Professional Documents
Culture Documents
สำรบัญ
เรื่ อง หน้า
คำนำ........................................................................................................................................................ก
สำรบัญ.....................................................................................................................................................ข
สำรบัญภำพ..............................................................................................................................................ค
บทนำ........................................................................................................................................................1
คอนกรีตสำหรับงำนโครงสร้ำงท่ำเทียบเรือ ...............................................................................................2-25
งำนคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรง..................................................................................................................26-30
งำนเหล็กเสริมคอนกรีต............................................................................................................................30 34
สรุป...........................................................................................................................................................35
บรรณนุกรม................................................................................................................................................36
ค
บทนา
กำรจะได้อำคำรคอนกรีตที่ดี จำเป็ นอย่ำงยิ่งที่จะต้องมี กำรวิเครำะห์และออกแบบอย่ำงถูกต้องตำมหลัก
วิชำกำร มีกำร ออกแบบส่วนผสมและเลือกใช้วสั ดุที่มีคณ
ุ ภำพตำมมำตรฐำนและ เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมของ
โครงสร้ำง ตลอดจนมีกำรก่อสร้ำง ให้เป็ นไปตำมแบบและมีกำรควบคุมกำรก่อสร้ำงที่ดีกำร ดำเนินกำรเพื่อให้ได้
ุ ภำพตำมต้องกำร ข้ำงต้นนัน้ เป็ นสิ่งที่ไม่ง่ำยนัก เพรำะต้องอำศัยควำมรูเ้ กี่ยวกับ
โครงสร้ำงคอนกรีตที่มีคณ
คอนกรีตและวัสดุ ตลอดจนวิธีกำรก่อสร้ำงที่เกี่ยวข้องเป็ นอย่ำง มำก กำรเทคอนกรีตใต้นำ้ (tremie concrete) ที่
ผ่ำนมำเป็ นกำร เทคอนกรีตโดยป้อนจำกภำชนะที่บรรจุ (hopper) ให้ไหลไปโดย นำ้ หนักของตัวเองด้วยแรงดึงดูด
ของโลกลงไปตำมท่อในแนวดิ่ง โดยทั่วไปใช้ท่อขนำด 20 เซนติเมตร ซึ่งต่อลงไปจนถึงพืน้ ใต้นำ้ ก่อนเริ่มต้นเท
คอนกรีตในนำ้ จะต้องอุดปลำยท่อ เพื่อมิให้นำ้ เข้ำ เสียก่อน ซึ่งเมื่อคอนกรีตไหลลงไปในท่อแล้วจะดันให้ตวั อุดหลุด
ออกไปเอง ต้องระวังให้คอนกรีตเต็มท่ออยู่เสมอ และปลำยล่ำง ของท่อจะต้องจมอยู่ในเนือ้ คอนกรีตซึ่งยังไม่แข็งตัว
30 ถึง 50 เซนติเมตรตลอดเวลำ ทัง้ นีเ้ พื่อมิให้นำ้ ไหลเข้ำไปในท่อ กำรไหล ของคอนกรีตควบคุมโดยกำรเลื่อนท่อ
ขึน้ ลงในแนวดิ่ง เมื่อเริ่มต้น เทคอนกรีตแล้วต้องเทให้ติดต่อไปจนแล้วเสร็จ ถ้ำมีเหตุอนั ทำให้ กำรเทคอนกรีตต้อง
ขำดตอน จะต้องตัง้ ต้นใหม่เช่นเดียวกับกำร เริ่มต้นเทคอนกรีต ในที่ๆ มีกระแสนำ้ ไหลต้องทำแบบให้ดีไม่ให้ร่วั เพือ่
ป้องกันมิให้นำ้ ปูนไหลออกไปนอกแบบ ต้องระวังมิให้คอนกรีต ลงไปในนำ้ โดยตรง เพรำะจะทำให้ปริมำณ
