็ นอย่างฉินเสี่ยวให้ ได้
เป็ นคนที่เป็ นตํานาน!
ลมพัดเข้ ามาทําให้ มา่ นพลิ ้วไปตามลมเผยให้ เห็นผู้คนหนึง่ ที่อยูบ่ นรถม้ า ผิดจากที่หลินหมิงคาด
การไว้ ผู้นนเป็
ั ้ นเพียงสาวน้ อยนางหนึง่ เท่านัน้
เมื่อเห็นหญิงสาวหลินหมิงรู้สกึ แปลกใจในขณะที่ตาหลินหลินตงจ่องมองตรงไปที่เธอ ความงาม
ที่สามารถโค่นล้ มราชอาณาจักรคืออะไร? นี่ไง!!!
หญิงสาวสวมขาวผมสีดาํ ลดหลัน่ ลงมาบนเอวของเธอ ผิวของเธอเป็ นเงาวาววับเหมือนหยกที่
งดงาม การปรากฏตัวของเธอชวนให้ หลงใหลเป็ นดัง่ พระจันทร์ เต็มดวงส่องแสง ดวงตาของเธอ
เหมือนหยาดนํ ้าค้ างในฤดูใบไม้ ร่วง เธอมีจมูกโด่ง คางแหลมและคอเรี ยวหยก มีเพียง
ข้ อบกพร่องที่หนึง่ ที่อาจไม่สงั เกตเห็น
นอกจากนี ้เธอยังปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งภูมิปัญญาและความบริ สทุ ธิ์ที่กอ่ ให้ เกิดความคิดที่ไม่
อาจหลีกเลี่ยงที่เธอจะเข้ าไปในจิตใจของเหล่าชายที่เฝ้ามอง: หญิงสาวผู้ไม่มีผ้ ใู ดเสมอเหมือน
เพียบพร้ อมไปด้ วยองครักษ์ และสาวใช้ มากมาย หญิงสาวลงจากรถม้ าและเดินเข้ าไปในงาน
เทศกาล เมื่อใดก็ตามที่เธอไปก็จะดูเหมือนกับว่ามีแสงสว่างสะไหวขึ ้นในพื ้นที่ และดอกไม้ จะ
เบ่งบาน สําหรับหญิงสาวที่ดเู หมือนจะเต้ นอยูภ่ ายในภาพที่สวยงามนี ้นําไปสูก่ ารทําให้ ทกุ คน
เห็นเธอหายเข้ าไปในภวังค์
สายตาทุกคูถ่ กู รวบรวมเข้ าสูเ่ ธอ รถม้ ากว่า10000เหรี ยญทอง ด้ วยความงามของเธอ ตระกูลฉิน
ยืนหยัดมันคงมายาวนานกว่าแปดสิบปี ปั จจัยเหล่านี ้เพียงพอที่จะทําให้ เธอกลางเป็ นศูนย์รวม
ของความสนใจ
จนกระทัง่ หญิงสาวได้ หายลับไปจากสายตา หลินเซี่ยวตงพึง่ จะรู้สกึ ตัวหลังตกอยูใ่ นภวังค์
หลินหมิงถาม “เธอเป็ นใคร? เจ้ ารู้จกั เธอหรื อไม่? ”
หลินเซี่ยวตงตอบ “ข้ ารู้วา่ เธอเป็ นใคร แต่เสียดายเธอไม่ร้ ูจกั ข้ าเลย เธอเป็ นหลานสาวของฉิน
เสี่ยว ฉินชิงหวน แถมยังสืบทอดสายเลือดมาโดยตรง. “ในขณะหลินเซี่ยวตงอธิบาย หลินหมิ
งยกย่อง “โอ้ ” เขาค่อนข้ างเดาตัวตนของเธอได้ และเขาเองก็ไม่ได้ แปลกใจเกินไป
หลินเซี่ยวตง เหลือบมองไปที่หลินหมิงและยิ ้ม “ผู้หญิงคนนันมี
้ พรสวรรค์ระดับหก.”
“อะ … อะไรนะ?”
หลินหมิงได้ แต่ตะลึง “พรสวรรค์ระดับหก? เจ้ าแน่ใจรึ? ”
ความสามารถสูงสุดที่หลินหมิงเคยเห็นมาก่อนเป็ นพรสวรรค์ระดับสี่ เพียงแค่พรสวรรค์ระดับห้ า
ก็ไม่อาจพบได้ ในมืองใบหม่อนสีเขียวแม้ แต่คนเดียว บางทีคนเหล่านี ้มีอยูใ่ นอาณาจักรลิขิตฟ้า
แต่จํานวนของพวกเขามีเพียงน้ อยนิด แต่เขาเพิ่งได้ รับการบอกเล่าว่าหญิงสาวคนหนึง่ ที่ผ่านไป
มีพรสวรรค์ระดับหก สําหรับเขานันเป็
้ นความจริ งไปไม่ได้ !
หลินเซี่ยวตงคาดไว้ แล้ วว่าหลินหมิงต้ องมีปฏิกิริยาเช่นนี ้และกล่าวว่า “พี่หมิง อย่าได้ ไป
เปรี ยบเทียบกับเธอที่มีพรสวรรค์ระดับหกเลย สามารถพิเศษของเธอดูน่าอัศจรรย์เกินไป ?”
หลินหมิงตอบ “ข้ าคิดว่าช่างน่าอัศจรรย์ใจมาก พรสวรรค์ระดับหก! นี ้คือสิง่ ที่ข้าไม่เคยได้ ยินมา
ก่อน ! แล้ วเธอ… มีระดับการฝึ กฝนเป็ นอย่างไรบ้ าง? ”
หลินเซี่ยวตง ยักไหล่ “ข้ าเองก็ไม่ร้ ูเรื่ องนัน้ แต่มนั ก็ต้องสูงอย่างไม่น่าเชื่อ พิจารณาจากการที่
เธอมีพรสวรรค์ระดับหกเช่นนัน้ ความพัฒนาการที่รวดเร็ วและยังเกิดภายในตระกูลที่ยิ่งใหญ่
หากจะมีการฝึ กฝนกายภาพขันสี
้ ่หรื อขันห้
้ า ก็เป็ นอะไรที่ไม่น่าแปลกใจ อย่างไรก็ตาม… พี่หมิง
ทําไมพี่ถามเกี่ยวกับเรื่ องนี ้หละ ?
หลังจากที่ได้ เห็นความงามที่สมบูรณ์แบบ หัวใจของพี่ถกู ขโมยไปหมดแล้ วหรื อไม่ ”
เป็ นคําถามที่ทําให้ หลินหมิงประหลาดใจ เขาไม่ได้ ทําจากไม้ เป็ นธรรมดาที่ผ้ หู ญิงจะเป็ นที่
สนใจของสุภาพบุรุษ และฉินชิงหวน เป็ นหญิงที่สมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเรื่ องของหลานยุยเยี่ย ทําให้ หลินหมิงได้ เข้ าใจว่าความรักจาก
ครอบครัวเท่านันที
้ ่ยาวนานตลอดไป ด้ วยระดับประสบการณ์ปัจจุบนั ของเขา การแสวงหา
ความรู้ดงั กล่าวเป็ นมีความหมายอย่างยิ่ง เขาหันกลับมาถาม
“ทําไม? เจ้ าชอบที่เธอ? ”
“แน่นอน ข้ าทําได้ เพียงแค่ชื่นชอบเธอ เธอคนนี ้ห่างไกลเกินกว่าข้ าจะอาจเอื ้อม ข้ าไม่อาจหวัง
ว่ามันจะเป็ นจริ งได้ เลย ข้ าไม่ทราบว่าหลายคนที่อยูใ่ นเมืองลิขิตฟ้า ใครจะเป็ นคนโชคดีได้ หวั ใจ
เธอไป เธอคนนี ้ต้ องเข้ าสูต่ ระกูลที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตดังเช่นสามตระกูลที่ร่วมกันสร้ างสํานักเจ็ด
แก่นแท้ เป็ นแน่ เธอเป็ นสาวกหลักของสํานักเจ็ดแก่นแท้ เมื่อนานมาแล้ ว ปุถชุ นอย่างเราไม่
สามารถหวังจะยืนเคียงข้ างกับคนอย่างเธอ แต่สิ่งที่ทําให้ ข้าอิจฉาที่สดุ คือเธอเป็ นผู้เชียวชาญ
การจารึก ”
“ผู้เชี่ยวชาญการจารึก?”
หลินหมิงไม่ได้ มีความเข้ าใจเกี่ยวกับอาชีพพวกนี ้ โดยทัว่ ไปอาชีพเหล่านี ้มีความต้ องการสูงใน
ด้ านคุณสมบัติและมีผ้ เู ชี่ยวชาญเพียงน้ อยนิด แม้ ผ้ ปู ระกอบอาชีพเหล่านี ้จะมีคา่ ฝึ กฝนค่อนข้ าง
น้ อยเมื่อเทียบกลับค่าใช้ จ่ายที่จําเป็ นสําหรับการฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้ แต่ผ้ ทู ี่จะฝึ กฝนได้ ต้อง
แรงดันวิญญาณ
” ผู้เชี่ยวชาญการจารึกสามารถใช้ วสั ดุพิเศษที่จะแกะสลักอักขระและสัญลักษณ์บนอาวุธ พวก
เขาสามารถสร้ างความเข้ มแข็งให้ อปุ กรณ์โดยการแกะสลักสัญลักษณ์ให้ กบั มัน อาชีพนี ้ต้ องมี
แรงดันจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง และเมื่อกลายเป็ นผู้เชี่ยวชาญการจารึก เงินทองจะเป็ นเรื่ อง
ง่ายดายเหมือนการรับประทานอาหารและดื่ม!”
“แต่น่าเสียดายที่นกั สู้สว่ นใหญ่ไม่มีโอกาสที่จะเข้ ามาประกอบอาชีพนี ้ ถึงแม้ วา่ พวกเขามี
แรงดันวิญญาณสูงก็ไม่อาจมีโอกาสแห่งความสําเร็ จตามมา เพราะในทางปฏิบตั ิจะมีคา่ วัสดุที่
สูงเกินคาด แต่มลู ค่าของสิ่งเหล่านันเป็
้ นเพียงเศษเสี ้ยวส่วนหนึง่ สําหรับตระกูลฉิน ความสําเร็ จ
ของฉินชิงหวนในทักษะการจารึกอยูใ่ นระดับสูง เธอเป็ นดาวเด่นในหมูเ่ พื่อนของเธอและยัง
เหนือกว่าผู้อาวุโสบางคนเสียอีก ”
หลินเซี่ยวตงมีการศึกษาอย่างสูงจึงนําไปสูค่ วามเข้ าใจมากกว่าเมื่อเทียบกับหลินหมิง ขณะที่
เขากําลังอธิบายอย่างฉะฉาน เขาก็พบว่าหลินหมิง งอหัวของเขาลงราวกับว่าเขากําลังพิจารณา
บางสิ่งบางอย่างอย่างลึกซึ ้ง
“พี่หมิง…พี่หมิง พี่ร้ ูสกึ ถึงแรงกระตุ้น? ดีแล้ วหละ เมื่อพิจารณาความงามบนสวรรค์อย่างเธอ
นี ้ก็เป็ นเรื่ องปกติ ”
“ไม่มีอะไร” หลินหมิงโบกมือ
อะไรกัน! อักขระ สลักสัญลักษณ์ตา่ งๆ อาวุธที่มีบรรยากาศที่แข็งแกร่ง เรื่ องพวกนี ้ต่างอยูใ่ นจิต
วิญญาณของเขา ทังหมดเกี
้ ่ยวข้ องกับการจารึก!
มันกลับกลายเป็ นว่าตลอดมาเขาได้ ละเลยสิ่งต่างๆที่สงู ค่าเหล่านันไปช่
้ างโง่เขลายิ่ง!
บทที่ 9 เทคนิคการจารึก
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ในความจริ งแล้ วหลินหมิงมีความคิดทีจะยอมแพ้ ตอ่ เส้ นทางเพื่อจะเป็ นผู้เชี่ยวชาญการจารึก
มันเป็ นเพราะเขาต้ องใช้ เวลาส่วนใหญ่ฝึกฝนการต่อสู้และขันตอนการเป็
้ นนักจารึกเป็ นเรื่ องที่
ยากเกินไป! ด้ วยการที่ไม่มีพรสวรรค์ในด้ านการศึกษาและไม่อาจความเข้ าใจการจารึกได้ ใน
ระยะเวลาสันๆ้ หลินหมิงไม่อาจก้ าวเดินทังเส้
้ นทางการต่อสู้และการจารึกได้ ในเวลาเดียวกัน
แต่ตอนนี ้มีสงิ่ ที่มีการเปลีย่ นแปลงความคิดทังหมดของเขา
้ นัน่ ก็คือเขาต้ องการ … เงิน!
สําหรับพัฒนาการฝึ กฝน ไม่มีสิ่งใดมีคา่ ไปกว่าโอสถ! สิ่งที่เขาต้ องการมีเพียงทุนสําหรับสรรหา
สินค้ าเท่านัน!
้ มีโอสถในโลกที่สามารถเพิ่มระดับการฝึ กฝนโดยตรงและยังช่วยให้ สามารถทะลุ
ทะลวงผ่านขันที ้ ่ตีบตันได้ เป็ นอย่างดี สําหรับโอสถประเภทนี ้เป็ นที่ทราบกันดีวา่ มีราคาแพง
ขนาดไหน
ไม่เพียงเท่านี ้ อาวุธ เกราะ ทักษะต่อสู้ทงหมดของพวกเขาจํ
ั้ าเป็ นต้ องใช้ เงิน! สําหรับหลินหมิง
1000 เหรี ยญทองคําที่เขาได้ รับเป็ นเพียงเล็กน้ อย มันไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ เขาฝ่ าไปถึงขัน้
ผสานชีพจรได้
ถ้ าเขาอยากจะทําเงินให้ ได้ มากมายมหาศาล เขาจะต้ องกลายเป็ นผู้เชี่ยวชาญการจารึก หลินห
มิงตัดสินใจทันทีที่จะเช่าห้ องพักและเริ่ มที่ผสานความทรงจํากับชิ ้นส่วนจิตวิญญาณที่เหลือ
ความทรงจําเหล่านี ้เต็มไปด้ วยชิ ้นส่วนจิตวิญญาณเล็กๆน้ อยๆและยังมีมากมหาศาลและยากที่
จะเข้ าใจ สําหรับหลินหมิง การผสานครัง้ นี ้ใช้ เวลาหลายชัว่ โมง
หลินเซี่ยวตงที่ถกู ทิ ้งไว้ เพียงลําพัง จึงไปเดินเล่นในเทศการการค้ าเที่ยงธรรม มันยากที่จะ
จินตนาการว่าเพื่อนของมันที่เจอกันมีระดับการฝึ กฝนสูงขึ ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ! การอุทิศตนนี่คือ
สิ่งที่น่าชื่นชมและน่าสนับสนุน เขาเป็ นคนที่บ้าการต่อสู้อย่างแท้ จริ ง
ในช่วงบ่ายในที่สดุ หลินหมิงก็ลืมตาตื่น แม้ วา่ เขาจะมีอาการปวดหัว แต่ใบหน้ าของเข้ ากลับเต็ม
ไปด้ วยรอยยิ ้ม ดวงตาแวววับสดใสเหมือนว่ามีป่ากว้ างขวางแห่งความสุขอยูใ่ นนัน! ้
เทคนิคการจารึกที่มีต้นกําเนิดจากดินแดนพระเจ้ ามีประณีตและวัฒนธรรมอันลึกซึ ้ง สิ่งเหล่านี ้
ไม่ใช่สิ่งที่จะมีผ้ ใู ดริ อาจไปเปรี ยบเทียบได้ !
เทคนิคการจารึกถูกพบในชิ ้นส่วนจิตวิญญาณโดยไม่คาดคิด! มันสามารถเพิ่มระดับของ
อุปกรณ์ ทังยั
้ งสามารถเพิ่มความแรงของยา และเหนือสิ่งอื่นใดมันสามารถสลักลงบนร่างกาย
เพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึ กฝนและความแข็งแกร่ง!
นัน่ คือการรวบรวมความรู้ในมิติตา่ งๆนับพันปี จากดินแดนพระเจ้ า และมันเป็ นเพียงส่วนเล็กๆ!
อาจจะมีเทคนิคที่คล้ ายกันบางอย่างก็เป็ นได้ แต่สว่ นใหญ่หายไปในกาลเวลาเนื่องจากการ
ทําลายล้ างของนิกายโบราณหรื อเหตุผลอื่นๆ
เทคนิคจารึกของทวีปนภาริ นไหลทําได้ เพียงเพิ่มระดับของอุปกรณ์เท่านัน้ นอกจากนี ้แม้ จะ
สามารถทําเช่นนันได้
้ แต่ก็มีผ้ ทู ําได้ น้อยยิ่งนัก! เมื่อเปรี ยบเทียบกับดินแดนพระเจ้ าซึง่ เทคนิค
การจาลึกนันมี
้ ความลึกซึง่ ถึงแก่นแท้ อย่างจริ งแท้ แล้ ว การจาลึกในปั จจุบนั เป็ นเพียงบ่อนํ ้าเล็กๆ
ในมหาสมุทรที่กว้ างใหญ่
หลินหมิงยกตัวให้ ยืนขึ ้น ทันใดนันอาการคลื
้ ่นไส้ ถาโถมเข้ ามาในทันที การที่ได้ รับข้ อมูลจํานวน
มากจากภายในจิตใจของเขา มันทําให้ เกิดความเจ็บปวดที่ร้ายกาจเกินจะรับไหว เขาใช้ เวลา
สามชัว่ โมงกับการผสานจิตวิญญาณ และดูดซับมาเพียงครึ่งหนึง่ ของข้ อมูล และเขาวางแผนไว้
แล้ ว
อย่างแรกคือเขาจะซื ้อวัสดุและเริ่ มต้ นเรี ยนรู้เรื่ องพื ้นฐาน! โดยจะมุง่ เน้ นไปที่การเพิ่มประสิทธิ
ภาพของโอสถและสมุนไพรอื่น ๆ ตามมาด้ วยวิธีการแกะสลักลงบนร่างกาย หลินหมิงตื่นเต้ น
กับความเป็ นไปได้ ที่ไม่มีที่สิ ้นสุด!
เป็ นที่ร้ ูทราบทัว่ กันว่าโอสถและสมุนไพรในโลกนี ้หายากและมีคา่ เพียงใด แม้ วา่ จะรํ่ ารวย
เพียงใด ก็ไม่สามารถจะซื ้อโอสถเหล่านัน! ้ หากการจารึกลงบนโอสถถูกนําไปใช้ แล้ ว ความแรง
ของโอสถที่มีเพียงหนึง่ เท่าอาจจะกลายเป็ นสองเท่า! เป็ นแนวความคิดที่ไร้ สาระ !?แต่อาจเป็ น
จริ งก็ได้ !!
สําหรับการจารึกลงบนร่างกายไม่ใช้ เพียงความเร็ วในการฝึ กฝนมันเท่ากับการเพิ่ม
ความสามารถโดยไม่ต้องสิ ้นเปลืองโอสถใดๆ มันเป็ นเทคนิคฝื นชะตากรรมอย่างแท้ จริ ง!(ระดับ
พรสวรรค์ของนักสู้ไม่สามารถเพิ่มขึ ้นได้ อีกเกิดมาเท่าไหรตายไปก็เท่านันซึ
้ ง่ มันส่งผลต่อ
ความเร็ วในการฝึ กฝนกายภาพขันต่้ างๆ)
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงวัสดุที่ราคาแพงที่เขาจะต้ องซื ้อ หลินหมิงฝื นยิ ้ม เขานึกไปถึงเหตุการณ์
ที่ผ่านมา เขาประสบความสําเร็จและได้ รับทองกว่า800เหรี ยญ แต่มนั จะพอรึ? เขาจะต้ องใช้
จ่ายเงินก้ อนนี ้อย่างชาญฉลาด
นํ ้าสมุนไพรหญ้ าลมฟ้า เลือดสัตว์ดรุ ้ ายระดับสาม คราบของจักจัน่ เลือดหางยาว กุ้งนํ ้าแข็ง…
หมิงหลิงซื ้อวัสดุเหล่านี ้ในอย่างบ้ าคลัง่ เขาพบเพียงไม่กี่อย่างที่ตรงกับความต้ องการของเขา
บางส่วนผสมเขาจําได้ วา่ มาจากดินแดนพระเจ้ า ถ้ าเป็ นเช่นนันเป็ ้ นไปได้ วา่ วัสดุเหล่านี ้ไม่ได้ อยู่
ในทวีปนภาริ นไหล
ไม่วา่ จะดีหรื อร้ าย หลินหมิงได้ ใช้ เงินทังหมดในการซื
้ ้อวัสดุ เขาซื ้อตําราอักขระมากมายและมุง่
หน้ ากลับไปฝึ กเทคนิคการจารึกของเขา นี ้เป็ นการเผาไหม้ เงินทองอย่างแท้ จริ ง เขาจะต้ อง
ประสบความสําเร็จในการจารึกเหล่านี ้และทําเงินจากมัน มิฉะนันเขาจะไม่ ้ มีอะไรมากไปกว่า
การล้ มละลาย
ในขณะที่หลินหมิงกําลังวางแผน หลินเซี่ยวตงกลับมาจากเทศการการค้ าเที่ยงธรรม ดวงตาของ
เขากว้ างขึ ้นในขณะที่เขาเห็นวัสดุกองใหญ่ที่กองอยูต่ รงหน้ า
“พี่บ้าไปแล้ ว พี่ทําอะไรลงไปเนี ้ย !?”
หลินหมิงไม่ร้ ูจะพูดอย่างไร เขาเพียงแต่ตอบไปตามความเป็ นจริ งว่า “ข้ ากําลังศึกษาการ
จารึก”
” ศะ ศึ… ศึกษาการจารึก?” หลินเซีย่ วตงถามด้ วยเสียงตระกุกตระกัก เบ้ าตาขยายกว้ างขึ ้น
เท่าขนาดของไข่ เขาไม่อยากจะเชื่อหูของเขา!
“ข้ ากําลังศึกษาเทคนิคการจารึก” หลินหมิงตอบกลับไปอีกครัง้
“พี่ ศึ…ศึกษาเทคนิคการจะ..จารึก !? ศักดิส์ ิทธิ์! พี่ชายของข้ า… พี่ชายของข้ ากลายเป็ นคนงี่
เง่าไปแล้ วในเช้ าวันนี ้? ด้ วยเงินไม่ถงึ 1000เหรี ยญทอง ยังต้ องการที่จะศึกษาเทคนิคการจารึก?
จะไปมีอาจารย์จากไหนยอมมาสอนกัน !? ”
“ข้ าซื ้อตําราหายากมา.” หลินหมิงชี ้ไปที่โต๊ ะ ตาของหลิวเซี่ยวตง โป่ งอีกครัง้ ในขณะที่เขาอ่าน
ตัวอักษรขนาดใหญ่
‘เทคนิคการจารึก: การเริ่มต้ นบนเส้ นทางแห่งการจารึก’
หลินหมิงได้ ซื ้อหนังสือเล่มส่วนใหญ่เพื่อจะเข้ าใจเทคนิคการจารึกของทวีปนภาริ นไหลใน
ระดับพื ้นฐานและเชื่อมโยงเข้ ากับความทรงจําที่เขารับจากชิ ้นส่วนจิตวิญญาณ
เมื่อหลินเซี่ยวตงได้ เห็นตํารา ‘เทคนิคการจารึก: การเริ่ มต้ นบนเส้ นทางแห่งการจารึก’เล่มชุ่ยๆ
นัน้ เขาเกือบจะอาเจียนเป็ นเลือด เขาไม่น่าพูดถึงการจารึกเลย เขาเริ่ มจะเสียใจที่โม้ เกี่ยวกับ
ความยิ่งใหญ่ของผู้เชี่ยวชาญการจารึกให้ หลินหมิงฟั ง เสียใจจนเป็ นปวดไปทังหั ้ วใจ
เมื่อเขาหันดูวสั ดุอื่นๆเป็ นกองพะเนิน ทันใดนันหลิ
้ นเซี่ยวตงรู้สกึ ว่าหัวใจของเขาถูกทิ่มแทงอีก
ครัง้ แม้ วา่ เขาไม่ต้องการจะรู้ เขาก็ยงั หันไปหาหลินหมิงและถาม: “นี่… ทังหมดนี
้ ่พี่จ่ายไปเท่า
ไหร”
หลินหมิงตอบว่าช่วยไม่ได้ ” … 70 เหรี ยญทอง … ”
หลินเซี่ยวตงถอนหายใจอย่างโล่งอก 70 เหรี ยญทองเขายอมรับได้ แต่นํ ้าเสียงของเขาแสดงให้
เห็นว่าหลินหมิงยังพูดออกมาไม่เสร็จสิ ้น คําพูดต่อไปนี ้เกือบทําให้ เขาต้ องทรุดอย่างสิ ้นหวัง
“… ข้ าเหลือ 70 เหรี ยญทอง”
ณ จุดๆนี ้โลกของหลินเซีย่ วตงกลายเป็ นสีดํามืด แข้ งขาอ่อนทรุดลงไปบนพื ้น
…
…
…
…
“พ่อหนุ่มและพ่อหนุ่มสุดหล่อผู้เชี่ยวชาญ! นี่คือตําราจารึกที่ลํ ้าเลิศ เป็ นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง
ของปรมาจารย์ใบหงส์ ! หากใช้ สมบัติชิ ้นนี ้หละก็ ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ ้นไม่ตํ่ากว่าร้ อยละ
ยี่สิบ! ”
ณ เทศกาลการค้ าเที่ยงธรรม ชายคนหนึง่ สวมใส่เสื ้อผ้ าเป็ นทางการยิ ้มในขณะที่เขาแนะนํา
สินค้ าให้ กบั รุ่นน้ องตระกูลชนชันสู
้ ง หลังจากที่ได้ กระดาษจารึกไปแล้ ว สามารถใช้ มนั เพียงที่พดู
หนึง่ คําสัง่ เพื่อทําเครื่ องหมายลงอุปกรณ์ที่ต้องการ มันเป็ นความสะดวกสบายมาก!
เทศกาลดังกล่าวไม่ได้ เป็ นสถานที่ที่ใครก็จะเข้ าไปได้ มนั จําเป็ นต้ องจ่ายค่าผ่านทาง 50 เหรี ยญ
ทอง! สําหรับนักต่อสู้โดยเฉลี่ยเงินจํานวนนี ้ไม่ใช่น้อยๆเลย มันมากพอที่พวกเขาจะซื ้อยา
สมุนไพรได้ ถงึ ครึ่งเดือน
หลินหมิงได้ จ่ายเงินค่าผ่านทางและเข้ าไป ในเวลานี ้ทองทังหมดของเขามี
้ พียง 25 เหรียญทอง
เขาเดินเข้ าไปในห้ องโถงธุรกรรมอย่างรอบคอบด้ วยความระมัดระวังสูงสุด หากเขาไปสัมผัส
ขวดหรื อหม้ อแม้ วา่ เขาจะร่างกายดุจกุลสตรี เขาก็ไม่สามารถที่จะชดใช้ มนั !
หลินหมิงอยากจะดูวา่ ผู้เชี่ยวชาญการจารึกทําเงินอย่างไร ที่นี่เป็ นชันที
้ ่ผลิตภัณฑ์จากการจารึก
ถูกนําไปขายให้ พวกเขาผู้ที่สามารถใช้ จ่ายเงินค่าผ่านทางเข้ ามาได้ เท่านัน้
“นี่เป็ นผลงานของปรมาจารย์ใบหงส์?” หนุ่มผู้ออ่ นโยนถามขึ ้นมาในขณะที่เขาก้ าวไปข้ างหน้ า
เขาถูกดึงดูดอย่างเห็นได้ ชดั โดยชื่อเสียงของเจ้ าของผลผลงาน
“มีหลักฐานใดยืนยันงันรึ
้ เสมียน?”
“เจ้ าหนุม่ น้ อย เรามีหลักฐานว่าเป็ นฝี มือของปรมจารย์ใบหงส์แน่นอน มัน่ ใจได้ เลยว่าสินค้ าที่
เทศกาลการค้ าเที่ยงธรรมซื ้อขายนี ้มีความถูกต้ องปลอดภัยเป็ นที่ร้ ูจกั กัน! ถ้ าไม่เช่นนันเราจะ
้
้ ”
ชดเชยที่สิบเท่าในราคานัน!
” … อืม … มันราคากี่ทองหละ?”
“1500เหรี ยญทอง หากคุณมีบตั รสมาชิกเรายังมีสว่ นลดให้ อีก 10%”
“อืม … ข้ าคิดว่า … ” หนุ่มผู้ออ่ นโยนครุ่นคิดเรื่ องนี ้สักครู่ แม้ วา่ เขาจะเป็ นเด็กจากตระกูลที่
รํ่ ารวย 1500เหรี ยญทองก็ไม่ใช่จํานวนน้ อยๆ
เมื่อได้ ยินราคานี ้ แม้ วา่ หลินหมิงจะคาดการณ์ไว้ บางแล้ ว เขาก็ยงั ต้ องตกใจ! 1500 เหรี ยญ
ทอง! นี่คือเหรี ยญทองที่ลว่ งหล่นจากสวรรค์!
แต่…สําหรับเขาที่พงึ่ ได้ เรียนรู้เทคนิคการจารึกด้ วยแล้ ว มันเป็ นเรื่ องยากที่จะทํากําไรแบบนันได้
้
ในช่วงต้ น
ความคิดเรื่ องทองที่ลว่ งหล่นจากสวรรค์นี ้หลินหมิงทําให้ เขาตื่นเต้ น เขาก็เต็มไปด้ วยความ
มุง่ มัน่ ที่จะเรียนรู้เทคนิคการจารึก!
บทที่ 10 เหล่าหญิงสาวในเขตศักดิ์สทิ ธ์
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
แม้ วา่ หลินหมิงจะดูดซับความทรงจําของชิ ้นส่วนจิตวิญญาณไป เขาก็ยงั ไม่สามารถเข้ าใจการ
จารึกที่แสนยากเย็นนันได้
้ เพื่อให้ ได้ ความรู้เพิ่มเติมมาปะติปะต่อส่วนที่ขาด เขาจะต้ องฝึ ก
ร่างกายและจิตวิญญาณควบคูก่ นั ไปเพื่อที่จะได้ รับความทรงจําได้ อย่างเต็มที่!
วัสดุในการจารึกล้ วนหมายถึงเงินทองที่เขาได้ มาอย่างยากลําบาก เขาไม่อยากเสียมันแม้ แต่
เหรี ยญเดียว ขณะนี ้หลินหมิงจึงไม่กล้ าใช้ วสั ดุใดๆ เขาจึงได้ แต่รวบรวมสาระที่แท้ จริ งจาก
การศึกษาของต่อไป เขาหมุนเวียนพลังงานในร่างกายของเขาและรอเวลาที่มนั จะเชื่อมโยงกับ
ความทรงจําจากชิ ้นส่วนจิตวิญญาณ เขาค่อยๆผสานความเข้ าใจต่างๆในใจของเขา
นี่เป็ นกระบวนการที่น่าเบือ่ มาก แต่ในใจหลินหมิงเขาจะได้ เห็นตํารานับหมื่นๆหน้ าครัง้ แล้ วครัง้
เล่า ในขณะที่จิตวิญญาณและร่างกายของเขาค่อยๆปรับตัวและเรี ยบเรี ยงเนื ้อหาให้ งา่ ยแก่การ
เข้ าใจ
มันจําเป็ นต้ องมีแรงจิตวิญญาณมากอย่างเหลือล้ น ในทุกขณะหลินหมิงใช้ เวลาที่เหลือน้ อยๆใน
การอ่านตําราชุ่ยๆ ‘เทคนิคการจารึก: วิธีการเริ่ มต้ นบนเส้ นทางการจารึก’ เขาผ่อนคลายทําใจ
ให้ ปลอดโป่ ง แม้ วา่ ตํารานี ้จะอธิบายสิ่งที่เขาไม่ร้ ูจากชิ ้นส่วนจิตวิญญาณ มันก็มีบางเรื่ องที่ไม่
อาจเข้ าใจได้ ในการจารึกแห่งทวีปนภาริ นไหล
หลังจากหนึง่ วันเต็มของการฝึ กฝน หลินหมิงปิ ดตํารา ‘จารึกการเทคนิค: วิธีการเริ่ มต้ นบน
เส้ นทางการจารึก’ ในตําราไม่ได้ อธิบายเกี่ยวกับเส้ นไหมนภา
เส้ นไหมนภาเป็ นสิง่ ที่สําคัญที่สดุ สําหรับหลินหมิง เขาได้ เห็นวัสดุหลายชนิดในเทศกาลการค้ า
เที่ยงธรรม แต่ไม่เคยเห็นมันนี ้แม้ วา่ เขาได้ พบเส้ นทางที่ดีของข้ อมูล แม้ วา่ เขาจะพบใน
แหล่งข้ อมูลของราชอาณาจักรลิขิตฟ้าว่ามีเส้ นไหมนภา แต่ปกติพวกมันถูกนํามาใช้ ในการทํา
สายเครื่ องดนตรี (หมายถึงพวกเครื่ องดนตรี ที่ใช้ ในการต่อสู้เป็ นหลักนะอาจจะใช้ เพื่อความ
บรรเทิงบ้ างเล็กน้ อย พวกพิณ เครื่ องสีตา่ งๆ)
หลินหมิงไม่แน่ใจว่ามันคือสิ่งเดียวกันหรื อไม่…
เพราะความแตกต่างของภูมิประเทศและระดับการฝึ กฝน วัสดุที่ระบุไว้ ในอาณาจักรของพระเจ้ า
กับในดินแดนของเขาอาจไม่ใช่สิ่งเดียวกันแม้ วา่ พวกมันจะมีชื่อเดียวกัน เส้ นไหมนภาใน
ดินแดนพระเจ้ าอาจจะแตกต่างกันอย่างสิ ้นเชิงกับเส้ นไหมนภาของทวีปนภาริ นไหล แม้ หลินห
มิงจะไม่อาจใช้ ชื่อค้ นหาได้ แต่ก็ยงั มีปัจจัยอื่นๆ เช่นรูปลักษณะและกลิ่น ถ้ าสิ่งเหล่านี ้
เหมือนกันแล้ วมันก็น่าจะเป็ นสิ่งเดียวกัน แต่ในใจของเขามีเพียงความทรงจําจากดินแดนของ
พระเจ้ าของเส้ นไหมนภา แต่เขายังไม่เห็นพวกมันในทวีปนภาริ นไหล เขาไม่สามารถตรวจสอบ
ให้ แน่ชดั ถึงการมีอยูข่ องมัน
หลินหมิงคิดอย่างรอบครอบเกี่ยวกับการที่เขาจะหาเส้ นไหมนภาและในท้ ายที่สดุ ก็สรุปได้ วา่ เขา
อาจจะสามารถหามันได้ ในสํานักเจ็ดแก่นแท้
ส่วนใหญ่นกั ต่อสู้จะใช้ ดาบเป็ นอาวุธ บางครัง้ อาจเป็ นกระบีห่ รื อธนูและอืน่ ๆ แต่อย่างไรก็ตามก็
ยังมีผ้ ใู ช้ อาวุธที่หายากและมีคา่ สูง อย่างเช่นพิณ!
ชื่อเสียงของสํานักเจ็ดแก่นแท้ มากจากเจ็ดผู้เชี่ยวชาญแห่งหุบเขาแก่นแท้ ทงเจ็
ั ้ ด แต่ชื่อของหุบ
เขาแก่นแท้ ทงเจ็
ั ้ ดมีต้นกําเนิดมาจากผู้เชี่ยวชาญทังเจ็
้ ด ซึง่ แต่ละคนใช้ อาวุธต่างๆกัน หนึง่ ในนัน้
มีหญิงคนหนึง่ และอาวุธของเธอคือพิณ!
ดังนันพิ
้ ณจึงเป็ นหนึง่ ในอาวุธที่เจ็ดผู้เชี่ยวชาญเลือกใช้ และได้ รับการสืบทอดจากรุ่นสูร่ ุ่นมา
จนถึงปั จจุบนั ด้ วยเหตุนี ้จึงเป็ นส่วนหนึง่ ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ !
แต่ความยากลําบากในการใช้ มากเกินคาด จําเป็ นต้ องมีความสามารถที่สงู เหลือล้ น ทังผู ้ ้ ใช้ ยงั
จะต้ องมีอารมณ์ที่สงบและมีสมาธิสงู ด้ วยเหตุนี ้สํานักเจ็ดแก่นแท้ แทบจะไร้ ผ้ ฝู ึ กฝนด้ วยอาวุธนี ้
เมื่อเทียบกับหน่วยที่ใช้ อาวุธที่นิยมมากกว่า อย่างน้ อยร้ อยละ 99 ของผู้ที่มาเรี ยนพิณจะเป็ น
ผู้หญิงที่เข้ ามาเพื่อรํ่ าเรี ยนตัวอักษรและทักษะตราสารต่างๆ พวกเขาจะไม่เน้ นไปทางการต่อสู้
ฆ่าฟั นในศิลปะการต่อสู้มากนัก
หลินหมิงตังเป
้ ้ าหมาย ปลายทางของเขาคือห้ องโถงของหน่วยพิณที่ พวกเขาจะให้ การศึกษาแก่
สาธารณชน!
ในแต่ละปี สํานักเจ็ดแก่นที่ได้ รับการจัดตังขึ ้ ้นในราชอาณาจักรลิขิตฟ้า จะเลือกผู้มีพรสวรรค์
สูงสุดเพื่อเป็ นศิษย์เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ซงึ่ มักจะเป็ นตระกูลที่สงู ส่งเท่านันที
้ ่จะถูกเลือก แต่
สํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็ยงั ให้ สิทธิ์พิเศษให้ กบั ศิษย์นอกสํานักเพื่อเข้ าสูห่ ้ องโถงส่วนกลางที่พวกเขาก็
สามารถเข้ าร่วมฟั งการบรรยายพื ้นฐานได้
อย่างไรก็ตามการเข้ าสูห่ ้ องโถงบรรยายสาธารณะจําเป็ นต้ องมีบตั รผ่านพิเศษ!
มิฉะนันใครต่
้ อใครแม้ แต่สนุ ขั ก็จะมา ดังนันห้
้ องบรรยายสาธารณะจะกีดกันทุ
้ กคนยกเว้ นผู้ถือ
ครองบัตรผ่านพิเศษ!
สํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ วางหลักเกณฑ์สําหรับเรื่ องนี ้ว่าผู้จะเข้ าต้ องผ่านอย่างน้ อยข้ อหนึง่ ในสาม
ข้ อต่อไปนี ้ หนึง่ จะต้ องมีการฝึ กฝนกายภาพขันสาม้ สองเป็ นตระกูลชันสู้ ง หรื อสามเป็ นศิษย์
สํานักเจ็ดแก่นแท้ หรื อสํานักลิขิตฟ้า หากไม่ผ่านข้ อใดข้ อหนึง่ ในสามข้ อนี ้ได้ จะไม่มีสิทธิพิเศษใน
การเข้ ามาในห้ องบรรยายสาธารณะ การบรรยายได้ รับความนิยมอย่างมากและมีความ
ต้ องการสูง แต่เนื ้อหาที่แท้ จริ งยังคงสงวนไว้ สําหรับสาวกหลัก
ด้ วยบัตรผ่านพิเศษที่หลินหมิง ยืมมาจากหลินเซี่ยวตง เพราะหลินเซี่ยวตงอยูใ่ นสายตระกูลแท้
และมีขนาดใหญ่มากทังบุ ้ ตรหลานและผู้อาวุโสต่างก็เป็ นศิษย์ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ หลินเซี่ยว
ตงจะได้ มนั มาก็ไม่ใช้ เรื่ องยากเกินไป
เมื่อไม่นานมานี ้หลินหมิงไปเยี่ยมหลินเซี่ยวตง ที่ตะโกนออกมา “พี่!ข้ านับถือพี่มาก!พี่จะต้ อง
รักษาตัวเองจากความโง่เขลาให้ ได้ เพื่อตัวพี่เอง “(แมร่งชมหรื อหลอกด่าฟะ 555 อาจเป็ น
สํานวนของเขาผู้แปลขอแปลตรงตัวไปนะ)
หลินเซี่ยวตงได้ ชื่นชมการฝึ กหนักและหาความรู้ของพี่ของเขาอย่างแท้ จริ ง ในหัวใจของเขา เขา
มีความเชื่ออยูเ่ สมอว่าพี่ของเขาจะไปถึงระดับสูงสุดที่เป็ นไปได้ ของนักสู้เป็ นตํานานที่ร้ ูจกั ไปทัว่
แผ่นดิน! แต่เทคนิคการแกะจารึกเป็ นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจทําได้ ใช้ แค่ความเชื่อมัน่ ของคนๆ
หนึง่ มันจําเป็ นต้ องมีความถนัดเฉพาะทาง!
ถ้ ามันเป็ นไปได้ ที่จะกลายเป็ นนักจารึกด้ วยการใช้ จ่ายเพียง 800 เหรี ยญทองที่จะซื ้อวัสดุ
บางอย่างและตําราคูเ่ ล่มนี ้ ‘เทคนิคการจารึก: การเริ่ มต้ นบนเส้ นทางการจารึก’ แล้ วนักจารึกคง
จะมีอยูเ่ ต็มไปหมด เหมือนมด
สําหรับหลินเซี่ยวตง เพื่อให้ หลินหมิงได้ ศกึ ษาการจารึกและทําฝั นให้ เป็ นจริง เขาไม่เพียงยอม
สูญเสียเงินทังหมดของเขาและกลายเป็
้ นขอทาน แต่เขายังยอมเสียเวลาอันมีคา่ เพื่อช่วยเหลือ!
เพราะหลินเซี่ยวตงเป็ นพี่น้องโดยสายเลือดของหลินหมิง ดังนันสิ
้ ่งที่หลินเซี่ยวตงทําได้ คือหา
ผ่านบัตรมาให้ ในขณะที่เขาถือว่ามันเป็ นสิ่งทีเขาควรทํา
เขาตัดสินใจว่าเขาจะพบว่าเวลาที่เหมาะสมพาหลินหมิงไปห้ องโถงการแพทย์เพื่อพบแพทย์ที่มี
ชื่อเสียง อาจเป็ นสิง่ ที่คนอื่นไม่ร้ ูเกี่ยวกับหลินหมิง แต่เขารู้สกึ ได้ วา่ สมองและจิตวิญญาณของ
หลินหมิงถูกรบกวน!
จากนันหลิ
้ นหมิงก็มาถึงที่หอประชุมของสํานักเจ็ดแก่นแท้ หน่วยพิณ มันเป็ นอาคารที่สง่างาม
สามชัน้ มีพื ้นที่การบรรยายกว้ างขวาง
แต่ที่น่าสงสารก็คือหลินหมิงไม่ร้ ูเลยว่า หน่วยพิณเป็ นการบรรยายสาธารณะสําหรับผู้หญิง มัน
เป็ นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ที่แท้ จริ ง ที่ผ้ ชู ายทุกคนไม่ได้ รับอนุญาตให้ ข้องเกี่ยว!
เหตุผลของเรื่ องนี ้ก็คือการที่หน่วยพิณมีศิษย์เป็ นผู้หญิงทุกคน ผู้หญิงเหล่านี ้ที่อยากจะศึกษา
พิณมักจะมาจากครอบครัวชนชันสู ้ ง ในชีวิตของพวกเขาเต็มไปด้ วยท่วงทํานองหวานๆของ
เพลงและการปรากฏตัวของพวกเขายังอยูใ่ นระดับสูงเหลือใจ! พวกเขาเป็ นหนึง่ ในกลุม่ ผู้หญิงที่
สวยที่สดุ ผลก็คือพวกหนุ่ม ขุนนาง นักสู้ มากมายถูกล่อลวงด้ วยความคิดลามกและฝั นว่าพวก
เขาจะได้ สมั ผัสแม้ เพียงซักครึ่งหนึง่ ในความงามเหล่านี ้
อาจมีพวกหนุ่มๆอาศัยสถานะของตระกูลเพื่อที่รับบัตรผ่าน ซึง่ จะมีคนของหน่วยพิณมา
สอดส่อง พวกที่มีความตังใจที
้ ่ไม่ดีและสกปรก พวกเขาอาจไม่ได้ มาเพื่อศึกษาเป็ นหลัก ดูจาก
แววตาของพวกเขา ที่มงุ่ เน้ นแต่การสังเกตความโค้ งเว้ าของสาวๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีต้นขา
เรี ยวและ … ทรวงอกโต
หลังจากการบรรยายจบ พวกเขาจะพากันไปทานอาหารในบริ เวณใกล้ เคียงและไปเลือกหาซื ้อ
สินค้ า! ในที่สดุ ความงามของหน่วยพิณก็จะเป็ นที่ประจัก ความอดทนของเหล่าชายหนุ่มอาจถึง
ขีดจํากัด พวกเขาต้ องการที่จะเยี่ยวยาหัวใจและหาอาหารสายตา ซึง่ อาจเป็ นการรบกวนเหล่า
นักศึกษาส่วนใหญ่ เพราะเกือบทังหมดเป็
้ นผู้หญิง ซึง่ อาจเป็ นการสร้ างความรํ าคาญที่มีพวก
ลามกคอยไล่ตาม!
หน่วยพิณเริ่ มที่จะป้องกันไม่ให้ เหล่าชายหนุ่มใช้ บตั รผ่านเข้ ามาโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผ้ ชู ายที่มี
เล่ห์เหลีย่ มความอันธพาล พวกเขาไล่พวกนันออกไปอย่
้ างไม่ลดละและไม่มีความเมตตา!
เมื่อหลินหมิงเข้ าในห้ องโถงของหน่วยพิณ แต่เวลาบรรยายยังไม่ได้ เริ่ มต้ นและศิษย์หญิงหลาย
คนคุยกันเงียบๆ แลกเปลีย่ นพูดคุยทักษะพิณกับคนอื่นๆ ในห้ องโถงหญิงคนหนึง่ กําลังเล่นเพลง
ใหม่ มันเป็ นเพลงที่วอ่ งไวและสดใหม่ที่เต็มไปด้ วยความสง่างามเป็ นเสียงที่ไพเราะ มันเป็ น
ทํานองที่ดงึ ดูดอยูใ่ นใจของคน
หลินหมิงเดินเข้ ามาและสังเกต เส้ นสายบนพิณไม่ใช้ เส้ นไหมนภาอย่างที่เขาได้ คาดการณ์ไว้
แน่นอนว่าเส้ นไหมนภาเป็ นรายการที่มีราคาแพงและหายาก เส้ นไหมนภาต้ องทําให้ เกิดเสียงที่
รุนแรงและหวงแหน คนที่มีการฝึ กฝนตํ่าอาจจะได้ รับบาดเจ็บพยายามได้ หากเล่นดนตรี ด้วย
เส้ นเสียงที่ทําจากเส้ นไหมนภา เหล่าศิษย์นองที่เป็ นดังเช่นดอกไม้ เล็กและเปราะบางของหน่วย
พิณคงไม่มีประสิทธิภาพที่จะใช้ มนั ได้
สาวที่กําลังเล่นพิณเป็ นคนที่อทุ ิศตัวเพื่อฝี มือของเธอ เธอพยายามส่งสัญญาณเตือนหลินหมิง
และศิษย์หญิงสองคนที่กําลังฟั งฟั งท่วงทํานองสังเกตเห็นการปรากฏตัวของชายคนหนึง่ พวก
เธอขมวดคิ ้วแน่น แต่ก็ไม่ได้ พดู อะไร
ปกตินนั ้ มักจะมีผ้ ชู ายบางคนที่มีความตังใจที
้ ่ชวั่ ร้ ายโฉบเช่นแมลงวัน พวกเขามักทําท่าเป็ นผู้ที่
ชื่นชอบเสียงพิณแต่ก็ทําเพื่อจะมาใกล้ ชิดเท่านัน้ และหาโอกาสมองทรวงอกของศิษย์หญิง ‘
เป็ นผู้ชายประเภทที่ทําให้ นกั เรี ยนหญิงรู้สกึ ขยะแขยงที่สดุ
เหล่าศิษย์หญิงที่มาศึกษาพิณมักจะมีผิวพรรณเปล่งประกายสวยงาม ไม่ต้องการที่จะเสียหน้ า
มาเถียงกับสัตว์สกปรกผิดปกติทางเพศ กลุม่ ศิษย์สาวต่างรวมตัวกันหมดและรอพี่สาวอาวุโส
มาจัดการ พวกที่นิสยั เสียทังหมดคงถู
้ กโยนออกนอกประตูไป
ดังนันแม้
้ จะมีบรรดาเหล่าชายร้ ายไร้ ยางอายมา ก็มกั จะถูกโยนออกมาและถูกไล่กลับไปพร้ อม
กับข้ ออ้ างที่วา่ พวกเขาเป็ นนักศึกษาที่ต้องการศึกษาพิณอย่างแท้ จริ งร่วมกับศิษย์หญิงคนอื่นๆ
พวกเขาไม่ได้ มีความคิดสกปรกใดๆ แต่ก็ไม่ต้องสงสัย มันย่อมเป็ นผู้ไร้ ยางอายที่ชวั่ ช้ า!
ด้ วยเหตุนี ้พี่สาวอาวุโสก็กลายเป็ นคนไร้ ความปรานีมาตลอด เธอติดป้ายที่เขียนเป็ นตัวหนา
เหนือประตูทางเข้ าเขียนไว้ วา่ ‘ห้ ามหมาตัวผู้เข้ า”(ห้ ามผู้ชายเข้ า)
เรื่ องนี ้กลายเป็ นที่รุนแรงมากขึ ้นเรื่ อยๆ และในที่สดุ ก็ถกู ส่งผ่านไปสูส่ มาชิกระดับสูงในแผนก
ผู้ชายจึงไม่ได้ รับอนุญาตจากหน่วยพิณในการเข้ าไปในห้ องโถง ยกเว้ นว่าจะเป็ นศิษย์ชายที่เข้ า
มาภายใต้ เงื่อนไขที่เข็มงวดซึง่ จะถูกกําหนดโดยศิษย์หญิงของหน่วยพิณ คนที่มีแววความลามก
และความตังใจชั ้ ว่ ร้ ายถูกไล่ออกทันทีและได้ เพิกถอนสิทธิ์ทงหมดตลอดไป!
ั้
เมื่อเป็ นเช่นนี ้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ห้ องโถงของหน่วยพิณไม่เห็นแม้ แต่เงาของผู้ชาย
เป็ นธรรมดาที่หลินหมิงจะไม่ทราบประวัติของหน่วยพิณและพวกนิสยั เสียๆที่ถกู ไล่ออกไป เขา
มองไปรอบๆสักครู่แต่ก็ไม่พบเครื่ องดนตรี ที่ทําจากเส้ นไหมนภา และเริ่ มที่จะเดินเล่นไปยังด้ าน
หนึง่ ห้ องโถงที่สะสมตําราไว้ หวังว่าบางทีนนั่ อาจจะมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้ องกับสิ่งที่เขา
ต้ องการ
ขณะที่เขาเดินไปนัน้ ศิษย์หลายคนเริ่มมองไปที่หลินหมิงที่ยืนอยูใ่ กล้ ๆชันหนั
้ งสือ พวกเขากล่าว
พร้ อมกับเสียงกระซิบ “คนผู้นี ้ดูไม่เหมือนว่าจะมาศึกษาพิณ”
“อืมข้ าคิดว่าข้ าจะเห็นว่าคนพาลเจ้ าเล่ห์ถกู เสี่ยวเซียนจัดการในอีกสักครู่”(ผู้แปลค่อนข้ าง
มัน่ ใจว่าเสี่ยวเซียนคือพี่สาวอาวุโสที่กล่างถึงกันอยูบ่ อ่ ยๆ)
“น่าแปลกที่เขายังดูเด็ก เขามองดูราวๆ 15-16 ปี . ”
“ฮึ! เดียวนี ้เด็ก16ปี แล้ วควรจะแต่งงาน ใครบางคนที่อายุน้อยอย่างข้ าก็อาจจะเป็ นแม่คนแล้ วก็
ได้ ”
หญิงสาวที่พดู เป็ นเพียงสาวอายุ 17 ปี ในเมืองลิขิตฟ้า หญิงอายุ 18 ปี โดยทัว่ ไปจะต้ องแต่งงาน
แล้ ว ในชนบทพวกเขาก็จะแต่งงานกันเร็วขึ ้นไปอีกหนึง่ หรื อสองปี ชายที่แต่งงานแล้ วอายุ 16 ปี
ก็ไม่ได้ หายากเกินไป
“มันไม่อยูภ่ ายใต้ การควบคุมของเรา พี่สาวอาวุโสคงจะมาบรรยายในเร็ วๆนี ้ ถ้ ามันมีความคิด
สกปรกใดๆ เธอจะรู้ได้ ทนั ทีและจะส่งเขาออกไป. ”
หลินหมิงไม่เคยได้ ยินการสนทนาเหล่านี ้จากเหล่าศิษย์หญิง มิฉะนันเขาคงจะไม่
้ ปิดปากเงียบ
แน่นอนเขาไม่ได้ มองไปที่ป้ายของเสี่ยวเซียน แต่นนั่ ก็เป็ นเพราะเขาเอาแต่ตรวจสอบให้ แน่ใจว่า
สายเส้ นเสียงทํามาจากวัสดุใด!
เขายังคงมองหาข้ อมูลเกี่ยวกับเส้ นไหมนภา โชคดีที่หน่วยพิณบรรยายในห้ องโถงขนาดใหญ่
มาก แต่ละด้ านจะมีพื ้นที่สําหรับการตังตํ
้ าราหนังสือ แต่ละมุมแยกแยะตามความหลากหลาย
ของความรู้ทางดนตรี และประวัติศาสตร์
แน่นอนว่าหลินหมิงไม่ได้ สนใจในดนตรี ใดๆ ในการค้ นหาของเขาในที่สดุ ก็พบสิ่งที่เขากําลังมอง
หา! มันเป็ นตําราชื่อ’พิณนภา’
‘พิณนภา’ เป็ นสารานุกรมเครื่ องดนตรี โบราณทุกประเภทซึง่ รวมถึงต้ นกําเนิดของผู้ใช้ ผู้ผลิต
วัสดุและความรู้ที่เป็ นความลับอื่น ๆ ทังหมดที
้ ่ถกู อธิบายอย่างละเอียด แน่นอนวัสดุที่หายาก
เหล่านี ้ยังรวมถึงเส้ นไหมนภา! หลินหมิงก็ตื่นเต้ นเหลือใจและเขาก็เริ่ มอ่านด้ วยความมุมานะ
‘พิณนภา’ แนะนําคุณสมบัติของเส้ นไหมนภาและวิธีการรวบรวม ตําราเล่มนี ้มีข้อบกพร่อง
เพียงอย่างเดียวคือไม่มีภาพเส้ นไหมนภาอยูด่ ้ วย แต่หลินหมิงก็สามารถที่จะตรวจสอบว่ามัน
เป็ นเส้ นไหมนภาที่กําลังมองหาหรื อไม่!
หลินหมิงจริ งจังในอ่านและไม่ได้ ตระหนักถึงศิษย์หญิงทุกคนในห้ องขณะที่การบรรยายเริ่ มขึ ้น
ในทางกลับกันเหล่าสาวงามบนแดนสวรรค์นี ้ต่างมองดูผ้ ชู ายเพียงคนเดียวในเสื ้อผ้ าสกปรกของ
เขา
โชคดีที่หลินหมิงไม่ได้ มองไปรอบๆ สมาธิทงหมดกํ
ั้ าลังจดจ่ออยูก่ บั หนังสือเล่มนี ้ แม้ วา่ ศิษย์
หญิงจะคิดว่ามันอาจเป็ นการเสแสร้ งแต่พวกเธอก็ไม่ได้ มีหลักฐานใดๆ ที่พวกเธอจะไล่เขาออก
เดิมทีการบรรยายจะมีการดําเนินการได้ อย่างราบรื่ น แต่ด้วยการดํารงอยูข่ องพี่สาวอาวุโสแห่ง
หน่วยพิณที่เต็มไปด้ วยอคติอย่างมากกับเพศชาย!
ในแวดวงสังคมของหนุ่มขุนนางนักสู้ ชื่อพี่สาวอาวุโสเป็ นเหมือนสายฟ้าที่ดงั ก้ องอยูใ่ นหูของ
พวกเขาและทําให้ เกิดความเดือดร้ อนขึ ้นในหัวใจของพวกเขา ป้ายที่เขียนว่า”ห้ ามหมาตัวผู้
เข้ า’เป็ นตัวหนังสือที่แสดงถึงการดูถกู จากพวกเธอ ทําให้ พวกเขารู้สกึ ถึงความเจ็บปวดของการ
เสียหน้ ากับเหล่าศิษย์หญิง ! พวกเขาต่างสาปแช่งให้ เธอขึ ้นคานสําหรับช่วงชีวิตที่เหลือของเธอ!
ในความเป็ นพี่สาวอาวุโสคือความงามในหมูค่ วามงาม เธอเป็ นคนที่อายุประมาณ 20 ปี และมี
ใบหน้ ารูปไข่ที่สมบูรณ์แบบด้ วยสัดส่วนที่น่าหลงใหล สูง และต้ นขาเรี ยวสูง
มันช่างน่าเสียดายที่พี่สาวอาวุโสไม่เคยแสดงความสนใจใดๆต่อผู้ชายและมักจะรู้สกึ หงุดหงิด
กับอารมณ์ได้ อย่างง่ายดาย ผู้ชายคนไหนที่กล้ าที่จะจ้ องมองความงดงามของนางจะถูกเตะ
อย่างรวดเร็ วไปที่ระหว่างขาของพวกเขา! (ใครมองที่นี่จกุ ไปอีกนาน)
หลังจากพี่สาวอาวุโสมาถึงเธอสังเกตเห็นหลินหมิงในทันที! คิ ้วของเธอเหี่ยวย่นในทันใด เธอวาง
ลงพิณของเธอและมายืนด้ านหน้ าของเขา เธอทุบฝ่ ามือลงบนโต๊ ะทํางานสามครัง้ และถามเขา
ว่า “แกเข้ ามาได้ ยงั ไง?”
บทที่ 11 พี่สาวอาวุโส
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
เมื่อมีใครสักคนโกรธอาจมีความแตกต่างในการแสดงออกของความโกรธ มีเพียงไม่กี่คําพูดหรื อ
การกระทําเล็กน้ อยในภาษากายที่จะบ่งบอกและมีผลกระทบที่ตามมาอย่างเห็นได้ ชดั
ตัวอย่างเช่นพี่สาวอาวุโสคนนี ้คิ ้วเรี ยวของเธอชี ้ตรงขึ ้นเอวของเธอก็แข็งและยืดตรง
นอกเหนือจากการเคาะบนโต๊ ะอย่างรุนแรงและตะโกนด้ วยเสียงอันกราดเกรี ย้ วอย่างกับว่า
ตะโกนลงมาจากบนสวรรค์! ศิษย์ชายคนใดได้ เห็นได้ ฟังเป็ นต้ องหวาดกลัวจนกระทังอาจฉี ้ ่ราด
คากางเกงกันได้ เลยทีเดียว
หลินหมิงก็ยงั คงสับสนและไม่แน่ใจว่าเขามาฟั งบรรยายในที่แห่งนี ้เข้ าผิดอะไร เขาถามแหย่
กลับไปนิด “ทําไมข้ าจะไม่ได้ รับอนุญาตให้ เข้ ามาหละ?”
ทันทีที่พี่สาวอาวุโสได้ ยินถ้ อยคําของหลินหมิง หัวใจของนางโหมกระหนํ่าไปด้ วยเปลวไฟแห่ง
ความโกรธ! นี ้เจ้ าอัธพาลน้ อย! เธอไม่เชื่อว่าเขาจะมีบตั รผ่าน! ทันใดนันเองเสี
้ ยงหวานและ
อ่อนโยนดังออกมา “พี่สาวหลิง เกิดอะไรขึ ้น?”(พี่สาวอาวุโสนะจะชื่อ หลิน หลิงเสีย่ วเซียน)
หลินหมิงมองออกไปทางเสียงหวานและเขาก็ตกใจ กึก! เสียงนันมาจากหญิ
้ งสาวสวมชุดสีขาว
เรี ยบง่ายกับผมเงางาม เธอเป็ นความงามอมตะด้ วยความสง่างามหาที่เปรี ยบมิได้ เธอเป็ นคนที่
ไม่อาจมีใครอื่นเทียบได้ เธอคือจากหลานจอมพลฉินเสี่ยว ฉินชิงหวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง!
ในเทศกาลการค้ าเที่ยงธรรมหลินหมิงเคยเห็นเธอจากที่ไกลๆ จําทุกลักษณะของเธอได้ ทังเป็ ้ น
คนตระกูลอันดับ1 เพรี ยบพร้ อมด้ วยพรสวรรค์ระดับหก ความงามหาที่เปรี ยบมิได้ ของเธอและ
เสน่ห์อนั ล้ นเหลือจากทักษะจารึก ความแข็งแกร่งทังหมดนี
้ ้ทําให้ กระทัง่ นักสู้ทวั่ พื ้นปฐพีร้ ูสกึ
ด้ อยกว่า
แม้ วา่ หลินหมิงจะคิดว่าเขาถูกลิขิตให้ เป็ นผู้ยิ่งใหญ่และจะสามารถกลายเป็ นวีรบุรุษของทังทวี
้ ป
นภาริ นไหล แต่ในขณะนี ้แม้ แต่ฉินชิงหวน ก็ยงั ไม่มิใช่วีรสตรี แห่งแผ่นดิน นับประสาอะไรกับเขา
ไม่ต้องพูดถึงไอ้ หมาหน้ าโง่จ้ ยู นั ยิ่งไร้ คา่ ไม่ตา่ งจากกบตัวเล็กๆน้ อยในกะลา
หลินหมิงไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะได้ พบฉินชิงหวนในตอนนี ้ แต่ความประหลาดใจของเขาก็
เหมือนกับคนอื่นในห้ องโถงโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่สาวอาวุโส!
นี่คือความจริ งที่เกิดการแบ่งเพศในการศึกษา!
“คางคกตํ่าเตียริ อาจจะกินหงส์ฟ้า!” หัวใจของพี่สาวอาวุโสแผดเผาขณะที่เธอได้ วิจารณ์เขา
ความคิดของเหล่าหญิงสาวล้ วนซับซ้ อนยิ่งนัก แม้ วา่ พี่สาวอาวุโสกล่าวหาว่าเขาเป็ นคนที่น่า
รังเกียจแต่หลินหมิงไม่ตอบสนองอันใด หลังจากที่ได้ เห็นฉินชิงหวน เธอไม่ได้ ร้ ูสกึ เหมือนหญิง
ทัว่ ไปว่าเขาเป็ นผู้ชายที่ผิดหรื อน่ารังเกียจ เรื่ องนี ้เธอไม่ได้ คิดเกี่ยวกับมัน หลังจากที่ศิษย์หญิง
ที่นี่ตา่ งติดนิสยั รังเกียจผู้ชายกันทัว่ หน้ า!
เธอตอบฉินชิงหวน “เด็กน้ อยตัวผู้นา่ รังเกียจนี ้แอบไปก่อกวนเหล่าศิษย์หญิงอย่างเราๆ ข้ า
กําลังสอบปากคํามัน เรื่ องที่มนั บังอาจเข้ ามาที่นี ้ ? “(อีนงั ป้าหน้ าแก่นี ้ใส่ร้ายพระเอกกูชดั ๆ)
้ าให้ หลินหมิงถึงกับต้ องเกาหัว เขามาที่นี่เพื่อไปราวีสาวๆ ? ทําไมเขา
คําพูดไม่กี่คําเหล่านันทํ
ถูกกล่าวหาว่าอย่างนัน?
้
เขากล่าวตอบ “ข้ ามาที่นี่เพื่อดูหนังสืออ้ างอิงบางอย่างโปรดอย่ากล่าวโทษข้ าในสิ่งที่ข้าไม่ได้ ทํา
โดยไม่มีหลักฐาน สิ่งที่พี่สาวกําลังทําคือเรื่ องที่ไร้ สาระดังเช่นการดูถกู สติปัญญาของตัวเอง”
“หาหนังสืออ้ างอิง? สิ่งที่แกดูตํารา’พิณนภา’อย่างแกจะไปมีปัญญาสร้ างพิณได้ ยงั ไง? ”
หลินหมิงไม่ได้ ตอบสนองต่อการเยาะเย้ ย เขาเพียงกล่าวว่า”ข้ าแค่อยากเข้ าใจบางสิ่ง
บางอย่าง.”
“ฮึ! ชายเหล่านี ้ช่างไร้ ยางอายกล่าวเสมอว่าต้ องการเข้ าใจท่วงทํานอง และใช้ วิธีนี ้เป็ นข้ ออ้ างใน
การแอบเข้ ามาก่อกวน! การกระทําดังกล่าวเป็ นที่น่าขยะแขยงจริ งๆ แกมีความสนใจในพิณ? ดี
งันข้
้ าขอถามแกหน่อย บันทึกพิณมีทงหมดกี ั้ ่เล่มเป็ นอย่างไรบ้ าง? สิ่งที่ราชาแห่งวัสดุพิณกล่าว
ไว้ วา่ ให้ เสียงแหลมที่สดุ คืออะไร วัสดุใดเหมาะสมกับพิณเสียงตํ่า หากแกสามารถบอกข้ าได้ ข้า
จะเชื่อว่าแกมีความสนใจในดนตรี และแกต้ องการที่จะศึกษาพิณจริ งๆ ”
หลินหมิงค้ างไปในทันที เขารู้เพียงรายละเอียดเล็กน้ อยที่สดุ ของพิณและท่วงทํานองอีกเล็กน้ อย
ซึง่ เรี ยกได้ วา่ เขาไม่ร้ ูอะไรเลย!
“ฮึ! เมื่อแกตอบไม่ได้ แกยังกล้ าที่นี ้อีกรึ! แกเพียงต้ องการมองไปที่หนังสือเพื่อให้ เราไม่สนใจงัน้
สินะ เป้าหมายที่แท้ จริ งของแกคือการแอบมองเหล่าศิษย์สาว! ข้ าเคยชายชัว่ อย่างแกมานักต่อ
นัก ส่งบัตรผ่านของแกมา ! “พี่สาวอาวุโสเอามือของเธอชี ้หน้ าของหลินหมิง
หลินหมิงเงียบไป บัตรผ่านของเขาถูกยืมมาและแม้ วา่ สํานักเจ็ดแก่นแท้ การต่อสู้เจ็ดจะ
หละหลวมในการใช้ บตั รผ่าน แต่เขาก็ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบตังแต่
้ เขาใช้ บตั รผ่านเข้ ามาอยูท่ ี่นี่
ฉินชิงหวนก็กล่าวขึ ้นมา “พี่สาวหลิงการพิจารณาตัดสินนัน้ นี ้เป็ นเพียงความผิดครัง้ แรกของ
เขา ไม่มีความจําเป็ นที่จะต้ องรุนแรงกับเด็ก ”
ฉินชิงหวยเองก็ยงั คิดว่าหลินหมิงโกหกและความจริ งก็คือเขาต้ องโกหกแน่นอน!
แน่นอนว่าพี่สาวอาวุโสไม่อาจเพิกเฉยต่อคําของฉินชิงหวน ดังนันเธอจึ
้ งกล่าวว่า “ชิงหวน เธอ
ช่างมีหวั ใจที่ออ่ นโยนมาก บางทีมนั ก็มากเกินไป เราไม่อาจจะทนชายชัว่ เช่นนี ้ได้ ชายประเภทนี ้
เพียงแค่แอบผ่านเข้ ามาก่อกวน”
‘ต้ องการบัตรผ่านของข้ ารึ’ หลินหมิงกล่าว “พี่สาวเป็ นเพียงศิษย์คนหนึง่ มิใช่ผ้ มู ีอํานาจใน
สํานัก จะมีอํานาจทําสิ่งนี ้ได้ อย่างไรและจะกล่าวหาว่าข้ าผิดในเรื่ องใด? ”
“ฮึ! นันใช้
้ ปากพูด? ข้ ามีคณุ สมบัติที่จะยึดบัตรผ่านทุกใบและได้ รับอนุญาตโดยเจ้ าสํานัก ใน
หน่วยพิณ ทุกคนต้ องเชื่อฟั งข้ า นี่แห่งนี ้ข้ านี่แหละพระเจ้ า! ตอนนี ้แกคิดว่าข้ าทําได้ รึยงั !
ผ่านบัตรนันถู
้ กยืมมาจากหลินเซี่ยวตง หลินหมิงไม่สามารถปล่อยให้ มนั ยึดไปได้ หากเป็ น
เช่นนันเขาต้
้ องเผชิญกับน้ องชายของเขาที่ได้ รับความเจ็บปวดในสิ่งที่เกิดขึ ้นเพราะเขา!
หลินหมิงไม่มีทางเลือกใดๆ แต่ต้องยอมรับว่าจุดประสงค์ของเขาไม่ได้ อะไรเพิ่มเลย ในการ
จารึกเขาก็ไม่ได้ ข้อมูลอะไรใหม่ ช่างน่าผิดหวังเสียจริ ง
หลินหมิงกล่าวออกไป “ข้ ากําลังค้ นคว้ าการจารึกโดยใช้ วสั ดุคือเส้ นไหมนภา”
ค้ นคว้ าการจารึก? การใช้ เส้ นไหนนภาคือวัสดุชนิดใหม่บางอย่าง?(ประมานว่าตอนนี ้ไม่มีใครรู้
ว่าใช้ เส้ นไหมนภาในการจารึกได้ เพราะเป็ นความรู้ที่หลินหมิงได้ มาจากดินแดนพระเจ้ า )
หากคําพูดเหล่านี ้ออกมาจากผู้เชี่ยวชาญการจารึกอยูอ่ ายุ 50 หรื อ 60 พวกเธอแลพี่สาวอาวุโส
คงไม่แปลกใจ แต่นี่เป็ นเพียงเด็กหนุม่ 16ปี ซึง่ จะไปรู้เรื่ องการจารึกได้ อย่างไร? การพัฒนาวัสดุ
และเทคนิคใหม่? แกกําลังหลอกข้ า? นี ้ต้ องเป็ นฝั นร้ ายของแก?
มีเพียงผู้เชี่ยวชาญการจารึกเท่านันที
้ ่จะค้ นหาวัสดุและเทคนิคใหม่ๆ แต่นี ้เด็ก15 ปี เด็กบ้ านนอก
ที่อา่ นตํารากระจอกๆเช่น ‘เทคนิคการจารึก: วิธีการเริ่ มต้ นบนเส้ นทางการจารึก’จะไปทําอะไร
ได้ แม้ จะพิจารณาอีกกี่ครัง้ การหาวัสดุใหม่ยอ่ มต้ องเป็ นเรื่ องที่โกหกออกมาอีกครัง้ อย่างแน่นอน
พี่สาวอาวุโสหัวเราะออกมาดังๆ “แกคิดว่าข้ าโง่รึ? แม้ ข้าจะไม่เข้ าใจการจารึกเลย แต่โชคไม่ดี
สําหรับแก! ที่ด้านข้ างของข้ าคือผู้เชี่ยวชาญการจารึกที่ยิ่งใหญ่แห่งราชอาณาจักรลิขิตฟ้า! แก
ต้ องการที่จะแสดงทักษะขยะของแกกับผู้เชี่ยวชาญที่แท้ จริ งมัยหละ?
้ ข้ ากําลังจะขําตาย ชิง
หวนท่านเริ่ มศึกษาวัสดุชนิดใหม่หรื อยัง “(คือโดยทัว่ ไปก่อนที่จะศึกษาวัสดุใหม่นกั จารึก
จะต้ องศึกษาตําราที่เคยมีมาให้ เข้ าใจทะลุปรุโปร่งเสียก่อน ผู้ศกึ ษาวัสดุใหม่จงึ เป็ นพวกแก่ๆที่มี
ความเข้ าใจลึกซึ ้งในเรื่ องการจารึกแล้ ว)
ฉินชิงหวนมองตรงไปที่หลินหมิง เธอคล้ ายกับเขาในเรื่ องของอายุและไม่ได้ เชื่อว่าหลินหมิงจะ
พูดความจริ ง เธอกล่าวว่า “การจารึกมีเทคนิคมากมายและมีความหลากหลายอย่างลึกซึ ้ง
เพียงแค่ในวัสดุหลักก็มีการบันทึกไว้ กว่า 13,600 ชนิดและวัสดุขนสู
ั ้ งมากมักจะเป็ นความลับ
ของผู้ค้นพบเป็ นเรื่ องยากที่จะระบุจํานวน แต่เพียงแค่ 13,600 ก็เพียงพอพอสําหรับการจารึก
และการเรี ยนรู้ซงึ่ คุณสมบัติและอัตราส่วนในการผสมและสิ่งอื่นๆ ข้ ายังไม่สามารถที่จะใช้ งาน
ครบทุกวัสดุหลักเหล่านี ้ ข้ าจึงยังไม่ค้าหาซึง่ วัสดุชนิดใหม่”
พี่สาวอาวุโสหัวเราะด้ วยรอยยิ ้ม”ฮ่า! เจ้ าเด็กโฉดชัว่ ที่แอบเข้ ามาเพื่อก่อกวน หมดหนทางรึยงั
หละ!หาข้ ออ้ างมาอีกสิ ผู้เชี่ยวชาญการจารึกที่แท้ จริ งรอแกอยู!่ ”
หลินหมิงได้ ยินเสียงหัวเราะที่เกินจริงและไม่มีการลดละ ผู้หญิงคนนี ้รับรองได้ เลยว่าบ้ าบออย่าง
สมบูรณ์ เพราะเธอถูกทิ ้งไม่มีชายใดเอาหรื ออะไร? เธอมีความผิดปกติทางด้ านจิตใจต่อผู้ชาย
แทบทุกคน
เขากล่าวว่า “ข้ ามาเพื่อศึกษาจริ งๆ ข้ าเรี ยนเทคนิคการจารึกและมีแรงบันดาลใจจากความ
ใฝ่ ฝั น ไม่มีใครเป็ นคนกําหนดได้ วา่ ข้ าจะต้ องประสบความสําเร็จหรื อจะไม่ประสบความสําเร็จ?
มีใครห้ ามไม่ให้ ผ้ ฝู ึ กหัดการจารึกไปค้ นหาวัสดุใหม่หรื ออย่างไร”
“ฮึ! ดูเหมือนว่าแกไม่กลัวตายจนกว่าแกจะได้ เห็นโลงศพตัวเอง! ดี! ดีมาก วันนี ้ข้ าจะให้ แกถูก
ตัดสินโดยชิงหวนละกัน ข้ าไม่เข้ าใจมัน ให้ เธอเป็ นผู้ทดสอบเขา”
ฉินชิงหวนรู้สกึ ผิดหวัง พี่สาวอาวุโสหวาดระแวงของผู้ชายเสียจริ ง แต่มองไปที่ชายหนุ่มคนนี ้เขา
จะต้ องโกหกแน่ๆ เขาเป็ นคนหนุ่มสาวและสวมใส่ชดุ ที่เรี ยบง่ายส่อให้ เห็นภูมิหลังของตระกูลที่
ไม่ได้ โดดเด่นอะไรและไม่โอกาสที่จะได้ เรี ยนรู้การจารึก แต่ทําไมถึงต้ องโหดร้ ายต้ องเด็กชาย
ขนาดนัน?
้
เธอกล่าวว่า “พี่สาวหลิง โปรดปล่อยเรื่ องนี ้ให้ ข้าเป็ นผู้พิจารณาเอง”
พี่สาวอาวุโสตอบว่า “ชิงหวน เจ้ าอย่าใจอ่อนเกินไป! เจ้ าไม่ถงึ การที่เหล่าศิษย์หญิงของเราถูก
คุกคามโดยพวกสวะเหล่านี ้และเราต่อสู้เพื่อจะหยุดพวกเขา! ถ้ าเรามีความใจอ่อนและเมตตา
แล้ ว พวกมันจะสิ ้นไปจะมาก่อกวนการศึกษาของเหล่าศิษย์หญิงเรื่ อยไป! ”
ฉินชิงหวนไม่ร้ ูจะทําอย่างไร ที่เธอทําได้ มีเพียงหาคําถามที่ไม่ยากจนเกินไป มันน่าจะดีถ้าเขาจะ
ตอบได้ ซกั ข้ อหนึง่ !
“นี่เจ้ ารู้หรื อไม่ ใครเป็ นผู้ก่อตังหน่
้ อยจารึกแห่งอาณาจักรลิขิตฟ้า?”
ฉินชิงหวนถามด้ วยคําถามทัว่ ไป แต่มนั ก็ทําให้ หลินหมิงเงียบไปและเกิดความสับสนในหัวของ
เขา ไอเวรนรกที่ไหนจะไปรู้จกั ไอ้ แก่ผ้ กู อ่ ตังหน่
้ วยจารึกของอาณาจักรลิขิตฟ้า? ความทรงจํา
แห่งอาณาจักรพระเจ้ าไม่มีความรู้เล็กๆน้ อยๆเช่นนี ้และแม้ กระทัง่ ตําราเทคนิคการจารึก: วิธีการ
เริ่ มต้ นบนเส้ นทางการจารึก’ก็พดู เพียงความรู้พื ้นฐานในแง่ของวิธีการไม่ได้ มีเรื่ องราวทาง
ประวัติศาสตร์ ของอาณาจักรลิขิตฟ้าอยูเ่ ลย
เมื่อเห็นหลินหมิงชะงัก รอยยิ ้มของพี่สาวอาวุโสเติบโตก็สดใสมากขึ ้น นี ้จะเป็ นการยืนยัน
สําหรับเธอว่าชายชัว่ ผู้นนไม่
ั ้ ได้ มีอะไรมากไปกว่าความชัว่ ช้ าและโรคจิต และเธอเองก็อยากจะ
ทรมานคนพาลโฉดชัว่ เพื่อความสนุกสนานสักเล็กน้ อย
“แกคงไม่ร้ ูงนสิ
ั ้ ? แม้ ข้าจะรู้ข้าก็ไม่บอกแก ฮ่าๆ”
หลินหมิงกล่าวอย่างไม่เต็มใจ “ข้ าไม่ทราบเรื่ องประวัติ แต่ข้ารู้เรื่ องโอสถและวัสดุ”
โอสถและวัสดุ? นี ้มันมีซบั ซ้ อนและความหลากหลายที่แม้ แต่ฉินชิงหวนยังไม่อาจเข้ าใจในวัย
เพียงเท่านี ้ ฉินชิงหวนคิดว่ามันเป็ นสิ่งที่ไม่สมควรที่จะโกหกไปเรื่ อยๆ หากเขาผิดเขาควรต้ อง
ยอมรับมันและแก้ ไข ทําไมถึงต้ องหลอกลวงอย่างต่อเนื่องต่อไป?
ดังนันเธอจึ
้ งถามคําถามที่ยากและลึกซึ ้งเพราะเธอต้ องการที่จะจบการสอบสวนที่น่าเบื่อและไร้
สาระนี ้ หลังจากที่เธอมาที่นี่เพื่อศึกษาพิณ แม้ วา่ ฉินชิงหวนจะใช้ ดาบเป็ นอาวุธแต่เธอก็ไม่หยุด
ที่จะหาเครื่ องดนตรี อย่างใดซักอย่างหนึง่ มาประกอบ
“งันข้
้ าขอถามว่า เจ้ าสามารถแสดงการจารึกอักขระ’ช็อก’ขึ ้นมาได้ หรื อไม่”
บทที่ 12 คําเชิญจากฉินชิงหวน
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
เป็ นคําถามที่ยากเหลือเกิน วัสดุเหล่านันเมื
้ ่อนํามารวมกันด้ วยความหลากหลายที่แตกต่างกัน
เมื่อมาอยูใ่ นมือผู้เชี่ยวชาญการจารึก พวกเขาสามารถวาดอักขระจารึกลงไปได้ มากมาย!
เทคนิคการจารึกมีสาย 3600 อักขระพื ้นฐานและ 4900 สัญลักษณ์พื ้นฐาน ด้ วยปริ มาณของ
อักขระและสัญลักษณ์เหล่าเมื่อนํามารวมกันเป็ นความหลากหลายทางพีชคณิต ทําให้ มีการ
เรี ยนรู้และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
การ ‘ช็อก’ เพียงอักขระหนึง่ ใน 3600 ชนิดของอักขระพื ้นฐาน
หลินหมิงรู้จกั การ ‘ช็อก’ ซึง่ เป็ นอักระพื ้นฐาน แต่ในความเป็ นจริ ง อักขระพื ้นฐานไม่ได้ มีอยู่
เพียง 3600 แต่มีถงึ 6000 ประเภทที่แตกต่างกัน มันเกือบจะเป็ นสองเท่าของที่ผ้ เู ชี่ยวชาญการ
จารึกแห่งทวีปนภาริ นไหลครอบครอง
แต่มนั ก็เป็ นเช่นเดียวกับเส้ นไหมนภา หลินหมิงไม่แน่ใจว่าการ’ช็อก’ รั่วไหลในทวีปนภาริ นไหล
เป็ นเช่นเดียวกับในดินแดพระเจ้ า หรือไม่ เขาทําได้ เพียงคาดหวังให้ มนั ไม่แตกต่างกันมาก
จนเกินไป พระองค์ทรงเหยียดพระหัตถ์ขวาของเขาและสาระสําคัญที่แท้ จริ งรวมกันบนนิ ้วของ
เขา ด้ วยมือของเขาเขาดึงชุดของเส้ นที่ยอดเยี่ยมในอากาศ พวกเขาเรื องแสงด้ วยไฟเงียบและ
งดงามและในที่สดุ ก็รวมตัวกันเป็ นแผนภาพที่ซบั ซ้ อนที่สอ่ งในด้ านหน้ าของฉินชิงหวน และ จ้ อง
มองพี่อาวุโส
หลินหมิงได้ ฝึกฝนการจารึกเหล่านี ้ทุกวันร่วมกับความทรงจําจากชิ ้นส่วนจิตวิญญาณและใน
ที่สดุ มันก็เริ่ มผสานเข้ าด้ วยกัน ผลลัพธ์ของมันมีประโยชน์มากทีเดียว
หลินหมิงถามขึ ้น “นี่เป็ นคืออักขระ’ช็อก’ที่พดู ถึงใช่หรื อไม่?”
ฉินชิงหวนจ้ องด้ วยความตกตะลึงขณะพี่สาวอาวุโสมองไปที่ฉินชิงหวนและสังเกตเห็นการ
แสดงออกของเธอ เธอเข้ าใจในทันทีวา่ นี ้หนุ่มอันธพาลไม่ได้ เล่นตลกด้ วยนิ ้วของเขา แต่ได้ วาด
อักขระ’ช็อก’ที่สมบูรณ์ไร้ ซงึ่ ข้ อผิดพลาด! เรื่ องบ้ าอะไรกัน!หนุ่มบ้ านนอกนันเข้
้ าใจเทคนิคการ
้ ?! มันไม่ได้ เป็ นแค่คนตอแหลหลอกลวง?
จารึกได้ อย่างนันรึ
ในใจของฉินชิงหวนรู้สกึ ประหลาดใจอย่างแท้ จริ งและพยายามที่จะไม่เปิ ดเผยอารมณ์ของเธอ
มีอกั ขระพื ้นฐาน 3600 ชนิดและมันเป็ นเรื่ องยากที่ผ้ ฝู ึ กหัดจะสร้ างมันออกมาได้ อย่างสมบูรณ์
มันก็น่าแปลกอยูแ่ ล้ วที่หลินหมิงสามารถสร้ างมันออกมาได้ แต่สิ่งที่ทําให้ เธอตกใจยิ่งกว่าก็คือ
อักขระ’ช็อก’ของเขามันถูกต้ องสมบูรณ์แบบ พลังงานที่ถกู วางไว้ ในจุดที่เหมาะสมและมันช่าง
เป็ นเรื่ องที่อศั จรรย์ยิ่ง เพียงความเพียรพยายามในการฝึ กฝนไม่คงไม่อาจทําได้ ถงึ เพียงนี ้!
ด้ วยความตกใจของเธอ เธอค่อยๆพูดขึ ้น “มันคือ… ”
หลินหมิงกล่าว ” ‘ช็อก’ รูปแบบอักขระแห่งการฆ่าฟั น การใช้ งานโดยทัว่ ไปจะมีการวางมันอยู่
บนอาวุธ เมื่อนักสู้ใช้ อาวุธเขาจะมีสมาธิและประสาทสัมผัสในการรับรู้มากขึ ้น และพลังงานจะ
ถูกนํามาใช้ ในการต่อสู้เพื่อเอาชนะศัตรู แต่ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ ้นก็มีอยูอ่ ย่างจํากัด ถ้ าอักขระ’
ช็อก’วางอยูบ่ นอาวุธ เมื่อนักสู้สง่ พลังงานของเขาเข้ าไปในอาวุธที่มีอกั ขระ’ช็อก’ จะสร้ าง
แรงสัน่ สะเทือนความเร็วสูงซึง่ จะเป็ นการเพิ่มอํานาจทะลุทะลวงอย่างรุนแรงให้ กบั อาวุธ… ”
หลินหมิงอธิบายอักขระ’ช็อก’ได้ อย่างง่ายๆ ให้ ฉินชิงหวนฟั ง ถ้ าเขาสามารถที่จะวาดอักขระ’
ช็อก’ได้ แล้ วแน่นอนว่าเขาต้ องรู้หลักการที่อยูเ่ บื ้องหลังมัน! มันจะแปลกมากที่เขาจะไม่ร้ ู!
จิตวิญญาณที่รักในการแข่งขันฉินชิงหวนก็เกิดการกระตุ้น! เธอไม่อาจปล่อยให้ เขาเอาชนะเธอ!
เธอถามเขาต่อว่า “แล้ วเจ้ ารู้จกั และวาดสัญลักษณ์’ธง’และอธิบายหลักการของมันได้ หรื อไม่
เธอเลิกถามถึงเรื่ องขันต้
้ นที่คอ่ นข้ างง่ายและถามถึงสัญลักษณ์ที่ซบั ซ้ อนมากขึ ้น แต่เรื่ องแค่นี ้ไม่
สามารถสร้ างความสับสนให้ หลินหมิงได้ ! ในความเป็ นจริ งหลินหมิงมีความเข้ าใจในสัญลักษณ์
พื ้นฐานหลากหลายและลึกซึ ้งยิ่งกว่าที่ทวีปนภาริ นไหลจะค้ นพบเสียอีก
เขาทําสมาธิเริ่ มวาดสัญลักษณ์ ‘ธง’ ขึ ้นมาในอากาศ แม้ วา่ สัญลักษณ์นี ้จะซับซ้ อนแต่นิ ้วของ
เขาไม่ได้ หยุดชะงักแม้ เพียงน้ อยนิดและในพริ บตาสัญลักษณ์จารึกที่ซบั ซ้ อนก็ปรากฏขึ ้นใน
อากาศ
ตอนนี ้แม้ แต่ฉินชิงหวนก็ยงั หวาดหวัน่ สัญลักษณ์พื ้นฐานที่ซบั ซ้ อนขนาดนัน้ และยิ่งยากที่จะ
วางพลังงานในสัญลักษณ์ให้ สมบูรณ์ แต่หลินหมิงกลับทํามันได้ อย่างง่ายดาย นี ้มันแน่อยูแ่ ล้ ว
ว่าเขาไปไกลเกินกว่าฉินชิงหวน!
โอ้ วพระเจ้ า นี ้มันอัจฉริ ยะ! ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเด็กหนุม่ แสนธรรมดาผู้นี ้จะเป็ นอัจฉริ ยะ
ในหมูอ่ จั ฉริ ยะในเรื่ องความสามารถในการจารึก!
แต่ผ้ ทู ี่จะสอนมันให้ เขาจะเป็ นใครหละ ? รูปร่างหน้ าตาของเขาบอกว่าเขาไม่ได้ มาจากตระกูล
ขุนนางใหญ่ มันเป็ นไปได้ ที่เขาจะมีนกั ปราชญ์โบราณหรื อฤาษีที่ชอบอาศัยอยูใ่ นภูเขาลึกๆและ
เงียบสงบเป็ นอาจารย์?
ฉินชิงหวนพบว่าหลินหมิงนันเต็
้ มไปด้ วยปริ ศนาและเธอยังคงทดสอบเขาต่อ สิ่งที่เขาแสดง
ออกมาทําเธอรู้สกึ ประหลาดใจ!แต่เขาทํามันได้ อย่างง่ายดาย! มีขกั ขระ3600ชนิดและ
สัญลักษณ์4900ชนิด รวมแล้ วกว่า 8000 ชนิดที่แตกต่างกันและราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับพวกมัน
เหมือนแขนขาของเขาเอง!
เมื่อเทียบกับความประหลาดใจฉินชิงหวน พี่สาวอาวุโสยิ่งตกตะลึงเสียยิ่งกว่าและยังคงสับสน
อยูใ่ นขณะที่ทงสองนั
ั้ กจารึกพูดคุยกันซึง่ มันดูเหมือนจะเป็ นภาษาที่แตกต่างกับภาษาที่เธอจะ
เข้ าใจได้ แต่เธอก็สมั ผัสได้ ถงึ ประหลาดใจและความชื่นชมของชิงหวนที่เพิ่มขึ ้นทุกขณะ
พี่สาวอาวุโสเข้ าใจชิงหวนเป็ นอย่างดี ฉินชิงหวนมักแสดงออกถึงความหรูหราและเย็นชาเสมอ!
เธอได้ รับความเคารพจากทุกคน ด้ วยพรสวรรค์ระดับหกและความแข็งแรงอันยิ่งใหญ่ของเธอ
เธอจึงมีจิตวิญญาณที่เย้ อหยิ่ง ก่อนหน้ านี ้เธอไม่เคยประเมินใครในรุ่นเดียวไว้ สงู มาก่อน
ในที่สดุ พี่สาวอาวุโสก็ร้ ูสกึ เฉยชา เธอเข้ าใจสิ่งหนึง่ เป็ นไปไม่ได้ ที่จะยึดบัตรผ่านจากเด็กคนนัน!
้
บ้ าเอ๊ ย! ที่เธอทําคือความผิดพลาดครัง้ ใหญ่! เธอกระทืบเท้ าของเธอบนพื ้น! เด็กบ้ านนอกคนนี ้
มีความสามารถในการจารึก!
พี่สาวอาวุโสแทบจะเป็ นบ้ า!
ฉินชิงหวนค่อยๆยําเกรงเขามากขึ ้น ในการสนทนากับหลินหมิง ความรู้เรื่ องสัญลักษณ์และ
อักขระทังเรื
้ ่ องของการวางพลังงานในสิ่งเหล่านันของเธอมี
้ แนวโน้ มขยายขีดจํากัดเนื่องจาก
ความเข้ าใจและความลึกซึ ้งในความรู้ของเขาที่แสดงออกมา มันเป็ นความรู้สกึ ที่ดีและมีคา่
ฉินชิงหวนสามารถยืนยันข้ อสงสัยของเธอได้ วา่ หลินหมิงมีพรสวรรค์ที่หาได้ ยากที่อาจจะพบเจอ
ได้ เพียงคนเดียวในรอบหนึง่ ศตวรรษ แต่เบื ้องหลังของเขานันลึ
้ กลับยิ่งนัก! ผู้ที่สอนเขาคือใคร
กันแน่ อาจจะเป็ นผู้เชี่ยวชาญการจารึกที่เก่งกาจและมีอํานาจ! แม้ จะเทียบกับอาจารย์ของเธอ
ก็เหมือนเปลวเทียนเทียบกับดวงอาทิตย์!
เธอไม่อาจคาดเดาถึงแหล่งกําเนิดแห่งภูมิปัญญาของชายหนุม่ ผู้นี ้ได้ เลย
ฉินชิงหวนมีความสนใจหลินหมิงอย่างมาก แต่ไม่ได้ หมายถึงการสนใจในตัวเขาเอง สิ่งที่เธอจะ
ได้ ประโยชน์ก็คือการเชื่อสัมพันธ์ที่ดีกบั อาจารย์ลกึ ลับที่อยูเ่ บื ้องของเขา มันมีความสําคัญอย่าง
ยิ่งสําหรับตระกูลฉิน!
ด้ วยความคิดนัน้ ฉินชิงหวนกล่าวว่า “ตอนนี ้เป็ นเวลาในการเรี ยนพิณข้ าขอโทษที่ทําให้
เสียเวลา แต่มนั เป็ นสิ่งที่วิเศษมากที่เราได้ สนทนากันในวันนี ้ ให้ ข้าได้ ชดเชยเวลาที่เสียไป ถ้ า
เป็ นไปได้ หลังจากการบรรยายพิณจบแล้ ว ข้ าชิงหวนอยากจะขอเชิญเจ้ าไปร่วมทานอาหารที่
ศาลาจันทร์ กระจ่าง … เพื่อแลกเปลีย่ น… หลักการและเทคนิคในการจารึกซึง่ กันและกัน จะ
เป็ นที่น่าพอใจสําหรับเจ้ าหรื อไม่ ”
ด้ วยเสียงหวานไพเราะเพราะพริ ง้ ของฉินชิงหวนซึง่ โน้ มน้ าวใจเป็ นอย่างมาก ควบคูไ่ ปกับการ
แสดงออกอย่างจริ งใจและความน่าหลงใหลของเธอ มันเป็ นเรื่ องที่จะมีผ้ ชู ายคนไหนกล้ าปฏิเสธ
ความจริ งแล้ วหลินหมิงไม่ได้ ต้องการที่จะปฏิเสธเธอ ไม่เพียงเบื ้องหลังของฉินชิงหวนจะน่า
ประทับใจและตัวเธอเองยังงดงามหาหญิงใดเปรี ยบ เป็ นเรื่ องยากที่เธอจะเอ่ยปากเชิญใครซัก
คนก่อน และเธอก็เป็ นเพียงเด็กสาวคนหนึง่ เป็ นไปไม่ได้ ที่จะปองร้ ายใดๆ
อย่างไรก็ตามหลินหมิงมีเวลาจํากัดเพียงสามเดือนในการทดสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ทังเขา ้
ยังต้ องการที่จะสร้ างรายได้ จากเทคนิคการจารึกเพื่อไปซื ้อโอสถที่เขาต้ องการและจากนันก็
้
ฝึ กฝนการจารึกโอสถและฝึ กฝนกายภาพของตัวเองให้ เร็ วที่สดุ เท่าที่จะทําได้ ทังหมดเพื
้ ่อที่จะ
เข้ าสูส่ ํานักเจ็ดแก่นแท้
แม้ วา่ เขาจะเข้ าไปในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ แล้ วเขาก็ยงั ต้ องมีความแข็งแรง ยังคงมีไอ้ หน้ าหมาจู้
ยันที่เป็ นเป๋ าหมายในการต่อสู้ หากเขาไม่ได้ เพิ่มความแข็งแกร่งของเขาแล้ วเขาไม่อาจที่จะสู้กบั
จู้ยนั ได้ และอาจกลายเป็ นเรื่ องน่าอนาถ!
หลินหมิงไม่สนใจที่จะในหน่วยพิณอีกต่อไป แล้ วไปรับประทานอาหารกับสาวงามแทน หลังมื ้อ
อาหารพวกเขายังคงพูดคุยถึงที่อยูข่ องกันและกัน และได้ แลกเปลี่ยนข้ อมูลการติดต่อกัน
สําหรับฉินชิงหวน เธอได้ เรี ยนรู้บางสิง่ บางอย่างเป็ นเรื่ องที่ดีสาํ หรับเธอ แต่สําหรับหลินหมิงเขา
ไม่ได้ เรี ยนรู้อะไรเพิ่มเลย! หลังจากที่พวกเขาแลกเปลี่ยนความรู้กนั กลับเป็ นฉินชิงหวนที่ได้ หยิบ
ทุกความรู้ที่เธอมีมาแบ่งบัน แต่กลับไม่มีเรื่ องใดเป็ นความรู้ใหม่สําหรับหลินหมิงเลย!
