Professional Documents
Culture Documents
ท้ องฟ้าไม่ค่อยแจ่มใสเท่าไหร่..
พอๆกับใจของผมตอนนีเลยครับ
ขอบคุณทีซําเติมนะไอ้ โจ๋
“เดีย จีนแตกให้ ดเู ลยมึงนี” หมันไส้ เอากระดาษสแมชหัวไอ้ กล้ วยไปทีนงึ เลยเกิดศึกย่อมๆทีม้ านังอะเกน ไอ้ เคิล
กวักมือเรียก ชีให้ ดทู ีละจุดว่าทําไมถึงผิด เออ แบบนีหล่ะทีเรียกว่าเพือนดี มีประโยชน์ ไม่เหมือนเอ็งเว้ ย ไอ้ กล้ วย
เน่า
ไม่ร้ ูมนั พูดอะไร แต่ผมก็หยุดเล่นกีตาร์ แม่ง ไอ้ นกั ร้ องนําเสือกป็ อด ล่ม ล่มเลยกู
ไอ้ อกุ กี เดินมากับพวกไอ้ ปิก แต่มนั ยืนอยู่ตรงนัน ไม่ได้ เดินเข้ ามาพร้ อมปิ กหรือกึม มันมองมาทางกล้ วยแค่แว่บ
เดียว พอๆกับไอ้ กล้ วยทีหันหน้ าหนี
ยังไม่เลิกสงครามเย็นอีกหรอวะเนีย..
“พีก็เคยเรียนมาก่อน ทําไมยังถามอีก”
เดียว นี มันดูเปลียนไปเยอะ รู้สกึ จะฮอทขึนด้ วย เริมมีสาวๆให้ ความสนใจ สร้ างไฟสุมตาให้ กบั พีรหัสเป็ นอย่าง
มาก “มึงตัดผมร้ านไหนวะ”
มันเลิกคิว “กูจะไปตัดบ้ าง อยากฮอท”
“ผิดจุดประสงค์กอู ย่างแรงเลยหว่ะ”
แล้ วก็ถกกันเรืองปากไอ้ กล้ วยกันซัก พักใหญ่ ผมเห็นไอ้ อกุ กีมันก็ลงมานังด้ วย แต่ก็ไม่ยกั จะพูดอะไร เอาเข้ าจริงๆ
ผมรู้ สกึ ว่าแป้งบนหน้ ามันจะดูน้อยลงหน่อย ผมว่าดูดีกว่าตอนมันโบ๊ ะหน้ าเค้ กมาเรียนซะอีก
“ครับ?”
“นัน ตีหรือเปล่า?”
เสียงก็ใช่แล้ ว
“มีอะไรครับ?”
ใครบอกพีแกวะว่าวันนีไม่มีเรียนบ่าย
“พีเมฆรู้ได้ ไง?”
“คิดว่าไงล่ะ”
“ว้ า ไม่อยากไปกับพีหรอกหรอ?”
“ของฟรีผมชอบครับ ฟรีหรือเปล่า”
“ไม่อน”
ั
“พีอยู่ไหน?”
“ผมจะรู้ไหมเนีย?”
“เดียวก็เจอเอง”
“พีเช็คตารางมาหมดเลยหรอ?”
“ก็..ระดับนึงหล่ะนะ”
“ทําไมพีเมฆกลับมาหรอ?”
“กลับมาไม่ได้ หรอ?”
“เปล่า ผมแค่สงสัย”
“…คงคิดถึงบ้ านแย่เลยเนอะ”
“…บ้ าน หรอ…” ไม่ร้ ู ว่าทําสีหน้ าแบบไหนอยู่ เพราะไม่ได้ หนั ไปมอง พูดออกไปไม่ได้ คิด เลยลืมไปว่าบ้ านพีหมอก
กับบ้ านผม มีอะไรหลายๆอย่างทีแตกต่างกัน
ร้ าน เค้ กอยู่ไกลพอสมควร แต่รถไม่ติด เลยรู้ สกึ เหมือนไปได้ เรือยๆ ผมพกกล้ องมาด้ วย เลยได้ ถ่ายรูปบรรยากาศ
ร้ านเค้ กเก็บไป เพือเป็ นไอเดียเวลาคิดแบบ เพราะเขาตบแต่งสวย ธีมร้ านดูหรู แต่ก็ให้ ความรู้ สกึ บ้ านๆอยู่ด้วย ที
เก้ าอีก็เป็ นโซฟานุ่มๆ
“ทําไมถึงรู้จกั กับหมอกหล่ะ?”
“ก็..รุ่นพีรุ่นน้ องมหาลัยเดียวกัน”
“แค่นนหรอ?”
ั
“อืม..”
“อยู่ด้วยกันมานานขนาดไหนแล้ ว”
“อีกสองเดือนก็ครบปี ”
“นานพอสมควรเลยนะ..”
เค้ ก มาเสิรฟ พีเมฆกินเค้ กกาแฟ ผมได้ เค้ กบลูเบอรี มากิน อร่อย ไม่หวานมาก อยากซือไปฝากเฮียกับพีหมอก แต่
เห็นราคาแล้ วก็คิดเปลียนใจ สองคนนันโตแล้ ว คงหาซือกินเองได้ ถ้าอยากกิน
“..คบกันอยู่หรอ?”
“…คงจะเป็ นแบบนันล่ะมังครับ?”
“ทําไมถึงตอบแบบนันหล่ะ?”
“อืม ผมว่าคงคบกันอยู่หล่ะ”
“แล้ วเรืองอนาคตหล่ะ?”
พี เมฆสังโกโก้ ให้ ผมเพิมอีกแก้ ว ได้ ยินเสียงดังเปาะแปะ ฝนตกซะแล้ ว ไม่เข้ าใจเหมือนกันว่าทําไมปี นีถึงเป็ นหน้ า
หนาวทีไม่หนาว แล้ วยังฝนตกอีก
“หมอกหน่ะ..เหมือนอยู่ตวั คนเดียวตังแต่เด็กๆ”
ตักเค้ กเข้ าปาก เหลือบมองหน้ าพีเมฆ ไม่ร้ ูทําไมถึงต้ องแอบมองแบบนี พอพีเขาเงยหน้ าขึนมาจากเค้ กมอง ก็รีบ
หลบสายตา
ถึงทุกวันนีผมก็ยงั รู้สกึ ว่ามันยังพูดน้ อยอยู่ ไม่ค่อยแสดงออกในสิงทีตัวเองรู้ สกึ แม้ จะดีขนึ แต่มนั ก็ยังห่างจากคน
อืนอยู่มาก
“…มันไม่ใช่ความผิดของใครหรอก”
“คิดแบบนันหรอ?”
“อืม”
ทุกคน น่าสงสารทังนัน
แต่สงที
ิ ผมไม่เข้ าใจคือ พีเมฆจะเล่าให้ ผมฟั งทําไม?
“พีเข้ าใจว่าหมอกเปลียนไปในทางทีดีขนก็
ึ เพราะตี แต่บางทีก็อยากจะให้ เข้ าใจเหตุผลของโลกความเป็ นจริง
ด้ วย”
ผมรู้ สกึ อิจฉา รู้สกึ หวง โมโห หรือเห็นแก่ตวั มันเป็ นอารมณ์พืนฐานทัวไปของมนุษย์ แต่มนั ก็ชดั เจนขึนจนผมยัง
กลัวใจตัวเอง
…คิด
“ไม่ ใช่ว่าพีเกลียดตีหรืออะไรนะ ตีเป็ นคนซือ ใครทีได้ ร้ ูจักก็คงจะรู้ สกึ เอ็นดู แต่ว่าทีพูดเรืองนีขึนมา เพราะใน
ฐานะผู้ใหญ่ พีชาย หรือแม้ แต่กรรมการผู้จดั การ”
“….ผมทราบครับ”
“…ตี…”
“ครับ?”
“ไม่ใช่ว่าพีไม่ร้ ูเรืองหนีสินของบ้ านเราหรอกนะ”
“….”
“เงิน หมอกก็สว่ นของหมอก ถ้ ามันไม่รับ ก็คงทําอะไรไม่ได้ แต่มนั ทําให้ พีไม่สบายใจ ไม่ร้ ู ว่าคนทีรับเงินเป็ นล้ าน
จากหมอกเป็ นคนแบบไหน เลยอยากมาเห็นด้ วยตาตัวเอง”
พี เขาหัวเราะออกมา ผมเลยรู้ สกึ ผ่อนคลายขึน “ผิดคาด นึกว่าจะเป็ นสาวสวยๆสักคน แต่ไหงเป็ นเด็กบ้ านๆแบบ
นียังไม่เข้ าใจไอ้ หมอกมัน ดูสิ กินเค้ กยังเลอะปากอยู่ อายุเท่าไหร่แล้ วถามจริงๆ”
“ครับ?”
พีเมฆพูดออกมา ท่ามกลางเสียงฝนทีกระทบกระจก
“พีหมอก”
“ไปไหนมา”
“ไปกินเค้ กมา”
“กับใคร?”
“มันมาหา? เมือไหร่ ”
“พึงขับมาส่งผมเมือตะกีเอง”
“พีเมฆพูดอะไรให้ มงึ ฟั ง”
ฝน ยังตกอยู่ ตอนทีวิงกลับเข้ ามาก็เลอะรองเท้ าผ้ าใบไปหมด ร่ มทีพีเมฆให้ ยืม ก็กางแล้ วตากไว้ กบั พืน พีหมอก
มานังรอถึงคณะ แสดงว่าคงจะเรียนเสร็ จสักพักแล้ ว
“ทําไมไม่รับโทรศัพท์ ”
“หือ? งีแปลว่าเครืองดับแหง”
ท้ องฟ้ามืด ทังๆทีพึงสีโมงกว่า
“กลับบ้ านกันเถอะพี”
“เดียว..”
ถูกรังมือไว้ เลยหันกลับมามอง
“ผมไม่ได้ อ่อนแอ”
“มึงอย่าหนีปัญหา…อย่าหนีไปไหนนะ”
“…..”
“ทําไมมึงไม่ตอบ”
อด ถอนหายใจไม่ได้ “กลับแล้ วไปกินเค้ กกันนะ” ยกกล่องเค้ กขึนแต่กลับถูกปั ดออก กล่องเค้ กตกลงกับพืน โชค
ร้ ายทีกล่องกระดาษเปิ ดออก เค้ กทีอยู่ภายในเลยหกออกมา
“พีถามว่าอะไรหล่ะ?”
“….”
“ผมลืมไปแล้ ว พีถามว่าอะไร?”
“แน่ใจว่าอะไร”
“….มึงจะหนีกไู ปไหนอีก”
“….”
“ตอบมาสิ!!”
เสียงดังก้ องไปตามทางเดินทีไม่มีใครนอกจากเรา
“….ผมไม่ร้ ูจะตอบอะไร”
“ทําไม”
มีสงที
ิ ผมรู้ และสิงทีพียังไม่ร้ ู แต่ไม่ว่ายังไง สักวันเราสองคนก็ต้องเจอเรืองแบบนีอยู่ดี
“ไอ้ เมฆบอกอะไรมึง”
ถูกรังตัวไว้
“..ปล่อยผม”
“ไหนมึงบอกจะไม่ไปไหน”
“…..”
“ทําไม”
เสียงมันเศร้ า
ความอบอุ่นทีอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็น ผมกอดมือทีโอบรอบเอวผมอย่างลืมตัว
รู้สกึ ทีปลายจมูกทีกดลงข้ างๆแก้ มผม ไม่ได้ จะหอมแก้ ม แต่เพราะว่าใกล้ ใกล้ เสียจนรู้สกึ แรงเต้ นใต้ แผ่นอก
“เพราะกูไม่ชัดเจนหรือเพราะมึงไม่เข้ มแข็งพอ…”
เสียงฝนดัง แต่ยังไม่เท่าเสียงทุ้มติดหู
“…ทังคู่”
กระเป๋ าทิงไว้ ทีตึก ยังดีทีไม่ได้ พามาเปี ยกด้ วย เพราะตอนนี ผมรู้ สกึ เปี ยกไปทังตัว
มือรอบเอวคลายออก แต่ค่อยๆประคองมือผมขึนมา
มือข้ างหนึงของพีหมอก ปล่อยออกจากมือผม กดนิวเขียนไปตามฝ่ ามือทีมืออีกข้ างของพีหมอกประครองไว้ อยู่
ชาไปทังตัว
….รัก…
คําว่ารัก
ตัวผมสัน
“ผ…ผมอ่านไม่ออก”
“กูร้ ูมงึ อ่านออก…” โดนกอดไว้ แน่น ไม่ร้ ูมีคนมองอยู่หรือเปล่า แต่ตอนนี รู้สกึ หัวว่างเปล่าไปหมด ในใจ เต้ นแรง
จนปวด
“แล้ วมึงหล่ะ..”
“พีขีโกง..”
“ยังไง?”
“…พีแย่งผมพูด”
“…มึงคงต้ องรอวันนันไปตลอดชีวิต..”
ถ้ ามันเป็ นแบบนัน…ก็คงจะดี
มันคงจะเป็ นสิงทีดีทีสุดในชีวิตของผม
คนทีไม่เหมาะสมกับคําว่ารักของพีเลยแม้ แต่น้อย
ผมจะอดทน
“ผมจะไม่ไปไหน”
Coin 37.5
ฝนยังไม่หยุดตก
“ผมหนาวอ่ะ”
“กูก็หนาว”
ถอดเสือทีชืนจนแนบไปกับตัว
ผมเราทังคู่ชีไม่เป็ นทรง กึงแห้ งกึงชืน ผมไม่ได้ ใส่บ็อกเซอร์ เลยยังไม่ถอดเสือออก ปล่อยให้ ชายเสือยาวปิ ดลงมา
“ทําไมไม่ถอดหมด?”
“เดียวผมก็กดั ซะหรอก”
“ดุอย่างนีใครจะเอาไปเลียง”
พอ หัวเราะ ก็ถกู เอาโฟมล้ างหน้ าปาดใส่ ไม่ร้ ูบีบใส่มือตังแต่ตอนไหน เลยรีบเอนตัวหนีออกจากนํา ถูเร็วๆแล้ วเข้ า
มาล้ างหน้ าต่อ “อะไร มึงออกไปยังไม่ถึงนาทีเลย”
“ของมึงก็เร็วไป”
“พีก็เร็วเหมือนกัน แข่งกับผมหรอ?”
“ใครแข่งด้ วย คิดไปเอง”
“เอ้ า ก็ผมหันไปล้ างหน้ าแปปเดียว พีก็เสร็จแล้ วเหมือนกัน แล้ วมาบ่นคนอืน โคตรขีโม้ อ่ะคนเรา”
“คนอาบนําเสร็จก่อนคือคนทีสกปรกกว่าสินะ”
เห็น มันทําหน้ านิงๆแล้ วขํา เรี ยกว่าแถไปเนียนๆ ผมเลยเอาสบู่ป้ายมันคืนบ้ าง ก็เป็ นศึกทีทําให้ ห้องนําเปี ยกไปทัง
ห้ อง ผ้ าขนหนูมีสองผืนพอดี ก็รีบๆเช็ดไป จะวิงออกไปหยิบเสือมาใส่ก็โดนดึงผ้ าขนหนูไว้ บอกว่าข้ างนอกเปิ ด
แอร์ แล้ ว น่าจะหนาว พีหมอกเลยจะออกไปหยิบให้
“กูชอบหนาวๆอยู่แล้ ว”
พึง รู้ว่าทีนีมีไดร์ เป่ าผมด้ วย ถูกเก็บไว้ นานจนแม้ แต่พีหมอกก็ยังลืม ผมปิ ดฝาชักโครกลงแล้ วนังอยู่บนนัน พี
หมอกกึงนังกึงยืนทีอ่างล้ างหน้ า เสียบปลักแล้ วถือไดร์ เป่ าผมให้
“หูยย อย่างอุ่น”
ผมอยากอยู่แบบนีไปนานๆ
ตัว ผมแห้ งก่อน แต่พีหมอกก็ยงั ไม่ค่อยยอมฟั งอะไรผมเท่าไหร่ สุดท้ ายก็เหวียงเสือกับกางเกงเข้ ามาในห้ องนํา
แล้ วตัวเองก็ออกไปยืนเปลียนข้ างนอกตามปกติ เออ แล้ วจะดักกูไว้ ในห้ องนํานานๆทําไมวะ
“พีหมอก ขอแขนหน่อยดิ”
“ขอเขียนหน่อย”
“ทําไมถึงเขียนชือตัวเองลงไป?”
“ทําหายเองหรือว่าไง”
พีหมอกไม่พดู อะไรต่อ ดึงตัวผมเข้ าไปใกล้ หยิบปากกาแล้ วเขียนลงไปบนข้ อมือผม ตัวใหญ่เท่าข้ อแขน “เฮ้ ยพี
ตัวใหญ่ไปเปล่า?”
หมอก..
“งีทําปลอกคอให้ ผมเลยดีกว่าไหมพี”
ของๆผม
ถ้ าผมทํามันหายไป…
……………………………..
……………………
Coin 38
“ไอ้ ตี อยู่ไหนวะ”
“ฮือ….มีอารายวา”
“เอ้ า มึงพึงตืนหรอ”
“เมือคืนทําไรดึกๆดืนๆจ๊ ะ คิดิคิคิ”
ไม่เห็นจะรู้ตัวเลย …
“กูจะชวนก๊ ง”
“เออดิ ของฟรีป่าวหล่ะ”
“มึงกลัวไร มีคนเลียงนิ”
…….
เสียงโทรศัพท์บ้าน….
คราว นีไม่ใช่ผมทีลุกไปรับสาย ไอ้ พีหมอกลุกออกไปเองเลย หงุดหงิดพอๆกับผม หายออกไปข้ างนอกสักพักก็
กลับมา พอผมหรีตามองก็บอก “กูดงึ สายโทรศัพท์ออกแล้ ว” เออดีหว่ะ กูยงั ไม่พูดไรเลย รู้แล้ วกูคิดไรอยู่
“เมือกีพีเมฆโทรมา”
“…..ว่าไงบ้ าง”
“ฝากสวัสดีด้วยแล้ วกัน”
“หมายความว่าไง?”
“มึงจะไปไหน”
“พีก็ไปกับครอบครัวของพีดิ ผมจะอยู่นอนทีนีอ่ะ”
“…มึงไม่ใช่ครอบครัวกูตรงไหน”
“กินข้ าวกลางวันอย่างนันหรอ…..”
…………………………..
…………………….
“ไม่ร้ ูคิดไรอยู่..”
“หืม?”
คิดในแง่บวก
พีหมอกเวอร์ ชนผู
ั ้ หญิง
พีหมอกเวอร์ ชนผู
ั ้ ใหญ่
แอบถอนหายใจเบาๆจนพีหมอกหันมามอง
สบายใจขึนเยอะ
“จะกินอะไรเพิมไหม? พีมีสงไปก่
ั อนแล้ วนิดหน่อย”
“เรืองธรรมชาติหว่ะพี”
หันกลับมาก็พบว่าพีเมฆกับน้ องฝนกําลังมองอยู่..
ชะอุ้ย
“จะรีบไปไหนต่อหรอ?”
“ตีนัดเพือนไว้ ”
พีเมฆไม่ต้องตกใจไปครับ นีมันพูดสุภาพทีสุดแล้ ว
แต่พีเมฆก็ดูไม่ตกใจอะไร รวมถึงไม่แสดงท่าทีแปลกใจด้ วย
“ไม่ใช่แค่เพือนตีหรอ?”
หลังจากนีคงต้ องไปแวะ ซือของก่อน ไม่มีกบั แกล้ มไม่ได้ เป็ นข้ อสําคัญเลยครับ ถ้ าพลาดนี ความผิดระดับชาติ
อาจจะต้ องนังสํานึกผิดซักชัวโมง
“วันนันมันพูดอะไรกับมึง”
“ห้ ะ? อะไรวันไหน”
“อาทิตย์ทีแล้ ว”
“มึงอย่ามาขึนเสียงกับกู”
“ผมเปล่า ก็แค่พดู ให้ พีฟั งเฉยๆ พีจะอยากรู้ ไปทําอะไร ฟั งไปมันก็ไม่ได้ ทําให้ พีรวยขึนสักหน่อย”
ผมอึดอัดใจ
“…..ไม่ ผมไม่บอก….”
“…..”
ผมบอกพีไม่ได้ ไม่ว่าผมจะอยากพูดออกมาแค่ไหนก็ตาม…
เสียงนันหลุดออกมาอย่างแผ่วเบา เหมือนพูดคุยกับตัวเอง
“…รีบไปเถอะ…”
………………………………
………………………
………………………………
………………………
“เออๆ ไหนของกินเพิมอยู่ไหน”
“ไปขนเอง หลังรถ”
“ขอบคุณครับพีหมอกกก”
“แล้ ว ผมจะไปอยู่กบั พีทํามาม่าไรวะครับ ขอบคุณครับ” พีโก้ เทเหล้ าให้ รีบยืนแก้ วไปรับไว้ แทบไม่ทนั หันไปมอง
แว่บๆ เห็นไอ้ พีหมอกลงไปนังข้ างๆพีบอล ไม่ได้ สนใจผม “ว่าแต่ไอ้ กล้ วยไปไหนวะพี”
“นู่น ไปเก็บศพเลย”
“…เออ เวลาไปเช็คสมองก็ไปด้ วยกันเลยนะเว้ ย” พีโก้ แม่ง ใครคุยด้ วยวะ “ไอ้ ตี มึงกินได้ เยอะแค่ไหน”
“ลากกูไปไหนวะ”
ต้ อง ปล่อยกีตาร์ ให้ พีโก้ เสียบแทน โก้ มิสเตอร์ เอ็กซ์แมน ทําได้ ทุกอย่าง ร้ องด้ วยดีดกีตาร์ ด้วย เท้ าตบเป็ นเพลง
สามารถมาก ผมเดินตามมันออกมานอกสตู จะพากูมาบริจาคเลือดไมวะ
“ขอกูจบู มึงทีเหอะ”
“ไอ้ สดั เป็ นอะไรของมึง” ดันมันออก แต่ดเู หมือนตอนนีมันควบคุมตัวเองไม่ได้ แรงเลยเยอะกว่า
แต่ แล้ วไอ้ กล้ วยก็ถกู กระชากตัวออกจากผม ไม่ต้องเดาว่าใครครับ ไอ้ พีหมอก ผลักไอ้ กล้ วยแรงจนมันล้ มลงกับ
พืน แล้ วกระทืบเน้ นๆ เตะจนไอ้ กล้ วยร้ องดังไปหมด คนในสตูถึงได้ วิงออกมาดู
“พี..พีหมอก”
“มึงทําเหียไร..”
“…มันเมา มันเลยจูบผม”
“…..”
“พีเชือผมดิ มันมีแค่นนจริ
ั งๆ”
“…กู…กูจะเชือใจมึงได้ แค่ไหน”
เป็ นผม ทีพูดไม่ออกเสียเอง
“กูถามอะไรมึง มึงก็ไม่เคยตอบกู”
“เรืองแค่นีทําให้ พีไม่เชือใจผมเลยหรอ?”
ผมไม่ได้ ตอบ
ผมหยุดเดิน
มันก็ไม่ได้ ลากผมต่อ
“ผมขอโทษนะทีผมไม่ได้ บอกพี”
หยุดคิด แต่หาคําตอบไม่ได้
เลยได้ แต่ตอบไปว่า
“ผมไม่ร้ ู ….”
“มันคงไม่ใช่เรืองดี”
ผมพยักหน้ า
“…อืม”
“พีไม่โกรธใช่ไหม?”
“โกรธ”
“งันให้ อภัยผมนะ”
“แล้ วเกียวไรกับจูบมึง”
“โหย พีขนาดนันเชียว”
“พียิงกว่าเฮียผมอีก เฮียมันยังไม่ว่าเลย”
“งันผมยิมก็ได้ แฮ่”
“กลับบ้ านนะ..”
“มึงเมาแล้ ว”
“เหียไร”
“ไม่เอาคํานีอ่ะ”
“แล้ วมายืนซบกันกลางถนนนีมึงอายคนอืนไหม”
“พีอายหรอ?”
“ไม่”
“แล้ วจะพูดทําไม?”
“มึงจะกลับไหม? ไม่กลับกูกลับเอง”
“พีจะทิงผมหรอ?” พอเงยหน้ ามองก็ร้ ู สกึ แสบตา ไฟส่องเข้ ามาเต็มๆ รู้สกึ เห็นพีหมอกใกล้ กว่าปกติ
“….ก็ไม่”
“ผมชอบเวลาพีพูดคําว่านะลงท้ าย”
“เออ”
“นะ?”
เสียงหัวใจพีหมอก
ดังยิงกว่าคําทีมันพูดต่อมาจากนีเสียอีก…
“กลับบ้ านกัน…นะ”
…………………………
…………………
Coin 39
ผมเคยคิด
ใจ
……………………………
…………………….
“พี ไปเทียวกัน”
เงียบ
“อาทิตย์ทีแล้ วก็พงไปเชี
ึ ยงใหม่ อาทิตย์นีมึงอยากไปไหนอีก”
“ไปไหนก็ได้ ”
“แล้ วทําไมไม่อยู่บ้าน”
“ผมอยากไปเทียว….กับพี”
“……”
“พีจะไปไหนอ่ะ?”
“กูจะไปอาบนํา มึงอยากไปไหนก็คิดไว้ ”
“…กูว่าวันนีไม่ต้องออกไปไหนหรอก”
“พี ไปอาบนําไป”
มีกลินแป้งติดอยู่อ่อนๆทีตัวพีเขา
เฝ้ามองแผ่นหลังของพีหมอกแบบนี….
รอยยิมผมลดลงช้ าๆ โดยทีไม่ร้ ู ตวั
…………………………
………………….
“เชีย”
“ร้ อนหรอพี?”
“…เหยิบมาใกล้ ๆหน่อยดิ”
ความผิดผมเองครับ ทีลากมันมาเทียวสวนสนุกแบบนี
“ยกโทษเรืองไรอ่ะ?”
“เรืองทีมึงพากูมาร้ อนขนาดนี”
มัน ไม่ตอบอะไร แต่พอมันกอดคอยืนด้ วยกันแบบนี ยิงรู้สกึ ว่ามาคงขีร้ อนเอามากๆ เช็ดปาดๆ จนทิชชู่ช่มุ พัด
กระดาษให้ มนั หน้ ามันแดงไปหมด
ได้ ยินเสียงพูดคุยซุบซิบดังมาจากข้ างหลัง ไม่ได้ สนใจอะไร “พีกินนําไหม?”
“มึงซือมา?”
“เปล่า เดียวผมไปซือให้ ”
“…พีหมอก”
มันหันมามอง
สายตาทีกําลังบอกอะไรบางอย่าง ทีพูดออกมาไม่ได้
ผม…
อยากตอบว่าไกลไป แต่ร้ ูสกึ เหมือนถ้ าพูดอะไรออกไป คงได้ อ้วกพุ่งเป็ นนําพุ เลยสงบปากสงบคํา พีหมอกไม่นัง
แต่ยืนอยู่อย่างนัน อยากถามทําไม แต่พอคิดสักพักก็ร้ ูเหตุผล
เงาของพีหมอก ทาบลงมาบนตัวผม
“เอานําไหม…”
“ผมเจ็บไหล่อ่ะ”
“ชนแรงขนาดนัน?”
“เออดิ พีนึกว่าพีขับเยลลีชนผมหรอ”
“ไรของมึง”
“อย่าเลยหว่ะพี ผมยังอยากตืนมาดูโลกต่อ”
ผมแวะไป ทีบ้ าน ม๊ าชวนให้ กินข้ าวเย็นด้ วยกัน แต่ผมปฏิเสธไป เฮียนังอยู่ทีเก้ าอี อ่านหนังสืออยู่ คงใกล้ จะสอบ
แล้ วเหมือนกัน เห็นเฮียเงยหน้ าขึนมอง ผมมองตอบ แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
“ตี …ขอคุยอะไรหน่อยดิ”
“…ตีมีเรืองอะไรไม่สบายใจเปล่าวะ”
“…..”
“พูดออกมาเหอะหว่ะ เฮียอึดอัดแทนมึง”
ผม พยักหน้ า เฮียพูดต่อ “ตี บางปั ญหามึงใช้ สมองตอบไม่ได้ หรอกนะ ตีต้ องใช้ นี” เฮียจิมนิวเข้ าทีหน้ าอก
หมายถึงสิงทีเต้ นอยู่ ลึกลงไป “ต้ องใช้ ใจตอบ”
“เฮียรู้ได้ ไงวะ…ว่าตีมีเรืองไม่สบายใจ”
“เพราะเฮียเลียงมึงมา คิดอะไรทําไมเฮียจะไม่ร้ ู ”
“อืม…”
“ม๊ ารู้ ?”
ผมส่ายหน้ า
ทัง ห้ องเงียบไปสักพักหนึง ได้ ยินเสียงทีคล้ ายกับเสียงจักจัน ไม่ได้ เปิ ดไฟ เหมือนรู้ว่ามันคงเป็ นการพูดคุยเพียง
สันๆ มองออกไปนอกหน้ าต่างเห็นรถสีดําจอดอยู่ แต่มองมุมนีไม่เห็นพีหมอก
พีหมอกก็เคยพูดแบบนี
ให้ ผมเห็นแก่ตวั
หรือสิงทีคิดว่าถูกต้ องมันยังไม่เพียงพอ..
คําตอบนีคงมีแต่เวลาทีจะตอบผมได้ …
……………………………
………………..
……………………………
………………..
“ไอ้ ตี มึงมีเรืองอะไรรึเปล่าวะ”
“ห้ ะ? ไมวะ”
“หน้ ามึงเหนือยมาก”
“กูก็นงตั
ั ดโมถึงตีสอง แล้ วก็ตืนขึนมาสอบพร้ อมพวกมึงไง”
“เออ ก็เหมือนกันนันแหละ ต่างกันไงวะ แม่ง คณะนีโคตรบันทอนชีวิตกูเลย กูนกึ ว่าแม่งจะชิวกว่านีซะอีกตอนกู
สอบเข้ ามา ขอบอก กูคิดผิด แต่กกู ็ชอบหล่ะวะ”
ปวดหัว
ถือ บอร์ ดไว้ ในมือ ไม่ได้ นอนเต็มอิมมาหลายคืน เห็นข้ อสอบ บางทียงั อ่านโจทย์ไม่ร้ ูเรืองก็หมดเวลาสอบซะงัน
กินนํามากๆจะได้ สดชืนตามทีไอ้ โจ๋บอก เสือกปวดฉีในห้ องสอบอีก ยิงกว่านรกชัดๆวันนี
“เอาว่ะ ไม่เป็ นไร แม่ง สอบเสร็จเมือไหร่ กูจะได้ หมดเวรหมดกรรม ก้ าวขึนสูป่ ี หน้ าอย่างสงบสุข วุ้ย ขอให้ หลานกู
เป็ นผู้หญิงสวยๆขาวๆน่าเจียะหน่อยเถอะ เจอกระเทยลําๆมาจะปี แล้ วสาส”
“เอ้ า กูนกึ ว่ามึงชอบ” เสียงไอ้ เคิลดังขึนมา ไอ้ กล้ วยเลยย้ ายเป้าหมายไปปะฉะดะกับเจ้ าพ่อติสต์แทน ไอ้ โจ๋ไม่พดู
อะไร นังทํางานระยะสุดท้ ายอยู่ข้างๆ
เวลา..
เมือเวลานันมาถึง…
พีเมฆ….
………………………………….
………………………
นาฬิกา
กําลังหมุนกลับ…
“…..”
“…..”
“ไอ้ ตี”
“……”
“…ทําไมไม่ตอบกู”
“พี”
พีหมอกขมวดคิว คงกําลังงง
…แบบนีหรือเปล่าทีเรียกว่าเห็นแก่ตวั
“….พีหมอก”
“อะไร”
“….”
“มีอะไรก็พดู มา”
“…..”
ก้ มหน้ าลงตํา
“….ผมอยากหยุด”
“หยุดอะไร”
“หยุดทุกอย่าง”
“…….มึงหมายความว่ายังไง”
“ผมไม่อยากอยู่กบั พีแล้ ว”
“…มึงล้ อเล่นใช่ไหม?”
“ผมไม่ได้ ล้อเล่น”
เคยพูดประโยคนีออกไปครังหนึง
“พีอย่าเดินเข้ ามานะ!”
พีหมอกหยุดเท้ าไว้
ถ้ าเป็ นเมือก่อน คงจะเดินก้ าวเข้ ามาถึงตัว บีบหัวไหล่ เค้ นหาคําตอบ แต่ถ้าเป็ นตอนนี อาจจะกอดผมเอาไว้
ผิด…ทุกอย่างมันผิดมาหมดตังแต่แรก
“…ผ..ผมอยากเลิกกับพี”
“ผม…หมายความว่าแบบนัน”
พืนพร่ามัว
ร้ อนไปทังตา
ไม่ จะร้ องไห้ ไม่ได้ ต้ องไม่มีนําตา… ก้ มหน้ าลงตํา ซ่อนใบหน้ าไว้ ไม่อยากให้ เห็น ไม่อยากให้ ร้ ู ว่าคิดอะไรอยู่
ไม่อยากให้ ร้ ู …ว่าผม…
“…ผมอยากเลิกกับพี ผมไม่อยากอยู่กับพีอีกต่อไปแล้ ว”
“พูดแบบนี กูไม่ตลก”
“เลิกกันเถอะ…พีเลิกกับผมเถอะ”
เสียงดังก้ องในห้ อง
ดังก้ องในใจ..
“…เลิกรักผม…เลิกทุกอย่าง”
“มึงพูดอะไรออกมามึงรู้ ไหม…”
“…ผมรู้ ”
พีหมอกลนลาน
พูดวนไปมาเหมือนคนเรียงความคิดไม่ได้
“มันไม่เกียวกับพีเมฆ ผมตัดสินใจเอง”
“มันบอกอะไรมึง! พูดมาสิ!”
ถูก คว้ าไหล่ไว้ พีหมอกขมวดคิว รู้ สกึ เหมือนกําลังจะร้ องไห้ แต่คงแค่คิดไปเอง ดูเหมือนคนทําอะไรไม่ถกู ผมเงย
หน้ าขึน หน้ าพีหมอก…มองเห็นไม่ชดั พยายามกลันเอาไว้ กลันนําตา
“…เรืองทีกูต้องไปเรียนต่อใช่ไหม”
ตัวเย็นไปหมด
“พีรู้?”
“ทําไมมึงคิดว่ากูไม่ร้ ู ”
“พีเมฆบอกไม่ได้ บอกพี”
“มันกลับมา มันต้ องมีเหตุผล บ้ านเราพีน้ องอยู่รวมหน้ ากัน มันแปลว่าต้ องมีอะไรเกิดขึน”
“…..”
“มันกลับมา..กูก็ต้องไป”
…พีต้ องไป
กลับไปอยู่ในสถานทีทีพีควรอยู่
“…นีใช่ไหม?! เหตุผลทีมึงจะขอเลิกกับกู”
เจ็บ..
“กูไม่ไป”
“พีต้ องไป”
“กูไม่ไป กูจะไม่ไปในทีทีไม่มงึ ”
“….มันไม่ใช่เพราะเรืองนัน…ผม..ผมแค่อยากเลิกกับพี”
“มึงโกหก…มึงโกหกกู”
“ผมไม่ได้ โกหก”
“มึงพูดออกมาสิ…ว่าทีผ่านมาทังหมด ถ้ าไม่เรี ยกว่ารัก มึงเรียกว่าอะไร!”
ผมรักพี
ปากพูดออกไป…
“….ไม่ได้ รัก….”
นําตา…
ไม่มีนําตาไหลออกมา
พีหมอกยืนอยู่ตรงนัน
ทังๆทีผม..
รัก
รักพีเสียจนไม่ร้ ูจะบรรยายออกมายังไง
ผมอยากให้ พีหมอกกลับไปอยู่ในทีของตัวเอง
ถึงแม้ ตอนนีพีอาจจะคิดว่ามันเป็ นทางทีพีไม่ต้องการ แต่สกั วันหนึง ทางนัน จะเป็ นทางของพี
“…มึงโกหก”
เสียงนัน เหมือนลอยออกมาจากทีไกลๆ
“….กูร้ ู มึงโกหก….”
ผมโกหก…
แม้ กระทังตัวเอง
โกหกแม้ แต่ใจตัวเอง
ผมคงไม่มีคณ
ุ ค่าพอทีจะดูแลคําว่ารักของพีเอาไว้
“มันไม่ใช่แบบนัน”
“แล้ ว มันเป็ นแบบไหน! ถ้ าคําว่ารักไม่พอ แล้ วมึงยังต้ องการอะไรอีก แค่นามสกุลบ้ าๆนี มึงอยากให้ กทู ิงกูก็ทิงได้
แต่อย่ามาพูดว่าไม่รักกูแบบนี….”
“…ต่อให้ พีไป..ผมก็ไม่เสียใจ”
“หยุดโกหกกู…..หยุดโกหกกูซักที”
เสียงนัน สันขึนเรือยๆ…
……………………………………
…………………………….
Coin 40
ลมพัดหน้ าจนหน้ าตึงไปหมด นําตาแห้ งเกรอะ หลบหน้ าลง ซ่อนให้ พ้นจากลมทีตีหน้ าอยู่ข้างหลังเฮีย
“เฮีย…เฮียมีเรืองจะบอกตีหรือเปล่า”
“…..เรืองอะไร”
“เรืองม๊ า เรืองทีเฮียบอกตีไม่หมด”
“เรืองไหน…อะไรของมึงไอ้ ตี”
“……”
“…มึงรู้จากใคร”
“แล้ วทําไมเฮียไม่บอกตีหว่ะ”
“เฮียขอเลือนหมอเขาไปก่อน..ไม่มีเงินหว่ะ”
“….ตีหามาให้ แล้ ว”
“…….”
“….ไอ้ ตี บอกกูมา”
“….”
“ตียิงกว่าขายศักดิศรีตวั เองอีก”
“แบบนีใช่ไหม? มึงถึงเรียกกูมารับ”
“……..”
“ตี มึงขายใจตัวเอง…”
“…….”
“ตี…”
…ผมทําร้ ายตัวเอง
ผมทําร้ ายพีหมอก
อย่างน้ อย…ก็ทําให้ ผมรู้สกึ ผิดน้ อยลง ใช้ เป็ นเหตุผลทีปลอบใจตัวเอง…ไม่ให้ ผมดูเป็ นคนหิวเงินมากจนเกินไป
พีหมอก..จะไม่กลับมาอีก
มันทําให้ ข้อตกลงฉบับนีสมบูรณ์ …
“…ตี กูขอโทษ”
“เฮียไม่ผิด..ฮ..เฮียขอโทษตีทําไม..ฮึก…”
“ไม่เหนือยหรอก…เฮียไม่เหนือยเลย”
เหนือย เหนือยมาตลอด…
………………………………..
………………………..
….มึงเป็ นของกู
…มึงเท่านัน ทีกูจะรัก
….ตี
“….ตี”
“เฮียไปทําอะไรมา”
“งานพิเศษ”
“ทําอะไร?”
“ขับแท็กซี”
“…..”
“มึงก็ชอบพูดไม่เป็ นไร ไม่เป็ นไร อย่าต้ องให้ มนั เกิดอะไรขึนมาแล้ วค่อยมาแก้ เลย”
“ตีไม่อยากให้ เฮียทํางานหนัก”
“…เฮียไหว”
“เฮียนอนนะ เดียวตีลงไปอาบนําแล้ ว”
มองมือถือทีไม่เคยมีใครโทรเข้ ามา…
จะหวังอะไรอีก..
อ..อะไรวะ
“โจ่ยเซียะครับ”
“โบ่ยโจ๊ ะนี”
อา อึมดึงตัวให้ ออกมาข้ างนอกร้ าน พระอาทิตย์เริ มขึน หน้ าอาอึมคนนีทําให้ นกึ ถึงม๊ า เป็ นภาพลักษณ์คนจีนทีใจ
ดี รดนําในขวดทีพีผ่องเอามาให้ ล้ างโจ๊ กทีเลอะตัวผมอยู่ หันกลับไปมอง ต้ องเหนือยพีสาถูพืนให้ อีก
“แสบไหม?”
“นิดหน่อยฮะ”
“….อาม๊ าลือไปไหนหล่ะ”
“อยู่บ้านครับ ผมมาช่วยทํางานแทน”
“แล้ วตัวะตี?”
……………………..
…………….
“ครับ?”
“…เฮียบอกม๊ าว่าโซ่ยตีเลิกกับอาหมอกแล้ ว”
“….ฮะ..”
“อาตี สิงทีทรมานทีสุดคืออะไรรู้ไหม”
ผมไม่เจ็บปวด
ผมไม่เสียใจทีตัดสินใจแบบนีลงไป
ผมโกหกตัวเองอยู่….
“ครับ?”
“..ป…ไปไหน”
“ผ..ผมสมควรจะไปหรอ”
“เดียวผมกลับมานะ”
ใส่ รองเท้ าผ้ าใบเฮียทีนอนอยู่หน้ าบ้ าน วิงออกไปข้ างนอกแล้ วก็ต้องวิงกลับมา ลืมมอเตอร์ ไซค์ครับ รีบขับออกไป
พีผ่องทีซักผ้ าอยู่ก็ออกมาเปิ ดประตูบ้านให้
ตอนนีร่างกายผมขยับไปตามจิตใต้ สํานึก
บ้ าเอ้ ย
เร็ว เร็วกว่านีสิ
รถไม่ติด
นันเป็ นสิงทียิงกว่าพระเจ้ าประทานมาให้ ผม ผมไม่ค่อยชํานาญทาง แต่ก็ขบั ไปตามทางทีคุ้นเคย
อีกหน่อย
ขอเวลาอีกหน่อย
นํามันหมด!!
วิง จากตรงนีไป ไกลพอสมควร แต่ผมไม่สนใจ ทําเพียงพิงมอไซค์ไว้ ข้างทางแล้ ววิง ความเร็ วทีผมมันใจ วิงสุด
แรง เหงือออกเต็มไปหมด รองเท้ าเฮียทีผมลืมไปเสียสนิทว่าแผ่นรองเท้ าใกล้ หลุดเต็มที พอเอามาใส่วิง แผ่น
รองเท้ าซ้ ายหลุดออกไป ผมเลยถอดรองเท้ าทังสองข้ างขึนมาถือไว้ ในมือแทน
วิงเท้ าเปล่าไปบนทางคอนกรีต
ตอนนีรู้แล้ วว่าทําไม
ทนมาตลอด เพือมาเจอสิงดีๆแบบนี
ขอให้ ทนั
นับจากเวลาทีพีบอลโทรมา ก็เกือบสีสิบนาที
….พีแฟง?
“พ..พ..พี”
“ผ…ผ..ผม”
หายใจไม่ทนั
“….พีหมอก?”
ความเงียบกินอยู่บริเวณนันอยู่ช่วงหนึง
“…….”
“มันเข้ าเกทไปแล้ ว”
“…นานหรือยัง…”
“เกือบสิบนาทีแล้ ว”
“….ผม..ผมมาไม่ทนั ”
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
ความหวังเล็กๆของผม…
“ผ..ผมไม่ร้ ู …”
มือถือสัน
รีบหยิบขึนมา เป็ นเมสเสจสันๆ ทีผมเห็นชือคนส่ง แล้ วก็อดไม่ได้ ทีจะต้ องกํามือถือไว้ แน่น ปล่อยโฮออกมาเสียง
ดังไม่อายคนรอบข้ าง
แทนคําทุกอย่าง คําตอบทุกอย่าง
เพราะฉะนัน..ผมก็จะรอ
ผมจะรอ วันทีพีกลับมา..
กลับมาหาผม
….มึงเป็ นของกู…ของกูคนเดียวเท่านัน
……………………………………….
…………………………
Special Coin
หนึงวัน
หนึงเดือน
หนึงปี
ยังจะใจดีกบั ผมคนเดียวอยู่อีกหรือเปล่า?
แม่ ไอ้ กล้ วยเดินไปเดินมา ตอนนี แม่กล้ วยไม่ได้ ทํางานเป็ นแอร์ แล้ ว แต่ก็ยงั มีของฝากจากสายการบินมาฝาก
พวกผมไม่ขาด อย่างตอนนี ก็แจกนําพันช์เป็ นขวดให้ พวกผมได้ กินกัน เฮียเดินตามผมไม่ห่าง บอก “เดียวมึงก็ล้ม
ทําชุดครุยเลอะหมด” ทําเหมือนผมเป็ นเด็กสามขวบ หันไปมองก็เห็นม๊ านังคุยกับแม่ไอ้ โจ๋อยู่ เลยไม่ได้ เข้ าไปกวน
ฟ้า เริมสว่าง ผมต้ องขึนหอประชุมหลังจากทีซ้ อมมาแล้ วสองรอบ ถึงเวลาจริ ง ดูตืนเต้ นกว่าทีคิดไว้ ผมจะล้ มหรือ
เปล่า? จะทําอะไรน่าขายหน้ ากลางงานใหญ่ๆแบบนีไหม? หรือถ้ าเกิดทําหน้ าประหลาดๆต้ องช่างภาพถ่ายรูปห
ล่ะ? ดูเหมือนไอ้ เคิลจะรู้ ผมคิดยังไงเลยได้ แต่กระซิบบอกว่าให้ ใจเย็นๆ
งานทุกอย่างผ่านไปด้ วยดี
“….เรียนจบแล้ วหว่ะ”
“ไม่ต้องมาช็อคตอนนัดสอบอีก”
“…งีก็ต้องดีใจสิวะ…เย้ หน่อยเร็ว เย้ …”
“……”
อารมณ์ทงดี
ั ใจ เศร้ าใจปนกันไปหมด
ลมพัดผ่านไป…ไม่เคยหวนกลับ
กล้ อง ทีตอนนี ตกรุ่นไป ผมไม่เคยเปลียน รักษามันไว้ เป็ นอย่างดี ผมซือเมมโมรีการ์ ดมาใหม่ ไม่อยากเอารูปที
เต็มไปด้ วยความทรงจําอันมีค่านันไว้ ห่างจากตัว กลัวมันจะหายไป
ไอ้ พวกพีๆวิศวะมันแว่บกลับมากันครับ
แทบ จําไม่ได้ พีโก้ เป็ นคนทีผมไม่ได้ เจอเลยตลอดหนึงปี มันไปอยู่นิวซีแลนด์ มาครับ พึงกลับมาเดือนนี แม่พีโก้
เปิ ดร้ านอาหารไทยอยู่ทีนัน พีโก้ แกเลยไปทํางานทีนันซะเลย
“ไหงมีดอกเดียววะพี”
“ไม่ใช่ของกู”
“แล้ วของใคร?”
“…คิดว่าของใครล่ะ ตี?”
“……”
“แม่ง เสือกมาสังกูบอกให้ หาแค่ดอกเดียว หายากนะโว้ ย ใช้ งานเพือนตลอด ขนาดหายหัวไปอยู่ทีอืนยังใช้ งานกัน
ข้ ามทวีปได้ มีแค่คนเดียวจริ งๆ”
“…ทําไมต้ องดอกเดียว”
“….ขอบคุณครับ”
“….ข…ขอบคุณมากๆครับ”
“ตี…..”
ดอกกุหลาบสีขาว เพียงแค่ดอกเดียวในมือ..
มีค่ายิงกว่าดอกกุหลาบเป็ นพันๆดอกทังงานวันนีเสียอีก….
…………………………………….
………………………..
B.N. 1
“อ่อ..ได้ ครับพี”
“เออ ไอ้ ตี เช็คลิสต์ ตามทีลูกค้ าต้ องการให้ หน่อยดิ แม่งตังงบซะตํา จะทําให้ ได้ ไหมวะเนีย”
งานพีไม่ใช่หรอวะ? ทําไมพีไม่ทําเอง
อย่าง พีโต้ ง หัวหน้ าแผนกครีเอทีฟ จะเป็ นเหมือนพระเจ้ าของพวกผมครับ ทุกคําบัญชาได้ แต่โค้ งหัวเคารพ แต่พี
แกเป็ นคนมีเหตุผล จริงจัง ทํางานเก่งมาก งานใหญ่ๆ พีแกคนเดียวก็เอาอยู่ นอกจากนัน ก็พวกลูกจ็อค ทํางาน
เล็กๆของลูกค้ าไป ผมพึงเข้ ามาใหม่ ได้ ไม่นาน พีๆเขาเลยให้ ผมดูงานไปก่อน อาจมีร่วมทีมกับมัณฑนากรคน
อืนๆบ้ าง แต่ก็ยงั ไม่ได้ ทํางานของตัวเองซักที
เป็ นเด็กฝึ กใหม่ ได้ ดทู ุกแผนก แผนกครีเอทีฟ แผนกจัดหาสินค้ า แผนกการตลาด แผนกช่าง แต่ละแผนกก็จะมี
งานทีต้ องดูแลรับผิดชอบต่างกันไป ทําตามทีตัวถนัดแหละครับ
“ไรอ่ะครับพี”
ผม พยักหน้ า ไม่ได้ ถามอะไรต่อ เพราะต้ องนังเช็คลิสต์ให้ พีตัมอีก ลูกค้ าชอบตังงบตํา แต่อยากได้ ของทีดีทีสุด ก็
ลําบากพวกผม ทีบางทีก็ต้องแก้ งานแล้ วแก้ งานอีกให้ ตรงกับความต้ องการลูกค้ า บางที ก็โดนบอกยกเลิกเอาเสีย
ดือๆ กระโดดเตะก้ านคอลูกค้ านีผิดรึเปล่าวะ?
“เออ มึงก็พกั บ้ างแล้ วกัน กูเห็นตังแต่มงึ เข้ ามาทํางาน ยังทํางานไม่หยุดเลย ใครให้ งานอะไรมาก็ทํา”
“ครับ”
“แก้ มนุ้มนุ่ม”
“เอ่อ..เอกสาร”
“อธิษฐานครับ”
“เออ พีเอ๋คงตังใจส่งมึงมาผจญอ่ะ”
“ใช่เรืองเมกะโปรเจคต์นนป่
ั ะ งานใครวะพี”
“…..”
