Professional Documents
Culture Documents
Solar Collector 2 ภาษาไทย
Solar Collector 2 ภาษาไทย
วิ ธีทำ
หลังจากทีต่ วั เก็บรังสีอาทิตย์ทางานทีอ่ ุณหภูมทิ างเข้าคงที่ ในช่วงตอนเช้าเท่านัน้ ทีก่ าร
ให้ค วามร้อ นจะมีผ ลต่อ การน าไปใช้ ค่ าความจุค วามร้อ นของตัว เก็บ รังสีอ าทิต ย์จะรวมถึง
กระจก, แผ่นดูดกลืน, ท่อ, น้าในท่อ และฉนวน ค่าความจุความร้อนของกระจก คือ
S − AC U L t
T p+ = Ta + 1 − exp
UL ( mC )e
0.34 10 6 / 3600 8 3600
= −8 + 1 − exp −
8 8000
=3
๐C
S S − AC U L t
T p+ = Ta + − − ( Ti − Ta ) exp
U L U L ( mC )e
0.79 10 6 / 3600 0.79 10 6 / 3600 8 3600
= −2 + − − ( 3 + 2 ) exp −
8 8 8000
๐
= 25 C
FR
2 F5 F3
= F3 − (3.13.1)
F1
F6 exp − F3 ( 1 − F2 )
2 1/ 2
+ F5
F
5
เมื่อ
κ κR( 1 + γ ) 2 − 1 − γ − κR
F1 = (3.13.2 a)
U LW κR( 1 + γ ) − 12 − ( κR ) 2
1
F2 = (3.13.2 b)
κR( 1 + γ ) − 1 − γ − κR
2
m C p
F3 = (3.13.2 c)
F1U L Ac
1/ 2
1 − F22
F4 = 2
(3.13.2 d)
F2
1
F5 = + F4 − 1 (3.13.2 e)
F2
1
F6 = 1 − + F4 (3.13.2 f)
F2
และ
( kδU L )1 / 2
κ= (3.13.2 g)
sinh ( W − D )( U L kδ )1 / 2
γ = −2 cosh ( W − D )( U L kδ )1 / 2 − DU L
κ
(3.13.2 h)
111
1 1
R= + (3.13.2 i)
C b π Di h f i
ตัวอย่ำง 3.13.1
จงหาแฟคเตอร์การดึงความร้อนของตัวเก็บรังสีอาทิตย์แบบขดท่อ ซึ่งมีขอ้ มูลดังนี้ [ดู
รูปที่ 3.13.1 (g)]
ความยาวของขดท่อแต่ละท่อ, L 1.2 m
ระยะห่างระหว่างท่อ, W 0.1 m
จานวนท่อในขด, N 6
ความหนาของแผ่น, 1.5 mm
เส้นผ่านศูนย์กลางท่อภายนอก, D 7.5 mm
เส้นผ่านศูนย์กลางท่อภายใน, Di 6.5 mm
ความนาความร้อนของแผ่น, k 211 W.m-1.๐C-1
สัมประสิทธิการสู
์ ญเสียความร้อนรวม, U L 5 W.m-2.๐C-1
อัตราการไหลเชิงมวล, m 0.014 kg.s-1
ความจุความร้อนจาเพาะของของไหล, C p 3352
J.kg-1.๐C-1
สัมประสิทธิการถ่
์ ายเทความร้อนจากของไหลไปยังท่อ, h fi 1500
W.m-2.๐C-1
ความนาความร้อนตรงรอยต่อ, Cb
112
วิ ธีทำ
จากสมการ (3.13.2 g)
จากสมการ (3.13.2 h)
5 0.0075 5
1/ 2
γ = −2 cosh ( 0.1 − 0.0075 ) − = −2.148
211 0.0015 3.346
จากสมการ (3.13.2 i)
1
R= = 0.0326 m. ๐C.W-1
π 0.0065 1500
ดังนัน้
κR = 3.346 0.0326 = 0.1091
