Professional Documents
Culture Documents
0102230601
0102230601
วิชา การจัดดำเนินการการซ่อมบำรุง
เล่มที่ ๑
รหัสวิชา ๐๑๐๒๒๓๐๖๐๑
หลักสูตร พลประจำรถกู้และช่างเชื่อม
แผนกวิชายานยนต์ กศ.รร.ม.ศม.
ปรัชญา รร.ม.ศม.
“ฝึกอบรมวิชาการทหาร วิทยาการทันสมัย ธำรงไว้ซึ่งคุณธรรม”
ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์การดำเนินงานของสถานศึกษา เอกลักษณ์ อัตลักษณ์
๑. ปรัชญา
ทหารม้าเป็นทหารเหล่าหนึ่งในกองทัพบก ที่ใช้ม้าหรือสิ่งกำเนิดความเร็วอื่น ๆ เป็นพาหนะ เป็นเหล่าที่มีความสำคัญ
และจำเป็นเหล่าหนึ่ง สำหรับกองทหารขนาดใหญ่ เช่นเดี ยวกับเหล่าทหารอื่น ๆ โดยมีคุ ณลักษณะที่มีความ
คล่องแคล่ว รวดเร็วในการเคลื่อนที่ อำนาจการยิงรุนแรง และอำนาจในการทำลายและข่มขวัญ อันเป็น
คุณลักษณะที่สำคัญและจำเป็นของเหล่า โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า มีปรัชญาดังนี้
“ฝึกอบรมวิชาการทหาร วิทยาการทันสมัย ธำรงไว้ซึ่งคุณธรรม”
๒. วิสัยทัศน์
“โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้วิชาการเหล่าทหารม้าที่ทันสมัย
ผลิตกำลังพลของเหล่าทหารม้า ให้มีลักษณะทางทหารที่ดี มีคุณธรรม เพื่อเป็นกำลังหลักของกองทัพบก”
๓. พันธกิจ
๓.๑ วิจัยและพัฒนาระบบการศึกษา
๓.๒ พัฒนาคุณภาพครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
๓.๓ จัดการฝึกอบรมทางวิชาการเหล่าทหารม้า และเหล่าอื่นๆ ตามนโยบายของกองทัพบก
๓.๔ ผลิตกำลังพลของเหล่าทหารม้า ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
๓.๕ พัฒนาสื่อการเรียนการสอน เอกสาร ตำราของโรงเรียนทหารม้า
๓.๖ ปกครองบังคับบัญชากำลังพลของหน่วย และผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรต่างๆ ให้อยู่บนพื้นฐาน
คุณธรรม จริยธรรม
๔. วัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
๔.๑ เพื่อพัฒนาครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้
ให้กับผู้เข้ารับการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๔.๒ เพื่อพัฒนาระบบการศึกษา และจัดการเรียนการสอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
๔.๓ เพื่อดำเนินการฝึกศึกษา ให้กับนายทหารชั้นประทวน ที่โรงเรียนทหารม้าผลิต และกำลังพลที่เข้ารับ
การศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถตามที่หน่วย และกองทัพบกต้องการ
๔.๔ เพื่อพัฒนาระบบการบริหาร และการจัดการทรัพยากรสนับสนุนการเรียนรู้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
๔.๕ เพื่อพัฒนาปรับปรุงสื่อการเรียนการสอน เอกสาร ตำรา ให้มีความทันสมัยในการฝึกศึกษาอย่างต่อเนื่อง
๔.๖ เพื่อพัฒนา วิจัย และให้บริการทางวิชาการ ประสานความร่วมมือ สร้างเครือข่ายทางวิชาการกับ
สถาบันการศึกษา หน่วยงานอื่นๆ รวมทั้งการทำนุบำรุงศิลปวัฒธรรม
๕. เอกลักษณ์
“เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ทางวิชาการ และผลิตกำลังพลเหล่าทหารม้าอย่างมีคุณภาพเป็นการ
เพิ่มอำนาจกำลังรบของกองทัพบก”
๖. อัตลักษณ์
“เด่นสง่าบนหลังม้า เก่งกล้าบนยานรบ”
สารบัญ
...................................................
หน ้า |1
แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา
โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
ค่ายอดิศร สระบุรี
----------
เอกสารนำ
วิชา ระบบซ่อมบำรุงของกองทัพบก
หมายเลขวิชา ยน………………
-----------------------
1. ข้อแนะนำในการศึกษา
วิชา ระบบซ่อมบำรุงของกองทัพบก จะทำการสอนแบบเชิงประชุมโดยมี ความมุ่งหมายเพื่อสอนให้
นักเรียนทราบถึงระบบการซ่อมบำรุงของกองทัพบกไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการซ่อมบำรุงขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2
ซึ่งเป็นการซ่อมบำรุงระดับหน่วย เพื่อให้นักเรียนเข้าใจในระบบ การซ่อมบำรุง และสามารถดำเนินงานการ
ตรวจสภาพ การกำกับดูแลกิจการซ่อมบำรุงในหน่วยได้
2. หัวข้อสำคัญในการศึกษา
2.1 ให้นักเรียนศึกษาระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ พ.ศ. 2524 ลง 22 เม.ย.24 และคำสั่ง
ทบ.ที่ 200/9932 ลง 8 ส.ค.04 เรื่องหลักการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธในโครงการฯ
2.2 ให้นักเรียนทราบ
2.2.1 คำจำกัดความที่สำคัญ
2.2.2 หลักการซ่อมบำรุง
2.2.3 ประเภทการซ่อมบำรุง และขั้นการซ่อมบำรุง
2.2.4 ความรับผิดชอบในการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์
2.2.5 วิธีการปฏิบัติตามลำดับขั้นการซ่อมบำรุง
2.2.6 ความรับผิดชอบทางเทคนิค
2.2.7 การตรวจสภาพยุทโธปกรณ์ และการรายงานผลการตรวจ
2.2.8 การดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์
2.2.9 ตารางประมาณเวลาการซ่อมบำรุง
3. งานมอบ ให้นักเรียนอ่าน
3.1 ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ พ.ศ.2524 ลง 22 เม.ย.24
3.2 คำสั่งกองทัพบก ที่ 200/9932 ลง 8 ส.ค.04
3.3 คำสั่งกองทัพบก ที่ 400/2507 ลง 9 พ.ย.07 และ คท.37 - 2810
3.4 เอกสารเพิ่มเติม
4. เอกสารจ่ายพร้อมเอกสารนำ: เอกสารเพิ่มเติม
***************
หน ้า |2
แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา
โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
ค่ายอดิศร สระบุรี
----------
เอกสารเพิ่มเติม
วิชา ระบบซ่อมบำรุงของกองทัพบก
หมายเลขวิชา ยน…….
----------
1. กล่ า วนำ เหล่ า ทหารม้ า กองทั พ บกไทย มี อ าวุ ธ ยุ ท โธปกรณ์ ใช้ งานอยู่ ห ลายชนิ ด หลายประเภท
ยุทโธปกรณ์เหล่านี้จะต้องได้รับการซ่อมบำรุงที่ดีอย่างต่อเนื่องกัน เพื่อให้สามารถใช้ราชการได้ดี และมีอายุ
ยาวนานที่สุด ดังนั้นพลประจำยุทโธปกรณ์ เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องเข้าใจหลักการ
ซ่อมบำรุง และขอบเขตในการซ่อมบำรุงในหน่วยตามหน้าที่ซึ่งตนรับผิดชอบอยู่โดยถ่องแท้
2. ความมุ่งหมายและมาตรฐานที่ต้องการ เพื่อให้นักเรียนทราบระบบการซ่อมบำรุ งของกองทัพบกไทย ทุก
ประเภท และทุกขั้นตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซ่อมบำรุงระดับหน่วย ขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ซึ่งเป็น การซ่อม
บำรุงขั้นมูลฐาน จนสามารถดำเนินงานการซ่อมบำรุง ตรวจสภาพ และกำกับดูแลกิจการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์
ได้ อ ย่ างมี ป ระสิ ท ธิภ าพ เป็ น ไปตามคำสั่ ง ทบ.ที่ 200/9932 ลง 8 ส.ค.04, คำสั่ ง ทบ. ที่ 400/2507 ลง 9
พ.ย.07 และระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ พ.ศ.2524 ลง 22 เม.ย.24
3. ระเบียบ และคำสั่ง ทบ. เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์
3.1 ให้ยกเลิกคำสั่ง ทบ.ที่ 337/24721 ลง 22 พ.ย. 98 เรื่อง การซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์
3.2 ข้อความในระเบียบ คำสั่ง คำชี้แจงและคำแนะนำอื่นใดของ ทบ. ที่ขัดแย้งกับระเบียบนี้ หรือที่กำหนด
ไว้ในระเบียบนี้แล้ว ให้ใช้ข้อความในระเบียบนี้แทน
ตอนที่ 1
4. คำจำกัดความที่สำคัญ
4.1 ยุทโธปกรณ์ (Equipment) หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ (สป.) ที่จัดประจำบุคคล หรือประจำหน่วยตามที่
กำหนดไว้ในอัตราการจัดและยุทโธปกรณ์ (อจย.) ตามอัตราสิ่งอุปกรณ์ (อสอ.) หรือ ตามอัตราอื่นใด และ
หมายรวมถึงสิ่งอุปกรณ์ประเภท 4 สิ่งอุปกรณ์ในการพัฒนาและสิ่งอุปกรณ์ในความรับผิดชอบของคลังสายยุทธ
บริการ เว้นเครื่องบิน
4.2 การซ่อมบำรุง (Maintenance) หมายถึง การกระทำใด ๆ ที่มุ่งหมายจะรักษายุทโธปกรณ์ ต่าง ๆ ให้
อยู่ในสภาพที่ใช้การได้หรือมุ่งหมายที่จะทำให้ยุทโธปกรณ์ที่ชำรุดกลับคืนมาอยู่ในสภาพที่ใช้การได้ และให้
หมายรวมถึงการตรวจสภาพ การทดสอบ การบริการ การซ่อมแก้ การซ่อมใหญ่ การซ่อมสร้าง การดัดแปลง
และการซ่อมคืนสภาพ
4.3 การตรวจสภาพ (Inspection) หมายถึง การพิจารณาถึงสภาพการใช้การได้ของยุทโธปกรณ์ โดยการ
เปรียบเทียบคุณลักษณะทางฟิสิกส์ ทางเคมี ทางจักรกล และทางไฟฟ้า ตาม มาตรฐานที่ได้กำหนดไว้
4.4 การทดสอบ (Test) หมายถึง การพิสูจน์ทราบสภาพการใช้การได้ของยุทโธปกรณ์ และการ ค้นหา
ข้อบกพร่องทางไฟฟ้า ทางเคมี และทางจักรกล โดยการใช้เครื่องมือ หรือวิธีการทดสอบต่าง ๆ
4.5 การบริการ (Service) หมายถึง การทำความสะอาด การดูแลรักษาการประจุไฟฟ้า การเติมน้ำมัน
เชื้อเพลิง น้ ำมันหล่อลื่น การเติมสารระบบความเย็ น และการเติมลม การเติมก๊าซ นอกจากนั้น ยังหมาย
รวมถึงความต้องการบริการพิเศษต่าง ๆ ที่กำหนดขึ้นตามความจำเป็น เช่นการพ่นสี การหล่อลื่น ฯลฯ เป็นต้น
4.6 การซ่อมแก้ (Repair) หมายถึง การซ่อมยุทโธปกรณ์ชำรุ ดให้ใช้การได้และยังหมายรวมถึง การปรับ
การถอดเปลี่ยน การเชื่อม การย้ำ และการทำให้แข็งแรง
หน ้า |3
15.1.3 คู่มือทางเทคนิค
15.1.4 คำสั่งการหล่อลื่น
15.1.5 คำสั่งการดัดแปลงยุทโธปกรณ์
15.1.6 คำแนะนำทางเทคนิคเกี่ยวกับคุณลักษณะและการใช้เครื่องมือเครื่องทดสอบและเครื่องอุปกรณ์
15.1.7 คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคของการซ่อมบำรุง วิธีดำเนินการ และการวางผังโรงงานซ่อม
15.1.8 บัญชีรายชื่อชิ้นส่วนซ่อมที่ใช้ในการซ่อมบำรุงทุกประเภท
15.2 ตรวจสอบทางเทคนิคเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ของหน่วยต่าง ๆ
15.3 ให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำแก่ผู้บังคับหน่วยทหาร ในเรื่องที่เกี่ยวกับการซ่อมบำรุง ระดับหน่วย
การซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรงและการซ่อมบำรุงสนับสนุนทั่วไป
15.4 ทำการตรวจการซ่อมบำรุงให้เป็นไปตามที่ระเบียบการซ่อมบำรุงกำหนดไว้
16. ผู้บัญชาการกองพล รับผิดชอบการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ ของหน่วยซ่อมบำรุงในกองพล
17. ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบ รับผิดชอบการซ่อมบำรุงของหน่วยซ่อมบำรุงสนับสนุนทั่วไป
18. แม่ทัพภาค รับผิดชอบการซ่อมบำรุงเป็นส่วนรวมในกองทัพภาคของตน
19. กรมฝ่ายยุทธบริการ รับผิดชอบทางเทคนิคทั้งปวง และการซ่อมบำรุงระดับคลัง
20. ให้กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก รักษาการณ์ให้เป็นไปตามระเบียบนี้
หน ้า |7
ตอนที่ 2
ความรับผิดชอบในการซ่อมบำรุง
21. กล่าวทั่วไป ความรับผิดชอบในการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ มีดังต่อไปนี้
21.1 ความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาทุกชั้นจะต้องสอดส่องดูแลกวดขันจนเป็นที่ แน่ใจ
ว่ายุทโธปกรณ์ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับการปรนนิบัติบำรุง และซ่อมบำรุงให้อยู่ใน
สภาพใช้การได้ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังจะต้องควบคุมดูแลให้การระวังรักษา และการใช้ ยุทโธปกรณ์เป็นไป
โดยถูกต้องอีกด้วย
21.2 ความรั บ ผิ ด ชอบโดยตรง ความรั บ ผิ ด ชอบโดยตรง ซึ่ ง แตกต่ า งไปจากความรั บ ผิ ด ชอบของ
ผู้บังคับบัญชานั้น ได้แก่ความรับผิดชอบของผู้ที่ได้รับมอบโดยตรงแบ่งออกได้ดังนี้
21.2.1 ความรับผิดชอบส่วนบุคคล ได้แก่ความรับผิดชอบของผู้ที่ได้รับมอบยุทโธปกรณ์ไว้ใช้ประจำ
และอยู่ภายใต้การระวังรักษาของผู้นั้นโดยตรง
21.2.2 ความรับผิดชอบทางกำกับการ ได้แก่ความรับผิดชอบของผู้บังคับหน่วยซึ่งมีต่อยุทโธปกรณ์ที่
อยู่ในความดูแลของตน
22. การปรนนิบัติบำรุงยุทโธปกรณ์
22.1 ผู้ บั งคั บ บั ญ ชาทุ กชั้ น จะต้ องรับ ผิ ดชอบในการควบคุ ม ดูแ ลให้ ผู้ใต้ บั ง คั บ บั ญ ชาของตนปฏิ บั ติ ตาม
คำแนะนำ และระเบียบปฏิบัติอันเกี่ยวกับการปรนนิบัติบำรุง โดยเคร่งครัด และจะต้องรับผิดชอบในการ
ควบคุมกำกับการให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ใช้ผู้สอน หรือพลประจำยุทโธปกรณ์ ต่าง ๆ
ได้รับการฝึกจนสามารถปรนนิบัติบำรุงยุทโธปกรณ์ที่ได้รับมอบได้โดยถูกต้องเรียบร้อยกับต้องรับผิดชอบในการ
กำหนดเวลาสำหรับทำการปรนนิบัติบำรุงให้เพียงพอแก่ความจำเป็นอีกด้วย
22.2 เมื่อการปรนนิบัติบำรุงยุทโธปกรณ์ไม่อาจกระทำได้โดยพลประจำยุทโธปกรณ์นั้น ๆ ด้วย เหตุใดก็ดี ผู้
บังคับหน่วยจะต้องจัดเจ้าหน้าที่ผู้อื่น หรือชุดอืน่ ให้ทำการปรนนิบัติบำรุงตามความจำเป็น
22.3 ผู้บังคับบัญชาทุกชั้นต้องรับผิดชอบ ในการป้องกันมิให้มีการใช้ยุทโธปกรณ์ในทางที่ผิด เมื่อ ปรากฏ
หลักฐานซึ่งแสดงว่ามีการใช้ยุทโธปกรณ์ในทางที่ผิดขึ้น ต้องดำเนินการสอบสวน และแก้ไขทันที การใช้
ยุทโธปกรณ์ในทางที่ผิดทั่วไปมีดังนี้
22.3.1 ใช้ไม่ถูกต้องเหมาะสมกับคุณลักษณะ หรือวิธีการใช้ยุทโธปกรณ์ไม่ระมัดระวังใช้ หรือปฏิบัติการ
โดยประมาท
22.3.2 ขาดการหล่อลื่น หล่อลื่นมากเกินไปหรือใช้วัสดุหล่อลื่นที่ทางราชการมิได้กำหนด ให้ใช้
22.3.3 ไม่ตรวจสภาพการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ให้พอเพียงแก่ความจำเป็น
22.3.4 บกพร่องในการซ่อมบำรุง รวมทั้งขาดการบริการ และการปรับที่ถูกต้อง
22.3.5 ให้ผู้ที่ปราศจากคุณวุฒิทำการซ่อมแก้ และใช้เครื่องมือ หรือเครื่องอุปกรณ์ในการซ่อมไม่ถูกต้อ ง
เหมาะสม
22.3.6 ไม่มอบหมายความรับผิดชอบโดยตรงในการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์
23. วิธีการปฏิบัติตามลำดับขั้นการซ่อมบำรุง
23.1 การปฏิบัติการซ่อมบำรุงขั้นที่ 1
23.1.1 ปฏิบัติในหน่วยระดับหมวด โดยผู้ใช้ (พลขับ และพลประจำรถ)
23.1.2 ทำการปรนนิบัติบำรุงประจำวันและประจำสัปดาห์
23.1.3 ใช้ตารางการปบ.การตรวจ และการบริการในคู่มือพลประจำยุทโธปกรณ์แต่ละชนิด ร่วมกับแบบ
พิมพ์ สพ.110 (ทบ.468-310) บัตรการใช้รถประจำวันเป็นแนวทางในการปรนนิบัติบำรุง
23.2 การปฏิบัติการซ่อมบำรุงขั้นที่ 2 ระดับกองร้อย
หน ้า |8
ตอนที่ 3
ความรับผิดชอบทางเทคนิค
24. กล่ า วทั่ ว ไป กรมสรรพาวุ ธ ทหารบกมี ห น้ า ที่ รั บ ผิ ด ชอบทางเทคนิ ค เกี่ ย วกั บ การซ่ อ มบำรุ ง บำรุ ง
ยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ
25. หลักการทางเทคนิค
25.1 กรมสรรพาวุธทหารบก มีหน้าที่กำหนดการทางเทคนิคเกี่ยวกับ การซ่อมบำรุงตามที่ได้ รับมอบ
อำนาจจากกองทัพบก ซึ่งได้แก่การจัดทำ
25.1.1 คู่มือทางเทคนิค
25.1.2 คำสั่งการใช้น้ำมันหล่อลื่น
25.1.3 คำสั่งดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์
25.1.4 คำแนะนำทางเทคนิคเกี่ยวกับเครื่องมือ เครื่องทดสอบ และเครื่องอุปกรณ์ในโรงซ่อม
25.1.5 คำแนะนำในการใช้ เครื่องมือ เครื่องทดสอบ และเครื่องอุปกรณ์ในโรงซ่อม
25.1.6 คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคของการซ่อมบำรุง วิธีดำเนินการ และการวางผังโรงซ่อม
25.1.7 บัญชีรายชื่อชิ้นอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงทุกประเภท และทุกขั้น
25.2 การปฏิ บั ติ ตามหลั กการทางเทคนิ คที่ กรมสรรพาวุธทหารบกได้ ออกไว้แล้ว เป็ น หน้ าที่ และความ
รับผิดชอบของผู้บังคับหน่วยทุกขั้นที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมบำรุงที่จะต้องควบคุมดูแลให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติ
ตามโดยเคร่งครัด และถูกต้อง