ปูนซีเมนต์ในส่วนผสม ถูกชะล้ำงออกไป หรือทำให้ส่วนผสมเปลี่ยนไป หรือทำให้คอนกรีต แยกตัว กำรเทคอนกรีต
ต้องควบคุมให้คอนกรีตแผ่ตวั ออกไปทำง ด้ำนข้ำง ซึ่งจะขึน้ อยู่กบั ควำมสูงของระยะที่เทและควำมข้นเหลว ของ
คอนกรีตด้วย และพยำยำมเทให้คอนกรีตเพิ่มขึน้ มำเป็ นระดับ เท่ำๆ กันทั้งหน้ำตัดที่เท จำกที่กล่ำวมำข้ำงต้น ทำให้
เห็นว่ำปัจจัยสำคัญอันดับ ต้นๆ ที่มีผลต่อกำรเสื่อมสภำพ หรือกำรถูกทำลำยของโครงสร้ำง คอนกรีตเสริมเหล็กใต้
นำ้ หรือที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมทะเลนัน้ คือ สัดส่วนผสมหรือวัสดุที่ใช้ผสมคอนกรีต ซึ่งจะมีผลต่อกำรถูก ทำลำยจำก
สิ่งแวดล้อมทะเลเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว (กำลัง และ ควำมคงทน เป็ นต้น) และมีผลต่อสมบัติและกำรทำงำนของ
คอนกรีตสด (ควำมสม่ำเสมอ ควำมยำกง่ำยในกำรเท และกำร แยกตัว เป็ นต้น) และที่ไม่สำมำรถมองข้ำมไปได้
สำหรับคอนกรีตใต้ นำ้ นัน้ ปัญหำหรืออุปสรรคหลักอยู่ที่ขนั้ ตอนวิธีกำรของกำรเท คอนกรีตใต้นำ้ โดยเฉพำะอย่ำง
ยิ่งคอนกรีตใต้นำ้ ในทะเลที่ระดับ นำ้ ลึก และไกลจำกชำยฝั่ง ซึ่งจะต้องเผชิญทัง้ สภำพนำ้ ลึก ลมแรง และกระแสนำ้
ไหลแรง เป็ นต้น ดังนัน้ กำรศึกษำนวัตกรรมคอนกรีต ใต้นำ้ ในครัง้ นี ้ จะเน้นไปที่กำรพัฒนำสัดส่วนผสมของคอนกรีต
ที ่ นำมำใช้ และขัน้ ตอน วิธีกำร ตลอดถึงเทคนิคต่ำงๆ ของกำรเท คอนกรีตใต้นำ้ ซึ่งต่ำงก็เป็ นปัญหำหลักของ
คอนกรีตใต้นำ้ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในกำรศึกษำในครัง้ นี ้ ทั้งสัดส่วนผสมของ คอนกรีต และ/หรือขัน้ ตอนวิธีกำรใน
กำรทำงำนของคอนกรีตสด เป็ นกำรนำมำใช้กบั โครงสร้ำงที่อยู่ในสถำนที่ใต้นำ้ จริง นั่นคือใช้กบั กำรซ่อมแซม
โครงสร้ำงอำคำรคอนกรีตส่วนที่อยู่ใต้นำ้ ของ
1
งำนโครสร้ำงคอนกรีตใต้นำ้ เทคนิกและวิธีกำร
1.1 คอนกรีตสำหรับงำนโครงสร้ำงท่ำเทียบเรือ
1.1.1 ทั่วไป
(2) หำกมิได้ระบุในแบบรำยละเอียดก่อสร้ำงและข้อกำหนดรำยละเอียดต่ำงๆ เกี่ยวกับองค์อำคำร
อ้ำงอิงข้อกำหนดงำนก่อสร้ำงเป็ นหลัก
(1) วิธีทดสอบกำลังอัดของแท่งทรงกระบอกคอนกรีต ASTM C39
(3) กำรทดสอบ OBTAINING AND TESTING DRILLED CORES AND
SAWED BEAMS OF CONCRETE ASTM C42
(8) วิธีทดสอบค่ำยุบตัวของคอนกรีต ASTM C143
2
(11) กำรเก็บตัวอย่ำงคอนกรีตสด ASTM C172
1.1.2 วัสดุที่ใช้ผสมคอนกรีต
จะต้องมีคณ
ุ สมบัติดงั นี้
(1) ปูนซีเมนต์
(2) ทรำย
ทรำยที่ ใช้ ให้ใช้ท รำยธรรมชำติ ได้แ ก่ ทรำยน้ำ จืด หรือ ทรำยบกที่ ห ยำบคม แข็ง แกร่ง สะอำด
ปรำศจำกผง ฝุ่ น ดิน เถ้ำถ่ำน เปลือกหอย หรืออินทรียส์ ำรอื่นๆ และจะต้องไม่มีกรด ด่ำงหรือเกลือเจือปน โดยเมล็ดทรำย
3
(3) หิน
หินที่จะนำมำใช้ตอ้ งเป็ นหินที่แกร่ง มีเหลี่ยมคม สะอำด ไม่เป็ นหินหยำบ ดูดซึมนำ้ ได้เกินกว่ำร้อยละ 10 โดยนำ้ หนักหลัก
(4) นำ้
นำ้ ที่ใช้ผสมคอนกรีต เป็ นนำ้ ดี ใสสะอำด ปรำศจำกนำ้ มัน กรด ด่ำง เกลือ และสิ่งสกปรก ห้ำม
ใช้นำ้ ทะเล นำ้ จำกคู คลอง หรือแหล่งนำ้ อื่นใดๆก่อนได้รบั อนุญำต โดยผ่ำนกำรทดสอบมำตรฐำน AASHTO T26
FUME เท่ำกับ 0.5
(5) สำรผสมเพิ่ม (ADMIXTURES)
สำรผสมเพื่อลดปริมำณควำมร้อน
เนื่องจำกกำรเทคอนกรีตโครงสร้ำงขนำดใหญ่ที่มีควำมหนำมำกหรือมีปริมำณกำรเทในแต่ละ
สัดส่วนที่เหมำะสมแล้วแต่ควำมต้องกำรในด้ำนอุณหภูมิ
นำ้ ยำกันซึม
คอนกรีตที่ใช้กบ
ั พืน้ ห้องนำ้ ระเบียง กันสำด รำงนำ้ หลังคำ ดำดฟ้ำและ
พืน้ ชัน
้ ล่ำงภำยในอำคำร ในส่วนที่พนื ้ ต้องสัมผัสกับดินยก เว้นพืน้ ที่มีควำม
หนำเกินกว่ำ 25 ซม.
