You are on page 1of 2

รางวัล

สนัน่ กำลังเรี ยนอยูใ่ นโรงเรี ยนเพาะช่าง เขามีความ สามารถในการเขียนภาพและเขียนตัว


หนังสื อได้สวย กว่าเด็กวัดคนอื่น เวลาทางวัดมีงานผูกพัทธสี มาฝังลูกนิมิตหรื องานใด ๆ ก็ตาม
เขาจะต้องมีหน้าที่เขียนป้ ายโฆษณาให้วดั เสมอ เขาชอบทางนี้อยูแ่ ล้วจึง ทำให้วดั ด้วยความ
เต็มใจส่ วนผมนั้นไม่มีความสามารถอย่างเขา ช่วยงานวัดได้แค่เพียงกวาดลานวัดบ้างในบาง
โอกาส“กูไม่นึกเลยว่าจะได้เข้าเรี ยนเพาะช่าง” เขาบอกกับผมในวันหนึ่ง“มึงคิดว่าจะสอบเข้าไม่
ได้ใช่ไหม” ผมถาม “เปล่า ! เรื่ องนั้นไม่ห่วง แต่พอ่ กู ไม่ยอมให้เรี ยนท่าเดียวบอกว่าเรี ยน วาด
เขียนจน แต่กกู ด็ ้ือเรี ยนจนได้“มึงบอกพ่อว่าไง ถึงได้เรี ยน“ตอนแรกก็บอกว่ากูรักวาดรู ปมาก ขอ
ให้ได้เรี ยนเถอะเรี ยนอย่างอื่น ไม่ชอบ แต่พอ่ ไม่ยอมเข้าใจ เอาเรื่ องเงิน ๆ ทอง ๆ มาพูดอยูเ่ รื่ อย กู
เลยใช้ไม้ตายบอกว่าจะยอมให้โคเป็ นควายอยูก่ รุ งเทพฯจะไม่ยอมเรี ยนอะไรทั้งนั้นนอกจากเรี ยน
เพาะร่ าง พอจึงยอม ผมว่า“ใช่เพราะพ่อถูกตัวลูกที่รักกลายเป็ นควาย” เขาหัวเราะ “มึงรักพ่อหรื อ
เ ป ล ่า ”
“ไม่น่าถาม เขาทำหน้าบูด “ไม่รักพ่อแล้วจะรักเทวดาที่ไหน“แล้วท่าไม่ขดั ใจฟา “เพราะรักนี่
แหละ ถึงชัด “ไม่เข้าใจที่มึงพูด” “ก็รู้ตวั ดีนี่หว่า ว่าขึ้นเรี ยนอย่างอื่นไม่ไหวแน่ เปลืองเงินพ่อก
เปล่า ๆ จึงกล้าขัดใจพ่อ เพื่อหวังผลภายหน้า กูจะเป็ นจิตรกรที่มีชื่อเสี ยง ของเมืองไทยให้ได้ กู
จะพิสูจน์ให้พอ่ เห็นว่าลูกของพ่อได้เรี ยนถูกทางแล้ว” เขาพูดด้วยความมัน่ ใจแต่พอ่ มึงก็คงยังไม่
พอใจเพราะจิตรกรมักจน” ผมให้ความเห็น “ต่อไปไม่แน่” เขาเถียง “จิตรกรอาจมีฐานะดี ภาพ
ฝี มือของกูอาจมีราคา เป็ นพันเป็ นหมื่นหรื อมากกว่านั้น” สนัน่ เขาเป็ นคนเช่นนี้รักการเขียนรู ป
และใฝ่ ฝันอยากเป็ นจิตรกรมาก กว่าอย่างอื่นทั้งหมด บางวันในวันหยุดเรี ยน ผมเคยเห็นสนัน่ ยืน
อยูห่ น้ากรอบผืนผ้าใบบน ขาหยัง่ เขาเขียนภาพโบสถ์ในวัดเป็ นเวลานานด้วยหัวใจจดจ่อ ดูเขามี
ความ สุ ขและไม่รู้หน่ายกับงานที่เขากำลังทำเลย และบางวันผมเห็นเขาหอบหิ้ว เครื่ องมือและ
อุปกรณ์การเขียนภาพพะรุ งพะรังออกจากวัดไป เพื่อเก็บภาพ ในสถานที่สำคัญต่าง ๆ และบาง
วันผมยังยอมถอดเสื้ อเป็ นนายแบบให้เขาวาดตามที่ร้องขอเงินประจำเดือนที่หนัน่ ได้รับจากพ่อ
เดือนละไม่กี่ร้อยบาทนั้นเขาจะใช้ มันอย่างประหยัด ไม่เที่ยว ไม่สูบบุหรี่ ทั้งนี้เพือ่ เจียดเงินไว้ซ้ื อ
สี และอุปกรณ์ เครื่ องเขียนจากเพาะทางปี หนึ่ง ขึ้นปี สอง และมีสามตามลำดับ ผมสัง่ เห็น เชา
เสมอต้นเสมอปลาย เราไม่มีทีท่าจะเบื่อการเขียนภาพเลย เขากลับ หลงใหลมันยิง่ ขึ้นไปอีก
“กูจบเพาะช่างจะไปต่อศิลปากร” เขาบอกเพื่อน ๆ ในห้องนอนของสนัน่ เต็มไปด้วยภาพเขียน
ขนาดต่าง ๆ ที่เขียนเสร็ จ แล้วบ้างกำลังเขียนค้างอยูบ่ า้ งวางพิงอยูฝ่ าห้อง และซ้อนทับเป็ นจับใต้
เตียงนอน หลายภาพถูกแขวนโชว์อยูร่ อบห้อง หลอดสี และเครื่ องเขียนวางอยูบ่ นโต๊ะ อย่างขาด
ระเบียบ บนเตียงรกไปด้วยเศษไม้ท ำกรอบรู ป เศษผ้าใบและ เครื่ องมือช่างไม้ เสื่ อผืนหมอนใบ
ของเขาม้วนกลมอยูห่ วั นอน เสื้ อผ้าที่ แขวนถูกปัดไปอยูท่ ี่มุมห้อง พื้นห้องว่างเว้นการทำความ
สะอาด ทุกอย่างใน ห้องนั้นรกรุ งรัง จนแลดูคบั ห้องและดูเหมือนเจ้าของห้องพอใจให้เป็ นเช่น
นั้นเพราะเขาเที่ยวบอกใครต่อใครว่า“ห้องรก ๆ ดูแล้วเป็ นศิลป์ ดีเช้าวันหนึ่ง สนัน่ ยกขาหยัง่ ไป
นัง่ เขียนภาพที่ใต้ตน้ ขนุนหน้ากุฏิ ผมตามไปยืนดูรูปนี้ กจู ะเขียนส่ งเข้าประกวด” เขาบอกผม
พร้อมกับจับดินสอร่ างลงไปบนผืนผ้าใบที่วา่ งเปล่า“มึงจะเขียนรู ปอะไร” ผมถาม

You might also like