หลินหมิงแอบผิดหวังเล็กน้ อยและกล่าวว่า “ข้ าเสียใจนะ แต่วนั นี ้ข้ ามีบางสิ่งบางอย่างจะต้ อง
ทํา ข้ อต้ องขอตัวกลับก่อน”
“โอ้ … ดี … มันก็ควรได้ เวลาแล้ ว” ฉินชิงหวนกล่าวด้ วยความเสียใจและแก้ มของเธอมีสีแดง
จางๆ เธอได้ เชิญเขามาและเขาเองก็ไม่ได้ ปฏิเสธ แต่ในความเป็ นจริ งตังแต่
้ เธอยังเด็กๆ ฉินชิง
หวนไม่เคยเชิญชายใดมาร่วมทานอาหารด้ วยแม้ แต่ครัง้ เดียว! เธอมักจะได้ รับคําเชิญจากผู้อื่น
นับไม่ถ้วน! ซึง่ ทังหมดนั
้ นเธอปฏิ
้ เสธไปนานๆครัง้ อาจตอบรับบ้ างสําหรับเพื่อนสนิทของเธอ
ปกติเมื่อเธอได้ ปฏิเสธคําเชิญจากคนอื่นๆเธอไม่มีความรู้สกึ อะไรต่อมัน แต่เวลานี ้เธอเป็ นคน
หนึง่ ที่เหมือนถูกปฏิเสธและเธอก็ได้ ร้ ูวา่ รสชาติของการปฏิเสธมันขมขื่นมากเพียงไร แต่สําหรับ
หัวใจของเธอ ก็ยงั เป็ นเพียงหัวใจของเด็กสาวอายุ 15 ปี ธรรมดา!
การปฏิเสธของหลินหมิง ทําให้ หวั สมองของพี่สาวอาวุโสถึงจุดเดือด เธอเกือบจะวิ่งไปตบเขาให้
รู้แล้ วรู้รอด แต่เธอก็ทําได้ เพียงแค่ในความคิด! ผู้ชายคนนี ้ … ผู้ชายคนนี ้กล้ าปฏิเสธฉินชิงหวน
!
(การขอตัวกลับกลางคันก็เหมือนกับการปฏิเสธ)
โอ้ พระเจ้ า!
เขากล้ าทําลงไปได้ อย่างไร!?
เขาเป็ นผู้ชายประเภทไหนถึงกล้ าทําเช่นนี ้!?
บทที่ 13 ลุยเลยการจารึก!
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
“เฮ้ เจ้ าหยุด! หยุดนะ ฟั งข้ าสิ! เจ้ ารู้ไหมว่านางเป็ นใคร ?! “พี่สาวอาวุโสตะโกนอย่างไร้
ยางอาย แม้ วา่ มันจะไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้ ชดั จากฉินชิงหวน แต่เพราะเธอเป็ นคนสนิทของชิงหวน
เธอเข้ าใจความคิดของชิงหวน มีหรื อที่เธอจะปล่อยให้ เรื่ องไร้ สาระเช่นนี ้ไปทําร้ ายหัวใจของน้ อง
รักได้ ? ทําไมมนุษย์ต้องเป็ นแบบนี ้ ต้ องมีความคิดที่โหดร้ ายเสมอ? นี่คือสิ่งเรี ยกว่าความ
ยุติธรรมอย่างนันหรื
้ อ!(แกนันแหละที
้ ่โหดร้ ายไร้ ความยุติธรรม นังป้า ทีตอนนี ้มาทําตัวมีเมตตา
เหอะ)
ผู้ชายคนนี ้คือความเกลียดชังของมวลมนุษยชาติ แม้ แต่กบั ชิงหวน หญิงสาวที่งดงามที่สดุ
แม้ วา่ เหล่าศิษย์สาวจากตระกูลสูงส่งใดในหน่วยพิณก็ยงั ไม่อาจกล้ าทํากริ ยาเช่นนี ้ เด็กนี่ไม่ร้ ูจกั
ฐานะของตัวเองเอาเสียเลย!
การจะมีชายใดที่จะกล้ าปฏิเสธฉินชิงหวน มันคงเป็ นเรื่ องที่เกิดขึ ้นได้ เพียงในความฝั น!
หลินหมิงเองก็โศกเศร้ า แน่นอนเขารู้วา่ ฉินชิงหวนเป็ นใคร แต่มนั ก็ไม่อาจทําให้ เขาออกนอก
แผนการของเขาได้ เขาจึงพยายามที่เบี่ยงเบนไม่ให้ เกิดปั ญหา “พี่สาวอาวุโสข้ ามีสิ่งจําเป็ นที่ข้า
ต้ องทําจริ งๆ ข้ าไม่เคยโกหกใคร ”
“เจ้ าคงรู้จกั ชื่อเสียงเธอดี? ข้ าไม่ได้ พดู เล่นลิ ้นกับเจ้ า ไม่วา่ เจ้ าจะมีสิ่งใดสําคัญ ก็ไม่สําคัญไป
กว่าการเคารพและมีมารยาทต่อบุคคลที่มาจากตระกูลที่สงู ส่งเช่นฉินชิงหวน “พี่สาวอาวุโสยืน
อยูต่ รงหน้ าของหลินหมิง มือของเธอตังอยู
้ บ่ นเอวและปิ ดกันไม่
้ ให้ เขาจากไป แม้ วา่ ภูมิตระกูล
ของเธอไม่ได้ สงู ส่งเหมือนฉินชิงหวน แต่เธอก็ยงั มาจากตระกูลชันสู
้ ง
หลินหมิงไม่ร้ ูจะพูดอย่างไรให้ เธอเข้ าใจ หญิงสาวคนนี ้เอาแต่ใจและหยิ่งผยองเกินไป เขากล่าว
ว่า “ข้ าจําเป็ นต้ องกลับไปฝึ กฝน ข้ าไม่ได้ มีเวลาเหลือมากมายนัก ”
ก่อนที่พี่สาวอาวุโสจะได้ พดู อะไรต่อ ฉินชิงหวนได้ พดู ขัดจังหวะขึ ้นมา “ให้ เขาจากไปเถอะ บาง
ทีอาจารย์ของเขาอาจเรี ยกหาเขาก็ได้ ”
สําหรับฉินชิงหวน เธอรู้ดี ด้ วยความสําเร็ จของหลินหมิงในวัยหนุ่มของเขาจะต้ องมุง่ เน้ นความ
สนใจในการฝึ กซ้ อมอย่างขยันขันแข็ง มันเป็ นเพียงธรรมชาติที่อาจารย์ของเขาจะมีบทเรี ยน
ที่สดุ โหดให้ เขาทุกวัน
เมื่อได้ ยินคําพูดเหล่านี ้ของเธอ หลินหมิงก็ร้ ูสกึ โล่งอก แม้ วา่ เขาจะพูดความจริ ง แต่สําหรับสอง
สาวงามเขาไม่สามารถไปขัดใจอะไรได้ เพราะความแกร่งของพวกเธอและภูมิหลังตระกูลที่สงู ส่ง
พวกเธอสามารถเอาชนะเขาได้ อย่างายดาย!
เมื่อหลินหมิงเตรี ยมจะจากไป ฉินชิงหวนยิ ้มและกล่าวว่า “ข้ าชื่อฉินชิงหวน ถ้ าเจ้ าฝึ กฝนจบ
แล้ วพอมีเวลาว่าง กรุณามาพบท่านจอมพลเพื่อขอพบข้ า การมาเยือนของเจ้ าจะได้ รับการ
ต้ อนรับ ”
หลินหมิงหยุดเล็กน้ อยและบอกเธอให้ ร้ ูชื่อของเขา “หลินหมิง”
จากนันหลิ
้ นหมิงก็เดินจากไป ฉินชิงหวนก็ถอนหายใจ คําที่ใช้ ในการสะกดชื่อของเขา? คือหลิน
หมายถึงป่ า และหมิงหมายถึงสดใส? เพียงสองคํานี ้ ยากเกินไปที่จะหาตัวเขาในเมืองลิขิตฟ้า
เธอจะหาเขาพบได้ อย่างไร?
…
…
…
ในขณะที่เขากลับมาจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ หลินหมิงตัดสินใจแล้ วถึงสิ่งที่เขาต้ องการ
อาณาจักรลิขิตฟ้ามีการผลิตไหมนภา แต่มนั ก็ถกู ใช้ เป็ นวัสดุสร้ างเครื่ องดนตรี ระดับสูง เป็ นเรื่ อง
ยากที่เขาจะค้ นหาและซื ้อมัน แต่เขาอาจขอร้ องให้ หลินเซี่ยวตงที่มาจากตระกูลชันสู ้ งหาซื ้อให้
และมันจะเป็ นเรื่ องง่ายที่จะได้ มนั มา ตราบใดที่ยงั มีเงินพอจ่าย
จาก ‘พิณนภา’ หลินหมิงสามารถบอกราคาโดยประมาณของไหมนภาได้ 20 เหรี ยญทองต่อ
ฟุต แม้ วา่ มันจะไม่ได้ มีราคาแพงเกินไป แต่มนั เป็ นเส้ นที่บางมาก หากวัดโดยนํ ้าหนักต้ องใช้
มากกว่า 10,000 เหรี ยญทองเพียงเพื่อซื ้อมันแค่ปอนด์เดียว!
หลินหมิงเหลือเพียง 70 เหรี ยญทอง พอที่เขาจะซื ้อได้ สามฟุต ในเทศกาลการค้ าเที่ยงธรรมเขา
ได้ ใช้ 800 เหรี ยญทองซื ้อวัสดุกองใหญ่ แต่เพียงสามฟุตของไหมนภาเขาต้ องจ่ายถึง 60 เหรี ยญ
ทอง ทังสามฟุ
้ ตไหมนภานี ้ ไม่ต้องสงสัยว่ามันเป็ นราคาแพงที่แพงขนาดไหน
หลินหมิงจ้ องปฏิทินของเขา หน้ าที่ถกู ฉีกเท่ากับจํานวนวันที่ผ่านมา เขาจะฉีกหนึง่ หน้ าออกทุกๆ
วัน เดือนแรกเขาจะใช้ เวลาฝึ กเทคนิคการจารึกและอื่นๆ เดือนที่สองเขาจะซื ้อยาที่เขาต้ องการ
แล้ วฝึ กฝนเหมือนคนบ้ า! เขาเชื่อว่ามีนํ ้าทิพย์และโอสถที่จะช่วยเขาทะลวงผ่านขันแรกของการ
้
ฝึ กฝนกายภาพไปจนถึงจุดสูงสุดของขันตอนที ้ ่สอง!
ถ้ าเขาจะไปถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สองได้ แม้ วา่ เขาจะเอาชนะจู้ยนั ไม่ได้ อย่างน้ อยเขาจะไม่
สูญเสียจนเกิดความหายนะ
หลังจากที่ใช้ ฝึกฝนร้ อยครัง้ จบ ในที่สดุ หลินหมิงก็เริ่ มขันตอนจารึ
้ กที่เกี่ยวข้ องกับวัสดุอย่างจิงจัง
นี่เป็ นการเริ่ มต้ นที่ยาก เพราะหลินหมิงไม่ได้ มีวสั ดุที่ดีเพียบพร้ อม ! เขาพยายามทําแต่ละ
ขันตอนด้
้ วยความระมัดระวังสูงสุด สําหรับกองวัสดุมลู ค่า 800 เหรี ยญทองเขาจะต้ องทําให้ ได้
จารึกที่ทํางานได้ เพียงชิ ้นเดียวก็เกินพอ!
การจารึกไม่เพียงต้ องการความเข้ าใจที่ดี แต่ยงั ต้ องการอาจารย์ที่ดี การสนับสนุนทางการเงิน
และแรงจิตวิญญาณที่มีประสิทธิภาพ
เพราะในกระบวนการจารึกต้ องควบคุมรอยแกะสลักโดยใช้ แรงดันจิตวิญญาณวาดโครงสร้ าง
พลังงาน แรงดันจิตวิญญาณของหลินหมิงนันถู
้ กวัดตังแต่
้ เขายังเป็ นเด็กและมันก็ยงั เป็ นแรงดัน
จิตวิญญาณระดับสาม
แรงดันจิตวิญญาณระดับสามและพรสวรรค์ตอ่ สู้ระดับสาม ซึง่ ถือว่าดีสําหรับตระกูลชันกลางที ้ ่
มีประวัติของศิลปะการต่อสู้ไม่นานเท่าไร แต่สําหรับตระกูลที่สงู ส่งมันไม่ได้ เข้ าใกล้ คําว่าดีเลย
นักสู้ไม่จําเป็ นต้ องฝึ กแรงดันจิตวิญญาณ ในขันตอนการฝึ
้ กฝนกายภาพไม่ได้ มีเหตุผลที่จะใช้
แรงดันวิญญาณ แต่หลินหมิงกลับใช้ รูปแบบของพลังงานนี ้ เขาเริ่ มที่จะระดมแรงจิตวิญญาณ
ของเขาผสานเข้ ากับความทรงจําที่พบในชิ ้นส่วนจิตวิญญาณ เขาโคจรแรงจิตวิญญาณนี ้ใน
ร่างกายของเขาจนคุ้นเคยราวกับว่ามันเป็ นความคิดของเขา
มนุษย์ทกุ คนมีแรงจิตวิญญาณ แต่ความสามารถที่จะใช้ มนั ยากยิ่งนักเป็ นสิ่งที่คนทัว่ ไปไม่อาจ
ที่จะประสบความสําเร็จ มันจําเป็ นต้ องเข้ าใจกฎแห่งจิตวิญญาณและจําเป็ นต้ องฝึ กใช้ ใน
ชีวิตประจําวันการอยูเ่ สมอ นักจารึกหลายคนได้ จดจํารูปแบบสัญลักษณ์และโครงสร้ างพื ้นฐาน
แต่ถ้าพวกเขาไม่เข้ าใจกฎของแรงดันวิญญาณ ก็จะส่งผลให้ พวกเขาไม่สามารถใช้ แรงจิต
วิญญาณได้ หากไม่สามารถใช้ แรงจิตวิญญาณได้ แล้ ววัสดุที่นํามาใช้ ก็จะไม่ได้ มีคณ
ุ สมบัติที่
กลายเป็ นสินค้ า และเป็ นวัสดุที่เสียเปล่า!
ทันทีที่หลินหมิงเริ่ มทําความเข้ าใจกฎแห่งจิตวิญญาณจากความทรงจําของชิ ้นส่วนจิต
วิญญาณ มันเต็มไปด้ วยความรู้สกึ คุ้นเคย กฎแห่งจิตวิญญาณจากความทรงจําที่เก่าแก่นี ้มี
ความน่ากลัวอย่างมาก ดูเหมือนจะเป็ นความทรงจําก่อนที่เจ้ าของมันจะเสียชีวิต เป็ นความทรง
จําที่ได้ รับการฝึ กการจารึกตลอดชีวิตของมัน ส่วนของการบังคับแรงจิตวิญญาณถูกเก็บรักษาไว้
และเขาก็ไม่จําเป็ นต้ องกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลเชิงลบใดๆจากความทรงจํา
เขาวางมือลงเบาๆและใช้ แรงจิตวิญญาณที่มองไม่เห็น มันเริ่ มที่จะดึงหญ้ านภาและกลัน่ นํ ้า
ออกมาด้ วยการใช้ ความคิดของเขา หลินหมิงเริ่ มปฏิบตั ิเปลี่ยนนํ ้าเป็ นรูปทรงต่างๆภายใต้ การ
ควบคุมของเขา บางครัง้ เขาก็ทําให้ มนั เป็ นอักขระ บางครัง้ เขาก็ทําให้ มนั กลายเป็ นผลึกฟองใส
ใส
สิ่งที่เกิดขึ ้นทําให้ หลินหมิงประหลาดใจ เขารู้วา่ ในตําราระบุวา่ แม้ ผ้ ทู ี่สามารถเข้ าใจกฎแห่งจิต
วิญญาณได้ แต่กําเนิดยังต้ องใช้ เวลาอย่างน้ อยหนึง่ เดือนในการหัดควบคุม ในขณะที่ผ้ ทู ี่มี
ความสามารถน้ อยลงมาจะสามารถทําได้ เมื่อฝึ กไปครึ่งปี หรื อมากกว่านัน้
นักจารึกแต่ละคนมีกฎแห่งจิตวิญญาณของพวกเขาเอง กฎแห่งจิตวิญญาณมีการจัดอันดับที่
แตกต่างกันเช่นของบางคนอ่อนแอ บางคนรุนแรงกว่า นักจารึกจึงยกย่องกฎแห่งจิตวิญญาณ
ของตัวเองด้ วยความรักและการนับถือ! มันเป็ นสิง่ ที่พวกเขาอาจไม่ได้ สง่ ผ่านไปถึงสาวกของ
พวกเขา เพราะกฎแห่งจิตวิญญาณมีผลต่อความสามารถในการแรงจิตวิญญาณ มันเป็ นสิ่ง
สําคัญที่สดุ กับผู้จารึก!
โดยไม่มีเงาแห่งความสงสัย มี’ครอบงําวิญญาณ’ อยูภ่ ายในความทรงจํานัน้ นี่คือกฎแห่งจิต
วิญญาณ! แม้ ทวีปนภาริ นไหลที่ยิ่งใหญ่ที่สดุ ในด้ านการจารึกยังไม่อาจได้ เป็ นเจ้ าของ แต่เด็ก
บ้ านนอกอย่างเขากลับมีมนั
หลินหมิงมีความคุ้นเคยกับกฎแห่งจิตวิญญาณที่มาจากความทรงจํา ด้ วยแรงดันจิตวิญญาณ
ระดับสามของเขาและกฎแห่งจิตวิญญาณนี ้ อาจทําให้ เขาเทียบได้ กบั ผู้มีแรงดันจิตวิญญาณ
ระดับสี่หรื ออาจไปถึงระดับห้ า! สิ่งเหล่านี ้เป็ นสิ่งที่มีคา่ ที่ถกู ทิ ้งไว้ ในความทรงจํา!
นิ ้วมือทังห้
้ าของเขามีตราประทับปรากฏขึ ้น ดึงคลื่นวิญญาณออกมาจากหยดนํ ้าของหญ้ านภา
นิ ้วของหลินหมิงดึงเส้ นในอากาศที่สอ่ งแสงเป็ นประกาย แรงจิตวิญญาณที่ใช้ จะต้ องสัมพันธ์กบั
หยดนํ ้าจากหญ้ านภา และต้ องทํามันอย่างรวดเร็ วมันรวมตัวกันเป็ นอาคมที่น่าพอใจและลึกลับ
อาคมมีขนาดเล็กกว่าเล็บมือ แต่มนั มีพลังงานที่ซบั ซ้ อน แม้ จะเป็ นอาคมเดียวกันแต่ความ
แตกต่างที่ลกึ ซึ ้งในรูปแบบของความแข็งแรงของแรงจิตวิญญาณและปั จจัยอื่นๆ หมื่นนักจารึก
จะมีหมื่นลักษณะที่แตกต่างกัน หลินหมิงไม่สามารถบอกได้ วา่ สัญลักษณ์ที่เขาสร้ างขึ ้นเป็ นขยะ
หรื อสมบัติ แต่เขาก็ยงั คงอยูก่ บั ความพึงพอใจในผลของเขา
เขาเริ่ มที่จะสร้ างอาคมของเขาต่อไป เขาใช้ เพียงครึ่งหนึง่ ของหยดนํ ้าหญ้ านภาเพื่อให้ เขายังคง
มีครึ่งหยดเหลือ นิ ้วมือของเขาเกิดรูปแบบตราประทับอีกครัง้ และเริ่ มที่จะดึงแรงจิตวิญญาณ
จากหยดนํ ้าเข้ าไปรวมกับตราประทับอีก อย่างไรก็ตามตราประทับเกิดแสงขึ ้นมา หลินหมิง
อํ ้าอึ ้งเล็กน้ อย มันเกิดจากการย่อยสลายในการรวม หลินหมิงเพียงจ้ องมองมันในขณะที่
ของเหลวนันกลายเป็้ นขี ้เถ้ า
มันเป็ นเรื่ องยากที่จะจินตนาการ แต่สําหรับผู้ที่เพิ่งเริ่ มการจารึกวิธีบงั คับจิตวิญญาณจะไม่มี
เสถียรภาพ และจะประสบความล้ มเหลวเป็ นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ ้นธรรมดาและหากประสบ
ความสําเร็ จจะเป็ นเรื่ องอัศจรรย์ยิ่ง
ในพริ บตาหลายเหรี ยญทองหายวับไปในอากาศ ในหนึง่ วันมันไม่ยากเลยที่จะเสียเป็ นร้ อยๆ
เหรี ยญทองไปในการฝึ กจารึก มันเป็ นการเผาเงินอย่างแท้ จริ ง! รสชาติแห่งความล้ มเหลวยังคง
สดใหม่สาํ หรับเขา หลินหมิงจึงระมัดระวังมากขึ ้น เขาขยับนิ ้วมือของเขาอีกครัง้ รูปแบบตรา
ประทับเกิดขึ ้นมาครัง้ แล้ วครัง้ เล่า แน่นอนว่าเขาล้ มเหลวบ่อยกว่าเขาประสบความสําเร็จ แต่
เมื่อเวลาผ่านไปจํานวนของความล้ มเหลวเริ่ มลดลง
ในขณะที่หลิงหมิงสร้ างอาคมมากขึ ้นเรื่ อยๆ เขาเริ่ มที่จะค้ นพบว่าแรงดันจิตวิญญาณของเขา
เองอ่อนแรงลง ถึงแม้ จะมีวรยุทธและกฎแห่งจิตวิญญาณระดับสูง ‘จุดสูงสุดแห่งความ
โกลาหล’ และ ‘ครอบงําวิญญาณ’ สนับสนุนเขา เขาก็สามารถทําต่อไปได้ อีกไม่นาน
การใช้ แรงจิตวิญญาณที่เหลือเพียงน้ อยนิด หลินหมิงไม่สามารถสร้ างอาคมได้ เร็ วเหมือนก่อน
หน้ านี ้ นอกจากนี ้โอกาสผิดพลาดยังมีมากขึ ้นด้ วย เนื่องความสามารถในการบังคับแรงดันจิต
วิญญาณที่ลดลง!
ตอนนี ้แรงดันจิตวิญญาณของตํ่ามาก กระบวนการฝึ กจารึกของหลินหมิงก็ไปได้ เพียงเล็กน้ อย
เขาก็เริ่ มที่จะมีความยากลําบากในการบังคับแรงด้ นจิตวิญญาณ และเขารู้สกึ เหนื่อยมากและ
เกิดอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะเดิน อาคมด้ านหน้ าของเขาเริ่ มที่จะสัน่ สะเทือน ขอบของพวกมัน
เริ่ มจะแตกออก!
หัวใจหลินหมิงเต้ นแรงและเขาพยายามรักษาความเสถียรของแรงจิตวิญญาณอย่างรวดเร็ ว ฝ่ า
มือของเขาถูกปกคลุมไปด้ วยเหงื่อ แต่เขากลับทําให้ มนั ยิ่งยุง่ เหยิง! หลายสิบเหรี ยญทองกําลัง
จะสูญเปล่า!?
ในที่สดุ หลินหมิงก็เห็นแสงแพรวพราว(แสงที่เกิดออกมาตอนวัสดุกลายเป็ นขี ้เถ้ า) ตัวเขาปก
คลุมไปด้ วยเหงื่อ เขาทุบมือขวาลงพื ้น
ตึง!
บทที่ 16 แหลกเหลว
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
ห้ องโถงประมูลมีการตรวจสอบที่เข้ มงวดมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้ าที่นํามาขายประมูล
มิฉะนันอามี
้ ของปลอมของเลียนและอาจหลุดรอดเข้ ามาทําให้ ชื่อเสียงของห้ องโถงประมูล
เสียหายได้ สําหรับผู้จดั ประมูลชื่อเสียงของงานประมูลนันสํ
้ าคัญเป็ นอย่างมาก
มีชายวัยกลางคนมาออกมาต้ อนรับแล้ วขวางทางเข้ าไว้ และถามขึ ้นมา “นายท่าน มีสงิ่ ใดให้
ช่วยหรื อไม่?”
หลินหมิงสวมเสื ้อคลุมที่สะอาดเรี ยบร้ อย ดูเหมือนพลเมืองดีมีฐานะ แต่ความสูงของเขาก็น้อย
กว่าผู้ใหญ่ทวั่ ไปหลายนิ ้ว นอกจากนี ้เสียงของเขายังไม่ดเู หมือนผู้ใหญ่พอ มันยากที่จะจะปกปิ ด
ความจริ งที่วา่ เขาเป็ นเด็กหนุ่มเพียง 15 หรื อ16 ปี เพื่อให้ ไม่มีพิรุธและทําการประมูลได้ อย่าง
เรี ยบง่าย
้ นหมิงจึงกล่าวด้ วยเสียงของเขาเอง “ข้ ามาที่นี่เพื่อประมูลขายแผ่นจารึก”
ดังนันหลิ
“โอ้ ? “ชายวัยกลางคนมองมาที่หลินหมิงเหมือนว่าเขามีพิรุธ “ให้ ข้าตรวจสอบแผ่นจารึก
ก่อน?” ความจริ งแล้ วมารยาทของผู้ชายคนนี ้ถือว่าแล้ วสุภาพมากต่อเด็ก 15-16 ปี อย่างเขาที่
เข้ ามาในการประมูล มันเป็ นเรื่ องที่แปลกมากที่จะมีเด็กอายุเพียงเท่านี ้มาประมูลขายจารึก
ราคาของพวกมันสูงกว่า1000เหรี ยญทอง คนส่วนใหญ่จะต้ องคิดว่านี่เป็ นเรื่ องตลกเป็ นแน่
หลังจากที่หลินหมิงดึงแผ่นจารึกออกมา ชายวัยกลางคนขมวดคิ ้ว เขาสังเกตเห็นคุณภาพที่ตํ่า
ของมัน นี่เป็ นแผ่นจารึกระดับพื ้นฐานที่สดุ และราคาถูกมากที่สดุ ที่มีอยูใ่ นตลาด เพียง1-2
เหรี ยญทองต่อโหล แม้ วา่ ต้ นทุนค่าแผ่นจารึกจะไม่ได้ สง่ ผลกระทบต่อคุณภาพของจารึก แต่มนั
ก็ยงั เป็ นสัญลักษณ์บง่ บอกถึงของสถานะของผู้จารึก เป็ นเรื่ องธรรมดาที่ผ้ จู ารึกเกือบทังหมดจะ
้
ไม่วางจารึกในแผ่นจารึกถูกๆแบบนี ้เพื่อนํามาประมูล พวกเขามักจะใช้ แผ่นจารึกคุณภาพสูงที่
ราคาหลายเหรี ยญต่อแผ่นที่ดหู รูหราเพื่ออวดผลงานของพวกเขา
อย่างไรก็ตามมันมีพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากแผ่นจารึก และชายวัยกลางคนสามารถที่
จะตรวจสอบได้ วา่ นี่เป็ นสินค้ าที่สมบูรณ์และไม่ใช่เรื่ องตลก เขามองไปที่หลินหมิงและถามว่า
“ท่านมีใบรับรองที่นกั สร้ างจารึกหรื อไม่?”
หลินหมิงส่ายหัว
เยี่ยม ตามข้ ามา ”
ในขณะที่ชายวัยกลางคนนําหลินหมิงผ่านห้ องโถงไปที่ห้องประเมินราคาด้ านหลังที่อยูด่ ้ านหลัง
โถงประมูล คนที่อยูใ่ นห้ องประเมินราคาสวมเสื ้อผ้ าสีดํามีริว้ รอยและดูเหมือนจะเป็ นคุณปู่ ที่วยั
50 หรื อ 60ปี หลินหมิงสังเกตป้ายด้ านหน้ าของปู่ คนนัน้ มันว่าเขียน “นักประเมินชันสู
้ ง”
ในขณะที่คนเสื ้อคลุมสีดาํ ถือแผ่นจารึกของหลินหมิงไว้ ในมือและสังเกตถึงแผ่นจารึกระดับตํ่า
แต่เขาก็ไม่ได้ แสดงออกใดๆที่แสดงถึงความรังเกียจหรื อดูถกู เขายังคงมีทา่ ทางที่เงียบสงบและ
สุขมุ เขาถือมันไว้ บนถุงมือสีขาวและให้ ความสนใจต่อการประเมินอย่างจริ งจังและการปฏิบตั ิ
ของในทํางานนี ้ แสดงให้ เห็นว่าเขาเป็ นมืออาชีพที่แท้ จริ ง!
เขาค่อยๆเริ่ มประเมินราคาอย่างช้ าๆ เขายกศีรษะขึ ้นใบหน้ าก็ดเู ข้ มขึ ้นมา และมองไปที่หลินห
มิง “ถ้ าข้ าคาดการณ์ไม่ผิด ผู้ที่สร้ างจารึกนี ้ คงจะมีการฝึ กฝนกายภายไม่เกินระดับที่สาม?”
ในจารึกมักจะพบคําใบ้ เล็กน้ อยจากแรงดันจิตวิญญาณของผู้สร้ าง มันเป็ นไปได้ ที่ผ้ ปู ระเมิน
ราคาที่จะตัดสินว่าผู้สร้ างมีการฝึ กฝนสูงเพียงใดผ่านร่องรอยเหล่านี ้ เขาได้ ฝึกฝน ‘ปฐม
โกลาหล’ จึงมีพลังสูงกว่านักสู้โดยเฉลี่ย หากนักประเมินราคารู้วา่ จารึกนี ้ถูกสร้ างขึ ้นโดยเด็กที่
มรการฝึ กฝนกายภาพขันแรก
้ เขาคงอึ ้งจนหัวหาดพื ้นเป็ นแน่
หลินหมิงรู้วา่ เขาไม่มีทางปิ ดบังเรื่ องนี ้ได้ เขาจึงพยักหน้ าตอบรับ
้ ดลมหายใจเข้ าและถอนหายใจอย่างแรง “มีผ้ มู ีความสามารถระดับนี ้ในรุ่นหนุ่ม
ชายคนนันสู
สาวด้ วยรึ เพียงการฝึ กฝนระดับสาม สามารถวาดจารึกชิ ้นนี ้ขึ ้นมาได้ น่าตกใจจริ งๆ! ”
โดยปกติแล้ วนักจารึกมักจะเป็ นคนเก่าคนแก่มีอายุคอ่ นข้ างมาก ส่วนใหญ่จะมีการฝึ กฝน
กายภาพอยูข่ นห้
ั ้ า น้ อยยิ่งนักที่จะมีนกั จารึกสักคนที่เข้ าสูข่ นผสานชี
ั้ พจร(ขัน6)และเข้
้ าสูร่ ะดับ
ปราณฟ้าได้
บางทีเด็กระดับสามนี่อาจเป็ นเป็ นเพียงแค่เด็กฝึ กงานของนักจารึกแล้ วบังเอิญโชคดีสร้ างมัน
ขึ ้นมาได้ แต่เด็กคนนี ้นํามันมาถึงสี่แผ่น เป็ นเรื่ องที่น่าตกใจอย่างแท้ จริ ง
จากที่หลินหมิงได้ ยินชายชราสรรเสริญกล่าวชมและคิดว่าคงจะเป็ นเรื่ องดี แต่ความจริ งกลับไม่
เป็ นเช่นนัน้ เมื่อชายชรากล่าวคําพูดต่อไปขึ ้นมา”มันเป็ นจารึกที่สมบูรณ์ก็จริ ง แต่ผ้ สู ร้ างเป็ น
เพียงเด็กฝึ กงานเท่านัน้ เราจึงไม่สามารถที่จะระบุประสิทธิภาพได้ แน่ชดั เรารู้วา่ แรงดันจิต
วิญญาณของเด็กฝึ กงานมีจํากัด โดยทัว่ ไปเป็ นเรื่ องยากมากที่จะวางอาคมมากมายและมี
ความซับซ้ อนเช่นนี ้ แม้ วา่ จารึกจะมีความแข็งแรงเพิ่มขึ ้นร้ อยละสิบ ถ้ ามันไม่สามารถใช้ กบั
ั ้ งได้ แล้ วเรานํามันเข้ าประมูล จะเป็ นอันตรายต่อชื่อเสียงของที่ประมูล ”
อุปกรณ์ชนสู
จารึกถูกนํามาใช้ เฉพาะกับอุปกรณ์ระดับสูงเพราะเพียงอุปกรณ์ระดับสูงมีความทนทานและ
แข็งแรงพอ มันมีระดับพลังงานของในต่อสู้ นักจารึกจึงต้ องมีการฝึ กฝนอย่างน้ อยในระดับนัน้
(เผื่อใครจะงงนะ คือนักจารึกจะฝึ กฝนกายภาพไว้ ช่วงขัน5-6เพื
้ ่อให้ จารึกที่วาดออกมาใช้ กบั
อุปกรณ์ระดับสูงได้ ส่วนใหญ่เลยเป็ นพวกแก่เพราะต้ องฝึ กฝนกายภาพ+ฝึ กจารึก ส่วนนักสู้แก่ๆ
แล้ วก็ไประดับปราณฟ้าเลย)
เป็ นเพราะเหตุนี ้เองที่ทําให้ สินค้ าที่มีคณ
ุ ภาพตํ่าที่สดุ มีมลู ค่าอย่างน้ อยหลักพันเหรี ยญทอง!
อุปกรณ์ชนสู
ั ้ งมิใช่สิ่งของสําหรับนักสู้ธรรมดา อย่างน้ อยต้ องเป็ นนักสู้จากตระกูลชันสู
้ งที่มีการ
ฝึ กฝนอย่างน้ อยในขัน4หรื
้ อขัน5ที
้ ่จะได้ รับการพิจารณาให้ มีอาวุธคุณภาพสูงไว้ ครอบครอง
ยกตัวอย่างเช่นหวังยี่เกา ถึงเขาจะมาจากตระกูลที่ดี แต่เป็ นเพราะการฝึ กฝนของเขาอยูใ่ น
ระดับตํ่า แม้ เขาจะได้ ดาบสีฟ้ามา แต่มนั ก็ไม่ใช้ อปุ กรณ์ระดับสูง ดาบสีฟ้ามีมลู ค่าเพียง200
เหรี ยญทอง
จํานวนครัง้ ที่สามารถวางจารึกบนอาวุธมีจํากัด มันทําได้ เพียงครัง้ เดียว หลังจากนันไม่
้ สามารถ
วางจารึกอื่นได้ อีก การจะใช้ จ่ายเป็ นพันเหรี ยญทองเพื่อวางจารึกบนอาวุธ มันต้ องมีความ
ปลอดภัยไร้ ความผิดพลาด!
ดังนันจึ
้ งมีการดํารงอยูต่ ลาดการจารึก
หลินหมิงคาดการณ์ไว้ บางแล้ วและกล่าวว่า “ข้ าต้ องการใช้ ประมูลเพียงสามแผ่น อีกหนึง่ นัน้
สําหรับการทดลองของท่าน ”
หลังจากที่สร้ างจารึกขึ ้นมา มันเป็ นเรื่ องยากเกินไปที่จะทดสอบผลที่ตามมา มีเพียงผู้สร้ าง
เท่านันที
้ ่พอจะคาดเดาความสามารและประสิทธิภาพได้
เมื่อนักสู้ซื ้อแผ่นจารึกไป เหมือนกับเขาได้ เดิมพันกับโชคชะตาให้ ผ้ สู ร้ างแผ่นจารึกเหล่านันเป็
้ น
ผู้ที่เชี่ยวชาญที่มีความสามารถสูงเพียงพอกับอุปกรณ์ของเขา มีไม่กี่คนที่จะซื ้อจารึกจากผู้สร้ าง
ที่ไร้ ชื่อเสียงหรื อยังฝึ กหัดอยู่ มันเป็ นเพียงแค่การพนันด้ วยเงินที่มีคา่ ของพวกเขาเอง!
ผู้ประเมินกล่าวว่า “ได้ แน่นอน แต่ทว่าการทดลองนี ้จะต้ องทํากับอุปกรณ์ของเจ้ าเอง ”
หลินหมิงชะงักเงียบๆ อุปกรณ์ระดับสูงนันมี
้ มลู ค่าหลายพันเหรี ยญทอง? มันเป็ นไปไม่ได้ ที่เขา
จะมีอปุ กรณ์สําหรับการทดสอบตามคําขอจากโถงประมูล
หากหลินหมิงเป็ นนักจารึกที่มีชื่อเสียงแล้ วเรื่ องเหล่านี ้จะต่างอกไปเพราะนักจารึกที่มีชื่อเสียงจะ
ไม่จําเป็ นต้ องมีการทดสอบ ซํ ้ายังอยากให้ ทดสอบกับอาวุธของพวกเขาเองอีก
สําหรับหลินหมิง ทังชี
้ วิตเขาเคยมีเงินมาที่สดุ เพียง 800 เหรี ยญทอง จะเป็ นไปได้ อย่างไรที่เขา
จะหาอาวุธที่มีมลู ค่าหลายพันเหรี ยญทองมาวางจารึก?
เขาไม่ได้ โต้ เถียงหรื อพูดอะไรอีก เขาอาจบอกได้ วา่ อุปกรณ์ที่วางจารึกของเขาจะไร้ ซงึ่ ความ
เสียหาย แต่มนั ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อคําพูดของเขา เพราะแรงดันจิตวิญญาณในจารึกมันก็
อ่อนแอเกินไป
ดังนันหลิ
้ นหมิงหยิบเอาแผ่นจารึกทังสี
้ ก่ ลับมาและเดินออกจากโถงประมูลไป
…
…
…
“ขอโทษนะ แต่ทางเราจําเป็ นต้ องพิสจู น์วา่ สมาคมจารึกได้ ลงนามให้ เจ้ าได้ เป็ นนักจารึกหรื อ
ยัง… ”
ที่งานการค้ าเที่ยงธรรม ผู้ประกอบการค้ าได้ ปฏิเสธหลินหมิงหลังจากที่ได้ เห็นอายุของเขา
แต่มนั ก็เป็ นการปฏิเสธอย่างสุภาพ หลังจากที่หลินหมิงไปถามขายยังร้ านค้ าหลายแห่งและ
ทัศนคติของคนเหล่านี ้ล้ วนเลวร้ ายทังสิ
้ ้น
เขาพยายามที่จะขายแผ่นจารึกที่ให้ อีกที่หนึง่ คือสมาคมการค้ าจารึก ตัวอาคารดูมงั่ คัง่ และ
หรูหรามีหกชันเต็
้ มไปแต่ละชันสร้ ้ างด้ วยสิ่งก่อสร้ างชันสู
้ งอย่างปราณีต ทุกอย่างที่อยูท่ ี่นี่ไร้ ซื ้อ
ของราคาถูก สินค้ ามีมลู ค่าตังแต่
้ ไม่กี่ร้อยถึงหลายพันเหรี ยญทอง แม้ เจ้ าของร้ านจะมีความหยิ่ง
ยโส แต่ถ้าหนุ่มสาวรํ่ ารวมเข้ ามาแล้ ว เขาก็จะสุภาพและประจบประแจงเป็ นอย่างดี แต่สําหรับ
คนซื ้อขายที่ดยู ากจนทําได้ เพียงไปติดต่อทางด้ านหลัง
บางคนยังรํ าคาญที่จะพูดอะไร เพียงแค่โบกมือไล่เขาออกไปอย่างหงุดหงิด
“เห้ เด็กน้ อย อย่ามาสร้ างปั ญหาที่นี่ มันขว้ างการค้ าของข้ า”
“ที่นี่ไม่ได้ เป็ นสถานที่ที่เด็กน้ อยควรมา … .โอ้ ว ท่านลูกค้ ามีสิ่งใดให้ ช่วยหรื อไม่คะ! ต้ องการ
…”
“ฮ่า ๆ เด็กเอ้ ย อย่าพยายามเล่นตลกกับข้ า นี่มนั แผ่นกระดาษชําระ! แล้ วแกคิดว่าวาดเปลวไฟ
เล็กๆ บนกระดาษชําระนี ้ มันจะกลายเป็ นจารึก? ฮ่า ๆ … “
บทที่ 17 หลายยุนเยีย
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ในช่วงตลอดทังวั ้ นมานี ้หลินหมิงไปยังสถานที่จดั ประมูลอีกสองแห่งและอีกห้ าตลาดซื ้อขาย
สมบัติซงึ่ ถูกจัดตังขึ
้ ้นโดยตระกูลชันสู
้ ง แต่เขายังไม่ได้ พบผู้ที่จะซื ้อสินค้ าของเขา
ในขณะที่เขากําลังจะกลับไปที่ศาลาจันทร์ กระจ่างหลินหมิงถอนหายใจ เขาไม่ได้ คาดคิดมา
ก่อนเลยว่าการขายจารึก3-4แผ่นจะเป็ นเรื่ องที่ยากถึงเพียงนี ้
อย่างไรก็ตามเรื่ องนี ้เป็ นเพียงความล้ มเหลวเล็กๆน้ อยๆ คําพูดเหน็บแนมและเหยียดหยาม
ต่างๆไม่มีผลต่อหลินหมิง ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานจากการฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้ที่
ผ่านมาของเขานันเกิ้ นกว่าความเจ็บปวดจากคําพูดเหล่านี ้มากนัก ที่เขาจะมีประสบการณ์จาก
หลายต่อหลายครัง้ แม้ วา่ จู้ยนั จะด่าเขาเกี่ยวกับหลานยุยเยีย เพราะตระกูลของเขาก็ยากจน
และมีการฝึ กฝนที่ตํ่ากว่า แต่สิ่งเหล่านี ้ไม่มีผลต่อจิตใจของหลินหมิง
เขาวางแผ่นจารึกลงและเริ่ มฝึ กฝน ‘ปฐมโกลาหล’ เขาได้ ฝึกฝนการจารึกทุกวันในเดือนนี ้ แต่
เขาก็ยงั ต้ องการที่จะฝึ ก’ ปฐมโกลาหล’ อีก ด้ วยการฝึ กฝนอย่างหนักของเขา ‘ปฐมโกลาหล’
ได้ บรรลุทงหมดแล้
ั้ วในระดับแรก การฝึ กฝนการต่อสู้ของเขาเป็ นที่จดุ สูงสุดของขันแรกในการ
้
ฝึ กฝนกายภาพ
ด้ วยพลังขนาด9ก้ อนหินของกําปั น้ ที่สามารถทลายต้ นไม้ เหล็กนี่คือหลักฐานที่เขาอยูบ่ น
จุดสูงสุดของการฝึ กฝนกายภาพขันแรก!้
9ก้ อนหินเท่ากับ 900 จิ๋น นี่คือจุดสูงสุดของร่างกายในขันแรก
้ แต่ความเป็ นจริ งพละกําลัง
าก็1000 จิ๋นเสียอีก นี่เป็ นผลมาจากวรยุทธ ‘จุดสูงสุดแห่งความ
ปั จจุบนั ของหลินหมิงนันมากกว่
้
โกลาหล’ มีที่เขาฝึ กฝนมา แม้ ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มสูงขึ ้นทุกวัน แต่หลินหมิงก็ยงั คงติด
อยูใ่ นขันแรกของการฝึ
้ กฝนกายภาพ
หลินหมิงโคจรพลังของเขากับ ‘ปฐมโกลาหล’ เขาเริ่ มที่จะมุง่ เน้ นไปที่ความเข้ าใจของกระดูก
จินตนาการถึงช่วงเวลาที่เขาจะแร่เนื ้อของตัวเอง แม้ จะเป็ นสัตว์ดรุ ้ ายระดับสองก็ไม่เพียง
พอที่จะตอบสนองเขาได้ น่าเสียดายที่แม้ ศาลาจันทร์ กระจ่างก็ยงั หาสัตว์ดรุ ้ ายระดับสามได้ ยาก
หลินหมิงอยากจะฝึ กกับสัตว์ดรุ ้ ายหายากเหล่านี ้ แต่ก็ไม่สามารถทําได้ ! ดังนันเขาจึ
้ งคิดหาทาง
อื่นโดยฝึ กใช้ อีกด้ านของมีดที่ไม่คมในการแร่เนื ้อ!
โดยปกติคนที่จะแร่เนื ้อ มักจะใช้ มีดที่คมที่สดุ เท่าที่จะหามาได้ หรื อแม้ กระทัง่ ขวานหรืออุปกรณ์
อื่นๆ การแร่เนื ้อมักจะใช้ เวลาหนึง่ วันเต็มสําหรับสัตว์ดรุ ้ ายระดับสอง แต่หลินหมิงกลับใช้ ด้านที่
ไม่มีคมของมีดแร่เนื ้อ มันเป็ นเรื่ องไร้ เหตุผลและแทบจะเป็ นไปไม่ได้ เหมือนกับว่ามีดที่ใช้ แร่เนื ้อ
นันสั
้ มผัสอยูบ่ นหินแข็งและทุกคืบที่ผา่ เข้ าไปนันต้
้ องใช้ พละกําลังและความพยายามอย่างมาก
การฝึ กฝนนี ้ เหมือนเป็ นการบังคับให้ หลินหมิงทะลวงขีดจํากัดของเขาอยูต่ ลอดเวลา
ก่อนหน้ านี ้มันต้ องใช้ เวลานานเป็ นอย่างมากที่จะแร่เนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายระดับสองให้ สมบูรณ์ แต่
ในตอนนี ้เพียงสองชัว่ โมงก็เป็ นเวลาที่มากเพียงพอแล้ ว แม้ วา่ หลังจากนันร่ ้ างกายของเขาจะ
เปี ยกปอนไปด้ วยเหงื่อ
โชคดีที่ผลลัพธ์ของมันออกมาดี เขาบรรจงตัดแผ่นเนื ้อสัตว์ได้ ออกมาเหมือนกับที่ใช้ มีดด้ านที่มี
คม หากศาลาจันทร์ กระจ่างรู้วา่ หลินหมิงแร่เนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายระดับสองเหล่านี ้ด้ วยด้ านหลังของมีด
พวกเขาคงจะรี บส่งหลินหมิงเข้ าไปตรวจสมองในสถานพยาบาลที่ใกล้ ที่สดุ !
หลังจากเสร็จงานก็เป็ นเวลากลางคืน หลินหมิงอ่อนเพลียและอยากพักผ่อน เขาลืมเรื่ องการ
จารึกไปและล้ มตัวนอนหลับไป
…
..
…
หลังจากที่หลับลึกไปในคํ่าคืนนัน้ หลินหมิงตื่นขึ ้นมาก่อนรุ่งสางและมุง่ หน้ าไปยังสถานที่ลบั
ของเขาเทือกเขาโจวเพื่อฝึ กศิลปะการต่อสู้ของเขา หลังจากที่เขาจะเริ่ มออกเดินทาง ดวง
อาทิตย์เริ่ มขึ ้นสูท่ ้ องฟ้า ในเวลานี ้เด็กหนุ่มคนหนึง่ โผล่ออกมาจากที่โล่งในป่ า เขาเป็ นคนที่สงู ดู
มีสขุ ภาพดีในชุดสีขาว “พี่หลิน ที่ได้ ถามข้ าเมื่อวานนี ้ ถึงสถานที่ซงึ่ จะขายแผ่นจารึก? พี่สร้ าง
มันสําเร็ จแล้ วจริ งๆรึ ? ”
เด็กคนนันก็
้ คือหลินเซี่ยวตง เมื่อวานนี ้ในเวลานี ้หลินหมิงเคยถามเขาและเขาตอบออกไปโดยไม่
คิดอะไร แต่หลังจากที่คิดเกี่ยวกับมันมากขึ ้นและเขาก็ตระหนักว่าเป็ นไปได้ วา่ หลินหมิงจะ
สามารถสร้ างจารึกขึ ้นมาได้ จริ งๆ
แม้ วา่ หลินเซีย่ วตงจะไม่ได้ มีความรู้ความเข้ าใจเรื่ องการจารึก แต่เขาคาดการณ์วา่ มันเป็ นไป
ไม่ได้ สําหรับหลินหมิงที่จะสร้ างจารึกขึ ้นมาได้ อย่างสมบูรณ์ มันคงจะเป็ นเพียงบางส่วนหรื อ
เพียงครึ่งเดียว ถ้ าเขานําสิ่งของเช่นนี ้ไปที่การค้ าเที่ยงธรรม พ่อค้ าที่นนั่ จะกล่าวหาว่าพวกเขา
เป็ นนักต้ มตุน๋ เป็ นแน่ !
หลินหมิงยิ ้มและพยักหน้ า “ข้ าทํามันเสร็จไปบ้ างแล้ ว”
หลินเซี่ยวตงยํ ้าอีกครัง้ “แล้ วเอาพวกมันไปขายรึ?”
“อืม แต่ข้ายังไม่ได้ ขายออกไป ”
มันเป็ นไปตามคาดว่าเขาคงขายไม่ออก ร้ านค้ าเหล่านันคงไม่
้ ได้ โง่ หลินเซี่ยวตงคิดด้ วยความ
กังวล สายตาของเขาเต็มไปด้ วยความวิตกกังวลในขณะที่เขาถาม “พี่ที่คงไม่ถกู ใครซ้ อมมาใช่
ไหม?”
หลินหมิงตะลึงเงียบ น้ องชายคนเล็กของเขามีจินตนาการอย่างแท้ จริ ง เขาระเบิดเสียงหัวเราะ
ออกและปรบมือท้ องแข็ง “ข้ าทํามันสําเร็ จจริ งๆ และข้ าก็ไม่ได้ คดโกงผู้ใด เหตุใดข้ าต้ องถูกซ้ อม
หละ?”
ในขณะที่เขากล่าว เขาก็เอาแผ่นจารึกที่เขาลําบากทําขึ ้นมากว่าเดือน ส่งพวกมันให้ หลินเซี่ยว
ตง เขาไม่อยากให้ น้องชายเขาต้ องมากังวลในเรื่ องของเขา
อย่างไรก็ตามทันทีที่หลินเซี่ยวตงเห็นเหล่าแผ่นจารึกทังสี
้ ่ ใบหน้ าของเขาแข็งทื่ออย่างกับเห็นผี
ในหนังสยองขวัญ…
เขาเดาว่าแผ่นจารึกของหลินหมิงอาจมีการใช้ มาก่อนหรื อข้ อบกพร่อง! กระดาษหนาสีเหลือง
มันก็เหมือนกับกระดาษชําระที่ถกู นํามาใช้ หลายครัง้ จนเกินไป มีเพียงคนโง่ที่จะซื ้อมัน หลิน
เซี่ยวตงเคยเห็นแต่แผ่นจารึกโดยนักจารึกที่พวกมันมักจะดูสะอาดเรี ยบร้ อย เหมือนกับว่าส่อง
แสงสีออกมา
หลินเซี่ยวตง ดูราวกับว่าเขาได้ กินโจ๊ กบูดมา เขายิ ้มออกมาแห้ งๆ พี่ชายของข้ า โอ้ พี่ชายแสน
หวานของข้ า! เขาอาจคิดว่าหลายร้ อยเหรี ยญทองค่าวัสดุได้ กลายมาเป็ นกระดาษชําระใช้ ไป
เสียแล้ ว หัวใจของหลินเซีย่ วตงเจ็บปวดขึ ้นมาทันที นี ้เป็ นการใช้ เงินที่ไร้ ประโยชน์เสียจริ ง!
หลินหมิงสังเกตเห็นการแสดงออกของหลินเซี่ยวตง เขาสามารถคาดเดาได้ ถงึ สิ่งที่เซี่ยวตงคิดใน
ขณะนี ้ เขารับเอาแผ่นจารึกกลับมา ไม่มีวิธีการใดๆที่พอจะสามารถอธิบายให้ หลินเซี่ยวตง
เข้ าใจได้
“พี่หลิน ข้ าต้ องบอกว่าด้ วยพรสวรรค์และความพยายามของพี่ พี่จะทะลวงผ่านขันผสานชี
้ พจร
ไปได้ ไม่ช้าก็เร็ว ทําไมไม่เน้ นเรื่ องนี ้? “หลินเซี่ยวตงตัดสินใจที่จะลองแนะนําด้ วยความคิดที่ดี
ของเขา ติดอย่างเห็นได้ ชดั ไม่ได้ ทํางาน
หลินหมิงยิ ้มอยูเ่ งียบๆ หลินเซี่ยวตงก็ไม่ได้ ผิด แม้ วา่ เขาจะไม่ได้ รําคาญเรื่ องการจารึก แต่มนั ก็
ทําให้ เขาเสียเวลาที่จะเข้ าสูข่ นั ้ ผสานชีพจร
การฝึ กฝนการต่อสู้คือสิ่งสําคัญในชีวิตประจําวัน และเวลาย่อมไม่เคยรอมนุษย์คนใด ถ้ าเขา
ไม่ได้ เร่งการฝึ กฝนของเขาให้ เร็วที่สดุ เท่าที่จะทําได้ ในขณะที่เขายังเป็ นเด็ก มันก็จะกลายเป็ น
เรื่ องที่ยากเมื่ออายุมากขึ ้น
ถ้ าเขาไม่ได้ ใช้ โอสถวิเศษหรื อวัตถุอาคมก็มีเพียงการอาศัยความพยายามและความขยันของ
ตัวเอง แม้ วา่ เขาจะมีพื ้นฐานที่มนั่ คงก็ยงั คงต้ องใช้ เวลาจํานวนมาก เวลาเป็ นสิ่งที่หลินหมิงมีอยู่
อย่างจํากัด!
ดังนันเขาจึ
้ งต้ องการที่จะทําเงินโดยใช้ การจารึกและใช้ ทางลัดให้ มากที่สดุ เท่าที่เขาจะสามารถ
ทําได้
เขากล่าวว่า “เซี่ยวตง เจ้ ามุง่ หน้ ากลับไปก่อนเถอะ ข้ ายังคงมีบางเรื่ องที่ข้าจะต้ องทํา”
“เรื่ องใด? พี่หลินคงไม่ได้ คิดที่จะไปขายแผ่นจารึกเหล่านันใช่
้ ไหม? ”
หลินหมิงหัวเราะและกล่าวด้ วยรอยยิ ้ม “อย่ากังวลเกี่ยวกับมันให้ มากเกินไป ข้ ารู้ในเรื่ องที่ข้า
สมควรทํา” ในขณะที่เขากล่าวนี ้หลินหมิงก้ าวไปแล้ วหลายสิบหลายเมตร
“F * CK!” หลินเซี่ยวตงเห็นหลินหมิงหายลับไปและจะพยายามจะสาปแช่งในความดื ้อรัน้
ของเขา เซี่ยวตงรู้วา่ หลินหมิงได้ ตดั สินใจในเส้ นทางของเขาและเขาไม่มีวนั ยอมแพ้ โอ้ พี่ชายของ
ข้ าโปรดระวังด้ วย!
แม้ วา่ หลินหมิจะมีความมุง่ มัน่ อย่างแรงกล้ า แต่บางสิ่งบางอย่างมันอยูเ่ หนือความเป็ นไปได้
เกินกว่าสวรรค์จะดลบันดาล …
…
…
…
แม้ วา่ จะมีร้านค้ าจํานวนมากในเมืองลิขิตฟ้า ร้ านที่มีการซื ้อขายแผ่นจารึกก็มีไม่มาก รวมทังโถง
้
ประมูลและงานแสดงสินค้ าต่างๆทังหมดมี
้ น้อยกว่าสามสิบแห่ง
สถานที่เหล่านี ้หลินหมิงล้ วนเคยไปมาหมดแล้ วและไม่มีที่ใดที่ตกลงซื ้อขายแผ่นจารึกของเขา
ทุกแห่งล้ วนปฏิเสธเขา มันเป็ นเพราะเหตุผลที่วา่ เขาเป็ นเด็กฝึ กงานมิใช่ผ้ เู ชี่ยวชาญ บางครัง้
เด็กฝึ กงานอาจจะโชคดีและสร้ างจารึกที่สมบูรณ์ออกมาได้ แต่ก็ไม่มีใครอยากลองเสี่ยงกับ
อาวุธอันมีคา่ ของพวกเขาด้ วยแผ่นจารึกที่ไม่แน่นอน!
หลินหมิงเป็ นต้ องผิดหวังจากความล้ มเหลวนี ้ แต่มนั ก็ไม่ได้ สง่ ผลกระทบต่อเขา ในใจของเขา
เขารู้วา่ เขาต้ องใช้ เวลามากขึ ้นอีกและเขาจะต้ องได้ เห็นผลของการทุม่ เทของเขา
“เจ้ าต้ องการที่จะขายแผ่นจารึกนี ้รึ ? เจ้ ากําลังหลอกข้ ารึเด็กน้ อย? เจ้ าหนุ่มมากและเจ้ า
ต้ องการที่จะทําบางสิ่งบางที่ไม่สจุ ริ ตรึ ไป ไปและอย่าให้ ธุรกิจของข้ าล่าช้ า เจ้ ากําลังบังหน้ า
ร้ านข้ า ”
เจ้ าของร้ านมหาสมบัติโบกมือไล่ให้ เขาออกไปเหลืออด มารยาทของเจ้ าของร้ านมักจะเลวร้ าย
เป็ นธรรมดากับผู้ที่ไม่ใช้ ลกู ค้ า ในขณะที่เขาหันไปรอบๆ เขาเห็นใบหน้ าที่ค้ นุ เคย มันเป็ นใบหน้ า
ที่สวยงามมาก แต่เขาก็ยงั ไม่เต็มใจที่จะเห็น
ไม่ไกลจากเขามีเด็กผู้หญิงสองคนสวมใส่ชดุ สีเหลืองอ่อน หนึง่ ในนันคื
้ อคนหนึง่ ที่เคยผิดสัญญา
ต่อเขาไม่กี่เดือนที่ผ่านมาและติดตามจู้ยนั ไปสํานักเจ็ดแก่นแท้ หลานยุยเยีย
หลานยุยเยียที่เพิ่งมาถึง เธอมองลงไปที่แผ่นจารึกที่เลอะเทอะในมือของหลินหมิง และคิด
เกี่ยวกับคําที่เจ้ าของร้ านพูด ผิวที่สดชื่นของเธอก็เปลี่ยนไป
หลานยุยเยี่ยไม่เคยเห็นแผ่นจารึกมาก่อน แต่แม้ วา่ เธอจะมีเธอก็จะไม่พยายามขายวัตถุที่
หลอกลวงอย่างที่หลินหมิงทํา เธอเดาว่าหลินหมิงกําลังพยายามหลอกขายของปลอมอยู… ่
สินค้ าบางอย่างมีราคาไม่แพง พวกเขาจะพยายามที่จะซื ้อสิง่ ดังกล่าวและหลอกขายมันในราคา
สูง
นอกจากนี ้… ครอบครัวของหลินหมิงก็ไม่ได้ รํ่ารวยและเขาได้ รับการสนับสนุนค่าใช้ จ่ายในการ
ฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้พร้ อมกับค่าใช้ จ่ายในชีวิตประจําวัน เขาอาจขัดสนในเรื่ องเงินทอง ดังนัน้
เขาจึงพยายามทําสิ่งที่เขาสามารถทําได้ …
เมื่อคิดเช่นนัน้ หลานยุยเยี่ยถอนหายใจ เธอไม่ทราบว่าเธอควรจะพูดอะไรในสถานการณ์เช่นนี ้
เธอรู้สกึ ราวกับว่าสิ่งที่เธอบอกว่าอาจจะทําร้ ายศักดิ์ศรี หลินหมิง แต่เธอก็ยงั ไม่สามารถแกล้ งทํา
เป็ นว่าเธอไม่ได้ ดถู กู เขา
เมื่อเจ้ าของร้ านเห็นหลานยุยเยีย หน้ าตาลังเกียจก่อนหน้ านี ้เปลี่ยนเป็ นรอยยิ ้มต้ อนรับในทันที
จากที่ผ่านมาถึงตอนนี ้มันเหมือนกับว่าเขาเป็ นคนที่แตกต่างกันอย่างสิ ้นเชิง “ท่านสาวงาม
กําลังมองหาซื ้อสินค้ าใด? เมื่อวานท่านได้ ซื ้อดาบไป มันใช้ งา่ ยหรื อไม่ โอ้ ใช่แล้ วท่านอาจารย์
หนุ่มที่มาพร้ อมกับท่านเมื่อวานนี ้ไปไหนแล้ วหละ? ข้ าไม่เห็นเขาเลย ”
เห็นได้ ชดั ว่าอาจารย์หนุ่มที่เจ้ าของร้ านกล่าวถึงต้ องเป็ นจู้ยนั เป็ นแน่ เมื่อเห็นรอยยิ ้มบนใบหน้ า
หลินหมิงก็ร้ ูวา่ วันที่ผ่านมาจู้ยนั ได้ มาที่นี่กบั หลานยุยเยีย เจ้ าของร้ านคงได้ กําไรมหาศาล
หลานยุยเยีย ไม่ได้ คิดว่าเจ้ าของร้ านจะพูดถึงจู้ยนั ในเวลานี ้ทําให้ สถานการณ์อดึ อัดใจและตึง
เครี ยดมากขึ ้น เธออยากจะอธิบายว่าเธอไม่ได้ ทําอะไรกับจู้ยนั แต่เธอไม่ได้ เป็ นสาวน้ อยอีก
ต่อไปแล้ ว และเธอต้ องมีความชัดเจนกับสิ่งเหล่านี ้ ไม่ช้าก็เร็วเธอจะแต่งงานเข้ าไปในครอบครัว
จู้และถึงแม้ วา่ เธอไม่ได้ ชอบจู้ยนั แต่เพื่อเป้าหมายของเธอ เธอก็ยอมทําผิดสัญญาที่เธอให้ ไว้
และได้ เลือกเส้ นทางของการทรยศ …
หลังจากเวลาผ่านไปเล็กน้ อย ความอึดอัดตึงเครี ยดก็เริ่ มมากขึ ้น หลานยุยเยี่ยถามด้ วยเสียง
โทนตํ่า “เดีย๋ ว … ที่ผ่านมาเจ้ าสบายดีหรื อไม่”
“ก็ดี” หลินหมิงตอบอย่างใจเย็น มันเป็ นสิง่ ที่อยูใ่ นอดีตที่ผ่านมา เขาไม่ได้ ต้องการที่จะกลับไป
คิดเรื่ องเหล่านี ้
ก็ดี? ถ้ าเจ้ าไม่เป็ นไรจริ งๆ แล้ วเจ้ ากําลังทําสิ่งใดอยู?่ เด็กสิบห้ าปี ที่ทกุ ข์ทรมานจากความ
เจ็บปวดของการฝึ กฝน มีความกังวลเกี่ยวกับการทํามาหากินของตัวเองและพบกับการดูถกู
จากคนอื่นๆ … เป็ นแบบก็ดีจริ งๆรึ?
หลานยุยเยียรู้จกั ความดื ้อรัน้ ของหลินหมิงดี แต่สภาพหน้ าตาของเขาเช่นนี ้เธอเท่านันที
้ ่จะช่วย
ผลักดันได้ “เจ้ าไม่เคยคิดที่จะหันหลังกลับ … ?”
“หันหลังกลับ? หันกลับไปที่ไหน? ฮ่าฮ่า เจ้ ากําลังบอกให้ ข้ายอมแพ้ ในเส้ นทางแห่งการต่อสู้
รึ? ”
“ข้ าไม่ได้ กล่าวเช่นนัน้ ข้ าเพียงต้ องการบอกว่าการฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้อาจเป็ นอันตรายต่อ
ร่างกาย หากเจ้ าไม่ได้ มีเงินมากพอที่จะซื ้อยาสมุนไพรรักษาแล้ ว มันเป็ นเรื่ องง่ายดายที่เจ้ าจะ
กลายเป็ นคนพิการอย่างถาวร … “หลานยุยเยี่ย ถอนหายใจและสายตาของเธอมองลงบนแผ่น
จารึกมือหลินหมิง “เงินที่เจ้ าได้ จากการขายสินค้ าไร้ คา่ พวกนันคงจะไม่
้ เพียงพอที่จะรองรับ
ความต้ องการของการฝึ กฝนการต่อสู้ ข้ าไม่ร้ ูวา่ เจ้ าจะได้ รับความเดือดร้ อนอะไรมาหรื อยัง …
ข้ ารู้วา่ เจ้ าคงจะไม่เต็มใจที่จะรับฟั ง แต่ข้าไม่ต้องการที่จะคิดว่า ต่อไปในชีวิตสิ่งเดียวที่เจ้ าจะทํา
ได้ คือการนอนลงบนเตียง”
เมื่อได้ ยินคําพูดที่จริ งใจของเธอ หลินหมิงยิ ้มและกล่าวว่า “ขอขอบคุณสําหรับคําแนะนํา แต่จะ
ไม่ยอมแพ้ ข้ าไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้ ”
เขายกมือของเขาและชี ้ไปที่เปลวไฟที่สวยงามบนแผ่นจารึกและกล่าวว่า “เส้ นทางของนักสู้ก็
เป็ นดัง่ เปลวไฟนี ้ การฝึ กฝนการต่อสู้อาจให้ เกิดอาการปวด อันตรายมีนบั ไม่ถ้วนเป็ นหนทางที่
เต็มไปด้ วยอุปสรรค ทุกคนที่เลือกเดินเส้ นทางนี ้ในที่สดุ ก็อาจกลายเป็ นขี ้เถ้ า แต่นกั สู้ที่แท้ จริ ง
จะเกิดจากขี ้เถ้ าเหล่านี ้ แม้ วา่ ข้ าจะเป็ นเพียงมอดขนาดเล็กอ่อนแอ ข้ าจะเดินเข้ าไปในเปลวไฟ
โดยไม่ลงั เลแม้ แต่น้อย ข้ าจะต่อสู้กบั ชะตากรรมของข้ า แม้ จะมีโอกาสเพียงหนึง่ ในล้ านที่ข้าจะ
ได้ สมั ผัสกับการเวียนว่ายตายเกิด ข้ าจะเกิดใหม่เป็ นเช่นเดียวกับนกฟี นิกซ์ เมื่อถึงตอนนันเปลว
้
เพลิงใดก็เผาข้ าให้ มอดไม่ได้ … ”
หลินหมิงพูดคําเหล่านันด้
้ วยรอยยิ ้ม เขาเก็บแผ่นจารึกของเขาไว้ และเดินจากไป แต่เขาก็ยงั ได้
ความภาคภูมิใจกลับมา
หลินหมิงออกจากร้ านร้ อยสมบัติเช่นมอดที่หายไปกับแสง นี่คือหัวใจของเขาในศิลปะการต่อสู้
นี่เป็ นความทะเยอทะยานของเขา เขาจะสานมันต่อจนถึงวันที่เขาหมดลมหายใจ เขาจะไม่หยุด
จนกว่าจะถึงวันที่เขาจะทะยานไปในท้ องฟ้า!!!
ที่ 18 ขายออกแล้ ว
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
หลินหมิงหยุดอีกครัง้ ที่โถงประมูลที่มีรูปใบเมเปิ ลสีแดง หลินหมิงไม่ได้ มีความคิดเรื่ อง
ความสําเร็ จใดๆ ในขณะที่เขาคิดเช่นนัน้ หญิงผู้ขายประมูลของโถงประมูลก็ออกมาปฏิเสธเขา
แต่หญิงสาวที่สวยงามคนนี ้รู้สกึ ว่าหลินหมิงได้ รับการปฏิบตั ิอย่างไม่เป็ นธรรมมาตลอด ดังนัน้
เธอจึงแนะนําทางออกให้ เขาสองทาง ทางแรกคือให้ เขาไปสมาคมจารึก บางทีพวกนันอาจจะมี ้
ความสนใจที่จะซื ้อแผ่นจารึกของเขาเก็บไว้ เป็ นคอเล็กชัน ปกติแผ่นจารึกระดับฝึ กงานค่อนข้ าง
หายากเพราะอัตราความสําเร็จตํ่า แต่หลินหมิงมีถงึ สี่ บางทีมนั อาจมากเกินไป ส่วนทางเลือกที่
สองเขาอาจจะลองมุง่ หน้ าไปยังกลางเมืองเล็กๆและเร่ขายสินค้ าพวกนัน้
หลินหมิงไม่เคยไปที่สมาคมจารึกมาก่อน เขาไม่ได้ มีข้อมูลประจําตัวของนักจารึกและแม้ กระทัง่
ผู้เชี่ยวชาญจารึกระดับแนวหน้ าก็ไม่สามารถเห็นความลึกลับที่อยูเ่ บื ้องหลังการจารึกหลินหมิง
ได้ ความแตกต่างระหว่างเทคนิคการจารึกที่อาณาจักรลิขิตฟ้าและดินแดนพระเจ้ ามีมากเกินไป
สิ่งเดียวที่หลินหมิงจะทําคือการไปที่ใจกลางเมืองและหวังว่าจะขายแผ่นจารึกที่เขามีได้ แต่น่า
เสียดายมันเป็ นไปไม่ได้ ที่เขาจะขายมันได้ ในราคาสูง
แม้ วา่ กลางเมืองจะเป็ นศูนย์กลางการค้ าระดับล่างมันก็ยงั คงเป็ นสถานประกอบการอย่างเป็ น
ทางการ ในที่นี่มีสินค้ าหลากหลายให้ ซื ้อขายและมีการเก็บภาษี ศูนย์การค้ าจะคิดร้ อยละห้ า
เป็ นค่าภาษี แต่ชื่อเสียงของศูนย์การค้ าก็เป็ นที่ร้ ูจกั กันดีและมีไม่ใครกลัวว่าจะถูกโกงผู้คน
จํานวนมากเป็ นเช่นนัน้
เกณฑ์คณ ุ ภาพของสินค้ าที่จะเข้ าสูศ่ นู ย์กลางการค้ าอยูใ่ นระดับที่ตํ่า เพียงแค่มนั เป็ นของแท้
และใช้ งานได้ แล้ วสินค้ านันก็
้ อาจจะขายได้ ในราคาที่เหมาะสม สําหรับแผ่นจารึกของหลินหมิง
มันก็เป็ นเพียงแค่ผลงานของเด็กฝึ กงานมีคา่ อยูใ่ นระดับตํ่า
หลังจากที่ศนู ย์ซื ้อขายประเมินราคาและตรวจสอบสินค้ าของเขา คนอ้ วนเสนอราคาให้ เริ่ มต้ นที่
100 เหรี ยญทอง
ได้ ยินราคานี ้ หลินหมิงตะลึงด้ วยความเงียบ เรื่ องบ้ าอะไรเนี่ย! ทําไมถึงเป็ นแบบนี ้!
วัสดุสําหรับการจารึกค่าใช้ จ่าย 800 เหรี ยญทองและศูนย์กลางการค้ าที่นําเสนอให้ 100 เหรี ยญ
ทองหนึง่ ถ้ าเขาขายที่ 100 เหรี ยญทองหลินหมิงจะเหลือเพียง 400 เหรี ยญทอง!
“ตกลงว่าเจ้ าต้ องการที่จะขายหรื อไม่?”
หลินหมิงกําฟั นของเขา “อ่า..ข้ าจะขาย ข้ าจะขายแค่สองแผ่น ”
หลินหมิงใช้ จ่ายเงินทังหมดของเขาเมื
้ ่อไม่นานมานี ้ ถ้ าเขาไม่ได้ เงินเดือนและเงื่อนไขที่ดีของ
ศาลาจันทร์ กระจ่าง เขาคงจะต้ องอดอาหารอยูบ่ นท้ องถนนเป็ นแน่
ถึงแม้ วา่ มันจะเป็ นการขาดทุก เขาสามารถที่จะยอมรับการขายสักสองชิ ้น สําหรับอีกสองชิ ้นเขา
จะเก็บไว้ และรอระยะเวลา หัวใจของเขาเองก็ไม่เต็มใจที่จะขายสองชิ ้นในราคาเพียงชิ ้นละ 100
เหรี ยญทอง
“ทิ ้งที่อยูข่ องเจ้ าไว้ ด้วย” ผู้ประเมินตัวอ้ วนกล่าว ศูนย์การค้ าเป็ นผู้รับผิดชอบในการขายสินค้ า
ที่มีคา่ ภาษี เมื่อคนมาซื ้อสินค้ าพวกเขาจะต้ องจ่ายเพิ่ม สําหรับหลินหมิงเองเขาก็ยงั ไม่คอ่ ย
พอใจที่จะขายแผ่นจารึกทังสอง ้
“ค่าวางประมูล1เหรี ยญทองสําหรับการลงประมูลระดับตํ่า 3เหรี ยญทองสําหรับการลงประมูล
ระดับกลาง และ5เหรี ยญทองสําหรับการลงประมูลระดับสูง ต่อหนึง่ เดือน ถ้ าหลังจากช่วงเวลา
ที่วา่ มันไม่สามารถที่จะขายออกไปได้ การประมูลจะถูกยกเลิก “ผู้ประเมินอ้ วนกล่าว
หลินหมิงหยิบเหรี ยญทองจากกระเป๋ า5เหรี ยญของเขาและยื่น3เหรี ยญทองให้ ไป “ข้ าเลือกลง
ประมูลระดับกลางกลาง”
เมื่อคิดเช่นนัน้ แม้ จารึกจะไม่ได้ ถกู สร้ างขึ ้นจากนักจารึกผู้เชี่ยวชาญ แต่ตอนนี ้มันมีราคาเพียง
100 เหรี ยญทองเท่านันและเขายั้ งต้ องจ่ายภาษี ร้อยละห้ าพร้ อมกับค่าลงประมูลอีก! และมันยัง
ขึ ้นอยูก่ บั คนที่จะซื ้อสินค้ าของเขาอีก!
หลินหมิงลงนามตกลงวางประมูลสิ ้นค้ า จริ งๆมันก็เป็ นเรื่ องยากที่ใครจะรู้จกั เขา
เขาเก็บอีก2เหรี ยญทองกลับเข้ าไปในกระเป๋ าและฝื นยิ ้มออกมา แทบเป็ นไปไม่ได้ เลยที่เขาจะ
หาซื ้อยาที่ดดี ีเพื่อส่งเสริ มการฝึ กฝนของเขา หากเขาโชคดีเขาหวังเพียงมีอาหารเพียงพอในแต่
ละวัน
โดยไม่ต้องมียาโอสถและวัสดุอื่นใด หลินหมิงรู้สกึ ว่าการจะขอยืมเงินจากน้ องชายของเขา หลิน
งใช้ ชีวิตอยูใ่ นเทือกเขาโจวและได้ ฝึกฝน ‘ปฐมโกลาหล’
เซี่ยวตง คงไม่ใช่เรื่ องที่ดีนกั ดังนันเขาจึ
้
ตลอดเวลาที่เหลืออยูท่ งวั ั้ น
แล้ วเวลาอีกเจ็ดวันก็ผ่านไป
ศูนย์การค้ ากลางเมืองเป็ นสถานที่ที่คกึ คัก ผู้ที่มีวิจารณญาณความรู้ที่ดีจะมาที่นี่และมักจะ
เลือกซื ้อสินค้ าหายากบางอย่างที่วางราคาถูกว่ามูลค่าของมัน มันเป็ นความรู้สกึ ที่ค้ มุ ค่าสําหรับ
การสมบัติที่ซอ่ นอยูใ่ นกลุม่ สิ่งของชันตํ
้ ่าพวกนัน! ้
แต่คนเหล่านี ้มักจะไม่คอ่ ยสนใจสมุนไพรโอสถหรื อแผ่นจารึกเท่าใดนัก เพราะสําหรับสินค้ าพวก
นี ้มันยากที่จะมองเห็นคุณภาพที่แท้ จริ งของพวกมัน ดังนันพวกเขามั
้ กจะข้ ามรายการเหล่านี ้ไป
เพราะเหตุนี ้และหลายร้ อยหลายพันลูกค้ าที่พบเห็นแผ่นจารึกของหลินหมิง ต่างก็ปล่อยมันไว้
บนหิ ้งโดยไม่มีใครสนใจ
แต่ในวันนี ้ ชายสูงใหญ่ผ้ มู ีพละกําลังและร่างกายใหญ่โตมาเดินเล่นที่ศนู ย์การซื ้อขาย ร่างทัง้
ร่างของเขาถูกห่อด้ วยกล้ ามเนื ้อหนาและมีลกั ษณะขรุขระเป็ นมัดๆ เขาสามารถข่มขูผ่ ้ อู ื่นได้
อย่างง่ายดาย เขาสะพายดาบยักษ์ ยาว4ฟุตไว้ บนหลังและเดินอย่างภาคภูมิใจเหมือนเสือที่
กําลังมองหาปั ญหา
เขาคนนันมี
้ สายตาเย็นชา ร่างของเขาปรากฏรอยแผลเป็ น เขาเป็ นคนที่มีประสบการณ์ชีวิต
เสี่ยงตายมานับไม่ถ้วน ผู้ชายคนนี ้อาจเป็ นฆาตกรตัวจริ ง บรรดาคุณชายตัวน้ อยที่ได้ รับการ
ฝึ กฝนการต่อสู้จากสํานักต่างๆคงไม่อาจเปรี ยบเทียบกับการปรากฏตัวของเขาได้
เมื่อได้ เห็นชายผู้นนั ้ ผู้ประเมินอ้ วนหดตัวลง ผู้ชายคนนี ้มีการฝึ กกายภาพระดับ5! เขาอยูบ่ น
จุดสูงสุดของขันดั
้ ดกระดูก(ขัน5)! ้
อีกเพียงก้ าวเดียวชายคนนี ้ก็จะก้ าวเข้ าสูข่ นผสานชี
ั้ พจร แต่ขนนั
ั ้ นมี
้ คนจํานวนมากเกินที่ไม่
สามารถก้ าวเข้ าไปได้ แม้ จะใช้ เวลาทังชี
้ วิตของพวกเขา
“ท่านมีความปรารถนาในสินค้ าจําพวกใดรึ?” ผู้ประเมินอ้ วนยืนขึ ้นและให้ การต้ อนรับ
ชายคนนันไม่
้ ได้ พดู อะไรแม้ แต่คําเดียวและทําเพียงแค่มองไปรอบๆเท่านัน้ นักประเมินก็ยงั คง
เงียบสงบรอให้ บริ การเขา
ชายคนนันมองไปรอบๆได้
้ ซกั พัก สินค้ าทังร้้ านมันไม่ได้ ดเู หมือนสิ่งที่เขาสนใจ เขามองข้ ามสิ่ง
อื่นๆไป และชี ้ไปที่แผ่นกระดาษสีเหลืองที่ถกู หนีบอยูบ่ นบานหน้ าต่างกระจก “นี่คือแผ่นจารึก
รึ?”
“ใช่ขอรับ”
“มันราคาเพียง 100 เหรี ยญทอง?” ชายคนนันกล่ ้ าวด้ วยความประหลาดใจ แผ่นจารึกปกติ
ล้ วนแพงกว่า 1000 เหรี ยญทอง แต่นี่เพียงแผ่นละ 100 เหรียญทอง มันราคาถูกเสียจริ ง
เจ้ าของร้ านกล่าวตามความเป็ นจริ งว่า “นี่เป็ นสินค้ าจากฝึ กงานการจารึก ระดับการฝึ กฝนเขามี
้ ่3 ความแข็งแรงที่เพิ่มขึ ้นก็ไม่น่าจะมากไปกว่าร้ อยละสิบ ”
เพียงขันที
“ร้ อยละสิบ … ” ชายคนนันขมวดคิ
้ ้ว มันเป็ นระดับคุณภาพที่ตํ่าก็จริ ง แต่อนิจจาเขาไม่
สามารถที่จะซื ้อแผ่นจารึกมูลค่ามากกว่า 1000เหรี ยญทองได้
ชื่อของบุรุษผู้นนคื
ั ้ อ ไท้ เฟิ ง ภูมิหลังของเขาเป็ นทหารธรรมดาและเงินเดือนของเขาขึ ้นอยูก่ บั ที่
กองทัพที่จะจัดสรรไว้ ให้ เขาจะต้ องแบ่งให้ พอ่ แม่ผ้ ขู องเขาพร้ อมตัวของเขาเอง ดังนันเขาไม่
้
สามารถใช้ จ่ายทองจํานวนมากได้ เช่น 1000 เหรี ยญทองได้ แต่เพียง 100 เหรี ยญทองช่างเป็ น
ราคาที่น่าสนใจยิ่งนัก
เมื่อหนึง่ เดือนก่อน ไท้ เฟิ งได้ ออกรบพร้ อมกับกองกําลังนักรบ ในการเดินทางพวกเขาได้ นําหัว
ของผู้นําศัตรูที่มีการฝึ กฝนกายภาพขัน5 ้ ขันดั
้ ดกระดูกกลับมา! มันทําให้ ดาบของเขาบิน่ ใน
สงคราม ดาบนี ้เป็ นถึงสมบัติของเขา!
กฎระเบียบของกองทัพบอกว่าหากพบสมบัติในการออกรบ สมบัตินนจะเป็ ั้ นของผู้ค้นพบ เช่นนี ้
ไท้ เฟิ งจึงได้ รับดาบสมบัตเิ ล่มนันมา
้ แต่ดาบกลับได้ รับความเสียหาย ปลายดาบหักออกไป
สมบัตินี ้มันไม่สมบูรณ์ มันถูกจํากัดความสามารถ เมื่อนักสู้ใส่จิตวิญญาณของเขาเข้ าไปใน
อาวุธ พลังของดาบที่ไม่สมบูรณ์จงึ มีไม่สงู มากดังที่ควรจะเป็ น
นอกจากนี ้ ไท้ เฟิ ง ผิดหวังที่ดาบเล่มนี ้ไม่มีการจารึกมาก่อน เพื่อเพิ่มความแข็งแก่รงเป็ นดาบจะ
ไม่สมบูรณ์ก็ตาม
ไท้ เฟิ งเองไม่ได้ ไม่ได้ มีความรู้ในการจารึกมาก่อน และเขาก็ไม่สามารถที่จะจ่ายในราคาที่สงู ทัง้
ยังเป็ นดาบสมบัติที่ได้ รับความเสียหายมา ดังนันอาจจะบอกได้
้ วา่ มันไม่น่าใส่จารึกลงไป แต่
เมื่อได้ เห็นแผ่นจารึกนี ้จากเด็กฝึ กงาน เขาเริ่ มที่จะเห็นการโอกาสเพิ่มประสิทธิภาพให้ มนั
โดยทัว่ ไปแผ่นจารึกที่เสริ มความแข็งแก่รงขึ ้นร้ อยละสามสิบ จะมีมลู ค่า 1500 เหรี ยญทอง แต่
แผ่นจารึกนี ้เพิ่มขึ ้นเพียงร้ อยละสิบและมีราคาถูกเพียง 100 เหรี ยญทอง อัตราส่วนของ
ค่าใช้ จ่ายกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ ้นถือว่าคุ้มค่า แต่ที่สําคัญกว่านันคื
้ อเขามีเงินพอจะซื ้อมันได้ !
พรุ่งนี ้วันที่แข่งขันศิลปะการต่อสู้ของกองทัพรอบที่สาม ฝ่ ายตรงข้ ามคนต่อไปของเขาอาจจะเก่ง
มาก ถ้ าหากเขาสามารถเพิ่มความแข็งแก่รงให้ ดาบของเขาได้ แม้ เพียงสึกนิด โอกาสชนะของ
เขาก็จะเพิ่มสูงขึ ้น
การแข่งขันโดยนักสู้อายุไม่เกิน30 ถ้ าใครมีผลการแข่งที่ดีพวกเขาจะได้ รับผลตอบแทนที่ดี
เช่นกัน แม้ กระทัง่ การส่งเสริ มเลื่อนยศทหาร!
ไท้ เฟิ งได้ รับความดีความชอบสะสมมาตลอดทังปี ้ ถ้ าหากเขาแสดงให้ เห็นผลการแข่งที่ยอด
เยี่ยมในเวลานี ้ได้ เขาอาจจะได้ รับการเลื่อนยศให้ เป็ นกัปตันคุมคนหมื่นคน นอกจากนี ้
ผลตอบแทนที่ได้ ก็จะสูงขึ ้น สิบปี ที่แล้ วแม่ของเขาได้ ออกไปหายาสมุนไพรเพื่อที่เขาจะได้
ฝึ กซ้ อมศิลปะการต่อสู้และได้ พลัดตกจากหน้ าผาและเสียขาทังสองข้้ างของเธอไป เธอทําได้
เพียงใช้ ชีวิตอยูบ่ นเตียงตังแต่
้ นนมา
ั ้ ไท้ เฟิ งสาบานว่าต่อสวรรค์ทงหลายว่
ั้ าเขาจะซื ้อโอสถหยก
ดําที่หายากให้ แม่ของเขา โอสถหยกดํามีความสามารถในการรักษากระดูกที่หกั ถ้ าใช้ มนั อย่าง
ถูกต้ อง มันจะสามารถรักษาขาทังสองข้ ้ างของแม่ของเขาได้ และเธอจะกลับมาเดินได้ อีกครัง้ !
แต่ราคาของยาโอสถที่หายากนี ้คือ 5000 เหรี ยญทอง สําหรับเขาตอนนี ้มันเป็ นตัวเลขที่เป็ นไป
ไม่ได้
ในใจของเขา ไท้ เฟิ งต้ องซื ้อมันให้ ได้ ด้วยตัวของเขาเอง! พรุ่งนี ้เป็ นวันที่สามของการแข่งขัน
แม้ กระทัง่ จอมพลฉินเสี่ยวก็จะเข้ าร่วมชมด้ วย เขาเป็ นบุคคลหนึง่ ที่สําคัญในแผ่นดิน! ไม่มีทางที่
เขายอมจะเสียโอกาสแสดงฝี มือในครัง้ นี ้!
เพื่อครอบครัวและแม่ของเขา!
ไท้ เฟิ งกัดฟั นของเขาและพูดกับเจ้ าของร้ าน”แผ่นจารึกนัน้ ข้ าต้ องการมัน!”
…
“เป็ นไปไม่ได้ ! พี่ขายมันออกในราคา 95 เหรี ยญทอง? “หลินเซี่ยวตงมองเงินในมือของหลินห
มิง และไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็ นเรื่ องจริ ง เขาอยากจะคิดว่าคนโง่ที่น่าสงสารคนไหนยอมเสีย
95 เหรี ยญทองเพื่อซื ้อแผ่นจารึกเน่าๆนันไป
้
“ข้ าได้ มาแค่ 92 เหรี ยญทอง” หลินหมิงกล่าวขึ ้น ศูนย์การค้ ากลางเมืองเก็บเงินค่าภาษี และส่ง
มอบให้ หลินหมิง แต่เดิมมันเป็ น 100 เหรี ยญทองและหักภาษีร้อยละห้ าและอีกสามเหรี ยญทอง
ค่าวางขาย สุดท้ ายเหลือมา 92 เหรี ยญทอง
แท้ จริ งแล้ วแผ่นจารึกควรจะได้ มีคา่ ตํ่าสุด 1000 เหรี ยญทอง เขาขายออกไปได้ เพียง 92 เหรี ยญ
ทอง หลินหมิงว่าคนที่ซื ้อมันไปคงได้ ประโยชน์เป็ นอย่างมาก แต่มนั เป็ นความจริ งที่วา่ ผู้ที่ซื ้อมัน
มีความเสี่ยง
90 เหรี ยญทองก็ไม่มากพอที่จะซื ้อยาโอสถหายาก มันพอเพียงเป็ นสมุนไพรรักษาบาดแผล
หลินหมิงยักไหล่และเดินไปที่ร้านโอสถมองหาของบางอย่าง
สิ่งที่เขาไม่ร้ ูก็คือในขณะนี ้มีการแข่งขันกันเอิกเกริ ก มันเกิดขึ ้นอย่างยิ่งใหญ่ การชุมนุมใหญ่ของ
ยอดนักสู้!
…
บริ เวณโดยรอบระยะสิบไมล์ มีนายทหารสวมเกราะเหล็กหนักภายใต้ ดวงอาทิตย์ที่สอดส่องนับ
หมื่นนายยืนอยู่ หากหนึง่ ในนันเดิ
้ นมาทางพวกเขา พวกเขาจะรู้สกึ กลิ่นอายแห่งสงครามราวกับ
ว่าพวกเขาจะจมอยูใ่ นสนามรบโบราณ และมีพระเจ้ าแห่งความตายควบคุมพวกเขาอยู่ นักรบ
เหล่านี ้เป็ นนักรบที่ยอดเยี่ยมที่สดุ แห่งอาณาจักรลิขิตฟ้า หกสุม่ หนึง่ ในหมื่นนันออกมาคนหนึ
้ ง่
มันเป็ นเรื่ องธรรมดาที่นกั รับคนนันจะสู
้ ้ นกั รบอื่นๆสิบคนได้ !
ตรงข้ ามกับทหารเหล่านี ้เป็ นแถวที่นงั่ มีชายคนหนึง่ สวมชุดเกราะสีทองนัง่ อยูต่ รงกลาง แม้ วา่
เส้ นผมที่หนาของเขาจะหงอก การแสดงออกของเขาก็ยงั ดูน่าเกรงขามและดวงตาของเขามี
ความคมชัดดุดนั เหมือนเหยี่ยว เขาให้ ความรู้สกึ ถึงการแผ่พลังงานที่ใร้ ขีดจํากัดเช่นในหมู่
วีรบุรุษ เขาคือป้อมปราการที่แข็งแกร่งแห่งฝั่ งตะวันออกของอาณาจักรตลอด 80 ปี ที่ผา่ นมา
จอมพลฉินเสี่ยว!
การปรากฏตัวท่านจอมผลที่นี่แสดงให้ เห็นถึงความสําคัญของการแข่งขันครัง้ นี ้ แม้ แต่คน
ตระกูลฉินก็ยงั มาเข้ าร่วมประชุมในครัง้ นี ้ รวมทังฉิ
้ นชิงหวนและอาจารย์ของเธอท่านมูย่ ี่ ท่านมูย่ ี่
มีอายุกว่า 100 ปี การฝึ กฝนของเขาไปถึงขันกลางปราณฟ
้ ้ าชันต้
้ น เขายังเป็ นผู้นําชันแนวหน้
้ า
ของเหล่านักจารึกในอาณาจักรลิขิตฟ้า แม้ แต่ราชาแห่งอาณาจักรลิขิตฟ้ายังต้ องปฏิบตั ิตอ่ เขา
ด้ วยความเคารพ
นอกจากครอบครัวฉินแล้ วก็ยงั มีเจ้ าหน้ าที่ทหารอื่นๆอีกหลายพันมาเข้ าชมการแข่งขันในครัง้ นี ้!
บทที่ 19 ความสงสัยของมูย่ ี่
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ชาวอาณาจักรลิขิตฟ้าให้ ความเคารพศิลปะการต่อสู้มากเป็ นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเหล่าทหาร
การแข่งขันนี ้จะจัดขึ ้นทุกสามปี เพื่อแสดงความสามารถและเลื่อนยศไปสูต่ ําแหน่งที่สงู ขึ ้นเพื่อ
ยกระดับจิตวิญญาณการต่อสู้ของนักรบ
ข้ อกําหนดที่เป็ นเงื่อนไขของการแข่งขันครัง้ คือจะต้ องมีอายุน้อยกว่าสามสิบปี และประสบ
ความสําเร็ จอย่างน้ อยการฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สาม คูต่ อ่ สู้กว่าคนที่เข้ าร่วมในการแข่งนี ้และ
หลังจากการทดสอบหลายต่อหลายรอบ จะเหลือเพียงห้ าสิบคนเท่านันที ้ ่ยงั คงอยู่
ตอนนี ้เป็ นการแข่งขันรอบที
้ ่สามและเป็ นรอบสุดท้ ายที่กําลังจะเริ่ มขึ ้น เหล่าคูแ่ ข่งที่ได้ ผ่านเข้ า
มาพวกเขาจะเหลือเพียงห้ าสิบคนในเร็วๆนี ้
นี่เป็ นการแข่งขันรอบสุดท้ าย ผู้เข้ าแข่งขันจะแสดงความสามารถทังหมดที
้ ่ซอ่ นไว้ ออกมา และ
ต่อสู้อย่างสุดความสามารถ! เป็ นรอบที่จะเต็มไปด้ วยกลิ่นอายของไฟโทสะเพื่อแย่งชิงจุดยืน
สุดท้ ายของกันและกัน!
การแข่งขันในรอบแรกๆไม่ได้ ทําให้ เกิดความสนใจจากผู้ชมมากนัก คูแ่ ข่งที่อยูใ่ นสนามส่วน
ใหญ่มกั จะมีความแข็งแก่รงตํ่าหรื อสูงเกินไป มีความแตกต่างมากเกินไประหว่างผู้เข้ าแข่งขัน
จึงไม่คอ่ ยมีการต่อสู้ที่สสู ีเร้ าใจใดๆ ทังหมดนี
้ ่ฉินเสี่ยวคือผู้ดแู ลการดําเนินงานและผลการ
แข่งขันที่ได้
การแข่งขันในขณะนี ้แบ่งเป็ นมีสองฝ่ าย ฝ่ ายหนึง่ เป็ นบุตรชายของนายพล เขาหล่อมากอายุ 29
ปี ฝึ กฝนถึงจุดสูงสุดของขันดั
้ ดกระดูก(ขัน5)
้ ไม่กี่ปีที่ผ่านมาชายคนนี ้ฝ่ าฟั นภารกิจต่างๆมา
มากมาย ได้ รับเหรี ยญยกย่องจํานวนมากและได้ รับรางวัลสําหรับความสามารถของเขา ความ
แข็งแก่รงของเขาเพิ่มขึ ้นเรื่ อยๆจากเหตุการณ์เหล่านี ้และมีสมบัติในครอบครองมากถึงสองชิ ้น
กระบี่และชุดเกราะ กระบี่ของเขามีจารึกที่วาดโดยผู้เชี่ยวชาญผนึกไว้ ความแข็งแก่รงของมันมิ
อาจมองข้ ามได้ เลย!
และอีกด้ านหนึง่ เขาเป็ นทหารที่เกิดของจากครอบครับธรรมดาๆ ชื่อของเขาคือ ไทฟิ ง
ความสามารถของเขาก็ไม่ได้ โดดเด่นมากนัก แต่เขามีความมุมานะฝึ กฝนอย่างขยันขันแข็งทุก
ลมหายใจของเขา เขาเป็ นคนที่กล้ าหาญในการต่อสู้ ไม่ลงั เลที่จะเสี่ยงชีวติ ในการต่อสู้ เขาได้
ฆ่าศัตรูจํานวนมากและมีประสบการณ์มากยิ่งกว่านายทหารทัว่ ๆไป! ตอนนี ้ ไทเฟิ งเองก็อยูบ่ น
จุดสูงสุดของขันดั
้ ดกระดูก
มันเป็ นเรื่ องที่ยากสําหรับทหารสองคนนี ้ ด้ วยระดับการฝึ กฝนที่แทบจะเท่ากันของพวกเขา
หลังจากฆ่าฟั นศัตรูของพวกเขามานับไม่ถ้วน ในอนาคตมันเป็ นไปได้ วา่ พวกเขาจะก้ าวไปสูข่ นั ้
ผสานชีพจร(ขัน6 ้ )และกลายเป็ นเสาหลักของราชอาณาจักร!
ในฐานะที่เป็ นผู้ตดั สินการแข่งขันของทังสอง
้ ชายอาวุโสชุดเกราะเงินยิ ้มอย่างมีความสุขและพึง
พอใจ เรื่ องนี่น่าภาคภูมิใจกําลังจะเกิดขึ ้นบุตรชายของเขาบนเวที!