ไม่ร้ ูทําไมมือสัน…
……………………………
……………………
มันไปแพร่ครับ
ท้ องฟ้าเริมจะเปลียนสี
“…..กรุงเทพมีบีเอ็มคันเดียวหรอวะ”
“ใช้ แรงงานเด็กหว่ะ”
ไอ้ เค็งตัวใหญ่ ผมเลยลุกให้ มนั ขึนมาปั นแทนจริงๆ มาจอดหน้ าบ้ านทีไม่ร้ ูจัก หมาวิงออกมาเห่าใหญ่ แลบลินใส่
หมาทีเห่าไม่หยุด น่าแปลก ทําให้ คิดถึงหมาตัวนึงทีไม่ยอมเห่า ไม่ร้ ูตอนนีจะเป็ นยังไง คงจะคิดถึงเจ้ านายมันไม่
แพ้ กบั ทีผมคิดถึง
“มันไม่โดดออกมาหรอก”
“ทีหลังก็อย่าทําอีกแล้ วกัน”
เงยหน้ าขึนมอง…
บีเอ็มดับบลิวสีดําขับผ่านไป
พร้ อมๆกับลมหายใจของผมทีหยุดนิงไปสักพักหนึง
..ไม่ใช่
ทะเบียนไม่ใช่
บางครังผมเหนือย บางครังผมอยากหยุด
แต่นนเป็
ั นแค่ความคิดในสมอง เพราะใจของผม มันไม่เคยฟั ง
“อ่อ อืมๆ”
“พีตี พีโดนหมากัดตรงไหนหรือเปล่า”
“หือ? ทําไมวะ”
“…พีทําหน้ าเหมือนพีเจ็บ”
………………………………
…………………….
“ได้ ครับ”
ไหนวะ ห้ องประชุม ไม่เคยมาชันนี เป็ นชันของพวกผู้บริหาร คนน้ อยลงจนรู้ สกึ ได้ ตบแต่งดูดีกว่าชันอืนๆเพราะใช้
รับรองแขก
เดิน มาจนเกือบสุดทางเดิน เหลือเพียงห้ องเดียว เคาะประตูแล้ วเดินเข้ าไป เห็นพีโต้ งกวักมือเรียกอยู่ทีด้ านในสุด
ของโต๊ ะ รีบวิงเข้ าไปหา ย่อๆตัวเหมือนจะช่วยหลบไม่ให้ แขกของบริษัทเห็น ในห้ องค่อนข้ างมืด เห็นคนทีไม่ร้ ู จกั
กําลังพรีเซนท์งานอยู่ทีหน้ าห้ อง
“ผมไปแล้ วนะพี”
“เออ ใจมากเว่ย”
ช่วงเวลาสันๆทีใจ..
ห้ องมืดๆ ซ่อนความรู้ สกึ ทังหมดบนใบหน้ านันไว้ ได้ เห็นเพียงเงาลางๆ แต่ก็ยงั จําได้ จําได้ เสมอ
เหมือนเดิม ยังเหมือนเดิมเสมอ….
….มึงเป็ นของกู…ของกูคนเดียวเท่านัน
เจ้ าของเมสเสจนัน
……………………………….
…………………
B.N.2
ยกมือสองข้ างขึนดู ปลายนิวสันระริ ก ใช้ มืออีกข้ างกุมไว้ ก็ยงั สันอยู่
…พีหมอก
ไม่ได้ เดินวกกลับไปทีห้ องประชุม เพราะทีแห่งนัน มีไว้ ติดต่องาน ถึงเข้ าไป ก็คงจะไม่ได้ คุยต่อ
ใจกระวนกระวาย
จะรอ…
สามปี ผ่านมาแล้ ว จะอีกแค่ชวโมง
ั ทําไมจะทําไม่ได้
ถ้ าเปลียนไป…
เกือบสามชัวโมงทีนังอยู่ตรงนัน
หลาย เรืองทีผมลืมมันไปแล้ ว ผมอยากได้ มนั คืน เรืองราวทีกล้ องไม่ได้ บนั ทึกไว้ ความรู้สกึ ในช่วงเวลาเหล่านัน
ผมอยากได้ ยินมันอีกครังจากปากพี เพือทีผมจะได้ จํามันได้ ซักที
เสียง รองเท้ าหนัง เหยียบลงบนพืนหินอ่อน เสียงดัง ตึก ตึก ตึก คล้ องไปกับเสียงหัวใจทีเต้ นแรงขึน แต่กลับรู้สกึ
ว่ามีบางอย่างทีแปลกไป
ดวง ตาคู่นนตวั
ั ดมาทางทีผมนังอยู่ ผมยืนไม่ขนึ เหมือนมีบางอย่างกดอยู่บนไหล่ คล้ ายกับทีเคยเป็ นมาก่อนใน
ห้ องประชุมนัน เหมือนได้ ยินสัญญาณอันตรายบางอย่างดังก้ องในความคิด
ไม่มีข้อความใดๆทีสือออกมาจากดวงตาคู่นน….
ั
ยืน ยืนด้ วยใจทียังไม่กล้ าจะคิดถึงความจริ ง วิงเข้ าไปหา เห็นหลายๆคนมองมา เพราะรู้ ว่าเป็ นลูกค้ ารายสําคัญ
เป็ นเมกะโปรเจคต์ของปี ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่คนก้ มหัวให้ แต่ผม กลับสวนทางเดินของใครหลายๆคน
วิงเข้ าไปหาคนๆนัน คนทีผมรอมาตลอด
ใกล้ ใกล้ จนพีหมอกหยุดยืน คงได้ ยินเสียงรองเท้ าผม ยืนมือออกไป จะคว้ าแขนพีหมอกไว้ แต่กลับถูกแรงๆหนึง
ผลักออกมา ไปไม่ถงึ ตัวพีหมอก
“คุณจะทําอะไรหน่ะ?”
“ผ..ผม…”
“พ..พีหมอก…พีหมอก!”
ช่วงเวลาทีอีกฝ่ ายเสียหลัก ผมวิง วิงสุดฝี เท้ า ผมไม่อยากให้ มนั เกิดขึนอีกแล้ ว ทีผม วิงไปไม่ทนั การก้ าวของพี
“…พีหมอก…”
“…คุณ จะทําอะไรหน่ะ ออกมาสิ รปภ.! รปภครับ!” ได้ ยินเสียงเรียกจากข้ างหลัง โดนดึงด้ วยแรงทีข้ อมือจนต้ อง
ปล่อยมือพีหมอกออกมา เห็นคนอืนเดินเข้ ามาถามพีหมอกทียืนมองอยู่ทีตรงนัน ไม่ได้ เดินเข้ ามาหาผม
“…รู้จกั กันหรอครับ”
“คงจะทักคนผิด…”
…………………………….
…………………
“ตี ไปไหนมา พีโทรตามก็โทรไม่ติด”
“ตี…ทําไมทําหน้ าแบบนัน”
“…ไปพักเถอะ”
“ผ..ผมก็พงกลั
ึ บมาจากพัก”
“เชือกูเหอะตี ไปพักเถอะนะ”
“พี..พีเชน ผมยังไหว”
พีหมอก..
“…ไม่สบายหรอตี”
ไม่มีประโยชน์ พอๆกับการรอของผม
“ตีเป็ นอะไรวะ…”
“ไอ้ เชน มึงพาไอ้ ตีไปหาพีแหม่มดิ ให้ พีเขาหายาให้ มนั กินหน่อย ถ้ ามันไม่ดีก็พามันไปโรงพยาบาล ไอ้ ตี ปวดหัว
มากเปล่าวะ?”
………………………………….
………………………..
เดินหนีบแฟ้มไว้ ในมือ พับแขนเสือขึน เจ็บตานิดหน่อย รู้ สกึ ได้ ว่าหนังตาตึงๆ แต่ทําอะไรได้ เสียใจไป ถ้ ามัวแต่จม
อยู่กบั ความเสียใจนันคงทําอะไรไม่ได้ สกั ที
ปลอบตัวเอง
ไม่เป็ นไร
บอกตัวเอง ว่าสงสัยการรอคอยนียังจะไม่สนสุ
ิ ด อาจจะต้ องทนรออีกหน่อยก็เป็ นได้ ต่อให้ ตลอดชีวิต ก็อาจจะคุ้ม
ค่าทีต้ องรอ
“ทําไมโซ่ยตีปล่อยให้ ตวั เองเปี ยกขนาดนันหล่ะ” ได้ แต่ยิมตอบ ไม่ร้ ู ปากจะยิมอยู่หรือเปล่า “ม๊ าเป็ นห่วงนะ”
“ม๊ า ตีขอกอดหน่อย”
หลับตาลงในอ้ อมกอดของคนทีรักผมมากทีสุดบนโลกใบนี
รูป ในนัน ผมกับพีหมอกยิม ยิมกว้ างจนไม่เห็นตาผม พีหมอกยิมเป็ นเอกลักษณ์ของตัวเอง แม้ จะไม่ได้ ยิมจนเห็น
ฟั นแบบผม แต่แค่ยิมมุมปากเล็กๆแบบนี ก็สมั ผัสได้ ว่ามีความสุข ยังอยู่ในชุดนอนทังคู่ ข้ างหลัง เห็นภาพทีมี
คลิปหนีบหนีบไว้ กบั เชือก มากมายเต็มไปหมด
อยากกลับไปอยู่ในทีแห่งนัน..
อากาศ หนาวแตะแผ่นหลัง เลยต้ องวางกล้ องลง เดินไปทีตู้ เสือผ้ าบางส่วนหายไป เพราะไม่ได้ กลับไปเอาของ
ของผมทีห้ องพีหมอก ไม่ร้ ูจะถูกทิงไปหรือยัง แต่ก็ทําให้ ผมกับเฮียต้ องไปเอาเสือเฮียพงศ์ทีบ้ านซาอีมาใช้
มองออกไป เห็นแสงไฟเป็ นลํายาวฝ่ าสายฝนมา ยืนหน้ าออกไปมอง ไม่ร้ ูมาจากรถคันไหน มองไม่ทนั เพราะรถ
คันนันผ่านหายไปแล้ ว
มีเพียงฝนเท่านัน…ทีทิงตัวลงมาโดยไม่สนใจผู้คนทีเปี ยกปอน
……………………….
……………….
“เฮ้ ยตี เป็ นไงบ้ างวะ”
“แล้ วจะไปกีโมง?”
“พีพูดว่าเลียงผมแล้ วนะ”
แล้ วก็ได้ กินฟรี จริ งๆ แต่ผมกลับกินไม่ค่อยลง พอพีเชนถาม เลยได้ แต่บอกว่า “ก็เพราะนําเต้ าหู้พีนันแหละ ผมอิม
เลย”
“จะสร้ างไรวะพี”
“…อย่าบอกนะว่า T.K.Group?”
“…หรอ?”
“ผม ว่าน่าจะใช้ ไม้ นะ จะทําให้ ดหู รูหรา เรี ยบง่าย น่าจะใช้ โทนสีอ่อนๆ ติดไฟทีทําให้ ดูกว้ างขึน เดียวนีความเรียบ
ง่ายก็เป็ นจุดขายได้ อะไรทีเยอะเกินไปบางทีก็ดูรก”
“ไม่ ไม่หรอกพี ผมว่ามีอีกเป็ นล้ านวิธีทีทําให้ งานดูเป็ นเอกลักษณ์ได้ …แต่ผมแค่เสนอเฉยๆนะ แล้ วทําไมงานนีพี
โต้ งไม่คิดเองอ่ะ”
ไม่มีประโยชน์อะไรกับการยอมแพ้
ผมจะวิง
ผมบอกตัวเอง
ว่าผมจะไม่มีวนั เสียใจ…
………………………………..
………………………..
…………………..
B.N.3
สีดํา
พีหมอกชอบสีดํา
“ตี ทําอะไรอยู่?”
“…ดึกแล้ วนะ”
“เดียวรอ..เดียวไปส่งให้ ”
“…รอได้ ”
เอาอีกแล้ ว บรรยากาศแบบนีอีกแล้ ว
“งันก็ไม่ขดั ศรัทธา”
“เอากาแฟไหม?”
“ไม่เป็ นไรครับ”
หยิบกล้ อง ทีอยู่ใกล้ มือขึนมา เปิ ดดูภาพ เป็ นภาพสถานที ได้ ยินมาจากพีคนอืนๆก็พดู คล้ ายๆกัน ว่ามีทีกว้ าง
กว้ างเสียจนบางครังก็น่าปวดหัวว่าสมควรจะเติมแต่งอะไรลงไป แต่คิดว่า ต่อจากแท็บเล็ทตัวนี อาจมีแก็ดเจ็ท
อืนๆเพิมเข้ ามาอีก หรืออาจจะรวมไปถึงสินค้ าตัวใหม่ๆ จึงต้ องทําเพือล่วงหน้ า ให้ พร้ อมเสมอ
จะมีการเช็คงานอีกสองอาทิตย์ข้างหน้ า เพือตกลงร่วมกันถึงแบบอีกครัง
หลับตาลง
พอรู้สกึ ถึงแรงมือเหนือไหล่ก็สะดุ้งตัว พีเชนเดินมา ทําหน้ าเซ็งๆ ชีไปทีประตู บอก “ยามมาไล่แล้ ว บอกจะปิ ดตึก”
“ผมไม่ค่อยถนัดหว่ะพี”
“รู้ได้ ไงวะเนีย?”
“พีเอ๋บอก”
“….”
“……”
“ผม ถ้ าไม่ได้ พีเอ๋ ก็ไม่กล้ าคุยกับพีหรอก คนอะไรวะ หน้ าตาโคตรน่ากลัว ไว้ หนวดยังกับโจร แต่เสือกใส่แว่นซะงัน
เลยหน้ าเหมือนโจรทีมีความรู้เลย”
“แล้ วหล่อไหมหล่ะ??”
ยิม แบบเจ้ าเล่ห์ เพราะไฟมีเปิ ดไว้ แค่สองดวงเลยรู้ สกึ เหมือนตาคู่นันเป็ นประกาย ผมยักไหล่ ไม่ทนั ได้ ตอบอะไรพี
ยามก็ตะโกนเรี ยก “ออกมาได้ แล้ วครับคุณ ผมจะล็อกห้ องแล้ วครับ!” เลยต้ องรีบโกยกระดาษทังหมดลงกระเป๋ า
แล้ วสะพายเดินออกมา มีพีเชนเดินตามหลัง ระหว่างทางก็เอาแต่ถาม
“พีหล่อ…แต่น้อยกว่าผมหน่อยนึง”
ประตูลฟิ ต์เปิ ด เดินเข้ าไปข้ างไหน มองย้ อนกลับไป ทางเดินมีเพียงไฟทีถูกหรี ไว้ เป็ นแสงสลัวๆ เห็นเงาของยาม
เดินอยู่ไกลๆ
“ห้ ะ?”
“อย่าขีงอนดิวะ”
“ผมงอนพีตรงไหนวะ?” ประตูลฟิ ต์เปิ ดออก เดินตามพีเชนไปทีลานจอดรถ
“กินข้ าวหรือยัง?”
“รวมถึงคานด้ วยไหมล่ะ?”
รถ ติด จ้ องมองทีปั ดนําฝนส่ายไปทางซ้ าย ส่ายไปทางขวา ในรถเปิ ดวิทยุ เมือกียังเป็ นเพลงอยู่ แต่พอจ้ องวิทยุสกั
พักก็กลายเป็ นข่าวแทน พีเชนเลยกดเปิ ดซีดี เป็ นเพลงฝรัง ช้ าๆ ฟั งดูโรแมนติก ผมไม่ค่อยคุ้น เพราะปกติถ้าอยู่
บนรถ ไม่เป็ นเพลงร็อคหูแตกของพีหมอก ก็เป็ นเพลงจีนของม๊ าเสียมากกว่า
“…ตีรู้จักคุณอัษฏาหรอ?”
“..เป็ นรุ่นพีมหาลัยผม”
“ดูไม่เหมือนจบถาปั ตย์เลยนะ”
“พีเขาจบวิศวะครับ วิศคอม”
พีหมอก ชอบหรือเปล่านะ?
“ผมไม่ร้ ู …”
เป็ นเรืองทีพูดไม่ได้
“ใครวะ?”
“หือ?”
“ไอ้ หมอนีมันใคร”
“พีทีทํางาน พีเชน”
เฮีย ดันหลังผมเข้ าไปในบ้ าน เห็นมองกลับไปทางด้ านหลัง ไม่ร้ ูว่ามองอะไร ผมไม่ได้ หนั ไปมองตาม เพราะเห็นม๊ า
เดินออกมาหน้ าบ้ าน มารอผมแล้ ว เลยรีบเดินไปหา
“เฮียรู้ได้ ไง?..”
“กูเห็นคนทีทํางานคุยกัน มันลงหนังสือซุบซิบพวกไฮโซ”
……………………………..
…………………….
“มึงรู้จักกับคุณอัษฏาหรอ?”
“…ครับ”
“…..”
“ทําไมวะพี?”
“ขอบคุณมากครับพี”
พีโต้ งตบไหล่ผม กระชับสายสะพายกระเป๋ า แล้ วเดินออกไป
“นิดหน่อย”
“ไม่เคยปฏิเสธคําชมเลยนะมึง”
มันพยักหน้ า เทเบียร์ ลงแก้ วให้ พวกผมคนละแก้ ว เก็บไอแพดลงกระเป๋ าทีพกมาด้ วย “ไอ้ กล้ วย คิดไงเปลียน
ทรงว่ะ แปลกๆหว่ะ”
“อี ไอ้ โจ๋ โคตรน่าเกลียด มึงเคยคิดไหมว่านําลายมึงกระเด็นออกมาจริงๆหน่ะ” ไอ้ กล้ วยรีบเอามือปาดหน้ าไอ้ โจ๋
กลับ
“มือมึงก็โคตรเค็มเลยวะ แหยะ”
“มึงลองเปิ ดมือถือดูนะ ไอ้ พ่อคนปากหนัก แล้ วนับเลขให้ กฟู ั งดังๆว่ากีเมสเสจแล้ ว นับเลขเป็ นไหม? เดียวกูนบั
ให้ ”
“….”
“อะไร มองแบบนันหมายความว่ายังไง”
“เมือก่อนมึงไม่สบู นิ”
“...อืม”
“เวลาผ่าน หลายๆอย่างก็เปลียนไปหว่ะ”
เปลียนไปจนบางครัง..ก็ยากทีจะเข้ าใจ
“…วันก่อนกูเจอพีหมอก”
“ห้ ะ?”
“พีเขาบอกกับเลขาว่าทักคนผิดหว่ะ”
“…….”
“ก็ เห็นหันมามองกูแว่บหนึง แต่ก็ไม่ได้ พดู อะไร กูยกมือไหว้ เขาก็พยักหน้ าตอบ กูไม่กล้ าเดินเข้ าหาหว่ะ มีคนเดิน
ตามประกบซ้ ายขวา แถมยังมีคนเดินเข้ ามาคุยด้ วยตลอด พวกคุณนายทังนัน ดูท่าพีแกก็คงจะอึดอัดแต่ทําอะไร
ไม่ได้ ”
จําได้ ว่าเคยไปงานนึงกับพี หมอก พีหมอกทําหน้ าเบือตลอดงาน แต่พอมีคนเข้ ามาทักก็ต้องปั นหน้ านิงเฉย ตอบ
กลับไปด้ วยคําทีสร้ างขึนมา ไม่ได้ มาจากความรู้ สกึ ของตัวเอง
จะเหงา ว้ าเหว่หรือเปล่า
ผมไม่ร้ ู
“ทําไมวะ?”
“ขับรถพากูไปทีๆนึงหน่อยดิ”
“ห้ ะ?”
“เออน่า”
………………………………
……………………
ไอ้ โจ๋ไม่ได้ ตามเข้ ามา ยืนรออยู่ทีข้ างนอก ทําตัวเหมือนโจรปล้ นบ้ านทีต้ องมีต้นทางคอยดู ทีห้ องนังเล่น ทีวีไม่
เคยเปิ ดมานานเท่าไหร่แล้ วก็ไม่ร้ ู ยังอยู่ทีตรงนัน โซฟา ทีเคยนอนกลิง หลับไปบนนันไม่ร้ ู ตงกี
ั ครัง องศาเดิม
ยังจําได้
เดิน เข้ าไปทีห้ องนอน ไม่มีพีหมอกอยู่ทีเตียงหรือห้ องนํา รูปทีผนัง มีบางรูปหายไป รูปพีหมอก รูปคู่ยงั อยู่ทีเดิม
แต่ไม่มีรูปเดียวของผมเหลืออยู่ มีเพียงคลิปหนีบกระดาษทียังอยู่กับเชือกเหล่านัน
หันไป
ไม่ใช่
ไอ้ โจ๋
“กลับกันหรือยัง?”
“..อืม กลับดิ”
“โห…รูปพวกนีมึงถ่ายเองหรอ?”
“…มึงเสียใจไหมตี?”
“มาก”
“อืม ก็คําตอบเดียวกัน”
“พอ คิดว่าพีหมอกก็คงต้ องทนเหมือนกัน กูก็ไม่ร้ ู สกึ ว่ากูเป็ นฝ่ ายรอฝ่ ายเดียว ตอนนัน ทังกูทงพี
ั หมอก คงยังเด็ก
เกินไปกว่าจะทําอะไรได้ ด้วยตัวของตัวเอง กูไม่กล้ าพอทีจะพูดกับพีเขา พีหมอกก็รออยู่เงียบๆ รอให้ กพู ูดอะไร
ออกไป แต่สดุ ท้ าย กูก็ไม่ได้ พดู สักคํา”
แบบไหนกันนะ..คําตอบทีอยู่ในใจของผม?
ผมไม่ได้ ตอบอะไรกลับไป มองหน้ าไอ้ โจ๋ มันก็พูดต่อ “คืนนีนอนทีนีได้ ไหม กูเจอเตียงแล้ ว คงขับกลับต่อไม่ไหว
วะ”
“…เอาจริงดิ?”
“สักคืนก็ดี”
………………………………….
………………………..
……………….
B.N.4
ตืนเช้ ามา
ได้ ยินเสียงกรนของไอ้ โจ๋เลยหันไปมอง ขยีตา ก็ต้องแปลกใจ หน้ าเลอะนําตาเป็ นทาง ไม่ร้ ู ว่าร้ องไห้ เมือไหร่
เพราะพึงจะตืนมา อาจจะเป็ นฝั นละมัง ร้ องไห้ ในฝั นไม่ใช่เรืองน่าแปลก เพราะตอนเด็กๆบางครังก็เป็ น แต่อาจจะ
แปลกทีร้ องไห้ ในช่วงเวลาแบบนี ทังๆทีอยู่ทีบ้ านไม่เคยเป็ น
มองนาฬิกาข้ อมือ น่าจะถึงเวลาเตรียมตัวไปทํางานได้ แล้ ว ในห้ องนํา ไม่มีของใช้ อะไรเหลืออยู่ เหลือเพียงห้ องนํา
โล่งๆ ห้ องเก็บของทีอยู่ตรงข้ ามห้ องนอน กลายเป็ นห้ องว่าง ทิงตัวลงทีโซฟาจนโซฟาเลือนออกจากทีเดิม แต่คิด
ว่าคงไม่เป็ นไร เพราะพีหมอกก็คงจะไม่กลับมาทีนีอีก ไม่มีร่องรอยของการใช้ ห้องมานานแล้ ว คงเป็ นแม่บ้านที
คอยดูแล
แต่ คนทีปลุกผมก็เป็ นแค่ไอ้ โจ๋ทีเดินงัวเงียออกมา ในนิวหมุนพวงกุญแจเล่น บอก “กินข้ าวเช้ าทีไหน?” เลยบอก
ให้ โทรสังขึนมา โทรศัพท์ในนียังใช้ ได้ แต่ผมจําเบอร์ ร้านข้ างล่างไม่ได้ แล้ ว สุดท้ ายเลยเป็ นไอ้ โจ๋ทีลงไปสังให้
ประตู ถูกเคาะแล้ วเปิ ดออก เงยหัวขึนมาดู ไม่ใช่ไอ้ โจ๋ แต่เป็ นแม่บ้าน ทําหน้ าประหลาดใจทีเห็นมีคนอยู่ในห้ อง
ผมรี บลุกขึนยกมือไหว้ เธอรับไหว้ แทบไม่ทนั
“อีกคนนึง?”
“ผู้ชาย ตัวสูงๆ หน้ าตาหล่อๆ ป้านึกว่าเป็ นดาราซะอีก แต่ใส่สทู เหมือนคนทํางาน ป้าไม่กล้ าทักเพราะดูเขากําลัง
คิดอะไรอยู่ รู้จกั กันใช่ไหม? ป้าจะได้ โล่งใจว่าไม่ใช่โจร”
ไอ้ โจ๋เปิ ดประตูกลับเข้ ามา ป้าแม่บ้านรีบยืนหน้ ามองแล้ วพูด “ไม่ใช่คนนีนีหน่า” โจ๋คืนคีย์การ์ ดให้ ผม ผมเก็บลง
กระเป๋ าเงินเหมือนเดิม
“แล้ วทําไมพีไม่เคยเห็นหน้ าเลยหล่ะ? ดูสิ เจอกันครังทีแล้ วเอิรน์ยงั อยู่ในท้ องอยู่เลย ตอนนีจะวิงได้ แล้ วนะ”
“…วันก่อนพีเห็นหมอกกลับมา เปลียนไปเยอะเลยนะ”
“หรอครับ?”
“ไม่ ต้ องเลยไอ้ ตี กูอยากจะอ้ วก” พอโจ๋พดู คํานี แม้ แต่ป้าแม่บ้านทียืนอยู่ไกลๆยังหัวเราะออกมา เลยได้ แต่ยิงฟั น
ใส่ น้ องเอิรน์เห็นเลยหัวเราะตามด้ วย
พีแอนไม่ได้ ไปไหน นังลงทีโต๊ ะกินข้ าวด้ วยกัน น้ องเอิรน์ทีตอนแรกกล้ าๆกลัวๆก็เริมทีจะเข้ ามาเดินแถวๆตัวผม ดึง
ชายเสือจนผมหันไปมอง ก็รีบวิงไปหลบหลังแม่เหมือนเดิม “น่ารักจังครับน้ องเอิรน์ ”
“พ่อมือใหม่ จะขีเห่อก็ไม่แปลกหรอกครับ”
“บาง ครังมันก็น่ารําคาญเหมือนกัน..เออ จริงสิ ได้ ข่าวมาว่าหมอกกลับมาคราวนีเป็ นถึงรองประธานเลยหรอ? พี
ตกใจเลยหล่ะตอนอ่านเจอข่าวนีในหนังสือพิมพ์หน่ะ”
“ลงหนังสือพิมพ์ด้วยหรอครับ”
“ลง หน้ าพวกบรรดาไฮโซ ความจริ งน่าจะมีไปโผล่แถวหน้ าธุรกิจด้ วยนะ ก็บริษัทใหญ่ขนาดนี กลับมีผ้ บู ริหารอายุ
น้ อย ใครๆก็จบั ตามองกันทังนันแหละ คงจะยุ่งน่าดู”
“…นันสินะ”
“……”
“…..พีขอโทษนะ พีไม่ร้ ู ”
ก่อน จะยกถาดอาหารออกไป ก็พดู ทิงท้ ายไว้ ว่า “กลับมาคราวหน้ า พาหมอกเข้ ามาทักพีด้ วยนะ” ก็ได้ แต่พยัก
หน้ า ไม่ร้ ูจะทําได้ จริงๆหรือเปล่า
ตอน นี รู้สกึ เหมือน ถ้ าสักวันเหนือยจนทนไม่ไหว ก็อยากทีจะเข้ ามานอนเล่น ค้ างในห้ องนีสักคืน แก้ เหนือย
เพราะคืนทีผ่านมา ทําให้ ร้ ู สกึ เหมือนชารจ์พลังขึนมาใหม่ พร้ อมทีจะทํางานหรือเจอเรืองหนักๆในวันนีได้ อย่างไม่
กลัวอะไร
แค่ห้องทีเคยอยู่ร่วมกัน ยังมีอิทธิพลกับผมมากขนาดนี….
จนอดกลัวไม่ได้ เวลาทีคิดถึงชีวิตทีไม่มีพีหมอก
……………………………..
………………………
“มีครับ เดียวเอามาให้ ”
มอง นาฬิกา ใกล้ เวลาบ่ายโมงเต็มที ผมรีบวิง แต่ยงั ไม่ถึงโต๊ ะ ก็มีแฟ้มสีส้มยืนออกมากันทางไว้ เสียก่อน หันไป
เห็นพีเชนเอนเก้ าอีออกมา มืออีกข้ างถือแก้ วกาแฟ “ว่าแล้ วว่าต้ องหาไม่เจอ เลยเตรียมไว้ ให้ ก็เล่นเก็บของเป็ น
ระเบียบกันซะขนาดนัน”
“แต้ งค์มากพี พีเองก็รีบวางถ้ วยกาแฟแล้ วไปได้ แล้ วเหอะ ผมเตรี ยมของไว้ ให้ หมดแล้ ว”
มองไป ตามทางเดิน หวังว่าจะได้ เห็นคนทีกําลังรออยู่ แต่ก็ไม่ได้ เจอ เข้ าไปในห้ องประชุม วางของไว้ บนโต๊ ะที
เรียงตัวเป็ นรูปตัวยู แล้ วเดินออกมา ในห้ องมืด พีสตาฟกําลังเตรียมความพร้ อมอยู่ เป็ นการพรีเซนต์งานครังแรก
เพือดูว่าตรงกับทีต้ องการหรือต้ องปรับตรงไหนเพิม
“ครับ งันผมไปก่อนนะ”
ยืนรอลิฟต์ รู้ สกึ ช้ า จอดค้ างอยู่ทีชัน 13 สักพัก ก่อนจะขึนมา ก้ มมองพืน รองเท้ าเริมเยิน เห็นทีวนั นีคงต้ อง
กลับไปซัก ฝนตกเกือบทุกวัน จึงทําได้ แค่ผงให้
ึ แห้ ง
มองนาฬิกา ทํางาน แต่หวั ไม่ค่อยแล่นเท่าไหร่ อยากรู้ อยากรู้ ว่าไอเดียทีเสนอไปนันจะเป็ นยังไง ถูกแก้ หรือเปล่า
หรือว่าจะถูกเปลียนทังฉบับ
คิดว่าอํานาจการตัดสินใจทังหมดอยู่ทีพีหมอก..ว่างานนีจะผ่านหรื อไม่
เกือบ สองชัวโมง ค่อยเห็นพีโต้ งเดินลงมา หน้ าตาดูอ่อนเพลีย รีบถาม “เป็ นไงบ้ างพี” ดูท่าจะไม่ใช่ผมคนเดียวที
สนใจ ทังแผนกรี บลุกมายืนล้ อมโต๊ ะพีโต้ ง พีแกพิงหลังกับเก้ าอีจนเก้ าอีเอนไปข้ างหลัง ยกมือขึนนวดตา
ถอนหายใจยาว เล่นเอาคนมองกลันหายใจรอคําตอบแทบไม่ไหว
“ใช่ๆ ฉันก็คิดแบบนัน”
“แล้ วพีตอบไปยังไง?”
เลิกงาน ฝนไม่ตก แต่ท้องฟ้าก็ครึมๆ ไม่ร้ ู ฝนจะตกเมือไหร่ หลังจากวันนันผมก็พกร่ มไว้ กบั ตัวตลอด ไม่อยากให้
ของสําคัญต้ องเสียหายอีก มือถือหายไปก็ยงั ไม่ได้ ซือใหม่ เวลาติดต่องานก็ลาํ บาก คิดว่าคงต้ องซือใหม่เร็วๆนี
เดิน เข้ ามาในซอย แวะทําความรู้จกั กับหมาบางแก้ วทีเคยไล่กดั ผมกับไอ้ เค็ง พอโยนกระดูกไก่ให้ ก็ทําเมิน อด
หัวเราะไม่ได้ เหมือนไอ้ หนึงไม่มีผิด แต่พอสักพักก็มากิน พอหมดไปอันก็กระดิกหางเข้ ามา เลยยกไก่ทียังมีเนือ
อยู่ไปให้ อีกชิน จนกระทังเจ้ าของบ้ านเปิ ดไฟหน้ าบ้ าน เลยต้ องรีบวิงออกมา คงกลัวหมาโดนวางยาเบือ เพราะได้
ยินมาว่าไอ้ ตวั นีมันซ่าพอตัว
ใกล้ ถึงบ้ านแล้ ว เห็นเสาไฟทีอยู่ตรงข้ ามหน้ าบ้ าน พึงเห็นว่าเสาข้ างๆ ไฟเสีย มืดไปบริเวณหนึง
“พีหมอก!!”
เรียก เรียกออกไปแล้ ว
“…พีจะหนีผมไปไหน”
“กูไม่ได้ หนี”
ยังเหมือนเดิม
พีหมอกไม่ได้ ตอบ
มือ พีหมอกชืนเหงือ แถวนีมีแค่ลมเบาๆ อยู่ในชุดสูทแบบนัน คงจะร้ อน ต่อให้ ถอดเสือนอกออก ก็ยงั คงร้ อนอยู
ไม่มีไทอยู่ทีคอ ปลดกระดุมออกเม็ดบนๆ เหมือนพึงจะทํางานเสร็ จ
“…กูมีเหตุผลของกู”
อยู่ตรงหน้ าแล้ ว
“ผม คิดถึงพี สามปี นี ผมไม่ได้ ยินแม้ แต่เสียงของพี ไม่ร้ ูด้วยซําว่าพีจะกลับมาหรือเปล่า รู้แค่พีไปอเมริกา รู้แค่นี
ผมถามเพือนพี ก็ไม่มีคนไหนยอมบอกผม เพราะพีบอกไว้ หรอ? ว่าไม่ให้ บอกผมว่าพีหายไปไหน”
เสียใจ
เสียใจเรืองอะไร
ไม่อยากร้ องไห้
ผม ร้ องไห้ ให้ กบั พีหมอกมาหลายครังแล้ ว ถ้ าเป็ นไปได้ ผมอยากจะยิม ยิมให้ มนั มากกว่า เพราะตังแต่ผมเห็น
หน้ ามันคราวนี ผมยังไม่ได้ เห็นรอยยิมทีผมคิดถึงเลยสักครัง
ความแน่นอนนันแสนจะ น่ากลัว ไม่ร้ ูจะตกลงไปสูค่ วามท้ อแท้ เมือไหร่ ความหวัง ถึงจะมีไว้ แต่สกั วันหนึง มันก็
อาจจะหมดไป ผมอยู่กบั สภาพแบบนันมาสามปี แต่ทกุ อย่าง เรืองทุกอย่าง มันก็เกิดขึนมาจากตัวผม ทีไม่ได้ คิด
ตัดสินใจให้ รอบคอบก่อนทีจะทําอะไรลงไป
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก พีหมอกทําเพียงถอนหายใจเบาๆ
“ปล่อยมือ…”
“ไม่ว่ายังไงกูก็ต้องไป”
ทีโกหกไปว่าไม่ได้ รัก
ทังๆทีทุกอย่างมันก็เห็นชัดอยู่ถงึ ขนาดนี
คําโกหกนัน ยิงทําร้ ายคนฟั งมากเท่าไหร่ คนพูดก็ยิงเจ็บมากขึนทวีคณ
ู
“....ผม-“
“อย่า อย่าพูดมันออกมา”
พีก็เจ็บปวดใช่ไหม?
ไม่ใช่แค่ผม ทีเจ็บปวดอยู่อย่างนี…
“ปล่อย…กูจะกลับแล้ ว”
“….พีหมอก”
พีหมอกไม่ได้ ตอบ
รถคันนัน ไม่ใช่คนั เดิมกับทีเคยเห็น แม้ จะยังเป็ น BMW แต่ก็เป็ นคันใหม่ เป็ นคันทีผมไม่เคยเห็นมาก่อน
……………………………….
……………………..
B.N.5
สิงทีพีต้ องการคืออะไร...
………………………….
………………..
“ตี”
“กินข้ าวมายังหน่ะเรา”
“มาเกาะกูกินเลยดีกว่าแบบนี”
“กินโจ๊ กไหม?”
“วันนีว่างหรือเปล่า?”
“เดียวสอนทําซีจีให้ ”
ผม พยักหน้ า ยกช้ อนขึนตักเส้ นก๋วยจับเส้ นสุดท้ ายเข้ าปาก แต่กลับพลาด กระเด็นลงชาม จนนําก๋วยจับกระเด็น
เลอะหน้ าไปหมด พีเชนเห็น ก็หวั เราะ ก่อนจะหยิบทิชชู่ยืนให้ พอทําท่าจะไปรับ กลับยืนแขนออกมาจนสุด แล้ ว
เช็ดให้ ผม
คนๆ นัน ใช้ ทิชชู่เช็ดให้ ผม แรงจนเอนตัวไปข้ างหลัง อาจเพราะไม่เคยทําให้ ใครมาก่อนเลยไม่ร้ ูจะทํายังไง แรงกด
มากไป แต่ก็ไม่ได้ ออกแรงถูจนเจ็บ คงจะกะแรงไม่ถกู เป็ นเรืองเล็กๆทียังจําได้ นึกถึงทีไร ก็ยงั ยิมให้ กบั ความทรง
จําแบบนีเสมอ
คงจะหนีไม่พ้นคําว่าคิดถึง ใช่…คิดถึง
“…ตี”
“ครับ?”
“ผมนอนไม่พอ ง่วงจนเบลอนิดหน่อย”
“ก็รีบๆนอนสิวะ เด็กดีไม่นอนดึกนะเว้ ย”
“นันมันผ่านมาแล้ ว ตอนนีมึงก็แก่ขนแล้
ึ วนิ ฮ่าๆๆ ระวังเป็ นตาลุงก่อนวัยอันควรแล้ วจะหาว่ากูไม่เตือน”
…พีหมอกเคยไล่ผมไปนอนบ่อยๆ
โอวัลตินอุ่นๆ จะมีพีหมอกชงมาให้ กินเสมอ เวลาผมไอเดียไม่แล่น งานไม่เดิน ก็จะมานังใกล้ ๆ ไม่ได้ พดู อะไร แต่
ถ้ าผมพูด ก็พร้ อมทีจะรับฟั ง
“รอ?”
……………………………………..
…………………………
…………………
“ผมไม่ค่อยชอบอ่ะ”
พยัก หน้ า พีเชนก็ยิมบางๆ ก่อนจะลุกออกไปจากเก้ าอีตัวข้ างๆก็หันหน้ ามาบอก “ทํางานไป เดียวไว้ เย็นๆจะเข้ า
มาเช็คอีกทีว่าตรงไหนทีต้ องปรับ ทีพีโต้ งบอกมาก็ลองดูว่าตรงไหนจะแก้ ได้ บ้าง”
“ครับ”
“…เอ่อ..ตี”
“ฮะ?”
“…ช่างมันเหอะ”
“พีอยากถามอะไรผมหรอ? ถามมาดิ”
“…..”
ต้ องการจะสืออะไร
อยากพูดอะไรออกมา
“…เขารู้จกั ตีดี…ขนาดไหน?”
“ผมขอไม่บอกได้ ไหม?”
“ก็สนิทกัน…มากกว่าทีผมสนิทกับพี”
ต่อให้ เป็ นคนทีดีกว่าพีหมอก รวยกว่า หล่อกว่า นิสยั ดีกว่า หรือทุกอย่างเท่าทีจะคิดได้ บนโลกใบนี คนทีหลุด
ออกมาจากอุดมคติ
ไม่ว่าแบบไหน ผมก็ไม่ต้องการ
ไม่ ได้ ตามออกไป ไม่ร้ ูถ้าออกไปปลอบใจจะเป็ นการให้ ความหวังอะไรหรือเปล่า ยังไงก็กนั ไว้ ดีกว่า ต่อให้ เป็ นแค่
ความคิดชัววูบ แต่ถ้าไม่ตดั ไฟแต่ต้นลม ปั ญหาก็ตามมาได้ ทังนัน
……………………………….
……………………….
“อะไร?ตี?”
“พีเชน ผมหาไฟล์ผมไม่เจออ่ะ”
“เออดิพี ไปไหนวะ”
“กูบอกแล้ วไอ้ ตีให้ เซฟใส่แฟลชไดรฟ์ เวรแล้ ว ใครเผลอลบไปหรือเปล่า เดียวกูก้ ขู ้ อมูลให้ ไม่ร้ ูจะได้ หรือเปล่านะ”
“…พีโต้ งคะ”
“…เมย์ ?”
ผมทียืนอยู่ข้างๆพีโต้ ง เห็นภาพในกระดาษนันก็พดู ไม่ออก
“พีเมย์? พีไปเอารูปนีมาจากไหน”
“….ทําเอง”
“…..”
“เมย์ ไม่คิดว่ามันน่าเกลียดไปหรอไง”
“น่าเกลียด? น่าเกลียดอะไร?”
“เอาทีไหนมาพูด พีมีหลักฐานหรือไง?”
ผมส่ายหน้ าให้ พีเชน แต่ดเู หมือนพีเชนจะไม่ยอม หันไปหาพีโต้ ง “พี พีพูดไปดิ ว่านีมันงานของไอ้ ตีชัดๆ พีก็เห็น”
“พีโต้ ง!!”
“ไอ้ เชน ขนาดตีมันยังนิงๆ มึงก็อย่าเดือดร้ อนแทนได้ ไหม”
“พูดแบบนีหมายความว่ายังไง?”
“ตี!”
“ตีจะไปยอมมันทําไม! ก็เห็นอยู่ว่าใครกันแน่ทีผิด”
“เอาเหอะน่าพีเชน ช่างมันเหอะ”
“….”
“เพราะ หนีปัญหาแบบนี ถึงต้ องทําให้ ใครต่อใครเจ็บปวด เพราะไม่กล้ าชนกับมันสักที เลยทําให้ คนทีรอต้ องลังเล
กูพดู ถูกหรือเปล่าตี มึงเคยทําแบบนีกับใครหรือเปล่า”
“…พี”
“มึงเป็ นคนดี แต่บางครัง ความดีของมึงก็ทําร้ ายคนรอบข้ างไม่ร้ ู ตวั กูพดู เตือนด้ วยความหวังดีนะตี อย่าพึง
รําคาญอะไรกูเลย”
ผมทําคนเสียใจ กับการตัดสินใจของผมมาหลายต่อหลายครังแล้ ว
“…ทําไม ถึงต้ องทุ่มเทให้ กบั งานนีมากขนาดนี กลับบ้ านดึก ไม่ยอมกินข้ าวกลางวัน มาบริษัทแต่เช้ า ถึงกับ…
ยอมให้ คนอืนเอางานของตัวเองไป..”
ไม่ ว่าใครทํางานนีก็ไม่สาํ คัญ เพียงแต่ขอให้ มนั เป็ นงานทีออกมา ดีทีสุดเท่าทีเคยมีมา ให้ เหมาะกับความตังใจ
ของพีหมอก ทีความสามารถของผม อาจจะมีมากไม่พอ
“เพราะผม…..”
“….ใช่คณ
ุ อัษฏาหรือเปล่า? ทีตีกําลังรออยู่?”
………………………………….
…………………….
B.N.6
ผมไม่อยากจะมองหน้ าพีเมย์ด้วยซําในเวลานี
ประตู เปิ ดออก ทําให้ ทกุ คนหันไปมอง ความสว่างจากทางเดินข้ างนอกทําให้ เห็นกลุม่ ผู้บริหารของ T.K.group ที
เดินเข้ ามา หนึงในนัน อยู่ในชุดสูททีคล้ ายคลึงกับคนอืนทว่าโดดเด่นกว่า อาจเป็ นเพราะส่วนสูง หน้ าตา หรือกลิน
อายอะไรก็ตาม ตรึงสายตาคนทังห้ องประชุมนีให้ มองตามก้ าวจังหวะการเดิน พีหมอกกวาดสายตามองไปรอบๆ
หยุดทีผมเพียงครู่ แล้ วมองผ่านต่อไป
พีหมอก..ดูโทรมกว่าครังทีแล้ วทีเห็น
ก่อน ทีจะนําเสนออะไร จะมีแบบให้ ลกู ค้ าได้ ดคู ร่าวๆก่อน แล้ วค่อยพรีเซนต์ ต่อ เพือนําเสนอจุดเด่นของแบบ
กระดาษในแฟ้มถูกดึงออกมา พีหมอกเอนตัวเข้ ากับเก้ าอี ทําให้ เก้ าอีรับแขกกลายเป็ นเหมือนเก้ าอีประจํา
ตําแหน่งได้ ในพริบตา
“…..งานของใคร”
“…….”
เสียงพีหมอกดังขึนในห้ องประชุม ไม่มีใครตอบอะไรออกไป
“ผมถามว่างานของใคร”
“….ของฉันเองค่ะ”
“…ผม ไม่ได้ ถามคุณ” แทบจะพูดปิ ดท้ ายประโยคของพีเมย์ บรรยากาศดูเย็นขึนทันที แต่ผมกลับรู้ สกึ อยากขํา
ออกมา ไม่ร้ ูทําไม “ผมถามคุณประกิตต์ ”
“มันคือการขโมยงานหรือเปล่า?”
“….”
ได้ ยินเสียงพีเชนพึมพํา…ทําไมถึงรู้นะ?
“นีมันงานของคุณไม่ใช่หรือไง?”
“ครับ”
“….โกหก”
เสียงแบบนี เคยได้ ยินมาก่อน
ถาม ด้ วยคําถามทีส่งตรงถึงผม
“ทําไมถึงยอมให้ เขาขโมยผลงานไป…”
“…เพราะ เขาทําออกมาได้ ดีกว่าผม ยังไง งานนีมันก็ไม่ได้ เป็ นของผมอยู่แล้ ว ผมแค่เข้ ามาช่วย เสนอไอเดีย แล้ ว
จะส่งต่อให้ หวั หน้ าแผนกอยู่ดี ไม่สาํ คัญว่าใครทํา เพราะสุดท้ ายแล้ ว ผลงานทังหมดก็อยู่ภายใต้ ชือบริษัท
เดียวกัน”
“ครับ”
“ส่วนงานก็ให้ เขารับผิดชอบต่อ แต่อย่าให้ มนั เกิดครังทีสอง ความไว้ วางใจไม่ได้ สร้ างกันง่ายๆ หวังว่าจะเข้ าใจ”
ตลอด การประชุมยังมีการพูดเหน็บแนมให้ ได้ ยินเป็ นระยะๆ พีหมอกดูจริ งจัง ตังใจทํางาน พาลให้ นึกถึงตอน
ทํางานอยู่ทีบริษัท คงจะจริงจังไม่ต่างจากตอนนี ลูกน้ องคงได้ กลัวกันหัวหด
เหลือบไปเห็นพี เมย์นงคอตก
ั นําตาหยดลงกระดาษข้ างหน้ า ถึงจะรู้สกึ สงสาร แต่มนั ก็เป็ นผลทีตามมาจากการ
กระทําของเธอเอง ไม่ว่ายังไง ก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้ พอผ่านไปเกือบสีสิบนาที ก็เดินออกไปจากห้ องประชุมทัง
นําตา ทุกคนดูจะเงียบไปสักครู่ ก่อนจะหันมาสนใจธุระของตัวเอง
ไม่ ได้ เงยหน้ าขึนมองรอบๆ จดจ้ องอยู่กบั กระดาษทีตรงหน้ า เลยรู้ สกึ คล้ ายกับว่าผมนังอยู่ทีพืน พีหมอกนังอยู่ที
โซฟา จิบกาแฟ ชีจุดผิดให้ ผมทีละจุด เป็ นสายตาทีมองจากคนทัวไป อาจจะมีความรู้ ด้านสถาปั ตย์บ้างนิดหน่อย
แต่กลับมองเห็นในจุดทีแม้ แต่ผมหรือเพือนๆไม่เห็น
“อ่อ ขอบคุณมากครับพี”
เผลอ กดดินสอแรงจนไส้ ดินสอหัก เงยหน้ ามาก็เห็นสายตาจากฝั งตรงข้ าม พออีกฝ่ ายเห็น ก็รีบเบือนหน้ าออกไป
ลุกขึนจากเก้ าอี คนลุกตามเป็ นพรวน พูดสันๆ “ขอตัว” แล้ วเดินออกไปจากห้ อง ทิงให้ ลกู น้ องบางคนเก็บของให้
เชือว่าพีหมอกก็กําลังรอ
“…ตี”
“ครับ?”
“อ่อๆ ได้ ๆ”
“พีจะทํายังไงกับพีเมย์ ?”
“ก็คงต้ องลงโทษกันตามกฏ แล้ วตีหล่ะ ยังยอมอยู่หรือเปล่า”
“…แล้ วบทลงโทษคืออะไร?”
“อาจจะโดนไล่ออก”
ผมพยักหน้ า ไม่ได้ ตอบอะไรกลับไป พีโต้ งกดลิฟต์ เพราะออกจากห้ องเป็ นกลุม่ สุดท้ าย จึงเหลือแค่สามคนทียืน
อยู่ตรงนี
“งานนีใหญ่ขนาดนันเลยหรอพี”
“จากบริษัท ทีส่งออกแต่ชินส่วน หันมาทําสินค้ าแบรนด์ตวั เอง ไม่บอกว่าบ้ าก็ต้องเรี ยกว่าโคตรบ้ าแล้ ว ทําแบบนี
กึงหนึงก็อาจจะเป็ นการหักคอลูกค้ าบริษัทตัวเองด้ วยซํา คงมีหลายบริษัททีย้ ายการลงทุนกับติวากุลไปทีอืนแทน
แถมงานนียังใช้ เงินทุนมหาศาล คงเป็ นการวัดลูกชายตัวเองเลยสินะ ว่าจะอยู่หรือไป ถึงให้ คมุ งานใหญ่ขนาดนี
เนีย”
จะเหนือยแค่ไหนกันนะ…
………………………………
………………………
ลุง ชัยเป็ นโฟร์ แมนของแผนกช่างครับ ตอนนี จากทีเคยเป็ นเหมือนห้ องสีเทาโล่งๆ มีแต่ฝนุ่ ค่อยๆเปลียนไป เริมมี
การวางสายไฟให้ ว่นุ วายไปหมด พีๆหลายคนพอเห็นผมก็ยิมให้ ผมเดินไปหา แล้ วยืนกล้ วยให้ คนละไม้ สองไม้
“ผมแค่มาเป็ นกําลังใจให้ เฉยๆ ยังไงนีมันก็งานผมส่วนนึง แถมยังเป็ นงานใหญ่ ด้วย ผมจะปลืมหน้ าบาน พีคงไม่
ว่าผมใช่ไหมหล่ะ”
อีกเกือบๆสองเดือน แท็บเล็ตตัวแรกก็จะถูกเปิ ดตัว งานของพวกผมทังหมด จบลงแล้ ว มีแผนกอืนรับหน้ าทีต่อ
จากพวกผม
“ก็ผมอยากดูนิน่า”
…ผมไม่ได้ ผิด
หลับ
“เสือนี….”