จากสมการ (3.13.2 a)
พื้น ที่ ข องตัว เก็ บ รัง สีอ าทิต ย์ คือ NWL = 6 0.1 1.2 = 0.72 m2 จากสมการ (3.13.2 c)
อัตราความจุความร้อนไร้มติ ิ คือ
0.014 3352
F3 = = 2.066
6.309 5 0.72
และจากสมการ (3.13.1)
FR = 0.148F1 = 0.148 6.309 = 0.93
ในขัน้ ตอนการหาค่ า F และ U L จะพิจ ารณาเฉพาะรูป (a) ถึง แม้ว่ า ตัว เก็บ รัง สี
อาทิต ย์แ บบ (b) จะเป็ น ที่นิ ย มในการใช้ท าอากาศร้อ น แบบ (a) ค่ อ นข้างมีก ารวิเคราะห์ท่ี
ซับซ้อ นและมีล ักษณะคล้ายคลึงกับผนังสะสมความร้อ นในระบบพาสซีฟ (Passive Heating
System) รูปที่ 3.14.2 แสดงตัวเก็บรังสีสาหรับทาอากาศร้อนแบบ (a) และวงจรความร้อน
ทีบ่ างตาแหน่งในทิศทางการไหล แผ่นดูดกลืนรับพลังงานจากแสงอาทิตย์จนมีอุณหภูมิ
สูงขึ้นเท่ากับ Tp พลังงานจะถ่ายเทจากแผ่นดูดกลืนไปยังอากาศแวดล้อมที่อุณหภูมิ Ta ผ่าน
ทางด้านหลังโดยมีสมั ประสิทธิการสู ์ ญเสียความร้อน U b ถ่ายเทไปยังของไหลที่อุณหภูมิ T f
โดยการพาซึ่งมีสมั ประสิทธิการถ่
์ ายเทความร้อน h2 และถ่ายเทให้กบั ด้านล่างของแผ่นปิ ดใส
โดยการแผ่รงั สีซ่งึ มีสมั ประสิทธิการถ่
์ ายเทความร้อน hr พลังงานถูกถ่ายเทจากของไหลไปยัง
แผ่ น ปิ ดใสโดยมีส ัม ประสิท ธิก์ ารถ่ า ยเทความร้อ น h1 พลัง งานบางส่ ว นได้สู ญ เสีย ให้ กับ
สิง่ แวดล้อมทัง้ จากการพาและการแผ่รงั สีโดยมีสมั ประสิทธิก์ ารสูญ เสียความร้อน U t สมดุล
พลังงานบนแผ่นปิ ดใส แผ่นดูดกลืน และของไหลเขียนได้ในรูปสมการดังนี้
U t ( Ta − Tc ) + hr ( T p − Tc ) + h1 ( T f − Tc ) = 0 (3.14.1)
S + U b ( Ta − T p ) + h2 ( T f − T p ) + hr ( Tc − T p ) = 0 (3.14.2)
h1 ( Tc − T f ) + h2 ( T p − T f ) = qu (3.14.3)
S ( U t + hr + h1 ) − ( T f − Ta )( U t hr + U t U b + U bU r + U b h1 )
Tp −T f = (3.14.4)
( U t + hr + h1 )( U b + h2 + hr ) − hr2
และ
hr S − ( T f − Ta )( U t h2 + U t U b + U t hr + U b hr )
Tc − T f = (3.14.5)
( U t + hr + h1 )( U b + h2 + hr ) − hr2
แทนค่าลงในสมการสาหรับหา qu จะได้
qu = F S − U L ( T f − Ta ) (3.14.6)
โดยที่
hr h1 + U t h2 + h2 hr + h1 h2
F = (3.14.7)
( U t + hr + h1 )( U b + h2 + hr ) − hr2
และ
115
( U b + U t )( hr h1 + h2 hr + h1 h2 ) + U bU t ( h1 + h2 )
