Professional Documents
Culture Documents
1 - ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องรายวิชา ว31202
1 - ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องรายวิชา ว31202
ระหว่างมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
การได้เปรียบเชิงกลคำนวณได้จากสมการ
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง
7. อธิบาย และคำนวณโมเมนตัมของ K: 1. บอกความหมายของโมเมนตัม • วัตถุที่เคลื่อนที่จะมีโมเมนตัมซึ่งเป็น
วัตถุ และการดลจากสมการและพื้นที่ P: 2. คำนวณโมเมนตัมของวัตถุ ปริมาณ เวกเตอร์มีค่าเท่ากับผลคูณระหว่าง
ใต้กราฟ ความสัมพันธ์ระหว่างแรงลัพธ์ K: 3. วิเคราะห์อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับ มวล และความเร็วของวัตถุดังสมการ
กับเวลา รวมทั้งอธิบายความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับการเปลี่ยน
ระหว่างแรงดลกับโมเมนตัม โมเมนตัม • เมื่อมีแรงลัพธ์กระทำต่อวัตถุจะทำให้
K: 4. ประยุกต์ใช้ความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับ โมเมนตัม ของวัตถุเปลี่ยนไป โดยแรงลัพธ์
การเปลี่ยนโมเมนตัมในการแก้ปัญหา เท่ากับอัตรา การเปลี่ยนโมเมนตัมของวัตถุ
K: 5. บอกความหมายของแรงดลและการดล • แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุในเวลาสั้น ๆ
K: 6. คำนวณการดลจากสมการและพื้นทีใ่ ต้ เรียกว่าแรงดล โดยผลคูณของแรงดลกับ
กราฟความสัมพันธ์ระหว่างแรงลัพธ์กับเวลา 7. เวลา เรียกว่า การดล ตามสมการ
วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับ
ความสัมพันธ์ระหว่างแรงดลกับโมเมนตัม
K: 8. ประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับโมเมนตัมของ ซึ่งการดลอาจหาได้จากพื้นที่ใต้กราฟ
วัตถุการดล และแรงดลในการแก้ปัญหา ระหว่าง แรงดลกับเวลา
8. ทดลอง อธิบาย และคำนวณ K: 1. วิเคราะห์อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับกฎ • ในการชนกันของวัตถุและการดีดตัวออก
ปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการชนของ การอนุรักษ์โมเมนตัม จากกัน ของวัตถุในหนึ่งมิติเมื่อไม่มีแรง
วัตถุในหนึ่งมิติ ทั้งแบบยืดหยุ่น K: 2. ประยุกต์ใช้กฎการอนุรักษ์โมเมนตัมใน ภายนอกมา กระทำ โมเมนตัมของระบบมี
ไม่ยืดหยุ่น และการดีดตัวแยกจากกัน การแก้ปัญหา ค่าคงตัวซึ่งเป็นไป ตามกฎการอนุรักษ์
ในหนึ่งมิติซึ่งเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์ P: 3. ทดลองการชนของวัตถุในหนึ่งมิติเพื่อ โมเมนตัม เขียนแทนได้ด้วย สมการ
โมเมนตัม อธิบายการชนแบบยืดหยุ่นและการชนแบบไม่
ยืดหยุ่น โดย เป็นโมเมนตัมของระบบก่อนชน
P: 4. ทดลองการดีดตัวแยกจากกันของวัตถุเพื่อ
และ เป็นโมเมนตัมของระบบหลังชน
สรุปเกี่ยวกับโมเมนตัมและพลังงานที่เกี่ยวข้อง
• ในการชนกันของวัตถุพลังงานจลน์ของ
K: 5. ประยุกต์ใช้ความเข้าใจเกี่ยวกับการชน
ระบบ อาจคงตัวหรือไม่คงตัวก็ได้การชนที่
และการดีดตัวแยกจากกันในการแก้ปัญหา
พลังงานจลน์ ของระบบคงตัวเป็นการชน
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง
แบบยืดหยุ่น ส่วนการชน ที่พลังงานจลน์
ของระบบไม่คงตัวเป็นการชน แบบไม่
ยืดหยุ่น
9. อธิบาย วิเคราะห์ และคำนวณ P: 1. ทดลองการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์เพื่อ • การเคลื่อนที่แนวโค้งพาราโบลาภายใต้
ปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ หาความสัมพันธ์ระหว่างการกระจัดในแนว สนาม โน้มถ่วง โดยไม่คดิ แรงต้านของ
เคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ และทดลอง ระดับกับการกระจัดในแนวดิ่ง อากาศเป็นการ เคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์
การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ K: 2. อธิบายหลักการของการเคลื่อนที่แบบ วัตถุมีการเปลี่ยน ตำแหน่งในแนวดิ่งและ
โพรเจกไทล์ แนวระดับพร้อมกัน และเป็นอิสระต่อกัน
K: 3. นำหลักการของการเคลื่อนที่แบบโพรเจก สำหรับการเคลื่อนที่ ในแนวดิ่งเป็นการ
ไทล์ไปคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ เคลื่อนที่ที่มีแรงโน้มถ่วงกระทำ จึงมี
การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ ความเร็วไม่คงตัว ปริมาณต่างๆ มี
ความสัมพันธ์ ตามสมการ
ส่วนการเคลื่อนที่ในแนวระดับไม่มีแรง
กระทำจึงมี ความเร็วคงตัว ตำแหน่ง
ความเร็ว และเวลา มี ความสัมพันธ์ตาม
สมการ
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง
10. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ P: 4. ทดลองการเคลื่อนที่แบบวงกลมเพื่อ • วัตถุที่เคลื่อนที่เป็นวงกลมหรือส่วนของ
ระหว่างแรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของการ ศึกษาความสัมพันธ์เกี่ยวกับคาบ แรงสู่ วงกลม เรียกว่า วัตถุนั้นมีการเคลื่อนที่แบบ
เคลื่อนที่ อัตราเร็วเชิงเส้น อัตราเร็ว ศูนย์กลาง รัศมีของ การเคลื่อนที่แบบวงกลม วงกลม ซึ่งมี แรงลัพธ์ทกี่ ระทำกับวัตถุในทิศ
เชิงมุม และมวลของวัตถุ ในการ K: 5. อธิบายหลักการของการเคลื่อนที่แบบ เข้าสู่ศูนย์กลาง เรียกว่า แรงสู่ศูนย์กลาง ทำ
เคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบระดับ วงกลมที่เกี่ยวข้องกับแรงสู่ศูนย์กลาง ความเร่ง ให้เกิดความเร่ง สู่ศูนย์กลางที่มีขนาด
รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่ สู่ศูนย์กลาง และความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็ว สัมพันธ์กับรัศมีของการ เคลือ่ นที่และ
เกี่ยวข้อง และประยุกต์ใช้ความรู้การ เชิงเส้นกับอัตราเร็วเชิงมุม อัตราเร็วเชิงเส้นของวัตถุ ซึ่งแรงสู่ศูนย์กลาง
เคลื่อนที่แบบวงกลม ในการอธิบาย K: 6. หาแรงลัพธ์ทที่ ำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลาง คำนวณได้จากสมการ
การโคจรของดาวเทียม ซึ่งทำให้เกิดการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม
K: 7. นำหลักการของการเคลื่อนที่แบบวงกลม
ไปคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ นอกจากนี้การเคลื่อนที่แบบวงกลมยัง
เคลื่อนที่แบบวงกลม สามารถ อธิบายได้ด้วยอัตราเร็วเชิงมุม ซึ่งมี
K: 8. นำหลักของการเคลื่อนที่แบบวงกลมไป ความสัมพันธ์ กับอัตราเร็วเชิงเส้นตาม
คำนวณปริมาณต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวข้องกับการ สมการ และ แรงสู่ศูนย์กลางมี
เคลื่อนที่ของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บน ความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงมุม ตาม
ถนนโค้ง สมการ
K: 9. ประยุกต์ใช้ความรูก้ ารเคลื่อนที่แบบ • ดาวเทียมที่โคจรในแนววงกลมรอบโลกมี
วงกลมในการอธิบายและคำนวณการโคจรของ แรงดึงดูด ที่โลกกระทำต่อดาวเทียมเป็นแรง
ดาวเทียม สู่ศูนย์กลาง ดาวเทียมทีม่ ีวงโคจรค้างฟ้าใน
ระนาบของ เส้นศูนย์สูตรมีคาบการโคจร
เท่ากับคาบการหมุน รอบตัวเองของโลก
หรือมีอัตราเร็วเชิงมุมเท่ากับ อัตราเร็ว
เชิงมุมของตำแหน่งบนพื้นโลก ดาวเทียม จึง
อยู่ตรงกับตำแหน่งที่กำหนดไว้บนพื้นโลก
ตลอดเวลา