กําลังจะถามว่าของใคร แต่ก็เงียบปากไว้
มุด หน้ าลงไปในเสือตัวนัน กลินชัด หลับตาลง รู้สกึ เหมือนหายเหนือยในพริบตา ไม่มีกลินเหงือ แต่เป็ นกลินทีจะ
มีอยู่กบั ของทุกอย่างทีถูกสวมใส่ไว้
“รู้จกั กันหรอ”
กอด เสือตัวนันไว้ แน่นในอ้ อมแขน สัญญาไว้ กบั เสือทีไม่ร้ ูจะรับฟั งได้ หรือเปล่า ว่าถ้ าเจอกันครังหน้ าเมือไหร่ จะ
ไม่ใช่แค่เสือตัวนีเท่านันทีผมจะกอดไว้
รอ
พีหมอก
…………………………………….
……………………..
B.N.6.1
คนเยอะ แต่ร้ ูว่าจะเจอได้ ทีไหน เคยเห็นรูปมาก่อน ก็หน้ าตาหล่อเหลาดี แต่ส้ คู นพีไม่ได้ คนพีดูจะเหมาะกับธุรกิจ
การค้ ามากกว่า คุณอัษฏาชอบทําหน้ าบึงตึง อาจจะไม่เหมาะกับวงการนีเท่าไหร่นกั คิดว่าสมองก็อาจจะสู้คนพี
ไม่ได้ ด้วย คุณธนัตถ์ทํางานเก่ง เรียนจบจากมหาลัยเดียวกันกับทีคุณอัษฏาไปเรียน แต่ทีเจ้ านายคนใหม่ใช้ เวลา
ไปอยู่ต่างประเทศเพียงแค่สองปี กว่า คิดว่าอาจจะคว้ านําเหลวกลับมา
“จะกลับบ้ านเลยหรือเปล่าครับ”
“ไปทีบริษัท”
พึง ได้ ยินเสียง เสียงทุ้มตํา กดเสียงบางจังหวะเลยทําให้ คํานันบอกชัดว่าเป็ นคําสัง อดขมวดคิวไม่ได้ ไม่ได้ อยาก
ทํางานแบบนี เพราะเป็ นแค่ลกู จ้ าง ลูกน้ อง ไม่ใช่คนใช้ หรืออะไรทังสิน จึงไม่อยากจะฟั งคําทีบอกสถานะชัด
ขนาดนี
จะทําอะไร?
ทํางานหนักไม่หยุดตังแต่วนั แรกทีเข้ ามา ขอให้ เป็ นแบบนีไปได้ ตลอดรอดฝั ง คิดแบบนันจริงๆ ไม่ได้ เป็ นการ
ประชดแม้ แต่น้อย
โทรศัพท์ ทีโต๊ ะดังครังหนึง ยังไม่ทนั ได้ รับสายก็เงียบไป เลยคิดว่าอาจเป็ นเพราะคนในห้ องข้ างๆโทรมา เคาะ
ประตูแล้ วเปิ ดเข้ าไปหา กระดาษปลิวว่อนเต็มพืน ในโต๊ ะนันก็เป็ นกองสูง โน้ ตบุ๊คถูกตังแทนทีคอมเครืองหรูบน
โต๊ ะ
ยังไม่อยากตกงาน
คว้ า กุญแจรถ ส่งบลูทธู จากคอมพิวเตอร์ เข้ ามือถือ ข้ อมูลของคนพวกนีถูกเก็บไว้ เป็ นความลับ แต่เอาน่า สัก
วันนึง ไม่ตายหรอก ขับรถออกไป มือซ้ ายถือถ้ วยกาแฟ มือขวาจับพวงมาลัย ขับรถด้ วยความเร็วสูงสุดภายใต้
กฏหมายกําหนด อดคิดไม่ได้ ว่าเรานีมันช่างบ้ าระหําจริ งๆ เพราะเกิดมาไม่เคยตัดสินใจอะไรแบบนีมาก่อน
“เขาทําอะไรอยู่ครับ?”
แล้ วก็ได้ เข้ าพบ ยังอยู่ในชุดนอน รูปร่างอวบอูม นังอยู่บนเก้ าอีราคาแพง ทําหน้ าไม่ยีระต่อคําว่าเร่งด่วนแม้ สกั นิด
“…พวกวิปริ ตหน่ะ”
“ครับ?”
ไม่ เคยรู้มาก่อน พูดกันอีกครังอาจจะต้ องบอกว่า ไม่เคยรู้อะไรเกียวกับเจ้ านายใหม่มาตลอด ฟั งแล้ วรู้ สกึ ตกใจ
เพราะท่าทางภายนอกไม่ได้ บอกว่าเป็ นแบบนัน แต่เป็ นคนทีพอเห็นแล้ ว ก็ร้ ู สกึ ว่าน่าจะมีคนเข้ ามาเกียวพันเยอะ
เพียงแต่ว่าไม่คิดถึงเพศชายเท่านัน
อีกเหตุผลทีเลือกเดินทางมาทีนีก่อน
“เดาว่าเธอก็เช่นเดียวกัน…”
“เพราะผมเชือ…”
“ผมเชือว่าเขามีความตังใจมากพอทีจะทํางานออกมาดีครับ”
“….ผมไม่ร้ ูครับ”
“ก็พอจะศึกษามาบ้ างครับ”
“กลับไปเถอะ เดียวฉันจะโทรหาพวกทีเหลือให้ ”
“ขอบพระคุณมากครับ”
“ฝากบอกเจ้ าหนูนนด้
ั วย ว่าระวังตัวให้ มาก อย่าทําการณ์ ใหญ่เกินตัว เพราะถ้ าเสียหาย เป็ นเรืองยากทีจะฟื นฟู
บาดแผลในพวกมือใหม่”
“ด้ วยความยินดีครับ”
แต่ ก็แค่ความคิด ถูกต่อต้ าน ยืนอยู่หน้ าห้ องประชุม เพราะเป็ นการประชุมลับ ได้ ยินเสียงโวยวายดังออกมาเต็ม
ไปหมด แต่พอคุณอัษฏาพูด ทังห้ องก็เงียบเสียงลงเป็ นพักๆ
ไม่ รู้ว่าจะทําอะไร แต่หนทางข้ างหน้ าคงจะมีแต่ความลําบาก แม้ แต่คยุ กันแค่นี ทีประชุมสิบกว่าคน ยังโดน
ต่อต้ านเสียจนหลายๆคนเดินออกมาด้ วยอารมณ์หงุดหงิด
คุณอัษฏาเดินออกมาคนสุดท้ าย ทําหน้ าเบือหน่าย บ่นเบาๆ “น่าหงุดหงิด..”
“…ผมอ่านได้ ไหมครับ?”
“ตามใจ”
“คุณจะทําแท็บเล็ตหรอ?”
“อ่านไม่ออกหรือไง”
“….”
“แต่ว่าบริษัทของเรา-“
“ครับ?”
“เรืองทีว่า”
“อย่าพูดเรืองซําๆ”
“ผมว่าน่าสนใจครับ”
คุณอัษฏาพยักหน้ าตอบ นังลงกับเก้ าอี แต่ก็ไม่ได้ นงพั
ั ก ดึงโน้ ตบุ๊คเข้ าหาตัว
อยากไปพัก
“ผม – “
“…..”
“สิบนาที”
ไม่ต้องทํามันแล้ ว
ขอลาออก ขอลาออกเดียวนีเลย
คุณอัษฏาเลิกคิว
ก็ได้ ครับ!
……………………………
……………………
อังเปา
มือเล็กๆกําปากกาเมจิก ไว้ แน่น เห็นรอยยิมบนใบหน้ านัน แก้ มแดงๆ เหมือนสีเสือทีใส่อยู่ เสือทีนอกจากจะสีซีด
แล้ วยังมีคราบนํามูกนําลายทีเด็กยกเช็ดตรงคอเสือ อยู่ พีชายเด็กคนนันเห็นทีไร ก็กอดอกบ่นทุกที
“อี ตีกินนํามูกตัวเอง”
“ตีไม่ได้ กิน!!”
“ตีเปล่า!!”
ตามมาด้ วยเสียงซู้ดยาว คนเป็ นแม่หวั เราะ วางจานกับข้ าวลงบนโต๊ ะ เดินไปหยิบทิชชู่มาเช็ดให้ กบั ลูกชายคนเล็ก
ได้ ยินเสียงเพลงเบาๆลอยล่องอยู่ในบ้ าน ไม่ร้ ูดงั มาจากทางไหน อาจจะเป็ นข้ างบ้ าน เด็กตัวเล็กคิดในขณะทีหัว
เอนไปเอนมาจากแรงผ่านกระดาษทิชชู่แผ่นบาง
“ไม่เอานะม๊ า ตีอยากได้ ”
“จะเอาไปทําอะไรหืม?”
“อ่อ…”
ฮ้ ง คนพี หกขวบ กําลังซ่าพอดี เดินออกมา ใช้ เท้ ายันสีข้างเบาๆจนต้ องเขยิบจากเก้ าอีให้ นงั ตีนํามูกไหลย้ อยจน
เกือบถึงปาก ใช้ หลังมือปาดก็เลอะไปถึงแก้ ม
“ตีอย่าเล่นนํามูกตัวเองนะ เฮียหยะแหยง”
“อาตี!”
“ฮ้ งแค่จีเอวตีเอง”
“..อาตี เจ็บมากไหม”
ไม่ มีคําตอบนอกจากเสียงร้ องไห้ ซุกหน้ าลงเช็ดกับเสือตรงไหล่เธอจนเปี ยกไปหมด เสียงร้ องไห้ ดัง ดูท่าจะไม่
หยุดร้ องไห้ ง่ายๆ เธอต้ องโยกตัวลูกชายไปมา ปลอบ “อาตี ร้ องไห้ นานเจ็บตาหมดนะ วันนีวันตรุษจีน วันดี อย่า
ร้ องไห้ แต่ต้นปี ซิอาตี”
พูดไม่เป็ นคําว่าเจ็บ “อาฮ้ ง…” พอพูดแค่นี ฮ้ งก็กอดอก มองไปทางอืน พูดชัด “ฮ้ งไม่ผิด”
“ก็ถ้าตีมันไม่ดิน มันก็ไม่ตกลงไปหรอก”
“..ฮะ”
“อะไรอ่ะ”
“ไม่มีอะไร”
พี ชายพยักหน้ าตอบ แต่ยงั ไม่ลกุ ไปไหน คนน้ องเลยไม่ได้ เดินไปไหนด้ วย ฮ้ งก้ มลงมองดูทีเท้ าน้ องชาย ไม่มี
รองเท้ าอยู่ เลยถอดของตัวเองออก กัดฟั น คิดว่าจะใส่ให้ แต่เพราะยังโกรธน้ องอยู่ ถึงจะไม่ร้ ูว่าอะไรก็เถอะ เลย
ไม่ยอมใส่ให้ สกั ที
“…เฮียไม่ชอบตี”
เห็นตีทําตาโต เลยรีบพูดต่อให้ จบ
“ตังแต่ตีมา ม๊ าก็โอ๋แต่ตีตลอด”
“ตีขอโทษ..”
“ก็เฮียไม่ชอบตี”
“มันก็ไม่ใช่ความผิดของตี”
“หรอ?”
สงสัยอีกแล้ ว เวลาสงสัยชอบเลิกคิวทําตาโตมองอย่างกับจะหาคําตอบ
“ไพ่ของตี!”
“เฮียเอามาเอง”
“….”
“ขอบคุณคร้ าบเฮีย”
“ครับ!!”
“ไปกินข้ าวกัน”
“..ตีก็หิว”
“งันก็รีบๆเดินสิ”
“เดียวค่อยมาเอาก็ได้ หน่า!!”
พี ชายทําหน้ ามุ่ย ปี นีได้ แต๊ ะเอียเท่าปี ทีแล้ ว ห้ าสิบบาท แม่บอกว่าเป็ นเด็กไม่ต้องใช้ เงินเยอะ ก็เข้ าใจ แต่ก็อยาก
ได้ ของเล่นใหม่ๆ จะได้ เอามาแทนของเล่นทีเก่าเลอะดินนัน
“ตีให้ ”
“ให้ ซองเปล่าเฮียทําไม”
“ความรักเต็มซอง”
……………………….
…………………
B.N.7
ผมได้ รับโทรศัพท์จากฟ้าตอนบ่ายๆวันเสาร์
ก็ ตามเดิม ประสาขาเม้ าท์ ขาจร โทรมาเล่าโปรเจคต์ ใหญ่ทีบอกฟั งแล้ วต้ องหูผงึ แล้ วมันก็เป็ นดังทีพูดเป๊ ะ มันคือ
งานเปิ ดตัวของบริษัทติวากุล งานเปิ ดตัวสินค้ าตัวใหม่ ฟ้าทํางานอยู่ทีบริษัทจัดอีเวนท์ทีมีชือเสียง แต่ก็ไม่ต้อง
แปลกใจ เพราะประธานบริษัทก็นามสกุลเดียวกับฟ้าเป๊ ะ
แล้ ว ก็นกึ ต่อถึงฟ้าน้ องรหัสโจ๋ ได้ ข่าวว่าตอนนีคบกับไอ้ ปิกอยู่ แต่ข่าวทีได้ ยินมานีก็จะสีห้ าเดือนแล้ ว ไม่ร้ ูตอนนี
เปลียนไปถึงไหน ไม่ได้ กลับไปเยียมทีมหาลัย แม้ จะใกล้ บ้านมากแค่ไหนก็ตาม ถ้ ามีความสุข ก็ยินดีด้วย อยาก
ให้ ปิกมันมีความสุข โดยทีไม่จําเป็ นต้ องได้ รับความสุขแบบนันจากผม
“เออ..แล้ วมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“….”
“ฮัลโหล?”
“ฮะ?”
“อย่าเพิงวางสายดิ..”
“..ทําไมอีก อย่าบอกนะว่าคิดถึง”
“เปล่าหรอก…แค่-”
อยากไป…
…………………………………..
………………………
ฟ้า บ่นตังแต่ขบั ออกจากหน้ าบ้ านไปจนถึงโรงแรม ดูเหมือนจะวกรถไปทีโรงแรมมาแล้ วรอบนึงแต่กลับมาเพือรับ
ผม อยากจะขอบคุณ แต่ยงั ไม่มีโอกาส เพราะนอกจากหันมาบ่นผมแล้ ว ยังคุยโทรศัพท์ไม่หยุด
“บ้ า เอ้ ย เฮงซวย ไอ้ พวกกร๊ วก นึกว่าเป็ นดารานักร้ องนักแสดงแล้ วเป็ นเทพเจ้ าได้ หรอวะ! หาแม่งมาสักคนดิ เกา
หลงเกาหลีเอามาให้ หมด ใส่จํานวนเงินไปเยอะๆเดียวก็มาเองแหละ”
ผมไม่กล้ าแม้ แต่จะเปิ ดวิทยุ เบาะหลังยิงกว่าวินาศกรรม เอกสาร รองเท้ า กระเป๋ า ปนกันเป็ นกอง รถเบรกที ของ
ก็จะไหลจากเบาะลงไปทีพืน
“ก็เออสิ”
“พีบอล?”
“เหมาะดีออก”
“ก็ อย่างทีได้ ยินมานันแหละ โดนคนในชิงเปิ ดตัวไปก่อน แล้ วถ้ าเปิ ดตัวช้ ากว่านี ความสนใจของลูกค้ าก็อาจจะ
ลดลง เลยต้ องใช้ ช่วงทียังเป็ นกระแสอยู่ ปล่อยสินค้ าออกมา เล่นเอาวุ่นกันไปทัว ตอนนีก็ยงั จับตัวไม่ได้ สกั ทีว่า
ใครทํา”
“ก็ กลางๆอ่ะพี ไม่มีหนีให้ ต้องจ่าย ตอนนี ผมกับเฮียก็ทํางาน แล้ วให้ ม๊าพักผ่อน ต่อจากนีก็อาจจะเก็บเงินเพิม
ซ่อมแซมบ้ านหน่อย ซือของใช้ ใหม่ๆบ้ าง แทนอันเก่าทีเสียไป”
กําลังห่วง
ห่วงคนๆเดียวกัน
“พีบอลจะไปไหนอ่ะ ไหนบอกจะช่วยพีหมอกทํางาน”
“กะโดดงานอ่ะดิ มาซะเร็ ว”
เงียบกันไปซักพัก ผมเห็นโอกาสเหมาะเลยเลียบเคียงถามขึนมา
“แล้ ว ช่วงนีงานทีบริษัทเยอะหรือเปล่า?”
“เรียน? พีหมอกไปต่อวิศวะไม่ใช่หรอ”
“….คงจะเหนือยน่าดูเลยเนอะ”
แต่พีหมอกไม่มีใคร
“ไม่เห็นจะคิดเลยว่าใหญ่ขนาดนี”
“…นันไง”
มองไปตามนิวของพีบอล
ที ปลายนิว พีหมอกอยู่ตรงนัน เดินด้ วยความเร็วทีทําให้ เลขาต้ องเร่งสับเท้ าให้ เร็วขึน มองตรงไปข้ างหน้ า ไม่ได้
สนใจคนรอบข้ าง น่าแปลก คนรอบๆทางนันพากันหลีกให้ เดินไปทางข้ างหลังเวที จึงเห็นแค่เพียงชัวเวลาสันๆ
“คิดว่ามันฟั งหรือไง”
“…..”
ผม…
ผมไม่ต้องการ…
ไม่ร้ ู ว่าจะเห็นผมหรือเปล่า
คง จะไม่เห็น คนเกือบห้ าร้ อยคนอยู่ในห้ องนี ผมยืนอยู่เกือบหลังสุดกับพีบอล ทีจับจ้ องภาพบนเวที ไม่ร้ ู คิดอะไร
ต่างคนต่างจมไปกับความคิดของตัวเอง
“..กูขอออกไปข้ างนอกก่อนนะ”
“พีจะไปไหน? ห้ องนําหรอ?”
“ทนดูไม่ไหวว่ะ…”
“มันทรมานตัวเอง กูไม่อยากเห็นแบบนี”
ทําในสิงทีไม่ใช่ตวั ของตัวเอง
เสียงพีหมอก ดังผ่านลําโพง
เสียงทีผมคิดถึง
แต่ผมไม่ได้ ต้องการมันในรูปแบบนี
“ผมคิดว่าพีเข้ าใจ..เพราะพีก็โตพอแล้ ว”
ผมยิมตอบ คิดว่าคงจะไม่ต่างกัน
ผมมองภาพนัน ขมวดคิว
งานจบลง สินค้ าถูกเปิ ดตัวอย่างเป็ นทางการ คิดว่าวันนีคงได้ เห็นโฆษณาตัวทีได้ ดไู ปทุกช่องของโทรทัศน์ ป้าย
ประกาศ หรืออินเตอร์ เนท
“ตอน แรก พวกนันบอกให้ หยุดเปิ ดตัวสินค้ าตัวนี แล้ วหันไปพัฒนารุ่นอืนแทน แต่หมอกมันไม่ยอม บอกให้ มา
เลือนงานเปิ ดตัวแทน เลยวุ่นกันไปหมด ถึงสินค้ า ช็อป จะพร้ อมแล้ วก็เถอะ”
“ทําไมถึงเป็ นแบบนี?”
พีหมอก…
ทีอยู่ตรงนัน ..พีหมอก
“พี…พีหมอก”
เรียกชือนีซําแล้ วซําเล่า
นิงเงียบ
รอบตัวเงียบลง จนผมอดทีจะหนาวไม่ได้
เหมือนหลับไป
เพราะฉะนัน ต้ องตืน ตืนขึนมา
“รถพยาบาลมาแล้ วครับ!”
เหมือนเคยเกิดเรืองแบบนีมาก่อน
พีบอลพูด คําเดียวกันกับทีพีหมอกเคยพูด
เหมือนกับครังทีเรืองแบบนีเกิดขึนกับม๊ าผม
ผมไม่ได้ ขนตามรถพยาบาลไป
ึ แต่นงไปกั
ั บคันพีบอล ทังรถไม่มีใครพูดอะไร
เธอเริมร้ องไห้
…………………………………….
……………………………
“คน ไข้ มีอาการความดันโลหิตสูง ทีหมดสติแบบนีคงพักผ่อนไม่พอ คืนนี ก็ปล่อยให้ คนไข้ พกั สักคืน คิดว่าพรุ่ งนี
คงจะหายดีปกติ ต่อจากนีก็อย่าปล่อยให้ ทํางานหนักขนาดนีอีก ความดันโลหิตสูง อาจทําให้ เป็ นโรคทีร้ ายแรง
กว่านีได้ ยังหนุ่มอยู่แท้ ๆ ต้ องบอกให้ เขาดูแลตัวเองมากๆนะครับ”
“ขอบคุณมากครับ”
“ครับ ครับ ท่านเห็นข่าวแล้ วหรอครับ? ถ้ าเป็ นแบบนัน อีกไม่นานคงมีนกั ข่าวมาทีนี ครับ คงต้ องปิ ดข่าวไว้ ก่อน
ไม่ต้องลําบากท่านหรอกครับ ครับ ขอบคุณครับ”
“จะกลับหรือยัง เดียวไปส่ง”
“ลุกตามมาเหอะน่า”
“พี..คนนันใคร?”
“มินท์? พูดถึงมินท์หรือเปล่า?”
“คนทีอยู่หน้ าลิฟต์ตรงนัน”
“…แค่นี?”
“….”
“หวังว่าจะได้ เจอกันอีกนะตี”
“คิดถึงผมก็มาหาผมทีบ้ านก็ได้ ”
“ฝากมันด้ วยนะ”
“เออ ดูแลตัวเองดีๆหล่ะ”
รถขับออกไป
ไม่ชอบเวลามองหลังของใครสักคน หรือรถทีขับออกไป
…ไม่อยากรออีก
ไม่ใช่สงที
ิ จะต้ องต่อสู้กบั ใคร แต่ใจตัวเองต่างหาก ศัตรูตัวฉกาจ
…………………………….
…………………
B.N.8
ทาง เดินเงียบกริ บ ผมไม่ได้ กลัวผี แต่คิดว่าถ้ าคนทีกลัวคงจะต้ องมองซ้ ายมองขวาไม่หยุด ถึงจะเป็ นโรงพยาบาล
ระดับสูงทีดูคล้ ายกับโรงแรม แต่ยงั ไง โรงพยาบาลก็ยงั เป็ นโรงพยาบาล ทีๆได้ กลินนํายาฆ่าเชือแรงกกว่าทีอืน
ทีทีผมเกลียด
ห้ องนี…
ประตูลอ็ ก…ผมควรจะฉลาดกว่านี
พีหมอกอาจจะพักผ่อนอยู่ มาก็กวนเปล่าๆ
เลขาพีหมอกยืนอยู่ตรงนัน
ประตูทีถูกเปิ ดค้ างไว้ อย่างนัน เห็นเข้ าไปถึงห้ องข้ างใน เพราะไฟจากทางเดินส่องเข้ าไป
เสียงรองเท้ าหนังคู่นนห่
ั างออกไปไกลแล้ ว และเจ้ าของก็ไม่ได้ หนั กลับมามอง
ผมมองนาฬิกา เหลือเวลาอยู่อีกไม่นาน
ยืนหัวออกไปทีตรงมุม หลับอยู่งนหรอ
ั เห็นโน๊ ตบุ๊คตังอยู่ข้างๆ ไม่แม้ แต่จะพับเครืองลง ผมย่องเข้ าไป วางโจ๊ กไว้ ที
โซฟา
..ผอมลงไปเยอะ..
ขาว
ยิงใกล้ มากขึนเท่าไหร่ …
ไล่มาถึงมือ เงาของผมทาบลงบนมือพีหมอก
“….มาทําอะไรทีนี”
“ผมมาไม่ได้ งนหรอ…”
ั
เสียงยังติดแหบ แต่ดูดีกว่าเมือวานก่อน
“ผมเก็บนะ”
“ต..ตอน มาทีนี ฝนทําท่าจะตก โชคดีจงั ทีฝนไม่ตก เพราะถ้ ารถติด โจ๊ กคงจะเย็นไปแล้ ว ผมเห็นว่าทีนีไม่มี
ไมโครเวฟด้ วย คง คงต้ องไปหานางพยาบาลตรงนันให้ อ่นุ ให้ ไม่งน--”
ั
“หยุดพูดได้ แล้ ว”
ขมวดคิว
เบือนหน้ าหนี
“ผ..ผมไม่อยากเห็นพีเป็ นแบบนีอีกแล้ ว”
“พี ไม่เหนือยบ้ างหรอ? พ..พีต้ องทําตัวเป็ นคนอืน ทังๆทีพีไม่ต้องการ ผมไม่ร้ ู ว่าพีกําลังทําเพืออะไร แต่ผมไม่
อยากเห็นมันอีกแล้ ว…ผม….ผมไม่อยากเห็นพีเป็ นแบบนีอีก ผมรู้ ว่ามันเป็ นหน้ าที รู้ว่าพีก็มีภาระทีต้ องแบกรับ
อยู่ แต่ แต่มนั มากจนพี…ต้ องใส่หน้ ากาก ทําตัวเป็ นคนอืน คนทีไม่ใช่พี เป็ นคุณอัษฏา ประธานบริษัทอย่าง
นันหน่ะหรอ? กับทีพีเคยบอกกับผมว่าพีเกลียดเรืองแบบนัน พีทนมันได้ ยงั ไง? เพราะผมยังทนเห็นภาพแบบนี
ไม่ได้ เลย”
ผมหอบหายใจ พูดวนไปวนมา แม้ แต่ตวั เอง ยังไม่ร้ ูว่าต้ องการจะสืออะไรออกไป เอาเป็ นว่า บางทีผมก็แค่
อยากจะระบายสิงทีอยู่ในใจออกไป
“…ผมก็แค่…เป็ นห่วงพี”
ไม่เข้ าใจความคิดของพีหมอก
ถ้ อย คําทีไม่ได้ พดู ออกมา ผมได้ ยิน แต่ครังนีมันเบาเสียจนผมเงียหูฟังแล้ ว ก็ยงั ยากทีจะได้ ยิน ไม่เหมือนเมือก่อน
ทีผมได้ ยินเสียงเรียกของพีหมอกชัดเจน เสียงเรียกขอความช่วยเหลือ ต้ องการคนทีจะยืนอยู่ข้างๆเวลาทีรู้ สกึ โดด
เดียว ผมสัมผัสได้ ถงึ ความรู้ สกึ นี แม้ พีจะไม่บอก
พีหมอกหลับตาลง
ผมจะลอง ลองทีจะเสียง
“เวลาจะตอบทุกอย่าง”
“..แล้ วเปลียนไปหรือเปล่า”
“ไม่ ผมไม่เคยเปลียน”
“…แค่นนั แค่นนก็
ั พอ”
“ดูแล ตัวเองให้ ดีๆ ผมไม่อยากเห็นพีเป็ นแบบนีอีก เพราะไม่ใช่พีเท่านัน ทีรู้สกึ ไม่สบายไปพร้ อมๆกับพี ทังผม ทัง
พีบอล หรือคนอืนๆก็คงเหมือนกัน”
“…รีบกลับมาหาผม ไม่งนจะเป็
ั นผม ทีวิงไปหาพีเอง”
เหตุผล …
……………………….
…………………
เช้ าวันรุ่งขึน พีหมอกออกจากโรงพยาบาล ทีหน้ าตึก มีแต่นกั ข่าวเต็มไปหมด เอาแต่พดู ว่าเป็ นผลจาก
ความเครียดทีเกิดจากการถูกตัดหน้ าชิงตัวนัน กลายเป็ นเรืองทอค ออฟ เดอะ ทาวน์ ประธานบริษัทคนใหม่ กับ
เรืองใหม่ๆมากมายทีเอาไว้ ให้ ขุดคุ้ย ต่อจากเรืองวุ่นวายในบริษัท ทีถูกสร้ างขึน โจมตี เหตุผลทางธุรกิจทีผมไม่ร้ ู
เรือง เต็มไปหมด มันทําให้ ผมเบือแทนเลยด้ วยซํา
“หลบอยู่รูไหนกัน อยากเห็นจะแย่อยู่แล้ ว”
“ครับ ครับ”
“ไม่สนใจเลยหรอ”
“จะให้ ผมสนใจอะไรอ่ะ?”
“มันต้ องมีข้อแลกเปลียน”
“เรืองแค่นีอ่ะนะ?”
“มันคือการแบล็คเมลล์ ไม่กลัวหรือไงคุณอธิษฐาน”
“ทํางานดีกว่า..”
“อะไรกัน ขยันทํางานขึนมาทันตา?”
“…เพราะรู้น่ะสิ ว่ามีเวลาพูดเรืองนีอีกนาน”
………………..
…………..
“ทําไมครังนีมาไกลจังแหะ”
ซอย นีไม่ได้ เป็ นป่ าอย่างทีพีเชนพูด แค่มีท่งุ หญ้ าสองข้ างทาง ไม่ได้ อยู่แถวเขตกลางเมือง ค่อนมาทางปริ มณฑล
มากกว่า ทางยังเป็ นทางดินลูกรัง ฝนคงตกเมือคืน ถนนถึงเละเทะขนาดนี
“อย่างกับอยู่ตะเข็บชายแดน”
“ทําไม..โอ๊ ย!”
ไม่ทนั ขาดคํา หัวผมโขกเข้ ากับหน้ าต่างเต็มๆ พีเชนไม่ได้ จอดรถ แต่ถาม “ไง หัวโนเลยหรือเปล่า?”
“แค่เจ็บๆ”
รถจอดทีหน้ าบ้ านหลัง หนึง บ้ านทียังไม่ได้ แต่งเติมอะไรทังนัน มันยังไม่พร้ อมสําหรับการเข้ าอยู่ ผมเห็นรถอีกคัน
จอดอยู่หน้ ารัว รถสปอร์ ตทีล้ อเปื อนโคลนไปหมด
“ไหนดูดิ”
พีเชนเดินเข้ ามา ปั ดผมทีปรกหน้ าผากขึน “โอ๋ๆ หายเร็วๆนะตีเล็ก” เป่ าหัวผมฟู่ ๆจนเส้ นผมปลิวขึน
“พีเรียกผมหรือเรียกสาหร่ายวะเนีย”
ถูก พาเข้ าไปข้ างในบ้ าน ข้ างนอกคงจะมีสวน แต่ยงั ไม่ได้ เตรียมอะไรจึงเป็ นแค่ลานดิน เป็ นเรืองน่ามหัศจรรย์
สําหรับการเห็นบ้ านก่อนและหลังการสร้ าง เพราะมันแทบจะไม่เหมือนทีเดียวกันเลยด้ วยซํา
มอง จากข้ างหลัง ผมสีนําตาลอ่อนทีถูกดัด รูปร่างสูง จนเหมือนนางแบบ หุ่นดี อย่างน้ อยก็ไม่เป็ นเอวตรงแด่ว
หาวีแววซิกส์แพ็คไม่เจอ หรือกล้ ามข้ างเดียวแบบผม
ค่อยๆหันมา รองเท้ าส้ นสูงทีไม่ได้ ดเู ปรียวจนเกินไปบิดเข้ ากับพืนไม้ อยากจะบอกว่าไม่ควรใส่เข้ ามา แต่ก็ไม่ได้
พูด ไม่สิ พูดไม่ออกเลยต่างหาก
….มินท์
ฮะฮะฮะ
………………………..
……………..
B.N.9
ผมนังลงข้ างๆพีเชน มีสายตาจับจ้ องอยู่ ปกติ ผมไม่ค่อยชอบสายตาแบบนีเท่าไหร่อยู่แล้ ว เป็ นสายตาจ้ องจับผิด
ถ้ าเป็ นสายตาลูกค้ า ก็พอจะทนได้ แต่นีเป็ นสายตาของคนทีผมกําลังสงสัย ไม่สิ หวาดระแวง ไม่ร้ ู จะอธิบายยังไง
เหมือนกัน เอาเป็ นว่าผมกระอักกระอ่วนจนแทบคลัง เมือรู้ว่าทุกการเคลือนไหวของผม มีสายตาสวยๆคู่หนึงมอง
ตาม
ดูดีๆแล้ ว เหมือนอายุจะมากกว่าผมหน่อย เป็ นผู้หญิ งเจ้ าเสน่ห์ ดูมาดมัน ปราดเปรือง ผู้หญิงทํางาน เลยนึกไม่
ออกว่าเหตุผลทีเธอร้ องไห้ ในวันนัน มันเป็ นเพราะอะไร ดูเหมือนนําตาของเธอ จะหยดออกมาได้ ยากจริงๆ
“อ่อ..บ้ านหลังนีก็ของ—“
“ก็…ส่วนนึง”
“……”
“..เอ้ า หรอ?”
“ก็เออน่ะสิ เหม่ออะไรอยู่หึ?”
“เมือคืนนอนน้ อยไปหน่อย”
ไม่ ได้ คยุ ต่อ เพราะพอมินท์..ไม่สิ อาจจะต้ องเรียกว่าพีมินท์ เพราะดูโตกว่าผมจริ งๆ พีมินท์พดู ต่อ พีเชนจึงเบน
ความสนใจออกจากผม เห็นอยู่ว่ามองผมเป็ นระยะๆ ดวงตากลมๆสีดําเข้ มนัน จ้ องมองด้ วยกลินอายทีดูกดดัน
ค้ นหาอะไรบางอย่างในตัวผม
ผมคิดว่าบางที เธออาจจะรู้เรืองระหว่างผมกับพีหมอก
ตอนนี หลายๆสิงทีผมเคยค้ างคา มันชัดเจนขึน บางเรือง ผมใช้ ความรู้ สกึ ของผมตอบ โดยไม่จําเป็ นต้ องรอ
เหตุผลอะไร
“วิล..พาคุณปิ ยนันต์ไปดูชนสองหน่
ั อยสิ พาไปดูเฉยๆ ไม่ต้องทําอะไร”
ไม่
ไม่ได้
“…รู้จกั กับหมอกมานานหรือยัง”
“นานแล้ วครับ”
“เมือไหร่ ”
“ตังแต่พีหมอกปี สาม”
“ครับ”
“ทําไม?”
“คุณรู้เรืองทังหมดแล้ วใช่ไหมครับ?”
“สีดํา..สีโปรดของหมอก”
“….ครับ”
นึกถึงผ้ าม่านในคอนโด ถึงจะดูบาง แต่ก็กนั แสงไว้ ได้ มาก ต่อให้ นอนถึงเทียง ก็ไม่มีทางรู้สกึ ตัวตืนเพราะแสงส่อง
“…ฟั งอยู่หรือเปล่า”
“ครับ?”
“ทํางานอย่าเหม่อ”
“ขอโทษด้ วยครับ”
“…เหมือนเด็กเลยนะ”
“ครับ?”
“ชืออะไร”
“อธิษฐานครับ”
“ปากเก่ง”
“นันก็ผม”
“เพราะ ลูกค้ าเอาเรืองส่วนตัวมาพูด ผมจึงมีสทิ ธิ ตอบโต้ เหมือนคนทัวไป แต่ถ้าคุยเรืองงาน พีก็เป็ นลูกค้ าผม ที
ผมจะให้ คําแนะนําในฐานะมัณฑนากร”
“ขอบคุณ”
………………………..
………………….
“…เอ้ า! ป้าน้ อย”
“..คะ?”
“….ตี? ใช่ตีหรือเปล่าลูก?”
“ครับ ผมเอง”
ป้า แกยิมกว้ างเลยครับ ดึงผมเข้ าไปกอด เอ็นดูผมไม่เปลียนจากทีเคยทํา รู้สกึ เย็นๆทีหลัง มารู้เข้ าก็ตอนทีเห็นถุง
ปลาสดแช่นําแข็งนันในมือป้าแกอีกที
“มาครับป้า เดียวผมถือให้ ”
“แล้ วป้ายังทํางานอยู่บ้านพีหมอกหรอครับ”
“ทําไมหล่ะครับป้า”
“ทําไมครับป้า”
“รู้ครับ”
“ป้า เป็ นห่วงคุณหมอก ตังแต่กลับมาเมืองไทย เข้ ามาเหยียบบ้ านแค่ครังเดียว มาหยิบของใช้ ทีจําเป็ นออกไป
เสือผ้ าตอนนี ก็มีคนเอามาเปลียนให้ กินนอนทีบริษัท แทบไม่ได้ พักผ่อน ป้าฝากคุณแพนเขาดูแล แต่คณ ุ แพน
กลับบอกว่า เขาดูแลได้ ในส่วนของงานเท่านัน ป้าเลยได้ แต่ห่วง”
“คุณแพน?”
“ทังๆทีพึงออกมาจากโรงพยาบาล ก็ต้องทํางานหนักแบบนันหรอครับ?”
แม้ แต่เวลาให้ ตวั เอง ยังถูกช่วงชิง ไม่ต้องพูดถึงเวลาทีจะใช้ ร่วมกับคนอืน คนทีพูดน้ อยอย่างพีหมอก วันๆนึง คง
แทบจะไม่ได้ พดู อะไรกับใครเลยด้ วยซํา
ไม่คิดว่าจะเจอ
“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ”
ยกชามตักกับ คนเข้ าหากันจนมัวไปหมด ตักเข้ าปาก ยังอร่อยเหมือนเดิม คิดถึงฝี มือนีจะแย่แล้ ว พอได้ กลินแกง
ส้ ม ท้ องก็ร้องใหญ่
นัง อยู่ทีประตู ยืนเท้ าออกไปข้ างนอกเหมือนเดิม ทีตรงนัน มีหนึงนอนอยู่ คราวนี มันนอนทับเท้ าผม รู้ สกึ แปลกๆ
แต่สกั พักก็ชิน ไม่ได้ ร้ ู สกึ หนักอะไร นอกจากรู้สกึ ว่าตัวมันอุ่น อุ่นทดแทนความอุ่นข้ างตัวทีหายไป ถ้ ามันทดแทน
กันได้ ก็คงจะดี
“มีเรืองอะไรบอกป้าได้ นะ”
สามปี ทีผมไล่ตามหาเงาพีหมอก จบลงด้ วยความผิดหวังมาตังไม่ร้ ู กีครัง สมควรจะรู้ได้ แล้ ว ว่ามันไม่ได้ อะไร แต่
ถึงจะพูดไปก็เท่านัน ตาผมก็ยังจะคอยมองหาแต่แผ่นหลังนันอยู่เสมอ
ป้าน้ อยถอนหายใจ ไม่ทําอะไรนอกจากลูบหลังผมต่อไป แม้ แต่ไอ้ หนึง ยังกระดิกหาง ปั ดขนฟูไปมาทีเท้ าผม จักจี
จนนําตาหยุดไหลไปเอง
“ผมขอเชือด้ วยคนนะป้า”
เถียง ไปด้ วย ล้ างจานไปด้ วย เดียวก็เสร็ จ เช็ดมือกับผ้ าจนแห้ ง เดินออกมาข้ างนอก สวนเงียบ มีไฟเปิ ดเป็ นจุดๆ
เลยดูสว่างแบบนวลๆ หนึงเดินตาม กระดิกหางมาด้ วย พอมายืนข้ างๆผมก็ยืนมือออกไปลูบหัว
จะเข้ าไปในสถานะอะไร
ทีพูดว่ากําลังอดทน คงหมายถึงสิงนี
ไม่สิ
ผมอยากเจอ อยากเจอพีหมอกอีก
ผม เทอาหารเม็ดในกระป๋ องลงบนมือ หย่อนลงไปเพิม จําได้ ว่าใต้ ขอบบ่อนีมีสวิสต์ไฟอยู่ เปิ ดแล้ วจะให้ ปลาใน
บ่อชัดขึน ใช้ เท้ าเขียๆ จนเจอสวิสต์ รู้สกึ สนุก ยิงให้ มากเท่าไหร่ ปลาก็ยิงโผล่ขนมามากขึ
ึ นเท่านัน
“ให้ แบบนันเดียวปลาก็ตายหมดหรอกครับ”
“ไม่เป็ นไรครับ”
“ผมแนะนําว่าคุณไม่ควรปฏิเสธ”
“..ง…งันก็ได้ ครับ”
ผมเนียบ ไม่ได้ ใส่แว่น แต่ร้ ู สกึ จะเหมาะกว่าถ้ าใส่ ดูจริงจัง มีไฟล้ นเหลือตลอดเวลา แม้ แต่กระดุมทีแขนเสือก็ยงั
ติด
“ค..ครับ”
“…ความบกพร่องทางจิต? ขนาดนันเลย”
ได้ ยินเสียงหัวเราะประชดประชันออกมา
“ขอบคุณทีเป็ นห่วง แต่ผมเกรงว่าผมคงทําไม่ได้ หรอกครับ”
…………………..
…………..
Special : Bite
“ทําอะไร”
“ลุกขึนมา”
“ผมกําลังสบาย พีอย่ากวนผมดิ”
“…ซ่อนอะไรไว้ ?”
ไอ้ ตีเป็ นคนอ่านง่าย พอทักแบบนี ก็เห็นคิวกระตุก เสือมันคลุมอะไรไว้ บางอย่าง ดึงเสือทียืดอยู่แล้ วให้ ยืดขึนอีก
คลุมอะไรทีมันพยายามยันตัวไว้ ไม่ให้ ทบั
“กูแค่ไปเอาของ”
“หมาใคร”
“ไปรับมาทําไม”
“ผ..ผมสงสารมัน”
“..เออว่ะ”
“เอามันไปคืน”
“พีหมอก!”
“เอาไป ยังเห็นคนข้ างห้ องอยู่ รีบเอาไปคืนก่อนทีเขาจะไป”
“เออ”
“พี…”
“อย่ามาเรี ยกแบบนัน”
“ไม่”
“…อิจฉาหมาอ่ะดิ”
“ใคร”
“ก็พีอ่ะ”
“พูดแบบนีหมายความว่าไง”
“ก็พีมองผมตาไม่กระพริบเลยอ่ะ”
“อย่าหลงตัวเอง”
“แล้ วมันถูกไหมหล่ะ? พีกลัวผมเล่นกว่าหมามากกว่าพีหรอ”
อยู่ ใกล้ จนเห็นหน้ าสะท้ อนในตาของไอ้ ตี รู้ รู้แทบจะทันที ว่าคงจะรู้สกึ แบบนีกับใครไม่ได้ อีก มันมากกว่าคําที
เคยบอกมันไป มันมากไปกว่าคํานันเยอะ ในตัว คงมีแต่คํานีบินว่อนไปหมด
ไอ้ หมานัน เดินแทรกเข้ ามาระหว่างเท้ า เหยียบจนน่าเบือ ใช้ เท้ าเขียตัวน่ารําคาญออก กดปากเข้ าหาปากนุ่มๆ
รู้สกึ เหมือนกินของหวาน ไม่ชอบของหวาน แต่กลับชอบริ มฝี ปากนี
ละ ริมฝี ปากออก คว้ ามือมันไว้ ลากไปทีห้ องนอน เหลืออีกไม่กีก้ าว แต่มนั กลับดึงตัวไว้ หันไปมอง มันยิมแหยอีก
รอบ ชีนิวไปทีไอ้ หมาเวรนันทีวิงตามมา
“ช่างหัวมัน”
“มันยังเด็ก”
“แล้ วไง”
“..เดียวพีเอเขาก็มาเอาคืนแล้ ว”
“พีทนไม่ได้ หรือไง”
“หัวเราะอะไร”
“เปล่าๆ”
มองตามทุกการเคลือนไหวนัน
อยาก ประกาศให้ ทกุ คนรู้ ว่ามันเป็ นของใคร ไม่อยากให้ มนั มีเพือน ไม่อยากให้ มนั ต้ องกลับไปหาครอบครัว อยาก
ให้ โลกของมัน ทังใบ ไม่ต้องมีใครเข้ ามาเป็ นส่วนเกิน
“ไหนมึงบอกไม่ชอบให้ กัด”
“ก็พีกัดเจ็บ”
“…..”
“..ก…ก็..ถ้ าพีกัดผมเบาๆ ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่พีเล่นกัดจนผมห้ อเลือด แบบนีผมก็ไม่ไหวว่ะพี”
หกชัวโมง น่าขํา
ไม่
“…ตี มึงทําตัวเองนะ”
“ห้ ะ? ทํา?..ทําอะไร?”
ลูก หมาตัวนัน สุดท้ ายก็เหวียงมันไปทีโซฟา ตีร้ องโวยวาย แต่เป็ นเรืองของมัน ไอ้ หมาตัวนันก็ไม่ได้ ดเู จ็บอะไร รีบ
ดึงตัวมันเข้ าห้ อง ก่อนทีไอ้ หมาเวรนันจะตังหลักทัน ปิ ดประตูลอ็ กห้ อง ได้ ยินเสียงตะกรุยเท้ าทีประตู อยากจะ
เหวียงออกไปนอกหน้ าต่างด้ วยซํา แต่คิดว่าไอ้ ตีมันคงไม่ยอม
ดันตัวไอ้ ตีติดประตู มันก็ยิมจางๆ เหมือนคิดไว้ แล้ ว ว่าเรืองแบบนี คงจะต้ องเกิดขึน ก็ดี ขีเกียจพูดยืดยาว
อย่าไปไหนนะ
อย่าไปจากกู
อยากจะพูด
แต่นนหมายความว่
ั า จะต้ องเป็ นช่วงเวลาทีมันจากไป
“พีหมอก…”
ความสุข
มันคือความสุข สิงทีอยู่ในตัวตอนนี
……………………………………..
…………………………..
Bloom
มีอะไรแปลกๆ…
“เปล่าๆ”
“ทําไมทําหน้ าแบบนัน”
“มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”
“หรอ ตรงไหนล่ะ?”
ยิม มียิมด้ วย แบบนีมันโคตระแปลกอย่างไม่ต้องสงสัย ไอ้ ท่าทางยิมกรุ่ มกริ มแบบนีนะ ให้ พดู จริงๆเอาแบบไม่
อายเลย ก็มีให้ เห็นเฉพาะอยู่บนเตียงเท่านันแหละ แถมยังไม่ยิมกว้ างแบบนีด้ วย ผมเริ มเดินถอยหนี แต่แขนก็ยงั
ถูกจับไว้
“วันนีวันวาเลนไทน์นะ”
“นีมันคืนก่อนวันวาเลนไทน์ ต่างหาก”
“มันผ่านมาแล้ ว นีก็ตีหนึงกว่าแล้ ว”
“…ห…หรอ”
“…นีดอกไม้ ”
“ขอบคุณครับ”
“ตี”
พีหมอกขยับปาก พูด ไม่ร้ ูพดู อะไร ผมไม่ได้ ยินเสียง ขมวดคิว แต่พีหมอกพูดแค่รอบเดียว เสียงรอบๆตัวหายไป
รวมถึงพีหมอกทีปล่อยแขนออกจากผมแล้ วค่อยๆเดินถอยห่างออกไปด้ วย
“เดียวๆ อย่าทิงผมดิ”
มองนาฬิกา น่าจะถึงเวลาทีตืนได้ แล้ ว สะกิดเรียก ไม่ใช้ มือหรอกครับ ใช้ ขาทียังอยู่ใต้ ผ้าห่มสะกิดแข้ งพีหมอก “พี
ตืนได้ แล้ ว” พอเรียกแบบนีถึงจะยอมลืมตาขึนมา
“พีหมอก”
“….”
“วันนีวันอะไร”
“..ห้ ะ?...”
“วันอังคาร?”
“ไม่”
“แล้ วถามเรืองนีขึนมาทําไมอ่ะ”
“….”
แล้ วก็มีคนวิงไปซือช็อกโกแลตมาให้ ไอ้ กล้ วยด้ วยจริงๆ โต๊ ะหินอ่อนเต็มไปด้ วยของๆมัน ปี ทีแล้ วมันฮอต แต่ปีนีดู
จะฮอตกว่า ได้ เยอะก็ดี เพราะช็อกโกแลตยังไงผมก็มีสว่ นร่ วมอยู่แล้ ว ดอกไม้ ไม่ร้ ูจะเอาไปทําไม เดียวก็เหียว ซือ
ไปก็เปลืองเงินเปล่าๆ ยิงวันนี ราคาแพงขึนเท่าตัว ผมเสียดายเงิน ไม่ซือหรอก
“ไอ้ ขีงก มึงคิดว่ามันแพงก็พดู มาเหอะ” ได้ แต่พยักหน้ า ปฏิเสธไปก็โกหกเปล่าๆ พีหมอกก็บอกเองแล้ วด้ วยว่าไม่
อยากได้ ดอกไม้ ซือไป ก็อาจจะถูกโยนทิง ผมไม่อยากเห็นภาพแบบนัน สงสารทังดอกไม้ ทังเงินผม
“เออว่ะ…ก็ดี”
“กูประชดเว้ ย!”
ไอ้ โจ๋หวั เราะออกมาเสียงดัง อย่างไอ้ เคิล ก็เขียนเพลง ไม่ร้ ู จะให้ ใคร แต่อย่างผม แค่เล่นกีตาร์ ได้ นีก็เรียกว่าทีสุด
ของทีสุดแล้ ว อย่าหวังเลยว่าจะเขียนเพลงอะไรให้ ได้ เต้ นโชว์ กาก? เต้ นมาจะสามรอบแล้ ว ยังไม่เห็นพีหมอก
หัวเราะเลย
“ไม่สงสารคนให้ หรอไงวะ”
ดอกกุหลาบทีอยู่บนโต๊ ะ มีทงแบบช่
ั อ หรือมาเป็ นดอกเพียวๆ อวดกลีบเรี ยกมือผมไปหยิบ
แต่ผมก็ไม่ได้ หยิบดอกไหนไปสักดอก
พีหมอกบอกว่าไม่อยากได้ ดอกไม้ ไม่ร้ ูเพราะว่าแพ้ ดอกไม้ หรือเปล่า เลยไม่ได้ เลือกไว้ สกั ดอก ตอนเลิกเรี ยน เดิน
ไปหาทีคณะ ถือดอกกุหลาบทีได้ หกเจ็ดดอกไปด้ วย ช็อกโกแลตส่วนมากแบ่งกันกินจนเกือบหมดแล้ ว ไอ้ พีโก้ ไม่
อยู่ เห็นว่ารีบไปเดท ทิงพีบอลนังทํางานคนเดียว น่าสงสาร เพือนๆในกลุ่มคนอืนก็ไม่อยู่
“กูไม่เอา”
“….หล่อเลือกได้ เนอะ”
“พูดอะไร”
“เปล่าครับ”
สตาร์ ทรถ ผมรีบดึงเข็มขัดนิรภัยออกมา เตรี ยมตัวคาด รู้สกึ วันนีอาจได้ เล่นรถไฟเหาะด้ วย BMW คันนี กําลังจะ
ขับรถออกไป พวกพีๆทีเหลือก็รีบวิงมา พีแฟง พีต้ น แม้ แต่พีปิ งก็ยงั มา ยกกล่องกระดาษคนละกล่องใหญ่ๆ พี
หมอกเห็นก็รีบออกรถ “เฮ้ ยๆ เดียวดิพี” แต่ก็ไม่ฟัง พีแฟงรีบมาขวางหน้ ารถแบบไม่กลัวตาย รถน่ะเบรคทัน แต่ไอ้
ทีเบรคไม่ทนั นะผมครับ หัวกระแทกคอนโซลรถ เจ็บเป็ นบ้ า
“อะไรวะพี”
“กูบอกว่ากูไม่เอา”
“รีบๆไปได้ แล้ ว”
“ไหนดูดิ”
“กุหลาบจากใคร”
“อืม…ดอกนีของอุกกี สามดอกนีของเพือนมัน ดอกนีของน้ องปี หนึง ดอกนี อ๊ ะ ดอกนีด้ วย แล้ วก็นีของพีๆปี สาม
ส่วนช็อกโกแลตผมกินหมดแล้ ว”
“พีทิงของผมทําไมอ่ะ!”