UL = (3.14.8)
hr h1 + U t h2 + h2 hr + h1 h2
ตัวอย่ำง 3.14.1
117
วิ ธีทำ
จากรูปที่ 3.4.4 (e) สมมติให้
อุณหภูมเิ ฉลีย่ ของแผ่นดูดกลืน 70 ๐C
์ ญเสียความร้อนด้านบน 3.3 W.m-2.๐C-1
สัมประสิทธิการสู
์ ญเสียด้านล่างและด้านข้าง 1.0 W.m-2.๐C-1
สัมประสิทธิการสู
์ ญเสียความร้อนรวม 4.3 W.m-2.๐C-1
สัมประสิทธิการสู
สัมประสิทธิการแผ่
์ รงั สีความร้อนระหว่างผิวของท่อ ประมาณได้จากการสมมติอุณหถูมิ
เฉลี่ยของการแผ่รงั สีตวามร้อนเท่ากับอุณหภูมเิ ฉลี่ยของของไหล ประมาณค่าอุณหภูมเิ ฉลี่ย
ของของไหลเท่ากับ 70 ๐C จากสมการ (3.10.2) และ (3.10.3)
4σT 3 4 5.67 10 −8 3433
hr = = = 8.3 W.m-2.๐C-1
(1 / ε1 ) + (1 / ε 2 ) −1 ( 2 / 0.95 ) − 1
สมมติให้สมั ประสิทธิการถ่
์ ายเทความร้อนระหว่างอากาศและผนังท่อทัง้ สองมีค่าเท่ากัน
เส้นผ่านศูนย์กลางไฮดรอลิค (Hydraulic Diameter) เป็ นความยาวสาหรับแผ่นเรียบทีม่ ชี ่องว่าง
2 ช่อง ตัวเลขเรย์โนลดส์ (Reynolds Number) ทีอ่ ุณหภูมเิ ฉลีย่ ของของไหลเท่ากับ 70 ๐C คือ
อัตราส่วนของความยาวต่อเส้นผ่านศูนย์กลาง
L 4
= = 200
D h 2 0.01
118
สัมประสิทธิการถ่
์ ายเทความร้อนภายในท่อ h1 และ h2
k 15 .5 0.029
h = 15 .5 = = 22 W.m-2.๐C-1
Dh 2 0.01
−1
UL
F = 1 + = 0.87
h + ( 1 / h ) + ( 1 / hr )
−1
อัตราความจุความร้อนไร้หน่วย
m C p 0.056 1009
= = 3.78
AcU L F 4 4.3 0.87
จากสมการ (3.7.5) หรือรูปที่ 3.7.1
อุณหภูมอิ ากาศขาออกเท่ากับ
Qu 1610
To = Ti + = 60 + = 89 ๐C
m C p 0.056 1009
1610 / 4
T pm = 60 + ( 1 − 0.77 ) = 88 ๐C
4.3 0.77
1610 / 4
T fm = 60 + ( 1 − 0.88 ) = 74 ๐C
4.3 0.77
Qu 1610
η= = = 0.45( 45 %)
Ac GT 4 900
Qu = m
C p ( To − Ti ) (3.15.1)
Qu = Ac FR GT ( τα ) − U L ( Ti − Ta ) (3.15.2)
Qu F U ( T − Ta )
ηi = = FR ( τα ) − R L i (3.15.3)
Ac GT GT
และ
m C p ( To − Ti )
ηi = (3.15.4)
Ac GT
FavU L ( T f ,av − Ta )
η i = Fav ( τα )n − (3.15.5)
GT
4. วัดความดันและความดันลดในตัวเก็บรังสีอาทิตย์
วิธกี ารของ ASHRAE สาหรับอากาศประกอบด้วยหลักสาคัญเหมือนในกรณีของตัวทา
น้ าร้อนโดยจะเพิม่ รายละเอียดที่สมั พันธ์กบั การไหลของอากาศ การผสมของอากาศ อุณหภูมิ