คอนกรีตที่ใช้เทสถำนีสบ
ู นำ้
นำ้ ยำกันซึม
นำ้ ยำกันซึมที่นำมำใช้จะต้องมีคณ
ุ ภำพได้มำตรฐำนเป็ นที่ยอมรับ เช่น ASTM, BS
นำ้ ยำเร่งกำลังคอนกรีต
สำรผสมอื่นๆ
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะนำมำใช้จะต้องได้รบั อนุมตั ิจำก “ผูค้ วบคุมงำน”
1.1.3 อัตรำส่วนผสมของคอนกรีต
คอนกรีตสำหรับโครงสร้ำง เช่น รำกฐำน เสำ คำน พืน้ และอื่นๆ “ผูร้ บั จ้ำง” จะใช้คอนกรีตผสมเสร็จ
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องส่งรำยกำรคำนวณส่วนผสมของคอนกรีต (MIXED DESIGN) ให้ “ผูค้ วบคุมงำน”
ปูนซีเมนต์ไม่นอ้ ยกว่ำ 325 กิโลกรัม ถ้ำมิได้กำหนดไว้เป็ นอย่ำงอื่น (เช่น กรณี LOW HEAT CONCRETE เป็ นต้น)
กำลังต้ำนทำนแรงอัด (CONPRESSIVE STRENGTH) ของคอนกรีตที่จะใช้สำหรับโครงกำรนี้
อื่น ให้ใช้คอนกรีตที่มีกำลังอัดดังนี้
6
กำรทดสอบก ำลั ง ต้ำ นแรงอั ด ให้ท ดสอบจำกตั ว อย่ ำ งแท่ ง คอนกรี ต รู ป ทรงกระบอก ( CYLINDER)
กำรทดสอบให้กระทำมำตรฐำน ASTM C39
1.1.5 ควำมข้นเหลวของคอนกรีต
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องควบคุมปริมำณนำ้ ที่ใช้ในกำรผสมคอนกรีต ให้คอนกรีตมีควำมข้นเหลวที่สม่ำ เสมอ
วิธี SLUMP TEST ตำมมำตรฐำน ASTM C143 เครื่องมือที่จะทำ SLUMP TEST นี้ “ผูร้ บั จ้ำง” จะต้องเป็ นผูจ้ ดั ให้
กำหนดได้ตำมลักษณะของงำนดังนี้ :-
เกณฑ์กำรยุบตัวของคอนกรีต
ฐำนรำกคอนกรีตเสริมเหล็ก 7.5 2.5
1.1.6 กำรควบคุมคุณภำพของคอนกรีต
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องทำกำรควบคุมคุณภำพของคอนกรีตตำมข้อกำหนดข้ำงล่ำง เพื่อให้กำรดำเนินงำน
(1) ทั่วๆ ไป
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องรับผิดชอบอย่ำงเต็มที่ต่อคุณภำพของคอนกรีตตำมที่ระบุไว้ในข้อกำหนดนี้
แม้ “ผูค้ วบคุมงำน” จะได้ทำกำรทดสอบและยอมรับคอนกรีตนัน้ แล้ว ก็จะไม่เป็ นสำเหตุที่จะให้ “ผูร้ บั จ้ำง” พ้นจำกควำม
7
รับผิดชอบนัน้ ได้
(2) กำรควบคุมกำรผลิตคอนกรีต
วัสดุที่ใช้จะต้องทำตำมวิธีในข้อ 2.1.2
(3) กำรควบคุมกำลังอัด
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องทำกำรชักตัวอย่ำงเพื่อทดสอบ “ผูค้ วบคุมงำน” จะเป็ นผูก้ ำหนดจำนวน
(4) เกณฑ์ท่วั ไป
(5) แผนกำรทดสอบ
ต่อเมื่อค่ำกำลังอัดเฉลี่ยที่ได้จำกกำรทดสอบต้องเท่ำกับหรือมำกกว่ำค่ำกำลังอัดของก้อนทรงกระบอกที่กำหนดในข้อ
สำหรับคอนกรีตที่จะใช้ในโครงสร้ำงคอนกรีตอัดแรง กำลังอัดค่ำเฉลี่ยตำมเป้ำหมำยจะต้องมีค่ำมำกกว่ำค่ำกำลังอัดที่ระบุ
ต่อเมื่อมีผลกำรทดสอบก้อนทรงกระบอกมำกกว่ำ 40 ค่ำ)
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” อำจหล่อก้อนทรงกระบอกเพิ่มเติมสำหรับทำกำรทดสอบคอนกรีตที่อำยุ 3 วันหรือ 7 วัน