“ทําไม ชอบหรือไง”
“มันไม่ใช่แบบนัน คนอืนอุตส่าห์เอามาให้ ”
“นันมันเรืองของมึง”
“แต่พีก็ไม่น่าทิงของผมเลย”
“ไม่พอใจจะเอาของกูไปทิงก็เชิญ”
“แล้ วจะไปรับมาทําไม”
“ก็เขาเอามาให้ อ่ะ”
เปิ ดประตูห้องมา ไม่เห็นพีหมอก ได้ ยินเสียงนําในห้ องนํา เลยวางกล่องช็อกโกแลตไว้ ทีพืนหน้ าโซฟา ลงไปเอา
กล่องดอกไม้ ทีเหลือ บางดอก กลีบร่วง บางดอกหักออกจากก้ าน ทีเก็บมาคงเป็ นพวกเพือนๆ คงไม่ได้ รับกับมือ
เอง
ผมนังลงกับพืน หยิบดอกไม้ ทีละดอกออกมาดู ทีนีไม่มีแจกัน แต่ถ้าเป็ นกะละมังก็คงจะใหญ่พอทีแช่ดอกไม้ พวก
นี ให้ เหียวช้ าลงได้ ช็อกโกแลตก็เอาเข้ าตู้เย็น แอบกินโดยไม่ขอก่อนไปหนึงชิน ดูมีราคาทังนัน
ประตูห้องนอนเปิ ดออก ไม่ได้ หนั ไปมอง เสียงเท้ าเดินเข้ ามาใกล้ หน้ าต่าง ผ้ าม่านไม่ได้ ปิด แสงตอนเย็นๆส่อง
ผ่านเข้ ามา ผมเห็นเงาพีหมอกทีพืนไม้ ข้างหน้ าผม
“พี”
พีหมอกนังลงทีพืน
หยดนําหยดลงทีไหล่
หันไปมอง หน้ าพีหมอกอยู่ใกล้ จนต้ องถอยหลังออก ถึงพึงรู้ ว่านังซ้ อนกันอยู่ ขาพีหมอกชันขัน อยู่ทีข้ างเอวผม
“มันไม่เหมือนกัน”
“ยังไง?”
“…..เพราะเป็ นมึง?”
ยืนดอกกุหลาบดอกนันให้ “อ่ะ ผมให้ ” ไม่ร้ ูจะรับไว้ หรือเปล่า แต่ก็ยืนมือออกมารับ ลุกขึน เห็นเดินไปทีห้ องครัว
หยิบแก้ วทรงสูงทีเทนําไว้ ครึงหนึงออกมาด้ วย วางแก้ วนันกับโต๊ ะกินข้ าว แล้ วค่อยหย่อนดอกไม้ ดอกนันลงไป
“โหย…พีสองมาตรฐาน”
“…ดอกนีมึงให้ ”
“ตี”
“ยังเหลืออยู่อีกช่อนึงหรอ?”
“….”
เป็ นช่อดอกสีขาว ห่อด้ วยกระดาษสีแดง มัดด้ วยโบว์เส้ นเล็กสีดํา ดูเรียบ แต่ดูสวยกว่าช่ออืนๆ เงยหน้ ามองคนที
โยนดอกไม้ มาให้ ก็หนั หลังเดินกลับเข้ าไป ผมรีบเดินตาม
“พีซือให้ ผมหรอ?”
“ใบเสร็จอยู่ในกระเป๋ าเงิน”
“ไหนบอกไม่อยากได้ ดอกไม้ ? ไม่ใช่ว่าไม่ชอบดอกไม้ หรอ?”
แต่ช่อนี…พิเศษกว่า
“เลิกตามสักที”
ริมฝี ปากแตะกันเบาๆ
แค่นนั ไม่มีการรุ กลําเข้ ามา กลับรู้ สกึ ประหลาดๆยิงกว่า ไม่ชอบแบบนีเลย รู้ สกึ เหมือนผมจะยืนไม่อยู่ โลกหมุน
ไปเสียหมด
เงยขึนมอง กลับจ้ องตรงมา เหมือนตกอยู่ในมนต์ สะกด ไม่เกินความจริง เพราะตอนนี กลันหายใจไว้ ด้วยซํา กลัว
ภวังค์นีจะหายไป
ณ เวลาทีแยกระหว่างโลกแห่งความจริงกับความฝั นไม่ออก
…………………………………………
…………………………….
[Bloom : complete]
[14.02.12]
3..2..1...
◌้เมือไหร่จะสอบเสร็จว้ าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ยังตกในห้ วงปสด.ปสด.และปสด. โปรดทําใจถ้ าท่านพบว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็อยากมาต่อให้
พ่อแม่พีน้ อง จึงมาด้ วยประการฉะนีแล
B.N.10
มองนาฬิกา
เช้ าอีกแล้ ว
ปิ ดพับโน้ ตบุ๊ค เซฟไฟล์ใส่ทมั พ์ไดรฟ์ ลุกขึนจากเก้ าอี รู้สกึ เหมือนโลกจะเอนนิดหน่อย เดินออกมานอกห้ อง เฮีย
กําลังกินข้ าวเช้ าอยู่ ทักด้ วยสีหน้ าเรียบเฉย “ไม่ได้ นอนอีกแล้ วหล่ะสิ” ได้ แต่พยักหน้ าตอบไป แค่คิดคําพูดที
จะต้ องตอบกลับไปก็ปวดหัวจีด
“ไม่ทนั แล้ ว”
“ประชุมกีโมง”
นีจะแปดโมง ต้ องไปเตรี ยมตัวอีก เลยส่ายหัวให้ แทนคําตอบ นึกไม่ออก รู้ว่าเก้ าโมงครึง แต่ไม่ร้ ูจะพูดยังไง
“ขึนมาดิ เดียวไปส่ง”
รอยยิมนันไม่ใช่ของผม
ชือหนึงลอยเข้ ามาในหัว….
“ตี …ตี”
“…ไปกันเหอะพี จะสายแล้ ว”
ถูกดึงมือไว้ เลยไม่ได้ ลกุ ไปไหน พึงเห็นว่าถุงเยลลีทีกินอยู่นนั ถูกโยนไปทีถุงพลาสติกข้ างหลัง ดูคล้ ายกับขยะ แต่
ก็เห็นไทเส้ นหนึงอยู่ในนัน ดีกรี ความสะอาดทําให้ ผมไม่แน่ใจในความคิดตัวเอง
“เมือกี…”
“ฮะ?”
“….เมือกีตีฝั นถึงอะไร?”
“…ผมจําไม่ได้ …”
“อืม…”
นาฬิกาทีแผงคอนโซลบอกเร่งเวลา ผมกับพีเชนรีบลงจากรถ
ฝั น
เหมือนกับในฝั น..
ก.สาวสวยๆในแผนก
ข.กาแฟ
ค.หมอนสักใบ
ง.แอร์ เย็นๆ
“พีเชน ผมทําไม่ไหวแล้ ว”
“เออ พรุ่งนีค่อยมาทําต่อ”
“มันงานพีไม่ใช่หรอวะ?”
“นี ตี เอ็งนีไม่เข้ าใจอะไรเลย” เลือนเก้ าอีมา ถีบซะแรงจนเก้ าอีล้ อเลือนกระแทกเข้ ากับของผม “ทีมอบงานให้ ทํา
เนีย ไม่ใช่ว่าเพราะจงเกลียดจงชังอะไรสักหน่อย แต่เพือให้ ฝึกงานต่างหาก ประสบการณ์เนีย มีค่ามากเลยนะ
ทํางานหนักแบบเนีย ฝรังเขาชอบ”
“…ก็ไม่อยากพูด มันโหลแล้ ว”
“หรอออ?”
“เออน่า ทํางานไป”
พยักหน้ ารับชะตากรรม ยังไม่ทนั ได้ หยิบปากกาขึนมาใหม่ พีเชนก็สไลด์ตวั มาอีก อยากจะตะโกน “พีโต้ งคร้ าบ
ผมเจอแล้ วคร้ าบ พนักงานเงินเดือนดีแต่ทงปี
ั ไม่ทํางาน” แต่ก็แค่คิด ขืนพูดจริง มีหวังตายแหง
“เย็นนีมีนดั คุยงานนะ”
“ห้ ะ? ทําไมตอนเย็น?”
“คุณมินท์เขาว่างแค่ช่วงนันน่ะ”
บ้ านหลังนัน ของใครกันนะ?
แต่ไม่ว่ามันจะเป็ นของใคร หน้ าทีของผม คือการทําให้ บ้านหลังนัน เป็ นบ้ านทีสมบูรณ์ทีสุด งานก็สว่ นงาน
ความรู้สกึ ส่วนตัว มันก็อีกเรืองหนึง
ผมว่านีคือข้ อแตกต่างระหว่างวัยรุ่นกับผู้ใหญ่
ถ้ าเป็ นผมเมือก่อน ป่ านนีคงเอาสเปรย์ ไปพ่นทังบ้ าน ยกพวกไปกินเหล้ าในนัน อาศัยแค่ไอ้ กล้ วยไอ้ โจ๋ตอนเมา
บ้ านคงราบเป็ นหน้ ากลอง
แต่ตอนนี มันไม่ใช่
เช่นเดียวกันกับทีผมจะปกป้องสิงทีผมรัก ด้ วยแรงทังหมดของผม…
…………………………..
…………………….
นอนทับเสือพวกนัน เอามาใช้ เป็ นหมอน ได้ กลินเหงือออกมาจากเสือ ผมขดตัว รู้ สกึ แอร์ จะถูกปั ดมาทางเบาะ
หลังมากเกินไป
เดียวนีเวลาหนาวทีไร ทําไมชอบคิดถึงเสือตัวนันทุกที
“ตัวนีหรอ?”
“นีผมนอนทับสลัมเชือโรคหรอวะเนีย?”
“ค่ะ….”
“……”
ผมไม่สาํ นึกหรอกครับ อยากจะขําด้ วยซํา เพราะเสียงดุนนั แม้ แต่พีเชนยังหงอยด้ วยซํา ก่อนจะปรับสีหน้ า หันมา
ชีนิวเหมือนตักเตือน ผมเห็นหรอกน่าว่าเมือกีพีก็มอง แต่พอเจอพีเอ๋สกัดดาวรุ่ง ผมกับพีเชนเลยได้ แต่เดินกับ
เงียบๆ
พีมินท์นงอยู
ั ่ทีโซฟาตัวใหญ่ ตรงหน้ ามีแฟ้มเอกสารเยอะเต็มไปหมด ดูเหมือนกําลังทํางานอยู่ในขณะทีรอพวกผม
วันนีสวยกว่าคราวทีแล้ วทีได้ เจอ แต่งหน้ าอ่อนลง ใส่เดรสสีฟ้า บอกได้ แค่ว่าสวยเป็ นบ้ า
“มาสายนะคะ”
“ขอโทษครับ รถติดนิดหน่อย”
แฟ้มถูกยืนให้ พีมินท์ เป็ นงานทีแก้ มาแล้ ว แต่ต้องมาให้ ลกู ค้ าเช็คอีกครัง ดูว่าต้ องปรับเปลียนอะไรอีกหรือเปล่า
พีเชนถาม พีเอ๋จด
“…ตี”
“ครับ?”
“มองอะไรอยู่ ทําไมไม่จด”
“จดไปซะ เพือตกหล่น”
เลขาพีหมอก…
จําชือไม่ได้ ชืออะไรกันนะ?
“..พี ขอโทษ”
“เรืองอะไร?”
“ผมเผลอหลับ”
“หิวไหม?”
“หิว แต่ง่วงมากกว่า”
“กลับเลยไม่ได้ หรอพี?”
คุยเรืองอะไรกันนะ?
“งันเอาเค้ กช็อคโกแลต”
ดึงเสือพีเชนขึนคลุมหน้ า แสงทีแยงตาอยู่จางลง
เสือถูกโยนคืน แต่ไม่ใช่เสือตัวเดิม
ผมรี บลืมตาขึน
“พีหมอก?”
ยืนอยู่ตรงนัน
ไม่แน่ใจว่าฝั นหรือเรืองจริง
“เสือนันของใคร?”
“….ของรุ่นพีทีทํางาน”
“พีเอาคืนไปเถอะ ผมไม่หนาวหรอก”
“หึ”
หัวเราะในลําคอ ผมสังเกตว่าออร่ากดดันรอบตัวพีหมอกข้ นขึนกว่าเมือก่อน มันทําให้ แม้ แต่ผม ก็ยงั รู้ สกึ เกร็ง
มันทําให้ ผมนึกถึงเรืองทีเคยเกิด…พีหมอกทีไม่สนใจแม้ แต่น้องสาวตัวเอง
“ผมไม่ได้ โกหก”
“..ผมไม่ร้ ู ”
“…..”
“แล้ วทําไมพีรู้ ?”
เงียบ
พีหมอกปิ ดปากเงียบ
“เดียว! พี จะไปไหน?”
ไม่มีคําตอบ แค่เดินออกไปจากทีๆยืนอยู่
เหมือนในฝั น ไม่ต่างกัน
“มินท์ให้ มาตาม”
เสียงทีพูดนันไม่ได้ ดงั มาก หันไป ได้ เห็นสีหน้ าทีพีหมอกทําไม่บ่อย หน้ าเซ็งๆทีนานๆจะได้ เห็นสักทีทําให้ ผมอยาก
ขํา
“รวมผมด้ วยหรือเปล่า?”
…………………………..
…………………….
โต๊ ะอาหารอึดอัดอย่างทีคิด
“สังสิคะ”
เมนูทีไม่มีรูป กับภาษาพิลกึ กึกกือ จึงต้ องอาศัยทักษะเฉพาะตัว จิมมัวก็ได้ ผักโขมอบชีสมากิน ไม่เหมือนคนอืนที
เหลือ พีเชนแอบขําตอนทียกผ้ าขึนมาเช็ดปาก ตอนทีมองผมเขียผักโขมออกอย่างสลดใจ
“มือนีในโอกาสอะไรครับ?”
“แทนคําขอบคุณค่ะ”
มีแต่ความเงียบเกิดขึนบนโต๊ ะ
“อ..โอ๊ ะ ผมหยิบถูก?”
“ทานเสร็จแล้ ว หมอกจะไปก่อนก็ได้ ”
“…..”
ทําไมถึงพูดกันสนิทขนาดนันกัน?
พีมินท์เอนตัวไปทางเก้ าอีพีหมอก มองสิงทีพีหมอกกําลังพิมพ์อยู่
ไม่ไหวแหะ
ท่าจะไม่ไหวจริงๆ
“ผมนึกว่าพีจะเลียงสปาเกตตีผมซักจานซะอีก”
“แพงกระเป๋ าฉีกอย่างนีจ่ายเองเถอะ”
“ไม่ได้ ตงใจ”
ั
“…..”
“ตามมา เดียวพาไปซักออก”
“….ลุก”
ทังโต๊ ะมองพีหมอกทียืนขึน ผมจึงต้ องลุกตาม ก้ มหน้ าเดินตามฝี เท้ าทีก้ าวไปข้ างหน้ า เร็ว เมือก่อนก็เดินเร็วอยู่
แล้ ว แต่ตอนนีดูเหมือนจะเดินเร็วมากขึนกว่าไปอีก
“….ไปอยู่ทีไหนก็ต้องมีคนมาตามติดทุกทีเลยหรือไง?”
“กูไม่ได้ โมโห…”
แต่เสียงพีมันบอกชัดว่าโมโห
“ยิมทําไม”
“…..”
“พีหมอก…”
เวลายังมีอีกเยอะ
เชือว่าแบบนัน….
“…พูดมา”
“อ…เอ่อ”
“ผ…ผม…”
หวา หวา
บ้ าเอ้ ย
“พีหมอก ผม-“
“คุณอัษฏา?”
“อีกครึงชัวโมง…”
“รู้แล้ ว”
“….”
“ออกไปก่อน”
“ฮ่องกง”
“ห้ ะ?”
“…ต้ องไปแล้ ว”
“ผมจะได้ เจอพีอีกหรือเปล่า?”
“อีกไม่นาน…”
หลับตาลงช้ าๆเหมือนสัญชาตญาณ
…ไม่มีจบู หรือคําบอกลา
มีแค่คําว่า
“แล้ วกูจะกลับมา…”
……………………………………
………………………….
[B.N.10 : complete]
[8.3.55]
ถึง ผู้อ่านทีรัก
เชิญ
... .
..คนแต่งได้ ตามสบาย
ขอโทษษษษษษษษษษษษษษษษษ
หนีไปทําภารกิจหลายอย่าง สอบ รอผล สัมภาษณ์ จองหอ อ่านการ์ ตนู (?) บลาๆๆ แต่หลังๆมันเริ มกลายเป็ น
ความขีเกียจ ป๋ มขอโต้ ดดดดดดด จะไม่ทําอีกแล้ วคร้ าบบบบบบ
ต่อไป จะตังใจมารีบต่อ ไม่ปล่อยให้ รอเกือบเดือนแบบนีอีกแล้ ว ตอนนีคอมก็หายดี อิดออดนิดหน่อยแต่ยังคุยกัน
อยู่ร้ ูเรือง สํานวนการเขียนหรืออะไรอาจะจยังแปลกๆ เพราะไม่ไ◌้ด้เขียนนิยายนานมากกกกกกกกกกกกก
อาจจะเจอช่วงนีไปอีกสักพัก โปรดให้ อภัยคนเขียนด้ วย หลังจากนีอาจจะต้ องมีจดั คิว เรืองไหนก่อนหลัง (555)
เจอกันวาระต่อไป เร็วๆนี(มัง?)
B.N.11
ฝนตก
ไม่ครับ
มันไม่ได้ เป็ นแบบนัน ไอ้ คําอย่างทีว่า“พีเชน วันนีผมขอกลับก่อนได้ ป่ะ?” กลายเป็ นคําต้ องห้ าม งานใหม่โผล่มา
ปุ๊ ปปั บ พวกผมทีดันโอ้ เอ้ เก็บของช้ า เลยมีอนั เป็ นไป
ง่วง อยากนอน
“..ก็มีบ้าง”
“เชือได้ หรอพี?”
“เชือได้ สิ คนทีไปประชุมวันนันเขาก็ร้ ู กนั หมดแหละ ตัวพีน่ะ ขายไปเมือเช้ า อย่างน้ อยก็ยงั กําไรอยู่ ไอ้ ตวั สินค้ า
ใหม่นะ ทําให้ ห้ นุ ตัวนีขึนเยอะ แต่ถ้าข่าวออกมาชัดขนาดนี ยังไงก็ต้องขอบายก่อนล่ะ”
บริษัทคู่แข่งหรือไง?
“พีคิดหรอว่ามันจะเสร็จวันนี?”
“ไม่มีทาง”
หาวหวอดใหญ่อีกรอบหนึง ช่วงนีรู้สกึ เหมือนทํางานหนักเกินไปหน่อย แต่ก็ต้องทํา ไม่ว่ายังไงก็จะต้ องเก็บเงินไป
คืนพีเมฆให้ ได้ เป็ นเรืองทีผมว่าทุกคนในบ้ านรู้อยู่ แต่แค่ยังไม่พูดออกมา
ผมว่าม๊ าเป็ นคนทีเข้ าใจความรู้ สกึ ผมดีทีสุด แต่ก็ไม่ได้ พดู อะไรออกมา บางครัง เป็ นห่วงแค่ไหนก็พดู ออกมาไม่ได้
เชิญคนทีอยากไปดีกว่า…
“รอก่อนดิ”
“ไอ้ ตี”
“…..”
ทําหน้ าเหมือนจะพูดอะไรบ้ างอย่าง แต่ก็ไม่ได้ พูดออกมา
“….อากาศดี”
คําพูดทีมาพร้ อมกับเสียงฟ้าร้ อง
เห็นคํานิยามว่าอากาศดีชัดเสียจนไม่ต้องอธิบายเพิม
อย่างทีพูดไว้ ว่าจะกลับมา …
“ฝนตกนีอากาศดีหรอ?”
ถ้ าไม่ร้ ูว่าจะทักยังไง ก็น่าจะเริ มด้ วยคําว่า “วันนีเป็ นไงบ้ าง?” หรือทีเคยทํา “เฮ้ ย” ไม่ คํานีอาจทําให้ ยามทียังอยู่
แถวนีตกใจก็ได้ เดียวจะเป็ นเรืองใหญ่
เสือแขนยาวถูกพับแขนเสือขึน ใส่แว่น รู้สกึ ไม่ค้ นุ ตาเท่าไหร่ เคยเห็นก่อนหน้ านีครังหนึง แต่ไม่ว่ายังไง ก็ยงั ไม่ร้ ู สกึ
ชิน
“พึงกลับมาหรอ?”
“สองชัวโมงทีแล้ ว”
“พีไปฮ่องกงทําไมอ่ะ?”
“ไปหาคนๆนึง”
“…..”
เวลาสอนให้ ผมรู้ว่าเราไม่จําเป็ นต้ องอยู่ในเส้ นทางเดียวกัน ทุกคนย่อมมีทางเลือกของตัวเอง ไม่จําเป็ นต้ องให้ คํา
ว่ารัก มัดพวกเราไว้ ด้วยกัน เราต่างมีอิสระทีจะทําในสิงทีเราเลือก เพราะรู้ เพราะเชือใจ
ผมจะเชือใจพี
“พีแพนนีน่าสงสารชะมัด”
“แต่ผมว่าก็ยงั น่าสงสารอยู่ดี”
“เดียวต้ องกลับไปทํางาน”
“แต่นีมันเวลาเลิกงานแล้ ว”
“ไม่มีเวลาเลิกงานสําหรับประธานบริษัท”
“….พีก็น่าจะพักหน่อย”
“นีก็พกั อยู่”
“ขีเก็กว่ะ”
“อะไร”
“ยิมทําไม มีอะไรน่าขํา”
“ก็เมือกีก็ยงั เห็นอยู่เลย”
“ตาฝาด”
“เออ”
“…พี”
“…..”
“ทําไมตอนนันถึงบอกว่าผมทักคนผิด?”
“….กูไม่อยากลากมึงเข้ ามาในเกมนี”
“เกม?”
พีหมอกไม่ตอบอะไร
“?”
“แต่บางครัง ก็แค่อยากจะพัก…."
"...มีเหนือย มีท้อเหมือนคนทัวไป”
รู้ว่าบังได้ ไม่หมดหรอก…
“ผมให้ ยืมไหล่…”
“ให้ เอาไปทําอะไร?”
ปั ดโธ่
ก็หดั ดูสถานการณ์หน่อยสิ
ถึงกับลนลานนึกหาคําพูดต่อไม่ออก จะให้ พดู ออกไปตรงๆบางครังก็ยงั รู้ สกึ แปลกๆ พออ้ าปากจะพูด ก็ได้ ยิน
เสียง “หึ…” เบาๆ ถึงได้ ร้ ู ว่าพลาดเสียแล้ ว
“พีหลอกผมหรอ?”
“ใครจะโง่ไม่ร้ ู ”
ทีอยู่บนไหล่ของพี คงมากกว่าผมหลายเท่า
…เลือนขึนมาเรือยๆ จนกุมอยู่ทีอกซ้ าย
“…เต้ นแรง”
“อืม”
“ตืนเต้ น?”
“แหงดิ โดนจับนมอยู่อย่างงีอ่ะ”
“ตี”
“หืม?”
“กูร้ ูเรืองสัญญานันแล้ ว”
“….”
“ผมขอโทษ---“
“กูไม่ยกโทษให้ ”
“……”
“มึงต้ องชดใช้ ”
“ด้ วยอะไร?”
เสียงแตรรถบีบดัง แต่ไม่มีใครขยับตัว
มือของผม เลือนขึนไปจับทับกับมือของพีหมอกไว้
กุมเข้ ากันช้ าๆ
สิงทีแสร้ งว่าเข้ มแข็ง ทีสิงทีแสร้ งว่าจะอดทนได้ ถ้ อยคําเหล่านัน ถูกทําลายลงด้ วยริมฝี ปากทีประกบเข้ าหากัน
รอบแรกไม่ดีเท่าไหร กรอบแว่นนัน ทําให้ ทกุ อย่างดูง่มุ ง่าม “ถอดแว่นได้ รึเปล่า” พยักหน้ าแทนคําตอบ ถูกยัดเข้ า
กระเป๋ าเสือลวกๆ ไม่มีอารมณ์ทีจะมาสนใจเรืองนี
หัวว่างโพลน
ทีรู้ มีเพียงแต่ความอุ่นจากหยดนํา ทีวิงลงมาตามแก้ มเท่านัน….
………………………………………….
………………………………..
[B.N.11 : complete]
[12.3.55]
B.N.11
ชีวิตกลับมาราบเรี ยบ
จนกระทัง…ถูกลักพาตัวไปในบ่ายวันเสาร์
“อืม”
“เปล่า ไม่ใช่”
“แล้ ว..เอ่อ”
ไม่ร้ ูว่าต้ องทําอะไรก่อน ต้ องเชิญเข้ ามาในบ้ านหรือเปล่า เสริฟนําเปล่าต้ องใส่นําแข็งด้ วยไหม พอเห็นแล้ วก็ร้ ู สกึ
ตาลาย เหมือนทําอะไรไม่ถกู
ใจเย็นๆสิวะ ไอ้ ตี
“งัน ผมขอตัวไปเปลียนเสือก่อน?”
“ศัตรูบกุ ”
“ศัตรู ?”
“ตีหมายถึงคนทีอยู่ข้างในนันต่างหาก?”
“เฮ้ ย!”
ทําไมกันนะ?
“อ่า ขอโทษครับ”
“นีจะไปไหนหรอครับ?”
“…นันสินะ”
“ไม่เป็ นไร”
รถขับไปเรือยๆเหมือนมีการคุยเรืองจุดหมายกันมาก่อนหน้ านีแล้ ว
สุดท้ าย ก็ไปจอดทีร้ านอาหารร้ านหนึง อยากจะบอกว่า “ผมพึงกินมาม่าไปเมือกีเอง” แต่ก็พดู ไม่ออก ได้ แต่เดิน
ตามหลังไป
สีหน้ าเรี ยบนิงนันเงยหน้ าขึนนิดหน่อย เป็ นสัญลักษณ์ว่าห้ ามพูดคุยอะไรทังสิน ก้ มเป็ นระยะ มองแท็บเล็ทบ้ าง
สลับกับบรรยากาศข้ างนอกร้ าน
“…..”
จนเหลือแต่จานทีว่างเปล่า ก่อนหน้ านี พอรู้ สกึ ไม่มีอะไรทํา ก็จะยกแก้ วชาขึนดืม แต่เพราะว่าเป็ นระบบรีฟิว เลย
เริมรู้ สกึ ว่าท้ องเต็มไปด้ วยนํา
“เอ่อ…”
“จริงสิ”
“เอ๋ ผมหรอครับ?”
“คิดว่ามีคนอยากจะเห็นเธอทีงานนันนะ..”
ทําไมเหมือนเห็นสายตาคู่นนั ยิมอยู่
คนทีอยากเจอ…
ใครกันนะ…จะใช่คนเดียวกับทีผมคิดหรือเปล่า?
“…จะทําอะไรกันแน่ครับ?”
“ลองดูไปก่อนสิ”
“ถ้ าผมไม่ไป…”
“นันก็สทิ ธิของเธอ ฉันก็ไม่ได้ บงั คับอยู่แล้ ว”
“อ่า ขอบคุณครับ”
“คิดดูดีๆแล้ วกัน”
รถขับออกไป อากาศเริ มเย็นขึน สวนดูร่มรืน เห็นหลายๆคนยืนถ่ายรูปอยู่ อย่างทีคิดไว้ เป๊ ะ ว่าจะต้ องได้ ใช้ กล้ อง
แหง โทรหาเฮีย พอบอกว่าอยู่ทีไหน ก็บ่นไม่หยุด “ไกลเป็ นบ้ า กลับเองแล้ วกัน” ใครมันพูดวะเนีย ว่าจะมารับ
“กลับถูกหรือเปล่า?”
ยกไม้ หมูปิงขึนมอง เคยมีคนบ่นว่าสกปรก ไม่ชอบกินของข้ างทาง ไม่ถกู ปาก แต่สดุ ท้ ายก็ขอเบิลแล้ วเบิลอีก จน
กลายเป็ นแบ่งกันครึงๆ
ตอนนีกลับต้ องมาเดินกินคนเดียว…
ไม่เป็ นไร
…………………………………..
………………………………
“เฮีย..โอเคแล้ วหรอ?”
“เอ้ า ก็บอกเองว่าจะมา”
“แปลกๆยังไง?”
คุยกันทีลานจอดรถ ในรถกระบะคันเก่า
เฮียทียอมพักงานไว้ ชวคราวเพื
ั อมาส่งทําหน้ าไม่เข้ าใจ ก็ร้ ูอยู่หรอกว่าไม่เข้ าใจ เพราะแม้ แต่ตัวเอง ยังไม่ค่อย
เข้ าใจเท่าไหร่
“ตีรู้สกึ เหมือนทุกอย่างมันง่ายเกินไป”
“งันกลับบ้ านไหม?”
“….เฮียไปด้ วยหน่อยดิ”
“เออว่ะ”
“ถ้ ามี ก็จะไปเป็ นเพือน อย่างน้ อยก็คงจะมีสาวสวยๆ อาหารอร่อยๆอยู่หรอก มีอะไรก็โทรมาแล้ วกัน เฮียอยู่แถวนี
รอรับกลับ”
แบกกระเป๋ าสะพายข้ างมาด้ วย หยิบของบ้ าๆบอๆมาเต็มไปหมด แม้ แต่ขนมค้ างปี ก็ยังอยู่ในนัน ประหม่า อาจ
เป็ นเพราะคราวนี มาแค่ตัวคนเดียว ไม่มีพีบอลพามาด้ วยเหมือนครังก่อน
ดูเหมือนจะเป็ นรอบสือ
ค…คิดไปเองรึเปล่าหว่า?
ไฟหรีลง เปิ ดตัวด้ วย VTR ตามมาด้ วยพรีเซนเตอร์ คนใหม่ อาจเป็ นนักร้ องหรืออะไรสักอย่าง ตังแต่ทีวีชนล่ ั างเสีย
ก็ไม่ได้ ดทู ีวีอีก ต่อมาเป็ นส่วนของพิธีกรทีทําหน้ าทีพรีเซนต์สนิ ค้ าตัวใหม่ ดึงดูดนักข่าวแย่งพืนทีทีดีทีสุดหน้ าเวที
กันจนวุ่นวาย
ไม่เห็นพีหมอก
“ครับ?”
“พีขอสัมภาษณ์อะไรหน่อยได้ ไหม?”
“ได้ ภาพนีมาจากไหนครับ?”
“เอ่อ..ผม..ผมขอตัวก่อนนะครับ”
พอจะเดินหนี กลับเจออีกคู่มาดักข้ างหน้ า ยิงถูกปิ ดทางไว้ เท่าไหร่ ยิงเพิมเวลาให้ ค่อู ืนเดินเข้ ารุมมากเท่านัน แฟล
ชกล้ องกระหนําอย่างไม่มีคําว่าเกรงใจ รู้สกึ สงสารพวกดาราขึนมา แค่เจอกล้ องทีอยู่ตรงหน้ ากดชัตเตอร์ ใส่แค่
ครังเดียว ผ่านมาเกือบนาที ยังตาพร่าไม่หาย เดินไม่ถูกทาง
“น้ อง-!”
“น้ องคะ-!”
รู้สกึ เป็ นยิงกว่าเซเลป วงทีแคบอยู่แล้ วถูกเบียดเข้ ามา กระเป๋ าสะพายถูกหนีบติดอยู่กบั คนพวกนัน พยายามดึง
แต่ก็ดงึ ไม่ออก เลนส์กล้ องกระแทกหัว หงุดหงิดจนอยากจะโวยวายใส่ แต่คิดว่าเดินหนีออกไป น่าจะดีทีสุด
แต่ทางไหนคือทางออก
เหมือนปลาตัวเล็กๆในวงปิ รันย่า คําถามตะโกนเข้ าใส่หู ชัตเตอร์ ทําร้ ายสายตา โดนเบียด รู้สกึ หายใจยากขึน
ยืนมือออกไป พยายามจะแหวกทางออก
ข้ อมือถูกคว้ าไว้
ทางเปิ ดออก
นักข่าวพวกนันเงียบไปพักหนึง ก่อนจะเริมรัวคําถามซําอีกครัง
วิง
วิงหนีออกจากเรืองยุ่งยาก
วิงหนีออกจากทุกอย่าง ทีกันเราไว้
วิงออกไปด้ วยกัน โดยทียังมีเสียงโวยวายตามมาจากข้ างหลัง ถูกวิงตาม รู้ สกึ เหมือนเป็ นในหนัง ทีพระเอกมี
กองทัพลูกกระจ็อกวิงตามเป็ นพรวน แต่ทีไม่ขํา คงเป็ นเพราะนีไม่ใช่หนัง
“พีจะวิงทําไม!!”
“แล้ วจะอยู่ทําไม!”
“แต่ถ้าวิง…มันก็เท่ากับว่าเราหนี”
“…ตี มันไม่ใช่การหนี”
ถ้ าพียืนยันแบบนัน….
“พีหมอก! กุญแจรถ”
ไม่มีคําตอบ
เห…
วิงเลยลานจอดรถไป
“พี?!”
“กุญแจรถอยู่กบั แพน”
ตูว่าแล้ ว!!
ไม่มีทีนัง
“พ..พี…”
“…ถูกไล่ออกแหง..ฮะฮะ…”
“…พีรู้ไอ้ เรืองรูปนันหรือเปล่า”
“รู้กระทังฝี มือใคร”
“…..”
“พีมินต์ ?”
มีเพียงความเงียบ
เพราะผม…หรือเปล่านะ?
ยิมปากพีหมอกยกขึน ไม่ใช่การยิมแบบค่อนแคะทีชอบทํา
………………………….
…………………..
[B.N.12 : complete]
[15.3.55]
อืม จะพูดไงดีแหะ...
เนืองจากภาค B.N. เป็ นภาคผู้ใหญ่ เพราะฉะนัน ถ้ ามีเรืองเเบบผู้ใหญ่เข้ ามาปน หวังว่าคงจะไม่ขิดขวงทะลวงใจ
กันนะ◌ั◌ัคบั
ทีภาค Coin เขียนอารมณ์นกั ศึกษาไม่เต็มที เพราะยังไม่เคยเป็ นนันเอง (กําลังจะเป็ น..ซูน)
อ่อ อีกเรือง
นิสยั ของตัวละครเรืองนี ตังอยู่บนพืนฐานความเป็ นจริง ดังนัน อาจจะมีนิสยั ปะแหล่มๆมาให้ เห็น ว้ าก จะสือ
อะไรฟร่ะ? เอาเป็ นว่า รออ่านแล้ วกัน หวังว่าผู้อ่านจะเข้ าใจ (คนอ่านคิดในใจ ไรของเอ็งฟร่ะ)
B.N.13
ล้ อหมุนไปตามทางทีเราไม่ร้ ูจัก
“น่ารําคาญ”
“นังแป็ ปเดียวเอง”
พยักหน้ าตอบ
ปลายทางคือทีๆเป็ นเหมือนป้อมหลบภัยชัวคราว
บางทีคนๆนึงก็แบกรับเรืองทียิงใหญ่มากกว่าตัวเยอะ
กําลังพยายามอย่างหนักเพือสิงทีตัวเองต้ องการหวัง
เกือบสองชัวโมง
“กูไม่ชอบของหวาน”
“อาม่าคร้ าบ”
“สวัสดีครับ”
ไม่มีเสียงตอบ
“ของผมหรอครับ?”
พยักหน้ าอีก
ภาษาจีนถูกเขียนหวัดๆบนนัน
“ม่าครับ ผมอ่านภาษาจีนไม่ออก”
พีหมอกนังลง หยิบตะเกียบขึนมาเอง ดูเหมือนจะหิว ถึงยอมกินเงียบๆไม่บ่นอะไรอีก
อาม่านังข้ างๆผม ยืนมือมาตบทีหน้ าตัก ยิมกว้ างจนเห็นฟั นทีหายไปหลายซี ชีมาทีผม แล้ วทําท่าเหมือนวัดระดับ
จากความสูงไม่มากนัก เท่ากับเด็กสามสีขวบ
“จําผมได้ ด้วยหรอครับ?”
พยักหน้ าตอบ
มีรูปวางอยู่
“ทําไมอาม่าถึงอยู่คนเดียวก็ไม่ร้ ูเนาะ”
บ้ านนีเงียบเหงา
“…แต่ตอนนีพวกเราก็อยู่ทีนี”
“ก็แค่ชวคราว”
ั
“มาทะเลคราวนีเงียบกว่ามาคราวทีแล้ วเยอะเลย”
“สมกับมันดี”
“แล้ วคนอืนล่ะ?”
“เหมือนเดิม”
“ทุกอย่างมันก็ต้องเปลียนไป…ทีละนิด”
ทังๆทีมันเปลียนไปทีละน้ อย
“ผมว่าพีก็ดเู ปลียนไปหน่อยๆนะ?”
“ตรงไหน?”
“หน้ าดุขน”
ึ ทําหน้ าเข้ มโชว์ พีหมอกเอนตัวนังกับเตียง มุมปากยกขึนนิดๆ “เป็ นผู้ใหญ่ทีดูเป็ นศัตรู ต่อทังโลก
เหมือนพวกตัวร้ ายในการ์ ตนู ฮีโร่เลย ถ้ าผมเป็ นเด็กนะ ผมจะรีบวิงหนีไปจากพีเลย”
รอยยิมแบบนัน
ไม่ต้องลังเลทีจะตอบ
“….โลกก็จะมีศตั รู สองคนไง”
…………………………………………..
………………………………..
…………………………………
………………………..
พีหมอกอาบนํา
“คนเยอะเลยเนอะ”
แดดแรงจนมองออกไปก็ต้องหรีตา
“..ม่าครับ”
หันกลับมามอง
“อาม่าไม่เหงาหรอ อยู่คนเดียว”
ส่ายหัว ชีปลายพัดไปทีรูปบนหิง
…………………………
………………………………..
“พี ไปขีจักรยานกัน ผมเห็นเขาให้ เช่าอยู่”
“ร้ อน”
“มันก็ร้อนทังวัน ไปเถอะ”
“ไม่”
“ไปเหอะน่า เดียวหาซือหมวกแถวนีก็ได้ ”
“….”
“กู…”
“ห้ ะ?”
“…เป็ น”
“ขึนจักรยานดิพี”
ทําไมหน้ าบึงกว่าเมือกีอีก
“ไม่ชอบขีจักรยาน”
“คันนีห่วย”
“เฮ้ ยพี”
“สอนกูขบั สิ”
“พีก็ไปอีกคันดิ”
“ไม่ จะเอาคันนี”
รอยยิมนันหายวับไปไหนพริบตา
……………………………….
………………………
“ปวดขา”
“ไม่ค่อยออกกําลังกาย”
“….”
“ผมล้ อเล่นน่า”
“กินร้ านไหน?”
เบิลคนละสอง จนอิม นังดูดนําปั นทีพีหมอกไม่ชอบกิน มองถนนรอบๆ เก้ าอีตรงข้ ามมีคนมานัง ร้ านไม่ได้ ใหญ่
มากถึงขันจะให้ ลกู ค้ านังแยกโต๊ ะกันได้ ทังหมด
“ยกขามา”
“ห๊ ะ?”
“พีจะทําอะไร”
“มึงเดินไม่เต็มเท้ า…”
สังเกตขนาดนันเชียว?
ลองใหม่อีกครัง แต่เบาขึน
เสียงเคาะกระทะจากแม่ครัวดังลัน เห็นว่ามองมาทางนี แล้ วมองสลับไปทีลูกค้ าคนอืนทีรออยู่
…แต่พวกผมขอเวลาสักแป็ ปนึง
ดูดนําปั น มองหน้ าคนทีเห็นขาชาวบ้ านเป็ นงานสําคัญ จริงจังกับทุกเรืองเกินไปหรือเปล่า จนบางครัง ก็ร้ ู สกึ ว่า
ผ่อนคลายกับตัวเองน้ อยเกินไป
“ไง”
“ก็ดี…”
“….”
“สบายมากเลยครับ สุดยอดหมอนวดเลยครับ”
“หมายความว่าไง”
รองเท้ าถูกถอดออก เท้ าสองข้ างอยู่บนหน้ าตัก ต้ องเอนตัวมาข้ างหน้ าหน่อย เพือไม่ให้ หงายหลังลงไป คนมอง
เยอะ แต่จะทําเป็ นว่าไม่อาย คนทีตังใจนวดอยู่ตรงหน้ าจะได้ ไม่เขินไปด้ วย ไม่สิ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ค่อยสนใจ
ชาวบ้ านอยู่แล้ วนีนา
“เออ”
“อยากลอง?”
“ไม่ครับ”
แล้ วก็ซือตัวนันจริงๆ
“สาวๆมองนําลายหกแล้ ว”
“เช็ดปากหน่อย”
“งันๆ”
แต่อารมณ์ดีขนเห็
ึ นๆ
นังรถกลับริมหาดก่อนทีรถจะหมด
“ระวังควํา”
“งันนอนตรงกลางก็ได้ ”
อุ่น
รู้สกึ ถึงหัวใจทีเต้ นผ่านหลัง ตึก ตึก ตึก เร็วขึนหรือเปล่า? อาจจะเป็ นของผมเองก็ได้ ทีเต้ นเร็วขึน
“หนัก”
“หนักขึนกว่าเมือก่อนอีกหรอ?”
“ดีแล้ ว”
“ลมเย็นเนอะ”
แอบสงสัยว่าเปลรับนําหนักได้ มากขนาดไหน พวกผมนอนสองคนแบบนีจะขาดไหม ไม่อยากลองล่ะครับ ทีแน่ๆ
คนทีใกล้ ทีสุด อยู่ห่างออกไปจนเป็ นจุดดํา อาจมีพวกข้ างหลังอีก แต่ผมไม่ได้ มีตาหลังซักหน่อย เลยไม่ได้ สนใจ
“…อย่างงันหรอกหรอ?”
“นึกว่าเป็ นแบบไหน”
“แล้ วของมึง”
“….”
เงียบเหมือนรอให้ พูดต่อ
“มันเรียกว่าผู้ใหญ่ ”
“บางที”
พลิกตัว อยากนอนควํา แต่กลับทําให้ เปลโยก ถูกรังเอวไว้ แน่น แต่พอยิงขยับ เปลยิงไกว สุดท้ ายเปลก็หมุนพวก
เราลงมาทีทราย ยังดีทีเป็ นทรายนุ่มๆ ไม่งนก็
ั คงเป็ นโรงพยาบาลทีใกล้ ทีสุดทีอยู่ในตัวเมือง
เร็วไม่ทนั พีหมอก
พูดคุย แต่ก็ยังไม่ผละออกจากกัน
เหมือนจะกลืนกินคําพูดพวกนันไปด้ วย
…………………………………….
……………………………..
[B.N.13 : complete]
[31.3.55]
หลบตรีนประชาชน
แถม
ริมทะเล หาดทรายเนียนเท้ า
ไม่มีใคร
เหมือนหาดส่วนตัว
“พี ลองจับมือเดินกันไหม?”
“จับทําไม?”
“ผมเห็นคนอืนเขาทํากัน”
“ก็…”
“ก็อะไร”
“เวลาตืนเต้ น เหงือมันก็ออกอ่ะ”
เงียบไปสักพักใหญ่
“เอามือมา”
“เอามา!”
ยืนมือให้
ผมหัวเราะออกมา
“มือพีก็-“
“ไม่ต้องพูด!”
……………………………….
………………….
B.N.14
“อ๊ ะ”
“ด..เดียว ปิ ดประตูก่อน”
เดินไม่ถกู
ตอนนีจึงเป็ นโต๊ ะว่าง เป็ นโต๊ ะไม้ ยาว เด็กห้ าหกขวบอาจนอนได้ สบายๆ
“พ..พี?”
“อะไร?”
“นีมันโต๊ ะ?”
“ดูก็ร้ ู ”
ยังไม่ทนั ได้ พดู ต่อ ก็ถูกปิ ดปากไว้ ด้วยริมฝี ปากทีล่วงลําเข้ ามา
“หือ?ผมหรอ?”
“เอียงคอเข้ าหาแบบนีตลอด”
งับริมฝี ปากผมเบาๆ
ถูกหอมแก้ ม
เขินกว่าจูบกันเสียอีก
“…พีอ่อนโยนขึนเยอะเลย”
“หรอ?”
“พีไม่สงั เกตเลยหรอ?”
“ไม่ เพราะปกติไม่เป็ นแบบนี”
นีคงเรียกว่าเคสผิดปกติ
“ตี”
“หือ?”
“….แค่อยากเรียก”
แผลนันยังอยู่
เพราะเราไม่ได้ ต้องการทีจะลืม
“อะไร?”
เสียงซิปดังขึน
“อะไรอีก?”
“…..”
“พูดมา”
ทําท่าเหมือนจะกระชากลงถ้ าไม่รีบพูด
“คือ…อึก!”
“อะไร?”
“ผม…อึก!”
พีหมอกค่อยๆคลายหัวคิวออก
“ผม-อึก!-“
“จะพูดอะไร?”
“ผมจะบอกว่า-อึก!”
เงยหน้ าขึนมา รอยยิมก็ยงั อยู่ ไม่ได้ หายไปไหน ถูกดึงตัวให้ ลกุ ขึน เดินไปหยิบนําเปล่าจากตู้เย็นให้ แกะกินทัง
ขวด พีหมอกนังลงข้ างๆ
“อึก!”
“….มินท์เป็ นคู่หมันกู”
พีหมอกดึงขวดนําทีผมกําอยู่ออก
รวบตัวผมเข้ าไปกอดช้ าๆ
ทีๆจะอยู่ได้ คงมีแต่ทีนีเท่านัน
“..ตี..ไอ้ ตี”
บอกไม่ได้ ว่าคืออะไร
อยากจะผลักออก แต่มือกลับยิงโอบแผ่นหลังนันไว้
“…ตี กูล้อเล่น”
“มึงสะอึก”
“….”
ผมจะมีชีวิตอยู่แบบไหนกัน?
กําเสือทีจับอยู่ไว้ แน่น
“..กลัว”
“กลัวอะไร?”
พูดไม่ออก
เงียบไปพักใหญ่
“หายสะอึกแล้ ว”
“….”
อยากต่อยหน้ าคนขึนมากะทันหัน
“สักวันพีจะเจอเตะก้ านคอแบบในเสือนี”
“หึ”
ยกยิมมุมปาก
“ขีกลัวกว่าเดิมนะ”
“ถ้ าผมบอกอาทิตย์หน้ าผมแต่งงาน พีจะทําไงล่ะ?”
ต่อไปไม่นานก็คงจะถึงวัยทีเพือนๆทยอยแต่งงานกัน
“….”
“…..”
เหมือนพูดกับตัวเอง
ความมันใจ ทียังเห็นความไม่หนักแน่นในสายตา
จูบช้ าๆ แทนคําขอโทษทีไม่เคยพูดออกมา
ผมหลับตาลง
สามปี
เรายังคงนังอยู่ตรงนี
“คิดอะไรอยู่?”
“…คิดเรืองของพี”
“เรืองไหน?”
“อยากรู้ทุกอย่างเลยหรอ?”
“ทังหมด”
“งีคงต้ องเล่าทังคืน”
“ขอแบบสรุป”
“ก็ยงั ยาวอยู่ดี”
ขมวดคิวช่างใจ
ผมยิมรอ
“กูไม่อยากรู้แล้ ว….”
…………………………….
…………………….
เช้ ามืด
พีหมอกยังหลับสนิท ไม่เห็นทีท่าว่าจะตืนเร็วๆนี
ปลายท้ องฟ้าเริมสว่าง นังลงกับทราย ยืนเท้ าออกไปให้ โดนนํา อยากให้ ม๊ากับเฮียมาด้ วย อากาศแบบนี คงจะทํา
ให้ พอเหม็นเบือมลพิษเมืองกรุงได้ บ้าง
มองดูอีกรอบ ยังไม่มีใคร
กดนิวเขียนลงไป
ตี
หมอก
“…ตีหมอก?”
“เฮ้ ย!”
ใช้ มือกวาดปื ดเดียวเกลียง แต่ก็ยงั ทิงรอยไว้ เป็ นขีดยึกยือ พีหมอกยืนคําหัวอยู่ข้างหลัง ทําหน้ าไม่ร้ ูไม่ชี แต่ก็เห็น
อยู่ว่าตากําลังยิม
“แฟชันเด็กประถม”
“เปล่าซักหน่อย”
“ลบทําไม?”
“นันเรียกว่าลายมือ?”
“ก็เขียนบนทราย”
“เถียงไม่หยุด”
“แค่พดู ความจริ ง”
“ข้ อเสียเยอะ”
“ผมขอโทษคร้ าบ”
“…ก็ไม่ได้ ว่าอะไร”
หลุดปากถามไป
พีหมอกไม่ได้ หนั มามอง มองไปทีทะเล คลืนซัดเข้ ามา เหมือนพยายามจะมาให้ ถงึ ปลายเท้ า ไม่ถงึ ดูเหมือนพี
หมอกจะต้ องการแบบนัน
พีหมอก
……………………………………………..