ของอากาศ รวมทัง้ ค่าความดันลด การวัดอาจทาได้ทงั ้ ในร่มหรือกลางแจ้ง ถ้าเป็ นการทดสอบ
ในร่มจะใช้แสงอาทิตย์เทียม ซึ่งจะมีการกระจายและมีความเข้มของแสงอาทิตย์สม่าเสมอ ซึ่ง
ส่วนใหญ่แล้วการทดสอบตัวเก็บรังสีจะกระทากลางแจ้ง Gillet (1980) ได้เปรียบเทียบผลของ
การทดสอบกลางแจ้งกับการรวมกันระหว่างการทดสอบในร่มกับกลางแจ้ง ซึ่งได้ขอ้ สังเกตว่า
สัดส่วนของการกระจายและการเปลีย่ นแปลงของรังสีคลื่นยาวจะมีผลต่อการทดสอบ โดยทัวไป ่
การทดสอบจะน าตัว เก็บรังสีอาทิต ย์มาดาเนิน การภายใต้ส ภาวะที่ใกล้เคียงกับสภาวะคงที่
จะต้องวัดข้อมูลเพื่อนามาคานวณ Qu จากสมการ (3.15.1) ทาการวัดค่า GT , Ti และ Ta ซึ่ง
วิเคราะห์โดยใช้สมการ (3.15.3) การทดสอบกลางแจ้งจะทาการทดสอบในช่วงเที่ยงของวันที่
อากาศแจ่มใสซึ่งจะมีรงั สีต รงสูงและค่ อ นข้างตัง้ ฉากกับ แผ่ น รับ รังสีอ าทิต ย์ การทดสอบจะ
กระทาบนช่วงของอุณหภูมทิ างเข้า เพื่อที่จะทาให้ผลกระทบอันเนื่องมาจากความจุความร้อน
ของตัวรับรังสีอาทิตย์มคี ่าต่าสุด การทดสอบจะกระทาทัง้ ในช่วงก่อนและหลังเทีย่ งสุรยิ ะและจะ
ใช้ค่าเฉลี่ยของทัง้ สองค่านี้ ค่าประสิทธิภาพชัวขณะจะหาได้
่ จาก สมการ (3.15.4) และนามา
เขียนกราฟร่วมกับ (Ti − Ta ) GT ตัวอย่างของกราฟทีไ่ ด้จากการทดสอบจานวน 5 ครัง้ ภายใต้
ข้อกาหนดของ ASHRAE 93-77 จาก Streed et al. (1979) แสดงในรูปที่ 3.15.2 ถ้า U L , FR
และ ( ) n คงที่ การเขียนกราฟของ i กับ (Ti − Ta ) GT จะเป็ นเส้นตรงตัดแกน y ที่ FR ( ) n
และมีความชันเท่ากับ − FRU L จากหัวข้อ 3.4 จะเห็นชัดว่า U L เป็ นฟั งก์ชนั ของอุณหภูมแิ ละ
ความเร็ว ลม และจะมีค่ าลดลงเมื่อ จ านวนแผ่ น ปิ ดใสเพิ่ม ขึ้น FR จะขึ้น กับ อุ ณ หภู มิเพีย ง
เล็กน้อย นอกจากนี้แล้วยังมีการเปลีย่ นแปลงของสัดส่วนของรังสีตรง รังสีกระจาย และรังสีจาก
การสะท้อ นจากพื้นดิน ข้อ มูล จะมีก ารกระจายเนื่ อ งจากอุณ หภู มิ ความเร็วลม และมุ ม ตก
กระทบที่เปลี่ย นไป แม้ว่าจะค่ อ นข้างยุ่ งยากแต่ ก ารท านายสมรรถนะในระยะยาวสามารถ
กาหนดได้จากจุดตัดแกนและความชัน
ตัวอย่ำง 3.15.1
การทดสอบตัวเก็บรังสีอ าทิต ย์ท่ีใช้สาหรับทาน้ าร้อนมีพ้นื ที่รบั แสง 4.10 m2 โดยวิธี
ASHRAE ซึง่ มีรงั สีตรงค่อนข้างตัง้ ฉากกับแผงรับแสงได้ขอ้ มูลดังนี้