25.2.1 คำสั่งการหล่อลื่น และคู่มือทางเทคนิคเกี่ยวกับการใช้ยุทโธปกรณ์นั้น มีอำนาจบังคับเหนือคำสั่ง
หรือคำแนะนำใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าสามารถปฏิบัติได้ให้ปิดหรือเก็บไว้กับยุทโธปกรณ์นั้น ๆ หรือ เก็บไว้ ณ ที่ ๆ จะ
ปฏิบัติการซ่อมบำรุงในหน่วยโดยให้สามารถหยิบใช้ได้ทันที
25.2.2 เจ้าหน้าที่ผู้ทำการตรวจสภาพจะต้องตรวจคำสั่งหล่อลื่น และคู่มือฯ เหล่านี้ว่าหน่วยมีใช้อยู่ครบ
ครันเพียงใด และได้ใช้คำสั่งหล่อลื่นกับ คู่มือทางเทคนิคตามวัตถุประสงค์หรือไม่แล้วให้บันทึกลงในรายงานผล
การตรวจสภาพด้วย
25.2.3 นอกจากนั้ น ผู้ บั ง คั บ หน่ ว ยทุ ก ระดั บ อาจกำหนดวิ ธี ป ฏิ บั ติ ป ลี ก ย่ อ ยเพื่ อ ให้ เหมาะสมกั บ
สถานการณ์ หรือสภาพของหน่วยแต่ละหน่วยขึ้นใช้ เป็นการภายในได้แต่ทั้งนี้ต้องไม่ขัดต่อหลักการทางเทคนิค
ซึ่งกรมสรรพาวุธทหารบกได้กำหนดไว้
26. การกำกับดูแลทางเทคนิค
26.1 เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก นอกจากจะเป็นผู้รับผิดชอบในการซ่อมบำรุงประจำที่แล้ว ยังต้อง
รับผิดชอบในการตรวจสอบทางเทคนิคเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ของหน่วยต่าง ๆ ใน กองทัพบกด้วย
การตรวจสอบทางเทคนิคของการซ่อมบำรุงนี้ได้แก่ การวางมาตรฐานเกี่ยวกับสภาพใช้ การของยุทโธปกรณ์
ความสิ้นเปลืองในการซ่อม ระเบียบปฏิบัติในการตรวจสภาพที่แสดงให้เห็นผลของ การซ่อมบำรุงประจำหน่วย
ในสนามประจำที่ และสภาพใช้การของยุทโธปกรณ์ได้โดยแน่ชัด
26.2 เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบกจะต้องให้ความช่วยเหลือ และคำแนะนำแก่ผู้บังคับหน่วยทหาร ในเรื่อง
เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงประจำหน่วย และในสนาม
26.3 เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก หรือผู้แทน จะต้องออกตรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือแนะนำแก่ หน่วย
สรรพาวุธซ่ อมบำรุงในสนาม โดยความมุ่ งหมายที่ จะทำให้ ห น่วยสรรพาวุธซ่ อมบำรุงในสนาม สามารถ
ดำเนินการตามภารกิจ โดยมีประสิทธิภาพสูงที่สุดทั้งนี้ให้กระทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
26.4 ให้เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก หรือผู้แทนไปตรวจเยี่ยมหน่วยต่าง ๆ ตามความจำเป็นให้ ทราบสภาพ
ยุทโธปกรณ์ สายสรรพาวุธ สภาพการปรนนิบัติบำรุงสภาพการซ่ อมบำรุง และสภาพการส่ง กำลังในส่วนที่
ห น ้ า | 10
ตอนที่ 5
การดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์
32. ความมุ่งหมาย
ยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธที่ใช้ในกองทัพบกนั้น อาจมีความจำเป็นที่จะต้องทำการดัดแปลงแก้ไข เพื่อเพิ่ม
ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ ลดงานซ่อมบำรุง หรือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรบหรือการใช้งาน
33. การดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์นั้น ให้ทำตามคำสั่งกองทัพบกว่าด้วยการดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์ นั้นๆ
ซึ่ งกองทั พ บกจะได้อ อกคำสั่ งเป็ น ครั้งคราวตามความจำเป็ น โดยกำหนดยุ ท โธปกรณ์ ซึ่ งจะต้ อ ง ทำการ
ดัดแปลงแก้ไข ส่วนที่จะต้องทำการดัดแปลงแก้ไข ชิ้นส่วนที่จะต้องทำการดัดแปลงแก้ไข และ ผู้รับผิดชอบใน
การดัดแปลงแก้ไข รวมทั้งวิธีดัดแปลงแก้ไขโดยละเอียด และเมื่อมีคำสั่งให้ดัดแปลง
แก้ไขยุทโธปกรณ์แล้ว ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดัดแปลงแก้ไขต้องดำเนินการตามคำสั่ งทันทีจะละเว้น หรือ
เพิกเฉยเสียมิได้
34. ห้ามมิให้ทำการดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์โดยมิได้รับคำสั่งหรือผิดแผกนอกเหนือไปจากแบบแผน ในคำสั่ง
ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่พิจารณาเห็นว่าถ้าหากฝืนใช้ยุท โธปกรณ์นั้น ๆ ต่อไปแล้วอาจเกิดอันตราย อย่างร้ายแรง
แก่ชีวิต และทรัพย์สิ นแล้ว ให้งดใช้การยุทโธปกรณ์ นั้นทันที แล้วรีบรายงานไปตามสาย การบังคับบัญ ชา
พร้อมทั้งข้อบกพร่องของยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ
35. การดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์จัดตามลำดับความเร่งด่วนออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. ประเภทดัดแปลงแก้ไขทันที และ 2. ประเภทปกติ
35.1 ประเภทดัดแปลงแก้ไขทันที เมื่อมีคำสั่งให้ดัดแปลงแก้ไขทันที ผู้รับผิดชอบต้องดำเนินการ ดัดแปลง
แก้ไขยุทโธปกรณ์ในหน่วยใช้ทันทีก่อนที่จะใช้งานยุทโธปกรณ์ต่อไป สำหรับยุทโธปกรณ์ที่เก็บรักษาไว้คงคลัง
นั้น ผู้รับผิดชอบในการเก็บรักษา และแจกจ่าย ต้องจัดการให้ยุทโธปกรณ์นั้นได้รับการดัดแปลงแก้ไขก่อน ที่จะ
จ่ายให้หน่วยทหาร ทั้งนี้นอกจากคำสั่งดัดแปลงแก้ไขเฉพาะยุทโธปกรณ์แต่ละอย่างจะได้กำหนดไว้เป็นอย่าง
อื่น
35.2 ประเภทปกติ การดัดแปลงประเภทนี้ ให้ผู้รับผิ ดชอบดำเนินการดัดแปลงแก้ไขโดยเร็วที่ สุด เท่าที่จะ
ทำได้ ทั้งนี้โดยไม่ทำให้เสียผลในการฝึกหรือการปฏิบัติตามภารกิจของหน่วยทหาร ส่วน ยุทโธปกรณ์ที่บรรจุ
หีบห่อเพื่อการเก็บรักษาไว้ในคลังสรรพาวุธนั้นไม่ต้องนำมาดัดแปลงแก้ไข ทั้งนี้ นอกจากคำสั่งดัดแปลงแก้ไข
เฉพาะยุทโธปกรณ์แต่ละอย่างจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
35.3 ให้กรมสรรพาวุธทหารบก รับผิดชอบในการตรวจสอบ และติดตามผลการดัดแปลงแก้ไข ให้เป็นไป
ตามคำสั่งโดยถูกต้อง และตามกำหนดเวลา
36. การเสนอแนะให้มีการดัดแปลงแก้ไข
36.1 ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ มีสิทธิ์ที่จะเสนอแนะให้มีการดัดแปลงแก้ไข ยุทโธปกรณ์
เพื่อความมุ่งหมายดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
36.2 ให้กรมสรรพาวุธทหารบกกำหนดวิธีการรายงานข้อบกพร่องของยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ พร้อมทั้ง
สิ่งที่ควรดัดแปลงแก้ไขขึ้น เพื่อให้หน่วยต่าง ๆ ยึดถือเป็นหลักปฏิบัติต่อไป
36.3 เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบกมีหน้าที่ พิจ ารณาข้อเสนอแนะในการดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์ และ
ดำเนินการทางเทคนิคอันเหมาะสม เพื่อให้บรรลุผลสมความมุ่งหมายดังกล่าวมาแล้ว
*************
ห น ้ า | 13
ตารางประมาณเวลาปฏิบัติงานซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ ทบ.สหรัฐ
การบริการหรือการซ่อม ยานยนต์สายพาน ยานยนต์ล้อ
บริการก่อนใช้งาน 30 นาที (พลประจำรถ) 15 นาที (พลขับ)
บริการหลังใช้งาน 1 ชม (พลประจำรถ) 20 นาที (พลขับ)
บริการขณะหยุดพัก 15 นาที (พลประจำรถ) 5 นาที (พลขับ)
บริการประจำสัปดาห์ 4 ชม. (พลประจำรถ) 1 ชม. (พลขับ)
บริการประจำเดือน 1 วัน (ช่าง 1 พลประจำรถ 2) 1-2 วัน (ช่าง 1 พลขับ 1)
บริการประจำ 3 เดือน 1-1 1/2 วัน (ช่าง 1 พลประจำรถ 2) 1-2 วัน (ช่าง 1 พลขับ 1)
บริการประจำ 6 เดือน - 1-2 วัน (ช่าง 1 พลขับ 2)
การยกเครือ่ งยนต์ออกจากรถ 4 ชม. (ช่าง 1 พลประจำรถ 2) -
ถอดและเปลี่ยนเครื่องยนต์ - 3 ชม. (ช่าง 2)
ถอดเปลี่ยนเฟืองขับขั้นสุดท้าย 6 ชม. (ช่าง 1 พลประจำรถ 2) -
ถอดเปลี่ ย นเครื่ อ งผ่ อ นแรง 1 ชม. (พลประจำรถ) 30 นาที (ช่าง 2)
สะเทือน
ถอดเปลี่ยนคานรับแรงบิด 1 ชม. (พลประจำรถ) -
ถอดเปลี่ยนล้อกดสายพาน 1 ชม. (พลประจำรถ) -
ถอดเปลี่ยนล้อ - 15 นาที (พลขับ)
ถอดเปลี่ยนสายพาน 1 ข้าง 6 ชม. (พลประจำรถ) -
บริการสายพาน 1 ข้าง 30 นาที (พลประจำรถ) -
สรุประบบซ่อมบำรุงของกองทัพบก
การซ่อมบำรุง การซ่อมบำรุงระดับหน่วย การซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรง การซ่อมบำรุงสนับสนุนทั่วไป การซ่อมบำรุงระดับคลัง
ขั้นที่ 1 2 3 4 5
ที่ไหน ที่ตั้งยุทโธปกรณ์ หน่วยใช้ เคลื่อนที่ กึ่งเคลื่อนที่ โรงงาน
ใคร ผู้ใช้, พลประจำ หน่วยใช้ ผู้บัญชาการกองพล ผู้บัญชาการ กองบัญชาการช่วยรบ และ กรมฝ่ายยุทธบริการ
(ผู้รับผิดชอบ) ยุทโธปกรณ์ แม่ทัพภาครับผิดชอบเป็นส่วนรวม
แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา
โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
ค่ายอดิศร สระบุรี
----------
เอกสารเพิ่มเติม
วิชา เอกสารการซ่อมบำรุง
หมายเลขวิชา ยน……………..
1. กล่าวโดยทั่วไป
เอกสารซ่อมบำรุงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับการดำเนินการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ให้สามารถใช้ราชการได้
อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุยาวนาน เอกสารซ่อมบำรุงนั้นจะต้องทันสมัย หน่วยใดที่มียุทโธปกรณ์ไว้ใน
ครอบครอง แต่ ป ราศจากเอกสารซ่ อ มบำรุ ง หรื อ ไม่ น ำเอกสารซ่ อ มบำรุ ง มาใช้ ให้ เ กิ ด ประโยชน์ ต่ อ
ยุทโธปกรณ์แล้ว ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ยุทโธปกรณ์ของหน่วยนั้ น จะใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ผู้บังคับหน่วยหรือ
ผู้รับผิดชอบต่อการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์จะต้องมีหลักประกันว่าในหน่วยของตนมีเอกสารซ่อมบำรุงฉบับที่
ถูกต้อง และทันสมัยตามจำนวนที่เหมาะสม
2. ชนิดของเอกสาร เอกสารที่ใช้ราชการอยู่ในกองทัพบก มีอยู่เป็นจำนวนมากในรูปแบบของ
- ระเบียบ
- คำสั่ง
- คำชี้แจง
- คู่มือทางเทคนิค (คท.)
- คู่มือราชการสนาม (รส.)
- แบบพิมพ์ต่าง ๆ สำหรับการปรนนิบัติบำรุง และส่งกำลัง
2.1 ระเบียบกองทัพบกจะออกระเบียบเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงไว้โดยแน่นอน เช่น
- ระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ 2 - 4 พ.ศ. 2534
- ระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการรับสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ. 2534
2.2 คำสั่ง คำสั่งเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงที่จะนำมาเป็นหลักฐาน และยึดถือเป็นหลั กปฏิบั ติ เช่นคำสั่ง ทบ.
ที่ 400/2507 ลง 9 พ.ย.07 เรื่อง ให้ใช้คู่มือทางเทคนิค คท.37-2810 ในการตรวจสภาพ และการปรนนิบัติ
บำรุงยานยนต์ เป็นต้น
2.3 คำสั่งชี้แจง ทบ.จะออกคำสั่งชี้แจง เช่น คำสั่ง ทบ.(คำชี้แจง) ที่ 13/1693 ลง 6 ก.พ. 04 เรื่องการ
ตรวจสภาพยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ โดยผู้บังคับบัญชา
2.4 คู่มือทางเทคนิค (คท.)เป็นเอกสารซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ ซึ่งจะกำหนดชนิดของเอกสารต่าง ๆ ไว้เป็น
ระบบจำนวนตัวเลข ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา และการนำไปใช้ปฏิบัติ เอกสารซ่อมบำรุงนี้ยังกำหนดตัวย่อ
ของชนิด
เอกสารไว้ เพื่อมิให้เกิดความสับสนในการนำไปใช้อีกด้วย เช่น
2.4.1 ตัวย่อ
- คู่มือทางเทคนิค (คท.) (TM ) ย่อมาจาก TECHNICAL MANUAL
- คำสั่งการหล่อลื่น (คล.) (LO ) ย่อมาจาก LUBRICATION ORDER
- คำสั่งดัดแปลงแก้ไขยุทธภัณฑ์ (MWO ) ย่อมาจาก MODIFICATION WORK ORDER
ห น ้ า | 16
10 สำหรับ ขั้นที่ 1
20 สำหรับ ขั้นที่ 2
30 สำหรับ ขั้นที่ 3
40 สำหรับ ขั้นที่ 4
50 สำหรับ ขั้นที่ 5
หมายเหตุ ปกติตัวเลขที่กำหนดขั้นการ ซบร.ของหน่วย สรรพาวุธ นั้นจะเขียนตัวเลข 34 หมายถึงใช้ได้
ขั้น 3 และ ขั้น 4 หรือ 35 คือใช้ได้ ตั้งแต่ขั้น 3 ขั้น 4 และขั้น 5 โดยอาจมีตัวเลขต่อท้ายตัวเลขที่กำหนดขั้น
การ ซบร. ไว้
-1
-2
- 1 หมายถึง ตัวรถ ( AUTOMOTIVE )
- 2 หมายถึง ป้อมปืน ( TURRET )
3. การใช้คู่มือทางเทคนิคประจำยุทโธปกรณ์ และคู่มือส่งกำลัง
3.1 TM 9 ที่ มี ตั ว เลขลงท้ า ยด้ ว ยเลข 10 เป็ น หนั งสื อ คู่ มื อ แสดงข้ อ มู ล รายละเอี ย ดทางเทคนิ ค ของ
ยุทธภัณฑ์แต่ละชนิด โดยจะรวบรวมคำแนะนำในการใช้ยุทโธปกรณ์ และการปรนนิบัติบำรุงยุทโธปกรณ์
ให้แก่พลประจำรถ พอสรุปเป็น
ข้อ ๆ ได้ดังนี้
3.1.1 แสดงข่าวสาร คุณลักษณะ รายละเอียด มาตราทานของยุทโธปกรณ์ (ประกอบภาพ)
3.1.2 ให้คำแนะนำการในเตรียมการก่อนที่จะนำยุทโธปกรณ์ไปใช้งาน
3.1.3 ให้คำแนะนำในการปรนนิบัติบำรุงขั้นที่ 1 ของพลประจำรถ
3.1.4 กำหนดแผนการหล่อลื่น
3.1.5 แสดงรายการเครื่องมือ เครื่องใช้ประจำยุทโธปกรณ์ตลอดจนการเก็บรักษา
3.1.6 แนะนำรายละเอียด วิธีการขนส่งยุทโธปกรณ์
3.1.7 แนะนำวิธีการทำลายจุดสำคัญของยุทโธปกรณ์ เพื่อป้องกันมิให้ข้าศึกนำไปใช้ประโยชน์
3.1.8 แนะนำวิธีการใช้ยุทโธปกรณ์ในสภาพดินฟ้าอากาศผิดปกติ
3.1.9 อธิบายข้อขัดข้อง สาเหตุและวิธีการแก้ไข
( 2350-01-068-4078 )
HEAD QUARTERS,DEPARTMENT OF THE ARMY
8 MAY 1962
---------------------------------------------------
3.2 คู่มือทางเทคนิค การซ่อมบำรุงที่มีเลขลงท้ายด้วย 20 เป็นคู่มือทางเทคนิคสำหรับการซ่อมบำรุงระดับ
หน่วย ซึ่งอธิบายให้ทราบถึงรายละเอียดของยุทโธปกรณ์ ซึ่งพอสรุปเป็นข้อ ๆ ดังนี้
3.2.1 อธิบายถึงคุณลักษณะ รายละเอียดและมาตราทานของยุทโธปกรณ์ (ประกอบภาพ)
3.2.2 แนะนำการบริการ และการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ระคับหน่วย
3.2.3 แนะนำการดำเนินกรรมวิธีเมื่อแรกรับต่อยุทโธปกรณ์ ก่อนที่จะไปใช้งาน
3.2.4 แสดงรายละเอียด วิธีการขนส่ง และการบรรทุกยุทโธปกรณ์
3.2.5 แนะนำวิธีการทำลายจุดสำคัญ ของยุทโธปกรณ์เพื่อป้องกันมิให้ข้าศึกนำไปใช้ประโยชน์
3.2.6 กำหนดผังแบ่งมอบการซ่อมบำรุง ระดับต่าง ๆ ( MAINTENANCE ALLOCATION CHART )
3.2.7 แสดงรายการเครื่องมือพิเศษ สำหรับการซ่อมบำรุงระดับหน่วย
3.2.8 อธิบายข้อขัดข้อง สาเหตุและวิธีการแก้ไข
ตัวอย่าง คู่มือทางเทคนิคสำหรับการซ่อมบำรุงระดับหน่วยของ รถถัง M60A3 (ป้อมปืน)
TM 9-2350-253-20-2
TECHNICAL MANUAL
ORGANIZATION MAINTENANCE
TANK, COMBAT, FULL TRACKED:
105-MM GUN, M60A3
NSN 2350-00-148-6548
AND
NSN 2350-01-061-2306 (TTS)
TURRET
HEADQUARTERS,DEPARTMENT OF THE ARMY
DECEMBER 1979
3.3 คู่มือทางเทคนิค TM 9 ที่ลงท้ายด้วยอักษร P เป็นเอกสารการส่งกำลังบอกรายการชิ้นส่วนซ่อม ซึ่ง
อนุมัติให้หน่วยที่ทำการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ ได้เบิกชิ้นส่วนต่าง ๆตามรายการที่ได้กำหนดไว้ แต่ละระดับชั้น
การซ่อมบำรุง เก็บสะสมหรื อเบิกทดแทนหมุนเวี ยน เพื่อใช้ในการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ ปกติคู่มือทาง
เทคนิค TM 9 ที่ลงท้ายด้วยอักษร P จะมีประจำยุทโธปกรณ์ทุกชนิดและจะต้องทันสมัยและผู้ใช้คู่มือทาง
เทคนิคนี้คือเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงฯและนายสิบส่งกำลังสาย สพ.ของหน่วยทุกระดับมีรายละเอียดพอสรุปเป็น
ข้อ ๆได้ คือ
3.3.1 มีสารบัญ รายการที่ต้องการทราบ
3.3.2 แสดงตารางรายการชิ้นส่วนซ่อม ที่อนุมัติให้หน่วยเบิกสะสมชิ้นส่วนซ่อมอะไหล่ ให้ลด คงคลัง
( PLL. Prescribed load list )
3.3.3 มีรูปภาพชิ้นส่วนประกอบใหญ่ และชิ้นส่วนประกอบย่อย
3.3.4 แสดงตารางหมายเลข และควบคุมชิ้นส่วน ชื่อชิ้นส่วนและตัวเลขอนุมัติให้หน่วย
3.3.5 แสดงรายการเครื่องมือพิเศษ สำหรับการซ่อมบำรุงระดับหน่วย
ห น ้ า | 19
ตอนที่ 1 กล่าวทั่วไป
ตอนที่ 2 ผังการจัด
ตอนที่ 3 อัตรากำลังพล
ตอนที่ 4 อัตรายุทโธปกรณ์
ตัวอย่าง
อัตราการจัดและยุทโธปกรณ์ (อจย.)
