You are on page 1of 75

https://www.timeshighereducation.

com/student/subjects/what-can-you-do-physics-degree
37
บทที่ 2
เวกเตอร์
2.1 เวกเตอร์และสเกลาร์ 2.5 ผลคูณเชิงเวกเตอร์
2.2 ส่ วนประกอบของเวกเตอร์ 2.6 ผลคูณเชิงสเกลาร์
และเวกเตอร์หน่วย ของสามเวกเตอร์
2.3 การบวกเวกเตอร์ 2.7 แคลคูลสั ของเวกเตอร์
2.4 ผลคูณเชิงสเกลาร์ 2.8 ตัวดําเนินการเดล

38
2.1 สเกลาร์ และเวกเตอร์
• ปริ มาณ สเกลาร์ (scalar) เป็ นปริ มาณที่มีแต่ขนาด
ไม่มีทิศทาง เช่น อัตราเร็ ว ระยะทาง มวล งาน เป็ นต้น

• ปริ มาณ เวกเตอร์ (vector) เป็ นปริ มาณที่มที ้งั ขนาดและ


ทิศทาง เช่น ความเร็ ว การกระจัด แรง โมเมนตัม เป็ นต้น

39
สั ญลักษณ์

เวกเตอร์ทวั่ ไป เวกเตอร์หน่วย

40
เวกเตอร์ รัศมี
(radius vector)

เป็ นเวกเตอร์ที่บอกตําแหน่งของวัตถุเทียบกับจุดกําเนิด O(…,…,…)


• จุด P(-2,-5,6) และ Q(4,-2,-1)

• เวกเตอร์รัศมีของจุด P คือ

• เวกเตอร์รัศมีของจุด Q คือ

41
เวกเตอร์ บอกตําแหน่ ง
(position vector)
• เป็ นเวกเตอร์ที่บอกตําแหน่งของวัตถุเทียบกับจุดใดจุดหนึ่ง
• จุด และ และ

• เวกเตอร์ และ
เวกเตอร์บอกตําแหน่งของจุด P เทียบกับจุด Q

เวกเตอร์บอกตําแหน่งของจุด Q เทียบกับจุด P

42
การเท่ ากันของเวกเตอร์
การเท่ากันของเวกเตอร์ จะต้องเท่ากันทั้ง
- ขนาด
- ทิศทาง (ทิศทางเดียวกัน)

A  Ax iˆ  Ay ˆj  Az kˆ

B  Bx iˆ  B y ˆj  Bz kˆ

Ax  Bx
 
A B Ay  B y
Az  Bz

43
2.2 องค์ ประกอบของเวกเตอร์
กําหนดเวกเตอร์    
A  Ax  Ay  Az
   
A  ai  bj  ck
   
A  Ax i  Ay j  Az k

องค์ประกอบของเวกเตอร์ A แยกได้เป็ น
  
 องค์ประกอบตามแกน x : Ax  a i  Ax i
  
 องค์ประกอบตามแกน y : Ay  bj  Ay j
  
 องค์ประกอบตามแกน z : Az  c k  Az k
44
ตัวอย่ าง เวกเตอร์มีความยาวตามแกน x,y,z เป็ น 3,4,5 เขียนเป็ นรู ปเวกเตอร์
วิธีทาํ z
z=5
yz

xz
y=4
y
x=3

xy
x
45
ส่ วนประกอบของเวกเตอร์
(Components of a vector)