วิ ธีทำ
สาหรับข้อมูลชุดแรก
9.05 1000
ηi = = 0.71
864 3.6 4.10
และ
Ti − Ta 18.2 − 10.0
= = 0.0095 m2.๐C.W-1
GT 864
123
Ti − Ta
ηi = 0.15 และ = 0.083 m2.๐C.W-1
GT
0.71 − 0.15
= −7.62 W.m-2.๐C-1
0.0095 − 0.083
Ti − Ta
, m 2 .o C/W
GT
124
U L = a + b( Ti − Ta ) (3.15.6)
2
( T − Ta ) ( Ti − Ta )
η i = FR ( τα ) − a i − b (3.15.7)
GT GT
( τα )
K τα = (3.15.8)
( τα )n
ดังนัน้
Qu = Ac FR GT K τα ( τα )n − U L ( Ti − Ta ) (3.15.9)
รูปแบบทัวไปเสนอโดย
่ Souka & Safwat (1966) สาหรับตัวเก็บรังสีอาทิตย์แบบแผ่น
ราบ
125
1
K τ α = 1 + bo − 1 (3.15.10)
cosθ
เมื่อ bo เป็ นค่ า คงที่ ซ่ึ ง เรีย กว่ า สัม ประสิท ธิ ก์ ารปรับ ค่ า มุ ม ตกกระทบ (Incidence Angle
Modifier Coefficient) สมการนี้ได้จาก ASHRAE 93-77 และโดยปกติ bo จะมีค่าติดลบ รูปที่
3.15.3 แสดงให้เห็นถึงตัวปรับค่ามุมตกกระทบ K โดยเขียนกราฟเป็ นฟั งก์ชนั ของ และ
(1 / cos − 1) สมการ (3.15.10) จะสามารถใช้ในการประมาณผลของมุ มตกกระทบที่มุ ม ตก
K τα = ( K τα )t ( K τα )l (3.15.11)
การทดสอบตัวเก็บรังสีอาทิตย์ลกั ษณะที่สาม คือ การหาค่าความจุความร้อนของตัว
เก็บรังสีในเทอมของ ค่าคงทีเ่ วลา (Time Constant) ซึง่ ถูกกาหนดว่าเป็ นเวลาทีต่ ้องการสาหรับ
ของไหลทีอ่ อกจากตัวเก็บรังสีเพื่อเปลีย่ นเป็ น 1 e (= 0.632) ของการเปลีย่ นแปลงทัง้ หมดจาก
สภาวะต้นจนถึงสภาวะคงที่หลังการเปลีย่ นมุมตกกระทบของรังสีอาทิตย์หรืออุณหภูมขิ องไหล
ขาเข้า วิธดี าเนินการตามมาตรฐาน ASHRAE 2 ขัน้ ตอนเพื่อประมาณค่าคงที่เวลา ขัน้ แรกให้
ตัวเก็บรังสีอาทิตย์ทางานในสภาวะที่ใกล้คงที่และควบคุมอุณหภูมทิ างเข้าของของไหล หรือ
ทางานทีใ่ กล้อุณหภูมแิ วดล้อม รังสีอาทิตย์จะถูกบังและทาให้อุณหภูมทิ างออกลดลง (โดยการ
เปิ ดปั ม๊ ) เวลา t ทีเ่ ท่ากับในสมการ (3.17.12) คือ ค่าเวลาคงทีข่ องตัวเก็บรังสี
To ,t − Ti 1
= = 0.368 (3.15.12)
To ,init − Ti e
เมื่อ To,t คือ อุณหภูมทิ างออกที่เวลา t และ To,init คือ อุณหภูมทิ างออกเมื่อรังสีอาทิตย์ถูก
หยุด ความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับอุณหภูมิ แสดงในรูปที่ 3.15.5