หมายเลข 17 - 15 กองพันทหารม้า (รถถัง) ที่______
ตอนที่ 1 กล่าวทั่วไป
1. ภารกิจ
2. การแบ่งมอบ
3. ขีดความสามารถ
4. อัตราลด
5. ยุทโธปกรณ์
ตอนที่ 2 ผังการจัด
ตอนที่ 3 อัตรากำลังพล
ตอนที่ 4 อัตรายุทโธปกรณ์
หมายเหตุ อจย.จัดอยู่ในขั้นความลับประเภท ลับ
3.6 คำสั่งการดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์ “MODIFICATION WORK ORDER” (MWO)
3.6.1 ความมุ่งหมาย
ยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธที่ใช้อยู่ในกองทัพบกนั้น ให้มีการดัดแปลงแก้ไขได้เมื่อเกิดความจำเป็น
ในการป้องกันมิให้ยุทโธปกรณ์ ชำรุดเสียหาย เพื่อเพิ่มความปลอดภัย เพื่อลดงานซ่อมบำรุง และเพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพในการใช้งานให้สูงขึ้น
3.6.2 การเสนอแนะ และการอนุมัติให้มีการดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์
3.6.2.1 ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับยุทโธปกรณ์ มีสิทธิ์เสนอแนะให้มีการดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์
ด้วยความมุ่งหมายดังกล่าวมาข้างต้น โดยปฏิบัติตามวิธีการซึ่งกรมสรรพาวุธกำหนดขึ้น
3.6.2.2 เจ้ า กรมสรรพาวุ ธ ทหารบก มี ห น้ า ที่ พิ จ ารณาข้ อ เสนอแนะในการดั ด แปลงแก้ ไ ข
ยุทโธปกรณ์ และดำเนินการทางเทคนิคอันเหมาะสม เพื่อให้บรรลุผลตามความมุ่งหมายดังกล่าว
3.6.3 การดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์
ให้กระทำตามคำสั่งกองทัพบก ว่าด้วยการดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์ในส่วนนั้น ๆ และเมื่อมี
คำสั่งให้ดัดแปลงยุทโธปกรณ์แล้ว ผู้มีหน้าที่ในการดัดแปลงแก้ไขต้องดำเนินการตามคำสั่งทันที จะละเว้นหรือ
เมินเฉยเสียมิได้
3.6.4 ห้ามทำการดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์ โดยมิได้มีคำสั่งหรือทำการดัดแปลงแก้ไขให้ผิดแปลก
นอกเหนือไปจากแบบแผนในคำสั่งที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่พิจารณาเห็นว่าอาจเกิดอันตรายอย่างร้ายแรงแก่ชีวิต
แลทรัพย์สิน ให้งดใช้ยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธนั้น แล้วรายงานตามสายการบังคับบัญชาโดยเร็วที่สุด
3.6.5 การดัดแปลงแก้ไขยุทโธปกรณ์ตามลำดับความเร่งด่วน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
(1.) ประเภทต้องดัดแปลงทันที และ (2.) ประเภทปกติ
ห น ้ า | 21
แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา
โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
ค่ายอดิศร สระบุรี
----------
เอกสารเพิ่มเติม
วิชา การซ่อมบำรุงทางธุรการ และแบบพิมพ์ประวัติ
หมายเลขวิชา ยน. ……………………
1. กล่าวทั่วไป
การศึกษาวิชาการซ่อมบำรุงทางธุรการและแบบพิมพ์ประวัติ นักเรียนจะทราบถึ งวิธีการปฏิบัติ
เกี่ยวกับการใช้ยานยนต์ การบันทึกแบบพิมพ์ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งคู่มือ และคำสั่งต่างๆ ที่กองทัพบกได้
กำหนดขึ้น เพื่อวางหนทางปฏิบัติให้เป็นไปในแนวเดียวกันเอกสารและแบบพิมพ์ประวัติซึ่งได้บันทึกไว้นี้จะ
ช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบถึง ปัญหาข้อเท็ จจริงและการแก้ไขที่ถูกต้อง ข้อสำคัญก็คือรู้ว่าเมื่อว่าท่านต้องการ
ทราบเรื่องใด จะตรวจสอบได้ที่ไหน โดยใช้เวลาน้อยที่สุด
2. ความมุ่งหมาย เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับ
2.1 ระเบียบปฏิบัติการใช้แบบพิมพ์ ซึ่ง ทบ.ได้กำหนดแนวทางไว้
2.2 ความรับผิดชอบทุกระดับการบังคับบัญชา ในระบบการซ่อมบำรุง
2.3 วิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ยานยนต์ การ ปบ.และการบันทึกแบบพิมพ์
2.4 การใช้คู่มือ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
3. คำสั่ง คำสั่งที่เกี่ยวข้องกับแบบพิมพ์ และรายงาน ที่ควรทราบ มีดังนี้
- คำสั่ง ทบ.ที่ 313/22986 เรื่อง วิธีการส่งกำลังสาย สพ. ลง 1 พ.ย.98
- คำสั่ง ทบ.ที่ 320/23630 เรื่อง วิธีการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์สาย สพ. ลง 1 พ.ย.98
- คำสั่ง ทบ.ที่ 19/15790 เรื่อง การตรวจสภาพเฉพาะอย่างยุทโธปกรณ์สาย สพ. ลง 13 ก.ค.03
- คำสัง่ ทบ.ที่ 200/9932 เรื่อง หลักการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์สาย สพ. ลง 8 ส.ค.04
- คำสั่ง ทบ.ที่ 13/1693 เรื่อง การตรวจสภาพการซ่อมบำรุงสาย สพ.ลง 6 ก.พ.04
- คำสั่ง ทบ.ที่ 23/1150 เรื่อง กำหนดขั้นการซ่อมบำรุง ลง 28 มิ.ย.05
- คำสั่ง ทบ.ที่ 400/2507 เรื่อง การตรวจสภาพและการ ปบ.ยานยนต์ ลง 9 พ.ย. 07
- คำสั่ง ทบ.ที่ 33/2510 เรื่องรายงานยานยนต์งดใช้การประจำเดือน ลง 7 ก.พ.10
4. แบบพิมพ์ แบบพิมพ์ซึ่งใช้ซ่อมบำรุงประจำหน่วยนั้นมีความมุ่งหมายในการใช้ สรุปเป็นข้อ ๆ ได้ ดังนี้
4.1 ใช้ควบคุมการใช้รถ และการ ปบ.ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง
4.2 กำหนดวิธีการตรวจสภาพ และการ ปบ. ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
4.3 เป็นหลักฐานแสดงถึง สมรรถภาพของหน่วย
4.4 เป็นหลักฐานในการรายงานการสอบสวน
4.5 ใช้ในการพิจารณาแบ่งประเภทของยานยนต์ ตามสภาพการใช้งาน
4.6 เพื่อเป็นหลักฐานการเบิกจ่าย
5. เอกสารการซ่อมบำรุงทางธุรการ เอกสารการซ่อมบำรุงทางธุรการ หมายรวมถึงแบบพิมพ์สภาพ และ
รายงานเอกสาร คู่มือทั้งหมดซึ่งกองทัพบกให้มีไว้เพื่อกำหนด วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการ ปบ.ของหน่วย ใช้ซึ่งแยก
ประเภทได้ 4 ประเภท คือ (ดูแผนผังประกอบ)
ห น ้ า | 23
ส่วนที่ 3
ส่วนที่ 4
( 2 ) แบบพิมพ์รายงานอุบัติเหตุ ทบ.468 - 702 (สพ.91) แบบพิมพ์รายงานอุบัติเหตุ ใช้สำหรับบันทึก
กรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น ฉะนั้นพลขับจะต้องนำแบบพิมพ์ รายงานอุบัติเหตุนี้ติดไปกับรถทุกครั้งที่นำรถออก
ใช้งานนอกหน่วย พลขับเป็นผู้ บันทึ กการรายงานนี้เสนอต่อผู้บังคับบัญ ชา กรณี ที่ เกิดอุบัติเหตุทำให้เกิด
ทรัพ ย์สิ น เสี ยหาย ได้ รับ บาดเจ็บ หรือเสียชี วิต หรือรถของตนมี ส่วนเกี่ ยวข้องกับ อุบั ติเหตุ นั้ น โดยต้ อ ง
ดำเนินการ ดังนี้
(2.1) บันทึกแบบพิมพ์รายงานอุบัติเหตุทันทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุ
(2.3) พยายามบันทึกในสถานที่เกิดเหตุนั้น
(2.4) รีบยื่นรายงานนี้เสนอต่อ ผบ.ชา ทันที
(2.3) การบันทึกแบบพิมพ์รายงาน จะต้องบันทึกทุกครั้งที่มีอุบัติเหตุ ไม่มีข้อยกเว้น
(2.4) กรณีที่พลขับไม่สามารถบันทึกรายงานนี้ได้ เช่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ให้ผบ.ชา โดยตรงของพล
ขับ (หรือผู้อาวุโสในขณะนั้น) เป็นผู้บันทึกแทน
(2.5) ถ้ามีผู้บาดเจ็บให้พลขับรีบดำเนินการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บก่อนแล้วรีบบันทึกรายงานนี้ทันที ที่มีโอกาส
(2.6) การบันทึกรายงาน ต้องบันทึกตามข้อเท็จจริง
(2.7) บั นทึ กรายงานนี้ใช้เป็นหลักฐานของคณะกรรมการในการสอบสวนอุบัติเหตุ เพื่อพิจารณาถึงความ
รับผิดชอบ ฉะนั้นต้องเก็บแบบพิมพ์นี้ จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
(2.8) ลักษณะรายละเอียด และการบันทึก
(2.8.1) สัญลักษณ์
(2.8.2) หัวข้อที่พลขับต้องบันทึก
(2.8.3) หลักฐานของฝ่ายตรงข้าม และชื่อที่อยู่ของพยาน
(4.3) ให้คำแนะนำการใช้ยุทโธปกรณ์ในสภาพดินฟ้าอากาศผิดปกติ
(4.4) ให้คำแนะนำการ ปบ.ขั้นที่ 1
(4.5) กำหนดแผนการหล่อลื่น
(4.6) แสดงรายละเอียดเครือ่ งมือเครื่องใช้ประจำยุทโธปกรณ์ การเก็บรักษา การติดตั้ง
(4.7) ให้คำแนะนำรายละเอียด วิธีการขนส่ง
(4.8) ให้คำแนะนำวิธีการทำลายจุดสำคัญของยุทโธปกรณ์ เพื่อมิให้นำไปใช้ประโยชน์ได้อีก
ใบอนุญาตขับขี่ยานยนต์ทหาร
ใบอนุญาตขับขี่ยานยนต์ทหารนี้ กรมการขนส่งทหารบก เป็นผู้ทำการสอบคุณวุฒิ และออกให้แก่
บุคคลที่ผ่านการทดสอบและรับรองคุณวุฒิแล้วเท่านั้น มีลักษณะคล้ายใบขับขี่ของกรมตำรวจ พลขับจะต้อง
นำใบอนุญาตขับขี่ยานยนต์ทหารติดตัวไปด้วยทุกครั้งเมื่อขณะทำการขับขี่ เพื่อแสดงว่าตนได้รับอนุญาตให้
ทำการขับขี่ยานยนต์ทหารประเภทนั้น ๆ ได้ เพราะใบขับขี่ยานยนต์ทหารนี้มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท
6.2 แบบพิมพ์ใช้ในการซ่อมบำรุงขั้นที่ 2 แบบพิมพ์ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงขั้นที่ 2 ประกอบด้วย
(6.2.1) แบบพิมพ์ที่ใช้ในการซ่อมบำรุง หรือตรวจสภาพ
(6.2.2) แบบพิมพ์ที่ใช้ในการควบคุมการปฏิบัติการซ่อมบำรุงยานพาหนะ
(1.) แบบพิมพ์การจ่ายรถประจำวัน ทบ.468-375 (สพ.9-75)
ก. แบบพิมพ์นี้ผู้จ่ายรถใช้สำหรับบันทึกควบคุมรายละเอียด ในการใช้รถประจำวันของหน่วย
ข. ผู้จ่ายรถ(ผู้ที่มีลายเซ็นปล่อยรถในบัตร สพ.110) จะรวบรวมการบันทึก การขอรถ ลงในแบบพิมพ์น้ี และ
พยายามรวมการขนส่งเข้าด้วยกัน โดยพิจารณาถึง ประสิทธิภาพของยานพาหนะ เส้นทาง ความสิ้นเปลือง
และการสึกหรอ รวมทั้งการจัดชนิดของยานยนต์ พลขับ ตามความเหมาะสม เพื่อการประหยัดและให้การใช้
รถ บังเกิดผลคุ้มค่ามากที่สุด
ค. การตรวจสอบหลั งจากการใช้ รถ พลขั บ จะนำบั ต รใช้ รถ สพ.110 มาคื น แก่ ผู้ จ่ ายรถ ๆ ต้ อ ง
ตรวจสอบรายละเอียดการบันทึกของพลขับ จำนวนระยะทางการใช้งานทั้งหมด เพื่อการวางแผนเกี่ยวกับการ
นำยานพาหนะเข้ารับการ ปบ. ตามจำนวนระยะทาง หรือวันที่กำหนด หากพลขับรายงานข้อบกพร่องของ
ยานยนต์ ผู้จ่ายรถจะฉีกท่อนล่าง พร้อมทำใบของานเสนอต่อนายสิบยานยนต์เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป
ง. การเก็บแบบพิมพ์การจ่ายรถประจำวัน ปกติจะเก็บไว้ 1 เดือนจึงทำลายได้ยกเว้น ถ้าเกิดอุบัติเหตุ จะ
บันทึกรายการในหมายเหตุ และเก็บไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
จ. ลักษณะรายละเอียดการบันทึก
การจ่ายรถข้ามวัน ผู้จ่ายรถจะต้องบันทึกการจ่ายรถในแบบพิมพ์ทุกวันจนกว่ายานยนต์นั้นจะกลับ
ในช่อง หมายเหตุ และหากยานยนต์นั้น มีรายงานข้อบกพร่อง มีสิ่งผิดปกติหรือเกิดอุบัติเหตุ ผู้จ่ายรถจะ
บันทึกในช่องหมายเหตุ ดังนี้
ยานยนต์บกพร่อง - ดูใบของาน
เกิดอุบัติเหตุ - ดูรายงานอุบัติเหตุ
- ดูรายงานสอบสวน
(2.) แบบพิมพ์รายการตรวจสภาพเฉพาะอย่าง
ยานยนต์ล้อ ทบ.468 - 368 (สพ.9-68)
ยานยนต์สายพาน ทบ.468 - 369 (สพ.9-69)
ห น ้ า | 26
- การเขียนคำอธิบายในช่องหมายเหตุให้เขียนเฉพาะรายการที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ทันทีนั้น
- รายการ ปบ.พิเศษ เมื่อทำการ ปบ.แล้วให้วงเล็บรอบตัวอักษรเช่นกัน เพื่อแสดงให้ทราบว่าได้ทำเสร็จ
เรียบร้อยแล้ววิธีปฏิบัติ
- การ ปบ.ยานยนต์ ปกติห้ามมิให้ถอดแยกชิ้นส่วน นอกจากที่คู่มือประจำรถกำหนด ถ้าจำเป็นต้อง
ถอดแยก ต้องเปลี่ยนปะเก็นทุกครั้ง
- การเปลี่ยนส่วนประกอบขนาดเล็กที่ซ่อมใหม่หรือเปลี่ยนใหม่ ต้องตรวจให้แน่ใจว่าสะอาด ได้หล่อลื่น
และปรับถูกต้องแล้ว
- หลังตรวจสภาพทางเทคนิคแล้ว จะต้องทำให้ยานยนต์นั้นคืนสภาพใช้งานได้ทันที นอกจากยานยนต์
นั้นงดใช้การ เพราะขาดชิ้นส่วน
ง. การตรวจสภาพทั่ว ๆ ไป
คือการตรวจชิ้นส่วนและส่วนที่ยึดและรองรับส่วนนั้นๆ ด้วย เช่น สภาพทั่วๆไป การติดตั้งถูกต้อง
มั่นคง ไม่สึกหรอเกินควร
จ. คำจำกัดความ
(1) สภาพเรียบร้อย ได้แก่ การตรวจสภาพภายนอกด้วยสายตาเพื่อจะดูว่าสิ่งนั้นไม่ชำรุดเสียหายจน
ใช้ราชการไม่ได้ และพิจารณาถึงสาเหตุการชำรุด สภาพเรียบร้อย อาจอธิบายเพิ่มเติมได้ว่า ไม่บิด คด งอ ฉีก
ขาด หัก และได้รับการหล่อลื่นถูกต้อง
(2) ติดตั้งถูกต้องได้แก่ การตรวจสภาพภายนอกด้วยสายตาว่าสิ่งนั้น ติดตั้งอยู่ในตำบลที่ถูกต้อง และ
ในลักษณะที่ควรจะติดตั้งอยู่ตามปกติ
(3) ติดตั้งมั่นคงคือการตรวจสภาพภายนอกด้วยการจับเขย่า ใช้เหล็กลองงัด หรือใช้กุญแจลองขัน
เพื่อตรวจดูการหลวมคลอน ตามแท่นโครงรับ แหวนกันคลายแป้นเกลียวและสลักยึด
(4) สึกหรอเกินควร หมายถึงการสึกหรอจนเกือบจะเกินขอบเขตพิกัดหรือ เกินเขตพิกัดของสภาพใช้
ราชการได้ และอาจทำให้เกิดการชำรุดเสียหายขึ้นได้ก่อนถึงกำหนดการปรนนิบัติบำรุงรอบต่อไป ถ้าหากไม่
เปลี่ยน
ฉ. สัญลักษณ์และการ ปบ.พิเศษ
สัญลักษณ์ซึ่งทำไว้ครบกับรายการที่จะต้องทำการ ปบ.ตามระยะเวลานั้น แสดงว่าส่วนนั้นจะต้องได้ทำการ
ปบ.พิเศษตามอักษรที่ระบุ ซึ่งมีความหมายอธิบายไว้ในแบบพิมพ์
ป. = ปรับ
อ. = ทำความสะอาด
ล. = หล่อลื่นพิเศษนอกเหนือจากที่กำหนดในคำสั่งการหล่อลื่นหรือส่วนที่ถอดแยก
บ. = บริการ การกระทำพิเศษนอกเหนือจากการ ปบ.เช่น เติมน้ำกลั่น น้ำมันห้ามล้อ ถ่าย หรือเติม
น้ำมันหล่อลื่น เปลี่ยนหรือทำความสะอาดไส้กรองน้ำมันเครื่อง
ข. = ขันแน่น ปกติใช้กุญแจวัดแรงบิด เลือกกุญแจถูกขนาด มีแหวนหรือแป้นเกลียวกันคลาย
ช. สถานการณ์ทางยุทธวิธี สถานการณ์ทางยุทธวิธีอาจทำให้ไม่สามารถทำการ ปบ.ทั้งหมดในคราวเดียว
อาจแบ่ งเป็ น ตอนๆ โดยวางแผนให้ แ ล้ วเสร็จใน 1 สั ป ดาห์ หรือใช้เวลาเท่ าที่ ห าได้ท ำให้ ได้ทั้ งหมด หาก
สถานการณ์ทางยุทธวิธีบังคับ ไม่สามารถทำการ ปบ.ได้ทั้งหมด ให้ทำการ ปบ.แยกที่มีสัญลักษณ์พิเศษเป็น
อันดับแรก
ห น ้ า | 30
(ข) ลักษณะรายละเอียด
3. แบบพิมพ์ใบติดตามใบเบิก ทบ.400-071
(ก) แบบพิมพ์ใบติดตามใบเบิกมีไว้เพื่อให้ใช้ตามสายการส่งกำลังทุกสายงาน เพื่อติดตามใบเบิกไปยังหน่วย
สนับสนุน
(ข) หน่วยใช้ติดตามใบเบิกไปยัง จทบ.มทบ.หรือ จทบ.มทบ.ติดตามใบเบิกไปยังคลังไปยังสายงานยุทธ
บริการ
หมายเหตุ รายละเอียดอยู่ในคำสั่ง ทบ.ที่ 289/2511 เรื่อง การติดตามใบเบิก
(ค) วิธีใช้และการกรอกแบบพิมพ์
(1) วิธีใช้หน่วยเบิกไปแล้ว 45 วัน ต้องสอบทาน 1 ครั้ง (ทุกๆ 45 วัน) ให้ติดตามใบเบิก โดยใช้แบบ
พิมพ์ แบบ ก.ถ้าเกินกว่า 90 วัน ยังไม่ได้รับ สป.ให้ติดตามใบเบิกด้วยแบบพิมพ์ แบบ ข.
- หน่วยใช้เขียนแบบพิมพ์ จำนวน 2 ใบ เก็บไว้ที่หน่วยเบิก 1 ใบ เสนอหน่วยจ่าย 1 ใบ
- หน่วยจ่ายเมื่อได้รับใบติดตามใบเบิก ให้บันทึกชี้แจงในแบบ ก.(ช่องที่ 6) และ ช่องที่ 7 แบบ ข.
(2) วิธีกรอกแบบพิมพ์ แบบ ก.
ดูตัวอย่าง
----------------------------------
**************
4. ใบส่งคืน ทบ.400-013 (สพ.447)
(ก) ใบส่งคืนมีไว้เพื่อใช้ส่งคืนยุทโธปกรณ์ทุกชนิด ตามสายการส่งกำลังไปยังหน่วยสนับสนุน
(ข) หน่วยใช้นำสิ่งอุปกรณ์ส่งคืน มทบ.จทบ.หรือ มทบ.จทบ.นำส่งคืนคลัง ฝ่ายยุทธบริการหรือ ฝ่ายกิจการ
พิเศษ
(ค) ใช้นำส่งคืน ยุทโธปกรณ์ชำรุด เกินอัตรา หรือยืม
(ง) การใช้
(1) ตรวจสอบการกรอกรายการในใบส่งคืนให้ถูกต้อง
(2) ส่งคืน สป.พร้อมกับหลักฐานใบส่งคืน
(3) หมายเหตุ ให้ชัดเจนว่า ส่งคืนเพราะเหตุใด ตามช่องระบุไว้หรืออาจเพิ่มข้อความตามความจำเป็น
(4) หาก สป.ที่ส่งคืนนั้น ได้เบิกรับของไปแล้ว ให้หมายเหตุด้วยว่า ได้เบิกรับของไปแล้ว ตามใบเบิก
ที่.........เมื่อ........................