 
Ay A


O  x
Ax
     
รู ป เวกเตอร์ยอ่ ย Ax , Ay ของเวกเตอร์ A โดย A  Ax  Ay

46

และถ้าเวกเตอร์ A ทํามุม  กันแกน x ตามรู ป จะได้ความสัมพันธ์
 
ระหว่างเวกเตอร์ A, Ax , Ay และมุม  ดังนี้
y Ax = A cos 
Ay = A sin 
A 2x  A 2y
 
Ay A
A2 =

O  x
Ax
y
และ tan  = Ay
Ax 
Ay

A


x
O 
Ax

47

Ex จากรู ปจงหาองค์ประกอบของเวกเตอร์ A
y


Ay

 x
Ax

4
 5 j
5
 
 Ay  4j
48
ขนาดของเวกเตอร์ คือ ความยาวของเวกเตอร์รวม ใช้สญ
ั ลักษณ์
เป็ น 

กําหนดเวกเตอร์ A  Axiˆ  Ay ˆj  Az kˆ
ขนาดของเวกเตอร์ เขียนได้เป็ น

A  Ax  Ay  Az
2 2 2

ขนาดของเวกเตอร์เป็ นปริ มาณสเกลาร์


49
  
Ex จงหาขนาดของเวกเตอร์ A, B, C

A   3iˆ  4 ˆj  5kˆ

B  3iˆ  4 ˆj  5kˆ

C  3iˆ  4 ˆj  5kˆ

50
  
Ex จงหาขนาดของเวกเตอร์ A, B, C

A  iˆ  2 ˆj  3kˆ

B  3iˆ  ˆj  2kˆ

C  2iˆ  3 ˆj  kˆ

51
ส่ วนประกอบของเวกเตอร์
ถ้ าเวกเตอร์ เป็ น
y




x

 เป็ นมุมทีท่ าํ กับแกน x z

 เป็ นมุมทีท่ าํ กับแกน y


 เป็ นมุมทีท่ าํ กับแกน z
52
โคไซน์ บอกทิศ (direction cosine)
• เป็ นฟังก์ ชันโคไซน์ ทที่ าํ ให้ ทราบทิศของเวกเตอร์


 
x

53

Ex จงหาโคไซน์บอกทิศของ A  iˆ  3 ˆj  5kˆ

54
เวกเตอร์ หน่ วย (unit vector)
• เป็ นเวกเตอร์ที่มีขนาดหนึ่งหน่วย
• สัญลักษณ์ เช่น
• การหาเวกเตอร์หนึ่งหน่วย โดยนําเวกเตอร์มาหารด้วย
ขนาดของเวกเตอร์
• การหาเวกเตอร์หนึ่งหน่วย

A
ˆA   Ax iˆ  Ay ˆj  Az kˆ
Aˆ 
A A A A
2
x
2
y
2
z
55

Ex จงหาเวกเตอร์ หนึ่ งหน่วยของ A  iˆ  3 ˆj  5kˆ

56
การหาผลบวกของเวกเตอร์
(Vectors addition)
โดยวิธีเขียนกราฟหรื อเขียนรู ป (Graphical method)
ก) กรณี เวกเตอร์ต่างๆ อยูใ่ นแนวเดียวกัน

A   
A B C
 
D B
   
 R  A  B C
C

 
A B  
 B C
D 
    D
R A B D
   
R  B C  D

57
ข) กรณี เวกเตอร์ต่างๆ ทํามุมกัน
วิธีเขียนรู ปแบบหางต่อหัว
     
B A R AB B

A

A
   
B R  BA

วิธีสร้างเป็ นรู ปสี่ เหลีย่ มด้ านขนาน Z


   
  RAB
B B

 A    
O A X Y
58
ทฤษฎีบทสามเหลีย่ มปี ทากอรัส

 R
B  
B B sin  ขนาดของเวกเตอร์ลพั ธ์
 
  R  A2  B 2  2 AB cos 
A B cos 
กฎของโคไซน์
R 2   A  B cos    B sin  
2 2

 A2  2 AB cos   B 2 cos 2   B 2 sin 2 


2 2

 A  2 AB cos   B cos   sin 2 2

1

59
การหาเวกเตอร์ลพั ธ์โ ดยการสร้างสี่ เหลี่ยมด้านขนาน
โดยใช้กฎของโคไซน์ (law of cosine) ดังนี้
R2 = A2 + B2 + 2AB cos 
เมื่อ  = 180o -
ดังนั้น cos  = cos (180 - ) = - cos 
ทําให้
R2 = A2 + B2 - 2AB cos 


