ลบ เจอ ลบ จะเป็น บวก

ปกตินะครับ เวลาที่เราทายดวงนะครับ เราจะเริ่มอ่านความหมายจากภพก่อน ว่าความหมายจากภพ

เป็นยังไงเรื่องราวเป็นแบบไหน แล้วเราจึงอ่านความหมายจากดาวต่อ และอ่านความหมายจาก ฐาน
เพื่อเป็นการขยาย หรือ สรุปเรื่องในขั้นตอนต่อไปครับ
.ผมจะสรุปให้ดูเป็นขั้นๆไปแบบนี้นะครับ
๑.)เราจะเริ่มอ่านความหมายจากภพก่อน ว่าความหมายจากภพ เป็นยังไงเรื่องราวเป็นแบบไหน
๒.)แล้วเราจึงอ่านความหมายจากดาวต่อ
๓.)และอ่านความหมายจาก ฐานเพื่อเป็นการขยาย หรือ สรุปเรื่องในขั้นตอนต่อไปครับ
จำหลักการไว้นะครับ
ในส่วนเรื่องของการบอกว่า ลบ กับ ลบ จะเป็นบวก กฎตรงนี้มักจะสร้างมาจากการอ่านทางภพครับ
ซึ่งถ้าเราเอาแค่การอ่านจากภพ หรือ ความหมายในชั้นแรก ข้อ ๑ มาอ่านเพียงอย่างเดียว ยังไงก็ไม่ได้
ครับ ดังนั้นให้ตัดคำว่า ลบ เจอ ลบ เป็นบวกก่อนครับ
แต่ให้ดู พิจารณา จากรูปดวงของจังหวะ ทั้งหมดครับ ถึงจะรู้ว่าแนวโน้มทิศทางจะไปทางไหนครับ

หินะ-อริ-มรณะ
อ่านแบบข้อ๑
หินะ ความเสียหาย ความเสื่อม
อริ เกิดปัญหา ต้องแก้ไข
มรณะ จบ จาก ลา ตาย (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
.
อ่านแบบข้อ ๒ เราจะเอาความหมายดาวไปใส่ด้วยครับ
สมมติเป็นรหัสดวง ๒๕๓ ก็แล้วกันครับ
ดาว ๓ ความหมายแบบย่อมักทายเป็นเรื่องการงาน หรือ เรื่องความแข็งแรง สุขภาพ
หินะ ความเสียหาย ความเสื่อม
อริ เกิดปัญหา ต้องแก้ไข
มรณะ จบ จาก ลา ตาย (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
ทายรวมๆจะไปทาง การงานเกิดความผิดพลาด(หินะ) ต้องแก้ไข(อริ) พยายามทำให้เรื่องมันจบหรือ
หมดปัญหา(มรณะ)

อ่านแบบข้อที่๓ เราจะไปดูที่ฐาน และการขยายฐานรวมไปด้วยครับ

๓/๑๐ คือ ๓/๗ ถ้าไม่ชนเสียเราก็ทายไปทาง แข่งขัน ต่อสู้เพื่อเอาชนะ
๓/๗ ชนเสีย มากๆ ก็ทายไปทาง มีเหตุเสียหาย แตกหัก ที่หนัก เกินจะรับหรือแก้ไข
การขยายฐาน ก็คือ ตามที่ดาว ๗ ครับ
ดาว ๗ ลง พยายะ ดังนั้น ปัญหาที่เจอ จุดจบ มันจะออกไปในทางที่เสียหาย มากกว่าที่จะดีครับ
สมมติเป็นรหัสดวง ๗๓๔ ก็แล้วกันครับ
ดาว ๑ ความหมายแบบย่อมักทายเป็นเรื่องความก้าวหน้า การเลื่อนตำแหน่ง
หินะ ความเสียหาย ความเสื่อม
อริ เกิดปัญหา ต้องแก้ไข
มรณะ จบ จาก ลา ตาย (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
ทายรวมๆจะไปทาง ความก้าวหน้าที่คาดหวังต้องการ เกิดความผิดพลาด(หินะ) เกิดปัญหา(อริ)
ทำให้สิ่งที่คาดหวังนั้นจบลง(มรณะ)