เพื่อให้ได้ขอ้ มูลทำงด้ำนกำลังอัดก่อนอำยุ 28 วัน ไม่ว่ำ “ผูร้ บั จ้ำง” จะตีควำมจำกผลกำรทดลองนี้ (ที่ 3 วัน และ 7 วัน)
ดังกล่ำวจะต้องได้รบั กำรแก้ไขถูกต้อง โดย “ผูร้ บั จ้ำง” ต้องออกค่ำใช้จ่ำยเองและ “ผูร้ บั จ้ำง” จะไม่ได้รบั อนุญำตให้ต่อ
เวลำในสัญญำจำกกำรนี้
(1) คำสั่งให้ปฏิบต
ั ิในกรณีที่ไม่เป็ นไปตำมแผนกำรทดสอบ
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องทำกำรเปลี่ยนแปลงปฏิภำคของส่วนผสมของคอนกรีตที่ตำมมำ เพื่อเป็ นกำรเพิ่มกำลังอัด
เกิดควำมเสียหำยแก่โครงสร้ำง
ครัง้
ใหม่นี้
(2) กำรควบคุมกำรแข็งตัว
11 “ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องหล่อตัวอย่ำงทดสอบเพิ่มตำมที่ “ผูค้ วบคุมงำน” สั่ง และต้องทดสอบตัวอย่ำงนีก้ ่อนทำกำรถอด
1.1.7 วิธีกำรก่อสร้ำง
(1) ทั่วๆ ไป
“ผูร้ บ
ั จ้ำง ” จะต้องจัดหำผูค้ วบคุมดูแลงำน และหัวหน้ำงำนซึ่งมีคว ำมสำมำรถ และ
ประสบกำรณ์สำหรับดูแลและควบคุมงำนในจำนวนที่พอเพียงเหมำะสมกับสภำพงำน
(2) คำ้ ยันและแบบหล่อ
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องส่งรำยละเอียด แบบแปลน รำยกำรคำนวณด้ำนโครงสร้ำง และ
ควำมยืดหยุ่นต่อ “ผูค้ วบคุมงำน” เพื่อตรวจสอบ และไม่ว่ำกรณีใดๆ ก็ตำม “ผูร้ บั จ้ำง” จะไม่พน้ จำกควำมรับผิดชอบในผล
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องออกแบบ และสร้ำงคำ้ ยันเพื่อให้ได้ควำมแข็งแกร่งที่พอเหมำะ
ทัง้ นีจ้ ะต้องรับนำ้ หนักบรรทุกได้ในเกณฑ์ที่ได้รบั ควำมเห็นชอบจำก “ผูค้ วบคุมงำน” อำจสั่งให้ “ผูร้ บั จ้ำง” ใช้แม่แรงหรือ
ลิ่มไม้เนือ้ แข็งยกส่วนที่ทรุดของแบบหล่อหรือปรับระดับเพิ่มเติมก่อนในระหว่ำงกำรเทคอนกรีต
“ผูร้ บ
ั จ้ำง ” จะต้องตัง้ คำ้ ยันเผื่อกำรตกท้องช้ำง โดย “ผูค้ วบคุมงำน ” เป็ นผู้
กำรทดสอบและตรวจตรำคำ้ ยันดังกล่ำวจะต้องตกเป็ นของ “ผูร้ บั จ้ำง” ทัง้ สิน้ เมื่อใช้คำ้ ยันเหล็ก สีที่ทำไว้กบั คำ้ ยันจะต้อง
(ข) แบบหล่อ
แบบหล่อหมำยถึง แบบหล่อชั่วครำวและแบบหล่อถำวรที่ใช้ในกำรหล่อคอนกรีต
แบบหล่อสำหรับคอนกรีตเปลือย(ชนิดผิวเรียบ)ที่โครงสร้ำงหน้ำท่ำ ทำจำกโลหะที่มี
แบบหล่อสำหรับคอนกรีตผิวหยำบสำหรับงำนโครงสร้ำงอำคำรที่มีกำรก่อฉำบ
ลักษณะของโครงสร้ำงที่หล่อแล้วเสร็จเกิดควำมเสียหำยได้
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” ต้องส่งแบบแปลนแสดงรำยละอียด และรำยกำรคำนวณแบบหล่อให้ “ผู้
ควบคุมงำน” ตรวจสอบก่อนทำกำรก่อสร้ำง
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องบ ำรุงรักษำแบบหล่อที่นำมำใช้ซ ้ ำให้คงรูปร่ำง กำลัง และควำม
จ้ำง” จะต้องไม่นำแบบหล่อซึ่งไม่อยู่ในสภำพที่ดีพอมำใช้อีกไม่ว่ำกรณีใดๆ
“ผูร้ บ
ั จ้ำง”จะต้องตัง้ แบบหล่อให้สะดวกต่อกำรทำควำมสะอำด สำมำรถขจัดเศษ
ตรวจสอบและให้ควำมเห็นชอบแล้ว