และสามารถหาทิศทางของเวกเตอร์ลพั ธ์ ( R ) โดยใช้กฎของไซน์ ดังนี้


A B R B
  R
B
sin  sin  sin 
  
A
60

 R
B 
B sin 
  
 
A B cos

B sin 
tan  
A  B cos 

61
Ex ถ้าขับรถยนต์ไ ปทางทิศตะวันตก 50 km หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็ นขับไปทาง
ตะวันตกเฉี ยงเหนือ ทํามุม 30 o กับทิศตะวันตก เป็ นระยะทาง 30 km
จงหาขนาดและทิศทางของการกระจัดลัพธ์ของการเดินทางโดยรถยนต์

วิธีทาํ จากที่โ จทย์สามารถเขียนเวกเตอร์แสดงทิศทางการขับรถได้ ดังนี้


y (กม)


B
o

60
  20
R

A

W        x (กม) E
20 0 20

S
62
63
2.3 การบวก-ลบ เวกเตอร์
(Law of addition and subtraction vectors)
จากที่ได้ ึก าเรื่องการบ ก-ลบ เ กเตอร์ที่ผ่านมา ามารถ รุปกฎการบ ก-ลบเ กเตอร์ได้ เช่น ถ้ามี
  
เ กเตอร์ A, B และ C และ a, b เป็นปริมาณ เกลาร์ใดๆ จะได้ ่า
   
1. AB  BA เรียก ่ากฎการ ลับที่ได้ ํา รับการบ ก (commutative law for addition)
     
2. A  (B  C)  (A  B)  C เรียก ่ากฎการจับกลุ่มได้ของการบวก (associative law for addition)
 
3. aA  Aa เรียก ่ากฎการ ลับที่ ํา รับการคูณ (commutative law for multiplication)
 
4. a (bA)  (ab)A เรียก ่ากฎการจับกลุ่มได้ ํา รับการคูณ (associative law for multiplication)
  
5. (a  b)A  aA  bA เรียก ่ากฎการกระจาย (distribution law)
   
6. a (A  B)  aA  aB เรียก ่ากฎการกระจาย

64
การบวก ลบเวกเตอร์
ในการบวกหรื อลบเวกเตอร์ใ ห้นาํ ส่ วนประกอบของเวกเตอร์บวก
หรื อลบกัน แล้วจึงนําค่าที่ไ ด้มารวมกัน

65
การบวก ลบเวกเตอร์ สามมิติ
Ex

66
 
Ex กําหนดเวกเตอร์ L  5î  8 ĵ  9k̂ , M 12î  7 k̂ และ
    
N  7î  12 ĵ  8k̂ จงหา R  L  M  N  ..?..

   
วิธีทาํ R  L  M  N  ..?..

  
 15î  30 ĵ  12k̂  23î  5k̂   13î  15 ĵ - 11k̂ 
 15î  30 ĵ  12k̂  23î  5k̂  13î  15 ĵ  11k̂ 

 15  23  13 î  30  0 - 15 ĵ  12 - 5  11 k̂


  
 R̂  51 i  15 j  18 k
67
     
Ex มีเวกเตอร์ 2 เวกเตอร์ คือ A  2i  6 j และ B  4i  3 j
           
จงหา ก. A  B ข. A  B ค. A  B ง. A  B จ. ทิศทางของ A  B และ A  B
วิธีทาํ        
ก. A  B  3i  2 j  i  4 j  2 i  6 j

       
ข. A  B  3 i  2 j  ( i  4 j)  4 i  2 j
 
ค. A  B  2 2  6 2  4  36  40  6.32
 
ง. A  B  4 2  2 2  16  4  20  4.47
  Ry 6
จ. ทิศทางของ A  B, tan     3
Rx 2
   = -71.57o
AB ทํามุม = 360 o - 71.57 o = 288.4 o กับแกน +x
  2
ทิศทางของ A  B, tan    0.5
4
 = 26.57 o
 
AB ทํามุม = 26.57 o กับแกน +x
68
การคูณเวกเตอร์ (Vector multiplication)
การคูณเ กเตอร์มี 2 แบบ คือ การคูณแบบ เกลาร์ รือคูณแบบจุด (scalar or dot product)
และการคูณแบบเวกเตอร์ รือการคูณแบบครอ (vector or cross product)