“ฮ่า ๆ อาวุโสหลี่ ลูกชายของเจ้ าช่างน่าภาคภูมิใจยิ่งนัก ” ฉินเสี่ยวยิ ้มในขณะที่เขากล่าว ชาย
ชุดเกราะเงินนี ้เคยอยูภ่ ายใต้ คําสัง่ ของเขาและพวกเขาเป็ นเพื่อนเก่ากัน
“ท่านผู้บญ
ั ชาการ(จอมพลฉิน)สุภาพเกินไปแล้ ว บุตรชายที่นา่ สงสารของข้ าได้ เติบโตขึ ้นมา
พร้ อมกับยาโอสถที่หายากจํานวนมากและยังไม่ได้ แสดงให้ เห็นถึงความทุม่ เทอย่างสุดหัวใจ
จริ งๆแล้ วเขาไม่ได้ มีความมุง่ มันขนาดนัน้ ข้ าหละเสียใจ “แม้ วา่ ชายอาวุโสชุดเกราะเงินกล่าว
อย่างถ่อมตัวเช่นนันออกมา
้ แต่เขาก็ไม่อาจปกปิ ดรอยยิ ้มของเขาไว้ ได้ เขาพอใจในบุตรชายของ
เขาอย่างมากและความภาคภูมิใจที่มีลกู ชายเช่นนี ้
“ฮืมมม ไท้ เฟิ งเองทําที่ผา่ นมาได้ ดี แต่มนั ก็เป็ นเรื่ องยากที่จะชนะในวันนี ้”
ฉินเสี่ยวกล่าวเพราะความแตกต่างในทักษะการต่อสู้และความเหลื่อมลํ ้าในอุปกรณ์หายากของ
พวกเขาทังสอง(พวกแกไม่
้ ร้ ูจกั อิทธิฤทธิ์ของแผ่นจารึกใบละร้ อยเสียแล้ ว ไอ้ พวกเหล่าทหารแก่
้ าปู่ นางเอกอีก@ 555)
หัวหงอก ว่าไปนันไปว่
ลูกชายของชายชุดเกราะเงินมีสองสมบัติลํ ้าค่า ทังยั ้ งมีการจารึกที่สงู ส่งเสริ มพลังของมันอีก
งานนี ้ไท้ เฟิ งผู้มาจากตระกูลที่ตํ่าต้ อยไม่อาจเทียบได้ เป็ นธรรมชาติที่เขาจําต้ องยอมรับ
สงครามครัง้ นี ้อาจดูเหมือนจะไม่ยตุ ธิ รรม แต่การแข่งขันอาณาจักรลิขิตฟ้าก็เป็ นเช่นนี ้เสมอ
ดังนันสมบั
้ ตแิ ละอุปกรณ์ถือว่าเป็ นส่วนหนึง่ ของความแข็งแรงโดยธรรมชาติของเหล่าทหาร! ใน
ท่ามกลางสนามรบความเหลื่อมลํ ้าในอุปกรณ์ก็เป็ นส่วนหนึง่ ที่ใช้ ตดั สินกับศัตรู ดังนันใครจะมา
้
บ่นว่ามันไม่เป็ นธรรมไม่ได้ !!
มันเป็ นไปไม่ได้ ที่ทางกองทัพจะจัดหาอุปกรณ์หายากให้ กบั เหล่าทหารทุกคน ถ้ าทหารต้ องการ
ที่จะโดดเด่นแล้ วภูมิหลังของตระกูลของพวกเขาก็คือส่วนหนึง่ ของความแข็งแก่รงของพวกเขา
มันเป็ นส่วนที่สําคัญอย่างยิ่ง(อย่างกะใช้ เส้ นสายวงใน)
เมื่อไท้ เฟิ งขึ ้นมาบนเวที เขาดึงดาบยาวสี่ฟตุ ของเขสออกมา ฉินเสี่ยวหันไปหามูย่ ี่ซงึ่ นัง่ อยูข่ ้ าง
เขา “ท่านมูยี่ ท่านคิดเห็นอย่างไรกับดาบของไท้ เฟิ ง?”
มูย่ ี่ลบู เคราของเขาเล็กน้ อยและพยักหน้ า “แน่นอนมันเป็ นสมบัติลํ ้าค่า แต่ทว่ามันได้ รับความ
เสียหายมาก่อน”
“โอ้ ความเสียหายรึ?” หลังจากมูย่ ี่กล่าว ฉินเสีย่ วพึง่ สังเกตเห็นว่าปลายดาบหักออกไป
เล็กน้ อย มันเป็ นดาบที่เสียหายจริ งๆ
มูย่ ี่กล่าวขึ ้นต่อ “อุปกรณ์ที่เสียหาย แน่นอนว่ามิอาจเทียบอุปกรณ์ที่สมบูรณ์ได้ ไม่เพียงเท่านัน้
หลี่ฉี คูต่ อ่ สูข่ องไท้ เฉิงยังมีถงึ สองสมบัติลํ ้าค่า แม้ ทงสองจะมี
ั้ ระดับพลังในการฝึ กฝนคล้ ายกัน
แต่ในหลายๆเรื่ องไท้ เฟิ งด้ อยกว่าหลี่ฉี การแข่งขันครัง้ นี ้ ไท้ เฟิ งจะเป็ นฝ่ ายแพ้
ฉินเสี่ยวกล่าว “ถึงแม้ วา่ เขาจะพ่ายแพ้ แต่ไท้ เฟิ งก็เก่งมาที่มาถึงรอบนี ้ได้ ด้วยดาบสมบัติลํ ้า
ค่าที่เสียหายเล่มนัน้ นอกจากนี ้ยังเป็ นเรื่ องที่น่าตื่นตาตื่นใจ หากในการต่อสู้ตอ่ ไปนี ้เขาสามารถ
รับมือคูต่ อ่ สู้ได้ ถงึ ยี่สิบกระบวนท่า ข้ าอาจจะส่งเสริ มให้ เขาเข้ ามาในฝ่ ายกองทัพฉิน…. ชิงหวน
ลูกข้ า เจ้ าจงดูการต่อสู้ครัง้ นี ้ให้ ดี เจ้ าเองก็จะก้ าวเข้ าสูข่ นที
ั ้ ่ห้าแล้ ว แม้ วา่ เจ้ าฝึ กทักษะการต่อสู้
เฉพาะสําหรับผู้หญิง แต่ทกุ สิ่งมันก็ไม่ตา่ งกันมากนักดังนันถ้ ้ าเจ้ าตังใจดู
้ และศึกษามัน มันจะ
ช่วยเจ้ าได้ ”
้ บฉินชิงหวน เธอพยักหน้ าอย่างสุภาพและกล่าวตอบรับ “เพค่ะ
ฉินเสี่ยวกล่าวคําไม่กี่คํานันกั
ท่านปู่ ”
ทันทีที่ผ้ ตู ดั สินให้ สญ
ั ญาณเริ่ มการต่อสู้ ผู้ชายคนหนึง่ ที่ชื่อหลี่ฉีพงุ่ ไปข้ างหน้ าอย่างรวดเร็ วด้ วย
การจู่โจมที่รุนแรง เขาหวังที่จะยุติการสู้รบโดยเร็ วที่สดุ เท่าที่เป็ นไปได้ เขานันมี ้ ความได้ เปรี ยบ
ในทุกด้ าน! แน่นอนว่ามันจะจบอย่างรวดเร็ว!
เขาเริ่ มใช้ ทกั ษะแห่งตระกูลหลี่ ‘กระบี่ห้าเทือกเขาศักดิ์สิทธ์’! กระบี่เหมือนถูกครอบงําด้ วยพลัง
รุนแรงเช่นภูเขาถูกที่ถล่มลงมา แต่ละครัง้ ที่จ่โู จมจะมีแรงผลักดันที่มาพร้ อมกับความรู้สกึ อัน
สง่างามและพลังงานอันล้ นหลาม มันก็สามารถที่จะเอาชนะทุกคนที่มีการฝึ กฝนระดับตํ่ากว่า
ได้ ในกระบวนท่าเดียว แม้ กบั ผู้ที่มีการฝึ กฝนเท่ากันมันก็ยงั เป็ นเรื่ องยากที่จะรับการจู่โจมที่เป็ น
ดังภูเขาถล่มของมัน นักรบส่วนใหญ่จะต้ องยอมจํานนต่อการโจมตีอนั หนักหน่วงนี ้
เร็ วที่สดุ เท่าเขาจะทําได้ หลี่ฉีกําดาบฟาดผ่านอากาศเกิดเป็ นลมตัดอากาศเป็ นเสียงท่วงทํานอง
อันไพเราะ(กรรม มาสู้หรื อมาออกซิงเกิลใหม่ครับเฮีย) ดาบในมือของเขาเป็ นมีพละกําลัง 500
จิ๋น มันเป็ นกระบวนท่าที่สมบูรณ์แบบที่จะแสดงอํานาจของ ‘กระบี่ห้าเทือกเขาศักดิส์ ทิ ธ์!’
ออกมา หากปะทะกับอาวุธที่มีระดับตํ่ากว่าแล้ ว อาวุธเหล่านันคงแหลกสลายเป็
้ นแน่!
ไท้ เฟิ งเห็นหลี่ฉีฟาดกระบี่ลงมา ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็ นจริ งจังมีสมาธิขึ ้นมาทันที เขารู้
ความลับของกระบวนท้ านัน้ เขาย่อเอวลงและวางขาของเขาอย่างมัน่ คง มือทังสองจั ้ บดาบไว้
มัน่ เขาพุง่ ร่างของเขาออกไปราวกับระเบิดออกมาด้ วยพลังทังหมดของเขา!
้
สําหรับการจูโ่ จมของหลีฉ่ ี เขาเองก็ใส่พลังทังหมดของเขาลงไปเช่
้ นกัน!
ไทเฟิ งถ่ายเทพลังปราณของเขาเข้ าไปในดาบ หัวใจของถูกดึงพลังงานออกไปจนเกินขีดจํากัด
ไปบ้ างเล็กน้ อย พลังมันไหลออกไปราวกับว่า … ราวกับว่ามันจะดูดกลืนพลังปราณทังหมดของ
้
เขา!(จําบทแรกๆที่จ้ ยู นั โชว์พลังฉีฝาดดาบผ่าต้ นไม้ ขม่ หลินหมิงได้ มยั ้ @เปลี่ยนเป็ นพลังปราณ
นะ)
ไท้ เฟิ ง เคยใช้ ดาบเล่มนี ้มาเป็ นเวลาหลายเดือนแล้ ว ก่อนหน้ านี ้เมื่อเขาถ่ายเทพลังปราณลงไป
มันเป็ นเหมือนเทนํ ้าเข้ าไปในคลองระบายนํ ้า ดาบไม่สามารถดูดซับพลังปราณเหล่านันได้ ้ สกั
เท่าไร แต่ในขณะนี ้เขากลับถูกดูดพลังปราณโดยดาบเสียเอง ดาบนันดู ้ ดพลังปราณของเขา
เหมือนลมบ้ าหมู แต่ก็มิได้ ร้ ูสกึ ว่าพลังปราณที่ถกู ดูดเข้ าไปเหล่านันจะเสี
้ ยเปล่าเลยแม้ แต่น้อย!
***คือปกติต้องถ่ายเทพลังให้ ดาบเอง แล้ วดาบก็ได้ รับพลังที่ถา่ ยเทให้ ไม่เต็มที่ด้วย แต่นี ้พอเขา
เริ่ มถ่ายเทพลังปราณให้ ดาบ ดาบกลับเป็ นฝ่ ายดูดพลังงานจากเขาเอง แล้ วใช้ ทกุ หยดของพลัง
ปราณได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพ
มันเกิดเรื่ องเช่นนี ้ได้ อย่างไร?
ไม่ได้ มีเวลาให้ ไท้ เฟิ งได้ คดิ แม้ แต่น้อย กระบี่ของหลี่ฉีกําลังฟาดลงมาที่เขาดังนันเขาก็
้ ตะโกน
ออกมาและฟาดดาบของเขาสวนกลับไป!
ด้ วยทักษะระดับตํ่าจากกองทัพของเขาท่า‘ผสานการทําลายล้ าง’ เขาได้ ร้ ูความลับทักษะ
ระดับสูงของหลี่ฉีที่สืบทอดในตระกูล’กระบี่ห้าเทือกเขาศักดิ์สิทธ์!’ดาบของพวกเขาจะระเบิด
อย่างรุนแรง การปะทะกันของพลังปราณ เกิดการปะทุขึ ้นในอากาศและพื ้นเวทีการประลองถูก
ทุบแยกออกจากกันเป็ นสองฝั่ ง หลีฉ่ ีพลังปราณผลักดันบังคับให้ ต้องก้ าวถอยหลังไปหลายก้ าว
แต่ไท้ เฟิ ง ถอยกลับมาเพียงก้ าวเดียวเท่านัน!
้
้ ?
มันคือเหตุการณ์ที่เป็ นความจริ งอย่างนันรึ
ไท้ เฟิ งอ้ าปากค้ างและมองไปที่ดาบในมือของเขาใบหน้ าของเขาเต็มไปด้ วยความไม่อยากจะ
ศรัทธา เขาไม่เคยต่อสู้กบั หลีฉ่ ีมาก่อน แต่ก็เคยได้ ยินว่าเขาน่าจะเป็ นอันดับหนึง่ หลังจากการ
ปะทะกัน ในที่สดุ เขาก็ตระหนักได้ วา่ กลัวผู้ชายคนนี ้น่าเกรงขามอย่างแท้ จริ ง!
เขามัน่ ใจแน่นอนว่ามันไม่ใช่ความแข็งแก่รงของเขาเองที่เพิ่มขึ ้น แต่เป็ นเพราะดาบเล่นนี ้ของเขา
มีการเปลี่ยนแปลง … บางทีมนั เป็ นเพราะการจารึกเมื่อวานนี ้?
ไท้ เฟิ งไม่เข้ าใจว่าการจารึกทํางานอย่างไร แต่ร้ ูวา่ มันสามารถเสริ มพลังให้ อาวุธได้ ไท้ เฟิ งคิดว่า
มันอาจเพิ่มความคมของตัวดาบแต่หลังจากการทดสอบมันเมื่อวานนี ้กับต้ นไม้ หลายต่อหลาย
ต้ น เขาไม่ได้ ร้ ูสกึ ถึงอะไรที่แตกต่างกันเลย เขาผิดหวังอย่างมาก เขาไม่เคยตระหนักว่าผลของ
จารึกจะแสดงออกเมื่อถ่ายเทพลังปราณลงไปภายในอาวุธ!
มันเป็ นจารึกฝึ กที่วาดโดยเด็กฝึ กงานจริ งๆรึ? เหตุใดมันถึงได้ รุนแรงเช่นนี ้? แม้ วา่ เขาจะไม่
เข้ าใจการตังราคาของแผ่
้ นจารึก แต่ในหัวใจของเขารู้วา่ มันมีความแข็งแก่รงและประสิทธิภาพ
เพิ่มสูงขึ ้นมากนัก มันจะสามารถหาซื ้อได้ ด้วยเงิน 100 เหรี ยญทองได้ อย่างไรกัน!
จากการปะทะกัน หลี่ฉีพงึ่ ได้ สติกลับมาสูค่ วามเป็ นจริ ง ผู้ชายคนนันตอบโต้
้ เขาด้ วยดาบที่หกั
ทังผลที
้ ่ออกมายังแสดงให้ เห็นว่าเขาเป็ นฝ่ ายเสียเปรี ยบ… บางทีมนั อาจซ่อนพลังบางอย่าง
เอาไว้ ! ผู้ชายคนนี ้ … น่ากลัว!
“เยี่ยม!” ฉินเสี่ยวยกย่อง “นายทหารสามัญสามารถต่อกรกับหลี่ฉีที่ใช้ ‘กระบี่ห้าเทือกเขา
ศักดิ์สิทธ์’ ได้ อย่างสูสี ด้ วยดาบที่หกั ไท้ เฟิ งทําได้ เยี่ยมยอด! น่าประทับใจ! ท่านมูย่ ี่ทา่ นคิด
เช่นเดียวกับข้ ารึไม่? ”
มูย่ ี่ยน่ คิ ้วของเขาและไม่ร้ ูจะตอบอย่างไรดี แม้ วา่ เขากับฉินเสี่ยวจะระดับการฝึ กฝนไม่ตา่ งกัน
มาก แต่เขาก็เป็ นนักจารึกผู้เชี่ยวชาญดังนันความเข้
้ าใจเรื่ องคุณสมบัติตา่ งๆย่อมมากกว่าฉิน
เสี่ยว หลังจากการปะทะกันในช่วงสันๆ ้ เขาเห็นได้ อย่างชัดเจนว่าดาบที่หกั ของไท้ เฟิ งไม่ได้ มี
ความรุนแรงน้ อยไปกว่าดาบของหลีฉ่ ี! และนัน่ ก็เพราะพลังปราณที่ถ่ายเทไปสูด่ าบ ดาบ
สามารถซึมซับแล้ วใช้ มนั ได้ เต็มประสิทธิภาพจนน่าตกใจ!
มันจะเป็ นเช่นนันอย่
้ างนันรึ ้ เมื่อพิจารณาดาบที่เสียหายของเขา ถึงมันจะเป็ นสมบัตลิ ํ ้าค้ าแต่
มันก็เป็ นสมบัติลํ ้าค่าระดับตํ่า
ทังหมดนี
้ ่อาจเป็ นเพราะการจารึกของดาบเล่มนันอย่ ้ ?
้ างนันรึ
บทที่ 20 ทักษะของจารึก
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
“ปั ง!”
ไท้ เฟิ งและหลี่ฉีปะทะกันอีกครัง้ ปรากฏเป็ นประกายไฟขึ ้นมา พวกเขาทังสองเป็
้ นนักรบที่มี
ความแข็งแกร่งและอดทน แต่ละการเคลื่อนไหวของพวกเขาปะทะกันอย่างต่อเนื่อง! ไท้ เฟิ งใช้
ดาบที่หกั ต่อสู้กบั หลี่ฉี แต่พลังปราณที่โผล่ออกมาจากดาบของเขารุนแรงกว่ากระบี่ของหลี่ฉี
มากนัก!
“!”
การปะทะกันในครัง้ ถัดมา หลี่ฉีผิดพลาดด้ วยความประมาท ทําให้ ได้ รับบาดแผลจากดาบของ
ไท้ เฟิ ง แม้ วา่ เกราะของหลี่ฉีจะเป็ นสมบัติหายาก แต่ดาบของฝ่ ายตรงข้ ามที่มีปราณที่รุนแรง
เป็ นสิง่ ที่อนั ตรายและสามารถเจาะผ่านมาถึงร่างกายของเขาได้ ใบหน้ าของหลี่ฉีซีดขาวในทันที
เขาเกือบจะสําลักเลือดออกมา!
ฉินเสี่ยวเองก็สงั เกตเห็นความผิดปกติที่ดาบ เขามองไปที่มยู่ ี่และกล่าว “ดูเหมือนข้ าจะประเมิน
ว่าดาบเล่มนันผิ ้ งอยูใ่ นระดับมนุษย์หรื อไม่ ?”
้ ดไป ดาบสมบัติเล่มนันยั
มูย่ ี่ตอบว่า “แน่นอนมันเป็ นสมบัติระดับมนุษย์หรื อตํ่ายิ่งกว่า…” เขาเคาะนิ ้วมือของเขากับ
ส่วนแขนของเขาในขณะที่เขาครุ่นคิดถึงสาเหตุที่เป็ นเช่นนัน้ ขณะนี ้ฉินชิงหวนที่เฝ้าจับตาดูอยู่
เปิ ดปากของเธอและพูดว่า “อาจารย์บางทีสมบัตนิ นอาจถู
ั้ กวางจารึกโดยยอดนักจารึก ?”
มูย่ ี่กล่าว “ข้ ายังสงสัยว่า ผู้ที่วาดจารึกลงดาบเล่มนันเป็
้ นผู้วิเศษคนใด แม้ วา่ ดาบจะได้ รับความ
เสียหายขนาดนัน้ ยังทําให้ เกิดพลังอํานาจได้ ถงึ เพียงนี ้…”
ขณะที่พวกเขากําลังพูดคุยกันอยูน่ นั ้ การต่อสู้บนเวทีก็ใกล้ มาถึงตอนจบ หลี่ฉีได้ รับบาดเจ็บ
และไม่มีทางออกอื่นใดให้ เขา มันถึงเวลาที่เขาจะใช้ รูปแบบต่อไปของ ‘กระบี่ห้าเทือกเขาศักดิ์
สิทธ์’ เขาเรี ยนรู้มาเพียงเท่านี ้และเก็บมันไว้ เป็ นไม้ ตายก้ นหีบสําหรับรอบสุดท้ าย แต่ตอนนี ้เขา
ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ ว หากไม่ใช้ มนั เขาจะต้ องพ่ายแพ้ เป็ นแน่
หลี่ฉียกกระบี่ของเขาไว้ บนหน้ าอก พลังปราณที่อยูภ่ ายในตัวเขาเริ่ มที่จะดังก้ อง เขากล่าวขึ ้นมา
“ไท้ เฟิ ง ข้ ารับรู้ถงึ ความแข็งแกร่งของเจ้ า เจ้ าเป็ นยอดคนอย่างแท้ จริ ง! เพียงทักษะสามัญของ
เจ้ าสามารถทําลายทักษะของตระกูลที่ข้ภาคภูมิใจได้ และข้ าจะระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สดุ ของ
ข้ า และให้ การต่อสู้จบลงในเวลานี ้! จงเตรี ยมพร้ อมที่จะรับมือการจู่โจมอย่างสุดพลังในครัง้
สุดท้ ายของข้ าซะ! มังกรดําแห่งเทือกเขาหิมาลัย! ”
หลี่ฉีร้องคํารามออกมาในขณะที่ถ่ายเทพลังปราณลงดาบของเขา ดาบสีดําส่องแสงสว่างสีส้ม
สดใสและดูหยิ่งผยอง หลี่ฉียกดาบขึ ้นสูงเหนือศีรษะของเขาและมุง่ เป้าไปที่ไทเฟิ ง แล้ วฟาดฟั น
ไปอย่างรุนแรง! ตัวดาบของเขามีลําแสงหลายเฉดสีและอากาศสัน่ สะเทือนเป็ นคลื่นพลังซัด
ออกไป นี่คือ กรงเล็บมังกรดํา!
“เขาได้ ใช้ รูปแบบมังกรดําแล้ ว มันแสดงให้ เห็นว่าหลี่ฉีประสบความสําเร็ จในวรยุทธของวงศ์
ตระกูลอย่างยิ่ง ไท้ เฟิ งจะได้ ร้ ูวา่ เป็ นไปไม่ได้ ที่จะต่อต้ านการจู่โจมครัง้ นี ้! ”
เมื่อเป็ นเป๋ าหมายของท่ามังกรดํารี บ ไทฟิ งรู้ดีวา่ นี่คือกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สดุ ของหลี่ฉี แม้ วา่
มังกรดําจะมีพลังที่สามารถข่มขูน่ กั รบมากมายให้ หวาดหวัน่ ได้ ไท้ เฟิ งกลับไร้ ความรู้สกึ นึกคิด
ใดใดไม่มีสิ่งอะไรในหัวของเขา มีแต่เพียงความสงบทอันหาที่เปรี ยบมิได้ ไม่ต้องกล่าวถึงความ
หวาดกลัว มันไม่มีอยูเ่ ลยแม้ แต่น้อย เขาจับดาบด้ วยมือทังสอง ้ เขารู้สกึ ได้ ถงึ ความคุ้นเคยกับ
มันราวกับว่ามันเป็ นเพื่อนเก่าของเขา
F * ck! เจ้ าคิดว่าเจ้ าจะชนะรึ แต่ข้าจะต้ องเป็ นผู้ชนะ!
สมองของไท้ เฟิ งทิ ้งความคิดที่ไม่จําเป็ นทังหมด
้ เขาส่งเสียงคํารามอันดังก้ องสะท้ อนไปใน
อากาศและส่งพลังปราณทังหมดเข้
้ ามาสูด่ าบของเขา พลังปราณในตัวดาบถูกบีบอัดอย่างหน้ า
แน่น จนถึงขีดจํากัด! ในเวลานี ้มันปะทุขึ ้นแสดงถึงความแข็งแกร่งอย่างท่วมท้ น!
ไฟสว่างตระการตาที่ปล่อยออกมาจากตัวดาบแต่ละองศาก็คือพลังปราณ เป็ นดังเช่นภูเขาไฟ
ปะทุขึ ้นจากดาบ มันกลายเป็ นสีร้ ุงสดใสที่เหวี่ยงคลื่นพลังไปข้ างหน้ าเหมือนดาวตก ปะทะเข้ า
กับพลังมังกรดํา
ล้ มล้ างฝ่ ายคูต่ อ่ สู้ทงหมด!!
ั้ ล้ มล้ างศัตรูทงหมด!!
ั้ ล้ มล้ างทุกผู้ตอ่ กรตรงหน้ า !!!
(หากใครงง มันคืออาคมล้ มล้ มล้ างของหลินหมิงนัน่ เอง เป็ นอาคมแรกของกฎวิญญาณ
‘ครอบงําวิญญาณ’)
มันคือทักษะของ ‘อาคมล้ มล้ าง’ – ‘จู่โจมหนักหน่วงชัว่ พริ บตา’!
“ปั ง!”
เกิดการระเบิดครัง้ ยิ่งใหญ่ขึ ้นจนแทบไม่น่าว่ามันนะรุนแรงได้ ถงึ เพียงนี ้ พลังมังกรดําถูกผ่าครึ่ง
ด้ วยพลังดาบของไม้ ! หลี่ฉีถกู เหวี่ยงหน้ าควํ่าและสําลักเลือดออกมา!
ฉินเสี่ยวตะลึงเมื่อได้ เห็นฉากตรงหน้ านี ้ พลังปราณผสานตัวกันได้ อย่างไร้ ที่ติ! ไม่มีการเสียเปล่า
แม้ แต่น้อย เป็ นไปได้ อย่างไร!!
แสงสว่างนันเป็
้ นพลังปราณ แต่จะใช้ พลังปราณได้ เช่นนันอย่ ้ างน้ อยต้ องฝึ กฝนอยูใ่ นขันผสาน
้
ชีพจร(ขัน6)
้ ไท้ เฟิ งที่ฝึกฝนถึงเพียงขันดั
้ ดกระดูก(ขัน5)ทํ
้ าเช่นนันได้
้ อย่างไร
ในเวลานี ้ทันทีที่หลีฉ่ ีออกไปจากเขตเวที ไท้ เฟิ งทรุดตัวลงไปกับพื ้นอย่างรวดเร็ ว พลังปราณของ
เขาถูกใช้ จนหมดไปอย่างสมบูรณ์ เขาถึงกับประคองตัวด้ วยขณะที่เขาพยายามดันตัวเองขึ ้นมา
ดวงตาทังสองจ้
้ องตรวจสอบที่มาจารึกอย่างเคารพ จารึกนี ้ … มันช่วยให้ เขาประสบ
ความสําเร็ จ
เขายื่นมือออกมาช้ าๆ ค่อยๆลูบไปที่เปลวไฟของจารึก กระแสของจิตวิญญาณการต่อสู้แผ่
ออกมาอย่างต่อเนื่องจากจารึกและไท้ เฟิ งรู้สกึ ถึงความผูกพันใกล้ ชินเหมือนเป็ นครอบครัว
เดียวกันกับมัน
ผู้ตดั สินกระโดดกระทืบเวทีและประกาศชัยชนะ ไท้ เฟิ ง!!! น่าทึง่ อะไรเช่นนี ้! เขามีความสามารถ
และเป็ นดาวรุ่งพุง่ แรงแซงหลี่ฉีที่ถกู เอาชนะโดยเขา!
ฉินเสี่ยวมองไท้ เฟิ งอย่างใจจดใจจ่อ และพูดกับมูย่ ี่ “พลังปราณนันเปลี
้ ่ยนรูปร่างได้ อย่างไร?
ไท้ เฟิ งใช้ วิธีการใดทําเช่นนัน?
้ มันคงจะไม่ใช่วรยุทธสินะ”
“มันจะปรากฏขึ ้นมาให้ ได้ เห็น!” มูย่ ี่สดู ลมหายใจเข้ า ดวงตาของเขาแสดงให้ เห็นร่องรอยของ
อาการตื่นตะลึง เขากล่าวว่า “ถ้ าข้ าคาดการณ์ไว้ ไม่ผิดมันต้ องเป็ นฝี มือของทักษะจากจารึก
จารึกอาจมีการเปลี่ยนแปลงการไหลพลังปราณและปล่อยทักษะออกมา … .ในอาณาจักรลิขิต
ฟ้า เทคนิคดังกล่าวนันได้
้ สญ ู หายไปเกือบหมดแล้ ว … ”
***(ผู้คนในเมืองยังคิดว่าจารึกทําได้ เพียงเสริ มความสามารถ ความคม ความเร็ ว ความ
แข็งแกร่งได้ เท่านัน)***
้
“ทักษะจากจารึก?” ฉินเสี่ยวตะลึง เขาไม่เคยได้ ยินเรื่ องทักษะจากจารึกมาก่อน แต่เขาก็เคย
ได้ เห็นมันมาก่อน แปดสิบปี ที่ผ่านมา เขาสัง่ บัญชาการกองทัพเพื่อต่อสู้กบั ประเทศทาง
ตะวันออก เขาได้ ตอ่ สู้กบั นายพลของศัตรูและได้ พบเห็นทักษะของจารึกในเวลานัน้
ไม่คิดว่ามาก่อนว่าเมื่อผ่านมาอีกหลายสิบปี เขาจะได้ เห็นมันอีกครัง้ ! เขาคิดเกี่ยวกับเรื่ องนี ้แล้ ว
พูดกับทหาร “ส่งคําข้ าลงไปให้ ไท้ เฟิ งมาพบข้ า”
“ขอรับ ท่านจอมพล!”
…
ไท้ เฟิ งไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจอมพลฉินจะเรี ยกเขามาพบเป็ นการส่วนตัว มันคือการได้ รับ
เกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สดุ ของเขา! ในกรณีปกติทหารไม่ได้ มีคณ
ุ สมบัติที่จะพบท่านจอมพลฉิน
โดยตรง
แม้ วา่ เขาจะได้ ผ่านความเป็ นความตายมานับไม่ถ้วนหลากหลายสถานการณ์ แต่ทนั ทีที่เขาเห็น
จอมพล คลืน่ พลังอันหนักหน่วงบังคับให้ เขาต้ องคุกเข่า เขากล่าวด้ วยความเคารพ “ไท้ เฟิ ง ของ
แสดงความเคารพขอรับ ท่านจอมพล.”
“ยืนขึ ้น” ฉินเสี่ยวโบกมือ “ข้ าเรี ยกเจ้ ามาที่นี่เพื่อถามเจ้ าในบางคําถาม เจ้ าได้ ดาบของเจ้ ามา
จากไหน? ”
“ด้ วยความเคารพขอรับท่านจอมพล สามเดือนที่ผ่านมามันถูกนํามาจากศัตรูหลังจากการสู้รบ
ขอรับ”
“โอ้ ว? ให้ ข้าดูมนั หน่อย ”
“ขอรับ” ไท้ เฟิ งยกดาบของเสนอให้ กบั จอมพลฉิน ฉินเสี่ยวสะบัดนิ ้วบนใบดาบเป็ นเสียงที่
ชัดเจนดังขึ ้นในอากาศ ข้ าว่ามันต้ องแตกหักมาเป็ นนานแล้ วแน่นอน
ดาบเป็ นสิง่ ที่ดี แต่มนั ก็เสียหาย!
ฉินเสี่ยวส่งดาบให้ กบั มูย่ ี่
มูย่ ี่ถือดาบไว้ ในมือและเพ่งสายตาของเขาไปยังรอยสลักเปลวไฟ เขาเอื ้อมมือออกมาและสัมผัส
กับจารึก เขาปิ ดตาของเขาลงในขณะที่พยายามรับรู้ถงึ แรงจิตวิญญาณ
มูย่ ี่ยงั คงนิ่งอยูเ่ ป็ นเวลานาน เขาไม่ได้ เอ่ยคําได้ ออกมาแม้ แต่คําเดียว แต่ฉินเสี่ยวเองรอคอย
อย่างอดทน
หลังจากช่วงเวลาผ่านไปได้ ซกั พัก ในที่สดุ มูย่ ี่ก็เปิ ดตาของเขา เขาหันไปและให้ ฉินชิงหวนถือมัน
ไว้ ถึงมันเป็ นไปไม่ได้ สําหรับเธอที่จะบอกอะไรจากมันได้ แต่เขาก็อยากให้ เธอลองรู้สกึ ถึงการ
ทํางานของจารึกที่ถกู วาดปรมาจารย์ผ้ นู ี ้
ฉินชิงหวนถือดาบไว้ แน่นและบังคับใช้ จิตวิญญาณของเธอจมลงไปในรอยเปลวไฟที่สลักลงบน
ดาบ เธอเป็ นที่มงุ่ เน้ นเพ่งสมาธิคิ ้วคู้ที่งามของเธอขมวดลงช้ า
“มันเป็ นไปอย่างไร” มูย่ ี่ ถามฉินชิงหวน
ฉินชิงหวน ตอบว่า “ด้ วยพรสวรรค์ความรู้ในการจารึกของชิงหวนยังไม่สงู พอ ข้ ารู้สกึ เพียงว่า
มันเป็ นรูปแบบของจารึกลึกลับซับซ้ อนยากที่จะเข้ าใจและผู้วาดมันขึ ้นมาต้ องเป็ นปรมาจารย์ที่
เก่าแก่และเก่งกล้ า”
มูย่ ี่กล่าวขึ ้น “มันเป็ นเรื่ องปกติที่เจ้ าจะไม่สามารถเข้ าใจมันได้ หลังจากที่จารึกเสร็ จสมบูรณ์
อาคมนันจะถู้ กซ่อนอยูใ่ นไว้ สมบัติ มันเป็ นเรื่ องยากที่จะสัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคําจารึกที่
ลึกลับและซับซ้ อนชิ ้นนี ้ มันเรื่ องที่น่าตกใจ บางทีหากข้ ารู้วา่ เขาได้ มนั มาจากไหน ข้ าอาจพบ
ความลับมากขึ ้น”
หลังจากมูย่ ี่ กล่าววเช่นนัน้ ไท้ เฟิ งกล่าวตอบโดยทันที “ด้ วยความเคารพขอรับท่านจอมพล ข้ า
ไท้ เฟิ งซื ้อแผ่นจารึกนี ้ที่ร้านค้ าแห่งหนึง่ มันมีทงหมดเพี
ั้ ยงสองแผ่น แต่ที่น่าเสียใจที่ข้าซื ้อหนึง่ ใน
นันมาแล้
้ ้ ”
ว ถ้ าท่านมูยี่ต้องการณ์ ข้ าสามารถพาท่านไปร้ านค้ าแห่งนันได้
“หืมมม? ฉินเสี่ยวตกใจ “เจ้ าซื ้อจารึกนี ้มารึ? มันไม่ได้ มีอยูใ่ นดาบแต่แรกหรอกรึ? ”
“ใช่ขอรับ ข้ าวางมันในดาบ เมื่อวานนี ้เอง ”
เมื่อมูย่ ี่ ได้ ยินถ้ อยคํานันจาก
้ ไท้ เฟิ ง เขาตื่นเต้ นขึ ้นมาทันที เขาถามว่า “เจ้ าซื ้อมันจากที่แห่ง
ใด?”
“ร้ านค้ าเล็กๆ ย่านการค้ ากลางเมือง”
“ร้ านค้ ากลางเมือง?” มูย่ ี่ชะงักชัว่ คราว สินค้ าที่ขายในร้ านค้ ากลางเมืองมีราคาไม่ควร200
เหรี ยญทอง วิธีใดที่พวกเขาจะขายแผ่นจารึกที่ทรงพลังอย่างนี ้ในที่แห่งนันได้ ้ อย่างไร แล้ วไท้ เฟิ ง
มีเงินทองพอจะซื ้อมันด้ วยอย่างนันรึ ้
ดังนัน้ มูย่ ี่ กล่าวถามข้ อสงสัยบางอย่าง “เท่าที่ข้ารู้มาครอบครัวของเจ้ าเป็ นเพียงปุถชุ นธรรมดา
พวกเจ้ าไม่นา่ มีเงินทองมาพอจะซื ้อจารึกราคาแพงนี ้ได้ มิใช่รึ? ”
ผูกฮลังเลเล็กน้ อยแล้ วกล่าวตามความเป็ นจริ ง “มัน… ในเวลาที่ข้าซื ้อมัน มันถูกติดราคาไว้
้ ”
เพียง 100 เหรี ยญทอง ข้ าจ่ายเพื่อมันไปแค่เพียงเท่านัน…
“หนึง่ ร้ อ… เท่าไหร่นะ?” ดวงตาของมูย่ ี่เบิกกว้ างขึ ้นอย่างกับจาน “เหนึง่ ร้ อยเหรี ยญทอง
รึ!!!!!!? แผ่นจารึกนี ้ราคา 100 เหรี ยญ ทอง!?!? “
บทที่ 22 แข็งแกร่งและประณีต
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
วันนี ้หลินหมิงฝึ กฝนการแร่เนื ้อด้ วยด้ านหลังที่ไร้ คมของมีด เขานําเงินครึ่งหนึง่ ที่ได้ จากขาย
จารึก92เหรี ยญทองไปใช้ ในการซื ้อยา ในตอนนี ้เมื่อเขาได้ ฝึกฝนมา เขาก็สามารถปล่อยหมัดลึก
ลงไปในต้ นไม้ เหล็กได้ ถงึ 7 นิ ้วในแต่ละหมัด พละกําลังของเขาคงไม่ตํ่าไปกว่า 1500 จิ๋น
แต่เขาก็ยงั ไม่ถงึ ขอบเขตชันเลิ
้ ศตามที่อธิบายไว้ ในตํารา‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ซึง่ แต่ละ
กําปั น้ จะรุนแรงและพลิ ้วไหวดัง่ แพรไหม มันเรี ยกว่า ‘ไหลลื่นดุจแพรไหม’ มันเป็ นการควบคุม
ความแรงของหมัด ทันทีที่เขาประสบความสําเร็ จนี ้ตามที่ได้ อธิบายไว้ ใน ‘จุดสูงสุดแห่งความ
โกลาหล’ แล้ ว ถ้ าเขาจะชกต่อยที่ต้นไม้ เหล็ก เปลือกนอกของมันจะไร้ รอยด่างพร้ อย แต่เนื ้อไม้
เหล็กภายในจะแตกออกเป็ นเสี่ยงๆ! หลินหมิงยังไปไม่ถงึ ขัน้ ‘ไหลลืน่ ดุจแพรไหม’
หลินหมิงดื่มซุปสมุนไพรและถอดเสื ้อของเขาออก เขาได้ ฝึกแร่เนื ้อเช่นนี ้ทุกวัน ด้ วยวิธีนี ้เขา
กําลังค่อยๆเริ่ มเข้ าใจวิธีการควบคุมความรุนแรงของเขา
ห้ องครัวร้ อนมากและด้ วยการใช้ ด้านหลังของมีดมันจึงต้ องใช้ พละกําลังเพิ่มขึ ้นหลายต่อหลาย
เท่า เขายังโคจรพลัง’ปฐมโกลาหล’ ในเวลาเดียวกับที่เขาตัดมัน เส้ นทางของเหงื่อไหลลงบน
ร่างกายของเขาไปทัว่ ในเวลานี ้เขาไม่ได้ ร้ ูเลยว่าการจารึกของเขาได้ ก่อให้ เกิดความโกลาหลที่
ครัง้ ยิ่งใหญ่ถงึ เพียงใด
…
…
“ท่านมูย่ ี่ แม่นางน้ อยฉิน สถานประกอบการของเรายินดีต้อนรับพวกท่าน หากท่านต้ องการที่
จะเข้ ามาพัก ทางเรามีที่พกั ส่วนตัวที่หรูหราเตรี ยมไว้ ให้ ทา่ นแล้ ว “พี่สาวลาน(แม่ครัว) ได้ รับ
ทราบข่าวล่วงหน้ าและมาที่ประตูทางเข้ าหลักเพื่อทักทายแขกที่นบั ถือ ในนามของศาลาจันทร์
กระจ่าง ซึง่ เป็ นสถานที่ซงึ่ มีร้านอาหารชันสู ้ งและห้ องพักพิเศษที่เตรี ยมไว้ สาํ หรับแขกผู้มีเกียรติ
และอื่น ๆ ที่ผ้ เู ข้ าพักต้ องการ แขกผู้มีเกียรติบางท่านมักจะไม่ชอบทานอาหารในภัตตาคาร
ดังนันเพื
้ ่อที่จะสร้ างสภาพแวดล้ อมที่สะดวกสบายมากขึ ้นสําหรับพวกเขา จึงที่มีห้องพักส่วนตัว
หลายห้ องเตรี ยมไว้ ให้ บริ การ
“เสี่ยวเหลียนไปเตรี ยมชาสีฟ้าฤดูใบไม้ ผลิที่ดีที่สดุ ที่เรามีและแจ้ งที่ห้องครัวเพื่อเตรี ยมความ
พร้ อมเป็ นให้ ดี นําอาหารที่ดีที่สดุ มาเสิร์ฟ “ศาลาจันทร์ กระจ่างมักจะสร้ างความประทับใจให้
แขกผู้มีเกียรติอีกมากมาย! มูย่ ี่และฉินชิงหวนเป็ นผู้มีชื่อเสียงทางสังคมพวกเขาเกี่ยวข้ องกับ
จอมพลฉินและพระราชวังจักรพรรดิ พวกเขาย่อมเชฟฝี มือยอดเยี่ยมอยูแ่ ล้ ว ไม่มีความจําเป็ นที่
พวกเขาจะมาเพื่อทานอาหารของที่นี่
ฉินชิงหวนกล่าว “สิ่งเหล่านัน่ ไม่จําเป็ นแต่อย่างใด อาจารย์และข้ ามาที่นี่เพื่อตามหาใครบาง
คน.”
“โอ้ ? ใครกันที่ทําให้ พวกท่านทังสองต้
้ องออกมาตามหาด้ วยตัวเองเช่นนี ้?”
“ข้ าได้ ยินว่ามีเด็กอายุราวๆ 15-16 ปี อาศัยอยูท่ ี่นี่ ความสูงของเขาเท่าๆข้ า และชื่อตระกูลของ
เขาคือหลิน “ฉินชิงหวนกล่าวถามหาหลินหมิง มันเป็ นเรื่ องธรรมดาที่ห้องพักจะมีการ
ลงทะเบียนด้ วยชื่อตระกูลเพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่นนายหลิน ฉิน ชิงหวนเดาว่าหลินหมิง
ก็อาจจะอาจารย์ของเขาถ้ าเป็ นเช่นนันการลงทะเบี
้ ยนอาจไม่อยูภ่ ายใต้ ชื่อหลิน
“สิบห้ าหรื อสิบหกปี … .” พี่สาวลานคิดเกี่ยวกับเรื่ องนี ้แล้ วถามเสี่ยวเหลียน “มีชายหนุ่ม
้ ค่ นที่นี่หรือไม่?”
ลักษณะนันอยู
เสี่ยวเหลียนส่ายหัวของเธอและกล่าวว่า “ข้ าจําไม่ได้ แต่ข้าจะตรวจสอบสมุดบันทึกดู”
หลังจากที่เสีย่ วเหลียนจากไป พี่สาวลานไปต้ องรับชิงหวนและมูย่ ี่ ขณะที่พวกเขานัง่ ลงคุยกันได้
ไม่นาน เสี่ยวเหลียนกลับมาและกล่าวว่า “ข้ าตรวจสอบหนังสือบันทึกและไม่พบบันทึกของชาย
หนุ่มที่มาพักในเร็วๆนี ้เลย”
ศาลาจันทร์ กระจ่างเป็ นสถานประกอบการที่มีลกู ค้ าส่วนใหญ่เป็ นผู้เชี่ยวชาญและผู้มีชื่อเสียง
พวกเขามักจะมีอายุมาก แทนจะไม่มีเด็กหนุ่มมาพักในแห่งนี ้
มูย่ ี่ขมวดคิ ้วและกล่าวว่า “ไม่ได้ อยูใ่ นช่วงสิบวันนี ้รึ? เป็ นไปได้ อย่างไร? แปดวันที่ผ่านมาชาย
้ งอยูท่ ี่ศาลาจันทร์ กระจ่างอยูเ่ ลย ”
หนุ่มคนนันยั
พี่สาวลานกล่าวอย่างจริ งจังว่า “ศาลาจันทร์ กระจ่างไม่ได้ มีเหล่าหนุ่มสาวผู้เยาว์มาพักมากนัก
บางทีถ้าท่านกําลังมองหาคนที่มีสกุลหลิน ยังมีอกี หนึง่ คนและมาทํางานในครัวที่นี ้ตังแต่
้ หลาย
เดือนที่แล้ ว แต่ทว่า… เขาคงไม่ใช่คนที่แม่นางน้ อยฉินกําลังตามหา ”
พี่สาวลานคิดว่าฉินชิงหวนและท่านมูย่ ี่ จะตามหาเด็กลูกชนชันสู
้ ง แม้ วา่ หลินหมิงจะมีเรื่ องราว
ที่น่าสนใจในห้ องครัว แต่ภมู ิหลังของตระกูลของเขาธรรมดาสามัญอย่างยิ่ง และการฝึ กฝน
กายภาพของเขาก็ไม่ได้ สงู เขาไม่ควรจะได้ มีการติดต่อใดๆกับจอมพลฉิน
“ทํางานในครัว?” ฉินชิงหวน ถามอย่างประหลาดใจ
“เขาเป็ นผู้แร่เนื ้อ… เขาเป็ นเด็กหนุ่มที่มีความรับผิดชอบมาก… มันเป็ นผลงานที่ยอดเยี่ยม”
พี่สาวลานเห็นฉินชิงหวนไม่ร้ ูจกั ว่าอาชีพแร่เนื ้อเป็ นอย่างไร พี่สาวลานจึงอธิบายให้ เธอ
“หัน่ เนื ้อ? เป็ นไปไม่ได้ “มูย่ ี่ได้ ยินมันและไม่ได้ สร้ างความหวังใดๆให้ แก่เขา ปรมาจารย์ยอด
นักจารึกที่นา่ นับถือเป็ นเครื่ องตัดเนื ้อ?(@แปลท่อนนี ้ไปขําไป 555)
แต่ฉินชิงหวนไม่ได้ สนใจถึงเรื่ องนัน้ เธอถามรายละเอียดเพิ่มเติม “เขามีชื่อเต็มว่าอย่างไร ?”
“ข้ าไม่แน่ใจเท่าไหร่ เขาเป็ นคนพูดน้ อย เรารู้เพียงว่าชื่อตระกูลของเขาคือหลิน เขาควรจะ
ทํางานในห้ องครัวในขณะนี ้ พวกท่านต้ องการที่จะไปดูหรื อไม่? ”
“แน่นอน นําไปเลย “ฉินชิงหวนพยักหน้ าขณะที่เธอลุกขึ ้นยืน
พวกเขาเดินตามพี่สาวลานไป และมาถึงที่ห้องครัวของศาลาจันทร์ กระจ่าง เมื่อเปิ ดประตูฉินชิง
หวน รู้สกึ ถึงคลื่นอากาศร้ อนอบอ้ าวและไอนํ ้ารอบๆตัวเธอ มันเหมือนช่วงปลายฤดูร้อนที่บวก
กับความร้ อนจากห้ องครัว เป็ นความร้ อนที่ยากจะทนได้
ฉินชิงหวนโคจรแรงจิตวิญญาณของเธอและปล่อยมันกระจัดกระจายไปรอบๆ และเข้ าห้ องครัว
ไปพร้ อมกับพี่สาวลาน เหล่าเชฟในครัวต่างมองพวกเขาด้ วยความประหลาดใจ บางส่วน
ระหว่างขากรรไกรของหนุ่มๆเกือบจะยืดลงถึงพื ้น
ศาลาจันทร์ กระจ่างมีแขกผู้มีเกียรติจํานวนมากเข้ าออกเป็ นประจํา เหล่าบริกรและพ่อครัวที่มี
ประสบการณ์ความรู้ยอ่ มต้ องรู้จกั คนสําคัญเหล่านี ้ พวกเขารู้จกั ฉินชิงหวนดีและไม่เชื่อใน
สายตาของพวกเขา ทังเมื้ องลิขิตฟ้าไม่มีใครที่ไม่เคยได้ ยินชื่อของเธอและเรื่ องราวความรู้
ความสามารถที่โดดเด่นของเธอ ทําไมเธอเข้ ามาในห้ องครัวของศาลาจันทร์ กระจ่าง?
ในที่สดุ พี่สาวลานก็หยุดและชี ้ไปที่ห้องๆหนึง่ ที่มมุ ของห้ องครัว “เขาควรจะอยูท่ ี่นนั่ … ”
ห้ องครัวของศาลาจันทร์ กระจ่างมีขนาดใหญ่มากแต่หลินหมิงทํางานอยูใ่ นห้ องแร่เนื ้อเล็กๆของ
เขา เขาจะหัน่ เนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายที่นี่แล้ วส่งเข้ าไปแช่ต้ เู ย็นสําหรับการเก็บรักษา
ประตูคอ่ ยๆเปิ ดออก ฉินชิงหวนจ้ องมองเข้ ามาภายใน เธอได้ เห็นเด็กหนุ่มสวมเพียงกางเกงสี
เขียว กล้ ามเนื ้อบนหลังของเขาไร้ เสื ้อผ้ าอาภรใดปกคลุม เขาก็ถือมีดแร่เนื ้ออยูใ่ นขณะที่เขา
กําลังตัดลงไปบนเนื ้อสัตว์ดรุ ้ ายที่แข็งดุจหิน
เด็กหนุ่มกําลังเผชิญหน้ ากับฉินชิงหวน มองที่ด้านหลังของชายหนุ่มที่มีกล้ ามเนื ้อสมมาตรและ
พอดีเหมาะสมกลับผิวสีแทนจากแสงแดด แสดงให้ เห็นถึงสุขภาพที่ดีจากการออกกําลังกาย
บางทีมนั อาจจะเป็ นเพราะความร้ อนในห้ องครัวหรื ออาจเพราะเขาทํางานหนักมาก แต่เขากลับ
ถูกปกคลุมไปทัว่ ร่างด้ วยเหงื่อและส่อให้ เห็นถึงความรู้สกึ ที่น่ากลัวของความแข็งแก่รง
เขาคือหลินหมิง?
ฉินชิงหวนไม่แน่ใจดังนันเธอจึ
้ งเดินเข้ ามาอีกหลายก้ าว เธอสังเกตรายละเอียดของชายหนุ่ม เขา
มีใบหน้ าของหนุ่มอายุราว15ปี อ่อนโยนด้ วยและเด็ดเดี่ยว แม้ จะไม่เห็นได้ ชดั แต่มองอีกไม่นาน
มันก็ทําให้ หวั ใจเต้ นระรัวและก่อให้ เกิดความรู้สกึ น่าจดจําไม่ร้ ูลืม
แม้ วา่ เธอจะเห็นเพียงมุมเล็กๆของเขา ฉินชิงหวนยอมรับว่ารูปลักษณ์ที่เห็นมันก็เริ่ มที่ซ้อนทับ
กับภาพของหลินหมิงในหน่วยพิณ ไม่ร้ ูทําไม แต่มนั เกิดขึ ้นในใจของเธอ ความตื่นเต้ นและ
อาการหน้ าแดงที่แสดงถึงความเขินอายเล็กๆ
เธอไม่เคยจิตนาการถึงฉากตรงหน้ าของเธอมาก่อน การจารึกที่ยอดเยี่ยมจําเป็ นต้ องใช้ การ
ควบคุมที่ดีของแรงดันจิตวิญญาณและความละเอียดอ่อน มันเป็ นเช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนี ้ที่
สร้ างความประณีตลงบนเนื ้อสัตว์? สองสิ่งนี ้เป็ นความคิดที่ขดั แย้ งกันอย่างสมบูรณ์แต่ปรากฏ
ในคนคนเดียวกัน ความประณีตอันละเอียดอ่อนที่ออ่ ยโยนและความแข็งแก่รงที่เรี ยบง่ายพลิ ้ว
ไหวไหลลื่น แสดงถึงสิ่งที่ตรงกันข้ ามกันอยู่ ทําให้ หวั ใจของเธอเกิดความรู้ สกึ สงบมีสมาธิ
ในขณะนี ้หลินหมิงมองไปรอบๆ ในห้ องครัวที่มีหลายๆคนที่ผา่ นมาและเมื่อหลินหมิงฝึ กฝนเขา
มักจะไม่สนใจสภาพแวดล้ อมของเขา แต่เขารู้สกึ ว่ามีบางสิ่งที่แตกต่างจากปกติ มันอาจจะ
เป็ นไปได้ วา่ บางคนมาหาเขา
ทันทีที่เขาเห็นว่าคนๆนันคื
้ อฉินชิงหวน เขาหยุดชะงักชัว่ คราว ฉินชิงหวน!!! เธอมาศาลาจันทร์
กระจ่างทําไม? มาหาเขา?
ฉินชิงหวนสังเกตเห็นมีดที่ธรรมดาทัว่ ไปในมือหลินหมิง มันด้ วยกว่ามีดแร่ เนื ้อทัว่ ๆไปเสียอีก แต่
สิ่งที่ฉินชิงหวนประหลาดใจยิ่งกว่านันคื
้ อการที่หลินหมิงใช้ ด้านหลังของมีดในการตัดเนื ้อ นี ้.. นี ้
เป็ นเรื่ องจริ ง …
สายตาของเธอหันไปมองชิ ้นส่วนของเนื ้อสัตว์ที่หลินหมิงได้ หนั่ บางๆเอาไว้ มันมีความ
สอดคล้ องเรียบคนเป็ นระเบียบเรี ยบร้ อย พวกมันเหล่านี ้ถูกแร่โดยใช้ ด้านหลังของมีด?
“แม่นางฉิน ท่านกําลังตามหาข้ ารึ ” หลินหมิงถาม เขาเห็นมูย่ ี่ ที่อยูด่ ้ านหลังและหัวใจของเขา
หดตัว ชายชราคนนี ้ทําให้ เขารู้สกึ ถึงความแข็งแก่รง แน่นอนว่าภูมิหลังของเขาก็น่าจะยอดนักสู้
ที่มีการฝึ กฝนกายภาพไปถึงขันผสานชี
้ พจรหรื อแม้ กระทัง่ จะก้ าวไปถึงในระดับปราณฟ้าก็ยงั
เป็ นเรื่ องที่เป็ นไปได้ !
“เจ้ าเด็กตัวน้ อย เจ้ าคือหลินหมิง?” ชายชราถามหลินหมิงด้ วยรอยยิ ้มบนใบหน้ าของเขา
หลินหมิงพยักหน้ า เขาไม่สามารถปกปิ ดอะไรได้ จากอาจารย์ผ้ เู ชี่ยวชาญระดับนี ้ เขาเดาว่ามัน
เป็ นเพราะการขายแผ่นจารึกถูกให้ ความสนใจจากชายชรา แม้ วา่ เขาจะเคยคิดอยูแ่ ล้ วว่า
สัญลักษณ์จารึกจะต้ องได้ รับความสนใจจากใครสักคน แต่เขาไม่ได้ คิดว่ามันจะเกิดขึ ้นได้ เร็ วถึง
เพียงนี ้
เหตุการณ์นี ้อาจจะเป็ นโชคดี แต่มนั ก็อาจจะเป็ นหายนะเช่นกัน ถ้ ามันเป็ นโชคดีแล้ วราคาจารึก
ของเขาจะดีดตัวสูงขึ ้นอย่างมิอาจประเมินได้ และเขาจะสามารถที่จะหาซื ้อยาโอสถหายาก
บางอย่างเพื่อการฝึ กฝน แต่ถ้ามันเป็ นภัยพิบตั ิแล้ วเขาจะเป็ นเช่นกวางที่ถกู ตามล่าและฆ่าเพื่อ
แย่เอาเขาของมัน แม้ หลินหมิงมีความสามารถในการปกป้องตัวเอง แต่เหตุการณ์ที่เลวร้ ายที่สดุ
ก็เขาอาจถูกกักขังและบังคับให้ สร้ างจารึกตลอดทังวั
้ น
ก่อนที่หลินหมิงจะลงประมูล เขาเคยคิดถึงเรื่ องเหล่านี ้ เขามีความคิดที่จะปลอมตัวและจารึก
ของเขา แต่เขาไม่ได้ ร้ ูทกั ษะลึกซึ ้งใดๆที่จะทําเช่นนันได้
้ และยิ่งกว่านันด้
้ วยอายุเพียงสิบห้ าปี ของ
เขาเป็ นเรื่ องยากที่จะปกปิ ดตัวตนไว้ ได้
ไม่ช้าก็เร็ วทักษะการจารึกของเขาจะได้ รับความสนใจและมีกองกําลังหลักมาตามตัวเขา เขา
เป็ นเพียงเด็กหนุ่มมีการฝึ กฝนกายภาพเพียงขันแรกและมี
้ วงศ์ตระกูลที่ธรรมดาทัว่ ไป เขาใช้ วิธี
สินค้ าราคาถูกเพื่อปิ ดบังตัวเองจากมหาอํานาจเหล่านี ้ จริ งๆแล้ วมันก็ไม่แตกต่างจากเรื่ องไร้
สาระปั ญญาอ่อน
ดังนันหลิ
้ นหมิงจึงไม่ได้ วางแผนหลบหนีเอาไว้ แต่เขามีความคิดในอีกหนทางที่แตกต่างกัน
บทที่ 23 ระดับปราณปลายฟ้า
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ชี ้แจงหน่อยนะ เรื่ องระดับพลัง การฝึ กฝนกายภาพขันผสานชี
้ พจร(ขัน6)>>ปราณฟ
้ ้ น>>
้ าขันต้
ปราณปลายฟ้าแต่เดิมใช้ คําว่าปราณฟ้าขันปลาย้ รู้สกึ ว่ามันไม่ลื่นไหลเท่าไหร ของใช้ ปราณ
ปลายฟ้าแทน
…
…
…
หลินหมิงรู้วา่ มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะปกปิ ดว่าเขาเป็ นใคร เขาจึงตัดสินใจว่าเขาจะปั น้ ตัวแทน
ปรมาจารย์ตนเขาขึ ้นมา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกข่มขูแ่ ละปั ญหาต่างๆ
การจารึกเป็ นเรื่ องที่เป็ นไปไม่ได้ ที่จะฝึ กฝนด้ วยตันเอง ยิ่งสําหรับเด็กหนุ่มสาววัยเยาว์แล้ วยิ่ง
เป็ นไปไม่ได้ หลินหมิงจึง สร้ างตัวละครของอาจารย์ของเขาขึ ้นมา แม้ วา่ ตัวละครตัวนี ้จะไม่ได้ มี
อยูจ่ ริ ง
แน่นอนว่ามันมีความเสีย่ ง ในโลกมีคนบ้ าจํานวนมากที่จะไม่สนใจการดํารงอยูข่ องบุคคล
ดังกล่าว หากหลินหมิงพบกับคนเช่นนัน้ เขาจะตกอยูใ่ นอันตราย
แต่หลินหมิงก็ต้องยอมรับ ความเสี่ยงดังกล่าว เขาเลือกเผชิญหน้ ากับพวกเขา เขาเองก็ได้ รับ
การฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้มา เขาควรจะยอมแพ้ และหวาดกลัวปั ญหาเหล่านี ้หรื อ? ถ้ าเขาเกิด
ความกลัวแล้ ว มันจะเป็ นไปไม่ได้ เลยที่จะก้ าวไปถึงจุดสูงสุดของเส้ นทางการต่อสู้
มูย่ ี่เห็นหลินหมิงยืนเผชิญหน้ าไม่คิดจะหลบหนี เขาจึงกล่าวบอกกับทุกคนที่อยูข่ ้ างหลังเขา
“ออกไปก่อน”
ทุกคนได้ ออกจากห้ องเล็กๆนี ้ไปอย่างรวดเร็ ว รวมถึงไท้ เฟิ งเองก็ด้วย มีเพียงมูย่ ี่และฉินชิงหวน
ที่ยงั คงอยู่
มูย่ ี่โคจรแรงจิตวิญญาณของเขาไปล้ อมรอบทัว่ ทังห้ ้ อง “เจ้ าหนุ่ม ข้ าไม่ได้ มีความตังใจที
้ ่ไม่ดี
ใดๆ นี ้เป็ นเพียงทักษะการปิ ดผนึกเสียงของข้ า ภายใต้ มนั ไม่มีใครจะสามารถที่จะได้ ยินสิ่งที่เรา
กําลังพูดคุยกันได้ ข้ าเพียงแค่อยากจะถามเจ้ า เจ้ าคือผู้วาดจารึกที่มีสญั ลักษณ์รูปเปลวไฟใช่
หรื อไม่? ”
มันเป็ นประเพณีสําหรับนักจารึกที่จะทิ ้งสัญลักษณ์มีของตัวเองเอาไว้ กบั ผลงานจารึก มันระบุ
ถึงผู้สร้ างของพวกมันและเป็ นตัวแทนของจิตวิญญาณที่อยูเ่ บื ้องหลังเส้ นทางการจารึกของพวก
เขา หลินหมิงใช้ รูปเปลวไฟโหมกระหนํ่าเป็ นตัวแทนความปรารถนาของเขาที่จะเหยียบยํ่าลงบน
เส้ นทางการต่อสู้
ฉินชิงหวน หยุดหายใจ ดวงตาของเธอกว้ างและไม่กะพริ บตาเลยในขณะที่เธอรอคอยคําตอบ
ของเขา
หลินหมิงลังเลและพยักหน้ ากล่าวว่า “เป็ นข้ าเอง”
เมื่อเขาตัดสินใจที่จะทําแล้ วเขาก็จะทําเช่นนันอย่
้ างไม่ลงั เล เขาจะอยูใ่ นสถานะที่แข็งแกร่งและ
คนอื่น ๆ จะเชื่อว่ามีปรมาจารย์ลกึ ลับที่อยูเ่ บื ้องหลังของเขา เป็ นหนุนหลังที่ไม่อาจให้ ใครผู้ใด
มารุกรานเขาได้
ถึงแม้ วา่ พวกเขาจะรู้อยูแ่ ล้ วว่าต้ องเป็ นเช่นนี ้ หลังจากที่ได้ ยินคํายืนยันจากหลินหมิง มูย่ ี่ อ้ า
ปากค้ างและฉินชิงหวนเองก็ทําตาโตด้ วยความตกใจ
เธอเองก็เป็ นนักจารึก! เธอรู้วา่ มันเป็ นเรื่ องยากซักเพียงใดที่จะเป็ นนักจารึกได้ ตอนอายุสิบห้ า!
ฉินชิงหวนเข้ าใจทุกความยากลําบากที่พบเจอมา อาณาจักรลิขิตฟ้าเป็ นอาณาจักรเล็กๆ ใน
ทวีปนภาริ นไหล(แปลมาถึงตอนที่23ก็แน่ใจเสียทีวา่ ทวีปใหญ่กว่าอาณาจักร 555) ตัวเธอเอง
ถือว่ามีความสามารถและพรสวรรค์ที่สงู แต่หากเธอได้ ออกไปยังดินแดนอื่นๆแล้ ว บางทีคน
จํานวนมากมายในต่างดินแดนอาจจะมีความสามารถระดับเดียวกับเธอ
แต่ฉินชิงหวนยังไม่เคยได้ ออกจากอาณาจักรมาก่อน เพราะอาณาจักรที่ล้อมรอบล้ วนแต่มี
พรสวรรค์ที่สงู ส่ง
ด้ วยพรสวรรค์ระดับหก และความสามารถในการจารึกที่เรี ยกได้ วา่ ไม่เป็ นสองรองใครใน
ราชอาณาจักรลิขิตฟ้าฉินชิงหวนมีความภาคภูมิใจเช่นได้ เกิดเป็ นเทพเทวดา และไม่เคยรู้สกึ
ด้ อยกว่าใครในบรรดาเด็กรุ่นเดียวกับเธอ ฉินชิงหวนเติบโตขึ ้นมาพร้ อมกับความเย่อหยิ่ง
แต่ในวันนี ้เธอก็พา่ ยแพ้ อย่างชัดเจนกับผู้มีอายุรุ่นเดียวกับเธอในด้ านการจารึก แม้ วา่ เธอจะมี
พรสวรรค์ที่สงู กว่าและมีการฝึ กฝนกายภาพในขันที ้ ่สงู กว่ามากนัก
สําหรับการจารึกจะบอกว่าเธอเป็ นเพียงนกตัวน้ อยๆที่ยงั ไม่ได้ หดั บินและเขาเป็ นนกอินทรี
ทะยานขึ ้นไปบนฟ้า ช่องว่างระหว่างคนทังสอง
้ มันห่างชันกั ้ นเกินไป!
เธอรู้สกึ ผิดหวัง แต่ฉินชิงหวนก็ไม่ได้ หดหูห่ รื อสิ ้นหวัง เธอรู้สกึ ตืน่ เต้ นเพราะในตอนนี ้เธอได้ พบ
เป้าหมายของเธอแล้ ว เธอจะมุง่ มัน่ ที่พฒ ั นาตัวเอง!
กับชายหนุ่มคนนี ้ฉินชิงหวนเต็มไปด้ วยความอยากรู้ นอกจากนี ้เธอยังหวังว่าจะได้ กลายเป็ น
เพื่อนของเขาและมีความสามารถทัดเทียมกับเขาในอนาคต เธออยากเรี ยนรู้แลกเปลี่ยนเทคนิค
จารึกกับเขา!
แต่เธอจําได้ วา่ ก่อนหน้ านี ้เธอได้ รับการปฏิเสธจากเขา ฉินชิงหวนกลัวว่ามันอาจเกิดขึ ้นอีกก็
เป็ นได้ สําหรับผู้หญิงเป็ นธรรมดาที่จะเขินอายและเป็ นแผลในใจที่ถกู ปฏิเสธเช่นนัน้ หญิงสาวผู้
งดงามจากตระกูลขุนนางเช่นนี ้ แม้ วา่ ในหัวใจของเธอ เธอจะอยากจะเป็ นเพื่อนของเขา แต่ใน
เวลาเดียวกันเธอก็ไม่กล้ าคิดที่จะเชิญเขาอีกครัง้
หลังจากที่มยู่ ี่ได้ ยินคําตอบจากหลินหมิง ในที่สดุ เขาก็เชื่ออย่างมัน่ ใจว่า เรื่ องนี ้คือเรื่ องที่ไม่น่า
เชื่อและไม่นา่ เป็ นไปได้ อย่างแท้ จริ ง เดิมที่เขาได้ เดาว่าผู้สร้ างจารึกจะต้ องมีการฝึ กฝนอยูใ่ นขัน้
ที่สาม แต่มนั ดูเหมือนว่าเขาผิด
การฝึ กฝนของหลินหมิงมีเพียงขันแรก
้ เป็ นเพียงจุดสูงสุดของชันแรกเท่
้ านัน้ แต่เพราะรากฐานที่
มัน่ คง,ประสบการณ์,ความแม่นยําของการบังคับจิตวิญญาณของเขา มันได้ ร่วมกันสร้ างภาพ
ลวงตาว่ามันเป็ นสิง่ ที่สร้ างโดยผู้ที่มีการฝึ กฝนกายภาพขันสาม!
้
เพราะจิตวิญญาณอันแรงกล้ าและหนาแน่นของเขา เป็ นไปได้ วา่ เขาจะได้ รับการฝึ กโดย
มรดกวรยุทธในตํานาน ชนิดที่แม้ แต่ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดินยังยากจะหามันมาครอบครอง
นอกจากนี ้เด็กหนุ่มคนนี ้ยังขยันหมัน่ เพียรทุม่ เทอย่างเต็มที่ … เขาสามารถใช้ เพียงแค่ด้านหลัง
ของมีดเพื่อตัดเนื ้อของสัตว์ที่ดรุ ้ ายออกจากกันได้ อย่างราบเรี ยบ บางทีเด็กหนุ่มคนนี ้อาจมาจาก
ตระกูลที่เก่าแก่ และได้ รับการสนับสนุนจากปรมาจารย์ที่มากความสามารถ!
เมื่อมีความคิดเช่นนี ้ มูย่ ี่สดู ลมหายใจเข้ าลึกๆและถามด้ วยนํ ้าเสียงเคารพ “ขอโทษที่ต้องถาม
เช่นนี ้ ข้ าจะรู้ช่ือของปรมาจารย์ที่น่านับถือของเจ้ าได้ หรื อไม่”
มูย่ ี่มีตําแหน่งที่สงู ส่งในราชอาณาจักรลิขิตฟ้า แม้ เผชิญหน้ ากับจักรพรรดิเขายังไม่จําเป็ นต้ อง
เคารพหรื อเกรงกลัว แต่จากการแสดงออกของเขา เขามีความเคารพเกรงกลัวต่อความลึกลับ
และอํานาจอันยิ่งใหญ่จากปรมาจารย์ผ้ อู ยูเ่ บื ้องหลังของหลินหมิง
หลิงหมิงกล่าวว่า “เรื่ องนี ้… ข้ าต้ องขออภัยด้ วย แต่ปรมาจารย์ของข้ าเคยบอกข้ าว่า ห้ ามกล่าว
นามของท่านกับผู้ใดเป็ นอันขาด เมื่อข้ ามีอายุได้ สิบสองปี ปรมาจารย์ของข้ าได้ พบข้ าและสอน
ข้ าถึงทักษะบางอย่าง”หลินหมิงได้ อาศัยอยูใ่ นเมืองใบหม่อนสีเขียวมาตังแต่
้ เด็กดังนันนี
้ ้เป็ น
เรื่ องง่ายในการตรวจสอบ ที่เขากล่าวเป็ นการทําไปเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสงสัยต่างๆ
มูย่ ี่กล่าว “ข้ าขอโทษที่ลว่ งเกินถามถึงนามปรมาจารย์ของเจ้ า สําหรับผู้อาวุโสที่มีทกั ษะสูง
เช่นนัน้ พวกเขาคงเดินทางไปทัว่ ทุกมุมโลก และเป็ นเรื่ องยากที่จะหาเบาะแสของพวกเขา ข้ าไม่
ควรผลีผลามถามออกไป… มันเป็ นเหมือนกับว่าการทักษะการจารึกทัว่ ทังราชอาณาจั
้ กรลิขิต
ฟ้า เป็ นเพียงของเด็กเล่นสําหรับปรมาจารย์คนนัน้ เขาน่าจะเป็ นใครซักคนจากนิกายโบราณใน
ต่างแดน … ”
แม้ มยู่ ี่จะบอกว่าเขาไม่ต้องการที่จะรู้ถงึ ปรมาจารย์ของหลินหมิง แต่เขายังพยายามจะสอบถาม
ถึงข้ อมูลบางอย่าง เพราะปรมาจารย์ที่มีความสามารถระดับนี ้ ถือเป็ นบุคคลระดับตํานานยาก
ที่จะได้ พบเจอ มันคงต้ องอาศัยโชคชะตาอย่างมากที่หนึง่ ชีวิตที่เกิดมาจะได้ พบเจอกับบุคคล
เหล่านี ้แม้ เพียงซักครัง้ !
มูย่ ี่ได้ ติดอยู่ที่จดุ สูงสุดของระดับปราณฟ้าขันต้
้ นมาเป็ นเวลานานมาก เขาต้ องการที่จะผ่านไปสู่
ขันต่
้ อไป
แต่ไม่มีผ้ ใู ดที่มีความรู้มากพอจะให้ คําแนะนําเขาได้ เลย อีกเพียงขันตอนเดี
้ ยวเขาก็จะเข้ าสู่
ระดับปราณปลายฟ้า แต่เขาก็มาถึงทางตัน!
ในประวัติศาสตร์ แปดปี ที่ผ่านมาของอาณาจักรลิขิตฟ้า มีผ้ เู ข้ าถึงขันผสานชี
้ พจรเป็ นจํานวน
มาก และพวกเขาเหล่านันก็้ สามารถเข้ ามาสูร่ ะดับปราณฟ้าขันต้ ้ นได้ จํานวนหนึง่
แต่กลับไม่มีใครในอาณาจักรลิขิตฟ้าที่มีความสามารถมากพอจะเป็ นนักสู้ผ้ เู ชี่ยวชาญระดับ
ปราณปลายฟ้าได้ เลยแม้ แต่คนเดียว!
หากขันดั้ ดกระดูกและผสานชีพจรมีความยากที่จะก้ าวข้ ามเป็ นดังแม่นํ ้าสายหนึง่ ความยากที่
จะก้ าวข้ ามระดับปราณฟ้าขันต้ ้ นเพื่อไปสูร่ ะดับปราณปลายฟ้าก็เป็ นเหมือนมหาสมุทรที่บ้า
คลัง่ ! หากไร้ ซงึ่ นิกายทรงพลังที่ให้ การชี ้นําสนับสนุนหรื อคําชี ้แนะจากประสบการณ์ของผู้ที่ผ่าน
เข้ าไปได้ แล้ ว โอกาสที่จะเข้ าสูร่ ะดับปราณปลายฟ้าแทบเท่ากับศูนย์!
มันก็สายเกินไปแล้ วสําหรับมูย่ ี่ที่จะหาโอกาสเข้ านิกายเพื่อฝึ กฝน ความหวังเดียวของเขาก็คือ
การพบปรมาจารย์ผ้ เู ก่งกาจที่สามารถจะชี ้นําเขาให้ มีโอกาสก้ าวเข้ าไปสูร่ ะดับปราณปลายฟ้า
ได้ แม้ เพียงสักนิดก็ยงั ดี
ในท้ ายที่สดุ เขาไม่ได้ ต้องการที่จะเข้ าสูร่ ะดับปราณปลายฟ้า เขาแค่อยากความลับของมัน
อยากรู้ทิศทางที่เขาควรจะฝึ กฝนต่อไปด้ วยระยะเวลาที่ที่เหลือของชีวิตของเขา
หลินหมิงกล่าวขึ ้นมา “ปรมาจารย์ของข้ าเป็ นผู้สนั โดษ แต่ทา่ นเคยบอกว่าท่านเคยได้ เข้ าร่วม
นิกาย”
หลังจากที่ได้ ยินเช่นนัน้ มูย่ ี่เกิดความอิจฉาเล็กๆขึ ้นมา เขาไม่เคยได้ โอกาสที่จะเข้ าสูน่ ิกาย แต่
ปรมาจารย์ของ หลินหมิงกลับได้ เข้ าร่วมในนิกาย เขากล่าวว่า “ระดับการฝึ กฝนของปรมาจารย์
ของเจ้ าจะต้ องสูงส่งอย่างมาก ที่จะออกมาจากนิกายและออกเดินทางไปทัว่ โลก เขาอาจมาถึง
ขีดจํากัดของระดับใดระดับหนึง่ และไม่อาจก้ าวข้ ามไปได้ อีก บางทีระดันนันอาจจะระดั
้ บปราณ
ปลายฟ้าใช่หรื อไม่ ”
สําหรับมูย่ ี่ ระดับปราณปลายฟ้ามันช่างห่างไกลแสนไกล สําหรับนักสู้ที่ไม่ได้ อยูใ่ นนิกาย ระดับ
ปราณปลายฟ้าคือสิ่งที่ไม่อาจแม้ จะจินตนาการถึงมัน
เมื่อได้ ยินคําถามของมูย่ ี่ ในที่สดุ หลินหมิงก็เข้ าใจเจตนาของชายชราคนนี ้ ความสนใจของมูย่ ี่
ในครัง้ นี ้คือ ‘ปรมาจารย์’ของเขา ดวงตาของมูย่ ี่มีความกระตือรื อล้ นและเต็มไปด้ วยความ
จริ งจัง เขาต้ องการที่จะหาคําตอบบางอย่างสําหรับการฝึ กฝนของตันเอง มันเป็ นเรื่ องยากมากที่
จะฝึ กฝนให้ ก้าวข้ ามไปอีกระดับหลังจากที่เขามีอายุมากถึงเพียงนี ้ ในความเป็ นจริ งเขาอาจจะ
มาถึงขีดจํากัดของตัวเองแล้ ว
เมื่อคิดเช่นนัน้ หลินหมิงคิดถึงความทรงจําของชิ ้นส่วนวิญญาณจากผู้อาวุโส ในความทรงจํา
เหล่านี ้มีความทรงจําของการฝึ กฝนศิลปะการต่อสู้ มันเป็ นเรื่ องง่ายที่จะบอกถึงระดับต่างๆ
หลินหมิงกล่าว “ข้ าไม่ทราบถึงระดับของท่านปรมาจารย์ แต่ทา่ นได้ เคยกล่าวไว้ วา่ วิถีการต่อสู้
ถูกแบ่งออกเป็ นสองส่วนที่สําคัญ ตอนนี ้เขากําลังอยูใ่ นส่วนที่สอง ”
“โอ้ ? ส่วนที่สองรึ? “ดวงตาของมูย่ ี่สอ่ งสว่างขึ ้นมา เขากลัวว่าอาจเสียโอกาสที่จะได้ ฟังคําพูด
จากปรมาจารย์ระดับสูงเช่นนี ้ไป แม้ เพียงคําเดียว เพียงแค่คําเดียวก็ถือว่าลํ ้าค่ายิ่งนัก
ตาฉินชิงหวนบังเกิดความสดใสและเธอไม่อาจกระพริ บตาได้ เลยในขณะที่เธอได้ ฟังหลินหมิง
สนทนากับอาจารย์ของเธอ
บทที่ 27 การทดสอบ!
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
หลินหมิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาได้ มาถึงจุดสูงสุดของการฝึ กฝนกายภาพขันแรก ้
และอีกเพียงขันตอนเล็
้ กๆก็จะสามารถก้ าวไปสูข่ นที
ั ้ ่สองได้ แม้ จะไม่มีโอสถกวางทองก็คงจะใช้
เวลาอีกไม่กี่วนั เขาก็จะไปถึงขันที
้ ่สอง!!
การฝึ กฝนขันแรกคื
้ อการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย การฝึ กความแข็งแก่รงที่เป็ นปั จจัยที่แท้ จริ ง
ส่วนใหญ่ก็คือพละกําลังของกล้ ามเนื ้อและในขันที้ ่สองจะเป็ นการแพร่กระจายความแข็งแกร่ง
ไปทัว่ ร่างกาย ไม่เพียงแต่จะเพิ่มพละกําลัง ทังความคงทนของร่
้ างกายก็เช่นกัน ถึงแม้ จะไม่ถงึ
ขันอยู
้ ย่ งคงกระพัน แต่ก็บอกได้ วา่ แม้ แต่ดาบก็ยากที่จะแทงทะลุร่างกายได้ และมีอาการ
บาดเจ็บที่ลดลง ประสิทธิผลการต่อสู้โดยรวมก็จะเพิ่มขึ ้นอีกเล็กน้ อย
อย่างไรก็ตามจู้ยนั เองก็พงึ่ ไปได้ ถงึ แค่จดุ สูงสุดของขันที
้ ่สามในช่วงครึ่งปี ที่ผ่านมา ตัวเขาพึง่
มาถึงขันที
้ ่สองพร้ อมด้ วยวรยุทธ’ปฐมโกลาหล’ แต่เมื่อเทียบกับจู้ยนั แล้ วก็ยงั มีเพียงความห่าง
ชันที
้ ่มากเกินไประหว่างพวกเขา เมื่อจู้ยนั ได้ รับการฝึ กอบรมอีกครึ่งปี เขาเป็ นคนที่มีพรสวรรค์
ระดับสี่เช่นมัน คงจะมีความเร็วในการฝึ กฝนได้ อย่างรวดเร็ วในทํานองเดียวกัน
แม้ วา่ เขาจะยังไม่ได้ นอนเลย หลินหมิงยังรู้สกึ สดชื่นและไม่เหนื่อยหรื ออ่อนล้ าแม้ แต่น้อย เขารี บ
วิ่งออกไปและมุง่ หน้ าไปยังเทือกเขาโจว
ศาลาจันทร์ กระจ่างอยูห่ า่ งออกไปไม่กี่ไมล์จากสถานที่ที่หลินหมิงมักจะไปฝึ กฝน หากวิ่งออกไป
ด้ วยความเร็วสูง ก็ใช้ เวลาเพียงธูปหนึง่ ก้ านไหม้ หมดเท่านัน้ แต่วนั นี ้เขาจะได้ เริ่ มการฝึ กฝน
กายภาพเพื่อไปสู้ขนที
ั ้ ่สอง หลินหมิงจึงมีความสุขเป็ นพิเศษในเวลานี ้
หลังจากที่เขาไปถึงสถานที่ที่เขาฝึ กฝนเป็ นประจํา หลินหมิงโยนเป้ของเขาลงกับพื ้นดิน มันมี
วัสดุสําหรับปรุงยาและผ้ าพันแผล ยานี ้มันมีราคาไม่ใช่น้อยๆ ของพวกนันทั ้ งหมดเป็
้ นยาที่หา
ยากและมีคา่ แม้ แต่ผ้าพันแผลเองมันได้ ซมึ ซับนํ ้าหญ้ ากระดูกดําเอาไว้ ซึง่ ทําให้ มีคณ
ุ สมบัติ
เปรี ยบได้ กบั สมุนไพรชันเลิ
้ ศ ด้ วยสิ่งเหล่านี ้ เขาไม่ได้ มีความกังวลที่จะบาดเจ็บเลย หลินหมิง
สามารถเพลิดเพลินไปกับการฝึ กได้ มากเท่าที่หวั ใจของเขาต้ องการ
หลินหมิงกินยาเม็ดผสานวิญญาณเพื่อเพิ่มอัตราการดูดซับพลังปราณ หลินหมิงเริ่ มฝึ กฝน
‘ปฐมโกลาหล’ ซึง่ เป็ นวรยุทธขันที
้ ่หนึง่ ของ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’
ทวีปนภาริ นไหล ผู้ที่มีพละกําลัง 1000 จิ๋น ก็ถือว่าเป็ นความสําเร็ จเพียงเล็กๆน้ อยๆ หาก
สามารถก้ าวไปถึงขันที
้ ่ห้า ขันดั
้ ดกระดูก หรื อ ขันที
้ ่หก ขันผสานชี
้ พจร เมื่อถึงเวลานันเหล่
้ านักสู้
จะมีพละกําลังมากถึง 8000 จิ๋น และหากเป็ นผู้ที่พรสวรรค์ที่ลํ ้าเลิศเป็ นไปได้ วา่ เขาผู้นนั ้
สามารถแสดงพละกําลังขนาด 10,000 จิ๋นออกมาก็เป็ นได้
มันคือขีดจํากัด โดยทัว่ ไปสําหรับคนส่วนใหญ่และปรมาจารย์ทงหลายเมื
ั้ ่อมาถึงระดับปราณฟ้า
ขันต้
้ นพวกเขาก็จะถึงทางตัน ความแข็งแกร่งของพวกเขายากยิ่งนักที่จะสามารถพัฒนาต่อไป
ได้ อีก พวกเขาทําได้ เพียงเพิ่มพลังปราณให้ มากขึ ้นเท่านัน้
แต่หากเกิดปาฏิหาริ ย์ ผู้ใดที่สามารถเข้ าไปสูร่ ะดับปราณปลายฟ้าได้ พวกเขาจะเข้ าใจถึงพลัง
ปราณและพลังแห่งจิตวิญญาณ ถือได้ วา่ เป็ นเส้ นทางที่แท้ จริ งของเหล่านักสู้
แต่ที่ถกู บันทึกไว้ ใน ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ผู้มีพละกําลัง 1000 จิ๋นเป็ นเพียงจุดเริ่ มต้ น
เล็กๆเท่านัน้ ผู้ที่ฝึกมันแล้ วจะมีพละกําลังถึง 10,000 จิ๋น และคนส่วนเล็กๆที่เข้ าใจทังหมดของ
มันได้ อย่างถ่องแท้ และประสบความสําเร็ จ จะมีพละกําลังถึง 100,000 จิ๋น ในฐานะที่เป็ น
จุดสูงสุดของพลังที่ไม่อาจมีสิ่งใดมาต่อกรได้ หากพวกเขาสามารถเปิ ดแปดประตูสวรรค์เก้ า
ดวงดาวได้ แล้ ว คนๆนันสามารถยื
้ มพลังจากสวรรค์และแผ่นดินได้ การก้ าวเดินของพวกเขา
สามารถทลายได้ กระทัง่ ภูเขา หมัดของพวกเขาจะทําให้ ทวั่ ทังโลกปั
้ ่ นป่ วน เป็ นพลังที่ไม่อาจจะ
บรรยายได้ ด้วยวาจา ผู้ที่สามารถทําเช่นนันได้
้ ต้องมีพละกําลังเกินกว่า 1,000,000 จิ๋นเป็ นแน่
เมื่อหลินหมิงเห็นมันในความทรงจําของเขา เขาแทบจะไม่เชื่อความทรงจําของตัวเอง แต่ยงั ไง
ซะนี ้ก็เป็ นมรดกที่ตกทอดมาหลายพันปี จากดินแดนพระเจ้ า
แต่ด้วยพละกําลังแตกต่างกันกว่าพันเท่า มันก็อาจจะดูเหลือเชื่อเกินไป แต่เมื่อเขาสํารวจความ
ทรงจํานันให้
้ ละเอียด ทําให้ เขาได้ ทราบว่าเพียงคนเร่ร่อนและเด็กตัวเล็กๆที่วงิ่ เล่นกันอยู่ พวก
เขาเหล่านันมี
้ พละกําลังหลายพันจิ๋น สําหรับลูกศิษย์ในสํานักแล้ ว หากพวกเขาจะมีพละกําลัง
ระดับ 100,000 จิ๋นก็ถือเป็ นเรื่ องธรรมดาเมื่อที่แห่งนันคื
้ อดินแดนแห่งพระเจ้ า
ความทรงจํานี ้มีรายละเอียดมากมายทําให้ หลินหมิงเชื่อว่า แม้ จะเป็ นจอมพลฉินเสี่ยวก็ไม่อาจ
เทียบได้ กบั คนเร่ร่อนหรื อเด็กตัวเล็กๆในดินแดนพระเจ้ าด้ วยซํ ้า
อย่างไรก็ตามการเรี ยงลําดับของความแข็งแกร่งเหล่านี ้ยังห่างไกลจากหลินหมิงมากนักเพราะ
ถ้ าจะบอกว่าขันดั
้ ดกระดูกไปสูข่ นผสานชี
ั้ พจรเป็ นเรื่ องยากแล้ ว ขันดั
้ ดที่จะมีการเปิ ดแปดประตู
สวรรค์เก้ าดวงดาวก็คงเป็ นเรื่ องที่ยากขึ ้นไปอีก นับประสาอะไรกับหลินหมิง จากความทรงจํา
ของเขา เขารู้วา่ มีลกู ศิษย์จํานวนมากที่ไม่สามารถทํามันได้ เมื่อเทียบกับบุคคลในอาณาจักร
ลิขิตฟ้าแล้ วมันยากยิ่งกว่าการก้ าวจากปราณฟ้าขึ ้นต้ นไปปราณปลายฟ้าเสียอีก
หลินหมิงคิดถึงเรื่ องทังหมดนี
้ ้และหายใจเข้ าลึกๆ มันยังเร็ วเกินไปที่จะพิจารณาเรื่ องเหล่านัน้ สิ่ง
ที่เขาควรจะทําได้ ในตอนนี ้ก็คือฝึ กพื ้นฐานของ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ และอย่างน้ อยก็
ต้ องบรรลุขนตอน
ั้ ‘ไหลลืน่ ดุจแพรไหม’ ให้ ได้ เสียก่อน
‘ไหลลืน่ ดุจแพรไหม’ เป็ นวิชาที่สามารถโจมตีต้นไม้ ด้วยหมัดมันทําให้ เนื ้อเยื่อภายในเสียหาย
รุนแรงโดยที่เปลือกภายนอกไม่เป็ นอะไรเลยด้ วยซํ ้า
แต่ความทรงจําของผู้เฒ่านันออกจะเลื
้ อนรางไปบ้ าง หลินหมิงจึงยังไม่เข้ าถึงขันตอนนี
้ ้และทํา
ได้ เพียงพยายามที่จะค้ นหาส่วนที่ยงั ไม่ชดั เจนของมัน เหมือนชิ ้นส่วนจิกซอที่ขาดหายไป
ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของเมืองลิขิตฟ้า มีทีมกองกําลังทหารติดอาวุธที่ยืนอยูอ่ ย่างระมัดระวัง
หนุ่มนักรบชุดผ้ าไหมที่มีดาบยาวคาดไว้ ที่เอวของเขา ยืนอยูบ่ นทางเดินและมองไปรอบๆ ราว
กับว่าเขากําลังรอใครซักคนอยู่
ทันทีที่เวลาธูปไหม้ หมดก้ านผ่านไปชายหนุ่มอีกคนที่สวมหมวกและชุดเกราะ ค่อยๆเดินลงมา
ในห้ องโถง ดูเหมือนว่าเขาจะมีอายุยี่สิบปี กว่าๆ แม้ วา่ ความรู ปลักษณ์ของเขาจะไม่เหมือนกับ
เจ้ าชายนัก แต่การเดินและลมหายใจที่สงบนัน้ เขาดูเหมือนจะเป็ นปรมาจารย์ซะมากกว่า
เมื่อชายหนุม่ ชุดผ้ าไหม ได้ เห็นชายคนนี ้ก็ยิ ้มอย่างมีความสุข และกล่าวต้ อนรับต้ อนรับเขา
“กลับมาแล้ วรึทา่ นพี่ ท่านพ่อจะต้ องดีใจกับความสําเร็ จของท่านพี่แน่ๆ ”
ชายหนุ่มในชุดผ้ าไหมยิ ้ม เขาเป็ นคนที่ต้องเสียเงินถึง 1000 เหรี ยญทองและได้ รับเพียงความ
อับอายกลับ เขาคือ หวังยี่เกา
ในตอนนี ้หวังยี่เกาดีใจมาก แม้ วา่ เขาจะพยายามปิ ดเรื่ องนันเอาไว้
้ เป็ นความลับ และป้องกันมิ
ให้ ขา่ วการพ่ายแพ้ เสียเงินแพร่กระจายออกไป แต่พอ่ ของเขาก็ยงั รู้เรื่ อง ซึง่ ทําให้ พอ่ เขานันโกรธ
้
เคืองอย่างมาก
พ่อของเขาไม่ได้ โกรธในเรื่ องที่หวังยี่เกาเสียเดิมพัน แต่โกรธตรงที่เขาพ่ายแพ้ ให้ กบั หนุม่ ที่มีการ
ฝึ กฝนกายภาพขันที้ ่หนึง่ และยังได้ เสียชื่ออับอายกลับมาอีก มันจึงถือเป็ นความอับอายของ
ตระกูลที่อาจจะโดนดูถกู เยาะเย้ ยจากตระกูลอื่นๆ
หวังจูซ้ อู อกคําสัง่ ให้ กกั บริ เวณเขาเป็ นเวลาสองเดือนและเขาก็พงึ่ ได้ ออกมาในวันนี ้
การถูกกักบริ เวณเป็ นเวลาสองเดือน สร้ างความยากลําบากให้ แก่หวังยี่เกา เป็ นอย่างมาก
นอกจากจะไม่ได้ รับประทานอาหารดีๆแล้ ว ยังไร้ ผ้ หู ญิงคอยบําเรอ หรื อแม้ กระทัง่ พาลูกน้ องไป
เที่ยวข่มขวัญชาวบ้ านก็ไม่ได้ แถมยังต้ องมาทนนัง่ เรี ยนเรื่ องการทหารและทําการบ้ านของทาง
สํานักอีก
หวังยี่เกาเกลียดสิ่งเหล่านี ้ยิ่งกว่าอะไรที่เขาเคยได้ พบเจอมาเสียอีกและทังหมดนี
้ ้ก็เป็ นเพราะ
หลินหมิง มันทําให้ เขาไม่อาจจะยอมรับความเจ็บปวดและความอับอายในครัง้ นี ้ได้
แต่หวังยี่เกาก็ยงั ไร้ หนทางที่จะจัดการกับหลินหมิง เขาไม่มีลกู น้ องที่มีพละกําลังมากพอที่จะสู้
หลินหมิงได้ ยิ่งสู้ด้วยตัวเขาเองแล้ วยิ่งไม่ต้องพูดถึง และเหล่าเพื่อนๆของเขาเองที่นกั เลง
อันธพาลก็เทียบพลังของหลินหมิงไม่ไหว ยิ่งไปกว่านันเขายั ้ งโดนพ่อลดเงินที่ให้ เป็ นค่าใช่จ่าย
อีกต่างหาก จึงแทบเป็ นไปไม่ได้ ท่ีเขาจะไปจ้ างวานให้ ใครมาช่วย เขาจนปั ญญาที่จะแก้ แค้ น
หลินหมิง ทําได้ เพียงเก็บความขมขื่นที่ผ่านมาเอาไว้
จนกระทัง่ มาถึงวันนี ้ วันที่พี่ชายของเขากลับมาหวังยี่เกาดีใจจนแทบหลัง่ นํ ้าตา ในที่สดุ โอกาสที่
จะชําระแค้ นให้ กบั ความข่มขื่นที่เขาต้ องทนแบกรับมาตลอดก็มาถึงเสียที ดังนั ้ นเขาจึ
้ งตังหน้
้ า
ตังตารอท่
้ านพี่ของเข้ ากลับมา พร้ อมการต้ อนรับอย่างดี
หวังยี่หมิง มองไปยังน้ องชายที่น่าสงสาร พวกเขาทังสองล้
้ วนแล้ วเป็ นลูกของคนตระกูลหลัก
และยังมีพอ่ แม่คนเดียวกันอีกด้ วย พี่ชายจึงเข้ าใจความเจ็บปวดของน้ องชายได้ ในทันทีแต่ด้วย
ความมีเหตุผลแล้ วเขาจึงกล่าว “เจ้ ารอข้ ามาจนถึงวันนี ้เพื่อที่จะเล่าเรื่ องที่เจ้ าไปสร้ างความอับ
อายให้ กบั ตระกูลรึ?”มันเป็ นเรื่ องธรรมดาที่ทา่ นพ่อจะลงโทษเจ้ า
หวังยี่เกามองไปที่พี่ชายของเขาด้ วยแววตาอันน่าสงสาร“ท่านพี่ข้าเองก็เข้ าใจที่ทา่ นพ่อลงโทษ
ข้ า แต่เจ้ านรกที่มาลังแกข้ ามันหยิ่งยะโสโอหังเกินไป มันทําร้ ายลูกน้ องของข้ าและยังโกงการ
เดิมพันอีก ถือเป็ นการดูหมิ่นเกียรติตระกูลของเราอย่างมาก ”
หวังยี่หมิงได้ ฟังก็ร้ ูได้ วา่ ไอ้ น้องชายตัวแสบพยายามกุเรื่ องไร้ เหตุผลขึ ้นมาอธิบาย เขาตัดบท
อย่างหมดความอดทน”แกคิดว่าข้ าจะไม่ร้ ูรึวา่ แกนายต้ องการอะไร แกต้ องการให้ ข้าไปล้ าง
แค้ นให้ นายสินะ”
“พี่ชาย ท่านพี่เป็ นถึงยอดฝี มือ ไม่มีผ้ ไู ด้ อาจต่อกรท่านได้ การไปจัดการเจ้ าเด็กเลวนัน่ ก็
เหมือนกับแค่กระดิกนิ ้วเท่านันเอง”
้
หวังยี่หมิงกล่าว “ข้ าเป็ นถึงท่านแม่ทพั ที่มีชื่อเสียงใหญ่โต แต่แกกลับต้ องการให้ ข้าช่วยกําจัด
เด็กที่มีการฝึ กฝนกายภาพเพียงขันหนึ
้ ง่ ตลกซะจริ ง ฮ่าๆ”
หวังยี่เกายิ ้มเล็กน้ อย “ก็เป็ นเช่นนันจริ
้ ง มันอาจจะเกินเลยไปหน่อย คงไม่จําเป็ นต้ องถึงขนาดที่
เราจะขี่ช้างจับตัก๊ แตน แต่ทา่ นพี่ ท่านมีพลทหารที่แข็งแกร่งถึงสี่คนไม่ใช่รึ ให้ พวกเขาช่วยข้ าได้
หรื อไม่”
“ท่านพ่อของเราก็เป็ นถึง ผู้นํากองกําลังทหารนักรบแห่งเมืองลิขิตฟ้า บัลลังก็ใกล้ จะถูกส่งต่อ
อยูแ่ ล้ ว ช่วงเวลานี ้ถือเป็ นเวลาที่มีความเสี่ยงสูงมาก เจ้ าต้ องการให้ ข้าใช้ ทหารของข้ าในการแก้
แค้ นเรื่ องไร้ สาระให้ เจ้ าเนี่ยนะ เพื่อแก้ ไขในการกระทําการอันโง่เขล่าเบาปั ญญาของเจ้ าน่ะรึ
แล้ วเจ้ าคิดว่ามันจะเป็ นเช่นไรต่อไป ข้ าคิดว่าโดนกักบริ เวณเพียงสองเดือนคงไม่พอสําหรับ
เจ้ า” หวังยี่หมิงตะโกนใส่น้องชายและเดินจากไป
หวังยี่เกาถูกทิ ้งให้ อยูค่ นเดียวเหลือเพียงความคับแค้ นใจที่อยูเ่ คียงข้ างกับเขา เขานึกมาก่อน
เลยว่าแม้ แต่ทา่ นพี่ของเขาก็จะตําหนิติเตียนเขาเช่นนี ้ เขากําหมัดและกัดฟั นจนตัวสัน่ ด้ วย
ความโกรธแค้ น “เหี ้xเอ้ ย ข้ าไม่เคยรู้สกึ ถึงความทรมานน่าเวทน่าเช่นนี ้มาก่อน แก ไอ้ ชาติชวั่
หลินหมิง ถ้ าข้ าทําให้ แกพิการไม่ได้ ก็อย่ามาเรี ยกข้ าว่าคนตระกูลหวังเลย”
…
…
…
พระอาทิตย์ขึ ้นทางทิศตะวันออก และตกลงทางทิศตะวันตก ห้ าสิบวันผ่านไปอย่างรวดเร็ ว…
ณ ภูเขาโจว เด็กหนุ่มคนหนึง่ กําลังฝึ กซ้ อมการต่อสูอ่ ยูบ่ นที่ราบโล่งของป่ า ลมภูเขาพัดเสียดสี
กิ่งไม้ และใบไม้ ให้ เกิดเสียงดังที่แสดงความเป็ นเอกลักษณ์ของเขตป่ าไม้ แต่เสียงหมัดของเด็ก
หนุ่มกลับบดบังเสียงของสายลมได้ อย่างสิ ้นเชิง
“ปึ งง!!!”
