You are on page 1of 4

บทที่1

บทนำ

ความสำคัญและที่มาของปั ญหาการวิจัย

มนุ ษ ย์ เ รานั ้นจำเป็ นต้องมีการบริโภค เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต


และได้รับพลังงานไปใช้ใ นการดำเนินชีวิต ประจำวัน ส่วนภาระที่ตามมา
หลังจากการบริโภค คือ การทำความสะอาดภาชนะใส่อาหาร ซึง่ หลายคน
ก็คงอยากที่จะหลีกเลี่ยง เพราะคราบไขมันที่ติดอยู่บนภาชนะนัน
้ ล้างออก
ยากและภาชนะบางชนิดก็ยังมีกลิ่นคาวของอาหารอยู่แม้จ ะล้ างออกแล้ว
ก็ตาม บางครอบครัวจึงตัดปั ญหานี้ โดยการออกไปรับประทานอาหารนอก
บ้านแทน

น้ำยาล้ างจาน คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ใ นการทำความสะอาดภาชนะใส่


อาหาร มีส่วนผสมหลักๆได้แก้ สารเพิ่ม ความข้ นเหนียว สารที่ทำให้เกิด
ฟอง สี และกลิ่นสังเคราะห์ โดยมีสารเคมีตัวสำคัญที่ช่วยในการชำระล้ าง
คราบสกปรก คือ สารลดแรงตึงผิว (Surfactant) ซึ่งจะทำหน้ าที่ช่ว ยขจั ด
คราบมันหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนภาชนะให้หลุดออกอย่างง่ายดาย โดย
คุณลักษณะทั่ว ไปของน้ำยาล้ างจานควรเป็ นของเหลวเนื้อเดียวกัน ไม่มี
สิ่งแปลกปลอมปรากฏ อาจมีสารแต่งสีได้แต่ต้องเป็ นสีที่กระทรวง
สาธารณสุขอนุญาตให้ใช้ได้ในเครื่ องสำอาง สามารถละลายน้ำได้ ดี และเมื่ อ
ใช้ต ามคำแนะนำที่ระบุไว้ที่ฉลากแล้วต้องไม่เ ป็ นอั นตรายต่อสุขภาพ
เช่น อ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้เกิด การแพ้ และระคายเคื่องต่อผิวหนังอีก
ด้ว ย หลั งจากเก็บ ไว้ นาน 1 ปี  ในภาชนะบรรจุปิดสนิทและภาวะปกติ
น้ำยาล้างจานต้องมีคุณลักษณะเหมือนเดิมทุกประการ สำหรับภาชนะ
บรรจุต้อ งทำด้ว ยวั ตถุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำยาล้ างจาน ปิ ดได้สนิท และ
แข็งแรงเพืยงพอที่จะป้ องกันการรั่วอันเนื่ องมาจากการขนส่งหรือใช้งาน

น้ำยาล้ างจานที่ผลิตโดยส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี


อันตราย จึงเป็ นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ก ารทำความสะอาดมี
ประสิทธิภาพมากขึน
้ ปลอดภั ย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และไม่ทำลายสิง่
แวดลอมอีกด้วย โดยสับปะรด มีสรรพคุณคือ เป็ นยารักษาโรคผิวหนัง
ช่วยเสริมสร้างระบบภูม ิ ค ุ ้ มกันให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยในการฆ่าตัวอ่อนข
องแมลง และย่อยอาหารจำพวกโปรตีนดังนัน
้ การใช้สับปะรดเป็ นส่ว น
ผสมในการทำน้ำยาล้างจาน จะไม่ทำให้เกิด การแพ้  การระคายเคืองต่อ
ผิว หนั ง และดั บกลิ่นคาวบนภาชนะใส่อาหารได้ดี หรือใช้ว่านหางจระเข้
เป็ นส่ว นผสมในการทำน้ำยาล้างจาน เพราะว่านหางจระเข้มีสรรพคุณ
คือ ใช้รักษาแผล ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และสมานแผลได้ดน
ี อกจากนีน
้ ้ำยา
ล้ างจานไม่ได้ใช้สำหรับทำความสะอาดภาชนะอย่างเดียว แต่ยังสามารถ
นำไปทำความสะอาดชัน
้ ส่วนเครื่ องจักร เครื่ องประดับ กระจก และพื้นห้อง
ครัวได้  หรื อ นำน้ำที่ใช้แล้วจากการล้ างภาชนะในครัวเรือนมารดน้ำ
ต้น ไม้ หรือลานหญ้าเพื่อเป็ นการเพิ่มปุ๋ยฟอสฟอรัสได้

จากความสัมพันข้า งต้ น คณะผู ้ จัดทำจึงคิดที่จะทำน้ำยาล้ างจาน


โดยมีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ ได้แก่ มะกรูด มะนาว ว่านหาง
จระเข้ และสับปะรดเพื่อให้ได้น้ำยาล้ างจานที่ไม่ใส่สารเคมีที่สง่ ผลเสีย
หรือก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของผู้ใช้งาน

วัตถุประสงค์ของการศึกษา
๑. เพื่อศึกษาสรรพคุณของสมุนไพรที่สามารถใช้ทำน้ำยาล้ างจาน
ได้
๒. เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของน้ำยาล้ างจานในแต่ละสูตร

๓. เพื่อศึกษาความพึ่งพอใจของผู้ใช้น้ำยาล้ างจานจากสมุนไพร

สมมติฐาน
น้ำยาล้างจานจากมะนาวมีประสิทธิภาพในการขจัดคราบไขมันและ
การขจัดกลิ่น ได้ ดีที่สุด
ขอบเขตการวิจัย
๑. เรื่ องที่จะศึกษา คือ สมุนไพรที่นำมาทำน้ำยาล้ างจาน
ได้แก่ มะกรูด มะนาว ว่านหาง-จระเข้  
๒. กลุ่มเป้าหมายเป็ นผู้ใช้น้ำยาล้ างจานจากสมุนไพร อายุ ๑ o -
๒๖ ปี ขึน
้ ไป
ขอบเขตด้านเวลา

เขตด้านเวลา เดือน พฤษภาคม 2565 ถึง เดือน กันยายน 2565

ประโยชน์ที่จ ะไ ด้รบ

๑. ทำให้ได้รบ
ั ความรูค
้ ุณประโยชน์ของสมุนไพรที่นำมาใช้ใ นการทำ
น้ำยาล้ างจาน และคุณสมบัติทางเคมีในการทำความสะอาดภาชนะ
๒. ลดรายจ่ายภายในครัวเรือน
๓. สามารถต่อยอดความคิดในเชิงพาณิชย์ได้โ ดยนำผลิตภัณฑ์
น้ำยาล้ างจานจากสมุนไพรไปจำหน่ายเพื่อหารายได้เสริม
บทที่ 2

เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 

You might also like