2.4 การคูณแบบ เกลาร์ รือการคูณแบบจุด



การคูณแบบ เกลาร์เป็นการคูณที่ใ ้ผลลัพธ์เป็นปริมาณ เกลาร์ เช่น ถ้ามีเ กเตอร์ A

และ B ทํามุม  กันดังรูป โดยมุม  ต้องมีค่าดังนี้ 0    

A


 B
Acos
 
รู ป เวกเตอร์ A และ B ทํามุม  กัน 69
นิยามของการคูณแบบ เกลาร์ คือ (ใช้ แทนการคูณ) 
 
R  A  B  AB cos 
 
เมื่อ R เป็นผลลัพธ์ของการคูณแบบ เกลาร์ A, B เป็นขนาดของเ กเตอร์ A และ B จากรูป

และ มการข้างบน จะพิจารณาได้ ่าเทอม A cos  เป็น ่ นย่อยของเ กเตอร์ A ตามแน ทิ ทางของ
  
B จึงอาจกล่า ได้ ่าผลคูณแบบ เกลาร์เท่ากับขนาด ่ นย่อยของเ กเตอร์ A ในทิ ทางเ กเตอร์ B

คือ A cos  คูณกับขนาดของเ กเตอร์ B ปริมาณในทางฟิ ิก ์ที่มีลัก ณะแบบผลคูณ เกลาร์ คือ


งานซึ่งมีนิยาม ่า  
W  F  S  FS cos 
เมื่อ W คืองานที่เกิดขึ้นเป็นปริมาณ เกลาร์

F

คือ เ กเตอร์ของแรง
S คือ เ กเตอร์ของการกระจัด

70
  
ในการคูณแบบ เกลาร์ เมื่อใ ้ A , B และ C เป็นเ กเตอร์และ a, b เป็นปริมาณ เกลาร์ใดๆ รุป
เป็นกฎต่างๆ ได้ ดังนี้
   
1. A  B  B  A เรียก ่า กฎการ ลับที่
      
2. A  (B  C)  A  B  A  C เรียก ่า กฎการกระจาย
       
3. a (A  B)  (aA)  B  A  (aB)  (A  B)a เรียก ่า กฎการจับกลุ่ม

4. î  î  ĵ  ĵ  k̂  k̂  1 เ กเตอร์ นึ่ง น่ ยคูณแบบ เกลาร์ด้ ยตั มันเองจะเท่ากับ 1


î  ĵ  ĵ  k̂  k̂  î  0 เ กเตอร์ท่ตี ั้งฉากกันคูณกันแบบ เกลาร์จะเท่ากับ 0
       
5. ถ้าใ ้ A  A x i  A y j  A z k และ B  B x i  B y j  B z k จะได้ ่า
 
A  B  A x Bx  A y B y  A z Bz
 
A  A  A 2  A 2x  A 2y  A 2z
 
B  B  B 2  B 2x  B 2y  B 2z
     
6. ถ้า A  B  0 โดย A  0 และ B  0 แ ดง ่า AB ***
71
ผลคูณเชิงสเกลาร์

1 0 0 0

1 0 0 0 1

 
 A  B  Ax Bx  Ay B y  Az Bz
72
Ex ผลคูณเชิงสเกลาร์

73
Ex การใช้ผลคูณเชิงสเกลาร์ ใ นการหามุมระหว่างเวกเตอร์

74
การใช้ ผลคูณเชิงสเกลาร์
ในการหาเงาของเวกเตอร์ หนึ่งบนอีกเวกเตอร์ หนึ่ง

• เงาของเวกเตอร์ บนเวกเตอร์
• จาก

• เงาของเวกเตอร์ บนเวกเตอร์ คือ

75
Ex หาเงาของเวกเตอร์
 
A  2iˆ  3 ˆj  kˆ และ B  iˆ  3 ˆj  2kˆ
  
     A B 
เงาของ B บน A คือ  B cos   B    
 AB
 
 
  A B 292
เงาของ B บน A คือ   
2  3   1
2
A 2 2

  9
เงาของ B บน A คือ 
14

76
2.5 การคูณแบบเวกเตอร์ รือการคูณแบบครอ
การคูณแบบเ กเตอร์เป็นการคูณของเ กเตอร์ทใี่ ้ผลลัพธ์เป็นปริมาณเวกเตอร์ เช่น ถ้ามี เ กเตอร์
 