ทันทีที่เด็กหนุ่มคนนันชกไปที
้ ่ต้นไม้ เบื ้องหน้ าของเขา เสียงแตกดังสนัน่ หวัน่ ไหวก้ องกังวาลไป
ทัว่ ทังป่
้ า ถึงแม้ วา่ ต้ นไม้ นี ้จะมีคณ ุ สมบัติเด่นในเรื่ องของความทนทานและความแข็งแกร่ง แต่
มันก็หกั สะบัน่ ภายในหมัดเดียวของชายหนุ่ม
เมื่อได้ ปล่อยหมัดออกไป ในขณะที่ฝนยั ุ่ งไม่ทนั ตกถึงพื ้นด้ วยซํ ้า เขาตวัดขาไปที่ทอ่ นล่างของ
ต้ นไม้ และได้ แยกมันออกเป็ นอีกสองส่วน
ถึงแม้ เขาจะยังไม่ร้ ูถงึ เคล็ดของ ‘ไหลลื่นดุจแพรไหม’ แต่เขาก็ได้ ก้าวผ่าน ‘ปฐมโกลาหล’ และ
เข้ าสูก่ ารฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สองที่มีความแข็งแกร่งสูงขึ ้นอย่างเห็นได้ ชดั ในตอนนี ้พลังของเขา
ก็คงจะอยูร่ าวๆ 2600 จิ๋น ชายหนุ่มที่วา่ นี่ก็คือ หลินหมิง ในห้ าวันที่ผ่านมา เขาได้ ฝึกอย่างไม่
หลับไม่นอนที่เขาแห่งนี ้ เขามียามากมายที่ประเมินค่ามิได้ และยังมียาเม็ดผสานวิญญาณอีก
กว่ายี่สิบเม็ด ด้ วยจํานวนเงินที่มากขนาดนัน้ หลินหมิงจ่ายด้ วยผลงานจารึกเพื่อซื ้อพวกมัน
อย่างไรก็ตาม แม้ วา่ จะมียามากมายขนาดนัน้ หลินหมิงก็ยงั ไม่สามารถไปถึงการฝึ กฝน
้ ่สามได้ การฝึ กอวัยวะภายใน เขาพยายามใช้ ความรู้จากวรยุทธ ‘จุดสูงสุดแห่ง
กายภาพขันที
ความโกลาหล’ เพ่งสมาธิไปยังการสร้ างรูปลักษณ์ขึ ้นมา ไม่ใช่สิ่งที่จะทําได้ ในเวลาอันสัน้
“นี่มนั ก็ห้าวันแล้ ว พรุ่งนี ้ก็จะถึงการสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ซะที เข้ น่าจะผ่านมันไปได้ อย่าง
ง่ายดาย” หลินหมิงพูดขณะหยิบเสื ้อที่วางบนโขดหินก้ อใหญ่ แล้ วตรงไปที่แม่นํ ้า
ภายใต้ แสงอาทิตย์ที่สาดส่อง กล้ ามเนื ้อของหลินหมิงจับตัวกันอย่างได้ สดั ส่วน แสงที่สาดลงมา
ที่ผิวของเขาส่องสว่างเป็ นประกายและถูกเติมเต็มด้ วยความแข็งแกร่งที่งดงาม เขาเหมือนดัง่
พยัคฆ์ที่พลิ ้วไหวด้ วยพลังอันสูงส่งของเขา แค่มองจากด้ านหลังมันยากที่จะเชื่อว่านี่เป็ นรูปร่าง
และจิตวิญญาณของเด็กหนุ่มอายุ15ปี
หลังจากอาบนํ ้าเสร็จแล้ ว หลินหมิงเก็บข้ าวของและไปจากภูเขาลูกนัน้ เขาพุง่ ตัวไปอย่าง
รวดเร็ วดุจเหยี่ยวที่กําลังไล่ลา่ กระต่าย ความเร็ วของเขาเปรี ยบดัง่ ความเร็ วแสง เขาหายเข้ าไป
ในป่ าที่กว้ างใหญ่ไพศาลภายในไม่กี่อดึ ใจ
บทที่ 28 แผนการอันชัว่ ร้ าย
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
ในทุกๆปี ณ เวลาช่วงเริ่ มต้ องของฤดูใบไม้ ร่วงและฤดูใบไม้ ผลิ สํานักเจ็ดแก่นแท้ จะมีการรับ
สมัครทดสอบบุคคลผู้มีความสามารถเข้ ามาเป็ นศิษย์ ซึง่ นี่ก็ถือเป็ นอีกหนึง่ วันที่สําคัญของพวก
หนุ่มๆที่ใช้ ชีวิตอยูใ่ นอาณาจักรลิขิตฟ้า ยิ่งโดยเฉพาะกับผู้ที่มีความใฝ่ ฝั นในการต่อสู้แล้ ว พวก
เขาไม่มีทางลืมวันนี ้อย่างแน่นอน
สําหรับพวกเขาแล้ วสํานักเจ็ดแก่นแท้ เปรี ยบเสมือนเป้าหมายสูงสุด หากพวกเขาทําได้ สําเร็ จ
พวกเขาก็เหมือนดัง่ มังกรที่ทะยานขึ ้นไปท่ามกลางท้ องนภาเปล่งประกายเจิดจรัสมีชื่อเสียงเป็ น
ที่ร้ ูจกั ไปทัว่
โดยสาเหตุหลักๆที่ผ้ คู นต้ องการจะเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ นนั่ ก็คือวรยุทธซึง่ เป็ นสิ่งที่สําคัญยิ่ง
สําหรับการต่อสู้ มันจะตกทอดลงมารุ่นสูร่ ุ่นเป็ นดัง่ มรดกที่ลํ ้าค่า นักสู้ทกุ คนต่างต้ องการที่จะ
เรี ยนรู้และฝึ กฝนมัน
และแต่ละครัง้ ที่สืบทอดมานัน้ มันก็ถกู สัง่ สมประสิทธิภาพมากขึ ้นๆตลอดเวลา เนื ้อหาภายใน
ล้ วนแล้ วแต่เป็ นจุดสูงสุดของเคล็ดวิชาทังสิ
้ ้น ซึง่ ทังหมดนั
้ นจะทํ
้ าให้ พวกเขามีพลังมากขึ ้นอย่าง
ก้ าวกระโดดและเอาชนะศิษย์พี่จากสํานักอื่นได้ อย่างง่ายดาย แต่หากว่าใครซักคนจะพยายาม
ที่จะเรี ยนเคล็ดวิชาเหล่านันด้
้ วยตัวเองแล้ วละก็ คงไม่ตา่ งจากคนโง่ๆคนหนึง่ ที่พยายามงมเข็ม
ในมหาสมุทร
แม้ วา่ วรยุทธทัว่ ๆไปก็เป็ นอีกทางหนึง่ ที่สามารถพัฒนาการต่อสูไ่ ด้ แต่ถ้าจะให้ ดีเลิศที่สดุ ก็ต้อง
เป็ นวรยุทธที่ถกู สืบทอดกันมาอย่างยาวนานจากสํานัก
ซึง่ วรยุทรเหล่านันก็
้ ถกู เก็บรักษาอย่างเคร่งครัดโดยแต่ละสํานัก ถ้ าพวกเขาค้ นพบว่ามีลกู ศิษย์
คนใดนํามันไปเผยแพร่แล้ วละก็ โทษอย่างเบาที่สดุ ที่ลกู ศิษย์คนนันจะได้
้ รับคือการถูกทําลาย
การฝึ กฝนที่มีมาทังหมดจากภายใน
้ และโทษสถานหนักก็คงเป็ นการประหารชีวิตในทันที
มันเป็ นเรื่ องยากที่จะส่งต่อวรยุทธเคล็ดวิชาต่างๆ และมันก็คงจะเป็ นเรื่ องที่ยากที่จะพยายาม
คัดลอกตําราที่วา่ ขึ ้นมา เคล็ดวิชาส่วนใหญ่จะมีความลึกลับและการเข้ าใจที่ยากอย่างสุดซึ ้ง
การไหลเวียนของพลังและความรู้สกึ ต่างๆ หนทางแห่งการปลูกฝั งพลังแต่ละขันตอน ้ สิ่งเหล่านี ้
ล้ วนแล้ วแต่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็ นตัวหนังสือได้
วรยุทธส่วนใหญ่มกั จะถูกบันทึกลงในแผ่นหยก ซึง่ ในหยกแผ่นเล็กๆก็จะบันทึกเกี่ยวกับข้ อมูล
ลับอัดแน่นเอาไว้ แม้ กระนันตํ
้ ารานี ้ก็ทําได้ เพียงอธิบายเท่านัน้ ถ้ าจะมีใครซักคนที่ต้องการ
สําเร็ จวรยุทธนันแล้
้ ว เขาผู้นนจํ
ั ้ าเป็ นที่จะต้ องเข้ าใจตําราวรยุทธนันอย่
้ างถ่องแท้ ซึง่ เป็ นเรื่ อง
ยากยิ่งนักที่จะทําได้ และนอกจากนันยั ้ งต้ องใช้ เวลาและความมุง่ มัน่ มากเกินกว่าจะบรรยาย
ออกมาได้
แม้ วา่ จะเข้ าใจในสิ่งที่บนั ทึกลงในตําราวรยุทธแล้ ว ทว่าในตําราวรยุทธเหล่านันก็ ้ มีความลับ
ซ่อนอยู่ มันไม่ใช่สิ่งที่ทกุ คนจะสามารถเข้ าใจได้ หมด ซึง่ มันก็เหมือนกับผ้ าขี ้ริ ว้ ห่อทอง ที่หากไม่
เข้ าใจและไม่ร้ ูความรับของมัน สมบัติเหล่านันก็้ เป็ นแค่เพียงกระดาษชําระแผ่นหนึง่
ด้ วยเหตุนนแผ่
ั ้ นหยกวรยุทธที่สืบทอดต่อๆกันมาจึงเหลืออยูน่ ้ อยมาก และไม่สามารถซื ้อได้ ด้วย
เงินทอง นี่ก็ถือเป็ นเหตุผลหนึง่ ที่เหล่านักสู้หนุ่มๆทังหลายกลายเป็
้ นบ้ าเพราะความต้ องการที่จะ
เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ เงื่อนไขที่จะผ่านเข้ าไปก็นบั ว่า โหดหินสุดๆ และทุกๆปี ผู้คนจํานวนมาก
ต่างก็ไม่ผ่านเงื่อนไขมากมายเหล่านัน้
หลินหมิงในตอนนี ้เขามีมรดกวรยุทธที่ลํ ้าค่ายิ่งว่านันเสี
้ ยอีก ด้ วยวรยุทธ“จุดสูงสุดแห่งความ
กาหล”ของเขา เขาจึงไม่คอ่ ยสนใจเกี่ยวกับตําราวรยุทธของสํานักเจ็ดแก่นแท้ มากนัก เหตุผลที่
ทําให้ เขาอยากจะเข้ าสํานักก็ไม่ใช่เพราะหลานยุยเยี่ย หลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะอุทิศทังชี
้ วิต
เพื่อก้ าวไปสูจ่ ดุ ยอดของการต่อสู้ หลายยุยเยี่ยก็ไม่มีความสําคัญใดใดกับจิตใจเขาอีกต่อไป
สาเหตุที่หลินหมิงต้ องการที่จะเข้ าสูส่ ํานักเจ็ดแก่นแท้ มิใช่เพื่อต้ องการเคล็ดวิชามรดกวรยุทธ
หรื อยาโอสถสมุนไพรใดๆ แต่เขาต้ องการสถานที่ที่พิเศษสําหรับฝึ กซ้ อมเพียงเท่านัน้ สถานที่
ดังกล่าวที่สร้ างขึ ้นจากวัสดุ มีสภาพแวดล้ อมพิเศษที่ถกู สร้ างขึ ้นโดยผู้อาวุโสปราณปรายฟ้า สิ่ง
เหล่านันทํ
้ าให้ ผ้ ทู ี่ได้ มาฝึ กในที่แห่งนี ้ได้ ผลลัพธ์จากการฝึ กเป็ นสองเท่า และใช้ พลังในการฝึ กฝน
เพียงครึ่งเดียวเท่านัน้
แต่สิ่งที่สําคัญไม่แพ้ กนั ก็คือทักษะการต่อสู้ ทักษะดังกล่าวจะเป็ นสิ่งที่มีบทบาทสําคัญเพราะ
มันจะแสดงพลังของคนๆนันออกมาได้ ้
(อธิบายนะครับ เผื่อใครไม่เข้ าใจ วรยุทธ์ก็เหมือนเลเวลยิ่งฝึ กยิ่งมีพละกําลังต่างมากขึ ้น ส่วน
ทักษะก็เหมือนสกิลหากมีทกั ษะกระบวนท่าที่เยี่ยมยอดแล้ วก็สามารถเอาชนะอีกฝ่ ายได้ เช่นไท้
เฟิ งที่ใช้ ทกั ษะจากจารึกของหลินหมิง)
หลินหมิงก็ร้ ูเกี่ยวกับสิ่งพวกนันมาบ้
้ างจากความทรงจําของผู้อาวุโสที่เข้ าได้ ดดู ซับมา ในทังหมด
้
นันเขาได้
้ เห็นทักษะต่างๆมากมายสามถึงสี่แบบ แต่พวกมันก็ยงั ไม่ครบสมบูรณ์ แต่ในความจริ ง
แล้ วแม้ พวกมันจะยังไม่สมบูรณ์ก็มนั ก็ยงั มีประสิทธิภาพสูงกว่าทักษะใดใดในอาณาจักรลิขิตฟ้า
อย่างเห็นได้ ชดั
ซึง่ ก็น่าเสียดายที่ สามในสี่ทกั ษะที่หลินหมิงได้ เห็นมา มันเป็ นทักษะของผู้มีระดับปราณปลาย
ฟ้า ซึง่ เป็ นไปไม่ได้ ที่เขาจะฝึ กฝนมัน เขาก็จําเป็ นต้ องไปให้ ถงึ ระดับปราณปลายฟ้าเสียก่อน ใน
ความทรงจําเหล่านันแม้ ้ แต่ทกั ษะที่ดจู ะอ่อนแอที่สดุ ก็ยงั สามารถถล่มทลายภูเขาทังลู ้ กทิ ้งไปได้
ด้ วยการทุบเพียงครัง้ เดียวไม่ต้องพูดถึงมนุษย์เลย เป็ นเรื่ องซะด้ วยซํ ้าที่จะทําลายทังเมื
้ องลิขิต
ฟ้าทังเมื
้ อง
แต่ถ้อยคําที่อยูใ่ นความทรงจําของเขาก็ไม่ตา่ งจากภาษาต่างแดน มันยากที่จะเข้ าใจ
ความหมาย
หลินหมิงจึงต้ องการผ่านการทดสอบของสํานักเจ็ดแก่นแท้ และเขาต้ องบรรลุถงึ ผลลัพธ์ที่ดีขึ ้น
ทุกๆปี ผู้ที่อยูบ่ นจุดสูงสุดของการทดสอบมักจะได้ รางวัลอันยิ่งใหญ่เสมอ
บางทีอาจจะเป็ นยาโอสถที่ลํ ้าค่าหรื อสมบัติชนเลิ
ั ้ ศที่มิอาจประเมินค่าได้ เพราะยาโอสถเหล่านี ้
จะถูกผลิตโดยสํานักเจ็ดแก่นแท้ แม้ แต่คนจากตระกูลที่มงั่ คัง่ ที่สดุ ในอาณาจักรก็ไม่สามารถจะ
ซื ้อมันได้
แม้ แต่ลกู ขุนนางชันสู
้ งก็ยงั ต้ องนํ ้าลายไหลด้ วยความอิจฉาเมื่อได้ เห็นของรางวัลเหล่านี ้ ซึง่
แม้ แต่หลินหมิงเองก็ยงั ถูกยัว่ ยวนด้ วยของพรรคนี ้เหมือนกัน ซึง่ แต่ก่อนพลังของเขาน้ อยกว่านี ้
เพราะเขาไม่ได้ สนใจมันนัก แต่ตอนนี ้มันทําให้ เขากระหายที่จะครอบครองพวกมันเป็ นอย่าง
มาก
ในวันแรกของฤดูใบไม้ ผลิ สนามกลางแจ้ งของสํานักลิขิตฟ้าเต็มไปด้ วยฝูงชนที่เบียดเสียดแน่น
อยูภ่ ายใน เพราะมีผ้ มู าลงสมัครมากเกินไป ซึง่ การสอบจะเริ่ มขึ ้นเมื่อดวงอาทิตย์ขึ ้นและจะ
ดําเนินไปตลอดทังวั
้ น
หลินหมิงและหลินเซี่ยวตงยังไม่ได้ เข้ าไปในพื ้นที่ที่เต็มไปด้ วยฝูงชนเหล่านัน้ พวกเขาทังสอง ้
เพียงอยูร่ อบๆสํานักลิขิตฟ้าเท่านัน้ แม้ วา่ จะไม่ได้ เข้ าไปด้ านใน แต่พวกเขาก็ยงั ได้ ยินเสียงดัง
ออกมาอย่างวุน่ วายเต็มไปหมด
“พวกเขาพูดกันว่าจะมีบคุ คลชนชันสู
้ งมาด้ วยมากมาย รวมถึงหวังยานเฟิ ง ด้ วยอายุเพียง 15
ปี และพรสวรรค์ระดับสี่ ทําสามารถไปถึงการฝึ กฝนกายภาพขึ ้นที่สามได้ ช่างเป็ นคนที่น่ากลัว
อะไรเช่น”
“มันไม่แปลกไปหน่อยรึ ทําไมเขาไม่สอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ตงแต่
ั ้ การสอบครัง้ ที่แล้ ว ทําไม
้ การคัดเลือกเมื่อฤดูใบไม้ ผลิกนั ล่ะ”
เขาไม่มาสอบเข้ าตังแต่
“ข้ าว่าเป้าหมายของเขาคงจะเป็ น นิกายสวรรค์ ทันทีที่เขาเข้ ามาที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ เขาก็
ต้ องการที่จะเข้ าร่วมนิกายสวรรค์ ช่างเป็ นคนที่อกุ อาจยิ่งนัก”
“เอ่อ…แต่วา่ นิกายสวรรค์ก็ถือเป็ นนิกายที่เข้ าร่วมได้ ยากยิ่งนัก ในช่วงหลายปี ที่ผ่านมาผู้ที่เข้ า
ร่วมกับนิกายสวรรค์ได้ มีเพียง แต่ ฉินชิงหวนเท่านัน้ ขันตํ ้ ่าที่จะสามารถเข้ าไปได้ จะต้ องมีการ
ฝึ กฝนถึงจุดสูงสุดของการฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สาม ทังพวกที
้ ่อยูใ่ นนิกายสวรรค์ก็เป็ นพวกมีการ
ฝึ กฝนกายภาพขันที ้ ่สี่ แม้ แต่หวังยานเฟิ งก็ยงั ไม่มีคณ
ุ สมบัติพอจะเข้ าร่วมได้ ข้ าคิดว่าเขาแค่มา
เพื่อเอารางวัลจากการทดสอบเท่านัน”
้
นิกายสวรรค์อย่างนันรึ
้ !!!
หลินหมิงพึมพําในใจ เมื่อครึ่งปี ที่แล้ วจู้ยนั พึง่ ไปถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สามเพื่อที่จะเข้ าร่วมกับ
นิกายสวรรค์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังของเขาโดดเด่นขนาดไหนในบรรดาคนรุ่นเดียวกัน ยิ่งไม่
ต้ องพูดถึงหวังยี่เกาเลย มันเป็ นเพียงคนตระกูลชันสู ้ งที่ไม่ฝึกฝนและไร้ ความสามารถ
ขณะที่ลินหมิงกําลังคิดอย่างเหม่อลอย เขาก็ร้ ูสกึ ได้ วา่ มีใครกําลังจ้ องมองเขาอยู่
ในฝูงชนขนาดใหญ่ มีจํานวนหลายคนที่มองมาที่เขาก็จริ ง แต่เขารู้วา่ คนเหล่านี ้มองมาอย่าง
ไม่ได้ เจตนา แต่หลินหมิงที่ได้ ฝึกฝน “ปฐมโกลาหล” มาก่อน ทําให้ เขามีประสาทสัมผัสที่เฉียบ
คมเป็ นพิเศษ แม้ วา่ จะมีคนมองมาที่เขามากมายแต่เขาก็สมั ผัสได้ ถงึ สายตาที่เย็นชาคูน่ งึ ที่
กําลังจ้ องมองดูเขาอยู่
เขาแกล้ งทําเป็ นไม่ร้ ูเรื่ องขณะที่หนั หน้ าไปดู เขาเห็นรถม้ าสีฟ้ากําลังเคลื่อนตัวเข้ ามา แต่เมื่อเขา
หันไปม่านรถม้ านัน่ ก็ปิดสนิทเสียแล้ ว
หลินหมิงถอนหายใจ เขายังไม่แม้ แต่จะได้ เริ่ มการทดสอบคัดเลือกเลย ก็มีคนว่างแผนจะกําจัด
เขาซะแล้ วอย่างนันรึ
้
ในเวลาเดียวกันภายในรถม้ าดังกล่าว มีหนุ่มในชุดผ้ าไหมและคนที่มีทา่ ทางมืดมนนัง่ อยูข่ ้ างๆ
เขาคือหวังยี่เกาและจู้ยนั
“มัน….มันยังไม่เห็นเรา” หวังยี่เกากล่าวขึ ้นอย่างกล้ าๆกลัวๆ ถึงแม้ วา่ เขาอยากจะประกาศต่อ
หน้ าทุกคนว่าต้ องการแก้ แค้ น แต่เขาก็กลัวหลินหมิง การเคลื่อนไหวสามกระบวนท่าของหลินห
มิงทําให้ เขาพ่ายแพ้ อย่างเจ็บปวด น่าอับอาย และสิ่งเหล่านันยั
้ งเป็ นรอยแผลในจิตใจที่ทําลาย
ความมัน่ ใจของเขามาจนถึงในวันนี ้
จู้ยนั กล่าวอย่างเรี ยบๆ “หยุดหวาดกลัวซะ และเลิกทําท่าน่าสมเพศได้ แล้ ว มีคนตังมากมายอยู ้ ่
ที่นี่ มันไม่ได้ มีตาหลังที่จะมามองเจ้ า เจ้ ากลัวมันงันรึ
้ ไอ้ คนบ้ านนอกที่จะเข้ าสูข่ นที
ั ้ ่สองได้ หรื อ
ยังก็ยงั ไม่ร้ ูคนนัน”
้
ช่องว่างระหว่างขันที ้ ่1และ2นันมี
้ พละดําลังต่างกันอย่างยิ่ง เด็กบ้ านนอกที่อายุ15ปี ที่ทําได้ ถงึ
ขนาดนี ้ก็ไม่ใช่เรื่ องง่ายๆเลย โดยเฉพาะหลินหมิงที่มีมาจากครอบครัวที่ยากจนด้ วยแล้ ว แถมยัง
มีพรสวรรค์เพียงระดับ3
“ข้ าว่าเจ้ านัน่ ต้ องฝึ กอะไรประหลาดๆเป็ นแน่ ขนาดข้ ากว่าจะไปถึงการฝึ กฝนขันที
้ ่สองได้ ก็อายุ
16ปี แล้ ว เขาอาจจะฝื นฝึ กฝนจนเกินกําลังและบาดเจ็บภายในก็เป็ นได้ เจ้ าโง่นนั่ มันอาจจะมี
สภาพไม่ตา่ งจากคนพิการในอีกไม่กี่ปีข้ างหน้ า”
หวังยี่เกาสาปแช่งอย่างโหดร้ าย ส่วนจู้ยนั เองก็แอบดูถกู เจ้ าคนขี ้ประจบประแจงคนนี ้ในใจ
แม้ วา่ หวังยี่เกาจะมียาหายากราคาแพง มันก็ยงั ทําได้ เพียงมาถึงขันที้ ่สองตอนอายุ16ปี เท่านัน้
ยิ่งกว่านันทั
้ กษะการต่อสู้ของมันก็ยงั อ่อนสุดๆ ถ้ าพ่อของมันไม่ใช่คนใหญ่คนโตในเมืองลิขิตฟ้า
จู้ยนั ก็คงไม่มาทําตัวสนิทสนมเป็ นมิตรกับมันอย่างแน่นอน
จู้ยนั กล่าวขึ ้น “ตามหลักปกติแล้ วมันคงจะเป็ นไปไม่ได้ ที่มนั จะมีการฝึ กฝนกายภาพขันที
้ ่สองใน
เวลานี ้ แต่หากมันมี1000เหรี ยญทองที่ได้ จากเจ้ าไปนันล่
้ ะ มันจะเป็ นเหตุผลที่ไอ้ บ้านนอกนันจะ
้
้ ่สองได้ ”
ไปถึงขันที
เมื่อได้ ยินจู้ยนั พูดแบบนัน้ หวังยี่เกาหน้ าแดงขึ ้นมาทันที เขาไม่คิดว่าจู้ยนั จะรู้เรื่ องความอับอาย
ของซะอีก(เขินสิมงึ 555)
ทังๆที
้ ่หวังยี่เกาพยายามปิ ดเรื่ องทังหมดนี
้ ้เป็ นความลับ แต่มนั ก็ขา่ วมันก็เผลแพร่ไปอย่าง
รวดเร็ ว คงยากที่จะมีซกั คนที่จะไม่ร้ ูเรื่ องเหล่านี ้
แก…!!! ไอ้ หมาบ้ านนอก แกมันชาติชวั่ สารเลวสิ ้นดี
จู้ยนั เลิกสนใจท่าทางของหวังยี่เกา สีหน้ าของเขาดูมืดมน ถ้ าหากจะว่าไปสําหรับเด็กอายุ16ปี
ถ้ าพละกําลังของมันก้ าวผ่านขันที ้ ่สองไปได้ มันก็มีโอกาสได้ เข้ าร่วมสํานักเจ็ดแก่นแท้ ศิษย์
หลายๆคนส่วนใหญ่ก็เข้ ามาแบบนี ้ สําหรับพวกคนเหล่านี ้มักจะมียาโอสถราคาแพงที่คอย
ส่งเสริ มให้ บรรลุถงึ ขันที
้ ่สองได้ ไม่ยาก
ซึง่ อันที่จริ งสํานักเจ็ดแก่นแท้ ก็ไม่สนใจอยูแ่ ล้ วว่าทางตระกูลจะช่วยเหลือพวกเขาหรื อไม่
อย่างไรทังหมดนี
้ ้ก็ถือเป็ นส่วนหนึง่ ของการต่อสู้ ฐานะของตระกูลก็ถือเป็ นการแข่งขันอย่างหนึง่
เช่นกัน ไม่วา่ จะใช้ พลังการฝึ กฝนของตัวเอง หรื อใช้ ยาโอสถช่วย พวกนันก็ ้ ประสบความสําเร็ จ
เป็ นนักสู้จากสํานักเจ็ดแก่นแท้ เช่นเดิม
สําหรับผู้ที่ต้องพึง่ ยาโอสถในการก้ าวขึ ้นมายังขันที
้ ่สองเพื่อจะได้ เขาสํานักเจ็ดแก่นแท้ พวกเขา
ยังห่างชันกั
้ บหลินหมิงที่มีทกั ษะต่อสู้และประสบการณ์อีกมากนัก ดังนันโอกาสของหลิ
้ นหมิงจึง
มีมากกว่า
จู้ยนั ไม่ต้องการให้ หลินหมิงได้ เข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ เขาไม่ได้ กลัวว่าหลินหมิงจะแข็งแกร่งกว่า
เขา มันเป็ นเพียงเด็กบ้ านนอกพรสวรรค์ระดับสาม ซึง่ จู้ยนั มัน่ ใจในตัวเองมากว่า แม้ หลินหมิง
จะพัฒนาแบบก้ าวกระโดดและเอาชนหวังยี่เกาได้ ก็ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร เพราะหวังยี่เกามีการ
ฝึ กฝนกายภาพเพียงขึ ้นที่สองเท่านัน้ นอกจากความสามารถขึ ้นที่สองที่ได้ มากจากสาและโอสถ
ที่ปราศจากการฝึ กฝนแล้ ว มันยังมีทกั ษะที่ออ่ นแอมาก
เขามีความมัน่ ใจมากว่าเขาจะสามารถอยูเ่ หนือหลินหมิงได้ ตลอดเวลา หากหลินหมิงสอบเข้ า
มาได้ จริ งๆ มันคงจะไปกระตุ้นจิตใจของหลายยุยเยี่ยอย่างมากเป็ นแน่
หลานยุยเยี่ยก็ยงั ไม่ลืมความสัมพันธ์อนั ใกล้ ชิดสนิทสนมกับหลินหมิง มันยังจะเหมือนเดิมอยูร่ ึ
เปล่าถ้ าเจ้ านัน่ สามารถผ่านการทดสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ เข้ ามาได้ จู้ยนั หลงรักหลายยุยเยี่ย
ครึ่งหนึง่ เป็ นเพราะรูปโฉมอันงดงามของนาง อีกครึ่งเป็ นความหึงหวนที่ไม่อาจให้ มีชายใดมาอยู่
นาง
เนื่องจากตระกูลของจู้ยนั มีความสัมพันธ์กบั ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ เขาจึงมีเส้ นสายกับสํานักเจ็ดแก่น
แท้ อยูบ่ ้ าง อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยของที่สํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นกลางและ
เข้ มงวดมาก ยากที่จะให้ เส้ นสายกีดกันหลิ
้ นหมิงออกจากการเข้ าทดสอบ แผนการเดียวที่อยูใ่ น
หัวเขาก็เหลือเพียง…….ไม่ให้ หลินหมิงได้ มีโอกาสเข้ าร่วมการทดสอบในครัง้ นี ้
บทที่ 29 ทหารม้ าลอยฟ้า
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
จู้ยนั ครุ่นคิดขณะจ้ องมองแหวนบนนิ ้วของเขา “พี่หวัง เมืองลิขิตฟ้าเองก็เป็ นบ้ านของท่าน ท่าน
คงมีเส้ นสายความสัมพันธ์กบั ทางแม่ทพั พี่ชายของท่านอยูบ่ ้ าง ท่านพอจะติดต่อให้ ผ้ ทู ี่มีการ
้ ่4ได้ ซกั คนหรือไม่” จู้ยนั ไม่แน่ใจในพลังที่แท้ จริ งของหลินหมิง หลินหมิงอาจจะเก่ง
ฝึ กฝนขันที
กว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ ก็เป็ นได้ เขาไม่ต้องการให้ เกิดความผิดพลาดเช่นเดียวกับกรณีของหวังยี่
เกา เพื่อความแน่ใจแล้ วเขาไม่ควรส่งผู้ฝึกฝนขึ ้นสามไปจัดการ การส่งส่งผู้ที่อยูใ่ นขันสี
้ ่ไป
จัดการคงจะเป็ นการแน่นอนและมีประสิทธิมากกว่า
้ ่4 แต่…พวกเขาเป็ นคนอารักขาของท่าน
หวังยี่เกากล่าว”ข้ ารู้จกั หลายคนที่อยูใ่ นการฝึ กฝนขันที
พ่อและท่านพี่ เพราะสิ่งที่ข้าทําไปก่อนหน้ านัน้ ท่านพ่อจึงออกคําสัง่ ให้ ข้าไร้ อํานาจที่จะสัง่
นักรบในกองทัพของท่านพ่อ”
เหล่าผู้ที่มีการฝึ กฝนขันที
้ ่4 ก็มกั จะไม่ใช่พวกวัยรุ่น คนพวกนี ้จะอายุประมาณ30ปี และอยูใ่ น
ตําแหน่งที่สงู ด้ วย เช่นเป็ นผู้อารักขาส่วนตัว เป็ นไปไม่ได้ ที่หวังยี่เกาจะของร้ องให้ พวกเขาลดตัว
ลงมาทํางานตํ่าๆอย่างจดการกับเด็กอายุ15ปี คนหนึง่
จู้ยนั ครุ่นคิดและกล่าวกับหวังยี่เกา “หัวหน้ าผู้รักษาความปลอดภัยในครัง้ นี ้ มิใช่เฉ่าหมิงชาน
หรอกรึ ดูเหมือนเขาพึง่ จะได้ รับการเลื่อนตําแหน่งเป็ นหัวหน้ าเมื่อเร็วนี ้”
หวังยี่เกาแสดงสีหน้ าประหลาดใจ แต่เขาก็พยักหน้ าและกล่าว “ใช่แล้ ว พี่เฉ่าเองก็เป็ นมิตรดี
ต่อข้ าเช่นกัน”และ เฉ่าหมิงชานก็เป็ นถึงหัวหน้ าผู้รักษาความปลอดภัยของเมืองลิขิตฟ้า
ผู้รักษาความปลอดภัยของที่นี่จะแบ่งเป็ นสองส่วนก็คือกองกําลังทัว่ ไปและกองกําลังองครักษ์
กองกําลังทัว่ ไปจะรับผิดชอบในส่วนของชาวเมือง เช่นปราบโจรและรักษากฎหมาย ส่วนกอง
กําลังองครักษ์ จะคอยอารักขาเชื ้อพระวงศ์และกษัตริ ย์ และรวมถึงต่อต้ านพวกกบฏ
“ฮ่า..ข้ ารู้แล้ วว่าจะจัดการไอ้ หลินหมิงอย่างไร…”จู้ยนั มองลอดผ่านช่องว่างของม่านออกไป
และจ้ องไปที่หลินหมิงดัง่ งูพิษขณะที่ใบหน้ าของเขาก็มืดลงเรื่ อยๆ
การทดสอยเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ จะแบ่งเป็ นสามตอน ทดสอบพละกําลัง ทดสอบความมุง่ มัน่
ทดสอบความประณีต
ในตอนเช้ านี ้จะเป็ นการทดสอบแรก การทดสอบพละกําลัง
การฝึ กพละกําลังถือเป็ นขันแรกที
้ ่จะก้ าวการฝึ กฝนขึ ้นที่1 และก็เป็ นจุดเริ่ มต้ นของทักษะการ
ต่อสู้ทงมวล
ั้ ถ้ าพละกําลังไม่กล้ าแข็งพอ การจะฝึ กเลือดลม อวัยวะภายใน การแปรรูป
กล้ ามเนื ้อและกระดูกก็เป็ นอันสูญเปล่า
ด้ วยเหตุนนั ้ พละกําลังจึงเป็ นสิง่ สําคัญต่อทักษะการต่อสู้อย่างมาก การประเมินกําลังนันก็
้ งา่ ย
มาก หากผ่านการทดสอบไปได้ ก็จะเป็ นการลดจํานวนคูแ่ ข่งลงได้ เยอะมาก
เพราะฉะนัน้ ทางสํานักเจ็ดแก่นแท้ จงึ ทําการทดสอบพละกําลังเป็ นอันดับแรก
การทดสอบก็คือ จะมีหินที่สงู เท่ากับใหญ่กว่าสองเมตร มันจะมีแสงที่ยอดหินก้ อนนัน้ เมื่อมีคน
มาชกที่หิน แสงก็จะปรากฏเป็ นสัญญาณที่บง่ บอกถึงพละกําลังของคนๆนันโดยจะบอกค่
้ าได้
ตังแต่
้ 100 จิ๋น ไปจนถึง 1000 จิ๋นถ้ าหากออกแรงได้ น้อยกว่านันจะไมมี
้ อะไรเกิดขึ ้น
แต่สําหรับผู้ที่อยูบ่ นจุดสูงสุดของการฝึ กฝนขันที
้ ่1 แม้ จะมีพละกําลังขนาดบดขยี ้ไม้ ที่แข็งแกร่ง
ได้ ทว่าโดยปกติพวกเขาจะมีพละกําลังเพียง 900 จิ๋น มันจึงไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะผ่านการทดสอบ
แรกไปได้
ซึง่ หลินหมิงก็เคยทดสอบพละกําลังของเจากับต้ นไม้ เหล็กมาก่อนแล้ ว เขามีพละกําลังมากกว่า
หนึง่ พันจิ๋นอย่างแน่นอน ตอนนี ้ที่เขามาถึงการฝึ กฝนขึ ้นที่สองเขาคงมีพละกําลังประมาณ2600
จิ๋นเป็ นอย่างน้ อย ทังหมดนี
้ ่เป็ นเพราะวรยุทธ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ซึง่ ในการทดสอบนี ้
พละกําลังก็ถือเป็ นจุดเด่นของลินหมิงอยูแ่ ล้ ว ดังนั
้ นเขาจึ
้ งสามารถแข่งขันกับคนอื่นๆได้ ในด้ าน
นี ้
ณ ลานกว้ าง การทดสอบยังไม่ได้ เริ่ มขึ ้นหลินหมิงกําลังทําสมาธิให้ พร้ อมอยู่บนแท่นหิน เขา
กําลังกําหนดลมหายใจของเขาอยู่
้ มีเสียงดังตะโกนออกมาอย่างน่าลําคาน “หลบไป….หลบออกไป”
และในตอนนันก็
หลินหมิงเปิ ดตามองและก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชายอายุประมาณยี่สิบปี รี บกินอาหารทังที
้ ่ขี่ม้าอยู่
เขาสวมเกราะเงาวับเป็ นประกาย ในมือของเขาถือหอกยาวกว่าสองเมตรหนาเท่ากับท่อนแขน
เด็ก เขาเปิ ดทางฝูงชนด้ วยการเหวี่ยงหอกนันพร้
้ อมกับอีกมือที่กําลังควบม้ าอยู่
เสียงกีบเท้ าของม้ าดังไปทัว่ เหล่าฝูงชนก็พากันกระจัดกระจายออกไปคนละทิศละทาง หลินหมิ
งมองด้ วยท่าทีไม่พอใจ “วันนี ้เป็ นถึงวันทดสอบของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ทางอาณาจักรควรต้ องมี
ผู้รักษาความปลอดภัยมาคอยดูแลความเป็ นระเบียบเรี ยบร้ อยมิใช่รึ เหตุใดคนบ้ าแบบนันถึ
้ ง
เข้ ามาก่อความวุน่ วานเช่นนี ้ได้ ”
หลินหมิงพึง่ สังเกตได้ วา่ ถึงแม้ เขาจะแหวกทางอย่างอุกอาจรุนแรงเช่นนัน้ แต่เขาก็ไม่ได้ ชน
กระแทกใครเลย ดูเหมือนว่าเขาจะมีทกั ษะการต่อสู้ที่ดีพอตัว รวมถึงทักษะในการขี่ม้าด้ วย
หลินหมิงนัง่ อยูท่ ี่ด้านข้ างของล้ านกว้ างมาตังแต่
้ แรกและก็ยงั ไม่ได้ ลกุ ออกไปไหน ในตอนนัน้
หลินหมิงก็ได้ เห็นผู้ชายคนนันยิ ้ ้มลางๆ ก่อนจะสะบัดบังเหียนม้ าและควบมาด้ านหน้ าของเขา
ไป
หลินหมิงรู้สกึ แปลกๆ เขารู้สกึ ว่าผู้ชายคนนันต้
้ องเกี่ยวข้ องกับเขา ม้ าเร็ วที่ถกู ควบให้ วิ่งมาอย่าง
ว่องไว ไม่เพียงแค่นนั ้ ด้ วยหอกที่เขาถือนันน่
้ าจะหนักอย่างน้ อย 100 จิ๋น บวกกับความเร็ วของ
ม้ าด้ วยแล้ ว หอกนันสามารถทลายกํ
้ าแพงได้ เลยทีเดียว
เมื่อเขาเข้ ามาถึงระยะ10เมตร หอกของเขาก็เริ่ มเปล่งแสงสีเหลืองออกมา
ทักษะการต่อสู!่ !!
“พวกมันคงกังวลเกี่ยวกับข้ ามากสินะ ถึงขนาดใช้ ทกั ษะการต่อสู้มาจู่โจมข้ าก่อน” หลินหมิงคิด
ขณะอ้ าแขนขวาออกเล็กน้ อย เพื่อให้ พลังของ ‘ปฐมโกลาหล’ ได้ โคจรในตัวเขาอย่างรวดเร็ ว
เมื่อผู้ชายคนนันอยู
้ ใ่ นระยะ3เมตร หลินหมิงก็กระโจนออกมาจากที่ๆเขาเคยนัง่ อยู่ หลินหมิง
ไม่ได้ พยายามที่จะหลบ แต่พงุ่ มือทังสองข้
้ างออกไปเพื่อจับหอกไว้
ด้ วยหอกที่อยูใ่ นมือ หลินหมิงโคจรพลังไปที่มือและเท้ าของเขา เท้ าขวาของเขาถอยหลังไปหนึง่
ก้ าว และติดกับแท่นหิน และด้ วยแรงจากมือทังสอง้ ก็เกิดการปะทะของพละกําลังขนาด 2600
จิ๋นขึ ้น
ลินหมิงคํารามออกมา ขณะที่มือยึดหอกเล่มนันเอาไว้
้ ผู้ชายคนนันถู
้ กหลินหมิงยกขึ ้นผ่านหอก
อย่างช้ าๆราวกับหุน่ ฟางขึ ้นไปกลางอากาศ
ชายคนนันเป็
้ นต้ องประหลาดใจ เขารู้สกึ เหมือนว่ากําลังลอยได้ อยูก่ ลางอากาศ และสายตาก็
พร่ามัวขณะถูกหมุนเหวีย่ งออกไปอย่างรุนแรง เขากระแทกลงบนพื ้นดินในเวลาต่อมา เกิด
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแล่นเข้ าสูส่ มอง อาจเป็ นไปได้ วา่ อวัยวะภายในของเขาจะเคลือ่ นตัว
ไปอยูผ่ ิดที่ผิดเสียแล้ ว ราวกับพุง่ เข้ าชนต้ นไม้ แล้ วเลือดทะลักออกจากปาก
หลินหมิงเขวี ้ยงหอกที่หนักถึง 100 จิ๋นทิ ้งไปและนัง่ ลงกับพื ้น ผู้ชายคนนันมี
้ การฝึ กฝนเพียงขันที
้ ่
สองเท่านัน้ แม้ วา่ เขาจะมีม้าคอยหนุนแรงให้ แต่ถ้าเทียบกับ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ แล้ ว
ละก็ มันยังห่างชันกั้ นอีกหลายขุม
ฝูงชนที่มองอยูต่ า่ งตกตะลึง ทังๆที
้ ่ชายคนนันพุ
้ ง่ ตัวมาอย่างรวดเร็ วเข้ าปะทะกับหลินหมิง แต่
กลายเป็ นว่าเขากลับถูกหลินหมิงจับโยนออกมาไปอย่างรุนแรง คนคนนันไม่ ้ ตง่ จากปี ศาจที่ชวั่
ร้ ายในคราบมนุษย์
จู้ยนั ที่ได้ มองอยูไ่ กลๆบนรถม้ า สีหน้ าของเขามืดมนลงเรื่ อยๆ หวังยี่เกาไอ้ คนไร้ ประโยชน์ แม้ แต่
คนรู้จกั ของมันก็ไม่ตา่ งจากไอ้ เศษสวะตัวหนึง่ ทังๆที
้ ่มีม้าเสริ มแรงและความเร็ วให้ ขนาดนัน้ แต่
ก็ยงั ถูกรับไว้ ได้ และบาดเจ็บสาหัสกลับมา
อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ คาดไว้ แล้ วถึงผลลัพธ์เช่นนี ้ เขาแค่คิดไม่ถงึ ว่าหลินหมิงจะโต้ ตอบด้ วย
ความโหดร้ ายถึงเพียงนี ้
ทันใดนัน้ เหล่าฝูงชนต่างก้ าวถอยหลังออกไปและมีเสียงตะโกนดังลัน่ “นี่มนั เรื่ องอะไรกัน มี
ผู้ใดกล้ าทําร้ ายผู้อื่นในที่สาธารณะของสํานักเจ็ดแก่นแท้ ด้วยรึ”
ทันทีที่หลินหมิงหันไปมอง ก็เห็นหวังยี่เกาได้ เดินนําฝูงชนมาที่เกิดเหตุ เขาเองได้ แต่ดถู กู มันอยู่
ในใจ ทังหมดนี
้ ้นี ้ก็เป็ นแผนการแก้ แค้ นของไอ้ ชาติชวั่ นี ้งันสิ
้ นะ
หวังยี่เกามองดูชายที่ถกู เหวี่ยงลอยกลางอากาศมากระแทกลงกับพื ้น เขาถึงกับต้ องใจหาย
พลังกําลังของหลินหมิงสูงจนน่าตกใตจริ งๆ แต่เขาก็ยงั รักษาท่าทีที่สงบเอาไว้ เขากัดฟั นแน่น
และหันไปมองลินหมิงด้ วยความโกรธแค้ น “หลินหมิง เจ้ าคนสารเลว ครัง้ แล้ วครัง้ เล่าที่เจ้ าทํา
ร้ ายคนของข้ า ข้ าจะไม่ถามเกี่ยวกับรายละเอียดเล็กน้ อยนันเหล่
้ านัน้ แต่ครัง้ นี ้เจ้ าทําเกินไป
แล้ ว”
“เอาเลยทุกคน เอาตัวมันมาให้ ข้า จะฆ่ามันทิ ้งเลยก็ยอ่ มได้ การถูกสังหารของมันข้ าจะ
รับผิดชอบเอง”หวังยี่เกา ตะโกนอย่างกล้ าหาญ แต่ผลของมันกลับไม่เป็ นไปตามคาด ไม่มีใคร
กล้ าขยับเขยื ้อนเลยแม้ แต่คนเดียว
“ฆ่ามันแล้ วแกจะรับผิดชอบรึ แกมันโง่เง่า ถ้ าหากมันฆ่าพวกเราแกจะรับผิดชอบอย่างไร”
ฝูงชนที่อยูต่ รงนันต่
้ างก็มีการฝึ กฝนเพียงขันที
้ ่1เท่านัน้ น้ อยนักที่จะมีผ้ ไู ปถึงขันที
้ ่2รวมอยู่ พวก
เขาซึง่ ได้ เห็นฉากน่าขนหัวลุกตรงหน้ าที่ลินหมิงได้ เหวี่ยงชายคนนันลอบไปในอากาศนอนคาที
้ ่
อยูจ่ นถึงในตอนนี ้ สิ่งเหล่านันยั
้ งคงเป็ นภาพติดตาน่าหวาดกลัวในใจของพวกเขา
หลินหมิงพูดสวนกลับไปอย่างยัว่ โมโห “สามเดือนมานี ้พวกแกก็ยงั อ่อนหัดไม่ตา่ งจากเดิม ยัง
อับอายกันไม่พออีกรึ”
บทที่ 30 กําราบบุตรท่านแม่ทพั
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
เมื่อได้ ยินคํากล่าวยัว่ ยุจากหลินหมิง ถึงเรื่ องเมื่อ 3 เดือนก่อน หวังยี่เกาก็โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ
มันเป็ นสิ่งที่น่าอับอายที่สดุ ในชีวิตเขา
“พวกเจ้ ารออะไรกันอยู!่ จะจัดการมันดีๆหรื อจะไปด้ วยนํ ้าตา?”
ในบรรดาลูกน้ องที่ติดตามหวังยี่เกา ล้ วนแล้ วแต่เคยไปข่มเหงรังแกผู้คนทังชายหญิ
้ ง หวังยี่เกา
เป็ นดัง่ ร่มเงาของพวกเขา
ถ้ า หากถูกเขี่ยทิ ้งแล้ ว พวกเขาก็ไม่มีที่พงึ่ อีกต่อไป อาจจะมีคนที่มีความแค้ นเก่ามาแก้ แค้ นพวก
เขาก็เป็ นได้ พวกเขาจะไม่มีที่ให้ ยืนในเมืองลิขิตฟ้าอีกต่อไป
เมื่อคิดถึงผลที่ตามมาแล้ ว พวกลูกสมุนจึงตัดสินใจที่จะคาบลูกปื น (ไปตายเอาดาบหน้ า) แล้ ว
วิ่งตรงไปยังหลินหมิง
หลินหมิงมองด้ วยสายตาเย็นชา เขาตวัดหอกที่หล่นอยูแ่ ทบเท้ าขึ ้นมา จับมันไว้ อย่างมัน่ คง แล้ ว
กวัดแกว่งหอกออกไปเหมือนการกวาดลูกไก่ 5-6คนลอยไปในอากาศทันที
ความเจ็บปวดพลันแล่นเข้ าหาพวกเขากลางอากาศ พวกเขาดูน่าสงสารยิ่ง เมื่อตกลงมา
กระแทกกับพื ้นก็ร้องครวญครางด้ วยความเจ็บปวด หลินหมิงไม่ได้ พดู คําใดออกมา เขาแค่แกว่ง
หอกเบาๆ โดยใช้ พลังไม่ถงึ 1ใน4ส่วน เท่านัน้ พวกเขาไม่น่าจะบาดเจ็บขนาดนันได้
้ (เก่งไปนะ
บางที)
ถึงแม้ วา่ พวกเขาจะเป็ นแค่ลกู น้ อง แต่เมื่อเห็นหลินหมิงล้ มไปได้ 7-8 คนในคราเดียวก็ทําให้ ฝงู
ชนรอบๆตื่นตะลึง ผู้คนเริ่ มมาร่วมดูหตุการณ์กนั เยอะขึ ้นเรื่ อยๆ
ในพริ บตาเดียวหลินหมิงก็ได้ เก็บกวาดลูกน้ องของหวังยี่เกาจนหมด จนเหลือแต่มนั เพียงคน
เดียวเท่านัน้
หวังยี่เกาเริ่ มกลัวตัวสัน่ และก้ าวถอยหลังออกไป เมื่อเห็นหลินหมิงเดินเข้ ามาหาอย่างช้ าๆ หวัง
ยี่เกาที่เคยได้ ปรากฏตัวออกมาอย่างองอาจแต่ทว่า ณ ตอนนี ้เหล่าลูกน้ องมากมายของเขาแพ้
หมดรูป เขาจะต้ องพ่ายแพ้ อย่างขายหน้ าอีกครัง้ รึ….
“หลินหมิง แกต้ องการอะไร ข้ าขอเตือนเจ้ าไว้ ก่อน อย่าทําอะไรที่อกุ อาจให้ มากนัก ไม่งนศพ
ั้
เจ้ าไม่สวยแน่!!”
หลินหมิงมองหวังยี่เกาดัง่ มองแมลงวันตัวเล็กๆแล้ วกล่าวว่า “แม้ กระทัง่ เศษใบไม้ ออ่ นๆยังมี
เส้ นใบชัดเจน แต่ในฐานะนักรบเจ้ ากลับสูญเสียความกล้ าหาญทังยั ้ งทําตัวขลาดเขลา ข้ าปล่อย
เจ้ าไปแล้ วเจ้ ายังกลับมาระรานข้ าอีก ถ้ าข้ าปล่อยเจ้ าไปในครานี ้ ข้ าจะฝึ กฝนวรยุทธไปเพื่ออะไร
กัน!!”
ว่าแล้ วหลินหมิงก็พงุ่ เข้ าประชิดตัวมันในทันที หวังยี่เกา กลัวจนฉี่แทบราดพลางคิดในใจ หลินห
มิงบ้ าไปแล้ วรึ ข้ าเป็ นถึงลูกของท่านแม่ทพั ผู้ยิงใหญ่!!
มันจะทําร้ ายข้ าเนี่ยนะ!!
“บังอาจ!! พ่อข้ าเป็ นถึง………”
หวังยี่เกา ร้ องออกมาอย่างน่าสงสารในขณะที่หลินหมิงต่อยไปที่ท้องของมัน หมัดของหลินหมิ
งเปี่ ยมด้ วยกําลังภายใน แม้ เขาจะใช้ ‘ไหลลืน่ ดุจแพรไหม’ ไม่ได้ ถงึ ขีดสุดที่ แต่เขาก็สามารถใช้
มันได้ ในขันแรก
้
หมัดที่เต็มไปด้ วยพลังปราณ กระแทกเข้ าที่หน้ าท้ องของหวังยี่เกา จนเลือดกกปาก
หลินหมิงใช้ มืออีกข้ าง ตบไปที่แก้ มข้ างขวาเสียงดัง “แป๊ ะ” แรงเสียจนฟั นหลุดกระเด็นออกมา
หวังยี่เกา หมุนตัวลอยแล้ วตกลงพื ้นมองเห็นดาวเต็มไปหมด (ซู้ดด เพลงมา)
“แก…แก…” หวังยี่เกาเอามือปิ ดปากตนเองไว้ พลันโกรธจนตาแดงกํ่า หวังยี่เกา โตมาด้ วย
การเลี ้ยงดูแบบลูกผู้ดี ไม่มีใครเคยทําร้ ายเขามาก่อน เขาพยายามเอานิ ้วชี ้หน้ าหลินหมิง “ข้ า…
ข้ าจะต้ องฆ่าเจ้ า!!”
“ฆ่าข้ ารึ ข้ าว่าเจ้ าคงไม่มีโอกาสนันนะ”
้ หลินหมิงเดินเข้ าไปหาหวังยี่เกาอีกครัง้ พร้ อมด้ วยจิต
สังหารอันน่าหวาดกลัว
หลังจากรู้สกึ ถึงจิตสังหารรุนแรง คอของเขาอยูห่ า่ งจากปลายหอกแค่คืบเดียว ความโกรธและ
ความจองหองของหวังยี่เกาหายไปหมดสิ ้น!! เหลือไว้ แต่ความรักตัวกลัวตาย เขาคลานหนี
อย่างน่าสมเพช พลางตะโกนว่า
“ฆาตกร!!!”
หลินหมิงรู้วา่ เขาไม่สามารถฆ่าลูกชายของมาทัพได้ ในตอนนี ้ มันโจ่งแจ้ งเกินไป และแม้ วา่ หมัด
ที่เขาต่อยไปจะประกอบด้ วยพลังปราน มันก็แค่ทําให้ จกุ และบอบชํ ้าเท่านัน้ แผลพวกนัน้
สามารถบรรเทาได้ ด้วยการใช้ ยาสมุนไพร
บนถนนสายหลัก เสียงฝี เท้ าม้ าใกล้ เข้ ามา หลินหมิงมองไป ก็เห็นชายวัยประมาน30 เขาไว้
หนวด สวมชุดหัวหน้ าหน่วย และคล้ องดาบไว้ ที่เอว เขาควบม้ ามาอย่างว่องไว ด้ านหลังของเขา
ก็มีพวกเจ้ าหน้ าที่ตามมาติดๆ
เมื่อเห็นผู้รักษาความปลอกภัยมา หวังยี่เกาเหมือนเห็นแสงสว่าง เขารี บตะโกน “ช่วยข้ าด้ วย!
มันพยายามจะฆ่าข้ า!!”
หลินหมิงเห็นดังนันก็้ หน้ าบึ ้งลงทันที ทําไมเขาจะไม่ร้ ูวา่ หวังยี่เกาพยายามจะกุเรื่ องเหลวไหล
ขึ ้นมา จริ งๆแล้ วหลินหมิงต้ องการให้ เรื่ องบานปลายไปอีกหน่อย เพื่อผู้ที่ควบคุมดูแลจากสํานัก
เจ็ดแก่นแท้ มาจับหวังยี่เกาไป
มันจะทําให้ หวังยี่เกาพลาดโอกาสในการสอบ จนอาจถึงขันถู ้ กกักขัง
“เกิดอะไรขึ ้นที่นี่?” หัวหน้ าผู้รักษาความปลอดภัยเฉ่าหมิงชาน ถามออกมา เขาอายุได้ 30 ปี
และมีการฝึ กฝนขันที ้ ่4 นอกจากนันยั ้ งเป็ นหัวหน้ าของผู้รักษาความปลอดภัยในเมืองลิขิตฟ้า
แห่งนี ้ด้ วย
เฉ่าหมิงซาน ถามไปยังพวกที่นอนหมดสภาพอยู่ พวกนันคลานไปใกล้
้ ๆเฉ่าหมิงชาน
“มันทําร้ ายพวกข้ าขอรับ มันวางแผนจะฆ่านายน้ อยของพวกเรา!!” หลินหมิงคิดไว้ แล้ วไม่มีผิด
พวกมันต้ องวางแผนชัว่ ร้ ายเอาไว้
“ถูกต้ องแล้ วขอรับ ดูบาดแผลบนตัวข้ าสิ มันจูโ่ จมพวกข้ าโดยใช้ หอก โชคดีที่ข้าป้องกันไว้ ได้ ทนั
จึงมีเพียงกระดูกที่หกั บางแห่งเท่านัน”
้
หนึง่ ในพวกลูกน้ องถอดเสื ้อแสดงหลักฐานให้ ดู ลักษณะแผล เป็ นแผลถูกฟาดเป็ นรอยยาว
ในมือหลินหมิงเองก็กําลังถือหอกอยู่ จากพยานและหลักฐานตรงหน้ าแทบจะสรุปได้ ทนั ทีวา่
ใครผิด
“พี่เฉ่า ข้ าขอยาหน่อ….” ทันทีที่หวังยี่เกาเริ่ มจะเปิ ดปากพูด เลือดก็ไหลออกมาจนแทบสําลัก
เฉ่าหมิงชาน จึงรี บเอายาสมุนไพรของเขาให้ กิน แม้ มนั จะมีราคาสูง หวังยี่เกา ผู้ซงึ่ ไม่ได้ คิดเรื่ อง
พวกนันกลื
้ นมันลงไปทันที แผลก็เริ่ มค่อยๆฟื น้ ตัวอบ่างช้ าๆ!!
“พี่เฉ่าท่านต้ องให้ ความเป็ นธรรมกับข้ านะ” หวังยี่เกามองหลินหมิงอย่างโกรธแค้ น เขาไม่คิด
ว่าหลินหมิงจะกล้ าทําขนาดนี ้ “ข้ าตัดสินใจแล้ ว ข้ าจะฆ่าเจ้ า แม้ เจ้ าจะอยูใ่ นเรื อนจํา ข้ าจะยัด
สินบนเพื่อเข้ าไปฆ่าเจ้ าให้ ได้
ไม่ส…
ิ . เช่นนันมั
้ นจะง่ายดายเกินไป ข้ าจะทรมานเจ้ าให้ ตายลงอย่างช้ าๆ ฮ่าฮ่าฮ่า” หวังยี่เกา
กําลังวางแผนในใจ…
ปั ญหาเล็กๆน้ อยๆแบบนี ้ พ่อของหวังยี่เกาไม่ได้ กงั วลอะไรมาก หวังยี่เกาแพ้ พนันและพ่ายแพ้
ต่อเด็กขันแรกทํ
้ าให้ เขาเสียศักดิ์ศรี หวังยี่เกาจึงโกรธแค้ นอยากสุดแสน
ถึงหวังยี่เกาจะไปทําร้ ายคนมามากมาย แต่ถ้าไม่ได้ ทําให้ ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียงก็ยงั พอจะ
อนุโลมได้
พอคิดได้ เช่นนี ้ หัวใจของเขากลับมาสดชื่นอีกครัง้ หนึง่ ถึงเขาจะโดนต่อย แต่แผลก็บรรเทาไป
มากแล้ ว เขาต้ องหาทางแก้ แค้ น เหมือนที่ได้ วางแผนไว้ ตราบใดที่ตระกูลของเขาทรงอํานาจ
ย่อมจะแก้ ผิดเป็ นถูกได้ เสมอ
เฉ่าหมิงซานไม่ได้ โง่เขลา เขาทํางานมาได้ หลายปี แล้ ว ที่เขาได้ เป็ นถึงหัวหน้ าเพราะการ
ตัดสินใจที่รวดเร็วของเขา เพียงแค่มองสถานที่เกิดเหตุก็ร้ ูวา่ เหตุการณ์ที่แท้ จริ งเป็ นเช่นไร “เด็ก
หนุ่มคนนี ้กล้ าทําร้ ายคนจากตระกูลของท่านแม่ทพั แม้ เขาจะแค่มีเรื่ องนิดหน่อยก็ตาม แต่ทว่า
เขาก็ไม่สามารถสู้คดีได้ แน่นอน จบแล้ ว เจ้ าหนุ่มน้ อย”
ในฐานะหัวหน้ า เขาย่อมรู้วิธีที่จะรักษาตําแหน่งนี ้ไว้ อย่างแน่นอน ด้ วยสถานะของเขาถ้ าตัดสิน
สุม่ สี่สมุ่ ห้ า มีหวังได้ ตกงานเป็ นแน่ การตัดสินในครัง้ นี ้ แม้ เขาจะรู้ความจริ ง แต่เขาก็ต้องเข้ าข้ าง
ตระกูลชนชันสู ้ ง
เมื่อมองดูทางหลินหมิง การแต่งตัวเหมือนกับชาวบ้ านทัว่ ไป ถ้ าเดาไม่ผิดเด็กนี่คงมาจาก
ตระกูลเล็กๆที่ไม่มีความสําคัญ
เฉ่าหมิงชานได้ ให้ คนของเขาสํารวจบาดแผลทันที แล้ วก็ได้ รับคํายืนยันว่า ทุกแผลเป็ นแผลจาก
หอกทังสิ
้ ้น
“หนุ่มน้ อย เจ้ ามีนามว่าอะไร?” หลินหมิงมองเฉ่าหมิงซานด้ วยสีหน้ าไม่สบอารมณ์
“หลินหมิง” เขารู้อยูแ่ ล้ วว่าผลของการตัดสินจะออกมาเป็ นแบบไหน
เฉ่าหมิงซาน มองหลินหมิงแล้ วรู้สกึ ได้ ถงึ แรงกดดันจากหลินหมิง ได้ แต่พดู ว่า “เหตุการณ์นี ้ได้
ข้ อสรุปแล้ ว เจ้ ามีอะไรจะแก้ ตวั หรื อไม่?” “ฮ่าๆ! ได้ ข้อสรุปรึ! ท่านยังไม่สอบปากคําผู้อยูใ่ น
เหตุการณ์เลยด้ วยซํ ้า ท่านฟั งความฝ่ ายเดียวแล้ วท่านยังจะบอกว่าคดีได้ ข้อสรุปแล้ วงันเหรอ?”
้
เฉ่าหมิงซาน หงุดหงิดเล็กน้ อย เจ้ าเด็กนี่ไม่เข้ าใจหรื อไงนะ ทังๆที
้ ่ความตายจะมาเยือนอยูแ่ ล้ ว
ยังจะมีหน้ ามาเล่นลิ ้นอีกหรอ ทําไมเจ้ าเด็กนี่กล้ าทําร้ ายหวังยี่เกา หรื อมันจะไม่ร้ ูวา่ พ่อของหวัง
ยี่เกาเป็ นแม่ทพั ใหญ่แห่งเมืองฟ้าลิขิต?
แม้ วา่ ท่านแม่ทพั จะลงโทษลูกตัวเองเพราะความโง่ของมันเอง แต่เขาคงไม่ยอมให้ มีใครมาทํา
ร้ ายลูกของตัวเองเป็ นแน่
เจ้ าเด็กที่ชื่อหลินหมิงคนนี ้ น่าจะไม่มีใครหนุนหลังเมื่อได้ ดกู ารแต่งกายที่ธรรมดาของมันแล้ ว
เขาก็ยิ่งมัน่ ใจ
“ข้ าจะสอบปากคําผู้คนโดยรอบในภายหลัง แต่ตอนนี ้ ข้ าคงต้ องให้ เจ้ าตามไปที่สถานที่คมุ ขัง
เสียก่อน เจ้ าจะถูกคุมตัวจนกว่าการตัดสินจะได้ ข้อเท็จจริ งที่ถกู ต้ อง ”
ถ้ าคนพวกนี ้ไม่ได้ โง่น่าจะรู้วา่ ควรให้ ปากคําอย่างไรที่จะไม่ให้ ตนเองต้ องเดือดร้ อน ถ้ ามีคน
ปากโป้งล่ะก็อาจจะจบไม่สวยแน่
“เอาหล่ะ ไปกันได้ แล้ ว!!” พอเฉ่าหมิงซานพูดจบ ก็มีเจ้ าหน้ าที่2คน ถือเชือกเตรี ยมจะมามัด
มือหลินหมิง
หวังยี่เกาได้ แต่ยิ ้มสะใจ ‘คิดจะต่อกรกับข้ ารึ ฮ่าฮ่า เดี๋ยวเจ้ าต้ องตายแน่นอน’
้ วพูดว่า “คิดจะจับกุมข้ างันรึ
หลินหมิงมองเจ้ าหน้ าที่2คนนันแล้ ้ ถ้ าพวกเจ้ าคิดว่าทําได้ ละ่ ก็ลอง
ดู ผลลัพธ์ที่ออกมาคงจะแย่ยิ่งกว่าพวกที่นอนกองอยูกบั พื ้นพวกนันเป็
้ นแน่!!!”
บทที่ 31 ช่วงแห่งความผิดพลาด
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
ขณะที่หลินหมิงเห็นเจ้ าหน้ าที่สองคนเดินเข้ ามาหาเขาพร้ อมด้ วยเชือกในมือ หลินหมิงจับแขน
ของเขาอย่างรุนแรงและกล่าวอย่างเย็นชา “พวกเจ้ าต้ องการที่จะจับข้ ารึ หากเจ้ าทําเช่นนัน้
ย่อมไม่เกิดผลดีตอ่ พวกเจ้ าแน่นอน”
“แกคิดว่าจะรอดไปได้ รึ? อย่าแม้ แต่จะฝั นเช่นนัน!
้ ในตอนนี ้แกก็เหมือนลูกไก่ในกํามือข้ า ฮ่า
ฮ่า! “หวังยี่เกาหัวเราะอย่างมีความสุขอย่างสะใจกับเหตุการณ์ตรงหน้ า แม้ เขาจะเป็ นคนหนึง่ ที่
ได้ รับบาดเจ็บแต่เขาก็ยงั ยิ ้มออกมา นอกจากนี ้เขายังวางแผนที่จะทรมานหลินหมิงอย่างทารุณ
โดยใช้ คําว่า ‘อุบตั ิเหตุ’ เป็ นข้ ออ้ าง …
หวังยี่เกาสังเกตเห็นเฉ่าหมิงซาน จ้ องมองมาที่เขาด้ วยการแสดงออกที่น่ารังเกลียดและเบื่อ
หน่าย หวังยี่เกากระแอ้ มเล็กน้ อย “พี่เฉ่า ข้ าขอฝากท่านตรวจสอบสถานการณ์ ในตอนนี ้ข้ า
อาจดูไม่เป็ นกลางพอ ไอ้ เด็กนี ้เย่อหยิ่งและสมควรถูกประณาม. ”
หลินหมิงปั ดฝุ่ นบนร่างและกล่าวกับเฉ่าหมิงซาน “มันเป็ นความรับผิดชอบของเจ้ าที่จะดูแล
ความปลอดภัยในการสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ แต่มีใครบางคนพยายามทําร้ ายข้ าด้ วยหอก
พวกมันต้ องการให้ ข้าตายหรื อพิการในขณะที่ไม่มีผ้ รู ักษาความปลอดภัยมาคอยดูแล และเมื่อ
ผู้ดแู ลความปลอดภัยอย่างเจ้ าเข้ ามา เจ้ ากลับไม่ได้ พยายามที่จะถามเหตุการณ์ใดๆกับผู้คนแต่
กลับจ้ องจะจับกุมข้ า ด่วนตัดสินใจว่าข้ าเป็ นผู้กระทําผิด พวกเจ้ าอย่ามาเล่นละครตลกโง่ๆกับ
ข้ า ”
หลินหมิงออกเสียงแต่ละคําอย่างหนักแน่น มันก่อให้ หวั ใจของเฉ่าหมิงซานเต้ นรัว เด็กหนุ่มคนนี ้
ช่างกล้ าหาญยิ่งนัก เหตุใดเขาถึงยังสงบเสงี่ยมอยูไ่ ด้ ในสถานการณ์เช่นนี ้?
เฉ่าหมิงซานมองที่หลินหมิง เขาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวและเริ่ มพูดอย่างโกรธเกรี ย้ ว “นี่เป็ นคํา
ตัดสินของทางการ! มันไม่เกี่ยวว่าแกจะยอมรับหรื อไม่ จับมันมัดเอาไว้ ! ”
เมื่อเขาออกคําสัง่ เชือกก็ถกู มันไว้ รอบคอของหลินหมิง แม้ วา่ หลินหมิงจะมีความสามารถใน
การต่อสู้ แต่เฉ่าหมิงซานมีการฝึ กฝนถึงขันที
้ ่สี่ ดังนันในตอนนี
้ ้เขายากที่จะขัดขืน
ในขณะนี ้เสียงที่ค้ นุ เคยก็คํารามกึกก้ องกังวานไปทัว่ “หลีกทางให้ ข้า!!
หลินหมิงเงยหน้ าขึ ้นอย่างประหลาดใจ เขาเห็นเด็กหนุ่มตัวอ้ วนวิ่งฝ่ าฝูงชนเข้ ามา ในมือของเขา
เต็มไปด้ วยของกิน เขาคือหลินเซี่ยวตง เมื่อหลินหมิงคิดถึงเรื่ องก่อนหน้ านี ้ หลินเซี่ยวตงปลีกตัว
ไปหาของกินและเพิ่งจะได้ รับรู้ถงึ ความวุน่ วายที่เกิดขึ ้น
ทันทีที่หลินเซี่ยวตงเห็นหลินหมิงถูกมัดคอไว้ หัวใจของเขาก็ปวดร้ าวอย่างกระทันหัน “ไม่จริ ง!
ทําไมพี่ถงึ ถูกจับกุมตัว?! ”
เฉาหมิงซานไม่ร้ ูวา่ เด็กอ้ วนนี ้เป็ นใครมาจากไหน เขากําลังจะโบกมือออกคําสัง่ ให้ โยนมัน
ออกไป ทันใดนันสายตาของเขาเหลื
้ อบสายตาไปเห็นแสงประกายเล็กๆ ประกายแสงนันเกิ ้ ดขึ ้น
ในฝ่ ามือหลินหมิง
ยันต์สื่อสาร?
แววตาของเฉาหมิงซานเบิกกว้ าง ยันต์นนสามารถเก็
ั้ บบันทึกเสียงและถ่ายโอนออกไป มันถูก
นํามาใช้ ในการสื่อสาร เด็กนี ้ต้ องการเก็บบันทึกการสนทนาและส่งออกไป!
ไอ้ หนุ่มคนนี ้!
เฉาหมิงซานรู้สกึ ถึงลางร้ ายและมองไปที่ชายหนุ่ม วันนี ้มัน(หลินหมิง)ต้ องโกรธเคืองเขามาก
หลังจากนันมั
้ น(หลินหมิง)ต้ องหากทางมาแก้ แค้ นเขา จริ งๆเขาไม่ควรต้ องทนทําตามแผนการงี่
เง่าของหวังยี่เกาและรี บฆ่ามันเสียจะเป็ นการดี เพื่อมิให้ เกิดปั ญหาตามมาในอนาคต
แต่ … มันกําลังใช้ ยนั ต์สง่ เสียงไปถึงใคร?
หลินหมิงได้ สง่ เสียงยันต์สื่อสารไปยังมูย่ ี่ เพราะก่อนหน้ านี ้มูย่ ี่และหลินหมิงได้ แลกเปลีย่ นเคล็ด
ลับการจารึกซึง่ กันและกัน เขาได้ กลายเป็ นเพื่อนที่ดีของมูย่ ี่ มูย่ ี่ได้ ยํ ้ากับเขาว่าตราบใดที่ยงั อยู่
ในเมืองลิขิตฟ้าเขารับประกันความปลอดภัยของหลินหมิงได้ อย่างแน่นอน หากมีปัญหาใดๆให้
ใช้ ยนั ต์สื่อสารเพื่อแจ้ งเขา
แม้ วา่ หลินหมิงจะเป็ นผู้กล้ าหาญ แต่เขาก็ไม่ได้ เป็ นคนใจร้ อนที่จะผลีผลามกระทําสิ่งที่อกุ อาจ
โดยมิได้ คํานึงถึงผลกระทบที่ตามมา ก่อนที่เขาจะเล่นตามแผนของหวังยี่เกา เขาซ้ อนแผน
เอาไว้ แล้ ว สําหรับสถานการณ์เช่นนี ้ เขาเป็ นคนที่จะไม่ปล่อยให้ เป็ นเรื่ องเล็กๆน้ อยๆเช่นนี ้มา
หยุดเขาได้
แม้ วา่ มูย่ ี่จะเป็ นคนใหญ่คนโตและมีหน้ าที่สําคัญที่ต้องรับผิดชอบ แต่ในหัวใจของเขา เขาก็ยงั
เป็ นคนหนึง่ บนโลกที่มีนบั ถือศรัทธาในมิตรภาพเหนือสิ่งอื่นใด มูย่ ี่ไม่ใช่คนที่จะตกลงรับปาก
อะไรลอยๆ เมื่อเขาได้ ตกลงเป็ นเพื่อนกับหลินหมิง เขาทํามันด้ วยความเชื่อมัน่ ในหัวใจของเขา
เมื่อได้ ยินเสียงที่บนั ทึกจากยันต์สง่ เสียง มูย่ ี่มีความเข้ าใจสถานการณ์ขึ ้นมาทันที เขาถอน
หายใจออกมา เขาเองก็เคยเบื่อหน่ายเจ้ าหน้ าที่แย่ๆที่ทําตัวตํา่ ช้ าเช่นนี ้กับคนไร้ อํานาจ ไม่ต้อง
พูดถึงหลินหมิง หลินหมิงเป็ นถึงเพื่อนสนิทที่แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้ าใจอันลึกซึ ้งกันมา
แม้ วา่ เขาจะไม่ได้ เกี่ยวข้ องกับเรื่ องนี ้เขาก็ยงั จะเข้ าไปช่วย
มันเป็ นเอกลักษณ์ของยันต์สีมว่ งที่จะส่งเสียงไปยังคฤหาสน์จอมพล!!
ข้ อความนี ้จะต้ องมาจากผู้ที่มีความเกี่ยวข้ องกับพระมหากษัตริ ย์หรื อเหล่าจอมพล!
หลังจากที่เขา(เฉาหมิงซาน)ได้ ร้ ูถงึ ชนิดและปลายทางของยันต์สื่อสาร เขารู้สกึ ราวกับว่ามีใคร
บางคนทุบลงบนศีรษะของเขาด้ วยหินขนาดใหญ่ ขาของเขาอ่อนตัวย่อลง อย่างกับว่ากําลังจะ
ขาดอากาศหายใจและพยายามกล่าว”โปรดยกโทษให้ ข้าผู้ตาํ่ ต้ อยที่มิได้ เข้ มงวดการกํากับดูแล
ของข้ า ข้ าทําผิดไปแล้ ว” แต่ละคําพูดที่เขาได้ กล่าวออกมาเป็ นดังจังหวะการเต้ นของหัวใจของ
เขา
แน่นอนว่าเฉาหมิงซานรู้ถงึ ปลายทางของยันต์สง่ เสียงนัน้ เด็กหนุ่มคนนี ้มีประวัติคลุมเครื อ เดิม
ทีมนั เป็ นเรื่ องง่ายที่เฉาหมิงซานจะจัดการเรื่ องนี ้แต่ … เขาเพียงไม่คิดมาก่อนว่าเด็กคนนี ้จะมี
ความเกี่ยวข้ องกับเชื ้อพระวงศ์หรื อท่านจอมพล!
…
“ไอ้ ชวั่ นรก! พวกแกมัดเขาไว้ ทําไม !? “หลินเซี่ยวตงตะหวาดอย่างโกรธแค้ น เฉาหมิงซานโบก
มือและชี ้ไปที่หลินเซี่ยวตง “แกขัดขวางภารกิจของทางการและด่าว่าเจ้ าหน้ าที่! จํามันมัด
เอาไว้ ! ”
เฉาหมิงซานส่งเจ้ าหน้ าที่สองคนไปคว้ าหลินเซี่ยวตง พวกเขามีการฝึ กฝนในขันที
้ ่สอง พวกเขาก็
ไม่ใช้ คนที่ออ่ นแอเหมือนหวังยี่เกา พวกเขามีรากฐานที่มนั่ คงและการฝึ กการต่อสู้มาอย่าง
ชํานาญ
หลินเซี่ยวตงมีเพียงการฝึ กฝนขันแรก
้ ถึงแม้ วา่ เขาจะไม่สามารถต่อต้ านทานได้ เขาก็ยงั ดิ ้นรน
ด้ วยความโกรธ “พวกแกกล้ าแตะต้ องตัวข้ า !?แกจําใบหน้ าของข้ าเอาไว้ ! ข้ าจะจ่ายคืนมันให้
พวกแกในเร็ววัน! ”
“หุบปากไปซะ!” เฉ่าหมิงซานตะคอกขึ ้นมาและชายคนหนึง่ ก็มาปิ ดปากขอหลินเซี่ยวตงเอาไว้
ด้ วยผ้ าผืนหนึง่ ผลที่ตามมาก็คือเสียงโวยวายของเขากลายเป็ นเสียงหอน
“ไปกันได้ แล้ ว!” ทันทีที่เฉ่าหมิงซานโบกมือ พวกเขาก็ยํ่าลงไปบนถนนพร้ อมกับหลินหมิงและ
หลินเซี่ยวตงที่ถกู มัดอยูบ่ นหลังม้ า ในเวลาไม่นานพวกเขาก็ออกมาเป็ นระยะหลายไมล์แล้ ว
หวังยี่เกาที่อยูเ่ บื ้องหลังพวกเขาก็หวั เราะและกล่าวว่า “พี่เฉ่าทิ ้งพวกมันลงไป พวกเราจะใช้ วิธี
ลากพวกมันแทน”
ยันต์เสียงนันจะส่
้ งสัญญาณโดยตรงถึงสมอง คนอื่นๆจะไม่สามารถที่จะได้ ยินมัน
เฉ่าหมิงซานคํารามตอบโต้ ขึ ้นมาอย่างสุดเสียง “แกมันเด็กไม่ร้ ูจกั โต! จะลากพวกเขารึ! เจ้ ารู้
ไหมว่าจริ งๆแล้ วพวกเขาเป็ นใคร!? เขาเกี่ยวข้ องกับเชื ้อพระวงศ์และจอมพล! เจ้ าต้ องการทํา
้ งๆรึ!? เจ้ ากล้ าที่จะแตะต้ องเชื ้อพระวงศ์!? แม่โง่เง่าของเจ้ าคงยังสะกดคําว่า’ตาย’
อย่างนันจริ
ไม่ถกู สินะ ?! ข้ าสาบานได้ เลยถ้ าชีวติ ของข้ าต้ องมาเจอปั ญหาเพราะเจ้ า ข้ าจะฆ่าเจ้ าด้ วย
ตัวเอง !! ”
เฉ่าหมิงซานด่าเสียงดังหัวของเขาแทบจะระเบิด ร่างกายของเขาทังแข็
้ งทื่อและความคิดของ
ว่างเปล่า … .รัชทายาท…เชื ้อพระวงศ์?
เฉ่าหมิงซานหยุดม้ าและมองมาที่หลินหมิงพร้ อมกับกับอ้ าปากค้ าง หลินหมิงก็ยงั มองไปเขาที่
เขาอย่างสงบอย่างกับว่ากําลังดูตวั ตลกกําลังแสดงละคร
เฉ่าหมิงฉานจําเสียงที่บนั ทึกโดยยันต์สง่ เสียงที่หลินหมิงส่งออกไปได้ … คนที่จะส่งข้ อความ
เหล่านันได้
้ จะต้ องเป็ นเหล่ารัชทายาท!?
เบื ้องหลังของชายหนุ่มผู้นี ้คือองศ์รัชทายาท ? เขาเป็ นเพียงหัวหน้ าผู้ดแู ลความปลอดภัย! เขา
ไม่เคยเกี่ยวข้ องกับพระมหากษัตริ ย์หรื อเจ้ าชายมาก่อนในชีวิตของเขา! หัวใจของเขาได้ แต่
หวาดกลัวกับคําพูดที่เคยพูดออกไป
ในที่สดุ เขาก็เข้ าใจความหมายที่อยูเ่ บื ้องหลังการจ้ องมองของหลินหมิง
“ข้ าไม่เข้ าใจท่านเฉ่า ตอนนี ้ก็เป็ นเวลาที่ดี ไม่มีใครซักคนมองดูพวกเราทีนี่ ดังนันขอให้
้ ข้าได้
ลากพวกมันให้ สาแกใจข้ าซักหน่อย ข้ าไม่เอาถึงตายอยูแ่ ล้ ว”หวังยี่เกากล่าวด้ วยรอยยิ ้ม ‘หึห’ึ
ข้ าสิจะลากแม่ของเจ้ ายํ ้าไปรอบเมือง! เมื่อเขาได้ ยินหวังยี่เกาพูดเรื่ องไร้ สาระเช่นนี ้ มันเหมือน
เป็ นการหาเรื่องใส่ตวั เอง! จะมีคนโง่เง่าคนไหนที่คดิ จะรองดีมีปัญหากับรัชทายาทซักคน!?
“ทุกคนลงจากหลังม้ า ปล่อยพวกเขา”
ทันทีที่คําสัง่ ของเฉ่าหมิงซานถูกกล่าวออกมา หวังยี่เกาถึงกับประหลาดใจและผิดหวัง
ปล่อยให้ พวกเขางันรึ ้ ?
หวังยี่เกาเป็ นถึงลูกแม่ทพั แห่งเมืองลิขิตฟ้า เขาไม่ได้ เป็ นคนโง่ เขารู้ถงึ ประโยชน์ของยันต์สื่อสาร
ดี แค่เพียงเก็บเสียงที่พวกเขาพูดคุยกันส่งไปยังที่แห่งหนึง่ ใครจะมาช่วยมันได้ !!
อย่างไรก็ตามเฉ่าหมิงซานก็ยืนกรานว่าจะต้ องปล่อยพวกเขาไป หวังยี่เกาผิดหวังอย่างมา เขา
กําลังจะเถียงขึ ้น แต่ทนั ใดนันเสี
้ ยงยันต์สง่ สัญญาณเกิดเพล่งประกายขึ ้นมาตรงหน้ าเขา
หลังจากได้ ยินนํ ้าเสียงที่พกู ออกมาจากยันต์สื่อสารนัน้ หวังยี่เกาแทบจะตัวสัน่ ลงไปกองกับพื ้น
นี่คือนํ ้าเสียงของพ่อของเขา! “กลับมาหาข้ าในทันที!”
หวังยี่เกาสัมผัสได้ ถงึ นํ ้าเสียงอันเย็นชาจากบิดาของเขา เขาเดาได้ ทนั ทีวา่ เขาอาจต้ องถูกกักขัง
ในโลกแห่งความเจ็บปวดอีกครัง้
ฝ่ ายหนึง่ เป็ นถึงรัชทายาทเชื ้อพระวงศ์และอีกฝ่ ายหนึง่ เป็ นเพียงลูกชายของแม่ทพั มีการใช้ ยนั ต์
สื่อสารมาอธิบายเหตุการณ์ตา่ งๆถึงแม่ทพั หวัง ก่อนหน้ านี ้แม้ ลกู ของขําจะไปรุกรานชาวเมือง
เขาก็ไม่เคยโกรธมาก่อน แต่ทว่าราชบัลลังก์คือเจ้ าของเมือง พวกเขายิ่งใหญ่ที่สดุ ในเมืองแห่งนี ้
และนี่หวังยี่ถงึ กับไปรุกรานเหล่ารัชทายาท! แม้ เพียงเรื่ องกระทบกระทัง่ เล็กๆน้ อยๆมันก็มาก
พอที่ทางการจะปลดตําแหน่งแม่ทพั ของเขาให้ กบั ผู้อื่น! เขาอยากจะฆ่าไอ้ ลกู ชัว่ นี่ยิ่งนัก!
เฉาหมิงซานเห็นหวังยี่เกาตัวแข็งทื่อเต็มไปด้ วยความหวาดผวาหลังจากที่ได้ รับข้ อความจาก
ยันต์สื่อสารอันนัน้ เขายิ่งเร่งคนของเขาอีกครัง้ “แค่แก้ มดั ยังจะช้ าอีก รี บปล่อยพวกเขา
เดี๋ยวนี ้!”
หลังจากได้ รับการตําหนิพวกเขาเริ่ มที่จะหวาดกลัว พวกเขารี บแก้ มดั เชือกเพื่อปล่อย แต่หลินห
มิง ก็กล่าวตอบกลับมาอย่างมัน่ ใจ “เจ้ าต้ องการจับกุมข้ า เจ้ าก็จบั กุมข้ าได้ แต่ข้าบอกพวกเจ้ า
แล้ วว่ามันจะไม่เกิดผลดีตอ่ พวกเจ้ าแน่นอน “
บทที่ 32 อํานาจเหนือทุกสรรพสิ่ง
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
เฉ่าหมิงซานอึ ้งอ้ าปากค้ างต่อหน้ าหลินหมิง เขาจําได้ วา่ หลินหมิงได้ เคยกล่าวไว้ วา่ “เจ้ า
ต้ องการจับกุมข้ า เจ้ าก็จบั กุมข้ าได้ แต่ข้าบอกพวกเจ้ าแล้ วว่ามันจะไม่เกิดผลดีตอ่ พวกเจ้ า
แน่นอน ”
เมื่อต้ องเผชิญหน้ ากับพลังที่มหาศาลเช่นนี ้ เฉ่าหมิงซานไม่มีทางเลือกอืน่ นอกจากยอมก้ มหัวให้
ผู้ชายคนนี ้ แม้ วา่ มันจะเป็ นการเสียหน้ าอย่างแสนสาหัสสําหรับเขา แต่มนั ก็ค้ มุ ค่าเป็ นอย่าง
มากถ้ ามันจะทําให้ เขามีชีวิตรอดได้
เฉ่าหมิงซานเปลี่ยนสีหน้ าไปอย่างกะทันหัน ใบหน้ าของเขาย้ อมไปด้ วยรอยยิ ้มอย่างคํารพขณะ
กล่าวว่า “ครัง้ นี ้ผู้น้อยได้ พบกับท่านรัชทายาทผู้ยิ่งใหญ่ทงสองท่
ั้ าน อาจมีการการเข้ าใจผิด
ระหว่างผู้ปฏิบตั ิหน้ าที่ ผู้น้อยหวังว่าท่านจะให้ ความเมตตาและไม่ถือโทษโกรธในความโอหัง
ของข้ า … รีบแก้ มนั สิไอ้ พวกโง่”
ถึงแม้ วา่ เขาจะยังแก้ มดั ไม่เสร็จก็ตาม หลินเซี่ยวตงก็ถกู ปฏิบตั อิ ย่างเบามือและนอบน้ อม เขา
รู้สกึ งงเล็กน้ อยกับเหตุการณ์ตรงหน้ า แต่สําหรับหลินหมิงมันก็เป็ นไปตามแผนที่เขาวางไว้ อยู่
แล้ ว เขาจึงไม่ได้ แปลกใจกับสิ่งที่มนั ควรจะเกิด
นันนะรึ
้ ปรมาจารย์ลกึ ลับที่ทา่ นพี่หลินหมิงเคยพูดถึง
สําหรับหลินเซี่ยวตงแล้ ว พลังอํานาจที่มากมายมหาศาลและน่ากลัวถึงเพียงนี ้ เคยมีอยูแ่ ต่เพียง
ในความฝั นเท่านัน้ แต่สําหรับปั จจุบนั ต่อจากนี ้ หากมีบคุ คลทรงอํานาจเช่นนี ้หนุนหลัง พวกเขา
ก็ไม่จําเป็ นต้ องกลัวสิ่งใดอีกต่อไป
“ข้ าขอสาปแช่งตระกูลของแก สาปแช่งพ่อแม่และลูกหลานของแกให้ วอดวายชัว่ กัลป์ชัว่ กัลป์”
หลินเซี่ยวตง ตะหวาดด่าออกมาดังลัน่ ไปทัว่ ขณะที่คนกําลังแก้ มดั ให้ เขาอยู่ พวกมันก็ยงั ถูก
หลินเซี่ยวตงสะบัดตัวใส่อย่างไม่พอใจ
“พวกแกคิดว่าอยากจะมัดข้ าและปล่อยข้ าไปเมื่อไรก็ได้ ที่พวกแกต้ องการรึ” หลินเซี่ยวตงคํา
ราบอย่างโกระเกรี ย้ ว แน่นอนว่าเขาต้ องการชําระแค้ นกับเรื่ องที่เกิดขึ ้นในครัง้ นี ้
เฉ่าหมิงซานมิอาจพูดคําได้ ๆออกมาได้ มันทําได้ เพียงนิ่งเงียบและทนทุกข์อยูใ่ นใจ และเสแสร้ ง
ยิ ้มออกมาอย่างยากเย็น”ข้ าช่างตาบอดและโง่เขลายิ่งนัก ท่านจะไร้ เมตตาถึงขันต้
้ องลงโทษข้ า
เลยรึ ข้ าจะดีใจมากถ้ าหากข้ าได้ รับใช้ พวกท่านหรื อจ่ายค่าชดเชยให้ ”
หลินเซี่ยวตงทําตัวงออย่างไม่พอใจ เดิมทีเงินเดือนของพวกเจ้ าหน้ าที่ก็น้อยนิดอยูแ่ ล้ วและเขาก็
ไม่ได้ ต้องการเงินซะด้ วย แล้ วเขาจะจัดการชําระแค้ นนี ้อย่างไร
ในเวลานี ้หลินเซี่ยวตงสังเกตเห็นหวังยี่เกากําลังหนีออกไป มันอาศัยช่วงเวลาที่ชลุ มุนนี ้เพื่อ
หลบหนี หลินเซี่ยวตงกล่าวอย่างเดือดดาลว่า “หยุดนะเว้ ย แม่แกสอนให้ หางจุกตูดเป็ นเต่าหัว
หดรึ กลับมาเดี๋ยวนี ้”
หวังยี่เกาแทบตกจากม้ าเมื่อได้ ยินคําพูดเมื่อนัน้ มันหันกลับมาด้ วยความหวาดกลัวสุดขีด พ่อ
ของเขาต้ องการตัวเขาเป็ นชําระโทษ นี่มนั ฝั นร้ ายชัดๆเลย
ตอนนี ้แม้ เพียงมองไปที่หลินหมิง ก็ทําให้ เขาสัน่ สะท้ านไปทัว่ ทังร่้ าง ถึงกับลืมเรื่ องการแก้ แค้ น
ไปได้ เลย ถ้ าเขาต้ องพบกับหลินหมิงอีกครัง้ เขารี บหนีให้ เร็ วที่สดุ ไม่ใช่เพียงกลัวความแข็งแกร่ง
ของหลินหมิงเท่านัน้ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าผู้ที่หนุนหลังเขาอยูท่ รงอํานาจเพียงไร ถึงแม้ จะไม่ร้ ูถงึ
ตัวตนของท่านผู้นนั ้ แต่เขาต้ องยิ่งใหญ่วา่ แม่ทพั อย่างเทียบไม่ได้
เมื่อข้ อได้ เปรี ยบของเขากลายเป็ นข้ อเสียเปรี ยบ หวังยี่เการู้วา่ ตอนนี ้เขาเทียบหลินหมิงไม่ติด
เลยแม้ แต่น้อย
“แล้ วเจ้ า…..เจ้ าต้ องการให้ ข้าทําสิ่งใด”
“เจ้ าคิดจะหนีรึ เจ้ าคิดว่าทุกสิ่งบนโลกนี ้มันเป็ นเรื่ องง่ายๆสินะ” หลินเซี่ยวตงถาม เขาหันไปที่
เฉ่าหมิงซานและกล่าวอย่างหนักแน่น “จัดการมันให้ ข้า”
หวังยี่เกาถึงกับตัวสัน่ เมื่อได้ ยินเช่นนัน้ เฉ่าหมิงซานเองก็หน้ าบิดเบี ้ยว ตอนนี ้พวกเขาทังสองไม่
้
รู้จริ งๆว่าจะรักษาหัวไว้ บนบ่าได้ อีกนานแค่ไหน ถ้ าเกิดเขาจัดการกับหวังยี่เกา เขาก็จะมีปัญหา
กับท่านแม่ทพั และอาจถูกลงโทษอย่างร้ ายแรง
เฉ่าหมิงซานมองไปที่หลินหมิงด้ วยสายตาวิงวอน
ในที่สดุ หลินหมิงก็กล่าวว่า “ข้ าจะปล่อยพวกเจ้ าไปก็ยอ่ มได้ ” คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมีเรื่ อง
กัน
เขาหันไปทางหวังยี่เกาแล้ วถาม “เมื่อไม่กี่ชวั่ โมงก่อน ข้ าสัมผัสได้ วา่ ใครบางคนกําลังแอบมอง
ข้ าอยูบ่ นรถม้ าคันนัน้ มันคงจะเป็ นจู้ยนั สินะ ”
หวังยี่เการู้สกึ เหมือนกระเพาะตัวเองจะทะลุออกมา ผู้ชายคนนี ้มีตาหลังจริ งๆรึเนี ้ย โอ้ วพระ
เจ้ า!!