อ่านแบบข้อที่๓ เราจะไปดูที่ฐาน และการขยายฐานรวมไปด้วยครับ

๑๑ ก็ตามเลขท้าย คือ ตัว เลข๑ นั้นก็คือ ลงมรณะ เช่นเดิม ดังนั้นเรื่องความหวัง ความต้องการนี้ อาจ
จะจบลงที่ตรงนี้
สมมติเป็นรหัสดวง ๑๔๒ ก็แล้วกันครับ
ดาว ๒ มักจะทายไปในความหมายถึง สภาวะจิตใจ การเดินทาง ความเป็นอยู่
หินะ ความเสียหาย ความเสื่อม
อริ เกิดปัญหา ต้องแก้ไข
มรณะ จบ จาก ลา ตาย (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
ทายรวมๆจะไปทาง เกิดเรื่องไม่ดีบางอย่าง(หินะ) มีปัญหาบาดแผลทางจิตใจ(อริ) จนตัวเราไม่อยาก
อยู่ตรงนี้ อยากออกจากตรงนี้(มรณะ)

อ่านแบบข้อที่๓ เราจะไปดูที่ฐาน และการขยายฐานรวมไปด้วยครับ

๒/๗ คู่พลัดพราก จากไกล ห่างจากตรงนี้
การขยายฐาน ก็คือ ตามที่ดาว ๗ ครับ
ดาว ๗ ลง
ทาสา คือ ความเหนื่อยยาก เหนื่อยใจ
มัชชิมา เลยกำลังกังวล กำลังเลือก กำลังต้องตัดสินใจ
พันธุ ที่จะโยกย้ายออกจากตรงนี้
สมมติเป็นรหัสดวง ๖๒๓ ก็แล้วกันครับ
ดาว ๗ ความหมายแบบย่อมักทายไปทาง ความมั่นคง ความเหน็ดเหนื่อย ความเครียด
หินะ ความเสียหาย ความเสื่อม
อริ เกิดปัญหา ต้องแก้ไข
มรณะ จบ จาก ลา ตาย (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
ทายรวมๆจะไปทาง เกิดความผิดพลาดจนทำให้เครียดมาก(หินะ) ต้องพยายามแก้ไข(อริ) พยายาม
ทำให้เรื่องมันจบหรือหมดปัญหา(มรณะ)
.
อ่านแบบข้อที่๓ เราจะไปดูที่ฐาน และการขยายฐานรวมไปด้วยครับ
๑๕ จิตใจ ความคิด ความกังวล
๗/๑๕ พลัดพราก โยกย้าย เปลี่ยนจุด จบเรื่อง
.
การขยายฐานต่อ
ตามดาว๒ ลง ตนุ กัมมะ ปิ ตา
การโยกย้ายออกไปที่อื่น น่าจะทำให้เกิดความสบายใจที่มากขึ้น
.
ก็ประมาณนี้ครับ เวลาจะแปลดวง ก็ลองค่อยๆอ่านไป ทีละขั้น ทีละขั้นครับ จะช่วยทำให้เราขยาย
เรื่องได้มากขึ้นครับ
.
๑.)เราจะเริ่มอ่านความหมายจากภพก่อน ว่าความหมายจากภพ เป็นยังไงเรื่องราวเป็นแบบไหน
๒.)แล้วเราจึงอ่านความหมายจากดาวต่อ
๓.)และอ่านความหมายจาก ฐานเพื่อเป็นการขยาย หรือ สรุปเรื่องในขั้นตอนต่อไปครับ
.
ปัญหาถ้ามันมากเกินไป หนักไป บางครั้ง การไม่อยู่ตรงนี้ การจบจากตรงนี้ ก็เป็นการไป เพื่อเจอสิ่ง
ใหม่ ให้เริ่มใหม่ได้ครับ
.
แต่จะดี หรือ จะร้าย ก็ว่ากันไปตามจังหวะดวง ของเดือนต่อไป ตามจังหวะดวงของปี ต่อไป อะไร
ลักษณะแบบนี้ครับ
.
อย่าสรุปเป็นสูตรสำเร็จ แต่ ให้อ่านไปทีละดวง เฉพาะ ดวงครับ