…………………………………….
หน้ าบ้ านหลังนัน มีรถบีเอ็มคุ้นตาจอดอยู่ ข้ างรถ พีแพนยืนอยู่ตรงนัน กําลังกดหน้ าจอมือถือไม่หยุด สักพัก ก็เงย
หน้ าขึนมา
“คุณอัษฎา…”
“ช้ า”
“ตี กลับไปกับรถคันนี”
“เดียวจะมีอีกคันมารับ”
“…”
“ไปสิ”
ไม่ยอมมองหน้ า พูดแค่นนั แล้ วรับเสือสูททีพีแพนยืนมาให้ ใส่ทบั เสือทีเปี ยกจนชุ่ม อาม่าเดินออกมา ได้ แต่ตอบ
ว่า “เดียวพวกผมจะกลับกันแล้ ว ขอโทษนะครับทีมารบกวน” แกส่ายหัวยิมๆ ตบบ่าผมสองสามทีแล้ วเดินเข้ าไป
ในตัวบ้ าน
“แต่-”
“ไปเถอะครับ”
พีแพนขมวดคิว ดูเหนือยและอยากพัก
ผมไม่ได้ เดินไปทางประตูรถ
“ผมจะไปกับพี”
“….”
“…..”
“เอาไงครับ?”
“รู้แล้ ว”
“อืม”
“….”
ในรถทีกลินไม่ค้ นุ เคย
จะไม่ปล่อยมือนีอีก…
ผมบอกตัวเองว่าอย่างนัน
………………………………………….
……………………………….
…………………………
[B.N.14 : complete]
[6.4.55]
>
Missing.
หิมะตก
ทุกคนรีบเร่งเท้ า เพราะไม่ใช่คืนแรกทีตกหนักแบบนี
ใกล้ คริ สต์มาส ต้ นไม้ ประดับไฟสีทีไร้ ประโยชน์ ส่องแสงอยู่ในความมืดของร้ านค้ า ไม่มีร้านไหนเปิ ดตลอดยีสิบสี
ชัวโมงเหมือนเมืองไทย ทุกคนแย่งกันซือของตุนไว้ เพราะถ้ าเกิดหิมะนีกลายเป็ นพายุเมือไหร่ การฝ่ าออกมาจาก
บ้ านหาร้ านค้ าสักร้ าน จะกลายเป็ นเรืองทีขําไม่ออก
กระชับเสือโค้ ท
ในทีวี มีแต่รอยยิมเต็มไปหมด รอบข้ างวุ่นวาย แม้ แต่ในมหาลัย วันนีได้ ถงุ คุกกีมาหลายถุง รับไว้ ไม่อยากต้ องกิน
อาหารสําเร็ จรูปติดๆกันอีกอย่างปี ทีแล้ ว
มือถือสัน
อีเมลล์ใหม่
รอยยิม
ทีสว่างจ้ า
ถอดใจไม่ได้
แต่ก็ต้องทํา
ยังไงก็ต้องกลับไป
บอลเป็ นคนส่งเมลล์มา
………………………………..
…………………………..
ตีสาม
รูปภาพรูปหนึงปรากฏขึนบนจอ
ขยายภาพขึน
ตี
รูปต่อมา ถูกโปะแป้งขาวกระจาย บอลทิงข้ อความใต้ ภาพไว้ ว่างานรับน้ อง เป็ นพีปี สาม แต่กลับถูกน้ องเล่นเสีย
จนดูไม่ได้ มีรอยลิปสติกเขียนชืออยู่บนหน้ า ผมถูกมัดหลายจุก ยิมแหยๆ ข้ างๆเป็ นหลานรหัสผู้หญิง เห็นแล้ วก็
รู้สกึ หงุดหงิดหลังจากขํากับสภาพแบบนัน
หลายต่อหลายรูป
ถูกส่งมาเป็ นประจํา
ทุกเดือน
ยังดี… ทียังมีรอยยิมอยู่
ไม่เหมาะกับนําตาสักนิด คนทีสดใสขนาดนี
อยากได้ ยินเสียง
อยากสัมผัส
คิดถึง เวลาทีอยู่ใกล้ กนั
ไม่…
จะทําแบบนันไม่ได้
ความอดทนทังหมดคงพังทลายลง
เพราะฉะนัน ต้ องอดทน
ไม่มี
กระซิบบอกตัวเอง
“อีกเพียงนิดเดียว”
อีกแค่นิดเดียวเท่านัน…
จะไม่มีความรู้สกึ ของใคร…ทีเปลียนแปลงไป
…………………………………
……………………….
[Missing : complete]
[6.4.55]
300k views!
Diary
บันทึกประจําวัน
วันที 14 เมษายน
แม่ครับ วันนีผมไม่อยากตืนนอนเลย
กว่าจะนอนเมือคืน แม่ต้องไม่เชือผมแน่ๆ ตีสาม ใช่ ตีสามโดยทีงานยังไม่เสร็จ เป็ นสงกรานต์ทีผมรู้สกึ ว่าหนัก
ทีสุดในชีวิต ยิงได้ ยินเสียงเพลงดังกระหึมจากข้ างนอกแล้ ว ก็ยิงอยากออกไปเต้ นกับสาวๆทีตัวเปี ยกนําอยู่
ข้ างล่างนัน แต่ก็ทําไม่ได้ ครับ
ผมทิงมันไปไม่ได้ ในฐานะคนดีมากๆ
มันดู…หงุดหงิดแปลกๆ
ตืนไม่ทนั มือเช้ า จึงยืดชีวิตควบเช้ าเทียงไว้ ด้วยพิซซ่าถาดใหญ่ กินไปทํางานไป เลอะก็ป้ายเสือไอ้ ต้น แต่ไอ้ โก้ ที
นังอยู่ข้างหลังกลับกลายเป็ นแพะแทน นังดูเงียบๆตามวิสยั คนดี
ไอ้ หมอกลุกจากเก้ าอีเป็ นครังแรก หายไปเข้ าห้ องนํา เป็ นเวลาดีให้ ได้ จบั กลุม่ นินทา
“ไอ้ แฟง กูว่ามึงทํางานหนักเกินไปแล้ วว่ะ” ไอ้ โก้ รีบยืนหน้ าเข้ ามาในวง “ไอ้ ตีอาจจะโดนอ่วมเลยก็ได้ ทังเตะทัง
ต่อย ไอ้ หมอกแม่งโมโหร้ ายจะตาย” ทําท่าประกอบกันซะสมจริง ไอ้ สองคนทีเหลือพยักหน้ าหงึกๆ
ไม่ร้ ูอะไรซะแล้ ว เด็กน้ อยเอ๋ย
ขอบอลแถลงไข
“ไม่เบาหรอ?”
“กูได้ ยิน”
สะดุ้งกันเป็ นแถบ
สองทุ่ม
สองทุ่มครึง
“ไปไหนมา?!”
“ห..หือ?”
“กูถามว่าไปไหนมา?”
เสียงเบาลงกว่ารอบแรก แต่ดุกว่า
“ไปเล่นนํามา”
“ทําไมไม่บอกกู”
ตัวเปี ยกโชก นําหยดติงๆ หน้ าขาววอก เห็นรอยลิปสติกชัดทีแก้ มหลายรอย เดาว่าตุ๊ด ตุ๊ดจูบมาชัวร์ เพราะสาวๆ
สมัยนีถึงใจกล้ า แต่ก็ไม่ขนาดนี ไอ้ ตีมันยิงน่าหยิกอยู่ คงจะโดยลวนลามมาเยอะ
“บอกแล้ ว โพสอิทไง?”
“…”
มีลนพั
ิ นกัน พูดไปนึกไป
“ใครมาส่งมึง?”
“เดียวมึงคอยดูดิ”
มันเดินไปทีห้ องนอน
“ตามไปเสือกดิ มึงจะนังเฉยๆหรือไง”
“เบาๆแล้ วกัน”
ย่องกันไป ไอ้ ต้นขอแอบนอน ไอ้ โก้ เลยเป็ นคนเดินนําไป หูแนบห้ องนํา แหม ขอโทษนะครับ บางทีผ้ ชู ายก็ชอบ
เรืองของชาวบ้ านเหมือนกันนะครับ
“ไปเล่นกับใคร”
“ถามยังกับพ่อถามลูกสาว”
“ นีแค่เริมเถอะ”
“เพือ--น”
“เออๆ”
“อย่ากวนกู”
“อือ”
“เฮ้ ยๆ ทําอะไรวะ”
“Sexy time”
“ยกแขนขึนดิ”
“ไชโย---”
“นีรอยอะไร?”
ฟ้าผ่าดังครืน
“โอ้ ย!”
“พีหมอกอย่าถูแรงสิ ตีเจ็บแก้ ม”
แป่ ว
“อย่าทําแบบนีอีก”
“ทํา? ทําอะไรหรอ?”
“สํานักอะไรหว่า”
ก…ก…
กร๊ ากกกกกกกกก
“ล้ างไม่ออก”
“ลิปสติกกันนํา ฮ่าๆๆ”
“กูไม่ขํา”
“แต่ตีขํานิน่า”
“…..”
“ดูมงึ ทําตัว”
“….”
“ตีขอโทษ”
เสียงเงียบไปพักใหญ่
“ทําอะไรกันวะ?”
“กูก็ไม่เห็นเหมือนมึงนีแหละ”
“หรือมันจะออกมาแล้ ว?”
เอาหูแนบประตูกนั ใหม่
“กูบอกแล้ วว่าอย่าดิน”
“นําเย็น”
“โอเคยัง”
“กูว่าไอ้ หมอกมันพูดมากว่ะ”
“ถูตวั ดิ”
“ตีไม่อยากอาบนําอ่ะ”
“อะไรของมึงอีก”
“พีหมอกถูเบาๆดิ ตีเจ็บ”
เสียงนําดังซ่าๆ ปนไปกับจินตนาการ
“ตู้มมม”
“ไอ้ ตี!”
“กูยงั ต้ องทํางานอีก”
เสียงมันเบาลง
“หัวเราะแบบมึงไง”
“ไอ้ เวร”
“คนเยอะ กูไม่ชอบ”
“สนุกดีออก”
“ไม่”
“โอเค พีสัญญานะ”
โรคติดต่อ โรคติดต่อชัวร์ ๆ
“นีมันแค่เสียวหนึงเองทีมึงเห็น”
“มึงไปรู้มาจากไหนเยอะแยะวะไอ้ บอล”
“กูมีตาก็มองสิวะ”
“อูย”
“เออๆ”
คนทีปากหนักทีสุดในโลก พูดออกมาเหมือนรําคาญ
“พีหมอก…”
“เอาแล้ ว เรียกแบบนี”
“เอาไงดีวะ ฟั งต่อดีไหม?”
“เดียวๆ อีกนิด”
“หัวไหนของมึงคิดวะเนีย?”
“กูได้ ยินแต่เสียงนํา”
เสียงนําเงียบลงอีกครัง
เหมือนมีคนนังลงกับอะไรสักอย่าง
“แปรงฟั นดิ”
“อ้ า”
ตีทําอะไรวะ?
“….”
“อ้ า”
มันพูดซํา
พวกผมขมวดคิว
“แม่งทําไรวะ?”
“อย่าบอกนะเว้ ย ว่า…?”
“พรืดดดดดดด”
“นีมันเนิรส์เซอรรีนิหว่า ฮ่าๆๆๆๆ”
“อ้ าว พูดงีอยากมีเรืองหรอวะ”
“บ้ วนปาก”
“อือ”
เสียงนําตรงอ่างล้ างหน้ า
“ทาแป้งด้ วย”
“ทาเอง”
“ชู่ววว”
อีกครัง
“เมือกีเสียงโปะแป้งหรอวะ น่ากลัวศาสตร์ ”
ฟั งมาตังนานพึงถูกใจมึงพูดครังนีแหละไอ้ โก้
ได้ ยินเสียงผ้ า เลยรีบอพยพ กลับไปนังหน้ าแลปทอป ทําหน้ าเครียดใส่จออย่างไร้ เหตุผล เงยขึนมาสบตากันเป็ น
ระยะ จนประตูห้องนําเปิ ดออก
ไอ้ หมอกพันผ้ าขนหนูรอบเอวไว้ เปี ยกทังตัวอย่างทีคิดไว้ เป๊ ะ ไอ้ ตีอยู่บนหลังไอ้ หมอก ไม่ต้องให้ ใช้ มือดันตัวไว้
ไอ้ ตีก็เกาะแน่นยิงกว่าลูกลิงขีหลังแม่ หลับตาพิงอยู่แถวคอหมอก
“อาบนําหรอวะ?”
“เออ”
“โอยยย ไม่เอาไม่เอาเด็ดๆ”
เงียบกันไปพักใหญ่
เพือน
ยินดีด้วยวะ ทีหาความสุขของตัวเองเจอ
"หิวข้ า----ว"
…………………………………………
……………………………….
[Diary : complete]
[13.4.55]
เอามาส่งตาม Request !
B.N.15
บ้ านหลังใหญ่
รถขับเข้ ามาจอดถึงหน้ าตัวบ้ าน เพราะระยะห่างจากประตูรัว อาจทําให้ เสียเวลาเดินเข้ ามา
“…นีบ้ านใครอ่ะ?”
“เดียวก็ร้ ู ”
“อย่าให้ ผมเดานะ…”
“ทําไม”
“ก็ขมวดคิว”
ประตูถกู เปิ ดออกด้ านทีพีหมอกนัง “ไม่ต้องเปิ ดให้ ก็ได้ ครับ เดียวผมลงด้ านนีก็ได้ ” เหมือนพีคนขับรถจะยังงง แต่
ก็พยักหน้ า
“คุณหมอก?”
“กลับมาตังแต่เมือไหร่ ”
“วันอาทิตย์ทีผ่านมาคะ”
“แล้ วเขาอยู่ไหน?”
“ทางนีคะ”
เดินนําไป
ห้ องถูกเรี ยงอยู่ทางขวา ทางซ้ ายจะเป็ นกระจกบานใหญ่ ให้ ได้ เห็นบรรยากาศข้ างนอก ภูเขาทีเขียวชะอุ่ม มองเห็น
เขือนอยู่ไกลๆ แต่อยู่ดไู ด้ ไม่นาน เพราะแค่เป็ นทางเดินผ่านเท่านัน
บ้ านสวยแบบนี เห็นแล้ วก็อยากจะจัดปาร์ ตีบาร์ บีคิว เห็นหน้ าเฮียกําลังครํ าเคร่งปิ งหมู ก็อยากจะขําออกมา แต่ก็
คงไม่เหมาะ
นอกจากโต๊ ะทํางานทีตังอยู่ ยังมีชดุ โซฟาหน้ าทีวีจอใหญ่ ดูผ่านตาก็ร้ ูว่าพืนทีในห้ องส่วนใหญ่ ถูกใช้ แค่เพียงโต๊ ะ
ไม้ นนเท่
ั านัน
“เรียกมาทําไม?”
หันไปมองหน้ าพีหมอก
“….”
ช่วยทําเป็ นไม่เห็นผมต่อไปแบบนีก็ดี
ดูถกู
สองคํา ทีบรรยายทุกอย่างได้
คุณค่าทีตัดสินด้ วยเงิน
เทียบกันแล้ ว พีเมฆหรือฝนยังไม่เหมือนขนาดนี
“แกทิงงาน”
“……”
“แล้ วทําไม?”
“แกแยกงานออกจากเรืองส่วนตัวไม่ได้ หรือไง?”
“ผมทํางานเพราะเรืองส่วนตัว”
ทุกคนก็ล้วนทํางานเพือเรืองส่วนตัวทังนัน
“หมอก….แกกําลังทําบ้ าอะไร?”
ไม่แม้ แต่กดหน้ าลง ทังๆทีปกติ เวลาเผชิญกับพ่อแม่ เราจะกดหน้ าลงบางครัง ถ้ ารู้ สกึ เหมือนเถียงสู้ไม่ได้ หรือรู้สกึ
ผิด
ไม่ใช่บทสนทนาของครอบครัว
แต่เหมือนเป็ นบทสนทนาธุรกิจเสียมากกว่า
“ทําในสิงทีผมต้ องการ”
“แกไม่สนใจภาพพจน์ของบริษัทบ้ างหรือไง หรือแกคิดจะฉีกหน้ าฉัน?!”
“แล้ วผมทําสําเร็จหรือเปล่า?”
แฟ้มทีถืออยู่ถูกปามาทางนี พีหมอกไม่ได้ หลบ ชนเข้ าเต็มๆ แต่ก็ยังไม่ได้ ขยับไปไหน ทําเหมือนไม่ร้ ู สกึ ไม่สนใจ
“….กําลังยัวโมโหฉันอยู่ใช่ไหม?”
“แกลองกล้ าเดินออกไปสิ”
ฝี เท้ านันหยุด
แต่ไม่ใช่หยุดเพราะคําพูดนันแน่ๆ
“แล้ วสิงทีผมทํามันผิดตรงไหน?”
“……”
ก้ าวเท้ าต่อ
จนกระทังเสียงนัน ดึงความสนใจพีหมอกเอาไว้
“ฉันทําทุกอย่าง ทุกวันนีก็เพือครอบครัว เงินทีแกใช้ มา มันก็ของฉันหมด แต่แกกลับคิดจะตอบแทนฉันด้ วยการ
คิดจะพังบริษัทฉันหมด! อย่างนันน่ะหรอ?”
ขาชะงัก
“…..”
“อย่าคิดว่าฉันไม่ร้ ู ว่าแกไปฮ่องกงทําไม”
“ผมขอตัว”
“พี…เดียวๆ”
“อะไรอีก?!”
“ปล่อยมือหน่อยพี”
เดินตามกลับไปทีรถเงียบๆ
“…พี”
ได้ กลินทีคุ้นเคยจางๆ
ถึงแล้ ว ถึงสักที
“มันคือสิงทีพ่อพีหมอกพูดน่ะหรอ”
ไม่ต้องลังเล
เพราะคําตอบมีเพียงคําเดียวเท่านัน
“อยู่ส.ิ .”
……………………………………..
……………………………
หูชา
“ม๊ าก็ร้ ู ”
“แต่นนมั
ั นทีหลังเว้ ย”
บ้ านแทบแตก
ใหม่แกะกล่อง
“ไหนตีขอดูมือถือเฮียหน่อยดิ”
“ทําไม”
“เออน่า”
“เห็นว่าเข้ ามากรุงเทพ ส่งลูกชายเข้ ามาเรียน พอแต่งงานแล้ ว ก็ให้ เลียงหลานต่อ พอหลานโต ก็เข้ ามาเรียนที
กรุงเทพ ไม่เคยมีใครกลับไปสักคน”
“เฮียรู้ได้ ไง?”
“ม๊ า”
“หืม?”
“แต่ผมว่าไม่เห็นมันจะยุติธรรมตรงไหน”
“โซ่ยตี”
“ครับ”
“ถ้ าลูกๆทุกคน คิดได้ แบบอาโต้ ยตี โซ้ ยตี ก็คงจะดี แต่ถงึ อย่างนัน คนเป็ นพ่อแม่ก็โกรธลูกตัวเองไม่ลงหรอก”
บ้ านทีไม่ได้ กว้ างนัก ของใช้ บางอย่างเก่า บางอย่างซ่อมได้ ก็ซ่อม ซ่อมไม่ได้ ก็ยงั วางอยู่กบั ทีจนไร้ ระเบียบ
เพราะมีสิงทีเรียกว่าครอบครัวรออยู่
นึกไม่ออก
ถึงขัน…ล้ มบริษัทพ่อตัวเองอย่างนันเลยน่ะหรอ?
……………………………………………
……………………………….
“ผมขอโทษจริ งครับพี”
“โหย พีโต้ ง”
“อย่าบ่นๆ ทํางานไป”
“ผมขอโทษนะพี”
ทีโต๊ ะทํางาน มีงานกองอยู่ ผมหยุดไปหนึงวันโดยทีไม่ได้ มาแจ้ งด้ วยตัวเอง ลากเก้ าอีออก นังลง ข้ างๆ พีเชนเอน
ตัวมามอง
“อะไรพี”
“เปล่า”
“แล้ วมองอะไร?”
“หือ?”
“ไม่ร้ ูหรือไง”
“….”
“พีกัน?”
“อือ แผนกบุคลากรนันแหละ”
ประตูลฟิ ต์เปิ ดในชันทีผมกด เดินออกไป ผ่านหลายๆแผนก เห็นบางคน ส่วนมากผู้หญิ ง หันมามองหน้ าผม ต่อ
ให้ ทมขนาดไหน
ึ ก็เริมรู้ สกึ ตัว ว่าทีมองมา ไม่ใช่เพราะว่าผมหล่อถึงขันต้ องมองแล้ วตามด้ วยซุบซิบกับเพือน
ข้ างๆ
ห..เห?
เสียงลอยมาแว่วๆ “ก็คณ
ุ อัษฏานันไงล่ะ” ถึงได้ เข้ าใจ
“เดียวผมไปซือนํา มีใครเอาอะไรหรือเปล่า?”
เสียงแย่งกันพูดไม่หยุด จนจําแทบไม่ไหว
“ไม่เอา”
“อ่อ ครับ”
ไม่แม้ แต่จะยอมมองหน้ า
“กูไม่กิน”
“…”
“พูดอะไรของมึงวะไอ้ ปัน”
ดึงชามะนาวแก้ วนันมากินเองแทน
เพราะผมเชือว่าพีหมอกก็กําลังอดทนอยู่ ไม่ต่างจากผม
[B.N.15:complete]
[17.4.55]
เขียนและกํากับบทโดย : cn9095
ลูกชายเจ้ าของร้ านขายหนังสือ เป็ นเพียงผู้เดียวทีคิดเช่นนัน ทุกๆเช้ า เขาต้ องตืนนอนเพราะเสียงร้ องเพลงนัน ไม่
มีอะไรจะทํากันหรือไง หรือไม่ ถ้ าอยากร้ องเพลงนัก ป่ าหลังหมู่บ้านก็มีทีตังกว้ าง ทําไมไม่ร้ ูจกั หาทีแสดงออก
เสียงห่วยๆนันอย่างเป็ นระบบ
ในทีสุด…สิงทีเขารอ ก็มาถึง
เขาจึงกลับไปอีกครัง
เขาไม่สนใจ
อันทีจริงนันน่าจะเป็ นข้ อดี เพราะมันทําให้ เขาปราศจากซึงความกลัวใดๆ
เดินผ่านห้ องทีดูคล้ ายห้ องนังเล่นไป เคยเข้ าใจว่าเป็ นแค่ปราสาทเก่าๆทีถูกสร้ างทิงไว้ นานแล้ ว แต่เครืองเรือน
บางอย่าง ถึงแม้ สภาพจะทรุดโทรมแต่เป็ นของใช้ ทีเกิดในยุคนี เขาเดินผ่านมันไป
เป้าหมายคือสิงทีสันประสาทคนในหมู่บ้านอยู่
ฟุ่ บ
ชายหนุ่มหันหลังกลับไปมอง
ไม่มีอะไรอยู่ทีบันไดนัน
ขาเดินก้ าวข้ ามขันสุดท้ ายออกมา ยืนอยู่นิงๆ รอให้ ศตั รูเป็ นฝ่ ายออกมา
ฟุ่ บ ฟุ่ บ
สิงแรกทีเห็นคือดวงตากลมๆทีมองมา
กระพริบปริบๆสองสามที….
“เหวอออออ!!!!!”
………………………………..
…………………………..
“จะไปไหน”
นีมัน…
อะไรกันเนีย
“นีแกเป็ นตัวอะไร”
ดึงมือออกจากปาก เห็นเขียวเล็กๆในนัน
“ตอบมาสิ”
“ผม…อือ จะเรียกว่ายังไงดีน้า”
“ใช่อสูรหรือเปล่า”
ไม่เห็นความน่ากลัวในนันเลยสักนิด
ไหนล่ะ? ความน่ากลัวนัน
“มีแค่หาง…กับเขียว แค่นี?”
“….”
“กลับล่ะ”
“ไม่มีอะไรในน่าสนใจ”
“…จะมีไปทําไม”
“ก็…ก็…มันกระดิกได้ นะ!”
แล้ วก็กระดิกหางโชว์
“…..”
“เฮ้ !เดียว!คุณจะไปไหนน่ะ”
“บอกแล้ วไง..ว่าจะกลับ”
“….จะกลับแล้ วหรอ?”
“…..”
“ก็ออกไปข้ างนอก”
“….หรอ”
“เดียวสิ….”
เสียงนันเบาลงเรือยๆ
“ไม่ รําคาญ”
“ผ…ผมชือตีนะ แล้ วคุณล่ะ เฮ้ เดินช้ าๆหน่อยสิ”
“…..”
“ผม…ผมไม่ให้ คณ
ุ ออกหรอก”
ชายหนุ่มขมวดคิวมอง “หูโผล่น่ะ”
“ห้ ะ?”
“เฮ้ อย่าไปนะ”
เสียงทีเบาจนเหมือนครางหงิงๆในคอ
เขาไม่แม้ แต่จะสนใจ
เดินเหยียบผ่านกองใบไม้ ไป จนกระทังลับตา
…………………………………………….
……………………………..
“ไม่เห็นจะมีหเู ลย”
เสียงบ่นเบาๆ
นอนแทะแอปเปิ ลเล่นอยู่บนเตียง
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เอาไปสิ”
โยนแอปเปิ ลใส่ต้ ู กระแทกไม้ เสียงดังสันๆ อสูรใช้ เสียงนันแทนคําว่าขอบคุณ “ไม่เป็ นไร คุณเป็ นเพือนผมนิ” แอป
เปิ ลกลิงอยู่บนพืน ไม่นาน ก็หยุดนิง
มีเขียวแหลมก็ใช่ว่าดี
มีหางก็ใช่ว่าจะสนุก
มองออกไปนอกหน้ าต่าง
มีแต่ต้นไม้ ทียืนกิงก้ าน เหมือนมือผอมๆ เวลาลมพัด ใบไม้ ก็จะปลิวว่อนเป็ นพายุ เสียงดังหวืดๆ เลยต้ องร้ องเพลง
กลบ ไม่อยากให้ บรรยากาศวังเวงไปกว่านี
เสียงดังตุบ
ถึงยังไงก็ต้องหลบไว้ ก่อน
กลินของผู้บกุ รุกชัดขึน
นันมัน…
รีบวิงออกไป พอเห็นหน้ าผู้บกุ รุก หางก็กระดิกไม่หยุด
“เสียงดังทําไม”
“ข..ขอโทษ”
“ด..ดีใจ ดีใจจังเลย”
“อสูรกินแต่ผลไม้ น่าขําชะมัด”
“ก็..ว่างอยู่”
“อือ!”
“นําตาไหล”
“ผมแพ้ ขนไก่ต่างหาก”
“หึ”
รอยยิมในมนุษย์นนน่
ั าฉงน
อสูรน้ อยรู้ สกึ เหมือนโดนเวทย์มนต์ในรอยยิมน้ อยๆนัน สะกดไว้
…………………………………..
…………………………
“โอ๊ ย!”
ฟุ่ บ
เขาวิงตามรอยเท้ า เห็นได้ ชัดจากพุ่มไม้ ทีถูกเหยียบ ตะโกนเรี ยกนายพรานคนอืนๆให้ ตามเขาไป
เขาคนนันฉลาด ถ้ าอยู่ด้วยคงจะคิดหาวิธีได้
สะดุด
“ชู่ว”
“ขนกันมาทังหมู่บ้าน”
“..ทําไม ไม่เห็นเคยรู้มาก่อน”
“ผ..ผมทําอะไรผิดงันหรอ?”
“….”
“ไม่ต้องกลับไป….”
“แต่ว่า..ม๊ า เฮีย”
“เขาไม่กลับมาแล้ ว”
“…..”
“ตามมา”
“ห้ ะ?”
“ในเมือกลับไม่ได้ ก็ไม่ต้องกลับ”
“แล้ วผมจะไปอยู่ทีไหน?”
“…อยู่ด้วยกัน”
พูดแค่นนั
………………………………..
………………………..
“เอ้ า ลุง ลูกชายลุง คนกลางหายไปไหนแล้ วล่ะ?”
“คงโดนอสูรทีปราสาทนันกินไปแล้ วมัง”
ถึงจะพูดเรืองทีควรหดหู่ แต่เขากลับดูมีท่าทีเฉยชา
วางหนังสือลงกับโต๊ ะ
คงอยู่ทีไหนสักทีสินะ….
“ลุงๆ”
“หือ?”
“เอาสิๆ”
“อะแฮ่ม…”
ทําเสียงแบบนัน เด็กๆก็หวั เราะคิกคัก
“กาลครังหนึง…….”
…………………………………………………….
…………………………………………..
B.N.16
อีกหนึงวันทํางาน ทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ใส่หฟู ั ง เปิ ดเพลง หยิบการ์ ตนู ออกมาอ่าน เขย่งมองบ้ างถ้ าเห็นคนข้ างๆขยับตัว
พอพูดแบบนี ป้าข้ างๆก็หนั มามอง ทําเป็ นมองไม่เห็น ก้ มมองการ์ ตนู ต่อ วันนีต้ องรีบแวะไปคืน ไม่งนจะโดนปรั
ั บ
เพิมอีก
รีบกระโดดขึนเบาะหลังรถ รถไอ้ กล้ วยคันใหม่ ไอ้ คนั นี มันเล่นอวดไปทัว โธ่เอ้ ย ผ่อนหมดแล้ วค่อยมาพูดเหอะว่ะ
“มาทําไรแถวนีวะ?”
“มารับมึงไงไอ้ ตี โง่ป่ะเนีย?”
“อ้ าว ด่ากูเฉย”
คุยสักพักก็พงเห็
ึ นผู้หญิ งทีเบาะข้ างคนขับ เลยขยับตัวไปนังหลังเบาะไอ้ กล้ วย กระซิบถาม
“ใครวะ?”
“แม่ก”ู
“ห้ ะ?”
ขอกูอ้วกด่วน
“พอๆกับทีพ่อมึงบอกกูเลยว่ะกล้ วย”
“เดียวก็ร้ ู ”
เกลียดประโยคแบบนีชะมัด
“เออๆ”
เห็นพีโก้ พีเต๋า ไอ้ โจ๋ ไอ้ เคิล พีแฟง พีปิ ง พีต้ น ไอ้ ปิก น้ องฝน หลานรหัสผม แล้ วก็เหลนรหัสผู้ชายทีหน้ าบอกบุญ
ไม่รับ รวมๆน่าจะประมาณยีสิบคน เรียกว่าเกือบครบทีม เว้ นก็แต่พีบอลทีไม่อยู่ ทีบอกว่าคงจะไปนาน ท่าจะจริง
“วู้วว”
“เลียงอะไรกันวะ วันนีวันอะไร?”
“แล้ วมันวันอะไรล่ะพี?”
“วันเกิดผม?”
“เออ!”
ดูเหมือนจะลืมไปจริงๆ
ทีขําคือ พอเหมาทังร้ าน เวทีก็ว่าง เสร็จพวกขีเมาสิครับ ไปยืนเกาหูกนั เป็ นแทบ ไอ้ พวกแอ็บเมา ก็ไปยืนเป็ นหาง
เครือง เต้ นท่าวิวฒ
ั นาการหนอนผีเสือกันเป็ นแถว
พอยืนแก้ วไปขอ ก็บอก “ไม่ได้ ๆ อย่างมึงไปกินนมไป๊ ” ดูดิ คนเรา คําว่าเพือน สะกดกันเป็ นหรือเปล่า
ยิงดึก ยิงเห็นมนุษย์กลายพันธุ์
เหล้ าไม่มาถึงผมจริงๆ
“แล้ วแฟนพีไม่มาหรอ?”
“ไม่อยากพามาว่ะ มาเห็นสภาพหมาๆแบบนี คงไม่ดีมัง”
“แต่ถ้าแต่งกันไปแล้ วพีจะทําไงวะ?”
“กูก็จะเลิกเมาไง”
“ยากส์เหอะพี”
“บางครังก็ต้องทําว่ะ เพือคนสําคัญ”
พูดถึงแล้ วก็พงคิ
ึ ดได้ ไม่ได้ เจอเกือบสัปดาห์ ไม่ร้ ูจะเป็ นยังไงบ้ าง
“หา?หือ?”
“ขอบใจนะเว้ ย”
“ไม่เป็ นไร เพือนกัน”
เลยเพิมออปชันให้ ดึงให้ มนั กลับมานังบนเก้ าอี ส่งนําเปล่าให้ มนั กิน หน้ ามันแดงหน่อยๆ
“มึงก็โทรไปตามสิ กูละกลัวหัวหด”
ไฟในร้ านดับลง
พีแฟงเห็นแล้ วทนไม่ได้ ตะโกนด่า “ทําไมมึงไม่จุดเทียนมาจากข้ างนอกเลยวะ มาจุดข้ างไหนให้ ไอ้ เจ้ าของวันเกิด
มันเห็นได้ ไงเนีย?”
“ข้ างนอกลมแรง มึงจุดได้ รึไง?”
เพลงทีโหลทีสุดในโลกดังขึน
คนถือกล่องเค้ กเดินมา ไม่เดินช้ าๆตามเพลง แต่เดินก้ าวเท้ าเร็วๆตามนิสยั “เอียงหัวหน่อย” ให้ ผมหลบ แล้ วก็วาง
เค้ กลงตรงหน้ า
“อย่าพึงดิ อธิษฐานอยู่”
“ศาสนาพุทธสอนไว้ อย่าจองเวร”
“พี-!! อือ!!!”
เต็มๆ
“กูยิมมันต่างกับไม่ยิมยังไงวะ”
ขํากันใหญ่
“ผมนึกว่าพีจะไม่มาแล้ วซะอีก”
“ก็ไม่ได้ อยากมา”
“….”
“แค่กกู บั มึงก็พอ จะมีตวั แถมทําไม”
บ่นกระปอดกระแปดเบาๆ
เดินมาทีห้ องนํา พีหมอกเปิ ดก๊ อกให้ แล้ วยืนพิงอยู่ข้างๆ ล้ างหน้ าแต่เปี ยกไปทังหัวทังเสือ
“พีดูดิ เซนต์เซย่า”
ถูกขยีหัวจนกลับมาลีบเหมือนเดิม
“พีน่าจะไปเป็ นนายแบบนะ”
“….”
“พี”
“เดียว”
รสของเค้ ก รสอ่อน
ผมยักคิวตอบ
เลียสิงทีอยู่ในปากช้ าๆ
สองลินพันเข้ าหากัน
จูบทีทําให้ ร้ ู ว่าทนนานกว่านีคงไม่ไหว
“…ผมอยากกลับแล้ ว”
“กูเหมือนกัน”
“เซอร์ ไพรส์ไหม?”
“ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ”
“…”
“อืม”
“ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ …”
“….”
“คงเพราะ….” ยืนหน้ าเข้ ามาใกล้ แล้ วซุกอยู่ทีซอกคอผมแทน ริมฝี ปากชิดกับหู จูบเบาๆ แล้ วกระซิบ “ชอบมาก”
เสียงกระซิบทีเหมือนพูดไปงันๆ ไม่มีอะไรสําคัญ
เอาหน้ าผากโขกกับไหล่ตรงหน้ า
เห็นหูทีขึนสีกลายเป็ นสีแดงอยู่ทีปลายสายตา
“โคตรชอบเลยว่ะพี”
……………………………………..
…………………………..
“มาเลยพี ผมไม่กลัวแล้ ว”
หน้ าพีหมอกบึงสนิท
ไม่ชอบหรอกหรอ?
“เอ…แล้ วปกติเขาพูดยังไงกันอ่ะ”
“ไม่พดู แต่ถอดเสือออก”
กลับมาทีบ้ านพีหมอก
“ด..เดียว ถอดรองเท้ า”
พูดแค่นนั รองเท้ าพีหมอกสองข้ างก็ถกู เหวียงออกจากเท้ า ท..ทําไมมันหลุดออกไปง่ายดังใจสังขนาดนัน?
ผมพยายามจะใช้ เท้ าถอดเหมือนกัน แต่เพราะเป็ นรองเท้ าผ้ าใบ มัดเชือกไว้ แน่น จึงดึงไม่ออก
“ผมถอดไม่ออกอ่ะ พีออกไปก่อนแป็ ป”
พีหมอกถอยออก
“พี?”
ถอยขาหนี ก็ถกู ดึงไว้ พีหมอกดึงเชือกรองเท้ าทีมัดเป็ นโบว์ออก ถอดมันออกช้ าๆ ทังสองข้ าง แล้ วเก็บเข้ าตู้
รองเท้ า
ถุงเท้ า ไม่ใช่ดงึ จากตรงปลาย แต่เป็ นดึงจากตรงยางยืดออกมา จับทีข้ อเท้ าของผมไว้ เก็บไว้ กบั รองเท้ า
“……”
“อะไร”
“ผม…ผมไม่คิดว่าพีจะทํา”
“ทําไม”
“ผม..ผมงง”
“งง?”
“เฮ้ ย งงตัวเอง ผมจะพูดอะไร งงไปหมดแล้ ว”
“หึ”
ประตูปิดลง
เดินตรงดิงไปทีห้ อง
ดูเหมือนจะต่างไปจากเดิมหน่อย
แฟ้มเป็ นตังๆ เรียงเต็มห้ อง จุดศูนย์กลางคือโต๊ ะเขียนหนังสือ บนโต๊ ะยังมีโน๊ ตบุ๊คทีไฟยังติดอยู่ แต่หน้ าจอมืด
สนิท
“อาบนําก่อนไหม?”
“ไม่ ไม่ไหว”
“ผมเหนียวเค้ กอ่ะ”
“…..”
“ห้ านาที”
“สาม”
“180”
“ห้ ะ?”
“179”
อาบนํา ต้ องสะอาดขนาดไหน?
เปิ ดฝั กบัว ก็เปิ ดแรงไป นําไหลกระแทกหน้ าเสียจนแสบไปหมด มีสบู่ก้อน สบู่นํา ก็เลือกใช้ สบู่ก้อน บีบไว้ ในมือ
บีบแรงไปก็พ่งุ ออกจากมือ ลอยขึนฟ้า แล้ วหล่นแรงจนสบู่เปลียนรู ป ไล่จบั สบู่ทีดินเป็ นปลาไหล ได้ ยินเสียงดังมา
จากข้ างนอก
“109”
“ขอ..ขอต่อเวลา!”
“ไม่อนุญาต!”
ทําไมไม่แค่ล้างหน้ าวะ?
“42”
“แป็ ปๆ จะเสร็จแล้ ว”
ค่ายทหาร นีคือค่ายทหารชัดๆ
ถึงว่า บอกอย่าเก็บสบู่ เพราะมันจะทําให้ อาบนําไม่ทนั ล่ะสิ เห็นกับตาชัดๆก็วนั นีเลย
“5”
“เช็ดตัวก่อน”
“เออ ผมลืม”
ผ้ าเช็ดตัวทีห่มผมได้ ทงตั
ั ว
“…ลามกว่ะ ฮ่าๆ”
“มานีดิ”
“พรากผู้เยาว์ ”
“พีสูงขึนหรือเปล่า?”
“มึงเตียลง”
“พืนเอียงแหง?”
บรรยากาศทีดูซอฟต์ ลง
มีกลินเหงืออ่อนๆ
“หือ? อะไรอ่ะ”
“เดียวก็ร้ ู ”
“งันเดียวค่อยบอกดิ บอกตอนนีก็อยากรู้อ่ะ”
“ไม่ใช่แก้ วแตก”
“เลิกแซวซักทีเหอะน่า”
ทําไมเรืองแบบนีถึงจําได้ แม่นเชียว
“ตี”
“หือ”
“…..”
“มีอะไรหรอ”
“…สุ-“
“หือ?”
“พูดไม่เห็นเท่เลย”
ตวัดตากลับมามอง ขมวดคิว
คงมีแต่สาวๆสมาคมมุกเสียวเท่านัน ทีชอบเหมือนกัน
“……”
อ้ าว เวรแล้ วครับ
มีสมาคมมุกเสียวอยู่ตรงนีคนนึง
แล้ วพูดเบาๆ
“อยากได้ ยิน...แบบนันหรอ?”
“หือ แบบไหน?”
“ก็แบบทีมึงพูด”
“….พีจะพูด?”
“กูไม่พดู หรอก”
ลองแหย่เล่นๆ
“…..”
แล้ วก็ขมวดคิวจนหัวคิวแทบติดกัน
“…..”
เอาจริงหรอ?
“มีความสุขมากๆนะ…”
เพราะรอลุ้นกับคําสุดท้ ายอยู่
“หมดแล้ วหรอ”
“อืม”
“…..สันจัง เหมือนหายไปอันนึงอ่ะ”
“หมดแล้ ว”
เดาว่าจะใช้ มกุ เดิม เลยรีบดึงมือหนี ผ้ าขนหนูหลุดออกไปสักพัก ไม่ได้ สงั เกต เลยใช้ ดึงผ้ าขนหนูทีกองอยู่ทีพืน
ขึนมา กอดไว้ แทน
“เอามือมา”
“กูจบั ให้ ”
“คันพุง”
บางทีอาจจะต้ องถึงเวลาเลิกเล่นแล้ ว
“….”
ข้ างนอกอาจจะหนาวกว่าหน่อย ห้ องนอนพีหมอกไม่เคยปราณีใคร
“…เดียว”
“หือ?”
“……รัก”
“พอแล้ วใช่ไหม?”
“อือ”
“ครับ”
เวลากําลังนับถอยหลัง
...
..
.
……………………………………
………………………….
[B.N.16 : complete]
[25.4.55]
weird
มีอะไรแหม่งๆ
เหมือนมีสายตา..จ้ องอยู่
ค่อยๆมองไปทางขวา
บ๊ ะ
เจอเข้ าให้
“พีมองไรอ่ะ”
“เปล่า”
“อือ”
มาทีนีทําไมยังไม่ร้ ูเหตุผล
“เฮ้ ย”
“หือ?”
“มึงจะไปไหน?”
“ไปทางนี”
“ทางนู้นก็มีขายหรอ?”
“เปล่า”
“พีไม่สบายหรอ?”
“ทําไมกูต้องไม่สบายด้ วย”
“เอ้ า ก็แยกกันแค่นีเอง”
“ไม่”
“งันไปกับผม”
“ไม่ กูจะไปทางนัน”
“…..”
“มองหน้ าทําไม”
“กูจะมองมึงทําไม?”
“เมือกีก็มอง ก็เห็นๆอยู่”
“ไม่ใช่กู มึงคงมองผิด”
“…กูไม่ได้ มองมึง”
“กูจะกินช็อคโกแลต”
“ทีพีถืออยู่ก็มี”
“มันไม่เท่ากัน”
“ตรงไหน”
ยืนหน้ าเข้ าไปมองใกล้ ๆ อีกฝ่ ายก็ถอยเท้ ากลับไปก้ าวหนึง เพราะไม่เคยเห็นทําแบบนี เลยตกใจพร้ อมๆกัน
“พีถอยทําไม”
“….”
“?”
ถูกคว้ าข้ อมือไว้ แล้ วดึงเข้ าหาตัว แขนถูกกระตุกเข้ าไปแบบนัน เลยต้ องเดินเท้ าเข้ าไปใกล้ อีกก้ าวหนึง พอ
ระยะทางลดลง จึงก้ มหน้ ามองเท้ าแทน รองเท้ าหนังสีนําตาล แฟชัน ถึงจะพูดแบบนัน แต่รองเท้ าแบบนีกับเลข
ห้ าหลักก็ยงั รู้สกึ ว่าแพงเกินไป
“…แปลก”
“….”
“กูร้ ูสกึ แปลกๆ”
“แปลกยังไง”
“..ตอบไม่ได้ ”
ข้ อมือถูกจับแน่นขึนอีกหน่อย
แปลก
ทังๆทีพีหมอกเองก็ไม่ใช่คนแบบนี ไม่ใช่คนทีจะลังเลกับความคิดของตัวเอง
“ทีจับข้ อมือมึงตอนนีอยู่”
“….”
“หรือเรืองทีมึงอยู่กบั กูก็เหมือนกัน…มันแปลก”
“ทีว่าแปลก..นีเป็ นแบบไหนหรอ?”
“กูไม่ร้ ู ”
“ลองพูดมาดูสิ เพือผมจะรู้ ”
ขมวดคิวอีกแล้ ว
“กูหงุดหงิด แต่หาเหตุผลไม่ได้ ”
ดึงแขนออกจากมือนันช้ าๆ พีหมอกก็ยอมปล่อย ใช้ นิวโป้งสองข้ าง กดลงบนคิวทีมุ่นเข้ าหากัน
“คําตอบคืออะไร?”
“แปลก”
“เออ ผมก็ว่างัน ช่างมันเหอะพี คิดมากไป ก็คงหาคําตอบไม่ได้ เหมือนกัน เดียวนานๆเข้ า ก็คงจะชิน แล้ วหาย
แปลกไปเองล่ะมัง”
“…อีกนานไหม?”
“หือ?”
“อีกนานไหมกว่าจะชิน”
เห? ฟั งดูแปลกๆ
แต่ก็เอาเหอะ ผมก็แปลก พีหมอกก็แปลก จะอยู่กนั แบบแปลกๆก็คงไม่เป็ นไรล่ะเนอะ
……………………………
………………….
[Weird : complete]
[5.5.55]
รับน้ องสะบักสะบอม
เหลืออีกสองวัน
BN.17
แสงไฟสลัว
เสียงลมหายใจ ปนไปกับเสียงทีคล้ ายกับเสียงกลอง เร็ว แต่ไม่เป็ นจังหวะ ดัง ตึก ตึก ตึก จนไม่แน่ใจว่าเป็ นเสียง
หัวใจของคนแค่คนเดียว
ถูกสัมผัสอย่างแผ่วเบา เหมือนวางมือลงบนโครงกระดาษ
บรรยากาศแบบนี..
ผมไม่ชอบสักนิด
บรรยากาศทีไม่อาจจะพูดอะไรออกไปได้
หัวคิวทีขมวดเข้ าหากัน เส้ นด้ ายของความรู้ สกึ ทียุ่งเหยิง ถูกพันไว้ ด้วยอดีต ความคิดมากมายทียังคงเงียบอยู่
ดวงตาคู่ทีฟ้องความรู้สกึ ออกมาหมด
ผมพยายามทีจะยิม
ไม่แน่ใจว่าหัวใจจะยิมตามหรือเปล่า
นังลงกับเตียง
ทีๆร่างกายบอกว่าต้ องการกันและกัน
เวลา เลือนไป
มือทียกขึนประครองแก้ มผมไว้ เบาๆ รับนําหนักทีผมเอนหน้ าเข้ าหาไว้ ผมกุมมือนันไว้ อีกที นิวสอดเข้ าหากัน
ถูกกล่อม
จูบกันหลายต่อหลายครัง ในเวลาทีคําว่า”พอ”ถูกลืมไปชัวขณะ
ร่างกายพีหมอกทีกําลังจะก้ าวข้ ามวัยรุ่น กล้ ามเนือทีจับก็ร้ ูสกึ ได้ ถึงความแข็งแรง โครงร่ างกาย ทีดูสงู ขึนกว่าเดิม
รวมถึงแก้ มทีเหมือนเด็กๆนันด้ วย ผอมลง แม้ จะชอบแบบก่อนมากกว่า แต่ทีเป็ นอยู่ตอนนี กลับยิงทําให้ พีหมอก
ดูมีสเน่ห์มากขึน
ผ่านไปตังสามปี …
เวลาสามปี จะพูดว่าสัน ก็คงจะเป็ นเช่นนัน แต่ถ้าหากต้ องรอคอยสิงสําคัญอะไรบางอย่างแล้ ว ผมว่า มันช่าง
ยาวนานจนดูเหมือนกินเวลาส่วนใหญ่ของชีวิตไป
พีหมอกก็คงไม่ต่างกัน
ละมือจากผม ดึงเสือตัวเองออกทางศีรษะ
จูบอีกครัง
แค่จบู …
ไม่ถกู สัมผัสแบบนีมานาน
พอถูกเลีย ก็เผลอจินตนาการไปถึงไอศกรี ม
ตัวผมทีเริมละลาย ถูกเลียอย่างช้ าๆ
ลมหายใจถีหอบ
“…ตี”
เสียงกระซิบติดหู
เหมือนถูกเล่นงานถึงส่วนสังการ สมองตือไปชัวขณะ
รู้สกึ เมือยได้ ไม่นาน ความรู้ สกึ อืนก็แทรกเข้ ามา มองข้ ามไหล่ไป เห็นขวดเจลทีไม่ร้ ูว่าถูกหยิบออกมาเมือไหร่ เปิ ด
ฝาวางไว้ อยู่ในรอยย่นของผ้ าปูเตียง
“..ขอโทษ..”
“..ขอโทษเรืองอะไร”
“จะไปมีได้ ยังไงล่ะ”
ยิมบางๆตอบเท่าทีจะทําได้
“รู้อยู่แล้ วน่า”
“มึงไม่ดีใจหรือไง? ทําไมพูดเหมือนไม่สนใจ”
อยากจูบอีก ละออกมาก็คิดแบบนี
“…ได้ รึยัง?”
“อืม”
“ไม่เจ็บ?”
“ไม่ร้ ู ต้ องลองก่อน”
“…อึก!”
เจ็บ
ไล่ขนมาจากแนวหลั
ึ ง เหมือนข้ อต่อแตกออก เจ็บ ร่างกายต่อต้ าน ไม่ค้ นุ ชิน
น่าแปลก
ร่างกายจดจําพีหมอกได้
เสียงค่อยๆหลุดออกมาจากลําคอ
เหมือนฟองสบู่ทีลอยขึนจากผิวนํา บังคับไม่ได้
พีหมอกเริมขยับตัว
แรงทีดันขึนมา นําหนักตัวผมทีกดลงไป
เสียงเนือทีแสนหยาบโลน วิงแตะทีใบหู ความอายถูกลืมทิงไป ขยับตัวเข้ าหากันเหมือนเป็ นสิงเดียวทีร่างกาย
สามารถทําได้ ในเวลานี
จากต้ นคอ เลือนมาทีแผ่นอกพีหมอก สัมผัสได้ ถงึ กล้ ามเนือหน้ าท้ อง เรียงตัวสวยจนน่าอิจฉา ไล่กลับไปทีต้ นแขน
ตรงนีก็มีกล้ ามเนืออีก ทําได้ ยงั ไงกันนะ
“..ไม่ใช่..”