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” เสนอใช้นนั้ จะไม่ทำให้สีผิวของคอนกรีตเปลี่ยนไป หรือทำลำยผิวของคอนกรีตที่หล่อ
ควำมเอียงไม่เกิน 1:400
คลำดเคลื่อนไปจำกแบบร้อยละ 30
(ค) คอนกรีตหยำบและทรำยรองพืน้
ทรำยนีก้ ็ได้
จ้ำง” พ้นควำมรับผิดชอบต่องำนคอนกรีตส่วนนัน้
คอยเพื่อกำรให้ควำมเห็นชอบนี้
สัญญำนี้
(3) กำรดูแลและกำรเก็บวัสดุสำหรับคอนกรีต
(ก) กำรเก็บปูนซีเมนต์
อำกำศมิให้ปนู ซีเมนต์ถกู ควำมชืน้ ได้ อำคำรหรือถังเก็บจะต้องตัง้ อยู่ในที่ซึ่ง “ผูค้ วบคุมงำน” เห็นชอบ “ผูร้ บั จ้ำง” จะต้อง
เก็บจะต้องมีควำมจุพอเพียงสำหรับกำรใช้งำน ปูนซีเมนต์ในถังเก็บเมื่อทดสอบแล้วจะต้องได้คณ
ุ สมบัติตำม ข้อกำหนด
(ข) กำรเก็บมวลรวม
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องเก็บมวลรวมโดยป้องกันมิให้ปนกับวัสดุที่ไม่พึงประสงค์ และต้อง
ขนำดคละอีกครัง้ ให้ได้ตำมข้อกำหนด
(4) กำรตระเตรียมงำนก่อนกำรเทคอนกรีต
ตำมที่ระบุไว้ “ผูร้ บั จ้ำง” จะต้องปรับปรุงให้ดีขนึ ้ หรือเปลี่ยนใช้อปุ กรณ์ที่ดีกว่ำ หรือเสริมอุปกรณ์เข้ำไปอีก ทัง้ นีใ้ ห้อยู่ใน
(5) กำรวัดปริมำณวัสดุ
(ก) ทั่วๆ ไป
นำ้ ได้
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” ต้องจัดหำอุปกรณ์ซึ่งผูค้ วบคุมเห็นว่ำจำเป็ น เพื่อใช้ในกำรตวงวัด
(ค) เครื่องชั่ง
มำกกว่ำร้อยละ 2
คอนกรีตที่แตกต่ำงกันจะต้องไม่มำกกว่ำร้อยละ 6
(1) กำรผสมคอนกรีต
(ก) ทั่วๆ ไป
กำรผสมคอนกรีตให้ทำในเครื่องผสมโดยอำจทำกำรผสมคอนกรีต ณ
สถำนที่ก่อสร้ำงโรงงำนผสมคอนกรีตกับที่หรือในรถผสมคอนกรีต เครื่องผสมคอนกรีตแต่ละเครื่องจะต้องติดฉลำกโลหะ
ใบมีดใหม่ แทน
ปริมำตรของคอนกรีตที่ผสมในแต่ละรุน่ จะต้องไม่เกินคววำมจุที่ระบุของเครื่องผสม
(ลูกบำศก์เมตรหรือลูกบำศก์ฟุต) ดังแสดงไว้บนฉลำกกำหนดพิกด
ั ควำมจุมำตรฐำนจำกโรงงำนผูผ้ ลิตเครื่องผสม เว้นใน
คอนกรีตจะต้องไม่ลน้ ออกจำกโม่
คอนกรีต ห้ำมเทคอนกรีตซึ่งไม่ได้ควำมเข้มข้นเหลวตำมที่กำหนด
(ค) เครื่องผสมคอนกรีตสำหรับโรงงำนผสมกับที่
เครื่องผสมก็ได้
16
เครื่องผสมจะต้องทำควำมสะอำดตำมระยะเวลำอันควร มีกำรสำรวจตรวจมำตรฐำน
ของควำมลึกของใบมีดจะต้องเปลี่ยนใส่ใบมีดใหม่แทน
(ง) รถขนส่งชนิดใช้เครื่องกวน
ของปริมำตรรวมในโม่
เมื่อมีกำรปรับปรุงแก้ไขส่วนผสมของคอนกรีต) ในระหว่ำงระยะเวลำดังกล่ำวจะต้องกวนส่วนผสมอย่ำงต่อเนื่อง
ในอัตรำที่เหมำะสม และได้มวลคอนกรีตที่สม่ำเสมอ
โรงงำนผสม
(ฉ) รถผสม
เครื่องผสมบนรถผสมจะต้องติดตัง้ เครื่องนับจำนวนรอบกำรหมุนของโม่
ด้วยกันอย่ำงทั่วถึง ได้มวลที่สม่ำเสมอและต้องถ่ำยคอนกรีตออกโดยไม่มีกำรแยกตัว
รถผสมอำจใช้ผสมคอนกรีตให้เสร็จสมบูรณ์ที่โรงชั่งวัสดุสำหรับผสม หรือใช้
คอนกรีต เมื่อ “ผูค้ วบคุมงำน” อนุญำตให้ใช้นำ้ ล้ำงหรือนำ้ ชะโม่ “ผูค้ วบคุมงำน ” จะเป็ นผูก้ ำหนดปริมำณที่จะใช้ ถ้ำหำก