ตอนนี ้เขากลัวหลินหมิงอย่างสุดขีด ความหวาดกลัวได้ ล้นทะลักออกมาทางแววตาของเขา
เขายังไม่ได้ ตอบอะไร หลินหมิงค่อยๆก้ าวเข้ ามาหาช้ าๆพร้ อมกับพูดด้ วยนํ ้าเสียงเย็นชาว่า “ใช่
หรื อไม่”
หัวใจของหวังยี่เกาแทบจะหยุดเต้ น เขาพยักหน้ าให้ ตอบรับ
“เรื่ องทุกอย่างที่เกิดขึ ้นนี ้คือฝี มือพวกเจ้ าสินะ”
หวังยี่เกาพยักหน้ าอีกครัง้
“ก็ดี เจ้ าไสหัวไปได้ แล้ ว”
หลินหมิงรู้วา่ จู้ยนั คงไม่ต้องการให้ เขาเข้ าร่วมสํานักเจ็ดแก่นแท้ หวังยี่เกาเป็ นหมากตัวหนึง่
สําหรับขัดขวางพวกเขาเท่านัน้ หลินหมิงเองก็ไม่อยากที่จะไปยุง่ กับคนพวกนี ้ ยังไงพ่อของหวังยี่
เกาเองก็เป็ นถึงแม่ทพั เมื่อเขาโดยตําหนิเช่นนี ้ เขาจะต้ องลงโทษลูกของเขาโดยการกักบริ เวณ
อีกสักพักก็เป็ นได้
เฉ่าหมิงซานถอนหายใจอย่างโล่งอกเป็ นที่สดุ เมื่อได้ ยินลินหมิงพูด เขารี บพุง่ มาแก้ มดั ให้ หลินห
มิงด้ วยตัวเองอย่างรวดเร็ว
หลินหมิงบิดข้ อมือและมองไปที่เฉ่าหมิงซานที่กําลังกระโดดขึ ้นม้ าสีดํา หลินเซี่ยวตงมีสายตาที่
แหลมคมและจะชาญฉลาดขึ ้นมาทันทีถ้ามันเกี่ยวกับเรื่ องเงิน เมื่อเหลียวมองดูก็ร้ ูได้ วา่ ม้ าตัวนี ้
เป็ นสายพันธ์ระดับสูง ถึงแม้ จะเทียบกับม้ าหิมะไม่ได้ แต่ถ้านําไปขายต้ องได้ เงินไม่ตํ่ากว่า 500
เหรี ยญทองเป็ นแน่
“พวกข้ าไม่เป็ นไร เจ้ าไม่จําเป็ นต้ องมาส่งพวกเรา แต่จงมอบม้ าทังสองตั
้ วนันมาชดเชย
้ เจ้ าตัว
ดํานี่ดมู ีสง่าราศีดี ข้ าอยากได้ ”
เฉ่าหมิงซานถึงกับปากเบี ้ยวทันทีที่ได้ ยิน ม้ าตัวนี ้เป็ นถึงม้ าสุดรักและเป็ นสมบัติของเขาเลย
ทีเดียว แต่เขาก็กดั ฟั นตอบไปว่า ”ถ้ าท่านอยากได้ ม้าของข้ าก็ยอ่ มได้ เชิญใช้ ได้ ตามสบายเลย”
“ฮ่าๆ งันก็
้ ต้องขอโทษที่ด้วยที่ข้าทําไม่สภุ าพใส่เจ้ า” หลินเซี่ยวตงพูด เขากระโดดด้ วยร่าง
อ้ วนๆขึ ้นไปบนหลังม้ าสีดํา “ฮ่าๆๆเยี่ยมไปเลย ”
ทันทีที่หลินเซี่ยวตงได้ ม้านันมาครอบครอง
้ ก็อารมณ์ดีขึ ้นมาทันที “สุดยอด นี่มนั ยิ่งกว่าทองซะ
อีก ข้ าไม่เคยรู้สกึ ดีอย่างนี ้มาก่อนในชีวิตไม่ใช่แค่เจ้ า ‘เกา ยี่หวัง’ จะถูกสัง่ สอนจนกลัวตัวสัน่
แม้ แต่หวั หน้ าผู้ดแู ลความปลอดภัยของเมืองก็ยงั ต้ องมอบม้ าที่หายากเช่นนี ้ให้ ข้า”
หลินหมิงยิ ้มและกล่าวว่า “วันนี ้เรายืมพลังอํานาจคนอื่นมาเท่านัน้ ใครๆก็ทําแบบนันได้
้ ถ้ า
อยากภูมิใจอย่างแท้ จริ ง พวกเราต้ องแข็งแกร่งขึ ้นอีกและยืนหยัดด้ วยพลังของตนเองอยูเ่ หนือ
คนทังโลก
้ เพื่อไม่ให้ ใครกล้ ามาก่อปั ญหาให้ เราได้ อีก ความรู้ สกึ นันต้
้ องยิ่งใหญ่มากแน่ๆ
”อยูเ่ หนือคนทังโลกเลยรึ
้ ฮ่าๆพี่หลินหมิง ข้ าไม่ได้ มีความฝั นที่ใหญ่โตอะไรเช่นนันหรอก
้ ข้ ามี
ความสุขกับความพอใจในพลังอํานาจของผู้อื่น เมื่อวันหนึง่ ชื่อเสียงของพี่เป็ นที่ร้ ูจกั ไปทัว่ โลก พี่
ก็ปกป้องข้ า แล้ วข้ าก็จะใช้ ชื่อเสียงของพี่จดั การคนชัว่ แบบจู้ยนั ให้ หมดไปจากโลกเอง”
“ได้ เลย”หลินหมิง หัวเราะเสียงดัง
ทังสองคน
้ ควบม้ าไป 3ถึง4ไมล์ ตามถนน เขาควบม้ าอย่างรวดเร็ วเพื่อกลับมาที่ลานทดสอบ
สํานักเจ็ดแก่นแท้ ซึง่ ที่ลานนันยั
้ งมีผ้ คู นมากมาย ดูเหมือนว่าการทดสอบพละกําลังพึง่ จะเริ่ มต้ น
ขึ ้น
หลินหมิงลืมเกี่ยวกับรถม้ าสีฟ้าไปซะสนิท เขาพึง่ สังเกตเห็นว่ามันจอดอยูต่ รงนัน้ เพียงแต่จ้ ยู นั
ไม่ได้ อยูท่ ี่นนั ้
“ดูเหมือนว่าข้ าจะประเมินเจ้ าตํ่าเกินไป เจ้ าช่างน่าสนใจจริ งๆ” ในตอนนี ้ จู้ยนั ได้ สง่ ข้ อความ
มาให้ หลินหมิง เขาอยูห่ า่ งออกไปไกลกว่า200เมตร
นี่เป็ นข้ อความที่สร้ างจากพลังปราณ มันต้ องใช้ ความชํานาญเป็ นอย่างมากเพื่อที่จะควบคุมมัน
จู้จะต้ องถึงจุดสูงสุดของขันสามใน6เดื
้ อนที่ผ่านมาเป็ นแน่
“อย่าคิดว่าเมื่อแกขึ ้นมาขันสองแล้
้ วจะคิดมาเทียบกับข้ าได้ แกทําได้ เพียงแค่เอาชนะพวกไร้
ประโยชน์ที่อยูใ่ นระดับเดียวกับแก มันไม่ได้ มีอะไรน่าชื่นชมเลย แกเคยบอกว่าวันหนึง่ จะก้ าว
ข้ ามข้ าสินะ ก็ดี ข้ าจะรอวันนัน้ ข้ าจะแสดงให้ แกเห็นถึงความต่างชันระหว่
้ างเรา แกจะได้ ร้ ูวา่
แกไม่ได้ ถกู กําหนดให้ อยูเ่ หนือโลกใบนี ้”
“อยูเ่ หนือแค่โลกใบนี ้รึ ” หลินหมิงยิ ้ม “สําหรับคนอย่างข้ ามิใช้ เพียงแค่โลกใบนี ้แน่นอน….”
บทที่ 33 ทดสอบความแข็งแกร่ง
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
สํานักเจ็ดแก่นแท้ มีแท่นหินที่ใช้ ทดสอบพละกําลังทังหมด20แท่
้ น หลังจากที่การทดสอบเริ่ มต้ น
ขึ ้น ผู้เข้ าการทดสอบทังหมดจะถู
้ กแบ่งออกเป็ น20ทีม เพื่อลดความแออัดของผู้คนลง
แท่นหินทังหมด20แท่
้ ง จะถูกตังอยู
้ ข่ ้ างหน้ าประตูที่แยกไปคนละทิศของสํานักเจ็ดแก่นแท้ โดย
ที่จดุ ยอดของแต่ละแท่นหินจะมีประกายแสงที่จะกําหนดชะตาของผู้เข้ าสอบอยู่ ว่าจะผ่าน
เข้ ารอบหรื อถูกเขี่ยทิ ้งออกไป
ทันใดนันก็ ้ มีหญิงวัยกลางคนอายุประมาณ30-40ปี เข้ ามาตรงหน้ าฝูงชนและเธอขึ ้นไปยืนบน
เวทีที่ถกู เตรียมไว้ “อรุณสวัสดิ์ทกุ ๆคน ข้ าคือหนึง่ ในผู้คมุ สอบในด่านนี ้ ข้ าจะขอประกาศว่าการ
สอบของสํานักเจ็ดแก่นแท้ จะถูกแบ่งออกเป็ นสามส่วน และผู้ที่ทําการทดสอบจะถูกประเมิน
ตามอายุ ความสามารถ และผลการทดสอบ ผู้ที่ติดหนึง่ ในสิบอันดับ จะได้ รับรางวัล และที่หนึง่
จะได้ รับยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง”
ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง! ฝูงชนทังหมดต่ ้ างตกตะลึง แม้ แต่บตุ รหลานของเหล่าขุนนางชันสู ้ ง
ก็ยงั มิอาจเมินเฉยต่อรางวัลชิ ้นนี ้ ยิ่งกับพวกคนที่มีทกั ษะการต่อสู้ตํ่าๆยิ่งแสดงสีหน้ าผิดหวัง
เศร้ าโศกเสียใจอย่างออกนอกหน้ าเหมือนรู้สกึ ได้ วา่ แม้ แต่การทดสอบแรกพวกเขาก็แทบไม่มี
โอกาสผ่านไปได้ แล้ ว ส่วนพวกที่เก่งขึ ้นมาหน่อยก็ร้ ูสกึ ถึงความหวัง ดวงตาเป็ นประกาย
เหมือนกับว่ายานี ้มีเพื่อให้ พวกเขาครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
หลินหมิงได้ ศกึ ษามาก่อนแล้ วถึงคุณสมบัติและสรรพคุณของมัน ยานี ้มีขนาดเท่าเมล็ดองุน่ ยา
เม็ดไขกระดูกมังกรทองถูกปรุงขึ ้นจากไขกระดูกลํ ้าค่าและตัวยาสมุนไพรลํ ้าค่าอื่นๆอีกมากมาย
โดยมันจะสามารถเพิ่มพลังทางกายภาพ สติปัญญา หรื อแม้ กระทัง่ ทําลายช่องว่างของการ
ฝึ กฝนได้
ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองไม่ได้ มาจากตัวมังกรจริ งๆ เพียงแต่ทําจากสิ่งที่เป็ นเชื ้อสายของมังกร
เท่านัน้ อย่างไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวพันกับมังกรย่อมแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แม้ แต่ผ้ เู ชี่ยวชาญ
ระดับปราณฟ้าขันต้ ้ นเทียบไม่ติด
อาณาจักรลิขิตฟ้าเองก็ไม่ได้ มีผ้ เู ชี่ยวชาญระดับปราณฟ้าขันต้
้ นที่สามารถปรุงมันได้ แม้ เพียง
วัตถุดิบที่จะปรุงมันก็หายากอย่างยิ่ง ด้ วยเหตุนี ้อาณาจักรลิขิตฟ้าจึงไม่มีทางที่จะปรุงยานี ้ด้ วย
ตัวเองได้ เลย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้ องมาจากเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขาที่เป็ นผู้ร่วมกันก่อตังสํ
้ านักเจ็ดแก่น
แท้ ในทุกๆปี ปรมาจารย์แห่งขุนเขาทังเจ็
้ ดจะคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถ และให้ ยาโอสถอันลํ ้า
เป็ นรางวัลในการทดสอบเพื่อดึงดูดนักสู้รุ่นเยาว์ที่มีฝีมือมาเข้ าร่วมสํานัก
สําหรับปรมาจารย์แห่งขุนเขาทังเจ็
้ ด ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองอาจจะไม่ได้ มีคา่ มากมายนัก
แต่สําหรับชาวเมืองในอาณาจักรลิขิตฟ้าแล้ ว มันเป็ นถึงสมบัติที่มิอาจซื ้อได้ ด้วยเงินใดๆทังสิ
้ ้น
แม้ แต่ขนุ นางชันสู
้ งก็ต้องอิจฉาตาเป็ นไฟเมื่อได้ เห็นใครก็ตามต่างก็ต้องการครอบครองยาเม็ดนี ้
้ ไม่ได้ ตื่นเต้ นใดใด เธอกล่าวต่อไปว่า “ อันดับที่2 3 และ4 จะได้ รับโอสถ
ผู้คมุ สอบหญิงคนนันดู
พญางูทองคํา และอันดับที่5ถึง10จะได้ รับยาเม็ดผสานวิญญาณสิบเม็ด”
โอสถพญางูทองคําถูกปรุงขึ ้นจากถุงนํ ้าดีของพญางูทองคําที่มีอายุนบั ร้ อยปี ถึงแม้ มนั จะมีคา่
น้ อยยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองก็ตาม มันก็ยงั เป็ นยาที่มีคา่ และหายาก น้ อยคนนักที่จะเคยได้
เห็นมัน
สําหรับอันดับ5ถึง10 ที่ได้ รับยาเม็ดผสานวิญญาณสิบเม็ดซึง่ ก็มีคา่ รองลงมาจากโอสถพญางู
ทองคําถึงอย่างนันเพี
้ ยงหนึง่ เม็ดก็ซื ้อขายกันด้ วยราคาถึง 200 เหรี ยญทอง สิบเม็ดก็ 2000
เหรี ยญทอง (ยาเม็ดผสานวิญญาณก็คือยาที่หลินหมิงเคยไปซื ้อมาจากหอร้ อยสมบัติ) โอสถ
พญางูทองคํามีราคาถึง 10,000 เหรี ยญทอง ยิ่งสําหรับยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองที่มีเพียงเม็ด
เดียวแล้ ว แม่จะยอมจ่ายถึงหลายหมื่นเหรี ยญทองก็มิอาจซื ้อมันมาครอบครองได้
รางวัลที่วา่ มานันทํ
้ าให้ ผ้ เู ข้ าการทดสอบรู้สกึ ตื่นเต้ นอย่างไม่เคยเป็ นมาก่อน พวกเขาแทบจะทน
ไม่ไหวที่จะออกไปแสดงพลังของพวกเขา ในฝูงชนที่กําลังตื่นเต้ นอยูน่ นั ้ มีชายหญิงกลุม่ หนึง่
กําลังหัวเราะดูถกู ผู้อื่นอยู่ พวกเขาสวมใส่ชดุ ผ้ าไหม ผู้ชายสวมสาวรัดหยกและกําลังยิ ้มเยอะ
เย้ ย
ผู้ติดตามของเขาเองก็ยิ ้มอย่างประจบประแจง “คนโง่เหล่านี ้ก็ได้ ร้ ูอะไรเสียเลย ยาเม็ดไข
กระดูกมังกรทองต้ องเป็ นของนายท่านอยูแ่ ล้ ว ชัยชนะครัง้ นี ้ถูกตัดสินตังแต่
้ แรกแล้ ว พวกมันคิด
รึวา่ จะชนะนายท่านได้ ช่างไม่ร้ ูจกั ที่ตํ่าที่สงู เลยจริ งๆ”
ชายหนุ่มคนนันยิ
้ ้มเบาๆและโบกพัดในมืออย่างใจเย็น เขาไม่ได้ ตอบอะไร เขามีพรสวรรค์ระดับ
สี่ และฝึ กฝนจนบรรลุขนที
ั ้ ่สาม เขามาจากเมือง เยว่ลู่ ซึง่ ก็ถือเป็ นเมืองที่มีชื่อเสียงที่ร้ ูจกั กัน
อย่างแพร่หลาย (แปลจนจบตอนก็ยงั ไม่ร้ ูวา่ มันมาทําอะไรในบทนี ้ -*-)
บนเวทีผ้ คู มุ หญิงยังคงกล่าวต่อไปว่า “เราจะเริ่ มการทดสอบรอบแรกในตอนนี ้ ขอให้ ทกุ คนเข้ า
ร่วมด้ วยพลังทังหมดที
้ ่มี แสงจากบนเสาหินจะบอกถึงค่าพลังของพวกเจ้ าทุกคน แต่ละนิ ้วจะ
แสดงค่าถึงพละกําลัง100จิ๋น เมื่อค่าถึง1,000จิ๋น ก็จะถือว่าผ่านการทดสอบ ทุกคนสามารถ
ทดสอบได้ ทงหมด3ครั
ั้ ง้ เพียงถึง1000 จิ๋นหนึง่ ในสามครัง้ นันได้
้ ก็จะถือว่าผ่าน เดี๋ยวข้ าจะสาธิต
ให้ ดู หลิงเซ็น ก้ าวออกมาข้ างหน้ า”
ทันทีที่หญิงสาวพูดจบ ก็มีชายคนหนึง่ ก้ าวขึ ้นมาบนเวที เขามีลกั ษณะสูงและผอมแห้ ง เกือบจะ
เก้ งก้ างเลยก็วา่ ได้ เขามีสหี น้ าดูซีดเซียว มีดวงตาที่ดรุ ้ าย
เขาใส่ชดุ สีดาํ และสะพายดาบที่ยาวถึง3ฟุตเอาไว้ บนบ่า แม้ วา่ ในขณะนี ้จะช่วงเช้ าที่มีแสงแดด
เจิดจรัส แต่เมื่อเขาได้ ก้าวขึ ้นมามาเวที มันทําให้ บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้ วยความเงียบสงัด
“เขาคนนันรึ
้ หลิงเซ็น ”
“คนจากนิกายสวรรค์แห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ ”
แน่นอนว่าหลิงเซ็นเป็ นบุคคลที่มีชื่อเสียงรู้จกั กันไปทัว่ แต่หลินหมิงกลับไม่เคยได้ ยินชื่อเสียง
ของหลิงเซ็นมาก่อน เขาหันไปถามหลินเซี่ยวตง “คนนันเป็
้ นใคร”
หลินเซี่ยวตงอาจจะไม่ได้ ขยันฝึ กฝนทักษะการต่อสู้มากนัก แต่เขาเป็ นคนที่ชอบยุง่ เรื่ องของ
ชาวบ้ านเป็ นอย่างมาก แน่นอนว่าเขาต้ องรู้จกั คนคนนัน้ เขากล่าวขึ ้นมา “หลิงเซ็นเป็ นหนึง่ ใน
ศิษย์ผ้ อู าวุโสของนิกายสวรรค์ที่เก่งกาจอันดับต้ นๆของสํานักเจ็ดแก่นแท้ เขามีอายุเพียง20ปี
และมีพรสวรรค์ระดับสี่ การฝึ กฝนของเขาไปถึงจุดสูงสุดของขันที ้ ่สี่ เขาพึง่ ได้ เข้ าร่วมนิกาย
สวรรค์เมื่อไม่กี่ปีมานี ้ เขาอาสาไปอยูแ่ นวหน้ าของสงครามเป็ นเวลาหนึง่ ปี เขาฆ่าคนไปนับไม่
ถ้ วน จนถึงตอนนี ้ทักษะและประสบการณ์ของเข้ าเก่งกล้ าจนยากจะต่อกร หลายๆคนกล่าวว่า
เขาจะบรรลุขนที
ั ้ ่ห้าในเร็ววันนี ้”
“อายุเพียง20ปี ฝึ กฝนไปถึงขันที้ ่ห้า? หลินหมิงตกใจเล็กน้ อย โดยทัว่ ไปแล้ วทักษะการต่อสู้
ระดับนี ้มันสูงเกินคาดยิ่งนัก ปกติแล้ วบุคคลที่จะฝึ กฝนไปถึงขันที
้ ่ห้าควรมีอายุราวๆ30ปี หลิง
เซ็นมีบรรยากาศที่เต็มไปด้ วยจิตสังหาร ดูเหมือนว่าเขาได้ ฆา่ คนไปเป็ นจํานวนมากในสนามรบ
ถ้ าเทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ ว เจ้ านี ้ถือเป็ นปรมาจารย์เลยก็วา่ ได้ ”
หลิงเซ็นเกลียดการสาธิตแบบนี ้มาก แต่มนั ก็เป็ นธรรมเนียม ที่ลกู ศิษย์ในนิกายสวรรค์จะเป็ นผู้
แสดงพลังออกมาให้ เป็ นที่ประจักษ์ นี่ก็เพื่อแสดงให้ เห็นว่ายังมีคนที่แข็งแกร่งเพียงไรอยูใ่ น
สํานักแห่งนี ้ ซึง่ มันจะผลักดันให้ พวกเขาฝึ กฝนตนเองเพิ่มมากขึ ้น
หลิงเซ็นก้ าวขึ ้นมายืนบนเวที ซึง่ ในขณะนี ้ยังไม่มีใครได้ เตรี ยมตัวใดใดทังสิ
้ ้น เขาเหวี่ยงแขนออก
แรงไปที่แท่นหิน “ปั งง!!” แท่นหินสัน่ สะเทือนอย่างรุนแรง แสงบนตัวหินพุง่ สูงปรี๊ ดและหยุดลง
อยูท่ ี่คา่ ๆหนึง่
4900จิ๋น!!!
ทุกๆคนต่างตกตะลึงและอึ ้งไปตามๆกัน นี่ถ้าหลิงเซ็นใช้ พลังทังหมดของเขาละแล้
้ ว มันอาจจะ
ทะลุเกิน 5000 จิ๋นก็เป็ นได้
เมื่อเห็นค่าพลังนัน้ หลินหมิงตาโตเท่าไข่หา่ น พลังของหลินเซ็นเกือบจะเป็ นสองเท่าของเขา
ในตอนนี ้
หลินเซี่ยวตงบอก “มันไม่ใช้ เรื่ องน่าตกใจอันใด เขาก็เป็ นถึงหนึง่ ในสิบบุคคลที่แข็งแก่งที่สดุ ใน
รุ่นเดียวกัน มันคงจะแปลกเสียด้ วยซํ ้าที่เขาจะทําได้ ไม่ถงึ ขันนี
้ ้”
“หนึง่ ในสิบผู้ที่แกร่งที่สดุ ในรุ่นรึ ฉินชิงหวนสู้เขาได้ หรื อไม่” หลินหมิงถาม
หลินเซี่ยวตงยักไหล่ “ข้ าไม่ร้ ูพลังของฉินชิงหวนแม้ แต่น้อย แต่เธอนันฝึ้ กฝนทุกศาสตร์ เป็ นถึงผู้
รอบรู้ในทุกๆเรื่ อง และรวมถึงเรื่ องการจารึกด้ วย แต่กบั หลิงเซ็นที่เอาแต่มงุ่ เน้ นในการฝึ กฝน
ต่อสู้เพียงอย่างเดียว ข้ าว่าฉินชิงหวนคงไม่อาจสู้เขาได้ ทังนี
้ ้ฉินชิงหวนก็มีอายุเพียง15ปี ส่วนห
ลิงเซ็น เขามีอายุ20ปี แล้ ว”
เมื่อได้ ยินอย่างนัน้ หลินหมิงก็พยักหน้ าหงึกๆ
การฝึ กฝนกายภาพมีทงหมด6ขั
ั้ น้ ยิ่งไปได้ ไกลขนาดไหน ยิ่งมีช่องว่างห่างกันมากขึ ้นเท่านัน้
พลังที่อยูใ่ นขันผสานชี
้ พจรอาจจะมีพละพลังถึง 8000 จิ๋นซึง่ หลินหมิงยังห่างไกลจากขันนั ้ นอยู
้ ่
อีกมากนัก
“เริ่ มการทดสอบได้ แล้ ว”ในช่วงเวลานัน้ ผู้คมุ หญิงก็ได้ ประกาศเริ่ มการทดสอบพละกําลังทันที
ผู้เข้ าทดสอบวัยหนุ่มสาวต่างก็เต็มไปด้ วยความกระตือรื อร้ น ต่างคนต่างเข้ ามาทําการทดสอบ
แต่อย่างไรก็ตามก็มีคนจํานวนไม่น้อยไม่ผ่านการคัดเลือก
“900 จิ๋น, 850 จิ๋น, 850 จิ๋น ครบสามครัง้ แล้ วไม่ผ่าน คนต่อไป”
“950 จิ๋น, 900 จิ๋น, 900 จิ๋น ครบสามครัง้ แล้ วไม่ผ่าน คนต่อไป”
ผู้เข้ าทดสอบส่วนใหญ่ยงั ไม่ฝึกฝนถึงขันที
้ ่สองเลยด้ วยซํ ้า แต่หากพวกเขามาถึงจุดสูงสุดของขัน้
แรกแล้ ว การที่พวกเขาอาจจะแสดงพละกําลัง 1000 จิ๋นออกมาก็เป็ นเรื่ องที่เป็ นไปได้ แต่ด้วย
ความกดดันและความกังวลต่างทําให้ พละกําลังถูกบัน่ ทอนลงมา ซึง่ คนพวกนี ้ก็จะไม่ผา่ นการ
ทดสอบไปโดยปริ ยาย
“1000 จิ๋นผ่าน”ผู้ที่ทําการทดสอบในแถวเดียวกับหลินหมิงผ่านการทดสอบ เขากระโดดโลด
เต้ นดีอกดีใจอย่างสุดตัว แต่ในความเป็ นจริ งแล้ ว การผ่านมาด้ วยพละกําลังที่เฉียดฉิวเช่นนี ้ ก็
ยากที่จะผ่านการทดสอบในรอบที่สองไปได้ แต่ถงึ อย่างนันมั ้ นก็น่าดีใจที่เขาผ่านด่านแรกใน
การทดสอบมาได้ แล้ ว
“1300 จิ๋นผ่าน!”
“950 จิ๋นไม่ผ่าน!”
เมื่อผลออกมาไม่ผ่าน พวกคนเหล่านันก็้ ต้องจําใจจากไปอย่างเศร้ าสลด ส่วนคนที่ผ่านก็ผ่าน
แบบงงๆ บางคนก็เหมือนเป็ นเรื่ องธรรมดาอยูแ่ ล้ วที่จะแสดงพละกําลัง1000จิ๋นออกมาได้
ทันใดนัน้ ก็เกิดความวุน่ วายตรงหน้ าหลินหมิง เขาเห็นผู้ชายสวมชุดลินินสีฟ้ายืนอยูด่ ้ านหน้ า
แท่นหิน เขากําลังรวบรวมพละกําลังอยู่
หลินหมิงเกิดความสงสัยว่าผู้ชายคนนี ้เป็ นใคร เมื่อเขาได้ ยินเสียงผู้คนคุยกันจ้ าระหวัน่ “เขาคือ
ซันปิ งจากเมืองสายนํ ้าตะวันออก เขาฝึ กฝนถึงขันสามแล้
้ ว พละกําลังของเขาต้ องแข็งแกร่งมาก
เป็ นแน่”
ระหว่างที่ผ้ คู นกําลังโต้ เถียงกันอยูน่ นั ้ ซันปิ งได้ ชกลงไปยังหินที่อยูด่ ้ านหน้ าอย่างรุนแรง ลําแสง
บนหินพุง่ สูงขึ ้นอย่างน่ากลัว และในที่สดุ ก็หยุดลง
“2300 จิ๋น!”
นี่เป็ นครัง้ แรกที่มีผ้ เู ข้ าสอบแสดงพละกําลังเกิน2000จิ๋นออกมา เหล่าฝูงชนต่างก็สง่ เสียงโห่ร้อง
กันอย่างอึกทึก
บทที่ 35 แท่นหยกแห่งทะเลสาบมรกต
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
แก่นแท้ แห่งศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่สิ่งที่แสดงถึงคุณธรรมหรื อธรรมะแต่อย่างใด ไม่วา่ จะเป็ น
พระพุทธรูปผู้มีความชอบธรรมหรื อประมุขนิกายปี ศาจที่ชวั่ ร้ าย ความจริ งแล้ วแก่นแท้ แห่ง
ศิลปะการต่อสู้ไม่ได้ เป็ นตัวตัดสินว่าจะดีหรื อชัว่ ร้ าย มันเพียงแค่แยกแยะได้ วา่ ใครจะเลือกเดิน
ไปบนเส้ นทางไหน
การฝึ กศิลปะการต่อสู้คือการดิ ้นรนต่อสู้ในแต่ชีวิตประจําวัน ชีวิตคนคนหนึง่ จะเต็มไปด้ วยความ
ทุกข์ยากอันตรายและสิ่งล่อใจ หากว่าจิตใจไม่มนั่ คงแล้ วมันเป็ นเรื่ องง่ายที่จะถอดใจและยอม
แพ้ ตอ่ เส้ นทางของนักสู้ดงั นันความพยายามก่
้ อนหน้ านันทั
้ งหมดก็
้ จะสูญเปล่า
บางคนฝึ กศิลปะการต่อสู้เพียงเพื่อความมัง่ คัง่ และความสนุกสนาน แท้ จริ งแล้ วในจิตใจของ
พวกเขาเหล่านันพวกเขาฝึ
้ กศิลปะการต่อสู้โดยไม่เข้ าใจความหมายที่แท้ จริ งของมัน สิง่ นี ้อาจจะ
ไม่สง่ ผลกระทบอะไรในช่วงต้ นของการบ่มเพาะการฝึ กฝน แต่มนั จะเป็ นสิง่ กีดขวางที่ยากจะ
ก้ าวข้ ามในภายหลัง เมื่อมาถึงขันผสานชี
้ พจรก็เพียงพอแล้ วสําหรับคนคนหนึง่ ซึง่ ต้ องการใช้
ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่ มเฟื อยบนกองเงินทอง มีหญิงงามทัว่ ราชอาณาจักรลิขิตฟ้าและนักรบ
มากมายที่จะยอมรับในตัวของบุคคลที่ไปถึงขันนี ้ ้ ผู้คนส่วนใหญ่เมื่อประสบความสําเร็ จในขันนี้ ้
แล้ ว การฝึ กฝนพัฒนาตนก็จะหยุดอยูเ่ พียงเท่านันเพราะไม่
้ อาจต้ านทานความหรูหรา
สะดวกสบายได้
การทดสอบความมุง่ มัน่ ไม่ใช่การทดสอบการบ่มเพาะพลังของแต่ละคน แต่มนั ทําให้ รับรู้ถงึ
ความมุง่ มัน่ และแก่นแท้ ของศิลปะการต่อสู้ของแต่ละคน หลินหมิงมัน่ ใจมากเกี่ยวกับเรื่ องนี ้
แม้ วา่ เขาจะไม่ได้ รับศิลาลึกลับนัน่ เขาก็เชื่อว่าเขาจะมีโอกาสผ่านถึง 120%
ณ เวลานี ้มีมากกว่าครึ่งของผู้สมัครเข้ าทดสอบที่ล้มเหลวในการทดสอบแรก ดังนันหลั
้ งจากที่
พวกเขาออกจากสนามสอบไป สนามก็มีที่วา่ งมากขึ ้น
โชคร้ ายที่หลินเซี่ยวตงก็ไม่มีคณ
ุ สมบัติที่จะเข้ าสํานัก ดังนันเขาจึ
้ งต้ องถูกไล่ไปอยูบ่ นถนนหลักที่
อยูห่ า่ งไกลออกไปจากสนาม
หลินหมิงหันกลับไปดูหลินเซี่ยวตง แม้ วา่ คนจะเยอะหลินหมิงก็ยงั หาเขาพบ
หลินเซีย่ วตงเองก็เห็นหลินหมิงเช่นกัน เขายกนิ ้วโป้งส่งไปให้ กําลังใจหลินหมิง หลินหมิงก็ยิ ้ม
ตอบ เมื่อเขาหันกลับมาเขาก็พบว่าคนๆหนึง่ ในกลุม่ คนมองมาที่เขา เด็กผู้หญิงคนหนึง่ สวมชุด
กระโปรงดอกไม้ งาม เธอดูเหมือนหญิงสาวชนชันสู ้ งด้ วยหมวกที่ทําจากขนของหงส์ เธอยืนอยู่
ในมุมที่ไม่เด่นมุมหนึง่ แต่เธอก็เห็นทุกอย่าง
หลินหมิงจําเด็กผู้หญิงคนนันได้
้ เธอคือหลานยุนเยีย
หลินหมิงรี บถอนสายตาของเขาออกจากเธอ เขารู้ตวั ว่าถ้ าเขายังมองเธอต่อไป มันจะยิ่งเพิ่ม
ความลําบากใจให้ กบั หลานยุนเยีย มันยังดีกว่าถ้ าเธอจะไม่ร้ ูวา่ เขามองเธอ…
ในใจของหลินหมิง เขาก็ไม่ได้ ตําหนิอะไรหลานยุนเยีย อย่างไรก็ตามมันก็เป็ นแค่ข้อตกลงลับๆ
ระหว่างสองครอบครัว และพวกเขาก็ไม่ได้ กล่าวถึงการแต่งงานหรื ออะไรทํานองนันในวงกว้้ าง
หลานยุนเยียก็แค่เลือกเหมือนเด็กผู้หญิงทัว่ ไปเมื่อต้ องตกอยูใ่ นสถานการณ์เช่นนัน้
หลานยุนเยียไม่ร้ ูวา่ หลินหมิงมองเธออยู่ หลานยุนเยียต้ องต่อสู้กบั หัวใจของเธอมาเป็ น
เวลานานกว่าจะตัดสินใจได้ วา่ จะมาดูการทดสอบในครัง้ นี ้หรื อไม่ เดิมทีเธอเองก็ไม่ต้องการที่จะ
พบเจอหลินหมิงอีก แต่ในใจของเธอยังเต็มไปด้ วยความกังวล เธอต้ องการจะรู้วา่ เขายังสบายดี
อยูห่ รื อไม่
เธอจําได้ วา่ สองเดือนที่แล้ วเธอเห็นหลินหมิงพยายามที่จะขายจารึกที่ด้อยคุณภาพหลายแผ่น
เหตุการณ์ที่หน้ าหอร้ อยสมบัติทําให้ เธอรู้สกึ สงสารเขา
การสนับสนุนในด้ านศิลปะการต่อสู้ของเด็กคนหนึง่ มักจะขึ ้นอยูก่ บั ฐานะความมัง่ คัง่ ในตระกูล
ของเด็กคนนัน้ หากว่าเด็กคนนันมิ
้ ได้ มีพรสวรรค์ที่ลํ ้าเลิศและยังขาดแคลนทุนทรัพย์ในการซื ้อ
สมุนไพรและยาโอสถต่างๆ ในสถานการณ์ที่น่าเศร้ าเช่นนี ้พวกเขาอาจทําได้ เพียงใช้ หญ้ า
สมุนไพรถูกๆในการบรรเทาอาการเจ็บปวดจากการฝึ ก และหากเป็ นเช่นนันแล้ ้ วร่างกายก็จะ
สะสมอาการบาดเจ็บไว้ ภายใน
ความคิดเหล่านี ้ทําให้ หลานยุนเยียเจ็บปวดใจ โดยส่วนตัวเธอชอบความเข้ มแข็งและความ
มุง่ มัน่ ของเขา เธอจําได้ วา่ ตอนที่เธอยังเป็ นเด็ก เขาปกป้องเธอจากอันธพาลกลุม่ ใหญ่ เขายืน
อยูด่ ้ านหน้ าของเธอเป็ นดัง่ อัศวินผู้กล้ าหาญ เขาทําให้ เธอรู้สกึ ว่าได้ รับการปกป้องและปลอดภัย
จากอันตรายทังปวง ้
แต่แล้ วในท้ ายที่สดุ ความรู้สกึ เหล่านันก็
้ ไม่ได้ ยงั่ ยืนตลอดไป…
เธอเป็ นหญิงสาวที่มีเสน่ห์และโดดเด่นกว่าหญิงใดในเมืองใบหม่อนสีเขียว พรสวรรค์ของเธออยู่
ในเกณฑ์ที่ดีและถึงแม้ วา่ เธอจะไม่ได้ มาจากครอบครัวชนชันสู ้ ง แต่ครอบครัวของเธอก็รํ่ารวย
เด็กผู้หญิงเช่นนี ้ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะมีความรู้สกึ เหนือกว่า เธอไม่สามารถโน้ มน้ าวให้ ตวั เอง
ให้ ชีวิตดังเช่นคนปกติธรรมดาได้ ชีวิตที่เธอจะต้ องแต่งงานกับหลินหมิงน่ะรึ และกลายเป็ นเพียง
นายหญิงของร้ านอาหารเล็กแห่งหนึง่ ชีวิตที่เขาและเธอจะรักกันและมีลกู ตังแต่ ้ อายุยี่สบิ และ
ซักวันหนึง่ เขาก็จะตายจากไป ทิ ้งเธอไว้ ให้ อยูต่ วั คนเดียวกับรูปลักษณ์ที่โรยราลงไปตาม
กาลเวลา
เธอไม่ต้องการที่จะมีชีวิตเช่นนันอย่
้ างเด็ดขาด เธอต้ องการอนาคตที่ก้าวหน้ า!
ดังนันเธอจึ
้ งเลือกจู้ยนั ไม่เพียงเพราะความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลจู้และราชวงศ์ แต่เขายัง
สามารถช่วยให้ เธอเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ เขายังให้ ยาโอสถที่หายากแก่เธอ และยังจะช่วยเธอ
ให้ เข้ าสูข่ นผสานชี
ั้ พรให้ ได้ ภายใต้ สิ่งล่อใจเช่นนัน้ หลานยุนเยียไม่อาจทนต่อความน่าหลงใหล
ในอนาคตที่ก้าวหน้ าของเธอได้
ในเช้ าวันนี ้หลานยุนเยียสับสนว่าเธอควรจะทําเช่นไร เมื่อพิจารณาจากความเหมาะสมแล้ วเธอ
ไม่ควรมาดูเขา แต่สดุ ท้ ายเธอก็ล้มเหลวในความตังใจเช่ ้ นนัน้ เธอมาดูเขาในตอนบ่าย เธอคิดว่า
หลินหมิงน่าจะไม่ผา่ นด่านการทดสอบพละกําลัง เมื่อเป็ นเช่นนันเขาก็ ้ จะยอมแพ้ ตอ่ ความฝั น
ของเขาและกลับบ้ านไปใช้ ชีวิตปกติอย่างปลอดภัย และทําให้ เธอเลิกกังวลใจเรื่ องเขาเสียที เธอ
ไม่คิดว่าจะได้ เห็นหลินหมิงอยูใ่ นกลุม่ ผู้ที่ผ่านเข้ ารอบ มันทําให้ เธอต้ องประหลาดใจและเป็ น
กังวล
เธอประหลาดใจเพราะเธอคิดว่าเป็ นไปไม่ได้ ที่คนธรรมดาอย่างหลินหมิงจะสามารถฝึ กฝนมาถึง
ขันที
้ ่สอง ได้ โดยมีอายุเพียง15ปี และไร้ ขนุ นางหนุนหลัง
เธอกังวลว่าหลินหมิงจะต้ องฝึ กฝนอย่างหักโหม จนร่างกายของเขาได้ รับบาดเจ็บภายในขัน้
รุนแรง และเขาอาจจะต้ องพิการในอีกไม่กี่สิบปี …
…
…
…
ผู้คมุ การทดสอบหญิงกลับมาอีกครัง้ เธอจ้ องมองไปที่ฝงู ชนเห็นได้ วา่ มีกลุม่ คนจํานวนหนึง่ ที่
ผ่านเข้ ามาได้ เธอคิดว่าผลที่ออกมานี ้ก็ไม่ได้ เลวร้ ายเกินไป “ทุกคนตามข้ ามา พวกเรากําลังจะ
มุง่ หน้ าไปแท่นหยกแห่งทะเลสาบมรกต
ฝูงชนคนกว่าร้ อย เหล่าหนุ่มสาวทังชายหญิ
้ งต่างก้ าวตามหญิงสาวผู้คมุ การทดสอบไปอย่าง
มุง่ มัน่ ตังใจ
้ เธอได้ เดินผ่านประตูที่ดทู รงพลังอํานาจและแผ่รังสีคกุ คามแห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้
เข้ าไป
สํานักเจ็ดแก่นแท้ นนตั
ั ้ งอยู
้ บ่ นหุบเขา ที่แห่งนี ้ไร้ ซงึ่ ตึกอาคารสูงหรื อสิ่งก่อสร้ างขนาดใหญ่ใดใด
จะมีก็แต่เพียงแผ่นดินกว่างไกลไร้ ที่สิ ้นสุดและศาลาที่ห้อมล้ อมไปด้ วยลําธารที่ดเู ป็ นธรรมชาติ
ศาลาเหล่านี ้ถูกสร้ างขึ ้นอย่างประณีตงดงาม ตังตระหง่ ้ านอยูก่ ลางทิวทัศน์ที่สดใสสวยงาม มัน
ทําให้ เหล่าผู้คนจําต้ องอุทานออกมาอย่างซาบซึ ้งกินใจในงานฝี มืออันไร้ ที่ติ และกลมกลืนกับ
ธรรมชาติเช่นนี ้
เหล่าหนุ่มสาวเดินต่อไปเป็ นเวลาดื่มชาหมดหนึง่ ถ้ วย พวกเขาก็คอ่ ยๆเข้ ามาใกล้ ทะเลสาบสี
เขียวมรกต มันมีสีสนั สดใสเช่นเดียวกับหยกลํ ้าค่า บนผิวนํ ้าไม่มีแม้ แต่ละลอกคลื่น นํ ้าแต่ละ
หยาดหยดเรียงตัวกันอย่างเรี ยบสงบ และแม้ วา่ นี่จะเป็ นฤดูใบไม้ ร่วง แต่กลับไม่มีใบไม้ แม้ แต่ใบ
เดียวที่ลอยอยูบ่ นผิวของทะเลสาบนี ้ มันเป็ นเรื่ องที่ทําให้ ทกุ คนต้ องแปลกใจ
ในใจกลางทะเลสาบสีเขียวมรกต มีแท่นหยกที่ได้ รับการแกะสลักจากหยกขาว แท่นหยกนี ้ถูก
เชื่อมจากฝั่ งเข้ าไปสูก่ ลางทะเลยสาบด้ วยสะพานหินเก้ าแห่ง มันเป็ นดังเช่นโลกแห่งจิตนาการที่
เกิดอยูใ่ นชีวิตจริ ง
หลินหมิงพบว่าไม่กี่เมตรห่างออกไปจากแท่นหยกมีศาลาตังอยู ้ ่ ในศาลานันมี้ โต๊ ะหินเงาแวววับ
บนโต๊ ะหินเต็มไปด้ วยชาหอมกรุ่นและผลไม้ แห้ ง รอบๆโต๊ ะนัง่ มีคนแก่หลายคนและเด็กสาวคน
หนึง่ ที่กําลังมองพวกเขาอย่างความสนใจ
โดยไม่มีทางที่ใครจะได้ คาดคิดมาก่อน พวกเขาคือฉินชิงหวนและท่านมูย่ ี่
หลินหมิงชะงักในทันที เหตุใดพวกเขาทังสองจึ
้ งได้ ปรากฏตัวอยูใ่ นที่แห่งนี ้?
มูย่ ี่เห็นว่าหลินหมิงมองไปที่เขา เขาก็ยิ ้มตอบกลับมาอย่างสงบแผ่วเบา ฉินชิงหวนก็ยิ ้มให้ เขา
อย่างเป็ นมิตรเช่นกัน
หลินหมิงยิ ้มตอบรับพวกเขาอย่างมีมารยาท เขาสงสัยว่าคนอืน่ ๆที่อยูก่ บั มูย่ ี่ก็ต้องไม่ธรรมดา
เช่นกัน ในหมูพ่ วกเขาเมื่อดูจากการหายใจและการแสดงออกแล้ ว พวกเขาต้ องแข็งแกร่งไม่น้อย
ไปกว่ามูย่ ี่อย่างแน่นอน
คนเหล่านี ้เป็ นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง!
หลินหมิงคาดเดาไม่ผิด คนเหล่านี ้บางคนเป็ นเพื่อนของมูย่ ี่ บางคนเป็ นเจ้ าหน้ าที่อาวุโสแห่ง
อาณาจักรลิขิตฟ้า ทังยั
้ งมีผ้ อู าวุโสแห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ ด้วย การทดสอบเช่นนี ้จะจัดขึ ้นเพียง
สองครัง้ ต่อปี พวกเขาจะต้ องมาเฟ้นหาต้ นกล้ าที่มีพรสวรรค์ในหมูผ่ ้ สู มัคร
พวกเขาต่างมองหาผู้ที่มีความสามารถเพียงพอและยังต้ องมีแก่นแท้ อนั บริ สทุ ธิ์แห่งจิตวิญญาณ
การต่อสู้ ในทุกๆปี ผู้สมัครต้ องแสดงพรสวรรค์และข้ อมูลอื่นๆในการสมัครสอบ ดังนันเหล่
้ าผู้
อาวุโสจึงไม่จําเป็ นต้ องตรวจวัดด้ วยตนเอง พวกเขาสามารถตรวจสอบได้ ผ่านข้ อมูลที่สมัครเข้ า
มา
ผู้สมัครที่น่าจับตาที่สดุ ก็คือเด็กคนหนึง่ เขาน่าจะเป็ นผู้ที่แข็งแกร่งที่สดุ ในกลุม่ และมีพรสวรรค์
ระดับสี่ ในช่วงที่สงู
การจะมีเด็กที่มีพรสวรรค์ระดับห้ าเกิดขึ ้นแม้ เพียงสักคนในรอบหนึง่ ทศวรรษก็เป็ นเรื่ องน่ายินดี
โดยปกติก็จะเป็ นเช่นนี ้ ผู้เข้ าสอบที่มีพรสวรรค์สงู สุดก็มกั จะมีพรสวรรค์ระดับสี่ช่วงสูงหรื อไม่ก็
พรสวรรค์ระดับสี่ช่วงกลาง
การสอบรอบแรกไม่ได้ สําคัญอะไรนัก ดังนันผู ้ ้ อาวุโสของสํานักจึงไม่ได้ ปรากฏตัว พวกเขา
สามารถประเมินได้ จากข้ อมูลการฝึ กฝนที่มีอยูแ่ ล้ ว และในตอนนี ้พวกเขามาสังเกตผู้สมัครที่มี
หัวใจมุง่ มัน่ ที่จะก้ าวไปบนเส้ นทางแห่งการต่อสู้
“เข้ ามาได้ ปกป้องความคิดของพวกเจ้ าให้ ดี ตังจิ
้ ตอยูบ่ นสมาธิอนั แน่วแน่ และเมื่อเจ้ าข้ ามผ่าน
้ ่ห้าไปได้ เจ้ าก็จะผ่านการทดสอบด่านนี ้ “ผู้คมุ หญิงกล่าว
ขันที
ผู้สมัครก้ าวขันมาบนสะพานหิ
้ น หัวใจของพวกเขาเริ่ มสัน่ สะท้ าน ความมัน่ ใจที่มีในรอบแรงจาง
หายไปแทบไม่เหลือในครานี ้ ในด่านแรกพวกเขารู้ดีถงึ ขีดจํากัดพละกําลังของพวกเขาอยูแ่ ล้ ว มี
แค่บางคนที่เกิดความกังวลและไม่สามารถแสดงความแข็งแกร่งทังหมดของพวกเขาได้
้ ถงึ ได้ ตก
รอบไป พวกเขาส่วนใหญ่ที่มนั ใจในพละกําลังของตนเองจึงไม่ได้ กงั วลนัก แต่ในด่านนี ้คือการ
ทดสอบจิตใจ พวกเขาไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับมันมาก่อน
ผู้สมัครหลายคนไม่เคยรู้แม้ แต่รายละเอียดของการทดสอบจิตใจในครัง้ นี ้ เพียงแต่พวกเขาเคย
ได้ ยินว่านี่คือการสอบที่มีอตั ราการคัดออกสูงมากถึง 90%!
ในสิบคนจะมีเพียงคนเดียวเท่านันที ้ ่ผ่านเข้ าไปได้ !
เหล่าเด็กหนุม่ สาวที่มีพรสวรรค์อนั โดดเด่นกว่าผู้ใดในกลุม่ คนที่อายุเท่ากับพวกเขา พวกที่เคย
ได้ รับความเคารพนับถือและถูกเรี ยกว่าอัจฉริ ยะตังแต่
้ วยั เด็ก แต่แม้ ในกลุม่ เด็กอัจฉริ ยะดังกล่าว
ก็ยงั ถูกคัดออกไปในด่านทดสอบจิตใจ!
นี่เป็ นการทดสอบที่น่าหวาดกลัวอย่างแท้ จริ ง!
“จงนัง่ ลงบนแผ่นหยก หลังจากนับสิบลมหายใจแล้ วการทดสอบก็จะเริ่ มขึ ้น”ผู้คมุ หญิงกล่าว
แม้ วา่ เธอจะอยูไ่ กลจากผู้เข้ าสอบ แต่ทกุ คนก็ยงั ได้ ยินเสียงของเธอดังภายในหู มันคือวิธีการใน
การส่งผ่านข้ อความด้ วยพลังปราณที่เหนือกว่าครัง้ ที่จ้ ยู นั เคยใช้ สง่ ข้ อความให้ กบั หลินหมิง
หลินหมิงสงสัยว่าผู้คมุ การทดสอบหญิงคนนี ้ อาจไปถึงขันผสานชี
้ พจรแล้ วก็เป็ นได้ !!
เมื่อหลิงหมิงเดินขึ ้นไปบนแท่นหยก เขามองดูฝงู ชนที่อยูห่ า่ งไกลออกไป และพบว่าหญิงคนหนึง่
ในหมูฝ่ งู ชนที่มาชมการทดสอบในรอบที่สองของพวกเขา เธอคือหลานยุนเยีย เธอยืนพิงต้ นไม้
และจ้ องมาที่เขา และดูเหมือนว่าเธอจะไม่คิดว่าเขาจะหาเธอพบ
หลินหมิงมองอยูเ่ พียงครู่เดียวและตัดสายตาจากเธอ เขาค่อยๆนัง่ ขัดสมาธิอย่างช้ าๆลงบนแท่น
หยก
บทที่ 36 จิตใจแห่งการต่อสู้ของหลินหมิง
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
หลังจากที่นงั่ ลงบนแท่นหยกแล้ ว หลินหมิงพบว่าถึงแม้ แท่นหยกนันจะทํ ้ าจากหินอ่อนก็ตาม แต่
มันก็ไม่ได้ ร้ ูสกึ ให้ ความรู้สกึ เย็นเหมือนที่คิดเอาไว้ ในทางกลับกัน เหมือนมีไออุน่ ที่ไม่สามารถ
อธิบายได้ ไหลเวียนออกมา หากสังเกตมันดีๆจะเห็นด้ วยว่าแท่นหยกนี ้มีการแกะสลักเอาไว้ มัน
ได้ ถกู ลงอาคมเอาไว้
แท่นหยกขนาดใหญ่นี ้ก็มีอกั ขระเวทมนต์ ว่ากันว่าอักขระเวทมนต์นี ้ถูกสร้ างขึ ้นโดย ปรมาจารย์
ระดับปราณปลายฟ้าผู้เป็ นหนึง่ ในเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขา สําหรับพวกเขาแล้ ว พวกเขาไม่
สามารถแยกได้ เลยว่าสิ่งได้ จะเป็ นภาพจริ ง สิ่งใดจะเป็ นเพียงภาพลวงตา
อย่างไรก็ตามหลินหมิงก็ไม่ได้ กงั วลในเรื่ องนัน้ ความฝั นจะอย่างไรเสียก็ยงั เป็ นเพียงแค่ความ
ฝั น ตราบใดที่เขายังคงสติไว้ อยู่ ต่อให้ ความฝั นนันจะโหดร้
้ ายอํามหิตเหนือจินตนาการซัก
เพียงใด เขาก็จะยึดมัน่ อยูก่ บั ความเป็ นจริ งเท่านัน้
ขณะที่หลินหมิงนัง่ อยูท่ ี่แท่นหยก ในหัวเขาก็เต็มไปด้ วยแสงสว่าง
เมื่อเวลาผ่านไป หลินหมิงก็ได้ เห็นแสงกําลังครอบคลุมตัวของเขา และผู้ทดสอบคนอื่นๆก็ได้
หายไปจากสายตาของเขา ทิ ้งให้ เขาอยูเ่ พียงลําพัง
สภาพแวดล้ อมโดยรอบ กลายเป็ นทุง่ หญ้ าที่กว้ างใหญ่ไพศาลแผ่ขยายออกไปจนสุดสายตา ใน
ตอนนันก็
้ มีปีศาจฝูงหนึง่ ที่มีความสูงเท่าๆกับคนกําลังพุง่ ตรงมาที่เขา
ฝูงปี ศาจกว่าหลายสิบตัวที่วา่ นี ้ เป็ นดัง่ ฝูงปี ศาจที่หลินหมิงได้ เคยสังหารมาก่อนแล้ ว แผ่นดิน
และผืนหญ้ าเริ่ มสัน่ สะเทือน กลุม่ พลังอํานาจที่นา่ กลัวกําลังคืบคลานเข้ ามาหาเขา
หลินหมิงไม่แม้ แต่จะลืมตาขึ ้นมาด้ วยซํ ้า จนกระทัง่ หนึง่ ในปี ศาจนัน่ พุง่ กระโจนเข้ าใส่หลินหมิง
“ฟุบบบ!”
ปี ศาจที่ทา่ ทางดุร้ายได้ พงุ่ ผ่านตัวหลินหมิงไป ก่อนหน้ านันหลิ
้ นหมิงยังคงไม่ได้ รับบาดเจ็บอะไร
แต่เมื่อปี ศาจดังกล่าวได้ พงุ่ ผ่านร่างของเขาไป เขารู้สกึ ได้ ถงึ แรงสัน่ สะเทือนพุง่ ตรงมาสูภ่ ายใน
จิตใจของเขา แม้ วา่ เขาจะรู้ดีวา่ นี่เป็ นเพียงแค่ความฝั นก็ตาม เขาก็ไม่สามารถขจัดความรู้สกึ นี ้
ออกไปได้ มันคือความกลัวจากส่วนลึกของจิตใจ
นี่คือพลังอํานาจแห่งอักขระเวทมนต์อย่างนันรึ้ ถึงแม้ วา่ เขาจะรู้วา่ นี่เป็ นภาพลวงตาก็ตาม แต่
เขาก็เกือบจะคิดว่าเป็ นของจริ ง หากเมื่อใดที่เขาไม่สามารถคงรักษาสติเอาไว้ ได้ แน่นอนว่าเขา
จะไม่สามารถแยกได้ ระหว่างความเป็ นจริ งกับภาพลวงตา
ถ้ าเป็ นเช่นนัน้ ภาพลวงตาก็จะกลายเป็ นความจริ ง และถ้ าภาพลวงตาฆ่าเขาได้ เขาก็อาจจะ
ตายในความฝั นนันก็ ้ เป็ นได้
ขณะที่หลินหมิงผ่านด่านแรกไปได้ อย่างปลอดภัย บนเวทีหยกนันก็ ้ ได้ มีแสงจํานวนมากส่อง
สว่างขึ ้น ทันใดนันผู
้ ้ เข้ าทดสอบที่เคยหายไปจากเวทีก็ได้ กลับมาอีกครัง้ ซึง่ แต่ละคนมีสีหน้ า
หวาดกลัวและซีดเผือด เขาได้ พา่ ยแพ้ ให้ แกภาพลวงตาของตนเอง เมื่อเขาสูญเสียสติไปพวก
เขาก็จะคิดว่าเขาได้ ถกู ฉีกเป็ นชิ ้นๆโดยปี ศาจพวกนันจริ
้ งๆ นันทํ
้ าให้ พวกเขาหวาดกลัวและขวัญ
ผวาอย่างกับว่าต้ องตายอย่างทารุณเช่นนันจริ
้ งๆ และกลับมาที่โลกแห่งความเป็ นจริ งแห่งนี ้ใน
ที่สดุ
ณ ที่ตําหนัก เจ้ าหน้ าที่แห่งสํานักเจ็ดแก่นแท้ ได้ เขย่าพวกเขาเบาๆเพื่อเรี ยกสติกลับคืนมา ใน
การสอบรอบแรกนันเกี ้ ่ยวกับความกล้ าในความฝั น หนทางแห่งการต่อสู้นนเต็ ั ้ มไปด้ วยอันตราย
ถ้ าคนคนนันไม่
้ มีความกล้ าที่จะเผชิญกับมัน แล้ วจะเดินทางในหนทางแห่งการต่อสู้ได้ อย่างไร
“มูยี่ เจ้ าสัมผัสได้ ถงึ ความกล้ าหาญของเด็กคนนันบ้
้ างรึเปล่า เขาสามารถผ่านการทดสอบได้
อย่างรวดเร็ วเช่นนี ้ได้ อย่างไร ” ชายที่พดู อยูร่ ้ ูวา่ มูยี่ร้ ูจกั หลินหมิง แต่มยู ี่ก็ไม่ได้ พดู ถึงพลังที่
หลินหมิงได้ จากจารึกพวกนัน้ เพราะเป็ นสิ่งที่หลินหมิงได้ ขอเขาไว้
มูยี่พดู แค่วา่ เขารู้จกั หลินหมิง และเขาก็มาเพื่อดูวา่ ลินหมิงจะเติบโตไปไกลขนาดไหนแล้ ว
เท่านัน้
เจ้ าหน้ าที่หญิงยังคงยืนอยูบ่ นเวที เนื่องจากความสามารถด้ านพละกําลังที่โดดเด่นของหลินห
มิงในด่านแรก เธอได้ บนั ทึกส่วนนันเอาไว้
้ เธอเห็นหลินหมิงทําหน้ าไม่พอใจอยูส่ กั ครู่ จากนันก็
้
เปลี่ยนเป็ นสงบนิ่งและเยือกเย็นกลับสูส่ มาธือีกครัง้
แต่เมื่อหันไปมองคนอื่นๆแล้ ว พวกเขาต่างกัดฟั นแน่น สีหน้ าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปด้ วย
แน่นอนไม่ใช่เพราะอะไรอื่น นอกจากพวกปี ศาจที่กําลังอยูใ่ นความฝั นของพวกเขา
ในโลกแห่งภาพลวงตา ยิ่งมีความเชื่อมัน่ ในตัวเองมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีจิตใจที่เข้ มแข็งมากขึ ้น
เท่านัน้ ถึงแม้ วา่ พวกเขาเหล่านันจะมี
้ ความกล้ าหาญอยูบ่ ้ างก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครเทียบหลินหมิง
ได้ ในด้ านนี ้ จิตใจของหลินหมิงนันเหมื
้ อนดัง่ หินผาอันหนักแน่นที่ไม่อาจสัน่ สะเทือนได้ แม้ จะ
เกิดวิกฤตใดขึ ้นมาก็ตาม ดังนันไม่
้ วา่ ปี ศาจเหล่านันจะทํ
้ าอย่างไร ก็ไม่อาจรบกวนสมาธิสติอนั
เข้ มแข็งของเขาได้ และนันทํ้ าให้ เหล่าปี ศาจแตกสลายหายไปเอง
“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้ าจะมาเพื่อดูเด็กคนนี ้โดยเฉพาะ จิตใจแห่งการต่อสู้ของเขายอดเยี่ยมอย่าง
เหลือเชื่อ เขาเทียบได้ กบั หลิงเซ็นเลยทีเดียว (คนจากนิกายสวรรค์ที่ออกมาโชวพลัง4900จิ๋นใน
ด่านแรก)” ชายแก่พดู
มูยี่ยิ ้มตอม เขาไม่แปลกใจเลยที่หลินหมิงจะผ่านด่านแรกมาได้
ฉินชิงหวนก็แอบเปรี ยบเทียบกับเขาอย่างลับๆ แม้ วา่ หลินหมิงจะอ่อนด้ อยกว่าเธอมากนักใน
ด้ านระดับขันการฝึ
้ กฝน แต่จิตใจเขาก็ยงั หนักแน่นและมัน่ คง เมื่อครัง้ ที่เธอทําการทดสอบนี ้ เธอ
ยังต้ องใช้ เวลาไปซักพักหนึง่ กว่าจะผ่านมันมาได้ แต่หลินหมิงกลับใช้ เวลาเพียงแค่ชวั่ อึดใจเดียว
เท่านัน้
เมื่อถึงตอนนี ้ หลินหมิงก็ได้ เข้ าสูด่ า่ นทดสอบที่สอง
ในการทดสอบที่สอง สภาพแวดล้ อมก็ได้ เปลี่ยนไป ก่อนที่จะทันได้ กระพริ บตาอีกครัง้ หลินหมิง
ก็ได้ มาอยู่ ท่ามกลางฝูงมนุษย์ที่เต็มไปด้ วยจิตสังหาร เกิดการต่อสู้เต็มไปทุกทิศทุกทาง ศพที่
กองเหมือนกับภูเขา และทะเลสาบสีเลือด เศษดาบและอาวุธที่แตกหักกระจัดกระจาย ปั กอยู่
ทัว่ พื ้นที่โดยรอบ
ในสนามรบแห่งนี ้ เต็มไปด้ วยเสียงผู้คนกรี ดร้ อง ควันปกคลุมไปทัว่ ทังบริ
้ เวณ หลินหมิงพบว่า
ตนได้ อยูร่ ะหว่างการต่อสู้ของกองทัพทังสอง
้ เหล่าทหารที่สวมเกราะหนาถือหอกพุง่ เข้ ามาหา
เขา(สงสัยมันอย่างบิน 555)จากทังสองด้
้ าน หลินหมิงติดอยูใ่ จกลางระหว่างสองกองทัพ
กองทัพที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังทังสองต่
้ างพุง่ เข้ าเป้ามาที่เขา เสียงโห่ร้องที่น่ากลัวทําให้ บรรยากาศ
เต็มไปด้ วยจิตสังหาร หลินหมิงก็ยงั คงไม่ขยับตัว เขารวบรวมสมาธิ ในการทดสอบแรกเขา
ตื่นเต้ นทําให้ จิตใจแปรปรวนไปเล็กน้ อย แต่ครัง้ นี ้เขาได้ เตรี ยมพร้ อมและมีสมาธิเพิ่มขึ ้นยิ่งกว่าที่
ผ่านมา
แต่ในท้ ายที่สดุ ขณะที่ทงกองทั
ั้ พได้ พงุ่ ทะยานเข้ ามาหาเขา กองทัพเหล่านันก็
้ ได้ แตกสลาย
กลายเป็ นฝุ่ นผงไปต่อหน้ าเขา ภาพลวงตาได้ แตกสลายไปอีกครัง้
“หือออ เขาทําลายมันได้ อย่างนันรึ
้ ”ชายแก่มองมาที่หลินหมิง เด็กคนนี ้ช่างน่าประหลาดยิ่งนัก
สีหน้ าของเขาไม่ได้ เปลี่ยนไปเลยแม้ แต่น้อย นี่ถ้าเขาไม่เห็นลําแสงจากออกมาจากอาคมนัน้
แล้ วละก็ คนแก่อย่างเขาคงคิดว่ามันจะต้ องพังไปแล้ วแน่ๆ
“เด็กคนนี ้ไม่ธรรมดาจริ งๆ ข้ าไม่ร้ ูวา่ เขาจะไปได้ อกี ไกลขนาดไหน แต่หากเขาสามารถไล่
ตามหลิงเซ็นได้ ทนั คงจะน่าชื่นชมน่าดู”
การทดสอบในด่านความมุง่ มัน่ นัน้ ผู้คนส่วนใหญ่จะต้ องใช้ เวลาเป็ นชัว่ โมงเพื่อที่จะผ่านมันได้
ในสิบปี ที่ผ่านมา ผู้ที่ผ่านด่านได้ เร็วที่สดุ ในนิกายสวรรค์คือ หลิงเซ็น เขาใช้ เวลาเพียงธูปหนึง่
ก้ านไหม้ ก็ผา่ นออกมาได้ หากไม่นบั หลิงเซ็นแล้ ว คนที่ผ่านออกมาได้ เร็ วที่สกุ ก็ต้องใช้ เวลากว่า
ครึ่งชัว่ โมง
หลิงเซ็นไม่ได้ เป็ นผู้ที่เปิ ดเผยเรื่ องส่วนตัวมากนัก เขาเข้ าใกล้ กบั คําว่านักฆ่าเลือดเย็นมากกว่า
ผู้ใดในสํานักแห่งนี ้ หากจะพูดกันตรงๆ คนเช่นนี ้แหละที่น่าเกรงกลัวมากที่สดุ
หลิงเซ็นได้ พิสจู น์แล้ ว เมื่อตอนนันเขามี
้ อายุ20ปี และมีพรสวรรค์เพียงระดับสี่ขนกลาง
ั้ แต่เขา
กลับได้ เป็ นถึงศิษย์พี่ในนิกายสวรรค์ ใครต่อใครหลายๆคนที่อยูใ่ นระดับสี่ขนสู
ั ้ ง ก็ยงั ตามเขาไม่
ติดฝุ่ นเลยซักคน
“ตอนนี ้ยังไม่เวลามาฉลองหรอกนะ อีกสามด่านที่เหลือจะยิ่งยากกว่านี ้เสียอีก” ชายแก่พดู
ขณะลูบเคราของตนเอง “และสถิติของหลิงเซ็นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมาทําลายได้ งา่ ยๆซะหน่อย”
สําหรับด่านทดสอบในครัง้ นี ้ หลินหมิงได้ มาถึงด่านที่สามแล้ ว สภาพแวดล้ อมที่มีทหารนับพัน
และซากศพในสงครามได้ หายไป เขาได้ เข้ ามาอยูใ่ นกระโจมที่มีการตกแต่งอย่างหรูหรา กําแพง
และเพดานประดับไปด้ วยผ้ าไหมอันงดงาม กลิน่ หอมที่ชวนให้ เบิกบานใจต่างโชยมาจากทัว่ ทุก
สารทิศ
แต่ยิ่งไปกว่านัน้ มีหญิงสาวจํานวนนับสิบฟ้อนรํ าอยูต่ อ่ หน้ าเขา ร่างกายของพวกเธอคอดเว้ า
อย่างงดงาม การปรากฏตัวของพวกเธอสามารถทําให้ ดวงจันทร์ และเหล่าพฤกษาไม้ งามต่าง
ต้ องถูกบดบัง ขณะที่พวกเธอก้ าวเข้ า พวกเธอก็คอ่ ยๆเปลืองผ้ าออกทีละชิ ้นๆ เผยให้ เห็นหน้ าอก
และสะโพกชวนหลงใหลที่มาพร้ อมกับกลิ่มหอมอันเย้ ายวน พวกเธอค่อยๆก้ าวมาล้ อมรอบตัว
หลินหมิง
ในตอนนี ้หลินหมิงก็ได้ ร้ ูสกึ ถึงความแห้ งเหือดและความร้ อนรุ่มแผ่ซา่ นออกมาจากภายใน มัน
ทําให้ เลือดบริ เวณหน้ าท้ องเขาไหลพุง่ พล่านไปด้ วยความรวดเร็ ว แต่เขาก็ต้องรี บหยุดและ
รวบรวมสมาธิอีกกลับมาครัง้
แต่อย่างไรก็ตามเหล่าหญิงสาวพวกนันก็ ้ ไม่ได้ หายไป แต่พวกเธอกลับทําหน้ าบึ ้งตึงด้ วยความ
ไม่พอใจขณะที่หยิบเสื ้อผ้ าและเดินกรี ดกรายสายสะโพกกลับไปในที่ๆพวกเธอมา และ
ต่อจากนันฉากก็
้ เปลี่ยนไปอีกครัง้ ในครัง้ นี ้เป็ นเตียงนอนที่อบอุน่ และดูค้ นุ เคยเป็ นอย่างดี และมี
ผู้หญิงในชุดคลุมที่ทําจากขนนกนัง่ อยู่ เธอมีปิ่นปั กผมหยกปั กอยูบ่ นหัว มันมีรูปร่างคล้ ายกับ
ดอกไม้ งาม อายุของเธอน่าคงจะประมาณ25ปี ขณะที่นงั่ อยูก่ ็เหมือนมีไอแห่งความงดงามโชย
ออกมา ถึงแม้ วา่ จะเปลีย่ นไปบ้ างจากที่เขาจําได้ ถึงแม้ วา่ เธอจะดูโตขึ ้นอีกเล็กน้ อย ทังยั้ งมี
ความยัว่ ยวนมากถึงเพียงนี ้ เธอคือหลานยุนเยีย
…หลานยุนเยีย…
หลินหมิงตกตะลึงอยูก่ บั ความคิดของเขา เธอคือหลานยุนเยียในอีกสิบปี ต่อมางันเหรอ
้
“โอ๋ๆ อย่าร้ องนะ…” หลานยุนเยียฮัมเพลงกล่อมเด็กอย่างไพเราะอ่อนโยน กับเด็กทารกสอง
คนบนเตียง เด็กทารกสองคนนี ้ดูเหมือนจะเป็ นฝาแฝดกัน เด็กทารกพวกนี ้เหมือนกับมีสว่ น
คล้ ายหลินหมิงอยูไ่ ม่มากก็น้อย
ทันใดนันพวกเขาก็
้ มองมาที่หลินหมิง สายตาของเด็กทารกเบิกกว้ าง และยิ ้มอย่างไร้ เดียงสามา
ที่เขา เสียงร้ องของเด็กดังก้ องเข้ าไปในหูของหลินหมิง มันทําให้ หวั ใจของเขาเต้ นอย่างเป็ นสุข
หลานยุยเยียเองก็สง่ ยิ ้มมาให้ เขา ริ มฝี ปากอันอ่อนโยนของเธอก็คอ่ ยๆเปิ ดขึ ้น และกล่าวว่า
“หลินหมิงที่รัก ตอนนี ้ก็ดกึ มากแล้ ว คุณควรจะพักผ่อนนะคะ”
ในขณะนี ้ เมื่อได้ เห็นหลานยุนเยียและลูกฝาแฝด กําลังส่งยิ ้มมาให้ เขา หัวใจของหลินหมิงก็เริ่ ม
สัน่ ไหวให้ กบั ภรรยาและลูกๆที่น่ารัก พวกเธอคือครอบครัวที่น่าอบอุน่
้ วิต?
สิ่งนี ้มิใช่หรื อคือสิ่งที่เขาต้ องการมาทังชี
ตอนนี ้เขาได้ ครอบครองสิ่งเหล่านี ้แล้ ว เขาหยุดคิดถึงความสุขต่อจากนี ้ไม่ได้ เลย…
ในขณะนัน้ สติของเขาก็เริ่ มเลือนรางไป หลินหมิงพยายามดึงสติกลับมา เขากัดริ มฝี ปากอย่าง
รุนแรงเพื่อให้ เกิดความเจ็บปวดที่จะช่วยดึงสติของเขาเอาไว้
ในไม่ช้าสภาพรอบๆก็ได้ เปลี่ยนไปอีกครัง้ หลานยุนเยียและลูกๆของเขาจางหายไป
ขณะที่จ้องมองเข้ าไปในความมืดมิดอันว่างเปล่า หัวใจของหลินหมิงสัน่ ระรั่ว ร่างกายของเขาก็
ถูกปกคลุมไปด้ วยเหงื่อที่ล้นไหลออกมา
เกือบไปแล้ ว เขาเกือบเสียตัวตนของเขาไปแล้ ว
เมื่อนึกถึงความฝั นเมื่อกี ้ หลินหมิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทังหมดนั
้ นคื
้ อภาพลวงตา
อย่างนันรึ
้
บางทีหวั ใจของเขาอาจจะต้ องการอยูก่ บั สิ่งเหล่านี ้ มากกว่าความเป็ นจริ งในชีวิตก็ได้
“มันเป็ นเพียงแค่ภาพลวงตา…อย่างนันหรื
้ อ”
เสียงที่ค้ นุ เคยเปล่งออกมาจากด้ านหลังอย่างแผ่วเบา หลินหมิงหันกลับไป หญิงสาวในชุด
อาหมวยจีดสีแดงสดอันเย้ ายวน เธอถือดาบในมือพร้ อมกับกลิ่นอายแห่งความน่าเกรงขาม และ
เปี่ ยมล้ นไปด้ วยความกล้ าหาญ
“ฉินชิงหวน?”
หลินหมิงตกใจอย่างหนัก ผู้หญิงตรงหน้ าของเขาผู้นี ้คือ ฉินชิงหวน ถึงเธอจะดูโตขึ ้นเล็กน้ อย
ตอนนี ้เธอดูอายุ20ปี ได้
“ตังแต่
้ ในอดีตที่ผ่านมา เจ้ าต้ องการที่จะฝึ กวิชาร่วมทางไปกับ…ข้ าไหม? เราจะท่องโลกแห่ง
การต่อสู้อนั ยื่งใหญ่นี ้ไปด้ วยกัน….ฟั งดูเป็ นเช่นไร? ”ขณะที่ฉินชิงหวนกําลังพูด เธอก็คอ่ ยๆ
เปลืองผ้ าไหมสีแดงสดบนร่างของเธอออกอย่างช้ าๆ เผยให้ เห็นเรื อนร่างอันงดงามที่สดุ เท่าที่เขา
จะจินตนาการได้ หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้ นในขณะที่ดวงตาจ้ องไปที่เรื อนร่างอันงดงามของ
เธอ
เธอค่อยๆก้ าวเท้ าเข้ ามาหาเขาอย่างยัว่ ยวน….
บทที่ 37 คงกระพันต่อหมื่นภูติผี
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
ขณะที่มีหญิงสาวผู้งดงามเพียบพร้ อมไปด้ วยสัดส่วนโค้ งเว้ าที่ชวนให้ หลงใหลอย่างไม่น่าเชื่อ
มายืนอยูต่ อ่ หน้ าเขา มันเป็ นภาพที่น่าชื่นชมและจดจําไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว เหมือนความ
ตังใจที
้ ่ผ่านมาของเขาจะถล่มลงมา ลมหายใจของเขาปั่ นป่ วน เลือดสูบฉีดพุง่ ขึ ้นสมองอย่าง
รุนแรง ถ้ าจะกล่าวถึงเรื่ องของชายหญิงแล้ วละก็ หลินหมิงเองก็ยงั เป็ นแค่เด็กน้ อยอยูเ่ ลย
ฉินชิงหวนโอบมือไปล้ อมรอบตัวของหลินหมิง เธอทังอุ
้ น่ และมีกลิ่นหอมแห่งความบริ สทุ ธ์ กลิ่น
ของเธอโชยเข้ าไปในจมูกของหลินหมิง มันทําให้ เขาใจเต้ นระรั่ว
มันเป็ นเพียงภาพที่ถกู สร้ างขึ ้น!!!
มันเป็ นเพียงภาพลวงตา!!!
***แก้ คําแปลจาก ‘ปฐมโกลาหล’ เป็ น ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ เพื่อความสละสลวย***
หลินหมิงหลับตาแน่น เขาเริ่ มโคจรพลัง ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ ให้ ไหลเวียนอยูใ่ นร่างกาย
เพื่อจัดการกับสติที่ยงั หลงเหลืออยูข่ องเขาอย่างรวดเร็ ว
“หลินหมิง… เจ้ าไม่ชอบข้ าหรื ออย่างไร ”
เสียงที่ออ่ นนุม่ และสุภาพเหมือนหยาดฝนพรํ่ าฤดูใบไม้ ผลิ หลินหมิงเผยอเปลือกตาออก แต่เขา
ยังคงแน่นิ่งอยู่
“อา…”ด้ วยลมหายใจที่ออ่ นโยน เธอปล่อยหลินหมิงออก ฉินชิงหวนยืนขึ ้น สีหน้ าของเธอ
แสดงออกถึงความเสียใจ แล้ วในที่สดุ เธอก็เดินจากไปอย่างช้ าๆ
ฉากที่อยูร่ อบๆตัวหลินหมิงค่อยๆจางหายไป บรรยากาศรอบตัวของเขาค่อยๆเริ่ มกลับเป็ นปกติ
หลินหมิงสูดหายใจเข้ าอย่างลึกๆ หัวใจเขายังเต้ นอย่างรุนแรงอยูแ่ ละฝ่ ามือของเขาก็ยงั เต็มไป
ด้ วยเหงื่อ
ในด่านที่สามนี ้ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก มันใช้ ปมในจิตใจของมนุษย์มาเล่นกับจิตใจของเรา ดู
เหมือนว่าเขาอาจจะไร้ เดียงสาเกินไป แต่มนั ก็แน่นอนอยูแ่ ล้ วที่มนุษย์ทกุ ๆคนก็ต้องมีจดุ อ่อน
ภายในจิตใจของตนเอง
“อืมมม..เด็กคนนันผ่
้ านด่านมาได้ แล้ ว แต่ก็ใช่เวลาไปไม่น้อย ถึงตอนนี ้เขาก็ใช้ เวลาไปเกือบ
ครึ่งก้ านธูปแล้ ว”ชายชรามองไปที่ธูปที่กําลังไหม้ อยูแ่ ท่งหนึง่
“เด็กคนนี ้ต่างไปจากหลิงเซ็น ในการทดสอบของหลิงเซ็น เขาใช้ เวลาเพียงชัว่ อึดใจเท่านัน้ แต่
เด็กคนนี ้ใช้ เวลานานถึงครึ่งก้ านธูป จิตใจของเขาคงจะเต็มไปด้ วยเหล่าหญิงสาวที่เขาหลงรัก
้ แต่ยงั ไงก็ตาม เขาก็ไม่สามารถทําลายสถิติของหลิงเซ็นได้ อยูด่ ี” ชายชราพูดขณะยิ ้ม
อย่างนันรึ
กว้ างเหมือนจะบอกคนอืน่ ในใจว่า “ฮ่า ฮ่า” เสียมากกว่า
“หึห.ึ .ขนาดนักรบผู้กล้ าหาญในสมัยบรรพกาลยังต้ องตกหลุมรักหญิงรูปงาม นับประสาอะไร
กับบุรุษธรรมดาผู้หนึง่ ข้ าชอบส่วนที่เป็ นปกติของเจ้ าหนุ่มนี ้มากกว่า ไอ้ เจ้ าหลิงเซ้ นมันทําให้ ข้า
รู้สกึ หนาวสันหลังไม่สบายตัวเอาซะเลย”
ชายชราทังหลายต่
้ างก็คยุ โม้ กนั ไปในกลุม่ ของพวกเขา อาจจะเพราะความต่างของอายุ ฉินชิง
หวนได้ แยกออกมาจากวงสนทนา เธอออกมานัง่ อย่างเงียบๆคนเดียวขณะที่มองดูหลินหมิง
ขณะที่มีความรู้สกึ แปลกประหลาดออกมาจากภายในจิตใจของเธอ หลินหมิงเห็นใครในความ
ฝั นของเขากันนะ?
ในการทดสอบที่สี่ หลินหมิงเหมือนตกไปอยูใ่ นห่วงหุบเหวลึกของขุมนรก โดยรอบข้ างของเขามี
แต่ความมืดและแสงสลัวๆ หลินหมิงรู้สกึ เหมือนถูกแช่อยูใ่ นนํ ้าจมไปถึงเอว มันคือทะเลสาบสี
เลือด มีกะโหลกกองสุมกันเป็ นภูเขาขนาดใหญ่โผล่ขึ ้นมาจากทะเลสาบสีเลือด และยังมีเสียง
กรี ดร้ องโหยหวนจากภูตผีปีศาจ ดังก้ องอยูเ่ หนือหัวของหลินหมิง
“เพียงแค่เหล่าภูติผีหมื่นตนแค่นี ้นะรึจะหยุดข้ าได้ ”หลินหมิงกล่าวอย่างดูถกู ขณะโคจรพลัง
‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ร่างกายของเขาเปล่งแสงสีทองออกมาและแผ่ขยายออกไปทัว่ ทุก
ทิศทาง
‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ที่มาจากอาณาจักรแห่งพระเจ้ านัน้ ว่ากันว่าถูกคิดค้ นโดยพระ
โพธิสตั ว์แห่งสงคราม ซึง่ พลังของมันเปี่ ยมล้ นไปด้ วยแสงแห่งหยาง มันสามารถขจัดปี ศาจและ
ภาพลวงตาทังหมดออกไปได้
้ อย่างง่ายดาย
หลินหมิงไม่สนใจพวกภูตผีพวกนัน้ และเริ่ มโคจร‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ต่อจนถึงขีดสุด
“จิตใจของข้ าเต็มไปด้ วยสันติ แม้ เหล่าภูตผีนบั หมื่นก็ไม่อาจแตะต้ องข้ าได้ ”
แสงสีทองสาดส่องไปทัว่ ทุกสารทิศ และเมื่อมันได้ สมั ผัสกับภูตผีเหล่านัน้ ก็ทําให้ ร่างของมัน
แตกสลายกลายเป็ นฝุ่ นผงไปในที่สดุ
“หึหึ ในด้ านนี ้จบแล้ วรึ?”
ในด่านแรกเป็ นด่านทดสอบความกล้ า ด่านที่สองเป็ นการทดสอบขวัญกําลังใจ ด่านที่สามเป็ น
การทดสอบต่อสิ่งยัว่ ยวน ด่านที่สี่ก็เป็ นการทดสอบปี ศาจในจิตใจ เขาคาดการณ์ได้ วา่ ด่านที่ห้า
จะต้ องเป็ นการทดสอบความมุง่ มัน่ ตังใจเป็
้ นแน่
สองด่านแรกนันค่ ้ อนข้ างจะง่าย แต่สามด่านหลังจะต่างออกไป การปรากฏตัวของพวกมันจะ
มาเพื่อทดสอบปี ศาจภายในจิตใจ อาจเป็ นเพราะหลิงเซ็นเป็ นพวกกระหายเลือด การทดสอบที่
สี่จงึ ยากสําหรับเขา เพราะเขาใช้ เวลาไปกว่าครึ่งก้ านธูป แต่นนก็
ั ้ ไม่ได้ ทําให้ เขามีความเป็ น
ปี ศาจในจิตใจน้ อยลงเลย
“เจ้ าหลินหมิงนัน่ ไม่มีปีศาจแม้ แต่ตวั เดียวในจิตใจเลยหรื ออย่างไรกัน”
“จิตใจและความคิดของเขาช่างบริสทุ ธิ์จริ งๆ หาได้ ยากยิ่งนัก ตังแต่
้ การทดสอบด่านที่หนึง่ มา
จนถึงด่านที่สี่เขาใช้ เวลาไปเพียงครึ่งก้ านธูปเอง เป็ นต้ นอ่อนที่น่าจับตาดูเสียจริ ง” ชายชรา
อุทานออกมาจากจริ งใจ
…
ในขณะที่เวลากําลังเดินไป ก็มีเหล่าผู้ทดสอบที่คอ่ ยๆตกรอบมากยิ่งขึ ้น แม้ ในด่านที่หนึง่ และ
สองจะง่ายก็จริ ง แต่ตงแต่
ั ้ ดา่ นที่สามเป็ นต้ นไป จํานวนผู้ที่ตกรอบก็เริ่ มเพิ่มสูงขึ ้นอย่างรวดเร็ ว
หลานยุนเยียเองก็กําลังแอบให้ ความสนใจกับหลินหมิงอยูจ่ ากที่ไกลๆ ถึงหลินหมิงจะไม่ได้ อยู่
ในท่าทีที่สงบตลอดเวลา แต่จิตใจของเขาก็มนั่ คงหนักแน่นไม่เหมือนกับผู้ทดสอบคนอื่นๆที่มี
รู้สกึ หวาดกลัว มีใบหน้ าที่บิดเบี ้ยว ซีดเซียวแต่อย่างใด
ในตอนนี ้หลานยุนเยียมีความรู้สกึ ที่เธอไม่อาจจะอธิบายมาเป็ นคําพูดได้ เธอรู้สกึ ว่าหลินหมิง
จะต้ องผ่าน และเอาชนะด่านทดสอบแห่งมุง่ มัน่ นี ้ได้ ตลอดไปจนการทดสอบที่สาม
การทดสอบในด่านสุดท้ าย หลินหมิงยังคงไม่ได้ ออกจากขุมนรกแห่งนัน่ เขายังคงเปี ยกชุ่มไป
ด้ วยเลือด ต่อมาทะเลเลือดแห่งนี ้ก็เดือดขึ ้นอย่างช้ าๆ มีฟองเลือดเดือดปุดๆผุดขึ ้นมา
อุณหภูมิกําลังพุง่ สูงขึ ้น ทะเลสีแดงกํ่านี ้เหมือนถูกทําให้ เดือดด้ วยความโกรธเกรี ย้ วแห่งความ
มืด ฟองแต่ละฟองที่ผดุ ขึ ้นมาก็แตกออกเป็ นไอเลือดระเหยคลุ้งไปในอากาศ เหมือนกับ
ทะเลสาบเลือดแห่งนี ้กําลังจะกลายเป็ นบ่อลาวาเดือดในไม่ช้า
หลินหมิงรู้สกึ ได้ ถงึ ความเจ็บปวดที่เริ่ มถาโถมเข้ ามาในร่างกายของเขา เหมือนว่าเขากําลังถูก
ต้ มทังเป็
้ นในทะเลเลือดแห่งนี ้ ถึงแม้ วา่ เขาจะรู้วา่ นี่เป็ นเพียงภาพลวงตา แต่ความเจ็บปวดที่
เกิดขึ ้นนันไม่
้ มีอะไรมาเทียบได้ เลย มันเป็ นความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสขนาดที่วา่ ยอม
ตายเสียจะยังดีกว่าจะมาทนกับความทรมานเช่นนี ้
ด่านที่หนึง่ ถึงสี่ตา่ งก็เป็ นเพียงภาพลวงตา เขาไม่ได้ คาดคิดเลยว่าในด่านที่ห้านี ้จะทําให้ เขา
เจ็บปวดทรมานขึ ้นมาจริ งๆ หลินหมิงกัดฟั นแน่นและพยายามพยุงสติเอาไว้ เขาพยายามคิดใน
แง่ดีสดุ ๆขณะที่กําลังแบกรับความเจ็บปวดนี่เอาไว้ เจ้ าทะเลเดือดนี่มนั ไม่เท่าไหร่หรอก มันก็แค่
แดดหน้ าร้ อนเท่านันเองงงง!!!
้
ขณะที่หลินหมิงกําลังคิดอยู่ ทะเลเลือดก็ติดไฟขึ ้นมาทันที เปลวไฟแผดเผาอันรุนแรงพุง่ ขึ ้นไป
ในอากาศเหมือนลาวาปะทุในขุมนรกไม่มีผิด
กองไฟดังกล่าวกําลังพุง่ ตรงมายังหลินหมิง เขารู้สกึ ได้ ถงึ ความร้ อนที่แผ่เข้ ามาในตัวของเขาได้
อย่างชัดเจน เมื่อได้ เห็นทะเลเพลิงอันใหญ่โตขนาดนี ้ เป็ นใครก็ต้องหวาดกลัวจนหัวใจวายกัน
ทังนั
้ น้
ทันใดนันหลิ
้ นหมิงก็ได้ ตะโกนออกมาอย่างกึกก้ อง
“เส้ นทางแห่งการต่อสู้ของข้ า เป็ นดัง่ แมลงเม่าบินเข้ ากองไฟอยูแ่ ล้ ว ท่านต้ องการให้ ข้า
กลายเป็ นเถ้ าธุลีในทะเลเพลิงแห่งนี ้รึ? หากเป็ นเช่นนันข้
้ าก็ไม่จําเป็ นต้ องหวังอะไรให้ มากไป
กว่านี ้ ”
ทะเลเพลิงได้ ดดู กลืนหลินหมิงเข้ าไป และในเวลาต่อมา ทุกสิ่งทุกอย่างก่อเกิดกลายเป็ นความ
ว่างเปล่า หลินหมิงยืนขึ ้นและมองออกไปรอบๆ เขากลับมาที่แท่นหยกแล้ ว รอบๆตัวเขาเต็มไป
ด้ วยเหล่าชายหญิงที่กําลังร้ องโอดครวญอย่างเจ็บปวดกับสิ่งที่พวกเขาได้ เผชิญในความฝั น
เมื่อได้ เห็นหลินหมิงลืมตาและยืนขึ ้น มูยี่ถงึ กับต้ องตกตะลึง เขามองไปยังก้ านธูปที่กําลังไหม้ อยู่
มันยังไหม้ ไปไม่ทนั หมดหนึง่ ก้ านเลย แม้ มนั จะเหลืออีกไม่มากก็ตาม
ไอ้ เจ้ ามนุษย์นํ ้าแข็งเลือดเย็น หลิงเซ็น ถูกทําลายสถิติซะแล้ ว!!!
ฉินชิงหวนเองก็ตกใจมากเช่นกัน เธอได้ เคยลองทดสอบในด่านแห่งความมุง่ มัน่ นี ้มาก่อนแล้ ว
และเธอก็ตระหนักได้ ถงึ ความยากและน่ากลัวของแต่ละด่านเป็ นอย่างดี ถึงแม้ วา่ พรสวรรค์
ระดับหกของเธอจะไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ของอาณาจักรแห่งนี ้ แต่ความสามารถนัน้
ก็ไม่ได้ ช่วยให้ เธอผ่านด่านนี ้ได้ เร็วขึ ้นนัก ฉินชิงหวนใช้ เวลาเกือบครึ่งชัว่ โมงในการผ่านด่าน
เหล่านี ้ แต่หลินหมิงกลับใช้ เวลาแค่ไม่ถงึ หนึง่ ก้ านธูปด้ วยซํ ้า ใครจะไปคิดว่าจะมีเรื่ องที่ไม่น่า
เชื่อขนาดนี ้เกิดขึ ้นในวันนี ้
“ยอดเยี่ยม …ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ ว นี่เป็ นครัง้ แรกที่ข้าเห็นผู้ที่แสดงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
ออกมาได้ ยอดเยี่ยมมากถึงเพียงนี ้ ใช่แล้ ว…คะแนนในด่านทดสอบแรกของเขาอยูท่ ี่เท่าไร? ”
ชายชราถามผู้คมุ การทดสอบหญิงที่ดแู ลอยูต่ รงนัน้
“2700 จิ๋น” หลินหมิงได้ คะแนนเป็ นอันดับหนึง่ ของด่านทดสอบพละกําลัง หญิงสาวตอบอย่าง
มัน่ ใจ เพราะเธอจําได้ อย่างแม่นยํา
“โอ้ …?” ชายชราถามต่อด้ วยความกระตือรื อร้ น “เขามีพรสวรรค์อยูใ่ นระดับใดกันรึ?”
หลังจากที่ฟังชายชราถาม ก่อนที่เจ้ าหน้ าที่สาวจะตอบ มูยี่ก็ชิงตอบก่อนว่า “เพียงแค่ระดับ
สาม”
“ระดับสามงันรึ
้ ?”ชายชราถามขึ ้นอีกครัง้ อย่างแปลกใจ และเริ่ มที่จะถอนหายใจอย่างผิดหวัง
“น่าเห็นใจ น่าเห็นใจเสียจริ งๆ” แม้ ในความจริ งพรสวรรค์ระดับสามจะไม่ได้ ถงึ กับแย่มากนัก
แต่มนั ก็ตํ่ากว่าเหล่าเด็กอัจฉริ ยะของสํานักเจ็ดแก่นแท้ อยูด่ ี
้ ย่ ี่ก็พดู สวนขึ ้นมา “ในบางครัง้ ระดับพรสวรรค์ก็มิได้ เป็ นตัวบ่งบอกไปเสียทุก
แต่ทนั ใดนันมู
อย่าง ท่านเพียงแค่ต้องรอดูความสามารถของเขาต่อไป เขาเป็ นดัง่ ราชามังกรท่ามกลางฝูง
เหล่านัน”
้
มูย่ ี่พดู ด้ วยความมัน่ ใจ เมื่อเขาเห็นระดับของหลินหมิงในตอนแรก เขาก็ตกใจและคิดว่ามันต้ อง
มีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แต่ในตอนนี ้เขารู้แล้ วว่าหลินหมิงสามารถประสบความสําเร็ จได้ ในขณะที่
คนบางคนยังใช้ เวลาทังชี ้ วิตทําไม่ได้ แบบเขาเลยด้ วยซํ ้า หลินหมิงจะต้ องเป็ นคนที่พิเศษ
เหนือกว่าผู้ใดในอนาคตเป็ นแน่
ถึงแม้ มยู ี่จะพูดด้ วยความมัน่ ใจก็ตาม แต่เส้ นทางของการต่อสู้ก็อนั ตรายและละเอียดอ่อน
เกินไป มันอาจจะเป็ นจุดหักเหที่สําคัญในอนาคตก็เป็ นได้ ด้ วยพรสวรรค์ระดับสาม แม้ วา่ เขาจะ
มีเงินทองจํานวนมากคอยหนุน แต่ในที่สดุ การฝึ กฝนของเขาก็คงจะไปติดอยูใ่ นขันๆหนึ ้ ง่
เหมือนกับคนอื่นๆ ขันผสานชี
้ พจร
ขณะที่หลินหมิงกําลังก้ าวลงมาจากเวที หลานยุนเยียที่แอบมองหลินหมิงจากที่ไกลๆก็มองมาที่
เขาด้ วยแววตาที่ซบั ซ้ อน เธอรู้มาตลอดว่าหลินหมิงเป็ นคนหนักแน่นและมัน่ คง แต่เธอก็ไม่คิดว่า
เขาจะผ่านด่านได้ เร็วถึงเพียงนี ้
เธอรู้แก่ใจดีวา่ สําหรับหลินหมิงแล้ ว การจะให้ เลิกเดินบนเส้ นทางแห่งการต่อสู้นนเป็
ั ้ นไปไม่ได้
เขาได้ กําหนดจุดมุง่ หมายสูงสุดของเขาเอาไว้ แล้ ว และเขาจะมุง่ หน้ าไปในเส้ นทางนี ้เท่านัน้
หลังจากที่หลินหมิงลงจากเวที เขาก็ถกู พาไปยังห้ องพักแห่งหนึง่ ที่ๆเขาจะถูกพาไปนี ้ยังเป็ นที่ๆ
จัดการทดสอบสุดท้ าย-พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง
บทที่ 39 พลังอํานาจที่ไม่อาจหยุดยัง้
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
ยังมีชนที
ั ้ ่สงู ขึ ้นไปบนพระมหาเจดีย์วจิ ิตรบรรจงรอเขาอยู่ เขาจะต้ องใช้ เวลาทุกวินาทีอย่าง
คุ้มค่ามากที่สดุ เพื่อที่จะคว้ าเอารางวัลอันดับหนึง่ มาเป็ นของเขา ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง!