“..ไม่ใช่ฝัน..”
สันเครือ
แผ่วเบา
“ไม่ใช่ฝัน…ใช่ไหม?”
หยุดนิง
การเคลือนไหวทังหมด ถูกหยุดไว้
รู้สกึ ถึงความชืนทีอยู่ติดกับผิวหนัง มือถูกบีบ ปลายนิวนันสัน
“พีหมอก…”
ไม่ยอมเงยหน้ าขึนมามอง
“ไม่ใช่ฝันสิ..” รู้สกึ หายใจไม่ออก ทีตา ร้ อนไปหมด “ต่อให้ ฝันเก่งขนาดไหน ก็ฝันให้ หล่อเท่าผมตัวจริงไม่ได้ หรอก
..”
“..หึ”
วางมือลงกับผมพีหมอกช้ าๆ ลูบช้ าๆ
จะอ่อนแอก็ได้
เพราะผมก็อยากทีจะปกป้องพีเหมือนกัน
“อย่าบอกนะ..ว่าพีฝั นถึงผมทุกคืน”
“…มึงมันเหมือนหนังผี”
“ห๊ ะ?”
“เห็นครังนึง ก็ติดตาไปตลอด แม้ แต่ฝัน ก็ยงั ตามไป”
ไม่ร้ ูจะตอบคําพูดแบบไหนดี
“พีไม่ได้ กลัวผีนิ”
“กูเปรียบเทียบ”
“ตรงนีด้ วย”
“เหวอ!”
หยดนําหล่นมาจากข้ างบน
ได้ ยินเสียงครางตําๆจากพีหมอก
ดี ดีเป็ นบ้ า
ตัวสัน แรงเฮือกสุดท้ ายถูกสูบออกไป มองหน้ าท้ องทีเปี ยกชืนของตัวเอง ของเหลวทีไม่ไหลไปไหน สีข่นุ ราวกับ
นํานม
ไม่ไหว ไม่ไหวแล้ ว
พีหมอกขมวดคิว ดึงมือผมขึนไป กดริ มฝี ปากลงข้ อนิวชี ก่อนจะฝั งรอยฟั นลงไปช้ าๆ เร่ งจังหวะกระแทกเข้ ามาอีก
สองสามที ก็หยุดลง
ถอนตัวออกช้ าๆ
เหนือยและอิมเกินกว่าจะทําติดกันสองรอบ โดยทีไม่หยุดพัก
อยากจะจูบกลับ
ผมหลับตาลง
อะไรกันนะ เรืองทีจะบอก
“..คิ..ถึง…”
รู้น่าว่าพูดอะไร ไม่ต้องพ่นลมหายใจหงุดหงิดแบบนันก็ได้
ผมก็คิดถึงพีมากเหมือนกัน
…………………………………
…………………………….
[B.N.17 : complete]
[16.6.55]
ฮัลโหล
Exam
เผลอเตะเท้ าไปโดนเก้ าอีทีเขานังอยู่ ยังไม่ขยับ นังกลันหายใจมองไปทางอืนอยู่สกั พัก เขาก็ยังไม่ร้ ูสกึ ตัว เลยลอง
เตะดูอีกรอบ
“ขอโทษค่ะ”
หลุดพูดออกไป
เสียงเมสเสจ
หมอกรีบคว้ ามือถือทีวางอยู่บนโต๊ ะเล็กๆ เหมือนเขารอมันอยู่ตงแต่
ั ว่าง แม้ เห็นแค่หลัง แต่ก็ร้ ู สกึ ได้ ถงึ ความมี
ชีวิตชีวาในตัวเขาทีไม่เคยเห็นมาก่อน หมอกถือมือถือไว้ แบบนัน ข้ อความสันๆ มีแค่ประโยคเดียว ถ้ ามองไม่ผิด
รู้สกึ แย่ทียุ่งเรืองของชาวบ้ าน แต่เพราะยังมีความสนใจอยู่มาก เลยเพิกเฉยจริยธรรมไป
เห็นมุมปากนันยกขึน
เวลาสันๆ เพียงแค่ชววิ
ั นาทีจนคล้ ายกับว่าแค่ตาฝาดไป
ยิม
ดูท่าจะต้ องขําออกมาเสียงดัง
……………………………………….
…………………………..
สอบมิดเทอมผ่านไปแล้ ว
ทีเหลือ คงมีแต่ความพินาศทีรออยู่ข้างหน้ า
“ไงบ้ างวะ”
“เกือบตายสิวะถามได้ ”
พยักหน้ ากันหงึกหงัก
“จะไปไหนต่อวะ”
ตีพยักหน้ า ไม่ได้ พดู ต่อ เดินเข้ าไปใกล้ ได้ กลินเหงือจางๆ คงเพราะไม่ได้ อาบนําพอๆกัน
“กลับบ้ านเหมือนกันวะ”
“กลับไง”
“ต้ องรอว่ะ พีกูยังสอบไม่เสร็จ”
“กูก็ไม่เป็ นไร”
“มึงก็โทรบอกพีมึงไป ว่าเดียวมีคนไปส่ง”
“ก็กบู อกว่าพีกูสอบอยู่ไง”
“พีมึงไม่ว่าอะไรหรอก ไปเหอะ”
“…พีมึงนีสุดยอดเลยว่ะ เรียนคณะอะไรอ่ะ”
“วิศวะ ปี สามแล้ ว”
บ้ าน่า
คนแบบนัน อยู่บ้านหลังเดียวกับตีอ่ะนะ?
นีอาจเป็ นเรืองตลกก็ได้
วิงผ่านรถบีเอ็มคันหนึงทีสวยจนต้ องมองตาม
“…นันใคร”
“ห้ ะ?” มองหน้ าจอมือถือ ก็เขียนว่า’ตี’ชัด “กูไง”
ไม่ใช่เสียงตี
“มึงเป็ นใคร”
“ตีอยู่กบั กู”
สายถูกตัดไปแล้ ว
รีบกดโทรหาเพือนมันคนอืน ยังอยู่ในสภาวะงงงวย
“เฮ้ ย ไอ้ โจ๋” เล่าเรืองคร่าวๆให้ มนั ฟั ง “ใครไม่ร้ ูแม่งรับสายว่ะ ตอนนีกูหาไอ้ ตีไม่เจอ ไม่ร้ ู มนั ขึนห้ องไปหรือยัง โทร
ตอนนีก็ไม่ติด ปิ ดเครืองไปแล้ ว”
ยังอยู่กบั ความงงงวย
พ่อหรอ?
หันหน้ ากลับไปมอง นักศึกษาสถาบันเดียวกัน ดูจากหัวเข็มขัด หน้ าตาดูค้ นุ ๆ แต่นึกไม่ออก เดินมาหา ตัวสูง หุ่น
ดูมีกล้ ามเนือ สิงทีโดดเด่นสุดคงเป็ นดวงตา ดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถกู ถึงจะบอกว่าเป็ นพี แต่คิดว่าอาจเป็ นแค่
ญาติห่างๆ ห่างมากๆ ไม่มีกลินอายทีเหมือนกันสักนิด
หมอก
คนนีคือหมอก?
“เพือนตีหรอ?”
“ครับ”
“ซือยาแก้ อ้วกมาหรือเปล่า”
“อ่อ..ฮะ”
เขาหยิบกระเป๋ าตังค์ขนมา
ึ คว้ าแบงค์ สมี ่วงออกมา คว้ าถุงยาออกไปจากมือ ไม่สนใจอะไร แล้ วยัดแบงค์ห้าร้ อย
นันมาแทน
“เดียว ทังถุงนีแค่-“
หันหลังกลับไปแล้ ว เดินตามไป ทังถุงนียังไม่ถงึ ร้ อยนึงด้ วยซํา
เดินเร็วมากจนต้ องรีบสาวเท้ าตามไป เข้ าไปในส่วนทีต้ องใช้ คีย์การ์ ด ประตูปิดลงก่อนทีจะคว้ าไว้ ได้ ทนั
……………………
…………….
อย่ายุ่งกับตี ถ้ าไม่อยากมีเรือง
………….
………………………..
[Exam:complete]
[19.8.55]
ชีแจ้ ง
cn9095 ดองจริง ยอมรับผิด ไม่ดิน ไม่อะไรทังสิน
แต่ก็ไม่ได้ ทิงไปไหนนะ ไม่ร้ ูจะทํายังไง เลยเขียนพิเศษสันๆมาให้ อ่านคันเวลาไปก่อน เป็ นตอนทีดูไม่ค่อยมีอะไร
แถมอยู่ภาค Coinด้ วย
โทษทีค้าบ
B.N. 18
“..โต้ ง…ใคร?”
“หัวหน้ าผมเอง”
“…วันนีก็ต้องไปทํางาน?”
“อืม นิดหน่อย”
“ตืนตังแต่กีโมง”
“ตีสามกว่าๆ”
อดหลับอดนอนเป็ นเรืองธรรมดา ตอนนีได้ นอนมากกว่าตอนเรี ยนด้ วยซํา ไอ้ พวกผมเหมือนจบคอร์ สแพนด้ าค้ าง
คืน แค่นี เด็กๆ
“ไม่ง่วงหรอ”
“ขีเกียจจัง”
“....ลาออกสิ”
“หา?”
“เลียงเด็กอย่างมึง แค่นีไม่ใช่เรืองลําบาก”
“แต่ผมไม่ได้ ทําเพือเลียงตัวผมคนเดียวหรอกนะ”
“พูดแบบนีอีกแล้ ว”
“เรืองจริ ง”
“ไม่ไหวก็บอก”
“อือ”
“มีอะไรต้ องบอกกูก่อนคนแรก”
“ไม่ได้ ”
“ใจแคบจัง”
“ลาออกซะ”
“ห้ ะ?”
“เดียวมึงจะสนใจงานจนลืมกู”
“ขําไร”
“เอาแขนออก”
“ไอ่อ่ะ เอียวอีโอด”
ผมส่ายหน้ า
เช้ านีไม่น่าลุกไปทํางานเลยจริ งๆ
…………………………………………………..
…………………………………….
พีหมอกอาบนําก่อน พอผมอาบนําเสร็ จ ออกมาก็ไม่เห็นอยู่ในห้ องซะแล้ ว
“คุณอธิฐาน…”
“ครับ!”
เธออ้ าปาก กําลังจะพูด แต่ก็ถกู พีหมอกยกแฟ้มทีอยู่ในมือบังหน้ าเธอไว้ ไม่ให้ มองมาทางผมได้ อีก อยู่มมุ นีไกล
พอสมควร พีหมอกพูดอะไรสักอย่าง ผมเลยไม่ได้ ยิน พอเห็นทางสะดวก ก็รีบเผ่นแน่บออกมา
จะมาเรืองผมหรือเปล่านะ?
“อ้ าว…คุณอธิฐาน”
“พีกินแค่นนอิ
ั มหรอ?”
ไม่ได้ พยักหน้ าหรือส่ายหน้ า แต่พบั หนังสือพิมพ์เก็บลง
“มาเข้ าค่ายลูกเสือครับ”
“……”
“แหะๆ”
ไม่ขําเลยหรอ ปั ดโถ่
“……”
“ไม่ต้องลําบากใจไปหรอกครับ ไม่มีใครโทษคุณเรืองนีหรอก”
“…ขอบคุณครับ”
“อ้ าว..ครับ”
“แต่ถ้าอยากตอบแทนจริงๆ ช่วยไปบอกคุณอัษฎา ลดงานผม หรือเพิมเลขาอีกสักคนก็คงจะดี”
“…..”
ผมไม่ร้ ูหรอก
“ครับ”
แล้ วก็เงียบ
คงไม่ง่าย…
ใช่
แต่ก็หวังว่าคงไม่ยากเกินไปหรอกนะ
……………………………………….
………………………………..
เกมส์ทีผมชอบเล่นน่ะหรอ?
เกมส์จิตวิทยา
สงครามเย็น
หรือจะชืออะไรก็ตามทีทําให้ ร้ ู สกึ กระอักกระอ่วน ระสําระส่าย คล้ ายหน้ ามืดจะเป็ นลม ก็แล้ วแต่จะเรียกเถอะครับ
“…เอ่อ มีอะไรหรอครับ?”
“ตี…”
“..คือ”
“….”
“…อืม”
“ไหงงัน?”
“…หรอ..”
พีโต้ งยิมมุมปากให้
“อู้อีกแล้ ว รายนัน”
“อืม เรียกมาก็เพราะงานนีนีแหละ”
“…โชคดีนะไอ้ ตี”
“กูกลับละ”
“นัดฟ้าไว้ เดียวสาย”
“คนนีกูขอคนเหอะ”
“จริงจัง?”
“ก็..นิดหน่อย”
“อย่าบอกนะว่าหลังงานพีโก้ จะเป็ นของมึง”
ก็คงจะจริง
ไอ้ พีฟิ นไม่อยู่แล้ ว การ์ ตนู ต้ องเช่า บางทีก็ซือเก็บเอง การ์ ตนู เริมเยอะขึนเรือยๆจนเฮียบ่นเปลือง แหม เฮียตอนบ่น
แล้ วเท้ าเอวบ้ าง กอดอกบ้ าง แบบนีนีน่ารักไม่หยอกเลยนะ เห็นภาพนีบ่อยๆก็ชินตา วันไหนผมอ่านการ์ ตนู แล้ ว
เฮียไม่บ่นสิแปลก
โทรศัพท์ สนั
เบอร์ แปลก ผมขมวดคิวแต่ก็กดรับ
“ครับ?”
“…นันอธิษฐาน ใช่หรือเปล่า?”
“…ครับ”
“นันใครครับ?”
ตกใจ
ตกใจเป็ นบ้ า
“นีไม่ใช่เรืองล้ อเล่นหรอกนะ”
“ผมก็ไม่ได้ พดู เล่น ถ้ าคิดจะขายพีหมอกให้ ผมจริงๆผมก็พร้ อมจะซือ บ้ านผมกว้ างพอจะเลียงได้ อีกคน แล้ วผม
เชือว่าอย่างพีหมอกเอาไปขายคนอืน ต่อให้ เซลล์ครึงราคา ก็ไม่มีใครบ้ าทนพีเขาได้ เท่าผมหรอกครับ”
ได้ ยินเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากปลายสาย รู้ สกึ แปลกชะมัด ผมกลับพูดออกไปด้ วยอารมณ์สนุกด้ วยซํา
ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้ ว
“พูดถึงขึนนี….เลขเจ็ดหลักพอหรือเปล่าล่ะ?”
“ต่อให้ มาเป็ นหลักกิโลก็ไม่เอาครับ” อ้ าว ไม่ฮาไม่เป็ นไร เดียวไว้ จดั หนักไม่มกุ หน้ า “ถ้ ารวยขนาดนัน เอาไป
บริจาคเถอะครับ ได้ ประโยชน์กว่าเยอะ เชือผม”
ยัง ยังจะมีอย่างอืนอีกหรอ?
“…ครับ?”
“ปั ญหามันอยู่ทีตัวคุณอัษฏาเองต่างหาก”
“เดียว หมายความว่าอะไร ผมไม่เข้ าใจ?”
สายถูกตัดออกไปแล้ ว
เหลืออีกสองงานให้ ทํา
อยากเจอพีหมอก กดดูเบอร์ โทรศัพท์ พีหมอกยังใช้ เบอร์ เดิมไม่เปลียน โทรล่าสุด เมือเช้ า โทรมาไม่ได้ คยุ อะไร
มาก ก็แค่ถามว่าทําอะไรอยู่ ทีไหน กับใคร แล้ วก็วางสายไป
แต่ไว้ ตอนไหนดีนะ?
หันไปมองมือถือ
……………………………………………
……………………………………
[B.N.18 : complete]
[12.10.55]
B.N.19
แต่บางที ดูเหมือนแค่ความเชืออย่างเดียวคงไม่พอ
งานสองชินทีทําอยู่ ถูกแคนเซิล…อีกแล้ ว
ได้ กลินตะหงิดๆ
“ตี สงสัยดวงเกิดมึงจะตกตําขันวิกฤต”
“ดวงซวยสุดขีด”
“ซวยโคตร”
“ซวยมาก”
มองหน้ าไอ้ โจ๋กบั ไอ้ กล้ วยทีพูดซํากันไปซํากันมา ถ้ าทางชีวิตพวกมึงคงหนักสินะ พวกมันพูดจบ ก็กระดกแก้ วขึน
ดืมรวดเดียวหมดเหมือนนัดกันมา ส่งเสียง”อา—“เหมือนโฆษณานําอัดลม
“มึงไปทําอะไรกับใครไว้ หรือเปล่าวะ?”
รวมหัวกันคิด ก็ยงั ไม่ได้ คําตอบ
“แล้ วพีหมอกตอนนีหายไปไหนวะ?”
“อย่าให้ หนีไปมีกิกล่ะมึง”
“…จะมีทีไหนล่ะวะ?”
ไม่ใช่ม๊าง
เรืองในบริษัท คงมีเรืองยุ่งยากเยอะ
“บินไปหาเลยดิ”
“ถ้ าติดปี กแล้ วบินไปได้ กูคงไปนานแล้ ว แดกชาเขียวจนตัวม่วงแล้ ว ส่งยังไงแม่งก็ยงั ไม่จบั ชือกูสกั ที”
“ฮะฮ่าฮ่า พูดซะกูเห็นภาพเลยว่ะ”
“ถ้ าเกียวกูจะฮาให้ ” ยกแก้ วขึนดืม ไอ้ กล้ วยรีบกินไปหน่อย ถึงกับติดคอ ตาเหลือก พอมันไอออกมา ก็ฮากันยก
ใหญ่ “ชีวิตอะไรแม่งจะบังเอิญขนาดนันวะ”
เฮียก็ยงั ทํางานหนัก แถมเร็วๆนีก็จะสอบอัยการ ผมจะอยู่เฉยไม่ได้ ต้ องก้ าวไปข้ างหน้ า ให้ ทนั เฮีย ให้ ทนั พีหมอก
ทีพยายามกันสุดแรง ไปให้ ถงึ เป้าหมายทีวางไว้
“กิวพ่อง”
“ครับ”
“…ทําไมไม่โทรมา”
“อ้ าว ผมนึกว่าพียุ่ง”
“เมืองไทย”
“….”
“อยู่กบั เพือนอ่ะ”
“เพือนกลุม่ ไหน?”
“…ตี”
“มาหาทีบริษัท เดียวกูโทรไปอีกที”
ปลายเสียงเงียบ ไม่ตอบกลับมาอะไรหลายวินาที
………………………………………….
………………………………..
“ทําไมตรงนีพีไม่ทําสีนีแทนวะ? ผมว่าสีนีน่าจะดีกว่า”
“เออว่ะ”
“ไอ้ ตี!”
“คะ..ครับ?”
“มึงไปทําอะไรไว้ ?!”
“ผม..ผมเปล่า เปล่าทําอะไรนิ”
“มานีดิ”
“มึงไปทําไรกวนๆใส่บอร์ ดเขารึเปล่า?”
“แน่ใจ”
“มึง…”
……………………………………….
……………………………..
“ผมโดนไล่ออกโว้ ยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!”
เจ็บใจเป็ นบ้ า
เฮงซวย!!
เตะเท้ าออกไป ก็ชนเสาทีไม่ได้ มองอีก อะไรจะซวยได้ ป่านนัน ไอ้ เทพเจ้ าแห่งความซวยครับ ได้ โปรดไปสิงสถิตคน
อืนบ้ างเถอะ อยู่กบั ผม กินไม่อิม แถมตอนนีตกงาน ไม่มีอะไรจะเลียงท่านหรอกนะครับ ไม่ต้องรักกันมากก็ได้
ทีบ้ านไม่มีใครอยู่ มีกบั ข้ าวทีม๊ าทําเผือไว้ ผมเอาออกมาอุ่น อุ่นไม่ได้ เรืองเลย ข้ างในยังเย็นชืด เป็ นกะหลําแช่แข็ง
ทีรสชาติอร่อยแบบแปลกๆ
……………………………………………
………………………………
ไปตามนัดทีนัดไว้ ทังๆทีไม่อยากลุกจากเตียง
ยังเป็ นมุมทีวุ่นวายสุดๆ
เวลาเกือบหกโมง
“ครับ?”
ผมคิดผิดโคตรๆเลยครับ
พีหมอก ใส่สทู สีดํา นังอยู่ตรงนัน คอเสือไม่มีเนกไท ใต้ ไฟสีส้ม พีหมอกดูขาวกว่าปกติ สวมแว่นกรอบดํา ทีทําให้
ทุกคนทีเห็นต้ องเชือว่าพีหมอกชอบสีดําจริงๆ
เงยหน้ าขึนมามองผมแว่บหนึง “นังไปก่อน” พูดแค่นนั แล้ วก็พดู กึงเถียงกับปลายสายต่อ เดียวก็เงียบ แล้ วคุ้ย
กองแฟ้มทีวางอยู่บนเก้ าอีอีกตัว บางที ก็เลือนนิวไปบนแท็บเล็ตเร็ วๆ แค่เห็นแค่นีผมก็หัวหมุนแล้ ว
“พีหมอกงานยุ่งเนอะ”
ก็คงจะเป็ นแบบนัน
“พี…”
“พรุ่งนีย้ ายมาซะ”
“ห้ ะ?”
“เดียวดิ..พรุ่งนีเลยหรอ?”
“มึงว่างแล้ วไม่ใช่หรือไง?”
“..พีหมายความว่าอะไร?”
“พีหมอก…”
“ทําไม?”
“พีรู้แล้ วหรอ?”
“แล้ วทําไมกูจะไม่ร้ ู ”
“…..”
พีหมอกไม่ได้ มองผม
“พรุ่งนี กูจะไปรับ”
“ตัดปั ญหา…“
“……..”
“ไม่งนจะยิ
ั งมีแต่ปัญหาตามมา”
“….มึงเห็นกูไม่สาํ คัญหรือไง”
“ไม่ใช่แบบนัน…”
“ทําไมพีถึงรู้ ?”
“…..”
“พีทําแบบนีทําไม?”
“…….”
“พีไม่เชือใจผมหรอ?”
ตอนนีผมงงไปหมด
“ปั ญหามันอยู่ทีตัวคุณอัษฏาเองต่างหาก”
“พีล้ อผมเล่นหรือเปล่า?”
“โดยทีไม่ได้ ถามผมสักคํา”
“มึงก็ไม่ได้ บอกอะไรกูเหมือนกัน”
“เรืองนีผมก็ต้องขออนุญาตจากพีด้ วยหรือไง?”
“ถ้ ากูจะตอบว่าใช่ละ่ …”
ผมไม่ได้ หลบสายตา
ผมไม่สน เดินหมุนตัวออกมา รู้สกึ ปวดหัวเป็ นบ้ า คิดว่า อยากกลับไปนอนต่อให้ เร็วทีสุด คงจะเบลอ แหงเลย
เป็ นเพราะนอนกลางวันแหง แบบนีต้ องแก้ ด้วยนอนกลางคืนต่อ
พีหมอกเดินตามมา ผมรู้ ผมเดินก้ าวให้ เร็ วขึน เร็วอีก พีหมอกก้ าวยาวขึนอีก หันไปมองข้ างๆ ผนังทีเป็ นหินอ่อน
ดูท่าจะเย็นนิวถ้ าจับลงไป สะท้ อนให้ เห็นเงาคนทีเดินตามผมมา ท่าทางรีบร้ อนไม่แพ้ กนั
มือพีหมอกคว้ าข้ อศอกผมได้ ผมสะบัดเร็ วๆก็หลุด คงไม่คิดว่าผมจะดินหนี ถึงได้ ก้าวหนักๆเข้ ามาอีกก้ าว เสียง
เท้ านันทําให้ ผมรู้ว่าพีหมอกก็โมโห ใกล้ ถึงขีดจํากัดแล้ วเหมือนกัน
ประตูอตั โนมัติ เซนเซอร์ เปิ ดช้ า ทําให้ ผมต้ องหยุดเท้ าสักพัก พีหมอกเข้ ามาใกล้
“มึงจะไปไหน?!”
เสียงรองเท้ าพีหมอกเงียบลง
ความโกรธผมลดฮวบ
ถอนหายใจ รู้ว่าไอ้ ทีพีหมอกทํามันก็แรงไปหน่อย แต่พอฟั งเหตุผล ก็เล่นเอาโกรธจริงๆจังๆไม่ลง
“แต่พีก็น่าจะคุยกับผมสักคํา”
“ผมไม่หยุดแล้ ว ผมโคตรโมโหพีเลย!”
“ปะ..เปล่าครับ”
พีแท็กซีช่างคุยอย่างคิดไม่ถงึ
[B.N.19 : complete]
[19.10.55]
B.N.20
นี นายอธิษฐาน รู้ไหมว่ายัวโมโหใครไป?
เฮียทีกําลังจะเดินเข้ าไปในห้ องนํา เห็นผม เลยเดินออกมาใหม่ แปรงฟั นไปถามไป เล่นเอาผมต้ องเอาผ้ าเช็ดเท้ า
มาเช็ดคราบยาสีฟันทีเฮียพ่นออกมา
ผมทําอะไรไปวะเนีย?
คิดแล้ วโมโห
ขยีผมจนฟู กระจกหน้ าต่างสะท้ อนเงา เห็นผมตังขึนมา หน้ าตาคล้ ายเขาพอดี เออ วันนีผมจะยอมเป็ นสัตว์สเท้
ี า
กินหญ้ าซักวันนึงแล้ วกัน
แต่ใจนึงก็บอกว่าดีแล้ วทีกลับมาก่อน
“โว้ ยยยยยยยยยย”
“…..”
เฮียเข้ ามาตอนไหน ผมไม่ทนั ได้ ยิน ใส่แต่กางเกงเดินในบ้ าน สระผม เลยดูหวั ลีบลงไปหน่อย เข้ าห้ องมา เฮียก็พ่งุ
ไปทีโต๊ ะหนังสือ คงจะนังอ่านหนังสือกองนันให้ จบ
“เฮีย”
“อืม…” เฮียเปิ ดหนังสือ ก่อนจะเข้ าโลกส่วนตัว ถ้ าผมไม่ทกั คงไม่มีโอกาสได้ คุยกันพอดี “เฮีย ตีมีเรืองจะบอกว่ะ”
“อะไรล่ะ”
“หันมามองหน้ าตีก่อนดิ”
“ตีโดนไล่ออก”
“…..ห้ ะ?”
“เซ็งว่ะ”
“ไม่เป็ นไรหรอก”
“หืม?”
“เฮียคิดอย่างนันหรอ?”
พอจะนึกภาพตามได้
ต้ องปรับตัว
แค่คําเดียวเท่านัน ทีเฮียจะบอก
“แต่งานมันหายาก”
“ผมไม่ชอบคํานีเลยว่ะ คําว่าเด็ก”
เฮียหัวเราะเบาๆ
……………………………………………….
…………………………………
ใส่สทู ทีไม่ได้ เข้ ากับผมสักนิด เซ็ตผม หยิบพอร์ ททีนังทําเมือคืน เฮียเห็นหน้ าผมตอนเช้ า หัวเราะหึหึ ไม่พูดอะไร
ม๊ าบอก”โชคดีนะ อาตี” มายืนส่งถึงหน้ าประตูบ้าน
ทีทียืนใบสมัคร มีรถไฟฟ้าไปถึง
คนเยอะ ผมยืนอยู่ตรงทีๆจับไม่ถงึ ทังเสาและราวข้ างบน คนเบียด ไอ้ หนูตรงนัน เก่งเป็ นบ้ า ขึนมาถึงก็ยืนหลับ พิง
เสาโดยไม่ใช่มือจับ พอรถออกจากสถานี ตัวผมก็โน้ มไปข้ างหน้ า ชนเข้ ากับผู้หญิ งข้ างๆ “ขอโทษครับ” เธอกับ
เพือนกลับมองผมอย่างกับผมเป็ นนักข่มขืน แล้ วรีบเดินหนีไป ทิงผมไว้ กบั นักกล้ ามผิวสีแทน เกิดเป็ นผู้ชาย อยู่
ยากชะมัด
“นีไปมากีทีแล้ ววะ?”
“4”
ผมยักไหล่
ไม่ใช่งานทีจะหาได้ ง่ายขนาดนัน ระหว่างทีรอ ได้ แต่ฝึกงาน ผมซือโน้ ตบุ๊คเครืองใหม่ ใช้ แยกกับเฮีย สมควรจะมี
นานแล้ ว แต่เพราะกลัวว่ามีเรืองฉุกเฉินทีจะต้ องใช้ เงิน จึงเก็บไว้
คิดว่าบางที เราอาจจะต้ องเริ มจากเข้ าใจปั ญหาเราก่อน ถ้ าผมดีจริ ง ต่อให้ เป็ นพีหมอก พ่อพีหมอก หรือเทพเจ้ า
หน้ าไหน ก็คงจะเอาผมออกจากตําแหน่งนีไม่ได้
เอาจริงๆ การแก้ แบบเข้ ามากๆ ทําให้ ผมรู้ สกึ เหมือนติดกับ ขยับไปไหนไม่ได้ เมือเช้ าม๊ าเจอผมยังไง ตอนบ่าย
ทีม๊ ากลับมาบ้ าน ก็ยงั เห็นผมนังอยู่ทีเดิม ทีโต๊ ะหน้ าทีวี กระดาษเยอะขึนเรือยๆ โน้ ตบุ๊คเปิ ดจนร้ อนทุกวัน
เป็ นการออกนอกบ้ าน ทีพูดจริงๆแล้ วก็ทําอยู่ทุกวัน แต่ต่างกัน วันนีกลับบ้ าน ผมรู้ สกึ เหมือนได้ ชารจ์แบต ไม่ใช่
กลับมาแบบผีไร้ วิญญาณ
เดินกลับเวลาเดิม ทําแบบนีมาเกือบจะครึงเดือนแล้ ว
“เออ ตีๆ”
“ครับ?”
เกือบจะเข้ าบ้ านไปแล้ วก็ต้องโผล่หน้ าออกมาใหม่ เห็นพีแกกวักมือ ผมเลยเดินเข้ าไปใกล้ จนติดรัว กิงไม้ สะกิดขา
จักจีแปลกๆ
“ห้ ะ? ทําไมครับ”
“แบบนี รถมันท่าจะแพงใช่ไหมล่ะ?”
หนึงในสามลูกสาว น่าจะเป็ นคนทีสอง เพราะก็สห้ี าขวบแล้ ว วิงออกมา บอก “แม่ๆ น้ องทําข้ าวหก”
“อะไรกัน ทําข้ าวหกอีกแล้ ว พึงซักผ้ าขีริ วเองนะ”
ทํางานไปเรือยๆ พัดลมจ่ออยู่ตรงหน้ าแต่ก็ร้อนเป็ นบ้ า เปิ ดหน้ าต่าง มองนาฬิกา ใกล้ ห้าทุ่ม แต่ยงั ไม่ง่วงนอนสัก
นิด
รถดับเครืองลง
ไม่มีใครก้ าวลงมาจากรถ
เป็ นใครใครก็กลัวล่ะว่ะ แบบนี มาจอดเฉยๆ แล้ วก็ขบั ไป ก่อนหน้ านีก็เคยทําแบบนีครังหนึง คิดว่าตอนนัน พีสาว
ข้ างบ้ านคงมัวแต่ทะเลาะอยู่กบั สามีในตํานานแหง ถึงไม่ได้ สงั เกต
ผมอยู่ชนสอง
ั หามุมทีมองเห็นข้ างล่างชัดๆไม่มี แต่ก็ไม่อยากลงไปข้ างล่าง ไหนๆอยากทําให้ ดเู ป็ นความลับ ผมก็
จะช่วยทําเป็ นไม่ร้ ูอีกแรง
ประตูรถเปิ ดออก
พอเงยหน้ าขึนมามอง ผมก็ร้ ู สกึ เหมือนถูกจับได้ ว่าแอบอยู่ รีบมุดลงใต้ โต๊ ะจนเก้ าอีหงายหลังลงกับพืน ผมรีบยืน
มือไปรองไว้ ไม่มีเสียงก็จริง แต่เจ็บมือแทน ได้ ยินเสียงหัวใจเต้ นดังตึกๆ ยืนเท้ าออกไปปิ ดพัดลม อารมณ์เดียวกัน
กับโจรบุกบ้ าน
ไม่ร้ ูว่านังอยู่ตรงนันนานแค่ไหน เงยหน้ าขึนมามองทีขอบหน้ าต่าง ไม่เห็นพีหมอกแล้ ว แต่ในรถก็ไม่มี เลยยืนหัว
ออกไปมองอีก
อยู่ไหนวะ?
“ไอ้ ตี!”
“เหยย!!”
“ลงมา”
“กูบอกให้ ลงมาไง”
“พูดแบบนีใครจะลงไปวะ?”
ตกหลุมเต็มๆ
“….”
ไม่มนใจหรอก
ั ทีผมพูดไป
พีหมอกเลยนะ คนทีเรากําลังพูดถึงอยู่
“พ..พีหมอก!”
“แค่นีก็จบ”
พีหมอกอยู่อีกฟากของรัว
“พีเอากุญแจบ้ านผมมาจากไหน?”
“ไม่มีหรอก”
“อ้ าว—“
“หลอกผมนิหว่า”
“….”
“ทําไมไม่ใส่รองเท้ า?”
“ลืม”
“ไปใส่ซะ”
“มึงต้ องไปกับกูก่อน”
“ผมไม่ไป”
“อย่าดือ”
“ผมไม่ได้ ดือ ก็ผมไม่อยากไป”
“ทําไม?”
“พีอาจจะพาผมไปทิงทะเลก็ได้ ใครจะอยากไป”
“หึ”
“ไม่ชอบซักคัน”
“เดิน”
“ผมขีเกียจ”
“ไม่เอาหรอก”
“ผมอยากทํางาน”
“ตอนนียังไม่ได้ ”
“ไม่ร้ ู ”
“….ผมไปนอนละ”
“อย่าคิดว่ารัวจะช่วยอะไรมึงได้ นะ”
“ไม่ใช่มง?”
ั
“กูไม่ใช่เพือนเล่นมึง ตี”
“…..”
มันหงุดหงิดและเริ มโมโห
ผมรู้
พีหมอกกําลังเสียใจอยู่
“มึงกําลังเล่นตลกอะไรอยู่ ตี กูไม่ขําสักนิด-”
“ผมรักพี”
คําพูดหลุดออกไปก่อนทีผมจะคิดทันด้ วยซํา
ก่อนทีจะหลุดแค่คําสันๆ ตอบผมมา
“…ห้ ะ?”
“ผมบอกว่าผมรักพี”
“…..”
รู้ตวั อีกที
ผมก็เห็นหน้ าพีหมอกค่อยๆแดงไล่ขนมาจากคอ
ึ ทังๆทีสีหน้ ายังนิงอยู่แบบนัน แม้ แต่หยู งั กลายเป็ นสีแดงกํา
พูดด้ วยเสียงสันๆ
“ก..กูไม่ได้ ยิน”
เสียงแบบนัน เล่นเอาผมอยากจะบินหนีไปไกลๆ
“ผะ ผม ว่าพีได้ ยินแล้ ว”
“ไม่ชดั ”
“…บ้ าเอ้ ย”
“ทะ..ทําไม?”
“หยุดสักที”
หัวใจ
“แล้ ว..ทําไม?”
ขมวดคิว มองไปทางอืน ไม่ได้ เงยหน้ าขึนมา มือยังไม่ปล่อยจากเสือ เงาทําให้ เห็นไม่ชดั
“ผม มะ..ไม่อยากให้ พีเข้ าใจผิด ว่ะ ว่าทีผมโมโห หรือไม่ติดต่อไป เพราะผม..เอ่อ ไม่ ไม่ได้ นันแหละ”
“กูฟังไม่ร้ ูเรือง”
“ผมไม่ได้ ตงใจ
ั ผม ผม…ผมพูดเรืองอะไรอยู่วะเนีย?”
“..แต่กเู ข้ าใจ”
“อืม นันแหละ” ไม่ร้ ูจะเอามือไปไว้ ไหน เลยแกว่ง แต่ดนั แกว่งไปทางเดียวกัน ข้ างหน้ า ข้ างหลัง ดูพิลกึ “ผมแค่ไม่
ชอบแนวคิดพีเฉยๆ”
“ผ..ผมไปนอนแล้ วนะ”
“….ขอบคุณ”
……………………………………….
…………………………….
[B.N.20 : complete]
[22.10.55]
B.N.21
“จะมากับใครวะ?”
“ทีไปกับผมก็มีไอ้ เคิล ไอ้ โจ๋ ไอ้ กล้ วย ส่วนไอ้ ปิก ไอ้ กล้ วย ไอ้ กมจะตามไปที
ึ หลัง”
“รีบๆมาเลย กูจะตายห่าอยู่แล้ ว”
“พีเลิกโทรหาผมสักทีเถ้ อ”
“ทําไม มึงไม่รักกูหรอวะ?”
“ของมีแค่นีหรอ?”
“ไอ้ ตี”
“ห้ ะ?”
“เรืองงาน…”
“แน่ใจนะ”
ถ้ าเป็ นไอ้ กล้ วยคงมีสวนกลับ หรือเป็ นไอ้ โจ๋อาจทําหน้ าเลียนๆ แต่พอเป็ นไอ้ เคิล กลับนิงจนผมไม่แน่ใจว่ามันคิด
ยังไงกับคําพูดผม ขึนประจําตําแหน่งคนขับเสียดือๆ
ไอ้ กล้ วยมีข่าวมาเล่าให้ ฟังเต็มไปหมด เม้ าท์ทุกอย่างยกเว้ นเรืองมัน เห็นคบๆเลิกๆมาหลายคนแล้ ว ไม่ร้ ูจะเอาไง
กับชีวิตซักที พอถาม ก็บอกแบบรําคาญว่า “เดียวกูก็หาใหม่ได้ น่า” เออๆ เอาเถอะ เดียวจะรอดู
“มีเรืองอะไรกับพีหมอกหรือเปล่าวะ?”
“…..”
“ว่าไง”
“ไม่มีไรว่ะ เดียวก็เคลียร์ ”
“พรายกระซิบ”
นังเงียบๆสักพัก ไอ้ เคิลก็สะกิด รถตู้มารับพวกเรา พาไปส่งรี สอรท์ ปลายทาง แค่ทางเข้ าก็ทําให้ พวกผมเข้ าใจถึง
ราคาทีพีโก้ ชอบบ่นบ่อยๆ หรูจริ งไม่อิงค่าโฆษณา ไม่ต้องออกไปดูหาดข้ างนอกเลย แค่เห็นตัวรีสอร์ ทก็อยากจะ
อยู่ในนีทังวัน
ไอ้ เคิลเป็ นคนรับกุญแจห้ องมาให้ ผมนอนกับไอ้ กล้ วย ห้ องนอนกว้ างขวาง เชือมต่อกันได้ ระหว่างห้ องผมกับห้ อง
เคิล เห็นแววว่าคืนนีมีบ่อนชัวร์ ตังแต่เด็กยันโต ไม่มีค่ายไหนทีเราลืมพกไพ่ไปหรอกครับ ของสําคัญ อย่างอืนมัน
ยืมกันได้ แต่สาํ หรับไพ่ หายาก
เข้ าห้ อง แยกย้ ายกันแต่งตัว ไอ้ กล้ วยตัดผมใหม่ สันจนไม่ต้องเซ็ท แค่หวีให้ ดดู ีหน่อยก็พร้ อม ส่วนไอ้ เคิลคงเป็ น
สไตล์ของมันทีไม่ต้องทังหวีทงเซ็ั ท ไอดอลมันคงทําทรงแอฟโฟร่ แต่ผมมันยังไม่ยาวพอ
ไอ้ โจ๋แย่งห้ องนําไปแล้ ว เลยต้ องออกมาเซ็ทข้ างนอก ไอ้ กล้ วยนอนดูบอลอยู่ข้างหลัง นัดนีมันดูไปแล้ ว แต่ก็ยงั บ่น
ไม่หยุด ไอ้ เคิลนังอ่านหนังสืออยู่อีกห้ อง
“ไอ้ ตี มึงเซ็ทผมอะไรของมึงวะ?”
“ห้ ะ?”
“กูมนั กูหล่อ”
“กูว่ามันไม่ไหวว่ะ”
“พีโก้ พีหลอกผมหรอวะ?”
มีแค่ไอ้ กล้ วยทีการแต่งตัวพอไปรอด นอกนันถือถาด ใส่เสือทับอีกตัว คงเข้ าท่า แต่ทีฮากว่า คือมีใส่สทู มาด้ วย
ยืนเอ๋ออยู่คนเดียวหลังบู้ทนู่น
“นีกวาง ว่าทีเจ้ าสาว ส่วนนี ไอ้ ตี ไอ้ เคิล ไอ้ โจ๋ ไอ้ กล้ วย รุ่นน้ องมอเดียวกัน”
เธอพูดทักทาย ไอ้ กล้ วยจ้ องไม่วางตา จนพวกผมต้ องสะกิดให้ ทกั ทายพร้ อมกัน “วันนีก็ตามสบายเลยนะคะ
อาหารเป็ นบุฟเฟต์ หวังว่าคงจะถูกใจ”
“ไม่ต้องห่วงเรืองอาหารพวกเราหรอกครับ ยังไงก็ยินดีด้วยนะครับ”
“ฮู้วววว”
พวกผมพูดออกมาพร้ อมกัน อดขนลุกไม่ได้ ว่าไอ้ พีโก้ ก็พดู อะไรแบบนีเลียนๆเป็ น ไม่สิ เหนือไอ้ เรืองขนลุกนันคง
ต้ องเป็ นเรืองตกใจก่อน แม้ แต่คนอย่างไอ้ พีโก้ ทีคิดว่าชาตินีคงไม่ได้ แต่งงานยังขายออกไปแล้ ว โลกนีชักอยู่ยาก
ไอ้ กล้ วยพูดขึนมาลอย ผมไอ้ โจ๋หนั ไปมองพร้ อมกัน ก่อนจะพบว่า ทําเป็ นไม่ได้ ยินดีทีสุด
ตรงทีจัดงาน เว้ นทีระหว่างซุ้มทีคิดว่าคงใช้ ควบเป็ นเวทีด้วยกับโต๊ ะอาหารไว้ พอสมควร เป็ นคอกเทลแต่ก็ยงั ใจดีมี
โต๊ ะให้ นงั คงเป็ นเพราะไอ้ ขวดแบล็คทีซ่อนไว้ ในลังนําแข็งนัน ถ้ าไม่มีเก้ าอีให้ นงั อาจเห็นคนคลานลงทะเล ไอ้ พีโก้
รอบคอบเป็ นพิเศษกับเรืองแบบนี เพราะตัวพีโก้ ตอนเมา ก็เรือนไม่แพ้ ใคร
รีบหิวรองเท้ าขึนจากทราย วิงตามไอ้ กล้ วยทีแทบพุ่งไป ตังแต่ยืนอยู่ตรงนันก็เห็นคนรู้จกั หลายคน ได้ ไม่ทักจริ งๆก็
ตอนเดินเข้ าไปในงาน หลายคนหิวแบบผม ถึงได้ ยืนคุยกันเหนือโต๊ ะค็อกเทลแบบนี เจอหลายคนทีไม่คิดว่าจะได้
เจออีก ไอ้ พีปิ ง หลังจากเรียนจบ ก็โดนพ่อแม่เข็นไปลดหุ่น ตอนนี ยังเหลือเค้ าจํามํา แต่ก็ไม่ได้ อ้วนจนโดนแซวว่า
เป็ นหมีแบบเมือก่อนอีก พีเพรช พีบอล ส่งมาแต่ของขวัญ พีบอลบอกกลับมาได้ อีกที คงเป็ นช่วงกลางปี หน้ า
สิงคโปร์ อยู่ไม่ไกล แต่ก็ไม่ได้ มีเวลามากพอทีจะกลับมาได้ ดูท่า งานคงไปได้ สวย
.
ไอ้ พีฟิ นไม่ได้ มา
พีต้ นก็หนีบสาวมาด้ วย ดูท่า สมมติได้ แต่งกันจริง ชีวิตคงลําบาก “ต้ น ทําไมเมือกีไม่รับสาย” “ก็ฉีอยู่” “แล้ วฉี
เสร็จทําไมไม่โทรกลับ” “ล้ างมือไง” “แล้ วล้ างมือเสร็จ-“ “อาหารมาแล้ ว รีบๆไปกินเถอะ” “นีหมายความว่ายังไง
ห้ ะ?..” บลา บลา บลา แต่ดทู ่าแล้ ว คงไม่น่าจะรอด ถึงจะน่ารักขนาดไหนก็เถอะ
เชิงเทียนทําให้ บรรยากาศดูอ่อนโยน ช่วยล้ างตาหลังจากเห็นหน้ าพีโก้ เขินได้ บ้าง ไอ้ กล้ วยหายไปแล้ ว ไอ้ เคิลนัง
กินเงียบๆ ฟั งพิธีกรเป็ นอย่างดี ไอ้ โจ๋ก็ออกมาช่วยกันตักค็อกเทล ไหนๆก็เป็ นบุฟเฟต์แล้ ว ต้ องช่วยให้ ค้ มุ สาวๆ
เขาไม่ค่อยตักกันหรอก พวกเบคอน พวกแฮมตรงนี บ่นว่ากลัวอ้ วน แต่ก็ไม่ยืนจ่อกันตรงมุมเค้ ก ตรรกะลําลึกเกิน
บรรยาย
“ไอ้ เรืองพีโก้ พีกวางเจอกันทีไหน กูจําจนกูแทบจะหลอน เข้ าใจว่าเป็ นเรืองของกูกบั สาวในฝั นแล้ วด้ วยซํา”
เออ ก็จริง
แต่ถงึ ตอนนัน อาจจะไม่พดู มากแบบนีแล้ วก็ได้ ไอ้ พีโก้ หน้ าแดงตอนเจ้ าสาวยิมให้ ทําตัวยังกับเด็กประถม จูงมือ
ยังอิดออด ทังๆทีเข้ าหอคืนนีแล้ วแท้ ๆ
“มึงติดต่อกับพีเขาครังสุดท้ ายเมือไหร่เนีย?”
“เดียวกูไปตักเพิม มึงเอาอะไรหรือเปล่า?”
“เอาแซลมอนว่ะ อร่อยโคตร”
“เออดิ นีมึงหายไปไหนมาวะเนีย?”
ไม่คิดว่าจะได้ เจอก็เจอ เดินเข้ าไปคุย ได้ ยินเสียงพิธีกรจากข้ างหลัง เหมือนว่าพีโก้ จะร้ องเพลงให้ พีกวางอะไร
ทํานองนี แต่ไม่ได้ สนใจเท่าไหร่ เดินเข้ าไปคุยกับไอ้ ฝันแทน มันเป็ นผู้ชายตัวเล็ก แต่ไม่มีใครล้ อเพราะมันเกลียด
คํานีเข้ าไส้ ยกเว้ นอยากกินหมัดหนักๆของมัน ไอ้ นีเล่นกล้ ามอยู่ด้วย ถึงตอนนีมันจะสูงขึนนิดหน่อย ก็ได้ แค่ตวั
ใกล้ ๆกับผมเท่านัน
“ก็ไม่ดีเท่าไหร่ว่ะ”
“อ้ าว ทําไมวะ?”
ได้ ยินเสียงดนตรีจากข้ างหลังดังขึน เพราะลําโพงอยู่ใกล้ ๆ เลยย้ ายทีคุย มีแค่เสียงกีตาร์ ดูท่าจะเป็ นอินโทร ทัง
เพลงมีแต่กีตาร์ กบั เสียงคนร้ อง ท่าจะไม่ค่อยเวิรค์ พีโก้ ถือไมค์ ในคาราโอเกะทีไร ต้ องมีคนกลับทุกที ถ้ าเป็ นผม
จะเลือกเอาฆ้ องวงใหญ่ ระนาด ขิม ฉาบมาเล่น เพือจะกลบเสียงไอ้ พีโก้ ได้ บ้าง
“กูบอกว่ากูย้ายงานมาสองสามทีแล้ ว” ไอ้ ตรงนี ลําโพงเสียงก็ยังดังตามมา เลยต้ องเข้ าไปใกล้ มนั มากหน่อย ไอ้
ฝั นเลยยืนหน้ ามาใกล้ ๆหู คุยบ้ าง “ปรับตัวไม่ค่อยได้ วะ”
“เออ กูก็เหมือนกัน” ไอ้ ฝันหันหน้ าตรง ผมยืนเข้ าไปใกล้ แทน เสียงดังจนต้ องอุดหูข้างหนึง เสียงไอ้ พีโก้ เพียนหลง
คีย์จนนึกหน้ าเจ้ าสาวไม่ออก แถมกีตาร์ ยงั เล่นๆหยุดๆสลับกัน จนเห็นหลายๆคนเริมซุบซิบ เกิดอะไรกับมือกีตาร์
ไม่ใช่แอมป์เสียแน่นอนเพราะกีตาร์ คลาสสิค อยากจะหันไปดู แต่เพราะคุยกับไอ้ ฝันอยู่ “กูก็ตกงานเหมือนกัน”
ทุกสายตาจับจ้ องไอ้ พีหมอกคนดัง ทีเดินหน้ าบึง ไม่สิ ก็หน้ าปกตินันแหละ เดินไปหาทีนัง ซึงก็เป็ นทีนังข้ างไอ้
พีปิ งทีไม่คิดสงสัยถามอะไร ทําตัวเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึน ไม่ได้ เห็นหน้ าเหวอๆของพีโก้ ทียังอยู่กลางไฟ
สปอร์ ตไลท์ สกั นิด ไอ้ เคิลเลยลุกไป ช่วยเล่นกีตาร์ ให้ ใหม่ มีผิดบ้ าง แต่ก็ดีกว่าทิงไว้ แบบนี
“ไปไหนวะตี?”