18
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะใช้ “นำ้ ล้ำง” โดยไม่วดั ปริมำณหรือขำดกำรควบคุม “ผูค้ วบคุมงำน” จะกำหนดให้ใช้ “โม่แห้ง ” (ถ่ำย “นำ้
กำรใช้รถผสมทำกำรผสมคอนกรีตเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์ที่โรงชั่งวัสดุสำหรับผสม จะต้อง
มำด้วยทุกครัง้
(2) กำรลำเลียงและกำรเทคอนกรีต
อุณหภูมิของคอนกรีตในขณะทำกำรเทจะต้องไม่เกิน 35 องศำเซลเซียส
ออกจำกแบบหล่อ
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องระวังรักษำกระบะ รำง และท่อ ให้สะอำดมิให้คอนกรีตแข็งติด โดย ทำ
ระมัดระวังไม่ให้ปลำยเหล็กเสริมที่โผล่จำกคอนกรีตถูกกระทบกระเทือน
แน่นจะต้องกระทำด้วยวิธีทำงกล ดังต่อไปนี้
19
เฉพำะให้เป็ นวิธีอื่น
(ง) “ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องจัดหำเครื่องสั่นในจำนวนที่เพียงพอ เพื่ออัดแน่นคอนกรีตทันที
หลังจำกเทลงในแบบหล่อ
และ อุปกรณ์ที่ฝังคอนกรีตและตำมเหลี่ยมตำมมุมของแบบหล่อ
เท่ำของค่ำรัศมีกำรสั่น เมื่อสังเกตด้วยตำเปล่ำ
เครื่องสั่นในกำรย้ำยมวลคอนกรีตไปยังที่ต่ำงๆ ในแบบหล่อ
งำน” จะกำหนดให้เป็ นอย่ำงอื่น คอนกรีตชัน้ บนจะต้องเทและสั่นให้แน่นก่อนที่คอนกรีตชัน้ ล่ำงจะเริ่มอยู่ตวั ครัง้ แรก ทัง้ นี้
เพื่อป้องกันควำมเสียหำยต่อคอนกรีตสดหรือกำรแยกตัวระหว่ำงชัน้ คอนกรีตหรือรอยต่อก่อสร้ำงกับคอนกรีตส่วนล่ำง
20
แตกที่ผิวคอนกรีตเปลือยจะต้องใช้เกรียงแต่งผิวบนของคอนกรีตที่ติดกับแบบหล่อให้เรียบ
ทันที่หยุดเทคอนกรีตจะต้องขจัดปูนที่แห้งติดเหล็กเสริมและแบบหล่อออกให้หมด ห้ำมผสมเศษปูนแห้ง
กำรยึดหน่วงระหว่ำงคอนกรีตกับเหล็กถูกทำลำยไป
ดำเนินกำรไปพร้อมๆ กับกำรเทตัวคำนหลัก
สะอำดอุปกรณ์ทกุ ชิน้
คอนกรีตให้ไหลไปตำมท่ออย่ำงต่อเนื่องโดยไม่เกิดโพรงอำกำศในท่อ เมื่องำนสูบคอนกรีตแล้วเสร็จและต้องกำรนำเอำ
สะอำดอุปกรณ์ทกุ ชิน้
พิเศษ เช่น ท่อต่ำงๆ กล่องดึงสำยไฟ ฐำนรองรับท่อนำ้ เย็น รูระบำยนำ้ ท่อระบำยนำ้ รู ระบำยอำกำศ เป็ นต้น ถ้ำเท
รอยต่อเพื่อกำรขยำย และแผ่นฐำนรองชนิดเคลื่อนตัวได้
ท่อระบำยนำ้
ท่อร้อยสำยไฟสำหรับเสำไฟฟ้ำแสงสว่ำง (ถ้ำมี)
(4) รอยต่อก่อสร้ำง
(ก) ทั่วๆ ไป
รอยต่อก่อสร้ำงให้ทำตำมที่กำหนดไว้ในแบบแปลนหรือแผนกำรเทคอนกรีตเท่ำนั้น
ถ้ำไม่ได้กำหนดไว้ในแบบแปลนหรือในกรณีฉกุ เฉินจะต้องทำรอยต่อก่อสร้ำงตำมที่
ส่วนเข้ำด้วยกัน
22
(ข) กำรยึดหน่วง
กำรเทคอนกรีตให้กระทำจำกรอยต่อหนึ่งไปยังรอยต่ออีกหนึ่งอย่ำงต่อเนื่อง เส้นขอบ
(5) กำรบ่มคอนกรีต
ที่บ่มเมื่อผิวคอนกรีตแข็งพอที่จะป้องกันกำรขูดข่วนได้แล้วอำจใช้ทรำยคลุมแทน ตลอดระยะเวลำบ่มจะต้องรักษำผ้ำ
ป้องกันมิให้รอยต่อขอบแบบหล่อเสียหำย