A และ B ทํามุม  กัน โดยมุม  มีค่าอยู่ระ ่าง 0 ถึง  รือ 0     ดังรูป

  
รูป การคูณแบบเ กเตอร์ของเ กเตอร์ A และ B ทํามุม  กันและทิ ทางของเ กเตอร์ลัพธ์ R
77
 แทน ดังนี้
นิยามของการคูณแบบเวกเตอร์ ใช้เครื่ องหมาย
  
R  A  B  ABsinθ n̂
   
เมื่อ
R เป็ นเวกเตอร์ลพั ธ์ ซึ่งเวกเตอร์ลพั ธ์ จะตั้งฉากกับระนาบของเวกเตอร์
R A และ B
เสมอ หาทิศทางของเวกเตอร์ลพั ธ์โ ดยใช้กฎมือขวาดังนี้ “กางมือขวาออกให้นิ้วหัวแม่มือตั้งฉากกับ
 
นิ้วทั้งสี่ และให้นิ้วทั้งสี่ ช้ ีไ ปในทิศของเวกเตอร์ตวั แรก ( A ) แล้วกํานิ้วทั้งสี่ เข้าหาเวกเตอร์ที่สอง ( B )

นิ้วหัวแม่มือจะชี้ทิศของเวกเตอร์ลพั ธ์ (R )” ส่ วนขนาดของเวกเตอร์ลพั ธ์ คือ
 
R  A  B  AB sin 

ปริ มาณในทางฟิ สิ กส์ที่มีลกั ษณะแบบการคูณแบบเวกเตอร์ ได้แก่ Torque , 

โมเมนตัมเชิงมุม (angular momentum , L ) และแรงทางแม่เหล็กที่กระทําบนประจุไ ฟฟ้าที่เคลื่อนที่
ซึ่งเขียนเป็ นสมการ ดังนี้   
  rF
  
L  rP
  
F  q ( v  B)
78
  
ในการคูณแบบเวกเตอร์ สรุ ปเป็ นกฎเกณฑ์ต่างๆ ได้ เมื่อให้ A , B, C เป็ นเวกเตอร์และ a, b เป็ น
ปริ มาณสเกลาร์ใ ดๆ ดังนี้

   
1. A  B  B  A ไม่เป็ นไปตามกฎการสลับที่
      
2. A  (B  C)  A  B  A  C เรี ยกว่า กฎการกระจาย
       
3. a (A  B)  (aA)  B  A  (aB)  (A  B)a

4. î  î  ĵ  ĵ  k̂  k̂  0 เวกเตอร์หนึ่งหน่วยคูณแบบเวกเตอร์ดว้ ยตัวมันเองจะมีค่าเท่ากับศูนย์
î  ĵ  k̂, ˆj  k̂  î , k̂  î  ĵ ĵ  î  k̂, k̂  ĵ  î , î  k̂   ĵ
     
5. ถ้า A  B  0 โดย A  0 และ B  0 แสดงว่า A ขนานกับ B หรื อมีทิศทางตรงกันข้ามกัน
 
6. ถ้าให้ A  A x î  A y j  A z k̂ และ B  B x î  B y ˆj  B z k̂
ˆ จะได้วา่
 
A  B  î (A y B z  A z B y )  ˆj(A z B x  A x B z )  k̂(A x B y  A y B x )
79
ผลคูณเชิงเวกเตอร์

80
= a1(b2c3 – b3c2) – a2(b1c3 – b3c1) + a3(b1c2 – b2c1)