(5) การส่งคืนไม่ต้องมีหนังสือกำกับ เพราะใบส่งคืนมีรายละเอียดเพียงพอแล้ว และอาจทำให้ล่าช้า
(6) รายละเอียดที่ไม่กล่าวถึง หน่วยจ่ายเป็นผู้บันทึก
(7) ลักษณะแบบพิมพ์
- 1 ชุดมี 4 สี ชมพู,เขียว,ขาว และฟ้า
- สีชมพู และสีเขียว หน่วยสนับสนุนเก็บไว้เป็นหลักฐาน
- สีฟ้า และ สีขาว หน่วยนำส่งคืนเก็บเป็นสำเนา
ห น ้ า | 33
5. ใบเบิกและใบส่งคืน ทบ.400-007-1
(ก) ใบเบิกและใบส่งคืน มีความมุ่งหมายในการใช้เช่นเดียวกับใบเบิกและใบส่งคืนดังกล่าวแล้ว แตกต่างกัน
ที่แบบพิมพ์นใี้ ช้เป็นทั้งใบเบิก และใบส่งคืน
(ข) แบบพิมพ์นี้เบิกสิ่งอุปกรณ์ได้เพียงรายการเดียว วิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับการทำใบเบิกใบส่งคืน สพ.446
และ สพ.447
(ค) การใช้
ลักษณะแบบพิมพ์
(1) ชุดหนึ่งมี 4 สี เช่นเดียวกัน
(2) การดำเนินกรรมวิธีทางเอกสาร เช่นเดียวกัน
6. บัตรแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือป้ายชื่อชิ้นส่วน สพ.9-81 (ทบ.468-281)
(ก) บัตรแลกเปลี่ยนชิ้นส่วน มีไว้เพื่อใช้เบิกสิ่งอุปกรณ์จากหน่วยสนับสนุนโดยตรงด้วยวิธีการแลกเปลี่ยน
โดยตรง ซึ่งการใช้บัตรแลกเปลี่ยนนี้หน่วยสนับสนุนจะแจ้งให้หน่วยทราบว่าสิ่งอุปกรณ์ อะไรบ้างที่ใช้บัตรนี้ทำ
การเบิกแบบแลกเปลี่ยนได้
(ข) ใช้ผูกกับชิ้นส่วนที่เก็บไว้ในช่องตามตู้ ในคลังชิ้นส่วน
(ค) การใช้
(1) ผู้เบิกและรับของต้องมีตัวอย่างลายเซ็นไว้ตรวจสอบ
(2) ตรวจสอบการกรอกรายการให้ถูกต้อง
(ง) ลักษณะรายละเอียด
(1) บัตรนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน มีเลขกำกับ 1,2,3
หมายเลข 3 ผูกติดชิ้นส่วนส่งคืน
หมายเลข 2 หน่วยจ่ายเก็บ หรือผูกกับชิ้นส่วนที่จ่ายให้
หมายเลข 1 หน่วยเบิกเก็บไว้เพื่อติดตาม
(2) ข้อความทั้ง 2 ส่วน คล้ายคลึงกัน ยกเว้น หมายเลข 2 มีข้อความเพิ่มเติม 5 ข้อ ดังนี้
ข้อ 5
ข้อ 6
ข้อ 7
ข้อ 8
ข้อ 9
(3) การกรอกข้อความ
- ชนิดของยานยนต์
- หมายเลขทะเบียน
- ชื่อชิ้นส่วน
- หมายเลขชิ้นส่วน
- วันแลกเปลี่ยนและส่งคืน
หมายเหตุ ที่ด้านหลังของหมายเลข 3
7. บัตรบัญชีคุมชิ้นส่วนซ่อมและสิ่งอุปกรณ์ใช้สิ้นเปลือง ทบ.400-068
(ก) บัตรบัญชีคุมชิ้นส่วนซ่อม และสิ่งอุปกรณ์ใช้สิ้นเปลือง มีไว้เพื่อใช้ควบคุมจำนวนชิ้นส่วนตามอัตราพิกัด
ที่หน่วยมีอยู่ในครอบครอง ตามบัญชีชิ้นส่วนที่ สพ.กำหนดไว้
ห น ้ า | 34
---------------------
หน่วยซ่อม
--------------------
10. ใบส่งซ่อมและสั่งงาน ทบ.468-311 ( สพ.811 )
(ก) ใบส่งซ่อมและสั่งงาน มีไว้เพื่อใช้ในการนำยุทโธปกรณ์ที่ชำรุดส่งซ่อมตามสายงานการส่งกำลังทุกสาย
งานไปยังหน่วยสนับสนุน
(ข) การใช้ ใบส่งซ่อมและสั่งงานนี้ ต้องนำส่งพร้อมกับยานยนต์ที่ชำรุดและซองประวัติยุทธภัณฑ์
(ค) ผบ.หน่วย เทียบเท่า ผบ.พัน.หรือ ผบ.ร้อย.อิสระ เป็นผู้มีอำนาจในการสั่งการซ่อม
(ง) ฝอ.4 หรือนายทหารยานยนต์ เป็นผู้นำส่งซ่อม
(จ) หลักการพิจารณาการส่งซ่อม ดูจากคำสั่ง ทบ.ที่ 140/2526 เรื่อง การแบ่งชั้นการซ่อมบำรุงยานยนต์
(ฉ) ลักษณะรายละเอียด และการบันทึ กคำสั่ง ทบ.ที่ 320/23630 เรื่อง วิธีการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์
สาย สพ.
(ช) การเก็บแบบพิมพ์ใบส่งซ่อมและสั่งงานนี้ ต้องเก็บไว้ในซองประวัติ ยุทธภัณฑ์จนถึงสิ้นปี (สีเหลือง)
เมื่อครบปีแล้ว แยกมาเก็บในแฟ้มการส่งซ่อมอีก 1 ปี จึงทำลายได้
************
(สำเนา)
คำสั่งกองทัพบก
ที่ 289/2511
เรื่อง การติดตามใบเบิก
-------------
เนื่องจาก การดำเนินการเบิกสิ่งอุปกรณ์ของหน่วยต่างๆ ในกองทัพบกขณะนี้ยังไม่มีแบบพิมพ์ในการ
ติดตามใบเบิกเป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงทำให้เกิดความยุ่งยากและล่ าช้า ในด้านการส่งกำลังบำรุง เพื่อขจัด
ปัญหาดังกล่าวให้หมดไป จึงให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ให้หน่วยเบิกใช้แบบพิมพ์ในการติดตามใบเบิก ติดตามใบเบิกได้ทุกสายงาน
ห น ้ า | 36
แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา
โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
สระบุรี
------------------------------
เอกสารนำ
วิชา เอกสารการซ่อมบำรุง, การซ่อมบำรุงทางธุรการ และแบบพิมพ์ประวัติ
1 .ความมุ่งหมาย เพื่อให้นักเรียนทราบวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้เอกสารการซ่อมบำรุงและ แบบพิมพ์ต่าง ๆ
ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงระดับหน่วย
2.ขอบเขตการศึกษา ให้นักเรียนมีความรู้ในเรื่อง
2.1 เอกสารการซ่อมบำรุง
2.2 แบบพิมพ์ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงขั้นที่ 1 ดังต่อไปนี้
2.2.1 บัตรการใช้รถประจำวัน ทบ.468-310
2.2.2 รายงานอุบัตเิ หตุ ทบ.468-702
2.2.3 คำสั่งการหล่อลื่น
2.2.4 คู่มือทางเทคนิคประจำยุทโธปกรณ์
2.2.5 ใบอนุญาตขับขี่ยานยนต์ทหาร
2.3 แบบพิมพ์ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงขั้นที่ 2 ดังต่อไปนี้
2.3.1 รายการจ่ายรถประจำวัน ทบ.468-375
2.3.2 รายการตรวจสภาพเฉพาะอย่าง
- ยานยนต์ล้อ ทบ.468-368
- ยานยนต์สายพาน ทบ.468-369
2.3.3 ตารางกำหนดการปบ.ยุทธภัณฑ์ ทบ.468-360
2.3.4 รายการปบ.และตรวจสภาพทางเทคนิค
- ยานยนต์ล้อ ทบ.468-361
- ยานยนต์สายพาน ทบ.468-362
2.3.5 ซองประวัติยุทธภัณฑ์ ทบ.468-378
2.3.6 ใบส่งซ่อมและสั่งงาน ทบ.468-311
3.ระยะเวลาการศึกษา - ชั่วโมง
4.หลักฐาน - คท.37-2810
- คำสั่งทบ.ที่ 400/2507 ลง 9 พ.ย.07 เรื่องให้ใช้ คท.37-2810 เกี่ยวกับ
การตรวจสภาพ และการปบ.ยานยนต์
5.งานมอบ ให้นักเรียนศึกษา
- คำสั่งทบ.ที่ 400/2507 ลง 9 พ.ย.07 เรื่องให้ใช้ คท.37-2810 เกี่ยวกับ
การตรวจสภาพ และการปบ.ยานยนต์
- ศึกษาและทำความเข้าใจกับแบบพิมพ์ที่ใช้ในการซบร.ขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2
- อ่านเอกสารเพิ่มเติม วิชา เอกสารการซ่อมบำรุง การซ่อมบำรุงทางธุรการและแบบพิมพ์ประวัติ
6.เอกสารจ่ายพร้อมเอกสารนำ เอกสารเพิ่มเติม
---------------------------------
ห น ้ า | 38
แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา
โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
สระบุรี
-----------------------------
เอกสารนำ
วิชา การส่งกำลังบำรุงชิ้นส่วนซ่อม
หมายเลขวิชา ยน. ...........................
1. ความมุ่งหมาย เพื่อให้นักเรียนทราบถึงวิธีการปฏิบัติ เกี่ยวกับการส่งกำลังชิ้นส่วนซ่อมยุทโธปกรณ์
สายสรรพาวุธ
2. ขอบเขต ให้นักเรียนมีความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
2.1 คำจำกัดความต่าง ๆ
2.2 การส่งซ่อมยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ
2.3 การเบิกจ่าย
2.4 การยืม
2.5 การส่งคืน
2.6 การขอจำหน่าย
2.7 การทำรายงานสอบสวน
3. ระยะเวลาการศึกษา - ชั่วโมง
4. หลักฐาน 4.1 ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วย การส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ ประเภท 2
และ 4 พ.ศ. 2534
4.2 คำสั่ง ทบ.ที่ 320/23630 ลง 9 พ.ย. 98 เรื่อง วิธีซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์
สายสรรพาวุธ
4.3 ระเบี ย บ ทบ.ว่าด้ ว ยชิ้ น ส่ วนซ่ อ มตามอั ต ราพิ กั ด และชิ้ น ส่ ว นซ่ อ มที่ ส ะสม
พ.ศ.2512
5. งานมอบ ให้นักเรียนศึกษา
5.1 ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วย การส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4
พ.ศ. 2534
5.2 คำสั่ง ทบ.ที่ 320/23630 ลง 9 พ.ย. 98 เรื่อง วิธีซ่อมบำรุง
ยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ
5.3 ระเบี ย บ ทบ.ว่าด้ ว ยชิ น ส่ วนซ่ อ มตามอั ต ราพิ กั ด และชิ้ น ส่ ว นซ่ อ มที่ ส ะสม
พ.ศ.2512
6. เอกสารจ่ายพร้อมเอกสารนำ เอกสารเพิ่มเติม
-----------------------------
ห น ้ า | 39
แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา
โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
สระบุรี
-----------------------------
เอกสารเพิ่มเติม
1. กล่าวทั่วไป การส่งกำลัง และการซ่อมบำรุงประจำหน่วย เป็นกิจการ 2 ประการที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์จน
ไม่ อ าจแยกออกจากกั น ได้ เนื่ อ งจากการซ่ อ มบำรุงจะดำเนิ น การไปได้ ดี ย่ อ มต้ อ งอาศั ย การส่ งกำลังที่ มี
ประสิทธิภาพดีด้วย
2. ขอบเขต ให้นักเรียนทราบแนวทางปฏิบัติ ในการดำเนินการเกี่ยวกับ
2.1 วิธีการส่งกำลังสายสรรพาวุธ
2.2 การใช้แบบพิมพ์ส่งกำลัง
2.3 วิธีการเบิกเปลี่ยนชิ้นส่วน
3. อธิบาย การส่ งกำลั งที่ ด ำเนิ น การอยู่ในกองทั พ บกยึด ถือหลัก 4 ประการเป็ น แนวทางกำหนด
วงรอบ การปฏิบัติ คือ
3.1 การเสนอความต้องการ
3.2 การจัดหา
3.3 การเก็บรักษา
3.4 การแจกจ่าย
3.1 การส่งกำลังชิ้นส่วนซ่อมสำหรับการซ่อมบำรุงระดั บหน่วย ความต้องการสิ่งอุปกรณ์ชิ้นส่วน
ซ่อมของหน่วยจะลดลงเป็นอย่างมาก ถ้าหน่วยมีการซ่อมบำรุงที่ดี กล่าวคือเจ้าหน้ าที่ผู้รับผิดชอบในการซ่อม
บำรุงขั้นที่ 1 และ ขั้น ที่ 2 ได้ป ฏิ บั ติห น้ าที่ ของตนอย่างเรียบร้อยสมบู รณ์ ตามที่ กำหนดไว้ในตารางการ
ปรนนิบัติบำรุง การตรวจ และการบริการ (PMCS) ของยุทโธปกรณ์แต่ละชนิด โดยมีการกำกับดูแลตามสาย
การบังคับบัญชา อย่างเคร่งครัด
3.2 การควบคุม เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการส่งกำลังจะต้องควบคุมการปฏิบัติต่าง ๆ เกี่ยวกับ
ชิ้นส่วนซ่อม ในเรื่องการเก็บรักษา และการเบิกจ่ายชิ้นส่วนที่นำไปใช้ในการซ่อม ให้ดำเนินไปโดยถูกต้อง และ
เรียบร้อยตามระเบียบที่ได้วางไว้
3.3 ระเบียบ คำสั่ง และคำชี้แจง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการส่งกำลังจะต้องทราบระเบียบ คำสั่ง
และคำชี้แจงต่าง ๆ ที่กองทัพบกได้กำหนดไว้ และต้องนำมาใช้เป็นแนวทาง และหลักในการปฏิบัติ ดังนี้
(1) คำสั่ ง ทบ.ที่ 320/23630 ลง 9 พ.ย. 2498 เรื่ อ ง วิธีซ่ อ มบำรุงยุ ท โธปกรณ์ สาย
สรรพาวุธ
(2) ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการรับสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ. 2500
(3) ระบียบ ทบ.ว่าด้วยชินส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด และชิ้นส่วนซ่อมที่สะสม พ.ศ.2512
(4) ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท 2 และ 4 พ.ศ. 2534
3.4 การส่งกำลังระดับหน่วย การส่งกำลังระดับหน่วยมีขอบเขตจำกัด โดยหน่วยจะทำการเบิกจ่าย
ชิ้นส่วนซ่อม เฉพาะเท่าที่จำเป็นต้องใช้ในการซ่อมบำรุงของหน่วยเท่านั้น ตามปกติหน่วยใช้ยุทโธปกรณ์มักจะ
เป็นหน่วยทางยุทธวิธี ต้องการความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่สูง ดังนั้นเครื่องมือเครื่องใช้ และชิ้นส่วนซ่อม
ที่หน่วยได้รับอนุมัติให้ มีอยู่ในครอบครองตามอัตรา จึงจำนวนเหมาะสมกับภารกิจ ซึ่งศึกษาข้อมูลได้จาก
อจย. หรือ อสอ. ของหน่วย และ คท.9-20 P หรือคู่มือส่งกำลังชิ้นส่วนซ่อมของยุทโธปกรณ์ นั้น ๆ
ห น ้ า | 40
--------------------------------------------
แบบพิมพ์ที่ใช้ในการส่งกำลัง
ก. แบบพิมพ์ที่ใช้ในการส่งกำลัง ตามคำสั่ง ทบ.ที่ 400/2507 ระบุไว้เพียง 4 อย่างคือ
(1) ใบเบิก ทบ.400-006 (สพ.446)
(2) ใบส่งคืน ทบ.400-013 (สพ.447)
(3) ป้ายแลกเปลี่ยน หรือป้ายชื่อชิ้นส่วน ทบ.468-281 (สพ.9-81)
(4) บัตรบัญชีคุมชิ้นส่วนซ่อมและสิ่งอุปกรณ์ใช้สิ้นเปลือง ทบ.400-068
ข. แบบพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งกำลังเพิ่มเติมในปัจจุบัน นอกเหนือจากที่ระบุไว้ คือ.