วิธอี ่นื ในการวัดค่าคงทีเ่ วลา คือ การทดสอบทีไ่ ม่มรี งั สีอาทิตย์ เช่น เวลากลางคืน ในที่
ร่ม หรือมีการบังเงา และควบคุมการเปลีย่ นแปลงของอุณหภูมขิ องไหลตรงทางเข้า จากค่าทีส่ ูง
กว่าอุณหภูมแิ วดล้อม คือ 30 C ไปสู่ค่าที่ใกล้เคียงอุณหภูมแิ วดล้อม สมการ (3.15.12) จะถูก
ประยุกต์ใช้กบั วิธนี ้ี (ซึง่ อาจจะให้ผลไม่เหมือนวิธกี ารแรก)
Temperature, oC
( Tav − Ta )
η i = Fav ( τα )n − FavU L (3.16.1)
GT
−1
AF U
FR ( τα )n = Fav ( τα )n 1 + c av L (3.16.2)
2m C p
128
−1
AF U
FRU L = FavU L 1 + c av L (3.16.3)
2m C p
ข้อมูลทดสอบของตัวเก็บรังสีอาทิตย์สาหรับทาอากาศร้อนแสดงได้โดยการเขีย นกราฟ
ระหว่ าง i กับ (To − Ta ) GT จะมีจุด ตัด แกน Fo ( ) n และความชัน เท่ า กับ −FoU L ซึ่งจะ
สามารถเปลีย่ นเป็ น FRU L และ FR ( ) n ได้โดยสมการ
−1
A FU
FR ( τα )n = Fo ( τα )n 1 + c o L (3.16.4)
m C p
−1
A FU
FRU L = FoU L 1 + c o L (3.16.5)
m C p
ตัวอย่ำง 3.16.1
จงหา FRU L และ FR ( ) n สาหรับตัวเก็บรังสีอาทิตย์ทใ่ี ช้ทาอากาศร้อนทีม่ แี ผ่นปิ ดใส
2 ชัน้ ซึ่ ง มี FoU L = 3.70 W.m-2.๐ C-1 และ Fo ( ) n = 0.64 อัต ราการไหลเชิง ปริม าตรต่ อ
หน่วยพืน้ ที่ 10.1 l.m-2.s-1
วิ ธีทำ
อากาศที่ 20 C มีค่า Cp = 1006 J.kg-1 และ = 1.204 kg.m-3 = 0.001204 kg.l-1
Ac FoU L 3.7
= = 0.302
m C p 10.1 0.001204 1006
3.17 กำรปรับแก้ผลของอัตรำกำรไหล
FRU L FR ( τα )n
r= use
= use
(3.17.1)
FRU L test
FR ( τα )n test
m C p
A F U L
1 − exp(− A F Uc L m C p ) use
r= c (3.17.2)
m C p
Ac F U L
1 − exp(− A F Uc L m C p ) test
และ
m C p
Ac
1 − exp(− A F U c L m C p ) use
r= (3.17.3)
FR U L test
m C p F U A
F U L = − ln1 − R L c (3.17.4)
Ac m C p
130
ตัวอย่ำง 3.17.1
ตัว เก็บ รังสีอ าทิต ย์ส าหรับ ท าน้ าร้อ นในตัว อย่าง 3.15.1 ถู กใช้ท่ีอ ัต ราการไหล 0.02
kg.s-1 แต่นาไปทดสอบกับข้อมูลที่ 0.04 kg.s-1 จงประมาณผลกระทบของอัตราการไหลทีล่ ดลง
ต่อ FR ( ) n และ FRU L
วิ ธีทำ
จากสมการ (3.17.4)
m C p 0.02 4187
= = 2.42
Ac F U L 4.10 8.43
และจากการทดสอบ
m C p 0.04 4187
= = 4.85
Ac F U L 4.10 8.43
จะได้
r=
(
2.42 1 − e −1 2.42 )
= 0.91
(
4.85 1 − e −1 4.85 )