You are on page 1of 2

ตำรับยาล้ านนากับ โคโรนาไวรัส

อาณาจักรล้ านนาก่อตังมาตั
้ งแต่
้ พ.ศ.๑๘๐๕ โดยมีเมืองหลวงเมืองแรกเชียงราย( พ.ศ.๑๘๐๕-๑๘๑๘) เวียง
ฝาง (พ.ศ.๑๘๑๘)เวียงกุมกาม(พ.ศ.๑๘๒๔-๑๘๓๙) ต่อมาพญามังรายก็ย้ายมาตังที ้ ่เชียงใหม่ และสถาปณา
เป็ นราชวงศ์มงั รายปกครองอาณาจักรล้ านนาตังแต่
้ ปี พ.ศ.๑๘๓๕ มีกษัตริ ย์ปกครอง ๑๖ พระองค์ ราชวงศ์มงั
รายปกครองยาวนาวกว่า ๒๖๐ ปี ต่อมา มาเสียเอกราชอยูภ่ ายใต้ การปกครองของพม่า โดยพระเจ้ าบุเรงนอง
ยกทัพมาตีในปี พ.ศ.๒๑๐๑ ในสมัยพระเจ้ าเมกุฎิสทุ ธิวงศ์ เพียง ๓ วันก็ยดึ เมืองได้ และตกภายใต้ การปกครอง
ของพม่ามากว่า ๒๑๖ ปี จนถึง พ.ศ.๒๓๑๗ สมัยพระเจ้ าตากสินล้ านนาจึงตกเป็ นประเทศราชของประเทศ
สยาม และเมื่อรัชการที่๕ เปลี่ยนแปลงการปกครอง อาณาจักรล้ านนาก็ลดบทบาทเป็ นส่วนหนึง่ ของประเทศ
สยาม ซึง่ ต่อมาเปลี่ยนเป็ นประเทศไทย
อาณาจักรล้ านนาจักรที่มีเมืองเชียงใหม่เป็ นเมืองหลวงและเป็ นศูนย์กลางมา ๗๒๙ ปี ยุครุ่งเรื องที่สดุ คือยุค
ของพระเจ้ ามังรายที่ มีภาษาล้ านนาเป็ นใช้ ในการติดต่ออาณาจักรเอง ตังแต่
้ ๑๘๓๔ มีอาณาเขตบริ เวณภาค
เหนือตอนบน ตลอดจนสิบสองปั นนา เช่นเมืองเชียงรุ่ง(จิ่งหง) มณฑลยูนนาน ภาคตะวันออกของประเทศพม่า
ฝั่ งตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน มีเมืองนายเป็ นเมืองเอกและครอบคลุมแปดจังหวัดในปั จจุบนั คือ จังหวัด
เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน และแม่ฮ่องสอน โดยมีเมืองเชียงใหม่เป็ นราชธานี มีภาษา ตัวหนังสือ
วัฒนธรรม และประเพณีเป็ นของตัวเองตอนเป็ นอาณาจักร ล้ านนา (อ้ างอิง ๑,๒,๒,๔และ๕ป
จังหวัดเชียงใหม่เป็ นศูนย์กลางของล้ านนามานานกว่า ๗๒๙ ปี ไม่วา่ จะเป็ นอาณาจักรปกครองตนเอง หรื อตก
เป็ นภายใต้ อิทธิพลของประเทศพม่า เป็ นประเทศราชของสยาม และสุดท้ ายกลายมาเป็ นส่วนหนึง่ ของ
ประเทศไทย โดยไม่มีการย้ านถิ่นเมืองเชียงใหม่ การที่มีประชากรอยูห่ นาแน่นในเมืองต้ องเผชิญกับทังโรคไม่

ระบาดและโรคระบาด ซึง่ ถ้ าการแพทย์หรื อไม่มีการคิดค้ นตำรับยามาก็ไม่สามารถดำรงอยูไ่ ด้ ต้ องย้ ายเมืองหนี
เหมือนอาณาจักร หรื อเมืองอื่นที่ต้องอพยพประชากรเช่น เช่นเมืองอูท่ องย้ ายเมืองหนีโรคห่า (อหิวาห์ตกโรค)
หรื อเรี ยกสันๆว่
้ าอูท่ องหนีหา่
ตำรับยาโบราณไม่วา่ จากกรี ซโบราณ อินเดีย ต่างแลกเปลี่ยนความรู้ด้านตำราให้ แก่กนั และกัน ซึง่ เริ่ มจากกรี ซ
โบราณและจากอินเดียสูเ่ ปอร์ เซีย นอกจากนี ้ในสมัยอิยิปต์โบราณและบาบิโลนก็ยงั ไม่ได้ สามารณสรุปได้ วา่ เริ่ ม
มาจากแหล่งใดก่อน มีจำนวนมากของตำรับยาโบราณได้ มาทางยุโรปโดยผลงานของฮิปโปเครท อริ สดโตเติล
และกาเล็น ในสมัย ๑๘๐๐ ปี ก่อนคริสตศักราชและผ่านเข้ ามาในเอเซียผ่านชาวอิสลาม(๖)
ใบสัง่ ยาที่าเก่าแก่ที่สดุ ในโลกถูกบันทึกไว้ ในเม็ดดินเหนีวในเมโสโปเตเมีย (ประเทศอิรัคในสมัยปั จจุบนั มีอายุ
๒,๔๐๐ ปี ก่อนคริสต์ศกั ราช ซึง่ ชาวซูมาเลียนได้ อธิบายถึงการทำยาพอก ยาขี ้ผึ ้ง ยาล้ างแผล ซึง่ ตัวยาประกอบ
ด้ วย มัสตาด มะเดื่อ มดยอบ หลอดหยด ผงกระดองเต่า ตะกอนแม่น้ำ ผิวหนังงู และขนจากกระเพาะอาหาร
วัว ทังหมดผสมให้
้ ละลายในไวน์หรื อน้ำนม (๗)

1)https://www.wikipedia//lanna: Retrieved 17 July 2021


2) https://thailandtravelbag.org:The History of Lana Kingdom-Thailand Travel Bag: Retrieved 17 July 2021
3) ) https://www.visitchiangmai.com.au:A Short History Of The Lanna Kingdom Around Chiangmai:
Retrieved 17 July 2021
4)https://www.cmocity.com : Lanna History CMNC-CMNC: Retrieved 17 July 2021
5)https://www.chiangmaicitylife.com: Retrieved 17 July 2021
1)https://www.ttuhsc.edu/pharmacy/museum/pharmacy.history.aspx : Retrieved 17 July 2021
2)https://www.cambridge.org/core/journals/medical-history/article/history-of-medicine-in-the-african-
countries/88CE73CF0BCB1409420389BA0139A094: Retrieved 17 July 2021

You might also like