คู่แท้ กับ คู่ไม่แท้

คู่แท้ คือ คู่ที่เราคบ เพียงคนเดียว แล้วเราไม่เคยคบใครอื่น มีความสัมพันธ์ กับ คนๆเดียวไปจนวัน

สุดท้ายของชีวิต แบบนี้เรียกว่าคู่แท้นะครับ ซึ่งถ้าตามเงื่อนไขนี้ ใครเป็นแบบนี้ถือว่าโชคดีมากๆ
ครับ
พอหลุด กฎเมื่อกี้มา ทั้งหมดนะครับ เราจะเรียกว่า คนมีตำหนิครับ คือ คนที่เคยผ่านการมีแฟน ผ่าน
การมีเพศสัมพันธ์ มาแล้วครับ พูดง่ายๆ อาจจะเป็นคนมีตำหนิ เจอกับคนมีตำหนิครับ หรือ คนมี
ตำหนิ เจอคนซิง แล้วอยู่กับคนซิงไปตลอดชีวิต โดย ี่คนมีตำหนิ พอเจอคนซิงแล้ว เค้าไม่เคยเกเรอีก
เลยครับ
หลักๆ จะมีแค่3 ข้อนี้ครับ มาในแง่วิชาครับ
ภพที่เป็นคู่ ก็คือ ภพแห่งเพศตรงข้ามครับ มัชชิมา ปัตนิ ทาสี ภริยัง พวกนี้เป็นภพของเพศตรงข้าม
ทั้งสิ้นครับ
พอเราเติมความหมายภพอื่นเข้าไป เราก็จะเรียกแปลไปต่างๆตามความหมายของภพที่เจอครับ
มัชชิมา ปัตนิ ทาสี ภริยัง
.ชนมรณะ เราจะเรียก เจอคนไกล คู่ไกล
ชนศุภะ เราจะเรียกคู่มีโอกาสแต่ง
ชนกัมมะ เราจะเรียก คู่ที่ทำอะไรบางอย่างร่วมกัน หรือ บางคนจะเรียกคู่กรรม
ชนลาภะ แปลว่า มาก ดังนั้นเราจะเรียกว่าเจอหลายคน หรือ คนมีเสน่ห์ แต่ไม่มีเสน่ห์ ก็มีโอกาสเจอ
ในช่วงเวลาไล่ๆกันหลายคนได้นะครับ
ชนพยายะ แปลว่า คู่ที่เจอเป็นคนขี้โรค หรือ คู่ที่้จออาจจะไม่ค่อยมีเวลา หรือ อาจจะมีคนอื่นซ้อนไว้
ชนอริ แปลว่า คู่ที่เจอ ไม่ได้มีเราแค่คนเดียว เพราะอริ คือ คู่แข่งของเรา
ชนปุตตะ แปลว่า เริ่มคบเริ่มเจอ
ชนภพเดียวกันเอง เช่น ทาสี ชนปัตนิ ก็คือ เจอ เข้ามาพร้อมกัน 2 คนในเวลาไล่ๆกันครับ
เรื่องคู่มีประมาณเท่านี้ครับ
ต่อไปก็เรื่องดี ไม่ดี ให้ไปดูที่ปี จรก่อนครับ ก็เข้ากฎเดิมครับ เจอในเวลาที่ดาวดี ฐานดี ไม่ชนเสียเลย
ความสัมพันธ์ ก็ดีครับ เจอในเวลาที่ชนเสีย 1 จุดก็มีปัญหาไปตามภพที่เสีย ฐานที่เสีย เจอในเวลาที่
ชนเสียมากกว่า 2 จุด ปัญหาก็ขยายไปตามภพ ตามดาวที่ออกมาครับ ตัวดาวฐานภพจะบอกลักษณะ
คู่ว่าจะไปในทางไหน นิสัย งาน ความมั่นคงต่างๆ ว่าไปตามหน้างาน ตามดวง ตามเวลาเวลาของ
ดวงครับ ไม่มีสูตรสำเร็จครับ จบครับ