“กู กูหาแซลมอนไม่เจอว่ะ”
ไอ้ ชีสเค้ กนีก็อร่อย พายแอปเปิ ลก็เจ๋ง มีศกึ แย่งกับไอ้ ฝ้าย(ทีพึงรู้เหมือนกันว่ารู้จกั พีโก้ ด้วย) แย่งเค้ กอยู่บนถาด
ค็อกเทล
เฮ้ ย นีมันเค้ กช็อคโกแลต ไม่ อาจจะเป็ นเค้ กกาแฟ มองได้ ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ร้ ูว่าน่ากินชะมัด ยืนส้ อมไป ก็ถกู
ส้ อมอีกคันดักจิมไปก่อน
ผมเงยหน้ ามองทันที เห็นไอ้ หน้ าไม่ร้ ู ร้อนรู้หนาวแบบนีก็ร้ ูสกึ หงุดหงิด ไอ้ คนเกลียดของหวานอย่างพีมาทําอะไร
ตรงนี แล้ วรู้ไหม? ไอ้ เค้ กทีพึงกินเข้ าไปน่ะ มันควรจะลงท้ องใครมากกว่ากัน ระหว่างท้ องผมทียืนมานาน กับท้ อง
พี ทีเพิงโฉบผ่านมา
พอพีหมอกย้ ายส้ อมจากพายแอปเปิ ลทีถูกแย่งไปแล้ ว ไปหาขนมไทย ผมก็รีบย้ ายส้ อมตาม มองว่าส้ อมของพี
หมอกจะชีไปทางไหน จะได้ รีบพุ่งไปก่อน ตัดหน้ าซะบ้ าง จะได้ ร้ ูว่าโดนแย่งแล้ วรู้ สกึ ยังไง
แค่สามอย่าง ก็หวานไปทังปาก
“พีหลอกผมหรอ?”
“นันพีจะไปไหน?”
“กลับไปนัง”
“แหวะ หวานทังปากเลย”
แก้ วนําถูกยืนมาให้
พีหมอกส่งนําเปล่าทีหยิบจากถาดบริกรทีเดินผ่านมา ในจังหวะทีผมบ่น คว้ าแก้ วนํามา กลืนอึกๆ ลืมเรือง
แซลมอนไอ้ โจ๋ไปสินเชิง
“ตัดสินใจได้ หรือยัง?”
“เรืองอะไร?”
“เรืองทีจะไปอยู่กบั กู”
“…ผมว่ายังไม่ใช่ตอนนี”
“แล้ วเมือไหร่ ?”
“ผมตอบไม่ได้ ”
“กูไม่ต้องการคําตอบนัน”
“ขอปฏิเสธ” คําพูดนีทําให้ ผมขมวดคิว “เวลาทีมึงว่า อีกเมือไหร่ อีกกีนาที อีกกีวัน อีกกีเดือน หรืออีกกีปี มึงตอบ
ได้ หรือเปล่า?”
ผมยืนนิง ก่อนจะส่ายหัวช้ าๆ
“กูไม่อยากรอกับความไม่แน่นอน”
“…..”
“แล้ วทีตรงไหน?”
บรรยากาศแย่ลงเรือยๆ
“ผมตอบไม่ได้ ”
“เลิกคิดซะ กูไม่อยากรออีก”
“พีต้ องการผมแบบไหนกันแน่? ผมอยากอยู่กบั พี ใช่ แต่ว่าถ้ าผมไปอยู่กบั พี พีก็คงไม่ยอมให้ ผมทํางาน แล้ วจะให้
ผมทําอะไร”
“อยู่เฉยๆ มึงไม่ชอบหรือไง”
“ไม่ชอบไง! พีคิดว่าผมชอบอยู่เฉยๆหรอ?”
“กูให้ เวลามึงไปเดือนนึงแล้ ว”
“นันยังไม่พอ”
“เท่าไหร่ถงึ จะพอ?”
“พีคิดอะไรอยู่วะเนีย?”
“โลกผมไม่ได้ มีแค่พีสักหน่อย!”
“….”
“ก็สงที
ิ กูจะทําคือปกป้องมึงจากเรืองพวกนี ทําไมมึงยังไม่เข้ าใจอีก?! จะปล่อยให้ กูรอไปอีกนานแค่ไหน?”
“มึงยังมีครอบครัว ยังมีเพือน กูไปอยู่ทีนัน ไม่มีแม้ สกั คนทีกูร้ ูจัก กูต้องทนกับหลายๆอย่าง เพือใคร มึงไม่เข้ าใจ
หรือไง?!”
“พีก็ไม่เข้ าใจผมเหมือนกันนันแหละ!!”
“พีหาว่าผมเป็ นเด็กหรอ!”
“ผมไม่อยากคุยด้ วยแล้ ว”
“ทําไม? พีจะทําอะไร?”
“มึงก็ลองดูสิ ตี เดียวมึงก็ร้ ู ”
ผมก้ าวถอยหลังทันที
“มึงกล้ าหนีอย่างงันหรอ?”
“ทําไมผมจะทําไม่ได้ ?”
“มานี มากับกู!”
“ไม่! ผมไม่ไป!”
“อย่าคิดว่าแรงแค่นีจะช่วยมึงได้ ”
“พีก็ลากผมไม่ไปเหมือนกัน”
ปลายเท้ าถีบไปมา เตะได้ แต่อากาศ ไม่กล้ าทุบหลังพีหมอก ก็ได้ เอาจริงๆ ผมก็กลัวพีหมอกเจ็บนันแหละ แต่ก็
โมโหจนไม่อยากอยู่ใกล้
โดนแบกด้ วยท่าแปลกๆ ทีทําให้ พนักงานรี สอรท์ ต้องมอง ไม่ร้ ู จะไปไหน เสียงร้ องคาราโอเกะทีเพียนไม่เหลือเค้ า
เดิมห่างออกไปเรือยๆ
“มึงบอกรักกู มึงโวยวายใส่กู มึงหนีกู แล้ วต่อไปจะเป็ นอะไรอีก? มึงต้ องการอะไรกันแน่? อยากให้ กเู สียใจ? หรือ
โกรธทีกูทิงมึงไป ทังๆทีมึงไล่กไู ปอย่างนันน่ะหรอ?”
“ผม..ผมไม่ได้ หมายความว่าแบบนันซักหน่อย”
“มึงบอกโลกของมึงไม่ได้ มีแค่กู…”
…………………………………….
…………………………
[B.N.21 : complete]
[11.11.55]
B.N.22
“ปล่อย”
“หรือจะอยู่แบบนีทังคืน?”
ส่ายหน้ า แต่มือก็ยังจับแน่น
ผมเงียหูฟัง
………………………
………………..
รู้สกึ ถึงลมเบาๆ
พีหมอกดึงเสือสูทนันออกไป
“….ทีนีทีไหน?”
“….”
จมอยู่กบั ความคิดตัวเอง
“ตี”
“มึงคิดอะไรอยู่กนั แน่?”
“…..”
“ผมรู้ ว่าพีไม่ใช่คนแบบนัน…”
“ผมไม่ร้ ูจะบอกออกมายังไง”
“…..”
“ปั ญหาทังหมด..มันเกิดจากผม”
“…..”
บ้ าชะมัด
เสียงอย่าสันสิ
ผมไม่อยากทําให้ พีหมอกเห็นว่าผมอ่อนแอ
“เพราะผมรักพีอย่างงันน่ะหรอ?”
หนึงหยด
สองหยด
ก่อนจะทยอยทิงตัวกันออกจากต่อมนําตาเสียจนปาดยังไงแก้ มก็ไม่แห้ ง
มีอีกหลายเรืองทีคนอย่างพีหมอกไม่มีวนั จินตนาการได้
สิงทีรออยู่ต่อจากคําพูด คือนําตาทีไหลออกมาไม่หยุด
พีหมอกยืนทิชชู่มาให้
ไม่มีคําตอบใดๆกลับมา
มีแค่แรงกอดแน่นเท่านัน ทีทําให้ ร้ ูว่าพีหมอกยังรับฟั งอยู่
ผมไม่อยากเสียมันไป
“ตี”
ผมไม่ได้ เงยหน้ า
ประครองสติขนจากความคิ
ึ ดทีพันกันจนยุ่งเหยิง ได้ ยินเสียงพีหมอกกระซิบติดหู ในคืนทีแสงจันทร์ ยังดูห่อเหียว
เสียงทะเล คลืนซัดให้ เราออกจากปลายทางไกลขึนไปอีก
“…กูไม่อยากเลิกกับมึง”
ก้ องไปทังหู
หลับตาลง ทวนคํานีซําไปมาในหัว
“ผมก็ไม่..ไม่อยากเลิกกับพีเหมือนกัน”
“อย่าแม้ แต่จะคิด”
ผมไม่ร้ ูจริงๆ
สิงเดียวทีทําให้ ทงหมดผิ
ั ดพลาดคงเป็ นผม
.......................................
…………………………
แสงสว่างแยงตา
หัวเตียง มีเพียงกรอบรูปตังอยู่
ลุกขึนมา ยังอยู่ในชุดเมือวาน เดินเข้ าไปในห้ องนําทีอยู่ในห้ องเดียวกัน ล้ างหน้ า ใช้ มือทีเปี ยกลูบผม ทีตอนนีชีไม่
เป็ นทรง ห่างไกลจากคําว่าดูได้ อยู่มาก ตาแดง สูดนํามูกไม่หยุด
ออกจากห้ องนํา กลับมาทีเตียง ติดใจกรอบรูปทีเห็น
สวัสดีครับ
เดินออกมาจากห้ อง ไม่ได้ เดินค้ นห้ องอืน ไม่ใช่มารยาททีดี เดินลงบันได พืนไม้ เย็นจนเท้ ารู้สกึ ไม่ได้ ยินเสียงรถ
สักคันขับผ่าน มีเพียงเสียงลมพัดต้ นไม้ คลืนทีกลายเป็ นสิงโดดเด่นของทีนี เสียงนก เท่านันทีได้ ยิน
พีหมอกไม่อยู่ทีนี
บนโต๊ ะอาหาร มีกบั ข้ าววางอยู่ ปิ ดฝาไว้ คิดว่าไม่น่าใช่พีหมอกทีเตรียมกับข้ าวนีไว้ ให้ บนฝา กระดาษแผ่นเล็ก
เขียน ‘กินซะ’ แปะอยู่
‘เดียวกูกลับมา’
อาบนํา มีเสือผ้ าทีเตรี ยมไว้ ให้ แปรงสีฟันใหม่ ยาสีฟันเต็มหลอด เป็ นสิงทีพึงถูกเตรี ยมขึน
กลับไปทีห้ องนอน แม้ จะเสียมารยาท แต่ก็ค้นของในห้ องนัน ไม่เจอโทรศัพท์มือถือของผม เป็ นห้ องทีเดาไม่ถกู ว่า
ก่อนหน้ านีใครเคยอยู่ในห้ องนี
เริมเข้ าใจอะไรบางอย่าง
“กูทิงไปแล้ ว”
“ห้ ะ?”
“กูบอกว่ากูทิงมือถือไปแล้ ว”
“ทําไม?”
“ผมอยากโทรหาม๊ า”
“จะคุยอะไร กูมีเบอร์ ”
“ผมอยากคุยเอง”
“พีกําลังทําอะไรอยู่?”
“แล้ วมึงคิดว่ากูกําลังทําอะไรอยู่”
“ผมไม่อยากทะเลาะกับพี ตอบผมมาดีๆเถอะ”
“ผมต้ องอยู่แบบนีไปนานแค่ไหน?”
ผมขมวดคิว พีหมอกไม่สนใจ
จะมีใครกําลังหาผมอยู่หรือเปล่า?
อย่างน้ อยก็ต้องไอ้ โจ๋ ไอ้ กล้ วย ไอ้ เคิล ทีสังเกตว่าผมหายไปจากงาน แต่ถ้ารู้ว่าหายไปพร้ อมพีหมอก ก็อาจจะทํา
ให้ มนั หยุดหาผม
มือเย็น
“ผมเบือ…”
“อยากทําอะไร”
“ออกไปข้ างนอก”
ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ
“ทําตัวให้ ชินซะ”
“ผมไม่เข้ าใจ”
“ไม่เข้ าใจอะไร?”
“ทําไมพีถึงทําแบบนี…”
พีหมอกไม่ตอบ จนกระทังมือเย็นจบลง
ผมยืนรอคําตอบ แต่พีหมอกก็เดินขึนไปชันบนก่อนผม
ในห้ องเหม็นกลินบุหรี
เมือคืนหลังจากทีผมหลับไป คงมาอยู่ทีนี
“มึงถามว่าทําไมกูทําแบบนี”
ผมไม่ได้ ปิดประตู
ในห้ องไม่ได้ เปิ ดไฟ มีแค่หน้ าต่างบานใหญ่หลังโต๊ ะไม้ เท่านัน เป็ นท้ องฟ้าสีนําเงิน แสงสุดท้ ายของพระอาทิตย์
หมดแรง
พีหมอกไม่ได้ นงลงกั
ั บเก้ าอี ยืนพิงอยู่ทีโต๊ ะ ไม่ได้ มองมาทีผม
“….”
ปลายนิวเคาะเบาๆ
ผมก้ าวเท้ าถอย เดินออกจากห้ อง มือยังจับค้ างทีลูกบิด แสงยังส่องลอดผ่านช่องว่างนัน แม้ แต่กลินบุหรี ยังตาม
ติด ได้ ยินอีกคําทีถูกพูดออกมา
ผมปิ ดประตูบานนันลง
………………………………….
………………………..
[B.N.22 : complete]
[17.11.55]
B.N.23
ผมนอนไม่หลับ
ผมสูญเสียมันไปแล้ ว
ผมไม่อยากอยู่ทีนี
ผมไม่อาจทําตามสิงทีพีหมอกต้ องการได้
ไม่ว่าจะคิดยังไง ก็ทําไม่ได้
หลับตา นอนนิงไม่ขยับตัว
กลินบุหรีอ่อนๆ บอกให้ ร้ ู ไม่สิ ไม่จําเป็ นต้ องบอกก็ร้ ูว่าใคร แต่แค่ยืนยันว่าใช่แน่นอน ผมไม่ร้ ูว่าพีหมอกสูบยีห้ อ
ไหน เพราะมันเป็ นกลินทีผมไม่เคยเจอมาก่อน บรรยายไม่ถกู
“ทําไม?”
“….”
“กูกอดมึงไม่ได้ หรือไง?”
“เปล่า..ไม่ใช่แบบนัน”
“แล้ วเป็ นแบบไหน?”
ส่ายหน้ า ไม่ร้ ูคําตอบ มืออีกข้ างคว้ าเสือผมไว้ พยายามจะถอดออก จับคอเสือตัวเองไว้ ยิงทําให้ เนือผ้ าถูก
กระชากแรงขึน
“ตอบกูมาสิ”
“กูไม่ได้ โกรธ”
“พีหงุดหงิด”
“มึงรู้ด้วยหรอว่ากูหงุดหงิด?”
ทุกการเคลือนไหวหยุดนิง มีแต่คําพูด
“กูถาม ทําไมไม่ตอบ”
“คําถามพีไม่ต้องการคําตอบ”
“…..”
“มึงกําลังประชดกูอยู่หรือไง?”
“ผมเปล่า”
“มึงรู้แล้ วเรืองจะเปลียนไปหรือไง?”
“พีกําลังซ่อนอะไรอยู่?”
ไม่มีคําตอบกลับมา
ไม่ว่าจะรอนานเท่าไหร่ ก็ไม่ยอมพูดต่อ เป็ นเรืองทีต้ องลังเล คิวมุ่นเข้ าหากัน สายตาลอยออกไปไกล ไปสูเ่ รืองที
กังวลใจ ไม่ได้ อยู่ทีตัวผม
“บอกไปมึงก็ไม่เข้ าใจ”
“….”
“หรือนีคือสิงทีเรียกว่าผู้ใหญ่ งนหรอ?”
ั
โลกทีเคยหลอมรวม แยกออกจากกัน
“มันอาจจะดีทีสุด”
เสือถูกดึงออก กางเกงนอน ถูกจับพลิกตัวลง นอนควํา นีจะเป็ นครังแรก ทีผมจะไม่ได้ เห็นหน้ าพีหมอก ในทาง
กลับกัน นีเป็ นครังแรกทีพีหมอกเลือกจะหลบหน้ าผม ในช่วงเวลาแบบนี
ไม่มีความสุขอะไรซ่อนอยู่
เรืองทีผมไม่ร้ ู เรืองทีถูกปิ ดไว้ ผมไม่ร้ ูหรอก และก็คิดว่าถ้ าไม่ได้ ร้ ู จากพีหมอกเอง ทังชีวิตก็คงไม่มีทางรู้ ได้ ด้วย
ตัวเอง
“….รู้แล้ ว”
ดูเหมือนพีหมอกไม่สนใจ
“พีหมอก!”
“แค่นนแหละ”
ั
เสียงพูดทิงท้ าย ผมจ้ องมองริ มฝี ปากทีพูดคํานันออกมา สีหน้ าพีหมอกนิง ไม่ร้ ูสกึ เหมือนทําเรืองอะไรผิดลงไป
เสียงหายใจแรงขึน ผมโมโหเสียจนคิดอะไรไม่ออก
“อย่าทําแบบนี”
“ขอร้ องสิ”
“…..”
“ขอร้ องกับกู กูหยุดข่าวนันได้ กูทําได้ ทุกอย่าง จะสร้ าง หรือทําลายมึงก็ได้ มันไม่ใช่เรืองยากเลย ทีต้ องใช้ ก็แค่
เงินเท่านัน”
“กูคงใจดีกบั มึงมากเกินไป อาจทําให้ มงึ เข้ าใจผิด กูไม่ได้ โง่ ตี ไม่ได้ โง่มากพอทีจะให้ ใครต่อต้ านกูซําซากอย่างที
มึงทํา”
“คําไหนล่ะ…ทีพีอยากจะฟั ง”
เงียบ
……………………….
………………..
เขาจะยังอยู่หรือเปล่า?
ไม่ได้ เลยนะไอ้ ตี ยิงตอนแบบนีสิ ถึงจะเป็ นบทพิสจู น์ ว่าแกน่ะ แกร่ งจริง ไม่ใช่เสแสร้ งไปงันๆ
ลองสมมติ ว่าผมไม่ใช่ตวั ผม
เป็ นบุคคลภายนอก บุคคลทีสาม ทีไม่มีอะไรเกียวข้ องกันเลย ไม่เคยรู้จกั ทังผม และคุณอัษฎามาก่อน ไม่เคยเห็น
หน้ า เป็ นบุคคลอายุปานกลาง ฐานะปานกลาง การศึกษายังไงก็ได้ คงไม่สาํ คัญ เล่าสถานการณ์ทีผมเจอ เล่า
สถานการณ์ทีคุณอัษฎาต้ องรับมือ ผมสงสัยนักเชียว ว่าเขาจะให้ คําตอบผมยังไง
คิดแบบนันน่ะ แน่ใจหรอ?
ผมไม่แน่ใจหรอก
พีหมอกต้ องเสียใจ แน่อยู่แล้ ว แต่สกั วันพีหมอกก็จะหลุดพ้ นจากความรู้ สกึ นี เราอาจจะกลายเป็ นเพือน เพือนทีดี
ต่อกัน บางที ผมอาจจะยิมให้ พีเขาได้ ในวันทีพีเขาแต่งงานกับใครสักคน
ถ้ าอย่างนัน มันจะมีทางอืนไหมนะ?
ได้ แต่หลับตาคิดภาพเหล่านัน
ข้ าวเช้ าอยู่บนถาดอาหาร โต๊ ะข้ างเตียง เห็นตังแต่ตอนลืมตา ผมไม่หิว ท้ องส่งเสียงร้ องนิดหน่อย แต่ก็ไม่มาก
พอทีจะเอาชนะอาการเบืออาหารนีได้ ลุกพรวดขึนมาเพราะนึกอะไรได้ บางอย่าง ก็ต้องหงายหลังลงไปใหม่ ปวด
ขมับ เหมือนถูกบีบ ผมหลับตาลง พยายามนึกถึงเรืองอืน พาตัวเองในความคิดไปยืนอยู่ริมหาด แม้ แต่ในหัว ทีๆ
สมควรจะเป็ นของผม ก็ยังเห็นพีหมอกยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก แต่งตัวสบายๆทําให้ นกึ ถึงพวกนายแบบใน
วันหยุดพักผ่อน นันทําให้ ยิงปวดหัวหนักกว่าเดิม
ขอผมพักบ้ างเถอะ
เสียงนําไหล มองนําวนเล็กๆทีถูกดูดลงไป ลุกขึนยืน คว้ าขอบอ่างล้ างหน้ าไว้ ได้ เมือเซ ยกนํากวักล้ างหน้ า รอบนี
แทบจะคลานกลับเตียง
หลังโต๊ ะตัวนันไป เป็ นชันหนังสือ ดูท่าจะอยู่มานานแล้ ว บ้ านนีแม้ จะดูใหม่ แต่ถ้ามองจากเฟอร์ นิเจอร์ บางชินจะ
บอกได้ ว่าอายุมากกว่ายีสิบปี ได้ รับการดูแลอย่างดี ชันหนังสือ ครึงบนเรียงอัดแน่น สันปกหนังสือเป็ นปกแข็ง
เขียนชือภาษาอังกฤษไว้ เกือบทังหมด ครึงล่าง เป็ นตู้ไม้ ประตูปิดอยู่ พอลองเปิ ดออก ก็พบว่าไม่ได้ ลอ็ ค
หน้ าถัดมาของอัลบัมรูป เด็กทีพยายามจะลุกยืน เป็ นท่ากึงนังกึงยืน เห็นหน้ าแค่เสียวเดียวแต่ก็ร้ ูสกึ ได้ ถึงความ
มุ่งมันเกินเด็ก ดูท่านิสยั นีคงมีมาแต่เกิด รูปใบทีถ่ายในบ้ านหลังนี ก็ยืนขมวดคิวแยกอยู่คนเดียว ในขณะทีพีชาย
กับแม่ ยืนกอดคอกันอยู่อีกฝั ง คงจะกวักมือหลายรอบแต่ยงั ไม่สน ถึงได้ กดชัตเตอร์ โดยไม่รอให้ ยืนพร้ อมกันก่อน
รูปเดียว รูปคู่ของพีน้ อง สลับกันไป แปดในสิบรูปของพีเมฆ มีรอยยิม ดูเป็ นคนยิมเก่ง เข้ าสังคมง่าย ต่างกับคน
น้ อง ทีไม่ค่อยจะเห็นยิมเท่าไหร่
รูปสุดท้ าย เด็กคนนันกลายเป็ นเด็กห้ าหกขวบ ในขณะทีพีชายเริ มเข้ าสูว่ ยั รุ่น ตัวสูงจนดูเก้ งก้ าง เด็กทารกอีกคนก็
โผล่มา หน้ าแม่พีหมอก ไม่มีรอยยิมอีก
………………………………….
…………………………
“ทําไมไม่ยอมกินข้ าว”
พูดแล้ วก็หนั ไปทางอืน บนโต๊ ะ กับข้ าวพร้ อมแล้ ว พีหมอกไม่ได้ แตะต้ องมันสักนิด
“ผมไม่หิว”
“มานี”
บนโต๊ ะ มีกบั ข้ าวสองสามอย่าง ผมเห็นพวกมันแล้ วก็ได้ แต่ก้มหน้ า ความรู้ สกึ ทีบรรยายไม่ถกู วิงวนอยู่ในตัว
ของโปรดผมทังหมด
“..เยอะไปแล้ ว”
“มึงไม่ยอมตักเอง”
“ก็ผมบอกแล้ วว่าผม-“
“มึงบอก แต่กไู ม่สน”
“…..”
“ผมบอกพีไปแล้ ว ว่าผมไม่หิว”
“อ้ าปาก”
“อุก”
วิงออกไป พีหมอกไม่ทนั ได้ ตงตั ั วจึงจับผมไม่ทนั ดีแล้ วทีเป็ นแบบนัน วิงเข้ าไปในห้ องนํา อาเจียนอาหารออกมา
หมด ไม่นาน ก็ร้ ูสกึ ถึงมือทีลูบหลังอยู่ ผมไม่ได้ เงยหน้ าไปมอง ไม่มีแรงพอทีจะทําอะไรแบบนัน
เสียงนําดังขึน ผมเงยหน้ าขึนมา แก้ วนําถูกยืนมาให้ ดืม ผมดืมได้ แค่ไม่กีคําก็คืนไป
“ลุกไหวหรือเปล่า?”
“มึงเดินไม่ไหวหรอก ขึนมาสิ”
พูดแบบนันแล้ วก็ย่อตัวลง แผ่นหลังอยู่ข้างหน้ าผม เอนตัวเข้ าไปหา โอบมือไว้ รอบคอนันหลวมๆ ขาสองข้ างก็ถูก
ยกขึน ได้ กลินพีหมอกทีปนอยู่กบั กลินบุหรีชัดเจน แต่กลินนันไม่ได้ ฉนุ จนต้ องเบือนหน้ าหนี ผมทีไม่ชอบกลินบุหรี
ตอนนีเริมชิน รู้ สกึ กลินบุหรีนีเข้ ากับพีหมอกอย่างน่าแปลกใจ
ปวดหัว
“พี…”
“…..”
“ทําไมถึงทําหน้ าแบบนัน…”
“กูทําหน้ าแบบไหน?”
“….”
“บอกมาสิ”
“….ผมอยากให้ พียิมมากกว่า”
………………………………………
……………………………..
……………………….
[B.N.23 : complete]
[24.11.55]
อีกอันช่างมันเถอะ
B.N.24
เดินลงบันได ประตูทางออกอยู่ห่างอีกแค่ไม่กีก้ าว
ดินสอยังไม่ถูกเหลา หยิบขึนมา เหลาด้ วยกบเหลาดินสอ น่าแปลกทีไม่ใช่คทั เตอร์ เปิ ดหน้ าสมุดออก วางลงกับ
เตียง ไม่ได้ จบั ดินสอแบบนีมาสักพักใหญ่ นึกถึงสิงทีอยากวาดออก แต่ยงั ไม่ชัดเจนพอทีจะร่ างเส้ นลงไปได้
วาดไม่ออก
ไอ้ เรืองแบบนีเคยเป็ นมาก่อน จะรู้ สกึ เหมือนตกนรกถ้ าใกล้ วนั เดตไลน์ แต่นี ทังๆทีมีภาพทีอยากวาดคิดอยู่ในหัว
แล้ ว แต่พอวาดไปได้ สว่ นหนึง ก็ไม่ร้ ู สกึ อยากวาดต่อ
หลับตาลงสักพัก ก็ลมื ตาขึน คว้ าสมุด ดินสอลงไปทีชันล่าง ทะเลอยู่แค่ข้างหน้ านี แต่ผมไม่ได้ เปิ ดประตูออกไป
มองดูตอนนี มันใจแล้ วว่ามันไม่ถกู ล็อคเหมือนวันอืน ลากเก้ าอี เลือนจนแทบติดกับกระจก นังลง ยกเท้ าสอง
ข้ างขึนมาบนเก้ าอี วางสมุดพิงกับหัวเข่า
ท้ องฟ้าสีเข้ มขึน
“ทําไม…”
“ผมก็ไม่ร้ ูเหมือนกัน”
ตอบได้ แค่นนจริ
ั งๆ
หลับตาลง เปลียนตําแหน่งทีแก้ มพิงอยู่ รู้สกึ ถึงเสียงฝี เท้ าทีเดินเข้ ามาใกล้ ผมลืมตามอง เพราะก้ มหน้ าอยู่ เลย
เห็นกระจกสะท้ อนแค่สว่ นเดียว พีหมอกยืนอยู่ข้างหลัง ยืนมือออกมา คิดว่าในอีกไม่กีวินาทีข้างหน้ า ปลายนิว
นันอาจสัมผัสทีต้ นคอผม
เสียงออดดังขึน โดยทีไม่มีใครคิด
“พีฟิ น?”
“พีมาทําอะไรทีนีวะ?”
“…กูมารับมึงกลับบ้ าน”
“…..เฮียบอกให้ พีมารับผมหรอ?”
“ไม่ใช่เฮียมึงหรอก” มีรอยสักรอบข้ อมือเพิม ตอนนีพีฟิ นดูโตขึน ผมไม่ได้ เห็นหน้ าพีเขามาเกือบสองปี ได้ เจอใน
เวลานี เหนือความคาดหมายของผมไปเยอะ “คนนันต่างหาก ทีเรี ยกกูมารับมึง”
“…..”
พีหมอกหลบสายตาไปทางอืน
“…..”
“กูออกไปสูบบุหรีก่อนแล้ วกัน”
ปล่อยทิงเหลือแต่ความเงียบ
พีหมอกเดินกลับมาอีกครัง
ในมือถือรองเท้ าคู่หนึงออกมา เดินเข้ ามาใกล้ ควันบุหรี ถูกพัดไปในทางเดียวกับทีเส้ นผมนันปลิวตาม
มือทีจับอยู่ทีข้ อเท้ าผม ใช้ เวลานาน ก่อนจะปล่อยออกไป เลือนไปทีข้ อเท้ าอีกข้ าง สวมรองเท้ าให้ เหมือนเป็ นเด็ก
เล็กๆ ดีทีพีหมอกก้ มอยู่ หยดนําร่ วงจากตาผม ลงบนรองเท้ า ห่างจากมือพีหมอกไม่มาก ได้ ยินเสียงพูดเบาๆ
“ฝนตกหรือไง…”
“บ้ านหลังนี เป็ นของขวัญชินเดียวทีแม่ได้ จากพ่อ กูร้ ู มึงชอบทะเล กูถงึ พามาทีนี คิดว่ามันอาจจะทําให้ เรืองดีขน”
ึ
เราทังคู่ร้ ูดี
“คิดว่าคงจะเปลียนความคิดมึงได้ แต่มงึ ก็ยังเป็ นมึง ต่อให้ กจู ะเข้ มแข็งแค่ไหน ก็ไม่มีวนั ชนะมึงได้ ”
พูดแบบนันโดยทีไม่ยอมเงยหน้ าขึนมา
“….มันแปลว่าเลิกกันหรอ?”
“มึงต้ องการแบบนันหรือเปล่า”
“…มึงนีมันไม่เคยเข้ าใจอะไรเลยสินะ”
“ขอโทษทีต้ องขัดจังหวะ..”
“ไปกันเถอะ”
พูดแค่นนแล้
ั วเดินไป หลังของพีฟิ น มองจากช่องว่างประตูรัวตรงนี ไม่เห็นแล้ ว ขาแข็งเสียจนคิดว่าจะเดินก้ าว
ต่อไปไม่ได้ แต่ทุกครังทีคิดแบบนี ก็จะเข้ าใกล้ ประตูบานนันมากขึนหนึงก้ าว
ไม่เห็นหน้ า
พีหมอกก้ มหน้ าตํา หยดนําอีกหยด ไม่ร้ ู ว่าเป็ นของใคร ร่วงหล่น ดูคล้ ายกับฝนจริ งๆ เงยหน้ าขึนมองท้ องฟ้า ไม่มี
ดาว แม้ แต่พระจันทร์ ยงั มาแค่เสียวเดียว ฝนอาจจะตกจริงๆก็ได้ แก้ มถึงได้ เปี ยกขนาดนีตอนเงยหน้ าขึน
“ไปสิ”
เสียงนันเบาจนแทบไม่ได้ ยิน
…………………………………..
…………………………..
.............................
.......................................
“ครับๆ”
“ครับ ครับ”
“เดียวผมเอาจานไปล้ างก่อนนะ”
“ขยันเกินไปหรือเปล่า?”
“ไม่หรอก ผมว่าง”
ได้ ยินเสียงหัวเราะตามมา
“ใจร้ ายจังเบย”
“ขอบคุณครับ”
ยิมให้ ลกู ค้ า เธอเป็ นสาวออฟฟิ ศแถวนี อายุสีสิบกว่าแล้ ว ยังไม่ได้ แต่งงาน แต่ถึงอย่างนันก็ยงั แต่งตัวสวยทุกวัน
จะมาทีร้ านทุกวันพุธ เจอประจํา
“ยิมหวานเชียวนะ”
“ผมอัธยาศัยดีต่างหาก”
“….ยิมก็ดีแล้ วล่ะ”
ไอ้ พีโก้ ยิมมุมปาก พิงตู้โชว์เค้ ก คิดว่าเท่ แต่พอตู้เลือน ก็รีบเด้ งตัวออกมา ดึงตู้ มองซ้ ายขวา กลัวเมียจนตัวสัน
ผมเอามือช่วยดัน
“ผมไม่เป็ นไรหรอก”
“เป็ นแบบนันก็ดี”
ครึงปี ทีแล้ ว พีกวางคิดจะเปิ ดร้ านเบเกอรี แน่นอน ว่าพีโก้ สนับสนุนเต็มที มีพีสาวมาช่วย แต่คนก็ยงั น้ อยเกินไป
พีโก้ ขบั รถมาชวนผมถึงบ้ าน ไอ้ เรืองตอนนันน่ะช่างมันเถอะ แต่อย่างน้ อย ก็เปิ ดโอกาสให้ ผมได้ ทําสิงใหม่ๆ ทีผม
คิดว่ามันสนุกเป็ นบ้ า ถึงตอนนีผมก็ยงั วาดรูปอยู่ แต่แนวอาจเปลียนไปบ้ าง จากห้ อง ตึก บ้ าน เปลียนเป็ น
โปสการ์ ดใบเล็กๆ มันไม่ใช่ความคิดผมตอนแรก เป็ นพีกิฟท์ทีเห็นผมนังวาดรูปเค้ กอยู่ เลยออกปากชวน
“มีข่าวมาบอกน่ะ”
“ข่าวไอ้ หมอก”
“…….”
“…อืม”
เดินออกมาข้ างหน้ าเคาน์เตอร์ ยิมให้ กบั เด็กทีจูงมือแม่มา “ไปเลือกเค้ กก่อนไหม?” “ครับ!” แม่นงลงกั
ั บเก้ าอี
ปล่อยให้ เด็กไปกับผม สังสีก้ อนติด จนคนเป็ นแม่ทนไม่ไหว ต้ องออกมาเลือกเองจนได้
“ตี”
“ครับ”
“…เรืองไหน?”
“…..”
ต่างกัน
ผมต่างกันกับคนๆนัน บางทีอาจจะมากเกินไปหน่อย
“หืม?”
ทังๆทีเดินออกไปแล้ ว แต่พอได้ ยินเสียงผมเรียก ก็หยุดเท้ า วิงเข้ าไปในร้ าน หยิบกล่องกระดาษ ตักเค้ กชินเล็กๆ
วางลงไป ใส่ถงุ แล้ ววิงกลับออกมา ยืนถุงนันให้ พีโก้ เลิกคิว แต่ก็รับไป
ถ้ ามันจะเป็ นแบบนันล่ะนะ
ไอ้ โจ๋ ขยันทํางาน ได้ เลือนขึนอย่างรวดเร็ว ต่างจากไอ้ กล้ วย ทีเข้ าทํางานสายหวิดใบแดงมาหลายรอบ ยังทําตัว
น่าหวาดเสียวแบบนีตังแต่เรียนยังทํางาน ติดลึกยิงกว่าสันดาน แก้ ยงั ไงก็ไม่หาย ได้ แต่พกเอาความกลุ้มใจมานัง
คุยในวงเหล้ า ผลทีได้ คือการตืนเทียงในวันถัดไป
ม๊ าดูจะชอบงานใหม่ผมมากกว่า กลับบ้ านเป็ นเวลา ไม่มีทํางานข้ ามคืน ไม่ได้ หลับไม่ได้ นอน เฮียก็ปลืมทีจะได้
กินเค้ กฟรี อ้ วนเอาอ้ วนเอา จนพุงกลับมาเป็ นเหมือนเดิม
เห็นเฮียแล้ วก็อดนึกสงสัยไม่ได้
วันนัน พีฟิ นไม่เดินเฉียดเข้ าตัวบ้ าน บอกแค่ว่า “กูเข้ าไปไม่ได้ หรอก พระบ้ านมึงแรง” แล้ วก็เดินหายไปเงียบๆ
จนถึงตอนนี ต่อให้ จะพยายามติดต่อแค่ไหน ก็ไร้ ประโยชน์
“โทรสังดึกจัง”
“ตี พีวานอะไรหน่อยสิ”
โชคเข้ าข้ างผม แค่สบิ นาทีก็ถึง เห็นตึกแล้ วก็ได้ แต่ยืนหน้ าไปถาม “ตรงนีจริงๆหรอครับ” ตึกสูง แต่ไฟยังเปิ ดสว่าง
จ้ า ผมจําได้ ทีพีกวางบอก “ชันยีสิบสี” ปลายทางของผม
“จริงสิ อ่ะ ดูนี”
กางกระดาษแผ่นนันให้ ผมดู
ดีครับดี ถ้ าจะบังเอิญขนาดนี
‘T.K.Group’
……………………………………..
………………………..
[B.N.24 : complete]
[25.11.55]
หลุดออกมาหายใจ เฮ้ ออ
B.N.25
ลมพัดวูบใหญ่ ทรงผมทีตัดมาใหม่สนั เป็ นทรงผมทีเจ๊ เจ้ าของร้ านคะยันคะยอให้ ตดั บอกว่าอยากลองทรงผม
เกาหลีใหม่ๆ ได้ ราคาพิเศษมา หน้ ามาไม่ปรกลงมา ต่อให้ ลมแรงแค่ไหน ผมก็ไม่ปรกเข้ าตา รู้ สกึ ดีอย่างบอกไม่
ถูก
ยกถุงเค้ กสองถุง เดินขึนบันไดไป ยังไม่ได้ เข้ าไปในตัวตึก เห็นรปภ.ยืนอยู่ไม่ห่างนัก พอเห็นผมจ้ อง ก็หนั กลับมา
มอง เดินมองซ้ ายมองขวาเข้ าไปหา พีแกหลบสายตา เลยแกล้ งไอเบาๆ ให้ ปลายสายตานันกลับมา
“….แต่….”
“ร้ อยนึง”
“มา ส่งถุงมา”
“ชัน 24 นะพี”
“เออๆ ได้ ”
“ขอโทษจริงๆนะตี”
ทํางานจนดึก พร้ อมปิ ดร้ าน นังกันอยู่ทีโต๊ ะตัวเดิม พีกิฟท์ใช้ มือซ้ ายทํางาน ไม่ถนัด พีกวางจึงเข้ าไปช่วย ยก
กระเป๋ าผมทีวางบนเก้ าอีตัวนันออก เห็นของในกระเป๋ าก็หนั มาถาม
ได้ ยินเสียง “ว้ าว” เบาๆ ทําเป็ นไม่ได้ ยิน แอบยิมอยู่คนเดียว ตอนดันถาดเข้ าไปในตู้
“พีขอถามอะไรหน่อยสิ”
“ครับ?”
“ผมว่าผมก็ยงั เป็ นอยู่นะ แต่อาจจะแค่พกั งาน ตอนนีผมกําลังชอบเค้ กพวกนีเลย ใครจะไปคิดว่าไอ้ ทีกินอยู่ทกุ วัน
จะทํายากแบบนี”
“พีกิฟท์ก็ยงั ว่างนะ”
“ครับ?”
“กวาง ไม่เอาน่า”
“เจ้ าเดิม?”
“เงียบไปเลยกวาง!”
“ฝากไปส่งด้ วยนะจ๊ ะ”
…………………………….
………………………..
ในลิฟท์ กระจกสามด้ าน ประตูลฟิ ท์ถ้าขัดมันกว่านี คงจะกลายเป็ นกระจกสีมุม กล้ องวงจรปิ ดทีผนังบนซ้ าย เงย
หน้ าขึนมอง นึกถึงหน้ าคนทีกําลังมองตอบอีกฝาก คงจะเป็ นหัวหน้ ายามทีถูกพูดถึง
ชัน 24 ไม่ใช่ชนสู
ั งสุด เสียงดังกิง ประตูลฟิ ท์เปิ ด ทางเดินยาว ตรงไปทีห้ องสุดปลายทางเดิน สองข้ างทางเป็ น
ห้ องประชุม ถ้ าให้ ผมเดา พียามไม่ยอมออกมา ส่ายหน้ า ถึงจะลากแขนก็ยงั เกาะแน่น บอก “ชันนีพีไม่เคยมา”
แล้ วหน้ าอย่างผมพีคิดว่าเคย? อย่าครับ อย่าปฏิเสธผม พียามสลัดมือผมออกแล้ วผลักผมออกมาเบาๆ ประตู
ลิฟท์ปิดทันที
เหมือนโดนทิงไว้ คนเดียว
สงสัยว่าปกติเค้ กเดินทางมาถึงชันนีได้ ยังไง เดินไปอีกก้ าว ก้ าวแล้ วก้ าวเล่า ก็ยงั ไม่ไปถึงห้ องตรงปลายทางซักที
ผมไม่ร้ ูหรอกว่าห้ องสุดทางเดินใช้ จดุ หมายของผมหรือเปล่า แต่ตอนนี ถ้ าผมเจอใครสักคนเข้ าล่ะก็ ผมจะยัดเค้ ก
สองถุงนีให้ อย่างไม่ลงั เล
หน้ าห้ องเขียนตําแหน่งไว้ ผมไม่ได้ ยืนใกล้ พอทีจะอ่านตัวอักษรสีเงินนันเห็น คงต้ องเลือกแล้ วว่าจะวางทีโต๊ ะไหน
สักโต๊ ะ เดินเข้ าไปทางโต๊ ะทีใกล้ เท้ ามากกว่า กองแฟ้มวางกะเทเร่ ถ้ าลองวางอะไรผิดแรงทางฟิ สิกส์ลงไปอีกชิน
คงได้ ล้มโครม
“ขอโทษครับ”
“ครับ?”
“อ้ าว”
แค่นนที
ั หลุดออกมา
“ผ..ผมเอาเค้ กมาส่งนะครับ”
พีแพน ใช่ ผมจําได้ ทําหน้ าไม่ถกู ตอนทีเห็นผมอยู่ทีนี มองถุงเค้ กทีถืออยู่ “อ่อ”
“…..”
แทบจะวิงออกจากตรงนัน
หัวใจแทบจะระเบิดออกมา
“โอเค?”
“ไม่เจอใช่ไหม? พายุบนนันนะ”
“พายุ?”
“…ผมไม่เจอ”
ตบไหล่คืน “ไม่เป็ นไรพี ผมเข้ าใจ” หรอ เข้ าใจหรอ? พยักหน้ าตอบกลับอีก “ผมกลับแล้ วนะ” ออกมายืนโบกมือ
ลาจนถึงตอนทีผมเดินไปป้ายรถเมล์ มองจากข้ างนอกแบบนี จะเห็นว่าไฟบางชันปิ ดไปแล้ ว แต่ชนที ั นับลงมาจาก
บนสุดสองชัน ยังเปิ ดไฟสว่าง และคิดว่าคงจะเปิ ดแบบนีทังคืน
รถเมล์ เปิ ดเพลงลูกทุ่งอกหักเสียงดังลันจนกระเป๋ ารถเมล์ต้องตะโกนคุยกับคนขับ รถเอียงไปมา เอาเท้ ายันพืนไม้
ไว้ ดูไม่น่าไว้ ใจจนเหมือนจะหักลงไป แทบไม่มีคนบนนี นานๆทีจะมีคนโบกขึนมา
มองเห็นแค่ปลายผมตัวเองในบานกระจกทีดึงลงมาไม่ได้
……………………………….
………………………
“ตี”
“นะ”
“โก้ คืนนีมีติดเลียงลูกค้ า”
“นะ นะ ตีนะ”
“ผมไม่อยากไป”
“ตียังทํางานไม่เสร็จ”
“งานอะไร?”
“แล้ ว…”
“แต่ก็แค่ไปส่งแป็ ปเดียวเอง”
“….”
อย่ามาทําสายตาแบบนันกับผม
วันนี โต๊ ะตัวทีใช้ วางของจิปาถะเป็ นประจํา ดันมีของวางกองอยู่กนั ทีเต็มไปหมด ใช้ ถงุ เขียกระดาษพวกนันไป
ทางซ้ าย ทางขวา ให้ ทีมากพอจะวางได้ ห้ องนีผมล่ะสงสัยจริงๆ เคยมีคนมาเคลียร์ ของจัดให้ เป็ นระเบียบบ้ างหรือ
เปล่า มันสมควรจะเป็ นระเบียบกว่านีหน่อย ถ้ าจะให้ หาเอกสารอะไรได้ ง่าย—
โครม
“คุณเป็ นใครน่ะ?”
ได้ ยินเสียงผู้หญิงเลยหันไปมอง
พีมินท์…
“ผ ผมไปแล้ วนะครับ”
“เดียวก่อนสิ”
“จําคนผิดแล้ วมังครับ”
“ไม่ ฉันจะเสียงนีได้ ”
ตัวผมแข็งทือ ประสาทส่งเสียงไซเรน
“…..”
“เดียวก่อน”
อีกแค่ก้าวเดียว
“พรุ่งนีไม่ต้องมาส่งแล้ ว”
………………………………………
………………………………
............................
....................
“รสชาติเป็ นยังไง?”
“ก็เหมือนเดิม”
“เหมือนเดิมคืออะไรล่ะ?”
“จริงหรอ?”
“ทําไมล่ะ”
“……”
“งันหรอกหรอ”
“…..”
บรรยากาศร้ านเงียบเหงา
นีพึงเดือนมิถนุ าเองแท้ ๆ ฝนกลับตก ได้ ยินเสียงเพลงฝรังเบาๆ โต๊ ะทีมีลกู ค้ าติดฝนอยู่ นังดืมช็อคโกแลตร้ อน
เงียบๆคนเดียว
“ทานนีหรือจะใส่ห่อค-”
“ทานนี”
“…..”
“…ได้ ยินทีผมพูดหรือเปล่า?”
“ส่งจานนันมา”
ยืนให้ ตามทีสัง
เขารับจานเค้ กไป ถือด้ วยความสูงระดับเอว มือข้ างเดียว อยู่ในร้ านเค้ กแบบนี บรรยากาศรอบตัวเขาไม่ได้ ดู
แปลกแยก แม้ จะใส่สทู รองเท้ า ราคาแพง คงเป็ นเพราะพวกแม่ๆนัน วุ่นกับการเลียงลูกมากกว่าจะสนใจเรืองอืน
แน่นอน มีคนสังเกตเห็น พวกเธอก้ มหัวตําลง ยกมือขึนบังทีปาก สุมหัวกันเหมือนชมรมแม่บ้าน
“ขอโทษนะคะ”
“คะ..ครับ”
ถึงจะยังไง ก็คงเป็ นเรืองเสียมารยาทถ้ าจะไม่เข้ าไปถามในฐานะผู้ให้ บริการ เครืองดืมไหมครับ? ง่ายๆ แค่นี ไม่ได้
พูดยากสักนิด แต่พอเดินไปใกล้ อีกแค่ก้าวเดียว เท้ าซ้ ายก็หมุนกลับ จะพาตัวไปหลบทีอืนอยู่เรือย
พืนร้ านเป็ นพืนไม้ เอาจริงๆทังร้ านนีก็เป็ นไม้ เกือบหมด เป็ นไอเดียของผม เค้ กทีอารมณ์เหมือนคุณแม่ทําเองจาก
เตา สมควรจะมีบรรยากาศร้ านทีคล้ ายบ้ านอยู่ พอเดิน เลยเกิดเสียงดังขึน เท้ าทีเดินหมุนไปหมุนมาทําตัวไม่ถกู
เลยทําให้ เขาเบนหน้ ากลับมา
“ร้ านนีไม่มีเครืองดืมหรือไง?”
เขาพยักหน้ า ผมมุ่นหัวคิวมอง
“ครับ?”
“ช็อคโกแลตร้ อน”
“เดียว…”
หันกลับมามองผม
“มีร่มหรือเปล่าครับ?”
“…ยังต้ องการคําตอบอีกหรอ?”
“ผมมีร่ม รอก่อนนะ”
ยืนร่มให้
“ผมให้ ยืม”
“….”
“หวาน”
“ครับ?”
“เค้ ก หวานไป”
“ก็ไม่ชอบกินหวานนิ”
“รู้ด้วยหรอ? ว่าผมชอบกินอะไร”
นันสินะ
“ช็อคโกแลตร้ อน พอกินได้ ”
…………………………..
………………….
[B.N.25 : complete]
[30.11.55]
BN.26
สองวันต่อสัปดาห์
“พีใช่คนในภาพนีหรือเปล่า? ดูเหมือนมากเลย”
“ฉันจะไปรู้ ได้ ยังไง แต่ถ้าเป็ นฉันนะ ไม่มีวนั ปล่อยหรอก หล่อก็หล่อ รวยก็รวย นิสยั ก็คงจะเพอร์ เฟค อ่อนโยนราว
กับเทพบุตร กรีดดด อย่างกับหลุดมากจากนิยาย”
“ฉันว่ามีลบั ลมคมใน”
“หนูอ้วนตายพอดี”
บ่นหงุมหงิมแล้ วเดินออกไปจากร้ าน อยากจะบอกว่ากระโปรงนันดูสนไปหน่
ั อยนะ แต่ก็ไม่ได้ พูดออกไป คงเป็ นเท
รนด์ใหม่ในรัวโรงเรียน ผมห่างจากเวลานันมามากแล้ ว น่าแปลกใจทีกฎหัวเกรี ยนยังไม่ถกู ยกเลิกเสียที
“ผมวาดเหมือนเดิมเป๊ ะเลยนะ”
กางหนังสือเล่มนันกับโต๊ ะ หน้ าร้ อยกว่า ไม่มีตวั อักษรในเล่มนี มีแต่ภาพ ผมว่าดีกว่าเรียนทฤษฎีให้ ว่นุ วาย เสียง
กระดิงดังขึน เงยหน้ ามอง
“สวัสดีครับ…”
เขาพยักหน้ า ทิงตัวนังกับเก้ าอี ถอนหายใจ แบกแฟ้มมาสองแฟ้ม แท็บเล็ตเครืองหนึงทีเคสถูกเปิ ด หน้ าจอยัง
สว่างอยู่ตรงนัน แท่งกราฟทีผมเห็นแล้ วเวียนหัว อยู่บนจอ ผมใช้ มือข้ างเดียวจับกระดาษกับสมุดออเดอร์ ไว้ อีก
มือเช็ดเข้ ากับผ้ ากันเปื อน ชืนเหงือไปหมด
“อะไรก็ได้ ”
“ครับๆ”
“ผมขออีกแก้ ว”
“ครับ?”
“ช็อคโกแลตอีกแก้ ว”
ยกไปวาง ก็ถกู บอกว่า “นังสิ” นังลงทีเก้ าอีตรงข้ าม เพราะยังไงก็ไม่มีลกู ค้ าคนอืน รู้ สกึ เหมือนเก้ าอีตัวนีดึงผมไว้
เข้ าใจความสบายทีนังบนเก้ าอีนุ่มๆแบบนีทันที
นังอยู่ตรงข้ ามกัน
“ของผมงันหรอ?”