(1) ทะเบียนส่งกำลัง ทบ.400-002 ( สพ.272 )
(2) ใบเบิกชิ้นส่วนภายใน ทบ.468-201 ( สพ.9-79)
(3) ใบติดตามใบเบิก ทบ.400-071
(4) ใบของาน สพ.9-76
(5) ใบเบิกหรือใบส่งคืน ทบ.400-007-1 และ
- ใบเบิกพร้อมขอการขนส่ง ทบ.400-007
- แบบรายการขออนุมัติจำหน่าย
- ทะเบียนใบส่งงาน สพ.9-77
- บันทึกงานของช่าง
ห น ้ า | 41
**************
หน่วยของาน
---------------------
หน่วยซ่อม
--------------------
************
ห น ้ า | 46
(สำเนา)
คำสั่งกองทัพบก
ที่ 289/2511
เรื่อง การติดตามใบเบิก
-------------
เนื่องจาก การดำเนินการเบิกสิ่งอุปกรณ์ของหน่วยต่างๆ ในกองทัพบกขณะนี้ยังไม่มีแบบพิมพ์ในการ
ติดตาม
ใบเบิกเป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงทำให้เกิดความยุ่งยากและล่าช้า ในด้านการส่งกำลังบำรุง เพื่อขจัดปัญหา
ดังกล่าวให้หมดไป จึงให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ให้หน่วยเบิกใช้แบบพิมพ์ในการติดตามใบเบิก ติดตามใบเบิกได้ทุกสายงาน
2. การใช้แบบพิมพ์ติดตามใบเบิก ให้ใช้ตามสายการส่งกำลัง ซึ่งแบ่งออกเป็นสาย คือ
2.1 หน่วยใช้ติดตามใบเบิกไปยังหน่วยสนับสนุนโดยตรง หน่วยสนับสนุนติดตามใบเบิกไปยัง
หน่วยสนับสนุนส่วนรวมหรือคลังฝ่ายยุทธบริการ หรือฝ่ายกิจการพิเศษ
2.2 หน่วยใช้ติดตามใบเบิกไปยัง มทบ.จทบ.หรือ มทบ.จทบ. ติดตามใบเบิกไปยังคลังสายงานฝ่าย
ยุทธบริการ หรือฝ่ายกิจการพิเศษ
3. แบบพิมพ์การติดตามใบเบิก ใช้ตามแบบพิมพ์คำสั่งนี้
4. ลักษณะและการใช้แบบพิมพ์
4.1 ชื่อแบบพิมพ์ ติดตามใบเบิก
4.2 อักษรย่อและหมายเลขแบบพิมพ์ ทบ.400-071
4.3 แบบพิมพ์ติดตามใบเบิก ทบ.400-071 ใช้ตามแบบพิมพ์ท้ายคำสั่งนี้
4.4 วิธีใช้ดูคำอธิบายหลังแบบพิมพ์ประกอบคำสั่ง
ห น ้ า | 47
(สำเนา)
คำสั่งกองทัพบก
(คำชี้แจง)
ที่ 320/23630
เรื่อง วิธีการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ
-------------------------------------
1. ความมุ่งหมาย
เพื่อเป็นการขยายความในคำสั่งกองทัพบกที่ 306/25616 เรื่อง หลักการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์
สายสรรพาวุธ ลง 30 พ.ย.97 และเพื่อให้หน่วยที่ได้รับยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ ตามโครงการป้องกันร่วมฯ
สามารถปฏิบัติการซ่อมบำรุงและนำยุทโธปกรณ์ส่งซ่อมยังกองสรรพาวุธที่ให้การสนับสนุนได้โดยถูกต้องและ
รวดเร็ว จึงได้ออกคำสั่งชี้แจงฉบับนี้ไว้ให้หน่วยต่าง ๆ ถือเป็นหลักปฏิบัติต่อไป
2. คำจำกัดความ
2.1 ชงักใช้ราชการ
ได้แก่ลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดใน 3 ประการ ที่เกิดขึ้นแก่ยุทโธปกรณ์ คือ
2.1.1 ไม่ทำงานตามหน้าที่
2.1.2 ไม่ปลอดภัยในการใช้งาน
2.1.3 ถ้าใช้ต่อไปจะเสียหายมากขึ้น
2.2 ชำรุดตามสภาพ
ได้แก่ลักษณะการชำรุดที่เป็นไปตามธรรมชาติของยุทโธปกรณ์นั้น ๆ เช่น สึกหรอเพราะใช้มานาน
หรือ เสื่อมคุณภาพตามระยะเวลาเป็นต้น
2.3 ชำรุดผิดปกติหรือสูญหาย
ได้แก่การชำรุดที่ไม่เป็นไปตามสภาพ แต่เนื่องจากเหตุอื่น เช่น อุบัติเหตุ ประมาท เลินเล่อ หรือ
สูญหาย
2.4 หน่วยใช้
ได้แก่หน่วยทหารที่ใช้ยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ
3. ลักษณะแห่งการชำรุดของยุทโธปกรณ์
ในการที่ยุทโธปกรณ์ชะงักใช้ราชการนั้น ย่อมเนื่องมาจากลักษณะแห่งการชำรุด 2 ประการ คือ
3.1 ชำรุดตามสภาพ
3.2 ชำรุดผิดปกติ หรือสูญหาย
4. การปฏิบัติเมื่อยุทโธปกรณ์ชำรุดหรือชะงักใช้ราชการ
เมื่อยุทโธปกรณ์ชำรุดหรือชะงักใช้ราชการ ให้ผู้รับผิดชอบรายงานตามลำดับ ชั้น หรือผู้มีอำนาจสั่ง
การในการซ่อมบำรุงประจำหน่วยภายใน 24 ชั่วโมง และห้ามมิให้ใช้ยุทโธปกรณ์ที่อยู่ในสภาพงดใช้การนั้นอีก
ต่อไป จนกว่าจะได้ทำการซ่อมบำรุงให้กลับมาอยู่ในสภาพใช้ก ารได้เรียบร้อย ผู้มีอำนาจสั่งการในการซ่ อม
บำรุงประจำหน่วย ได้แก่
ก. ผบ.กรม หรือ ฝอ.4
ข. ผบ.พัน. หรือ ฝอ.4
ค. ผบ.ร้อยอิสสระ
( ข้อ ก. ข. ค. แก้ตามคำสั่ง ทบ. (คำชี้แจง) ที่ 19/7017 สั่ง ณ 5 มิ.ย. 05 )
ห น ้ า | 48
5. การปฏิบัติการซ่อมบำรุงของหน่วยใช้
เมื่อได้รับรายงานว่ายุทโธปกรณ์ชะงักใช้ร าชการ ให้ผู้มีอำนาจสั่งการในการซ่อมบำรุงประจำหน่วย
ปฏิบัติ ดังนี้
5.1 เมื่อชำรุดตามสภาพ
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงประจำหน่วยจัดการซ่อมทันที โดยใช้เครื่องอะไหล่ประจำหน่วยซึ่ง
ได้เบิกขั้นต้นมาจาก คส.สพ.ทบ. ถ้าการชำรุดนั้นต้องการเครื่องอะไหล่ ซึ่ งยังอยู่ในประเภทการซ่อมบำรุง
ประจำหน่ ว ย ( ขั้ น ที่ 1 - 2 ) แต่ ห น่ ว ยนั้ น ไม่ ได้ รั บ อนุ มั ติ ให้ เบิ ก ประจำหน่ ว ยได้ ก็ ให้ ท ำการเบิ ก ไปยั ง
สรรพาวุธที่ให้การสนับสนุนทันที เพื่อนำมาทำการซ่อมต่อไป
5.2 เมื่อชำรุดผิดปกติหรือสูญหาย
สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุแห่งการชำรุดหรือสูญหาย เพื่อเก็บรายงานการสอบสวน
ไว้เป็นหลักฐานในการ เบิกทดแทน หรือการนำส่งซ่อมภายหลัง และสั่งการเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงดังเช่นในข้อ
ก.ต่อไป
5.3 ถ้าการชำรุด ของยุทโธปกรณ์อยู่ในประเภทการซ่อมบำรุงในสนาม ( ขั้น 3 - 4 )
ให้เจ้าหน้าที่นำยุทโธปกรณ์นั้นส่งซ่อมยังกองสรรพาวุธ ทั้งนี้ห้ามมิให้หน่วยใช้ทำการซ่อมบำรุง
เกินขั้นเป็นอันขาด ในการที่จะพิจารณาว่า การชำรุดของยานยนต์อยู่ในการซ่อมบำรุงขั้นใด และเป็นหน้าที่
ของหน่วยใดนั้น ให้ปฏิบัติตามคำสั่งชี้แจงกองทัพบกที่ 183/14352 เรื่อง การแบ่งขั้นการซ่อมบำรุงยานยนต์
สายสรรพาวุธ ลง
22 ก.ค.98 โดยเคร่งครัด
6. หลักฐานการนำยุทโธปกรณ์ส่งซ่อม
หลักฐานการนำยุทโธปกรณ์ส่งซ่อม ได้แก่
6.1 ใบส่งซ่อม ( สพ.811 )
6.2 ซองประวัติยุทธภัณฑ์ประจำหน่วย ( สพ.478 ) หรือสมุดประวัติ
6.3 รายงานยุทโธปกรณ์ชำรุด ( ดูข้อ 4 ) หรือรายงานการสอบสวนให้รู้
7. ใบส่งซ่อม ( สพ.811 )
7.1 ลักษณะ
ใบส่งซ่อมนี้เป็นใบส่งซ่อมแบบใหม่ มี 4 แผ่น ใช้ในการส่งซ่อมยุทโธปกรณ์สาย สพ. ทุกอย่าง คือ
อาวุธ ยานยนต์ และสรรพาวุธอื่ น ๆ แผ่ น ที่ 1 ( สี เหลื อ ง ) แผ่ น ที่ 2 ( สี ข าว ) และแผ่ น ที่ 3 ( สี ฟ้ า ) มี
ข้อความเหมือนกันทุกประการ และแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนส่งซ่อมอยู่มุมบนซ้าย ส่วนเหลือเป็นส่วน
สั่งงาน แผ่นที่ 4 ( สีชมพู ) มีลักษณะแตกต่างจากแผ่นที่ 1 - 2 - 3 คือ ใช้เป็นใบรับและหลักฐานของหน่วยส่ง
ซ่อมในการมารับยุทโธปกรณ์ที่ซ่อมเสร็จจากกองสรรพาวุธที่รับซ่อม
7.2 การกรอกข้อความ
7.2.1 ลงวัน, เดือน, ปี ที่ส่งซ่อม นาม และที่ตั้งของหน่วยส่งซ่อม เลขที่ใบส่งซ่อม และวันที่ ผู้อนุ มัติให้
ส่งซ่อมลงนาม ชนิดและหมายเลขของยุทโธปกรณ์ รายการชำรุด ผู้อนุมัติให้ส่งซ่อม และผู้ส่ง ในช่องว่างซึ่งอยู่
ในกรอบบนซ้าย ( ดูตัวอย่างในผนวกท้ายคำสั่ง )
7.2.2 รายการชำรุด ให้ลงรายการชำรุดที่สำคัญ ๆ ไว้
7.2.3 ผู้อนุมัติให้ส่งซ่อม ได้แก่ ผู้บังคับบัญชาในข้อ 4 ทั้งนี้ให้หน่วยได้ส่งลายเซ็นไปให้กองสรรพาวุธที่
สนับสนุนไว้เป็นหลักฐาน
ห น ้ า | 49
ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการส่งซ่อมยานยนต์ โดยใช้สมุดประวัติปืนเป็นหลักฐานในการส่งซ่อมแทนซอง
ประวัติยุทธภัณฑ์ประจำหน่วย เนื่องจากปืนใหญ่เป็นอาวุธที่มีน้ำหนั กมาก ลำบากต่อการลำเลียงและอาจเกิด
การชำรุดเสียหายในระหว่างเดินทางได้ ดังนั้นจึงให้หน่วยใช้แจ้งรายการชำรุดโดยละเอียด ให้กองสรรพาวุธ
ทราบก่อนนำส่งซ่อม ในการปฏิบัติการซ่อมนั้นได้ ผบ.กองสรรพาวุธ เป็นผู้พิจารณาว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ไปซ่อม
ให้ที่หน่วยใช้ หรือจะให้หน่วยใช้นำส่งซ่อมยังกองสรรพาวุธ
ระเบียบกองทัพบก
ว่าด้วย ชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัดและชิ้นส่วนซ่อมทีส่ ะสม
พ.ศ.2512
------------------------------------
โดยที่ เห็นเป็นการสมควร ที่จะกำหนดความรับผิดชอบ และระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการกำหนด
รายการ และจำนวนชิ้นส่วนซ่ อม การจัดทำ การแจกจ่าย และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงบัญชีชิ้นส่วนซ่อมตาม
อัตราพิ กั ด และบั ญ ชีชิ้น ส่ วนซ่ อ มที่ ส ะสม จึงได้ก ำหนดระเบี ยบนี้ ขึ้น เพื่ อ ถือเป็ น หลักในการดำเนิ น การ
เกี่ยวกับชิ้นส่วนซ่อมต่อไป
ข้อ 1. ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วย ชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด และชิ้นส่วนซ่อมที่
สะสม พ.ศ.2512 ”
ข้อ 2. ให้ยกเลิก
2.1 ระเบียบกองทัพบกว่าด้วยชิน้ ส่วนซ่อมตามอัตราพิกัดและชิ้นส่วนซ่อมที่สะสมพ.ศ.2511
2.2 บรรดาระเบียบ คำสั่ง คำแนะนำ คำชี้แจง ฯลฯ ที่ขัดแย้งกับระเบียบนี้
ข้อ 3. ขอบเขต
3.1 ระเบียบนี้ใช้เป็นหลักฐานสำหรับชิ้นส่ วนซ่อมของสิ่งอุปกรณ์ทั้งในโครงการและนอก
โครงการ
3.2 ระเบียบนี้ใช้กับหน่วยใช้ หน่วยสนับสนุน และคลัง ซึ่งอยู่ในสายการส่งกำลัง และซ่อม
บำรุงของกองทัพบก
ข้อ 4. คำจำกัดความ
4.1 ชิ้นส่วนซ่อม หมายถึง องค์ประกอบ ส่วนประกอบและชิ้นส่วนที่ใช้ในการซ่อมบำรุงสิ่ง
อุปกรณ์ ตามที่กำหนดในคู่มือส่งกำลัง และ/หรือคู่มือเทคนิคที่มีบัญชีชิ้นส่วนซ่อม
4.2 บั ญ ชีชิ้น ส่ วนซ่ อมตามอัต ราพิ กั ด ( บชอพ.) คื อ เอกสารแสดงรายการ และจำนวน
ชิ้นส่วนซ่อมซึ่งอนุมัติให้หน่วยใช้สะสมไว้ เพื่ อสนับสนุนขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงประจำหน่วย ( ขั้น
1–2)
4.3 ชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด ( ชอพ.) คือ ชิ้นส่วนซ่อมสำหรับการซ่อมบำรุงประจำหน่วย
ซึ่งอนุมัติให้หน่วยใช้สะสมไว้ได้ตามบัญชีชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด
4.4 ชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัดรวม คือ ชิ้นส่วนซ่อมที่ใช้ในการซ่อมบำรุงยุทธภัณฑ์ได้ตั้งแต่
2 ชนิดขึ้นไป
4.5 บัญชีชิ้นส่วนซ่อมที่สะสม ( บชสส.) คือ เอกสารแสดงรายการชิ้นส่วนซ่อมซึ่งต้องการ
ให้หน่วยสนับสนุนโดยตรง และหน่วยสนับสนุนทั่วไป สะสมไว้เพื่อสนับสนุนหน่วยใช้ และหน่วยสนับสนุนใน
สายงานส่งกำลังบำรุง
4.6 หน่วยใช้ หมายถึง หน่วยซึ่งได้รับประโยชน์จากการใช้สิ่งอุปกรณ์นั้นโดยตรง
4.7 หน่วยสนับสนุนโดยตรง หมายถึง หน่วยของสายงานฝ่ายยุทธบริการ ซึ่งมี
ห น ้ า | 52
4.8 หน่ ว ยสนั บ สนุ น ทั่ ว ไป หมายถึ ง หน่ ว ยของสายงานฝ่ า ยยุ ท ธบริ ก าร ซึ่ ง มี ภ ารกิ จ
สนับสนุนด้านการส่งกำลัง และ/หรือการซ่อมบำรุง ต่อ
4.8.1 หน่วยสนับสนุนโดยตรง
4.8.2 หน่วยอื่น ๆ ภายในพื้นที่ซึ่งได้รับมอบหมายให้สนับสนุน
4.9 คลัง หมายถึง หน่วยที่มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติภารกิจ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ
หลายอย่างในเรื่อง ความต้องการ การควบคุม การจัดหา การตรวจ การแยกประเภท การแจกจ่าย การซ่อม
บำรุง และจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์
4.10 คลังแจกจ่าย หมายถึง คลังสายงาน คลังทั่วไป คลังกองบัญชาการช่วยรบ และคลัง
ส่วนภูมิภาค ซึ่ งดำเนินการสะสมและแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ โดยปกติจะแบ่งเป็นหน่วยบัญชีคุม และคลังเก็บ
รักษา
4.11 คลังสายงาน หมายถึง คลังซึ่งกรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษได้จัดตั้ง
ขึ้นเพื่อดำเนินการสะสม และแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์
4.12 คลังทั่วไป หมายถึง คลังของหน่วยบั ญ ชาการ ซึ่งใช้สำหรับดำเนินการเกี่ยวกับสิ่ง
อุปกรณ์ และยุทธภัณฑ์ ในความรับผิดชอบของกรมฝ่ายยุทธบริการต่าง ๆ อย่างน้อย 2 กรมฝ่ายยุทธบริการ
4.13 คลังกองบัญ ชาการช่วยรบ หมายถึง คลังซึ่งกองบัญ ชาการช่วยรบได้จัดตั้งขึ้นเพื่อ
ดำเนินการสะสม และแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์
4.14 คลังส่วนภูมิภาค หมายถึง คลังซึ่งมณฑลทหารบก หรือจังหวัดทหารบกได้จัดตั้งขึ้น
เพื่อดำเนินการสะสม และแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ให้แก่หน่วยใช้ภายในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ
4.15 คลังเก็บรักษา หมายถึง คลังซึ่งดำเนินการเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์ที่ได้รับอนุมัติให้สะสม
ไว้เพื่อการแจกจ่ายดำเนินไปด้วยดี
ข้อ 5. ความรับผิดชอบ
5.1 กบทบ.
5.1.1 กำหนดนโยบายและหลักการในการจัดทำบัญชีชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด
และบัญชีชิ้นส่วนซ่อมที่สะสม
5.1.2 จัดทำ แก้ไข ปรับปรุง แบบธรรมเนียมเกี่ยวกับชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด
และชิ้นส่วนซ่อมที่สะสม เพื่อให้ ทบ.สามารถควบคุมการปฏิบัติของหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ และให้สอดคล้องกับ
นโยบาย หรือหลักการที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
5.1.3 กำกับดูแลหน่วยต่าง ๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบซึ่งระบุไว้ในระเบียบนี้ เพื่อให้
การปฏิบัติงานไปตามมุ่งหมายที่กำหนดไว้
5.2 กรมฝ่ายยุทธบริการ
5.2.1 จัดหาชิ้นส่วนซ่อม
5.2.2 ควบคุม กำกับดูแล คลังกรมฝ่ายยุทธบริการ หน่วยสนับสนุนทั่วไป หน่วย
สนับสนุนโดยตรงในสายงานของตน เพื่อให้ปฏิบัติตามนโยบาย และหลักการเกี่ยวกับการสะสม และการส่ง
กำลังชิ้นส่วนซ่อม
ห น ้ า | 53
การตั ด รายการใน บชสส. ให้ ใ ช้ แ บบพิ ม พ์ ทบ.400-069 บั ญ ชี ชิ้ น ส่ ว นซ่ อ มที่ ส ะสม
( ผนวก ง ) เสนอให้หน่วยหรือคลังที่สนับสนุนทราบเฉพาะรายการที่ตัดออกภายใน 1 เดือน
ข้อ 8. ให้กรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษ ที่รับผิดชอบในสิ่งอุปกรณ์ ออกระเบียบ
ปลีกย่อยได้ตามความจำเป็นโดยไม่ขัดกับระเบียบนี้
ข้อ 9. ให้กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก รักษาการให้เป็นตามระเบียบนี้
ข้อ 10. ให้ใช้ระเบียบนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
(สำเนา)
ระเบียบกองทัพบก
ว่าด้วย การส่งกำลังสิง่ อุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4
พ.ศ. 2534
-------------------------------
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4 พ.ศ.