ขณะที่หลินหมิงพุง่ ทะยานเข้ าไป เงาดํานัน่ ก็พยายามจะตังพลองขึ ้ ้นมาหมายจะป้องกันการจู่
โจมจากเขา แต่ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าอย่างสุดขัวของหลิ ้ นหมิง ก่อนที่เงาดําจะทันได้ ตงตั
ั้ ว
กําปั น้ ของหลินหมิงก็พงุ่ เข้ าใส่หน้ าอกของเงาดํานัน่ เสียแล้ ว
“เพล้ ง”
เลือดพวยพุง่ ออกมาจากอกของเงาดํานัน่ และก็ล้มลงสิ ้นใจในที่สดุ
หลินหมิงผ่านด่านแรกได้ ไปอย่างง่ายดาย มันก็แน่อยูแ่ ล้ ว พลังของหลินหมิงในตอนนี ้สามารถ
เอาชนะผู้ที่มีการฝึ กฝนอยูใ่ นขันเดี
้ ยวกันได้ อย่างง่ายดาย
จากนันเขาก็
้ รีบขึ ้นไปที่ชนสอง
ั้
ในชันนี
้ ้ก็ยงั คงมีบรรยากาศมืดสลัวเช่นเดียวกับชันล่
้ าง ตรงหน้ าของเขาในตอนนี ้ปรากฏปี ศาจดุ
ร้ ายท่าทางน่ากลัวขึ ้นมา
“ปี ศาจร้ ายระดับหนึง่ อย่างนันรึ
้ ”
ปี ศาจระดับหนึง่ นันถ้
้ าจะให้ เทียบกับมนุษย์ก็คงจะมีฝีมือเทียบได้ กบั ผู้ฝึกฝนขันสาม
้ ปี ศาจตัวนี ้
มีเขาเดียว พลังของมันค่อนข้ างจะน้ อยหากเทียบกับปี ศาจตนอื่นๆ อาจจะเทียบได้ กบั ผู้ที่อยู่
จุดสูงสุดในการฝึ กฝนขันที
้ ่สองหรื อผู้ที่พงึ่ จะถึงข้ ามไปขันที
้ ่สามก็ได้
ถึงแม้ วา่ พละกําลังของมันจะอยูใ่ นระดับปกติ แต่ด้วยพลังป้องกันที่แข็งแกร่งอันเนื่องมาจาก
ผิวหนังปี ศาจของมัน ก็ถือได้ วา่ มันแข็งแกร่งมาก อาจจะต้ องใช้ เวลานานระดับหนึง่ เพื่อที่จะ
เอาชนะมันให้ ได้
หลินหมิงรู้วา่ เขาควรเสียเวลาและพละกําลังให้ น้อยที่สดุ เพื่อที่จะผ่านแต่ละชันขึ
้ ้นไป หลินหมิง
ขยับมือเบาๆทันใดนันก็ ้ เห็นมีดเล่มหนึง่ ก็ปรากฏอยูใ่ นฝ่ ามือของเขา หลินหมิงจินตนาการถึง
โครงสร้ างร่างกาย จุดสําคัญต่างๆ เพื่อหาจุดอ่อนของมัน
ข้ อได้ เปรี ยบของหลินหมิงคือความคุ้นเคยกับจุดอ่อนของปี ศาจเหล่านี ้(ก็แน่หละ ผ่าเนื ้อมันอยู่
ทุกวัน)
ทันใดนัน่ ปี ศาจก็คํารามขึ ้นมาอย่างโกรธเกรี ย้ ว มันพุง่ ตรงเข้ ามาหาหลินหมิงอย่างไม่ลงั เล
แม้ วา่ นี่จะเป็ นเพียงส่วนหนึง่ ของความฝั นก็ตามแต่หลินหมิงก็ร้ ูสกึ ถึงแรงสัน่ สะเทือนนี ้ได้ อย่าง
ชัดเจน
อาคมภาพลวงตา ไม่เหมือนกับ อาคมแห่งจิตสังหาร เพราะ อาคมภาพลวงตานันไม่ ้ สามารถ
ฆ่าคนได้ จริ งๆ มันทําได้ เพียงแค่ทําให้ คนหวาดกลัวเท่านัน้ ตราบใดที่ยงั มีสติมนั่ คง มันก็สยู
สลายหายไปในที่สดุ แต่กบั อาคมแห่งจิตสังหารแล้ ว มันต่างกันอย่างสิ ้นเชิง หากพวกเขาถูกฆ่า
ตายในนี ้ ก็อาจตายได้ ในชีวิตจริ ง
ขณะที่เขามองดูปีศาจเขาเดียวที่พงุ่ ตรงมาหาเขา หลินหมิงก็พงุ่ ตัวหลบไปด้ านข้ าง การกระโดด
หลบของเขาค่อนข้ างจะแปลกๆ คือไหล่ของเขาแทบจะแตะสัมผัสกับพื ้น ในขณะที่ปีศาจพุง่
ผ่านเขามา หลินหมิงก็ใช้ มือทุบลงกับพื ้นเพื่อให้ ร่างของเขา เปลี่ยนทิศทางไปหาปี ศาจตนนันอี
้ ก
ครัง้
เขาเงื ้อมมือขึ ้นและใช้ มีดแทงลงบนท้ องของมัน
“ฉึก”
มีดปั กลงไปที่กลางท้ องของปี ศาจอย่างแม่นยํา มันเป็ นที่ๆไม่มีผิวหนังที่แข็งแกร่งคอยคุ้มกันอยู่
และมันยังเป็ นจุดศูนย์กลางของเส้ นเลือดใหญ่อีกด้ วย
ในขณะที่มีดได้ เสียบอยูท่ ี่ท้องของมัน เลือดก็ได้ พงุ่ กระเส็นออกมาเหมือนท่อนํ ้าแตก ปี ศาจตน
นันร้
้ องโอดครวญด้ วยความเจ็บปวดทรมานและกลิ ้งลงไปดิ ้นกับพื ้นอย่างทุรนทุราย
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของเขาสําเร็จ หลินหมิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาคิดว่าภาพลวง
ตาแห่งพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงแห่งนี ้กับความจริ งบนโลกแทบจะเป็ นสิ่งเดียวกัน
โครงสร้ างของมันเหมือนกับตัวจริ งไม่มีผิด บางทีอาจจะเป็ นเพราะว่ามีวิญญาณของปี ศาจเขา
เดียวสถิตอยูจ่ ริ งๆก็เป็ นได้
หลังจากนัน่ หลินหมิงก็ดงึ มีดออกมาและเขาเก็บมีดไว้ กบั ตัวแทนที่จะใช้ มนั แทงต่อ ถึงแม้ วา่ การ
จะฆ่ามันในตอนนี ้จะไม่ยากแล้ วก็ตาม แต่เขาต้ องการจะเก็บพลังงานเอาไว้ เพราะว่าต่อจากนี ้
ไปจะไม่มีเวลาใดใดให้ เขาได้ พกั อีกแล้ ว
เมื่อเส้ นเลือดใหญ่ถกู ตัดขาด เจ้ าปี ศาจเขาเดียวก็เสียเลือดเพิ่มมากขึ ้นเรื่ อยๆ มันขยับเขยื ้อน
อย่างทุกข์ทรมาน หลินหมิงแทงมันซํ ้าอีกรอบ เขาได้ แทงมีดลงไปที่เส้ นเลือดใหญ่อีกครัง้ หนึง่
การต่อสู้ในชันนี้ ้ได้ จบลงแล้ ว ตอนนี ้ก็ถงึ เวลาพักของเขา ปี ศาจเขาเดียวได้ พา่ ยแพ้ ให้ แก่หลินห
มิงแล้ ว ที่มนั ต้ องทําก็แค่นอนรอความตายเท่านัน้
ผ่านไปไม่นานปี ศาจตนนันก็
้ สิ ้นใจลงในที่สดุ หลินหมิงได้ เข้ ามาสูช่ นที
ั ้ ่สามแล้ ว
“โฮ่…มีคนไปได้ ถงึ ชันสามแล้
้ วรึ” ด้ านนอกของพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง ผู้เฒ่าทังหลายได้
้
เห็นแสงที่เปล่งขึ ้นมาจากสัญลักษณ์ในชันนี้ ่สาม มันหมายความว่ามีใครซักคนในกลุม่ ผู้
ทดสอบผ่านเข้ าไปถึงชันที้ ่สามแล้ ว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ วา่ เขาคนนันเป็
้ นใคร
“นัน่ ต้ องเป็ นหวังยานเฟิ งเป็ นแน่ เขาเป็ นคนที่มีพรสวรรค์สงู ที่สดุ ในหมูเ่ ด็กรุ่นเดียวกัน สําหรับ
หลินหมิงที่มีเพียงพละกําลังที่มากกว่าคนปกตินิดหน่อยไม่มีทางขึ ้นไปถึงชันสามได้ ้ แน่ ในด้ าน
ทดสอบนี ้ไม่เพียงพละกําลังที่สําคัญ ทังประสบการณ์
้ ความเร็ ว ทักษะ เทคนิค ต่างก็สาํ คัญไม่
แพ้ กนั ”
“ผู้ทดสอบส่วนใหญ่ก็หวังเพียงจะผ่านชันแรกไปให้
้ ได้ เท่านันสิ
้ นะ แต่หวังยานเฟิ งสามารถผ่าน
้ ่สามได้ แล้ วรึ น่าประทับใจเสียจริ ง”
ไปถึงชันที
ขณะที่ผ้ เู ฒ่ากําลังสนทนากันอยู่ ก็มีอีกคนแสงหนึง่ เปล่งขึ ้นมาในชันที
้ ่สาม ในตอนนี ้มีคนไปถึง
ชันที
้ ่สามแล้ วถึงสองคน เขาช้ ากว่าหลินหมิงเพียงเล็กน้ อย เขาก็คือหวังยานเฟิ ง
หวังยานเฟิ งและหลินหมิงต่างก็มีอายุเท่ากัน ดังนันศั
้ ตรูที่เจอในชันที
้ ่สองก็จะเป็ นตัวเดียวกัน
นัน่ ก็คือ ปี ศาจเขาเดียวนัน่ เอง
หวังยานเฟิ งฝึ กฝนไปถึงขันที
้ ่สามแล้ ว แถมยังมีพละกําลังยังมากกว่าเด็กในรุ่นเดียวกันซะอีก
ไม่แปลกที่ปีศาจนัน่ จะไม่ใช่คมู่ ือของเขา แต่เนื่องจากเขาใช้ มือเปล่าต่อสู้ตรงๆ ทําให้ หวังยาน
เฟิ งต้ องสูญเสียกําลังไปบางส่วนในการเอาชนะผิวหนังอันแข็งแกร่งของปี ศาจเขาเดียว
ไม่มีการหยุดพักใดใดในพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง ทันทีที่เอาชนะศัตรูได้ ผ้ ทู ดสอบก็จะถูกย้ าย
ขึ ้นไปชันต่
้ อไปในทันที (ที่หลินหมิงพักคือแทงปี ศาจจนพิการ แต่ยงั ไม่ให้ มนั ตายจึงยังไม่ถกู ย้ าย
ไปชันต่
้ อไป ระหว่างที่มนั ค่อยๆตายอย่างช้ าๆเขาก็ได้ พกั ผ่อนเล็กน้ อย)
ในชันที
้ ่สามหวังยานเฟิ งได้ เผชิญหน้ ากับ เงาดําสองคนที่ถือดาบยาวเอาไว้ เงาดําทังสองต่
้ างก็
มีการฝึ กฝนในขันที
้ ่สามทังคู
้ ่
หวังยานเฟิ งขบฟั นแน่นแต่ก็ยงั คงอยูใ่ นท่าทีที่สงบนิ่ง เขาน่าจะสามารถจัดการเงาสองตัวนันได้
้
อย่างง่ายดายหากเขามีสภาพพร้ อมเต็มร้ อย ในตอนนี ้ที่เขาสูญเสียกําลังบางส่วนไปในชันที ้ ่สอง
เขากําลังวางแผนว่าจะเอาชนะพวกมันอย่างไรโดยใช้ กําลังให้ น้อยที่สดุ หากไม่ทําเช่นนี ้เขาอาจ
ไม่เหลือกําลังเพื่อใช้ ตอ่ สู้ในชันที
้ ่สเี่ ป็ นแน่
เขาต้ องเอาชนะมันให้ เร็วที่สดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้ เขารวบรวมพลังที่ไหลเวียนในร่างกายของเขา
และเตรี ยมใช้ พลังที่ถกู สืบทอดในตระกูลของเขา ‘สัจธรรมเก้ าวิถี’
…
ในเวลานี ้หลินหมิงเองก็ได้ เผชิญหน้ ากับเงาดําสองตัวที่มีการฝึ กฝนขันที
้ ่สาม
การฝึ กฝนขันที
้ ่สามเป็ นการฝึ กอวัยวะภายใน เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะต้ องเจอศัตรูที่มีการฝึ กฝน
ขันที
้ ่สามพร้ อมกันถึงสองตน ถ้ าเป็ นเช่นนี ้ ไม่ต้องคิดถึงชันที
้ ่สแี่ ละชันที
้ ่ห้าเลยว่าเขาจะต้ องพบ
กับศัตรูระดับใด ในตอนนี ้เขาไม่แปลกใจแม้ แต่น้อย เหตุใดชายคนนันถึ
้ งได้ มนั่ ใจว่าจะไม่มีใคร
ผ่านไปถึงที่ชนห้
ั ้ าได้
ขณะที่หลินหมิงกําลังโคจร ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ เงาทังสองตั ้ วนันก็
้ ยงั ไม่ได้ ขยับ
เคลื่อนไหวใดใด ทําให้ เขารู้สกึ ยินดีที่จะได้ พกั อีกซักเล็กน้ อย แม้ วา่ ที่ผ่านมาเขาจะยังไม่ได้ ใช้
กําลังไปมากนักก็ตาม
แต่ทนั ใดนันเงาสองตั
้ วนัน่ ก็พงุ่ ตัวเข้ ามาหาเขาอย่างพร้ อมเพียงจากทังสองด้้ าน ตัวหนึง่ พุง่ เข้ า
มาทางด้ านซ้ าย และอีกตัวเข้ ามาทางด้ านขวา แต่พวกมันทังคู ้ เ่ ปี่ ยมด้ วยจิตสังหารอันแรงกล้ า
เงาทังสองตั
้ วนี ้มีความว่องไวและเข้ าขากันได้ ดีอย่างไม่น่าเชื่อ การเคลื่อนผสานงานขอพวกงมัน
อย่างกับว่าเป็ นนักรบคูใ่ จที่ร่วมรบด้ วยกันมายาวนานหลายปี เงาร่างหนึง่ พุง่ มาเร็ วกว่าเงาอีก
ตัวเล็กน้ อย มันฟั นลงไปที่บริ เวณเข่าของเขา บังคับให้ หลินหมิงต้ องกระโดดหลบการโจมตีนนั ้
เงาอีกตัวก็ใช้ ประโยชน์จากการที่หลินหมิงกระโดดลอยขึ ้นมาอยูก่ ลางอากาศ แทงดาบอันคม
กริ บเข้ าไปที่หน้ าอกของหลินหมิง
“ฝั นไปเถอะ”
หลินหมิงพึมพําเบาๆ ก่อนจะใช้ เท้ าเตะเข้ าไปที่ข้อมือของเงาตัวนัน้ “กร๊ อบบบ” ข้ อมือของเงา
ดําหักเสียดังด้ วยการเตะอันรุนแรงของเขา
แต่ถงึ อย่างนัน้ พวกเงาต่างก็ไม่ร้ ูสกึ เจ็บใดใด เงาดํานัน่ สะบัดข้ อมือเล็กน้ อยก่อนจะเข้ าโจมตี
หลินหมิงอีกครัง้ ทุกๆครัง้ ที่มนั โจมตี มันจะเผยช่องโหว่ เงาพวกนี ้มันทําได้ แค่โจมตีสินะ มันไม่
คิดจะป้องกันหรื อถอยไปตังหลั ้ ก นี่เป็ นการต่อสู้โดยการเอาชีวิตเข้ าแลกชัดๆ
เมื่อได้ เห็นศัตรูที่ใช้ ชีวิตเข้ าแลกเช่นนี ้ เขาก็ได้ โคจรพลัง ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ อย่างเต็ม
กําลัง เขาปล่อยหมัดเข้ าปะทะกับฝ่ ามือของเงาดําเข้ าอย่างจังๆ
“กร๊ อบบ” เงาดํากระเด็นถอยออกไปพร้ อมกับเลือดที่พงุ่ ออกมาจากปาก
ในตอนนี ้พลังของหลินหมิงมีแต่จะเพิ่มมากขึ ้น มันควรจะเป็ นเรื่ องง่ายมากที่เขาจะจัดการกับ
เงาพวกนันโดยไร้
้ การบาดเจ็บใดใด แต่มนั ก็ไม่เป็ นเช่นนัน้ แม้ เงาทังสองตั
้ วนี ้จะมิได้ เก่งกาจใน
ระดับสุดยอดแต่ก็ไม่ได้ ออ่ นแอเช่นกัน ด้ วยการโจมตีทีผสานกันได้ อย่างสมบูรณ์ และการต่อสู้
แบบเอาชีวิตเข้ าแลกแล้ ว ทําให้ เป็ นเรื่องยากที่จะเอาชนะพวกมันได้ นี ้เป็ นเพียงแค่ชนที
ั ้ ่สาม
หากจะให้ มนั่ ใจว่าเขาจะได้ เป็ นอันดับหนึง่ เขาควรจะไปให้ ได้ ถงึ ชันที
้ ่ห้าเทียบเท่ากับฉินชิงหวน
แม้ วา่ สมองของเขาจะคิดเรื่ องนันอยู
้ ่ แต่ร่างกายหลินหมิงก็ไม่ได้ ชะงักลงแม้ แต้ เสี่ยววินาที เขา
ถอยออกจากแรงกระแทกเมื่อครู่ ในขณะที่เงานันได้ ้ รับบาดเจ็บ เขาได้ สง่ หมัดตรงไปยังหน้ า
ของเงานันอี
้ กครัง้
ในตอนนี ้ เงาอีกตัวหนึง่ ก็พงุ่ เข้ ามาขวางไว้ มันเหวี่ยงดาบหมายจะปลิดชีพของเขา
“หึ…ทีนี ้ก็ถงึ คราวของแกบ้ าง ตายซะเถอะ”
การออกหมัดของหลินหมิงเป็ นเพียงแค่การหลอกล่อเท่านัน้ เขาชักมีดออกมาฟั นปะทะกับดาบ
ของเงาตัวนัน่
“เพล้ งงง” สะเก็ดไฟกระเด็นออกมาจากดาบและมีดที่ปะทะกันอย่างรุนแรง
ขณะที่มีดและดาบกระทบกันอยู่ หลินหมิงไม่ได้ ก้าวถอยหลังไปแม้ แต่น้อย นี่เป็ นผลจากพลังใน
ตัวหลินหมิงอย่างนันหรื
้ อ
“ตายด้ วยมือข้ าซะเถอะ” หลังจากที่ปัดดาบของเงาออกไป หลินหมิงชกไปที่อกของเงานัน้
อย่างรุนแรง
“กร๊ อบบบ” ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี ้ต้ องเป็ นเสียงหักของกระดูกซี่โครงแน่ๆ เป็ นบริ เวณที่อยูข่ อง
หัวใจของมัน เป็ นจุดตายของเงาพวกนัน้
หลังจากที่กําจัดเงาตัวหนึง่ ไปได้ แล้ ว หลินหมิงมองไปที่เงาอีกตนที่เขาชกใส่มือของมันไปก่อน
หน้ านี ้ เขาเตะไปที่ขาของเงานันอย่
้ างรุนแรง และปิ ดท้ อยด้ วยการแทงมีดลงไปบนหัวใจของมัน
ชันที
้ ่สาม ผ่าน!!!
ณ ด้ านนอกของพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง เหล่าผู้เฒ่าได้ เห็นแสงชันที
้ ่เปล่งขึ ้นมาบนชันที
้ ่สี่
หนึง่ ในพวกเขาพูดขึ ้นอย่างประหลาดใจ “โอ้ ว ผู้เข้ าทดสอบในครัง้ นี ้เยี่ยมยอดยิ่งนัก หนึง่ ใน
พวกเขาสามารถผ่านไปถึงชันที
้ ่สี่ได้ โดยใช้ เวลาเพียงธูปครึ่งก้ านเท่านันจริ
้ งๆหรื อนี ้!!!”
บทที่ 42 ผู้มีความปรารถนา
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
ในตอนนี ้หลินหมิงเริ่ มที่จะสามารถปรับตัวให้ ต้านทานจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากฝูงปี ศาจพวก
นันได้
้ แล้ ว แต่ถงึ อย่างนันเขาก็
้ ร้ ูวา่ มันเป็ นไปไม่ได้ เลยทีเ่ ขาจะผ่านชันนี
้ ้ไปได้
จะให้ เขาสู้กบั เจ้ าปี ศาจระดับสองทังสองตั
้ วนันนะรึ
้ แค่จะจัดการลูกสมุนที่อยูร่ อบๆตัวมันยังทํา
ไม่ได้ เลยด้ วยซํ ้า ต่อให้ เขามีพละกําลังมากมหาศาลเพียงใด ก็คงไม่รอดจากชันนี ้ ้ไปได้
เขารู้อยูแ่ ก่ใจว่า ถึงแม้ เขาจะผ่านมาถึงชันห้
้ าได้ แล้ ว แต่เขาก็ยงั ห่างไกลจากฉินชิงหวนมากนัก
เมื่อครึ่งปี ก่อนฉินชิงหวนสามารถจัดการกับเจ้ าพวกปี ศาจทังสิ ้ บตัวนี ้ได้ และเธอสามารถผ่าน
ชันนี
้ ้ไป แต่เพียงแค่หลินหมิงได้ สมั ผัสถึงรังสีอํามหิตที่แผ่ออกมาจากปี ศาจพวกนันก็ ้ อยากถอด
ใจแล้ ว
สมแล้ วที่ฉินชิงหวนจะเป็ นคนที่มีพรสวรรค์ระดับ6อย่างแท้ จริ ง เธอทังงดงามและเก่
้ งกาจยิ่งนัก
ด้ วยการประเมินพลังที่เขามีอยูท่ งหมด
ั้ หลินหมิงคาดการณ์วา่ เขาจําเป็ นต้ องเพิ่มการฝึ กฝน
ขึ ้นมาอีกขัน้ อย่างน้ อยก็ต้องถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สาม เขาถึงจะมีโอกาสผ่านชันนี้ ้ขึ ้นไปได้
แต่ฉินชิงหวนสามารถผ่านขึ ้นไปได้ แล้ วเมื่อครึ่งปี ก่อน เธอได้ ก้าวข้ ามมันไปได้ แล้ วในครึ่งปี ที่
ผ่านมานี ้
ไม่สงสัยเลยเหตุใดทําให้ ชายวัยกลางคนคนนันมั
้ น่ ใจกับชันนี
้ ้นัก
มันเป็ นไปไม่ได้ เลยที่จะผ่านชันนี้ ้ไปได้ แต่ถ้าหากมันจะเป็ นไปได้ จริ ง เขาก็จําเป็ นต้ องฆ่าเจ้ า
ปี ศาจพวกนี ้ให้ มากที่สดุ เท่าที่เขาจะทําได้ อาจจะมีปาฏิหาริ ย์เกิดขึ ้นก็เป็ นได้
หลินหมิงไม่คิดจะยอมแพ้ การต่อสู้ในครัง้ นี ้ นี่เป็ นโอกาสที่เขาจะพัฒนาและลับประสาทสัมผัส
ในการต่อสู้ในขณะที่มีชีวติ อยูร่ ะหว่างความเป็ นความตาย ซึง่ จุดนี ้จะช่วยผลักดันให้ เขา
แข็งแกร่งขึ ้น ทังสถานการณ์
้ ที่พลาดพลังไปซึ
้ ง่ อาจหมายถึงชีวิต มันจะเป็ นโอกาสที่มีคา่ และหา
ยากมากสําหรับเขา
“เข้ ามาเลย” เมื่อเห็นฝูงปี ศาจพุง่ ตรงมาที่เขา หลินหมิงตะโกนขณะที่ชกั มีดออกมาถือเอาไว้
เขารู้วา่ เขาไม่มีโอกาสได้ จะสร้ างบาทแผลให้ ปีศาจระดับสองได้ (เทียบกับขันสี
้ )่ แต่เป้าหมาย
ของเขาก็คือการกําจัดลูกสมุนปี ศาจทัง8ตั้ วนัน้ ซึง่ บางตัวก็แลดูมีหนังและขนที่หนาซึง่ ยากแก่
การทะลวง เขาจึงเลือกที่จะทุม่ ไปที่การโจมตีมากกว่าจะป้องกัน
“ฮ๊ ากกก..”มีดเสียบเข้ าไปที่ท้องของเสือสีเงิน ในขณะนันหลิ
้ นหมิงก็ร้ ูสกึ ได้ ถงึ แรงสัน่ สะเทือนที่
ส่งผ่านมา เนื ้อของเสือสีเงินตัวนันบี
้ บมีดของเขาไว้ และหลินหมิงก็เกือบจะดึงมีดออกมาไม่ได้
“เวรละ..”
อีกไม่กี่วินาทีตอ่ มา หางที่เรี ยวยาวเหมือนแส้ ก็ได้ หวดไปที่ท้องของหลินหมิงอย่างรุนแรง นี่เป็ น
การโจมตีของปี ศาจระดับสอง ความเร็วของมันรวดเร็ วดุจสายฟ้าฟาดและเฉียบแหลมดัง่ คมมีด
ซึง่ การโจมตีนี่สามารถตัดคนธรรมดาออกเป็ นสองเสี่ยงได้ อย่างง่ายดาย หลินหมิงบิดตัวกลาง
อากาศและหลบหางที่ฝาดมาได้ อย่างฉิวเฉียด แต่ก็ยงั คงได้ รับบาดเจ็บที่ขาเป็ นรอยฉีกขาดอยู่
บ้ าง
หลินหมิงร้ สกึ เหมือนมีใครเอาเหล็กร้ อนๆมาทาบที่ขาของเขา มันบวมเหมือนกับเป็ นแผลพุพอง
ออกมา ดูเหมือนว่าต่อให้ แตะที่ขาของเขาเบาๆก็สามารถทําให้ หนังลอกออกไปได้ เลย
ในตอนนี ้ปี ศาจระดับสองก็ได้ ล้อมหลินหมิงเอาไว้ แล้ ว เขากําลังอยูใ่ นวงล้ อมแห่งความตาย
ทันทีที่ปีศาจนันพุ
้ ง่ เข้ ามา ก็เป็ นไปได้ วา่ เขาจะถูกฉีกออกเป็ นชิ ้นๆในทันที
“เป็ นแบบนี ้ ต้ องแย่แน่ ” หลินหมิงรู้ดีวา่ หากพวกปี ศาจเข้ ามาพร้ อมๆกันแล้ วละก็ เขาจะไม่
สามารถหลบออกไปทางไหนได้ เลย ในเวลาวิกฤตเช่นนี ้ หลินหมิงใช้ เท้ าดันกับพื ้นเพื่อชักมีดพุง่
เข้ าไปโจมตีพวกปี ศาจพวกนันก่ ้ อน แน่นอนว่าโจมตีก่อนย่อมได้ เปรี ยบ
“โฮ๊ กกก” เสือสีเงินคํารามด้ วยความโมโห มันพุง่ เข้ าใส่หลินหมิงเช่นกัน ณ ที่แห่งนี ้ ปี ศาจอย่าง
พวกมันไม่ได้ ร้ ูสกึ หวาดกลัวอะไรเลยแม้ แต่น้อย
“ฉึก…” มีดแทงเข้ าไปบนคอหอยของเสือสีเงินอย่างแม่นยํา แต่หลินหมิงก็ได้ รับบาดเจ็บจาก
กรงเล็บของมันที่ทะลวงเข้ ามาที่กลางท้ องของเขา ต้ องขอบคุณการฝึ กฝนขันที ้ ่สองของเขาที่ทํา
ให้ เครื่ องในของเขายังไม่ปลิ ้นออกมาจากการโจมตีของเจ้ าเสือสีเงินตัวนัน้
“เสร็ จไปหนึง่ ” หลินหมิงจับท้ องของเขาเอาไว้ ขณะที่เลือดค่อยๆไหลออกมา เขารู้สกึ เจ็บ
บาดแผลในตอนนี ้เป็ นอย่างมาก และพลังปราณของเขาก็แทบจะหมดลงแล้ ว เขาไม่คิดมาก่อน
เลยว่าชันห้
้ ามันจะโหดร้ ายถึงขนาดนี ้ หากเทียบกับชันสี
้ แ่ ล้ วมันยากกว่าถึงสิบเท่าก็วา่ ได้
…
“ผ่านไปอีก15นาทีแล้ ว หลินหมิงยังสามารถเอาชีวิตรอดอยูใ่ นชันที
้ ่ห้าได้ ไม่น่าเชื่อเลยจริ งๆ”
“อืมม ถึงแม้ วา่ ตอนนี ้เขาจะเอาแต่วิ่งหนีก็เถอะ เขาไม่น่าจะเหลือพลังที่จะต่อสู้อีกแล้ ว แม้ วา่
เขาจะวิ่งหนีมาถึง15นาทีก็ถือว่าเขาประสบความสําเร็ จอย่างยิ่งในการทดสอบครัง้ นี ้”
“อาจจะมีพลังบางอย่างอยูใ่ นตัวหลินหมิงก็เป็ นไปได้ มูยี่ ท่านเคยได้ พดู ถึงเขาก่อนหน้ านี่นี ้
ท่านหัวหน้ าไม่สนใจในตัวเด็กหนุ่มผู้นี ้หรื ออย่างไร”
มูยี่ยิ ้มตอบกลับมา แต่เขาก็ไม่ได้ พดู อะไร คนเหล่านี ้ไม่ได้ ร้ ูถงึ เบื ้องหลังของหลินหมิงเหมือนที่
เขารู้วา่ หลินหมิงมีสดุ ยอดปรมาจารย์อยูเ่ บื ้องหลัง บางทีเขาคนนันอาจจะพาหลิ้ นหมิงกลับไป
เพื่อฝึ กฝนต่อก็เป็ นได้ หากเป็ นอย่างนันแล้
้ ว หัวหน้ าของพวกเขาจะสิทธิหวังได้ อย่างไรกัน
แต่มยู ี่ก็ไม่ได้ พดู สิ่งที่คิดออกไป ในตอนนันผู
้ ้ เฒ่าจากตระกูลซู ผู้ที่กําลังกลิ ้งลูกบอลหยกทังสอง
้
ลูกไว้ บนมือก็ได้ พดู อย่างช้ าๆว่า “ผู้เฒ่าซัน ท่านประเมินเขาสูงเกินไปแล้ ว ข้ ารู้วา่ หลินหมิงนัน้
ทําได้ ดีทีเดียว แต่ถงึ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยงั เป็ นแค่คนที่มีพรสวรรค์ระดับ3เท่านัน้ ที่เขาผ่านมา
ได้ จนถึงบัดนี ้อาจเป็ นเรื่ องบังเอิญก็ได้ ข้ าว่าพวกท่านยกย่องเขามากเกินไปแล้ ว”
เมื่อพวกเขาได้ ยินคําพูดจากผู้เฒ่าตระกูลซู ทําให้ พวกเขาเริ่ มตระหนักได้ วา่ ต้ องมีความจริ ง
บางอย่างถูกปกปิ ดเอาไว้ เป็ นไปได้ วา่ เขาอาจจะใช้ ยาโอสถลํ ้าค่าหายากที่สามารถยกระดับการ
ฝึ กฝนได้ แต่สิ่งเหล่านี ้ก็มีขีดกําจัดของมัน พลังของมันจะลดลงเรื่ อยๆจนกระทัง่ จางหายไปใน
ที่สดุ
้ “หลินหมิงคนนี ้เก่งก็จริ งแต่ ความเร็ วในการฝึ กฝนของเขาไม่มีทางที่
ผู้เฒ่าตระกูลซูพดู ขันมา
จะไล่ตามคนอื่นได้ ทนั ในอนาคต ไม่เพียงแค่นนเขายั
ั้ งจะถูกคนอื่นแซงไปได้ อย่างง่ายดาย”
ผู้เฒ่าคนอื่นๆต่างก็เห็นด้ วย มูยี่ยิ ้มแล้ วตอบไปว่า “พวกท่านไม่จําเป็ นต้ องกล่าวอะไรอีกแล้ ว
ความสําเร็ จของหลินหมิงในอนาคต เราก็จะได้ เห็นกันในอนาคตอย่างแน่นอน”
ขณะที่พดู จบเขาก็หนั ไปดูชนห้
ั ้ าของพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง เริ่ มสัน่ ไหว มีแสงเปล่งประกาย
และมีร่างของมนุษย์กระเด็นออกมา เขาตกลงไปบนแผ่นกระดานสําหรับรองรับ
“ในที่สดุ หลินหมิงก็ได้ ออกมาเสียที”
หลินหมิงได้ ฆา่ พวกลูกสมุนพวกนันไปอี้ กหลายตัว และเขาได้ รับบาดแผลฉกรรจ์เป็ นการ
แลกเปลี่ยน แต่ถงึ แม้ จะรู้วา่ ตนเองกําลังจะตาย เขาก็ได้ ลากหมาป่ าวายุและปี ศาจระดับหนึง่
อีกสองตัวไปลงนรกด้ วยเป็ นผลสําเร็จ
เขาพอใจกับผลลัพธ์นี ้มาก แน่นอนว่าการฆ่าปี ศาจระดับหนึง่ ถึงสี่ตวั ในระหว่างที่โดนล้ อมอยู่
นันยากกว่
้ าชันสี
้ ห่ ลายเท่านัก
ในระยะทางที่หา่ งออกมาหลานยุนเยี่ยมองไปยังหลินหมิงที่ถกู ล้ อมด้ วยผู้คน เธอไม่ร้ ูวา่ ทําไมใจ
ของเธอถึงได้ ร้ ูสกึ สัน่ ไหวเช่นนี ้ เธอเม้ มปากและเดินจากไปอย่างเงียบๆ
….
“หืมมม … เจ้ าฟื น้ แล้ วรึ… หลินหมิง”
การตายที่โลกแห่งนันเป็
้ นเพียงจินตนาการเท่านัน้ ร่างจริ งของเจ้ าจะถูกดีดกระเด็นออกมาจาก
พระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจงขณะที่เจ้ าตายในจินตนาการ แต่มนั ก็ทําให้ เจ้ าได้ ร้ ูสกึ ว่าตายไปจริ งๆ
แต่จริ งๆแล้ วก็แค่หมดสติไปสักพักเท่านัน้ แต่หลินหมิงก็ฟืน้ ขึ ้นมาหลังจากหมดสติไปได้ ไม่นาน
และดูจะอ่อนเพลียลงเล็กน้ อยเท่านัน้ ทําให้ พวกผู้เฒ่าจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ต้องแปลกใจในร่าง
รายของเขาไม่มากก็น้อย หากจะเทียบกับหวังยานเฟิ งแล้ ว ในขณะนี ้เขายังไม่ฟืน้ ขึ ้นมาเลยด้ วย
ซํ ้า “เด็กคนนี ้สมควรแล้ วที่จะได้ เป็ นอันดับหนึง่ ในการทดสอบครัง้ นี ้’ ผู้เฒ่าซันพูดขึ ้นมา
“รางวัลสําหรับที่หนึง่ คือยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง พวกท่านไม่คิดว่ามันจะเป็ นการเสียเปล่า
หรอกหรื อ ที่จะมอบมันให้ กบั มนุษย์ที่มีพรสวรรค์เพียงระดับสาม พวกท่านคิดว่าเขาจะรับพลัง
จากมันได้ ซกั เท่าไร การประเมินผลการทดสอบไม่ได้ ขึ ้นกับผลสอบอย่างเดียว มันขึ ้นอยูก่ บั
ระดับพรสวรรค์ของพวกเขาด้ วย”ผู้เฒ่าซูโต้ เถียงด้ วยเสียงแหบแห้ ง
ผู้เฒ่าซันพูดค้ านขึ ้นมา “ก็จริ งอยู่ ที่วา่ เราจะประเมินจากระดับพรสวรรค์ด้วย แต่นนเฉพาะใน
ั้
กรณีที่ผลการทดสอบออกมาใกล้ เคียงกันเท่านัน้ แต่ในครัง้ นี ้หลินหมิงเป็ นอันดับหนึง่ ในจากทุก
การทดสอบ แล้ วจะมีเหตุผลใดที่ทําให้ เขาไม่ได้ อนั ดับหนึง่ จากการทดสอบโดยรวม เจ้ าคิดว่า
มันจะยุติธรรมหรื อหากรางวัลอันดับหนึง่ ไม่ใช้ ของเขา”
“ยิ่งไปกว่านัน้ เท่าที่ข้าได้ ร้ ูมา ผู้เฒ่าซูและผู้นําตระกูลหวังจากเมืองเยว่ลเู่ คยเป็ นเพื่อนสนิทกัน
มาก่อนมิใช่รึ”
ขณะที่ ผู้เฒ่าซํฯพูดจบ ผู้เฒ่าซูก็ทําตาขวางและพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ซันไซฟาน ข้ า
ประเมินถึงทุกอย่างในการสอบและทังหมดก็ ้ เพื่อผลประโยชน์สงู สุดของสํานัก หากท่านยืนยัน
ว่าจะให้ หลินหมิงเป็ นอันดับหนึง่ ข้ าก็จะไม่คดั ค้ านอะไร แต่เรามาลองพนันกันหน่อยไหม ว่า
ระหว่างหลินหมิงกับหวังยานเฟิ งในอีกหกเดือนข้ างหน้ า ใครจะแกร่งกว่ากัน และใครจะ
สามารถเข้ านิกายสวรรค์ได้ ก่อน”
ผู้เฒ่าซันรู้สกึ ตกใจกับคําท้ าของผู้เฒ่าซูเป็ นอย่างมาก เขารู้สกึ พูดไม่ออก เขาแอบรู้สกึ โมโหอยู่
ในใจ เขาพยายามตัดสินอย่างเป็ นธรรม แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าผู้เฒ่าซู จะขัดขวางเขาเช่นนี ้
เดิมทีคนตระกูซูก็เป็ นคนที่ทําอะไรเพื่อตนเองอย่างเห็นแก่ตวั อยูแ่ ล้ ว
แต่เมื่อผู้เฒ่าซูได้ ท้าเขา แม้ วา่ เขาจะไม่อยากเล่นด้ วยนัก เพราะพรสวรรค์ของหลินหมิงอยูท่ ี่
ระดับ3เท่านัน้ มีความเป็ นไปได้ สงู ทีเดียวที่หลินหมิงอาจผ่านมาถึงชัน5ได้ ้ โดยบังเอิญหรื อเขา
ใช้ โอสถลํ ้าค่าจึงได้ ผลลัพธ์เช่นนี ้ แต่กบั หวังยานเฟิ งเมื่อเทียบกันแล้ วถือเขาเป็ นผู้มีพรสวรรค์สงู
มาก เขาคือหนึง่ ในล้ านอย่างแท้ จริ ง ด้ วยพรสวรรค์ระดับ4ขันสู ้ ง ถ้ าให้ คิดไปถึงการฝึ กฝนต่อไป
ในอนาคต ไม่มีทางที่หลินหมิงจะตามเขามาได้ ทนั
เมื่อเห็น ผู้เฒ่าซันแสดงท่าทีเหมือนจะยอมจํานน ผู้เฒ่าซูก็ยิ ้มเยาะเย้ ยซํ ้าและกล่าว “ท่านคง
ไม่กล้ าซินะ ถ้ าท่านคิดว่าหลินหมิงสมควรที่จะเป็ นอันกับหนึง่ อย่างน้ อยท่านก็ควรกล้ าพนันกับ
ข้ า ข้ าได้ ยินมาว่าท่านมีสมบัติ สมบัติระดับมนุษย์อยูม่ ิใช่รึ”
เมื่อผู้เฒ่าซูกล่าวถึงสมบัติระดับมนุษย์ ผู้เฒ่าซันถึงกับต้ องทําหน้ าตาบูดเบี ้ยวออกมาอย่างเห็น
ได้ ชดั มันเป็ นสมบัติที่หายากอย่างสุดแสนสาหัส มันมีมลู ค่ามหาศาลมากเสียยิ่งว่าเมืองแห่งนี ้
เสียอีก ถึงแม้ จะมีเงินกี่หมื่นเหรี ยญทองก็ไม่อาจซื ้อมันได้ มันเป็ นสมบัติที่สบื ทอดมาจาก เจ็ด
ปรมาจารย์แห่งขุนเขา และมันก็เป็ นสมบัติที่มีคา่ มากที่สดุ ของเขา แล้ วเขาจะตอบตกลงได้
อย่างไร ทังโอกาสที
้ ่เขาจะชนะก็ยงั น้ อยและไม่มีความแน่นอนเอาเสียเลย
เมื่อได้ เห็นผู้เฒ่าซันเงียบเป็ นใบ้ ผู้เฒ่าซูก็ยิ ้มออกมาอย่างพออกพอใจ เขารู้วา่ ซันไซฟานไม่กล้ า
รับพนันนี ้อย่างแน่นอน ที่เขาพูดก็เพราะต้ องการทําลายชื่อเสียงและเกียรติของผู้เท่าซัน
ต่างหาก
แต่ทนั ใดนันเอง
้ มูยี่ก็ได้ กล่าวคําพูดไม่กี่คําออกมา มันทําให้ เหล่าผู้เฒ่าทังหลายแห่
้ งสํานักเจ็ด
แก่นแท้ ต้องตกตะลึงไปตามๆกัน
“ข้ าจะพนันกับเจ้ าเอง!!! ”
บทที่ 43 ปฏิเสธที่จะยอมรับ
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
้ ย่ ี่พดู ขึ ้นขณะที่ยิ ้มออกมา “ข้ าจะพนันกับเจ้ าเอง!!!”
ณ เวลานันมู
“หืมมม” ผู้อาวุโสซูถงึ กับต้ องสะดุ้งในขณะที่เขาได้ ยินถ้ อยคําเหล่านัน้ เขาไม่คิดมาก่อนเลย
ว่ามูย่ ี่จะเอ่ยปากรับคําท้ าเช่นนัน้ ยิ่งไปกว่านันด้
้ วยปฏิกิริยาการแสดงออกอย่างมีความสุข
เช่นนัน้ ทําให้ เขาสัมผัสได้ ถงึ ความมัน่ ใจอันมากมายมหาศาลของมูย่ ี่
สิ่งเหล่านันทํ
้ าให้ ความเชื่อมัน่ ของผู้อาวุโสซูสนั่ คลอนไปเล็กน้ อย เป็ นไปได้ หรื อว่าเจ้ าเด็กหลินห
มิงคนนันยั
้ งมีไพ่ตายบางอย่างที่เขาไม่ร้ ู แต่เขาก็ไม่เข้ าใจว่าทําไมเด็กที่มีพรสวรรค์ระดับสาม
ช่วงกลางถึงเหนือกว่าหวังหยานเฟิ งที่มีพรสวรรค์ระดับสี่ช่วงสูงได้ นอกจากนี ้เขายังได้ พดู สิ่งที่ดู
หยิ่งยโสดังกล่าวต่อหน้ าเพื่อนๆจํานวนมากดังนัน้ ในตอนนี ้เขาได้ ขึ ้นหลังเสือไปเสียแล้ ว เขาจะ
มากลับคําเอาตอนนี ้ได้ อย่างไร ดังนันผู
้ ้ อาวุโสโซขบฟั นของเขาในขณะที่เขากล่าว
ออกมา “เยี่ยม ท่านมูย่ ี่ต้อกการเดิมพันสิ่งใดล่ะ?”
มูย่ ี่ยิ ้มและกล่าวว่า “ข้ าอยากเดิมพันเบาๆเท่านัน้ เราควรเน้ นความสนุกสนานเป็ นหลัก อย่าให้
การเดิมพันเหล่านี ้มาทําลายมิตรภาพความสัมพันธ์อนั ดีงามของพวกเราได้ ข้ าคิดว่าเพียง
สมบัติระดับมนุษย์ ก็คงจะเพียงพอ”
สมบัติระดับมนุษย์! นัน่ ยังเรี ยกว่าการเดิมพันเบาๆอีกอย่างนันเหรอ?
้
มุมปากของผู้อาวุโสซูกระตุกเล็กน้ อย มูย่ ี่ซงึ่ เป็ นถึงนักจารึกผู้มีชื่อเสียงรํ่ าลือไปทัว่
ราชอาณาจักร ดังนันหลายปี
้ ที่ผ่านมานี ้ เขาจึงได้ รับของขวัญมากมาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขา
คือหนึง่ ในบุคคลที่มีความมัง่ คัง่ แทบจะมากที่สดุ คนหนึง่ ในอาณาจักรแห่งนี ้
ผู้อาวุโสซูกดั ฟั นของเขาและกล่าวตอบ “ก็ดี งันข้
้ าจะเดิมพันกับเจ้ าด้ วยสมบัติระดับมนุษย์ชนั ้
ตํ่า แหวนมิต”ิ
แหวนมิติเป็ นแหวนที่ไว้ ใช้ สําหรับเก็บสมบัติ มันสามารถสวมใส่ไว้ ตรงไหนก็ได้ บนร่างกายของ
เจ้ าของ และใช้ ในการเก็บอะไรก็ตามที่คณ ุ ต้ องการ นี่เป็ นสมบัติที่ยากจะสร้ างขึ ้น ดังนันราคา
้
ของมันจึงแพงกว่าสมบัติที่อยูใ่ นขันเดี
้ ยวกันหลายเท่า แหวนมิตินี ้เป็ นสมบัติระดับมนุษย์ขนตํ ั ้ ่า
ที่ราคาเท่าๆกับสมบัติระดับมนุษย์ขนกลางเลยที
ั้ เดียว
“น่าสนใจ ข้ าตกลง” มูย่ ี่ตอบตกลงโดยแทบไม่ต้องคิด เขาหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ แสดง
ให้ เห็นถึงความรู้สกึ ของคนที่เชื่อมัน่ ในตัวเองอย่างมากของเขาออกมา
ตําแหน่งอันดับหนึง่ ของผู้เข้ าทดสอบจึงถูกมอบให้ กบั หลินหมิง
อย่างไรก็ตามการตรวจสอบใช้ เวลาไปมากดังนันจึ ้ งล่าช้ าไปเป็ นชัว่ โมงแล้ ว การประกาศผลจึง
จะจัดขึ ้นในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี ้ นอกจากหลินหมิงจะได้ อนั ดับหนึง่ แล้ ว ตังแต่้ อนั ดับที่สองไป
จนถึงที่สิบก็ยงั ต้ องถูก ประเมิน อายุ ผลลัพธ์ พรสวรรค์ ของผู้สมัครเพื่อความเหมาะสม ซึง่ ถูก
ตัดสินโดยให้ ผ้ อู าวุโสของสํานักเจ็ดแก่นแท้ เป็ นผู้ตดั สินอีกที
“ชิงหวน เราไปทักทายหลินหมิงกันเถอะ” มูย่ ี่กล่าวขณะที่เขาลุกขึ ้น แม้ วา่ หลินหมิงจะถูกปลุก
ให้ ตื่นแล้ ว แต่มยู่ ี่ก็ยงั นัง่ อยูก่ บั กลุม่ ผู้อาวุโสจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ดงั นันหลิ
้ นหมิงจึงไม่อาจจะ
เดินไปหาพวกเขาได้
“อืม” ฉินชิงหยวนพยักหน้ า แม้ วา่ ขณะที่ผ้ อู าวุโสสํานักเจ็ดแก่นแท้ กําลังพูดคุยกันอยู่ ฉินชิง
หยวนก็แสดงมารยาทต่อผู้อาวุโสและนัง่ เงียบๆอยูอ่ ีกมุมหนึง่ แต่ในความจริ งแล้ วในแง่ของ
สถานะในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ของเธอ ฉินชิงหยวนเทียบได้ กบั ผู้อาวุโสเหล่านี ้เลยทีเดียว
นี่เป็ นเพราะว่าฉินชิงหยวนเป็ นศิษย์หลักที่มีพรสวรรค์มากที่สดุ ในอนาคตเส้ นทางในการฝึ กฝน
ก็จะราบรื่ นถ้ าไม่มีอบุ ตั เิ หตุใดๆเกิดขึ ้นกับเธอ เธอก็จะได้ เข้ าเป็ นศิษย์ของเจ็ดปรมาจารย์แห่ง
ขุนเขาได้
นี่เป็ นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ เป็ นที่ร้ ูกนั ว่าแม้ แต่หลิงเซ็นก็ยงั แทบจะไม่มีโอกาสที่จะได้ เข้ าเป็ นศิษย์
ของเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขา
แต่หากเขาสามารถขึ ้นไปถึงจุดสูงสุดของขันผสานชี
้ พจรได้ ในเวลาสันๆเขาก็
้ อาจจะได้ เข้ าเป็ น
ศิษย์ของเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขาเช่นกัน แต่มนั ก็เป็ นไปได้ ยากยิ่ง
ขณะนี ้หลิงเซินมีอายุเกือบจะยี่สบิ แล้ ว เขายังฝึ กฝนถึงขันที
้ ่สี่เท่านัน้
ในตอนบ่ายหลินหมิงและมูย่ ี่คยุ กันเล็กน้ อยก่อนที่หลินหมิงจะกลับเข้ าห้ องของเขาที่สาํ นักเจ็ด
แก่นแท้ จดั เตรี ยมเอาไว้ ให้ สําหรับผู้เข้ าสอบทุกคน เขาพักผ่อนและนัง่ ทําสมาธิ
คํ่าคืนที่เงียบสงบผ่านไป
ในตอนนี ้เป็ นช่วงเวลาบ่ายของวันที่สอง อากาศบริ สทุ ธิ์แจ่มใส สนามแข่งขันของสํานักเจ็ดแก่น
แท้ ที่แห่งนี ้มีบคุ คลคนสําคัญมากมายของสํานักได้ มาประชุมกัน และผู้เข้ าสอบทังหมดห้
้ าสิบ
สามคนที่ผ่าน
วันนี ้คือประกาศผลการจัดอันดับในการทดสอบ
หลังจากการถกเถียงกันเมื่อคํ่าวันก่อน ผลสุดท้ ายก็ถกู ตัดสินออกมาในทีสดุ
เมื่อหลินหมิงมาถึงสนาม ผู้คนมองมาที่เขาอย่างอิจฉาริ ษยาและชื่นชม หลินหมิงโด่งดังภายใน
คํ่าคืนเดียว การที่ขึ ้นไปถึงชันห้
้ าของเจดีย์ไม่ใช้ เรื่ องง่ายๆ แม้ แต่ศิษย์อาวุโสในนิกายก็ยงั ให้
ความสนใจกับเขา
“ยินดีด้วย” ในเวลานันเสี
้ ยงหนึง่ ดังขึ ้นมา หลินหมิงหันกลับไปเห็น เขาพบกับหวังหยานเฟิ งยืน
อยูใ่ กล้ ๆ เขายืนกอดอกและยิ ้มอย่างเสแสร้ ง “คงต้ องขอบคุณโชคดีของเจ้ า ด้ วยพรสวรรค์
ระดับสามขันกลาง
้ แต่สามารถขึ ้นไปถึงชันห้
้ าได้ อ่าาา ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อ!”
หวังหยานเฟิ งพูดเสียงดังมาก ผู้คนรอบๆได้ ยินเสียงเขา พวกเขาต่างตกใจว่าหลินหมิงคนนันมี
้
พรสวรรค์ระดับสามขันกลางเท่
้ านันเองหรื
้ อ พวกเขาคิดว่าหลินหมิงจะมีพรสวรรค์อย่างน้ อย
ระดับสี่ชนสู
ั ้ งเสียอีก เป็ นไปได้ อย่างไรที่เขามีเพียงพรสวรรค์ระดับสามขันกลาง?
้
ผู้คนที่อยูร่ อบๆต่างเริ่ มพูดคุยกันและหวังหยานเฟิ งเองก็ได้ ยินมัน เขายิ ้มออกมาเต็มใบหน้ า
เมื่อวานเขาส่งลูกน้ องของเขาได้ ดสู าํ รวจพรสวรรค์ของหลินหมิงมา
“เจ้ า หลินหมิง ข้ าไม่ร้ ูวา่ หมาจรจัดเช่นเจ้ าเหตุถงึ ได้ โชคดีเช่นนี ้ เจ้ าจะใช้ สมุนไพรหายากเมื่อ
ตอนเด็กๆหรืออาจไม่ ข้ าก็ไม่สนใจ แต่ถ้าเจ้ าคิดว่าเจ้ าสามารถกดดันข้ าและเอาชนะข้ า ก็ฝันไป
เถอะ! เจ้ าแค่มีโชคเล็กน้ อยเท่านันและเจ้
้ ้ อ ? เจ้ าคงใช้
าคิดว่าพลังการต่อสู้เจ้ าสูงอย่างนันหรื
พละกําลังแห่งพระเจ้ าของเจ้ าผ่านสัตว์โง่ๆในเจดีย์มาสินะ แต่เจ้ าคิดหรื อว่าเจ้ าจะสู้กบั คนจริ งๆ
ได้ ? ฮืมมม ด้ วยทักษะโง่ๆของเจ้ าที่อาจจะเรี ยนจากวัวตัวหนึง่ เจ้ าคิดเหรอว่าจะสามารถ
เอาชนะมนุษย์ได้ จริ งๆ?
ความจริ งที่วา่ เมื่อวานในเจดีย์แห่งนัน้ หวังหยานเฟิ งสามารถฆ่าหมีเกราะเหล็กบนชันสี ้ ่ได้ แต่
เขาก็ได้ รับบาดเจ็บและถูกบังคับให้ ออกจากเจดีย์ สิ่งเหล่านี ้ทําให้ หวังหยานเฟิ งเศร้ าโศก ถ้ าเขา
สามารถอยูใ่ นนันได้
้ อีกสักช่วงลมหายใจเดียวและเขาก็จะสามารถขึ ้นไปบนชันห้ ้ าได้
และถ้ าหากเขาสามารถขึ ้นไปบนเจดีย์ชนห้ ั ้ าได้ เขาก็จะได้ ผลลัพธ์เช่นเดียวกับหลินหมิง หวังห
ยานเฟิ งไม่เชื่อว่าหลินหมิงจะทําอะไรได้ บนชันห้
้ า แม้ วา่ หลินหมิงจะอยูบ่ นชันห้
้ าได้ ถงึ สิบห้ า
นาที แต่หวังหยานเฟิ งก็เชื่อว่าหลินหมิงคงทําได้ เพียงวิ่งหนีเฉกเช่นเดียวกับหมาตัวหนึง่ อยูบ่ น
นัน้
ความผิดพลาดของหวังหยานเฟิ งก็คือเขาข้ ามผ่านชันแรกๆไปอย่
้ างเร็ วเกินไป ผลที่ตามมาคือ
เขาต้ องพึง่ กลยุทธ์ที่มีทงหมดของเขาโดยไม่
ั้ มีเวลาได้ พกั ผ่อน ถ้ าหากเขาผ่านไปแบบช้ าๆและ
ดึงเวลาออกไปในแต่ละชัน้ การจัดการกับหมีเกราะเหล็กก็อาจจะไม่ทําให้ เขาได้ อาการบาดเจ็บ
ที่รุนแรงเช่นนี ้
ยิ่งไปกว่านันสาเหตุ
้ สําคัญที่สดุ ที่ทําให้ เขาพ่ายแพ้ ตอ่ หลินหมิงก็คือ ในเจดีย์นนเขาไม่
ั้ สามารถที่
จะใช้ อาวุธหายากของเขาได้ !
หากปราศจากอาวุธหายากของเขา หวังหยานเฟิ งก็ไม่สามารถแสดงพลังของทักษะลับใน
ตระกูลออกมาได้ อย่างเต็มที่ หากไร้ ซงึ่ ดาบหายากของเขาแล้ ว พลังของมันก็จะลดลง ผลก็คือ
ทําให้ เขาไม่สามารถผ่านชันที
้ ่สี่ไปได้
แต่ในการต่อสู้จริ ง สมบัติอาวุธต่างๆจะไม่ถกู จํากัดและสามารถใช้ มนั ได้ อย่างเต็มที่ ยาโอสถ
ต่างๆเองก็เช่นกัน พวกมันเป็ นความได้ เปรี ยบของพวกคนรํ่ ารวย ทําให้ พวกเขาสามารถนําเอา
สมบัติที่ได้ จากตระกูล มาใช้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมในการต่อสู้
หวังหยานเฟิ งสัมผัสดาบโค้ งของเขาและมองไปที่หลินหมิงด้ วยใบหน้ าที่เกลียดชังอย่างเต็มที่
“ถ้ าหากข้ าสามารถใช้ ดาบสัจธรรมเล่มนี ้ได้ ข้ าสามารถจะฆ่าเจ้ าได้ อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับ
ไก่ตวั หนึง่ !” หวังหยานเฟิ งคิดอย่างชัว่ ร้ ายในใจแต่เขาก็ไม่พดู ออกมา “ข้ าจะแพ้ เจ้ าได้ อย่างไร!
ไม่มีทางอย่างแน่นอนสําหรับในปั จจุบนั ในอนาคตเองก็เช่นกัน ”
บรรยากาศเต็มไปด้ วยความตึงเครี ยด หลินหมิงไม่ตอบสนองหรื อโต้ แย้ งต่อคําพูดของหวังห
ยานเฟิ งราวกับว่าเขาไม่ต้องการสร้ างความขัดแย้ งโดยไม่จําเป็ น และเขาก็ยงั ทําเหมือนว่าหวังห
ยานเฟิ งไม่ได้ อยูใ่ นสายตา
“แกหัดฟั งซะบ้ าง นายน้ อยของข้ ากําลังพูดกับแกอยู่ แกหูหนวกรึ? ไอ้ โง่? แกไม่ได้ ยินรึไง?”
ข้ ารับใช้ ของหวังหยานเฟิ งกล่าวขึ ้นในขณะที่เขายืนอยูข่ ้ างๆหวังหยานเฟิ ง
คําพูของคนรับใช้ หยาบช้ ากว่าเจ้ านายของมันเสียอีก หลินหมิงหยุดเดิน เขาหันกลับมาอย่าง
สงบและใช้ สายตาที่รุนแรงมองไปที่ข้ารับใช้ “ที่นี่คือสนามทดสอบแข่งขันของสํานักเจ็ดแก่นแท้
ขี ้ข้ าอย่างเจ้ าที่มีการฝึ กฝนขันแรกยั
้ ้ ?”
งจะเสนอหน้ ามาอีกอย่างนันรึ
“แก…!” ข้ ารับใช้ หน้ าแดงจากความโกรธและอับอาย ตามระเบียบจริ งๆแล้ วเขาไม่มี
คุณสมบัติที่จะเข้ ามาในที่แห่งนี ้ด้ วยซํ ้า
บรรยากาศเริ่ มตึงเครี ยด แต่ในขณะนันผู
้ ้ อาวุโสจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ เดินขึ ้นไปบนเวทีและ
กล่าวบางอย่าง “ทุกคนเงียบ เราจะประกาศผลกาทดรสอบแล้ ว”
คนที่อยูด่ ้ านล่างเงียบในทันทีแม้ แต่ข้ารับใช้ คนนันก็
้ ได้ แต่สาปแช่งอยูใ่ นใจ มันทําได้ เพียงยืนอยู่
ตรงนันอย่
้ างเงียบ ๆ
ผู้อาวุโสคนนันหยิ้ บแผ่นรายชื่ออันยาวเหยียดออกมาและกล่าวว่า “ในการแข่งขันสอบเข้ าครัง้
นี ้ ผู้เข้ าสอบได้ รับการตัดสินจากทังสามด่
้ าน รวมถึงอายุและพรสวรรค์ คุณสมบัติเหล่านี ้เองก็
จะถูกนําไปพิจารณาและประเมินโดยเหล่าผู้อาวุโส ในตอนนี ้เราจะประกาศอันดับหนึง่ ถึงสิบ
ดังต่อไปนี ้ อันดับสิบ โจวเจิ ้นหยาง รางวัลยาเม็ดผสานวิญญาณสิบเม็ด อันดับเก้ า…”
ผู้อาวุโสประกาศผลอย่างไม่เร่งรี บจนกระทัง่ ถึงอันดับที่สอง…
“อันดับสอง หวังหยานเฟิ ง รางวัล ยาโอสถพญางูทองคํา อันดับหนึง่ หลินหมิง รางวัล ยาเม็ด
ไขกระดูกมังกรทอง ผลในการทดสอบถูกประกาศแล้ ว ยินดีด้วยกับทุกๆคนที่อยูใ่ นสิบอันดับ
แรก หากไม่มีใครคัดค้ าน ขอเชิญผู้อาวุโสซันมอบรางวัล”
“โปรดรอสักครู่! ข้ าขอคัดค้ าน” หวังหยานเฟิ งยกมือขึ ้น ผู้อาวุโสซูจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ซงึ่ เป็ น
เพื่อนกับพ่อของเขาดังนันเขาจึ
้ งรู้ผลของมันอยูแ่ ล้ ว สาเหตุที่เขาคัดค้ านก็เพราะว่าผู้อาวุโสซู
เป็ นคนแนะนําให้ เขาทํา
“หืม? เจ้ าจะคัดค้ านอะไร?” ผู้อาวุโสที่ประกาศผลขมวดคิ ้วและกล่าวถาม
หวังหยานเฟิ งยิ ้มและเดินออกไปกลางสนาม เสียงของเขาดังก้ องไปทัว่ ทุกบริ เวณอย่างชัดเจน
“เท่าที่ข้าได้ ร้ ูมา พรสวรรค์ของหลินหมิงคือระดับสามช่วงกลางเท่านัน้ แต่พรสวรรค์ของข้ าอยู่
ในระดับสี่ขนสู
ั ้ ง ผู้อาวุโสกล่าวว่าผลการตัดสินประเมินขันสุ
้ ดท้ ายจากสามการทดสอบ อายุ
และพรสวรรค์ การตัดสินใจขันสุ ้ ดท้ ายอยูใ่ นมือผู้อาวุโส แต่เงื่อนไขในข้ อ‘พรสวรรค์’สําคัญยิ่ง
นัก หากผู้มีที่พรสวรรค์เพียงระดับสามได้ รับยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองไป มันค่ากลายเป็ นของ
ไร้ คา่ เป็ นแน่ ข้ าขอปฏิเสธที่จะยอมรับหลินหมิงเป็ นอันดับหนึง่ ”
สําหรับหวังยานเฟิ ง ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองนันเป็ ้ นสิ่งที่เขาไม่อาจตัดใจได้ ลง หากเขาได้ ยา
นันมา
้ เขามัน่ ใจว่าเขาจะสามารถเข้ าสูข่ นที
ั ้ ่สี่ได้ ก่อนที่จะอายุสิบแปดปี เสียอีก และมัน่ ใจว่าจะ
เขาจะไปถึงจุดสูงสุดของขันที
้ ่สี่ก่อนอายุ20ปี และแข็งแกร่งกว่าหลิงเซ็นจากนิกายสวรรค์ได้
อย่างแน่นอน
ถ้ าเรื่ องเหล่านี ้เป็ นไปตามแผนของเขา สถานะในตระกูลของเขาก็จะสูงขึ ้นจนไม่มีผ้ อู าวุโสคนได้
ข่มเหงเขาได้ อีกต่อไป
ในเวลานี ้ผู้อาวุโสซันยืนขึ ้นและแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา “เจ้ ากล้ าตังคํ
้ าถามเกี่ยวกับการ
้ ?” เสียงเย็นชานี ้เต็มไปด้ วยสาระสําคัญอย่างแท้ จริ ง
ประเมินของพวกผู้อาวุโสอย่างนันรึ
ในขณะนันคนที
้ ่อยูใ่ นแวดวงตรงนันถู
้ กทําให้ ตกใจจากอุณหภูมิที่เย็นลงอย่างฉับพลัน
หวังหยานเฟิ งไม่สามารถทนต่อแรงกดดันที่น่ารังเกียจนี ้ได้ เขาถูกบังคับให้ ถอยหลังออกไป
หลายก้ าว
“ผู้อาวุโสซันไซฟาน ท่านกําลังข่มขูเ่ ด็กๆหรื อ ” ผู้อาวุโสซูกล่าวว่าในขณะที่เขายังยืนอยู่ โดย
ธรรมชาติแล้ วเขาก็ไม่ชอบผู้อาวุโสซันไซฟานเช่นกัน
ในขณะนี ้หวังหยานเฟิ งก็กล่าวขึ ้นมาว่า “ผู้อาวุโสซันโปรดสงบลงก่อน ข้ าไม่กล้ าที่จะตังคํ ้ าถาม
กับการตัดสินใจของท่านผู้อาวุโส แต่ข้าคิดว่ามันไม่ยตุ ิธรรม ในการตัดสินการแข่งขันที่สาม ข้ า
ก็ฆา่ สัตว์ดรุ ้ ายทังสองได้
้ เช่นกัน มันเป็ นเพียงเพราะข้ ารี บร้ อนเกินไปเพียงเล็กน้ อย เป็ นเหตุให้
ข้ าได้ รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถที่จะก้ าวเข้ าสูช่ นที ั ้ ่ห้าได้ ถ้ าข้ าก้ าวไปอย่างช้ าๆแล้ วข้ าก็
้ ่ห้าได้ เช่นกัน ”
สามารประสบความสําเร็จในชันที
“ดังนันข้
้ าจึงไม่สามารถทําอะไรได้ นอกเสียจากปฏิเสธที่จะยอมรับผลการตัดสินในครัง้ นี ้ ข้ าไม่
เชื่อว่าความแข็งแรงของข้ าจะแพ้ ให้ กบั หลินหมิง! ”
“แล้ วเจ้ าต้ องการอะไร?”
“เป็ นคําถามที่ตรงประเด็นมากขอรับ ข้ าต้ องการที่จะต่อสู้ตดั สินแพ้ ชนะกับหลินหมิง ถ้ าข้ าแพ้
ในการต่อสู้ครัง้ นี ้แล้ วข้ าก็จะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่โดยดี แต่ถ้าข้ าชนะแล้ วตําแหน่งอันดับ
หนึง่ จะต้ องเป็ นของข้ า! หวังหยานเฟิ งหันหน้ าไปหาหลินหมิงและกล่าวยัว่ ยุเขา “หลินหมิง เจ้ า
กล้ ารับคําท้ าของข้ าหรื อไม่!?”
บทที่ 44 แกมันสมควรตายอยูแ่ ล้ ว
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
“พูดง่ายๆก็คือ ข้ าต้ องการตัดสินแพ้ นชนะกับหลินหมิง ถ้ าข้ าแพ้ ข้ าก็จะยอมรับความพ่ายแพ้
แต่โดยดี แต่ถ้าหากข้ าเป็ นผู้ชนะ อันดับหนึง่ ในการสอบครัง้ นี ้ต้ องเป็ นของข้ า” หวังยานเฟิ ง พูด
ด้ วยนํ ้าเสียงยัว่ ยุ “หลินหมิง เจ้ ากล้ ารับคําท้ าข้ าของข้ าหรื อไม่”
ก่อนที่หลินหมิงจะทันได้ ตอบอะไร ผู้เฒ่าซูก็ได้ พดู ยิ ้มๆอออกมา “เป็ นความคิดที่ดีทีเดียว ผล
ของการสอบอาจจะบอกอะไรได้ ไม่มากนัก แต่เราควรจะก็ประเมินพวกเขาจากคุณสมบัติ
สําคัญทังสอง
้ ซึง่ หนึง่ ก็คอื ทักษะในการต่อสู้จริ ง และสองก็คือ พรสวรรค์ ซึง่ ก็ชดั เจนอยูแ่ ล้ วว่า
ผู้ที่มีพรสวรรค์อนั ดับหนึง่ ก็คือ หวังยานเฟิ ง”
คําพูดของผู้เฒ่าซูได้ ปิดทางหนีของหลินหมิงไปเป็ นที่เรี ยบร้ อยแล้ ว แต่ถงึ อย่างไรก็ตาม ผู้เฒ่าซู
ก็คิดว่าเพียงเท่านี ้คงยังไม่เพียงพอ เขาหันไปมองหลินหมิงและพูดต่อว่า “ไม่ใช่แค่ระดับขันการ
้
ฝึ กฝนกายภาพเท่านันที ้ ่สําคัญ แต่รวมถึงสภาพจิตใจอีกด้ วย เจ้ าจะต้ องมีความพยายามที่จะ
เอาชนะอุปสรรคต่างๆที่เจ้ าพบเจอ หากเจ้ ารู้สกึ หวาดกลัวแล้ วละก็ เจ้ าก็ไม่ตา่ งอะไรกับพ่าย
แพ้ ไปแล้ ว”
คําพูดของผู้เฒ่านันมิ
้ ได้ ผิด แต่ตา่ งตรงที่เขาพูดด้ วยความมุง่ ร้ าย โดยในสถานการณ์นี ้ คนที่โดน
กล่าวถึงก็จะเสียความเชื่อมันอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะหลินหมิงที่พงึ่ มีอายุได้ เพียง15ปี
เท่านัน้ ถ้ าอันดับหนึง่ แพ้ ให้ กบั อันดับสองแล้ วละก็ เขาก็คงไม่มีคณ
ุ สมบัติที่จะเป็ นอันดับหนึง่ ใน
การทดสอบนี ้เป็ น
ผู้เฒ่าซูได้ คาดการณ์ไว้ แล้ วการที่หลินหมิงจะได้ รับความพ่ายแพ้ นนคื
ั ้ อความจริ งที่ไม่อาจ
เปลี่ยนแปลงได้ เพราะการฝึ กฝนของหวังยานเฟิ งสูงกว่าหลินหมิงถึงหนึง่ ขัน้ สําหรับหวังยาน
้ มๆ เขาสามารถจัดการหลินหมิงโดยไม่จําเป็ นต้ องใช้ ‘สัจ
เฟิ งที่มีการฝึ กฝนสูงกว่าถึงหนึง่ ขันเต็
้ า’เลยด้ วยซํ ้า มันคือวรยุทธลับในตระกูลซึง่ สามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้ เป็ นอย่าง
ธรรมทังเก้
มากมายมหาศาล
สําหรับหลินหมิงที่มีเพียงพละกําลังของพระเจ้ า มันอาจจะเป็ นเรื่ องง่ายที่จะใช้ พละนันจั
้ ดการ
กับปี ศาจพวกนันที
้ ่มีพลังป้องกันสูงมาก แต่ถ้าใช้ ส้ กู บั คนแล้ วละก็ พละกําลังเพียงอย่างเดียวไม่
พอหรอก
ด้ วยสภาพในตอนนี ้ ไม่มีทางที่หวังยานเฟิ งจะแพ้ ได้ เลย
หลินหมิงมองไปยังผู้เฒ่าและหวังยานเฟิ งด้ วยสายตาอันเย็นชา “ถ้ าจะให้ ส้ กู ็ส้ ไู ด้ อยูห่ รอก แต่
การเดิมพันครัง้ นี ้คนที่เสียมีแต่ฝั่งข้ าเท่านัน้ ถ้ าข้ าเอาชนะแกได้ แล้ วจะเกิดประโยชน์อนั ใดแก่
ข้ า ข้ าก็ยงั คงเป็ นที่หนึง่ เช่นเดิม แต่หากข้ าแพ้ ข้าจะต้ องเสียอันดับหนึง่ ไป เจ้ าคิดว่ามันยุติธรรม
รึ ”
เมื่อหวังยานเฟิ งรู้วา่ หลินหมิงทําท่าทีจะยอมแข่งด้ วยแล้ ว เขาก็ร้ ูสกึ โล่งอกโล่งใจขึ ้นมา “หาก
แกคิดว่าจะเอาชนะข้ าได้ เพียงเพราะแกสามารถไปได้ ถงึ ชันห้ ้ าแล้ วละก็ มันก็คงจะเป็ น
ความคิดที่โง่เขล่ามากทีเดียว ข้ าจะทําให้ แกได้ ร้ ูซึ ้งถึงพลังของ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ เอง”
หวังยานเฟิ งถามไปแบบยิ ้มๆ “แล้ วเจ้ าต้ องการสิ่งใดในการเดิมพัน”
หลินหมิงตอบ “ถ้ าข้ าชนะข้ าต้ องการ ยาโอสถพญางูทองคํา แต่หากข้ าแพ้ เจ้ าก็เอาอันดับหนึง่
พร้ อมกับ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองไปได้ เลย”
“ก็ดีนี ้ ตกลงตามนัน”หวั
้ งยานเฟิ รู้สกึ ว่า วันนี ้เป็ นวันที่ทําให้ เขามีความสุขที่สดุ ในชีวติ ในที่สดุ
เขาก็จะได้ เป็ นอันดับหนึง่ ในการสอบเข้ าได้ อย่างงายดาย เพียงแค่จดั การนักสู้ขนสองอี ั้ กคน
หนึง่ เท่านัน้ เขากล่าวอย่างรี บเร่ง “งันก็
้ เรามาเริ่ มกันได้ เลย ”
“ตกลง”
เมื่อได้ เห็นหลินหมิงตอบตกลง ผู้เฒ่าซันก็ได้ แต่สา่ ยหัวไปมา หลินหมิงต้ องแพ้ อย่างแน่นอน
ด้ วยความต่างชันทั้ งในด้
้ านการฝึ กฝนที่มากถึงหนึง่ ขันและสมบั
้ ติที่ทําให้ หวังยานเฟิ งได้ เปรี ยบ
หลินหมิงอย่างเห็นได้ ชดั แม้ ไม่ต้องใช้ วรยุทธ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ หวังยานเฟิ งซึง่ เกิดในตระกูลขุน
นางชันสู
้ งและก็มีอาจารย์สว่ นตัวพรํ่ าสอนอยูท่ กุ คืนวันก็สามารถเอาชนะหลิมหมิงได้ อย่าง
ง่ายดาย
จากการพูดคุยเหล่านัน้ สถานการณืในตอนนี ้ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากการต่อสู้ของพวกเขาทังสอง
้
ได้
ทันทีที่หวังยานเฟิ งขึ ้นมาบนเวที เขาก็ได้ ชกั ดาบขึ ้นมาและคํารามออกมา “เข้ ามา!!!”
เมื่อผู้คนได้ เห็นอาวุธของหวังยานเฟิ งก็เป็ นต้ องตกตะลึง “นันมั
้ น สมบัติหายาก!!!”
เมื่อเป็ นสมบัติหายากแล้ ว ราคาของมันก็สงู ถึงหลายพันเหรี ยญทอง สําหรับตระกูลขุนนางโดย
ปกติแล้ วผู้ที่จะได้ ครอบครองมันจะต้ องมีการฝึ กฝนขันที
้ ่สี่หรื อสูงกว่าเท่านัน้ ไม่มีใครคาดคิดว่า
หวังยานเฟิ งที่มีการฝึ กฝนเพียงขันที
้ ่สามจะมีมนั ไว้ ในครอบครอง แสดงว่าหวังยานเฟิ งจะต้ องมี
ตําแหน่งที่สงู มากแน่ๆ
จากนันผู
้ ้ คนต่างก็มองไปที่หลินหมิงหวังให้ หลินหมิงพอจะมีอาวุธดีดีกบั เขาบ้ าง เพราะดูจาก
สภาพแล้ วหลินหมิงคงไม่มีปัญญาหาสมบัติแบบนันมาได้้
ถึงแม้ วา่ นี่จะดูเป็ นการสู้ที่ไม่ยตุ ิธรรมนัก แต่ในอาณาจักรลิขิตฟ้า การประลองมันก็เป็ นเช่นนี ้
มันเป็ นไปไม่ได้ ที่จะเช่ายืมอาวุธเหล่านันมาใช้้ และยิ่งเป็ นไปไม่ได้ ที่ใครจะคุ้นเคยและชินกับ
การใช้ อาวุธซักชิ ้นในเวลาอันสัน้
ถ้ าหากจะบอกว่าเรื่ องอาวุธไม่ยตุ ิธรรมแล้ วละก็ เรื่ องการใช้ ยาโอสถต่างๆก็ยิ่งไม่ยตุ ิธรรมเข้ าไป
ใหญ่ มันคงจะยากมากๆที่จะห้ ามคนไม่ให้ ใช้ ยาเพื่อยกระดับพลังของตน
“หืมม หลินหมิงไม่น่าจะมีอาวุธดีๆใช้ สินะ”
“อืมม ไม่มีทางที่เขาจะมีอาวุธที่มีคา่ ขนาดนันได้
้ คนธรรมดาย่อมเสียเปรี ยบเป็ นธรรมดา หวัง
ว่าเขาจะพอมีอาวุธที่ดีและรับมือหวังยานเฟิ งได้ บ้างซักเล็กน้ อย”
ขณะที่ผ้ คู นกําลังโต้ เถียงกันอยู่ หลินหมิงก็ชกั มีดที่ได้ ใช้ ในการสังหารพวกปี ศาจเหล่านันขึ
้ ้นมา
เมื่อได้ เห็นมีดเล่มแบบนัน้ แววตาของทุกคนก็เบิกกว้ างอย่างชัดเจนนัน…นั
้ นมั้ น….มีดหัน่ หมู
ชัดๆ ฮ่าๆ
ไม่มีใครคิดมาก่อนเลยว่าหลินหมิงจะมีอาวุธด้ วย แต่มนั ก็เป็ นมีดแร่เนื ้อธรรมดาเท่านัน้ มันยาว
เพียงแค่หนึง่ ฟุตเท่านัน้ ซึง่ บางคนก็พดู ว่ายิ่งอาวุธยาวก็ยิ่งดี เมื่อมีดเช่นนี ้ต้ องไปเทียบกับดาบ
เงาวับยาวสามฟุตแล้ วละก็เห็นผลของการต่อสู้นี ้ชัดเจนอยูแ่ ล้ ว ยิ่งไปกว่านันมี ้ ดที่ใช้ แร่เนื ้อมัน
จะรับมือดาบได้ จริ งๆหรือ มันจะต้ องแตกหักด้ วยการปะทะไม่กี่ครัง้ อย่างแน่นอน
เมื่อหวังยานเฟิ งเห็นอาวุธของเขาก็หวั เราะออกมา “แกจะใช้ มีดนัน่ สู้กบั ข้ าจริ งๆรึ นันมั
้ นมีดแร่
เนื ้อนะโว้ ย แกนี่มนั ช่างโง่เชล่าเสียจริ งๆ”
หลินหมิงแสดงอาการแปลกใจเล็กน้ อย ก่อนจะเอ่ยคําพูดออกมา “ปกติมนั ก็มีไว้ ใช้ สําหรับฆ่า
สัตว์เท่านัน้ แต่จากการที่เจ้ าไม่ยอมรับในคําตัดสินของผู้อาวุโส ทําให้ เจ้ าเองก็ดไู ม่ตา่ งจากสัตว์
เดรัจฉานเหล่านันเท่
้ าไร”
เมือโดนหลินหมิงเหน็บแหนม ว่าตนเองไม่ตา่ งจากสัตว์เดรัจฉาน ทําให้ หวังยานเฟิ งโกรธเป็ น
ฟื นเป็ นไฟและคํารามขึ ้นมาอย่างโกรธเกรี ย้ ว “แกคงไม่ร้ ูจกั กับความตายเสียแล้ ว”
ขณะที่หลินหมิงกําลังก้ าวขึ ้นเวทีอย่างช้ าๆหวังยานเฟิ งก็ถือดาบเอาไว้ ในมือ เขาได้ เข้ าใจ
เกี่ยวกับทักษะของจารึกที่มีในดาบของเขา ซึง่ หลินหมิงก็เชี่ยวชาญทางด้ านนี ้เช่นกัน
ดาบของหวังยานเฟิ งดูมีทรงพลังและงดงาม แต่ในสายตาของหลินหมิงแล้ วมันก็เป็ นแค่ดาบ
ธรรมดาๆเล่มหนึง่ แม้ แต่จารึกที่ผนึกเอาไว้ ในดาบก็ไม่ได้ ทําให้ เขาสนใจแม้ แต่น้อย เพราะ
หลินหมิงได้ ศกึ ษาสิ่งเหล่านี ้จากความทรงจําของเหล่าผู้ที่อยูใ่ นอาณาจักรพระเจ้ ามาแล้ วเขาจึง
รู้ถงึ ภาพรวมของมัน ถึงแม้ วา่ หลินหมิงจะได้ เรี ยนเรื่ องพวกนี ้มานิดหน่อย แต่มนั ก็เพียงพอที่จะ
ประเมินดาบของหวังยานเหิงได้ ในทันทีที่เขาเห็น
ดาบนันสามารถเพิ
้ ่มพลังการต่อสู้ให้ กบั ผู้ใช้ ได้ เป็ นอย่างมาก แต่กบั หวังยานเฟิ งที่พงึ่ จะมีการ
ฝึ กฝนขันที
้ ่สาม ทําให้ หลินหมิงไม่ได้ กงั วลอะไรมากนัก เพราะเขายังไม่สามารถดึงพลังจากดาบ
ออกมาใช้ ได้ จนถึงขีดสุด
แน่นอนว่าแม้ หวังยานเฟิ งจะยังไม่ชํานาญกับดาบนันนั
้ ก แต่ถ้าเทียบกับมีดของหลินหมิงแล้ ว
มันยังคงสามารถตัดผ่ามีดของหลินหมิงออกเป็ นสองท่อนได้ อยูด่ ี ถึงมีดนี่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ
เขามานาน แต่ยงั ไงมันก็ทําจากเหล็กธรรมดาโดยช่างตีเหล็กธรรมดาๆเท่านัน้
แต่มนั ก็ไม่ได้ สง่ ผลอะไรต่อหลินหมิงมากนักห ลินหมิงคิดจะใช้ มีดนันแบบธรรมดาๆอยู
้ แ่ ล้ ว เขา
เชื่อในพลังกําปั น้ ของเขามากกว่าและสําหรับ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ก็เป็ นกระบวนท่าที่
ทรงพลังและยากแก่การเอาชนะอยูแ่ ล้ ว ดังนันกระดู
้ กและกล้ ามเนื ้อของเขาต่างหากที่เป็ นอาวุธ
ที่แท้ จริ ง
เมื่อเทียบกันในระหว่างที่เขาอยูบ่ นจุดสูงสุดของการฝึ กฝนขันที ้ ่สองแล้ วละก็ พลังเขาคงจะมี
หละกําลัง ประมาณ 2700 จิ๋น ด้ วยพละกําลังขนาดนี ้คงจะสามารถต่อยทะลวงผ่านเหล็กหนา
ได้ อยูแ่ ล้ ว และถ้ าหากใช้ กบั คนแล้ วละก็ แม้ แต่ผ้ ทู ี่ฝึกฝนไปถึงขันที
้ ่สห่ี รื อห้ าก็ไม่อาจเมินเฉยต่อ
พละกําลังเช่นนี ้ได้
บทที่ 48 บททดสอบนักจารึก
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
“พี่หลิน พี่หลินหลิง มาเปิ ดประตูให้ ข้าเร็ว”
หลินหมิงยิ ้มออกมาทันทีเมื่อรู้วา่ ใครเป็ นเจ้ าของเสียงนัน่
“สุดยอด พี่หลินเป็ นความภาคภูมิใจของตระกูลหลินโดยแท้ ”
หลินเซี่ยวตงไม่ได้ ไปถึงการทดสอบที่สองด้ วยซํ ้า ดังนันเขาจึ
้ งไม่ร้ ูวา่ หลินหมิงไปเจออะไรมา
บ้ าง ได้ ยินก็แต่ขา่ วที่ลือกันออกมาเท่านัน้
“อืมม ข้ าก็แค่แสดงผลของการฝึ กออกมาได้ ดีเท่านันเอง
้ ข้ าถึงได้ เป็ นอันดับหนึง่ อยูน่ ี่ไง ”
“ไปกันเถอะ อย่ามัวแต่เสียเวลาอยูเ่ ลย เราคงต้ องฉลองกันหน่อยแล้ ว”
“เป็ นความคิดที่ดี แต่ข้ายังไม่มีเวลาสําหรับมื ้ออาหารหรอกนะ ข้ ามีบางอย่างต้ องไปเอามา
ก่อน”
หลินหมิงหยิบเอาแผ่นกระดาษออกมาและเขียนสิง่ ที่เขาต้ องการสําหรับการจารึกยาโอสถ มัน
ต้ องการวัสดุหลากหลายชนิดทีเดียว แต่หลินหมิงก็ได้ เลือกทําวิธีที่งา่ ยที่สดุ ซึง่ เป็ นขันแรกของ
้
การจารึกโอสถ ‘อาคมรักษาวิญญาณระดับล่าง’ ซึง่ ยาสองชนิดเหล่านี ้ หากมันได้ ไปอยูใ่ น
ดินแดนพระเจ้ าแล้ ว มันก็จะถูกพิจารณาให้ เป็ นยาระดับล่างเท่านัน้ ซึง่ ในสายตาของนักรบใน
ดินแดนพระเจ้ า ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองและยาโอสถพญางูทองคํา ที่แทบจะไม่มีทางหามา
ได้ ในอาณาจักลิขิตฟ้าก็เป็ นได้ เพียงแค่ยาระดับล่างเท่านันเอง
้
ด้ วยพลังของหลินหมิงในตอนนี ้การจะใช้ ‘อาคมรักษาวิญญาณระดับล่าง’ ก็เป็ นเรื่ องยากอย่าง
ยิ่งสําหรับเขาแล้ ว ยิ่งไปกว่านัน้ วัตถุดิบที่ใช้ ทํายาพวกนันหลิ
้ นหมิงก็ยงั ไม่เคยได้ ยินชื่อของพวก
มันเลยซักอย่าง
แม้ แต่วตั ถุดิบที่ใช้ สําหรับการจารึกยาโอสถอย่างง่ายก็มีหลายอย่างที่อยูใ่ นขันหายากสุ
้ ดๆและ
อีกหลายอย่างที่เขายังไม่ร้ ูจกั หรื อเคยได้ ยินชื่อของมันมาก่อน
ถึงแม้ วา่ หลินเซี่ยวตงจะไม่ได้ ร้ ูอะไรมากเกี่ยวกับการจารึก แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่หลินหมิงเขียน
เขาก็พอรู้เกี่ยวกับมันอยูบ่ ้ าง เช่น ‘เลือดของสัตว์ดรุ ้ ายระดับสี่’
“พี่หลินท่านต้ องการหาซื ้อ ‘เลือดของสัตว์ดรุ ้ ายระดับสี’่ จริ งๆอย่างนันหรื
้ อ”
เป็ นที่ร้ ูกนั ดีวา่ มังกรทองก็ถือเป็ น ปี ศาจระดับสี่เช่นกัน มันเก่งพอๆกับปรมาจารย์ขนปราณฟ
ั้ ้า
ขันต้
้ นเลยทีเดียว ถึงแม้ มนั จะไม่มีขายในอาณาจักรแห่งนี ้ แต่มนั ก็ยงั สามารถหาซื ้อจาก
ภายนอกได้ ในราคาที่แพงมากๆ แค่หลอดสองหลอดก็มีราคาสูงถึงหลังพันๆเหรี ยญทอง
หลินหมิงยังคงเขียนต่อไป ยิ่งมากขึ ้นๆ หลินเซี่ยวตงก็ร้ ูสกึ หวัน่ ๆ จนทนไม่ไหวและถาม
ขึ ้นมา “พี่หลิน ท่านมีเงินพอจะซื ้อของทังหมดนี
้ ้เลยหรื อ”
หลินหมิงพยักหน้ า “ท่านมูยี่ ให้ ข้ามา 15,000 เหรี ยญทองเมื่อไม่กี่วนั ก่อน สําหรับซื ้อแผ่น
จารึก ‘อาคมล้ มล้ าง’ ล่วงหน้ า ข้ าแค่ต้องเอาแผ่นจารึกไปให้ เขาทีหลังเท่านัน”
้
“15000…..โอ้ พระเจ้ า!!!” หลินเซี่ยวตงกลืนนํ ้าลายดังเอื๊อก ครัง้ ที่แล้ วก็ 9000 เหรี ยญทอง
ครัง้ นี ้ 15000 เหรี ยญทอง นี่มนั ยิ่งมากขึ ้นเรื่ อยๆ
…
มีสถานที่แห่งหนึง่ ในเมืองลิขิตฟ้าซึง่ มีการซื ้อขายวัสดุการจารึกมากที่สดุ มันไม่ใช่หอร้ อยสมบัติ
หรื อร้ านค้ าสวยหรูใดใดทังนั
้ น้ แต่มนั คือสมาคมจารึก
ที่แห่งนันขายวั
้ ตถุดิบมีคา่ มากมายหลายชนิดที่หาซื ้อจากที่อนื่ ไม่ได้ ทังราคาของมั
้ นก็ยงั ถูกกว่า
ในตลาดอีกเล็กน้ อยด้ วย
“ว่าอย่างไรนะ มีที่แบบนันอยู ้ อ ” หลินเซี่ยวตงรู้สกึ ไม่อย่างจะเชื่อหูตวั เอง
้ ด่ ้ วยอย่างนันหรื
แม้ วา่ จะได้ ยินมันจากปากของหลินหมิงก็ตาม
หลินหมิงยักไหล่ “ข้ าเองก็ได้ ยินมาเช่นนัน”
้
พวกเขาใช้ เวลาไปกับการดูหาสิ่งของที่ตลาดแต่ก็ไม่สามารถหาวัตถุดิบที่เขาต้ องการได้ เลย
“ข้ าว่าเราคงต้ องไปที่สมาคมจารึกกันแล้ วละ”
“อืม..เหมือนว่าจะเหลืออีกแค่ตวั เลือกเดียวละนะ”หลินหมิงสงสัยว่า การซื ้อของที่แห่งนันต้
้ อง
ใช้ ฐานะที่สงู ๆอะไรแบบนันหรื
้ อไม่ จนกว่าเขาจะฝึ กจนถึงขันที
้ ่เขาตังใจเอาไว้
้ เขายังไม่อยาก
เปิ ดเผยพลังของเขาให้ ใครต่อใครได้ รับรู้ เพราะมันอาจจะเป็ นการสร้ างปั ญหาให้ เขาในอนาคต
แม้ วา่ เขาจะมีมยู่ ี่ค้ มุ หัวให้ อยูก่ ็ตาม แต่เขาก็ไม่อยากสร้ างปั ญหาให้ กบั มูยี่มากนัก
…
“ไม่ใช่แค่ต้องมีใบรับรองนักจารึก แต่ยงั ต้ องมีแต้ มนักจารึกอีกหรื อ” หลังจากที่หลินหมิงได้
มาถึงที่สมาคมจารึก เขาก็ถามผู้เฒ่าหญิงคนหนึง่ เกี่ยวกับการซื ้อขายวัตถุดิบในที่แห่งนี ้ และ
นัน่ ก็คือคําตอบที่เขาได้ รับ
“ข้ าว่าแล้ วเชียว ไม่มีทางที่ของดีๆราคาถูกอยูจ่ ริ งเลยจริ งๆ” หลินเซี่ยวตงยืนกอดอก มันเป็ น
เรื่ องธรรมดาอยูแ่ ล้ ว
“แล้ วแต้ มนักจารึกคืออะไร” หลินหมิงถาม
“อืม..ดูเหมือนอาจารย์ของเจ้ าจะไม่ใช่นกั จารึกซินะ” ผู้เฒ่าหญิงที่กําลังจัดการกับโต๊ ะอยูพ่ ดู
ขึ ้น ขณะที่เธอคิดว่าหลินหมิงมาที่นี ้เพื่อซื ้อของให้ อาจารย์ของเขา “แต้ มนักจารึกก็ได้ มาจาก
การตามหน้ าที่ที่เขียนอยูด่ ้ านล่างเหล่านัน้ เขาก็จะได้ รับแต้ มนักจารึกมาหรื อจะทํางานเป็ น
พนักงานก็ได้ แน่นอนว่าเจ้ าสามารถแลกเปลี่ยนแต้ มนี่กบั คนอื่นๆได้ มันมีหลายวิธีเลยที่จะได้
แต้ มนัน่ มา ถ้ าอาจารย์ของเจ้ าสนใจจะเข้ าร่วมแล้ วละก็ ข้ าก็ยินดีอย่างยิ่ง”
สมาคมจารึกก็เหมือนองค์กรแห่งหนึง่ นักจารึกหลายๆคนที่สนใจในด้ านความรู้ ส่วนใหญ่ก็เป็ น
คนที่ไม่คอ่ ยมีความสัมพันธ์กบั คนอื่น ถ้ าเขาไม่ก่อตังระบบแต้
้ มจารึกขันมา
้ สมาคมการจารึก ก็
มาถึงจุดๆนี ้ไม่ได้ หรอก
หลินหมิงเปิ ดดูกฎของสมาคมการจารึก ถ้ าเขาเข้ าร่วม เขาจะได้ รับแต้ มบริ จาค 100 แต้ ม
ในทันที แล้ วก็ยงั มีอีกหลายวิธีที่เขาจะได้ รับแต้ มพวกนัน้ ขายอุปกรณ์หายากหรื อวัตถุดิบลํ ้าค่า
ให้ กบั สมาคมจารึก
“เหอะ ถ้ ามีของหายากแล้ วละก็ น่าจะเก็บไว้ ใช้ เองสิ จะขายให้ คนอื่นๆไปทําไม” หลินเซี่ยวตง
พูดด้ วยสีหน้ าบึ ้ง
หลินหมิงตอบว่า “ในบางครัง้ พวกเขาก็มีอปุ กรณ์เยอะเกินไป ถ้ าปล่อยทิ ้งไว้ ก็เสียดายแย่ การ
ขายก็น่าจะเป็ นทางเลือกที่ดีกว่า ถึงอย่างนันมั
้ นก็ไม่ใช่แนวของข้ าเลย ดูเหมือนต้ องไปทํา
ภารกิจอย่างเดียวละนะ”
หลินหมิงหันแผ่นกระดาษไปให้ ผ้ เู ฒ่าหญิงดู“ท่านผู้เฒ่า ข้ าจะไปทําภารกิจได้ ที่ไหนได้ บ้าง
หรื อ”
“ถ้ าจะทําภารกิจ เจ้ าต้ องไปที่หอภารกิจ แต่เจ้ าจะทําได้ ก็ตอ่ เมื่อเจ้ ามีใบรับรองแล้ วเท่านัน้ ถ้ า
อาจารย์เจ้ าสนใจ ข้ าก็ขอแนะนําให้ เขามารับภารกิจด้ วยตัวเอง พวกเจ้ าจะได้ ผลประโยชน์
หลายอย่างจากการเข้ าร่วมกับเรา”
หลินหมิงคิดอยูพ่ กั หนึง่ แล้ วถามต่อ “แล้ วที่แห่งนี ้เก็บข้ อมูลของสมาชิกเอาไว้ รึเปล่า”
“ก็ต้องอยูบ่ ้ าง แต่ถ้าอาจารย์ของเจ้ าต้ องการความส่วนตัว ทางเราก็สามารถเก็บเป็ นความลับ
ให้ ได้ ”
“อืมม.. แล้ วท่านพาข้ าเข้ าไปได้ หรื อเปล่า”
“หือ..”ผู้เฒ่าหญิงจ้ องหลินหมิงตาไม่กระพริ บ
หลินหมิงยักไหล่แล้ วพูดว่า “ข้ านี่แหละ ผู้เชี่ยวชาญการจารึก ”
้ หวั จรดปลายเท้ า แล้ วถามว่า “เจ้ าอายุ
ผู้เฒ่าหญิงถอยห่างออกมาแล้ วมองดูหลินหมิงตังแต่
เท่าไหร่”
“15”
“15ปี ?!” เมื่อได้ ยินก็ถงึ กับอึ ้ง ตอนแรกเขาเดาว่าเด็กคนนี ้คงจะมีอาจารย์เป็ นผู้เชี่ยวจารการ
จารึก แต่อายุ 15 ปี เป็ นผู้เชี่ยวจารการจารึกเนี่ยนะ มันออกจะโม้ เกินไปหน่อยรึเปล่า ใน80ปี ที่
ผ่านมา คนที่อายุน้อยที่สดุ ยังต้ องมีอายุ 18 ปี
ซึง่ คนที่วา่ นัน่ ก็คือฉินชิงหวนแห่งคฤหาสน์จอมพลกับหวังยู้ฮานแห่งสมาคมจารึก
“นี่เจ้ าหนุ่มน้ อย ถ้ าเจ้ าอยากเข้ าร่วมการทดสอบนักจารึก เจ้ าต้ องเตรี ยมสมบัติและวัตถุดิบมา
เอง” ผู้เฒ่าเตือนด้ วยความหวังดี โดยทัว่ ไปแล้ วจะให้ นกั จารึกหน้ าใหม่ประทับจารึกระดับ
ตํ่าลงไปในของหายากมันก็กระไรอยู่ แม้ วา่ สมาคมจารึกจะรํ่ ารวยก็จริ ง แต่ก็ไม่อาจแบกรับ
ความฟุ่ มเฟื อยในส่วนนันได้
้ ดังนัน้ ผู้เข้ าทดสอบจึงต้ องใช้ อปุ กรณ์ของตนเอง
“อืมม ถ้ าหากเป็ นไปได้ ข้าก็อยากจะซื ้อของเพื่อใช้ ในการทดสอบครัง้ นี ้ ข้ าว่าข้ ามีเงินพอนะ”
ว่าแล้ วหลินหมิงก็ล้วงกระเป๋ าและหยิบปึ กตัว๋ เงินออกมา ซึง่ แต่ใบมีคา่ 1000 เหรี ยญทอง
เมื่อเห็นหลินหมิงมีเงินเยอะขนาดนี ้ ผู้เฒ่าหญิงก็มองด้ วยความประหลาดใจเป็ นอย่างยิ่ง เงิน
ทังหมดนั
้ น่ แม้ แต่ลกู ขุนนางชันสู
้ งก็ไม่มีทางมีไว้ ในครองครองได้
เธอมองไปยังหลินหมิง และรู้ได้ วา่ หลินหมิงไม่ได้ ล้อเล่น “ถ้ าเจ้ าว่าเช่นนัน้ ก็ตามข้ ามา”
หลินหมิงเดินตามไปและเข้ าไปยัง ส่วนในของสมาคมจารึกซึง่ หลินเซี่ยวตงก็ตามเข้ าไปด้ วย
ขณะที่พวกเขาผ่านหอภารกิจเขาก็ได้ เห็น อักขระ สัญลักษณ์ตา่ งๆตามกําแพงหลินเซี่ยวตงรู้สกึ
ตื่นเต้ นเป็ นอย่างมาก
การตกแต่งในสมาคมจารึกนันไม่ ้ ได้ เลิศหรูมากนัก แต่มีพื ้นที่กว้ างขวาง ไม่มีอะไรตกแต่งผนัง
กําแพงเลย แต่มนั กลับมีอกั ขระอยูม่ ากมาย ให้ ความรู้สกึ ที่เก่าแก่โบราณมากทีเดียว
“เรามาถึงแล้ ว” ผู้เฒ่าหญิงเปิ ดประตูเข้ าไป
นี่เป็ นห้ องแห่งหนึง่ ในสมาคมจารึก และก็เป็ นสถานที่ซงึ่ ใช้ ในทดสอบด้ วยเช่นกัน
“ขอบคุณมากท่านผู้เฒ่า”
ขณะที่หลินหมิงเดินเข้ ามา เขาพบกับห้ องกว้ าง100ฟุต และมีแท่นหินอยูเ่ ต็มไปหมด และตรง
กลางก็มีแท่นหินที่ถกู ปกคลุมไปด้ วยวัตถุดิบมากมาย ซึง่ ถัดไปอีกก็คือ สาวคนหนึง่ ที่อายุ
ประมาณ 15-16ปี ที่กําลังวาดอักขระขึ ้นมาอยู่
หญิงสาวคนนี ้มีหนุ่ ที่ผอมเพรี ยว และกําลังใช้ นิ ้วมือของเธอวาดไปในอากาศ ตาของเธอจดจ้ อง
อยูก่ บั อักขระที่เธอกําลังวาดอยู่ เธอไม่ร้ ูสกึ ถึงการมาเยือนของหลินหมิงเลยด้ วยซํ ้า และดู
เหมือนว่าเธอจะเป็ นผู้ที่ชํานาญด้ านการจารึกเป็ นอย่างดีด้วย
และข้ างๆเธอก็เป็ นตาแก่อีกคนหนึง่ เขานัง่ อยูข่ ้ างหลังเธอบนเก้ าอี ้ไม้ ตวั เล็กๆ ขณะที่เขากําลัง
ทําสมาธิอยู่ แต่หลินหมิงเห็นมากกว่านัน่ วิญญาณของชายแก่คนนัน่ กําลังช่วยเหลือหญิงสาว
คนนัน่ อยู่ อักขระแต่ละตัวที่เธอวาดล้ วนมาจากชายแก่คนนันทั ้ งสิ้ ้น
บทที่ 50 วัตถุดิบจํานวนมหาศาล
แปลโดย Facebook Fanpage :
https://web.facebook.com/Martial.World <<คลิ๊กเข้ ามากดLikeเพจผู้
แปลด้ วยนะครับ
…
…
…
หวังหวนจี่ร้ ูอยูแ่ ล้ วว่าเด็กคนนี ้ต้ องไม่ได้ ใช้ ทกั ษะธรรมดาๆที่รํ่าเรี ยนได้ ทวั่ ไปตามสํานักต่างๆใน
อาณาจักรลิขิตฟ้าเป็ นแน่ มันเป็ นอะไรที่ลกึ ลํ ้ากว่านันหลายเท่
้ านัก
“อาจารย์ของเขาคงไม่ใช่คนในอาณาจักรลิขิตฟ้าซินะ” ชายวัยกลางคนพูดขึ ้น
“แน่นอน ยิ่งไปกว่านัน้ วิชาของเขาลํ ้าหน้ ากว่าพวกเราเสียอีก ”
แสงหลากสีแผ่ออกมากลางอากาศ และจางหายไป เหลือไว้ เพียงแสงบางๆเป็ นเงาเท่านัน้
หวังยู้ฮาน หายใจเข้ าลึกๆอย่างตื่นเต้ น พลังวิญญาณของเขา ช่างงดงามและแปรเปลี่ยนไปได้
อย่างประณีตยิ่งนัก
ในการวาดอักขระนันส่ ้ วนที่ยากที่สดุ ก็คือ การกะพลังงาน ในส่วนนี ้จําเป็ นต้ องมีคลาดเคลื่อน
น้ อยที่สดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้ หากพลาดแม้ แต่เพียงนิดเดียว ทังหมดก็
้ อาจล้ มเหลวได้ แต่เด็กคน
นี ้สามารถกะพลังวิญญาณได้ อย่างแม่นยํา เขาวาดอักขระได้ เหมือนกับ ศิลปิ นที่กําลังวาดนก
และดอกไม้ ได้ ยา่ งลื่นไหล ราวกับว่ารูปนกนันจะสามารถบิ
้ นออกมาได้ จริ งๆ
ตอนแรก หวังยู้ฮาน วิตกว่าตนจะถูกเด็กคนนี ้ก้ าวข้ ามไปหรื อไม่ เธอหวังว่าเด็กคนนี ้จะไม่ผ่าน
การสอบ แต่ในขณะนี ้ จิตใจของเธอกลับเต็มไปด้ วยการยอมรับและความตื่นเต้ นไปกับ
ความสามารถของเขา เธอหวังเพียงแค่วา่ ให้ หลินหมิงแสดงการวาดอักขระอาคมต่อไปอีกให้
นานที่สดุ ตอนนี ้จิตใจของเธอไม่ร้ ูสกึ เสียใจอีกต่อไปแล้ ว
ความรู้สกึ นี ้มันเหมือนกับ การที่นกั ดนตรี ได้ ฟังเสียงแห่งสวรรค์และธรรมชาติ หรื อ ศิลปิ นที่ได้
ยลโฉมของภาพวาดที่ดีที่สดุ จากศิลปิ นที่เก่งที่สดุ ความรู้สกึ นี ้ถือเป็ นสุดยอดแห่งอารมณ์เลย
ทีเดียว
เมื่อได้ เห็นสีหน้ าและท่าทางของเด็กหนุ่มที่อทุ ิศตนให้ กบั ผลงานถึงเพียงนี ้ หวังยู้ฮานก็ได้ ร้ ูวา่
ทําไมทักษะของเธอถึงไม่พฒั นาขึ ้นเท่าไรนัก คงเป็ นเพราะเธอจดจ่อแต่การแข่งกับ ฉินชิงหวน
จนเกิดความกลัวว่าจะต้ องพ่ายแพ้ ให้ กบั คนที่อายุน้อยกว่า
แต่เมื่อได้ เห็นการแสดงของหลินหมิงแล้ ว เธอก็ได้ บรรลุถงึ จิตใจของเธอในทันที ดินแดนแห่งนี ้
ช่างกว้ างใหญ่ไม่มีที่สิ ้นสุดจริ งๆ คงจะมีคนระดับเดียวกับเธอรออยูอ่ ีกเป็ นมากมาย มันไม่
สําคัญแล้ วว่าเธอจะชนะหรื อแพ้ ให้ กบั ฉินชิงหวน
ตอนนี ้เธอไม่ได้ ไล่ตามเงาของฉินชิงหวนอีกต่อไปแล้ ว แต่เหนือไปกว่านัน้ ตอนนี ้จุดหมายของ
เธอไม่ใช่การเป็ นที่หนึง่ แต่เป็ นการทําให้ เต็มที่ด้วยความมุง่ มัน่ ตังใจทั
้ งหมดที
้ ่มีตา่ งหาก
หนึง่ นาทีกบั อีกหนึง่ วินาที ต่อหน้ าของหลินหมิง จํานวนอักขระได้ เพิ่มขึ ้นอย่างรวดเร็ ว ขณะที่
พวกมันกําลังซ้ อนทับกัน ด้ วยแสงสว่างและความมืด ราวกับว่ามันมีชีวิต หลินหมิงคุ้นเคยกับ
‘อาคมล้ มล้ าง’ อยูแ่ ล้ วและวาดมันออกมาได้ อย่างชํ่าชอง ด้ วยการฝึ กฝนจนถึงจุดสูงสุดของขัน้
ที่สอง ทําให้ หลินหมิงมีพลังปราณมาก พอที่จะทําการทังหมดนี
้ ้ได้ เขาไม่จําเป็ นต้ องทรมาน
เหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน
ในวันนี ้ การวาดอักขระของหลินหมิงนัน้ ผ่านไปได้ ด้วยดี เขาได้ จดจ่ออยูก่ บั การวาดอักขระ
เพียงอย่างเดียว และลืมเกี่ยวกับการทดสอบไปจนหมดสิ ้น ในที่สดุ เขาก็วาดอักขระหลากสีจน
เสร็ จสิ ้น และในพริ บตาต่อมาหลินหมิงก็ได้ รวมมันเข้ าด้ วยกัน มันควบแน่นกันกลายเป็ นตาราง
เพลิงขนาดหนึง่ นิ ้ว
ครัง้ นี ้ หลินหมิงไม่ได้ วางอักขระนี ้ลงบนแผ่นจารึก แต่วางลงไปบนดาบยาวเล่มนันแทน
้ และ
อักขระก็ได้ ผสานเข้ าไปในดาบยาว และสลักอักษรไว้ วา่ ‘ ชิ ชิ ’
เสร็ จแล้ ว!!