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” อำจเสนอใช้เยื่อบ่มชนิดสำรผสมเหลว แทนกำรบ่มด้วยนำ้ แต่ตอ้ งได้รบั อนุมัติจำก
ตำมที่กำหนด ถ้ำ “ผูร้ บั จ้ำง” ขอรือ้ ถอนก่อนเวลำ “ผูค้ วบคุมงำน” อำจอนุญำตให้กระทำได้ ทัง้ นีจ้ ะต้องมีผลกำรทดสอบ
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องรือ้ ไม้แบบของโครงสร้ำงนัน้ ให้หมด ก่อนจะเทโครงสร้ำงใหม่
เชื่อมต่อ
(7) กำรซ่อมผิวคอนกรีต
นำ้ เสียก่อน
จะสั่งเป็ นลำยลักษณ์อกั ษรให้ “ผูร้ บั จ้ำง” ทำกำรรือ้ ทุบแล้วหล่อโครงสร้ำงส่วนนัน้ ขึน้ มำใหม่ โดย “ผูร้ บั จ้ำง” ต้องออก
ค่ำใช้จ่ำยเอง
(8) กำรเทคอนกรีต
เคลื่อนที่อย่ำงอิสระเหนือคอนกรีตที่เท และสำมำรถเคลื่อนที่ลงอย่ำงรวดเร็วเมื่อต้องกำรหยุดหรือชะลอกำรไหลของ
รับแรงอัดอย่ำงน้อยร้อยละ 80 ของกำลังรับแรงอัดสูงสุด
กะเทำะออกหรือวีธีอื่นใดซึ่งจะไม่ทำอันตรำยต่อคอนกรีต
(9) องค์อำคำรคอนกรีตหล่อสำเร็จจำกโรงงำน
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องระมัดระวังในกำรลำเลียงและเคลื่อนย้ำยองค์อำคำรคอนกรีต ( Precast
element) หล่อสำเร็จเป็ นพิเศษ
เหมำะสมก็อำจใช้วิธีนนั้ ได้ หลังจำกที่ได้แจ้งให้ “ผูค้ วบคุมงำน” ทรำบและได้รบั ควำมเห็นชอบแล้ว ทัง้ นี้ “ผูร้ บั จ้ำง” ต้อง
ควบคุมงำน” ปฏิเสธไม่ยอมรับ
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” ต้องเสนอรำยละเอียดวิธีกำรลำเลียง และขนส่งองค์อำคำรหล่อสำเร็จ เป็ นลำย
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องทำเครื่องหมำยถำวรบนองค์อำคำรหล่อสำเร็จแสดงถึงประเภท/วัน/เดือน/
25
ปี ที่หล่อ
(10) กำรถ่ำยนำ้ หนัก
(11) กำรถมกลบวัสดุบนโครงสร้ำง
(12) กำรทำควำมสะอำด
1.1.8 กำรวัดปริมำณและเงื่อนไขกำรจ่ำยเงินงวด
แยกต่ำงหำกยกเว้นจะระบุบ่งชัดเจนในบัญชีแสดงปริมำณวัสดุ
26
1.2 งำนคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรง
1.2.1 คำอธิบำย
งำนโครงสร้ำง) ของข้อกำหนดงำนก่อสร้ำงนี้
1.2.2 ทั่วไป
วัสดุงำนคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงจะต้องมีคณ
ุ สมบัติดงั นี้
(1) ปูนซีเมนต์
(2) ทรำย
(3) หิน
(4) นำ้
(5) สำรผสมเพิ่ม (ADMIXTURES)
(6) ลวดเหล็ก (PRESTRESSING WIRE)
สำหรับงำนคอนกรีตอัดแรง ดังมีรำยละเอียดตำมตำรำงดังนี้
ควำมคลำดเคลื่อนเส้นผ่ำนศูนย์กลำงของลวดเหล็กที่ยอมให้ตอ้ งเป็ นไปตำมมำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์อตุ สำหกรรม มอก. 95: มำตรฐำนลวดเหล็กสำหรับงำนคอนกรีตอัดแรง ดังมีรำยละเอียดตำมตำรำง
ดังต่อไปนี้
28
(1) ลวดเหล็กตีเกลียวชนิด 7 เส้น (UNCOATED SEVENWIRE STRESSRELIEVED STRAND)
ลวดเหล็กตีเกลียวที่ใช้ตอ้ งมีคณ
ุ สมบัติทำงกลมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อตุ สำหกรรม มอก. 420: มำตรฐำน