2532 ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงวางระเบียบไว้ดังนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4
พ.ศ. 2534”
ข้อ 2 ให้ใช้ระเบียบนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4 พ.ศ. 2524
บรรดาระเบียบ คำสั่ง และคำชี้แจงอื่นใด ที่นำมากำหนดไว้ในระเบียบนี้ หรือที่ขัดแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้
ระเบียบนี้แทน
ข้อ 4 ให้เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบกรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้
ตอนที่ 1
คำจำกัดความ
ข้อ 5 คำจำกัดความที่ใช้ในระเบียบนี้
5.1 การส่งกำลัง หมายถึง การปฏิบัติการในเรื่อง ความต้องการการจัดหา การแจกจ่าย และการ
จำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ รวมทั้งการควบคุมการปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าว
5.2 ความต้องการ หมายถึง การกำหนดหรือการเสนอหรือคำขอในเรื่องสิ่งอุปกรณ์ตามจำนวน
และในเวลาที่บ่งไว้ หรือตามเวลาที่กำหนดไว้
5.3 การควบคุม หมายถึง การควบคุมทางบัญชี และการควบคุมทางการส่งกำลัง
5.4 การควบคุมทางบัญ ชี หมายถึง วิธีการในการควบคุมสิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับ การควบคุมการ
แจกจ่าย การจ่ายเพิ่มเติม การรวบรวมบันทึกรายงาน การจัดทำข้อมูลถาวรต่าง ๆ การสำรวจ การรายงาน
สถานภาพสิ่งอุปกรณ์ การกำหนดนโยบายเกี่ยวกับระดับสิ่งอุปกรณ์เพื่อการประหยัดโดยต่อเนื่องทุกขั้นตอน
ในสายการส่งกำลัง และสายการบังคับบัญชา นับตั้งแต่สิ่งอุปกรณ์ไ ด้เริ่งเข้าสู่ระบบการส่งกำลังจนกระทั่ง
หน่วยใช้ได้ใช้หมดสิ้นไป และได้รับอนุมัติให้จำหน่ายออกจากบัญชีคุมของกองทัพบกแล้ว
5.5 การควบคุมทางการส่งกำลัง หมายถึง วิธีการที่เกี่ยวกับระบบการรายงาน การคำนวณ การ
รวบรวมข้อมูล และการประเมินค่า เพื่อให้สิ่งอุปกรณ์ตามความต้องการทั้งสิ้นได้ส่วนสัมพันธ์กับทรัพย์สินที่มี
อยู่ อันเป็นแนวทางในการประมาณการด้านงบประมาณ การจัดหา การแจกจ่าย และการจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์
5.6 การจัดหา หมายถึง กรรมวิธีเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งอุปกรณ์
5.7 การแจกจ่าย หมายถึง การรับ การจ่าย การเก็บรักษา และการขนสิ่งอุปกรณ์
5.8 การจำหน่ า ย หมายถึ ง การตั ด ยอดสิ่ งอุ ป กรณ์ อ อกจากความรับ ผิ ด ชอบของกองทั พ บก
เนื่องจากสูญไป สิ้นเปลืองไป (สิ่งอุปกรณ์สิ้นเปลือง) ชำรุดเสียหายจนไม่สามารถซ่อมคืนสภาพได้อย่างคุ้มค่า
เสื่อมสภาพจนใช้การไม่ได้ หรือสูญหาย ตาย เกินความต้องการ หรือเป็นของล้าสมัย ไม่ใช้ราชการต่อไป
ห น ้ า | 60
5.40 หน่ ว ยใช้ หมายถึ ง หน่ ว ยที่ ได้ รับ สิ่ งอุ ป กรณ์ ต าม อจย., อสอ. หรื อ อนุ มั ติ อื่ น ใด ซึ่ งได้ รั บ
ประโยชน์จากใช้สิ่งอุปกรณ์นั้น ๆ
5.41 หน่วยเบิก หมายถึง หน่วยใช้ตั้งแต่ระดับกองพัน หรือเทียบเท่า หรือกองร้อยอิสระขึ้นไป
หรือหน่วยอิสระที่ ทบ.อนุมัติ หรือหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังทุกระดับที่เบิกสิ่งอุปกรณ์ไปยังหน่วยจ่าย
5.42 หน่วยจ่าย หมายถึง หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังซึ่งทำหน้าที่จ่ายสิ่งอุปกรณ์ให้แก่หน่วย
เบิก
5.43 หน่วยบัญชีคุม หมายถึง หน่วยซึ่งดำเนินการควบคุมทางบัญชีต่อสิ่งอุปกรณ์
5.44 วั น ส่ ง กำลั ง หมายถึ ง ปริม าณสิ่ งอุ ป กรณ์ ที่ ป ระมาณว่ า จะใช้ สิ้ น เปลื อ งไปหนึ่ งวั น ตาม
สภาวการณ์ต่าง ๆ
5.45 ระดับส่งกำลัง หมายถึง ปริมาณสิ่งอุปกรณ์ ณ ที่ตั้งการส่งกำลังต่าง ๆ ที่ได้รับอนุมัติให้
สะสมไว้เพื่อสนับสนุนการส่งกำลังให้สมบูรณ์ และต่อเนื่อง โดยปกติจะต้องกำหนดเป็นจำนวนวันส่งกำลัง
หรืออาจจะกำหนดเป็นจำนวนสิ่งอุปกรณ์ก็ได้
5.46 ระดับปฏิบัติการ หมายถึง ปริมาณสิ่งอุปกรณ์ที่ต้องการให้มีไว้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการใน
ระยะเวลาเบิก หรือรับสิ่งอุปกรณ์ที่ส่งมาเพิ่มเติม
5.47 ระดับปลอดภัย หมายถึง ปริมาณสิ่งอุปกรณ์ที่เพิ่มเติมจากระดับปฏิบัติการให้มีคงคลังไว้ เพื่อ
สามารถปฏิบัติการได้อย่างต่อเนื่องในเมื่อมีเหตุขัดข้องในการส่งเพิ่มเติมตามปกติ หรือเมื่อความต้องการไม่
เป็นไปตามความที่คาดคะเนไว้
5.48 ระดับเก็บกัน หมายถึง ปริมาณสิ่งอุปกรณ์ที่หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังได้รับอนุมัติให้
เก็บกันไว้ได้เกินกว่าเกณฑ์เบิก
5.49 เกณฑ์สะสม หมายถึง ปริมาณสูงสุดของสิ่งอุปกรณ์ที่มีคงคลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการได้
อย่างต่อเนื่อง ซึ่งประกอบด้วยระดับปฏิบัติการ และระดับปลอดภัย
5.50 เกณฑ์เบิก หมายถึง ปริมาณสูงสุดของสิ่งอุปกรณ์คงคลังรวมกับค้างรับ ซึ่งจำเป็นสำหรับ
สนับสนุนการปฏิบัติการในระยะนั้น และเพียงพอสำหรับความต้องการที่คาดว่าจะมีในอนาคต หรือคือผลรวม
ของเกณฑ์สะสมกับเวลาในการเบิก และจัดส่ง
5.51 เกณฑ์ความต้องการ หมายถึง ปริมาณสูงสุดของสิ่งอุปกรณ์คงคลังรวมกับที่สั่งชื้อ ซึ่งจำเป็น
สำหรับสนับสนุนการปฏิบัติการในระยะนั้น และเพียงพอสำหรับความต้องการที่คาดว่าจะมีในอนาคต หรือคือ
ผลรวมของสิ่งอุปกรณ์ ตามระดับปลอดภัย วงรอบการจัดหา เวลาล่วงหน้าในการจัดหา และเวลาที่เสียไปใน
การรายงานสถานภาพ
5.52 เวลาในการเบิก และจัดส่ง หมายถึง เวลานับตั้งแต่หน่วยเบิกทำการเบิกสิ่งอุปกรณ์ จนถึงวันที่
ได้รับสิ่งอุปกรณ์
5.53 เวลาล่วงหน้าในการจัดหา หมายถึง เวลานับตั้งแต่ริเริ่มทำการจัดหา จนถึงวันที่ได้รับสิ่ง
อุปกรณ์งวดแรก เข้าสู่ระบบการส่งกำลัง
5.54 วงรอบการสอบทาน หมายถึง ห้วงเวลาที่กำหนดให้ทำการสอบทาน
5.55 วงรอบการเบิก หมายถึง ห้วงเวลาที่กำหนดให้ทำการเบิก
5.56 วงรอบการจัดหา หมายถึง ห้วงเวลาที่กำหนดให้ทำการจัดหา
5.57 จุดเพิ่มเติม หมายถึง ปริมาณสิ่งอุปกรณ์ที่ต้องการทำการเบิกเพิ่มเติม ซึ่งเท่ากับผลรวมของ
ระดับปลอดภัยกับเวลาในการเบิก และจัดส่ง ทั้งนี้เพื่อเก็บรักษาไว้ซึ่งเกณฑ์สะสม
ห น ้ า | 63
ตอนที่ 2
ความต้องการ
ข้อ 6 ลักษณะความต้องการ
6.1 ความต้องการประจำ
6.1.1 ความต้องการประจำ คือ ความต้องการเพื่อทดแทนสิ่งอุปกรณ์ที่ใช้หมด
ไป หรือใช้สิ้นเปลือง และเพื่อเพิ่มเติมระดับการส่งกำลัง อันสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติงาน
6.1.2 ความต้องการประจำ ใช้เป็นข้อมูลสำหรับคำนวณความต้องการทั้งเพื่อการ
จัดหา และการเบิก
6.2 ความต้องการครั้งคราว
6.2.1 ความต้องการครั้งคราว คือ ความต้องการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในห้วงเวลา
12 เดือน สำหรับความมุ่งหมายอย่างเดียวกัน และหมายรวมถึงความต้องการขั้นต้น เพื่อสนองความต้องการ
ตามอัตรา ความต้องการเพื่อรักษาระดับการส่งกำลังที่เพิ่มขึ้น และความต้องการตามโครงการพิเศษต่ าง ๆ
เช่น ความต้องการเพื่อการซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูป เป็นต้น
6.2.2 ความต้องการครั้งคราว ใช้เป็นข้อมูลสำหรับคำนวณความต้องการเพื่อการ
จัดหาเท่านั้น
ข้อ 7 ประเภทความต้องการ
7.1 ความต้องการขั้นต้น ได้แก่ ความต้องสิ่ งอุปกรณ์ ที่ทหาร หรือหน่วยต้องการมีไว้เพื่อการ
ปฏิบัติภารกิจของตน ซึ่งสิ่งอุปกรณ์นั้น ๆ ยังไม่เคยได้รับมาก่อน และเป็นความต้องการสิ่งอุปกรณ์ในกรณี
ดังต่อไปนี้
7.1.1 การรับทหารเข้าประการใหม่
7.1.2 การจัดตั้งหน่วยใหม่
7.1.3 การกำหนดมาตรฐานสิ่งอุปกรณ์ใหม่
7.1.4 การเพิ่มจำนวน และรายการเนื่องมาจากการแก้อัตรา
7.1.5 รายการที่ได้รับอนุมัติให้จ่ายครั้งแรก แก่หน่วยที่ยังไม่ได้รับอนุมัติอัตรา
7.1.6 รายการที่ได้รับอนุมัติให้จ่ายครั้งแรก ซึ่งเกินจำนวนจากอัตรา
7.1.7 การอนุมัติจ่ายสิ่งอุปกรณ์ใหม่ เพื่อทดแทนสิ่งอุปกรณ์เดิมที่ยังใช้ราชการได้
ซึ่งได้รับคืนจากหน่วยทหาร
7.1.8 การจ่ายครั้งแรกให้กับหน่วยนอกกองทัพบก ตามคำสั่งกองทัพบก
7.2 ความต้องการทดแทน ได้แก่ ความต้องการเพื่อทดแทนสิ่งอุปกรณ์ที่หน่วยใช้เคยได้รับมาแล้ว
และเป็นความต้องการสิ่งอุปกรณ์ในกรณีดังต่อไปนี้
7.2.1 เพื่ อทดแทนสิ่งอุปกรณ์ ที่หมดเปลืองไป หรือชำรุดเนื่องจากการใช้ และ
รวมทั้งทดแทนชิ้นส่วนซ่อมที่ชำรุดด้วย
7.2.2 เพื่อทดแทนสิ่งอุปกรณ์ ที่ถูกละทิ้ง ทำลาย ข้าศึกทำให้เสียหาย โจรกรรม หรือ
เสียหายโดยเหตุอื่น ๆ
ห น ้ า | 65
ตอนที่ 3
การจัดหา
ข้อ 10 ทางที่ได้มาซึ่งสิ่งอุปกรณ์ โดยทั่วไปหน่วย หรือคลังซึ่งมีการสะสมสิ่งอุปกรณ์ และ/หรือ มี
ไว้เพื่อการปฏิบัติการย่อมจะได้รับสิ่งอุปกรณ์จากลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ดังต่อไปนี้
10.1 การจั ด ชื้ อ และการจ้ า ง หน่ วยหรือ เจ้าหน้ าที่ ซึ่ งมี ห น้ าที่ ในการจั ด ชื้ อ และจ้ าง
จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2521 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)
และระเบียบหรือคำสั่งอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
10.2 การรับ ความช่ วยเหลือจากต่างประเทศ ให้ปฏิบัติตามวิธีการซึ่งได้ตกลงระหว่าง
กองทัพบกกับองค์การหรือตัวแทนของประเทศนั้น ๆ
10.3 การซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์ที่หน่วยใช้ส่งซ่อม หากหน่วยซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรง
หรือหน่วยสนับสนุนทั่วไปพิจารณาเกินขั้นการซ่อมบำรุง ก็ให้นำส่งซ่อมต่อไปยังหน่วยซ่อมบำรุงระดับคลัง
เมื่อหน่วยซ่อมบำรุงระดับคลังทำการซ่อมเสร็จแล้ว ให้ส่งสิ่งอุปกรณ์นั้นเข้าคลังเพื่อดำเนินการตามระบบส่ง
กำลังต่อไป และให้หน่วยซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรง หรือสนับสนุนทั่วไป แจ้ งให้หน่วยใช้ทราบทันที่ได้ส่งสิ่ง
อุปกรณ์ไปยังหน่วยซ่อมบำรุงระดับคลัง ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยใช้เบิกรับสิ่งอุปกรณ์ทดแทนต่อไป
10.4 การเก็บซ่อมสิ่งอุปกรณ์ชำรุด ถูกทำลาย เสื่อมสภาพ หรือถูกทอดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็น
ของใหม่หรือของใช้แล้วก็ตาม หากหน่วยซ่อมบำรุงของสายยุ ทธบริการพิจารณาเห็นว่าเกินขั้นการซ่อมบำรุง
ไม่สามารถซ่อมได้คุ้มค่า ให้หน่วยซ่อมนั้นรายงานขออนุมัติถอดแยกชิ้นส่วนซ่อมที่สามารถใช้ราชการได้จาก
เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ หรือฝ่ายกิจการพิเศษที่รับผิดชอบ เพื่อดำเนินการบำรุงรักษา และนำเข้าระบบส่ง
กำลังต่อไป
10.5 การบริจาค สิ่ งอุปกรณ์ ที่ ได้มาโดยมีผู้บริจาคให้แก่ส่วนราชการเป็น สิ่งอุปกรณ์ ที่
จะต้องดำเนินการตามระบบส่งกำลัง
10.6 การยืม หน่วยที่มีความจำเป็นในการยืมสิ่งอุปกรณ์ให้ปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในตอน
ที่ 4 การเบิก การยืม การโอน และการส่งคืน
10.7 การโอน
10.7.1 การโอนความรับผิดชอบในสิ่งอุปกรณ์ระหว่างสายยุทธบริการ ให้ปฏิบัติ
ตามระเบียบปฏิบัติในการโอนสิ่งอุปกรณ์จากสายยุทธบริการหนึ่งไปให้อีกสายหนึ่ง พ.ศ.2501 และคำสั่ง ทบ.
ที่ 90/2508 ลง 30 ส.ค. 08 เรื่อง กำหนดวิธีดำเนินการโอนสิ่งอุปกรณ์ครบชุดของสายยุทธบริการเพิ่มเติม
จากระเบียบปฏิบัติในการโอนสิ่งอุปกรณ์จากสายยุทธบริการหนึ่งไปให้อีกสายหนึ่ง พ.ศ.2501
10.7.2 การโอนสิทธิครอบครองสิ่งอุปกรณ์ระหว่างหน่วยให้ปฏิบัติตามระเบียบนี้
ตอนที่ 4 การเบิก การยืม การโอน และการส่งคืน
10.8 การเบิก หน่วยในสายการส่งกำลังซึ่งต่ำกว่าระดับคลังสายงานให้ถือการเบิกเป็นวิธี
หลักในการได้มาซึ่งสิ่งอุปกรณ์ ส่วนรายละเอียดให้ปฏิบัติตามระเบียบนี้ ตอนที่ 4 การเบิก การยืม การโอน
และการส่งคืน
10.9 การผลิต หากกรมฝ่ายยุทธบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษใดมีการผลิตสิ่งอุปกรณ์
เพื่อใช้ราชการ ให้เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ หรือเจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษนั้นรับผิดชอบในการปฏิบัติให้เป็นไป
ตามข้อกำหนด และความมุ่งหมายของราชการต่อไป
10.10 การเกณฑ์ และการยึด ให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติกฏอัยการศึก พ.ศ.2457 และ
พระราชบัญญัติการเกณฑ์ช่วยราชการ พ.ศ.2530
ห น ้ า | 67
ตอนที่ 4
การเบิก การยืม การโอน และการส่งคืน
ข้อ 15 การเบิก ได้แก่ วิธีดำเนินการเสนอคำขอไปยังหน่วยสนับสนุน เพื่อขอรับสิ่งอุปกรณ์ตาม
จำนวนที่ต้องการ
ข้อ 16 ประเภทการเบิก แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
16.1 การเบิกขั้นต้น ได้แก่ การเบิกสิ่งอุปกรณ์ตามความต้องการขั้ นต้นที่ระบุไว้ในข้อ
7.1
16.2 การเบิกทดแทน ได้แก่ การเบิกสิ่งอุปกรณ์ตามความต้องการทดแทนที่ระบุไว้ในข้อ
72
16.3 การเบิ ก เพิ่ ม เติ มเพื่ อรักษาระดับ ส่ งกำลั ง ได้แก่ การเบิ กสิ่งอุป กรณ์ ตามความ
ต้องการ เพือ่ รักษาระดับส่งกำลัง ที่ระบุไว้ในข้อ 7.3
16.4 การเบิกพิเศษ ได้แก่ การเบิกเร่งด่วน การเบิกนอกอัตรา การเบิกก่อนกำหนด
16.4.1 การเบิกเร่งด่วน ได้แก่ การเบิกสิ่งอุปกรณ์ที่หน่วยใช้มีความจำเป็นที่ต้อง
ใช้โดยเร่งด่วน หรือในยามฉุกเฉิน หรือเพื่อการซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์งดใช้การ
16.4.2 การเบิกนอกอัตรา ได้แก่ การเบิกสิ่งอุปกรณ์ ประเภท 4
ห น ้ า | 69
18.4.1.2 หน่ ว ยสนั บ สนุ น โดยตรง หรื อ คลั ง ส่ ว นภู มิ ภ าค หรื อ คลั ง
กองบัญชาการช่วยรบ ถ้ามีสิ่งอุปกรณ์สนับสนุน ให้ผู้ มีอำนาจสั่งจ่ายตามที่กำหนดไว้ในข้อ 36.6 อนุมัติจ่าย
ตามหลักฐานในการเบิกเร่งด่วน ถ้าไม่มีสิ่งอุปกรณ์สนับสนุนให้ติดต่อขอรับการสนับสนุนด้วยเครื่องสื่อสารที่
เหมาะสม เมื่อได้รับสิ่งอุปกรณ์แล้ว จะต้องทำใบเบิกส่งหน่วยจ่ายภายใน 3 วัน
18.4.1.3 คลังสายงาน ถ้ามี สิ่งอุปกรณ์ สนับสนุนให้ผู้มีอำนาจในการสั่ง
จ่ายตามที่กำหนดไว้ในข้อ 36.6 อนุมัติจ่ายตามหลักฐานในการเบิกเร่งด่วน ถ้าไม่มีสิ่งอุปกรณ์สนับสนุน หาก
พิจารณาเห็นว่าสามารถจัดหาสนับสนุนได้ทันที ก็ให้ดำเนินการต่อไป
18.4.2 การเบิกนอกอัตรา เมื่อได้รับอนุมัติความต้องการตามที่เสนอไปในข้อ 9.2
แล้วให้ดำเนินการเบิกได้
18.4.3 การเบิกก่อนกำหนด เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้สิ่งอุปกรณ์ก่อนวงรอบการ
เบิก ซึ่งหน่วยสนับสนุนได้กำหนดขึ้น ให้ดำเนินการเบิกได้
18.5 วิธีทำใบเบิก
18.5.1 ใบเบิกหลายรายการ ได้แก่ แบบพิมพ์ ทบ.400-006 และ ทบ.400-007
ใช้เบิกสิ่งอุปกรณ์ในใบเบิกชุดเดียวกันได้หลายรายการ ดำเนินการดังนี้
18.5.1.1 ทำใบเบิกโดยแยกประเภทสิ่งอุปกรณ์ และสายงายที่รับผิดชอบ
1 ชุด 4 ฉบับ (ชมพู ฟ้า เขียว ขาว ตามลำดับ)
18.5.1.2 ใบเบิกฉบับที่ 1, 2 และ 3 เสนอไปยังหน่วยจ่าย
18.5.1.3 ใบเบิกฉบับที่ 4 เก็บไว้ในแฟ้มรอเรื่อง
18.5.1.4 ถ้าหน่วยเบิกไปรับของเองจากหน่วยจ่าย ให้นำใบเบิกฉบับที่ 4
ไปตรวจสอบกับจำนวน และประเภทกับสิ่งอุปกรณ์ที่ได้จ่ายจริง ตามใบเบิกฉบับที่ 1 และ 2 ลงนามรับสิ่ง
อุปกรณ์ในใบเบิกฉบับที่ 1, 2 และ 4 แล้วนำใบเบิกฉบับที่ 2 และ 4 กลังพร้อมสิ่งอุปกรณ์
18.5.1.5 ถ้าหน่วยเบิกได้รับสิ่งอุปกรณ์จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ให้
ตรวจสอบใบเบิกฉบับที่ 4 กับจำนวน และประเภทสิ่งอุปกรณ์ที่จ่ายจริงตามใบเบิกฉบับที่ 1 และ 2 ลงนาม
รับสิ่งอุปกรณ์ในใบเบิกฉบับที่ 1, 2 และ 4 แล้วส่งใบเบิกฉบับที่ 1 คืนหน่วยจ่าย