เมื่อได้ เห็นดาบในมือของหลินหมิงแล้ วจิตใจของหวังหวนจี่ก็เต็มไปด้ วยความปี ติยินดีและยก
ย่องเขาจากก้ นบึ ้งของหัวใจ เขารู้สกึ ได้ เลยถึงพลังไฟอันโชตช่วงในดาบเล่มนัน้ หลินหมิงได้
ถ่ายเทพลังวิญญาณของเขาลงไปด้ วย
หวังหวนจี่ร้ ูสกึ ได้ เลยว่ามันเป็ นอักขระที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง แต่คนวาดมันขึ ้นมากลับเป็ นแค่
เด็กหนุ่มคนหนึง่ ที่เพิ่งมีการฝึ กฝนถึงขันที
้ ่สองเทานัน้ แล้ วอักขระที่เขาวาดขึ ้นเหล่านี ้จะเสริ ม
พลังอาวุธได้ ซกั แค่ไหนกัน
พลังที่เสริ มเข้ าไปในดาบไม่ใช่การทําให้ ดาบนันคมขึ
้ ้น แต่หมายถึงการไหลเวียนของพลังปราณ
ต่างหาก ถ้ าหากอักขระอยูใ่ นแผ่นจารึก ก็ไม่มีใครรู้ได้ วา่ มันแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ถ้าหากอยูใ่ น
อาวุธแล้ วละก็ นักจารึกสามารถใส่พลังวิญญาณของตนเองลงไปเพื่อตรวจสอบได้ วา่ มันมีพลัง
เพียงใด ทําให้ สามารถบอกได้ เลยว่าดาบเล่มนันทรงพลั
้ งขึ ้นกี่เปอรเซนต์
หวังหวนจี่ยกดาบขึ ้นมาและรวบรวมพลังปราณใส่เข้ าไปในดาบ เขาหลับตาเพื่อให้ ประสาท
สัมผัสทําหน้ าที่ของมัน และลืมตาขึ ้นมาในพริ บตาต่อมา ถึงแม้ เขาจะคาดการณ์เอาไว้ แล้ วแต่
เขาก็ยงั ต้ องรู้สกึ ตกใจอยูด่ ี
อักขระเหล่านันสามารถเพิ
้ ่มพลังให้ ดาบได้ ถงึ 32% นี่มนั ระดับผู้เชี่ยวชาญชันสู
้ ง!!
“เพิ่มพลังได้ 32% ” หวังหวนยี่อทุ านออกมา
“บ้ าน่า!!” ชายวัยกลางคนเบิกตากว้ างพร้ อมกับจับดาบนัน้ โดยทัว่ ไปแล้ วนักจารึกจะสามารถ
้ ถือว่ายากมากแล้ ว แต่เด็กนี ้ทําได้ ถงึ 32% ….นี่มนั มากเกินไปแล้ ว
ทําได้ ประมาณ 20% ซึง่ นันก็
ชายวัยกลางคนคนนี ้ทํางานเป็ นคนคุมสอบมานาน เมื่อพูดถึงการวัดระดับพลัง เขาสามารถวัด
้ งมีความแม่นยํามากกว่าอีกด้ วย “ 32.5% !!!”
ได้ เร็ วกว่าหวังหวนจี่เสียอีก ทังยั
ชายคนนันวางดาบลงบนโต๊
้ ะ เขามาจากที่แห่งใดกันแน่ เขามีเพื่อนหรื อไม่ หรื อเขาอาจจะมา
จากสํานักโบราณซักแห่ง ? แล้ วเขามาทําอะไรในอาณาจักรเล็กๆแห่งนี ้ ?
“ยินดีด้วย หลินหมิง เจ้ าผ่านการทดสอบแล้ ว ” หวังหวนจี่กล่าวขึ ้นมา
“ขอรับ ท่านประธาน”
“อืมม เจ้ าตังใจที ้ ” หวังหวนจี่ถามเพื่อความแน่ใจ ใน
้ ่จะเข้ าร่วมสมาคมจารึกจริ งๆอย่างนันรึ
มุมมองของเขา ศิษย์จากสํานักโบราณไม่มีทางที่จะอยากเข้ าร่วมสมาคมของเขาหรอก เขาไม่
คิดว่าหลินหมิงจะตอบตกลงด้ วยซํ ้า “แน่นอน ข้ าต้ องการเข้ าร่วม ”
“ หะ!! ” หวังหวนจี่สะดุ้ง “เจ้ าจะเข้ าร่วมกับเราจริ งๆรึ ”
“แน่นอน ที่ข้ามาทดสอบก็เพราะเหตุนี ้อยูแ่ ล้ ว ”
“นี่มนั ..” หวังหวนจี่ร้ ูสกึ แปลก เขาไม่เข้ าใจถึงสาเหตุที่แท้ จริงที่หลินหมิงอยากจะเข้ าร่วม
สมาคมจารึกเอาเสียเลย
“อย่าห่วงเลย ที่ข้าเข้ าร่วมก็เพราะต้ องการแต้ มบริ จาคเพื่อไปแลกซื ้อวัตถุดิบหายาก ”
ซื ้อวัตถุดิบเนี่ยนะ ถ้ าอยากได้ วตั ถุดิบหายาก เจ้ าก็ต้องมีแต้ มบริ จาค เขาจะเอาวัตถุดิบหายาก
ไปทําอะไร หรื อนําไปให้ อาจารย์ของเขา
แต่อาจารย์ของเขาต้ องไม่ธรรมดาแน่ๆ แล้ วทําไมพวกเขาถึงต้ องมาหาวัตถุดิบในสถานที่เล็กๆ
เช่นนี ้ด้ วย
หวังหวนจี่ คิดอยูเ่ ป็ นเวลานาน และลังเลอยูพ่ กั หนึง่ ก่อนจะตอบไป “ถ้ าเจ้ ายอมขายดาบเล่มนี ้
ให้ กบั สมาคมจารึก ข้ าจะให้ แต้ มบริ จาคเจ้ า 3000 แต้ ม เพื่อนําไปซื ้อวัตถุดิบที่เจ้ าต้ องการ”
หลินหมิงรู้สกึ แปลกใจและดีใจไปพร้ อมๆกัน เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะต้ องไปทําภารกิจอีก
มากมายเพื่อแลกแต้ มพวกนัน้ เขาไม่คิดว่าเขาจะโชคดีถงึ ขนาดนี ้ หวังหวนจี่ขอเสนอซื ้อดาบ
ของเขาด้ วยแต้ มบริ จาค 3000 แต้ ม ตอนที่เขาได้ ดใู นใบรายชื่อวัตถุดิบนัน้ 3000 แต้ ม นี่มนั
ไม่ใช่น้อยๆเลย มันมากพอจะซื ้อวัตถุดิบทังหมดที
้ ่เขาต้ องการได้ ทงยั
ั ้ งเหลือไว้ สําหรับซื ้อวัตถุดิน
ในครัง้ ต่อไปอีก
“หวังหวนจี่คงจะต้ องการซื ้อไปเพื่อศึกษามันอย่างแน่นอน แต่มนั ก็เป็ นเรื่ องที่ซบั ซ้ อนอย่างยิ่ง
ต่อให้ เป็ นถึงผู้เชี่ยวชาญก็คงยากที่จะตรวจสอบมันได้ ทงหมด
ั้ แต่หากเขาเก็บมันเอาไว้ มันก็
ไม่ได้ มีประโยชน์เท่าไร เพราะเดิมทีเขาก็ไม่ได้ ใช้ ดาบเป็ นอาวุธอยูแ่ ล้ ว” เมื่อคิดได้ เช่นนี ้แล้ ว
หลินหมิงก็กล่าวว่า “ขอบคุณครับ ท่านประธาน ข้ ากําลังต้ องการแต้ มบริ จาคอยูพ่ อดี”
“ไม่จําเป็ นต้ องสุภาพนักก็ได้ ถ้ าอาจารย์ของเจ้ ามาที่อาณาจักรแห่งนี ้เมื่อไร ก็อย่าลืมเชิญท่าน
ั ้ นแขกคนสําคัญของสมาคมจารึก ” หวังหวนจี่ต้องการจะ
มาที่นี ้ด้ วยล่ะ เราจะให้ ทา่ นผู้นนเป็
ศึกษาเกี่ยวกับดาบนี ้ เขาต้ องการที่จะเข้ าใจถึงพลังอันลึกลับและเบื ้องหลังของหลินหมิง
…
“เลือดปี ศาจระดับสี่ 1 จิ๋น 1100 เหรี ยญทอง และ 150 แต้ มบริ จาค”
“เมล็ดดอกไม้ เมฆนภา 12 เมล็ด 600 เหรี ยญทอง และ 80 แต้ มบริ จาค”
“เลือดมังกร 1 จิ๋น 600 เหรี ยญทอง และ 60 แต้ มบริ จาค”
…
คนขายที่ขายของหล่านี ้ อายุ40-50 ปี เป็ นหญิงวัยกลางคน เธอได้ เขียนราคาไว้ หลังชื่อวัตถุดิบ
แต่ละอย่าง และทุกๆครัง้ เธอหันกลับไปมองหลินหมิง เด็กหนุ่มคนนี ้ต้ องการวัตถุดิบพวกนันจริ
้ ง
หรื อ เขาคิดจะเอาพวกมันไปใช้ ทําอะไรกันแน่
หลินหมิงได้ จดรายการวัตถุดิบเป็ นหลายสิบอย่าง ซึง่ รวมถึงวัตถุดิบลํ ้าค่าและหายากไว้ แล้ ว
ด้ วย เช่น เลือดปี ศาจระดับสี่ ที่หลอดเล็กๆก็เทียบได้ กบั สมบัติหายาก ซึง่ ถ้ าซื ้อ ที่ตลาดทัว่ ไป ก็
จะมีราคาถึง 3000เหรี ยณทอง แต่ที่นี่เพียง1100 เหรี ยญทองเท่านัน้
เมื่อเทียบกับครึ่งปี ที่แล้ ว หลินหมิงคงไม่กล้ าคิดถึงราคาของวัตถุพวกนี ้ เขาไม่มีทางที่จะหาเงิน
จํานวนขนาดนี ้มาได้ อย่างแน่นอน
ในตอนนี ้ราคาของวัตถุดิบทังหมดก็
้ คือ 10000 เหรี ยญทองและแต้ มบริ จาคอีก 2100 แต้ ม
ขณะที่หลินเซี่ยวตงได้ เห็นจํานวนเงินที่ต้องจ่าย ทําให้ เขาได้ ยินแต่เสียงลูกคิดดีดไปมาอยู่
ตลอดเวลา เสียงนันมั
้ นทําให้ เขารู้สกึ แปลกๆพิกล ในที่สดุ เขาก็ได้ เห็นกับตาว่าการใช้ เงินของ
เขามันเหมือนการเททิ ้งดีดีนี่เอง
“ทังหมด
้ 10,000 เหรี ยญทอง กับ 2100 แต้ มบริ จาค ยืนยันการซื ้อหรื อไม่” หญิงวัยกลางคน
ได้ วางลูกคิดลงและถามหลินหมิง ต่อให้ เป็ นผู้เชี่ยวชาญการจารึกระดับสูงก็ยงั แทบเป็ นไปไม่ได้
เลยที่จะซื ้อวัตถุดิบมากมายถึงเพียงนี ้ เด็กนี ้มีเงินขนาดนันเลยหรื
้ อ
“ตกลง”
…
ยิ่งไปกว่านันถ้
้ าหากเขาสามารถเสริ มพลังยาได้ สําเร็ จ ทักษะของเขาเองก็จะรุดหน้ าขึ ้นอีก
เช่นกัน และเขาก็จะยิ่งเข้ าใกล้ กบั การจารึกร่างกายที่เพิ่มความเร็ วและพลังต่อสู้ได้ อีกมหาศาล
แม้ วา่ หลินหมิงจะรู้สกึ ตืน่ เต้ นและมีความสุขเป็ นอย่างมากก็ตาม เขาก็ร้ ูวา่ การที่จะทําแบบนัน้
ได้ เพียงแค่มีเศษเสี ้ยวแห่งความทรงจําอย่างเดียวคงไม่พอ เขาจําเป็ นต้ องฝึ กฝน เพื่อให้
ร่างกายและวิญญาณเป็ นหนึง่ เดียวกันเสียก่อน
เพื่อที่จะฝึ กทักษะอะไรแบบนัน้ มันจําเป็ นต้ องฝึ กแบบซํ ้าไปซํ ้ามาและฝึ กอย่างไม่ยอ่ ท้ อ ถ้ าพัน
ครัง้ ยังไม่พอ เขาก็จะฝึ กหมื่นครัง้ ถ้ าหมื่นครัง้ ยังไม่พออีก เขาก็จะฝึ กแสนครัง้
การฝึ กซํ ้าไปซํ ้ามาเช่นนี ้ ส่งผลให้ เหนื่อยล้ าเป็ นอย่างมาก ราวกับว่าเขาจะไม่ได้ นอนมาแล้ วกว่า
3วัน3คืนเลยทีเดียว
เมื่อหลินหมิงฝึ กไปได้ ถงึ 2วัน ทําให้ เขารู้สกึ ได้ วา่ เลือดตาแทบกระเด็นออกมา เขาหยุดฝึ กฝน
เพื่อพักผ่อน ในขณะนี ้เพียงแค่จะยกถ้ วยชาขึ ้นมาจิบยังแทบจะทําไม่ได้ เลย
“ครัง้ นี ้มีไอโง่ที่ผ่านเข้ ามาได้ มากถึง53คน แต่ที่ยืนอยูท่ ี่นี่20คน จะได้ รับการรับรองให้ ได้ เข้ า
ห้ องพสุธา โดยไม่มีข้อกังขา พวกเจ้ าทุกคน ล้ วนมีพรสวรรค์และความเป็ นอัจฉริ ยะภาพอยูเ่ ต็ม
เปี่ ยม แต่ถ้าพวกเจ้ าคิดว่าสามารถเข้ าห้ องพสุธาได้ แล้ วจะได้ เป็ นที่สดุ ในรุ่นของพวกเจ้ า เจ้ าก็
คิดผิดแล้ ว เฉพาะผู้ที่อยูร่ อดเท่านันแหละที
้ ่จะได้ สลักชื่อลงบนหน้ าประวัติศาสตร์ ”
‘ จู้ยนั อันดับที่ 39 ’
ฮิ่งซี พูดขึ ้นมา “ทางเดียวที่จะไปให้ สงู ขึ ้นได้ ก็คือ การสร้ างหนทางให้ ตนเองขึ ้นไป นันรวมถึ
้ ง
การเหยียบพวกพ้ องเพื่อจะยกให้ ตนเองขึ ้นไปให้ สงู ขึ ้นด้ วยเช่นกัน แต่พวกเจ้ าเคยรู้หรื อไม่วา่
ทําไมเราถึงเรี ยกพวกเจ้ าบางคนว่าอัจฉริ ยะ?!”
“ยกระดับพรสวรรค์รึ ” ฮ่องซีหวั เราะแล้ วหัวเราะอีก “ เจ้ ารู้ไหมว่า นักฝึ กปี ศาจจะฝึ กพวก
ปี ศาจที่ดรุ ้ ายอย่างไร ปี ศาจที่มีคณ
ุ สมบัติที่ดีพอจะถูกเลือก พวกมันจะได้ กินอาหารดีๆ และถูก
จัดให้ ได้ อยูใ่ นกรงเดียวกันเพื่อต่อสู้ จากปี ศาจหนึง่ ร้ อยตัว ในที่สดุ ก็จะเหลือเพียงตัวเดียว นัน้
คือเจ้ าแห่งปี ศาจ”
“ตอนนี ้ข้ าต้ องหาที่พกั ของข้ าให้ ได้ เสียก่อน แล้ วค่อยหาวิธี จารึกโอสถ เพื่อเสริ มพลังให้ กบั ยา
เม็ดไขกระดูกมังกรทอง หากข้ าจารึกยาโอสถได้ สาํ เร็ จ มันคงทําให้ ข้าไปถึงการฝึ กฝนขึ ้นที่สาม
ได้ อย่างแน่นอน”
“หลินหมิง”
MW#052 เด็กหนุ่มตระกูลหลิน
“ข้ าให้ ยอมให้ เจ้ ายืมป้ายหยกที่บนั ทึกพลังที่สืบทอดมานานจากตระกูลของข้ า ‘สัจธรรมทัง้
เก้ า’ แต่ให้ เวลาได้ เพียงแค่6ชัว่ โมงเท่านัน้ และเงินอีก 5000 เหรี ยญทอง! ถึงแม้ วา่ มันจะเป็ น
แค่ข้อเสนอของข้ า แต่เจ้ าก็อย่าได้ ไปพูดแพร่งพรายเรื่ องนี ้ให้ ใครรู้เด็ดขาด ไม่เช่นนันจะต้
้ องเกิด
เรื่ องขึ ้นอย่างแน่นอน ไม่แน่วา่ นายอาจจะถูกตามล่าด้ วย” หวังยานเฟิ งพูดด้ วยเสียงที่แผ่วเบา
ที่สดุ
“ วรยุทธ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ 6 ชัว่ โมงรึ ” หลินหมิงยิ ้มเยาะ วรยุทธนี ้เมื่อเทียบกับ ‘จุดสูงสุด
แห่งความโกลาหล’ แล้ ว ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ ก็ไม่ตา่ งอะไรกับของวรยุทธไร้ คา่ “ข้ าไม่ได้ สนใจมัน
แม้ แต่น้อย”
สํานักเจ็ดแก่นแท้ นนมี
ั ้ ศษิ ย์อยูม่ ากมาย ซึง่ แต่ละคนก็มีอนั ดับของตนเอง
หลายร้ อยปี ที่แล้ วเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขาคนหนึง่ ได้ สร้ างอักขระอาคมขึ ้นมา ในการจัดอันดับ
ศิษย์นนั ้ เขาจะใช้ อาคมแบบเดียวกับในพระมหาเจดีย์วิจิตรบรรจง ซึง่ สํานักเจ็ดแก่นแท้ จะถูก
ควบคุมโดยเจ็ดปรมาจารย์แห่งขุนเขา
และอันดับของพวกเขาจะถูกตัดสินโดยจํานวนที่ฆา่ ไปกับระดับของศัตรู
และผลคะแนนจะถูกคํานวณก่อนตาย นันก็
้ เป็ นการสาธิตในการจัดอันดับละนะ
แต่ถ้าได้ ที่หนึง่ เขาสามารถที่จะเรี ยนวิชาที่ถกู เก็บไว้ เป็ นอย่างดีในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ซึง่ เป็ นวิชา
ที่ศิษย์พิเศษเท่านันที้ ่มีโอกาสเรี ยนได้ แม้ แต่คนจากเชื ้อพระวงศ์ก็ไม่มีโอกาสได้ เห็น
“ตอนนี ้เขาก็ได้ เข้ าสํานักอย่างเป็ นทางการแล้ ว ถ้ าอยากได้ ของดีๆ ก็ต้องทําอันดับดีๆให้ ได้ แต่
...เขายังฝึ กการจารึกไม่สําเร็จ ถ้ าให้ ฝึกตอนนี ้ อาจจะต้ องใช้ เวลาวาดอักขระนานถึงครึ่งเดือน
เพื่อให้ ได้ ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง และ ยาโอสถพญางูทองคํา
แต่มนั ก็ค้ มุ ค่ากับเวลาที่เสีย”
พวกเขารู้จกั เขาอย่างนันหรื
้ อ
MW#053 หินพลังปราณ
หลังจากที่ได้ ยินสองคนนันพู
้ ด หลินหมิงก็พดู ไม่ออก เขาไม่คิดมาก่อนว่าสิ่งพวกนี ้จะเกิดขึ ้น
สําหรับเขาแล้ วเขาไม่คอ่ ยมีความสัมพันธ์กบั ทางนันมากนั
้ น้ เขาจึงไม่คอ่ ยรู้สกึ สนใจพวนนัน้
มากเท่าไหร่
เมื่อคิดได้ เช่นนัน้ หลินหมิงก็ร้ ูสกึ พออกพอใจเป็ นอย่างมาก ลูกๆที่ไหนก็อยากทําให้ พอ่ แม่ภมู ิใจ
ทังนั
้ น้
ในเมืองใบหม่อนสีเขียว ขันผสานชี
้ พจรก็ถือว่าหายากอย่างยิ่ง แต่หลังจากเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้
เขาก็พบกับระดับปรมาจารย์อยูท่ กุ หนทุกแห่ง มันดูเหมือนว่าอาจารย์ที่อยูท่ ี่นี่ทกุ คนจะอยูใ่ นขัน้
นี ้เป็ นอย่างตํา่
ชายแก่คนนันวางตํ
้ าราลงบนโต๊ ะและพูดขึ ้นมา “ตังแต่
้ วนั นี ้ ข้ าจะมาเพื่อสอนพวกเธอทุกๆคน
ทังทั
้ กษะร่างกาย การใช้ ดาบ การโจมตี การป้องกัน การหลบหลีก และสิ่งที่จําเป็ นในการต่อสู้
อื่นๆอีกมากมาย ถ้ าไม่มีคําถามอะไรแล้ ว เราจะเริ่ มกันเลย”
“โอ้ หินนันมี
้ คา่ ขนาดนันเลยหรอ?”
้
“เฮ้ นันรึ
้ เปล่าอัจฉริ ยะจากตระกูลหวัง หวังยานเฟิ ง ? ฮ่าๆ ตัวเต็งของการสอบ เจ้ าของวรยุทธ
‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ ข้ าก็คิดว่าแกจะเก่งกว่านี ้ซะอีก แต่แกก็แพ้ ให้ กบั ใครที่ไหนก็ไม่ร้ ู มันทําให้
เมืองเยว่ลเู่ สือ่ มเสียชื่อเสียไปไม่น้อยเลย ” หนุ่มคนหนึง่ ในชายแปลกหน้ าทังสองคนนั
้ นกํ
้ าลัง
พูดจาเสียดสีมนั อยู่ เขาน่าจะอายุ 18-19 ปี และเขามีการฝึ กฝนอยูบ่ นจุดสูงสุดของขันที
้ ่สาม
ด้ วย เขาถือดาบยาวเอาไว้ ในมือ และแสดงท่าทางหยิ่งทระนงมากทีเดียว
แต่ถงึ อย่างนันหวั
้ งยานเฟิ งก็ไม่อยากถอยอีกต่อไป เขารู้วา่ ถ้ าเขาไม่รับคําท้ าตอนนี ้ ลุย่ หมิ
งเซียง ก็จะกระจายข่าวเรื่องนี ้ไปทัว่ แน่ ว่ามันปอดแหก ซึง่ ‘สัจธรรมทังเก้
้ า’ นันก็
้ เป็ นวรยุทธ
ทรงพลังที่ใครๆก็ร้ ูจกั “ไอ้ ลยุ่ หมิงเซียง แกไม่ร้ ูเสียแล้ วว่าใครเป็ นใคร พรสวรรค์ก็ตํ่ากว่าข้ า อายุ
18ปี ท้ า15ปี สู้งนรึ
ั ้ ช่างกล้ าหาญดีเหลือเกิน”
“ทําไมข้ าจะไม่กล้ าว่ะ” หวังยานเฟิ งตะโกนลัน่ ถึงจะรู้วา่ นี่เป็ นการยัว่ ยุก็เถอะ แต่เขาก็ต้อง
รับคําท้ า ถ้ าเขายอมแพ้ เขาก็ถือว่าหัวใจของเขาไม่อยูใ่ นหนทางต่อสู้อีกต่อไป
“ดี งันเราจะดวลกั
้ นตามกฎของสํานักเจ็ดแก่นแท้ แต่ก่อนอื่นเรามาพนันอะไรกันหน่อยมัย้ ได้
ข่าวว่าพึง่ ได้ หินพลังปราณมา 5 ก้ อน เอามันมาเดิมพันกับข้ าหน่อยเป็ นไง”
เดิมพัน?!
“ก็ได้ ตกลงตามนัน”
้
หลินหมิงที่มองจากที่ไกลๆได้ แต่สา่ ยหัวไปมา เจ้ านัน่ รู้ถงึ จุดอ่อนของหวังยานเฟิ งและได้ ยวั่ ยุให้
เขาต้ องต่อสู้ พวกมันรู้วา่ หวังยานเฟิ งไม่ถอยอยูแ่ ล้ ว เพราะถ้ าถอย มันจะคงจะมีชีวิตที่มืดมน
และน่าอัปยศไปอีกนาน
ถึงนันจะเป็
้ นนํ ้าเสียงที่ดมู ีความสุขก็เถอะ แต่มนั ก็แฝงความยัว่ ยุเอาไว้ อย่างเห็นได้ ชดั เขาหัน
กลับไปดูวา่ มันเป็ นใคร มันคือชายหนุ่มอีกคนซึง่ มาพร้ อมกับลุย่ หมิงเซียง มันยืนอยูร่ ะหว่าง
ลุย่ หมิงเซียงกับและหวังยานเฟิ งหนุม่ คนนันดู ้ ทา่ จะมีการฝึ กฝนที่สงู มากทีเดียว
MW#054
ชายหนุ่มคนนันอยู
้ ใ่ นชุดสีฟ้าทังตั้ ว และมือของเขาก็ถือกระบี่ยาวสามฟุตเอาไว้ และกระบี่เล่ม
นันก็
้ เป็ นกระบี่แบบไร้ ที่ป้องกันมืออีกด้ วย
หนุ่มคนนันสามารถเป็
้ นหนึง่ เดียวกับดาบได้ แล้ วอย่างนันหรื
้ อ
หลินหมิงถึงกับแสดงสีหน้ าเครี ยดออกมา ไม่วา่ จะเจ้ านี ้หรื อ ลุย่ หมิงเซียง ต่างก็มีทกั ษะการ
ต่อสู้ที่ทรงพลัง ไม่มีทางที่เขาจะต่อกรได้ อย่างแน่นอน
หลินหวูโ่ ดนจิตสังหารกดดัน สีหน้ าของเขาบิดเบี ้ยวไปไม่น้อย แม้ วา่ เขาจะเป็ นคนจากห้ อพสุธา
แต่เขาก็ร้ ูวา่ ฝี มือของเขาห่างกับสองคนนี ้อีกมาก ถ้ าจะให้ ส้ กู นั คงไม่ใช่เรื่ องที่ฉลาดนัก เขาดึง
แขนเสื ้อหลินหมิงแล้ วบอกว่า “หลินหมิง ไปกันเถอะ”
“จะไปงันเหรอ
้ ฮ่าๆ หลินหวู่ ตระกูลหลินของแกนี ้มันพวกขี ้แพ้ ชดั ๆ ข้ าล่ะแปลกใจจริ งๆที่
ตระกูลเศษสวะอย่างตระกูลของแก มีคนที่สามารถสอบเข้ าสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาได้ ทังยั ้ งอยูใ่ น
ห้ องพสุธาอีกด้ วย เหลือเชื่อจริ งๆ เมืองใบหม่อนสีเขียวมีแต่พวกขี ้ขลาดสินะ”
หลินหวูส่ ญ
ู เสียความเยือกเย็นในทันที โดยเฉพาะเมื่อมีคนเหยียดหยามตระกูลของเขา เขาไม่
สามารถทนได้ อีกต่อไป เขาชักดาบออกมาแล้ วเดินตรงไปข้ างหน้ า แต่หลินหมิงห้ ามเอาไว้
หลินหมิงรู้ดวี า่ หลินหวูไ่ ม่มีทางเอาชนะมันได้ แน่
หลินหวูพ่ ดู ต่อ “ซาง ฉาง เป็ นคนอันดับต้ นๆของห้ องพสุธา แต่จริ งๆแล้ วมันสามารถเข้ านิกาย
สวรรค์ได้ แน่หากมันต้ องการ เจ้ าไม่มีทางเอาชนะมันได้ ยา่ งแน่นอน ”
หลินหวู่ พูดต่อด้ วยสีหน้ าเคร่งเครี ยด “แล้ วทําไมเจ้ าถึงยังดื ้อดึงอยูเ่ ล่า ข้ ารู้วา่ เจ้ าอาจจะ
สามารถต่อสู้กบั คนที่มีการฝึ กฝนในขันที ้ ่สามได้ แต่กบั ขันที
้ ่สามที่เกือบจะขึ ้นไปขันที ้ ่สขี่ องเจ้ านี่
แล้ ว รวมกับวิชากระบี่ของมัน ต่อให้ เป็ นคนที่มีการฝึ กฝนขันที
้ ่สี่บางคนก็ยงั สู้มนั ไม่ได้ ด้วยซํ ้า”
55-56
“น้ องหลิน เจ้ าอย่าได้ ไปรับคําท้ าของมันเชียวนะ” หลินเฟิ งหยวน พูดเสริ มอีกแรง แต่เมื่อต้ อง
เผชิญหน้ ากับ ซางฉาง นํ ้าเสียงของเธอก็ฟังดูปวกเปี ยกขึ ้นมาทันที
ซางฉาง และ ลุย่ หมิงเซียงต่างเดินกลับไปด้ วยสีหน้ ายิ ้มแย้ ม ปล่อยให้ หลินหวูส่ า่ ยหัวพร้ อมกับ
ถอนหายใจ “น้ องพี่ เจ้ ามุทะลุเกินไปแล้ ว คนที่มาที่นี ้ใหม่ๆต่างก็มีความมัน่ อกมัน่ ใจกันทังนั
้ น้
แต่ถงึ ยังไงเจ้ าพวกนันก็
้ เก่งกว่าอยูห่ ลายขัน้ เจ้ าคนพวกนันยั
้ งไงก็เคยศึกษาที่สํานักเจ็ดแก่นแท้
มานาน โดยเฉพาะซางฉาง เอ่อ...ข้ าก็ไม่อยากพูดหรอก แต่ข้าว่าเจ้ าต้ องพบกับการสูญเสียที่
เป็ นบทเรี ยนราคาแพงเสียแล้ ว”
“ข้ าไม่แพ้ หรอก หากข้ าแพ้ ข้าก็จะชนะพวกมันให้ ได้ ในซักวัน ข้ าไม่สนว่ามันจะเป็ นลุย่ หมิงเซียง
หรื อเจ้ า หลินหมิง!!! ” หวังยานเฟิ งพูดพร้ อมกับเดินจากไป หลินหวูเ่ องก็ได้ ยินสิ่งที่มนั พูด
เช่นกัน เขารู้ดีวา่ หวังยานเฟิ งเองก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะลุย่ หมิงเซียง
“งันสิ
้ ่งที่พวกนันทํ
้ าก็เป็ นสิ่งที่น่าสังเวชงันสิ
้ นะ”
หลินหวูส่ งั เกตได้ ถงึ การเปลี่ยนแปลงของหลินหมิง และกล่าวว่า “น้ องข้ า เจ้ าอยากรู้เรื่ องของจู้
ยันจากข้ าหรือไม่”
หลินหมิงตอบ “แน่นอน ข้ าอยากรู้เรื่ องของเขา”
หลินหวูพ่ ดู ด้ วยนํ ้าเสียงเป็ นกังวล “น้ องข้ า ข้ ารู้วา่ จู้ยนั มีการฝึ กฝนบนจุดสูงสุดของขันที
้ ่
3 ในขณะที่มนั กําลังจะทดสอบเพื่อเข้ านิกายสวรรค์ และเป็ นอันดับที่72 แต่คนที่มนั เอาชนะ
้ ่4”
มาได้ มีการฝึ กฝนขันที
หลินหวูต่ อบ “อืมม เจ้ าอย่าได้ ไปมีเรื่ องกับจู้ยนั จู้ยนั มันมีฐานะใหญ่โตในตระกูลมัน แม้ มนั จะ
ไม่ใช่ลกู คนโตที่สดุ แต่ฝีมือและพรสวรรค์ของมันนันลํ ้ ้าเลิศยิ่งนัก เป็ นไปได้ วา่ มันอาจจะเป็ น
หัวหน้ าตระกูลจู้คนต่อไป เจ้ าอาจจะไม่ร้ ู แต่ลกู สาวของตระกูลจู้ได้ แต่งงานกับหนุ่มเชื ้อพระวงศ์
แล้ ว ทําให้ ตระกูลของมันมีอํานาจขึ ้นไปอีก แม้ วา่ สําหรับนักสู้อย่างเจ้ าแล้ ว การขอโทษอาจจะ
น่าอับอาย แต่เพื่ออนาคตของเจ้ า เจ้ าควรทําเพื่อไม่ให้ เกิดปั ญหาต่างๆตามมา”
“ไว้ เจอกันใหม่ ข้ าขอตัวก่อน” ถึงจะพึง่ ได้ ร้ ูจกั กันไม่นาน แต่หลินหมิงก็ร้ ูสกึ ได้ วา่ หลินหวูน่ นั ้
เป็ นคนดีทีเดียว ถือเป็ นเรื่ องดีที่ได้ ร้ ูจกั และผูกมิตรกับคนเช่นนี ้
MW#56 ความสําเร็จ
…
…
ถ้ าหากเขาเชื่อในพลังของ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’และยังไม่สามารถข้ ามกําแพงการแห่ง
ั ้ ่3ได้ มันก็ยตุ ิธรรมแล้ วที่เขาจะแพ้ ในการเดิมพันครัง้ นี ้
การฝึ กฝนไปสูข่ นที
เมื่อคันนํ
้ ้าออกมาจากดอกผลึกฟ้า หลินหมิงก็รวบรวมสมาธิและใช้ พลังวิญญาณทําให้ นํ ้าหยด
นันลอยอยู
้ ก่ ลางอากาศ เขาหายใจเข้ าลึกๆ และค่อยๆผ่อนคลายลง
หลินหมิงเริ่ มที่จะขยับมือขวา อักขระแรก สําเร็จ เริ่ มต้ นได้ ดี ของเหลวนัน่ กระพริ บแสงสีร้ ุง
ออกมา!
เขาฝื นวาดอักขระต่อไปไม่ไหวอีกแล้ ว
“เพล้ ง!”
“หืม คํ่าแล้ วหรื อนี ้..” หลินหมิงหายใจเข้ าลึกๆ และนัง่ ลงบนเตียง ห้ องของเขามันช่างเงียบสงบ
เสียจริ ง หลินหมิงได้ ยินกระทัง่ เสียงลมหายใจของเขาเอง
เขารู้สกึ เหนื่อยอย่างยิ่ง เขาแผ่ตวั นอนลงไปกับเตียงของเขา แม้ แต่จะให้ ขยับนิ ้วซักนิ ้วยังแทบ
ทําไม่ได้ หลายเดือนที่ผ่านมานี ้ เขาฝึ กการจารึกและเขาได้ ใช้ พลังปราณจนหมดหลายต่อหลาย
ครัง้ แต่เขายังไม่เคยรู้สกึ เหนื่อยขนาดนี ้มาก่อน ถ้ าเขาไม่มี‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ เขาคง
ไม่มีพลังปราณมากขนาดนี ้แน่ๆ การจารึกโอสถ นี่มนั ก็ไม่ตา่ งกับทะเลทรายอันร้ อนระอุที่
ดูดกลืนพลังปราณของเขาไปอย่างบ้ าคลัง่
เขาลืมไปสนิทเลย เขายังมีหินพวกนันอยู
้ ่ ถ้ าเขาใช้ หินพวกนันช่
้ วย มันจะเป็ นอย่างไร
หลินหมิงยันตัวลุกขึ ้น ในตอนนันเขาได้
้ รับหินมาทังหมด
้ 10 ก้ อน เขาหยิบออกมาก้ อนหนึง่
และเริ่ มดูดซับพลังจากมันทันที
“พลังปราณในหินนันหมดแล้
้ ้ ”
วอย่างนันรึ
นี่...นี่มนั ...
บทที่ 57 - สงครามการจัดอันดับ
...
...
...
ไม่มีใครเลยที่เขาจะพบเจอระหว่างการเดินทางครัง้ นี ้ จะมีก็เพียงชายชราผู้คอยรักษาความ
ปลอดภัยของสํานักที่กําลังถือโคมไฟขนาดเล็กริ บหรี่ อยูข่ ้ างๆ เขานอนหมอบบนเก้ าอี ้มองดู
คล้ ายคนง่วงนอน
"ปึ งงง!!"
แท่นหินสัน่ ลําพอง แม้ กระทัง่ พื ้นดินใต้ ฝ่าเท้ าของหลินหมิงก็ยงั สัน่ ตามไปด้ วย แสงไฟจากแท่น
หินพุง่ สูงขึ ้นอย่างไม่มีทา่ ทีวา่ จะหยุดลงในเร็ วๆนี ้ 2700 2800 2900 3000 ...
3200!
"การเข้ าถึงความสําเร็จขันแรกของ'ปฐมบทโกลาหล'
้ เป็ นเพียงขันตอนแรกของเขา
้ ยังมีหกขัน้
ซึง่ ในแต่ละขันก็
้ จะยิ่งใช้ ความพยายามและมีความยากลําบากมากขึ ้นเรื่ อยๆ นอกเหนือจาก'
จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’และ ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’แล้ ว ยังมีประตูแห่งดาวเก้ า
สวรรค์อีกแปดประตูที่ยงั ซ่อนอยู่ ซึง่ แม้ แต่ศิษย์ระดับสูงจากนิกายโบราณก็ยงั แทบจะเปิ ดมัน
ไม่ได้ ซกั บาน"
ในขณะที่เขามองหินพลังปราณที่แตกออกไปสองส่วนทังสามก้
้ อน เขาก็ตระหนักว่านี่เป็ นการใช้
อย่างรวดเร็ วและสิ ้นเปลืองเกินไป แต่ในเดือนต่อไปเขาอาจจะได้ รับมันมากถึง20ก่อนก็ได้
หากเขาชนะซางฉางในการต่อสู้
จนในที่สดุ ศิษย์ทงหมดก็
ั้ ทยอยออกจากห้ องไปจนหมด เว้ นแต่หลานยุนเยียที่ยงั ไม่ได้ รุกไปไหน
เธอยังนัง่ อยูท่ ี่เดิมเหมือนกับว่าเธอกําลังคิดอะไรอยู่
้ ?"
หลินหมิงหยุดการเคลื่อนไหวของเขา และถามขึ ้นมา "มีอะไรอย่างนันรึ
"ขอบคุณ"
"ชัน...
้ ชันได้
้ ยินมาว่าในอีกหนึง่ เดือนต่อจากนี ้ นายจะประลองกับซางฉาง?"
หลานยุนเยีย กัดริ มฝี ปากของเธอ เธอลังเลแล้ วกระซิบเบา ๆ "ซางฉาง เป็ นสหายของจู้ยนั ... "
"ชันรู
้ ้ วา่ นายไม่เต็มใจที่จะฟั งชัน้ แต่...ชันใช้
้ ชีวิตอยูใ่ นสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาตลอดครึ่งปี และได้
เห็นการเดิมพันของเหล่าศิษย์มากหลายต่อหลายครัง้ ซึง่ แทบจะไม่มีครัง้ ไหนเลยที่ศิษย์หน้ า
ใหม่จะเอาชนะศิษย์เก่าได้ แม้ วา่ นายจะเป็ นอันดับหนึง่ ในการสอบเข้ า แต่ทว่าซางฉางเองก็เป็ น
คนที่แข็งแกร่งและมีความโหดร้ าย เขามีชื่อเสียงในการต่อสูงที่รุนแรง "
" แต่... " หลานยุนเยียถอนหายใจ เธอรู้วา่ เมื่อหลินหมิงได้ ตดั สินใจไปแล้ ว แทบเป็ นไปไม่ได้ เลย
ที่เขาจะเปลีย่ นใจ
...
...
"สงครามการจัดอันดับ?"
สําหรับศิษย์ใหม่ทง20คนจากห้
ั้ องพสุธา นี่คือโอกาสที่จะพิสจู น์ตวั เองของพวกเขา พวกเขาทุก
คนคิดว่าการจัดอันดับจะทําให้ ได้ รับหินหลังปราณและทรัพยากรมากขึ ้น
“ก๊ อก ก๊ อก”
MW#058 อาคมหมื่นสังหาร
…
...
ในขณะนันซางฉางก็
้ เห็นหลินหมิงเช่นกัน มันมองมาที่หลินหมิงด้ วยรอยยิ ้มเชิงดูถกู
“อย่ามายุง่ เกี่ยวกับอันดับของข้ า จู้ยนั ไม่ได้ มากับเจ้ าด้ วยรึ ” หลินหมิงเดาว่า ที่มนั มาก่อกวน
ในครัง้ ก่อนก็เพราะจู้ยนั คอยบงการอยูเ่ บื ้องหลัง
“ฮ่าๆๆ ข้ าก็ตงใจจะพู
ั้ ้ อนกัน”
ดกับแกแบบนันเหมื
แต่นนเป็
ั ้ นเรื่องของในอีกหนึง่ เดือนข้ างหน้ า ในขณะนี ้ แท่นหยกได้ เปล่งแสงเป็ นสายๆออกมา
นับไม่ถ้วน มันคือสัญญาณว่าการทดสอบเริ่ มขึ ้นแล้ ว
ในอาคมหมื่นสังหาร มีทงหมด
ั้ 12 จุด หรื อก็คือการทดสอบรอบหนึง่ สามารถเข้ าร่วมได้ ครัง้ ละ
12 คน
“เจ้ าพวกศิษย์ใหม่ที่สามารถขึ ้นไปอยูใ่ นอันดับ 180 ได้ ก็ถือว่าหายากแล้ ว อันดับ 150 ก็ยิ่ง
ไร้ ที่ติ อันดับ 130 ก็เหมือนกับปาฏิหาริ ย์ แม้ แต่หลิงเซ็น และ ทาคุ ก็ยงั ทําเช่นนันไม่
้ ได้
สําหรับลุย่ หมิงเซียงที่อยูอ่ นั ดับ125 แล้ ว หวังยานเฟิ งจะไปเอาชนะได้ อย่างไร”
ศิษย์ทงั ้ 12 คนได้ มาอยูท่ ี่กลางแท่นบูชาอย่างมัน่ คง เจ้ าหน้ าที่ที่คมุ ก็กล่าวขึ ้นมา “การ
ทดสอบนี ้ไม่จํากัดเวลา หากฆ่าศัตรูขนสองจะได้
ั้ 1 คะแนน ฆ่าศัตรูขนสองระดั
ั้ บสูงได้ 5
คะแนน ฆ่าพวกระดับได้ 10 คะแนน ฆ่าศัตรูขนสามระดั
ั้ บสูงได้ 50 คะแนน ฆ่าศัตรูขนสี
ั ้ ่ได้
100 คะแนน ฆ่าศัตรูขนสี
ั ้ ่ระดับสูงได้ 500 คะแนน ฆ่าศัตรูระดับห้ าได้ 1000 คะแนน และ
ั ้ าระดับสูงได้ จะได้ 5000 คะแนน ”
หากฆ่าศัตรูขนห้
“และศัตรูขนหก
ั ้ หรื อก็คอื ขันผสานชี
้ พจร หากฆ่ามันได้ สําเร็จ ก็จะได้ รับ10000คะแนน
หลังจากเข้ าไปแล้ ว ก็สามารถเลือกอาวุธได้ ตามใจชอบ หากตายก็จะถูกส่งกลับมาเอง”
“เริ่ มได้ ”
...
...
...
หวังยานเฟิ งไม่สามารถยับยังตั
้ วเองไม่ให้ หนั ไปมองหลินหมิงที่ยงั คงอยูใ่ นการทดสอบจัดอันดับ
ได้
"แม้ มนั จะแข็งแกร่งกว่าข้ า แต่มนั ก็ไม่ได้ ช่วยอะไร ถ้ าข้ าเป็ นอันดับที่ 168 อย่างมันก็คงได้
อันดับประมาณ 150 หากจะเทียบกับซางฉางทีม่ ีอนั ดับ 109 มันไม่ได้ กงั วลเลยอย่างนันรึ
้ ?
"
"อันดับ 168 รึ? หึหึ " หวางหมางล้ อเลียนหวังยานเฟิ งด้ วยรอยยิ ้มเมื่อได้ เห็นอันดับของหวัง
ยานเฟิ ง
" ทังหมดที
้ ้ ่3 ข้ าก็ได้ อนั ดับเท่าเจ้ ามาแล้ ว
่ข้าต้ องทําก็คือการฆ่าสี่คนที่อยูจ่ ดุ สูงสุดของขันที
อย่างข้ าคงได้ อนั ดับประมาณ 150! "หลีไท้ ลบู ปลายจมูกของเขาด้ วยนิ ้วหัวแม่มือ เขามีการ
ฝึ กฝนอยูบ่ นจุดสูงสุดของขันที ้ ่3 เพราะหลายปี ในการเป็ นทหารรับจ้ างมืออาชีพของเขา ที่ต้อง
ใช้ ชีวิตอยูก่ บั การต่อสู้และความตาย ทําให้ ทกั ษะการต่อสู้ของเขาเหนือกว่านักสู้ที่มีการฝึ กฝน
ในขันเดี
้ ยวกัน
แสงจากอาคมส่องขึ ้นมาครอบคลุมร่างของศิษย์ทง12คนนั
ั้ น้ ทังหลี
้ ไท้ และหวางหมางก็หาย
เข้ าไปในอาคมหมื่นสังหาร
พวกเขาทังคู ้ เ่ ป็ นนักสู้มากประสบการณ์ที่สามารถต่อกรกับนักสู้ขนสี
ั ้ ่ได้ อย่างง่ายดาย แต่
ในตอนนี ้พวกเขาจะต้ องเผชิญกับศัตรูพร้ อมกันจากทุกทิศทุกทาง และเมื่อเวลาผ่านไปนานธูป
หนึง่ ก้ านไหม พวกเขาทังคู ้ ก่ ็ผ่ายแพ้ และถูกผลักออกมา
เมื่อทังคู
้ ถ่ กู ผลักออกมาจากอาคมหมื่นสังหาร พวกเขาก็มองไปที่ผลการจัดอันดับด้ วย
ความรู้สกึ ที่ทนทุกข์ทรมานและผิดหวัง ความทุม่ เทและการฝึ กฝนของพวกเขาไม่มากพอที่จะ
ทําให้ ได้ เป็ น150อันดับแรกของสํานัก!
นอกจากนี ้พวกเขาก็มีอายุ 18 ปี แล้ ว เหลือเวลาอีกไม่กี่ปีในการศึกษาในสํานักแห่งนี ้ บางทีแม้
ในขณะที่พวกเขามีอายุ21ปี และจบการศึกษาจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ พวกเขาอาจจะเป็ น100
อันดับแรกไม่ได้ ด้วยซํ ้า
หลิงเซ็น,ทาคุและซางกวนยู่ พวกเขาทังสามกลายเป็
้ นคนมีชื่อเสียงและอํานาจเพิ่มมากขึ ้น
อย่างมหาศาลในช่วงหลายปี มานี ้ บางทีอาจมากยิ่งว่าฉินชิงหวนเสียด้ วยซํ ้า พวกเขาเปี่ ยมล้ น
ไปด้ วยการส่งเสริ มทรัพยากรในการฝึ กฝน การให้ การอบรมศึกษา วรยุทธที่พวกเขาจะได้ รับ ทุก
อย่างล้ วนแล้ วเกินกว่าที่เหล่าศิษย์ทวั่ ๆไปจะได้ รับหลายเท่า
บทที่ 60 - เสือในฝูงแกะ
...
...
แต่หลิงเซ็นนันเลวร้
้ ายยิ่งกว่า เขามีพรสวรรค์ไม่ถงึ ระดับสี่ด้วยซํ ้า ดูเหมือนจะมีบางสิ่งบางอย่าง
ที่ช่วยให้ เขามาถึงจุดนี ้ได้
นี่เป็ นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะทดสอบพลังของเขา!
“ ‘จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล’ ทําให้ ข้ารู้สกึ ได้ วา่ กําปั น้ ของข้ าคืออาวุธที่ดีที่สดุ และข้ าไม่คิดที่
จะเลือกอาวุธชิ ้นใดอีก "หลินหมิงคิดในใจ และทันใดนันอาวุ ้ ธเหล่านันก็ ้ หายเข้ าไปในหมอก
"!" นักสู้คนนันเหวี
้ ่ยงดาบของมันออกมา หลินหมิงลดตัวลงตํ่า หลบให้ ดาบฟาดผ่านเหนือหัว
ของเขาไป และเหวี่ยงตัวเองใกล้ พื ้นดินให้ ดาบบินอยูเ่ หนือศีรษะของเขา จากนันก็
้ ชกเข้ าไปที่หวั
เข่าของนักสู้คนนัน้
...
MW#061 หอก
“เวลาผ่านไปนานกว่าสองก้ านธูปแล้ วสินะ” สีหน้ าหลีไท้ และ หวางหมาง ดูเป็ นกังวล พวกเขา
ไม่คิดว่าหลินหมิงจะต่อสู้อยูใ่ นนันได้
้ นานถึงเพียงนี ้ มันเป็ นหลักฐานอย่างดีที่แสดงให้ เห็นว่า
หลินหมิงอาจจะสามารถขึ ้นไปอยูบ่ น 150 อันดับแรกก็เป็ นได้
“หลินหมิงมันยังสู้ในนัน...”
้ ปากของหลีไท้ ดบู ิดเบี ้ยวนิดๆ เดิมทีพวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า
พลังของพวกเขาจะด้ อยกว่าใครทังนั้ น้ แต่ในตอนนี ้พวกเขาได้ ร้ ูแล้ วว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะ
อยูใ่ นนันได้
้ นานเท่ากับที่หลินหมิงได้ ทําในตอนนี ้
สิ่งเหล่านันทํ
้ าให้ หลีไท้ ร้ ูสกึ เครี ยดขึ ้นมา
เมื่อเทียบหลินหมิงกับทังสามคนนั
้ น้ หลายๆคนที่ได้ ยินชื่อถึงกับหน้ าถอดหน้ าสี สามคนนี ้ไม่เคย
หลุดไปจากอันดับต้ นๆในการจัดอันดับเลย ไม่มีใครสนใจหรอกว่าหลินหมิงจะได้ ยาโอสถลํ ้าค่า
หรื อไม่ หรื อจะมีวรยุทธ์ที่ทรงพลังเพียงใด แต่หากคิดจะไปเทียบกับสามคนนันแล้ ้ วละก็ ยังมี
ช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขา
ในโลกของอาคมหมื่นสังหาร ถึงจะยังไม่ได้ สงั หารศัตรูที่อยูต่ รงหน้ าในปั จจุบนั แต่ศตั รูตวั ถัดไป
ก็จะปรากฎออกมาตามเวลาปกติ ดังนันถึ
้ งจะเก่งขนาดไหนก็ไม่สามารถอยูใ่ นนันไปตลอดได้ ้
เว้ นแต่วา่ เขาคนนันจะมี
้ เป็ นระดับปราณปลายฟ้า
ทุกๆครัง้ ที่ศตั รูตายลง ศัตรูที่แข็งแกร่งขึ ้นก็จะปรากฏออกมา เจ้ าพวกนี ้ต่างเริ่ มต้ นที่ การฝึ กฝน
ขันสามไปจนถึ
้ งจุดสูงสุดของขันสาม
้ หรื ออาจจะไปถึงขันที
้ ่สี่ด้วย
“เจ้ าแมงมุมนี ้เป็ นตัวปั ญหาเสียจริ ง” หลินหมิงพูดด้ วยสีหน้ าเคร่งเครี ยด ถ้ าเป็ นการสู้ตวั ตัวละ
ก็ เขาอาจจะพอล้ มมันได้ แต่ในตอนนี ้เขามีศตั รูอยูร่ อบด้ าน เขาคิดแผนการอะไรไม่ออกเลย
“ชี่...”
บางทีเขาควรจะต้ องมีอาวุธซักชิ ้น
ดาบเหรอ?!
ดาบสามารถรุกและรับได้ ทงสองอย่
ั้ าง สามารถหนักและเบาได้ ในคราเดียว เป็ นอาวุธ
อเนกประสงค์ที่สดุ ในโลกเลยก็วา่ ได้
แต่ดาบนันจะเน้
้ นไปที่ความว่องไว ความเจ้ าเล่ห์ และการจู่โจมที่ซบั ซ้ อน ซึง่ มันไม่ได้ เหมาะกับ
เขาเอาเสียเลย
ถ้ า 90% ใช้ ดาบ อีก 10% ที่เหลือส่วนใหญ่ก็ใช้ เจ้ านี่ ถึงมันจะไม่ได้ มีความแม่นยําเท่ากับ
ดาบ แต่ก็แลกมาด้ วยพลังทําลายที่สงู ขึ ้น มันสามารถโจมตีได้ อย่างไม่หยุดยังเลยหากอยู
้ ใ่ นมือ
ของผู้ที่ชํานาญ ถ้ าหากใช้ ในสงครามแล้ วละก็ มันถือเป็ นเครื่ องมือสังหารชันยอดเลยที
้ เดียว
ทันใดนันหลิ
้ นหมิงก็นกึ ขึ ้นได้ ตอนที่เขาพบกับหลานยุนเยียที่ ห้ องโถงบรรยาย อาจารย์คนหนึง่
ได้ สาธยาย เกี่ยวกับอาวุธชนิดหนึง่ อยูน่ านมาก นันก็
้ คือหอก
“เด็กนันคงทนได้
้ อกี ไม่นานแน่” ผู้คมุ ที่ออกมาช่วยนักสู้ที่ออกมาจากอาคมหมื่นอสูรสังหารที่
อยูท่ ี่นนั ้ ก็ไม่ได้ ชอบนักหรอกที่จะเห็นใครต่อใครได้ ดีไปกว่าตนเอง
บทที่ 62 อันดับของหลินหมิง
...
...
...
"หอกที่ทรงอํานาจ!"
นี ้หอกที่ทรงอํานาจนี ้เป็ นงานฝี มือที่ถกู สร้ างขึ ้นจาก เหล็กทมิฬ วัตถุดิบนี ้จะมีข้อเสียในด้ าน
ความยืดหยุน่ แต่มีอํานาจการทําลายล้ างที่รุนแรง!
แม้ วา่ หลินหมิงจะไม่ได้ เชี่ยวชาญการใช้ อาวุธชนิดนี ้ซักเท่าไร แต่เขาก็ได้ ใช้ เวลาหลายปี ในการ
ทํางานด้ วยมีดอย่างประณีต ทําให้ เขามีสายตาที่แหลมคม เขามีประสบการณ์และความ
แม่นยํามากพอ ด้ วยสิ่งเหล่านี ้มันทําให้ เขาสามารถเอาชนะวรยุทธ์ 'สัจธรรมทังเก้
้ า' ของหวัง
ยานเฟิ งมาได้ ด้วยกําปั น้ ที่แม่นยําของเขา!
ไม่วา่ จะเป็ นกําปั น้ หรื อมีด หรื อแม้ แต่หอกที่หนัก 580 จิ๋นในมือของเขาเล่มนี ้ก็ไม่ได้ ทําให้
ความแม่นยําของเขาลดลง!
เขาแทงตัดเส้ นใยพวกนันออกและแทงเขาใส่
้ แมงมุมหลังเพชรตัวในในคราเดียว!
เจ้ าแมงมุมนันไม่
้ คิดมาก่อนว่าใยแมงมุมที่แข็งแกร่งของมันจะถูกกําจัดโดยการใช้ หอกเล่มนัน้
ตอนนี ้แม้ แต่ชีวิตของมันก็อาจถูกฆ่าด้ วยหอกนันเช่
้ นกัน!
"กึก!" แมงมุมหลังเพชรตัวนันที
้ ่มีขนาดใหญ่เท่ากับวัวถูกแทงทะลุสมองด้ วยหอกของหลินหมิง!
วรยุทธ ?!
...
"มีเพียงหกคนที่ยงั เหลืออยูบ่ นเวที คนสุดท้ ายที่ถกู ส่งออกมาได้ อนั ดับ 139 ไม่น่าเชื่อว่า
หลินหมิงจะยังคงต่อสู้อยูใ่ นขณะนี ้! " เหล่าศิษย์สว่ นใหญ่ที่เข้ ามาชมการจัดอันดับต่างก็ไม่
ต้ องการให้ คนอื่นประสบความสําเร็จ
การจัดอันดับของแท่นหินอาคมหมื่นอสูรสังหารมีทงหมด
ั้ 23 แถว แต่ละแถวมีสิบชื่อ สายตา
ของคนส่วนใหญ่กําลังหาที่แถวที่ 15 หรื อก็คือกําลังหาชื่อของหลินหมิงในช่วงอันดับที่140-
150 เพราะมันเป็ นช่วงที่มีแนวโน้ มว่าชื่อของหลินหมิงจะปรากฏขึ ้นในช่วงนี ้
อย่างไรก็ตามในส่วนของอาคมหมื่นอสูรสังหารนี ้ก็เป็ นดัง่ สายนํ ้าที่เงียบสงบ รายชื่ออันดับที่
140-150ไม่ได้ ถกู เปลีย่ นแปลเลยแม้ แต่น้อย
"อืม…?"
MW#063 หออาวุธศักดิ์สิทธิ์
“126”
แม้ แต่หลิงเซ็น ทาคุ และซางกวนยู่ ก็ยงั ทําไม่ได้ ขนาดนี ้เลย ในการทดสอบครัง้ แรกของพวก
เขาหลิงเซ็นได้ อนั ดับที่ 145 ทาคุได้ อนั ดับที่ที่ 142 และ ซางกวนอยูไ่ ด้ อนั ดับที่ 138 มา
ครอง แม้ พวกเขาทังสามจะทํ
้ าได้ ยอดเยี่ยมถึงเพียงนัน้ แต่อนั ดับในการวัดผลในครัง้ แรกของ
หลินหมิงก็นําอยูม่ ากทีเดียว
น่ากลัวเหลือเกิน…
“หลินหมิง ข้ าไม่ร้ ูหรอกนะว่าเจ้ าไปได้ ยาโอสถลํ ้าค่ามาจากไหน แต่เจ้ าพึง่ จะฝึ กฝนถึงจุดสูงสุด
ของขันที
้ ่สองเจ้ าจะสามารถดูดกลืนพลังของยาเม็ดไขกระดูกมังกรทองและยาโอสถพญางู
้ อ”
ทองคํา ได้ ค้ มุ ค่ากับประสิทธิภาพของมันจริ งๆอย่างนันหรื
หลินหมิงมองกลับไปที่ซางฉางแต่ก็ไม่ได้ พดู อะไรกัน ด้ วยพลังในตอนนี ้ การจะล้ มซางฉางให้ ได้
ก็มีโอกาสเกิดขึ ้นจริ งอยูบ่ ้ าง
“แกจะต้ องพ่ายแพ้ ”
“เขาคนนันคื
้ อซางฉาง เขาอยูอ่ นั ดับที่อนั ดับ 109 เขาคือนักสู้ที่แท้ จริ ง”
เมื่อศิษย์หน้ าใหม่ๆได้ ยินเข้ า ก็ร้ ูสกึ ตืน่ เต้ นและหวาดกลัว เป็ นครัง้ แรกที่เขาได้ เห็นคนที่อนั ดับสูง
ถึงเพียงนี ้
“ใช่ๆ ข้ าได้ ยินมาว่า ครัง้ ล่าสุดที่เขาร่วมคือเมื่อ3เดือนที่แล้ ว ในตอนนี ้เขาอาจจะเป็ น100
อันดับแรกก็ได้ ”
หลังจากที่ซางฉางถูกส่งกลับออกมาจากแท่นอาคมหมื่นอสูนสังหาร เขาเห็นอันดับใหม่ของเขา
แล้ วก็ร้ ูสกึ ผิดหวังเล็กน้ อย มันไม่ได้ นา่ พอใจเอาซะเลย ถึงแม้ วา่ มันจะดีกว่าเมื่อ3เดือนก่อนถึง
5อันดับ แต่เขาก็หวังเอาไว้ วา่ เขาจะได้ เป็ น100อันดับแรกในการทดสอบครัง้ นี ้
...
หลินหมิงชะเง้ อไปที่ร้านๆนันจากที
้ ่ไกลๆ ทางเข้ าของมันถูกตกแต่งด้ วยของเคลือบทอง และ
ด้ านบนก็มีป้ายไม้ พร้ อมกับมีคนๆหนึง่ กําลังทาสีให้ มนั อยู่ หลินหมิงรู้สกึ ได้ ถงึ ออร่าที่แผ่
ออกมาจากตัวเขา ไม่ต้องสงสัยเลย คนที่เขียนป้ายนัน่ ต้ องไม่ธรรมดาแน่ๆ
“หอก” หลินหมิงตอบกลับไป
…
…
“มีของระดับหายากรึเปล่า”หลินหมิงเอ่ยปากถาม
“หนุ่มน้ อย ร้ านของเราไม่มีหอกแพงๆแบบนันขายหรอก
้ แต่ถ้าเป็ นพวกดาบละก็เรามีหลาย
แบบให้ เลือกใช้ ”
ดังนันอาวุ
้ ธที่สามารถใช้ ในการกวาดล้ างศัตรูก็เห็นจะมีแต่พวกหอกเท่านันแหละ
้
“ราคาเท่าไหร่” หลินหมิงถาม
เมื่อหลินหมิงได้ ยินเช่นนันก็
้ ร้ ูสกึ เนื ้อเต้ นเลยทีเดียว เขาไม่คิดเลยว่า แค่หอกธรรมดาจะมี
กรรมวิธีการผลิตที่ซบั ซ้ อนถึงเพียงนี ้ ถึงไหมทอง จะด้ อยกว่า ไหมนภาเล็กน้ อย แต่ก็เป็ นถึงของ
หายากอยูด่ ี และยังทํามาจากต้ นไม้ ที่มีอายุนบั ร้ อยปี อีก
เสียอย่างเดียวที่มนั ยังเบาเกินไป
แม้ เหล็กทมิฬนันจะมี
้ ราคาแพง แต่กระบวนการผลิตนันไม่
้ ได้ ยงุ่ ยากมากเท่าไหร่ เพราะงันราคา
้
ของมันจึงถูกลงมา
้ ?!
หนักกว่านี ้ เขาต้ องการอาวุธที่หนักกว่านี ้อีกอย่างนันรึ
หลังจากนัน้ คนขายก็เดินไปที่ชนสองทั
ั้ นที
MW#065 หอกทะลวงสายรุ้ง
...
...
...
เมื่อพวกเขาขึ ้นไปบนชันสอง
้ บนนี ้มีคนอยูน่ ้ อยมาก เป็ นพื ้นที่ขนาดใหญ่ที่มีลกู ค้ าอยูเ่ พียงไม่กี่
คนเท่านัน้ มีชายวัยกลางที่ดนู ่ากลัวสวมเสื ้อคลุมสีเทากําลังนัง่ ดื่มชาอยูห่ ลังเคาน์เตอร์
"800 จิ๋น"
หอกนี ้เยี่ยมยอด!
ชายวัยกลางคนกล่าวอธิบาย "มีเพียงเฉพาะหัวหอกเท่านันที
้ ่เป็ นระดับสมบัติ ส่วนเพลาหอก
ไม่ได้ เป็ นระดับสมบัติด้วย ทําให้ หอกเล่นนี ้ถูกจัดอยูใ่ นระดับสมบัติเพียงครึ่งเดียว"
เหล็กเหนี่ยวทมิฬ?
"หอกนี่ราคาเท่าไร?"
หลินหมิงดึงธนบัตรทองทังหมดที
้ ่เขามีออกมา พร้ อมกับบัตรส่วนลดพิเศษสีมว่ ง และวางมันลง
บนเคาน์เตอร์ หออาวุธศักดิ์สิทธ์เป็ นพันธมิตรการค้ ากับเมืองลิขิตฟ้า เขาจึงสามารถใช้ บตั ร
ส่วนลดพิเศษและได้ รับส่วนลดพิเศษอีก 10% ทําให้ ราคาที่แท้ จริ งเหลือเพียง 8100 เหรี ยญ
ทอง ทว่าแม้ จะรวมเหรี ยญทองที่เขามีทงหมดแล้
ั้ ว เขาก็ยงั ขาดอีก 50 เหรี ยญทอง
"ขอบคุณมาก" หลินหมิงเองก็ไม่ได้ ซาบซึ ้งอะไรซักเท่าไร จริ งๆแล้ วแค่ 100 เหรี ยญทองมันก็
ไม่ได้ มากเกินไปสําหรับเขาหรื อหออาวุธศักดิ์สิทธ์
เขามุง่ เป้าไปที่หินก้ อนใหญ่และใช้ ฟาดลงไป เกิดเสียงดังสนัน่ 'ปั งง..' หินยักษ์ แหลกเป็ นเศษ
เสี ้ยวในทันทีด้วยหอกหนักเล่มนัน้ เพราะความยืดหยุน่ ของเพลาหอก หลินหมิงจึงไม่ได้ ร้ ูสกึ ถึง
รุนแรงสะท้ อนใดๆกลับมา นี่คือประโยชน์ของเหล็กเหนี่ยวทมิฬ สําหรับด้ ามเพลา เหล็กทมิฬ
บริ สทุ ธิ์จะสัน่ สะเทือน ทําให้ นิ ้วหัวแม่มือและนิ ้วชี ้ของผู้ใช้ เกิดอาการชาขึ ้น ซึง่ จะส่งผลเสียกับ
ผู้ใช้ งาน
ในเวลานันเอง
้ ด้ านหน้ าของหลินหมิง ปรากฏเปลวไฟสว่างพรวดพราดขึ ้นมา
ยันต์สื่อสาร?!
MW#066 ทรัพยาการจากสํานัก
ของรางวัลงันเหรอ?!
้
แต่นี ้ก็ไม่ได้ ทําให้ ลินหมิงรู้สกึ เป็ นภาระแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านัน้ มันทําให้ หลินหมิงรู้สกึ ตื่นเต้ น
มากขึ ้นด้ วย สําหรับขํา การแบกของหนักๆเช่นนี ้ก็ถือเป็ นการฝึ กอีกอย่างหนึง่
...
ถึงแม้ วา่ มันจะถูกเปิ ดอยูต่ ลอดเวลา แต่มนั ก็สามารถให้ คน เพียงแค่ 12 คนเข้ าไปฝึ กได้ ในแต่
ละครัง้ เท่านัน้ ซึง่ สํานักเจ็ดแก่นแท้ มีศิษย์มากเกินไป คงเป็ นไปไม่ได้ ที่จะให้ ศิษย์ทกุ ๆคน
สามารถเข้ าไปใช้ สถานที่เหล่านี ้ได้ หนทางแก้ ไขปั ญหาเหล่านี ้ก็คือให้ ศิษย์ที่มีอนั ดับต้ นๆเท่านัน้
ที่มีโอกาสได้ ใช้ งาน
หลินหมิงครุ่นคิดเล็กน้ อย จากนันก็
้ ดงึ พลังออกจากป้ายหยกหลังจากอ่านข้ อมูลเสร็ จ
ฮ่องซีพดู “ทุกๆคนก็มาถึงกันแล้ ว ทีนี ้ก็ตามข้ ามา เราจะไปที่คลังกัน”
ถึงโถงชันนอกจะด้
้ อยกว่าโถงชันใน
้ แต่มนั ก็บรรจุอะไรหลายๆอย่างที่มีคา่ ไว้ เช่นกัน ภายในโถง
ชันนอกแห่
้ งนี ้มีป้ายหยกเป็ นจํานวนมากที่ถกู เก็บมากกว่า 600 ปี ซึง่ ศิษย์บางคนถึงกับต้ อง
ฆ่ากันเพื่อแย่งชิงป้ายหยกมาขายให้ กบั ที่แห่งนี ้ได้
หลังจากที่หลินหมิงได้ มาที่คลังแห่งนี ้ เขายื่นป้ายหยกของเขาให้ กบั ผู้คมุ ที่ดแู ลห้ องนี ้อยู่ ป้าย
หยกนี ้ไม่ใช่แค่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับที่นี ้เท่านัน้ แต่ยงั มีข้อมูลเกี่ยวกับหลินหมิงอีกด้ วย
ผู้คมุ ตรวจสอบป้ายหยกด้ วยพลังของเขา แล้ วก็สง่ คืนมาให้ กบั หลินหมิง “เจ้ าผ่านเข้ าไปได้ เจ้ า
สามารถเลือกขันตอกการฝึ
้ กฝนได้ 1 อย่างและทักษะการต่อสู้ได้ อีก 2 อย่าง เจ้ าสามารถนํา
แผ่นหยกเหล่านันกลั ้ บไปที่พกั ได้ แต่ห้ามนําออกจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ และหากมีคนต้ องการ
ยืมมันต่อเจ้ าต้ องนํามันมาคืนให้ ตรงเวลา ระยะเวลาที่สามารถยืมได้ นนก็
ั ้ ขึ ้นอยูก่ บั อันดับของ
เจ้ า”
*อ่านเข้ าใจกันหรื อป่ าว ประมาณว่าถ้ าเป็ นของที่เป็ นนิยมฝึ กกัน ก็จะมีคนมาต่อคิวรอ และเมื่อ
หมดเวลาก็ต้องเอามาคืน ซึง่ คนมีมีระดับน้ อยๆก็มีเวลายืมน้ อย ยังฝึ กไม่ทนั เสร็ จก็ต้องเอามา
คืนแล้ วอะไรแบบนี ้
ไม่ต้องพูดถึง วิชาขันต้
้ นหรื อขันกลางหรอก
้ ต่อให้ เป็ นวิชาขันสู
้ งหลินหมิงก็ไม่สนใจมันแม้ แต่
น้ อย แต่หากมันมีจริ งเขาก็อยากได้ เก็บไว้ อยูบ่ ้ าง
“ศิลปะไร้ เงา เป็ นวิชาที่มีการโจมตีที่ดดุ นั แต่ไร้ การป้องกัน ซึง่ พลังของผู้ฝึกต้ องมีอยูส่ งู มากๆ
ซึง่ เทียบได้ กบั ระดับสูงๆ นี่เป็ นวิชาที่โดดเด่นในบรรดาวิชาขันต้
้ นทังหมดและด้
้ อยกว่าวิชาขัน้
กลางเพียงเล็กน้ อยเท่านัน้ ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะฝึ กวิชานี ้ และผู้ที่สําเร็จวิชานี ้จริ งๆก็มี
อยูน่ ้ อยยิ่งนัก จงเลือกให้ ดี”
เมื่อได้ เห็นรายละเอียดทังหมด
้ หลินหมิงก็ยิ ้มและหัวเราะ ทุกๆคนในห้ องพสุธาล้ วนอันดับเกิน
100 ทังนั้ น้ ยิ่งเป็ นวิชาที่ฝึกยากเท่าไร พวกเก่งๆก็ยิ่งต้ องการมากขึ ้นเท่านัน้ ทังวิ
้ ชานี ้ยังเป็ น
วิชาที่โดดเด่นอย่างมากอีก ใครบ้ างล่ะจะไม่อยากได้
แต่แน่นอนว่า หลินหมิงไม่สนใจ
“ศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธหอก งันเหรอ”
้
“ก็ดีที่ไม่มีใครใช้ งันก็
้ ไม่จําเป็ นต้ องรีบนํามาคืนสินะ”
หลังจากเลือกวิชาหอกนี ้ หลินหมิงก็เริ่มมองหาวิชาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวต่อ
เขามองไปยังชันบนๆ
้ " ‘ก้ าวพริ บตา’ , ‘บันไดผ่านสวรรค์’ , ‘เชือกแขวนเมฆ’ , ‘เจ็ดดารา
เหาะเหิน', ‘ตัวเบาดัง่ ขนหงส์ " และอืน่ อีก มีแต่วิชาที่ซบั ซ้ อนและมีชื่ออลังกาลน่าสนใจ
มากมาย
“มันเป็ นขันตอนการฝึ
้ กฝนและทักษะต่อสู้ด้วยหรื อเปล่า?” หลินหมิงสุม่ หยิบแผ่นหยกหักๆ
ขึ ้นมาอันหนึง่ และใส่พลังเข้ าไปข้ างใน “ทักษะการต่อสู้ขนสู
ั ้ ง ไม่ทราบรายระเอียด ส่วนที่ขาด
หายไป 90%”
บทที่ 68 การคัดสรรที่ยอดเยี่ยมของหลินหมิง
...
...
...
หลินหมิงตัดสินใตเลือกป้ายหยกวิชาทังสาม
้ 'ศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธหอก ', 'พื ้นฐานการ
เคลื่อนไหว' และ 'วิชาหมัดสลายกระดูก’ ในการลงทะเบียนยืมจากผู้คมุ อาวุโส มีศิษย์คนอื่นๆ
กําลังต่อแถวรออยูม่ ากมาย ทังวั
้ งยานเฟิ ง และคนอื่นๆก็ยงั ต่อแถวรออยู่ ฮ่องซีก็ยืนอยูใ่ นกลุม่
พวกเขาเพื่อให้ คําแนะนําสําหรับขันตอนการฝึ
้ กฝนและทักษะการต่อสู้ที่ศิษย์แต่ละคนได้ เลือก
มา
แต่มนั เป็ นเรื่ องยากมากที่จะบอกให้ เหล่าศิษย์ได้ เข้ าใจถึงเรื่ องนี ้ เหล่าศิษย์อจั ฉริ ยะอย่างพวก
เขายังไม่เคยคํานึงถึงความยากลําบากในการฝึ กฝนทักษะการต่อสู้ หรื อในอีกแง่หนึง่ พวกเขา
อาจต้ องการที่จะใช้ ความยากลําบากในการฝึ กฝนเป็ นตัวพิสจู น์ความสามารถที่แท้ จริ งของพวก
เขา
"เจ้ าแน่ใจที่จะเลือกแผ่นหยกทังสามนี
้ ้แล้ วใช่หรื อไม่?"
หลินหมิงวางแผ่นหยกทังสามลงบนเคาน์
้ เตอร์ ทังหวั
้ งยานเฟิ ง หวางหมาง หลี่ไท้ ทังสามเต็
้ มไป
ด้ วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะความแข็งแกร่งของหลินหมิงทําให้ พวกเขาอยากรู้วา่ หลินห
มิงจะเรื่ องขันตอนการฝึ
้ กฝนและทักษะการต่อสู้แบบไหน
วิชาทังสามนั
้ ้ อสิ่งที่หลินหมิงเลือก? 'หมัดสลายกระดูก' ?! หวังยานเฟิ งไม่เคยได้ ยินแม้ แต่
นคื
ชื่อของมัน ส่วน งศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธหอก’ และ ‘พื ้นฐานการเคลื่อนไหว’ หวังหยานเฟิ ง
ไม่คิดจะมองพวกมันด้ วยซํ ้า ทังสองเป็
้ นขันตอนการฝึ
้ กฝนพื ้นฐานและพื ้นฐานการเคลือ่ นไหวที่
ง่ายแสนง่าย ทําไมหลินหมิงถึงได้ เลือกวิชาเหล่านี ้
ความท้ าทายบางอย่าง?!
"หลินหมิง เจ้ าอย่างได้ คิดเรื่ องโชคชะตาฟ้าลิขิตแม้ อจั ฉริ ยะที่มีพรสวรรค์สงู ลํ ้าก็ไม่อาจฝึ กฝน
'หมัดสลายกระดูก’ เจ้ ายังมีโอกาสที่จะได้ เลือกทักษะต่อสู้ที่ทรงคุณค่ากว่านี ้ หากเจ้ ายังยืนยัน
ที่จะเลือกสิ่งนี ้เจ้ าจะเสียโอกาสที่มีคา่ นัน่ ไป น่าเสียดายอย่างมาก!
หลินหมิงยิ ้มและกล่าวว่า "ขอบคุณท่านอาจารย์ฮ่องซี ข้ าได้ พิจารณาเกี่ยวกับเรื่ องนี ้แล้ ว และ
ข้ าก็มนั่ ใจในการตัดสินใจของข้ า"
"งันก็
้ ทําตามที่เจ้ าต้ องการ" ฮ่องซีสา่ ยหัว อัจฉริ ยะเหล่านี ้ปากแข็งเกินไป พวกเขาจะไม่เปลี่ยน
จนกว่าพวกเขาได้ พบกับความผิดหวัง ดังนันเขาจะต้
้ องปล่อยให้ ศิษย์เช่นนี ้ได้ ผิดหวังเสียบ้ าง
ไม่เจ็บก็คงไม่จํา
เมื่อศิษย์ใหม่มาเลือกขันตอนการฝึ
้ กฝนจากแผ่นหยกที่ถกู ปิ ดผนึกเนื ้อหาเอาไว้ อยู่ หากไม่มีหิน
กุญแจเหล่านี ้ ไม่วา่ งจะด้ วยวิธีไหน พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นเนื ้อหาภายในได้
หลินหมิงเริ่ มที่จะรวมทังสองวิ
้ ชานันเข้
้ าไว้ ด้วยกัน เขาเริ่ มรู้สกึ เหนื่อยขณะที่เขาพยายามแกะ
รอยจุดเริ่ มต้ นของวิชา ‘ลื่นไหลดุจแพรไหม’
“การควบคุมการหายใจของสิ่งเล็กๆเหล่านันไม่
้ ใช่เรื่ องง่ายๆเลย แถมต้ องควบคุมให้ คล่องจน
มันเป็ นหนึง่ เดียวกันอีก”
ถึงแม้ วา่ การฝึ กจะไม่ได้ คบื หน้ าอะไรนัก แต่หลินหมิงก็เห็นหนทางลางๆข้ างหน้ าแล้ ว ไม่ช้าก็เร็ว
เขาต้ องไขปริ ศนานี ้ได้ แน่
หลินหมิงวางป้ายหยกนันแล้
้ วนอนลง น่าแปลกที่เขาไม่ได้ กินอะไรมาทังวั
้ น แต่ก็ไม่ได้ ร้ ูสกึ หิว
เลยแม้ แต่น้อย
...
พวกวิชาที่เป็ นที่นิยมนัน่ จําเป็ นจะต้ องจองไว้ ลว่ งหน้ า และระยะเวลาที่ยืมก็ขึ ้นอยูก่ บั อันดับของ
แต่ละคน บางวิชาก็มีศิษย์ถงึ 7 –8 คนรอฝึ กอยู่ และถ้ าได้ อนั ดับน้ อยๆก็จะได้ เรี ยนรู้มนั เพียง
แค่ไม่กี่วนั เท่านัน้
แต่ปกติคนที่ยืมส่วนใหญ่ก็จะเป็ นพวกศิษย์พี่ที่เคยฝึ กฝนวิชานันมาก่
้ อนแล้ ว พวกเขาต้ องการ
ยืมอีกครัง้ เพื่อพัฒนาและทบทวนวิชานันเพิ
้ ่มอีก
แต่ถงึ อย่างนันก็
้ ไม่ได้ มีกฎห้ ามไม่ให้ ยืมซํ ้า ตราบใดที่จ้ ยู นั คิดจะกลัน่ แกล้ งหลินหมิง หลินหมิงก็
อาจจะไม่ได้ ฝึกฝนกับแผ่นหยกนัน่ อีกก็เป็ นได้
“ข้ าเจออีกวิชาของมันแล้ ว”
เมื่อได้ ยินเช่นนัน้ จู้ยนั ก็รีบหันไปดูทนั ที และก็ต้องตกใจอีกครัง้ “พื ้นฐานการเคลื่อนไหว..”
MW#070 นํ ้าตกเยือกแข็ง
“งันก็
้ รอดูกนั ต่อไป ข้ าล่ะอยากรู้นกั ว่าอีกหนึง่ วิชาที่มนั เลือกคือเป็ นวิชาแบบไหน”
หลินหมิงมันเพี ้ยนไปแล้ วหรื อไง ตอนที่มนั เลือก พื ้นฐานการใช้ หอก แล้ วก็พื ้นฐานการ
เคลื่อนไหว พวกเขายังเข้ าใจว่ามันอาจจะมีลบั ลมคมในบ้ างอย่างในวิชาเหล่านัน้ แต่เมื่อมาเจอ
แบบนี ้เข้ า ทําให้ พวกเขามัน่ ใจได้ วา่ หลินหมิงก็เป็ นแค่คนโง่ๆคนหนึง่ เท่านัน้
จู้ยนั พูดต่อ “ซางฉาง ถึงมันจะเลือกวิชาที่ออ่ นด้ อยเช่นนี ้ แต่เจ้ าจงระวังเอาไว้ ก่อนจะดีที่สดุ ถึง
ยังไงหลินหมิงมันก็เป็ นถึงอันดับที่ 126 แม้ วา่ อาจจะเป็ นเพราะ ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง กับ
ยาโอสถพญางูทองคําการที่มนั สามารถดูดซับพลังของยาโอสถสองอย่างนันได้ ้ ก็ทําให้ ข้าแปลก
ใจอย่างมาก มันอาจมีความลับอะไรบางอย่าง”
“อย่าได้ กงั วลไป ยังไงมันก็เป็ นได้ แค่สวะ ในอีก 20 วัน ข้ าจะเอาชนะมันให้ เจ้ าได้ เห็นกับตา”
“ฮ่า ไม่ใช่แค่เอาชนะ เจ้ าต้ องทําลายความมัน่ ใจของมันด้ วย ทําให้ มนั ทรมานให้ มากที่สดุ เท่าที่
กฎของที่แห่งนี ้จะยอมรับได้ เจ้ าสามารถทําให้ มนั พิกาล และเมื่อเป็ นเช่นนัน้ แม้ แต่ยาโอสถลํ ้า
ค่าก็รักษะให้ มนั กลับมาหายดีไม่ได้ อย่างแน่นอน เจ้ านัน่ มันคิดว่ามันจะเอาชนะข้ าและพา
ผู้หญิงของมันกลับไป ข้ าจะเหยียบยํ่ามัน ให้ จมดินจนเงยหัวไม่ขึ ้น” จู้ยนั พูดด้ วยสายตาเย็นชา
เขากําหมัดแน่นประดุจจะขยี ้หลินหมิงให้ ตายคามือ
...
สถานที่ฝึกฝนทังเจ็
้ ดนันไม่
้ ใช้ สถานที่ฝึกฝนธรรมดาๆ แต่เป็ นการฆ่าจริ งตายจริ ง ซึง่ สถานที่
ฝึ กฝนแบบธรรมดานัน่ จะสร้ างภาพลวงตาและฆ่ากันในฝั นเท่านัน้ ทันทีที่ออกมาจากความฝั น
สิ่งเหล่านันก็
้ กลายเป็ นเพียงเรื่ องสมมุติ แต่สถานที่ฝึกฝนทังเจ็
้ ดนี ้คือของจริ งซึง่ สามารถพัฒนา
ทักษะทางกายภาพได้ ด้วย
และอันดับที่สงู กว่า 150 ก็จะคิดเป็ นชัว่ โมง ถ้ าอันดับ 50 ขึ ้นไป จํานวนชัว่ โมงในการฝึ กฝน
ในสถานที่แห่งนี ้จะเพิ่มขึ ้นทุกๆสิบอันดับ และ3อันดับแรก จะได้ ฝึกฝนในสถานที่เหล่านี ้ถึง 10
วันในแต่ละเดือน โดยไม่จําเป็ นต้ องแจ้ งเวลาที่จะเขาไปฝึ กฝนล่วงหน้ า
หลินหมิงมีอนั ดับที่ 126 เขาสามารถเข้ าฝึ กได้ 2 วัน แต่เขาจําเป็ นต้ องแจ้ งเวลาที่จะเข้ าไว้
ล่วงหน้ าก่อน ซึง่ หากเขาไม่ได้ มาในเวลาที่ได้ แจ้ งเอาไว้ สิทธิในการเข้ าไปฝึ กฝนก็จะสูญเปล่า
“เหล่าศิษย์จงฟั ง พวกเจ้ าทุกคนจะได้ รับเวลาในการเข้ าฝึ กฝนเพิ่มขึ ้นอีก 1 ชัว่ โมง ก่อนที่พวก
เจ้ าจะเข้ าไปฝึ กฝน พวกเจ้ าต้ องให้ อาจารย์ที่ดแู ลอยูต่ รวจสอบและเลือกระดับในการฝึ กฝนให้
เหมาะสมกับพวกเจ้ าเสียก่อน มาดูนี ้ก่อน” อาจารย์ผ้ ดู แู ลพูดด้ วยนําตํ่าๆ
“หนาวเหี ้ยๆ”
“มีคนบอกว่า บึงแห่งนี ้ ลึก ถึง1000 ฟุต ไม่ร้ ูหรอกว่าวัดได้ ไง ถ้ าเป็ น ข้ าในตอนนี ้อย่าว่าแต่
1000ฟุตเลย 10 ฟุตก็แย่แล้ ว คนที่ลงไปวัดได้ นี่เซียนแท้ ”
นํ ้าแห่งนี ้ยิ่งลึกลงไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งหนาวเหน็บมากเท่านัน้ หลินหมิงไปสงสัยเลยว่าหากคน
ธรรมดาๆเข้ ามาที่แห่งนี ้จะต้ องแข็งตายภายในไม่กี่วินาทีเลย
“มือของข้ าเริ่ มจะแข็งซะแล้ วสิ โหดจริ งๆ” หลินหมิงได้ ดําลงไปอีก 30 ฟุต ในตอนนี ้หลินหมิง
รู้สกึ ได้ ถงึ ความหนาวเหน็บอันมหาศาลกําลังถาโถมมาที่เข้ าอย่างไม่หยุดหย่อน เขาดําลงไปลึก
กว่านี ้ไม่ได้ อีกแล้ ว
หลินหมิงได้ สําเร็จขันแรกของวิ
้ ชาปฐมบทแห่งความโกลาหลมาแล้ ว ดังนันจึ
้ งดึงพลังได้ เร็ วขึ ้น
มาก แต่นี ้มันเร็วกว่าอีกหลายขุมเลย พูดได้ วา่ มันเหมือนเป็ นสองเท่าของครัง้ ก่อนเลย
ว่ากันว่าบางครัง้ ยอดนักสู้ก็ได้ อยูใ่ นสถานะที่ไม่คาดคิด ซึง่ เรี ยกว่า ‘เห็นแจ้ งไร้ จิต’ หนังสือบาง
เล่มได้ บนั ทึกเอาไว้ วา่ มีคนนัง่ อยูใ่ ต้ ต้นโพธิ์และทําสมาธิเป็ นเวลาหนึง่ คืน ทังคื
้ นนัน่ ผมเขากลับ
เปลี่ยนเป็ นสีขาว และตืน่ ขึ ้นมาพบว่าวิชาของตนได้ สําเร็ จโดยสมบูรณ์แล้ ว หรื อบางเล่มก็กล่าว
ไว้ วา่ บางคนก็เกิดเหตุการณ์แบบนี ้ขึ ้น และกลายเป็ นผู้อมตะ และทําลายช่องว่างของความเป็ น
และความตายได้
เพราะว่าเขาไม่สามารถไปอยูส่ ถานะแบบนันได้
้ อกี เขาจึงเริ่ มใช้ ความเย็นจากนํ ้านันฝึ
้ กร่างกาย
ของเขาต่อ และด้ วยพลังจากยาผสานวิญญาณด้ วย ทําให้ ตวั ทังตั
้ วของเขาเต็มไปด้ วยพลัง
อย่างล้ นเหลือ
ในขันที
้ ่สองนันพลั
้ งจะเพียงแค่ปกคลุมกล้ ามเนื ้อรอบตัวเท่านัน้ แต่ขนที
ั ้ ่สาม พลังจะปกป้องไป
ถึงอวัยวะภายในด้ วย ขันที
้ ่สี่และห้ าก็เช่นกัน มันจะยิ่งหลอมรวมเข้ ากับร่างกายยิ่งๆขึ ้นไปอีก
แต่โดยปกติแล้ ว นักสู้เขาใส่พลังลงไปเพียงกล้ ามเนื ้อเท่านัน้ ซึง่ จะมีบางจุดเท่านันที
้ ่ไม่สามารถ
้ ได้ เราเรี ยกมันว่า “ช่องโหว่”
ดูดซับพลังเหล่านันไว้
เมื่อรู้แบบนันแล้
้ ว ลินหมิงก็หายใจเข้ า ไม่แปลกใจเลยที่ทําไมคนที่อยูใ่ นขันชี ้ พจรส่วนใหญ่จะ
มาจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ มันมีที่ฝึกดีๆแบบนี ้ การที่จะเข้ าสูข่ นชี
ั ้ พจรก็เลยง่ายกว่าคนอื่นๆเยอะ
ไม่ต้องพูดถึงหลิงเซ็น กับ ทาคุ และคนที่เก่งๆอีกมากเลย แถมมียาดีๆกินอีก ไม่สงสัยเลยว่า
ทําไมไปถึงขันชี
้ พจรกันได้ หมด
“ข้ าต้ องไต่อนั ดับให้ เร็วที่สดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้ เพื่อที่จะได้ ฝึกที่แบบนี ้ได้ นานๆซะแล้ วสิ”
MW#072 สําเร็จอาคมรักษาวิญญาณ
...