พยักหน้ า ผมเลยยกแก้ วช็อคโกแลตขึนดืม วันนีรสเข้ มไปหน่อย แต่กลินก็ชดั ขึน
ได้ ยินเสียงถอนหายใจ
ลุกขึน เดินตามไปส่ง เพราะเป็ นลูกค้ าคนเดียวในร้ าน และคิดว่าน่าจะเป็ นคนสุดท้ ายแล้ วสําหรับวันนี คงต้ อง
เตรียมเก็บร้ าน
เสียงกระดิงดัง
“เดียว”
“ครับ?”
“….ผมชืออัษฏา อัษฏา ติวากุล”
“ห้ ะ?”
“คุณล่ะ ชืออะไร?”
เสียงตํา สีหน้ านันดูจริ งจัง ไม่เหมือนเรืองล้ อเล่น คิดว่าถ้ าไปพูดแบบนีกับคนอืน อาจโดนค้ อนใส่ได้ ผมตอบ
กลับไป มือจับผ้ ากันเปื อนไว้
“อธิษฐาน พิชญพานิชย์ ”
“…หรอ”
“เรียกผมว่าตีก็ได้ ”
“จะมาใหม่”
“ครับ”
โน้ มตัวไปดึงประตูเปิ ดให้ เขายังไม่ยอมเดินออกไป ก้ มลงมองผม ไม่ได้ อยู่ใกล้ ขนาดนัน แต่ก็ร้ ูสกึ ว่าใกล้ ในระดับ
ทีเริมอันตราย กลันหายใจ แยกยิมไปให้ ถ้ าตอนนีหัวเราะ คงได้ ยินเสียง แหะ แหะ
ทําความรู้จักกันใหม่อีกครัง ในฐานะทีต่างออกไป
ดวงตาคู่นนอ่
ั อนลง
“จะให้ ผมเรียกคุณว่าอะไรดี”
“หมอก…”
…………………………….
………………………
“ตี”
“…คนนันนันแหละ”
“…อ้ อ”
“เดียวนีมาบ่อยขึนนะ”
พีกวางรู้จกั พีหมอก แต่ถงึ อย่างนัน กลับไม่ค่อยพูดอะไรกันเท่าไหร่ รู้แค่ว่าเป็ นเพือนพีโก้ เป็ นคนทีทําคอนเสริ ต์ใน
งานแต่งงานตัวเองล่ม แค่นนั ไม่ร้ ูอะไรไปมากกว่านี
เช็ดมือเข้ ากับผ้ ากันเปื อน เดินออกมา ว่าแล้ ว เด็กผู้หญิงกลุม่ นันอยู่ด้วยจริงๆ หัวหน้ าแก็งค์ชือบิว เรียนอยู่ม.4
โรงเรี ยนหญิงล้ วนแถวนี กลายเป็ นลูกค้ าประจํา เหมือนมาดักรออะไรสักอย่าง วันนีทําหน้ าบาน เพือนอีกหกคน
สุมหัวกันกรี ดกร๊ าด “ฉันว่าแล้ ว ฉันว่าแล้ วแก!!” พูดถึงอะไรกัน อยากรู้ด้วยคน
“สวัสดีครับ”
“อืม”
“วันนีไม่เอาเค้ ก”
“มอคค่า”
“อยากกินอะไร?”
“ครับ?”
“….ตี..อยากกินอะไร”
“แล้ ว…”
“ครับ?”
“เลิกงานกีโมง?”
มองนาฬิกา ตอนนีกําลังจะทุ่มครึง
“จะมารับตอนสีทุ่ม”
“ห้ ะ?”
พอเจอคําถามแบบนีก็ไปไม่ถกู เขาจ้ องหน้ า รอคําตอบจากผม ส่วนสายตาข้ างหลังเป็ นสิบคู่นนั ไม่นบั แล้ วกัน
“คืนนีผมคงไปไม่ได้ หรอก”
“…..งันหรอ”
แปลกใจกับคําตอบทีได้ ยิน
“แต่พรุ่งนีผมว่างนะ”
“กีโมง?”
“น่าจะเวลาเดิม”
“ครับ”
ครับ?
“ห้ ะ?”
“อ้ าว หรอ?”
ได้ ยินเสียงของเด็กผู้หญิ งพวกนันอีกสักพักใหญ่ ไม่ได้ ตอบอะไรไป แม้ แต่ตอนเก็บจาน ก็ยงั ไม่ร้ ูตัว
………………………………….
………………………….
เป็ นเรืองทีผมรอคอยพอๆกับตอนเย็นวันนี
“ไม่ หนูไม่กลับ”
กอดเอวมอง ขมวดคิวก็แล้ ว แต่กลับโดนล้ อกลับ ทังโต๊ ะทําท่าเดียวกันกับผม
“พวกหนูไม่กลัวพีหรอก”
“จะรอเจอพีหมอกก่อน”
ดีครับดี
ทําอะไรไม่ได้ อย่างน้ อยก็เก็บจานไปให้ หมด ถึงเวลาทีต้ องปิ ดร้ านจริงๆ ถ้ ายังอยู่ต่อ คงต้ องให้ ค้างนีสักคืน
ตามมาด้ วยเสียงกระดิง
ถอดผ้ ากันเปื อนออก แขวนไว้ กบั ตู้ หยิบกระเป๋ ากับหนังสือทียืมมา เดินไปหา เด็กๆพวกนันก็เก็บของตามใหญ่
หวังไว้ ในใจว่าคงไม่ตามมา
“กินร้ านไหน?”
“อะไรก็ได้ ”
“คิดสิ”
“ให้ ผมเลือกหรอ”
พยักหน้ าตอบ
“….”
พยักหน้ าตอบ
เข้ าไปในร้ าน แม้ แต่อาแป๊ ะทีลวกเส้ นอยู่ยงั มองตามพีหมอกมา เก้ าอีเป็ นแค่เก้ าอีไม้ กลม ขาสีข้ างไม่เท่ากัน ทิง
นําหนักไปอีกข้ าง เก้ าอีก็เอียง ขาไม้ เคาะพืน โต๊ ะไม่ต่างกัน คนแน่นร้ าน มีแค่พดั ลมเก่าๆตัวเดียวส่ายหน้ าไปมา
ไอนําเหนือหม้ อซุบทําให้ ทังร้ านยิงร้ อนกว่าเดิม ลูกสาวเถ้ าแก่เดินมารับเมนูเอง
เสียงโต๊ ะข้ างๆดัง หันไปมอง เป็ นผู้ชายสองคน สวมเสือสีฟ้าทังคู่ คนขับแท็กซี คนนึงกินเสร็จแล้ ว แคะฟั น พิงกับ
ผนังสีนําตาล ฟั งอีกคนพูดอย่างสนุกปาก เล่าเรืองลูกค้ าทีเจอในวันนี เพราะบนโต๊ ะผมยังไม่มีคําพูดอะไร เลย
แอบฟั งเขาพูดไปด้ วย
“ขอตะเกียบด้ วย”
“กินไม่ถนัดไม่ใช่หรอ?”
“ขอบคุณครับ”
“เอาอีกหรือเปล่า?”
“ผมไม่ได้ ชือคุณ”
“…..”
“เรียกชือสิ”
รอทีจะได้ ยินคํานันอีกครัง
“พีหมอก….”
ผมกํามือแน่น
“กลับเถอะ”
“อืม”
เสียงรถเมล์บีบแตรยาว เกือบทีจะกลบเสียงนีไป
“พีไม่กลัวว่ามันจะวนกลับทีเดิมหรอ?”
“…..”
“มึงต้ องเลือกแล้ ว ตี….”
……………………….
…………………
[B.N.26 : complete]
[2.12.55]
ขอบคุณคับทีติดตาม
วันนียังไม่ได้ มาลงตอนใหม่ แต่เอาตอนพิเศษมาฝาก
ไปดูคอนเสิรต์เมทัล ออเคสตร้ ามา เลยอยากเขียนอะไรทีนึกขึนได้ แว้ บๆหน่อย อาจะไม่เกียวข้ องอะไรกันเลย แต่
ก็ถือว่า ช่างเถอะ คนอ่านได้ กําไร 555
...............................
.................
12.12.12
มันคือโค้ ดอะไรหว่า?
“12.12.12?”
“อะไรวะ?”
“เออ กูก็งงเหมือนกัน”
“เขาหมายถึงวันนีหรือเปล่า?”
“ห้ ะ?”
“ก็วนั นีไง”
“โทรไปดิวะ”
“กําลังโทรอยู่”
“เสียงผู้หญิงว่ะ…”
“พูดว่าอะไร?”
“ไม่มีสญ
ั ญาณตอบรับจากหมายเลขทีท่านเรี ยก”
“…กูไปละ”
“เฮ้ ย เดียวดิวะ!!”
……………………………………………………
……………………………………….
เกิดอะไรขึนวะเนีย?
โทรหาพีบอล ก็ไม่รับโทรศัพท์
เมสเสจส่งมาอีก อย่างกับจะเล่นอะไรกับผม
ชือโรงแรม
โทรกลับไปหา โดนตัดสาย อะไรจะวุ่นวายป่ านนี? เฮ้ ย เดียวดิ หรือว่า? นีคือการลักพาตัว…ไม่ ไม่ ถ้ าผมเป็ นโจร
เรียกค่าไถ่ ผมไม่จบั พีหมอกไปแน่ ถึงจะได้ เงินเยอะ แต่ถ้าพลาด มีหวังโดนลูกเตะตัดก้ านคอ ไม่ค้ มุ
แล้ วก็นงรถเมล์
ั ไป ถึงจะช้ าหน่อยสายหน่อย แต่ในเมือไม่บอกเวลามา ก็เลยไม่เข้ าใจว่าจะรีบไปเพืออะไร
รถดันติด
เดินไปหยุดอยู่หน้ าประตูโรงแรม ยามเดินเข้ ามาหา นึกว่าจะโดนห้ ามไม่ให้ เข้ าไปใกล้ มากกว่านี แต่กลับเข้ ามา
ถาม “ใช่ทีมางานของพวกนักศึกษาหรือเปล่าน้ อง?”
“ครับ?”
“พีต้ น?”
“มาทําไรเนีย”
“พีหมอกบอกให้ มา”
“ดูไรวะพี”
“รอดูน่นู ๆ”
“คิดหรอว่าผมจะไม่เอา”
ยัดลงกระเป๋ ากางเกง พีต้ นพยักเพยิดหน้ าให้ มองเข้ าไปในฮอลล์ บนเวที วงดนตรี กําลังเช็คซาวดน์อยู่
“ห้ ะ?”
“เขาล่อไงพีหมอกถึงยอมขึนไปเล่นให้ วะ?”
พีต้ นยักไหล่สองข้ าง ผมเห็นพีหมอกอยู่ข้างแอมป์ เสียบสายกีตาร์ ลงไป ปรับปุ่ มเสียง ลองดีดเบาๆ ไฟบนเวทีเป็ น
สีม่วงเข้ ม ด้ านล่าง โต๊ ะ ซุ้มอาหาร คนอดยากกําลังยึดครองพืนที
เสียงกลองดัง
“เพลงอะไรวะพี?”
“ผมไม่เห็นรู้จกั ”
“ดูหน้ ามันดิ”
“ไหน…ผมไม่เห็น”
“เออน่า ไปเหอะ”
ฉกติดมือมาชินสองชิน เดินเข้ าไปถึง พีหมอกเก็บกีตาร์ เข้ าซอง สะพายกระเป๋ าพาดบ่า ไม่ร้ ูว่าผมอยู่ข้างหลัง
“…..”
“…พี”
“ท่อนโซโล่โคตรเท่เลย”
“กูร้ ู ”
“อ้ าปาก”
“ห้ ะ?”
“กูบอกให้ อ้าปาก”
ผมอ้ าปากตาม
“คายออกมา”
ผู้หญิงคนนันยังอยู่ ทําหน้ างงๆ เพือนเธอวิงมาสมทบข้ างหลัง ไม่ร้ ู มาเป็ นกองหนุนหรือเรียกให้ เดินออกไปด้ วยกัน
“ลูกอม..คายออกมา”
“เหอะ”
“อือ”
“อืออือออ”
“คายออกมา”
“อะไร?”
“ก็…นําลายผม”
“มากกว่านีก็ยงั เคย”
“…อืม มันก็จริง”
พยักหน้ าเห็นด้ วย ถูกกอดไหล่ เดินเข้ าไปใกล้ อย่างช่วยไม่ได้ โดนสายตามอง แต่ก็ไม่เป็ นไร ไม่ร้ ูจักผม ก็จงไม่
รู้จกั ต่อไป
“พีหมอก”
หันมามอง ประตูลฟิ ต์เปิ ด ผมเดินเข้ าไปก่อน พอประตูลฟิ ต์ปิดลง ก็ไปพิงตัวทีกระจก มองออกไปข้ างนอก
“ดูน่นู ดิ”
“อะไร”
“คอนโดเราไง”
“หึ”
“ขําไร ผมพูดจริ ง ผมดูทางมาแล้ ว จริงๆมันก็ห่างจากคอนโดเราไม่เท่าไหร่เอง”
“เรา…”
“ครับ?”
“มึงพูดว่าคอนโด’เรา’”
“เปล่าหรอก”
แอบยิมนิน่า
“Thank you”
“No problem”
กดประตูลฟิ ต์ ค้าง
เงาทาบลงมาบนตัว
“ครับ ครับ”
……………………………………..
…………………………….
[ Code : complete ]
[12.12.12]
B.N.27
ได้ แว้ บเข้ าไปในวงบ้ างบางที แต่สว่ นมากก็ได้ แค่โฉบผ่าน ได้ ฟังเรืองเล่าความยากลําบากในต่างแดนฉบับย่อ
ต่างจากพีโก้ ทีเป็ นฉบับไตรภาค เสียงหัวเราะดังเป็ นระยะ
“เอ่อ….”
“คงไม่เชิงสินะ”
“ก็งนอ่
ั ะพี”
“…..อืม”
“……”
“ไม่ได้ เค้ นคําตอบหรอกนะ อันนีเป็ นเรืองของคนสองคน พีไม่ย่งุ หรอก แต่แค่อยากมาเตือน ว่าอยากให้ ตัดสินใจ
อะไรเด็ดขาดมากกว่า อย่างทีไอ้ หมอกมันทํา มันกลับมารอบนี คงคิดอะไรอยู่แน่ๆ”
“พีคิดว่าพีหมอกจะทําอะไร?”
“ฮะฮ่าฮ่าฮ่า”
“หนัก บอกได้ คําเดียวเลย อย่างวันหยุดทังปี นีก็ขอได้ แค่อาทิตย์เดียว แต่สนุกดี ได้ เจออะไรหลายๆอย่าง ระบบ
เขาต่างกับไทยเยอะ ต้ องปรับตัว”
พีโก้ กําลังจะหันมาชวนพีบอลคุย แต่ช้ากว่าผมทีถามออกไปก่อน“พีจะกลับมาอีกเมือไหร่ ?” ทังวงสนทนาทีมีพี
กวางมาจอยด้ วยก็เงียบลง รอคําตอบ
“….ไม่ร้ ูสิ”
พีบอลยิมจางๆ ยิมทีดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ นังลงกับโซฟาแล้ วก็ยกถ้ วยกาแฟขึนดืม
…………………………………….
…………………………….
กําลังจะเทียงคืน
ผมยังอยู่ทีร้ าน เปิ ดไฟอยู่แค่โคมไฟด้ านบนหัว ภาพทียังวาดไม่เสร็ จ รู้สกึ เหมือนถ้ ากลับบ้ านไปก่อน อาจเหนือย
เกินกว่าจะจับดินสอขึนมาได้ ยังไม่ได้ คิดวิธีกลับบ้ าน เอาจริงแล้ ว มันไม่ใช่เหตุผลเดียวหรอกทีผมยังไม่กลับ
กลับเข้ าไปในร้ าน ได้ ยินเสียงปิ ดประตูรถ หันกลับไป เห็นพีหมอกกําลังเดินมาทีร้ าน แสงด้ านนอกสลัว เมือมอง
จากด้ านใน
เราปล่อยมือออกจากลูกบิดพร้ อมกัน
“คิดว่ากลับไปแล้ ว”
“เดียวไปส่ง”
“รอก่อน”
บอกแค่นนแล้ั วก็เดินออกไป ผมปิ ดไฟ ปิ ดร้ าน เดินทิงช่วงอยู่ห่างๆ พีหมอกเปิ ดประตูรถ เข้ าไปแล้ วปิ ดประตูรถ
เสียงดังปั ง เล่นเอาผมไม่กล้ าขึนรถ อยู่ด้านนอก ไม่ได้ ยินเสียง แต่พอพีหมอกเอามือทุบพวงมาลัยรถ เสียงแตรก็
ดังไปทัว จบด้ วยการเขวียงมือถือไปเบาะหลัง ไม่ทราบชะตากรรม
“ไม่ต้อง”
“….”
“ตี”
“ครับ?”
“นีไม่ใช่รถสาธารณะ”
“ห้ ะ?”
“…ผมจะบอกว่าไม่ได้ นงฟรี
ั ”
“พีจะคิดค่านํามันหรอ?”
“ใช่”
“……”
“นีก็ทําอยู่”
“พีจีบผมอยู่?”
“ดูไม่ออกหรือไง”
นึกย้ อนกลับไป พยักหน้ า “ถ้ าไม่ใช่ผมคงดูไม่ออกอ่ะ”
“ไม่ได้ จะทําเพือคนอืนอยู่แล้ ว”
“ทําไม?”
“เร็วๆ”
“อย่าเร่งดิ”
“ยืนหน้ ามา”
“ทําไม จะต่างกันยังไง?”
“ต่างครับ”
“…..”
“ตอบมาดิ”
“เออ”
“….”
“ผมไม่เคยจีบใคร”
“เคยคบกับใครมาก่อนหรือเปล่า?”
“แล้ ว…”
“ผมงีเง่า เราเลยเลิกกัน”
“…คงไม่ใช่คณ
ุ ฝ่ ายเดียว”
“พีคิดว่าแบบนันหรอ?”
“รักไม่ใช่เรืองของคนๆเดียว”
“ผมว่านีไม่ใช่พีคิดเอง ใครบอกคํานีมา?”
ใครกันนะ?
“งันผมลงแล้ วนะ”
ชีทีเดิม เพิมเติมเพือใครไม่ร้ ู คนๆนี ถ้ าอยากได้ อะไร ต้ องได้ ไม่มีคําว่า “ไม่เป็ นไร” “ครังหน้ าลองใหม่” เขาไม่ใช่
คนแบบนัน ปลายนิวแตะลงบนริมฝี ปาก เป็ นปลายนิวโป้ง โดนผมจ้ อง เลือนไปเกลียข้ างแก้ มแทน
“…พีนีร้ ายจริงๆว่ะ”
“…..”
“ผมไม่ใช่คนใจเย็น”
“อันนีผมรู้ ”
“ครบแล้ วใช่ไหมครับ?”
“…ครบแล้ ว”
“งันผมลงแล้ วนะ”
แค่พยักหน้ าตอบ
“เดียว”
“ครับ?”
“ไม่มีอะไรจะให้ หรือไง?”
“….”
“…รีบๆลงไป”
“อย่าพึงดิ ผมยังพูดไม่จบเลย”
“….”
“มีมาฝากชินนึงแต่มีข้อแม้ นะ”
“อะไร?”
“ตกลงผู้หญิ งคนนันคือใคร?”
มองตามปลายนิวพีหมอกทีชีออกไปนอกรถ ขมวดคิวมองตามงงๆ
……………………………………..
………………………….
“อาตี โซ่ยตี”
“ครับ”
“โซ่ยตีหมายถึงล่าสุดทีคุยใช่ไหม?”
ผมพยักหน้ า “ม๊ าบอกไม่ได้ หรอก หมอกไม่ให้ บอก”
“หมอกของม๊ าสําคัญกว่าผมอีกหรอ?”
“ใครรักตี ม๊ าก็รักทังนัน” ม๊ ายิม “ม๊ าอยู่กบั ตีได้ อีกไม่นาน เฮียฮ้ งก็ดแู ลโซ่ยตีไม่ได้ ทงชี
ั วิต คนทีจะต้ องอยู่กบั โซ่ยตี
ไปตลอด ไม่ใช่อาหมอกเหมือนกัน แต่เป็ นตัวโซ่ยตีเอง”
“ม๊ าแค่พดู ความจริง คิดถึงคนรอบข้ างน่ะ ดีแล้ ว ถูกต้ องแล้ ว แต่บางครังก็ต้องคิดถึงตัวเองด้ วยเช่นกัน ม๊ าไม่
อยากให้ โซ่ยตีต้ องเสียใจเพียงเพราะคิดมากเกินไป”
“อืม…”
“หือ?”
“ไม่ คือ แบบ โอ้ ย คือ คือคิดยังไง ไม่ใช่ คือ ตีจักจีชะมัด คือ ม๊ าเข้ าใจทีตีพูดใช่ไหม?”
ยังดีทีม๊ าพยักหน้ า ม๊ ายิมแบบนี ถึงม๊ าจะแก่ขนึ แต่ก็ยงั สวยสุดในสายตาผม เข้ าใจแล้ ว ว่าทําไมพีหมอกถึงเรี ยก
ม๊ าว่าผู้หญิงทีเอาชนะไม่ได้
“….รักไม่ใช่เรืองของคนๆเดียว?”
“และรักไม่ได้ มีแค่ความรักอย่างเดียว”
“ผมเข้ าใจแล้ ว แป็ บนึงนะม๊ า”
“ฮัลโหล?ฮัลโหล?”
“อะไร…”
“พีหมอกอยู่ไหน? ขับออกไปไกลหรือยัง?”
“ทําไม? ยังอยู่ในซอย”
ไม่อยากเสียอีกวินาทีทีผมตัดสินใจพลาดอีก
“ทําอะไรอยู่?”
“เหยย”
“มีอะไร?”
“เฮ้ ย! คุณน่ะ!!”
“…..”
“อย่าเดินเข้ ามา! ไม่งนมั
ั นจะไม่เท่” ทําไมตอนพูดคํานีผมต้ องเอามือขยุ้มเสือตัวเองด้ วย
“…จะเล่นอะไร-“
“โสดอยู่ใช่ไหม?!”
“ผมก็โสดอยู่!!”
“รู้แล้ ว! จะพูดอะไรกันแน่?”
“งันเราลองมาคบกันไหมละ?!!”
“….”
“….”
“อย่าเงียบดิ!รีบๆตอบมา!”
“แล้ วจะตะโกนทําไม….”
“ก็พีอยู่ไกล…ผมกลัวไม่ได้ ยิน”
“พูดว่าอะไรนะ”
“แล้ วทําไมไม่เดินมา?”
เออว่ะ
หันไปมองหน้ าหมาหลังรัว มันมองตอบ แลบลินใส่ อย่างกับจะล้ อเลียน
วิงเข้ าไปหา “ขอผมกอดแป็ ปนึง” มันไม่แป็ ปเดียวอย่างทีผมพูดหรอก ถูกจับไว้ ได้ ปลาว่ายเข้ าแหอย่างนี มีหรือ พี
หมอกจะปล่อยไป “พอแล้ ว พอแล้ ว ผมจะกลับไปหาม๊ าละ”
“…ขออีกห้ านาที”
“สอง”
“…สองนาที”
“…มีปัญหาอะไรต้ องบอกผมนะ”
“อืม”
“ตี”
“ครับ”
“กู-“
“ไหงเป็ นกูอีกแล้ ว”
“ขีเกียจ”
“ขีเกียจอะไร..พูดว่าผมก็ดีออก”
“ไม่ชอบ”
“มึงชอบแบบนัน?”
สักพักใหญ่ กว่าจะพูดออกมาต่อ
“…กูอยากให้ มงึ จําไว้ ทังเงิน ชือเสียง ตําแหน่ง หรืออะไรพวกนัน สําหรับกู มันไม่สาํ คัญ”
“…….”
“อย่าสนใจมันก่อนกูเด็ดขาด”
“อืม”
“อือ…ผมเข้ าใจแล้ ว”
“ขับรถปลอดภัยนะครับ”
“อืม”
“ตอนนีพีชอบงานทีพีทําอยู่หรือเปล่า?”
“….ยังตอบไม่ได้ ” พูดแบบนัน แล้ วก็ทํางานเต็มที มีร้อยทุ่มให้ ร้อยกับงาน บริษัทนีคงโชคดีทีได้ พนักงานแบบนี พี
หมอกมีหลายอย่างทีผมไม่มี และผม สมควรจะมี
ความทะเยอทะยานทีไม่สนสุ
ิ ด ของพีหมอก มีมากเกินไป ผมมีน้อยเกินไป
“ผมกลับบ้ านก่อนนะ”
“เดียวกูไปส่ง”
ทางเดินข้ างหน้ าอีกไกล มองด้ วยสายตาว่าไกลแล้ ว แต่ในความรู้สกึ คิดว่าไกลกว่า บางที อาจจะต้ องเดินให้ ช้าลง
มองซ้ ายมองขวาไม่เห็นใคร เลยเดินร้ องเพลงตลอดทาง
…………………………………………
……………………………….
[BN27 : complete]
[1.1.56]
สวัสดีปีใหม่
B.N.28
Mhok:
18.45
วันนีไปหาไม่ได้
Mhok:
18.47
ติดประชุมดึก
“ผมรอได้ นะ..”
ก้ มหน้ าลงคิดเงิน รู้สกึ หงุดหงิด ผมยาวจนต้ องใช้ ทีคาดผม ยืนเกาหัวแกรกๆ ยิมโบกมือให้ กบั แก็งค์หวั เปี ย ชอบ
เอาของมาฝาก นังแช่ในร้ านนานๆ รอจนร้ านเกือบปิ ด นังทําการบ้ าน ถ้ าเป็ นโต๊ ะแบบนีต้ องรีบเก็บจานเค้ ก ไม่งนั
อาจได้ ยินเสียงแตกของจานได้ ง่ายๆ
“หืม?”
“รอใครล่ะสิ?..”
มองนาฬิกา ค่อนข้ างดึก ผมนอนดึกเป็ นนิสยั งานกองอยู่บนโต๊ ะ กลับสูว่ งจรค้ างคาว เห็นแล้ วรู้ สกึ ขีเกียจจนต้ อง
หนีไปหาของกิน
แปลกใจทียังนังอยู่ทีตรงนี
ในร้ านเพียงลําพัง แสงสลัว ผมไม่ได้ รอใครอยู่ ทีพูดแบบนีเพราะรู้ว่าอีกฝ่ ายก็ติดงาน คงไม่ว่างมา แต่ก็ยงั นังเล่น
เปิ ดเพลงในร้ านอยู่เบาๆ เป็ นเพลงเกาหลี ไม่ร้ ูคําแปลหรอกครับ แต่เห็นพีกวางชอบเปิ ดบ่อยๆ ฟั งบ่อยเข้ า ก็เริ ม
คุ้นหู
เย็นเชียบ!
เงยหน้ าขึนมอง
“เพราะรู้หรอกน่าว่าเป็ นใคร”
“มือพีเย็นว่ะ”
“ตัวมึงอุ่นเกินไป”
มือเลือนออก ผมเอนคอกลับ พีหมอกนังลงทีเก้ าอีตรงข้ าม เก้ าอีตัวประจํา “แป๊ ปนะ เดียวผมมา” เค้ กทีเก็บไว้ ไม่
รู้กินบ่อยแบบนีจะอ้ วนบ้ างหรือเปล่า จะว่าไป ไม่เคยเห็นกล้ ามเนือหน้ าท้ องนันหายไปไหนเลยแหะ มองผ่านเสือ
แบบนี เหมือนทักทายกับมันอยู่กลายๆ
“มึงทําอะไร?”
“ปาดหน้ าครีม”
“…”
“…ล้ อเล่นน่า ผมทําเยอะกว่านัน แต่ลองกินก่อน แล้ วค่อยบอก ว่าเป็ นไง”
“…เค็ม”
“ห้ ะ?”
“มึงลองชิมดู”
อ้ าปากเถียง ก็ถกู ยัดเค้ กชินนันเข้ ามาเต็มๆ ผมใช้ มือรองไว้ “ไง?” ไม่เห็นจะเค็มเลย มองเค้ กทีอยู่ในจาน เหลือนิด
หน่อย เริมเข้ าใจอะไรมากขึน คงหวานไป ทีเลอะอยู่รอบปาก ผมใช้ หลังมือเช็ด พีหมอกคว้ าทิชชู่ใกล้ ๆ ดึงมือผม
ไปเช็ดให้
ใช้ มืออีกข้ างส่งช็อคโกแลตร้ อนให้ ดืมแทน ทิชชู่กลิงลงขยะ พีหมอกรับแก้ วนันไป เอนตัวดืม นังอยู่ตรงข้ ามกัน
ผมหย่อนขาลงจากเก้ าอี แกว่งขาเล่น เงยขึนจากกระดาษเมือขาผมเตะเข้ ากับเท้ าพีหมอก
เงาทาบทับลงบนเท้ าของพวกเราสองคน พีหมอกเข้ ามาใกล้ ใกล้ ชนิดทีว่า อีกสามเซนต์ ถ้ าใกล้ กนั มากกว่านี เรา
คงจะได้ ทําในสิงทีพวกเราอยากทําทีสุดในเวลานี
“ผมก็ไม่ได้ ทําอะไรซักหน่อย”
“กูเปล่า”
“หรออออ”
“กูเปล่ายิม”
พูดแบบนันแล้ วรอยยิมก็ยิงเห็นชัดขึน เสียงเพลงเบาๆ ท่อนฮุกทีร้ องเป็ นภาษาอังกฤษ ‘have you ever fallen in
love?’ เสียงเบาๆต่อท้ ายมาในเพลงนัน ‘I do.’ ยิงเล่นเอารู้สกึ เขินจนยิมกว้ างออกมาจนหมด
“มึงชอบงานทีทําอยู่ตอนนีหรือเปล่า?”
“แล้ วพีคิดว่าไงล่ะ?”
“กูอยากได้ ยินคําตอบจากมึงก่อน”
“…ก็ชอบมัง แต่ผมคงเหมาะกับงานเลอะสีแบบนีมากกว่า”
“……”
“…กูทําผิดมาตลอด”
พลิกเปิ ดกระดาษหน้ าใหม่ ผมยกเข่าขึนข้ างหนึง พิงหัวเข้ ากับเข่านัน มองลายเส้ นบนกระดาษไปพร้ อมพีหมอก
“สิงทีกูควรทํา ไม่ใช่ห้าม แต่ควรจะสนับสนุนมึง”
“……”
“ทําไมทําหน้ าแบบนันอ่ะ?”
“มึงนีมัน…”
“มันอะไร? อย่าจักจีผมนะ”
“…หึ”
“คิดเองดิ”
บางครังผมกลัวว่าสิงทีพีหมอกแบกอยู่ จะหนักเกินไปหน่อยสําหรับตัวคนเดียว
ผมคิดแบบนีมาตลอด
นึกถึงคําพูดของม๊ า
‘เราไม่เคยรู้เลยว่าเวลาทีเราจะได้ อยู่ด้วยกันมันสันยาวแค่ไหน’
ความกลัวเหล่านี จะผลักดันเราไปในสิงทีเราต้ องการจริงๆ มันทําให้ เราค้ นหาเส้ นทางทีจะแก้ ไขปั ญหาได้ หาทาง
ทีไม่ใช่ทางหนี ทางหนีไม่เคยนําพาเราไปยังทางออกทีถูกต้ อง มันยิงพาเราหลงไกลไปจากจุดหมายเดิมทีเราเคย
ตังไว้
พีหมอกพูดพึมพําเบาๆ
“กูจะไม่หนีอีกแล้ ว…”
…………………………………..
……………………………..
.
.
.
โทรศัพท์ดังขึนในวันอาทิตย์ ตอนเย็นทีพร้ อมแล้ วสําหรับมือเย็น
“….ตี”
“ครับ?”
“มาหากูหน่อย”
ขมวดคิวฟั งคําทีกําลังจะดังออกต่อจากเสียงถอนหายใจนี
“รีบมา”
กําเสือตัวเองแน่น จับดูทีหน้ าอก หัวใจเต้ นแรงเหมือนวิงไกล ผมก้ มลงมองรองเท้ า สภาพดี ไม่น่าจะเจ๊ งง่ายๆ
เร็วๆนี นังตรงกลางเบาะหลัง เท้ าแขนไว้ กบั สองเบาะหน้ า สันขาไม่หยุด
“ผมขอล่ะ นีเรืองด่วน”
“….”
เห็นพีคนหนึงทีเคยคุ้นหน้ าในห้ องครัว ผมตะโกนหา “พีต่าย!” เธอตกใจ วิงมาทีหน้ ารัว “คุณตี มาได้ ยังไงคะเนีย?
แล้ วทําไมแต่งตัวแบบนี”
“เรืองมันไม่ยาวมากแต่ยังเล่าไม่ได้ ตอนนีเกิดอะไรขึนครับ?”
“…คือ-”
“ขอผมเข้ าไปเถอะ”
“รีบเข้ ารีบออกล่ะ”
“ครับ!”
ประตูรัวเล็กเปิ ด ช่องพอดีให้ คนเดินผ่านเข้ าไป กึงเดินสลับวิงบนทาง กว่าจะถึงตัวบ้ านเล่นเอาเหงือท่วมตัว
ในห้ องพีหมอก
ผู้ชายคนนัน ยืนอยู่นิง
“แกเรียกมันมาหรอ?”
“….”
“….ผมเรียกมันมา”
“มันมาเพือรับผมไป”
“…..”
“นีคือทีของแก”
“นีคือทีทีคุณยัดเยียดให้ ผมยืนอยู่”
“…แกนีพูดจาไม่ร้ ูเรือง ใครยัดเยียดให้ แก ฉันบอกหรอ ให้ แกทํางานตรงนี”
“……”
“มันไม่ใช่แค่นน”
ั
ผมแตะเข้ ากับหลังพีหมอก
พยักหน้ าให้ ผม
“แกทําอะไร?”
“ผมจะไปจากทีนี”
“แกคิดว่าชีวิตมันง่ายอย่างนันน่ะหรอ? อยากเริ มต้ นใหม่เมือไหร่ก็ได้ สนิ ะ?”
“……”
“ถ้ าคุณต้ องการแบบนัน” มือปล่อยออกจากกระเป๋ า ยืนขึน ปลดไทรอบคอออก โยนทิง อยู่บนเตียงเป็ นเส้ นยาว
คล้ ายเชือก นาฬิกาเรือนนัน ไม่ใช่เรือนทีจะหาได้ ง่ายๆ พีหมอกได้ มาตอนวันเกิด ผมไม่ร้ ูใครให้ มา แต่เป็ นสิงทีถ้ า
เสียไปแล้ ว ยากทีจะได้ คืน
“ตี…ไป”
“อย่าคลานกลับมา”
“….”
“ถ้ าแกเดินข้ ามกรอบประตูนนไปแล้
ั ว ต่อให้ แกตาย หรือฉันตาย ก็อย่ากลับมาให้ เห็นหน้ า”
เห็นกําหมัดแน่น ผมเดินไปยืนในทางทีพ่อพีหมอกยืนอยู่
“….ผมไม่ตายง่ายๆหรอก”
………………………….
………………….
“พีพึงโปรยเงินเล่นไปเอง”
“…”
“เอาน่า ผมเลียง”
“มึงเสียใจหรือเปล่า?”
“เสียใจ เสียใจเรืองอะไร?”
“…ทีกูทําลงไป”
“ผมไม่ร้ ูว่าผมควรจะดีใจหรือเสียใจดี..”
“ตอนนีมึงต้ องรับผิดชอบกู”
“หือ?”
“ผมรู้แล้ ว…”
“พีหมอก”
“หืม”
“…..”
“แต่ผมรู้ว่าครังนีมันมีอะไรเปลียนไป”
“ยังไง?”
“ผมดีใจมากๆ”
“…..”
“ทําสิ”
“มึงก็ไม่ต่างอะไรอยู่แล้ วนิ”
“พีหมอก..” ขมวดคิวใส่ ผมทียาวจนถึงหัวไหล่ พีหมอกลูบเบาๆ ก็ร้ ู สกึ เหมือนกลับไปเป็ นเด็ก ซุกกอดแน่น “ผม
มันคนเห็นแก่ตวั ชัดๆ”
อยากจะจูบ
“สัญญาของมึง ไม่ใช่สงที
ิ กูอยากได้ มันไม่มีประโยชน์เท่าสิงทีมึงทํา”
ไม่มีเรืองอะไรทีเราแน่ใจ
ไม่สิ
มีสงหนึ
ิ งทีผมมันใจ
“กูเคยพูดหรือเปล่า”
“พูด? พูดอะไร?”
“ขอโทษ”
“…ยังไม่เคย”
“มีอีกคํานึง”
“คําว่าอะไร?”
“ขอบคุณ”
“คํานี…พีก็ยงั ไม่เคยพูดเหมือนกัน”
พีหมอกถอนหายใจ “ร้ องไห้ ทําไม?” ตอนนี แสงมีแค่แสงจากด้ านนอก เห็นชัดบ้ างไม่ชดั บ้ างเป็ นบางครัง หน้ าพี
หมอกกลับดูอ่อนโยนจนผมว่าเป็ นพีมากกว่า ทีกําลังร้ องไห้ อยู่
“ผมเปล่า”
“ก็เห็นอยู่ว่าร้ อง”
ผมทําตาม
“..ไอ้ ขีแย”
“ผมตังใจทํา”
………………………………………..
……………………………….
[B.N.28 : complete]
[13.5.56]
.
.
B.N.29
ถอดเสือออก ปล่อยทิง ไม่ได้ สนใจว่าจะหายไปทีไหน จูบรีบร้ อน ตืนเต้ น ความรู้ สกึ คล้ ายกับครังแรกทีก้ าวสูป่ ระตู
วัยรุ่น โลกใหม่ เรืองเพศเป็ นเรืองปกปิ ดทีเปิ ดเผย มือข้ างหนึงของทุกคนปิ ดปาก ส่วนอีกข้ าง กําอยู่ทีเป้ากางเกง
ขนลุก เราทังคู่ร้ ู ดี ว่านันไม่ใช่แค่สงเดี
ิ ยวทีกําลัง ’ลุก’ อยู่ ผมรู้ ได้ จากการทีเห็นพีหมอกเลียริ มฝี ปากแบบนี แสง
สะท้ อนอยู่บนกลีบปากล่าง ผมจ้ องมองราวกับเห็นขนมหวาน
เสียงเท้ าเหยียบลงกับบันไดไม้
เอียด..
ฟั งจากเสียงทุ้ม เดานําหนัก
กระซิบบอก “..เฮียมา”
เอียด เอียด
มือทีวางอยู่บนไหล่พีหมอก กําแน่น หางตา เห็นพีหมอกยิม ยิมคล้ ายท้ าทาย เป็ นยิมทีทําให้ ผมกระตุก
……………………………
……………………..
หลังเปลือยแตะกับพืน นอนหลับไปทังแบบนัน
ขานัน ของม๊ า เห็นไม่ชดั เพราะโต๊ ะบัง อีกขาหนึง เห็นขอบกางเกงไหวๆอยู่ ก็ร้ ูว่าของผม พีหมอกใส่แล้ วสันขึนมา
เหนือเข่า ขาขาวก็จริง แต่เห็นกล้ ามเป็ นมัดทีต้ นขาแบบนีตังแต่ยงั ไม่ต้องเกร็ง ก็อดกลืนนําลายเอือกไม่ได้ ถ้ าขืน
โดนเตะด้ วยขาแบบนัน มีหวังได้ นอนเห็นดาวทีโรงพยาบาล หยอดนําข้ าวต้ มในสภาพน่าเวทนาเป็ นเดือนแหง
ได้ ยินเสียงพูดคุยค่อนไปทางกระซิบ เปิ ดลินชักเบามือ เดินย่องไปมา ผมขยีตา พลิกตัวหมุนอีกรอบ ยังรู้ สกึ นอน
ไม่เต็มอิม ปวดเมือยตัว ตอนนอนควําถึงพึงรู้ สกึ ว่าพืนแข็งแค่ไหน เย็นเชียบ ชวนให้ นกึ ถึงสิงทีนอนหนุนมาทังคืน
มากกว่า
ม๊ าเอนตัวมอง ผมแกล้ งหลับต่อไม่ทนั โดนเรียกให้ ลกุ ขึนมา “ไปอาบนําแปรงฟั นก่อน แล้ วค่อยมากินข้ าว”
พยายามลุกขึนจากพืน ขีเกียจเกินกว่าจะทําแบบนัน กลิงไปมา ทําตัวแทนไม้ กวาด อาจโดดเวรกวาดพืนไปได้ อีก
คืน ยิงคิดก็ยิงหมุนตัวไปมา
“ตีลุกไม่ขนอ่
ึ ะม๊ า”
ได้ ยินม๊ าพูด “หมอกไปช่วยอาตีหน่อย” แหงนมอง เห็นเท้ าเดินเข้ ามาใกล้ ไม่รีบร้ อน นังยองๆอยู่เหนือหัวผมไม่
ไกลนัก ก้ มหน้ าลงมา ผมเงยหน้ าขึนไป นันแหละ ทีทําให้ ผมลุกขึนได้ เร็วปรือ
………………………
……………….
“โคตรร้ อน”
พีหมอกหันหน้ าหนีกลับไปทางอืน ทําเป็ นไม่ได้ ยิน ผมด้ านหน้ าปลิวตัง เพราะแรงพัดลม เสือชุ่มเหงือแนบหลัง
ดูเด็กลงเยอะ
“พีหมอกออกมาทําอะไรอ่ะ?”
“ผมก็อาจจะให้ พียืมก่อนก็ได้ ”
“ก็พีไม่บอกผม”
“…..”
“จะไปตลาดกับผมไหม?”
……………………………..
……………………
“พีครับ…” เรียกไม่หนั เห็นว่ายังติดภารกิจเม้ าท์ ผมยืนแบงค์ยีสิบให้ พีหมอก ชีไปทีแผงใกล้ ๆกัน ผัก คิดว่าอย่าง
น้ อยก็คงไม่หลงกัน “ไปซือคะน้ าตรงนันให้ หน่อยดิ เอายีสิบเลยนะ”
“วันๆเอาแต่นงจนจะกลายเป็
ั นหมูแล้ ว ไปเดินผลาญไขมันหน่อยพี”
“….” เหงือไหลตามโครงหน้ า เสือผ้ าไม่เป็ นทางการ ลดความน่ากลัวลงไปกว่าครึง สุดท้ ายก็ยอมหมุนตัวกลับ
เดินไปได้ ไม่ไกล มีอาซิมเข้ ามาทัก เล่นเอาผมงงไปด้ วย พีหมอกเงยหน้ าตรง ทําเป็ นไม่ได้ ยิน เดินสวนไป
“ข่าวไรฮะ?”
“บ้ านซอยตรงนันนะ เห็นเขาเม้ าท์กนั ว่าลูกชายบ้ านไหนไม่ร้ ู พึงเรี ยนจบกลับมาจากนอก หล่อสุดๆ ถึงขันดับณ
เดชเฉดหัวมาริ โอ้ ”
คุณแทบไม่ต้องเดาเรืองต่อจากนีเลยใช่ไหมละ?
“ก็เขาอยากรู้จกั พี เขาก็ต้องถามดิ”
“แล้ วมึงจะหัวเราะทําไม?”
“…..”
“…..”
“อะไร?”
“เปล่า”
“เรืองของกู”
“เรืองของพีก็เรืองของผม”
“อยากรู้ มาก?”
……………………………
……………………
วันนี ก็ครบสองอาทิตย์หลังเกิดเรืองแล้ ว
มองหน้ าพีหมอกทีจ้ องสมุดเล่มนันนิง ผมไม่ร้ ู ว่าพีหมอกคิดอะไรอยู่ และไม่มีวนั เข้ าใจ ถ้ าคําพูดนันไม่ถกู พูด
ออกมา
“พีหมอก”
“ออกไปเดินเล่นกันไหม?”
“มึงอยากคุยอะไรกับกูหรือเปล่า?”
“ผมชวนไปเดินเล่น ก็เดินเล่นดิ”
จ้ องหน้ ากันนิงๆ สุดท้ ายพีหมอกก็ลกุ จากเก้ าอี เดินมาหาผม ยกมือขยีหัวผมเบาๆ แค่นนั ผมก็ร้ ูสกึ สบายใจขึน
เดินตามออกไป สวมรองเท้ า ท้ องฟ้ามืด มีเสียงสายไฟทีคล้ ายกับเสียงจิงหรี ดสีขาตลอดเวลา แวะซือไอติม พี
หมอกไม่ยอมกิน ส่ายหัว ยืนรออยู่นอกร้ าน ผมชอบความรู้สกึ แบบนี เวลาทีอยู่ในร้ าน มองเห็นเสียวหนึงของแผ่น
หลังทียืนพิงอยู่ มองอะไรสักอย่างทีผมไม่เห็นจากมุมนี เป็ นความรู้ สกึ ทีผมรู้ สกึ ว่ามันห่างหายจากเราไปนาน
“จะเดินไปถึงไหน”
“เรือยๆ พีไม่รีบใช่ไหม?”
ส่ายหัว “ไม่มีเรืองให้ รีบ” ผมพยักหน้ าเชืองช้ า ไอติมหยดลงนิว เช็ดลงกับกางเกง รีบกินให้ หมด ไอเย็นออกจาก
ปาก ทําท่าเหมือนเป่ าลมให้ มืออุ่น พีหมอกก็หวั เราะหึออกมา
“อยู่ทีนัน ชอบอากาศแบบนันหรือเปล่า”
“ตอนกลางวันผมเห็นพีบ่นตลอดอ่ะ”
พ้ นเขตทีเป็ นบ้ านเรือน ทางเดินสองข้ างเป็ นทุ่งหญ้ า น่าประหลาด ในย่านกลางเมืองแบบนีก็ยงั มีอยู่ คลองสาย
เล็กๆทีผมวิงเล่นแต่เด็กยังอยู่ตรงนัน ข้ างๆมีโกลฟุตบอลสนิมจับ พืนหญ้ าหน้ าโกลเตียน คงจะมีคนเล่นอยู่ตลอด
“ผมเคยมาวิงเล่นแถวนีบ่อยๆกับเฮีย”
“มีอะไรให้ เล่น?”
“หรอ”
“พีทําเหมือนพีไม่อยากรู้ ”
“มึงก็หยุดดิ”
“ผมถามได้ ไหม?”
“มึงคงไม่คิดว่ากูทําอะไรลงไปโดยไม่คิดก่อนหรอกใช่ไหม?”
“อืม”
“กูคิดจะไปอยู่ฮ่องกง แค่ชวคราว
ั คิดจะพามึงไปด้ วย”
“…..”
“แต่ตอนนีมันไม่จําเป็ นแล้ ว”
“ทําไมล่ะ?”
“ใช่ ผมไม่อยากไป”
ตอนทีได้ ยินคํานัน ผมรู้ สกึ ขนลุก นึกถึงหลายเรืองทีผ่านมา นึกถึงเรืองราวของตัวเอง ผมได้ กลินสี รู้ สกึ ถึงสัมผัส
ของกระดาษทีปลายนิว นันยิงทําให้ ผมกํามือแน่นขึน
“กูไม่จําเป็ นต้ องมีเงิน ไม่จําเป็ นต้ องมีนามสกุลนี แค่ตวั กูเอง แค่นันก็พอ ทีจะทําให้ เขาต้ องเปลียนความคิด” พูด
ต่อ เสียงเบาลง “…มองกูทีเป็ นกู”
“มึงก็เคยทําแล้ วไม่ใช่หรอไง?”
[B.N.29 : complete]
[2.6.56]
ยังไม่จบ รีพลายล่างยังมีอีกตึงนึงงงง
รักและคิดถึง
Delete scene
“…..”
“ยาสีฟัน ใช้ ได้ เลย ตามสบาย สบู่ก็น่นู พีอาจจะไม่เคยใช้ สบู่ก่อน ก็ถงึ เวลาอันประจวบเหมาะแล้ ว ลองใช้ ดู
อาจจะอาบเร็ วกว่าสบู่เหลวด้ วยซํา พีวางไว้ ตรงไหล่ เดียวมันก็ลนลงมาถึ
ื งหลังเอง ไง สารพัดลูกเล่น”
“….”
“อะไรของมึง”
ทําเหมือนไม่สนใจ กวักนําขึนล้ างหน้ า เปี ยกจนถึงคอเสือ ผมยืนผ้ าเช็ดตัวให้ พีหมอกเช็ดหน้ าไปก่อน ผ้ าผืนนัน
เริมเปี ยก มองผมผ่านกระจก
“ไอ้ ตี”
“มึงจะอายเชียไร มีอะไรทีกูยงั ไม่ร้ ูเกียวกับมึงอีก?” พีหมอกขมวดคิว โยนผ้ าเช็ดตัวคลุมหัวผม ดูเหมือนจะรู้ สกึ ถึง
เค้ าลางความโมโหอยู่ในนําเสียง บรรยากาศรอบๆ “กูร้ ูจกั เพือนมึงทุกคน รู้เรืองครอบครัวมึง ประถม มัธยม มหา
ลัย กูร้ ู มงึ เรี ยนทีไหน ห้ องไหน กับ—“
“มึงรีบๆบอกมา”
“มึงปล่อยสิ”
ผมขมวดคิว พีหมอกก็ปล่อยมือออก ไม่ได้ เตือนก่อน ผมหงายไปข้ างหลัง พีหมอกรีบคว้ าลูกบิดไว้ อีกรอบ แล้ ว
ค่อยปล่อยออกตอนเห็นว่าผมตังหลักได้ แล้ ว
“เลียน”
“ประมาณนันล่ะ”
“กูจะอาบนําแล้ ว”
“ได้ เลย”
ประตูทีแง้ มไว้ เพียงนิดๆ ปิ ดลง ตรงนี ผมแทบจะมองไม่เห็นในห้ องนําอีก บานประตูกําลังจะงับปิ ดลง ได้ ยินเสียง
เรียก
“เลียน…” รู้สกึ เหมือนประตูฝากนันคงมีคนพิงอยู่ ผมไม่ได้ พิงอีกด้ านหนึง สงสารประตูบานเก่าๆนี ลืมผ้ าเปี ยกใน
มือ ลืมไปว่าถ้ าคว้ าติดตัวมาแบบนี พีหมอกจะใช้ อะไรเช็ดตัวหลังจากอาบเสร็จ ผมลืมเรืองนีไปเลย จนกระทังพี
หมอกเดินตัวชุ่มออกมาจากห้ องนํา
......................................
.................................