18.5.1.6 เก็บใบเบิกฉบับที่ 2 ในแฟ้มเสร็จเรื่อง แนบใบเบิกฉบับที่ 4 ไป
กับรายงานการรับสิ่งอุปกรณ์ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยเบิกทราบ เพื่อรายงานหน่วยตามสายการบังคับบัญชา
เหนือขึ้นไปอีก 1 ขั้น
18.5.2 ใบเบิกรายการเดียว ได้แก่ แบบพิมพ์ ทบ.400-007-1 ใช้เบิกสิ่งอุปกรณ์
ในใบเบิกชุดเดียวกันเพียงรายการเดียว ดำเนินการดังนี้
18.5.2.1 ใบเบิ ก 1 ชุ ด มี 5 ฉบั บ ( ชมพู ฟ้ า เขี ย ว ขาว ขาว
ตามลำดับ )
18.5.2.2 ใบเบิกฉบับที่ 1,2,3 และ 4 เสนอไปยังหน่วยจ่าย
18.5.2.3 ใบเบิกฉบับที่ 5 เก็บไว้ในแฟ้มรอเรื่อง
18.5.2.4 ถ้าหน่วยเบิกไปรับของเองจากหน่วยจ่าย ให้นำใบเบิกฉบับที่ 5
ไปตรวจสอบกับจำนวน และประเภทกับสิ่งอุปกรณ์ที่ได้จ่ายจริง ตามใบเบิกฉบับที่ 1, 2 และ 4 ลงนามรับสิ่ง
อุปกรณ์ในใบเบิกฉบับที่ 1, 2, 4 และ 5 แล้วนำใบเบิกฉบับที่ 2 และ 4 กลับพร้อมสิ่งอุปกรณ์
ห น ้ า | 71
30.4 เมื่อได้รับอนุมัติให้จำหน่าย
30.5 กรณีอื่น ๆ
ข้อ 31 ประเภทสิ่งอุปกรณ์ที่ส่งคืน
31.1 สิ่งอุปกรณ์ใช้การได้ ได้แก่สิ่งอุปกรณ์ที่มีคุณภาพใช้งานได้ตามความมุ่งหมายเดิม
31.2 สิ่งอุปกรณ์ใช้การไม่ได้ ได้แก่ สิ่งอุปกรณ์ที่สึกหรอ ชำรุดไม่สามารถนำไปใช้งาน
ตามความมุ่งหมายเดิม จำเป็นต้องซ่อม ปรับสภาพ ก่อนนำเข้าเก็บรักษาเพื่อแจกจ่าย หรือในกรณีที่หน่วย
ซ่อมบำรุงพิจารณาแล้วเห็นว่าซ่อมไม่คุ้มค่า ซึ่งจะต้องดำเนินการขอจำหน่ายต่อไป หรือซากสิ่งอุ ปกรณ์ ตาม
ระเบียบกองทัพบกว่าด้วย การจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ หรือสัตว์พาหนะที่ปลดจำหน่ายออกจากทะเบียน ตาม
ระเบียบกองทัพบกว่าด้วย กิจการสัตว์พาหนะ
ข้อ 32 การดำเนินการส่งคืน
32.1 สิ่งอุปกรณ์ใช้การได้
32.1.1 หน่วยส่งคืน เมื่อมีมูลเหตุที่จะต้องส่งคืน ตามข้อ 30 ให้ปฏิบัติดังนี้
32.1.1.1 ทำการปรนนิบัติบำรุงสิ่งอุปกรณ์ก่อนส่งคืน
32.1.1.2 ตรวจสอบให้มีสิ่งอุปกรณ์ครบชุด
32.1.1.3 ผูกป้ายประจำสิ่งอุปกรณ์ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-010
32.1.1.4 ทำใบส่งคืนโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-013 หรือ ทบ.400-014
หรือ ทบ.400-007-1 แล้วแต่กรณี จำนวน 1 ชุด ทางเดินของใบส่งคืนตามเอกสารที่แนบท้ายระเบียบ
32.1.1.5 ส่งสิ่งอุปกรณ์ พ ร้อมใบส่งคืนไปยังหน่วยรับคืน ภายใน 7 วัน
เว้นจะได้รับคำสั่งเป็นอย่างอื่น
32.1.1.6 ตั ด ยอดสิ่ งอุ ป กรณ์ อ อกจากบั ญ ชี คุ ม เมื่ อ ได้ รับ ใบส่ งคื น จาก
หน่วยรับคืน
32.1.2 หน่วยรับคืน ปฏิบัติดังนี้
32.1.2.1 ลงทะเบียนใบส่งคืน
32.1.2.2 ตรวจรับสิ่งอุปกรณ์ตามใบส่งคืน
32.1.2.3 ลงนามรับ สิ่ งอุ ป กรณ์ ในใบส่ งคื น และส่ งใบส่ งคื น คื น หน่ วย
ส่งคืน จำนวน 1 ฉบับ
32.1.2.4 บันทึกการรับสิ่งอุปกรณ์ในบัตรบัญชีคุม
32.2 สิ่งอุปกรณ์ใช้การไม่ได้
32.2.1 สิ่งอุปกรณ์ชำรุดไม่สามารถนำไปใช้ได้ตามความมุ่งหมายเดิมจำเป็นต้อง
ซ่อม ปรับสภาพ ก่อนนำเข้าเก็บรักษาเพื่อแจกจ่าย เมื่อได้รับคำสั่งให้ส่งคืน ให้ปฏิบัติดังนี้
32.2.1.1 หน่วยส่งคืน ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับข้อ 32.1.1
32.2.1.2 หน่วยรับคืน ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับข้อ 32.1.2
32.2.2 สิ่งอุป กรณ์ ชำรุด ในกรณี ที่หน่วยซ่อมบำรุงพิจารณาแล้วเห็นว่าซ่อมไม่
คุ้มค่า และดำเนินการจำหน่ายตามระเบียบแล้ว ให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
32.2.2.1 หน่วยส่งคืน ทำใบส่งคืนโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-013 หรือ
ทบ.400-014 หรือ ทบ.400-007-1 แล้วแต่กรณี จำนวน 1 ชุด ส่วนสิ่งอุปกรณ์นั้นไม่ต้องนำส่งคืน เพราะอยู่
กับหน่วยซ่อมซึ่งเป็นหน่วยเดียวกันกับหน่วยรับคืนอยู่แล้ว
23.2.2.2 หน่วยรับคืน ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับกับข้อ 32.1.2
ห น ้ า | 76
ตอนที่ 5
การแจกจ่าย
ข้อ 34 การรับสิ่งอุปกรณ์ ได้แก่ การดำเนินกรรมวิธีเพื่อเข้าครอบครองสิ่งอุปกรณ์ที่ได้มา
34.1 การเตรียมรับสิ่งอุปกรณ์
34.1.1 ตรวจสอบเอกสารการรับสิ่งอุปกรณ์
34.1.2 เตรียมสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการรับสิ่งอุปกรณ์
34.2 การรับสิ่งอุปกรณ์จากการเบิก
34.2.1 หน่วยเบิกไปรับสิ่งอุปกรณ์เอง
34.2.1.1 ผู้ รั บ สิ่ ง อุ ป กรณ์ ด ำเนิ น การตามข้ อ 18.5.1.4 หรื อ 18.5.2.4
แล้วแต่กรณี
34.2.1.2 สำหรับสิ่งอุปกรณ์ที่ไม่ประสงค์จะเปิดหีบห่อ ให้ผู้รับสิ่งอุปกรณ์
ตามจำนวนที่ระบุไว้ และให้ผู้จ่ายบันทึกในใบเบิกไว้ด้วย “ไม่เปิดหีบห่อ”
34.2.1.3 การจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ออกจากหน่วยจ่าย ให้ผู้รับปฏิบัติตาม
ระเบียบ และคำแนะนำของหน่วยจ่าย
34.2.1.4 เมื่อผู้รับนำสิ่งอุปกรณ์ไปถึงหน่วยเบิก ให้ผู้บังคับหน่วยเบิกตั้ง
กรรมการตรวจรับสิ่งอุปกรณ์ จำนวน 3 นาย ประกอบด้วยนายทหารสัญญาบัตรอย่างน้อย 2 นาย โดยเฉพาะ
ควรจะตั้งเจ้าหน้าที่ในสายงานที่รับผิดชอบต่อสิ่งอุปกรณ์นั้นเข้าร่วมด้วย
34.2.1.5 ให้คณะกรรมการรายงานผลการตรวจรับให้ผู้บังคับหน่วยเบิก
ทราบ ถ้าปรากฏว่าสิ่งอุปกรณ์คลาดเคลื่อนไปจากใบเบิก หรือมีการชำรุด เสียหาย ให้คณะกรรมการสอบสวน
สาเหตุแล้วแนบสำเนาการสอบสวนไปพร้อมกับรายงานด้วย
34.2.1.6 ถ้ า มี สิ่ ง อุ ป กรณ์ ช ำรุ ด หรื อ สู ญ หาย ให้ ป ฏิ บั ติ ต ามระเบี ย บ
กองทัพบก ว่าด้วยการจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ.2524 ลง 30 ก.ย. 24
34.2.1.7 ให้คณะกรรมการตรวจรับ มอบสิ่งอุปกรณ์ให้แก่เจ้าหน้าที่คลัง
เจ้าหน้าที่เก็บรักษา
34.2.1.8 เจ้าหน้าที่บัญชีคุมบันทึกการรับสิ่งอุปกรณ์ในบัตรบัญชีคุม
ห น ้ า | 77
34.2.2 หน่วยเบิกรับสิ่งอุปกรณ์จากสำนักงานขนส่งปลายทาง
34.2.2.1 เมื่อหน่วยได้รับสิ่งอุปกรณ์ จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ให้
ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งและรับสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ.2500 และคำสั่งกองทัพบก (คำสั่งชี้แจง)
ที่ 57/13166 ลง 11 ต.ค.2504 เรื่อง ชี้แจงการปฏิบัติการส่งและรับสิ่งอุปกรณ์ของ ทบ. (ครั้งที่ 3)
34.2.2.2 เจ้าหน้าที่บัญชีคุม บันทึกการรับสิ่งอุปกรณ์ในบัตรบัญชีคุม
หลังจากคณะกรรมการตรวจรับได้ตรวจรับเรียบร้อยแล้ว
34.3 การรับสิ่งอุปกรณ์จากกรณีอื่น ให้ถือปฏิบัติดังนี้
34.3.1 ตรวจรับสิ่งอุปกรณ์
34.3.2 ขึ้นบัญชีคุมสิ่งอุปกรณ์
34.3.3 รายละเอียดการดำเนินการให้ถือปฏิบัติตามระเบียบหรือคำสั่งต่าง ๆ ที่
เกี่ยวข้องกับที่มาของสิ่งอุปกรณ์นั้น ๆ
ข้อ 35 การเก็บรักษา ได้แก่ การเตรียมพื้นที่ การนำสิ่งอุปกรณ์เข้า-ออก การเก็บ หรือการวาง
การระวังรักษาสิ่งอุปกรณ์ในที่เก็บ รวมทั้งการปรนนิบัติบำรุง และการซ่อมบำรุงขณะเก็บ และก่อนจ่ายด้วย
35.1 ความรับผิดชอบในการเก็บรักษา
35.1.1 เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ/หรือ เจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษ ผู้บัญชาการ
ช่วยรบ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก ผู้บังคับหน่วยสนับสนุนโดยตรง ผู้บังคับ
หน่วยใช้ จะต้องวางระเบียบ และจัดงานเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์ในที่เก็บให้ปลอดภัย และอยู่ในสภาพที่ใช้การได้
35.1.2 เจ้าหน้าที่เก็บรักษา จะต้องเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์ให้เป็ นไปตามระเบียบที่
ผู้บังคับบัญชา ในข้อ 35.1.1 กำหนด
35.2 ปัจจัยในการเก็บรักษา เพื่อให้การเก็บรักษาได้ผลดี ผู้บังคับหน่วยเก็บรักษาจะต้อง
คำนึงปัจจัย ดังต่อไปนี้
35.2.1 พื้นที่เก็บรักษา
35.2.2 กำลังคน
35.2.3 เครื่องมือยกขน
35.3 การเตรียมที่เก็บรักษา
35.3.1 ที่เก็บ เตรียมทำที่เก็บในพื้นที่คลังปิด หรือคลังกลางแจ้ง แบ่งเป็นคลัง
หรือพื้นที่ แถว ตอน และช่อง โดยใช้ตัวอักษรผสมกับตัวเลข ตัวอย่างเช่น 1-ก-2-4 หมายความว่า คลังพื้นที่
1 แถว ก ตอนที่ 2 ช่องที่ 4
35.3.2 ให้เขียนผังแสดงที่เก็บตามที่จัดระบบไว้ในข้อ 35.3.1 เพื่อสะดวกในการ
วางแผนนำสิ่งอุปกรณ์เข้าที่เก็บ
35.4 การนำสิ่งอุปกรณ์เข้าที่เก็บ เจ้าหน้าที่เก็บรักษาดำเนินการดังนี้
35.4.1 บั น ทึ ก บั ต รแสดงที่ เก็ บ โดยใช้ แ บบพิ ม พ์ ทบ.400-009 สำหรั บ หน่ ว ย
สนับสนุน และแบบพิมพ์ ทบ.400-068 สำหรับหน่วยใช้
35.4.2 ทำการบำรุงรักษาสิ่งอุปกรณ์ก่อนนำเข้าเก็บ
35.4.3 ผูกป้ายประจำสิ่งอุปกรณ์โดยใช้แบบพิมพ์ทบ.400-010 โดยอนุโลม
35.4.4 นำสิ่งอุปกรณ์เข้าเก็บในที่ที่กำหนดให้
35.5 การเก็บรักษา หรือการวางสิ่งอุปกรณ์
ห น ้ า | 78
35.6.3.3 ระมัดระวังมิให้บุคคลลักลอบนำสิ่งอุปกรณ์ออกจากคลัง
35.6.4 วินาศกรรม
35.6.4.1 จัดเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ หรือเวรยาม พร้อมอาวุธเพื่อตรวจ
รอบๆ บริเวณที่เก็บรักษาตามความจำเป็น ถ้าหากบริเวณกว้างขวางอาจจัดให้มียานพาหนะ และเครื่องมือ
สื่อสารด้วยก็ได้
35.6.4.2 กวดขันบุคคล และยานพาหนะที่จะผ่านข้า-ออก
35.6.4.3 จัดให้มีเครื่องกีดขวางหรือเครื่องเตือนภัยในบริเวณที่เก็บรักษา
ตามความเห็ น สมควรรายละเอี ยดในการปฏิ บั ติ อื่ น ๆ ให้ ถือ ปฏิ บั ติ ต ามระเบี ยบ ว่าด้วยการรัก ษาความ
ปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2517
35.6.5 อุบตั ิเหตุ
35.6.5.1 อบรมชี้แจงการใช้เครื่องมือยกขน วิธีการขนย้าย และวิธีการจัด
วางสิ่งอุปกรณ์
35.6.5.2 หมั่นตรวจ และปรนนิบัติบำรุงเครื่องยกขนอยู่เสมอ
35.6.5.3 ทำความสะอาดในที่เก็บรักษา
35.6.6 การชำรุดหรือเสื่อมสภาพ
สิ่งอุปกรณ์ซ่อมอยู่ในที่เก็บจะต้องได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพใช้การได้ หรือมิให้เสื่อมสภาพ
ก่อนนำไปใช้โดยจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ หรือคำสั่งที่ทางราชการกำหนด หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต
หรือทำหน้าที่ทางเทคนิค
35.7 การนำสิ่งอุปกรณ์ออกจากที่เก็บ
35.7.1 การนำสิ่งอุปกรณ์ออกจากที่เก็บ ต้องมีหลักฐานการนำออก
35.7.2 การย้ายที่เก็บสิ่งอุปกรณ์ ต้องบันทึกการย้ายไว้เป็นหลักฐาน
35.7.3 สิ่งอุปกรณ์ใดที่นำเข้าเก็บก่อน ให้นำออกจากจ่ายก่อน
ข้อ 36 การจ่ายสิ่งอุปกรณ์ ได้แก่ การดำเนินการตอบสนองความต้องการที่หน่วยเบิกได้ส่งคำขอ
มา
36.1 ข้อพิจารณาในการจ่ายสิ่งอุปกรณ์ หลักเกณฑ์ที่จะต้องพิจารณาว่าควรจ่ายรายการ
ใด จำนวนเท่าใดนั้น ให้คำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
36.1.1 ความต้องการของหน่วยรับการสนับสนุน
36.1.2 สถานการณ์ทางยุทธวิธี
36.1.3 ระดับส่งกำลัง หรืออัตราของหน่วยรับการสนับสนุน
36.1.4 สิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่ง
36.1.5 สถานที่เก็บรักษาของหน่วยรับการสนับสนุน
36.1.6 ปริมาณสิ่งอุปกรณ์คงคลังของหน่วยจ่าย
36.1.7 ขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงของหน่วยรับการสนับสนุน
36.2 การเตรียมการจ่ายสิ่งอุปกรณ์
36.2.1 จัดทำแผนการแจกจ่าย หรือเอกสารการแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์แล้วแต่กรณี
36.2.2 ดำเนินการปรนนิบัติบำรุงสิ่งอุปกรณ์ก่อนจ่าย ถ้าจำเป็น
36.2.3 จัดสถานที่เตรียมจ่ายโดยแบ่งส่วนดังต่อไปนี้
36.2.3.1 ส่วนจ่าย และคัดแยก
ห น ้ า | 80
36.4 การจ่ า ยสิ่ ง อุ ป กรณ์ โดยอั ต โนมั ติ ได้ แ ก่ การจ่ า ยสิ่ ง อุ ป กรณ์ ให้ ห น่ ว ยรั บ การ
สนับสนุน โดยหน่วยที่รับการสนับสนุนนั้นไม่ต้องทำใบเบิก
36.4.1 ข้อพิจารณาในการจ่ายอัตโนมัติ
36.4.1.1 หน่วยจ่ายทำใบเบิก 1 ชุด โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-007 หรือ
ทบ.400-007-1 แล้วแต่กรณี
36.4.1.2 ลงทะเบียนเอกสารแล้วบันทึกคำว่า “อัตโนมัติ” ไว้ด้านบนของ
ใบเบิกด้วยอักษรสีแดง
36.4.1.3 บันทึกการจ่าย
36.4.1.4 ผู้ตรวจสอบลงนามแล้วเสนอผู้มีอำนาจสั่งจ่าย ลงนาม อนุมัติ
36.4.1.5 เก็ บ ใบเบิ ก ฉบั บ ที่ 3 ไว้ ในแฟ้ ม รอเรื่ อ ง ส่ วนที่ เหลื อ ส่ งไปให้
หน่วยรับการสนับสนุน พร้อมกับสิ่งอุปกรณ์
36.4.1.6 หน่วยรับการสนับสนุน ลงที่ใบเบิก ลงนามผู้เบิก และผู้รับสิ่ง
อุปกรณ์ในใบเบิก ฉบับที่ 1, 2, 4, หรือ 5 แล้วแต่กรณี ส่งใบเบิกฉบับที่ 1 คืนหน่วยจ่ายภายใน 7 วัน นับจาก
วันที่ได้รับสิ่งอุปกรณ์ ส่วนใบเบิกที่เหลือให้ดำเนินการเหมือนกับการเบิกตามปกติ
36.4.1.7 หากหน่วยรับการสนับสนุนส่งใบเบิกฉบับที่ 1 คืนหน่วยจ่ายช้า
เกินกว่ากำหนด ให้หน่วยจ่ายแจ้งผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือของหน่วยรับการสนับสนุนนั้นทราบ เพื่อพิจารณา
สอบสวนสาเหตุแห่งความล่าช้าต่อไป
36.5 การปลดเปลื้องค้างจ่าย
36.5.1 การปลดเปลื้องค้างจ่าย ได้แก่ การจ่ายสิ่งอุปกรณ์ที่ค้างจ่ายให้กับหน่วย
โดยอัตโนมัติ
36.5.2 วิธีดำเนินการปลดเปลื้องค้างจ่าย
36.5.2.1 หน่ ว ยจ่ ายทำใบเบิ ก 1 ชุ ด ใช้ แ บบพิ ม พ์ ทบ.400-007 หรื อ
ทบ.400-007-1 แล้วแต่กรณี โดยใช้ที่ใบเบิกเดิม
36.5.2.2 บันทึกทะเบียนเอกสารในใบเบิก โดยใช้เลขทะเบียนเดิม แล้ว
เพิ่มจำนวนครั้งที่ ปลดเปลื้องท้ายทะเบียนนั้น กับบันทึกคำว่า “ปลดเปลื้องค้างจ่าย” ไว้ด้านบนของใบเบิก
ด้วยอักษรสีแดง
36.5.2.3 บันทึกการจ่าย
36.5.2.4 ผู้ตรวจสอบลงนามแล้วเสนอผู้มีอำนาจสั่งจ่าย ลงนาม
36.5.2.5 เก็ บ ใบเบิ ก ฉบั บ ที่ 3 ไว้ ในแฟ้ ม รอเรื่ อ ง ส่ วนที่ เหลื อ ส่ งไปให้
หน่วยรับการสนับสนุน พร้อมกับสิ่งอุปกรณ์
36.5.2.6 หน่วยรับการสนับสนุนลงนามผู้เบิก และผู้รับสิ่งอุปกรณ์ในใบ
เบิกฉบับที่ 1, 2, 4 หรือ 5 แล้วแต่กรณี ส่งใบเบิกฉบับที่ 1 คืนหน่วยจ่ายภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับสิ่ง
อุปกรณ์ ส่วนใบเบิกที่เหลือให้ดำเนินการเช่นเดียวกับการเบิกตามปกติ
ห น ้ า | 82
39.2.3.1.3 จัดทำบัญชีคุมอุปกรณ์ถาวรที่อยู่ในความครอบครอง
ของหน่วยใช้ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-003-3 และ ทบ.400-002-4
39.2.3.2 หน่วยใช้
39.2.3.2.1 ดำเนินการรวบรวมหลักฐาน จัดทำสถิติ และข้อมูล
สำหรับสิ่งอุปกรณ์แต่ละรายการ
39.2.3.2.2 จั ด ทำบั ญ ชี คุ ม สิ่ งอุ ป กรณ์ ถ าวร โดยใช้ แ บบพิ ม พ์
ทบ.400-005 สำหรับบัญชีคุมชิ้นส่วนซ่อม และสิ่งอุปกรณ์ใช้สิ้นเปลืองนั้นให้ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-068
ข้อ 40 ความรับผิดชอบ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ต้องรับผิดชอบในการควบคุมสิ่งอุปกรณ์ให้
เป็นไปโดยเรียบร้อยเหมาะสม ถูกต้องตามความมุ่งหมายของทางราชการ
ตอนที่ 8
การสำรวจ
ข้อ 41 การสำรวจ ได้แก่ การสำรวจสิ่งอุปกรณ์ และการสำรวจที่เก็บ
41.1 การสำรวจสิ่งอุปกรณ์ ได้แก่ การนับจำนวน และตรวจสภาพสิ่งอุปกรณ์ในที่เก็บให้
ตรงกับหลักฐานบัญชีคุม
41.2 การสำรวจที่เก็บ ได้แก่ การตรวจสอบที่เก็บสิ่งอุปกรณ์ให้ ตรงกับบัตรบัญชีคุมสิ่ง
อุปกรณ์ หรือบัตรแสดงที่เก็บ
ข้อ 42 ประเภทการสำรวจสิ่งอุปกรณ์
42.1 การสำรวจเบ็ดเสร็จ ได้แก่ การสำรวจสิ่งอุปกรณ์ในครอบครองทั้งหมด โดยปิดการ
เบิกจ่ายทั้งสิ้น เว้นกรณีเร่งด่ วน การสำรวจประเภทนี้กระทำเมื่อมีเครื่องมือสำรวจสมบูรณ์ ซึ่ งจะทำให้การ
สำรวจนั้นเสร็จสิ้นโดยเร็ว
42.2 การสำรวจหมุนเวียน ได้แก่ การสำรวจสิ่งอุปกรณ์ที่ได้แบ่งออกเป็นจำพวก หรือ