...
...
"ไม่จําเป็ นต้ องสุภาพนักก็ได้ ชื่อของข้ าคือ ซี่ดง สองปี ก่อนข้ าก็เป็ นศิษย์ของสํานักเจ็ดแก่นแท้
และข้ าก็จบออกมา ศิษย์อย่างเจ้ าไฟแรงเช่นวัยหนุ่มสาวจริ งๆ เจ้ ามีโอกาสก้ าวหน้ าอย่างไม่มีที่
สิ ้นสุดในอนาคต หากเจ้ ามีคําถาม อย่าได้ ลงั เลที่จะถามข้ า”
"ขอบคุณศิษย์พี่" หลินหมิงกล่าวและขอตัวออกมา
...
'อาคมรักษาวิญญาณ’ สําเร็จ!
หลินหมิงเอาแผ่นจารึกออกมา เขาค่อยๆวาง ‘อาคมรักษาวิญญาณ’ ลงไปอย่างทะนุถนอม
เพียงแค่แผ่นจารึกเล็กๆที่มี ‘อาคมรักษาวิญญาญ’ ระดับตํ่าอยู่ ใครจะรู้วา่ หลินหมิงต้ องแลก
ด้ วยเงินทองและเวลาไปมากเท่าไรเพื่อสิ ้งเล็กๆสิ่งนี ้ แผ่นจารึกนันเต็
้ มไปด้ วยพลังปราณที่พรุ่ง
พร่าน เขารู้สกึ พึงพอใจเป็ นที่สดุ
เมื่อคิดได้ เช่นนัน้ เขาก็ยิ่งตื่นเต้ าเข้ าไปอีก แต่เขาก็ยงั ไม่ได้ ใช้ จารึกโอสถของเขาในทันที เขาเก็บ
มันเอาไว้ อย่างดี และไปอาบนํ ้าชําระร่างกาย หลังจากนันเขาก็ ้ นงั่ ทําสมาธิและปรับการหายใจ
ของทุกสิ่งเล็กๆในร่างกายเพื่อให้ สภาพร่างกายของเขามีความพร้ อมมากที่สดุ
ดังนันก่
้ อนที่จะใช้ ยาเหล่านัน้ หลินหมิงจะต้ องแน่ใจว่าร่างกายและจิตใจของเขาจะอยูใ่ น
สภาวะที่พร้ อมที่สดุ
------------------------
...
...
...
สําเร็ จ!
หลินหมิงค่อยๆประคองยาโอสถพญางูทองคําที่มีสญ
ั ลักษณ์เปลวเพลิงเข้ าไปในปากแล้ วกลืน
มันลงไป
พลังแห่งการฝึ กฝนขันที
้ ่สาม ขันอวั
้ ยวะภายใน!
หลังจากที่ประสบความสําเร็จในการฝึ กฝนขันที
้ ่สาม หลินหมิงรู้สกึ ได้ ถงึ แรงดันในร่างกาย พลัง
ปราณของเขาสามารถสามารถย่อยสลายและดูดซึมพลังแห่งความเย็นที่ยงั หลงเหลืออยู่
เหล่านันได้
้ ด้วยตัวเอง
ในตอนนี ้ หลินหมิงได้ รอดชีวิตจากการถูกแช่แข็งจากภายในร่างกายแล้ ว และดูดซึบพลังความ
เหนาวเย็นของยาโอสถพญางูทองคําอย่างสมบูรณ์แบบ
--------------------------
“ปึ งง”
“3900 จิ๋น”
...
นี่ก็21วันมาแล้ วตังแต่
้ หลินหมิงได้ มาอยูท่ ี่สํานักเจ็ดแก่นแท้ แห่งนี ้
“หืม ระดับแปดงันรึ
้ ” ซี่ดงรู้สกึ แปลกใจ ที่ความยากระดับแปดนันเหมาะสํ
้ าหรับ อันดับที่ 80
–110 เจ้ าจะฝึ กที่ความยากระดับนันจริ
้ งๆหรื อ?” เขาเองก็ร้ ูสกึ ได้ ถงึ การเปลี่ยนแปลงของ
หลินหมิง “ศิษย์น้อง เจ้ าพัฒนาขึ ้นอีกขันแล้ ้ ”
้ วงันรึ
“งันเตรี
้ ยมตัวได้ ” ซี่ดงพยักหน้ าและทําตามที่หลินหมิงร้ องขอ
หลังจาก15นาทีนนั ้ หลินหมิงก็แบกหอกและเดินเข้ าไปสูน่ ํ ้าตกเยือกแข็ง ซี่ดงสังเหตเห็นว่าทุก
ย่างก้ าวของหลินหมิงนันหนั
้ กหน่วงอย่างมาก หญ้ าที่ถกู เหยียบจมลงไปใต้ พื ้นดิน
หลินหมิงพยายามควบคุมอนุภาคทังหลายในร่
้ างของเขาและใช้ การสัน่ สะเทือนอนุภาค
เหล่านันช่
้ วยพยุงสภาพร่างกายเอาไว้
หอกนันเป็
้ นอาวุธยาวและแข็งแกร่ง หากผสานเข้ ากับพลังปราณและวิชาอื่นๆ มันจะกลายเป็ น
เครื่ องมือสังหารที่ทรงพลังอย่างมาก คนที่อยูท่ ร่ามกลางสนามรบที่อาจต้ องต่อสู้กบั ศัตรู
มากมายพร้ อมๆกันล้ วนใช้ หอกเป็ นอาวุธกันทังนั ้ น้ ไม่มีใครใช้ ดาบในสงคราม
แต่ในทางกลับกัน ยิ่งสันก็
้ ย่ิงเบา ถึงดาบจะด้ อยกว่าหอกในด้ านพลังการทําลายล้ าง แต่มนั
เหนือกว่าในด้ านความแม่นยําและความรวดเร็ ว และมีดก็จะเหนือกว่าดาบขึ ้นไปอีก ไม่สงสัย
เลยว่าทําไมเหล่านักฆ่าถึงใช้ อาวุธจําพวกมีดกันเต็มไปหมด มันสามารถปลิดชพศัตรูได้ อย่าง
รวดเร็ วและแม่นยํา
นันคื
้ อสาเหตุวา่ ทําไมก่อนฝึ กวิชาหอก เขาจึงต้ องฝึ กฝนความแม่นยํามาก่อน
เพราะเหตุนนั ้ ขันแรกของการฝึ
้ กหอกไม่ใช่การใช่มนั กวัดแกว่งไปมาแต่เป็ นการฝึ กใช้ มนั ให้ มี
แม่นยํามากที่สดุ เวียก่อน
ตอนนี ้หลินหมิงยกหอกทะลวงสายรุ้งด้ วยมือทังสองข้
้ าง และสองส่วนสามของหอกก็ถกู
กระแสนํ ้าที่ตกลงมากดทับอยูด่ ้ วยแรง1000จิ๋นอยูต่ ลอดเวลา
“หนักเป็ นบ้ า”
------------------------
MW#075 วันแห่งการเดิมพัน
…
...
หลังจากนันอี
้ กสองวัน ก็เป็ นเวลาหนึง่ เดือนพอดีนบั จากที่หลินหมิงเข้ ามาในสํานักเจ็ดแก่นแท้
หลินหมิงตืน่ นอนก่อนเวลาปกติ เขายืนอยูห่ น้ าประตูที่พกั ของเขาอย่างสุขมุ และหยิบหอก
ทะลวงสายรุ้งของเขาออกมา มันเหมือนกับกลายเป็ นส่วนหนึง่ ของร่างกายเขาไปแล้ วในตอนนี ้
...
แม้ วา่ ตอนนี ้จะเป็ นฤดูใบไม้ ร่วง แต่ดวงอาทิตย์ก็ยงั ส่งไอร้ อนไปทัว่ ทุกพื ้นที่ เป็ นเวลาที่พลังห
ยางหนาแน่นที่สดุ ในอากาศ ซึง่ เวลาแบบนี ้คนส่วนใหญ่จะไม่คอ่ ยออกมาข้ างนอก แต่ตอนนี ้ที่
ลานประลองสํานักเจ็ดแก่นแท้ กลับเต็มไปด้ วยฝูงชนนับไม่ถ้วน
หนึง่ ในนันมี ้ สีหน้ าดูซีดๆ เย็นชา เขาสะพายดาบสีดําทมิฬไว้ บนหลัง เพียงแค่ยา่ งก้ าวธรรมดาๆ
ก็ทําให้ ร้ ูสกึ ได้ ถงึ แรงกดดันที่แผ่ออกมาอย่างรุนแรง
“หลิงเซ็น!”
“ทาคุ!”
MW#076 หลิงเซ็นและทาคุ
...
...
...
เรื่ องแบบนันไม่
้ ได้ เกิดขึ ้นกับ ซางฉาง หรื อ ลุย่ หมิงเซียง แม้ วา่ พวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่ในสองปี
ที่ผ่านมานี ้พวกเขาทังสองยั
้ งไม่สามารถที่จะก้ าวเข้ าสูอ่ นั ดับ100อันดับแรกของสํานักได้ ด้วย
ซํ ้า อย่างพวกเขาทังสอง
้ จึงไม่ใช่บคุ คลที่หลิงเซ็นและทาคุให้ ความสําคัญ หวังยานเฟิ งก็เอง
เช่นกัน แม้ เขาจะมีพรสวรรค์สงู ถึงระดับสี่ขนสู
ั ้ ง แต่การจัดอันดับในครัง้ แรกของเขาก็ไม่น่า
พอใจเท่าที่ควร เขาเป็ นคนที่น่าสงสาร ดังนันศิ ้ ษย์หน้ าใหม่ที่ควรค่าต่อความสนใจของพวกเขา
ก็มีเพียง หลินหมิงเท่านัน!
้
ลุย่ หมิงเซียงก็ร้ ูสกึ ไม่ตา่ งกัน "ซางฉาง ไม่เพียงแต่พวกเราต้ องชนะเท่านัน้ พวกเราต้ องชนะแบบ
ขาดลอย ภายในห้ ากระบวนท่าเราจะทําให้ พวกเด็กนัน่ ลงไปนอนกองอยูแ่ ทบเท้ าของพวกเรา
ให้ ได้ ไม่เช่นนันผู
้ ้ คนที่มาดูได้ เห็นพวกเราเป็ นสวะแน่ ! "
"ฮึ ข้ าจะสลักบาดแผลร้ ายแรงไว้ บนร่างของมัน ให้ มนั เสียใจที่ได้ มาเดิมพันกับข้ าไปชัว่ ชีวิต"
ในขณะซางฉางพูด เขาก็หยิบมีดเรี ยบยาวขึ ้นมาด้ วยสายตาเย็นชา การได้ รับบาดแผลร้ ายแรง
จะส่งผมกับการฝึ กฝนในอนาคต
ดังนันสํ
้ าหรับอาวุธประเภทนี ้ อาวุธระดับสมบัติอาจจะด้ วยกว่าอาวุธที่ถกู ตีขึ ้นจากเหล็กเหนียว
ทมิฬเสียอีก!
พรสวรรค์ของหลิงเซ็นนันถ้ ้ อยกว่าขันที
้ ่สี่ ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ ศิษย์ที่มีพรสวรรค์เช่นเดียวกับเขา
ก็ยงั จัดว่าพอใช้ ได้ สิ่งที่ทําให้ เขามาอยูบ่ นบนอันดับที่สงู ส่งเช่นนี ้ได้ ก็เป็ นเพราะจิตใจแห่งนักสู้ที่
เข้ มแข็งของเขา เขาได้ เห็นเงาของตัวเองในตัวหลินหมิง เขาสัมผัสได้ วา่ จิตใจแห่งนักสู้ของ
หลินหมิงนันเข้
้ มแข็งกล้ าหาญกว่าจิตใจของเขาเสียอีก เขาต้ องการที่จะรอดูปาฏิหาริ ย์ของ
หลินหมิง
หลิงเซ็นกล่าวว่า "ข้ าก็ไม่ได้ แน่ใจว่าหลินหมิงจะชนะหรื อแพ้ แต่ส่งิ ที่ข้ามัน่ ใจก็คอื ในตอนที่
หลินหมิงอยูใ่ นอาคมหมื่นอสูรสังหาร การฝึ กฝนของเขาอยูบ่ นจุดสูงสุดของขันที ้ ่สอง และ
ในตอนนี ้เขาก็มีการฝึ กฝนในขันที้ ่สามอย่างสมบูรณ์และมีเสถียรภาพ"
"ฮึ ขันที
้ ่สามแล้ วยังไง มันมีทกั ษะ 'ศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธหอก' และ 'พื ้นฐานการ
เคลื่อนไหว' ต่อให้ มนั สามารถฝึ กทักษะทังสองได้
้ สําเร็ จในหนึง่ เดือน มันก็ไม่ได้ มีพิษสงใดกับข้ า
ไอ้ หมาขี ้ขลาดที่เลือกวิชาคนงี่เง่าพวกนันจะไปทํ
้ าอะไรข้ าได้ ทักษะวิชาของข้ านันวิ ้ องไวดุจสาย
ลม พริ ว้ ไหวดุจสายนํ ้า หอกเทอะทะของมันไร้ ซงึ่ โอกาสที่จะเกี่ยวถูกชายผ้ าของข้ า! "
----------------------
ลุย่ หมิงเซียงเป็ นคนแรกที่ก้าวกระโดดขึ ้นมาบนเวที เขาชี ้หน้ าหวังยานเฟิ งด้ วยดาบของเขา และ
แสยะยิ ้มพร้ อมกับกล่าวว่า “หวังยานเฟิ ง ถึงเวลาได้ รับความพ่ายแพ้ ของเจ้ าแล้ ว”
“ฮึ” หวังยานเฟิ งคํารามในลําคอ และก้ าวขึ ้นไปบนเวทีอย่างห้ าวหาญ วันนี ้จะเป็ นวันชี ้ชะตา
ศึกระหว่างพวกเขาทังสอง
้
“โงเง่าเสียจริ ง แค่วิชาขันกลางอย่
้ าง “การจู่โจมฟ้าคําราม’ ที่ใช้ เวลาฝึ กฝนมาเพียงเดือนเดียว
จะไปเทียบกับวิชา ‘กาบราชันสวรรค์พินาศ’ วิชาขันสู
้ งของข้ าได้ อย่างไร’ ลุย่ หมิงเซียงตะโกน
ออกมา ดาบยาวที่รวบรวมพลังปราณเอาไว้ อยูถ่ กู ฟาดฟั นลงมาอย่างรุนแรง มันดูเหมือนหลุม
ดําที่สามารถกลืนกินทุกสรรพสิ่งได้
“เป็ นเรื่ องธรรมดา ศิษย์พี่จะแพ้ ให้ กบั ศิษย์น้องได้ ยงั ไงกัน เรามาที่นี ้ก็เพื่อฝึ กฝนไม่ใช่รึไง ถึง
เกิดแพ้ พวกศิษย์น้องขึ ้นมาความภูมิใจทังหมดก็้ สญ
ู เปล่า หลินหมิงเองก็เช่นกัน เขาก็จะต้ องแพ้
ให้ กบั ซางฉางอย่างแน่นอน” พวกศิษย์พี่จากของห้ องพสุธาพูดคุยกัน
-------------------------------
MW#078 มือเปล่าปะทะดาบ
“ทังๆที
้ ่มนั ต้ องเผชิญหน้ ากับซางฉาง มันยังไม่รีบเอาอาวุธออกมาอีก ดาบของซางฉางเลื่องลือ
ในด้ านความเร็ว และอาวุธของหลินหมิงยังเป็ นหอกหนักๆ และยังทักษะและประสบการณ์ที่
ต่างกันของพวกเขา เป็ นไปได้ วา่ หลินหมิงอาจไม่มีโอกาสได้ หยิบหอกนัน่ ออกมาก็ได้ เขาจะแพ้
โดยที่ยงั ไม่ทนั ได้ ใช้ อาวุธ”
้ อ?!
มือเปล่ากับดาบอย่างนันหรื
...
ขณะที่ทาคุร้ ูสกึ ว่าหัวใจเต้ นแรงด้ วยความตื่นเต้ น เจ้ านัน่ พึง่ เข้ ามาในสํานักได้ เดือนเดียว กลับ
สามารถต่อสู้กนั อันดับ100ต้ นๆได้
...
เหมือนอย่างที่หลิงเซ็นเคยพูดไว้ เขาไมได้ สมั ผัสที่ปลายดาบ หลินหมิงนันมี
้ ความรวดเร็ วและ
แม่นยําอย่างเหลือเชื่อ
--------------------------
...
...
"ซางฉางมีวิชาขันสู
้ งระดับนันได้
้ อย่างไรกัน มันเป็ นวิชาขันสู
้ งของการใช้ ทกั ษะดาบ!"
"นันมั
้ นทักษะพื ้นฐาน ‘ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก' !? หลินหมิงจะใช้ วิชาขันพื
้ ้นฐานอย่าง
'ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก' รับมือกับวิชาขันสู
้ ง 'ผ่าอาทิตย์อสั ดง' อย่างนันหรื
้ อ? เขาบ้ าเกินไป
แล้ ว!
"หลินหมิงแกตาย!"
แข็งแกร่งอย่างยิ่ง!
้ นํ ้า '!
เขาดูทรงพลังในขณะใช้ ทกั ษะ "สะพานเหล็กกันแม่
ปั ง!!
การปะทะกันของคลื่นพลังปราณที่รุนแรงทังสอง
้ ทําให้ เกิดเป็ นเกล็ดพลังปราณสีแดงกระจาย
ไปทัว่ ท้ องฟ้า คลื่นพลัง ‘ผ่าอาทิตย์อสั ดง’ ถูกทลายราวกับเมฆที่พงุ่ เข้ ามาปะทะกับคลืน่ ทะเล
หลังจากนันเขาก็
้ มอบหินพลังปราณทัง20ให้
้ กบั หลินหมิง และแบกซางฉางไว้ บนไหล่พร้ อมกับ
เดินจากไป
“หลินหมิงชนะแล้ ว ตังแต่
้ ต้นจนจบ เข้ ายังไม่ได้ เคลื่อนที่เลยแม้ แต่ก้าวเดียว วิชา ‘สะพานเหล็ก
กันแม่
้ นํ ้า’ แข็งแกร่งจริ งๆ ทาคุพดู ด้ วยความตื่นเต้ น แม้ วา่ ในตอนนี ้หลินหมิงจะไม่ใช้ คมู่ ือของ
เขา แต่เวลาที่พวกเขาจะต้ องประมือกันก็คงอีกไม่นานซักเท่าไร”
หลิงเซ็นตอบ “อนาคตของแต่ละคนนันเป็
้ นสิ่งไม่เที่ยง หลินหมิงจะต้ องมีเจตจํานงแห่งการต่อสู้
ที่ทรงพลังอยูก่ ็เป็ นได้ เจตจํานงแห่งการต่อสู้เช่นเดียวกับ ‘อาชูร่า’ ของข้ า แต่จิตวิญญาณแห่ง
้ อกว่าข้ าเสียอีก ข้ าอยากรู้จริ งๆว่าเจตจํานงแห่งการต่อสู้ ของเขากับ ‘อาชู
นักสู้ของเขานันเหนื
ร่า’ ของข้ า เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของใครจะทรงพลังกว่ากัน
หลิงเซ็นมีการฝึ กฝนเพียงขันที
้ ่สี่ ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ มีอจั ฉริ ยะอีกหลายคนที่เหนือกว่าเขา
โดยเฉพาะคนในรุ่นเดียวกับเขา เช่น ทาคุ และซางกวนยู่ ที่มีการฝึ กฝนในขันที ้ ่ห้า
ตํานานกล่าวไว้ วา่ สามล้ านปี ก่อน มีปรมาจารย์คนหนึง่ นัง่ อยูใ่ ต้ ต้นไม้ ใหญ่ เขานัง่ ฝึ กสมาธิอยู่
เป็ นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน เมื่อเขาตื่นขึ ้นมา เขาก็ได้ กลายเป็ นอมตะ แต่ก็ไม่มีใครรู้วา่ มันเป็ นเรื่ อง
จริ งหรื อไม่
แต่หลินหมิง เมื่อเขาได้ ดาํ ลงไปในนํ ้าตกเยือกแข็ง เขาก็บงั เอิญได้ เข้ าสูส่ ภาวะนัน้ พลังปราณ
ของเขาโคจรไปตามสัญชาติญาณ ซึง่ ความแม่นยําและความรวดเรฌวของมันเหนือกว่าใน
ขณะที่หลินหมิงควบคุมเสียอีก และท้ ายที่ก็ทําให้ เขาสําเร็ จขันแรกของ
้ ‘ปฐมบทแห่งความ
โกลาหล’
พลังของเขานันแข็
้ งแกร่งถึงขันที ้ ่จะสามารถท้ าทายสวรรค์ได้ การที่หลิงเซ็นกล่าวว่า หลินหมิงก็
อาจจะมีพลังลึกลับเช่นนี ้ มันทําให้ ทาคุไม่อยากจะเชื่อ
“อย่างนันรึ
้ หลินหมิงช่างน่าสนใจเสียจริ ง ข้ าจะสู้กบั เขาในซักวันหนึง่ ” ขณะที่ทาคุพดู เขาก็กํา
มือข้ างหนึง่ ทุบเข้ ากับมืออีกข้ างหนึง่ อย่างได้ อารมณ์
...
ณ เมืองลิขิตฟ้า
จู้ยนั ยกถ้ วนนํ ้าชุบขึ ้นมาจิบ เมื่อเขาวางถ้ วยลงบนโต๊ ะและนําผ้ าเช็ดปากมาเช็ด เขาก็เอ่ยขึ ้นมา
“เธอคิดอะไรอยูอ่ ย่างนันหรื
้ อ”
“ไม่มีอะไร ชันไม่
้ ได้ คิดอะไรทังนั
้ น”้ หลานยุนเยียส่ายหัวทันควัน ต่อหน้ าจู้ยนั เธอรู้สกึ ถึงแรง
กดดันบางอย่างที่กําลังกดดันเธออยู่ ระหว่างเขาและเธอ ไม่ได้ ดเู หมือนคูร่ ักกันเลย ดูเหมือน
พระราชากับนางสนมเสียมากกว่า แน่นอนว่าปกติแล้ วนางสนมจะต้ องกลัวพระราชาอยูแ่ ล้ ว
จู้ยนั ยิ ้มให้ เธอ ถึงเขาจะยิ ้มอย่างเป็ นมิตร แต่ในแววตาก็เต็มไปด้ วยความเย็นชา วันนี ้เป็ นวัน
ประลองระหว่างหลินหมิงกับจู้ยนั แน่นอนว่าเธอเองก็ร้ ู
-------------------------------
ขณะนันเองก็
้ มีเสียงเคาะประตูดงั ขึ ้น
“เข้ ามาได้ ” จู้ยนั กล่าว
ประตูถกู เปิ ดเข้ ามาอย่างช้ าๆ เผยให้ เห็นคนรับใช้ คนหนึง่ ของจู้ยนั เขาเดินเข้ ามาก้ มหน้ าและ
กระซิบถ้ อยคําบางอย่างข้ างๆหูของจู้ยนั
เพล้ ง!!
ถึงอย่างนันด้
้ ามของมันที่ยื่นออกไปข้ างหน้ าก็ไม่ได้ ตรงซักเท่าไร หลินหมิงวางหอกไว้ บนหิน
และแบกทังหมดนั
้ น่ ไว้ บนไหล่
ปึ งง!
-------------------------
MW#082 อํานาจและชื่อเสียง
…
เมื่อได้ เห็นเศษหินที่แตกกระจายออกไปทุกทิศทาง หลินหมิงก็ถอนหายใจเบาๆ
...
อาคมหมื่นอสูรสังหารนันอยู
้ บ่ นหุบเขาที่ถกู ล้ อมด้ วยต้ นไผ่อนั แหลมคม ซึง่ มันทังสู
้ งและแข็ง
แม้ แต่ใบของมันก็ยงั คมกริ บ
เพื่อแยกศิษย์ที่มีความตังใจที
้ ่จะทดสอบกับศิษย์ที่มาทดสอบเพื่อเล่นสนุกออกจากกัน สํานัก
เจ็ดแก่นแท้ จงึ ได้ ออกกฎมาว่า ทุกๆครัง้ จะเข้ าทดสอบ จะต้ องวางหินพลังปราณไว้ ก่อนก้ อนนึง
และถ้ าหากผลการทดสอบที่ออกมาสูงขึ ้นกว่าเดิมไม่ถงึ 5 อันดับ พวกเขาก็จะไม่ได้ รับหินพลัง
ปราณก้ อนนันคื
้ น
ในหมูค่ นพวกนันไม่
้ ได้ มีแต่คนของสํานักเจ็ดแก่นแท้ เท่านัน้ ยังมีคนจากภายนอกเข้ ามา
เหมือนกัน พวกเขาได้ รวมตัวกันและชมอยูห่ า่ งๆที่มมุ ๆหนึง่ ของหุบเขา พวกเขาเหล่านันคื
้ อคนที่
ถูกส่งมาจากพวกตระกูลใหญ่ๆ หน้ าที่พวกเขาก็คือการรายงายผลของเหล่าศิษย์ที่น่าสนใจให้
เจ้ านายของพวกเขาฟั ง
พวกผู้สงั เกตการณ์เหล่านัน้ ที่มาที่หบุ เขาห่งนี ้เพื่อเป็ นหูเป็ นตาให้ กบั เจ้ านายจึงได้ แต่
สังเกตการณ์อยูห่ า่ งๆ ผู้ที่มาสังเกตการณ์เหล่าศิษย์ในครัง้ นี ้ไม่ได้ มีแต่พวกขี ้ข้ าจากตระกูล
ใหญ่ๆเท่านัน้ อย่างเช่น ชายในผ้ าคลุมทังสี ้ ่คนนี ้ พวกเขาคือทหารผู้เก่งกล้ าที่ถกู ส่งมาจาก
เจ้ าชายองค์ปัจจุบนั !
------------------------------
...
...
...
แม้ วา่ อาณาจักรลิขิตฟ้าจะมีนกั สู้ระดับปราณต้ นฟ้าอยูห่ ลายคน เช่น ฉินเสีย่ ว มูย่ ี่ และคนอื่นๆ
ที่มีเป็ นระดับปราณต้ นฟ้า และต่อให้ พวกเขาทังหมดในอาณาจั
้ กรยอมร่วมมือกัน ก็ยงั ไม่อาจที่
จะต้ านพลังของนักสู้ที่ถกู ส่งมาจาก หุบเขาเจ็ดแก่นแท้ ทง3-4คนนั
ั้ นได้
้
ดังนันเมื
้ ่อจักรพรรดิไม่เห็นด้ วยกับคําสัง่ ของสํานักเจ็ดแก่นแท้ สิ่งที่รออยูก่ ็คือความพินาศของ
ราชวงศ์เท่านัน้ จากนันทางหุ
้ บเขาเจ็ดแก่นแท้ ก็จะจัดตังจั
้ กรพรรดิคนใหม่ขึ ้นมาปกครองดูแล
อาณาจักร
ทางหุบเขาเจ็ดแก่นแท้ จะจัดตังสํ
้ านักที่ทรงพลังและทรงอํานาจอย่างสํานักเจ็กแก่นแท้ ในทุกๆ
อาณาจักรที่พวกเขาปกครอง เพื่อที่จะสรรหานักสู้อฉั ริ ยะที่จะมาเข้ ารวมกับพวกเขา รวมถึงเพื่อ
รับหน้ าที่ปกครองอาณาจักรของพวกเขา
ดังนันสํ
้ าหรับสํานักเจ็ดแก่นแท้ พระราชวงศ์จงึ ไม่กล้ าที่จะเข้ าไปรบกวนและยังต้ องพึงระวังใน
การกระทําของพวกเขาที่จะไปกระทบต่อสํานักเจ็ดแก่นแท้
ทังหลิ
้ นเซ็น และทาคุ พวกเขามาจากกองทัพ ซึง่ เป็ นกองกําลังทหารจาก กองกําลังติดอาวุธ
ทางตะวันตกเฉียงใต้ ภายใต้ อํานาจของเจ้ าชายองค์ที่แปด ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะมาร่วมมือ
กับองค์ชายที่สามรัชทายาทคนปั จจุบนั อย่างแน่นอน
“ขอรับ!”
“งานนี ้ เราจะต้ องทําให้ สาํ เร็จ เราจะล้ มเหลวไม่ได้ ถ้ าเราเอาชนะใจหลินหมิงไม่ได้ อย่างน้ อยก็
วหลุดกันหมดแน่”
ต้ องห้ ามให้ เขาไม่ร่วมมือกับองค์ชายที่สิบเด็ดขาด ไม่อย่างนันพวกเราหั
้
“ขอรับ!”
MW#084 การรวมตัวของยอดยุทธ
หลังจากที่พดู คําพูดนันออกมาไม่
้ กี่อดึ ใจ หลินหมิงก็ปรากฏอยูท่ ี่มมุ หนึง่ ของดงไผ่ คนพวกนัน้
มองหลินหมิงราวกับเหยี่ยวที่กําลังล่าเหยื่อ “ช่างดูเด็กเสียจริ งๆ อายุก็ยงั ไม่ถงึ 16 ด้ วยซํ ้า
หน้ าตาก็ยงั ไร้ เดียงสาอยูเ่ ลย แต่หากมองให้ ดีๆแล้ วละก็ ข้ าสัมผัสได้ ถงึ ออร่าอันแหลมคมที่แผ่
ออกมาเด็กคนนัน้ เขาต้ องไม่ใช่เด็กธรรมดาๆอย่างแน่แน่นอน”
้ อหอกขนาด 820 จิ๋นที่ชื่อว่าหอกทะลวงสายรุ้ง เมื่อวานข้ าไปที่หออาวุธศักดิ์สิทธิ์เพื่อ
“นันคื
ถามเจ้ าของร้ านถึงอาวุธของเด็กคนนัน้ เด็กนันบ้
้ าบิ่นและกล้ าหาญไม่ใช่น้อยเลย”
ที่ๆพวกเขาอยู่ นันห่
้ างไกลจากหลินหมิงมาก มันเป็ นไปไม่ได้ เลยที่หลินหมิงจะสัมผัสได้
“การจัดอันดับในครัง้ นี ้มีแต่พวกเก่งๆเต็มไปหมด”
เพราะงันทั
้ งสองฝ่
้ ายในตอนนี ้จึงไม่มีที่วา่ งให้ กบั ความพ่ายแพ้ อีกแล้ ว ตอนนี ้ทังสองฝ่
้ ายอยากที่
จะทําลายอีกฝ่ ายให้ ได้ จู้ยนั เองก็วางแผนจะฆ่าหลินหมิงไว้ แล้ วเช่นกัน
พวกเธอสวย สง่างาม และดื ้อรัน้ เกินกว่าจะแต่งงานเป็ นศรี ภรรยาได้ หรื อต่อให้ อยากแต่งพวก
เธอก็ต้องเลือกมังกรในหมูค่ นอยูแ่ ล้ ว ถ้ าฐานะและชื่อเสียงไม่สงู พอ อย่างน้ อยก็ต้องแข็งแกร่ง
และมีคณ ุ ธรรม
หลังจากที่หญิงสาวทังสองมาถึ
้ ง ไบชิงหยุน ก็มองไปที่หลินหมิงและนัง่ ลงบนพื ้นหญ้ านิ่มๆ
เช่นเดียวกับมูห่ ลงชี พวกเธอคุยกันตามประสาผู้หญิงเล็กน้ อย และไม่ได้ สนใจสายตาของศิษย์
คนอื่นๆเลยแม้ แต่น้อย
ฝูงชนต่างจับจ้ องไปที่พวกเธอทังสอง
้ จนกระทังมี
้ เสียงของศิษย์คนหนึง่ ดังขึ ้นมา
-------------------
…
…
ขณะที่ยงั มีที่วา่ งอยูค่ รบทัง้ 12 ที่ หญิงสาวในชุดสีมว่ งก็ขึ ้นมาบนเวที เธอเป็ นที่สนใจจากฝูง
ชนอย่างมาก เธอคือมูห่ ลงชี
“พี่ชิงยุน รี บๆจบการทดสอบนี่เร็วๆเถอะค่ะ”
หญิงสาวทังสองคนนี
้ ้ช่างน่าประทับใจจริ งๆ นี่ถ้าปี หน้ า เธอมาทดสอบอีกครัง้ ละก็ ไม่แน่วา่
พวกเธออาจจะได้ เป็ น10อันดับแรกก็เป็ นได้
แต่ถงึ อย่างนันจู
้ ้ ยนั ก็ใช้ เวลาในการฝึ กฝนมากกว่ามูห่ ลงชีเสียอีก
เพราะงันจู
้ ้ ยนั จึงน่ากลัวก็ตรงนี ้
--------------------
MW#086 ขีดจํากัดของความเร็วในการสังหาร
มูห่ ลงชีเห็นอันดับของจู้ยนั แล้ ว เธอก็ร้ ูสกึ เอียนเล็กน้ อย เธอไม่คอ่ ยชอบที่อนั ดับของจู้ยนั จะเธอ
มาติดๆขนาดนี ้
หลินหมิงเริ่ มตังท่
้ าต่อสู้ มือขวาของเขาถือหอกในแนวราบ และศอกขนานไปกับหอก นี่คือท่า
‘สะพานเหล็กกันแม่
้ นํ ้า’
“โฮกก” เงาเหล่านันเริ
้ ่ มกกระจายไปรูปครึ่งวงกลมล้ อมหลินหมิงเอาไว้ และพุง่ มาพร้ อมๆกัน
แต่หลินหมิงไม่คิดเช่นนัน!!!
้
“หมัดสลายกระดูก”
“กร๊ อบบบ”
“สังหารรอบทิศทาง!”
----------------------
“อืมม.. ฉินชิงหวนสามารถทําเช่นนันได้
้ สําเร็ จ และเธอก็ยงั ได้ รับการแต่งตังให้
้ เป็ นศิษย์
ระดับสูงโดยตรอีกด้ วย”
…
จํานวนก้ านธูปผ่านไปอย่างรวดเร็ว 1...2...3…
ขณะที่ก้านธูปก้ านที4
่ กําลังไหม้ อยู่ ร่างของหลินหมิงเปี ยกโชคได้ วยเลือดจากศัตรูของเขา
“หึ… เขาไม่เก่งอย่างนันเหรอ?
้ ถ้ าหลินหมิงอ่อนแออย่างที่เธอว่าจริ ง เธอยังจําเมื่อหนึง่ เดือน
หลังจากเธอเข้ ามาในสํานักได้ ไหม เธออยูใ่ นนันได้
้ นานกว่าเขาในตอนนี ้หรื อป่ าว”
เพราะแบบนี ้เอง แม้ วา่ ในครัง้ แรกของศิษย์ใหม่ที่จดั อันดับ อันดับที่ได้ อาจจะไม่ได้ น่าพอใจนัก
แต่ในครัง้ นี ้เอง อันดับของพวกเขาก็จะเพิ่มสูงขึ ้น เพียงแค่ฝึกฝนไปเรื่ อยๆ ก็จะมีศิษย์จบออกไป
เรื่ อยๆ และอันดับก็จะเพื่มสูงขึ ้นเรื่ อยๆเอง
...
“งันก็
้ มารอดูกนั ดีกว่าว่าหลินหมิงจะทนได้ อีกนานแค่ไหน…”
มันมีการฝึ กฝนขันที
้ ่ห้า ขันหลอมกระดู
้ ก
หลินหมิงได้ ส้ กู บั อัศวินนันมาหลายรอบแล้
้ ว มันแข็งแกร่งและเคลื่อนไหวได้ อย่างรวดเร็ ว ตอน
มันพุง่ มาด้ วยม้ า มันแทบจะไร้ จดุ อ่อน
เปรี ย้ ง!!
หมัดสลายกระดูก!!
MW#088 หอกสุดท้ าย
...
...
...
...
เป็ นที่ร้ ูกนั อยูแ่ ล้ วว่า หากผู้ทดสอบได้ รับบาดเจ็บเช่นนี ้ ก็คงไม่สามารถที่จะต่อสู้ได้ อกี นานซัก
เท่าไร อีกไม่นานพวกเขาก็ต้องถูกศัตรูสงั หาร
แม้ หลินหมิงจะเคยเป็ นคนที่สร้ างปาฏิหาริ ย์เอาไว้ หลายครัง้ แต่ดเู หมือนว่าจะไม่ใช้ กบั ครัง้ นี ้
ทุกๆคนที่เคยเชียรเขาอยูอ่ ย่างมีความหวัง เริ่ มที่จะถอดใจ
เวลาได้ ผ่านไปสี่ก้านธูปแล้ ว!
"ตาย!"
"สัตว์ดรุ ้ ายระดับ3!"
หลินหมิงอ้ าปากค้ าง ต่อให้ มนั เป็ นสัตว์ดรุ ้ ายระดับสามที่ออ่ นแอที่สดุ อย่างน้ อยๆพลังของมันก็
เทียบได้ กบั นักสู้ที่อยูบ่ นจุดสูงสุดของขันที
้ ่ห้า!
"ฉึก!"
หลินหมิงแทงทะลุร่างของอัศวินในชุดเกราะดําก่อนที่ง้าวของมันจะทันได้ ฟาดลงมาถึงร่างของ
เขาเสียอีก!
"มังกรวารี ถล่มมหาสมุทร!"
ด้ วยการสัน่ สะเทือนอย่างรุนแรงของพลังปราณ อัศวินเกราะดําเหมือนกลายเป็ นแค่เศษ
กระดาษบางๆ หอกทะลวงสายรุ่งเจาะทะลุเข้ ากลางร่างของมันและตวัดขึ ้นทะลุคอออกมา
อัศวินดําเลือดท่วมไปทัว่ ร่าง น่ากลัวว่ามันจะเสียชีวิตไปแล้ วจากบาดแปลภายในที่รุนแรงเกิน
เยียวยา!
...
"ใช้ เวลาสี่ก้านธูปนิดๆ เขาจะได้ อนั ดับที่เท่าไรกันนะ? “ มูห่ ลงชี กล่าวด้ วยรอยยิ ้มและเสียง
หัวเราะ เธอหันหน้ าไปมองที่แท่นจัดอันดับ
"อันดับ 89 กุยู่ ยังทําการทดสอบอยู่ ดังนันอั
้ นดับของก็คงจะไม่สงู ไปกว่าเขา หลินหมิงก็คงได้
ไม่เกินอันดับที่90 "
หลินหมิง อันดับที่ 62 !!
---------------------------------
MW#89 ผลการทดสอบที่ฝืนชะตาสวรรค์
“62!?”
“โอ้ .. พระเจ้ า”
ขณะที่ทกุ คนกําลังจับจ้ องกันอยู่ เมื่อได้ เห็นอันดับของหลินหมิงโผล่ออกมา ทําให้ ทกุ คนต้ อง
ตะลึงกันทัว่ หน้ า…
62 เนี่ยนะ?!
นี่มนั เหลือเชื่อเกินไปแล้ ว!
นี่มนั ระดับที่สามารถก้ าวข้ ามพวกหลิงเซ็น ทาคุ และซางกวนยู่ ได้ ในอนาคต!
“มันจะต้ องมีอะไรผิดพลาด…”
นี่มนั บ้ าชัดๆ!!
เธอเข้ าใจถึงความหมายอันดับนันดี
้ การที่ศิษย์ซกั คนจะจบการศึกษาจากสํานักโดยมีอนั ดับ
62ขึ ้นไปก็ไม่ใช่เรื่ องแปลก แต่ถ้าหลินหมิงมาอยูอ่ นั ดับนี ้ในตอนนี ้แล้ ว เขาอาจจะเข้ าสูอ่ นั ดับ
50 ในสิ ้นปี นี ้ก็ได้
ไบชิงหยุนยิ ้มแล้ วพูดว่า “น้ องรัก เจ้ าจงรักษาท่าทีเอาไว้ ด้วย เจ้ าแสดงความอิจฉาเขาเกินไป
แล้ ว”
“ฮึ ทําไมข้ าจะต้ องไปอิจฉาเขาด้ วย ข้ าแค่ต้องเอาจริ งอีกซักหน่อยก็เท่านัน้ เขาไม่มีทา่
เหนือกว่าข้ าไปได้ หรอกน่า” มูห่ ลงชีชหู มัดขึ ้นและพูดอย่างมัน่ ใจ แต่ก็เป็ นเรื่ องจริ งที่วา่ เธอยัง
ชอบเล่นสนุกอยูบ่ ้ าง หากเธอจริ งจังกับการฝึ กฝนมากกว่านี ้ เธอก็จะมีอนั ดับที่สงู กว่านี ้
...
...
…
ตอนนี ้องค์รัชทายาท หยางหลินอยูท่ ี่พระราชวังทางตะวันออก เขากําลังเล่นหมากรุกอยูก่ บั ที่
ปรึกษาของเขา มูย่ ี่
“ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ชี ้แนะ”
MW#090 องค์ชายสิบ
...
...
...
"โอ้ ว? มีนกั สู้ยอดฝี มือที่ทา่ นสนใจด้ วยรึ? เขาเป็ นใครกันล่ะ? " แม้ มยู่ ี่จะพอรู้อยูก่ ่อนแล้ ว แต่
เขาก็แกล้ งถาม
เขาคงใช้ เวลาอีกไม่กี่ปีอย่างแน่นอน !
หลินหมิงเองก็เดินมาในเส้ นทางเดียวกับหลิงเซ็น!
ดังนันสํ
้ าหรับการได้ หลินหมิงมาร่วมด้ วย จึงมีความสําคัญอย่างมาก!
ยันต์สื่อสารเร่งด่วน!
"อะไรนะ? 62? " แม้ แต่มยู่ ี่ก็ยงั ตกใจ แต่เมื่อพิจารณาถึงปรมาจารย์ผ้ เู ก่งกาจที่อยูเ่ บื่องหลัง
ของหลินหมิงแล้ ว มันก็ไม่ได้ น่าแปลกใจซักเท่าไร หากมีปรมาจารย์ที่เก่งกาจและเป็ นสาวกของ
นิกายที่ยิ่งใหญ่ระดับนันคอยสั
้ ง่ สอนอยู่ แม้ วา่ หลินหมิงจะได้ อนั ดับที่62ตังแต่
้ ครัง้ แรก มันก็ยงั
เป็ นเรื่ องที่เป็ นไปได้ !
...
ในขณะที่หยางหลินได้ รับการติดต่อสื่อสารจากสายสืบของเขา ทางด้ านองค์ชายสิบเองก็ได้ รับ
การติดต่อจากลูกน้ องของเขาเช่นกัน แต่สําหรับองค์ชายสิบ เดิมทีเขาไม่ได้ สนใจในตัวหลินหมิ
งมากเท่าไรนัก เพราะเขามีนกั สู้ยอดฝี มือเก่งๆคนอื่นๆอีกมากมาย ซึง่ มันก็มากเพียงพอที่จะทํา
ให้ แย่งชิงบัลลังก์มาได้ ในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี ้มันก็เป็ นแค่ผลจากยาโอสถทังสองอย่
้ างนัน้
เท่านัน้ หากไร้ ซงึ่ โอสถลํ ้าค่าทังสอง
้ ลําพังเด็กหนุม่ ที่มีพรสวรรค์ระดับสามจะไปสู้ใครได้ !
สิ่งเหล่านี ้เหลือกว่าหลิงเซ็นโดยสมบูรณ์!
"จัดเตรี ยมเงิน 50,000 เหรี ยญทอง เพชรพลอยที่ลํ ้าค่าที่สดุ อีก2หีบ หญิงสาวงามบริ สทุ ธิ์
อายุตํ่ากว่า 16 ปี 12 นาง คนรับใช้ 100คน และที่ดินใน หุบเขาชุนหยวนอีก 500 ไร่! "
------------------------------------
...
...
...
ณ แท่นอาคมหมื่นอสูรสังหาร
หลานยุนเยียได้ แต่ยืนมองพวกเขาทังสองอย่
้ างเงียบๆจากหลังต้ นไผ่ เธอมองการเผชิญหน้ า
ระหว่างจู้ยนั กับหลินหมิงด้ วยความสับสน จะเกิดอะไรขึ ้นต่อจากนี ้... ?
หลินหมิงมองไปยังการจัดอันดับบนแท่นหิน บนแท่นหินมีชื่อของเหล่าสาวกนิกายสวรรค์อยู่
มันไม่ใช้ เรื่ องยากเลยที่จะหาคนที่ออ่ นแอที่สดุ ในนิกายสวรรค์ ในที่สดุ เขาก็เจอชื่อของคนๆนัน้
คนที่ออ่ นแอที่สดุ ในนิกายสวรรค์ เธอคือสาวน้ อยอายุ 17 ปี ชื่อว่า ไบหลงหลง อันดับ 75
เธอไม่สามารถโยนผ้ าขาวขอยอมแพ้ โดยที่ยงั ไม่ได้ ตอ่ สู้ได้ เธอจะต้ องต่อสู้กบั เขาด้ วยพลัง
ทังหมดที
้ ่เธอมี เธอหวังให้ เขาไม่ได้ ไร้ ความปรานีเกินไป...
ในสายตาของใครหลายๆคน พวกเขาคาดว่าไบหลงหลงจะต้ องเสียตําแหล่งให้ หลินหมิงอย่าง
แน่นอน เธอช่างเป็ นหญิงสาวที่โชคร้ ายเสียจริ ง
"เวลาในการต่อสู้นนเจ้
ั ้ าสามารถเลือกได้ ด้วยตนเอง แต่ข้าแนะนําว่าควรจะเป็ นใน1เดือนต่อ
จากนี ้ หากอันดับของเจ้ าถูกแซงจนตํา่ กว่าอันดับที่80ก่อนจะถึงวันที่เจ้ าต่อสู้ การท้ าทายเพื่อ
ต่อสู้กบั ศิษย์จากนิกายสวรรค์จะถูกยกเลิก "
โดยรอบแท่นอาคมหมื่นอสูรสังหารถูกปกคลุมด้ วยความเงียบ
จู้ยนั !
เป็ นที่ร้ ูกนั ดีวา่ อันดับที่สงู ขึ ้นก็ยิ่งเพิ่มขึ ้นได้ ยากขึ ้นด้ วย จากอันดับ162ไป132ไม่ใช้ เรื่ องยาก
แต่ อันดับที6
่ 2จะไปสู้กบั อันดับที3
่ 2ในหนึง่ เดือน มันยากจนแทบจะเป็ นไปไม่ได้ !
้ เพื่อที่จะไต่อนั ดับจากอันดับที่65มาอันดับที2
เธอใช้ เวลาตลอดทังปี ่ 6
...
...
MW#092 ปฏิเสธ
...
...
...
หลังจากจู้ยนั กลับมาถึงที่พกั ของเขา เปลวไฟส่องแสงเป็ นประกายเจิดจร้ าก็ปรากฎขึ ้นตรงหน้ า
นี่คือยันสื่อสารจากองค์ชายสิบ หยางเซ็น องค์ชายสิบต้ องการให้ เขามาพบในคืนนี ้ที่พระราชวัง
จู้ยนั ได้ ยินนํ ้าเสียงขององค์ชายอย่างชัดถ้ องชัดคํา นํ ้าเสียงของเขาดูไม่ได้ มีความสุขซักเท่าไหร!
จู้ยนั พอจะรู้ถงึ สาเหตุที่องค์ชายสิบต้ องการจะพบเขา มันต้ องเป็ นเพราะการท้ าทายจากหลินห
มิงเป็ นแน่ หน่วยสืบข่าวจากองค์ชายคงจะรายงานกลับไปให้ องค์ชายได้ รับรู้แล้ ว
จะให้ ญาติดีกบั หลินหมิง? ฝั นไปเถอะ!
จู้ยนั ใช้ มือขยี ้เปลวไฟจากยันสื่อสารตรงหน้ าให้ หายไปพร้ อมกับเสียงขององค์ชายสิบ
จู้ยนั ลุกขึ ้นและริ นไวน์ลงแก้ วอย่างช้ าๆ เขายกแก้ วและอาหารที่ตงอยู
ั ้ ข่ นมารั
ั ้ บประทาน ดวงตา
ของเขาดูเย็นชาและเงียบสงัด
้ ?"
"เวลาเพียงแค่หนึง่ เดือน แกคิดว่าจะไล่ตามข้ าได้ ทนั งันรึ
...
...
----------------------
บทที่ 93 - อุปสรรค
...
...
...
้ ? เป็ นบุรุษต้ องหัดมีความยืดหยุนและปรับตัวให้ เข้ ากับสถานการณ์
"เจ้ าไม่เต็มใจจะทํางันรึ
ปั จจุบนั ได้ หรื อเจ้ าต้ องการที่จะสร้ างปั ญหาให้ ข้าเพราะความโอหังของเจ้ า? "
จู้ยนั สูดหายใจเข้ าลึกๆและคลายมือที่กําไว้ แน่นออกและกล่าวอย่างเย็นชาว่า "ใต้ ฝ่าพระบาท
อัจฉริ ยะที่ไม่มีลมหายใจ ก็ไม่มีคา่ อันใดให้ ต้องหวัน่ เกรง"
“ฮึ เจ้ าต้ องการให้ ข้าลอบสังหารหลินหมิงงันรึ้ ? จู้ยนั เจ้ าลืมความแข็งแกร่งของสํานักเจ็ดแก่น
แท้ ไปแล้ วหรื ออย่างไร หลินหมิงเป็ นศิษย์ที่มีพรสวรรค์ที่หายาก ไม่มีทางที่ใครจะลอบสังหารเขา
ได้ ต่อให้ มนั ออกมาจากสํานักองค์รัชทายาทก็คงจะปกป้องมัน แม้ วา่ หยางหลินจะไม่ได้ เก่งกล้ า
อะไรนัก แต่เขามีปรมาจารย์มยู่ ี่คอยคุ้มครองอยู่ ต่อให้ สงั หารหลินหมิงได้ สําเร็ จ พวกมันก็ต้อง
สืบหาพวกเราจนพบอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานันแม้ ้ แต่ข้าก็ไม่อาจรอดเงื ้อมมือของสํานักเจ็ด
แก่นแท้ ไปได้ แม้ แต่ทา่ นพ่อที่เป็ นจักรพรรดิก็ไม่อาจจะช่วยปกป้องข้ าได้ หากสํานักเจ็ดแก่นแท้
ต้ องการชีวิตข้ า! "
"เพียงแค่มยู่ ี่คนเดียวก็ทําให้ ข้าปวดหัวแล้ ว! ข้ าอาจจะต้ องส่งยอดฝี มือกว่า 18 คนที่พร้ อมที่จะ
ตายเพื่อไปรับมือกับเจ้ าเฒ่านัน่ คนเดียว และหากหลินหมิงเติบโตขึ ้นและเข้ าร่วมกับองค์รัช
ทายาท โอกาสที่ข้าจะเอาชนะองค์ชายสามได้ ก็จะลดลงอย่างเห็นได้ ชดั ! "
จู้ยนั กําหมัดแน่นอีกครัง้ เขาพูดอย่างช้ าและชัดเจน "ใต้ ฝ่าพระบาทโปรดให้ เวลาแก่ข้า ข้ าจะไม่
ทําให้ ทา่ นผิดหวัง"
"ก็ได้ ข้ าจะเชื่อใจเจ้ าซักครัง้ หากเจ้ าทําให้ ข้าผิดหวังเจ้ าคงรู้ดีสินะว่าต้ องทําอย่างไร? "
จู้ยนั สูดลมหายใจเข้ าลึกๆและกล่าวคําพูดออกมา "หากข้ าแพ้ ให้ กบั มัน หากมันสามารถฝึ กฝน
พัฒนาฝี มือได้ อย่างรวดเร็วจนเอาชนะข้ าได้ ในอีกหนึง่ เดือนข้ างหน้ า ข้ าจะหย่ากับหลายยุนเยีย
และขอโทษหลินหมิงด้ วยความจริ งใจ!"
"ฮึ เข้ าใจแล้ วก็ดี ข้ าหวังว่าเวลานันมั
้ นคงจะยังไม่สายเกินไป!
...
ณ ห้ องพักของศาลาจันทร์ กระจ่าง อาหารสุดหรูวางอยูต่ รงหน้ าของจู้ยนั แต่เขาไม่ได้ มีความ
สนใจอาหารเหล่านันแม่
้ แต่น้อย เขากําลังคิดบางสิ่งบางอย่างที่สําคัญอยู่
เมื่อเห็นจู้ยนั ไม่รับประทานอาหารหลานยุนเยียเองก็ไม่กล้ าที่จะสัมผัสกับตะเกียบที่วางอยูบ่ น
โต๊ ะ เธอรู้ดีวา่ สิ่งที่จ้ ยู นั กังวลอยูก่ ็คือการท้ าทายของหลินหมิง เธอไม่กล้ าที่จะเอ่ยปากพูดคําใด
ใดในสถานการณ์เช่นนี ้
"วันนี ้องค์ชายสิบเรี ยกข้ าไปเข้ าพบเพื่อหารื อเรื่ องบางอย่าง" จู้ยนั กล่าวขึ ้นหลังจากที่เงียบมา
เป็ นเวลานาน
"อืม..? หารื อ... เรื่ องอะไร?" หลานยุนเยียรู้สกึ ได้ ถงึ ความไม่พอใจของจู้ยนั เขาสามารถระเบิด
ความโกรธและอาละวาดได้ ทกุ เมื่อหากเขาไม่พอใจ เขาเป็ นเหมือนสัตว์ดรุ ้ ายที่ดเู หมือนจะสงบ
แต่แท้ จริ งแล้ วแผ่จิตสังหารออกมาอย่างรุนแรง
เมื่อเธอได้ มาอยูร่ ่วมกับจู้ยนั เธอรู้สกึ ได้ ถงึ ความกดดันที่มองไม่เห็น ทําให้ เธอรู้สกึ อึดอัดและไม่
สามารถหายใจได้ อย่างทัว่ ท้ อง มันต่างกับครัง้ ที่เธอเคยอยูร่ ่วมกับหลินหมิง แม้ หลินหมิงจะชอบ
ทําให้ เธออารมณ์เสียอยูบ่ อ่ ยๆ แต่เด็กหนุ่มคนนันก็ ้ จะมอบรอยยิ ้มให้ กบั เธออยูเ่ สมอ สิง่
เหล่านันทํ
้ าให้ เธอคิดถึงเขาอย่างไม่มีเหตุผล
แต่น่าเสียดายที่วนั เวลาเหล่านันไม่
้ มีทางที่จะย้ อนกลับมาได้ เธอได้ แต่เสียดายช่วงเวลาดีดี
เหล่านัน้ เธอคงไม่มีโอกาสที่จะได้ พบกับความรู้สกึ ดีดีเหล่านันอี
้ ก เหมือนกับว่าจู้ยนั เป็ นนก
อินทรี ที่จะเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมของเธออยูต่ ลอดเวลา จนเธอไม่ร้ ูสกึ เป็ นตัวเอง
“เขาบอกให้ ข้า... " จู้ยนั กล่าวพร้ อมกับมองไปที่หลานยุนเยีย "เขาบอกให้ ข้าหย่ากับเจ้ า... "
ในขณะนัน้ หลานยุนเยียแทบจะเป็ นลม เหมือนกับว่าใบหน้ าของจู้ยนั กําลังลอยออกไปช้ าๆ
ภาพตรงหน้ าก็เบลอไปหมด
แม้ วา่ เธอจะยังรักษาความบริ สทุ ธิ์ของร่างกายของเธอไว้ อยู่ แต่เธอก็ได้ หมันหมายกั
้ บจู้ยนั เอาไว้
แล้ ว และตามประเพณีของอาณาจักรลิขิตฟ้า หญิงสาวที่หย่าหลังจากหมันแล้ ้ วจะโดนดูถกู
เหยียดหยาม นี่เป็ นเรื่ องที่น่าอับอายมากสําหรับเธอ และแน่นอนว่ามันจะส่งผลร้ ายต่ออนาคต
ของเธอในหลายๆเรื่ อง หากจู้ยนั ตัดสินใจที่จะหย่ากับเธอ เธอจะไปขัดขืนเขาได้ อย่างไร?
เธอมองจู้ยนั ด้ วยสีหน้ าบิดเบี ้ยวและพยายามที่จะไม่ร้องไห้ แต่นํ ้าตาก็ยงั ไหลริ นออกมาจาก
ดวงตาของเธอ เธอรู้ดีวา่ คําพูดขององค์ชายสิบมีอํานาจเพียงไรต่อตระกูลจู้ มันไม่ได้ ตา่ งอะไร
กับคําสัง่ จากหัวหน้ าตระกูลเลย
"แล้ วนาย...ตอบรับ?" หลานยุนเยียเอ้ ยถ้ อยคําออกมาในขณะที่นํ ้าตาหยดลงมา
"ตอนนี ้ยัง" จู้ยนั ตอบไปตามความเป็ นจริ ง
"ทําไม...?" หลานยุนเยียถูกจิตใต้ สํานึกสัง่ ให้ กําตะเกียบเอาไว้ ในมือ แต่นิ ้วมือของเธอกลับดู
เป็ นสีขาวซีดเซียวเหมือนกับว่าไม่ได้ มีเลือดไหลเวียนอยู่
"เพราะหลินหมิง องค์ชายสิบต้ องการให้ หลินหมิงเข้ าร่วมกับฝ่ ายเรา แต่เพราะเรื่ องของข้ ากับ
เจ้ า... เรื่ องของข้ ากับเจ้ ากลายเป็ นอุปสรรคที่ขวางกันให้
้ หลินหมิงไม่เข้ าร่วมกับองค์ชายสิบ"
ในที่สดุ หลานยุนเยียก็ไม่สามารถทนต่อความปวดใจนี ้ได้ เธอร้ องไห้ ฟมู ฟายนํ ้าตาหลัง่ ไหล
ออกมาเหมือนฝนที่ตก เธอเป็ นเพียงผู้หญิงธรรมดา เธอมาเกี่ยวข้ องกับการแย่งชิงราชบัลลังก์
ของเหล่าองค์ชายและกลายมาเป็ นอุปสรรคของพวกเขาได้ อย่างไร...
ทําไมต้ องเกิดเรื่ องเช่นนี ้ขึ ้น?
จู้ยนั กล่าวปลอบใจเธอ "ข้ ายังมีเวลาอีกหนึง่ เดือน ข้ ามีโอกาสที่จะไม่ต้องทําเช่นนัน้ เจ้ ายังไม่
จําเป็ นต้ องสิ ้นหวัง ไม่มีใครรู้วา่ อนาคตจะเกิดอะไรขึ ้น... "
หลังจากที่กล่าวเช่นนัน้ จู้ยนั ก็ลกุ ขึ ้นค่อยๆผลักประตูออกไปอย่างช้ าๆและจากไป
-----------------------------
MW#094 เจตจํานงแห่งการต่อสู้
...
...
...
เป็ นแรกกระตุ้นที่ดีที่ตรพกูลหลินได้ รับแรงกดดันจากตระกูลจู้ การที่หลินหมิงได้ ชี ้หอกท้ าทายจู้
ยันคือสิ่งที่สมควรทําแล้ ว เพื่อเป็ นการทวงความยุติธรรมให้ กบั ตระกูลหลิน
และเมื่อหัวหน้ าตระกูลหลินได้ ยินข่าวของหลินหมิง เขาก็ตดั สินใจที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่โดย
ไม่ลงั เลแม้ แต่น้อย “ในอีกหนึง่ เดือนต่อจากนี ้ จงใช้ ทรัพยากรและอุปกรณ์ทงหมดที
ั้ ่มีเพื่อ
สนับสนุนหลินหมิง เราจะต้ องทําให้ เขามีโอกาสที่จะเอาชนะจู้ยนั เพิ่มขึ ้นให้ มากที่สดุ เท่าที่พวก
เราจะช่วยได้ "
"นี่คือ... " หลินหมิงมองไปที่ขวดดินเผาและกล่องหยกเล็กๆในมือของหลินหวู่
"หัวหน้ าตระกูลหลินใช้ ยนั สื่อสารเพื่อติดต่อไปยังตระกูลสาขา เขาต้ องการสนับสนุนเจ้ าอย่าง
เต็มที่เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสที่จะเอาชนะจู้ยนั ให้ ได้ สงู ที่สดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้ "
หลินหมิงรับขวดดินเผาและกล่องหยกมา เขาเปิ ดขวดดินเผา มันมียาโอสถที่สง่ กลิน่ หอมจางๆดู
ละเอียดอ่อนและอ่อนโยน ไม่วา่ ใครได้ เห็นก็ต้องสัมผัสได้ ในทันที่วา่ มันลํ ้าค่าเพียงใด
"ยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูง?"
มันถูกปรุงขึ ้นมาจากวัตถุดิบต่างๆที่มีอายุไม่น้อยกว่า 300 ปี แทบจะเป็ นไปไม่ได้ ที่จะหาซื ้อมัน!
ยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงอาจไม่ได้ เพิ่มความแข็งแกร่งของนักสู้โดยตรง แต่มนั จะเพิ่ม
ความสามารถในการดูดซับพลังปราณและเพิ่มความเร็วในการฝึ กฝน ยาประเภทนี ้จะค่อยๆเพิ่ม
ความแข็งแกร่งให้ อย่างช้ าๆโดยไม่สง่ ผลข้ างเคียงใดใด
้ บเม็นในขวดนี ้อาจมากกว่า20000เหรี ยญทองเสียอีก พูดได้ อย่างเต็มปาก
มูลค่าของยาทังสิ
ว่าตระกูลหลินทุม่ เทในตัวหลินหมิงอย่างสุดหัวใจจริ งๆ พวกเขาไม่คิดที่จะเสียดายทรักยากร
ของเขาอีกแล้ ว
หลินหมิงมองที่ไปที่หลินหวูก่ ่อนจะเปิ ดหล่องหยก ภายในนันปรากฏศิ
้ ลาที่ดโู ปร่งใสดุจนํ ้าแข็ง
้ ่2!
มันคือหินพลังปราญขันที
และในกล่องหยกใบนันยั ้ ง30ก้ อน!
้ งมี หินเหล่านันถึ
้ ่2 จํานวน30ก้ อน มูลค่าของมันไม่ใช้ น้อยเลย!
หินพลังปราญขันที
เมื่อได้ เห็นขวดยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงและกล่องหินพลังประญขัน่ ที่สอง หลินหมิงเข้ าใจ
เขาได้ รับการยอมรับจากตระกูลหลักไปโดยปริ ยาย ซึง่ ก็หมายความว่าเขาจะกลายเป็ นทายาท
ของตระกูลหลัก
หลินหวูม่ องดูหลินหมินและกล่าวอย่างลําบากใจ "ศิษย์น้อง ข้ ารู้ดีวา่ มันอาจจะสายไปที่มา
สนับสนุนเจ้ าเอาตอนนี ้ ขอโทษด้ วยที่ไม่ได้ ให้ การสนับสนุนเจ้ าตังแต่
้ แรก มันอาจจะดูไม่
ยุตธิ รรมสําหรับเจ้ า แต่ทรัพยากรของตระกูลเราก็มีจํากัด... มีเด็กรุ้นใหม่มากเกินไปในตระกูล
ของเรา ถ้ าทุกคนได้ รับทรัพยากรเท่าเทียมกัน อาจจะไม่มีใครแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องให้
ตระกูลของเราอยูม่ าจนถึงในทุกวันนี ้ก็ได้ "
หลินหมิงเข้ าใจในสิ่งที่หลินหวูพ่ ดู ครอบครัวของเขาก็เป็ นเพียงตระกูลสาขาเล็กๆ มิใช่ทายาท
หลัก ตระกูลหลักจะปฏิบตั ิกบั คนตระกูลสาขาเหมือนลูกจ้ าง โดยการให้ มาดูแลธุรกิจของพวก
เขา
ถึงแม้ จะถูกสอนว่า เพียงแค่ตระกูลหลักยอมให้ เราใช้ ชื่อตระกูล ‘หลิน’ อยูก่ ็ถือเป็ นบุญคุณแล้ ว
แต่ในความเป็ นจริ งเขากลับไม่ได้ ร้ ูสกึ เช่นนัน้ แต่ทงนี
ั ้ ้พ่อแม่ของเขาก็มีความฝั นที่จะกลับไปเป็ น
คนตระกูลหลัก
สําหรับพ่อแม่ของเขาแล้ ว ชื่อเสียงก็จะมาจากลูก หลินหมิงคืออัจฉริ ยะที่หาได้ ยาก เขามี
คุณสมบัติมาพอที่จะนําพาชื่อเสียงและเกียรติยศกลับมาให้ ครอบครัวของเขา
หลินหมิงได้ รับการยอมรับพร้ อมกับยาผสานวิญญาณและหินพลังปราญ เขากล่าวกับหลินหวู่
"ฝากขอบคุณท่านหัวหน้ าตระกูลแทนข้ าด้ วย "
"ศิษย์น้องถ่อมตนมากไปแล้ ว พวกเขาขอให้ เจ้ ามีชยั " เมื่อเห็นหลินหมิงยอมรับของขวัญหลินหวู่
ก็ผ่อนคลายและปล่อยลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงสิ ้นปี ศิษย์ในสํานักเจ็ดแก่นแท้ จะได้ กลับไปฉลองปี ใหม่ที่บ้านของพวกเขา
หลินหมิงเองก็ตดั สินใจที่จะให้ โอกาสกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ พวกเขาสมควรที่จะเกษี ยณอายุ
ออกมาพักผ่อนให้ สบายใจได้ แล้ ว
หลินหมิงอําลาหลินหวูแ่ ละมุง่ หน้ าเข้ าสูน่ ํ ้าตกเยือกแข็งอีกครัง้
"ไงหนุ่มน้ อยหลิน" ผู้ดแู ลนํ ้าตกเยือกแข็งยิ ้มให้ เขาอย่างเป็ นมิตร " การไปเจ้ าไปถึงอันดับที่ 62
ได้ ด้วยอายุเท่านี ้จะต้ องถูกบันถึงในประวัติศาสตร์ อย่างแน่นอน! "
หลินหมิงยิ ้มรับคําชมและก็ไม่ได้ ตอบอะไร สองสามวันมานี ้เขาได้ รับคําชมมากเกินไปจนชินเสีย
แล้ ว
"เจ้ าต้ องการไปยังระดับที่ยากขึ ้นอีกหรื อไม่?"
"แน่นอน ส่งข้ าไประดับเก้ า!"
ระดับความยากลําบากที่สงู ที่สดุ คือระดับที่สิบสอง ในตอนนี ้ก็มีศิษย์เพียงคนเดียวที่สามารถ
เข้ าไปฝึ กฝนในนันได้
้ เขาก็คือหลิงเซ็น
ด้ วยระยะเวลาเพียงแค่หนึง่ เดือนหลินหมิงได้ ยกระดับในการฝึ กที่นํ ้าตกเยือกแข็งจากระดับเจ็ด
ไปสูร่ ะดับเก้ า นี่ถือเป็ นเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง แต่หากได้ ร้ ูถงึ อันดับของเขามันก็เป็ นเรื่ องที่
สมเหตุสมผล
"ตกลง" ผู้ดแู ลกล่าว และทําตามคําขอของหลินหมิง
หลินหมิงกลืนยาเม็ดผสานวิญญาณที่จะช่วยเร่งการฝึ กฝนเข้ าไป ก่อนจะยกหอกทะรวงสายรุ้ง
ออกมา และกระโจนลงไปในมิตินํ ้าตกเยือกแข็ง
ทันทีที่เขาเข้ ามาในมิตินํ ้าตกเยือกแข็ง ความหนาวสุดขัว่ หัวใจราวกลับเข็มเล็กๆที่ทิ่มแทง
กระดูกก็ปรากฏขึ ้นตามร่างกาย ระดับเก้ านี ้ยากขึ ้นอย่างเห็นได้ ชดั !
ทรัพยากรจากสํานักเจ็ดแก่นแท้ ทังยาเม็
้ ดผสานวิญญาณและหินพลังปราณไม่ใช้ สิ่งที่สําคัญ
เท่าไรนัก ช่วงเวลาที่ได้ ฝึกฝนในสถานที่เหล่านี ้ต่างหากที่เป็ นสิ่งสําคัญจริ งๆ แต่ละวินาทีที่ได้
ฝึ กฝนในที่แห่งนี ้มีคา่ ยิ่งนัก!
เขามีเวลาเพียงสองชัว่ โมงในแต่ละวัน หลินหมิงยืนอยูบ่ นก้ อนหินก้ อนใหญ่ใต้ นํ ้าตก เขายังจับ
หอกทะลวงยาวรุ้งเอาไว้ อย่างมัน่ คงแม้ จะอยูใ่ นนํ ้าตกเยือกแข็งที่มีความยากระดับเก้ า
แต่ภายใต้ สภาวะที่ยากลําบากนี ้มันก็ไม่ใช้ เรื่ องง่ายๆเลยที่จะยืนถือหอกขนาด820จิ๋นเอาไว้ ใต้
นํ ้าตกเช่นนี ้!
หลินหมิงจําเป็ นต้ องดูดซับพลังปราญจากหินพลังปราญเพื่อสนับสนุนการฝึ กฝนในสภาวะนี ้
ของเขา
"ว้ าว? ความเร็วในการดูดซับพลังปราญจากหินพลังปราญเพิ่มขึ ้นอีก 50%!" หลินหมิงถึงกับ
ต้ องสะดุ้ง แต่เขาก็เข้ าใจทันทีวา่ นี่เป็ นผลจากยาเม็ดผสานวิญญาณ
ผลของยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงที่เขากินเข้ าไปช่างน่าตื่นตาตื่นใจและให้ ประโยชน์ที่น่า
เหลือเชื่อ!
การได้ ใช้ หินพลังปราณขันที
้ ่สองและยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงเช่นนี ้ ไม่รวยจริ งๆก็คงไม่มี
โอกาสได้ ทํา ลําพังตัวเขาคนเดียวคงไม่สามารถที่จะหาทรัพยากรที่ลํ ้าค่าเช่นนี ้มาได้ !
เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะกลันลมหายใจในสภาวะนี
้ ้ได้ ซกั ครึ่งชัว่ โมง แต่ในตอนนี ้เขาสามารถทําได้
นานว่านันอย่
้ างน่าเหลือเชื่อด้ วยการสนับสนุนจากทรัพยากรทังสอง ้
แม้ วา่ หลินหมิงจะรู้สกึ ถึงความเจ็มปวดแต่เขาก็ยงั คงทนยืนฝึ กฝนเช่นนันต่
้ อไป
มีข้อดีของการฝึ กฝนในลักษณะนี ้อยูม่ ากมาย ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มทักษะในการใช้ หอกของ
เขา มันยังช่วยให้ เขาสามารถที่จะควบคุมการผสานกันของพลังปราญหน่วยเล็กๆได้ ดียิ่งขึ ้นอีก
ด้ วย!
ร่างกายของเขาสามารถดูดซับพลังปราญได้ อย่างอิสระและต่อเนื ้อง เพื่อต่อกรกับความหนาว
เย็นที่จโู่ จมเข้ ามาอย่างรุนแรง ของเขาแต่ละดูดซึมได้ อย่างอิสระสาระสําคัญที่แท้ จริ ง ร่างกาย
ของเขาอย่างต่อเนื่อง resisted กับเย็นอย่างรุนแรง เมื่อเหล่านักสู้ได้ ฝึกฝนการต่อสู้ มัน
หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่มาถึงจุดตีบตัน แต่ตราบใดที่ร่างกายของพวกเขาเป็ นอิสระในการดูดซับ
พลังปราญ เรื่ องจุดตีบตันในการฝึ กฝนก็จะไม่เกิดขึ ้น
หลินหมิงหายใจออกมา นี่ก็เป็ นเวลากว่าครึ่งชัว่ โมงแล้ ว!
เพราะความหนาวเย็นที่สามารถสังหารผู้คนได้ เช่นนี ้ เหล่านักสู้ที่จะมาฝึ กในที่แห่งนี ้จะต้ องให้
พลังปราญเพื่อปกป้องร่างกายและอวัยวะภายในของพวกเขา รวมถึงรักษาระบบเลือกให้
ไหลเวียนได้ ตามปกติ
ด้ วยการยืนต่อสู้กบั ความหนาวเย็นที่ทิ่มแทงเข้ ามาเป็ นเวลานาน ทําให้ ร้ ูสกึ เหมือนว่าสติของ
เขากําลังหลุดลอยออกไปอย่างช้ าๆ เสียงนํ ้าตกที่ตกลงมากระทบผิวนํ ้าเริ่ มเลือนหายไปจากหู
ของเขา เขารู้สกึ ได้ วา่ เขากําลังอยูใ่ นพื ้อฃนที่ที่เงียบสงบ และรู้สกึ ถึงการเต้ นของหัวใจได้ อย่าง
ชัดเจนมันช้ าราวกับว่ากําลังถูกแช่แข็ง
ในขณะที่หลินหมิงรู้สกึ ว่าจิตวิญญาณของเขากําลังจะหลุดออกจากร่าง แม้ เขาไม่มีสิตพอที่จะ
สามารถควบคุมการไหลเวียนของพลังปราญได้ แต่มนั ก็ยงั โคจรไปตามสัญชาตญาณของมัน
ซึง่ การโคจรพลังปราญด้ วยสัญชาตญาณในครัง้ นี ้ สมบูรณ์กว่าที่หลินหมิงทําได้ เสียอีก!
สภาวะเช่นนี ้เป็ นรูปแบบพื ้นฐานของการเข้ าสู่ ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’
--------------------------
MW#095 ผลจากจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
...
...
...
หลินหมิงไม่เคยรู้มาก่อน นี ้คือรูปแบบพื ้นฐานของการเข้ าสู้สภาวะ ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’
้ อ?!
อย่างนันหรื
จากครัง้ ก่อนที่เข้ าบังเอิญได้ เข้ าสู้สภาวะนี ้ทําให้ เขาสามารถฝึ กฝนขันแรกของ
้ ‘ปฐมบทแห่ง
ความโกลาหล’ ได้ สําเร็จ แต่หลังจากนันหนลิ ้ งหมิงก็ไม่มีโอกาศได้ เข้ าสู้สภาวะนี ้อีก ในครัง้ นี ้มัน
อาจจะเป็ นเพราะการสนันสนุนของยาเม็ดผสานวิญญาณระดับสูงกับหินพลังปราณขันที ้ ่2และ
สถานที่ฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมแห่งนี ้ จึงทําให้ เขาได้ มีโอกาสเข้ าสู้สภาวะแบบนี ้อีกครัง้
แม้ วา่ เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของหลินหมิงจะไม่ได้ สมบูรณ์แบบและมันก็ไม่ได้ ไปถึงขัน้ ‘เห็นแจ้ ง
ไร้ จิต’ ตามที่ตํานานได้ กล่าวเอาไว้ แต่มนั ก็ยงั ให้ ประโยชน์กบั เขาไม่น้อย ภายใต้ สภาวะนี ้การ
ฝึ กฝนของเขาจะก้ าวหน้ าไปอย่างรวดเร็ ว
จิตใจของหลินหมิงนันเข้
้ มแข็งและมุง่ มัน่ มากกว่านักสู้ทวั่ ๆไปอย่างไม่น่าเชื่อ หากเขายักมี
พัฒนาการที่ก้าวกระโดดเช่นนี ้ เป็ นไปได้ วา่ ในอนาคตเขาจะสามารถเข้ าออกสภาวะเช่นนี ้ได้ ดงั
ใจปรารถนา...
หลินหมิงอยูใ่ นสภาวะเช่นนี ้ในนํ ้าตกเยือกแข็งจนครบกําหนดเวลาสองชัว่ โมง นี่เป็ นเวลาที่เขา
จะต้ องกลับมาสู้ตวั ตนที่แท้ จริ งของเขา!
ซี่ดง(ศิษย์พี่ที่เรี ยบจบไปแล้ วและเป็ นผู้ดแู ลนํ ้าตกเยือกแข็ง) เห็นว่าหลินหมิงไม่ได้ ออกมาตาม
เวลาที่กําหนด เขาจึงต้ องเขาไปตามหลินหมิงตามหน้ าที่ เมื่อเขาเข้ ามาแล้ ว เขาก็พบกับหลินห
มิงที่กําลังนัง่ อยูอ่ ย่างสงบ ใต้ นํ ้าตกที่โหมกระหนํ่า ลมหายใจของเขาแทบจะหมดสิ ้นเหมือนคน
ที่ตยไปแล้ ว
ทันทีที่ซี่ดงเห็นหลินหมิง ด้ วยประสบการที่ฝึกฝนในสํานักเจ็ดแก่นแท้ มาอย่างยาวนาน เขารู้วา่
หลินหมิงจะต้ องก้ าวไปอยูใ่ นขันที
้ ่สงู มากอย่างแน่นอน และการพัฒนาการของเขาก็จะก้ าวหน้ า
ไปได้ อย่างรวดเร็ว!
" มีบางอย่างผิดปกติ... ทําไมลมหายใจของเขาแผ่วเบาเช่นนี ้... " ด้ วยสายตาที่คบกริ บของซี ้ดง
สามารถสังเกตุได้ ถงึ พลังปราญที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของหลินหมิง หากปราศจากมัน
แล้ วล่ะก็ คงจะหมายความว่าหลินหมิงเป็ นเพียงร่างที่ไร้ วิญญาณที่แข็งตายไปแล้ ว”
"นี่มนั ... เจตจํานงแห่งการต่อสู้?" ซี่ดงจําบันทึกเกี่ยวกับเจตจํานงแห่งการต่อสู้ได้ หากใคร
สามารถเข้ าสู้สภาวะเช่นนี ้ได้ การฝึ กฝนของพวกเขาจะก้ าวหน้ าอย่างน่าเหลือเชื่อในวันนัน! ้
หลิงเซ็นเองก็เข้ าใจถึงหลักการของเจตจํานงแห่งการต่อสู้ เขาเป็ นพวกที่มีจิตวิญญาณเข้ มแข็ง
กว่าคนปกติ
สิ่งที่ซี่ดงเห็นอยูต่ รงหน้ า ทําให้ เขาไม่แปลกใจเกี่ยวกับพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของหลินหมิง
้ ่จะต่อสู้ เป็ นที่ร้ ูกนั ดีวา่ ผู้ที่จะเข้ าสู้สภาวะ’เจตจํานงแห่งการต่อสู้’
เลย หลินหมิงมีความมุง่ มันที
จะต้ องมีจิตวิญญาณและหัวใจที่เข้ มแข็ง แต่ก็ใช้ วา่ ผู้ที่มีจิตวิญญาณและหัวใจที่เข้ มแข็งทุกคน
จะสามารถเข้ าสู้สภาวะนี ้ได้
"จะพูดง่ายๆก็คือ นอกจากจะต้ องมีจิตวิญญาณที่เข้ มแข็งแล้ วยังต้ องมีโชคอีกด้ วยถึงจะมี
โอกาสเช่นนี ้! "
ขณะนี ้เหล่าศิษย์คนอื่นได้ เดินทางมาถึงด้ านหน้ าของอาคมมิตินํ ้าตกเยือกแข็งแล้ ว "ท่านผู้
อาวุโส ช่วยเปิ ดมิติอาคมนํ ้าตกเยือกแข็งให้ พวกเราเข้ าไปด้ วย ข้ าต้ องการฝึ กฝนในระดับควา
ยากที่ระดับเจ็ด พัฒนาการของข้ าเป็ นไปตามที่คาดหวังในเร็ วๆนี ้ข้ าจะท้ าทายในระดับที่สงู ขึ ้น "
"..." แม้ วา่ ซี่ดงจะเป็ นผู้รับผิดชอบเรื่ องเราฝึ กฝนในสถานที่แห่งนี ้ และทําหน้ าที่ต้องรับเหล่าศิษย์
ที่จะมาฝึ กฝน แต่ดเู หมือนว่าในตอนนี ้เขาจะไม่เต็มใจเท่าไร "อาคมยังไม่พร้ อม... "
"อะไรนะ?" ซันฉิงขมวดคิ ้วเล็กน้ อย เวลาที่จะได้ ฝึกฝนในสถานที่เห็นนี ้นันมี
้ กว่ายิ่งนัก เพียงแค่
เสียไปหนึง่ ถึงสองนาทีก็จะเป็ นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ งานของซี ้ดงคือยํ ้าให้ ศิษย์ออกมาตรง
เวลา
"ท่านผู้อาวุโส ท่านกําลังทําให้ พวกเราเสียเวลาที่มีคา่ ในการฝึ กฝนไป? ใครอยูภ่ ายในนัน?"
้
ซันฉิงถามด้ วยความไม่พอใจ เห็นได้ ชดั ว่าซี่ดงกําลังถ่วงเวลาให้ ใครบางคนได้ ฝึกอยูใ่ นนันต่
้ อ
แต่ถงึ กระนันซี
้ ่ดงก็เป็ นผู้คมุ ของที่นี่ หากทําให้ เขาโกรธเคืองคงจะมีปัญหาตามมาในอนาคต
"ผู้ที่กําลังฝึ กฝน... ก็คือหลินหมิง" ซี่ดงกล่าว
“หลิ… หลินหมิง?!” เมื่อได้ ยินชื่อนันซั
้ นฉิงถึงกับเบิกตากว้ างและกลืนนํ ้าลายดังเฮือก เพราะ
หลินหมิงได้ กลายเป็ ฯคนมีชื่อเสียงไปทัว่ ในอาณาจักรแห่งนี ้ เขาเป็ นมนุษย์ผ้ เู อาชนะลิขิตสวรรค์
ได้ ชื่อของเขาไม่วา่ ใครในอาณาจักรนี ้ก็ต้องรู้จกั เขามีชื่อเสียงมากว่าหลิงเซ็นและทาคุเสียอีก!
และหากเขาสามารถเอาชนะจู้ยนั ได้ แล้ วละก็ คงไม่มีศิษย์คนใดกล้ าไปขัดใจเขาอย่างแน่นอน
ซันฉิงรี บซ่อนความไม่พอใจที่เคยมีก่อนหน้ านี ้ "อ่อ เป็ นหลินหมิงที่มีชื่อเสียงคนนันอย่
้ างนันเอง
้
หรอกรึ ฮ่าฮ่า... แล้ วเขาจะออกมาเมื่อไหร?" แม้ วา่ เขาจะไม่ได้ โกรธเคืองอะไร แต่เขาก็ยงั แอบ
เสียดายเวลาในการฝึ กฝนของพวกเขาอยู่
ซี่ดงกล่าว "ข้ าเองก็ยงั ไม่แน่ใจ เท่าที่ข้าดูหลินหมิงได้ ค้นพบเส้ นทางในการฝึ กฝนที่พิเศษ เขาจึง
ยังไม่สามารถที่จะออกมาได้ ในตอนนี ้ ข้ าต้ องขอแสดงความเสียใจด้ วย เมื่อเขากลับออกมาข้ า
จะขอให้ เขาชดเชยเวลาของเจ้ าให้ เอง"
ซี่ดงไม่ได้ พดู ถึงเรื่ องของ ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ มันไม่ใช่เรื่ องที่เขาจะตัดสินใจว่าควรจะ
เผยแพร่ออกไปหรื อไม่
เมื่อได้ ยินเช่นนันซั
้ นฉิงก็ได้ แต่พยักหน้ าตกลง แน่นอนว่าไม่วา่ ใครก็คงไม่พอใจที่ถกู เลื่อนเวลา
เช่นนี ้ แต่เนื ้องจากผู้ที่ทําเช่นนันคื
้ อหลินหมิง เขาจึงได้ แต่ทําใจยอมรับ เขาคิดอะไรชัว่ ครู่และ
กล่าว "ในครัง้ นี ้ทีหลินหมิงยืมเวลาของข้ าไป ถ้ าหากเขาจําชื่อของข้ าได้ ก็จะเป็ นอะไรที่ยอด
เยี่ยมมาก "
ซันฉิงเองก็อยากจะประจบหลินหมิง การให้ หลินหมิงยืมเวลาไป หากให้ หลินหมิงได้ ร้ ูจกั เขาก็จะ
เป็ นเกียรติไม่น้อย
"ฮ่าๆ แน่นอน" ซี่ดงกล่าว เขาเข้ าใจความคิดของซันฉิง
ด้ วยเหตุการณ์ดงั กล่าว ทําให้ ในวันนี ้หลินหมิงได้ ฝึกฝนในสภาวะ‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ใน
นํ ้าตกเยือกแข็งนานถึง4ชัว่ โมง!
เมื่อเขารู้สกึ ตัวขึ ้น เขาก็ต้องประหลาดใจ เขาฝึ กฝนมานานค่ไหนแล้ ว?
ในขณะที่เขาเดินออกมาจากนํ ้าตกเยือกแข็ง ดวงอาทิตย์อยูท่ างทิศตะวันตกแล้ ว นี่เป็ นช่วงบ่าย
้ น้อยกว่า3-4ชัวโมง!
แล้ วสินะ? อย่างน้ อยเข้ าก็ต้องฝึ กฝนอยูใ่ นนันไม่ ้
"ในที่สดุ เขาก็ออกมา…" ซี่ดงรี บวิ่งไปทักทายหลินหมิง "ข้ าเห็นเจ้ ากําลังฝึ กฝนอยูใ่ นขันตอนที
้ ่
สําคัญ จึงไม่ได้ เข้ าไปรบกวน ข้ าคาดว่าเจ้ าคงใช้ เวลาในนันราวๆ3ชั
้ ว่ โมงครัง้ "
"สามชัว่ โมงครึ่ง? แล้ วข้ าไปล่วงเกินเวลาของใครหรื อป่ าว?"
"ใช่แล้ ว เจ้ าจะต้ องใช้ คือเวลาให้ กบั เขา"
“ข้ าต้ องขอขอบคุณท่านผู้ดแู ลที่ช่วยเหลือ" หลินหมิงไม่คิดว่าเขาจะมีโอกาสที่ดีเช่นนี ้ ความ
แข็งแกร่งเป็ นทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้ าผู้ใดแข็งแกร่งผู้นนก็
ั ้ จะมีสทิ ธชี ้ขาด หากใครอ่อนแอแล้ วล่ะก็คง
ทําได้ แต่ฝืนใจยอมรับชะตากรรม
MW#096 อาจารย์ฮ่องซี
...
...
...
"ท่านศิษย์พี่ผ้ ดู แู ล ท่านมีข้อมูลอะไรเกี่ยวการสภาวะนันหรื
้ อไม่?" หลินหมิงไม่ร้ ูอะไรเกี่ยวกับ
‘เจตจํานงแห่งการต่อสู้’ เลย เขาจึงเอ่ยปากถามเผื่อว่าจะได้ ความรู้มากขึ ้น
...
"เจ้ าหลินหมิงนันต้
้ องการที่จะเอาชนะจู้ยนั ในหนึง่ เดือนจริ งๆหรื อนี ้ ข้ าคิดว่ามันเป็ นเรื่ องที่
เป็ นไปไม่ได้ ! "
"อืม แม้ หลินหมิงจะเป็ นอัจฉริ ยะที่เก่งกาจ แต่จ้ ยู นั นันแข็
้ งแกร่งเกินไปสําหรับเขา ข้ าคิดว่าจู้ยนั
จะเป็ นฝ่ ายชนะ ในความยากระดับสิบที่เขากําลังฝึ กฝนอยูต่ อนนี ้ หากข้ าเข้ าไปก็คงจะถูกฆ่า
ในทันที! "
...
...
จู่ๆหลินหมิงก็เปิ ดตาขึ ้นมา เขาสัมผัสได้ วา่ มีใครบางคนอยูแ่ ถวนี ้ แม้ วา่ สํานักเจ็ดแก่นแท้ จะ
คอยดูแลความลอดภัยของเหล่าศิษย์ในสํานักอยู่ แต่เขาก็ไม่เคยประมาทเพราะเขาเองก็มีศตั รู
มากขึ ้นทุกวัน
"ท่อนแขนมีพลังแข็งแกร่งดีนี่!" เขาอุทาน
"ท่านอาจารย์ฮ่องซี!" การมาเยือนของเขาทําให้ หลินหมิงถามประหลาดใจ เขาคืออาจารย์
ผู้ดแู ลศิษย์ในห้ องพสุธา
"เจ้ าได้ สร้ างชื่อเสียงที่ดีให้ ข้าในฐานะที่ข้าเป็ นอาจารย์ของเจ้ า จาการที่เจ้ าได้ อนั ดับที่62และ
การท้ าทายต่อจู้ยนั ! เจ้ าเป็ นศิษย์ที่กล้ าหาญมาก! "
"ฮ่าๆ เยี่ยม! นัน่ เป็ นสิง่ ที่ดี! ให้ มนั เป็ นไปตามธรรมชาติที่หวั ใจของเจ้ าต้ องการ! เมื่อเหล่านักสู้
ได้ ทําตามแรงปรารถณาที่แท้ จริ งของหัวใจ การไหลเวียนของพลังปราณจะไม่ถกู จํากัด การ
ตัดสินใจของเจ้ าเป็ นทางเลือกที่ถกู ต้ องแล้ ว การตัดสินใจของเจ้ าเป็ นการกระทําที่กล้ าหาญ
มาก! ตังแต่
้ วนั นี ้ ข้ าจะสอนทักษะหอกของให้ ให้ กบั เจ้ า! และเมื่อข้ าได้ ถ่ายทอดวิชาให้ นกั สู้คน
ใดด้ วยตัวข้ าเอง ข้ าไม่ต้องการที่จะเห็นเขาแพ้ กลับมา เจ้ าเข้ าใจสินะ!? "
--------------------
MW#097 เจตจํานงแห่งการต่อสู้ทงเจ็
ั้ ด
...
...
...
"โห้ ? น้ อยขนาดนันเลยรึ
้ ?" หลินหมิงเข้ าใจเหตุผลที่ไม่คอ่ ยมีใครรู้จกั เจตจํานงแห่งการต่อสู้
ขึ ้นมาทันที เป็ นเพราะมีน้อยคนนักที่จะเข้ าถึงมันได้
"หมายความว่าระดับการฝึ กฝนของหลิงเซ็นนันไม่
้ ผ่านคุณสมบัติในการเป็ นศิษย์พิเศษอย่าง
้ อ?"
นันหรื
ดังนันหลิ
้ งเซ็นจึงถูกปฏิเสธ!
คนๆเดียวเข้ าถึงเจตจํานงแห่งการต่อสู้ทงเจ็
ั ้ ด!
ศิษย์พิเศษ... หลินหมิงคิดอย่างเงียบๆ
--------------------------
...
...
...
ศิษย์พิเศษ...
ฮ่องซีสมั ผัสได้ ถงึ ความเคารพของหลินหมิง เขาโน้ มตัวไปข้ างหน้ าหนึง่ ก้ าว จับหอกเอาไว้ อย่าง
มัน่ คงและเล็งไปที่ปลายหอกของหลิงหมิง จากนันก็ ้ ฟาดหอกของเขาปะทะเข้ ากับหอกของ
หลินหมิงอย่างรุนแรง!
"อืม…?"
"โฮ่!"
ฮ่องซีที่เป็ นถึงนักสู้ขนผสานชี
ั้ พจร ถึงกลับต้ องกระชากหอกของเขากลับคืนมาเพื่อหลีกเลี่ยง
การส่งผ่านพลังปราณสัน่ สะเทือนของหลินหมิง แต่ในเวลานันเอง ้ หอกของหลินหมิงก็ฟาด
กลับมาที่เขา!
เป้ง!
"!"
การต่อสู้จบลงแล้ ว!
ทักษะที่ทรงพลังและลึกซึ ้งเช่นนันไม่
้ มีทางที่จะสามารถเรี ยนรู้ได้ ด้วยตนเอง แน่นอนว่าหลินห
มิงจะต้ องเรียนรู้มนั จากตําราแผ่นหยกที่จารึกทักษะนันเอาไว้
้ ฮ่องซีคิดย้ อนกลับไปถึงตําราที่
หลินหมิงเคยฝึ กฝน ‘ศิลปะการต่อสู้ด้วยหอก’ ‘พื ้นฐานการเคลื่อนไหว’ และ 'หมัดสลาย
กระดูก' ...
---------------------------------
MW#099 หอกที่รวดเร็ว
...
...
...
การสัน่ สะเทือน!
หากหลินหมิงสามารถทําเช่นนันได้
้ จริง เขาก็ไม่ตา่ งอะไรกับอัจฉริ ยะผู้สร้ างปาฏิหาริ ย์!
มีเพียงแต่ฉินชิงหวนเท่านันที
้ ่พอจะเทียบเขาได้ !
"ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ข้าได้ ตอ่ สู้กบั เจ้ า ข้ ารู้สกึ ได้ ถงึ ความแข็งแกร่งที่สงู ลํ ้าของเจ้ า แต่สิ่งที่เจ้ า
ยังขาดอยูก่ ็คือความเร็ว ด้ วยความเร็วของเจ้ าในตอนนี ้ไม่สามารถที่จะไล่ตามการกระบวนท่า
ของจู่ยนั ได้ ทนั ! "
ดาบนันรวดเร็
้ วกว่าหอกและยังมีความแม่นยําที่สงู กว่า
แต่ดาบก็ไม่สามารถจะเทียบเรื่ องความรุนแรงกับหอกได้
...
ยาเม็ดไขกระดูกมังกรทอง!
ไขกระดูกมังกรทองคือวัตถุดิบที่หายากอย่างยิ่งและไม่อาจจะประเมินมูลค่าได้ และขันตอนที
้ ่
จะปรุงมันเข้ ากับสมุนไพรชนิดอื่นๆเพื่อที่จะดึงประสิทธิภาพของมันออกมาให้ มากที่สดุ ยังมี
น้ อยคนนักที่จะทําได้ ต้ องเป็ นนักปรุงยาระดับสูงจากนิกายโบราณเท่านันถึ
้ งจะทําได้ สําเร็ จ
ดังนันมั
้ นจึงเป็ นไปไม่ได้ ที่จะถูกปรุงขึ ้นในอาณาจักรลิขิตฟ้า แม่แต่เหล่าองค์ชายก็ยงั ไม่อาจหา
มันมาได้ ไม่วา่ จะใช้ เงินทองมากมายเพียงใดก็ตาม
MW#100 สําเร็จขันอวั
้ ยวะภายในช่วงปลาย
...
...
...
เขาหายใจลึกๆ ก่อนจะวางยาลงบนปากและกลืนลงไป
หลินหมิงเปิ ดตาทังสองและสู
้ ดหายใจเข้ าลึกๆ อากาศโดยรอบเต็มไปด้ วยไอนํ ้า
ลมหายใจเขาเหมือนนํ ้าวน ในความทรงจําจากดินแดนประเจ้ า ผู้คนที่ฝึกฝนไปถึงขันที ้ ่สงู ขึ ้นจะ
มีการพัฒนาลมหายใจของเขาขึ ้นเรื่ อยๆ และเมื่อการหายใจเป็ นดัง่ ฟ้าคําราม ก็เท่ากับว่าพวก
เขามีอํานาจที่จะทลายผืนฟ้าแยกพสุธาได้
หลังจากที่ก้าวไปถึงการฝึ กฝนขันที
้ ่สามช่วงปลาย หลินหมิงก็ไม่ลืมที่จะทดสอบพละกําลังของ
เขา เขาต้ องการจะรู้วา่ ในขณะนี ้เขายังเป็ นรองหลิงเซ็นอีกเท่าไร
ปึ งง!
5000 จิ๋น!
5100 จิ๋น!
5200 จิ๋น!
ด้ วย ‘ปฐมบทแห่งความโกลาหล’ ขันที
้ ่สองและการฝึ กฝนช่วงปลายของขันที
้ ่สาม ทําให้ เขามี
พละกําลังถึง 5000 จิ๋น!
...
สิบวันผ่านไป
ปึ ง!
แต่ใบไม้ ที่ถกู เสียบอยูบ่ นหอกก็ยงั ไม่เรี ยงตัวกันเป็ นระเบียบเรี ยบร้ อยเหมือนในครัง้ ที่ฮ่องซีได้
แสดงให้ ดู แต่เขาก็เข้ าใจถึงการความคุมพลังในแต่ละหอกแล้ ว ความเร็ วในการใช้ หอกของเขา
เพิ่มขึ ้นอย่างมาก
เป้ง!