ลวดเหล็กตีเกลียวชนิด 7 เส้น สำหรับงำนคอนกรีตอัดแรง ดังรำยละเอียดตำมตำรำงต่อไปนี้
29
(2) กำรดึงลวดเหล็กและลวดเหล็กตีเกลียวชนิด 7 เส้น
ของค่ำแรงอัดประลัยของคอนกรีตในขณะดึงลวด
(3) ท่อร้อยลวดเหล็กและลวดเหล็กตีเกลียว
(4) กำรอัดซีเมนต์เหลว
เลิกอัดฉีดซีเมนต์เหลวได้ก็ต่อเมื่อที่ปลำยอีกข้ำงหนึ่งมีซีเมนต์เหลวพุ่งไหลออกมำเต็มท่อ และพุ่งไหลสม่ำเสมอแล้วจึงอุด
ท่อได้
(5) กำรตัดลวดภำยหลังกำรอัดซีเมนต์เหลว
(FRICTION SAW) หรือวิธีอื่นใด ที่ได้รบ
ั ควำมเห็นชอบจำก “ผูค้ วบคุมงำน” แล้ว
30
(TENDONS)
อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
1.3 งำนเหล็กเสริมคอนกรีต
1.3.1 ทั่วไป
มำตรฐำนผลิตภัณฑ์อตุ สำหกรรมของกระทรวงอุตสำหกรรม
1.3.2 มำตรฐำนของเหล็กเสริมคอนกรีต
เหล็กเสริมคอนกรีตที่จะนำมำใช้ในโครงกำรจะต้องได้มำตรฐำนดังนี้
(1) เหล็กเส้นกลม
(2) เหล็กข้ออ้อย
(3) ลวดผูกเหล็ก
(4) เหล็กเสริมตำข่ำย
1.3.3 กำรตัดและกำรงอขอ
(1) เหล็กเสริมจะต้องตัดให้ถกู ขนำดและได้รบ
ั ตวำมยำวตำมที่กำหนดไว้ในแบบ กำรตัดและดัด
จะต้องไม่ทำให้เหล็กช ำรุดเสียหำยและคุณสมบัติเปลี่ยนไป
ของขนำดของเส้นผ่ำนศูนย์กลำงของเหล็กนัน้
ขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำงที่เล็กที่สด
ุ สำหรับกำรงอขอ (วัดที่ดำ้ นในของเหล็กที่งอ) ยกเว้น
ขนำดของเหล็ก ขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำงที่เล็กที่สดุ
1.3.4 กำรจัดวำงเหล็กเสริม
(1) ที่รองรับ
ในระหว่ำงกำรเทคอนกรีต
32
(2) ควำมหนำของคอนกรีตที่หม
ุ้ เหล็กเสริม (วัดจำกผิวเหล็ก)
1.3.5 กำรต่อเหล็กเสริม
งำน”
33
(2) รอยต่อแบบทำบให้ใช้ระยะทำบตำรำง ดังนี ้
ที่มีปรำกฏในหน้ำตัดนัน้ ยกเว้นในกรณีที่ระบุไว้ในแบบ
(6) รอยต่อทุกแห่งจะต้องได้รบ
ั กำรตรวจและอนุมตั ิ โดย “ผูค้ วบคุมงำน” แล้วเท่ำนัน้ จึงจะทำ
กำรเทคอนกรีตหุม้ ได้
ดังกล่ำว เพื่อให้แนวศูนย์กลำงของเหล็กที่นำมำต่อกันนั้นอยู่ในแนวเดียวกัน
34
1.3.6 กำรเก็บตัวอย่ำงเหล็กเสริมเพื่อกำรทดสอบ
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องทำกำรตัดเหล็กไม่นอ้ ยกว่ำ 3 ท่อน ยำวท่อนละ 60 ซม. ทุก 200 ตันของเหล็กแต่
ละขนำดเป็ นอย่ำงน้อย ต่อหน้ำ “ผูค้ วบคุมงำน” แล้วจัดส่งไปทดสอบคุณภำพยังสถำบันที่ “ผูค้ วบคุมงำน” เห็นชอบ ถ้ำ
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องเป็ นผูร้ บั ผิดชอบทัง้ สิน้
1.3.7 กำรเปลี่ยนขนำดเหล็กเสริม
งำนเพิ่มขึน้ ไม่ได้
1.3.8 แบบรำยละเอียดกำรเสริมเหล็ก
“ผูร้ บ
ั จ้ำง” จะต้องจัดทำแบบก่อสร้ำงแสดงรำยละเอียดของกำรเสริมเหล็กที่จะใช้ในกำรทำงำนให้แล้ว
เสร็จรวมทัง้ กรณีที่จะมีกำรเปลี่ยนขนำดเหล็กเสริม เพื่อขอควำมเห็นชอบจำก “ผูค้ วบคุมงำน” โดย “ผูร้ บั จ้ำง” เป็ นผูอ้ อก
ค่ำใช้จ่ำยเอง