81
Ex ผลคูณเชิงเวกเตอร์

82
Ex ผลคูณเชิงเวกเตอร์

83
ผลคูณเชิงเวกเตอร์ หาพืน้ ทีส่ ี่ เหลีย่ มด้ านขนาน
• พื้นที่สี่เหลี่ยมด้านขนานที่มีเวกเตอร์สอง
เวกเตอร์เป็ นด้านประกอบ
พืน้ ทีเ่ ท่ ากับความยาวฐานคูณสู ง(ตรง)
• สู งตรง =

• พื้นที่ =

• พื้นที่ =

84
Ex ผลคูณเชิงเวกเตอร์หาพื้นที่สี่เหลี่ยมด้านขนาน

85
ผลคูณเชิงเวกเตอร์ หาพืน้ ทีส่ ามเหลีย่ ม
• พื้นที่สามเหลี่ยมที่มีเวกเตอร์สองเวกเตอร์เป็ น
ด้านประกอบ
• พื้นที่ เท่ากับ ฐานคูณสู ง (ตรง)

• สู ง =

• พื้นที่ =

• พื้นที่ =

86
Ex ผลคูณเชิงเวกเตอร์หาพื้นที่สามเหลี่ยม

87
2.6 ผลคูณเชิงสเกลาร์ ของสามเวกเตอร์
(scalar triple product)

• ปริมาตรรูปทรงสี่ เหลีย่ มหน้ าขนาน ซึ่ งมี เวกเตอร์สามเวกเตอร์เป็ นด้าน


ประกอบ

88
Ex จงหาปริ มาตรรู ปทรงสี่ เหลี่ยมด้านขนานที่มีเวกเตอร์
  
A  2iˆ  3 ˆj  kˆ , B  2iˆ  2 ˆj และ C  iˆ  ˆj  kˆ
เป็ นด้านประกอบ

89
2.7 แคลคูลสั ของเวกเตอร์
• การหาอนุพนั ธ์ ของเวกเตอร์

• การหาอินทิกรัลของเวกเตอร์

90
91
92
Ex แคลคูลสั ของเวกเตอร์

93
การหาอนุพ นั ธ์ ของเวกเตอร์

94
Ex การหาอนุพนั ธ์ ของเวกเตอร์

95
การหาอนุพนั ธ์ ส่วนย่ อยของเวกเตอร์

96
การหาอนุพนั ธ์ ส่วนย่ อยของเวกเตอร์

• การหาอนุพนั ธ์ ของ เทียบกับ ให้ คงตัว

• การหาอนุพนั ธ์ ของ เทียบกับ ให้ คงตัว

• การหาอนุพนั ธ์ ของ เทียบกับ ให้ คงตัว

97
การหาอนุพนั ธ์ อนั ดับสองของเวกเตอร์

 
 A
2
 A 2
?
xy yx

=,
98
Ex การหาอนุพนั ธ์ของเวกเตอร์

99
Ex (ต่อ) การหาอนุพนั ธ์ของเวกเตอร์

100
Ex (ต่อ) การหาอนุพนั ธ์ของเวกเตอร์

101
Ex การหาอนุพนั ธ์ ของเวกเตอร์

102
Ex การหาอินทิกรัลของเวกเตอร์

103

 A
Ex กําหนดให้    
A  3x 3 y 3 z 3 iˆ  sin 4 y  4 zx ˆj  e 5 xyz kˆ,
y
?

104
2.8 ตัวดําเนินการเดล
• รู ปแบบตัวดําเนินการเดล (เวกเตอร์)

• เกรเดียนต์ ตัวดําเนินการเดลต่อฟังก์ ชันสเกลาร์

105
ตัวดําเนินการเดล
• ไดเวอร์ เจนซ์ ตัวดําเนินการเดลต่อฟังก์ชันเวกเตอร์ แบบ dot

• เคิร์ล ตัวดําเนินการเดลต่อฟังก์ ชันเวกเตอร์ แบบ cross

106
กําหนดให้ จงหา grad f

107
กําหนดให้
จงหา

108
109
กําหนดให้
จงหา

110
111

You might also like