ชนิด หรือรายการเพื่อทำการสำรวจหมุนเวียนกันไปตามห้วงระยะเวลาที่กำหนด โดยปิดการเบิ กจ่ายเฉพาะ
รายการที่สำรวจนั้น เว้นกรณีเร่งด่วน
42.3 การสำรวจพิเศษ ได้แก่ การสำรวจสิ่งอุปกรณ์เป็นครั้งคราวตามความจำเป็น โดย
ปิดการเบิกจ่ายเฉพาะรายการที่สำรวจนั้น เว้นกรณีเร่งด่วน การสำรวจประเภทนี้จะสำรวจสิ่งอุปกรณ์จำพวก
ใด ชนิดใด หรือรายการใดนั้น ขึ้นอยู่กับกรณีดังต่อไปนี้
42.3.1 เมื่ออันตรายเกิดขึ้นกับสิง่ อุปกรณ์
42.3.2 เมื่อหน่วยบัญชีคุมต้องการทราบจำนวน
42.3.3 เมื่อยอดคงคลังในบัตรบัญชีคุมเป็นศูนย์
42.3.4 เมื่อมีการยับยั้งการจ่าย
42.3.5 เมื่อพบสิ่งอุปกรณ์ตกหล่น
42.3.6 เมื่อมีการรับส่งหน้าที่
42.3.7 เมื่อสิ่งอุปกรณ์ในที่เก็บเป็นศูนย์
ข้อ 43 การดำเนินการสำรวจสิ่งอุปกรณ์
43.1 การสำรวจเบ็ดเสร็จ
43.1.1 ประกาศระงั บ การเบิ ก -จ่ า ย ให้ ห น่ ว ยรั บ การสนั บ สนุ น และหน่ ว ยที่
เกี่ยวข้องทราบล่วงหน้า
ห น ้ า | 85
43.1.2 ให้ทำการจ่ายสิ่งอุปกรณ์ให้เสร็จสิ้นก่อนวันเริ่มสำรวจ
43.1.3 วิธีปฏิบัติในการสำรวจ
43.1.3.1 เจ้าหน้าที่บัญชีคุม กรอกหมายเลข ชื่อ และที่เก็บสิ่ง
อุปกรณ์ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-011 และบันทึกคำว่า “ สำรวจ วัน เดือน ปี ” ที่ทำการสำรวจ ลงในบัตร
บัญชีคุม ขีดเส้นใต้ด้วยหมึกสีแดง เสร็จแล้วส่งแบบพิมพ์ ทบ.400-011 ให้คณะกรรมการหรือชุดสำรวจ
43.1.3.2 คณะกรรมการ หรือชุดสำรวจ ทำการสำรวจสิ่งอุปกรณ์ ตาม
แบบพิมพ์ ทบ.400-011 เสร็จแล้วส่งแบบพิมพ์ดังกล่าวคืนเจ้าหน้าที่บัญชีคุม
43.1.3.3 เจ้าหน้าที่บัญชีคุม บันทึกผลการรายงานลงในใบรายงานผล
การเปรียบเทียบการตรวจสอบยอดสิ่งอุปกรณ์ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-012
43.1.3.4 เจ้ า หน้ า ที่ บั ญ ชี คุ ม เสนอใบรายงานผลเปรี ย บเที ย บการ
ตรวจสอบยอดสิ่งอุปกรณ์ต่อผู้มีอำนาจสั่งปรับยอดในบัตรบัญชีคุม ตามข้อ 48
43.1.3.5 เจ้าหน้าที่ บัญชีคุม ทำการปรับยอดในบัตรบัญชีคุมเมื่อได้รับ
อนุมัติ
43.2 การสำรวจหมุนเวียน
43.2.1 เจ้าหน้าที่บัญชีคุมทำตารางการสำรวจเพื่อให้มีการสำรวจอย่างต่อเนื่องใน
รอบปี
43.2.2 ให้ทำการจ่ายสิ่งอุปกรณ์เฉพาะรายการที่ทำการสำรวจ ให้เสร็จสิ้นก่อนวัน
เริ่มสำรวจ
43.2.3 ระงับการเบิกจ่าย เฉพาะรายการที่ทำการสำรวจ โดยไม่ต้องแจ้งให้หน่วย
รับการสนับสนุนทราบ
43.2.4 วิธีการปฏิบัติในการสำรวจ ดำเนินการเช่นเดียวกับ การสำรวจเบ็ดเสร็จ
ตามที่กล่าวในข้อ 43.1.3
43.3 การสำรวจพิเศษ
43.3.1 เมื่อมีเหตุที่จะต้องทำการสำรวจพิเศษอันเนื่องมาจากกรณีใดกรณีหนึ่ง ตามที่กล่าวมา
ในข้อ 42.3 ให้ผู้รับผิดชอบโดยตรงรายงานขออนุมัติทำการสำรวจต่อผู้มีอำนาจสั่งสำรวจ
43.3.2 ให้ทำการจ่ายสิ่งอุปกรณ์เฉพาะรายการที่ทำการสำรวจให้เสร็จสิ้นก่อนวัน
เริ่มสำรวจ
43.3.3 ระงับการเบิกจ่าย เฉพาะรายการที่ทำการสำรวจ โดยไม่ต้องแจ้งให้หน่วย
รับการสนับสนุนทราบ
43.3.4 วิธีปฏิบัติในการสำรวจ ดำเนิน การเช่นเดียวกับการสำรวจเบ็ดเสร็จตามที่กล่าวมาใน
ข้อ 43.1.3
ข้อ 44 ผู้มีอำนาจในการสั่งสำรวจสิ่งอุปกรณ์
44.1 คลังกรมฝ่ายยุทธบริการ หรือฝ่ายกิจการพิเศษ ได้แก่ เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ
หรือฝ่ายกิจการพิเศษ
44.2 คลังกองบัญชาการช่วยรบ ได้แก่ ผู้บัญชาการช่วยรบ
44.3 คลังมณฑลทหารบก ได้แก่ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก
44.4 คลังจังหวัดทหารบก หน่วยสนับสนุนโดยตรง หรือหน่วยใช้ ได้แก่ ผู้บังคับ
บัญชาชั้นผู้บัญชาการกองพล หรือเทียบเท่า
ข้อ 45 การตั้งกรรมการ หรือชุดสำรวจสิ่งอุปกรณ์
ห น ้ า | 86
แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา
โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
ค่ายอดิศร สระบุรี
----------
เอกสารนำ
วิชา การระมัดระวังความปลอดภัย และเครื่องดับเพลิง
1. ข้อแนะนำในการศึกษา
วิ ช านี้ ใช้ เวลาสอน 2 ชั่ ว โมง ทำการสอนแบบเชิ ง ประชุ ม และสาธิ ต เพื่ อ ให้ นั ก เรี ย นมี ค วามรู้
ความสามารถเกี่ ย วกั บ การระมั ด ระวังความปลอดภั ย เมื่ อ ปฏิ บั ติ งานที่ เกี่ ย วข้ อ งกั บ ยานยนต์ และการ
ปฏิบัติงานในโรงซ่อม วิธีป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ การใช้เครื่องดับเพลิง และการดับเพลิงที่
ถูกวิธี ตลอดจนวิธีการตรวจสภาพเครื่องดับเพลิง เพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติในการระมัดระวังความปลอดภัย
และเป็นแนวทางในการกำหนดวิธีปฏิบัติ และมาตรการในการระมัดระวังความปลอดภัยของหน่วย ต่อไป
2. หัวข้อสำคัญในการศึกษา เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ คือ
2.1 อันตรายเกี่ยวกับเพลิง
2.2 อันตรายซึ่งเกิดจากการกระทบกระแทก
2.3 อันตรายซึ่งเกิดจากยานพาหนะ
2.4 อันตรายเกี่ยวกับเครื่องมือ
2.5 อันตรายจากสารเคมี
2.6 สาเหตุของอุบัติเหตุ ในโรงซ่อม และวิธีป้องกัน
2.7 เครื่องดับเพลิง
2.8 หลักทั่วไปในการดับเพลิง
2.9 ชนิดของเครื่องดับเพลิง
2.10 หลักการใช้เครื่องดับเพลิง
2.11 การตรวจสภาพเครื่องดับเพลิง
3. งานมอบ ให้นักเรียนอ่านเอกสารเพิ่มเติม เรื่องการระมัดระวังความปลอดภัย และเครื่องดับเพลิง ก่อน
เข้าห้องเรียน
4. คำแนะนำพิเศษ ไม่มี
5. เอกสารแจกจ่ายพร้อมเอกสารนำ เอกสารเพิ่มเติม
***********
ห น ้ า | 91
แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา
โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
ค่ายอดิศร สระบุรี
----------
เอกสารเพิ่มเติม
วิชา การระมัดระวังความปลอดภัย และเครื่องดับเพลิง
ตอนที่ 1
การระมัดระวังความปลอดภัย
1. กล่าวทั่วไป
1.1 คำแนะนำเหล่านี้แจกจ่ายให้เพื่อเป็นหลักปฏิบัติในการระมัดระวังความปลอดภัย และเป็นแนวทาง
กำหนดวิธีปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยในโรงซ่อมเมื่อทำการซ่อมบำรุงยานพาหนะ และอย่าเข้าใจว่าคำแนะนำ
นี้เป็นสิ่งถาวร โดยท่านจะต้องแก้ ไข เปลี่ยนแปลงหรือทบทวนให้ตรงกันกับข้อบังคับของกองทัพบกหรือ
เอกสารของทางราชการซึ่งกำหนดไว้ รวมทั้ง รปจ.ของหน่วยด้วย
1.2 ผู้มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติงานเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงจะต้องศึกษาวิธีการปฏิบัติ และต้องปฏิบัติตามอย่าง
เคร่งครัด ต้องย้ำให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจว่าจะต้องทำการฝึกให้เป็นนิสัยตลอดในชีวิตรับราชการ ฉะนั้นในหลักสูตรนี้
เราจะนำข้อระมัดระวังความปลอดภัย และวิธีปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพมาใช้ ในขณะนักเรียนปฏิบัติงานซ่อม
บำรุง ครู และนักเรียนจะต้องตื่นตัวอยู่เป็นนิจเกี่ยวกับข้อระมัดระวังอันตรายในขณะฝึกงาน และจะต้องแก้ไข
ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นโดยทันที
1.3 การซ่อมหรือการบริการยานพาหนะที่รีบด่วนจะไม่เกิดผลงานที่ดี ถ้าการทำงานขาดความระมัดระวัง
ปกติอุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นส่วนมากจากสาเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เราต้องหลีกเลี่ยงโดยสนใจต่อสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่า
เพิกเฉยละเลยเสีย สิ่งซึ่งจะกล่าวต่อไปนี้เป็นอันตรายทั่ว ๆ ไปซึ่งต้องหลีกเลี่ยงอย่าให้เกิดขึ้น
2. อันตรายเกี่ยวกับเพลิง
2.1 ของเหลวที่หก น้ำมันเครื่อง ไขข้น น้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันทำความสะอาดซึ่งติดไฟได้ง่าย ที่
หกหรือหยดอยู่บนพื้นโรง หรือบนยานพาหนะจะต้องทำความสะอาดทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้เป็นอันขาด
2.2 การสูบบุหรี่ภายในโรงรถ และรอบ ๆ ยานพาหนะ ถ้าอนุญาตให้มีการสูบบุหรี่ได้ในบริเวณ
รอบ ยานพาหนะ หรือในโรงซ่อม ย่อมทำให้เกิดอันตรายจากไฟได้ การสูบบุหรี่ อย่าสูบใกล้โรงซ่อม หรือ
ยานพาหนะอย่างน้อย 15 ฟุต ถ้าอนุญาตให้สูบภายในโรงซ่อมได้ต้องกำหนดพื้นที่เฉพาะ และจัดหาที่ทิ้งก้น
บุหรี่ไว้ให้ผู้สูบทิ้งตามที่ ที่ได้กำหนดไว้
2.3 การกระโดดของประกายไฟฟ้า ไอระเหยของน้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันเครื่องจะติดไฟได้
ง่าย เนื่องจากประกายไฟจากการกระโดดของไฟฟ้าที่ลัดวงจร การป้องกันมิให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้านั้น
ก่อนจะเริ่มทำงานเกีย่ วกับระบบไฟฟ้าของยานพาหนะให้ปลดขั้วแบตเตอรี่ที่ต่อลงดินออกเสียก่อน
2.4 ของเหลวซึ่งไวไฟ ไฟซึ่งลุกไหม้ที่ภาชนะใส่ของเหลวไวไฟภายในอาคารดับได้ยากมาก ฉะนั้น
ภาชนะที่ใส่น้ำมันเครื่อง สี น้ำ ยาเคมี และน้ำมันล้างเครื่อง เมื่อใช้งานเสร็จแล้วให้เก็บที่โรงเก็บน้ำ มัน โดย
บรรจุไว้ในภาชนะที่ทำด้วยโลหะมีฝาปิดมิดชิด เพื่อป้องกันอันตรายซึ่งเกิดจากเพลิงไหม้
2.5 การเผาไหม้ซึ่งเกิดเองโดยธรรมชาติ ผ้าขี้ริ้วเปียกน้ำมัน หรือเปื้อนน้ำมัน หรือขยะซึ่งชุ่ม
น้ำมัน จะเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้เองโดยธรรมชาติได้จากการย่อยสลายตัวจากเชื้อราต่าง ๆ ที่นำมาทิ้ง
ห น ้ า | 92
ตอนที่ 2
สาเหตุของอุบัติเหตุ และวิธีป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุภายในโรงซ่อม
1. ความปลอดภัยในโรงซ่อม จะต้องมีความเข้าใจ และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อปฏิบัติงาน ภายในโรง
ซ่อม พลประจำรถและเจ้าหน้าที่ในโรงซ่อมต้องตื่นตัวคอยสังเกตการทำงานของเจ้าหน้าที่อื่น ๆ และแจ้งให้
เพื่อนซึ่งปฏิบัติงานอยู่ด้วยทราบ และให้สนใจต่อการกระทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ในโรงซ่อม จะ
เป็นการป้องกัน และลดอุบัติเหตุลงได้
2. การระมัดระวังความปลอดภัยในโรงซ่อม
2.1 การยกรถให้ลอยพ้นพื้น
2.2 ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับเพลิง
2.3 การยก และการติดตั้งเครื่องยนต์ และองค์ประกอบหลัก เครื่องมือยก เครื่องผูกมัด
ต้องรับน้ำหนักได้อย่างมั่นคง
2.4 ความสะอาดภายในโรงซ่อม
3. อธิบาย
3.1 การใช้เครื่องยนต์ และยานยนต์อย่างผิดวิธี
3.2 อุปนิสัยแต่ละบุคคล
ห น ้ า | 95
3.3 การล้อเล่นกันภายในโรงซ่อม
4. ความบกพร่องส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นภายในโรงซ่อม
4.1 ความชำนาญไม่เพียงพอ
4.2 ไม่มีมุ่งความสนใจต่องานที่กำลังกระทำอยู่
4.3 ทำงานต่อเนื่องกันนาน จนเหนื่อยล้า
4.4 เชื่อใจตนเองมากจนเกินควร
4.5 ประมาทเลินเล่อ
4.6 ใช้กำลังมากเกินควร
5. สรุป
อุบัติเหตุทั้งปวงนั้นมิได้เกิดขึ้นเอง แต่มีผู้ทำให้เกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นผู้หนึ่งผู้ใดก็ได้ แม้แต่ตัวท่านเอง
การระมัดระวังรักษาความปลอดภัยเป็นหน้าที่ของทุกคนต้องรับที่ต้องผิดชอบร่วมกัน รวมทั้งการปฏิบัติตาม
รปจ.ของหน่วยที่ได้กำหนดไว้
ตอนที่ 3
เครื่องดับเพลิง
1. กล่าวทั่วไป เพลิงที่เกิดลุกไหม้ขึ้นในรถเป็นอันตรายอย่างยิ่ง และน่ากลัวที่สุด สำหรับหน่วยยานยนต์
ดังนั้นหากเกิดเพลิงไหม้ขึ้นจะต้องรีบดับเสียก่อนที่จะลุกลามใหญ่โต โดยใช้เครื่องดับเพลิงประจำรถ และ
เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ควรจะมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับประเภทต่าง ๆ ของเพลิง ชนิดของเครื่อง
ดับเพลิง และวิธีการดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ จะต้องทราบวิธีการใช้เครื่องดับเพลิง และอุปกรณ์ป้องกันเพลิง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระงับความตื่นตระหนกตกใจอันเป็นสาเหตุให้นำความรู้ไปใช้ในการดับเพลิงไม่ได้
2. หลักทั่วไปในการดับเพลิง เมื่อเริ่มเกิดเพลิงไหม้ลุกไหม้ขึ้น
2.1 คุมสติ
2.2 แบ่งประเภทของเพลิง
2.3 เลือกเครื่องดับเพลิงที่ถูกต้อง
2.4 เข้าไปให้ใกล้เพลิงที่สุด
2.5 เปิดเครื่องดับเพลิง
2.6 ฉีดไปที่ต้นเพลิง
3. การแบ่งประเภทของเพลิง
3.1 เพลิงประเภท "ก" (CLASS "A") เพลิงประเภทนี้เกิดจากวัสดุที่ติดไฟ เช่น ผ้า กระดาษ ไม้
ฯลฯ
3.2 เพลิงประเภท " ข " (CLASS " B ") เพลิงประเภทนี้เกิดจากสารไวไฟ เช่น น้ำมันแก๊สโซลีน และ
น้ำมันเชื้อเพลิง หรือน้ำมันหล่อลื่น ฯลฯ
3.3 เพลิงประเภท " ค " (CLASS " C ") เพลิงประเภทนี้เกิดจากกระแสไฟฟ้า
3.4 เพลิงประเภท "ง" (CLASS "D") เพลิงประเภทนี้เกิดจากโลหะที่ติดไฟ เช่น โลหะแมกนีเซียม
ฯลฯ
4. ชนิดของเครื่องดับเพลิง
4.1 ชนิ ด ปั๊ ม น้ ำ (WATER TYPE) เครื่อ งดั บ เพลิ งชนิ ด นี้ ใช้ น้ ำ เป็ น ตั ว ดั บ เพลิ ง อย่ า ใช้ เครื่ อ ง
ดับเพลิงชนิดใช้น้ำ ในการดับเพลิงที่เกิดจากกระแสไฟฟ้า หรือน้ำมันเชื้อเพลิง
ห น ้ า | 96
5. ตารางการใช้เครื่องดับเพลิง
เพลิงประเภท
ชนิดของเครื่องดับเพลิง เพลิงประเภท เพลิงประเภท เพลิงประเภท
“ก” “ข” “ค” “ง”
- น้ำ ดี ห้ามใช้ ห้ามใช้ ห้ามใช้
- โซดา และกรด ดีมาก ห้ามใช้ ห้ามใช้ ห้ามใช้
- คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ดี ดีมาก ดีมาก ดี
- ฟองเหลว (โฟม) ห้ามใช้ ดีมาก ดีมาก ห้ามใช้
- โบรโมไตรฟลูออโรมีเทน ห้ามใช้ ดีมาก ดีมาก ห้ามใช้
- กรวดทราย ดี ห้ามใช้ ห้ามใช้ ดี
- คาร์ บ อนเทตระคลอไรด์ ดี ดี ดี ห้ามใช้
– ผงเคมีแห้ง ดีมาก ดีมาก ดีมาก ต้องใช้เคมี
พิเศษ
6. หลักการใช้เครื่องดับเพลิง และข้อควรระมัดระวัง
6.1 ใช้เครื่องดับเพลิงให้ถูกต้องตามประเภทของเพลิง
6.2 อย่าเปิดเครื่องดับเพลิงก่อนพร้อมที่จะใช้งาน
6.3 อย่าวางเครื่องดับเพลิงไว้กับพื้น แล้วถือที่ปลายสาย
6.4 เข้าไปให้ใกล้เพลิงมากที่สุด
6.5 ฉีดน้ำยาเข้าที่ต้นเพลิง ไม่ใช่ฉีดที่เปลวเพลิง
6.6 เมื่ อ เพลิ ง ดั บ แล้ ว อย่ า ปิ ด เครื่ อ งดั บ เพลิ ง ทั น ที ให้ ฉี ด ต่ อ ไปจนละอองน้ ำ ยาจั บ คลุ ม ทั่ ว
จุดต้นเพลิง
6.7 เครื่องดับเพลิงที่ใช้แล้ว ต้องส่งไปทำการบรรจุใหม่โดยเร็ว
6.8 อย่าทดสอบเครื่องดับเพลิงด้วยการฉีดดู
6.9 ถ้าได้รับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการหายใจเข้าไปมากจนเกิดอาการวิงเวียนศีรษะหรือ
หน้ามืด จะต้องรีบช่วยเหลือทันที โดยรีบนำผู้ป่วยออกสู่อากาศบริสุทธิ์ แล้วผายปอด เช่นเดียวกับการช่วยคน
จมน้ำ
6.10 เครื่องดับเพลิงแบบคาร์บอนไดออกไซด์ จะต้องเก็บไว้ในที่มีการระบายอากาศอย่างเพียงพอ
เพื่อป้องกันแก๊สรั่วไหล และต้องเก็บไว้ในที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 140 องศา ฟ.
7. การตรวจสภาพเครื่องดับเพลิง
7.1 เครื่ อ งดั บ เพลิ ง ชนิ ด ใช้ น้ ำ ให้ ต รวจสภาพภายนอกด้ ว ยสายตา และตรวจการใช้ ง าน
ประจำเดือน
7.2 เครื่องดับเพลิงชนิดโซดา และกรด ให้ตรวจสภาพภายนอกด้วยสายตา เปิดฝาครอบออก
ตรวจขวดน้ำกรด และน้ำยาภายในเครื่องดับเพลิง ประจำเดือน และการตรวจประจำปี จะต้องถ่ายน้ำยาเก่า
ทิ้ง และเปลี่ยนน้ำยาใหม่
7.3 เครื่องดับเพลิงชนิดฟองเหลว ให้ตรวจสภาพภายนอกด้วยสายตา เปิดฝาครอบออกตรวจดู
ขวดน้ำกรด และน้ำยาภายในเครื่องดับเพลิงประจำเดือน
ห น ้ า | 98
การตรวจเครื่องดับเพลิงประจำที่ของยานยนต์สายพาน
ให้ตรวจเครื่องบังคับการทำงานของเครื่องดับเพลิงทั้งภายนอกและภายในรถ โดยตรวจลวดร้อย
และผนึกตะกั่วของคันดึงสายลวดบังคับลิ้นเปิดน้ำยาดับเพลิง จะต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย และพร้อมที่จะใช้
งานได้ ตรวจความเรียบร้อย ความมั่นคง และการขันแน่นของเหล็กรัดท่อน้ำยาดับเพลิง หัวต่อและท่อน้ำยา
ดับเพลิง และหัวฉีดต่าง ๆ
***********